Lv.พิเศษ รับสงกรานต์*เหตุการณ์ในช่วงนี้ เป็นเหตุการณ์หลังจากที่กลกับวัตคบกันแล้ว* ความร้อนระอุในเดือนเมษา คงไม่เท่าไฟที่สุมอก และหัวที่กำลังจะลุกไหม้ ป่าว ผมไม่ได้โกรธหรือโมโหใคร เพียงแค่ระหว่างทางกลับจากมหาลัย แดดมันร้อนจนหัวสุก ไวไวมันแทบละลายไหลลงท่อ บ้านมันอยู่ใกล้ๆกับหมู่บ้านของผม ถัดไปอีกไม่กี่ซอย
อันที่จริง บ้านหลังนี้เป็นของพ่อแม่ซื้อไว้ บังเอิญคุณตานึกอยากไปเปลี่ยนบรรยากาศบนดอยกับคุณยาย เลยทิ้งบ้านที่ต่างจังหวัดไม่มีคนดูแล พ่อกับแม่เห็นว่าที่นั้นอากาศดีเลยอาสาไปอยู่เฝ้าให้ ทิ้งให้ลูกชายตาเทาๆสองคนกอดคอกันอยู่บ้านที่กรุงเทพ แถมพอพี่วินเรียนจบมหาลัยเข้าทำงานบริษัท แทบจะสิงอยู่นั่นจนบางครั้งผมเกือบลืมไปว่าตัวเองมีพี่ชายอยู่ในโลกใบนี้ด้วย
เงียบๆไว้นะ อย่าไปบอกเจ้าตัว ขืนรู้ขึ้นมาได้มีรายการน้อยใจไม่ส่งตังค่าขนมให้ผมแน่ๆ ลำพังเงินของพ่อแม่ที่ส่งมาให้แต่ละเทอมไม่ค่อยพอเท่าไหร่ เพราะผมหนักซื้อของกินเยอะ วันๆหนึ่งเสียไปหลายร้อย
ปัดไปก่อน เรื่องพวกนั้นไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญน่ะคือวันนี้เป็นวันสงกรานต์!! ผมจะได้เล่นน้ำให้เย็นฉ่ำคลายร้อนแล้ว แต่ไม่ได้เล่นที่บ้านนี้หรอกนะ กลับบ้านต่างจังหวัดไปหาพ่อแม่นู่น
“กลับมาแล้วคร้าบ”
ผมสลัดรองเท้าถุงเท้าทิ้ง ถลาเข้าบ้านพุ่งเข้าหาตู้เย็นรินน้ำเย็นๆมาดื่มให้ชื่นใจ วันนี้ไม่มีนายท่านมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวขา เพราะเจ้าของตัวจริงกลับบ้านมาแล้ว
“ไหนบอกว่าแค่แวะไปส่งงานอาจารย์ไง ทำไมกลับมาช้านัก”
เสียงหล่อๆของพี่ชายดังมาจากด้านหลังของนายท่าน แถมมีการจับขาหน้านายท่านโบกไปมาแบบเอาเรื่องอีกต่างหาก เอ่อ...พี่วินที่เคารพ โปรดมองหน้านายท่านสุดที่รักของพี่ด้วยว่ามันเป็นใจเป็นหุ่นเชิดให้พี่รึเปล่า อีกสักพักได้มีรายการแมวตะปบคนแน่ ถ้าพี่ชินไม่คว้านายท่านออกไปหย่อนใส่ตะกร้าแมวก่อน
“โดนจารย์รั้งตัวให้ช่วยงานนิดหน่อยน่ะพี่”
ผมถอดเสื้อเปลี่ยนชุดแบบไม่อายฟ้าดิน เดินวิ่งวุ่นไปทั่วบ้าน หยิบจับเสื้อผ้าที่วางๆไว้ก่อนออกจากบ้านมาใส่ ใช้เวลาแค่หนึ่งนาทีผมก็พร้อมรบด้วยชุดลายดอกสีเหลืองอร่ามไม่น้อยหน้าพี่วิน ส่วนพี่ชินใส่แค่ลายดอกสีฟ้ากำลังปิดตะกร้าแมวผ้านุ่มนิ่มอย่างดี
“พวกพี่ขนของขึ้นรถหมดแล้ว เจ้าเด็กนั่นล่ะเมื่อไหร่จะมา ป่านี้พ่อกับแม่ชะเง้อคอยาวเป็นยีราฟแล้วมั้ง”
“แปบๆพี่ เดี๋ยวผมโทรหาก่อน”
ครับงานนี้กลไปกับพวกเราด้วย เห็นว่าจะพาพ่อแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัดในวันสงกรานต์ ผมเลยถือโอกาสชวนไปบ้านซะเลย คนไปเยอะๆพ่อแม่ผมมีแต่จะชอบ ปกติมีแค่ลูกๆไป แถมคราวนี้ไอไวไวลูกคู่พ่อมันไม่ได้ไปด้วย ต้องไปเฝ้าศรีภรรยาเล่นน้ำ
ผมล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า สไลหาเบอร์แล้วกดโทรออกทันที พอเห็นว่าอีกฝ่ายรับสายแล้ว ผมพูดทันทีแบบไม่ต้องมีเกริ่นนำ
“กลๆ ถึงไหนแล้ว ทางนี้จะออกแล้วนะ”
“เลี้ยวเข้าซอยก็ถึงแล้ว วัต กลไม่รู้ทาง วัตมาขึ้นคันเดียวกับกลบอกทางไปบ้านหน่อยได้ไหม”
เดี๋ยวนี้อัพเกรดครับ หลังจากเจอกันนอกเกมบ่อยขึ้น จากเรียกแทนว่าฉัน นาย เปลี่ยนเป็นชื่อกันเพียวๆ อีกหน่อยอาจมีภาษาพ่อขุน เห็นแบบนี้ผมอนุรักษ์ภาษาไทยนะจะบอกให้
“ได้สิ มาจอดหน้าบ้านต่อจากรถพี่วินเลย จำได้ใช่ไหม”
“บ้านของวัต กลไม่มีทางลืมหรอก ถึงแล้ว วางสายก่อนนะ”
สิ้นคำเจ้าตัวกดวางสายทันที รู้สึกตะงิดๆใจกับประโยคแรก เจ้าหมาเอ๊ย หยอดกันอีกแล้ว หยอดมากๆแบบนี้เดี๋ยวรักตายเลย
“ไอชิน มียาป่าววะ น้องฉันมันเป็นบ้าไปแล้ว ยิ้มกับโทรศัพท์ หมั่นไส้”
อือหือ พี่วิน หมั่นไส้แค่ความรู้สึกก็พอมั้ง ไม่ต้องแถมของเล่นนายท่านปาเข้าหัวด้วยหรอก ผมเลยหันไปแลบลิ้นใส่พี่วินซะเลย ประจวบเหมาะกับมีเสียงรถมาจอดหน้าบ้าน ผมเลยชิ่งหนีเท้าพี่ชายตัวเองไปรับหน้าคุณพ่อคุณแม่ อุ๊ยเขิล ตอนนี้ผมกับกลกำลังคบกันอยู่ครับ
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ผู้ใหญ่งามๆตามประสาพ่อแม่พี่ชายสอนมาดี โดยมีพี่ชินกับพี่วินเป็นกองหนุนจากทางด้านหลัง ไม่ต้องห่วง จนตอนนี้พี่วินยังคงไม่ชอบหน้ากลอยู่ เพียงแค่เจ้าตัวถือคติ เกลียดลูกไม่ได้เกลียดพ่อแม่ เลยจัดไหว้งามๆไปสองที ท่านทั้งสองยกมือไหว้รับด้วยรอยยิ้ม จากภายในรถ คงจะรู้แล้วว่าพวกผมจะออกเดินทางเลย เพราะตอนนี้ก็สายมากแล้ว ไม่งั้นกว่าจะถึงคงมืดค่ำ
“ผมขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ทันได้รับรอง แถมยังต้องออกเดินทางเลย”
พี่วินก้มหัวให้พ่อแม่กลเล็กน้อย พวกท่านโบกไม้โบกมือยกใหญ่
“ไม่เป็นไรๆ พวกฉันเข้าใจ อย่ามัวแต่คุยกันเลย รีบออกเดินทางเถอะ อ่อ ฉันขอยืมตัวตาวัตหน่อยนะ พอดีคนขับรถพวกฉันไม่รู้ทาง”
ไอคนขับรถที่ว่า ใส่เสื้อลายดอกสีน้ำเงินมายืนเนียนอยู่ด้านหลังผมอย่างไว แบบเตรียมผมลากขึ้นรถทุกเวลา ผมสังเกตเห็นเส้นเลือดปูดตรงขยับพี่วิน พลางส่งรังสีอาฆาตใส่เจ้าเด็กนิสัยเสียที่เล่นเอาผู้ใหญ่มาขอ งานนี้ผมเข้าใจ จะไม่ยอมให้ผมไปก็ไม่ได้ ผมเลยช่วยพี่ชินตบบ่าพี่วินคนละข้าง
“ได้ครับ”
เจนสัมผัสได้ถึงกระแสความไม่พอใจที่ตวัดสายตามองไปทางตัวต้นเหตุ หมาป่าบางตัวช่างหนังหนาด้านทน ไม่สะท้านกับรังสีนั้นแม้แต่น้อยนิด สรุป ผมเลยมานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถ กินขนมที่กลซื้อมาไว้ให้โดยไม่ได้บอกทางเลยแม้แต่ประโยคเดียว มีหน้าที่กินและชวนพวกท่านที่นั่งอยู่ด้านหลังคุยให้ไม่เบื่อ
สายตากลดีจะตาย พี่ชินขับซ้ายก็ซ้าย ขวาก็ขวา เหมือนรู้ใจกันจนผมชักสงสัย หรือแท้จริงแล้วสองคนนี้เป็นเนื้อคู่กัน โอ้มายก๊อด แบบนี้ผมก็เป็นมือที่สามน่ะสิ แต่พอนึกถึงเวลาสองคนยืนอยู่ใกล้จับมือเหมือนเป็นแฟน ออร่าความรั่วเสื่อมผสมความน่ากลัวแบบแปลกๆมันกระจายออกมาจนผมต้องรีบสบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆนั่นออก เพราะกลัวฝันร้ายตอนนอน กลเลิกคิ้วมองผมด้วยหางตา ผมส่ายหัวหยิบขนมในมือยัดใส่ปากคนช่างสงสัย แล้วหันไปคุยกับคุณแม่ด้านหลังต่อสลับให้อาหารหมาป่า ขนมน้ำไม่ขาดจนคุณพ่อเหล่แล้วเหล่อีก คุณแม่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไม่สิ ผมไม่เคยเห็นแม่กลมีสีหน้าอื่นนอกจากยิ้มกับสงสัย เหมือนลูกชายที่ทำได้แค่หน้าหื่น หน้าหมาสงสัย กับหน้าตาย
พอผมมองหน้ากลถามความเห็น เจ้าตัวส่ายหัวให้ผมไม่ต้องใส่ใจ แล้วอ้าปากรอผมป้อนขนมต่อเหมือนลูกนก ให้ตาย นายเป็นคนขับที่สบายเป็นบ้าเลยกล
ตลอดการเดินทางมีแวะพักแค่รอบเดียวก็เริ่มเดินทางต่อ ใช้เวลาประมาณสี่ชั่วโมง พวกเราก็มาถึงที่หมาย รถสองคันจอนเคียงข้าง เบื้องหน้าเป็นบ้านไม้หลังน้อยแสนอบอุ่น ที่มีสี่ห้องนอน สองห้องน้ำเอง ห้องนอนใหญ่ของตากับยายโดนพ่อแม่ผมยึดไปแล้วเรียบร้อย ส่วนอีกสองห้องเป็นของผมกับพี่วิน ห้องสุดท้ายสำหรับรับรองแขก
ตรงบันไดบ้านมีชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่ ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งดูแข็งแรง เรือนผมสีทองอ่อนเข้ากับดวงตาสีเทา ต้นแบบความหล่อเหลาของผมกับพี่ชิน ส่วนข้างๆเป็นแม่หญิงคนงาม สาวผมดำสวย ท่าทางบอบบางน่าถนอม กำลังเหยียบเท้าสามีตัวเองเพื่อเตือนให้สำรวมมากกว่านี้ เพราะมีแขกมา
ผมเปิดประตูลงจากรถวิ่งเข้าใส่เด็จป๋าทันที ชายหน้าละอ่อนกางแขนรับผมที่เข้าไปเกาะเป็นลูกลิงทั้งที่ตัวพอๆกัน จนพี่วินต้องเข้ามาพยุงก่อนเด็จป๋าจะหงายหลัง ด้านหลังมีพี่ชินถือตะกร้าแมวตามมา พร้อมกลที่เปิดประตูให้พ่อแม่ตามมาสมทบ
“สวัสดีครับคุณพฤธ คุณจิตรียา ผมอาเนช นี่ภรรยาของผมครับ ชื่อรสา”
พอแขกมายืนพร้อมพ่อผมเริ่มทักทายด้วยรอยยิ้มตามประสาคนอัธยาศัยดี ส่วนชื่อพ่อผมรู้เพราะก่อนหน้านี้พี่วินโทรมาบอกก่อนแล้วว่าสองท่านจะมาพักด้วย ทางคุณแม่ยิ้มหวานรับ บ้านผมทุกคนเป็นคนเฟรนลี่ พี่วินเองก็เหมือนกัน ติดแต่ถ้าใครทำให้เฮียเขาไม่ชอบหน้า คนๆนั้นจะไม่ได้รับสิ่งเหล่านี้เท่านั้นเอง
“สวัสดีครับคุณอาเนช คุณรสา วันนี้ครอบครัวเรามารบกวนหน่อยนะครับ เจ้านี้ลูกชายผม”
มืออุ่นตบบ่ากลที่ยืนอยู่ด้านข้าง กลยกมือไหว้อย่างสวยงามอย่างกับจะไปประกวดมารยาท เล่นเอาเด็จแม่ผมมองด้วยความเอ็นดู ทำคะแนนไวเหลือเกินนะ พี่วินแทบกินหัวอยู่แล้วนั่น
“โอย ไม่รบกวนอะไรหรอกครับ พวกผมยินดีต้อนรับเต็มที่” พูดจบพ่อเปลี่ยนเป้าหมายไปทางกล “เจ้าหนุ่มนี้คือกลใช่ไหม วัตกับวินเล่าให้ผมฟังบ่อยๆ หน้าตาหล่อใช่ได้เลยหนิ ท่าทาหน่วยก้านไม่เลว” พ่อผมลูบคางมองกลที่แอบตัวเกร็งไปนิดนึง ผมเข้าใจ เล่นโดนแสกนแบบฉับไวด้วยรอยยิ้มแบบนั้น
เห็นว่าทักทายกันพอแล้ว แม่ผมออกปากเชิญพวกผู้ใหญ่เข้าบ้าน มือรับตะกร้าแมวจากพี่ชินแล้วไล่ให้พวกผมไปขนกระเป๋าขึ้นบ้าน พวกเราแยกย้ายกันไปเก็บข้างของในห้องตัวเอง ส่วนผมเป็นคนนำทางกลยกกระเป๋าพ่อแม่ไปที่ห้องรับรองแขก ก่อนวกกลับมาห้องผม วันนี้กลคงต้องสิงสถิตกับผม ส่วนพี่ชินนอนกับพี่วินตามเคย สองคนนี้ตัวติดกันตั้งแต่สมัยเด็ก ถ้าวันหนึ่งพี่ชินหอบข้าวของย้ายมาอยู่ด้วยกันผมจะไม่แปลกใจเลยจริงๆ
“ห้องของวัตไม่รกเหมือนที่บ้านเนอะ” ลับหลังผู้ใหญ่ นิสัยแท้จริงออกทันที ผมศอกใส่เจ้าหมาปากเสีย ห้องผมไม่รกเว้ย แค่น้องๆรังหนูเท่านั้นเอง
“ใครจะไปเนียบกริบเหมือนกลกัน ถามจริงผู้ชายรึเปล่า ห้องเรียบร้อยยิ่งกว่าผู้หญิงบ้างคนซะอีก”
“ไม่รู้สินะ สงสัยต้องให้คนแถวนี้พิสูจน์ว่าผู้ชายจริงไหม” ปากพูดมือขยับตามสเตปหมาป่าตัวร้าย แขนแกร่งคว้าเอวผมให้ล้มทับคนที่ถือวิสาสะมานอนอืดบนเตียงชาวบ้าน ให้มันน้อยๆหน่อยไอตาพราวระยับนั่น น่าจิ้มให้ตาบอด หึ ระดับอย่างยอดชายนายวัตไม่มีทางอายม้วนแบบนางเอกในละครแน่ อยากให้พิสูจน์นักใช่ไหม ได้!
“อุ๊ก วัตอย่า ปล่อย เดี๋ยวไม่มีทำพันธ์” วะฮ่าๆๆ โอดโอยเข้าไปสิ ร้องเข้าไป
“อยากให้พิสูจน์ไปใช่รึไง” ผมยักคิ้วใส่ เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับท่านวัตคนนี้ ฝันไปร้อยล้านปีแสงไอน้อง
“ยอมแล้วๆ ปล่อยก่อน เดี๋ยวลูกชายตื่น” จัดการส่งเสียงเฮอะในคอใส่แทนคำตอบ ที่ยอมปล่อยมือไม่ใช่เพราะกลัวหมาป่าขย้ำนะจริงๆ แค่เห็นใจไม่อยากทำร้ายสัตว์โลกเท่านั้นเอง
ก๊อกๆ
เสียงประตูดังขึ้น ผมกับกลดีดตัวออกห่างจากกันทันที รีบลงจากเตียงแทบหัวทิ่ม มีเสียงกลหัวเราะไล่หลัง ฝากไว้ก่อน คุยเสร็จพ่อจะมาคิดบัญชี ไอคุณชายหมาป่า
เปิดประตูผ่างออกมาเห็นพ่อตัวเองในชุดลายดอกสีเหลืออ๋อยเหมือนลูกชายทั้งสอง ยืนถือปืนฉีดน้ำกระบอกโต
“วัตเปิดช้าจริง มัวทำอะไรอยู่ เร็วเข้ารีบเตรียมตัว พ่อรอเล่นน้ำจนแก่แล้วเนี่ย”
“ไม่ใช่ว่าแก่อยู่แล้วเหรอพ่อ โอ๊ย! ทำไมใครๆชอบคิดร้ายกับหัวผมจัง”
“เพราะปากแบบนี้น่ะสิมันถึงน่าโดน ไปหยิบอาวุธมาซะ ชักช้าเดี๋ยวเขาเลิกเล่นหมดพอดี นี่ก็เย็นแล้วด้วย ลากเพื่อนมาด้วยล่ะ ผมจะไปรอด้านล่างกับพวกวิน”
“คร้าบๆ” ผมรับเสียงยานๆ มองตามหลังพ่อเดินลงบันไดไปชั้นล่าง แล้วปิดประตูหันกลับมาเจอหมาป่าสต๊าฟ เป็นอะไรล่ะนั่น นั่งตัวแข็งทื่อเลย ผมไม่สนใจ หันไปรื้อหาปืนฉีดน้ำทั้งเก่าใหม่ของตัวเอง ทดลองนิดหน่อยยังใช้งานได้ ยื่นส่งให้กลหนึ่งกระบอก
“พ่อวัตดูใจดีนะ” มันคงเรียกสติกลับมาได้แล้วหลังจากเห็นผู้ใหญ่บางคนสลัดมาดทิ้ง ผมหัวเราะแล้วลากแขนกลออกจากห้อง ต้องรีบลงไปเดี๋ยวพ่อขึ้นมาตามอีกรอบจะซวยเอา
“เห็นใจดีแบบนั้น พอเวลาโกรธน่ากลัวมากเลยนะ ถ้านึกไม่ออก ลองเทียบกับพี่วินดู มากกว่าสักสองเท่าได้มั้ง”
มือหมาป่าที่ผมจับอยู่เย็นเฉียบขึ้นมาทันที ขนาดเท้ายังหยุดเดินยืนนิ่ง
“ทำไม หรือกลจะตัดใจจากวัต” สิ่งที่ตอบผมคือดวงตาแข็งกร้าวแบบไม่ยอมแพ้ รอยยิ้มผุดขึ้นบนมุมปากหมาป่ามาดเข้ม ผมยกยิ้มตอบ ต้องแบบนี้สิถึงจะสมกับที่เป็นคนที่ผมเลือก
ผมกับกลเดินลงมาหาพวกพี่วินที่ยืนรออยู่ตรงรถประจำตำแหน่ง ระหว่างรอพ่อเช็ครถ ทั้งคู่ใส่หน้ากากเรียบร้อย แถมยื่นมาให้กลกับผมคนละอัน ผมรับมาใส่ มันเป็นหน้ากากขายตามงานวัดธรรมดานี้แหละ ของผมเป็นลายมดเอ็ก พี่วินเป็นอุนตร้าแมน พี่ชินลายโดเรมอน ส่วนกลคิตตี้ ผมหัวเราะก๊ากแบบไม่เกรงใจ เกือบจะลงไปกลิ้งกับพื้น ไม่ทันได้ออกศึกก็โดนซะแล้วสุดที่รักผม
กลยืนนิ่งมองหน้ากากบนมือพี่วินเหมือนมันคืออาวุธชีวภาพถ้าจับแล้วจะตายทันที
“ใส่ไปซะถ้าไม่อยากตาย หรือนายปอดแหกแค่นี้ก็ทนไม่ได้” เจอไปหนึ่งดอก กลคว้าหน้ากากมาสวมไร้ซึ่งความลังเลอีกต่อไป โอยตาย แม่งโคตรเหมาะอะบอกเลย ขนาดพ่อผมเห็นยังเรียกให้แม่เอากล้องมาถ่ายพวกเราไว้ ตอนนี้ผมเดาสีหน้ากลได้โดยไม่ต้องถอดหน้ากาก มันคงจะนิ่งเรียบเหมือนปลาตายไปแล้ว
“เอ้าขึ้นมาเลย งานนี้พ่อแว้นเอง”
“เย้” ผมรับคำเป็นลูกคู่กระโดดขึ้นรถสุดหรูคนแรก ตามมาด้วยคนอื่นๆ เสียงบิดเร่งเครื่องดังขึ้น แล้วซาเล้งบรรจุชายหล่อทั้งห้า ได้เวลาเคลื่อนพลเข้าสู่สนามรบ
ไม่ถึงเสี้ยววิ พอเข้าเขตที่คนแถวนี้จะมารวมตัวกันเล่นน้ำ พวกผมห้าคนเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า เสื้อแนบเนื้อชวนสยิวกันล่ะคุณเอ๊ย พ่อจอดรถเก็บกุญแจเข้ากระเป๋า นัดแนะกันว่าถ้าหลงให้มารอที่เบนซ์สามล้อ ก่อนนำทีมพวกเราลุยฉีดน้ำใส่คนอื่น
เพลงที่เปิดอย่างมันอะขอบอก ลูกทุ่งๆนี้แหละเต้นมันดีนัก แน่นอนว่างานนี้โนน้องแอล แต่ไม่ไร้น้องแข็งกับน้องแป้ง ถึงเขาจะห้ามก็ยังมีคนใช้อยู่ดี ตะกี้ผมเพิ่งโดนไปเต็มหลัง เย็นไปถึงเซี้ยงจี้ มีสาวหลายคนพยายามเหลือเกินจะปะแป้งพวกผม ติดแต่พี่วินกับพี่ชินสูงเกินไปแถมเงยหน้าหลบสาวๆเลยแห้วกันเป็นแถว ผมกับกลตัวสูงไม่ต่างรอดไปได้เหมือนกัน
สุดท้าย หลังสาดน้ำกันวุ่นวาย เห็นหลังพ่อแวบๆไปเล่นสาดน้ำกับผู้ใหญ่บ้านอยู่ด้านโน้น ผมถูกมือดีฉกหน้ากากออก เท่านั้นแหละ เสียงกรี๊ดสาวแถวนั้นดังกระหึ่ม ไม่ใช่กรี๊ดผมนะ แต่เป็นกลที่เผลอพลาดท่าหน้ากากคิตตี้หลุด สารพัดมือ สารพัดแป้งโปะเข้าเต็มหน้าเจ้าตัว ไอผมเป็นแฟนที่ดี ขอแป้งคนแถวนั้นมาโปะแถมให้อีก ขาววอกโคตรๆ แบบไม่ต้องพึ่งยาฉีดผิวเลย
กลเหมือนจะเริ่มตั้งรับไม่ไหว กลรีบลากผมหลบมุม ขอน้ำลุงป้าแถวนั้นมาล้างหน้า โดยมีผมยืนหัวเราะเยาะอยู่ข้างๆ บอกแล้ว ผมเป็นแฟนตัวอย่าง หาที่ไหนไม่ได้อีกในโลก เพื่อน แฟนตกต่ำต้องรีบซ้ำเติมสิ!
“กลรู้แล้วล่ะว่าทำไมต้องใส่หน้ากาก”
ผมตบหลังกลป้าบๆ แฝงความแค้นไว้ ผมเองก็หน้ากากหลุดทำไมไม่มีใครมาปะแป้งมั้ง โดยลืมคิดไปซะสนิท ที่ไม่โดนเพราะหมาบางตัวมันยื่นหน้ามารับแทนหมด กว่าผมจะระทึกชาติถึงความเสียสละอันยิ่งใหญ่ได้ ก็หลังจากกลับกรุงเทพนู่นแหละ
“เกิดมาหน้าตาดีทำใจไป ขอบอกเลยว่าตอนนี้ผิวเข้มๆของกลขาววอกยิ่งกว่าวัตตอนเข้าเกมเป็นแวมไพร์ซะอีก”
จบคำพูดด้วยเสียงหัวเราะอีกชุด เจ้าหมาแอบเคือง จับชายเสื้อลายดอกตัวเองรวบหัวผมไปถูซิกแพค ผมเลยฉีดน้ำใส่ทั้งที่มองไม่เห็นนี้แหละ กลายเป็นเราเล่นกันนัวเนียอยู่ตรงนั้น
“เฮ้ย หลบหน่อยดิ๊” เสียงโคตรหาเรื่อง ผมหันไปมองทันที เจอมนุษย์แป้งสองคนถือถังน้ำเดินเข้ามาหา ถ้าไม่ติดว่าผมเห็นซากหน้ากากบนมือสองคนนั้น คงจำไม่ได้ว่าเป็นใคร
“ก๊ากกก!! พี่วิน พี่ชิน เปลี่ยนสปีชี่เป็นมนุษย์แป้งแล้วเหรอ”
“ผู้หญิงสมัยนี้น่ากลัวชะมัด วันหลังคงต้องใส่หน้ากากแบบสวมหัวแล้ว แบบนี้เอาไม่อยู่ แหวะ แป้งเข้าปาก” ผมอนาถใจช่วยหยิบขันราดน้ำให้พี่วินล้างแป้งออก ทางกลถูกใช้แรงงานด้วยพี่ชิน หลังแป้งขาวถูกล้างออกไปบ้างแล้ว ผมถึงได้เห็นรอยสักเยื้องๆกับท้ายทอยพี่วิน มันเป็นรูปลายกราฟิกรูปแมวที่ปกติจะถูกผมของพี่วินปิดเอาไว้
เห็นว่าเจ้ารอยสักนี้ได้มาตอนสมัยขึ้นมหาลัยใหม่ๆ เพื่อนพี่วินอยากหารายได้เสริมไว้ซื้อข้าวกิน เจ้าตัวเลยเสียสละตัวเองไปขึ้นเขียงให้เพื่อนสักให้ ผมจำได้ หลังจากนั่นพี่วินบ่นทุกวันบอกว่ามันเบี้ยว ผมว่ามันก็สวยดีออก ติดแค่ไม่ใช่ตำแหน่งท้ายท้อยอย่างที่พี่วินต้องการเท่านั้นเอง
เอ้อ พี่ชินเอากับเขาด้วย ทางนั้นสักตรงไหล่ด้านหลังข้างซ้าย เป็นรูปกราฟิกเหมือนกัน ผมดูไม่ค่อยออกว่ามันเป็นลายอะไร แต่มันเท่สุดๆ
หลังจากล้างหน้าล้างตากันเสร็จ แทนที่สามชายโฉดจะเข็ด เปล่าเลย กระโดดเข้าไปเล่นสงครามน้ำกันอีกรอบ ผมเองก็เข้าไปร่วมวงด้วย แอบจิ๊กน้ำเย็นเจี๊ยบไปราดใส่พ่ออยู่ ก่อนโดนคืนแบบคว่ำน้ำเย็นเป็นถัง ตัวสั่นเป็นค้างคาวแช่แข็งเลยผม
พวกเราเล่นได้ประมาณสองชั่วโมงก็ถอยทัพกลับ เหตุผลคือ แม่โทรตาม เพราะมันใกล้ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว คราวนี้กลเป็นฝ่ายขอลองแว้นซาเล้งบ้าง บอกว่าตั้งแต่เกิดไม่เคยขับ ผมทำปากยื่นอย่างหมั่นไส้ คุณชายบนหอคอยหมาป่าอย่างกลที่ไม่เคยทำอะไรแบบที่คนธรรมดาเขาทำกันเหมือนบ้านผม
ถึงอย่างนั้น กลดูสนุกกับทุกอย่างที่ไม่เคยทำ ตั้งแต่คบกันมาไม่ว่าผมจะลากไปเล่นอะไรบ้าบอขนาดไหนไม่มีบ่นสักแอะ พยายามปรับตัวเข้าหาผมเต็มที่ นับวันยิ่งกลมกลืนจนแยกไม่ออก ปรับตัวเร็วยิ่งกว่าเปลี่ยนสี หรือแท้จริงแล้วเป็นสายพันธ์หมาป่าครึ่งจิ้งจกกันหนอ เรื่องนี้ยังคงเป็นปริศนาต่อไป
รถเบนซ์สามล้อจอดหน้าบ้านปุ๊บ พ่อลงจากรถเดินขึ้นบ้านคนแรก หันมาใช้สิทธ์ผู้ใหญ่สั่งพวกผม
“พวกลูกอาบกันข้างล่าง พ่อยึดห้องน้ำชั้นบนล่ะ”
แหงสิ ชั้นบนมันเป็นฝักบัวน้ำอุ่นอย่างดี ส่วนด้านล่างน่ะเหรอ หึหึ โอ่งมังกรครับ โอ่งใส่น้ำเต็มๆสามโอ่งใหญ่ น้ำเย็นเจี๊ยบยาบอกใคร มีขัน สบู่ ยาสระผมพร้อม แม่คงให้ป้านุ่นลูกมือแม่มาเตรียมไว้ให้ ป้าแกเป็นคนเก่าคนแก่ ช่วยเลี้ยงดูพวกผมมาตั้งแต่ตีนเท้าฝาหอย ให้อารมณ์คล้ายๆกันแม่นม
พวกเราสี่หนุ่มมองหน้ากัน แล้วเร่งสปีดอาบน้ำด้วยความเร็วแสงแบบรับรองความสะอาด ในสภาพนุ่งผ้าขาวผ้าคนล่ะผืน อู้หู เสียวหลุดยิ่งกว่าสายเดี่ยว ฮ่าๆๆ ดีที่กลผ่านการรับน้อง ลุยค่ายมานักต่อนัก เจ้าตัวเลยมีเคล็ดวิชายึดผ้าขาวม้าแน่นหนาระดับเทพมา ไม่งั้นโดนเพื่อนดึงหลุดกระจุยอะ
พออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็ถึงเวลารวมพลทานข้าวเย็น ผมกอดหอมป้านุ่นแล้วช่วยป้าแกเสิร์ฟอาหาร สำรับเต็มไปด้วยกับข้าวมากมายแบบพื้นบ้าน รับรองว่าต่อให้คนไม่เคยทานยังไงก็ทานได้ ด้วยเสน่ห์ปลายจวักของแม่ผม พ่อแม่กลชมไม่ขาดปาก แม่ผมยิ้มหน้าบานจนพ่อแซว สนุกสนานเฮฮา ผมกับกลมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม พวกเราจับมือกันใต้โต๊ะ อยากให้บรรยากาศแบบนี้อยู่ต่อไปอีกนานๆ
หลังมื้ออาหารแสนอร่อย ระหว่างพวกผู้ใหญ่นั่งคุยกันเล่นรอข้าวเรียงเม็ด พวกผมลูกๆคลานเข่าเข้าไปหา พี่วินถือขันเงินใส่น้ำผสมน้ำอบ ลอยด้วยดอกมะลิพร้อมขันไปเล็กๆนำไปคนแรก ทุกคนมีพวงมาลัยเล็กอยู่ในมือคนละห้าพวง พี่วินเป็นคนซื้อเก็บไว้ในตู้เย็นตอนเช้ามืด
ผมแยกออกมาหาป้านุ่นที่นั่งอยู่ไม่ไกล
“ป้านุ่นครับ ขอเชิญด้วยนะครับ” ทีแรกป้านุ่นแกจะไม่ยอมมาเพราะเห็นเป็นแค่คนใช้ แต่สำหรับผม ป้าไม่ใช่คนใช้ เป็นญาติผู้ใหญ่อีกหนึ่งคนของบ้านเรา
“มาเถอะจ๊ะพี่นุ่น เด็กๆเขารออยู่นะ” แม่ผมช่วยอีกแรง จนป้านุ่นยอมไปนั่งบนเก้าอี้ที่เตรียมไว้ให้
พวกผมรดน้ำบนมืออย่างระมัดระวัง ก่อนยื่นส่งพวงมาลัยให้ ก้มกราบแทบเท้าผู้ให้กำเนิด รวมถึงผู้ฟูมฟักเลี้ยงดูพวกเรามาตั้งแต่เยาว์วัย มืออบอุ่นลูบศีรษะแผ่วเบา คำอวยพรดังกระซิบข้างหู ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั้งใจ กลิ่นหอมของน้ำอบกับดอกมะลิอบอวนไปทั่ว
บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความสุข ผมช่วยเช็ดน้ำตาให้กับป้านุ่น นายท่านเองไม่ยอมน้อยหน้าเดินเข้ามาใช้อุ้งเท้านุ่มๆแตะบนเท้าของแม่ผมเบาๆ ผมว่ามันคงไม่ได้สำนึกถึงพระคุณอะไรหรอก เรียกร้องขอขนมกินเล่นหลังข้าวมากกว่า ทุกทีที่กลับบ้าน แม่มักเป็นคนตามใจนายท่านตลอดนี่นา
พอแม่ให้ขนมก็วนไปหาพ่อผมต่อ พ่อผมให้อีก ทีนี้ลามไปถึงพ่อแม่ของกลจนป้านุ่นต้องอุ้มไปใส่ที่นอน เพราะชักจะกินเยอะเกินไปแล้ว พวกเราหัวเราะกันอย่างมีความสุข คืนนั้นพ่อชวนพ่อกลคุยจนมืดค่ำ คุณแม่ทั้งสองเองก็ไม่น้อยหน้า ส่วนพี่วินกับพี่ชินหลังโหมงานจนแทบไม่ได้นอน ต้องรีบถ่อกลับบ้าน ทั้งคู่ฝืนสังขารไม่ไหว ถอยทัพกลับไปนอนซุกผ้าห่มอุ่นๆในห้องเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปทำบุญทั้งครอบครัวอีก เลยต้องตุนพลังงานเอาไว้
ผมกับกลเกาะขอบหน้าต่างมองดวงดาวเต็มท้องฟ้า พระจันทร์กลมโตลอยเด่นทอแสงนวล มือหนาช่วยเกลี่ยผมให้ ผมหันมามองหน้ากลที่ก้มหน้าลงมาให้หน้าผากแตะกัน พวกเรายิ้มและพูดออกมาพร้อมกันว่า
“สุขสันต์วันปีใหม่ไทย”
“อื้ม! สุขสันต์วันสงกรานต์นะ”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ ใครเล่นน้ำโปรดระวัง ใครเดินทางโปรดระวัง ใครอยู่บ้านโปรดระวัง เพราะถ้าของที่ตุนไว้หมด ต้องออกลุยน้ำไปซื้อเด้อ 5555+
อย่าลืมนะครับ นอกจากวันแห่งการเล่นน้ำคลายร้อนแล้ว ยังเป็นวันของครอบครัว แสดงความรักกันเล็กๆน้อยๆ จะได้พลังใจขึ้นเยอะ ระดับLv.MAX เลยทีเดียวเชียว
