Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์! [Up Lv.พิเศษ พจนินท์สไตล์3 100% 8/4/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์! [Up Lv.พิเศษ พจนินท์สไตล์3 100% 8/4/61]  (อ่าน 287752 ครั้ง)

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.6 3/4/58]
«ตอบ #30 เมื่อ04-04-2015 11:45:16 »

 o13   บวกเป็ดให้จ้ะ

ออฟไลน์ morningflower

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.6 3/4/58]
«ตอบ #31 เมื่อ04-04-2015 12:53:13 »

สนุกมากกกกก ชอบ  :man1: :man1:
อัพบ่อยๆน้า อยากอ่านต่อเยอะๆเลย ><~

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.6 3/4/58]
«ตอบ #32 เมื่อ04-04-2015 13:26:31 »

ตลกตอนเจ้ลินกับไวไวคิดลึกอ่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ Maiiz Ellfiez

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.6 3/4/58]
«ตอบ #33 เมื่อ04-04-2015 16:58:31 »

น่ารักมาก  กลตามแจเลย

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.6 3/4/58]
«ตอบ #34 เมื่อ05-04-2015 12:16:37 »

หุหุ คงจะเป็นที่เดียวกัน ไม่ก้อเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันแน่เลย

ออฟไลน์ Melonlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.6 3/4/58]
«ตอบ #35 เมื่อ05-04-2015 13:55:33 »

วันนี้นี้จะออนมั้ยน๊า  เค้าล๊อกอินเข้ามารอสองวันแล้วน๊า :hao5: :hao5: 

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.6 3/4/58]
«ตอบ #36 เมื่อ05-04-2015 14:12:18 »

นายท่านน่าร๊ากกกกกกก
รอตอนต่อไปน้าา

ออฟไลน์ Damon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.6 3/4/58]
«ตอบ #37 เมื่อ05-04-2015 14:30:42 »

เอ๊ย สนุกมากเลยนิยายเรื่องนี้ ติดตามค่ะ เป็นกำลังใจให้น้า

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.6 3/4/58]
«ตอบ #38 เมื่อ05-04-2015 15:49:09 »

ชอบบบบบบ

รอตอนต่อไปนะ :)

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 450
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.6 3/4/58]
«ตอบ #39 เมื่อ07-04-2015 00:21:11 »

สนุกมาก :pig4: o13
บวก +1

อยากอ่านตอนไปเร็วๆจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.6 3/4/58]
« ตอบ #39 เมื่อ: 07-04-2015 00:21:11 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ YOSHIKUNI RUN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.6 3/4/58]
«ตอบ #40 เมื่อ07-04-2015 08:13:50 »

ยังไม่มาเร้อ~~ รออยู่น้าาา~~ :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.7 7/4/58]
«ตอบ #41 เมื่อ07-04-2015 19:00:53 »

Lv.4 เจอจนได้ ง่ายไปไหม

   ก่อนที่พวกเราจะไปส่งภารกิจกัน กลพาผมเดินทัวร์ จะบอกว่าเป็นหมู่บ้านก็ไม่เชิง คล้ายๆ กับเมืองขนาดย่อมมากกว่า พ่อหมาป่าแนะนำเรื่องต่างๆ ภายในเกมให้ฟัง บางส่วนผมก็พอจะรู้มาอยู่แล้ว จากประสบการณ์ การเล่นเกมมายาวนาน บางอย่างไม่รู้ก็ถามไป เกมนี้ยิ่งไม่ปกติเหมือนชาวบ้านเขาซะด้วย

   โชคดีที่เมืองนี้ไม่มีอะไรมาก เดินวนแค่วันเดียวก็หมด ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเรือนผู้คน ร้านขายของทั่วไป อาคารอำนวยความสะดวกให้กับผู้เล่น เช่นอาคารแนะนำ ธนาคาร และอื่นๆ

   ที่เห็นจะน่าสนใจสุดคงเป็นกิลด์ กิลด์คือการรวมตัวของกลุ่มคนไม่ให้อารมณ์เหมือนกองกำลังที่คอยช่วยเหลือกัน โดยมีพวกคนใหญ่คนโตในกิลด์เป็นผู้ดูแลคนอื่น เกมนี้พิเศษตรงที่ แต่ละกิลด์จะมีบ้านเป็นของตัวเอง ซึ่งไอ้บ้านนี้ทุกคนมีห้องส่วนตัว กิลด์ไหนคนเยอะก็มีขนาดอาคารใหญ่ คนน้อยก็อยู่กันแบบพอเพียงไป

   เควสภารกิจบางอย่างในเกมจำเป็นต้องพึ่งพากิลด์ดังนั้นคนส่วนใหญ่เลยต้องการที่จะหากิลด์อยู่ จากเกมเก่าๆผมกับไวไวเพื่อนรักก็เคยตั้งกิลด์เหมือนกัน แต่อยู่กันแค่ไม่กี่คนเฉพาะเพื่อนๆ ที่รู้จักกันล่ะนะ เพราะพวกผมไม่ชอบดูแลใคร ชอบผจญภัยสบายๆ มากกว่า

   ในเมืองนี้เองมีกิลด์ตั้งอยู่หนึ่งแห่ง ผมสนใจเลยชวนกลไปดู พอเห็นแล้วก็ไม่เลว ขนาดไม่ใหญ่แต่ดูอบอุ่นดี

   “นายดูสนใจเรื่องเกี่ยวกับกิลด์เป็นพิเศษ”

   กลถามผมที่ด่อมๆ มองๆ อยู่หน้าบ้านกิลด์คนอื่น ผมโบกมือปัดๆ กระชับเสื้อคลุมกันแดดที่เพิ่งซื้อมา ปิดมิดชิด กันแดดได้ดีจนน่าตกใจเลยล่ะ แลกกับการที่มันคลุมผมตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนเป็นผ้าคลุมเคลื่อน แน่นอน ของดีแบบนี้ผมไม่ได้เป็นคนจ่าย กู้ยืมจากคนข้างๆ แล้วค่อยใช้หนี้ที่หลัง หวังว่ากลจะไม่ใช่พวกหน้าเลือดขึ้นดอกเบี้ยแพงหรอกนะ เอาไว้เจอไวไวเมื่อไหร่ผมจะรีบรีดไถจากมันมาช่วยจ่ายหนี้

   “ฉันไม่สนหรอก ไม่ชอบอะไรวุ่นวาย อยากอยู่สบายๆ มากกว่า ฉันเป็นพวกรักอิสระสุดกู่น่ะ เพื่อนฉันเองก็มีแต่แนวเดียวกัน”

   “น่าเสียดาย ถ้านายสนใจ จะชวนให้มาอยู่กิลด์เดียวกัน”

   กลพูดด้วยรอยยิ้มบางตรงมุมปาก เขาใส่หมวกปกปิดหูหางตัวเองตามเดิม ตอนนี้พวกเราเลยดูเหมือนไอ้ตัวไม่หน้าไว้ใจสองตัวเดินดุ่มๆ ลอยไปลอยมาในเมือง เห็นชาวบ้านบางคนเริ่มซุบซิบมองด้วยแปลกใจ

   “นายมีกิลด์อยู่ด้วยเหรอ ชวนกันง่ายๆ แบบนี้แสดงว่าถ้าไม่ใช่เจ้าของ ก็คงเป็นพวกมีตำแหน่งหน้าดูสิท่า”

   ผมยกไหล่ชนแซวๆ กิลด์บางที่ไม่ได้รับคนง่ายๆ ต้องผ่านการคัดเลือกสารพัด บอกแล้วมันก็เหมือนระบบทหารนั้นแหละ เว้นแต่บางกลุ่มอยู่กันแค่เพื่อนจริงๆ รับคนด้วยความเต็มใจ อันนั้นมันก็อีกเรื่อง

   ส่วนเรื่องของกล ผมไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ ผมเป็นคนเข้ากับคนอื่นง่ายก็จริง แต่ใช่ผมจะดูคนไม่ออก กลมีอะไรบางอย่างที่พิเศษกว่าคนอื่น รอบตัวเขาเหมือนมีคำว่าตูไม่ธรรมดาแผ่ออกมา เขาถึงดูไม่เป็นกังวลว่าผมจะกลายเป็นพวกไม่ดีไปทำร้าย ระดับอย่างผมจะไปทำอะไรเขาได้ แถมผมเองก็ไม่ต้องห่วงด้วยว่ากลจะรังแกค้างคาวผู้น่าสงสาร ในเมื่อเจ้าตัวเมพขนาดนี้แล้วจะมาทำอะไรผมไปเพื่ออะไร ดูจากนิสัยกลเองไม่ใช่พวกที่ชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่า ไม่งั้นผมคงถูกแล่ไปพร้อมๆ กับหมูป่าตัวนั้นแล้ว

   “ฉันไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่โตขนาดนั้น เป็นแค่หนึ่งในสมาชิกของกิลด์เฉยๆ พอรู้จักสนิทสนมกับพวกมีตำแหน่งนิดหน่อยเลยได้อานิสงส์น่ะ”

   “อย่างงี้นี้เอง โทษทีนะฉันไม่อยากเข้าร่วมกับกิลด์ไหน แต่ถ้าพวกนายจะไปทำอะไรสนุกๆ กันแล้วยังพอมีที่ว่าง ฉันพร้อมไปแจมด้วยตลอดนะ” ผมยิ้มยักคิ้วให้

   “ได้ มีอะไรฉันจะเรียกนายคนแรก”

   พวกเราออกจากเมือง มุ่งหน้ากลับไปสู่บ้านช่างไม้เพื่อส่งภารกิจ พี่ชินโดนรู้ตัวจริงแล้ว ป่านี้คงจะเลิกเล่นเป็นช่างไม้กลับไปทำงานแล้ว ไปเจอรอบนี้คงเป็นคนเล่นตำแหน่งนี้จริงๆ

   ระหว่างทางไม่แตกต่างจากเดิม มอนสเตอร์แมงมุม หมูป่าโผล่กันมาเป็นเบือ คราวนี้ผมระดับสูงขึ้นแถมมีอาวุธเลยจัดการพวกมันได้ง่ายขึ้นหน่อย กลเองเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้นเพราะไม่ต้องคอยพะวงเรื่องผมระหว่างสู้ไปด้วย

   ผมระดับขึ้นพรวดพราด อย่างที่เคยบอกไป พวกนี้เลเวล35 ตอนนี้ผมเลยอัพจนกลายเป็นเลเวล32 อาวุธคู่กายที่เพิ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ เริ่มใช้จนชินมือมากขึ้น การต่อสู้เลยไม่ติดขัด ใช้เวลาเพียงไม่นานพวกเราก็เคลียร์พวกมันหมด

   พระอาทิตย์ไม่คอยเรา เงยหน้าขึ้นมองอีกที ไอ้ลูกกลมส่องแสงจ้าเริ่มง่วงนอนจนลับขอบฟ้า เปลี่ยนเวรกะดึกให้พระจันทร์เข้ามาแทนที่ พวกผมเลยต้องหาที่พักแรมกลางป่ากันหนึ่งคืน พวกเราไม่เจอขบวนพ่อค้าเหมือนตอนขามา การเดินทางเลยล่าช้าขึ้นเยอะ

   ผมเอาชิ้นส่วนที่ได้มากองเรียงกัน ส่วนไหนขายได้ราคาดีก็เก็บไว้ อันไหนน่าเอาไปใช้งานต่อก็คัดอีกกอง พวกใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ หรือขายได้น้อยโยนทิ้งไปไม่ให้รกกระเป๋า แม้กลจะให้ของดีกระเป๋าหนังหมูป่ามา มันก็ยังคงเป็นกระเป๋าระดับต้นๆ จุของได้ไม่เท่าสร้อยคอของท่านกลเขาหรอก

   พ่อหมาป่านั่งมองผมง่วนกับการจัดของเงียบๆ เขาไม่เอาอะไรเลยสักอย่าง ให้ผมเต็มที่

   “นายมองฉันแบบนี้ มีอะไรจะพูดรึเปล่า”

   “หลังจากที่วัตเจอเพื่อน พวกเราจะแยกกันเลยใช่ไหม”

   “อ้าว นายรำคาญฉันแล้วเรอะ เหมือนอยากให้ฉันรีบๆ แยกไปเลย” ผมหัวเราะโกยเอาของเข้ากระเป๋าตามลำดับ

   “ตรงกันข้าม ฉันสนใจนายต่างหาก นายเคยบอกว่าเราเป็นเพื่อนกัน ฉันเองก็ไม่มีอะไรทำ แบบนั้นจะขอไปผจญภัยกับนายได้มั้ย”
   
   ใบหน้าขาวซีดตามลักษณะเผ่าพันธุ์หันขวับไปมองหมาป่าที่กำลังส่ายหางไปมาดูผ่อนคลายดีเหลือเกิน... ล้อเล่นน่า เขาหูฝาดไปรึเปล่า จู่ๆ คนที่ดูจะเทพเลเวลสูงกลับขอติดตามคนมีเลเวลอ่อนด๋อยนี่นะ ผมเข้าใจว่าเขาเป็นคนใจดี แต่ไม่คิดว่าจะแปลกขนาดนี้

   คำพูดที่ใช้มาตรงๆ อีก ทำเอาผมไปไม่เป็นชั่วขณะ สนใจงั้นเหรอ... คำนี้มันยังไงอยู่นะ อืมมม จะให้ผมปฏิเสธไปเลยก็ยังไงอยู่ กลเองไม่เคยบังคับให้ผมทำอะไร สอนทุกอย่าง ไปไหนไปกันเหมือนพวกตามติดชาวบ้านแก้เบื่อ

   ส่วนความหมายของคำว่าสนใจ ผมละไว้ก่อนแล้วกัน ยังไม่อยากคิด คงจะเป็นการสนใจแบบเพื่อนธรรมดานั่นแหละ เพื่อนในเกมมันก็ไม่เลวนักหรอก

   “ตกลง ฉันจะกวนนายจนนายขยาดหนีไปเองเลย”

   กลส่ายหัว มองผมด้วยดวงตาแน่วแน่ อ่า.... พี่วิน ดูเหมือนน้องชายพี่จะเป็นที่ถูกใจของคนที่พี่บอกว่าไม่น่าไว้ใจซะแล้ว หรือมาคิดอีกที จะใครคนไหนที่เข้าใกล้เราพี่ก็ไม่ไว้ใจเลยนี้หว่า เว้นไอ้ไวไว เพื่อนสมัยเด็ก กับเพื่อนคนอื่นๆ ที่รู้จักกับเจ้าตัว สิ่งนี้เค้าเรียกว่าบราค่อนสินะ พี่น้องรักกันก็ดีหรอก บางทีมากไปก็น่าซัดเหมือนกัน เพียงแค่ว่า ระดับอย่างพี่วิน ผมคงถูกซัดปลิวกลับมาก่อน

   เอาเข้าจริงพี่ชายผมคงไม่ใช่พวกบราค่อนหรอก ทำตามหน้าที่พี่ชายตามสัญชาตญาณมากกว่า ผมคิดเรื่องไร้สาระจนปลงตก ล้มตัวลงนอนบนผ้าปูข้างกองไฟ วันนี้อากาศดี มอนสเตอร์แถวนี้ก็ถูกพวกผมจัดการหมดแล้วเลยไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง จะให้อุดอู้อยู่ในเต็นท์ก็ยังไงอยู่ ลูกผู้ชายกลางแจ้ง มีท้องฟ้าเป็นหลังคาเท่ห์ดีออก

   พอรุ่งเช้ามาเยือน พวกเราก็จัดการตัวเองแล้วออกเดินทางต่อทันที จนถึงที่หมายผมเป็นคนเคาะประตูเรียกนายช่างออกมา

   “ลุง พวกผมกลับมาส่งภารกิจจดหมายแล้ว”

   ประตูเปิดออก พร้อมกับของสองชิ้นที่ถูกโยนออกมาและจดหมายที่ถูกรับไป ง่ายจนงง นี่สินะเจ้าของหน้าที่นายช่างตัวจริง พี่ชินเล่นเกินบทไปเยอะนะเนี่ย

   เสียงระบบแจ้งเตือนว่าผมกับกลผ่านภารกิจแล้ว พวกเรามองหน้ากัน สลับมองของในมือผม มันเป็นต่างหูผู้ชายที่เหมือนกันสองอัน เหมือนกับแท่งเงินสี่เหลี่ยมที่หนีบไว้เป็นต่างหู

   ชื่อ : ต่างหูคู่รัก
   ชนิด : เครื่องอำนวยความสะดวก
   รายละเอียด : เครื่องประดับที่สามารถใช้วาร์ปไปหาผู้ที่มีเจ้าของต่างหูอีกข้างได้ทุกที่ทุกเวลา วันหนึ่งใช้ได้เพียง 2 ครั้ง
   เงื่อนไขการได้ไอเท็ม : ต้องผ่านภารกิจลับส่งจดหมายรักให้กับนายช่างไม้ มีข้อแม้ว่าต้องเป็นผู้ชายสองคนมาด้วยกันเท่านั้น

   หลังจากอ่านรายละเอียดจบ กลหันหน้าเข้าหาต้นไม้แถวนั้นขำจนไหล่สั่น ส่วนผมมุมปากกระตุกอยู่กับที่สาบานไว้ในใจแล้วว่า ถ้าผมออกจากเกมไปเจอพี่วินเมื่อไหร่ จะเค้นคอถามให้ได้ใครมันเป็นคนคิดภารกิจสีม่วงแบบนี้ แม้ในใจจะนึกมั่นใจไปเกือบร้อยแล้วว่าเป็นพี่ชินก็ตาม

   พอกลหัวเราะเสร็จ เดินกลับมาหาผม หยิบต่างหูหนึ่งอันไปติดที่หูหมาป่า อีกอันจัดการติดใส่หูแหลมๆ ของผมเสร็จสรรพ

   “พอดีเลย ฉันต้องออฟไลน์ออกจากเกมไปทำธุระนิดหน่อย กว่าจะเข้ามาอีกคงหลายวัน ช่วงนี้นายคงจะไปหาอะไรทำใช่มั้ย ถ้าฉันเข้าเกมแล้วจะใช้เจ้านี้วาร์ปไปหา”

   นิ้วชี้ไปที่หูตัวเอง ผมเลิกคิ้วมองพยักหน้ารับไม่คิดจะถามอะไรมาก

   “งั้น ไว้เจอกัน ฉันว่าจะกลับเมืองไปรับภารกิจเพิ่มระดับสักหน่อย”

   “โชคดี”

   “อืม โชคดี”

   ผมมองแสงสว่างที่คลุมรอบตัวกลก่อนจะหายวับไป เจ้าตัวคงจะตื่นในโลกของความเป็นจริงแล้ว ทางผมยกยิ้มมุมปาก หัวเราะฮ่าๆ ดังลั่น หมาไม่อยู่ค้างคาวร่าเริง ถึงบอกว่าไม่เคยขัด แต่ผมก็ทำอะไรได้ไม่ค่อยสะดวกนัก

   ดวงตากวาดมองโดยรอบ ต้นไม้แถวนี้ยังเขียวชะอุ่มเหมือนเดิม กระแสน้ำเย็นฉ่ำ สายลมพัดสบาย ผมวิ่งเข้าไปในป่า เรียกเคียวออกมาในมือ บิดหมุนตรงข้อต่อให้มันออกมาเป็นเคียวสองเล่ม แล้วเริ่มละเลงจัดการมอนสเตอร์แถวๆ นั้น

   อย่างน้อยๆ ผมต้องเลเวลสัก 35 เท่ามอนสเตอร์พวกนี้ก่อนถึงจะย้ายไปที่อื่น ระหว่างนี้ก็เก็บพวกของที่ได้จากพวกมันไปแลกเป็นเงิน ระหว่างเดินทางกลับเมือง ผมเป็นค้างคาว เวลาตอนกลางคืนยิ่งคึก ไม่ต้องนอนยังได้ เลยเดินทางตอนกลางคืน ส่วนกลางวันพักแค่งีบแล้วเริ่มไปต่อ

   ทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมาย เลเวลผมเพิ่มเป็น35 ขายของได้เงินทุนมาพอสมควร ผมเดินตรงดิ่งไปรับภารกิจจากชาวบ้าน และร้านค้าต่างๆ เท่าที่ระดับตัวเองในตอนนี้จะทำได้ เข้าออกป่ากับในเมืองวนเวียนอยู่สองวันเต็ม จนกระทั่งมอนสเตอร์แถวนี้ไม่สามารถทำให้ผมเพิ่มระดับได้แล้ว

   “สงสัยคงต้องรับภารกิจกำจัดบอสปิดท้ายแล้วออกจากเมืองนี้สักที”

   ผมยังคงอยู่ในชุดเดิมแค่ซื้อกระเป๋าใหม่ให้สามารถจุได้มากขึ้น กับพวกยาเพิ่มพลังต่างๆ ตุนเอาไว้ ดูเหมือนว่าถ้าจะกำจัดบอสประจำเมืองนี้ต้องเข้าไปใจกลางป่า คนเดียวไม่สามารถทำภารกิจสำเร็จได้ ผมต้องหาแนวร่วมอีกสี่คน แต่ก่อนอื่น ผมคงต้องไปรับภารกิจเสียก่อน

   ที่รับภารกิจกำจัดบอสอยู่ติดกับชายป่า ดูปลีกวิเวกบรรยากาศต่างจากในเมืองไปคนละทาง ถ้าในเมืองดูอบอุ่นสว่างไสว ตรงนี้เหมือนมุมอับเย็นเยือกน่าสะพรึง ตามบ้านเรือนมีดอกไม้สีสวยส่งกลิ่นหอม หน้าบ้านรับภารกิจมีดอกหน้าตาประหลาดส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง

   เชื่อเลยว่าถ้ากลมาที่นี้คงย่นจมูกแล้ววิ่งหนีแหงๆ ก็หมอนั่นเป็นหมาป่านี้น่า ผมคิดอย่างขำๆ แล้วเดินเข้าไปภายใน มือดันประตูเปิดออก ประตูเก่าแต่ยังพอใช้การได้ ด้านในเหมือนร้านเหล้าร้านหนึ่งที่มีลูกค้าเพียงแค่สองโต๊ะ ตรงเคาน์เตอร์มีร่างงองุ้มในชุดเสื้อคลุมมอซอยืนอยู่ ดวงตาสีเทาของผมกวาดมองสำรวจรอบๆ อย่างรวดเร็ว เป็นนิสัยประจำตัว เวลาไปที่ไหนอันดับแรกผมจะชอบสังเกตรอบๆ ก่อนเพื่อความสบายใจ

   สมองผมดีในระดับหนึ่งสามารถจดจำในสิ่งที่เห็นได้ขึ้นใจเพียงกวาดตาแค่รอบเดียว ดังนั้นที่ผ่านมาการเล่นเกมของผมเลยไม่ค่อยมีปัญหาสักเท่าไหร่ ถ้าหลีกหนีได้ก็หลีก ไม่คิดบ้าเลือดอยู่แล้ว แม้ว่าชีวิตในเกมตายแล้วเกิดใหม่ได้ แต่ความเจ็บก่อนตาย ถึงจะลดจากของจริงแต่มันก็ยังเจ็บอยู่ดี ผมไม่ใช่พวกมาโซชอบความเจ็บปวดซะด้วย

   สองเท้าก้าวเข้าไปหาคนที่คาดว่าเป็นผู้ส่งมอบภารกิจ ชายเสื้อคลุมสีดำพลิ้วไปตามการก้าวเดิน คนอื่นๆ ในร้านพากันหันมองมาอย่างประเมิน คนพวกนี้คงเป็นพวกที่มารับภารกิจและรอคนไปทำด้วยกัน ดูจากสายตาแล้ว หนึ่ง สอง อืมม สามคน รวมผมเป็นสี่

   “สวัสดี ขอทราบเงื่อนไขการรับภารกิจบอสประจำเมืองหน่อย” ผมเข้าเรื่องทันทีไม่อยากยืดยาว ถ้าเป็นไปได้อยากเคลียร์ให้เสร็จแล้วรีบไปหาที่ใหม่ๆ ในการสำรวจ อยากเร่งปั่นระดับให้เก่งพอจะลุยสบายๆ กับกลด้วย เวลาทำอะไรจะได้ไม่ถ่วง

   “ใส่นี่ ร่วมปาร์ตี้กับคนที่อยู่ในร้าน ไปฆ่าบอสแล้วกลับมารายงานภารกิจที่นี่”

   เอ็นพีซีท่าทางไม่น่าไว้ใจวางกำไลไม้แกะสลักรูปใบหน้าน่ากลัว ผมชั่งใจ ไม่รู้จะหยิบมาดีรึเปล่า มันบ่งบอกยี่ห้อว่าตูไม่ใช่ของกากๆ ตูมาพร้อมกับคำสาปที่จะสาปเอ็งให้เป็นแมลงสาบ อะไรทำนองนั้น

   ดูเหมือนผมจะมีท่าทีลังเลมากไปจนคนในร้านรำคาญ ชายที่นั่งโต๊ะเพียงคนเดียว คว้าหยิบเอากำไลพิลึกมายัดใส่หน้าผมทันที ผมผงะจะถอดออก กลับพบว่ามันถอดออกไม่ได้ ระบบแจ้งเตือนในหัว

   คุณสวมใส่กำไลต้องพันธนาการ ผลจากไอเท็ม จะทำให้ผู้สวมใส่ไม่สามารถออกจากเมืองนี้ได้จนกว่าจะเคลียร์ภารกิจสังหารบอสประจำเมืองจากร้านเหล้าราตรี

   เวรเอ๊ย ไอ้เบื๊อกนี้เป็นใครฟะ ถึงเอาของบ้าๆ แบบนี้มาใส่ให้ผมโดยไม่ถามความสมัครใจ ผมหันไปมองอย่างเอาเรื่อง ไอ้คนนิสัยชั่วช้าไม่สำนึกยังหัวเราะผมอีกต่างหาก เจ้านั่นมีขนาดสูงกว่าผม ผมหัวยุ่งๆ สีน้ำตาลของเขามีหูกระต่ายยาวตั้งอยู่ สวมเสื้อเหมือนพวกนักมายากล รวมกับหน้ากากโจ๊กเกอร์ฉีกยิ้มกว้างจนผมคันตีนอยากเอาไปยันให้หน้ากากร้าว

   “โอ๊ะๆ ใจเย็นสหาย ลืมกันแล้วเหรอ น่าน้อยใจจริง ขนาดฉันเห็นนายอยู่ในชุดคลุมเหมือนพวกบ้าลัทธิยังจำได้ทันทีเลยนะ”

   เสียงกวนๆ แบบนี้ ผมจำได้ขึ้นใจ รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ต่อให้อยากลืมจากหัวยังไงมันก็ยังหลอกหลอน...

   “ไอ้ไวภพ!”

   “จ๋า หวัดดี นึกว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอกันแล้วซะอีก ดูเหมือนว่าจุดเกิดมันสุ่มก็จริง แต่มันสุ่มให้อยู่ใกล้กันนะ ฉันคิดอยู่แล้วหน้าอย่างนายคงมาที่เมืองเคลียร์ภารกิจทั้งหมดมาจบที่ร้านนี้แน่ แต่ไม่นึกเลยว่ามันจะช้าขนาดนี้”

   ผมเค้นเสียงในคอ “เฮอะ! พอดีมันมีเหตุนิดหน่อย แสดงท่าทางเหมือนรู้มากขนาดนี้ ไหนอธิบายซิ”

   ไวภพหัวเราะฮ่าๆ ชอบใจลากคอผมไปนั่งอยู่โต๊ะเดิมเจ้าตัว ผมไม่คิดถามเอาจากคนให้ภารกิจหรอกขี้เกียจตีความ ไหนๆ ก็เจอกับเพื่อนแล้วให้มันสรุปเล่าให้ฟังเลยดีกว่าเข้าใจง่ายดี

   อย่างที่ผมเคยบอก ผมกับไวภพไปไหนไปกันเล่นเกมไหนก็ไปด้วยกันเลยรู้สันดานกันดี เห็นมันแบบนี้ มันเล่นเกมเก่งมากแถมยังวิเคราะห์เก่งผิดกับหน้าตาและรูปร่าง ส่วนผมถนัดไปทางวางแผนมากกว่า

   เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่าโผล่มาป่าใกล้เมืองสภาพกางเกงตัวเดียวแบบที่ผมคิดไม่มีผิด อายชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาแทบแทรกแผ่นดินหนี แถมโดนคำสาปกระต่ายเข้าไปอีก ไวภพหนุ่มสูงร้อยแปดสิบกว่าเลยมีหูหางกระต่ายสุดพริตตี้ที่มารวมกันแล้วชวนสยองชอบกล

   ไวไวมันเลยเริ่มภารกิจหาเสื้อผ้าใส่อย่างเร่งด่วนจนได้ชุดธรรมดามาใส่ให้ดูเป็นผู้เป็นคนบ้าง หลังจากนั้นมันก็ตามหาผมแต่ไม่เจอ เลยเดาว่าผมคงไปเกิดที่อื่นที่ไม่ห่างกันนัก เพราะเข้าเกมอยู่ในที่เดียวกัน มันเลยทำภารกิจรอผมไปพลางๆ ศึกษาเกมไปด้วย

   ระหว่างนั้นมันดันนึกปิ๊งไอเดียแปลกๆ เพื่อทำให้สภาพคำสาปกระต่ายของตัวเองดูได้มันเลยลงทุนวิ่งหาตามขบวนพ่อค้า ตามร้านในเมืองจนได้ชุดนักมายากลกับหน้ากากโจ๊กเกอร์มา ด้วยความที่มันไม่เพิ่มสถานะอะไรเลย ราคาจึงถูกพอจะซื้อได้ พอเคลียร์ทุกอย่างเสร็จมันก็มาจบอยู่ที่นี่

   “ภารกิจนี้ถ้าไม่ใส่กำไลพิลึกจะไม่สามารถรับภารกิจได้ ฉันเห็นนายลังเลเหมือนจะไม่อยากทำเลยจัดการจับยัดใส่จะได้มาร่วมชะตากรรมเดียวกันไง”

   ผมตบหัวมันหน้าทิ่ม ไม่ติดว่ามีหน้ากากมันคงหัวโขกโต๊ะจนปูดเป็นลูกมะนาว

   “นิสัยว่ะ เอาเถอะยังไงก็คิดจะรับภารกิจนี้อยู่แล้วไม่ช้าก็เร็ว ถ้ารออีกคนแล้วทำไม่สำเร็จยังไงฉันยังมีผู้ช่วยอยู่ หึหึ”

   “ผู้ช่วยอะไรวะ หรือนั่นคือสาเหตุที่ทำให้มึงทำภารกิจช้า” มันถามด้วยน้ำเสียงสนใจ

   “ผู้ช่วยก็คือผู้ช่วย เดี๋ยวเจอก็รู้เองแหละเพื่อน เอาล่ะ ดูเหมือนคนที่ห้าจะมาแล้ว”

   ผมมองไปทางประตูผ่านผ้าคลุม เพราะเห็นประตูเปิดออก หญิงสาวหน้าตาสะสวยแสนคุ้นตาเดินเฉิดฉายเข้ามาภายในร้าน รู้สึกอยากหันหน้ากลับทันที ดึงผ้าให้ปิดหน้ามากกว่าเดิม ผมตาโต ดวงเราคงหนีกันไม่พ้นรึเปล่าแม่มดบ้าภารกิจ

   ดวงตาสีเทามองตามหญิงสาวไปถึงเคาน์เตอร์ ไวไวผิวปากชอบใจ พอสังเกตเห็นท่าทางของผมเลยซักใหญ่

   “เฮ้ย! อะไรวัต คนสวยมาร่วมปาร์ตี้ทั้งทีทำหน้าเหมือนเจ้าหนี้มาทวงเงิน เออจริงสิ แล้วนายโดนคำสาปอะไร ไหนมาดูดิ๊ สังเกตตั้งแต่เมื่อกี้ ปกติมึงผิวขาวขนาดนี้เลยเหรอ”

   มันไม่พูดอย่างเดียว ตะปบสองมือเข้าหน้าผมแล้วส่องโดยไม่คิดเอาผ้าคลุมออกคงจะรู้ว่าผมไม่อยากเผยความจริงสู่ชาวโลก ลูบหน้าไม่รู้เรื่อง ลามไปที่หู พอเจอปลายหูแหลมมันเลิกคิ้วแล้วแยกปากดูเขี้ยวผมทันที พร้อมก้มมาซะประชิดจะได้เพ่งมองให้ชัดๆ ทำไมใครๆ ก็ชอบแยกปากผมจริง

   “วิ้วว เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงทำตัวลับๆ ล่อๆ กลางวันแสกๆ แบบนี้เพราะเป็นแวมไพร์นี้เอง ว่าแต่วัต มึงเป็นแวมไพร์พิการเหรอ ทำไมเขี้ยวข้างนึงมันขึ้นแบบครึ่งๆ กลางๆ อย่างงั้นล่ะ”

   “ถุย แหวะ เค็มขี้มือ ไม่ได้เป็นแวมไพร์พิการโว้ย เพียงแค่เอาเขี้ยวไปแลกอาวุธคู่ใจมา ตอนนี้มันเพิ่งงอกกลับ อีกสองวันคงเป็นปกติ”

   “เฮ้ย จริงดิ! ร้านเดียวกันรึเปล่าวะเนี่ย ของฉันเองก็ใช้ขนไปแลกมา ดูดิ ขนหูแหว่งไปแถบนึง ดีที่ผมปิดไว้เลยไม่ชัด ไม่งั้นอุบาทว์ตาย”

   ผมอึ้งดูมันก้มหัวให้ดูแถวโคนหู หายเป็นแถบจริงๆด้วย ผมกับมันมองหน้ากันแล้วหลุดขำก๊ากกันสองคน คนนึงก็เขี้ยว อีกคนก็ขน เจริญจริงๆ พ่อค้าร้านนั้นคงจะเป็นพวกสะสมของแปลกแหงๆ

   “พวกนายหัวเราะกันเสร็จรึยังยะ จะได้ออกเดินทางสักที ชักช้าตัวถ่วง”

   ต้นเสียงเหวี่ยงๆ ดังมาจากหญิงสาวในชุดสวย พวกผมเลิกสุมหัวหันไปมอง เห็นผู้ชายอีกสองคนทำหน้าหงุดหงิดเลยพากันยักไหล่ ยอมลุกจากเก้าอี้เดินตามไปแต่โดยดี ไม่อยากมีปัญหากับคนในทีมตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

   แม้ว่าผมจะมีตัวช่วยอยู่ ยังไงก็ยังอยากทำให้สำเร็จด้วยตัวเองมากกว่า ยิ่งมีเพื่อนซี้อย่างไวไวอยู่ด้วย งานนี้ถึงไหนถึงกัน

   ในกลุ่มปาร์ตี้ผู้หญิงคนนั่นเป็นคนนำทีมพวกเราเข้าไปในป่า จะถามว่าทำไมเอะอะ อะไรก็เข้าป่าเรอะ ต้องเข้าใจว่ารอบๆ เมืองนี้นอกจากป่าก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นเลยจริงๆ ป่าอย่างเดียว ภูเขาอะไรก็ไม่มี ถ้าอยากเจอภูเขาคงต้องไปไกลกว่านี้ ซึ่งนั่นหมายความว่าพ้นเขตเมืองนี้ไปแล้ว

   การเดินทางช่วงต้นไม่มีปัญหาอะไร จัดการพวกมอนสเตอร์ที่โผล่เข้ามาได้สบายๆ อยู่ อาจจะตึงมือบ้างเวลาถูกรุม โดยที่ไม่มีใครช่วยเพิ่งเลือดให้กับคนในทีม ผมเลยต้องรับหน้าที่นี้ไปโดยไร้ปากเสียง

   ผมใช้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของแวมไพร์ ในตอนกลางวันแดดจ้าก็จริง พอเข้ามาในป่า แดดก็น้อยลงผมอาศัยพวกร่มเงาของต้นไม้ได้ เคียวเปลี่ยนเป็นแบบสองมือมีโซ่คล้องระหว่างเล่มเพื่อสะดวกแก่การเหวี่ยงและดึงเก็บ คอยตอดเลือดมอนสเตอร์รอบๆ ในทีมนี้มีแต่พวกสายโจมตีทั้งนั้น

   ไวไวใช้ไม้เท้านักมายากลซัดมอนสเตอร์แมงมุมปลิวไปอัดต้นไม้ ผสมกับการเคลื่อนไหวคล่องแคล่วเน้นในการกระโดดสมเป็นกระต่าย ถีบขาคู่จนมอสเตอร์หมูป่าแทบแบนติดพื้นแล้วกระโดดไปจัดการตัวอื่นต่อ

   ทางสาวเจ้าร่ายเวทอุตลุดเผาพวกมอนสเตอร์ด้วยไฟสีดำ อีกสองคนที่เหลือเป็นนักดาบกับโล่สู้แบบพอเอาตัวรอดได้

   พวกเรากรุยทางกันต่อไปเรื่อยๆ ภารกิจกำจัดบอสในหมู่บ้านระดับแรกแบบนี้ไม่ค่อยโหดหินเท่าไหร่นักหรอก ผมเลยไม่กังวลช่วยคนอื่นไป นั่งเก็บของไปสบายใจ กระทั่งพวกเรามาถึงโพรงไม้ขนาดใหญ่ เหมือนแปะป้ายยี่ห้อว่านี้แหละคือรังบอส

   เจ้าคนถือโล่เดินนำเข้าไปก่อนในฐานะที่มีพลังป้องกันสูงสุด และต้องคอยปกป้องทุกคนในทีม ตามด้วยนักดาบคอยช่วยเหลือเวลามีมอนสเตอร์หนูพุ่งเข้าใส่ เสริมด้วยนักเวทสาวสาดพลังเป็นว่าเล่นจนผมหวาดเสียวว่าไฟมันจะไหม้อบพวกเราตายกันทั้งหมดนี้รึเปล่า

   ตามด้วยผม ตรงจุดนี้ผมช่วยอะไรไม่ได้มากนอกจากใช้สายตาที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้อยู่ในที่มีแสงน้อย ในการบอกทางและเตือนคนอื่นๆ ปิดท้ายด้วยไวไวคอยจัดการพวกโผล่มาด้านหลัง พวกเราเดินลึกเข้ามาในโพรงไม้เรื่อยๆ

   กำจัดมอนสเตอร์ไปตลอดทาง ที่นี่มีแต่หนู คงจะเป็นรังของพวกมัน ทีนี้ไม่ต้องเดาเลยว่าบอสใหญ่มันจะเป็นตัวอะไร ผมนั่งพักตรงจุดที่ปลอดมอนสเตอร์ เพื่อเติมพลังกันก่อนเข้าห้องบอส แต่ละคนควักยาออกมากระดกดื่มต่างน้ำ ไวไวอาศัยช่วยพักเข้ามาคุยกับผม หลังจากที่มัวแต่ลุยกะรวดเดียวจบจนไม่ได้พักมาตลอดทาง

   “เป็นนายนี้สะดวกดีชะมัด ฉันดิต้องคอยอุดหู เสียงร้องของหนูพวกนี้ทำเอาปวดหัว”

   ผมโยนขวดยาให้มันดื่มๆ ไปจะได้เลิกบ่น มีหูดีเกินไปก็ซวยอย่างงี้แหละ

   “มันก็ไม่ใช่สักทีเดียวหรอก ถ้าเกิดฉันบาดเจ็บหนักต้องพลังใกล้หมดจะอาศัยพวกนักบวชมาคอยเพิ่มพลังให้ไม่ได้”

   “อ้าว แล้วที่เพิ่มเลือดชาวบ้านเขารัวๆ นี้ไม่เท่ากับว่าเป็นนักบวชซะเองเรอะ” ผมส่ายหัวตอบ เรียกเคียวออกมาในรูปแบบปกติไม่ได้แยกเป็นสองเล่ม

   “ดูสถานะของเคียวดิ ได้วิธีการเพิ่มเลือดจากการดูดเลือดศัตรูมา ลองคิดดูว่า ถ้าเกิดฉันบาดเจ็บจนขยับไม่ได้ จะเอาแรงที่ไหนไปตวัดเคียวดูดเลือดจากมอนสเตอร์มาให้ตัวเองกัน”

   ไวไวยกมือสองข้างเหมือนยอมแพ้ ถึงผมจะไม่เห็นสีหน้ามันใต้หน้ากาก พอเดาได้อยู่ว่าแสดงสีหน้าแบบไหน มันคงกำลังขยาดน่าดู

   “เจอแบบนี้ก็ไม่ไหวว่ะ งั้นไม่เท่ากับนายต้องคอยดูเลือดชาวบ้านเหมือนแวมไพร์เพื่อเพิ่มพลังให้ตัวเองหรือไง”

   เจ้าตัวถามต่อ ไอ้ผมก็ว่างแถมเป็นเพื่อนซี้ไม่คิดปิดบังเลยตอบไป อนาคตข้างหน้ามันเห็นผมโดดกัดคอใครจะได้ไม่เป็นกระต่ายตื่นตูมถีบจนผมเดี้ยง

   “ตามนั้น ไม่ต้องห่วง ถ้าไม่จวนตัวจริงไม่คิดจะดูดเลือดหรอก ไม่อยากเอะอะอะไรสูบเลือดชาวบ้านเหมือนกัน”

   มันหัวเราะใหญ่ ตบหลังผมอั๊คๆจนแทบอ้วกยาเพิ่งพลังที่ดื่มเข้าไปออกมาใส่หน้ามัน ผมรู้สึกว่าตลอดการพูดคุยของพวกเรามีเจ้คนนั้นคอยมองอยู่ ผมทำเป็นไม่เห็นแล้วดึงให้ไวไวมันลุกขึ้นเตรียมบู๊แหลกกันต่อ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2015 18:51:57 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.7 7/4/58]
«ตอบ #42 เมื่อ07-04-2015 19:10:11 »

 :mew1:   นายท่าน
ขอบคุณค่ะ. ยาวสะใจ

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.7 7/4/58]
«ตอบ #43 เมื่อ07-04-2015 19:39:34 »

อ๊า...จากที่อ่านมา สงสัยแบ็คอัพที่เป็นพันธมิตร
ให้กับตระกูลของวัต ท่าจะไม่ใช่เล่น พี่กลทำงานกี่ปีล่ะ
ถึงจะพอไปสู่ขอได้  :hao7: :hao6:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.7 7/4/58]
«ตอบ #44 เมื่อ07-04-2015 19:41:07 »

น่ารักดีอะ

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.7 7/4/58]
«ตอบ #45 เมื่อ07-04-2015 19:46:12 »

ยาวจุใจมาก  :katai2-1:
ในโลกจริง กลเจอวัตแล้ว
ในเกมส์ วัตเข้าเกมส์แล้ว
จะรอฉาก ดูดเลือดอีก  :o8:

ออฟไลน์ Melonlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.7 7/4/58]
«ตอบ #46 เมื่อ07-04-2015 19:59:48 »

คุณพ่อของหมาป่าถึงกับเครียดกับค่าสินสอดของวัตกันเลยทีเดียว :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.6 3/4/58]
«ตอบ #47 เมื่อ07-04-2015 20:09:16 »

ง่อววว นายวัตน่ารักมากๆเลย ชอบๆ นิยายเรื่องนี้ก็สนุกมากๆเลยนะ
มาต่ออีกไวๆน้า ติดใจพี่กลซะแล้วสิ ท่าทางจะได้เจอกับวัตตอนไปรับน้องด้วย
รอๆๆๆๆๆๆๆ รออยู่น้า

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.7 7/4/58]
«ตอบ #48 เมื่อ07-04-2015 21:18:16 »

สนุกดีค่ะ ครอบครัวนายเอกดูลึกลับดี
รอตอนต่อไปน้าาาาา

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 450
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.7 7/4/58]
«ตอบ #49 เมื่อ07-04-2015 21:47:11 »

 :mew1: นายท่านฮอตสุดนะจ้ะ...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.7 7/4/58]
« ตอบ #49 เมื่อ: 07-04-2015 21:47:11 »





ออฟไลน์ MiU

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.7 7/4/58]
«ตอบ #50 เมื่อ07-04-2015 22:10:53 »

สนุกมากค่า ชอบวายแนวเกมส์ออนไลน์ แต่หาที่ถูกใจไม่ค่อยมีเลย แต่เรื่องนี้โดนใจมากเลยค่ะ  :o8:

ภาษาสบาย ๆ อ่านเพลินดี   o13


ออฟไลน์ pandorads

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.7 7/4/58]
«ตอบ #51 เมื่อ08-04-2015 00:21:58 »

ตอนนี้สนุกมากเลย อ่านสบายๆไปเรื่อยๆ 

นั่งรอตอนต่อไปนะคะ สู้ๆ  :mew1:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #52 เมื่อ08-04-2015 03:56:33 »

Lv.5 ตายซะ!

   ผมเช็คของที่ใช้ไปทั้งหมด ยังเหลือขวดยาเพิ่มเลือดอีกพอสมควร ทุกคนสภาพโอเคไม่ย่ำแย่จนลุยต่อไม่ได้ คนที่สบายสุดคงเป็นไวไวเพราะขานั้นกระโดดหนีลูกหลงไว แถมเปลี่ยนตัวเองไปโจมตีระยะไกลเลยไม่ค่อยได้รับดาเมจความเสียหายสักเท่าไหร่

   มือผมหมุนตวัดเคียวฟันหนูทุกตัวอย่างต่ำตัวละครั้ง แล้วปล่อยให้คนอื่นจัดการต่อ สลับเพิ่มเลือดให้ทุกคนในทีม ยังดีที่ผมเลเวลอัพจนได้ทักษะการเพิ่มเลือดมาสองแบบ

   แบบแรก หลังจากตีมอสเตอร์ดูดเลือดมาแล้ว สามารถเพิ่มเลือดให้กับสมาชิกในทีมที่ผมเลือกได้ สกิลของผมไม่ได้เป็นสีฟ้า หรือสีขาว ทอง อย่างพวกนักบวช เป็นสีแดงเหมือนเลือด แรกๆ ทุกคนก็ดูตกใจ พอรู้ว่ามันเพิ่มเลือดให้เลยนิ่งเฉยได้ใจกันใหญ่ ซึ่งเวลาใช้สกิลนี้เพิ่มเลือด อาวุธของผมจะเรือแสงสีแดงออกมา พร้อมๆ กับเป้าหมายที่ผมเลือก

   สกิลการเพิ่มเลือดแบบที่สอง เป็นสกิลการเพิ่มแบบหมู่ เพิ่มได้น้อยแต่ได้ทุกคนในรัศมี ท่าใช้สกิลก็ไม่ยาก แค่หมุนควงเคียวเหนือหัว จะมีเหมือนแสงพุ่งขึ้นจากพื้นเป็นวงกลมสีแดง สามารถใช้ในยามฉุกเฉินที่ทุกคนเลือดลดได้ในระยะ 5 เมตร

   ส่วนการโจมตีของผม หลักๆ คือสถานะลดเลือดตลอดเวลาที่เป็นความสามารถติดมากับเคียว เหมือนเป็นฝ่ายสนับสนุนมากกว่าลุยเอง ผมคิดอยู่ว่าหลังจากจบงานนี้คงต้องไปหาวิธีทำให้ตัวเองสามารถโจมตีได้โดยไม่ต้องพึ่งคนอื่นมากนัก ไม่งั้นเวลาไปลุยไหนคนเดียวคงลำบากตาย

   ตอนนี้พวกเราลุยจนมาถึงหน้าห้องที่บอสอยู่ รอบข้างยังเป็นอุโมงค์ไม้ เบื้องหน้าเป็นห้องกว้างเปิดเพดาน มีหนูตัวใหญ่ดวงตาปูดโปนสีเหลือง ขนสีน้ำตาลยืนจ้องมาทางพวกเรา ทุกคนรู้หน้าที่ ไม่ต้องนัดแนะอะไรมาก

   คนถือโล่ลุยก่อนคนแรกเพื่อดึงความสนใจบอสให้มาอยู่ที่ตัวเอง เปิดโอกาสให้เพื่อนในทีมได้ทำการโจมตี นักดาบวิ่งเข้าไปเป็นคนที่สอง สาวนักเวทอยู่วงนอก คอยสาดสกิลสารพัดท่า หลักๆ ผมเห็นเป็นพวกลูกไฟ ศาสตร์มืด อัญเชิญทหารกระดูกมาช่วยต่อสู้

   ไวไวคอยวิ่งวนรอบๆ สลับกับผม นิ้วทั้งสิบขยับเคลื่อนไหวเหมือนกำลังดีดเปียโนล่องหน แสงแดดจากด้านนอกสะท้อนให้เห็นเส้นด้ายจำนวนมากช่วยชะลอการเคลื่อนที่ของบอสหนู นั่นเป็นอาวุธอีกชิ้นของไอ้เพื่อนซี้ที่ผมเพิ่งเห็น เจ้าตัวเลเวลพอๆ กับผม ยังไม่สามารถจับหนูตัวใหญ่ให้หยุดนิ่งได้ แต่ถ้าระดับสูงกว่านี้คงจับได้สบายๆ สลับกับการใช้อาวุธไพ่คมกริบ ปาใส่บอสช่วยสร้างความเสียหายอีกแรง

   ส่วนผมเป็นหน่วยสนับสนุนตามเดิม ด้วยความสามารถของแวมไพร์ ทำให้ผมเคลื่อนไหวรวดเร็ว วิ่งไต่กำแพงได้สบายๆ ประกอบกับปีกที่กางออกมาโฉบโจมตีด้วยเคียวจากด้านบนเพื่อทำการดูดเลือดไปเพิ่มให้คนในทีมเป็นระยะ

   ทักษะการเพิ่มเลือดของผมดีก็จริง แต่มันติดปัญหาตรงที่ว่า ถ้าผมไม่ใช้อาวุธนี้ฟาดฟันมอสเตอร์หรือบอสเพื่อดูดเลือดมากักเก็บไว้ก่อน จะไม่สามารถใช้สกิลนี้ได้ ผมเลยเฉียด หวิดๆ จะโดนหนูตบอยู่หลายรอบ เฉี่ยวไปหลายแผล

   จากที่ผมสังเกต การโจมตีของบอสหนูไม่ซับซ้อนนัก ท่าใช้มือฟาด ใช้หางหมุนเป็นวงกลม พุ่งเข้ากัดกับพุ่งชน

   หนูยักษ์ฟาดกรงเล็บมาด้านหน้าจุดที่โล่อยู่ พลโล่ยกขึ้นกันแล้วดันกลับด้วยสกิล ช่วงมันเสียจังหวะโจมตี ดาบที่อยู่ใกล้จะพุ่งเข้าไปฟาดฟันลดดาเมจแล้วถอยออกมา ก่อนที่บอสจะเริ่มโจมตีอีกครั้ง

   จังหวะนี้เป็นของนักเวทสาว มือเรียวสวยยื่นมาเบื้องหน้า อีกมือถือไม้เท้าหัวกระโหลก ปากท่องมนต์บางอย่าง ควันสีขาวลอยวนอยู่รอบตัว ทันทีที่ส่งเสียงเรียกนักรบกระดูก เหล่าทหารโครงกระดูกจะโผล่มาเบื้องหน้าสี่ตัว เข้าไปช่วยโจมตีโดยไม่สนใจความเสียหายที่ได้รับ

   ยังไม่จบเพียงเท่านั้น หลังจากเรียกสมุนมาช่วยตีปานองค์ราชินีแห่งความตาย ลูกไฟสีดำสกิลถูกเรียกขึ้นมาอยู่บนมือ ขว้างใส่ตาหนูจนส่งเสียงกรีดร้องแหลมเล็กชวนปวดหู

   ผมเห็นไวไวเซไปนิดหน่อย เกือบถูกหางหนูฟาดดับเป็นแมลงวันโดนไม้ตบไส้แตก ร่างสูงในชุดนักมายากลใช้แรงดีดขาของกระต่ายกระโดดหลบได้ทันแบบเฉียดฉิว ยิ่งหลอดเลือดมันลด มันยิ่งฟาดหัวฟาดหางอาละวาดจนฝุ่นตลบ

   ผมกับไวไวที่ได้รับผลของการถูกฝุ่นบดบังการมองเห็นน้อยที่สุดเป็นคนจัดการในช่วงนี้ ไวไวเพิ่มจำนวนด้ายขึงให้หนูหยุดชะงักชั่วคราว ผมวิ่งไต่กำแพงไม้ดีดตัวไปอยู่เหนือหัวของหนูยักษ์ หมุนแยกเคียวเป็นสองเล่ม ทิ้งตัวลงจากด้านบนฝังด้านคมของเคียวย่อส่วนทั้งสองบนหัวหนูแล้วออกแรงกระชากจนมันหงายท้อง

   แรงผมมีไม่มากขนาดล้มหนูยักษ์ทั้งตัว อาศัยแรงโน้มถ่วงกับจังหวะช่วงที่บอสหนูยกเท้าหน้า เพราะโดนไพ่เจ้าไวไวปักเรียงเป็นรูปตัวใจ อารมณ์นี้มันก็ยังจะเล่นได้ ซึ่งการโจมตีดังกล่าว ผมกับไวไวไม่ต้องคุยบอกกันเลยสักนิด ผลมาจากการเล่นเกมด้วยกันเยอะจนเข้าขากันได้ดีสุดๆ

   พอมันหงายท้อง ฝุ่นเริ่มจางลง แม่มดสาวลงมืออีกรอบ เปลี่ยนทหารโครงกระดูกเป็นตัวใหญ่เพียงตัวเดียว ช่วยยึดหนูให้สิ้นท่า รับดาเมจเต็มการโจมตีจากทุกคนแบบเต็มๆ หลอดเลือดของหนูยักษ์ลดลงเรื่อยๆ 1 ส่วน 10 ของหลอด

   ฉับพลัน สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น บอสหนูที่กำลังใกล้ตายเผยท่าสุดท้ายแบบที่ทำให้พวกผมต้องอ้าปากค้าง ขนทั่วร่างของหนูยักษ์พองตัวขึ้นคมกริบยิ่งกว่าใบมีด พุ่งกระจายไปรอบทิศเหมือนกระสุนที่ถูกยิงออกมา ผมยกแขนไขว้กากบาทป้องกันเท่าที่กันได้ เสริมด้วยปีกค้างคางมาคลุมตัวอีกชั้นลดความเสียหายที่ได้รับ

   หางตาเห็นไวไวคว้าเอาแม่มดสาวกระโดดไปหลบหลังไพ่ที่ขยายตัวออกเป็นโล่ป้องกันชั่วคราว นักดาบไปหลบอยู่หลังพลโล่ ดูท่าจะมีผมคนเดียวที่ซวยโดนดาเมจแบบจังๆ เพราะมัวแต่เพิ่มเลือดหมู่อยู่บนอากาศ

   บอสหนูพลิกตัวกลับขึ้นมายืนอีกครั้งหลังจากโจมตีพวกผมจนวงแตก มันแหงนคอส่งเสียงร้องดังสนั่น ตอนนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวตอสุดๆ เลือดมันลดจนเหมือนหมด เพียงแค่การโจมตีไม่กี่ครั้งมันก็จะตายทันที แต่ถ้ามันตั้งหลักใช้การโจมตีแรงๆ อีกรอบ พวกผมเองก็ตายยกทีมเช่นกัน

   “นายเป็นพวกเพิ่มเลือดสินะ ถ้าอย่างนั้น ช่วยพวกเราหน่อยแล้วกัน”

   เสียงแปร่งๆ ของนักดาบพูดอยู่ใกล้ๆ ทันทีที่ผมเก็บปีกที่บาดเจ็บมายืนอยู่บนพื้น หลังคอเสื้อถูกมือโล่จับเหวี่ยงลอยละลิ่วใส่บอสหนู ผมหน้าซีด จะกางปีกบินหนีก็ไม่ได้ ตัวลอยเหนือพื้นไม่มีที่เหยียบแล้วพุ่งตัวหลบ เลยจำใจกำเคียวในมือให้มั่น กัดฟันฉะกับหนูตรงๆ เคียวถูกประกอบยกขึ้นกันหางยาวที่ฟาดเข้าใส่

   แรงปะทะมากเกินกว่าที่ผมจะต้านไหว เลยปลิวทั้งน้ำตาอีกรอบ รู้สึกเสียงลมวิ่งผ่านหู แผ่นหลังกระแทกกำแพงไม้ดังอั๊ก ร้าวระบมไปทั้งตัว ไหลพรืดลงมากองบนพื้นอย่างหมดสภาพ

   เพราะผมเป็นตัวดึงความสนใจของบอส ทำให้โล่กับดาบมีโอกาสโจมตีจนหนูยักษ์ตายลงในที่สุด เสียงล้มตึงของสัตว์ใหญ่ดังไม่เท่าเสียงแหกปากของไวไวกับแม่มดสาว

   “วัต!!/นายซีด!!”

   สองคนนั้นไม่สนของที่ดรอปหลังจากบอสตาย วิ่งเข้ามาหาผมทั้งคู่ ไวไวหยิบขวดเพิ่มเลือดในกระเป๋าตัวเองจับผมเงยหน้าอ้าปากกรอกยาจนแทบสำลักตาย ตบท้ายด้วยเจ๊ทรงโตเขย่าจนหัวสั่นหัวคลอน

   เลือดและพลังที่เสียไปฟื้นฟูขึ้นมาบ้างเล็กน้อย พอให้ไม่ตายกลายเป็นแสงกลับไปเกิดที่เมือง แต่สภาพยับๆ ยังคงอยู่

   “วัตเป็นไงบ้าง เฮ้ย! เจ๊อย่าเพิ่งเขย่าเพื่อนผม มันจะตายเพราะเจ๊นี่แหละ”

   “เรียกใครว่าเจ๊ไม่ทราบ อยากโดนดีใช่มั้ย”

   สองคนหันไปแง่งๆ ใส่กัน ผมยกมือขึ้นห้าม สูดลมหายใจลึกๆ เรียกพลังลมปราณ

   “ใจเย็นทั้งสองคน ฉันยังไม่ตาย”

   ได้ยินเสียงผมพวกเขาเลยเลิกโวยวาย ไวไวถอนหายใจอย่างโล่งอก ทำอย่างกับถ้าผมตายแล้วจะตายเลยไม่ฟื้นอย่างนั้นแหละ ส่วนทางเจ๊โนตมปรายตามองผม

   เสียงระบบแจ้งเตือนดังขึ้น

   คุณสำเร็จภารกิจล่าบอสประจำเมือง สามารถไปรับรางวัลได้ที่จุดรับภารกิจ
   คุณได้ค่าประสบการณ์ 25420
   ระดับเลื่อนขึ้นสองระดับ 37
   
   ผมฟังผ่านๆ เพราะสายตาจ้องมองไอ้สองตัวที่มันบังอาจเอาผมเป็นตัวล่อบอสโดยไม่ถามความสมัครใจกันสักคำ แถมพอหนูยักษ์ตาย ไม่ใยดีผมที่คอยเพิ่มเลือดให้ตลอดทางเลยสักนิด รีบวิ่งถลาหาเงินกับไอเท็มของที่ได้จากบอสหนู

   โชคดีปาร์ตี้พวกเราเป็นแบบเฉลี่ยค่าประสบการณ์ และแจกจ่ายของให้ทุกคน ไม่อย่างนั้นสองคนนั้นคงเอาไปหมดไม่เหลือให้ผมแน่ๆ
   
   ไวไวสุ่มได้เสื้อหนัง ผมได้หางหนู เอามาทำไรฟะ ส่วนคนอื่นผมไม่รู้ คิดว่าน่าจะได้ของดี

   “นิสัยเลวๆ แบบนี้ต้องจัดการกันสักหน่อย”

   ไวไวหักมือกร๊อบๆ อย่างเอาเรื่อง หน้ากากโจ๊กเกอร์เหมือนมีเงาดำทาบทับไปครึ่งหนึ่ง เจ๊โนตมเหมือนอยากซัดคนเต็มที่ เธอยืนขึ้นกำไม้เท้าหัวกะโหลกในมือ ผมเองก็ไม่น้อยหน้า เรื่องอะไรจะเป็นฝ่ายโดนคนเดียว

   เรื่องนี้ผมเป็นพระเอกก็จริง แต่ผมถือคติ ดีมาดีตอบ เลวมามีเตะ งานนี้ต้องเชือดสถานเดียว พวกเราสามคนย่างสามขุมเดินเข้าหา

   นักดาบกับพลโล่หันมามองราวกับจะถามว่าพวกผมมีปัญหาอะไร ตอนนี้ระบบแจ้งว่าภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องจัดทีมปาร์ตี้ด้วยกันอีก ผม ไวไว กับเจ๊นักเวทพร้อมใจกันกดออกจากทีม ในเกมมีกฏอยู่ว่า คนที่อยู่ในทีมเดียวกันจะไม่สามารถต่อสู้กันได้ พวกผมเลยต้องทำแบบนี้

   “พวกนายมีปัญหาอะไรกัน ของแชร์แล้วหนิ บอสก็ฆ่าได้แล้ว”

   เจ้านักดาบพูด มันมีปัญหามากเลยโว้ย ตอนสุดท้ายพวกเอ็งเอาข้าเป็นที่รองตีนบอสนี่หว่า

   “นั้นสิ แค่เสียสละนิดหน่อยจะเป็นไร ขนาดพวกฉันยังใจกว้างไม่บ่นเรื่องนายงอมืองอเท้าไม่ช่วยโจมตีเลยนะ คนที่รับเละคือฉันกับเพื่อนต่างหาก เพราะงั้นเป็นอาหารหนูแค่นี้แล้วผ่านภารกิจถือว่านายโคตรได้ประโยชน์แล้ววะ ควรจะก้มหัวขอบคุณพวกฉันด้วยซ้ำ ฮ่าๆๆ”

   เสียงหัวเราะอย่างรื่นเริงช่างบาดเข้าหู ตอนแรกว่าจะจัดการเบาะๆ ปากหมาแบบนี้มันต้องโดนให้หนัก ผมไม่ใช่สายต่อสู้ก็จริง แต่คนที่คอยเพิ่มเลือด และช่วยเตือนเวลาพวกมันลุยจนไม่สนหน้าหลังก็คือผม ไวไวกับเจ๊นักเวทรู้เรื่องนี้ดี

   เจ๊ที่เริ่มเปลี่ยนตัวเองเป็นแม่มดของจริง มือไวกว่าใครเพื่อน เรียกทหารโครงกระดูกออกมาล้อมเจ้าสองตัวนั้นไว้ ไวไวรับช่วงต่อขึงด้ายจับมัดเป็นแหนมโดยที่พวกนั้นยังไม่ทันตั้งตัว ผมผู้ได้รับความเสียหายมากที่สุด เดินดุ่มๆ เข้าไปชกเปรี้ยงให้คนละหมัด

   “โอ๊ย เฮ้ยอะไรวะ พวกมึงอยากเจอดี อั๊ก”

   “หยุดนะโว้ย ไม่รู้ว่าพวกเราน่ะเป็น อุ๊ก”

   “ไม่สนเฟ้ย ตอนนี้ขอเอาสะใจล้วนๆ!!” สามเสียงประสาน พอสองตัวนั้นล้มยำเท้าสามคู่ หกข้างก็เริ่มต้นขึ้น

   แน่นอนพวกเราไม่เอาให้ถึงตาย ผมมีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ ในเกมนี้ความเจ็บปวดจากการโจมตีจะลดน้อยลงจากปกติหลายเท่า พวกนั้นคงไม่เจ็บสักเท่าไหร่หรอก ผมกระซิกบอกให้ไวไวมันจัดการบางอย่าง

   เจ้าตัวยกนิ้วโป้งยินดีทำตามคำขอ ใช้ด้ายมัดเป็นดักแด้แล้วเอาไปมัดกับไม้ในโพรงต้นไม้ ไม่สนเสียงประท้วงใดๆทั้งสิ้น

   ด้ายของไวไวมีระยะเวลาจำกัดในการใช้งาน พอผ่านไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง ด้ายพวกนั้นจะหายไป ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้น พวกบอสกับมอสเตอร์หนูในที่แห่งนี้คงเกิดกันครบจำนวน เพื่อให้ทีมผจญภัยอื่นได้เข้ามาจัดการต่อ

   พวกนั้นจะได้รู้ซึ้งว่า การสู้กันเองโดยไม่มีผมคอยช่วยเพิ่มเลือดมันจะรอดได้สักกี่น้ำ หลังเสร็จสิ้นภารกิจเอาคืนคน เราสามคนเดินตัวปลิวออกมาจากรังหนู อากาศภายนอกเป็นป่าเขียวชะอุ่ม กับแสงแดดยามเย็น ลมพัดสบาย สดชื่นกว่าด้านในจริงๆ นั้นแหละ 
   
   “ไวไว หลังส่งภารกิจเสร็จพวกเราออกเดินทางกันเลยไหม”

   ผมกับไวไวได้รับคำสาปเป็นพวกสัตว์หากินตอนกลางคืนทั้งคู่ ดังนั้นเดินทางตอนกลางคืนไม่มีปัญหา

   “ไว้ก่อน ถึงกินยาเพิ่มเลือดเข้าไปแต่นายยังไม่หายดี จะไปโบสถ์ก็ไม่ได้ซะด้วย พักรักษาตัวก่อนดีกว่า ฉันยังไม่อยากได้ตัวถ่วง”

   ผมแสนซึ้งใจกับความเป็นห่วงของเพื่อน แต่มือที่ตบหลังผมป้าบๆ นี่กลัวผมจะบาดเจ็บน้อยไปหรือยังไง

   “นี่พวกนาย สนใจผู้หญิงที่เดินตามหน่อยจะได้มั้ย ชิ ผู้ชายในโลกนี้มันเป็นเกย์กันไปหมดแล้วหรือยังไงกัน”

   เสียงทักจากด้านหลัง ผมเพิ่งนึกขึ้นได้เลยหยุดเดินหันไปมองเจ๊ จริงสิ ผมต้องคุยอะไรบางอย่างกับเจ้าตัว ท่าทางแปลกๆ ตามพวกผมมาต้อยๆ แล้วยังช่วยผมก่อนหน้านี้อีก จะบอกว่านึกพิศวาสขึ้นมาคงไม่ใช่ เหมือนมีอะไรแอบแฝงมากกว่า

   ดวงตาสีเทาหรี่ลงมอง ไวไวยักไหล่ตัดช่องน้อยแต่พอตัว ไม่ขอมีส่วนเกี่ยวข้องให้ผมจัดการเรื่องของตัวเองไป

   “ฉันขอบคุณเจ๊ที่ช่วยเอาคืนเมื่อกี้แล้วกัน ไอ้ฉันมันคนตรงๆ เจ๊ต้องการอะไรกันแน่ถึงตามพวกเรามา”

   ริมฝีปากอิ่มสีชาดเม้มสนิท ท่าทางเหมือนลังเลไม่มั่นใจ ทำให้พวกผมยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่ ก่อนหน้านี้ดูเป็นหญิงแกร่งจะตาย ถึงจะเป็นนักเวท แต่ไม่เป็นตัวถ่วงในการต่อสู้เลยสักนิด เก่งกว่าผู้ชายสายนักสู้บางคนซะอีก ไหงมาตอนนี้ยืนบิดไปบิดมา

   “ใครเป็นเจ๊พวกนาย ฉันชื่อว่าลิน”

   “ผมวัต ไอ้หมอนี้ไวไว แล้วไงต่อ?”

   “ฉันขอไปกับพวกนายด้วย!”

   “ฮะ!/ว่าไงนะ!!” วันนี้จะให้พวกเราประสานเสียงอีกกี่รอบถึงจะพอ มากกว่านี้ผมจะกอดคอไอไวไวเพื่อนรักไปร้องเพลงประสานเสียงแล้วนะ

   “ก็ตามนั้นแหละ ฉันขอเดินทางไปกับพวกนายด้วย”

   ผมยกมือนวดขมับ ไม่ได้รังเกียจอะไรผู้หญิงหรอก ดูๆ ไปเจ๊ ไม่สิ ลินเองก็ไม่ได้นิสัยแย่อะไร ลึกๆ ก็คงนิสัยดีอยู่มั้ง สุดท้ายผมเลยตัดสินใจ

   “ตอนนี้เริ่มค่ำแล้ว พวกเรากลับไปหาที่พักในเมืองก่อนค่อยคุยรายละเอียดกัน” ทุกคนเห็นพ้องต้องกันพวกเราเลยเดินทางออกจากป่ากลับเข้าเมืองทันที
   
   เมืองในตอนกลางคืน บรรยากาศแตกต่างจากตอนกลางวันพอสมควร ถ้าตอนกลางวันดูสดใสมีชีวิตชีวา ตอนกลางคืนก็แสนคึกคักไปด้วยผู้คนที่เป็นผู้ใหญ่ โคมไฟถูกจุดขึ้นหน้าบ้านและอาคารทุกหลัง ร้านค้าตอนกลางคืน ห้องพัก เต็มไปด้วยผู้คน

   หลังจากที่พวกเราสามคนไปส่งภารกิจกับร้านแสนซอมซ่อ ก็พากันออกมาเหมาห้องพักห้องใหญ่แบบแชร์เงินกันออก เพราะเป็นเมืองแรกสำหรับพวกคนเพิ่งเล่นเกม มันเลยไม่ค่อยหรูอะไร ตามราคาย่อมเยาสบายกระเป๋า

   เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างทำจากไม้ มีห้องนั่งเล่น โต๊ะกินข้าวรวมอยู่ตรงกลาง แยกไปอีกสามห้องนอน กับห้องอาบน้ำเพียงห้องเดียว

   ผมกับไวไวนั่งคุยกันรออยู่ในห้องนอนผม รอให้ลินอาบน้ำเสร็จแล้วมาอธิบายว่าต้องการอะไรจากพวกเรากันแน่

   “เอ้อ ลืมบอกเลย ก่อนออกมาจากมหาลัย พวกน้องปีสองมาขอให้พวกเราช่วยคุมเด็กปีหนึ่งไปออกค่ายวะ”

   “ค่ายรับน้องสินะ ไหงเพิ่งมาจัดล่ะ ปกติมันต้องจัดกันตั้งแต่แรกๆ ไม่ใช่หรือไง” ผมผู้ไม่ค่อยเอากิจกรรม และสุงสิงกับพวกรุ่นน้องสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ทิ้งเวลาไปกับงานและเกม ถามไอ้เพื่อนรักที่มันทำหน้าเอือมใส่ ได้ข่าวเอ็งก็สไตล์เดียวกับตูนะ

   “เกิดปัญหานิดหน่อย พวกนั้นเลยต้องเลื่อนมาจัดเอาช่วงนี้ ถือเป็นโอกาสดี ไปทำความรู้จักกับเด็กมันหน่อย”

   “ไม่มีปัญหา ไว้ออกจากเกมแจ้งวันเวลาที่แน่นอนอีกทีแล้วกัน” ผมพยักหน้ารับ พวกเราคุยกันไปอีกสองสามเรื่อง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ผมกับไวไวเลยลุกออกจากห้องนอนไปนั่งในห้องนั่งเล่นเพื่อนคุยกับท่านนักเวทลิน

   เชื่อมะ ขนาดตอนนี้พวกเราอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนแล้วไวไวมันยังใส่หน้ากากอยู่เลย ท่าจะชอบจัด

   โต๊ะกินข้าวเป็นโต๊ะกลมมีเก้าอี้ห้าตัวล้อมโต๊ะไว้ ผมกับไวไวนั่งข้างกัน ด้านหน้าเป็นลินนั่งอยู่ พวกเราแวะกินข้าวกันมาแล้วก่อนขึ้นห้องพัก โต๊ะตัวนี้เลยกลายร่างเป็นโต๊ะประชุมไป

   “เข้าเรื่องเลย ขอเนื้อๆ ไม่เอาน้ำ” ผมบอกดัก ไม่อยากฟังอะไรยืดยาว หญิงสาวเพียงคนเดียวในห้องขมวดคิ้วใส่ท่าเท้าคางไปคนละด้านของผมกับไวไว แล้วถอนหายใจออกมาทำเป็นเมินท่าทางกวนๆ

   “ฉันต้องการคนช่วยทำภารกิจรับทักษะใหม่ เห็นพวกนายรู้งานกันดีเลยอยากขอให้ช่วย แน่นอนว่านอกจากฉันจะได้ทักษะแล้ว พวกนายยังได้ของติดไม้ติดมือไปด้วย เพราะมันเป็นภารกิจที่ต้องทำกันเป็นทีม”

   “พวกเราขอฟังรายละเอียดภารกิจก่อนค่อยตัดสินใจ” ไวไวเปลี่ยนท่ามากอดอก ส่วนผมยังคงเลื้อยบนโต๊ะต่อไป ตอนนี้เจ็บไปทั้งตัว ไม่มีอารมณ์มานั่งเก๊กหล่อแบบไอ้เบื้อกข้างๆ

   “ฉันรู้แค่ว่าสามารถรับภารกิจนี้ได้ที่หมู่บ้านแสงจันทร์ และต้องทำกันเป็นทีมเท่านั้นเอง”

   คนขอความช่วยเหลือ พอไม่มีข้อมูลให้เพียงพอเลยก้มหน้างุดๆ ผมมองภาพนั้นแล้วส่ายหัว ดูอายุแล้วน่าจะพอๆกับพวกเรา ถ้าห่างกันก็คงไม่เกินหนึ่งหรือสองปีแน่ๆ ภายนอกเหมือนจะแข็ง แต่ด้านในกลับอ่อน สาวๆ ส่วนใหญ่มักเป็นแบบนี้ ผมกับไวไวมองหน้ากัน

   ภารกิจที่แทบไม่มีข้อมูลอะไรเลยไม่ค่อยน่าเสี่ยงเท่าไหร่ อย่างน้อยๆ ต้องหาข้อมูลให้มากกว่านี้ก่อน แล้วใบหน้าคนๆ หนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว ผมยกมือลูบต่างหูด้วยรอยยิ้มมุมปาก จริงสิ ยังมีอีกคนที่เป็นคลังความรู้เคลื่อนที่ และตู้ธนาคารของผมในเกมนี้

   “พวกเราอยากช่วยเธอนะ แต่ถ้าไม่มีข้อมูลอะไรเลยไปช่วยทันทีคงไม่ได้ ฉันมีเพื่อนอีกคนหนึ่งเขาเล่นเกมมานานรู้เรื่องเยอะ ไว้เขาเข้าเกมแล้วลองถามรายละเอียดเรื่องภารกิจนี้ดู ถึงตอนนั้นพวกเราค่อยตัดสินใจว่าจะเอาไงต่อ”

   ผมอธิบายให้ลินฟังว่า ถ้าเรารู้ข้อมูลแล้วล่ะก็ โอกาสทำภารกิจสำเร็จก็ยิ่งมีมากขึ้น อย่างเช่น ระดับที่สามารถรับภารกิจนี้ได้ กับเงื่อนไขต่างๆ หากเรารู้เรื่องพวกนี้ จะภารกิจไหนก็สบายแหละ

   เจ้าตัวพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ลินเป็นผู้หญิงที่มีเหตุผล เลยคุยกันง่าย ผมก็วางใจ อันที่จริงกลุ่มเรามีแต่ชาย มีผู้หญิงเพิ่มมาสักคนก็ดีเหมือนกัน อาหารตา ดีกว่าหันไปทางไหนก็เจอแต่กล้าม แบบนั้นชีวิตผมคงอับเฉาแย่

   “ถ้างั้นฉันขอร่วมทีมกับพวกนายไปก่อน เพราะฉันไม่มีเพื่อนคนอื่นอยู่แล้ว”

   ผมกับไวไวไม่มีปัญหา ไม่มีเป้าหมายอะไรในเกมนี้เป็นพิเศษ แวะไปช่วยคนอื่นเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างก็ไม่เลวเท่าไหร่

   หลังคุยกันเสร็จ พวกเราแยกย้ายกันเข้าห้องนอนของใครของมัน ด้วยความที่ผมโดนคำสาปแวมไพร์เลยชอบอยู่ในความมืดมากกว่า เลยดับตะเกียงนั่งอยู่บนเตียง มีเพียงแสงไฟจากโคมไฟตามบ้านเรือนด้านนอกส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้ในห้องพอมีแสงสลัวๆ

   ตามตัวผมไม่มีแผลอะไรแล้ว ติดแต่ปีกนี้สิ ผมเอาปีกออกมาสำรวจความเสียงหาย ปีกค้างคาวมีแต่รูพรุนน่าอนาถ ขยับทีเหมือนความเจ็บทั้งหมดไปรวมอยู่ที่โคนปีก เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมรู้ว่า ลักษณะพิเศษทางด้านร่างกายที่ได้มาจากคำสาปแวมไพร์ จะไม่ได้รับการรักษาแม้จะกินยาเพิ่มเลือดก็ตาม

   เหมือนเขี้ยวของผมที่เพิ่งจะงอกกลับมาเหมือนเดิมเมื่อวาน มาคราวนี้เป็นปีก ผมเองยังไม่นึกอยากกระโจนออกไปกัดคอดูดเลือดใครซะด้วย สงสัยพรุ่งนี้คงต้องขอรับบริจาคเลือดจากไวไวมัน ไม่งั้นคงอีกหลายวันกว่าปีกผมจะหายจนกลับมาบินได้ตามเดิม

   “ฉันได้กลิ่นเลือด”

   เสียงแปลกปลอมภายในห้องทำให้ผมสะดุ้งโหยง รีบหันขวับไปดู พอเห็นว่าเป็นใครค่อยวางใจ

   “เฮ้ย! อย่ามาเงียบๆ ดิ หัวใจเกือบวาย” ร่างนั้นเดินออกมาจากเงามืด เป็นคนที่ผมคุ้นเคย “ไหงนายกลับมาเข้าเกมไวล่ะ ฉันนึกว่าจะหายยาว”

   เวลาภายนอกเกม 1 ชั่วโมง เท่ากับระยะเวลา 1 วันภายในเกม คนส่วนใหญ่มักจะเล่นเหมือนผม คือ ช่วงเวลาตอนนอน ผมตั้งเอาไว้ 8 ชั่วโมง เท่ากับ 8 วัน กลเองก็คงไม่ต่าง ผมเลยสงสัย ออกเกมไปทำธุระ นึกว่าจะไปนอนยาวจนเช้าเลยซะอีก เพราะถึงเข้าเกมมาคงอยู่ได้ไม่นาน ขนาดผมเองนับรวมระยะเวลาของผมภายในเกม ก็ใกล้จะต้องออกจากเกมแล้วเหมือนกัน โลกความจริงมันจวนจะเช้าแล้ว

   “แค่จะแวะเข้ามาดูนายเฉยๆ เพิ่งไปฆ่าบอสประจำเมืองมา?”

   คำตอบยังคงสั้นตามเคย หากเป็นผมตอบคงอธิบายไปล้านแปด ไม่จบแค่สองประโยค ตอบและถามในคราวเดียวแบบกลแน่

   “ใช่ กำลังต้องการคนบริจาคเลือดอยู่พอดีเลย” ผมยิ้ม กลยิ้มแต่ยิ้มบางๆ มุมปากที่ต้องเพ่งหรือเป็นคนช่างสังเกตจริงถึงจะเห็นล่ะนะ พ่อหมาป่าสุดหล่อจอมมาดนิ่งเอ๋ย ยังดีที่นายไม่เป็นพวกเจ้าชายชาเย็น ไม่งั้นผมคงจะปวดหัวน่าดู

   “มาสิ”

   ไฟเขียวแบบนี้ ผมยังต้องรออะไรอีก ขยับเข้าไปหากลที่ย้ายตัวเองมานั่งบนเตียงแล้ว จัดการดึงคอเสื้อขนสัตว์ของอีกฝ่ายออก มองลำคอแกร่งแล้วกลืนน้ำลายอึก รู้สึกถึงเส้นเลือดที่ไหลเวียนอยู่ตรงหน้า เหมือนหน้ามืดตาลายคล้ายจะอดอยาก ผมกดเขี้ยวลงดื่มกินเลือดรสหวาน หอมอร่อย ได้คุณภาพทางโภชนาการดีจริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2015 18:53:25 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #53 เมื่อ08-04-2015 04:13:35 »

โอ้ย พี่จะตายหน้าจอแล้วครับ

เจอ Combo วัตดูดเลือด + กลเลียแผล = Heart Attack

ต่อไปจะมีคอมโบอะไรอีก  :hao7: :hao6:

ออฟไลน์ Melonlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #54 เมื่อ08-04-2015 07:22:22 »

โดนดาเมจ ฉากน้ำตกตะกี้ต้องรีบฮิวตัวเองอย่างด่วน
อ่านแล้วเหมือนเข้าอยู่ในเกมจริงๆ คนแต่งโครตเจ๋งอ่ะ o13 o13

ออฟไลน์ Maiiz Ellfiez

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #55 เมื่อ08-04-2015 07:51:30 »

อ่านะ  กลเนียนนะเนี่ย

ออฟไลน์ MiU

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #56 เมื่อ08-04-2015 09:21:57 »

ฉากน้ำตกแบบว่า ....  :z1: กลนี่เนียนมาก มีลงมีเลีย 5555

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #57 เมื่อ08-04-2015 10:46:53 »

พ่อแม่พ่อมหาป่าครียดได้อีก ใจเย็นๆค่ะ
โดนจับตัวไปซะแล้ววววว
รอตอนต่อไปน้าาาาา

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #58 เมื่อ08-04-2015 11:03:03 »

คิกคิก โดนยาสลบแน่เลย

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: No Name เกมบ้าอะไรวะเนี่ย! [Up Lv.8 8/4/58]
«ตอบ #59 เมื่อ08-04-2015 11:09:58 »

 :mew1: 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด