เนื่องจากผมยังรวบรวมพลังแต่งตอนใหม่ไม่ได้ ดังนั้นขออัพตอนพิเศษเรื่องราวของขุนผลมาแทนก่อน
----------------------------------------------------------------------------------------------------
Lv.พิเศษ ขุนพลครับผม
ภายในบ้านอันแสนสงบ ประตูกระจกถูกเปิดออกรับลมเย็นสบายจากในสวนข้างบ้าน มีแมวตัวโตกำลังนอนปล่อยให้ขนสีเทาที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีพลิ้วไหวไปตามสายลมอ่อน ดวงตาสีฟ้าหลับพริ้มทำหน้าที่แมวอย่างเคร่งครัด หูพลันกระดิกรับฟังเสียงเดินตึงตังจากเจ้าของบ้าน
“แย่จริง ดันนอนกลางวันเพลินซะได้ กลใกล้กลับมาแล้วด้วยยังไม่เตรียมข้าวเย็นเลย นายท่านหลบก่อนอย่าเดินขวางเดี๋ยวเหยียบแบนแต๋กันพอดี ขุนพลหาวปากกว้างซะ ระวังแมลงวันมันจะบินเข้าปาก”
ผู้ชายคนนี้เป็นแม่ของผมเอง แม้ผมจะไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ผมถึงเป็นผู้ชาย แต่พ่อบอกว่าแบบนั้น แถมดูมีความสุขมากๆ เวลาอยู่กับแม่วัต ผมเลยโอเคไม่มีปัญหา
ผมคือแมวสายพันธุ์เมนคูนอายุห้าเดือนฮับ ถ้านับตามประสาแมวๆแล้ว ยังถือว่าผมเด็กมากเลยล่ะ เพราะแบบนี้ผมเลยชอบเล่น พ่อผมไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ ยังดีที่แม่ขยันเล่นกับผม ผมเลยรักแม่ม๊ากมาก แต่ไม่รู้ทำไม เวลาเข้าไปคลอเคลีย นอนทับ หรือแสดงความรักกับแม่ทีไร แม่ชอบทำท่าเหมือนโดนแมวอำและพ่อกลดูจะไม่พอใจด้วย หลังๆผมเลยแสดงความรักเล็กน้อย คงเพราะผมยังตัวเล็กเกินไปแสดงความรักได้ไม่เต็มที่ เอาไว้โตกว่านี้ก่อนค่อยแสดงความรักใหม่เนอะ!
จริงสิ พอมาบ้านใหม่นอกจากได้แม่แล้ว ผมยังได้พี่ชายเพิ่มด้วยล่ะ พี่ชายของผมเป็นแมวพันธุ์แองโกล่า ขนสีขาวนวล ตาสองสี ข้างหนึ่งสีฟ้าอีกข้างสีเหลืองสวยมากๆเลย สวยกว่าแมวตัวเมียข้างบ้านซะอีก ผมเลยชอบชมพี่บ่อยๆว่าพี่สวยอย่างงั้นอย่างงี้แล้วโดนตบหน้าหันกลับมาทุกที ผมไม่เข้าใจพี่นายท่านเลยทั้งที่ผมชมแท้ๆ
ตอนแรกพี่ชายไม่ยอมรับผมสุดๆ รังเกียจอย่างกับผมเป็นหมาอย่างงั้นแหละ! เหมือนจะคอยกีดกันพ่อกับแม่ด้วย ปากบ่นๆว่าอย่ามายุ่งกับทาสของฉันอะไรสักอย่าง สงสัยคงเป็นการแสดงความรักในแบบของพี่ชายมั้ง ผมจะพยายามเข้าใจแล้วกัน เพราะผมไม่อยากเป็นเด็กมีปัญหาให้พ่อแม่กังวลใจ
มาฟังประวัติความเป็นมาของผมดีกว่า ผมเกิดในบ้านหลังโต มีลูกแมวตัวเล็กและอ่อนแอที่สุดในคอก วันนั้นปู่พาพ่อของผมมาพบเพื่อนเจ้าของบ้านที่ผมเกิด พ่อกลเกิดเบื่อนั่งฟังการคุยธุระของผู้ใหญ่ เลยขอมาเดินเล่นด้านนอกแทน บังเอิญว่าผมกำลังนอนเปื่อยอยู่ในเบาะตัวเดียว ขณะที่พี่น้องตัวอื่นๆพากันออกไปวิ่งเล่นกับแม่ด้านนอก
พ่อกลนึกแปลกใจเลยเดินเข้ามาเขี่ยดูว่าผมตายรึยัง ผมร้องเสียงเล็กเป็นสัญญาณว่ายังมีชีวิตอยู่ และเลิกเขี่ยผมสักทีเถิด ก่อนผมจะแหวะนมออกมาเพราะความเวียนหัว
“ทำไมมันอ่อนแอนักล่ะ?” พ่อกลหันไปถามแม่บ้านที่เดินผ่านมาพอดี
“ดูเหมือนว่าจะเป็นโรคค่ะ ถึงจะน่าสงสาร แต่ฉันคิดว่าคงจะรอดอีกไม่นาน”
พ่อกลเลิกคิ้วรับฟังสิ่งที่แม่บ้านพูด ในตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เธอพูดหมายความว่ายังใน เวลานี้ผมรู้สึกอยากรับไออุ่นจากใครสักคน ผมแลบลิ้นเล็กๆของตัวเอง เลียนิ้วที่ยื่นมือหา พ่อกลรีบชักมือหลบแล้วจ้องดุใส่ ผมร้องเสียงมี้มองตาใสพยายามเดินเข้าไปหา หลังแม่บ้านเดินจากไป พ่อกลนั่งลงบนพื้นตรงหน้าผมแบบไม่สนมาด นิ้วชี้ยื่นมาลูบหัวผมจนเคลิ้ม
“วันหลังห้ามเลียมันมีเชื้อโรคอันตรายสำหรับนาย” ผมไม่เข้าใจแลบลิ้นจะเลียอีกรอบเลยถูกเคาะหัวด้วยปลายนิ้วเบาๆ
“ยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจ แต่ใช่จะฝึกไม่ได้ อยากมีชีวิตต่อไหม หืม?” รอยยิ้มบางๆ ปรากฎขึ้นมันเป็นภาพที่ผมจำได้ถึงทุกวันนี้ ผมขานเสียงรับ อยากไปอยู่กับคนตรงหน้า เพราะที่นี่ไม่อุ่นเลยสักนิด
พ่อกลผละออกไปจากผม เขาเดินกลับไปที่ห้องรับแขก ผมได้ยินเสียงดังลอดประตูออกมา
“ผมขอลูกแมวตัวนั้นได้มั้ยครับ” เสียงเรียบๆ ตามนิสัยเอ่ยถามเจ้าบ้านที่มองด้วยสายตาแปลกใจ
“ได้สิได้ ลุงกำลังอยากหาคนรับไปเลี้ยงอยู่พอดี เจ้าของมันอินทรีลูกชายลุงไปเป็นทหารเรือแล้วเลยไม่ค่อยมีคนดูแล หลานกลจะเอาตัวไหนล่ะ” ชายสูงวัยถามอย่างใจดี เข้าใจถึงนิสัยเด็กตรงหน้าเพราะเห็นกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เลยไม่ถือสาอะไร
“ผมขอตัวที่อยู่ในเบาะนั่นครับ”
“อาว่าหลานกลเอาตัวอื่นดีกว่ามั้ง ตัวนั้นมันอ่อนแอจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้”
“ไม่เป็นไรครับ ผมขอตัวนี้” กลยังคงยืนยันคำเดิม เจ้าบ้านหันไปมองเพื่อนต่างวัยของตัวเอง เขาพยักหน้ารับตามใจลูกชายอีกตามเคย
“อยากได้ตัวใหม่เมื่อไหร่ มาเอากับอาแล้วกัน”
“ขอบคุณครับ” กลยกมือไหว้ผู้ใหญ่
ตอนกลับ พ่อกลพาผมไปสถานที่หนึ่ง มีกลิ่นสัตว์มากมายทำให้ผมรู้สึกกลัว มืออุ่นอุ้มผมคอยลูบหลังปลอบตลอดทาง ก่อนจะส่งให้มือชายคนหนึ่ง เขาบอกว่าผมเป็นพยาธิคงติดมากับสายรกตอนแรกเกิด และสั่งอะไรพ่อกลของผมไว้หลายอย่าง พอออกจากสถานที่มีแต่กลิ่นสัตว์แปลกหน้า พ่อกลเลือกซื้อของสำหรับลูกแมวจนเต็มรถ
หลังจากวันนั้น พ่อกลคอยดูแลผมมาตลอด ขนาดเวลาทำงานอยู่หน้าคอมยังคอยหันมามองผมที่นอนอยู่ในเบาะภายในห้องเป็นระยะเสมอ หรือเวลาออกไปข้างนอกก็ฝากผมไว้กับย่าไม่ก็แม่บ้านคนสนิท ผมเริ่มแข็งแรงขึ้นหลังจากพ่อบังคับฝืนใจป้อนของรสชาติแย่ใส่ปากเป็นประจำและคอยป้อนนมไม่ได้ขาด
ผมอายุได้หนึ่งเดือนแข็งแรงจนวิ่งปร๋อซุกซนไปทั่วบ้านหลังโตพร้อมกับรับรู้ว่าความน่ากลัวที่แท้จริงของพ่อกลเป็นยังไง ผมโดนจับฝึกทุกอย่างจนเชื่องยิ่งว่าน้องตูบ สัญชาตญาณความซึนของแมวเหลือเพียงน้อยนิดจนผมยังสงสารตัวเอง ถึงแบบนั้นผมก็มีความสุขดี ทุกคนที่นี้รักและใส่ใจผมกันหมด โดยเฉพาะย่าเอ็นดูผมมากเป็นพิเศษ ส่วนปู่ปกติเหมือนจะรำคาญ แต่พอไม่เห็นผมก็มักจะถามหาบ่อยๆ
ผมมีที่ประจำของผมด้วยนะ นั่นคือตักอุ่นๆ ของพ่อกล เวลาที่พ่อกลนั่งทำงาน ผมจะชอบโดดไปนอนขดให้พ่อกลลูบเล่น กับตอนที่พ่อกลนอนอ่านหนังสือ ผมจะเอาตัวไปนอนพาดบนพุงแข็งๆ ฟังเสียงพลิกหน้ากระดาษจนกระทั่งผมหลับหรือนอนหงายพุงรับลมบนตัวพ่อกลอย่างสุขขี
ปลอกคอของผมไม่เหมือนกับของตัวอื่น มันเป็นสร้อยติดแท๊กสั่งทำเพื่อผมโดยเฉพาะ เวลาพ่อกลพาผมไปตรวจสุขภาพทีไร ผมเลยอดไม่ได้ที่จะยืดอกด้วยความภาคภูมิใจใส่พวกตัวอื่น มีหลายคนชมว่าผมหล่อด้วย แม้ส่วนใหญ่จะมองเลยผมไปหาพ่อกลก็ตามที
มีครั้งหนึ่งผมตามพ่อกลไปถึงที่ทำงาน แอบกระโดดขึ้นรถแล้วเดินตามหลังพ่อกลแบบเนียนๆ นั่นทำให้ผมเจอกับผู้ชายที่มีออร่าน่าเข้าใกล้สุดๆ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นอาจารย์ของพ่อกล รอบตัวชายคนนี้บ่งบอกว่าเป็นคนรักสัตว์ระยะสุดท้าย ผมเลยอ้อนสักหน่อยเพราะเช็คเรตติ้งของตัวเอง ถือว่าไม่เลวทีเดียว
แล้วผมก็โดนเอาไปฝากกับชายอีกคน เขาคนนี้พาผมไปอยู่อีกที่เพื่อรอพ่อกลมารับ
“เป็นแมวของเจ้าหนูนั่นคงลำบากน่าดู”
“เหมี้ยวๆ” ไม่ลำบากสักหน่อย พ่อกลเลี้ยงดูผมดีจะตายไป!
“เถียงเรอะ หึหึ ถ้านายไปเจอกับน้องชายฉันคงไม่เถียงแบบนี้แน่ เฮ้อ ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมวินถึงชอบแมวนัก หมาออกจะน่ารักกว่าแท้ๆ นี่เจ้าเหมียว รู้วิธีทำให้วินเกลียดแมวมะ”
“ม้าววว~~” ผมว่าผู้ชายคนนี้คงไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ พูดอะไรชวนงงขนาดแมวอย่างผมยังไม่เข้าใจ
“ช่างเถอะ คุยกับแมวไปก็ไม่รู้เรื่อง รอนี้ห้ามไปไหน ไม่งั้นฉันจะถลกหนังไปทำรองเท้าให้วิน”
ผมถอยกรูดไปหลบในซอกเท่าที่ตัวเองพอจะหลบได้ พองขนตัวกลมฟู สีหน้ากับน้ำเสียงเมื่อกี้น่ากลัวมาก พ่อกลรีบมารับผมกลับไวๆ ผมจะไม่แอบตามมาเที่ยวที่นี่อีกแล้ว โฮ!
ในที่สุดพ่อกลมารับผมกลับบ้านสักที พอเห็นใบหน้าคุ้นเคยผมรีบวิ่งออกจากซอกกระโจนเข้าหา ไม่คิดเข้าไปเฉียดใกล้ผู้ชายมีออร่าทาสแมวอีกเป็นครั้งที่สอง ผมกลัวสายตาคมๆจากชายอีกคน กางเล็บเกาะเสื้อพ่อกลแน่นงอแงจะกลับให้ได้เลยถูกพ่อกลเคาะหัวไปที แลกกับการที่ผมหลุดพ้นจากสายตาน่ากลัว
เวลาผ่านไปผมก็ได้พบกับผู้ชายอีกคนที่ทำให้พ่อกลที่แสนจะยิ้มยาก สามารถยิ้มออกมาได้ง่ายๆ เขาใจดีสุดๆ พ่อกลแนะนำว่านี้คือแม่ของผม ต้องรักให้มากๆ เพราะพ่อกลรักมากเช่นกันและต้องคอยช่วยพ่อกันพี่ชายออกจากแม่ เพื่อที่ผมจะได้ขนมกิน!
พวกเราอยู่กันสี่คนพ่อแม่ลูก ช่วงแรกอาจจะขลุกขลักไปบ้าง แต่พักหลังทุกอย่างลงเอยด้วยดี ความจริงผมมีความลับบางอย่างจะบอกแหละ ห้ามไปบอกใครนะโดยเฉพาะพี่ชายที่อายุมากกว่าผมสามเดือน
พี่ชายของผมมีนิสัยเอาแต่ใจ เริด เชิด หยิ่งมากตามประสาแมวที่ถูกแม่วัตตามใจ ไม่เหมือนผมถูกพ่อกลเคี่ยวเข็น เวลาผมทำตามที่พ่อกลสั่ง คอยขัดขวางพี่ชายด้วยการพาดแขนทับมั้ง เอาหัวเกยมั้ง ผมจะได้เห็นปฏิกิริยาสนุกๆจากพี่ชายล่ะ ด้วยเหตุนี้ แม้พ่อกลไม่สั่งผมก็แสนจะเต็มใจแกล้งพี่ชาย ยิ่งเห็นว่าพี่ชายรำคาญมากเท่าไหร่ ผมยิ่งอยากเข้าไปกวนมากขึ้นเท่านั้น
ผลสุดท้ายพอกวนมากๆเข้า จากเบื่อเป็นระอา พี่ชายเลิกขับไล่ใส่ส่งผมและคอยจ้องอยู่บ้างเป็นระยะ
คืนนั้นอากาศเย็นเป็นพิเศษเพราะฝนตก พ่อกับแม่หลับสนิทในห้องแล้ว ผมกับพี่ชายต่างคนต่างนอนบนเบาะของตัวเอง สำหรับผมถือว่าแค่นี้สบายมาก ขนาดสมัยก่อนมาบ้านใหม่ พ่อกลเปิดแอร์เหมือนจะเลี้ยงแพนกวิ้นผมยังอยู่ได้เลยเพราะขนที่หนานุ่มของตัวเอง
ระหว่างที่ผมหลับ รู้สึกเหมือนได้รับแรงสั่นจากเบาะนอนข้างๆ ผมผงกหัวลืมตาขึ้นดู เห็นพี่ชายนอนขดกลมเป็นก้อนขนสีขาวตัวสั่นด้วยความหนาว ผมเลยตัดสินใจเดินเข้าไปนอนเบียดในเบาะเล็ก โดนตาสองสีจ้องเขม็งใส่
“แง้ววว!” นายมานอนเบียดฉันทำไมไม่ทราบ
“เหมียว เหมียว” เห็นพี่ชายหนาวอะ ตัวผมอุ่นมานอนด้วยกันดีกว่า
“เมี้ยว” แค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้นแหละ
ผมส่ายพวงหางรับแล้วอ้าปากหาวจนเห็นเขี้ยวแหลมขาวสะอาดนอนซุดอยู่ด้วยกันจนถึงเช้า หลังจากนั้นผมกลับไปนอนที่เบาะตัวเองตามเดิม ผลสุดท้ายทุกคืนผมจะรู้สึกเหมือนมีใครมานอนเบียด พอลืมตาขึ้นมาก็จะพบกับขนสีขาวเป็นอันดับแรก ด้วยความดีใจผมเลยไม่ทักอะไรทั้งสิ้น ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ปล่อยให้มันเป็นอยู่แบบนั้น นอนสองตัวอุ่นกว่านอนตัวเดียวจริงๆ ด้วยล่ะนะ~
นั่นเป็นเหตุการณ์ที่ผมกับพี่ชายสนิทกันมากขึ้น... กลับมาสู่เหตุการณ์ปัจจุบันดีกว่า วันนี้แม่วัตไม่ได้ออกไปกับพ่อกลเหมือนทุกที แถมอากาศดีเลยนอนกลางวันเพลิน จนตอนนี้ใกล้เย็นเต็มที ข้าวสองถ้วยถูกขลุกให้ผมกับพี่ชายก่อนเป็นอันดับแรกเพราะพี่ชายไปพันแข้งพันขาจนแม่วัตเกือบสะดุดหัวทิ่มไปหลายรอบ ส่วนผมนั่งมารอส่ายหางหล่อๆ อยู่หน้าถ้วยนานแล้ว
แม่วัตล็อกบ้านขี่จักรยานออกไปข้างนอกพร้อมกับมากับถุงใส่ของหลายอย่าง รีบตรงดิ่งเข้าครัวไปทำอาหารจนมีกลิ่นหอมกระจายไปทั่วบ้าน ผมทานข้าวอิ่มถึงเวลาไปนั่งรอที่หน้าประตู มีพี่ชายกำลังเสียขนเสริมสวยตัวเองหลังมื้อเย็นอยู่บนโซฟาหน้าทีวี
มีเสียงมาจากประตู ผมหมอบตัวก้นโด่งย้ำเท้าไปมาเล็กน้อยเตรียมพร้อม พอประตูเปิดออกก็พุ่งเข้าหาคนที่ผมรักมากที่สุด พ่อกลเหมือนจะรู้อยู่ก่อนแล้ว เลยรับตัวผมอุ้มด้วยแขนข้างเดียวถอดรองเท้าเดินเข้าไปหาอีกคนในครัว
“วันนี้มีอะไรกินบ้าง”
“ของโปรดคนแถวนี้ กลับมาแล้วเหรอ” แม่วัตหันมาหาพ่อกลหลังปิดเตา ทั้งคู่ยื่นหน้าจุ๊บปากกันเบาๆ ผมหรี่ตา เด็กดูไม่ดี
“กลับมาแล้ว เดี๋ยวช่วยทำ” พ่อกลปล่อยผมวิ่งออกจากครัวไปหาพี่ชาย ดวงตาสีสองเหล่มองผม ผมร้องเสียงเหมียวแล้วนอนกลิ้งหยอกเล่นกับพี่ชาย ก่อนจะโดนตบหน้าหันตามเคย พอผมกระโจนเข้าหาพี่ชายกลิ้งไปอีกทาง สรุปผมเลยถูกโวยใส่เป็นชุด ได้ยินเสียงแม่ร้องห้ามตีกันมาจากในห้องครัว ชีวิตผมมีความสุขจัง