พิมพ์หน้านี้ - @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: aa_mm ที่ 17-01-2015 12:02:13

หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 17-01-2015 12:02:13
 
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 17-01-2015 12:10:48
@@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke  ภาค บารมี & พิพัฒน์
             หน้าที่ 1.....ตอน เมื่อเราจำใจต้องอยู่ด้วยกัน// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2935430#msg2935430)ถามเพื่ออะไร// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2935467#msg2935467)เราไม่ได้เกลียดกัน// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2935484#msg2935484)อย่าทำให้คนรอบข้างลำบาก// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2935525#msg2935525)
           หน้าที่ 2.....ตอน งานอดิเรกของพิพัฒน์// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2935689#msg2935689)เมื่อพิพัฒน์จะไปเที่ยวสถานที่อโคจร// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2935769#msg2935769)พวกไม่มีความเกรงใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2936372#msg2936372)
                                 ข้างอู่มีกรงกระต่าย// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2936376#msg2936376)กระต่ายที่หายไป// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2936380#msg2936380)
           หน้าที่ 3.....ตอน ความห่วงใย// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2936865#msg2936865)คนรอบข้างของบารมี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2937027#msg2937027)
           หน้าที่ 4.....ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2937927#msg2937927)
           หน้าที่ 5.....ตอน ความทรงจำของบารมี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2938130#msg2938130)
           หน้าที่ 6.....ตอน อยากอยู่ด้วยกันตลอดไป (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2939085#msg2939085)
           หน้าที่ 7.....ตอน อ้อน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2940695#msg2940695)
           หน้าที่ 9.....ตอน ไม่เคยลืม (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2944182#msg2944182)
           หน้าที่ 13....ตอน ก่อนจะเข้าใจ// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2974959#msg2974959)ใกล้ชิดอีกนิด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2975175#msg2975175)
           หน้าที่ 14....ตอน หิว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2976138#msg2976138)
           หน้าที่ 15....ตอน ภาคพิเศษ 20 เรื่องของบารมีกับพิพัฒน์// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2977019#msg2977019)ความสุขเล็ก ๆ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2977126#msg2977126)
           หน้าที่ 16....ตอน กิน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2977399#msg2977399)
           หน้าที่ 17....ตอน บารมีก็งอนเป็น (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3020268#msg3020268)
           หน้าที่ 18....ตอน เข้าใจให้ตรงกัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3020535#msg3020535)
           หน้าที่ 19....ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3022630#msg3022630)
           หน้าที่ 20....ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3024474#msg3024474)
           หน้าที่ 22....ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3028137#msg3028137)
           หน้าที่ 23....ตอน เหตุการณ์ปกติ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3031574#msg3031574)
           หน้าที่ 25....ตอน สู้ไม่ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3099363#msg3099363)
           หน้าที่ 26....ตอน วันที่น่ายินดี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3290547#msg3290547)
           หน้าที่ 29....ตอน ก้าว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3595052#msg3595052)
           หน้าที่ 30....ตอน จบ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3629721#msg3629721)
........................................

@@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke  ภาค เต๋อ & ช่างวินัย
           หน้าที่ 6.....ตอน ผมเกลียดช่างนัย// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2939026#msg2939026)เด็กถูกทิ้ง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2939487#msg2939487)
         หน้าที่ 7.....ตอน สัญญา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2940148#msg2940148)
         หน้าที่ 8.....ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2941262#msg2941262)ให้เธอนั้นกลับมาโอบกลับมากอดอีกสักครั้ง// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2941262#msg2941262)
         หน้าที่ 10....ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2945393#msg2945393)
         หน้าที่ 11....ตอน ตาม (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2947534#msg2947534)
         หน้าที่ 12....ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2950323#msg2950323)

❤❤❤ ❤❤❤ ❤❤❤ ❤❤❤ ❤❤❤❤❤❤ ❤❤❤  ❤❤❤ ❤❤❤ ❤❤❤❤❤❤ ❤❤❤ 

สารบัญนิยายเรื่องอื่น ๆ

01. - รักเกิดในแผนกขนส่ง (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41970.0) 02.  - รักเกิดในร้านก๋วยเตี๋ยว (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=4159.0) 03.   - รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.0)

04. - ก็แค่ผู้ชายหยอกล้อกัน (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2531.0) 05.  - เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=1539.0) 06.   - เพราะรัก(แน่เหรอ) ครับผม (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=7407.0)

07. - running..... (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=14400.0) 08.  - สวัสดี (ยังไม่จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=8912.0) 09.   - เรื่องอื่น ๆ ใน Thaiboys ลองค้นดู (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=4686.0)

10. - IT is เต็มสิบ.// IT is ฐาปัตย์ (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56607.msg3517286#msg3517286) 11.  - เพื่อนร่วมงาน (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59781.msg3629565#msg3629565)


พูดคุยกัน ❤❤  Aoikyosuke Fanpage❤❤
 (https://www.facebook.com/pages/Aoikyosuke-%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94/187318631478330)
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 17-01-2015 12:11:45
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  เมื่อ เราจำใจต้องอยู่ด้วยกัน


เสียงถีบประตูบ้านดังปึงปัง  จนพิพัฒน์สะดุ้งตื่นและต้องรีบลุกขึ้นมาจากโซฟาเพื่อเดินไปเปิดประตูบ้านอย่างรวดเร็ว

“อะไรวะ  กดกริ่งก็แล้ว ตะโกนเรียกก็แล้ว โทรมาก็แล้ว มัวทำอะไรอยู่จะนอนกินบ้านกินเมืองหรือไง  นี่ถ้าเป็นโจรมึงโดนปาดคอตายห่าไปแล้วพิพัฒน์”

“ขอโทษครับพอดีผมปิดเสียงโทรศัพท์เอาไว้”

โดนด่าขนาดนี้พิพัฒน์ก็ได้แต่ขอโทษด้วยน้ำเสียงอ่อย ๆ รู้สึกผิดจริง ๆ ที่หลับลึกหลับสนิทจนทำให้คนที่เข้าบ้านไม่ได้ต้องหงุดหงิดโมโหขนาดนี้

และคนที่หิ้วถุงกับข้าวมาสองสามถุงก็สะบัดรองเท้าทิ้งไว้ที่หน้าประตูบ้านก่อนจะเดินเข้ามาและทิ้งกายลงนั่งบนเก้าอี้ในครัว

“เทกับข้าวซิ  หิวจะตายห่าแล้ว”

น้ำเสียงของคนพูดมีแววหงุดหงิดโมโหอย่างเห็นได้ชัด
และพิพัฒน์ก็รีบกระวีกระวาด  หยิบจานชามมาจัดเตรียมและเทอาหารใส่จานให้

“แม่งกว่าจะได้กินรอนานชิบหาย  หลนปูม้านี่ ปามันชอบมาก เสียดายมันไม่อยู่”

“.......................”

พิพัฒน์ถึงกับชะงักมือ  และนิ่งเงียบ ก่อนจะหรุบสายตาลง

“........................”

พิพัฒน์เทกับข้าวใส่จานให้คนที่พูดเรื่องบางอย่างออกไปโดยไม่ทันคิด

และในเวลานี้บารมีเองก็เพิ่งรู้ตัว  ว่าพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดเข้าให้แล้ว

ที่จริงเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน
ไม่ได้เป็นญาติ  ไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น
พิพัฒน์เป็นแค่คนที่เคยอยู่กินกับน้องสาวของบารมี
ไม่ได้แต่งงานกันเป็นเรื่องเป็นราว

แค่เคยอยู่กินด้วยกันจนถึงวันที่ปาจรีย์ได้สามีใหม่เป็นชาวต่างชาติและทิ้งพิพัฒน์ไปในวันที่พิพัฒน์ตกงาน

จะมีเรื่องแย่กว่านี้อีกมั้ย

คนที่เคยอยู่ด้วยกันทิ้งไปมีคนใหม่ที่โคตรดีกว่า  โดยทิ้งภาระคือทาวเฮาส์สามชั้นที่ยังผ่อนไม่หมดเอาไว้ให้

และเป็นพี่ชายของปาจรีย์ที่รับภาระมาช่วยผ่อนต่อให้

ไหน ๆ ก็ผ่อนบ้านแล้ว  จะให้ไปอยู่ที่อื่นมันก็ไม่ใช่เรื่อง
ก็เลยมาอยู่บ้านที่ตัวเองกำลังผ่อนซะเลย

เพราะตกลงกันไม่ได้
พิพัฒน์ก็เลยต้องอยู่ร่วมบ้านกับพี่ชายของคนที่เคยคิดจะใช้ชีวิตด้วยกันไปตลอด  อย่างจำใจ และต้องทำใจให้ได้

“พัฒน์”

“ครับ”

รีโมทในมือถูกกดไปเรื่อยๆและคนที่นั่งกินข้าวอยู่ก็เรียกคนที่เปลี่ยนช่องรายการโทรทัศน์อย่างไร้จุดหมาย

“หางานได้ยัง”

แค่ได้ยินคำพูดนั้น  พิพัฒน์ก็ถึงกับนิ่งอึ้ง และวางรีโมทโทรทัศน์ลง

“ก็เพราะมึงเป็นแบบนี้ไง  ปามันถึงได้ไปมีผัวใหม่  มึงแม่งไม่เคยพยายามอะไรเลยหรือไงชีวิตมึงอ่ะ   มึงไม่ได้อยากอยู่ร่วมบ้านกับกูหรอกพัฒน์  แต่ที่ต้องอยู่ต้องทนก็เพราะมึงเสียดายบ้านเสียดายเงินผ่อนบ้านที่ผ่อนไปแล้ว  นี่กูมาช่วยผ่อนต่อให้ก็ดีขนาดไหนแล้ว”

จะเอาอะไร
บุญคุณเหรอ
หรือว่าอะไร

“ถ้ายังหางานไม่ได้  ไปทำบัญชีที่อู่ให้กูก็จบ”

นั่นไม่ใช่สิ่งที่อยากได้ยินหรอกนะ

“ผมกำลังหางานอยู่  เงินเก็บผมพอมีบ้าง ยังไงก็คงไม่รบกวนพี่ไปตลอด”

อ่อ
หยิ่งว่างั้น
จองหองว่างั้น

“มึงนี่มันงี่เง่ากับเรื่องไม่เป็นเรื่องจริงๆ”

ก็คงอย่างนั้นแหละ ผมยอมรับ

“อิ่มแล้ว”

บอกเพียงแค่นั้น และบารมี ก็ลุกขึ้นเดินมาทิ้งกายลงนั่งข้างๆ คนที่กำลังหยิบหนังสือประกาศรับสมัครงานขึ้นมาและเริ่มใช้ปากกาวงข้อความประกาศรับสมัครงานที่น่าสนใจลงไป

“สมัยนี้เขายังหางานแบบนี้กันอยู่อีกเหรอไม่เปิดอินเตอร์เน็ตหาวะ  จะได้ง่ายขึ้น”

ก็อยากจะทำแบบนั้นอยู่หรอกนะ  แต่มันทำไม่ได้

“คอมพิวเตอร์ผมเสีย”

อ่อ

งั้นเหรอ

“มึงเคยคิดจะเงยหน้ามาพูดกันดี ๆบ้างมั้ยพัฒน์  หรือแค่มองกันแบบผ่าน ๆ ไปๆ มา ๆ แบบนี้ไปเรื่อย ๆ”

แล้วจะให้ทำยังไง
ในเมื่อก็รู้อะไรบางอย่างกันอยู่ในใจลึกๆ แล้วยังจะอยากได้อะไรอีก

“ยังไงก็ขอบใจที่แกะข้าวให้กินทุกวัน  แล้วก็ชงกาแฟให้ตอนเช้า  รวมทั้งรีดผ้าซักผ้าให้ด้วย”

มันก็เป็นหน้าที่ที่ต้องทำไม่ใช่เหรอ
แค่พี่มาช่วยจ่ายค่าผ่อนบ้านให้ มันก็เป็นบุญคุณท่วมหัวผมแล้วมั้ง

“พูดกับมึงนี่ยากเนอะ   ทำไมวะ พูดกับกูสักคำ  ตอบกูมาสักคำ  ดอกพิกุลในปากมึงจะร่วงหรือไง”

บารมีหัวเราะเสียงเบาและพิพัฒน์ก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าของคนที่พูดบางอย่างให้ได้ยิน

“มึงนี่มันเกินไปจริง ๆ   นะพัฒน์  แต่จะว่าไปนะ อยู่ด้วยกันสองต่อสองทุกวันขนาดนี้ ถ้ามึงเป็นผู้หญิงนะ ป่านนี้กูเอาทำเมียไปแล้ว   งานบ้านก็ไม่ขาดตกบกพร่อง  บริการดีชิบหายเสียอย่างเดียวหน้าอย่างกับคนอมทุกข์ เห็นแล้วเซ็ง”

แล้วคนพูดก็ยังหัวเราะไม่หยุด  เหมือนเห็นเป็นเรื่องตลก แต่คนฟังได้แต่นิ่งเงียบและปิดหนังสือประกาศรับสมัครงาน

ลุกขึ้นเดินไปจัดการเก็บกับข้าวและถ้วยจานบนโต๊ะอาหารไปล้างเพราะไม่อยากสนใจฟังคำพูดแย่ ๆ ของคนที่ยังหัวเราะไม่หยุด

เราไม่ได้เป็นอะไรกัน
พิพัฒน์เป็นแค่คนที่เคยใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาวของบารมีเท่านั้น

และบารมีก็มารับช่วงภาระค่าผ่อนบ้านที่พิพัฒน์ยังไม่มีปัญญาผ่อนต่อให้

แต่จะช่วยผ่อนเฉย ๆ คงใจดีเกินไป
บารมีเลยมาอยู่บ้านที่ตัวเองช่วยผ่อน   

บารมีไม่ได้รู้จักกับพิพัฒน์มากมาย
รู้แค่ว่า เป็นผู้ชายเงียบ ๆและหน้าตาจืดชืดคนหนึ่ง ก็คงเพราะอย่างนี้ถ้าปาจรีย์จะทิ้งไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

ตกงานมาครึ่งปีแล้วยังทำเป็นหยิ่งได้อีก

“พรุ่งนี้ไปทำบัญชีที่อู่ให้หน่อย หางานได้เมื่อไหร่ค่อยออก  จะเอาเท่าไหร่ก็ว่ามาแล้วกัน  จ้าง...ไม่ได้ให้ทำฟรี”

สมเพช
สงสาร
เห็นใจ
หรือว่าอะไร

“................”

พิพัฒน์ยังคงไม่ตอบและบารมีก็อาศัยความเงียบนั้นเป็นคำตอบ

“เงียบแสดงว่าได้   ที่อู่คนทำบัญชีคนเก่ามันออกไป  ตอนนี้หาใหม่ไม่ทันหรอก  จะเอาเท่าไหร่ก็ไปนอนคิดแล้วกัน”

บารมีลุกขึ้นและจัดการปิดรายการโทรทัศน์เรียบร้อย
ก้าวขาเดินขึ้นบันไดไปโดยมีสายตาของพิพัฒน์มองตาม

ไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องปฏิเสธอีก
ตกงานมาครึ่งปีและเงินเก็บในบัญชีก็ร่อยหรอจนแทบไม่เหลือ

พิพัฒน์ถอนหายใจออกมายาว ๆอีกครั้งและทำได้แค่ครุ่นคิดกับตัวเองเงียบ ๆ

ชีวิตกู  แม่งทั้งเหี้ย ทั้งดิ่งลงเหว จนแทบไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรอีกแล้ว

ก็คงได้แต่ก้มหน้าก้มตายอมรับ
จนกว่าจะถึงวันที่สามารถยืนด้วยขาของตัวเองได้จริงๆ โดยไม่ต้องพึ่งพา  คนอย่าง “บารมี”


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-01-2015 12:13:59
 :mc4: โอะโอ เรื่องใหม่ๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 17-01-2015 12:28:51
กี๊ดดด  ตาไม่ฝาดใช่ปะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Themamo ที่ 17-01-2015 12:31:50
เข้ามากรี๊สสสเรื่องใหม่มาต่ออีกนะเอาอีกๆ o13
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 17-01-2015 12:39:44
ติดตาม
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: Noostar ที่ 17-01-2015 12:44:19
สงสารจัง น่าติดตามมากๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 17-01-2015 12:50:04
จะติดตามต่อไปนะคะ  o13 o13
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์) ตอน ถามเพื่ออะไร
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 17-01-2015 12:51:36

 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน ถามเพื่ออะไร

“พี่บัส  ปาก็ไม่ได้อยากจะเลิกกับมันหรอก   ปาก็สงสารมันอยู่  มันเพิ่งตกงาน เงินเก็บก็เหลือไม่เท่าไหร่แล้ว ปาก็รู้ว่ามันหาเงินมาผ่อนบ้านให้ปาอยู่สบาย ๆ   ที่ปามีเงินแต่งตัวสวย ๆ ก็เพราะมัน  ปาก็ยอมรับว่าปาผิด ไอ้พัฒน์มันไม่ได้ผิดอะไร”

บารมีไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับชีวิตน้องสาวต่างพ่อมากนัก  แต่ตอนนี้ถึงไม่อยากยุ่งก็ทำไม่ได้  ในเมื่อน้องสาวมาขอความช่วยเหลือถึงที่  ดี ๆ ร้าย ๆ ก็เป็นพี่น้องกัน  แม่สั่งเสียเอาไว้ก่อนตายไม่ว่ายังไงก็ต้องดูแลน้องอย่าปล่อยให้เตลิดไปมากกว่านี้


“แต่คือพี่เข้าใจปาหน่อยเถอะ  ปาไม่ได้รักมันตั้งแต่แรก  ตอนนี้ปาเจอเจอคนที่ปารักจริง ๆ แล้ว  ไอ้พัฒน์มันก็รู้ตั้งนานแล้วแต่มันไม่พูด  พี่คิดดูมันรู้ขนาดนี้ มันก็ยังทำเป็นเฉย  จนปาไม่รู้จะหาเรื่องอะไรมาเลิกกับมันดี  ปาสงสารมัน ปาเลวปายอมรับ  แต่พี่ก็รู้ ถึงทนอยู่กันไปก็ไปกันไม่รอด  นิสัยมันอย่างนั้น แล้วปาเป็นแบบนี้  ปาไม่คิดว่าปาจะอยู่กับมันไปได้ตลอดชีวิต”


ปาจรีย์ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่ถึงแม้จะเห็นแก่ตัวขนาดไหนก็ไม่สามารทิ้งพิพัฒน์ไปได้โดยไม่รู้สึกอะไร

สงสารพิพัฒน์เกินกว่าจะทำแบบนั้น

“พี่บัสช่วยปาหน่อย  ไอ้พัฒน์มันยอม   ปาบอกมันแล้วว่าพี่บัสจะผ่อนบ้านต่อเอง  ถ้าหมดเมื่อไหร่ปาก็จะให้มัน  ปาสงสารมัน  ดี ๆ ร้าย ๆ มันก็ทำงานส่งปาเรียนจนจบ จะให้ปาถีบหัวส่งตอนที่มันลำบาก ปาก็ทำไม่ลงจริง ๆ”

นี่ขนาดทำไม่ลงนะ

“อีปา  มึงนี่มันเหลือเกินจริง ๆ แล้วไง  มึงบอกไม่ถีบหัวส่ง  แต่ที่ทำอยู่นี่ก็ใช่ทั้งหมดนั่นแหละ  นี่ถ้ามึงไม่ใช่น้องกูนะ  กูด่าเสียคนไปแล้ว”

“พี่บัสก็เลิกด่าปาซะทีเหอะ   ยังไงก็ช่วยปาหน่อยนะพี่  ปาสงสารไอ้พัฒน์มันจริง ๆ ปาเลว ปาก็รู้  แต่จะให้ปาอยู่กับมันไปตลอด ปาก็ทำไม่ได้จริง ๆ”

นี่ไง  เหตุผลของคนเลว ๆ อย่างมึงไงปา

“มึงไม่รักมันแต่มึงก็หลอกให้มันส่งเสียมึงมาได้ตลอด มึงนี่มัน....กูไม่รู้จะพูดอะไรกับมึงแล้วจริงๆ  อีปา”

บารมีรู้สึกหงุดหงิดใจกับสิ่งที่น้องสาวทำ  ถึงไม่อยากยุ่งแต่ก็คงต้องยุ่ง

“นอนที่อู่มันก็ไม่สบายเหมือนนอนที่บ้านหรอกน่าพี่  ไอ้พัฒน์มันไม่มีอะไรหรอก  พี่ช่วยปาหน่อยนะ  นะพี่บัส ปาเป็นน้องพี่นะ พี่จะไม่ช่วยปาเลยเหรอ”

เป็นเรื่องที่กูสมควรช่วยมากเลยนะ

“มึงนี่มัน  อีปา มึงไปไกล ๆ ตีนกูเลยไป”

ไปก็ได้

“ปาไปแน่แหละ  แต่พี่ต้องรับปากก่อนว่าพี่จะช่วยปา นะพี่  ช่วยปาสักครั้งเถอะ”

ก็เพราะโดนขอร้องมาแบบนี้
สุดท้ายชีวิตของบารมีก็เลยต้องมาพัวพันกับอดีตน้องเขยที่แทบจะไม่เคยพูดจากันเลยสักครั้ง และไม่ใช่แค่อาศัยอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน
เพราะในเวลานี้  แทบจะเจอหน้ากันตลอด 24 ชั่วโมง

“นี่บัญชีของเดือนก่อน ๆ ดูให้หน่อยเดี๋ยวต้องส่งงบ  แล้วนี่ก็บัญชีเจ้าหนี้กับพวกเช็คลูกค้าที่ค้างของอยู่  เช็คด้วยเลย”

บิลและเอกสารต่าง ๆถูกยกมาวางให้ปึกใหญ่  และพิพัฒน์ที่กำลังคร่ำเคร่งอยู่กับกองเอกสารก็เงยหน้าขึ้นมามองและถอดแว่นสายตาออกวางไว้บนโต๊ะ

“เออพัฒน์  อีปามันติดต่อมามั่งป่ะ”

นั่นไม่ใช่เรื่องที่ควรถามหรอก
แต่คนอย่างบารมีนึกอยากจะถามอะไรก็ถาม ไม่เคยสนใจคนฟังอยู่แล้ว  และพิพัฒน์ก็ได้แต่นิ่งเงียบ

จนป่านนี้แล้วยังจะมาถามอะไรอีก

มันไม่มีอะไรให้ต้องถามอีกแล้วมั้ง

“ไม่ได้ติดต่อ”

ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบและพิพัฒน์ก็หยิบแว่นสายตามาใส่อีกครั้ง เตรียมจัดการกับเอกสารกองใหญ่ที่วางอยู่บนโต๊ะที่ดูแล้วไม่มีทีท่าว่าจะหมดลงง่ายๆ

ได้ฟังแบบนั้นแล้วบารมีก็ได้แต่พยักหน้าตาม  และรีบเปลี่ยนเรื่องคุย

 “กูสั่งผัดกระเพรามากิน  มึงเอาอะไรตอนกลางวันเดี๋ยวสั่งเด็กมันไปซื้อให้”

เรื่องกินน่ะ  มันไม่ใช่ปัญหาหรอก
แต่ปัญหาคือตอนนี้ไม่รู้สึกอยากจะกินอะไรเลยสักนิด

“พี่สั่งเลย ผมไม่เอา”

นี่ไง  ความงี่เง่าของมันเริ่มแล้วไง

“มึงอย่ามาทำเรื่องมากพัฒน์  จะกินอะไรก็รีบ ๆ พูดมา จะได้สั่งเด็กไปซื้อกินทีเดียวเลยจบๆ มึงจะให้มันขี่มอร์เตอร์ไซด์กี่รอบ หัดเกรงใจคนอื่นบ้าง   คนอื่นเขาก็มีงานมีการทำไม่ได้นั่งว่าง ๆ”

แปลว่า ถ้าไม่กินก็คงไม่ได้สินะ

“เหมือนพี่ก็ได้”

เออแค่เนี้ยะ  ก็จบ

“แม่งเรื่องมากชิบหาย  ความเรื่องมากของมึงลด ๆ ลงบ้างพัฒน์  กูเห็นแล้วรำคาญลูกกะตา”

ความอดทนของคนเราอยู่ตรงไหน
แล้ว......ความอดทนของคนเราจะสิ้นสุดที่ตรงไหน

พิพัฒน์ตอบอะไรไม่ได้เลย  ได้แต่นั่งนิ่ง ๆ และถอนหายใจออกมา

บารมีเดินออกไปคุมงานที่อู่แล้วและพิพัฒน์ก็ได้แต่มองผ่านกระจกใสที่มองออกไปข้างนอกก็เห็นว่าในอู่  กำลังยุ่งวุ่นวายกันขนาดไหน

ก้มกลับลงมาจัดการกับกองเอกสารบนโต๊ะแล้วก็ได้แต่ถอนใจ
ทำไมต้องทน
ทำไมต้องอยู่ด้วยกัน
ทำไมต้องทำอะไรที่ไม่อยากทำ

นั่นสิ   ทำไม.........
แต่คิดไปก็เท่านั้น
คนไม่มีความกล้าอย่างพิพัฒน์จะอยู่ในสภาวะจำทนแบบนี้ก็ไม่เห็นแปลก

กลัวการเปลี่ยนแปลง  ก็เลยต้องไหลเรื่อยไปตามกระแส ไม่ชอบแต่ก็ยอมฝืนใจตัวเองได้

รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพิพัฒน์

ก็สมควร
ไม่เคยมีความมั่นใจในตัวเอง
ไม่เคยมีความกล้าเลยสักนิด  จะโดนคนอื่นโขกสับและใช้งานขนาดไหนมันก็สมควร

ก็เพราะแบบนี้
เป็นคนแบบนี้
ถ้าจะโดนปาจรีย์ทิ้งไปเพราะทนความน่าเบื่อไม่ไหว   มันก็สมควร



TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน ถามเพื่ออะไร
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 17-01-2015 13:07:29
ดีแระที่ยัยปาทิ้งอ่ะ.ผู้ชายดีดีมีอีกเยอะค่ะ(เกี่ยว?) พัตน์อย่าได้แคร์ค่ะ. :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เราไม่ได้เกลียดกัน
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 17-01-2015 13:23:49

 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน เราไม่ได้เกลียดกัน

พิพัฒน์เงยหน้าขึ้นเพราะประตูกระจกถูกเคาะ  เด็กที่ซื้อข้าวให้บ่อย ๆ กำลังชี้ชวนให้เปิดประตูกระจกให้และพิพัฒน์ก็ลุกขึ้นมาเปิดกระจก

“พี่พัฒน์.......เฮียให้เอากล้วยแขกมาให้”

เอามาให้……..??????

รับกล่องกระดาษมาถือเอาไว้  และมองไปที่คนที่กำลังคุมงาน

เอามาให้.......
บารมีบอกให้เอามาให้...........

วางกล่องกระดาษเอาไว้บนโต๊ะ และหยิบกล้วยแขกขึ้นมาหนึ่งชิ้นก่อนจะกัดไปหนึ่งคำและมองไปที่คนที่กำลังสั่งให้เด็กเปิดฝากระโปรงรถขึ้น

พิพัฒน์ทันได้สบตากับบารมีที่มองมาและพยักหน้าให้ก่อนจะหันไปสนใจกับการทำงานของตัวเองต่อ

ทำไมถึงต้องทน
ทำไมถึงยังทำสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบมาได้ตั้งนานสองนาน

ก็เพราะว่าไม่มีความกล้าก็เพราะเป็นคนแบบนี้ เลยไม่มีปัญญาจะก้าวไปไหนได้

คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจและจัดการกับกองเอกสารไปเงียบๆ โดยมีสายตาของบารมีมองตามและนึกสงสารคนที่ทำหน้าหงอยเหงาได้ทุกวัน

ไอ้พัฒน์มันเฉื่อย  ทำอะไรก็เชื่องช้าไปหมด  คิดอะไรก็คิดนาน  พูดก็ไม่ค่อยพูด  คิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้

ที่จริงมันไม่ใช่เรื่องลำบากใจอะไรที่ต้องอยู่ด้วยกัน
ตั้งแต่วันแรกที่ย้ายมาพิพัฒน์ก็เป็นแบบนี้

บางครั้งก็เชื่องช้า
ช้าจนบารมีนึกรำคาญ  แต่ก็ทิ้งเอาไว้ไม่ได้ ไม่ใช่เพราะน้องสาวขอร้อง   แต่เห็นสภาพแล้ว ถึงอยากจะใจดำก็ทำไม่ลง

ปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้จริงๆ 
ไม่รู้ว่าทำไม

พิพัฒน์เป็นคนดี  ถึงมันจะเชื่องช้าไปบ้าง  แต่ก็รู้สึกถึงความดีของมัน   อยู่ด้วยกันมาพักใหญ่ทำไมจะไม่รู้

ขนาดหงุดหงิดโมโหใส่ไปวันก่อนมันก็ยังไม่ถือสา  ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่าบางทีพัฒน์มันก็คงคิด  แต่มันแค่ไม่พูด

ความเป็นคนดีของมัน  ทำให้มันต้องกลายเป็นแบบนี้

บารมีเดินไปเคาะกระจกออฟฟิศและพิพัฒน์ก็เงยหน้าขึ้นและเดินมาเปิดกระจกให้

“มืด ๆ เดี๋ยวก่อนเข้าบ้าน  เตือนกูหน่อยให้ซื้อขนมถ้วย  เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะได้เอาไว้ใส่บาตร  แม่ชอบ“

จะให้เตือนเรื่องเตรียมของใส่บาตรพรุ่งนี้สินะ

“พี่”

“เออ”

“ซื้อไว้ตอนเย็น ใส่บาตรเช้าขนมเป็นกะทิมันจะบูด เอาไว้ไม่ได้”

อ้าวเหรอ

“แล้วจะให้ทำยังไงวะ  ก็แม่กูชอบ เช้า ๆ มันมีขายที่ไหนกันล่ะ  แม่ง”

ทำยังไงเหรอ
ทำยังไง……

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นมาทำให้ตอนเช้าก็ได้  ทำไม่ยากหรอก เคยทำให้ปา”

คนพูด  พูดด้วยความรู้สึกแบบไหนไม่รู้ แต่คนฟังชะงักนิ่งค้างไปชั่วขณะ
บางทีไอ้พัฒน์มันคงทำใจได้แล้ว ไม่งั้นมันคงไม่พูดออกมาได้หน้าตาเฉยขนาดนี้

บารมีไม่อยากจะรื้อฟื้นหรือพูดอะไรให้มากความอีก  พยักหน้ารับ และกลับไปดูงานของตัวเองที่ค้างอยู่
ปล่อยให้พิพัฒน์ทำเอกสารที่ค้างอยู่บนโต๊ะไปคนเดียวเงียบ ๆ

ยิ่งอยู่กับพิพัฒน์นาน ๆ  มันทำให้ชีวิตที่เร่งรีบ และร้อนรนมาตลอดเริ่มช้าลง  ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร
อยู่ด้วยกันมาก ๆ เหมือนชีวิตที่เคยสุดโต่งจนหาความพอดีไม่ได้เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น

ตื่นเช้ามา  มีคนคอยดูแล มันก็ดีไปอย่าง  จะเรื่องชงกาแฟให้  เรื่องซักผ้ารีดผ้าให้  พัฒน์มันก็จัดการให้ทุกอย่าง

มีเมีย  เมียยังไม่ทำให้ขนาดนี้
แต่นี่ไม่ใช่เมีย  ยังทำให้ขนาดนี้ ทำให้หมดทุกอย่างนั่นมันก็ไม่ต่างจากเมียทำให้ผัวหรอกวะ

ขาดก็แค่อย่างเดียว  ที่คนเป็นผัวเมียกันต้องทำ  แต่ไอ้พัฒน์มันยังไม่ได้ทำ………..เรื่อง..........อย่างว่า...........

“.........เหี้ยยยยยยยยยย........ทำไมจังไรขนาดนี้วะ”

บารมีสบถออกมาเสียงดังลั่นและเริ่มรู้สึกว่าไม่ควรคิดเรื่องบ้าๆ แบบนี้  และการสบถแบบนั้นก็ทำให้เด็กที่กำลังเปิดฝากระโปรงรถเพื่อเช็คหม้อน้ำถึงกับสะดุ้งและยกมือไหว้

“ขอโทษครับเฮีย  ผมขอโทษ ผมผิดอะไรเฮียบอกผมเลยครับเฮีย”

อะไรของมึง
มันใช่ที่ไหนล่ะวะ

“ไม่เกี่ยวกับมึง   อมร....มึงทำงานของมึงไปเลยไป  แม่ง จัดการอะไรก็รีบๆ  กูจะออกไปข้างนอกกลับมาไม่เสร็จนะ  กูจัดการมึงแน่  นัดลูกค้าวันนี้นะอย่าให้เสียชื่อกูเด็ดขาด  เข้าใจมั้ย”

ด่าลูกน้องเรียบร้อยและบารมีก็เดินกระฟัดกระเฟียดหัวเสียออกจากอู่ไปแล้วโดยมีสายตาของพิพัฒน์มองตามอย่างไม่เข้าใจ

ไม่เคยรู้อะไรเลย  ไม่เคยรู้ตัวเองสักนิด
พิพัฒน์ไม่เคยรู้ตัว  ว่าตัวเองคือสาเหตุสำคัญของอาการหงุดหงิดโมโหของบารมี


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน ถามเพื่ออะไร
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 17-01-2015 13:24:15
อย่าดูถูกตัวเองสิจ้ะ มีปัญหาปรึกษาพี่บารมีค่ะ เพื่อความสนิทแนบแน่น :haun5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เราไม่ได้เกลียดกัน
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 17-01-2015 13:33:52
กรี๊ดดดดดพี่บัสกะพิพัฒน์อีกคู่จะมาด้วยไหมอ่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เราไม่ได้เกลียดกัน
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 17-01-2015 13:47:23
พี่บัสแบบ ฟก้้ดาเสวดาเสะะวเเยนิาทด่ไไล มากอ่ะรักเลย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เราไม่ได้เกลียดกัน
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 17-01-2015 13:57:06
แล่วๆๆ เริ่มคิดแล้วสินะ พี่บัส
จับทำเมียไปเล้ย คึคึ
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน อย่าทำให้คนรอบข้างลำบาก
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 17-01-2015 14:12:07

 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน อย่าทำให้คนรอบข้างลำบาก

ก่อนที่พิพัฒน์จะมาทำบัญชีให้ที่อู่ของบารมี  พิพัฒน์ตกงานและดำรงชีวิตด้วยการทำขนมขายพอมีรายได้เป็นเงินเก็บเล็กๆ น้อย ๆแต่ก็ไม่พอจะช่วยผ่อนบ้าน   และบางทีแค่จะใช้จ่ายส่วนตัวยังแทบไม่พอ  สุดท้ายถูกบารมีลากมาทำบัญชีที่อู่ ที่จริงก็คิดว่าแค่มาทำบัญชีที่อู่อย่างเดียว  ช่วยจัดการเอกสารหรืออะไรก็ตามที่พอทำได้  แต่พักหลัง ๆ หน้าที่สำคัญของพิพัฒน์ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นด้วย

เพราะในทุก ๆ วัน พิพัฒน์ต้องเป็นผู้ฟังที่ดีฟังบารมีบ่นทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิต

“มึงคิดดูพัฒน์ นัดแล้วไม่เป็นนัด อะไหล่ก็สั่งมาแล้ว นี่คือยังไงจะต้องให้อู่สำรองจ่ายก่อนเหรอแล้วกูจะเอาเงินที่ไหนมาหมุนมากมาย มันก็จมอยู่แบบนี้ตกลงไม่ต้องให้ลืมตาอ้าปากกันเลยหรือไงวะ..............”

หน้าที่หลักคือพยักหน้าตาม
หน้าที่รองคือ ตั้งแต่เดินเข้าบ้าน ต้องจัดการเตรียมอาหารใส่จานและเตรียมน้ำดื่มให้คนที่เข้าบ้านมาก็บ่นตั้งแต่ออกจากอู่จนถึงบ้าน

“.................”

พิพัฒน์แทบจะไม่ต้องตอบอะไรเลย แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จเรียบร้อย   แล้วคนที่ยังบ่นไม่ยอมหยุดจะเดินมากินข้าวเอง

เรากินข้าวพร้อมกันทุกวัน

เมื่อก่อนไม่เคยคิด  แต่เมื่อได้อยู่ด้วยกันนาน ๆ บารมีกลับพบว่าตัวเองเคยชินที่มีพิพัฒน์อยู่ด้วยตลอด
ไม่คิดว่าจะชอบใช้ชีวิตแบบนี้  รู้สึกตัวอีกทีก็ชินแล้วที่มีพิพัฒน์อยู่ใกล้ ๆ

เราอยู่ด้วยกันทุกวัน  ทุกเวลาทุกนาที  ที่พิพัฒน์อยู่ด้วยมันไม่เหมือนเมื่อก่อน ไม่เหมือนเลย

“พัฒน์”

พิพัฒน์เงยหน้าขึ้นมองและบารมีก็ขมวดคิ้วมุ่น

“ปามันโทรมาหาเหรอวันก่อน”

ทำไมมาเรื่องนี้ได้ก็ไม่รู้ แต่พิพัฒน์ก็พยักหน้ารับ

“มึงก็ยังคุยกับอีปาได้เนอะ  ใจกว้างจริงนะมึงเนี่ย  น้องเขยอย่างมึงนี่ไม่ใช่จะหาได้ง่าย ๆ”

พิพัฒน์ไม่ใช่น้องเขยแล้ว   ตอนนี้อยู่ในสถานะอะไรก็ยังไม่รู้
ความเกี่ยวข้องกันก็ไม่มี   แล้วทำไมถึงมาพูดแบบนี้อีก

บางทีพิพัฒน์ก็เสียใจกับสิ่งที่บารมีพูดอยู่บ่อย  ๆ แต่ไม่รู้จะทำยังไง

บารมีมองหน้าพิพัฒน์ที่นิ่งเงียบไป เป็นห่าอะไรอีก พูดแค่นี้ก็ไม่ได้

ก็รู้ว่าเรื่องนี้ที่จริงก็เรื่องส่วนตัว 
แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกหงุดหงิดรำคาญที่พิพัฒน์ยังคุยกับน้องสาวตัวเองอยู่  ทั้งที่ก็เลิกกันมาจะเป็นปีแล้ว 

“แล้วมันว่าไง”

ไม่ได้อยากรู้   แต่ก็ถามไปงั้น ๆ แต่พิพัฒน์ถอนหายใจยาวเหยียด  และตอบกลับตามที่คิด

“ช่างมันเหอะ  เรื่องของผม”

เรื่องของมึงเหรอ
นี่มึงหาว่ากูเสือกเรื่องของมึงเหรอไอ้พัฒน์

เพียงเท่านั้นบารมีก็ทิ้งช้อนในมือและลุกขึ้นเดินกระแทกเท้าปึงปังขึ้นห้องไปทันที

โดนโกรธอีกแล้ว มีเรื่องให้บารมีโกรธได้ทุกวัน ซ้ำ ๆ ซาก ๆจนพิพัฒน์ชิน
เมื่อก่อนอาจจะกลัวหรือตกใจ แต่ตอนนี้เริ่มชินกับความเจ้าอารมณ์ของบารมี

ไม่พอใจก็ด่าตรง ๆ  ไม่ชอบก็แสดงให้รู้กันตรงๆ

พิพัฒน์ยังกินข้าวไปเรื่อยๆ   กินคนเดียวในวันที่บารมีโกรธ ชินซะแล้วกับชีวิตแบบนี้ถ้าอยู่ให้ชิน  มันก็จะชินไปเอง

รายการโทรทัศน์ถูกเปิดทิ้งเอาไว้ทั้งที่พิพัฒน์ไม่ได้คิดสนใจจะดูด้วยซ้ำโทรศัพท์ในมือมีหมายเลขโทรเข้าและพิพัฒน์ก็ได้แต่มอง และวางโทรศัพท์ทิ้งเอาไว้ข้างๆ ตัว

ควรดีใจมั้ย
ควรเสียใจมั้ย
ควรทำยังไง

“พัฒน์....” ถึงกับสะดุ้ง   และพิพัฒน์ก็รีบหันหน้าไปมอง

บารมียังทำหน้ายุ่ง และขมวดคิ้วมุ่นไม่เลิก

น้ำเสียงที่เรียก  ยังคงแข็งกร้าว

“ปิดบ้านด้วย วันนี้ไม่กลับจะไปนอนที่อู่”

ทั้งที่เพิ่งกลับมาพร้อมกันแต่บารมีก็จะกลับไปที่อู่อีกแล้ว

ไม่เคยถาม
เพราะไม่กล้าถาม
ไม่เคยมีคำถามใด ๆ ทั้งสิ้นจากปากของพิพัฒน์  ไม่ว่าบารมีจะทำอะไร  จะพูดอะไร จะโกรธ จะโมโห จะทำอะไรแย่ๆ  ขนาดไหน

พิพัฒน์ไม่เคยถาม
ไม่เคยตั้งคำถามใด ๆ เลย

“ครับ”

ตอบรับแค่นั้นและหันกลับมานั่งจ้องรายการโทรทัศน์อย่างตั้งใจทั้งที่ไม่ได้คิดจะดู

อีกแล้ว
แบบนี้อีกแล้ว
ทำให้ยิ่งโมโหอีกแล้ว
บารมีกระแทกเท้าปึงปังและปิดประตูบ้านเสียงดังลั่น

และพิพัฒน์ก็ได้แต่มอง
ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ถอนหายใจออกมายาว ๆ และเดินไปเปิดลิ้นชักหน้าโทรทัศน์
หยิบสมุดบัญชีเงินฝากขึ้นมาดู และพบว่าจำนวนเงินมีเพิ่มขึ้นจนทำให้พิพัฒน์ยิ้มออกมาได้

แค่เดินออกไปเงียบ ๆ แล้วไม่กลับมาอีก แล้วทุกอย่างก็จะจบ
ชีวิตมันยุ่งเหยิงมากพอแล้ว และพิพัฒน์ไม่คิดว่าตัวเองจะอดทนกับอะไรได้อีก

ที่ผ่านมา  อดทนมาตลอดและความอดทนมันควรจะหมดลงได้แล้ว

พิพัฒน์นั่งมองสมุดบัญชีในมือเปิดพลิกไปพลิกมาหลายครั้ง ครุ่นคิดถึงแต่เรื่องบางอย่างในหัวตลอดเวลา

จะบอกบารมียังไง จะพูดยังไงไม่ให้อีกฝ่ายโมโห บางทีแค่เขียนจดหมายเอาไว้จะแย่เกินไปหรือเปล่า

แต่ไม่ได้เอาอะไรติดตัวไปด้วยสักอย่างบารมีคงไม่ว่า

ยิ่งคิดยิ่งสับสน ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจตัวเอง

แค่บอกว่าจะไป มันง่ายนิดเดียว แต่ทำไมเวลาที่ต้องไปจริง ๆกลับรู้สึกใจหายขึ้นมาก็ไม่รู้

พิพัฒน์มองไปรอบ  ๆ บ้าน  บ้านที่เป็นทาวเฮาส์เล็ก ๆที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองและหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตที่มีความสุขกับคนที่ตัวเองรัก

รอยยิ้มเจือจางปรากฏขึ้นที่ใบหน้า

พิพัฒน์ยิ้ม
ยิ้มให้กับอะไรบางอย่างที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้

ต่อไปไม่ต้องทนแล้ว  ไม่ต้องอดทนกับความอารมณ์ร้ายของบารมีอีก

ไม่ต้องอดทน  แบบนี้ดีแล้ว  ดีแล้วจริง ๆ หรือเปล่านะ
ใช่สิมันต้องดี

การได้เป็นตัวของตัวเองโดยไม่ต้องทน  มันต้องดีซะยิ่งกว่าดี

+++++++++++++++++++++


“ตื่นเหอะ  ทำไมไม่ขึ้นไปนอนบนห้อง  ลุกขึ้นไปนอนที่ห้องดีกว่าเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกพัฒน์”

ได้ยินเสียงเรียกและพิพัฒน์ก็กระพริบตามอง ยกหลังมือขึ้นขยี้ตาและก็เห็นว่าบารมีมานั่งอยู่ข้าง ๆ และปลุกให้ขึ้นไปนอนบนห้อง

“ดึกขนาดนี้แล้วมึงมานอนอะไรอยู่ตรงนี้ลุกขึ้นไปนอนบนห้องดี ๆ ไป”

พิพัฒน์ยังรู้สึกมึนงง  เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็เพราะบารมีปลุกให้ตื่น

“เดินให้มันดี ๆ ไอ้พัฒน์ ตกบันไดคอหักตายกูจะไม่ช่วยเลย”

ถ้าช่วยคงแปลก

พิพัฒน์ก้าวขาเดินขึ้นห้องและบารมีก็หยิบสมุดบัญชีเงินฝากของพิพัฒน์ขึ้นมาดูและขมวดคิ้วมุ่น
ไม่ใช่แค่สมุดบัญชี แต่เป็นเอกสารเกี่ยวกับคอนโดห้องเล็ก ๆห้องหนึ่งที่เขียนวันนัดย้ายเข้า

ย้ายเข้า????
ใครย้าย???

“ไอ้พัฒน์ มึงมาคุยก่อนซิ  นี่อะไร”

อะไรเหรอ

พิพัฒน์หันกลับมามองและรีบเดินลงบันไดมาขอเอกสารของตัวเองคืน

“ห้องไง”

“ห้องน่ะกูรู้  ไม่ได้ตาบอดแต่ที่กูอยากรู้คือห้องใคร”

จากน้ำเสียงราบเรียบในเวลานี้ไม่ต้องเดาก็รู้  บารมีเริ่มโมโหขึ้นมาอีกแล้ว

“ห้องผม”

คำตอบที่ได้ยินไม่ต้องให้ฟังซ้ำก็มากเกินพอ

“ไอ้พัฒน์”

บารมีตะคอกใส่คนที่ยืนก้มหน้าและขบริมฝีปากแน่น

“ผมจ่ายเงินค่าจองไว้แล้ว”

แล้วไง
แล้วมึงเคยปรึกษากูสักคำมั้ย  กูเป็นหัวหลักหัวตอใช่มั้ย  ไม่ต้องพูดต้องบอกอะไรก็ได้ใช่มั้ย

“พรุ่งนี้มึงไปเอาเงินค่าจองคืนซะ”

บารมีคิดว่าตัวเองกำลังโกรธ  ทั้งโกรธทั้งโมโหขึ้นมาอีกแล้ว

“ทำอย่างนั้นไม่ได้ จ่ายเงินไปแล้วก็คือจองแล้ว  เขาไม่คืนเงินหรอก”

ถึงจะรู้สึกหวั่นใจ แต่ก็ต้องพูดออกมาให้ชัดเจน

“อย่าให้กูพูดหลายรอบพัฒน์”

บังคับอีกแล้ว ทำไมถึงไม่ยอมฟังกันบ้าง

“ผม......ผม....ผมว่าจะย้ายออกไปอยู่คนเดียว”

ว่าไงนะ

“มึงพูดอีกทีพัฒน์  เอาให้ชัดๆ”

ชัดแล้ว

“ผมจะย้ายออก”

ชัดเจนพอแล้ว

และพิพัฒน์ก็หลับตาแน่น เมื่อเห็นบารมีกำหมัด แบบนี้คงไม่รอด

“...............”

แต่ไม่มีเลย

ทุกอย่างสงบ
เงียบ
และไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

บารมีกำหมัดค้างไว้แบบนั้น

และดวงตาที่วาวโรจน์ก็หม่นแสงลงเมื่อมองหน้าของพิพัฒน์ตรง ๆ

“..............”

พูดไม่ออก
พูดอะไรไม่ได้

พิพัฒน์ลืมตาขึ้นมองและบารมีก็ได้แต่มองหน้าของพิพัฒน์แบบนั้นนิ่ง ๆ

ไร้คำพูด
ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาอีก

นอกจากการที่บารมีเดินหนีขึ้นห้องไปดื้อ ๆและปล่อยให้พิพัฒน์ยืนงงและมองตามไปด้วยความไม่เข้าใจ

เกิดอะไรขึ้น
ทำไมถึงได้
ทำไมถึง...........
บารมีเดินขึ้นห้องไปแล้ว และพิพัฒน์ได้แต่ยืนงง

ไม่เข้าใจ
ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น
ไม่เข้าใจอะไรเลย
ไม่รู้ว่าบารมีเป็นอะไร

สิ่งที่พิพัฒน์อยากรู้ บารมีโกรธอะไร แล้วกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

++++++++++++++++++++

เสียงเคาะทำให้บารมีต้องลุกขึ้นมาเปิดประตูห้อง

พิพัฒน์กำลังทำหน้าไม่ถูกและเหมือนกำลังพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง

“มึงมีอะไรพัฒน์  ดึกดื่นป่านนี้คนจะหลับจะนอน  มีอะไรจะพูดก็พูดมาถ้าไม่พูดมึงก็ไม่ต้องพูดแล้ว”

เตรียมปิดประตูห้องและตั้งใจจะตัดเยื่อใยกันแบบเห็น ๆ  และเป็นพิพัฒน์ที่ต้องผลักประตูห้องของบารมีเอาไว้

“ผม......”

อะไรของมึง  อ้ำ ๆ อึ้ง ๆอยู่ได้

“..................”

“ไอ้พัฒน์ กูไม่ได้ว่างขนาดลุกขึ้นมายืนมองหน้ามึงเฉย ๆ หรอกนะ มึงมีอะไรมึงพูดเลยพัฒน์จะเอายังไงอะไรกับชีวิตมึงพูดมาตรง ๆ กูมันเป็นหัวหลักหัวตอ  มีอะไรไม่ต้องถามต้องบอกกูหรอก  กูไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับมึง  ไม่ได้เป็นอะไรกับมึงนี่”

แสดงว่าอารมณ์ดีแล้ว น่าจะพอคุยได้

“เข้าไปได้มั้ย”

ได้

“เชิญครับ คุณพิพัฒน์”

ทำไมต้องทำเสียงสูงใส่ด้วย
ทำไมต้องประชดด้วย

พิพัฒน์เดินมานั่งลงบนเตียงและเงยหน้ามองบารมีที่ยืนกอดอกมองด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์

“พี่บัส....วันก่อน...คือ...”

พิพัฒน์ไม่รู้ควรทำยังไง  อยากจะพูดอะไรต่อแต่ก็เรียบเรียงสติไม่ถูก  สุดท้ายได้แต่นั่งนิ่งๆ  มองหน้าของบารมี

และถูมือไปมา เหมือนไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไง
และบารมีก็ยืนมองมือของพิพัฒน์อยู่อย่างนั้น ก่อนจะถอนหายใจออกมายาว ๆ

“ผมไม่อยากให้พี่เป็นภาระต้องมาผ่อนบ้าน  ผมว่าผมจะขาย ไปเช่าคอนโดห้องเล็ก ๆ อยู่........”

เออ
เมื่อก่อนมันคงจะเป็นแบบนั้นแหละความคิดของมึงมันถูกทั้งหมดแต่ไม่ใช่ตอนนี้

“กูไม่อยากไปนอนที่อู่นะ  กูอยู่ของกูสบาย ๆ นี่มึงจะให้กูกลับไปลำบากอีกหรือไงหัวคิดน่ะมีซะบ้าง ทำแต่ความลำบากให้กู ก่อนทำให้กูลำบากมึงเคยถามกูสักคำมั้ยว่ากูอยากลำบากหรือเปล่า”

ไม่ใช่แบบนั้น

ไม่ใช่..........

“บ้านพี่.....ที่อู่.....ที่จริงสบายกว่าที่นี่อีก....เพราะปาให้ช่วยผมพี่ก็เลยช่วยมาตลอด........ตอนนี้ไม่ต้องช่วยแล้วก็ได้  ผมไม่น่าทำอะไรเกินตัว”

ไอ้พัฒน์

“มึงไปเลยพัฒน์ กูว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว”

บารมีเปิดประตูห้องและไล่ให้คนที่พูดจาไม่เข้าท่าออกไปจากห้อง และพิพัฒน์ก็ถอนหายใจออกมายาวๆ

“ทำไมไม่ฟังผมพูดบ้าง”

ก็มึงพูดจาไม่เข้าหูกูจะฟังทำไม

“มึงไปเลย มึงยิ่งพูดกูยิ่งโมโห”

โมโหทำไม
โมโหเรื่องอะไร

“ก็ไหนพี่บอกว่า....”

บอกว่าอะไร

“กูไม่เคยบอกอะไรทั้งนั้นแหละ ไอ้เรื่องมึงหางานใหม่แล้วค่อยไปทำอะไรนั่นด้วย  กูมีมึงทำบัญชีให้ดี ๆจะให้กูไปรับคนใหม่มาทำ  กูอยู่ของกูดี ๆเสือกจะขายบ้าน  มึงมีหัวคิดมั้ยพัฒน์  ทำกูลำบากมึงนอนหลับมั้ย กูถามจริง ๆ”

นั่นน่ะ........

พิพัฒน์ได้แต่อ้าปากค้าง และไม่เข้าใจเหตุผลที่แสนยอกย้อนวกวนของบารมี

สุดท้ายได้แต่ถอนหายใจออกมาและต้องลุกขึ้นเพื่อเดินกลับห้องของตัวเอง

“เดี๋ยว”

หันกลับมามองและบารมีก็ยังขมวดคิ้วมุ่น

“กูยังไม่ได้กินข้าว ตั้งแต่เย็น ลงไปอุ่นข้าวให้หน่อย”

แต่นี่มัน.....ตีสาม...

“กูหิวมาก  แล้วถ้ามึงยังไม่ไปอุ่นข้าวให้อีกกูยิ่งจะโมโหหิว หิวมาก ๆ เมื่อไหร่กูก็จะแดกหัวมึงเข้าใจมั้ย”

ไม่เข้าใจก็ต้องเข้าใจ
พิพัฒน์เดินลงมาเปิดไฟในครัวโดยมีบารมีเดินตามมาด้วย

กับข้าวกำลังถูกเตรียม
และบารมีก็ทำเพียงแค่นั่งรอและลอบมองกิริยาอาการของคนที่กำลังจัดเตรียมอาหารให้
 
“บ้านน่ะ มันต้องผ่อนอย่างต่ำ ๆ ก็สามสิบปี   นี่เพิ่งจะกี่ปีเองพัฒน์มึงอย่าไปคิดอะไรมาก  แล้วกูก็ไม่ได้คิดจะย้ายไปไหนด้วย   ให้กลับไปนอนที่อู่ กูไม่เอาด้วยหรอก  ยังไงกูก็ต้องอยู่กับมึงอีกยาววววววว”


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เราไม่ได้เกลียดกัน
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 17-01-2015 14:16:54
รอเรื่องใหม่จ้าาา
นางงน่ารัก
ช้าเป็นเต่า ดูนุ่มนิ่ม น่าทะนุถนอม
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน อย่าทำให้คนรอบข้างลำบาก
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 17-01-2015 14:39:33
ขาดเค้าไม่ได้แล้วล่ะสิ  :z1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน อย่าทำให้คนรอบข้างลำบาก
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 17-01-2015 14:44:52
พัตน์งงกับชีวิตเหรอคะลูก? พี่บัสช่วยน้องหน่อยค่ะ. :z3: :z2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน อย่าทำให้คนรอบข้างลำบาก
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 17-01-2015 15:41:13
เรื่องนี้สนุกๆๆๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน อย่าทำให้คนรอบข้างลำบาก
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-01-2015 15:55:02
เขาหนีเพราะปากเธอนี่แหละอิพี่บััส
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เราไม่ได้เกลียดกัน
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 17-01-2015 15:58:52
เมียในฝันชัดๆ :mew1:

อย่าให้หลุดมือเชียวนะบัส
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน อย่าทำให้คนรอบข้างลำบาก
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 17-01-2015 16:01:58
น่าติดตามๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน อย่าทำให้คนรอบข้างลำบาก
เริ่มหัวข้อโดย: meeoldly ที่ 17-01-2015 16:16:23
รอตอนต่อไปค่ะ  o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน อย่าทำให้คนรอบข้างลำบาก
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-01-2015 16:32:36
หวาย ๆๆๆ พี่บัสคิดอะไร นี่กะจะให้อยู่กันยันแก่ผ่อนบ้านหมดเลยหรือไง
ขอแต่งงานซะเลยสิถ้าจะติดหนึบขนาดนี้
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน อย่าทำให้คนรอบข้างลำบาก
เริ่มหัวข้อโดย: pizza2011 ที่ 17-01-2015 16:42:30
ขาดกันไม่ได้แล้วสินะ พิพัฒน์คงอึดอัดใจ แต่ก็ให้เวลาหัวใจได้คิดเยอะๆบ้าง 
เรื่องบ้างเรื่องมันก็เกิดขึ้นเพราะใจของเราเองที่มองว่ามันเป็นความทุกข์

ปล.ชอบการเขียนเรื่องสไลด์นี้มาก เรียบๆง่ายๆเหมือนชีวิตคนเราที่ไม่ต้องรีบร้อน
ปล.๒. อ่านเรื่องนี้แล้วอยากกลับไปอ่านปรัชญาช่างกลอีกรอบ ๕๕๕๕
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน อย่าทำให้คนรอบข้างลำบาก
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 17-01-2015 16:46:56
โถ สงสารพี่พัฒน์ :hao5: เปิดใจมองโลกกว้างๆ
รอตอนต่อไปเนาะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน อย่าทำให้คนรอบข้างลำบาก
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 17-01-2015 16:52:52
เหมือนน้องจะมึนๆงงๆกับชีวิตนะคะ พี่บัสมาช่วยน้องเคลียร์หน่อยซิค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน อย่าทำให้คนรอบข้างลำบาก
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 17-01-2015 17:27:44
ในเมื่อพัฒน์พูดช้าคิดช้า พี่บัสก็พูดยาวๆ มากๆสิ พัฒน์จะได้เข้าใจ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน อย่าทำให้คนรอบข้างลำบาก
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 17-01-2015 17:55:51
ตามมาอ่านซิค้าาาาาาาาาาาาาา :m1: ก็หลงรักผลงานของคนแต่งขนาดนี้อ่ะ มาต้อนรับเรื่องใหม่ด้วยอีกคนค่าาาาา :pig2:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน งานอดิเรกของพิพัฒน์
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 17-01-2015 18:07:28

 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน งานอดิเรกของพิพัฒน์

“เฮีย พี่พัฒน์แม่งเตะตะกร้อโคตรเก่ง”

บารมีถึงกับเลิกคิ้วขึ้นสูงและทำหน้าประหลาดใจหลังได้ยินสิ่งที่เต๋อบอก   ฟังแล้วทั้งพิลึกทั้งแปลกประหลาดสิ้นดี

“ไอ้พัฒน์เนี่ยนะ”

“ใช่แล้วเฮีย....พี่พัฒน์นี่แหละ”

“มึงรู้ได้ไง”

จะไม่ให้รู้ได้ไงล่ะ

“ก็เมื่อกี้พวกผมแพ้พี่พัฒน์”

พูดเป็นเล่น

บารมียังมึนงง กับสิ่งที่ได้ยินไม่หาย

เย็นแล้ว และวันนี้ไม่มีงานด่วน   พิพัฒน์หายไปตั้งแต่สี่โมงเย็นและป่านนี้ก็ยังไม่กลับซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะพิพัฒน์บอกก่อนแล้วว่าจะไปดูบ่อปลาแถว ๆ หลังอู่

และในเวลาไม่นานคนที่ทำให้บารมีประหลาดใจก็โผล่หน้าเข้ามา

เสื้อเชิ้ตถูกพับขึ้นจนถึงข้อศอก กางเกงพับขึ้นมาจนถึงน่อง  ปกติเห็นแต่งตัวดูดีมีสกุลรุนชาติ  แล้วนี่อะไรไปลากรองเท้าแตะของใครมา แล้วสภาพเหงื่อท่วมมาเลยนี่มันคืออะไร

มองหน้าของคนที่เดินมากดน้ำในตู้น้ำดื่มแล้วบารมีก็เริ่มขมวดคิ้วมุ่น

“มึงเล่นตะกร้อเป็นด้วยเหรอพัฒน์”

เคยเล่นสมัยเรียนมัธยมเล่นจนได้เป็นตัวโรงเรียนเลยด้วยซ้ำแต่ตอนหลังก็เลิกไปเพราะต้องทำงานหาเงิน

“พอได้บ้าง”

พิพัฒน์ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่บารมียังคงสงสัย

คำว่าพอได้บ้างเนี่ย มันไม่ใช่แค่พอได้บ้างอย่างที่ปากพูดจริง ๆ แล้วมั้ง  ถ้าเล่นพอได้บ้างไม่มีทางชนะไอ้เต๋อได้หรอก ไอ้เต๋อมันธรรมดาซะที่ไหน

“มึงใส่ชุดนี้เล่นเลยเหรอ ใช้ได้นี่หว่า ได้ข่าวว่าชนะด้วย”

พิพัฒน์พยักหน้ารับ และเดินมานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามบารมี ที่กำลังเช็คยอดอะไหล่ที่จะนำเข้า

“...............”

พิพัฒน์นั่งมองสิ่งที่บารมีทำ วางแขนสองข้างทับกันบนโต๊ะและวางปลายคางลงบนหลังมือทั้งสองข้างที่ทับกันอยู่  ทำเหมือนอยากพูดเรื่องบางอย่างแต่ก็ไม่กล้าพูด

“..............”

“มองห่าอะไรของมึง อยากกลับบ้านแล้วหรือไงนี่เพิ่งจะหกโมงครึ่ง   แม่งของก็หายากชิบหาย  ไอ้คนหาอะไหล่ที่เซียงกงเสือกไม่อยู่ กว่าจะกลับอีกสามเดือน  ไปถอดอะไหล่รถที่ญี่ปุ่น  แล้วไม่เสือกบอกล่วงหน้า   ลูกค้าก็นัดจะเอารถ  แม่งปัญหาเยอะชิบหาย ไม่รู้อะไรนักหนา”

บารมีเริ่มบ่นไม่หยุด และกลับไปก้มหน้าก้มตาเช็คตารางงานของตัวเองต่อ และพิพัฒน์ก็เหลือบสายตาขึ้นมองหน้าของคนที่เริ่มเล่าปัญหาแบบเดิม ๆ ให้ฟังเหมือนทุกวัน

“วันนี้แวะซื้อกางเกงขาสั้นหน่อยได้มั้ย”

ร้อยวันพันปีมันไม่เคยพูด พอจะพูดเสือกบอกให้แวะซื้อกางเกง  อะไรของไอ้พัฒน์มันวะ

“มึงจะเอามาทำไม จะเอามาใส่เตะตะกร้อกับพวกไอ้เต๋อมันหรือไง  ว่างงานดีนะ กูนี่ทำงานงก ๆ ไม่เคยคิดจะช่วย เอาแต่งานของตัวเองเสร็จตลอดเลยนะมึง หัดเห็นใจกันบ้าง”

พิพัฒน์ฟังที่อีกฝ่ายพูด   แต่การฟังของพิพัฒน์คือการก้มหน้าลงซบกับหลังมือของตัวเองและหลับไปต่อหน้าต่อตาคนที่กำลังบ่นไม่หยุด

“แล้วอีกอย่างนะ....มึงอ่ะ....พัฒน์ ไอ้พัฒน์”

หลับจริง ๆ
หลับแบบจริงจัง
หลับกันต่อหน้าต่อตา
และบารมีก็ได้แต่อ้าปากค้างกับสิ่งที่พิพัฒน์ทำ

เห็นแล้วก็ไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่ส่ายหน้าและหยิบหมอนที่ใช้หนุนหลังมาตีหัวคนหลับไปหนึ่งทีและพิพัฒน์ก็ลืมตาขึ้น และดึงหมอนมาหนุนนอนแทนมือของตัวเอง

“สบายจริงนะมึง”

บารมีบ่นพึมพำ  แต่พิพัฒน์เหนื่อยเกินกว่าจะฟังสิ่งที่บารมีพูด

“....อย่าลืมพาไปซื้อกางเกงนะ..”

สั่งกูเหรอ

“กูไม่ใช่ทาสรับใช้มึงนะ  สั่งกูอยู่ได้ถ้ารีบขนาดนั้นไม่ขี่มอร์เตอร์ไซด์ไปซื้อเองเลยล่ะ  แม่ง”

เพราะความหมั่นไส้ บารมีก็เลยยื่นมือไปเขย่าหัวของคนที่นอนหลับ และพิพัฒน์ก็ดึงมือของบารมีออกจากหัวแต่ยังจับเอาไว้ไม่ยอมปล่อย  หลับไปทั้งอย่างนั้น  และกลายเป็นบารมีที่ต้องหยุดการทำงานและมองมือของตัวเองที่ถูกพิพัฒน์จับเอาไว้แน่น   

มันคงกลัวจะไปแกล้งเขย่าหัวมันอีกรอบสินะ   พยายามดึงมือของตัวเองออกอย่างช้า ๆ แต่พิพัฒน์ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งและจับมือของบารมีเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย  จนบารมีต้องขมวดคิ้วมุ่นเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่พิพัฒน์ทำ

“กูจะทำงาน”

บอกให้อีกฝ่ายเข้าใจ  พิพัฒน์ถึงยอมปล่อยตอนที่บารมีดึงมือออกครั้งสุดท้าย
บารมีส่ายหน้ากับสิ่งที่พิพัฒน์ทำ และลงมือทำงานของตัวเองที่ยังค้างอยู่ 

ไม่ได้ปลุกให้พิพัฒน์ลุกขึ้นมาช่วยงานแต่ทำงานของตัวเองไปเรื่อย ๆ และเหลือบสายตามองหน้าพิพัฒน์หลายครั้งก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นและบ่นพึมพำ

“สบายจริงนะมึง  กูเป็นเจ้าของแต่ต้องทำงานงก ๆ”

บารมีบ่น แต่พิพัฒน์อมยิ้มและซุกหน้าลงกับหมอนหลับสบาย

บางวันก็ดี  บางวันก็แย่  บางวันบารมีก็โกรธและโมโหใส่  แต่บางวันก็เป็นแบบนี้

เรื่อย ๆ สบายใจดีที่จริงแล้ว  พอได้อยู่ด้วยกันได้เรียนรู้นิสัยใจคอกันไปเรื่อยๆ  มันก็ไม่เลวร้ายนักหรอกที่ต้องอยู่ด้วยกัน  อาศัยและพึ่งพากันอยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ  แบบนี้ทุกวัน  มันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร

TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน งานอดิเรกของพิพัฒน์ P.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-01-2015 18:43:57
ออกแนวชินกับสภาวะทางอารมณ์ของกันและกันแล้วใช่ไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน งานอดิเรกของพิพัฒน์ P.2
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 17-01-2015 18:59:02
มาไวมาก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน งานอดิเรกของพิพัฒน์ P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 17-01-2015 19:00:16
พัฒน์เริ่มชินกับนิสัยพี่บัสแล้วเนอะ ยังไงพี่บัสก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกเนอะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน งานอดิเรกของพิพัฒน์ P.2
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 17-01-2015 19:16:44
สนุกอ่ะ แบบมันซึนๆ มึนๆ งงๆ ทั้งคู่ น่ารักดี
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน งานอดิเรกของพิพัฒน์ P.2
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 17-01-2015 19:19:40
ชอบนิยายที่คุณ aoikyosuke เขียน อ่านแล้วมีความสุข  :กอด1:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เมื่อพิพัฒน์จะไปเที่ยวสถานที่อโคจร
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 17-01-2015 19:20:26

 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน เมื่อพิพัฒน์จะไปเที่ยวสถานที่อโคจร

เย็นวันหนึ่ง  บารมีกำลังเกิดอาการมึนงงกับสิ่งที่พิพัฒน์ทำ
 
"..................."
 
ไอ้คนไม่ช่างพูดมันก็ยังไม่ยอมพูดอะไร มองมือของบารมีเสร็จแล้วก็ดึงมาทาบกับมือตัวเองโดยไม่มีการขออนุญาตสักคำ
 
"ทำห่าอะไรของมึงวะพัฒน์  ว่างมากนักหรือไง วุ่นวายจริงวะอย่าเพิ่งมายุ่งกับกูได้มั้ย แม่งงานกูยิ่งยุ่ง ๆ อยู่"
 
บารมีดึงมือตัวเองกลับและตั้งหน้าตั้งตาทำงานโดยไม่สนใจคนที่เอียงคอมองและเดินออกไปนอกออฟฟิศ
วันนี้พิพัฒน์คงไปเตะตะกร้อกับพวกไอ้เต๋อเห็นหิ้วถุงกระดาษใส่เสื้อผ้ามา บารมีไม่อยากจะสนใจอะไรมากนัก
 
และไม่รู้ว่าอยู่ดีๆเกิดรู้สึกหงุดหงิดกับสิ่งที่อีกฝ่ายทำได้ยังไง
 
"เล่นเหี้ยอะไรของมันวะไอ้ห่าพัฒน์"
 
บ่นพึมพำด้วยความหงุดหงิดใจไม่เลิก  แต่ก็รู้สึกดีแบบแปลก ๆ บารมีไม่ชอบหาคำตอบเพราะกำลังยุ่งมาก
ได้แต่บ่นไปเรื่อย
 
"หลอกแต๊ะอั๋งกูหรือไงไอ้ห่าพัฒน์....แม่งเล่นอะไรไม่รู้จักเล่นอยู่ดีๆ  มาจับมือกูซะได้    ช่วงนี้กูยิ่งเงี่ยน ๆ อยู่  ที่ลงก็ยังหาไม่ได้ เดี๋ยวก็ลงที่มึงซะเลยเป็นไง......แม่งนึกอยากจะเล่นห่าอะไรไม่ถงไม่ถามความเห็นกูซ้ากกกคำ"

บารมีโยนแฟ้มเอกสารไว้บนโต๊ะ  และคว้ากุญแจรถเพื่อไปติดต่องานข้างนอก  บอกพิพัฒน์เอาไว้แล้ว  ว่าวันนี้จะเข้ามาดึกหน่อย
ถ้าจะกลับก่อนก็ได้  หรือถ้าจะให้เข้ามารับก็ให้พิพัฒน์รอ

บารมีเดินออกจากออฟฟิศไป และพิพัฒน์ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินกลับเข้ามาในออฟฟิศอีกครั้ง

“พี่พัฒน์ พี่พัฒน์ วันนี้มีร้านคาราโอเกะเปิดใหม่”

เต๋อ  สมาชิกชมรมตะกร้อยามเย็นมายืนเกาะขอบประตูออฟฟิศและบอกบางอย่างกับพิพัฒน์

คาราโอเกะ?????????????
 
“เล่นตะกร้อเสร็จอาบน้ำแต่งตัวไปกัน   พี่พัฒน์ไปมั้ย”

แค่ได้ยินเรื่องที่น่าสนใจพิพัฒน์ก็ลุกขึ้นมาฟังสิ่งที่เต๋อบอกอย่างตั้งใจ

คาราโอเกะเหรอ เคยเห็นอยู่บ่อย ๆ แต่ไม่เคยเข้า ที่ไม่เข้าไม่ใช่ไม่อยากเข้าแต่เพราะไม่เคยมีใครชวนเข้าไปแค่นั้นเอง

“....ไปกี่โมง”

เต๋อยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูและก็กำลังเตรียมจะโทรถามเพื่อน ๆที่นัดแนะว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน

“ซุ้มยาดองเปิดใหม่ก็มีนะ พี่พัฒน์เคยกินป่ะ  ยาดองน่ะ”

นั่นก็อีกอย่างที่ไม่เคยกิน  เห็นอยู่บ่อยๆ แต่ไม่รู้ว่ามันอร่อยแค่ไหน  แบบนั้นมันก็น่าไปอยู่เหมือนกัน

“ตกลงไปไหนคาราโอเกะหรือซุ้มยาดอง”

ยังคงตัดสินใจไม่ได้และเต๋อก็เกิดความลังเลขึ้นมาชั่วขณะ

“เล่นตะกร้อเสร็จก่อนเดี๋ยวไปคุยกันว่าจะไปกันกี่โมง”

บารมีไปรับงานจากลูกค้า กว่าจะกลับก็คงจะมืด หรือไม่แน่ก็อาจไม่กลับเพราะเห็นว่าต้องไปงานแต่งงานต่อ  ถ้าพิพัฒน์ทำงานเสร็จแล้วก็คงกลับบ้านเอง  ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

พิพัฒน์เดินตามเต๋อไปที่สนามตะกร้อ  แต่จิตใจไปจดจ่อถึงเรื่องซุ้มยาดองและร้านคาราโอเกะแล้ว

ไม่เคยไป  และอยากจะไปเพราะมีคนชวน

อยากรู้เหมือนกันว่าจะสนุกแค่ไหน ทำไมใคร ๆถึงชอบไปกัน


++++++++++++++++++++++++

“พี่พัฒน์....พี่พัฒน์ เฮียให้มาตาม”

เสียงตะโกนเรียกที่ข้างสนามทำให้พิพัฒน์ต้องหันไปมอง

เด็กจากที่อู่ถูกใช้ให้มาตามที่ข้างสนามและพิพัฒน์ก็โบกไม้โบกมือให้คนอื่นๆ  เล่นไปก่อน

“ตามไปทำไม”

พิพัฒน์เอ่ยถามคนที่มาตามและยกแขนเสื้อขึ้นซับเหงื่อบนใบหน้า

“ไม่รู้ พี่พัฒน์ไปคุยกับเฮียเอาเอง”

ทำไมถึงกลับเร็ว ก็ไหนว่าไปคุยงานแล้วก็จะเลยไปงานแต่งงานเลย

“เดี๋ยวมานะ”

ตะโกนบอกสมาชิกในสนามและพิพัฒน์ก็วิ่งเหยาะ ๆไปตามทางเดินเพื่อลัดไปที่อู่

บารมียืนรออยู่ข้างรถและกวักมือเรียกให้พิพัฒน์วิ่งไปหา

“...เล่นห่าอะไรนักหนาวะ กลับมาแทนที่จะเจอมึง ที่ไหนได้เสือกไปเล่นอะไรเรื่อยเปื่อยไม่ยอมอยู่เฝ้าอู่นะมึงไอ้พัฒน์”

มาถึงก็โดนบ่นและพิพัฒน์ก็ได้แต่ยืนฟังก่อนจะย่อกายลงและหมุนหัวเข่าไปมาอยู่ตรงหน้าบารมี

“ทำอะไรของมึงไอ้พัฒน์มันใช่เวลามายืดเส้นยืดสายใส่กูมั้ย”

“.....................”

พิพัฒน์ไม่ตอบ  แต่ยืนตัวตรงและยืดแขนไปมาทั้งซ้ายและขวาและกลายเป็นบารมีที่เริ่มหงุดหงิดกับพฤติกรรมของคนที่อยู่ตรงหน้า

“ไอ้พัฒน์”

ตะคอกอีกฝ่ายไปเสียงดัง และพิพัฒน์ก็ยอมยืนนิ่ง ๆ ไม่ยุกยิกวุ่นวายอีก

“........................”

“เดี๋ยวกลับบ้านไปอาบน้ำพร้อมกันมีกินเลี้ยงตอนสองทุ่ม”

ได้ไงอ่ะ
ก็นัดจะไปคาราโอเกะกับพวกไอ้เต๋อแล้ว อยู่ดีๆ จะมาบอกให้ไปกินเลี้ยงงานแต่งได้ยังไง

“ไม่เอา”

พิพัฒน์หน้างอ และเดินหนีเข้าออฟฟิศไปทันที โดยมีบารมีเดินตามเข้ามา

“ต้องไป.....มึงอย่ามางี่เง่าพัฒน์ ไปด้วยกัน”

ไม่เอา  ไม่อยากไป  ทำไมต้องไป ไม่อยากไป ทำไมต้องไป  ไปทำไม ก็คนมันไม่อยากไป

“ไม่ไป”

พิพัฒน์ยังคงปฏิเสธและส่ายหน้า ยิ่งถูกบังคับยิ่งทำหน้ายุ่งเหยิงใส่บารมี

“ไม่ไปก็ไม่ไป  งั้นเอาตังค์ใส่ซองแล้วเขียนชื่อให้หน่อย”

บารมีเปิดกระเป๋าและหยิบธนบัตรใบละหนึ่งพันออกมาส่งให้และพิพัฒน์ก็รีบเปิดลิ้นชักหยิบซองสีขาวออกมาและเขียนชื่อของบารมีลงไปด้วยลายมือบรรจง

“ป่ะ เดี๋ยวกลับบ้านพร้อมกันเลย จะแวะไปอาบน้ำที่บ้านก่อนแล้วค่อยไป”

แบบนี้ยิ่งไม่ดีใหญ่
ยังไม่อยากกลับบ้าน ตั้งใจว่าอาบน้ำที่นี่ก็ได้ เสื้อผ้าก็มีเปลี่ยนทำไมต้องกลับด้วย

“พี่พัฒน์ เปลี่ยนเวลานะไปสองทุ่ม”

ประตูออฟฟิศถูกผลักเข้ามาและเต๋อก็เอ่ยบอกพิพัฒน์ที่กำลังเขียนหน้าซองใส่เงินให้บารมี

“ได้ ๆ เดี๋ยวตามไป”

ประตูออฟฟิศปิดลงแล้วและบารมีที่ได้ฟังประโยคสนทนาก็นึกสงสัยสิ่งที่ได้ยิน

“ไปไหนพัฒน์”

เอ่ยถามและพิพัฒน์ก็เงยหน้าขึ้นมองและส่งซองใส่เงินช่วยงานให้บารมี

“........................”

“กูถามได้ยินมั้ย มึงจะไปไหนกันพัฒน์”

ไม่อยากตอบเลย  ตอบแล้วเดี๋ยวก็โดนว่า

“ไปเกะ”

“เกะห่าอะไร นี่มึงมีเวลาว่างขนาดไปเที่ยวคาราโอเกะได้แล้วใช่มั้ย ว่างจริงนะมึง  กูนี่วิ่งงานหาเงินเข้าอู่  มึงเสือกจะไปเที่ยวคาราโอเกะเหรอพัฒน์”

บารมีเริ่มด่า   ไม่ใช่ด่าธรรมดาแต่ยืนค้ำหัวพิพัฒน์ที่นั่งหน้ามุ่ยและกำลังจะด่าแบบไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่าย ๆ

“มึงลองไปสิ กูหักเงินไอ้เต๋อแน่”

เอ้า  แล้วไปเกี่ยวอะไรกับคนอื่น

“...................”

พิพัฒน์เริ่มงอแง  พยายามจะลุกขึ้นยืนแต่ถูกบารมีกดไหล่เอาไว้ไม่ให้ยืน

“ไม่ต้องไปไหน   เดี๋ยวกลับบ้านไปอาบน้ำแล้วไปงานแต่งพร้อมกูเลย ไม่งั้นกูหักเงินไอ้เต๋อ กูพูดแค่นี้แหละ มึงจะทำไม่ทำก็เรื่องของมึง”

บารมีเปิดประตูและเดินไปรอที่รถ  ส่วนพิพัฒน์ได้แต่นั่งหน้ามุ่ย  และยกโทรศัพท์ขึ้นโทรหาคนที่ชวนให้ไปเที่ยวด้วยกัน

“ไปไม่ได้แล้ว พอดีว่า.....”

กำลังจะยกเหตุผลมาอ้าง ก็พอดีกับปลายสายหัวเราะออกมา

“พวกผมก็ว่าอยู่ว่าพี่พัฒน์ไม่น่าไปได้ถ้าเฮียอยู่”

หมายความว่ายังไง ทำไมถึงคิดว่าไปไม่ได้  ถ้าบารมีอยู่

“เฮีย หวงพี่พัฒน์จะตาย คงยอมให้ไปเที่ยวซุ้มยาดองกับคาราโอเกะง่าย ๆ หรอก”

ทำไมถึงคิดว่าหวงล่ะ  ทำไมถึงคิดว่ายังไงก็ไม่ให้ไป

“มึงจะคุยโทรศัพท์อีกนานมั้ย เร็ว ๆสิวะกูยืนรอจนขาแข็งแล้วเนี่ย ไอ้ห่า”

เสียงตะโกนดังลั่นเข้ามาในออฟฟิศและพิพัฒน์ก็ต้องเก็บความสงสัยของตัวเองเอาไว้แค่นั้น  รีบออกจากออฟฟิศและล็อคกุญแจออฟฟิศเรียบร้อย

บารมีสตาร์ทรถรอตั้งนานแล้ว และเมื่อพิพัฒน์ขึ้นรถมาบารมีก็ทำตาขวางใส่ด้วยความไม่พอใจ

“รวยนักนะมึง มีเงินเที่ยวคาราโอเกะ”

ไม่ใช่ว่ารวย แค่อยากรู้เฉย ๆ ว่ามันเป็นยังไง  ดูแล้วมันน่าสนุก  พอมีคนชวนก็นึกอยากจะไปแค่นั้น

ทำไมต้องโกรธกันด้วย

“.......................”

พิพัฒน์ยังคงนั่งนิ่ง และมองออกไปนอกหน้าต่างรถ 

การไม่พูดของพิพัฒน์สามารถอธิบายความรู้สึกได้สองอย่าง

หนึ่ง  อารมณ์เป็นปกติดี    และสอง ไม่พอใจ
และบารมีก็เลือกข้อสอง เพราะอาการที่แสดงออกทางสีหน้ามันชัดเจนจนไม่ต้องอธิบาย

“อยากไปนักหรือไง คาราโอเกะนั่นน่ะ มึงอยากร้องเพลงมึงบอก  เดี๋ยวกูซื้อชุดคาราโอเกะเสียงแบบเซอราวด์  ฟังกันรอบทิศ เอาให้กระหึ่มกันทั้งซอยเลยก็ยังได้”

ประเด็นมันใช่เรื่องนั้นซะที่ไหน ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่เครื่องเสียงแต่ประเด็นคืออยากไปเที่ยว จะได้รู้ว่าเป็นยังไงแค่นั้น

“............................”

“ไอ้พัฒน์ มึงอย่ามางอนกูนะ  กูไม่ง้อนะบอกให้”

ใครจะไปทำแบบนั้นล่ะ
ง้อหรือไม่ง้อ มันก็มีค่าแบบเดียวกันอยู่แล้ว จะให้คาดหวังอะไร  ก็คงไม่หวังอยู่แล้ว

“พัฒน์”

“.....................”

“ไอ้พัฒน์”

“......................”

เรียกแล้วยังไม่ยอมหัน คราวนี้บารมีก็เลยจับหัวของพิพัฒน์ให้หันมาหาและพิพัฒน์ก็ปัดมือของบารมีออก

“หน้างอเป็นตูดลิงเลยนะมึง  แค่ไม่ได้ไปเที่ยวตามใจชอบนี่ทำเป็นมีปัญหา  ไปทำไมคาราโอเกะ  เขาไปออฟเด็กกัน  มึงก็อยากจะไปออฟเด็กกับเขาด้วยว่างั้น  ถ้ามึงใฝ่ขนาดนั้น มึงบอก  เดี๋ยวกูพาไปลงอ่างเลยก็ยังได้ เอาแบบเบอร์ตองขาวสวย หรือจะเอาแบบไซด์ไลน์ก็ยังได้ แบบนั้นดีกว่าเยอะไอ้พัฒน์ เกิดมามึงเคยเที่ยวกับเขาบ้างหรือเปล่าไปก็มีแต่ไปโดนเด็กดริ๊งหลอกล่ะไม่ว่า”

พิพัฒน์ถึงกับตาโตและมองหน้าของบารมีด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“เบอร์ตองคืออะไร”

เบอร์ตองเหรอ

“พวกที่แขกเยอะ ๆ ดาวเด่นไง พวกนี้ก็จะสวยหน่อย  แขกติดเยอะ”

พิพัฒน์พยักหน้าเข้าใจสิ่งที่ได้ฟังและบารมีก็ขมวดคิ้วมุ่น  และมองหน้าของพิพัฒน์ที่กำลังฟังอย่างตั้งใจ

“มึงเงี่ยนมากเหรอพัฒน์”

ห๊ะ

พิพัฒน์คิดว่าตัวเองฟังผิด  และรีบหันหน้าไปถามบารมีด้วยความสงสัย

“เมื่อกี้ว่าไงนะ”

“เงี่ยนก็บอกว่าเงี่ยน  สรุปอยากไปเที่ยวคาราโอเกะเพราะมึงเงี่ยนว่างั้น  แล้วไม่เสือกบอกตั้งแต่แรก  เห็นหน้าหงิม ๆ มึงก็ไม่ธรรมดานี่หว่าก็สมควร ไม่ได้เอาใครมาเป็นปีแล้วนี่มึงอ่ะ”

มันใช่เรื่องนั้นที่ไหน

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า  อะไรของมึงพูดแค่นี้ทำเขิน เงี่ยนก็บอกว่าเงี่ยนพัฒน์ มึงอย่ามาทำเงียบกลบเกลื่อน”

มันไม่ใช่แบบนั้นเลยโว้ยยยยย
อารมณ์มันก็มีบ้าง แต่ไม่ใช่ตั้งใจจะไปเที่ยวแบบนั้นแค่อยากไปให้รู้เฉย ๆ

“พี่ก็รู้เยอะ กว้างขวางทางนี้มากเลยสิ”

จะไม่ให้กว้างขวางได้ยังไง ถึงไม่อยากจะรู้หรือใฝ่ทางนี้ก็ต้องรู้

“มันทำให้งานสะดวกขึ้นพัฒน์”

ทำให้งานสะดวกขึ้นเหรอ ทำไมถึงทำให้งานสะดวกขึ้น

“มึงก็รู้ เรื่องประมูลรถมาซ่อม เรื่องเขียนบิลเกินกูก็ใช่ว่าจะอยากทำ  แต่ถ้าไม่ทำ งานมันก็ไม่เข้ามา ลำพังรอแค่รถมาซ่อมแบบจริง ๆ จังๆ  มันจะมีกี่คันวะวัน ๆ   พวกที่ปล่อยประมูลให้กู  มันก็ต้องมีนั่นมีนี่ไปกำนัลเขา   ไม่ทำก็ไม่ได้  ไม่งั้นก็ไปไม่รอด  ถ้ากูไม่กำนัล   อู่ไม่อยู่มาถึงป่านนี้ได้หรอกพัฒน์  พาไปเที่ยวมันก็ช่วยให้เขาตัดสินใจได้เร็วขึ้น ผู้หญิงที่ทำพวกนี้เขาก็ไม่ใช่อยากจะมาทำหรอก  มันก็ด้วยเรื่องเงินทั้งนั้น  บางคนมีลูกโต ๆ ส่งเรียนกันสูง ๆ บางคนเป็นนักศึกษาก็มีกูเห็นแล้วก็อนาถใจ แต่ทำไงได้ เราก็ต้องทำธุรกิจของเราเหมือนกัน  ก็ถือว่าพึ่งพากันไป  สังคมจริงๆมันมืดแล้วก็ดำสนิทแบบนี้แหละพัฒน์”

บารมีเล่าเรื่องบางอย่างให้พิพัฒน์ฟังและครั้งนี้พิพัฒน์ก็ตั้งใจฟังสิ่งที่บารมีพูด

“ถ้ามึงเงี่ยนมึงอยากมึงอย่าไปเลยคาราโอเกะอะไรนั่นน่ะ ถ้ามึงอยากจริง ๆ มึงบอกกู กูหาให้ได้ไม่ยากหรอก   แค่มึงบอกว่ามึงอยากจริง ๆ จะเอาจริง ๆ กูจะช่วยดูๆ ให้”

พอได้ฟังแบบนี้ พิพัฒน์ไม่นึกอยากไปเที่ยวอีกแล้ว  ถึงก่อนหน้านี้จะอยากรู้อยากเห็นก็เถอะ

“พัฒน์”

พิพัฒน์หันหน้าไปหาคนที่เรียกและบารมีก็มองหน้าพิพัฒน์นิ่ง ๆ

“แต่เอาจริง ๆ กูไม่อยากให้มึงไปเที่ยวแบบนั้น  ถ้าจะอะไรยังไงมึงหาเมียเป็นตัวเป็นตนเถอะ  มันไม่ใช่เรื่องดีหรอกพัฒน์ทำแบบนั้นน่ะ”

บารมีเป็นคนโมโหง่าย  และขยันบ่นเรื่องต่างๆ ในแต่ละวันให้พิพัฒน์ฟัง  แต่ครั้งนี้สิ่งที่บารมีพูดให้ฟังมันทำให้พิพัฒน์ต้องคิดตาม

“หนังโป๊มั้ยพัฒน์  ง่ายกว่าไม่ต้องเสี่ยงด้วย”

หมายความว่ายังไง

พิพัฒน์ยังทำหน้าสงสัย แต่บารมีเริ่มอมยิ้ม

“สรุปมึงเงี่ยนว่างั้นใช่มั้ยพัฒน์”

บารมีหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นและเป็นพิพัฒน์ที่อ้าปากค้างและชกไหล่บารมีไปหนึ่งครั้ง  และอีกหลาย ๆ ครั้งก็ตามมา

“อายอะไรพัฒน์ เรื่องธรรมดา  เสือกทำเป็นอายกูไปได้  กูรู้หรอกบางคืนมึงก็ชักว่าวตอนดึก ๆ  เสียงนี่ดังมาห้องกูเลยเหอะ”

โว้ยยยยยยยยย
ไม่ใช่แล้ว
แบบนี้ไม่ใช่แล้ว

เถียงไม่ออก ได้แต่อ้าปากค้างและไม่รู้จะแก้ตัวยังไง

“.......ฮื่อ.........”

พิพัฒน์ยกมือขึ้นปิดหูเพราะไม่รู้จะตอบโต้อีกฝ่ายยังไง  และเป็นบารมีที่ยังหัวเราะเสียงดังลั่นไม่ยอมหยุด

ไอ้พัฒน์แม่งตลกเถียงไม่ได้เสือกหนีด้วยการยกมือขึ้นมาปิดหูซะงั้น

ไม่เคยเห็นใครตลกขนาดนี้มาก่อนเลยว่ะ    ยิ่งมองสิ่งที่พิพัฒน์ทำ บารมียิ่งรู้สึกว่าทั้งตลกทั้งน่ารัก

หน้าแม่งแดงเถือกไปถึงไหนต่อไหนแล้วนั่น  ยิ่งเห็นยิ่งทำให้ขำไม่หยุด

“พัฒน์  มึงแม่ง.......โคตรตลกเลยว่ะ  เอายังไง ตกลงจะเอามั้ยไซด์ไลน์”

บารมียังคงหัวเราะด้วยความขำ

แต่พิพัฒน์เงยหน้าขึ้นมาและพยักหน้ารับ   และนั่นทำให้บารมีชะงักและเริ่มโมโห

"ไอ้พัฒน์"

โดนบารมีตะคอกใส่  และพิพัฒน์ก็เอามือกุมหัวตัวเองเอาไว้เพราะกลัวโดนบารมีโบกหัว

"กูจะไม่คุยเรื่องนี้กับมึงอีก  จบ  ไม่มีการต่อความยาว"

พิพัฒน์ไม่เข้าใจว่าทำไมบารมีถึงโมโหขึ้นมาดื้อ ๆ ได้แต่เก็บความสงสัยนั้นไว้ในใจ และมองหน้าบารมีที่เอาแต่ขมวดคิ้วมุ่น
และทำเหมือนโมโหกันอยู่ตลอดเวลา

สารภาพตามตรง
พิพัฒน์ไม่เข้าใจสิ่งที่บารมีคิดเลยจริง ๆ


TBC.



หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เมื่อพิพัฒน์จะไปเที่ยวสถานที่อโคจร P.2
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 17-01-2015 19:55:00
เรื่องใหม่~~~~~~~!!! กรี๊ด >\\\<
พี่บัสนี่ซึนมากๆเรยจิงๆ 555
ส่วนพัฒน์ ก้ออึนสุดดดด ดูเข้ากันดีเหมือนกันนะ คิคิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน งานอดิเรกของพิพัฒน์ P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 17-01-2015 20:23:49
พี่เต๋อเข้าใจถูกต้องงงงงง
พี่บัสแกขี้หวงค่ะ  :laugh:
รอตอนต่อไปน้อออ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เมื่อพิพัฒน์จะไปเที่ยวสถานที่อโคจร P.2
เริ่มหัวข้อโดย: imac ที่ 17-01-2015 20:30:09
พัฒน์พูดน้อยจัง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เมื่อพิพัฒน์จะไปเที่ยวสถานที่อโคจร P.2
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 17-01-2015 21:06:15
ซึนจริงๆ พ่อคุณณณ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เมื่อพิพัฒน์จะไปเที่ยวสถานที่อโคจร P.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-01-2015 22:56:51
ห่วงก็บอกว่าห่วงสิคุณพี่
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เมื่อพิพัฒน์จะไปเที่ยวสถานที่อโคจร P.2
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 17-01-2015 23:13:03
อย่าว่าแต่พิพัฒน์เลย เค้าก็ไม่เข้าใจบารมีเหมือนกัน หวง ห่วง ก็บอกมา 5555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เมื่อพิพัฒน์จะไปเที่ยวสถานที่อโคจร P.2
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-01-2015 23:41:03
สิ่งที่พัฒน์ทำนี่มันเรียกว่ายั่วนะหนูนะ จะยั่วโมโหหรือยั่วอารมณ์ก็แล้วแต่ อิพี่บัสมันแทบคลั่งแล้วนะ ระวังตัวไว้เหอะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เมื่อพิพัฒน์จะไปเที่ยวสถานที่อโคจร P.2
เริ่มหัวข้อโดย: kkmm ที่ 17-01-2015 23:49:59
 :hao6:สนุกมากขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เมื่อพิพัฒน์จะไปเที่ยวสถานที่อโคจร P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 17-01-2015 23:54:12
พี่บัสห่วงก็บอกว่าห่วงเถอะ ส่วนพัฒน์พูดน้อยเกินไปป่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เมื่อพิพัฒน์จะไปเที่ยวสถานที่อโคจร P.2
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 18-01-2015 00:27:35
 :mc4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เมื่อพิพัฒน์จะไปเที่ยวสถานที่อโคจร P.2
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 18-01-2015 00:41:08
บัสนี่หาข้ออ้างในการกักตัวเขาไว้ซะเนียนเชียว -..-
ความเคยชินนี่น่ากลัวนะ  พอรู้ตัวว่าจะต้องขาด
อาการมันก็แสดงออกมาชัดเจน
บัสนีต้องเริ่มรู้ตัวแล้วแนๆ แต่พัฒน์นี่สิ คิดอะไรไหมน้อ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เมื่อพิพัฒน์จะไปเที่ยวสถานที่อโคจร P.2
เริ่มหัวข้อโดย: คุณอัง ที่ 18-01-2015 00:50:54
ว้ายยยย~ เราเพิ่งไปไล่อ่านเรื่องนี้ในเพจเฟสบุ๊คของคุณเท็นจนถึงตอนล่าสุดเมื่อกี้นี้เองค่ะ

เปิดเล้ามาเจอคุณอัพในนี้แล้วนึกว่าตาฝาด
อิอิ เป็นกำลังใจให้นะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน เมื่อพิพัฒน์จะไปเที่ยวสถานที่อโคจร P.2
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 18-01-2015 01:40:30
 :hao4:พัฒนนี่มันเอ๋อหรือเปล่าหว่า หรือท่าจะบื้อสุด ๆ  :hao7:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน พวกไม่มีความเกรงใจ P.2
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 18-01-2015 07:02:30
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)ตอน พวกไม่มีความเกรงใจ

พวกมึงชักจะมีความสุขกันมากเกินไปแล้ว     ยิ่งเห็นยิ่งรู้สึกหงุดหงิดโมโห
พวกมึงว่างกันมากนักหรือไง  แม่ง  ทำตัว......น่าหงุดหงิดชิบหาย

บารมีกำลังรู้สึกไม่พอใจ ไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา เรื่องที่ทำให้หงุดหงิด และไม่ชอบใจก็ไม่มีอะไรมาก

แค่.............

“พี่พัฒน์ไม่กินจริงดิ แม่งอย่างอร่อย ลองชิมดู”

ไม่ใช่แค่พูด  แต่ไอ้เต๋อมันยังอุตส่าห์มีน้ำใจ  ป้อนขนมถ้วยให้พิพัฒน์กินด้วย

แดกเองไม่เป็นหรือไงหรือมือหงิก เป็นง่อย  เลยถือช้อนเองไม่เป็น

“นี่มันที่ทำงานไม่ใช่ที่กินขนม”

ทำเสียงเข้มเข้าข่ม และทั้งพิพัฒน์และเต๋อก็หันมามองบารมีที่ทำหน้าขรึมและใช้นิ้วกระแทกเครื่องคิดเลขจนแทบจะพังคามืออยู่แล้ว

“อารมณ์เสียอะไรวะเฮีย”

เต๋อไม่เข้าใจและยังคงตักขนมถ้วยเข้าปากต่อไป  และป้อนให้พิพัฒน์ด้วย

“อร่อยดิ  บอกแล้วพี่พัฒน์ไม่เชื่อผม”

แม่ง

กูพูดเนี่ย มีใครคิดจะฟังบ้างมั้ย

“นี่ห้องสำหรับทำงาน แดกอะไรหัดเกรงใจกูบ้าง”

ไม่ใช่แค่พูด แต่คราวนี้บารมีเงยหน้าขึ้นมามองและใช้ดินสอเคาะโต๊ะเพราะชักจะทนไม่ไหวกับปฏิกิริยาของทั้งเต๋อและพิพัฒน์ที่มีต่อกัน

“อะไรของเฮียวะ อารมณ์เสียอะไรนักหนา ป่ะ พี่พัฒน์ไปเหอะ เฮียประสาทแดกไปแล้ว”

และคราวนี้บารมีก็ลุกขึ้นยืนทันทีและกำลังจะอ้าปากด่าทั้งเต๋อทั้งพิพัฒน์ที่ไม่รู้จักให้เกียรติกันบ้าง

แต่ยังไม่ทันได้ด่า ช่างวินัยก็ผลักประตูเข้ามา  และ...........

เต๋อยังคงตักขนมถ้วยป้อนพิพัฒน์
บารมีกำลังทำหน้าหงุดหงิดไม่พอใจและคราวนี้คนที่มาร่วมทำหน้าหงิกอีกคนคือช่างวินัย

ช่างวินัยมองสิ่งที่เต๋อทำ และเดินไปหยิบกล่องเครื่องมือช่างที่วางไว้บนโต๊ะ  กระแทกกล่องเสียงดังจนเต๋อถึงกับสะดุ้ง

และไม่ใช่แค่ช่างวินัย บารมีก็ฟาดแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะเหมือนกัน

...............เป็นเหี้ยอะไรกันวะ...............
เต๋ออยากจะถาม แต่ไม่รู้ว่าจะถามไปทำไม ไม่เห็นจะเกิดประโยชน์

“เฮียครับ  คนไม่ครบ  ผมไม่มีคนส่งเครื่องมือให้”

ช่างวินัยหันมาบอกบารมี และบารมีก็หันไปมองหน้าเต๋อ

“อะไรวะ ยังกินไม่เสร็จเลยเนี่ย  อะไรก็ผม  จะเร่งทำไมนักหนาวะ”

เต๋อบ่นพึมพำให้ได้ยินกันทุกคนและบารมีก็รีบเร่งให้เต๋อออกไปช่วยช่างวินัย

“รถเขาจะมารับเย็นนี้ มึงวางมือแล้วไปช่วยช่างนัยเดี๋ยวนี้”

ไม่ใช่แค่พูด แต่ยังทำเสียงเข้มใส่อีกด้วยและเต๋อก็เลยจำใจต้องวางขนมถ้วยเอาไว้บนโต๊ะ และบอกให้พิพัฒน์เก็บขนมไว้ให้

“เดี๋ยวมากินต่อพี่พัฒน์ ถ้าเสร็จเร็ว ไปเล่นตะกร้อกัน”

“ไปทำเหี้ยอะไร  มึงอย่าหวังว่าจะได้ไปง่ายๆ ไอ้เต๋อ  งานไม่เสร็จมึงไม่ต้องไป”

ไม่ใช่แค่เต๋อ แต่หมายรวมไปถึงคนที่นั่งทำหน้าเฉยอยู่ข้าง ๆ เต๋อด้วย

“จ้างมาทำเอกสารไม่ได้จ้างมากินขนม”

ประชดประชันกันแบบชัดเจน และพิพัฒน์ก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าของบารมีก่อนจะเก็บกล่องขนมถ้วย และหันไปจัดการกับแฟ้มเอกสารที่วางอยู่ตรงหน้า

เต๋อลุกขึ้นเดินไปกับช่างวินัยแล้วและช่างวินัยก็เหลือบสายตามองหน้าเต๋ออีกเล็กน้อย

...........มาลากกูไปใช้งานได้คงจะสบายใจมากสินะ...........

เต๋อคิดแบบนั้นแต่ช่างวินัยคิดอีกอย่าง

พิพัฒน์กับเต๋อ  พักหลัง ๆดูสนิทกันมาก และมันมีผลกับความรู้สึกของช่างวินัยและไม่ใช่แค่มีผลกับช่างวินัยคนเดียวแต่มีผลกับจิตใจของบารมีด้วย

พิพัฒน์ก้มหน้าก้มตาทำงานไปเงียบ ๆ แต่บารมีกระแทกนิ้วที่เครื่องคิดเลขไปเรื่อยๆ ทำอะไรก็พาลจะหงุดหงิดไปหมด

พิพัฒน์ไม่เข้าใจว่าบารมีเป็นอะไรและสิ่งที่พิพัฒน์ทำได้ก็มีแค่เพียงตักขนมถ้วยในกล่องส่งให้บารมีและมองหน้าของบารมีเหมือนกำลังลุ้นว่าอีกฝ่ายจะด่ากลับมาว่ายังไง

บารมีไม่ได้รับช้อนมาถือเอาไว้แต่มองหน้าของพิพัฒน์อย่างไม่พอใจและเมื่อพิพัฒน์กำลังจะดึงมือกลับ  บารมีก็ดึงมือของพิพัฒน์เอาไว้  และกินขนมที่พิพัฒน์ป้อน

หน้ายังคงงอหงิกแต่นิ้วที่กดตัวเลขบนเครื่องคิดเลขลดความรุนแรงลงมาในระดับปกติ

พิพัฒน์กลับไปทำงานต่อ

แต่สายตาของบารมีแอบเหลือบมองพิพัฒน์อยู่เป็นระยะ

ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เป็นอะไร ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้หงุดหงิดโมโหไม่พอใจที่เต๋อกับพิพัฒน์สนิทกัน

แต่ตอนนี้อารมณ์ที่ครุกรุ่นอยู่จางลงบ้างแล้วและบารมีก็เกือบจะสามารถทำงานต่อไปได้อย่างปกติสุข

ถ้า.........ไม่เพราะว่าไอ้เต๋อมันจะผลักประตูเข้ามาอีกเพื่อมาหยิบเครื่องมือไปให้ช่างวินัย

และก่อนออกจากห้องไปมันยังไม่ลืมหันมาบอกพิพัฒน์

“อีกนิดเดียวพี่พัฒน์ เดี๋ยวเจอกันที่สนาม”

ไอ้เต๋อ................มึง.........

บารมีลุกพรวดพราดขึ้นจากเก้าอี้และเดินไปตะโกนบอกช่างวินัยที่กำลังเช็คสภาพรถ

“ช่างนัย  คันนี้ลูกค้าขอเช็คแบบละเอียดยิบทุกรายการ”

ช่างวินัย ไม่ได้ตอบ  แต่ยกมือส่งสัญญาณตอบรับบารมีว่ารับทราบ

เต๋อมองหน้าพิพัฒน์และพิพัฒน์ก็มองหน้าเต๋อด้วยความมึนงง อยากจะถามว่าทั้งบารมีและช่างวินัยเป็นอะไร แต่เมื่อพิจารณาจากอารมณ์ของทั้งบารมีและช่างวินัยแล้ว ไม่ถามคงดีกว่า

บารมีทำงานต่อไปได้อย่างสบายใจและช่างวินัยก็ไม่ได้รีบเร่งกับงานที่ทำ

เต๋อเหลือบสายตามองหน้าช่างวินัยเป็นพัก ๆและส่งเครื่องมือให้เรื่อยๆ มีบางครั้งที่ปลายนิ้วสัมผัสกันบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เพราะต่างคนต่างไม่ได้........คิด.........อะไรกัน

บารมีทำงานอยู่ในออฟฟิศและเหลือบสายตามองหน้าพิพัฒน์ที่ก้มหน้าก้มตาทำงานโดยไม่เคยปริปากพูด

...........ทั้งไอ้เต๋อทั้งไอ้พัฒน์....งานการไม่รู้จักทำ.........
มัวแต่ป้อนขนมกันอยู่ได้ คำว่า “มารยาท”  และ “ความเกรงใจ”  สงสัยจะสะกดไม่เป็น  ถึงได้ทำตัวน่าหงุดหงิดแบบนี้  คราวหน้าถ้าเห็นอีก กูจะจับพวกมึงแยกกันยิ่งกว่านี้

โคตรเกลียด พวกไม่รู้จักมารยาท .....ทำแบบนี้  แม่ง....ไม่มีความเกรงใจกันบ้างเลย


TBC
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน พวกไม่มีความเกรงใจ P.2
เริ่มหัวข้อโดย: sine_saki ที่ 18-01-2015 07:24:47
โอ้ย พี่บัสทำเป็นโวยวายกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน พวกไม่มีความเกรงใจ P.2
เริ่มหัวข้อโดย: imac ที่ 18-01-2015 07:25:26
เฮียขี้หึงนะเนี่ย
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน ข้างอู่มีกรงกระต่าย
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 18-01-2015 07:30:57
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน  ข้างอู่มีกรงกระต่าย


บารมีไม่เข้าใจว่าทำไมในเวลานี้ต้องมาทำตัวไร้สาระขนาดนี้ด้วย

“.....................”

พิพัฒน์จ้องมองกระต่ายในกรงและยังไม่ยอมขยับไปไหนง่าย ๆ  จนบารมีเริ่มโมโห

“มึงจะจ้องให้กระต่ายในกรงกลายเป็นกระต่ายทองคำหรือไงไอ้พัฒน์  งานการไม่ต้องทำเลยว่างั้นใช่มั้ยวะ”

พิพัฒน์เงยหน้าขึ้นมองและแตะปลายนิ้วที่ริมฝีปากตัวเองเพื่อเป็นการบอกบารมีว่าอย่าส่งเสียงดังแต่นั่นยิ่งทำให้บารมีหงุดหงิดโมโห

“นี่มึงว่างงานขนาดมานั่งดูกระต่ายคลอดลูกเลยเหรอสบายจังเลยนะชีวิตมึงเนี่ย”

แกล้งว่าคนที่นั่งมองกระต่ายในกรงด้วยท่าทางเอาจริงเอาจัง  จากโมโหตอนนี้บารมีชักจะเริ่มขำ

มาถึงอู่ตั้งแต่แปดโมงเช้า  ไอ้พัฒน์รีบเดินตรงมาที่กรงกระต่ายก่อนเลยอย่างแรกงานการนี่ไม่คิดอยากจะทำ

“ไปลุก  ไปทำงาน เร็ว”

บารมีดึงแขนของคนที่นั่งอยู่ข้างกรงกระต่ายให้ลุกขึ้น  แต่พิพัฒน์ขืนตัวเอาไว้ไม่ยอมลุก

“ไอ้พัฒน์”

เรียกแล้วแต่คนที่ยังมองไปที่กรงกระต่ายก็ไม่ยอมทำตาม

“พี่บัสดูสิ...มันกินผากกกกบุ้ง แล้วมันจะกินหม่าเล็ดทานตะวานมั้ยเนอะ”

เหี้ยยยยยยยย

บารมีไม่เข้าใจทั้งคำพูดและกิริยาท่าทางของพิพัฒน์ที่แสดงออกมาให้ได้เห็น  มึงเป็นอะไรของมึง  อยู่ดี ๆ ก็พูดจาด้วยคำพูดแปลก ๆทำเสียงแบบนั้นมึงคิดว่ามึงน่ารักมากหรือไงไอ้พัฒน์

กำลังจะด่า  แต่สุดท้ายไม่รู้ทำไมถึงลงไปนั่งข้างๆ พิพัฒน์จนได้

“กูนับหนึ่งถึงสามถ้ามึงไม่ลุกนะพัฒน์  กูจะ...”

ยังพูดไม่ทันจบพิพัฒน์ก็ยกมือขึ้นปิดปากบารมีเอาไว้ และเป็นบารมีที่ต้องดึงมือของพิพัฒน์ออก

มึงกล้าเอามือมาปิดปากกูเลยเหรอไอ้พัฒน์

มึงกล้า.....

“กระต่ายมันจะคลอดลูก ดูอีกแป๊บแล้วจะตามไปนะ”

นี่เรียกว่าอะไร

การขอความเห็นใจ หรือเรียกอีกอย่างว่าการอ้อนใช่มั้ย

“....................”

พิพัฒน์หันไปสนใจกระต่ายในกรงที่กำลังทำท่าแปลก ๆ เพราะกำลังจะคลอดลูก

แต่บารมีกำลัง  งง  และไม่เข้าใจตัวเองว่ากำลังทำอะไร

นี่กูมานั่งเฝ้ากระต่ายคลอดลูกกับไอ้พัฒน์ทำไมวะเนี่ย  งานการก็ท่วมหัว  ยังไม่เสร็จ ไหนจะนัดออกไปคุยงานกับลูกค้าตอนสิบโมงอีก ไม่ได้มีเวลาว่างขนาดมาทำอะไรไร้สาระแบบนี้นะ  แล้วกูจะนั่งมองกระต่ายคลอดลูกไปทำไมวะ  แบบนี้มันไร้สาระเกินไปแล้ว

“พี่บัส....”

“เออ”

“กินหม่าเล็ดทานตะวานมั้ย”

ไม่ใช่แค่พูด  แต่พิพัฒน์ดึงมือของบารมีมาแบออกและวางเมล็ดทานตะวันสองสามเม็ดลงไป

“ป่ะ”

พิพัฒน์ลุกขึ้นยืนและเดินเข้าออฟฟิศไปแล้ว หยุดความสนใจกระต่ายที่กำลังจะคลอดลูกในทันที

เหลือแค่บารมีที่ยังนั่งมองเมล็ดทานตะวันในมือด้วยความมึนงงสงสัย

มันทำไปทำไมวะ
ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร

บารมีไม่รู้ว่าพิพัฒน์มีเหตุผลอะไรถึงได้ทำแบบนี้  บารมีรู้แค่ว่า.........การทำเรื่องที่ไร้สาระแบบนี้   หลายครั้งมันทำให้บารมียิ้มได้

บารมีลุกขึ้นและเดินตามพิพัฒน์เข้าออฟฟิศและหันมามองกระต่ายในกรงอีกครั้ง

ถึงตอนนี้ยิ่งไม่เข้าใจตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ

บารมีคิดว่าตัวเองคงไม่มีอารมณ์รื่นเริงมานั่งเฝ้ากระต่าย  ไม่ว่ายังไงก็ไม่มี  แล้วทำไมถึงตามพิพัฒน์มา

มาฟังพิพัฒน์พูดจาบ้า ๆ บอ ๆ ใส่ แล้วก็ยิ้มไปกับสิ่งที่พิพัฒน์พูด

บางทีเพราะว่ากำลังมีความสุขหรือเปล่าถึงได้ยิ้ม
บางทีอาจเป็นเพราะว่ากำลังมีความสุขเลยสามารถยิ้มได้ขนาดนี้

ทั้งที่ก่อนหน้านี้  การยิ้มออกมาจากใจเป็นเรื่องยากที่สุด
เพราะมีเรื่องให้คิดมากมาย
มีเรื่องให้คิดมากหลายๆ  เรื่อง

รอยยิ้มของบารมีจางหายไปอย่างช้า ๆ 
และจากที่กำลังมีความสุข บารมีเริ่มถอนหายใจยาว ๆ

มีเรื่องที่ยังไม่ได้สะสางและยังคงเป็นปัญหาชีวิต  จนทำให้นอนไม่หลับมาหลายคืน

แต่ช่างเถอะ
ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ช่างมันก่อน

ขอแค่ตอนนี้ยังสามารถยิ้มได้อยู่ และได้สัมผัสกับความสุขบ้างก็พอแล้ว


TBC.
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 18-01-2015 07:37:35
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน กระต่ายที่หายไป

“พัฒน์”
“ไอ้พัฒน์”
“พัฒน์โว้ย”
 “ไอ้ห่าพัฒน์”
“อย่าให้กูต้องเรียกมึงอีกครั้งนะพัฒน์  กูจะไม่ทนกับมึงอีกต่อไปแล้วนะ”

บารมีโกรธ เพราะไม่ว่าจะเรียกกี่ครั้งหรือพยายามพูดด้วยแค่ไหน พิพัฒน์ก็ยังคงเมินเฉย

ปกติมันก็ไม่พูดอยู่แล้ว
คราวนี้ เลยเงียบจนบารมีกำลังจะประสาทเสีย
กดดันกูใช่มั้ย  มึงคิดจะกดดันกูใช่มั้ยไอ้ห่าพัฒน์

“.................”

ห้าโมงครึ่ง
และพิพัฒน์ก็ลุกขึ้นยืนและเก็บทั้งบิลและเอกสารใส่แฟ้มและเอาไปวางไว้บนชั้น

“ไอ้พัฒน์”

“......................”

พิพัฒน์ยังยืนยันที่จะไม่คุยกับบารมี และกลายเป็นบารมีที่ทนไม่ไหว

“ปึง....โครม...เคร้ง...”

เสียงทุบโต๊ะและเสียงเตะเก้าอี้ไม่ใช่ฝีมือใคร  แต่เป็นฝีมือของบารมีและพิพัฒน์ก็ชะงักและหยุดเดินหนี

เงยหน้าขึ้นมองหน้าของบารมี และก้มหน้าลง

“....................”

“แค่เรื่องนิดเดียว มึงจะเป็นจะตายอะไรนักหนา  เดี๋ยวมันก็ออกมาอีกกระต่ายมึงอ่ะ   ลูกค้าเขาเห็นเขาก็ว่ามันน่ารัก  ยกให้ไปแค่ตัวสองตัวมึงจะเป็นจะตายให้ได้เลยหรือไง กระต่ายมันลูกดกจะตายห่า เดี๋ยวมันก็คลอดออกมาอีกเป็นโขยง แม่งงงง  อย่าให้กูโมโหได้มั้ยพัฒน์  มึงอายุเท่าไหร่มึงเป็นเด็กอมมือหรือไง ถึงจะต้องมาโกรธกูเพราะกูยกกระต่ายให้ลูกค้าไปเนี่ย  ห๊ะ กูถามหน่อยซิ อย่ามาทำเป็นเงียบ มึงจะเอายังไงไอ้พัฒน์ ให้กูไปตามเอากระต่ายมึงคืนเลยมั้ย”

บารมีตะคอกพิพัฒน์เสียงดังลั่นออกมาข้างนอก  และเด็กในอู่ที่กำลังทำงานกันอยู่  ก็มีอันต้องวางมือ

“ไอ้เต๋อ กระต่ายมึงทำเรื่องแล้ว  พี่พัฒน์โดนเฮียฆ่าทิ้งแน่”

เมื่อก่อนอาจจะใช่
กระต่ายในกรงเคยเป็นของเต๋อก็จริง  ที่เลี้ยงก็แค่เลี้ยงเล่น ๆ เห็นพื้นที่ข้างบ้านว่าง ๆ อยู่ก็เลยต่อกรงแล้วเอากระต่ายมาเลี้ยง    แต่ตอนนี้พี่พัฒน์โมเมเอากระต่ายในกรงไปเป็นของตัวเองแล้ว

“ไอ้พัฒน์”

บารมียังตะคอกใส่หน้าของคนที่ยืนก้มหน้านิ่ง แต่ไม่ยอมพูด  และเสียงก็ยังคงดังลั่นออกมาข้างนอกให้ลูกน้องได้ยิน

“เต๋อ  มึงไปห้ามเฮียหน่อยเถอะสงสารพี่พัฒน์   จะโดนเฮียแดกหัวอยู่แล้ว  ยังไงมึงก็เป็นหลาน  เฮียคงไม่ว่ามึงหรอก  มึงไปช่วยห้ามเฮียหน่อยสิวะเต๋อ”

ห้ามทำไม
ไม่เห็นจำเป็นต้องห้ามเลย

เต๋อยืนกอดอก และอมยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก

“เออน่า เดี๋ยวเขาก็เคลียร์กันเองแหละ”

เต๋อไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้อาของตัวเองขาดสติจนถึงขั้นทำร้ายพิพัฒน์ได้

มองแล้วก็ได้แต่อมยิ้ม ก่อนจะคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้

“อยากให้กูช่วยเหรอ เดี๋ยวกูไปช่วยก็ได้”

เต๋อแกล้งเดินเข้าไปผลักประตูออฟฟิศ   แกล้งทำเหมือนไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น

“พี่พัฒน์  เตะบอลป่ะวันนี้”

แล้วระเบิดก็เหมือนจะลงมาอีกลูกใหญ่ หลังคำพูดนั้น

“เอออออออ สนุกสนานกันจริงชีวิตมึง กูจ้างมึงมาทำบัญชีนะไม่ใช่จ้างมาเลี้ยงกระต่ายมาเตะบอล เล่นตะกร้อ  มึงขยันซ้อมขนาดนี้ ไปแข่งโอลิมปิกเลยมั้ยไอ้ห่า”

บารมีเปิดประเด็นในการด่าเรื่องใหม่ และเต๋อก็แกล้งทำสีหน้าตกอกตกใจ

“อ้าว.....เฮียอารมณ์ไม่ดีเหรอ โทษ ๆ”


“กูไม่ให้มึงไปไหนทั้งนั้นไอ้พัฒน์  วันนี้ไม่ต้องเล่น  มึงอีกตัวไอ้เต๋อ   พาแต่ให้ไอ้พัฒน์มันเสียคน เรื่องเหี้ยๆ  นี่ชวนกันนัก เย็นนี้กูจะบอกแม่มึง  ให้หักเงินค่าขนมมึง”

อ้าว
เกี่ยวไรกะกูวะ แค่มาทิ้งระเบิดเล่น ๆ แค่เนี้ยะ

“ผมไม่ยุ่งก็ได้วะ  พี่พัฒน์ ไว้เจอกัน”

เต๋อเดินไปแตะมือกับพิพัฒน์และคราวนี้บารมีก็เลยยิ่งโมโหไปกันใหญ่

เจอกันเหี้ยอะไร

“ไม่ต้องจงต้องเจอใครทั้งนั้นแหละมึงไอ้พัฒน์   ทีกูนี่จะพูดทีดอกพิกุลจะร่วงจะหล่น  ทีกับไอ้เต๋อ มึงทำเสียงอ่อนเสียงหวาน.... “เจอกัน”....... เจอกันเหี้ยอะไร ไม่ต้องจงต้องเจอแม่งแล้ว มึงนั่งอยู่นี่เลย ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น”

บารมีเตะเก้าอี้ขวางทางเอาไว้ และชี้นิ้วสั่งให้พิพัฒน์นั่งลง

พิพัฒน์ไม่ได้แสดงอาการกระฟัดกระเฟียดหรือโมโห

มีแค่ความเงียบเท่านั้น

นั่งลงบนเก้าอี้ตามที่บารมีสั่ง  นั่งอยู่เฉย ๆ และไม่ยอมพูดยอมจา

“..............”

บารมียังไม่หายโมโห และผลักประตูเดินออกไปคุมเด็กที่กำลังดูรถอยู่ด้านนอก

“เย็นนี้เฮียส่งจะเข้ามาเอารถ มึงเคลียร์คันนี้ก่อนเลย  อันนั้นค่อยทำทีหลัง”

สั่งงานลูกน้องและยิ่งหัวเสียมากขึ้นเมื่อลูกน้องทำงานไม่ได้ดั่งใจ

บารมีมัววุ่นวายอยู่กับการเคลียร์รถให้ทันก่อนลูกค้าจะมารับ โดยไม่ยอมหันไปมองหรือสนใจคนที่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ในออฟฟิศและไม่ขยับไปไหน

พยายามทำงานให้ลืมว่าโมโห
พยายามแกล้งทำเป็นไม่สนใจคนที่อยู่ในออฟฟิศและไม่เคยมีปากมีเสียงหรือเถียงบารมีเลยสักครั้ง

แค่เรื่องกระต่ายสองตัวที่ยกให้ลูกค้าไปมันไม่ใช่เรื่องที่บารมีต้องมาคิดหรือใส่ใจความรู้สึกพิพัฒน์เลยสักนิด

พยายามจะเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่
พยายามจะบังคับให้พิพัฒน์เป็นไปอย่างที่ต้องการ

แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้
และลงเอยด้วยการทะเลาะกัน และเป็นการทะเลาะกันที่เหมือนบารมีทะเลาะอยู่คนเดียว โดยที่พิพัฒน์  ทำเหมือนบารมีไม่มีตัวตน  ทำเหมือนไม่เห็นว่าบารมีพูดด้วย

และนั่นยิ่งทำให้บารมีโมโห ทั้งด่าทั้งว่าทั้งตำหนิพิพัฒน์ไปสารพัด

แต่สุดท้าย.....กลับต้องรู้สึกผิดที่ว่าพิพัฒน์ไปถึงขนาดนั้น  แต่พิพัฒน์ไม่แสดงอาการโมโห หรือตอบโต้ในทุก ๆ คำพูดที่แสนร้ายกาจของบารมีเลย


+++++++++++++++++++++


สามทุ่มแล้วแต่พิพัฒน์ยังคงนั่งนิ่ง ๆ อยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมไม่ได้ขยับไปไหน

บารมีผลักประตูออฟฟิศเข้าไป  และพิพัฒน์ก็หันไปมอง

อารมณ์หงุดหงิดโมโหหายไปหมดแล้วและบารมีก็มายืนอยู่ตรงหน้าของพิพัฒน์

“ป่ะ กลับบ้าน”

พิพัฒน์เงยหน้าขึ้นมอง และก้มหน้าลงอีกครั้ง

“ไอ้พัฒน์”

บารมีไม่เคยง้อใครและพิพัฒน์ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น และพิพัฒน์ก็รู้  ว่าบารมีไม่เคยสนใจความรู้สึกกันเลยสักนิด

“กระต่ายที่พี่บัสให้ลูกค้าไป ชื่อปา”

พิพัฒน์พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ก่อนจะค่อยๆ  ขยับกายลุกขึ้นอย่างช้าๆ  และเดินหนีออกจากออฟฟิศไป

ไม่รอให้บารมีถาม
และเป็นบารมีที่ยืนอึ้ง และไม่รู้จะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง

เรื่องกระต่ายที่ยกให้ลูกค้าไปมันไม่ใช่ปัญหาหรอก
ปัญหาคือไอ้ห่าพัฒน์เสือกไปตั้งชื่อกระต่ายว่า “ปา”

ตั้งชื่อให้กระต่าย มึงได้ปรึกษาใครบ้างหรือยัง

ตั้งชื่อให้กระต่ายขนาดนั้น ก็แสดงว่ามึงไม่เคยลืม น้องสาวกูเลย ใช่มั้ยพัฒน์

ไม่เคยลืม
ไม่เคยลืมเรื่องนั้นเลยสินะ

ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาได้ บารมีได้แต่ถอนหายใจออกมายาวๆ   เดินไปที่รถ และเห็นพิพัฒน์ยืนก้มหน้านิ่งอยู่ที่ข้างรถ

“อีปามันไม่กลับมาหรอกนะ มันมีผัวใหม่ไปแล้ว  มึงก็รู้  แล้วมึงยังจะพร่ำเพ้อถึงมันอยู่ได้ทำไมทุกวันวะพัฒน์”


ไม่ได้พร่ำเพ้อ
ไม่ได้คิดจะให้เวลาย้อนกลับมาที่เก่า ก็แค่อยากให้แต่ละวันได้มีรอยยิ้มบ้าง

สุขเล็ก ๆ กับเรื่องที่ไม่มีวันเป็นจริง  แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้พอมีรอยยิ้มได้บ้าง

“...............”

พิพัฒน์ไม่ตอบ
พิพัฒน์ไม่พูด
พิพัฒน์เป็นคนที่ทำตัวน่าโมโหที่สุดและบารมีก็ต้องเดินอ้อมมาอีกฝั่งเพื่อจะย้ำให้พิพัฒน์เข้าใจว่าไม่ว่ายังไงเวลามันก็ไม่มีทางหมุนย้อนกลับมาอีกแล้ว

“พัฒน์”

ตั้งใจจะพูดบางอย่าง ตั้งใจจะทำให้พิพัฒน์เข้าใจให้มากขึ้น

แต่เมื่อเดินเข้ามาใกล้  ๆ พิพัฒน์ก็ยกมือขึ้นมาปิดปากของบารมีเอาไว้

“...............”

บารมีต้องหยุดพูด และนิ่งมองใบหน้าของพิพัฒน์ตรง ๆ  และก็เห็นว่าในดวงตาคู่นั้นมีแต่ความหม่นหมองเศร้าสร้อยที่พิพัฒน์พยายามปกปิดเอาไว้มาโดยตลอด

พิพัฒน์ลดมือลงแล้ว และก้มหน้าลงแตะหน้าผากไปที่ไหล่ของบารมีเบา ๆ

“...............”

บารมีไม่มีปัญญาจะพูดอะไรได้อีก
ได้แต่เงียบและปล่อยให้พิพัฒน์ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น

ลาดไหล่ของพิพัฒน์กำลังสั่นแต่ไม่มีแม้กระทั่งเสียงสะอื้นออกมา

ความเจ็บปวดมันฝังอยู่ในใจมาตลอดบารมีก็พอรู้  แต่ไม่มีวันไหนที่พิพัฒน์แสดงมันออกมา

ไม่มีคำพูดปลอบใจจากปากของบารมี
ไม่มีการโอบกอด ไม่มีการปลอบประโลม ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

สิ่งที่บารมีทำมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น

ยืนนิ่ง ๆ ให้พิพัฒน์ใช้เป็นหลักยึดเพื่อยืนร้องไห้  จนกว่าจะพอใจ


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: tou ที่ 18-01-2015 07:49:06
หวานๆขมๆ ,ฮือ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 18-01-2015 08:41:59
เฮียสู้ๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 18-01-2015 08:45:58
พัฒน์จ๋า คิดอะไรในใจก็บอกพี่บัสบ้างก็ได้นะ
เก็บไว้คนเดียว เดี๋ยวจะเครียดเกินไป
แย่งพี่บัสพูดบ้าง พี่เขาจะได้บ่นน้อยลง ฮาาา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 18-01-2015 08:52:58
คุณเท็นเปิดเรื่องใหม่แล้ว :mc4 สงสารพัฒน์จังเลย เฮียบัสทำตัวดีๆหน่อยสิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 18-01-2015 09:52:43
 :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 18-01-2015 10:04:58
พัฒน์ยังไม่ลืมอ่ะ เฮียบัสจะเอาไม้ไหนมาจีบล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 18-01-2015 10:08:45
 :mew5: อารมณ์คุณเฮียนี่ยังกะพวกวัยหมดประจำเดือนเลยวุ้ย

เข้ามาเพราะชื่อคนเขียนเลย  :pig4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 18-01-2015 10:47:39
เมื่อไหร่จะเข้าใจกันนะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 18-01-2015 11:10:12
คนนึงก็อารมณ์เต็มที่ อีกคนก็เงียบเต็มที่เหมือนกัน 5555
ความจริงพัฒน์รู้สึกไงก็บอกพี่บัสไปสิ พี่บัสน่ะถึงจะปากร้ายแต่ใจดีนะ ^_^
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 18-01-2015 11:23:59
สงสารพัฒน์
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 18-01-2015 11:38:29
 o13
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-01-2015 11:44:16
มารอมือเที่ยง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 18-01-2015 12:18:08
อิมเมจ บารมี..แบบว่า เตะจริง ต่อยจริงใช่ปะ 5555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 18-01-2015 12:41:18
ปูเสื่อรอด้วยคนจ้า
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 18-01-2015 13:27:06
สงสารรรรรรรรรรรร :hao5:
อยู่กันสองคน ก็ปลอบกันไป
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 18-01-2015 14:05:37
อ้าวววว ซะงั้น
งานเข้าพี่บัส
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 18-01-2015 14:48:17
 :o12: :katai4: :ling1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 18-01-2015 17:53:42
เปลี่ยนจากเต๋าสมชาย  เป็นเต๋าเศรษฐพงศ์ ได้มั้ยอ่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน กระต่ายที่หายไป P.2 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 18-01-2015 18:30:19
พัฒน์กำลังอ่อนแอจนต้องพึ่งความหนักแน่นของพี่บัสเลย พี่บัสช่วยถ่ายทอดความเข้มเเข็งให้น้องที   :oo1:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน ความห่วงใย
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 18-01-2015 20:05:07
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)

 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน ความห่วงใย

พิพัฒน์ไม่รู้ว่าบารมีทำแบบนี้เพื่ออะไร  นี่หัวคนไม่ใช่ที่วางของ  ทำไมถึงได้สรรหาของมาวางบนหัวอยู่ได้
 
.....ปากกาอยู่บนหัวของพิพัฒน์ และพิพัฒน์ก็หยิบปากกาออกจากหัว
.....หมอนอิง อยู่บนหัวของพิพัฒน์และพิพัฒน์ก็หยิบหมอนอิงออก
.....ลูกอมหนึ่งเม็ดอยู่บนหัว และพิพัฒน์ก็ดึงลูกอมออก
.......กระเป๋าสตางค์ของบารมีอยู่บนหัว  และพิพัฒน์ก็หยิบกระเป๋าสตางค์ของบารมีออก........
 
บารมีสรรหาสิ่งของหลายอย่างมาวางไว้บนหัวของพิพัฒน์  และพิพัฒน์ก็หยิบทุกอย่างวางทิ้งไว้บนโต๊ะ
 
สุดท้ายไม่มีอะไรจะเอามาวางแล้ว บารมีก็เลย วางมือของตัวเองไว้บนหัวของพิพัฒน์  และพิพัฒน์ก็ดึงมือของบารมีออก
 
ไม่พูด  ไม่โมโห  ไม่ทำหน้าบึ้ง ตั้งหน้าตั้งตาทำบัญชีของตัวเองต่อไปโดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองและเป็นบารมีที่เดินไปล็อคคอของพิพัฒน์และวางปลายคางเกยไว้บนหัวของพิพัฒน์แทน
 
แต่พิพัฒน์ก็ยังคงเฉย
 
บารมีก็เลยใช้คางถูไปมาที่กลางกระหม่อมของพิพัฒน์เบา ๆ 
 
“เจ็บบบบบบบ”
 
บอกให้รู้ว่าเจ็บที่โดนแกล้งและบารมีก็หัวเราะออกมาเสียงเบา
 
“อ้าว  นี่คนหรอกเหรอ กูนึกว่าขอนไม้  ว่าจะเอาไปตั้งไว้ข้างนอกให้หมามันเยี่ยวรดซะแล้ว”
 
แล้วพิพัฒน์ก็เลยผลักคนที่ล็อคคอเอาไว้ให้ออกห่าง   บารมียอมปล่อย และมานั่งอมยิ้มมองหน้าของพิพัฒน์อยู่ฝั่งตรงข้าม
 
“วันนี้กูว่าจะสั่งผัดกระเพราเนื้อกระต่าย  ต้มยำเนื้อกระต่าย  กระต่ายผัดน้ำมันหอย แล้วก็กระต่ายต้มแซ่บ”
 
พิพัฒน์วางปากกาลง และเงยหน้ามองคนที่แกล้งพูดบางอย่างใส่
 
“ทอดมันกระต่ายก็เข้าท่านะพัฒน์เดี๋ยวจะโทรสั่งเลย”
 
ไม่เข้าท่าเลย  ทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วย
 
“ผมไม่กินเนื้อกระต่าย พี่บัสจะกินจริง ๆ ก็สั่งมาเลยผมมีข้าวต้มกับผักกาดดองแล้ว”
 
นี่มันยิ่งกว่างอนอีกนี่หว่า  เมื่อไหร่มึงจะหัดด่าหรือหัดโมโหใส่คนที่ทำไม่ดีกับมึงบ้างวะพัฒน์ มึงพูดแบบนี้  กูไปไม่เป็นเลย
 
“ที่มึงตื่นมาทำอะไรก๊อก ๆ แก๊ก ๆ ในครัวแต่เช้ามึงตื่นมาต้มข้าวต้มเหรอพัฒน์”
 
ใช่
 
พิพัฒน์พยักหน้า และยังคงสนใจกับงานของตัวเอง
 
“เป็นอะไรกินข้าวต้ม”
 
ก็ไม่ได้จะห่วงใยหรอกนะ แต่อยู่ดี ๆ พิพัฒน์ลุกขึ้นมาทำข้าวต้มกินตั้งแต่เช้ามันแปลก
 
“ไม่ค่อยดี เหมือนจะไม่สบาย”
 
พิพัฒน์ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบและบารมีก็ยกหลังมือขึ้นทาบที่หน้าผากของตัวเองและอีกมือก็แตะไปที่หน้าผากของพิพัฒน์
 
“ใกล้ตายยังวะ”
 
เป็นการพูดแสดงความห่วงใยที่ไม่ว่าใครก็คงไม่อยากฟัง   ไม่รู้ว่าบารมีไปสรรหาคำพูดที่ทำร้ายจิตใจคนฟังขนาดนี้มาจากไหน  ถ้าคนฟังเป็นคนอื่น  ได้ฟังคำพูดแบบนี้คงกัดลิ้นฆ่าตัวตาย  แต่โชคดีที่เป็นพิพัฒน์ที่ไม่ถือสาหาความอะไรกับคำพูดแย่ๆ ของบารมี
 
“อือ”
 
การตอบมาด้วยน้ำเสียงเรียบสนิทไร้อารมณ์ความรู้สึกของพิพัฒน์มันทำให้บารมีถึงกับนิ่งอึ้ง
 
“กูล้อเล่นนิดเดียวทำเป็นไม่พอใจต้องให้เป็นไอ้เต๋อมาเล่นหรือไงถึงจะเล่นได้ พูดนิดพูดหน่อยทำเป็นโมโห”
 
เปล่าเลย  ไม่ได้โมโห  ไม่ได้รู้สึกอะไร   แค่บางครั้งก็รู้สึก
“น้อยใจ”  ที่บารมีไม่เคยคิดจะ  “ใส่ใจ” แค่นั้น
 
“พัฒน์  เดี๋ยวมึงอยู่เฝ้าออฟฟิศนะ  ตีบิลค่ากระจังหน้ารถมาด้วย  ลูกค้าจะมาเอารถตอนบ่ายสอง  กูจะออกไปข้างนอกมีอะไรก็โทรเข้าเครื่องแล้วกัน”
 
พิพัฒน์พยักหน้ารับ และบารมีก็ลุกขึ้นยืน  ก่อนเปิดประตูออกไปบารมีก็หันมาสั่งอะไรบางอย่าง
 
“วันนี้มึงกลับเองนะ กูไปธุระต่อ   ดึก ๆ คงกลับ  จะพาพวกประมูลไปเลี้ยงหน่อย”
 
คำว่าพาไปเลี้ยง พิพัฒน์พอรู้ความหมายลาง ๆ
 
พยักหน้ารับ สิ่งที่บารมีบอกและหันกลับมาเขียนบิลตามที่บารมีสั่ง
 
พาพวกประมูลไปเลี้ยง วิธีการเลี้ยงมีหลายอย่าง  เลี้ยงอาหาร เลี้ยงเหล้ายา    แถมผู้หญิง 
 
.......พิพัฒน์เข้าใจ.....
 
แต่พักนี้ไม่รู้เป็นอะไร  พอได้ยินว่าบารมีจะพาใครไปเลี้ยงมันก็อดรู้สึกใจหายขึ้นมาไม่ได้
 
แต่นั่นมันก็เรื่องส่วนตัว
บารมีจะทำอะไรก็ได้ตามที่อยากจะทำ  เพราะที่จริง แล้ว   ไม่ว่าบารมีจะทำอะไรมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพิพัฒน์เลย
 
+++++++++++++++++++++
 
ไฟในออฟฟิศยังเปิดอยู่
และบารมีที่กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะไปงานเลี้ยง   ก็ต้องผลักประตูเข้ามาดู
 
พิพัฒน์หลับอยู่และบารมีไม่รู้ว่าดึกดื่นป่านนี้ทำไมพิพัฒน์ยังไม่กลับ
 
“ไอ้พัฒน์”
 
เรียกคนที่แนบใบหน้าอยู่บนหมอนอิง และพิพัฒน์ก็หรี่ตาขึ้นมองและพยายามขยับกายลุกขึ้นนั่ง
 
สภาพคนเพิ่งตื่น ไม่มีอะไรน่ามอง ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้ายับย่น  และบารมีก็สังเกตเห็นได้ถึงกิริยาอาการของพิพัฒน์ที่ผิดแปลกไปจากปกติ     รีบแตะหลังมือไปที่หน้าผากของพิพัฒน์เพื่อจะได้แน่ใจ  แล้วก็เป็นไปอย่างที่คิดจริงๆ
 
“ไข้แดกแล้วพัฒน์มึงอ่ะ”
 
สังเกตอาการมาตั้งแต่บ่าย แต่ไม่นึกว่าพิพัฒน์จะเป็นหนักถึงขนาดนี้
 
“กินยาหรือยัง”
 
ยาเหรอ
พิพัฒน์พยักหน้ารับ และบารมีก็หยิบแฟ้มที่พิพัฒน์ทำงานค้างไว้ไปเก็บไว้บนชั้นวางเอกสาร
 
“ไหวมั้ย”
 
พิพัฒน์พยักหน้ารับ แต่เมื่อลุกขึ้นก็เซจนบารมีต้องดึงแขนเอาไว้
 
“ไม่ไหวแล้วมั้ง  แย่นะเนี่ยหนักเลยนะมึงพัฒน์ ตัวร้อนเลย ไปคลินิกกัน”
 
บารมีประคองคนป่วยให้เดินมาขึ้นรถและจัดการคาดเข็มขัดนิรภัยให้พิพัฒน์เรียบร้อย
 
“จะอ้วก”
 
ขึ้นมาได้ไม่ทันไรพิพัฒน์ก็รีบปลดเข็มขัดนิรภัยออกและกระโดดลงจากรถมายืนโก่งคออาเจียน
 
ปวดหัว
ขมปากขมคอ
เวียนหัวและเหมือนโลกหมุนตลอดเวลา
 
“พัฒน์มึงหายใจเข้าลึก ๆ นะพัฒน์ ไหวมั้ย พัฒน์”
 
บารมีลูบหลังให้คนที่กำลังโก่งคออาเจียนด้วยความเป็นห่วง และ พิพัฒน์ก็เงยหน้าขึ้นเพื่อสูดอายใจลึกๆ  ตามที่บารมีบอก
 
กว่าจะพาพิพัฒน์ไปหาหมอได้ก็ทุลักทุเลพอดู
 
หมอบอกว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา อาจเกิดจากอาการเครียดและพักผ่อนไม่เพียงพอร่วมด้วย
 
มียาสำหรับกินสองสามอย่างอยู่ในถุงและบารมีก็จัดการสิ่งที่ต้องทำจนเสร็จเรียบร้อย
 
“เดี๋ยวรีบกลับนะพัฒน์  ไม่อยู่ดึกหรอก  มึงอยู่ได้ป่าว มีอะไรโทรมานะพัฒน์”
 
พิพัฒน์พยักหน้ารับ  แต่บารมีรู้สึกพะว้าพะวงไม่กล้าทิ้งคนป่วยให้อยู่คนเดียว
 
“มึงมีอะไรมึงโทรนะพัฒน์ ไม่ไหวมึงรีบโทรมาเลยนะ”
 
บอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายครั้ง และพิพัฒน์ก็พยักหน้ารับทั้งที่ยังหลับตา และบารมีก็ต้องจำใจทิ้งพิพัฒน์ให้อยู่คนเดียว  เพราะต้องรีบไปจัดการธุระของตัวเอง
 
เรื่องงานก็เรื่องใหญ่
เรื่องพิพัฒน์ไม่สบายก็เรื่องสำคัญ
 
ก่อนออกจากบ้านบารมียังแวะขึ้นมาเปิดประตูห้องนอนของพิพัฒน์เพื่อดูอาการคนป่วยอีกครั้งและก็เห็นพิพัฒน์หลับไปแล้วเพราะฤทธิ์ยา
 
“ไม่น่าเป็นไรหรอกมั้ง”
 
บารมีบอกตัวเองแบบนั้น
 
และเมื่อไปถึงงานเลี้ยง  บารมีพยายามยิ้มแย้มแจ่มใส่กับลูกค้าเต็มที่ 

ทั้งที่ในใจ   กลับไปหาพิพัฒน์แล้วตั้งแต่ก้าวขาเข้างาน


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน ความห่วงใย P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 18-01-2015 20:16:59
รีบกลับมานะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน ความห่วงใย P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 18-01-2015 20:24:09
รีบๆๆกลับมาน่ะ พัฒน์รออยุ่น่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน ความห่วงใย P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 18-01-2015 20:50:57
เร็วๆพี่บัสสสสสสสส
น้องป่วนน๊า -0-
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน ความห่วงใย P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 18-01-2015 21:09:29
พี่บัสโคตรของปากร้ายเลย  แต่แอบห่วงชิมิล่า :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน ความห่วงใย P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 18-01-2015 21:18:29
ถ้านี่เป็นพัฒนะจะยอมพี่บัสเลยค่ะ คนอะไรก็ไม่รู้ฮรืออออ /meทิ้งตัว :jul1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน ความห่วงใย P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 18-01-2015 21:24:23
พี่บัสรีบกลับมาดูพัฒน์  ปล่อยคนป่วยไว้คนเดียวได้ยังไง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน ความห่วงใย P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 18-01-2015 21:25:39
เค้าว่าหนาวเนื้อต้องห่มเนื้อนะพี่บััส เอิ๊กๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน ความห่วงใย P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-01-2015 21:38:56
ต่างคนก็รู้สึกดีให้กัน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน ความห่วงใย P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: khuan ที่ 18-01-2015 21:44:28
อิมเมจที่ให้มา  คือดีงามฝุดๆอะ    :กอด1:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน คนรอบข้างของบารมี
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 18-01-2015 21:48:54
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน คนรอบข้างของบารมี


“บัส  อย่าหาว่าป้าอย่างงั้นอย่างนี้เลยนะแต่ป้าถามจริง ๆ เถอะ พิพัฒน์มันเป็นผัวเก่าน้องสาวบัสจริงเหรอ”

บารมีไม่สามารถหลีกเลี่ยงคำถามพวกนี้ได้
รอบ ๆ บ้านมีแต่ญาติ ๆ พ่อแม่เสียไปแล้วก็จริง  แต่ลุงป้าน้าอา  และหลาน ๆ ก็ยังรายล้อมเต็มไปหมด  จะหลีกเลี่ยงไม่ตอบคำถามนี้ก็คงเป็นไปไม่ได้

ปาจรีย์เป็นน้องสาวต่างพ่อ  และไม่มีความเกี่ยวข้องกับญาติทางนี้เลย

และการที่พิพัฒน์ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องยิ่งกว่ามาทำงานกับบารมีทั้งที่เลิกกับปาจรีย์ไปแล้ว  มันยิ่งเพิ่มความน่าสงสัยและข้องใจให้กับญาติ ๆและสุดท้ายบารมีก็ไม่สามารถปฏิเสธการตอบคำถามที่พยายามเลี่ยงมาตลอดได้

“ครับ”

ตอบรับเพียงสั้น ๆ  และแกล้งทำเป็นยุ่งอยู่กับเอกสาร  แต่ป้าก็ยังไม่ละความพยายาม

“เอามาทำบัญชี  ไว้ใจได้เหรอ  จงจิตมันก็จบบัญชีมาทำไมไม่ให้มาทำ  เอาพี่เอาน้องเอาคนรู้จักสนิทชิดเชื้อมาทำไม่ดีกว่าเหรอบัส  ยังไงก็ดีกว่าคนอื่น”

บารมีกำลังหงุดหงิดคำพูดที่ไม่อยากฟัง  การยัดเยียด ให้พี่ ๆ น้อง ๆ ญาติ ๆมาทำงานให้กัน  ที่แล้ว ๆ มาก็มีแต่ปัญหาจนทำให้มองหน้ากันแทบไม่ติดก็เคยมาแล้ว  แล้วนี่ยังจะยัดเยียดกันเข้ามาอีก  บารมีไม่อยากจะหักหน้าป้าของตัวเองเลยจริงๆ

“สมเกียรติขโมยอะไหล่ลูกค้าไปขายผมเพิ่งจะเคลียร์จบไป  ป้าอย่าเพิ่งแนะนำใครมาให้ผมตอนนี้เลย”

ตอบกลับไป  แต่ก็ทำให้ป้าที่ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นมีอันหน้าเจื่อนแต่ก็ยังไม่ละความพยายาม

“ยังไงก็อย่าเอาคนนอกมาทำเลย ญาติพี่น้องกันยังไงมันก็ย่อมดีกว่า พิพัฒน์มันเป็นผัวเก่าอีปาไม่ใช่เหรอ ถ้าดีจริง อีปามันคงไม่เลิกไปมีผัวใหม่หรอก”

บารมีวางปากกาลงแล้ว และเงยหน้าขึ้นมองหน้าของป้าตัวเองนิ่ง ๆ

“ขอบคุณครับป้าที่เตือนผม ถ้ามีตำแหน่งว่างเมื่อไหร่   ผมจะเอาจงจิตมาทำแล้วกันนะ”

นั่นคือสิ่งที่บารมีตอบ  พยายามหักห้ามใจไม่ให้แสดงกิริอาการหงุดหงิดไม่พอใจออกไป

และการตอบออกไปแบบนั้นก็ทำให้ป้าสบายใจและยิ้มได้

“ป้าเอากล้วยเชื่อมมาฝาก เพิ่งทำเสร็จร้อน ๆ เลย  บัสมีอะไรอยากได้อะไรก็บอกป้านะ”

บารมีรับของฝากเอาไว้ และรีบยกมือไหว้ขอบคุณป้า และป้าก็เดินยิ้มออกไปจากออฟฟิศแล้ว

“คราวนี้ป้ากัญญามาทำไมอีก  ป้าแกคิดจะหาเมียให้เฮียอีกแล้วใช่ป่ะ”

เต๋อเดินไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าบารมี  หมุนเก้าอี้เล่น และมองไปที่บารมีที่กำลังทำหน้าเครียด

“กูล่ะหน่าย จะยัดเยียดคนนั้นคนนี้มาทำงานกับกูอีกแล้ว กูเปิดอู่ซ่อมรถนะ ไม่ใช่เปิดสถานสงเคราะห์  แม่ง”

บารมีหงุดหงิดหัวเสีย และเต๋อก็ส่งยิ้มบาง ๆ ให้กับอีกฝ่าย

“เฮียก็หาเมียเป็นตัวเป็นตนไปสิ ป้ากัญญาจะได้เลิกเป็นแม่สื่อให้เฮียซะที”

กูก็อยากจะทำอยู่หรอก  แต่กูไม่อยากวุ่นวาย
และบางทีความเจ้ากี้เจ้าการที่มากเกินไปของป้ากัญญาก็จะทำกูเป็นบ้าเอาเหมือนกันแต่กูสงสารคนแก่
ดี  ๆ ร้าย ๆป้ากัญญาก็เป็นพี่สาวของพ่อ ไม่อยากจะพูดจาทำร้ายจิตใจ


“แล้วนี่ยังไงเนี่ย มึงไม่มีเรียนหรือไง เสนอหน้ามายุ่งอะไรที่อู่กูอยู่ได้ มึงไปช่วยข้างนอกดูหม้อน้ำรถคันที่เพิ่งเข้ามาเมื่อวานหน่อยไป ถ้าว่างขนาดนั้น”

ผมเปล่า ใครที่ไหนจะอยากเสนอหน้ามายุ่งวุ่นวายให้เฮียด่ากันล่ะ

“พี่พัฒน์เป็นไงบ้าง เมื่อเช้าผมโทรไปหา เสียงไม่ค่อยดีเลย  เห็นบอกไม่สบาย  เย็นนี้ขอไปเยี่ยมหน่อยสิ  อยากรู้พี่พัฒน์เป็นยังไง”

มันใช่ธุระของมึงหรือไง
ไอ้พัฒน์ไม่สบายอีกไม่กี่วันมันก็หาย แล้วนี่มึงโทรหาไอ้พัฒน์บ่อยขนาดไหน มึงมีเหตุผลอะไรที่ต้องโทรไปหามันนักหนา

“................”

บารมีเงยหน้าขึ้นมองเต๋ออย่างช้า ๆ และพูดบางอย่างให้เต๋อเข้าใจ

“มึงไม่ได้เป็นหมอ ไปเยี่ยมหรือไม่ไป มันไม่ได้ทำให้ไอ้พัฒน์หายเร็วขึ้นหรอก”

เหรอเฮีย

ก็ไม่ใช่ว่าจะให้หายเร็วขึ้นอะไรหรอกนะ  แค่แบบว่า.......

“เฮียว่าพี่พัฒน์เป็นไง โอเคมั้ย”

ถามเหี้ยอะไรของมึงวะ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่กูต้องตอบคำถามมึงด้วยไอ้เต๋อ

“ดูมึงจะสนใจไอ้พัฒน์มันจังเลยนะ สนใจมันขนาดนั้น มึงไม่จีบมันมาเป็นเมียมึงซะเลยล่ะ”

จะไปทำแบบนั้นได้ยังไง

เต๋อ อมยิ้ม และพยักหน้าอย่างช้า ๆ ก่อนจะจ้องหน้าบารมีนิ่ง ๆ อย่างจริงจัง

“เฮียรู้มั้ย  ที่สนามตะกร้อ   อรัญญาลูกสาวเจ๊ดาที่ขายขนมถ้วยที่ตลาดมาเฝ้าพี่พัฒน์เล่นตะกร้อทุกวันเลย  นมก็ใหญ่ สวยก็สวย  ผมเคยจีบนะแต่ไม่ติด  ไม่รู้พี่พัฒน์ไปทำยังไง  อรัญญาถึงเทียวมาดูพี่พัฒน์อยู่บ่อย ๆ ผมนี่โคตรอิจฉา  นี่อรัญญาก็ฝากมาถามให้หน่อยว่าพี่พัฒน์เป็นยังไง ผมก็เลยต้องมาถามกับเฮียนี่แหละ”

ไอ้เต๋อ..........มึงคิดจะช่วยเป็นพ่อสื่อให้ไอ้พัฒน์มันใช่มั้ย

“เฮียก็บอกหน่อยสิว่าพี่พัฒน์เป็นยังไงบ้าง  ผมจะได้ไปบอกอรัญญาได้ถูก  คนรักกันชอบกันใหม่ๆ  ก็แบบนี้แหละ เป็นห่วงเป็นใยกันจนเว่อร์   แต่ผมเข้าใจนะ  แล้วก็สนับสนุนพี่พัฒน์ด้วย  ผมชอบให้คนรักกัน  อยู่กับอรัญญาพี่พัฒน์นี่ยิ้ม ตาหวานเลย”

บารมีเงยหน้าขึ้นมองเต๋อที่พูดอะไรไปเรื่อยไม่ยอมหยุด  แล้วก็เริ่มหงุดหงิดโมโห

“รักกันชอบกันห่าอะไร พวกไร้สาระ พวกว่างงาน  ไปไหนก็ไปไอ้เต๋อ  มึงเห็นมั้ยว่ากูยุ่งอยู่  มึงออกไปช่วยข้างนอกเลยไป อย่าเสนอหน้าเข้ามาอีก รบกวนกู”

บารมีไล่ให้เต๋อออกไปข้างนอก และเต๋อก็ยอมไปง่ายๆ  หลังจากมาทิ้งระเบิดไว้ลูกใหญ่

“อรัญญานมเท่านี้เลยเฮีย”

แกล้งทำมือให้เห็นถึงขนาดหน้าอกของหญิงสาวที่มาติดพันพิพัฒน์ และบารมีก็ขว้างกระดาษที่ขยำเป็นก้อนใส่หัวเต๋อที่ยังพูดจาเพ้อเจ้อไร้สาระไม่ยอมหยุด

“กูจะให้แม่มึงหักเงินค่าขนมมึงไอ้เต๋อ”

เฮ้ยยยยยยยยยย มันเกี่ยวอะไรกับผมวะเนี่ย

“งั้นผมก็จะยุให้ป้ากัญญามาหาเฮียบ่อยๆ”

นั่นไง  ไอ้หลานทรพี

“ค่าเทอมมึงกูก็จะไม่ช่วยจ่าย ถ้ามึงยังทำตัวไม่น่าช่วยอยู่แบบนี้”

ได้ทีนี่ขู่เลย   เออ  ยอมก็ได้  นี่เห็นว่าเป็นอาหรอกนะ  ถึงได้ยอม

“เฮียก็เตรียมใส่ซองงานแต่งพี่พัฒน์ได้เลย เร็ว ๆ นี้แน่นอน ชัวร์”

ไอ้เต๋อ

“ตกลงมึงหาเงินค่าเทอมเองแล้วกันนะ”

บารมีบอกออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ทำให้เต๋อถึงกับขนหัวลุก

“โธ่เฮีย ทำไมถึงได้ใจร้ายใจดำ กับหลานชายตัวน้อยตาดำ  ๆขนาดนี้ล่ะเฮีย”

ตัวน้อย ๆ พ่อง
ตัวเท่าควายแล้วเหอะไอ้ห่า

“มึงก็หุบปากของมึงบ้างสิไอ้เต๋อ”

“ผมก็อยากจะหุบปากอยู่หรอกนะเฮีย แต่..........”

“แต่อะไรของมึง แต่อะไรของมึงอีกไอ้เต๋อ”

ก็แบบว่า อย่างนี้ไงเฮีย คือผมรู้สึกอย่างนี้มานานแล้ว

“นี่ถ้าผมไม่รู้ว่าพี่พัฒน์เป็นผัวพี่ปามาก่อน  ผมคงนึกว่าเฮียแอบชอบพี่พัฒน์อยู่แน่ ๆ  ก็ดูเฮียทำแต่ละอย่างสิ ใครมายุ่งกับพี่พัฒน์นิด ๆ หน่อย ๆ นี่เป็นไม่ได้   เฮียเล่นทำเหมือน  ทั้งหึง ทั้งหวงพี่พัฒน์จนออกนอกหน้าเลยนะเฮีย”


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน ความห่วงใย P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 18-01-2015 21:59:31
หวายยยย เต๋อพูดจี้ใจดำเฮียบัสเลยนะเนี่ยยยย อิอิ
รีบกลับไปหาพัฒน์เหอะเฮีย อยู่กับเต๋อนานๆเดี๋ยวฟุ้งซ่านนะ 555
ปล. อ่านรวดเดียวเลยค่ะ ชอบมากกๆๆ ติดตามๆจ้าา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 18-01-2015 22:05:03
เก็บเอาที่เต๋อพูดไปคิดนะพี่บัส อาการแปลกๆของตัวเอง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 18-01-2015 22:06:25
พัฒน์ควรจะเอาแต่ใจให้มากกว่านี้ค่ะ
เป็นแบบนี้น่าอึดอัดมาก อะไรก็ไม่พูด อะไรก็ไม่บอก
ไม่แปลกเลยจะทำให้คนรอบข้างอารมณ์เสีย
อยู่กับคนแบบนี้มันทำให้รู้สึกเหมือนจะเป็นโรคประสาทเข้าจริงๆ

ชอบพี่บัส ดูซึนๆไม่เข้ากับคาแร็คเตอร์มาก  :laugh:
ส่วนเต๋อ นี่ก็ช่างชง ช่างยุ ขอให้เสร็จช่างวินัยเร็วๆนะคะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 18-01-2015 22:09:30
เฮียบัสอะไรจะปากแข็งขนาดนี้ เต๋อต้องกระตุ้นบ่อยๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 18-01-2015 22:22:05
ไอ้เต๋อช่างยุนะ ช่างนัยเอาอะไรอุดปากหน่อยมะ ....อุ๊บส์ พัฒน์ป่วยอ้อนหน่อยก็ดีนะ กิกิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 18-01-2015 22:29:49
หึงละสิๆๆ

หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-01-2015 22:43:11
พี่บัสขี้หวงฝุด ๆ เลยนะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 18-01-2015 22:47:22
อยากอ่านอีก   :oo1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 18-01-2015 23:15:13
กระทุ้งเฮียบ่อยๆ จะได้รู้ตัวสักที  :m12:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 18-01-2015 23:21:10
คนแก่แถวนี้เป็นไงไม่รู้ ต้องให้เด็กมาบอกตลอดดดดดดดด
ปากแข็งไปหมดเลย :katai3:
รอตอนต่อไปปปป
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 18-01-2015 23:26:02
 :hao6: แอร๊ยยยย... เริศอ่ะค่ะะะะะะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-01-2015 23:27:05
ผู้เบิกเนตรให้บัส
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: t152_rakjai ที่ 18-01-2015 23:28:23
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

รอตอนต่อไปจ้า :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 18-01-2015 23:30:15
เต๋อเยี่ยมมาก 5555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-01-2015 00:33:29
คู่นี้คงต้องให้เต๋อช่วย  :laugh: ไม่งั้นคงไม่กระเตื่องแน่ๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 19-01-2015 00:51:08
อู้วววววปักลงกลางใจเลย ฉึกๆๆๆ
ฮะฮ่าเป็นไงบารมีเจ็บมากอ่ะป่าวฮ่าๆๆๆๆ

น้องเต๋อfcค่าาาา :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 19-01-2015 06:45:38
น้องเต๋อจ๊ะ เอาความจริงมาพูดแบบนี้ พี่บัส ก้อไปไม่เป็นสิ  555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 19-01-2015 09:56:27
ฉึก ฉึก ฉึกๆๆๆ
แค่ประโยคเดียวของเต๋อ ก้อทำเฮียบัส พรุนได้อ่ะ
5555555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: windel ที่ 19-01-2015 10:03:57
ในที่สุดก็ลงเล้า แอร๊ยยย //กด+
 :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 19-01-2015 10:31:17
ถ้าพัฒต์พูดมากกว่านี้จะดีมากเลย คงไม่ต้องมานั่งคิดมากเสียใจแบบนี้ เก็บกดมากถ้าระเบิดนี้คงเป็นเรื่องร้ายแรงอ่ะ ถึงขั้นแตกหัก พัฒน์ก็ช่วยกล้าๆหน่อย กล้าพูด ถึงเฮียมันจะปากเสียมากๆๆ แต่มันก็จริงใจนะโว้ย แถวตรงๆดี แต่บ้างทีมันก็ชวนหาเรื่องว่ะ สรุปชอบนะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: TrebleBass ที่ 19-01-2015 10:51:48
เต๋อมาชี้ทางสว่างให้เฮียบัสซะที  แต่เฮียแกจะเข้าใจกับยอมรับรึเปล่านี่ดิ    :katai1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 19-01-2015 17:02:24
ฮ่า ฮ่า ฮ่า แซะเข้าไปเต๋อเอ้ยยยย เอาอี๊กกก อิเฮียมันทำซะขนาดนั้น คงมีแต่เต๋อล่ะม๊างง ที่ดูออก  :laugh:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน คนที่ไว้ใจคนที่เข้าใจ P.4 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 19-01-2015 17:18:45
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ

พิพัฒน์ไม่สบาย  ก็รู้และเข้าใจ  แต่มันโกรธไง โกรธทำไมไม่รู้ รู้แต่ว่าโกรธ

โกรธที่มันมีคนมาชอบ  โกรธที่มีบางคนไม่ชอบมัน โกรธเพราะมันยังรักคนอื่น โกรธที่คนอื่นที่มันรักทิ้งมันไปง่ายๆ

โกรธหลายอย่าง
โกรธหลายเรื่อง
โกรธที่มีอะไรมันก็ไม่เคยคุยด้วย ไม่เคยปรึกษา  โกรธที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร  ทำไมถึงได้สนใจมันนักหนา

โกรธทั้งไอ้พัฒน์ โกรธทั้งตัวเอง

“มึงไม่ต้องไปทำบัญชีแล้วพัฒน์ กูหาคนทำบัญชีใหม่ได้แล้ว”

เมื่อถึงที่สุดของความรู้สึก บารมีคิดเรื่องนี้วนไปวนมาตลอดทั้งวัน จนแทบไม่เป็นอันทำงาน  สุดท้ายกลับบ้านมามองหน้าของพิพัฒน์นิ่งๆ และพูดออกไปตรงๆ และพิพัฒน์ก็หันมามองหน้าของบารมีด้วยความไม่เข้าใจหลังจากกลืนยาลงไปเรียบร้อย

“..............”

“นี่ไง มึงก็เป็นแต่แบบนี้ไง มัวคิดอะไรอยู่  ถามไปไม่เคยตอบ  คุยอะไรไม่เคยคุย  พูดด้วยก็ไม่อยากพูดด้วย  เป็นห่าอะไรของมึงวะ”

พิพัฒน์ไม่สบาย
แต่บารมีไม่สนใจเรื่องนี้
ความหงุดหงิดโมโหมันบังตา และเป็นพิพัฒน์ที่ยังคงมึนงงสงสัย ยิ่งไม่รู้จะพูดอะไรเพราะไม่เข้าใจว่าตัวเองผิดตรงไหนทำไมบารมีถึงได้โกรธกันขนาดนี้

“...............”

แล้วจะให้พูดอะไรวะ

“มึงไปติดอรัญญาลูกสาวร้านขนมในตลาดใช่มั้ย  ไอ้ที่บอกไปเล่นตะกร้อทุกวันนั่นก็เพราะอย่างนี้ใช่มั้ย”

ถ้าใช่แล้ว........มันจะผิดตรงไหน

“พี่บัส ชอบอรัญญาเหรอ”

กูไปพูดตอนไหนว่าชอบ กูยังไม่เคยพูดเลย  มึงต่างหากที่ไม่เคยพูดแต่มึงทำเลย

“กูไม่ได้ชอบ  กูถาม  มึงมีหน้าที่ตอบมึงก็ตอบ ไม่ใช่มาถามกูกลับเข้าใจมั้ย”

ถามแล้วก็ต้องตอบสินะ ก็ได้ .........

“ก็น่ารักดี  แม่เขาทำขนมด้วย ว่าจะขอสูตรขนมแม่เขาหน่อยเผื่อวันหนึ่งคงมีโอกาสได้เอามาทำมาหากิน”

นี่คือสิ่งที่มึงต้องการให้กูรับรู้ใช่มั้ยพัฒน์  นี่คือสิ่งที่........

บารมีรู้สึกคล้ายกับว่าอยู่ดีๆ ก็หมดแรงไปดื้อ ๆ

นั่งนิ่งมองหน้าของพิพัฒน์ด้วยสายตาที่พิพัฒน์ไม่เข้าใจความหมาย

“แล้วพี่คิดว่า อรัญญาเป็นยังไง”

ไอ้....พัฒน์.......

แทบหมดแรง

และเป็นบารมีที่ไม่รู้จะตอบพิพัฒน์ยังไง

“...............”

บารมีนิ่งอึ้ง และไม่ตอบอะไรพิพัฒน์เลย ลุกขึ้นยืนด้วยความหงุดหงิดโมโห  ในหัวมีแต่เรื่องราวของพิพัฒน์เต็มหัวไปหมด

ไอ้พัฒน์มันจะจริงจังกับอรัญญาก็ช่างหัวมัน

ไอ้พัฒน์มันจะรักจะชอบใครก็ช่างหัวมัน

ไอ้พัฒน์มันจะทำอะไรก็ช่างหัวมัน
ไอ้พัฒน์มันจะทำยังไงก็เรื่องของมัน
ไอ้พัฒน์มันจะทำยังไงก็ไม่เกี่ยวกับกู.......

“กูจะไปนอนที่อู่”

บารมีรู้สึกว่าตัวเองกำลังโกรธ
โมโห  สับสน  มึนงง และเหมือนกำลังจะควบคุมความคิดของตัวเองไม่ได้  ยิ่งนานวันเข้า  ไม่ว่าเรื่องอะไรก็พาลหงุดหงิดโมโหอารมณ์เสียไปซะหมด

สองสามวันมานี้  บารมีอารมณ์ไม่ค่อยดี  โมโหและหาเรื่องพิพัฒน์อยู่บ่อย ๆ บางครั้งพูดให้เสียใจ  บางครั้งก็เอาเรื่องเก่า  ๆ มาพูด

และมีหลายครั้งที่บารมีนึกอยากตบปากตัวเองที่พูดจาไม่คิด
รู้ว่าพูดเรื่องแย่ ๆ  แต่ช่วงนี้บารมีเหมือนคนควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเองไม่ค่อยอยู่

ไม่ว่าเรื่องอะไรก็พาลให้อารมณ์เสีย ไม่ใช่แค่เรื่องพิพัฒน์  แต่ยังมีเรื่องอื่น ๆ ให้คิดด้วย  คิดวนไปวนมาหลายคืนมาเป็นเดือนแล้ว 

คิดจนเครียด
เครียดจนบางทีอยากจะบ้า เพราะปัญหาของตัวเองที่แก้ไม่ตก

“งานเยอะเหรอ”

บารมีไม่อยากจะตอบสิ่งที่พิพัฒน์ถาม  เพราะยิ่งพูดก็ดูเหมือนจะเริ่มหงุดหงิดโมโหมากขึ้นเรื่อย ๆ

“มึงอย่าเซ้าซี้ได้มั้ย   มึงเป็นพ่อกูหรือไง  ถามอยู่ได้  มึงสนใจด้วยเหรอ”

แล้วทำไมถึงจะไม่สนใจล่ะ

“................”

“เงียบทำไม”

หันไปหาเรื่องคนที่นั่งเงียบ แล้วบารมีก็รู้สึกว่าตัวเองยิ่งหงุดหงิดโมโหมากขึ้นเรื่อย ๆ

“.................”

พิพัฒน์ไม่ตอบแต่นิ่งเงียบ   แต่บารมียิ่งเหมือนคนสติแตกเข้าไปทุกที

“ไอ้พัฒน์”

ตะคอกใส่คนที่ไม่ยอมพูดด้วย แต่พิพัฒน์ยังคงนิ่งเฉย

เราทะเลาะกันอยู่บ่อย ๆ ทั้งที่จริงก็เหมือนบารมีทะเลาะอยู่คนเดียว

“กูไม่อดทนกับมึงหรอกนะ”

“.............”

“มึงกวนตีนกูเหรอห๊ะ มึงเป็นเหี้ยอะไรของมึง ไม่สบายเข้าหน่อยสมองเลยมีปัญหามากนักใช่มั้ย”

ตะคอกใส่คนที่นั่งเงียบ และพิพัฒน์ยังคงนิ่งเฉย  ไม่ตอบโต้อะไรบารมีทั้งสิ้น 

พิพัฒน์รู้สึกว่าเริ่มปวดหัวขึ้นมาทีละนิด และรู้สึกว่าร่างกายอ่อนล้าเพราะถึงเวลาต้องพักแล้ว

ปวดหัว   ปวดตัว ร่างกายดูเหมือนยังล้าและไม่แข็งแรงดี

“ขอนอนพักก่อนแล้วค่อยคุยได้มั้ย”

เอ่ยบอกบารมีเสียงเบา  แต่บารมีไม่คิดจะฟัง
 
“ตายห่าแม่งไปเลยไป๊”

บารมีเตะเก้าอี้กระแทกเตียงพิพัฒน์อย่างแรง  และพิพัฒน์ก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าของบารมีตรง ๆ

ทำไมถึงได้โมโหใส่ตลอดเวลา
ทำไมถึงได้โกรธกันอยู่ตลอดเวลา
ทำไมถึงได้เกรี้ยวกราดใส่กันตลอดเวลา


“.............”

พิพัฒน์ไม่พูด แต่มองหน้าของบารมีนิ่ง ๆ

ไม่เคยมีคำพูด
และเป็นบารมีที่รู้สึกเหมือนตัวเองใกล้จะเป็นบ้าเพราะคนที่อยู่ตรงหน้า

“มองหน้าทำไม  อย่างมึงสมควรแล้วพัฒน์โดนอีปามันทิ้ง”

บารมีเหมือนคนขาดสติ  พูดจาร้าย ๆ ใส่พิพัฒน์ไม่หยุด

ทำไมถึงได้ทำแบบนี้ไม่รู้
เรื่องที่อยู่ในใจลึก ๆ แสดงออกมาไม่ได้  เลยต้องใช้ความโกรธมาปกปิดเอาไว้

“..............”

พิพัฒน์ไม่รู้จะพูดอะไร
ไม่รู้ควรทำตัวยังไง ไม่รู้ว่าแบบไหนถึงดี  แบบไหนถึงไม่ดี   แบบไหนถึงจะถูกใจ  แบบไหนบารมีถึงจะพอใจ

“.................”

“มึงก็ดีแต่เงียบนั่นแหละ  มึงปั่นหัวกู  ปล่อยให้กูเป็นบ้าอยู่คนเดียวเป็นคนเหี้ยที่โมโหใส่มึงตลอดเวลา แต่มึงไม่เคยมองตัวเองหรอกพัฒน์ว่าการที่มึงเงียบมันทำให้กูยิ่งโมโห”

ทำไมต้องโมโห
ทำไมต้องโกรธ
ทำไมต้องพูดแต่เรื่องแย่ ๆ ใส่กันด้วย 

“................”

พิพัฒน์ยังคงปิดปากเงียบ
และบารมีก็ยิ่งอยากจะอาละวาดให้มากขึ้น

ไอ้พัฒน์
ไอ้พัฒน์
เพราะมึงเป็นแบบนี้ กูถึงได้เป็นแค่ไอ้บ้าคนหนึ่ง ที่วันๆ  เอาแต่โมโหใส่มึง  เอาแต่พูดจาเหี้ย ๆ ใส่มึงไม่หยุด  เพราะมึงเป็นแบบนี้เพราะมึงทำให้กูต้องเป็นแบบนี้

บารมียิ่งโมโหหนักขึ้นและเดินวนไปวนมารอบห้องสุดท้ายมาหยุดที่ข้างเตียงพิพัฒน์  และยืนนิ่ง ๆ

เงยหน้าขึ้นมองเพดานและถอนหายใจออกมายาว ๆ

“...............”

พิพัฒน์ไม่พูดอะไร แต่ดึงแขนบารมีมากอดเอาไว้
กอดและนิ่งเงียบ.....และก้มลงแตะหน้าผากเบา ๆ ที่แขนของบารมี

“................”

ไม่เคยพูด
ไม่ว่าเมื่อไหร่พิพัฒน์ก็ไม่เคยพูด

และเป็นบารมีที่รู้สึกว่าตัวเอง ทั้งทุเรศทั้งถ่อย ทั้งทำตัวสถุนสิ้นดีกับคนที่ไม่เคยพูดอะไรให้ขุ่นเคืองใจอย่างพิพัฒน์

ไม่มีวันไหนที่พิพัฒน์ตอบโต้
ไม่มีครั้งไหนที่พิพัฒน์เกรี้ยวกราดใส่
ไม่มีครั้งไหนที่พิพัฒน์จะพูดจาหรือทำเรื่องแย่ ๆ ให้บารมีขุ่นเคืองใจ

มีแต่บารมีทั้งนั้น ที่ทำร้ายจิตใจคนดี ๆ อย่างพิพัฒน์ได้ลง

“โกรธมาก ๆ ไม่ดีหรอกนะ  พี่ไม่ให้ทำบัญชี  ผมไม่ทำก็ได้นะ......และถึงพี่จะโกรธหรือโมโหผมก็จะไม่ว่าพี่หรอก ก็เพราะผมเป็นแบบนี้ ปาถึงได้ทิ้งไป  พี่พูดถูก”

บารมียืนนิ่งและฟังพิพัฒน์เงียบ ๆพิพัฒน์ไม่ได้หยุดคำพูดแค่นั้นแต่มีหลายอย่างที่พิพัฒน์เริ่มพูด

“........ พี่บัส....บัญชีมันแต่งไม่ได้หรอก  ขาดทุนก็คือขาดทุน  แบงค์จะฟ้องล้มละลายก็ไม่เป็นไรนะ   พี่พยายามแล้ว พี่พยายามเต็มที่แล้ว ใครไม่เห็นแต่ผมเห็น.......ผมทำขนมขายก็ได้ บ้านเป็นชื่อผม  ถึงพี่โดนฟ้องถึงจะเป็นอะไร ถึงจะล้มละลาย มีหนี้สิน แต่ไม่เป็นไร เราช่วยกันทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ขายก็ได้   ผมไม่มีหนี้สินอะไร  พี่ไม่ต้องกังวลนะ”

เราทะเลาะกันด้วยเรื่องบ้าบออะไรไม่รู้
แต่พิพัฒน์ไม่เคยโกรธบารมีแบบจริง ๆ จัง ๆ สักครั้ง

ไม่ใช่แค่ไม่โกรธ  แต่มีอะไรบางอย่างที่มากกว่านั้น

บารมี....ถึงกับนิ่งงัน
เรื่องที่ไม่เคยบอกให้ใครรู้ เรื่องที่ปิดบังเอาไว้  พิพัฒน์รู้หมดทุกอย่าง

การเงียบ ไม่ได้แปลว่าไม่รู้ แต่พิพัฒน์รู้หมดทุกอย่าง  รู้และเข้าใจถึงที่มาของอารมณ์โกรธ  และหงุดหงิดโมโหของบารมีที่เกิดขึ้นตลอดเวลา

ไม่คิดว่าพิพัฒน์จะรู้ขนาดนี้
ไม่คิดว่าพิพัฒน์จะพูดด้วยถ้อยคำแบบนี้

“...............”

พิพัฒน์เงยหน้าขึ้นมองหน้าของบารมีนิ่ง ๆ และเป็นบารมีที่ขบริมฝีปากแน่นเพราะไม่รู้จะพูดความรู้สึกของตัวเองออกมายังไง

“มึงรู้ได้ไง”

เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา และพิพัฒน์ก็จับมือของบารมีแน่นขึ้น

ครั้งแรกที่บารมีนิ่งเงียบ และค่อย ๆทิ้งกายลงนั่งข้างเตียงของพิพัฒน์อย่างช้า ๆ  ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปกปิดด้วยท่าทีแข็งกร้าวและคอยแต่แสดงท่าทางโมโหใส่พิพัฒน์อยู่ตลอดเวลา  พิพัฒน์รู้มานานแล้วว่าเป็นเพราะอะไร

รู้ทุกอย่าง
เข้าใจทุกอย่าง

บารมีในสายตาญาติ ๆ คือคนเก่งที่สามารถเลี้ยงดูตัวเองและบริหารจัดการชีวิตได้อย่างดีเยี่ยม

แต่ไม่มีใครเคยรู้
บารมีเก็บบางสิ่งบางอย่างเอาไว้อยู่ลึกเกินไป  และไม่ต้องการให้ใครรับรู้  หรือสงสาร

“................”

ในวันที่จิตใจไม่เข้มแข็ง ในวันที่สับสนว้าวุ่นใจ ในวันที่ความเป็นตัวของตัวเอง กำลังสูญสลาย บารมีไม่คิดว่าคนที่เหมือนไม่รับรู้อะไรเลยอย่างพิพัฒน์จะทำให้บารมีรู้สึกอย่างนี้ได้

บารมีไม่ใช่คนที่ร้องไห้กับใครง่าย ๆ
และนี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่ร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา

พิพัฒน์กอดบารมีเอาไว้ในวันที่อ่อนแอที่สุด

กอดเอาไว้เงียบ ๆ ในวันที่สับสนที่สุดในชีวิต

อยู่เคียงข้างในวันที่ไม่เป็นตัวของตัวเองที่สุดในชีวิต

“.....................”

“.....................”

มีเพียงความเงียบงันระหว่างคนสองคน และพิพัฒน์เข้าใจ

ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เข้าใจ
สาเหตุที่บารมีหงุดหงิดโมโห และใส่อารมณ์กับพิพัฒน์ได้ตลอดเวลาโดยที่ไม่เคยไปทำกับใคร

เพราะว่าบารมีไว้ใจ

และเป็นตัวของตัวเองที่สุดเวลาที่อยู่กับพิพัฒน์คนเดียวเท่านั้น


TBC.

หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosukeตอน คนรอบข้างของบารมี P.3 (ดูสารบัญที่หน้าแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-01-2015 17:26:23
ยังอึมครึมกันอยู่เลย แต่สงสารทั้งคู่  :ling2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ P.4 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 19-01-2015 17:44:16
ไม่รู้จะคอมเมนท์อะไรดีค่ะ แต่ตอนนี้หายใจไม่ทั่วท้องเลย  :jul3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ P.4 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 19-01-2015 17:54:16
พิพัฒน์เป็นคนที่เข้าใจบารมีที่สุด ซึ้งง่ะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ P.4 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-01-2015 18:06:13
อ้อ ก็นึกว่าพี่บัสบ้าเรื่องพิพัฒน์ไปวัน ๆ ที่ไหนได้มีปัญหารุมเร้านี่เอง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ P.4 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 19-01-2015 18:21:15
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ P.4 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 19-01-2015 18:27:59
ดีขึ้นมานิดนึง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ P.4 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 19-01-2015 18:30:13
บอกคำเดียว"อึมครึม"
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ P.4 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-01-2015 18:30:42
...
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ P.4 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 19-01-2015 18:39:48
พิพัฒน์จะน่ารักเกินไปแล้ว :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ P.4 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 19-01-2015 18:47:49
 :sad4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ P.4 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 19-01-2015 19:22:21
เอิ่ม....พูดไม่ออก  รอตอนต่อไปและกัน :hao5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ P.4 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 19-01-2015 20:19:42
พัฒน์พูดมาที ทำเอาพี่บัสอึ้ง ที่เงียบไม่ใช่ไม่รู้แต่ไม่รู้จะพูดอะไรมากกว่า
พี่บัสอยู่กับพัฒน์เป็นตัวเองที่สุด  เปิดใจคุยกันบ้างน่าจะดีกว่านี้
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ P.4 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 19-01-2015 20:35:44
 :z6: อยากเตะเฮียบัสทำไมพาลเจ้าอารมณ์แบบนี้
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ P.4 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 19-01-2015 20:39:37
สู้ๆ สงสารทั้งคู่นะ บัสเอ้ย จะหาใครเข้าใจเอ็งได้เท่าพัฒน์ไม่มีแล้วนะ หน่วงอ่ะ ขออีกสักตอนนะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ P.4 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 19-01-2015 20:40:36
ปวดใจ TT^TT หน่วงมากค่ะะะ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ทั้งพัฒน์ เฮียบัส และคุณคนเขียนด้วย
เศร้าแป๊บบบ
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 19-01-2015 21:01:39
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน ความทรงจำของบารมี

"รถซาลาเปามาแล้วพ่อ   รถซาลาเปามาแล้ว"    เด็กชายบารมีอายุ5 ขวบกระโดดโลดเต้นไปมาและวิ่งไปกอดคอพ่อที่กำลังเปลี่ยนยางมอเตอร์ไซค์อยู่หน้าบ้าน

รถซาลาเปาขับมาขายในหมู่บ้าน ในเวลาหกโมงครึ่งตอนเช้าของทุกวัน  เสียงเพลงที่แว่วมาแต่ไกล ทำให้คนที่รอคอยได้รู้ว่ารถซาลาเปามาขายแล้ว

"พ่อ เอาซาลาเปาไส้หวานสองลูก บัสเอาซาลาเปาไส้หวาน”

อ้อนขอให้พ่อซื้อซาลาเปาให้กิน  และพ่อก็ผละจากการเปลี่ยนยางมอเตอร์ไซค์

และวิ่งไปรอที่หน้าบ้านเพื่อซื้อซาลาเปา

“ซาลาเปา ซาลาเปา”

โบกไม้โบกมือเรียกให้รถซาลาเปาจอดและเด็กชายบารมีก็ชะเง้อชะแง้มองไปที่ซึ้งนึ่งซาลาเปา

“ไอ้บัสเอ็งจะเอาอันไหน”

พ่ออุ้มเด็กชายบารมีขึ้นทั้งตัว เพื่อให้สามารถมองเห็นซาลาเปาที่อยากได้

“เอาอันไหนลูก  เอาอันนี้เหรอ”

“เอาอันนี้ สองลูก บัสเอาอันนี้สองลูก  เอาซาลาไส้หมูสับด้วยสองลูก”

เด็กชายบารมีชี้มือชี้ไม้ไปมา และพ่อก็ตามใจเด็กชายบารมีตลอดไม่ว่าเด็กชายบารมีจะอยากได้อะไรก็จะพยายามซื้อให้

“วันนี้มาแปลกจริงวะ เอาไส้หมูสับด้วย”

พ่อยิ้ม แต่ไม่ได้ขัดใจลูกชายตัวเล็ก  และยื่นมือไปรับถุงซาลาเปาจากแม่ค้ามาถือให้

เด็กชายบารมีกอดคอพ่อเอาไว้แน่นและพ่อก็หัวเราะออกมาและควักธนบัตรใบละสิบบาทออกมายื่นส่งให้แม่ค้าขายซาลาเปา

เด็กชายบารมีได้กินซาลาเปาสมใจอยาก และเมื่อพ่อปล่อยเด็กชายบารมีลงจากอ้อมแขน เด็กชายบารมีก็หยิบซาลาเปาไส้หมูสับส่งให้พ่อ

“ไส้หมูของพ่อ”

แบ่งซาลาเปาไส้หมูให้พ่อ และพ่อก็เช็ดมือที่เปื้อนคราบน้ำมันที่ขากางเกงและรับมาถือเอาไว้

“แล้วของแม่เอ็งล่ะไส้หมูอีกลูกนี่เหรอ”

เด็กชายบารมีพยักหน้าและยิ้มยิงฟันโชว์ฟันหลอให้พ่อเห็นและพ่อก็หัวเราะชอบใจ  เด็กชายบารมีวิ่งเล่นที่ลานบ้านที่แบ่งเป็นอู่ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์เล็กๆ อย่างมีความสุข

เด็กชายบารมีอายุ 5 ขวบเป็นเด็กที่มีความสุขที่สุดในโลก 
ทั้งที่เคยมีความสุขขนาดนั้น แท้ ๆ  แต่เมื่อเวลาผ่านไป..........ความสุขของเด็กชายบารมีก็ค่อยๆ จางหายไปอย่างช้า ๆ เมื่อโตขึ้น

“ไอ้บัส มึงจะสู้กูเหรอ กูเป็นพ่อมึงนะ ไอ้ลูกเหี้ย ไอ้ลูกทรพี”

พ่อตบหน้านายบารมีเต็มแรงจนเลือดกลบปาก  และแม่ก็ห้ามพ่อเอาไว้

“พี่ไปทำมันทำไม  พี่ทำลูกทำไม  ไอ้บัสออกไปลูก  ไม่ต้องเข้ามา ไปลูก”

บารมีกลั้นน้ำตาเอาไว้ เจ็บที่กายไม่เท่าเจ็บที่ใจ แม่โดนพ่อตบ และเมื่อเข้าไปห้าม พ่อก็ตบตีบารมีด้วยและยังด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย

“ออกไปให้พ้นหน้ากูทั้งหมดนั่นแหละ ออกไป  ออกไป๊”

พ่อไล่แม่ออกจากบ้าน
แม่ยังร้องไห้ไม่หยุด และบารมีก็ทำได้แค่กอดแม่เอาไว้

พ่อโมโหร้าย  พ่อเกรี้ยวกราด  พ่อที่บารมีเคยรู้จักหายไปตั้งนานแล้ว

“แม่.......ผม เกลียด .......เขา”

ไม่ยอมเรียกว่า “พ่อ”  บารมีเสียใจเกินกว่าจะพูดคำ ๆ นั้นออกมาได้

“อย่าเกลียดพ่อบัส  อย่าเกลียด  ไม่ว่ายังไง  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  บัสอย่าเกลียดพ่อ  แม่ขอนะบัส ห้ามเกลียดพ่อเด็ดขาด รับปากแม่นะลูก ไม่ว่ายังไงบัสก็ต้องอยู่กับพ่อ บัสต้องดูแลพ่อให้ดีที่สุด”

บารมีจำได้ขึ้นใจ แม้ไม่อยากรับปาก  แต่บารมีก็จำใจรับปากแม่
ห้ามเกลียดพ่อ
ไม่ว่ายังไงก็อย่าเกลียด

เช้าวันถัดมาแม่หายตัวไป

แม่หนีไปเงียบ ๆ และทิ้งจดหมายไว้เพียงหนึ่งฉบับ

บางคนลือว่าแม่หนีตามผู้ชายไป
บางคนก็ว่าแม่มีชู้
บางคนก็ว่าแม่ไม่อยากอยู่อย่างลำบากอีก

เรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตบางทีมันก็นานเกินไป จนคล้าย ๆจะเป็นแค่ความฝัน
..............เนิ่นนานเกินไป................เจ็บปวด เกินไป.............ทุกข์ทรมานมากเกินไป............จนชินชา

บารมีไม่เคยคิด
ตัวเองถอดแบบพ่อมาหมดทุกอย่าง ทั้งหน้าตาและนิสัยใจคอ....
มันชัดเจนขึ้น ในวันที่พ่อจากไปอย่างกะทันหัน  ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์และทิ้งหนี้สินเอาไว้ให้พร้อมกับอู่ซ่อมรถที่พ่อเป็นคนสร้างมาเองกับมือ และบารมีก็เห็นทุกความพยายามของพ่อ แต่ทุกสิ่งที่พ่อสร้างมากำลังจะหายไป

“บัสไม่ทิ้งอู่นะพ่อ.......... พ่อไม่ต้องห่วง บัสจะรักษาเอาไว้ให้ได้”

บารมีกุมมือพ่อเอาไว้ในแน่น และกระซิบบอกที่ข้างหูพ่อ และพ่อก็เหมือนรับรู้ได้ในวินาทีสุดท้ายของชีวิต

บารมีเพิ่งรู้ ว่าเพราะอะไรพ่อถึงได้โมโหร้ายและเกรี้ยวกราดได้ถึงขนาดนั้น

พ่อเครียด  พ่อกดดัน  พ่อมีหนี้ก้อนใหญ่ และหาทางออกไม่ได้  จนปัญหาเหล่านั้นสะสมและลามมาถึงครอบครัว
เราไม่ค่อยได้คุยกัน แต่พ่อสอนบารมีทุกอย่าง ทะเลาะกันหนักบ้าง เบาบ้าง แต่บารมีก็ไม่ทิ้งพ่อไปไหน

ในวินาทีสุดท้าย

พ่อเหมือนรู้สึกตัวและกำมือของบารมีเอาไว้

“บัสรักพ่อนะ........พ่อ...บัสรักพ่อนะ”

นายบารมีนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์อายุ 20 ปี ผู้ที่ใคร ๆ ก็คิดว่าคงมีอนาคตที่สดใสยาวไกลกว่าเพื่อน ๆ ในรุ่น
 กอดพ่อเอาไว้และน้ำตายังไม่หยุดไหล

มือของพ่อคลายออกแล้ว และบารมีก็ต้องยอมรับความจริงให้ได้  ว่าพ่อไม่อยู่แล้ว
บารมีกราบลงที่เท้าของพ่อ และร้องไห้ไม่หยุด

นับตั้งแต่วันนั้น แม้อยากจะเป็นแค่เด็กหนุ่มวัยรุ่นธรรมดาแบบคนอื่นทั่ว ๆ ไป ก็ทำไม่ได้อีกแล้ว เพราะภาระที่พ่อทิ้งเอาไว้ให้มันใหญ่มากเกินกว่าที่บารมีจะรับไหว

แต่เพราะรับปากพ่อเอาไว้   ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้ได้    บารมีพยายามอย่างถึงที่สุด  ประคับประคองมาตลอด
พยายามรักษาอู่เอาไว้ให้นานที่สุด เท่าที่แรงใจและแรงกายของตัวเองจะสามารถทำได้

“............................”

บารมีนั่งอยู่บนเก้าอี้และเอนหลังลงหลับตานิ่ง ๆ
เสียงวิทยุจากหอกระจายข่าวของหมู่บ้านในเวลาหกโมงเย็นเปิดเพลงเก่าเพลงหนึ่งที่บารมีจำได้ไม่เคยลืม

“โปรดเถิดดวงใจ โปรดได้ฟังเพลงนี้ก่อน................”

ภาพรถซาลาเปาที่ขับผ่านหน้าบ้านในเวลาเช้าตรู่  และภาพของเด็กชายบารมีอายุ 5 ขวบที่มีครอบครัวที่มีความสุขที่สุด  ยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำไม่เคยจางหาย

บารมียิ้มให้ตัวเองเมื่อคิดถึงเรื่องเก่า ๆที่ไม่มีทางย้อนกลับมาได้ 

“................................”

พิพัฒน์ยืนชะงักนิ่งไปชั่วขณะที่เห็นบารมีนั่งหลับตานิ่ง  ๆ อยู่บนเก้าอี้

บารมีลืมตาขึ้นและหันไปมองหน้าของพิพัฒน์และกำลังจะลุกขึ้นยืนแต่พิพัฒน์เดินเข้ามาหา

และ.......โน้มตัวลงไปหาและกอดบารมีเอาไว้ทั้งตัว

“ไอ้พัฒน์..........อะไรของมึงเนี่ย เหม็นเหงื่อ  มึงทำอะไรของมึงวะ”

ด่าคนที่อยู่ ๆ ก็เดินเข้ามากอด แต่พิพัฒน์ก็ไม่ยอมปล่อย แถมยังกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม

“ไอ้พัฒน์”

ไม่เข้าใจสิ่งที่พิพัฒน์ทำเลยสักนิด แต่ก็ยอมอยู่นิ่ง ๆ ให้พิพัฒน์กอด และพิพัฒน์ไม่ใช่แค่กอด แต่ยังลูบหลังของบารมีเบา ๆ

บารมีไม่ได้กอดตอบ
แต่ยกมือขึ้นลูบหัวของพิพัฒน์

“วันก่อนที่ด่ามึง กูโมโหไปหน่อยนะพัฒน์  กูมันแย่ อารมณ์เสียก็มาลงใส่มึงตลอด”

พิพัฒน์เข้าใจ
ไม่ว่ายังไง ไม่ว่าเรื่องอะไรพิพัฒน์ก็เข้าใจ

“......................................”

พิพัฒน์ผละออกห่างแล้ว และเดินไปเก็บของใส่เป้  โดยมีบารมีหิ้วปิ่นโตยืนรออยู่ที่หน้าประตูออฟฟิศ

“ป่ะ กลับบ้านกันพัฒน์”

กลับบ้าน

พิพัฒน์หันมามองหน้าบารมีก่อนจะส่งยิ้มให้และเดินตามบารมีไป

“ป่ะ.....กลับบ้าน...เรา...กัน”


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 19-01-2015 21:21:55
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: 
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 19-01-2015 21:27:14
ประโยคที่ว่า 'กลับบ้านเรากัน' มันอุ่นไปทั้งใจ
ขอให้พี่บัสและพัฒน์มีเจอทางออก ผ่านไปได้ด้วยดี
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-01-2015 21:38:15
 :hao5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 19-01-2015 21:39:51
อบอวลจังเลย จับมือไว้แล้วอย่าปล่อยล่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: Meen_Emp ที่ 19-01-2015 21:41:10
บ้านเรา อบอุ่นจังเลย
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 19-01-2015 21:44:10
ซึ้งจัง  :hao5: o13
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: กีกิ ที่ 19-01-2015 21:48:32
 :-[ อร๊ายยยย บารมีหนุ่มซึน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 19-01-2015 21:49:30
 :pig4:
ขอบคุณทุกความกดดัน อ่านแล้วแน่นอก อาการหนักกว่าพี่บัสอีก
เมื่อไรเหงื่อจะหอมน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 19-01-2015 21:49:53
สงสารอ่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 19-01-2015 21:50:21
อบอุ่นมากค่ะ เป็นกำลังใจให้กับทั้งคู่นะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 19-01-2015 21:57:32
พัฒน์อยู่ข้างพี่บัสคอยให้กำลังแบบนี้ไปนานนะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 19-01-2015 22:07:06
นี่เองเรื่องเครียดของพี่บัส
พัฒน์ก็มีวิธีปลอบที่น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-01-2015 22:14:44
ในวันที่มีคนนึงอ่อนแอ อีกคนคอยเป็นกำลังและแรงใจให้ / เป็นแฟนกันเถอะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: imac ที่ 19-01-2015 22:18:11
 เป็นกำลังใจให้กับทั้งคู่นะครับ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 19-01-2015 22:39:59
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 19-01-2015 22:48:55
 :m15:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: yaoisamasang ที่ 19-01-2015 22:51:27
ยังคงอีกยาวไกลสินะคู่นี้ :ling1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 19-01-2015 23:38:15
ความทรงจำพี่บัสช่างโหดร้าย  กลับบ้านเรากัน  บ้านเรา  บ้านเรา อิอิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: butter.juliet ที่ 19-01-2015 23:39:48
มันคือรักที่มาจากความผูกพันธ์   :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 19-01-2015 23:53:32
กลับบ้านเรา~ รักรออยู่~~ แฮร่~
เฮียบัสเข้มแข็งมากอ่ะ ทำทุกอย่างมาได้ขนาดนี้ สุดยอดมากๆ
น้องพัฒน์ต้องอยู่ข้างๆ เป็นกำลังใจให้เฮียตลอดไปนะ ><
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 20-01-2015 00:24:51
โอ้ววววเบื้องหลังวาจาเชือดเฉือนของขุ่นพี่ท่าน...
สู้ต่อไปนะพี่บารมี!!กลับบ้านเรากัน...กลับบ้านเรากัน หึหึหึ :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: waterlily ที่ 20-01-2015 01:08:56
อิพี่บัสคนซึนเอ้ยปากเสียจริง ๆ เลยนะเนี่ย ทำตัวดี ๆ กับพัฒน์หน่อยดิ น้องออกจะน่ารัก :mew6: :pig4: :pig2: :call:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 20-01-2015 01:21:44
อุ่นจัง!!!แต่น้ำตาไหลเราก็ยาวมาจากตอนที่แล้วเบย~. :hao5: :hao5: กระซิกๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 20-01-2015 07:33:11
ดีจังที่มีพัฒน์
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 20-01-2015 08:57:53
ค่อยๆคุยกันนะ 555 :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 20-01-2015 09:00:11
ไม่ใช่เมียก็เหมือนเมีย แค่อยากได้กำลังใจ คนปลอบใจ คนอยู่ข้างๆใช่ไหมเฮีย มีกันแค่นี้ก็น่าจะรักกัน ช่วยกันสิเฮีย เดียวทุกอย่างจะดีขึ้นเองแหละ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: windel ที่ 20-01-2015 10:00:27
ป่ะ กลับบ้านเรากัน   :hao5:

โอย อบอุ๊นอบอุ่นอ่ะ  ดีกับพัฒน์มากๆนะพี่บัส อย่าวีนบ่อยๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 20-01-2015 11:45:10
 :mew6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถby aoikyosuke ตอน ความทรงจำของบารมี P.5 (สารบัญหน้า 1)
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 20-01-2015 13:59:09
ว่าจะไม่เข้ามาอ่าน อดใจไม่ไหว อ่านถึงตอนท้าย น้ำตาไหลพราก  :hao5:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ผมเกลียดช่างนัย P.6
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 20-01-2015 19:31:33
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E270E480E320E070_zpsf5cf5c33.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย)  ตอน ผมเกลียดช่างนัย


เมื่อเต๋ออยู่อนุบาล2

“นัย  ขากลับพาไอ้เต๋อกลับมาด้วยนะวันนี้ป้าไม่ว่างไปรับ”

เด็กชายวินัยชั้น ป.6 หัวเกรียน และใส่ชุดลูกเสือหิ้วกระเป๋านักเรียนใบใหญ่ โดยมีเด็กชายเต๋ออนุบาลสองเดินตามไปโรงเรียนพร้อมกัน

เมื่อเต๋ออยู่ป.3

“นัย  ขากลับพาไอ้เต๋อกลับมาด้วยนะวันนี้ป้าไม่ว่างไปรับ”

นายวินัยนักเรียนชั้นม.3  หัวเกรียน และใส่ชุดลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ไม่ได้หิ้วกระเป๋าใบใหญ่แต่ถือสมุดสองสามเล่มไปโรงเรียน โดยมีเด็กชายเต๋อวิ่งตาม

เมื่อเต๋ออยู่ม.5

“นัย  ฝากไปรับไอ้เต๋อมันหน่อยนะ มอร์เตอร์ไซด์มันเสีย  เดี๋ยวมันไปซ้อนเพื่อนมันอีก แขนได้หักอีกรอบคราวที่แล้วมันซิ่งซะ คว่ำไปรอบหนึ่งแล้ว  ถ้าไม่ห้ามคราวนี้ท่าจะเอาให้หนักกว่าเดิม”

วินัยที่เพิ่งปลดประจำการหลังการเกณฑ์ทหารขี่มอร์เตอร์ไซด์จากอู่ไปรับเต๋อที่โรงเรียนหลังเลิกเรียนตามที่แม่ของเต๋อขอให้ช่วย

เมื่อเต๋ออยู่ปี 4

“นัย  ฝากเอารายงานไปให้ไอ้เต๋อมันหน่อย  เห็นมันว่าต้องส่งวันนี้ ไม่งั้นไม่ผ่าน”

ช่างวินัยชายหนุ่มร่างกายกำยำในวัยสามสิบกว่า ขับรถจากอู่ไปพร้อมรายงานหนึ่งเล่มที่แม่ของเต๋อขอร้องให้ช่วยเอาไปให้ลูกชาย  และเต๋อก็ยืนรออย่างใจจดใจจ่อ  และเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนเอารายงานมาให้ก็หน้าหงิกหน้างอทันที

“แม่ล่ะ ไหนว่าแม่จะเอามาให้เอง”

เต๋อรับรายงานไปแล้ว   และถามช่างวินัยโดยไม่มีการขอบคุณสักคำ

“ป้าให้เอามาให้มึง  กูก็เลยเอามา  จะใช้ไม่ใช่เหรอ”

ใช่
ต้องใช้  แต่ก็ไม่ได้อยากให้ช่างนัยเอามาให้หรอกนะ

“แล้วทำไมต้องให้ช่างนัยเอามาให้”

ยังคงถามไปเรื่อย  และช่างวินัยก็ถอนหายใจยาว ๆก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถและไม่สนใจจะตอบคำถามของเต๋อไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม

“ไปถามแม่มึงเอาเองไอ้เต๋อ  กูไม่รู้”

ช่างวินัยปฏิเสธที่จะคุย และเต๋อก็มองหน้าของช่างวินัยด้วยความหงุดหงิดไม่พอใจ

“ก็บอกไปสิว่าไม่อยากมา”

ก็ไม่ได้อยากมานักหรอก แต่ที่มาเพราะจำใจ

“โต ๆกันแล้วไม่ต้องเสือกมาปัญญาอ่อนใส่กูหรอกไอ้ห่าเต๋อ”

โดนช่างวินัยด่าและเต๋อก็หน้าหงิกขึ้นมาทันที  เดินหงุดหงิดกระฟัดกระเฟียดเข้ามหาวิทยาลัยไปแล้วโดยมีช่างวินัยมองตามและถอนหายใจออกมายาวๆ ด้วยความกลุ้ม  ผ่านไปหลายปีแล้ว  แต่เต๋อก็ยังไม่เคยลืมเรื่องแย่ ๆที่ช่างวินัยเคยทำเมื่อสมัยวัยรุ่น

“จะเคืองอะไรกูนักหนา  แค่เรื่องแกล้งถอดกางเกงมึงตอนเด็ก ๆ จะเอามาโกรธข้ามชาติเลยหรือไงวะ”

ช่างวินัยถึงกับส่ายหัว  แต่เต๋อยังแค้นใจไม่หาย และเอามาเป็นเรื่องโกรธช่างวินัยทุกครั้งที่เห็นหน้า
และแม้จะผ่านมาหลายปีแล้ว  แต่เต๋อก็ไม่เคยลืมเรื่องที่น่าอับอายที่ช่างวินัย  แกล้งเต๋อเอาไว้ได้สักที


TBC.

หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ผมเกลียดช่างนัย P.6
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 20-01-2015 20:07:39
คู่ใหม่มาแล้ว  o13
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ผมเกลียดช่างนัย P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-01-2015 20:12:29
อีกคู่มาแล้ว
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ผมเกลียดช่างนัย P.6
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 20-01-2015 20:19:53
คู่นี้เขารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เหมือนเลี้ยงต้อยเลยพี่นัย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ผมเกลียดช่างนัย P.6
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 20-01-2015 20:24:13
เจอกันแต่เด็กเลยคู่นี้
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อยากอยู่ด้วยกันตลอดไป
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 20-01-2015 20:31:18
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน อยากอยู่ด้วยกันตลอดไป

การลอยกระทงเป็นเรื่องไร้สาระ
โตป่านนี้แล้วใครที่ไหนจะไปลอยกระทงก็ไปเถอะ  แต่บารมีไม่ไป
 
“เฮียไปลอยกระทงที่ไหนวันนี้”
 
ช่างวินัยถามไปตามมารยาท  และบารมีก็ตอบไปตามมารยาท
 
“แถว  ๆ นี้แหละ”
 
ตอบส่งๆ ไปและช่างวินัยก็พยักหน้ารับ และยังวุ่นวายอยู่กับการเช็คสภาพรถ
 
“แล้วช่างนัยไม่ไปไหนเหรอวันนี้”
 
เอ่ยถามไปตามมารยาทเหมือนกันและช่างวินัยก็ส่ายหน้า
 
“พวกหน้าปากซอยชวนกินเหล้าอยู่  แต่ไม่ไหว แก่แล้ว กินมาก ๆ เดี๋ยวตับพังหมด ไม่อยากลำบากตอนแก่ กลัวไม่มีใครดูแล”
 
ช่างวินัยกำลังวุ่นวายกับงานที่ต้องเร่งมือให้เสร็จเพื่อให้ทันส่งรถตามนัดและบารมีก็ยืนมองอยู่ห่าง ๆ
 
“เฮียไม่พาพิพัฒน์ไปลอยกระทงมั่ง เห็นนั่งจ๋อย ๆ ทั้งวัน  พวกที่เตะตะกร้อด้วยกันก็มีคู่ไปลอยกันหมด  ไอ้เต๋อนี่หนักกว่าเพื่อน  ของมันต้องสลับกันหลายคนไปลอย  ไอ้นี่มันร้ายกาจจริง ๆ”
 
ช่างวินัยเล่าเรื่องบางอย่างให้กับบารมีฟังและช่างวินัยก็หัวเราะเสียงเบาเมื่อนึกไปถึงไอ้เด็กที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม และไม่ว่าจะมองเมื่อไหร่ช่างวินัยก็ยังเห็นเต๋อเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ   เผลอแป๊บเดียวไม่ทันไรไอ้เต๋อมันจะมีเมียแล้ว  นึกไปถึงสมัยเดินไปโรงเรียนตอนเด็ก ๆแล้วไอ้เต๋อเดินตามต้อยๆ  ก็ยังอดขำไม่ได้
 
“ปล่อยมัน วัยอย่างมันนี่กำลังได้ที่เลย  ดีที่ยังรู้จักรับผิดชอบงานบ้าง  อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ พอทำได้มันก็ยังหยิบจับอยู่  ไม่ทำตัวให้แม่มันหนักใจก็ถือว่าใช้ได้”
 
บารมีคุยกับช่างวินัยไปเรื่อย และหันไปมองคนที่นั่งเล่นอยู่ในออฟฟิศ
 
“สองทุ่มทันมั้ย ลูกค้ามารับรถตอนนั้น”
 
ช่างวินัยปิดกระโปรงรถเรียบร้อยและโยนอุปกรณ์ทั้งหมดใส่ลงไปในกล่องเก็บอุปกรณ์
 
“เสร็จแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว เช็คครบหมดทุกอย่าง”
 
งานของวันนี้เสร็จเรียบร้อย แค่รอลูกค้ามารับรถเท่านั้น
 
“ขอบใจมากช่างนัย วันนี้ก็พอแค่นี้แล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่”
 
ช่างวินัยพนักหน้ารับและเดินไปจัดการล้างมือและเตรียมตัวกลับบ้าน
 
“นัย นัย  เอาใบตองกับดอกไม้ไปให้ไอ้เต๋อมันหน่อย  เมื่อเช้าดอกไม้กับใบตองที่เอาไปทำมันไม่พอ   กลุ่มมันช่วยกันทำกระทงประกวดกับจังหวัด  เอาไปส่งให้มันหน่อยนะ เดี๋ยวมันจะไม่ทัน”
 
แม่ของเต๋อ เดินลัดมาที่อู่  และช่างวินัยก็รับถุงใส่ใบตองและดอกไม้มาถือเอาไว้
 
“วานหน่อยนะ น้าเข้าไม่ถึง  คนเยอะเดี๋ยวจะหลง”
 
“โทรบอกมันหรือยังว่าผมจะเอาไปให้”
 
ช่างวินัยเอ่ยถามเพราะไม่อยากมีปัญหาภายหลังและแม่ของเต๋อก็พยักหน้ารับ ช่างวินัยถึงเดินไปขึ้นรถกระบะเก่า ๆ ที่ใช้อยู่ประจำและขับออกไป
 
“บัสไม่ไปไหนเหรอวันนี้”
 
แม่ของเต๋อหันมาชวนบารมีคุยและบารมีก็ส่ายหน้า
 
“ผมไม่ไปไหนหรอก กลับบ้านนอนดีกว่า นี่อยู่ส่งรถก่อน นัดลูกค้าไว้สองทุ่ม”
 
ตอบแม่ของเต๋อไปเรียบร้อยและแม่ของเต๋อก็มองไปทางออฟฟิศ
 
“เจ้านั้นหายดีแล้วเหรอ เห็นวันก่อนไม่ค่อยสบาย นอนซมอยู่คนเดียว บอกให้ไปนอนที่บ้านก่อนก็ไม่ไป   น่าสงสาร”
 
บารมีมองตามไปที่พิพัฒน์ที่กำลังตั้งใจทำงาน  แล้วก็พยักหน้ารับ

“ก็ดีขึ้นแล้ว”

บารมีคุยกับแม่ของเต๋อไปเรื่อยระหว่างรอลูกค้ามารับรถ

“ตอนแรกพอรู้ว่าเป็นผัวเก่าอีปา  ก็ไม่อยากจะไว้ใจ พี่น้องทางเราเขาก็มองอยู่ตลอดนะบัส  ว่าจะยังไง  แต่อยู่ไปอยู่มาเจ้านี้เขาก็เข้าท่าอยู่นะ  ใครว่าอะไรใครพูดอะไร  ไม่เห็นเคยโกรธเคือง เห็นยิ้มเป็นอยู่อย่างเดียว ท่าทางจะพูดไม่ค่อยเป็น  ว่าง ๆ ก็บอกให้แวะไปนั่งเล่นที่บ้านได้นะ  มีขนมมีอะไรก็จะได้แบ่งกันกิน”

บารมีพยักหน้ารับ และเข้าใจสิ่งที่แม่ของเต๋อพูดทุกอย่าง  พิพัฒน์เป็นแบบนั้นจริง ๆ ถ้าไม่สนิทกันจริง ๆ ก็แทบจะไม่ค่อย ขนาดอยู่ด้วยกันทุกวัน  นาน ๆ ถึงจะได้คุยกันที

แต่น่าแปลก เวลาพิพัฒน์อยู่กับไอ้เต๋อทำไมถึงได้คุยกันได้คุยกันดี  คิดแล้วชักเริ่มโมโหขึ้นมาอีกแล้ว
 
“มันคงติดเกรงใจแหละ   เดี๋ยวผมไปออกบิลก่อน  ลูกค้ามาจะได้เอารถไปเลย”
 
บารมีเตรียมจัดการงานของตัวเองให้เสร็จเรียบร้อยและเดินไปหาพิพัฒน์ที่เริ่มซบหน้าลงกับหมอนอิงที่วางอยู่บนโต๊ะอีกแล้ว
 
และเมื่อประตูถูกเปิดออกพิพัฒน์ก็หันไปมองบารมีที่เดินเข้ามาหยิบบิลเงินสดเพื่อเขียนจำนวนเงินและรายการซ่อมลงไป
 
“เขียนให้”
 
พิพัฒน์ดึงบิลมาเขียนเองและบารมีก็ส่งบิลให้พิพัฒน์เขียน
 
“ออกตามรายการพวกนี้นะ”
 
ส่งรายการอะไหล่ที่ใช้ซ่อมและค่าแรงให้พิพัฒน์และบารมีก็เอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้และยืดแขนออกจนสุด เอียงไปทางซ้ายและขวาเพื่อคลายจากอาการเมื่อยล้า
 
บิลเงินสดเขียนเสร็จแล้ว และพิพัฒน์ก็ส่งให้บารมีเซ็นชื่อกำกับและฉีกเอกสารแยกเอาไว้เพื่อรอลูกค้ามารับรถ
 
ทุกวันบารมีจะมีเรื่องบ่นและพูดไม่หยุด  แต่วันนี้บารมีเงียบจนผิดปกติและพิพัฒน์ก็พอรู้ว่าเพราะอะไรบารมีถึงไม่พูดคุยด้วยเหมือนทุกวัน
 
พิพัฒน์เอนหน้าลงไปซบกับหมอนอิงและมองอะไรไปเรื่อยเปื่อยเพื่อรอเวลากลับบ้าน
และบารมีก็เอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ในท่าสบาย ๆนั่งคิดอะไรไปเรื่อยๆ โดยมีพิพัฒน์นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
 
ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
บารมีจมอยู่กับความคิดของตัวเองและพิพัฒน์ก็หลับตาลงอย่างช้า ๆ
 
“..................”
“..................”
 
ต่างคนต่างเงียบ แต่ไม่ได้รู้สึกแย่หรืออึดอัดใจเลยสักนิด
 
บางครั้งการที่ไม่ต้องพูดอะไรกันให้มากความ  ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
 
ลูกค้ามารับรถก่อนเวลา และบารมีก็ลุกขึ้นเดินออกจากออฟฟิศไปหาลูกค้า
พิพัฒน์มองตามและก็เห็นบารมีเดินไปคุยกับลูกค้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
 
ท่าทางอย่างนั้นคงจะคุยกันอีกพักใหญ่  พิพัฒน์สามารถหลับรอได้เลย
 
หลับไปพักใหญ่  พิพัฒน์มารู้สึกตัวอีกทีตอนที่ได้ยินเสียงเปิดประตูออฟฟิศและบารมีก็เดินเข้ามาหา
 
“ป่ะ  กลับบ้าน”
 
ลุกขึ้นยืนและจัดการเก็บเอกสารขึ้นบนชั้นวางเรียบร้อย  ปิดแอร์ปิดไฟ และล็อคออฟฟิศตามมาขึ้นรถ และพิพัฒน์เพิ่งนึกได้ว่าลืมให้อาหารกระต่าย
 
“ผักบุ้งหมด”
 
หันไปบอกกับบารมีที่เดินไปจะถึงรถแล้วและบารมีก็หันกลับไปมองพิพัฒน์ที่เดินไปข้างบ้าน  ที่มีกรงกระต่ายอยู่ตรงนั้น
 
“แล้วไม่เสือกทำให้เรียบร้อยวะไอ้ห่าพัฒน์”
 
บารมีตะโกนบอกคนที่เดินไปที่กรงกระต่ายและก็ส่ายหน้าด้วยความเบื่อหน่ายกับความเชื่องช้าของพิพัฒน์
 
“..................”
 
พิพัฒน์นั่งลงที่ข้างกรงกระต่ายโดยมีบารมีมายืนอยู่ข้าง ๆ
 
มีผักบุ้งอยู่ในกรงกระต่ายแล้ว และพิพัฒน์ก็เปิดกรงและดึงกระต่ายออกมาอุ้มและลูบหัวของกระต่าย
 
“กูอยากจะบ้า  ไอ้พัฒน์เอ้ยยยย  มึงอยากเล่นกับกระต่ายตอนนี้เนี่ยนะ มันใช่เวลาเล่นหรือไง ไปลุกขึ้น กลับบ้านได้แล้ว”
 
เรียกให้คนที่เล่นกับกระต่ายลุกขึ้นยืนและพิพัฒน์ก็ลุกขึ้นยืนแต่ไม่เก็บกระต่ายเข้ากรง
 
ดึงมือของบารมีให้ลูบที่หัวกระต่าย และบารมีก็ถอนหายใจ  แต่ก็จำใจลูบหัวกระต่ายตามที่พิพัฒน์อยากให้ทำ
 
“ตัวนี้ชื่อบั๊ด”
 
“บั๊ดพ่อง เอาชื่อกูไปตั้งให้กระต่ายมึงคิดจะล้อเลียนกูหรือไงไอ้ห่าพัฒน์”
 
“บัดดี้  ไม่ใช่บั๊ดเฉย ๆ”
 
“จะบัดด้งบัดดี้ห่าอะไรก็แล้วแต่มึงเหอะ  แต่อย่าเรียกให้ใครได้ยินเชียวนะ  เดี๋ยวเขาจะหาว่ามึงบ้า”
 
บารมีถึงกับส่ายหน้าและรีบบอกให้พิพัฒน์จัดการยัดกระต่ายเข้ากรงให้เรียบร้อยแต่พิพัฒน์ก็ยังโอ้เอ้เชื่องช้า
 
“โว้ยยยยยยยยยย จะสนิมสร้อยอะไรของมึงนักหนาวะไอ้พัฒน์กูไปรอที่รถแล้ว มึงพร่ำคำอำลากระต่ายมึงทั้งคืนไปแล้วกัน  กูไปแล้ว”
 
บารมีบ่นพิพัฒน์และเตรียมจะหันหลังเดินไปขึ้นรถ แต่เพราะได้ยินพิพัฒน์พูดบางอย่างก็เลยหยุดชะงักเท้าและหันกลับมามองอีกครั้ง
 
“บัดดี้........กินผักบุ้งเยอะ ๆ นะ อย่าอ้าปากพะงาบ ๆ แบบนั้นสิบัดดี้  เดี๋ยวก็เอาไปย่างซะเลยนี่”
 
นี่มึงคิดจะเอากูไปย่างเลยเหรอไอ้พัฒน์
 
“ไอ้ห่าพัฒน์”
 
มองหน้าของคนที่แกล้งล้อเลียนและพิพัฒน์ก็ทำเป็นนิ่งเฉย  เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
 
กรงกระต่ายถูกปิดเรียบร้อยและพิพัฒน์ก็เดินตามหลังบารมีที่เดินบ่นไปตลอดทาง
 
“แม่ง ห่าอะไรนักหนาวะ จะร่ำลากันถึงชาติหน้าเลยหรือไง”
 
บารมียังบ่นพึมพำไปเรื่อย แต่พิพัฒน์ที่เดินมาใกล้ ใช้มือสองข้างแตะไปที่แผ่นหลังของบารมีและแกล้งผลักให้บารมีเดินไปข้างหน้า
 
“ไอ้พัฒน์”
 
บารมีหันมาตะคอกใส่พิพัฒน์แต่พิพัฒน์แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและเดินไปรอที่รถ โดยมีบารมีเดินตามมาและยังบ่นสิ่งที่พิพัฒน์ทำไม่เลิก
 
“เล่นห่าอะไร มึงเป็นเด็กสามขวบหรือไงพัฒน์ เล่นไม่รู้เรื่อง”
 
ประตูรถถูกเปิดออกแล้ว และบารมีก็ขึ้นมาบนรถโดยมีพิพัฒน์นั่งอยู่ข้างๆ และหันมามองหน้าของบารมีตรง ๆ
 
“นึกว่าวันนี้จะไม่ยอมพูดด้วยซะแล้ว”
 
อะไร
นึกว่าวันนี้จะไม่ยอมพูดด้วยอะไรของมึงพัฒน์
 
บารมีส่ายหัวและทำเป็นไม่สนใจพิพัฒน์ แต่พิพัฒน์สนใจบารมีมากกว่าทุกวัน
 
“มึงจะจ้องหน้ากูทำไมพัฒน์ ประสาทกลับหรือไง จ้องอยู่ได้ ไอ้ห่า”
 
ประสาทไม่ได้กลับหรอก ประสาทยังดีอยู่ แล้วที่มองก็มีเหตุผลในการมองด้วย
 
“....................”
 
พิพัฒน์ยังคงนิ่งเงียบ และบารมีก็เงียบตาม
บางทีการที่ต่างคนต่างเงียบเกินไป มันก็ไม่ค่อยดีมากนัก
พิพัฒน์เปิดวิทยุเพื่อให้มีเสียงอย่างอื่นบ้างนอกจากความเงียบ และเพลงที่ไม่เคยได้ยินก็ถูกเปิดในคลื่นวิทยุแห่งหนึ่ง
 
“ไกล ไกลแสนไกลเกินตาเพียงสายลมพา ขอบฟ้าจะเปลี่ยนสีไป
จากหยดน้ำเป็นฝนพรำโปรยปราย คือฤดูกาล โลกนี้ยังคงหมุนไป
ไม่มีอะไรที่มันจะยืนยาวเท่าความผันเปลี่ย¬น และบางทีเราอาจเรียนรู้คุณค่าไอแดดเมื่อฝนมา………”
 
ไม่ได้ตั้งใจฟัง
บารมีไม่ได้ตั้งใจฟังและพิพัฒน์ก็ไม่ได้คิดจะใส่ใจกับเนื้อหาของเพลง
 
แต่เมื่อดวงตาสองคู่หันมาสบกันกลับปรากฏรอยยิ้มเล็ก ๆของทั้งพิพัฒน์และบารมี
 
“จะยิ้มรับมันวันที่ใจอ่อนแอแม้ทุกเรื่องราวมันยังคงโหดร้าย สุขทุกข์ที่เราพบพาน.......มันคือชีวิตของเรา”
 
บารมีพยักหน้ารับ และยกมือขึ้นมาเขย่าหัวพิพัฒน์เบา ๆ
 
ไม่เคยรู้……..
บารมีไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน
การที่มีใครสักคนอยู่ข้าง ๆมันทำให้กล้าที่จะอ่อนแอและพร้อมที่จะเข้มแข็ง
 
........วินาทีนั้นบารมีคิด.........
ถ้าได้พิพัฒน์มาอยู่เคียงข้างกันไปตลอดชีวิต  ก็คงดี
 

TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อยากอยู่ด้วยตลอดไป P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-01-2015 21:01:52
 :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อยากอยู่ด้วยตลอดไป P.6
เริ่มหัวข้อโดย: butter.juliet ที่ 20-01-2015 21:07:38
ฮือออออ เขารักกันนนนนนนนนนนนน  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อยากอยู่ด้วยตลอดไป P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 20-01-2015 21:14:24
ชอบบรรยากาศคู่นี้มากเลย ยิ่งอ่านยิ่งฟิน ใกล้ชิดกันเยอะๆ รอวันคนท่ามากอย่างบารมีรุกน้องพัฒน์    :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อยากอยู่ด้วยตลอดไป P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 20-01-2015 21:33:18
อ่า~ เราก็อยากเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกันตัลหลอดดดไปเหมือนกันนะ หนับหนุน!  :hao5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อยากอยู่ด้วยตลอดไป P.6
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 20-01-2015 21:34:45
มาละคู่รักปากแข็ง เต๋อ ช่างนัย ส่วน เฮียกับพัฒน์นี่ชอบคู่นี้เป็นการส่วนตัว ขออีกนะคุณเท็น :)
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ผมเกลียดช่างนัย P.6
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-01-2015 21:43:31
ใจตรงกัน แค่ไม่พูดมันออกมา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อยากอยู่ด้วยตลอดไป P.6
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 20-01-2015 21:58:03
 :mc4: ฉลองคู่ใหม่ เย้ๆๆ ช่างเต๋อกะวินัยโผล่มาแล้ว เฮียบัสกะพิพัฒน์ก็ยังหวาน(?)แบบเรื่อยๆเหมือนเคย เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองล่ะเฮียบัสสสสสสสสสสส
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อยากอยู่ด้วยตลอดไป P.6
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 20-01-2015 22:08:23
ทุกวันนี้ก้อได้อยู่ด้วยกันแล้ว  แค่ยังไม่ได้กัน  แค่นั้นเอง อิอิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อยากอยู่ด้วยตลอดไป P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 20-01-2015 22:22:08
ว้ายยยย ลุงสองคนนี้เค้ารักกัน แล้วหรอค่ะเนี่ย. :mew3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อยากอยู่ด้วยตลอดไป P.6
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 20-01-2015 23:31:14
พัฒน์แหย่ให้พี่บัสด่า ถ้าพี่บัสเงียบเหมือนไม่ใช่พี่บัส
พัฒน์อยากให้พี่บัสได้ระบายออกมาบ้าง ไม่เก็บไปเครียดจนเกินไป
อยู่ข้างๆกันตลอดไปนะพี่บัส-พัฒน์
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อยากอยู่ด้วยตลอดไป P.6
เริ่มหัวข้อโดย: windel ที่ 21-01-2015 00:26:01
คู่ของเฮียบัสกับพี่พัฒน์นี่อบอุ่นๆน่ารักๆจริงๆเลยยย

รอติดตามช่างนัยกะเต๋ออยู่นะคะ
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน เด็กถูกทิ้ง P.6
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 21-01-2015 04:28:09
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/254_zps35063e71.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย) ตอน เด็กถูกทิ้ง

เต๋อตกคลอง  ตอนที่เอากระทงลงไปลอย คนที่มารับเต๋อกลับบ้านคือช่างวินัย  เพราะแม่เต๋อฝากให้เอาดอกไม้และใบตองไปให้ที่คณะ 

ปัจจุบันเต๋อในสภาพดูไม่จืด  นั่งหน้าบึ้งอยู่บนรถของช่างวินัย และช่างวินัยก็หันไปมองหน้าเต๋อหลายครั้ง และหัวเราะทุกครั้งที่หันไปมอง

"เสียหล่อเล้ยยยยยยยยยย พ่อดาวมหาลัยของแม่"

ช่างวินัยรู้สึกตลกและขำกับสภาพของคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ และเต๋อก็หันมามองหน้าช่างวินัยอย่างเอาเรื่อง

"ขำอะไรนักหนาวะ  แม่ง ตลกมากเลยหรือไง  ขำอยู่ได้  อย่าให้ถึงคราวผมบ้างแล้วกันจะหัวเราะให้ฟันร่วงเลย"

หัวเราะจนฟันร่วงเลยเหรอวะไอ้หมาน้อย
ช่างวินัยยังหัวเราะไม่หยุดกับสิ่งที่เต๋ออาฆาตเอาไว้  แกล้งเอื้อมมือไปเขย่าหัวของเต๋อเล่นและเต๋อก็ปัดมือช่างวินัยออก

"ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะโว้ย"

ไอ้ดาวมหาลัยของแม่เอ้ยย  กี่ปีกี่ชาติกูก็ยังเห็นมึงเป็นเด็กอยู่ดีแหละวะไอ้ห่าเต๋อ

"มึงโตแล้วตรงไหนไอ้เต๋อ  ถ้ามึงโตแล้วมึงก็ต้องดูแลจัดการชีวิตตัวเองได้  ไม่ใช่มีอะไรก็ให้แม่มึงช่วยอยู่ตลอดแบบนี้  โตแต่ตัว หัวสมองไม่รู้จักโต"

โดนช่างวินัยด่า และเต๋อก็ยิ่งหงุดหงิดไม่พอใจคำพูดของช่างวินัยที่ไม่ว่ายังไงก็ยังเห็นเต๋อเป็นเด็กอยู่ดี

"ผมเกลียดช่างวินัย"

เออ

"ทำอย่างกะกูรักมึงตายเลยนี่"

ช่างวินัยส่ายหน้าให้กับความคิดแบบเด็ก ๆ ของเต๋อ  และเต๋อก็ยังคงหน้างอไปตลอดเส้นทาง   แม้ว่าจะได้รับการช่วยเหลือให้ไม่ต้องอายเพื่อนไปมากกว่านี้  ด้วยการที่ช่างวินัยมารับพากลับบ้านก็ตาม

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บ้านล็อค กุญแจก็ไม่มี แม่ไม่อยู่  โทรหาแล้วแม่บอกว่าเดี๋ยวกลับ  เดี๋ยวกลับของแม่   ไม่ต้องเดาเลยว่า  อีกนานแค่ไหน  ง่าย ๆ จนกว่า....งานจะเลิก

“เต๋อเข้าบ้านไม่ได้อ่ะแม่  แล้วตัวเปียกหมดทั้งตัวเลยแม่กลับมาเร็ว ๆ สิแม่”

ส่งเสียงโวยวายไปทางโทรศัพท์ใส่แม่ตัวเองแต่ก็ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์

“ก็ไปอาบน้ำบ้านพี่นัยก่อนสิ  เอ็งจะมาเรื่องมากอะไรนักหนาไอ้เต๋อ  เดี๋ยวแม่ก็กลับ  ถ้าแม่กลับดึกเอ็งก็นอนค้างบ้านพี่นัยไปก่อนเลย”

เต๋อได้แต่ยืนเอ๋อ  เพราะแม่ไม่ยอมกลับบ้าน มัวแต่สนใจอยู่กับวงดนตรีลูกทุ่งที่มาเปิดการแสดงในงานลอยกระทงประจำปีของทางจังหวัด

“แม่..............”

เข่าแทบทรุดและอยากจะกู่ร้องให้โลกรู้ว่าโดนแม่ใจยักษ์ทอดทิ้งแต่เมื่อหันไปเห็นสายตาของช่างวินัยที่ยืนกอดอกมองอยู่ข้างรถแล้วก็ได้แต่พยายามเก็บอาการ

“ว่าไงพ่อดาวมหาลัย  ป้าดูวงลูกทุ่งเพลินเลยสิ”

ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ  ช่างวินัยก็รู้แกวแม่ของเต๋อดี  ลองได้มีงานประจำปีแบบนี้แม่ไอ้เต๋อ  ลืมลูกแน่ ๆ รับรองล้านเปอร์เซ็นต์

“ก็รู้อยู่แล้วจะมาถามทำไม”

บ่นพึมพำเสียงเบาและเต๋อก็เดินมานั่งที่ม้านั่งหน้าบ้านตัวเอง และหน้างอหงิกที่โดนแม่ทิ้ง

“ทำอย่างกับว่า  กูอยากยุ่งนักนี่”

ช่างวินัยไม่คิดจะสนใจเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่ทำหน้าเหมือนคนจะเป็นจะตาย  อยากจะเมินมันเหมือนกัน  แต่เห็นสภาพตะไคร่น้ำยังเกาะอยู่บนหัวมันแล้วก็นึกเวทนา

“ไปอาบน้ำที่บ้านก็ได้ไป  ลุกมาเร็ว ๆ เดี๋ยวป้ามาด่ากูที่ไม่ดูแลลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของแกให้ดี   แล้วกูจะซวย”

เรียกให้เต๋อไปอาบน้ำที่บ้านที่อยู่ห่างออกไปอีกไม่ไกลและเต๋อก็ไม่ยอมลุก นั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่อย่างนั้น จนช่างวินัยทนไม่ไหว

“นั่งให้ยุงหามตายไปเลยไอ้ห่า  เล่นตัวอยู่ได้  จะนั่งให้ตะไคร่น้ำบนหัวงอกออกมาก็ตามใจนะไอ้เต๋อ  เรื่องของมึง”

ช่างวินัยไม่สนใจและเป็นเต๋อที่เกิดอาการกระฟัดกระเฟียดแต่ก็ยอมลุกขึ้นแล้วเดินตามไปบ้านช่างวินัยเพื่ออาบน้ำ

ช่างวินัยส่งเสื้อผ้าให้เต๋อเพื่อใช้ผลัดเปลี่ยนและเต๋อก็รับเสื้อผ้ามาถือเอาไว้และเดินเข้าไปอาบน้ำสระผม อยู่พักใหญ่
กลับมาอีกที  พบว่าโทรทัศน์ถูกเปิดทิ้งเอาไว้และช่างวินัยก็ปูเสื่อนอนหน้าโทรทัศน์หลับไปแล้ว

แล้วยังไงต่อวะ  แล้วกูควรทำยังไง

“ช่างนัย.....ช่างนัย”

เรียกให้คนที่หลับตื่นขึ้นมาคุยกันก่อนและช่างวินัยก็ลืมตาขึ้นมอง และหยิบหมอนอีกใบส่งให้เต๋อ

“นอนรอแม่มึงไปก่อนไอ้เต๋อ  กูง่วง ไว้ค่อยคุย”

ช่างวินัยขี้เกียจคุย และเต๋อที่รับหมอนมาถือเอาไว้ก็ลงไปนั่งข้างช่างวินัย

ไม่ใช่ไม่เคยมาค้างด้วย เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ก็มาค้างบ่อย ๆ เวลาที่แม่ไม่อยู่ แต่ตั้งแต่ที่โดนช่างวินัยแกล้ง
เต๋อก็ไม่อยากมาอีก  เพราะเคืองช่างวินัยไม่หาย

บ้านยังเหมือนเดิม ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มีรูปที่แปะไว้ที่ฝาผนังบ้าน  เป็นรูปช่างวินัยสมัยเรียน  รูปตอนไปเป็นทหาร  และมีรูปอื่นๆ อีกหลายรูป  และในจำนวนหลาย ๆรูปนั้นก็มีรูปของเต๋อตอนเด็ก ๆ ที่ถ่ายกับช่างวินัยอยู่ด้วย

เต๋อกวาดสายตามองไปรอบๆ บ้าน และหันกลับมาที่ช่างวินัยที่หลับไปแล้ว จะให้นั่งอยู่แบบนี้ทั้งคืนก็ไม่ไหว  เต๋อเลยวางหมอนไว้ข้างช่างวินัยและล้มตัวลงนอน

เดี๋ยวแม่กลับมาก็คงมาตาม
เดี๋ยวแม่กลับมาก็คงมาตาม
เดี๋ยวแม่กลับมาก็คงมาตาม

คิดได้แค่นั้น  และดวงตาก็ค่อย ๆ หรี่ปรือลงช้า ๆ แม่ของเต๋อไม่ได้มาตามในคืนนั้น  และปล่อยให้เต๋อค้างที่บ้านช่างวินัย
อากาศกลางดึกเย็นลงเรื่อยๆ และเต๋อก็เบียดกายเข้าหาช่างวินัยที่สะดุ้งตื่นเพราะมีคนมานอนเบียดอยู่ข้าง ๆ

“ไอ้เต๋อ  เฮ้ย ไอ้เต๋อ”

สะกิดให้คนที่นอนหลับตื่นขึ้นและเต๋อก็ค่อยๆ หรี่ปรือตาขึ้นมอง

“ลุก.....ไปนอนในห้อง”

ช่างวินัยลากแขนให้เต๋อลุกขึ้น  และเต๋อก็ยอมเดินตามอย่างว่าง่าย

เข้าห้องได้ก็ล้มตัวลงนอนโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น  ช่างวินัยได้แต่ส่ายหน้ากับสิ่งที่เต๋อทำ    ถึงรูปร่างภายนอกจะเปลี่ยนไปขนาดไหน แต่สำหรับช่างวินัยเต๋อก็ยังเป็นแค่เด็กตัวเล็ก ๆ อยู่เสมอ

เขย่าหัวเด็กน้อยที่นอนหันหลังอยู่บนเตียงแล้วเต๋อก็ปัดมือช่างวินัยออก

“อืออออ.....เต๋อจะฟ้องแม่ว่าพี่นัยแกล้ง”

บ่นพึมพำให้ช่างวินัยได้ยินและช่างวินัยก็ชะงักนิ่งค้างไปชั่วขณะ

“........พี่นัย.........”

ครั้งสุดท้ายที่ถูกเรียกว่าพี่นัย  มันนานมาแล้ว นานจนช่างวินัยลืม  เมื่อก่อนก็แทนตัวเองว่าเต๋อ แล้วก็เรียกว่า “พี่นัย” ตลอด
แล้วกลายเป็น  “ผม”  กับ“ช่างนัย”  ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ

นั่นสิ………….ตั้งแต่เมื่อไหร่
อาจจะตั้งแต่ที่เต๋อมันเริ่มโต  อาจจะตั้งแต่ที่ช่างวินัยเริ่มเป็นหนุ่มและมีแฟน

ช่างวินัยไม่รู้ว่าเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ที่คอยเดินตามและอ้อนให้เล่นเป็นเพื่อนตลอดแสดงท่าทีห่างเหินตั้งแต่เมื่อไหร่

จะว่าเป็นเพราะแกล้งไปเมื่อตอนเด็กๆ มันก็อาจจะใช่ แต่แค่นั้นมันไม่น่าจะมากพอให้เด็กคนหนึ่งฝังใจจนแค้นไม่หายมาถึงป่านนี้
มาคิด ๆ ดูแล้ว  หรือบางที.........อาจจะเป็นตอนนั้นก็ได้………

“เต๋อจะจำไว้  พี่นัยมีแฟนแล้วเล่นกับเต๋อไม่ได้  ไปรับเต๋อก็ไม่ได้ด้วย  จำไว้เลย เต๋อก็จะมีแฟนเยอะ ๆ แล้วก็จะไม่มาเล่นกับพี่นัยอีก  เต๋อไม่ชอบคนผิดสัญญา  พี่นัยมีแฟนแล้วก็ผิดสัญญาตลอด โตขึ้นเต๋อจะมีแฟนเยอะกว่าพี่นัยด้วย คอยดู”

ตอนนั้นหรือเปล่าวะที่มันเริ่มทำตัวห่างเหิน
แล้วไอ้เต๋อมันก็ทำอย่างที่มันพูดจริงๆ มันมีแฟนเยอะอย่างที่มันพูดจริงๆ ทั้งที่มันเข้าใจความหมายของคำว่าแฟนหรือเปล่าก็ไม่รู้

ผิดที่ใคร  ช่างวินัยไม่รู้

ได้แต่ถอนหายใจยาว ๆ และเอนกายลงนอน และดึงผ้าห่มมาห่มให้กับคนที่มานอนอยู่ข้าง ๆ

หลายปีก่อนนอนด้วยกันสองคนบนเตียงได้   แต่ตอนนี้เตียงแคบไปถนัดตา

“ผมโตแล้วโว้ย  ไม่ใช่เด็ก”

เต๋อชอบพูดแบบนั้นใส่ช่างวินัย  และช่างวินัยก็ไม่รู้ว่าโตแล้วของเต๋อ หมายถึงอะไร
โตแต่ตัว แต่ในสายตาของช่างวินัยเต๋อก็ยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ อยู่เสมอ

“เฮ้ย  นอนดี ๆ อย่านอนดิ้นนักสิวะ”

ได้แต่บ่นใส่คนที่หลับไปแล้วและช่างวินัยก็ส่ายหน้ากับสิ่งที่เต๋อทำ

ตอนเป็นเด็กไอ้เต๋อนอนดิ้นชิบหาย โตมานึกว่าจะดีขึ้นสุดท้ายก็ยังเหมือนเดิม

ช่างวินัยจ้องมองคนที่นอนหลับสบายอยู่ข้าง ๆ แล้วก็เริ่มอมยิ้ม   
ผ่านไปกี่ปีมันก็เหมือนเดิม  สำหรับช่างนัยแล้วเต๋อเหมือนน้องคนเล็กที่ต้องดูแล

.....................น้องคนเล็ก.....................

น้องคนเล็กอะไรล่ะ  เต๋อมันก็เป็นได้แค่เด็กข้างบ้านที่เคยเล่นด้วยกันเท่านั้น    และเมื่อโตขึ้นก็ค่อยๆ  ห่างกัน จะให้เป็นเหมือนเมื่อก่อนมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

"เห็นมันเป็นน้องนะนัย  สงสารไอ้เต๋อมัน"

ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ช่างวินัยถูกแม่ของเต๋อพูดกรอกหูด้วยประโยคแบบนี้ทุกวัน จนช่างนัยเกือบจะเชื่อ ว่าเต๋อเป็นแค่น้อง

.......จะให้เห็นเป็นน้องเหรอ..........

ช่างวินัยแค่นยิ้มและส่ายหน้ากับสิ่งที่ได้ยินอยู่ทุกวันและต้องจำให้ขึ้นใจอยู่เสมอ

"ก็แค่เด็กข้างบ้านแหละวะ"

บอกกับตัวเองแบบนั้น  และพลิกกายหนีไปอีกทาง

"ไอ้ห่าเต๋อแม่ง   นอนดิ้นกูไม่ว่า แต่ถ้านอนดิ้นแล้วถีบกู  กูก็จะถีบมึงลงไปกองกับพื้นเหมือนกัน"

ช่างวินัยคิดว่าเต๋อคงจะนอนดิ้นไปทั่วแต่เอาเข้าจริงสิ่งที่คิดกลับผิดถนัดเพราะสิ่งที่เต๋อทำมีแค่อย่างเดียว

...........นอนดิ้นมากอดช่างวินัยเอาไว้แน่น.......และช่างวินัยที่สะดุ้งตื่นก็หันไปมอง

และค่อย ๆ หันกลับมาอย่างช้า ๆ

พยายามจะขยับออกห่าง  แต่ก็ยังถูกตาม  แขนของเต๋อพาดอยู่บนตัวของช่างวินัย  และไม่ใช่แค่กอดแต่เต๋อยังขยับเข้ามาใกล้และซุกหน้าลงที่หลังของช่างวินัยด้วย

ช่างวินัย ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ  หัวใจเริ่มเต้นระทึก  ไออุ่นจากร่างที่กอดเอาไว้มันทำให้ช่างวินัยแทบจะลืมหายใจ  พยายามข่มความรู้สึกเอาไว้  และไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวจะทำให้เต๋อตกใจตื่น

คืนนั้นช่างวินัยนอนตาค้าง  พยายามข่มตาให้หลับ แต่ก็ทำไม่ได้

ส่วนเต๋อ.....นอนหลับสนิทไม่รู้เรื่องตลอดทั้งคืน......


TBC.

หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน เด็กถูกทิ้ง P.6
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 21-01-2015 04:48:48

 :give2:  ปลื้มปริ่ม
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน เด็กถูกทิ้ง P.6
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 21-01-2015 06:39:23
เต๋ออ่ะ! แกล้งพี่นัยป่ะเนี่ยยยย 555
แอบฮาบั๊ดดี้กินผักบุ้ง พัฒน์อย่างโหด เกิดจับไปย่างจริงๆนี่เฮียบัสโกรธตายเลยนา ><
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน เด็กถูกทิ้ง P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 21-01-2015 07:08:02
สงสัยคู่นี้เค้าจะพิชิตกีนก่อนคู่โน้น  :laugh:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน เด็กถูกทิ้ง P.6
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 21-01-2015 08:36:43
อ่ะ อ๊ะ อ๊ะ คู่แรกดูเหมือนว่าโลกกำลังจะเป็นสีชมพู  ส่วนอีกคู่กำลังจะตามมาแบบห่างๆ โฮะๆๆๆ ......   :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน เด็กถูกทิ้ง P.6
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 21-01-2015 11:52:00
 :laugh:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน เด็กถูกทิ้ง P.6
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 21-01-2015 12:13:01
เด็กมันซึน ต้องทำใจ ยังไงก็หลงรักมันแล้วหนิ เต๋อของพี่นัย อ๊าาาาา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน เด็กถูกทิ้ง P.6
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-01-2015 12:41:30
เต๋อคงฝังใจที่พี่วินัยมีแฟนแล้วผิดสัญญากับเต๋อบ่อยๆ
ทำให้เต๋อน้อยใจ แล้วเริ่มทำตัวห่างเหินกัน
คู่นี้น่าจะลงเอยได้ง่ายกว่าคู่พี่บัส-พัฒน์
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน เด็กถูกทิ้ง P.6
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 21-01-2015 12:48:51

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ขอ บท  sweet  อีก นะ

บทโหดอย่าเยอะมากเลยยยยยยยยยยย  ทำร้ายจิตใจคนอ่าน :mew4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน เด็กถูกทิ้ง P.6
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 21-01-2015 12:57:04
อ่านกี่รอบก็ยังสนุกนะค่ะคุณแอมมาต่อเลยคร้าาา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน เด็กถูกทิ้ง P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 21-01-2015 17:42:07
เด็กงอน...พี่นัยก็อย่าแกล้งน้องบ่อยนักสิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน เด็กถูกทิ้ง P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 21-01-2015 18:10:00
ถ้าเฉลยทีหลังว่าช่างวินัยเป็นเคะนี่ตลกเลยนะ  :m15:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน เด็กถูกทิ้ง P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 21-01-2015 18:31:26
รังแกคนแก่บาปนะคะะะะะะ
รอตอนต่อไปปปป
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน เด็กถูกทิ้ง P.6
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 21-01-2015 19:15:20
แต่ละคู่นี่นะ ^^"
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน เด็กถูกทิ้ง P.6
เริ่มหัวข้อโดย: กีกิ ที่ 21-01-2015 19:16:12
สองคู่นี้บรรยากาศต่างกันมากมาย แต่ก็ทำให้ยิ้มทั้งสองคู่  o18
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน เด็กถูกทิ้ง P.6
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 21-01-2015 21:44:12
เต๋อ หวงพี่นัยอ่ะดิ  ตอนนี้มาเริ่มกันใหม่นะ  ถ้าตื่นมาแล้วเต๋อรู้ว่ากอดพี่นัยอยู่จะทำไงน๊า
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) ตอน สัญญา
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 21-01-2015 22:35:11
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/254_zps35063e71.jpg)

 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย) ตอน สัญญา

เด็กชายเต๋อกำลังร้องไห้   เพราะความเสียใจ และรู้สึกเจ็บปวด

“ไอ้ลูกไม่มีพ่อ ไอ้ลูกไม่มีพ่อ ไอ้เต๋อไม่มีพ่อ”

เสียงล้อเลียนของเพื่อนยังดังก้องไปก้องมาอยู่ในหัว  และเต๋อก็ไม่ทน
ต่อยหน้าเพื่อน จนเพื่อนเลือดกำเดาไหล

และเรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ เต๋อโดนเรียกผู้ปกครอง  และกว่าจะเคลียร์กับครอบครัวของเพื่อนได้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย  แม่จับหัวให้เต๋อก้มหัวขอโทษพ่อแม่ของเพื่อน

“ขอโทษ”

เต๋อไม่ได้อยากขอโทษ มันว่าเต๋อ มันล้อเต๋อว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ เต๋อจะทำยิ่งกว่านี้ จะทำมันยิ่งกว่านี้ถ้ามีโอกาส เต๋อก็จะเอาคืนมันอีก

เด็กชายเต๋อ ไม่ยอมรับจากใจว่าตัวเองทำร้ายเพื่อน

กลับมาถึงบ้านโดนแม่ตี ตีจนขาเป็นรอย

“มึงจะทำอีกมั้ยไอ้เต๋อ มึงจะทำอีกมั้ย”

เต๋อ ไม่ตอบ แต่กอดอกและกลั้นน้ำตาเอาไว้

แม่ไม่เข้าใจ  เต๋อเป็นเด็กไม่มีพ่อ  มันจริงอย่างที่เพื่อนพูดว่าเต๋อเป็นลูกไม่มีพ่อ

“มึงจะทำอีกมั้ยไอ้เต๋อ จะทำอีกมั้ย”

เต๋อไม่รับคำแต่สะอื้นและร้องไห้จนตัวโยน

แม่ตีจนพอใจ  และไม่ใช่แค่ที่ขา  แต่ที่เจ็บจริง ๆ คือหัวใจของเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่พยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้

แม่ทรุดลงไปนั่งกับพื้น  กอดเข่าเอาไว้และร้องไห้  แม่ตัวสั่น แม่ร้องไห้  และเต๋อได้แค่มอง และปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา

“ทำไมเต๋อเป็นลูกไม่มีพ่อ”

คำถามง่าย ๆ แต่ยิ่งทำให้แม่ร้องไห้หนักขึ้นเรื่อย ๆ
คำถามง่าย ๆ แต่ตอกย้ำความเจ็บปวดในหัวใจของแม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

มันคือความผิดพลาด.........
ความผิดพลาดครั้งใหญ่

ความผิดพลาดที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้

และเคราะห์กรรมก็มาตกที่ลูกชายคนเดียวที่ต้องโดนเพื่อนล้อจนถึงป่านนี้

ไม่มีคำตอบจากแม่ และเด็กชายเต๋อก็วิ่งออกจากบ้าน  ที่ขามีรอยแผลจากการโดนกิ่งมะยมฟาดเป็นแนวยาวโดนตีเป็นประจำเพราะดื้อ  เพราะความซนแต่ไม่ว่ากี่ครั้งเต๋อไม่เคยเสียใจเท่าครั้งนี้

มันว่าเต๋อเป็นลูกไม่มีพ่อ สิ่งที่เพื่อนล้อเป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าจริง

เต๋อเดินไปเรื่อยๆ ตามทางเดินและยกหลังมือปาดน้ำตาที่ไม่ยอมหยุดไหล

เดินไปอย่างไม่มีจุดหมายแค่คิดว่าต้องเดินไปเรื่อยๆ  แต่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปไหน

“ไอ้เต๋อ  จะไปไหนของมึงวะ”

เสียงแตรรถมอร์เตอร์ไซด์จากด้านหลังทำให้เต๋อหันไปมอง และก็เห็นว่าคนที่มาตามคือพี่นัย

“ไอ้ขี้แย  โดนล้อแค่นี้มึงถึงกับต้องหนีออกจากบ้านเลยเหรอวะ”

พี่นัยไม่เข้าใจ  พี่นัยมีทั้งพ่อทั้งแม่  มีพี่สาวอีกสองคน  พี่นัยจะไปเข้าใจอะไร

“กลับบ้านเหอะเร็ว ๆ แม่มึงเป็นห่วง”

เต๋อไม่อยากกลับ   แม่ตีเต๋อขนาดนี้  แม่จะห่วงเต๋อได้ยังไง

“เฮ้ย ขึ้นมาเร็ว ๆ”

โดนเร่งให้กลับบ้านด้วยกัน แต่เด็กชายเต๋อก็ยังไม่มีทีท่าจะยอมกลับ

“ไปบ้านพี่ก็ได้ ถ้าไม่อยากกลับบ้าน แม่พี่เอาขนมมาจากที่ร้านด้วย กินมั้ย”

เต๋อไม่ได้สนใจขนม   ไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น  แต่สิ่งที่ทำให้เต๋อต้องยอมนิ่งฟังเพราะพี่นัยที่ขี่มอร์เตอร์ไซด์ค่อย ๆ ชะลอตามจังหวะการก้าวเดินของเต๋อ   และนั่นทำให้เต๋อยังพอรู้สึกได้บ้าง  ว่าถึงแม้ แม่จะตีจนน่องลายพร้อยไปหมด แต่ยังไงก็ยังมีพี่นัย

อย่างน้อยถ้าไม่อยากกลับบ้าน ถ้าอยากจะหนีแม่  ก็ไปอยู่บ้านพี่นัยได้

เด็กชายเต๋อยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาและยอมซ้อนท้ายพี่นัยกลับบ้าน

และนั่นทำให้วินัยยิ้มออกมาได้
เต๋อขึ้นไปซ้อนท้ายรถมอร์เตอร์ไซด์ของวินัย และกอดเอววินัยเอาไว้แน่น  หัวเล็ก ๆ ซบที่หลังของวินัยและเช็ดถูใบหน้าที่หลังของวินัย

และวินัยก็หัวเราะออกมาเสียงเบา

อย่างน้อยมันก็ยังฟังกันบ้าง  อย่างน้อย“น้อง”  ก็ไม่ได้ดื้อจนไม่ฟังอะไร

“แม่เขารักมึงนะ เขาถึงได้ตี เพราะเขาไม่อยากให้มึงไปต่อยเพื่อนอีก”

เต๋อไม่เข้าใจ  ไม่เข้าใจและไม่พยายามเข้าใจ

“ตอนที่พี่ไปต่อยเพื่อน แม่พี่ก็ตีพี่แบบนี้แหละ  เจ็บชิบหาย ที่แม่ตีก็เพราะว่าเขาไม่อยากให้เราไปทำคนอื่นอีก  มึงต้องเข้าใจนะเต๋อ”

เข้าใจ....
เข้าใจว่าอย่าไปทำร้ายใคร
แต่ที่ไม่เข้าใจ  ทำไมเต๋อไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นๆ

“ไอ้บัสก็ไม่มีแม่ โดนล้อยิ่งกว่ามึงอีก  ไอ้บัสยังอดทนเลย มึงดูมันสิเอาเป็นตัวอย่าง  อย่าไปสนใจคนอื่นที่ล้อมึง”

เต๋อกำลังคิดตามที่พี่นัยพูด  และสิ่งที่พี่นัยพูดมันคือเรื่องจริง

รถมอร์เตอร์ไซด์เข้ามาจอดที่หน้าบ้านวินัยแล้ว  และแม่ของเต๋อที่แอบชะเง้อคออยู่ห่างออกไปก็ยิ้มออกมาได้   วินัยมองไปที่แม่ของเต๋อ และพยักหน้าใส่กันเป็นอันรู้กัน

เต๋อเดินเข้าบ้านมาพร้อมวินัย และเมื่อวินัยจะเดินขึ้นบ้าน เต๋อก็ดึงมือวินัยเอาไว้

“ถ้าเต๋อเป็นอย่างพี่บัสได้  พี่นัยจะให้อะไร”

ให้อะไรเหรอ
ให้อะไรวะ  กูจะไปมีอะไรให้วะ  นึกไม่ออกเลยจริง ๆ

“มึงอยากได้อะไรล่ะ กันดั้มมั้ย ไม่ไหวว่ะ แพงไป ลูกบอลมั้ย ก็ไม่ไหวอีก ถ้ามึงเลือกที่แพงๆ  ขึ้นมากูก็ยังไม่มีตังค์ซื้อ   เอาอะไรดีวะ”

วินัยคิดไม่ออกว่าจะให้อะไรตอบแทน แต่เต๋อคิดเอาไว้แล้วว่าอยากได้อะไร

“พี่นัยต้องอยู่กับเต๋อไปตลอดนะ”

มันขออะไรโง่จริงวะ  เรื่องแค่นี้ทำไมจะให้ไม่ได้

“มึงจะเอาแค่เนี้ยะ มักน้อยดีนี่หว่า  กูจะไปไหนได้บ้านก็อยู่ใกล้กันแค่นี้ มีอะไรก็เดินมาหาสิ มันจะไปยากอะไร”

วินัยไม่ทันคิดถึงความหมายของคำว่าอยู่ด้วยกันตลอดไป

เด็กชายเต๋อยิ้มได้แล้ว  และเดินตามวินัยไปกินขนมที่วินัยอ้างว่า แม่ของตัวเองทำมาให้

ที่จริงแล้วเป็นแม่ของเต๋อต่างหากที่ฝากไว้ให้

“ป้าตีมันจนขาแตก  ป้าก็ไม่ดีไปตีมันขนาดนั้นที่มันพูดก็ถูกทั้งหมด แต่ก็ไม่อยากให้คนด่าหรือล้อเลียนมันว่านอกจากเป็นลูกไม่มีพ่อแล้วยังเป็นเด็กก้าวร้าว อันธพาล ป้าไม่อยากให้มันโดนคนว่าเอาแบบนั้น”

วินัยเข้าใจ
เข้าใจดีทุกอย่าง

“นัย  สงสารมันนะ  เห็นมันเป็น”น้อง” สักคน ถือว่าสงสารมัน”

สงสารเหรอ

แรก ๆ ก็สงสารไอ้เต๋ออยู่หรอก แต่ตอนนี้สงสารตัวเองมากกว่า

ที่เคยรู้มาคือพ่อไอ้เต๋อเป็นพระเอกลิเก  หน้าตาหล่อเหลา ผิวพรรณดีและไอ้เต๋อมันก็คงได้พ่อมาแบบเต็ม ๆ  เรื่องที่ว่าแม่ไอ้เต๋อท้องไม่มีพ่อสมัยก่อนใครๆ เขาก็รู้ และลือกันไปต่างๆ  นานา  แต่มันก็เท่านั้น

เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ  เรื่องทุกอย่างก็เหมือนจะค่อยๆเลือนหายไปอย่างช้า ๆ

ไอ้เต๋อเด็กกะโปโล ตัวผอมแห้งกระหร่องตอนเด็ก ๆ ไม่มีอีกแล้ว

มีแต่ไอ้หนุ่ม “ดาว” มหาลัยของแม่  ที่ทั้งหน้าตาผิวพรรณ หล่อเหลาน่ามองผิดพี่ผิดน้อง  ผิดญาติคนอื่นๆ และแม่มันก็เหมือนจะชอบใจที่เห็นมันโตมาหล่อเหลาหน้าตาดีกว่าญาติ ๆพี่น้องคนอื่น ๆ หลาย ๆ คนเวลาได้เห็นไอ้เต๋อตอนโต  ก็ยังชมไม่ขาดปาก

“มันหล่อหรือมันน่ารัก ไม่รู้จะเรียกยังไงดี”

และไอ้เต๋อก็ยิ้มหวานให้ญาติ ๆ ที่เคยว่า เคยดูถูกสมัยมันเป็นเด็ก ๆ

ช่างวินัยได้แต่ถอนหายใจยาว ๆ   นานวัน คนที่เคยเป็น “น้อง” ก็ห่างออกไปเรื่อยๆ

ห่างออกไป.....ไกล....

มันก็ไม่แปลกที่เต๋อจะหยิ่งและไม่อยากจะพูดคุยกับช่างวินัยอีกต่อไป

เด็กผู้ชายที่โดนเพื่อนล้อคนนั้นมันไม่มีทางกลับมาอีกแล้ว  มีก็แต่ไอ้หนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย หน้าตาดีที่มีแต่คนอยากเข้าหา

ช่างวินัยก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไปและไม่อยากจะคิดอะไรให้วุ่นวายใจอีก

“ช่างนัย เฮียบัสถามว่าจะสั่งอะไหล่ตัวไหนเพิ่มบ้าง เฮียจะให้ผมเขียนสั่งของ”

ช่างวินัย วางมือจากงานและเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของเต๋อที่ก้มลงมามองว่าช่างนัยกำลังทำอะไร

“................เออ...... อย่าถามซ้ำหลายรอบได้มั้ย   เดี๋ยวก็ไปบอกเองแหละ...”

“ผมก็ไม่อยากจะถามหลายรอบเหมือนกันแหละ   ตอบดี ๆ ก็ได้ พูดดี ๆ ก็ได้  ทำไมต้องขึ้นเสียงใส่ด้วย แม่ง.... แล้วทำไมไม่มัดสายไฟเส้นนั้นก่อนวะ”

มัดสายไฟเหรอ.........เอ่อ...............

ช่างวินัยรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทาง รีบจัดการกับสายไฟให้เรียบร้อยและเมินหน้าหนี  เมื่อรู้สึกถึงอาการหัวใจกระตุกแรง ๆ ของตัวเองตอนที่เต๋อยื่นหน้าเข้ามาใกล้และมองหน้าของช่างวินัยตรง ๆ

เต๋อไม่ได้พูดอะไรกับช่างนัยอีก  ยิ่งเห็นกิริยาที่คล้ายแสดงให้รู้ว่ารำคาญของช่างวินัย   เต๋อก็รีบผละออกห่างและก้าวขาเดินลิ่ว ๆ เข้าออฟฟิศไปแล้ว และช่างวินัยก็ได้แต่ถอนหายใจออกมายาวๆ

คำที่เคยพูดว่า  อยากอยู่ด้วยกันตลอดไป มันก็แค่คำพูดของเด็ก

คนที่อยู่กับเต๋อไปตลอดได้ คือช่างวินัย  แต่ช่างวินัยรู้ดี  ว่าเต๋อไม่มีทางอยู่กับช่างวินัยไปตลอดได้อีกแล้ว

ตั้งแต่ที่เต๋อเริ่มโต
ตั้งแต่ที่เราเริ่มห่างกัน
ตั้งแต่ที่เราเริ่มไปมีชีวิตของตัวเอง

ตั้งแต่วันนั้น.........ช่างนัยก็รู้แล้ว....เรื่องที่เต๋ออยากอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตกับช่างวินัย  มันเป็นแค่คำพูดของเด็ก ๆ ที่ขาดหลักยึดในวันที่อ่อนแอ

จะเอามาคิดจริงจังไม่ได้  เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้

ช่างนัยยิ้มออกมาอย่างเหงา ๆ และก้มหน้าก้มตาจัดการงานของตัวเองให้เสร็จเรียบร้อยตามกำหนดนัดส่งรถให้ลูกค้า

เต๋อกำลังเขียนรายการอะไหล่ที่จะสั่ง เขียนไปได้สองสามรายการก็หยุดเขียน แล้วกำปากกาเอาไว้แน่น

ยิ้มเยาะตัวเองและหัวเราะออกมาเสียงเบา

..........คำสัญญาที่เคยขอเอาไว้จากช่างวินัยตั้งแต่ยังเป็นเด็ก  มันไม่เคยมีความหมาย.......

ตอนนี้เราก็เป็นแค่คนที่ทำงานด้วยกันเท่านั้น

เรื่องราวสมัยเด็ก ๆ มันก็เป็นแค่ความสุขที่ไม่มีทางย้อนกลับมาได้อีกแล้ว 

ถึงจะสัญญากันเอาไว้ขนาดไหน  โตขึ้นก็ต้องลืม

เต๋อโตแล้วไม่ใช่เด็กอีกแล้ว  และในเวลานี้เต๋อก็เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างได้ดี
สัญญาที่จะอยู่ด้วยกันตลอดไปของเต๋อกับช่างวินัย

...........ไม่มีวันเป็นจริง.............



TBC.

หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน สัญญา P.7
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 21-01-2015 22:55:27


อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


ตอน 6-  คิดว่า ...น้องเต๋อ ทำให้ พี่ช่างนัย จะหวนกลับมาหวานนนนนนนนนนนนนนนน กัน :กอด1:


ตอน 7 ทำไม    นึกย้อนอดีต ให้กลับมาทำร้ายหัวใจ ช่างนัยยังงี้ เง้อ   :a5:


//  อินนนน จน ทำตัวไม่ถูกเลย :hao5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน สัญญา P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 21-01-2015 22:56:08
โหย....ไปนั่งคุยรื้อฟื้นความหลังพร้อมกันเลย
อย่ามัวแต่ต่างคนต่างคิด แล้วก็น้อยใจกันเอง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน สัญญา P.7
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 21-01-2015 23:20:35
 :katai1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน สัญญา P.7
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-01-2015 23:30:28
พี่นัยน้องเต๋อใจตรงกัน แต่ต่างคนต่างคิด
เมื่อไรจะเข้าใจตรงกันนะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน สัญญา P.7
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 22-01-2015 00:37:25
เชื่อเหอะ ในชีวิตของเต๋อมีช่างนัยวนเวียนตลอดจนกลายเป็นปกติ จนมองข้ามไป ห่างกันสิแล้วอิเต๋อมันก็จะ คิดถึงเอง รู้ตัวช้าตามประสา คนซึนๆ 5555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน สัญญา P.7
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 22-01-2015 01:32:23
น้องเต๋อกับช่างนัยก็โอเคนะคะ แต่คุณนักเขียนอย่าลืมพี่บัสสิค้าาาาาาาาาาาาาาา :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน สัญญา P.7
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-01-2015 02:00:54
พี่นัยอย่าช้าสิ เดี๋ยวน้องเต๋อก็ถูกคนอื่นแย่งไปหรอก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน สัญญา P.7
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 22-01-2015 08:08:26
อึนอ่ะตอนนี้ ไม่ไหว พี่นัยรีบบอกน้องเต๋อจิ เดี๋ยวโดนคนอื่นแย่งไปหรอก  :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน สัญญา P.7
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 22-01-2015 08:16:07
สงสัยต้องเมาถึงจะยอมพูด :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน สัญญา P.7
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 22-01-2015 08:18:07
โอ่ยยยย พี่นัยกับเต๋อ มีอะไรก็คุยกันดีๆน้าาา
ตอนนี้ต่างคนต่างเข้าใจผิดเลยอ่ะ T^T หน่วงจิตมากค่ะะ
ปล. คิดถึงเฮียบัสกับน้องพัฒน์ล่ะ อิอิ ><
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน สัญญา P.7
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 22-01-2015 08:46:19
เพราะช่างวินัยไปมีแฟนแล้วผิดสัญญานัดกับเต๋อก่อนไง เต๋อเลยงอนเเละเริ่มห่างช่างวินัยออกมา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน สัญญา P.7
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 22-01-2015 09:23:28
แหม่ะ ใจตรงกันมาก็ตั้งแต่เด็กนู้นนนน ทำไม๊ ทำไม ทีเรื่องของบารมียังดูออกเล้ย เต๋อเอ้ยเปิดอกคุยกันเมื่อไหร่นี่ มีเฮ นะเอาจริง :katai1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างนัย) by aoikyosuke ตอน สัญญา P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 22-01-2015 16:44:07
โฮ่ววว~ ท่าทางจะใจตรงกัน.สงสัยไรก็ถามเลยทั้งคู่นั่นล่ะ.คิดเองเออได้ไง เป็นกันงี้แล้วเมื่อไรเราจะได้ฟินคะ. :hao5: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 22-01-2015 17:22:43
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน อ้อน

“ตอนบ่ายน้าลำไยมา   เอาปลาทูนึ่งแม่กลองมาฝาก กับหอยดองแล้วก็น้ำตาลมะพร้าว”

บารมีเปิดตู้เย็นและจัดการเรียงของฝากที่ได้เข้าไปในตู้เย็น 
ส่วนพิพัฒน์กำลังอุ่นกับข้าวที่ได้เป็นปิ่นโตมาจากที่อู่ และมันเพียงพอสำหรับกินกันคนสองคนโดยไม่ต้องซื้อ

“พรุ่งนี้  มีนัดสำคัญอย่าลืมเตือนด้วยนะพัฒน์ ตอนสิบโมง  อาปิติเพื่อนเก่าพ่อจะมาคุยด้วย  เห็นว่าจะเอาโฉนดอะไรไม่รู้มาให้ กูก็งง พ่อกูตายไปตั้งหลายปีแล้ว ทำไมเพิ่งอยากจะมาคุยตอนนี้ไม่รู้”

บารมีเดินบ่นอะไรไปเรื่อย  และลากเก้าอี้ออกมานั่ง

พิพัฒน์มีหน้าที่เตรียมอาหารเย็นแบบง่าย ๆ ให้กินทุกวัน 

เมื่อก่อนเคยต้องหาข้าวกินเองแบบตามมีตามเกิด  มีอะไรก็กินแบบนั้น  แต่ตอนนี้ทำแบบนั้นไม่ได้แล้วเพราะว่ามีพิพัฒน์อยู่ด้วย

แรก ๆ ไม่คิดจะสนใจไยดี  อาหารการกินของพิพัฒน์  แต่ตอนนี้ ไม่สนใจไม่ได้แล้ว

“.............” 

พิพัฒน์กินข้าวไป ฟังบารมีพูดบ้างบ่นบ้างไปเรื่อย  ๆ เหมือนทุกวัน ไม่เคยแสดงความคิดเห็น  แค่ฟังเงียบๆ  และคนฟังก็สบายใจที่จะเล่า  และเป็นการเล่าโดยไม่มีอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวเหมือนเมื่อก่อน

“นี่ก็ว่าจะไกล่เกลี่ยกับธนาคารก่อน เหนื่อยว่ะของแบบนี้พูดยาก  ตกลงจะยึดอู่  ยึดนั่นยึดนี่ขายทอดตลาด กูก็จะยอมแล้ว แม่งขี้เกียจจะยื้อ สมัยก่อนพ่อเขาสร้างอู่มาเองกับมือ  ทำมาตั้งแต่ไม่มีอะไร  แกก็คงไม่ทันคิดว่าแกจะไปเร็วขนาดนี้   อู่มันก็กำลังไปได้ดีแหละ   พ่อกู้เงินมาเยอะมาลงหุ้นกับเพื่อนทำบ้านจัดสรรด้วย  ไปเซ็นค้ำประกันให้เพื่อนไว้อีก  โดนโกงไปเกือบยี่สิบล้าน  กูใช้หนี้ไปจนแก่ตาย ยังไม่รู้จะหมดหรือเปล่า ไหนจะหนี้อื่นอีก  แม่ง  สนุกกับชีวิตชิบหาย  แม่เลิกกับพ่อไปก็สมควรแล้ว  สถานการณ์แบบนั้น เป็นใครก็คงไม่ไหว  พ่อกูก็อารมณ์ร้ายด้วย  กูเคยเห็นพ่อตบแม่ด้วยนะ..........ตอนนั้นเรียนมหาลัยแล้ว เกลียดพ่อชิบหาย  แต่แม่บอกว่าห้ามเกลียดพ่อเด็ดขาด  แล้ววันต่อมาแม่ก็เก็บเสื้อผ้าออกจากบ้านไปเลยว่ะ.....”

บารมีพูดเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา  แต่ยิ่งได้ฟังพิพัฒน์ถึงกับกลืนข้าวไม่ลง

“ตอนนั้นกูก็ไม่รู้นะว่าทำไมพ่อเป็นแบบนั้น  แต่ตอนนี้กูเข้าใจแล้ว  ใครไม่มาอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น  คงไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไง”

บารมีเริ่มเปิดเผยสิ่งที่เป็นตัวเองมากขึ้น   
บารมีไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัว  ไม่เคยพูดหรือเอ่ยถึงเรื่องราวลึก ๆ ของครอบครัวตัวเองให้ใครฟังแม้กระทั่งญาติ ๆ

แต่กับพิพัฒน์  บารมีสามารถเล่ามันออกมาได้อย่างง่ายดาย
เรื่องน่าอายของครอบครัวตัวเองที่ไม่ควรเปิดเผยให้ใครรับรู้  แม้กระทั่งญาติ ๆ ที่อยู่บ้านติด ๆ กัน

บารมียังคุยอะไรไปเรื่อยเปื่อย  โดยมีพิพัฒน์นั่งฟังอย่างตั้งใจ  และเริ่มยิ้มรับกับเรื่องราวตลก ๆ ในสมัยเด็กของตัวเอง

“ช่างนัยนี่ก็ตามกันมาติด  ๆ เล่นด้วยกันตอนเด็ก ๆ ช่างนัยจะเป็นหน่วยสนับสนุน  ไอ้เต๋อนี่เด็กปลายแถวเวลาเล่นกัน  พวกกูนี่แกล้งให้มันทำอะไรมันก็ทำ  รู้เรื่องซะที่ไหนล่ะ    ตอนเด็ก ๆ เคยโดนแม่ไอ้เต๋อด่าด้วย  ว่าไปแกล้งลูกเขา  แล้วตอนนี้เป็นไง  ต้องมาชดใช้กรรม  โดนมันไถเงินค่าเทอมตลอด กูล่ะเชื่อมันเลย  มันว่ากูต้องรับผิดชอบชีวิตมัน  เพราะตอนเด็ก ๆ กูแกล้งมันไว้เยอะ  พอโตขึ้นมันรู้เรื่องแล้ว มันต้องเอาคืน  แม่มันก็มาทวงเอากับกู  ไหนตอนเด็ก ๆ สัญญาจะดูแลน้องเป็นอย่างดีไง  กูก็ต้องทำตาม”

บารมีเล่าไปขำไป  และพิพัฒน์ก็ยิ้มตาม

“ไอ้เต๋อมันไม่มีพ่อแล้ว   กูไม่อยากให้มันเป็นแบบกูหรอก  อยากเรียนแทบตาย แต่เรียนไม่จบ  ต้องออกมากลางเทอม เพราะไม่มีใครส่งแล้ว  กูถึงได้อยากส่งไอ้เต๋อไง  จบออกมามันก็ยังมีอนาคต ถ้ามันไม่เกเรไปซะก่อน”

บารมีเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งกินข้าวเสร็จและพิพัฒน์ก็เก็บจานไปล้างและคว่ำเอาไว้เรียบร้อย    บารมีเดินไปเปิดรายการข่าวทิ้งเอาไว้  และเมื่อพิพัฒน์จัดการทำความสะอาดจานชามเรียบร้อยก็เดินมานั่งอยู่ข้าง ๆ

มือยังเปียก  แต่พิพัฒน์ไม่ยอมหาผ้ามาเช็ดมือ   แกล้งเช็ดมือเปียก ๆ ไปที่แขนเสื้อของบารมี และบารมีก็เหล่ตามองหน้าของพิพัฒน์ และดึงมือพิพัฒน์ออก

“ที่เช็ดมือมึงเหรอพัฒน์  ไอ้ห่านี่”

ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่พิพัฒน์ไม่สนใจ  และยังจัดการดึงหมอนอิงไปกอดเอาไว้ด้วย และบารมีก็หยิบหมอนอีกใบมาฟาดหัวพิพัฒน์เบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้

“เจ็บ”

เหรอ
กูฟาดให้เจ็บไง  แม่งนิสัย 

“แล้วนี่อีปามันโทรมาหาป่ะ ช่วงนี้”

ก็........

“ปาโทรหาพี่เหรอ”

“เปล่า  ไม่ได้โทร   มันคงมีความสุขดี มันถึงไม่โทร”

ถามเพียงแค่นั้น และบารมีไม่คิดจะถามความรู้สึกของพิพัฒน์อีกว่ายังรู้สึกยังไงกับปาจรีย์

รู้ไปก็เท่านั้น
เสียความรู้สึกเปล่า ๆ  รู้แล้วก็พาลจะโมโหและอารมณ์เสีย  ไม่รู้ซะยังดีกว่า  ช่างเถอะ  ไอ้พัฒน์ยังจะรู้สึกอะไรยังไงอยู่ก็ช่างมันเถอะ

ใจของใครก็เป็นของคนนั้น
จะไปบังคับให้คิดเหมือนๆ  กันมันยากเกินกว่าจะเป็นไปได้

“เสื้อมึงสีซีดหมดแล้วพัฒน์  เดี๋ยวพรุ่งนี้เย็น ๆ ไปหาดูเสื้อผ้าดี ๆ สักชุดสองชุด  อีกอย่างนะกระต่ายมึงต่อไปไม่ควรกินผักบุ้งแล้ว  เขาว่ากระต่ายกินหญ้าขนดีกว่า แล้วอาหารเม็ดสำหรับกระต่ายก็มี  กูสงสารไอ้บัดดี้ของมึง กระต่ายนะไม่ใช่เต่าจะได้ให้มาแทะผักบุ้งอยู่ได้ทุกวัน”

บารมีบ่นอะไรมากมายไม่รู้  บ่นไปเรื่อยจนพิพัฒน์จับใจความแทบไม่ได้

และพิพัฒน์ก็ทำท่าจะเอนหลังลงนอนแต่โดนบารมีดึงหัวเอาไว้

“กินแล้วห้ามนอน  มันจะเป็นกรดไหลย้อน  มึงนั่งอีกซักพักค่อยไปอาบน้ำนอน   แล้วนี่กินยาหลังอาหารหรือยัง   เดี๋ยวไข้กลับหรอกพัฒน์  หมอเขาให้กินยาให้หมดแล้วมึงกินหมดหรือยัง”

ยาหลังอาหารกินไปแล้ว
และถึงแม้จะดีขึ้น   แต่บารมีก็แน่ใจว่าสภาพร่างกายของพิพัฒน์ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์

“กินยาแก้แพ้อากาศเข้าไปแล้วง่วง”

บารมีฟังสิ่งที่พิพัฒน์พูด และก็พยักหน้ารับ

“มึงก็ทน ๆ อีกแป๊บเดียว  ค่อยขึ้นไปอาบน้ำนอนนะพัฒน์ ให้ข้าวมันเรียงเม็ดก่อน”

ก็อยากจะรอให้ข้าวเรียงเม็ดก่อนหรอกนะ  แต่หนังตานี่สิคือปัญหา

พิพัฒน์ไม่เลื้อยลงไปนอนบนโซฟา
พิพัฒน์ไม่ทำสิ่งที่บารมีห้ามและบอกว่าไม่ดี

แต่พิพัฒน์ขยับเข้ามาใกล้ ๆ บารมี  กอดแขนบารมีเอาไว้  ส่วนอีกมือกอดหมอนอิง

ที่ทำทั้งหมดก็เพื่อเป็นการสนองนโยบาย  กินข้าวแล้วห้ามนอนเพราะจะเป็นกรดไหลย้อน

แล้วถ้าทนความง่วงเพราะฤทธิ์ยาแก้แพ้อากาศไม่ไหว ควรจะทำยังไง

เพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไง พิพัฒน์ก็เลยซบหน้าไปที่ไหล่ของบารมีและหลับไปทั้งอย่างนั้น โดยที่บารมีได้แต่นั่งนิ่ง ตาค้าง  หัวใจเต้นระทึกไม่เป็นส่ำ  แต่ไม่กล้าพูดอะไร

เหลือบสายตามองพิพัฒน์ที่มาอ้อนกันแบบดื้อ ๆ แล้วบารมีก็ต้องหุบปากเงียบ

มันก็ดีที่มีคนอยู่ข้าง ๆ แบบนี้
แต่มันไม่ดีและมีผลอย่างรุนแรงกับหัวใจของบารมีด้วย

ถึงจะคิดอะไรได้มากมายขนาดนั้น  แต่บารมีกลับไม่ด่าและไม่บ่นพิพัฒน์ที่มาอ้อนและทำให้หัวใจของบารมีเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ  เลยสักคำ


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 22-01-2015 17:36:49
แหมๆๆๆ.พี่บัสทึกทักว่าเขามาอ้อนตัว.พัตน์เขาก็บอกอยู่ว่าไม่รู้จะทำยังไง.นอนก็ไม่ได้เลยใช้แขนตัวซบแทนก็แค่นั้นอ่ะ. :hao3: :hao3: คึคึ.ว้ายๆๆ.คนขี้โมเม
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 22-01-2015 17:47:19
 :-[
จิกหมอนเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 22-01-2015 18:08:20
บอกเลย อยากได้ ผะ-หลัว แบบเฮียบัส 5555555555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 22-01-2015 18:19:19
มันยังงัย ไม่รอดดดด
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 22-01-2015 18:30:36
 :m3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-01-2015 19:08:14
หุยยยย มีกอดแขน มีซบไหล่
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 22-01-2015 19:09:01
เจอแบบนี้ไปก็ต้องคิดเข้าข้างตัวเองเนอะ เฮียบัส อิอิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 22-01-2015 19:37:21
 :ruready ทำไปนี่รู้ตัวแล้วคิดอะไรไหมน้ออ
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 22-01-2015 19:40:39
เอาแล้วไงเฮียย อาการออกนะ >< ทีงี้นั่งเงียบเลย 555
พัฒน์เอ๊ยยย สงสารเฮียเขาหน่อย เล่นแบบนี้เฮียเขาไปไม่เป็นนะ
น่ารักอ่าา นี่เริ่มจะเข้าโหมดหวานซึ้งแล้วใช่ไหม ^___^
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 22-01-2015 20:53:34
 :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 22-01-2015 21:20:31
น่ารักทั้งสองคู่เล้ยยย แหม่ อ่านไปอมยิ้มไปเลย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 22-01-2015 21:43:21
ชีวิตประจำวันเหมือนคู่สามีภรรยาที่อยู่กินกันมานานเลย  :hao3:
เอ๊เอ๊ บารมีแอบหวั่นไหว ปล่อยให้ใจเต้นแรง แน่นหน้าอก นานๆไปไม่ดีนะ ต้องจัดการกับตัวต้นเหตุ อย่างเช่น สั่งสอนให้รู้จักความเป็นชาย   :oo1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 22-01-2015 21:51:38
แอร๊ยยยยยย  :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 22-01-2015 22:06:33
ช่างนัยกับเต๋อก็ปากแข็ง
พี่บั๊ดกับน้องพัฒน์ก็ยังไม่ถึงไหน
น้องก็อ้อนแบบไม่รู้ตัว พี่ก็ใจเต้นไปซะแล้ว..
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 22-01-2015 23:33:55
น่ารักขึ้นทุกที
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 22-01-2015 23:52:06
น่ารักแบบไม่ให้รู้ตัว.   เนื้อเรื่องสบายๆ.  อ่านไปยิ้มไป. ขอบคุณมากสำหรับความสุขเล็กๆ. ที่มอบให้กัน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน อ้อน P.7
เริ่มหัวข้อโดย: แค่ความทรงจำ ที่ 23-01-2015 02:00:47
อ่านรวดเดียวถึงตอนล่าสุด
น่าติดตาม เป็นเรื่องราวที่สนุกมาก
ชอบคู่ พี่บัสกะพัฒน์ น่ารักมาก  :-[
อีกคู่ก็น่ารักเหมือนกัน
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 23-01-2015 06:05:13
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/254_zps35063e71.jpg)

 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย) ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน

บ้านเราอยู่ใกล้กัน เห็นกันมาตั้งแต่เล็ก ที่จริงเมื่อก่อนก็ไปโรงเรียนด้วยกัน ไปเที่ยวเล่นด้วยกัน

แต่ที่เราต้องห่างเหินกันเพราะเมื่อโตขึ้นเราก็ต่างมีภาระหน้าที่มีสิ่งที่ต้องทำ

วินัยมีแฟน และไปเป็นทหาร
สุดท้ายก็ไปกันไม่ได้  และต้องเลิกกับแฟน  หลังปลดประจำการก็มาเป็นช่างซ่อมรถอยู่ที่อู่ของบารมีหลายปี

ในระหว่างหลาย ๆ ปีนั้น เราก็ได้กลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง

ดีหรือเปล่าช่างวินัยไม่รู้
แต่ที่แน่ ๆ สิ่งที่ช่างวินัยคิดได้มีอย่างเดียวในตอนนั้นคือ

........ไอ้ห่าเต๋อ แม่งกวนตีน เด็กอะไรกวนตีนเหี้ย ๆ สมัยเด็กเดินตามกูต้อย ๆ พอโตขึ้นมันเสือกเมินกูซะงั้น  แค่เมินอย่างเดียวไม่พอ  ยังตั้งแง่ใส่กันอีก  มีเรื่องอะไรก็ถามคำตอบคำ  ทำเหมือนไม่อยากจะคุยกันสักนิด

แต่ช่างเถอะเรื่องนั้นช่างวินัยไม่เคยติดใจเอาความอะไร  ก็ปล่อยมันไป พูดกันตามหน้าที่ก็พอ

แต่จะให้พูดกันตามหน้าที่อย่างเดียวเอาเข้าจริง ๆ มันก็ทำไม่ได้อีกเพราะแม่ของเต๋อ  มักจะเข้าใจไปเองว่า  .......ปัจจุบันเต๋อก็ยังสนิทกับช่างวินัย........

เอาอะไรมาคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างช่างวินัยกับเต๋อจะยังคงเป็นเหมือนสมัยเด็ก
แม่ของเต๋อไม่เคยถามใด ๆ ทั้งสิ้น

การไปรับไปส่งเต๋อ กลายเป็นเรื่องปกติ  เพราะเต๋อมีปัญหาที่แขน อุบัติเหตุสมัยมัธยม ทำให้ไม่สามารถใช้แขนได้เหมือนคนปกติ จนแม่ของเต๋อเป็นห่วงและไม่ยอมให้ทำอะไรที่ลำบากร่างกายจนเกินไป  บางครั้งถึงมันจะปากดี หรือกวนตีนขนาดนั้น  แต่เอาจริง ๆ ช่างวินัยก็ปล่อยไปไม่ได้

ยังไงก็เห็นกันมาตั้งแต่เล็ก ๆ
โตขนาดนี้แล้ว จะทำเป็นไม่สนใจก็ได้ แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็ทำไม่ลง

เพราะสมัยช่างวินัยยังเด็ก แม่ของเต๋อก็เลี้ยงช่างวินัยมาเหมือนกัน

สำหรับช่างวินัยแล้ว
เต๋อก็เหมือนน้องชาย ถึงจะต่างสายเลือดแต่ช่างวินัยก็จำไม่ลืมที่ป้าเคยสอนว่าให้เห็นเต๋อเป็นน้อง

และน้องชายคนที่ว่า  มันก็ทำตัวห่างเหิน  เมินกันได้เมินกันดี เมินกันแบบชัดเจน

ท่าทางหมางเมิน และทำเหมือนไม่ชอบหน้ากันขนาดนั้น ช่างวินัยคิดเหมาเอาเองว่า เป็นเพราะความทะลึ่งบ้าบอแบบเด็ก ๆที่ไปแกล้งเต๋อเอาไว้  เต๋อเลยแค้นไม่หายมาถึงป่านนี้ ที่จริงจะถูกโกรธก็ไม่แปลก ในเมื่อก็สมควรถูกโกรธจริงๆ  แต่ไม่นึกว่านานขนาดนี้แล้วเต๋อมันก็ยังไม่ลืม 

ผ่านไปนานกี่ปี เต๋อก็ไม่เคยลืม
ที่จริงคือไม่ยอมลืม มากกว่า

“นั่งรถสองแถวกลับเองก็ได้ ไม่งั้นก็ให้เพื่อนมาส่งก็ได้  วันหลังช่างนัยก็บอกแม่ไปสิ  ว่ามาไม่ได้ เหตุผลมีตั้งเยอะแยะ”

แล้วมึงมาโกรธอะไรกูวะเนี่ย
กูมารับมึงนี่มันผิดมากหรือไง

“กูจะบอกแม่มึง ว่ามึงให้กูโกหกแม่มึง”

ช่างวินัยพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบและเปิดเพลงฟังอย่างสบายอารมณ์ ส่วนเต๋อได้แต่ทำหน้างี่เง่าและฮึดฮัดอยู่คนเดียว

“ผมโตแล้วป่าววะ ทำไมต้องมารับมาส่งด้วย  แม่จะเห็นเป็นเด็กสี่ขวบไปตลอดชีวิตหรือไง”

กูไม่รู้ กูไม่ใช่แม่มึง

“รำคาญ  ไปถามแม่มึงเอาเองสิทำอย่างกับว่ากูอยากมารับมึงนักนี่”

“ไม่อยากมาแล้วจะมาทำไมวะ  ก็บอกไปสิว่าไม่อยากมา”

น่าเบื่อว่ะ ไอ้เต๋อแม่งพูดจาไม่รู้เรื่อง

“หุบปากไปเหอะ กูขี้เกียจจะพูดกับมึงแล้ว เจอกันในอู่ไม่เห็นจะอ้าปากพูด เวลาเจอกูตัวต่อตัวนี่  มึงจะอะไรกับกูนักหนาวะ   หาเรื่องอะไรกูนักหนาเนี่ย  กูแก่กว่ามึงตั้งกี่ปี   มารับแทนที่จะขอบคุณ  นี่แม่งมีแต่พูดห่าอะไรไม่รู้  ไม่เข้าท่า”

โดนช่างวินัยด่า และเต๋อก็ได้แต่อ้าปากค้าง  อยากจะทะเลาะด้วยหรอกนะ  แต่เจอสายตาดุ ๆของช่างวินัยที่มองมาและแสดงให้รู้ว่ากำลังหงุดหงิด  โกรธ และรำคาญ เต๋อก็เลยได้แต่เมินหน้าหนีแล้วก็หุบปากเงียบ เพราะทำอะไรไม่ได้

ที่จริงคือไม่เคยทำอะไรได้........

“ป้าไม่อยู่นะวันนี้ ไปดูดนตรี มึงหาข้าวกินเองด้วย”

อีกแล้วเหรอวะ

เต๋อหันมามองช่างวินัยทันทีและรีบกดโทรศัพท์โทรหาแม่

“ไปอีกแล้วเหรอ  มีข้าวกินมั้ย  ไม่มีอีก  โห่แม่ แม่จะกลับมากี่โมง แม่..........”

แล้วปลายสายก็เงียบไปดื้อ ๆ
และเต๋อก็มองโทรศัพท์ในมือที่ถูกแม่ตัดสายไปพร้อมประโยคอำลา

........ก็อต กำลังจะขึ้นแสดง แค่นี้ก่อนนะ แม่ยุ่งมาก  ไปกินข้าวบ้านพี่นัยก่อนนะลูก.........

แล้วเต๋อก็ได้แต่มองโทรศัพท์ในมือและถอนหายใจออกมายาว ๆ

ให้ไปกินข้าวบ้านช่างนัย  ใครจะไปวะ  แม่ทำไมทำแบบนี้  เห็นวงดนตรีดีกว่าลูก  ไม่สนใจว่าลูกจะมีข้าวกินหรือเปล่า  อยากจะชินอยู่หรอก  แต่มันทำใจได้ง่าย  ๆ หรือไง

ไม่ได้เป็นเด็กติดแม่ โตป่านนี้แล้ว ก็เข้าใจงานอดิเรกของแม่อยู่ แม่ก็มีความสุขในแบบของแม่   กลายเป็นเต๋อที่บางครั้งก็ไปนั่งจับเจ่าอยู่บ้านคนเดียว

ตะกร้อมันก็ใช่ว่าจะเตะกันทุกวัน
ยิ่งช่วงนี้งานที่อู่ยุ่ง ๆ ด้วย พี่พัฒน์ก็เลยไม่ค่อยมีเวลา  คนอื่นเขาก็มีงานมีการทำ   ไปเล่นก็ได้อยู่หรอก  แต่ต้องเล่นกับเด็กประถมชนะมันไปก็เท่านั้น  คนก็หาว่ารังแกเด็ก
อีกอย่าง วันนี้เลิกดึกด้วย กลับไปก็ไม่มีอะไรให้ทำแล้ว เฮียบัสก็กลับบ้านแล้ว ไปที่อู่ก็ไม่มีใครอยู่แล้ว

“ทำหน้าเป็นหมาเหงาเชียวนะ”

นี่ไงเรื่องที่ทำให้เกลียดช่างนัย ไม่เคยจะพูดกันดี ๆ มีแต่ซ้ำเติมให้เจ็บปวด

“เรื่องของผมเหอะ”

เออ เรื่องของมึง
เรื่องของมึงก็เรื่องของมึง กูก็ใช่ว่าจะอยากยุ่ง

ช่างวินัยไม่ได้พูดอะไรอีก รถแล่นไปเรื่อย ๆ ก่อนจะลัดเลาะเข้าไปในหมู่บ้าน  มองไปไม่ไกล แสงไฟหลากสี  และเสียงดนตรีอึกทึกชวนให้ผู้คนอยากมองไปที่ข้างทางไม่เว้นแม้กระทั่งเต๋อ ที่ชะเง้อคอมองออกไปนอกรถ

“งานอะไรวะ”

กูจะไปรู้เหรอ

“ถามใคร”

ไม่ได้ถามใครหรอก แค่ละเมอพูดคนเดียวมั้ง

เต๋อหันมามองช่างวินัยและเบะหน้าแบบเซ็ง ๆเลิกมองไปที่ข้างทางและกลับมานั่งกอดอก และไม่คิดจะสนใจช่างวินัยอีก

“จะลงไปดูมั้ยล่ะ”

เต๋อหันไปมองหน้าช่างวินัยอีกครั้ง และไม่ต้องให้พูดอะไรกันมากความช่างวินัยชะลอรถและขับเข้าไปในงานและมองหาที่จอดรถทันที

“แวะซะหน่อย  สงสารเด็กถูกทิ้ง”

ใช่ที่ไหนล่ะ 

เต๋อกำลังจะอ้าปากเถียง แต่ช่างวินัยไม่เปิดโอกาส

“พูดน้อยๆ  ไอ้เต๋อ  กูรำคาญ กูหิวข้าวแวะหาข้าวกินหรอก ไม่ใช่จะอยากพามึงเที่ยวจริง ๆ อย่าสำคัญตัวผิดไป”

เออออออออออออออออ
แวะหาข้าวกิน  รู้ตั้งนานแล้ว

“ไม่ลงนะ อยากกินก็ลงไปคนเดียว”

ที่ไม่ลงไม่ใช่ไม่หิวข้าว แต่เป็นเพราะว่า.........ไม่มีตังค์กินข้าว....

“ก็ตามใจนะ  แม่มึงฝากตังค์กูไว้สองร้อยไว้ให้มึงซื้อข้าวกิน  ถ้าไม่ลง  เงินที่แม่มึงฝากไว้กูยึดเป็นค่าน้ำมันรถแล้วกัน”

ได้ไงวะ

ไม่ต้องให้รอนาน เต๋อรีบลงจากรถและเดินตามช่างวินัยที่เดินลิ่ว ๆ เข้างานโดยไม่คิดจะรอ

“นี่จะยึดเงินเป็นค่าน้ำมันรถจริงเหรอ  แม่ผมก็ออกค่าน้ำมันรถให้ไม่ใช่หรือไง  จะฟ้องแม่ว่าช่างนัยเม้มตังค์”

โว้ยยยยยยยยยยย มึงจะฟ้องมึงก็ฟ้องไปเหอะ

“ไอ้ประสาท แม่มึงรักกูมากกว่ามึงอีกเหอะไอ้เต๋อ”

แค่คำพูดเดียวก็ทำให้เต๋อรู้สึกเจ็บจี๊ดไปถึงทรวง

เต๋อรีบเดินตามช่างวินัยที่เดินนำหน้าแบบไม่เคยคิดจะรอคนที่เดินตาม

สุดท้ายเดินไปแวะร้านผัดไทหอยทอด และสั่งมากินกันคนละจาน

นั่งรออาหารมาเสริฟ และเต๋อก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านอะไรไปเรื่อยระหว่างรอ

“หัดเงยหน้ามาสนใจผู้คนในโลกซะบ้าง โทรศัพท์เอาไว้เล่นตอนว่าง ๆ ก็ได้มั้ง”

บ่นออกมาลอย ๆ และเต๋อก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าของช่างวินัย

“ก็คนตรงหน้าแม่งไม่เคยทำให้อยากสนใจ แล้วใครจะอยากมอง"

อ่อ  งั้นเหรอ

“ปากดีนักนะมึง  ตอนเด็ก ๆไม่เห็นเป็นแบบนี้เลยวะ”

นั่นมันตอนเด็ก แต่นี่มันโตแล้ว

“ไอ้เต๋อที่เดินตามช่างนัยต้อย ๆ ให้ช่างนัยแกล้ง  มันตายห่าไปตั้งนานแล้ว”

อ่อเหรอออออออออออ

ช่างวินัยพยักหน้าและก็หัวเราะออกมาเสียงเบา

“ขำห่าอะไรวะ”

ก็เปล่า ไม่ได้ขำอะไรก็แค่ว่า.....

“ว่าแต่  กูยังนึกสงสัย  ว่าของมึงใหญ่ขึ้นบ้างยังวะเต๋อ  หรือมันตกใจที่โดนแกล้งเลยไม่โตขึ้นแล้ว  มึงก็เกินไปจะเอาเรื่องนั้นมาโกรธกูจนถึงป่านนี้ก็ไม่ไหวนะ ลืม ๆ มันไปบ้างได้แล้ว”

ลืมเหี้ยอะไรล่ะ

เต๋อถึงกับตาค้าง และกำลังจะอ้าปากด่าช่างวินัย  แต่เพราะผัดไทมาเสิร์ฟแล้ว  เต๋อก็เลยไม่รู้จะพูดอะไรได้อีก

“เหี้ยเอ้ย”

ได้แต่สบถออกมา ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน  เต๋อก็ยังไม่เคยชนะช่างนัยได้

แค่ต่อปากต่อคำ  บางทียังแพ้  เคยเป็นเด็กยังไงก็เป็นอยู่อย่างนั้น  เคยแพ้ช่างนัยยังไงก็แพ้อยู่อย่างนั้น
เคยพยายามเอาชนะยังไง สุดท้ายก็ยังแพ้เหมือนเดิม

ถึงอยากจะเถียงอยากจะด่า สุดท้ายพอเห็นสายตาดุ ๆ ของช่างวินัยที่มองมา  เต๋อก็ได้แต่หุบปากเงียบเหมือนตอนเด็ก ๆไม่มีผิด

น่าแปลก  ถึงจะโตขนาดนี้แล้ว  เต๋อก็ยังไม่กล้าเอาชนะช่างวินัยอยู่ดี  ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่กล้า พยายามแล้ว  แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าจะต่อปากต่อคำกับช่างวินัยไปจนถึงที่สุด

ได้แต่ตั้งแง่ใส่อยู่ทุกวัน  แค่ช่างวินัยเริ่มเอ็ด  เต๋อก็กลายเป็นเด็กน้อยที่ต้องก้มหน้าก้มตาฟังสิ่งที่ช่างวินัยพูด

โตขึ้นขนาดไหน ก็ไม่เคยเอาชนะได้เลยจริง ๆ

เต๋อจัดการกับผัดไทตรงหน้า และไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าช่างวินัยอีก
รีบกิน จะได้รีบกลับบ้าน

และช่างวินัยก็คีบเส้นผัดไทใส่ปากไปเรื่อย ๆ 
ไม่ได้หิว ไม่ได้อยากกินเท่าไหร่  แต่รู้ว่า “น้อง”  หิวข้าว ถึงได้พามากิน  ดี ๆ ร้าย ๆมันก็เป็น “น้อง”   ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆแต่ป้าก็บอกทุกวันว่าขอให้เห็นไอ้เต๋อ เป็น “น้อง”

ใครอยากให้มันเป็นน้องล่ะ
ไม่เคยเลย  ไม่เคยสักครั้งที่อยากให้เต๋อเป็นแค่น้อง........

แต่เพราะถูกขอร้องมาก็เลยต้องจำใจเห็นเป็นน้องอยู่ทุกวัน  ก็เพราะเห็นเป็นน้องไง ถึงได้พามันมากินข้าว
ก็เพราะเห็นเป็นน้องไง ถึงได้ไปรับไปส่ง  เวลาที่แม่มันไปรับไปส่งไม่ได้

ก็เพราะเห็นเป็น........น้อง.......ไง
ถึงได้.............

ยอมทนเก็บความรู้สึกของตัวเองมาจนถึงป่านนี้  ทั้งที่ไม่ว่าวันไหน  สายตาก็ไม่เคยละไปจากมันได้
และไม่เคยคิดอยากจะให้ไอ้เต๋อเป็นน้องเลยสักครั้ง

ช่างวินัยถอนหายใจออกมายาว ๆ และก้มหน้าก้มตาใช้ตะเกียบคีบผัดไทกินไปเรื่อยๆ  และไม่คิดอยากจะมองหน้าของเต๋ออีก

ไม่อยากมอง
ไม่อยากเห็นนักหรอก เห็นไปก็เท่านั้น ไม่เห็นซะบ้างบางทียังดีกว่า

และเมื่อช่างนัยไม่คิดจะมอง
เต๋อที่รีบกินผัดไทเสร็จก่อนก็เลยนั่งมองช่างวินัยแทน

..............ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาจากปากของเต๋อ........

มีเพียงสายตาในเวลาที่เผลอตัวเท่านั้นที่ปกปิดความรู้สึกเอาไว้ไม่มิด    หลายครั้งที่หัวใจแกว่งไปแกว่งมา เวลาที่อยู่ใกล้ ๆ กัน

มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ความรู้สึกนี้ก็ยังไม่เคยจางหาย  และเต๋อไม่เคยกล้าหาความหมายที่แท้จริงของมัน

.......เต๋อเกลียดพี่นัย โตขึ้นเต๋อจะมีแฟนให้เยอะยิ่งกว่าพี่นัยอีกคอยดู.........

คำพูดนั้นที่เคยพูดเอาไว้เต๋อไม่เคยลืม

ไม่ลืม.......และไม่มีวันลืม

เพราะช่างนัยเห็นคนอื่นดีกว่าเต๋อ  เพราะช่างนัยเห็นคนอื่นสำคัญกว่าเต๋อ  เพราะช่างนัยแสดงให้รู้ว่าเต๋อเป็นแค่เด็กผู้ชายข้างบ้านที่น่ารำคาญ   เพราะช่างนัยเอาแต่แกล้งเต๋อทุกวัน  แกล้งให้อาย  แกล้งให้โกรธ  เพราะอย่างนั้นมันก็เลยเป็นเหตุผลมากพอให้เต๋อเกลียดช่างวินัย

“ผมเกลียดช่างนัย”

ยิ่งคิดบางครั้งเต๋อก็นึกอยากจะร้องไห้   

สิ่งที่ทำก็แค่พยายามหลอกตัวเองไปเรื่อย ๆ

จะเกลียดให้ดู
จะเกลียดช่างนัยทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน จะไม่พูดดีด้วย  จะไม่สนใจ จะไม่มอง 

ไม่ว่ายังไงก็จะไม่รู้สึกอะไรกับช่างนัยทั้งนั้น นอกจาก “เกลียด”

เกลียด  คนที่ผิดสัญญา

ช่างวินัยเงยหน้าขึ้นมองหน้าของเต๋อ  ก่อนจะก้มกลับลงไปสนใจกับผัดไทตรงหน้า

ไม่ใช่ว่าเต๋อไม่เคยพูดแบบนี้

เพราะพูดแบบนี้อยู่บ่อย ๆ ช่างนัยก็เลยคิดว่าจะพยายามชินกับสิ่งที่เต๋อพูด

แล้วจะให้ทำยังไง
โดนเกลียดไปแล้ว  จะไปทำอะไรได้ ไม่ว่ากี่ปีก็ไม่เคยทำอะไรได้
และในเวลานี้ความรู้สึกเดิม ๆ ก็กลับมา   ความรู้สึกที่คล้ายหัวใจเบาโหวงเหวงเหมือนปุยนุ่นเริ่มกลับมาอีกครั้ง

“รู้แล้วว่าเกลียด”

ช่างวินัยพยักหน้าและตอบรับสิ่งที่เต๋อพูด  พยายามทำให้เหตุการณ์ทุกอย่างเป็นปกติ

ทำไมจะไม่รู้ ว่าไอ้เต๋อมันรู้สึกยังไงด้วย แต่ช่างนัยจะไปทำอะไรได้
ดีแล้วที่เกลียด  ช่างนัยจะได้ทำใจได้และพยายามเชื่อต่อไปว่าเต๋อ คือ “น้อง”   ต่อให้น้องมันกวนตีนมันร้าย มันแสดงออกให้รู้ว่าเกลียดขนาดไหน  แต่ในฐานะพี่ชาย  จะให้เกลียดน้องแบบจริงๆ จัง ๆ ใครมันจะไปทำได้

ช่างวินัยลอบถอนหายใจยาว ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาบอกสิ่งที่คิดอยู่ในหัวมาตลอดให้เต๋อได้รับรู้บ้าง

“กูก็ไม่เคยคิด หรือหวังให้มึงมาชอบกูเหมือนกัน”


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน P.8
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 23-01-2015 07:49:54
มาอย่างเศร้าอ่ะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 23-01-2015 07:57:31
โอ้ววววว โนวววว
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน P.8
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 23-01-2015 08:13:29
ดราม่า..
 :hao5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 23-01-2015 08:35:24
น่าสงสารทั้งคู่เลย

 :hao5: :hao5: :hao5:

อย่าเศร้านานไปกว่านี้เลยนะคะ~
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน P.8
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 23-01-2015 08:38:10
อุ้ยๆๆๆพิพัฒน์ทำแบบนั้นแถวบ้านเค้าเรียกอ่อยนะพี่บารมีจะทำไงต่อล่ะนั่น ....เค้าเริ่มหวั่นไหวกันแล้วซินะ  :katai2-1:  :katai2-1: ช่างวินัยกับน้องเต๋อ อย่านึกกันเองแบบนี้  :ling3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน P.8
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 23-01-2015 08:44:02
 มันอัดแน่นอยู่ในใจ
ไม่ใช่ไม่รู้ แต่ทำอะไรไม่ได้
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 23-01-2015 10:25:05
เข้าเข้าใจความรู้สึกเต๋อว่ะ ช่างนัยโตซะป่าว ต่างคนต่างคิดเต๋อคิดแบบของเต๋อ วินัยคิดแบบของตัวเอง เลยทำให้เต๋อเกลียดเพราะวินัยผิดคำพูด วินัยตีคำพูดของเต๋อไม่แตก มันก็เลยเป็นนี้ จากที่คิดว่ามันจะสนุกพออ่านเรื่อยๆแต่ยิ่งอ่านมันกับทำให้เหนื่อยใจ สุดท้ายก็เซ็งเบื่อ เหมือนเด็กๆ ทั้งที่ก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน P.8
เริ่มหัวข้อโดย: แค่ความทรงจำ ที่ 23-01-2015 11:56:31
จะเข้าใจกันไหมละเนี้ย  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 23-01-2015 12:17:56
โอ๊ยยยย ทั้งเศร้า ทั้งหน่วงเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน P.8
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 23-01-2015 13:03:06
หน่วงงงงงงงง สมกับชื่อตอน แล้วเมื่อไหร่จะเข้าใจตรงกันสักที อีกสักตอนดีไหม กิกิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 23-01-2015 14:03:16
อึดอัด. พวกคิดเองเออเอง ปากกะใจไม่ตรงกัน. เข้าใจกันเร็วๆ นะ.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน P.8
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 23-01-2015 14:35:08
ช่างนัยต้องตื๊อต้องง้อเค้าเยอะๆ ถ้าช่างนัยไม่เป็นฝ่ายเข้าหาเต๋อก่อน ดูท่าจะยาก เพราะเต๋อเป็นน้องที่ดื้อ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน P.8
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 23-01-2015 19:13:50
อย่างเศร้า ตกลงคู่นี้เนี่ยดราม่าหลักๆใช่ไหมคะ /ออกจากกระทู้ :katai5:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน P.8
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 23-01-2015 19:41:30
ไม่ชอบ รักไปเลยก็ได้นะช่างนัย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน P.8
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 23-01-2015 20:31:08
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:ต่างคนก็ต่างความคิดจริงๆ
ถ้าพูดออกมาตรงๆทุกอย่างก็คงจะดีกว่านี้
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน P.8
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 23-01-2015 21:52:13
คิดอะไรให้มันยุ่งยากกันจัง รักกันก็พูดกันตรงๆสิคะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดกันอีกครั้ง
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 23-01-2015 22:16:04
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/254_zps35063e71.jpg)

 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย) ตอน กลับมาโอบกอดอีกครั้ง

กินผัดไทเสร็จแล้วก็ต่อด้วยน้ำแข็งใส และต่อด้วย ขนมครก และต่อด้วยสายไหม และต่อด้วย ขนมเบื้อง

“แดกขนาดนี้  ไม่เลียนิ้วเข้าไปด้วยเลยล่ะ”

กำลังจะทำอยู่เหมือนกัน

ไม่ต้องรอให้ช่างวินัยพูดซ้ำ เต๋อจัดการแตะลิ้นไปที่ปลายนิ้วของตัวเองตั้งแต่นิ้วโป้งจนถึงนิ้วก้อยอย่างช้าๆ

มองหน้าของช่างวินัยและส่งยิ้ม ไปให้ ยักคิ้วใส่ช่างวินัยด้วยมาดกวน ๆแต่ทำให้ช่างวินัยถึงกับสะดุดลมหายใจตัวเองจนต้องรีบเมินหน้าหนีไปทางอื่น

ทำแบบนี้มันเกินไปแล้วไอ้เต๋อ
เล่นทำแบบนี้ มันก็เกินไป

“แดกแม่ง”

เต๋อหยิบขนมเบื้องในถุงออกมายัดเข้าปากและเคี้ยวเสียงดังกร๊อบแกร๊บให้ช่างวินัยได้ยินโดยไม่ได้สังเกตอาการของช่างวินัยเลยสักนิด

“เกินสองร้อยไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่”

ช่างวินัยแกล้งบ่นพึมพำและกำลังจะบิดกุญแจเพื่อสตาร์ทรถ

“ช่วยไม่ได้อยากซื้อให้เอง”

ความผิดกูเหรอ

“เห็นว่าเป็นเด็กน้อยตาดำ ๆ หรอกกูถึงเมตตา”

หรา

“เหอะ  ที่จริงจะเม้มเงินแม่ผมไว้ก็บอกมาเถอะ"

ใครจะไปทำอะไรบ้าบอแบบนั้นวะ ที่พูดก็พูดไปอย่างนั้นเอง

ต่อปากต่อคำกันพอประมาณและช่างนัยก็หันมามองหน้าไอ้หนุ่มกวนตีนอย่างเต๋อแบบเต็มๆ ตา

“หรือมึงมีปัญหา”

แน่ล่ะ มีปัญหาอยู่แล้ว

“จะฟ้องแม่เหอะ คนดีของแม่ที่แท้เม้มตังค์”

ปัญญาอ่อนสุด ๆ
ช่างวินัยไม่รู้จะจัดการกับเต๋อยังไงดี  สุดท้ายเลยแย่งถุงขนมเบื้องมาถือเอาไว้และจัดการหยิบขนมเบื้องออกมากินแก้เครียด

เคี้ยวขนมเสียงดังกร๊อบแกร๊บแข่งกับเต๋อ  และเต๋อก็แย่งถุงขนมมาจากช่างวินัย

“ของผมนะ อยากกินทำไมไม่ซื้อเอง”

ช่างวินัยอยากจะเขกหัวไอ้เด็กกวนตีนนี่วันละหลาย ๆ รอบแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าหาเรื่องมันไปเรื่อยๆ

“มึงไปซื้อมาอีกสองถุงซิ ขี้เกียจเดิน ขนมเบื้องอร่อยดี”

ใช่มั้ยล่ะ
แต่ว่านะ..........

“ไม่เห็นจะอร่อยตรงไหน  ป้าที่ขายตอนงานวัดทุกปีตอนผมเด็กๆ แล้วเราไปซื้อด้วยกัน ทำอร่อยกว่านี้ตั้งเยอะ”

เต๋อก็แค่ยกตัวอย่างขึ้นมาลอย ๆ และเมื่อพูดแล้วถึงเพิ่งนึกขึ้นได้

หันไปมองหน้าของช่างวินัยและก็เห็นว่าช่างวินัยชะงักนิ่งค้างไปชั่วขณะ

“...............”

นั่นสินะ
ตอนเด็ก ๆ ที่ไปซื้อด้วยกัน
อร่อยกว่านี้.......ตั้งเยอะจริง ๆ ด้วยนะ
อร่อยกว่านี้..........ตั้งเยอะ.....

“ก็......จริง”

ช่างวินัยพยักหน้าตาม และถอนหายใจออกมายาว ๆ

“ถึงเจ้านี้มันจะไม่อร่อยก็เถอะ เดี๋ยวเดินไปซื้อเองก็ได้    เอามั้ยคนละถุงมาแบ่งกัน”

เรื่องอร่อย หรือไม่อร่อยไม่ใช่ประเด็นที่ต้องคิดตอนนี้แล้ว

เพราะบางทีมันอาจเป็นประเด็นอื่นที่น่าสนใจกว่าและมันก็คอยกัดกินใจเราสองคนมาตลอด

ช่างวินัยเปิดประตูรถและก้าวขาลงจากรถและเต๋อก็เปิดประตูฝั่งของตัวเองและเดินลงมาด้วย

“ไปด้วย”

เดินตามช่างวินัยที่ก้าวขาเดินลิ่ว ๆเข้าไปในบริเวณงานที่มีร้านขายขนมและของเล่นและมาหยุดที่ร้านขายขนมเบื้อง ซื้อใส่ถุงมาอีกสองถุงและเดินกลับมาที่รถโดยมีเต๋อวิ่งตาม

วิ่งตาม........เหมือนตอนเด็ก ๆ

“พี่นัย รอด้วย พี่นัย พี่นัย”

ช่างวินัยหันกลับไปมองและคล้ายได้ยินเสียงแว่ว ๆ ในความรู้สึก

เพียงแต่ภาพที่เห็นมันไม่ใช่เด็กชายตัวเล็กผอมกะหร่องเหมือนที่เคย แต่กลายเป็นชายหนุ่มผิวขาว และมีใบหน้าน่ามองที่กำลังก้าวขาตามมาเรื่อย ๆ

เสียงพลุดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อกำลังจะถึงรถ

ท้องฟ้าสีดำแต่งแต้มไปด้วย สีสันจากพลุหลากสีที่ถูกจุดขึ้นไป

เต๋อเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ประดับประดาไปด้วยสีสันที่เปล่งประกายคล้ายดอกไม้หลากสี บนท้องฟ้าในยามค่ำคืน

“โห”

เด็กชายเต๋อตัวเล็กผอมกะหร่องเงยหน้าขึ้นมองพลุที่ถูกจุดบนฟ้า  ตื่นตาตื่นใจกับภาพที่เห็นและยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

และเต๋อคนที่อยู่กับช่างวินัยตอนนี้ก็....เงยหน้าขึ้นมองพลุหลากสีและยิ้มกว้างอย่างมีความสุขไม่ต่างกัน

“โคตรสวยเลยพี่นัย”

ใช่

สวย

พลุบนท้องฟ้าเปล่งประกายระยิบระยับ และดวงตาของคนที่เงยหน้าขึ้นมองก็ระยิบระยับวับวาวสวยจนช่างวินัยต้องนิ่งมอง

........พี่นัยเหรอ...........พี่นัย.....เมื่อกี้เต๋อมันเรียกว่า พี่นัย.....จะเพราะว่าเผลอหรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ แต่เต๋อมันยอมเรียกว่า "พี่นัย" เหมือนตอนนั้น ตอนที่เรายังเป็นแค่เด็ก  เหมือนวันเวลาเก่า ๆ ย้อนกลับมาอีกครั้ง

ช่างวินัยส่งยิ้มให้กับคนที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังตื่นเต้นกับพลุสวย ๆเสมอ  ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนที่ยังเป็นเด็ก

เต๋อยังคงชี้นิ้วไปที่พลุบนท้องฟ้าอย่างตื่นตาตื่นใจ  แต่ช่างวินัยก้าวขามาหยุดยืนอยู่ใกล้ ๆเต๋อและยกมือขึ้นแตะเบา ๆ ที่เส้นผมของเต๋อ

แตะเบา ๆ
และเต๋อก็ก้มกลับลงมามองไปที่ใบหน้าและดวงตาของช่างวินัย  จ้องนิ่งไปที่ดวงตาของช่างวินัยด้วยความรู้สึกหลากหลาย

อยากจะถาม  อยากรู้  สงสัย ไม่เข้าใจมีแต่เรื่องที่อยากรู้เต็มไปหมดแต่ยังไม่ทันได้ถาม

ช่างวินัยรีบดึงมือกลับและหันหลังเดินหนีไปดื้อ ๆปล่อยให้เต๋อยืนงงและถึงกับต้องแตะฝ่ามือไปที่อกข้างซ้ายของตัวเองเมื่อรู้สึกถึงเสียงหัวใจที่กำลังเต้นระทึกจนเหมือนมันจะกระเด็นหลุดออกมาจากอก

พลุถูกจุดหมดแล้ว

และทั้งเต๋อและช่างวินัยก็กลับมาอยู่ในรถด้วยกัน

ไม่มีอะไรจะพูด
ไม่มีคำพูดใด ๆ ระหว่างคนสองคน

มีเพียงความเงียบงัน
ตั้งแต่ออกจากบริวเวณงาน เต๋อไม่มีอะไรจะพูด

ได้แต่หุบปากเงียบ

จนเมื่อรถมาจอดที่หน้าบ้าน เต๋อก็รีบปลดเข็มขัดนิรภัยออกและกำลังจะลงจากรถเพราะกำลังจะทนต่อความอึดอัดใจครั้งนี้ไม่ไหว

“อย่าลืมขนม”

ขนม.....
เออใช่ ขนม
กลับเข้ามาในรถอีกครั้งและยื่นมือไปหยิบถุงขนมที่ช่างวินัยส่งให้

แค่ปลายนิ้วสัมผัสกันเบา ๆ
เต๋อกลับรู้สึกคล้ายกระแสไฟอ่อน ๆ กำลังวิ่งพล่านไปทั่วร่าง
เรื่องทุกอย่างที่เก็บสะสมเอาไว้ในใจมันมากเกินไปและกำลังล้นทะลักออกมา  ไม่รู้ว่าทำไมต้องทนเก็บกักความรู้สึกเอาไว้ขนาดนี้

ไม่คิดจะทนอะไรอีกแล้ว  ครั้งนี้ดูเหมือนความอดทนตลอดมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว

เต๋อไม่ได้รับถุงขนมเอาไว้ แต่ข้อมือถูกกระตุกจนเสียหลัก และเต๋อก็เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของช่างวินัย

อยากจะถามว่าทำไมต้องดึงแขนกันด้วย
แต่ก็เท่านั้น เมื่อคำถามทั้งหมดถูกกลืนหายไปพร้อมกับการที่ริมฝีปากถูกกดแนบประทับรุนแรงจากริมฝีปากร้อนผะผ่าวของช่างวินัยที่แนบสัมผัสบดเบียดลงมาอย่างรวดเร็วโดยไม่เปิดโอกาสให้ตั้งตัว

ใบหน้าชาวูบ และร่างกายคล้ายหมดความรู้สึกไปชั่วขณะ

เต๋อได้แต่ร่ำร้องอยู่ภายในใจ แต่เปล่งเสียงออกมาไม่ได้

และเมื่อช่างวินัยทำทุกอย่างอย่างที่อยากทำจนพอใจแล้วถึงได้ยอมปล่อยให้เต๋อเป็นอิสระและเต๋อก็ได้แต่หอบหายใจหนัก ๆ  และยกหลังมือขึ้นขัดถูริมฝีปากของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ท่าทางร้อนรนไม่เป็นตัวของตัวเอง
ใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ และแม้ไม่ต้องมองให้ชัดก็รู้ว่าทั้งเนื้อทั้งตัวของเต๋อกำลังสั่น

ถ้าจะบอกว่าไม่รู้จักสำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำช่างนัยก็ยอมรับ

และไม่ใช่แค่ยอมรับแต่ช่างวินัยยังรั้งร่างของเต๋อเข้ามากอดเอาไว้อีกครั้งแม้จะถูกผลักไส

กอดเอาไว้แน่น
กอดและลูบทั้งไหล่ทั้งหลังของเต๋อเบา ๆ เพื่อปลอบโยน

เรื่องบ้าอะไรไม่รู้
จะเรื่องบ้าบอคอแตกอะไรก็ช่างเถอะ ตอนนี้ไม่คิดจะอยากนึกหรือสนใจอะไรแล้ว

“เป็นอะไร ทำไมสั่นขนาดนี้ กลัวพี่เหรอ”

เป็นอะไร
เป็นอะไร.............
เป็นเหี้ยอะไร กูจะรู้มั้ย  ไม่รู้หรอกโว้ยยยว่าตัวเองกำลังเป็นอะไรไปแล้ว

ไม่รู้อะไรทั้งนั้น

เต๋อพยายามดิ้นรนอยู่ภายในอ้อมแขนของช่างวินัยอีกครั้ง  แต่มันก็ไร้ผล และยิ่งดิ้นก็ดูเหมือนจะไร้เรี่ยวแรงลงทุกที

จนกระทั่งเมื่อปลายจมูกโด่งเริ่มซุกไซร้เบา ๆ เข้าที่ซอกคออย่างเอาแต่ใจ คราวนี้ทั้งเหตุผลทั้งความนึกคิดทั้งคำถามและไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม  ที่อยู่ในหัว  ค่อย ๆ จางหายไปอย่างช้า ๆ

แขนทั้งสองข้าง ตกลงข้างตัว
เรี่ยวแรงที่คิดจะต่อต้านไม่หลงเหลือ

เต๋อปล่อยให้ช่างนัยทำอะไรก็ได้ตามต้องการ

ไม่อยากคิดและไม่อยากจะรับรู้อะไรอีก  ไม่ต้องการรับรู้อะไรทั้งนั้น

ไม่อยากรู้แม้กระทั่งว่าร่างกายกำลังถูกทำอะไรอยู่บ้าง

เต๋อไม่ต้องการรับรู้ ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 23-01-2015 22:31:52
เต๋ออย่าโกรธช่างนัยน้าา~ รักกันไว้ดีกว่า.
แง่ม!  :z13:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 23-01-2015 22:34:31
มาต่อเถอะ
อ๊ากกก เต๋อจะเสร็จช่างนัยป่ะเนี่ย?
 :katai1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-01-2015 22:36:28
เต๋อรักช่างวินัยมาตั้งแต่เด็กสินะ ส่วนช่างวินัยพึ่งมารู้เอาตอนนี้
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 23-01-2015 22:58:57
.... >\\\\<  ช่างนัย..  ขอบคุณคนเขียน  :sad4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 23-01-2015 23:03:14
มันเก็บไว้ไม่อยู่แล้ว ทำตามหัวใจบ้างก็ดี
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 23-01-2015 23:09:24
ไม่ใช่ว่าพอสติกลับมา น้องเต๋อชกพี่นัยหน้าแหก 5555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 24-01-2015 00:42:57
พี่นัยรุกแล้ววว น้องเต๋อเตรียมใจนะจ๊ะ งานนี้..หนักแน่ ฮาาา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 24-01-2015 02:49:42
คำว่ารัก บางทีก็พูดออกมาลำบาก

 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 24-01-2015 07:24:45
พี่น้องไม่จริงคู่นี้นี่
ต่างคนต่างรักกันสินะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 24-01-2015 07:46:17
แดกแม่ง... เชิญเลยจร้าาาา กี๊ดดด!!!เต๋อน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 24-01-2015 09:25:46
ค่อยๆๆรักกันเบาๆๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: windel ที่ 24-01-2015 10:29:57
พี่บัสกับพัฒน์นี่น่ารักจริงๆเลย

มาลงต่อนะคะ ลุ้นช่างนัยกับเต๋อมากตอนนี้ //กรีดร้อง  :katai1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 24-01-2015 11:06:15
เห้ยยยยย งี้แหล่ะ แค่นี้แหล่ะทำตามใจซะบ้าง  แต่.....ค้างงงงงง  อ๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 24-01-2015 13:32:04
 :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 24-01-2015 15:03:51
เอาสะงั้น เสดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: แค่ความทรงจำ ที่ 24-01-2015 17:00:52
ลุ้นๆ
 เต๋อจะทำยังไง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: nimami ที่ 24-01-2015 18:12:32
ยังไงต่อล่ะค่ะเนี๊ย :serius2:


หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 24-01-2015 22:53:59
ค้างคาที่สุด รอตอนต่อไปนะจ๊ะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 25-01-2015 01:12:53
 :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน กลับมากอดอีกครั้ง P.8
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 25-01-2015 06:26:48
ให้ช่างนัยทำได้ตามที่ต้องการเลยจ้า  :hao6:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 25-01-2015 16:54:42
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน ไม่เคยลืม


“พี่พัฒน์  เฮียให้มาตาม”

“เดี๋ยวไป”

“พี่พัฒน์ เฮียบอกว่าเลิกเล่นได้แล้ว”

“เออ เออ”

“พี่พัฒน์  เฮียบอกว่าถ้าไม่เลิกเล่นเฮียจะให้กลับเอง”

“แป๊บ”

“พี่พัฒน์  เฮียบอกว่า เชิญเล่นตามสบายเลย”

“เอ่อ........”

ก็รู้ว่าบารมีให้เด็กมาตามหลายรอบแล้ว  แต่อีกนิดเดียวเอง   อีกนิดเดียวเอง   อีกนิดเดียวเอง   และ.........อีกนิด.....เดียว........

“.....................”

ใครบางคนมายืนกอดอกอยู่ข้างสนาม และเมื่อพิพัฒน์เหลือบสายตาไปเห็นก็ถึงกับพูดไม่ออกหน้าตาแบบนี้  ท่าทางแบบนี้  มีอารมณ์เดียวเท่านั้น

“ไอ้พัฒน์”

พิพัฒน์หยุดเล่นทันที  แตะมือกับเพื่อนร่วมทีมเรียบร้อยและวิ่งออกจากสนาม มาหาบารมี

“นี่มึงอยู่ทีมถอดเสื้อเหรอ  ไม่แก้ผ้าเล่นเลยล่ะถ้ามึงจะพับขากางเกงขึ้นขนาดนี้   กูว่าวันหลังมึงแก้ผ้าเล่นเลย  สะดวกกว่าใส่เสื้อผ้าเล่นเยอะ  เชื่อกู”

ประชดประชันด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกให้รู้ว่าไม่พอใจอย่างรุนแรง และพิพัฒน์ก็หยิบเสื้อที่ถอดทิ้งไว้ข้างสนามมาพาดไว้บนบ่าและเดินตามบารมี

“เล่นต่อก็ได้นะ มึงจะไปแข่งโอลิมปิคไม่ใช่หรือไง”

พิพัฒน์ไม่ตอบ  แต่วิ่งตามบารมีที่เดินนำหน้าบารมีด่าพิพัฒน์ไปตลอดทางแต่พิพัฒน์ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา

“นี่มึงมาเตะตะกร้อ จนกลายเป็นฟุตซอลตั้งแต่เมื่อไหร่ กูถามจริงเถอะ มึงมาทำงานทุกวันเนี่ยใจมึงอยู่ที่งานหรือใจมึงมาอยู่ที่สนามแล้ว วันหลังมึงหอบเสื้อผ้าเอาเต็นท์มากางนอนข้างสนามเลย”

บารมียังคงด่าไม่เลิกแต่พิพัฒน์วิ่งเหยาะ ๆ อยู่ข้าง ๆ บารมีและตั้งใจฟังบารมีด่าเป็นอย่างดี

“มึงจะวิ่งหาพระแสงอะไรของมึงเนี่ยไอ้พัฒน์

กวนตีนกูอยู่ใช่มั้ย”

ตะคอกคนที่วิ่งอยู่ข้าง ๆ  และพิพัฒน์ก็เลยวิ่งเลยบารมีไป

“แวะเก็บหญ้าให้กระต่ายก่อน”

หันกลับมาบอกคนที่เดินหน้าเครียดและบารมีก็ได้แต่อ้าปากค้างหลังได้ฟังคำพูดนั้นของพิพัฒน์
สนใจกูบ้าง  กูอุตส่าห์ถ่อมาตามมึงเลยนะ  สนใจกูพูดบ้างสิโว้ยยยยยยยยยยย

“ไอ้พัฒน์  มึงนี่......... แม่ง....โว้ยยยยย”

ได้แต่ด่า ได้แต่หัวเสีย ได้แต่หงุดหงิด ได้แต่โวยวายได้แต่โมโห  ได้แต่ประสาทไปคนเดียว ส่วนไอ้ตัวก่อเหตุ  มึงนั่งถอนหญ้าขนเฉ้ยยยย 

บารมีโมโหจนเกินจะพูดอะไรได้อีก กระฟัดกระเฟียดเดินกลับอู่   และไม่ถึงห้านาทีพิพัฒน์ก็วิ่งตามมาพร้อมกับหญ้าขน

“พี่บัส”

เรียกหาพ่อง เหรอ

“อะไร”  น้ำเสียงที่แข็งกร้าวของบารมีทำให้พิพัฒน์ชะงักนิ่งไปชั่วขณะ  และบารมีก็มองหน้าของพิพัฒน์ด้วยความหงุดหงิดใจ

“.....................”

พิพัฒน์ไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่ทำหน้าหงอย ๆ และเดินเลี่ยงไปข้างอู่  ไปนั่งอยู่หน้ากรงกระต่ายและบารมีก็ได้แต่ถอนหายใจยาว ๆ กับพฤติกรรมที่อีกฝ่ายแสดงออกให้เห็น

มันงอนหรือมันอะไรของมันวะ  ท่าทางแบบนั้นคืออะไร

บารมีเดินเข้าไปในออฟฟิศและทิ้งกายลงนั่งอยู่บนเก้าอี้

เกือบหนึ่งทุ่มแล้ว และบารมีก็รอให้คนที่ไปเฝ้ากระต่ายรีบ ๆกลับมาซะที  แต่พิพัฒน์ก็ยังไม่ยอมกลับมา

“นี่ตกลงกูต้องไปตามอีกรอบใช่มั้ย นานไปแล้วไอ้ห่านี่  แม่ง”

บารมีลุกขึ้นและเดินไปหาพิพัฒน์ที่นั่งอยู่ข้างกรงกระต่าย

“ไอ้พัฒน์”

พิพัฒน์หันไปมองตามเสียงเรียก และเมื่อเห็นว่าเป็นบารมีที่ออกมาตาม ก็เลยต้องรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว

“กลับบ้าน”

“.....................”

พิพัฒน์ไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่เดินตามหลังบารมีไปขึ้นรถ

“......................”

“พี่บัส”

เรียกคนที่เงียบจนผิดปกติ และบารมีก็เหลือบสายตามองเพียงเล็กน้อย ก่อนจะทำเป็นสนใจอยู่กับการมองถนนและพิพัฒน์ก็เลยไม่กล้าจะพูดอะไรต่อ

“เพิ่งหายไข้ ก็เอาเลยใช่มั้ยไอ้พัฒน์ หยุดเล่นไม่ได้เลยเหรอตะกร้อเนี่ย  ไม่คิดจะสนใจห่วงตัวเองเลยเนอะ.......คนที่ห่วงมึงก็ห่วงไปเนอะ......กูพูดนี่ไม่ต้องฟังหรอก เพราะคำพูดกูมันไม่มีความหมายให้ต้องสนใจ”

บารมีพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่มีวี่แววของความหงุดหงิดโมโหให้เห็นอีก  และพิพัฒน์ก็นิ่งฟังเงียบ ๆ โดยไม่ได้ปริปาก

คนสองคนไม่ได้คุยกันอีก    นิ่งเงียบแบบนั้นทั้งคู่ไปตลอดทาง และเมื่อถึงบ้าน พิพัฒน์ก็หิ้วปิ่นโตเข้าบ้านเหมือนทุกวันแต่บารมีเดินหนีขึ้นห้องไปแล้ว โดยมีพิพัฒน์มองตามและถอนหายใจ

วางปิ่นโตไว้บนโต๊ะอาหาร และไม่แน่ใจว่าควรเตรียมอาหารเย็นหรือเปล่า

ปกติบารมีเป็นคนโกรธง่าย โมโหง่ายไม่พอใจก็แสดงให้เห็นว่าไม่พอใจ
แต่วันนี้บารมีโกรธและแสดงออกด้วยการเงียบ  พิพัฒน์เลยไม่รู้จะทำตัวยังไง
เดินขึ้นบันไดไปที่ห้องบารมีและทำใจอยู่นานก่อนจะตะโกนบอกบางอย่างกับคนในห้อง

“พี่บัส  กินข้าวเลยมั้ย”

ถามแล้ว แต่ได้รับเพียงความเงียบเป็นคำตอบ  พิพัฒน์ก็เลยได้แต่ยืนหน้าจ๋อยอยู่หน้าห้อง

โดนโกรธจริง ๆ แล้ว
พิพัฒน์ไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่เดินคอตกเข้าห้องตัวเอง ถอดเสื้อผ้าโยนทิ้งไว้บนเตียงและเดินไปอาบน้ำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นมาบ้าง

ไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไงถึงจะดี
ไม่รู้ว่าควรทำยังไงถึงจะทำให้บารมีหายโกรธ
ไม่รู้ว่าควรทำยังไง.......
พิพัฒน์ไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะทำยังไงต่อไป

++++++++++++++++++++++++++++++

“พัฒน์”

เสียงเรียกจากหน้าห้องทำให้พิพัฒน์รีบลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูทันทีและบารมีก็ยืนหน้าบึ้งอยู่หน้าห้อง

“ทำไมมึงไม่เตรียมข้าว”

ได้ฟังแค่นั้นพิพัฒน์ก็รีบวิ่งลงบันไดไปที่ครัว  โดยมีบารมีเดินตาม

อาหารในปิ่นโตถูกเตรียมอยู่บนโต๊ะอาหาร และพิพัฒน์ก็รินน้ำใส่แก้วให้คนที่ยังโกรธ

บารมีนั่งลงบนเก้าอี้ และตักข้าวกินเงียบ ๆโดยมีพิพัฒน์ลอบมองอยู่ตลอดเวลา

“มองทำไม  หน้ากูไม่ใช่กับข้าวมองอยู่ได้”

โดนด่าเพราะมัวแต่จ้องหน้าของบารมีไม่เลิกและพิพัฒน์ก็เลยหลบตาตั้งหน้าตั้งตากินข้าวไปโดยไม่กล้ามองบารมีอีก
และเมื่อกินข้าวเสร็จ บารมีก็ลุกจากเก้าอี้ไปเปิดรายการข่าวและนั่งดูเหมือนทุกวัน

พิพัฒน์เก็บจานอาหารทำความสะอาดเรียบร้อยและเดินมานั่งอยู่ข้าง ๆคนที่ไม่ยอมคุยด้วย

“พี่บัส”

หันไปมองหน้าของคนเรียก และบารมีก็มองหน้าของพิพัฒน์นิ่ง ๆ

“มึงจะต้องให้กูชี้แจงมั้ยว่ากูโกรธมึงเรื่องอะไร บ้าง  แต่อย่าเลยดีกว่าพัฒน์   กูเหนื่อย กูไม่อยากจะด่ามึงแล้ว มึงอยากทำอะไรมึงทำเลยพัฒน์  แล้วแต่มึงเลยตามสบาย”

พิพัฒน์ก้มหน้าลง และไม่กล้าถามอะไรบารมีอีก  ได้แต่นั่งอยู่ข้าง ๆบารมีและเหลือบสายตามองคนที่ยังโกรธไม่หาย

ก็รู้ว่าผิด   ก็รู้ว่าโอ้เอ้เฉื่อยชา   ก็รู้ว่า....

“พี่บัส....”

เรียกคนที่นิ่งเฉย และพิพัฒน์ก็ขยับเข้ามานั่งข้าง ๆบารมีและดึงหน้าบารมีให้หันมามองกันตรง ๆ

“อะไรของมึงเนี่ยพัฒน์ มึงจะมาดึงหน้ากูทำไมวะ”

ถึงจะพูดแบบนั้น แต่บารมีก็ยอมหันมามอง

“ทำไม”
“.................”
“.................”
“.................”
“................”

พิพัฒน์เป็นฝ่ายมองตาของบารมี มองนิ่ง ๆ และบารมีก็จ้องตาของพิพัฒน์กลับโดยไม่มีการยอมแพ้

อยู่ด้วยกันทุกวัน ใช้ชีวิตด้วยกันตลอดเวลา ความรู้สึกที่มีให้กัน มันมากมายเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งนานแล้ว

พิพัฒน์รีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เมื่อสัมผัสได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกบางอย่างที่ผิดแปลกไปจากทุกวันของบารมี

“ไอ้พัฒน์”

บารมีคว้าแขนของพิพัฒน์เอาไว้ ก่อนที่พิพัฒน์จะออกห่างไปมากกว่านี้และพิพัฒน์ก็รีบดึงมือบารมีออก

“ทำไมพัฒน์”

พิพัฒน์ขบริมฝีปากแน่นและขืนตัวเองเอาไว้ไม่ให้เข้าใกล้กันมากไปกว่านี้  แต่บารมีไม่ยอมปล่อย  และยังรั้งเอวของพิพัฒน์ให้เข้ามาหาจนร่างกายแนบชิดกันมากขึ้น

“.................”

“พัฒน์”

บารมีจ้องหน้าของพิพัฒน์นิ่ง ๆ  และพิพัฒน์ก็พยายามจะเมินมองไปทางอื่น ไม่กล้าสบตากับบารมีตรงๆ

“พัฒน์”

“......................”

“มึงมองหน้ากูตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว ตอนนี้กูก็มองหน้ามึงกลับบ้างไง อยากให้มองไม่ใช่เหรอ ก็นี่ไงก็มองแล้ว อยากให้มองขนาดไหนก็มองแล้วนี่ไง”

บารมียังคงจ้องหน้าของพิพัฒน์นิ่ง ๆ และพิพัฒน์ก็ค่อยๆ  หันหน้ามามองหน้าของบารมีตรง ๆ บ้าง  จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของบารมีเหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง และประคองใบหน้าของบารมีเอาไว้

“......................”
“......................”
“......................”
“......................”

ดวงตาสองคู่สบกันนิ่ง และคล้ายมีแรงดึงดูดเข้าหากัน

พิพัฒน์ก้มหน้าลงมาหา และแตะริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากของบารมีเบา ๆก่อนจะผละออกห่าง และเห็นภาพของใครบางคนซ้อนทับกับใบหน้าของคนที่อยู่ตรงหน้า

“...ปา....”

พิพัฒน์เรียกชื่อคนอื่นที่บารมีไม่ต้องการได้ยิน ด้วยน้ำเสียงแผ่วโหยและกดปลายจมูกลงที่ข้างแก้มของบารมีแต่บารมีชะงักนิ่งค้าง และหยุดพิพัฒน์เอาไว้ ด้วยการยกมือขึ้นปิดตาของพิพัฒน์และพูดบางอย่างให้พิพัฒน์เข้าใจ

“ปามันไม่ได้อยู่กับมึงตั้งนานแล้วพัฒน์   คนที่อยู่กับมึงตอนนี้คือกู  แล้วถ้าใจมึงยังเอาแต่โหยหาถึงแต่คนอื่นต่อหน้ากูอยู่แบบนี้........กูจะทำให้มึงลืมทุกอย่างให้หมดเอง”


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 25-01-2015 18:20:56
โฮ้ยยยยยย เฮียบัส รีบๆทำให้ลืมเร็วๆเถ้อะ  :z1:  :z1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: sine_saki ที่ 25-01-2015 18:42:19
ทำไงให้ลืมเหรอพี่บัส
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 25-01-2015 19:12:32
พี่บัสจะทำอะไรให้พัฒน์ลืมปา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 25-01-2015 20:11:02
พี่บัสจัดไป พัฒน์มันจะได้เลิกซึนซะที :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 25-01-2015 20:17:41
จัดเลยๆๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 25-01-2015 20:32:32
จัดให้หนักเลยเฮียบัส..
 :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: khuan ที่ 25-01-2015 20:37:01
พัฒน์  หนูจะพูดอัลไรค๊าาาาาาา  อีพี่บัสมันเข้าใจผิดเเว๊วววววววว :ling3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 25-01-2015 20:47:57
เฮียบัส จัดหนักเลยพี่ >__<
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 25-01-2015 20:48:41
พี่บัส พี่จะใช้วิธีไหนหรอที่จะให้พัฒน์ลืมปาอ่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 25-01-2015 20:59:13
นั่นสิ นั่นสิ วิธีใหนนะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 25-01-2015 21:00:04
พี่บัสพูดแบบนี้ จับพัฒน์กดเย้ยยย อิอื
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 25-01-2015 21:14:51
 :z2:เชียร์พี่บัส ช่วยน้องด้วยนะพี่
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 25-01-2015 21:20:36
พัฒน์แกล่งยั่วโมโหเฮียช่ายไหม 555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 25-01-2015 21:37:33
จนป่านนี้จะไปเหลือปาได้ไง มีแต่พี่บัสเท่านั้นแหละ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 25-01-2015 22:10:31
โว้ยยย! *ขยี้ผมตัวเอง*  :serius2: อึดอัดแทนพี่บัสสสส.พัตน์หนูต้องการอะไรจากสังคมคะลูก.หืม? จัดหนักเลยพี่บัส!!  :katai1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-01-2015 23:17:05
จะทำไงพัฒน์ลืมปาดีล่ะคะพี่บัส หุหุ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 26-01-2015 00:17:46
มองเห็นเฮียเป็นปาเหรอ บ...บ้าสิ้นดี ทำยังไงล่ะเฮีย... รอๆๆๆๆวิธีทำให้ลืม หึหึหึ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 26-01-2015 00:45:07
 :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 26-01-2015 01:55:49
#ทีมพี่บัส เอาให้น้องหายซึนเลยค่ะ เฮ้อ ช้ำเนอะ ไม่บืมปาสักที
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 26-01-2015 02:10:41
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด พึ่งเห็นเรื่องใหม่
มารอลุ้นด้วยคน น้องเต๋อน่ารัก น่ากิน มาก ๆ อ่ะ
อยากได้ ๆๆๆๆๆๆ  :z1: ฟินนนนนนนน 
เท็นจังน่ารักที่สุด  :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 26-01-2015 03:54:23
สรุปใครรุก ใครรับคะดนี่ยน้องงงไปหมดแล้ว :katai4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 26-01-2015 10:25:40
จัดเลยค่ะพี่บัส รอนานล่ะ ห๊ะ!!!
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 26-01-2015 12:58:20
เฮ้อแบบนี้นานๆมันก็ปวดหัวนะ ทำให้เบื่ออ่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 26-01-2015 13:34:51
 :katai1: :katai4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 26-01-2015 14:54:55
พี่บัสช่วยทำให้น้องลืมที
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-01-2015 15:29:52
จะทำอย่างไรใหลืม
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-01-2015 15:31:12
จะทำอย่างไรให้ลืืม
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: แค่ความทรงจำ ที่ 26-01-2015 16:38:26
 :katai1: :ling1:

พี่บัสจะทำอะไร???

ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ไม่เคยลืม P.9
เริ่มหัวข้อโดย: windel ที่ 26-01-2015 17:14:01
โอ้ย อยากอ่านตอนต่อไปแบบสุด
ลุ้นมากค่ะ  :ling1:
พัฒน์อ่ะ //ค้อนใส่สามวง  :a14: :a14: :a14:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 26-01-2015 17:41:53
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/254_zps35063e71.jpg)

 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย) ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ


เต๋อเดินตามช่างวินัยเข้ามาในบ้าน ที่จริงแล้วจะเรียกว่าเดินตามก็คงไม่ใช่ เพราะช่างนัยดึงข้อมือของเต๋อให้เดินตามเข้ามาในบ้าน กึ่งวิ่งกึ่งเดิน สลัดรองเท้าทิ้งแทบไม่ทัน ผ่านห้องครัว ผ่านส่วนที่แบ่งเอาไว้สำหรับนั่งพักผ่อน

และสุดท้ายประตูห้องนอนก็เปิดออก พร้อมกับไฟในห้องที่สว่างขึ้น

เต๋อนั่งลงบนเตียง และช่างวินัยก็นั่งจ้องหน้าของเต๋อในระยะประชิด ดวงตาสองคู่สบกันนิ่ง หลายครั้งที่เต๋ออยากจะลุกขึ้นและเดินหนีไปให้พ้น ๆ แต่ไม่ว่ากี่ครั้งก็ทำอย่างใจไม่ได้

ฝ่ามืออุ่น ๆ ประคองที่ข้างแก้มขาว สัมผัสแผ่วเบา และริมฝีปากร้อนผ่าวก็ประทับลงที่หน้าผากของเต๋ออย่างช้า ๆ

เพียงสัมผัสเล็ก ๆ แต่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย

เรารักกันตั้งนานแล้ว
เราต่างมีความรู้สึกดี ๆ ให้กันนานแล้ว แต่เราเก็บมันเอาไว้เงียบ ๆ พยายามเก็บงำความรู้สึกของเราเอาไว้ตลอดมา

ไม่เคยเปิดเผย ไม่เคยแสดงความรู้สึก พยายามปกปิด เก็บซ่อนเอาไว้อย่างนั้น

นาน
เนิ่นนานเกินไป
และเมื่อถึงวันที่ความอดทนสิ้นสุด เหตุผลต่างๆ ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป

เต๋อก้มหน้าลงแตะหน้าผากที่ไหล่กว้าง ขบริมฝีปากแน่น และไร้คำพูด

ฝ่ามือสองข้างถูกดึงไปกุมเอาไว้แน่นและช่างวินัยก็จูบเบา ๆ ที่หลังมือเย็นชื้นของเต๋อ

เราทะเลาะกันเป็นประจำ ที่จริงก็เพียงเพื่อให้มีเวลาได้พูดคุยกันบ้าง ได้อยู่ด้วยกันอีกสักนิด ได้มองกันอยู่เงียบๆ ในมุมของตัวเอง

แต่ไม่สำคัญเลย
ไม่สำคัญอีกแล้ว

เมื่อผ่านมาถึงวันนี้ ช่างวินัยไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้ปล่อยเวลาที่มีค่าทิ้งไปง่าย ๆ อยู่นาน

เราควรได้กอดกันแบบนี้มาตั้งนานแล้ว
เราควรได้โอบกอดและแสดงความรู้สึกระหว่างกันแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แล้วทำไมเราถึงเพิ่งมาทำ

ที่จริงก็น่าจะดูออกตั้งนานแล้วว่าเต๋อมันคิดยังไงด้วย
แต่ไม่เคยแน่ใจ
ไม่เคยมั่นใจ
และไม่เคยพยายามที่จะสำรวจหัวใจของตัวเองให้แน่ชัด
จนถึงวันที่ ภาพเหตุการณ์ในวัยเด็กซ้อนทับขึ้นมา ความทรงจำที่เราเคยมีระหว่างกันมันก็ชัดเจนขึ้นอีกครั้ง

เราไม่เคยโกรธกันเลย
และเราไม่เคยลืมความรู้สึกที่มีให้กันตลอดมา
ช่างวินัยซุกไซร้ปลายจมูกเบา ๆ ที่ซอกคอของเต๋อ
ปลุกเร้าอารมณ์ให้รู้สึกไปด้วยกัน

กระดุมเสื้อถูกปลดออกอย่างช้า ๆ และเต๋อยังคงซบใบหน้าอยู่กับลาดไหล่ของช่างวินัยอยู่อย่างนั้น

ฝ่ามืออุ่น ๆ ลากไล้เรื่อยสัมผัสแผ่วเบาไปที่ยอดอก ลูบไล้เล่นและปลดเสื้อของเต๋อออก

ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า และเริ่มร้อนระอุขึ้น เพราะริมฝีปากร้อนผ่าวที่แตะต้องสัมผัสไปทั่วตั้งแต่ซอกคอขาวลงมาที่ลาดไหล่เรื่อยลงไปถึงยอดอก

“อือ”

น้ำเสียงครางเครือในลำคอ ยิ่งทำให้ช่างวินัยหยุดความรู้สึกเอาไว้ไม่อยู่ สอดฝ่ามือลากไล้เข้าไปในกางเกงของเต๋อและแตะต้องสัมผัสกับส่วนบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ภายในกางเกงที่เริ่มขยายตัวขึ้น

ริมฝีปากบางถูกขบเม้มดูดกลืนปรนเปรอความรู้สึกให้

ร่างกายเอนลงบนฟูกนอนอย่างช้า ๆ
เสื้อที่ช่างวินัยสวมอยู่ถูกถอดออกและโยนทิ้งไว้ข้างเตียง

ร่างสองร่างบดเบียดเข้าหากัน และต่างก็แสดงความรู้สึกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ว่าพร้อมจะมอบความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ภายในใจมานานให้กันและกันมากขนาดไหน

“อือ”

ดวงตาของเต๋อ ดูเลื่อนลอย และคล้ายแยกไม่ออกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริงหรือความฝัน สบตากับดวงตาคมที่มองมาด้วยความรู้สึกหลากหลายแล้วเต๋อก็ได้แต่กระพริบตามอง

จริงหรือฝัน
หรือแท้จริงนี่คือการฝันไป
มันจะเป็นไปได้ยังไง ที่ช่างวินัยมาทำอย่างนี้ด้วย
หรือว่าจริง ๆ แล้วนี่คือความฝัน

เต๋อขมวดคิ้วมุ่น
และมองหน้าช่างวินัยเหมือนไม่เชื่อกับสิ่งที่ตาเห็น และร่างกายกำลังรู้สึก

สมองมึนงงเพราะรสชาติหวาน ๆ จากปลายลิ้นที่ถูกส่งมอบให้ครั้งแล้วครั้งเล่า

เหมือนจริง
แต่ก็เหมือนฝัน

จนเมื่อใบหน้าคมโน้มลงมาหาจูบไล่ตั้งแต่ข้างแก้ม ไปที่หน้าผากและซุกไซร้ลงที่ซอกคออีกครั้ง พร้อมกับที่ร่างกายส่วนล่างของเต๋อกำลังถูกรูดรั้งให้ตื่นตัวขึ้น เต๋อถึงคล้ายจะเริ่มรู้สึกว่านี่คือความจริง

“ช่างวินัย”

ใช่

“ช่างนัย”

ใช่อีกนั่นแหละ

“พี่นัย”

นั่นแหละสิ่งที่ใช่ยิ่งกว่า

“พี่เอง”

ช่างวินัยพยักหน้ารับ และส่งยิ้มบาง ๆ ให้กับคนที่คล้ายกำลังละเมอและแยกไม่ออกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริงหรือความฝัน
“ผม.....”

ในหัวของเต๋อมีแต่ความสับสนว้าวุ่นเต็มไปหมด แต่ยังคงได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบาในลำคอพร้อมกับที่ริมฝีปากถูกแนบประกบลงมาอีกครั้งอย่างไม่ทันตั้งตัวและเพียงไม่นานช่างวินัยก็ผละออกห่างเพื่อเปลี่ยนคำพูดให้

“เต๋อสิ....ไม่ใช่ผม”

“เต๋อ”

พูดตาม แต่หัวคิ้วยังขมวดมุ่น และเหมือนเพิ่งได้สติ ตอนที่เห็นรอยยิ้มหวาน ๆ ของช่างวินัยที่มองหน้าของเต๋อ ดวงตาคมที่มองเปิดเผยทุกความรู้สึกออกมาจนหมดและเต๋อก็รู้แล้วว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นไม่ใช่เพราะตัวเองกำลังฝัน

“เฮ้ยยยยยยยย”

เพิ่งนึกขึ้นได้
ถึงตอนนี้เพิ่งรู้สึกตัว ว่ากำลังทำอะไรอยู่กับช่างวินัย

เต๋อยันแขนลุกขึ้นแต่ร่างกายไม่สามารถขยับได้อย่างใจเพราะถูกทาบทับจากร่างของคนที่โอบกอดเอาไว้

ร่างกายส่วนล่างที่เสียดสีเข้าหากัน แสดงความรู้สึกออกมาชัดเจน

เสื้อผ้าหลุดลุ่ยหล่นอยู่ข้างเตียงตั้งนานแล้ว และในเวลานี้ร่างกายเปลือยเปล่าของเรากำลังบดเบียดเข้าหากัน

“เฮ้ยยยยยยย”

“หือออออ”

เต๋อร้องโวยวาย แต่ช่างวินัยกดปลายจมูกหนัก ๆ ที่ข้างแก้มของเต๋ออีกครั้งแต่ก็ถูกผลักออก

“อะไรล่ะ หือ”

ไม่อะไรล่ะ มันไม่ใช่แล้วแบบนี้

“ช่างนัย ไม่เอา ปล่อย จะกลับบ้านแล้ว”

ปล่อยอะไรล่ะ มาถึงขนาดนี้แล้ว

“อะไร”

อะไรไม่รู้ ช่างนัยปล่อยก่อนเร็ว

“ไม่เอา ปล่อย”

ไม่ปล่อย

“ทำไมต้องปล่อย”

ทำไมเหรอ ทำไมวะ ไม่รู้ ไม่รู้โว้ยยยยย

“ไม่รู้ ช่างนัยปล่อยก่อน ปล่อยยยยยยยย”

ปล่อยอะไรวะ

“พี่นัย ไม่ใช่ช่างนัย”

“เออ ช่างมันเหอะ พี่นัยก็พี่นัยเหอะ ปล่อยยยยยยย”

“ไม่”

ใครจะไปยอมปล่อย บอกให้ปล่อยแต่ตัวเองยกแขนขึ้นบังหน้าเอาไว้แบบนี้ มันหมายความว่ายังไงเต๋อ

“ช่างนัยปล่อยผมไปเถอะนะ”

และคราวนี้เต๋อก็เลี่ยงไม่ได้อีก เมื่อสองแขนที่ยกขึ้นปิดบังใบหน้าของตัวเองถูกแยกออกจากกัน ข้อมือสองข้างถูกตรึงเอาไว้กับฟูกนอน พยายามจะขืนเอาไว้ แต่ก็ทำไม่ได้

เหี้ยเอ้ยยยย อย่ามองหน้าได้มั้ย หน้าตาตอนนี้มันคงทุเรศมากและคงจะเปิดเผยให้เห็นหมดแล้ว ว่าความรู้สึกมันเตลิดไปไกลแล้ว

“หน้าแดงหมดแล้ว”

ที่จริงช่างนัยอยากบอกว่ามันไม่ใช่แดงแค่หน้า แต่เนื้อตัวก็เป็นรอยแดงเห่อ ตั้งแต่ซอกคอจนถึงแผ่นอก และลามไปถึงหน้าท้องเนียนขาวนั้นด้วย

“ปล่อยเหอะช่างนัย ไม่เล่นนะ”

ตรงไหนที่เรียกว่าเล่น แบบนี้มันยิ่งกว่าจริงจังอีกนะเต๋อ

“ไม่อยู่นิ่ง ๆ พี่ปล้ำจริงนะเต๋อ”

แปลว่าถ้าอยู่นิ่ง ๆ แล้วจะไม่ทำใช่มั้ย

เต๋อคิดตามที่ช่างวินัยพูด
ถ้าอยู่นิ่ง ๆ
ถ้า......ยอมอยู่นิ่ง ๆ แล้วจะไม่ทำอะไร

เต๋อยอมหยุดนิ่ง และเมื่อค่อย ๆ หันมามองหน้าของช่างวินัยอีกครั้ง ถึงได้รู้...........

อยู่นิ่ง ๆ หรืออยู่ไม่นิ่ง

สุดท้าย..........ก็มีค่าเท่ากัน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไหนว่าอยู่นิ่ง ๆ แล้วจะไม่เป็นไรไง นี่มันยิ่งกว่าเป็นอีกนะโว้ยยยยยยยยยย

“โอ้ยย เจ็บบบบบ”

เต๋อผลักไหล่ช่างวินัยเอาไว้ ไม่ว่ายังไงร่างกายก็ไม่ยอมรับท่อนเอ็นขนาดใหญ่ที่เพียงแค่ส่วนปลายที่พยายามกดแทรกเข้ามาก็ทำให้เจ็บจนน้ำตาเล็ดแล้ว

“เต๋อไม่เอาสิ ไม่เกร็ง หายใจเข้าลึก ๆ เดี๋ยวพี่ค่อย ๆ เข้าไป ถ้าเต๋อไม่ยอมพี่เข้าไปไม่ได้มันก็ยิ่งเจ็บนะเต๋อ”

แล้วมันใช่เรื่องมั้ย
มันใช่เรื่องที่จะต้องยอมเจ็บมั้ย

เด็กชายเต่อเป็นเด็กน่าสงสาร ตอนเด็ก ๆ โดนช่างนัยแกล้งอยู่บ่อยๆ จนร้องไห้

โตมายิ่งน่าสงสารยิ่งกว่า ยังโดนช่างนัยแกล้งเหมือนเดิม
และคราวนี้การแกล้งของช่างวินัย ทำให้เต๋อร้องไห้ยิ่งกว่าตอนเป็นเด็ก

“เจ็บแล้ว อึก ฮือ ทำไมต้องทำให้เจ็บด้วย ตอนเด็ก ๆ ก็แกล้ง”

โอ้ยยยยยยยยยยยยย มันน่าโมโห
โมโหไอ้เต๋อก็ไม่ถูก จะทำยังไงได้ นอกจากโมโหตัวเอง

โว้ยยยยยยยยยยย เต๋อเอ้ยยยยย
คนเหี้ยอะไร ร้องไห้แล้วยิ่งทำให้ไม่อยากหยุด
หน้ามึงก็แดง ตัวมึงก็สั่น

มึงเล่นร้องไห้ต่อหน้าแบบนี้ ใครมันจะไปทนไหววะ

ช่างวินัยไม่สามารถทำอะไรได้อีก
นอกจากโอ๋เด็กน้อยขี้แย

แตะหน้าผากเบา ๆ กับหน้าผากของเต๋อ แตะปลายนิ้วเบา ๆ ที่แก้มของเต๋อ ประคองแก้มขาว ๆ ที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาเอาไว้ และต้องปลอบใจกันอยู่นานสองนาน

“ที่เคยทำไม่ดีไว้ พี่ขอโทษ”

“ที่เคยทำให้เต๋อโกรธ พี่ขอโทษ”

“พี่เคยทำให้เต๋อเสียใจพี่ขอโทษ”

“พี่เคยทำให้เต๋อเกลียด พี่ขอโทษ”

“พี่ไม่เคยเห็นเต๋อเป็นแค่เด็กข้างบ้านตั้งนานแล้ว นั่นพี่ก็ขอโทษ”

“พี่ทำแบบนี้กับเต๋ออยู่ เพราะพี่ห้ามใจตัวเองไม่ได้แล้ว พี่อยากขอโทษ แต่อันนี้พี่ไม่ขอโทษ”

แล้วเต๋อก็มีอันชะงักนิ่งค้าง
แล้วเต๋อก็เบิกตากว้างขึ้น
เมื่อเรียวขาทั้งสองข้างถูกแยกออกกว้าง และถูกยกขึ้นพาดเอาไว้บนบ่าของช่างวินัย

บางสิ่งบางอย่างที่ใหญ่โตถูกกดแทรกเข้ามาในช่องทางที่ยอมเปิดรับในคราวเดียวอย่างรวดเร็ว

และ................

“โอ้ยยยยย อึก อือ หื้อ อืมม อึก อื้อ”

หมดเวลา
เข้าได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่ตอนนี้เข้าไปหมดแล้ว
และเต๋อก็ทุบหลังช่างวินัยแรง ๆ หลายครั้ง ร้องเสียงดังอึกอักในลำคอเพราะริมฝีปากถูกประกบแนบแน่นเพื่อให้เสียงร้องถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ

เต๋อหยุดช่างนัยไม่ได้ เพราะช่างนัยไม่คิดจะหยุดให้
ถ้าไม่ทำตอนนี้ ก็ไม่รู้จะมีโอกาสอีกเมื่อไหร่
ถ้าไม่ทำตอนนี้ ก็เข้าหน้ากันไม่ติดแล้ว

ถ้าไม่ทำตอนนี้ หลังจากนี้คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว

สะโพกแกร่งเริ่มขยับอย่างเชื่องช้า ดวงตากลมเอ่อรื้นไปด้วยหยดน้ำตาเมื่อรับรู้ถึงความแข็งแกร่งที่สอดแทรกเข้ามาจนหมดและเริ่มขยับเคลื่อนไหวอยู่ภายในช่างทางด้านหลังที่บีบรัด

ความรู้สึกเจ็บร้าวถูกกลืนหายไปหมดไม่เหลือ เมื่อช่างวินัยเอาแต่จูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากที่ขบเม้มเข้ากันแน่น

สิ่งที่รู้สึกในเวลานี้ คือช่องทางด้านหลังของตัวเองกำลังเต้นตุบ
และมีบางอย่างเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าเนิบนาบอยู่ในนั้น

ฝ่ามือร้อนรุ่มปรนเปรอท่อนเอ็นที่ไร้เรี่ยวแรงของเต๋อ เกลี่ยไล้ฝ่ามือไปมา เพื่อปลุกเร้าให้ส่วนนั้นตื่นขึ้นมา

เจ็บก็ใช่
ไม่อยากรู้สึกก็ใช่
แต่ร่างกายซื่อสัตย์เกินกว่าจะปฏิเสธ
ส่วนนั้นตื่นตัวขึ้นมาแล้ว และเมื่อช่องทางด้านหลังถูกกดแทรกเนิบนาบเนิ่นนาน หยดน้ำใสก็ไหลซึมที่ส่วนปลายและตื่นตัวขึ้นจนถึงขีดสุด

“ไม่เจ็บหรอกเห็นมั้ย เชื่อพี่มั้ยว่าไม่เจ็บ”

เต๋อไม่รู้จะตอบยังไง ตอบอะไรไม่ได้ นอกจากยกหลังมือขึ้นปิดปากของตัวเอง แต่ก็ถูกช่างนัยดึงออก

“เวลาครางน่ารักออก จะปิดทำไม พี่อยากได้ยิน”

โว้ยยยยยยยยย แล้วจะอยากได้ยินไปทำไมล่ะโว้ยยย

เต๋อเบะหน้า
อยากจะร้องไห้อีกรอบ แต่ช่างวินัยก็ไม่ยอมให้ทำแบบนั้น
ส่งยิ้มหวาน ๆ ให้ และจูบซ้ำเบา ๆ ที่ริมฝีปากของเต๋อซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ส่วนกึ่งกลางของร่างกายถูกกระตุ้นเร่งเร้านับครั้งไม่ถ้วน
ร่างกายตอบรับหมดทุกส่วน
ความสุขสมใกล้มาเยือนอย่างช้า ๆ
สะโพกมนเริ่มขยับตามแรงที่สอดแทรกกระแทกกระทั้นเข้ามา

ยอดอกถูกบีบเค้นคลึงดูดกลืนครั้งแล้วครั้งเล่า

อารมณ์เตลิดไปไกลจนหยุดไม่อยู่

ร่างกายด้านหลังตอบรับท่อนเอ็นแข็งของช่างวินัยที่ยัดเยียดบดแทรกกระแทกกระทั้นจนร่างกายสั่นสะเทือนไปหมด

หยาดเหงื่อชโลมไปทั่วทั้งร่างกาย ช่างวินัยสิ่งยิ้มหวานเชื่อมให้คนที่นอนมองทุกการกระทำด้วยดวงตาปรือปรอย

น่ารัก
ยิ่งมันฝืนตัวเองไม่ยอมครางยิ่งน่ารัก

ช่างวินัยจูบเบา ๆ ที่เรียวขาของเต๋อ ก่อนจะโน้มร่างกายลงมาหละ จูบสัมผัสที่เปลือกตาที่หรี่ปรือลงอย่างช้า ๆ พร้อมน้ำเสียงครางเครือแผ่วหวาน เมื่ออารมณ์ความรู้สึกของร่างกายไม่สามารถควบคุมได้อีก

ใจของเราเป็นของกันและกัน
ร่างกายของเราเป็นของกันและกัน

เต๋อหลับตาลงและยอมให้ช่างวินัยทำได้ตามใจทุกอย่าง
ขบริมฝีปากแน่น เมื่อท่อนเอ็นแกร่งกระแทกกระทั้นเข้ามา บีบรัดความแข็งแกร่งนั้นแน่น และปล่อยให้ส่วนกึ่งกลางของร่างกายที่ถูกปรนเปรอเคลื่อนไหวไปตามอารมณ์

“พี่นัย......มัน....”

อะไรล่ะ
อยากจะพูดอะไรทำไมถึงหยุดไปอย่างนั้น

“เสียวมั้ย”

จากไม่รู้สึก กลายเป็นรู้สึก จากไม่ยอม กลายเป็นพร้อมใจ
สุดท้าย ช่างวินัยโน้มกายลงมาหาและกอดเต๋อเอาไว้แน่น และดูดกลืนริมฝีปากร้อนรุ่มของเต๋อเอาไว้

“พี่เสียว เต๋อจะทำให้พี่แตกอยู่แล้ว”

แม่งเอ้ยยยย ไม่ต้องบอกก็ได้มั้ง เขินโว้ยยยยยยยยยย

เต๋อไม่รู้จะตอบอีกฝ่ายยังไง สิ่งที่ทำได้ก็มีเพียงยกแขนขึ้นโอบรัดที่รอบคอลำคอของช่างวินัยเอาไว้แน่น

ริมฝีปากที่แนบสัมผัสลงมาบดเบียดดูดกลืน และกระหายในตัวตนและทุกความรู้สึกของกันและกัน

สะโพกแกร่งกระแทกกระทั้นเข้ามาอีกหลายครั้ง เมื่อความต้องการทั้งหมดใกล้จะถึงที่สุด

“ซี้ดดดดดดดด พี่นัย เสียว มันจะ.......แตก”

แบบนี้ไงที่เรียกว่าน่ารัก
ช่างวินัยส่งยิ้มหวานเชื่อมให้คนที่ยอมครางให้ได้ยิน แม้จะพยายามกลั้นเสียงเอาไว้แบบนั้น แต่ยิ่งได้เห็นช่างนัยก็คิดว่ามันยิ่งกว่าน่ารัก

“แตกพร้อมกัน”

พร้อมกัน
พร้อมกัน......
พร้อมกัน................

ช่างนัยหยัดกายขึ้นอีกครั้ง แยกเรียวขาขาวออกกว้างและขยับร่างกายสอดแทรกกระแทกกระทั้นเข้าออกแรง ๆ หลายครั้ง

อัดกระแทกร่างกายจนเกิดเสียงเมื่อผิวเนื้อกระทบกัน

“โอ้ยยย พี่นัย......แตก..... จะแตกแล้ว”

เต๋อกำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น ร่างกายบิดเร่า และเนื้อตัวสั่นเทาไปหมดเมื่อใกล้จะถึงที่หมาย

ช่างวินัยกดไหล่ของเต๋อเอาไว้
กระแทกท่อนเอ็นเข้าใส่ในช่องทางที่บีบรัดรุนแรงขึ้น

ดวงตาหวานเชื่อมปรือปรอย และขบริมฝีปากแน่น และร่างกายก็บิดเร่าไปหมดทั้งร่าง

หน้าท้องเนียนแอ่นเกร็งขึ้น
ท่อนเอ็นแข็งถูกรูดรั้งปรนเปรอให้แรงขึ้น และเต๋อก็ร้องครางเมื่อถึงจังหวะสุดท้าย

“โอ้ยยย แตก.....แตกแล้ว พี่นัย เต๋อ แตกแล้ว โอ้ยย ซี้ดส์”

ทุกหยาดหยดในร่างกายถูกกลั่นกรองออกมาจนหมดและพุ่งทะยานออกมาจากส่วนปลายไหลซึมจนเปรอะเปื้อนไปทั้งฝ่ามือของคนที่ช่วยจัดการความรู้สึกให้

ลมหายใจของเต๋อหอบหนัก และใบหน้าที่แสดงความรู้สึกออกมาทั้งหมดของเต๋อก็ทำให้ช่างวินัยฝืนทนต่อไปอีกไม่ไหว

กระแทกร่างกายเข้าไปอีกเป็นครั้งสุดท้าย และปลดปล่อยความต้องการของร่างกายของตัวเองออกมาจนหมด

“อ่ะ อืมมม เต๋อ โอ้ย เต๋อ อืม”

ช่างวินัยถอนร่างกายของตัวเองออกอย่างช้า ๆ เต๋อกอดไหล่ของช่างวินัยเอาไว้แน่น เมื่อส่วนนั้นถูกถอนออก ก่อนจะถูกกดแทรกเข้ามาอีกครั้ง เพื่อให้หยาดหยดที่หลั่งออกมา กลับคืนเข้าไปภายในไม่ให้หลั่งรินออกมา

ช่างวินัยทิ้งกายลงทาบทับร่างที่ยังคงหอบหายใจหนัก และจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากที่ยังขบแน่นเข้าหากัน

ลมหายใจยังหอบหนัก เป็นนานกว่าจะปรับให้เข้าที่อย่างช้า ๆ

“เต๋อทำให้พี่ทนไม่ไหว”

ช่างวินัยรั้งร่างในอ้อมแขนเข้ามากอดเอาไว้แน่น และจูบเบา ๆ ที่ขมับที่เปียกชื้นด้วยเหงื่อของเต๋อซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง

เต๋อไม่มีอะไรจะพูด
หมดเรี่ยวแรงจะพูด ได้แต่ซุกซบใบหน้าแนบอกของช่างวินัยอยู่อย่างนั้น

ร่างกายเหนื่อยล้าเกินกว่าจะคิดอะไรได้อีกในเวลานี้

หยุดความคิดของตัวเองทั้งหมด และหลับตาลง ในอ้อมแขนที่โอบกอดเอาไว้

เรื่องของวันนี้เต๋อไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว อยากจะปล่อยมันไปทั้งอย่างนั้น

ไม่คิดเรื่องของวันนี้ ไม่นึกถึงเรื่องของวันพรุ่งนี้
แค่อยากหลับตา และหลับไปทั้งอย่างนั้น อยากอยู่ในอ้อมแขนของช่างนัยไปนาน ๆ

“ทำไมหลับง่ายจังวะ เด็กเอ้ยยยย”

ช่างวินัยหัวเราะเสียงเบา เมื่อเห็นร่างในอ้อมแขนซุกซบอยู่ที่ไหล่ของช่างวินัยและหลับใหลไปง่าย ๆ ทั้งที่ยังไม่ได้พูดอะไรกันเลยสักคำ

เต๋อได้ยินที่ช่างวินัยพูดหมดทุกอย่าง แต่ไม่อยากจะต่อปากต่อคำด้วย

จะให้พูดอะไรมากมายวะ แค่นี้ก็อายจะตายห่าแล้ว

ขอร้องเหอะ อย่าปลุกขึ้นมาคุยเลย ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้

นี่กูกับช่างนัย เอากันไปแล้วจริง ๆ ใช่มั้ยวะ  เหี้ยเอ้ยยยย กูไม่อยากจะเชื่อเลยโว้ยยยยย

ไอ้เต๋อเอ้ย ไอ้เต๋อ ทำไมทำแบบนี้วะ  แล้วพรุ่งนี้ตื่นมาเจอหน้าช่างนัย จะให้ทำหน้ายังไง คิดไม่ออกเลยจริง ๆ


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 26-01-2015 18:05:50
 :z1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 26-01-2015 18:08:10
เขาได้กันแล้ววว ~  :hao6: :jul1:
ซับเลือดกันไม่ทันเลยทีเดียว แฮ่ๆๆ  :z1:
ช่างนัยนิหวานนะ เขินแทนเต๋อเบย คึคึ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 26-01-2015 18:20:49
อั๊ยยะ!!!!! ซี้ดดดดดดดด ไอ้เต๋อกลายเป็นน้องเต๋อ ลูกแมวน้อยๆไปแล้วววว หวังว่าพรุ่งนี้คงไม่กลายร่างเป็น นางเสือนะ กิกิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 26-01-2015 18:33:11
พี่นัยกินตับน้องเต๋อไปแล้ว
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-01-2015 18:34:28
เรียบร้อยช่างนัย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 26-01-2015 18:44:46
 :jul1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: sunakai ที่ 26-01-2015 18:45:19
แวะมาเจิมส์ส์ส์...จุ๊บ >3< :กอด1: :กอด1:

 :oni1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 26-01-2015 18:46:20
โอ้ย....มาเร็วเคลมเร็ว รูใจตัวเองปั๊บจัดการน้องปุ๊บ 5555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 26-01-2015 18:58:47
อุ้ย  :hao6: คู่นี้กินกันอิ่มแล้ว
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-01-2015 19:14:23
คู่นี้นำไปแล้ววว หุหุ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 26-01-2015 19:36:19
 :pighaun: น้องเต๋อเราเป็นสาวแล้ววววว  :pighaun:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 26-01-2015 19:53:19
ช่างนัยร้อนแรงจัง อิอิ
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 26-01-2015 20:24:50
หึหึ   :hao6:      :hao6:

ในที่สุดก็ได้เสียเลือดเสียที  ลุ้นอยู่นาน น้องเต๋อกับช่างวินัย

 :haun4:     :haun4:    :haun4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 26-01-2015 23:49:56
เป็นวิธีการปรับความเข้าใจกันที่ถูกวิธีแล้วค่ะ คุยกันแบบเปิดอกกันเสื้อผ้าไม่เกี่ยวเลย :haun4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 27-01-2015 00:11:03
ในที่สุดช่างในก็ตะบะแตก กินเด็กซะแล้ว
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 27-01-2015 09:35:08
คู่นี้นำไปก่อนแล้วววว  :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 27-01-2015 12:55:10
มาอ่านอีกรอบก็ยังฟิน กรี๊ดดดดดดดด :m25:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 27-01-2015 14:34:11
 :jul1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 27-01-2015 14:38:17
ว้าวๆ คู่นี้มาแรงแซงไปแล้วจ้า
 :z1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 27-01-2015 20:14:09
 :pighaun:   :heaven   :pig4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 27-01-2015 21:15:31
เรียบร้อย... :oo1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ P.10
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 27-01-2015 21:20:54
โอ๊ยย ซีนนี้มาแบบไม่ทันตั้งตัว 555
เต๋อเอ๊ยย สุดท้ายก็ไม่รอดซินะ >< พี่นัยนี่ของเค้าดีจริง กรั่กๆ
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 28-01-2015 17:23:46
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/254_zps35063e71.jpg)

 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย) ตอน ตาม

คนมันน่ารักน่ามองมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ช่างวินัยจะอยากมองอยากจ้องอยากแตะต้องสัมผัสคนที่กำลังนั่งติดกระดุมเสื้ออยู่บนเตียงข้าง ๆ ช่างวินัย

ไอ้เต๋อมันน่ารัก ทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมด
ยิ่งเวลานี้มันยิ่งดูน่ารักน่าใคร่เพิ่มขึ้นอีกร้อยเท่า จนช่างวินัยทนความน่ารักของเต๋อไม่ไหว จากที่ท้าวแขนนอนมองและพยายามไม่แสดงอาการให้มากนัก    ในเวลานี้ช่างวินัยทนไม่ไหวจนต้องลุกขึ้นมาช่วยติดกระดุมเสื้อให้

“.............................”

ช่างวินัยพยายามทำเป็นนิ่งเฉย  ทั้งที่พยายามข่มรอยยิ้มของตัวเองเอาไว้อย่างสุดความสามารถ

แบบนี้มันรู้สึกดีเกินไป
รู้สึกดีจนไม่รู้จะพูดยังไง  แต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ ไม่แสดงออกให้มาก  เพราะดูเหมือนเต๋อจะยังไม่อยากให้พูดถึงเรื่องที่เพิ่งทำด้วยกันมา

“เสร็จแล้ว”

ช่างวินัยช่วยติดกระดุมเสื้อให้เต๋อจนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ดึงคอเสื้อของเต๋อขึ้น

“เดี๋ยวเห็นรอย”

แกล้งพูดจาหยอกล้อคนที่อยู่ตรงหน้า และเต๋อก็หน้าซีดเผือดลงเมื่อรับรู้ได้ชัดเจนว่าช่างวินัยหมายถึงรอยอะไร   

ไม่กล้าสบตาช่างวินัย

ไม่กล้าปริปากพูด
 
เต๋อกำลังกลัว

กลัวสิ่งที่ช่างวินัยบอก

“พี่จะบอกป้านะ เรื่องพี่กับเต๋อ”

เต๋อไม่รู้จะพูดอะไร   สิ่งที่รู้สึกคือตอนนี้กำลังกลัว

ใช่ที่เรื่องที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน   แต่หลังจากนั้นเต๋อไม่คิดว่าจะมีเรื่องที่ทำให้ต้องครุ่นคิดและเป็นกังวลยิ่งกว่า    เต๋อไม่แน่ใจกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น

ไม่กล้าจะถามว่าจริง ๆ ช่างนัยรู้สึกยังไงกับเต๋อกันแน่ หรือเพราะช่างนัยเป็นผู้ใหญ่กว่าถึงต้องพูดแบบนี้  ทำไมช่างนัยถึงไม่คิดบ้างว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ใครที่ไหนจะรับได้ง่าย ๆ

ถึงโลกจะเปลี่ยนไปขนาดไหนแล้ว  แต่คิดว่าแม่และคนรอบข้างจะรับเรื่องแบบนี้ได้หรือไง

แต่ช่างวินัยก็ยืนยันคำเดิมว่าต้องบอก  ยังไงก็ต้องบอกให้ได้  จะมีอะไรเกิดขึ้นก็ต้องยอมรับ
แต่เต๋อไม่ต้องการให้มีอะไรเกิดขึ้น และไม่ต้องการจะให้ใครรับรู้เรื่องนี้ด้วย

เต๋อพยายามพูดแล้ว
พยายามอธิบายแล้ว  พยายามขอร้องแล้ว ว่ายังไงก็อย่าบอก แต่ช่างวินัยยืนยันคำเดิม

“กูไม่ใช่เด็ก ๆ ที่จะทำอะไรแล้วไม่มีความรับผิดชอบ  จะเป็นยังไงก็ให้เป็นไป  มึงคิดว่ากูจะมองหน้าแม่มึงติดหรือไงที่มาทำแบบนี้  ทำอะไรไว้กล้าทำก็ต้องกล้ารับ”

สิ่งที่ช่างวินัยตั้งใจจะทำ   เต๋อไม่คิดอยากให้เกิดขึ้นเลย 
ไม่คิดและไม่ต้องการ

ช่างวินัยจะบอกทำไม  จะทำแบบนั้นไปทำไม  ผู้ชายด้วยกัน ที่จริงมันไม่มีอะไร........เสียหาย....

 เต๋อพยายามคิดแบบนั้น  และเมื่อพยายามบอกช่างวินัยแบบนั้น สิ่งที่ได้รับกลับมาคือ ช่างวินัยโกรธ

“ไอ้เต๋อ”

แล้วเต๋อก็ได้แต่นั่งก้มหน้า เมื่อโดนช่างวินัยเอ็ดเสียงดัง

เรื่องของเราเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป  และมันก็จบลงอย่างรวดเร็วเมื่อถึงเช้าวันถัดมา
ให้มันจบไปได้มั้ย  ไม่ต้องให้ใครมารับรู้ด้วยได้มั้ย

ช่างวินัยโน้มใบหน้ามาแตะปลายจมูกเบา ๆ ที่แก้มของเต๋ออีกครั้งและเต๋อก็นั่งก้มหน้าเงียบๆ

ช่างวินัยเดาเอาว่าเพราะเขิน เต๋อเลยทำแบบนั้น โดยไม่ได้ถามว่าที่จริงแล้วเต๋อกำลังรู้สึกยังไงกันแน่

“เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง”

พูดเพียงแค่นั้นและช่างวินัยก็ลุกขึ้นเพื่อจะไปส่งเต๋อที่บ้าน  แต่ก็ถูกห้ามเอาไว้

“ไม่เอา  มันผิดสังเกต”

ผิดสังเกตเหรอ

ช่างวินัยขมวดคิ้วมุ่นและเริ่มรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาอีกครั้ง

ผิดสังเกตก็ผิดสังเกตไปสิ   ก็ดี ถ้าใครถามก็บอกไปเลย ถึงขั้นนี้แล้วช่างวินัยไม่คิดจะปกปิด

“ทำไม  ใครจะสังเกตก็สังเกตไป ก็บอกไปเลยว่ามันยังไงกัน”

ไม่ได้
แบบนี้ไม่ได้

เต๋อเงยหน้าขึ้นมองหน้าของช่างวินัย และความรู้สึกกลัวและกังวลใจก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

“ไม่เอา”

ปฏิเสธไปตรง ๆ และเต๋อก็ขมวดคิ้วมุ่น ไม่ยอมบอกอะไรกับช่างวินัยอีกนอกจากรีบเดินหนีออกจากบ้านของช่างวินัยมาโดยมีสายตาของช่างวินัยมองตาม

ไม่เอาเหรอ
นั่นมันคือการปฏิเสธนะ
คือการปฏิเสธเรื่องที่เกิดขึ้นของเราชัด ๆ
ทำไมไอ้เต๋อมันพูดแบบนี้วะ  ทำไมมัน............พูดแบบนี้...........

ช่างวินัยไม่เข้าใจ
และไม่ต้องการจะเข้าใจอะไรทั้งนั้น
อยากจะเดินตามไปถามให้แน่ชัดว่าทำไมถึงต้องกลัวคนอื่นผิดสังเกตด้วย
แต่ก็ไม่อยากเร่งรัดจนเกินไป  ไอ้เต๋อมันคงยังตกใจอยู่แล้วก็คงยังต้องปรับตัวอีกหลายเรื่อง

เรื่องความสัมพันธ์ที่ข้ามขั้นเลยเถิดไปไกลแล้ว

ช่างวินัยคิดว่าจะปล่อยเต๋อไปก่อน แล้วค่อยคุยกันอีกทีตอนที่เต๋อกลับมาในตอนเย็น

แต่จนแล้วจนเล่า

ตั้งแต่เต๋อเดินกลับบ้านไปตั้งแต่ช่วงเช้า จนตกเย็นมืดค่ำ  ช่างวินัยก็ติดต่อเต๋อไม่ได้

ระหว่างวัน ช่างวินัยกระวนกระวายใจกับสิ่งที่เต๋อทำ
ปกติคนเรามันเพิ่งอะไรกันมา มันไม่น่าจะเมินเฉยกันได้ขนาดนี้นะ

มันคิดอะไรอยู่
ไอ้เต๋อมันคิดอะไร ทำไมถึงเงียบหายทั้งวันแบบนี้

เย็นวันนั้นช่างวินัยต้องไปถามแม่ของเต๋อ ว่าทำไมถึงติดต่อเต๋อไม่ได้

คำตอบที่ได้คือ เต๋อไปทำรายงานกับเพื่อน  ไปค้างกับเพื่อนสักพัก   และปัญหาสำคัญคือโทรศัพท์ไม่ค่อยดี  จะติดต่อไม่ค่อยได้พักหนึ่ง

หมายความว่ายังไง
แบบนี้คืออะไร
ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง  ช่างวินัยยอมรับ ว่าไม่เข้าใจสิ่งที่เต๋อทำ
แต่ก็ต้องพยายามนิ่งเงียบเอาไว้

......ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง หลบหน้ากันแบบนี้หมายความว่ายังไง  สงสัยคงต้องคุยกันให้รู้เรื่องแล้ว ไม่งั้นเรื่องนี้คงเป็นปัญหาใหญ่ระหว่างเต๋อกับช่างวินัยแน่นอน.........

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“ผมอยู่กับเพื่อน การบ้านเยอะ  ต้องทำรายงานด้วยมันจะยุ่งมากเลยจริงๆ  นะช่างนัย”

ไอ้เต๋อ
คำสรรพนามแบบนี้คืออะไร

มันจะมากเกินไปแล้ว

“พี่นัย.......ไม่ใช่ช่างนัย”

เน้นย้ำคำพูดของตัวเองให้ชัดเจนขึ้นและเต๋อก็เงียบไปชั่วขณะ

“พี่นัย  เต๋อทำรายงานก่อนนะ”

ไอ้เต๋อ มึงทำบ้าอะไรของมึง
นี่มันหมายความว่ายังไงวะ มันหมายความว่ายังไง

ช่างวินัยไม่เข้าใจ หงุดหงิดโมโห  พูดอะไรไม่ได้  ทำอะไรไม่ได้ อยากจะถามมันนัก  ว่าตกลงจะเอายังไงเรื่องของเรา  ไอ้เต๋อมันก็บ่ายเบี่ยง

บ้านมันก็ไม่กลับ อ้างอยู่เรื่องเดิม ๆ ทำรายงาน ทำรายงาน
แถมซ้ำมันยังเตรียมการณ์ไว้ดีมาก ด้วยการไปบอกเฮียบัสด้วยว่ามันยุ่งมากจริง ๆ จะไม่มาช่วยที่อู่สักพัก

สักพักของมัน มันชักจะนานเกินไปแล้ว

นานเกินไปจนช่างวินัยรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะบ้าเต็มที่

คำว่าคิดถึงมึงเข้าใจมั้ย
คำว่าอยากเห็นหน้ามึงเข้าใจมั้ย

เข้าใจมั้ย เข้าใจมั้ย เข้าใจมั้ย
ช่างวินัยอยากจะไปถามให้รู้เรื่องแต่ก็ไม่ได้ถามเพราะเต๋อบ่ายเบี่ยงและหาข้ออ้างมาได้ตลอด

จนถึงวันที่ความอดทนของช่างวินัยหมดลง  ถึงต้องไปตาม “เมีย”  กลับบ้านเพื่อคุยกันให้รู้เรื่อง


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ตรีเทพ  แม่ให้มาตาม”

ช่างวินัยใช้แขนค้ำประตูห้องน้ำเอาไว้ และถ้าตรีเทพคนที่ว่ายังยืนยันที่จะหลบหน้ากันอีก   ช่างวินัยไม่คิดจะอดทน  แบบนี้ก็ดีจะได้รู้เรื่องกันไปเลยว่าจะเอายังไงกันแน่

“อย่างี่เง่า จะไปไหน  อย่าให้ต้องรุนแรง”

เอาสิ ถ้ามึงคิดว่าจะหนีได้อีกก็เอา

เต๋อไม่รู้จะทำยังไง เข้าก็ไม่ได้ออกก็ไม่ได้ เพราะว่าช่างวินัยบุกเข้ามาหา และเมื่อรู้ว่าเต๋อหนีเข้าไปอยู่ในห้องน้ำ คราวนี้ช่างวินัยเลยใช้วิชาสะเดาะกลอนเข้าช่วย

“น้อง  เพื่อนน้องนี่กวนตีนมากเลย  แบบนี้มันวอนหาเรื่องตายมากไปแล้ว”

หันไปเล่นบทโหดกับเพื่อนของเต๋อที่กำลังยืนอึ้งทำหน้าไม่ถูก  เมื่อเห็นคนที่แม่เต๋อให้มาตามกลับบ้าน

ก็เห็นมันหลบเลี่ยงอยู่นาน ไม่อยากจะยุ่งด้วย  แต่เล่นบุกมาซะขนาดนี้  แถมขู่ว่าถ้าไม่เปิดจะไปแจ้งความคนหายและจะเอาเรื่องเพื่อนเต๋อในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว

กูก็ไม่ใช่จะอยากยุ่งเรื่องของมึงหรอกนะ  แต่ขนาดนี้แล้ว ที่บ้านมึงคงเป็นห่วงจริง ๆ

“เอาไง จะกลับดี ๆ หรือจะให้กูบอกแม่มึงให้มันจบ ๆ ไปเลย ไอ้เรื่องของ .......แอ่ก อึก อื้อออ”

ช่างวินัยกำลังจะพูดประโยคถัดไปแต่โดนเต๋อเอามือปิดปากเอาไว้

“หยุดพูด”

หยุดก็ได้

ช่างวินัยยอมหยุด และเต๋อก็รีบดึงมือกลับ  แต่หน้า...แดงเมื่อนึกถึงเรื่องบางอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน

ไม่รู้จะทำยังไง
ไม่กล้าเผชิญหน้าด้วย
ไม่กล้ามองหน้า ไม่กล้าพูดด้วย ถึงได้หาเหตุหนี และหลบหน้าช่างวินัย

ขอตั้งหลักก่อน
แบบนี้ไม่ไหวจริง ๆ ไม่รู้จะทำตัวยังไง   จะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ทำไม่ได้

เต๋อไม่รู้ว่าช่างวินัยคิดยังไง
และก่อนที่จะต้องเป็นบ้าเพราะอาการใจแกว่งของตัวเองเวลาอยู่ใกล้ช่างวินัย   เต๋อเลยหาทางเลี่ยงด้วยการอ้างว่ามาทำรายงานกับเพื่อนและหาเหตุไม่กลับบ้านมาหนึ่งสัปดาห์เต็ม

หนึ่งสัปดาห์เต็มเอง
แค่หนึ่งสัปดาห์เต็ม
บอกเฮียบัสแล้ว ว่าช่วงนี้ไม่ได้เข้าไปช่วย  พี่พัฒน์ก็อยู่  เฮียก็ไม่ได้ว่าอะไร  แม่ก็ไม่ได้ว่า

แล้วทำไม
ช่างวินัยต้องมาตาม
ทำไมต้องตามถึงขนาดนี้ด้วย
ทำไม........

“จะคุยกันดี ๆ หรือจะคุยกันด้วยน้ำตา”

โดนข่มขู่ไปอีก คราวนี้เต๋อที่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมสบตาช่างวินัยที่มองมาด้วยความขัดใจก็เลยต้องยอมจำนน

“ไปคุยกันข้างนอกได้มั้ย”

ได้
จะไปคุยกันที่ไหนก็ได้

ช่างวินัยยอมตามและเต๋อก็บอกเพื่อน

“เดี๋ยวกูมานะ”

เพื่อนพยักหน้ารับและเต๋อก็เดินนำช่างวินัยลงมาจากหอพัก

ช่างวินัยยอมเดินมาด้วยกันเงียบ ๆ แต่ไม่ใช่แค่เดินตามเพราะ ช่างวินัยคว้ามือของเต๋อเอาไว้  และเต๋อก็ถึงกับชะงักและหันมามองหน้าของช่างวินัยเต็มตา และพยายามดึงมือของตัวเองออก

“เดี๋ยวคนเห็น”

อ่อ

กลัวคนเห็นว่างั้น

ช่างวินัยก็เลยต้องยอมปล่อยมือของเต๋อ และกำลังรู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจกับสิ่งที่เต๋อพยายามเลี่ยง

ช่างวินัยยอมเดินมาด้วยกันเงียบ ๆ จนถึงรถที่จอดไว้หน้าหอ

และเต๋อก็เข้าไปในรถโดยมีช่างวินัยตามเข้ามาด้วย และเมื่อเข้ามาอยู่ในรถด้วยกันสองคน บรรยากาศที่แสนอึดอัดที่มาพร้อมความเงียบงันก็เกิดขึ้นทันที

เงียบ
ต่างคนต่างเงียบ
ต่างฝ่ายต่างไม่มีอะไรจะพูด

และเป็นช่างวินัยที่ถึงกับถอนหายใจออกมายาว ๆและหันไปมองหน้าของเต๋อที่นั่งก้มหน้าอยู่ข้าง ๆ

“ไอ้เต๋อ”

แค่เพียงได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง เต๋อก็ถึงกับสะดุ้งและขบริมฝีปากแน่น ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองหน้าของช่างวินัย แต่พยักหน้ารับ

และช่างวินัยก็นิ่งเงียบไปชั่วขณะเพื่อมองเห็นปฏิกิริยาของคนที่อยู่ข้างๆ กัน

“เรื่องนั้น...........”

เรื่องนั้น
ทำไม  เรื่องนั้นทำไม

“พี่จะบอกแม่เต๋อ  มันต้องคุยกันให้รู้เรื่อง จะมาเล่น ๆ ไม่ได้  เรื่องนี้มันสำคัญ”

แค่ได้ฟังเต๋อก็ถึงกับหน้าซีดเผือด  และมองหน้าของช่างวินัยด้วยความรู้สึกที่ยากเกินอธิบาย

“ช่างนัยอย่าบอกแม่เลยผมขอร้อง”

เต๋อนึกอยากร้องไห้กับสิ่งที่ช่างวินัยพยายามทำ  แบบนี้มันไม่ใช่เรื่องดีเลย  แบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยสักนิด

“ถ้าแม่รู้ แม่คงเสียใจมาก แม่รับไม่ได้หรอก เห็นใจกันบ้างเถอะ”

เห็นใจอะไร  แล้วมึงหนีมาแบบนี้มึงเห็นใจกูบ้างมั้ยล่ะ

“ไม่”

ไม่ได้เหรอ
ทำไมถึงไม่ได้
ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ   ทำไม.....ถึงไม่..........ได้

เต๋อเงยหน้ามองหน้าของช่างวินัยตรง ๆ

มันอึดอัดใจ
กดดัน
กลัว
หวาดระแวง
หลายสิ่งหลายอย่างปนเปกันอยู่ในหัว จนต้องหนีมาตั้งหลัก

แล้วช่างวินัยก็ตามมาเพื่อบอกว่าการหนีมาตั้งหลักไม่มีประโยชน์อะไรเลยอย่างนี้เหรอ

“ขอร้อง”

ไอ้เต๋อ.......มึงขอร้องกูแบบนี้เหรอ

“เราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว”

ช่างวินัยไม่ต้องการจะคุยอะไรให้มากความ  และถอนหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิดโมโห  พยายามระงับใจไม่ให้โกรธเมื่อได้ฟังสิ่งที่เต๋อพูด

“มึงเกลียดพี่มากหรือไง”

เรื่องนั้นมันไม่ใช่

เรื่องนั้น...........

“........................................”

เต๋อไม่รู้จะตอบช่างวินัยยังไง   สิ่งที่เคยพูดมาตลอด  ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองแล้ว  และเต๋อไม่รู้จะอธิบายกับช่างวินัยยังไงดี

เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่แม่ควรรับรู้ด้วย 
ไม่ควรเลย

ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบไปชั่วขณะ   ช่างวินัยเงียบ  และเต๋อก็ได้แต่นั่งก้มหน้านิ่ง ๆ ไม่รู้จะพูดอะไรดี

ช่างวินัยถอนหายใจยาว ๆ และคิดว่ายิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่  เลยตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้นบ้าง

“แล้วจะยอมกลับบ้านมั้ยล่ะ”

ยอม
ถ้าช่างวินัยไม่พูด จะยอมกลับก็ได้

“แค่ช่างนัยไม่พูด ได้มั้ย”

เรื่องนั้นน่ะ.........

“งี่เง่า”

โดนด่า
และเต๋อก็ชะงักนิ่งค้าง หันกลับมานั่งก้มหน้าและขบริมฝีปากแน่นอีกครั้ง 

ไม่มีอะไรจะพูดอีก
เตรียมเปิดประตูลงจากรถ  แต่ก็ถูกช่างวินัยรั้งเอาไว้   และถึงไม่ยอมก็ทำอะไรไม่ได้  เพราะช่างวินัยลากเต๋อเข้ามากอดเอาไว้จากด้านหลัง  ซบใบหน้าลงที่ไหล่ของเต๋อและถอนหายใจออกมาเพราะไม่รู้จะทำยังไง

กอด.........เอาไว้
และเต๋อก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของช่างวินัยที่ส่งผ่านมากับไออุ่นของอ้อมแขนของช่างวินัยที่กอดเต๋อเอาไว้แน่น

ความห่วงหาอาทร
ความห่วงใย
ความคิดถึง
ความรู้สึกที่ไร้เหตุผล แต่อบอุ่นมาก.........มากจนเต๋อถึงกับ ต้องขบริมฝีปากแน่น ........และร่างกายกำลังสั่นสะท้านอีกครั้งเมื่อถูกโอบกอด

“ทำไมไม่กลับบ้าน  ทำไมถึงหนี  ทำไมทำแบบนี้  เราคุยกันไม่ได้เลยเหรอ  เรากลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อนตอนที่เต๋อยังเด็ก ๆ ไม่ได้เลยเหรอ  พี่ทำอะไรผิดนักหนาวะ  ถึงได้เกลียดพี่ขนาดนี้  ทำไมเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้วะ   เมื่อก่อนมันไม่ใช่แบบนี้ไม่ใช่หรือไง แล้วเพราะอะไรมึงถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ บอกมาเถอะ แค่บอกมาว่าเป็นอะไรทำไมถึงต้องเฉยใส่กันขนาดนี้  แค่บอก  แล้วจะให้ทำอะไรก็จะทำให้ แค่บอก.......ทำไมถึงต้องทำเป็นห่างเหินขนาดนี้  แค่บอก.....”

เต๋อไม่รู้จะพูดอะไร
พูดไม่ออก
จะให้พูดได้ยังไง ว่าทำไมถึงเปลี่ยนไป

ได้แต่นิ่งเงียบและไม่กล้าบอกว่าเพราะอะไรถึงได้เมินเฉยช่างวินัยได้ขนาดนี้

เจ็บปวด
ติดอยู่ในความมึนงงสับสน
กลัว  สิ้นหวัง  หวาดระแวง
ความรู้สึกทั้งหมดนั้น ช่างนัยจะไปเข้าใจอะไร

“เกลียดพี่ขนาดนั้นได้จริง ๆ เหรอวะเต๋อ เกลียดกันลงจริง ๆ เหรอ”

ไม่รู้
เต๋อไม่รู้จะตอบคำถามทั้งหมดของช่างวินัยยังไง 

“......ไม่สงสารพี่บ้างเลยเหรอ พี่ผิดอะไรวะ”

ไม่มีคำพูดจากปากของเต๋อ  และช่างวินัยก็แตะปลายจมูกเบาๆ ที่หลังคอของเต๋อ และแม้จะเกิดอาการสะดุ้งเล็กน้อยตอนที่ถูกสัมผัส  แต่เต๋อก็ไม่ได้หนี

อย่างน้อยก็ไม่ได้หนี
อย่างน้อยเต๋อมันก็ยังยอมให้กอด

ไม่ได้แย่นักหรอก  ถึงตอนนี้มันก็คงไม่ได้แย่มากนักหรอก

อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าไอ้เต๋อมันไม่ได้ชังน้ำหน้ากันจนถึงขนาดตัดขาด

อะไรบางอย่าง
ความรู้สึกบางอย่างทำให้ช่างวินัยพอจะเบาใจลงได้บ้าง ว่าอย่างน้อยเต๋อก็ไม่ได้รังเกียจกันจนถึงขนาดไม่อยากมองหน้า

“ช่างนัยไม่บอกแม่ได้มั้ย”

ถ้าต้องการให้เป็นแบบนั้นจริง ๆ  เรื่องแค่นั้น ทำไมจะทำให้ไม่ได้

“แล้วจะเลิกหลบหน้าพี่ แล้วกลับบ้านพร้อมกันมั้ย”

กลับ
แค่ช่างนัยรับปาก แล้วจะยอมกลับ

“รับปากก่อนได้มั้ย”

“ได้”

เต๋อพยักหน้ารับสิ่งที่ช่างวินัยยอมตกลงด้วย และค่อย ๆ ดึงแขนของช่างนัยออกอย่างช้าๆ เพื่อหันมาเผชิญหน้ากันตรง ๆ

และช่างวินัยก็ยอมปล่อยเต๋อให้เป็นอิสระ

“.............มึงเป็นเมียพี่แล้ว มีอะไรก็พูดกันตรง ๆ ......................”

ห๊ะ

เหี้ยยยยยยยยยย
เต๋ออ้าปากค้าง และภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นระหว่างเต๋อกับช่างวินัยก็เริ่มประมวลภาพกลับเข้ามาในสมองอีกครั้ง  ทั้งที่เหมือนจะลืม ๆ ไปแล้วด้วยซ้ำ

“อ่ะ ช่าง...นะ...นัย ผม...กะ”

ช่างวินัยจ้องหน้าของเต๋อนิ่ง ๆ และรอฟังสิ่งที่เต๋อจะพูด แต่นอกจากไม่พูดแล้ว  เต๋อยังผลักช่างวินัยออกห่างและรีบเปิดประตูและเดินหนีออกจากรถทันที

เหี้ยยยยยยยยยย
ช่างนัยแม่ง
นี่คือสิ่งที่คิดเหรอวะ

เหี้ยเอ้ย  แม่งเรื่องมันเหี้ยมากที่สุดแล้วในชีวิต

กูไม่ก่งไม่กลับแล้ว  ถ้าช่างนัยจะตามมาเพื่อทำให้กูอายเพิ่มขึ้นขนาดนี้นะ กูไม่กลับแล้วโว้ยยยย

“ไอ้เต๋อ ตกลงมึงจะกลับบ้านกับพี่มั้ย”

ไม่กลับแล้วโว้ยยยย

“อย่ามายุ่งกับผมอีก ผมเกลียดช่างนัย  ผมแม่งโคตรเกลียดช่างนัย”

เป็นอะไรขึ้นมาอีก  ก็คุยกันดี ๆ แล้วไม่ใช่หรือไง  ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้อีกแล้ว

“ไม่ให้กูยุ่งกับมึงมันทำได้ที่ไหนวะ  ในเมื่อกูยุ่งไปแล้วโว้ย”

ตอบเต๋อไปแบบนั้น   และกลายเป็นเต๋อที่โมโหช่างวินัยขึ้นมาอีกครั้ง

“ก็เรื่องของช่างนัยสิ”

แล้วมันใช่เรื่องของกูคนเดียวหรือไงวะ  มึงก็มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้เหมือนกันนี่หว่า

“ก็เรื่องของมึงด้วยเหมือนกันแหละวะ แม่ง”

ช่างวินัยยกหลังมือขึ้นเกาหัวตัวเองด้วยความกลุ้ม

อุตส่าห์มาตามให้กลับบ้านได้แล้วเชียว  ทำไมถึงได้กลับมาทะเลาะกันอีกรอบได้วะ

พูดอะไรผิดไปตรงไหนถึงได้โกรธกันขนาดนั้น  ทั้งที่ดูเหมือนกำลังจะเข้าใจกันอยู่แล้วเชียว

แม่ง
มีเมียเด็กทำไมมันยากอย่างนี้วะ
ถ้าปัญหามันเยอะขนาดนั้น  กูฉุดกลับเลยเป็นไง  จะได้หมดเรื่องหมดราว  รู้แล้วรู้รอดกันไป


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-01-2015 17:52:44
เมียเด็กต้องหมั่นเอาใจสิ  :laugh:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 28-01-2015 17:55:05
เต๋ออย่าปากแข็งซิ
ช่างนัยแก่แล้ว แกไม่ค่อยเข้าใจอะไรหรอกถ้าไม่พูดตรงๆ อิอิ
 :hao3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 28-01-2015 17:59:02
5555 เมียเด็กมันติสท์
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-01-2015 18:11:02
พี่นัยไม่เข้าใจหรอก ถ้าเต๋อไม่พูดหรือคุยกันให้เข้าใจ
มีเมียเด็กต้องทำใจนะพี่นัย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-01-2015 18:22:22
ช่างนัยไม่รู้หรือไงว่าน้องมันเขิน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 28-01-2015 18:48:35
อัลไลของเต๋อแว้~  :z3: :z3:

นี่คือเขินอย่างเดียวชิมิ?  :hao3: :hao3:

บอกเลย งง งง งง  :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 28-01-2015 19:30:23
ช่างนัยฉุดน้องเต๋อเลยค้าาาาาาา  :hao3:   :hao3:

เจ่สนับสนุน แล้วก็พาไปตกลงกันแบบแนบนิดอีกครั้งคงจะง่ายขึ้น(หรือเปล่า ก็ไม่แน่นใจ)  คึคึ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 28-01-2015 19:56:34
เห็นด้วยดื่อนักฉุดเลย55555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 28-01-2015 20:34:07
อย่างนี้ต้องใช้กำลังแล้วล่ะะะ
เด็กน้อยเขาซึน พี่นัยจัดการโลดดด 55
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-01-2015 20:53:24
ปัญหาามันเกิดเพราะไม่ยอมเปิดอกคุยกันเนี่ยแหละ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 28-01-2015 21:05:11
ช่างนัยก็ไปขอน้องกับแม่ก่อนซิวะ 555 เข้าทางผู้ใหญ่ก่อนเลย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 28-01-2015 22:10:42
ไปบอกแม่เลย !
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-01-2015 23:01:22
วุ้ยยยยย แบบนี้เรียกแม่มาเคลียร์ดีกว่า
ท่าจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 28-01-2015 23:17:41
แบบนี้ต้องคุยกันตัวต่อตัวอีกสักหลายๆรอบ :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 28-01-2015 23:20:48
อิเต๋อมันเยอะนะ แหม เรื่องของเฮียนี่เอ็งรู้ดีจริงๆ พอเรื่องตัวเอง ไหนล่ะทางออก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 30-01-2015 16:25:21
อ่ะ อ่าว ได้เมีย ซึนไปซะงั้นช่างนัย แต่ก็นะ ฉุดเลยยยยยย 5555 :hao7:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 30-01-2015 16:58:31
จะให้เปิดตัวกับแม่ว่าคบกับพี่ชายข้างบ้านที่เห็นกันมาตั้งแต่ตัวเองเป็นเด็ก มันแปลกๆอยู่ล่ะ เท่ากับเป็นการเน้นย้ำด้วยว่าลูกชายได้ผ่านการซึ่มบาลาเฮ่ยกับพี่เค้าไปแล้ว แบบชายกับชาย แถมพี่คนนั้นยังมีวุฒิภาวะเป็นผู้ใหญ่คนนึง เราเข้าใจจิตใจตัวละครว่าเต๋ออายยังงัย

หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 30-01-2015 18:02:23
เริ่มจะน่าเบื่ออีกแล้ว เฮ้อ ขาดเราสักคนคงไม่เป็นไรหลอก แฟนนิยายเข้าเยอะอยู่ มีปากไว้เพื่อทำให้คนอื่นเสียใจจริงๆ บอกตัวเอง ไปล่ะ อ่านแล้วปวดหัวกับสี่คนนี้มาก  อย่าให้เจอคนประเภทสี่คนนี้เลย ทำใจไม่ไหว รักไปคงมีแต่จะเสียใจไปตลอดชีวิต คงหาความสุขไม่ได้ จะโกรธก็โกรธนะ อินมากจนไม่รู้จะทำยังไง อึดอัดแทน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ตาม P.11
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 31-01-2015 15:43:11
 :z13:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 31-01-2015 18:51:28
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/254_zps35063e71.jpg)

 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย) ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด

น้องเต๋อเป็นเด็กน่ารัก
เด็กน่ารักชื่อน้องเต๋อ
น้องเต๋อทำหน้างอน
เวลาน้องเต๋อทำหน้างอน น้องเต๋อจะน่ารัก

จงพิสูจน์ข้อความดังกล่าว

“เฮ้ยยยยยยยยยย”

วิธีการพิสูจน์ของช่างวินัยไม่มีอะไรมาก
แค่ยื่นหน้าไปใกล้ ๆ แล้วหอมแก้ม “น้องเต๋อ” คนที่ว่าไปหนึ่งทีแล้วก็โดนน้องเต๋อมันผลักออกอยู่นี่ไง

“อะไร”

ยื่นหน้าเข้าไปหาอีกเล็กน้อยและเต๋อก็พยายามผลักช่างวินัยให้ออกห่าง

“ไม่เอา”

อย่ามาทำเสียงงอแงใส่แบบนี้  เดี๋ยวมันจะพาลให้อดใจไม่ไหว

“ไม่เอาอะไร ตอนเอาก็เอาไปแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เอา ยังไม่ได้ทำอะไรเลย มาร้องว่าไม่เอาซะแล้วไม่สู้เลยวะเอ็งเนี่ยะ  ห๊ะ  ไอ้เต๋อ”

โดนล้อ และช่างวินัยก็สังเกตเห็น แก้มของคนที่โดนล้อ เริ่มขึ้นสีแดงเรื่ออีกแล้ว  เห็นแล้วช่างวินัยก็เลยยิ้มกว้าง  มึงน่ารักเกินไปแล้วไอ้เต๋อ
ช่างวินัยวางมือไว้บนพนักพิงเบาะรถข้างที่นั่งคนขับที่”น้องเต๋อ”  ของพี่นัย นั่งอยู่

และเต๋อก็ใช้หลังมือขัดถูที่แก้มของตัวเองไปมา  และไม่รู้จะทำหน้ายังไง  ความร้อนที่แก้มเพราะแรงสัมผัสของช่างวินัยยังคงอยู่และเต๋อก็พยายามลบความรู้สึกออก  แต่ยิ่งลบยิ่งขัดถูไปที่แก้มมากเท่าไหร่ ช่างวินัยยิ่งส่งยิ้มหวาน ๆ มาให้มากเท่านั้น

“จะเช็ดทำไมวะ”

ทำไมต้องถามด้วยว่าเช็ดทำไม  มันมีอย่างอื่นให้ทำได้มากกว่านี้หรือไง

“ทำมากกว่านี้ พี่ก็เคยมาแล้ว”

ตอกย้ำกันเข้าไป
และเต๋อก็ยิ่งใช้หลังมือขัดถูที่แก้มของตัวเองเพิ่มขึ้น
แต่ยิ่งเช็ดความรู้สึกยิ่งเพิ่ม
ไม่ใช่แค่ที่แก้ม
แต่เหมือนความรู้สึกบางอย่างกำลังตามมาเล่นงาน
จากแก้ม ไปที่ริมฝีปาก  หน้าผาก คิ้ว คางซอกคอ และไล้เรื่อยลงมาจนถึงไหล่ แผ่นอกและลงมาที่หน้าท้อง

ไม่ลืม
ไม่เคยลืม
เพียงแค่ไม่กล้าจดจำมากกว่า  ความรู้สึกแรกที่ได้แตะต้องและเป็นของกันและกัน

มันไม่ได้จางหายไปจากความรู้สึกง่าย ๆและในเวลานี้ดูเหมือนมันกำลังเพิ่มขึ้น และมากขึ้นเรื่อย ๆเมื่อเต๋อเผลอเงยหน้าขึ้นและสบสายตากับดวงตาของช่างวินัยที่มองมา  และไม่คิดจะปิดบังความรู้สึกที่อยู่ในใจ

“เอ็งใจร้ายมากเต๋อ   ทิ้งพี่ไปตั้งนาน  ไม่สนใจกันเลยว่าพี่จะเป็นยังไง จะรู้สึกยังไง”

เรื่องนั้น
เรื่องที่ไม่ยอมอยู่บ้านพักใหญ่เพื่อหลบหน้าช่างวินัย จนช่างวินัยทนไม่ไหวต้องมาตามเต๋อกลับบ้าน

เรื่องนั้น..........เพิ่งผ่านไปได้ไม่นาน

“ตอนเอ็งไป เอ็งคิดถึงใจพี่บ้างหรือเปล่าเต๋อ”

โดนตัดพ้อต่อว่า และช่างวินัยก็แตะฝ่ามือเบา ๆที่เส้นผมของเต๋อ

อาการสะดุ้งน้อย ๆ เพราะไม่คุ้นชิน ทำให้ช่างวินัยชะงักนิ่งค้างไปเล็กน้อยและเกือบจะดึงมือกลับ

แต่เมื่อลองแตะฝ่ามือลงไปอีกครั้ง
และเต๋อก็เหลือบสายตามองหน้าของช่างวินัยแบบกล้าๆ กลัว ๆ 
ช่างวินัยถึงเพิ่งรู้สึกตัว

เรา.....แทบไม่เคยถึงเนื้อถึงตัวกันเลย
ไม่เคยแสดงความรู้สึกรักใคร่แบบนี้  และเต๋อก็ไม่ชินกับการที่ถูกทำแบบนี้

 ไม่แปลกที่จะไม่ชิน ไม่แปลกที่จะทำท่าคล้ายปฏิเสธ
ไม่แปลกที่จะลังเลใจ

และช่างวินัยมีหน้าที่เดียวเท่านั้น
ต้องทำให้เต๋อคุ้นเคยกับสัมผัสแบบนี้  แตะต้องด้วยความรู้สึกอ่อนโยน   ทำให้รู้ว่ารู้สึกยังไง  ในทุกครั้งที่พอมีโอกาส  ทุก ๆ ครั้งที่เราพอมีเวลาอันน้อยนิดที่เราจะได้อยู่ใกล้ชิดกันบ้าง

“กลัวพี่จริงๆ เหรอเต๋อ”

กลัวมั้ย
ก็ไม่ใช่ว่ากลัว
แค่ ไม่ชินเวลาที่ถูกสัมผัสด้วยความอ่อนโยนแบบนี้

“เฮียบัสดีกับผมนะ  ใคร ๆ หลาย ๆ คนก็ดี แต่ว่า.....”

เข้าใจ

ช่างวินัยเข้าใจดี

เต๋อดึงมือของช่างวินัยออก และช่างวินัยก็นิ่งมองใบหน้าที่แฝงไปด้วยความกังวลใจของเต๋อ

“ไม่รู้สิ มันอธิบายไม่ได้”

เต๋อไม่มีพ่อ
ใคร ๆ ก็รู้เรื่องนั้น

มันจะแปลกอะไรที่เต๋อจะโหยหาความรู้สึกของการถูกปกป้องและเอาใจใส่จากคนที่เข้มแข็งกว่า

แม่ปกป้องให้รู้สึกว่าปลอดภัยได้ แต่บางครั้งก็อยากได้รับความความเข้มแข็งจากใครสักคนบ้าง
แค่ที่เคยได้รับ เต๋อรู้  ในใจลึก ๆ แค่นั้นมันยังไม่มากพอ

และนั่นทำให้เต๋อในวัยเด็กติดช่างวินัย  และเอาแต่เดินตามต้อย ๆ
พยายามเลียนแบบพฤติกรรม พยายามแสดงออกถึงลักษณะบางอย่างเพื่อให้ได้เข้าใกล้ช่างวินัย

“พี่ไม่ใช่พ่อเอ็งนะ   แล้วเฮียบัสก็ไม่ใช่”

เรื่องนั้นก็รู้
มันดูน่าทุเรศและอ่อนแอมาก  ถ้าใครจะได้รู้ความรู้สึกโหยหาแบบนี้

“เต๋อ”

เรียกชื่อของคนที่ก้มหน้านิ่ง ๆและเต๋อก็ถอนหายใจยาว

“มีพ่อหรือไม่มี เอ็งก็โตมาได้ เอ็งก็เข้มแข็งมาได้ เอ็งก็อยู่มาได้
กลัวอะไร กังวลอะไร  เวลาที่โหยหา  อยากให้กอด อยากให้รัก อยากให้เอาใจ  เอ็งก็ทำแบบนั้นกับพี่ได้  เต๋อเอาแต่ใจกับพี่ได้นะ”

ได้เหรอ
แบบนั้นน่ะ
มันทำได้ที่ไหน

“ไม่ได้หรอก”

ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ

“ได้”

ได้เหรอ
ทำแบบนั้นได้จริง ๆ เหรอ

ไม่ได้หรอก
ยังไงก็ทำ..........ไม่ได้.......

การนิ่งเงียบคือคำตอบ  และช่างวินัยก็ดึงมือของเต๋อมากุมเอาไว้
เขย่ามือของเต๋อเล่น และลูบไล้แผ่วเบาที่หลังมือ

ไม่ได้เต็มไปด้วยความรู้สึกต้องการในแบบที่ร้อนแรง
แต่อ่อนโยนและเต็มไปด้วยความห่วงใย และปรารถนาดี

“พี่ไม่น่าปล่อยเต๋อทิ้งไว้แบบนั้นตั้งนาน  พี่ทำตัวโง่ ๆ ไม่สมกับเป็นคนที่โตกว่า  ขอโทษที่ทำให้เราต้องห่างกัน  ผิดที่พี่เองที่ทำให้เต๋อรู้สึกไม่ดีมาตลอด...........ขอโทษที่ไม่เคยรู้ว่าทำให้เต๋อต้องเป็นแบบนี้..........เพราะพี่แกล้งทำเป็นไม่สนใจไยดีเต๋อก่อน”

ช่างวินัยเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าเพราะอะไรเต๋อถึงเมินเฉยและไม่ยอมคุยด้วย  ไม่ยอมเข้าหา ถอยห่าง และตั้งแง่กับช่างวินัยอยู่ตลอดเวลา

ไม่ใช่เพราะว่าโดนแกล้งแต่เป็นเพราะช่างวินัยที่ตีตัวออกห่างก่อน เต๋อถึงต่อต้านและพยายามตั้งแง่กับช่างวินัยในทุกๆ เรื่อง

“ไม่เอาแล้วนะ แบบเมื่อก่อน มีอะไรก็พูดก็คุยกันตรงๆ อยากจะงอแงงี่เง่ากับพี่ เต๋อก็ทำเถอะ  พี่รอให้ทำอยู่ตลอดตั้งแต่เล็กจนโต”

แบบนั้นเรียกว่าการโอ๋และยอมให้เอาแต่ใจหรือเปล่า

เต๋ออยากจะแปลความหมายแบบนั้น  อยากจะให้มันเป็นแบบนั้น

อยากให้เป็นแบบนั้นไปตลอด

“ทำไม่เป็น”

ทำไม่เป็นก็หัดทำ  หัดทำเยอะ ๆ

“ทำสิ  หัดทำ  เช่นตอนนี้มองหน้าพี่แล้วทำที่อยากทำก็แค่นั้น  ทำไมต้องคิดมาก”

ทำไมต้อง........คิดมาก

เต๋อเงยหน้าขึ้นและมองหน้าของช่างวินัยตรง ๆ  มองนิ่ง ๆ และไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี

ไม่รู้ว่าควรทำยังไง.......
สิ่งที่ทำได้และรู้สึกอยากทำมาตลอดคือการยื่นมือไปหาและค่อย ๆ แตะฝ่ามือไปที่ข้างแก้มของช่างวินัยด้วยท่าที กล้าๆ กลัว ๆ

สุดท้ายเป็นช่างวินัยที่จับมือของเต๋อเอาไว้และดึงให้ไปแตะที่ข้างแก้มของตัวเอง

รอยยิ้มหวาน ๆ ที่ช่างวินัยส่งมาให้ ทำให้เต๋อต้องรีบดึงมือกลับและรีบเมินหน้าหนีไปนอกหน้าต่างรถ

“กลับบ้านเถอะ”

หาทางเลี่ยงกันอีกแล้ว  หาทางเลี่ยงกันแบบเห็น ๆ  อยากอยู่ด้วยกันอีกสักหน่อย  แต่ช่างวินัยก็จำใจต้องหมุนกุญแจเพื่อสตาร์ทรถ

ที่จริงควรถึงบ้านนานแล้ว  แต่อยากจะมีเวลาเพื่อพูดคุยกันหน่อยมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีเวลาอยู่ด้วยกันแบบนี้

เว้นแต่ว่าต้องหาเหตุให้ได้อยู่ด้วยกัน เช่นวันนี้ที่ช่างวินัยไปรับเต๋อกลับบ้าน ถึงได้พอมีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง  ได้คุยกันบ้าง หลังจากที่แทบไม่ได้คุยกันแบบตรง ๆ แบบนี้มาหลายวัน

“ไม่อยากกลับเลยวะ  กลับไปเต๋อก็ไม่พูดกับพี่อีก”

ช่างวินัยบ่นพึมพำให้คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ได้ยินและเต๋อก็หันมามองหน้าของช่างวินัยและแกล้งเมินเฉย ทั้งที่รู้สึกดีใจแม้จะขัดเขินอยู่บ้าง แต่มันก็ดีกว่าเมื่อก่อนที่ต้องทำเป็นเมินเฉย

อยากจะยิ้มแต่ก็ต้องฝืนเอาไว้  อยากจะพูดหรือทำอะไรก็ต้องเก็บเงียบเอาไว้

ช่างวินัยทำหน้าเครียด  แกล้งตีหน้าขรึมและทำเสียงฮึดฮัดในลำคอให้เต๋อได้ยิน  และในเวลาไม่นานก็อมยิ้มและแอบเหลือบสายตามองหน้าของเต๋อหลายครั้ง

อารมณ์ดี มีความสุข และช่างวินัยคิดว่าตัวเองไม่น่าโง่ที่ปล่อยเวลาทิ้งไปอย่างไร้ค่ามาตลอด

น้องเต๋อเป็นเด็กน่ารัก
เด็กน่ารักชื่อน้องเต๋อ
น้องเต๋อชอบทำหน้างอน  เวลาน้องเต๋อทำหน้างอน น้องเต๋อจะน่ารัก
แต่เวลาทำหน้าเขิน  น้องเต๋อจะน่ารักเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า

จงพิสูจน์ข้อความดังกล่าว

และช่างวินัยพิสูจน์แล้ว

มันเป็นจริงตามข้อความข้างต้นทั้งหมด.........ที่ระบุมา


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 31-01-2015 18:55:33
เราเชื่อข้อความข้างต้นเหมือนกันนะ. :mew3:
น้องเต๋อน่ารักสุดๆ. :-[ หนูดูอินโนเซนท์ม๊ากกกก~  :hao5: น่าหยิกจริงเลย.แบบว่าใสปิ๊งจนน่าฟัดเลยอ่ะ. :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 31-01-2015 19:23:00
พี่ไม่ใช่พ่อ แต่พี่เป็นผรัวววววว
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 31-01-2015 19:40:53
เราเชื่อพี่นัยนะ ว่าน้องเต๋อน่ะน่ารักจริงๆ ไม่งั้นพี่นัยจะหลงซะขนาดนี้หรอ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 31-01-2015 19:52:28
ช่างนัยยยยยย เอาใจเด็ก :ling1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 31-01-2015 20:12:13
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 31-01-2015 20:24:12
น้องเต๋อเป็นเด็กน่ารัก
เด็กน่ารักชื่อน้องเต๋อ
น้องเต๋อชอบทำหน้างอน  เวลาน้องเต๋อทำหน้างอน น้องเต๋อจะน่ารัก
แต่เวลาทำหน้าเขิน  น้องเต๋อจะน่ารักเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า

เจ่เห็นด้วยกับช่างนัยจ้า  คึคึ       :hao3:    :hao3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: PiSCis ที่ 31-01-2015 20:49:44
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 31-01-2015 22:53:28
ในที่สุดช่างนัยก็เห็นทางออกแล้ว  o13 จีบเมียตัวเองนี่แหล่ะช่างนัย รุกคืบ รุกคืบ เด๊ยวเห็นผล
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 31-01-2015 22:58:47
น้องเต๋อเป็นเด็กน่ารัก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 31-01-2015 23:28:14
ต้องพิสูจน์บ่อยๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 31-01-2015 23:40:05
ช่างนัยรุกก่อนแล้วค่อยจีบเมียสินะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 01-02-2015 05:49:13
หวานตลอด  :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 01-02-2015 08:34:28
ช่างนัยลุยโลดค่ะะะ น้องเต๋อใกล้ใจอ่อนแล้ววว
><
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-02-2015 09:18:16
น้องเต๋อเป็นเด็กน่ารัก ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 01-02-2015 12:23:02
อีกนิด ช่างนัย อีกนิด น้องเต๋อจะอ่อนลงเอง  เอางี้จับปล้ำอีกรอบดิ 555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-02-2015 12:41:47
ช่างวินัยหลงเด็ก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 01-02-2015 15:15:38
มีเมียเด็กมันช่าง กระชุ่มกระชวยหัวใจ ชิงๆๆๆๆ หลงหัวปักหัวปำ น้องเต๋อ อย่างนั้น น้องเต๋อ อย่างนี้ 555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 02-02-2015 12:44:06
น้องเต๋อ น่ารัก น่ากินมากเลยค่ะ  :z1:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 02-02-2015 14:34:43
ก็น่ารักดิ ทำอะไรลงไปแล้วหละช่างนัย :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: windel ที่ 02-02-2015 14:42:38
โอ้ย ช่างนัย :hao7:
มีเมียเด็กก็ต้อง โอ๋ บ่อยๆนะ  //เขินตัวแตกแทนเต๋อแล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-02-2015 15:00:52
โตแล้วก็ยังน่ารัก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 02-02-2015 17:57:26
น้องเต๋อกับช่างนัยน่ารักนะ แต่ช่วยเอาพี่พัดกับเฮียบัสมาทีเถออออออออออออออ เจอพี่บัสทำให้ลืมปาไปกี่รอบแล้วเนี่ย  :katai4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 02-02-2015 18:06:32
ชอบทั้งสองคู่เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 03-02-2015 01:48:56
:oni1:  อยากอ่านต่อแล้วง่ะ  โอม จงมา จงมา  :oni3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 03-02-2015 09:10:09
ThankS
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 03-02-2015 10:44:11
โอ้ยย น่ารัก  :mew3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 05-02-2015 18:32:32
 :z13:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 09-02-2015 00:32:40
 :hao7:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 09-02-2015 19:56:43
ไปไหนอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา :serius2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Koizumint ที่ 11-02-2015 07:30:48
มาต่อดวนนนนน
จะลงแดง เข้าใจค.รู้สึกเต๋อนะ
งืดดดดดดดดดด

หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 18-02-2015 09:23:38
มาดันกระทู้ค่ะ
รอมาลงต่ออยู่น้าาาา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ*ช่างวินัย) by aoikyosuke ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด P.12
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 25-02-2015 09:08:44
ก๊อกๆๆๆ ค่า มีรถคันไหนที่ซ่อมเสร็จจะส่งงานให้ลูกค้าได้สักคันไม๊เอ่ย ....ปิดร้านไปเป็นเดือนเลย  :m17:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพััฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 25-02-2015 18:55:16
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน ก่อนจะเข้าใจ

บารมีคิดว่าตัวเองทั้งโง่ทั้งบ้า ที่กำลังจะทำเรื่องไม่ควรทำในขณะที่ยังไม่แน่ใจกับความรู้สึกของตัวเองที่มีให้พิพัฒน์

ใช่ที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข แต่บางทีมันอาจไม่ควรทำถึงขนาดนี้
เพราะแม้ร่างกายเราจะหลอมรวมเป็นของกันและกัน

แต่ใจของพิพัฒน์ไม่ได้รู้สึกถึงตัวตนของบารมีในเวลานี้เลย

“ปา”

พิพัฒน์ยังคงเรียกหาแต่ชื่อที่บารมีไม่อยากได้ยิน
ไม่ได้เกลียดน้องสาวตัวเอง แต่ไม่อยากได้ยินชื่อของปาจรีย์ในเวลานี้  สิ่งที่บารมีทำคือการกดย้ำลงไปที่ซอกคอของพิพัฒน์อีกนับครั้งไม่ถ้วน เพื่อประทับรอยเอาไว้ เพื่อให้จำ เพื่อให้เข้าใจว่าคนที่ทำรอยเหล่านี้เอาไว้ไม่ใช่คนที่พิพัฒน์โหยหา 

ความรู้สึกที่หัวใจเต้นรัวถี่แรงขึ้น บารมีไม่รู้จะเรียกความรู้สึกแบบนี้ว่าอะไร   มันอาจเรียกว่าความหึงหวงก็ได้ บารมีไม่แน่ใจ

แต่สิ่งที่บารมีรู้แน่ทุกครั้งที่ร่างกายสอดแทรกประสานกัน  และทุกครั้งที่พิพัฒน์เรียกหาคนที่บารมีไม่ต้องการได้ยิน   มันทำให้บารมีรู้สึกปวดร้าวลึก ๆ ในใจ

จะทำแบบนี้ไปทำไม  ทำไปเพื่ออะไร

หาคำตอบอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง 

แต่ไม่อยากปล่อยมือ 
ไม่อยากให้ทุกความรู้สึกนึกคิดของพิพัฒน์เป็นของคนอื่นอยากให้เป็นของตัวเอง  เป็นของบารมีแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น

“บัส”

พูดให้ได้ยิน พูดให้รับฟัง  พูดให้เข้าใจ

และพิพัฒน์ก็ขมวดคิ้วมุ่น 

“พี่.....บัส”

เรียกชื่อของใครอีกคนด้วยน้ำเสียงแผ่วโหย  และบารมีก็ค่อย ๆ ยกฝ่ามือที่ปิดตาของพิพัฒน์ออก

เพื่อให้พิพัฒน์ลืมตาขึ้นมา
เพื่อให้พิพัฒน์มองมา
เพื่อให้พิพัฒน์เข้าใจ  ว่าตอนนี้ใครกันแน่ที่อยู่ด้วยในเวลานี้

ดวงตาสองคู่สบกันนิ่ง
พิพัฒน์นิ่งมองไปที่ดวงตาของบารมี เหมือนอยากจะถามว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่

อยากจะรู้
อยากเข้าใจให้มากกว่านี้
ความรู้สึกที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ  ความรู้สึกอบอุ่น อ่อนหวานที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวในเวลานี้เรียกว่าอะไร

พิพัฒน์แตะฝ่ามือที่ใบหน้าของบารมีเบา ๆ แตะและลูบไล้เล่น

แต่ไร้ซึ่งคำพูด  มีเพียงความเงียบงัน
ความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ ก่อตัวอย่างเชื่องช้า  และเหมือนเกลียวเชือกที่ค่อย ๆ ผูกมัดกันเอาไว้อย่างเงียบ ๆ พิพัฒน์อยากให้เป็นอย่างที่ตัวเองคิด

ลูบไล้ฝ่ามือที่ข้างแก้มของบารมีอยู่อย่างนั้น แต่ในเวลาไม่นานดวงตาของพิพัฒน์ก็เลื่อนลอยและเมินหนีจากใบหน้าของบารมี

“พัฒน์”

เรียกให้กลับมา
เรียกให้กลับมาหา
และพิพัฒน์ก็ดึงสายตาตัวเองกลับมาที่บารมีอีกครั้ง

แค่จะทำให้ลืมแค่นั้นเองเหรอ
แค่ทำให้ลืมใครบางคนแค่นั้นเองใช่มั้ย
พิพัฒน์รู้สึกเศร้าใจลึก ๆ กับสิ่งที่บารมีอยากจะทำให้
แค่ทำให้ลืม..........

ร่างกายแนบชิดกัน  แต่ความรู้สึกห่างไกลกันออกไปอย่างช้า ๆ
ทุเรศชะมัด
ทุเรศตัวเองสิ้นดี
บารมียิ้มเยาะตัวเองและนึกสมเพชที่ถึงขนาดต้องใช้ข้ออ้างโง่ ๆ ในการยึดพิพัฒน์มาเป็นของตัวเอง

ทำแบบนี้บางทีมันยิ่งกว่าโง่ 
โง่เกินไป และรู้สึกเหมือนไม่ใช่ตัวของตัวเอง
พิพัฒน์ยกแขนขึ้นโอบรัดรอบคอของบารมีเอาไว้  กอดเอาไว้เพราะโหยหาและต้องการไออุ่นของร่างกายที่แนบชิดให้มากกว่านี้

กอดเอาไว้แน่นและรั้งต้นคอของบารมีลงมา

แนบริมฝีปากของตัวเองกับริมฝีปากร้อนรุ่มของบารมี  ดูดดุนเรียกร้องเอาแต่ใจกับบารมีให้สนองตอบทุกอย่าง

เป็นพิพัฒน์ที่กอดบารมีเอาไว้แน่น
และเป็นพิพัฒน์ที่เรียกร้องให้บารมีทำเรื่องบางอย่างให้เตลิดไปไกล

ไม่มีคำพูดระหว่างคนสองคน
มีเพียงเสียงลมหายใจกระเส่าและที่หอบหนักขึ้นพร้อม  ๆ กันเมื่อร่างกายสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างลึกล้ำในทุกขณะ

พิพัฒน์เรียกร้องอย่างถึงที่สุด และบารมีก็ตอบสนองให้อย่างถึงที่สุด

“ไม่ให้เสียใจทีหลังนะพัฒนฺ”

เสียใจที่หลัง
เสียใจทีหลังงั้นเหรอ
พิพัฒน์ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเสียใจกับเรื่องอะไรในชีวิตอีกแล้ว

พิพัฒน์กอดที่ไหล่ของบารมีแน่น  และขบริมฝีปากลงที่ลาดไหล่กว้าง ขบเม้มดูดดุนและฝากร่องรอยแดงช้ำเอาไว้มากมาย

เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายรุกล้ำเข้ามาจนถึงลึกในสุด
และในเวลาไม่นาน เมื่อบารมีค่อย ๆ ขยับกายอย่างเชื่องช้า พิพัฒน์ก็หรี่ปรือตาลง  ดวงตาของพิพัฒน์ยังคงจ้องมองไปที่ใบหน้าของบารมีนิ่ง ๆ ด้วยใบหน้าแดงก่ำ

ริมฝีปากที่ขบเม้มแน่นเหมือนพยายามสะกดกลั้นเสียงครางของตัวเองเอาไว้  ยิ่งเร่งเร้าทุกความรู้สึกของบารมีมากขึ้น
ดวงตาฉ่ำหวานหรี่ปรือและพิพัฒน์ก็กอดไหล่ของบารมีเอาไว้  ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นและขยับร่างกายให้เปลี่ยนมาเกยทับอยู่เหนือร่างของบารมี 

เอนหลังแนบกับแผ่นอกกว้างและรั้งแขนของบารมีให้โอบรัดรอบเอวเอาไว้  ก่อนจะค่อย ๆ ขยับร่างกายไปมาอย่างเชื่องช้า เมื่อบางสิ่งบางอย่างที่คับแน่นอยู่ภายในช่องทางด้านหลังเริ่มเข้าที่เข้าทาง

“อือ”

พิพัฒน์ขบริมฝีปากแน่น และส่งเสียงครางเครือ เพราะไม่สามารถหยุดอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้

ห่างเหินจากความรู้สึกแบบนี้ไปนาน และเมื่อได้สัมผัสอีกครั้งถึงได้รู้ว่าตัวเองโหยหาความรู้สึกแบบนี้มากขนาดไหน

พิพัฒน์ค่อย ๆ ขยับสะโพกให้เคลื่อนไหวไปตามจังหวะของสะโพกแกร่งที่ขยับขึ้นลง   คร่อมทับและกดฝ่ามือไหว้ที่หน้าขาแกร่งของร่างที่ปล่อยให้พิพัฒน์ทำอย่างที่ต้องการ เพื่อให้ทุกการแทรกสอดเป็นไปอย่างพร้อมเพรียงกัน

หยดน้ำข้นหนืดไหลซึมออกมาที่ท่อนเอ็นที่ขยับไหวไปตามแรงกระแทกและพิพัฒน์ก็กำท่อนเอ็นของตัวเองเองเอาไว้ ขยับฝ่ามือให้ส่วนปลายผลุบหายเข้าออกอยู่ในฝ่ามือ  รูดรั้งขึ้นลงตามความยาวอย่างเชื่องช้า

ช่องทางด้านหลังยังถูกกระแทกกระทั้นจากท่อนเอ็นร้อนใหญ่ที่คับแน่นอยู่ภายใน  ความแข็งแกร่งร้อนรุ่มเคลื่อนไหวไปมาอยู่ภายในร่าง    และเรียวขาขาวก็ค่อย ๆ แยกออกกว้างเพื่อให้ทุกสัมผัสลึกล้ำมากขึ้น 

เสียงร้องครางที่เต็มไปด้วยความต้องการ ยิ่งเป็นตัวช่วยเร่งเร้า ให้บารมีกระแทกเอวให้เร็วขึ้น

“ตรงนี้เหรอพัฒน์  โดนตรงนี้แล้วเสียวมั้ย”

พิพัฒน์ไม่ตอบ  แต่การที่ช่องทางด้านหลังบีบรัดแก่นกายแกร่งที่แทรกสอดอยู่ภายในก็เป็นคำตอบได้ดี

“แรง ๆ เข้ามา อีก อึก อาส์”

เสียงร้องครางยิ่งทำให้บารมีรู้สึกดีไม่น้อย จนต้องเบียดเสียดท่อนเอ็นอุ่นเข้าออกเร็วขึ้น แรงขึ้น จนพิพัฒน์ร้องครางไม่หยุดเมื่อโดนกระแทกเข้ามา  หยดน้ำขุ่นข้นฉ่ำเยิ้มไหลออกมาจากภายในช่องทางที่บีบรัด  ท่อนเอ็นแกร่งถูกเคลือบชโลมด้วยของเหลวข้นหนืดที่ไหลออกมาจากช่องทางนั้น

พิพัฒน์เร่งมือของตัวเองให้เร็วขึ้น เมื่อรู้สึกใกล้ถึงที่หมายเต็มที่ และเป็นบารมีที่โอบรัดแขนทั้งสองข้างของพิพัฒน์เอาไว้แน่น และกระแทกกายเข้ามาไม่ยั้ง

เรียวขาขาว แยกออกกว้างเพื่อให้การสอดแทรกรุนแรงขึ้น พิพัฒน์รู้สึกเหมือนมีคลื่นความรู้สึกอย่างรุนแรงมหาศาลไหลวนอยู่ที่หน้าท้องและกำลังมารวมกันอยู่ที่ความแข็งขืนในฝ่ามือที่เมื่อปล่อยให้เป็นอิสระก็ขยับไหวไปมาตามแรงกระแทกของท่อนเอ็นที่อยู่ภายใน

“พี่บัส  เสียว  แรง อีก  ไม่ไหวแล้ว ซี้ดดดดดดด จะแตกแล้ว  พี่ตรงนั้นแรง ๆ”

พิพัฒน์ร้องครางด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มีไม่คิดจะปิดบัง
และบารมีที่กำลังรู้สึกไม่ต่างกัน ก็อัดกระแทกท่อนเอ็นใหญ่เข้าไปในช่องทางที่ดูดกลืนและบีบรัดแน่นเพราะรู้สึกเหมือนกำลังจะทนต่อไปไม่ไหว 

ความรู้สึกซาบซ่านที่ทำให้ร่างกายร้อนรุ่มกำลังจะถึงที่สุด
และบารมีก็กระแทกกระทั้นร่างกายเข้าไปโดยไม่คิดจะหยุดพัก
เสียงลมหายใจที่หอบหนักดังก้องประสานกันไม่ลดละ

บารมีหยัดกายลุกขึ้นนั่งและรั้งใบหน้าของพิพัฒน์ให้หันกลับมาหา

ริมฝีปากพัวพันขบกัดที่ริมฝีปากแดงเรื่อแนบแน่น  และเมื่อพิพัฒน์แนบใบหน้าเข้าหาบารมีก็ดูดดุนที่ริมฝีปากทั้งบนและล่างของพิพัฒน์  ดูดดุนควานหารสชาติหวานที่ปลายลิ้นแลกเปลี่ยนลมหายใจซึ่งกันและกัน

บารมีกระแทกสะโพกขึ้นและพิพัฒน์ก็กดแทรกร่างกายลงมาหา

อ้อมแขนแกร่งกอดรัดที่เอวของพิพัฒน์เอาไว้  และพิพัฒน์ก็กอดแขนของบารมีแน่นเพื่อให้ร่างกายแนบชิดกันมากขึ้น

ไออุ่นจากอ้อมแขน  ความรู้สึกที่ได้ร่วมรักและโอบกอดกันยิ่งทำให้รู้สึกอบอุ่นและอยากให้ร่างกายหลอมรวมกันให้มากกว่านี้
อยากจะกลืนกินทุกความรู้สึกของกันและกันเอาไว้ทั้งหมด

และเมื่อความรู้สึกที่มีทั้งหมดไหลวนมารวมกันที่ส่วนปลายของร่างกายในจังหวะสุดท้าย
พิพัฒน์ก็ร้องครางเสียงลั่น  และแหงนเงยใบหน้าขึ้น เมื่อท่อนเอ็นแกร่งอัดกระแทกเข้ามาถี่รัวไม่หยุด
พิพัฒน์ไม่อาจต้านทานความรู้สึกของตัวเองได้อีก

บารมีช่วยรูดรั้งปรนเปรอให้ท่อนเอ็นเปียกชื้นที่ขยับไหวไปมาของพิพัฒน์เพื่อช่วยปลดปล่อยให้เร็วขึ้น

น้ำรักขาวข้น ไหลซึมกระฉอกออกมาจากส่วนปลายไม่หยุด  และเมื่อบารมีกดปลายนิ้วเอาไว้ พิพัฒน์ก็พยายามดึงมือของบารมีออกและกดสะโพกลงมาที่ท่อนเอ็นใหญ่โตที่ขยับเคลื่อนอยู่ในร่างกาย

บารมียอมปล่อยมือจากส่วนปลายของแก่นกายในฝ่ามือและน้ำรักที่ยังอัดแน่นอยู่ในนั้นก็พุ่งทะยานออกมาชโลมเคลือบไปทั้งส่วนหัวของสิ่งนั้น

บารมีขยับสะโพกไปตามการกระแทกกายลงมาของพิพัฒน์อีกเพียงเล็กน้อย ความร้อนในกายก็พุ่งทะยานเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนที่บีบรัดความแข็งแกร่งเอาไว้อยู่เนิ่นนาน  ภายในนั้นเต้นตุบและดูดกลืนร่างกายของบารมีเอาไว้

หยาดหยดอุ่นร้อนฉีดพ่นความต้องการเข้าไปภายในและไหลย้อนลงมาเปรอะเปื้อนท่อนเอ็นแกร่งที่ยังขยับเคลื่อนไหวไปมาอยู่ในนั้น

พิพัฒน์หอบหายใจหนัก  และเอนหลังซบลงที่แผ่นอกกว้างของบารมี   

หรี่ปรือตาลงอย่างช้า ๆ และยังคงจับมือของบารมีที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำรักที่พิพัฒน์ปลดปล่อยออกมา

ปลายจมูกโด่งจูบซับเบา ๆ ที่ข้างแก้มขาวและไหล่ของพิพัฒน์เบา ๆ หยดเหงื่อไหลซึมออกมาไม่หยุด

ร่างสองร่างยังไม่ได้ผละออกห่างจากกัน  มีเพียงลมหายใจเท่านั้นที่ยังหอบหนัก  และเนิ่นนานกว่าจะเริ่มปรับลมหายใจเข้าที่ได้

พิพัฒน์นิ่งงันอยู่ในอ้อมแขนของบารมี  และบารมีก็กอดพิพัฒน์เอาไว้เงียบ ๆ อย่างนั้น

ไม่มีคำพูดระหว่างคนสองคน 

พิพัฒน์นิ่งเงียบและเหม่อมองไปไกลแสนไกล
และบารมีก็ดึงความรู้สึกของพิพัฒน์กลับมาด้วยการแตะริมฝีปากลงที่ไหล่ของพิพัฒน์เบา ๆ อีกครั้ง

“พี่เอาออกก่อน  อยู่แบบนี้ผมไม่สบายตัว”

พิพัฒน์ขยับกาย ลุกขึ้นอย่างช้า ๆ และส่วนที่แทรกสอดอยู่ภายในร่างกายของพิพัฒน์ก็ถูกถอนออกมาพร้อมกับหยาดหยดขุ่นขาวมากมายที่ไหลซึมจากช่องทางที่ถูกรุกล้ำและไหลเรื่อยลงมาที่ขาจนเปรอะเปื้อนไปหมด

“อื้อออ”

เมื่อบางสิ่งบางอย่างถูกถอนออกจากร่างกาย  พิพัฒน์ก็ถึงกับนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ และเมื่อจะก้าวขาลงจากเตียง บารมีก็รั้งแขนของพิพัฒน์เอาไว้

“จะอาบน้ำเหรอ”

จะอาบน้ำ.........

“อือ”

ตอบรับสิ่งที่บารมีถาม  และบารมีก็พยักหน้าตาม

ไม่มีถ้อยคำหวานหู
ไม่มีคำพูดที่สื่อให้เห็นถึงความรู้สึกภายในใจสักคำ

มีเพียงความเงียบงันและสับสนระหว่างคนสองคนที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

ก็แค่เซ็กส์
บางทีอาจเป็นเพราะว่าเราอยู่ด้วยกันมานาน  และเมื่อถึงวันหนึ่งเราสองคนต้องการจะปลดปล่อยมันก็เลยเกิดขึ้น

ร่างกายตอบสนองกันอย่างเต็มที่ เมื่อเราปล่อยให้ร่างกายสอดแทรกประสานกันเพื่อปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมด

บางทีมันคงไม่มีอะไรมากไปกว่านี้นอกจากแค่เรื่องเซ็กส์

บางทีมันคงเป็นแค่การช่วยกันปลดปล่อยความรู้สึก

พิพัฒน์ก้าวขาเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปอาบน้ำเงียบ ๆ โดยมีบารมีมองตาม ละอองน้ำจากฝักบัวทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นและคิดอะไรได้มากขึ้น

“จะทำให้ลืม....งั้นเหรอ”

พิพัฒน์แค่นยิ้มกับตัวเองที่กล้าปล่อยให้เรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น  เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ

ลืมงั้นเหรอ
ลืมด้วยการนอนด้วยกันแบบนี้งั้นเหรอ
โคตรสมเพชตัวเองชะมัด
พิพัฒน์ยังคงยิ้มและส่ายหน้าไปมา  เพราะไม่อยากเชื่อว่าเรื่องแบบนี้ระหว่างตัวเองกับบารมีจะเกิดขึ้นได้

หยิบผ้าขนหนูมาซับน้ำจากร่างกาย  และเมื่อก้าวขาออกจากห้องน้ำก็ไม่พบบารมีแล้ว

กลับห้องไปแล้วสินะ

หรือว่ารู้สึกแย่
บางทีเรื่องที่เกิดขึ้นก็เหมือนฝันไป
เหมือนว่าสัมผัสร้อนแรงที่เต็มไปด้วยความห่วงหาต้องการเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เป็นแค่ความฝัน

บางทีทั้งหมดนี้อาจเป็นแค่ความฝัน  เป็นแค่ความรู้สึกอบอุ่นอ่อนหวานร้อนแรงที่เกิดขึ้นเพราะบารมีเองก็ดูเหมือนจะห่างจากเรื่องนี้มานาน

...........ก็เท่านั้น

เรื่องที่พูดว่า จะทำให้ลืม..ปา...มันก็แค่นั้น
พิพัฒน์ค่อย ๆ เอนกายลงนอนอย่างช้า ๆ  และดึงผ้าห่มมาคลุมจนถึงไหล่

หลับตาลงพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยันกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น

............. เพราะความอยาก
เพราะร่างกายไม่ได้รับการปลดปล่อยมานาน
จะเพราะอะไรก็แล้วแต่  ในเวลานี้พิพัฒน์กำลังครุ่นคิดเรื่องบางอย่างด้วยความรู้สึกมึนงงสับสน

โดนคนน้องทิ้ง  ก็เลยยอมมีอะไรกับคนพี่ เพราะว่าเงาที่ซ้อนทับมาทำให้โหยหาจนหยุดความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ไม่ได้

“เหี้ย....พัฒน์”

ด่าตัวเอง  และหัวเราะเยาะสมเพชตัวเองที่ทำเรื่องแบบนี้ลงไปได้โดยไม่รู้สึกรู้สา

จะให้คิดหรือหวังอะไร  ในเมื่อแม้คำพูดหวานหูที่ใช้ปลอบประโลมก็ยังไม่มี
แล้วจะกล้าไปหวังอะไรกับความรู้สึกอื่น ๆ ที่บารมีจะมีให้
ก็แค่ความต้องการของร่างกายเมื่อปลดปล่อยแล้วทุกอย่างก็จะเลือนหายไปอย่างช้า ๆ

พิพัฒน์ไม่ได้เสียใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น  แต่สมเพชตัวเองที่ทำเรื่องแบบนี้ลงไปได้โดยไม่รู้สึกผิดสักนิด

“พัฒน์........นอนยัง”

ได้ยินเสียงเรียกและพิพัฒน์ไม่ได้ตอบ เพียงแต่นิ่งเงียบไปทั้งอย่างนั้น

และบารมีที่กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องตัวเองก็ได้แต่ยืนนิ่งและถอนหายใจอยู่หน้าห้องของพิพัฒน์

ทำอะไรลงไปวะกู
ที่ทำลงไปทั้งหมดนั่นคิดแล้วใช่มั้ย

บารมียืนครุ่นคิดอยู่นาน  อยากจะผลักประตูเข้าไปหาหลายครั้งแต่ก็หยุดเอาไว้

สุดท้ายถอนหายใจยาวและต้องจำใจล่าถอยไป 

บางทีตอนนี้  เราสองคนควรเริ่มตั้งสติก่อน ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นได้ยังไง    ........เพราะอะไร 
และเราก็ต้องคิดให้ได้ด้วยว่า

ความสัมพันธ์แบบก้าวกระโดดของเราในเวลานี้

เราจะนิยามความสัมพันธ์ของเราสองคนตอนนี้
........ว่าอะไร...........

TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 25-02-2015 19:06:20
โอ๊ยยยย เขาได้กันแล้ว พี่บัสน่ารักอ่ะ หาว่าเขาไม่สนใจ แล้วได้บอกรักเขาหรือยังล่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 25-02-2015 19:06:54
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 25-02-2015 19:07:11
 :ling1: :ling1: คิดไปคนละทางเลย
พี่บัสกับพัฒน์พูดกันบ้างเถอะ  คิดเองเจ็บเอง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 25-02-2015 19:08:40
โว๊ะ คิดมากกันจังเลยอ่ะ อย่าคิดเยอะนักสิคะใช้ใจอย่าใช้สมอง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหัวใจก็พอ :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 25-02-2015 19:13:27
โว๊ะ โอ๊ะ พัฒน์ใจร้ายว่ะ นิยามเหรอ ขอเป็น one night (ไม่) stand ได้ปะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 25-02-2015 19:15:32
ถึงจะดูหน่วง  :เฮ้อ: แต่ก็ก้าวหน้าไปมากนะ คิดเรื่องของกันและกันเยอะๆล่ะ   :o8:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 25-02-2015 19:26:20
เค้าได้กันแล้ววววว~
แต่ทำไมเรารู้สึกหน่วงๆหว่าา?
รีบเคลียร์กันเร็วๆนะ
 :ling3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-02-2015 19:27:27
ทำไมไม่คุยกัน!!!!!
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 25-02-2015 19:34:15
สองคนคุยกันด่วนๆเลยค่าาา~ อย่าปล่อยให้มันเรื้อรังน้า. :haun4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 25-02-2015 19:35:44
:กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 25-02-2015 19:43:33
พูดสิ.... :katai5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-02-2015 19:47:18
เห้ออออออ สองคนนี้จะเข้าใจกันเมื่อไหร่หว่า
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 25-02-2015 20:14:46
ถึงแก่น แต่ไม่ถึง(หัว)ใจ จะสงสารใครดี
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 25-02-2015 20:36:17
อย่าคิดเองเออเองซิ หันหน้าเข้าหากันจับเข่าคุยกันซิ ไม่งั้นเมื่อไหร่จะเข้าใจกันล่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 25-02-2015 21:14:56
รอมานาน   มาทั้งทีคนอ่านถึงกับเลือดสาด    :pighaun:    :pighaun:

ขอบคุณนะที่มาลง   :3123:    :3123:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 25-02-2015 21:44:16
ใช่ภาษากายแทนคำพูด แต่ครั้งเดียวจะพอหรา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 25-02-2015 22:04:01
ถึงมีอะไรกันก็ยังไม่เคลียร์เรื่องหัวใจอยู่ดี
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 25-02-2015 22:07:36
เพิ่งอ่านทันเย้ๆๆๆ. อ่านไปนี่แอบคิดนะว่า พัฒน์เป็นใบ้่้รึป่าววว.  :laugh: :hao7: :katai2-1:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 25-02-2015 22:49:15
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน ใกล้ชิดอีกนิด

“พรุ่งนี้สั่งอะไหล่ให้ด้วย”

บารมีวางเอกสารสั่งซื้อไว้ให้และหยิบกุญแจรถขึ้นมา   
ก้าวขาเดินออกจากออฟฟิศ และพิพัฒน์ก็ปิดคอมพิวเตอร์และนำแฟ้มเอกสารวางไว้บนชั้นวาง 

ปิดแอร์และไฟเรียบร้อย และก้าวขาเดินตามบารมีมาที่รถ

วันนี้เราสองคนต่างก็นิ่งเงียบใส่กัน
โดยปกติพิพัฒน์ก็ไม่ใช่คนพูดมากอยู่แล้ว  หลังเกิดเรื่องนั้นขึ้น  บารมีก็รู้สึกได้ว่าพิพัฒน์ยิ่งเงียบลงกว่าเดิม

พิพัฒน์นิ่งเงียบลงกว่าเดิม
ไม่พูดถึงไม่เรียกร้อง  ไม่ทำอะไรทั้งนั้น   ทำตัวเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แล้ว...........แบบนี้  จะให้ทำยังไง

จะให้พูดคุยยังไง  พยายามทำตัวให้ปกติที่สุดแล้ว  เพื่อไม่ให้พิพัฒน์อึดอัดใจ แต่มันก็เท่านั้น  เพราะดูเหมือนว่าต่างฝ่ายต่างก็อึดอัดใจด้วยกันทั้งคู่

นับตั้งแต่คืนนั้น
เราสองคนก็ดูเหมือนจะพูดคุยกันน้อยลง

บารมีวุ่นวายอยู่กับเรื่องเอกสารธนาคาร  และพิพัฒน์ก็ต้องรีบเคลียร์บัญชีก่อนสิ้นเดือน 

ยุ่งวุ่นวายกับเรื่องราวมากมายหลายเรื่อง  แต่บารมีไม่ลืมเรื่องที่ค้างคาใจ

ยิ่งเห็นพิพัฒน์นิ่งเงียบกว่าเดิม  ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ  แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง
ไม่รู้จะเริ่มต้นที่ตรงไหนเพื่อให้เรากลับมาเหมือนเดิม  ไม่แสดงท่าทางเย็นชาใส่กันแบบนี้

“พัฒน์  บัญชีเป็นไงบ้าง”

ลองหาเรื่องคุย  และพิพัฒน์ที่กำลังมองออกไปนอกหน้าต่างรถก็หันกลับมามองหน้าของบารมี

“เหลือแค่ยื่นเอกสาร”

งั้นเหรอ

เหลือแค่ยื่นเอกสารงั้นเหรอ

แล้ว..............

อยากจะถามว่าช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง  เตรียมอ้าปากจะพูด  แต่เมื่อหันไปมองพิพัฒน์ที่เมินมองไปนอกหน้าต่างรถอีกครั้งบารมีก็เลยได้แต่หุบปากเงียบ

สองสามวันมานี้  เป็นแบบนี้ตลอด  ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเลยสักนิด  และดูเหมือนจะแย่ลงด้วยซ้ำ

แบบนี้มันแย่
แย่ยิ่งกว่าแย่

บารมีแอบเหลือบสายตามองหน้าพิพัฒน์หลายครั้ง และเหมือนพิพัฒน์จะรู้สึกตัว  เลยหันมามองหน้าของบารมีบ้าง

“..........................”

มองแต่ไม่พูด และเป็นบารมีที่ต้องเป็นฝ่ายพูดเอง

“เออพัฒน์...........”

“พี่บัส”

พูดขึ้นมาพร้อมกัน  และบารมีก็พยักหน้าให้พิพัฒน์พูดก่อน

บางทีมันคงถึงเวลาที่ควรพูดอะไรบ้าง   เพราะยิ่งนานวันบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความไม่เข้าใจก็ดูเหมือนจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

“เรื่องนั้นผมไม่ได้คิดอะไร........หรอกนะ”

เรื่องนั้น
เรื่องนั้น
เรื่องนั้น

บารมีหันมามองพิพัฒน์เต็มตา

เรื่องนั้น
มึงหมายถึงเรื่องไหนพัฒน์  เรื่องนั้นที่ว่ามึงหมายถึงเรื่องไหน  มึงพูดให้ชัด ๆ

“มึงชี้แจงมาพัฒน์ เรื่องที่มึงไม่คิดคือเรื่องอะไร เอาให้เคลียร์นะพัฒน์  มึงพูดให้เคลียร์”

เคลียร์................

บารมีรู้สึกว่าอยู่ดี ๆ ก็นึกโกรธคำพูดของพิพัฒน์ขึ้นมาดื้อ ๆ อารมณ์โมโหเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ เพียงเพราะคำพูดคำนั้นของพิพัฒน์

อุตส่าห์ทำเป็นนิ่งเฉยไม่พูดมาหลายวัน   แล้วอยู่ดี ๆ ไอ้พัฒน์ก็มาพูดขึ้นว่าเรื่องนั้นมันไม่คิดอะไร

ไม่คิดงั้นเหรอ
มึงไม่คิดเหรอพัฒน์

เอากันขนาดนั้นมึงไม่คิดเหรอพัฒน์

“พี่.....บัส...........”

พิพัฒน์ไม่รู้จะทำตัวยังไง  ไม่รู้จะวางตัวยังไง  นับตั้งแต่คืนนั้นบารมีก็ไม่พูดด้วยเลยสักคำ
แม้แต่หน้าก็ยังไม่มอง  แล้วจะให้ทำยังไง  จะให้พูดยังไง  จะให้ทำยังไง ถึงจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง

นอนคิดมาหลายคืนแล้ว
คิดว่าแบบไหนถึงจะดีสำหรับเราสองคน
คิดว่าแบบไหนที่บารมีจะพอใจ  คิดว่าแบบไหนที่จะทำให้บารมีกลับมาเป็นเหมือนเดิม

คิดเอาไว้แล้ว
แต่...............ไม่ถูกใจบารมี

ไม่ถูกใจเลยสักนิด
ไม่เลย...........

“ผม........”

“มึงเงียบไปพัฒน์  มีอะไรค่อยไปคุยกันที่บ้าน  กูยังไม่อยากฟังอะไรตอนนี้”

ไม่อยากฟัง
ไม่อยากฟังตอนนี้
ไม่อยาก..........ฟัง

พิพัฒน์ถึงกับชะงักนิ่งงัน
ก้มลงมองหลังมือของตัวเอง  และขบริมฝีปากแน่น 

นิ่ง  เงียบ  หุบปากเงียบ อย่างที่บารมีต้องการให้ทำ

ใจมันหวิว ๆ แปลก ๆ เหมือนหัวใจจะเต้นในจังหวะที่ช้าลงเรื่อย ๆ

ทำไมถึงไม่คิดจะฟังอะไรเลย ไม่ว่าเรื่องไหนก็ไม่คิดจะฟัง  ทำไมถึงไม่คิดจะฟังกันบ้าง ทำไม....

ไม่เคยฟัง ไม่เคยคิดจะฟัง  ไม่เคยสนใจไยดี  ไม่เคยถามว่าเป็นยังไง  ไม่เคยใส่ใจ  ไม่เคยทำให้รู้สึกดีแบบจริง ๆ จัง ๆ ไม่เคยมีอะไรในความรู้สึก  ไม่มีอะไรให้หวัง

แค่อาศัยอยู่ด้วยกันไปวัน ๆ
แค่พิพัฒน์เกาะบารมีไปวัน ๆ

เกาะไปเรื่อยๆ  อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ  ทุก ๆ วัน

พิพัฒน์เหม่อมองไปนอกรถ  และบารมีก็กำมือแน่น  ขับรถไป พยายามระงับอารมณ์โมโหไปด้วย

ไม่คิดอะไรงั้นเหรอพัฒน์
มึงพูดมาได้ว่าไม่คิดอะไร

แล้วกูล่ะ
กูเสือกคิดไปแล้ว
กูคิดมาหลายคืนแล้ว  กูคิดอะไรไปต่าง ๆ นานา  เยอะแยะเต็มหัวไปหมด  ว่าจะทำยังไงเราถึงกลับมาเป็นเหมือนเดิม

คิดว่าทำยังไงเราจะกลับมารู้สึกเหมือนเดิมต่อกันแบบที่แล้ว ๆ มา

แต่มึงเสือกมาพูดประโยคเหี้ย ๆ ว่า “เรื่องนั้น”  มึงไม่คิดอะไร

มึงไม่คิดเหรอพัฒน์
มึงไม่คิดเลยใช่มั้ย

อย่าทำให้กูโมโหมากไปกว่านี้  มึงจะไปเข้าใจจะไปรู้อะไร  ว่ากูคิดแต่เรื่องของมึงจนจะบ้าอยู่แล้ว  แล้วมึงก็มาบอกว่าไม่ได้คิดอะไร  จะให้ปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปเฉย ๆ แล้วก็ทำเหมือนเราไม่เคยเกินเลยกัน  กูทำแบบนั้นไม่ได้

แต่ถ้ามึงยืนยันจะให้เป็นแบบนั้น
ก็ได้พัฒน์

มึงไม่คิดก็ไม่ต้องคิด
ไม่ต้องคิดเหี้ยอะไรแล้ว    มึงไม่คิดก็อย่าคิด  ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น   เรื่องเหี้ยอะไรนั่นน่ะ  ถ้ามึงจะบอกว่ามึงไม่คิด

................................ก็แล้วแต่มึง..............................

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก่อนจะเข้าใจ P.13
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 25-02-2015 22:50:14
“ก็เพราะอย่างนี้ไง ปามันถึงได้ไปมีผัวใหม่  ไม่แปลกใจเลยที่มึงโดนน้องกูทิ้ง  เพราะมึงงี่เง่าแบบนี้ไง  เพราะมึงพูดไม่รู้จักฟังแบบนี้ไง  มึงมันโคตรงี่เง่าที่สุดในโลกแล้วพัฒน์  มึงจะเงียบทำเหี้ยอะไร  ตกลงจะกวนตีนให้กูโมโหจนฆ่ามึงทิ้งเลยใช่มั้ย  เอาแบบนั้นมั้ยพัฒน์”

บารมีสติหลุดไปแล้วและพิพัฒน์ก็ไม่รู้ควรจะทำยังไง

เราทะเลาะกัน
ซึ่งปกติเราก็คล้ายๆ  คนที่ทะเลาะกันอยู่ตลอดเวลา
แต่ครั้งนี้มันแรงกว่าทุกวัน

เรื่องนี้มันอาจเล็กน้อยแต่สำหรับพิพัฒน์เรื่องนี้คือเรื่องใหญ่  และมันทำให้บารมีกำหมัดแน่นและตะคอกใส่หน้าของพิพัฒน์เพราะรู้สึกทั้งโกรธทั้งโมโห  และเหมือนว่าความอดทนกำลังจะหมดลง

“........................”

ยิ่งโกรธ  ก็ยิ่งด่า ยิ่งโมโหใส่พิพัฒน์ก็ยิ่งเงียบ

“ไอ้พัฒน์”

“......................”

ไม่มีเหตุผลให้พูด
ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก
พิพัฒน์เตรียมจะก้าวขาเดินขึ้นบ้าน แต่ถูกบารมีกระชากแขนเอาไว้เพื่อเคลียร์เรื่องนี้ให้จบ

“เอายังไงก็ว่ามา  อย่ามาเงียบใส่กูแบบนี้  พูดเดี๋ยวนี้พัฒน์  พูด”

ไม่พูด

ทำไมต้องพูด  ไม่มีอะไรจะพูด  ไม่อยากพูด พูดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่จะยิ่งไปกันใหญ่

“พัฒน์”

จากโมโหสุด ๆ
คราวนี้น้ำเสียงของคนพูดแผ่วโหยลงเมื่อได้เห็นทั้งสีหน้าและแววตาของคนที่ตัวเองกำลังด่าและตะคอกใส่

พิพัฒน์ไม่พูด
แต่ดวงตาที่เริ่มแดงก่ำและเหมือนจะร้องไห้ได้ตลอดเวลานั่นกลับทำให้คนที่เห็น   ใจอ่อนยวบลง

“ผม.....แย่ ....มากเลย....เหรอ  พี่ต้องพูดกับผมขนาดนี้เลยเหรอ”

ข้อมือยังถูกบารมีกำเอาไว้แน่นแต่พิพัฒน์ไม่คิดจะสะบัดหรือถอยหนี
น้ำเสียงของคนพูดขาดห้วงไปเหมือนพยายามพูดแต่ก็พูดสิ่งที่คิดออกมาทั้งหมดไม่ได้

อารมณ์โกรธของบารมีหายไปไม่มีเหลือ
กลายเป็นความรู้สึกอื่นเข้ามาแทน

“พัฒน์”

สงสาร
เห็นแบบนี้แล้วมันยิ่งกว่าสงสาร
กลายเป็นบารมีที่ต้องถอนหายใจและยอมปล่อยข้อมือของพิพัฒน์ให้เป็นอิสระ


“ผมไม่ได้อยากโดนทิ้งหรอกนะ  แต่เพราะผมเป็นแบบนี้น้องสาวพี่จะทิ้งผมก็ไม่แปลก  เพราะผมงี่เง่า จะโดนใครด่าแบบนี้มันก็สมควร  ผมสำนึกแล้วพี่   ผมรู้สึกกับคำที่พี่ด่ามากพอแล้ว  ผมขอร้อง พี่จะด่าอะไรผมก็ได้ แต่อย่าตอกย้ำอีกเลย  สงสารผมเถอะ”

พิพัฒน์ไม่ค่อยพูด
และเมื่อถึงวันที่ต้องพูด  คนที่อยากให้พิพัฒน์พูดมาตลอดอย่างบารมีก็ได้แต่ยืนฟังเงียบๆ

“ผมได้ยิน  คนเขาว่าผมเข้ามาเกาะพี่   เขาว่าพี่โง่ที่ให้ผมมาดูบัญชีให้    เขาว่าผมไม่มีปัญญาหาเงินแล้ว  เลยต้องมาอาศัยมาเกาะให้พี่ช่วย  ทั้งที่ผมกับพี่ไม่ได้เป็นอะไรกันผมก็ยังเกาะพี่ไม่เลิก”

เรื่องนั้นทำไมจะไม่เคยได้ยิน  แต่กูไม่รู้ว่าจะทำให้มึงคิดมากและเป็นกังวลได้ขนาดนี้นะพัฒน์

“มึงสนใจปากชาวบ้าน  มึงเลยจะไม่ช่วยงานกูแล้วว่างั้น”

ลุงป้าน้าอา  และญาติ ๆ ที่อยู่รอบบ้าน มันไม่ใช่คนอื่นหรอก

“..................”

“พัฒน์  มึงคิดอะไรอยู่ในหัวกูไม่สนหรอก  มีปัญญาทำงาน มึงก็ทำ  กูมีปัญญาจ้างกูก็จ้าง  กูไม่มีปัญญาจ้างกูก็ไม่จ้าง จบมั้ยพัฒน์”

พิพัฒน์ได้แต่นิ่งฟังเงียบ ๆ

และบารมีก็ยกมือขึ้นเกาหัวตัวเอง
โอเคน่า  อย่างน้อยมันก็ฟัง แล้วก็เริ่มพูดสิ่งที่อยู่ในหัวออกมาบ้างแล้ว

“แล้วไอ้เรื่องที่คนเขาว่ามึงมาเกาะกูเนี่ย  มึงก็ไม่ต้องไปสนใจ  ไร้สาระจะตายห่า  ถ้าถามมาก ๆจนเลี่ยงไม่ได้ก็บอกให้เขามาถามกูนี่ เดี๋ยวกูจะช่วยตอบให้”

พิพัฒน์ยังคงเงียบแต่บารมีเริ่มยิ้มได้ เพราะรู้แล้วว่าปัญหาที่ทำให้พิพัฒน์ดื้อรั้นที่จะออกจากการช่วยทำบัญชีที่อู่คืออะไร

“ไปแกะกับข้าวไป  พูดกับมึงมาก ๆ กูชักหิวข้าว”

เราคืนดีกันแล้ว
ไม่ต้องให้แปลพิพัฒน์ก็พอรู้

น่าแปลก
ยิ่งอยู่ด้วยกันนานวันเข้า  สิ่งที่พิพัฒน์เคยเข้าใจ  มันก็ไม่ใช่อย่างที่เคยคิดเอาไว้มาตลอด

บารมีเป็นคนอารมณ์ร้อน
โมโหร้าย
ไม่เคยใส่ใจสิ่งที่ตัวเองพูดว่าจะทำร้ายจิตใจคนฟังขนาดไหน
แต่บารมีไม่ใช่คนไม่ดีเพราะถ้าหากบารมีเป็นคนไม่ดีเราคงไม่อยู่ด้วยกันมาได้นานขนาดนี้

พิพัฒน์กำลังแกะกับข้าว แต่มีบางสิ่งที่ต่างออกไปจากเดิมนับตั้งแต่วันแรกที่อยู่ด้วยกัน

บารมีเป็นคนตักข้าวใส่จาน  เตรียมน้ำดื่มและช่วยเตรียมจานใส่กับข้าวให้ ไม่ใช่เมินเฉยและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพิพัฒน์เหมือนอย่างที่แล้วๆ  มา

พิพัฒน์ได้แต่มอง แต่ไร้คำถาม

“เออ.....พัฒน์”

เตรียมอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว  และเมื่อพิพัฒน์นั่งลงบนเก้าอี้บารมีก็พูดอะไรบางอย่าง

“มึงจะย้ายมานอนห้องกู  หรือจะให้กูไปนอนห้องมึง”

อยู่ดี ๆ บารมีก็ถามคำถามนี้ขึ้นมาแบบดื้อ ๆ และพิพัฒน์ก็นิ่งงันกับสิ่งที่บารมีพูด

 “จะเอายังไง  มึงก็พูด.........”

เอายังไง
ยัง..........ไง

“กูไม่ได้มีเวลาว่างมาโอ้โลมปฏิโลมอะไรมึงมากมายนะ   มึงจะย้ายมานอนห้องกูมึงก็ย้าย  หรือจะให้กูย้ายไปนอนห้องมึง   มึงก็ไปนอนคิดดู  แล้วมาบอกกูด้วย”

พิพัฒน์นิ่งเงียบ  และกระพริบตาปริบ ๆ ถือช้อนนิ่งค้างเอาไว้แบบนั้น และฟังสิ่งที่บารมีพูดต่อไปเรื่อย ๆ

“แต่ถ้ามึงคิดไม่ออก   วันไหนหยุดเก็บห้องเรียบร้อยแล้ว  กูจะไปนอนห้องมึงแล้วกันพัฒน์”

..........บารมีตัดสินใจเอาเองตามใจชอบ  และไม่ต้องการจะรอฟังคำตอบของพิพัฒน์เลยสักนิด

“แล้วถึงมึงจะบอกว่าไม่ได้  กูก็ไม่ฟังหรอกมึงก็น่าจะรู้  ก็เอาตามนั้นแหละนะพัฒน์”

บารมีเป็นมนุษย์เผด็จการ
และคนเผด็จการอย่างบารมีก็ใช้วิธีที่ใช้บ่อย ๆ กับพิพัฒน์แล้วได้ผล  ก็คือการตัดสินใจให้โดยไม่ต้องให้พิพัฒน์มีโอกาสคิดมาก

คนคิดช้าอย่างพิพัฒน์จะไปเข้าใจอะไร
มัวแต่คิดอยู่นั่น  ขืนมัวแต่นั่งคิดนอนคิด   ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับสถานะความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ในเวลานี้ยังไง

ทำเป็นนิ่งเฉยไม่มีปากเสียงแบบนั้นมาตลอดมันหมายความว่ายังไง ขี้เกียจจะหาเหตุเข้าหา  ก็ย้ายไปนอนห้องเดียวกันซะเลยหมดเรื่อง

“กูไม่ใช่คนชอบฝืนใจอยู่กับอะไรที่กูไม่ชอบนะพัฒน์”

ไม่ชอบฝืนใจอยู่กับอะไรที่ไม่ชอบ

ไม่ชอบ..........ฝืนใจ........

พิพัฒน์ยังคงเงียบ  และตักข้าวเข้าปากต่อไปเรื่อยๆ

ถ้า........ไม่ได้ฝืนใจก็แสดงว่าอยู่ด้วยกันแล้วไม่ต้องฝืนใจ

บารมีไม่ได้พูดอะไรให้ชัดเจนแต่พิพัฒน์เข้าใจสิ่งที่บารมีพูด

“ห้องผม...............เหรอ”

บารมีวางช้อนลงและเงยหน้าขึ้นมองพิพัฒน์ทันทีเพราะคำพูดแบบนั้นของพิพัฒน์

ทำไมถึงได้ถามอะไรโง่ ๆ แบบนี้   กูพูดจนปากจะฉีกถึงหูแล้ว  เคยเข้าใจอะไรง่าย ๆ บ้างมั้ย

“เออ ห้องมึง  มีปัญหาหรือไง”

พิพัฒน์ก้มกลับลงไปกินข้าวต่อ  และยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย

“มึงมีปัญหามึงพูดมาพัฒน์  มึงมีปัญหาอะไร”

พิพัฒน์ไม่ได้พูด เพราะพิพัฒน์ไม่ใช่คนเจ้าปัญหา

พิพัฒน์เงยหน้ามองหน้าของบารมีอีกครั้ง   และสิ่งที่พิพัฒน์ทำก็ทำให้บารมีเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องมีคำพูดให้มากความ

พิพัฒน์นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามบารมี

และในเวลานี้บารมีต้องถือช้อนกินข้าวค้าง

เพราะปลายเท้าของพิพัฒน์กำลังลากเรื่อยขึ้นมาจนถึงเป้ากางเกงของบารมีอย่างช้า ๆ

“..................................”

พิพัฒน์ไม่ได้พูดอะไรมาก และยังคงลากปลายเท้าขึ้นมาเรื่อย ๆ   และเป็นบารมีที่ต้องรีบจับปลายเท้าของพิพัฒน์เอาไว้  เมื่อพิพัฒน์เริ่มขยับเท้ายุกยิกไปมาอยู่ตรงเป้ากางเกงของบารมี  และเหมือนกำลังปลุกเร้าให้ท่อนเอ็นที่อัดแน่นอยู่ในกางเกงเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาง่าย ๆ


บารมีลุกขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความโมโห และลากแขนของพิพัฒน์ให้เดินตาม

พิพัฒน์ไม่ได้สะบัดหนีหรือบอกให้อีกฝ่ายปล่อย   สิ่งที่ทำก็แค่ยอมก้าวขาเดินตามบารมีไปโดยไม่มีปากมีเสียง

 “ข้าวแม่งไม่ต้องด่งต้องแดกแล้ว   มึงทำห่าอะไรของมึง   มึงเล่นเหี้ยอะไรของมึงไอ้พัฒน์"

บารมีสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดโมโห  แต่พิพัฒน์ไม่คิดจะโต้เถียง

คนอย่างพิพัฒน์จะไปทำอะไรได้

ก็ได้แต่ต้องเดินตามขึ้นห้องอย่างว่าง่าย  โดยไม่มีปากมีเสียงและคงต้องยอมให้บารมีจัดการทำอะไรบางอย่างตามใจชอบ

แล้วคนอย่างพิพัฒน์จะเอาปัญญาที่ไหนไปขัดขืนบารมีได้



TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 26-02-2015 00:31:31
พิพัฒน์!!!! เกือบจะเศร้าแล้วเชียว สรุป พัฒน์มันซึนนี่หว่า ยั่วหลบใน 555 แอบแรงจริงๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-02-2015 00:45:32
พัฒน์เอ้ยยยยยยย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 26-02-2015 00:51:03
พัฒน์!!! พัฒน์นี่หนูยั่วหรอ!? ระวังจะลุกจากเตียงไม่ไหวนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-02-2015 00:53:02
อุ้ยยยยยย. พิพัตร แอบหื่น  :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 26-02-2015 01:44:32
เฮ้ยยย พัฒน์เป็นอะไรไป
เห็นมั๊ยไม่ได้กินข้าว ได้กิน..แทนเลย อิอิ
 :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 26-02-2015 02:12:48
พัฒฒฒฒฒฒฒฒฒ น่าร๊ากกกกกกก :katai5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 26-02-2015 03:02:50
โอย อยากจิบ้า..  :haun4:   พัฒน์ช่าง..  :mew4: ..เธอช่างยั่ว..
คิกคิกคิกคิกคิกคิกคิกคิกคิกคิกคิกคิก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Aomoto ที่ 26-02-2015 03:09:16
โอ้ยยยย ลุ้นว่าจะเศร้าแทบตาย ตกลงไม่กินแล้วใช่มั้ยข้าวเนี่ย 555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 26-02-2015 07:05:30
 :z1: ไม่ต้องพูดกันมาก ลากขึ้นมาคุยกันบนเตียงเลย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: sine_saki ที่ 26-02-2015 07:31:47
ว้าย ตาเถร....พิพัฒน์แอบแรงอ่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 26-02-2015 08:11:21
พัตน์ยั่วพี่บัส!  o22 อ๊า~น่ารักที่สุดค่ะ. :-[ แกล้งซึนนินาา~
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 26-02-2015 09:31:02
ข้าวแม่งไม่ต้องด่ง ต้องแดก แม่งแล้ว :m20:

เหมาะกันจริงๆ 555555+
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 26-02-2015 10:28:12
 :m3: อร๊ายยยยยยยยยยย งานนี้ พัฒน์เอาเฮียอยู่  :m3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 26-02-2015 11:04:07
เอิ่ม สตั้น 3วิ กับความซึนแอบยั่วของพัฒน์ ขงข้าวอะไรไม่ต้องกิน ไปกินกันเอง2คนในห้อง แซ่บกว่า!!!!!!!!! 5555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 26-02-2015 11:40:21
รอมานาน. ในที่สุดก็มาต่อ.  ขอบคุณนะคะ. ตามอ่านของพี่ทุกเรื่องเลย. สนุกทุกเรื่อง.  พัฒน์ยั่วน่ารักจัง. พี่บาสหลงโงหัวไม่ขึ้นแน่นอน.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 26-02-2015 16:35:40
โอ๊ยยย พัฒน์น์น์ เรื่องมันดราม่าอยู่รู้ตัวไหมเนี่ยย 555
เล่นมายั่วกันแบบนี้ คนอ่านก็ช็อคสิคะ!? วานเฮียบัสจัดหนักด้วยค่ะ กร๊ากก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 26-02-2015 21:31:01
 :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 26-02-2015 21:43:49
ไม่พูดแต่ทำเลยใช่มั้ยลูก เน้นที่การกระทำอย่างเดียว เริ่ดมากคร่าาาาา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 26-02-2015 22:31:40
แอร๊ยยยย พิพัฒน์!!! หนูยั่วพี่บารมีเหรอออออออออออออ  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ใกล้ชิดอีกนิด P.13
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 27-02-2015 00:16:45
 o13 :hao6:



แอร้ยยยยยยยยยย
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 27-02-2015 00:51:06
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน หิว


บารมีไม่แน่ใจว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือคนเดียวกับพิพัฒน์ที่ไม่พูดไม่จาคนนั้นหรือเปล่า

เพราะในเวลานี้สิ่งที่พิพัฒน์ทำมันทำให้บารมีแทบจะลืมหายใจ

พิพัฒน์กำลังขยับร่างกายอยู่เหนือร่างของบารมี  เรือนร่างเปลือยเปล่าที่กำลังขย่มร่างกายทาบทับอยู่บนท่อนเอ็นแกร่งยิ่งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ท่อนเอ็นใหญ่โตผลุบหายเข้าออกอยู่ภายในช่องทางคับแคบที่บีบรัด และพิพัฒน์ก็แหงนเงยใบหน้าขึ้นสูดลมหายใจเข้าอย่างถูกใจ

ไล้เลียปลายลิ้นที่ริมฝีปากและค่อย ๆ ก้มกลับลงมาหาและใช้สายตาจ้องมองไปที่ร่างแข็งแกร่งเปลือยเปล่าของบารมี   ฝ่ามือร้อนลากไล้ลูบตามแนวแผ่นอกกว้าง   เรื่อยลงมาที่หน้าท้องแกร่งก่อนจะก้มลงแนบริมฝีปากจูบประทับไล่ไปตามผิวเนื้อแน่นและดูดดุนปลายลิ้นไปที่ยอดอกสีเข้ม  สอดประสานฝ่ามือไปที่ฝ่ามือแกร่งและยิ่งขยับโยกให้สะโพกเคลื่อนไหวไปมาแรงขึ้น

“......อาส์.........”

พิพัฒน์ร้องครางออกมาเสียงเบา แต่ขบริมฝีปากแน่น  จ้องลึกไปที่ดวงตาของบารมี  และบารมีก็จ้องตอบกลับสายตาร้อนแรงยั่วยวนของคนที่มองมาและกำลังเพลิดเพลินอยู่กับการเคลื่อนไหวขยับร่างกายอยู่บนร่างของบารมี

“พัฒน์..... .”

บารมีส่งเสียงคำรามในลำคออย่างถูกใจ  และพิพัฒน์ก็ส่งยิ้มหวานเชื่อมมาให้เมื่อรู้ว่าบารมีพอใจกับสิ่งที่กำลังปรนเปรอให้

พิพัฒน์เปลี่ยนจังหวะการเคลื่อนไหวร่างกายให้ช้าลง และขยับลุกขึ้นผละจากท่อนเอ็นแกร่ง  พลิกกายคว่ำลง  แนบใบหน้าเข้ากับหมอน  สองแขนยันฟูกนอนเอาไว้เมื่อต้องคุกเข่าลงและยกสะโพกขึ้นสูงจนเห็นช่องทางที่เต็มไปด้วยหยาดหยดหนืดข้นขาวที่ชโลมไว้ภายในช่องทางคับแคบจนเปียกชุ่ม  กดแทรกปลายนิ้วลงไปและร่ำร้องออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วโหย

“พี่.......เร็ว ๆ” 

ท่าทางยั่วยวนแบบนั้นมันทำให้บารมีไม่สามารถหยุดอารมณ์ของตัวเองได้

หยัดกายลุกขึ้นและบีบเค้นฝ่ามือไปที่สะโพกเนียนขาว   แยกผิวเนื้อแน่นทั้งสองข้างออกจากกัน และสอดปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางที่มีคราบขุ่นขาวข้นหนืดไหลซึมออกมาอย่างช้า ๆ

ชโลมปลายนิ้วด้วยของเหลวใส  และสอดปลายนิ้วเข้าไปที่ช่องทางคับแคบที่ค่อย ๆ ตอบรับความต้องการนั้นอีกครั้ง  ขยับปลายนิ้วเข้าออกอย่างรุนแรงและนั่นยิ่งเพิ่มเสียงร้องครางของพิพัฒน์ได้ไม่น้อย

“อืมมม  เข้ามาเร็วพี่  ใส่เข้ามาเร็ว ๆ  ซี้ดดดดดดดด เสียว ไม่ไหวแล้ว”

บารมีรูดรั้งฝ่ามือไปตามความยาวของท่อนเอ็นแข็งแรงใหญ่โตที่มีเส้นเลือดปูดโปนและขยับไปมาได้  หยัดกายขึ้นและค่อย ๆ จ่อส่วนหัวของท่อนเอ็นเข้าไปในช่องทางที่เตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว ค่อย ๆ ยัดเยียดส่วนหัวเข้าไปที่ละน้อย

ช่องทางเล็กแคบบีบรัดแรงขึ้นเมื่อมีบางสิ่งบางอย่างรุกล้ำเบียดเสียดแทรกเข้าไปอย่างช้า ๆ  บารมีค่อย ๆ กดคลึงและยัดเยียดความใหญ่โตของส่วนนั้นดุนดันเข้าไปที่ช่องทางที่บีบรัด และพิพัฒน์ก็จิกเล็บลงกับหมอน กัดฟันแน่นเมื่อส่วนนั้นค่อย ๆ ผลุบหายเข้าไปทีละนิด  จากส่วนปลายและสุดท้ายเข้าไปได้หมดทั้งลำ

“อาส์ พี่...... เสียว....”

ร้องครางแผ่วเพราะความจุกเสียดตึงแน่นของสิ่งที่เบียดเสียดเข้าไปลึกจนถึงในสุด และเมื่อบารมีเริ่มขยับสะโพกพิพัฒน์ก็ซุกซบใบหน้าลงกับหมอนและปล่อยความรู้สึกให้ล่องลอยไปเรื่อย ๆ

ฝ่ามือแกร่งไล้เรื่อยไปที่แผ่นหลังเนียนขาว  โน้มตัวลงให้ร่างกายแนบชิดสัมผัสกันมากขึ้น 
ความแข็งแกร่งใหญ่โตขยับเข้าออกอยู่ภายในช่องทางคับแน่น ถุงเนื้อนุ่มหยุ่นที่เชื่อมต่อกับท่อนเอ็นแกร่งกระแทกกระทั้นเข้ากับสะโพกมนเป็นจังหวะจนเกิดเสียง
ร่างกายหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวและทุกครั้งที่ขยับเคลื่อนไหวร่างกายไปพร้อมกัน  ต่างฝ่ายต่างรู้สึกถึงการเติมเต็มความรู้สึกร้อนแรงที่ถูกปลุกเร้าให้ได้รับไปพร้อม ๆ กัน

พิพัฒน์หลับตาแน่น ร้องครางกระเส่า เมื่อท่อนเอ็นใหญ่ขยับอย่างเชื่องช้าเนิบนาบอยู่ภายในร่างกาย

ช่องทางคับแคบบวมแดงจนเหมือนจะปริแตก เมื่อความแข็งขืนใหญ่โตขยับเข้าออกเป็นจังหวะและผลุบหายเข้าออกครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อสะโพกแกร่งกระแทกกระทั้นอย่างรุนแรง

ผิวเนื้อสัมผัสกันจนเกิดเสียง
เมื่อใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดของอารมณ์บารมีก็หยุดการเคลื่อนไหว และเป็นพิพัฒน์ที่ถึงกับนิ่วหน้าเมื่อจังหวะการสอดแทรกที่ร้อนแรงหยุดนิ่งชะงัก เหลียวกลับไปมองคนที่แกล้งหยุดนิ่งและพิพัฒน์ก็นิ่วหน้าด้วยความขัดใจ  ขบริมฝีปากแน่นและเป็นฝ่ายขยับสะโพกให้ท่อนเอ็นแกร่งยังคงกดแทรกและกระแทกกระทั้นเข้ามาได้

พิพัฒน์เคลื่อนไหวร่างกายด้วยตัวเอง และบารมีก็แหงนเงยใบหน้าขึ้นคำรามในลำคออย่างถูกใจกับสิ่งที่พิพัฒน์ทำ

“พัฒน์....แม่งแน่นชิบหาย”

น้ำเสียงทุ่มต่ำครางเครืออยู่ในลำคอและพิพัฒน์ก็ยิ่งขยับสะโพกของตัวเองให้บดเบียดเข้าหากับส่วนนั้นแรงขึ้น เร็วขึ้น จนบารมีแทบจะทนไม่ไหว ฝ่ามือแกร่งกระชากสะโพกเนียนขาวเข้าหาตัวและเริ่มขยับร่างกายอีกครั้ง  กระแทกสวนเข้าไปอย่างรุนแรง  และเรียกเสียงครางกระเส่าของพิพัฒน์ให้ดังมากขึ้น

บารมีถอนร่างกายออกมาจนหมดและอัดกระแทกเข้าไปอีก  และครั้งนี้รุนแรงจนเกิดเสียงผิวเนื้อกระแทกกันผสมกับเสียงครางของคนสองคน   
จังหวะเคลื่อนไหวสลับกันไปมา จากรุนแรงเปลี่ยนเป็นเชื่องช้า และจากเชื่องช้าก็เปลี่ยนเป็นรุนแรง ฝ่ามือร้อนรุ่นกระชากเอวของพิพัฒน์เข้าหาตัวและรั้งไหล่บางเข้ามาใกกล้  เพื่อควบคุมจังหวะการแทรกสอดร่างกายให้เป็นไปตามที่ต้องการ

หยาดหยดขาวขุ่นข้นหนืดไหลตามออกมาเป็นทางยาว  และก็ถูกส่วนปลายของท่อนเอ็นแกร่งเกลี่ยไล้และยัดเยียดให้กลับเข้าไปอีกครั้ง บารมีกระแทกสะโพกเข้าไป และเค้นคลึงที่ก้อนเนื้อแน่นสองข้างที่แยกห่างออกจากกันเพื่อรองรับความรุนแรงที่โถมเข้าหา

“อา อาส์ โอ้ย อ่า อึกอ่า โอ้ย ”

พิพัฒน์ร้องครางไม่หยุด  และบารมีก็พลิกกายของพิพัฒน์ให้หันกลับมาหา   สอดฝ่ามือไปที่ใต้สะโพกมนและยกท่อนขาเนียนพาดเอาไว้ที่บ่า กระแทกร่างกายเข้าออกซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกนับครั้งไม่ถ้วน  และพิพัฒน์ก็กำท่อนเอ็นของตัวเองเอาไว้แน่นและรูดรั้งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ  ริมฝีปากร้อนโถมเข้าหากันปลายลิ้นดูดดุนแลกเปลี่ยนความร้อนแรงให้กันและกันและเมื่อใบหน้าผละออกห่างจากกันบารมีก็กระแทกสะโพกเข้ามาอีกไม่ยั้ง

“ชอบมั้ย  อีกมั้ย แรง ๆ แบบนี้ดีมั้ย”

น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามด้วยเสียงกระเส่า
และพิพัฒน์ก็พยักหน้า  เรียวขารัดแน่นไปที่สะโพกแกร่งที่กำลังขยับเคลื่อนไหวและบารมีก็กระแทกร่างกายเข้ามาในช่องทางที่บีบรัดแน่นจนเกิดเสียง

“โอ้ยยยย อาส์”

ต่างฝ่ายต่างร้องครางไม่หยุด  ร่างกายที่แนบชิดกัน  สัมผัสกันจนเกิดเสียงดังถี่รัวตามจังหวะการแทรกสอด

“จะเสร็จยังพัฒน์ หือ”

เอ่ยถามและพิพัฒน์ก็พยักหน้ารับ
ใบหน้าเนียนขาวแดงเรื่อ  ดวงตาหรี่ปรือปรอยยั่วยวน  และแสดงอารมณ์ที่มากมายท่วมท้นไปด้วยความต้องการออกมาทั้งหมด
บารมีหยัดกายขึ้นและถอนความต้องการของร่างกายออกมา กำท่อนเอ็นแกร่งเอาไว้ในมือ และสาวฝ่ามือขึ้นลงสุดความยาวจนหยาดหยดขุ่นขาวเริ่มหลั่งทะลักรินออกมาทีละน้อยจึงยัดเยียดร่างกายเข้าไปในช่องทางที่เต็มไปด้วยคราบขุ่นขาวมากมายอีกครั้งและขยับเข้าออกรุนแรงขึ้น

พิพัฒน์ขยับฝ่ามือของตัวเองอย่างรุนแรง รูดรั้งความต้องการที่โป่งพองคับแน่นอยู่ภายในฝ่ามือขาว

“จะ.......อึก จะเสร็จ.....อื้มมมม จะ ออก แล้ว...ใกล้ แตกแล้ว”

ร้องบอกให้อีกฝ่ายเร่งความเร็วขึ้น และบารมีก็ยิ่งขยับสะโพกให้แรงขึ้นเมื่อพิพัฒน์กำลังจะทนไม่ไหว  หน้าท้องเนียนขาวแอ่นขึ้นสูง

“พัฒน์ อาส์ พัฒน์”

บารมีร้องครางเสียงสั่นเมื่อความรู้สึกทั้งหมดไหลเวียนอยู่ภายในท้องและไปรวมกันตรงส่วนปลายที่กำลังขยับเคลื่อนไหว

“พัฒน์ เสร็จ แล้ว ออกแล้ว”

เมื่อถึงที่สุดของอารมณ์  บารมีปลดปล่อยความต้องการออกมาทั้งหมด น้ำรักขุ่นขาวพุ่งทะยานเข้าไปในช่องทางคับแคบที่เต้นตุบและบีบรัดแน่น พิพัฒน์ขบฟันลงไปที่ลาดไหล่กว้าง ขบกัดอย่างรุนแรงเมื่อถึงจุดหมาย
ร่างกายชาวูบ  และเกร็งกระตุกรุนแรงหลายครั้งตอนที่ร่างกายกำลังจะปลดปล่อย ในหัวมีเพียงภาพขาวโพลน 
และเมื่อขยับฝ่ามืออีกสองสามครั้ง  อารมณ์ความต้องการของร่างกายทั้งหมดก็หลั่งออกมา

หยาดหยดหนืดข้นกระฉอกออกมาจากส่วนปลาย  หลั่งรินเปรอะรดลงที่หน้าท้องเนียนขาวและไหลซึมหยดลงเป็นทาง
พิพัฒน์เกลี่ยฝ่ามือที่เปรอะเปื้อนคราบขุ่นขาวข้นและสอดปลายนิ้วเข้าไปในโพลงปากของบารมีให้ลองชิมรสชาติร่างกายของตัวเองที่เพิ่งหลั่งรินออกมา 

บารมียอมอ้าปากรับทุกหยาดหยดที่พิพัฒน์ป้อนให้  และป้อนสิ่งนั้นคืนให้พิพัฒน์
คราบขุ่นขาวไหลซึมเปื้อนอยู่ที่ริมฝีปาก ปลายลิ้นร้อนโลมไล้กันไปมา และพิพัฒน์ก็กลืนกินทุกหยาดหยดร่างกายของตัวเองลงคอไป

บารมีค่อย ๆ ทรุดกายลงทาบทับอยู่บนร่างของพิพัฒน์

ลมหายใจยังหอบหนักและพิพัฒน์ก็โอบกอดบารมีเอาไว้
บารมีซุกซบใบหน้าอยู่ที่ซอกคอเนียนขาวและพิพัฒน์ก็ลูบไล้เส้นผมของบารมีเล่น

“.......พัฒน์....”

“.....หือ.........”

บารมีกระซิบเรียกชื่อของพิพัฒน์เบา ๆ และพิพัฒน์ก็ขานรับและลูบไล้ฝ่ามือไปที่สะโพกของบารมี

“เอาอีกเหรอ..เพิ่งเสร็จเองนะ........”

เสียงหัวเราะเบา ๆ ของพิพัฒน์ทำให้บารมีต้องหยัดกายขึ้นมองและพิพัฒน์ก็ส่งยิ้มหวานเชื่อมมาให้

“ก็พี่ไม่ยอมเอาของพี่ออกจากพัฒน์สักทีนี่....แล้ว....พี่บัส...จะกินข้าวมั้ย........”

ก็ช่างมันก่อนเถอะ  ค้างเอาไว้แบบนี้ก่อนก็ได้

บารมีแกล้งกระแทกสะโพกเข้าไปอีกเล็กน้อย และพิพัฒน์ก็ร้องออกมาเสียงเบา 

"เลอะหมดแล้ว  เอาออกเถอะ"

บารมีไม่ยอมทำตาม  และยังหัวเราะเสียงเบาที่แกล้งพิพัฒน์ได้


"แล้วจะกินข้าวก่อนมั้ย"

อ่อ
ข้าว

เออใช่  ยังไม่ได้กินข้าวเลยนี่หว่า   ลากไอ้พัฒน์ขึ้นห้องมาทำเรื่องแบบนี้ด้วยกัน  จนลืมไปว่ายังไม่ได้กินข้าว

“เดี๋ยวก่อน”

บารมีทรุดกายลงทาบทับอยู่บนร่างของพิพัฒน์อีกครั้ง และพิพัฒน์ก็ยิ้มรับกับสิ่งที่บารมีทำ

“......พัฒน์”

“หือ.......”

พิพัฒน์ขานรับ และยังลูบไล้ฝ่ามือเล่นที่เส้นผมของบารมี และบารมีก็จูบเบา ๆ ที่ข้างแก้มขาว ๆ และกอดรัดพิพัฒน์เอาไว้แน่น

“...ง่วง....ขอนอนก่อนสักพัก”

บารมีหลับตาลงอย่างช้า ๆ และพิพัฒน์ก็พยักหน้าเข้าใจ


“ข้าวเดี๋ยวค่อยกินนะ กินพัฒน์จนอิ่มแล้วเนี่ย..... อย่าเพิ่งล้างตัวล่ะ เดี๋ยวขอเอาอีกรอบ”

บารมีชอบเอาแต่ใจและการเอาแต่ใจของบารมีแบบนี้ก็ทำให้พิพัฒน์หัวเราะออกมาได้

ไม่มีถ้อยคำหวานหูอีกเหมือนเคย  คิดยังไงก็พูดแบบนั้น  แต่เมื่อได้ลองใช้ภาษากายคุยกันก็เข้าใจได้ไม่ยาก

ถึงบารมีจะไม่พูดจาหวาน ๆ ด้วยถ้อยคำที่ทำให้คนฟังล่องลอย แต่การที่บารมีอ้อนเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้กับพิพัฒน์
ก็ทำให้พิพัฒน์รับรู้ได้

บางทีเราสองคนก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกันให้มากความ เพราะเราอาจไม่ถนัดคุยกันด้วยคำพูด แต่สัมผัสทางกายก็ทำให้เราเข้าใจกันได้ง่าย ๆ

เรา.............ชอบที่จะเป็นของกันและกัน..........
เราต้องการไออุ่นจากร่างกายของกันและกัน........

และเมื่อร่างกายเราเป็นของกันและกันแล้ว...........ในเวลานี้ใจของเราสองคนก็กำลังเป็นของกันและกัน


 TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 27-02-2015 01:01:04
หง่อววววว
พัฒน์เป็นเคะราชินีเเบบซึนๆนิหว่า
เเรงถึงใจ เเต่ซึนได้โล่
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 27-02-2015 01:30:51
พัฒน์เปลี่ยนไป๊ ร้อนแรงจังเวลาอยู่บนพี่บัส
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-02-2015 01:36:14
อร๊ายยยยย. ดุเดือดเลือดพล่าน.   :haun4: :haun4: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 27-02-2015 02:03:35
เฮ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มันคือความโรแมนติกที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงนะ มาอีกสักตอนจะดีนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-02-2015 02:51:57
พิพัฒน์เปลี่ยนไป๋!!!!!! ร้อนแรงมาก  :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: tararatart ที่ 27-02-2015 04:19:50
กรี๊ดดดดดด พัฒน์แซ่บมั๊ก เดือดเลือดพล่านเลยพัฒน์เอ้ยยยยย   
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 27-02-2015 08:45:40
 :pighaun: :m25:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 27-02-2015 09:10:44
อื้ออออออออออออ พัฒน์....เป็นคนที่ไม่พูดแต่เข้าใจทุกอย่าง โดยเฉพาะการกระทำตอนนี้ เต็ม10 ค่า  o13 
มองเห็นอนาคตฮียบัสรำไร   :laugh3:
....แปลกนิดนึงนะคะ เวลาเปิดนิยายเรื่องนี้ที่ IE ทีไร มันค้างแล้วก็แฮงค์ทุกที แต่เปิดจาก FIREFOX ไม่มีปัญหาลองมาหลายรอบแล้ว ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนกันไหม.. :m28:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: windel ที่ 27-02-2015 09:34:10
เลือดท่วม น้ำตาลนอง
พัฒน์นี่แซ่บใช่เล่นนะเนี่ย  :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 27-02-2015 10:05:03
เห็นพัฒน์เงียบๆ แต่นางแอบแซ่บค้าาาา  :laugh:

พี่บัส พูดได้คำเดียว แกไปไหนไม่รอดแน่ เอิ้ก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 27-02-2015 11:20:03
ใช้ร่างกายคุยกันบ่อยๆนะ เค้าชอบ :haun4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 27-02-2015 11:55:37
เอาตรงๆนะ
พึ่งเห็นเอามาเรียบเรียงลงในเล้าาาา
โถ่วววววว
เราไปนั่งรอหน้าเฟสสสส
มิน่าๆๆ น้องเต๋อของเค้ามาอยู่นี้นี่เองงงง

ชอบทั้งสองคู่เลยค่ะ
จริงๆชอบที่เท็นเขียนทุกเรื่องเลยนะ 555

คิดถึงพี่ไอซ์น้องจุ้มจัง
#ผิดเรื่องๆๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 27-02-2015 16:40:53
 :jul1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 27-02-2015 17:12:51
พัฒน์จะร้อนแรงไปไหน :mew2: :jul1: :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 27-02-2015 17:45:28
ง่อออออออ พัฒนืธรรมดาที่หน่ายยยย
เราไม่เน้นพูด แต่เน้นปฏิบัติจิงสินะ!!!! ^.,^
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 27-02-2015 18:08:41
นี่คนเดียวกันกับพัฒน์ที่เงียบๆติ๋มๆหรือเปล่าเนี่ยะ ทำไมพัฒน์คนนี้ร้อนแรงเวอร์เลยอ่ะ แต่ชอบนะ สงสัยพี่บัสจะหลงพัฒน์คนนี้จนโงหัวไม่ขึ้นแน่ๆ และคงจะหึงแรง หวงแรงแน่ๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 27-02-2015 18:24:59
พิพัฒน์เปลี่ยนไปเยอะนะเรา
พี่บัสก็นะ อิอิ
 :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: eye-lifestyle ที่ 27-02-2015 18:42:16
 :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 27-02-2015 18:47:59
กรี๊ดดดดดดดดดดดด ฉากนี้ที่รอคอย :jul1:
เราอยากรู้เรื่องในห้องพี่บัสมานานแล้ววววว
เท็นจังน่ารักที่สุด จุ๊บๆๆ  เค้าไม่ได้หื่นนะ :z1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-02-2015 19:58:24
กรีดร้องเบาๆๆๆๆ
ภาษากายมันได้ผลจริงๆ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 27-02-2015 20:30:00
นางซึนที่ยั่วมาก พี่บัสหลงโงหัวไม่ขึ้นแน่ 5555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: แค่ความทรงจำ ที่ 27-02-2015 22:53:01
 :a5: พัฒน์เปลี่ยนไป

ลุ้นๆ จะเป็นยังไงต่อ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 27-02-2015 23:15:07
เห็นพัฒน์เงียบ ๆ แต่ร้อนแรงใช่ย่อยนะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน หิว P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 27-02-2015 23:39:20
อะ.เฮือก!  :pighaun: หนูพัตน์กินอะไรเข้าปายยย.หนูเป็นนายเอกที่แซ่บมาก. :jul1: สลัดคราบนางซินออกไปจนเราแปลกใจเลย.แต่เป็นแบบนี้บ่อยๆก็ดีนะ.เราว่าเข้าใจพัตน์มากกว่าตอนที่คุยกับพี่บัสจริงๆนั่นล่ะ.(ความจริงต้องบอกพี่บัสพูดคนเดียวมากกว่า.กร๊าก. :laugh: )
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ภาคพิเศษ 20 เรื่อง P.15
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 27-02-2015 23:54:30
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์) ภาคพิเศษ 20 เรื่องเรื่อยเปื่อยของบารมีกับพิพัฒน์

20 เรื่อง เกี่ยวกับ "พิพัฒน์"

1. พิพัฒน์ไม่ได้มีชื่อเล่นว่าพัฒน์แต่ชื่อเล่นที่แท้จริงของพิพัฒน์ชื่อ   หนู  เพราะเกิดมาตัวเล็กมากเหมือนหนู  แม่จึงตั้งชื่อให้ว่าลูกหนู แต่โตมาก็ไม่มีใครเรียกแล้วเปลี่ยนเป็นเรียกชื่อ พัฒน์ แทน

2.  ครอบครัวพิพัฒน์ไม่สมบูรณ์  พ่อตายตั้งแต่เด็ก  อยู่กับแม่จนอายุ 16 ปี และแม่แต่งงานใหม่พิพัฒน์เข้าทำงานโรงงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์เมื่ออายุ 16 ปีตอนปิดเทอมเพื่อนแม่ช่วยฝากให้และทำยาวมาเรื่อย เพราะหัวหน้างานเห็นว่าหน่วยก้านดี ขยันและใช้งานง่าย  จากเด็กฝ่ายผลิตก็ได้ย้ายไปช่วยเขียนเอกสารเล็ก ๆ น้อย ๆพัฒนาไปทำฝ่ายบัญชีแบบเต็มตัว และเรียนต่อในระดับชั้น ปวช. และ ปวส. บัญชี  และออกมาใช้ชีวิตอยู่คนเดียวตั้งแต่อายุ 17 ปีแยกกันอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง แต่ยังไปมาหาสู่กันบ้าง ไม่ได้ทะเลาะหรือเกลียดกัน

3.ปาจรีย์  มาจีบพิพัฒน์ก่อน เพราะเห็นครั้งแรกแล้วนึกว่าเป็นเด็กฝึกงาน  หน้าตาน่ารักถูกใจ  และขี้อาย สุดท้ายก็เลยมาอยู่ด้วยกัน โดยไม่ได้แต่งงาน  พ่อของปาจรีย์รับรู้และก็ยอมรับพิพัฒน์ได้   แต่ไม่ได้ไปมาหาสู่กันมากนัก  ได้ไปเยี่ยมในวันหยุดพิเศษต่าง ๆ บ้าง

4.การเจอกันครั้งแรกของพิพัฒน์กับบารมีไม่น่าประทับใจเท่าไหร่   บารมีขับรถมาจอดหน้าบ้านและเอาขนมไหว้เจ้ามาให้น้องสาว ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนจีนแต่ก็ไหว้แม่ย่านางรถในโอกาสวันพิเศษ และเพราะทำขนมสำหรับไหว้มากเกินไป  ก็เลยขนเอามาให้น้องสาวไปแจกคนที่โรงงาน  สิ่งแรกที่บารมีคิดกับพิพัฒน์คือ  น้องสาวกูนี่มันเลวจริง ๆไปหลอกเด็กมัธยมได้ลงคอ พ่อแม่เด็กไม่ตามมาเอาเรื่องหรือไง

5.พิพัฒน์กลัวบารมีตั้งแต่แรกเห็น  และบางครั้งก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อต้องอยู่ใกล้บารมี

6.สิ่งที่พิพัฒน์ประทับใจในตัวบารมี  เพราะบารมีเป็นคนใจดีแต่ไม่ค่อยแสดงให้คนอื่นรู้

7.พิพัฒน์รู้สึกแย่ทุกครั้ง  เมื่อเห็นบารมีเป็นทุกข์กับเรื่องที่พิพัฒน์ช่วยแก้ไขไม่ได้  เลยใช้วิธีมาอยู่ใกล้ๆ  ให้บารมีรู้สึกว่าไม่ได้อยู่เพียงคนเดียวลำพัง  ยังมีพิพัฒน์อยู่ข้าง ๆ เสมอ

8.นิสัยส่วนตัวที่คนใกล้ชิดจริงๆ ถึงจะรู้  คือเป็นคนชอบการสัมผัส ชอบการโอบกอด ชอบที่จะอยู่ใกล้ๆ คนที่ทำให้รู้สึกดีด้วย  เพราะโตมาแบบที่ไม่ค่อยได้รับความรักแบบเต็มที่  เวลาที่ได้อยู่กับคนที่ทำให้รู้สึกสบายใจ เลยเอาแต่นัวเนียพัวพันไม่เลิก  พิพัฒน์มักลืมตัวและเผลอทำแบบนั้นกับบารมีบ่อย ๆ จนบางครั้งก็กลัวว่าจะทำให้บารมีรำคาญ

9.พิพัฒน์เป็นนักกีฬาโรงเรียนเล่นกีฬาได้ทุกประเภท  ผิดกับหน้าตาที่ดูเอื่อยเฉื่อยและเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา  ที่จริงแล้วเป็นคนชอบการแข่งขันมาก  แต่ไม่ค่อยแสดงออกให้ใครรู้  ชอบอยู่อย่างเงียบ ๆมากกว่าจะบอกว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง

10.พิพัฒน์เสียตัวครั้งแรกให้กับปาจรีย์เมื่ออายุ 20 ปี 4 เดือน ในคืนวันปีใหม่  ไม่ได้เมา  แต่โดนปาจรีย์ปล้ำ  หลังจากนั้นก็เลยไปไหนไม่รอด  อยู่กันยาวหลายปี

11. ตอนที่มีอะไรกันครั้งแรก  พิพัฒน์คิดว่าบารมีไม่จริงจังด้วย แต่พิพัฒน์ไม่คิดจะปฏิเสธ และแสดงความรู้สึกออกไปทางร่างกายทั้งหมดเพื่อให้บารมีเข้าใจและรับรู้  และถึงแม้จะมีอะไรกันถึงขนาดนั้น แต่พิพัฒน์ก็ไม่กล้าพูดว่ารู้สึกยังไงกับบารมี

12.การมีอะไรกันครั้งต่อๆ มาพิพัฒน์มีสติครบถ้วนดี  พิพัฒน์ไม่มีอคติเรื่องเซ็กส์เพราะมันคือการแสดงความรู้สึกรักใคร่ผูกพันในอีกรูปแบบหนึ่งกับคนที่รู้สึกดีด้วย และบารมีมองว่าน่ารัก  และรู้สึกชอบที่พิพัฒน์เป็นแบบนั้น 

13.และถึงจะผ่านมากี่ครั้ง  พิพัฒน์ก็ยังไม่กล้าบอกความรู้สึกของตัวเองกับบารมีอยู่ดี

14.พิพัฒน์ไม่ใช่หนุ่มน้อยอ่อนด้อยประสบการณ์  พวกเงียบ ๆ มักร้อนแรงเสมอ

15.และนั่นก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บารมีไปไหนไม่รอด  เรื่องอื่น ๆบางครั้งพิพัฒน์ก็ดูเฉื่อยชาเซื่องซึมจนน่ารำคาญ แต่อย่าให้มันมีอารมณ์.....แม้แต่บารมียังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าพิพัฒน์ทำอะไรได้บ้าง

16.พิพัฒน์เป็นคนซักผ้ารีดผ้าให้บารมี และหน้าที่ของบารมีที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดคือถอดเสื้อผ้าแล้วใส่ตะกร้าให้เรียบร้อย ห้ามวางทิ้งเกลื่อนกลาด

17.ความสามารถพิเศษของพิพัฒน์คือคิดเลขเร็วมาก  และชอบการสังเกตปฏิกิริยาคนรอบข้าง และตอนนี้ปฏิกิริยาของเต๋อกับช่างวินัยที่มีต่อกันพิพัฒน์ก็เริ่มสังเกตเห็น แต่ไม่พูด

18.พิพัฒน์เป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงระดับหมู่บ้าน และตำบล  หลายครั้งคู่ต่อสู้มักประเมินความสามารถของพิพัฒน์จากใบหน้าที่เฉื่อยชาและไร้ความรู้สึก แต่นั่นทำให้พิพัฒน์ได้เปรียบ เมื่อศัตรูประมาทฝีมือพิพัฒน์
 
19.งานกีฬาประจำตำบลครั้งหนึ่งพิพัฒน์เป็นดาวซัลโว   ยิงไปสามประตู ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเด็กในอู่ซ่อมรถที่ขนขบวนกันมาเชียร์ แต่บารมีไม่รู้เรื่องเพราะมัวแต่คุยเรื่องงานกับผู้หลักผู้ใหญ่ในตำบล

20.พิพัฒน์เคยอยู่ฝ่ายบัญชีของบริษัทค้าพืชผลทางการเกษตร  และมีพี่ที่สนิทกันในแผนกที่คอยสอนงานและให้ความช่วยเหลือพิพัฒน์อยู่เสมอ ชื่อ “พี่สุรชาติ”  พี่สุรชาติชื่อเล่นว่า “บาส”  และแม้จะชื่อคล้ายชื่อเล่นของบารมีที่ชื่อว่า “บัส”  แต่นิสัยต่างกันสุดตีน


20 เรื่องเกี่ยวกับ"บารมี"

1. ชื่อเล่นว่า “บัส”  เพราะเกิดบนรถโดยสารประจำทางหรือที่คนสมัยก่อนเรียกว่ารถ “บัส”สาเหตุที่ไปเกิดบนนั้นเพราะแม่กับพ่อทะเลาะกัน  แม่งอนพ่อเลยหนีขึ้นรถบัสไปบ้านตาแต่ไปได้ครึ่งทางก็เจ็บท้องคลอดขึ้นมา  บารมีเลยได้ชื่อนี้โดยที่พ่อแม่ไม่ต้องเสียเวลาตั้งชื่อเล่นให้มากความ

2. บารมีเป็นญาติกับเต๋อ และโตมาพร้อมกัน เต๋อไม่เคยเรียกบารมีตามศักดิ์ที่แท้จริง  เพราะเป็นเพื่อนเล่นกันตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนเรียกว่าพี่ แต่ตอนหลังเปลี่ยนมาเรียกว่าเฮีย ตามลูกน้องในอู่ซ่อมรถของบารมี

3.พ่อทิ้งหนี้ไว้ให้บารมีมากกว่ายี่สิบล้าน  และบารมีก็พยายามผ่อนใช้มาโดยตลอดแต่ผ่านไปหลายปีหนี้ก็ยังไม่หมด จนบางครั้งบารมีท้อใจ และอยากจะยอมแพ้ไปซะจะได้หมดเรื่อง แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะสัญญากับพ่อเอาไว้ ว่ายังไงก็จะรักษาสิ่งที่พ่อสร้างเอาไว้ให้ได้

4.บารมีเป็นคนอ่อนไหวและคิดมากแต่ปกปิดเอาไว้ภายใต้ท่าทีที่แข็งกร้าวเพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ถึงความอ่อนแอที่อยู่ในใจลึก ๆ แต่สุดท้ายพิพัฒน์ก็รู้ความลับเรื่องนี้จนได้

5.บารมีไม่เคยรู้สึกว่าสัตว์เลี้ยงขนปุยทุกชนิดมีความน่ารัก 

6.แม้จะคิดอย่างนั้นแต่สุดท้ายก็ต้องตัดหญ้าขนมาเลี้ยงกระต่ายให้พิพัฒน์ในวันที่พิพัฒน์ยุ่งกับงานจนปลีกตัวไปเลี้ยงกระต่ายไม่ได้  บารมียอมทำให้ง่าย ๆ แบบไม่มีข้อต่อรอง เพราะทุกครั้งที่เห็นพิพัฒน์ยิ้มกับเรื่องเล็ก ๆ ที่ทำให้  บารมีก็จะเผลอยิ้มตามไปด้วย

7.หลังจากพ่อแม่เสียไปมากกว่าสิบปี  บารมีไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็นอีกเลย  และพิพัฒน์คือคนที่ได้เห็นน้ำตาและด้านที่อ่อนแอของบารมี

8. บารมีชอบให้คนเอาใจ  และพิพัฒน์ก็ขยันเอาใจบารมีแบบแปลก ๆ ทำในรูปแบบที่คนอื่นไม่เข้าใจ

9.บารมีเคยเรียนมหาวิทยาลัยแต่เรียนไม่จบ ลาออกมาซะก่อน เพราะอู่มีปัญหา

10.บารมีชอบกินซาลาเปาแต่เรื่องนี้ยังเป็นความลับที่พิพัฒน์ไม่รู้

11.บารมีเคยพยายามจะบอกรักพิพัฒน์แต่ไม่ว่ายังไงก็ขัดเขินเกินกว่าจะพูดออกมาอย่างจริง ๆ จัง ๆ  ได้ เลยไม่ยอมบอกจนถึงป่านนี้

12.บารมีชอบให้พิพัฒน์อ้อน  แต่ไม่เคยบอกว่าชอบให้อ้อน แม้บางครั้งจะทำเหมือนหงุดหงิดไม่ชอบใจแต่พิพัฒน์ก็รู้ว่าบารมีเขิน เลยแกล้งทำเป็นรำคาญกลบเกลื่อน
 
13.บารมีแอบจีบพิพัฒน์เงียบ ๆ แต่พิพัฒน์ไม่รู้ว่าบารมีจีบอยู่

14.บารมีบังคับเข้ามานอนห้องเดียวกับพิพัฒน์ ตั้งแต่ช่วงแรกที่มีอะไรกัน  แต่ไม่เคยบอกรักกันด้วยคำพูด

15.ในกระเป๋าสตางค์ของบารมีนอกจากรูปพ่อแม่แล้ว ยังมีรูปพิพัฒน์เก็บไว้ในมุมหนึ่งของกระเป๋าด้วย

16.วันเสาร์และอาทิตย์บารมียังต้องทำงาน แต่พิพัฒน์หยุดอยู่บ้านเพื่อจัดการงานบ้าน   บารมีจะโทรหาพิพัฒน์ช่วงสาย ๆ ของวันเพื่อคุยไปเรื่อยๆจนกว่าพิพัฒน์จะซักผ้าเสร็จและเริ่มตากผ้าถึงค่อยวาง

17.บารมีไม่เคยแกะกับข้าวใส่จานเอง และพิพัฒน์ทำให้บารมีทำสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำ ด้วยความเต็มใจ

18.วิธีการอ้อนขอทำเรื่องอย่างว่ากับพิพัฒน์นั้นไม่ยากบางครั้งบารมีจะแกล้งเดินเฉียดไปมาอยู่ด้านหลังของพิพัฒน์และแกล้งแอ่นเอวไปโดนสะโพกของพิพัฒน์ให้รู้สึก เท่านี้ก็เป็นอันรู้กัน   

19.ตอนที่รู้ตัวว่าชอบพิพัฒน์เข้าแล้ว บารมีเอาแต่แอบลอบมองหน้าของพิพัฒน์ทั้งวันจนพิพัฒน์รู้ตัว และบารมีก็ทำเป็นนิ่งเฉยกลบเกลื่อน

20.แม้จะเป็นคนที่สั่งให้พิพัฒน์ทำในสิ่งที่ต้องการอยู่บ่อย ๆ  แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าบารมีจะเป็นผู้บงการชีวิตพิพัฒน์ได้หมดทุกอย่าง   เพราะวันไหนที่พิพัฒน์เอาจริงขึ้นมา  บารมีก็ไปเคยกล้าขัดใจพิพัฒน์แม้แต่ครั้งเดียว 

แม้พิพัฒน์จะไม่ถนัดพูด แต่ก็มีบางสิ่งที่ทำให้คนสองคนเข้าใจกันได้มากกว่าคำพูด

ในอู่

บารมี         "ไอ้พัฒน์ทำห่าอะไรไม่เคยได้อย่างใจ เชื่องช้า อืดอาด สั่งอะไหล่ล็อตใหม่ด้วย แม่งของก็ต้องนำเข้าอีก ห่าเอ้ย"
พิพัฒน์      "............................"

ในครัว

บารมี         “หิวข้าว แกะกับข้าวซิ เร็ว ๆ หิวจะตายห่าแล้ว ร้อนก็ร้อนอากาศแม่งร้อนชิบหาย หิวโว้ย หิว หิว หิว"
พิพัฒน์      ".........................."

หน้าโทรทัศน์

บารมี         “เอารีโมทมา จะดูช่องเมื่อกี้นี้ ปวดขาชิบหาย นวดขาให้หน่อยซิ แม่งเฮียสมชัยก็อีก เอารถมาทิ้งไว้นัดแล้วไม่เป็นนัด น่าโมโหชิบหาย นี่ เห็นว่าเป็นลูกค้าเก่ากูหรอกนะ”
พิพัฒน์      “...........................”

ในห้องนอน

บารมี        “............................”
พิพัฒน์      “อือ อึก อื้อออออออออ ซี้ดดส์ ไม่ไหวแล้ว พี่  จะแตกแล้ว อ๊า  พี่บัส แรงอีก เร็ว อาส์ อื้ออออ”


 TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ภาคพิเศษ 20 เรื่อง P.15
เริ่มหัวข้อโดย: PiSCis ที่ 28-02-2015 00:10:58
พัฒน์ช่างร้อนแรง

ช่วงเวลาบนเตียงคือของพัฒน์  :z1:  :laugh:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ภาคพิเศษ 20 เรื่อง P.15
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 28-02-2015 00:19:37
ราชินีบนเตียง  :ling1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ภาคพิเศษ 20 เรื่อง P.15
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 28-02-2015 00:21:36
เฮียบัสแกก็มีมุมน่ารักๆ ของแกด้วยนะเนี่ย
พิพัฒน์ดูไม่ค่อยดูนะ แต่ทำไมในห้องนอนนี่แบบว่า... อิอิ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ภาคพิเศษ 20 เรื่อง P.15
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-02-2015 00:25:43
ปากแข็งทั้งคู่อ่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ภาคพิเศษ 20 เรื่อง P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 28-02-2015 00:29:57
เรื่องอื่นพัตน์จะไม่ยุ่ง! ถ้าไม่ใช่บนเตียงน่ะนะ.เอิ๊กๆ. :laugh:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ภาคพิเศษ 20 เรื่อง P.15
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-02-2015 00:42:58
แต่ละข้อของพัฒน์แซ่บๆ ทั้งนั้น
อนาคตพี่บัสเกรงใจเมียแน่ๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ภาคพิเศษ 20 เรื่อง P.15
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-02-2015 01:01:40
เห็นเงียบๆแบบนี้ เวลาอยู่บนเตียงชนะเลิศเลย อิอิอิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ภาคพิเศษ 20 เรื่อง P.15
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 28-02-2015 01:02:27
พัฒน์ เป็น ควีนนนนน :katai5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ภาคพิเศษ 20 เรื่อง P.15
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-02-2015 01:31:09
จะในอู๋ ในบ้านหรือที่ไหนๆพี่บัสมีแรงพูดแรงบ่นบ่นไปแต่บนเตียงเมื่อไรเดึ๋ยวพิพัฒน์จัดเอง น้องหนูเอาอยู่!!!!
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 28-02-2015 02:28:00
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน ความสุขเล็ก ๆ


เสียงกระดิ่งดังกรุ๋งกริ๋งมาแต่ไกลในเวลาบ่ายแก่ๆ  อากาศร้อนอบอ้าวลมไม่พัด ใบไม้ไม่กระดิก

ร้อน ๆขนาดนี้ สิ่งที่ช่วยให้ทั้งเด็กในอู่และช่างที่กำลังซ่อมรถมีอารมณ์อยากทำงานต่อได้  คงหนีไม่พ้นไอติมหวาน ๆ  เย็น ๆ สักแท่ง

พิพัฒน์เปิดประตูออกมาจากออฟฟิศและเดินออกไปหน้าลานกว้างที่เปิดเป็นพื้นที่สำหรับซ่อมรถ โบกไม้โบกมือให้รถไอติมจอดและตะโกนให้คนในอู่หยุดมือที่กำลังทำงาน

“มาเอาไอติมกันคนละแท่งครับ”

พิพัฒน์ตะโกนบอกและทั้งเด็กในอู่และช่างที่กำลังทำงานก็ค่อยๆ ผละจากงาน และเดินมายืนรอรถไอติมทันที

“เฮียบัสเลี้ยงคนละแท่ง”

แค่ได้ยินว่ามีคนเลี้ยง  สมาชิกทั้งอู่ก็โห่ฮาและปรบมือกันใหญ่ แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆแต่ก็ทำให้อารมณ์หงุดหงิดจากอากาศร้อนผ่อนคลายลงได้

“ตั้งแต่พี่พัฒน์มาอยู่คุณภาพชีวิตดีขึ้นเยอะเลย  ถ้ามีแต่เฮียคนเดียวอย่าหวังจะได้มากินไอติม ชิล ๆ มีความสุขแบบนี้เหอะ เฮียแม่งไม่ละเอียดอ่อน”

เต๋อยืนเกาะรั้วรอรถไอติมก่อนคนแรกและหันไปทำหน้ากวนประสาทใส่คนที่กำลังเดินตามมา

“ไม่ต้องแดกมั้ย  เลี้ยงแล้วยังปากดีอีก”

บารมีเดินมาเกาะรั้วด้วยอีกคนและเต๋อก็เบ้หน้าใส่บารมี

“พาดพิงไม่ได้เลย  เอาแม่งสองเลย แบบนี้แม่งต้องเบิ้ล”

ชะ ไอ้ห่าเต๋อ   จะกินล้างกินผลาญเลยใช่มั้ยสรุป

“กูจะไปเก็บตังค์กับแม่มึง”

ถามสิว่ากลัวมั้ยเต๋อไม่ได้ตอบบารมีแต่ทำสิ่งที่เหนือกว่าการตอบ

“น้า  ของผมสี่เลย”

เป็นไงล่ะ  อึ้งสิ 
เต๋อยักคิ้วให้บารมีที่อยากจะตบกบาลเต๋อเต็มแก่  แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าส่ายหัว  ด้วยความอ่อนใจ

“แม่มึงรวย  กูก็รวย กินซะให้พุงแตกเลยไอ้ห่า”

ประชดประชันไปพอสมควร  แต่เต๋อไม่รู้สึกอะไร รับไอติมมาสี่แท่งและยิ้มเยาะบารมีอย่างสะใจ

“แดกแม่ง”

ไม่ใช่แค่พูดแต่ยัดไอติมสี่แท่งเข้าปาก  และช่างวินัยก็ได้แต่ลอบมองปฏิกิริยาของเต๋อด้วยความขำ

เด็กเปรต
ทั้งกวนตีน  ทั้งหาเรื่องให้โดนด่า  แบบนี้มันน่า..........

เต๋อเดินถือไอติมสี่แทงจากไปแล้วและบารมีก็ขมวดคิ้วมุ่น และบ่นพึมพำอยู่คนเดียว

“แม่ง”

บ่นไปก็เท่านั้น  ถึงบ่นก็ทำอะไรไม่ได้  และพิพัฒน์ที่กำลังยืนกินไอติมก็อมยิ้มเล็ก ๆที่มุมปากเมื่อนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้

“ยิ้มอะไรพัฒน์”

พิพัฒน์รีบหุบยิ้ม  และเดินหนีเข้าออฟฟิศไป ทิ้งให้ช่างวินัยและบารมีมองตาม

“เฮียบัส”

บารมีหันมามองหน้าของช่างวินัยที่กัดไอติมไปเรื่อยๆ และเริ่มพูดบางอย่าง

“ตั้งแต่พิพัฒน์มาอยู่ด้วยกันนี่  ดูเฮียมีความสุขขึ้นเยอะเลยนะ”

ดูมีความสุขงั้นเหรอ
การแสดงออกมันชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอ
บางทีก็..........อาจจะใช่อย่างที่ช่างนัยพูดจริงๆ ตั้งแต่มีพิพัฒน์มาอยู่ด้วยบารมีรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมาก ๆ ในทุก ๆ วัน

“ก็จริง”

ยอมรับออกมาตรงๆ และบารมีก็ยิ้มออกมาบาง ๆ พยักหน้าให้กับช่างนัยที่พยักหน้าตาม และกำลังจะเดินเข้ามาในอู่เพื่อทำงานต่อ

“ว่าแต่ช่างนัยเถอะ”

ช่างวินัยหันมามองหน้าเจ้าของอู่ และบารมีก็เดินเข้ามาใกล้กับช่างวินัยและพูดอะไรบางอย่างพอให้ได้ยินกันสองคน

“คิดดีแล้วนะ”

คิดดีแล้ว?????????
จะแกล้งทำเป็นไม่รู้ก็ไม่ได้  เพราะไม่ใช่ว่าไม่รู้จักบารมี  รู้จักกันมานานหลายปี  รู้ไส้รู้พุงกันหมดเพราะที่จริงก็โตมาด้วยกัน

ช่างวินัยนิ่งชะงักไปเล็กน้อย  ก่อนจะตอบบารมีตรง ๆ แบบไม่ต้องใช้เวลาคิดนาน

“ผมคิดมาตลอดชีวิต”

คำตอบเรียบง่ายแต่จริงจัง และบารมีก็รับรู้ถึงความจริงจังในน้ำเสียงของช่างวินัย

“งั้นก็ฝากด้วยนะ”

บารมีแตะที่ไหล่ของช่างวินัยและผละไปที่ออฟฟิศ

ช่างวินัยถอนหายใจยาวๆ และกลับมาทำงาน  เหลือบสายตามองไอ้เด็กเวรที่ทำให้ช่างวินัยต้องคิดมาตลอดชีวิต      และมันกำลังเมามันส์กับไอติมสี่แท่งที่มันกินประชดเจ้าของอู่

“.................”

ปกติไม่ค่อยจะเข้าใกล้หรือพูดคุยกันเวลาอยู่ที่อู่ แต่วันนี้ช่างวินัยอยากจะขอทำอะไรสักนิด

เดินไปยืนอยู่ตรงหน้าเต๋อ  และแตะมือเบา ๆที่หัวของเด็กที่นั่งกินไอติม
เต๋อเงยหน้าขึ้นมองและรีบปัดมือช่างวินัยออกทันที

“ทำอะไรวะ  หัวคนนะไม่ใช่หัวหมา ทำขนาดนี้ไม่ลูบหัวแล้วโยนอาหารให้เลยล่ะ”

อะไรที่ทำให้พี่ต้องคิดอะไรกับเต๋อเกินเลยมาตลอดวะ  ไม่รู้จริง ๆ นะไม่รู้เลยว่าทำไมถึงไม่เคยมองเป็นอย่างอื่น ตั้งแต่เล็กจนโต ที่จริงสายตาของช่างวินัยยังเหมือนเดิม  ยังเห็นเต๋อเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆที่วิ่งวนไปวนมาอยู่รอบ ๆ ตัวเหมือนเดิม

“ปากเลอะหมดแล้วมึงกินยังไงให้เปื้อนขนาดนี้”

ช่างวินัยส่งยิ้มจางๆ ให้กับเต๋อ  และแตะปลายนิ้วเบา ๆที่ริมฝีปากของเต๋อ

“ช่างนัย”

เต๋อรีบหันซ้ายหันขวาเลิ่กลั่ก  เพราะตกใจกับสิ่งที่ช่างวินัยทำ

อย่ามาเปิดเผยให้คนอื่นเห็นตอนนี้นะโว้ย  กูยังไม่พร้อม

เต๋อขมวดคิ้วมุ่น และทำท่าจะลุกขึ้นเดินหนีแต่ช่างวินัยเรียกเอาไว้และเต๋อก็ยิ่งมองซ้ายมองขวา ด้วยความหวาดระแวง

“พี่นัย”

เต๋อปรามช่างวินัยเสียงดุ  และช่างวินัย ก็ตอบกลับเสียงดุไม่แพ้กัน

“โคตรอยากให้ความแตกแล้วเรื่องรู้ไปถึงหูแม่มึงไวๆ จริง ๆ เลยว่ะ”

ช่างวินัยแม่ง..........แล้วมันใช่เวลาที่ไหนกันล่ะโว้ยยย

“บ้า”

เต๋อสบถออกมาเสียงเบาและหน้างอหงิก รีบเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว และช่างวินัยก็ถอนหายใจออกมายาว ๆ  ก่อนจะเดินไปจัดการงานตัวเองที่ค้างอยู่ให้เสร็จเรียบร้อย

บารมีปล่อยมือจากมู่ลี่ที่ใช้บังแสงและถอนหายใจ  พิพัฒน์นั่งท้าวคางและกัดไอติมไปเรื่อย ๆ  ก่อนจะยื่นส่งให้บารมีที่เดินมานั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“อะไรมึงพัฒน์”

พิพัฒน์ไม่พูด  แต่ยังยืนยันจะป้อนไอติมบารมีให้ได้และบารมีก็ส่ายหน้าแต่พิพัฒน์ก็ยังยืนยันจะทำแบบเดิม

กัดไปแค่หนึ่งคำและพิพัฒน์ก็ดึงไอติมกลับมากินต่อ

กินไปเรื่อย ๆและเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“ว่าจะบอกก็ลืม”

ลืมอะไร  มีอะไรให้ลืม ลืมเรื่องอะไรวะพัฒน์
พิพัฒน์ชี้ไปที่ซอกคอของบารมีและบารมีก็แตะปลายนิ้วไปที่ซอกคอของตัวเอง

“อะไร”

เอ่ยถามและพิพัฒน์ก็เลิกคิ้วขึ้นสูงและตอบออกมาหน้าตาเฉย

“เมื่อคืนดูท่าว่าผมจะดูดแรงไป”

ดูด   
แรง
ไป

คอก็เลยมีรอย  รอยที่ไม่น่าจะมี  และบารมีเริ่มเข้าใจขึ้นมาทันทีว่าทำไมช่างวินัยทักแปลกๆ

“ตั้งแต่พิพัฒน์มาอยู่ด้วยกันนี่  ดูเฮียมีความสุขขึ้นเยอะเลยนะ”

ไม่ใช่แค่พูดแต่ช่างนัยคงสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ถึงได้ลองเชิงด้วยการพูดแบบนั้น  และบารมีก็ยอมรับซะด้วย ว่ามีความสุขจริง ๆ
ดังนั้นแล้ว  เมื่อคิดโดยสรุป...............คำตอบที่ได้ก็คือ  ช่างวินัยรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบารมีกับพิพัฒน์แล้ว  ที่สำคัญรู้ไปถึงขนาดที่ว่า  บารมีกับพิพัฒน์ไปถึงขั้นไหนกันแล้ว

ไอ้..........นัย.............

บารมีเองก็ซึ้งใจในความร้ายกาจของช่างวินัยไม่น้อย
แบบนี้สิ  มันค่อยสมน้ำสมเนื้อกับไอ้เต๋อหน่อย

เจองานละเอียดแล้วไงมึงไอ้เต๋อ.........แดกไอติมกูฟรีสี่แท่ง เก็บตังค์จากแม่มึงก็ไม่ได้ งั้นกูจะให้ช่างนัยนี่แหละ ไปจัดการทบต้นทบดอก  คิดค่าเสียหายเอาจากมึงให้หมดเลยไอ้เต๋อ

แม่ง..........ไอ้ห่าเต๋อ........ไอ้หลานเวร

แล้วนี่ก็อีกคน  ปั่นซะกูไปไม่เป็นเลย  แล้วก็มานั่งกินไอติมหน้าตาเฉย  พิพัฒน์นี่แม่งก็เหลือเกิน

บารมีนึกอยากจะต่อว่าคนที่นั่งกินไอติมเฉยๆ ไม่มีทีท่ารู้ร้อนรู้หนาวอะไรทั้งนั้น คิดแล้วก็หงุดหงิดอยู่ในใจ  และพิพัฒน์ก็นั่งจ้องหน้าของบารมีและยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับหน้าของบารมี โดยไม่ทันตั้งตัวพิพัฒน์ขบริมฝีปาก เข้ากับริมฝีปากล่างของบารมีเบาๆ

“เฮ้ย.......ไอ้........พัฒน์”

บารมียกหลังมือขึ้นขัดถูที่ริมฝีปากของตัวเองและพิพัฒน์ก็ยิ้มใส่ตาของบารมี

“ให้ดูดคืนก็ได้ไม่อยากเอาเปรียบ”

อะไรของมึง
อะไรของมึงวะพัฒน์อะไรของมึงงงงงงงงงงง

บารมีไม่มีปัญญาทำอะไรได้  นอกจากนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นและทนไม่ไหวจนต้อง  เอาคืนพิพัฒน์บ้างด้วยการยื่นหน้าเข้าไปหาพิพัฒน์   และจูบกันอยู่อย่างนั้นเป็นนานจนอารมณ์ชักจะเตลิดไปไกลและบารมีก็ต้องผละใบหน้าออกห่างก่อนที่อะไรจะเกินเลยไปมากกว่านี้

“ไว้กลับบ้านก่อนนะพัฒน์”

พิพัฒน์มองหน้าบารมีด้วยสีหน้าเรียบเฉย  แต่ตอบสนองสิ่งที่บารมีต้องการแบบง่าย ๆ

“ไม่ต้องกลับหรอก  เดี๋ยวใช้ปากทำให้.....เดี๋ยวรอให้คนอื่น ๆ กลับไปก่อนก็ได้......ผมอยากทำ”


 TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 28-02-2015 02:34:38
 o8  o3
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-02-2015 03:09:03
 :hao7: เรื่องแบบนี้พิพัฒน์เป็นต่อตลอด
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 28-02-2015 03:10:41
โอ้วว~ พัตน์ชักจะร้อนแรงเกินไปแล้ว.ยั่วเสียจนพี่บัสหลงหัวปักหัวปำเชียว. :hao3: :m25:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 28-02-2015 04:11:10
พิพัฒน์เป็นทายาท ปลาชอคเกอร์เหรอ ดูดเอา ดูดเอา อิอิ เต๋อเราคิดถึงเต๋อๆๆๆๆๆ มาต่อไวไวนะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 28-02-2015 05:02:58
ร้อนแรง เผ็ดพริกแกง มากกก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-02-2015 06:13:58
รู้สึกว่าพัฒน์จะเหนือพี่บัสขึ้นทุกวัน
จะกินไอติมแท่งใหญ่ด้วยๆ
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 28-02-2015 07:01:16
พัฒน์ไวอยู่เรื่องเดียวสินะ  :z1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-02-2015 07:24:51
ดีจริง  :laugh:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 28-02-2015 07:36:19
หนูพัฒน์ร้ายขึ้นทุกวันนะเราหน่ะ
 :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 28-02-2015 07:40:55
พัฒน์เอ้ย แค่นี้พี่บัสก็ไปไหนไม่รอดแล้ว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 28-02-2015 08:21:03
พัฒน์ทำไมขยันยั่วเฮียจริง ๆ 5555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: p^tarn ที่ 28-02-2015 08:51:52
 :ruready หา. หา ห๊ะ.     อูยยยยยยน้องหนูแรงมาก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 28-02-2015 08:58:34
พิพัฒน์พลังทำลายล้างสูงมาก. :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 28-02-2015 10:31:14
พี่บัสทำเป็นโวยวายนะ หึ หึ  o3

ชอบพัฒน์ ช่างยั่วจริงๆ :m1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-02-2015 10:38:28
อร๊ายยยยยยย พัฒน์!!!
พี่บัสไปไหนไม่รอดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-02-2015 11:56:11
พี่บัสต้องหมั่นตรวจเช็กร่างกายบ้างล่ะนะมีเมียร้อนแรงขนาดนี้
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 28-02-2015 12:11:49
เวรี่ๆๆๆๆๆๆๆๆ HOT  :a2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 28-02-2015 12:18:51
พัฒน์หนูร้อนแรงมากกกกก แล้วยังงี้พี่บัสจะไปไหนรอดเนี่ยะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 28-02-2015 12:20:01
โอ๊ยยยย พัฒนสุดยอดดดดดด พี่บัสไปไหนไม่รอดแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
รอเวลาเลิกงาน ไอติมแท่งโตๆๆๆๆๆ อิอิ
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 28-02-2015 13:18:06
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน กิน


พิพัฒน์คุกเข่าอยู่ที่หว่างขาของบารมี ดวงตาหวานเชื่อมปรือปรอยนิ่งมองสิ่งที่ดุนดันอยู่ภายในกางเกงไม่วางตาก่อนจะวางมือลงไปที่ตรงนั้นและเริ่มใช้ฝ่ามือลูบไล้ไปมา

พิพัฒน์ส่งยิ้มหวานเชื่อมให้กับคนที่จ้องกลับมาด้วยสายตาร้อนแรง 

บารมียอมให้พิพัฒน์ทำทุกอย่างได้ตามที่ต้องการ 

ปลายนิ้วร้อนไล้เรื่อยไปที่ข้างแก้มเนียนขาวและสอดปลายนิ้วเข้าไปในโพรงปากนุ่มหยุ่น  และพิพัฒน์ก็เผยอริมฝีปากรับ  ไล้เลียลิ้นไปบนนิ้วที่สอดเข้ามาและยังเคลื่อนมือลูบไล้ความแข็งแกร่งที่ตื่นตัวอยู่ภายในกางเกงอย่างช้า ๆ

ส่วนนั้นค่อย ๆ โป่งพองขึ้นจนเป็นรูปร่างและกำลังดุนดันอยู่ภายในกางเกงจนคับแน่น พิพัฒน์แตะต้องไปตามความยาวที่ได้เห็นและบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในนั้นก็ขยายใหญ่ขึ้นจนแทบจะทะลุออกมาจากเนื้อผ้า

ซิบกางเกงถูกดึงลง  และฝ่ามือร้อนก็สอดเข้าไปลูบไล้สิ่งนั้นเบา ๆ กดส่วนปลายของท่อนเอ็นใหญ่โตที่คับแน่นอยู่ภายในกางเกงที่เริ่มเปียกชื้น  และเมื่อรั้งส่วนนั้นออกมาจากกางเกงชั้นใน  ความใหญ่โตคับแน่นก็ผงาดออกมา ช่วงหัวกำลังขยับเคลื่อนไหวและชุ่มฉ่ำไปด้วยหยดน้ำใสที่ไหลเยิ้มซึมออกมาจากช่องทางเล็ก ๆ   

พิพัฒน์แหงนเงยใบหน้าขึ้นจ้องหน้าของบารมี  ไล้เลียปลายลิ้นที่ริมฝีปากอย่างหิวกระหาย
แสดงให้รู้ว่าต้องการกลืนกินท่อนเอ็นใหญ่โตบวมเป่งที่ขยายจนถึงขีดสุดเข้าไป

และบารมีก็เข้าใจ

กดแทรกความร้อนของร่างกายเข้าไปในโพรงปากร้อนตามที่พิพัฒน์ร้องขอ
ปลายลิ้นนุ่มหยุ่น  ไล้เลียไปที่ส่วนปลายเบา ๆ และก็ทำให้บารมีถึงกับเกร็งร่างกายแน่น  เมื่อลิ้นร้อน ๆละเลงเล่นที่ส่วนหัวของท่อนเอ็นแกร่งและลากไล้ไปตามแนวเส้นเลือดปูดโปนอย่างรุนแรง ก่อนจะ ครอบริมฝีปากกลืนกินที่ส่วนหัว  และดูดกลืนอย่างหิวกระหาย

“อาส์  พัฒน์ โคตรเสียว”

บารมีร้องบอก  และพิพัฒน์ก็เงยหน้าขึ้นอมยิ้ม  ดวงตากลมโตหรี่ปรือปรอย  แสดงความปรารถนาออกมาทั้งหมด  ดูดกลืนความแข็งแรงใหญ่โตที่ขยายตัวจนพองคับแน่นเต็มปาก

ท่อนเอ็นแกร่งขยับไหวไปมาตามแรงรูดรั้งของฝ่ามือร้อน
พิพัฒน์ประคองส่วนนั้นเอาไว้ทั้งสองมือ ดูดกลืนเข้าไป และขยับปากขึ้นลงเป็นจังหวะ  พร้อมกับขยับมือรูดรั้งให้   โพลงปากร้อนครอบส่วนแข็งแกร่งนั้นเอาไว้  ริมฝีปากร้อนจูบไล่ลงปลายลิ้นไล้ขึ้นลงที่ส่วนหัว  และพิพัฒน์ก็ประคองท่อนเอ็นแกร่งถูไถเข้ากับปลายลิ้นอย่างรุนแรงหลายครั้ง

บารมีค่อย ๆ ขยับกายลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ   

และพิพัฒน์ก็ใช้สองแขนกอดรัดที่สะโพสกแกร่งแน่น
ไล่ปลายลิ้นมาที่ถุงเนื้อนุ่มสองข้างดูดกลืนเข้าไปอย่างรุนแรงเมื่อเห็นบารมีเริ่มแอ่นเกร็งสะโพกและกระแทกท่อนเอ็นเข้ามาในปากของพิพัฒน์ถี่รัว

สะโพกแกร่งกระแทกกายสอดแทรกเข้ามาจนท่อนเอ็นใหญ่ผลุบหายเข้าออกอยู่ภายในปากของพิพัฒน์ครั้งแล้วครั้งเล่า

พิพัฒน์นิ่งมองที่ใบหน้าของบารมีหลายครั้ง  ทั้งที่มีท่อนเอ็นปูดโปนใหญ่โตพองคับอยู่ภายในโพรงปาก  หยดน้ำใส ๆ หลั่งรินออกมาจากความแข็งขืนใหญ่โต และซึมออกมาที่มุมปากของพิพัฒน์  ก่อนจะไหลเยิ้มหยดลงเป็นทางยาวเปรอะเปื้อนไปตามลำคอเนียนขาว 

ปลายลิ้นร้อนกดไปที่ช่องทางเล็ก ๆ ตรงส่วนปลายของท่อนเอ็นใหญ่และเคลื่อนไหวปลายลิ้นตรงส่วนนั้นอย่างรุนแรง ไล้เลียเล่น  จูบเบา ๆ และกลืนกินเข้าไปหมดทั้งลำ  ก่อนจะขบเม้มริมฝีปากไปตามความยาวของความแข็งแกร่งในมือ  จูบไล้กลับลงมาที่ถุงเนื้อนุ่มแน่นทั้งสองข้างและดูดกลืนเข้าไปทั้งหมดอีกครั้ง เส้นเลือดส่วนล่างใต้ความร้อนแข็งแกร่งถูกลิ้นร้อนไล้เลียสัมผัสอย่างรุนแรง  สลับกับส่วนปลายที่ถูกปรนเปรอให้ไม่ต่างกัน  ฝ่ามือร้อนขยับขึ้นลงหลายครั้ง  และต้องการกลืนกินส่วนนั้นเข้าไปจนลึกสุดคอ
ความต้องการอยากครอบครองไม่เคยพอ ยิ่งเร่งเร้าให้อารมณ์ของคนที่ถูกกระทำเตลิดไปไกล
บารมีสอดฝ่ามือแทรกเข้าไปในกลุ่มผมนิ่ม  แหงนเงยใบหน้าขึ้นสูดลมหายใจเข้าลึก

กดหัวของพิพัฒน์เอาไว้แน่น   บังคับให้กลืนกินส่วนนั้นเข้าไปให้ลึกสุดคอและไม่ยอมปล่อยมือออก
จนพิพัฒน์ถึงกับสำลัก  และผละใบหน้าออกห่างจากท่อนเอ็นใหญ่ที่เปียกชุ่มและกำลังขยับไหวไปมา

บารมียิ้มกริ่มที่ได้แกล้ง  และพิพัฒน์ก็เอาคืนด้วยการกลับมาดุนปลายลิ้นไปที่ส่วนหัวของท่อนเอ็นใหญ่โตใช้ฝ่ามือจับเอาไว้ไม่ยอมปล่อยและนิ่งค้างเอาไว้แบบนั้น

“โอ้ย  พัฒน์  ขอโทษไม่แกล้งแล้ว  อย่าทำแบบนั้น  จะแตกแล้ว  เสียวตรงหัวมากเลย  ซี้ดส์”

“อือ”

โดนเอาคืน
และคนเอาคืนก็ยังคงขยับปากขึ้นลงอย่างรุนแรง  ภายในโพรงปากอุ่นร้อนครอบครองความต้องการของบารมีที่ตื่นตัวจนถึงขีดสุดเอาไว้

พิพัฒน์เลียปลายลิ้นขึ้นลงที่ความแข็งแกร่งใหญ่โตของบารมี  ก่อนจะดุนปลายลิ้นออกมาทั้งหมด เพื่อให้บารมีรูดรั้งร่างกายของตัวเองได้ตามที่ต้องการ  ฝ่ามือใหญ่กดส่วนปลายให้เสียดสีกับลิ้นร้อนที่รออยู่ก่อนแล้ว  ฝ่ามือขยับรูดรั้งส่วนที่กำเอาไว้ทั้งหมดเร็วขึ้น  ขยับส่วนปลายให้กระทบที่ปลายลิ้นของพิพัฒน์มากขึ้น   และบดคลึงความแข็งแกร่งไปที่ผิวแก้มขาว ๆ ที่เริ่มขึ้นรอยแดง และพิพัฒน์ก็ตอบสนองด้วยการอ้าปากรับอยู่ตลอดเวลา

บารมีจับส่วนนั้นให้ตั้งตรงเพื่อให้พิพัฒน์ได้ทำตามใจต้องการ 
ของเหลวใสไหลเยิ้มออกมาเคลือบชโลมไปที่ท่อนเอ็นแข็ง  ส่วนปลายมีหยดน้ำใสไหลซึมเยิ้มทะลักออกมาตลอดเวลา

พิพัฒน์ดูดกลืนส่วนนั้นให้ฝังลึกเข้าไปในคออีกครั้ง  กดแทรกลึกเข้าไปให้มากที่สุด

ดูดกลืนลงคอจนลึกสุด

และดวงตาคมก็จ้องนิ่งที่ใบหน้าของคนที่กำลังทำบางสิ่งบางอย่างให้อย่างเต็มใจ 

ท่อนเอ็นใหญ่ถูกปรนเปรอจนถึงขีดสุด และบารมีก็รู้ว่าความร้อนที่อัดแน่นอยู่ในร่างกายกำลังจะทะลักทลายออกมา 

“พัฒน์ พอก่อน จะแตกแล้ว อาส์”

พิพัฒน์รีบผละออกห่าง  อ้าปากรอรับ  เมื่อบารมีเริ่มหอบหายใจหนักขึ้นเพราะใกล้ถึงถึงจุดหมาย

การขยับฝ่ามืออย่างรุนแรงในจังหวะสุดท้าย  กลั่นกรองน้ำรักหนืดข้นให้ค่อย ๆ ไหลซึมออกมาจากช่องทางเล็ก ๆ ตรงส่วนปลาย และเมื่อหน้าท้องแน่นเริ่มเกร็งกระตุกถี่หลายครั้งติดกัน บารมีก็ปลดปล่อยของเหลวขุ่นขาวที่อัดแน่นอยู่ในร่างกายออกมา  ใบหน้าคมแดงก่ำ  เสียงทุ้มนุ่มคำรามลั่นในลำคอ

“พัฒน์  แตกแล้ว อาส์  ซี้ดส์  อืมมมม”

พิพัฒน์ขยับปากเข้าไปใกล้ และอ้าปากรองรับสิ่งที่บารมีหลั่งออกมา  หยาดหยดขาวขุ่นกระฉอกออกมาจนเปรอะเปื้อนไปที่แก้ม และบางส่วนก็หลั่งเข้าไปในโพรงปากที่รอรับหยาดหยดอุ่นร้อนอยู่ก่อนแล้ว   

พิพัฒน์ดูดกลืนน้ำรักขุ่นข้นที่ทะลักออกมาจากท่อนเอ็นแข็งเอาไว้ทั้งหมด

และบารมีก็กดแทรกร่างกายของตัวเองเข้าไปในโพรงปากร้อน  เพื่อให้พิพัฒน์ช่วยรีดทุกหยาดหยดที่ยังคั่งค้างออกมาให้หมด   ฝ่ามือร้อนประคองความแข็งแกร่งเอาไว้และหมุนวนมือไปมา จนบารมีร้องครางเสียงลั่น

แอ่นสะโพกกดกระแทกเข้ามาอีกครั้ง

เพื่อให้คนที่ปรนเปรอให้ได้ไล้เลียกลืนกินส่วนที่ยังคั่งค้างจนหมด

ฝ่ามือสองข้างประคองที่ท่อนเอ็นแกร่งและกดให้แนบสัมผัสอยู่ที่ข้างแก้มเนียนขาว เกลี่ยปลายนิ้วไปที่ส่วนที่เริ่มอ่อนแรง และบารมีก็ค่อย ๆ ขยับกลับลงมานั่งบนเก้าอี้

อารมณ์ความรู้สึกที่อัดแน่นถูกปลดปล่อยจนหมด  และเมื่อทุกอย่างสงบลง  พิพัฒน์ก็ ใช้หลังมือเช็ดถูที่ริมฝีปากของตัวเอง    หลังจากกลืนกินทุกหยาดหยดร่างกายของบารมีจนหมดแล้ว  ค่อย ๆ จัดการกดให้ส่วนนั้นกลับเข้าไปในกางเกงให้เรียบร้อย   จัดเครื่องแต่งกายให้บารมีจนเข้าที่

และบารมีที่ปรับลมหายใจให้จนกลับมาเป็นปกติแล้ว  ก็ลูบไล้ฝ่ามือที่เส้นผมนิ่มของพิพัฒน์เบา ๆ

“จะไม่ให้เก็บน้ำเอาไว้บ้างเลยหรือไง”

เรื่องนั้นมันไม่เห็นจะเกี่ยวกันตรงไหน

“ก็พี่บัสดูเครียด  ๆ”

อ่อ

เพราะเห็นว่าดูเครียด ๆ ใช่มั้ยถึงได้ทำให้

“แล้วพัฒน์ไม่เครียดบ้างหรือไง”

เรื่องนั้นน่ะ...........

พิพัฒน์ลุกขึ้นยืนและเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเอง ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  และหันไปจัดการกับกองเอกสารที่ยังทำไม่เสร็จ

บารมีถอนหายใจยาว

ความรู้สึกตอนนี้ เหมือนถูกล่อลวงให้หลงใหล  กับความร้อนแรงที่พิพัฒน์เสนอให้

ท่าทางนิ่งเฉย  และดูไร้เดียงสาแบบนั้นมันเป็นแค่สิ่งลวงตา

พิพัฒน์พร้อมจะร้อนแรงอย่างถึงที่สุด  และเป็นบารมีที่แทบจะขาดใจตายเพราะสิ่งที่พิพัฒน์ทำ

“พี่.........”

“อือ”

 “พี่ล็อคประตูดีแล้วใช่มั้ย”

ใช่  ประตูห้องล็อคไว้หมดแล้ว

บารมีพยักหน้ารับ  และพิพัฒน์ก็พยักหน้าตาม

เริ่มลากไล้ฝ่ามือเรื่อยลงไปท่ี่จุดกึ่งกลางร่างกายของตัวเองบ้าง

และพิพัฒน์ก็เอ่ยบอกบางอย่างกับบารมีด้วยน้ำเสียงแผ่วโหย

“ ผมว่าผมก็เครียด  พี่ทำงานไปก่อนนะ  ผมขอเวลาหน่อย.........ไม่นานหรอก.............ขอเอาน้ำออกก่อน........แป๊บเดียว”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ความสุขเล็ก ๆ P.15
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 28-02-2015 13:19:11
บารมีหมดความอดทนตั้งแต่อยู่ที่อู่แล้ว

อยากจะรีบกลับบ้านตั้งแต่บ่าย แต่ก็ทำไม่ได้

ตลอดระยะทางที่ขับรถออกมา  คนสองคนไม่ได้คุยอะไรกันเลยตลอดทาง

และเมื่อรถเข้ามาจอดในบ้านเรียบร้อย  แค่ประตูบ้านเปิดออก  บารมีก็ลากแขนพิพัฒน์ให้เดินตามมาด้วยกันอย่างรวดเร็วทันที

“พี่จะกินข้าวเลยเหรอ”

เปล่า

ไม่ได้กินข้าว

บารมีไม่คิดจะกินข้าวแต่ลากพิพัฒน์มาที่โต๊ะกินข้าว

ไม่ต้องพูดกันให้มากความ

พิพัฒน์มองหน้าของบารมีแค่เพียงนิดเดียวก็เข้าใจ  รีบจัดการสลัดเสื้อที่สวมอยู่ออกจากตัว  ปลดเข็มขัด  รูดซิป  และดึงกางเกงลง

พิพัฒน์รู้ว่าบารต้องใช้ความพยายามในการอดทนอย่างถึงที่สุดเพื่อให้ใจจดจ่ออยู่กับงานมาตลอดทั้งวันจนถึงเวลานี้

ทุกอย่างพิพัฒน์เข้าใจดีและไม่รอช้าที่จะช่วยให้บารมีทำบางสิ่งบางอย่างได้ง่ายขึ้น

คว่ำหน้าลงแนบร่างกายอยู่บนโต๊ะอาหาร   แยกขาออกกว้างและยกขาขึ้นหนึ่งข้าง เพื่อให้ช่องทางคับแน่นเปิดขยายมากขึ้น

บารมีปลดกางเกงลงนานแล้ว  และรูดรั้งขยับฝ่ามือสองสามทีให้ท่อนเอ็นใหญ่โตขยายใหญ่ขึ้น

“พัฒน์  ขอเอาแรงหน่อยนะ  ถ้าเจ็บ  เดี๋ยวหาอะไรช่วย”

บารมีค้นหาบางอย่างที่ช่วยหล่อลื่นให้กับช่องทางคับแน่น  เจลใสถูกเทราดรดที่ส่วนปลายของความแข็งขืน
และกดเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนเต้นตุบที่เปิดรับร่างกายของบารมีเข้าไปง่าย ๆ

“อาส์ พี่....ผม.... เสียว”

พิพัฒน์ร้องคราง  และบารมีก็นิ่วหน้าเพราะรู้สึกแบบเดียวกัน

ส่วนนั้นค่อย ๆ ผลุบหายเข้าไปอยู่ภายในช่องทางอุ่นร้อนที่บีบรัด  บารมีกระชากสะโพกเนียนขาวเข้าหาตัวและกระแทกกระทั้นร่างกายเข้าไปทันทีอย่างไม่รอช้า

“โอ้ย พี่  พี่ อืมมม เสียว”

พิพัฒน์ร้องครางเสียงกระเส่า และบารมีก็พ่นลมหายใจออกมา  แยกผิวเนื้อแน่นสองข้างออกห่างจากกันและฟาดฝ่ามือลงไปจนขึ้นรอยแดง

“โอ้ยยย”

เสียงร้องครางยิ่งทำให้สะโพกแก่งกระแทกกระทั้นเข้าไปไม่ยั้ง

“มันส์มั้ยพัฒน์  เสียวมากมั้ย”

บารมีร้องถาม  น้ำเสียงทุ้มต่ำครางเครือในลำคอทุกครั้งที่กดแทรกร่างกายเข้าไป

พิพัฒน์หลับตาแน่นและร้องครางไม่หยุด

ร่างกายขยับไปตามการเคลื่อนไหวที่รุนแรงของคนที่อยู่ด้านหลัง

จับไปที่ขอบโต๊ะเพื่อประคองร่างกาย และมืออีกข้างก็รูดรั้งที่ส่วนแข็งขืนของร่างกายตัวเองที่แกว่งไกวไปตามจังหวะของสะโพกแกร่งที่กระแทกเข้ามา

“พัฒน์ ๆ เสียว อึก อาส์  จะออกแล้ว จะออกแล้ว พัฒน์ อาส์ พัฒน์ แตกแล้ว”

บารมีร้องครางเสียงกระเส่า และพิพัฒน์ก็ยิ่งขยับมือรูดรั้งร่างกายเร็วขึ้นเรื่อย ๆ

“พี่ แตกมาเลย  เข้ามาอีก แรง ๆ กระแทกแรง ๆ “

ร้องบอกเมื่อกำลังจะถึงจุดหมาย

และพิพัฒน์ก็หลับตาแน่น ปลายเล็บจิกไปที่ขอบโต๊ะ ร่างกายเกร็งกระตุกรุนแรง  และหลั่งความรู้สึกออกมาทั้งหมดหยาดหยดขุ่นขาวไหลหยดลงบนพื้น และบารมีก็อัดกระแทกร่างกายเข้าไปที่ช่องทางคับแน่นเป็นครั้งสุดท้าย

“อาส์”

ใบหน้าคมแหงนเงยขึ้น และปลดปล่อยทุกความต้องการออกมาหมดสิ้น

ทรุดกายลงทาบทับและแนบใบหน้ากับแผ่นหลังเนียนขาว  จูบซับที่ท้ายทอยของคนที่นิ่งงันไปก่อน  และเมื่อส่วนนั้นถูกถอนออก  ก็เกิดเป็นโพรงเล็ก ๆ พร้อมกับหยาดหยดขุ่นขาวทะลักซึมออกมา และไหลรินหยดเรื่อยลงเปรอะเปื้อนไปหมดทั้งขา

พิพัฒน์นิ่งเงียบอยู่อย่างนั้น เพื่อปรับลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติพร้อมกับคนที่ทาบทับกายอยู่ด้านหลัง

“หนักมั้ยพัฒน์”

บารมีเอ่ยถาม และพิพัฒน์ก็หัวเราะเสียงเบา

“มาก”

คำตอบที่ได้รับทำให้บารมีถึงกับหลุดเสียงหัวเราะ  และรั้งร่างของพิพัฒน์ให้ลุกขึ้นมายืนอยู่ด้วยกันที่ตรงหน้า

“...............”

ดวงตากลมจ้องมองหน้าของบารมีนิ่ง ๆ และไม่ได้ทำอะไรมากกว่าส่งยิ้มให้กับคนที่ขมวดคิ้วมุ่น

“ยิ้มทำไม”

ไม่ได้ยิ้มทำไม  แค่ยิ้มเฉย ๆ

บารมีขมวดคิ้วมุ่นและพิพัฒน์ก็ปลดกระดุมเสื้อของบารมีออกทีละเม็ด

“เดี๋ยวอาบน้ำกันก่อน  แล้วค่อยมากินข้าว”

บารมียังขมวดคิ้วมุ่น  แต่พิพัฒน์พยายามสะกดกลั้นรอยยิ้มเอาไว้อย่างสุดความสามารถ

“ยิ้มอีกแล้ว จะยิ้มอะไรมากมายวะ”

ถามซ้ำอีกหลายครั้ง แต่ไม่ได้คำตอบ  และบารมีก็ถึงกับส่ายหน้าที่ถามเท่าไหร่พิพัฒน์ก็ไม่ยอมตอบ

“เป็นใบ้หรือไง  เอาแต่ยิ้มอยู่ได้”

บารมีเริ่มบ่น  แต่พิพัฒน์ถึงกับหลุดขำออกมา และแตะฝ่ามือเบา ๆ ที่ข้างแก้มของบารมีเบา ๆ และยื่นใบหน้าเข้าไปหา

ดูดกลืนริมฝีปากของบารมีเหมือนเป็นการหยอกล้อ  และเมื่อผละออกห่าง บารมีก็เม้มริมฝีปากของตัวเองด้วยความขัดใจ

“แม่ง.....ทำอะไรก็ไม่รู้.....คิดจะทำก็ทำ......”

นั่นมันใช่ที่ไหนกันล่ะ  คนที่คิดจะทำอะไรก็ทำมันบารมีต่างหาก

พิพัฒน์ยังคงยิ้มแต่ไม่พูด

และบารมีก็บ่นพึมพำคนเดียวเสียงเบา

“ดีแล้วที่มึงไม่พูด  ไม่ต้องพูดแบบนี้ก็ดี...เก็บแรงไว้ครางให้กูฟังแบบนี้แหละเข้าท่า”

พิพัฒน์เงยหน้าขึ้นมองหน้าของบารมีอีกครั้ง  และหัวเราะเสียงเบา
ลากแขนบารมีให้เดินเข้าไปอาบน้ำพร้อมกัน  และพูดจาหยอกล้อให้บารมีเขินเล่น

“เสียงพี่บัสก็น่าฟัง..........ทำเสียงแบบนั้นอีกเยอะ  ๆ สิ ผมก็ชอบฟังเสียงพี่.......ตอนที่พี่กำลังจะเสร็จเหมือนกัน”


 TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 28-02-2015 13:32:42
กินเรียบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 28-02-2015 13:34:33
 :hao7:เคะราชินี
กินกันไม่อิ่มเลยดิ
รออ่านเคะมือใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 28-02-2015 13:46:57
555 เห็นนางเงียบ ๆ แต่ฟาดเรียบ เฮ้ย พัฒน์หนูเริ่ดมากกกกก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-02-2015 13:47:43
พัฒน์พาพี่บัสใจแตกหมด พักนี้ลากกันกลับบ้านแต่หัววันนะ
หิวข้าวเหรอ รีบกลับบ้านมากิน........... (แหม มันแซ่บอีหลีเด้อพี่น้อง)
 :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 28-02-2015 13:52:50
พี่บัสหนึน้องพัฒน์ไม่รอดแล้ว  :pighaun:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-02-2015 14:00:56
ลาตายแป๊ป  :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 28-02-2015 14:01:14
พัฒน์มันร้าย  :haun5: ชอบจริงคู่นี้ 55555+
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-02-2015 14:10:38
ยังไงก็ไปไหนไม่รอดแน่ๆ พี่บัส ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 28-02-2015 14:24:59
 :jul1: บอกได้คำเดียวว่า'เขิน'จ้า :-[ พัตน์แซ่บมาก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Aladin ที่ 28-02-2015 14:39:03
ราชินีเห็นๆ :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 28-02-2015 15:09:06
โอ้เพิ่งเห็นเรื่องนี้ขอ แปะๆไว้ก่อนนะคะดึกๆ(อาจ)มาอ่าน

เห็นอะไร เคะราชินี แว๊บๆ 555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: windel ที่ 28-02-2015 16:00:59
เผยความเป็นราชินีออกมาซะเต็มคราบ  :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 28-02-2015 16:12:47
ไม่น่าเชื่อจริงว่าจะเป็นอะไรที่ร้องแรงมากๆๆๆๆๆ ชอบมากกกก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 28-02-2015 16:15:19
เลือดท่วมเลยกลับมาคราวนี้
 :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 28-02-2015 16:46:32
นี่มันเทศกาลกินหรอเนี่ย  :pighaun:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-02-2015 16:59:31
เพลาๆ กันบ้างเถอะ เดี๋ยวก็ซีดหมด   :z1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 28-02-2015 18:51:04
โคตรเซ็กซี่เลยค่ะ
ปาดน้ำลายก่อน
ชอบแคเร็คเตอร์แบบพัฒน์มาก
เหมือนกับคู่เฮียกับวินัย
ขอย้ำโคตรเซ็กซี่มากๆ
คือไม่ใช่ว่าเอะอะก็จะซั่มกันอย่างเดียว
แต่กว่าที่ทั้งคู่จะมาถึงขั้นนี้ได้ก็คือผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันแล้ว
มันทำให้เราอ่านแล้วฟินมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: reborn23 ที่ 28-02-2015 19:55:28
พัฒน์ หนูเปลี่ยนไป
ร้อนแรง อ่าาาาาาา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 28-02-2015 19:57:39
ชอบทั้งสองคู่เลย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 28-02-2015 20:34:11
เค้าเข้าไปกินกันต่อในห้องน้ำละ อ๊ายยยยยยย :pighaun:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 28-02-2015 21:21:41
555555 บารมีไปไหนไม่รอดดดดดแล้ว
พัฒน์ร้ายกาจอะ ตายๆๆ  พูดแต่ละคำ เขินน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 28-02-2015 22:18:24
พัฒน์ยั่วโครตๆเลย ฮึ่ยย หมั่นเขี้ยว
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 28-02-2015 23:06:24
 :laugh:


ไห้มันสาแก่ใจไปเลย หนูพัฒ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 28-02-2015 23:55:47
หนูพัฒน์!!
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 01-03-2015 00:38:36
อิ่มกันเลยทีเดียว มื้อหรรษาจริงๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: PiSCis ที่ 01-03-2015 00:53:34
 เคะราชินี้จริงๆด้วยยยยยยย  :hao6:

:haun4: :pighaun: :jul1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 01-03-2015 09:36:19
เธอช่างร้อนแรงอะไรเยี่ยงนี้ โดนใจป้าสุดๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 01-03-2015 14:51:56
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ตายอย่างสงบ  :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 01-03-2015 17:37:27
ฟินสุดแล้ววววววววว

พัฒน์เอ็กซ์แตกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-03-2015 19:09:35
เป็นห่วงพี่บัสจริง ๆ กลัวจะตายคาอก
พิพัฒน์แรงดีไม่มีตก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 01-03-2015 21:54:49
พัฒน์เซ็กซี่มาก เสน่ห์แรงมาก พี่บัสนี่หัวปักหัวปำอ่ะ กีสสสส ชอบมากกกกคู่นี้

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 02-03-2015 10:40:00
อ๊ากกก!!!!!! พลาดมาตั้งหลายตอน  :m29: แต่ ๆๆๆๆตายแน่ๆ คราวนี้เฮียตายแน่ๆ เฮียบัส พัฒน์รู้สึกจะล้ำหน้าพร้อมๆกันพัฒนาขึ้นทุกวัน  o13  o13 / ส่วนช่างนัยกับเต๋อ เอาเลยจ้า เอาตามที่ช่างนัยเห็นชอบเลยจ้า อยากบอกแบบนี้ถ้าไม่กลัวเต๋อมันหนีอีก  เมียพี่มันซึนน่ะช่างนัย จัดให้หนักไปเล้ย  :m23:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 02-03-2015 13:56:34
สกิลพิพัฒน์นี่ตบตีกับวิเชียรได้สบายอ่า
แบบว่าข้างนอกคนละแนว
ในบ้านนี้พิพัฒน์กับวิเชียรนี่กินกันไม่ลง

อ่านพัฒแล้วคิดถึงเพลงจ๊ะอาสยาม
แต่กินบัสคนเดียวกินแบบ Eat it up กรี๊ดดดด
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 02-03-2015 23:22:51
ร้อนแรงแซงทางโค้งคู่ ช่างนัยกะเต๋อ กันเลยที่เดียว
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 07-03-2015 01:42:48
ตอนหลังๆมานี้มันอะไรกันเนี้ยยย!กร้ากๆๆ :hao7:
แหมเฮียบัสใจแตกไปแว้ววววว
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 16-03-2015 10:19:07
ThankS
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กิน P.16
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 03-04-2015 17:00:11
โว้ยยยยยยยยคิดถึงเฮียบัส-พัฒน์ อยากกกกกอ่านนมากกกค่ะไรท์ รออยู่นะค่ะ สู้สุ็ค่ะ สนุกมากๆ ชอบจริงจัง หลังๆมานี้ >.,< วนกลับมาอ่านฉากนี้ซ้ำๆ พอดีเลือดเยอะ 5555555
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 11-04-2015 11:32:12
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน บารมีก็งอนเป็น

“พี่บัส  สบายดีมั้ยพี่”

ร้อยวันพันปี ปาจรีย์ไม่เคยโทรมาถามไถ่ว่าเป็นอยู่ยังไง สบายดีหรือเปล่าแต่อยู่ดี ๆ วันนี้ก็โทรมา
โทรมาหาในวันที่บารมีกำลังพักผ่อนสบายอยู่กับบ้านและนั่นก็ทำให้บารมีรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย

“ฝนตกหนักแน่ ๆ  อยู่ดี ๆ มึงก็โทรหากู  เป็นไงล่ะอยู่เมืองนอกเมืองนา สบายเป็นคุณนายเลยสิ”

พูดจาประชดประชันอย่างที่เคยพูด  แต่ครั้งนี้น้องสาวไม่ได้โต้เถียงหรือพูดอะไรกลับมา  นอกจากนิ่งเงียบ จนบารมีต้องรีบเอ่ยถาม

“เป็นอะไรของมึงปา   มีอะไรหรือไง”

เสียงถอนหายใจยาว ๆ ของปาจรีย์ทำให้คนฟังขมวดคิ้วมุ่น
บารมีกำลังสงสัยว่าคงเกิดเรื่องไม่ดีกับน้องสาวขึ้นแน่  ๆ

“ปาจะกลับบ้านนะ   พอจะมีที่ให้ปาซุกหัวนอนได้บ้างมั้ยพี่บัส”

กลับบ้าน????

บารมีได้ยินชัดถึงสิ่งที่น้องสาวบอก
ถ้าถึงขนาดร่ำร้องอยากกลับบ้าน  นั่นหมายความว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับปาจรีย์แน่

“กลับมา  อยู่ไม่ได้ก็กลับมา  บ้านเราก็มี มึงจะให้กูทำยังไงบอกมา เดี๋ยวกูจัดการให้”

แค่เพียงคำพูดง่าย ๆ แม้ไม่ใช่ถ้อยคำสวยหรู   แต่ก็เต็มไปด้วยความห่วงใย และทำให้ปาจรีย์ถึงกับปล่อยเสียงสะอื้นที่พยายามกลั้นเอาไว้ออกมา

“ปาอยากกลับบ้าน ปาไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วพี่  ปาจะกลับบ้าน ฮือออ”

เสียงร้องไห้ของน้องสาวยิ่งพาให้บารมีใจเสีย

“มึงกลับมา  จะให้พี่ทำยังไง ให้พี่ช่วยยังไงบอกมา”

สิ่งที่พี่ชายบอก ยิ่งทำให้ปาจรีย์ร้องไห้ไม่หยุด  ในเวลานี้จิตใจอ่อนแอเกินกว่าจะพูดอะไรได้อีก

“ปาจองตั๋วเครื่องบินแล้ว  ปาจะกลับวันนี้  พี่บัสมารับปาที่สนามบินได้มั้ย  ปาจะกลับบ้าน ปาไม่อยู่แล้ว”

“มึงกลับมาเลยปา  กลับมาวันนี้เลย”

บารมีตอบรับน้องสาวทันทีและคุยกันอีกเล็กน้อยถึงกำหนดการ
และเมื่อน้องสาววางสายไปเรียบร้อย  บารมีก็ถอนหายใจยาวและวางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะ

หันไปมองคนที่ก้าวขาเดินหิ้วตะกร้าผ้าเข้ามาในบ้านแล้วเพิ่งนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้

.............พิพัฒน์.............

“......................”

บารมีไม่รู้ว่าพิพัฒน์รู้เรื่องนี้หรือเปล่า
เรื่องที่ปาจรีย์กำลังจะกลับมา  เรื่องที่กำลังมีปัญหา และมันคงยากที่สองคนนี้จะเลี่ยงการเผชิญหน้ากัน

“พัฒน์”

เรียกคนที่กำลังจัดการงานบ้าน แล้วพิพัฒน์ก็หันมามองและเลิกคิ้วขึ้นสูงเมื่อเห็นบารมีทำหน้าจริงจังตอนที่เรียก

“ครับ”

“ทำอะไรอยู่.....”

พิพัฒน์วางมือจากงานที่ทำ  และมองหน้าบารมีด้วยความสงสัย

“งานมีตอนเย็นไม่ใช่เหรอ  จะให้รีดเสื้อให้ตอนนี้เลยหรือเปล่า”

คิดเอาไว้ว่าคงเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมเสื้อผ้าให้บารมีที่ต้องไปงานเลี้ยงตอนเย็น  แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่เพราะบารมียังขมวดคิ้วและเหมือนมีอะไรอยากจะพูด  แต่ดูลังเลที่จะพูดออกมา

“ถ้าไม่มีอะไรจะไปตากผ้าต่อแล้วนะ  เดี๋ยวผ้าแห้งไม่ทันแดด”

“อีปามันจะกลับมาวันนี้นะ”

พิพัฒน์ที่กำลังดึงผ้าออกมาจากเครื่องซักผ้าถึงกับชะงักนิ่งค้างและบารมีก็มองปฏิกิริยานั้นของพิพัฒน์ด้วยความรู้สึกอึดอัดใจไม่ต่างกัน

“.....ครับ....”

ตอบรับเงียบ ๆ และพิพัฒน์ก็กลับไปจัดการงานบ้านของตัวเองที่ทำค้างเอาไว้
พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด 
ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น

ทำเหมือน..........ไม่ได้คิดอะไรอีกแล้ว
ทำเหมือนว่า.........

พิพัฒน์หิ้วตะกร้าผ้าเดินออกจากบ้านไปแล้ว  และบารมีก็มองตาม ก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกไปหาพิพัฒน์ที่หน้าบ้าน

“พัฒน์”

เรียกอีกครั้ง และพิพัฒน์ก็สะบัดผ้าใส่ไม้แขวนเสื้อและตากผ้าไปเรื่อย ๆ
ทำงานบ้านที่ต้องทำไปตามปกติ
ทำทุกอย่างให้เป็นปกติ
ทำตัวให้เป็นปกติ

แต่แม้จะพยายามเก็บสีหน้า  เก็บอาการ  แต่บารมีก็มองเห็นถึงความไม่ปกติที่พิพัฒน์พยายามปกปิดเอาไว้
บารมียืนนิ่งเงียบไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรอีก   

“.....................”

“....................”

ต่างฝ่ายต่างไม่ได้พูดอะไรกัน
บารมีช่วยส่งไม้แขวนเสื้อและช่วยตากผ้า  ส่วนพิพัฒน์สะบัดเสื้อและยื่นส่งให้คนที่มาช่วยทำงานบ้าน

ใช้เวลาไม่นานงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สองคนช่วยกันทำก็เสร็จเรียบร้อย
และพิพัฒน์ก็เดินหนีเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว

ไม่ได้คิดอะไร
ไม่ได้สงสัยอะไร
ไม่ได้อยากรู้อะไรทั้งนั้น
ก็แค่ปาจะกลับมา
ก็แค่คนที่เคยใช้ชีวิตด้วยกันกำลังจะกลับมา
ก็แค่คนที่เคยคิดจะสร้างครอบครัวด้วยกันกำลังจะกลับมา
ก็แค่คนที่เคยทิ้งไป กำลังจะกลับมา

ก็.........แค่......

“พัฒน์”

“ไอ้พัฒน์”

“พัฒน์มึงอย่าเดินหนี  มาคุยให้รู้เรื่องก่อน”

พิพัฒน์ไม่รู้จะคุยอะไร  ไม่รู้ว่าต้องคุยเรื่องของปาจรีย์ยังไง ไม่รู้ว่าควรทำอะไร  สิ่งที่ทำได้ก็มีเพียงแค่เดินหนี

ทำใจได้หรือยังไม่รู้แต่ที่รู้คือยังไม่พร้อมจะพบหน้ากันตอนนี้ทั้งที่อยากเจอ  แต่ก็ไม่พร้อมจะเจอ

ทั้งอยากเจอทั้งไม่อยากเจอ

และเมื่อบารมีเดินมายืนตรงหน้าและจับไหล่ของพิพัฒน์เอาไว้ให้หยุดเพื่อจะได้คุยกันแบบจริง ๆ จัง ๆ พิพัฒน์ก็เลยต้องจำใจหยุดยืนนิ่ง ๆ

ไม่ได้สบสายตาบารมีที่มองมา แต่ก้มหน้าลงและพยายามระงับความรู้สึกสับสนที่กำลังเกิดขึ้นในใจ

“อีปาเป็นน้องกู  กูไม่สนว่าเมื่อก่อนพวกมึงเคยเป็นอะไรกัน  เพราะตอนนี้มึงเลิกกันแล้ว   มึงกับน้องกูไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันแล้ว”

นั่นก็รู้อยู่แล้ว
รู้ยิ่งกว่ารู้

“เพราะฉะนั้นมึงอย่าทำหน้าแบบนี้  หรือแสดงอาการเหมือนมึงยังมีใจให้น้องกูอยู่   เห็นใจกูหน่อยพัฒน์  กูทนไม่ได้ถ้าต้องรับรู้ว่าใจมึงไม่ได้อยู่กับกู   แล้วถ้ามึงยังพอสงสารกูบ้าง  ก็ช่วยแกล้งทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับอีปาเวลาที่อยู่ต่อหน้ากูก็ได้”

พูดแค่นั้น
บอกเพียงแค่นั้น
และกลายเป็นพิพัฒน์ที่ต้องเงยหน้าขึ้นมองหน้าของบารมีเต็มตา

คิดว่าบารมีอาจจะโกรธ   คิดว่าอาจจะไม่พอใจ แต่สิ่งที่เห็น คือแววตาหมองเศร้าและอารมณ์ที่ไม่มั่นคงของคนพูด

บารมีถอนหายใจยาว ๆ และปล่อยมือจากไหล่ของพิพัฒน์  ก้าวขาเดินหนีขึ้นห้องไปเงียบ ๆ  และพิพัฒน์ที่มองตามก็ยืนนิ่งเงียบ  ก้มหน้าลงและถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ

บารมีไม่ได้โมโหหรือโวยวายใส่ แต่ขอร้องให้สงสารและเห็นใจกันบ้างแค่นั้น

เสียงหัวใจที่อยู่ในอกกำลังเต้นรัวขึ้นเรื่อย ๆ
แม้ดวงตาหม่นหมองที่มองมาจะทำให้รู้สึกถึงอารมณ์ที่ไม่มั่นคงของบารมี  แต่นั่นทำให้พิพัฒน์รู้สึกดีที่ได้รู้ว่าบารมีกำลังรู้สึกยังไง

รีบก้าวขาเดินขึ้นบันไดบ้านไปอย่างรวดเร็วและมาหยุดยืนที่หน้าห้อง

“เข้าไปนะ”

บอกเพียงเท่านั้นและพิพัฒน์ก็หมุนลูกบิดประตูห้องเข้าไป  บารมีเอนหลังอยู่บนเตียงและเหมือนกำลังครุ่นคิดเรื่องบางอย่าง  เหลือบสายตามองคนที่เข้ามาหาและมานั่งลงข้าง ๆ แล้วก็ได้แต่นิ่งเงียบและมองเมินไปทางอื่น

พิพัฒน์ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการมานั่งมองหน้าของบารมีนิ่ง ๆ
มองเงียบ ๆ และค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้บารมีทีละน้อย

“มึงไม่ต้องมายุ่งกับกูเลยพัฒน์”

ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ
พูดแบบนี้แล้วใครจะเลิกยุ่งด้วย 

พิพัฒน์ขยับเข้ามาใกล้อีกนิด และพยายามดึงมือของบารมีที่สะบัดหนีมากุมเอาไว้

“อย่ามาจับมือกู  กูไม่ใช่คนที่มึงคิดจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบนะพัฒน์  เออ....ใช่สิ...  กูสั่งมึงได้ทุกเรื่องแหละ แต่เรื่องนี้กูไม่มีปัญญาสั่งมึง กูยอมแพ้ก็ได้”

น้ำเสียงที่เอ่ยบอกเจือไปด้วยความน้อยใจอย่างเห็นได้ชัด
และเมื่อบารมีดึงมือหนีพิพัฒน์อีกครั้ง  พิพัฒน์ก็เลยแตะริมฝีปากหนัก ๆ  ที่หลังมือของบารมีและจับเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“ไอ้พัฒน์”

เอ็ดคนที่มาหยอกเย้าเสียงดัง แต่พิพัฒน์ทำเพียงแค่เหลือบตามองและยื่นมือไปแตะที่หน้าผากของบารมี  เปิดผมที่ปรกหน้าผากของบารมีขึ้นและยื่นหน้าไปกดปลายจมูกหนัก ๆ ที่หน้าผากของบารมีและบารมีก็ผลักหน้าพิพัฒน์ออกห่างทันที

“เหี้ยพัฒน์  เนี่ยะ มึงก็เป็นแบบนี้ตลอด  หลอกล่อกูสารพัด วันๆ  กูไม่มีปัญญาจะคิดเรื่องอื่นแล้ว  มีแต่เรื่องของมึงเต็มหัวไปหมด แล้วมึงจะให้กูทำยังไง  เป็นใครมาเจอแบบกูก็ต้องรู้สึกทั้งนั้น  ทางนั้นก็น้อง ทางนี้ก็........มะ...อ”

พูดได้ไม่เต็มปาก
จะพูดอะไรก็มีอันต้องหยุด

“ทางนี้ก็........มึง.......”

บารมีรีบเปลี่ยนคำพูดของตัวเอง และพิพัฒน์ก็ตั้งใจฟังสิ่งที่บารมีพูด

“กูก็รู้อยู่เต็มอกว่ามึงกับน้องกูเคยเป็นอะไรกันมาก่อน แต่กูกับมึงก็มาถึงขนาดนี้กันแล้ว   แล้วมึงจะให้กูทำยังไง  มึงจะให้กูรู้สึกยังไงพัฒน์  เป็นใครมาเจอแบบกูแล้วยังสบายใจได้   แม่งก็เก่งชิบหายแหละ”

บารมีไม่ชอบใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น  แต่พิพัฒน์อมยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากเพราะเรื่องที่บารมีกังวลใจและบ่นออกมาด้วยความหงุดหงิดโมโห

“ทางนี้ก็....เมีย....สิ  ไม่ใช่ทางนี้ก็มึง”

อย่ามากวนตีนกูพัฒน์

“เมียเหี้ยอะไร   ใจไม่ได้อยู่กับกูสักนิด  กูจะไปมีปัญญาให้มึงมาเป็นอะไรกับกูได้  ทั้งหมดก็แล้วแต่มึงแหละพัฒน์  อย่างกูจะไปมีปัญญาบังคับใจมึงให้คิดตามที่กูต้องการได้ยังไง”

นั่นสิ
ถ้าไม่มีปัญญาพูดไม่มีปัญญาบังคับก็อย่าพูดเลยดีกว่า

บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องพูดทุกเรื่องที่อยู่ในหัวออกมาทั้งหมดก็ได้

เช่นว่า........

พิพัฒน์มองหน้าของบารมีนิ่ง ๆ และค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงมาหา

และบารมีก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากถอนหายใจยาวด้วยความกลุ้มใจ
เอาชนะพิพัฒน์ได้ทุกเรื่อง  สั่งพิพัฒน์ได้ทุกอย่าง

ยกเว้นแค่เรื่องนี้

“ไอ้พัฒน์”

บารมีได้แต่บ่นพึมพำเสียงเบาในลำคอ  และพิพัฒน์ก็ยิ้มใส่ตาของคนที่กำลังทำหน้าไม่พอใจตอนที่ขึ้นมานั่งเกยทับอยู่เหนือร่างของบารมีและเริ่มลงมือปลดกระดุมเสื้อของบารมีทีละเม็ด

“เออ  กูยอม  แม่งแบบนี้ตลอดแหละมึง พัฒน์”

บารมีได้แต่ส่ายหน้าด้วยความหงุดหงิดแต่พิพัฒน์ยิ้มอย่างสบายใจและเริ่มลากปลายนิ้วไปที่แผ่นอกกว้างของคนที่นอนนิ่งไปเรื่อยๆ   

“ผมก็ไม่รู้จะอธิบายกับพี่ยังไงซะด้วย”

บารมีเลิกคิ้วขึ้นสูง จ้องมองใบหน้าของคนที่กำลังไล้ปลายนิ้วไปตามแนวชายโครงและยุ่งอยู่กับการปลดกระดุมเสื้อของบารมีอย่างตั้งอกตั้งใจ

“มึงไม่เคยอธิบายอะไรสักอย่างนั่นแหละพัฒน์ ไม่ว่าเรื่องอะไรมึงก็ไม่เคยจะพูด  ปล่อยให้กูเดาใจมึงไปเรื่อย”

พิพัฒน์ได้แต่ยิ้มบาง ๆ
และไม่รู้จะตอบกลับบารมียังไงให้ชัดเจนไปกว่านี้ได้ 

นอกจาก.........

“พัฒน์ไม่เคยเป็นแบบนี้นะ”

พิพัฒน์โน้มใบหน้าลงมาหา และหยอกเย้าด้วยการขบกัดที่ริมฝีปากล่างของบารมีเบา ๆ ก่อนจะซุกซบใบหน้าลงที่ข้างซอกคอของบารมีและกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกและความต้องการของตัวเองออกมาทั้งหมด

“....พัฒน์เป็นแบบนี้กับพี่คนเดียว”


 TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 11-04-2015 11:43:01
กรี๊ดดดดด ตอนแรกว่าจะปลอบพี่บัสซะหน่อย ไป ๆ มา ๆ ไม่ต้องละ อิจฉาพี่บัสอีกตะหาก  :z3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 11-04-2015 11:48:14
ฟินแลนด์ :ling1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: haruko ที่ 11-04-2015 11:49:03
พัฒน์มันร้าย พี่บัสหัวปั่นไปหมด
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 11-04-2015 11:58:08
พี่บัสแกล้งงอนสินะ อยากให้พัฒน์ง้อก็บอก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 11-04-2015 12:05:32
ทำไมจบเช่นนี้ล่ะคะ ㅠ ㅠ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 11-04-2015 12:14:25
เจอพัตน์กรีดนิ้วใส่แบบนี้ ..พี่บัสหายงอนเป็นปลิดทิ้งเลยล่ะสิคะ หุหุ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: imac ที่ 11-04-2015 12:33:26
พี่บัสจะไปไหนรอด
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 11-04-2015 13:24:29
ถึงเขาหลอก...แต่เต็มใจให้หลอก อิอิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 11-04-2015 13:46:41
พี่บัสหนีไม่รอดหรอก อิอิ
ตัดจบได้ไง ฉากที่รอคอยมาอีกแล้ว พัฒน์จอมยั่ว อิอิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 11-04-2015 14:20:38
นึกว่าตาฝาดดดดดด
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 11-04-2015 14:25:02
เจอน้องพัฒนเข้าไป พี่บัสทำอะไรไม่เป็นเลย 5555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 11-04-2015 14:53:19
เริดมากพัฒ พี่บัสไม่กล้าหือเลย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-04-2015 15:18:16
พี่บัสตาย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: happy-jigsaw ที่ 11-04-2015 15:59:43
พี่บัสจะไปไหนรอด...

ขนาดพัฒน์ยังไม่ได้ง้อเลยนะเนี่ย...
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 11-04-2015 16:17:15
แอร๊ยยย เขิน จ้าาา
นี่วิธีการง้อของพิพัฒน์ ทำเอาเจ้กรี๊ดมากค่าาาาา
 :mew3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 11-04-2015 16:45:49
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-04-2015 16:59:58
อ๊ากกกกกก พัฒน์ ทำไมน่ารักงี้อ่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 11-04-2015 17:05:32
พิพัตน์
น่ารัก
เกินไป
แล้วนะ
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 11-04-2015 17:18:00
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน เข้าใจให้ตรงกัน


พิพัฒน์ทำแบบนี้ตลอด
หลอกล่อให้หลงมัวเมาจนสุดท้ายก็ไม่อาจต่อต้านได้อีก
ถึงจะรู้อย่างนั้น แต่ไม่ว่ากี่ครั้ง บารมีก็ไม่เคยเอาชนะพิพัฒน์ได้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม

“อาส์”

พิพัฒน์แหงนเงยใบหน้าขึ้น  ฝ่ามือจับแน่นที่ท่อนเอ็นใหญ่โตที่กำลังชูชันตั้งตรง  ค่อย ๆ กดแทรกร่างกายของตัวเองลงมาให้ส่วนนั้นชำแรกเข้าไปในช่องทางด้านหลัง  ขยับสะโพกเคลื่อนไหวไปมาอีกสองสามครั้งเพื่อให้ความแข็งแกร่งที่ตั้งชันแทรกเข้าไปโดนจุดที่ทำให้ร่างกายรู้สึกร้อน  จนต้องเกร็งหน้าท้องเอาไว้  เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางพิพัฒน์ก็ค่อย ๆ ขยับสะโพกเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า

ฝ่ามือร้อนเหนี่ยวรั้งความต้องการของร่างกายตัวเองอย่างรุนแรง  สะโพกมนขยับเคลื่อนไหวไปตามความรู้สึก  รุนแรงสลับกับเชื่องช้า  ร่างกายสัมผัสกันแนบแน่นจนเกิดเสียง เร่งเร้าอารมณ์ความรู้สึกต้องการเป็นของการและกันให้ลึกล้ำของคนสองคนมากขึ้น  บารมีช่วยขยับสะโพกกระแทกกระทั้นส่งแรงให้กับพิพัฒน์ที่ยังเคลื่อนไหวสะโพกไปมาอยู่เหนือร่างของบารมี

ร่างกายสอดประสานและขยับเคลื่อนไหวไปพร้อมกัน

สีหน้าและแววตาร้อนแรงที่บอกทุกความรู้สึกทั้งหมดในเวลาที่สบตากัน  ยิ่งเร่งให้ความรู้สึกเตลิดไปไกล

ลมหายใจที่หอบหนักของคนสองคนสอดประสานพร้อมกันรุนแรงไม่หยุด

และเมื่อพิพัฒน์ขยับสะโพกรุนแรง  บารมีก็แหงนเงยใบหน้าขึ้น ส่งเสียงคำรามในลำคอย่างถูกใจ

พิพัฒน์หลับตาแน่น  หยาดเหงื่อหลั่งรินชโลมกายเพราะการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง
เรี่ยวแรงทั้งหมดถูกนำมาใช้กับการร่วมรัก ปรนเปรอให้กันอย่างไม่รู้สึกเหนื่อย  พิพัฒน์ทิ้งกายลงทาบทับอยู่เหนือร่างของบารมี  และบารมีก็พลิกกายขึ้นมาอยู่ด้านบนและเป็นฝ่ายควบคุมจังหวะกระแทกกระทั้นเองบ้าง

ร่างกายเปลือยเปล่าแนบสัมผัสกันไม่เหลือช่องว่าง และพิพัฒน์ก็ปล่อยเสียงครางออกมาทุกคร้งที่บารมีสอดแทรกกระแทกกระทั้นร่างกายเข้าหา

“อือออ ฮึก อื้อ”

เรียวขาถูกแยกออกจากกันและบารมีก็กดแทรกร่างกายเข้ามาลึกล้ำมากขึ้น  เรียวขาขาวถูกยกขึ้นพาดไว้ที่ลาดไหล่แกร่ง  บารมีโน้มกายลงกดกระแทกเข้าหาไม่ยั้งและพิพัฒน์ทำได้แค่เพียงรองรับทั้งหมดที่บารมีส่งแรงมาให้ไม่หยุด

ลมหายใจหอบหนักเมื่อใบหน้าคมแนบลงมาและบดคลึงริมฝีปากแนบกับริมฝีปากที่ขบแน่นเข้าหากันของพิพัฒน์ อารมณ์ความรู้สึกเตลิดไปพร้อมกับสัมผัสร้อนแรง

ยิ่งกระแทกร่างกายเข้าไปมากเท่าไหร่ พิพัฒน์ยิ่งร้องครางลั่นมากขึ้นเท่านั้น
ร่างกายสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกันลึกล้ำ  และบารมียิ่งกดกระแทกร่างกายเข้าไปไม่หยุด  ท่อนเอ็นแกร่งแทรกสอดขยับเคลื่อนไหวเข้าออกอยู่ภายในช่องทางที่บีบรัด

เสียงร้องครางเครือ ยิ่งเร่งเร้าให้อารมณ์ความรู้สึกเพิ่มขึ้น
หยดเหงื่อหลั่งรินลงที่ข้างแก้ม และเมื่อบารมีหยุดการเคลื่อนไหว พิพัฒน์ก็โน้มลำคอของบารมีลงมาหา  บดเบียดริมฝีปากเข้าหากัน  ดูดกลืนปลายลิ้นร้อนที่ส่งเข้ามาภายในโพรงปากอย่างหิวกระหาย  ก่อนจะขยับกายลุกขึ้นอีกครั้ง  และเปลี่ยนกลับขึ้นมาคร่อมทับอยู่เหนือร่างของบารมีเพื่อควบคุมทุกจังหวะด้วยตัวเอง   

ปลายนิ้วร้อนลากผ่านที่แผ่นอกกว้าง  ก่อนจะวางฝ่ามือลงและขยับร่างกายเคลื่อนไหวอยู่บนร่างของบารมีอีกครั้ง 

สะโพกมนเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงและเร่งเร้าให้อารมณ์ของบารมีใกล้ถึงจุดสิ้นสุดเต็มที  เสียงลมหายใจที่หอบหนักขึ้น ร่างกายกายเบื้องบนที่ขยับเคลื่อนไหว  เสียงผิวเนื้อกระทบกันยิ่งเป็นการเร่งเร้ามากขึ้น  และเมื่อความต้องการถึงจุดสิ้นสุดพิพัฒน์ก็ขยับสะโพกเคลื่อนไหวรุนแรงเป็นครั้งสุดท้าย จิกปลายเล็บลงบนแผ่นอกกว้างอย่างรุนแรง  เมื่อถึงจุดสิ้นสุด 

ทุกส่วนของร่างกายเหยียดเกร็ง

หน้าท้องเนียนขาวเกร็งแน่นและร่างกายของพิพัฒน์ก็เกร็งกระตุกเมื่อปลดปล่อยทุกหยาดหยดที่อัดแน่นอยู่ภายในออกมาจนหมด  แม้จะถึงจุดหมายแล้ว  แต่สะโพกมนยังคงขยับเคลื่อนไหว เพื่อให้ช่องทางด้านหลังบีบรัดดูดกลืนท่อนเอ็นใหญ่เข้าไป

บารมีกระแทกสะโพกขึ้นไปอีกครั้งในจังหวะสุดท้ายและปล่อยให้ร่างกายหลั่งความต้องการออกมาทั้งหมด

ฉีดพ่นของเหลวอุ่นร้อนเข้าไปในช่องทางที่บีบรัดแน่น และพิพัฒน์ก็ถึงกับร้องครางเสียงลั่นเมื่อรู้สึกถึงความร้อนที่ถาโถมเข้ามาภายในร่างกาย

ฝ่ามือยังคงขยับรูดรั้งร่างกายของตัวเอง

น้ำรักขุ่นขาวหลั่งรินออกมาจากส่วนปลายกระเซ็นกระสายรินรดที่หน้าท้องแกร่ง
ฝ่ามือร้อนลูบไล้ทุกหยาดหยดที่ปลดปล่อยชโลมไปที่แผ่นอกกว้างของบารมีและพิพัฒน์ก็ค่อย ๆ ขยับกายลุกขึ้นอย่างช้า ๆ   เพื่อกดแทรกร่างกายของตัวเองเข้าไปในโพรงปากของบารมี

กดแทรกแก่นกายของตัวเองเข้าไปในโพรงปากร้อนเพื่อให้อีกฝ่ายจัดการทุกหยาดหยดที่ถูกปลดปล่อยออกมา

พิพัฒน์ขยับกายลงมาทาบทับอยู่บนร่างของบารมีอีกครั้ง  แนบริมฝีปากดูดกลืนสิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ในโพรงปากของบารมี  แทรกปลายลิ้นเข้าหาและใช้ลิ้นหยอกเย้าเพื่อให้บารมียินยอมกลืนกินทุกความรู้สึกของพิพัฒน์ลงไปในคอ

น้ำรักที่บารมีหลั่งเอาไว้ในร่างกายของพิพัฒน์ทุกหยาดหยดล้นทะลักออกมาจนไหลเปรอะเปื้อนไปที่ขา  และพิพัฒน์ก็นิ่วหน้า เมื่อลองแทรกปลายนิ้วเข้าไป    จังหวะที่ถอนปลายนิ้วออกของเหลวข้นหนืดก็ไหลรินตามออกมาด้วย

“ทำไมยังเยอะอยู่  ก็เมื่อเช้าเพิ่งออกไป”

คำถามง่าย ๆ แบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่บารมีจะตอบไม่ได้

“ทีพัฒน์ยังออกมาเยอะเลย ก็เหมือนกันไม่ใช่หรือไง”

บางทีก็คงใช่

บางทีอาจจะใช่  บารมีค่อย ๆ ขยับกายลุกขึ้นนั่งและพิพัฒน์ก็ทิ้งกายลงนอนคว่ำหน้าและยกสะโพกขึ้นสูง เพื่อให้บารมีทำบางอย่างให้

ฝ่ามือร้อนค่อย ๆ ขยับแยกสะโพกแน่นเนียนขาวออกจากกัน และสอดปลายนิ้วไปที่ช่องทางด้านหลังที่ยังมีคราบน้ำรักไหลรินออกมา

สอดปลายนิ้วหมุนวนเข้าไปภายใน  ก่อนจะงอปลายนิ้วลงและดึงออกเพื่อควานเอาคราบเหนียวหนึบที่ถูกปลดปล่อยเอาไว้ภายในออกมาได้บ้าง

“อือ”

พิพัฒน์ถึงกับนิ่วหน้าและซบใบหน้าลงกับหมอน ยกสะโพกให้แยกออกจากกันมากขึ้น เพื่อให้บารมีช่วยควานทุกหยาดหยดที่อยู่ภายในออกมา

“ไปอาบน้ำ  เดี๋ยวช่วยเอาออก   จะหมดแล้ว”

บารมีขยับกายลุกขึ้นยืน  แต่พิพัฒน์ไม่ยอมลุกขึ้นตามไปด้วย

ดึงแขนบารมีเอาไว้ ผุดลุกขึ้นนั่งอย่างช้า ๆ และแหงนเงยใบหน้าขึ้นมองหน้าของบารมีด้วยดวงตาเว้าวอน แต่แฝงความร้อนแรงเอาไว้

“......พี่.......”

น้ำเสียงออดอ้อนแผ่วหวานที่ได้ยิน  เป็นใครก็ต้องใจอ่อนและบารมีก็ไม่อาจต้านทานกับสายตาแบบนั้นของพิพัฒน์ได้

บารมีส่งยิ้มบาง ๆ ให้คนที่เข้ามาอ้อน แตะฝ่ามือเบา ๆ ที่เส้นผมนิ่มของคนที่ร้องขอให้บารมีเอาใจ

จุดกึ่งกลางของร่างกายที่ส่วนปลายยังมีคราบน้ำรักข้นหนึบเคลือบชโลมอยู่ถูกรูดรั้งเบา ๆ
และพิพัฒน์ก็แนบริมฝีปากลงที่หน้าท้องแกร่งที่มีขนอ่อนขึ้นรำไร

จูบไล่ลงมาเรื่อยจนถึงท่อนเอ็นใหญ่ที่ยังอ่อนแรง และครอบทับริมฝีปากดูดกลืนเข้าไป
ใช่ฝ่ามือประคองเบา ๆ ที่ถุงเนื้อนุ่มหยุ่นทั้งสองข้าง หยอกเย้าด้วยปลายลิ้น และเงยหน้าขึ้นมองหน้าของบารมีอีกครั้ง และบารมีก็หลุดเสียงหัวเราะออกมา

“ไป พอแล้ว ไปอาบน้ำได้แล้ว  นี่แผนเอื่อยเฉื่อยไม่ยอมอาบน้ำใช่มั้ยพัฒน์ มึงนี่นะ”

บารมีถึงกับส่ายหน้าและพิพัฒน์ก็นิ่วหน้าเพราะถูกจับได้

ยอมลุกขึ้นง่าย  ๆ และบารมีก็ส่ายหน้ากับการประวิงเวลาของพิพัฒน์
แกล้งตีมือไปที่สะโพกแน่นของคนที่เดินนำไปแรง ๆ หนึ่งครั้งและพิพัฒน์ก็ร้องออกมาเสียงดังลั่น

“โอ้ยย”

ไม่ได้เจ็บขนาดนั้นแต่คนโดนกระทำ ร้องเสียงหลงเกินจริง  จนบารมีต้องขยี้ผมของพิพัฒน์แรง ๆ ด้วยความหมั่นไส้
และพิพัฒน์ก็ฉวยจังหวะเผลอ  ตีมือไปที่สะโพกของบารมีแรง ๆ เป็นการเอาคืน

“เฮ้ยยย”

ร้องออกมาด้วยเสียงที่ดังกว่า และพิพัฒน์ก็เหลือบสายตามองหน้าบารมีที่แกล้งร้องเสียงดังยิ่งกว่าที่ตัวเองร้อง

“แอ็คติ้งสมจริง”

แกล้งว่า
และบารมีก็เลิกคิ้วขึ้นสูง และพูดจาประชดประชันพิพัฒน์ที่ยังเอาแต่เล่นไม่เลิก

“คนแถวนี้มันจะได้เห็นใจไง”

ใครที่จะไม่เห็นใจบารมีบ้างพิพัฒน์คนหนึ่งที่ไม่ใช่

พิพัฒน์หยุดยืนนิ่งและแหงนเงยใบหน้าขึ้นจ้องมองหน้าของบารมีนิ่ง ๆ ก่อนจะยกแขนขึ้นโอบรัดรอบคอและถูจมูกไปที่แผ่นอกกว้างแรง ๆ

“อื้อออออ”

อ้อนให้หลง

อ้อนให้รัก  แสดงความรู้สึกให้รู้ว่ากำลังรู้สึกยังไง

“พูดไม่ค่อยเก่ง  แต่รักหมดใจ”

งั้นเหรอ

บารมีเมินมองหน้าไปทางอื่น  แต่พยายามสะกดกลั้นรอยยิ้มเอาไว้สุดความสามารถ

พัฒน์มึงอย่าทำแบบนี้   ขอร้องว่าอย่าทำ

“แล้วไง พูดอีกสิ  กำลังซึ้ง”

ไม่แล้วไงหรอก  ก็แค่ว่า

“ถ้ารู้ว่าชอบท่าไหน........ยอมให้เธอเอาหมดทุกท่า”

ไอ้พัฒน์.......

บารมีถึงกับหลุดขำ  และหันมามองหน้าของพิพัฒน์ตรง ๆ

คนพูดพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงอารมณ์  แต่คนฟังอารมณ์ดีจนอยากจะหัวเราะให้เสียงดังลั่นเพราะคำพูดคำจาของคนไม่ช่างพูด  แต่ขยันทำให้รู้สึกดีอย่างพิพัฒน์

“ให้มันจริงเหอะ”

จริงสิ  ก็ทำอยู่นี่ไง  ไม่จริงตรงไหนเหรอ

“ไม่ต้องมาทำดีกับกูกลบเกลื่อนเรื่องอีปาหรอก  ไม่หลงเชื่อง่าย ๆ หรอกจะบอกให้”

เรื่องนั้นมันใช่ที่ไหนล่ะ

“ผมไม่สัญญาและไม่สาบานอะไรทั้งนั้นเรื่องปา   แต่ผมจะทำให้พี่บัสรู้ ว่าผมจะไม่กลับไปคิดอะไรแบบนั้นกับปาอีกแล้วผมจะพิสูจน์ให้พี่บัสเห็นเอง“

สายตาที่มองมามุ่งมั่น
ดวงตาที่จ้องมองตรงมาไม่มีแววหวั่นไหวเลยสักนิด  และบารมีก็ถอนหายใจยาว
แตะฝ่ามือลงที่ไหล่ของพิพัฒน์เบา ๆ และส่งยิ้มบาง  ๆ ให้

“พัฒน์..........ชีวิตกูเอาจริง ๆ ก็ไม่มีใครแล้วนะ  พ่อก็ไม่มี  แม่ก็ไม่อยู่แล้ว   เหลือแต่มึงกับอีปา   กูไม่อยากให้ครอบครัวพังเพราะเรื่องไม่เข้าท่า....... มึงพอจะนึกวิธีไหนออกบ้างมั้ย วิธีที่ไม่ต้องทำร้ายใคร”

วิธีที่ไม่ต้องทำร้ายใครมันก็มี เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ไม่ต้องคิดอะไรให้ยุ่งยาก

พิพัฒน์มองหน้าของบารมีตรง ๆ และแตะฝ่ามือที่ข้างแก้มของบารมีเบา ๆ ลูบไล้เล่นและส่งยิ้มให้

“ทำทุกอย่างให้ชัดเจน   พี่กล้าทำมั้ย”

กล้าทำมั้ยงั้นเหรอ

การถามเอาความกล้าจากบารมีไม่ใช่เรื่องที่ควรถาม เพราะไม่ต้องถามบารมีก็พร้อมที่จะกล้าทำให้ทุกอย่างชัดเจนอยู่แล้ว

“รอคำนี้ของมึงมานานแล้ว  กว่าจะยอมจริงจังกับกูนี่  กูเสียน้ำให้มึงไปเยอะเลยนะ”

บารมีส่ายหน้า และพิพัฒน์ก็หัวเราะออกมาเสียงเบา

“กำลังจะเสียอีกรอบแล้วด้วย”

ไม่ต้องให้รอนาน  พิพัฒน์ลากฝ่ามือไปที่ท่อนเอ็นที่อ่อนแรงและกอบกุมเอาไว้ทั้งหมด  ขยับมือขึ้นลงอีกสองสามครั้งเพื่อหยอกเย้า และบารมีก็ได้แต่ส่ายหน้าเพราะไม่ว่ากี่ครั้งก็ไม่สามารถต้านทานความรู้สึกของพิพัฒน์ได้

เพียงไม่นานส่วนนั้นก็ค่อยๆ  ขยายใหญ่โตขึ้นและแข็งแรงชูชันขึ้นมาอีกครั้งในไม่ช้า

“เออ   นั่นมันของของมึงนี่  คิดจะทำอะไรก็ได้อยู่แล้ว”

แกล้งพูดจาประชดประชันใส่  และพิพัฒน์ก็ยิ้มกว้าง  ดึงมือของบารมีให้มาแตะต้องและรูดรั้งที่ส่วนกึ่งกลางของร่างกายตัวเองบ้างและส่วนนั้นก็ตอบรับฝ่ามือของบารมีเป็นอย่างดี

“เสียว”

ก็สมควรอยู่

“เงี่ยนก็บอกว่าเงี่ยน อย่าทำให้ดีใจด้วยการบอกว่าเสียว”

แกล้งพูดและพิพัฒน์ก็พยักหน้ายอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

“ทั้งเงี่ยนทั้งเสียวได้มั้ย”

ได้ครับ

ได้ครับท่าน

ได้หมดนั่นแหละครับคุณพิพัฒน์

บารมีได้แต่ส่ายหน้าและพิพัฒน์ก็อมยิ้มก่อนจะขบริมฝีปากไปที่ปลายคางของบารมีเบา ๆ

“เสียวจริง ๆ นะ.....อือออ....”

แสดงออกให้รู้ว่ารู้สึกยังไง

และบารมีก็เริ่มขยับมือให้เร็วขึ้น เพื่อปลุกปั่นความรู้สึกของพิพัฒน์ให้เพิ่มมากขึ้น

“พูดเองนะ”

พิพัฒน์พยักหน้ารับและหมุนกายหันหลังและใช้ฝ่ามือทาบไปที่ผนังเพื่อเป็นหลักยึด สองขาแยกห่างออกจากกัน เพื่อให้บารมีสามารถแทรกกายเข้าไปที่ช่องทางที่ยังมีคราบขุ่นขาวเปรอะเปื้อนอยู่ได้  โน้มกายลงเพื่อเปิดรับความใหญ่โตที่ถูกปลุกปั่นให้ขยายใหญ่ขึ้นที่กำลังจดจ่อเตรียมจะเข้ามา

บารมีจับส่วนปลายกดชำแรกเข้าไปที่ช่องทางที่เปิดรับ ขยับกายอีกเพียงเล็กน้อยเพื่อแทรกเข้าไปให้ลึกล้ำมากขึ้น
สองมือจับที่สะโพกมนแน่น และเริ่มขยับกายเข้าไปอีกครั้ง  ร่างกายถูกดูดกลืนเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนจนหมดและพิพัฒน์ก็ขยับสะโพกตามจังหวะที่ถูกบารมีสอดแทรกเข้ามา

สะโพกแกร่งหมุนวนท่อนเอ็นที่ขยายใหญ่โตภายในช่องทางที่บีบรัด กดแทรกชำแรกเข้าไปลึกล้ำ 

ผิวเนื้อที่สะโพกแน่นถูกแยกออกจากกันเพื่อรองรับแรงกระแทกกระทั้น  เมื่อบารมีขยับกายก็เกิดเสียงผิวเนื้อกระทบกันดังลั่น

พิพัฒน์ขยับฝ่ามือของตัวเองรุนแรงที่ส่วนของร่างกายที่ชูชันและสั่นไหวไปมา

เสียงร้องครางเครือเพราะความรู้สึกของคนสองคนประสานขึ้นพร้อมกัน

“อือออ อาส์  อึก อ่าส์”

บารมียังกระแทกกระทั้นร่างกายเข้าไปไม่หยุด
และพิพัฒน์ยังคงปล่อยให้ความรู้สึกของตัวเองไหลเรื่อยไปตามแรงอารมณ์ที่เกิดขึ้น

ในเวลาไม่นานบารมีก็ปลดปล่อยในร่างกายของพิพัฒน์อีกครั้ง และพิพัฒน์ก็รับความรู้สึกของบารมีที่ถูกปลดปล่อยออกมาเอาไว้ทั้งหมด

เพราะคุยกันด้วยคำพูดไม่ค่อยเข้าใจ เลยต้องใช้ร่างกายคุยกันเพื่อให้เกิดความชัดเจนเพิ่มขึ้น 

บารมีและพิพัฒน์ใช้ความพยายามด้วยกันทั้งคู่

เมื่อใช้คำพูดคุยกัน บางครั้งก็ไม่ชัดเจน   และเพื่อประคับประคองความสัมพันธ์  จึงต้องใช้ทั้งร่างกายและคำพูดคุยกันให้รู้เรื่อง

“พัฒน์”

“หือ”

“พัฒน์ก็เป็นคนเดียว  ที่ทำให้พี่เป็นได้ถึงขนาดนี้เหมือนกัน”


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 11-04-2015 17:22:40
อิพี่บัสนี่หงุดหงิดวัยทองตลอด  พัฒน์ปลอบแล้วนะหายงอนเลยซิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 11-04-2015 17:30:51
คนอ่านร้องเพลงนี้มั่ง
"ต่างคน ต่างพูดไม่ออก...ทำอย่างเดียวเลย..."
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 11-04-2015 17:36:25
พัตน์นี่ร้อนแรงได้อี๊กกก.. น่ารักจังเลยย ได้เวลาเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสิน้าา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 11-04-2015 17:43:31
ใช้ร่างกายพูดกัน ก็เข้าใจกันได้

เข้าใจตรงกันนะ :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 11-04-2015 18:04:48
กริ๊ดดดดดดดดด พิพัฒน์แม่งร้ายเอาซะพี่บัสไปไม่เป็นเลย  :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 11-04-2015 18:06:45
พัฒน์เนี่ยหลอกล่อซะพี่บัสไปไม่เป็น อิๆๆๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: chiji ที่ 11-04-2015 18:13:22
อยากจะกรี๊ดให้ลั่นซอย  :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-04-2015 18:18:42
อ๊ากกกกกก
เลือดหมดตัว 55555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 11-04-2015 18:19:58
ทำไมเค้าหวานกันจังล่ะคะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 11-04-2015 18:23:38
 :oo1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 11-04-2015 18:25:49
 :jul1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: haruko ที่ 11-04-2015 18:43:17
ว้ายยย รักหมดใจ หวานไปไหน
ไม่ค่อยพูดแต่แสดงให้รู้ด้วยการกระทำ ชัดเจนกว่าพูดอีก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 11-04-2015 18:48:47
 :m10: :m10: :m10: :m10: :m10: :m10: :m10: :m10: :m10: :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 11-04-2015 18:54:59
พัฒน์กับพี่บัส  ร้อนแรงอ่ะ


:m25:     :m25: 
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 11-04-2015 19:21:02
อร๊ายยยยยอมหมดทุกท่า
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-04-2015 19:26:25
เยี่ยม
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 11-04-2015 19:56:13
โอ๊ยกรี๊ด พัฒนี่ร้อนแรงแซบเว่อตลอดศกอะ  :impress2:  ลงอย่างนี้อีกสิบปาก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว 555  พี่บัสก็น่ารักนะ หวงเมียแต่ก็รักน้อง ต่อไปนี้เขาจะชัดเจนต่อกันแล้วเนอะ ชอบๆๆ ชอบเวลาเห็นพี่บัสหลงพัฒ  o18
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: mm03 ที่ 11-04-2015 20:14:49
เขาไม่ค่อยพูดอะไรกันเลย
แต่เราเขินนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 11-04-2015 21:08:33
เขาบแกกันด้สยภาษากาย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 11-04-2015 21:11:51


พัฒน์แซบฟินเฟอร์

:heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven

เพราะคุยกันด้วยคำพูดไม่ค่อยเข้าใจ
เลยต้องใช้ร่างกายคุยกันเพื่อให้เกิดความชัดเจนเพิ่มขึ้น

 :hao5: อยากคุยแบบนี้มั่งจังเลย   
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 11-04-2015 21:19:23
 :m25:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: กระพรวนศรี ที่ 11-04-2015 21:58:23
โอ๊ยกรี๊ดดดหลงรักเรื่องนี้เต็มเปา
ชอบคาแรกเตอร์ทั้งพี่บารมีทั้งน้องพิพัฒน์เลย ฮามาก
คนนึงเงียบ ได้แต่คิด แต่ไม่ค่อยพูด (จริงๆไม่ค่อยคิดด้วยนะ๕๕๕)
อีกคนขี้บ่น พูดมาก
แต่พอ "เอา" เข้าจริง
อิคนพูดมากนี่ทำไรไม่ถูกเลย เจอความร้อนแรงของน้องพัฒน์เข้าไป มีอันต้องยอม๕๕๕
๕๕๕๕ โอยยย ฮาสุดๆอ่านไปยิ้มไปมีความสุขมากๆเลยอะ
ขอบคุณมากนะคะ ชอบงานคุณคนเขียนมากเลย  ขอบคุณมากค่า
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 11-04-2015 23:08:27
อ่านเรื่องนี้แล้วทั้งฟิน! ทั้งอิ่ม! :m25:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 11-04-2015 23:25:07
โอ้ยพี่พัฒน์ขา
ขอซื้อตัวหน่อยเหอะ
น่ารักเวอร์
แซ่บจริงรัยจริง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 11-04-2015 23:54:07
สายตาเราไม่ดีอ่านตอนฉากบรรยายพิพัฒน์กับบารมี
เป็นพิพัฒน์ทำอะไรกับสามีไปเลย

ว่าง่ายๆเลยพิพัฒน์กับบารมีพูดกันไม่รู้เรื่อง
แต่อาศัยวิธีการสื่อแบบตอนนี้แหละที่สามารถเข้าใจกันได้หมดไส้หมดพุง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 12-04-2015 09:16:01
-/////-  >>>>  -.,-
ตายๆๆ ถ้าจะใช้ร่างกายสื่อขนาดเน้ คนอ่านตายคร้าาาา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 12-04-2015 10:31:56
พัฒน์คงถนัดเจรจาภาษากายเนอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: tong_pub ที่ 12-04-2015 11:03:34
ต่างคนต่างพูดไม่ออก ไดแค่ซั่มกันเท่านั้น รักที่ให้กันเหมือนโดนกั้นขวางทางไป

555555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 12-04-2015 11:29:06
หนูพัฒน์เผ็ชจัง..
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: แค่ความทรงจำ ที่ 12-04-2015 14:53:39
 :pighaun:  :jul1:

ร้อนแรงนะเนี้ยยย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 12-04-2015 15:23:24
กร๊าสสสสสสสสส
ทำไมน่ารักแบบนี้
พัฒแบบว่าฮอต โฮกกกกกกกก
เห็นอัพแล้วมีความสุขขขขข
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน บารมีก็งอนเป็น P.17
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 12-04-2015 17:48:24
กรี๊ดดดดดดดดดดดด หนูพัตน์ยั่วเก่งจุง
พี่บัสจะไปไหนรอด เปิดตัวพี่สะใภ้กันเลยจร้าาาาา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 12-04-2015 23:49:31
พัฒน์ทำให้ประหลาดใจได้เสมอ โคตรเซ็กซี่เลย พี่บัสยังยอมใจทั้งรักทั้งหลง บทจะอ้อนคือน่ารักมากกกก
แต่น่าจะวุ่นแน่เมื่อปากลับมา บอกไปตรงๆ น่าจะดีสุด แต่เธอจะรับได้ไหม

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 13-04-2015 03:05:38
กรี๊ดดดดดดดดดดดด โฮ๊กกกกกกกก โอ๊ยยยยยยยยยยย งื้ออออออออออออ ชอบบบบบบบบ ชอบมาก เริ่มจะคลุ่มคลั่ง 55555....คือ ชอบนายเอกพัฒน์มาก ได้ใจจริง ไม่งี่เง่า เอาใจเก่ง ยอมและอ่อยได้ดีเยี่ยม 55555 ชอบพระเอกพี่บัสเช่นกัน แรงดีไม่มีตก ตรูละเสียวตามทุกการกระแทก 555555555555555555 รักพัฒน์ยอมพัฒน์ เข้าใจพี่บัสค่ะ ขอบคุณค่ะไรท์ แต่งดีจริงๆ สู้ๆตอนต่อไป สนุกเว่อร์
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 13-04-2015 11:58:27
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม

พิพัฒน์กำลังช่วยบารมียกกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ลงมาจากท้ายรถ  และปาจรีย์ที่เพิ่งก้าวขาลงมาจากรถก็ส่งยิ้มและทักทายพิพัฒน์ด้วยท่าทางที่พยายามให้เป็นปกติที่สุด

“เป็นไงบ้างพัฒน์”

พิพัฒน์ไม่รู้ว่าควรจะตอบอะไรดี  สิ่งที่ทำได้ก็เพียงแค่ทักทายตอบกลับตามมารยาท

“อืม  ก็ดี”

ปาจรีย์ได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ และถอนหายใจยาว  และพิพัฒน์ก็รีบลากกระเป๋าของปาจรีย์เข้าบ้าน เพราะไม่รู้จะพูดอะไรอีก

“ร้อนชิบหาย”

บารมีเดินนำเข้าบ้านและยกหลังมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลซึมที่หน้าผาก และพิพัฒน์ก็ก้าวขาเดินตาม

ปาจรีย์เดินมานั่งลงที่โซฟา และพิพัฒน์ก็เดินเข้าไปในครัว รินน้ำใส่แก้วมาส่งให้

“ปากินน้ำก่อน”

เกิดความเงียบงันขึ้นระหว่างคนสองคน  สุดท้ายปาจรีย์ยื่นมือรับแก้วน้ำที่พิพัฒน์ส่งให้และเอ่ยคำขอบคุณ

“ขอบใจนะพัฒน์”

ปาจรีย์ถือแก้วเอาไว้ในมือ  และจิบน้ำที่พิพัฒน์ส่งให้

แม้จะพยายามทำใจมาก่อนแล้ว ว่ายังไงก็ต้องเจอกัน  แต่พอได้เจอกันจริง ๆ ต่างฝ่ายต่างก็รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองไม่ต่างกัน

และบารมีก็สังเกตเห็นอาการของทั้งพิพัฒน์และน้องสาวได้อย่างชัดเจน

เดินมาทิ้งกายลงนั่งข้างๆ ปาจรีย์และเหลือบสายตามองพิพัฒน์ที่เดินเข้าไปในครัว  ทั้งที่แทบจะไม่มีงานอะไรในครัวให้ทำอีกแล้ว

“พัฒน์  น้ำยาล้างจานอยู่ในลิ้นชักชั้นสอง  ที่พัฒน์ถามเมื่อเช้า  หาเจอยัง”

พูดคุยกันด้วยเรื่องที่แสนธรรมดา และพิพัฒน์ก็ตอบกลับมา

“ไม่เห็นมีเลย”

บารมีลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัว  แต่ปาจรีย์กำลังรู้สึกถึงความสนิทสนมที่ไม่ธรรมดาของคนสองคน  ทั้งที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ตั้งแต่แรก

“พัฒน์แม่งอย่างนี้ตลอด”

บารมีบ่นพึมพำและเปิดลิ้นชักให้พิพัฒน์ดู

“นี่ไง”

ปาจรีย์หันไปมองในครัว 

ได้แต่กระพริบตามอง เมื่อเห็นว่าทั้งบารมีทั้งพิพัฒน์พูดคุยกันด้วยท่าทางที่ดูคุ้นเคยกันมาก

มากจนปาจรีย์ยังนึกแปลกใจ

“..............”

คนสองคนยืนใกล้ชิดกันขนาดนั้น   ปาจรีย์ทำได้แค่เพียงมองด้วยความสงสัย

พิพัฒน์หยิบขวดน้ำยาล้างจานมาวางไว้บนซิงส์สำหรับล้างจาน และบารมีก็ได้แต่ส่ายหน้า  และค้นหากรรไกรมาตัดมุมซองและเติมน้ำยาล้างจานใส่ขวดให้

“ใช้กูอีก”

บารมียังบ่นไม่เลิก  และพิพัฒน์ที่มายืนข้าง ๆ และแหงนเงยใบหน้ามองหน้าของบารมีก็กำลังยิ้ม

สิ่งที่พิพัฒน์และบารมีปฏิบัติต่อกันมันดูเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายเกินกว่าการเป็นแค่คนที่อาศัยอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน

บารมีไม่ใช่คนที่จะสนิทสนมกับใครง่าย ๆ  ทั้งที่คิดว่าไม่น่าจะเข้ากันได้ขนาดนี้ แต่ทั้งบารมีและพิพัฒน์ก็ดูสนิทสนมคุ้นเคยกันดี และดูเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ปาจรีย์ได้แต่แอบมอง
และทั้งบารมีและพิพัฒน์ก็ลืมไปชั่วขณะว่ามีสายตาของใครบางคนมองอยู่ห่าง ๆ

บารมีช่วยงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาจากในครัวมานั่งอยู่ข้าง ๆ ปาจรีย์

“พี่บัส....”

เรียกพี่ชายที่หยิบรีโมทขึ้นมากดเปลี่ยนช่องรายการโทรทัศน์อย่างสบายใจ และเมื่อบารมีหันมาตามเสียงเรียกปาจรีย์ก็พูดอะไรไม่ออก

“อะไรวะเรียกแล้วไม่พูด”

บารมีหันไปสนใจกับรายการโทรทัศน์อีกครั้ง และปาจรีย์ก็ได้แต่ลอบมองใบหน้าของพี่ชายเงียบ ๆ

คุยกันมาตลอดทาง ตั้งแต่ที่บารมีขับรถไปรับที่สนามบิน ปาจรีย์ได้รู้ความเป็นไประหว่างพี่ชายและพิพัฒน์ 
แต่สิ่งที่รู้กับสิ่งที่เห็นในเวลานี้มันต่างกัน

เพราะทั้งบารมีและพิพัฒน์ดูสนิทสนมกันมาก
มากจนรู้สึกได้ถึงความรู้สึกบางอย่าง ที่ไม่ใช่แค่ความสนิทสนมกันแบบธรรมดา

“ชีวิตคู่มันก็แบบนี้แหละปา   ถูกใจกันบ้าง ไม่ถูกใจกันบ้าง  ปรับเข้าหากันไม่ได้ก็ลำบาก  บางทีมันก็ต้องพยายาม  ไหนจะวัฒนธรรมการกินการอยู่ที่ต่างกัน  เรื่องอื่น ๆ อีกเยอะแยะ กูว่ามึงก็ใจร้อนไป”

คำพูดของบารมีมันทำให้ปาจรีย์ต้องหยุดคิด

........ชีวิตคู่.....ที่ต้องปรับเข้าหากัน......
.......ชีวิตคู่.......
บางทีในเวลานี้ทั้งบารมีและพิพัฒน์ก็อาจกำลังใช้ชีวิตคู่เหมือนอย่างที่ปาจรีย์เคยใช้
แม้แต่ปาจรีย์ยังรู้สึก  ว่าที่ที่เคยเป็นของตัวเองในเวลานี้ไม่มีหลงเหลืออยู่อีกแล้ว

“ปาก็ยอมรับว่าใจร้อน  ใครที่ไหนมันจะมาใจเย็นอย่างไอ้พัฒน์  ปากเสียงไม่มี ปาทำขนาดนี้  ยังไม่เคยด่าปาสักคำ  ตอนนี้แค่จะมองหน้าพัฒน์  ปายังไม่รู้จะทำหน้ายังไงเลย”

ปาจรีย์พูดให้พี่ชายฟังและบารมีก็พยักหน้าเข้าใจสิ่งที่น้องสาวพูด

“ก็มึงมันเลว  มึงก็ต้องยอมรับตัวเอง”

ด่าน้องสาวไปแบบตรง ๆ และปาจรีย์ก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับ

“พี่ก็เห็นปาเหี้ยตลอดนั่นแหละ”

“ก็ใช่ไง รู้ตัวก็ดี”

บารมีไม่ได้พูดจาปลอบใจแต่พูดด้วยคำพูดแรง ๆ ที่ทำให้ปาจรีย์สำนึก

“มึงยอมรับก็ดี  ปล่อยคนดี ๆ ให้ไปมีอนาคตกับคนที่ดีกว่ามึงนั่นแหละดีแล้ว”

ต่อปากต่อคำกันพอให้หายคิดถึง และพิพัฒน์ที่เตรียมอาหารเสร็จแล้วก็เรียกให้ทั้งปาจรีย์และบารมีมากินข้าว

“ข้าวเสร็จแล้วนะ”

บารมีลุกขึ้นโดยมีปาจรีย์เดินตามมาที่โต๊ะอาหารพร้อมกัน

พิพัฒน์เหลือบสายตามองหน้าของปาจรีย์เล็กน้อยก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ  บารมี

“............................”

เห็นแบบนี้แล้ว ปาจรีย์ยิ่งรู้สึกละอายแก่ใจ
ละอายที่ทำกับพิพัฒน์ได้ลง ทิ้งไปง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของพิพัฒน์เลยสักนิด

“มีแต่ของที่ปาชอบ....ทั้งนั้นเลยนะ”

มองไปที่อาหารบนโต๊ะ
มองนิ่ง ๆ
และเงยหน้ามองหน้าของพิพัฒน์อีกครั้ง

ยังมีอะไรหลงเหลืออยู่บ้างมั้ย  ตลอดระยะเวลาที่เราห่างเหินกันไป
ความรู้สึกบางอย่างของพิพัฒน์ที่เคยเติบโตงอกงามมาตลอด ความรู้สึกเหล่านั้นยังพอหลงเหลืออยู่บ้างมั้ย

“พัฒน์.....”

เรียกพิพัฒน์อีกครั้ง  และพิพัฒน์ก็ตักแกงส้มใส่จานข้าวให้ปาจรีย์และส่งยิ้มบาง ๆ ให้
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตัดความรู้สึกออกไปจากใจได้ทั้งหมด

แต่พิพัฒน์ก็พยายามทำให้ชัดเจนมากที่สุด

“เรื่องเก่า ๆ ช่างมันเถอะปา  พัฒน์ไม่คิดอะไรแล้ว  พัฒน์เข้าใจปานะ”

ไม่จำเป็นต้องให้อภัยเพราะไม่ได้โกรธเคืองกัน เรื่องที่ผ่านไปแล้ว  ก็คือเรื่องที่ผ่านไปแล้ว

ปาจรีย์มองหน้าพิพัฒน์นิ่ง ๆ และชิมอาหารรสชาติที่คุ้นเคย จากคนที่ “คุ้นเคย” ที่ทำให้

รสชาติอาหารยังเหมือนเดิม  ความใส่ใจยังเหมือนเดิมไม่ได้น้อยลงเลยสักนิด แต่ความรู้สึกของเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

ไม่เหมือนเดิม

และแม้จะดื้อดึงพยายามทำให้กลับมาเหมือนเดิมก็ไม่สามารถทำได้อีก

ปาจรีย์เคี้ยวข้าวไปได้ไม่นานก็วางช้อนลงและถอนหายใจยาวก่อนจะพูดบางอย่าง

“ปาเหี้ยเองแหละพัฒน์ ที่ทำกับพัฒน์ขนาดนั้น  ปาไม่ได้จะให้อะไรมันกลับมาเหมือนเดิมนะพัฒน์ ปาแค่อยากให้ตอนนี้เรายังพอมองหน้ากันได้บ้าง”

“พัฒน์ก็มองหน้าปาแล้วนี่ไง”

แกล้งหยอกล้อให้ปาจรีย์รู้สึกดีขึ้น ทั้งที่ตัวเองก็พยายามฝืนยิ้มแทบตาย

“ปาเพิ่งมา  พัฒน์ก็ยอมรับว่ายังทำตัวไม่ถูก  ไม่เป็นไรหรอกปา อย่าคิดมาก”

พูดจาปลอบโยน และบารมีก็ได้แต่ถอนหายใจยาว

“อะไรของพวกมึงนักหนา  กินข้าวก่อนไม่ได้หรือไง”

โดนว่า และปาจรีย์ก็ได้แต่พยักหน้ารับ

บารมีเป็นคนแบบนี้ ปลอบใจใครไม่เป็น  และมักจะใช้ไม้แข็งกับน้องสาวเสมอ

“ปลอบใจน้องบ้างไม่ได้หรือไง”

แม้จะโดนว่า แต่ปาจรีย์ยังสามารถต่อปากต่อคำกับพี่ชายได้

“ปลอบทำห่าอะไร  โต ๆ กันแล้วไม่ใช่เด็ก”

พิพัฒน์ได้แต่อมยิ้ม และปาจรีย์ที่มองหน้าของพิพัฒน์ก็เริ่มยิ้มออกมาได้

“รู้ว่ากลับมาแล้วโดนด่าขนาดนี้  ไม่น่ากลับมาก็ดี”

“เดี๋ยวมึงจะโดนอีปา”

พิพัฒน์เหลือบสายตามองหน้าของบารมีและวางมือลงบนหน้าขาของคนที่กำลังโดนน้องสาวยั่วโมโห
และบารมีก็ถึงกับสะดุ้งและเอ็ดพิพัฒน์เสียงดัง

“ไอ้พัฒน์”

ถึงจะทำเสียงแบบนั้นใส่  แต่พิพัฒน์ก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน  และลูบหน้าขาของบารมีเล่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ปาจรีย์ได้แต่แปลกใจกับปฏิกิริยาของคนสองคนที่มีต่อกัน

บารมีที่โดนยั่วโมโห  อยู่ดี ๆ ก็สงบลงได้ง่าย ๆ  และพิพัฒน์ยังคงนิ่งเฉย  เหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับน้ำเสียงเข้ม ๆ ของบารมีเลยสักนิด  นั่นยิ่งทำให้ปาจรีย์ประหลาดใจ

บารมีตักข้าวใส่ปากเงียบ ๆ และยึดมือของพิพัฒน์ที่เริ่มจะเคลื่อนเข้าใกล้กับส่วนอื่นที่ไม่ใช่แค่หน้าขา
พยายามอยู่นิ่งให้มากที่สุด   กินข้าวไปเงียบ ๆ  และพูดคุยกันด้วยเรื่องทั่วไปบ้าง

พิพัฒน์ลุกขึ้นไปตักแกงและเพิ่มข้าวให้บารมี  ทุกอย่างเหมือนปฏิกิริยาอัตโนมัติ
ไม่มีคำพูด  แต่เหมือนว่าทั้งบารมีและพิพัฒน์จะสื่อถึงกันได้ง่ายๆ แม้ไม่ต้องใช้คำพูด

“ไม่น่าเชื่อนะ  ว่าพี่บัสกับพัฒน์จะสนิทกันขนาดนี้”

บารมีกับพิพัฒน์มองหน้ากันนิ่ง ๆ และหันกลับมามองหน้าของปาจรีย์พร้อมกัน

“ก็อยู่ด้วยกันตลอด ทั้งที่อู่ ที่บ้าน”

คำตอบที่ได้แม้จะช่วยอธิบายความสนิทสนมของคนสองคน  แต่ปาจรีย์ก็รู้สึกว่าไม่ใช่เพียงแค่นั้น 

คล้ายกับมีบางอย่าง
ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้
สายตาที่คนสองคนมองกัน  มันมีอะไรมากกว่านั้นและถ้าปาจรีย์ไม่คิดมากจนเกินไปก็พอจะรับรู้ได้

ระหว่างบารมีและพิพัฒน์มีความรู้สึกบางอย่างอยู่รอบ ๆ ตัวคนทั้งคู่ตลอดเวลา

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 13-04-2015 12:00:02
บารมีช่วยน้องสาวยกกระเป๋าเดินทางขึ้นไปเก็บบนห้อง

ห้องเดิมที่เคยอยู่  แต่ปาจรีย์รู้สึกเหมือนไม่มีใครอยู่ห้องนี้มาพักใหญ่

หันไปมองหน้าของพี่ชายเหมือนเป็นการตั้งคำถามแต่บารมีเมินมองไปทางอื่นและไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ดึกแล้ว  อาบน้ำให้สบายตัว แล้วก็นอนพักซะ  มีอะไรพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”

บารมีบอกน้องสาวและปาจรีย์ก็พยักหน้ารับ

“แล้ว.....พัฒน์”

กำลังจะเอ่ยถามบางอย่างแต่บารมีรีบตอบให้โดยที่ปาจรีย์ไม่ต้องถาม

“มึงจะมาห่วงอะไรมันตอนนี้  ไอ้พัฒน์มันไม่เรื่องมากหรอก มันนอนที่ไหนก็ได้หมดแหละ”

บารมีก้าวเท้าเดินออกจากห้องไปแล้ว และปาจรีย์ก็ได้แต่เก็บความสงสัยของตัวเองเอาไว้

ห้องที่เคยอยู่  แทบไม่มีร่องรอยอะไรหลงเหลือเหมือนเจ้าของห้องไม่ได้อยู่มานาน

แล้วถ้า.......พิพัฒน์ไม่ได้อยู่ห้องนี้จะไปอยู่ที่ไหน.....

ถ้าไม่ได้นอนที่ห้องนี้....แล้ว....ไปนอนที่ไหน

ปาจรีย์ได้แต่เก็บความสงสัยของตัวเองเอาไว้โดยไม่กล้าถาม

เพราะไม่กล้าคิดเลยไม่กล้าถาม  ทั้งที่ถ้าหากปาจรีย์กล้าถามตรง ๆ ทั้งบารมีและพิพัฒน์  ก็เตรียมคำตอบเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เข้าใจให้ตรงกัน P.18
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 13-04-2015 12:00:20
ดึกมากแล้ว

ปาจรีย์รู้สึกกระหายน้ำและก้าวขาเดินมาตามทางเดิน

ห้องของบารมียังคงปิดไฟเงียบ แต่ไฟที่ชั้นล่างของตัวบ้านยังสว่างอยู่
เสียงจากรายการโทรทัศน์ยังดังให้ได้ยินแว่ว ๆ ผสมกับเสียงพูดคุยของคนสองคน

ดึกขนาดนี้  แต่ทั้งบารมีและพิพัฒน์ยังไม่นอน และปาจรีย์ที่ก้าวขาเดินลงบันไดมาก็ต้องหยุดมอง

บารมีเอนกายนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาและใช้หน้าขาของพิพัฒน์หนุนแทนหมอน
บางทีนั่นอาจเป็นการแสดงความสนิทสนมกันอีกขั้น  แต่การที่พิพัฒน์หัวเราะกับสิ่งที่บารมีพูดและวางมือไปที่ข้างแก้มของบารมีและลูบไล้เล่นแต่โดนบารมีปัดออกครั้งแล้วครั้งเล่า   และสุดท้ายพิพัฒน์ก็ก้มหน้าลงไปแตะริมฝีปากกับหน้าผากของบารมีและผละออก  มองยังไงก็ไม่ต่างจากการหยอกล้อกันแบบคนรัก

สิ่งที่ได้เห็น ทำให้ปาจรีย์ต้องก้าวเท้ากลับขึ้นไปบนบันได

 หัวใจเต้นระทึกเพราะสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น

คำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว  และปาจรีย์ทำได้แค่ยกมือขึ้นปิดปากของตัวเองเอาไว้

.......................ทำไมเป็นแบบนี้....พี่บัส....กับ....พัฒน์...........ตั้งแต่เมื่อไหร่.................

แม้จะตกใจแค่ไหน  แต่ภาพที่เห็นก็ชัดเจนมากพอจะอธิบายได้ทุกอย่าง

เพิ่งจะสำนึกได้แบบจริง ๆ จัง ๆ ก็ตอนนี้  ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว   ไม่มีที่ของปาจรีย์หลงเหลืออยู่อีกแล้ว

แม้ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ   
สิ่งที่บารมีและพิพัฒน์ปฏิบัติต่อกัน  ไม่ใช่เรื่องที่คนที่สนิทสนมกันแบบธรรมดาทำกัน

เว้นแต่ว่าในเวลานี้  ทั้งบารมีและพิพัฒน์มีความสัมพันธ์กันมากกว่าการเป็นแค่คนที่อาศัยอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน

ปาจรีย์ก้าวขาเดินกลับเข้าห้องด้วยท่าทีเหม่อลอย

ทิ้งกายลงนั่งบนเตียง  และพยายามตั้งสติกับภาพที่เห็น

ควรทำยังไง  เห็นแบบนี้แล้วควรต้องทำยังไง  จะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หรือจะถามให้ชัดเจน

ปาจรีย์เอาแต่ครุ่นคิดด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น  จนไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ตลอดทั้งคืน


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 13-04-2015 12:12:19
ลาก่อน ปาจรีย์ 5555555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 13-04-2015 12:28:01
เสียใจด้วยนะปา #สมน้ำหน้า
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: bradpitt ที่ 13-04-2015 12:29:56

สายตาที่คนสองคนมองกัน  มันมีอะไรมากกว่านั้น

แม้แต่ ตอนกินข้าว นายพัฒน์ ยังแอบมี แต๊ะอั๋ง ลูบไล้ พี่บัส อีกนะ


ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ  หนักมาก  :o8: :o8:



..รอ อ่านฉากหวานๆๆๆ

 แต่ ก้อแอบสงสาร ปาจรีย์ ...แม้ว่า  ผู้หญิง เธอจะเป็นฝ่ายทิ้งก้อเนอะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-04-2015 12:45:18
ชอบความชัดเจนของคู่นี้จริงๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 13-04-2015 13:10:06
ไม่มีที่ของเธอแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 13-04-2015 13:24:01
เสียใจด้วยนะปา แต่สิ่งที่เห็นมันชัดเจนแล้ว
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 13-04-2015 13:28:29
ปาจะทำอะไรก็แล้วแต่เถ้อออ… ขอแค่อย่าทำลายความสัมพันธ์ของพี่บัสกับพัตน์เป็นพอ โอเคนะคะ (ขยิบตา)
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 13-04-2015 13:54:20
ทำให้ชัดเจนไงปา แล้วมาฟินเป็นเพื่อนกัน 5555
ขำพี่บัสด่าน้อง ปล่อยคนดีๆให้ไปเจอคนดี หมายถึงตัวเองนี่หว่า แต่อะดีก็ดี ดูแลพัฒน์ดีอย่างนี้ยกให้พี่ชายไปเถอะปาอย่าหวังคุถ่านอีกเลย มันไม่ขึ้นน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 13-04-2015 13:57:20
ก็ตรงตัวนะคำตอบที่ไม่ต้องถาม
การกระทำสำคัญกว่าคำพูด
และดูจากการกระทำแล้วนั้นคือคำตอบ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 13-04-2015 14:11:28
พัฒน์กับพี่บัสแน่นอนจริงๆ ไม่คิดปิดบังกล้าถามก็กล้าตอบ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 13-04-2015 14:18:53
ปาถามเลยคร่า จะได้ไม่ค้างคา 55 พี่บัสจะได้สบายใจด้วย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 13-04-2015 14:30:33
ปาขา หนูทำอะไรไม่ได้หรอกลูกกก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 13-04-2015 14:39:08
กลับมาทำไมเล่าตัวเธอ กลับไปหาสามีฝรั่งซะเถิดน้องปา555555

ชอบพัฒน์จริง ต่อหน้าปาก็ยังจะเล่นหน้าขาพี่บัส  :o8:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 13-04-2015 14:41:32
ทำใจเถอะปา ตอนแรกก็เป็นคนที่เลือกเอง ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เลือกนะ
สองคนดูเป็นธรรมชาติดี น่ารัก

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-04-2015 15:01:52
เธอไม่มีที่ยืนในเรื่องนี้มานานแล้วจ๊ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 13-04-2015 15:12:28
ทำไมรู้สึกว่าน่ารักกกก
ต้องชัดๆแบบนี้แหละ กรี๊ดดดด
ทำใจสะนะน้องปาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 13-04-2015 17:02:09
ถ้าไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป เจ้แนะนำให้มั้ยปา
มาเป็นสาววายแบบเจ้สิ
ฟินนนนน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: windel ที่ 13-04-2015 17:54:48
ปา ปล่อยพัฒน์ให้ไปเจอคนที่ดีกว่าเถอะ

พี่บัสบอก  :katai5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 13-04-2015 18:06:52
พัฒน์กับพี่บัส  พูดคุยล้อเล่นกันมุ้งมิ้งอ่ะ   :hao3:    :hao3:

การกระทำของทั้งสองคนชัดเจนโดยไม่ต้องถามอ่ะ  ปาเข้าใจแล้วนะ 
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 13-04-2015 18:07:47
สงสารปานิดนึง แต่ในเมื่อปาเลือกจะไป ก็ต้องทำใจรับให้ได้
มองดูดีๆก็จะเห็นความสุขของพัฒน์ ในแบบที่ไม่ต้องฝืน
ปากลับไปเถอะนะ อยู่ไปก็แซรดเปล่าๆ 555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 13-04-2015 18:25:31
โธ่ธธ หนูปาเห็นขนาดนี้ยังอยากจะถามอีกเหรอจ้ะ  :z2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 13-04-2015 19:25:43
ยินดีกับพี่ชายที่มีคนคอยดูแลไงปา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: SomLove ที่ 13-04-2015 19:40:15
ชอบมากเลย ตามอ่านวันเดียวจบ
ยังคงชื่นชอบสำนวนการเขียนของคุณ aoikyosuke เสมอ
ขอบคุณสำหรับคนโพสครับ :)
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 13-04-2015 20:06:07
โปรดไปตามทางของเธอเถิด น้องปา
มาทางไหนกลับไปทางนั้น
พัฒน์น่ะ พี่ับัส (ค่อด) หวง 555
บวกและเป็ดขอบคุณ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 13-04-2015 20:21:28
มันสายไปแล้วตัวเธอวววววว
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 13-04-2015 20:30:49
ก้อไม่รู้สินะ ปาาาา
แม้จะแอบสงสาร แต่ว่ามันก้อเหมือนกรรมตามทันเบาๆ
เพราะงั้น ก้อทำใจยอมรับซะดีๆนะคะ ^^*
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 13-04-2015 20:44:00
เจอช็อตเด็ดเข้าไปถึงกับอึ้ง  แอบสมน้ำหน้านิดๆ ^^
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: chiji ที่ 13-04-2015 22:23:23
ทำใจซะเถอะปาจ๋า พัฒน์เค้ารักพี่บัสจ้ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 13-04-2015 22:45:17
คุณค่าที่คุณคู่ควร หึหึ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 13-04-2015 23:18:28
นี้ไม่ใช้ที่ของเธอแล้วน่ะปา เป็นที่ของพัฒน์กับพี่บัส
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 14-04-2015 03:25:35
เหลือ จ้ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 14-04-2015 07:56:55
 o18 ไม่น่าเชื่ออออ เฮียบัสอาการท่าทางแบบนั้นธรรมชาติเกินไปป่าวว....ทำไมให้ความรู้สึกว่ากลัวเมียหรือแค่เกรงใจเมียดีล่ะนั่นอยู่ในโอวาทดีแท้ๆ
และอะไรของเธอเนียะยัยปาอย่ากลับมาสร้างความร้าวฉานนะยะ :katai1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: haruko ที่ 14-04-2015 16:43:17
สมน้ำหน้าปา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 14-04-2015 19:37:27
ไม่มีปาจารีย์  เรื่องก็ไม่มันสิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 14-04-2015 21:48:13
 :heaven ยืนฟินสงบนิ่ง ฟินเวอร์ฉากโซฟาดูมีอ่อร่าฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งแผ่กระจาย  :-[ :o8: :o8: :impress2:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 14-04-2015 23:39:58
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์

“ที่เลิกกัน   เพราะปารักพัฒน์ได้ไม่เท่าที่พัฒน์รักปา”

ปาจรีย์พูดบางอย่างให้บารมีฟัง   และบารมีก็หันมามองหน้าน้องสาวด้วยความประหลาดใจ

“มึงมาบอกกูทำไม”

เอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงให้เห็นว่าไม่พอใจ และปาจรีย์ก็มองหน้าของพี่ชายแบบจริง ๆ จัง ๆ

“เพราะพัฒน์มันรักปามาก   ไม่แปลกที่พัฒน์มันจะเสียใจที่ปาเลิกกับมัน  แล้วประชดปาด้วยวิธีโง่ ๆ”

หมายความว่ายังไง

“มึงจะพูดอะไรมึงพูดตรง ๆ  อย่าอ้อมโลก”

บารมีเริ่มไม่พอใจสิ่งที่น้องสาวพยายามจะพูด  และปาจรีย์ก็จ้องหน้าของบารมีนิ่ง ๆ

“พี่บัสทำอะไรไว้ก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ   แค่ปาเลิกกับพัฒน์ไปชีวิตมันก็แย่พออยู่แล้ว พี่ยังจะทำให้ชีวิตไอ้พัฒน์มันแย่ลงไปอีกเพื่ออะไร”

“กูไปทำให้ชีวิตมันแย่ตรงไหน”

กลายเป็นบารมีที่โมโห  และปาจรีย์ก็ยิ่งไม่พอใจสิ่งที่พี่ชายทำ

“พี่เห็นมันไม่สู้คน  เห็นมันยอม  พี่ก็เลยบังคับทำอะไรไม่ดีกับพัฒน์มันใช่มั้ย”

บารมีถึงกับนิ่งงันกับสิ่งที่น้องสาวพูด

..............บังคับเอาแต่ใจ  จนได้มาเป็นของตัวเอง..................
เรื่องนั้นถ้าจะบอกว่าไม่ใช่  แต่ก็รู้อยู่แก่ใจอย่างที่ปาจรีย์พูด

“พี่บัส   วิธีมัดมือชกให้ไปไหนไม่รอด  ปาเคยทำมาแล้ว  สุดท้ายพอปารู้ว่าปาไม่ได้รักพัฒน์ในขณะที่พัฒน์มันรักปาไปแล้ว   คนที่เสียใจและเจ็บที่สุดคือพัฒน์นะ  ไม่ใช่ปา”

พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง และเอ่ยบอกกับพี่ชายด้วยความรู้สึกจริง ๆ

“เรากำลังเห็นแก่ตัวกับคนดี ๆ คนหนึ่งอยู่หรือเปล่า   พี่ถามตัวเองหรือยังว่ารักไอ้พัฒน์จริง ๆ   หรือเพราะว่าเหงา  หรือเพราะว่าเห็นมันไม่มีปากมีเสียง ถึงได้ทำอะไรตามใจตัวเองโดยที่ไม่เคยถามว่าลึก ๆ แล้ว พัฒน์มันรู้สึกยังไงกับสิ่งที่พี่ทำ  ปาไม่ได้ตั้งแง่กับเรื่องแบบนี้นะ  ปาบอกตรง ๆ ว่ารับได้ เมืองนอกก็มีเยอะแยะ  แต่ปาไม่อยากให้พี่ทำให้พัฒน์เสียใจ”

คำถามง่าย  ๆ ของปาจรีย์ทำให้บารมีต้องหยุดคิดตามไปชั่วขณะ

“ถ้าแค่สนุก ๆ เห็นมันเป็นของเล่น  ปาขอไว้คนนะพี่ สงสารมันเถอะ ถือว่าเห็นแก่ปา”

สิ่งที่บารมีไม่คิดมาก่อน  คือน้องสาวทั้งรักและปรารถนาดีกับพิพัฒน์อย่างถึงที่สุด
แม้จะเลิกกันไปแล้ว  แต่ปาจรีย์ไม่เคยเลิกเป็นห่วงพิพัฒน์  แม้จะมีคนใหม่ แม้จะเห็นแก่ตัว  แต่ปาจรีย์ไม่เคยลืมพิพัฒน์

“ตั้งแต่อยู่กันมา  มึงเคยรักไอ้พัฒน์มันบ้างมั้ยปา”

เคยรักหรือเปล่า  ปาจรีย์ไม่กล้าพูด

“พี่ก็น่าจะรู้   ปารักพัฒน์  ได้ไม่เท่าที่พัฒน์รักปา”

ปาจรีย์ส่งยิ้มบาง ๆ ให้พี่ชาย  และจ้องมองไปที่ดวงตาของพี่ชายอย่างจริงจัง
และบารมีก็จ้องกลับและพูดบางอย่างให้ปาจรีย์เข้าใจแบบชัดเจน

“แต่ตอนนี้กูกับพัฒน์รักกัน”

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม P.19
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 14-04-2015 23:40:15
“พัฒน์ดูหล่อขึ้นหรือเปล่า  เมื่อก่อนปาก็ว่าพัฒน์น่ารักนะ  แต่ตอนนี้ปาว่า พัฒน์ดูน่ารักกว่าตอนแรก ๆ ที่ปาไปจีบพัฒน์อีก  เลิกกับปาแล้วมีความสุขมากหรือไง”

ไม่รู้ว่าสิ่งที่ปาจรีย์พูด  ต้องการประชด  หยอกล้อ  หรือยั่วโมโหใครกันแน่

แต่คนที่ได้ผลกระทบไปเต็ม ๆ คือบารมีที่กำลังรู้สึกไม่ชอบใจสิ่งที่น้องสาวทำ

“ไม่หรอก  พัฒน์ก็เหมือนเดิม”

พิพัฒน์ไม่รู้จะตอบคำถามปาจรีย์ยังไง  เลยใช้วิธีตอบแบบกลาง ๆ และปาจรีย์ก็ท้าวคางขึ้นบนโต๊ะ  และมองหน้าพิพัฒน์ด้วยรอยยิ้ม

“ไม่นะ  ปาว่าพัฒน์ดู.........โตขึ้นแล้วก็....ดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากจริง ๆ นะ”

“เป็นอะไรของมึง จ้องหน้าไอ้พัฒน์อยู่ได้  หน้ามันก็เหมือนเดิม  กูเห็นอยู่ทุกวันไม่เห็นมันจะเปลี่ยนไปตรงไหน"

ยังไม่ทันที่ปาจรีย์จะพูดอะไรมากกว่านี้  บารมีก็พูดบางอย่างขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดโมโห
และปาจรีย์ก็เลิกคิ้วขึ้นสูง   และทำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่บารมีพูด

“ตอนนี้พัฒน์มอง  ๆ ใครไว้บ้างหรือยัง  เหงาหรือเปล่า  อะไรที่ปาพอจะช่วยได้ก็บอกนะ ปาเต็มใจช่วยทุกอย่าง”

แล้วคนที่ทนไม่ไหวก็กลายเป็นบารมีที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้  และแสดงท่าทีไม่พอใจกับสิ่งที่ปาจรีย์ทำ

“ตอนไปไม่เสือกคิด  ตอนนี้มึงจะมาคิดอะไร  พัฒน์มึงบอกมันซิ  ว่าตอนนี้มึงกับกูเป็นอะไรกันอย่าให้กูต้องพูดเอง”

ปาจรีย์เลิกคิ้วขึ้นสูง  และทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจสิ่งที่บารมีพูด

“จะเป็นอะไรก็ช่างสิ  ไม่เห็นอยากรู้เลย  จะเป็นอะไรกันมันก็เรื่องของพี่บัสไม่เกี่ยวกับปาจะบอกปาทำไม”

ปาจรีย์ยักไหล่และลอยหน้าลอยตาพูดโดยไม่สนใจท่าทางฮึดฮัดของพี่ชาย  และเดินออกไปจากโต๊ะอาหารโดยมีบารมีตะโกนไล่หลังตามไม่หยุด

“กูได้กันแล้ว  ชัดพอมั้ย”

พิพัฒน์ดึงแขนของบารมีเอาไว้  และรู้สึกว่าหน้ากำลังร้อนเพราะสิ่งที่บารมีตะโกนบอกปาจรีย์

“ปารู้แล้วพี่บัส....พัฒน์บอกปาแล้ว”

พิพัฒน์บอกออกมาเสียงเบา และเมินมองไปทางอื่นเพราะรู้สึกว่าใบหน้ากำลังร้อนผ่าว
และบารมีก็หันมามองคนที่ดึงแขนเสื้อเอาไว้

“นี่ขนาดรู้แล้ว  มันยังทำอย่างนี้อีกเหรอ  กูไม่ชอบให้อีปามาหยอกมึง  พูด ๆ ซะจะได้จบ ๆ หรือมึงไม่อยากให้มันรู้  เพราะว่ามึงยังมีใจอยู่”

ปาจรีย์ลอบยิ้มอย่างสบายใจที่ยั่วโมโหพี่ชายได้  เดินไปคว้ากระเป๋าสะพายที่วางไว้บนโซฟาและหยิบแว่นกันแดดมาสวมเตรียมเดินออกจากบ้าน

“แล้วนั่นมึงจะไปไหน”

บารมีถามน้องสาวที่ดูท่าทางมีความสุข  ไม่เหมือนคนที่เพิ่งจะมีปัญหาชีวิตจนหนีกลับมาอยู่บ้าน

“จะอยู่ทำไม   ผัวปาก็มี  ตอนนี้ดีกันแล้ว  เลยได้โอกาสพักร้อนไปในตัวด้วย  นี่นัดกันตั้งแต่เมื่อวานว่าเครื่องจะมาถึงบ่ายนี้   ปาก็ต้องไปรับผัวปาสิ   จะอยู่ทำไม  เสียเวลา”

ก่อนไปยังหันมาพูดจายั่วโมโหบารมีอีกเล็กน้อยเพื่อเป็นการแก้แค้นที่ทำให้นอนไม่หลับอยู่หลายคืน

“พี่บัสก็ได้แต่เอ็ด ได้แต่ทำเสียงดังใส่คนอื่นตลอดนั่นแหละ  ระวังให้ดีเถอะ  ถ้าทำให้ไอ้พัฒน์มันเสียใจปาจะหาผัวใหม่ที่ทั้งใหญ่ทั้งรวยให้ไอ้พัฒน์มัน  คอยดูก็แล้วกัน”


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 14-04-2015 23:58:22
ที่ปาบอกว่า จะหาผัวใหม่ให้พัฒน์ที่ทั้งใหญ่ทั้งรวย ฮามาก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 15-04-2015 00:02:00
 o13 น้องปาเยี่ยมมาก

แบบนี้พี่บัสไม่กล้าหืออือไปอีกนาน  :hao7:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ErosAmor ที่ 15-04-2015 00:07:09
มาต่อแบบรัวๆอย่างรวดเร็ว โถ่ใครจะสู้พี่บัสได้ ><
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 15-04-2015 00:12:57
  :L2:เล้านี้ ต้องการผู้หญิงแบบเธอ ปาจรีย์
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 15-04-2015 00:18:21
ทั้งรวยทั้งใหญ่!! 5555555+
 :hao7:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 15-04-2015 00:22:25
 :yeb: นางแซ่บวุ้ย ว่าแต่ ใหญ่แค่ไหนพัฒน์จะสนเร้อออ คาดว่าเอียบัสเองก็คงพอตัวล่ะม๊าง  :laugh5: :laugh5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: tepintpilai ที่ 15-04-2015 00:31:58
แกยังจะกล้าหือกล้าขึ้นเสียงใส่พัฒน์อีกไหม? อิตาพี่บัส 5555 #supportpajaree
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-04-2015 00:47:49
บัสสู้ๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: แค่ความทรงจำ ที่ 15-04-2015 00:57:33
ปาเธอนี่สุดยอดดด   o13
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 15-04-2015 01:15:44
แค่เปลี่ยนจากสถานะ แฟนเก่า มาเป็นพี่สะใภ้ ใช่ไหม :z1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 15-04-2015 01:18:51
โถๆปลากะดี่ เอ้ย  ปาจรีย์ นางเริสมาก เริสสุดๆ ที่สุดในสามโลกแปดโลก ทุกคนยืนขึ้น ปรบมือ รัวๆ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 15-04-2015 01:27:59
 :laugh:


สาแก่ใจกูจริง อีช้อยเอ้ยยย


555+
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 15-04-2015 01:58:27
ปาหล่อนรู้ได้ไงว่าของพี่บัสไม่ใหญ่?

แต่ก็รักหล่อนนะยะ  หล่อนเริ่ดมากค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 15-04-2015 06:49:27
พัตน์เขินน..จนตัวแดงแล้วค่ะพี่บัส ^^
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 15-04-2015 06:54:10
ทั้งใหญ่ทั้งรวย 5555555  แทบสำลัก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 15-04-2015 07:03:40
ปามันวอนโดนพี่บัสด่าจริง ๆ 5555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: tong_pub ที่ 15-04-2015 07:18:32
แจ่ม!!!

 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-04-2015 07:55:28
ฮ่าๆ ปาแรงอ่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: windel ที่ 15-04-2015 08:17:01
ปา เธอเริ่ดอ่ะ เริ่ดมาก ชอบบบบบบ
กดบวกให้นาง  :L2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 15-04-2015 09:02:37
ประโยคสุดท้ายของเธอ ได้ใจมาก ปา  o13
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 15-04-2015 09:19:25
5555555 พี่บัสนี่เต้นผ่างเรย!!!
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 15-04-2015 09:28:51
ตายละพี่บัสพัฒน์มันมีแบคแน่น
มากเลยนะเนี่ยระวังตัวไว้ดีๆละกัน
อย่าเผลอนะระวังมีคนมาเสียบแทน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 15-04-2015 09:33:40
ปานี่แสบมากอ่ะ แต่ก็เป็นคนที่หวังดีกับพัฒคนหนึ่งเลย
ขำตอนพี่บัสบอกว่าไดิกันแล้ว โอ๊ย 5555 ตรงเผงยิ่งกว่าไม้บรรทัด พ่อคนขี้หึง น่ารักดีนะ
แต่ถามว่าพัฒน์อายไหม ก็คงอายมาก  :mew3:

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 15-04-2015 09:53:23
ยิ่งอ่านยิ่งคิดว่าผู้หญิงคนนี้ทำไมนิสัยไม่ดีได้ขนาดนี้นะ ไม่ดีตั้งแต่ต้นเรื่องจนตอนนี้ ไม่ได้คิดว่าทำผิดใช่ไหม ตอนที่แล้วเหมือนจะสำนึก แต่ตอนนี้มาทำนิสัยเสีย ถ้าอยากแกล้งควรทำแบบนี้เหรอ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 15-04-2015 10:19:23
ปานี่โกรธแทนพี่บัสนะ จะบอกว่าพี่บัสทั้งไม่รวย ไม่ใหญ่ ใช่ป่ะ :laugh:

พี่บัสบอกว่า ถึงไม่เท่าผัวปา แต่ลีลาพี่ก็ไม่ด้อยนะจ้ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 15-04-2015 10:31:04
เส้นเลือดเต้นตุบๆ เลยไหมพี่บัส
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 15-04-2015 10:58:52
สนุกจัง. ว่างๆ. มาต่อคู่ช่างวินัยกับเต๋อด้วยนะคะ. อ่านมาทุกเรื่อง.ก็ชอบทุกเรื่อง. ไม่เคยผิดหวัง. นักเขียนในดวงใจยกให้เลยค่ะ ขอบคุณมากสำหรับผลงานดีๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 15-04-2015 11:37:52
แสบจริงๆน้องสาวพี่บัส
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 16-04-2015 01:45:25
นั่นไง ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ เธอนี้ร้ายกาจจริงๆ รู้อ่ะว่าเฮียบัสยั่วขึ้นง่าย จัดไปพอสำราญใจ 5555555555....ชอบเฮียบัส พี่แกแถตรงได้ใจจริงๆ 5555 พัฒน์ก็น่าร๊ากกกก ชอบพัฒน์มาก...อัพใหม่ 4 ตอนจากตอน 'กิน' แบบว่าพอใจมากค่ะ รอล้วรอ แต่ว่าพออัพ ก็ไม่รีบอ่านนะ เพราะกลัวจบเร็ว 5555555...ตอนเฮียบัสงอน+เข้าใจให้ตรงกัน สองตอนนี้ บับ >.,< เลือดพุ่งพรวดๆ โว๊ยยยยยร้อนแรงเร่าร้อนถึงใจรีดเดอร์จริงๆ วนอ่านซ้ำๆ #หื่น 55555555.... ตอนคำตอบที่ไม่ต้องถาม ปารจรีย์ระแคะระคายถึงความสัมพันธ์ ตอนที่นั่งอยู่ด้วยกัน แล้วรู้สึกว่าตัวเองเหมือนไม่ได้อยู่ที่นั่น สองคนนั้นเขาสร้างโลกส่วนตัวไง 555 ....เออรู้สึกเหมือนกันเลย รู้สึกว่าตอนนี้ไม่มีปาอยู่เลย  เห็นแต่สองคนนั้นเขาฟรุ้งฟริ้งกัน 55555555555555..ตอนสุดท้ายที่อัพ ผู้หญิงอย่างปา เออเธอร้าย กูว่าแล้วววว 555555555555555...โอ๊ยยยสนุกกอ่ะ ชอบมากค่ะ ติดงอมแงม ตั้งหน้ารอตอนต่อไปนะค่ะ ไฟท์โต้คร้า ^^_________^^
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 16-04-2015 01:57:09
ทั้งใหญ่ ทั้งรวย :hao6: :hao6: :laugh:  :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 16-04-2015 09:39:58
 :laugh:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 16-04-2015 10:24:07
ฮ่าๆๆๆๆๆ
ปาช่างกล้า
จะหาให้ใหม่ ทั้งใหญ่ ทั้งรวยด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 16-04-2015 15:09:50
ตอนแรกหวั่นปามากบอกตามตรง
แต่มาตอนนี้ นางช่างถูกที่ถูกทาง

คือ กำลังฟินกับบัสพัฒ
แต่อยู่ๆเราก็คิดถึงน้องเต๋อขึ้นมา งึดดดดด
เต๋ออออออ ป้าคิดถึงงงงง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 16-04-2015 21:03:01
ชอบเรื่องนี้มากเลย
แต่อ่านแค่คู่เดียว คือ พัฒ กะ บัส

ชอบนิสัยพัฒนะ นิ่งๆ เงียบๆ แต่เวลาอย่างว่า ราชินีแท้ๆ คุมซะบัสไปไหนไม่รอด  ส่วนน้องปา ก็น่ารักนะ ตอนแรกนึกว่าจะอยากได้คืน ไปๆ มาๆ แค่แหย่บัส ให้มั่นใจว่าจะไม่ทิ้งพัฒ แอร๊รรร ฟินเวอร์

รอๆ ตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 16-04-2015 21:31:40
ไม่ต้องพูดคุย คู่นี้เน้นการกระทำ
ว่าแต่น้องปาหมั่นไส้พี่ชายเหรอ
แกล้งพี่บัสให้อารมณ์เสียตลอดๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 16-04-2015 21:35:23
 :haun5: :haun5: :haun5: :haun5: :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 16-04-2015 21:49:14
ใหญ่และรวย  อิอิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 16-04-2015 22:40:20
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด ปาจารีย์ นางแซ่บมากอ่ะ บอกเลยยยยยยยย 5555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ P.20
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 17-04-2015 20:01:10
รวยน่ะไม่เท่าไหร่
แต่ใหญ่นี่ซิ เหม่ๆๆๆๆ
กระทืบบวกและเป็ดให้ไม่ทัน 555
 :hao7:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 18-04-2015 07:52:52
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น

“เอาดีไม่ได้หรอก อย่างอีปาเนี่ย มีผัวตั้งแต่เด็ก เรียนก็ไม่จบ มีแต่เป็นภาระให้พี่ให้น้องเปล่า ๆ  แล้วดูตอนนี้ทำได้แค่งานโรงงานธรรมดา  จะมีหน้ามีตาอย่างคนอื่นเขาได้ยังไงไม่มีทาง”

เสียงพูดคุยของคนในออฟฟิศ ทำให้ปาจรีย์ต้องหยุดฟัง 

“ป้าเห็นมาทีไรก็มีแต่เรื่องมาให้บัสทุกที  รอบนี้ก็ให้ไปเซ็นค้ำประกันเข้าทำงานให้ใช่มั้ย  แบบนี้จะไปได้เรื่องอะไร เดี๋ยวก็มาก่อเรื่องอีกจนได้เชื่อป้าสิ”

บารมีไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่นั่งฟังสิ่งที่ป้ากัญญาพูดนิ่ง ๆ
ยังไงก็น้อง แม่สั่งไว้ก่อนตายให้รักน้อง ช่วยเหลือน้อง ดูแลน้อง จะดีจะร้ายก็น้อง
และป้ากัญญาที่ไม่เคยเห็นด้วยกับอะไรเลย ตั้งแต่สมัยที่แม่ยังอยู่กับพ่อก็พูดเรื่องบางอย่างให้บารมีหนักใจ

“ช่างเถอะป้า  ปามันน้องผม  มีอะไรถ้าผมไม่ช่วยแล้วใครจะช่วย”

บารมียังไม่ทันได้พูดอะไรมากไปกว่านี้เพราะปาจรีย์ผลักประตูเข้ามาแล้ว

“ไม่ต้องช่วยปาหรอกพี่บัส  ปามันเหี้ย  ขอโทษที่ทำให้พี่หนักใจ”

ปาจรีย์หยิบกระเป๋าสะพายที่วางไว้บนเก้าอี้และปรายตามองหน้าของหญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามบารมี  แต่ไม่เคยมีความผูกพันอะไรร่วมกัน

“ไม่ไหว้นะคะ  เพราะไม่ใช่ญาติ”

ปาจรีย์แค่เพียงใช้หางตามอง และเดินออกไปจากออฟฟิศโดยไม่รู้สึกอะไรกับคนที่เป็นป้าของบารมีเลยสักนิด

และบารมีก็ได้แต่มองตามน้องสาว พร้อมกับถอนหายใจ

“ดูมันทำ  มันไม่เห็นหัวป้าเลย อีคนแบบนี้ไง ไม่มีวันเจริญหรอก บัสอย่าไปช่วยมันเด็ดขาดเลยนะ”

บารมีไม่รู้จะจัดการปัญหาเดิม ๆ ซ้ำ ๆ แบบนี้ยังไง
ป้าไม่เคยเห็นด้วยกับอะไรทั้งสิ้น  แต่ที่ยังต้องเกรงใจกันเพราะยังไงก็เป็นป้า  แม้จะท้อใจกับป้าของตัวเองแค่ไหน  ก็ได้แต่ถอนใจไม่อยากพูดอะไรให้มากความ  ที่จะทำให้ผู้ใหญ่เสียใจ

“เดี๋ยวผมไปดูมันก่อน”

ไม่ฟังที่ป้าพูดเลยสักนิด  แต่ลุกขึ้นและเดินไปหาน้องสาวที่เดินหนีไปแล้ว

“ปา อีปา มาคุยกันก่อน”

เรียกน้องสาวเอาไว้ และปาจรีย์ก็หันกลับไปมองหน้าพี่ชาย ที่เดินมาตาม

ปาจรีย์มีสีหน้าบูดบึ้ง  แสดงอาการให้เห็นว่าไม่พอใจ  แต่ที่มากกว่านั้นคือการที่ยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตา

“ปาต้องรีบไปแล้ว  เดี๋ยวรถสองแถวข้างหน้าจะหมด”

รีบตัดบท  และก้มหน้าก้มตาหลบสายตาของพี่ชายที่มองมา

“เดี๋ยวกูไปเซ็นค้ำให้  วันไหนล่ะ ต้องเอาหลักฐานอะไรบ้าง”

บารมีเอ่ยบอกน้องสาวทั้งที่เหนื่อยใจกับเรื่องราวหลายๆ  อย่างรอบตัวเต็มทน

“ไม่เป็นไรพี่  หางานที่อื่นก็ได้”

“มึงอย่ามาเรื่องมากกับกูได้มั้ย   มึงคงไม่ไปขโมยของโรงงานเขาหรอกมั้ง เต็มที่ก็คงไปตบกับคนในโรงงาน กูคงไม่ต้องไปจ่ายเงินทองอะไรมากไปกว่าค่าทำขวัญ  อย่าไปทำใครถึงตายแล้วกัน  มันบาป”

บารมีเป็นคนแบบนี้
พูดจาไม่ไว้หน้าใคร  และปาจรีย์ที่กำลังร้องไห้เพราะเสียใจกับคำพูดของคนอื่น ก็ถึงกับหลุดเสียงหัวเราะออกมา

“ปาไม่ทำถึงตายหรอกพี่บัส  พี่ก็พูดเกินไป ถ้าเป็นผู้หญิงปาแค่เอาน้ำกรดสาด  แต่ถ้าเป็นผู้ชายปาจะเอาทำผัวซะก็สิ้นเรื่อง”

เพราะคำพูดแบบนั้น ปาจรีย์ก็เลยโดนพี่ชายผลักหัวด้วยความหมั่นไส้ และบารมีก็ถึงกับส่ายหน้ากับสิ่งที่น้องสาวพูด

“มึงก็เป็นแต่แบบนี้  ทำตัวให้ดี ๆ ให้กูสบายใจบ้างเถอะ”

“ก็จบ ม.6 แล้วนี่ไง มันก็ต้องค่อย ๆ ก้าวสิพี่ ถึงจะไม่เหมือนชาวบ้านเขา  แต่ปาก็ตั้งใจนะพี่”

ปาจรีย์เริ่มยิ้มออกมาได้และบารมีก็ปรายตามองน้องสาวและเบะหน้าเพราะการคุยโม้โอ้อวดของปาจรีย์

“เอาไว้จบปริญญาแล้วมึงค่อยมาคุย”

คำพูดง่าย ๆ แฝงไว้ด้วยความประชดประชันของพี่ชายยิ่งทำให้ปาจรีย์สามารถยิ้มออกมาได้

“ถึงปาจะเหี้ยจะเลวขนาดไหนนะ  ปาก็ไม่ยอมให้ใครมาดูถูกหรอก แล้วสักวันปาจะต้องได้ดี จะเอาเงินมาตบปากคนที่คอยดูถูก คอยปากหมาใส่ คอยดูเถอะ”

คำพูดแบบนั้นบารมีได้ยินไม่รู้กี่ครั้งและไม่ว่าเมื่อไหร่ น้องสาวก็ยังคิดแบบนั้น

“หาได้แล้วไปหลอกเอาเงินเขา ก็อย่าทำเลย  เวรกรรมเปล่า ๆ”

ได้แต่เตือน และปาจรีย์ก็รับฟัง

“เงินหาเมื่อไหร่ก็หาได้  แต่คนดี ๆ ไม่ใช่หาได้ง่าย ๆ”

ฟังสิ่งที่พี่ชายเตือนและปาจรีย์ก็ยกมือไหว้พี่ชายที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ยังช่วยเหลือเสมอ ไม่เคยทอดทิ้ง

“พี่บัส.......”

แค่เพียงเรียกชื่อ  และน้ำตาก็คลอรินที่หน่วยตาของปาจรีย์ก่อนจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว

“ขอบคุณนะพี่  ขอบคุณที่พี่ไม่เคยทิ้งปา”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


“ชื่อน้องลูกหนู อยู่บัญชี  ไม่ใช่เด็กฝึกงานนะเจ๊ปา อย่าไปแซวนะ น่าสงสาร  โดนแซวอายกลับไปตลอดเวลามาถ่ายเอกสารที่แผนกเรา”

ปาจรีย์เข้ามาทำงานได้พักใหญ่แล้ว   งานที่ทำไม่ได้ลำบากอะไร  พอจะอยู่ได้อย่างสบาย ๆ ไม่เดือดร้อน

มีคนแวะเวียนเข้ามาหาบ้าง  แต่ปาจรีย์ไม่คิดจะมองหรือสนใจ
...............ถ้าจะมีก็ขอที่รวย........ถ้าไม่รวยก็ขอให้เป็นคนดี..........

วิธีการคิดง่าย ๆ ที่ไม่ซับซ้อน  แม้ใครจะมองยังไง  แต่ปาจรีย์ไม่คิดจะสนใจ
ชีวิตของใครก็ของคนนั้น  ความรักมันกินไม่ได้  ผ่านมาหมดแล้วทุกอย่าง เรียนรู้มาหมดแล้ว 

และในเวลาไม่นาน  คนดี ที่ปาจรีย์ไม่คิดว่าจะมีจริง ๆ ก็เข้ามาถ่ายเอกสารในแผนกบ่อย ๆ จนปาจรีย์นึกสนใจ

“น้อง ๆ มาถ่ายเอกสารทุกวัน ไม่กลัวโดนจีบเหรอ”

ปาจรีย์หมุนเก้าอี้ไปมา และหันไปมองผู้ชายตัวขาว ๆ ท่าทางขี้อายที่มาถึงก็ก้มหน้าก้มตาถ่ายเอกสารโดยไม่ค่อยจะเงยมองหน้ามองใคร

และพิพัฒน์ก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก  ทำหน้าเลิ่กลั่ก และมองไปที่ปาจรีย์ก่อนจะรีบกลับมาก้มหน้าถ่ายเอกสาร ทั้งที่หน้าเริ่มแดงเพราะโดนแซว 

“อ่ะ ผม มาถ่ายเอกสารเฉย ๆ เดี๋ยวถ่ายเอกสารเสร็จแล้วก็ไป”

ท่าทางแบบนั้น ทำให้ปาจรีย์ยิ่งนึกชอบ

“มีคนบอกหรือเปล่าว่าน่ารัก”

ชมกันซึ่ง ๆ หน้า  และพิพัฒน์ก็ถึงกับทำหน้าไม่ถูก และตั้งใจกับการถ่ายเอกสาร จนหยิบกระดาษผิด ๆ ถูก ๆ

“เอ่อ อ่ะ ไม่ ไม่มีหรอกครับ”

“งี้เราก็เป็นคนแรกของเธอน่ะสิ”

พิพัฒน์ถึงกับทำตัวไม่ถูกเพราะคำพูดหยอกล้อที่ดูจะแปลความหมายไปได้หลายทาง  และปาจรีย์ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินมาช่วยจัดเอกสาร

“หน้าแดงแล้ว เขินจริงเหรอเนี่ย แซวเล่นนิดเดียวเอง”

ปาจรีย์ส่งยิ้มหวาน ๆ ให้ และพิพัฒน์ก็มองเลยไปทางอื่น เพราะไม่กล้าสบตา

“ผู้ชายป่ะเนี่ย เขินอะไรขนาดนี้”

ปาจรีย์ยังแซวไม่เลิก และแกล้งด้วยการแตะมือไปที่หลังมือของพิพัฒน์และพิพัฒน์ก็ดึงมือหนี

“อ้าวโทษ  จะช่วยหยิบกระดาษ มือไปโดน”

ยังคงแกล้งพิพัฒน์เพราะนึกสนุก  และพิพัฒน์ก็ก้มหน้าก้มตาเรียงกระดาษให้เข้าชุดกันโดยมีปาจรีย์ช่วย

“ขอบคุณครับ”

“จะขอบคุณทำไม  เดี๋ยวก็ต้องมาถ่ายเอกสารอีกบ่อยๆ ก็ต้องเจอกันอยู่แล้ว......เนี่ย...ชื่อปานะ........ชื่อลูกหนูเหรอเห็นใครๆ เรียกลูกหนู ชื่อจะน่ารักไปไหน”

ได้ทีก็เลยล้อไปเล็กน้อยและพิพัฒน์ก็ขมวดคิ้วมุ่น

“ชื่อพัฒน์ ลูกหนูนั่นมันชื่อตอนเด็ก ๆ พี่คนที่พาเข้ามาฝากเขาเรียก เลยเรียกต่อ ๆ กันมา”

อธิบายที่มาที่ไปของชื่อ และปาจรีย์ก็ส่งยิ้มให้

“พัฒน์มาบ่อย ๆ นะ อยากเห็นหน้าพัฒน์ทุกวัน”

ปาจรีย์ยังคงแกล้งหยอกล้อไม่เลิก และพิพัฒน์ที่หอบกระดาษถ่ายเอกสารไว้ในมือก็มีท่าทางลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด

“ถ้า.....ถ้า.....มีถ่ายเอกสารก็จะมา....ครับ”

“แต่ถ้าคิดถึงปา ไม่มีเอกสารต้องถ่าย ก็มาหาปาได้นะ”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“พัฒน์......ทำไมปาอยู่กับพัฒน์แล้วไม่ค่อยรู้สึกอะไรเลยวะ  มันก็ดีนะที่พัฒน์อยู่ด้วย  ปานี่ก็เหี้ยเนอะ  อยู่ด้วยกันทุกวันแท้ ๆ  แต่ปาก็รักพัฒน์ได้ไม่เท่าที่พัฒน์รักปาเลยว่ะ........พัฒน์โกรธปามั้ย”

ปาจรีย์ยกมือขึ้นและมองไปที่นิ้วของตัวเองที่มีแหวนทองสวมอยู่และพิพัฒน์ก็ได้แต่ส่ายหน้า

“ไม่หรอก  อยู่ ๆ กันไป  ปาก็รักพัฒน์เองแหละ”

ปาจรีย์หัวเราะเสียงเบาและดึงมือพิพัฒน์มาแนบที่ข้างแก้ม

“อยู่ ๆ กันไปแล้วรักกันเองได้จริง ๆ เหรอ”

ถามคนที่ให้หนุนตัก และพิพัฒน์ก็แตะฝ่ามือเบาๆ  ที่แก้มของปาจรีย์และปาจรีย์ก็มองที่นิ้วของตัวเองไม่เลิก

“ต้องมีแหวนกี่วง ปาถึงจะพอใจวะพัฒน์”

“กี่วงก็ได้  พัฒน์จะหาเงินมาซื้อให้ปานะ”

ปาจรีย์มองหน้าของพิพัฒน์และพิพัฒน์ก็ส่งยิ้มบาง ๆ ให้กับคนที่นอนหนุนตัก

“พัฒน์รู้ป่ะ  นอกจากพ่อกับแม่ แล้วก็พี่ชาย ไม่มีใครดีกับปาเท่าพัฒน์หรอก”

คำพูดแบบนั้น  ปาจรีย์พูดบ่อย ๆ และพิพัฒน์ก็ได้แต่พยักหน้ารับกับสิ่งที่ปาจรีย์พูด

“ถ้าวันหนึ่งปาต้องไปจากพัฒน์  พัฒน์จะโกรธปามั้ย”

โกรธเหรอ บางทีอาจจะโกรธ   หรือบางทีอาจจะไม่โกรธ

“ถ้าวันไหนปาต้องไปจริง ๆ พัฒน์จะไม่โกรธแล้วกัน”

รอยยิ้มหมองเศร้าของพิพัฒน์ ปาจรีย์ไม่เคยลืม และก็ทำได้แค่เปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่น  เพื่อให้บรรยากาศดีขึ้น
 
คนที่รัก  กับคนที่ไม่ได้รัก ไม่รู้ว่าใครเจ็บปวดมากกว่ากัน

และเมื่อวันที่ปาจรีย์ตัดสินใจจะไปจากพิพัฒน์จริง ๆ แม้จะดูโหดร้ายและเห็นแก่ตัวที่สุด
แม้ใครจะมองว่าปาจรีย์ไม่รู้สึกอะไร  แต่ปาจรีย์ก็รู้สึกปวดใจทุกครั้งที่กลับมานอนเตียงเดียวกัน แล้วรู้ว่าพิพัฒน์ที่นอนหันหลังให้กำลังร้องไห้เงียบ ๆ

พลิกกายหันไปกอดพิพัฒน์เอาไว้แน่นและแนบใบหน้ากับแผ่นหลังที่กำลังสั่นสะท้าน

“พัฒน์”

ถ้าปล่อยเวลาไปให้เนิ่นนานกว่านี้  นับวันก็ทำให้พิพัฒน์เจ็บปวดเพิ่มขึ้น สุดท้ายปาจรีย์เลยตัดสินใจยุติเรื่องทุกอย่าง

“พัฒน์จะโกรธปาก็ได้นะ พัฒน์เกลียดปาไปเลยก็ได้”

พิพัฒน์ไม่มีอะไรจะพูด นอกจากนอนหลับตานิ่ง ๆ และปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบ ๆ

และปาจรีย์ก็รู้สึก ถึงอาการเจ็บร้าวไปทั้งหัวใจ

“.........ไม่เป็นไรปา.......พัฒน์ทำใจได้ ไม่เป็นไร....แต่ถ้าที่นั่นไม่ใช่สำหรับปา  ปากลับมานะ  ยังไงพัฒน์ก็อยู่ตรงนี้...ไม่ว่าเมื่อไหร่ขอให้ปากลับมา”

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



“มึงไปหลอกลูกหลานใครเขามาอีปา  มันยังเด็กอยู่เลยนะนั่น”

บารมีตะคอกใส่หน้าน้องสาวที่อยู่ดี ๆ ก็มาบอกให้ช่วยผ่อนบ้านต่อให้  โดยมีเงื่อนไขคือระหว่างที่ผ่อนบ้านขอให้พิพัฒน์อยู่ด้วย

บารมีรู้ว่าน้องสาวไม่ได้อยู่คนเดียวในทาวเฮ้าส์เล็ก ๆ หลังหนึ่งแต่ไม่นึกว่าผู้ชายที่ปาจรีย์อยู่ด้วย  จะเด็กถึงขนาดนี้

“มันยี่สิบกว่าแล้ว  หน้ามันเด็กเอง  ปาไม่ได้ไปหลอกใครหรอกน่าพี่บัส  แต่ขอร้องล่ะ  ปาทิ้งพัฒน์มันไปแบบนี้ไม่ได้ ปาเพิ่งรู้ว่ามันโดนให้ออก  เพราะฝ่ายบัญชีมีเรื่องทุจริตภายใน  มันเลยโดนหางเลขไปด้วย   โดนล้างบางทั้งแผนกซวยสุด ๆ”

บารมีไม่สนใจว่าใครจะซวยแค่ไหน เพราะในเวลานี้บารมีคือคนที่ซวยที่สุดเพราะต้องมาผ่อนบ้านต่อ ทั้งที่ไม่ใช่ภาระของตัวเอง

“กูมาคราวก่อน  ตอนเอาขนมไหว้มาแขวนไว้ให้  นึกว่าลูกใครน้องใคร สรุปนี่คือ.............ผัวมึง.............”

บารมีได้แต่ยกมือขึ้นตบหน้าผากด้วยความกลุ้มใจ และปาจรีย์ก็หัวเราะที่พี่ชายทำแบบนั้น

“โธ่  ก็พี่บัสบอกให้หาดี ๆ นี่ปาก็หาคนที่ดี ๆ แล้วไง”

ยังกล้าพูดว่าหาคนที่ดีแล้ว

“แต่มึงก็จะเลิกกับมัน”

“ก็เพราะว่าเจอที่ดีกว่าไงพี่  ปาก็ต้องเลือกที่ดีกว่า”

พูดออกมาได้หน้าตาเฉย  และบารมีก็ยิ่งอยากจะบีบคอน้องสาวให้ตาย ๆ ไปซะ

“อีปา  มึงนี่ทำไมถึงได้เหี้ยขนาดนี้  กูไม่รู้จะด่าอะไรมึงแล้ว”

“ก็รู้ว่าเห็นแก่ตัว  รู้หมดแหละเรื่องผิดชอบชั่วดี แต่ทำไงได้พี่ ปามันเหี้ย   ถ้าจะเหี้ยปาก็พร้อมจะเหี้ยให้สุด  ปายังทำได้มากกว่านี้อีกนะพี่   พี่บัสอยากเห็นมั้ย”

บารมีสุดจะทนกับน้องสาว ลุกขึ้นเขย่าไหล่ปาจรีย์ด้วยความหงุดหงิดโมโห และปาจรีย์ก็ยอมให้พี่ชายทำแบบนั้นแต่โดยดี

“อีปา มึงนะมึง หาเรื่องให้กูอีกแล้ว หาเรื่องให้กูตลอด”

“พี่บัส  ปาก็ไม่ได้อยากจะเลิกกับมันหรอก   ปาก็สงสารมันอยู่  มันเพิ่งตกงาน เงินเก็บก็เหลือไม่เท่าไหร่แล้ว ปาก็รู้ว่ามันหาเงินมาผ่อนบ้านให้ปาอยู่สบาย ๆ   ที่ปามีเงินแต่งตัวสวย ๆ ก็เพราะมัน  ปาก็ยอมรับว่าปาผิด ไอ้พัฒน์มันไม่ได้ผิดอะไร”

บารมีไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับชีวิตน้องสาวต่างพ่อมากนัก  แต่ตอนนี้ถึงไม่อยากยุ่งก็ทำไม่ได้  ในเมื่อน้องสาวมาขอความช่วยเหลือถึงที่  ดี ๆ ร้าย ๆ ก็เป็นพี่น้องกัน  แม่สั่งเสียเอาไว้ก่อนตายไม่ว่ายังไงก็ต้องดูแลน้องอย่าปล่อยให้เตลิดไปมากกว่านี้

“แต่คือพี่เข้าใจปาหน่อยเถอะ  ปาไม่ได้รักมันตั้งแต่แรก  ตอนนี้ปาเจอเจอคนที่ปารักจริง ๆ แล้ว  ไอ้พัฒน์มันก็รู้ตั้งนานแล้วแต่มันไม่พูด  พี่คิดดูมันรู้ขนาดนี้ มันก็ยังทำเป็นเฉย  จนปาไม่รู้จะหาเรื่องอะไรมาเลิกกับมันดี  ปาสงสารมัน ปาเลวปายอมรับ  แต่พี่ก็รู้ ถึงทนอยู่กันไปก็ไปกันไม่รอด  นิสัยมันอย่างนั้น แล้วปาเป็นแบบนี้  ปาไม่คิดว่าปาจะอยู่กับมันไปได้ตลอดชีวิต”

ปาจรีย์ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่ถึงแม้จะเห็นแก่ตัวขนาดไหนก็ไม่สามารทิ้งพิพัฒน์ไปได้โดยไม่รู้สึกอะไร

สงสารพิพัฒน์เกินกว่าจะทำแบบนั้น

“พี่บัสช่วยปาหน่อย  ไอ้พัฒน์มันยอม   ปาบอกมันแล้วว่าพี่บัสจะผ่อนบ้านต่อเอง  ถ้าหมดเมื่อไหร่ปาก็จะให้มัน  ปาสงสารมัน  ดี ๆ ร้าย ๆ มันก็ทำงานส่งปาเรียนจนจบ จะให้ปาถีบหัวส่งตอนที่มันลำบาก ปาก็ทำไม่ลงจริง ๆ”

นี่ขนาดทำไม่ลงนะ

“อีปา  มึงนี่มันเหลือเกินจริง ๆ แล้วไง  มึงบอกไม่ถีบหัวส่ง  แต่ที่ทำอยู่นี่ก็ใช่ทั้งหมดนั่นแหละ  นี่ถ้ามึงไม่ใช่น้องกูนะ  กูด่าเสียคนไปแล้ว”

“พี่บัสก็เลิกด่าปาซะทีเหอะ   ยังไงก็ช่วยปาหน่อยนะพี่  ปาสงสารไอ้พัฒน์มันจริง ๆ ปาเลว ปาก็รู้  แต่จะให้ปาอยู่กับมันไปตลอด ปาก็ทำไม่ได้จริง ๆ”

นี่ไง  เหตุผลของคนเลว ๆ อย่างมึงไงปา

“มึงไม่รักมันแต่มึงก็หลอกให้มันส่งเสียมึงมาได้ตลอด มึงนี่มัน....กูไม่รู้จะพูดอะไรกับมึงแล้วจริงๆ  อีปา”

บารมีรู้สึกหงุดหงิดใจกับสิ่งที่น้องสาวทำ  ถึงไม่อยากยุ่งแต่ก็คงต้องยุ่ง

“นอนที่อู่มันก็ไม่สบายเหมือนนอนที่บ้านหรอกน่าพี่  ไอ้พัฒน์มันไม่มีอะไรหรอก  พี่ช่วยปาหน่อยนะ  นะพี่บัส ปาเป็นน้องพี่นะ พี่จะไม่ช่วยปาเลยเหรอ”

เป็นเรื่องที่กูสมควรช่วยมากเลยนะ

“มึงนี่มัน  อีปา มึงไปไกล ๆ ตีนกูเลยไป”

ไปก็ได้

“ปาไปแน่แหละ  แต่พี่ต้องรับปากก่อนว่าพี่จะช่วยปา นะพี่  ช่วยปาสักครั้งเถอะ”

ก็เพราะโดนขอร้องมาแบบนี้
สุดท้ายชีวิตของบารมีก็เลยต้องมาพัวพันกับอดีตน้องเขยที่แทบจะไม่เคยพูดจากันเลยสักครั้ง

“ผม...ชื่อพัฒน์ครับ”

“เออ กูรู้แล้ว อีปามันบอกหมดแล้ว”

พิพัฒน์ได้แต่ก้มหน้าก้มตารับคำกับสิ่งที่บารมีพูด

“พี่บัสเขาปากร้าย แต่ใจดีไม่มีอะไรหรอก แบบพัฒน์อยู่กับพี่บัสได้สบาย  อย่าไปคิดมากนะ  อยู่ ๆ กันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง”

ปาจรีย์แกล้งพูดจาหยอกล้อให้พิพัฒน์สบายใจขึ้นบ้างแต่พิพัฒน์ไม่ได้รู้สึกดีกับสิ่งที่ปาจรีย์พูดเลยสักนิด

“พี่ชายปานะ  จะมารักอะไร  ปาก็พูดไปเรื่อย”

พิพัฒน์ส่ายหน้าและถอนหายใจยาว ๆ เพราะคงต้องอยู่กับพี่ชายของปาจรีย์อีกนานในขณะที่สภาพจิตใจยังไม่ปกติดี

“ถ้าเป็นพี่บัส ปาก็ไม่ห่วง........ปายังไงก็ได้”

ยังคงแกล้งหยอกล้อเพื่อให้พิพัฒน์สบายใจขึ้น  และพิพัฒน์ก็ได้แต่ส่งยิ้มเศร้า ๆ ให้กับปาจรีย์

“พัฒน์........”

ปาจรีย์รั้งมือของพิพัฒน์มาจับเอาไว้แน่นก่อนจะยกขึ้นแนบที่แก้มและส่งยิ้มให้เหมือนวันแรกที่เจอกัน

“ขอโทษนะ  ขอโทษจริง ๆ ถึงจะบอกว่าให้โกรธได้  แต่ปาไม่อยากถูกพัฒน์โกรธหรอกนะ  ปาไม่อยากถูกพัฒน์โกรธจริง ๆ นะพัฒน์  ปาขอโทษ”

ปาจรีย์ยังพูดคำขอโทษอีกนับครั้งไม่ถ้วน

แต่พิพัฒน์รู้ดีว่าถึงจะรั้งเอาไว้แค่ไหน  ถึงจะพยายามทำดีด้วยแค่ไหน  ถึงแม้ปาจรีย์จะขอโทษอีกกี่หมื่นกี่พันครั้ง  หรือถึงจะโกรธจะเกลียด  แต่ยังไงคนจะไปก็ไปอยู่ดี

“ไม่เป็นไรปา........พัฒน์ไม่เป็นไรจริง ๆ พัฒน์อยู่ได้.......พัฒน์ไม่โกรธปาหรอก.........ไม่........เป็น.......ไร”

เสียงพูดค่อย ๆ ถูกกลืนหายไปในลำคอ  แม้จะรู้สึกเจ็บแน่น ปวดร้าวอยู่ข้างใน  แต่พิพัฒน์ก็ยังพยายามพูดปลอบโยนปาจรีย์นับครั้งไม่ถ้วน

...........ไม่เป็นไร..............


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: กีกิ ที่ 18-04-2015 08:20:24
จริงๆก็ต้องขอบคุณปาจรีย์นะ ที่ทำให้ลูกหนู เอ้ย พิพัฒน์กับพี่บัสได้มาเจอกัน
แล้วพี่บัสรู้ป่าวว่าพัฒน์มีชื่อสมัยเด็กน่าฟัดแบบนี้ นี่แอบนึกภาพพี่บัสเรียกพัฒน์ว่าลูกหนู พร้อมกับฟัดแก้มพัฒน์ไปด้วย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 18-04-2015 08:27:05
เหมือนเอามาจากชีวิต หุหุ
คนแบบปาก็มีไม่น้อยนะ แล้วก็เป็นปกติที่จะต้องหาสิ่งที่ดีให้ตัวเอง
อย่างน้อยปาก็ยังฝากฝังให้พี่บัสดูแลพัฒน์แทน
อยู่ๆไปแล้วก็รักกันจริงๆ55555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 18-04-2015 08:28:01
ทุกคำพูด มันลึกซึ้ง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 18-04-2015 08:44:33
พัตน์โดนปาล่อลวงมาตั้งแต่ตอนแรกเลยเร้อออ.. -O- แต่ก็เป็นจริงอย่างที่ปาได้พูดเอาไว้แล้วล่ะน้าา..ที่ว่า 'อยู่ๆ กับพี่บัสไปเดี๋ยวก็รักกันเอง' ที่สำคัญตอนนี้ยังรักกันมากเสียด้วยสิ :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 18-04-2015 08:50:27
ตอนนี้พัฒน์ก็น่าจะมีความสุขแล้ว และมีคนที่รักพัฒน์จริงๆ อย่างพี่บัส
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 18-04-2015 08:54:46
ยังดี ที่ปามัน เอา น้องหนูพัตน์ ไปฝากพี่บัส

ปามันยังไม่ใจดำที่จะปล่อยพัตน์ลอยแพทิ้งแบบแม่หญิงหลายนางเคยทำกัน

พี่บัสถึงจะปากร้ายแต่ใจดีมากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 18-04-2015 09:02:47
ในความโชคร้าย ความเจ็บปวด มันก็มักจะมีเรื่องดีๆ ตามมา จริงไหนน้องหนู
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 18-04-2015 09:08:22
เป็นกระจกสะท้อนสังคมได้เลยนะ
เจอคนดีก็ให้เอาไว้ก่อน
ไม่ใช่คนที่รักหรือคนที่ใช่ก็ไม่เป็นไร
แล้วทีหลังก็จากไปเพราะเจอคนที่ดีกว่า ตรงนี้ไม่เป็นไรนะ
แต่เลิกไปเพราะเจอคนที่รวยกว่านี่ก็ไม่รู้จะว่ายังไง
เข้าใจว่าคนเราสมควรจะเลือกสิ่งดีๆให้ตนเอง
แต่บางครั้งพอเลือกสิ่งที่ดีกว่า (รวยกว่า)
ไอ้คนที่มีแต่ความดีบางทีก็ถอดใจจนทำเอาความดีหายไปด้วยนี่สิ

ชอบนิยายคนเขียนทุกเรื่องที่ได้อ่านเลยค่ะ
สนุกแบบเท้าติดดินมากๆ
ตัวละครทุกตัวน่าจดจำ
คู่ที่ประทับใจเป็นพิเศษคือเฮียกับวิเขียร
ชอบ Contrasting ระหว่างพี่บัสกับพัฒน์มากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 18-04-2015 09:27:28
สิ่งดีที่สุดที่ปา ทำให้พี่บัสก็คือ

ทิ้งพัฒน์ให้พี่บัสนี่แหล่ะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 18-04-2015 09:28:22
เอาจริงๆพี่บัสต้องขอบคุณน้องสาวนะเนี่ย
ที่ส่งเนืี้อคู่มาให้ไม่งั้นพี่บัสก็แห้งเหี่ยวอยู่
ที่อู่คนเดียวนั่นละ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 18-04-2015 09:32:20
จริงๆแล้วต้องขอบคุณปานะ ที่ทิ้งพัฒน์ไว้กับพี่บัส
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 18-04-2015 11:01:18
สงสารพัฒน์เลย แต่ถ้าปาไม่ทิ้งไป ก็คงไม่ได้ลงเอยกับพี่ับัส

ต้องขอบคุณมากกว่าที่วันนั้นทิ้งกันไป
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 18-04-2015 11:25:57
สงสารพัฒน์ แต่ก็ดีแล้วที่ปาทิ้งพัฒน์ให้อยู่กับพี่บัส :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 18-04-2015 11:45:49
 o13. กำลังสนุกเลยคร้าบบบ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-04-2015 12:28:59
คนแบบปาเนี่ยหาได้ตามท้องถนน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-04-2015 12:30:22
คนแบบปาจรีย์เนี่ยหาได้ตามท้องถนนเลย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 18-04-2015 12:52:22
แปะไว้ก่อน :)
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: mm03 ที่ 18-04-2015 12:52:57
หากเธอไม่ทิ้ง ฉันคงไม่เจอ
หากยังรักเธอ ฉันคงไม่เจอเขา

เพลงนี้ใช่เลย

ปายังดีไม่ทิ้งขว้างยังส่งพี่บัสมาช่วยดูแลลูกหนู
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 18-04-2015 13:52:47
ต้องขอบคุณที่ทิ้งกันใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 18-04-2015 14:09:30
ใช่เลย
ขอบคุณที่ทิ้งกัน
พี่บัสเลยหวานตูล่ะ
เฮียเก็บปาก (หมา) แล้วทำดีกับน้องเยอะๆ ดิ
รับรองรวยและใหญ่มิใช่ปัญหา

 :hao7:
บวกและเป็ดขอบคุณ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-04-2015 15:10:57
น้องลูกหนู ชื่อน่ารักเชียววว
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 18-04-2015 15:28:07
ปานี่ชัดเจนตลอดนะ เป็นคนโคตรตรงเลย
ส่วนพัฒน์นี่ก็น่ารักตลอด หน้าเด็กมากด้วย ยังกะโดนหลอกมา
พี่บัสปากร้ายใจดี เพลียน้องตัวเองน่าดู

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 18-04-2015 17:02:37
ปาคือแม่สื่อทางอ้อมมมมมมมใช่มะ อิอิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 18-04-2015 21:08:25
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 18-04-2015 21:52:56
ปาจรีย์นี่ ชีวิตนางสุดติ่งจริง ๆ เลยนะเนี่ย
ดีนะเนี่ย ที่มีพี่ชายอย่างพี่บัส
ไม่งั้นไม่รู้ชีวิตจะเป็นไงเนอะ  :เฮ้อ:

ปอลอ...อยากให้พี่บัสเรียกพัฒน์ว่าลูกหนูจังเลยยยยยยย :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 18-04-2015 22:26:03
อื้อหือ

วีรกรรมที่เธอทำไว้นี่มันช่าง.........เกินคนธรรมดาจะคิดได้จริงๆ

แต่ก็นะ คนแบบนี้มีเยอะไป  o18
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-04-2015 23:46:23
ถ้าปาเป็นคนดีพัฒน์ก็คงไม่ได้เจอบารมี ต้องขอบคุณเธอสินะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 18-04-2015 23:53:31
ความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกันจะเอาของใครไปบังคับหรือคิดแทนใครก็ไม่ได้  :hao4:
เข้าใจนะแต่ก็สงสารพัฒน์อยู่ดีอะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 19-04-2015 01:06:48
รอตอนต่อไป  :hao7:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 19-04-2015 02:31:59
เหนื่อยใจกับความคิดของปา
ถ้าวันนึงเลิกกับคนปัจจุบันขึ้นมาจะกลับมาหาพัฒน์รึเปล่า
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 19-04-2015 08:22:46
คนแรกของหัวใจ อาจไม่ใช่คนสุดท้ายของชีวิตก็ได้
ปาก็ไม่ได้รักพัฒน์อยู่แล้ว ดีแล้วที่ปาทิ้งไป พัฒน์ถึงได้เจอพี่บัส
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 19-04-2015 12:08:58
เล่าย้อนหลังหรอ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 19-04-2015 12:30:51
สงสารพัฒน์จับใจ แต่พอนึกๆไปถึงตอนก่อนหน้า เจ็บวันนี้คุ้มค่ากะพี่บัสในวันหน้านะ ไม่น่าเชื่อจริงๆว่าผู้ชายติ๋มๆอย่างพัฒน์จะแซ่บได้ขนาดนี้ ขอบคุณปาที่ทิ้งเมียพี่ไปซะนะ 55
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น P.22
เริ่มหัวข้อโดย: แค่ความทรงจำ ที่ 19-04-2015 13:42:22
 :hao5: :hao5:

สงสารพัฒน์
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 21-04-2015 00:41:52
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน เหตุการณ์ปกติ

บารมีไม่สามารถนิยามความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ได้  ข้ามขั้นเลยเถิดกับพิพัฒน์ไปไกล
บังคับฝืนใจมาอยู่ห้องเดียวกัน

มีความสัมพันธ์ทางกายกันอย่างร้อนแรง มีความสัมพันธ์ทางใจที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้
แต่.............
ไม่ได้นิยามให้ชัดเจนว่าในเวลานี้เราเป็นอะไรกัน

อยู่ด้วยกันอย่างปกติ  ใช้ชีวิตด้วยกันตามปกติ
และเมื่ออยากจะทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่การมีความสัมพันธ์ทางกายเพียงอย่างเดียว  และไม่ใช่แค่การพูดคุยกันแบบที่เคย ๆ ต้องทำยังไง

พิพัฒน์นั่งกอดหมอนอยู่ที่โซฟา
ตามองจ้องที่รายการโทรทัศน์  ดูรายการที่บารมีดู  และบารมีก็นั่งในท่าสบาย ๆ อยู่ที่โซฟาอีกตัวห่างออกไป

กิจวัตรประจำวันหลังจากกินข้าวเย็นเสร็จเรียบร้อย  คือการนั่งดูรายการโทรทัศน์ด้วยกัน
อาจจะดูข่าว  ภาพยนตร์ หรือรายการต่าง ๆ  และเมื่อถึงเวลาที่ต่างฝ่ายต่างง่วงก็เข้านอนพร้อม ๆ กัน
แต่บางครั้ง........บารมีก็รู้สึกถึงความห่างเหินระหว่างกัน

มีความสัมพันธ์เกินเลยกันไปไกล  แต่ทำไมท่าทีบางอย่างถึงดูเย็นชาต่อกัน บางครั้งบารมีก็ไม่เข้าใจ

เหลือบสายตามองหน้าพิพัฒน์อยู่หลายครั้ง
ถ้า...............จะลองเข้าใกล้
ถ้าจะลองเข้าไปนั่งใกล้ ๆ กันสักนิด  หรือหยอกล้อกันแบบคนรักบ้าง  มันจะเป็นยังไง

ถ้า........จะทำอะไรอย่างที่อยากจะทำบ้างจะเป็นยังไง

ได้แต่คิด  แต่ไม่เคยลงมือทำ
บารมีลอบถอนใจยาว ๆ เล็กน้อย ก่อนจะเมินมองไปที่รายการโทรทัศน์เหมือนเช่นเคย และพิพัฒน์ที่นั่งห่างออกไปก็แอบลอบมองปฏิกิริยาของบารมีที่ดูแตกต่างออกไปจากทุกวัน

เหมือนอยากจะทำอะไรบางอย่าง แต่ไม่สามารถทำได้ อะไรบางอย่างที่พิพัฒน์ไม่รู้ว่าคืออะไร

“นอนยัง”

บารมีเอ่ยถามคนที่นั่งกอดหมอนอยู่ห่างออกไป และพิพัฒน์ก็ส่ายหน้า

“ดูนี่จบก่อน”

พิพัฒน์ไม่ได้มองหน้าคนถาม  แต่ตั้งใจชมรายการสารคดีชีวิตสัตว์อย่างตั้งใจ  และบารมีก็ปิดปากหาวนอนและลุกขึ้นเดินไปส่งรีโมทโทรทัศน์ให้พิพัฒน์ และพิพัฒน์ก็รับมาถือเอาไว้และเหลือบสายตาขึ้นมองหน้าของบารมี

“อะไร มองหน้ากูทำไม”

เอ่ยถามด้วยความสงสัย  แต่พิพัฒน์ส่ายหน้าไม่ได้ตอบอะไรออกมา บารมีก็เลยเตรียมก้าวขาจะเดินหนีขึ้นห้องแต่พิพัฒน์ก็รีบคว้าข้อมือของบารมีเอาไว้

“อะไรของมึง  กูจะไปนอนแล้ว”

แกล้งทำเสียงสูง และแสดงท่าทางหงุดหงิดใส่เล็กน้อย  และพิพัฒน์ก็เงยหน้ามองและคราวนี้เปลี่ยนเป็นกอดที่เอวของบารมีและซบหน้าลงที่หน้าท้องแกร่งของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“อะไรของมึงนักหนาวะ”

บารมีเปลี่ยนใจลงมานั่งข้าง ๆ พิพัฒน์แล้ว และพิพัฒน์ก็ยิ้มออกมาบาง ๆ เมื่อคนที่กำลังจะขึ้นนอนยอมลงมานั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน

“กูง่วงมึงเข้าใจมั้ย”

พิพัฒน์พยักหน้ารับว่าเข้าใจ  และวางหมอนอิงลงบนขาตัวเองและบารมีก็เงยหน้าขึ้น  ถอนหายใจหนัก ๆ และก้มกลับลงมามองหน้าของพิพัฒน์

“มึงนี่มันเรื่องมากเรื่องเยอะจริง ๆ เลยว่ะพัฒน์”

บารมีบ่นพึมพำเสียงเบา  แต่ก็ค่อยๆ  เอนกายลงนอนโดยใช้หน้าขาของพิพัฒน์แทนหมอนหนุน

แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อยๆ  แต่น่าแปลกที่การทำแบบนั้นมันทำให้หัวใจรู้สึกชุ่มชื่นและฟูฟ่องขึ้นอย่างน่าประหลาด
การปฏิบัติต่อกันด้วยวิธีการเรียบง่าย  แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย

แค่เพียงได้ใกล้ชิดและสัมผัสร่างกายกันบ้าง  โอบกอด  ออดอ้อน  และสนใจในความเป็นไปของกันและกัน
เพียงแค่นั้นก็ทำให้รู้สึกดีได้อย่างน่าประหลาด  บารมีหนุนตักของพิพัฒน์ นอนมองหน้าของพิพัฒน์ที่กำลังดูรายการโทรทัศน์และบารมีก็หันไปมองที่หน้าจอโทรทัศน์ด้วย

แบบนี้มันยิ่งกว่ามีความสุข
เป็นความสุขในความเรียบง่ายที่ไม่เคยปฏิบัติกับใครมาก่อน

“ดูช่องเมื่อกี้ก่อน  จะเปลี่ยนช่องทำไม”

บารมีบ่นพึมพำใส่คนที่กดรีโมทเปลี่ยนรายการโทรทัศน์  และพิพัฒน์ก็ใช้มือบีบปากบารมีเอาไว้ไม่ให้พูด

“ไอ้อัดอู...........แอ่ก อ่ะ แอ่ะ”

บารมีรีบดึงมือพิพัฒน์ออกและด่าคนที่แกล้งทำอะไรบ้า ๆ ใส่

“ไอ้พัฒน์  ทำห่าอะไรของมึง นี่ปากคนนะไม่ใช่ของเล่น กูเจ็บนะเนี่ย”

พยายามจะแย่งรีโมทคืน  แต่พิพัฒน์ก็รีบเอาไปซ่อนไว้ข้างหลัง และแบมือสองมือให้บารมีดู  ว่าไม่มีรีโมทแล้วจริง ๆ

“กูอายุสามขวบหรือไง ห่าพัฒน์”

บารมีทำหน้าหงุดหงิดโมโหใส่ และพิพัฒน์ก็เปลี่ยนมาเกาคางบารมีเบา  ๆ

“กูไม่ใช่แมว”

โดนพูดแบบนั้นพิพัฒน์ก็เลยเปลี่ยนมาลูบหน้าผากบารมีแทน

“เพื่อนเล่นมึงเหรอ”

บารมียังทำเสียงดุใส่ไม่เลิก  พิพัฒน์ก็เลยลูบที่หน้าผากของบารมีและจูบเบา ๆ ก่อนจะผละออกห่าง
และเป็นบารมีที่ถอนหายใจและยกมือลูบหน้าผากตัวเอง

“แบบนี้ทุกที”

แม้จะทำเหมือนไม่พอใจ  แม้จะทำเหมือนไม่ชอบ  แม้จะรู้ว่าพิพัฒน์อ้อนขอดูรายการโทรทัศน์ด้วยวิธีที่บารมีปฏิเสธไม่ได้
แต่บารมีก็ต้องยินยอมให้พิพัฒน์เอาแต่ใจเสมอ

“ใจร้ายนะครับ”

พ่อง   ใครไปใจร้ายกับมึงตั้งแต่เมื่อไหร่  กูยังไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด  อย่ามาพูดจามั่วซั่วแบบนี้ไอ้พัฒน์

“มึงเลิกพูดไปเลย   ถ้าพูดแล้วไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น มึงก็เลิกพูดไปซะ”

บารมียกแขนขึ้นปิดหน้าตัวเอง  แกล้งหลับไปทั้งอย่างนั้น และพิพัฒน์ก็อมยิ้มเวลาที่มองบารมีทำแบบนั้น

“อยากดูอะไรมึงก็ดูไปเลย  กูจะนอน”

บารมีแกล้งหลับไปต่อหน้าต่อตาพิพัฒน์โดยใช้แขนปิดตาเอาไว้ และพิพัฒน์ก็ลูบที่เส้นผมของบารมีเบา ๆ

“ดูเสร็จแล้วปลุกกูด้วย  ง่วง”

พูดเพียงแค่นั้น และพิพัฒน์ก็อมยิ้มเมื่อเห็นปฏิกิริยาแบบนั้นของบารมี

และบารมีก็ยกแขนออกและลืมตาขึ้นมองหน้าของพิพัฒน์อย่างเอาเรื่อง

“ตลกอะไร  มึงขำทำไม”

พิพัฒน์ไม่รู้ว่าตัวเองขำทำไม  ไม่รู้ว่าทำไมถึงยิ้ม  แต่เมื่อบารมีเห็นอย่างนั้นแล้วมันก็พาลให้หงุดหงิดและไม่ชอบใจจนต้อง ดึงต้นคอของพิพัฒน์ลงมาหา

“มายิ้มใกล้ ๆ ซิ”

ดึงคอของพิพัฒน์ลงมา และจ้องมองไปที่ดวงตาของพิพัฒน์ที่กำลังมองมา

พิพัฒน์ยังคงยิ้ม  และยอมก้มหน้าลงมาหา
ในเวลาไม่นานเมื่อริมฝีปากแตะเข้าหากันอย่างช้า ๆ  และค่อยๆ  บดคลึงเข้าหากันก็ทำให้ทั้งบารมีและพิพัฒน์รู้สึกไม่ต่างกัน

สัมผัสนุ่มนวลแผ่วเบา  ก่อนจะคลึงเคล้าคล้ายหยอกล้อ แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย

จูบเบา ๆ แต่นุ่มนวล ชวนให้หัวใจลอยล่องไปไกล 

มีความสุขเมื่อได้อยู่ด้วยกันทุกวัน

และเมื่อค่อย ๆ ผละริมฝีปากออกห่างจากกันอย่างช้า ๆ ต่างฝ่ายต่างปรือตามองหน้ากัน
เพียงเท่านั้นก็มากพอให้รับรู้ความรู้สึกของกันและกัน

พิพัฒน์แตะฝ่ามือที่ข้างแก้มบารมีเบา ๆ และลูบไล้เล่น
และบารมีก็หลับตาลงอย่างช้า ๆ

รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏที่ใบหน้า พิพัฒน์ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข  และบารมีก็รู้สึกไม่ต่างกัน

หลายครั้งที่อยากใกล้ชิดกัน  แต่ก็ขัดเขินจนไม่สามารถทำได้  บางครั้งอยากใกล้ชิดกันให้มากขึ้นกว่าที่เป็น
ต่างฝ่ายต่างอยากจะใกล้ชิดและโอบกอดสัมผัสกันบ้างแต่ก็ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้กันเพื่อแสดงความรู้สึกต่อกันมากนัก

แต่การที่เริ่มเปิดใจให้อีกฝ่ายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในครั้งนั้น  เป็นจุดเริ่มต้นที่ในเวลาต่อมาเมื่อถึงเวลาที่ต้องดูรายการโทรทัศน์ร่วมกัน  บารมีจะล้มตัวลงนอนและใช้หน้าขาของพิพัฒน์หนุนนอนแทนหมอนจนเป็นปกติในทุก ๆ วัน


 TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: happy-jigsaw ที่ 21-04-2015 00:59:27
จะอิจฉาใครดี? โอ้ยยย เหมือนจะไม่หวานแต่ก็หวาน  :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 21-04-2015 01:03:29
 :o8:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 21-04-2015 01:23:52
หวานกันด้วย  :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-04-2015 01:32:20
วิธีการอ้อน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 21-04-2015 01:39:01
ทำไมตอนนี้หวานจัง งื้อออ~
ชอบอะ.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: matchty ที่ 21-04-2015 02:21:26
อือหือ.....มันมาหวานแบบนิ่มๆอ่ะ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: chom0612 ที่ 21-04-2015 02:40:23
เปนฉากที่ปาเห็นหรือป่าวเนี่ย

หวาน น่ารัก  :-[ :-[

พัฒน์เหมือนนั่งในใจพี่บัสเลย แค่สังเกตอาการพี่บัส ก็รู้แล้วว่า พี่บัสอยากได้อะไร

เปนคู่ที่เกิดมาเพื่อเจอกันจริงๆ  :L1:

หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 21-04-2015 03:22:06
อีกคนก็ขี้บ่น อีกคนก็เงียบๆๆแตกต่างแต่ลงตัว :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 21-04-2015 04:48:32
ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน :-[ :-[ :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 21-04-2015 05:19:45
หวานจนน่าอิจฉา ><
พัฒน์ขี้อ้อนแบบนี้พี่บัสก็ไปไหนไม่รอด
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 21-04-2015 06:22:43
 :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 21-04-2015 06:28:20
พัตน์น่ารักจังเลย นี่ถ้าพัตน์ไม่ลงมืออ้อนก่อน มีหวัง..พี่บัสคงต้องเดินไปซบหน้าร้องไห้อยู่บนเตียงคนเดียวแหงมๆ เลยนะคะเนี่ย :laugh:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 21-04-2015 06:58:04
หวาน
เกิน
ไปร๊ะ









อิจฉานะเฮ๊ยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: tong_pub ที่ 21-04-2015 07:13:42
ชอบเวลาคู่นี้หวาน เมหือนกินดาร์กช๊อกโกแลตที่ตอนแรกมีรสขมแต่ปลายรสมันหวานหน่อยๆ ไม่เลี่ยนเลย
ฮืออออออ
ตอนแรกกดปิดไปคือลืมเม้น แต่ต้องกลับเข้ามาเม้นให้เพราะคนแต่งจะได้รู้ว่ามีหนึ่งคนที่รออ่านอยู่
กลัวคนแต่งทิ้ง เดี๋ยวเค้าเฟ้งฟ้างนะ T^T

รอตอนต่อไปนะคะ จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: ไอศกรีมละลาย ที่ 21-04-2015 07:45:18
ได้ใจป้ามากๆๆๆๆ
ชอบๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: yupa ที่ 21-04-2015 09:02:43
 :mew1: :mew1: :mew1: :L2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 21-04-2015 09:23:23
บารมี พ่อท่ามาก นี่ถ้าไม่ใช่พัฒน์ คงไม่เข้าใจ

พัฒน์ทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น เพราะพี่บัสมัวแต่เหนียม :laugh:

หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 21-04-2015 09:27:39
บรรยากาศเวลาทั้งคู่อยู่ด้วยกันมันดีจริง ๆ อ่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 21-04-2015 09:32:42
 :o8:
อ้อนอ้อน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 21-04-2015 09:39:11
เออเนอะ เค้าเข้าใจกันเนอะ
อิเจ้ไม่จำเป็นต้องเข้าใจพวกแกใช่มั้ย 55555555
รู้แค่ว่าหวานกันมากกกกกก :o8:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 21-04-2015 09:46:26
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย เขินนนนนนนนนนนนนน ตรูอิน ตรูฟินม๊วก >///< 55555.. ชอบชอบชอบพัฒน์เฮียบัส.......ปาน่าจะมาฉากจูบพอดี แต่มาตอนนั้นก็โอแล้วล่ะ 55555555 มีความสุขเมื่อได้อ่านทุกครั้ง ..... ขอบคุณมากที่มาอัพให้ค่ะ รอตอนต่อปายยย ^^
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 21-04-2015 10:06:09
พี่บัสก็มีช่วงเวลาที่ไม่มั่นใจในตัวเองเหมือนกันสินะ ไม่แน่ใจในความสัมพันธ์
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 21-04-2015 10:12:25
มาแบบค่อยๆหวาน มากขึ้นๆ -///-
ถึงจะเป็นความหวานที่เข้าใจยากอยู่สักหน่อยก้อเถอะ 555555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: boombimjubu ที่ 21-04-2015 10:41:11
หน้าเเดง เขินนนน  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 21-04-2015 10:43:20
อึนกับซึนมาเจอกัน แต่ก็ฟินนะ
 :o8: :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 21-04-2015 11:33:08
เข้ามาติดตามอ่านด้วยคนครับ เพิ่งอ่านไปได้สามตอน สนุกมากๆ ครับ กำลังลุ้นว่าความรักของบัสกับพัฒน์จะเกิดขึ้นตอนไหน
 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: kissme ที่ 21-04-2015 12:11:05
น่ารักที่สุด
แต่ที่น่ารักสุดๆ คือคนแต่ง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 21-04-2015 12:31:55
หวานกันเข้าไป หวานกันแบบเงียบๆ
บางครั้งไม่ต้องสื่อสารทางคำพูด
แค่ใช้สายตาท่าทาง ก็ทำให้ใจรับรู้ได้เนอะๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: mm03 ที่ 21-04-2015 13:00:12
ละลายย~~~
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 21-04-2015 17:20:42
โหววววว
นี่เหตุการณ์ปกตินะเฮีย
น้ำตาลท่วมบ้านแหละ
ก็ดีเน๊าะ พัฒน์ครองรีโมทคนเดียว 555
บวกและเป็ดขอบคุณ
 :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-04-2015 19:05:39
อยากได้แบบนี้มั่งงงงงง
หวานอ้ะะะะะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 21-04-2015 19:19:16
1 ประโยค

ตาร้อนฝุดๆๆๆๆ

อิอิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: SomLove ที่ 21-04-2015 20:07:33
ฟินฝุดๆ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: minnin ที่ 21-04-2015 21:07:04
น่ารักดีอ่ะ ชอบๆสนุกดี
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 21-04-2015 21:15:33
พี่บัสฟอร์มเยอะ สู้พัฒน์ก็ไม่ได้ น่ารักอ่ะดิ๊ หลงอ่ะดิ๊ หวานแบบเรียบง่ายน่ารัก

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 21-04-2015 23:04:59
น่าร๊ากกกกกกกกกกก พี่บัสปากแข็ง ต้องเจอพัฒน์เนี่ยแหละ
ไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว  :z1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 21-04-2015 23:56:19
 :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 22-04-2015 05:01:31
 :-[ :-[ เค้าหวานกันอ่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 22-04-2015 22:10:20
โอ๊ยหวานมดขึ้นแล้ว อ่านไปก็ยิ้มไป เขินน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 23-04-2015 16:41:51
 :eiei1: ท่าจะอยู่ดีกินดีเน๊อะมดบ้านนี้  :pig3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: แค่ความทรงจำ ที่ 23-04-2015 19:22:20
 :o8: :-[

หวานกันมากเลยยยย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 23-04-2015 19:50:54
 :o8:  หวานแปลกๆ เนอะ สองคนนี้
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 25-04-2015 20:37:20
หวาน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: boombimjubu ที่ 26-04-2015 22:31:09
มารอนะคร่าาาาาา :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 27-04-2015 20:40:11
พัฒน์ ฮอต มาก

อิจฉาพี่บัส ได้เมียร้อนแรงขนาดนี้ อย่าปล่อยให้หลุดมือนะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 28-04-2015 13:09:44
เหตุการณ์ปกติมากค่า
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 29-05-2015 12:29:55

(http://poem.meemodel.com/image_poem/65844_resize.jpg)
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-05-2015 13:15:47
 คิดถึงจัง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 29-05-2015 13:23:52
หวานนน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 29-05-2015 13:44:35
น่าร้ากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 29-05-2015 16:02:55
หวานนนนนน  :o8:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 31-05-2015 18:02:21
คิดถึงพัฒน์แล้วนาาา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: feoh ที่ 02-06-2015 13:42:18
อิมเมจพิพัฒน์นี่ใครเหรอคะ อยากเห็นหน้าชัดกว่านี้ แต่คุณสมชายนี่ตอนนี้ไม่เรียกพี่เต๋าล่ะ เรียกเฮียบัสตลอด อิมเมจมันใช่มากอ่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน เหตุการณ์ปกติ P.23
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 02-06-2015 18:45:08
รออยู่น้า
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 21-06-2015 00:12:42
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน สู้ไม่ได้



พิพัฒน์เป็นคนดื้อ
......ดื้อเงียบ......
หลายครั้งอาจจะทำเหมือนยอมคล้อยตาม  หรืออาจจะทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้ารู้จักกันนาน ๆ จะรู้ได้ทันทีถึงความ "ดื้อ"  ที่แม้แต่บารมียังต้องยกมือขอยอมแพ้  เพราะเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายคิดจะดื้อเงียบขึ้นมา  คนอย่างบารมีก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากต้องตามใจ ก็เท่านั้น

"พัฒน์  เข้าใจที่พูดมั้ย"

ถามไปครั้งที่สิบ  แต่พิพัฒน์ก็ยังทำเป็นเฉย แกล้งทำเป็นหูทวนลม และยังก้มหน้าก้มตา  กรอกตัวเลขลงไปในสมุดบัญชีและกดเครื่องคิดเลขต่อไปเรื่อย ๆ โดยที่บารมีได้แต่เงยหน้าขึ้นและถอนหายใจยาว ๆ และต้องมาท้าวแขนอยู่เหนือโต๊ะทำงานของพิพัฒน์เพื่อจะได้พูดกันให้เข้าใจ

"นี่กูไม่มีศักดิ์ศรีขนาดนี้เลยเหรอวะ เหี้ยชิบหาย"

บารมีหัวเราะออกมาแบบแกน ๆ ที่ยิ้มที่หัวเราะก็แค่จะเย้ยหยันตัวเอง
อายุขนาดนี้แล้ว แต่ยังไม่มีปัญญาดูแลใครให้ดีได้  ยิ่งคิดยิ่งสมเพชตัวเองอยากจะหัวเราะออกมาให้ดัง ๆ    กับความทุเรศของตัวเอง

"มึงเอาที่ดินบ้านเก่ามึงไปจำนองเลยพัฒน์  มึงอยากทำอะไรก็ทำไป แต่กูบอกเลย  เงินมึงที่ได้มา บาทเดียวกูก็ไม่เอา อยากทำอะไรมึงทำไปเลยตามใจมึง"

พิพัฒน์รู้เห็นทุกอย่างมาตลอด  ดอกเบี้ยธนาคารที่เพิ่มพูนสูงขึ้นทุกวัน ทำไมจะมองไม่เห็น  รายได้ของอู่ไม่ใช่น้อยก็จริง  แต่เมื่อต้องนำเงินที่ได้มาหมุนเวียนจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ บางเดือนมันก็มีที่ต้องชักเนื้อตัวเองและพิพัฒน์รู้ดี  หากมีเงินสำรองอีกหน่อย  คงไม่ต้องลำบากกันถึงขนาดนี้  คงมีช่วงเวลาให้ได้หายใจหายคออย่างปลอดโปร่งบ้างก็เท่านั้น

แต่บารมีไม่ยอมที่จะทำตาม  ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอม และพิพัฒน์ทำได้แค่เงียบ  และนั่นคือการยืนยันความคิดเดิมว่าจะทำอย่างที่ตั้งใจ  แม้บารมีจะไม่ยอมรับ  แต่พิพัฒน์ก็ยังจะทำอยู่ดี

"พัฒน์"

"พัฒน์"

"ไอ้พัฒน์"

เรียกอีกกี่ครั้งก็เหมือนเดิม  พิพัฒน์ยังทำเป็นเมินเฉยตั้งหน้าตั้งตากรอกตัวเลขลงไป และขยับแว่นสายตาไปมาในบางครั้ง ทำเหมือนบารมีที่กำลังหงุดหงิดโมโหโวยวายตรงหน้าไม่มีตัวตน 

แล้วบารมีจะไปทำอะไรได้ นอกจากเดินวนไปวนมาในห้อง  เมื่อรู้แน่ว่า ทำอะไรไม่ได้  ก็ผลักประตูเดินออกมานอกออฟฟิศ  หน้าหงิกหน้างอ  และไปยืนมองช่างวินัยที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการตรวจเช็คสภาพรถ

ช่างวินัยเพียงแค่อมยิ้มน้อย ๆ และทักทายคนที่ยืนหน้าบึ้งและมองไปที่ออฟฟิศหลายครั้ง

"กูจะทำยังไงกับมันดีวะ"

บารมีหันไปถามช่างวินัยที่ยังคงอมยิ้มน้อย ๆ และช่างวินัยก็เพียงแค่หัวเราะกับอาการไม่พอใจของบารมี ที่ไม่ต้องเดาก็พอรู้ว่าใครที่ทำให้บารมีโกรธและหงุดหงิดใจแต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากมายืนทำหน้าบึ้งโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว

"ไม่น่าจะทำอะไรได้นะเฮีย"

ช่างวินัยตอบกลับไปแบบยิ้ม ๆ และบารมีก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง  คล้ายกับต้องยอมจำนนต่ออำนาจมืดของพิพัฒน์ที่ดูเหมือนจะมีอิทธิพลกับความคิดและความรู้สึกของบารมีมากขึ้นทุกที

"ผมก็ไม่รู้ยังไงนะ แต่ที่แน่ ๆ พื้นที่ตรงโน้นที่คิดจะขยายมาหลายปีก็ไม่ได้ขยายสักที จนกระทั่งพิพัฒน์มาอยู่ที่นี่ถึงได้ขยายออกไปได้ไม่ใช่เหรอ"

เท่านั้นก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนแล้ว
คำตอบที่มากพอที่ทำให้บารมีต้องยอมรับ  ถึงความสามารถในการจัดการภายในอู่ซ่อมรถเล็ก ๆ มองเผิน ๆ เหมือนบารมีจะเป็นฝ่ายออกคำสั่งในเรื่องต่าง ๆ แต่หลายๆ ครั้ง เรื่องบางเรื่องก็มาจากความช่วยเหลือทางด้านความคิดจากใครบางคนที่ไม่เคยออกตัว  และไม่ใช่แค่เพียงด้านความคิดแต่รวมถึงกำลังใจและความเข้าอกเข้าใจ ที่ช่วยให้บารมีกล้าที่จะฟันฝ่าอุปสรรคบางอย่างที่คอยกัดกร่อนให้แรงใจค่อยๆ ลดน้อยถอยลงไปตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา
 
"คนเราติดนิสัยทำอะไรด้วยตัวเองมาตลอด  โดยไม่คิดจะพึ่งพาใคร เพราะคิดว่าล้มก็ล้มคนเดียว เจ็บก็เจ็บคนเดียว มันทำให้เข้มแข็งก็จริงแต่มันก็ทำให้เกิดความกลัวจนไม่กล้ารับความช่วยเหลือจากใคร กลัวความล้มเหลว  กลัวความเสี่ยงที่อาจจะขึ้นและกลัวจะรับผิดชอบไม่ไหว"

ใช่
นั่นคือสิ่งที่บารมีคิด  ความหวาดกลัวในใจลึก ๆ  ไม่ต้องการให้ใครมาเสี่ยงด้วย  ไม่ต้องการสร้างความลำบากให้ใคร

"กูเหนื่อยจะพูดกับไอ้พัฒน์แล้ว"

บารมีได้แต่ส่ายหน้า และช่างวินัยก็ได้แต่ยิ้มกับอาการหงุดหงิดโมโหไม่พอใจของบารมีที่ไม่มีทีท่าจะลดลงง่าย ๆ และสุดท้ายช่างวินัยแอบฟันธงไว้ในใจ

..........ถึงจะหงุดหงิดโมโหไม่ชอบใจขนาดไหน แต่สุดท้ายบารมีก็ไม่มีทางขัดขวางสิ่งที่พิพัฒน์ต้องการจะทำได้อยู่ดี............

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บารมีเมินหน้าหนีและทำเป็นไม่สนใจไยดีคนที่นั่งกินข้าวอยู่ฝั่งตรงข้าม
พิพัฒน์ยังคงนิ่งเฉย
และบารมีก็ทำแบบที่พิพัฒน์ทำ  โดยปกติอาจจะเสียงดังโวยวายไม่พอใจใส่  แต่สุดท้ายก็คงเป็นเหมือนเดิมคือไม่ว่ายังไงก็ไม่มีอะไรดีขึ้น

ก็เลยได้แต่เมินเฉยอยู่อย่างนี้

กินข้าวเสร็จเรียบร้อยบารมีก็ลุกขึ้น  ดันเก้าอี้ไว้ใต้โต๊ะกินข้าวเรียบร้อย พิพัฒน์จัดการเก็บล้างถ้วยจานและคว่ำไว้ในชั้นวางจาน

สิ่งที่ต่างออกไปจากทุกวันคือบารมีไม่ได้ไปนั่งดูรายการโทรทัศน์ที่โซฟาเหมือนทุกวัน  แต่เดินหนีขึ้นห้องไปแล้ว  และพิพัฒน์ก็มองตามคนที่เดินหนีขึ้นห้อง

พิพัฒน์ขมวดคิ้วมุ่น  และกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง   เดินไปทิ้งกายลงนั่งอยู่บนโซฟา และเอนหลังพิงกับพนักโซฟาอยู่อย่างนั้น

มองไปที่นาฬิกาบนผนังที่บอกเวลาห้าทุ่มกว่าแล้ว และพิพัฒน์ก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจยาว ๆ หลังจากนั่งครุ่นคิดเรื่องบางอย่างอยู่คนเดียวเงียบ ๆ มานานนับชั่วโมง

เสียงฝีเท้าของใครบางคนที่กำลังลงจากบันไดบ้านทำให้พิพัฒน์หันกลับไปมองและเป็นบารมีที่กำลังก้าวขาเดินลงจากบันได

คนสองคนสบตากันนิ่ง ๆ   และบารมีก็เดินมานั่งอยู่ที่โซฟาห่างออกไปจากพิพัฒน์เล็กน้อย
ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบ  หลังจากจมอยู่กับความคิดของตัวเองมาพักใหญ่แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน

พิพัฒน์ก้มลงมองที่มือตัวเอง และบารมีก็เมินมองไปทางอื่น

ต้องพูดอะไร ...........จะให้ทำยังไงถึงจะเข้าใจกัน

"กูบอกเลยตรงนี้นะพัฒน์ว่า.............."

บารมีตัดสินใจจะพูดให้ชัดเจน แต่พิพัฒน์ลุกขึ้นและเดินมากอดบารมีที่กำลังอ้าปากจะพูดเรื่องบางอย่าง

"เฮ้ย  คุยกันก่อน พัฒน์"

พิพัฒน์ไม่คุย
ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมคุย  และในเวลานี้ก็ปีนขึ้นมานั่งคร่อมทับอยู่เหนือร่างของบารมีเรียบร้อยแล้ว
เสื้อที่สวมอยู่ถูกถอดออกและโยนทิ้งไว้บนพื้นอย่างรวดเร็ว พิพัฒน์จับบ่าของบารมีไว้แน่น และแนบริมฝีปากลงประกบกับริมฝีปากของบารมีอย่างรวดเร็ว ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้พูดอะไรมากไปกว่านี้

"เฮ้ย พัฒน์ แอ่ะ อึก พัฒน์"

ไม่คุยและไม่เคลียร์  และบารมีที่ไม่เข้าใจอะไรเลย ก็มีอันต้องยอมตามใจพิพัฒน์ทุกอย่างเมื่อพิพัฒน์ทิ้งกายลงและขยับสะโพกเคลื่อนไหวไปมาและเริ่มบดเบียดร่างกายเข้าหาส่วนที่ไวต่อความรู้สึกของบารมีอย่างรุนแรง

"คิดจะปล้ำกันหรือไง"

พิพัฒน์ไม่สนใจสิ่งที่บารมีพูดเลยสักนิด จัดการถอดเสื้อของบารมีออกและโยนทิ้ง   เริ่มซุกไซร้ปลายจมูกไปที่ซอกคอแกร่งจูบไล้เรื่อยลงมาตามแนวบ่าและลาดไหล่กว้างของบารมีอย่างจงใจ และบารมีก็ได้แต่แหงนเงยใบหน้าขึ้น และสูดลมหายใจเข้าลึก  ยากจะระงับความรู้สึกที่กำลังประทุขึ้นได้

"ดื้อ"

สิ่งที่ได้ยินทำให้บารมีขมวดคิ้วมุ่น  แม้คำพูดของพิพัฒน์จะฟังดูน่าหงุดหงิดใจ แต่ก็น่ารักน่าใคร่ในเวลาเดียวกันจนบารมีต้องหัวเราะออกมา

กางเกงถูกถอดทิ้งไปนานแล้ว เรือนร่างเปลือยเปล่าของพิพัฒน์กำลังเคลื่อนไหวไปมาอยู่เหนือร่างของบารมี และบารมีก็ลูบไล้บีบเค้นสะโพกมนอย่างรุนแรง   พิพัฒน์ก้มลงขบกัดริมฝีปากบารมี ดูดดึงด้วยริมฝีปากของตัวเอง  ก่อนจะฝากร่องรอยไว้ตามแผ่นอกกว้าง ขบกัดกลืนกินยอดอกของบารมีเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ 
ฝ่ามือแกร่งฟาดลงไปที่สะโพกแน่นอย่างรุนแรงเมื่อพิพัฒน์ขยับสะโพกเคลื่อนไหวอยู่เหนือท่อนเอ็นแข็งขืนที่ดุนดันอยู่ภายในกางเกงนอน

บางอย่างที่อยู่ตรงจุดกึ่งกลางของร่างกายตื่นขึ้นและขยายใหญ่จนคับแน่นอยู่ภายในกางเกงจนแทบจะทะลุออกมา

ปวดหนึบไปหมดที่ส่วนปลาย  แต่ก็ต้องยอมอดทนเอาไว้เพราะพิพัฒน์คนเดียว

พิพัฒน์เทชโลมความชุ่มชื้นของเจลใสลงบนปลายนิ้ว และสอดแทรกเข้าไปในช่องทางด้านหลังของตัวเองขยับปลายนิ้วเข้าออกเพื่อช่วยขยายช่องทาง  และบารมีก็นิ่งมองทุกการกระทำของพิพัฒน์อย่างถูกใจ

กางเกงนอนถูกดึงลงเรียบร้อยแล้ว และส่วนที่อยู่ภายในนั้นก็ดีดตัวออกมาอย่างรุนแรง

ความใหญ่โตแข็งขืนขยับไหวไปมา เส้นเลือดปูดโปนปรากฎให้เห็นที่ส่วนกลางของท่อนลำ และพิพัฒน์ก็รูดรั้งร่างกายของตัวเองไปมาเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ วางมือลงบนหน้าท้องแกร่ง  และชโลมท่อนเอ็นที่ขยายใหญ่ของบารมีด้วยเจลใส  ก่อนจะค่อย ๆ จับให้ส่วนนั้นตั้งลำให้ตรงกับช่องทางคับแคบนุ่มหยุ่นที่กดแทรกลงมาอย่างช้า ๆ

"อืออออ"

ริมฝีปากแดงเรื่อขบเม้มเข้าหากันแน่น  ดวงตาปรือปรอยทอดมองที่ใบหน้าของบารมีที่แสดงความรู้สึกออกมาไม่ต่างกัน

"อ่ะ พัฒน์ อืมมม ซี้ดดส์"

ส่วนนั้นค่อย ๆ กลืนหายเข้าไปในช่องทางด้านหลังของพิพัฒน์อย่างช้า ๆ และไม่นานก็จมมิดหายเข้าไปทั้งหมด

พิพัฒน์จ้องมองใบหน้าของบารมีด้วยดวงตาฉ่ำเยิ้ม ปลายลิ้นเปียกชื้นไล้เลียไปที่ริมฝีปากตัวเอง และก้มลงแนบริมฝีปากกับริมฝีปากร้อนของบารมี   เผยอริมฝีปากตอบรับปลายลิ้นนุ่มหยุ่นที่แทรกเข้ามาของคนที่ปรนเปรอทุกความรู้สึกให้

"หัดเชื่อกันบ้าง"

บารมีกระซิบบอกเสียงพร่า และพิพัฒน์ก็ปรือตาขึ้น ไม่ยอมฟัง ไม่ยอมเข้าใจ ไม่ยอมรับสิ่งที่บารมีบอกทั้งสิ้น

"พัฒน์อย่ามาแกล้งทำเป็นเฉย"

บารมีกระแทกร่างกายของตัวเองเข้าไปในช่องทางที่บีบรัดแน่น และพิพัฒน์ก็นิ่วหน้าและร้องครางออกมาเพราะการกระทำแบบนั้นของบารมี

"โอ้ย.......อื้ออออ"

ปลายเล็บจิกลงที่ลาดไหล่แกร่ง  และพิพัฒน์ก็ขบริมฝีปากลงไปที่ลาดไหล่กว้างจนขึ้นรอย

"โอ้ยยย"

บารมีร้องออกมาเสียงเบา และรับรู้ว่านั่นคือการเอาคืนของคนที่ไม่ยอมเชื่อฟัง

ถ้าดื้อขนาดนี้ ก็ต้องจัดการให้รู้แล้วรู้รอดไป

บารมีหยัดกายลุกขึ้นนั่ง และพิพัฒน์ยังขยับร่างกายเคลื่อนไหวไปมา  จนส่วนนั้นผลุบเข้าออกไปมาอยู่ภายในช่องทางคับแน่นที่ดูดกลืนร่างกายของบารมีเอาไว้ พิพัฒน์ใช้แขนโอบรัดรอบคอบารมีเอาไว้เพื่อเป็นหลักยึด  กระแทกสะโพกลงมาซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง และควบคุมทุกจังหวะการเคลื่อนไหวของตัวเอง

"อื้อ  อาส์ ซี้ดดดดดด อึก อื้อ"

ดวงตาหวานเชื่อมปรือปรอย  ริมฝีปากเม้มแน่น และใบหน้าเนียนขาวก็แดงก่ำ  หยาดเหงื่อหยดลงที่ข้างแก้มขาวเป็นทางยาว   และบารมีก็รั้งร่างของพิพัฒน์มากอดเอาไว้  อ้อมแขนแกร่งโอบรัดสะโพกมนแน่นและลุกขึ้นยืน เรียวขาขาวรัดสะโพกแกร่งเอาไว้  และร่างกายก็ขยับไปตามจังหวะการสอดแทรก  ท่อนเอ็นแกร่งที่อยู่ในช่องทางคับแน่นขยับเคลื่อนไหวขึ้นลงตามจังหวะการก้าวเดิน   ริมฝีปากยังพัวพันกันแนบแน่น และเมื่อร่างกายของพิพัฒน์ถูกวางลงบนขั้นบันได  สองขาก็ถูกยกขึ้นพาดอยู่บนไหล่กว้าง    เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่น  ตามจังหวะการกระแทกกระทั้น  บารมีฝังกายเข้าไปในช่องทางที่บีบรัดครั้งแล้วครั้งเล่า

รูดรั้งความต้องการให้พิพัฒน์ไปพร้อมๆ  กัน หยดน้ำใสไหลเยิ้มออกมาที่ส่วนปลายเป็นทางจนเปรอะเปื้อนไปทั้งฝ่ามือ  บารมีขยับร่างกายเข้าออกรุนแรงและกดเรียวขาของพิพัฒน์ให้แยกออกกว้างยิ่งขึ้น สอดแทรกท่อนเอ็นใหญ่โตเข้าไปในช่องทางที่เปิดรับอย่างรุนแรง และพิพัฒน์ก็จิกปลายเล็บลงที่ลาดไหล่กว้างฝังรองรอยความรู้สึกเอาไว้  สะบัดใบหน้าไปมาและร้องคราง เมื่อร่างกายถูกเติมเต็มอย่างรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างกายส่วนล่างถูกยกขึ้นจนสุด และบารมีก็ขยับร่างกายลุกขึ้นตามและสอดแทรกความใหญ่โตลงมาในช่องทางที่เปิดรับมากขึ้น

เสือกไสท่อนเอ็นแกร่งเข้าไปอย่างรุนแรง  และพิพัฒน์ก็ได้แต่หลับตาแน่นและร้องครางออกมาเสียงดังลั่น

"อาส์ พี่บัส  เสียว"

บารมีถอนท่อนเอ็นที่ขยายใหญ่เต็มทีออก และรูดรั้งความต้องการของตัวเองไปมา  สอดปลายนิ้วเข้าไปที่ช่องทางที่บีบรัด และขยับปลายนิ้วสอดแทรกเข้าหา   ขยับเข้าออกรุนแรงหลายครั้ง และพิพัฒน์ก็ได้แต่ร้องครางและรูดรั้งร่างกายของตัวเองตาม  สะโพกมนแอ่นขึ้นเพื่อรองรับทุกความต้องการที่ถูกสอดแทรกเข้ามา  ก่อนจะขยับกายยืนขึ้นตามแรงฉุดของบารมี

พิพัฒน์จับราวบันไดเอาไว้แน่น  และแยกขาออกกว้างเพื่อเปิดรับความต้องการใหญ่โตที่จดจ่ออยู่ที่สะโพก  และเมื่อส่วนนั้นค่อย ๆ สอดใส่เข้ามาอีกครั้ง พิพัฒน์ก็โน้มกายลงและวางมือไว้บนขั้นบันไดเพื่อพยุงร่างกายของตัวเองเอาไว้  ท่อนเอ็นใหญ่โตสอดแทรกเข้ามาจนสุด และเมื่อบารมีขยับร่างกาย คนที่รองรับอารมณ์ของบารมีทั้งหมดก็ถึงกับร้องครางออกมาเสียงลั่นเพราะการแทรกสอดที่รุนแรงตามความรู้สึกของอีกฝ่ายที่ทนเก็บกักเอาไว้มานาน เสียงร้องครางกระเส่าเพราะถูกใจกับสิ่งที่ได้รับ ยิ่งทำให้บารมีเร่งจังหวะสะโพกรุนแรงขึ้น อัดกระแทกเข้าไปไม่หยุด จนร่างกายของพิพัฒน์ขยับไหวไปมาตามแรงกระแทก

"โอ้ย  อาส์......อึ่ก.....แรงอีก.. แรงกว่านี้...จะ....จะ เสร็จ....แล้ว พี่บัส....จะแตกแล้ว..โอ้ย"

พิพัฒน์ร้องบอกคนที่ยังขยับสะโพกเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง และบารมีก็กดปลายจมูกแนบลงที่แผ่นหลังเนียนขาว  ขบกัดและประทับร่องรอยของตัวเองเอาไว้   ทั้งที่ยังสอดใส่กระแทกกระทั้นความแข็งขืนใหญ่โตที่ใกล้จะปลดปล่อยเข้าไปเต็มแรงไม่หยุด

"ออกยังพัฒน์ ออกยัง อึก อาส์"

เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแตกพร่า  และเพียงไม่นานเพิพัฒน์ก็ถึงกับทรุดกายลงเพราะไร้เรี่ยวแรงที่จะยืนต่อไปได้อีก

เสียงร้องครางลั่นในจังหวะสุดท้าย ทำให้บารมีเร่งเร้าร่างกายให้สอดแทรกรุนแรงเพิ่มขึ้น

พิพัฒน์ปลดปล่อยความรู้สึกออกมาแล้ว

ร่างกายเกร็งกระตุก  และช่องทางด้านหลังก็บีบรัดรุนแรง จนบารมีต้องขยับสะโพกให้เร็วขึ้น 

"พัฒน์  เสร็จแล้วพัฒน์ อาส์"

บารมีปลดปล่อยความรู้สึกออกมาจนหมดสิ้น  ความร้อนภายในร่างกายฉีดพ่นเข้าไปในช่องทางที่บีบรัดจนล้นเอ่อออกมา

และความรู้สึกทั้งหมดของพิพัฒน์ก็ถูกกลั่นกรองออกมากระเซ็นกระสายหลั่งทะลักออกมาจากช่องทางเล็ก ๆ ที่ส่วนปลาย  หยาดหยดขาวขุ่นไหลชโลมที่ความแข็งขืนของร่างกาย หยดลงเปรอะเปื้อนตามขั้นบันไดจนทั่ว

ลมหายใจของคนที่เพิ่งปลดปล่อยความรู้สึกออกมาทั้งหมด ยังคงหอบหนัก และทรุดกายลงอยู่บนขั้นบันได

พิพัฒน์นิ่งสงบลงแล้วและร่างกายยังคงเกร็งแน่น  เมื่อบารมีถอดถอนร่างกายออกมาและยัดเยียดกลับเข้าไปอีกครั้ง

"โอ้ย"

โดนแกล้งให้ร้อง  และบารมีก็ยิ้มออกมา เมื่อหยาดหยดร่างกายของตัวเองที่กลั่นกรองออกมาทั้งหมดไหลซึมออกมาจากช่องทางด้านหลังของพิพัฒน์

"วันนี้ออกมาเยอะเลยพัฒน์.........ลุกไหวมั้ย"

บารมียืนขึ้นและฉุดแขนของพิพัฒน์ให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน

พิพัฒน์ยังไม่ได้ขยับไปไหน  แต่กอดเอวของบารมีเอาไว้เป็นหลักยึด  และแหงนเงยใบหน้าขึ้นจ้องมองหน้าของบารมีนิ่ง ๆ

"เวลากอดกันพี่รู้สึกยังไง......พี่รู้สึกดีหรือเปล่า"

"...................................."

"เวลาที่อยู่ด้วยกันทุกวัน  พี่บัสรู้สึกดีมั้ย"

"................พัฒน์.............................."  บารมีนั่งงัน  และเริ่มจะยอมรับฟังสิ่งที่พิพัฒน์พูดอย่างตั้งใจ

"สุขก็สุขด้วยกัน  ถ้าจะทุกข์ก็ต้องทุกข์ด้วยกัน  ผมล้มผมเจ็บมาเยอะไม่น้อยกว่าพี่หรอก  ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น"

รอยยิ้มบาง ๆ จุดขึ้นที่ใบหน้าของพิพัฒน์ 
สัมผัสเบา ๆ จากปลายจมูกที่แนบลงบนแผ่นอกข้างซ้ายอย่างช้า ๆ ทำให้บารมีรู้สึกอุ่นไปถึงหัวใจ

พิพัฒน์จ้องมองหน้าของบารมีนิ่ง ๆ และบารมีก็ได้แต่ถอนหายใจยาว และแตะฝ่ามือไปที่ข้างแก้มของพิพัฒน์ ลูบไล้แผ่วเบา  และยอมพยักหน้ารับสิ่งที่พิพัฒน์ตั้งใจจะทำ

"เออ.....เอายังไงก็เอา........จะทำอะไรก็ทำ......อยู่ด้วยกันกูมีแต่ทำให้มึงลำบากตลอด"

พิพัฒน์ยังคงยิ้ม   รอยยิ้มที่ทำให้บารมี  มีความสุขที่สุด  สุขจนต้องยิ้มตาม   มีความสุขจนสามารถยิ้มตามอีกฝ่ายออกมาได้

"ง่วงยัง"

พิพัฒน์แนบใบหน้าลงซบไหล่บารมีเบา ๆ อีกครั้งและบารมีก็อมยิ้ม  เมื่อเห็นท่าทางแบบนั้นของพิพัฒน์

"ง่วง"

น้ำเสียงแผ่วเบาของคนตอบที่พูดจาแทบไม่รู้เรื่องทำให้บารมีหัวเราะออกมาและกดปลายคางไปที่กลางกระหม่อมของพิพัฒน์เพื่อหยอกล้อ

"ง่วงก็ขึ้นไปนอนสิวะ ไปอาบน้ำอีกรอบแล้วมานอน จะมาซบกูทำไม ง่วงแต่ไม่ยอมไปนอน มึงจะเอายังไงพัฒน์"

พิพัฒน์ไม่ได้ตอบ แต่แค่ปฏิกิริยาทางกายก็มากพอให้บารมีรับรู้

ฝ่ามือที่ค่อย ๆ ลากไล้ไปทั่วหน้าขาและกำลังวนกลับมาที่กลางหว่างขาตรงส่วนที่ยังอ่อนแรง ทำให้บารมีนิ่งมองคนที่ยังแนบใบหน้าซุกซบอยู่ที่อกแต่มือยังไม่หยุดนิ่ง

"......พี่....บัส....."

บารมีทำอะไรไม่ได้แล้ว  นอกจากยอมให้พิพัฒน์ทำทุกอย่างได้ตามใจชอบอย่างที่อยากจะทำอีกครั้ง

ในเวลานี้สิ่งที่เกิดขึ้นกับบารมีเป็นไปอย่างที่ช่างวินัยคิดเอาไว้หมดทุกอย่าง 

..........ถึงจะหงุดหงิดโมโหไม่ชอบใจขนาดไหน แต่สุดท้ายบารมีก็ไม่มีทางขัดขวางสิ่งที่พิพัฒน์ต้องการจะทำได้อยู่ดี............


TBC.


หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 21-06-2015 00:27:32
สุดท้ายก็แพ้ทาง อิอิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 21-06-2015 00:31:59
ดื้อจริงๆด้วย555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 21-06-2015 00:47:17
ก็ดื้อด้วยกันทั้งคู่แหละ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: meeoldly ที่ 21-06-2015 00:49:32
 :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 21-06-2015 00:59:50
นางมีท่าไม้ตายไงล่ะ 555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-06-2015 01:34:41
 o13 ต้องยกให้พัฒน์์ขาเลย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 21-06-2015 02:15:40
นางดื้อเงียบจริงๆ ทุกคนต้องยอม 555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: zaturday ที่ 21-06-2015 05:06:43
กรีดร้องดิ้นตายให้กับความน่ารักของนุ้งพัฒ ทำไมน่ารักอย่างนี้ พี่บัสเราไปปไหนไม่รอดแล้ว เมียน่ารักเกิน  :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 21-06-2015 07:04:29
555 แล้วพี่จะโววายไม่ยอมเพื่ออะไรพี่บัส ชอบเล่นตัวนะเรารู้ว่าแพ้ทางก็ยังดันทุรังทำ
พัฒน์ร้ายกาจมากใช้วิธีนี้ทำให้พี่บัสยอมทุกที
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 21-06-2015 07:40:02
พิพัฒน์ดื้อจริงๆ แต่พี่บัสก็ยอมตลอด  :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 21-06-2015 08:21:44
 :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 21-06-2015 08:37:10
 o13 พัฒน์สุดยอด
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 21-06-2015 08:38:08
น่ารัก ซึ้ง ร้อนแรงมากด้วยค่ะ พิพัฒน์มีวิธีการอธิบายที่ดีเสมอ ซึ่งพี่บัสแพ้ๆๆๆๆๆๆ แพ้ร้อยพันรอบอ่ะพี่
เป็นความรักที่อบอุ่นมากเลย พัฒน์รักมากแบบอยากช่วยเหลือทุกอย่างเพราะเป็นคู่ชีวิตกัน
ส่วนพี่บัสก็แบบแมนอ่ะ โคตรเท่ห์ ไม่อยากให้แฟนลำบาก โอย ดีใจที่มาเจอกันเนอะ ดี้ดี

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-06-2015 08:41:32
สุดท้ายพี่บัสก็ต้องยอมพัฒน์ กว่าจะยอมก็ต้องคุยด้วยภาษากายก่อน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 21-06-2015 09:20:50
พี่บัสคนคิดมาก
ต้องเจอดื้อๆดึงดันแบบพัฒน์นี่แหละ ถึงจะยอมรับความช่วยเหลือบ้าง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 21-06-2015 09:22:14
พัฒน์ ดื้อ จริงๆๆๆ จนคืนนี้ไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
เช้าตื่นมาเดินไม่ไหวไม่รุ้ด้วยน่ะเออ อิอิ
ใช้ร่ายกายคุยนำล่องก่อนมันดีอย่างนี้เอง จนเฮียบัสหยุดไม่อยู่แล้ว ก๊ากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 21-06-2015 09:31:48
อย่างแรก บอกก่อนเลย. คิดถึงงงงงงง  :กอด1:

เค้าชอบอ่า เวลาที่พี่บัสหงุดหงิดที่เอาชนะพัฒน์ไม่ได้ 5555 สะใจ
แล้วเวลาที่พัฒน์อธิบายแบบนี้ ยิ่งชอบใหญ่ 5555.  :haun4: ขอเติมเลือดหน่อยคร้าบบบ
 :hao3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: กระพรวนศรี ที่ 21-06-2015 09:33:21
ชอบพัฒน์จริงๆเลยอะเซ็กซี่ ร้อนแรง ยั่ว อึน มึน เก่ง น่ารัก ฮื้อออ อยากแย่งมาจากพี่บารมีง่ะ
แต่ก็ชอบบารมีด้วย ดูแบบขี้บ่น พูดเยอะ แต่แพ้ทางน้องพัฒน์ตลอด

น่ารักจริงๆ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-06-2015 09:36:43
เสร็จพัฒน์จนได้ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 21-06-2015 09:42:02
ต้องใช้ภาษากายคุยสินะ  :z1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 21-06-2015 10:07:12
เจอท่านพัฒน์เข้าไป พี่บัสหรือจะสู้ได้ 55555555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 21-06-2015 10:11:11
เริดสุดอ่ะพี่พัฒน์
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 21-06-2015 10:22:44
ต้องให้พัฒน์จัด ถึงจะยอมใช่ไหมพี่บัส55555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 21-06-2015 10:25:26
สุดท้ายพี่บัสก็ต้องยอมให้พัฒน์เขาอยู่ร่ำไป~ :-[ .. คุยกันแบบนี้เราก็เขินแย่เลยสิ~
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 21-06-2015 10:30:08
สุดท้ายก็ เป็น อิแบบนี้ตลอด

แล้วพี่บัสจะโวยวาย ทำไมให้เสียเวลา

หรือว่านี่เป็นแผน ที่จะให้พิพัฒ ทำแบบนี้ใช่ใหม

พี่บัสเจ้าเล่ห์มากไปแล้ว
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: papanoy ที่ 21-06-2015 13:21:39
พี่บัสทำเป็นโมโหให้พัฒน์ง้อล่ะสิ เข้าทางเบยยยย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 21-06-2015 14:10:49
ยินดีต้อนรับพี่บัสเข้าสู่สมาคมพ่อบ้านใจกล้าค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: khuan ที่ 21-06-2015 14:27:50
พัฒน์  o13
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 21-06-2015 14:50:38
นึกว่าตาฝาดล่ะ  :m26: เห็นมาอัพเนี่ยะ

แต่ดีใจนะ รอตอนนี้นานมากเลย  :hao5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: dekying kukkig ที่ 21-06-2015 21:42:03
พี่บัสเอ้ยยยย เมียพี่เจ๋งโพดดดดดดด เป็นไงล่าเป็นงายยยยไปไหนไม่รอดหร๊อกพี่บัส หัวปักหัวปำแน่ๆๆ :z2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 21-06-2015 22:47:30
ต้องใช้ภาษากาย ถึงจะเข้าใจกัน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 22-06-2015 01:14:25
 กรี๊ดดดดดดร้องงงงงงงงงงงดังๆ กรี๊ดๆ โอ๊ยยยยย ทั้งดีใจทั้งฟิน คิดถึงงงมากกกก นึกว่าตาฟาดที่มาอัพ 55555 รอออออทู๊กกกวันนนนนนนนนน มาครั้งไหนก็ทำให้ :haun4: :jul1: :o8: ได้ตลอดจริงๆ ชอบบบมากกกกกก เฮียบัส ใช่แล้วล่ะ ต้องเงียบนะ ดื้บเงียบร้ายอย่างนี้ 555555 พัฒน์ได้ใจจริงๆ ชอบบบบมากกกกก ... รอตอนต่อไปใจจดจ่อนะค่ะ อยากตามมาต่อเร็วๆนะค่ะ แต่เกรงใจ 55.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: แค่ความทรงจำ ที่ 22-06-2015 01:25:16
  :laugh: สุดท้ายก็ต้องยอม ใช่ไหมพี่บัส

ลุ้นๆ ต่อไป
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 22-06-2015 10:02:31
กรี๊ดดดดดดดดดดด ว่าแล้วพี่บัสต้องแพ้ทางพัฒน์  :laugh:
น่าร๊ากกกกกกกก ทั้งหื่น ทั้งซึ้งเลย :z1:
เค้าคิดถึงช่างวินัยอ่ะเท็นจัง
โผล่มานี๊ดดดดดเดียวเอง นะ ๆ :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: mm03 ที่ 22-06-2015 14:40:58
พี่บัสจะเอาอะไรมาสู้ ฮ่าๆๆๆ
แพ้น้องยอมน้องตลอดอะ >///<
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: feoh ที่ 22-06-2015 15:23:11
 :z1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-06-2015 15:44:44
บ้านนี้เมียคุม
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 22-06-2015 17:48:45
โอ๊ยยยยพัฒน์นางร้ายมาก
ทำเอาอิพี่บัสไปไม่เป็นเลย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 22-06-2015 20:11:43
และแล้วก็ต้องเสียเลือดอีกตอน   คึคึ   

:haun4:   :haun4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: kazuribum ที่ 28-06-2015 00:01:30
ชูป้ายไฟ  "พัฒน์ -เคะราชินี" จ้า นางเริ่ด นางคือไอดอล
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 28-06-2015 20:29:57
ต้องใช้ภาษากายก่อนถึงจะเข้าใจกัน
55
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: chom0612 ที่ 29-06-2015 07:18:00
ว้าวว มาต่อแล้วว  :mew3:  :mew3:  :mew1:

พัฒน์นางเริ่ดมาก ไม่ต้องพูดอะไรมากมายก็ชนะเริ่ด

ชีวิตช่างแตกต่างจากเดิม >> นางเกิดมาเพื่อเปนเคะ มิใช่สามีใคร 55

ปล. อย่าลืมมาต่อบ่อยๆ นะ  :call:  :call:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 29-06-2015 16:42:13
ต้องแบบพิพัฒนี่แหละถึงจะเอาบารมีอยู่
ดื้อแบบใสใส หัวใจสองดวงงงง

คิดถึงเต๋อน้อยกรอยใจป้าจัง TT
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: sodawan1 ที่ 29-06-2015 18:07:56
ภาษากายเข้าใจง่ายกว่าใช่ไหม 5555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 29-06-2015 20:55:28
 o13 พี่บัสไม่กล้าหือพัฒน์หรอก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: hewlett ที่ 26-07-2015 22:24:22
ดัน รอสองคู่เลย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 30-07-2015 21:09:58
เพิ่งมีเวลามาอ่านตอนล่าสุด

พี่พัฒน์ยั่วโคตรรรรรร
พี่บัสก็โอ้โห จัดเต็มจริงๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: sunakai ที่ 01-08-2015 16:41:39
ไม่เจอกันนานทำไมพัฒตี้ถึงช่างยั่วจังวะ!!

อ๊อยยยยย แบบนี้แล้วบัสซี่ไปไหนไม่รอดหรอก

โบราณว่าคนเชื่อฟังเมียเนี่ยจะเจริญรายไหนก็รายนั้น

น้องลูกหนูมีท่าไม้ตายเด็ดขนาดนี้ต่อให้อยากรั้นก็ทำไม่ได้

อีกไม่นานก็หมดหนี้เชื่อดิ คึคึคึ

 :กอด1:.............คิดถึง!
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 19-10-2015 21:07:15
หายๆ ไปไหนเนี้ย
คนเขียนครับ คิดถึง
 :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 19-10-2015 21:18:00
คิดถึงคู่นี้จังเลยยยยยยย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: -Otto- ที่ 11-12-2015 12:54:08
ยังรออยู่นะ. :katai5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 11-12-2015 12:56:05
 :sad11:
รออยู่นะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: tararatart ที่ 11-12-2015 13:13:08
รอ ฉันรอเธออยู่แต่ไม่รู้เธอจะมาเมื่อไหร่
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน สู้ไม่ได้ P.25
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 30-12-2015 19:54:23
ดันรอ  อิอิ
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 23-01-2016 22:53:43
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)



 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน วันที่น่ายินดี


พิพัฒน์ทำให้รู้ว่า  การมีใครสักคนอยู่ข้าง ๆ ในวันที่อ่อนแอ มันทำให้อุ่นใจมากแค่ไหน และพิพัฒน์ก็ทำให้รู้ว่า การมีใครสักคนอยู่ข้าง ๆ ในวันที่เข้มแข็ง ยิ่งทำให้เกิดความมั่นใจในทุก ๆ สิ่งที่จะทำเพิ่มขึ้น

การมีใครสักคนมาอยู่เคียงข้างกันทำให้บารมีกล้าที่จะตัดสินใจ  พร้อมจะอ่อนแอพร้อมจะล้ม และลุกขึ้นสู้ใหม่ในทุก ๆ ครั้งเพราะรู้ว่าแม้จะต้องล้มอีกกี่ครั้ง  ก็จะมีพิพัฒน์อยู่ข้าง ๆ ในชีวิตจากนี้ไป

อู่เคยติดลบ  อู่เคยมีหนี้สิน  และแม้ทุกวันนี้ก็ยังต้องผ่อนใช้หนี้กับธนาคาร แต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่และทำให้บารมีเป็นทุกข์มากเหมือนเมื่อก่อน

เราพอจะมีเงินหมุนบ้างแล้ว สภาพการเงินโดยรวมนับว่าคล่องตัวมาก ตั้งแต่พิพัฒน์มาอยู่ด้วยกัน ชีวิตที่เคยดิ้นรนต่อสู้อยู่คนเดียว  มีแสงสว่างชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ

บารมีไม่ได้สู้อยู่คนเดียว  แต่มีคนคอยช่วยคิดและแบ่งเบาภาระหนักอึ้งที่เคยแบกเอาไว้บนบ่า

ปรึกษากันได้

คุยกันได้

คิดคนเดียวก็มองได้แค่ด้านเดียว  แต่เมื่อมีพิพัฒน์อยู่ด้วย ทำให้บารมีได้คิดในหลายๆ  มุม 

การมีพิพัฒน์อยู่ด้วย มันดีแบบนี้

ดีจนถึงขนาดที่........บารมีเริ่มคิดไม่ออก ว่าถ้าต่อจากนี้ไปถ้าไม่มีพิพัฒน์อยู่ด้วย ชีวิตหลังจากนี้จะเป็นยังไง

พิพัฒน์ยังคงวุ่นวายอยู่กับการทำบัญชี  และบารมีที่เพิ่งกลับมาจากไปติดต่องานข้างนอกก็ผลักประตูสำนักงานเข้ามา

"พัฒน์วันนี้กินข้าวหรือยัง"

ทักทายคนที่กำลังทำงานอย่างตั้งใจ และพิพัฒน์ก็เงยหน้าขึ้นมาตอบสิ่งที่บารมีถาม

"เดี๋ยวกิน"

แปลว่า ........ยัง.......ไม่ได้กิน

ตั้งแต่ที่บารมีออกไปติดต่องานเมื่อช่วงสาย ๆ จนถึงป่านนี้ พิพัฒน์ก็ยังคงไม่ได้กินข้าว  เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ปล่อยเอาไว้ทีไรเป็นแบบนี้ทุกที 

"แล้วเมื่อไหร่จะกิน"

เอ่ยถาม  แล้วบารมีก็เดินไปนั่งบนเก้าอี้  เอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้  เอียงคอไปมาเพราะความเมื่อยล้า 

"รอพี่บัส  พี่บัสกินหรือยัง"

คนที่กำลังยุ่งกับการกดเครื่องคิดเลข  เอ่ยถามทั้งที่ไม่ได้เงยหน้ามามองหน้าของบารมีด้วยซ้ำ

"ยังเหมือนกัน"

บารมีได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ของคนที่กำลังกรอกตัวเลขลงไปในบิล  และเมื่อหันไปมองก็เห็นว่าพิพัฒน์กำลังหัวเราะจริง  ๆ

"ขำอะไรวะ"

พิพัฒน์ไม่ตอบ  และยังคงสนใจกับการทำงานของตัวเอง 

"เย็นนี้ไปเล่นตะกร้อกับเต๋อนะ"

ที่จริงไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้  ถ้าจะไป  แต่บอกเอาไว้ให้อีกคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ห่างออกไปได้รับรู้คงดีกว่า  ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวก็บ่นแล้วก็ไปตามกลับบ้านอีกแน่ ๆ

"เห็นตะกร้อดีกว่ากู  ขยันซ้อมขนาดนั้น ไปแข่งโอลิมปิกเลยไป"

โดนพูดจาประชดประชันใส่ แต่พิพัฒน์ก็ทำเป็นไม่สนใจ  และบารมีก็ทำหน้ายุ่ง ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินหนีออกไปนอกออฟฟิศ

ไปยืนคุมงาน  ไปจัดการกับรถที่ต้องส่ง  และไปยืนดูพื้นที่ที่กำลังขยายออกไปให้อู่กว้างขึ้น

พิพัฒน์รู้ว่าบารมีงอน  งอนด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ และมักหาว่าพิพัฒน์ไม่สนใจเสมอ  และพิพัฒน์ก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจบารมีจริง ๆ   บางครั้งก็ต้องมีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้งอนกันบ้าง  เพื่อเป็นสีสันของชีวิต ทั้งที่รู้ว่าบารมีจะแสดงสีหน้าและท่าทีว่าไม่พอใจ แต่พิพัฒน์ก็ยังจะทำ

พิพัฒน์ไม่กลัวบารมีโกรธ  เพราะไม่ว่ายังไงสุดท้าย พอผ่านกลางคืนไปจนถึงเช้าของอีกวัน

เราก็กลับมาดีกันและจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเมื่อวานเราโกรธกันด้วยเรื่องอะไร

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บารมีโกรธพิพัฒน์มาหนึ่งชั่วโมงแล้ว สาเหตุก็คือเรื่องเดิม ๆ พิพัฒน์ชอบไปเล่นตะกร้อแล้วไม่สนใจบารมีที่นั่งคอยอยู่ที่อู่

"บอกว่าชั่วโมงเดียว แล้วก็ยาว  มึงไปเล่นตะกร้อ แล้วมีอีหมวยที่ตลาดมาติดล่ะสิ  กูรู้ทันหรอก"

มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง  พิพัฒน์รู้ว่าสิ่งที่บารมีพูด ก็เพื่อประชดประชันเรียกร้องความสนใจทั้งนั้น

ใช่ที่ให้รอนาน  แต่บางครั้งพิพัฒน์ก็มีมุมแบบเด็ก ๆ ที่อยากทำอะไรตามใจตัวเองบ้าง  เล่นสนุกตามประสาเด็ก เพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน

ก็เหมือนกับที่บารมีเป็นอยู่ มีมุมแบบเด็ก ๆ  มุมที่งอแง งี่เง่า เรียกร้อง และเอาแต่ใจตัวเอง 

แต่พิพัฒน์ก็รับสิ่งที่บารมีเป็นได้ บางครั้งก็บ่น  บางครั้งก็หงุดหงิด บางครั้งก็โมโหใส่  แต่ทั้งหมดนั้นพิพัฒน์เข้าใจ

เพราะไว้วางใจ  เพราะสบายใจที่จะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา  เพราะอยู่กับคนที่สบายใจบารมีถึงได้เป็นตัวของตัวเอง

พิพัฒน์ไม่เคยว่า  ไม่เคยโกรธ  เข้าใจ และคุ้นชินกับสิ่งที่บารมีเป็น ทั้งหมดนั้นไม่ว่าจะเป็นส่วนที่ดี หรือส่วนที่ไม่ดี พิพัฒน์เข้าใจทั้งหมด  สิ่งที่ทำก็แค่ปรับตัวเข้าหากัน  รับในสิ่งที่อีกฝ่ายเป็นให้ได้ 

พิพัฒน์ไม่ใช่คนช่างพูด  แต่พิพัฒน์ชอบที่จะฟัง  และยิ้มกับสิ่งที่บารมีพูดเสมอ

"พรุ่งนี้ต้องไปหาอาพิชัยแต่เช้า  เรื่องอะไรก็ไม่รู้  อาพิชัยที่เคยเป็นเพื่อนกับพ่อกูเมื่อก่อนน่ะ  ไม่รู้มีเรื่องใหญ่อะไรหรือเปล่า  ร้อยวันพันปีไม่เคยติดต่อมาอยู่ดี ๆ ก็ติดต่อมาขอคุยด้วย  กูยังสงสัยอยู่ว่าเรื่องอะไรกันแน่"

ชีวิตประจำวันของเราสองคนเป็นปกติดี  แต่บางครั้งก็มีเรื่องที่ทำให้ครุ่นคิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นเรื่องของอาพิชัย ที่บารมีจำหน้าแทบไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ  เหมือนคุ้น ๆ ว่าเคยเจอกันเมื่อหลายปีก่อน สมัยที่พ่อยังมีชีวิตอยู่

พิพัฒน์หิ้วปิ่นโตและถุงกับข้าวสองสามอย่างลงมาจากรถ  เดินเข้าครัวไปเพื่อจะล้างมือและเตรียมอาหารเย็นให้กับคนที่เดินบ่นไปเรื่อย และกำลังค้นหาน้ำดื่มจากในตู้เย็น

"เออ พัฒน์"

บารมีเทน้ำลงในแก้วและถือเอาไว้ 

ทุกอย่างดูคล้ายปกติดี  แต่พิพัฒน์ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาบางอย่างที่ผิดไปจากปกติ

บารมีดูเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง และเหมือนกำลังพยายามจะพูดอะไรสักอย่างออกมา

แก้วน้ำในมือ ถูกยกขึ้น และบารมีก็ดื่มน้ำจนหมดแก้วและวางแก้วน้ำไว้บนซิงค์ล้างจาน

"ในลิ้นชักเก็บจาน มีอะไรอยู่ในนั้นหรือเปล่าวะ"

พิพัฒน์เลิกคิ้วขึ้นสูงและยังคงนิ่งเฉย  ไม่ได้ไปเปิดลิ้นชักดูอย่างที่บารมีบอก และเป็นบารมีที่ขมวดคิ้วมุ่น  เมื่อเห็นพิพัฒน์ยังคงนิ่งเฉย

"ในลิ้นชักมีของอยู่  ช่วยไปเปิดหน่อยได้มั้ย"

เน้นย้ำด้วยน้ำเสียงเข้มขึ้น  แต่พิพัฒน์ก็ยังเฉย  และบารมีก็เริ่มขมวดคิ้วมุ่นและนึกหงุดหงิดเล็ก ๆ ที่พิพัฒน์ไม่ทำตาม

"โว้ย"

ส่งเสียงให้รู้ว่าไม่ชอบใจกับสิ่งที่พิพัฒน์ทำ  และพิพัฒน์ก็แกล้งหันมามองหน้าของบารมีเล็กน้อย  สีหน้ายังคงเรียบเฉย  และกลายเป็นบารมีที่ต้องเดินไปเปิดลิ้นชักเก็บจานเพื่อจะหยิบของบางอย่าง

กล่องเล็ก ๆ ที่เคยอยู่ในนั้นหายไปแล้ว และมันแทนที่ด้วยกล่องอีกกล่องที่มีลักษณะคล้ายกัน

บารมีหยิบกล่องขึ้นมาดูและพบว่ามีการ์ดใบเล็ก ๆ เสียบเอาไว้

เปิดการ์ดใบนั้นออกดู  ก็พบว่าเป็นการ์ดอวยพร และในนั้นมีข้อความที่เขียนถึงบารมีเพียงไม่กี่บรรทัด

......พี่บัส.....
พี่ลืมหรือเปล่าว่าวันนี้เป็นวันเกิดพี่.......สุขสันต์วันเกิดนะครับ
..............................รัก..............
                            พัฒน์

บารมีเปิดกล่องออกดู  และพบว่าของในนั้นคล้ายกับที่บารมีซื้อให้พิพัฒน์ทุกประการ

ข้าวเย็นเตรียมเสร็จแล้ว และพิพัฒน์ก็ตักข้าวใส่จานให้บารมีเรียบร้อย

"พี่บัสกินข้าว"

พิพัฒน์เรียกให้บารมีมานั่งกินข้าวด้วยกัน และบารมีก็ถือการ์ดและกล่องของขวัญมาวางไว้บนโต๊ะ

ทุกอย่างเป็นปกติดี  ชีวิตของเราเป็นปกติเหมือนทุกวัน  เพียงแต่วันนี้มีบางอย่างแตกต่างจากวันอื่นแค่เล็กน้อยเท่านั้น
นิ้วนางขางซ้ายของพิพัฒน์ที่ไม่เคยมีเครื่องประดับ ตอนนี้มีแหวนทองเกลี้ยงสวมอยู่หนึ่งวง  และนิ้วนางข้างซ้ายของบารมีที่เคยว่างเปล่าเมื่อหนึ่งนาทีก่อนก็มีแหวนทองเกลี้ยงแบบเดียวกับที่พิพัฒน์สวมอยู่

พิพัฒน์ไม่ใช่คนช่างพูดช่างคุย ถนัดที่จะฟังมากกว่า และบารมีก็เริ่มพูดเรื่องที่ต้องไปเจอกับอาพิชัยเพื่อนของพ่อในวันพรุ่งนี้อีกครั้ง  พิพัฒน์เพียงแค่ฟังไปเรื่อย ๆ และพยักหน้ารับ  และบารมีก็แค่เล่าไปเรื่อย ๆ เหมือนทุก ๆ วัน

เรื่องที่ต้องทำในวันพรุ่งนี้บารมีเล่าจนจบแล้ว และยื่นมือมาแตะเบา ๆ ที่ข้างแก้มของพิพัฒน์

"รักเหมือนกันว่ะ"

บารมีพูดเพียงเท่านั้นและรีบลุกเดินหนีขึ้นห้องไปอย่างรวดเร็ว  ทิ้งให้พิพัฒน์นั่งอมยิ้มคนเดียวเงียบ ๆ อยู่อย่างนั้น

ยังไม่ทันบอก "สุขสันต์วันเกิด"  ด้วยซ้ำ  แต่คนที่ควรต้องฟังก็รีบหนีขึ้นห้องไปแล้ว บารมีเป็นคนไม่ค่อยแสดงความรู้สึกของตัวเองให้พิพัฒน์เห็นมากนัก นาน ๆ ทีถึงจะแสดงความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดให้รู้บ้าง และพิพัฒน์ก็รู้และเข้าใจดี

คงจะพยายามเต็มที่แล้วที่จะทำให้แปลกใจ ด้วยการเอาของขวัญใส่ในลิ้นชักไว้ให้ แต่บังเอิญบารมีลืมไปว่าวันนี้เป็นวันเกิดของตัวเอง  และพิพัฒน์รู้ว่ายังไงบารมีก็ลืมแน่ ๆ เลยตั้งใจจะทำให้อีกฝ่ายประหลาดใจด้วยของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ

แต่ไม่นึกว่าเราจะใจตรงกันขนาดนี้

บารมีและพิพัฒน์ยังคงใช้ชีวิตปกติเหมือนทุกวัน  แต่วันนี้มีบางอย่างเพิ่มเติมขึ้นมาอีกเล็กน้อย

สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือคำว่า "รัก" และผูกพัน และเมื่อมีสองสิ่งนั้นร่วมกันก็เป็นสัญญาณที่ดีในการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่แบบจริงจังของพิพัฒน์และบารมี


TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: papanoy ที่ 23-01-2016 23:18:26
อืมมม...อิ่มเอม... :mew1:
         :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 23-01-2016 23:25:48
กรี๊ดดด เอาอีกจ้า
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: imac ที่ 23-01-2016 23:37:36
อ่านไปยิ้มไป พี่บัสงอนน่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Asakurayo ที่ 23-01-2016 23:38:36
คิดถึงมากกกกก ในที่สุดก็มา แล้วก็ไม่ผิดหวังเลยย  :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 23-01-2016 23:47:57
น่ายินดี
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 23-01-2016 23:52:34
อื้มมมม หวานสไตล์ซึนๆ 555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: sunakai ที่ 23-01-2016 23:53:55
เว้ยยยย เห็นนางเงียบๆ กันแบบนี้นางแต่งเข้าบ้านอย่างเป็นทางการกันแล้วนะจ๊ะ

นั่งกินข้าวด้วยกันเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือทำไมวันนี้กับข้าวมันหว๊านหวานซ่านตั้งแต่ปลายลิ้นยันหัวใจ ฮิ้วววว

เดี๋ยวส่งน้องพัฒน์ผูกโบว์ตามไปกล่าวอวยพร ถึงข้างบนนะจ๊ะ ลุงบัสจอมซึน  :z10:

ดิฉันนี่รออุ้มหลานเลย #ห๊ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 23-01-2016 23:58:47
สตรองตรงเล่นตระกร้อนี่หล่ะ 555555555 คนแก่แล้วขี้น้อยใจก็งี้แหละ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 24-01-2016 00:04:57
 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-01-2016 00:25:31
เซอร์ไพรส์
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-01-2016 01:30:49
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:  ไม่ต้องพูดไรมาก แต่เข้าใจกันแบบนี้ก็ดีนะ คริคริ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Aimiya ที่ 24-01-2016 01:48:53
น่ารักเป็นที่สุดดดดดดดดดด ละมุนมากกกกกก รักคู่นี้จริงๆ><
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: กีกิ ที่ 24-01-2016 06:29:49
มาแว้ววว พี่บัสนุ้งพัฒน์ คิดถึงอู่ซ่อมรถแห่งนี้ หวานละมุนได้อีก เขินแทน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 24-01-2016 06:39:46
เป็นคู่ที่น่ารักมากๆๆๆๆ เลยทั้งพี่บัสและพัฒน์ต่างก็เข้าใจซึ่งกันและกันดี หนักนิดหนักหน่อยก็อภัยให้กันแบบนี้อยู่กันได้ยาวแน่ๆ ค่ะคู่นี้
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 24-01-2016 07:42:54
หายไปนานเลย พอกลับมาก็หวานกันซะ


 :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 24-01-2016 08:30:56
หวานมาก ๆ พี่บัสน่ารักขึ้นทุกวัน ๆ อ่ะ  :กอด1:
คิดถึงคู่นี้ แต่คิดถึงคู่เต๋อ กับ ช่างนัย มากกว่า
เพราะเราร้ากกกกกเด็ก จัดให้เค้าหน่อยน๊าาา  :impress:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: sirikanda28 ที่ 24-01-2016 09:16:54
คู่นี้ซึนกันเหลือเกิน
แต่น่ารัก :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 24-01-2016 09:23:38
คู่ซึน 5555555 น่ารักดี
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 24-01-2016 09:31:48
คิดถึง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 24-01-2016 09:35:55
คู่นี้น่าารักเงียบปะทะดุ อิอิ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 24-01-2016 09:52:57
รักเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือความสุข
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 24-01-2016 10:00:22
 คิดถึงพี่บัสมากก :กอด1: :กอด1: :man1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 24-01-2016 11:28:02
หวานซะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 24-01-2016 12:05:50
ดีใจกับพี่บัสและพิพัฒน์ด้วยจ้ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 24-01-2016 13:48:54
น่ารักกกกก :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: -Otto- ที่ 24-01-2016 14:01:23
หวาน :hao3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 24-01-2016 16:23:06
 :L2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 24-01-2016 17:04:49
ความหวานตกเรี่ยราดทั้งที่บ้านและที่อู่เลยนะคะ
คิดถึงพี่บาสกะน้องพัฒน์น๊าาาาาา  :L2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 24-01-2016 17:21:08
น่ารักงิ ชคู่นี้ พี่บัสติดแฟนขี้งอนงอแง น่ารัก ชอบตอนพัฒน์เรียกว่าพี่บัส
อะไรนั่น บอกรักปุ๊บ ขึ้นห้องปั๊บ เขินอ่ะเด้

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Ganymead ที่ 25-01-2016 06:40:06
 :ling1: :ling1:  โอ้ย ฟิน ๆ ๆ

ขอบคุณนะครับ  :hao7: :hao7:

น่ารักอะไรเช่นนี้
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 25-01-2016 11:40:54
คืออะไร
มาอัพตอนไหนนน
กรี๊ดดดดด
พิพัฒน์น่ารัก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 30-01-2016 16:18:16
กริ้ดดดดดดด พิพัฒน์น่ารักที่สุดในโลกเลยยย พี่บารมีโชคดีที่ได้เจอน้องลูกหนู
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 31-01-2016 17:06:48
ใจตรงกันอย่างไม่น่าเชื่อ คู่รักอลหม่านคู่นี้ พี่บัสไปไม่เป็นเลยพอเจอของที่พัฒน์ให้
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 31-01-2016 19:47:01
น่ารักจังเลยยยย มาอัพบ่อยๆนะคะคิดถึงงงงงงง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: -Otto- ที่ 14-02-2016 19:29:39
คิดถึง.  :katai5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: papanoy ที่ 16-02-2016 20:17:40
คิดถึงพี่บัสกับพัฒน์  ช่างวินัยกับน้องเต๋อด้วย  :mew1:
เมื่อไหร่จะกลับมาเยี่ยมกันบ้าง
                    :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: hmmm ที่ 22-02-2016 23:26:46
งานดีจริงๆเลยยยยยยยย

แวะมาบอกข่าวกันบ้างนะคะ :mew2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Baitaew ที่ 26-02-2016 15:23:51
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ดีงามมมมม ชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 26-02-2016 17:41:57
อ่านแล้วมีความสุขจัง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Wannida ที่ 01-03-2016 20:12:44
ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่  อร๊ายยย ฟิน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: HaLF333 ที่ 06-04-2016 14:34:31
เป็นคู่ที่ใช้ร่างกายสื่อสารกันได้ดีมาก หวานในแบบของตัวเองมาก ^^
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 07-04-2016 04:54:42
น่ารักกรุบกริบทั้งพี่บัสทั้งพัฒน์
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: psyfer ที่ 26-04-2016 20:16:02
น่าร้ากกกก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 26-04-2016 20:31:51
พัฒน์มันน่ารักแบบกวนๆมึนๆ แต่แอบหื่น คึคึ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: tutatoomtam ที่ 27-04-2016 13:13:05
โอ้ยยยยยยย มันน่ารัก :katai1:แต่ว่าทำไมถึงไม่มาต่ออะคะ :hao5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-04-2016 18:50:37
ชอบ พัฒน์ บัส
พัฒน์ น่ารัก พูดน้อย แต่แสดงออกทางภาษากายดีเยี่ยม  :jul1:
 บัส ก็ชอบไปเลย ภาษารักของพัฒน์
รอ อย่างใจจดใจจ่อ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: rotedump ที่ 28-04-2016 06:52:46
เลาชอบเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: FOUR EYES ที่ 12-07-2016 01:39:48
โอ้โห่ กว่าจะตามทันอ่านไม่เป็นอันทำอะไรเลยค่ะ 5555. :-[

สนุกมากจริงๆ มีหลายรสชาติมาก อ่านไปยิ้มไปอยู่ๆก็ขำ เดี๋ยวก็ซึ้ง แม่หันมามองเลยทีเดียว  :laugh:

ขอบคุณนะคะ จะติดตามต่อเรื่อยๆ สู้ๆค่ะ  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 12-07-2016 15:44:59
นอกบ้านพี่บัสจะเก่งแค่ไหน
แต่เรื่องบนเตียง ก็เสร็จพัฒน์อยู่ดี
พัฒน์เริ่ดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


 :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: KnightDevil ที่ 02-09-2016 07:40:20
เรื่องนี้หื่นมากกกก พี่เท็นนนนน ตอนอ่านช่างกลยังไม่ขนาดเน้แอๆ มาปูเสื่อรอพี่บัสน้องพัฒน์ค่ะ มาต่อไวๆน้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 15-09-2016 10:21:25
มาแอบดูว่าไปถึงไหนแล้วคู่นี้ อิอิ
รอมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: leemmm ที่ 15-09-2016 13:22:25
โอ้ยอ่านารวดเดียวสนุกสุดๆๆ ชอบมากๆ  :katai3: :katai3: :katai3: เปิดจองบอกกันด้วยนะอยากได้เก็บไว้
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: thagoon ที่ 16-09-2016 11:38:03
ชอบมาก  พิพัฒน์เหมาะจะเป็นคู่ชีวิตจริงๆ เข้ารอทุกวัน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: FOUR EYES ที่ 18-09-2016 07:26:28
น่ารัก ชอบบบบจังเลย  :-[
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: ap08572290 ที่ 28-09-2016 23:07:30
น่ารักมากๆ เลยค่ะ ชอบงานของคุณ aoikyosuke ทุกเรื่องเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: naja-kitase ที่ 16-11-2016 21:37:47
ชอบมาก เพราะผ่านทุกข์มาด้วยกัน เวลาหวานเลยรู้สึกหวานมาก ดีมาก รักคู่นี้มากๆเลย
ว่าแต่ ไม่มาต่อเหรอคะ อยากอ่านต่อมากๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 04-01-2017 01:23:44
นุ้งพัตตตตร้อนแรง :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: sm37an2j2 ที่ 07-01-2017 08:46:02
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: zenesty ที่ 19-01-2017 00:51:56
เธอออ หายไปเลยหายไปในอากาศ ลอยไปกับสายลม ไปไหนก้อไม่รู้ 5555 (เพลงโครตเก่า) ไอ้เราก้อร๊อออรอไรซ์มาต่อ หายไปไหนน๊อไรท์  :o12:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 26-01-2017 19:42:59
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 10-03-2017 20:00:13
(http://i247.photobucket.com/albums/gg121/aoikyosuke/E440E1F0E250E4C0E400E1B0E250E480E3201_zps648beed2.jpg)


 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน ก้าว


“สมัยก่อนที่พ่อบัสได้ช่วยเหลือเอาไว้ อาไม่เคยลืม ตอนนี้อาพอมีบ้างแล้ว นี่เป็นเงินส่วนหนึ่งที่อาต้องให้ รับเอาไว้เถอะนะ”

บารมีเงยหน้ามองหน้าอาพิชัยที่เป็นเพื่อนพ่อ เคยเจออาพิชัยสมัยที่ยังเป็นเด็กเมื่อนานมาแล้ว และไม่เคยรู้มาก่อนว่าพ่อเคยช่วยเหลืออาพิชัยไว้

“สมัยก่อนลำบากมาก ถ้าไม่ได้พ่อบัสช่วย อาคงไม่มีวันนี้ อาตามหาอยู่นาน แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ตอนนี้ดีใจที่ได้เจอ เสียดายที่ไม่ทันได้เจอพ่อบัสนะ เสียดาย...”

บารมีได้แต่ยิ้มรับเมื่อนึกถึงพ่อและยกมือไหว้อาพิชัยที่ส่งเช็คที่มียอดเงินจำนวนหนึ่งให้

“มีอะไรให้อาช่วย บัสก็บอกอาได้นะ อย่าเห็นว่าเป็นคนอื่นคนไกล เพราะว่าได้พ่อบัสช่วย อาถึงได้พอมีกินมีใช้ในวันนี้ ถึงคราวที่ลำบาก ขอให้บัสนึกถึงอา อะไรที่อาช่วยได้อาจะช่วยทั้งหมด”

บารมียกมือไหว้ขอบคุณอาพิชัยคนที่พ่อเคยช่วยเหลือเอาไว้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ พ่อทำเรื่องดี ๆ ไว้มากมายและอานิสงค์ของความดีของพ่อก็ส่งต่อมาถึงบารมีด้วย

เย็นวันนั้น หลังจากการนัดพบกับอาพิชัย เมื่อบารมีกลับมาถึงอู่ก็ตรงมาหาพิพัฒน์ที่กำลังคร่ำเคร่งอยู่กับการทำบัญชีรายรับรายจ่ายเพราะใกล้จะสิ้นเดือน

“พัฒน์” เรียกคนที่กำลังกดเครื่องคิดเลขและขมวดคิ้วมุ่นและพิพัฒน์ก็เงยหน้าขึ้นมองบารมีที่ส่งยิ้มมาให้ รอยยิ้มที่ดูมีความสุข รอยยิ้มที่พิพัฒน์ยังนึกแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นบารมียิ้มได้อย่างสบายใจขนาดนี้มานานก่อน

“วันไหนว่าง ๆ พาไปเจอพ่อพัฒน์หน่อยได้มั้ย”

พาไปเจอ...
   
พิพัฒน์ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดี ๆ บารมีถึงนึกอยากจะเจอพ่อของพิพัฒน์ขึ้นมา แต่ก็พยักหน้ารับและยังยุ่งวุ่นวายอยู่กับบัญชีที่ต้องทำ

“นี่...จะเอาไปทำอะไรก็ตามใจนะ”

เช็คที่มีตัวเลขระบุจำนวนเงินไม่น้อยที่บารมียื่นส่งให้ทำให้พิพัฒน์เงยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัย

“อันนี้ให้ลงรายการว่าอะไร”

อะไรงั้นเหรอ

“ค่า...สินสอด”

บารมีตอบไม่เต็มเสียงนัก และเดินไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และสิ่งที่ได้ยินก็ทำให้พิพัฒน์เลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความประหลาดใจ นี่คงเป็นการหยอกล้อและพิพัฒน์ก็ก้มหน้าก้มตาทำบัญชีต่อไป

“ค่าสินสอด มันลงบัญชีไม่ได้หรอกนะพี่”

“ก็ไม่ได้ให้ลง ให้เอาเก็บไว้ใช้”

และคราวนี้พิพัฒน์ก็เงยหน้าขึ้นมองบารมีที่แกล้งทำเป็นเปิดดูเอกสาร แกล้งทำเป็นตรวจงานและพยายามพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบธรรมดาทั้งที่ถ้าสังเกตดี ๆ ก็จะรู้ว่าบารมีขัดเขินเกินกว่าจะพูดเรื่องนี้ออกมาได้ง่าย ๆ

“วันเสาร์นี้ไปเจอพ่อพัฒน์แล้วกันนะ ไปบอกเขาหน่อยว่าจะอยู่กันเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว จะให้ทำยังไงก็บอก อยากให้ซื้ออะไรไปฝากพ่อเป็นพิเศษก็บอกได้นะ”

แล้วทำไมตอนพูดต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย พิพัฒน์ไม่เข้าใจว่าบารมีทำหน้าเหมือนเขินกับเรื่องที่แสนปกติธรรมดาแบบนี้ได้ยังไง

“ทำไมพี่ต้องเขิน”

ไอ้พัฒน์นี่ก็ขยันถามอะไรนักหนาวะ

“มึงนี่นะพัฒน์ กูจะไปขอลูกเขา จะให้กูพูดยังไง กูก็พูดได้แค่นี้แหละ อย่าถามให้มากเรื่องนักได้มั้ย”

แล้วทำไมต้องเอ็ด ทำไมต้องทำเสียงเข้มแบบนั้นใส่ด้วย

“อะไร มึงจะมองกูทำไมเนี่ย ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้เลยนะพัฒน์ มึงไม่ต้องมายิ้มเลย รีบ ๆ ทำงานของมึงให้เสร็จ ๆ ซะ จะได้รีบกลับบ้าน”

“แล้วถ้าไม่รีบล่ะ”
   
ไอ้พัฒน์...

บารมีวางเอกสารที่หยิบมาถือเอาไว้แก้เขินลงบนโต๊ะ และมองหน้าพิพัฒน์ด้วยความหงุดหงิดโมโห คนที่โดนปั่นหัวมักจะเป็นบารมีเสมอ และยิ่งเห็นสีหน้าที่เรียบเฉยของพิพัฒน์ที่จะทำเหมือนอย่างที่พูดจริง ๆ ก็นึกหงุดหงิดใจขึ้นมาจนต้องส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอ

“กูต้องไปขอมึงกับพ่อของมึง ก่อนไปกูก็ให้สินสอดมึงแล้ว นี่กูแค่จะจีบมึงบ้าง ทำไมถึงไม่ให้ความร่วมมือเลยวะ”

แปลว่า ต้องให้ความร่วมมือในการจีบโดยไม่มีเงื่อนไขสินะ

“แล้วตอนจีบ พี่จะพูดยังไง”

พิพัฒน์เป็นคนร้ายกาจ ใครไม่รู้ก็คิดว่าพิพัฒน์มักถูกบารมีรังแกและทำร้ายจิตใจอยู่เสมอ แต่ทุกคนควรได้รู้ความจริงว่าคนที่ถูกทำร้ายจิตใจที่แท้จริงคือใคร

“คุณพิพัฒน์ครับ ผมไหว้ล่ะครับ มึงต้องให้กูเขินถึงขนาดไหนถึงจะพอใจวะ นี่กูทำตัวไม่ถูกแล้วนะ เลิกแกล้งกันซะที แล้วก็รีบ ๆ เก็บของเร็ว ๆ กูจะไปรอที่รถ”

บารมีไม่อยากพูดอะไรอีก ยิ่งพูดยิ่งทำหน้าไม่ถูกและดูเหมือนพิพัฒน์จะยิ่งพอใจที่ได้แกล้ง
บารมีเดินออกจากออฟฟิศเพื่อไปรอที่รถ และเต๋อที่นั่งเล่นอยู่กับช่างวินัยและช่างมิ่งก็ปรบมือและร้องเพลงเสียงดัง
   
“แต่งงานเถิดน้อง อย่ามัวแต่มองข้ามผ่าน เดี๋ยวตายไปยมบาลไม่สงสาร อดขึ้นสวรรค์เลย โอ้ยยยย”

เต๋อถึงกับกุมหัวด้วยความเจ็บเพราะโดนบารมีตบกบาลไปหนึ่งที

“มึงจะบันเทิงเกินไปแล้วไอ้เต๋อ เสือกสาระแนดีเหลือเกินนะ ค่าเทอมมึงกูคงไม่ต้องจ่ายแล้วมั้ง หักเอาจากเงินเดือนช่างนัยก็ได้”
   
เกี่ยวอะไรกับช่างนัยวะ

“เฮียจะหักจากเงินเดือนช่างนัยได้ไง”

“ทำไมจะหักไม่ได้ กูก็หักเงินเดือนผัวมึงมาส่งค่าเทอมให้มึงก็ถูกแล้ว มีอะไรที่มึงไม่เข้าใจอีกหรือไง”

เต๋อถึงกับอ้าปากตาค้าง และพูดอะไรไม่ออก เมื่อโดนบารมีพูดเรื่องที่ปกปิดเอาไว้ใส่หน้า

“ช่างนัย..ไม่ใช่..”

“กูจะทำเหมือนไม่รู้เรื่องนี้ต่อไปแล้วกันนะ”

ช่างมิ่งลุกขึ้นยืนและถอนหายใจยาว ก่อนจะเดินจากไป ไม่ขออยู่ร่วมเหตุการณ์และบอกว่าจะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อไปเพื่อไม่ให้เต๋อต้องรู้สึกเขินเวลาที่ต้องทำงานร่วมกัน

“ไอ้มิ่ง มึงเข้าใจผิดแล้ว กูกับช่างนัย ไม่ได้...”

อยากจะพูดอะไรต่ออีกนิด แต่เมื่อมองหน้าของช่างนัยที่เริ่มทำหน้าขรึมใส่และมองหน้าของเต๋อนิ่ง ๆ ก็ได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

“เฮีย..ผมไม่ได้...”

จากที่คิดจะแซวบารมี ตอนนี้คนที่โดนเอาคืนอย่างรุนแรงมากมายกว่าหลายเท่ากลายเป็นเต๋อไปแล้ว

“ผมโกรธเฮียบัสแล้ว”

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เต๋อก็ยังเป็นเด็กน้อยที่โดนรุมแกล้งจากบารมีและช่างวินัยอยู่เสมอและบารมีก็หัวเราะออกมาด้วยความขำ
 
“มึงจะโกรธกูก็โกรธไปเถอะไอ้เต๋อ เพราะยังไงกูก็ไม่ง้อมึงอยู่แล้ว”

เต๋อได้แต่เบะหน้า เพราะถึงแม้จะโกรธที่โดนแกล้งแค่ไหนบารมีก็ไม่คิดจะง้อ เลยทำได้แค่นั่งหน้าแดงอยู่อย่างนั้น เพราะอายที่มีคนรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเต๋อกับช่างวินัยแล้ว

“กูโตแล้ว จะอยู่กินกับใครก็ได้ไม่ใช่เรื่องแปลก ว่าแต่มึงเถอะจะให้กูฟ้องแม่มึงเรื่องมึงกับไอ้นัยมั้ย”

“ไม่ได้นะ เฮียอย่าบอกแม่นะ”

เต๋อถึงกับหน้าเสียเมื่อบารมีขู่ว่าจะฟ้องแม่ของเต๋อเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเต๋อกับช่างวินัยและบารมีก็เลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความสงสัยและเหลือบสายตามองหน้าช่างนัยที่แตะปลายนิ้วไปที่ริมฝีปากของตัวเองเพื่อไม่ให้บารมีพูดเรื่องนี้

...แม่มึงรู้ตั้งนานแล้วนะว่าพวกมึงได้กันแล้ว นี่ช่างนัยยังไม่บอกอีกเหรอวะ ว่าแม่มึงรู้เรื่องนี้เป็นปีแล้ว...

“ถ้าไม่อยากให้กูพูด มึงก็ทำตัวให้มันดี ๆ อย่ากวนตีนกูให้มากนัก”

ได้ทีบารมีก็เลยหาโอกาสใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เต๋อไม่รู้ และช่างวินัยก็แอบลอบยิ้มด้วยความขำ

“รู้แล้ว” เต๋อรีบรับคำอย่างแข็งขันและบารมีก็พยักหน้ารับและเดินไปรอพิพัฒน์ที่รถ

...ไอ้เต๋อ มึงยังเป็นแค่เด็กน้อย คิดจะแซวกูยังเร็วไปหมื่นปี เรื่องของตัวเองยังเอาไม่รอด สมน้ำหน้า เสือกอยากจะสาระแนมาแซวเรื่องของกู...

+++
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน วันที่น่ายินดี P.26
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 10-03-2017 20:06:02
“หนู ลูกหนูเอ้ย”

บารมีถึงกับต้องกลั้นรอยยิ้มเอาไว้อย่างสุดความสามารถ เมื่อได้รู้ชื่อเล่นจริง ๆ ของพิพัฒน์ที่ใช้เรียกกันในครอบครัว

“พ่อ ตอนนี้ไม่ได้ชื่อหนูแล้ว” พิพัฒน์กระซิบบอกพ่อเสียงเบาและพ่อก็พยักหน้ารับ

“เออ ไม่หนูก็ไม่หนู สมัยก่อนตอนมันเกิด ตัวมันเล็กเท่ากำปั้น เลยเรียกกันว่าลูกหนู นึกว่าจะไม่รอด แต่ก็อยู่มาจนโตป่านนี้แล้วนะ”

พ่อกำลังจุดธูปและส่งให้บารมีและพิพัฒน์ เพื่อให้เข้าไปกราบที่รูปแม่ของพิพัฒน์เพื่อเป็นการบอกกล่าวเรื่องสำคัญ

“บอกแม่เอ็งหน่อย ขอให้เขาปกปักรักษาดูแล ให้เอ็งได้อยู่ด้วยกันดูแลกันไปนะ”

พ่อไม่ได้ห้ามและไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องการใช้ชีวิตต่อจากนี้ของพิพัฒน์ ได้แต่บอกให้ทำเรื่องที่สมควรทำ และบารมีก็พนมมือไหว้รูปแม่ของพิพัฒน์และพูดเรื่องสำคัญที่ต้องบอกกล่าว

“นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปผมขอดูแลพัฒน์ไปตลอดนะครับ จะไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ขอให้แม่ช่วยคุ้มครองพวกเราให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอุปสรรคทั้งปวงด้วยนะครับ”

พิพัฒน์มองที่รูปของแม่นิ่ง ๆ และปล่อยใจคิดถึงวันเก่า ๆ ที่เลือนรางเหลือเกินในความรู้สึกแต่ทุกความทรงจำที่แสนยาวนาน จนถึงวันนี้ก็ไม่เคยลืม

“แม่ครับ ช่วยคุ้มครองพัฒน์ด้วยนะ”
 
พิพัฒน์ก้มหน้าลงและยังระลึกถึงแม่เสมอ มีเรื่องราวในชีวิตเกิดขึ้นมากมายกว่าจะเติบโตขึ้นมาได้จนถึงวันนี้ บารมีรับธูปที่พิพัฒน์ส่งให้และปักเอาไว้ที่กระถางธูป ยกมือขึ้นลูบหัวเพื่อความเป็นสิริมงคลและลุกขึ้นยืนโดยมีพิพัฒน์ลุกขึ้นตามออกมาด้วย

“บอกแม่เอ็งแล้วนะ”

“ครับ”

พิพัฒน์พยักหน้ารับและพ่อก็ส่งยิ้มให้ ปีนี้พ่อแก่ลงไปเยอะ และถึงแม้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ความผูกพันก็ไม่เคยลดน้อยลง พ่อมีชีวิตของตัวเอง พ่อใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวเล็ก ๆ ที่บ้านสวน เราไม่ได้หมางเมินหรือทอดทิ้งกัน และพิพัฒน์ก็มีโอกาสแวะมาเยี่ยมเยียนดูแลพ่ออยู่เสมอ

“พ่อก็ไม่รู้ว่ามันยังไงหรอกนะ แต่เห็นเอ็งสบายดี ก็พอแล้ว มา พ่อจะผูกข้อมือให้”
 
พิพัฒน์และบารมีนั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าพ่อและแม่เลี้ยง ยื่นแขนให้ผูกข้อมือให้เพื่อความเป็นสิริมงคลและพนมมือรับคำอวยพร

“อยู่ดูแลกันไปนะ ช่วยอะไรกันได้ก็ช่วย อย่าโกรธอย่าเคืองกัน อยู่ดูแลกันไปนาน ๆ”

“คุณก็อย่าไปโกรธไปเคืองอะไรลูกหนูมันเลยนะ มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากัน อะไรอภัยให้กันได้ก็ทำ อยู่ดูแลกันไปนะ”

ทั้งบารมีและพิพัฒน์ยกมือไหว้รับพรและนับจากนี้เป็นต้นไป เราก็กลายเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้ว บารมีหันมามองหน้าของพิพัฒน์และส่งยิ้มบาง ๆ ให้ ไม่มีพิธีการยิ่งใหญ่ ไม่มีงานเลี้ยงฉลอง เป็นแค่การมาแสดงความเคารพต่อคนในครอบครัวของพิพัฒน์เพื่อแสดงความจริงใจและให้คำมั่นสัญญาว่าต่อจากนี้ไปจะดูแลกันและกันเป็นอย่างดีตลอดไป พิพัฒน์หันไปมองหน้าของบารมีอีกครั้งและส่งยิ้มให้กัน

“ขอให้เจริญ ๆ นะ อยู่ด้วยกันดูแลกันไปนะ”

ฝ่ามืออุ่น ๆ ของพ่อแตะลงที่หัวและไหล่ของทั้งบารมีและพิพัฒน์ จะมีอะไรดีกว่านี้อีก จะมีอะไรดีไปกว่าการได้รับการยอมรับจากคนในครอบครัว พิพัฒน์ยิ้มออกมาและขอบคุณที่พ่อไม่รังเกียจและยอมรับสิ่งที่เป็นได้

TBC.
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-03-2017 20:20:53
โหหหห.  ดีใจกลับมาต่อละ  นึกว่าจะไม่มาต่อละ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Asakurayo ที่ 10-03-2017 21:09:09
ว้ายยยย มาต่อแล้ววว จุดพลุเลยยยยย  :กอด1: :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 10-03-2017 21:26:21
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 10-03-2017 22:03:49
กรี๊ดดดดดดดดดดดด แบบว่สดีใจที่ได้เห็นว่าอัพแล้วอ่ะ ปีหนึ่งได้แล้วแนะ เป็นตอนที่ก้าวจริงๆๆก้าวสู่ครอบครัวกันแล้ว น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 10-03-2017 23:28:29
ตอนนี้อบอุ่นมากก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 10-03-2017 23:32:29
นึกว่าตาฝาดเสียอีก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 11-03-2017 01:52:06
นึกว่าคนแต่งลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

ตอนนี้อบอุ่นมากค่ะ

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-03-2017 03:13:14
นึกว่าตาฝาดเห็นชื่อตอนเปลี่ยน  :mew4: ดีใจที่ได้อ่านต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 11-03-2017 07:05:53
โหหหหหหหห หายไปนาน กลับมาจบปัญหาเรื่องเงิน ได้ผูกข้อแต่งงานกันเรียบร้อย มาไวเครมไวมวากกก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 11-03-2017 07:23:41
นึกว่าจะไม่มาต่อซะแล้ว หายไปนาน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 11-03-2017 09:48:39
ห่างหายไปนานเลยน่ะครับ

แต่ก็ยังรอคอยติดตามเป็นกำลังใจให้น่ะ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 11-03-2017 12:57:12
 :mew1: คิดถึงจ้า กลับมาแล้ว  :pig2: ยังรอเสมอเลย แล้วก็อัพ น่ารักจริงๆ   :pig4: รักคู่นี้จริงๆ เต๋อก็น่ารัก  :L1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: zenesty ที่ 11-03-2017 13:43:04
ในที่สุดก็มาต่อแล้ว ขอบคุณไรท์มากค่ะ ที่มาต่อ ดีจริงๆ รอตอนต่อไปนะค่ะ ว่าแต่เมื่อไหร่ช่างนัยจะบอกเต๋อเรื่องแม่ซะทีคะ แกล้งน้องแบบนี้ไม่ดีน๊าาาาาาา  :katai2-1:  :katai2-1:  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: แงซาย ที่ 12-03-2017 01:21:21
ขอบคุณครับ มาต่อแล้ว  :pig4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: sm37an2j2 ที่ 12-03-2017 01:27:16
ไม่นานเลย หายไปแค่ปีนึง 

สนุกมากกก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-03-2017 01:30:26
 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 12-03-2017 01:44:13
คิดถึงมากมาย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 12-03-2017 03:31:41
เวลคัมแบคนะคะบก.ธิดา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 14-03-2017 02:29:04
เป็นเรื่องที่สนุกมาก งื้​ออ​อ ชอบ ผ่านมาไม่เห็นได้ไงไม่รู้  :hao5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 14-03-2017 11:42:26
หายไปนาน มาอีกทีฉากสำคัญ พี่บัสไปของน้องพัฒน์กับพ่อน้องแล้ว 
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 14-03-2017 12:17:41
หายไปนานมากกกกกก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 14-03-2017 19:09:48
OMG อัพแล้ว  o7
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 24-03-2017 08:25:30
 :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Premo1492 ที่ 31-03-2017 21:52:28
 :pig4:ขอบคุณที่กลับมา :pig4: :pig4: :L2: :impress3: :o12: :mew4: :hao5:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: mink2538 ที่ 03-04-2017 13:07:32
พึ่งได้มาติดตามเรื่องนี้
สนุกมากค่า ขอบทั้ง 2 คู่เลย
แล้วมาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 03-04-2017 23:42:20
พี่บัสที่ว่าแน่ยังต้องแพ้ให้ลูกหนู เอ้ย พัฒน์ ฮ่าๆๆๆ
ชื่อน่ารักมากเลยค่ะ ไปพบครอบครัวมาแล้วด้วย จะมีอะไรสมบูรณ์ไปกว่านี้อีกมั้ย
ครอบครัวพัฒน์น่ารัก เข้าใจในตัวลูก แล้วยังต้อนรับเขยด้วย อบอุ่นดีจัง

แอบสงสารเด็กเต๋อเบาๆ ไม่เคยจะทันอะไรกับเขาเล้ยยย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: kazuribum ที่ 04-04-2017 14:50:15
ปูเสื่อนอนรอตอนต่อไปเลยจ้า
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: lucky ที่ 21-04-2017 01:52:10
อีกคนก็ปากแข็งอีกคนก็ซึน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน ก้าว P.29
เริ่มหัวข้อโดย: lucky ที่ 22-04-2017 00:04:44
เพิ่งมาตามอ่านแต่อยากรู้ภูมิหลัง พิพัฒน์ มากเลยค่ะ
พิพัฒน์เป็นกึ่งๆพิเศษมั้ย คืออ่านแล้วความรู้สึกมันบอกแบบนั้นอ่ะ
หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี*พิพัฒน์) by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 06-05-2017 09:04:37



 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (บารมี&พิพัฒน์)  ตอน จบ

“เห็นมันเป็นน้องไม่ได้จริง ๆ เหรอนัย”

ช่างวินัยก้มลงกราบแม่ของเต๋อด้วยความเคารพ และเมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าดวงตาแม่ของเต๋อแดงก่ำ ช่างวินัยเข้าใจดีว่าแม่ของเต๋อรู้สึกยังไง ความรู้สึกมันชัดเจนมาตั้งนานแล้วแต่ที่ไม่พูดก็เพราะไม่อยากทำให้ผู้ใหญ่เสียใจ ถึงจะใจร้อนอยากให้รับรู้แค่ไหน
แต่ช่างวินัยก็ต้องยอมรับว่าต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดของแม่ของเต๋อและนั่นไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ

“ผมรักมันจริง ๆ ครับป้า ผมไม่เคยเห็นมันเป็นน้องมานานแล้ว ผมพยายามอย่างถึงที่สุดแล้วที่จะทำเหมือนว่ามันเป็นแค่น้องมาตลอด แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ผมก็ห้ามใจไม่ให้รักมันไม่ได้ ผมขอโทษจริง ๆ ครับป้า”

ยอมรับออกไปตรง ๆ และแม่ของเต๋อก็ได้แต่นิ่งเงียบอยู่อย่างนั้น

ผู้ใหญ่ยังไงก็ดูออก ถึงแม่จะทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็นความสัมพันธ์ระหว่างเต๋อกับช่างวินัยที่แม่ของเต๋อเคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก แต่นานวันเข้าก็ต้องยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นให้ได้
 
วันหนึ่งแม่ของเต๋อ เลียบ ๆ เคียง ๆ เข้ามานั่งคุยกับช่างวินัย ทั้งที่ปกติก็ไม่ได้คุยกันอย่างเป็นจริงเป็นจังบ่อยนัก ส่วนใหญ่จะเป็นแม่ของเต๋อที่ไหว้วานให้ช่างวินัยช่วยดูแลเรื่องไปรับไปส่งและอาศัยพึ่งพาช่างวินัยในหลาย เรื่องอยู่บ่อย ๆ 
เริ่มแรกคุยกันด้วยเรื่องอื่น ๆ  ก่อนและค่อย ๆ เริ่มถามเรื่องความความสัมพันธ์ระหว่างเต๋อกับช่างวินัย และช่างวินัยก็ยอมรับว่ากำลังคบหากัน ถึงจะเตรียมใจมาแล้วส่วนหนึ่งแต่คำตอบที่ได้รับก็ทำให้แม่ของเต๋อนิ่งงัน

แม่ของเต๋อหวังแค่เพียงอยากให้ช่างวินัยเห็นเต๋อเป็นน้องเหมือนที่ผ่านมา แต่ช่างวินัยก็ยอมรับว่าคงกลับไปทำแบบนั้นไม่ได้

“ผมขอโทษครับป้า ยกโทษให้ผมด้วย แต่ผมรักมันมาก ผมขอโทษที่ทำให้ป้าผิดหวังแต่ผมไม่คิดจะทำให้มันเสียใจ”

แม่ของเต๋อได้แต่นั่งฟังนิ่ง ๆ และพยายามจะเข้าใจเรื่องความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกนี้อยู่ตลอดเวลา สุดท้ายได้แต่พยักหน้าอย่างช้า ๆ และได้แต่ทำใจยอมรับ จะให้ทำยังไงได้มาถึงขนาดนี้แล้ว คนมันรักกันชอบกัน จะให้บังคับขู่เข็ญให้เลิกกันยังไงก็เป็นไปไม่ได้

“ไม่มีทางเลยเหรอนัย”

“ผมขอโทษครับป้า” ช่างวินัยได้แต่พูดขอโทษแต่ไม่คิดจะตัดใจ และถึงแม่เต๋อจะโกรธจะเกลียดยังไง ช่างวินัยก็คิดจะเอาความดีเข้าสู้ จะพิสูจน์ตัวเองให้แม่ของเต๋อเห็นว่ามีความจริงใจและไม่คิดจะล้มเลิกความตั้งใจง่าย ๆ

“เรื่องนี้ นัยอย่าเพิ่งบอกไอ้เต๋อมันนะ ป้ากลัวมันจะอาย”

ถึงที่สุดแล้ว คนที่สำคัญที่สุดก็ยังเป็นเต๋อ ที่ผ่านมาตั้งแต่เล็กจนโต คนที่เต๋อรักและอยากอยู่ด้วยมาตลอดก็คือช่างวินัย และแม่ของเต๋อก็รู้ความรู้สึกที่เต๋อมีให้ช่างวินัยมาตลอด ถึงได้พยายามบอกให้ช่างวินัยเห็นเต๋อเป็นแค่น้อง เพราะถ้าห้ามความรู้สึกของลูกชายไม่ได้ ก็หวังว่าจะห้ามความรู้สึกของช่างวินัยได้ แต่สุดท้าย คนจะรักกันชอบกัน ถึงจะห้ามแค่ไหนแต่ถ้ามันจะรักกันก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น

“นัยอย่าบอกมันนะ ว่าป้ามาคุยเรื่องนี้กับนัยแล้ว”

ช่างวินัย ยกมือไหว้แม่ของเต๋อและก้มลงกราบอีกครั้ง

“ป้าครับ ป้าจะไม่ห้ามหรือบอกให้เต๋อเลิกกับผมใช่มั้ยครับ” แม่ของเต๋อได้แต่ถอนใจยาวและยอมพยักหน้าอย่างช้า ๆ

“ป้าก็เห็นนัยเป็นเหมือนลูกเหมือนหลานมาตลอด แล้วป้าจะไปทำอย่างนั้นได้ยังไง”
         +++

มีการแซวกันในอู่ซ่อมรถ ว่าเฮียบัสไปขอพี่พัฒน์แล้ว เพราะที่ข้อมือของพี่พัฒน์และเฮียมีสายสิญจน์ผูกอยู่เต็มข้อมือทั้งสองข้าง ไม่มีใครพูดหรือเอ่ยถามเรื่องนี้ แต่ก็รู้กันดีว่าหมายความว่ายังไง แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วเพราะถึงแม้จะมีใครถาม ทั้งเฮียและพี่พัฒน์ก็ไม่คิดจะปิดบังใครแม้แต่ญาติทางฝั่งนี้ก็ตาม

“คนที่ทำให้กูยังยืนอยู่ต่อไปได้โดยไม่ล้มไปซะก่อน ช่วยเหลือกูทุกอย่างยิ่งกว่าญาติ ทำให้กูยังมีแรงจะสู้ต่อก็คือพิพัฒน์ แล้วการที่กูจะยกย่องคนที่ช่วยประคับประคองกูจนถึงตอนนี้อย่างออกหน้าออกตาแล้วใครจะทำไม”

เต๋อไม่เคยรู้ว่าเฮียจะชัดเจนกับพี่พัฒน์มากขนาดนี้ การเป็นผู้ใหญ่และมีความรับผิดชอบตัวเองอย่างดีมากพอแล้ว มันสามารถทำให้คนเราทำสิ่งที่ต้องการได้โดยไม่ต้องคิดอะไรให้ยุ่งยาก ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวลใจอย่างที่เต๋อกำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้
ทุกวันนี้เต๋อไม่อยากให้แม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเต๋อและช่างวินัยเพราะกลัวว่าจะทำให้แม่ผิดหวัง กลัวทำให้แม่เสียใจ ไม่อยากให้แม่ต้องอายที่กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว

ถึงจะคบหากัน และมีคนรู้เรื่องนี้มากแค่ไหนก็ตาม มันไม่สำคัญเท่าการที่แม่จะต้องรับรู้เรื่องนี้ เต๋อไม่อยากทำให้แม่เสียใจ

“พี่นัย” เต๋อขยับตัวออกห่างช่างนัยที่มานั่งข้าง ๆ และช่างวินัยก็ขมวดคิ้วมุ่นรู้สึกอึดอัดใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้

เต๋อไม่ยอมให้แตะต้อง ไม่ยอมให้เข้าหา มีเวลาได้อยู่ใกล้กันเล็กน้อยก็ตอนที่ได้ไปรับไปส่ง เต็มที่ก็แค่ได้กอดได้หอมบ้าง แต่มันน้อยเกินไปสำหรับช่างวินัย

“พี่นัย เดี๋ยวคนอื่นเห็น”

บางทีช่างวินัยก็อยากจะพูดอะไรออกไปตรง ๆ แต่รับปากแม่ของเต๋อเอาไว้แล้วก็เลยได้แต่เก็บเงียบเอาไว้

“รอให้มันเรียนจบก่อน รอให้มันทำงานเป็นเรื่องเป็นราวก่อน ให้มันโตกว่านี้มีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ถึงตอนนั้นถ้ายังรักกันอยู่ ก็คงไม่สายเกินไปหรอกใช่มั้ยนัย”

ช่างวินัยเข้าใจดี ทำไมแม่ของเต๋อถึงขอร้องแบบนั้น ถึงจะไม่ได้ขัดขวางและยอมให้คบหากันแบบเงียบ ๆ ได้ แต่ก็ใช่ว่าจะยอมรับได้ทั้งหมด แม่ของเต๋อคงอยากให้เต๋อโตขึ้นกว่านี้ คิดได้กว่านี้ อยากให้มีความเป็นผู้ใหญ่และสามารถพิจารณาเรื่องบางอย่างได้อย่างถี่ถ้วนมากกว่านี้ ช่างวินัยเข้าใจดี สิ่งที่ทำได้ก็เพียงแค่รอเท่านั้น รอวันที่เต๋อจะโตขึ้นและกล้าพอที่จะบอกใคร ๆ ว่าเราเป็นอะไรกัน

ช่างวินัยไม่ได้รีบร้อน และสามารถรอต่อไปได้อีกนาน แต่บางครั้งก็มีเรื่องให้หงุดหงิดหัวใจบ้าง เช่นตอนที่อยากเข้าใกล้อยากแตะต้องแต่ทำอะไรอย่างที่ใจคิดไม่ค่อยได้

“โคตรอยากให้แม่เอ็งรู้เรื่องนี้จริง ๆ”

ได้แต่บ่นพึมพำเสียงเบาและเต๋อก็ปลอบใจช่างวินัยด้วยการดึงมือช่างวินัยมาแนบที่แก้มและกระพริบตาปริบ ๆ ทำเหมือนอ้อน จนช่างวินัยได้แต่ถอนใจ

“พี่นัยของเต๋อ”

เป็นแบบนี้ตลอด บางครั้งช่างวินัยก็นึกอยากโบกกบาลเต๋อสักที ไม่เข้าใจว่าทำไมเต๋อถึงสามารถเข้าหาช่างวินัยได้ตามใจชอบ แต่พอช่างวินัยจะเข้าหาบ้างก็ทำเป็นบ่ายเบี่ยงและผลักไส ตกลงไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ต้องกังวลใจมากกว่ากัน

“นี่เอ็งรักพี่จริง ๆ หรือเปล่าวะ หรือเพราะกลัวพี่จะไปฟ้องแม่เอ็งถึงได้มาทำเป็นออดอ้อนให้หลงดีใจ”

ช่างวินัยได้แต่ถอนหายใจยาว และเต๋อก็หัวเราะออกมาด้วยความขำ

“งอนเหรอพี่นัย”

“งอนห่าอะไรของเอ็งกันล่ะ” ช่างวินัยได้แต่เมินหน้าหนีและลุกขึ้นยืนเพื่อจะไปซื้อสายรุ้งและไฟประดับเพื่อมาจัดงานวันเกิดให้พิพัฒน์เพราะเฮียสั่งมา

...สั่งหมูกระทะมาด้วยห้าชุด เผื่อคนอื่น ๆ  ด้วย พอดีวันนี้คุณทัศเขาจะมากินด้วย...

ก็เลยต้องไปจัดการงานให้เสร็จเรียบร้อยและทั้งเต๋อและช่างวินัยก็ขึ้นมานั่งอยู่บนรถเพื่อเตรียมไปซื้อของ เมื่อนึกดูแล้วก็ยังมีเวลาเหลืออีกหลายชั่วโมงหลังจากซื้อของเสร็จแล้วก็มีเวลามากพอให้ทำอะไรอย่างอื่นที่อยากทำได้

“มีเวลาอีกถมเถ เข้าโรงแรมกันมั้ยวะ”

ชวนออกไปตรง ๆ และเต๋อก็หันมามองหน้าของช่างวินัยและหน้าแดงก่ำ ก้มลงมองหลังมือของตัวเองและขบริมฝีปากแน่น รู้ว่าการชวนเข้าโรงแรมหมายถึงการชวนไปทำอะไรบางอย่างที่เต๋อเองก็ไม่คิดจะปฏิเสธเพราะอยากทำ

“จะดีเหรอพี่นัย”

ช่างวินัยหัวเราะออกมาด้วยความขำ เมื่อหันไปมองท่าทางที่แสดงออกว่าขัดเขินแต่ก็น่ารักไม่น้อยของเต๋อ

“เผื่อเต๋ออยากเปลี่ยนบรรยากาศไง ที่บ้านกับบนรถก็บ่อยแล้ว เผื่ออยากลองแปลก ๆ ใหม่ ๆ บ้าง”

ก็ไม่ใช่ว่าเบื่ออะไรหรอกนะแต่ถ้ามีอะไรใหม่ ๆ ก็น่าลอง

“เต๋อไม่อยากขัดใจพี่นัย กลัวพี่นัยไปฟ้องแม่”

ถ้าไม่ให้ขำตอนนี้จะขำตอนไหน ถ้าไม่หัวเราะตอนนี้จะให้ไปหัวเราะตอนไหน ถ้าไม่ให้มีความสุขตอนนี้แล้วจะให้ช่างวินัยยิ้มและหัวเราะอย่างมีความสุขตอนไหน

“งั้นเต๋อต้องเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน ถ้าพี่ทำอะไรไปเต๋อต้องไม่งอแง”

เต๋อโตมากแล้ว เรื่องแค่นี้ทำไมจะทำให้ไม่ได้ เต๋อพยักหน้ารับทั้งที่หน้ายังขึ้นสีแดงเรื่อและก็ทำให้ช่างวินัยหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขเพราะการรับคำของเต๋อที่พูดออกมา

“เต๋อไม่ดื้อกับพี่นัยหรอกนะ สัญญา”

            +++

หายกันไปพักใหญ่และทั้งเต๋อและช่างวินัยก็กลับมาที่อู่ซ่อมรถด้วยสีหน้าอิ่มเอิบมีความสุข ช่วยกันประดับประดาไฟและสายรุ้งหลากสี เพื่อจัดงานวันเกิดให้พิพัฒน์และช่วยกันลากโต๊ะมาติดกันหลายตัวเพื่อจัดพื้นที่สำหรับวางเตาหมูกระทะ เตรียมสถานที่เสร็จเรียบร้อยทั้งช่างและเด็กในอู่ก็มารวมตัวกันเพื่อร่วมสังสรรค์ในงานเลี้ยงเล็ก ๆ ที่จัดขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้ใช้เวลาร่วมกัน เต๋อนั่งข้างช่างวินัย และไม่นานช่างมิ่งช่างคนใหม่ของอู่ก็ตามมาสมทบ

“เขากินกันจะหมดแล้ว เพิ่งโผล่หัวมา”

“พอดีที่บ้านโทรมา”

ช่างมิ่งดูเหมือนจะมีปัญหาเรื่องที่บ้านอยู่บ่อย ๆ และเต๋อก็ได้แต่เห็นใจเรื่องปัญหาครอบครัวของช่างมิ่งไม่น้อย

“เรื่องเดิมอีกสิ บ้านมึงน่ะ”

“รอบนี้จะเอาให้ได้ กูเหนื่อยนะไม่ใช่ไม่เหนื่อย ที่มาทำงานหาเงินขนาดนี้ก็ทำเพื่อลูก ทำเพื่อที่บ้าน เอาไปก็ไม่ใช่จะเอาไปเลี้ยงให้ดี มาขู่เอาเงินเรื่อย”

พูดคุยและปรับทุกข์กันด้วยเรื่องครอบครัวและเต๋อก็พยักหน้ารับ

“มึงก็ให้ไปสิ เอาไปเลี้ยงซะ”

“ถ้าเอาไปแล้ว ชาตินี้ก็คงไม่ได้เห็นอีก”

เต๋อไม่เข้าใจชีวิตครอบครัวของคนอื่นมากนัก พูดไปพูดมาก็มึนงง รู้สึกว่าตัวเองยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจเรื่องแบบนี้ได้

“ลูกมึงนี่ดีนะ พ่อแม่แย่งกัน น่าอิจฉาดี”

ไม่รู้ว่าเต๋อพูดออกไปด้วยความรู้สึกยังไง แต่มันมากพอให้ช่างวินัยเงยหน้าขึ้นมองและเรียกคนที่เริ่มจะพูดเรื่องเดิม ๆ อีกแล้ว

“เต๋อ”

“เออ รู้แล้วไม่มีอะไรหรอก”

ตอบกลับช่างวินัยไปอย่างรวดเร็วและเต๋อก็ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร คีบหมูใส่ปากและเคี้ยวไปเรื่อย ๆ และช่างวินัยก็คีบหมูใส่จานให้เต๋อด้วย

“เอามาให้ทำไม”

ช่างวินัยไม่ได้ตอบแต่ยังปิ้งหมูและปลาหมึกใส่ในจานของเต๋อเรื่อย ๆ ถึงแม้เต๋อกับช่างวินัยจะไม่ได้แสดงออกให้ใคร ๆ เห็นว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม แต่ไม่ว่าใครก็พอมองออกว่าเต๋อกับช่างวินัยไม่ได้เป็นแค่คนที่ทำงานด้วยกันเฉย ๆ และช่างมิ่งก็แค่พยายามทำตัวให้เป็นปกติเท่านั้น ไม่ว่าจะรู้อะไรมา ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องพูด ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำเหมือนรู้ อยู่ไปเงียบ ๆ ไม่ทำให้คนรอบข้างอึดอัดใจก็พอ

“เดี๋ยวผมเป็นเจ้ามือให้ นานทีปีหน”

วันนี้มีลูกค้าคนสำคัญของอู่มาด้วย คุณทัศนัย เดินออกจากออฟฟิศมาพร้อมกับเฮียบัส

“รังเกียจมั้ยเนี่ย ผมมาขอร่วมวงด้วยคน”

คุณทัศนัยยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และคนอื่น ๆ ก็หัวเราะเฮฮาไม่ได้แสดงทีท่าอึดอัดใจที่ลูกค้ารายใหญ่ของอู่ขอมากินหมูกระทะด้วย

อาหารที่กินร่วมกันเป็นแบบง่าย ๆ แต่เต็มไปด้วยมิตรภาพและสร้างความสุขให้ทุกคนในอู่

“มิ่ง” เฮียบัสเรียกให้มิ่งที่นั่งใกล้ถังน้ำแข็งที่สุดลุกขึ้นไปจัดการเตรียมน้ำกับน้ำแข็งมาเสิร์ฟให้กับคุณทัศนัย

“ขอบคุณมาก...มิ่ง”

เต๋ออมยิ้มเล็กน้อยเมื่อนึกได้ว่าเคยแกล้งอะไรช่างมิ่งเอาไว้บ้าง

...คุณทัศนัยเขามาชอบมึง...

เคยพูดเอาไว้แบบนั้นและเต๋อก็รู้ดีว่าช่างมิ่งมีท่าทีอึดอัดใจและกำลังทำตัวไม่ถูกเพราะอะไร

“พัฒน์” แค่เฮียเรียกพี่พัฒน์ก็คีบอาหารใส่จานให้เฮียแล้ว แม้จะเป็นวันเกิดของพี่พัฒน์แต่พี่พัฒน์ก็ยังทำหน้าที่ดูแลเฮียและคนในอู่อยู่เสมอ

พิพัฒน์คีบหมูที่สุกแล้วให้บารมี ช่างวินัยก็คีบปลาหมึกที่สุกแล้วใส่จานให้เต๋อ และเมื่อเต๋อมองไปที่จานของช่างมิ่งก็เห็นคุณทัศนัย คีบหมูมาใส่จานให้แล้วเหมือนกัน

“กินกันสบาย ๆ นะครับ ผมเป็นคนง่าย ๆ ไม่เรื่องมากอะไรอยู่แล้ว สนุกสนานเหมือนปกตินะครับ นี่ผมก็ไม่รู้ยังไง มิ่งดูไม่ค่อยชอบหน้าผมเท่าไหร่ ผมทำอะไรไม่ดีไปก็อย่าถือโทษโกรธผมนะ”

คุณทัศนัยเป็นคนพูดจาดีและไม่ถือตัว ไม่ได้ทำให้บรรยากาศน่าอึดอัดใจแต่ยังชวนคุยและทำให้เกิดบรรยากาศผ่อนคลายมากขึ้น

“ไม่ ไม่ ผมไม่ได้อะไรกับคุณทัศจริง ๆ”

ช่างมิ่งพยายามอธิบายบางอย่างและคุณทัศนัยก็หัวเราะออกมา

“นี่ตั้งแต่ผมส่งงานในอู่มา เขาเพิ่งพูดกับผมยาว ๆ แบบนี้เป็นครั้งแรกเลยนะ”

เสียงหัวเราะของทุกคนในอู่ดังขึ้น ทั้งช่างและเด็กในอู่คุยกันด้วยความสนุกสนานและเฮียก็ชวนคุณทัศนัยคุยบ้างเพื่อสร้างความรู้สึกที่ผ่อนคลายให้กับทุกคน

“มันไม่ค่อยพูด ทำแต่งานอย่างเดียวคุณทัศ”

เฮียบัสช่วยพูดให้และคุณทัศนัยก็พยักหน้ารับและหันมามองช่างมิ่งที่นั่งอยู่ติดกัน ส่งยิ้มให้และชวนช่างมิ่งคุย

“ไม่ได้เกลียดผมใช่มั้ย”

“ไม่ได้เกลียดครับ” ช่างมิ่งตอบออกไปแบบนั้น เพราะไม่อยากทำให้เกิดปัญหาและคุณทัศนัยก็ถอนหายใจยาวเหมือนโล่งใจ

“แค่ไม่เกลียดกัน ผมก็ดีใจแล้ว”

เห็นคุณทัศนัยกับช่างมิ่งคุยกันแล้วเต๋อก็รู้สึกสนุก ยักคิ้วและส่งยิ้มแปลก ๆ ให้ช่างมิ่งที่ก้มหน้าก้มตาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเต๋อก็ขยับเข้ามาใกล้ช่างมิ่งอีกนิด กระซิบกระซาบพูดบางอย่างที่ทำให้คนฟังต้องขบริมฝีปากแน่นและยิ่งทำตัวไม่ถูกมากขึ้นเรื่อย ๆ

“กูบอกแล้ว คุณทัศเขามาชอบมึง”

เต๋อหัวเราะออกมาด้วยความขำและสนุกสนานกับงานวันเกิดของพิพัฒน์มากกว่าใคร ช่างวินัยได้แต่ส่ายหน้ากับความช่างแกล้งของเต๋อและได้แต่หัวเราะตาม

วันนี้เป็นวันที่ทุกคนในอู่มีความสุขและสนุกสนานกับงานเลี้ยงสังสรรค์วันเกิดเล็ก ๆ ของพิพัฒน์ที่จัดขึ้นเพื่อทุกคนมากกว่า พิพัฒน์หันไปมองหน้าของบารมีและส่งยิ้มบาง ๆ ให้ นาน ๆ ทีอู่ซ่อมรถจะมีงานเลี้ยงบ้างและบารมีก็มองทุกคนในอู่ด้วยรอยยิ้ม

ทุกวันยังเป็นเหมือนเดิม มีบางวันที่เป็นวันพิเศษบ้างเช่นวันนี้ที่บารมีจัดงานวันเกิดให้พิพัฒน์เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการทำให้ทุกคนได้มีช่วงเวลาที่ได้พักผ่อน ได้กินอาหารและได้พูดคุยกันอย่างสนุกสนานร่วมกัน

บารมีวางมือลงไปที่หลังมือของพิพัฒน์และพิพัฒน์ก็ส่งยิ้มกลับมาให้

“สุขสันต์วันเกิดนะพัฒน์” พิพัฒน์ยิ้มออกมาและพยักหน้ารับกับสิ่งที่บารมีบอก และนั่นยิ่งทำให้บารมียิ้มได้อย่างมีความสุข
เต๋อมองไปที่พิพัฒน์และเฮียบัสที่ส่งยิ้มให้กัน และช่างวินัยก็มองหน้าของเต๋อและเรียกให้เต๋อหันกลับมามองที่ช่างวินัยบ้าง

“ถ้าเอ็งมองคนอื่นมากกว่าพี่ พี่จะฟ้องแม่เอ็งนะเต๋อ”

กระซิบบอกเบา ๆ พอให้ได้ยินกันสองคนและช่างวินัยก็แกล้งขู่เต๋อไปเล็กน้อยและเต๋อก็ตีหน้าขาของช่างวินัยแรง ๆ จนช่างวินัยต้องจับมือเต๋อเอาไว้แน่น

บารมีลอบมองสิ่งที่เต๋อกับช่างวินัยทำแล้วก็หัวเราะด้วยความขำแต่ก็ต้องถือตะเกียบค้างเอาไว้อย่างนั้นเมื่อพิพัฒน์วางมือลงที่หน้าขาของบารมีบ้างและเริ่มลูบไล้เล่นเบา ๆ

“ขอบคุณมากนะพี่บัส ดีใจที่เราได้อยู่ด้วยกัน”

พิพัฒน์ส่งยิ้มให้กับบารมีและบารมีก็พยักหน้ารับและพยายามระงับจิตใจให้จดจ่ออยู่กับงานวันเกิดของพิพัฒน์

ทุกอย่างยังเป็นปกติดี บารมียังโดนพิพัฒน์ทำให้หลงรักอยู่ทุกวัน วันนี้ทุกคนในอู่หัวเราะไปพร้อมกันอย่างมีความสุข และบารมีหวังว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปทุก ๆ วัน


(จบ)
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 06-05-2017 09:27:56
ขอบคุณครัช
 :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 06-05-2017 10:17:31
พออัพตอนใหม่ก็ต้องไปอ่านมาตั้งแต่ตอนแรก อ่านหลายรอบมาก ยังไม่เคยเห็นพี่บัสจะระงับจิตกับน้องพัฒได้สักที
งี้แระรักเมียหลงเมียยิ่งชีพ  :impress2: เสียดายจบซะละ หวังว่าจะมีตอนพิเศษมาให้หายคิดถึงบ้างนะคะ  :L2:
เพราะยังค้างคาหลายคู่นะ  :mew1:

 :pig4: ขอบคุณค่ะ  :L1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 06-05-2017 10:37:07
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 06-05-2017 11:24:43
ขอคู่อื่นๆด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 06-05-2017 11:50:13
ขอบคุณค่ะ ติดตามคู่นี้มานานมากๆๆๆ รอคู่อื่นต่อไปนะ  :L2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 06-05-2017 12:48:39
 :mew1: :mew1: :3123: :3123: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 06-05-2017 13:25:56
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ ใจจริงๆม่อยากให้จบเลย แต่ก็ต้องทำใจ ;-;
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 06-05-2017 14:47:08
ดูแลกันตลอดไป น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-05-2017 14:50:42
ประทับใจ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 06-05-2017 20:21:42
ขอบคุณค่ะ สนุกมากกกกกกกก :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 06-05-2017 23:07:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 07-05-2017 10:26:22
ชอบ ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 07-05-2017 13:41:05
ขอบคุณค่ะ. รอตอนพิเศษนะคะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 07-05-2017 14:29:25
อยู่ดูแลแบบนี้กันตลอดไปนะ

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: จั๊กหล่ะ ที่ 08-05-2017 19:40:07
มีตอนพิเศษมั้ยรอตอนพิเศษอยู่นะ^^
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: lucky ที่ 10-05-2017 22:35:33
ขอบคุณมากค่ะ พอตามอ่านทันก็จบซะแล้ว กำลังสนุกเลย ^_^
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 10-05-2017 23:58:38
ชอบเรื่องนี้มาก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 13-05-2017 13:04:50
น่ารัก ชอบมากมาย ยังอยากอ่านต่ออยู่เลย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 14-05-2017 01:36:15
เฮียบัสจัดงานวันเกิดให้ซ้อพัฒน์ หวานจนมดขึ้น เต๋อนี่ก็แกล้งช่างมิ่งจนอดสงสารไม่ได้ ช่างนัยจัดหนักที

ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องสนุกๆอย่างนี้มาให้อ่านกัน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: z9_0 ที่ 14-05-2017 11:09:34
จยแล้ววววว ดีอะ แบบ รักกันจิง. รักแบบไม่พูดเยอะแยะแต่รัก. คือแล้ว. พัตรร้อนแรงมากกกกก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 14-05-2017 20:52:57
 o13
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: tutatoomtam ที่ 15-05-2017 22:25:38
กลับมาอ่านอีกรอบ   ชอบความราชินีของหนู   ชอบความขี้โวยวายของเฮีย   ชอบเสน่ห์ของนิยายเรื่องนี้     :pig4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: jessiblossom ที่ 17-05-2017 01:18:42
ขอบคุณนะคะ ติดตามทุกเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 19-05-2017 16:36:16
 :mew1: :mew1: ชอบเรื่องนี้ อบอุ่นดี
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 21-05-2017 21:42:50
 :hao6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: beer9999 ที่ 21-05-2017 22:41:40
ขอบคุณคราบที่แต่งมาให้อ่าน น่ารักดี แต่หน้าจะมีดราม่าสักนิดนะเนี้ย อิอิ (แอบเลว)
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 24-05-2017 14:15:14
ขอบคุณมากค่ะ ชอบมากๆ  :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 26-05-2017 16:16:06
น่ารักไปไหน ชอบคนนิสัยแบบพัฒน์จัง อยู่กับพี่บัสได้55 คู่เต๋อกับช่างนัยนี่คือน่ารักแอบสงสารช่างนัยเบาๆ คู่ช่างมิ่งกับคุณทัศนัยนี่จะมีไรอีกไหมอยากรู้จัง ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: whitelavenders ที่ 12-06-2017 02:50:01
พัฒน์นี่ทั้งน่ารักทั้งน่าโมโหจริงๆ นะ 55555555
จริงๆ เรื่องนี้คนที่คุมเกมก็คือ พัฒน์นี่เอง ไม่ใช่พี่บัส

พูดถึงนิยายของคุณเท็น เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ชอบค่ะ มีเสน่ห์มาก
แล้วก็ดูติดดินเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 17-06-2017 01:05:53
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: noonit ที่ 18-06-2017 21:54:34
อ่านตอนแรกๆพัฒน์น่าสงสารมากกับการต้องทความปากร้ายของเฮีย แต่พออ่านไปนานๆ ชักจะสงสารเฮียแทน ทำไมรู้สึกว่าเฮียโดนแกล้งตลอดเลย
ขอบคุณคุณนักเขียนสำหรับนิยายเรื่องนี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 21-06-2017 15:09:00
 :heaven :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 28-10-2017 02:06:13
นิยายน่ารักมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: nightlity ที่ 28-10-2017 06:31:35
 :mew1: ตามอ่านจบแล้ว สนุกมากค่ะ ขอบคุณเรื่องราวดีๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Peterpigg ที่ 28-10-2017 08:53:51
สนุกมากเลยค่ะ อ่านรวดเดียวจบ ตอนนี้วงวารพี่บัสมาก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 28-10-2017 22:10:53
สนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: gibebk ที่ 28-10-2017 22:47:44
 :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: CLShunny ที่ 28-10-2017 23:34:38
ควีนพี่พัฒน์เด้อออ
ตรบมือรัวๆๆๆๆๅ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 29-10-2017 01:05:15
พัฒน์แซ่บมากกก ขอบคุณมากนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Maymon ที่ 29-10-2017 13:53:45
ขอบคุณมากๆค่ะ
นายเอกกวนเงียบจริงๆ5555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: NINNILL ที่ 24-12-2017 22:56:44
ทำไมเอ็นดูพัฒน์จังเลยอะ :impress2: อีตาบัสปากจะไวไปไหน555 :z6:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: NINNILL ที่ 26-12-2017 20:58:00
 :hao5: เขามีอะไรกันอีกแล้วววววววว พัฒน์แอบซึน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: NINNILL ที่ 26-12-2017 21:02:17
 :-[ :o8: เราพึ่งตามอ่านจนจบ ขอบคุณมากๆนะคะ :mew1:ๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 26-12-2017 23:29:45
จบแล้ว สนุกมากเลย  :mew3:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 30-12-2017 17:50:38
 :haun4: พัฒน์สุดยอดดดดดดดด สุดยอดแห่งความยั่ววววววว โอ้ยถ้าชั้นเป็นพระเอกก็จะจับกดตั้งแต่วันแรกที่เจอกันถ้ารู้ว่าจะพญาขนาดนี้ 
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 31-12-2017 17:20:53
เนี่ยๆ พัฒน์ เรามันคนแบบนี้ ยอมใจความเคะราชินีมาก สนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 22-01-2018 04:44:12
พัฒน์นี่สุดยอดเลย พี่บัสเลยไม่คิดจะไปไหนเลย
ทั้งเรื่องที่อู่ ทั้งเรื่องที่บ้าน ทั้งเรื่องที่เตียง ไม่มีบกพร่อง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: กวังกีเมย์บี ที่ 17-03-2018 13:35:07
หืออออออออออ อ่านตอนแรกคืออึกอัดมากกกก อยากจะตบกะบาลทั้งคู่ให้ทิ่มดิน  :z6: :z6: :z6:
แต่หลังนี้คือ เกินความคาดหมายมากกกกก ชอบบบบบบบ ตัวเร่าร้อนนี้ เขิยนนยยยยยย  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Sedsawa ที่ 24-03-2018 00:20:16
 :-[ :-[ อ่านรวดเลยเรา ฮือออออ อยากได้น้องลูกหนูเป็นของตัวเองงงงงง หนนนนนนู๊ ทำไมน่ารักงี้~~~ งื้ออ ชอบนิสัยลูกหนูจริงๆ เป็นคนเงียบๆแต่บนเตียงเเซ่บมากกก กรี๊ดดด จริงๆชอบทุกคนเลยยย ตัวละครดูมีชีวิตจริงๆ โอ๊ยย หลงรักค่าาาา ยัยหนูก็น่าฝัดจริงๆ   :haun4: :haun4: ขอบคุณสำกรับเรื่องนี้นะคะะ :-[
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 28-03-2018 13:51:42
สนุกมาก ๆ ครับ พี่บัส แพ้ทาง พัฒน์ ตลอด



ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 09-04-2018 23:20:58
นี่พลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไงงง สนุกค่าาาา
ยอมใจในความขี้บ่นของเฮียบัส บ่นมันได้ทุกเรื่องจริงๆ555 แต่ยังไงก็แพ้ทางพัฒน์อยู่ดีละน้าา หึหึหึ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: i.am.wee ที่ 11-04-2018 08:11:29
ชอบมาก รักพี่บัส & น้องหนู หมดใจ.... :กอด1: :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 24-04-2018 01:21:46
น่ารักปนหน่วงๆ แล้วก็หวานปนหื่นในช่วงท้าย 555
ชอบพี่บัสอ่ะหลงเมียหนักมาก ^^
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 15-07-2018 03:17:20
คู่นี้น่ารักมากจริงๆ ดีต่อใจค่าา
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: mookim ที่ 01-08-2018 23:01:26
เป็นเรื่องที่ไม่ต้องพูดอะไรมาก ควีนคือควีน555+


ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆและดีต่อใจนะคะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: morningglory08 ที่ 17-09-2018 18:28:42
พัฒน์น่ารักกกก ทำไมเพิ่งอ่านเจอเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: @Sister ที่ 18-09-2018 23:21:26
สนุกมาก ๆ รักในภาษาของคนเขียนมาก อ่านเพลิน
ขอบคุณค่า  :L2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 29-09-2018 12:16:38
 :impress2:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 29-09-2018 17:12:13
พัฒน์มีความเป็นเคะราชินีมากเลย มอบมงให้เลย พอขึ้นเตียงแล้วไหนพัฒน์คนไม่พูดไม่จา มีความยั่วเยสูงมาก สงสารแต่พี่บัส คู่ช่างนัยก็น่ารักมีความเลี้ยงต้อยมาตั้งแต่เด็ก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: fida ที่ 12-10-2018 02:01:50
ชอบนิยายของคุณเท็นทุกเรื่องเลย

ชอบคาแรคเตอร์แบบพัฒนน์มาเลยค่ะ  :impress2:

ขอบคุณนะคะที่รวบรวมมาให้ได้อ่านกัน  :L1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 26-10-2018 18:08:54
สนุก น่ารักมาก เล็กๆน้อยๆ แต่หวานมากกกกก ชอบ  :กอด1: o13
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 19-11-2018 23:41:46
น้อง!!! เป็นคนไม่ค่อยพูดแต่การกระทำชัด้จนมาก
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 21-11-2018 01:21:35
 :pig4: :pig4: :pig4: ยอมความยั่วบดของลูกหนูคือกราบแซ่บลืมดุดันกันจริงๆ 555555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 21-11-2018 20:09:18
 :hao7:  กลับมาอ่านเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้..........แต่ก็ยังคิดถึง..ความเคะราชินีของพัฒน์เสมอ.....
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 22-11-2018 21:01:36
สนุกค่ะ พระเอกพูดคำด่าคำแต่เวลาอยุ่กับนายเอกก็น่ารักดีนะ
ด่าไปนายเอกก็เฉย  :laugh: รอปั่นทีหลัง  o18 แพ้ทางมาก  :hao7:
นายเอกดูนุ่มนิ่ม แต่จริงๆ แล้วแอบดื้ออ่ะ ชอบนาง  :hao7:
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 23-12-2018 20:16:52
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้
สนุกมากเลยยยย
ร้ากกกกกกก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: yellowxxpeach ที่ 28-01-2019 21:33:38
พัฒน์ลูกก
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 11-02-2019 01:20:13
ปลื้มใจสุดๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 12-02-2019 02:56:18
 :mew1:  วนกลับมาอ่านอีกรอบค่ะ  คิดถึง
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: watop ที่ 13-02-2019 09:24:35
ตามอ่านจบแล้ว ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวฝาแฝดของโลก ที่ 05-11-2019 13:36:41
พัฒ ร้อนแรงมากแม่ง :o8:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 07-11-2019 13:27:12
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: matame ที่ 08-11-2019 22:39:40
ชอบเขาก็พูดไปนะ น้องยังงงอยู่
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: tutatoomtam ที่ 19-11-2019 22:26:37
กลับมาอ่านอีกรอบ เพราะคิดถึง :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 26-11-2019 17:09:00
 :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: NongJesZa ที่ 07-12-2019 16:30:44
สนุก และน่ารักมากกก อบอุ่นที่สุด รัก :กอด1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: PanGii ที่ 04-03-2020 21:45:55
รวดเดียวจบไปเลยค่ะ (รอบสอง) ยังไงก็ยังละมุน ❤❤
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 07-03-2020 04:39:32
น่ารักมากครับ ชอบพัฒน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 15-03-2020 17:47:24
สนุกมากๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าอ้วงงง ที่ 21-06-2020 11:15:57
ชอบม๊ากกกกกก สนุกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 13-08-2020 15:20:21
อ่านเป็นรอบที่เท่าไรไม่รู้ บ่อยจนจำไม่ได้
ลึกๆแล้วแอบตั้งความหวังว่า จะมีตอนพิเศษเหมือนเรื่องอื่นๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaew ที่ 19-08-2020 16:22:46
#ไม่ไหว้นะคะเพราะไม่ใช่ญาติ 5555
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: ปาลี ที่ 20-08-2020 07:55:03
ไปเหอะพัฒน์ ปากไม่น่าอยู่ด้วยเลย ไปอยู่คนเดียวสบายใจกว่าเยอะ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: ปาลี ที่ 20-08-2020 12:44:30
อิปานี่จริง ๆ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: lilchubby ที่ 10-09-2020 18:00:29
อ่านทีไรก็ฟินนน
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: noveeo ที่ 22-02-2021 01:39:21
สนุกมากค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke
เริ่มหัวข้อโดย: kwan2211 ที่ 13-06-2021 10:30:30
@@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke  ภาค บารมี & พิพัฒน์
             หน้าที่ 1.....ตอน เมื่อเราจำใจต้องอยู่ด้วยกัน// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2935430#msg2935430)ถามเพื่ออะไร// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2935467#msg2935467)เราไม่ได้เกลียดกัน// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2935484#msg2935484)อย่าทำให้คนรอบข้างลำบาก// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2935525#msg2935525)
           หน้าที่ 2.....ตอน งานอดิเรกของพิพัฒน์// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2935689#msg2935689)เมื่อพิพัฒน์จะไปเที่ยวสถานที่อโคจร// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2935769#msg2935769)พวกไม่มีความเกรงใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2936372#msg2936372)
                                 ข้างอู่มีกรงกระต่าย// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2936376#msg2936376)กระต่ายที่หายไป// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2936380#msg2936380)
           หน้าที่ 3.....ตอน ความห่วงใย// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2936865#msg2936865)คนรอบข้างของบารมี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2937027#msg2937027)
           หน้าที่ 4.....ตอน คนที่เข้าใจคนที่ไว้ใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2937927#msg2937927)
           หน้าที่ 5.....ตอน ความทรงจำของบารมี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2938130#msg2938130)
           หน้าที่ 6.....ตอน อยากอยู่ด้วยกันตลอดไป (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2939085#msg2939085)
           หน้าที่ 7.....ตอน อ้อน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2940695#msg2940695)
           หน้าที่ 9.....ตอน ไม่เคยลืม (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2944182#msg2944182)
           หน้าที่ 13....ตอน ก่อนจะเข้าใจ// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2974959#msg2974959)ใกล้ชิดอีกนิด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2975175#msg2975175)
           หน้าที่ 14....ตอน หิว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2976138#msg2976138)
           หน้าที่ 15....ตอน ภาคพิเศษ 20 เรื่องของบารมีกับพิพัฒน์// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2977019#msg2977019)ความสุขเล็ก ๆ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2977126#msg2977126)
           หน้าที่ 16....ตอน กิน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2977399#msg2977399)
           หน้าที่ 17....ตอน บารมีก็งอนเป็น (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3020268#msg3020268)
           หน้าที่ 18....ตอน เข้าใจให้ตรงกัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3020535#msg3020535)
           หน้าที่ 19....ตอน คำตอบที่ไม่ต้องถาม (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3022630#msg3022630)
           หน้าที่ 20....ตอน ผู้หญิงอย่างปาจรีย์ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3024474#msg3024474)
           หน้าที่ 22....ตอน กลับสู่จุดเริ่มต้น (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3028137#msg3028137)
           หน้าที่ 23....ตอน เหตุการณ์ปกติ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3031574#msg3031574)
           หน้าที่ 25....ตอน สู้ไม่ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3099363#msg3099363)
           หน้าที่ 26....ตอน วันที่น่ายินดี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3290547#msg3290547)
           หน้าที่ 29....ตอน ก้าว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3595052#msg3595052)
           หน้าที่ 30....ตอน จบ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg3629721#msg3629721)
........................................

@@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke  ภาค เต๋อ & ช่างวินัย
           หน้าที่ 6.....ตอน ผมเกลียดช่างนัย// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2939026#msg2939026)เด็กถูกทิ้ง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2939487#msg2939487)
         หน้าที่ 7.....ตอน สัญญา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2940148#msg2940148)
         หน้าที่ 8.....ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2941262#msg2941262)ให้เธอนั้นกลับมาโอบกลับมากอดอีกสักครั้ง// (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2941262#msg2941262)
         หน้าที่ 10....ตอน ไม่ต้องพูดก็เข้าใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2945393#msg2945393)
         หน้าที่ 11....ตอน ตาม (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2947534#msg2947534)
         หน้าที่ 12....ตอน ช่วงเวลาน้อยนิด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.msg2950323#msg2950323)

❤❤❤ ❤❤❤ ❤❤❤ ❤❤❤ ❤❤❤❤❤❤ ❤❤❤  ❤❤❤ ❤❤❤ ❤❤❤❤❤❤ ❤❤❤ 

สารบัญนิยายเรื่องอื่น ๆ

01. - รักเกิดในแผนกขนส่ง (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41970.0) 02.  - รักเกิดในร้านก๋วยเตี๋ยว (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=4159.0) 03.   - รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45186.0)

04. - ก็แค่ผู้ชายหยอกล้อกัน (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2531.0) 05.  - เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=1539.0) 06.   - เพราะรัก(แน่เหรอ) ครับผม (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=7407.0)

07. - running..... (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=14400.0) 08.  - สวัสดี (ยังไม่จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=8912.0) 09.   - เรื่องอื่น ๆ ใน Thaiboys ลองค้นดู (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=4686.0)

10. - IT is เต็มสิบ.// IT is ฐาปัตย์ (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56607.msg3517286#msg3517286) 11.  - เพื่อนร่วมงาน (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59781.msg3629565#msg3629565)


พูดคุยกัน ❤❤  Aoikyosuke Fanpage❤❤
 (https://www.facebook.com/pages/Aoikyosuke-%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94/187318631478330)
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Vergintomza ที่ 14-06-2021 04:30:29
ขอบคุณมากนะครับ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Vergintomza ที่ 20-08-2021 18:30:43
รัก มาก รักมากๆๆๆฟ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: sawasdeeorange ที่ 18-10-2021 13:34:36
เพื่อนแนะนำมาให้อ่าน เพราะเราหานิยายที่เป็นเรื่องของคนธรรมดาสามัญชนที่ไม่ใช่ตัวท็อปหรือจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารอยู่ เห็นนิยายของนักแต่งตรงตามที่เราหาอยู่เลยครับ แต่เราเลือกอ่านเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก พออ่านจบแล้ว สุขใจมากๆครับ และคิดว่าคงได้ตามอ่านผลงานเรื่องอื่นๆของนักแต่งอีกแน่นอน เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอสมัครเป็นแฟนคลับด้วยคนนะครับ
หัวข้อ: Re: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Sunset and Eeyore ที่ 30-01-2023 14:27:24
เป็นเรื่องที่ดีงามมาก มู้ดเรื่อยๆ แต่คือจบด้วยความลงตัว เหนืออื่นใดคือพิพัฒน์แม้พูดน้อยจนน่าตกใจ แต่จริงๆคือแซ่บอย่าบอกใคร