.....อาการของคนหมดรัก....(ภาคเชา) ตอนที่ 5 (18/08/17)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: .....อาการของคนหมดรัก....(ภาคเชา) ตอนที่ 5 (18/08/17)  (อ่าน 40122 ครั้ง)

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
คือหมดรักแล้วก็เลิกนะ ความรักมันห้ามกันไม่ได้ก็จริง
แต่ทำให้มันถูกต้องได้
ยื้อต่อไปคนที่เจ็บก็มีแต่น้องฟิว
เราสงสารฟิวเลยอยากให้เชาเลิกกับน้อง

ปล. #ทีมเชาคิง เราว่าคนมีปัญหาสองคนควรช่วยเยียวยากัน

ออฟไลน์ Banarot

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ทีมฟิว

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
งงนะเนี้ย
ตกลงใครคู่ใคร
ทำไมเชา ดูโกรธ ฟิวมากขนาดนั้น เหมือนฟิวทำอะไรผิดมากมาย
มันไม่เหมือนอาการหมดรักเลยนะนั้นอะ
มันต้องมีที่มาที่ไปดิ
แต่คิงกับเชานี้ จะเอายังไง ได้กันแล้วด้วย แล้วกี่ครั้งแล้ว
เห่อสับสน เรื่องไม่กระจ่างเก็บเงื่อนงำไว้เยอะ 555

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
เราอยากรู้ว่าน้องฟิวทำอะไรไว้ เชาถึงขนาดปาไอโฟนหน้าจอแตกนี่ไม่ธรรมดาอะค่ะ ฟิวบอกเองว่าปกติเชาไม่ใช้กำลัง

ตอนที่ผ่านๆมานี่ก็ทำให้เห็นว่าปกติเชาอารมณ์เสียง่ายอยู่นะ แต่เขาดูเป็นคนที่น่าจะเลือกการเงียบแล้วเดินหนีไปสงบอารมณ์

เพราะอยู่กะคิงปกติเชาเป็นฝ่ายยอมความตลอดเท่าที่ดู ไม่ว่ากับคนอื่นจะเป็นแบบนี้ไหมแต่เราว่ามันน่าจะเป็นหนึ่งในความเคยชินของเขา คือเงียบก่อน

น้องฟิว น่ารักนะ อะไรๆก็ดูน่ารัก แต่ไม่รู้สิ เป็นสไตล์นี้คบแปปๆเราว่าเราก็เบื่อค่ะ ไม่ต่างจากคบผู้หญิงเท่าไหร่เลยนี่หว่า ต้องมานั่งดงนั่งเดาว่าจะอยากกินอะไรอยากไปไหนยังไง..

แต่เราไม่ชอบที่มีอะไรไม่พอใจแล้วเชาเอาไปลงพันทิพนะ เรารู้สึกว่ามันเป็นปัญหาของคนสองคน ควรจะจบแค่นั้น ไม่พอใจน้องไม่อยากคบแล้ว เบื่อแล้ว หรืออะไร ก็ไปบอกน้องตรงๆสิคะ เลิกให้มันเป็นเรื่องๆไป


ยื้อไว้ได้อะไรอะนอกจากตัวเองพาลไม่พอใจใส่น้องไปวันๆ..

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
มัน-หนุก-อ่ะ

ดราม่าแตก อยากแจกเผือก
จริงๆ เมื่อเข้ามาอ่านเรื่องนี้

ขอปูเสื่อรอด้วยอีกคน

เชิญเข้ามาเล่าในห้องนี้ได้เลยจ๊ะ
 :pig2:
ฮ่าฮ่า

ออฟไลน์ cherilnatcha

  • การเดินทางของความคิด. ชาร์ลี (c)
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
6.5
ต้องดีแค่ไหน...?





“ คิง มัมถามอะไรหน่อยสิ ”


คิงแยกกับเชามาซื้อของสดเข้าบ้านสำหรับทำอาหารเย็นวันนี้


“ อะไรครับ.. ”


“ เมื่ออาทิตย์ก่อนนู้นที่คิงเอารถมัมมาคืน ” มัมเว้นจังหวะ


คิงนึกย้อนไป ตอนสอบกลางภาคเสร็จเขากลับบ้านพร้อมเชา เชากลับไปก่อน เอามอไซค์กลับไป ส่วนเขาอยู่ต่อแล้วขอยืมรถเบนซ์มัมขับเข้าเมืองไปหาเพื่อน เที่ยวฉลองในช่วงก่อนวันสิ้นปี แต่เช้าวันถัดมาก็ขับรถกลับบ้าน อยู่กับมัม ฉลองปีใหม่ด้วยกันสองคน ขณะที่เชามันไปฉลองปีใหม่กับแฟนรุ่นน้องเครื่องกล ปี1


“ มัมเจอถุงยางอยู่ในรถ ”

.

.

.

“ ของใครบอกมัมได้มั้ย ”


ชิบหาย...


คิงอึ้งไปหลายวินาที ขณะที่มัมเพียงมองด้วยใบหน้าเฉยๆ อ่านไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นใคร แค่นิ่งรอคำตอบ


“ ของผมครับ... ” โดนโกรธก็ช่าง เขาไม่อยากโกหก


ใบหน้าของมัมแสดงความคลางแคลงใจ


ปกติเขากับเชาจะสลับกันรับผิด แล้วแต่ว่าใครเป็นคนพาอีกคนซวย เรื่องใหญ่สุดก็ตอนเกรด 9 อายุ 14-15 ปี พวกเขาเรียนนานาชาติ มัมเจอบ้องกัญชาในห้อง… มันดูดกันทั้งคู่นั่นแหละ แต่คิงเก็บของไม่ดี มัมเลยมาเจอ ฉะนั้นจึงเป็นคิงเองที่ยอมรับผิด ทั้งที่เชาเป็นคนเริ่มชวนก่อน (และหลังจากนั้นมัมก็ย้ายเขาทั้งคู่เรียนโรงเรียนสาธิตฯ ในเมืองที่เพื่อนมัมเป็นอาจารย์อยู่ในนั้นทันที)


“ คิงมีแฟนเหรอ ไม่เห็นเล่าให้มัมฟังเลย ” มัมยิ้มเล็กน้อย “ พามาแนะนำก็ได้ มัมไม่ว่า แต่มัมไม่อยากให้คิงชิงสุกก่อนห่าม ”
ถึงมัมจะยืดหยุ่นแต่มัมก็มีกรอบจารีตประเภณีแบบสังคมเก่าอยู่ มัมปล่อยอิสระตามใจเชาและคิง ขณะเดียวกัน อะไรที่ไม่ถูกต้องก็จะตักเตือนด้วยเหตุผล


“ เปล่าครับ ไม่ได้เป็นแฟนกัน ” เรียกว่าแฟนไม่ได้แน่นอน เพราะคนที่เขาใช้ถุงยางนั่นด้วยจบที่ต่างฝ่ายต่างแยกกันตอนเช้า ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ


มัมเงียบ ไม่พูดอะไร แล้วเดินเลือกซื้อผักต่อ


รู้เลยว่ามัมผิดหวังในตัวเขา มัมเลี้ยงเขากับเชามาอย่างดีที่สุด และคาดหวังให้เป็นคนดีที่สุด


แล้วดีที่สุดนี่ดีแค่ไหน... ถึงจะพอใจ ถึงจะบอกว่าเป็นคนดี?


“ มัมโกรธผมเหรอ ”


“ คิงไม่ควรมีอะไรกับใครแบบนั้น ผู้หญิงเขาจะเสียหาย ”


เป็นเชา... มันคงเถียงกลับไปแล้วและมันมีเหตุผลให้การกระทำตัวเองเสมอ แต่คิงไม่ใช่เชา และเขาไม่ได้อยากเอาชนะมัม



“ ผมขอโทษ ”


เขาเสียใจมากกว่า... ที่ทำให้มัมผิดหวัง




-------------------------------------------

มาพร้อมกับ .5 ค่ะ แฮ่

อธิบายเพิ่มเติมนะคะ สำหรับตอน .5 ต่างๆ จะเป็นตอนเสริมขึ้นมาให้เห็นมุมมองของแต่ละคนมากขึ้น มีความเกี่ยวเนื่องต่อมาจากตอนหลัก แต่ก็ไม่สำคัญขนาดว่าเป็นตอนเดียวกัน เลยจับแยกออกมา พวกตอนจุดห้าจะสั้นๆ เล่าเป็นประเด็นๆ ไป และจบในตอน

เรื่องใครคู่ใคร อันนี้นี่..... :o8: ยังไม่สามารถบอกได้ค่ะ รอติดตามกันไปพร้อมกันนะคะ ที่แน่ๆ เชาเป็นตัวดำเนินเรื่องหลักแน่นอน (ถึงแม้ว่ามันจะเป็นคนที่ :เฮ้อ: มากก็ตาม )

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ  :L2: ดีใจมากจริงๆ ที่คนอ่านอินกันขนาดนี้  :o8:
ไม่พอใจเชาเรา  :z6: ให้ค่ะ สมควรโดน


ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คนแต่งอนุญาติ แล้ว งั้นเอ็งเอาไปรัวๆเลย บักเชาาาา! :angry2: :z6: :z6: :z6: :z6:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เชามันกำลังนอยด์นะ  นอยด์อะไรที่ตัวเองก็บอกไม่ได้มั๊ง รำคาญน้องฟิวส์อาจจะคิดอยู่ว่าอยากเลิกแต่ไม่อยากให้น้องเสียใจมากๆ ถ้าฟิวส์ร้องไห้เชาก็รำคาญอีกนั่นแหละ  ฟิวส์นี่อาจจะมีท่าทางอะไรที่ไปกระทบปมของเขาอยู่ถึงได้นอยด์ได้ขนาดนี้  ทั้งเชาและคิงมีประเด็นพอๆกันนั่นแหละ  ยิ่งกว่าเพื่อนและยิ่งกว่าแฟน

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เรื่องคิงหรือเปล่าที่ทำเชาแรงได้ขนาดนั้น
ฟิวอาจจะเผลอไปแตะต้องอะไรคิงเหรือเปล่า
ถ้าเป็นอย่างนั้น ฟิวไม่ควรไปจมปลักรักเชาหรอก

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
รัก สาม เรา~~

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ถ้าไม่ใช่คนสำคัญที่สุด

ก็สู้เป็นคนที่ไม่สำคัญไปเลยดีกว่า

จะได้ไม่ต้องมาคอยเจ็บ ปวดที่ใจ
..จากความคาดหวัง ลมๆแล้งๆ ของเรา..

เข้าใจนะ
ถ้าหมดรัก
ก็ไม่ต้องมาโป้ปดกัน
ปล่อยให้ไปตามทางใครทางมัน

ขอเหอะ
ไอ่ที่บอกว่าหมดรักแล้ว
แต่ทำเป็นว่ายังแคร์กัน

มันน้ำเน่าวะ
หุหุ

ออฟไลน์ Mom2maM

  • DRaMa ADdiCTeD
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-9
สงสารหลานฟิว
แต่เฮียยังไม่กล้าออกตัวปกป้องหลานฟิวแรง
เพราะไม่รู้วหลานฟิวไปทำอะไรมา ถึงขนาดที่หลานเชาเปลี่ยนไปขนาดนี้

แถมหลานฟิวโผล่มาลุคใสๆ
เฮียกลัวเน่าใน

เดี๋ยวเฮียเงิบ

ออฟไลน์ sataav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เพิ่งอ่านเรื่องนี้ถึงตอนล่าสุดคะ
บอกเลยว่า

สงสารฟิวมาก
และ เชากับคิงเลวมาก !  :fire:

คิงมันแย่ตรงที่ทำอะไรไม่แคร์คนอื่นเลย
ดูจากนิสัยก็ยิ่งชัดเจนเข้าไปใหญ่

ส่วนเชา เราเดานิสัยนางไม่ค่อยออก
แต่เรื่องที่นอนกับคิงอ่ะ มันก็คือ นอกใจน้องดี ๆ นี่เอง
ถึงตรงนี้นิสัยจะเป็นแบบไหนเราก็ไม่แคร์ละ อันนี้คือ เลวเลย

ส่วนฟิวส์ ถ้าเป็นเพื่อนเรานะ
เราจะแนะนำให้ตัดใจ เลิกให้ขาดไปเลย
แต่ก็นะ ดูฟิวส์รักเชามากอ่ะ ทำอะไรก็คิดถึงแต่เชา ในขณะที่เชาไม่ได้คิดถึงใจฟิวเล๊ย
แล้วเราก็เห็นด้วยกับความเห็นคนอื่นนะ ที่บอกว่า ฟิวส์ดูหงออ่ะ
บางที ถ้าฟิวส์ลองออกห่างเชาบ้าง เราอาจจะได้เห็นฟิวส์ในลุคใหม่ ที่ดูสดใสกว่าเดิม

ไม่รู้ดิ อ่านแล้วแบบ สงสารฟิวส์จริง ๆ
ขนาดเราไม่ชอบคนนิสัยแบบนี้นะ (ส่วนตัวเราขี้รำคาญ ขี้วีน)
อ่านแล้วยังแบบ 'เฮ้ย ฟิวส์น่ารัก แสนดีขนาดนี้ ทำไมนังเชายังใจร้ายได้ลงคอวะ'

ขอให้ในตอนต่อ ๆ ไปนายสดใส มีความสุขมากกว่านี้นะ ฟิวส์ เราเป็นกำลังใจให้ ( T ^ T )b

ส่วนคู่เชา x คิง
จากตอนที่ผ่านมา เราว่าสองคนนี้เหมาะจะเป็นแค่ครอบครัว หรือ เพื่อนสนิทกันก็พออ่ะ
เพราะ นิสัยสองคนนี้มันมีอะไรชวนให้ทะเลาะ ขัดแย้งกันเยอะนะ
อย่างเชาอารมณ์ร้อน คิงก็เรื่องมาก ขี้วีน นิสัยสองคนนี้ไม่ชวนให้มีใครยอมใครเลย
จริงอยู่ที่ในเรื่องเหมือนเชาจะไม่หือไม่อืออะไรกับความงี่เง่าของคิง ดูเหมือนจะปล่อย ๆ ไป ตามใจมึง
แต่หากดู ๆ แล้วนี่มันความเคยชินนะ คงจะเป็นเพราะรู้จักกันมานานมาก ยิ่งถูกเลี้ยงมาด้วยกันเหมือนครอบครัว
มันก็ควรจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว

ซึ่งถ้าเป็นคนในครอบครัว ต่อให้นิสัยไม่เข้ากันยังไง
สุดท้ายก็ต้องยอมรับ และ เคยชินกับมัน
เราคิดว่าเชาคงทำแบบนั้นกับคิงนัันแหละ

แต่ถึงสองคนนั้นจะเคยชินอะไรกันยังไง
เราว่าการเป็นคนรักกันมันต้องมีอะไรมากกว่านี้อีกค่ะ
แค่ความเคยชินมันไม่พอหรอก มันต้องมีการยอมรับนิสัย นู้นนี่นั้นอีกนานานับประการเลยคะ

เอาเป็นว่า เราเป็นคนนึงนะที่ชอบคิง (เฮ้ เราชอบนายจริง ๆ นะเว้ย)
แต่ไม่เห็นด้วยกับการทำผิดของนายที่ไปนอนกับคนมีแฟนแล้ว (ถึงจะเมาก็เหอะ)
และ ไม่เห็นด้วยกับการให้นายคบกับเชาอีก

โอ๊ยย เรื่องนี้เราอินค่ะ 5 5  5

ยังไงก็ ขอเป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนนะคะ
นิยายโอเคมากเลยคะ อ่านแล้วได้บรรยากาศชวนคิด ปนหดหู่ดี
เราชอบแนวนี้แหละค่ะ 5 5 5
รีบมาอัพต่อนะคะ เรารออยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ  :L1:

ป.ล. ว่าแต่ ฟิวส์ เธอไปทำอะไรมาน่ะ
เธอต้องทำอะไรแน่ ๆ ไม่งั้นนังเชาไม่ถึงขั้นมาพูดว่า 'หมดรัก' หรอก

หวังว่าจะไม่ได้ทำอะไรเลวร้ายโคตร ๆ นะ ไม่งั้นที่เราอุตส่าห์สงสารมาตั้งเยอะนี่ จบเห่ Orz
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2015 12:07:27 โดย sataav »

ออฟไลน์ cherilnatcha

  • การเดินทางของความคิด. ชาร์ลี (c)
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
7
กระทู้เด็ดพันทิป





--ผมกำลังลังเล ว่าจะลองเปิดใจคุยกันหรือเลิกกับแฟนเลยดี—
 


นี่เป็นกระทู้แรกของผม สมัครสมาชิกเพื่อพิมพ์ทู้นี้โดยเฉพาะเลยนะเนี่ย 555555555 ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ


อย่างที่จั่วหัวกระทู้ไว้ ผมคบกับแฟนมาได้ปีกว่าๆ รู้จักกันมาเกือบสองปีได้ เรารักกันมากครับ เมื่อก่อนก็แฮปปี้มีความสุขดีอยู่หรอก แต่อยู่ดีๆ ผมก็เกิดรู้สึกเบื่อขึ้นมา ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แต่อะไรเดิมๆ ที่เขาทำแล้วผมเฉยๆ ตอนนี้มันกลับทำให้ผมหงุดหงิด อย่างน้องเขาจะเป็นคนขี้อาย งุ้งงิ้งๆ ใช่มั้ย เมื่อก่อนผมก็โอเค ให้เดาทาง เดาอารมณ์ว่าเขาต้องการอะไรมันก็สนุกดี แต่ตอนนี้โคตรน่าเบื่อ คืออยากได้อะไร อยากบอกอะไรก็พูดตรงๆ เลย ผมก็พอรู้แหละว่าตัวเองไม่เหมือนเดิม คิดหลายรอบมากก็ยังคิดไม่ออกว่าจะเอายังไงดี จะบอกเลิกเลย หรือลองปรับความเข้าใจก่อนดี แล้วเรื่องมันก็ค่อนข้างซับซ้อนอยู่เหมือนกัน คือสมมุติผมอยากเลิกกับเขา มันก็จะกระทบอย่างอื่นด้วยอ่ะ แล้วน้องเขาก็ไม่ได้ผิดหรือไม่ดีตรงไหนด้วย ผมจบไม่ลง มันเหมือนเรามีอะไรร่วมกันเยอะมากๆ ผมรู้สึกผูกพันนะ แล้วผมเป็นคนแรกน้องเขา


เราเจอกันช่วงงานเปิดบ้านวิศวะ ผมอยู่ปี2 แล้วเขาอยู่ม.6 เริ่มแรกผมไม่ได้สนใจเขาเลย ไม่เลยจริงๆ แต่เพื่อนน้องเขาถามนั่นนู่นนี่เกี่ยวกับคณะเกี่ยวกับวิชาเรียนเยอะผมเลยตอบ แล้วคือผมก็เป็นคนเฟรนด์ลี่ไง 55555 เขาถามอะไรมาผมก็ตอบหมด แถมปล่อยมุขเล่นตลกกับกลุ่มน้องไปอีก บุคลิกผมไม่เถื่อนมากเหมือนคนอื่นๆ ด้วย(อันนี้ผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ น้องเขาบอกเอง 55555555 ) น้องเลยกล้าคุย ก่อนกลับก็ถามเฟส ถามไลน์ผมเรียบร้อย แต่น้องไม่ได้ถามนะ ส่วนใหญ่คนคุยเป็นเพื่อนเขา เขาแทบไม่พูดเลย ครั้งแรกที่น้องแอดไลน์ทักผมมาผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าใคร 555555555555555 เขาแอดหลังจากวันเปิดบ้านสองสามอาทิตย์เลย ผมก็ลืมป่ะวะว่าเคยให้ไลน์ใครไปบ้าง


เนื้อหาที่คุยกันผมจำไม่ได้แล้ว แต่คร่าวๆ ประมาณว่าเขาอยากเข้าคณะผมมาก แต่กลัวไม่ติด ช่วงนั้นผมคุยกับน้องเขาเรื่อยๆ จนสนิทกับน้องในระดับนึงเลยถามไปแบบเล่นๆ ขำๆ ว่าให้ผมติวให้มั้ย ผมจำตอนนั้นได้แม่นมากเลย
 


ผม: เดี๋ยวพี่ติวให้ป่ะล่ะ แต่...มาที่หอพี่ได้ป่ะ ขี้เกียจออกไปติวข้างนอกอ่ะ 5555555555555
 


น้องอ่านไลน์ผม แต่ไม่ตอบทันที ผมก็ไม่อะไรนะ ชิว ตอนนั้นยังไม่คิดอะไร ชวนแบบไม่กลัวเขาคิดหรืออะไรเลย ก็แค่ถามไปเฉยๆ แล้วที่ให้มาติวที่หอเพราะขี้เกียจออกไปร้านกาแฟ มันเปลืองตังค์ผมด้วย (ตอนนั้นคิดแค่นั้นจริง ไม่ได้จีบ ไม่รู้สึกอะไรเลย) เขาหายไปนานมากกกกกกก แบบสามสี่ห้าวันถึงจะตอบผมว่าตกลง
 


น้อง: ได้คับ แล้วพี่คิดราคาเท่าไหร่ยังไง ผมจะได้บอกแม่ถูก...
 


งงมาก ไม่คิดว่าน้องเอาจริง ผมไม่คิดว่าหน้าตัวเองดูฉลาดขนาดจะเป็นติวเตอร์หรือน้องมันจะฝากความหวังได้เลยนะ(ถามเพื่อนด้วยว่าหน้ากูดูฉลาดมั้ย เพื่อนเบือนหน้าหนีไม่ยอมตอบเลยครับ) แต่ตอนนั้นเที่ยวบ่อย หาตังค์กินเหล้าด้วย เลยเอาวะ สอนก็สอน คิดว่าผมก็เอนท์ติดเข้ามาได้มันน่าจะรอดล่ะน่ะ แล้วนี่ก็ปี 2 แล้ว ไม่ง่อยแล้ว ก็ตกลงราคากันแล้วอาทิตย์ถัดมาน้องเขาก็มาหอผมเลย


อาทิตย์ถัดมาน้องมาที่หอผมจริง แต่ไม่ได้มาติวที่ห้องผมเพราะรูมเมทผมอยู่ เกรงใจมัน เลยพากันไปที่ร้านกาแฟใกล้ๆ หอผมแทน ผมขอแทนชื่อน้องเขาว่าน้องป.แล้วกัน (ทำไมกูเพิ่งมาตั้งตอนนี้วะ...)


ผมติวให้น้องป. เกือบเทอม แรกๆ เจอหน้ากันเฉพาะวันจันทร์กับพุธ (อังคารผมพัก พฤหัส, ศุกร์ผมเอาไว้เผื่อไปกินเหล้า 5555555555) แต่เราคุยไลน์กันแทบทุกวัน น้องป.ถามอะไรมาผมก็ตอบ เรื่องเรียนบ้าง ไร้สาระบ้าง แต่ส่วนใหญ่น้องป.จะถามเรื่องเรียน ผมนี่แหละพาน้องไร้สาระ 5555


บางครั้งผมอยากดูหนัง แต่ขี้เกียจดูคนเดียวก็ชวนน้องป.ดูหนัง เลี้ยงข้าวบ้าง (จากเงินค่าสอนพิเศษที่น้องป.ให้ผมมา) ช่วงหลังๆ ผมเลิกเรียนค่ำ ขี้เกียจไปไหนไกลเลยนัดน้องมาเจอแล้วติวที่คณะตัวเอง ผมตอบคำถามข้อไหนของน้องไม่ได้ก็ให้เพื่อนที่มันรู้เรื่องตอบบ้าง สอนน้องป.ให้บ้างจนน้องรู้จักกับปีผมไปหลายคน ไม่มีใครคิดว่าน้องป.จะกลายมาเป็นแฟนผมได้ แม้แต่ตัวผมเอง
ผมเคยหลอกน้องป.ไปกินเหล้า 55555555 ตอนนั้นน้องอกหักจากสาวที่โรงเรียนมา ผมเลยถือโอกาสยกคลาสแล้วพาน้องไปร้านเหล้ากับเพื่อนตัวเอง อยู่ตั้งแต่สองทุ่มยันร้านปิด น้องป.ที่ไม่เคยดื่มมาก่อนโดนมอม เมาเละหมดสภาพ ผมไม่กล้าพาน้องกลับบ้าน เลยเอาน้องไปนอนที่ห้องตัวเอง... รูมเมทด่าผมยับ ไม่ใช่ที่มอมเด็กสอนพิเศษ แต่เรื่องที่พาใครไม่รู้มานอนห้อง แต่สุดท้ายมันก็ยอมให้น้องนอนนี่(เพราะโดนมัดมือชก ก็ผมพาน้องมาถึงห้องแล้ว) ส่วนมันไปนอนคอนโดฯแฟน คืนนั้นน้องป. ตื่นมาอ้วกสองรอบแล้วก็หลับไป เช้าต่อมาไม่สบาย ไข้ขึ้น ผมต้องดูแลต่ออีกหนึ่งวันเต็มน้องถึงอาการดีขึ้น ผมขับรถไปส่งน้องที่บ้าน ให้น้องลงหน้าบ้านแล้วก็ขับรถกลับหอ ผมคิดว่าน้องอาจจะเข็ด ไม่กลับมาเรียนอีก ก็ทำใจในระดับนึงแล้ว(ว่ารายได้พิเศษตัวเองหายไป) แต่หลังจากนั้นสักอาทิตย์น้องก็ติดต่อกลับมา บอกว่าติดสอบแกท-แพทเลยหายไป ไม่ได้บอกก่อน น้องกลับมาเรียนอีกครั้งสองครั้งแล้วก็เลิกเรียน เพราะสอบเสร็จหมดแล้ว คราวนี้น้องหายไปยาวเลย ถามว่าตอนนั้นเหงามั้ย บอกเลยว่าโคตรรรรเหงา นั่นทำให้ผมเริ่มรู้แล้วว่าตัวเองรู้สึกอะไรบางอย่างกับน้องป. และจากหลายๆ อย่างน้องป.ก็ดูสนใจผมอยู่ก่อนแล้ว แต่เพื่อให้แน่ใจจริงๆ ว่าผมจริงจังกับคนนี้ ผมรอให้ผลแอดมิชชั่นประกาศออกมาก่อน และเมื่อน้องมีรายชื่อเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยของผมแล้ว ผมจึงไลน์ไปหาน้อง


จากนั้นเราก็เริ่มคุยกันแบบจริงจัง(ตอนนั้นช่วงมี.ค.) ผมพาน้องไปกินบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างที่น้องชอบกิน อัดวีดีโอเล่นกีต้าร์และร้องเพลงให้ฟัง แชทคุยกันแทบจะทั้งวัน และถ้าทนคิดถึงมากๆ ไม่ไหวก็จะโทรหา หรือนัดกันเจอที่สยามหรือที่อื่นๆ ตลอดปิดเทอมจนน้องป.มาเป็นรุ่นน้องผมที่มหาลัย ผ่านช่วงรับน้องมาจนเกือบถึงไฟนอลเทอม1 ผมก็ขอน้องป.เป็นแฟน(สักที)
น้องป.นี่เป็นแฟนคนแรกที่ผมจริงจังด้วย ผมไม่เคยเล่นกีต้าร์ร้องเพลงให้ใครฟัง ไม่เคยเทียวรับ-ส่งใคร ไม่เคยทำอาหาร ไม่เคยรู้สึกอยากดูแล หรือให้ใครมาวุ่นวายกับชีวิตมาก ไม่เคยใจเย็น ไม่ยอมใคร ไม่เคยขอโทษใครก่อน แต่คนนี้...แค่คนนี้จริงๆ ผมยอมหมด หรืออย่างน้อยก็พยายามฝืนและเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อน้อง


น้องป.ใหม่ในทุกๆ เรื่อง น้องไม่เคยมีแฟน น้องไม่เคยโดนใครจีบ(น้องว่ามาแบบนี้ครับ แต่ผมว่าน้องมันโดนจีบแต่ไม่รู้เรื่องมากกว่า) ปฏิกิริยาตอบสนองของน้องป.ดูใสซื่อมาก ใครเห็นก็อดไม่ได้ต้องแกล้ง ต้องเอ็นดู
จากที่เล่ามาทั้งหมด ทุกอย่างมันดูเป็นไปด้วยดีมาก ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าอาการ ‘ เบื่อแฟน ’ ของผมมันมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และสาเหตุเกิดจากอะไร?


ระหว่างที่นั่งพิมพ์กระทู้นี้ทำให้ผมคิดถึงช่วงเวลาดีๆ ที่ผมและน้องป.มีร่วมกัน นึกถึงน้องกินซุปข้าวโพดกระป๋องแคมป์เบลแล้วเลอะปากจนผมต้องเช็ดให้, นึกถึงตอนผมพยายามร้องเพลงและเล่นอูคูเลเล่อันจิ๋วทั้งที่ไม่ถนัดเอาซะเลย, วันที่ผมเซอร์ไพรซ์น้องด้วยการพาไปสยามโอเชียนเวิลด์ และอีกหลายสิ่งหลายอย่างมากๆ ที่ผมทำให้น้อง...


ใครเคยเป็นบอกผมที ยังรักแต่ก็เบื่อ อะไรที่เคยดีเหมือนมันจืดชืดลงทุกวันๆ ทั้งที่รักมาก แต่ก็รู้สึกแบบนี้ อย่างนี้เรียกอะไรครับ?
กลับไปที่หัวกระทู้ด้วย 555555 ผมควรคุยหรือเลิกเลยดี แล้วถ้าคุย ผมจะพูดยังไงให้น้องป.ไม่คิดมาก? หรือเฮิร์ทน้อยที่สุด(เผื่อกรณีที่เลวร้ายมากจริงๆ)


ขอบคุณล่วงหน้าครับ

 



“ โอ๊ยยยยยย แก!!!! กระทู้นี้ทำฉันฟินจิกหมอนทั้งคืน ”


เห็ดทำหน้าฟิน จับมือผมบีบๆๆ อย่างกับเป็นหมอนอีกใบ จิ้มไอแพดเปิดกระทู้ที่ทำให้ฟินไว้ยื่นให้ผมดูใกล้จนแทบจะชิดหน้าตัวเอง ผมสะดุ้งตกใจ ยังไม่ได้อ่านอะไรเห็ดก็เอาไอแพดกลับไป


“ ฉันว่าเจ้าของกระทู้ไม่ได้อยากเลิกกับแฟนจริงๆ หรอก อาจจะแค่สับสนอยู่ก็ได้ ” เห็ดทำตาเคลิ้ม “ ดูที่เขาทำให้แฟนสิ! ทั้งเล่นกีต้าร์ เลิกบุหรี่ เซอร์ไพรส์วันเกิด โอย ทำไมฉันไม่มีแบบนี้บ้างอ่ะ ”


ปุ๊ก เพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่ข้างกันส่ายหน้าเพลีย แล้วยื่นนิ้วชี้ดันหัวเห็ดจนแทบจะหงายหลัง!


ง่า...กลุ่มบิวมองมาเหมือนรำคาญด้วยอ่ะ...


“ ว๊ายยยยยๆๆๆ!!!!! ” เห็ดจับแขนผมไว้มั่น จะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่แต่ปุ๊กก็ยังเอานิ้วชี้ดันอยู่อย่างนั้น ท่าทางสะใจปนสนุกอยู่ “ ปุ๊กหยู๊ดดดด หยุดนะคะ ว้าย! จะร่วงแล้วค่า!! ”


 “ เหวอ... ” ผมจะล้มไปตามแรงดึงของเห็ดเหมือนกันปุ๊กเลยหยุด


“ ว้าย! ขอโทษ ฟิวแกเป็นไรเปล่า ” ปุ๊กเข้ามาจับตัวผมท่าทางลนลาน “ อีเห็ด! ดู!! นังฟิวแขนช้ำหมดแล้ว ”


ง่ะ! แขนผมไม่บอบบางขนาดนั้นนะ แค่แดงนิดหน่อยเอง ผมผิวขาว ระบบน้ำเหลืองไม่ค่อยดี โดนอะไรนิดอะไรหน่อยก็แดงก็ช้ำแล้ว เป็นแผลง่าย หายยากอีก ไม่ชอบเลย...


“ อุ๊ย! แก ฉันขอโทษ ฉันไมได้ตั้งใจ... ” เห็ดเสียงอ่อย ดึงแขนผมไปดูบ้าง มีรอบแดงเห่อ กับมีรอยถูกจิกด้วยเล็บเพราะเมื่อกี้ตอนเห็ดจะล้มเห็ดจับแขนผมไว้แน่น


“ ไม่เป็นไร นิดหน่อย เดี๋ยวก็หาย ” ผมลนลาน รีบส่ายหน้าบอกเพื่อน แต่เห็ดยังคงมีสีหน้ารู้สึกผิด


“ แก... ฉันขอโทษจริงๆ ฉันไม่ตั้งใจ แดงเลยอ่า... ”


“ เพราะมึงเลยอีเห็ด ฟิวเจ็บตัวเลย ” 


“ อะไร! มึงง่ะ! ผลักหัวกู อีปุ๊ก! ”


กลุ่มผมประกอบด้วยผม ปุ๊ก แล้วก็เห็ดครับ...


ปุ๊กเป็นสาวเหนือ อยู่จังหวัดลำปาง ผิวขาว ตัวผอม ตัดผมทรงหัวเห็ด นิสัยปุ๊กก็น่ารัก ปากหวาน คิดมาก ขี้น้อยใจ แล้วก็ชอบเอาใจคนอื่น


ส่วนเห็ดมาจากอุบล เห็ดตัวกลมๆ ผิวเข้มกว่าปุ๊กเล็กน้อย หน้าจีนมาก จีนจนตอนแรกผมแปลกใจ แต่ตอนนี้ชินแล้ว เห็ดเป็นคนปากไว รักความถูกต้อง และชอบต่อปากต่อคำก็เลยทะเลาะกับปุ๊กบ่อยๆ ผมคิดไม่ออกเลยว่าแล้วเทอมนี้ที่ผ่านมา เห็ดกับปุ๊กเป็นรูมเมทกันไม่ตีกันตายได้อย่างไร...?


เห็ดกับปุ๊กกอดแขนผมคนละข้างแล้วเขม่นกัน ดูจะไม่เลิกง่ายๆ


“ ง่ะ อย่าตีกันสิ... ”


พอดีกับอาจารย์เข้ามาในห้องแล้วเริ่มเช็คชื่อพอดี ทั้งคู่จึงหยุดแล้วมองหน้ากัน


“ มองอะไรอีปุ๊ก ”


“ มึงนั่นแหละมองอะไร เห็ด... ”


ทั้งคู่อมยิ้ม หัวเราะคิกคักแบบรู้กันว่าอาจารย์ใหม่ที่เข้ามาหล่อ….. ทีเรื่องแบบนี้ล่ะสามัคคีกันขึ้นมาเฉย


ดูเหมือนอาจารย์คนนี้จะมาแทน อาจารย์ไม่พูดอะไรมาก เอาปากกาชี้ที่แต่ละกลุ่มที่นั่งกันอยู่แล้วถามเลขที่เอาเพราะอาจารย์รีบเลยไม่มีใบรายชื่อมาด้วย


“ เอ้า! สาว 3 คนตรงนั้น เลขที่เท่าไหร่บ้าง ” อาจารย์พูดแซวออกไมค์ บางคนหันมามองก็ขำๆ เพราะสาวๆ ที่อาจารย์เรียกมีแต่ผมที่แต่งชุดนักศึกษาชาย


“ 15,34 แล้วก็ 38 ค่าอาจารย์! ”


ฮือ... ผมเขินมือปิดหน้า เพื่อนร่วมห้องขำกันหมดเลย ไม่ตลกสักหน่อย!


 
“ เพื่อนขา... กลางวันกินกันที่ไหนดีคะ ” เห็ดตั้งคำถาม เรียนเสร็จแล้ว กำลังเก็บของ


“ อักษรมั้ย? ” ปุ๊กเสนอ


เห็ดทำหน้าเบ้


“ ไปทำไม? ”


“ เผื่อเจอพี่ฮัทไง ” ปุ๊กเอามือปิดแก้มทำหน้าเขินอาย พี่ฮัทเป็นผู้ชายที่ปุ๊กแอบชอบ เขาเรียนอักษรศาสตร์ เอกสเปน น้องสาวผมบอกมาว่าพี่ฮัทเป็นเกย์สาว แต่ผมไม่กล้าบอกปุ๊ก.. กลัวเพื่อนเสียใจ


“ ป่ะ! ฟิว เก็บของ ”


ผมเม้มปาก.. ลังเลจะบอกเพื่อนดีมั้ย


“ คือว่า...เรา.... ”


“ ว่า? ”


ปุ๊กกับเห็ดจะว่ามั้ยอ่ะ แต่ผมอยากไปจริงๆ นะ ชวนพี่เชา..พี่เชาตกลงแล้วด้วย..


“ เรา.... เดี๋ยวเราไปกิน...ข้างนอกนะ.. ” ผมพูดเสียงเบา ก้มหน้า


“ หืมมมมมมมมมม? ” ไม่ต้องบอกก็รู้ ปุ๊กกับเห็ดทำสายตาล้อเลียนผมอยู่แน่ๆ ฮืออ เขินจัง “ กับใครรรรร ”


“ ง่า.. ก็คนเดิม ” อ้อมแอ้มตอบ


“ คนไหน ฉันลืมง่ะฟิว แบบไม่รู้เป็นอะไร ช่วงนี้ขี้ลืมมม ”


ง่ะ...


“ เราไปกับ...พี่เชา…. ”


เห็ดกับปุ๊กอมยิ้มมองหน้ากันแล้วยิ้ม


“ จ้าาาาา ” ประสานเสียงล้อผมเลย


“ ฉันอิจฉาแกจริงๆ เลย มีแฟนหุ่นแซ่บหล่อล่ำ ” ปุ๊กว่า


“ จริง! แกเนียนมาก นี่ถ้าไม่บอกไม่รู้นะเนี่ยว่าแกกับพี่เชาเป็น...กัน ” เห็ดอมยิ้มเอานิ้วชี้จิ้มกันแทนคำที่เว้นว่าง แล้วมองด้วยสายตาทะเล้นล้อเลียน


ผมก้มหน้าเขินแก้มแดง


ผมคบกับพี่เชาตั้งแต่ปี1 เทอม 1 ตอนนี้เทอม 2 แล้ว แต่ปุ๊กกับเห็ดเพิ่งจะรู้เมื่ออาทิตย์ก่อน ตอนที่ผมร้องไห้โทรหาสองคนเพราะทะเลาะกับพี่เชารุนแรงมาก พอโดนคาดคั้นว่าเป็นใครก็เลยจำใจบอก แต่ผมกำชับทั้งสองคนว่าห้ามบอกใคร ผมไม่อยากให้คนในคณะมองพี่เชาไม่ดี…


แต่สรุปแล้วเห็ดกับปุ๊กก็ไม่ได้ไปกินข้าวที่อักษร ทั้งคู่มาส่งผมกับพี่เชา แล้วกินข้าวคณะตัวเอง เราเดินไปหาที่เชาที่นั่งอยู่ที่บิ๊กไบค์สีแดง พี่เชามองเห็ดกับปปุ๊กด้วยความแปลกใจ เพราะพี่เชาไม่เคยเจอเพื่อนผมมาก่อน


“ พี่เชา นี่เห็ดกับปุ๊ก เพื่อนฟิวคับ... ”


“ หวัดดีค่ะ ” ทั้งคู่ดูอายและเจี๋ยมเจี้ยมขึ้นมาทันที


“ หวัดดีครับน้อง ” พี่เชายิ้มให้ “ พี่ยืมตัวฟิวพาไปกินข้าวข้างนอกด้วยกันหน่อย น้องไม่ว่าอะไรนะครับ? ”


น้ำเสียงทุ้มนุ่มนวลทำให้ผมเขินแก้มแดง บวกกับรอยยิ้มเท่ๆ ของพี่เชายิ่งเพิ่มระดับความเขินให้ผมมากขึ้นไปอีก


“ อุ๊ย! ไม่ว่าค่ะๆ แต่อยากไปด้วย อิอิ ”


งื้อออ! เห็ดจ้องพี่เชาของผมไม่วางตาเลย พี่เชาแฟนเรานะ T-T


“ อีเห็ด! ” ปุ๊กหยิกเอว เห็ดสะดุ้งหันมามองปุ๊กเคืองๆ ส่วนปุ๊กก็ยิ้มแห้งดูเขินให้พี่เชา “ พวกหนูล้อเล่นค่ะ แฮะๆ ”


“ ไม่เป็นไรครับ ไว้คราวหน้านะ วันนี้พี่เอามอไซค์มา ” พี่เชาหัวเราะท่าทางขำขันมากกว่าซีเรียส ” ไปยังฟิว? ”


“ ครับ.. ” ผมอมยิ้ม กำลังจะถามหาหมวกกันน็อกสีเหลืองเป็ดใบประจำของตัวเอง แต่พี่เชากลับส่งหมวกกันน็อกสีดำ-แดงของเขาให้ผมเหมือนเดิม


“ อ่ะ.. แล้วหมวกฟิว..? ” หมวกผมติดสติ๊กเกอร์รูปเป็ด สติ๊กเกอร์ประจำตัวผมไว้ด้วย


“ พี่ลืมไว้ที่บ้าน ใส่ใบนี้ไปก่อนนะครับเป็ดน้อย ” ว่าจบพี่เชาก็สวมหมวกกันน็อกให้จับหัวผมโยกไปมา ผมเม้มปากกลั้นยิ้มพยักหน้า แล้วก็นึกได้ว่าปุ๊กกับเห็ดยังอยู่ตรงนี้ เห็นผมหวานกับพี่เชาไปเต็มๆ เลย ง่ะ..อายจัง..


ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์บ๊ายบายเพื่อนแล้วพี่เชาก็ขับออกมาเลย..


ผมกอดเอวพี่เชา ซบหน้ากับแผ่นหลังกว้าง ปากยิ้มมีความสุข แต่ในใจลึกๆ ผมรู้สึกหน่วงอย่างบอกไม่ถูก


พี่เชาลืมหมวกไว้ที่บ้านแปลว่าพี่เชากลับไปหาป้าที่แจ้งวัฒนะ และคนที่นั่งไปด้วยอีกคนก็คงเป็นพี่คิง พี่คิงจะกอดเอวพี่เชา จะได้ซบหลังพี่เชาแบบผมรึเปล่า...


ผมอยากไปบ้านพี่เชาบ้างจัง….


พี่เชาสัญญา แต่ไม่เคยพาไป...สักที...







-------------------------------------------------------------


รีรันกระทู้เชาตั้งแต่ต้นจนจบ... (ในตอนต้นๆ ยังไม่จบค่ะ 5555555)

จำสองสาวเพื่อนฟิวต้นเรื่อง(บทนำ)ได้มั้ยคะ พวกนางเปิดตัวแล้วค่าาา  #ทีมฟิว เตรียมเฮได้ ผู้ผดุงความยุติธรรมให้น้องออกมาแล้ว มีตัวแรงมิฉะนั้นเรื่องคงไม่เกิด เพราะน้องนางจะยอมเชาต่อไป  :เฮ้อ:


ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ  :L2: :L2: :L2:


ปล. ขออนุญาตถามหน่อยค่ะ หลัง 6.5 มีใครทีมคิงบ้าง.... ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่อยากจะบอกว่าคนเลวก็รักแม่ 55555


ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
อยากให้เคลียร์เร็วๆ  บางทีก็เหมือนกับว่าคิงมันไม่สนอะไรเลย  นอนกับเชาหรือใครก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับตัวคิง  เหมือนปล่อยๆชีวิตไปไม่อยากคิดลึกซึ้ง  เชาก็เหมือนห่วงและรักคิง คู่นี้มีสิ่งที่ผูกพันธ์กันเยอะมากๆ ความสัมพันธ์ 3 คน แม่ เชา คิงนั้นเหมือนเป็นพื้นที่ส่วนตัวศักด์สิทธ์ที่ปิดกั้นไม่อยากให้ใครเข้ามาล่วงล้ำ  เดาเอานะว่าบางทีเชากำลังสองจิตสองใจกับฟิวส์เพราะว่าฟิวส์ไม่เหมือนตัวเองกับคิง จะรับก็อยากเสียพื้นที่ส่วนตัว จะทิ้งก็มีความรู้สึกดีๆให้กันอยู่ เชาถึงได้เกิดอาการนอยด์กับสิ่งที่เป็นอยู่  ฟิวส์ไม่เข้าใจหรอกเพราะว่าฟิวส์เป็นแบบธรรมดา ทำตัวธรรมดา ยังมองไม่เห็นปัญหา ยังมองตัวตนจริงๆของเชาไม่ออก เห็นแต่ความเท่ห์ ความหล่อ

เรามโนตามที่เราอ่านและเข้าใจนะ

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
เนื้อเรื่องเรียกร้องมากครับ สัมผัสได้ว่าคนเขียนวางพล็อตไว้ดีมาก แต่อยากให้คนอ่านค่อยๆซึมซับปัญหาของแต่ละคน ดังนั้นผมต้องตอบรับ ขอวิจารณ์กันสักหน่อย

ความจริงแล้ว ผมเขียนอธิบายปัญหาของเชาไว้อย่างเกือบครบถ้วนแล้วในคอมเมนท์ก่อน ซึ่งผมก็ขอต่อยอดหน่อย

ผมว่าผมสงสารฟิวครับ และผมว่าพฤติกรรมเชานี่เข้าข่าย 'สมควร' โดนอัดเข้าสักวัน ผมไม่ได้พูดโดยใช้อคติส่วนบุคคล แต่ผมพูดในฐานะคนกลางที่มองเห็นการกระทำของเชาซึ่งไม่ได้สนใจความรู้สึกของอีกฝ่ายเลย ไม่ว่าจะเป็นคุณป้า หรือแม้แต่ฟิว

ยกตัวอย่างเคสแรกสุด คือคุณป้าตักเตือนเรื่องความเร็ว ผมว่ามันก็ค่อนข้างเมคเซนส์นะครับ คือควรรับฟังหน่อย เพราะมันไม่ได้ส่งผลกระทบแค่คุณคนเดียว จะคึกคะนองแบบวัยรุ่นน่ะได้ ไม่ได้ห้าม แต่ควรจะต้องคิดถึงคนอื่นบ้าง แม้ว่านิสัยส่วนบุคคลของเชาจะไม่เอื้อให้คิดถึงคนอื่นเลยแม้แต่นิดก็เถอะ

โอเค ผมเข้าใจปมความผิดหวังด้านครอบครัวของเชานะครับ เพราะไม่ได้ถูกเลี้ยงมาแบบมีความอบอุ่น เลยไม่รู้สึกว่าต้องแคร์ใคร เพราะไม่เคยคาดหวังอะไรจากคนอื่น เลยรู้สึกว่าทำไมคนอื่นต้องมาคาดหวังหรือกำหนดกฏเกณฑ์กับชีวิตตัวเองด้วย อันนี้ผมเข้าใจ แต่ปัญหาคือ คุณไม่ได้แบกโลกไว้คนเดียวขนาดนั้น การแคร์ความรู้สึกคนอื่นไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนแอ การที่ใส่ใจและรับฟังคนอื่นไม่ได้หมายความว่าชีวิตคุณจะถูกบังคับ และครอบครัวของคุณจะล้มเหลวเหมือนกับพ่อแม่ของคุณ

คุณไม่ได้ 'หลงทาง' อยู่ในความมืดโดยที่ไม่สามารถหาทางออกได้ คุณปฏิเสธที่จะมองเห็นและเดินตามแสงสว่างของคนอื่นที่ส่องมาหาคุณต่างหาก เพราะคุณคิดว่าแสงจะแผดเผาและทำให้คุณเจ็บปวด คุณถึงรำคาญและไม่อยากที่จะไปยุ่ง แต่แท้จริงแล้ว หากไม่เจ็บปวด หากไร้ซึ่งความกล้าที่จะทดลอง 'เชื่อ' ในความดี มนุษย์ก็จะไม่มีวันเติบโตขึ้น

ความเจ็บปวดทำให้เรามองเห็นมุมมองใหม่ๆ แต่ก็เช่นกัน เพราะเรามีคนอยู่รอบข้าง ความเจ็บปวดนั้นจึงจะทุเลาลง เพราะมีคนชี้นำ ปลอบโยน ห่วงหา และให้ความสุข ความเจ็บปวดนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นความรักและความมุ่งมั่น และนั่นคือสิ่งที่ครอบครัว เพื่อน และคนรัก เค้าทำให้ซึ่งกันและกัน

นี่คือสิ่งเชาคิดไม่ได้ เชาไม่รู้สึกว่าการแคร์ความรู้สึกของฟิวคือเรื่องที่ควรทำ เชาไม่รู้สึกว่าการรับฟังคนที่เลี้ยงดูมาคือสิ่งที่น่าจะมีประโยชน์ การที่เชาไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น วันนึงจะทำให้ตัวเขาเองตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก

ผมถึงแนะนำให้เชาเลิกกับฟิวเถอะ เพราะเชาควรจะรู้ได้แล้วว่าคนอื่นเค้าไม่ได้คิดแบบเชา ผมอยากให้ฟิวคิดได้ว่าไม่ควรทำให้ตัวเองเสียใจไปมากกว่านี้ เพราะเชาไม่ได้คิดจะแก้ไขปัญหา เชาไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าตัวเขาเองน่ะมีปัญหา ดังนั้นพอตัวเองไม่รู้ การที่จะยอมรับและแก้ไขเรื่องนี้ มันยาก

ฟิวเป็นเด็กที่น่ารัก เป็นเด็กดี เป็นเด็กร่าเริง ฟิวมีปัญหาเพราะมีความบกพร่องด้านการทำงานของน้ำเหลือง ดังนั้นการที่เค้าเป็นเด็กที่มีความดีอยู่เต็มหัวใจขนาดนี้ มันเป็นเรื่องที่น่านับถือมากเลยนะครับ ฟิวเป็นคนมองโลกในแง่บวก เป็นคนที่จริงจัง ทำอะไรคือทุ่มเทให้สุดๆเสมอ (อาจจะเพราะที่บ้านทุ่มเทให้ฟิว เนื่องจากเห็นว่าป่วย) และพยายามจะไม่คิดมากเรื่องอะไรเล็กๆน้อยๆ เพราะเค้าเห็นค่ากับความรักที่มีให้กับเค้า

การที่ฟิวต้องมาเจอคนที่เลวร้ายในด้านทัศนคติแบบเชา มันไม่โอเคเลยนะ มันหลายเรื่องแล้ว ทั้งยอมเอามือถือไปซ่อมให้ ติดสติกเกอร์ให้เพราะกลัวสลับกัน ทะเลาะกันเค้าก็เป็นฝ่ายยอมตลอด แล้วนี่อะไร เคสมือถือที่อุตส่าห์ทำให้ เอาไปโยนทิ้งถังขยะแบบไม่ใยดี แล้วเอามือถือไปเทิร์นเหมือนเป็นสิ่งไม่สำคัญ เพียงเพราะเหตุผลแค่รำคาญ สติกเกอร์ติดหมวกกันน็อค ก็ฉีกทิ้งแบบไม่มีเยื่อใยเพราะคิดว่าไร้สาระ

ถ้าผมเป็นพี่ชายฟิวนี่ เชาโดนผมชกไปแล้ว ต่อให้รู้ว่าเค้ามีปัญหาทางใจก็เถอะ แต่คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายความรู้สึกคนอื่นแบบนี้? คุณคิดว่าตัวเองไม่แคร์โลก ดังนั้นคนอื่นก็ไม่ควรจะแคร์คุณด้วยงั้นสิ? คุณคิดว่าผมจะปล่อยให้คนในครอบครัวผมที่เป็นคนดีของสังคม มาโดนทัศนคติร้ายๆของคนๆนึง กัดกินจนต้องเสียใจแบบนี้น่ะเรอะ?

มันไม่ได้หมดใจหรอก คุณไม่ได้ 'มีใจ' ให้ฟิวมาตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก คุณก็แค่รู้สึกว่าอยากลองดู ถ้ามีแฟนแล้วมันจะเป็นยังไง ปัญหาก็คือ เรื่องมันดันมาตกอยู่กับคนดีๆอย่างฟิวไงครับ

ส่วนคิง อันนี้ผมไม่รู้เท่าไหร่ เพราะบทยังไม่โยนให้เค้ามาก แต่ที่ผมรู้คือ คิงเป็นคนเงียบ คิดมาก แต่ก็เหมือนกับเชา คือไม่ได้คิดว่าตัวเองมีปัญหาอะไร คิงมี emotional conflict คือยอมตามคนอื่น แต่ในเวลาเดียวกันก็อยากรู้ว่าต้องตามเท่าไหร่ถึงจะพอ เป็นคนประเภทที่ยอมฟังที่คนอื่นพูด แต่ไม่ยอมรับและไม่ยอมคิดตาม ดังนั้นจะเกิดกำแพงทางความคิด และในที่สุดจะทำให้กลายเป็นคนที่แก้ปัญหาได้แบบครึ่งๆกลางๆเพราะไม่มีจุดยืนของตนเองที่แน่ชัด (ขัดกับเชาที่มีจุดยืนที่มั่นคงเกินไปในอัตตาผิดๆ)

ผมชอบเรื่องนี้นะครับ อย่างที่บอกไปแล้วว่าทำเนื้อเรื่องมาดี ติดตามครับๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2015 22:17:36 โดย Grey Twilight »

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ไม่รู้ว่าอนาคตเชากับคิงจะเป็นไง
แต่เราสงสารฟิว เชาเคยรักฟิวจริงหรือเปล่า
แถมได้ลองของใหม่อย่างคิงไปด้วย
คงทำให้เชาตัดสินใจได้แล้วล่ะ
ว่าคงจะบอกเลิกฟิวเป็นแน่แท้
เพราะถ้าฟิวรู้ว่าเชากับคิง x กัน
ฟิวคงเสียใจกว่าเดิมหลายเท่า
นอกใจ ไม่รักแล้ว หรือไม่เคยรัก
ไม่ว่าเชาเป็นแบบไหน ฟิวก็เสียใจ

ออฟไลน์ sataav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เราเสียใจทุกครั้ง ที่ได้อ่าน Part ฟิวส์
เรารำคาญความเป็นคนขี้อายของฟิวส์นะ
แต่แบบ ฟิวส์เป็นเด็กดีมาก ความคิด การกระทำ ความใส่ใจ ทุกอย่างมันมาแบบใส่ซื่อ ทำด้วยเจตนาดี จริงใจ
ขนาดที่ว่า เราไม่ชอบคนบุคลิกแบบนี้ยังยอมใจอ่อนให้กับความดี ความน่ารักของฟิวส์เลย

เราเห็นแบบนี้ทีไรเราหงุดหงิดนะ
ความดี ความน่ารักของฟิวส์ คนที่ควรได้ไปไม่ควรเป็นเชาจริง ๆ

เห็นด้วยกับความเห็นที่บอกว่า 'ถ้าเป็นพี่ชายฟิวส์นี่ ต่อยเชาไปแล้ว'
ถ้าเราเป็นพี่สาว หรือ แม่ฟิวส์นะ จะตบให้เลือดกลบปากเลย !

แม่งเอ๊ยยยย จิตใจทำด้วยอะไรวะ  :ling1:

ส่วนเชานี่ ไม่รู้จะพูดยังไง
ความเลว ความใจร้ายนายมันเกินทน จนไม่เหมาะกับฟิวส์จริง ๆ

เรายังไม่แน่ใจนะว่าเชารักฟิวส์มั๊ย ใจคิดว่าคงรักแหละ
แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะรักหรือไม่ ก็ไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญแล้ว
เพราะ แกนี่มันไม่เหมาะกับฟิวส์จริง ๆ

ส่วนคิงส์ ใครจะเชียร์ก็เชียร์ไปเถอะ
เราคนนึงละ ขอบายคู่ เชา x คิงส์
เราว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันแล้วไม่เหมาะจริง ๆ

โอเค เราเกลียดเคะบ๊องแบ๊วแบบฟิวส์ และ เราชอบมาก เคะราชินีแบบคิงเนี่ย
แต่ราชินีไม่มีศีลธรรมนอนกับคนมีแฟนแล้วแบบนี้ก็ไม่ไหววะ (เริ่มวะ เริ่มเว้ยละเรา 5 5 5)

เอาเป็นว่า #ทีมฟิว อีกคนนึงคะ
ถึงจะยังไม่รู้ว่าฟิวไปทำอะไรมา แต่ก็สงสารฟิวมากจริง ๆ
(แต่ไม่แน่เหมือนกันนะ ถ้ารู้ว่าฟิวทำอะไรเลวร้ายมาก ๆ มา เราอาจจะย้ายทีมทันทีเลยก็ได้ 5 5 5)

เอาเป็นว่า รีบมาต่อนะคะ
เรายังรอติดตามให้กำลังใจอยู่คะ นักเขียน
คุณเขียนดีมาก เรานึกออกเลย เหมือนชีวิตจริงเลยอ่ะ 5 5 5 5
แบบ แต่ละตัวละครนี่เราคิดตามเลยนะว่า ถ้าเป็นเพื่อน หรือ คนใกล้ตัวเราจะจัดการกับใครยังไง (อินเกิ๊น)

สู้ ๆ ค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ณ ตอนนี้ พาร์ทนี้ คือ...ฟิวออกสาว คือยังดีล่ะ มันมุ้งมิ้งแปลกๆ แบบพอนางพูดถึงเชา นึกถึงเชา คิดถึงเชา โลกมันกลายเป็นสีม่วงๆ ส่วนตัวแล้ว ตั้งแต่ตอนก่อนนู้นรู้สึกคล้ายว่านางมีท่าทีเหมือนผู้หญิง(จำไม่ได้ว่าตอนไหน) พออิฉันอ่านมาถึงตอนนี้ ก็ยิ่งชัด ใครทีมใครไม่รู้อ่ะตอนนี้ แต่อิฉันทีมคนแต่ง เชียร์ให้เข็นตอนต่อไปมาเร็วๆ เป็นกำลังใจให้เสมอนะตัวเอง :katai3:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ไม่เข้าใจตัวเอง
แล้วจะมีปัญญาอะไรไปเข้าใจคนอื่น


จงมีชีวิตแบบ งง งง ต่อไปเหอะเชา
อย่าดึงคนอื่นเข้ามาร่วมวงด้วยเลย

สงสารคนอื่นเค้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cherilnatcha

  • การเดินทางของความคิด. ชาร์ลี (c)
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
8
ลำดับความสำคัญ




น้องฟิวทักแชตมาหาผมตอนเช้า ชวนไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน...


ผมหาวเบาๆ เพื่อนที่นั่งเรียนข้างกันหันมามอง เขาชื่ออาร์ต เรียนโภชนาการ ปี3 คณะสหเวชศาสตร์ รู้จักกันเพราะอาร์ตมานั่งข้างผมในคาบแรก ผมก็ขอยืมปากกาเขาเลย เพราะตอนมาเรียนหยิบแต่หนังสือติดมา


“ หาวอีกละ ” อาร์ตบ่น มือจดที่อาจารย์สอนหน้าห้องไปด้วย


ปีที่แล้วผมตกภาษาอังกฤษตัวนี้ไป เทอมนี้เลยต้องมาลงเรียนใหม่ ที่เหี้ยคือผมไม่ได้ทำข้อสอบไม่ได้นะ แต่ขาดเกินโควตาที่อาจารย์กำหนด ทำไงล่ะ? ก็ดรอปดิครับ แล้วก็กลับมาเรียนใหม่ปีนี้กับพวกสหเวชฯ ปี3


“ ตั้งใจเรียนหน่อยสิเชา เดี๋ยวนายก็ได้ลงตัวนี้ปีหน้าอีกหรอก นี่ปี3จริงเหรอเนี่ย ” ประโยคหลังพูดเบาๆ


นอกจากโดนบ่นแล้วยังหลอกด่าผมอีก ดูมัน…


“ อืมๆ ” ผมกดโทรศัพท์แชทกับเพื่อนต่อ ปล่อยให้หน้ากระดาษในหนังสือผมว่างไป “ ไม่ต้องเรียนเรายังติวให้นายได้เลย ”


อาร์ตกลอกตา ไม่อยากยอมรับอ่ะดิว่าผมเก่งอังกฤษ แต่มิดเทอมคราวที่แล้วที่อาร์ตทำได้เกิน 70% เป็นเพราะผมติวให้จริงๆ ฮ่าๆ


“ เออ รู้ว่าเก่ง แต่ไม่เรียนเลยแบบนี้อาจารย์ก็หมั่นไส้นายอีก เราเตือนเราหวังดีนะ ”


ผมหัวเราะ แล้วก็นึกขึ้นได้ “ เออ ที่บอกจะเลี้ยงข้าวเราอ่ะ เลี้ยงเมื่อไหร่ อยากกินแล้วนะ ” เลี้ยงขอบคุณที่ผมติวมิดเทอมให้นี่แหละ


“ อืม…. เมื่อไหร่ดีล่ะ ” ถ้าไม่บ่นผมอาร์ตก็จะตอบเนือยๆ แบบนี้


“ กลางวันนี้เลยป่ะ มีเรียนบ่ายมั้ย ” ผมพูดเล่น แกล้งท้า แต่อาร์ตเอาจริง…


“ มี แต่ถ้ากลับมาทันก็โอเค นายอยากกินอะไร ”


โห.. ป๋าเว้ย!


“ งั้นกินติ่มซำใกล้ๆ เดี๋ยวเรากลับมาส่งนายไม่ทัน ”


“ นายมีรถด้วยเหรอ ” อาร์ตหันมามองผม ท่าทางไม่เชื่อ “ ไม่เคยเห็นนายเอารถมา ”


ผมยักคิ้วกวนให้ เป็นเชิงว่าเดี๋ยวรู้ นั่นทำให้อาร์ตขำเบาๆ หันกลับไปมองหน้าห้องตั้งใจเรียนเหมือนเดิม


...ผมเพิ่งนึกออก.. น้องฟิวก็ชวนผมกินข้าวกลางวันเหมือนกันนี่หว่า



ผม: พี่นัดกับเพื่อนไว้แล้วครับ


อาจจะห้วนไป เติมอีกประโยคก็ได้...


ผม: ขอโทษนะ


ผมส่งข้อความกลับไป น้องคงเข้าใจ สักพักแชทเฟสผมก็แจ้งเตือนอีกรอบ เป็นน้องฟิวที่ส่งข้อความกลับมา


ฟิว: ไม่เป็นไรครับ กินกับพี่แซคพี่ขวัญเหรอ


ผม: เปล่า คนนี้ฟิวไม่รู้จัก


ข้อความของผมขึ้นว่า read ทันที แสดงว่าน้องเปิดแชตรออ่านข้อความผมอยู่ เหนือกล่องข้อความของผมแสดงสัญลักษณ์ว่าน้องฟิวกำลังพิมพ์ข้อความ แล้วก็หยุดไปสักพัก ก่อนจะพิมพ์ต่อ แล้วก็หยุดอีกรอบ


ผมรอดู ว่าน้องจะตอบกลับมาว่าอย่างไร


รู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำอะไรที่ไม่เหมือนเดิม น้องฟิวก็สามารถรับรู้ความเปลี่ยนแปลงตรงนี้ได้ น้องจึงพยายามทำอะไรที่ต่างไปเช่นกัน...


ฟิว: ฟิวไปด้วยได้มั้ยคับ


ผมเงียบ คิดคำตอบสักครู่


ผม: เดี๋ยวพี่ถามเพื่อนก่อนนะ


อืม... ผมคงเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ




“ เราไปรับน้องก่อน สั่งอะไรไปก่อนเลยก็ได้ ” ผมจอดรถมอไซค์ให้อาร์ตลงหน้าร้านติ่มซำ 


“ อืม น้องนายจะกินอะไรมั้ย เดี๋ยวเราสั่งให้ก่อน นายด้วย... ”


“ ไม่เป็นไร ขอบใจมาก เดี๋ยวเรามา ” ผมตบกระจกหมวกกันน็อคลงแล้วขับกลับไปที่คณะวิศวะ เพื่อรอน้องฟิวเลิกเรียนแล้วเดินลงมาตรงที่นัดกันไว้


หลังจากตอบฟิวไปอย่างนั้นผมก็ถามอาร์ตว่าอีกคนไปได้รึเปล่า แต่เดี๋ยวผมออกให้เอง อาร์ตดูแปลกใจแต่ก็บอกว่าได้ ผมจึงบอกน้องฟิวไปแบบนั้น น้องดูดีใจมากจากสติ๊กเกอร์ยิ้มกว้างและประโยคที่ว่า


‘ ครับ จะได้เจอพี่เชาแล้ว อยากให้อาจารย์ปล่อยไวๆ จัง ’


ผมจอดรถรอไม่นานฟิวก็เดินมาพร้อมเพื่อนสาวสองคน คนนึงผมทรงหัวเห็ด อีกคนหน้าจีนจืดๆ ตัวกลม


“ พี่เชา นี่เห็ดกับปุ๊ก เพื่อนฟิวคับ... ” น้องบอก คนหัวเห็ดชื่อปุ๊ก ส่วนคนอวบๆ ชื่อเห็ด


“ หวัดดีค่ะ ” ทั้งคู่ยิ้มเหนียมอายให้


ผมกระตุกมุมปากยิ้มกลับเล็กน้อย “ หวัดดีครับน้อง ” คงรู้ว่าผมกับฟิวเป็นอะไรกัน “ พี่ยืมตัวฟิวพาไปกินข้าวข้างนอกด้วยกันหน่อย น้องไม่ว่าอะไรนะครับ? ”


ฟิวเขินกับประโยคนี้ น้องก้มหน้าหนีแก้มแดง กลั้นยิ้มอย่างสุดความสามารถ


“ อุ๊ย! ไม่ว่าค่ะๆ “ คนที่อวบๆ ว่า “ แต่อยากไปด้วย อิอิ ”


ผมยิ้มไม่ได้ตอบอะไร น้องก็โดนเพื่อนหยิกเอวจนสะดุ้ง หันกลับไปมองเพื่อนหัวเห็ดตาขวาง


“ อีเห็ด! ” น้องหัวเห็ดเสียงเขียว “ พวกหนูล้อเล่นค่ะ แฮะๆ ”


“ ไม่เป็นไรครับ ไว้คราวหน้านะ วันนี้พี่เอามอไซค์มา ” ผมหัวเราะเบาๆ ก้มมองนาฬิกาเล็กน้อยก็เห็นว่าตอนนี้ผ่านไป 15 นาทีแล้ว ถ้าผมไม่รีบ อาจจะกินติ่มซำอิ่มไม่คุ้มกับที่มีคนเลี้ยง ” ไปยังฟิว? ”


“ ครับ.. ”


ผมส่งหมวกกันน็อกสีดำ-แดงของตัวเองให้น้องเหมือนเดิม


“ อ่ะ.. แล้วหมวกฟิว..? ” น้องแปลกใจ ถามถึงหมวกเหลืองติดสติ๊กเกอร์เป็ด


ความจริงมันอยู่ที่ห้อง ผมไม่ได้หยิบมาเพราะไม่คิดว่าจะต้องใช้ และผมก็ลอกสติ๊กเกอร์เป็ดออกเพื่อให้คิงสวมมันได้อย่างสบายใจไม่มีสติ๊กเป็ดปัญญาอ่อนติดอยู่ไปแล้ว ถ้าผมบอกน้องไปแบบนั้นก็ดูจะเหี้ยเกินไป


“ พี่ลืมไว้ที่บ้าน ใส่ใบนี้ไปก่อนนะครับเป็ดน้อย ” จับหมวกกันน็อกตัวเองสวมให้ฟิวด้วย เพื่อที่เราจะได้รีบไปที่ร้านติ่มซำกันสักที




พอถึงร้าน ผมพาฟิวไปหาอาร์ตที่โต๊ะ ร้านอาหารคนเต็ม มีทั้งพนักงานและเด็กมหาลัยผม


“ ฟิวนี่เพื่อนพี่ อาร์ตนี่ฟิว ” ผมแนะนำสั้นๆ สองคนจะได้ร่วมโต๊ะกันอย่างไม่อึดอัดเพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร อาร์ตดูแปลกใจที่เห็นฟิว ส่วนฟิวส่งยิ้มเกร็งๆ ให้


“ หวัดดีครับพี่อาร์ต ” น้องนั่งข้างผม อาร์ตนั่งฝั่งตรงข้ามคนเดียว พยักหน้ารับทักทายน้องกลับ


“ นายสั่งอะไรไปบ้างแล้วอ่ะอาร์ต ” ผมถามเอาเมนูมาเปิดดู บนโต๊ะมีติ่มซำวางอยู่สองสามอย่าง “ นี่เสิร์ฟครบยัง? ”


“ ยัง เราสั่งแค่ของเรา รอนายมาสั่งของนายเนี่ย ” แล้วอาร์ตก็ยกมือเรียกพนักงานให้มารับออเดอร์


ผมดูเมนูสั่งของที่ตัวเองอยากกินไปหกเจ็ดอย่างถึงหันมาถามฟิวว่าอยากกินอะไร น้องเอาแต่ก้มหน้าเงียบ แลดูอึดอัดพอสมควร ไม่รู้ว่าเป็นอะไร


“ ...พี่เชาสั่งเลย..ฟิวกินอะไรก็ได้ครับ... ”


“ พี่สั่งแล้ว เมื่อกี้ไง ” ผมตอบตามความคิดตัวเอง ไม่ได้สนใจว่าคนฟังรู้สึกอย่างไร พอนึกขึ้นได้ถึงหันมอง


น้องฟิวเม้มปากเหมือนอดกลั้น บีบมือตัวเองแน่นกว่าเดิม


“ อ่า….ครับ... ”


ผมเงียบ แล้วถอนถอนหายใจเบา สั่งเมนูที่น้องชอบกินให้


“ เอาขนมจีบกุ้ง ซาลาเปาไส้ครีม กับซาลาเปาทอดมาเพิ่มด้วยครับ ”


อาร์ตเห็นมันคงงง พี่น้องห่าอะไรง๊องแง๊งอย่างกับเป็นแฟนกัน… ถามว่าทำไมผมต้องเอาใจฟิวด้วย? ก็เพราะว่าถ้าผมไม่ทำอะไรบางอย่าง น้องก็จะเอาแต่นั่งเงียบและไม่สั่งอะไรกิน ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายชวนออกมากินข้าวกลางวันด้วยกันก่อน…


“ เออเชา คาบหน้าอาจารย์ไม่เข้านะ ” จู่ๆ อาร์ตก็พูดถึงเรื่องในห้องเรียนขึ้นมา “ แกว่ามีประชุม ”


“ ตอนไหน? ” ผมจำไม่ได้นะว่าอาจารย์พูด วันนี้ผมไม่หลับเลยสักนิดด้วย สัปหงกก็ไม่มี ไม่น่าพลาดไปได้นะแบบนี้


“ ช่วงเบรค ที่นายบอกเราว่าไปเข้าห้องน้ำ แต่จริงๆ แล้วแลกไลน์กับนิ้งหน่องอยู่ ” อาร์ตพูดเนือยๆ ของมัน


น้องฟิวนั่งอยู่ข้างผมถึงกับสะอึก น้องเงยหน้าขึ้นมามองผมสายตาตัดพอ


งานเข้าแล้วไงกู…….


“ เปล่า.. นั่นเขาขอไลน์เพื่อนเรา…. ” ผมแก้ตัวไปเนียนๆ แล้วเปลี่ยนเรื่อง มันทำผมตกใจ เกือบหาข้อแก้ตัวไม่ทัน “ ทำไม นายชอบนิ้งหน่องเหรอ ”


อาร์ตมองผมเหมือนเพิ่งถามคำถามที่เหลือเชื่อที่สุดในชีวิตมันไป


โอเค อาร์ตไม่ได้ชอบนิ้งหน่อง


“ อืม ”


“ เฮ้ย! ” กลายเป็นผมเองที่ตกใจ “ พูดจริงป่ะเนี่ย? ”


ผมว่าเพื่อนผมคนนี้มันเชือนไปแล้วว่ะ แกล้งแซวเล่นแต่มันคิดจริงเฉย แล้วคือปฏิกิริยาตอบรับของอาร์ตเฉื่อยมากจนผมประหลาดใจ ไม่เคยเจอมาก่อน


“ อืม นายรู้ได้ไงเชา ”


จริงๆ เราก็ยังไม่รู้หรอกอาร์ต แต่...


“ นายบอกเราเอง ”


อาร์ตเลิกคิ้วแปลกใจ “ เมื่อไหร่? ”


เชี่ย….… มือที่คีบฮะเก๋าผมอยู่นี่ถึงกับสั่น


“ เมื่อกี้ ” ผมตอบอาร์ต ไม่แปลกใจว่ามันรู้จักนิ้งหน่องมา 3 ปี แล้วแต่ยังจีบเธอไม่ติด แม่ง...ตลก...


อาร์ตดูอึ้งไปพัก “ เชานายกินซาลาเปาไส้ครีมนี้อีกมั้ย ” พอผมส่ายหน้าอาร์ตก็หยิบซาลาเปาไปกิน เปลี่ยนเรื่องแก้เก้อ อาร์ต...มึงไม่เนียนมาก...


ผมชวนอาร์ตคุยระหว่างมื้ออาหารเรื่อยๆ จนเกือบลืมไปว่าน้องฟิวก็นั่งอยู่ข้างกัน น้องนั่งกินเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมาเท่าไหร่ ผมเหล่ตามองเล็กน้อย น้องทำหน้าซึม เหมือนจะร้องไห้อีกแล้ว…


เฮ้อ!


“ ฟิว อิ่มรึเปล่า? กินขนมจีบกุ้งอีกมั้ย หรือเอาโค้กอีก? ” ผมเทคแคร์น้องบ้าง ยิ้มพลางถามถึงอาหารและเครื่องดื่มที่น้องชอบ โค้กของฟิวหมดแล้ว และก็ยังไม่ได้เติม ขวดโค้กอยู่ใกล้มือผม.. ทำไมไม่บอก? น้ำเข็งน้องฟิวละลายหมดจนเป็นน้ำอยู่ก้นแก้ว


ฟิวเม้มปากส่ายหน้าไปมา


“ ไม่เป็นไรคับ…. ฟิวอิ่มแล้ว… ”


“ กินอีกหน่อยดิ ยังเหลือซาลาเปาทอดอีกชิ้นนึงนะ ”


ผมก็ไม่ได้สั่งให้น้องเยอะ จริงๆ ต้องบอกว่ามื้อนี้น้องกินน้อยมากต่างหาก ทำไมมันต่างจากตอนพาไปกินปิ้งย่างกันสองคนจังวะ
น้องฟิวเป็นเด็กไทยไม่กินผัก กินแต่เนื้อ พาไปปิ้งย่างน้องกินเยอะพอๆ กับผมที่หนักกว่า 80 กก. ทั้งที่น้องตัวเล็กนิดเดียว แต่พอเป็นติ่มซำวันนี้ดูไม่เจริญหาอารสักเท่าไหร่…


เอาจริงผมก็เดาสาเหตุได้ น้องไม่สนุกที่อาร์ตอยู่ด้วย แต่ผมก็เตือนน้องแล้ว ว่าผมไปกับเพื่อน และน้องไม่รู้จักเพื่อนผมคนนี้ แต่ถึงไปกับเพื่อนคนอื่นที่น้องรู้จัก น้องก็ไม่สนุกเหมือนกันอยู่ดี…


เพื่อนผมส่วนใหญ่รู้จักน้องฟิวในฐานะน้องชาย และผมเคยเป็นติวเตอร์ให้เขาก่อนเข้ามหาลัยเท่านั้น มีแค่คิงที่รู้ว่าผมกับน้องฟิวเป็นอะไรกัน คนอื่นคิดว่าผมโสดกันอยู่ทั้งนั้น ถึงสเตตัสเฟสบุ๊กผมขึ้นว่า Complicated แต่มันก็ขึ้นอย่างนั้นอยู่เป็นชาติตั้งแต่ผมจีบน้องแรกๆ และผมไม่ได้เปลี่ยนสักทีจนพวกมันเลิกสนใจไปเอง




หลังมื้อกลางวันจบลง อาร์ตจ่ายเงินเลี้ยงเรากันหมดทุกคน (มันป๋า ผมพยายามจ่ายส่วนของน้องฟิวแล้ว แต่มันไม่เอา) ผมคร่อมมอไซค์ ถือหมวกกันน็อคไว้ในมือขวา น้องฟิวเดินเข้ามาทำท่าจะขึ้นมอไซค์


“ ฟิวครับ เดี๋ยวพี่ไปส่งเพื่อนที่คณะก่อนนะครับ เดี๋ยวมันไปเรียนบ่ายไม่ทัน ”


น้องฟิวชะงัก มองผมนิดนึงแล้วก็ก้มหน้าจนคางแทบชิดคอ


“ ครับ... ” น้องตอบเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน ผมรู้ว่าน้องเสียใจ น้อยใจ แต่ยังไม่มีเวลาใส่ใจมาก ตอนนี้จะบ่ายโมงอยู่แล้ว “ อาร์ตขึ้นมาเร็ว ” ผมสวมหมวก


อาร์ตมีท่าทางลังเล แต่มันก็รีบเหมือนกัน เห็นว่าวิชาถัดไปถ้าสาย 15 นาทีอาจารย์จะล็อกห้อง


“ แล้วน้องนาย..? ”


“ ฟิวเอาไง รออยู่นี่มั้ย เดี๋ยวพี่กลับมารับพาไปส่งอีกรอบ ” มอไซค์ผมก็นั่งได้แค่ 2 คน


น้องเม้มปาก หายใจช้าๆ ตอบโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นมามองผมสักนิด


“ ไม่เป็นไรคับพี่เชา…ส่งเพื่อนแล้วรีบไปเรียนเถอะ เดี๋ยวฟิว...เดินกลับเอง... ”


“ หรือจะนั่งแท็กซี่มั้ย พี่ออกให้? ”


“ …...ไม่เป็นไร พี่เชา...รีบไป...เถอะ... ”


“ โทษทีนะ ” ผมยื่นมือไปขยี้ผมน้องเบาๆ จับหัวโยกไปมา “ พี่ไปแล้ว ฟิวถึงห้องเรียนแล้วไลน์มาบอกด้วยนะครับ ”


น้องยิ้มออกมาเล็กน้อย พยักหน้ารับ ผมถึงสตาร์ทรถแล้วรีบบึ่งกลับไปส่งอาร์ตที่คณะสหเวชศาสตร์แล้วก็รีบขับกลับคณะตัวเอง วิชาถัดไปของผมก็ใช่ว่าจะไปสายได้เท่าไหร่เหมือนกัน


ถึงห้องเรียนแล้วผมก็ส่งข้อความไปหาน้องฟิว


‘ เย็นนี้พี่ขอแก้ตัวด้วยมื้อเย็นนะ เดี๋ยวพาไปกินปิ้งย่าง ’





-----------------------------------------------------------


จบตอนนี้มีคน  :z6:  เชาแน่เลย จริงๆต้องถามว่าใครไม่เกลียดมันบ้าง....
ขอเม้าอีเชานิดนึง 5555 อธิบายเกี่ยวกับเหตุผลการกระทำในตอนนี้ด้วยแหละ อีเชาเป็นคนเรียงลำดับความสำคัญของคนแบบนี้...

เขียนอธิบายกลัวงง T_T ทีนี้ สิ่งที่น้องฟิวเจอเนี่ยไม่ใช้การโดนผลักไปอยู่กับกลุ่มคนรู้จัก แต่เป็นการที่เชาปฏิบัติกับอาร์ต ซึ่งเป็นแค่เพื่อนใหม่,คนรู้จัก ดีกว่าน้องฟิว ที่เป็นแฟนกัน น้องฟิวดูไม่ออกหรอกค่ะว่าตัวเองกำลังโดนเชาเล่นอะไร น้องแค่เชาไม่สนใจตัวเองเหมือนเมื่อก่อน รู้สึกไม่ดีเอามากๆ และน้อยใจ...

การกระทำของเชาแย่มาก เรายอมรับ เชาควรจะโดนดีเข้าสักวัน แต่ประเด็นคือใครจะทำร้ายความรู้สึกเชาได้ ในเมื่อมันไม่ได้ให้ความสำคัญกับใครมากขนาดนั้น...นอกจากตัวเองและครอบครัว
สรุปคือ มาช่วยกันรอดูอีเชาล้มกันไปพร้อมๆ กันนะคะ 555555555555

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ   :L1: :L2:

ปล. ถ้าตรงไหนรู้สึกแปลกๆ หรือขัดใจยังไง ท้วงบอกเราได้เลยนะคะ บางทีเรายังถ่ายทอดเรื่องราวได้ไม่สุด แต่เราอยากให้ทุกคนอินไปกับเรา สนุกไปกับเราจริงๆ เพราะระหว่างเขียนเราสนุกมากเลย แต่คนอ่านอาจจะหน่วงหรือปวดตับ... ต้อง.......ขออภัยเป็นอย่างยิ่ง 
:o8:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
น้องฟิวเยอะเหมือนกันนะ...

พอดีเป็นชะนีแข็งแกร่งกินเองเลือกเองสั่งเองจ่ายเองมาตลอด...แต่เดาว่าส่วนหนึ่งเพราะอิเชาทำน้องเคยตัวด้วยแหละ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เราเฉยๆกับเชานะน่าจะเพราะรู้แล้วว่ามันเ-ี้ยอะไรปานนี้ก็เลยไม่คาดหวังไม่ตาโตกับสิ่งที่เชาทำ เหมือนกำลังรอว่าตะดูว่าเมิงจะไปถึงไหนแบบนี้

ฟิวส์นี่ออกสาวมากๆค่ะ  การที่ไปกับเชาแล้วน้อยใจแสดงออกด้วยการก้มหน้าพูดเบาๆเสียงขาดๆหายๆผู้หญิงชอบทำนะ กดดันทางอารมณ์ให้แฟนรู้สึกผิด  น้องอายุยังน้อยยังทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น  แต่จริงๆแล้วการไปไหนกับคนที่ไม่รู้จักก็อึดอัดและลำบากมากๆสำหรับคนที่ไม่ชินกับการเข้าหาคน  น้องอาจจะคาดหวังมากเกินไปว่าเชาที่เป็นแฟนจะเทคแคร์ดีกว่านี้  น้องน่าจะเริ่มรับรู้ได้แล้วนะจากการพูด เรื่องหมวก มือถือ

เราเดาเอาว่าคนที่จะทำให้เชาล้มอาจจะเป็นคนที่สามารถตีฝ่าเข้าวงในของเชา หรือไม่คิงก็เจอคนที่ใช่ของคิง เพราะว่าถ้าเป็นคนที่ใช่ก็อาจจะต้องเลือกระหว่างคนวงในกับแฟน คิงอาจจะเลือกแฟนมากกว่าเชา  หรือเชาเองถ้าเป็นคนที่ใช่ก้อาจจะต้องเลือกระหว่างคิงกับแฟน  คิงยังไม่เจอจิ๊กซอว์ส่วนที่หายไปของตัวเองหรือเปล่า? ถ้าเจอคนที่รักแล้วเขาไม่รักตอบเชาก็ล้มครืนเหมือนกัน

ออฟไลน์ fonqfeliqz

  • เฮียฟง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รู้สึกว่าชีวิตตัวเองเหมือนกับ"ฟิว"มากๆเลย ณ จุดนี้คืออารมณ์เดียวกัน คิดแบบเดียวกันเกือบทั้งหมด แต่ดีหน่อยตรงที่ของผมเขาไม่ได้เลวเหมือน"เชา" เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ผมคงเป็นฝ่ายบอกเลิกเอง(ผมจาม่ายทนนนนน555)

สงสารฟิวมากๆ(สงสารตัวเองด้วย;_;) จริงๆรู้สึกอยากให้น้องคิดเยอะๆ คือน้องก็รู้ว่ามันไม่เหมือนเดิมแล้ว ไม่เอะใจหน่อยเหรอ มีตอนนึงที่บอกว่า เชาหลบหน้าฟิวมาเป็นอาทิตย์ คือน้องไม่สงสัย ไม่คิดมาก ไม่โวยสักหน่อยเหรอ แบบก็นะ บางทีก็อึดอัดที่ฟิวเป็นแบบนี้ น้องน่าจะมีความเด็ดขาดกว่านี้ มีความมั่นใจในตัวเองเยอะๆหน่อย ดูจากการที่มีเพื่อนแรงพอตัว ก็น่าจะช่วยๆกันปรับน้องหน่อย

ส่วนอิเชา ต้องโดนตบเท่านั้น! ไม่ชอบเลยคนที่ใช้อารมณ์เป็นหลักเหตุผลเป็นรอง ยิ่งรู้ตัวว่าอายุเยอะกว่า ก็จะยิ่งข่มคนอื่น ใช้อารมณืข่มตลอด กูถูกนะ มึงจะทำไม อะไรเงี้ย(โดนเหมือนกัน เกลียดดด)

ส่วนคิง อันนี้ก็ไม่ค่อยชอบตรงที่อะไรก็ได้ ตามใจเชาไปหมด คือเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ก็มีอะไรกันแก้ขัดงี้เหรอ ตื่นมาก็ทำเฉยๆไม่คิดไรทั้งคู่ ครอบครัวนะเห้ยยยยยย

เอาเป็นว่ารอและติดตามครับ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ sataav

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เชารู้มั๊ย ว่าฉันเกลียดแกมากเลยนะ
แต่ให้ตายเถอะ

ลำดับความสำคัญของคนในชีวิตแกกับฉันเหมือนกันประหนึ่งสำเนาถูกต้อง  :z3:

โธ่เว้ย เราไม่อยากเหมือนคนนิสัยแบบนี้
คนแบบเชามันเห็นแก่ตัวเกินไป เรารับไม่ได้ !

อย่างไรก็ตาม เราไม่เห็นด้วยที่ว่าการลำดับความสำคัญแบบนี้
จะมีผลทำให้เชาเป็นคนเลวได้ขนาดนี้
เพราะ อย่างมาก มันก็มีผลแค่ระดับความสนใจในเพื่อน , ครอบครัว หรือ แฟนใครมากกว่ากัน
แต่ไม่เกี่ยวที่ว่า เชาจะทำร้ายใครได้ ทำร้ายใครไม่ได้ เพราะ ใคร ๆ ก็ล้วนไม่ควรโดนทำร้ายทั้งนั้น

ส่วนการที่เชาเป็นคนแบบนี้
เราว่าน่าจะเป็นผลมาจากเหตุการณ์ในอดีตตอนเด็ก ๆ ที่เคยประสบพบเจอมา
แต่มันไม่น่าจะหนักหนานะคะ เพราะ มัมเองก็ไม่ได้ใจร้ายอะไรกับเชา
มันไม่มีทางที่จะเป็นแผลในใจที่รุนแรงขนาดนั้น

เราว่า เชามันเห็นแก่ตัวด้วยตัวเองมากกว่า มันคงเป็นโดยสันดานเลยคะ

บางคนอาจจะไม่เห็นด้วยกับเรานะ
เพราะ หลาย ๆ คนคงเห็นแล้วว่าเชามันให้ความสำคัญตัวเองเป็นอันดับหนึ่ง

เฮ้ แต่คุณต้องเข้าใจนะว่า 'คนที่ให้ความสำคัญกับตัวเองมาก' กับ 'คนเห็นแก่ตัว' มันไม่เหมือนกันนะ

ให้ความสำคัญกับตัวเองคือ รักตัวเอง
แต่ถ้าเห็นแก่ตัวคือ รักเพียงแค่ตัวเอง และ พร้อมจะทำร้ายคนอื่นได้ทุกเมื่อ

ซึ่งเราว่าถึงตอนนี้เชาจะไม่ออกอาการ แต่เชื่อเถอะ
ถ้าวันนึงมันรู้สึกว่ามัม หรือ คิงทำอะไรให้มันไม่พอใจ ไม่ได้ดั่งใจมันมาก ๆ
เชามันก็กล้าจะทำร้ายคนพวกนั้นเหมือนกันแหละ

เราเห็นด้วยกับคุณนักเขียนคะ ที่บอกว่า 'เราต้องเห็นเชาล้ม'
เพราะ ถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เราจะได้เห็นอะไรที่น่าสนใจหลายอย่างเลยคะ

1. เราจะได้เห็นว่าตกลงคิงให้ความสนใจกับเชาแค่ไหน หรือ ไม่สนใจ ปล่อยมึงไป
2. เราจะได้เห็นว่าเชาในนาทีนั้นมองหาใคร มีใครในจิตใจเป็นที่พึ่ง
3. ตัวเชาเอง จะได้รู้ด้วยว่า ในนาทีที่คุณล้ม ใครคือคนที่คุณพึ่งได้ ใครคือคนที่รักคุณจริง ๆ

เอาละ ต่อไปนี้เราขอนำเสนอวิเคราะห์ที่มาต่าง ๆ นานาของอาการหมดรักของเชาก่อนนะคะ

ส่วนตัว เราเป็นคนหนึ่งนะคะที่เชื่อว่า เชารักฟิวส์
แต่อาจจะเพราะ เหตุการณ์ที่ฟิวส์เคยทำ (ซึ่งยังไม่มีใครรู้ว่าทำอะไร)
มันเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เชารู้สึกว่า ฟิวส์ไม่ใช่แบบที่มันคาดหวัง
แล้วเชาก็ผิดหวัง จนสุดท้าย ความผิดหวังนั้นมันก็ไปบั่นทอนความรู้สึกรักของเชาให้หมดลง จนกลายเป็น
'อาการของคนหมดรัก'

ซึ่งหนึ่งในอาการของคนที่มีอาการนี้
ส่วนใหญ่จะปนด้วย 'อารมณ์สับสนว่าเรารักเขาจริง ๆ มั๊ย' และ 'อารมณ์เบื่อ'
และ สิ่งที่ตัดสินใจจะทำคือ การตีตัวออกห่างจากคนที่เรารัก
เพื่อแก้อาการเบื่อของตัวเอง และ พิสูจน์ว่าเรารักเขาจริง ๆ รึเปล่า
ซึ่งเป็นวิธีที่โง่เง่าที่สุด เพราะ มันไม่เคยได้ผลลัพธ์ที่แท้จริง

ที่เราบอกว่า มันเป็นวิธีที่โง่เง่าที่สุด
เพราะ คนเราหากลองลดเวลาอยู่กับคน ๆ นึง เราจะมีเวลาทำอะไรเยอะขึ้นเป็นธรรมดา
เราจะได้ทำอะไรใหม่ ๆ มากขึ้น ได้เจอคนใหม่ ๆ มากขึ้น
มันจะน่าตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจ จนในที่สุดเราก็จะตีความไปเองว่า

'เราคงไม่ได้รักคน ๆ นั้น เพราะ เราอยู่กับเขาแล้วไม่มีความสุขแบบนี้'

เฮ้ มโนกันไปเองให้ตายเถอะ เอางี้ เราลองเปรียบเทียบเป็นอย่างอื่นนะ

เวลามีหนัง หรือ ภาพยนตร์ใหม่ ๆ มาคุณไม่ตื่นตาตื่นใจรึไง
ที่คุณยังสนุกสุขกับหนังเรื่องนั้นได้ เพราะ คุณเพิ่งดูมันไม่กี่ครั้งเท่านั้นแหละ
ลองคุณดูหลาย ๆ ครั้งสิ คุณก็เบื่อได้เหมือนกัน

และ ถ้าคุณลองดูหนังเรื่องนี้บ่อยเข้า แล้วลองไปเทียบกับเรื่องเก่า ๆ ที่คุณเคยเบื่อแล้ว
คุณจะยังตอบมั๊ยละว่า หนังเรื่องอื่นเก่า ๆ ไม่สนุกเท่าเรื่องนี้
คุณจะยังกล้าตอบมั๊ยละว่า หนังเรื่องใหม่ที่ตื่นตาตื่นใจเรื่องนี้ จะเป็นหนังที่ตราตรึงใจคุณไปตลอด หึ

สุดท้ายแล้ว มันอาจจะเทียบเรื่องเก่าที่คุณดูซ้ำบ่อยที่สุดไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยวเลยด้วยซ้ำ

ซึ่งเราว่าเชาเอง ก็เข้าหลักเกณฑ์ตามที่เราพูดมาคือ
เชาไปเจอสิ่งที่น้องทำบางอย่าง แล้วคงผิดหวังเพราะ น้องไม่ได้เป็นแบบที่ตัวเองคาดหวัง
เลยกลับมาเบื่อ และ สงสัยว่าตัวรักน้องมั๊ย
จากนั้นจึงเลือกจะใช้วิธีงี่เง่าที่เราบอกข้างต้นคือ ตีตัวออกห่างจากน้องเพื่อพิสูจน์ความรักตัวเอง
ทั้งที่ความจริงแล้ว ถ้ามันสงสัยมันควรจะใช้เวลาอยู่กับน้องให้มาก ๆ เปิดใจกับน้องให้มาก ๆ
เพื่อดูว่าเรามีความสุขกับการรักอยู่กับน้องอยู่มั๊ย มากหรือน้อยแค่ไหน

แต่แน่นอน ความเบื่อของเชามีมากกว่า เลยเลือกที่จะถอยออกมาห่าง ๆ น้อง

แล้วพอถอยออกมาก็ตามสเต็ปเลย
มองหาสิ่งใหม่ ๆ อยากลองทำสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งคนเห็นแก่ตัวโดนสันดานแบบเชา
มันคงไม่แคร์หรอกว่าการอยากลองทำอะไรของมัน จะทำร้ายแฟนที่มันเบื่อมากแค่ไหน
มันเลยกล้านอกใจ มีอะไรกับเพื่อนสนิท และ ล่าสุด เหมือนจะไปขอหญิงอื่นเพื่อมาติดต่อด้วยนี่
แน่นอน พอทำแบบนี้ ความตื่นเต้นเร้าใจ จะมากกว่าการพิสูจน์แบบโง่ ๆ ของคนมีศีลธรรมมากกว่าเดิม

จากนั้น มันก็จะรู้สึกว่า 'ให้ตาย มันสนุกฉิบหาย' และ มันก็จะมั่นใจว่าเนี่ยแหละ 'มันหมดรักน้องแล้ว'

แต่เชื่อเราเถอะ หายนะจะมาเยือนมันหลังจากนี้แหละ
มันจะเริ่มค้นพบว่าสิ่งที่มันสนุก มันคืออะไรที่ไม่ใช่มาก ๆ
มันจะเริ่มรำคาญโวยวาย รู้สึกหงุดหงิดที่ทุกอย่างไม่เป็นตามที่มันคาดเหมือนครั้งก่อน ๆ
จนสุดท้าย มันคงจะล้มลงจากสิ่งใหม่ที่มันคาดหวัง

และ ถ้ามันคาดหวังจากคิง เราว่าคงล้มแรงมาก
เพราะ มันคาดหวังจากคนในครอบครัวที่ให้ความสำคัญรองลงมาจากตัวเอง

ที่นี้แหละ เราจะได้มาเห็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจสามเหตุการณ์ที่เรากล่าวไว้ในข้างต้น

จะว่าไป พูดถึงคิง เราเห็นความคิดเห็นนึงด้านบนที่บอกว่า
"เชาจะต้องเจอคนที่ฝ่าวงล้อมเข้าไปถึงตัวเชาให้ได้" หรือ "คิงต้องเจอคนที่ใช่"
ถึงจะเจอคนที่ทำให้เชาล้มแรง ๆ ได้

เราเห็นด้วยคะ เราคิดว่าน่าจะเป็น "การมาของคนที่ใช่ของคิง" คะ

คิงเป็นคนที่เราชอบบุคลิกนะ แต่ก็นั่นแหละ
นางเป็นคนไม่สนใจใครเลยจริง ๆ
แต่พอเราเห็นความสนใจ และ ความรักที่นางมีต่อมัม
เราว่า ถ้านางเจอคนที่ใช่จริง ๆ นางจะแคร์ รัก และ ให้ความสำคัญมาก
ซึ่งมากพอจะทำให้ไอ้เชาล้มแรงโคตร ๆ แน่คะ 5 5 5

ส่วนกรณีที่ว่า "ต้องเจอคนที่ฝ่าวงล้อมเชาเข้ามาได้"
เราว่า เป็นไปได้นะคะ แต่คน ๆ นั้นคงต้องเจ๋งมากจริง ๆ
เพราะ ถึงฝ่ามาได้ ความเห็นแก่ตัวไอ้เชาเชานี่ไม่สิ้นสุดหรอกคะ
ต่อให้ฝ่าวงล้อมมาได้ ไม่ได้หมายความว่าจะหยุดความเลวนางได้หรอกคะ

เรามองว่า ขนาดไอ้เชาเชานี่ไปจีบฟิวส์เอง
มันเป็นคนหาบ่วงมาผูกคอเอง มันก็ยังไปกะล่อนเองเล๊ย

ส่วนฟิวส์ เรายังสงสัยอยู่นะว่าเธอทำอะไร
แต่เรายังให้กำลังใจเธอนะ แม้ว่าหลาย ๆ คนจะบอกเธอดูนิสัยผู้หญิ๊ง ผู้หญิงของเธอมันน่ารำคาญ
ซึ่งอันที่จริงฉันก็รำคาญเธอเรื่องนี้หน่อย ๆ ก็เถอะ 5 5 5

แต่เราก็ยังสงสารและให้กำลังใจเธออยู่ดี
เพราะ ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง เธอก็ไม่ควรโดนเขานอกใจทำร้ายแบบนี้ (อีกอย่าง เธอต้องไม่ได้นอกใจเขาด้วยนะ !)

แล้วเธอเห็นมั๊ย ไอ้เชามันเป็นคนเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้แถมเห็นแก่ตัว
ดังนั้น เราว่า เธอถอยออกมาดีกว่า ไม่ว่าเธอจะมาค้นพบอะไรภายหลังก็ตาม

เพราะ ถ้าเธอถอยออกมา เธอจะได้เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องยอมใคร
มีความสุขสดใสกว่าเดิม ได้เรียนรู้อะไรเยอะกว่าเดิมแน่ ๆ
แล้วคราวหลัง ถ้ามีความรัก อย่ายอมให้คนที่รักจนดูโง่แบบนี้นะ ไม่งั้นเธอจะไม่มีวันมีความสุขอีกเลยแบบนี้ เข้าใจมั๊ย

สู้ ๆ นะฟิวส์ #ทีมฟิวส์ อีกหนึ่งเสียงค่ะ

ส่วนคิง เราด่านายเรื่องนอนกับเชาไปแล้วละเลยไม่อยากพิมพ์ซ้ำ (เราขี้เกียจ 5 5 5)
เอาเป็นว่า เราขอให้นายเจอคนที่ใช่เร็ว ๆ นะ เราอยากเห็นเชาล้มแรง ๆ

แล้วก็ต่อไป แก ไอ้หมาเลว ไอ้เชาเชา
ฉันขอสาปส่งแก ขอให้เวรกรรมที่แกทำกับฟิวส์ไว้ มันวนมาถึงแก
ขอให้แกเจ็บ ขอให้แกล้มแรง ๆ แล้วโดนตีนยีซ้ำเลย

ฉันเกลียดแก  :z6:

สุดท้ายนี้ ขอโทษที่ออกความคิดเห็นพล่ามซะยาวจนน่ารำคาญนะคะ คุณนักเขียน
แต่เรื่องนี้ทำดีมากคะ มันให้ความรู้สึกถึงความเป็นมนุษย์ของตัวละครจริง ๆ
เราไม่รู้สึกว่าตัวละครในเรื่องนี้เป็นจินตนาการเลย

ให้ตายเถอะ คุณเขียนดีมาก ฉันตกหลุมรักนิยายเรื่องนี้แล้ว 5 5 5  :กอด1:

เอาเป็นว่า เราจะยังคงติดตามนิยายเรื่องนี้
และ รอคอยการโดนเวรกรรมตามทันของไอ้หมาเลวเชาเชาอยู่นะคะ

อ้อ แล้วเราก็จะยังให้กำลังใจคุณนักเขียนต่อไปเรื่อย ๆ เลย สู้ ๆ ค่ะ  :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2015 22:08:30 โดย sataav »

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เชาคงล้มเพราะคิงซินะ
เชาเลือกคิงแต่คิงไม่เลือกเชา
รอฉากที่ฟิวจะเปิดใจยอมรับ
ว่าเชาไม่ได้รักตัวเองเลยไม่ไหวแล้วนะ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เชาเลว ฟิวก็น่ารำคาญ

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
ถูกใจคอมเมนท์คุณ JustWait กับคุณ Sataav มากๆครับ!

เห็นด้วยกับคุณ JustWait นะครับ คือถูกใจประโยคนี้มาก 'กินเองสั่งเองเลือกเองจ่ายเองตลอด' 555 นั่นสิครับฟิว อย่าไปหวั่นดิครับ ไม่ต้องไปสนใจมัน เราแกร่งได้ด้วยตัวเอง เทคแคร์ตัวเองบ้างเลย กลัวมันทำไมครับ

ส่วนคุณ Sataav นี่พูดแทนผมไปหมดแล้วมังครับเนี่ย เรื่องความสำคัญของการรักตัวเองกับการเห็นแก่ตัว มันไม่เหมือนกัน นี่พูดได้ถูกต้องเลยครับ คือไม่ใช่ว่าเรามีการจัดเรียงความสำคัญของตัวเองแบบนี้ๆ แล้วจะไม่ใส่ใจความรู้สึกของคนที่เหลืออีกเลยแม้แต่คนเดียว อย่างนี้เรียกเห็นแก่ตัว ไม่ใส่ใจ และไร้ความรู้สึกครับ

โดยปกติแล้วก็จริง ที่มนุษย์มักมีการจัดเรียงความสำคัญแบบเชา เพราะมนุษย์มี bias ที่ได้รับมาจากความรัก ดังนั้นการที่จะสนใจเรื่องของคนๆนึงเหนือเรื่องของอีกคน มันเป็นเรื่องปกติครับ ไม่ได้ผิดอะไร แต่มันจะผิด เมื่อคุณสนใจจนไม่ได้มองถึงผลกระทบด้านความรู้สึกที่จะเกิดกับอีกคน เช่น ถ้าคุณสนใจแต่กับตัวเอง ให้ความสำคัญแต่ตัวเอง คุณก็ต้องรู้ด้วยว่าเรื่องนั้นมันอาจทำให้คนอื่นเสียความรู้สึก(กรณีเรื่องความเร็ว) เช่นเดียวกัน ถ้าคุณสนใจครอบครัว บางครั้งคุณก็ต้องสนใจคนรอบข้างที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำนั้นๆของคุณด้วยครับ(ฉีกเป็ดฟิวออกเพื่อคิง) มันไม่ใช่ว่าเราจะสนใจแต่เรื่องที่เราอยากจะสนใจได้

จิตวิทยาเรียกสิ่งนี้ว่า การไตร่ตรอง ความรอบคอบ ความมีเหตุมีผลและคำนึงถึงคนอื่นครับ

ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ค่ะ อิฉันจะรอดูอิเชามันล้ม...พังครืน กระแทกพื้น หน้าแหก แตกหัก ซี่โครงร้าว เจ็บหนักๆ ให้รักคุด ไม่มีอะไรฉุด หรือหยุดได้ อยากให้มัน สำนึก เข็ดขยาด และหลาบจำ ว่าสิ่งที่แกทำ มันระยำแค่ไหน!!!! ไอ้เชาาาาา :z6: :z6:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
สิ่งที่เชาเรียกว่า..รัก
คำนี้ใช้กับฟิว ได้จริงดิ

เพราะถ้าไม่ใช่รัก
ก็คงจะใช้คำว่า หมดรัก
ไม่ได้หรอกนะ

อย่าว่าแต่เรื่องลำดับความสำคัญเลย
ไอ่เรื่องพื้นๆ กับการลำดับความรู้สึก
ยังใช้ไม่ได้เลย

คนอย่างเชา..ยังงี้
ต้องเอา F ไปแดรก
ได้อย่างเดียว

หุหุ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด