ตอนที่ 8ลูกหมู“เอาล่ะหมดเวลาแล้ว คนหลังสุดเดินเก็บข้อสอบมาคืนอาจารย์ด้วย” เพียงแค่สิ้นประโยคแรกของอาจารย์คุมสอบ ทั้งเสียงถอนหายใจและเสียงบ่นพึมพำอย่างเสียดายก็ดังขึ้นทันที ผมเองก็เป็นหนึ่งในเจ้าของเสียงเหล่านั้น
“ลูกหมูถอนใจซะดังเลย คิกๆ ทำไม่ได้หรือทำไม่ทันคะ” เจ้าของเสียงหวานแหลมที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหันมาส่งคำถามให้ผม พร้อมหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจ
“ทั้งสองอย่างเลยครับป๋อมแป๋ม ’จารย์ออกละเอียดยิบเลย เราทำแทบไม่ทัน ที่ส่งไปก็ยังไม่ได้ทวนด้วย” จริงๆนะครับ ข้อสอบชุดนี้เยอะและละเอียดเสียจนเวลาสอบสองชั่วโมงแทบไม่พอ
“อย่านอยด์เลยลูกหมู ลูกตาลเชื่อนะว่าคะแนนลูกหมูต้องดีกว่าพวกเราแน่ๆ เพราะพวกเราน่ะทำไม่ได้ ไม่ใช่ทำไม่ทัน ฮิๆ” เสียงหัวเราะแหลมๆบวกสีหน้าทะเล้นของคนสวยทำให้ผมคลายความกังวลลง
“ช่าย ไม่เศร้าไม่นอยด์ รอผลสอบออกแล้วค่อยว่ากันอีกทีดีกว่า สอบเสร็จทั้งทีควรมีแต่ความสุขนะ หรือไม่ก็ควรตื่นเต้นกับการฝึกงานเทอมหน้าดีกว่า” ผมยอมพยักหน้าเห็นด้วยกับกุ๊กไก่ เพราะวิชานี้เป็นวิชาสุดท้ายที่ต้องสอบ ก่อนไปฝึกงานในปีการศึกษาต่อไปแล้วครับ
“หนึ่งเดือนที่ว่างลูกหมูมีแผนไปเที่ยวไหนจ๊ะ” ป๋อมแป๋มหนุ่มสวยบาดตาเป็นคนส่งคำถามนี้ให้ผม
“ส่วนใหญ่ก็คงอยู่บ้าน เพราะไปไหนไม่ค่อยสะดวก ติดเจ้านี่น่ะ แต่อีกสักอาทิตย์ก็เอาออกแล้วล่ะ หลังจากนั้นพี่ลีโอว่าจะพาไปฮ่องกง เห็นว่าบริษัท AJ เรียกพี่เข้าไปคุย...หืม ปูน ทำไมทำหน้าแบบนั้น อย่ากังวลเลยเราก็ทำข้อสอบไม่ทันเหมือนกัน...อ๊ะ! พี่ลีโอ”
ผมละความสนใจมาจากใบหน้าเครียดๆของปูน เมื่อโทรศัพท์ที่ผมปิดเสียงไว้ในกระเป๋ากางเกงสั่นขึ้นมา แม้จะแอบแปลกใจไปกับสีหน้าเห็นใจของสามเพื่อนสนิท ที่ผมเพิ่งคุยด้วยก่อนกดรับสายพี่ลีโอก็ตาม แต่นาทีนี้คนที่โทรเข้ามาผมต้องให้ความสำคัญมากที่สุด ด้วยผมถูกย้ำหนักหนาให้ต้องรับสาย หากเห็นว่าเป็นสายของพี่
“...ครับ ลูกหมูสอบเสร็จแล้ว...เอ่อ พี่ลีโอรอที่รถก็ได้ครับ เดี๋ยวลูกหมูเดินไปหาเอง...อ่า ครับ ลูกหมูรอพี่ที่นี่ก็ได้...ครับ” ผมกดวางสายด้วยหัวใจที่อบอุ่นไปทั้งดวง เมื่อรับรู้ได้ถึงความห่วงใยของพี่ลีโอที่มีให้ผม
ผมไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังระบายยิ้มกับโทรศัพท์ที่หน้าจอมืดสนิท จนกระทั่งป๋อมแป๋มทักขึ้นมา พอเอามือแตะๆมุมปากจึงได้รู้ความจริง พาลทำเอาเขินสายตาหยอกล้อของเพื่อนๆทั้งสาม แม้จะแอบชะงักกับแววตาเศร้าๆของปูนไปบ้าง แต่เพราะประโยคต่อมาของลูกตาลก็ทำให้ผมถึงกับละเลยแววตาคู่นั้นไป
“พี่ลีโอนี่ดีจังน้า มารับมาส่งลูกหมูตลอดเลย เราน่ะอิชชี่ลูกหมูสุดๆ อยากมีพี่ชายแบบนี้บ้างจัง” ผมก็ได้แต่อมยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ และแอบขำนิดๆกับท่าทางของลูกตาล ที่ประสานมือไว้กลางอกทำตาลอยๆแบบเพ้อๆ
“นั่นสิๆ นี่หมายความว่าวันนี้เราจะได้เจอซุป’ตาอย่างพี่ลีโออีกใช่มั้ย ดีใจจัง รู้มั้ยพี่ๆน้องๆในคณะที่รู้เรื่องลูกหมูว่าเป็นน้องบุญธรรมของพี่ลีโอ มีแต่คนอยากมาดักเจอกันทั้งนั้นเลยนะ” ผมก็เพิ่งรู้จากกุ๊กไก่นี่แหละครับ ว่าข่าวของผมถูกพูดถึงไปทั้งคณะแล้วแบบนี้
ไม่รู้ว่าวันนี้พี่ต้องเจอกับอะไรบ้างสิน่า แต่พี่ลีโอก็น่าจะชินแล้วมั้งนะกับแฟนคลับที่คอยติดตามพี่
“ยัยกุ๊กไก่หล่อนก็พูดเกินไป ลูกหมูอย่ากังวลเลย พวกเราแฟนคลับรู้ขอบเขตดี แค่ได้มองได้กรี๊ดก็พอใจแล้วล่ะ ไม่ทำให้พี่ลีโอกับลูกหมูลำบากใจหรอกน้า...แต่ลูกหมูเราถามอะไรหน่อยสิ” สีหน้าจริงจังและแววตาแสดงความอยากรู้ของป๋อมแป๋ม ทำให้ผมอดที่จะเกร็งตัวขึ้นมาไม่ได้ แต่ก็ยอมพยักหน้าอนุญาตให้เพื่อนถามอยู่ดี
“เอ่อ...ถามจริงๆนะ พี่ลีโอกับลูกหมูแอบคบกันอยู่รึเปล่า”
“มะ...ไม่ใช่ ไม่เลย อย่าเข้าใจผิด พี่ลีโอไม่มีทางคิดอะไรกับเราแบบนั้นเด็ดขาด เราก็แค่เด็กในบ้านอัครภูมิเมธีเท่านั้น” ยอมรับว่าผมตกใจกับคำถามนี้
ผมละล่ำละลักปฏิเสธพร้อมส่ายหัวแทบทันที ด้วยหัวใจที่เต้นแรงแถมแก้มยังร้อนแบบแปลกๆอีกด้วย บวกเสียงหัวเราะคิกคักของป๋อมแป๋ม ลูกตาล และกุ๊กไก่ที่ดังหยอกเย้าเข้ามาอีก ยิ่งทำให้ผมทำอะไรไม่ถูกยิ่งขึ้น
“คิกๆ พี่ลีโอไม่คิดแต่ลูกหมูแอบคิดใช่ม้า เป็นเราๆก็คิด หล่อเท่มาดแมนมากความสามารถขนาดนั้น” ลูกตาลตาลอยคว้างไปแล้วครับ
คำพูดคำจาของลูกตาลก็ทำเอาผมพูดไม่ออก เลิกคิดที่จะปฏิเสธไปเลยเหมือนกัน ได้แต่ก้มหน้าหลบตาคนที่เหลือ จะหวังให้ปูนช่วยพูดก็ดูท่าจะพึ่งไม่ได้เสียแล้ว เมื่อเพื่อนเอาแต่กอดอกและเบือนหน้ามองไปยังทิศทางอื่น
“แต่เราว่าลูกหมูอาจจะเข้าใจผิดนะ พี่ลีโอต้องคิดกับลูกหมูเกินกว่าน้อง...อ๊ายยย! อย่าทำตาแบบนั้นนะลูกหมู ถ้าทำให้เราหลงไปกว่านี้ ถึงเป็นพี่ลีโอก็เถอะ เราจะแย่งลูกหมูมาให้ได้เลย” ประโยคท้วงติงที่ได้ยินจากกุ๊กไก่ว่าผมกำลังเข้าใจผิดนั้น ทำให้ผมที่เพิ่งเงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของประโยคดังกล่าวด้วยความสงสัยจับใจ ต้องผงะกับเสียงหวีดร้องไม่เบานักของเธอ ตามมาด้วยประโยครัวเร็วที่ผมจับใจความได้ไม่ทั้งหมด
ผมก็ต้องตกใจอีกรอบกับเสียงนุ่มๆที่แสนคุ้นเคยที่ดังขึ้นข้างตัว มาพร้อมสัมผัสอบอุ่นที่แตะข้างแก้ม
“ลูกหมู พี่มารับแล้วครับ” พี่ลีโอยกยิ้มน้อยๆส่งให้ผม พร้อมลูบแก้มผมแผ่วเบา ทำเอาผมอดที่จะเขินท่าทางแสดงความใกล้ชิดนี้ของพี่ไม่ได้
ผมจึงหลบตาพี่เอาดื้อๆก่อนรับคำผะแผ่วไม่พ้นคอ และฝืนเงยหน้าแดงๆขึ้นเอ่ยลาเพื่อนทั้งสี่คน พิเศษด้วยการส่งยิ้มให้ปูนที่ยอมพยักหน้ารับคำลาของผม
“ผมขอตัวพาลูกหมูกลับบ้านก่อน ถ้าน้องๆว่างก็ไปเยี่ยมให้กำลังใจคนขาเดี้ยงที่บ้านได้นะครับ บ้านอัครภูมิเมธียินดีต้อนรับ อ้อ! เมื่อครู่น้องๆเข้าใจกันไม่ผิดหรอก...ไปครับลูกหมู เรากลับบ้านกัน” ผมออกจะงงกับคำพูดประโยคสุดท้ายที่พี่ลีโอพูดกับเพื่อนๆของผม จนอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าแดงๆของตัวเองขึ้นสบตาพี่เพื่อขอคำตอบ ว่าเพื่อนๆเข้าใจไม่ผิดเรื่องอะไร
พี่ลีโอทำเพียงส่งยิ้มอ่อนโยนใส่ตาผมเท่านั้น ก่อนผมจะได้แต่เดินตามแรงประคองของพี่ และเชื่อว่าถ้าที่ตรงนี้มีแค่เรา พี่ลีโอคงได้อุ้มผมเดินไปจนถึงรถอย่างทุกทีแล้วล่ะครับ จังหวะที่ผมก้าวเดินยังไม่ทันพ้นประตูห้องสอบ กลับมีเสียงกรี๊ดดังขึ้นตามหลัง
แน่นอนว่าสามเสียงที่ดังกว่าใครในนั้น เป็นของสามเพื่อนสนิทคนใหม่ของผม สำหรับพี่ลีโอเองไม่มีตกใจ แต่กลับหัวเราะเสียงทุ้มมีแววตาระยับด้วยความถูกใจ แต่พี่จะถูกใจเรื่องอะไรผมก็สุดรู้
‘ในห้องมีเรื่องน่ายินดีอะไรกันนะ ถึงกรีดร้องเสียงดังลั่นขนาดนั้น’ ผมก็ได้แต่ครุ่นคิดในใจไม่ได้เอ่ยออกมา เพราะได้แต่เดินตามแรงประคองของเจ้าของอ้อมแขนอบอุ่นจนถึงรถ พี่ลีโอดูแลผมดีมากจนผมเกิดคำถามขึ้นมาในใจ ว่าหากผมไม่เจ็บเช่นนี้ เวลานี้ตอนนี้ผมจะมีโอกาสใกล้ชิดกับพี่รึเปล่า ความฝันที่เคยวาดไว้ว่ามีพี่เคียงข้าง จะเป็นจริงเหมือนเช่นที่เป็นขณะนี้มั้ย
ถึงแม้ผมกับพี่ลีโอจะมีสายสัมพันธ์ดั่งพี่น้องบุญธรรมและอยู่บ้านเดียวกัน แต่กับ ทัตเทพ อัครภูมิเมธี ผู้มีเชื้อสายแห่งราชวงศ์ชั้นสูง และเป็นถึงนักร้องดังแห่งวง Chic ก็ใช่ว่าผมจะกล้าผยองใช้สิทธิ์พิเศษนั้นใกล้ชิดพี่ นอกเสียจากพี่ลีโอจะให้ความเอ็นดูและเมตตาผมด้วยตัวเอง ด้วยความเจียมตัวว่าผมนั้นเป็นใครและมาจากไหน
แต่ในช่วงเวลาหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ความเอื้ออาทรและความใส่ใจของพี่ลีโอที่มีให้แก่ลูกหมูกำพร้าอย่างผม ทำให้ความตั้งใจที่จะไม่ให้ตัวเองคิดเกินเลยกับพี่ผู้มีพระคุณถึงกลับสั่นคลอน ผมต้องอาศัยกำลังใจมหาศาลในการหักห้ามความคิด ซึ่งความพยายามเหล่านั้นกลับสูญเปล่าและไร้คุณค่า สร้างความสลดหดหู่ใจแก่ผมยิ่งนัก เมื่อผมเผลอใจหวั่นไหวไปกับความใกล้ชิดและความใจดีที่พี่ลีโอทีให้แก่ผมจนได้
ไม่เพียงแค่ความใส่ใจที่พี่คอยรับส่งและดูแลผมอย่างดีเช่นปัจจุบันนี้เท่านั้น มันสำคัญตรงที่เหตุการณ์เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาสดๆร้อนๆต่างหาก ยามผมคิดถึงนาทีที่ตัวเองปลดปล่อยคาอุ้งมืออุ่นที่แสนอ่อนโยนของพี่ ก็ให้หน้าร้อนอย่างไม่น่าให้อภัย แน่นอนว่าช่วงเวลานั้นผมทั้งตื่นเต้นปนสุขสม ที่ได้คนที่ตัวเองแอบมอบหัวใจ เป็นคนมอบความสุขทางเพศรสครั้งแรกให้
แต่เมื่อรู้สึกตัวและตื่นมารับรู้ความจริง ความหดหู่และความละอายก็ถาโถมเข้ามาในจิตใจ บวกความรู้สึกเล็กๆที่เคยเกิดขึ้นมานานแสนนาน แต่มันได้ตกตะกอนนอนก้นค้างในใจมาตลอด ตั้งแต่ผมรู้จักจูบครั้งแรกระหว่างผมกับพี่ลีโอ ความรู้สึกของการเป็นของเล่นใกล้มือที่พี่ลีโอจะหยิบมาเล่นยามพอใจในเวลาใดก็ได้
ผมยอมรับว่ายามที่พี่ใกล้ชิดด้วย และแสดงออกว่าผมสำคัญทำเหมือนว่ารักผม ทั้งๆที่ความจริงพี่ไม่ได้คิดอะไรด้วยเลย ผมมีความสุขอย่างที่ใครก็ทำให้ผมไม่ได้เหมือนพี่ แต่ผมก็รู้ว่ามันก็เป็นเพียงภาพลวง และขืนผมปล่อยตัวปล่อยใจไปมากกว่านี้ คนที่จะเจ็บที่สุดก็คือตัวผมเอง รู้ทั้งรู้แต่ผมกลับยอมที่จะหลงอยู่ในโลกแห่งมายาใบนี้ร่วมกับพี่ลีโอ เหมือนเช่นเวลานี้ที่ผมหลงวนไปกับรสจูบหวานๆที่พี่มอบให้แก่ ‘หมูน้อยของพี่’
“หมูน้อยของพี่...รู้ตัวมั้ยว่าทำพี่หลง จนไม่อยากให้เราห่างสายตาเลย กลัวว่าจะมีใครมาแย่งหมูน้อยของพี่ไป” หลังจากริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ผมตาพร่าหูอื้อไปหมด ทำให้ได้ยินสิ่งที่พี่ลีโอพูดไม่ชัดเจนนัก
ผมรับรู้เพียงสัมผัสนุ่มชื้นของกลีบปากพี่ ที่ไล่แตะไปตามข้างแก้มและซอกคอ ก่อนตัวผมจะถูกดึงเข้าสู่แผ่นอกตึงแน่น มีมือใหญ่โตเฝ้าลูบหัวและแผ่นหลังให้อย่างอ่อนโยน
สัมผัสอบอุ่นที่ถ่ายทอดความเอื้ออาทรของพี่ลีโอ ทำให้หัวอกผมอุ่นวาบด้วยความสุข ตะกอนความหวงแหนที่เคยนอนก้นในจิตใจ ถูกความเห็นแก่ตัวที่แสนชั่วร้ายตีกวน จนความหวงแหนเหล่านั้นพุ่งพล่าน และตีกันวุ่นกับสำนึกฝ่ายดีที่ให้เจียมตัว ด้วยสำนึกในบุญคุณที่อัครภูมิเมธีชุบเลี้ยงผมให้มีวันนี้ กลายเป็นหยดน้ำตาที่เอ่อท้นจากหัวตาไหลรินเป็นสายอย่างเงียบเชียบ
แม้ผมจะพยายามกลั้นเสียงด้วยการขบเม้มริมฝีปากสุดพลัง แต่หยาดหยดแห่งความชื้นบนใบหน้า กลับซึมผ่านเนื้อผ้าลงบนผิวเนื้อให้เจ้าของรู้สึกตัวเข้าจนได้ หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าเกือบชนกัน ยามที่พี่ลีโอดันไหล่ผมออกจากอก และเห็นว่าผมกำลังร้องไห้อยู่กับอกพี่เงียบๆ ถึงผมจะพยายามก้มหน้าหนีสายตาพี่เท่าไหร่ก็ตาม แต่พี่ก็พยายามรั้งใบหน้าผมกลับคืน จนเราได้สบตากัน
“หือ...หมูน้อยร้องไห้ทำไม เสียใจที่พี่จูบเรา!? รังเกียจใช่มั้ย” ผมทั้งส่ายหน้าและพยายามป้ายหลังมือเช็ดคราบน้ำตาที่ใบหน้า ก่อนเอ่ยกระท่อนกระแท่นปฏิเสธ ด้วยกลัวพี่เข้าใจผิด
“แล้วร้องไห้ทำไม ไหนบอกพี่สิครับ...เอ้า เด็กคนนี้ พี่ยังไม่ได้ว่าเลย ร้องขึ้นมาอีกแล้ว” น้ำเสียงทุ้มนุ่มเจือกระแสความอ่อนโยนที่พี่ใช้ บวกฝ่ามืออุ่นๆที่รั้งข้อมือผมไว้ไม่ให้ขยี้ตา เปลี่ยนมาเช็ดรอยน้ำตาที่ข้างแก้มด้วยความเบามือนั้น ทำให้น้ำตาที่เพิ่งหยุดไหล ตีย้อนกลับมายังหัวตาอีกครั้ง
พี่ลีโอจึงเปลี่ยนจากการเช็ดน้ำตาให้ เป็นการรั้งหัวผมเข้าซุกอกอุ่นๆ และปลอบด้วยเสียงอ่อนโยนให้ผมหยุดร้อง ในแบบฉบับที่คนฟังอย่างผมอยากร้องไห้จนไม่อยากหยุด เพราะอยากให้สัมผัสอบอุ่นอ่อนโยนของพี่อยู่กับผมไปนานแสนนาน แต่สุดท้ายน้ำตาผมก็หยุดไหลจนได้ ก่อนพี่จะถามซ้ำถึงสาเหตุที่ผมร้องไห้อย่างกับเขื่อนแตก
หากผมเป็นพี่ลีโอก็คงสงสัยปนอยากรู้เช่นกัน ไม่แปลกที่พี่จะพาลคิดไปว่าผมร้องเพราะรังเกียจจูบของพี่ ซึ่งตรงข้ามกับความจริงไปไกล ด้วยผมออกจะถูกใจในรสจูบหวานๆที่พี่มอบให้ สาเหตุแท้จริงเป็นเพราะความผมละอายใจที่รู้สึกหวงแหนพี่ลีโอ อยากเก็บพี่เป็นของผมคนเดียว ไม่อยากให้พี่ไปดูแลและปฏิบัติแบบนี้ให้ใครอีก อีกสาเหตุคือความน้อยใจที่เกิดขึ้น ด้วยคิดไปว่าพี่เห็นผมเป็นเพียงของใกล้มืออยากทำอะไรด้วยก็ได้ พาลให้เกิดความน้อยใจขึ้นมาเสียเฉยๆ
สายตาคาดคั้นที่พี่ลีโอใช้มองผม เป็นตัวเร่งให้ผมต้องบอกความในใจที่แสนน่าละอายออกไป แม้จะรู้แก่ใจว่าเสี่ยงโดนพี่เกลียดเข้าก็ตาม แต่จะให้ผมโกหกพี่ ผมก็ไม่เคยทำและไม่กล้าทำด้วย
“ลูกหมูไม่ได้รังเกียจ ที่ร้องก็เพราะ...โกรธตัวเองที่เห็นแก่ตัว คิดไม่ดีกับพี่ อยากยึดพี่เป็นของตัวเอง เพราะได้ใจที่ช่วงนี้พี่ใจดีกับลูกหมู แต่ก็น้อยใจพี่ที่เห็นลูกหมูเป็นของใกล้มือ คิดจะทำอะไรด้วยก็ได้ แม้จะเจ็บกับความจริงนี้ แต่ลูกหมูก็พอใจ พยายามหลอกตัวเองว่าพี่ลีโอก็พอจะชอบลูกหมูบ้าง ทั้งๆที่ความจริงมันไม่ใช่เลย” สิ้นเสียงสุดท้ายของผม ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
พี่ลีโอตกอยู่ในอาการตะลึงลานจ้องผมอย่างคาดไม่ถึง อ้อมกอดที่เคยโอบรอบตัวก็คลายลง จนความหนาวเย็นของเครื่องปรับอากาศเข้ามาห้อมล้อมแทนความอบอุ่นของผิวกาย ความเย็นเสียดแทงผิวเนื้อ ทำเอาหัวใจสั่นสะท้านด้วยความอ้างว้างและหวาดกลัว อาการของพี่ลีโอทำให้ผมตีความได้ว่า พี่โกรธและเกลียดผมเข้าแล้ว
ผมไม่อาจทนเห็นสีหน้าแววตาที่สื่อแววรังเกียจกันได้ จึงพลิกตัวกลับไปนอนตะแคงอีกฝั่งของเตียง งอตัวและกอดตัวเองไว้จนแน่น ใจจริงอยากเดินกลับห้องตัวเองที่ถูกทิ้งร้างตั้งแต่พี่กลับมาใจจะขาด แต่ร่างกายกลับไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะทำตามใจคิด ได้แต่หวังให้พี่ลีโอออกไปจากห้องเสียเอง ผมจะได้ปลดปล่อยความเจ็บปวดเป็นหยาดน้ำตาเสียให้พอใจ
“หมูน้อย”
ผมสะดุ้งสุดตัวและตกตะลึง ไปกับอ้อมกอดอบอุ่นของพี่ที่กอดซ้อนมาจากด้านหลัง และรอยอุ่นข้างแก้มจากกลีบปากนุ่มที่ประทับนิ่งอยู่เนิ่นนาน ทำเอาน้ำตาที่ไหลไม่ขาดสาย กลับหยุดไปอย่างที่เจ้าของอย่างผมเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน
“พี่ขอโทษ” ผมถึงกลับกลั้นลมหายใจ เพราะใจหายกับคำพูดของพี่
‘นั่นสินะ นี่ผมหวังจะได้ยินอะไรกัน’ คำสารภาพรักที่ว่าพี่ใจตรงกับผมอย่างนั้นเหรอ
“อย่าเพิ่งร้องครับ ฟังพี่พูดให้จบก่อน...ที่พี่ขอโทษเป็นเพราะพี่รู้สึกผิดที่ทำให้ลูกหมูคิดมาก และเสียใจไปกับการกระทำที่เอาแต่ใจของพี่” ร่างผมถูกพี่ดึงขึ้นมานั่งเผชิญหน้ากัน
แม้นาทีนี้ผมจะไม่อยากสบตา และเห็นใบหน้าหล่อเหลาของพี่ลีโอให้ช้ำใจไปมากกว่าเดิม แต่ผมก็ต้องฝืนใจ เมื่อพี่ลีโอกอบกุมแก้มผมและรั้งไว้ ออกแรงกึ่งบังคับให้ผมเงยขึ้นสบตาพี่
“พี่ขอโทษครับ...ถึงพี่จะรู้สึกผิดกับลูกหมู แต่พี่ก็อดดีใจไม่ได้นะ ที่ได้ยินว่าลูกหมูอยากยึดพี่ไว้เป็นของตัวเอง เพราะได้รู้ว่าสิ่งที่พี่ทำไปทั้งหมด มันประสบผลสำเร็จแล้ว พี่อยากให้ลูกหมูคิดเหมือนพี่ไงล่ะ...อย่าเพิ่งตกใจไปหมูน้อย ถ้าได้ฟังความรู้สึกพี่ต่อจากนี้ เราอาจจะตกใจมากกว่านี้ก็ได้”
ยอมรับว่าผมตกใจอย่างที่สุด นาทีนี้พี่ลีโอไม่ต้องบังคับให้ผมสบตาด้วยอีกแล้ว เพราะสายตาผมไม่อาจละไปจากรอยยิ้มอบอุ่นของพี่ได้เลย
“ยอมรับว่าพี่ดีใจและภูมิใจที่ทำให้ลูกหมูรู้สึกหึงหวงพี่จนได้ ถ้าจะมีใครเห็นแก่ตัวก็คงเป็นพี่ พี่ยอมไม่ได้ถ้าคนที่พี่รักจะสนใจหรือเห็นใครดีกว่า และขอให้เลิกน้อยใจเลยนะครับ พี่ไม่เคยเห็นลูกหมูเป็นของเล่นใกล้ตัวเลยสักครั้ง ที่พี่เอาตัวใกล้ชิดเราและสิ่งที่พี่ทำไปทั้งหมด ก็เพราะ ‘รัก’ อยากให้คนที่พี่รักติดรสสัมผัสของพี่ก็เท่านั้น”
ผมได้ยินไม่ผิดใช่มั้ยว่าพี่ลีโอสารภาพรักกับผม อาการและแววตาของผมคงแสดงออกชัดว่าผมคิดอะไรอยู่ เพราะพี่ลีโอที่กำลังระบายยิ้มอย่างหล่อ เอ่ยย้ำคำรักให้ผมได้ยินชัดๆอีกครั้ง
“พี่ลีโอรักลูกหมู...หมูน้อยของพี่” พี่ลีโอยืนยันคำรักด้วยจูบหวานๆ ทำให้ผมเคลิบเคลิ้มไปกับรสสัมผัสที่แสนอ่อนโยนและคุ้นเคย จนผมหมดลมพี่ถึงปล่อยปากผมให้เป็นอิสระ
ผมอ่อนแรงเกินกว่าจะนั่งได้ดังเคย จึงได้แต่เอนซบลงกับไหล่กว้างให้พี่โอบกอดไว้ พร้อมฝ่ามืออุ่นๆของพี่ที่ลูบไล้ไปมาแถวแผ่นหลัง และรอยประทับอบอุ่นที่ข้างแก้ม พี่ลีโอกดจูบย้ำๆที่แก้มผมอยู่หลายที จนกระทั่งสติผมค่อยๆกลับคืน แต่ก็คงยังไม่กล้าจะเงยหน้าขึ้นสบตาพี่ตรงๆ ได้แต่โอบรอบคอพี่และไล้ปลายนิ้วสัมผัสแผ่นหลังเรียบตรึงกับเส้นผมนิ่มๆ ในแบบที่ผมใฝ่ฝันว่าอยากจะทำมานาน
“พี่ลีโอรักลูกหมูตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ทำไมเพิ่งสารภาพรักวันนี้ ปล่อยให้ลูกหมูคิดมากอยู่ได้ตั้งนาน” ผมทำใจกล้าเอ่ยคำถามคาใจแกมประชดเล็กๆให้พี่ ด้วยรู้สึกถึงความเป็นต่อเล็กๆว่าพี่มีใจให้
หากเป็นแต่ก่อนผมคงไม่กล้าแม้แต่จะส่งคำถาม อย่าไปพูดถึงการประชดเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้อยู่ดี เพราะก็ยังกลัวว่าจะทำให้พี่ไม่พอใจ
“ฮึๆ แสดงว่าลูกหมูก็แอบรักพี่มานานแล้วเหมือนกันใช่มั้ย ไม่งั้นคงไม่คิดมากเรื่องพี่แบบนี้” ไม่คิดว่าคำประชดเล็กๆของผม จะทำให้พี่ลีโอตีความได้แม่นยำ จนมาเล่นงานผมคืนให้ได้อายอยู่แบบนี้
แม้จะฝืนซ่อนหน้าแดงๆของตัวเองไว้กับไหล่พี่เช่นเดิม แต่สุดท้ายผมก็สู้แรงและคำออดอ้อนของพี่ที่ให้ผมเงยหน้าไม่ได้อยู่ดี พี่ลีโอส่งยิ้มกรุ้มกริ่มให้ผม ในแบบที่ผมไม่เคยได้รับจากพี่มาก่อน พร้อมไล้ปลายนิ้วเกลี่ยปอยผมที่ล่วงหล่นละข้างแก้มให้ พาลให้ผมไม่อาจต่อตาแวววาวคู่นั้น แต่เพราะเสียงกระซิบนุ่มๆที่พี่เอ่ยเรียกผม ทำให้ผมต้องทำใจกล้าต่อตากับพี่จนได้
“หมูน้อย~...พี่ดีใจที่ใจเราตรงกัน สมกับที่พี่เฝ้าดูแลลูกหมู และต้องอดทนรอเวลาที่เหมาะสมมาตลอด เรื่องระยะเวลาที่พี่รักลูกหมูพี่เองก็ตอบไม่ได้ชัดเจนนักหรอก รู้แต่ว่าตั้งแต่แรกเจอ พี่ก็หลงรักในรอยยิ้มและผิวเนื้อนุ่มๆของเด็กตัวกลมแล้ว ความรักความห่วงหาที่พี่มีให้หมูน้อย มันเปลี่ยนเป็นแบบคนรักเมื่อไหร่พี่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าต่อจากนี้พี่จะไม่มีวันเปลี่ยนใจและเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้ลูกหมูเป็นอื่นได้อีก”
“พี่ลีโอ~” ผมรวบคอพี่และโถมร่างเข้าใส่ จนเราล้มลงไปนอนบนเตียงทั้งคู่
ผมทั้งดีใจและตื้นตันในคำพูด และแววตาจริงใจที่พี่มีให้ผมมากมายนัก ทำให้ความดีใจถูกกลั่นเป็นหยาดน้ำตา เดือดร้อนให้พี่ต้องปลอบขวัญอีกจนได้ แต่หยาดน้ำตาครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความน้อยใจจนหดหู่เหมือนหลายสิบนาทีก่อน เพราะน้ำตาในครั้งนี้เป็นตัวแทนของความสุขและภูมิใจในตัวเองแทบทั้งสิ้น ด้วยคนที่ผมหลงรักรักตอบผมไม่ต่างกัน เด็กกำพร้าอย่างผมไม่ต้องการอะไรมากกว่าความรักที่พี่ลีโอมอบให้อีกแล้ว
“ลูกหมูรักพี่ลีโอ...รักมากๆเลยครับ”
..................................................
โปรดติดตามตอนต่อไป^^อ๊ายยย

เค้าสารภาพรักกันแล้ว หวังว่าคงทำให้ใครหลายคนสมหวังน้า
แต่คนที่สมหวังที่สุดน่าจะเป็นลีโอ

ส่วนใครที่ว่าตอนนี้หวานแล้ว
ขอให้ทำใจเพราะความหวานจะทวีขึ้นเรื่อยๆ ก็ในเมื่อพระเอกของเรา
ไม่ต้องเก็บกดความรู้สึก (รัก) ไว้อีกแล้วนี่หน่า เรียกว่าจะปล่อยความหวาน
ให้ได้ชมอย่างเต็มที่เลยทีเดียวค่ะ
ฝาก FC น้องลูกหมูตามเอาใจช่วยคนตัวกลมในตอนต่อไปด้วยน้า
ตอนหน้าจะพาลูกหมู & ลีโอมาเจอทุกคนวันพฤหัสฯค่ะ+1และเป็นสำหรับทุกเม้นท์ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
