กฏเล้าประกาศ 22/9/2019 จะลบนิยายที่ไม่มาต่อจนจบทิ้งทั้งหมดเล้าเป็ดรณรงค์ ให้ใช้เรียกนักเขียน นักอ่านแทน ไรท์เตอร์ รีดเดอร์ เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของเว็บเรากันนะคะ
สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ
◣♥◥ อาณาเขตรักที่16►►เพื่อนสนิท? วันนี้จันทร์ที่ภายในบริษัทดูจะตื่นตัวกันเป็นพิเศษเพราะว่าคนที่ถูกส่งไปอบรมที่ต่างประเทศเมื่อ4เดือนที่แล้วจะกลับมาในวันนี้และหนึ่งในคนที่ถูกส่งไปก็มี...นาย บริพัฒน์ รัตนศีรัตหรือบอสซึ่งเป็นหนุ่มรูปร่างสูงสมส่วนหน้าตาดีตามสไตล์ลูกครึ่งทำให้ผู้หญิงมากมายในบริษัทนี้หมายปองเขาแต่ด้วยความที่เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องผู้หญิงสักเท่าไหร่เอาแต่ทำงานเลยทำให้ความนิยมตกลงจนกระทั่งเขากลับมาที่บริษัทนี่แหละ...พวกผู้หญิงดูจะคิดถึงเขามากจนแทบจะกระโดดกอดแล้ว...ถ้าถามว่าทำไมนายปภิณวิทย์ถึงต้องมาพูดถึงผู้ชายคนนี้ด้วย?ก็เขาน่ะเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของผมนี่นา...ผมกับบอสอายุเราเท่ากันเริ่มรู้จักกันตอนม.6เพราะไปสมัยคณะเดียวกันมหาลัยเดียวกันก็เลยทำให้พวกเราค่อนข้างสนิทกันพอสมควร...บอสเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ผมเรียกชื่อเล่นเหมือนกับบัตเตอร์ถ้าถามถึงบัตเตอร์ละก็วันนี้เป็นการทำงานครบ3เดือนในบริษัทนี้พอดีทางมหาลัยเลยเรียกนักศึกษาทั้งหมดกลับไปเป็นการชั่วคราวเห็นว่าจะมีการซ้อมจัดงานอะไรสักอย่างนี่แหละ...วันนี้ผมเลยมาทำงานคนเดียวหลังจากวันที่ผมกับบัตเตอร์เป็นแฟนก็ผ่านมาเกือบ2เดือนแล้ว....ทุกๆอย่างในชีวิตผมมันดูจะสนุกสนานไปซะหมด...ไม่ใช่แค่บัตเตอร์ที่สร้างรอยยิ้มและความสุขให้ผมเท่านั้นพวกน้องๆของบัตเตอร์เหล่าสุนัขทั้ง4ตัวก็แสบซนใช่ย่อยแต่นั่นก็ทำให้ผมมีความสุขที่ได้อยู่แบบนี้ส่วนเรื่องไปค้างบ้านบัตเตอร์...ผมยังคงไปทุกวันศุกร์และกลับมาในวันอาทิตย์เหมือนเดิมแม้จะถูกบัตเตอร์บอกว่าให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันก็เถอะ...ใครจะกล้าไปอยู่ด้วยเล่าแค่อยู่บ้านนั้น2วันผมก็ถูกทั้งจูบทั้งหอมทั้งฟัดจนซ้ำไปทั้งตัวแล้ว...บอกตรงๆว่าเหนื่อยมากที่ต้องมาบอกให้พอหรือผมเหนื่อยแล้วแต่บัตเตอร์ก็แทบจะไม่ฟังผมเลยเอาแต่จูบหอมฟัดอยู่นั่นแหละถึงผมจะมีส่วนผิดที่ไม่ปฏิเสธอย่างจริงจังก็เถอะก็ทำไงได้ล่ะ....ผมชอบให้บัตเตอร์ทำแบบนั้นนี่นาแต่ถึงผมจะชอบไม่ได้หมายความว่าจะให้ทำได้บ่อยๆนะ“เจ้าคุณณณณ~”เสียงเรียกชื่อเล่นเต็มๆผมดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ผมหันไปมองตาขวาง...คนที่เรียกผมด้วยชื่อเล่นเต็มๆแบบนั้นมีแค่คนเดียว...ไม่สิ...ต้องบอกว่าทั้งบริษัทมีแค่คนเดียวที่รู้แม้แต่บัตเตอร์ยังรู้แค่ คุณ ไม่ใช่ เจ้าคุณไม่ใช่ผมไม่บอกหรอกนะก็บัตเตอร์ไม่ถามนี่นาแบบนี้บอกว่าผมเป็นฝ่ายผิดไม่ได้นะ“บอกว่าอย่าเรื่องแบบนี้ในบริษัทไง”ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ...ก็นะ...ผมพูดกับบอสไปไม่รู้กี่ร้อยรอบตั้งแต่รู้จักกันใหม่ๆแล้วแต่พูดยังไงก็ไม่เคยได้ผลจนผมเริ่มเอือมที่จะพูดแล้ว“ไม่ได้เจอกันตั้ง4เดือน...จะไม่คิดถึงกันหน่อยรึไง?”บอสถามผมด้วยน้ำเสียงทุ้มออกแนวขี้เล่นที่ตอนนี้เริ่มงอนแล้ว “4เดือนไม่ใช่4ปี”ผมตอบกับไปก่อนจะยักคิ้วให้ข้างนึงอย่างกวนๆ“ถ้า4ปีคงได้แฟนเป็น100คนแล้ว”บอสตอบผมกลับมาด้วยรอยยิ้ม“แล้วกลับมานี่...ตำแหน่งเดิม?”ผมถามขึ้นก่อนจะเดินนำเข้าไปในลิฟท์ไม่ใช่ว่าผมพึ่งมาทำงานนะแต่ผมพึ่งกลับมาจากไปคุยงานกับบริษัทที่มีปัญหาอยู่มาเล่นซะเหนื่อยเลย“อืม...กรรมกรอ่ะ”บอสตอบผมด้วยเสียงเศร้าๆ“หึ...กรรมกรเหรอ?...ดีเลยช่วยไปจัดการที่ห้องผมหน่อยสิตอนนี้กำลังรกได้ที่เลย”ผมแกล้งแหย่กลับไปนาย บริพัฒน์ รัตนศีรัต ไม่ใช่ตำแหน่งกรรมกรแต่เป็นตำแหน่งกรรมการบริษัทที่เรียกได้ว่าถือเป็นหัวกะทิในบรรดากรรมการที่มีอยู่และเป็นคนที่คาดว่าจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการในอีกไม่นาน...ความจริงก็ควรจะได้ขึ้นมาพร้อมๆกับผมแหละแต่เพราะเมื่อตอนปีก่อนเกิดเรื่องไร้สาระขึ้นทำให้บอสหยุดงานไปเกือบเดือนจนเกือบจะถูกไล่ออกดีหน่อยที่เป็นคนมีความสามารถทางบริษัทเลยยอมให้แค่ครั้งเดียวถามว่าเรื่องอะไรงั้นเหรอ?ถูกแฟนทิ้งไงเลยเฮิตอย่างหนัก...ข้าวปลาไม่กินเอาแต่ดื่มเหล้า...กว่าผมจะทำให้ยอมกลับมาทำงานเหมือนเดิมได้นี่ผมก็เหนื่อยใช่เล่นนะ...ถึงบอสจะเป็นพวกเฟรนรี่แต่เพื่อนที่สนิทจริงๆมีไม่มากนักหนึ่งในนั้นคือผม...ผมก็เลยหาวิธีง่ายๆเช่นบอกว่าถ้าไม่ไปทำงานจะไม่มีเงินมาซื้อเสื้อผ้ามิคจังใส่นะแค่นั้นแหละวันต่อมาแทบจะวิ่งมากราบไหว้ขอโทษท่านประธานเลยมิคกี้จังเป็นสุนัขพันธุ์ชิวาว่าขนสีขาวทั้งตัวเป็นสุนัขที่บอสรักมากที่สุดและซื้อเสื้อผ้าให้ใส่เกือบทุกวันตอนนี้ในบ้านคงมีแต่เสื้อผ้าของมิคกี้นี่ล่ะ...ตอนที่ต้องไปอบรมต่งประเทศผมก็กล่อมแทบตายกว่าจะยอมฝากมิคกี้ไว้กับคุณน้า(แม่ของบอส)เฮ่อ...แค่คิดถึงตอนนั้นผมก็เหนื่อยแล้ว“วันนี้เจอกันในรอบ4เดือน...ไปดินเนอร์ด้วยกันหน่อยม๊ะ?”บอสกระซิบผมเบาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพร้อมกับยกมือขึ้นมาทำท่าเหมือนคนยกแก้วน้ำขึ้นดื่มซึ่งผมก็รู้ความหมายของสิ่งที่คนตรงหน้าต้องการทันที...ท่าทางแบบนั้นคงอยากจะเมาแล้วล่ะสิ“เฮ่อ...รู้แล้วๆ...ที่ไหนล่ะ?”ผมถอนหายใจอย่างอ่อนใจก่อนจะถามบอสอย่างปลงๆ...ไม่ใช่ว่าไม่อยากปฏิเสธหรืออะไรหรอกนะแต่ถ้าหมอนี่เมาแล้วชอบไประรานคนอื่นถ้าผมไม่คุมไว้ได้ไปหาเรื่องโต๊ะอื่นแน่ๆตึ๋ง!“งั้นก็ที่เดิมละกัน...เจอกันตอน1ทุ่ม...ถ้ากลับไม่ไหวก็นอนคอนโดกูเหมือนเดิมก็ได้...บาย”บอสบอกผมก่อนจะโบกมือลาแล้วเดินออกจากสิฟท์เมื่อถึงชั้น7ซึ่งเป็นชั้นทำงานของกรรมการทั้งหลาย...ผมขึ้นไปจนถึงชั้น9แล้วเดินเข้าไปให้ห้องทำงานของตัวเองก่อนจะเริ่มลงมือเขียนรายงานเรื่องที่ไปคุยงานที่บริษัทxxxเมื่อกี๊นี้การนั่งทำงานไปเรื่อยแบบนี้ทำให้ผมใช้สามาธิอย่างหนักจนแทบไม่รู้วันเวลาพอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็ได้เวลาเลิกงานแล้ว...ผมก็เลยรีบจัดการเอกสารต่างๆเก็บให้เป็นระเบียบก่อนจะขับรถออกจากบริษัทไป ครื่นนนนน~ ครื่นนนนน~“...”เสียงโทรศัพท์ผมสั่นขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ผมกำลังขับรถอยู่ทำห้ำม่สามารถละสายตาไปได้...ก็พอรู้อยู่แล้วน่ะนะว่าเป็นใครมีคนเดียวที่โทรมาหาผมเวลานี้...บัตเตอร์แน่นอนเลยผมได้แลกเบอร์โทรศัพท์กับบัตเตอร์ไปตั้งแต่วันแรกๆที่เราคบกันแล้วหลังจากนั้นเขาก็มักจะโทรมาบ่อยๆหรือส่งข้อความมาบ้างถึงส่วนมากจะใช้โทรมากกว่า...ผมว่ามันก็สะดวกดีในหลายๆอย่างนะแม้ว่าการได้ยินเสียงมันจะรู้สึกดีไม่เท่าเห็นหน้าก็เถอะครื่นนนนน~ ครื่นนนนน~ “...”ผมยังคงขับรถต่อไปท่ามกลางเสียงสั่นของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นไม่หยุด...ไม่รู้ว่าจะโทรอะไรนัก?ในไม่ช้าผมก็มาถึงหน้าคอนโดตัวเองพร้อมกับมองผู้ชายคนนึงที่ยืนพึงกำแพงอยู่หน้าคอนโดผม...ในมือเขาถือมือถืออยู่พร้อมกับกดอะไรบางอย่างด้วยใบหน้าที่หงุดหงิดตื๊ดดด~“...”ผมหันไปมองเสียงข้อความเข้าตรงกระเป๋าทำงานด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูกโทรไม่ติดก็เลยส่งข้อความมาแทน?“...บัตเตอร์”ผมกดกระจกลงแล้วเรียกชายที่ยืนพิงกำแพงเมื่อครู่เบาๆ“พี่คุณ!!”บัตเตอร์หันมาตามเสียงเรียกก่อนจะวิ่งเข้ามาหาผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม...ผู้ชายที่หน้าบึ้งหงุดหงิดเมื่อกี๊มันหายไปไหนแล้วล่ะ?“ไม่ได้รับโทรศัพท์เพราะขับรถอยู่”ผมบอกบัตเตอร์ไปเพราะผมรู้ว่าเดี๋ยวบัตเตอร์ต้องถามแน่ๆว่าทำไมไม่รับโทรศัพท์“ครับๆ...ผมรู้แล้วล่ะ...ขอโทษที่โทรไปกวนสมาธิครับ...ผมพึ่งกลับจากมหาลัยมาเลยอยากเจอหน้าพี่เท่านั้นเอง”บัตเตอร์บอกผมด้วยรอยยิ้ม“...ขอไปจอดรถก่อนได้ไหม?”“ขอขึ้นไปห้องพี่ได้ไหมล่ะ?”บัตเตอร์ไม่ตอบแต่ถามกลับผมซะงั้น...แถมยังขอผมขึ้นไปบนห้องด้วย?ห้องผมเนี่ยนะ?ตั้งแต่ที่รู้จักกับบัตเตอร์มาผมก็ไม่เคยให้เขาขึ้นมาบนห้องเลยนี่นารู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยเลยแฮะแต่...คงไม่เป็นไรมั้ง?“เอาสิ...ขึ้นมาได้แล้ว”ผมบอกบัตอร์ก่อนจะขับรถเข้ามาจอดข้างใต้คอนโดพร้อมกับบัตเตอร์ที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ...ผมไม่รู้ว่าทำไมบัอร์ถึงได้อารมณ์ดีแบบนั้นแค่ผมยอมให้ขึ้นห้องมันเป็นเรื่องที่น่ายินดีขนาดนั้นเลยเหรอ?ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบหรอกนะ...บัตเตอร์บอกจะแสดงออกว่าดีใจกับเรื่องเล็กน้อยเสมอซึ่งบางครั้งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแต่ผมก็มักจะยิ้มตามรอยยิ้มนั้นไปเสมอ...ถ้าให้ยกตัวอย่างก็...บัตเตอร์มักจะยิ้มแก้มปริเมื่อผมบอกว่าจะตักข้าวให้หรือจัดเสื้อผ้าอะไรแบบนี้มันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ผมว่าควรจะทำให้ในฐานะแฟนพอมาเห็นรอยยิ้มที่ดีใจจนเว่อร์แบบนั้นมันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอายๆ ตึ๋ง! ผมพาบัตเตอร์ขึ้นมาจนถึงชั้น8ที่ผมอาศัยอยู่...ห้อง811คือห้องของผมเองแต่ละชั้นจะมีทั้งหมด12ห้องแบ่งเป็นฝั่งละ6ห้อง“พี่คุณอยู่ห้องไหนครับ?”บัตเตอร์ถามระหว่างที่เดินมองซ้ายขวาด้วยความสนใจ“811...ถึงแล้ว...ห้องนี้แหละ”ผมบอกบัตเตอร์ก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าห้องของตัวเองและไขกุญแจเข้าไป“เข้ามาสิ”ผมหันไปบอกบัตเตอร์เมื่อผมถอดรองเท้าไว้หน้าตู้รองเท้าแล้วเดินเข้าไปแต่บัตเตอร์มองเข้ามาภายในแต่ยังไม่ยอมตามผมมาสักก็เลยต้องหันไปบอก“...ขอรบกวนด้วยนะครับ”บัตเตอร์พึมพำเบาๆก่อนจะเดินตามผมเข้ามาผมเดินเข้ามาเรื่อยๆจนถึงห้องรับแขกขนาดเล็ก...นี่ถือว่าเป็นครั้งที่2ที่มีแขกเข้ามาในห้องผมเลยนะ...คนแรกคือบอสเพื่อนสนิทผมนั่นแหละ...เพราะผมไม่ค่อยจะชวนใครมาเท่าไหร่ห้องรับแขกเลยมีแค่โซฟายาวตัวเดียวกับโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กๆวางไว้ด้านหน้าพร้อมกับโทรทัศน์ขนาด27นิ้วที่วางอยู่บนโต๊ะที่ถูกขนาบข้างด้วยตู้หนังสือ2ตู้“แคบๆหน่อยนะ...นั่งๆไปเลย”ผมบอกบัตเตอร์ก่อนจะเดินถัดออกไปอีกหน่อยแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของตัวเองแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นเสื้อธรรมดาแกร็ก! “ว้าว~...นี่ห้องพี่คุณเหรอครับ?”บัตเตอร์เปิดประตเข้ามาตอนที่ผมกำลังถอดกางเกงขายาวพอดี“เฮ้ย!...ออกไปก่อนเลย!!”ผมตะโกนเสียงดังลั่นแต่บัตเตอร์ก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจเลยสักนิดแถมยังมองมาที่ผมก่อนจะค่อยๆไล่สายตามาหยุดที่ต้นขาผมเพราะกางเกงผมถูกปล่อยลงมาถึงข้อเท้าแล้ว...ผมรีบยกมือขึ้นมาบิดทันทีไอ้เด็กลามกนี่!!“พี่คุณจะอายทำไมละ?...ผมเห็นมาหมดแล้วน่า”บัตเตอร์พูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มๆซึ่งผมว่ามันน่าโดนชกสักหมัดเลยจริงๆเห็นมาหมดบ้าอะไรเล่า!!“ไอ้เด็กบ้า!...บอกให้ออกไปไง!!”ผมบอกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแข็งๆ“ไม่เอา...อยากมอหน้าแดงของพี่คุณแบบนี้นี่นา”“บ้า!...ใครหน้าแดงกัน!”ผมตอบกลับไปทันที...จากที่อายอยู่แล้วยิ่งรู้สึกอายมากขึ้นไปอีกบ้าจริง“พี่คุณไง...ผมอยากฟัดพี่จังเลย”บัตเตอร์บอกก่อนจะค่อยๆเดินเข้ามาผมช้าๆ“ไม่ให้”ผมตอบแทบจะทันทีแล้วถอยหลังไปตามสัณชาตญาณ...ผมรู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงไม่รู้สิกึก! “เฮ้ยย!!...”ผมร้องเสียงหลงทันทีเมื่อขาผมพันเข้ากับกางเกงที่ถอดคาไว้ทำให้ตัวผมเซจนล้มลงไปตุบ!“...”ผมแทบหยุดหายใจเลย...ดีนะที่ล้มลงบนเตียงน่ะ...เมื่อผมงยหน้าขึ้นไปก็ต้องชะงักเมื่อเห็นบัตเตอร์มองมาที่ผมด้วยแววตาที่เป็นประกายระยิบระยับ...สายตาของคนตรงหน้าเหมือนกำลังโลมเลียผมงั้นแหละแถมยังมองมาด้วยท่าทางที่เหมือนจะพอใจซะด้วยแล้วไอ้สายตานั่นน่ะจ้องอยู่ตรงไหนไม่ทราบครับ?“อย่ามองนะ!!”ผมตะโกนดังลั่นแล้วรีบเด้งตัวขึ้นมาใช้มือของข้างปิดกางเกงในของตัวเองที่โผล่ออกมาจากเสื้อเชิตของตัวด้วยความอายทำไมบัตเตอร์ต้องมาเห็นผมตอนบ้าๆแบบนี้ด้วยนะ“ไม่มองได้ไงละครับ...พี่เล่นยั่วขนาดนี้ถ้าไม่มองผมก็ขาดทุนสิครับ”บัตเตอร์บอกผมด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์โดยที่สายตาของเขายังคงจับจ้องมาที่ผมผมละอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปจริงๆเลย“คะ..ใครยั่วกัน?...เด็กลามกเอ้ย!!”ผมพูดเสียงดังก่อนจะมองหน้าบัตเตอร์อย่างโกรธๆผมไม่ได้ยั่วสักหน่อย“...พี่คุณรู้ใจผมดีชะมัด...ตอนนี้ผมน่ะกำลังคิดเรื่องลามกๆกับพี่อยู่เลย...พี่รู้ไหมว่าท่าทางของพี่มันยั่วยวนผมขนาดไหน?...ผมพยายามที่จะข่มใจอย่างสุดๆแต่พี่ก็ยังมาถอดกางเกงอ่อยผมอีก...”บัตเตอร์บอกผมก่อนจะค่อยๆขยับขึ้นมาบนเตียงที่ผมอยู่“ไม่ได้อ่อยนะ!...ถอยไปเลยบัตเตอร์!!”ผมบอกบัตเตอร์เสียงดังก่อนจะถอยหลังไปเรื่อยๆจนตอนนี้หลังผมชนเข้ากับหัวเตียงแล้ว...ซวยแล้วไง?“พี่คุณ...ท่าของพี่ตอนนอนแผ่อยู่บนเตียงมันกระตุ้นอารมณ์ผมสุดๆเลยรู้ไหม?”บัตเตอร์บอกผมก่อนจะใช้ลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอาเบาๆ...ตอนนี้ผมอยู่ในสภาพที่โดนบัตเตอร์คร่อมอยู่อีกแล้วเหรอ?ทำไมพักหลังผมโดนคร่อมบ่อยจังเลยล่ะ?“...”ผมไม่ตอบอะไรไปแต่พยายามที่จะหาทางหนีซึ่งผมคิดว่ามันคงไม่มี“ผมอยากจะเข้าไปในตัวพี่จัง...แต่ผมรู้ว่าครั้งที่แล้วผมทำให้พี่รู้สึกไม่ดีไว้มากเพราะงั้นผมไม่คิดจะทำอะไรถ้าพี่ไม่ยอม...แต่ผมขอแค่กอดกับหอมแก้มได้ไหมครับ?”บัตเตอร์กระซิบถามเบาๆที่ข้างหูผมพร้อมกับจูบที่ใบหูผมก่อนจะผละออกแล้วมองหน้าผมด้วยรอยยิ้มนี่บัตเตอร์?...รู้ว่าผมรู้สึกยังไงอยู่งั้นเหรอ?ก็จริงที่ตั้งแต่ที่คบกันมาบัตเตอร์ก็ไม่ได้ทำอะไรผมอีกเลย...ทำให้ผมคิดว่าเขาคงไม่ใช่เด็กที่หมกวุ่นกับเรื่องพวกนี้นักหรือเพราะวันที่โดนยาระบายออกซะเยอะจนไม่เหลือน้ำแล้ว...แต่ไม่คิดว่าความจริงจะเป็นแบบนี้...เขาใส่ใจผมใส่ใจในทุกๆเรื่องแล้วทำไมแค่กอดกับหอมผมจะยอมไม่ได้ล่ะ?...ถึงความจริงบัตเตอร์จะทำมันเป็นปกติอยู่แล้วก็เถอะ...ไม่เห็นต้องมาขอเลยคนตอบอนุญาตมันอายนะ“อืม”ผมครางในลำคอเบาๆเป็นการให้คำตอบ หมับ!“พี่คุณ...”บัตเตอร์ดึงผมเข้าไปกอดแน่นก่อนจะซุกตัวอยู่แถวๆคอผม“...รอพี่สักพักละกันนะ”ผมพึมพำออกไปเบาๆก่อนจะกอดตอบบัตเตอร์...ความอบอุ่นที่แผ่ออกมาแบบนี้ผมละชอบจริงๆเลยผมกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นก่อนจะซุกหัวเข้ากับคอของบัตเตอร์แล้วถูหัวกับไหล่ของคนตรงหน้าเบาๆ...บัตเตอร์อดทนเพื่อผมเพราะงั้นผมก็ไม่อยากให้รอนานนักหรอก“พี่อ่า~...ยั่วผมอีกแล้ว”บัตเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่นก่อนจะจูบเบาๆที่คอผมแล้วไล่ขึ้นมาที่ปลายคางก่อนจะไปที่แก้มและหน้าผากตามลำดับ“อื้อออ~...บัตเตอร์”ผมครางออกมาเบาๆเมื่อบัตเตอร์จูบเบาๆที่ปากผมก่อนผละออกอย่างรวดเร็ว“ไปกินข้าวกันดีกว่า...ก่อนที่ผมจะกินพี่คุณแทน”บัตเตอร์บอกผมแล้วลุกขึ้นนั่งข้างๆผมกินข้าวเหรอ?“เฮ้ย!!...กี่โมงแล้วเนี่ย?”ผมเด้งตัวขึ้นแล้วมองที่นาฬิกาข้อมือตัวเองทันที6โมงแล้ว...ร้านที่จะไปใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกว่าจะไปถึง...แปลว่าผมต้องออกจากบ้านตอน6โมงครึ่ง...ไม่งั้นไปสายแน่ๆและถ้าไปสายผมต้องโดนให้เลี้ยงต้อนรับที่บอสกลับมาแน่ๆแค่คิดกระเป๋าก็ลีบแล้ว“มีอะไรเหรอพี่คุณ?”บัตเตอร์ถามผมด้วยความสงสัย“พี่ต้องออกไปกินข้าวกับข้างนอกน่ะ...ลืมไปสนิทเลยโทษทีนะบัตเตอร์พี่คง...”ตุบ!พึ่บ!“ใคร?!!”บัตเตอร์ผลักผมนอนลงบนเตียงก่องจะขึ้นคร่อมผมแล้วถามเสียงแข็งแทบจะทันที...ผมยังพูดไม่จบประโยคเลย...แถมสายตาที่แสดงออกมาหงุดหงิดนั่นทำให้ผมสงสัยเหลือเกินเมื่อกี๊ยังอารมณ์ดีอยู่เลย?“เพื่อนพี่”สายตาที่บัตเตอร์มองมาทำให้ผมตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว“เพื่อน?...คนไหน?...ผมไม่เคยเห็นพี่จะมีเพื่อนเลย?”“ไอ้เด็กปากเสีย!...ใครไม่มีเพื่อนกัน!!”ผมพูดขึ้นด้วยอารมณ์ที่เริ่มหงุดหงิด...คำพูดของบัตเตอร์หมายความว่าเห็นผมเป็นคนที่ไม่มีใครคบรึไง?เดี๋ยวปั๊ดงดกอดหอมถาวรเลย!!“พี่คุณ...ตอนนี้ผมไม่เล่น...ตอบมาว่าใคร?”บัตเตอร์บอกผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ก็เพื่อนที่พึ่งกลับมาจากการไปอบรมที่ต่างเทศน่ะ”ผมตอบออกไปตามตรง“...แค่เพื่อนใช่ไหม?”บัตเตอร์นิ่งไปพักนึงก่อนจะถามผมต่อแค่เพื่อนใช่ไหม?คำถามมันดูแปลกๆไหม?ก็เป็นเพื่อนแล้วจะให้ตอบว่าไง?คือผมไม่เข้าใจว่าบัตเตอร์ต้องการให้ผมตอบอะไรกลับไปกันแน่?“อืม...ก็เป็นเพื่อน”ผมบอกบัตเตอร์พร้อมกับมองใบหน้าของคนตรงหน้าที่ขมวดคิ้วจนจะเป็นโบว์อยู่แล้ว“ไม่ไป...ได้ไหม?”บัตเตอร์ถามผมเสียงอ่อย“ทำไมล่ะ?”ผมถามกลับด้วยความอยากรู้...ทำไมถึงไม่อยากให้ผมไป?“...ไม่รู้...ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ...แต่ผมไม่อยากให้พี่ไปกับใครทั้งนั้นแค่คิดว่าพี่ต้องไปพูดคุยไปยิ้มให้กับคนอื่นผมก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว”บัตเตอร์บอกด้วยอย่างหัวเสียก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งหันหลังให้ผมแล้วขยี้หัวตัวแรงอย่างแรง“...”ผมมองไปทางบัตเตอร์อย่างงงๆ...ทั้งคำพูดและท่าทางที่บัตเตอร์แสดงออกมาแบบนั้นมัน...หรือว่าจะ...“หึงพี่เหรอ?”ผมเอ่ยถามเบาๆก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ๆบัตเตอร์มากขึ้น“...ถ้าบอกว่าใช่...พี่จะโกรธผมไหม?”บัตเตอร์ถามผมเสียงอ่อยโดยไม่หันมาหาผม“ไม่โกรธ...เป็นแฟนกันบัตเตอร์มีสิทธิที่จะหึง...แต่พี่จะบอกอะไรให้นะ...เพื่อนยังไงก็เป็นได้แค่เพื่อนไม่มีทางเป็นแฟนเหมือนกับที่บัตเตอร์เป็นแฟนพี่ได้...เพราะงั้น...”หมับ!“อย่าคิดมากนะครับ”ผมกอดบัตอร์เตอร์จากด้านหลังแล้วกระซิบบอกเบาๆ“...พี่คุณ...ก็ได้...ผมให้พี่ไปแต่พรุ่งนี้พี่ต้องมารับผมไปทำงานด้วย...แลกกันไงได้ไหม?”บัตเตอร์เงยหน้าขึ้นมาถามผมก่อนที่สายตาของเราจะประสานกันอย่างตั้งใจ“ได้สิ”ผมตกลงแทบจะทันที...เรื่องแค่นี้ไม่มีปัญาอะไรเลย“...พรุ่งนี้ต้องมาค้างบ้านผมด้วยนะ”บัตเตอร์พูดต่ออีก“ห๊ะ?...พรุ่งนี้ไม่ใช่วันศุกร์นะ”อีกแล้วเหรอ?...ทำไมถึงชอบให้ผมไปค้างด้วยจังนะ“ผมรู้...พี่ให้เวลาเพื่อนได้แต่ให้เวลาแฟนไม่ได้เหรอครับ?”บัตเตอร์ถามผมด้ววยน้ำเสียงงอนๆเอาแล้วไง?แล้วพูดแบบนี้ผมจะกล้าปฏิเสธได้ยังไงล่ะ?เด็กเจ้าเล่ห์เอ้ย!! “...รู้แล้ว...ค้างก็ได้”ผมตอบกลับไปอย่างจำยอม“เยส!!...งั้นผมกลับบ้านก่อนดีกว่า...จะนอนรอหน้าบ้านจนกว่าพี่คุณจะมารับเลย”บัตเตอร์ลุกจากเตียงแล้วหันมาบอกผมด้วยรอยยิ้มที่กลับมาเป็นปกติแล้ว“นอนตากยุงไปละกัน!!”ผมสวนกลับแล้วลุกขึ้นบ้าง “ฮะฮะฮะ...ถ้าผมป่วยพี่ต้องมาเฝ้าผมด้วยนะ...ไว้เจอกันพรุ่งนี้ครับ”บัตเตอร์บอกผมแล้วยกมือขึ้นบ๊ายบายแล้วเดินออกจาห้องผมไป“...”ผมมองบัตเตอร์ไปจนลับสายตา...กว่าจะคุยกับบัตเตอร์รู้เรื่องก็ปาไป6โมงจะครึ่งแล้วไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อมันแล้วหากางเกงมาสวมก็พอ...ใช้เวลาประมาณ10นาทีผมก็ลงมาที่จอดรถก่อนจะขับออกไปที่ร้านซึ่งเป็นที่นัดหมายของผมร้านที่ว่าเป็นร้านอาหารกึ่งบาร์สถานที่ค่อนข้างกว้างขวางมาและดูหรูหรามีระดับพอสมควรแต่อาหารในเมนูนั้นกลับถูกกว่าคิดไว้พอสมควรทำให้ผมกับบอสมักจะมาที่นี่บ่อย...ความจริงผมก็ถูกบอสลากมานี่แหละเพราะคอนโดของหมอนั่นอยู่ข้างๆเดินมาไปกี่100เมตรก็ถึงแล้วผมใช้เวลาไปเกือบค่อนคืนในการดื่มเป็นเพื่อนบอสที่เอาแต่เล่าประสบการณ์ที่ไปเจอมากจากประเทศอเมมริกาอย่างออกรสชาติ...มีทั้งเรื่องงานเรื่องเพื่อนหรือแม้แต่เรื่องผู้หญิง...ผมก็นั่งฟังบ้างเหม่อบ้างตอบกลับบ้างตามแต่จะสนใจกว่าจะฟังบอสเล่าจบก็ปาไปเกือบเที่ยงคืนแล้วผมก็เลยตัดสินใจนอนค้างที่คอนโดของบอสซะเลยแล้วพรุ่งนี้ค่อยออกเร็วหน่อยเพื่อไปรับบัตเตอร์ ส่วนเรื่องเสื้อผ้าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงเพราะผมใส่เสื้อผ้าไซน์เดียวกันกับบอส...ความจริงบอสใส่ใหญ่กว่าผมหน่อยแต่ก็พอให้ผมใส่ได้แหละแม้ว่าจะหลวมนิดหน่อยก็เถอะ....ไว้พรุ่งนี้ผมค่อยกลับไปอาบน้ำแต่ตัวที่คอนโดอีกทีนึง หวังว่าบัตเตอร์คงจะไม่โกรธที่ผมมาค้างห้องเพื่อนหรอกนะ..............................................................................สวัสดีคะมาอัพหลังจากไม่ได้อัพมาซะนานตอนหน้าพี่คุณงานเข้าคะบอกได้เลย555+เรื่องนี้มาอ่านทวนทีไรก็รู้สึกแปร่งๆถ้าอัพจนจบแล้วจะทำการรีไรท์ใหม่อย่างด่วยเลยคะซึ่งคาดว่าใกล้จบแล้วน่าจะจบพร้อมๆกับอีกเรื่องที่แต่งอยู่นิยายสองเรื่องกำลังจะจบพร้อมๆกับแอบเศร้าเล็กๆแฮะขอขอบคุณทุกๆกำลังใจและคอมเม้นท์นะคะคำติชมที่ได้จะนำไปปรับปรุงคะ^^nicedog♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪