ข่ม ขืน ฝืน รัก
ตอนที่19
มินนั่งครุ่นคิดถึงสิ่งที่อาคมพูดถึงในเมื่อวานตอนค่ำ เขายังคิดถึงเรื่องนี้ไม่ตก เขาอยากจะรู้ว่าทุกอย่างมันเกิดอะไรขึ้น ในเมื่อเขาลงมาเล่นในเกมส์นี้แล้ว เขาต้องรู้ทุกเรื่องราวมากกว่านี้ เขาจะไม่ยอมเป็นแค่เบี้ย แต่เขาจะต้องเป็นผู้เดินเกมส์คนหนึ่งเหมือนกัน
“คุณเหม่อไปถึงไหนแล้ว”
ครามสวมกอดมินจากด้านหลังและกระซิบข้างหู มินเอียงหน้ามองอีกฝ่ายพร้อมยิ้มบางๆ
“เปล่า ไม่มีอะไร”
“แต่ผมเห็นคุณเหม่อนะ” ครามกระชับกอดแน่นขึ้น
“ฉันบอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไรสิ”
“ผมรู้ว่าคุณคิดมากเรื่องเมื่อวาน แต่ผมไม่อยากให้คุณคิดมาก” ครามพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงมิน มินยิ้มหวานตอบอีกฝ่ายก่อนจะหันหน้ามาพูดกับคราม
“ฉันไม่คิดมากหรอก” มินพูดด้วยรอยยิ้มก่อนจะเขย่งจุ๊บริมฝีปากอีกฝ่ายเบาๆ
“ตั้งใจทำงานนะครับ”
ครามยิ้มรับกับท่าทีของอีกฝ่ายพร้อมจูบศีรษะมินและเดินออกจากห้องไปทำงาน
มินนั่งลงบนเตียงมองน้องซันที่เพิ่งตื่น มินช้อนตัวทารกน้อยมาแนบอกก่อนจะก้มลงไปพูดกับทารกน้อยเบาๆ
“เราไปหาคุณตากันดีกว่า” มินพูดจบแล้วมองไปที่หน้าต่าง เขาจะต้องรู้เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ได้
“คุณหนูมิน” แสงเรียกอีกฝ่ายด้วยความดีใจที่ไม่เจออีกฝ่ายมาพอสมควร
“สวัสดีครับป้าแสง” มินพูดพร้อมยิ้มอย่างจริงใจ
“ไหน ป้าขอดูคุณซันหน่อยสิคะ” แสงเดินเข้ามาใกล้มินพร้อมยื่นมือไปอุ้มทารกน้อยในอ้อมขาของมิน
มินยื่นทารกน้อยให้แสงและมองไปที่บันไดชั้นบน
“ป้าแสงครับ คุณพ่ออยู่หรือเปล่า”
“คุณท่านอยู่คะ คุณซันนี่หน้าเหมือนคุณมินตอนเล็กๆเลยนะคะ แต่บางมุมก็แอบเหมือนคนบ้านนู้นเหมือนกัน”
คำพูดของแสงทำให้มินหันมาสนใจ
“ป้าแสงว่าน้องซันมุมไหนที่เหมือนคนบ้านนู้นบ้าง”
“ก็ซันมีดวงตาเหมือนพ่อเขานะคะ ดวงตาสองชั้นแต่รียาว และดูดุ ไม่เหมือนคุณมินที่ดวงตากลมโต” แสงพูดพร้อมก้มลงไปสำรวจทารกน้อย
คำพูดของแสงทำให้มินคิด น้องซันหน้าเหมือนนายครามเหรอ เขาสะบัดความคิดนั้นทิ้งก่อนจะหันไปสนใจเรื่องที่เขาต้องการคำตอบ
“เด็กเดี๋ยวหน้าก็เปลี่ยนอีก รอให้โตกว่านี้ดีกว่า” มินพูดยิ้มๆก่อนจะพูดต่อ “งั้นมินฝากน้องซันแปปนะครับ มินขอตัวไปคุยธุระกับคุณพ่อก่อน”
“ได้คะคุณมิน” แสงยิ้มรับอีกฝ่ายและพาทารกน้อยไปนั่งในห้องนั่งเล่น
มินเดินขึ้นบันไดมาชั้นสองและเดินไปที่หน้าห้องทำงานของผู้เป็นพ่อ
“ก็อกๆ”
“ใคร” เสียงเข้มดังขึ้น
“มินเองครับพ่อ” มินพูดจบไม่นานอีกฝ่ายก็มาเปิดประตูให้
มินเข้ามาในห้อง อีกฝ่ายก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน
“มินจะมาทำไมไม่บอกพ่อก่อน พ่อจะได้ปรับ”
“มินมีธุระด่วนจะคุยกับพ่อครับ”
“แล้วนี่พาตาหนูมาด้วยหรือเปล่า”
“พามาครับ อยู่กับป้าแสงด้านล่าง” มินพูดจบนั่งลงบนโซฟาตัวยาวรับแขก
“มินมีอะไรจะคุยกับพ่อหรือเปล่า” มิ่งภพสังเกตท่าทีของลูกชายแล้วพอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายต้องมีธุระสำคัญ ถึงได้มาโดยไม่บอกแบบนี้
“มินอยากรู้เรื่องของพ่อและนายอาคม”
มิ่งภพรู้ได้ถึงสรรพนามที่เปลี่ยนไป เขาไปนั่งลงตรงข้ามลูกและถามขึ้น
“ทำไมมินเรียกอาคมว่างั้น”
มินเบ้ปากเล็กน้อยก่อนจะตอบผู้เป็นพ่อ
“มินไม่อยากจะนับถือคนแบบนั้น คนที่ดูถูกแม่มิน” มินพูดจบมิ่งภพขมวดคิ้วทันที
“มินรู้อะไรมา”
“นายอาคมบอกว่าแม่แย่งพ่อมาจากคู่หมั้น”
“อาคมบอกลูกแบบนั้นเหรอ” มิ่งภพเสียงเริ่มนิ่งและชะงัก หน้าตาที่ดูสดใสเริ่มตึงเครียด
“ใช่ มินอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้”
“แต่เรื่องมันนานมาแล้ว” มิ่งภพเสียงเริ่มเข้มขึ้น มินเห็นท่าทีของผู้เป็นพ่อแล้วกดเสียงต่ำลงผู้อย่างช้าๆ
“แต่มินต้องรู้ และพ่อต้องบอกมิน!”
“มินอย่ามาทำเสียงแบบนี้กับพ่อนะ !!” มิ่งภพขึ้นเสียงดังเมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่าย
“งั้นพ่อก็บอกมินสิ หยุดปิดบัง เรื่องที่เกิดขึ้นพ่อต้องบอกมิน เพราะมินไม่อยากให้อาคมมากดมินด้วยเรื่องนี้อีก” มินพูดด้วยน้ำเสียงปกติและควบคุมอารมณ์ของตัวเอง เขาเครียดเกี่ยวกับเรื่องนี้เกินไป
“ก็ได้ พ่อจะบอกมิน” มิ่งภพอ่อนลงและมองหน้าลูกชายของตัวเอง อีกฝ่ายคงโดนอาคมเล่นสงครามประสาทมาสินะ
“งั้นพ่อเล่ามาสิว่าที่นายอาคมพูดมาหมายความว่าไง”
“แม่มินไม่ได้แย่งพ่อมาจากคู่หมั้นหรอก แต่พ่อเต็มใจและรักแม่ของมิน และยอมยกเลิกงานแต่งงานเอง”
“คู่หมั้นที่ว่าคือนายอาคมใช่ไหม” มินถามด้วยความอยากรู้ เขาคาใจเรื่องนี้มาก
มิ่งภพชะงักไปเล็กน้อยกับคำถามของอีกฝ่าย ก่อนจะยอมตอบแต่โดยดี
“ใช่ อาคมเคยเป็นคู่หมั้นของพ่อ”
คำตองของผู้เป็นพ่อทำให้มินกระตุกยิ้มทันที เขาเดาไว้แล้วไม่ผิด
“แปลว่าอาคมเคยเป็นอ้อยมาก่อน” มินเบ้ปากพร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ
“ยังไงก็เถอะ พ่อบอกในสิ่งที่มินสงสัยแล้ว พ่อขอตัวไปหาตาหนู” มิ่งภพรีบเลี่ยงออกทันทีเพราะกลัวว่าลูกชายคนเล็กจะซักไซ้เขามากกว่านี้
“เดี๋ยว มินยังมีในสิ่งที่มินสงสัย” มินรีบดักพ่อไว้
“อะไรอีก”
“พ่อยอมเป็นคู่หมั้นกับนายอาคมทำไมทั้งๆที่พ่อไม่ได้รัก”
“พ่อขัดคุณปู่ไม่ได้”
“ไม่จริง มินรู้จักพ่อดี คนอย่างพ่อถ้าไม่ยอมก็คือไม่ยอม แล้วทำไมพ่อถึงยอมเป็นคู่หมั้นละ ยอมหมั้นก่อนเพื่อรอแต่ง” มินเดาเรื่องราวไปเรื่อยเพื่อจี้จุดให้อีกฝ่ายพูดออกมา
มิ่งภพถอนหายใจและมองหน้าลูกชาย
“เมื่อก่อนพ่อยังไม่เจอแม่ คุณปู่จะให้พ่อหมั้นพ่อก็ไม่ยอม เพราะเมื่อก่อนพ่อเจ้าชู้ ไม่อยากมีพันธะ แต่พ่อต้องมาหมั้นกับอาคมเพราะพ่อเมา และเกิดพลาดท่าไปมีอะไรกับอาคม คุณปู่จับได้เลยต้องหมั้น พ่อก็ต้องยอมเพราะไม่อยากให้พ่อเสียเพื่อนกับพ่อของอาคม”
มิ่งถภพพูดจบมินเบิกตาตกใจ นี่มันซับซ้อนกว่าที่เขาคิดไว้ซะอีก
“แปลว่าพ่อต้องหมั้นเพราะรับผิดชอบ แต่ไม่ได้เพราะรัก”
“จะพูดว่าอย่างงั้นก็ใช่ พอพ่อหมั้นพ่อก็เลิกเจ้าชู้และพยายามที่จะดีกับอาคม”
“แล้วพ่อมาเจอแม่ตอนไหน”
“พ่อมาเจอแม่เพราะ แม่เป็นเพื่อนกับอาคม พ่อไม่เคยเจอแม่มาก่อน และได้มาเจอกันตอนจะใกล้จบมหาวิทยาลัยแล้ว”
มิ่งภพพูดจบมินยกยิ้มทันที
“พ่อก็เลยยอมยกเลิกงานแต่งมาหาแม่ เพราะเจอแม่”
“ใช่ แม่เป็นผู้หญิงที่พ่อรัก เห็นครั้งแรกก็ตกหลุมรัก พ่อตกหลุมรักในความเรียบร้อย อ่อนหวาน และสู้ชีวิตของแม่ พ่อไม่เคยเจอแม่เลยแม้เป็นเพื่อนกับอาคมก็เพราะแม่ต้องรีบกลับบ้านไปช่วยงานที่บ้าน พ่อพยายามทำความรู้จักกับแม่ ยิ่งได้รู้จักก็ยิ่งรัก แม้จะรู้ว่ามันจะผิดต่ออาคมก็ตาม”
พ่อพูดจบมินคิดตาม อาคมจะพูดว่าแม่มินแย่งก็ไม่แปลก แต่เรื่องความรักมันห้ามกันได้ที่ไหน
“ว่าทำไมละ อาคมถึงแค้นครอบครัวเรานัก”
“ใช่ พ่อยอมรับว่าพ่อผิด พ่อผิดที่ทำกับอาคม แค่จะให้พ่อทำไงในเมื่อพ่อรักแม่” พ่อพูดด้วยน้ำเสียงสลดลง
มินจับมือผู้เป็นพ่อย่างปลอบใจและพูดขึ้น
“พ่ออย่าคิดมากเลย ถ้าจะมีคนผิดก็ต้องนายอาคมที่ยังแค้นไม่เลิก ไม่ยอมหยุดสักที”
มินพูดปลอบพ่อและแอบมีแววตาแข็งกร้าว
“มินก็อย่าไปเดินตามเกมส์ของอาคม ไม่งั้นเรื่องนี้ก็จะไม่มีวันจบ”
“หึ มินอยู่เฉยๆไม่ได้หรอกครับ มินจะไม่ยอมเป็นฝ่ายแพ้”
“แต่....”
“มินขอตัวแล้วกันครับ น้องซันคงจะหิวนมแล้ว” มินเบี่ยงประเด็นและลุกขึ้นยืนทันที
มิ่งภพมองลูกชายที่เดินออกไปด้วยแววตาเป็นห่วง เขาไม่อยากให้ลูกชายเสี่ยงกับอาคม
มินอุ้มน้องซันเข้ามาในบ้านสุริยะทิพย์ในตอนค่ำ เขากินข้าวเย็นจากบ้านมาเรียบร้อย ระหว่างทางเดินขึ้นห้อง มินเจออาคมยืนอยู่ที่ทางขึ้นบันได มินหยุดชะงักและมองอีกฝ่าย
“ไปไหนกันมา” อาคมถามเสียงนิ่ง มินยิ้มเล็กน้อยให้อีกฝ่ายก่อนตอบ
“ไปบ้านมาครับ”
“พาลูกออกไปข้างนอกได้ไง ลูกเพิ่งจะเดือนกว่าๆเอง”
“มินอยากพาลูกออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง”
“ถ้าหลานฉันไม่สบายขึ้นมาฉันจะเอาเรื่องเธอ” อาคมเดินเข้ามาใกล้มินมากขึ้น มินเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว
“มินเป็นแม่ มินไม่มีวันทำร้ายลูกตัวเองหรอก”
“ก็ดี ดูเหมือนเธอจะภูมิใจกับการได้เป็นแม่จริงๆเลยนะ”
“แน่นอนครับ คุณพ่ออยากลองเป็นแม่ดูบ้างไหม ” มินกระตุกไหล่ให้อีกฝ่ายก่อนจะยิ้มหวาน
“หึ ฉันอาจจะเคยได้เป็นแล้วก็ได้” อาคมพูดออกมาพร้อมจ้องหน้ามิน ในแววตาอาคมมีแววเจ็บปวดอยู่แค่แปปเดียว แปปเดียวเท่านั้น
“หมายความว่าไง” มินขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ” อาคมกระตุกยิ้มก่อนจะเอื้อมมือจะอุ้มน้องซัน
“มินขอตัวนะครับ น้องซันคงง่วงแล้ว”
มินเลี่ยงออกมาไม่ให้อาคมอุ้มน้องซันและเดินขึ้นห้องไปทันที โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะมีสีหน้าไม่พอใจ
“ลูกหลับแล้วเหรอมิน” ครามที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำถามมินขึ้น
“ใช่ครับ”
ครามกลับบ้านดึกบ่อยในช่วงนี้เพราะงานหนัก เขากลับลูกเกือบจะหลับทุกครั้งที่ครามกลับมา
“ฟอด !!” ครามสวมกอดมินจากด้านหลังและหอมแก้มมินเบาๆ
“อะไรของคุณ ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า” มินขืนตัวเล็กน้ยเมื่ออีกฝ่ายสวมกอดแน่นในสภาพเกือบเปลือย
“ผมคิดถึงคุณ” ครามพูดพร้อมซุกลงที่ซอกคออีกฝ่าย
“เราก็เจอกันทุกวัน” มินพอจะรุ้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร
“แต่ผมก็คิดถึงคุณอยู่ดี” ครามหมุนตัวให้อีกฝ่ายมาประจันหน้ากัน ก่อนจะจูบมินเบาๆ
มินยืนนิ่งไม่มีท่าทีขัดขืนก่อนจะโอบคออีกฝ่าย
ครามจูบเบาๆและค่อยร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ดูดดื่มร้อนแรงมากขึ้นจนมินต้องกระชับอีกฝ่ายแน่น
ระหว่างนั้นมินมองไปที่หน้าต่าง และบังเอิญสบตากับคิมที่ยืนมองคนทั้งสองกอดจูบกันอย่างดูดดื่ม
ระหว่างนั้นครามก็อุ้มมินขึ้นและรีบพามินไปที่เตียง
และคืนอันเร้าร้อนก็เกิดขึ้นเกือบทั้งคืนสมกับความคิดถึงของคราม
___________________________________________________________________________________
มาต่อให้แล้วครับ อะไรหลายๆอย่างเริ่มเปิดเผย ปมทุกๆอย่างค่อยๆเปิด
ขอชี้แจงเรื่องชื่อของอาคมนิดนึงนะครับ เป็นความผิดพลาดของคนเขียนเองที่อาจตั้งชื่อให้คนอ่านสับสน
อาคมชื่อ นายอาคม สุริยะทิพย์ ชื่อเล่นว่าคม ช่วงแรกๆมินจะเรียกว่าอาคม หมายถึงอาที่ชื่อคม
ส่วนมิ่งภพเรียกอาคม คือชื่อจริงนั้นเอง อาจทำให้ใครสับสนก็ขอโทษด้วยครับ
มีอะไรติชมได้ครับ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ