.....อาการของคนหมดรัก....(ภาคเชา) ตอนที่ 5 (18/08/17)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: .....อาการของคนหมดรัก....(ภาคเชา) ตอนที่ 5 (18/08/17)  (อ่าน 40148 ครั้ง)

ออฟไลน์ MimoreQ

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พอเห็นเรื่องนี้อัพ ยังไม่นอนเลยรีบตามมาอ่าน ฮือ รอคนเขียนทุกวัน มานั่งรีเฟรชตลอดว่าอัพหรือยัง
ชอบมากอ่ะ อยากให้คิงเป็นพระเอก แต่ชื่อเรื่องเหมือนคู่เชาฟิว ยังไม่ไม่รู้
แต่เรายังเชียร์คิง รักนางมากมาย เชานี่แบบ...หื้ย คิดไรกะคิงปะ ขอไรได้หมดแม้กระทั่ง...(ละไว้ในฐานที่รู้กัน)  :ruready
 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
น่าติดตามมากเลยค่ะ ช่วยมาต่อไวๆด้วยนะคะ

ชอบมากค่ะ

สู้ๆนะคะ คนเขียน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2015 03:16:38 โดย tempo_oil »

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
หมดรักก็รีบๆบอกไป
อย่ายื้อให้มันเจ็บปวด
ทุกคนก็เห็นแก่ตัวกันหมดแหล่ะ

ออฟไลน์ patchamai28

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ก็บอกเลิกน้องไปเหอะ  :z3:
รอตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ jilalala

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น้องฟิวน่าสงสารอ้าาาา  :monkeysad:
ทำไมเชาทำกับน้องแบบนี้ *เสียใจ* ขอบทน้องอีกเยอะๆน้าเป็นกำลังใจให้น้องฟิวนะจ๊ะ

ปล.เกลียดผู้ชายแบบเชาจริงๆ (ขอให้โดนคิงเยิ้บ กิกิ)  :katai1: :katai4:

 :katai4: รออ่านอยู่นะคะ >w< มาต่อเร็วๆน้าาาา

ออฟไลน์ cherilnatcha

  • การเดินทางของความคิด. ชาร์ลี (c)
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
4
โกรธอะไร... ขอโทษนะ





" โทษที รอนานเปล่า "



คนตัวสูงใหญ่เดินกลับมานั่งลงตรงข้ามผม มีกลิ่นบุหรี่ติดตัว และยิ่งเขาพูดกลิ่นก็ยิ่งชัดเจนขึ้น



" ไม่นานครับ " ผมส่ายหน้า " พี่เชาไปสูบบุหรี่มาเหรอ... นึกว่าพี่เลิกแล้วซะอีก " ท้ายประโยคผมเสียงเบาลง



แค่ผมถามว่าเขาไปสูบบุหรี่มาใช่มั้ย สายตาแข็งๆ ที่มองมาก็ทำให้ผมหลุบตามองมือตัวเอง เสียงเบาลงอัตโนมัติ
ผมกลัว...กลัวทำให้พี่เชาโกรธอีก



ช่วงนี้ผมกลัวอะไรไปหมด กลัวพี่เชาโกรธ กลัวพี่เชาไม่พอใจ กลัวพี่เชาโมโห กลัวพี่เชาขึ้นเสียง กลัวพี่เชาตะคอกใส่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำผิดอะไร แต่ก็กลัวไปแล้ว



เพราะเหตุการณ์วันนั้นแท้ๆ เลย... 



พี่เชาไม่ผิด ผมผิดเอง และกว่าผมจะรู้ตัวพี่เชาก็เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว...



" อืม วันนี้เครียด " พี่เชาพ่นลมหายใจเล็กน้อย เขาหยิบเมนูกระดาษเคลือบพลาสติกของร้านอาหารตามสั่งขึ้นมาดู " สั่งอะไรไปรึยัง " และเปลี่ยนเรื่อง....



" ยังครับ... ฟิวรอพี่เชา...มาสั่งพร้อมกัน " ผมอ้อมแอ้มตอบ เกาแก้ม



การมากินอาหารด้วยกันระหว่างผมกับพี่เชามักมีคำถามเกิดขึ้นมาเสมอ



ข้อที่1 กินที่ไหน และตามมาด้วย ข้อที่2 จะกินอะไร



ช่วงแรกพี่เชาก็ตะล่อมถามผมว่าชอบกินอะไร กินอะไรได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แพ้อาหารประเภทไหนมั้ย หนักเข้าก็ถามบ้างว่า อยากกินร้านตากแอร์ หรือข้างทาง หรือริมน้ำ หรือร้านบรรยากาศดี ผมไม่ค่อยกล้าตอบหรือปฏิเสธเราเลยลองมาแทบทุกร้าน ช่วงแรกพี่เชาสั่งให้ผม โดยถามอยู่เสมอว่าอันนี้กินได้มั้ย ผมก็จะตอบ แล้วพี่เชาก็จะจำข้อมูล พอนานเข้า แค่ผมเปิดเมนูพี่เชาก็ทายได้เลยว่าผมต้องการกินอะไร



นึกถึงตรงนี้แล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เพราะพี่เชาเป็นคนช่างสังเกต และใส่ใจผมเสมอมา



" งั้นเหรอ " พี่เชาพลิกเมนูดูอีกรอบ ตาสีน้ำตาลกวาดมองรายการอาหารตามสั่งที่อยู่ในเมนูไปมา คิ้วหนาขมวดใช้ความคิดก่อนจะวางเมนูลง กวักมือเรียกเด็กเสิร์ฟแล้วสั่งอาหาร " เอากระเพาเป็ดไข่ดาว กับผัดไทกุ้งสดไม่งอก เอ้อ.. น้ำเปล่าด้วย "



เด็กเสิร์ฟสาวพยักหน้าแล้วส่งยิ้มเขินๆ ให้พี่เชาครั้งหนึ่งแล้วหมุนตัวเดินไปบอกแม่ครัว เธอร้องเรียกซะเสียงดังจนผมที่นั่งอยู่หน้าร้านได้ยิน



" แม่!!! กระเพาเป็ดไข่ดาวกับผัดไทกุ้งสดไม่งอก!!!! "



พี่เชาหัวเราะขำเล็กน้อยขณะมองตามเด็กเสิร์ฟสาวไปด้วย เธอหันมาสบสายตากับพี่เชาพอดีเห็นพี่เชายิ้มอยู่จึงสะบัดหน้าหันหนีไปทางอื่นด้วยใบหน้าเขินอาย



ผมมองภาพนั้นแล้วยิ้ม... แต่ยิ้มแบบไม่สุดเท่าไหร่ บอกว่าหวงพี่เชาก็ได้ ไม่ผิดนัก ขณะเดียวกันก็รู้สึกน้อยใจและไม่มีความมั่นใจในตัวเองเหมือนกัน



พี่เชาจัดว่าเป็นคนที่หน้าตาดีคนนึง คิ้วหนาเข้ม ตาคมสองชั้นสีน้ำตาลทรายแดง จมูกโด่งมีเนื้อ และริมฝีปากหนาหยักลึก มองดูไปหน้าพี่เชาก็คล้ายสิงโตอยู่ บวกกับผมเปิดหน้าผากยาวประบ่าไร้ทรงที่พี่เชามัดรวบเป็นจุกไว้ที่กลางหัวและเคราที่ขึ้นอยู่บริเวณสันกราม ปลายคาง และเหนือริมฝีปากทำให้พี่เชาทั้งเท่และเถื่อน แล้วพี่เชาก็ตัวใหญ่หนา สูง180 ซม.กว่า ลุคดิบเซอร์ๆ สมกับเรียนวิศวเครื่องกลจริงๆ



พอลองมองย้อนกลับมาที่ตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ อดรู้สึกไม่ได้ว่าตัวเองไม่คู่ควรกับพี่เชา ผมสูงแค่ไหล่พี่เชา น้ำหนักผมพอดีตามเกณฑ์ ไม่อ้วนไปไม่ผอมไป ผิวขาว หน้าจืดๆ ธรรมดา จะดีหน่อยก็ตรงที่ดวงตาของผม เพื่อนและคนอื่นบอกว่าผมตาสวย ผมตาหวาน เมื่อก่อนไม่ค่อยมั่นใจเลยใส่แว่นไว้เสมอ(เพราะสายตาสั้นด้วย) แต่ตอนนี้ผมค่อยๆ เปลี่ยนมาใส่คอนแท็กเลนส์ ก็เลยดูดีขึ้นบ้าง..... มั้ง



" พี่เชา.. วันนี้ทะเลาะกับเพื่อนเรื่องอะไรเหรอครับ "



ผมถามทำลายความเงียบ พี่เชาดูดน้ำจนหมดและกำลังเคี้ยวน้ำแข็งไปมองนู่นมองนี่อยู่หันมามองผม



" อะไรนะ.. ขอโทษที เมื่อกี้พี่ไม่ได้ยิน "



" ......ฟิวถามว่า...ทำไมพี่เชาถึงทะเลาะกับเพื่อนเหรอครับ..... "



พี่เชาเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ไม่ใช่คนที่ใช้กำลัง วันนี้ตอนผมเดินไปหาพี่เชาที่ช็อปหลังเลิกแลป พี่เชามีท่าทางหงุดหงิด บอกว่าต่อยกับเพื่อนมา



" .................. " พี่เชาเงียบไปสักพัก ตอบผมด้วยคำถาม " ถามทำไม " เสียงพี่ห้วนเล็กน้อย ใบหน้าเคร่งเครียดแสดงอาการไม่ชอบใจ



ผมเหมือนตัวหดลีบลงเหลือแค่สองนิ้ว ใจนี่แป้วไปแล้ว ผมก้มหน้าหลบสายตาพี่เชา



" ก็...ปกติ... พี่เชา..ไม่ใช้ความรุนแรง... นี่ครับ... " เหมือนเสียงถูกเปลี่ยงออกมาแค่จากคอหอย มันช่างประหม่าและเกรงกลัว
อีกแล้ว... ผมเป็นแบบนี้อีกแล้ว...



ไม่เอาสิฟิว.. แบบนี้พี่เชาไม่ชอบนะ...



" ฮืม " พี่เชาลูบหน้า ดูท่าจะเครียดกับเรื่องนี้จริงๆ " มันกวนตีน แม่งรวนเรื่องที่คิงเป็นเกย์ไม่เลิก "



" ... "



ได้ยินชื่อพี่คิง รูมเมทและเพื่อนสนิทต่างคณะของพี่เชาทำให้ผมเม้มปาก รู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อยอย่างบอกไม่ถูก ผมกลัวพี่คิง ไม่รู้ทำไมแต่ผมรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้น่ากลัว ไม่น่าเข้าใกล้ แล้วพี่เชาก็ให้ความสำคัญกับพี่คิงมาก มากกว่าผมด้วยซ้ำ... ลึกๆ ผมอิจฉาพี่คิง... ฟิวเด็กไม่ดี...



พี่คิงไม่ได้ทำอะไรผิด…. แต่มัน..ช่วยไม่ได้นี่นา….ก็พี่คิงมีพร้อมทุกอย่าง...



พี่คิงสูง หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์ม และขาวมาก… ถึงจะหน้าเหวี่ยง แต่ก็ต้องยอมรับว่าพี่คิงหล่อ… คิ้วเข้ม ตาสองชั้นกรีดลึกเหมือนกรีดตาตลอดเวลานั้นเสริมให้พี่คิงดูดุ สวมแว่นแล้ว...ก็ยังดุ… จมูกโด่งพอเหมาะโดยไม่ต้องเสริม และไหนจะปากบางสีแดงอมส้มเป็นธรรมชาตินั่นอีก...  พี่คิงอยู่หมู่บ้านเดียวกับพี่เชา แปลว่าที่บ้านพี่คิงก็มีฐานะ เพราะพี่เชาเคยเล่าให้ฟังว่าตรงข้ามบ้านพี่เชาเป็นบ้านของท่านทูตออสเตรีย….



ผมยื่นมือไปกุมมือพี่เชาบนโต๊ะอย่างกลัวๆ กล้าๆ



" ไม่เป็นไรนะครับพี่เชา เพื่อนพี่เขาคงไม่ได้ตั้งใจ... "



พี่เชาเงียบ มองผมด้วยสายตาที่ทำให้ผมเผลอหายใจสะดุดอีกแล้ว เขาชักมือที่ผมกุมอยู่กลับ ปากหนาเม้มเป็นเส้นตรง ไม่ว่าพี่เชาจะตั้งใจหรือไม่ ผมรู้สึกถึงรังสีกดดันและไม่พอใจแผ่ออกมา



รู้เลยว่าผมเผลอพูดหรือทำอะไรผิดไปอีกแล้ว



ก่อนที่บรรยากาศจะแย่ไปกว่านี้เด็กเสิร์ฟสาวก็ยกจานอาหารที่เราสั่งมาให้



" ได้แล้วค่า กะเพราเป็ดไข่ดาวกับผัดไทยกุ้งสดนะคะ "



ผมรอดตัวแล้ว...ใช่มั้ย?







หลังกินข้าวเสร็จผมมาเดินห้างใกล้มหาลัยกับพี่เชา เดินผ่านร้านอุปกรณ์กีฬาแบรนด์นึงแล้วก็หยุดเดิน รั้งแขนพี่แล้วชี้ชวนให้ดูด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม



" พี่เชา ดูนั่นดิ รองเท้าคู่นั้นยังอยู่อยู่เลย "



สายตาของพี่เชามองตามไปที่รองเท้ากีฬาคู่สวยที่วางโชว์อยู่บนชั้นวาง ถึงมันจะไม่อยู่ในตำแหน่ง New Arrival เหมือนเดิมแต่ผมยังจำหน้าตามันได้แม่นเลย รองเท้าผ้าใบผมขาดตอนจะแข่งกีฬาเฟรชชี่ ( ถึงผมจะโดนกีดกันไม่ให้เล่นฟุตบอลหรือบาสเพราะตัวเล็ก ทำอะไรเขาไม่ได้ แต่ผมก็เล่นปิงปองเป็นนะครับ ถึงจะเก่งสู้เพื่อนที่เป็นนักกีฬามหาลัยไม่ได้ก็เถอะ T T ) ก็ได้พี่เชานี่ล่ะ ขับมอเตอร์ไซค์บึ่งพาผมมาซื้อรองเท้าเปลี่ยนเล่นได้ทัน ปัจจุบันรองเท้าคู่นั้นก็ยังอยู่ในชั้นวางที่ห้องผม ถือว่าเป็นรองเท้าคู่เก่งของผมด้วยล่ะฮะ



" เออ สวยดี สีเหลืองแบบที่ฟิวชอบด้วย เข้าไปลองมั้ย? "



" .... "



ปฏิกิริยาตอบรับของพี่ทำผมหน้าชา รู้สึกจุกในอก กลืนก้อนขมลงคอไปแล้วค่อยๆ อธิบายให้พี่เชาฟัง



" ไม่ใช่คู่นั้นครับ ฟิวหมายถึงคู่สีฟ้าเทา... ที่พี่เชาเลือกให้ "



เมื่อกี้พี่เชาอาจจะได้ยินที่ผมพูดไม่ชัดทำให้เข้าใจผิด..



ไม่หรอก พี่เชาไม่ลืมรองเท้าคู่นั้นหรอก ก็เขาเลือกให้ผม ซื้อให้ผมเอง..ด้วยนี่นา...



" อ้าวเหรอ.. เอ้อ จริงด้วย ขอโทษนะ เมื่อกี้ไม่ทันฟังให้ดี "



มือใหญ่ยื่นมาตรงหน้า ผมหดคอหนีหลุบตามองมือตัวเอง แล้วพี่เขาก็หัวเราะขำยิ่งกว่าเดิม จับหัวผมโยกไปมา ลักษณะคล้ายโอบผมอยู่กลายๆ



" ฟิวยกโทษให้พี่นะครับ "



เสียงทุ้มกระซิบ พี่เชาพูดด้วยน้ำเสียงที่ทำให้รู้สึกเขิน



ผมพยายามกลั้นยิ้มแล้วพยักหน้าหงึก จับมือตัวเองไปมา ไม่รู้จะเอามันไปไว้ตรงไหนดี ก็ดูเอาเถอะครับ... ผมจะไม่พอใจพี่เชาลงได้ยังไง เมื่อเห็นผมสีหน้าดีขึ้นพี่เชาก็ปล่อยมือ เดินข้างๆ กันแทน เขาพลิกข้อมือดูเวลาจากนาฬิกาดีเซลที่ข้อมือขวา



" สองทุ่มครึ่งแล้ว อยากกลับหอรึยัง เดี๋ยวพี่ไปส่ง "



" ยังครับ " ผมส่ายหน้าพูดประโยคถัดมาอุบอิบอยู่ในลำคอ " ยังอยากอยู่กับพี่เชานานกว่านี้... " เขินจัง หน้าผมต้องแดงแน่ๆ



" ห๊ะ? อะไรนะ " พี่เชามองผมทำหน้างง ไม่ได้ยินว่าเมื่อกี้ผมพูดอะไร



" อ่า... เปล่าครับ ช่างมันเถอะ "



" อืม " พี่เชาพูดแค่นั้น แล้วเราก็เดินดูของไปเรื่อยๆ ต่อ



เหมือนหัวใจพองโตเมื่อกี้ของผมมันโดนเจาะให้ฟีบด้วยประโยคเมื่อกี้ของพี่เลย ผมรู้ว่าพี่เชาไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้ พี่เชาจะรู้มั้ยนะ...



" เอ้อ ฟิว คืนนี้กลับหอหรือกลับบ้าน? " เหมือนจู่ๆ พี่เชาก็นึกออก ถามขึ้นมา บ้านผมอยู่แถวสมุทรปราการ ส่วนมหาลัยอยู่ใจกลางเมือง เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปกับการเดินทางมาก หม่าม๊าจึงให้ผมอยู่หอในของมหาวิทยาลัย



" เดี๋ยวกลับบ้านครับ... หม่าม๊ามารับที่ BTS บางนาตอนสี่ทุ่มครึ่ง "



" อ้าวทำไมล่ะ ปกติทุกทีมารับที่หอเลยไม่ใช่เหรอ "



" อื้อ.. แต่อาทิตย์นี้โฟร์ไม่กลับ ฟิวเลยกลับเอง ให้มารับแค่บางนาพอ "



โฟร์เป็นน้องสาวผม เรียนศิลปกรรมเอกแฟชั่น ปี1 เราเป็นฝาแฝดกัน พ่อกับแม่ห่วงโฟร์มาก เพราะเป็นเด็กผู้หญิงแล้วก็เป็นน้องเล็กด้วย ซึ่งถามผม ผมก็คิดนะ ผมกับโฟร์ป้ำๆ เป๋อๆ โดนหลอกง่ายพอกัน แต่โฟร์เป็นผู้หญิง แล้วก็หน้าตาน่ารักด้วยจึงน่าเป็นห่วงมากกว่าผม ปกติถ้าโฟร์กลับด้วยป๊ากับหม่าม๊าจะมารับถึงหอใน แต่ดึกๆ หน่อย เพราะทั้งคู่ไม่ชอบรถติด แต่ถ้ามีผมแค่คนเดียวก็จะมารับที่ BTS บางนา



" งั้นเดี๋ยวไปส่ง "



" ส่ง? ส่งไหนครับ " เป็นผมที่งงบ้าง



พี่เชาเคยไปส่งผมที่บ้านหลายครั้ง เจอป๊า หม่าม๊าและน้องโฟร์มาหมดแล้ว กินข้าวเมื่อก่อนก็เดือนละครั้ง และหม่าม๊ากับโฟร์ก็ชอบพี่เชามากด้วย โดยเฉพาะโฟร์ แต่ที่ผมกังวลคือทุกครั้งพี่เชาเอารถยนต์ไป ไม่ใช่มอเตอร์ไซค์อย่างครั้งนี้
แต่ว่า.. เอาตามจริงแล้วผมรู้สึกว่าดีจัง.. เพราะได้นั่งมอไซค์กับพี่เชานานๆ แล้ว... 



" รถไฟฟ้าไง ไม่งั้นจะไปยังไง? "



อีกแล้ว.. เหมือนให้ความหวังทำให้ลูกโป่งผมพอง แล้วก็ปล่อยลมให้ฟีบอีกแล้ว



ผมหงอยลง เหมือนพี่เชาจะสังเกตได้



" ลืมของไว้ที่ห้องเหรอ? "



" ... "



ผมเงียบไปพักนึงแล้วก็ส่ายหน้า ช่างเถอะ..พี่เชาไม่ผิด เป็นผมที่คิดไปเอง.. คาดหวังเองว่าเขาจะไปส่งบ้านเหมือนเมื่อก่อน...



" เปล่า ไม่ได้ลืม "



" ป่ะ งั้นไปกันเลยมั้ย พี่มีนัดกับเพื่อนตอนสามทุ่มอ่ะ เลทนิดหน่อยได้ "



คืนวันศุกร์อย่างนี้หนีไม่พ้นไปกินเหล้ากันแน่ๆ



" ไปกินเหล้ากับพวกพี่แซคเหรอครับ... "



เพื่อนสนิทพี่เชาในคณะมี 2 คน พี่แซคที่หน้าตี๋ๆ ล่ำๆ เป็นนักบอล กับพี่ขวัญที่จัดฟัน ผอมๆ แห้งๆ ส่วนเพื่อนอีกคนอยู่คนละภาคแต่พี่เชาพูดถึงบ่อยๆ คือพี่พรต (ซึ่งพี่เชาเรียกเขาว่าพี่เงาะ) เรียนวิศวโยธา ถ้าไม่ใช่พี่แซคก็พี่พรตนี่ล่ะ...



" อื้ม แล้วก็มีปีโตไปด้วย " พี่เชากอดคอผมพาเดินไปด้วยกัน " ทำไม อยากกินเหรอ? "



" ปะ..เปล่าครับ! ฟิวไม่ไหวหรอก.. แค่ช็อตเดียวก็จอดแล้ว.. "



พี่เชาหัวเราะอยู่ข้างหู มือใหญ่ขยี้ผมของผมไปมา



" หึ! อ่อนเอ๊ย! "



" ง่า...พี่เชา... "



เอาเถอะ... ไปส่งแค่ที่สถานีรถไฟฟ้าก็ได้ ไม่เป็นไร อย่างน้อยผมก็ได้เจอพี่เชาสมใจแล้ว หลังจากไม่เจอหน้า ติดต่อพี่เชาไม่ได้เป็นอาทิตย์แน่ะ!



หลังจากนั้นพี่เชาก็ปล่อยผมลงที่สถานีสยาม ผมลงจากมอเตอร์ไซค์ ดึงแขนพี่เชาไว้ก่อนที่เขาจะออกรถ



" เดี๋ยวพี่เชา ฟิวเกือบลืมเอานี่ให้พี่เลย " ผมเปิดกระเป๋าเป้ตัวเองค้นแล้วหยิบมันออกมา " เห็นพี่เชาไม่ว่างไปเอามาสักทีฟิวเลยเอามาให้แล้ว จ่ายเงินซ่อมเสร็จเรียบร้อยเลยนะครับ "



ในมือผมคือไอโฟน5s สีทองของพี่เชา



อาทิตย์ที่แล้วมันเกิดอุบัติเหตุทำให้หน้าจอแตก ตอนนั้นพี่เชาคงโมโห ถึงรีบเดินออกไปโดยที่ไม่ได้เอามันไปด้วย ผมจึงเก็บไปซ่อมให้พี่ร้านที่รู้จัก ได้ตั้งแต่ 2 วันแรกแล้ว บอกให้พี่เชาไปเอาก็ติดต่อไม่ได้... ผมเลยตัดสินใจไปเอามาให้แทน



" พี่เชาคับ วันนั้น...เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว....ฟิวขอโทษนะครับ "



เหมือนพี่เชาจะชะงักไปเล็กน้อย ผมเม้มปากรอดูปฏิกิริยาพี่เชา เห็นเขาคิ้วกระตุกขมวดเข้าหากันผมก็หลุบตาหนีมองมือตัวเองอีกแล้ว...



พี่เชาเงียบไปเกือบ 5 วินาทีก่อนจะพูดขึ้นมาว่า



" ช่างเถอะ...มันผ่านมาแล้ว "



" ไม่โกรธฟิวแล้ว..จริงนะครับ? "



" อืม "



ได้ยินอย่างนี้ผมถึงยิ้มออกมา โล่งใจขึ้นเยอะเลย ผมนึกว่าพี่เชาจะโกรธผมอีกซะแล้ว



" นี่ๆ ฟิวซื้อเคสใหม่ แปะสติ๊กเกอร์เอาไว้ จะได้ไม่หยิบผิดกับของพี่คิงนะครับ "



พี่เชากับพี่คิงใช้โทรศัพท์รุ่นเดียวกัน สีเหมือนกัน และยังไม่ใส่เคสเหมือนกันอีก ต่างคนต่างหยิบผิด คิดว่าของอีกคนเป็นของตัวเองบ่อยๆ ผมอยากมีโมเมนท์แบบนี้บ้างจัง… แต่คงยาก เพราะมือถือของผมเป็น SAMSUNG แค่ยี่ห้อก็ต่างกันแล้ว แต่ไม่เป็นไรครับ ผมมีวิธี!



ผมพลิกให้ดูข้างหลังเคสสีใส ที่แปะสติ๊กเกอร์รูปหัวใจตามด้วยสิงโต



" รัก.. " นิ้วผมชี้ที่รูปหัวใจ " พี่เชา... " นิ้วเลือนไปที่รูปสิงโตข้างๆ เพราะพี่เชาเหมือนสิงโต



หลังจากพูดประโยคเมื่อกี้หน้าผมเห่อร้อนไปหมด ต้องหน้าแดงไปทั้งหน้าแน่ๆ รีบยัดโทรศัพท์ใส่มือให้พี่เชาแล้วเดินเร็วๆ หนีขึ้นสถานีรถไฟฟ้า โอยยย ฟิว..ทำไมแรดขนาดนี้ T/////T





---------------------------------



วันนี้เป็นน้องฟิวเล่าค่ะ
เรื่องนี้จะเล่าสองคนนะคะ ส่วนใหญ่เป็นเชา มีบ้างที่เป็นมุมมองน้องฟิวค่ะ แต่ไม่เยอะมาก มีแค่พอให้เข้าใจมุมมองความรักของทั้งคู่มากขึ้น

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ  :pig4: :pig4: :pig4:

ปล. หลังจากวันนี้ขออนุญาตหายนะคะ ทนพิษไฟนอลไม่ไหวค่ะ ส่งโปรเจกต์กระจุยกระจาย :z3: ไว้เจอกันอีก 2 อาทิตย์ค่า  :katai5:




ปลล. " เดี๋ยวมาต่อค่ะ "
 :hao7: :hao7: :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-04-2015 17:46:31 โดย cherilnatcha »

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
สงสารฟิวส์ว่ะ
เพราะรักมากถึงยอม
แม้ตัวเองจะไม่ผิดก็ตาม
อีกคนก็เลยคิดว่าเป็นของตาย
เป็นของเก่าที่น่าเบื่อ ไม่มีอะไรให้เร้าใจ

ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ฟิวน่ารักจังง ตอนพี่เชาอยู่กับฟิวแล้วน่ารักมากเลยอะ  :hao5:
คิงนี่มีแววเป็นเคะราชินี :ruready

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ไม่รู้จะว่าไง
น้องมันไม่ผิด
ถ้าไม่รักแล้วก็น่าจะปล่อยน้องไปเสียแต่เนิ่นๆ
ยังดีที่ไม่พาน้องไปเอา
ท่าเชาจะไม่ได้คิดว่าน้องเป็นของตายหรอก
แต่เชาไม่ได้สนใจน้องอีกต่อไปแล้วไง
สู้เลิกไปจะดีกว่า
เชา-คิงนี่แมน-แมนมากเลยนะ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เกลียดเชาอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yanggi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
เรื่องนี้ลุ้นมากอ่ะ ผ่านมาสี่ตอนยังไม่บอกเลิกกันซักที  :mew5: :mew5: :mew5:
 ตอนนี้ชีวิตต้องการดราม่า  รอติดตามอยู่นะคะ   :katai1:  :ling2:

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17

นานๆทีจะมีบทความน่าสนุกแบบนี้เกิดขึ้นมาสักครั้ง เป็นเรื่องที่น่าอ่านและน่าคอมเมนท์มาก เพราะว่าเรื่องแบบนี้แทบจะกลายเป็นปัญหาสังคมและปัญหาชีวิตคู่ในปัจจุบันไปแล้ว

เชาสอบตกหลุดรุ่ยเลยนะครับในสายตาผม ข้อแรก เชามีข้อเสียหลักๆซึ่งผู้ชายปัจจุบันส่วนมากมักจะมี คือไม่เห็นค่าของความรักในวัยมหาวิทยาลัย เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง และขาดการเอาใจเขามาใส่ใจเรา นี่เป็นข้อเสียหลักๆเลยที่ทำให้ชีวิตคู่ไปไม่รอด และทำให้เด็กวัยรุ่นขาดการพัฒนาตนเองในช่วงมหาวิทยาลัยไปอย่างน่าเสียดาย

การเอานิสัยตัวเองเป็นศูนย์กลาง จะทำให้ขาด Restriction และขาดการยั้งคิดรวมถึงการยับยั้งชั่งใจ นอกจากนี้ การไม่เห็นคุณค่าของความรักก็ทำให้ไม่สนใจว่ามันจะลงท้ายยังไง เพราะคิดว่ายังไงก็เลิกแล้วหาคนใหม่ นี่เป็นนิสัยปกติพื้นฐานมากของผู้ชายที่ไม่แคร์โลกและค่อนข้างเจ้าชู้

โอเค ถ้านิสัยทั้งคู่มันเจ้าชู้และไม่แคร์โลกเหมือนกัน จะทำอะไรมันก็แล้วแต่แหละครับ เป็นการใช้เวลาอย่างเปล่าประโยชน์เพื่อตอบสนองความสุขทางเพศ ก็เป็นเรื่องปกติ อันนี้ผมไม่ว่าอะไร แต่ถ้าเกิดว่ามีใครคนใดคนหนึ่งมีนิสัยพื้นฐานที่ดี มีทัศนคติเชิงบวกกับความรัก คุณควรจะเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มากกว่านี้นะครับ

ความรักเป็นศาสตร์ที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน การวิเคราะห์ความเหมาะสมอาจพึ่งพาทั้งหลักการเชิงตรรกศาสตร์ความสมเหตุสมผล และความใคร่หลงซึ่งเป็นผลมาจากอารมณ์

เด็กวัยรุ่นขาดการมองว่าการมีความรักหรือการได้คบใครสักคนเป็นตัวอย่างที่จะสะท้อนการใช้ชีวิตคู่ รวมถึงสะท้อนนิสัยอันจะสร้างปัญหาให้กับเขาในอนาคต

ยกตัวอย่างเช่น เคสของเชากับฟิวส์ ถ้าเกิดว่าเชายังรู้สึกว่าคบกับฟิวส์แล้วไปไม่รอด เคสนี้ผมแนะนำให้เลิกนะ เลิกแบบตัดเลยด้วย เพราะผมว่านิสัยของฟิวส์นี่ไม่ได้ผิดอะไรเลยนะ เค้าแค่ไม่กล้าแสดงออก เพราะว่าเชามีลักษณะของ Male dominate characteristic หรือการแสดงบทบาทที่เหนือกว่า ดังนั้นฟิวส์จะรู้สึกเหมือนอยู่ใต้อาณัติครับ เค้าจะไม่ค่อยกล้าแสดงออกอะไรเพราะรู้สึกว่ามีคนปกป้องแล้ว อาจจะหงอๆ ถ้าเชายอมรับในตัวฟิวส์มากขึ้นและให้โอกาสเค้ากับเรื่องหลายๆเรื่อง ผมว่าเราจะเห็นมุมใหม่ๆของฟิวส์ที่ไม่ซ้ำซากแบบปัจจุบัน แต่เพราะตอนนี้ เชาขาดคุณสมบัติของความอดทน เป็นผู้ชายที่ขาดความยั้งคิดในแต่ละเรื่อง และไม่ตัดสินใจด้วยเหตุผล การใช้แต่อารมณ์เป็นคุณสมบัติแรกๆที่ทำให้ชีวิตคู่ไม่มีทางไปรอด

อีกทั้งการขาดคุณสมบัติแบบนี้จะทำให้เขามีปัญหาในยามที่พ่อแม่แก่ตัวลง เพราะเชาจะไม่สามารถอดทนทำอะไรๆได้นาน และชอบอะไรที่ตัดสินใจเร็ว มองอะไรค่อนข้างฉาบฉวย ดังนั้นการจะมาอดทนใจเย็นดูแลผู้สูงอายุที่พฤติกรรมจะง๊องแง๊งยิ่งกว่าฟิวส์ แน่นอนว่ามันเป็นไปแทบไม่ได้เลย และนี่เป็นตัวอย่างหนึ่งว่าการกระทำของเชาขาดความถูกต้องและชอบธรรมตามหลักจริยาสังคม

ต่อมา คิง คิงเป็นผู้ชายเงียบๆ ดูดุนิดหน่อย แต่ข้อเสียคือไม่คิดหน้าคิดหลัง การกระทำอะไรบางครั้งต้องพิจารณาถึงสภาพแวดล้อมและผลกระทบของผู้ที่จะได้รับปัญหานั้นๆ ทั้งด้านอารมณ์ความรู้สึกที่จับต้องไม่ได้(intangible) และด้านวัตถุที่จับต้องได้(tangible)

การขาดความรอบคอบตรงนี้อาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ และมักเกิดขึ้นได้หากมีอุบัติเหตุที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือ เมื่อเกิดปัญหาและผลกระทบขึ้น เราควรต้องรับผิดชอบแก้ไขในการกระทำนั้นๆด้วยครับ เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบต่อการขาดความระมัดระวังของตนเอง การไม่แสดงถึงความรับผิดชอบในการแก้ปัญหานี้ แสดงถึงการปัดปัญหาและเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจเลยทีเดียว

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
มันต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้เชาเปลี่ยนไปดิ

เหตุการณ์ครั้งนั้นคืออะไร.?

ติดตามต่อไปค่ะ ขอบคุณที่มาต่อนะคะ

ออฟไลน์ MimoreQ

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สรุปว่าเรื่องนี้ฟิวxเชา
เอ๊ะ?หรือจะ 3P เราไม่เกี่ยงนะ //เดี๋ยวๆ 55555
แต่เราอวยคู่เชาxคิงนะ ค่อนข้างจะชอบรุกxรุกมาก
แม้ว่าอาจจะไม่ใช่อย่างที่ฝัน.... :sad4:

ออฟไลน์ cherilnatcha

  • การเดินทางของความคิด. ชาร์ลี (c)
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
4.5
ก็น้องมันน่ารัก...



ติ๊ง!
น้อง: ได้คับ แล้วพี่คิดราคาเท่าไหร่ยังไง ผมจะได้บอกแม่ถูก…




ข้อความไลน์จากน้องฟิวเด้งเตือนขึ้นมาขณะที่ผมกำลังคุยกับเพื่อนอยู่เลยว่าจะออกไปกินเหล้ากับพวกมันคืนนี้ได้หรือเปล่า ผมมุ่นคิ้วสงสัย อ่านทวนข้อความที่น้องส่งมาอีกรอบ



เอาจริงเหรอวะ… ให้ผมสอนเนี่ย?



“ คิง มึงเคยสอนพิเศษป่ะวะ ” ผมหมุนเก้าอี้หันไปหาเพื่อน มันนั่งเล่นคอมอยู่บนเตียง ใส่หูฟัง “ คิง! ”



“ อะไร ” มันเพิ่งได้ยินผม ดึงหูฟังออกข้างนึง และมองผมด้วยสายตาเหมือนผมเพิ่งไปขัดมันทำอะไรที่มันกำลังติดพันอยู่…



“ มึงเคยสอนพิเศษมั้ย ชั่วโมงละเท่าไหร่ ”



ไหนๆ น้องเขาก็ถามมาแล้ว ผมจะปฏิเสธไปก็ใช่ที่ป่ะครับ ฮ่าๆ เนื้อหาม.ปลายไม่ง่ายแต่ก็คงไม่ยากขนาดนั้น ผมปี 2 แล้ว เรียนมาพอสมควรแล้ว เนื้อหาไหนลืมก็คงต้องทวนกันหน่อย ไม่น่าโง่จนสอนน้องไม่ได้หรอกมั้ง



“ ไม่รู้ ไม่เคยสอน ” มันตอบห้วนๆ “ ถามกูทำไม? ”



“ กูจะสอนพิเศษ ” ผมยักคิ้วตอบ ไอ้คิงมันมองผมด้วยสายาไม่อยากเชื่อ ท่าทางมันแปลกใจมาก



“ มีคนให้มึงสอนด้วย หน้ามึงดูฉลาดขนาดนั้น? ”



“ K… ”



ไอ้คิงหัวเราะออกมาหน่อยนึงกับท่าทางผม มันพูดต่อ “ ที่กูเคยเห็นก็ชม.ละ 300 ”



ก็แค่นั้น… ผมพิมพ์ตอบน้องไปว่าคิดชม.ละ 300 บาท และถามเรื่องรายละเอียดวิชาทั่วไปว่าต้องสอนอะไรบ้าง น้องบอกมาแค่ว่าน่าจะเลขเป็นส่วนใหญ่ ตายห่าแล้วกู... ถ้าเป็นอังกฤษจะไม่อะไรเลย ให้ผมสอนเลขเหรอวะ.. เออก็ได้ ยอม ชม.ละ 300 ผมสอนวันละ 2-3 ชม. ก็ได้แล้ว 600-900 บาท กินเหล้าสบายๆ ฮ่าฮ่าฮ่า



น้อง: งั้นพี่เชาสะดวกวันไหนบ้างเหรอคับ ;-;



สอนวันไหนบ้างดีวะ….



ผมนึกตารางตัวเองสักครู่… อืม.. พฤหัส, ศุกร์ไม่ได้ เผื่อไปกินเหล้า



ผม: จันทร์, พุธ



วันอังคารผมจะได้พักด้วย น้องตอบกลับมาว่าขอเริ่มอาทิตย์หน้าเลย



น้อง: แล้วเอ่อ.. หอพี่เชาอยู่ไหนเหรอคับ ผมจะได้ไปถูก



จะมาติวที่ห้องผมจริงๆ เหรอวะ…



ผมหันมองสภาพห้องตัวเองอัตโนมัติ



จริงๆ ห้องผมก็ไม่ถือว่าเล็กมาก อยู่กันสามคนได้ไม่อึดอัดขนาดนั้น เปิดประตูมาเจอเคาน์เตอร์ครัวเล็กๆ อยู่ด้านหน้า มีห้องน้ำ ทีวี 32 นิ้ว โซฟาชุด ฉากกั้น ด้านหลังเป็นโต๊ะทำงานและเตียงนอน 6 ฟุดอยู่อยู่ติดระเบียง ห้องผมมีพื้นที่นะ แต่แม่งรกสัดๆ คิงมันชอบความเป็นส่วนตัวอีก.. เอาน้องมาติวที่นี่มันอาจจะปากหมาด่าจนน้องกลัวไม่กล้ามาเรียนกับผมอีกก็ได้



ผม: เจอร้านกาแฟใกล้ๆ ดีกว่า…



ผมนัดร้านน้องไป มันเป็นร้านกาแฟบรรยากาศดีแถวนี้ ไม่ไกลจากหอผมมาก



น้อง: ได้คับ วันจันทร์เจอกันคับพี่เชา ฝันดีคับ…


น้องส่งสติ๊กเกอร์รูปส่งจูบมา ทำให้ผมประหลาดใจ แต่น้องก็ส่งข้อความมาอธิบายต่อทันทีบอกว่ากดผิด พร้อมกับอีโมติคอนร้องไห้ สติ๊กเกอร์รูปส่งจูบมันอยู่ใกล้ๆ กับรูปตลบผ้าห่มคลุมนอน หึหึ ขนาดผมไม่เห็นหน้าเขาผมยังรู้เลยว่าเขาลนลานตอนพยายามอธิบายผมขนาดไหน...



“ ยิ้มอะไรวะเชา ”



“ กูยิ้มเหรอ? ”



“ เออ ”



ผมหัวเราะ ถ้าจะยิ้มได้ก็คงมีสาเหตุเดียว



“ ก็น้องมันน่ารัก... ”








------------------------------
ว่าจะไม่ลงๆ สุดท้ายอดใจไม่ไหว ส่ง 4.5 สั้นๆ มาขัดตาทัพ เดี๋ยวเครียดกันเกินไปค่ะ แฮ่ :o8:

ให้เห็นมุมดีๆ ของเชาบ้าง.... อย่าเพิ่งเกลียดเชากันนะคะ :monkeysad: ผ่านไป 4 ตอนเอง มีมุมอื่นๆ ของเชาให้รู้จักอีกเยอะเลยค่ะ (ซึ่งอาจจะทำให้คนอ่าน :o12: หรือ :z6: ก็ได้....... :o8:)

ตอนที่4 เชาโดนคุณเกรย์ทไวไลท์อ่านซะพรุนเลย  :o8:
จริงๆ เชาก็เป็นคนที่สมควรโดน :z6: คนนึงแหละค่ะ 5555555 แต่ไม่ต้องห่วงไปนะคะ นางจะได้บทเรียนและทุกคนจะเติบโตขึ้นค่ะ  o18

เจอกันอัก 1 สัปดาห์นะคะ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์และการติดตามค่ะ :pig4:


ปล. " เดี๋ยวมาต่อค่ะ "  :katai5:


ออฟไลน์ cherilnatcha

  • การเดินทางของความคิด. ชาร์ลี (c)
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
5
เมินเฉย






ผมพลิกโทรศัพท์ตัวเองในมือไปมา มองสติ๊กเกอร์รูปหัวใจแปะต่อกับสิงโตที่น้องฟิวเพิ่งติดไว้ให้
แค่เห็นมันหน้ากับรอยยิ้มเขินๆ ของน้องก็ลอยขึ้นมา
.
.
.
ผมถอดเคสโทรศัพท์ กำมันแน่นด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก... แล้วโยนเคสนั้นทิ้งลงถังขยะ เอาโอโฟนเครื่องเก่าไปเทิร์นเครื่องใหม่ออกมาอย่างไม่ยินดียินร้าย



" เฮ้ย! เชา!! "



แซคกวักมือเรียกให้ผมไปทางโต๊ะที่มันนั่งอยู่ ตรงนั้นมีอีกสิบกว่าคน มีปี2 ปี4 กับปี 5 มาอย่างละ 3 คน และมีเด็กที่ผมไม่คุ้นหน้านั่งอยู่ด้วยอีก 1 คน มองทั่วโต๊ะแล้วไม่มีไอ้ขวัญ... ก็ดี...



" ขอแก้วเพิ่มด้วย "



ผมนั่งลงข้างแซค ทักทายปีโต และรุ่นน้องด้วยความสนิทสนม มากินกับพวกผมบ่อยสุดก็มีอยู่เท่านี้ล่ะ วันนี้พิเศษหน่อยตรงที่ปี 5 มากินด้วย



" มีอะไร ทำไมมึงมาช้าวะ " ไวท์ถาม คนนี้อยู่ ปี5 พวกนี้เรียนจบไปแล้ว แต่ยังแวะเวียนมากินเหล้ากับพวกผมอยู่บ้าง



" ซื้อโทรศัพท์ใหม่ว่ะพี่ ยังทำห่าอะไรไม่ค่อยเป็นเลย " ผมตอบ " เมมเบอร์ให้หน่อยดิ " ผมล้วงโทรศัพท์เครื่องใหม่ออกมาจากกระเป๋า สติ๊กเกอร์กันรอยของมันยังถูกแปะไว้ที่ตัวเครื่องอยู่เลย



" เชี่ย ใหม่จริงว่ะ " คนอื่นๆ หัวเราะ ไวท์หยิบโทรศัพท์จากมือผม เมมเบอร์ตัวเองให้อย่างคล่องแคล่วแล้วส่งต่อให้คนอื่น



" เอาก่อนมั้ยวะ " แซคยื่นแก้วตัวเองให้ ผมรับมาจิบนิดหน่อย แล้วกระดกรวดเดียวจนหมดแก้ว



" โหไอ้สัส มึงรีบไปไหนวะ " หยิบแก้วคืนแล้วส่ายหน้าเหมือนปลง ยื่นส่งแก้วเปล่าให้เด็กปี1 ที่ผมคุ้นหน้าแต่ไม่รู้ชื่อชงให้ใหม่



" อยู่เครื่องกลใช่มั้ย ชื่ออะไร " ผมถาม



" ชื่อมาร์กครับ... " ปี1 มีท่าทางเกร็งๆ เวลาตอบคำถามหรือสบตาผม



แม่งตลกว่ะ.. ผมอดไม่ได้ แกล้งขู่มันไป



" ชื่ออะไร พูดเสียงดังๆ หน่อยสิวะ!! "



ปี1 สะดุ้งเฮือก ลนลานขานรับผมด้วยท่าทางตื่นกลัว



" ชื่อมาร์กครับ! "



ท่าทางปี 1 ตลกจนทั้งโต๊ะพากันหัวเราะออกมา ก็รู้กันหมดแหละว่าผมเป็นยังไง แค่ขึ้นเสียงขู่น้องไปงั้น เห็นท่าทางเกร็งเลยกะหยอยเล่นให้ผ่อนคลาย



" โหย พี่แม่ง... ผมตกใจหมด " น้องมันเสียงอ่อย ลูบต้นคอตัวเองด้วยท่าทางผ่อนคลายมากขึ้น ส่วนผมเองเมื่อได้แก้วแล้วก็จัดการชงเองดีกว่า



" สรุปมึงได้นี่มาแทนเครื่องเก่าที่หน้าจอแตกเหรอ? " ส่งจนครบวงแล้วมือถือใหม่ผมก็มาตกอยู่ที่แซคเป็นคนสุดท้าย มันถามระหว่างที่เมมเบอร์ตัวเองลงไป " แม่งซ่อมไม่ได้เลยเหรอวะ น่าเสียดายว่ะ "



เครื่องเก่านั้นผมเพิ่งซื้อมาใช้ไปประมาณปีกว่า ก็คุ้มประมาณนึงล่ะ แต่เห็นแล้วมันน่าหงุดหงิด เลยคิดว่าเปลี่ยนเครื่องใหม่ไปเลยดีกว่า จะว่าไปผมก็ได้เครื่องนั้นมาช่วงที่เจอกับน้องฟิวใหม่ๆ พอดี...



" อืม "



แซคส่ายหน้า " จอแตกเปลี่ยนใหม่แค่ไม่กี่พัน "  มันว่า ส่งมือถือคืนให้ ผมหัวเราะรับโทรศัพท์คืนมา



" เปลี่ยนหน้าจอไปแล้ว มันก็ไม่ใช่เครื่องเดิมแล้วเหอะ "



" เหรอวะ " แซคทำหน้าไม่เห็นด้วย " มันก็เครื่องเดิมเหอะ ระหว่างซื้อใหม่กับเปลี่ยนจอไม่กี่พัน เป็นกูกูเปลี่ยนจอว่ะ... แต่มึงอยากเปลี่ยนอยู่แล้วอ่ะดิ "



" คงงั้น " ผมยักไหล่ตอบมันยิ้มๆ ไอ้แซคส่ายหน้า หัวเราะขำ



" มึงนี่มัน.. ' มึง ' จริงๆ "




 
คืนนั้นผมกินไปเยอะจนอ้วกแตกอยู่หน้าร้าน พอมีสติออยู่บ้าง แต่ก็จำได้บ้างไม่ได้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง รู้สึกเหมือนคนที่พาผมไปส่งที่ห้องจะเป็นแซค มันให้ใครสักคนขับมอเตอร์ไซค์ของผมตามกลับมาที่หอ



“ ไอ้เชา… มึงตัวหนักสัส อย่าทิ้งน้ำหนักมาที่กูดิวะ ”



เสียงนั้นบ่นพึมพำๆ อยู่ข้างตัวผมก่อนจะตามมาด้วยเสียงเคาะประตูรัวๆ เหมือนจะเรียกคนข้างในให้ออกมาเร็วๆ



ก๊อกๆๆๆๆๆ!



แกร๊ก….



" มาได้ไง? "



คิงเปิดประตูมารับ ผมจำได้ เสียงไม่ยินดียินร้ายฟังแล้วติดจะกวนตีนนี้มีแค่เพื่อนผมคนเดียว



" คิดถึงคิงไง เลยมาหา " ประโยคน้ำเน่าขนาดนี้ ใช้ไอ้แซคแน่รึเปล่าก็ไม่มั่นใจ " เฮ้ยๆๆ เดี๋ยวสิ.. อย่าเพิ่งปิดประตูใส่ เอาไอ้เชาเข้าไปก่อน "



ผมรู้สึกเหมือนมีอีกคนมาพยุงตัวเอง กลิ่นสบู่หรืออะไรบางอย่างจากคนข้างตัวอีกคนทำให้ผมคุ้นชิน ตวัดแขนโอบรอบร่างที่สูงพอๆ กับตัวเองไว้แน่นแล้วกดจมูกที่ซอกคอ สูดกลิ่นหอมนั้นเข้าไปฟอดใหญ่



" หนัก ปล่อยกูก่อน "



สัมผัสหนักๆ ตบบนหลังของผม ทั้งที่ตอนนี้หนักหัวจะแย่แต่ก็ทำตามที่เสียงนั้นบอก ดูเหมือนจะมีคนอ่านใจผมได้ด้วย อีกมือจากทางด้านหลังมาช่วยพยุงผมอีกแรง



" เดี๋ยวช่วย ขอเข้าห้องหน่อยดิ "



ประตูห้องถูกเปิดกว้างขึ้น ให้ผมและแซค… อืม ตัวหนาหุ่นนักบอลอย่างนี้คงเป็นไอ้แซคแหละ มันพยุงผมเข้าไปให้ห้องแล้วปล่อยที่เตียง



ผมขยับตัวเข้าหาหมอนตัวเองอัตโนมัติ ขยับตัวหาท่านอนสบายๆ แล้วก็ปล่อยตัวเองนอนหลับไป แต่อาการปวดหัวตื้อๆ รบกวน ทำให้ผมกึ่งหลับกึ่งตื่น และยังมีเสียงคนอีกสองคนในห้องคุยกันอีก


 
" ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเหรอคิง ปฏิเสธตลอดเลย "


แซคถามคิงด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ หวังว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธ ทว่าปฏิกิริยาตอบรับกลับเป็นความเฉยชา



" อืม "



" ขอชั่วโมงสองชั่วโมงเอง "



" กูทำอย่างอื่นอยู่ " กลอกตาแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วนสั้น



ดูก็รู้ว่าคิงไม่ได้ให้ความสำคัญเลย รู้ดีว่ามันเป็นข้ออ้าง...



เพื่อนแซคเพิ่งจะบอกว่าเจอคิงอยู่ที่ร้านเหล้าในวันที่แซคชวนออกไปเที่ยวด้วยกันแต่อีกฝ่ายปฏิเสธว่าตัวเองมีธุระสำคัญอย่างอื่นต้องทำ



" เพื่อนเราบอกว่าเห็นนายอยู่นั่งเล่นเอกมัยเมื่อคืน " แซคว่าต่อ และถามในคำถามที่ไม่ควรถามที่สุดออกไปด้วยน้ำเสียงตัดพ้อเสียใจ " ไหนนายบอกว่ามีทำงานกลุ่มที่ห้องเพื่อน "



" ... "



คิงเงียบไปอึดใจแล้วถอนหายใจยาว


น่ารำคาญ.. คำนี้วนเวียนในหัว และก็ถูกแสดงออกชัดเจนบนใบหน้า



" แล้วมึงเสือกอะไรวะ " เพื่อนก็ไม่ใช่… แฟนยิ่งไม่ใกล้เคียง… " กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับมึง แล้วก็ไม่ใช่เพื่อนมึงด้วย " จะอะไรกับเขานักหนา...



คิงถอนหายใจแรง " กูง่วง จะนอนแล้ว " โดนปลุกมากลางดึกก็เป็นสาเหตุให้หงุดหงิดและเหวี่ยงอย่างนี้เหมือนกัน



แซคอึ้งไปสักพัก หน้าแดงก่ำขึ้นช้าๆ ไม่รู้เพราะโกรธ อาย หรือไม่พอใจอะไรมากกว่ากัน มองคิงด้วยสายตาที่หลายหลาย ที่แน่ๆ มันมีความเสียใจและผิดหวังอยู่ในนั้น



“ งั้นถ้าไม่ชอบแล้วอ่อยก่อนทำไมวะ!!! ”



ตะคอกใส่หน้า แล้วหันหลังเดินกลับไป เขากระชากประตูปิดอย่างแรงเพื่อคลายความไม่พอใจ เสียงดันลั่น สนั่นสะเทือนไปทั้งหอ



ทั้งคู่รู้จักกันจากการแนะนำของคนกลาง 'อีเจนนี่' คิงเรียกแบบนั้น เกย์สาวต่างมหาหลัยที่รู้จักคนเยอะไปหมด



เจนนี่บอกว่าแซคเป็น ‘ เกย์รับ ต้องการหาเพื่อนแก้เหงา ไม่ต้องการคนรู้จัก ไม่ต้องการมีพันธะผูกพันธ์ ’ แปลง่ายๆ ตามความเข้าใจของคิงคือ แซคเงี่ยน แต่ไปเที่ยวผับเกย์ไม่ได้ เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่ามันเป็นเกย์ ยิ่งมันเป็นรับ มันยิ่งอาย…



เขาอ่อยตรงไหน อยากถามมันจริงๆ?



เรื่องควรจะจบตั้งแต่คืนวันปีใหม่ก่อนหน้านู้น แต่แซคไม่จบ แซคเองที่เป็นฝ่ายพยายามสานสัมพันธ์ต่อ คิงซึ่งเป็นคนขี้รำคาญและไม่ได้ถูกสเป็คแซคขนาดนั้นจึงค่อนข้างหงุดหงิดกับแซคและพาลใส่เจนนี่ไปพอสมควร และบางทีก็พาลใส่เชาที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปด้วย...



“ เหี้ยอะไรวะเนี่ย! ”



หงุดหงิด…หงุดหงิดมาก... แต่ก็เท่านั้น ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี



เลยได้แต่ปล่อยไปแล้วไปปิดไฟนอนต่อเหมือนเดิม พรุ่งนี้ค่อยไปซื้อซิมใหม่เผื่อมันโทรมาตอแยอีก อีกสักอาทิตย์ค่อยไลน์บอกเบอร์ใหม่กับเจนนี่ให้อีกฝ่ายหงุดหงิดเล่น จะได้ถือว่าหายกันที่แนะนำคนให้แบบไม่ดูให้ดีซะก่อน!





“ โอยย… ”



ผมตื่นเช้าด้วยอาการมึนตึ้บ เส้นเลือดในหัวเต้นตุบๆ ลูบหน้าตัวเองให้รู้สึกดีขึ้นลุกไปหาน้ำกับพารามากิน พลางนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ผมเมาจนอ้วก อ้วกแล้วก็ไปดื่มต่ออีก แล้วก็อ้วกอีกรอบ ใช่… ผมจำได้ เผลออ้วกใส่ตีนใครสักคนไปด้วย ใครแม่งโดนวะ ซวยสัด



ตอนนี้ผมอยู่ในชุดตัวเดียวกับเมื่อวานไม่มีผิด ไม่ต้องหวังอะไรจากไอ้คิง มันไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ผมหรอก อย่างมากก็เอาโทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์ผมออกมาวางไว้ให้บนโต๊ะ และนั่นไง.. กระเป๋าเงินหนังและโทรศํพท์เครื่องใหม่วางอยู่บนโต๊ะจริงด้วย



แกร๊ก..



เสียงเปิดประตูจากทางห้องน้ำ ผมหันไปมอง คิงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ นุ่งผ้าขนหนูเดินตัวเปียกออกมาเช่นเคย เราสบตากันตรงๆ ผมไม่ละสายตาไปก่อน มันเองก็จ้องกลับเช่นกัน



เหมือนเล่นเกม ‘ ถ้าใครหลบสายตาก่อนแพ้ ’ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่เคยมีใครพูดขึ้นมาก่อนว่า เออ เราตกลงจะเล่นเกมแบบนี้กัน...



มันเป็นไปเอง...โดยสัญชาติญาณ



“ มองเหี้ยไรวะเชา ” คิงขึงตาใส่ กล่าวคำทักทายยามเช้าหยาบคายที่ผมฟังจนชิน มันพ่นลมหายใจแล้วเดินไปหน้าตู้เสื้อผ้า เช็ดผมไปด้วย เป็นสัญญาณว่าจบเกมตานี้แล้ว



“ มึงจะออกไปข้างนอกเหรอ ”



ผมถาม เห็นมันหยิบเสื้อยืดกับกางเกงขายาวสีน้ำเงินมาใส่ ดูดีกว่าใส่ไปซื้อข้าวหน้าปากซอย และยิ่งมั่นใจ เมื่อมันหยิบน้ำหอมมาฉีด



Bvlgari กู…



“ อืม กูจะไปจตุจักร ” มันหาว ปัดผมหน้าม้าปรกหน้าตัวเองไปข้างๆ อยู่หน้ากระจก



“ ห๊ะ?! มึงเนี่ยนะไปจตุจักร ”



ผมคงลืมบอกไป คิงเป็นคนนิสัยเรื่องมากและอยู่ในที่ๆ อากาศร้อนมากไม่ได้ มันจะหน้าแดง ปวดหัว และตัวร้อน จากเดิมที่ขี้หงุดหงิดง่ายอยู่แล้ว ดีกรีความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นไปอีก ฉะนั้นจตุจัตรที่ทั้งร้อนและคนเยอะจึงไม่น่าอยู่ในที่ๆ คิงมันจะไปได้



“ เออ ทำไม ” เสียงมันห้วนขึ้นอีก สวมแว่นแล้วมองผมหน้าบึ้ง



“ ไปทำอะไรวะ ”



“ ซื้อของ ” อาจจะเป็นเพราะเห็นผมกลอกตา มันจึงต่อประโยคให้จบ “ ต้นไม้ ”



ผมเดาะลิ้นคิดแป๊ปนึงแล้วก็ยื่นข้อเสนอ



“ วันนี้เดี๋ยวกูกลับบ้าน ไปด้วยกันก่อน แล้วตอนเย็นกูเอารถยนต์ออกมากับมึงที่จตุจักร ”
แล้วเงียบ เพื่อรอมันตัดสินใจ



“ ตกลง ”



ว่าแล้ว.. ผมกระตุกยิ้ม พึงพอใจในชัยชนะเล็กๆ ของตัวเอง ที่สามารถทำให้คนเรื่องมากเปลี่ยนแผน และทำตามความต้องการของผม



“ งั้นเดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน มึงรอแป๊ป ”



“ อืม ”



ควรจะหงุดหงิดที่แฮงก์ แต่ก็อารมณ์ดี หยิบผ้าเช็ดตัวเดินผ่านคิงเข้าห้องน้ำ



“ สระผมด้วย หัวมึงเหม็นสัด ”



ผมปิดประตู หัวเราะออกมา หน้าคิงที่พูดประโยคเมื่อกี้แม่งตลก เห็นแล้วขำชิบหาย




------------------------------------------------------------

เข้ามาแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว... เนื่องจากยังส่งโปรเจกต์ไม่เสร็จดี  :z3:
ขอมอบ  :z6: ให้กับเชา... เอาไปเลยนาย...

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ   :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
รีบปล่อยน้องไปเถอะนะ
น้องฟิวส์จ๋า ถ้าเชาปล่อยเราไปแล้ว
อย่าไปตื้อ อย่าไปเวิ่นเว้อ อย่าไปตอแยนะ
น่ารักๆ อย่างฟิว คงได้เจอคนเีๆที่จริงใจสักวัน

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
 เลิกกับน้องไปเถอะ จริงๆ สงสารน้อง

ป.ล #ทีมเชาคิง 55555555

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
สรุปเรื่องนี้เชา-คิง หรือ คิง-เชา โดยมีน้องฟิวส์เป็นตัวประกอปสินะ
เชากับคิงนี่น่าจะเป็นประเภทเดียวกัน
ใครตัดใคร ใครตามใครเดี๋ยวก็รู้สินะ
คิงน่าจะไม่เอาเชาเป็นตัวเป็นตนเหมือนกัน

ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อ่านมา 5 ตอนรวด ไม่ชอบตัวหลักทั้งสองของเรื่อง คือ เชา และคิง มันอธิบายออกมาเป็นตัวอักษรไม่ถูก ยังไม่อยากเชียร์ให้ใครได้คู่กับใคร อ่านพาร์ทของฟิวแล้ว สงสารน้องมากเลย มาเจอคนแรกที่เป็นแบบนี้ อยากให้เชาปล่อยน้องไป จะยื้อไว้ทำไมในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าความรู้สึกที่มีให้กับน้องมันเจือจางลงไปมากแค่ไหน บอกไปเลย ครั้งเดียว เจ็บแต่จบ แล้วเอ็งจะทำอะไร คู่กับใคร ก็ไปเถอะ จะชอบใคร จะเอาใครก็ไปเถอะ แต่อย่าทำตัวแบบนั้นทั้งๆที่ยังคลุมเครืออยู่อย่างนี้ มันจะส่งผลระยะยาว จากแผลธรรมดา จะกลายเป็นแผลติดเชื้อเรื้อรัง สำหรับคนที่เขารักเอ็งแบบถวายหัว ยิ่งซื่อๆใสๆ ไม่ทันคนแบบหนูฟิวนะ ใครมันจะตามเกมส์เอ็งทันวะคะ ท่านเชา เราล่ะสงสารหนูฟิวจับจิต


เวิ่นยาวมาก (ข้ามๆไปก็ได้นะจ้ะ) ฮืออออ อินจัด สนุกมาก ลุ้นมาก(ว่าใครคู่ใคร) หน่วงมาก ชอบมาก มาต่ออีกเยอะๆนะคะ รออ่าน และเป็นกำลังใจให้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cherilnatcha

  • การเดินทางของความคิด. ชาร์ลี (c)
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
6
เราสามคน




“ เหี้ย กูไม่ใส่ ”


“ เฮ้ย! ไม่ได้!! เดี๋ยวโดนจับ ”


“ ก็เรื่องของมึง ”


อ้าว ไอ้สัด!


ที่ยื้อแย่งกันอยู่ตอนนี้คือเรากำลังจะไปบ้านผมซึ่งอยู่ไกลถึงแจ้งวัฒนะด้วยรถมอเตอร์ไซค์ (บิ๊กไบค์ก็ได้ ให้ดูดีหน่อย) ผมมีหมวกกันน็อคสองใบ คือแบบเต็มใบสีดำ-แดงของตัวเอง และแบบครึ่งใบสีเหลืองสดใสสำหรับคิง


“ ใครติดสติ๊กเกอร์อุบาทว์แบบนี้กูอยากรู้? ”


กลอกตา กระชากหมวกสีเหลืองมาจากมือผมแล้วชี้ให้ดูสติ๊กเกอร์รูปเป็ดสีเดียวกับหมวก น้องฟิวเป็นคนแปะไว้


“ … ”


ผมหุบยิ้มลง ดึงหมวกกันน็อกกลับคืนมาแล้วลอกสติ๊กเกอร์รูปเป็ดออกไปให้มันเห็นจะๆ


สติ๊กเกอร์ฉีกขาดออกจากกัน แต่ช่างแม่ง ผมดึงจนมันออกทั้งหมด อย่างไรซะสติ๊กเกอร์อันนี้มันก็เก่าแล้วด้วย…


เหมือนความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคนแปะนั่นล่ะ


“ ทีนี้ใส่ได้ยัง? ถ้ายังมึงก็จ่ายเงินกู แล้วเดี๋ยวพาไปซื้อใบที่อยากได้เลย ”


“ เออๆๆ!! ”


ถึงจะทำหน้าหงุดหงิดไปก็เท่านั้น อย่างไรมันก็เอาหมวกสีเหลืองใบนี้ไปใส่ ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ตามผมก่อนผมจะออกรถ จากใจกลางกรุงเทพฯ ไปเขตชานเมืองที่เมื่อถึงเวลาเร่งด่วน รถมันก็ติดได้พอกันอย่างแถวแจ้งวัฒนะ


.
.
.


ผมขับมอเตอร์ไซค์ผ่านทางเข้าหมู่บ้านเข้ามา ผ่านป้อมยามประมาณ 3 ป้อม เพราะที่นี่เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ และมีหลายหมู่บ้านติดกันแบบไม่มีรั้วกั้นที่ชัดเจน ก่อนจะจอดรถที่หน้าบ้านสไตล์ยุโรปหลังนึง ...บ้านผมเอง


ที่ลานจอดรถหน้าบ้านมีรถยนต์จอดอยู่ครบทั้งสองคัน คือรถเบนซ์คลาสสิกสีครีม และ e-class สีเทา


“ อ้าว? มีคนมาอยู่ใหม่อีกแล้วว่ะ ”


ผมถอดหมวกกันน็อค หันมาบอกเพื่อน บุ้ยไปทางบ้านสไตล์ยุโรปหลังข้างๆ บ้านผมที่มีรถยนต์ป้ายทะเบียนสีฟ้าขององค์การระหว่างประเทศจอดอยู่  เดิมทีบ้านหลังนั้นเป็นบ้านของคิง แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเมื่อ 6 ปีก่อน มันก็ย้ายมาอยู่บ้านผมเป็นการถาวร


“ อืม.. ” มันตอบ ไม่ยินดียินร้าย ถอดหมวกกันน็อคแล้วผลักส่งคืนให้ด้วยท่าทางหงุดหงิดเหมือนเคย ผมหัวเราะเบาๆ ถือหมวกกันน็อคทั้งสองไปแล้วเดินเข้าบ้านไปพร้อมกัน


ในหมู่บ้านผมไม่มีรั้วกั้นระหว่างบ้าน แต่แถวนี้ไม่มีขโมย เพราะคนในละแวกบ้านของผมส่วนใหญ่เป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติ ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นคงมีปัญหาตามมามากกว่าแค่เรื่องลักขโมยเยอะ เช่น บ้านหลังใหญ่ของท่านทูตออสเตรียประจำประเทศไทยที่อยู่ตรงข้ามบ้านผม เป็นต้น


แต่ยังไม่ทันจะจับลูกปิด ประตูก็ถูกเปิดออกมาเสียก่อน มัม(mom) ยืนอยู่หลังประตู ส่งยิ้มกว้างมีความสุขมาให้ก่อนจะกอดผมกับคิงพร้อมๆ กัน


คิงมันเข้าไปกอดมัมก่อนผมอีก ห่า.. นั่นป้ากู


ผมเลยเข้าไปกอดทั้งคู่ไว้แทนเสียเลย ฮ่าๆ


“ มัมหวัดดีครับ ”


ป้าผมเป็นคนเดียวจริงๆ ที่คิงไม่เหวี่ยง และพูดจาสุภาพด้วย มันรักมัมมาก ทำไมผมจะไม่รู้


“ คิดถึงจังเลย ไม่โทรหามัมตั้งอาทิตย์นึงแน่ะ ” ป้าพูดกลั้วหัวเราะตอบคิง หอมแก้มฟอด และหันมาหอแก้มผมด้วยอีกคน เสียงดังพอกัน


“ แล้วผมล่ะมัม ” ผมแกล้งท้วงทำหน้างอ


“ โอ๊ย! มัมก็คิดถึงเชา แต่เชาไม่โทรหามัมน่ะเรื่องปกติ แต่คิงไม่โทรหามัมน่ะผิดปกติ ”


ผมหันมองไอ้คิง เพิ่งรู้ว่ามันโทรหามัมบ่อยๆ


“ นี่กำลังจะโทรหาคิงพอดี ไลน์นี่มันยังไง มาจะส่งรูปให้เพื่อนแต่ลืมไปแล้ว ”


ท้ายประโยคบ่นๆ แล้วเดินนำพวกผมสองคนเข้าบ้าน หันมามองคิงที่เดินตามมัมไป มันไม่ได้ยิ้มแต่ก็ดูออกว่ากำลังมีความสุข ทั้งคู่ไปนั่งที่โซฟาแล้วคิงก็สอนมาเล่นไลน์ในไอแพดอีกรอบด้วยความใจเย็น


จริงๆ แล้ว มัม ไม่ใช่แม่ของผม


มัมเป็น ‘ ป้า’ ของผม เป็นพี่สาวของแม่ เป็นคนไทยแท้ๆ เป็นลูกสาวคนโตของนายพลฯ ทหารเรือเมื่อก่อน และก็แต่งงานกับทูตฝรั่งเศส ทั้งคู่รู้จักกันในงานเลี้ยงสมาคมที่มาเป็นตัวแทนครูวิชาภาษาฝรั่งเศสสของโรงเรียน บ้านหลังนี้เดิมเป็นของท่านทูตฝรั่งเศสนั่นล่ะครับ แต่เมื่อท่าเสียไปเมื่อ 10 ปีก่อน มัมก็อยู่คนเดียวมาตั้งแต่ตอนนั้น


ผมเป็นครึ่งแขกขาว แน่นอนแม่เป็นคนไทย และพ่อเป็นคนตุรกี


แม่ของผมเป็นภรรยาคนที่สามของพ่อ ผมอยู่บ้านใหญ่ได้ถึง 7 ขวบก็แยกบ้านออกมาอยู่บ้านเล็กกับแม่แค่สองคน พ่อมาเยี่ยมที่บ้านบ้างเป็นครั้งคราว ถึงผมจะไม่ใช่ลูกคนโต แต่ผมก็เป็นลูกชายคนแรกในบ้าน ทีแรกเขาไม่ยอมให้แม่ย้ายออกมาด้วยซ้ำ ผมจำได้เลือนลาง ตอนนั้นผมเด็กมากเหลือเกิน


พอ 10 ขวบ ผมก็มาอยู่บ้านมัม (ซึ่งท่านทูตฝรั่งเศสเพิ่งเสียไปพอดี) พร้อมกับแม่ ดูเหมือนตอนนั้นจะเป็นตอนที่แม่ตัดสัมพันธ์กับพ่ออย่างสิ้นเชิง ทั้งคู่ขาดจากกัน แม่เปลี่ยนกลับใช้นามสกุลเดิม รวมทั้งผมด้วยที่เปลี่ยนใช้นามสกุลของแม่ เพราะแม่ต้องการตัดทุกอย่างที่ทำให้นึกถึงพ่อออกไป.... รวมทั้งผมด้วย…


เราอยู่ด้วยกัน 3 คนที่บ้านมัม 3 เดือน แม่ก็ไปทำงาน และไม่กลับมาอีกเลย


ตอนนั้นผมไม่รู้อะไรเท่าไหร่ มัวแต่เล่นกับไอ้เด็กลูกครึ่งเกาหลีหน้าตากวนตีนข้างบ้าน(ไอ้คิงครับ ไม่ใช่ใครอื่นเลย)


จนถึงวันที่ 5 ผมถึงถามมัมว่าเมื่อไหร่แม่จะกลับบ้าน?


มัมร้องไห้แล้วกอดผม เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ผมเห็นคนเข้มแข็งอย่างมัมร้องไห้ วันที่สามีของมัมเสีย มัมไม่ไม่น้ำตาสักหยด น่าแปลกที่ตอนนั้นผมไม่รู้สึกเสียใจและไม่ได้ร้องไห้เลย


คงเป็นเพราะตอนนั้นผมคิดว่ามัมทำแทนผมไปแล้ว…


ผมไม่เคยมีแม่ ฉะนั้นการที่เขาจากไปจึงไม่ใช่เรื่องน่าเศร้า

 
ผมไม่เคยคาดหวัง ผมจึงไม่เสียใจ…


“ มัมจะทำอาหารเหรอ? ”


ผมถาม เห็นโต๊ะในครัวมีของสดวางอยู่ ตอนนี้เวลา 11 โมงครึ่งพอดี ผมทิ้งตัวนั่งโซฟาเดี่ยว หยิบรีโมทเปิดทีวีดู เป็นช่อง BBC กำลังรายงานข่าวอยู่พอดี มัมคงเปิดค้างไว้ ผมกดเปลี่ยนช่อง หาหนังหรือไม่ก็ซีรี่ส์สนุกๆ ดูสักเรื่องสลับกับมองคิงและมานั่งจิ้มไอแพด


“ ฮืม ตอนแรกว่าจะทำ แต่เชากับคิงกลับมาพร้อมๆ กันแบบนี้ เราไปกินข้างนอกดีกว่า ”


“ กินแถวไหนอ่ะมัม ”


“ ไปกินร้านอาหารริมน้ำแถวปากเกร็ดกัน สั่งกุ้งเผาด้วย ดีมั้ยคิง ” มัมหันไปลูบหน้าลูบตาถามคิงลูกรัก


“ ดีครับ ”


มัมว่ายังไงคิงมันไม่เคยขัดอยู่แล้ว ลองเป็นคนอื่นสิ มันไม่แม้แต่จะฟังด้วยซ้ำ


“ แล้ววันนี้กลับมาค้างมั้ย หรือกลับตอนเย็น? ”


ผมมองหน้าคิงแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม


“ ผมยังไงก็ได้ แต่คิงบอกมันจะไปจตุจักรช่วงเย็นๆ ”


“ ซื้อเสื้อผ้าเหรอ? ” มัมถาม


“ เปล่าครับ ซื้อต้นไม้ ”


“ ฮื้อ! งั้นไปนี่ดีกว่า ต้นไม้ถูกกว่ากันเยอะเลย ”


ด้วยเหตุดังนั้นเองเราจึงจะไปซื้อต้นไม้ที่นั่นแทนที่จะเป็นจตุจักร เพราะผมตามใจคิง ส่วนไอ้คิงตามใจมัมอีกที…





กลายเป็นว่าที่คิงมันจะไปซื้อต้นไม้ตอนแรกเนี่ย มันจะไปซื้อให้มัมแล้วเอามาให้มัมที่บ้านเย็นนี้ แล้วผมกลับบ้านพอดี มันเลยถือโอกาสซะเลย วันนี้ทั้งวันผมจึงรับหน้าที่เป็นสารถีขับรถและถือถุงปุ๋ย ถือต้นไม้ และขนของให้ ชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองเป็นคนขับรถหรือลูกจริงๆ กันแน่


“ ตอนขามาขับรถเร็วขนาดนี้หรือเปล่าฮึเชา ”


“ ก็ปกตินะ ”


“ จริงเหรอ? ” เอ้า! ไม่เชื่อผมอีก “ จริงหรือเปล่าคิง ” คราวนี้หันไปถามลูกรักที่นั่งอยู่เบาะหลัง


“ จริงครับ เหยียบร้อยขึ้นเป็นปกติ ” อ้าวๆ ไหงมาพูดแบบนี้วะคิง ผมมองมันผ่านกระจงมองหลัง เห็นไอ้คิงส่งสายตากวนตีนกลับมา


“ เชา! ไม่ได้เลยนะไม่ได้!! ขี่มอเตอร์ไซค์ขับเร็วขนาดนั้นได้ยังไง ” มัมดุผมเสียงเข้ม หน้าจริงจัง “ ถ้าไม่เป็นห่วงตัวเองก็เป็นห่วงคนข้างหลังบ้างสิ! ”


“ โหยมัม.. ผมยื่นหมวกกันน็อคให้คิงใส่ก่อนเลย ไม่ต้องห่วงมันหรอก ”


ผมหัวเราะขณะที่พูดไปด้วย ส่วนมัมทำหน้าบึ้งกว่าเดิม


“ อ้าว..ไม่ขำเหรอ ”


“ ใช่เรื่องตลกเหรอเชา ”


“ ... ”


“ คิดถึงใจคนอื่นบ้างสิ ที่พูดที่เตือนเพราะเป็นห่วงเชานะ รู้ใช่มั้ย ” ผมเงียบและมัมก็พูดต่อไป “ ถ้าเชาหรือคิงเกิดอุบัติเหตุเป็นอะไรไปขึ้นมาจะทำยังไง? เราก็ต้องเจ็บตัว แล้วคิดว่าถ้าเราเจ็บ มัมจะไม่เจ็บด้วยเหรอ? ”


“ ครับ รู้แล้วๆ ” ผมถอนหายใจมองไปทางอื่นเล็กน้อย ก่อนจะลดความเร็วของรถลง


อะไรวะ... อยู่ดีๆ ก็โดนบ่นเฉย แค่ขับเร็วนิดหน่อย ถนนมันโล่งพอดีนี่หว่า ไม่เห็นต้องจริงจังขนาดนี้เลย…





ก่อนกลับบ้านผมแวะห้างฯ ให้มัมไปซื้อของสดเข้าบ้านกับคิงก่อน ส่วนตัวเองแยกไปหาที่สูบบุหรี่ให้อารมณ์ดีขึ้น แล้วค่อยกลับเข้าห้างซื้อกาแฟดื่ม นั่งรอคิงโทรฯ ตาม ระหว่างนั้นก็เล่นโทรศัพท์ไปด้วย โดนแท็กรูปเมื่อวานที่ไปกินเหล้ามาหลายรูปเลย
เฮ้ย.. คลิปที่ผมยุเพื่อนให้ถ่ายคนอื่นตอนเมามาแล้วว่ะ ปี 5 แม่งแท็กทุกคนแล้วโบ้ยบอกว่าผมเป็นต้นคิด คนที่โดนแกล้งมากสุดเป็นเด็กปี1 มันโดนมอมแล้วเข้าไปอ้วกในห้องน้ำหญิง อย่างเด็ด 555555 ผมพิมพ์ข้อความแซวในโพส สักพัก ปี4 แม่งโพสรูปที่ผมเมาอ้วกอยู่หน้าร้านบ้าง


อ้าว…. เหี้ยแล้วไง...


แล้วคิงโทรมาตอนผมกำลังจะโต้ตอบพวกมันไปพอดี


“ เสร็จแล้วเหรอ? ” ผมถาม แม่งเร็วว่ะ นึกว่าจะนานกว่านี้


“ อืม มึงอยู่ไหน ”


“ กินกาแฟอยู่ รอแปป เดี๋ยวไปหา ” พอผมพูดจบคิงมันตอบกลับมาแค่คำว่าอืม แล้วก็ตัดสายไป ผมยกกาแฟร้อนขึ้นดื่มจนหมดแก้วแล้วหยิบมือถือหย่อนกลับใส่กระเป๋ากางเกงเดินออกจากร้าน


คิงกับมัมยืนรอผมอยู่ เห็นมาถือถุงพลาสติกอยู่ในมือจึงยื่นมือไปถือให้โดยไม่พูดกับมัมสักคำ ตั้งแต่ในรถตอนนั้นผมก็ไม่ได้พูดกับมัมเลย อึดอัดนะ แต่ไม่พอใจว่ะ ผมกลับบ้านทีก็น่าจะพูดแต่เรื่องอะไรดีๆ ทำไมต้องบ่นกับเรื่องแค่ผมขับรถเร็วแค่นี้ด้วย


“ เชามึงสูบบุหรี่มาเหรอ ” ไอ้คิงชักสีหน้าไม่ชอบใจ


“ เปล่า! ”


“ เปล่าเหี้ยอะไร กลิ่นขนาดนี้! ” มันเริ่มขึ้นเสียงบ้างแล้ว มัมเลยจับแขนคิงเหมือนจะเตือนให้หยุด เห็นมั้ย! ขนาดมัมยังเตือนมึงเลย


“ กลิ่นติดมามั้ง คนข้างๆ กูแม่งสูบ ” ผมตอบปัดกลับไป ไม่พอใจเหมือนกัน


มันยอมหยุดแต่ยังมองผมตาขวาง เป็นเชี่ยไรของมึงเนี่ยคิง ปกติมึงก็สูบเหอะ ผมสงสัย แต่ไม่พูดออกมาเพราะมัมอยู่ตรงนี้ เขาอาจจะเสียใจได้ ถ้ารู้ว่าคิงลูกรักสูบบุหรี่ เหอะ!


“ เออๆๆ กูฉีดน้ำหอมให้แล้ว พอใจยัง ” มาถึงรถเอาของเก็บแล้วผมก็หยิบน้ำหอมโปโลแบล็กขวดเล็กแบบพกพาออกมาฉีด เดิมผมใช้รถคันนี้ก่อนที่มัมจะซื้อ Honda CBR250 ให้ ช่วงนั้นสูบบุหรี่จัดกว่าตอนนี้อีก พอคบกับน้องฟิวถึงได้ค่อยๆ ลดลงมาแล้วเลิกไปในที่สุด แต่ก็นั่นล่ะ..


ไอ้คิงมีท่าทางฮึดฮัด แต่ไม่ตอบโต้อะไรผมนอกจากการกระชากประตูรถปิดแรงๆ เชี่ย.. นิสัยเด็กว่ะ ผมส่ายหน้า เปิดประตูรถรัดเข็มขัดแล้วขับรถออกไป


“ คิงสรุปมึงเอาไง ค้างหรือไม่ค้าง ” ผมถามระหว่างทางกลับบ้าน มองหน้ามันผ่านกระจกมองหลังไปด้วย


“ กูค้าง มึงอยากกลับก็กลับไปก่อนเลย ” ประโยคหลังประชดประชัน


ผมกลอกตา หลังจากนั้น ผม, คิง และมัมก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกเลย




ผมนั่งมองคิงกับมัม ทั้งคู่อยู่ในครัว กำลังเตรียมอาหารเย็น โดยที่มัมเป็นคนจัดการและมีคิงคอยช่วย


น่าแปลกใจมากเพราะผมไม่เห็นเห็นคิงเข้าครัวพร้อมมัมมาก่อน


บ้านของคิงสนิทสนมกับมัมมาตั้งแต่ผมมาอยู่กับมาตอน 10 ขวบ อย่างที่บอกคือมันเป็นลูกนักวิจัยข้างบ้าน พ่อเกาหลี-อเมริกันคิงเป็นผอ.ศูนย์วิจัย ส่วนแม่ก็เป็นนักวิจัยคนไทย


เมื่อก่อน แบบตอนเด็กๆ เลย ผมคุยกับมันไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะพูดคนละภาษา


คิงพูดไทยน้อยมาก ส่วนใหญ่มันพูดแต่เกาหลี พูดอังกฤษนิดหน่อยแต่ไม่ค่อยแข็งแรง ขณะที่ผมพูดภาษาอังกฤษกับไทย มัมพยายามสอนภาษาฝรั่งเศสผมด้วย แต่ผมเกเรไม่ตั้งใจเรียนจึงลืมไปหมดแล้ว


ตอนนั้นรู้สึกว่าไอ้เด็กเกาหลีลูกนักวิจัย ‘ คิม ’ ข้างบ้านแม่งกวนตีน ทำหน้ามู่ทู่มองตาขวางตลอดเวลา แต่ก็ยังไปเล่นกับมันเสมอ
คิงมันชอบสอนภาษาเกาหลีแบบควายๆ ให้ผม เช่น บอกว่าให้เรียกมัมว่า ‘ อาจุมม่า ’ หรืออยากชมใครว่าฉลาดต้องพูดว่า ‘ พาโบล ’ ซึ่งจริงๆ แล้วแปลว่าโง่… รู้ได้ไง? ก็ผมไปพูดคำนี้กับเพื่อนเกาหลีที่โรงเรียนอีกคน (ตอนนั้นเรียนนานาชาติ) มันถลาเข้ามาจะต่อยผมทันที


กวนตีนมั้ยล่ะครับ ไอ้คิงน่ะ...


แต่จะกวนตีนหรืออะไร ผมรับได้ที่มันเป็นมันแบบนี้ อยู่กับมันมาเป็นสิบปี มันเป็นทั้งเพื่อนทั้งน้องชาย มีหมั่นไส้บ้างที่มัมเอาใจใส่มันมากกว่าผม แต่ก็ไม่เคยคิดโกรธจริงจัง


หลังจากพ่อและแม่จริงๆ ของคิงมันเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินตกตอนมันอายุ 14 มันนิ่งซึมไม่ทำอะไรเป็นเดือน ญาติเกาหลีจะมาเอามันไปอยู่อเมริกาแล้ว แต่มันไม่ไป ผมไม่รู้ว่ามัมทำยังไง สุดท้ายคิงมันก็อยู่กับเรา และเป็นลูกมัมอีกคน


เรามีกันอยู่แค่ 3 คน ผม มัม และคิง






---------------------------------------------------


ไม่แน่ใจว่าตอนนี้จะทำให้คนอ่านเปลี่ยนมุมมองต่อเชา-คิงไปบ้างรึเปล่า...
แต่นั่นล่ะค่ะ ที่สองคนมีนิสัยแย่ๆ ในเรื่องความสัมพันธ์เพราะทั้งคู่มีแผลในใจ เหวอะหวะทีเดียวในความคิดเรานะคะ ฮา แต่ถ้าถามว่าใครอาการหนักกว่ากันคงต้องบอกว่าเป็นเชา  :z6: 

ขออนุญาตตอบคุณ Freja นะคะ T T จริงๆ ฟิวไม่ใช่ตัวประกอบนะคะ น้องเป็นตัวดำเนินเรื่องคนนึงค่ะ เดี๋ยวน้องจะค่อยๆ มีบทบาทมากขึ้น(จากกระทู้พันทิปในตอนแรก)

พยายามให้ได้เห็นหลายๆ แง่มุมของทุกคนที่สุด


ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ  :pig4:  :pig4: :pig4:

ปล.ตอนแรกว่าจะไม่ดราม่ามาก.. แค่กรุบกริบพอ แต่ดูเหมือนว่าจะ...................  :a5:

ออฟไลน์ MimoreQ

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จนถึงตอนนี้เราก็ยัง #ทีมคิงเชา อยู่ตลอดกาลและนานเทอญ จะไม่แปรภักดิ์ค่ะ
แม้ว่าจะไม่ใช่อย่างที่หวัง  :o12:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ขอบคุณมากค่ะ ที่ตอบคำถาม ที่จริงเราแซงเล่นค่ะ  :o12: แต่แป๊กไปเลย

เข้าใจความแน่นแฟ้นของเชา-คิงมาหน่อยหนึ่งแล้ว
เรื่องแม่เขานี่เศร้าเลยนะ เพราะว่าไม่รู้จะบอกเด็กตอนนั้นว่าไง เคยเจอเด้กผู้ชายคนหนึ่งเหมือนกันที่แม่บอกว่าพ่อออกไปซื้อนมแล้วก็ไม่กลับมาเลย 7 ปีแล้วแทนที่จะบอกลูกดีๆก็ไม่บอกว่าพ่อแม่เลิกกัน

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เกลียดเชาเกลียดคิงอยู่ดี

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
เกลียดดด

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
เอาจริงๆ นะ อ่านมาถึงตอนนี้ รู้สึกสงสารฟิวอ่ะ ยิ่งได้อ่านพาร์ทฟิวแล้วด้วย

อยากให้ฟิวคิดได้ไวๆ ดูจากกระทำน่าจะรู้นะ เข้าใจว่ารักเชา..แต่ก็นะ อย่าทรมานตัวเองเลย



ส่วนเชากับคิง ก็พอเข้าใจ สนิทกันขนาดนี้ จะรู้สึกอะไรเกินเลย ก็ไม่แปลก แต่ก็นะ ยังไม่มีความเห็นสำหรับคู่นี้

ออฟไลน์ domeloly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-4
ทำใจอ่านไม่ได้ ที่พระเอกจะแสนเลวมีแฟน อยู่แล้วยังไปเอากับเพื่อน
ส่วนอีเพื่อนก็ไม่เลือก. ทุเรศทั้งคู่!!!

ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
บักเชา บักคิง  :m31: มันขึ้นนนนนน แต่ก็นะ ยังไงมันก็ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ ทั้งเชาทั้งคิงต่างก็ดูเป็นเพื่อนที่รักกันดี ความสันพันธ์ของตัวดำเนินเรื่องสามตัวจะเป็นอย่างไร ติดตามกันต่อไป เรื่องนี้ดราม่าหนักมากไหม? คงไม่มากใช่ไหมมมม ฮือออ สงสารหนูฟิวส์เหลือเกินนน เป็นกำลังใจให้น้าตัวเอง :katai3:

ออฟไลน์ greenk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 เราสงสารน้องฟิว เกลียดแมมทั้งสองคน

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ถ้าเป็นเรื่องอื่นคงอยู่ทีมรอเชียร์ เชา-คิง
แต่เรื่องนี้ขออยู่ทีมเชียร์ฟิวคนเดียวเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด