ขอโทษคนอ่านที่ปล่าอยให้รอนานนะคร้า ว่าจะมาต่อนานแล้ว พอดีคนที่บ้านมาเร็วกว่าปกติเลย

27300
บอกไว้ก่อน ใครหาพระเด็กหล่อเข็มที่นี่มีให้ แต่ถามว่าดุดัน เย็นชา มาเฟีย มั้ย ไม่มีคร้าาาาาา
ถามหานายเอกหน้าหวาน เหมือนผู้หญิง เป็นผู้ชายอ่อนแอ เจ้าน้ำตา ขี้งอล คิดมาก ที่นี้ก็ไม่มีคร้าาา
มีแต่พระเอกอายุมากแต่ยังทำตัวเหมือนเด็ก ทำตัวไม่ได้ความ เหลวไหลไปวันๆ
กับนายเอกที่เข้มแข็ง และดุ และเก่ง และฉลาด ไม่ยอมใคร หน้าไม่หวาน มีแต่หน้าจืดๆแต่ดุเอาเรื่อง ขี้บ่นอีกต่างหาก
15.2 โจรขโมยจูบ (ต่อจากตอนที่แล้ว)
“มาตินขา กี้เห็นนะค่ะว่ามาตินประมูลอะไร”จู่ๆวงสนทนาก็ถูกขัดโดยหญิงสาวในชุดราตรียาวแหวกข้างลึกจนถึงขาอ่อน เขียนเล็กควงแขนของมาตินอย่างถือวิสาสะปากเคลือบสีแดงสดออดอ้อนอย่างเอาใจ เป้าหมายก็คงเป็นอะไรไม่ได้นอกจากสิ่งของที่ถูกประมูลมาได้นั่นเอง
ถ้าสร้อยเส้นนั้นตกมาอยู่ที่ข้อมูลของเธอ สื่อก็จะสนใจและทำข่าวของเธอกับมาติน คราวนี้ชื่อเสียงของเธอจะได้กลับมาโด่งดังเหมือนเดิมสักที
รามิเรสเองเมื่อเห็นมาตินพัวพันกับคู่ขาเก่า จึงได้ฉวยโอกาพอกุ้ยช่ายแยกตัวมา
“กุ้ยช่ายลองทานนี่สิครับ”รามิเรสหยิบหาการสรรหามาให้กุ้ยช่ายมากมาย กุ้ยช่ายเองก็ดูท่าจะตอบรับอย่างเต็มใจเสียด้วย เพราะเมื่ออยู่กับรามิเรสกุ้ยช่ายเองคุยได้สบายใจมากกว่า
ผิดกับอีกคน แค่คุยก็ประสาทจะเสีย อย่าว่าแต่คุยเลย แค่มองหน้าจิตใจมันก็พาลร้อนรน คิดแต่เรื่องน่าปวดหัว
“อันนี้ผมไม่ดื่มดีกว่าครับ ผมไม่ค่อยชอบแอลกอฮอล”กุ้ยช่ายปฏิเสธแก้วที่บรรจุน้ำสีอำพัน
“งั้นเหรอครับ งั้นลองนี่ก็ได้”รามิเรสยกแก้วน้ำสีหวานมาให้แทน แต่กุ้ยช่ายมีหรือจะตามทัน น้ำผลไม้สีสวยถูกรับแล้วยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ดดยที่ไม่รู้เลยว่าสีที่สวยหวานนั้นก็มีแอลกอฮอลเช่นกัน
“อืม หอมดีนะครับ” กุ้ยช่ายยิ้มพอใจ
“ถ้าชอบก็ดื่มอีกสิครับ”รามิเรสยื่นแก้วให้พลางมองหนุ่มลูกครึ่งที่ติดพันสาวได้แต่ ส่งสายตาเคียดแค้นใส่
แต่ก็ได้แค่นั้นแก้วแล้วแก้วเล่า รามิเรสพูดกล่อมให้กุ้ยช่ายดื่มจนใบหน้าขาวขึ้นสีแกงก่ำ แดงไปถึงใบหู ลงไปจนถึงคอ ถ้าไม่ติดเสื้อผ้าก็คงดี จะได้รู้จะตัวจะแดงด้วยรึป่าว รามิเรสจ้องมองด้วยสายตาอยากรู้ แต่นั้นก็อยู่ในสายตาของคนที่อยากจุหลุดออกจากการติดพันใจจะขาด
“ผมว่าผมมึนมึนนะ”กุ้ยช่ายบอก โลกเริ่มบิดเบี้ยว มือเล็กเกาะแขนรามิเรส
“งั้นเหรอครับ งั้นดื่มอีกแก้วแล้วไปนั่งพักข้างนอกกันดีกว่า”รามิเรสยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งแก้วให้กุ้ยช่ายดื่มก่อนจะพาออกไปนั่งพักด้านนอกแต่ก็ไม่วายหยิบเครื่องดื่มสีสวยติดมือมาอีกแก้ว
“อา ผมว่าผมมึนมากเลยครับ”กุ้ยช่ายพูดเสียงแผ่วยกมือขึ้นจับหัวตัวเอง
“ไม่สบายรึปล่าวครับ ไหนขอผมดูหน่อย”รามิเรสยกมือขึ้นทาบหน้าผากกุ้ยช่าย
“เหมือนโลกมันเอียงๆ”กุ้ยช่ายบ่น
“ตัวร้อนนิดๆเหมือนกันนะครับเนี่ย เอางี้ดีกว่า ผมไปส่งกุ้ยช่ายเอง เดี๋ยวผมโทรบอกมาร์ตี้ให้”รามิเรสเสนอ
“จะดีเหรอครับ ผมมากับเขาแล้วจะให้กลับก่อน”กุ้ยช่ายปรือตามอง เปลือกตาเริ่มรู้สึกหนักอยากพักผ่อนเต็มแก่
“ไม่เป็นไรครับ สบายมาก”รามิเรสจับแขนกุ้ยช่ายพยุง ส่วนอีกข้างก็โอบเอว
“จะไปไหนกัน!!!”เสียงดังกึ่งตะคอกของมาตินพูดขึ้น ใบหน้าหล่อเข้มแสดงออกถึงความไม่พอใจ เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดเต็มหน้าผากกว้าง กว่าจะหลุดอออกมาจากดาราสาวที่เอาแต่คลุกวงในยื้อยุดฉุดไม่ยอมให้ตามออกมาตั้งแต่เห็นรามิเรสส่งน้ำผมไม้ที่มีแอลกอฮอลล์ อยากเข้าไปห้ามแต่มันทำไม่ได้
ยิ่งตอนที่พากันจูงแขนกันออกมา ใจมันยิ่งเต้นแรงเหมือนโกรธมาก จึงต้องถึงขั้นเสียมารยาทกับผู้หญิง ทั้งที่ไม่เคยสักครั้งที่จะปฏิเสธหรือทำให้ผู้หญิงที่เสนอตัวมาให้ต้องเสียหน้า
“ฉันก็แค่เห็นว่ากุ้ยช่ายไม่สบาย เลยจะพากลับบ้าน”รามิเรสที่รู้อยู่แล้วว่ายังไงเพื่อนเขาก็ต้องตามออกมาจนได้พูดด้วยสีหน้ายียวนพลางยักไหล่
“หนอย แกนี่มัน”มาตินได้แต่เข่นเขี้ยวเขี้ยวฟันกับอาการกวนประสาทของเพื่อน ไม่สบายบ้านมันสิ แบบนั้นเขาเรียกว่าเมา ดูท่าเจ้าตัวที่โดนมอมจะไม่รู้อะไรเลย
“แกก็ไปต่อกับแม่คนนั้นเหอะ เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการให้ไม่ต้องห่วงหรอกน่า”รามิเรสทำท่าจะพากุ้ยช่ายไป
“ไม่ต้อง ส่งมานี่เดี๋ยวฉันจะกลับแล้ว”มาตินยื่นมือไปขอ
“เอาน่าแกไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า”
“ส่งมานี่”มาตินพูดย้ำ ยกมือขึ้นเสยผม อีกมือยื่นไปขอกุ้ยช่ายคืน
“ไม่เอา เดี๋ยวฉันพากุ้ยช่ายไปส่งเอง แกก็ให้สัมภาษณ์สื่อไปสิ เห็นมั้ยมีแต่คนจ้องจะทำข่าวแก”รามิเรสพยักหน้าไปทางด้านหลังของมาตินพบว่านักข่าวหลายที่ทำท่าจะแย่งกันเขามาสัมภาษณ์
“ไม่เอา ฉันจะกลับแล้ว วันนี้กุ้ยช่ายต้องกลับไปนอนที่บ้านพ่อแม่ฉัน วันนี้ท่านเอาอันเดรสไปนอนด้วย กุ้ยช่ายเป็นพี่เลี้ยงของอันเดรส ยังไงกุ้ยช่ายก็ต้องกลับกับฉัน แกส่งกุ้ยช่ายมา”มาตินยกเหตุผลมาอ้าง ใบหน้าบ่งบอกว่ากำลังไม่สบอารมกับเพื่อนฝรั่งตัวโตอย่างมากเพราะดูยังไงอีกฝ่ายตั้งใจจะกวนประสาทชัดๆ
“เอางั้นก็ได้ ในเมื่อแกยืนยันที่จะพูดอย่างนี้ฉันจะทำยังไงได้ คุณกุ้ยช่ายครับ เอาไว้โอกาสหน้าเราค่อยไปด้วยกันนะครับ”รามิเรสพูดยิ้ม สายตาสีน้ำข้าวมีประกายจ้องมองคนที่เกาะแขน
“อืม”กุ้ยช่ายเองก็พยักหน้าตอบรับ ไม่รู้ว่าคำพูดของรามิเรสสื่อความหมายอะไรรึปล่าว ไม่รู้ว่าจะมีใครจ้องมองด้วยสายตาเคืองโกรธรึปล่าว สติมันพร่าเลือนได้แต่ตอบรับอย่างรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้ว่าถูกใครอีกคนดึงไป ใครอีกคนที่กำลังทำหน้าตาเคืองโกรธเสียเต็มประดา ได้แต่เดินตามแรงดึง ผ่านแสงวูบวาบมากมาย จนรู้ตัวอีกทีก็มาอยู่บนรถ ถึงได้วางใจแล้วหลับไป
โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าทิ้งให้ใครอีกคนต้องกระวนกระวายกับความไม่รู้ของตัวเอง
อีกคนที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องมาหงุดหงิดกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ไม่รู้ว่าทำไมต้องหงุดหงิด ได้แต่ทั้งดึงทั้งรั้งทั้งประครองจนพาขึ้นรถมาได้
จ้องมองใบหน้าที่ปกติจะขาวนวลตอนนี้ขึ้นสีแดงระเรื่อ ทั้งใบหน้าทั้งเรียวปากที่แดงช่ำ คิ้วเรียวเล็กขมวดน้อยๆ กับจมูกเชิดรั้ง แดง แดงไปหมดทั้งหน้า จมูก ปาก หรือแม้กระทุ่งหู ไล่สายตาคมไปที่ลำคอ แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ลำคอขาวแดงเห่อไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล
“นี่”เสียงทุ้มกระซิบเมื่อเห็นว่ากุ้ยช่าดึงคอเสื้อไปมาคิ้วเรียวขมวดอย่างไม่สบายตัว
“อืม อึดอัด”เสียงแผ่วเบาเล็กลอดออกมาจากเรียวปากแดงฉ่ำ มาตินจ้องมองแล้วเผลอกลืนน้ำลาย
มือหนาเอื้อมปลดเน็คไทล์และกระดุมเม็ดบนให้ เจ้าตัวที่กำลังหลับมาพึมพำถึงได้คลายคิ้วที่ขมวดแล้วนิ่งได้
มาตินจ้องมองลำคอที่เคยขาวตอนนี้กลับแดงเห่อ ยิ่งปลดกระดุม มองต่ำลงมาก็ยิ่งแดงกว่าเดิม ไม่รู้ว่าถ้าต่ำลงอีกจะแดงกว่าเดิมมั้ย มาตินตั้งคำถามในใจด้วยความอยากรู้
ไม่รู้ตัวเลยว่าตั้งแต่เมื่อไรมือเอื้อมไปปลดกระดุมเม็ดถัดไป ไม่ได้สังเกตว่าใจตัวเองเต้นแรงแค่ไหน กลืนน้ำลายไปอึกที่เท่าไรแล้ว เหงื่อผุดบนหน้าผากมากมายทั้งที่แอร์ในรถเย็นฉ่ำ
แค่ปลดกระดุมยังไม่พอ นิ้วชี้ลากสัมผัสกรีดลงบนแผงอกรั้งเสื้อให้แหวกออกเผยให้เห็นแผ่นอกขาวขึ้นสีแดงระเรื่อ ยิ่งเห็นก็ยิ่งอยากรู้มากขึ้นเรื่อยๆ ใจอยากจะปลดกระดุมเม็ดที่สาม
อยากจะรู้ว่าถ้าปลดอีกเม็ดนั้นจะเห็นตุ่มไตเล็กๆคู่นั้นมั้ย แล้วจะเป็นสีอะไร จะเหมือนของผู้หญิงมั้ย ดูจากสีผิวจะเป็นสีชมพูแดงตามที่คิดรึปล่าว
มือหนาเอื้อมไปหากระดุมเม็ดที่สาม เหงื่อเริ่มไหลลงขมับทั้งสองข้างจนต้องยกมือขึ้นปาดออก ในหัวเริ่มนึกจินตนาการภาพขึ้นมา เดาไปต่างๆนาๆว่าจะเป็นแบบไหน หัวใจก็เต้นโคมคราม แต่ดูท่าเจ้าของจะไม่รู้ตัวเพราะจดจ่อแต่กับกระดุมเม็ดที่สาม เพียงแค่พลิกนิ้วเล็กน้อย กระดุมเม็ดที่สามก็จะหลุดออกทันที
“คุณมาตินครับ ถึงแล้ว”เสียงคนขับรถหันมาบอก ยุติเรื่องราวอยากรู้อยากเห็นของมาติน
“เหรอ อืม ขอบคุณมาก”มาตินหันไปบอกคนขับรถปรับสีหน้าเป็นปรกติเกือบแทบไม่ทัน แล้วหันมาสนใจพี่เลี้ยงเด็กที่หลับไม่ได้สติ
“นี่ คุณ ถึงแล้ว”มาตินแตะที่แขนกุ้ยช่ายปลุกเบาๆ
“อืม”กุ้ยช่ายตอบรับ แต่ไม่ลืมตา อีกทั้งยังเอนตัวมาซบที่ไหล่ของมาติน
“ให้ผมช่วยพาขึ้นไปมั้ยครับ”คนขับรถหันมาถาม
“ไม่ต้อง ไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง”มาตินพูดเสียงเรียบ หันมามองกุ้ยช่ายที่กำลังเอนซบไหล่อยากไม่รู้เรื่องรู้ราว ถ้าเป็นเวลาปกติมาตินก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นในภาพที่กำลังเห็นอยู่ตอนนี้ คนที่เอาแต่ปั้นหน้าส่งสายตาคอยจับผิด คอยหาเรื่อยแต่จะว่า ตอนนี้กำลังหลับด้วยใบหน้าสงบนิ่งไม่บ่งบอกถึงความรู้สึกใดๆ
มาตินอุ้มกุ้ยช่ายขึ้นพาดบ่าไปยังห้องนอนรับแขกชั้นสอง เปิดประตูเข้าไปก็เห็นตั้งโอ๋นอนขดอยู่บนเตียงกับแม่บ้านที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้ คงได้รับคำสั่งให้มาเฝ้าตั้งโอ๋จนกว่ากุ้ยช่ายจะกลับล่ะมั้งมาตินคิด
แล้วพยักหน้าเป็นเชิงให้แม่บ้านไปพักผ่อนได้ แล้ววางกุ้ยช่ายลงบนเตียงอย่างเบามือ จัดท่าทางก่อนจะลุกขึ้นมองส่ายหน้ากับคนไม่เจียมตัว ทั้งที่รู้ว่าดื่มไม่ได้ก็ยังจะดื่ม ไม่ได้รู้เอะใจสักนิดเลยรึไงว่าถูกหลอก
มาตินหันหลังเดินออกมาเตรียมจะปิดประตูห้องนอนรับแขก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองกุ้ยช่ายนอนขยับตัวไปมาอย่างไม่สบายตัว มือเล็กดึงเสื้อไปมาเหมือนจะอึดอัด ถ้าจะปล่อยไปทั้งๆที่เห็นเห็นกันอยู่ก็คงจะดูแล้วใจร้ายเกินไป หรือต้องการอะไรก็ไม่แน่ใจ
ถึงได้เดินไปนั้งที่ขอบเตียงแล้วปลดสูทตัวนอกของกุ้ยช่ายออกเท่านี้ก็คงจะพอ มาตินคิดในใจ ถึงจะสวนทางกับร่างกายก็เถอะ
สายตาจ้องมองลอดไปที่เสื้อเชิ้ตที่แหวกออกเผยให้เห็นแผงอกสีแดงระเรื่ออยู่รำไร ไม่รู้ว่าคอแห้งหรืออะไรต้องกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ จ้องมองอีกฝ่ายที่ยังขยับตัวเบาๆอย่างไม่สบายตัว ไม่รู้ว่าทึกทักไปเองหรืออะไรที่คิดว่าอีกฝ่ายไม่สบายตัว
แล้วก็ปลดเน็คไทล์สีอ่อนออก แล้วตามด้วยกระดุมเม็ดที่สามสี่ห้า จนหมด เหงื่อเริ่มผุดบนหน้าผาดอีกรอบ กลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง ถึงจะเคยเห็นของผู้หญิงมานักต่อนัก ไม่ว่าจะนางแบบ ดารา นักร้อง เห็นมาหมดทั้งอกเล็กอกใหญ่ ขาวเนียน แทนเนียน เจอมานับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่เคยเจอแบบแบนราบแล้วแดงเรื่อแบบนี้ ทั้งแดงทั้งเนียน อยากจะลูบมือลงไปสัมผัสความเนียนแต่คงใช่เรื่อง ยังจำครั้งที่แล้วได้ดี
กว่าจะตั้งสติทำตัวเหมือนจำเรื่องจำราวไม่ได้ แต่ถึงจะเมาแต่ก็จำครั้งที่แล้วได้ดี ครั้งที่แล้วมีแต่ขาวกับขาว เนียนกับเนียน ไม่ใช่แดงเห่อแบบนี้ อีกทั้งตุ่มเม็ดเล็กๆสีส้มอ่อนนั่นอีก ถึงจะไม่ใช่สีชมพูแบบผู้หญิง แต่ก็น่ามอง น่าลองรสชาติจนต้องกลืนน้ำลาย แล้วก็ปลดเสื้อเชิ้ตออก ตามด้วยเข็มขัดแล้วกางเกงแสลค มีบ้างที่มือจะเผลอไปโดนเอาเนื้อเนียนๆอุ่นๆอย่างจงใจระหว่างถอด
ที่ทำก็เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายรำคาญ นอนไม่สบายตัว เลยทำหรอก ถ้าเห็นว่านอนหลับสบายๆก็จะไม่ทำแบบนี้ให้หรอก ไม่เห็นมีเหตุผลต้องมาทำแบบนี้เลย มาตินคิดในใจ ถอดให้หมดเลย ทั้งถุงเท้ารองเท้า เหลือแต่บ็อกเซอร์กับกางเกงในที่ละเอาไว้เพราะยังไม่อยากเห็นของที่มีเหมือนๆกัน
ตั้งใจว่าถอดให้เสร็จแล้วก็จะไป แต่ใจก็ดันทึกทักเอาเองว่าอีกฝ่ายยังนอนไม่สบายตัวเห็นขยับเบาๆ ก็เลยลงไปในครัวหากะละมังใบเล็กแล้วเอาผ้าขนหนู ลงทุนเอาน้ำอุ่นมาเช็ดตัวให้ ไม่ใช่อยากจะอยุ่ด้วยอยากจะมอง อยากจะจับอะไรนักหรอก แค่มีน้ำใจอยากจะทำให้ก็แค่นั้น ถึงจะดึกแล้วแต่ก็ยังไม่ง่วง ยังว่างอยู่ไม่มีอะไรทำ เลยหาอะไรทำแก้ว่าง ก็แค่นั้น ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นเลยจริงๆ
ก็แค่บิดผ้าหมาดๆ แล้วถูลงบนหน้าอกแบนแบน มือเผลอไปโดนบ้างก็แค่นั้น ลูบผ่านตุ่มเล็กๆสีส้มอ่อนแล้วมันเกิดแข็งขึ้นมาเลยลูบผ่านบ่อยๆก็แค่นั้น ไม่ตั้งใจจะอยากรู้อยากเห็นมากมาย น้ำก็อุ่นอยู่แล้วแต่ผิวคนหลับนั้นอุ่นกว่า พอเช็ดเม็ดเล็กๆอีกข้าง มันก็บังเอิญแข็งเหมือนกัน เช็ดไปเช็ดมาไม่รู้ตัวเลยว่าของๆตัวเองก็เริ่มแข็งตาม
ของที่อยู่ระหว่างขามันเริ่มตุงดันกางเกงแสลคขึ้นมาจนเห็นได้ชัด แต่เจ้าของไม่ยักจะใส่ใจเท่าไร กลับเอาแต่มองเนื้อแดงๆจนตาแทบไม่กระพริบ พอจ้องมองหน้าคนหลับ ก็เห็นคิ้วเล็กๆขมวดน้อยๆ ก่อนจะกลายออก ขนตาแพเล็กๆขยับนิดๆเมื่อถูกรบกวน ยิ่งปากสีแดงนั่น ไม่ได้ทาลิปทาอะไรเหมือนผู้หญิงแต่แดงมาก ยิ่งตอนนี้แดงฉ่ำเลยล่ะ ไม่แค่คิด แต่เอานิ้วไปแตะเบาๆ จ้องมองดูอีกฝ่ายขมวดคิ้วเล็กน้อย น่ามอง ไม่รู้ว่ามองใกล้ตอนไหน
ไม่รู้ว่ามองใกล้จนแทบชิดขนาดนี้ ไม่รู้เลย ไม่รู้ตัวว่าเผลอประกบปากลงไปบนปากนุ่มนุ่ม ไม่ใช่แค่นุ่มอย่างเดียว หอมด้วย หอมจำน้ำผลไม้ที่กินเข้าไป แล้วจะหวานมั้ยก็ไม่รู้....
ไม่รู้ถ้าไม่ลอง.....

เขียนไม่ค่อยเก่งนะค้าาา
ยังไงก็ขอคำแนะนำด้วยคร่าาา