อ่านต่อเลยค่ะ^^
.
.
.“ครับ...พี่ลีโอจะทานเหรอ เดี๋ยวลูกหมูแบ่งให้” ผมจ้องน้องอยู่นานด้วยความเอ็นดูคนกินเก่ง จนเผลอยื่นมือไปลูบหัวน้องเข้า จึงเป็นที่มาของประโยคดังกล่าว ด้วยลูกหมูที่เห็นผมมองอยู่ ก็คงนึกว่าผมเปลี่ยนใจอยากกินขึ้นมาก็ได้
น้องไม่ได้ถามอย่างเดียว แต่เลือกที่จะยื่นช้อนมาจ่อปากผม ขนมน่ะผมไม่นึกอยากกินหรอก ด้วยใจจริงผมอยากกินคนป้อนมากกว่า แต่ผมก็เปิดปากรับขนมคำนั้นจนได้ หมูน้อยเองพอป้อนผมเสร็จก็อมยิ้มเขินๆหลบตา ก่อนจะเสดูดเครื่องดื่มแก้เขินหนีสายตาผม ส่วนนายปูนก็นั่งเงียบไม่หลุดคำพูดใดๆอีกเลยตลอดการทานของว่าง ก่อนมันจะขอตัวกลับอย่างเงียบๆ จนเหลือแค่ผมกับหมูน้อย
คราแรกผมก็นึกดีใจที่จะได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่กับน้อง เพราะเชื่อได้ว่าหากน้องไม่เจ็บตัว เวลานี้ผมคงได้นั่งเหงาอยู่บ้านเพียงลำพัง เพราะว่าที่เภสัชกรหนุ่มน้อยของผมนั้นเรียนหนักเหลือเกิน แต่แล้วความดีใจของผมมีอันต้องเสียเปล่า เมื่อมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาหาถึงบ้าน
“อะไรกันลีโอ แทนที่จะดีใจที่ได้เจอดาด้า ทำไมถึงนั่งทำหน้าบึ้งไม่รับแขกแบบนี้ คิกๆ” คนนี้แหละครับแขกที่ไม่ได้เชิญ
ดาด้าเป็นนักร้องสาวค่ายดัง เราอยู่ค่ายเพลงเดียวกัน ซึ่งเป็นค่ายเพลงต้นสังกัดในไทยของผม เรารู้จักกันตั้งแต่ผมเข้าวงการเพลงใหม่ๆ ด้วยถูกทางค่ายจับมาฝึกร้องฝึกเต้นพร้อมนักร้องในรุ่นคนอื่นๆ หนึ่งในนั้นคือดาด้าหญิงสาวที่มากความสามารถทางดนตรี ก่อนจะต่างฝ่ายต่างแยกย้ายทำเพลงของตัวเอง เรื่องความสนิมสนมคงไม่ต้องพูดถึง เพราะสำหรับผมถือว่าเธอเป็นเพื่อนสนิท ไม่ต่างจากเพื่อนที่เรียนหนังสือมาด้วยกัน
แม้รูปลักษณ์ภายนอกของดาด้าเป็นสาวสวยติดหรูดูคุณหนูหน่อยๆ แต่นิสัยกลับไม่เป็นอย่างที่เห็น ด้วยดาด้าเป็นคนอยู่ง่ายกินง่าย จริงใจกับเพื่อนฝูง และอยู่ข้างเพื่อนในทุกสถานการณ์ แมนอย่างคาดไม่ถึงเชียวล่ะ แต่เธอก็มีมุมหวานและใส่ใจรายละเอียดในบางเรื่อง ตามลักษณะนิสัยทั่วไปของผู้หญิงอยู่เหมือนกัน
ผมจึงสนิทใจที่จะคบกับเธอและไปไหนมาไหนด้วยในฐานะเพื่อนสนิท แม้ดาด้าจะอายุน้อยกว่าผมหนึ่งปีก็ตาม ทำให้ช่วงหนึ่งมีข่าวซุบซิบว่าเราแอบคบกัน แต่ในความเป็นจริงมันเป็นแค่ความสนิทสนมของเพื่อนเท่านั้น ที่สำคัญดาด้ารู้ว่าผมมีใครบางคนแอบซ่อนไว้ในหัวใจอยู่แล้ว เธอจึงมักจะแซวผมทุกครั้งที่มีโอกาส และครั้งนี้ก็ไม่เว้น
“อ้อ รู้แล้ว เพราะดาด้ามาขัดจังหวะลีโอกับน้องลูกหมูใช่ม้า แต่เด็กอะไรไม่รู้เนอะ น่ารักเป็นบ้า ยิ้มทีละลาย จนอยากขโมยตัวกลับไปนอนกอดที่บ้าน ลีโอมีเด็กแบบนี้อีกสักคนให้ดาด้ามั้ย” แม้ผมจะเขม่นในคำพูดของยัยดาด้า จนต้องหันไปมองตามสายตาของเธอ
ผมจึงได้เห็นคนน่ารักนั่งส่งยิ้มมาให้เราอยู่ไม่ไกล ซึ่งผมเองยังอดเห็นด้วยกับดาด้าไม่ได้ ด้วยเวลาหมูน้อยระบายยิ้มแบบนั้น มันชวนมองจนไม่อยากละสายตา ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่รู้ตัวเลยก็ตามว่าตัวเองมีเสน่ห์มากแค่ไหน ยามที่ระบายยิ้มเช่นนี้
“มีอยู่คนเดียวไม่ยกให้หรอกนะ แล้วก็ให้มันน้อยๆหน่อยดาด้า ตกลงมีอะไรถึงมาหาที่บ้าน โทรศัพท์ก็มีทำไมไม่โทรมาล่ะ” ผมเลือกที่จะดึงความสนใจของดาด้ามาที่จุดประสงค์ของการมาหาผม แทนที่จะปล่อยให้เธอชื่นชมคนของผมต่อไป ซึ่งดาด้าเองก็หันมาย่นหน้าใส่ผมอย่างรู้ทัน
“มองแค่นี้ก็ต้องหวงด้วย ชิ! อย่าให้เผลอนะ ดาด้าจะขโมยหอมสักฟอด” เอาใหญ่แล้วยัยคนนี้
“ดาด้า!...ถ้าไม่คุยธุระก็กลับไปเถอะ เสียเวลาชะมัด” ต้องขู่ครับ ไม่เช่นนั้นยัยดาด้าอาจจะลามปามทำจริงๆขึ้นมาก็ได้ คนของผมผมหวง ไม่อยากให้น้องโดนลวนลามแม้แต่ทางความคิด
“ค่ะๆ ค่า ใครจะกล้าทำจริง เจ้าของหวงซะขนาดนั้น...ดาด้ามาหาลีโอวันนี้ก็เพราะเป็นห่วง ตกลงเรื่องจริงๆมันเป็นยังไงแน่ วง Chic ถึงแตกกระเด็นเซ็นซ่านไปคนละทางขนาดนี้” ดาด้าเปลี่ยนสีหน้าและแววตาขี้เล่นมาเป็นจริงจังขึ้นมาทันที ที่เอ่ยวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการมาหาผม
ผมถอนใจเฮือกใหญ่และจ้องสายตาค้นหาของดาด้านิ่งนาน ก่อนตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง สาเหตุของการโดนพักวงมีกลุ่มคนที่รู้เรื่องจริงๆอยู่ไม่กี่คน มีเจ้าของค่ายเพลงอย่างคุณโจเซฟ พี่ชุนผู้จัดการวง สมาชิกในวง Chic ทั้งสามคน และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมสิ้นคิดของซีอาร์ นอกนั้นไม่มีใครรู้เรื่องจริงๆสักคน แม้แต่คุณพ่อและคุณแม่ผมก็ยังเล่าไม่ละเอียดเท่าที่เล่าให้ดาด้าฟัง ยิ่งกับลูกหมูผมไม่คิดจะเล่า ด้วยไม่อยากให้น้องคิดมากแทนคนว่างงานอย่างผม
เรื่องมีอยู่ว่าหนึ่งในสมาชิกวงอย่างซีอาร์ ดันไปถูกตาต้องใจมาเฟียใหญ่ของฮ่องกงที่มีคนรักอยู่แล้ว แต่นายนั่นกลับคิดอะไรตื้นๆ อย่างการพยายามทำร้ายเพื่อนสนิทของคนรักมาเฟียใหญ่ ด้วยหวังให้คนๆนั้นปวดใจและเจ็บปวดเหมือนความรู้สึกที่ตัวเองโดนปฏิเสธ จากการได้รู้ว่าเพื่อนถูกทำร้ายเพราะโดนข่มขืน แม้ไม่ได้โดนกระทำโดยตรงแต่ก็รับผลกระทบไปเต็มๆ ซึ่งในความเห็นของผม ผมคิดว่าการรับรู้ว่าเพื่อนโดนทำร้ายโดยมีสาเหตุมาจากตัวเรา มันคงเจ็บเสียยิ่งกว่าเราโดนเสียเอง
โชคดีที่ความคิดร้ายๆของซีอาร์ไม่ประสบผลอย่างที่นายนั่นต้องการ เพียงเพราะอเล็กซ์อีกหนึ่งในสมาชิกวงเรา ดันเข้ามาช่วยเธอคนนั้นอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แต่เรื่องมันก็พัวพันและตีกันจนยุ่งเหยิง เมื่ออเล็กซ์ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนทำร้ายเธอคนที่ชื่อนลิน จนอเล็กซ์โดนจับตัวไปและถูกซ้อมให้ยอมรับสารภาพ แต่เรื่องร้ายก็กลายเป็นดี เมื่อแพะอย่างอเล็กซ์เจ็บตัวแลกกับการพบรักแท้ คือคนที่มันช่วยไว้จากแผนของซีอาร์นั่นแหละ
ช่วงนี้อเล็กซ์เองก็อยู่เมืองไทย เพราะว่างงานไม่ต่างจากผม แต่เหตุผลหลักคือตามมาเฝ้าคนของตัวเองที่เรียนจบและต้องกลับมาอยู่บ้านเกิด ซึ่งผมก็ได้ข่าวว่ามันจะจับสาวเจ้าหมั้นหมายอย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้แล้วด้วย
ส่วนคนคิดแผนชั่วร้ายอย่างซีอาร์ เมื่อความจริงเปิดเผยย่อมไม่รอดพ้นจากความผิดที่ตัวเองก่อไว้ คราแรกผมก็นึกว่าทางแก๊งมาเฟียจะจัดการมันขั้นเด็ดขาด ชนิดที่ให้หายสาบสูญไปจากฮ่องกงเสียแล้ว ด้วยผมมีโอกาสได้เห็นบาดแผลของอเล็กซ์ หลังจากเพื่อนถูกปล่อยตัวออกมา ก็ให้เดาว่าซีอาร์คงต้องโดนหนักกว่านั้น ที่ไหนได้ซีอาร์กลับไร้ซึ่งร่องรอยบาดแผล แต่ก็อยู่ในสภาพของคนที่จิตใจโดนทำร้ายอย่างหนัก อยู่ด้วยอาการหวาดกลัวและเอาแต่เก็บตัวเงียบไม่สุงสิงกับใคร
ผมว่าคงเป็นเพราะคุณโจเซฟที่เป็นเพื่อนสนิทของมาเฟียใหญ่เอ่ยขอไว้ มันถึงโดนทางแก๊งลงโทษเท่านั้น แต่บทลงโทษที่นายซีอาร์ได้รับจริงๆจากทางค่าย ก็เหมาะสมกับสิ่งที่นายนั่นได้ทำไว้ล่ะครับ เพราะซีอาร์ถูกฉีกสัญญาทิ้ง และถูกปรับให้ต้องชดใช้ความเสียหายที่ไม่อาจทำผลงานให้กับค่ายเพลงได้ เรียกว่ารายได้จากการทำเพลงที่ผ่านๆมาของมัน ก็แทบไม่พอชดใช้ค่าปรับที่ทางค่ายเรียกร้อง แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นนักร้องดับวูบแบบไม่ต้องคิดจะหวนกลับมาอีกเลย เพราะไม่มีทางที่นายนั่นจะไปเป็นนักร้องให้ค่ายไหนได้อีก ด้วย AJ Music Record ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเพลง หมายหัวใครไว้ก็ไม่มีค่ายไหนรับซีอาร์ไปเป็นนักร้องอีกอย่างแน่นอน
แม้ผมจะนึกเห็นใจซีอาร์อยู่บ้าง แต่พอคิดถึงสิ่งที่เพื่อนร่วมวงทำ ผมก็ได้แต่ปลดปลง เพราะบทลงโทษนั้นเหมาะสมแล้วกับแผนการร้ายๆของซีอาร์ จากแผนชั่วๆของเพื่อนร่วมวงทำให้ผมและอเล็กซ์ได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะทางค่ายสั่งพักงานเป็นการชั่วคราว แต่ก็กำลังเตรียมโปรเจ็คใหม่สำหรับเราทั้งคู่อยู่
ท่ามกลางเรื่องร้ายๆกลับเป็นเรื่องดีๆสำหรับผม เพราะผมได้มีโอกาสกลับบ้านและอยู่ยาวในรอบหลายเดือน ที่สำคัญผมหวังใช้โอกาสนี้เร่งทำคะแนนกับคนที่ผมยกหัวใจไปให้แล้วทั้งดวง และตั้งเป้าหมายไว้แล้วว่าก่อนกลับไปทำงาน ผมต้องได้หัวใจรักของหมูน้อยมาเป็นของตัวเองให้จงได้
สิ่งที่ผมคิดในช่วงท้ายไม่ได้เป็นแค่ความคิดของผมเสียแล้ว เพราะไอ้คนที่ฟังผมเล่าเรื่องราวยุ่งๆในวงมาตลอดอย่างยัยดาด้า กลับยื่นหน้ามากระซิบประโยคความในใจของผมออกมา เหมือนว่าเจ้าตัวได้แอบเข้ามานั่งในหัวของผม
“ถ้างั้น ลีโอก็หวังใช้ช่วงเวลานี้พิชิตใจน้องลูกหมูแสนไร้เดียงสาล่ะสิ ใช่มั้ย ดาด้าก็ว่าดีนะ ขืนปล่อยให้นานไป มีหวังน้องลูกหมูคนน่ารักได้โดนคนอื่นแย่งไปก่อนน่ะสิ” ผมเหลือบตามองเข้าไปในแววตาระยิบระยับส่อแววซุกซนของดาด้านิด ก่อนจะส่ายหัวพลางถอนใจบางเบาอีกหน่อย ให้กับความเจ้าเล่ห์ของแม่นักร้องสาวแสนรู้มาก
ผมลืมนึกถึงภาพความใกล้ชิดระหว่างผมกับเพื่อนคนสนิทไปเลย ด้วยหากคนที่ไม่เข้าใจความรู้สึกที่เรามีให้กันได้เห็นเข้า เขาคนนั้นอาจจะเข้าใจผิดคิดไปไกล ว่าผมกับดาด้ามีความรู้สึกพิเศษต่อกันเกินเพื่อน แต่ผมมารู้ตัวอีกทีก็สายเกินไปเสียแล้ว
“ขะ...ขอโทษครับ คุณป้าแม่บ้านจัดมื้อกลางวันลงโต๊ะแล้ว ลูกหมูแค่อยากมาบอก เพราะไม่อยากให้พี่ลีโอกับพี่ดาด้าทานข้าวผิดเวลา ตะ...แต่ถ้าพี่ลีโอจะคุยธุระกับพี่ดาด้าต่อ ก็ตามสบายนะครับ” หมูน้อยพูดประโยคยาวๆนี้โดยที่ไม่มองหน้าผมสักนิด แถมน้ำเสียงที่ใช้ก็ตะกุกตะกักขาดความมั่นใจอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญพอจบประโยคดันไม่อยู่รอคำตอบ แต่น้องเลือกที่จะหมุนรถเข็นและไสออกไปด้วยตัวเอง
“อุ๊ย! น้องเข้าใจเราผิดแน่ๆเลยลีโอ” ดาด้ามีสีหน้าตกใจไม่แพ้น้ำเสียงที่ผมได้ยิน
ไม่ต้องรอดาด้าบอกหรอกครับ ผมรู้ตั้งแต่จับสังเกตน้องได้แล้ว แถมแววตาน้อยใจผสมเศร้าสร้อยที่ผมแอบเห็นชั่วแวบนั่นอีก หมูน้อยเข้าใจผมผิดเสียแล้ว
ผมรีบสาวเท้าตามรถเข็นก่อนจะยึดมันไว้ ทำให้หมูน้อยตกใจและเงยหน้าขึ้นมามอง เมื่อน้องเห็นว่าเป็นผมก็ก้มหน้าหนี ด้วยใบหน้าซีดเซียวแววตาสั่นๆเหมือนคนน้อยใจเต็มขั้น แต่พยายามอดกลั้นไม่ให้ผมได้รู้ อาการน้องทำเอาผมใจหาย ด้วยใจจริงไม่อยากให้มีอะไรกระทบกระเทือนความรู้สึกของน้องเลย ผมวางมือลงบนกลุ่มผมนุ่ม ก่อนเอ่ยข้อความต่อไป
“ขอโทษที่ปล่อยให้ลูกหมูอยู่คนเดียวเสียนาน พี่นี่ใช้ไม่ได้เลยที่มัวแต่คุยเรื่องงานกับดาด้า แต่ตอนนี้พี่หมดธุระกับดาด้าแล้วครับ เราไปทานข้าวกันเถอะ ดีมั้ย” ก่อนผมจะเอ่ยจบประโยค ดวงตาคู่เรียวที่มีแววเศร้าจางๆก็เงยขึ้นมาสบตาด้วย
เมื่อผมส่งยิ้มพร้อมเอ่ยชวนน้องไปทานข้าว หวังให้ความเศร้าสร้อยนั้นจางหายไป แต่ผลคือน้องก้มหลบตาผมเช่นเดิม จนผมเริ่มทำตัวไม่ถูกไม่รู้จะพูดแก้ความเข้าใจผิดของน้องอย่างไร
“นั่นสิจ๊ะ ทานข้าวกันเถอะ พี่ดาด้าหิวม้ากมาก ต้องขอบใจน้องลูกหมูนะที่เข้ามาชวน ไม่งั้นพี่คงเป็นลมไปซะก่อน ลีโอน่ะชวนคุยอะไรก็ไม่รู้เครียดมาก แถมคุยเรื่องงานทีไรกินพลังงานในตัวพี่แทบหมดตัวทุกครั้งเลย” งานนี้คงต้องขอบใจดาด้าที่เข้ามาช่วยกู้ชีวิตรักของผม
ทันทีที่ดาด้าเข้ามาย้ำว่าเราคุยกันเรื่องงาน หมูน้อยของผมก็เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง และอมยิ้มน้อยๆไปกับคำพูดเกินจริงของเธอ แต่กลับเป็นผลดีแก่ผม ด้วยน้องหันมามองผมอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่มุมปากก็พยายามยกยิ้มอย่างน่าเอ็นดู น้องคงกลัวโดนผมโกรธล่ะมั้งนะ ก่อนหมูน้อยจะเอ่ยชวนเราสองคนไปทานข้าวอีกครั้ง
“ถ้างั้นเชิญพี่ดาด้าที่ห้องอาหารเลยครับ พี่ลีโอทานข้าวกันนะครับ” เจ้าตัวจะรู้มั้ยว่าเพียงแค่รอยยิ้มและเสียงนุ่มๆแสนอาทรนี้ ทำให้ผมยอมจำนนและเชื่อฟังน้องอย่างง่ายดายแล้ว
..................................................
โปรดติดตามตอนต่อไป^^‘เด็กดี’ คนนี้ช่างน่าเอ็นดูซะจริงเนอะ อ๊ายยย อยากหอมสักฟอด
ส่วนไอ้ผู้ชายขี้หวงแสนเอาแต่ใจก็น่าหมั่นไส้เหมือนเดิม แต่ดีขึ้นหน่อย
ที่พยายามปรับตัวและทำตัวชัดเจนขึ้น
ตอนนี้เปิดตัวละครใหม่ด้วย ดาด้าจะมาสร้างสีสันให้คู่นี้ค่ะ
ซึ่งถ้าไม่ได้ดาด้า ลีโอคงจ๋อยไปอีกนาน รู้งี้ปล่อยให้จ๋อยซะก็ดีเนอะ
ใครเป็น FC ปูนคงยิ่งหมั่นไส้ลีโอมากยิ่งขึ้นแน่ๆ แต่ไม่ต้องห่วงปูนเสียใจไม่นานหรอกค่ะ
ติดตามตอนต่อไปได้ในวันพุธนะคะ+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
ปล.3เม้นท์ต่อจากนี้รอการติดต่อกลับเพื่อรับ magnet ค่ะ(ของดให้กับผู้ที่ได้รับไปแล้วนะคะ)