Lv.26 ราชาแวมไพร์
องครักษ์หน้าประตูโดนกำจัดไปแล้ว ทุกคนได้เวลาพักชั่วคราวก่อนจะไปลุยบอสของจริง ผมเองก็พักบ้างด้วยการกลับร่างค้างคาวบินไปหาที่นั่งวีไอพี เกาะอยู่บนหัวหมาป่าหนุ่มในร่างคน
ความจริงอยู่ในเขตที่มีพระจันทร์สีเลือดตลอดเวลาแบบนี้ กลต้องอยู่ในร่างหมาป่าไม่สามารถกลับร่างคนได้ แต่อย่างที่บอกไว้ตอนต้นๆ ในปราสาทแวมไพร์ ไม่มีส่วนที่เป็นหน้าต่างเลย ถึงมีก็ถูกม่านหนาบดบังจนไม่มีแสงใดเล็ดลอดเข้ามา เวลาผ่านไปครบกำหนด กลเลยสามารถกลับร่างคนได้
ส่วนไอเทมที่ดรอปจากดยุก...
ชื่อ : Black Knights
ชนิด : ทักษะ
Lv : 150
สถานะ : เวทมนต์อัญเชิญธาตุมืด สามารถเรียกอัศวินเกราะดำออกมาร่วมในการต่อสู้
ทักษะระดับต่ำ เรียกอัศวินได้ 2 ตน
ทักษะระดับกลาง เรียกอัศวินได้ 5 ตน
ทักษะระดับสูง เรียกอัศวินได้ 10 ตน
เงื่อนไข : ต้องเป็นผู้เกี่ยวข้องกับความมืดจึงสามารถใช้ได้
ชื่อ : Curse Sword
ชนิด :ดาบสองมือ
Lv : 165
สถานะ : ดาบต้องสาป
พลังโจมตี 42,570
สถานะพิเศษ : หากสังเวยด้วยพลังชีวิตของผู้ใช้ จะเพิ่มพลังโจมตีได้ในระยะเวลาหนึ่ง
ชื่อ : Duke Hand Armor (1/5)
ชนิด :เกราะมือ
Lv : 165
สถานะ : พลังป้องกัน7,000
สถานะพิเศษ : ลดดาเมจจากอาวุธและเวทมนต์ธาตุมืด 10 %
“ดาบมีใครเอามั้ย” ผมชี้นิ้วจิ๋วไปทางไอเทมที่กองรวมกัน ทุกคนส่ายหัว เพราะไม่มีใครในทีมใช้อาวุธเป็นดาบใหญ่ ผมเลยถามถึงชิ้นต่อไป
“ทักษะล่ะ? ฉันว่าเหมาะกับลิน”
“น่าสนใจ แต่ฉันมีพวกกองทัพกระดูกแล้ว อีกอย่าง พวกมันหน้าตาไม่ดี” คำตอบตรงๆ สมเป็นลิน อย่างว่าชุดเกราะมันคือเกราะจริงๆ ด้านในกลวงโบ๋ไม่มีอะไรเลย และอาจเป็นเหตุผลว่า ทำไมลินถึงไม่คิดเก็บขี้เถ้าของดยุคทั้งที่ผ่านมาหากมีโอกาสเจ้าตัวเก็บเรียบหมด รอดไปนะเจ้าบอสดยุค ดันตัวถึกหน้าโฉดเกินไปไม่ใช่สเปคลินเขา
“แล้วไอ้ทหารกระดูกมันหน้าตาดีรึไง” ไวไวอดไม่ได้ที่จะถาม เออ นั่นดิ มีแต่กระดูกขาวโพลน
“พวกมันน่ารักออก” ผมไม่เข้าใจรสนิยมของคนนี้จริงๆ ครับ ตรงไหนที่มันน่ารักกัน สาวที่ไหนเขาชอบแบบนี้บ้าง เอ๊ะ หรือว่าลินจะชอบของแปลก ผมมองไปทางไวไว ทางนั้นเหมือนรู้ตัวว่าผมคิดไม่ดีเลยขว้างเกราะมือของดยุคใส่ผม แต่กลปัดมันทิ้งก่อน เกราะมือกระเด็นไปทางอลิส สาวเจ้าเลยหยิบขึ้นมาดู
“เอ๋...เกราะมือมีเลขด้านหลังด้วย”
“แต่ก่อนไม่เคยเห็นไอเทมที่มีเลขแบบนี้นะ” น้ำยื่นหน้าเข้ามาสำรวจเกราะมือด้วย
“คงเป็นแพทใหม่ล่ะมั้ง พวกของยกเซ็ต ถ้าใส่ครบชุดของมันจะมีการเพิ่มค่าพิเศษต่างๆ ให้” ทัตเก็บเกราะใส่กระเป๋า แสดงว่าชิ้นนี้เจ้าตัวเอา ส่วนที่เหลือ คงต้องเอาไปขายแล้วมาแบ่งเงินกันที่หลัง
มันเป็นมาเซตสินะ 1/5 แสดงว่ามันมีห้าชิ้น คงเป็นส่วนหัว ตัว มือ กางเกง แล้วก็เท้า ส่วนจะรู้ได้ยังไงว่ามันเซตเดียวกัน คงต้องดูจากชื่อดยุกด้านหน้า กับดีไซน์ของตัวเกราะเน้นไปทางสีดำ ถือว่าไม่เลวทีเดียว หลังจากนี้คงมีพวกคนล่าของเซตกันเยอะแหงๆ ในเมื่อของพวกนี้มันให้ค่าสถานะดีกว่าของแยกชิ้นทั่วไป ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับคนเล่น ถ้าคำนวณดี ต่อให้ไม่ใช่เซต แต่เอามาผสมผสานกันอาจจะโหดกว่าพวกเซตก็ได้
“รีบไปต่อ” กลพูดขึ้นกลางวง ทุกคนพยักหน้ารับ ได้พักจนพลังเต็มกันหมด รีบไปจัดการให้มันเสร็จๆ ก่อนที่จะหมดเวลาออนไลน์ดีกว่า
คราวนี้กลเป็นฝ่ายเดินนำหน้า ประตูบานใหญ่ดูมีระดับที่บานที่ผ่านๆ มา ถูกมือหนาดันเปิดออกเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน
ห้องโถงกว้างราวกับโถงในพระรางวัง มีเสาต้นใหญ่เรียงรายกันซ้ายขวา เงามืดหลังเสาไร้วี่แววของพวกแวมไพร์ ตรงกลางทางเดินปูพรมทอดยาวจนไปถึงใต้บัลลังก์หรูหราสีแดงเลือด มีชายในชุดเสื้อคลุมตัวยาวสมฐานะ กำลังนั่งเท้าคางมองผู้บุรุกด้วยรอยยิ้ม ดวงตาสีแดงเลือดพราวระยับอย่างถูกใจ ผิวกายขาวซีด มือเรียวประดับเล็บยาว วงหน้าหล่อเหล่าแฝงความงามสง่า เรือนผมสีเงินยวงปล่อยยาวเสริมบารมีเจ้าแห่งรัตติกาล
“พวกเจ้าอาละวาดเสียจนปราสาทข้ากลายเป็นปราสาทร้าง” เสียงเย็นกังวาน ยามราชาแวมไพร์เอ่ยปากพูดทำให้เห็นเขี้ยวคมกริบดูน่าหวาดหวั่นสำหรับคนอื่น ไม่ใช่กับพวกเราที่ล้างบางแวมไพร์ทั้งดันเจี้ยนพอเห็นท่าทางไม่สะทกสะท้านจากผู้บุกรุก เขาพูดต่อ
“อย่าทำเป็นได้ใจไป สิ่งที่นำพาพวกเจ้ามาถึงจุดนี้ได้คือเจ้าสัตว์เหม็นสาปนั่น” นิ้วยาวชี้ไปทางกล ดวงตาสีน้ำเงินเข้มจัดหรี่ตามองบอสใหญ่ตรงหน้า
“บอสตัวนี้มีคนบังคับ”
คำพูดสั้นๆ ของกลสร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคนได้ชะงัก แต่ละคนเปลี่ยนจากมองผ่านเป็นสำรวจราชาแวมไพร์อย่างละเอียดอีกรอบ พร้อมกับตั้งท่าเตรียมรับการต่อสู้ที่อาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
“เวรล่ะ ไม่คิดเลยว่าจะอัพแพทแบบนี้มาจริงๆ ทำให้เกมสนุกขึ้นแลกกับความโหดของบอส คนบังคับกับเอไอมันต่างกันลิบลับเลยนะ” ไวไวพูดเสียงเครียด อย่างเอไอหรือสมองกลบังคับ มันจะทำตามคำสั่งไม่มีพลิกแพลงอะไรทั้งนั้น ต่างจากคนที่สามารถวางแผนเลือกใช้วิธีจัดการได้ในขอบเขตที่กำหนด งานเข้าของจริง
“ไม่ต้องห่วง ข้ายังไม่โจมตีพวกตอนนี้ ผู้ที่เข้าพบข้าได้เป็นกลุ่มแรกจะได้ข้อเสนอพิเศษ”
มือขาวซีดขยับเพียงวูบเดียว พวกเราถูกคนเหมือนโดนดึงให้มาอยู่ตรงหน้าบัลลังก์ ประตูทางออกเพียงหนึ่งเดียวถูกปิดลงตรงหน้าพวกเรามีหน้าต่างโผล่ออกมากลางอากาศ
ข้อเสนอจากราชาแวมไพร์
รายละเอียด : หัวหน้าปาร์ตี้สามารถเลือกหนึ่งในหัวข้อต่อไปนี้
1. ข้าต้องการเป็นแวมไพร์
2. จงตายซะเจ้าแห่งรัตติกาล
3. ข้าขอยอมแพ้
4. ข้าต่างหากราชาแวมไพร์ที่แท้จริง
เงื่อนไข : พบราชากลุ่มแรกและมีผู้เล่นแวมไพร์อยู่ในปาร์ตี้ จึงจะเลือกข้อที่สุดท้ายได้
หลังอ่านข้อมูลตรงหน้าจบ ทุกคนพร้อมใจกันหันมามองวัตเป็นตาเดียว แต่บนหัวของหมาป่าหนุ่มกลับว่างเปล่าไม่มีสิ่งมีชีวิตตัวกลมสีทองเกาะเหมือนอย่างเคยพร้อมกับเสียงจากระบบดังขึ้น
คุณได้เลือกหัวข้อที่สี่ King of Vampire Lv.170 ปรากฏตัว ไม่สามารถหลบหนีออกจากการต่อสู้ หากตายด้วยฝีมือราชาแวมไพร์ จะต้องกลับไปเกิดในเมืองและไม่สามารถเข้ามาในดันเจี้ยนปราสาทแวมไพร์ได้สองอาทิตย์
“พวกเจ้าเลือกที่จะท้าทายข้า ข้าจะสูบเลือดในกายอกมาให้หมด!” เสียงเยือกเย็นเอ่ยขึ้น ราชาแวมไพร์หายวับไปจากบัลลังก์ไปปรากฏตัวหน้าผู้ใช้สมุด
พรึบ!
ทัตที่อยู่ใกล้ที่สุดใช้ดาบกันรับการโจมตีจากกรงเล็บแทนจนเลือดลดไปเกือบครึ่งบ่งบอกความแรงที่ได้รับเป็นอย่างดี สมกับเป็นบอสที่มีคนบังคับ จ้องจัดการน้ำเป็นคนแรก ถ้าหากทัตเข้ามารับการโจมตีไม่ทัน ทุกคนที่เหลือจะไม่มีใครคอยซัพพอร์ทเพิ่มเลือดให้ เมื่อถึงตอนนั้นคงเป็นคราวหายนะของทีม เพราะอีกคนที่สามารถเพิ่มเลือดได้ดันหายไปซะลแล้ว
“มันแข็งแกร่งเกินไป แถมไวโคตร พวกขุนนางที่ผ่านมาเทียบไม่ติดเลย” กระต่ายโจ๊กเกอร์บ่นอุบหลังซัดมีดวืดไปปักอยู่บนเสา ไม่เฉียดราชาแวมไพร์เลยสักนิด
“จะยังไงก็ต้องสู้ก่อน ยังดีกว่าตายโดยไม่ทำอะไรเลย” พ่อมดควงคทา กับดาบในมือเข้าโจมตีราชาแวมไพร์พร้อมกับอลิส น้ำคอยเพิ่มเลือด ร่ายเวทใส่บอสเท่าที่ทำได้ โดยมีทัตคอยคุ้มครองอยู่ข้างๆ
กลหรี่ตามอง ดึงดาบออกจากฝักเข้าร่วมโจมตี เลือดของบอสลดลงเรื่อยๆ อย่างผิดวิสัย ทุกคนเริ่มเดาอะไรบางอย่างออก ดังนั้นจึงเพิ่มการโจมตีมากขึ้น เรียกได้ว่ามีเท่าไหร่ใส่ให้หมด แต่ถึงอย่างนั้นเลือดราชาแวมไพร์ก็ยังลดไปได้ไม่เท่าไหร่ กลับกัน เลือดของทุกคนในทีมเริ่มน้อยลงไปทุกที
“เจ้าพวกโง่เขลา!” ราชาแวมไพร์ส่งเสียงคลื่นความถี่สูงสร้างสถานะมึนงงให้กับศัตรู ก่อนจะพุ่งใช้ดาบที่สร้างขึ้นมาจากเลือดฟาดฟันไวไวที่ได้ผลกระทบจากการโจมตีด้วยคลื่นเสียงมากที่สุดจนกลายเป็นแสงหายไปด้วยพลังชีวิตที่ลดเหลือน้อยตั้งแต่แรก
ผู้เล่นไวไวถูกสังหาร ไม่สามารถเข้ามาภายในปราสาทเป็นเวลาสองอาทิตย์
Holy Clutter ถูกทำลาย
“บังอาจฆ่ากระต่ายของฉันเรอะ ไอ้ค้างคาวหัวหงอกจงออกมากองทัพกระดูก!” พ่อมดกระแทกคทาเวทลงพื้น เหล่าทหารโครงกระดูกโผล่มาจากพื้นดิน เข้ารุมโจมตีราชาแวมไพร์ น้ำฉวยโอกาสนี้เรียกใช้สกิลธาตุแสงที่ได้มา สร้างกางเขนตรึงราชาแวมไพร์ชั่วคราว
“รีบโจมตีเร็ว ฉันตรึงไว้ได้น้อยกว่าพวกด้านนอก” ด้วยพลังที่แข็งแกร่งกว่า จากปกติสามารถตรึงได้ 10 วิ ตอนนี้จึงเหลือเพียง 5 วิเท่านั้น
“Yuki Onna”
เสียงทุ้มต่ำเรียกใช้สกิลจากดาบเล่มที่สอง ตัวดาบคาตานะสีขาวโพลนตวัดอากาศสร้างละอองหิมะที่มีรูปร่างเป็นหญิงสาวเรือนผมยาวและชุดสีขาวเข้าไปโอบกอดราชาแวมไพร์ก่อนจะจางหายไป รอบตัวราชาแวมไพร์กลายเป็นน้ำแข็งตั้งแต่เท้าขึ้นมาถึงคอ ดวงตาสีแดงมองคนทำด้วยรอยยิ้มมุมปาก
“ยอมตายๆ ไปซะก็หมดเรื่อง จะสู้ทำไม ทั้งที่รู้อยู่แล้วไม่ว่ายังไงก็ต้องตาย”
วาจาทิ้งท้ายก่อนที่จะถูกแช่แข็งทั้งตัวเรียกความหมั่นไส้จากทุกคนได้เป็นอย่างดี
“เพิ่มเวลา 10 วินาที” กลบอกความสามารถของตัวเอง
“ปากมันวอนจริงๆ เมื่อกี้มันพูดเองไม่ได้อยู่ในบทของบอสชัดๆ” ทัตกัดฟันกรอด รัวฟันดาบสองมืออัดสารพัดสกิลใส่แบบไม่ยั้ง มีลินระบายอารมณ์อยู่ข้างๆ อลิสถึงไม่อยากทำร้ายของสวยงามแต่ก็ต้องจำใจทำไม่งั้นเกรงว่าอีกสองคนจะหันมาซัดพวกเดียวกันก่อน น้ำยิ้มแห้ง ส่วนกลยืนใช้การตวัดดาบสร้างความเสียหายระยะไกล
“ถอย” หมาป่านุ่มบอกนิ่งๆ ทุกคนถอยห่างพอดีกับที่บอสกางปีกค้างคาวออกกว้างตวัดฟาดทหารโครงกระดูกหายเรียบในคราวเดียว พร้อมกับสร้างความเสียหายให้อลิสที่หลบไม่ทัน น้ำยังไม่ทันเพิ่มเลือด ดาบโลหิตที่ขว้างปักเข้ากลางอก พริบตาเดียวอลิสกลายเป็นแสงหายแล้วหายไป
ผู้เล่นอลิสถูกสังหาร ไม่สามารถเข้ามาภายในปราสาทเป็นเวลาสองอาทิตย์
Holy Bullet ถูกทำลาย
สถานการณ์เริ่มตึงเครียด ยิ่งเลือดบอสลดลงมากเท่าไหร่ การโจมยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น พอๆ กับการปะทะกันดุเดือดมากขึ้นทุกที
ลินถูกค้างคาวยักษ์ที่บอสเรียกมาสังหารไปพร้อมกับอาวุธที่ถูกทำลาย คนที่เหลือจึงรับบทหนักเพราะไม่มีใครช่วยก่อกวนบอส ทัตรับพลังโจมตีแทนน้ำจนหายเป็นแสงไปอีกคน หมาป่าหนุ่มกับผู้ใช้สมุดยังคงต่อสู้กับราชาแวมไพร์ ผ่านไปไม่นาน เบื้องหน้าราชาเหลือเพียงกลแค่คนเดียว
“นายนี่มันขี้โกงจริงๆ เล่นมีไอเทมนั้นอยู่ เลยพาคนอื่นลุยจนมาถึงนี้ได้”
ราชาแวมไพร์หยุดการโจมตีแบบวงกว้าง เปลี่ยนมาใช้ดาบเพียงอย่างเดียวทำให้การโจมตีแรงขึ้นกว่าเดิม กลกำดาบคาตานะในมือพุ่งเข้าปะทะกันจนเกิดเสียงกังวานไปทั่วห้องโถง
ไอเทมที่ราชาแวมไพร์กล่าวถึงคือเขี้ยวหมาป่าที่กลใช้เก็บของมาจนถึงทุกวันนี้ ความสามารถของมัน นอกจากจะใช้ในการเก็บของจำนวนมาก ยังช่วยกักเก็บค่าประสบการณ์จากภารกิจกับการกำจัดมอนสเตอร์ตามการตั้งค่าของผู้ใช้ กลที่เลเวลตันเป็นกลุ่มแรกตั้งแต่เกมเพิ่งเปิดได้ไม่ถึงปี เขาตั้งค่าให้มันเก็บค่าประสบการณ์แบบ 100% และเปิดใช้ค่าประสบการณ์เหล่านั้นทันทีหลังจากที่เกมอัพแพทใหม่ ทำให้ตอนนี้เลเวลของกลคือ 170 เท่ากับราชาแวมไพร์!
“มันคือกลยุทธ” หมาป่าหนุ่มที่กำลังฟาดฟันกับราชาแวมไพร์ตอบเสียงเรียบ การสร้างไอเทมชิ้นนี้ไม่จำกัดผู้ใช้หรือระดับ แต่ความยากของมันที่ต้องใช้เวลาและความอดทนสูง ทำให้คนที่อดทนสร้างไอเทมชิ้นนี้ขึ้นมาได้มีเพียงหนึ่งในหมื่นจากผู้เล่นทั้งหมดภายในเกม
“งั้นเหรอ ฉันเองก็มีเหมือนกัน” ราชาแวมไพร์พูดอย่างอารมณ์ดี ก่อนถอยฉากกลับไปด้วยรอยยิ้ม เรียกใช้การโจมตีที่แรงที่สุดของราชาแวมไพร์ โดยมีเงื่อนไขต้องเหลือเลือดน้อยกว่า 10% แค่พริบตาเดียวที่แสงสีแดงระเบิดออกเป็นวงกว้าง กลยืนนิ่งรอรับการโจมตี ต่อให้เขาเก่งแค่ไหน แต่สำหรับผู้เล่นเลเวลเท่ากับบอสเพียงคนเดียว ยังไงก็ไม่สามารถเอาชนะได้ ในช่วงที่เขากำลังจะเป็นแสงหายไป เจ้าตัวพึมพำออกมาเบาๆ
“ฝากปิดฉากด้วยนะที่รัก...”
ผู้เล่นกลถูกสังหาร ไม่สามารถเข้ามาภายในปราสาทเป็นเวลาสองอาทิตย์
เนื่องจากกลไม่ได้ใช้อาวุธดรอปในดันเจี้ยน จึงไม่มีการแจ้งอาวุธถูกทำลาย ราชาแวมไพร์เบิกตากว้าง เพราะเขาถูกผู้เล่นคนอื่นๆ ดึงความสนใจไปจนลืมสังเกตถึงตัวตนของคนที่หายไปตั้งแต่เริ่มต่อสู้ เขาจับสัมผัสอีกฝ่ายไม่ได้เลยจนกระทั่งหมาป่าถูกสังหาร แสดงว่าต้องเป็นฝีมือหมาป่าในการพรางตัวหัวหน้าปาร์ตี้จากสายตาบอส
ท่ามกลางความเงียบ เส้นผมสีเงินด้านหลังเหมือนมีอะไรขยับไหว ค้างคาวตัวกลมขนสีทอง บินออกจากกลุ่มผมของราชาแวมไพร์ แถมยังเรอเอิ๊กด้วยความอิ่มจากการดูดเลือดตลอดการต่อสู้ ตัวต้นเหตุที่ทำให้บอสเลือดลดไวผิดปกติ มือขาวซีดของราชาแวมไพร์จะคว้าเอาเจ้าค้างคาว วัตใช้ความเร็วในการเคลื่อนที่ หายแว้บมายืนด้านหน้าพร้อมกลับร่างคน อาวุธในมือเป็นเคียวสีเลือดต่างไปจากเดิม มันเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นจากเลือดของราชาแวมไพร์ที่เขาดูดมา ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงความแรงในการโจมตีเกือบเทียบเท่าได้กับดาบโลหิตในมือราชาแวมไพร์เลยทีเดียว
เคียวสีเลือดตวัดฟัน ต่างคนต่างใช้ความสามารถสูงสุดของตัวเองเข้าทำร้ายอีกฝ่ายจนกลายเป็นเพียงเงาวูบไหวและเสียงปะทะกันของอาวุธ มีหลายครั้งที่ผมพลาดท่าโดนโจมตี แต่รอดมาได้จากการใช้สกิลพิเศษของตัวเอง ด้วยการเปลี่ยนร่างเป็นฝูงค้างคาวทำให้ผมเป็นอมตะชั่วคราว แลกกับพลังชีวิตลดลงเรื่อยๆ
สกิลนี้ผมเคยใช้ตอนต่อสู้กับบอสนก สมัยนั้นเลเวลผมยังน้อยอยู่หลังจากการใช้สกิลเลยตายทันที ด้วยความที่เลเวลกับค่าพลังต่างๆ สูงขึ้นมากกว่าแต่ก่อน การใช้ทักษะย่อมดีขึ้นไม่ตายทันทีแถมยังสามารถรวมเป็นร่างคนในการหลอกล่อได้ การต่อสู้โค้งสุดท้ายจึงขึ้นอยู่กับเวลา จะบอสโดนโจมตีตายก่อนหรือผมถูกทักษะสูบเลือดหมดตัวตายคงต้องมาดูกัน
“ร้ายกาจมาก” ราชาแวมไพร์พูด