Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์! [Up Lv.พิเศษ พจนินท์สไตล์3 100% 8/4/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์! [Up Lv.พิเศษ พจนินท์สไตล์3 100% 8/4/61]  (อ่าน 287710 ครั้ง)

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #60 เมื่อ08-04-2015 12:34:52 »

ไม่เคยชอบเกมเลย แต่พออ่านเรื่องนี้แล้ว อยากเล่ม No Name บ้าง

กลรุกไปเลย อย่าปล่อยค้างคาวให้ลอยนวล

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #61 เมื่อ08-04-2015 13:05:57 »

แต่งได้สนุกมาก ชอบฮะ ไม่น่าเบื่อ ยืดเยื้อบรรยายฉากเกมออนไลน์ซะขี้เกียจอ่านเหมือนบางเรื่อง
แถมมีเรื่องราวในชีวิตจริง ปะปนมาได้ระยะ ประกอบข้อมูลได้ดี น่าอ่านโดยตลอด ตัวละครก็มีเอกลักษณ์
แต่งได้เก่งมากจริงๆ เห็นถึงความตั้งใจและความสนุกในการเรียบเรียงเนื้อหาเลยฮะ
ให้กำลังใจ และขอให้มีไฟในการแต่งต่อไปเรื่อยๆจนจบนะฮะ ขอบคุณคร้าบบบบบบ  :L2:

ออฟไลน์ dekzappp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #62 เมื่อ08-04-2015 17:33:25 »

สนุกกกก ขอบคุณนะที่แต่งแนวนี้มาให้อ่าน กำลังอยากอ่านแนวนี้เลย
บอกเลยว่าแต่ละตอน ทำเราฟินมว๊ากกกกกกกกก
กลกับวัตน่ารักอะ ชอบคู่นี้จริงจัง ให้อารมณ์แวมไพร์ผู้สูงศักดิ์กับหมาป่าผู้พิทักษ์ >///<
ยิ่งตอนล่าสุด เลียแผลนี่แบบ อ๊างงงงงงง

อยากอ่านตอนต่อไปแล้วววว

ออฟไลน์ Melonlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #63 เมื่อ09-04-2015 18:22:32 »

คุณหมาป่าจะออนมั้ยน๊า :ling1:  อยากอ่านอีกแล้ว มาต่อเร็วๆๆน๊า :mew6: :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #64 เมื่อ09-04-2015 18:45:38 »

 :mew1:   มารอและให้กำลังใจคนเขียนจ้ะ

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 450
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #65 เมื่อ09-04-2015 20:26:48 »

บวกเป็ด o13

ออฟไลน์ morningflower

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #66 เมื่อ10-04-2015 00:24:06 »

แอร๊ยยยย ฉากเลียแผลนี่เลือดหมดตัว  :jul1:  :jul1:

อย่าเอาค้างคาวไปขังในกรงหมานะ!!
ต้องสร้างกรงให้วัตพิเศษสิ  :m20:

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #67 เมื่อ10-04-2015 01:35:43 »

แอร๊ยยย 8ตอนรวด บอกเลยเราไม่ชอบอ่านแนวนี้ แต่ว่างๆ(ตอนตี1กว่าเนี่ยนะ555) เลยเข้าอ่านดู ไปๆมาๆ เฮ้ย ชอบว่ะ ใช่เลย ติดแหง๊กกกก ฉากน้ำตกนี่แบบว่า แอร๊ยยย ฟินกับพ่อหมาป่ากลจิงๆๆๆ รอตอนต่อไปและรอตอนเค้าไปเจอกันในค่ายรับน้องนะ อิอิ

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 814
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #68 เมื่อ10-04-2015 07:23:51 »

สนุกค่ะ
ทำไมช่วงนี้เรากำลังอ่าน การ์ตูนเกี่ยวกับเกมส์ แล้วมันก็เจอมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มต้นที่
sao
re:monter
tate no yuusha no nariagari
the newgate
the legendary moonlight sculpture
the gamer
zero no shiniki ฯลฯ
แล้วมันก็ทยอยมาเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดหย่อน 5555
แล้วเราก็อ่านอย่างไม่หยุดหย่อนเช่นกัน
ถึงอ่านไปจะมี เอะ พ่อทำไมยอมรับง่ายจัง แถมยังไปคิดอะไรเด็กๆแบบน้านนน ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เลย
เอะ มันเป็นเทคโนโลยียังไง ที่เข้าไปได้ทั้งตัว งั้นก็สามารถ สร้างเครื่องวาร์ปได้แล้วสิ
(หรือว่าเครื่องวาร์ปราคาแพงไป ไม่เห็นใช้กัน - -)
แต่ทำไม ถึงยังมีวินมอไซ เอ้า นั่นมันยุคไหนนิ ยุคที่มีเทคโนโลยีพัฒนาขนาดนั้นยังมีวินเหลือเราะ
แล้วก็เอ้า
  “ยินดีต้อนรับเข้าสู่เกมNo Name ขอให้สนุกกับโลกแห่งแฟนตาซีนะค่ะ
ตัวที่เป็นสีแดง มันอ่านว่า = นะ-ขะ
เราขอเดาว่า จะเขียนให้มีความหมายว่า นะคะ สินะ  ที่ถูกคือ
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่เกมNo Name ขอให้สนุกกับโลกแห่งแฟนตาซีนะคะ"
เพราะงั้นช่วยใช้ให้ถูกด้วยนะคะ
เราอ่านแล้ว เอะ เอะ เอะ ตลอดเลย มันอ่านแล้วมันแหม่งๆน่ะค่ะ
ส่วนคำอื่นก็มีผิดบ้างประปราย ไม่เป็นไรค่ะ
ขอคำนี้เถอะค่ะ นะคะ  อิอิ
สู้ๆน้าา มาอัพไวๆ เร็วทันใจเถิดดดด
อย่างน้อยๆมาอาทิตย์ละตอน สองตอนก็ยังดี นะคะ
 :hao7:

ออฟไลน์ Wereena

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
    • facebook
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #69 เมื่อ10-04-2015 10:30:16 »

อร้ากก :hao7: ฟินไปสามตลบ อิอิ โดนดาเมจคอมโบเซ็ต วัตดูดเลือด+กลเลียแผล ไปเต็มๆเหมือนกัน :m10: จะรออะไรละ ฟินตายอย่างสงบสิคะ :m25: รอตอนต่อไปนะเคอะคนเขียน :m1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
« ตอบ #69 เมื่อ: 10-04-2015 10:30:16 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #70 เมื่อ10-04-2015 10:36:58 »

Lv.6 ยอดชายนายหมาป่า

   ท้องฟ้าด้านนอกยังคงมืดสนิท เสียงพูดคุยของผู้คนเริ่มเบาบางจนเหลือเพียงความเงียบ แสงไฟตามบ้านเรือนดับลง เหลือเพียงแสงจากโคมไฟส่องทางตามถนน ทุกสรรพสิ่งเข้าสู่ห้วงนิทรา ยกเว้นเพียงสองร่างภายในห้องพักแห่งหนึ่ง

   เสียงขยับตัว เสื้อผ้าเสียดสี กลิ่นเลือดยังคงคลุ้งไปทั่วห้อง แต่เบาบางลงมากจากตอนแรก

   ปีกค้างคาวสีดำเริ่มสมานตัวเองจนกลับสู่สภาวะปกติ เจ้าของลองขยับดูนิดหน่อย ริมฝีปากผุดรอยยิ้มยินดี มองผู้บริจาคด้วยสายตาซาบซึ้งอย่างหาที่สุดไม่ได้ จนคนถูกจ้องต้องเป็นฝ่ายส่ายหัวถอนหายใจแทน

   เพียงแค่เขาไม่อยู่ไม่เท่าไหร่ ค้างคาวเป้าหมายก็พาตัวเองไปเจ็บจนปีกยับเยิน ไม่สิ ถึงต่อให้เขาอยู่เจ้าตัวก็หาเรื่องเจ็บตัวอยู่ดี หมาป่าหนุ่มยกขวดเลือดกระดกทดแทนเลือดที่เสียไปอย่างปลงๆ อีกไม่กี่วันต้องไปเข้าค่ายรับน้องซะด้วย ไม่รู้ว่าคราวนี้กลับมาอีกที พ่อค้างคาวของเขาจะพัฒนาไปทางไหน

   ต้องบอกว่าอีกฝ่ายเล่นเกมเก่งจริงๆ ดูจะมีพื้นฐานเกมมาก่อนไม่ใช่น้อย เขาแค่หายไปไม่กี่วัน กลับมาระดับเพิ่มไปเกือบจะ 40 เคลียภารกิจในเมืองนี้จนเกลี้ยง เสร็จไปถึงเควสล่าบอสประจำเมืองที่คิดว่าจะกลับมาช่วยตี

   หูสามเหลี่ยมบนหัวขยับเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงจากห้องอื่น ตามตัวอีกฝ่ายมีกลิ่นอื่นติดมา ถ้าเป็นคนที่เจอแล้วแยกย้ายกลิ่นไม่น่าเยอะขนาดนี้ ดวงตาคมสี่น้ำเงินเข้มหรี่ลงแบบไม่เป็นที่สังเกต พออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาเลิกคิ้วมอง ดวงตาเปลี่ยนเป็นราบเรียบปกติตามเดิม

   “ก่อนจะออกเกมนายมีเป้าหมายอะไรรึเปล่า”

   เขาเลือกถามแบบกลางๆ วัตเป็นคนฉลาด ไหวพริบดี ช่างสังเกต ดังนั้นถ้าเขาไม่อยากให้ค้างคาวตื่น ต้องยอมเป็นหมาป่าว่าง่ายโอนอ่อนตามอีกฝ่าย เพื่อจะได้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ เพราะถ้าเกิดวัตนึกระแวงเขาขึ้นมา สิ่งที่คิดไว้ว่าอยากทำความรู้จักสนิทสนมด้วยคงจะเป็นไปได้ยาก

   “ใช่ๆ นายมาพอดีเลย ฉันมีเรื่องจะถาม”

   ผมเก็บขวดแก้วเปล่าใส่ในสร้อย แล้วนั่งตั้งใจฟังสิ่งที่วัตเล่ามา เจ้าตัวเล่าว่ามีนักเวทสาวคนหนึ่งอยากให้ช่วยเรื่องการทำภารกิจทักษะ ผมนิ่งคิดไปสักพัก พอนึกภารกิจที่น่าจะเกี่ยวข้องได้สองสามอย่าง เลยบอกเขาว่าขอเวลาทบทวนอีกสักพักเพื่อความแน่ใจ

   นอกเหนือจากนี้ผมเลยถามเขาว่าไปทำอะไรมาบ้าง วัตเล่าโดยไม่คิดอะไรมาก ตามประสาคนสบายๆ สรุปออกมาได้สองสามข้อ อย่างแรกวัตเริ่มชินกับเกมนี้แล้ว และมีแนวโน้มจะเล่นต่อยาวๆ ซึ่งนั่นเป็นข่าวดีสำหรับผม

   อย่างที่สอง เจ้าตัวเจอเพื่อนเรียบร้อย ดึงผมเข้าไปอยู่ในปาร์ตี้เดียวกันด้วย เห็นทีพรุ่งนี้คงต้องไปทำความรู้จักกับเพื่อนของวัตสักหน่อย รวมถึงสมาชิกหญิงสาวเพียงคนเดียวในทีม

   อย่างที่สาม วัตดันไปเจอพวกนิสัยแย่เข้า ปกติของสังคมเกม มันก็ไม่ต่างจากสังคมในโลกจริง ที่พิเศษหน่อยคงเป็นทุกคนไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักกันมาก่อน ดังนั้นนิสัยแย่ๆ หรือนิสัยลึกภายในมักจะถูกแสดงออกมาเต็มที่

   ผมไม่คิดจะตามไปแก้แค้นเพราะมันไร้สาระ แถมวัตเองก็จัดการไปแล้วด้วย เขาเป็นผู้ชาย ท่าทางร้ายไม่แพ้ผม ผมไม่นึกห่วงเขาเรื่องนี้ ห่วงก็แต่ตัวเองจะจกหลุมแผนการของวัตแบบจังๆ เข้าสักวัน ทุกวันนี้ก็จวนเจียนอยู่รอมร่อ...

   “ทำหน้าอะไรแบบนั้น หรือนายง่วง ถ้างั้นก็นอนกันเถอะ แม้พวกเราจะเป็นสัตว์กลางคืน แต่หลักๆ ยังเป็นคนอยู่ ถึงเวลาพักก็ต้องพักผ่อนล่ะนะ”

   นี้ก็อีกอย่าง คนอื่นสังเกตสีหน้าผมไม่ออก มีแค่คนสนิทกับคนในครอบครัวเท่านั้นที่มองออก วัตเป็นกรณีพิเศษ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมสนใจเขา

   ค้างคาวล้มตัวลงนอน เตียงมีแค่เตียงเดียวพวกเราเลยต้องแบ่งกัน วัตนอนฝั่งด้านใน ไม่ยอมเก็บปีก เอามาคลุมตัวเองจนผมนึกขำ ส่วนผมนอนอยู่ฝั่งด้านนอก มือดึงม่านปิด คว้าผ้าห่มคลุมตัวพวกเราทั้งคู่แล้วเข้าสู่ห้วงนิทราตามชาวเมืองไป

   
   แสงแดดยามเช้ายังคงเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบอยู่ดี ไม่ว่าจะในเกมหรือนอนเกม ยังดีหน่อย วันนี้รู้สึกเหมือนแดดจะมารบกวนผมน้อยกว่าทุกที พอผมลืมตาถึงได้เห็นคำตอบ สิ่งที่เรียกว่าแดด คงทำอะไรผมไม่ได้หรอก ในเมื่อมีอีกคนนอนเป็นโล่ป้องกันให้ รู้สึกเหมือนได้กลิ่นหมาป่าสุก

   “กล เฮ้ย กล ไหงฉันกับนายถึงสลับที่กันนอนได้เนี่ย”

   ผมเขย่าตัวกลที่ลืมตาขึ้นมา ไม่มีความงัวเงียเลยแม้แต่น้อย เจ้าตัวลุกขึ้นบิดตัวแก้เมื่อย ดูเหมือนจะตื่นนานแล้ว

   “พอพระอาทิตย์ขึ้น นายเริ่มดิ้น ฉันเลยเปลี่ยนที่นอนริมหน้าต่างแทน”

   “ขอบใจนะ” ผมแทบอยากยกมือประกบกราบ นายดูแลฉันดีขนาดที่ฉันเผลอคิดไปว่า นายเป็นพี่น้องที่ผลัดพรากจากกันไปเมื่อกาลก่อน พวกเราต่างคนต่างหยิบผ้าขนหนูของตัวเองพร้อมชุดเปลี่ยนออกจากห้องหมายจะไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น

   พอเปิดประตูออกมากลิ่นหอมของขนมปังและซุปโชยเตะจมูก รอบโต๊ะอาหารมีสาวสวยโนตมคนเดิมเจ้ลินกำลังนั่งแทะขนมปัง ไม่ห่างกันมีไวไวเพื่อนรักเหมือนจะคิดค้นวิธีการกินโดยไม่ต้องถอดหน้ากากอยู่ ทั้งคู่มองมาที่ผมเป็นตาเดียว

   ลินขนมปังร่วงจากมือสิ้นชีพบนพื้นอย่างน่าเสียดาย ไวไวแทบจะพ่นเอาซุปที่พยายามตักใส่ปากลอดใต้หน้ากาก และผม ยืนนิ่งมองพวกนั่นด้วยรอยยิ้ม พร้อมผายมือไปทางร่างสูงด้านข้าง

   “ขอแนะนำให้รู้จัก หมาป่าสุดหล่อ กล ส่วนคนที่นั่งสวยอยู่ตรงนั้น นักเวทที่ฉันกับนายเคยเจอมาก่อนมีชื่อว่าลิน ไอหน้ากากกินท่ายากนั่นเพื่อนที่ฉันกำลังตามหา ชื่อไวไว สนิทกันไว้นะ”

   พูดจบ ผมก็หมุนตัวเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างสง่างาม ตามหลังมาด้วยกลที่พยักหน้าทักทายสองคนในห้องนิดหน่อย แล้วเดินตามผมเข้ามาก่อนปิดประตูห้องน้ำเป็นการจบบทสนทนา

   ความเงียบปกคลุมโดยรอบชั่วอึดใจ ผมถอดเสื้อเตรียมอาบน้ำ ได้ยินเสียงโหยหวนจากทั้งสองคนด้านนอก กลเลิกคิ้วมอง ผมยักไหล่ไม่ต้องใส่ใจ แล้วพวกเราก็แยกคนละมุมจัดการตัวเอง ก็นะ พร้อมกันเลยไวดี ผู้ชายเหมือนกันอย่าคิดมากหน่า

   “กรี๊ดดด อยู่ห้องเดียวกัน!!”

   “อ๊ากกก ตายแล้ว กูตายแน่ๆ ถ้าพี่วินรู้เข้าล่ะก็ โอยไอ้ไวไว ชีวิตมึงไม่เหลือแหง ชิบหายแล้ว คลาดสายตาไปไม่นาน เพื่อนกูถึงกับมีผัวเป็นตัวเป็นตน”

   “กระต่ายที่ไหนมันเห่าวะ ไม่ใช่ผัวเว้ย เพื่อน!!”

   เสียงลินเธอกรี๊ดบาดหูผมยังพอทนได้ แต่ไอไวไวนี่ผมรับไม่ได้จริงๆ หาว่าผมมีพระสวามีได้ยังไง ยังไม่ได้ตกลงกันเลย แม่งโคตรโมเม คำหยาบหลุดมาเป็นพรวนอีกต่างหาก คงจะตกใจจนลืมเก็บหมาในปาก นี่ยังถือว่าเบา ถ้าเกิดมาฟังตอนพวกผมอยู่กันยกทีม อือหือ สวนสัตว์ยังชิดซ้าย ศิลาพ่อขุนยังชิดขวา

   “ร่าเริงกันดีนะ”

   น้ำเสียงนิ่งๆ ช่างไม่เข้ากับดวงตาพราวระยับคู่นั้นเลย นายช่วยทำอะไรที่สัมพันธ์กับสีหน้าหน่อยได้มั้ย

   “อีกหน่อย นายคงไม่พูดแบบนี้แน่”

   มีเสียงหัวเราะในลำคอดังแว่วมา ผมตักน้ำราดตัวเอง ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น แล้วคว้าผ้าขนหนูมานุ่งไว้ ยังดีที่เกมนี้ปราณีผู้เล่น เลยมีสบู่ แชมพู แปลงสีฟันว่ากันไป เพียงแค่ทุกอย่างไม่มีสารเคมีเป็นส่วนผสม สกัดจากธรรมชาติล้วนๆ

   หันมาอีกทีกลจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน ไวมาก ระหว่างที่ผมกำลังเช็ดผมอยู่ สัมผัสจากมือสากแตะที่แผ่นหลังให้ผมสะดุ้งโหยง อย่าลูบน้อง พี่สยิว

   “โทษที แค่อยากรู้ ปีกนายหายดีแล้วหรือยัง”

   ผมพยักหน้าเออออ แล้วหันกลับมาประจันหน้า ยกมือตบไหล่กว้างปุๆ เนียนลูบกล้ามคืนนิดหน่อย

   “ได้เลือดนายไปหายดีเป็นปกติแล้ว” ผมถอยออกมาลูบค้างสำรวจดู “นายนี้ใช่เล่น ก่อนหน้านี้ไม่ทันสังเกต หุ่นนายใช่ได้เลยนี้ ไม่บึกแบบพวกนักกีฬา กำลังพอดี อย่าบอกนะว่าจริงๆ แล้วนายเป็นนายแบบ?”

   “ฉันไม่ทำงานเบื้องหน้าแบบนั้นหรอก รีบออกไปกันดีกว่า เดี๋ยวพวกนั้นคิดเลยเถิดไปไหนอีก”

   พอดวงตาสีน้ำเงินเข้มจัดจนเกือบดำคู่นั้นมองสำรวจผมบ้าง ก็ผละออกใส่เสื้อผ้าแล้วชวนออกจากห้องน้ำ ผมก้มมองหุ่นตัวเอง ส่องกระจกในห้องน้ำไปด้วย หุ่นผมก็ไม่ได้แย่อะไร ไม่ถึกแบบเพื่อนไวไว แต่ก็ไม่บาง มีกล้ามพองามตามประสาคนออกชอบออกแรง ติดแต่ว่าในเกมผมเป็นแวมไพร์ ผิวเลยขาวซีดปานศพ ต่างจากนอกเกมที่ออกแทนนิดๆ เพราะโดนแดดประจำ

   สงสัยพ่อหมาป่าจะรับความขาวปานท้องปลาตายของผมไม่ได้ เลยเลี่ยงออกไปซะอย่างนั้น ผมเองไม่คิดจะแช่ในห้องน้ำนานเหมือนกัน ใส่เสื้อผ้าเสร็จเปิดประตูผ่างออกไปทันที เห็นลินแสร้งมองนู่นมองนี้ ไวไวผิวปากดูอารมณ์ดีเหลือเกิน ทั้งสองพากันมาอออยู่แถวห้องน้ำ คิดว่าผมไม่รู้เลยสินะว่าทำอะไร

   พอผมจ้องมากๆ เข้า ร้อนตัวกันใหญ่ พวกนายเนียนมาก!

   “มองไรยะ ฉันแค่สงสัยว่าพวกนายไปตายคาห้องน้ำแล้วหรือไงถึงได้ช้านัก”

   “ใช่ๆ ฉันเป็นห่วงนายเฉยๆ ไม่ได้คิดจะแอบฟังว่านายทำอะไรกันเลยสักนิด”

   ผมนับหนึ่งถึงสามในใจ แล้วสูดลมหายใจลึกๆ ยิ้มในแบบที่คิดว่าดูดีที่สุด เผยเขี้ยวตรงมุมปาก

   “พวกฉันไม่ตายหรอก อึดกันขนาดนี้ วันหลังไม่ต้องลำบากแอบฟังนะ ถ้าพวกเราคิดจะทำอะไรกันจริงๆ เสียงมันคงดังจนพวกนายได้ยินเองนั่นแหละ”

   ไวไวกับลินอ้าปากค้าง ไม่รู้ว่ากลรับมุกหรืออะไร จับมือผมที่ใช้นิ้วโป้งจิ้มอกคนด้านหลังยกขึ้นจูบเบาๆ ก่อนเปลี่ยนร่างตัวเองเป็นรูปปั้นอีกครั้ง งานนี้ตัวผมเองยังมีสะดุ้งรอบสองของวัน ท่าทางพ่อหมาป่าจะเข้าหาแบบแปลกๆ ตั้งแต่รู้ว่าผมเจอเพื่อนแล้ว อย่างกับเวลาหมาแสดงอาการหวงเจ้านาย อืม ผมคงคิดมากไปเอง

   “พอๆ เลิกอึ้งได้แล้ว ฉันแค่แหย่เล่น มานั่งกินข้าวคุยกันดีกว่า เราจะเอายังไงกับชีวิตกันต่อ เมื่อคืนนายบอกว่าขอเวลาคิดใช่มั้ยกล ตอนนี้คิดออกยังว่าไอภารกิจนั่นมันทำยังไง”

   ผมตัดจินตนาการทุกคน นำไปนั่งประจำที่หยิบขนมปังใส่ปาก สลับตักซุปทาน กลืนลงคอเริ่มจุดประเด็นหัวข้อใหม่

   “มีอยู่สามภารกิจที่ใกล้เคียง ฉันไม่มั่นใจว่าอันไหน” กลนั่งลงตามตรงข้ามกับผมข้างๆไวไว ตอนนี้ผมเลยมีลินกับไวไวนั่งขนาบข้างซ้ายขวา
   
   “ไปดูสามที่เลยไหมล่ะ เผื่อจะมีของเด็ดๆ” เพื่อนผมมันยังยึดหลักการกินทั้งที่ยังใส่หน้ากากอย่างเหนียวแน่น เอาตามที่มึงสบายใจเลยเพื่อนเอ๋ย...

   “ไม่ได้ มันห่างกันเกินไป ทุกที่ไม่ได้เข้าไปง่ายๆ เสียวลาเปล่าๆ”

   เจอกูรูค้านมาแบบนั้นพวกเราเลยนั่งคิด มือปากยังขยับทำหน้าที่ ง่ำๆ อาหารเช้าอร่อยจัง

   “พอจะมีทางเลือกอื่นมั้ย” อือหือ ลินพูดเสียงหวานได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ทีผมกับไวไวแทบจะกินหัว แม่มดคนนี้น่ากลัวจริงๆ

   “ฉันมีคนรู้จัก เขาแนะนำได้” ผมเงยหน้าจากถ้วยซุป กลืนส่วนที่อยู่ในปากลงคอก่อนพูด บ้านผมสอนมาดีครับ “นายติดต่อเขาไปเลยสิ”

   หมาป่าหนุ่มส่ายหัวอย่างจนใจ “ฉันลองทิ้งข้อความติดต่อไปแล้วระหว่างรอนายตื่น เขาบอกว่าให้ไปหา ไม่งั้นจะไม่ให้ข้อมูล”
   
   ระหว่างรอผมตื่น...นั่นหมายความว่าเจ้าตัวตื่นตั้งแต่แรกแล้วยังนอนเป็นที่บังแดดให้ผมสินะ ซึ้งจนน้ำลายแทบไหล เบลอสายตาสองคู่ที่มองมาซะ

   เอาล่ะ เป้าหมายใหม่งอกขึ้นมาอีกหนึ่ง ตอนแรกผมแค่จะตามหาเพื่อนไวไว พอเจอกันแล้วติดคำขอของลินเพิ่มให้ช่วยเรื่องทำภารกิจเอาทักษะใหม่ เลือกมาถามกล อาเฮียหมาป่าบอกต้องไปหาเพื่อนถึงจะได้ข้อมูล

   ผมนิ่งคิด อันที่จริงข้อมูลมันคงไม่ได้หายากอะไรขนาดนั้น ถ้าออกเกมไปหาดีๆก็อาจจะเจอ เพื่อนผมหลายคนมาเล่นเกมก่อนน่าจะพอมีข้อมูลอยู่บ้าง แต่บางครั้ง ทำอะไรอ้อมๆ ก็สนุกดี ไม่แน่เพื่อนของกลอาจจะมีอะไรบางอย่างสนุกๆ รอให้ทำอยู่

   ภารกิจนี้เป็นของลิน แม้ตอนนี้เหมือนผมจะเป็นคนนำทีมกลายๆ ยังไงต้องถามเจ้าของภารกิจก่อนว่าโอเคกับเวลาที่เสียไปรึเปล่า

   “เจ้าของภารกิจว่าไงครับ”

   สาวเพียงหนึ่งเดียว ผู้แข็งแกร่งเกินชายบางคน และไม่หวั่นไหวแม้จะมีผู้ชายตัวโตกว่าตัวเองถึงสามคนจ้องเป็นตาเดียว ผมว่าเธอเอาเรื่องเหมือนกันนะ ตั้งแต่ตอนแรก ลุยเดินทางคนเดียว ลงมือเฉียบขาด ไม่ตะขิดตะขวงใจกับการเป็นสาวสวยในกลุ่มชายหล่อ แสดงว่าภายนอกเกมเธออาจจะชินกับเรื่องพวกนี้

   “ฉันไม่รีบ ยังไงภารกิจนี้ ระดับของพวกเราในทีมไม่นับคุณหมาป่าก็ยังทำภารกิจไม่ได้อยู่ดี เดินทางเก็บระดับไปพลางๆ ก็ดีเหมือนกัน”

   “อ้าวไหนเมื่อวานเธอบอกไม่รู้รายละเอียดอะไรเลยไง ไหงมาตอนนี้ถึงรู้ว่าภารกิจมันต้องใช้คนระดับมากกว่านี้ล่ะ”

   ไวไวดูท่าจะไม่ค่อยถูกกับลินสักเท่าไหร่ เห็นขัดกันประจำ ยกเว้นแต่เรื่องเมื่อกี้ ร่วมแรงร่วมใจกันแอบฟังดีจริงๆ ให้ตาย

   “ฉันเพิ่งนึกออกตอนกำลังจะนอนย่ะ เป็นผู้ชายอย่าจุกจิกนัก ไม่งั้นสาวๆ จะไม่ชอบเอานะ”

   ผมลูบหน้า ได้ข่าวลินก็เป็นสาวนะ แถมสวยด้วย ชะตาฟ้าช่างเล่นตลก คำสาปประจำตระกูลหรือยังไง รอบตัวคนในครอบครัวผมตัวเองแปลกไม่พอ ยังเจอแต่พวกแปลกๆ พี่วินเจอพี่ชิน ผมเจอก๊วนเพื่อนกับคนพวกนี้ สงสัยฟ้าคงไม่อยากให้คนดีๆ ต้องมาเสียไปเพราะติดเชื้อตระกูลเรา เลยส่งแต่พวกเดียวกันมา โอเค คุยกันง่ายดี ขอบคุณครับพระเจ้า!

   “ฉันขอสรุปเลยแล้วกัน กลุ่มผจญภัยของเราจะไปหาคนรู้จักของกล ระหว่างทางเก็บระดับให้มากที่สุด ซึ่งก่อนหน้านั้นฉันคงต้องขอตัวก่อน ฉันกับไวไวเข้าเกมมาพร้อมกัน ตอนนี้จวนได้เวลาออกจากเกมแล้ว เอาไว้เข้าเกมรอบหน้าให้มาเจอกันกลางเมืองแล้วเราค่อยออกเดินทาง”

   แต่ละคนไม่มีปัญหา เรื่องราวสรุปด้วยประการฉะนี้ เวลาที่เหลือก่อนออกจากเกม พวกเราเคลียของที่ได้มาจากการบุกรังหนูรอบที่แล้ว ขายส่วนที่ไม่ใช้ ซื้อยามากักตุนเพิ่ม

   ถึงเวลาล่ำลากัน ผมหลับตา สั่งระบบด้วยความคิดให้ล็อคเอ้าออกจากเกม พอลืมตาอีกทีตัวเองยังนอนอืดอยู่บนเตียง มือหยิบเครื่องเล่นเกมออก จงใจหย่อนขาเหยียบกระต่ายตายซากบนพื้น ไวไวร้องอุก มันคงออกจากเกมแล้ว แต่ยังคิดจะหลับต่อ มันมองผมตาขวาง ผลักเท้าผมออก

   “นี่จงใจใช่มั้ย”

   ผมยิ้มแล้วตอบ

   “เออ! มึงจะกลับเลยปะ”

   “ทำไมวะ รีบไล่ หรือมีนัดกับพ่อหนุ่มหมาป่ายอดดวงใจนอกเกม” ปากหมาไม่พอยังมายักคิ้วหลิวตาใส่ ผมเลยยกเท้าถีบมันถลาเกือบไปจูบกำแพงบ้าน ถึงตัวผมไม่ถึกเท่ามัน แต่แรง กับเรื่องต่อยตีไม่แพ้มันแน่

   “นั่นปากเหรอ ถ้านัดกันจริงไม่ให้จับได้หรอกโว้ย หึหึ” เจอผมพูดแหย่กลับ ไวไวทำหน้าซีเรียดทันที อะไรวะเพื่อนผม เปลี่ยนสีหน้าไปมาไวยิ่งกว่ากิ้งก่าเปลี่ยนสี

   “ขอถามจริงๆ เลยนะ มีอะไรรึเปล่า กลอะไรนั่นดูจะตามติดนายแบบแปลกๆ ฉันไม่มีปัญหาเรื่องเพื่อนชอบผู้ชาย แต่ยังไงก็แค่คนรู้จักในเกม ไม่อยากให้เพื่อนจริงจังจนมาเสียใจที่หลังวะ”

   ผมชกอกมันเบาๆ ยกมุมปากยิ้มกวนตีนแทนคำตอบ

   “อย่าห่วงหน่า เพื่อนรักคนนี้โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว เรื่องแค่นี้แยกแยะได้ นายก็รู้ดี ถ้าฉันตัดสินใจอะไร ต่อให้มันผิดหรือพลาดก็ไม่เป็นไร ดีกว่ามานั่งนึกเสียใจที่หลังว่าทำไมไม่ทำไปตั้งแต่ตอนแรก”

   “เอาไงก็เอากัน มีอะไรก็บอก ฉันไปล่ะ นัดกับพี่วินไว้ใช่มั้ย ฝากทักทายด้วย”

   ไอเพื่อนแสนรู้ ตกลงในเกมมันเป็นกระต่ายหรือหมากันแน่

   “เฮ้ยกูไม่รีบขนาดนั้น มึงจะอมขี้ฟันงี้กลับบ้านเหรอวะ อาบน้ำก่อนก็ได้”

   ผมลากคอมันกลับมา ก่อนมันจะออกไปทั้งสภาพงี้จริง ไวไวแจ้นเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเอง ไม่ถึงห้านาทีออกมาเก็บเครื่องเกม ยัดเสื้อผ้าเก่าใส่กระเป๋าเป้
   
   ผมกับไวไวเดินลงมาชั้นล่าง แมวตัวสวยขนสีขาวนุ่มเดินเข้ามาพันแข้งพันขาจนผมเกือบหัวทิ่มตกบันได ผมถลึงตาใส่นายท่าน เจ้าเหมียวส่งเสียงเหวี่ยงเดินเชิดหน้าไปนั่งตีหางปุๆ กับพื้นตรงหน้าจานข้าวประจำตำแหน่ง ผมเป็นข้าทาสที่ดี เดินไปเทอาหารให้นายท่าน ยัดขนมปังทาเนยใส่มือไวไวก่อนมันกลับบ้าน แล้วตัวเองค่อยหาของใส่ท้องแบบง่ายๆ

   “นายท่าน เดี๋ยววันนี้ฉันจะออกไปข้างนอกนะ เฝ้าบ้านดีๆ ด้วยล่ะ”

   มือข้างหนึ่งถือแก้วนมยกดื่ม อีกข้างลูบขนนุ่มของนายท่านเล่น นายท่านเป็นแมวที่พี่วินเก็บมาได้ ตอนนั้นมันเพิ่งคลอดตัวเล็กมาก แถมยังไม่หย่านมแม่ ผมกับพี่วินต้องพึ่งพาอากู๋ในการเลี้ยงแมวแรกเกิด กว่าจะพ้นช่วงวัยอันตรายได้ พวกผมพี่น้องแทบวิญญาณหลุดออกจากปาก จะบอกว่าเป็นน้องคนเล็กของบ้านคงไม่ผิดนัก

   ผมยังถือว่าดี พี่วินหลงนายท่านหนักกว่า แต่ไม่ค่อยมีเวลากลับมาดูแลซะงั้น ผมเลยรับบทไปเต็มๆ

   เสียงริงโทนดังสนั่นเมือง ลำบากผมต้องเอื้อมมือไปหยิบมือถือเจ้ากรรมที่ร้องจ้าบนโต๊ะหน้าโซฟาใกล้ๆ หน้าจอโชว์ใบหน้าโคตรหล่อของพี่ชายเต็มจอ

   “หวัดดีพี่ โทรมางี้ไม่คิดจะกลับมาบ้านกะให้ผมไปหาสินะ หรือจะโทรมาเบี้ยวนัดเลี้ยงข้าว”

   “อย่ามาทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลย พี่คิดถึงนายท่านจะแย่ งานมันไม่ยอมให้พี่ไปนี่ดิ กว่าจะเสร็จคงอีกพักใหญ่ แล้วเดี๋ยวต้องกลับมาทำต่อ พี่จะส่งที่อยู่บริษัทไปให้ในมือถือ วัตมาหาพี่เองนะ ตรงเคาน์เตอร์ชั้นล่าง บอกชื่อพี่ไป แค่นี้นะ”

   แกร๊ก!

   เสียงวางสายดังเต็มสองรูหู ไม่นึกแปลกใจเลยสักนิดที่พี่จะปลีกตัวมารับไม่ได้ ผมสไลมือถือดู ที่อยู่บริษัทล่อซะใจกลางเมือง แถวบ้านผมมันไกลปืนเที่ยง ถ้าให้พี่วินวนรถไปมาคงหมดเวลาไปเป็นวัน รถในเมืองยิ่งติดมหาโหด

   เอาล่ะ ผมคงต้องออกเดินทางมุ่งสู่บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ รู้สึกตื่นเต้นนิดๆแฮะ

   “นายท่าน พี่วินไม่มาจริงด้วย งั้นขอถ่ายรูปนายท่านไปยั่วหน่อยนะ”

   ผมยิ้มแบบน้องชายที่แสนดี นายท่านช่างให้ความร่วมมือ ละใบหน้าจากจานข้าวช้อนสายตาขึ้นมองกล้อง เอียงหน้าได้องศา แล้วร้องเหมี้ยวเสียงหวานๆ ผมกดอัดวีดีโอแถมถ่ายภาพนิ่งไปอีกหลายชุด หึหึ เอารูปนายท่านไปขายพี่ชายตัวเองดีกว่า ผมช่างเป็นน้องชายที่แสนดีจริงๆ

   “ไว้จะซื้อขนมมาฝากนะนายท่าน”

   มือลูบหัวนายท่านเบาๆ ก่อนลุกคว้ากุญแจบ้านกระเป๋าตัง มือถือยัดใส่กางเกงยีน ทักทายเพื่อนบ้านไปตามประสา ผมนั่งวินมาหน้าปากซอย แล้วต่อรถเมล์ยาวไปลงป้ายก่อนเข้าตัวเมือง ทั้งหมดใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากนี้แหละของจริง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2016 14:24:31 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #71 เมื่อ10-04-2015 10:44:00 »

 :กอด1:

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #72 เมื่อ10-04-2015 18:03:30 »

ง่อววววว เกิดไรขึ้น ทำไมวัตไปอยู่ในกรงงง
สนุกๆ มาต่ออีกเร็วๆน้าค้า ><

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #73 เมื่อ10-04-2015 18:19:29 »

รออยู่นะตะเองงงงง :z2:

ออฟไลน์ Bluetiening

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #74 เมื่อ10-04-2015 19:31:17 »

สนุกมากเลย  o13 o13
รออยู่น้า  :katai2-1:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.9 13/4/58]
«ตอบ #75 เมื่อ13-04-2015 03:02:54 »

Lv.7 บริษัทพี่ชาย

   พี่วินส่งข้อความมาว่านัดผมไว้ตอนสิบโมง ผมเพิ่งจะเสด็จออกจากบ้านได้ตอนเก้าโมงกว่าเพราะมัวแต่ถ่ายรูปนายท่าน ผมยืนเหงื่อแตกอยู่ตรงป้ายรถเมล์ เวลานี้จะนั่งรถเมล์ หรือรถตู้ต่อคงไม่ทันแล้ว ผมโบกพี่แท๊ก กระโดดขึ้นอย่างไว บอกลุงเหยียบเต็มที่

   ทีแรกลุงแกยังเฉย แม้ผมจะรีบเร่งแค่ไหน ลุงแกยังคงชิวราวกับกำลังวิ่งอยู่ในทุ้งข้าวบาเล่ ผมเลยบอกเพิ่มอีกประโยค

   “ถึงไวผมเพิ่มเงิน!”

   ฉับพลัน เดอะฟาสเข้าสิง ลุงเหยียบอย่างกับเครื่องติดเทอร์โบ ผมนั่งแทรกตัวเองติดเบาะไปตลอดทาง มองรอบข้างอย่างลุ้นระทึก ฟังเสียงบีบแตรสีเสริญกระทั่งถึงบริษัท เงินทั้งหลายโบยบินจากกระเป๋าสู่มือลุง เอาวะ ไว้ค่อยไปไถตังกับพี่วินแล้วกัน

   ผมมายืนแหงนคอตั้งบ่า มองบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีคนพลุ่งพล่านเพราะชั้นล่างของบริษัท เป็นจุดสำหรับให้บริการ สอบถาม สั่งซื้อ ซอมแซมเครื่องเล่นเกม

   ผมเดินผ่านคนเหล่านั้นเข้าไปในบริษัท ตรงไปยังเคาน์เตอร์ที่มีคนหลายคนยืนอยู่ หนึ่งในนั้นโดดเด่นเอาเรื่อง ชายร่างสูงโปร่งผมยาวสวยสีขาวอมฟ้ากำลังยิ้มแย้มคุยกับพนักงานสาวเสียงนุ่ม ดูแล้วน่าจะเป็นคนในบริษัท ท่าทางมีความสำคัญไม่น้อย ผมละสายตาไป

   “สวัสดีครับ ผมอายุวัต พจนินท์ มาขอพบอาชวิน พจนินท์ครับ”

   ไม่รู้นามสกุลผมมันยิ่งใหญ่หรือยังไง พอผมพูดนามสกุลตัวเองพร้อมชื่อพี่ชายจบ ทุกคนที่ได้ยินหันขวับมาทันที ไม่เว้นแม้แต่ชายผมสีแปลก แสดงว่าพี่ผมเป็นคนใหญ่คนโตในบริษัทสินะ เขาอาจจะไม่เชื่อว่าผมเป็นพี่น้องมาขอพบก็ได้ พี่วินนะพี่วิน ไหนบอกว่าบอกเคาน์เตอร์ด้านล่างได้เลยไง ทำงานจนลืมแจ้งเรื่องมีคนมาหาแหงๆ

   “ผมมาหาพี่ชายน่ะครับ ไม่เชื่อดูบัตรประชาชนผมได้นะ”

   อธิบายเสริมเพื่อแสดงความจริงใจ มือล้วงหยิบประเป๋าตัง หยิบบัตรประชาชนยื่นส่งให้พี่พนักงาน เธอหยิบไปดูด้วยมือสั่นระริก มีชายผมยาวชะโงกหน้าไปดูด้วย ดวงตาสีฟ้าอ่อนของเขาดูระยิบระยับแบบแปลกๆ

   “พี่สาวครับ ฮัลโหลพี่สาว อย่าเพิ่งติดต่อยานแม่ มาคุยกับผมก่อน” นิสัยกวนกำเริบ สุภาพได้ไม่ถึงหนึ่งนาที เธอได้สติคืนมา รีบยื่นบัตรส่งคืนให้ผม แล้วคีย์ข้อมูลบางอย่างในคอม

   “ดิฉันติดต่อให้แล้วค่ะ ตอนนี้คุณอาชวินติดงานอยู่ เดี๋ยวจะให้พนักงานอีกคนพาไปห้องรับรองค่ะ”

   “ไม่ต้องๆ เดี๋ยวฉันพาไปเอง ยังไงก็ว่างอยู่”

   พี่ชายผมยาวอาสาแล้วหันมาพยักหน้าให้ผมเดินตาม ผมเลยเดินไป ยกมือไหว้ขอบคุณพี่พนักงานเล็กน้อย บ้านผมสอนมาดี

   ตลอดทางมีแต่คนมองพวกเรา บางคนมองด้วยความแปลกใจ บางคนมองเหมือนผมเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายยังไงอย่างนั้น จนผมชักหวั่น หันมองแผ่นหลังคนที่เดินนำหน้าเป็นระยะ คงไม่ได้หลอกจับผมไปต่อรองกับพี่ชายหรอกนะ โธ่ บ้านผมยิ่งจนๆ พ่อ แม่ พี่ต้องทำงานจนผมหงอก ไม่มีเงินมาไถตัวผมแน่ๆ

   “น้องอายุวัตครับ” เรียกซะเต็ม ดีไม่แถมนามสกุล

   “เรียกผมวัตเถอะครับ ชื่อจริงแบบนั้นมันชวนเกร็งๆ” ชายตรงหน้ายิ้มรับ เขาลดความเร็วในการเดินไปพร้อมกับผม

   “ผมวาโยนะ เรียกพี่โยก็ได้”

   “ครับพี่โย”

   พอเปลี่ยนมาเรียกชื่อเล่นกัน พวกเราเลยคุยกันสนิทใจมากขึ้น พี่โยแนะนำส่วนต่างๆ ภายในบริษัทให้ อย่างกับไกด์พาเที่ยว จนผมชักสงสัย ผมมาให้พี่วินเลี้ยงข้าวหรือมาเตรียมตัวเป็นพนักงานใหม่กันแน่

   ดวงตาสีเทามองสำรวจไปรอบๆ ด้วยความสนใจ ที่นี่เป็นบริษัทเกม Charm Online ผู้ลำหน้าทางเทคโนโลยี ทุกอย่างภายในบริษัทเลยดูไฮเทคไปซะหมด ส่วนใหญ่จะเน้นไปโทนสีขาวเทา เพดานสูงโปร่ง มีช่องระบายอากาศพอเหมาะ กระจกบานใหญ่เห็นสวนธรรมชาติอยู่ใจกลางบริษัท

   นอกจากจะผลิตเกมแล้ว บริษัทนี่ยังทำเครือข่ายอื่นๆ อีกหลายอย่างที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผมไม่รู้รายละเอียด แถมมันห่างไกลจากงานในอนาคต ผมเลยฟังแค่ผ่านๆ ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่นัก

   วันๆ ถ้าผมไม่ไปเรียน ขลุกอยู่กับเพื่อน ไม่ก็เล่นเกมอยู่กับบ้าน ซึ่งผมชอบแบบนั้นมากกว่า อะไรที่สะดวกเกินไปก็พาให้ขี้เกียจไปหมด

   พี่โยพาผมขึ้นลิฟท์แก้วมาชั้นบน ยิ่งขึ้นสูงเท่าไหร่ ยิ่งเห็นทิวทัศน์ทั่วทั้งเมืองมากขึ้น ทุกอย่างเป็นระบบระเบียบ สะอาดสะอ้านด้วยกฎระเบียบอันเคร่งครัด เห็นคนขนาดเท่ามดเดินกันเต็มไปหมด ถึงอย่างนั้นภายในเมืองก็ยังมีต้นไม้เป็นระยะ พร้อมสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ช่างเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี และธรรมชาติดีจริงๆ

   “ถึงแล้วครับ น้องวัตตามพี่มาเร็ว”

   มือเรียวสวยยิ่งกว่าผู้หญิง กวักๆ เรียกผมให้รีบเดินตามเขา ผมมองอย่างอึ้งๆ ชั้นนี้ถูกแบ่งสัดส่วนการทำอย่างอย่างเป็นระบบ มองยังไงก็พื้นที่ในส่วนที่ไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้ามา ขาผมเลยชะงักอยู่หน้าลิฟท์ แทบอยากจะวิ่งกลับลงไปชั้นล่าง

   ถ้าเกิดผมเผลอทำอะไรเสียหายที่นี่ พี่วินรู้เข้าเอาผมตายแหง รักน้องให้ดิ้นตายยังไง แต่ผิดว่าตามผิด ถูกว่าตามถูก ไม่มีอ่อนข้อให้แม้จะเป็นน้องชายสุดสวาทของตัวเอง ช่างเป็นความรักดุจราชสีห์

   “พี่โย ผมคนนอกเข้ามาส่วนในแบบนี้ จะไม่เป็นไรเหรอ”

   “ไม่เป็นไร คิดมาก เอ้า เข้ามาเร็วเข้า”

   เจ้าตัวหัวเราะเสียงใส เดินย้อนกลับมาคว้าคอเสื้อผมเหมือนหิ้วลูกแมว แล้วลากเข้าไปด้านใน ปากพร่ำบอกว่าไม่เป็นไร เกิดอะไรขึ้นจะรับผิดชอบเอง ผมค่อยโล่งใจ แบบนี้จะได้มีข้ออ้างกับพี่วิน ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนะ พี่โยดึงดันให้ผมเข้ามาเองเหอะๆ

   ว่าแต่ พี่โยแรงเยอะผิดรูปร่างหน้าตา เห็นเป็นหนุ่มหน้าสวยแบบนี้ ตัวพอๆ กับผม สูงกว่าหน่อยด้วยอายุที่มากกว่า ดูยังไงก็ไม่น่าจะมีกล้าม กลับลากผมไปสบายๆ เหมือนลากคอลูกหมาลูกแมว
 
   เดี๋ยวนะ ห้องรับรองมันอยู่ในส่วนของคนทำงานเหรอ งานเข้า ผมถูกพามาที่ไหนเนี่ย!

   “พี่โย พี่จะลากผมไปไหน”

   “พี่เคยได้ยินมาจากชิน น้องวัตเคยทำงานพิเศษเกี่ยวกับพวกพากย์เสียงมาก่อนใช่มั้ย พอดีนักพากย์ของเราเป็นหวัดมาพากย์ให้ไม่ได้ พี่เลยอยากวานน้องวัตช่วยมาพากย์แทนให้หน่อย”

   บอกจุดประสงค์ที่แท้จริงของการลักพาตัวซึ่งๆ หน้าเสร็จ ผมก็ถูกดันเข้าไปในห้องอัด ด้านในมีคนหนึ่งประจำที่รออยู่แล้ว แผ่นหลังกว้าง เส้นผมซอยรากไทรสีขาวอมเขียวใส่ชุดพนักงานแบบเดียวกับพี่โย พอเขาหันมา ขนแขนนี่ลุกขึ้นยืนเลยครับ

   “พี่โยมีสองคน!”

   พี่โยเดินไปยืนข้างๆ คนที่เหมือนตัวเองแบบโขกพิมพ์เดียวกันมา ติดแค่ดวงตาจะคมกว่า และต่างกันที่สีผมสีตา ถึงอย่างนั้นผมก็ยังคิดว่า มันเหมือนกันมากอยู่ดี

   “แนะนำตัวกันหน่อย วายุฝาแฝดฉันเอง ส่วนทางนั่น น้องวัต น้องชายของวิน”

   ใบหน้าเคร่งขรึมเปลี่ยนไปทันทีเมื่อรู้ว่าผมเป็นน้องใคร มุมปากยกยิ้มไม่น่าไว้ใจ ถอดหูฟังวางไว้ แล้วเดินมาสำรวจผมอย่างสนใจ โดยมีพี่วาโยยิ้มสว่างไสวราวกับตัวเองกำลังอยู่ในทุ่งดอกไม้ ดวงตาสีฟ้าอ่อนของพี่โย กับดวงตาสีเขียวอ่อนของพี่วายุ มันช่างพราวระยับจนน่าจิ้มให้บอด ผมไม่ใช่สินค้าขายส่งนะเฮ้ย

   “บรรยากาศต่างจากคนพี่ลิบลับเลย น่าสนใจ เอากลับบ้านดีมั้ยบีหนึ่ง”

   เสียงทุ้มต่ำถามแฝดตัวเอง เหมือนผมเห็นปีกปีศาจงอกออกมาจากด้านหลังสองคนนี้ยังไงชอบกล

   “ฉันก็อยากเอากลับนะบีสอง แต่เกรงว่าใครบางคนจะคลั่งจนถล่มบ้านพวกเราทิ้งน่ะสิ เอาล่ะ หมดเวลาทักทาย เริ่มงานกันเถอะ” พี่วาโยปรบมือแล้วหันไปหยิบโพยมาให้ผมอ่าน พี่วายุยื่นมือขยี้หัวผม

   “ยินดีที่ได้รู้จักวัต เรียกฉันพี่ยุ ถ้าเป็นนาย ฉันยอมให้เรียก”

   พี่ยุหัวเราะในลำคอได้น่าสะพรึงมาก ก่อนจะกลับโหมดขรึมตามเดิม เดินไปประจำตำแหน่งเดียวกับตอนผมเข้ามา ผมโดนพี่โยแรงช้างสารโยนเข้าไปในห้องอัด เพราะมีประสบการณ์ทำงานมาก่อน ผมเลยรู้ว่าตัวเองควรจะทำอะไรบ้าง

   แม้ความสงสัยจะวนเวียนอยู่เต็มหัว นาทีนี้ได้แต่ทำตามพี่โยบอก ไม่งั้นแฝดคู่นี้คงไม่ปล่อยผมออกจากห้องอัดแน่ๆ

   ผมต้องกล้ำกลืนฝืนทนปานนางซินที่เจอพี่สาวใจร้ายสองคนรักแก เมื่อไหร่ท่านพ่อวินจะกลับมารับซินเค๊อะ

   “น้องวัต เทสเสียงแล้วเริ่มพูดได้เลย”

   แฝดผมยาวพูดผ่านไมค์เล็กเข้ามาในส่วนห้องอัดเสียง พี่ยุยกนิ้วให้สัญญาณ ผมอ่านทวนในโพยอีกครั้ง สูดลมหายใจลึกๆ เทสเสียงนิดหน่อยเพราะไม่ได้อัดมานาน

   มาคิดดูอีกที ความจริงคนนอกอย่างผมไม่ควรมานั่งอัดเสียงอยู่แบบนี้ คิดว่าแฝดสายลมคงใช้เส้นสายของตัวลากผมมาเล่นสนุกกระตุกหนวดพี่วินมากกว่า ไหนๆ ก็โดนแกล้งแล้ว ใช้โอกาสนี้ร่วมมือรังแกพี่วินด้วยเลย รอยยิ้มปรากฏบนเรียวปากอย่างชั่วร้าย คุณพี่สองยอมองอย่างอึ้งๆ ทันทีที่ผมเริ่มเปล่งเสียงอีกครั้ง คนคุมด้านนกยกนิ้วกดไลด์ให้ผมย้ำๆ

   งานนี้สนุกแน่...



   ‘ประกาศค่ะ ขณะนี้เรากำลังทำการปรับปรุงเสียงระบบต่างๆ ภายในบริษัท หากเสียงมีปัญหา สามารถติดต่อแจ้งเข้ามาได้ในทันที ขอบคุณค่ะ’

   ชายร่างสูงสง่าขมวดคิ้วเงยหน้ามองลำโพงที่ติดอยู่ตรงมุมห้อง บริษัทของเขา จะมีเสียงแจ้งเตือนต่างๆ เป็นเสียงนักพากย์หญิงที่จ้างมาจากภายนอก ยกตัวอย่าง เสียงแจ้งเปิดประตู หรือเสียงแจ้งบอกเวลาพัก เพื่อเป็นการผ่อนคลายอารมณ์พนักงาน ซึ่งเสียงนี้จะนำไปใช้ตอนแจ้งรายละเอียดก่อนเข้าเกมด้วย

   เสียงจะเปลี่ยนทุกๆ ปี เพื่อไม่ให้พนักงานเกิดความเบื่อ ส่วนคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ คือแผนกของพวกเขา

   “เวณเปลี่ยนเสียงรอบนี้เป็นของแฝดนรกนั่นใช่มั้ย” ชายผมทองถามย้ำเพื่อความมั่นใจ

   “ใช่ ทำไม หรือนายกลัวพวกนั้นจะก่อเรื่องอีก ไม่ต้องห่วงหรอก พวกนั้นเป็นคนคิดระบบนี้ขึ้นมา ไม่ทำให้สิ่งที่ตัวเองสร้างเสียแน่” ชายผมดำที่เดินมาด้วยกันเป็นคนตอบ พวกเขากำลังไปพบใครบางคนตามเวลาที่นัดไว้

   “ขอให้มันจริง ฉันขี้เกียจมาฟังคนอื่นบ่นเรื่องสองตัวนั่นแล้ว”

   “ฉันว่านายคิดมากไป” ชินตบบ่าเพื่อนสนิทที่รู้จักกันตั้งแต่เด็ก ราวกับจะบอกให้ปลงเสียเถอะ

   “สังหรณ์ใจไม่ค่อยดี วันนี้รู้สึกเหมือนจะเกิดเรื่องแย่ๆ ขึ้น สงสัยตอนพาวัตไปกินข้าวต้องแวะไปทำบุญล้างซวย”

   สองหนุ่มเดินไปด้วยกันตามทาง พนักงานสาวที่ผ่านตาแทบเปลี่ยนเป็นรูปหัวใจกับของแรร์ประจำบริษัท แผนกที่ขึ้นชื่อว่าเก่งกาจ และรวมแต่คนหน้าดีประดุจคัดคนที่หน้าตา ทั้งแผนกมีเพียงแค่หกคน แต่สามารถทำงานสารพัดตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบตามที่ท่านประธานต้องการได้

   ทั้งที่ความจริงแล้ว ไม่ใช่เพราะอยากให้มีคนน้อยๆ แต่เพราะไม่มีใครผ่านเกณฑ์เข้ามาทำงานเลยต่างหาก แผนกนี้เลยจำต้องทำงานหัวฟูกันอยู่แค่หกคน ได้แต่หวังว่าคนที่พวกเขากำลังจะไปเจอ จะได้เข้ามาเป็นคนที่เจ็ด

    พวกเขามายังห้องรับรองชั้นบน ขณะที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไป เสียงทดสอบแจ้งเวลาดังขึ้น เป็นเสียงผู้หญิงอันแสนไพเราะ เสียงใสๆ แฝงความขี้เล่นช่วยสร้างบรรยากาศในการทำงานให้มีชีวิตชีวามากขึ้น ยกเว้นแต่ผู้ชายสองคน ที่ตอนนี้เหมือนปลายนิ้วเย็นเฉียบ

   “ชิน เสียงเมื่อกี้ฉันไม่ได้ฟังผิด มันเป็นเสียงของ...”

   “อยากจะบอกว่าผิด แต่คนเราไม่ควรหนีความจริง เจ้าสองคนนั้นก่อเรื่องจนได้ ฉันจะแวะไปดูก่อนนะ นายเข้าไปคุยงานแล้วกัน”

   “ฝากบอกแฝดด้วยว่า ‘ล้างคอรอไว้ได้เลย’”

   “ด้วยความยินดี”

   ชินต้องเปลี่ยนทิศกะทันหัน ให้เพื่อนเข้าไปคุยงานคนเดียว ส่วนตัวเองก้าวฉับๆ ขึ้นลิฟท์ตรงไปยังหาตัวการ วินสูดหายใจปรับอารมณ์อยากเขกหัวคนให้กลับมาเป็นการเป็นงานอีกรอบ เขาไม่นึกโกรธที่เจ้าแฝดเล่นอะไรบ้าๆ แค่นึกเคืองที่จงใจแหย่กันมากกว่า ไว้เสร็จงานค่อยไปคิดบัญชี ตอนนี้คงต้องทำหน้าที่หาคนเข้าแผนกก่อน

   “สวัสดี อาชวิน พจนินท์ หัวหน้าแผนกโปรแกรมเมอร์ครับ”



   สามตัวแสบนั่งหัวเราะกันอยู่ในห้องทำงานของแฝดนรกประจำบริษัท วายุเป็นผู้จัดการเรื่องแก้ไขเสียงในระบบ ระหว่างที่วาโยกับวัตกำลังคุยเล่นกันถูกคอ มีหันมาพูดเสริมเป็นระยะ

   “ผมว่าพี่วินได้ยินแล้วล่ะตอนทดสอบเสียง”

   “ฉันก็คิดว่าแบบนั้น” ชายผมยาวตอบพลางอ่านคอมเม้มจากพนักงานบริษัทเรื่องเสียง ว่ามีความเห็นยังไง ควรปรับปรุงตรงไหนบ้าง แล้วช่วยแฝดตัวเองลงมือแก้ไขอีกแรง

   วัตมองภาพเบื้องหน้าอย่างชื่นชม พี่โยกับพี่ยุกำลังทำงานผ่านจอลอยสามมิติที่ปรากฏขึ้นจากกำไลข้อมือ แบ่งเป็นส่วนจอกับแป้นพิมพ์เหมือนมีคอมพิวเตอร์ติดตัวอยู่ตลอดเวลา นวัตกรรมระคาแพงมหาโหด โคตรไฮเทค มีแต่พวกมีตังเยอะๆ ถึงจะมีได้ ผมเลยมองซะเต็มอิ่ม

   ตอนนี้พวกเขาอยู่ภายในห้องกว้างเหมือเป็นส่วนพักผ่อนของพนักงาน เขาเห็นพนักงานหลายคนเดินวนเวียนมาหยิบของกินในตู้เย็นบ้าง กดน้ำในตู้ขายน้ำบ้าง

   ฝาแฝดให้เหตุผลที่มาทำงานอยู่ตรงส่วนนี้ว่า งานที่ทำไม่ได้เป็นความลับอะไร แถมอยู่ตรงนี้มีของให้กินตลอด เลยไม่เข้าไปทำงานในส่วนของตัวเอง ซึ่งอันที่จริงคงเป็นเพราะต้องคอยดูแลผมมากกว่า บริษัทนี้ใหญ่มาก ถ้าคนไม่รู้เดินมั่วเองมีหวังหลงเป็นวันยังหาทางออกไม่ได้

   พวกเขาไม่ว่างไปส่งผมด้านล่างซะด้วย คนอื่นๆ ที่นี่มีหน้าที่ต้องทำทุกคน พี่โยบอก รอเฉยๆ เดี๋ยวก็มีคนมารับผมไปเอง

   “กลับไปทำงานในห้องได้แล้วทั้งสองคน” เสียงคุ้นหูดังขึ้น ผมหันไปเจอเข้ากับพี่ชายคนที่สอง เลยโผเข้ากอดอย่างดีใจ

   “พี่ชิน!”

   “ว่าไงเรา โตขึ้นเยอะเลยนี่”

   พี่ชินกางแขนแต่ดันคว้าผมล็อคคอให้ร้องโอดโอย ก่อนหน้านี้พี่ชินต้องไปประจำอยู่ที่สาขาต่างประเทศ ผมเลยไม่เจอพี่เขาตั้งนาน รู้จักกันตั้งแต่ผมยังจำความไม่ได้ ฟังไม่ผิดหรอก ยังมีรูปถ่ายคู่กับแม่ตอนท้องผมเลย

   เพราะพี่วินแบ่งผมให้พี่ชินตอนเด็ก พี่เขาเลยเหมือนเป็นพี่ชายของผมอีกคน พี่ชินเป็นลูกคนเดียว ตอนผมเกิด แม่เล่าให้ฟังว่าพี่ชินเห่อผมยิ่งกว่าพี่วินซะอีก

   “ไว้ฉันจะมาคิดบัญชีกับพวกนายทีหลัง หัวหน้าแผนกฝากมาบอกด้วยว่า ล้างคอรอไว้ได้เลย ไปเจ้าวัต ไปรอที่ห้องกับพี่ดีกว่า อีกสักพักวินมันคงคุยงานเสร็จ”

   แฝดทำหน้าสลดแค่สามวิ ก่อนขยี้หัวผมทิ้งท้ายแล้วหายกลับเข้าไปในห้องทำงานประจำแผนก

   “อย่าลืมมาเยี่ยมกันอีกนะน้องวัต”

   “รับทราบครับพี่” ยังมีเสียงไล่มาแถมท้าย พี่ชินส่ายหัว ตัวแสบประจำแผนก กับตัวแสบประจำบ้านรวมตัวกัน ไม่อยากจะนึก อะไรมันจะเกิดขึ้น แต่ที่แน่ๆ คงต้องซื้อยาไมเกรนกับยากระเพาะพกติดตัวไว้

   ผมเดินตามพี่ชินไปที่ห้องรับรองของจริง ระหว่างทางผ่านห้องติดกระจกเรียงเป็นแถว รู้สึกเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งมองออกมาจากภายในห้อง พอผมหยุด พี่ชินเลยหยุดตาม หันมาเลิกคิ้วถาม ผมส่ายหัวแล้วเดินต่อ ผมคงคิดมากไปเอง



   พรึบ!

   จู่ๆ ว่าที่พนักงานใหม่ลุกจากเก้าอี้ทำท่าจะเดินไปยังประตู ผู้ใหญ่สองคนในห้องมองตามด้วยความสงสัย ดวงตาคมสีเทาเหมือนน้องชายหันไปมองตาม พอเห็นว่าใครเดินผ่านห้อง ลุกพรึบ ใช้ขายาวๆ ก้าวไปยืนขวางหน้าเด็กหนุ่มทันที พร้อมกับรอยยิ้มตามมารยาท แต่แฝงไปด้วยความกดดัน

   “คุณกลวัชร กลับไปนั่งที่ด้วยครับ”

   เจ้าของชื่อชั่งใจ ใจนึงนึกอยากดันอีกฝ่ายออกแล้วพุ่งเข้าไปหาคนด้านนอก อีกใจลึกๆ แอบเกรงบรรยากาศที่คนตรงหน้าแผ่ออกมาไม่น้อย ถ้าเทียบไซส์กันคงกินกันไม่ลง มีหวังได้ยื้อกันอยู่หน้าประตูจนไม่น่ามองแหง

   “กล กลับมานั่งที่”

   เสียงแฝงอำนาจของผู้สูงวัยเอ่ยบอกกับคนอายุน้อยที่สุดในห้อง เลยจำใจต้องกลับมานั่งที่ด้วยใบหน้าเรียบเฉยแต่โดยดี พร้อมๆ กับคนนอกห้องเดินจนลับสายตาไป

   กระจกภายในห้องสามารถมองเห็นจากด้านในได้ แต่ด้านนอกไม่สามารถมองเข้ามาด้านในได้ พอเหตุการณ์กลับมาสงบอีกครั้ง ผู้เป็นตัวแทนพูดคุยจึงกลับมานั่งที่ตรงข้ามสองคนเบื้องหน้าตามเดิม

   “ผมขอสรุปเลยแล้วกันนะครับ คุณกลวัชรผ่านเกณฑ์ของเรา หลังจากเรียนจบมหาลัยสามารถเข้ามาทำงานได้ทันที โดยมีข้อแม้ว่า การฝึกงานจะสามารถฝึกได้ที่บริษัทนี้เท่านั้น ตกลงมั้ยครับ”

   “ครับ” ว่าที่พนักงานตอบเพียงคำเดียว ดวงตาสีน้ำเงินเข้มจัดจ้องประสานกับเจ้าของเรือนผมสีทองนวลเบื้องหน้า อย่างไม่กลัวเกรง คนถูกจ้องทำเพียงยึดรอยยิ้มบนใบหน้า ไม่แสดงอาการใดๆ ออกมาทั้งสิ้น

   “ผมขอบคุณคุณอาชวินมากที่ให้โอกาสลูกชายผม” ชายสูงวัยมีเค้าเดียวกับลูกชายเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม ดวงตาฉายความชื่นชมคนหนุ่มที่สามารถก้าวมาอยู่ในระดับนี้ได้ ด้วยอายุเพียงเท่านี้

   เขามีเรือนผมสีน้ำเงินเข้มแซมขาวด้วยวัยที่มากขึ้น แต่ความมีภูมิฐาน ความแข็งแรงมากเสียยิ่งกว่าคนหนุ่มบางคนเสียอีก วินก้มหัวเล็กน้อยอย่างเคารพผู้มากประสบการณ์อย่างจริงใจ

   “ทางผมต้องเป็นฝ่ายขอบคุณมากกว่าครับ ที่เชื่อใจให้ลูกชายมาทำงานร่วมกับเรา”

   “ฮ่าๆ อย่าคิดมากเลย ดีซะอีก ลูกชายผมจะได้เรียกรู้จากคนที่มีความสามารถของจริง”

   ต่างคนต่างรู้กันดีอยู่แก่ใจถึงความสามารถของอีกฝ่าย ว่าตามจริง  เขาเคารพนับถือชายผู้นี้ เพราะเขาเป็นผู้นำที่เด็ดขาด มีความเก่งกาจอย่างหาตัวจับได้ยาก อีกส่วนหนึ่งมาจากช่วยวัยที่มากกว่า สำหรับบ้านพจนินท์แล้ว ลูกหลานทุกคนถูกสั่งสอนมาให้เคารพผู้หลักผู้ใหญ่ ต่อให้เป็นคนเก็บขยะ พวกเขาก็ต้องให้ความเคารพ ลองคิดดูแล้วกัน ถ้าไม่มีคนเก็บขยะจะเกิดอะไรขึ้น

   ทุกอาชีพบนโลกมีมากมาย จะเงินเดือนมากน้อย มีคนนับหน้าถือตาหรือเปล่าไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่จิตใจ หากจิตใจดีย่อมได้รับความรักมากกว่าคนมียศถาบรรดาศักดิ์ใหญ่โต แต่จิตใจดำมืดแน่นอน

   เรื่องคนพ่อไม่เกี่ยวกับคนลูก แวบแรกที่เขาเห็นอีกฝ่ายอยู่ในเกมกับน้องชาย เขาจำได้ทันทีว่าเด็กคนนี้เป็นใคร แม้จะไม่ค่อยออกมาให้เห็นตามแวดวงสังคม แต่ข่าววงในโผล่มาเป็นระยะ คนหูตาว่องไวอย่างเขามีหรือจะปล่อยให้เล็ดรอดสายตาออกไปได้

   ทีแรกเขาค่อนข้างจะถูกใจด้วยซ้ำกับเด็กที่มีความสามารถเกินวัย มันทำให้นึกถึงตัวเองในอดีต ซึ่งนั่นต้องไม่เกี่ยวกับน้องชายของเขา ตอนนี้ยังไม่มีอะไร เขาจะปล่อยไปก่อน ถ้าในภายภาคหน้าหากเกิดอะไรขึ้น เขานี้แหละจะเป็นคนจัดการเอง

   “หลังจากนี้ผมขอเชิญท่านเข้าพบท่านประธานครับ ทางนั้นพอรู้ข่าวว่าท่านจะเข้ามา สั่งให้ผมพาท่านไปหาให้ได้ ผมมีงานต้องไปจัดการต่อ ต้องขออภัยด้วยที่ไม่สามารถนับทางไปได้ เดี๋ยวผมจะให้พนักงานคนอื่นนำทางไปนะครับ”

   “ไม่มีปัญหา เธอจะไปเลยก็ได้ ฉันขอคุยกับลูกชายสักครู่”

   ร่างสูงลุกขึ้นก้มหัวเล็กน้อย แล้วแยกตัวออกไปปล่อยให้พ่อลูกอยู่ตามลำพัง ระหว่างรอพนักงานคนอื่นมาพาไปหาท่านประธานบริษัท

   “กลมีอะไรจะบอกพ่อรึเปล่า”

   มาดในตอนแรกผ่อนลงเหลือเพียงฐานะของความเป็นพ่อ เหล่มองถามลูกชายที่ดูจะมีลับลมคมใน

   “ผมเจอกับเขาในเกม เกิดสนใจเลยตาม ไม่คิดว่าจะมาเจอตัวจริงที่นี่” น้ำเสียงราบเรียบตอบ ใบหน้านิ่งเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

   “นี่เป็นสาเหตุที่ลูกเกือบลืมส่งงานให้พ่อเมื่อคืนใช่ไหม เฮ้อกลนะกล ผู้ชายพ่อก็คิดหนักแล้ว ยังเป็นคนจากตระกูลนี้อีก เอาคนอื่นไม่ได้เหรอลูก จะคน สองคน สามคน หรือจะยกโหลพ่อก็ไม่ว่า” คุณพ่อผู้สปอยลูกชายหัวแก้วหัวแหวนระยะสุดท้าย ถอนหายใจเหมือนตัวเองอายุแก่ลงไปอีกสิบปี
   
   “ไม่ ผมสนใจแค่คนเดียวเท่านั้น มันน่ากลัวขนาดนั้นเลย?”

   มีการเลิกคิ้วถามพ่อตัวเอง มือหนายกนวดขมับไมเกรนจะกินกับลูกชาย กลไม่เข้าใจ ตระกูลนี้มีชื่อก็จริง แต่เป็นชื่อเสียงด้านดีทั้งนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับด้านมืดเลยแม้แต่น้อย เรียกได้ว่าสะอาดสุดๆ แถมครอบครัวก็ไม่ใหญ่โต โดดเด่นตรงที่ทุกคนในตระกูลจะมีดวงตาสีเทา และความเก่งกางในด้านต่างๆ จนน่ากลัวเท่านั้นเอง หากเทียบกับคนทั้งโลกแล้ว ความพิเศษเหล่านั้นดูธรรมดามาก

   “ที่น่ากลัวไม่ใช่เจ้าตัว แต่เป็นพวกพันธมิตรของตระกูลนี้ต่างหาก” คนเป็นพ่อไม่รู้จะอธิบายให้ลูกชายฟังยังไงดี บ้านนี้น่ากลัวที่ฝีปากกับการแสดงออก ความเป็นมิตรทำให้มีคนรู้จักมาก ซึ่งไอคนรู้จักที่ว่ามีแต่พวกระดับน่ากลัวๆ ทั้งนั้น สมกับนามสกุล พจนินท์ เจ้าแห่งถ้อยคำจริงๆ

   กลจมกับความคิดของตัวเอง หลังจากนี้คงต้องหาข้อมูลให้มากขึ้นกว่าเดิมซะแล้ว ยิ่งรู้เป้าหมายแน่นอน ขอบเขตชัดเจนยิ่งสบาย

   บุพการีทำได้เพียงมองใบหน้ามุ่งมั่นของลูกชายอย่างท้อแท้กับชีวิต กลับไปต้องปรึกษากับดวงใจที่บ้านแล้วว่าจะเตรียมการตั้งรับพายุที่จะเกิดขึ้นในอนาคตยังไงดี เฮ้อ คนแก่กลุ้ม


   เสียงฝีกเท้าสม่ำเสมอดังตามทาง ประตูถูกสังการเปิดรับชายร่างสูง สองคนด้านในหยุดการสนทนาไว้ชั่วคราว วัตหันไปยักคิ้วใส่พี่ชายตัวเอง

   “เป็นไรพี่ ทำหน้าบูดเหมือนตอนนายท่านท้องผูกเลย” เสียงหัวเราะจากอีกคนยิ่งเสริมความน่าหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก

   “ไปกินข้าว เสร็จแล้วไปทำบุญล้างซวย!!”

   คนฟังหัวเราะก๊าก รีบส่งแก้วน้ำเย็นๆ ที่รับมาจากพี่ชิน ยื่นให้กับคุณพี่ชายอารมณ์เสีย

   “โอ๋ๆ ไม่เอาไม่หงุดหงิด ขมวดคิ้วมากๆ เดี๋ยวหน้าย่นจนนายท่านจำไม่ได้น้าพี่วิน”

   โป๊ก!

   “โอ๊ย! เพราะพี่ชอบเขกหัวผมแบบนี้แหละ ผมถึงไม่ฉลาดเหมือนกับคนอื่นสักที” ผมถอยมากุมหัวน้ำตาเล็ด พี่วินเลยเปลี่ยนมาดึงแก้มผมยืดแทน ส่วนพี่ชิน กุมท้องหัวเราะจะกลิ้งตกจากโซฟาอยู่แล้ว

   “เพราะเราคนเดียว ทำให้พี่ปวดหัวแบบนี้”

   “อาไออ่า(อะไรอ่า)”

   เพื่อช่วยแก้มอันน่าสงสารของตัวเอง ผมรีบควักเอามือถือออกมากดเปิดวีดีโอนายท่านส่งให้พี่วินดู ตอนแรกว่าจะเก็บตัง ลองแบบนี้คงต้องให้ฟรี ไม่งั้นผมจะตายแทน โธ่เว้ย ผมยี่สิบแล้วนะ ชอบทำเหมือนผมเป็นเด็กอยู่เรื่อย

   พอได้ยินเสียงเหมี้ยว พี่วินปล่อยมือจากแก้มผมคว้าโทรศัพท์ไปดูทันที แถมยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พอดูจบก็วนดูอีก เปิดดูรูปถ่าย จัดการส่งไฟล์เกี่ยวกับนายท่านทั้งหมดเข้ามือถือตัวเองซะเรียบวุธ

   “คิดถึงนายท่าน วันหยุดนี้พี่จะกลับบ้านแน่ๆ อยู่ที่บ้านนายท่านเป็นยังไงบ้าง”

   “ก็เหมือนเดิมแหละพี่ เริ่ด เชิด หยิ่งตามเคย จิกหัวผมเป็นข้าทาสทุกวัน” ยกมือลูบแก้มตัวเองป้อยๆ

   “อารมณ์ดีแล้วก็ไปกินข้าวกัน มื้อนี้เต็มที่เลยวัต วินเลี้ยงเอง”

   “เย้ ผมอยากกินปลาดิบ อยากกินสเต็ก อยากกินติ่มซำ”

   “น้อยๆ หน่อยเจ้าวัต มาคนระประเทศ แยกกันกินคนละร้านเลยดีมั้ย” พวกเราสามคนหัวเราะกันเอฮา ไม่ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าแบบนี้นานแล้ว คิดถึงสมัยก่อนชะมัด

   สรุปพวกเราเลยเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นกัน มีพี่ชินเป็นคนขับรถให้แสนสบาย หลังทานข้าวเสร็จ พี่วินลากพวกเราไปทำบุญจริงๆ ก่อนจะแยกย้าย ผมนั่งรถกลับบ้านแบบไม่รีบร้อนเหมือนขามา พอเท้าเหยียบเข้าบ้านถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ ไอ้ไวไวฝากหวัดดีพี่วินนี่หว่า ช่างเถอะ รอให้เจอหน้า ทักทายกันเองแล้วกัน

   ณ เวลานี้ ฟัดนายท่านเสร็จ อาบน้ำเล่นเกมดีกว่า แวมไพร์มากเสน่ห์ล็อคอินเข้าเกมแล้วจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2015 18:55:06 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.9 13/4/58]
«ตอบ #76 เมื่อ13-04-2015 06:41:34 »

อยากดูคุณพี่ชายมาดโหดดดดด
ริตอนต่อไปน้าาาา

ออฟไลน์ dekzappp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.9 13/4/58]
«ตอบ #77 เมื่อ13-04-2015 06:59:15 »

งื้ออออ อยากอ่านต่อแล้วว่าจะเอาตัวรอดกันยังไงงงง

อยากตบหน้านักเวทซักฉาด บังอาจมาทำร้ายกลกับวัต ชิชะๆ

ออฟไลน์ YOSHIKUNI RUN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.9 13/4/58]
«ตอบ #78 เมื่อ13-04-2015 09:06:22 »

โห้วววว พวกมันเป็นใครนิ ริมาบังอาจแซกแซงระบบเชียว เค้าก็อยากก้เห็นพี่วินบู้ด้วยยย

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.9 13/4/58]
«ตอบ #79 เมื่อ13-04-2015 09:58:44 »

พวกนี้คิดการใหญ่มาก
รอให้พี่มาก่อนเถอะ
พวกแกเสร็จแน่

ตอนเปลี่ยนไปมาระหว่างกลกับวัต
อยากให้เปลี่ยนสีอักษรหรืออะไรก็ได้
ที่ทำให้เข้าใจว่ากำลังกล่าวถึงใครอยู่

จะรอตอนต่อไปค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.9 13/4/58]
« ตอบ #79 เมื่อ: 13-04-2015 09:58:44 »





ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.9 13/4/58]
«ตอบ #80 เมื่อ13-04-2015 10:36:15 »

รอดูพี่วิน กลายร่างเป็นบอสลับ ระดับ Ultimate Boss
 :fire: :m31: บังอาจมาทำน้องผู้สร้างเอ็งตาย  :beat:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.9 13/4/58]
«ตอบ #81 เมื่อ13-04-2015 11:03:27 »

 :L2:    :really2:  รอจ้า

ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.9 13/4/58]
«ตอบ #82 เมื่อ13-04-2015 12:57:25 »

ยังงี้ต้องรายงานพี่วิน :fire:

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.9 13/4/58]
«ตอบ #83 เมื่อ14-04-2015 02:04:58 »

จัดแม่งเลย!!!!!! บังอาจทำร้ายน้องรักสุดหวงของพี่วินนนน

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Lv.พิเศษ รับสงกรานต์
*เหตุการณ์ในช่วงนี้ เป็นเหตุการณ์หลังจากที่กลกับวัตคบกันแล้ว*

   ความร้อนระอุในเดือนเมษา คงไม่เท่าไฟที่สุมอก และหัวที่กำลังจะลุกไหม้ ป่าว ผมไม่ได้โกรธหรือโมโหใคร เพียงแค่ระหว่างทางกลับจากมหาลัย แดดมันร้อนจนหัวสุก ไวไวมันแทบละลายไหลลงท่อ บ้านมันอยู่ใกล้ๆกับหมู่บ้านของผม ถัดไปอีกไม่กี่ซอย

   อันที่จริง บ้านหลังนี้เป็นของพ่อแม่ซื้อไว้ บังเอิญคุณตานึกอยากไปเปลี่ยนบรรยากาศบนดอยกับคุณยาย เลยทิ้งบ้านที่ต่างจังหวัดไม่มีคนดูแล พ่อกับแม่เห็นว่าที่นั้นอากาศดีเลยอาสาไปอยู่เฝ้าให้ ทิ้งให้ลูกชายตาเทาๆสองคนกอดคอกันอยู่บ้านที่กรุงเทพ แถมพอพี่วินเรียนจบมหาลัยเข้าทำงานบริษัท แทบจะสิงอยู่นั่นจนบางครั้งผมเกือบลืมไปว่าตัวเองมีพี่ชายอยู่ในโลกใบนี้ด้วย

   เงียบๆไว้นะ อย่าไปบอกเจ้าตัว ขืนรู้ขึ้นมาได้มีรายการน้อยใจไม่ส่งตังค่าขนมให้ผมแน่ๆ ลำพังเงินของพ่อแม่ที่ส่งมาให้แต่ละเทอมไม่ค่อยพอเท่าไหร่ เพราะผมหนักซื้อของกินเยอะ วันๆหนึ่งเสียไปหลายร้อย

   ปัดไปก่อน เรื่องพวกนั้นไม่สำคัญหรอก ที่สำคัญน่ะคือวันนี้เป็นวันสงกรานต์!! ผมจะได้เล่นน้ำให้เย็นฉ่ำคลายร้อนแล้ว แต่ไม่ได้เล่นที่บ้านนี้หรอกนะ กลับบ้านต่างจังหวัดไปหาพ่อแม่นู่น

   “กลับมาแล้วคร้าบ”

   ผมสลัดรองเท้าถุงเท้าทิ้ง ถลาเข้าบ้านพุ่งเข้าหาตู้เย็นรินน้ำเย็นๆมาดื่มให้ชื่นใจ วันนี้ไม่มีนายท่านมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวขา เพราะเจ้าของตัวจริงกลับบ้านมาแล้ว

   “ไหนบอกว่าแค่แวะไปส่งงานอาจารย์ไง ทำไมกลับมาช้านัก”

   เสียงหล่อๆของพี่ชายดังมาจากด้านหลังของนายท่าน แถมมีการจับขาหน้านายท่านโบกไปมาแบบเอาเรื่องอีกต่างหาก เอ่อ...พี่วินที่เคารพ โปรดมองหน้านายท่านสุดที่รักของพี่ด้วยว่ามันเป็นใจเป็นหุ่นเชิดให้พี่รึเปล่า อีกสักพักได้มีรายการแมวตะปบคนแน่ ถ้าพี่ชินไม่คว้านายท่านออกไปหย่อนใส่ตะกร้าแมวก่อน

   “โดนจารย์รั้งตัวให้ช่วยงานนิดหน่อยน่ะพี่”

   ผมถอดเสื้อเปลี่ยนชุดแบบไม่อายฟ้าดิน เดินวิ่งวุ่นไปทั่วบ้าน หยิบจับเสื้อผ้าที่วางๆไว้ก่อนออกจากบ้านมาใส่ ใช้เวลาแค่หนึ่งนาทีผมก็พร้อมรบด้วยชุดลายดอกสีเหลืองอร่ามไม่น้อยหน้าพี่วิน ส่วนพี่ชินใส่แค่ลายดอกสีฟ้ากำลังปิดตะกร้าแมวผ้านุ่มนิ่มอย่างดี

   “พวกพี่ขนของขึ้นรถหมดแล้ว เจ้าเด็กนั่นล่ะเมื่อไหร่จะมา ป่านี้พ่อกับแม่ชะเง้อคอยาวเป็นยีราฟแล้วมั้ง”

   “แปบๆพี่ เดี๋ยวผมโทรหาก่อน”

    ครับงานนี้กลไปกับพวกเราด้วย เห็นว่าจะพาพ่อแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัดในวันสงกรานต์ ผมเลยถือโอกาสชวนไปบ้านซะเลย คนไปเยอะๆพ่อแม่ผมมีแต่จะชอบ ปกติมีแค่ลูกๆไป แถมคราวนี้ไอไวไวลูกคู่พ่อมันไม่ได้ไปด้วย ต้องไปเฝ้าศรีภรรยาเล่นน้ำ

   ผมล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า สไลหาเบอร์แล้วกดโทรออกทันที พอเห็นว่าอีกฝ่ายรับสายแล้ว ผมพูดทันทีแบบไม่ต้องมีเกริ่นนำ

   “กลๆ ถึงไหนแล้ว ทางนี้จะออกแล้วนะ”

   “เลี้ยวเข้าซอยก็ถึงแล้ว วัต กลไม่รู้ทาง วัตมาขึ้นคันเดียวกับกลบอกทางไปบ้านหน่อยได้ไหม”

   เดี๋ยวนี้อัพเกรดครับ หลังจากเจอกันนอกเกมบ่อยขึ้น จากเรียกแทนว่าฉัน นาย เปลี่ยนเป็นชื่อกันเพียวๆ อีกหน่อยอาจมีภาษาพ่อขุน เห็นแบบนี้ผมอนุรักษ์ภาษาไทยนะจะบอกให้

   “ได้สิ มาจอดหน้าบ้านต่อจากรถพี่วินเลย จำได้ใช่ไหม”

   “บ้านของวัต กลไม่มีทางลืมหรอก ถึงแล้ว วางสายก่อนนะ”

   สิ้นคำเจ้าตัวกดวางสายทันที รู้สึกตะงิดๆใจกับประโยคแรก เจ้าหมาเอ๊ย หยอดกันอีกแล้ว หยอดมากๆแบบนี้เดี๋ยวรักตายเลย

   “ไอชิน มียาป่าววะ น้องฉันมันเป็นบ้าไปแล้ว ยิ้มกับโทรศัพท์ หมั่นไส้”

   อือหือ พี่วิน หมั่นไส้แค่ความรู้สึกก็พอมั้ง ไม่ต้องแถมของเล่นนายท่านปาเข้าหัวด้วยหรอก ผมเลยหันไปแลบลิ้นใส่พี่วินซะเลย ประจวบเหมาะกับมีเสียงรถมาจอดหน้าบ้าน ผมเลยชิ่งหนีเท้าพี่ชายตัวเองไปรับหน้าคุณพ่อคุณแม่ อุ๊ยเขิล ตอนนี้ผมกับกลกำลังคบกันอยู่ครับ

   “สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ผู้ใหญ่งามๆตามประสาพ่อแม่พี่ชายสอนมาดี โดยมีพี่ชินกับพี่วินเป็นกองหนุนจากทางด้านหลัง ไม่ต้องห่วง จนตอนนี้พี่วินยังคงไม่ชอบหน้ากลอยู่ เพียงแค่เจ้าตัวถือคติ เกลียดลูกไม่ได้เกลียดพ่อแม่ เลยจัดไหว้งามๆไปสองที ท่านทั้งสองยกมือไหว้รับด้วยรอยยิ้ม จากภายในรถ คงจะรู้แล้วว่าพวกผมจะออกเดินทางเลย เพราะตอนนี้ก็สายมากแล้ว ไม่งั้นกว่าจะถึงคงมืดค่ำ

   “ผมขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ทันได้รับรอง แถมยังต้องออกเดินทางเลย”

   พี่วินก้มหัวให้พ่อแม่กลเล็กน้อย พวกท่านโบกไม้โบกมือยกใหญ่

   “ไม่เป็นไรๆ พวกฉันเข้าใจ อย่ามัวแต่คุยกันเลย รีบออกเดินทางเถอะ อ่อ ฉันขอยืมตัวตาวัตหน่อยนะ พอดีคนขับรถพวกฉันไม่รู้ทาง”

    ไอคนขับรถที่ว่า ใส่เสื้อลายดอกสีน้ำเงินมายืนเนียนอยู่ด้านหลังผมอย่างไว แบบเตรียมผมลากขึ้นรถทุกเวลา ผมสังเกตเห็นเส้นเลือดปูดตรงขยับพี่วิน พลางส่งรังสีอาฆาตใส่เจ้าเด็กนิสัยเสียที่เล่นเอาผู้ใหญ่มาขอ งานนี้ผมเข้าใจ จะไม่ยอมให้ผมไปก็ไม่ได้ ผมเลยช่วยพี่ชินตบบ่าพี่วินคนละข้าง

   “ได้ครับ”

   เจนสัมผัสได้ถึงกระแสความไม่พอใจที่ตวัดสายตามองไปทางตัวต้นเหตุ หมาป่าบางตัวช่างหนังหนาด้านทน ไม่สะท้านกับรังสีนั้นแม้แต่น้อยนิด สรุป ผมเลยมานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถ กินขนมที่กลซื้อมาไว้ให้โดยไม่ได้บอกทางเลยแม้แต่ประโยคเดียว มีหน้าที่กินและชวนพวกท่านที่นั่งอยู่ด้านหลังคุยให้ไม่เบื่อ

   สายตากลดีจะตาย พี่ชินขับซ้ายก็ซ้าย ขวาก็ขวา เหมือนรู้ใจกันจนผมชักสงสัย หรือแท้จริงแล้วสองคนนี้เป็นเนื้อคู่กัน โอ้มายก๊อด แบบนี้ผมก็เป็นมือที่สามน่ะสิ แต่พอนึกถึงเวลาสองคนยืนอยู่ใกล้จับมือเหมือนเป็นแฟน ออร่าความรั่วเสื่อมผสมความน่ากลัวแบบแปลกๆมันกระจายออกมาจนผมต้องรีบสบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆนั่นออก เพราะกลัวฝันร้ายตอนนอน กลเลิกคิ้วมองผมด้วยหางตา ผมส่ายหัวหยิบขนมในมือยัดใส่ปากคนช่างสงสัย แล้วหันไปคุยกับคุณแม่ด้านหลังต่อสลับให้อาหารหมาป่า ขนมน้ำไม่ขาดจนคุณพ่อเหล่แล้วเหล่อีก คุณแม่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไม่สิ ผมไม่เคยเห็นแม่กลมีสีหน้าอื่นนอกจากยิ้มกับสงสัย เหมือนลูกชายที่ทำได้แค่หน้าหื่น หน้าหมาสงสัย กับหน้าตาย

   พอผมมองหน้ากลถามความเห็น เจ้าตัวส่ายหัวให้ผมไม่ต้องใส่ใจ แล้วอ้าปากรอผมป้อนขนมต่อเหมือนลูกนก ให้ตาย นายเป็นคนขับที่สบายเป็นบ้าเลยกล

   ตลอดการเดินทางมีแวะพักแค่รอบเดียวก็เริ่มเดินทางต่อ ใช้เวลาประมาณสี่ชั่วโมง พวกเราก็มาถึงที่หมาย รถสองคันจอนเคียงข้าง เบื้องหน้าเป็นบ้านไม้หลังน้อยแสนอบอุ่น ที่มีสี่ห้องนอน สองห้องน้ำเอง ห้องนอนใหญ่ของตากับยายโดนพ่อแม่ผมยึดไปแล้วเรียบร้อย ส่วนอีกสองห้องเป็นของผมกับพี่วิน ห้องสุดท้ายสำหรับรับรองแขก

   ตรงบันไดบ้านมีชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่ ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งดูแข็งแรง เรือนผมสีทองอ่อนเข้ากับดวงตาสีเทา ต้นแบบความหล่อเหลาของผมกับพี่ชิน ส่วนข้างๆเป็นแม่หญิงคนงาม สาวผมดำสวย ท่าทางบอบบางน่าถนอม กำลังเหยียบเท้าสามีตัวเองเพื่อเตือนให้สำรวมมากกว่านี้ เพราะมีแขกมา

   ผมเปิดประตูลงจากรถวิ่งเข้าใส่เด็จป๋าทันที ชายหน้าละอ่อนกางแขนรับผมที่เข้าไปเกาะเป็นลูกลิงทั้งที่ตัวพอๆกัน จนพี่วินต้องเข้ามาพยุงก่อนเด็จป๋าจะหงายหลัง ด้านหลังมีพี่ชินถือตะกร้าแมวตามมา พร้อมกลที่เปิดประตูให้พ่อแม่ตามมาสมทบ

   “สวัสดีครับคุณพฤธ คุณจิตรียา ผมอาเนช นี่ภรรยาของผมครับ ชื่อรสา”

   พอแขกมายืนพร้อมพ่อผมเริ่มทักทายด้วยรอยยิ้มตามประสาคนอัธยาศัยดี ส่วนชื่อพ่อผมรู้เพราะก่อนหน้านี้พี่วินโทรมาบอกก่อนแล้วว่าสองท่านจะมาพักด้วย ทางคุณแม่ยิ้มหวานรับ บ้านผมทุกคนเป็นคนเฟรนลี่ พี่วินเองก็เหมือนกัน ติดแต่ถ้าใครทำให้เฮียเขาไม่ชอบหน้า คนๆนั้นจะไม่ได้รับสิ่งเหล่านี้เท่านั้นเอง
   
   “สวัสดีครับคุณอาเนช คุณรสา วันนี้ครอบครัวเรามารบกวนหน่อยนะครับ เจ้านี้ลูกชายผม”

   มืออุ่นตบบ่ากลที่ยืนอยู่ด้านข้าง กลยกมือไหว้อย่างสวยงามอย่างกับจะไปประกวดมารยาท เล่นเอาเด็จแม่ผมมองด้วยความเอ็นดู ทำคะแนนไวเหลือเกินนะ พี่วินแทบกินหัวอยู่แล้วนั่น

   “โอย ไม่รบกวนอะไรหรอกครับ พวกผมยินดีต้อนรับเต็มที่” พูดจบพ่อเปลี่ยนเป้าหมายไปทางกล “เจ้าหนุ่มนี้คือกลใช่ไหม วัตกับวินเล่าให้ผมฟังบ่อยๆ หน้าตาหล่อใช่ได้เลยหนิ ท่าทาหน่วยก้านไม่เลว” พ่อผมลูบคางมองกลที่แอบตัวเกร็งไปนิดนึง ผมเข้าใจ เล่นโดนแสกนแบบฉับไวด้วยรอยยิ้มแบบนั้น

   เห็นว่าทักทายกันพอแล้ว แม่ผมออกปากเชิญพวกผู้ใหญ่เข้าบ้าน มือรับตะกร้าแมวจากพี่ชินแล้วไล่ให้พวกผมไปขนกระเป๋าขึ้นบ้าน พวกเราแยกย้ายกันไปเก็บข้างของในห้องตัวเอง ส่วนผมเป็นคนนำทางกลยกกระเป๋าพ่อแม่ไปที่ห้องรับรองแขก ก่อนวกกลับมาห้องผม วันนี้กลคงต้องสิงสถิตกับผม ส่วนพี่ชินนอนกับพี่วินตามเคย สองคนนี้ตัวติดกันตั้งแต่สมัยเด็ก ถ้าวันหนึ่งพี่ชินหอบข้าวของย้ายมาอยู่ด้วยกันผมจะไม่แปลกใจเลยจริงๆ

   “ห้องของวัตไม่รกเหมือนที่บ้านเนอะ” ลับหลังผู้ใหญ่ นิสัยแท้จริงออกทันที ผมศอกใส่เจ้าหมาปากเสีย ห้องผมไม่รกเว้ย แค่น้องๆรังหนูเท่านั้นเอง

   “ใครจะไปเนียบกริบเหมือนกลกัน ถามจริงผู้ชายรึเปล่า ห้องเรียบร้อยยิ่งกว่าผู้หญิงบ้างคนซะอีก”

   “ไม่รู้สินะ สงสัยต้องให้คนแถวนี้พิสูจน์ว่าผู้ชายจริงไหม” ปากพูดมือขยับตามสเตปหมาป่าตัวร้าย แขนแกร่งคว้าเอวผมให้ล้มทับคนที่ถือวิสาสะมานอนอืดบนเตียงชาวบ้าน ให้มันน้อยๆหน่อยไอตาพราวระยับนั่น น่าจิ้มให้ตาบอด หึ ระดับอย่างยอดชายนายวัตไม่มีทางอายม้วนแบบนางเอกในละครแน่ อยากให้พิสูจน์นักใช่ไหม ได้!

   “อุ๊ก วัตอย่า ปล่อย เดี๋ยวไม่มีทำพันธ์” วะฮ่าๆๆ โอดโอยเข้าไปสิ ร้องเข้าไป

   “อยากให้พิสูจน์ไปใช่รึไง” ผมยักคิ้วใส่ เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับท่านวัตคนนี้ ฝันไปร้อยล้านปีแสงไอน้อง

   “ยอมแล้วๆ ปล่อยก่อน เดี๋ยวลูกชายตื่น” จัดการส่งเสียงเฮอะในคอใส่แทนคำตอบ ที่ยอมปล่อยมือไม่ใช่เพราะกลัวหมาป่าขย้ำนะจริงๆ แค่เห็นใจไม่อยากทำร้ายสัตว์โลกเท่านั้นเอง

   ก๊อกๆ

   เสียงประตูดังขึ้น ผมกับกลดีดตัวออกห่างจากกันทันที รีบลงจากเตียงแทบหัวทิ่ม มีเสียงกลหัวเราะไล่หลัง ฝากไว้ก่อน คุยเสร็จพ่อจะมาคิดบัญชี ไอคุณชายหมาป่า

   เปิดประตูผ่างออกมาเห็นพ่อตัวเองในชุดลายดอกสีเหลืออ๋อยเหมือนลูกชายทั้งสอง ยืนถือปืนฉีดน้ำกระบอกโต

   “วัตเปิดช้าจริง มัวทำอะไรอยู่ เร็วเข้ารีบเตรียมตัว พ่อรอเล่นน้ำจนแก่แล้วเนี่ย”

   “ไม่ใช่ว่าแก่อยู่แล้วเหรอพ่อ โอ๊ย! ทำไมใครๆชอบคิดร้ายกับหัวผมจัง”

   “เพราะปากแบบนี้น่ะสิมันถึงน่าโดน ไปหยิบอาวุธมาซะ ชักช้าเดี๋ยวเขาเลิกเล่นหมดพอดี นี่ก็เย็นแล้วด้วย ลากเพื่อนมาด้วยล่ะ ผมจะไปรอด้านล่างกับพวกวิน”

   “คร้าบๆ” ผมรับเสียงยานๆ มองตามหลังพ่อเดินลงบันไดไปชั้นล่าง แล้วปิดประตูหันกลับมาเจอหมาป่าสต๊าฟ เป็นอะไรล่ะนั่น นั่งตัวแข็งทื่อเลย ผมไม่สนใจ หันไปรื้อหาปืนฉีดน้ำทั้งเก่าใหม่ของตัวเอง ทดลองนิดหน่อยยังใช้งานได้ ยื่นส่งให้กลหนึ่งกระบอก

   “พ่อวัตดูใจดีนะ” มันคงเรียกสติกลับมาได้แล้วหลังจากเห็นผู้ใหญ่บางคนสลัดมาดทิ้ง ผมหัวเราะแล้วลากแขนกลออกจากห้อง ต้องรีบลงไปเดี๋ยวพ่อขึ้นมาตามอีกรอบจะซวยเอา

   “เห็นใจดีแบบนั้น พอเวลาโกรธน่ากลัวมากเลยนะ ถ้านึกไม่ออก ลองเทียบกับพี่วินดู มากกว่าสักสองเท่าได้มั้ง”

   มือหมาป่าที่ผมจับอยู่เย็นเฉียบขึ้นมาทันที ขนาดเท้ายังหยุดเดินยืนนิ่ง

   “ทำไม หรือกลจะตัดใจจากวัต” สิ่งที่ตอบผมคือดวงตาแข็งกร้าวแบบไม่ยอมแพ้ รอยยิ้มผุดขึ้นบนมุมปากหมาป่ามาดเข้ม ผมยกยิ้มตอบ ต้องแบบนี้สิถึงจะสมกับที่เป็นคนที่ผมเลือก

   ผมกับกลเดินลงมาหาพวกพี่วินที่ยืนรออยู่ตรงรถประจำตำแหน่ง ระหว่างรอพ่อเช็ครถ ทั้งคู่ใส่หน้ากากเรียบร้อย แถมยื่นมาให้กลกับผมคนละอัน ผมรับมาใส่ มันเป็นหน้ากากขายตามงานวัดธรรมดานี้แหละ ของผมเป็นลายมดเอ็ก พี่วินเป็นอุนตร้าแมน พี่ชินลายโดเรมอน ส่วนกลคิตตี้ ผมหัวเราะก๊ากแบบไม่เกรงใจ เกือบจะลงไปกลิ้งกับพื้น ไม่ทันได้ออกศึกก็โดนซะแล้วสุดที่รักผม

   กลยืนนิ่งมองหน้ากากบนมือพี่วินเหมือนมันคืออาวุธชีวภาพถ้าจับแล้วจะตายทันที

   “ใส่ไปซะถ้าไม่อยากตาย หรือนายปอดแหกแค่นี้ก็ทนไม่ได้” เจอไปหนึ่งดอก กลคว้าหน้ากากมาสวมไร้ซึ่งความลังเลอีกต่อไป โอยตาย แม่งโคตรเหมาะอะบอกเลย ขนาดพ่อผมเห็นยังเรียกให้แม่เอากล้องมาถ่ายพวกเราไว้ ตอนนี้ผมเดาสีหน้ากลได้โดยไม่ต้องถอดหน้ากาก มันคงจะนิ่งเรียบเหมือนปลาตายไปแล้ว

   “เอ้าขึ้นมาเลย งานนี้พ่อแว้นเอง”

   “เย้” ผมรับคำเป็นลูกคู่กระโดดขึ้นรถสุดหรูคนแรก ตามมาด้วยคนอื่นๆ เสียงบิดเร่งเครื่องดังขึ้น แล้วซาเล้งบรรจุชายหล่อทั้งห้า ได้เวลาเคลื่อนพลเข้าสู่สนามรบ

   ไม่ถึงเสี้ยววิ พอเข้าเขตที่คนแถวนี้จะมารวมตัวกันเล่นน้ำ พวกผมห้าคนเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า เสื้อแนบเนื้อชวนสยิวกันล่ะคุณเอ๊ย พ่อจอดรถเก็บกุญแจเข้ากระเป๋า นัดแนะกันว่าถ้าหลงให้มารอที่เบนซ์สามล้อ ก่อนนำทีมพวกเราลุยฉีดน้ำใส่คนอื่น

   เพลงที่เปิดอย่างมันอะขอบอก ลูกทุ่งๆนี้แหละเต้นมันดีนัก แน่นอนว่างานนี้โนน้องแอล แต่ไม่ไร้น้องแข็งกับน้องแป้ง ถึงเขาจะห้ามก็ยังมีคนใช้อยู่ดี ตะกี้ผมเพิ่งโดนไปเต็มหลัง เย็นไปถึงเซี้ยงจี้ มีสาวหลายคนพยายามเหลือเกินจะปะแป้งพวกผม ติดแต่พี่วินกับพี่ชินสูงเกินไปแถมเงยหน้าหลบสาวๆเลยแห้วกันเป็นแถว ผมกับกลตัวสูงไม่ต่างรอดไปได้เหมือนกัน

   สุดท้าย หลังสาดน้ำกันวุ่นวาย เห็นหลังพ่อแวบๆไปเล่นสาดน้ำกับผู้ใหญ่บ้านอยู่ด้านโน้น ผมถูกมือดีฉกหน้ากากออก เท่านั้นแหละ เสียงกรี๊ดสาวแถวนั้นดังกระหึ่ม ไม่ใช่กรี๊ดผมนะ แต่เป็นกลที่เผลอพลาดท่าหน้ากากคิตตี้หลุด สารพัดมือ สารพัดแป้งโปะเข้าเต็มหน้าเจ้าตัว ไอผมเป็นแฟนที่ดี ขอแป้งคนแถวนั้นมาโปะแถมให้อีก ขาววอกโคตรๆ แบบไม่ต้องพึ่งยาฉีดผิวเลย

   กลเหมือนจะเริ่มตั้งรับไม่ไหว กลรีบลากผมหลบมุม ขอน้ำลุงป้าแถวนั้นมาล้างหน้า โดยมีผมยืนหัวเราะเยาะอยู่ข้างๆ  บอกแล้ว ผมเป็นแฟนตัวอย่าง หาที่ไหนไม่ได้อีกในโลก เพื่อน แฟนตกต่ำต้องรีบซ้ำเติมสิ!
   
   “กลรู้แล้วล่ะว่าทำไมต้องใส่หน้ากาก”

   ผมตบหลังกลป้าบๆ แฝงความแค้นไว้ ผมเองก็หน้ากากหลุดทำไมไม่มีใครมาปะแป้งมั้ง โดยลืมคิดไปซะสนิท ที่ไม่โดนเพราะหมาบางตัวมันยื่นหน้ามารับแทนหมด กว่าผมจะระทึกชาติถึงความเสียสละอันยิ่งใหญ่ได้ ก็หลังจากกลับกรุงเทพนู่นแหละ

   “เกิดมาหน้าตาดีทำใจไป ขอบอกเลยว่าตอนนี้ผิวเข้มๆของกลขาววอกยิ่งกว่าวัตตอนเข้าเกมเป็นแวมไพร์ซะอีก”

   จบคำพูดด้วยเสียงหัวเราะอีกชุด เจ้าหมาแอบเคือง จับชายเสื้อลายดอกตัวเองรวบหัวผมไปถูซิกแพค ผมเลยฉีดน้ำใส่ทั้งที่มองไม่เห็นนี้แหละ กลายเป็นเราเล่นกันนัวเนียอยู่ตรงนั้น

   “เฮ้ย หลบหน่อยดิ๊” เสียงโคตรหาเรื่อง ผมหันไปมองทันที เจอมนุษย์แป้งสองคนถือถังน้ำเดินเข้ามาหา ถ้าไม่ติดว่าผมเห็นซากหน้ากากบนมือสองคนนั้น คงจำไม่ได้ว่าเป็นใคร

   “ก๊ากกก!! พี่วิน พี่ชิน เปลี่ยนสปีชี่เป็นมนุษย์แป้งแล้วเหรอ”

   “ผู้หญิงสมัยนี้น่ากลัวชะมัด วันหลังคงต้องใส่หน้ากากแบบสวมหัวแล้ว แบบนี้เอาไม่อยู่ แหวะ แป้งเข้าปาก” ผมอนาถใจช่วยหยิบขันราดน้ำให้พี่วินล้างแป้งออก ทางกลถูกใช้แรงงานด้วยพี่ชิน หลังแป้งขาวถูกล้างออกไปบ้างแล้ว ผมถึงได้เห็นรอยสักเยื้องๆกับท้ายทอยพี่วิน มันเป็นรูปลายกราฟิกรูปแมวที่ปกติจะถูกผมของพี่วินปิดเอาไว้

   เห็นว่าเจ้ารอยสักนี้ได้มาตอนสมัยขึ้นมหาลัยใหม่ๆ เพื่อนพี่วินอยากหารายได้เสริมไว้ซื้อข้าวกิน เจ้าตัวเลยเสียสละตัวเองไปขึ้นเขียงให้เพื่อนสักให้ ผมจำได้ หลังจากนั่นพี่วินบ่นทุกวันบอกว่ามันเบี้ยว ผมว่ามันก็สวยดีออก ติดแค่ไม่ใช่ตำแหน่งท้ายท้อยอย่างที่พี่วินต้องการเท่านั้นเอง

   เอ้อ พี่ชินเอากับเขาด้วย ทางนั้นสักตรงไหล่ด้านหลังข้างซ้าย เป็นรูปกราฟิกเหมือนกัน ผมดูไม่ค่อยออกว่ามันเป็นลายอะไร แต่มันเท่สุดๆ

   หลังจากล้างหน้าล้างตากันเสร็จ แทนที่สามชายโฉดจะเข็ด เปล่าเลย กระโดดเข้าไปเล่นสงครามน้ำกันอีกรอบ ผมเองก็เข้าไปร่วมวงด้วย แอบจิ๊กน้ำเย็นเจี๊ยบไปราดใส่พ่ออยู่ ก่อนโดนคืนแบบคว่ำน้ำเย็นเป็นถัง ตัวสั่นเป็นค้างคาวแช่แข็งเลยผม

   พวกเราเล่นได้ประมาณสองชั่วโมงก็ถอยทัพกลับ เหตุผลคือ แม่โทรตาม เพราะมันใกล้ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว คราวนี้กลเป็นฝ่ายขอลองแว้นซาเล้งบ้าง บอกว่าตั้งแต่เกิดไม่เคยขับ ผมทำปากยื่นอย่างหมั่นไส้ คุณชายบนหอคอยหมาป่าอย่างกลที่ไม่เคยทำอะไรแบบที่คนธรรมดาเขาทำกันเหมือนบ้านผม

   ถึงอย่างนั้น กลดูสนุกกับทุกอย่างที่ไม่เคยทำ ตั้งแต่คบกันมาไม่ว่าผมจะลากไปเล่นอะไรบ้าบอขนาดไหนไม่มีบ่นสักแอะ พยายามปรับตัวเข้าหาผมเต็มที่ นับวันยิ่งกลมกลืนจนแยกไม่ออก ปรับตัวเร็วยิ่งกว่าเปลี่ยนสี หรือแท้จริงแล้วเป็นสายพันธ์หมาป่าครึ่งจิ้งจกกันหนอ เรื่องนี้ยังคงเป็นปริศนาต่อไป

   รถเบนซ์สามล้อจอดหน้าบ้านปุ๊บ พ่อลงจากรถเดินขึ้นบ้านคนแรก หันมาใช้สิทธ์ผู้ใหญ่สั่งพวกผม

   “พวกลูกอาบกันข้างล่าง พ่อยึดห้องน้ำชั้นบนล่ะ”

   แหงสิ ชั้นบนมันเป็นฝักบัวน้ำอุ่นอย่างดี ส่วนด้านล่างน่ะเหรอ หึหึ โอ่งมังกรครับ โอ่งใส่น้ำเต็มๆสามโอ่งใหญ่ น้ำเย็นเจี๊ยบยาบอกใคร มีขัน สบู่ ยาสระผมพร้อม แม่คงให้ป้านุ่นลูกมือแม่มาเตรียมไว้ให้ ป้าแกเป็นคนเก่าคนแก่ ช่วยเลี้ยงดูพวกผมมาตั้งแต่ตีนเท้าฝาหอย ให้อารมณ์คล้ายๆกันแม่นม

   พวกเราสี่หนุ่มมองหน้ากัน แล้วเร่งสปีดอาบน้ำด้วยความเร็วแสงแบบรับรองความสะอาด ในสภาพนุ่งผ้าขาวผ้าคนล่ะผืน อู้หู เสียวหลุดยิ่งกว่าสายเดี่ยว ฮ่าๆๆ ดีที่กลผ่านการรับน้อง ลุยค่ายมานักต่อนัก เจ้าตัวเลยมีเคล็ดวิชายึดผ้าขาวม้าแน่นหนาระดับเทพมา ไม่งั้นโดนเพื่อนดึงหลุดกระจุยอะ

   พออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็ถึงเวลารวมพลทานข้าวเย็น ผมกอดหอมป้านุ่นแล้วช่วยป้าแกเสิร์ฟอาหาร สำรับเต็มไปด้วยกับข้าวมากมายแบบพื้นบ้าน รับรองว่าต่อให้คนไม่เคยทานยังไงก็ทานได้ ด้วยเสน่ห์ปลายจวักของแม่ผม พ่อแม่กลชมไม่ขาดปาก แม่ผมยิ้มหน้าบานจนพ่อแซว สนุกสนานเฮฮา ผมกับกลมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม พวกเราจับมือกันใต้โต๊ะ อยากให้บรรยากาศแบบนี้อยู่ต่อไปอีกนานๆ

   หลังมื้ออาหารแสนอร่อย ระหว่างพวกผู้ใหญ่นั่งคุยกันเล่นรอข้าวเรียงเม็ด พวกผมลูกๆคลานเข่าเข้าไปหา พี่วินถือขันเงินใส่น้ำผสมน้ำอบ ลอยด้วยดอกมะลิพร้อมขันไปเล็กๆนำไปคนแรก ทุกคนมีพวงมาลัยเล็กอยู่ในมือคนละห้าพวง พี่วินเป็นคนซื้อเก็บไว้ในตู้เย็นตอนเช้ามืด

   ผมแยกออกมาหาป้านุ่นที่นั่งอยู่ไม่ไกล

   “ป้านุ่นครับ ขอเชิญด้วยนะครับ” ทีแรกป้านุ่นแกจะไม่ยอมมาเพราะเห็นเป็นแค่คนใช้ แต่สำหรับผม ป้าไม่ใช่คนใช้ เป็นญาติผู้ใหญ่อีกหนึ่งคนของบ้านเรา

   “มาเถอะจ๊ะพี่นุ่น เด็กๆเขารออยู่นะ” แม่ผมช่วยอีกแรง จนป้านุ่นยอมไปนั่งบนเก้าอี้ที่เตรียมไว้ให้

   พวกผมรดน้ำบนมืออย่างระมัดระวัง ก่อนยื่นส่งพวงมาลัยให้ ก้มกราบแทบเท้าผู้ให้กำเนิด รวมถึงผู้ฟูมฟักเลี้ยงดูพวกเรามาตั้งแต่เยาว์วัย มืออบอุ่นลูบศีรษะแผ่วเบา คำอวยพรดังกระซิบข้างหู ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั้งใจ กลิ่นหอมของน้ำอบกับดอกมะลิอบอวนไปทั่ว

   บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความสุข ผมช่วยเช็ดน้ำตาให้กับป้านุ่น นายท่านเองไม่ยอมน้อยหน้าเดินเข้ามาใช้อุ้งเท้านุ่มๆแตะบนเท้าของแม่ผมเบาๆ ผมว่ามันคงไม่ได้สำนึกถึงพระคุณอะไรหรอก เรียกร้องขอขนมกินเล่นหลังข้าวมากกว่า ทุกทีที่กลับบ้าน แม่มักเป็นคนตามใจนายท่านตลอดนี่นา

   พอแม่ให้ขนมก็วนไปหาพ่อผมต่อ พ่อผมให้อีก ทีนี้ลามไปถึงพ่อแม่ของกลจนป้านุ่นต้องอุ้มไปใส่ที่นอน เพราะชักจะกินเยอะเกินไปแล้ว พวกเราหัวเราะกันอย่างมีความสุข คืนนั้นพ่อชวนพ่อกลคุยจนมืดค่ำ คุณแม่ทั้งสองเองก็ไม่น้อยหน้า ส่วนพี่วินกับพี่ชินหลังโหมงานจนแทบไม่ได้นอน ต้องรีบถ่อกลับบ้าน ทั้งคู่ฝืนสังขารไม่ไหว ถอยทัพกลับไปนอนซุกผ้าห่มอุ่นๆในห้องเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปทำบุญทั้งครอบครัวอีก เลยต้องตุนพลังงานเอาไว้

   ผมกับกลเกาะขอบหน้าต่างมองดวงดาวเต็มท้องฟ้า พระจันทร์กลมโตลอยเด่นทอแสงนวล มือหนาช่วยเกลี่ยผมให้ ผมหันมามองหน้ากลที่ก้มหน้าลงมาให้หน้าผากแตะกัน พวกเรายิ้มและพูดออกมาพร้อมกันว่า

   “สุขสันต์วันปีใหม่ไทย”

   “อื้ม! สุขสันต์วันสงกรานต์นะ”
   
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ ใครเล่นน้ำโปรดระวัง ใครเดินทางโปรดระวัง ใครอยู่บ้านโปรดระวัง เพราะถ้าของที่ตุนไว้หมด ต้องออกลุยน้ำไปซื้อเด้อ 5555+
อย่าลืมนะครับ นอกจากวันแห่งการเล่นน้ำคลายร้อนแล้ว ยังเป็นวันของครอบครัว แสดงความรักกันเล็กๆน้อยๆ จะได้พลังใจขึ้นเยอะ ระดับLv.MAX เลยทีเดียวเชียว  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-04-2015 03:47:16 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ yaoisamasang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Yaoi-Sama/463499467036395?ref=hl
กำลังสงสารวัด...มาร่อเร็วๆน้า

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
แหมมมมมมมมม อยากไปเล่นน้ำแล้วเจอหนุ่มๆจัง
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษ
สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
อิอิ น่ารักดีอะ

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
พี่วิน กับ คุณพ่อ หวงเจ้าวัตอ่ะ เล่นซะกลกลัวจนตัวแข็งทื่อเชียว  :laugh3:

ขนาดแฟนน้องยังเขม่นขนาดนี้เลย ไม่อยากจะนึกถึงพวกแฮกเกอร์ที่ทำร้ายวัตเลย
โดนเชือดแหงๆ o18 ถ้าพี่วินรู้อ่ะนะ

แต่ตอนนี้หวานจัง  :-[ :-[ ฟิน

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
นั้ลล้ากจัง ทั้งคู่อะ><

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด