เฮ่นโหลว เอฟวรี่บอดี้! พยายามจะดัดจริตแต่คิดสำเนียงเสียงที่ต้องพูดไม่ออกเลยพิมพ์ไม่ถูก!
เอาเป็นว่าทักทายกัน พอดีเห็นเม้นจากคุณนักอ่านแฟนคลับเลยแวะอยากมาคุย ... เอาจริงๆ ไม่ใช่แต่ตะเองหรอกที่คาใจ ไอ้คนแต่งมันก็คาใจ! #จริตกะเทย #อินเนอร์ตุ๊ด #ความเบิกบานของชาวสีม่วง มันคืออะไร?! เอาเป็นว่าเดี๋ยววันนี้เราจะมาคุยกัน แต่ขอตอบเม้นก่อนน้า คนอะไรใส่ของแพงได้ลุคชีปมาก! ฉันใช้ของก๊อบยังดูแพงกว่าแกเรย!
ป้าก็เป็นเหมือนหนูแหละเรย์เอ๊ย เลยประหยัดเงินค่าแต่งตัวไปลงค่ากินหมด
อิพี่ป้องปากนางนี่บั่บว่า..........
เรย์มันไม่เมนท์สักนิดเลยเรื่องการแต่งสาวของอ้น ความรู้สึกมันบียอนด์ไปแล้วสินะ
เดี๋ยวนี้อ่านๆแล้วไม่ค่อยได้เมนท์ค่ะ มีอะไรให้ทำเยอะแยะมากจนอยากจะให้วันหนึ่งมีสัก 72 ชม. เปิดพรีอิพี่ป้อง-อินางน้อย + อ้นศรีกับเรย์ศักดิ์เมื่อไหร่เดี๋ยวเจอกันค่ะ ได้ข่าวว่าปลายปีสินะคะ
หวัดดีคุณพี่คร่า!
หนูก็ลุคชีปพอๆ กันแหละพี่ ฮ่าๆ เดินห้างนี่ไม่เคยมีใครยื่นอะไรให้เลย เสริมความงาม ประกันชีวิต บลาๆ ไม่มีใครสนใจ แบบเดินสบายอะพี่ คิดดูว่าสารรูปจนกรอบขนาดไหน ไร้กะตังค์สุดๆ
เคยมีคนบอกหนูว่า
"ไม่ใส่ใจเรื่องการแต่งตัวเพราะเขามีเงินในกระเป๋าเป็นฟ่อน" ในขณะเดียวกัน หลายคนติดหนี้บัตรเครดิตแดงเถือกเพื่อถอยแบรนด์เนมมาใส่อวดชาวบ้านว่า
"ฉันมีคอลเลกชันนี้แล้วนะ" หนูว่ามันต้องไปด้วยกันนะ ภาพลักษณ์ก็สำคัญแต่มันต้องไปพร้อมกับเงินในกระเป๋า อะไรที่ชอบก็เก็บตังค์ซื้อถือเป็นรางวัลชีวิตบ้างก็ดี แต่ไม่ใช่วิ่งตามต้องมีทุกอย่างให้ทันกระแส
แต่ที่เขียนแบบนั้นคือพยายามสื่อเรื่องรสนิยมของอ้นด้วยไงคะ ฮ่าๆ ประมาณว่าอ้นก็เหมือนคนทั่วๆ ไปที่ใฝ่ฝันถึงความหรูหราลักซ์ชัวรี่ไลฟ์นั่นแหละ สนใจสไตล์และแฟชั่นต่างๆ ตามประสาสาวสีชมพู นางรสนิยมสูงพอสมควรนะ เหอๆ แต่พอมาเจอเรย์ที่แบบว่า... ทรัพยากรพร้อมแต่ไม่แคร์เลยอาจจะนึกดูถูกเล็กๆ คืออ้นไม่มีกะตังค์สารร่างก็ใช่ว่าจะดีแต่เค้าขวนขวายอยากมีอยากดูดีขึ้นไง ทว่าเรย์หน้าตาก็ดีเงินก็มี แต่! นั่นแหละอย่างที่เห็น อ้นคงรู้สึกเสียของอะ
มันมีจุดเล็กๆ มาตั้งแต่ภาคแรกแล้วที่ป้องชอบแขวะว่า "อ้นใช้กระเป๋าก๊อบ" แต่ตอนนี้แลดูนางจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย งี้แหละพอคนเราทำงานแล้วก็รู้ซึ้งว่าเงินมันไม่ได้หาได้ง่ายๆ หรือบางทีอาจจะเป็นที่สังคม อยู่ในกลุ่มเพื่อนแบบไหน สังคมที่ทำงานเป็นยังไง? หรืออ้นอาจไปเจออะไรมา? ทัศนคตินางเลยเปลี่ยนไป
เอ... ว่าแต่นางฝึกงานกับป้องนะ เคยเจอ "แจน" ด้วยสิ ป้องยังอยู่ที่เดิม ส่วนอ้นหางานที่ใหม่ อืม... ตุ๊ดผู้เบิกบานเจอกับชะนีเหนือเมฆอย่างแจน หนูว่าอ้นคงกัดปากเล็กๆ แหละ คงรู้สึกสู้ไม่ได้นิดๆ เดิมทีอ้นก็ไม่ได้เก่งอะไรอยู่แล้วแต่ขอตามไปฝึกตามๆ ป้อง ตอนฝึกงานมันอาจจะทำได้แต่พอถึงเวลาทำงานเค้าก็คงเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุด อ้นคงไม่อยากอยู่ให้แจนข่มหร้อก ละอ้นคงไม่กล้าบังคับป้องว่าให้หางานที่อื่นทำอะไรแบบนั้นด้วยถึงจะรู้ว่าแจนเล็งป้องก็เหอะ เหอๆ
สำหรับการพัฒนาของพี่ป้องนี่ต้องรอภาคสองจริงๆ แต่บอกได้เลยถ้าไม่ใช่เพราะอ้น อีนางน้อยก็คงไม่บุญหล่นทับหรอก คือพี่ป้องเกรียนเหมือนเดิมแต่อ่อนโยนขึ้นเยอะ อาจจะเพราะความเป็นสาวของอ้นช่วยขัดเกลาพี่ป้องให้นุ่มนวลกับคนอื่นขึ้นด้วย เติ้ลควรกราบขอบคุณอ้นอะในความรู้สึกหนู
สำหรับเรย์ ผู้ที่เห็นตัวตนของอ้นมาตั้งแต่ตอนที่ยังแอ๊บแมนจนสาวแตกแกรนด์ออกสื่อกับชาวแก๊ง และคำถามที่นางถามตอนแรกสุดว่าอ้นเป็นอะไรกันแน่? หนูว่าเรย์มันคงตัดสินตั้งแต่ตอนนั้นแล้วล่ะ เพราะหลังจากนั้นมันก็เดินหน้าของมันมาตลอดนะ ในแบบแมวๆ อะนะคะ ฮ่าๆ
ป.ล. เรื่องหนังสือยังมิแน่ใจค่า ฮ่าๆ เอาไว้เดี๋ยวเร็วๆ นี้คงแจ้งข่าวการตัดสินใจในเฟซอีกทีค่ะ
สนุกสิค่ะมารอตอนต่อไปแอบเล่นที่ทำงาน
ขอบคุณค่า
แวะมาบ่อยๆ น้าตะเอง คิดถึง
เย้ๆๆๆๆๆมาต่อแล้ว ชอบมากเลยน้องอ้นของช้านนนนน
ดีใจที่มีคนชอบอ้น
อาจจะเป็นนางเอกที่แปลกไปซักหน่อย แต่จะพยายามเขียนให้น่ารักอ่านแล้วไม่ขัดใจรู้สึกคาแรคเตอร์สะดุดค่า ภาคแรกนี่โผล่มาอย่างกับเป็นนางร้ายจกแมมมอธอีพี่ป้อง ภาคหลังได้เป็นนางเอกสมใจ ฮ่าๆ
แอบสงสารนางนิดๆแล้วผู้นางนี่เอาแต่ใจ
แถมไม่สนใจไม่แคร์คนอื่นนอกจากตัวเอง
แต่ดีหน่อยนางใส่ใจคนที่นางสนใจกว่า
คนอื่นทั่วไปโอ้ยยยยงงกะตัวเองนี่บรรยาย
ได้แบบไม่รู้เรื่องเลย
ขอบคุณตอนใหม่คร้าาา
รอดูความแสบของเรย์ ขึ้นชื่อว่ากลุ่มเดียวกับพวกแก๊งสาม(จุดห้า)เกรียน คือไม่มีทางเรียบร้อยอ่ะ เผลอๆเรย์นี่แหละของแรงสุดในกลุ่ม เหอๆ เรย์ขึ้นทีพี่เทพก็มีหงออะ (ฉากเทพคุยไลน์กับดาวแล้วโดนเมฆแกล้ง เสียงมันดังเรย์เลยตวาด) เหอๆ สปอยว่าเรย์เกลียดสตาร์มากกกก ในขณะที่ทุกคนเรียก "พี่สตาร์" มีเรย์คนเดียวที่เรียกว่า "ไอ้สตาร์" ขึ้น "มึง-กู" กับพี่ตา พิจารณาความอินดี้ของนางละกัน คิกๆ
แต่รับรองความแซ่บแน่นอน อ้นฝากบอกว่าหนอนน้อยสีชมพูแซ่บพอฟัดพอเหวี่ยงกับแมมมอธเลยค่า ฮ่าๆ รอลุ้นฉากแปลกๆ ได้เลยค่ะ คู่นี้แต่งเบาๆ ใสๆ น่ารัก ไม่ค่อยเรต (ไปเรตในตอนพิเศษโลด!)
นางอินดี้ ขี้อ้อน และขี้งอนมาก แต่เดี๋ยวรอดูความมุ้งมิ้งของนางได้เลย อิๆ
ยาวสะใจเลย ว่าด้วยเรื่องของเรย์ ทั้งสงสารทั้งสมน้ำหน้านางนะ แค่ก็อย่างว่านางเป็นแบบนั้นเองให้ฝืนใจทำดีๆก็ไม่น่าจะไหว จริงๆถ้าหากว่าครอบครัวนางปล่อยให้นางทำในสิ่งที่ชอบนี่จะเป็นการดีที่สุด รักมาก ห่วงมาก ก็เลยล้อมกรอบให้มาก ถ้าหากว่าที่บ้านปล่อยเรย์บ้าง เรย์ก็อาจจะ relax มากกว่านี้ มาเจออ้นศรีแล้วเลยช้ำเอา
อีกคนที่เสียงคุ้นๆที่ทำกิจกรรมอมยิ้มในห้องน้ำหวังว่าจะไม่ใช่พี่โจมนะ อ้นศรีมีจิตตกแน่ๆ
อ่านถึงตอนบรรยายอาซิ้มแม่เรย์แล้วจี้ใจดำค่ะ รู้สึกเหมือนมองกระจกเงาชอบกล 5555
เดี๋ยวจะรู้ว่าทำไมที่บ้านห่วงนางค่ะ ฮ่าๆ นางปัญหา(ส่วนตัว)เยอะมาตั้งแต่เด็ก
โอ๊ย! นี่อยากสปอยมาก! แต่หนูเคยเล่าย่อๆ ตอนปรึกษาละเนอะ อย่างที่บอกพี่แหละค่ะ คาแรคเตอร์เรย์เขียนยากมากกกกก
อันที่จริงเรื่องว่านางเป็นแคสเตอร์หรืออะไรคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ ประเด็นหลักๆ คงเป็นเรื่องนิสัยนางนั่นแหละ เรย์เหมือนอัจฉริยะที่ทำได้ทุกอย่าง (ฉากเปิดห้องคอลเลกชันนางจะเฉลยว่าเรย์ทำงานอดิเรกหลากหลายมาก) คว้าอันดับสองมาได้ก็คงไม่โง่! (แต่เดี๋ยวจะมีคำพูดของพีมาย้ำความอินดี้และความเก่งกาจของนางในพาร์ทหลังอีกค่ะ) แต่นิสัยนั่นแหละปัญหา
อารมณ์แบบพี่ๆ ช่วยกันเลี้ยง คงได้ตามเวรตามกรรม พี่ๆ ก็ยังวัยรุ่นกันด้วยคงไม่เหมือนพ่อแม่ปลูกฝัง โตมาในครอบครัวที่มีหลายวัฒนธรรม ลูกครึ่ง เด็กนานาชาติ แต่ดันเป็นชาติที่ภาษาอังกฤษในครอบครัวแปลกๆ ไปโรงเรียนก็อาจจะโดนล้อหรือปรับตัวยากบ้าง ตัวเองก็ไฮเปอร์อยู่แล้ว มันอาจเป็นอะไรสักอย่างที่ทำให้เรย์สร้างกำแพงหนาหรือกลายเป็นเด็กแปลกๆ แล้วก็เรื่องช่วงวัยรุ่น (เนื้อหาอยู่ในตอนพิเศษ)
เรย์นี่แรงนะ นิสัยอวดดี เวลาอยู่กับสามเกรียนจะเห็นเลยว่าแรงมาก ผิดกับเวลาอยู่กับอ้นที่ลดลงมาหน่อย คือบางทีถ้าเรย์ไม่ได้เจอเทพที่ค่อนข้างจะง่ายๆ easy going ไม่คิดมาก แล้วก็ค่อนข้างจะอบอุ่นรักเพื่อน บางทีเรย์อาจจะไม่มีที่ให้เกาะแล้วไม่มีโอกาสปรับตัว สภาพนี้คือนางปรับแล้ว! ในพาร์ทหลังมีฉากที่เรย์กับเติ้ลเข้าด้วยกัน มีการพูดถึงสมัยเรียน (สองคนนี้รุ่นพี่รุ่นน้องกันนะคร้า!) คืออารมณ์แบบเกย์ง๊องแง๊งอย่างเติ้ล(ที่มีตอนที่เติ้ลทะเลาะงอนเพื่อน เติ้ลก็คงได้พีดึงไว้เหมือนกัน) และ รุ่นพี่อินดี้แบบเรย์ คนที่ประสานก็น่าจะพี ซึ่งมีบุคลิกสบายๆ แบบที่ใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้ อยากคบเป็นเพื่อน
หนูดีไซน์ตัวละครสนุกม๊ากกกก เครียดแทบอ้วกกว่าจะมองคาแรคเตอร์ที่ตัวเองสร้างได้ทะลุปรุโปร่ง เนื้อเรื่องอาจจะเล่าแค่ 10 แต่หนูต้องคิดและเห็นภาพหลักร้อยเพื่อเอามาเขียน เหอๆ
คนที่เล่นอมยิ้มในห้องน้ำมีเฉลยแน่นอนค่า พี่โจมก็มีเฉลยเหมือนกัน ปมพี่โจม ปมของแทน เดี๋ยวมีแน่นอน ต้องรออ่านนะคะ ฮ่าๆ ถึงทุกคนจะรู้ว่าเรย์เป็นพระเอกก็เถอะ แต่เชื่อว่าเดี๋ยวหลายคนจะเชียร์พี่โจม ถ้าอยากรู้ว่าทำไม ยังไง? หัวใจของอ้นรู้สึกอย่างไรกันแน่? ต้องรออ่าน เพราะมันเกี่ยวกับการเห็นคุณค่าในตัวเองของอ้นด้วย มันอาจจะบอกเราก็ได้ว่า เหตุผลที่คนรักกันคืออะไร? ตกหลุมรัก? รักแบบค่อยๆเพิ่มขึ้นทุกวัน? มันต้องมี๊! ฮ่าๆ
*พล่ามได้เพราะเขียนเนื้อหาส่วนนั้นเสร็จแย้ว!
ป.ล. ถึงจะเป็นอาซิ้มก็ซิ้มอินเตอร์นะคะ แม่แต่งหน้า แต่งตัว ฉีดน้ำหอมนะเออ!
อยู่ในจุดที่ว่าชอบอ่านคนเขียนเม้าท์มอยตอนจบตอนพอๆกับการอ่านเนื้อเรื่อง ทั้งอ้นทั้งเรย์ก็มีปัญหาของตัวเองที่ต้องเอามาปรับมาจูนเข้ามากันเนอะ รอลุ้นเป็นกำลังใจให้คู่นี้เสมอค่ะ
ดีใจจังมีคนชอบอ่านอะไรไร้สาระ
จริงๆ เคยแอบคิดนะ ว่า ... ที่คนอ่านนิยายเราเค้าไม่เม้นกันเป็นเพราะเราพูดมากรึเปล่า?
คือบางทีก็รู้สึกเหมือน "คนอ่านเกลียดAzurICE" รู้ว่าคาแรคเตอร์ตัวเองที่แสดงออกในเล้าเป็ดคือ
1พูดมาก 2เกรียน แต่พอเริ่มทำหนังสือ ด้วยความที่เป็นคนตรงๆ เวลาเจออะไรจากลูกค้านักอ่านที่ไม่ค่อยน่ารักแล้วรู้สึกไม่โอเคก็เอามาพูดกันตรงๆ ก็จะบ่นๆพล่ามๆลงหน้าเพจไป ก็ไม่ถึงกับด่าทออะไรหรอกนะคะ แต่คนคงสัมผัสได้ว่าเราบู๊ใช่ย่อย คนก็จะมองว่า
3เราอินดี้!(ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแรงปากตลาดอะไรแบบนั้นนะคะ แต่หมายถึงว่าเราไม่ค่อยอดทนยอมโดนคนอื่นเอาเปรียบอยู่เฉยๆ เรามักจะทักท้วงกันตรงๆ)
รู้สึกว่าคนน่าจะเก็บเอาเราไปด่าเยอะ ไม่ใช่นักเขียนที่คนอ่านรัก ไม่มีติ่งคอยอวยหรือโอ๋แบบ
"นักเขียนของฉันสุดยอดที่สุด ใครห้ามแตะนะ!" แต่ในแง่ชื่นชม หรือชอบนิยาย เราก็คิดในใจนะว่ามันคงมีแฟนนักอ่านส่วนนึงแหละ เพราะยอดวิวนิยายก็ขึ้นอยู่เรื่อยๆ คงมีคนเข้ามาอ่านบ้าง แต่อาจจะเพราะคาแรคเตอร์ของเราทำให้ไม่มีคนอยากเข้าใกล้ คือรู้สึกตัวเองไม่มีพลังหรือสามารถทำให้คนอ่านเอ็นดูอยากเข้ามาพูดคุยได้อ่ะ
โอเค บางคนอาจจะอ่านโดยไม่มีไอดีเล้า เลยไม่เม้น บางคนขี้เกียจล็อกอิน หรือนิยายที่อัพไม่สามารถทำให้คนที่อ่านกรีดร้องอยากเม้นพูดคุยได้ หรือแม้แต่บุคลิกของเราเองทำให้คนอ่านถอยห่าง ตามอ่านอย่างเดียว เรารู้สึกแบบนั้นนะ แต่เราก็ยังเลือกจะพล่าม! ฮ่าๆ
ถามว่าท้อมั้ย? ท้อดิ! โคตรท้อเล้ย! แต่เราชอบเขียนนิยาย ถ้าเราอยากเขียน เราก็ห้ามหยุดเขียน ต้องพัฒนาตัวเองจนกว่าจะมีคนชอบผลงานของเราแล้วอยากมาพูดคุยกับเรา นั้นคือการสู้ในส่วนของการพัฒนาผลงาน ส่วนในแง่ของการปรับปรุงบุคลิกภาพ เราเลือกที่จะเงียบ แอ๊บ หรือใช้โมเดลคาแรคเตอร์แบบอื่นได้ แต่ถ้าเราทำแบบนั้นมันก็ไม่ใช่ตัวเรา เราก็ไม่ได้คุยกับคนอ่าน ดังนั้นเราเลยพูดมากต่อไป เพราะเราเขียนนิยายเพื่อถ่ายทอดทัศนคติตั้งแต่แรกอยู่แล้ว การมีคนเข้ามาอ่านมีคนรับรู้คือประสบความสำเร็จละ เป้าหมายเราคือมีคนอ่านนิยายเราแล้วชอบ ง่ายๆ แค่นี้แหละ
ดังนั้น สิ่งที่คุณ phrase พูดนี่คือโคตรของโคตรกำลังใจเลยค่ะ ฮ่าๆ ซึ้งมากจริงๆ สวัสดีครับ เคยอ่านภาคแรก เรื่องของป้องเติ้ลไป แล้วไม่คิดว่าจะมีภาคต่อของเรย์อ้น ก็เลยเพิ่งจะได้มีโอกาสตามอ่านจนถึงล่าสุด
พออ่านรัวๆ วางไม่ลง ก็จำไม่ได้แล้วว่าจะเมนท์อะไรบ้างในแต่ละตอน..
แต่อยากบอกว่าคนเขียนเก่งมากนะครับ แถมใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ
คอยอธิบายเรื่องราวนู่นนี่กับคนอ่านตลอด และพูดยาวจริงๆ ชอบตรงนี้ครับ
(เรื่องความหมายของชื่อคือดีจริงๆ ชอบเวลาได้อ่านนิยายที่นักเขียนคอยใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ
อย่างเรื่องชื่อ แล้วหยิบเอามาเป็นประเด็นในเรื่อง เป็นมุกเล็กๆ อะไรแบบนี้ ถึงคุณจะไม่ได้แพลนไว้แต่แรก แต่หาทางไปต่อได้นี่ก็เยี่ยมจริงๆ)
เราว่าที่คุณตัดสินใจเรื่องพล็อต เรื่องนิสัยตัวละคร การกระทำต่างๆ แล้วเขียนออกมาแบบนี้
คือดีแล้ว เราชอบ ทำต่อไปเลยครับ เราว่ามันดูมีเหตุผลของมันดีแล้ว
เรย์เป็นตัวละครที่น่ารักจริงๆ กวนส้นแบบไม่ตั้งใจด้วยหรือเปล่านะ 555
เลยทำให้น่าหมั่นไส้ไปพร้อมกันเลยด้วย ความมึน ความเป็นน้องน้อยนี่นะ
อ้นก็ใสซื่อ เราก็ไม่เข้าใจจริตของตุ๊ดเหมือนกัน ก็ไม่รู้ว่าอย่างอ้นที่คุณเขียนนี้มีความเป็นตุ๊ดแค่ไหน
แต่เราว่าคนเรามันก็มีหลายนิสัย อย่างอ้นยกให้เป็นคนสวยน่ารักนิสัยดีละกัน
เรื่องความไม่มั่นใจในตัวเองของอ้นนี่ก็ได้แต่รอให้ใครมาทำให้มั่นใจมากขึ้นนะ เป็นตุ๊ดก็ไม่ได้ด้อยกว่าคนอื่นหรอก
เวลาอ้นอยู่กับเรย์ ดูแล้วอ้นไม่ค่อยมีสติวิเคราะห์พิจารณาอะไรเท่าไหร่ เหมือนโดนเรย์คอยปั่นให้มึนเมาตลอดเวลา
นี่ก็พลาดตกลงไปในหลุมที่เรย์ขุดไว้แล้ว กว่าจะรู้ตัวหลุมก็ลึกจนปีนหนีไปไหนไม่ได้แล้วเนอะ
เราไม่เคยอ่านเรื่องอื่นของคุณ แต่จะรอติดตามเรื่องนี้ และผลงานเรื่องต่อๆ ไปนะครับ
..อาจจะไปตามอ่านผลงานเก่าด้วย
ปล. ชอบฉากที่มีป้องกับอ้นอยู่ด้วยกัน เหมือนกับพี่ชายและน้องสาวจริงๆ น่ารัก
ไว้ป้องพาอ้นไปเที่ยวที่บ้านบ้างนะ แนะนำให้รู้จักกับฝั่งเติ้ลบ้าง อะไรแบบนี้ น่าจะสนุกดี
ปล.2 แต่มองอีกมุม ป้องกับอ้นนี่ก็เหมือนลูกชายกับแม่นะ ยกให้เป็นคุณแม่ละกัน คนสวย
กรี๊ด ขอบคุณค่า
#กราบขอบพระคุณสำหรับคำชม
อ่านละอมยิ้มเลยค่ะ จริงๆ เราแอบวาดภาพไว้ว่าอ้นเป็น "ชิวาว่าน้อย" ตัวสั่นหงึกๆ(อ้นตัวเล็ก) ตาโตๆ(นางชอบจิกตา) แล้วก็เห่าแบ๊กๆ นะคะ ฮ่าๆ คือเข้ากะความเวิ่นเว้อเล่นใหญ่ของอ้นดี ส่วนเรย์ก็เป็นแมวดำเอาแต่ใจ คือมันใช่เลยอะ!
บางทีที่อ้นดูไม่ค่อยมีสติเวลาอยู่กับเรย์เพราะยังไม่ได้ "เปิดใจ" ต่อกันก็ได้มั้งคะ คือแบบมันใช่นะ นางตามไปถึงที่บ้านเรย์ แต่คือนาง "เห็น" อย่างเดียวแต่ยังไม่รับเข้ามาใจใน ผิดกับเรย์ที่แบบแลดูจะแคร์เปิดใจให้อ้นมาก แต่ด้วยปมส่วนตัวนางๆ ก็จะมีวิธีแสดงออกขาดๆ เกินๆ แม้แต่เพื่อนยังดักคอเรย์ว่า "น้อยใจอีกแล้ว" แปลว่าที่ผ่านมาเรย์คงอินดี้มิใช่น้อย ฉากแรกๆ ที่เรย์แว่นแตกแล้วโทรหาเมฆ คือนั่นแหละบอกตัวตนของเรย์ "ถ้าไอมีธุระแล้วยูต้องสนใจไอนะ" มันเป็นอะไรที่แบบ...! เอาตรงๆ ใครอยู่กับคนแบบนี้ก็เพลียอะ!
เรย์ก็คงรู้ตัวแหละว่าคนอื่นเค้าไม่ชอบ แต่นางสตรอง! ใครไม่ชอบเรย์ก็ไม่สน ไม่มีกลุ่มเข้าไม่ใช่ปัญหาอยู่คนเดียวได้ คือถ้าเพื่อนไม่ตามใจแล้วเรย์ก็ไม่เอาเพื่อน กลายเป็นปมเล็กๆ ในใจ พอมาเจออ้น ด้วยความเป็นแม่พระของนาง โดนเกาะหนึบเลยสิคะ เหมือนที่พี่ชายเรย์พูดไว้นั่นแหละ "อย่าตามใจเรย์มาก" คือเรย์ได้ใจแล้วไง เพราะอ้นใจดีเกิน หรืออาจจะเป็นปมของอ้นเอง? ฮ่าๆ!
แต่เราก็คำนึงถึงปมตรงนี้ของเรย์ด้วยแหละ ดังนั้นเรย์ก็จะมีพัฒนาการเรื่องนี้แน่นอน ประมาณพาร์ตแรกเป็นปมของอ้น พาร์ตสองจะเป็นเรื่องของเรย์เป็นหลัก และมีทุกคนมาแจม
ฉากป้องกับอ้นอีกมีแน่นอนค่ะ! มีเยอะมากๆ ด้วย ป้องยังมีเรื่องทำให้อ้นหวั่นไหวได้อีกหลายฉาก!
เราก็ชอบเขียนสองคนนี้อยู่ด้วยกันนะ ในภาคแรก "ตูดผมไม่ฟิตจริงเหรอพี่?" เวลาป้องอยู่กับเติ้ลมีความปากดีมาก งานกวนตีนปากแข็งต้องมา รักเค้าแต่ไม่กล้าพูด ดราม่ากันไปอี๊ก! แต่พอมาเป็นป้องที่เป็นตัวตนจริงๆ แบบที่อ้นหลง ผู้ชายที่เป็นแฟนตุ๊ดแล้วเทคแคร์กันดี๊ดีจนชะนีอยากแย่งถึงขั้นมดลูกสั่น! (อารมณ์แบบอ้นก็อวดผัวควงป้องหวานออกสื่อในที่ฝึกงาน แจนเลยอยากได้) นางทนคบผู้หญิงที่นางไม่ได้รักเป็นปีๆ แจนสั่งให้ปรับลุคนางก็ยอม คือแลแล้วป้องก็มีความอ่อนโยนในระดับหนึ่ง แต่พอมาปะทะกับเติ้ล "อีเด็กเปรตเอาแต่ใจ" มันส์แบบบ้านๆ กันเลยทีเดียว ในพาร์ตสอง (พาร์ต #ไม่ปรุง หลังจาก พาร์ต #ไม่กินเส้น) เราทุกคนจะได้เห็นพี่ป้องกับเติ้ลกลับมาแน่นอน คือพวกเราจะได้ดูกันว่าอีคู่นี้พอมาใช้ชีวิตคู่รักเกย์กันแล้วจะเป็นยังไง ใครคุม?
แต่จะบอกว่า อ้นกับเติ้ลก็เคยเจอกันแล้วนะคะ ฉาก "แหนมเนือง" นั่นไง เติ้ลกับอ้นทำท่าจะฟาดปากกันอยู่นะ ฮ่าๆ ต้องมาลุ้นในพาร์ตหลังอะ รับรองแซ่บ เติ้ลฝากบอกว่า "ผัวใครๆ ก็หวง"
เกี่ยวกับจริตตุ๊ดนี่ขออธิบายตอนท้ายนะคะ แต่ใช่เลย อ้นก็มั่นหน้าภูมิใจในความเป็นตุ๊ดของตัวเองอยู่นะ แต่ลึกๆแล้วความเป็นผู้หญิงของอ้นมันก็... หึๆ อันนี้เก็บไว้เป็นปมในพาร์ตต่อไปล่ะ ฮ่าๆ ต้องรออ่าน
สวยเลือกได้นะ อ้น นายน่ะ ลูกครึ่งนะลูกครึ่ง
ใครบอกอ้นสวย? ม่ายเลย นางไม่สวย เทียบกะเทยที่เป็นเน็ตไอดอลยังไม่ได้เลยค่า แต่นางแซ่บ!
เดี๋ยวชีวิตนางจะน่าอิจฉากว่านี้อี๊ก ลูกครึ่ง(ก็แค่ครึ่งเจ๊กอินเตอร์) หล่อ(ดูดีเพราะตัวขาว) รวย(มีเงินเพราะสมบัติพ่อแม่) แซ่บ(ยุคนี้แค่ไม่สาวแตกก็นับว่าแซ่บแล้ว) รักเดียวใจเดียว(อันที่จริงเป็นเพราะมันไม่มีคนคบ!) ชีวิตอ้นจะซินเดอเรลล่ามากๆ ค่ะ
ดวงผู้ชายนางมาแรง หมอดูทำนายไว้ เหอๆ แต่ถ้าเลือกพลาดก็รักซ้อนซ่อนเงื่อนเลยนะ!
##เราลงไว้ในเพจตัวเองแล้ว ขอยกเอามาลงซ้ำอีกรอบ เพื่อความกระจ่างโดยทั่วกัน##
... #วันนี้เห็นประเด็นนึงที่มีคนทักมา ... #อินเนอร์ตุ๊ด #จริตกะเทย ที่เราเคยบ่นบ่อยๆ ในนิยายเป็นยังไง?
... คือจะบอกว่า #อ้นเรย์ เราแต่งจบแล้ว มี2พาร์ท #ไม่กินเส้น กับ #ไม่ปรุง และก็ตอนพิเศษ(ค่อนข้างเยอะ) ซึ่งในตอนที่เราแต่งจะมีเรื่องอาชีพ งาน และภาษา รวมถึงรายละเอียดบางอย่างที่เรากลัวไม่เป๊ะเลยส่งให้เพื่อนอ่านตรวจทานอีกที
เพื่อนเราเคยทักมาว่า คาแรคเตอร์ "อ้น" ในพาร์ท #ไม่ปรุง มันขาดจริตกะเทย ไม่มีอินเนอร์ความเป็นตุ๊ดพอ ปมต่างๆ ยังน้อยไป ไอ้เราก็เครียดนะ คือรู้เลยว่าภาษาที่อ้นใช้ขาดสีสันแบบตุ๊ด
ถามว่าปกติพูดหยาบมั้ย? คือเราก็มีหยาบๆ เถื่อนๆ บ้าง แต่มันไม่ใช่จริตตุ๊ดไง เราจะปากเสียคล้ายๆ ป้องมากกว่า แต่เราก็คิดนะว่าอยากให้อ้นออกมาน่ารัก ไม่อยากให้แรงมากเกินไปจนทำลายความหวานของนาง ไอ้ประเภท "เอดอก" แรงๆ อะไรแบบนั้น คือเรารู้สึกว่าถ้าเราใส่ลงไปเราจะได้ความเรียลของตุ๊ด แต่อ้นจะไม่น่ารัก ต้องเข้าใจว่าอ้นมาสายตุ๊ดนางไม่ใช่สายกะเทย(สวยและเรียบร้อยมาตั้งแต่แรก)
*นึกเนื้อเรื่องในภาค1 #ไม่ฟิต ออกกันมั้ยเอ่ย? ที่ป้องเล่าว่าอ้นหลั่นล้ามั่นหน้าภูมิใจในความเป็นตุ๊ดของตัวเอง ตุ๊ดแอ๊บแมนที่ความแตกเพราะแอบส่องแมมมอธเพื่อนตอนหลับ อ้นเปิดตัวแบบนี้นะ! นางจะมาแอ๊บเป็นสายสวยเรียบร้อยก็ไม่ได้ละ นางก็เลือกไปกับกลุ่มพวกตัวแม่ทำตัวไม่แคร์สื่อไปวันๆ นางต้องแรง มันต้องมีพฤติกรรมหรือคำพูด ความคิด ทัศนคติและค่านิยมบางอย่างติดมาบ้าง แต่เนื้อแท้ตัวตนจริงๆ ของอ้นล่ะ? อันนี้เราก็เก็บมาใส่ในเรื่องเหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละ ไอ้ความเป็นตุ๊ดของอ้นนั่นแหละที่เราขาด และเพื่อนติมา ฮ่าๆ
ทีนี้ความเป็นตุ๊ดคืออะไร? #อินเนอร์ตุ๊ด? #จริตกะเทย?
พอดีหาข้อมูลคลิปแห่นาคกับพวกงานบวช ไปเจอคลิปสาวๆกลุ่มนึงเลยคิดว่าน่าจะอธิบายได้ดี เลยขออนุญาตเอามาให้ชมกัน เหอๆ มันเป็นตัวอย่างที่เราเลือกมาสะท้อนแง่มุมต่างๆ ของเพศที่สามในไทย ซึ่งเราเอามาใช้เป็นวัตถุดิบในการเขียนนิยายอีกที (*ไม่ได้บอกว่าอ้นเป็นแบบนี้นะ!)
อนึ่ง เราไม่ขอตัดสินนะว่าแบบที่เอามาให้ดูมันดีหรือไม่ดี เราเชื่อว่าคนเราทุกคนมีคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นคนเท่ากัน ถามว่าเราฮาคลิปมั้ย เราฮา แต่ถ้าไปถามตุ๊ดหรือกะเทยมีปมบางคนอาจจะไม่พอใจก็ได้ว่าเอาเพศเค้ามาล้อเลียน หรือดูถูกเพศเค้าในเชิงตลกขบขัน แต่ถ้ามีคนมาโวยวายทำอะไรแบบบางคลิปในที่สาธารณะใกล้ๆ เราๆ อาจจะคิดในใจก็ได้ว่า "อะไรของมันวะ?"
เริ่มด้วยสาวๆกลุ่มนี้กับคำด่าที่กระเทยเกลียด
http://www.youtube.com/v/B5yolDpl3Dc
มีความแรง ความเป็นตัวแม่ ชัดเจน จุดสำคัญให้สังเกตในแง่ของภาษา การครีเอทคำด่าแบบกะเทย จุดนี้ในนิยายเราขาดชัดเจน!
และคลิปนี้
http://www.youtube.com/v/dKwFf8KPOeQ
นี่คือแอคติ้ง! จริตการจิกหน้าชม้ายสายตาส่งค้อน! อ้นอาจจะเล่นใหญ่แนวๆ ลอยหน้าลอยตาประมาณนี้ละมั้ง
และสุดท้าย กะเทย ในแบบที่เราๆ คุ้นกันดี
http://www.youtube.com/v/xg9KbLC80y0
ป.ล. เจ๊เต๋า บางปู อันนี้ฮามาก เกือบจะเชื่อละว่าเป็นผู้ชายถ้าตูดเจ๊ไม่บิด บางทีนี้อาจเป็นตัวอย่างของ "ผมว่าผมแมนนะ ไม่สาวมาก" แบบที่สาวรับ(?)หลายๆ คนคิดก็ได้
http://www.youtube.com/v/prKBIE6JeDw
กะเทยบางทีก็มีอะไรที่ #เกินหญิง ในขณะเดียวกันผู้หญิงบางคนก็มีจริตและอะไรบางอย่างที่คล้ายกะเทย มีคนบอกว่าอารมณ์ประมาณ แพท ณปภา คือนางเฮฮาหลั่นล้าแบบผู้หญิงที่อยู่ในกลุ่มของเพศที่สาม คำพูดคำจามือไม้ท่าทางการวางตัวมันติดมา
ซึ่งมันจะมีปมที่กะเทยเกลียดชะนีด้วย คืออยากเป็นผู้หญิงแต่เกลียดผู้หญิงแท้ๆ อยู่แต่กับกลุ่มของเพศที่สามด้วยกัน มันก็จะมีทัศนคติกับพฤติกรรมที่แตกต่างไปจากผู้หญิงปกติ แต่แน่นอนว่าสาวๆ สมัยนี้ก็แรงใช่ย่อย บางทีก็แรงกว่ากะเทย
กะเทยสวยที่เรียบร้อยมีมั้ยก็คงมีแหละ แต่สังคมไทยคุ้นเคยกับอะไรแบบนี้ ไม่ว่าจะประชากรหลักๆ ในกลุ่มเพศที่สาม การแสดงออกผ่านทางสื่อ และการพรีเซนต์ตัวเองของคนดังที่เป็นเพศที่สามก็ตาม
คือจะบอกว่าทำการบ้านเยอะมาก ต้องหาข้อมูลเยอะ อ่านเยอะ กว่าจะสรุปและตีโจทย์ออกมาเป็นอ้น อารมณ์ประมาณเวลาดาราชายต้องมาเล่นละครเป็นเพศที่สามแล้วต้องทำการบ้านตีความสร้างอินเนอร์เพื่อดีไซน์การแสดงอะ เราก็ต้องดีไซน์เหมือนกันว่าจะสร้างคาแรคเตอร์อ้นออกมาแบบไหน แล้วมันต้องไปกับคู่ของเค้า มีเคมีระหว่างเรย์และอ้น รวมไปถึงเป็นตัวละครที่ทำให้เนื้อเรื่องเดินไปได้ไม่น่าเบื่อ คือเหนื่อยเหมือนกัน ทำงานหนักมากคับ T^T
เพราะอย่าลืมว่าภาค1 ดันเขียนว่าอ้นแอบส่องของลับป้อง! เอาละสิเราจะพลิกคาแรคเตอร์อ้นกลับมาให้คนรักได้ยังไง ความลำไยเล่นใหญ่แอคติ้งเยอะของนางต้องมาจริตตุ๊ดผู้เบิกบานต้องมี! โหย... เครียดมาก! แต่สุดท้ายก็ได้บทสรุปของคาแรคเตอร์อ้นแล้วละนะ อยากให้ทุกคนติดตามชีวิตของอ้นไปเรื่อยๆ ละกันว่าเราจะผลักให้อ้นเดินไปในทิศทางไหน ฮ่าๆ