@@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30  (อ่าน 434322 ครั้ง)

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ไม่ใช่เมียก็เหมือนเมีย แค่อยากได้กำลังใจ คนปลอบใจ คนอยู่ข้างๆใช่ไหมเฮีย มีกันแค่นี้ก็น่าจะรักกัน ช่วยกันสิเฮีย เดียวทุกอย่างจะดีขึ้นเองแหละ

ออฟไลน์ windel

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ป่ะ กลับบ้านเรากัน   :hao5:

โอย อบอุ๊นอบอุ่นอ่ะ  ดีกับพัฒน์มากๆนะพี่บัส อย่าวีนบ่อยๆ

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
ว่าจะไม่เข้ามาอ่าน อดใจไม่ไหว อ่านถึงตอนท้าย น้ำตาไหลพราก  :hao5:

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย)  ตอน ผมเกลียดช่างนัย


เมื่อเต๋ออยู่อนุบาล2

“นัย  ขากลับพาไอ้เต๋อกลับมาด้วยนะวันนี้ป้าไม่ว่างไปรับ”

เด็กชายวินัยชั้น ป.6 หัวเกรียน และใส่ชุดลูกเสือหิ้วกระเป๋านักเรียนใบใหญ่ โดยมีเด็กชายเต๋ออนุบาลสองเดินตามไปโรงเรียนพร้อมกัน

เมื่อเต๋ออยู่ป.3

“นัย  ขากลับพาไอ้เต๋อกลับมาด้วยนะวันนี้ป้าไม่ว่างไปรับ”

นายวินัยนักเรียนชั้นม.3  หัวเกรียน และใส่ชุดลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ไม่ได้หิ้วกระเป๋าใบใหญ่แต่ถือสมุดสองสามเล่มไปโรงเรียน โดยมีเด็กชายเต๋อวิ่งตาม

เมื่อเต๋ออยู่ม.5

“นัย  ฝากไปรับไอ้เต๋อมันหน่อยนะ มอร์เตอร์ไซด์มันเสีย  เดี๋ยวมันไปซ้อนเพื่อนมันอีก แขนได้หักอีกรอบคราวที่แล้วมันซิ่งซะ คว่ำไปรอบหนึ่งแล้ว  ถ้าไม่ห้ามคราวนี้ท่าจะเอาให้หนักกว่าเดิม”

วินัยที่เพิ่งปลดประจำการหลังการเกณฑ์ทหารขี่มอร์เตอร์ไซด์จากอู่ไปรับเต๋อที่โรงเรียนหลังเลิกเรียนตามที่แม่ของเต๋อขอให้ช่วย

เมื่อเต๋ออยู่ปี 4

“นัย  ฝากเอารายงานไปให้ไอ้เต๋อมันหน่อย  เห็นมันว่าต้องส่งวันนี้ ไม่งั้นไม่ผ่าน”

ช่างวินัยชายหนุ่มร่างกายกำยำในวัยสามสิบกว่า ขับรถจากอู่ไปพร้อมรายงานหนึ่งเล่มที่แม่ของเต๋อขอร้องให้ช่วยเอาไปให้ลูกชาย  และเต๋อก็ยืนรออย่างใจจดใจจ่อ  และเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนเอารายงานมาให้ก็หน้าหงิกหน้างอทันที

“แม่ล่ะ ไหนว่าแม่จะเอามาให้เอง”

เต๋อรับรายงานไปแล้ว   และถามช่างวินัยโดยไม่มีการขอบคุณสักคำ

“ป้าให้เอามาให้มึง  กูก็เลยเอามา  จะใช้ไม่ใช่เหรอ”

ใช่
ต้องใช้  แต่ก็ไม่ได้อยากให้ช่างนัยเอามาให้หรอกนะ

“แล้วทำไมต้องให้ช่างนัยเอามาให้”

ยังคงถามไปเรื่อย  และช่างวินัยก็ถอนหายใจยาว ๆก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถและไม่สนใจจะตอบคำถามของเต๋อไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม

“ไปถามแม่มึงเอาเองไอ้เต๋อ  กูไม่รู้”

ช่างวินัยปฏิเสธที่จะคุย และเต๋อก็มองหน้าของช่างวินัยด้วยความหงุดหงิดไม่พอใจ

“ก็บอกไปสิว่าไม่อยากมา”

ก็ไม่ได้อยากมานักหรอก แต่ที่มาเพราะจำใจ

“โต ๆกันแล้วไม่ต้องเสือกมาปัญญาอ่อนใส่กูหรอกไอ้ห่าเต๋อ”

โดนช่างวินัยด่าและเต๋อก็หน้าหงิกขึ้นมาทันที  เดินหงุดหงิดกระฟัดกระเฟียดเข้ามหาวิทยาลัยไปแล้วโดยมีช่างวินัยมองตามและถอนหายใจออกมายาวๆ ด้วยความกลุ้ม  ผ่านไปหลายปีแล้ว  แต่เต๋อก็ยังไม่เคยลืมเรื่องแย่ ๆที่ช่างวินัยเคยทำเมื่อสมัยวัยรุ่น

“จะเคืองอะไรกูนักหนา  แค่เรื่องแกล้งถอดกางเกงมึงตอนเด็ก ๆ จะเอามาโกรธข้ามชาติเลยหรือไงวะ”

ช่างวินัยถึงกับส่ายหัว  แต่เต๋อยังแค้นใจไม่หาย และเอามาเป็นเรื่องโกรธช่างวินัยทุกครั้งที่เห็นหน้า
และแม้จะผ่านมาหลายปีแล้ว  แต่เต๋อก็ไม่เคยลืมเรื่องที่น่าอับอายที่ช่างวินัย  แกล้งเต๋อเอาไว้ได้สักที


TBC.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-01-2015 20:16:44 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
คู่นี้เขารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เหมือนเลี้ยงต้อยเลยพี่นัย

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน อยากอยู่ด้วยกันตลอดไป

การลอยกระทงเป็นเรื่องไร้สาระ
โตป่านนี้แล้วใครที่ไหนจะไปลอยกระทงก็ไปเถอะ  แต่บารมีไม่ไป
 
“เฮียไปลอยกระทงที่ไหนวันนี้”
 
ช่างวินัยถามไปตามมารยาท  และบารมีก็ตอบไปตามมารยาท
 
“แถว  ๆ นี้แหละ”
 
ตอบส่งๆ ไปและช่างวินัยก็พยักหน้ารับ และยังวุ่นวายอยู่กับการเช็คสภาพรถ
 
“แล้วช่างนัยไม่ไปไหนเหรอวันนี้”
 
เอ่ยถามไปตามมารยาทเหมือนกันและช่างวินัยก็ส่ายหน้า
 
“พวกหน้าปากซอยชวนกินเหล้าอยู่  แต่ไม่ไหว แก่แล้ว กินมาก ๆ เดี๋ยวตับพังหมด ไม่อยากลำบากตอนแก่ กลัวไม่มีใครดูแล”
 
ช่างวินัยกำลังวุ่นวายกับงานที่ต้องเร่งมือให้เสร็จเพื่อให้ทันส่งรถตามนัดและบารมีก็ยืนมองอยู่ห่าง ๆ
 
“เฮียไม่พาพิพัฒน์ไปลอยกระทงมั่ง เห็นนั่งจ๋อย ๆ ทั้งวัน  พวกที่เตะตะกร้อด้วยกันก็มีคู่ไปลอยกันหมด  ไอ้เต๋อนี่หนักกว่าเพื่อน  ของมันต้องสลับกันหลายคนไปลอย  ไอ้นี่มันร้ายกาจจริง ๆ”
 
ช่างวินัยเล่าเรื่องบางอย่างให้กับบารมีฟังและช่างวินัยก็หัวเราะเสียงเบาเมื่อนึกไปถึงไอ้เด็กที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม และไม่ว่าจะมองเมื่อไหร่ช่างวินัยก็ยังเห็นเต๋อเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ   เผลอแป๊บเดียวไม่ทันไรไอ้เต๋อมันจะมีเมียแล้ว  นึกไปถึงสมัยเดินไปโรงเรียนตอนเด็ก ๆแล้วไอ้เต๋อเดินตามต้อยๆ  ก็ยังอดขำไม่ได้
 
“ปล่อยมัน วัยอย่างมันนี่กำลังได้ที่เลย  ดีที่ยังรู้จักรับผิดชอบงานบ้าง  อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ พอทำได้มันก็ยังหยิบจับอยู่  ไม่ทำตัวให้แม่มันหนักใจก็ถือว่าใช้ได้”
 
บารมีคุยกับช่างวินัยไปเรื่อย และหันไปมองคนที่นั่งเล่นอยู่ในออฟฟิศ
 
“สองทุ่มทันมั้ย ลูกค้ามารับรถตอนนั้น”
 
ช่างวินัยปิดกระโปรงรถเรียบร้อยและโยนอุปกรณ์ทั้งหมดใส่ลงไปในกล่องเก็บอุปกรณ์
 
“เสร็จแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว เช็คครบหมดทุกอย่าง”
 
งานของวันนี้เสร็จเรียบร้อย แค่รอลูกค้ามารับรถเท่านั้น
 
“ขอบใจมากช่างนัย วันนี้ก็พอแค่นี้แล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่”
 
ช่างวินัยพนักหน้ารับและเดินไปจัดการล้างมือและเตรียมตัวกลับบ้าน
 
“นัย นัย  เอาใบตองกับดอกไม้ไปให้ไอ้เต๋อมันหน่อย  เมื่อเช้าดอกไม้กับใบตองที่เอาไปทำมันไม่พอ   กลุ่มมันช่วยกันทำกระทงประกวดกับจังหวัด  เอาไปส่งให้มันหน่อยนะ เดี๋ยวมันจะไม่ทัน”
 
แม่ของเต๋อ เดินลัดมาที่อู่  และช่างวินัยก็รับถุงใส่ใบตองและดอกไม้มาถือเอาไว้
 
“วานหน่อยนะ น้าเข้าไม่ถึง  คนเยอะเดี๋ยวจะหลง”
 
“โทรบอกมันหรือยังว่าผมจะเอาไปให้”
 
ช่างวินัยเอ่ยถามเพราะไม่อยากมีปัญหาภายหลังและแม่ของเต๋อก็พยักหน้ารับ ช่างวินัยถึงเดินไปขึ้นรถกระบะเก่า ๆ ที่ใช้อยู่ประจำและขับออกไป
 
“บัสไม่ไปไหนเหรอวันนี้”
 
แม่ของเต๋อหันมาชวนบารมีคุยและบารมีก็ส่ายหน้า
 
“ผมไม่ไปไหนหรอก กลับบ้านนอนดีกว่า นี่อยู่ส่งรถก่อน นัดลูกค้าไว้สองทุ่ม”
 
ตอบแม่ของเต๋อไปเรียบร้อยและแม่ของเต๋อก็มองไปทางออฟฟิศ
 
“เจ้านั้นหายดีแล้วเหรอ เห็นวันก่อนไม่ค่อยสบาย นอนซมอยู่คนเดียว บอกให้ไปนอนที่บ้านก่อนก็ไม่ไป   น่าสงสาร”
 
บารมีมองตามไปที่พิพัฒน์ที่กำลังตั้งใจทำงาน  แล้วก็พยักหน้ารับ

“ก็ดีขึ้นแล้ว”

บารมีคุยกับแม่ของเต๋อไปเรื่อยระหว่างรอลูกค้ามารับรถ

“ตอนแรกพอรู้ว่าเป็นผัวเก่าอีปา  ก็ไม่อยากจะไว้ใจ พี่น้องทางเราเขาก็มองอยู่ตลอดนะบัส  ว่าจะยังไง  แต่อยู่ไปอยู่มาเจ้านี้เขาก็เข้าท่าอยู่นะ  ใครว่าอะไรใครพูดอะไร  ไม่เห็นเคยโกรธเคือง เห็นยิ้มเป็นอยู่อย่างเดียว ท่าทางจะพูดไม่ค่อยเป็น  ว่าง ๆ ก็บอกให้แวะไปนั่งเล่นที่บ้านได้นะ  มีขนมมีอะไรก็จะได้แบ่งกันกิน”

บารมีพยักหน้ารับ และเข้าใจสิ่งที่แม่ของเต๋อพูดทุกอย่าง  พิพัฒน์เป็นแบบนั้นจริง ๆ ถ้าไม่สนิทกันจริง ๆ ก็แทบจะไม่ค่อย ขนาดอยู่ด้วยกันทุกวัน  นาน ๆ ถึงจะได้คุยกันที

แต่น่าแปลก เวลาพิพัฒน์อยู่กับไอ้เต๋อทำไมถึงได้คุยกันได้คุยกันดี  คิดแล้วชักเริ่มโมโหขึ้นมาอีกแล้ว
 
“มันคงติดเกรงใจแหละ   เดี๋ยวผมไปออกบิลก่อน  ลูกค้ามาจะได้เอารถไปเลย”
 
บารมีเตรียมจัดการงานของตัวเองให้เสร็จเรียบร้อยและเดินไปหาพิพัฒน์ที่เริ่มซบหน้าลงกับหมอนอิงที่วางอยู่บนโต๊ะอีกแล้ว
 
และเมื่อประตูถูกเปิดออกพิพัฒน์ก็หันไปมองบารมีที่เดินเข้ามาหยิบบิลเงินสดเพื่อเขียนจำนวนเงินและรายการซ่อมลงไป
 
“เขียนให้”
 
พิพัฒน์ดึงบิลมาเขียนเองและบารมีก็ส่งบิลให้พิพัฒน์เขียน
 
“ออกตามรายการพวกนี้นะ”
 
ส่งรายการอะไหล่ที่ใช้ซ่อมและค่าแรงให้พิพัฒน์และบารมีก็เอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้และยืดแขนออกจนสุด เอียงไปทางซ้ายและขวาเพื่อคลายจากอาการเมื่อยล้า
 
บิลเงินสดเขียนเสร็จแล้ว และพิพัฒน์ก็ส่งให้บารมีเซ็นชื่อกำกับและฉีกเอกสารแยกเอาไว้เพื่อรอลูกค้ามารับรถ
 
ทุกวันบารมีจะมีเรื่องบ่นและพูดไม่หยุด  แต่วันนี้บารมีเงียบจนผิดปกติและพิพัฒน์ก็พอรู้ว่าเพราะอะไรบารมีถึงไม่พูดคุยด้วยเหมือนทุกวัน
 
พิพัฒน์เอนหน้าลงไปซบกับหมอนอิงและมองอะไรไปเรื่อยเปื่อยเพื่อรอเวลากลับบ้าน
และบารมีก็เอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ในท่าสบาย ๆนั่งคิดอะไรไปเรื่อยๆ โดยมีพิพัฒน์นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
 
ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
บารมีจมอยู่กับความคิดของตัวเองและพิพัฒน์ก็หลับตาลงอย่างช้า ๆ
 
“..................”
“..................”
 
ต่างคนต่างเงียบ แต่ไม่ได้รู้สึกแย่หรืออึดอัดใจเลยสักนิด
 
บางครั้งการที่ไม่ต้องพูดอะไรกันให้มากความ  ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
 
ลูกค้ามารับรถก่อนเวลา และบารมีก็ลุกขึ้นเดินออกจากออฟฟิศไปหาลูกค้า
พิพัฒน์มองตามและก็เห็นบารมีเดินไปคุยกับลูกค้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
 
ท่าทางอย่างนั้นคงจะคุยกันอีกพักใหญ่  พิพัฒน์สามารถหลับรอได้เลย
 
หลับไปพักใหญ่  พิพัฒน์มารู้สึกตัวอีกทีตอนที่ได้ยินเสียงเปิดประตูออฟฟิศและบารมีก็เดินเข้ามาหา
 
“ป่ะ  กลับบ้าน”
 
ลุกขึ้นยืนและจัดการเก็บเอกสารขึ้นบนชั้นวางเรียบร้อย  ปิดแอร์ปิดไฟ และล็อคออฟฟิศตามมาขึ้นรถ และพิพัฒน์เพิ่งนึกได้ว่าลืมให้อาหารกระต่าย
 
“ผักบุ้งหมด”
 
หันไปบอกกับบารมีที่เดินไปจะถึงรถแล้วและบารมีก็หันกลับไปมองพิพัฒน์ที่เดินไปข้างบ้าน  ที่มีกรงกระต่ายอยู่ตรงนั้น
 
“แล้วไม่เสือกทำให้เรียบร้อยวะไอ้ห่าพัฒน์”
 
บารมีตะโกนบอกคนที่เดินไปที่กรงกระต่ายและก็ส่ายหน้าด้วยความเบื่อหน่ายกับความเชื่องช้าของพิพัฒน์
 
“..................”
 
พิพัฒน์นั่งลงที่ข้างกรงกระต่ายโดยมีบารมีมายืนอยู่ข้าง ๆ
 
มีผักบุ้งอยู่ในกรงกระต่ายแล้ว และพิพัฒน์ก็เปิดกรงและดึงกระต่ายออกมาอุ้มและลูบหัวของกระต่าย
 
“กูอยากจะบ้า  ไอ้พัฒน์เอ้ยยยย  มึงอยากเล่นกับกระต่ายตอนนี้เนี่ยนะ มันใช่เวลาเล่นหรือไง ไปลุกขึ้น กลับบ้านได้แล้ว”
 
เรียกให้คนที่เล่นกับกระต่ายลุกขึ้นยืนและพิพัฒน์ก็ลุกขึ้นยืนแต่ไม่เก็บกระต่ายเข้ากรง
 
ดึงมือของบารมีให้ลูบที่หัวกระต่าย และบารมีก็ถอนหายใจ  แต่ก็จำใจลูบหัวกระต่ายตามที่พิพัฒน์อยากให้ทำ
 
“ตัวนี้ชื่อบั๊ด”
 
“บั๊ดพ่อง เอาชื่อกูไปตั้งให้กระต่ายมึงคิดจะล้อเลียนกูหรือไงไอ้ห่าพัฒน์”
 
“บัดดี้  ไม่ใช่บั๊ดเฉย ๆ”
 
“จะบัดด้งบัดดี้ห่าอะไรก็แล้วแต่มึงเหอะ  แต่อย่าเรียกให้ใครได้ยินเชียวนะ  เดี๋ยวเขาจะหาว่ามึงบ้า”
 
บารมีถึงกับส่ายหน้าและรีบบอกให้พิพัฒน์จัดการยัดกระต่ายเข้ากรงให้เรียบร้อยแต่พิพัฒน์ก็ยังโอ้เอ้เชื่องช้า
 
“โว้ยยยยยยยยยย จะสนิมสร้อยอะไรของมึงนักหนาวะไอ้พัฒน์กูไปรอที่รถแล้ว มึงพร่ำคำอำลากระต่ายมึงทั้งคืนไปแล้วกัน  กูไปแล้ว”
 
บารมีบ่นพิพัฒน์และเตรียมจะหันหลังเดินไปขึ้นรถ แต่เพราะได้ยินพิพัฒน์พูดบางอย่างก็เลยหยุดชะงักเท้าและหันกลับมามองอีกครั้ง
 
“บัดดี้........กินผักบุ้งเยอะ ๆ นะ อย่าอ้าปากพะงาบ ๆ แบบนั้นสิบัดดี้  เดี๋ยวก็เอาไปย่างซะเลยนี่”
 
นี่มึงคิดจะเอากูไปย่างเลยเหรอไอ้พัฒน์
 
“ไอ้ห่าพัฒน์”
 
มองหน้าของคนที่แกล้งล้อเลียนและพิพัฒน์ก็ทำเป็นนิ่งเฉย  เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
 
กรงกระต่ายถูกปิดเรียบร้อยและพิพัฒน์ก็เดินตามหลังบารมีที่เดินบ่นไปตลอดทาง
 
“แม่ง ห่าอะไรนักหนาวะ จะร่ำลากันถึงชาติหน้าเลยหรือไง”
 
บารมียังบ่นพึมพำไปเรื่อย แต่พิพัฒน์ที่เดินมาใกล้ ใช้มือสองข้างแตะไปที่แผ่นหลังของบารมีและแกล้งผลักให้บารมีเดินไปข้างหน้า
 
“ไอ้พัฒน์”
 
บารมีหันมาตะคอกใส่พิพัฒน์แต่พิพัฒน์แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและเดินไปรอที่รถ โดยมีบารมีเดินตามมาและยังบ่นสิ่งที่พิพัฒน์ทำไม่เลิก
 
“เล่นห่าอะไร มึงเป็นเด็กสามขวบหรือไงพัฒน์ เล่นไม่รู้เรื่อง”
 
ประตูรถถูกเปิดออกแล้ว และบารมีก็ขึ้นมาบนรถโดยมีพิพัฒน์นั่งอยู่ข้างๆ และหันมามองหน้าของบารมีตรง ๆ
 
“นึกว่าวันนี้จะไม่ยอมพูดด้วยซะแล้ว”
 
อะไร
นึกว่าวันนี้จะไม่ยอมพูดด้วยอะไรของมึงพัฒน์
 
บารมีส่ายหัวและทำเป็นไม่สนใจพิพัฒน์ แต่พิพัฒน์สนใจบารมีมากกว่าทุกวัน
 
“มึงจะจ้องหน้ากูทำไมพัฒน์ ประสาทกลับหรือไง จ้องอยู่ได้ ไอ้ห่า”
 
ประสาทไม่ได้กลับหรอก ประสาทยังดีอยู่ แล้วที่มองก็มีเหตุผลในการมองด้วย
 
“....................”
 
พิพัฒน์ยังคงนิ่งเงียบ และบารมีก็เงียบตาม
บางทีการที่ต่างคนต่างเงียบเกินไป มันก็ไม่ค่อยดีมากนัก
พิพัฒน์เปิดวิทยุเพื่อให้มีเสียงอย่างอื่นบ้างนอกจากความเงียบ และเพลงที่ไม่เคยได้ยินก็ถูกเปิดในคลื่นวิทยุแห่งหนึ่ง
 
“ไกล ไกลแสนไกลเกินตาเพียงสายลมพา ขอบฟ้าจะเปลี่ยนสีไป
จากหยดน้ำเป็นฝนพรำโปรยปราย คือฤดูกาล โลกนี้ยังคงหมุนไป
ไม่มีอะไรที่มันจะยืนยาวเท่าความผันเปลี่ย¬น และบางทีเราอาจเรียนรู้คุณค่าไอแดดเมื่อฝนมา………”
 
ไม่ได้ตั้งใจฟัง
บารมีไม่ได้ตั้งใจฟังและพิพัฒน์ก็ไม่ได้คิดจะใส่ใจกับเนื้อหาของเพลง
 
แต่เมื่อดวงตาสองคู่หันมาสบกันกลับปรากฏรอยยิ้มเล็ก ๆของทั้งพิพัฒน์และบารมี
 
“จะยิ้มรับมันวันที่ใจอ่อนแอแม้ทุกเรื่องราวมันยังคงโหดร้าย สุขทุกข์ที่เราพบพาน.......มันคือชีวิตของเรา”
 
บารมีพยักหน้ารับ และยกมือขึ้นมาเขย่าหัวพิพัฒน์เบา ๆ
 
ไม่เคยรู้……..
บารมีไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน
การที่มีใครสักคนอยู่ข้าง ๆมันทำให้กล้าที่จะอ่อนแอและพร้อมที่จะเข้มแข็ง
 
........วินาทีนั้นบารมีคิด.........
ถ้าได้พิพัฒน์มาอยู่เคียงข้างกันไปตลอดชีวิต  ก็คงดี
 

TBC.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ butter.juliet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ฮือออออ เขารักกันนนนนนนนนนนนน  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ lollita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ชอบบรรยากาศคู่นี้มากเลย ยิ่งอ่านยิ่งฟิน ใกล้ชิดกันเยอะๆ รอวันคนท่ามากอย่างบารมีรุกน้องพัฒน์    :hao6:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
อ่า~ เราก็อยากเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกันตัลหลอดดดไปเหมือนกันนะ หนับหนุน!  :hao5:

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
มาละคู่รักปากแข็ง เต๋อ ช่างนัย ส่วน เฮียกับพัฒน์นี่ชอบคู่นี้เป็นการส่วนตัว ขออีกนะคุณเท็น :)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ใจตรงกัน แค่ไม่พูดมันออกมา

ออฟไลน์ phrase

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :mc4: ฉลองคู่ใหม่ เย้ๆๆ ช่างเต๋อกะวินัยโผล่มาแล้ว เฮียบัสกะพิพัฒน์ก็ยังหวาน(?)แบบเรื่อยๆเหมือนเคย เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองล่ะเฮียบัสสสสสสสสสสส

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
ทุกวันนี้ก้อได้อยู่ด้วยกันแล้ว  แค่ยังไม่ได้กัน  แค่นั้นเอง อิอิ

ออฟไลน์ MOMAMi_96

  • เรื่อยๆ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
ว้ายยยย ลุงสองคนนี้เค้ารักกัน แล้วหรอค่ะเนี่ย. :mew3:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
พัฒน์แหย่ให้พี่บัสด่า ถ้าพี่บัสเงียบเหมือนไม่ใช่พี่บัส
พัฒน์อยากให้พี่บัสได้ระบายออกมาบ้าง ไม่เก็บไปเครียดจนเกินไป
อยู่ข้างๆกันตลอดไปนะพี่บัส-พัฒน์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ windel

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คู่ของเฮียบัสกับพี่พัฒน์นี่อบอุ่นๆน่ารักๆจริงๆเลยยย

รอติดตามช่างนัยกะเต๋ออยู่นะคะ

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย) ตอน เด็กถูกทิ้ง

เต๋อตกคลอง  ตอนที่เอากระทงลงไปลอย คนที่มารับเต๋อกลับบ้านคือช่างวินัย  เพราะแม่เต๋อฝากให้เอาดอกไม้และใบตองไปให้ที่คณะ 

ปัจจุบันเต๋อในสภาพดูไม่จืด  นั่งหน้าบึ้งอยู่บนรถของช่างวินัย และช่างวินัยก็หันไปมองหน้าเต๋อหลายครั้ง และหัวเราะทุกครั้งที่หันไปมอง

"เสียหล่อเล้ยยยยยยยยยย พ่อดาวมหาลัยของแม่"

ช่างวินัยรู้สึกตลกและขำกับสภาพของคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ และเต๋อก็หันมามองหน้าช่างวินัยอย่างเอาเรื่อง

"ขำอะไรนักหนาวะ  แม่ง ตลกมากเลยหรือไง  ขำอยู่ได้  อย่าให้ถึงคราวผมบ้างแล้วกันจะหัวเราะให้ฟันร่วงเลย"

หัวเราะจนฟันร่วงเลยเหรอวะไอ้หมาน้อย
ช่างวินัยยังหัวเราะไม่หยุดกับสิ่งที่เต๋ออาฆาตเอาไว้  แกล้งเอื้อมมือไปเขย่าหัวของเต๋อเล่นและเต๋อก็ปัดมือช่างวินัยออก

"ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะโว้ย"

ไอ้ดาวมหาลัยของแม่เอ้ยย  กี่ปีกี่ชาติกูก็ยังเห็นมึงเป็นเด็กอยู่ดีแหละวะไอ้ห่าเต๋อ

"มึงโตแล้วตรงไหนไอ้เต๋อ  ถ้ามึงโตแล้วมึงก็ต้องดูแลจัดการชีวิตตัวเองได้  ไม่ใช่มีอะไรก็ให้แม่มึงช่วยอยู่ตลอดแบบนี้  โตแต่ตัว หัวสมองไม่รู้จักโต"

โดนช่างวินัยด่า และเต๋อก็ยิ่งหงุดหงิดไม่พอใจคำพูดของช่างวินัยที่ไม่ว่ายังไงก็ยังเห็นเต๋อเป็นเด็กอยู่ดี

"ผมเกลียดช่างวินัย"

เออ

"ทำอย่างกะกูรักมึงตายเลยนี่"

ช่างวินัยส่ายหน้าให้กับความคิดแบบเด็ก ๆ ของเต๋อ  และเต๋อก็ยังคงหน้างอไปตลอดเส้นทาง   แม้ว่าจะได้รับการช่วยเหลือให้ไม่ต้องอายเพื่อนไปมากกว่านี้  ด้วยการที่ช่างวินัยมารับพากลับบ้านก็ตาม

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บ้านล็อค กุญแจก็ไม่มี แม่ไม่อยู่  โทรหาแล้วแม่บอกว่าเดี๋ยวกลับ  เดี๋ยวกลับของแม่   ไม่ต้องเดาเลยว่า  อีกนานแค่ไหน  ง่าย ๆ จนกว่า....งานจะเลิก

“เต๋อเข้าบ้านไม่ได้อ่ะแม่  แล้วตัวเปียกหมดทั้งตัวเลยแม่กลับมาเร็ว ๆ สิแม่”

ส่งเสียงโวยวายไปทางโทรศัพท์ใส่แม่ตัวเองแต่ก็ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์

“ก็ไปอาบน้ำบ้านพี่นัยก่อนสิ  เอ็งจะมาเรื่องมากอะไรนักหนาไอ้เต๋อ  เดี๋ยวแม่ก็กลับ  ถ้าแม่กลับดึกเอ็งก็นอนค้างบ้านพี่นัยไปก่อนเลย”

เต๋อได้แต่ยืนเอ๋อ  เพราะแม่ไม่ยอมกลับบ้าน มัวแต่สนใจอยู่กับวงดนตรีลูกทุ่งที่มาเปิดการแสดงในงานลอยกระทงประจำปีของทางจังหวัด

“แม่..............”

เข่าแทบทรุดและอยากจะกู่ร้องให้โลกรู้ว่าโดนแม่ใจยักษ์ทอดทิ้งแต่เมื่อหันไปเห็นสายตาของช่างวินัยที่ยืนกอดอกมองอยู่ข้างรถแล้วก็ได้แต่พยายามเก็บอาการ

“ว่าไงพ่อดาวมหาลัย  ป้าดูวงลูกทุ่งเพลินเลยสิ”

ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ  ช่างวินัยก็รู้แกวแม่ของเต๋อดี  ลองได้มีงานประจำปีแบบนี้แม่ไอ้เต๋อ  ลืมลูกแน่ ๆ รับรองล้านเปอร์เซ็นต์

“ก็รู้อยู่แล้วจะมาถามทำไม”

บ่นพึมพำเสียงเบาและเต๋อก็เดินมานั่งที่ม้านั่งหน้าบ้านตัวเอง และหน้างอหงิกที่โดนแม่ทิ้ง

“ทำอย่างกับว่า  กูอยากยุ่งนักนี่”

ช่างวินัยไม่คิดจะสนใจเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่ทำหน้าเหมือนคนจะเป็นจะตาย  อยากจะเมินมันเหมือนกัน  แต่เห็นสภาพตะไคร่น้ำยังเกาะอยู่บนหัวมันแล้วก็นึกเวทนา

“ไปอาบน้ำที่บ้านก็ได้ไป  ลุกมาเร็ว ๆ เดี๋ยวป้ามาด่ากูที่ไม่ดูแลลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของแกให้ดี   แล้วกูจะซวย”

เรียกให้เต๋อไปอาบน้ำที่บ้านที่อยู่ห่างออกไปอีกไม่ไกลและเต๋อก็ไม่ยอมลุก นั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่อย่างนั้น จนช่างวินัยทนไม่ไหว

“นั่งให้ยุงหามตายไปเลยไอ้ห่า  เล่นตัวอยู่ได้  จะนั่งให้ตะไคร่น้ำบนหัวงอกออกมาก็ตามใจนะไอ้เต๋อ  เรื่องของมึง”

ช่างวินัยไม่สนใจและเป็นเต๋อที่เกิดอาการกระฟัดกระเฟียดแต่ก็ยอมลุกขึ้นแล้วเดินตามไปบ้านช่างวินัยเพื่ออาบน้ำ

ช่างวินัยส่งเสื้อผ้าให้เต๋อเพื่อใช้ผลัดเปลี่ยนและเต๋อก็รับเสื้อผ้ามาถือเอาไว้และเดินเข้าไปอาบน้ำสระผม อยู่พักใหญ่
กลับมาอีกที  พบว่าโทรทัศน์ถูกเปิดทิ้งเอาไว้และช่างวินัยก็ปูเสื่อนอนหน้าโทรทัศน์หลับไปแล้ว

แล้วยังไงต่อวะ  แล้วกูควรทำยังไง

“ช่างนัย.....ช่างนัย”

เรียกให้คนที่หลับตื่นขึ้นมาคุยกันก่อนและช่างวินัยก็ลืมตาขึ้นมอง และหยิบหมอนอีกใบส่งให้เต๋อ

“นอนรอแม่มึงไปก่อนไอ้เต๋อ  กูง่วง ไว้ค่อยคุย”

ช่างวินัยขี้เกียจคุย และเต๋อที่รับหมอนมาถือเอาไว้ก็ลงไปนั่งข้างช่างวินัย

ไม่ใช่ไม่เคยมาค้างด้วย เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ก็มาค้างบ่อย ๆ เวลาที่แม่ไม่อยู่ แต่ตั้งแต่ที่โดนช่างวินัยแกล้ง
เต๋อก็ไม่อยากมาอีก  เพราะเคืองช่างวินัยไม่หาย

บ้านยังเหมือนเดิม ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มีรูปที่แปะไว้ที่ฝาผนังบ้าน  เป็นรูปช่างวินัยสมัยเรียน  รูปตอนไปเป็นทหาร  และมีรูปอื่นๆ อีกหลายรูป  และในจำนวนหลาย ๆรูปนั้นก็มีรูปของเต๋อตอนเด็ก ๆ ที่ถ่ายกับช่างวินัยอยู่ด้วย

เต๋อกวาดสายตามองไปรอบๆ บ้าน และหันกลับมาที่ช่างวินัยที่หลับไปแล้ว จะให้นั่งอยู่แบบนี้ทั้งคืนก็ไม่ไหว  เต๋อเลยวางหมอนไว้ข้างช่างวินัยและล้มตัวลงนอน

เดี๋ยวแม่กลับมาก็คงมาตาม
เดี๋ยวแม่กลับมาก็คงมาตาม
เดี๋ยวแม่กลับมาก็คงมาตาม

คิดได้แค่นั้น  และดวงตาก็ค่อย ๆ หรี่ปรือลงช้า ๆ แม่ของเต๋อไม่ได้มาตามในคืนนั้น  และปล่อยให้เต๋อค้างที่บ้านช่างวินัย
อากาศกลางดึกเย็นลงเรื่อยๆ และเต๋อก็เบียดกายเข้าหาช่างวินัยที่สะดุ้งตื่นเพราะมีคนมานอนเบียดอยู่ข้าง ๆ

“ไอ้เต๋อ  เฮ้ย ไอ้เต๋อ”

สะกิดให้คนที่นอนหลับตื่นขึ้นและเต๋อก็ค่อยๆ หรี่ปรือตาขึ้นมอง

“ลุก.....ไปนอนในห้อง”

ช่างวินัยลากแขนให้เต๋อลุกขึ้น  และเต๋อก็ยอมเดินตามอย่างว่าง่าย

เข้าห้องได้ก็ล้มตัวลงนอนโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น  ช่างวินัยได้แต่ส่ายหน้ากับสิ่งที่เต๋อทำ    ถึงรูปร่างภายนอกจะเปลี่ยนไปขนาดไหน แต่สำหรับช่างวินัยเต๋อก็ยังเป็นแค่เด็กตัวเล็ก ๆ อยู่เสมอ

เขย่าหัวเด็กน้อยที่นอนหันหลังอยู่บนเตียงแล้วเต๋อก็ปัดมือช่างวินัยออก

“อืออออ.....เต๋อจะฟ้องแม่ว่าพี่นัยแกล้ง”

บ่นพึมพำให้ช่างวินัยได้ยินและช่างวินัยก็ชะงักนิ่งค้างไปชั่วขณะ

“........พี่นัย.........”

ครั้งสุดท้ายที่ถูกเรียกว่าพี่นัย  มันนานมาแล้ว นานจนช่างวินัยลืม  เมื่อก่อนก็แทนตัวเองว่าเต๋อ แล้วก็เรียกว่า “พี่นัย” ตลอด
แล้วกลายเป็น  “ผม”  กับ“ช่างนัย”  ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ

นั่นสิ………….ตั้งแต่เมื่อไหร่
อาจจะตั้งแต่ที่เต๋อมันเริ่มโต  อาจจะตั้งแต่ที่ช่างวินัยเริ่มเป็นหนุ่มและมีแฟน

ช่างวินัยไม่รู้ว่าเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ที่คอยเดินตามและอ้อนให้เล่นเป็นเพื่อนตลอดแสดงท่าทีห่างเหินตั้งแต่เมื่อไหร่

จะว่าเป็นเพราะแกล้งไปเมื่อตอนเด็กๆ มันก็อาจจะใช่ แต่แค่นั้นมันไม่น่าจะมากพอให้เด็กคนหนึ่งฝังใจจนแค้นไม่หายมาถึงป่านนี้
มาคิด ๆ ดูแล้ว  หรือบางที.........อาจจะเป็นตอนนั้นก็ได้………

“เต๋อจะจำไว้  พี่นัยมีแฟนแล้วเล่นกับเต๋อไม่ได้  ไปรับเต๋อก็ไม่ได้ด้วย  จำไว้เลย เต๋อก็จะมีแฟนเยอะ ๆ แล้วก็จะไม่มาเล่นกับพี่นัยอีก  เต๋อไม่ชอบคนผิดสัญญา  พี่นัยมีแฟนแล้วก็ผิดสัญญาตลอด โตขึ้นเต๋อจะมีแฟนเยอะกว่าพี่นัยด้วย คอยดู”

ตอนนั้นหรือเปล่าวะที่มันเริ่มทำตัวห่างเหิน
แล้วไอ้เต๋อมันก็ทำอย่างที่มันพูดจริงๆ มันมีแฟนเยอะอย่างที่มันพูดจริงๆ ทั้งที่มันเข้าใจความหมายของคำว่าแฟนหรือเปล่าก็ไม่รู้

ผิดที่ใคร  ช่างวินัยไม่รู้

ได้แต่ถอนหายใจยาว ๆ และเอนกายลงนอน และดึงผ้าห่มมาห่มให้กับคนที่มานอนอยู่ข้าง ๆ

หลายปีก่อนนอนด้วยกันสองคนบนเตียงได้   แต่ตอนนี้เตียงแคบไปถนัดตา

“ผมโตแล้วโว้ย  ไม่ใช่เด็ก”

เต๋อชอบพูดแบบนั้นใส่ช่างวินัย  และช่างวินัยก็ไม่รู้ว่าโตแล้วของเต๋อ หมายถึงอะไร
โตแต่ตัว แต่ในสายตาของช่างวินัยเต๋อก็ยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ อยู่เสมอ

“เฮ้ย  นอนดี ๆ อย่านอนดิ้นนักสิวะ”

ได้แต่บ่นใส่คนที่หลับไปแล้วและช่างวินัยก็ส่ายหน้ากับสิ่งที่เต๋อทำ

ตอนเป็นเด็กไอ้เต๋อนอนดิ้นชิบหาย โตมานึกว่าจะดีขึ้นสุดท้ายก็ยังเหมือนเดิม

ช่างวินัยจ้องมองคนที่นอนหลับสบายอยู่ข้าง ๆ แล้วก็เริ่มอมยิ้ม   
ผ่านไปกี่ปีมันก็เหมือนเดิม  สำหรับช่างนัยแล้วเต๋อเหมือนน้องคนเล็กที่ต้องดูแล

.....................น้องคนเล็ก.....................

น้องคนเล็กอะไรล่ะ  เต๋อมันก็เป็นได้แค่เด็กข้างบ้านที่เคยเล่นด้วยกันเท่านั้น    และเมื่อโตขึ้นก็ค่อยๆ  ห่างกัน จะให้เป็นเหมือนเมื่อก่อนมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

"เห็นมันเป็นน้องนะนัย  สงสารไอ้เต๋อมัน"

ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ช่างวินัยถูกแม่ของเต๋อพูดกรอกหูด้วยประโยคแบบนี้ทุกวัน จนช่างนัยเกือบจะเชื่อ ว่าเต๋อเป็นแค่น้อง

.......จะให้เห็นเป็นน้องเหรอ..........

ช่างวินัยแค่นยิ้มและส่ายหน้ากับสิ่งที่ได้ยินอยู่ทุกวันและต้องจำให้ขึ้นใจอยู่เสมอ

"ก็แค่เด็กข้างบ้านแหละวะ"

บอกกับตัวเองแบบนั้น  และพลิกกายหนีไปอีกทาง

"ไอ้ห่าเต๋อแม่ง   นอนดิ้นกูไม่ว่า แต่ถ้านอนดิ้นแล้วถีบกู  กูก็จะถีบมึงลงไปกองกับพื้นเหมือนกัน"

ช่างวินัยคิดว่าเต๋อคงจะนอนดิ้นไปทั่วแต่เอาเข้าจริงสิ่งที่คิดกลับผิดถนัดเพราะสิ่งที่เต๋อทำมีแค่อย่างเดียว

...........นอนดิ้นมากอดช่างวินัยเอาไว้แน่น.......และช่างวินัยที่สะดุ้งตื่นก็หันไปมอง

และค่อย ๆ หันกลับมาอย่างช้า ๆ

พยายามจะขยับออกห่าง  แต่ก็ยังถูกตาม  แขนของเต๋อพาดอยู่บนตัวของช่างวินัย  และไม่ใช่แค่กอดแต่เต๋อยังขยับเข้ามาใกล้และซุกหน้าลงที่หลังของช่างวินัยด้วย

ช่างวินัย ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ  หัวใจเริ่มเต้นระทึก  ไออุ่นจากร่างที่กอดเอาไว้มันทำให้ช่างวินัยแทบจะลืมหายใจ  พยายามข่มความรู้สึกเอาไว้  และไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวจะทำให้เต๋อตกใจตื่น

คืนนั้นช่างวินัยนอนตาค้าง  พยายามข่มตาให้หลับ แต่ก็ทำไม่ได้

ส่วนเต๋อ.....นอนหลับสนิทไม่รู้เรื่องตลอดทั้งคืน......


TBC.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2015 05:02:25 โดย aa_mm »

ออฟไลน์ blanchard

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 376
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-3

ออฟไลน์ purple

  • Aventador FC
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เต๋ออ่ะ! แกล้งพี่นัยป่ะเนี่ยยยย 555
แอบฮาบั๊ดดี้กินผักบุ้ง พัฒน์อย่างโหด เกิดจับไปย่างจริงๆนี่เฮียบัสโกรธตายเลยนา ><

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
สงสัยคู่นี้เค้าจะพิชิตกีนก่อนคู่โน้น  :laugh:

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
อ่ะ อ๊ะ อ๊ะ คู่แรกดูเหมือนว่าโลกกำลังจะเป็นสีชมพู  ส่วนอีกคู่กำลังจะตามมาแบบห่างๆ โฮะๆๆๆ ......   :mew1:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
เด็กมันซึน ต้องทำใจ ยังไงก็หลงรักมันแล้วหนิ เต๋อของพี่นัย อ๊าาาาา

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เต๋อคงฝังใจที่พี่วินัยมีแฟนแล้วผิดสัญญากับเต๋อบ่อยๆ
ทำให้เต๋อน้อยใจ แล้วเริ่มทำตัวห่างเหินกัน
คู่นี้น่าจะลงเอยได้ง่ายกว่าคู่พี่บัส-พัฒน์

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ขอ บท  sweet  อีก นะ

บทโหดอย่าเยอะมากเลยยยยยยยยยยย  ทำร้ายจิตใจคนอ่าน :mew4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด