นิสรีน... กุหลาบขาวแห่งทะเลทราย [Ch.26: คู่รัก END ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิสรีน... กุหลาบขาวแห่งทะเลทราย [Ch.26: คู่รัก END ]  (อ่าน 463723 ครั้ง)

ออฟไลน์ GUNPLAPLASTIC

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
แหนะทาริค เอะอะไล่น้องเอะอะก็เข้ามาไกล้ ฮึ้ยยยยยย มันน่านัก ก็น้องถูกขายมาก่อนนี่ก็ไม่ไว้ใจนิ เหอะ
เดี๊ยวไม่เชียร์ซะเลยนี่! เเต่ว่าก็ว่าเถอะค่ะ คุณคนเเต่งค่ะ ถ้าทาริคไม่ได้เป็นพระเอกนี้มีเคืองกันทั่วหน้านะค่ะ
อยู่ๆมาทำหล่อเเล้วจากไปนี้ไม่ได้นะค่ะ เห็นเรื่องนี้ยู่หลายวันเพิ่งเข้ามาอ่าน ไม่ผิดหวังเลยยยยยย
ปกติชอบอ่านพวกชีคทะเลทรายอยู่เเล้ว ถึงกับกรี๊ด รอตอนต่อไปอย่างตั้งใจนะค่ะ คุณฮัสกี้สู้ๆค่ะ :กอด1: :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ `ลoงสิจ๊ะ™

  • รักคือรัก จะให้หักห้ามใจนั้นยาก
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ทาริคคือใคร พระเอก นายเอก #ผิด
ทาริคคือใคาก็แล้วแต่ จะอัมบาหรือไม่ใช่
อิป้าคนนี้ก็เชียร์ให้เป็นพระเอก
ก็แหม ! ทั้งหล่อ เท่ แถมยังน่ารักกับคุณอีก
เชียร์ๆ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
น้องใจเต้นด้วยขนาดนี้ไม่ใช่พระเอกคงแปลกๆละค่ะ555

ออฟไลน์ gneuhp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ทาริค นี่ใช่ อับบา รึเปล่าอย่าทำให้ คุณ เสียใจอีกน้าฟัง คุณ อธิบายก่อนนะ ^^

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ไม่ยอมน้าา ถ้าไม่ใช่ทาริค  :o12: หล่อ อบอุ่น กล้าหาญเฉียบขาด โดนดันไปเป็นองครักษ์ เป็นพระรอง คงเหวอมากอ่ะ  o22
 แล้วช่วงเวลาที่ยากลำบากของคุณ อับบาไปไหน คะแนนตก 555  :laugh:

ออฟไลน์ Memindbucker

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
กรี๊ดด ทาริคเท่มากกกกกกก ทาริคต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ ไม่งั้นจะกลัวกันหัวหดขนาดนั้นหรอ
ชอบตรงที่พูดว่า โทษของคนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงคืออะไร เท่มากกกกก คือปกป้องน้องคุุณได้ ดี๊ดี
ในที่สุดเขาก็พูดกันแล้ว ทาริคยิงพูดยิ่งดูหล่อ หลงงงง

ออฟไลน์ rose_mary

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
ทาริค อย่าถือสาน้องคุณเลย น้องเขามีแต่เรื่องเศร้า เข้าใจน้องเขาหน่อย แต่แหมเล่นทำเนียนพูดไม่รู้เรื่องตั้งแต่ต้น เรื่องนี้มันช่างน่าติดตามเยี่ยงนัก รอตอนต่อไปจร้าาาาาา ขอแบบคอมโบ หลายๆตอนด่วนๆเลยนะจ๊ะ :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
กริชของทาริคมีตราดอกกุหลาบสีขาวด้วย ก็คงจะใช่อับบาแหละ  :mew1:

ออฟไลน์ ekonut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 350
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maicy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-0
นั่นแน่...ทาริคพาน้องคุณเดินทางตามรอย DVD ใช่ไหมเนี่ย พ้นจากเมืองก็จะได้เจอวังสีขาวแล้วสินะ  รอตอนต่อไปค่ะ :L2:

ออฟไลน์ miya_pp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
กุหลาบขาว ของคนอ่าน แก้ผ้าอาบน้ำต่อหน้าผู้ชายยยยยย
อ๊ายยยย เพราะงั้นทาลิค นายต้องรับผิดชอบ :katai5:

ออฟไลน์ yumijung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เสียเซลเลยอ่ะดิ..
โดนเด็กบอกว่าแก่หน่อยเดียวรีบโกนหนวดเลยแฮะ..ว่าแต่ยืนดูน้องอาบน้ำนี่คิดไรป่่าว..อย่าบอกนะว่าไม่คิด..นี่ขนาดแค่อ่านนะยังคิดไปไหนต่อไหนละจ้า.คิคิ
แต่กฏหมายท้องถิ่นนี่มันก็โหดใช่เล่นจริงๆนะ

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
ทาริค เป็นอับบา ชัวร์ๆ

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
อร้ายยยย ท่านชีคกลางทะเลทราย
นานๆจะมีแนวนี้มาให้อ่าน ถูกใจมากเลยค่ะ
ทาริคเป็นอับบาของน้องคุณแน่ ฟันธง555

ออฟไลน์ Evergreen

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รู้สึกตกหลุมรักหนุ่มทะเลทรายบ้างแล้วเหมือนกันค่ะ
หาอ่านแบบนี้ยากมากกกก
ภาษาสวยมากค่ะ จิ้นตามได้เป็นตอนๆ
ทาริคจะใช่ปะป๊ารึเปล่าน้าาาาา

อัพอีกๆ รออ่านอยู่ค่าา

ออฟไลน์ AiiSoul

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เชียร์ทาริคให้เป็นพระเอกกกกกกก
น้องคุณดูตัวน้อยนึง ดูบอบบางสุดๆ
ชอบบรรยากาศทะเลทรายในเรื่องจังเลย

ออฟไลน์ candy sweet

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :mew1:
สวัสดีค่ะคุณดาว ตามมาให้กำลังใจค่ะ
เรื่องนี้หวนาน่ารักมากๆๆๆค่ะอ่านกี่รอบก็ยังอมยิ้มค่ะ

ออฟไลน์ candy sweet

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนนี้น่าสงสารน้องคุนจังค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pagg

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
น้องคุณน่ารักมาก ขนาดคุยกันไม่รู้เรื่องน้อก็คุยจ้อเลย เพราะคิดว่าทาริคฟังไม่ออก

ทาริคคงไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ทหารแค่เห็นคันจาร์ลายกุหลาบก็ถอยแล้ว

แอบสงสารน้องต้องมาเจอเหตุการณ์ป่าเถื่อนก็นะ บ้านเมืองเค้ามีกฎต่างกัน

อรั้ยยย ทาริคพูดกับน้องแล้ว ทำน้องอายเลยเพราะน้องเผลอพูดอะไรไปตั้งเยอะ ฮ่าา

โอวว โกนหนวดแล้วหล่อเลยนะ เป็นใครก็หวั่นใหว มีหนุ่มทะเลทรายคอยอยู่เคียงข้าง

น้องอย่าคิดมากนะ ทาริคเค้าคงไม่เอาน้องไปขายหรอก ทานิคคงแอบน้อยใจที่น้องไม่เชื่อใจเขา เขาเลยพูดแบบนั้น

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ทาริคเป็นพระเอกเถอะค่ะถ้าจะเผลอใจสั่นกันขนาดนี้. :ling1: ได้กำไรไปก็ตั้งเยอะ.
รอตอนต่อไปค่ะ. :hao3:

ออฟไลน์ ben

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-3
คนแต่งหายไปไหนนนนน ตามตัวด่วนนนน ><'

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
เข้ามาตามหาคนแต่งด้วยคน คนแต่งหายตัว คนอ่านรอครับ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ความรักกำลังก่อตัวท่ามกลางทะเลทรายที่ร้อนระอุ เอาจริงๆนี่ร้อนตามเลยนะคะ คนเขียนบรรยายเก่งจัง  :katai2-1:
ทาริคจะเป็นคนเดียวกับอับบาแสนใจร้ายคนนั้นหรือเปล่านะ แต่สงสารคุณน้อยมากๆ เจอแต่เรื่องโหดร้าย :katai1:
สู้ๆนะน้องคุณ อย่าเพิ่งยอมแพ้ จนกว่าจะเจออับบานะ :กอด1:

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
อุ๊บแจกรักรัวๆ แจกดอกไม้ให้กำลังใจรัวๆคืนค่า
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

มาต่อไวๆน๊าติดหนึบหนับเลย

ออฟไลน์ minminmin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อยากอ่านต่อแล้วค่าาาาาาาคุณฮัสกี้
ทาริคเป็นพ่อบุญธรรมน้องชัว์!!!! หึหึหึ :impress2:

ออฟไลน์ pagg

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ทาริคเมื่อไหร่จะมาน้อ คิดถุง

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 6 : กุหลาบทะเลทรายเบ่งบาน


พอเด็กหนุ่มเดินกลับเข้ามาในตัวบ้าน คนที่เข้ามาก่อนก็ยืนรออยู่แล้ว “เสร็จแล้วใช่มั้ย มานี่ซิ”

ขาเรียวพาเจ้าของให้ก้าวเข้าไปหาร่างสูง “ครับ”

มือหยาบหยิบกริชที่เขาเพิ่งซื้อมาจากตลาดเมื่อยามเช้าส่งให้กับร่างโปร่ง แล้วเอาเข็มขัดหนังคาดรอบเอวบางให้ “เอาไว้ป้องกันตัว อันนี้อาจไม่ดีนัก แต่เอาไว้ฉันจะหาอันใหม่ให้”

“...ขอบคุณครับ” ศตคุณปรับสีหน้าไม่ถูก ด้วยไม่แน่ใจว่าทำไมชายหนุ่มถึงดีกับเขานัก เพราะสงสาร? หรือเพราะต้องการนำเขาไปส่งต่อให้กับใครๆ ในขณะที่ยังมีอวัยวะครบทุกส่วน? นัยน์ตาสีอ่อนลอบมองใบหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลาที่อยู่ห่างเพียงแค่คืบ จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้า ริมฝีปากหยักบางเฉียบ บวกกับผิวสีน้ำผึ้งทำให้ชายหนุ่มดูโดดเด่น น่ามองกว่าใครๆ ที่เขาเคยพบเจอมาก่อน

หลังจากใส่เข็มขัดให้เสร็จ ชายหนุ่มหยิบกริชจากในมือของเด็กหนุ่มแล้วชูขึ้น “นี่เรียกว่าคันจาร์ เอาสอดไว้ใต้เข็มขัดหนังแล้วเกี่ยวไว้แบบนี้”

“ครับ...” ร่างโปร่งพยักหน้าหงึกหงัก พลางลูบเข็มขัดหนังที่มีขนาดพอดีกับเอวตนอย่างไม่น่าเชื่อ “เข็มขัดนี่... พอดีเป๊ะเลย”

“ก็แน่ล่ะซี กอดอยู่เป็นวันๆ ไม่รู้ขนาดก็แย่แล้ว เอวเล็กจนแทบจะหัก จะอยู่ในทะเลทรายได้อีกสักกี่วันก็ไม่รู้” ทาริคผละออกแล้วเดินนำไปยังประตูบ้าน

“ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นสักหน่อย”

“ฉันจะคอยดู... ปิดหน้าซะแล้วไปกันได้แล้ว”

ศตคุณเดินตามชายหนุ่มออกจากบ้านพักไปพร้อมกับบ่นพึมพำในใจ... ทีตอนแรกล่ะทำเป็นเล่นตัวไม่ยอมพูดจาภาษาเดียวกัน... พอมาตอนนี้พูดคุยกันรู้เรื่องก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน

ตลาดยามเย็นเนืองแน่นไปด้วยผู้คนอีกครั้ง ร่างสูงพาเด็กหนุ่มไปร้านอาหารที่อยู่ในตลาดอีกร้าน มื้อนี้ร่างโปร่งจะได้ลองชิม มักลูเบห์ (Maglubeh) อาหารพื้นบ้านของชาวเบดูอินที่ทำจากข้าวใส่เนื้อไก่ เครื่องเทศ และผักต่างๆ ที่หาได้ในละแวกนั้นต้มรวมกันในน้ำซุปจนแห้ง และมีผลมะกอก ขนมปังพิต้า กับชีสที่ทำจากนมอูฐเป็นเครื่องเคียง 

...เพราะเมื่อเช้าอาเจียนเอาอาหารที่รับประทานเข้าไปออกมาจนหมด พอมาถึงเวลานี้ศตคุณจึงรู้สึกหิวมากเป็นพิเศษ มือขาวใช้ช้อนตักอาหารในจานที่ร้อนฉ่าจนควันฉุยขึ้นมาเป่าลมเบาๆ ความร้อนของมันทำให้ริมฝีปากสีแดงยิ่งแดงมากขึ้นไปอีก “อร่อยจัง...”

ใบหน้าคมเข้มดูเฉยชาตามปกติ “กินให้อิ่มนะ หวังว่ามื้อนี้คงไม่เสียเปล่าอีก”

เด็กหนุ่มค้อนขวับ “...ผมขอโทษ แต่ว่านั่นน่ะ ไม่ใช่ความผิดของผมสักหน่อย ผมก็เสียดายของที่กินเข้าไปเหมือนกันนั่นล่ะ”

“งั้นก็ดี” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ “เดี๋ยวเราจะไปซื้อเสบียงกันสักหน่อย คงต้องตุนพวกอาหารแห้งๆ ที่ไม่หนักมากติดไว้สำหรับการเดินทางบ้าง”


หลังเสร็จจากมื้ออาหารเย็น ทาริคก็เดินนำเข้าไปในตลาดเพื่อหาซื้อขนมปัง อาหารกระป๋อง ผลไม้แห้งๆ และเนื้อตากแห้งที่ย่างไว้แล้วเป็นเสบียง แต่ว่ากว่าจะได้มาแต่ละอย่างก็ลำบากพอดู นอกจากนั้นก็ยังไปขอแบ่งซื้อเมล็ดกาแฟป่นและชาสำหรับทำเครื่องดื่ม ปิดท้ายด้วยการเดินไปที่เพิงขายผ้า เพื่อเลือกซื้อเสื้อคลุมและผ้าคลุมใหม่ให้กับร่างโปร่ง เสร็จแล้วจึงกลับมายังบ้านพักอีกครั้ง แล้วจัดของที่ซื้อมารวมไว้ด้วยกัน

ดูจากอาหารและน้ำที่ร่างสูงตระเตรียมไว้ หรือว่าพวกเขาจะต้องไปร่อนเร่อยู่ในทะเลทรายอีกเป็นสัปดาห์ หากศตคุณก็ไม่กล้าเอ่ยปากถามอะไร เพราะกลัวจะได้รับคำตอบที่ทำให้เขาใจเสียอีก

“สวมเสื้อคลุมซะ แล้วพันผ้าคลุมให้เรียบร้อย” มือใหญ่ส่งเสื้อผ้าที่เพิ่งซื้อมาให้

“ขอบคุณนะครับ... แต่... มันร้อน... ผมไม่ใส่เสื้อคลุมได้มั้ยครับ”

“ในทะเลทรายตอนกลางวันร้อนมาก เหงื่อเธอจะออกแล้วระเหยไปโดยที่เธอไม่รู้ตัว ส่วนตอนกลางคืนอากาศเย็น เสื้อใส่ไว้หลายๆ ชั้นจะช่วยรักษาน้ำและอุณหภูมิได้ เพราะงั้นทุกครั้งที่ออกไปข้างนอกบ้านพักหรือกระโจม เธอต้องใส่เสื้อคลุมและผ้าคลุมไว้เสมอ”

“...ครับ” เด็กหนุ่มจำยอมด้วยเหตุผล เขาสวมเสื้อคลุมสีดำตัวยาวทับชุดโต๊ปสีขาว แล้วหยิบผ้าคลุมมาคลุมศีรษะและพันร่างกาย “แต่นี่ก็อยู่ในบ้านแล้ว” หากก็ยังไม่วายบ่นพึมพำ

“เดี๋ยวเราจะออกไปข้างนอกกัน”

“ไปไหน... ครับ”

“ไปทุ่งกุหลาบ”

“หือ... กุหลาบ ในทะเลทรายเนี่ยนะครับ” ศตคุณขมวดคิ้ว เพราะตั้งแต่เขามาถึงที่ทะเลทรายนี่ ต้นไม้นอกเหนือจากต้นปาล์มสักต้น เขาก็ว่าหายากแล้ว

“ไปกันเถอะ” ทาริคเดินนำออกประตูไป ทว่าที่ด้านหน้าประตูนั้น มีกลุ่มของนายทหารกับชายท่าทางสูงศักดิ์ซึ่งแต่งกายแตกต่างออกไปดักรออยู่

ร่างโปร่งที่ก้าวตามออกมาหยุดกึก ใจหายวาบ หรือว่าคนพวกนี้จะเป็นพวกเดียวกันกับเมื่อเช้า แล้วจะตามมาเอาเรื่อง หรือว่าจะมาเจรจาซื้อตัวเขาจากชายหนุ่ม “...ทะ... ทาริค”

“รออยู่ตรงนี้ก่อน” ร่างสูงบอกกับเด็กหนุ่ม ก่อนจะเดินเข้าไปหาชายที่แต่งกายดูดีกว่าใครเพื่อน พวกเขาพูดคุยกันสี่ห้าประโยค เป็นภาษาอาหรับที่ศตคุณไม่เข้าใจ ทว่าอีกฝ่ายดูพินอบพิเทาชายหนุ่มไม่น้อย หลังพูดคุยกันเสร็จ ชายคนนั้นก็ผายมือไปยังพวกทหารด้านหลังซึ่งถือกล่องใหญ่มีสีสันสวยงามอยู่ในมือ

เมื่อศตคุณเห็นดังนั้นก็สะดุ้งเฮือก หรือกล่องพวกนั้นคือของที่นำมาแลกกับตัวเขา เด็กหนุ่มถอยกรูดเข้าไปหลบในบ้านพักอย่างรวดเร็ว ขาเรียวที่อ่อนแรงพาเจ้าของให้ไปนั่งกอดเข่า ซุกตัวอยู่ตรงมุมห้อง ร่างกายสั่นเทาด้วยความกลัวจนทำอะไรไม่ถูก นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมีน้ำตาขึ้นมาเอ่อคลอ

แอ๊ด... เสียงประตูห้องที่เปิดออกทำให้ร่างโปร่งสะดุ้งเฮือก เขาก้มหน้าซุกกับหัวเข่าทันที

“คุณ?” ร่างสูงเปิดประตูเข้ามาภายในห้อง พลางชะโงกหน้าเข้ามาดู แล้วจึงเดินไปหาคนที่ขดตัวนั่งอยู่ตรงมุมห้อง “เป็นอะไรไป”

“...ฮึก...” ศตคุณเอาแต่สะอึกสะอื้น กลัวความจริงอันโหดร้ายจนไม่กล้าแม้กระทั่งจะเงยหน้าขึ้นมองดู

มือหยาบวางลงบนหัวไหล่เล็กแล้วบีบเบาๆ “จู่ๆ ก็เป็นอะไรไปน่ะ ลุกเถอะ เราจะไปข้างนอกกัน”

“ไม่! ไม่เอา! ผมไม่ไป” ร่างโปร่งขยับหนี พร้อมกับปัดมืออีกฝ่ายออกจากตัว

“เธอเป็นอะไรน่ะ!” ทาริคชักไม่สบอารมณ์ พอเขาคว้าข้อมือขาวไว้ได้เด็กหนุ่มก็ทั้งสะบัดทั้งดิ้นอย่างแรงจนเขาต้องรวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างไพล่หลัง “คุณ! ผีเข้ารึไงกัน”

“ฮึก... ปล่อย! ปล่อยผม! ผมไม่ใช่สิ่งของนะ! จะได้ส่งต่อให้กับใครต่อใครได้ง่ายๆ”

“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย!” ชายหนุ่มอยากจะดุศตคุณแรงๆ ที่ดื้อดึงไม่ยอมฟังเหตุผลอะไร หากก็เข้าใจว่าจิตใจของร่างโปร่งคงจะบอบช้ำมากจากประสบการณ์ที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน

แขนแกร่งรวบศตคุณเข้ามากอด จากนั้นก็ลูบแผ่นหลังบางอย่างแผ่วเบาเพื่อปลอบโยน เขาปล่อยให้ศตคุณร้องไห้จ้าเหมือนเด็กๆ จนหยุดไปเอง

“รู้สึกดีขึ้นแล้วใช่มั้ย ร้องไห้จนเหนื่อยแล้วล่ะสิ”

“ฮึก... ฮือ...” ใบหน้าน่ารักยังคงซุกอยู่กับแผ่นอกกว้าง มือขาวขยุ้มเสื้อคลุมของชายหนุ่มเอาไว้แน่น “ผมไม่อยากไปกับใคร...”

“กับฉันก็ไม่อยากไปหรือ”

“...ฮึก...”

“เราจะไปดูทุ่งกุหลาบด้วยกันไง”

ศตคุณส่ายศีรษะทั้งดวงตายังปิดสนิท เขาไม่อยากรับรู้ ไม่อยากรับฟังอะไรอีกแล้ว “ฮือ...”

มือหยาบดันไหล่บางทั้งสองข้างออกจากตัว “คุณ... ลืมตาสิ ดูสิที่นี่มีแค่ฉันกับเธอเท่านั้น” ทาริคเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งดุ

ร่างโปร่งลืมตาขึ้นทีละน้อย กะพริบปริบๆ แล้วหันหน้ามองไปรอบๆ ห้อง “ฮึก... พวกทหาร...”

“พวกเขากลับไปกันหมดแล้ว” ชายหนุ่มตอบพลางดึงให้ศตคุณลุกขึ้น จากนั้นจึงจูงอีกฝ่ายเดินออกไปทางด้านนอก “ดูสิ ไม่มีใครแล้ว หยุดร้องไห้ได้รึยัง”

ดวงตากลมใสกวาดมองไปรอบๆ แล้วไปหยุดอยู่ที่กล่องหลากสีสันกองโตที่วางกองรวมกันอยู่บริเวณหน้าบ้าน “แล้ว... ของพวกนี้”

“อาหารกับเสื้อผ้าน่ะ พวกเขาเอามาขอโทษเรื่องเมื่อเช้า”

“ขอโทษ? พวกเขา... เป็นใครเหรอครับ”

“เจ้าเมืองกับทหารของเขาน่ะสิ... เห็นมั้ยล่ะ ไม่มีอะไรอย่างที่เธอโวยวายเลยสักหน่อย” ปลายนิ้วหยาบช่วยเกลี่ยคราบน้ำตาออกจากพวงแก้มนุ่มให้ พร้อมกับยิ้มมุมปาก “ทีนี้จะไปกันได้รึยัง”

“ผม... ไม่อยากไปไหนแล้วล่ะครับ” ศตคุณยังคงปฏิเสธ เพราะคิดว่า ชายหนุ่มอาจจะหลอกพาเขาไปส่งให้กับพวกคนเหล่านั้นก็เป็นได้

“ไปเถอะน่ะ... โอ้เอ้จริง ไปขึ้นอูฐกันได้แล้ว” ทาริคดันไหล่เล็กให้ขึ้นไปนั่งบนหลังอูฐ ส่วนเขาก็จัดถุงน้ำ อินทผลัมสด และตะเกียงน้ำมันกับแกลลอนน้ำมันใส่ในกระเป๋าหนังที่ห้อยติดอยู่กับลำตัวอูฐไปด้วย

“ฟาร์ฮา!” เมื่อชายหนุ่มใส่ถุงมือแล้วยกขึ้นในอากาศ เจ้าเหยี่ยวสีน้ำตาลก็ร้องแกว๊ก ขานรับเสียงดัง มันบินถลามาเกาะบนถุงมือนั้น ก่อนร่างสูงจะโยนแขนขึ้นอีกครั้งเพื่อส่งให้มันบินนำออกไป

ร่างโปร่งมองตามฟาร์ฮาไป เขาอิดออดอยู่สักพัก แต่ก็ยอมทำตามที่ชายหนุ่มบอกอย่างไม่เต็มใจนัก พอเขาปืนขึ้นไปนั่งบนหลังอูฐ ชายหนุ่มก็ตามขึ้นมานั่งประกบหลัง แล้วสั่งให้อูฐลุกขึ้น จากนั้นทั้งสองจึงเดินทางออกจากตัวเมืองแล้วเข้าไปในเขตทะเลทรายอีกครั้ง

จันทร์ครึ่งดวงสีนวลประดับอยู่บนผืนนภาที่ถูกความมืดของรัตติกาลปกคลุม ส่องแสงบางเบากระทบผืนทรายสีเหลืองทองที่อูฐตัวโตย่างกราย ฝากรอยเท้าเอาไว้ หากไม่นานรอยเท้านั้นก็เลือนหายไป เพราะสายลมที่พัดผ่านพาเม็ดทรายมากลบร่องรอยของการเดินทางไว้ได้อย่างมิดชิด

คืนนี้ศตคุณนั่งเงียบไม่ฮัมเพลงเหมือนทุกครั้งที่อยู่บนหลังอูฐ หากเอาแต่ก้มหน้านิ่ง เกร็งตัวหนีจากแผ่นอกกว้างของคนที่นั่งอยู่ทางด้านหลัง จนอีกฝ่ายอดสงสัยไม่ได้

“เป็นอะไรไป ออกมาจากเมืองอย่างนี้ ยังคิดว่าฉันจะเอาเธอไปขายให้ใครอีกรึ” เจ้าของท่อนแขนแกร่งที่โอบเอวบางไว้ถามขึ้น

“.....”

“เอ้า จิบน้ำสักหน่อย” มือหยาบหยิบถุงน้ำที่ติดมาด้วยส่งให้

“ขอบคุณครับ”

“ดีขึ้นรึยัง...”

“ดีขึ้นแล้วครับ” ศตคุณจิบน้ำเล็กน้อย แล้วถือถุงน้ำคาไว้ในมือ จากนั้นก็นั่งนิ่งไปเช่นเดิม

“แน่ใจหรือว่าดีขึ้นแล้ว”

“ทำไมเหรอครับ”

“ก็เห็นทุกทีพูดจ้อ”

“...ถ้าพูดมาก ผมก็กลัวว่าคุณจะรำคาญ” เด็กหนุ่มตอบเสียงอ่อย

มือหยาบขยี้ศีรษะเล็กเบาๆ “ถ้ารำคาญละก็ ฉันคงปล่อยเธอไว้กลางทะเลทรายตั้งแต่วันแรกแล้ว”

ร่างโปร่งอมยิ้มน้อยๆ คำพูดที่ได้ยินทำให้เขาพอสบายใจขึ้นบ้าง

“พิงมาสิ ไม่เมื่อยรึไงกัน”

ศตคุณยอมทำตามอย่างว่าง่าย เขาเอนหลังพิงแผ่นอกอบอุ่น แล้วแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอันมืดมิด “คืนนี้มืดจังนะครับ เมฆบังพระจันทร์จนเหลือเสี้ยวเล็กนิดเดียว แทบมองไม่เห็นเลย”

“อืม...” ชายหนุ่มลอบมองแพขนตายาวบนนัยน์ตากลมที่ปิดลงสนิท ใบหน้าหวานเงยขึ้นเล็กน้อยรับสายลมผะแผ่ว และกลีบปากสีแดงซึ่งดูอิ่มเอิบอยู่เสมอ เขาแตะริมฝีปากบนใบหูนิ่มเบาๆ แล้วกระซิบถาม “วันนี้ไม่ฮัมเพลงอะไรรึ”

 “...ยังนึกไม่ออกเลยครับ... ดึกๆ กลางทะเลทรายแบบนี้ ทำให้นึกถึงเพลง Arabian Nights” ...ศตคุณฮัมท่อนสร้อยสั้นๆ ให้อีกฝ่ายได้ฟัง จากนั้นก็แหงนหน้าขึ้นถาม “เพลงนี้ดีมั้ยครับ”

“เพลงอะไรก็ได้... ดีกว่าอยู่เงียบๆ”

รอยยิ้มน่ารักจางหายไปในทันที พร้อมกับคิ้วเรียวที่ขมวดเข้าหากันจนเป็นปม “...งั้นก็ฟังฟาร์ฮาร้องแกว๊กๆ ไปแล้วกันครับ”

พอเห็นเด็กหนุ่มงอนจนแก้มป่อง ทาริคก็หัวเราะออกมาเบาๆ “อย่าเข้าใจผิดสิ ฉันหมายถึงว่าเวลาเธอฮัมเพลง ดูมีความสุข ดูดีกว่าตอนอยู่เงียบๆ”

“ความสุข...” ริมฝีปากสีแดงสดเอ่ยทวนคำ แล้วทอดสายตามองออกไปบนผืนทรายละเอียด... ความสุขงั้นหรือ... เขาเคยมีความสุขจริงๆ รึเปล่ายังไม่รู้เลย หากจะมีบ้างก็คงเป็นความสุขในตอนเด็กๆ ที่เคยอยู่กันเป็นครอบครัวพร้อมหน้า แต่มาจนถึงตอนนี้เขาลืมมันไปหมดแล้ว

เมื่อเห็นศตคุณเงียบไป ร่างสูงจึงเป็นฝ่ายชวนคุยบ้าง “เธอ... บอกว่ามาจากยุโรป... อยู่ที่นั่นเป็นยังไงบ้าง”

“...ก็ดีครับ... อากาศที่นั่นต่างกับที่นี่เยอะอยู่เพราะมีสี่ฤดู มีฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง แล้วก็ฤดูหนาว ผู้คน บ้านเมือง การแต่งกาย ภาษา ทุกสิ่งทุกอย่างแตกต่างกันไปหมดเลย แต่ผมชอบทะเลทรายนะครับ ถึงจะร้อนไปสักหน่อย แต่ว่าก็ดูสวยงาม... เร้นลับ น่าหลงใหลไปอีกแบบ”

“......”

“ที่จริง... ผมมาที่นี่เพื่อจะไปพบกับคนคนหนึ่ง ผมมีธุระที่จะต้องคุยกับเขา แต่พอมาคิดดูอีกทีแล้ว ช่างมันไปดีกว่าครับ” เด็กหนุ่มทอดถอนใจเสียงเบา “เมื่อตอนเด็ก ผมฝันอยากจะเห็นพระจันทร์เต็มดวงในทะเลทราย ตอนนี้แค่ได้เห็นดวงจันทร์ในทะเลทรายแบบนี้ก็พอใจแล้วล่ะครับ”

“...ถ้าได้พบกับคนที่ว่า แล้วก็จะกลับอย่างนั้นหรือ”

“...ผม... ก็ยังไม่รู้เหมือนกันครับ”

“ถ้าฉันไม่ให้เธอกลับล่ะ”

“หือ...” ศตคุณหันขวับกลับไปหาคนพูดทันที “หมายความว่ายังไงครับ”

ทาริคนิ่งไปสักพัก “...ก็หมายความอย่างที่พูด”

ร่างโปร่งเองก็หยุดครุ่นคิดไปด้วยกับคำพูดนั้น... หมายความว่ายังไง?  “จะให้ผมเป็นผู้ติดตาม หรือไม่ก็คอยรับใช้คุณอยู่ที่นี่อย่างนั้นเหรอครับ”

ชายหนุ่มหัวเราะ “มักน้อยจริงนะ”

“มักน้อย? ...ผมทำอาหาร ทำความสะอาดก็ไม่เก่ง ใช้อาวุธอะไรก็ไม่เป็น... มีอย่างเดียวที่พอจะทำได้ก็คือการเล่นเปียโน แต่คุณคงไม่มีเปียโนให้ผมเล่นหรอกใช่มั้ยครับ...” พูดไปพูดมา ศตคุณก็เริ่มใจเสียซะเอง ก็เขาไม่ค่อยได้เรื่องเช่นนี้ อีกฝ่ายอาจไม่คิดเก็บเขาไว้ และแทนที่จะปล่อยเขาไป เอาไปขายให้ได้เงินจะไม่ดีกว่าหรือ “เอ้อ... แต่ผมหัดได้นะ คุณอยากให้ผมทำอะไร ผมจะหัดครับ เพราะงั้น... อย่าเอาผมไปขายให้กับใครเลยนะครับ”

“...กลัวฉันจะเอาไปขายมากขนาดนั้นเลยรึ”

...กลัวที่สุด... ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง แววตาใสไหวระริก

“ทำอะไรก็ไม่ได้แบบนี้ ยังไงก็ขายไม่ออกหรอกน่า” ร่างสูงพูดพลางหัวเราะในลำคอเบาๆ

“แต่ถ้ามีคนมาขอซื้อ ทาริคจะขายผมมั้ยครับ”

ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก “อืม... นั่นสินะ ถ้าได้ราคาดีก็น่าสนใจอยู่”

“ทาริค....” คิดมากไปเองแล้วก็เป็นกังวลเสียเอง ใบหน้าน่ารักหันกลับไปหาคนข้างหลัง แล้วทำสีหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกหน “ได้โปรด... อย่าขายผมเลยนะ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

ตอนแรกทาริคคิดว่าอยากจะแกล้งแหย่ศตคุณเล่นๆ แก้เผ็ดที่ชอบมองตนในแง่ร้าย แต่เด็กหนุ่มแสนซื่อกลับยิ่งคิดเป็นจริงเป็นจัง คงจะเจ็บปวดและกลัวจะโดนขายมาก พอเห็นแบบนี้แล้วร่างสูงเองก็ชักจะสงสาร “เธอเห็นฉันเป็นคนยังไงกัน เห็นฉันเป็นคนเลวขนาดขายคนเป็นสินค้าได้เชียวหรือ”

คำพูดนั้นเสียดแทงตรงกลางหัวใจดวงน้อย ศตคุณหลุบตาลงต่ำอย่างรู้สึกผิด ทาริคช่วยเหลือเขาไว้ตั้งหลายครั้งหลายหน แล้วทำไมตนถึงยังมองอีกฝ่ายในแง่ร้ายเช่นนี้ได้ “ผมขอโทษ”

มือใหญ่ลูบศีรษะเล็กอย่างแผ่วเบา “...ช่างเถอะ หันไปมองทางเถอะ ใกล้จะถึงแล้ว”


หลังจากอูฐเดินต่อไปอีกพักใหญ่ ทาริคก็สั่งให้มันหยุดเดินแล้วนั่งลง ก่อนจะก้าวลงมา จากนั้นจึงหันไปส่งมือให้เด็กหนุ่มเพื่อใช้ยึด ทันทีที่เท้าเรียวแตะลงบนพื้น ใบหน้าน่ารักก็หันซ้ายขวาไปมา กวาดสายตามองไปรอบๆ ซึ่งเขาเห็นเพียงแค่ทรายและเนินทรายเท่านั้น “ถึงแล้วเหรอครับ ทุ่งกุหลาบ? ผมยังไม่เห็นกุหลาบสักต้นเลย”

ร่างสูงอมยิ้ม “ดูให้ดีนะ” เขาหยิบตะเกียงน้ำมันออกมาจุดไฟ แล้วถือตะเกียงนั้นระไว้เหนือพื้นทรายเพียงเล็กน้อย พอให้แสงจากตะเกียงตกกระทบบางสิ่งบางอย่างที่โผล่พ้นขึ้นมาเหนือผืนทรายให้ส่องประกายระยิบระยับตอบกลับมา

“อะไรน่ะครับ” ศตคุณค้อมตัวลงเล็กน้อยแล้วพยายามเพ่งมองไปตามแสงไฟ

ชายหนุ่มถือตะเกียงส่องไปเรื่อยๆ ทุกย่างก้าวที่เขาเดินผ่าน จะมีบางสิ่งบนพื้นทรายส่องประกายตอบรับ “เห็นกุหลาบรึยัง”

ร่างโปร่งส่ายหน้า “ยังครับ เห็นแต่ก้อนอะไรวิบวับอยู่บนพื้นก็ไม่รู้”

ทาริคเดินมาหยุดตรงหน้าเด็กหนุ่ม เขาวางตะเกียงลงบนพื้นทราย แล้วเลือกหยิบสิ่งที่ทอประกายอยู่บนพื้นขึ้นไว้บนฝ่ามือหยาบ “นี่ยังไงล่ะ”

“อ๊ะ เหมือนกุหลาบจริงๆ ด้วย! นี่มันคืออะไรครับ ฟอสซิล? หินเหรอ?” นัยน์ตาสีอ่อนจับจ้องผลึกคริสตัลที่มีรูปร่างคล้ายดอกกุหลาบอย่างสนใจ

“แร่ยิปซัมกับแบไรต์น่ะ ที่มีรูปร่างเป็นแบบนี้ก็เพราะทรายและลมในทะเลทรายนี่ บริเวณนี้มีมาก พวกชาวเมืองเลยเรียกที่ตรงนี้ว่าทุ่งกุหลาบ” 

“อา เป็นอย่างนี้นี่เอง” กลีบปากสีสดคลี่ยิ้มออกมาได้ในที่สุด “สวยแล้วก็แปลกดีจริงๆ ครับ”

มือใหญ่วางผลึกแร่ลงบนฝ่ามือขาว “กล่าวกันว่า คนที่พบกุหลาบทะเลทรายจะได้รับคำอวยพรให้โชคดี ปกติแล้วจะต้องขุดลึกลงไปในทรายหลายฟุตกว่าจะเจอ แต่เพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ลาด และด้วยลมฟ้าอากาศก็เลยทำให้มันผุดขึ้นมาเหนือทรายได้เหมือนกัน”

“พวกเราเจอเยอะแยะขนาดนี้ แปลว่าจะต้องโชคดีมากๆ เลยใช่มั้ยครับ” ศตคุณเอ่ยเสียงระรื่น นัยน์ตากลมสุกใสเป็นประกายแวววาวราวกับกักเก็บผลึกคริสตัลมากมายไว้ในนั้น ริมฝีปากอิ่มเผยอออกเล็กน้อยยามเจ้าตัวพิจารณาชิ้นแร่บนฝ่ามือ จากนั้นเด็กหนุ่มก็ย่อตัวลงนั่ง เอียงคอและหรี่ตามองไปบนผืนทราย

มือขาวเอื้อมไปเก็บผลึกรูปร่างคล้ายกุหลาบมาวางรวมกันเป็นกระจุกใหญ่ “หนึ่ง สอง สาม... สิบเจ็ด... อืม...”

“สิบแปด” ชายหนุ่มหยิบผลึกกุหลาบทะเลทรายชิ้นสุดท้ายมาช่วยสมทบ “ครบแล้วใช่มั้ย”

ศตคุณหัวเราะ พลางหยิบก้อนหินมาวาดตัวช่อให้กับกลุ่มผลึกรูปกุหลาบกลุ่มนั้น “ครบแล้วครับ ช่อกุหลาบเท่ากับอายุของผมพอดีเลย”

ทาริคย่อตัวลงข้างๆ กัน เขาเผลอจ้องมองใบหน้าหวานซึ่งแม้ภายใต้แสงจันทร์สลัวก็ยังคงงดงามเปล่งปลั่งอย่างลืมตัว เมื่อเห็นพวงแก้มสีชมพูระเรื่ออยู่ใกล้แค่เอื้อม ก็ห้ามตัวเองไม่ให้เอื้อมมือไปสัมผัสและใช้ปลายนิ้วลูบไล้ไปมาไม่ได้ “เธอเหมาะกับกุหลาบสีขาวมากที่สุด”

ขณะเดียวกันร่างโปร่งก็เหลือบตาขึ้นมอง พอประสานสายตากับดวงตาคมกริบที่ดูฉ่ำหวาน หัวใจก็พาลเต้นผิดจังหวะ ใบหน้าร้อนผ่าวทันที “ทะ... ทาริค... เอ่อ...”

ท่าทางเงอะงะเคอะเขินของเด็กหนุ่มทำให้ร่างสูงพอใจอยู่ไม่น้อย เขาดึงมือกลับแล้วลุกขึ้น “เดินดูรอบๆ แถวนี้กันหน่อยมั้ย”

“ครับ...” ...ไอ้หัวใจบ้านี่ จะเต้นดังทำไมนัก! ...ศตคุณบ่นกับตัวเองอยู่ในใจ พร้อมกับชำเลืองมองตามชายหนุ่มในชุดเสื้อคลุมสีดำที่เดินห่างออกไป แผ่นหลังกว้างช่างดูอบอุ่น ร่างกายสูงใหญ่กำยำ ทำให้เวลาที่อยู่ใกล้กันนั้น ตนเองราวกับเป็นเด็กเล็กๆ แล้วก็รู้สึกปลอดภัยในยามที่อยู่ในอ้อมแขนแข็งแรง ขาเรียวก้าวตามทาริคไปช้าๆ

...อืม... แต่ว่า กุหลาบสีขาว กับจำนวนสิบแปดดอก บังเอิญรึเปล่านะ...  ระหว่างที่เด็กหนุ่มกำลังก้าวเดินไปเพลินๆ เขาก็รู้สึกเอะใจอยู่บ้างเล็กน้อย

แต่จู่ๆ คนที่เดินนำหน้าก็หยุดกึก เขาหันหลังกลับมาส่งมือให้กับร่างโปร่ง “ส่งมือมาสิ”

“ครับ” ศตคุณวางมือบนฝ่ามือกร้าน แล้วก้มหน้าเพื่อซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ ทาริคจูงมือเขาเดินไปเรื่อยๆ อย่างเนิบนาบ เพื่อให้เขาได้มองผลึกแร่ที่สะท้อนแสงจากไฟของตะเกียงได้ถนัด หากหัวใจที่เต้นรัวอยู่ในอก ส่งผลให้เจ้าตัวลืมสนใจกับผลึกแร่ไปเสียสนิท

“คุณ... คุณ...”

“คุณ!!”

เด็กหนุ่มสะดุ้ง “อ๊ะ! ครับ”

“ทำไมเดินก้มหน้าก้มตาแบบนั้นล่ะ เบื่อรึ”

“เปล่านะครับ พอดีมันมืด แล้วพื้นก็ไม่เท่ากัน” เด็กหนุ่มรีบหาข้อแก้ตัว

แกว๊กกกก... ฟาร์ฮาร้องเสียงแหลมดังลั่นแล้วบินวนอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ร่างสูงยืนอยู่ คล้ายกับว่ามันกำลังร้องเตือนเจ้านาย

“คุณ มานี่เร็วเข้า” ทาริคชะงัก ทำให้คนที่เดินตามอยู่ห่างๆ ใจหายวาบ แล้วสาวเท้าเข้าไปประชิดตัวชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว

“มีอะไรเหรอครับ”

“ดูนั่นสิ เห็นมั้ย ตรงนั้น... มองตามรอยตัวอักษรเอส (S) บนทรายไป”

“หวา... เห็นแล้วครับ งูตัวเบ้อเริ่มเลย ทำไมเลื้อยตะแคงแปลกๆ” มือขาวคว้าท่อนแขนแกร่งหมับด้วยความกลัว

“นี่เขาเรียกว่างูไวเปอร์มีเขา เป็นงูพิษอันตรายมาก ถ้าเห็นรอยเป็นรูปตัวเอสบนทรายแบบนี้เมื่อไหร่ แปลว่ามันอาจซุกตัวอยู่ในทรายหรือพุ่มไม้แห้งใกล้ๆ ต้องระวังให้ดี”

เด็กหนุ่มเขย่าท่อนแขนแกร่ง “ครับ... ทาริค... มันจะมีตัวอะไรอีกมั้ยครับเนี่ย มืดๆ แบบนี้มองไม่ค่อยเห็นซะด้วยสิครับ”

“สัตว์ในทะเลทรายจะออกหากินในตอนกลางคืน พวกแมงป่อง งู ตะขาบ ไฮยีน่า เพราะงั้นถ้าไม่จำเป็น เธอก็ไม่ควรออกมาเดินในทะเลทรายคนเดียว”

“งั้น... งั้นเรากลับกันเถอะนะครับ” ศตคุณหันมองซ้ายขวาอย่างหวาดๆ เวลานี้เขาไม่สนใจกุหลาบทะเลทรายแล้ว เพราะห่วงสวัสดิภาพของตัวเองมากกว่า

ทาริคอดหัวเราะกับหน้าตาตื่นๆ ของเด็กหนุ่มไม่ได้ เขาหันไปทางเด็กหนุ่มแล้วโอบเอวบางไว้แนบกาย “ขี้ขลาดจริง”

มือขาวขยุ้มเสื้อคลุมรุ่มร่ามของชายหนุ่มไว้ทันควัน “ทาริคก็ลองมาเป็นผมบ้างสิครับ ที่เวียนนาไม่มีทั้งงู แมงป่อง ตะขาบ แล้วก็ไฮยีน่าเลยนะครับ”

“โอเค กลับก็กลับ เดินดูพื้นดีๆ นะ” ใบหน้าคมสันเงยขึ้นแล้วตะโกนเรียก “ฟาร์ฮา!” เพียงเท่านั้นเจ้าเหยี่ยวก็บินถลากลับไปยังทิศทางที่ตั้งของเมืองเล็กๆ ที่พวกเขาเพิ่งจากมา

ร่างโปร่งพยักหน้าหงึกหงัก เขาปล่อยให้อ้อมแขนแข็งแรงโอบตนไว้เช่นนั้นแล้วก้าวเดินไปพร้อมๆ กัน ดวงตาคู่หวานเอาแต่ระแวดระวังกับสิ่งแปลกปลอมบนผืนทราย จึงไม่ทันสนใจว่าร่างกายแนบสนิทกับอีกฝ่ายจนไร้ช่องว่างระหว่างกัน ส่วนทาริคเองก็แทบจะอุ้มศตคุณอยู่แล้ว เพราะเด็กหนุ่มเกาะเขาแน่นไม่ยอมออกห่าง กว่าทั้งสองจะมาถึงอูฐก็ถึงกับหอบแฮก จนร่างสูงคิดว่าถ้าหากเขาอุ้มศตคุณมาซะแต่แรก คงจะไม่เหนื่อยขนาดนี้ด้วยซ้ำ

“ทาริค รีบขึ้นอูฐสิครับ จะได้ไปจากตรงนี้กันสักที” คนที่ปีนขึ้นไปนั่งอยู่บนหลังอูฐหน้าซีดเผือด

ชายหนุ่มส่ายหน้าพร้อมหัวเราะเบาๆ “นี่น่ะนะ ผู้ใหญ่อายุสิบแปดที่ว่า”

“ผู้ใหญ่ก็กลัวเจ็บกลัวตายเป็นนะครับ”


(มีต่อค่ะ)



ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


เจ้าอูฐเยื้องย่างผ่านผืนทรายกลับไปยังตัวเมืองที่เพิ่งจากมาอีกครั้ง การเดินทางในยามค่ำคืนแม้จะลำบากอยู่สักหน่อย หากอากาศเย็นสบาย ร่างกายไม่สูญเสียน้ำและเกลือแร่โดยไม่จำเป็น ทุ่งกุหลาบทะเลทรายอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองที่พวกเขาพัก นั่งบนหลังอูฐไปไม่ถึงชั่วโมง ทั้งสองก็กลับมาถึงที่พักแล้ว

“อ๊า!” ร่างโปร่งที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าบ้านพักเอามือตบๆ ไปตามลำตัว ปกติเขาเคยใส่แต่เสื้อยืดหรือเชิ้ตกับกางเกงยีนส์หรือกางเกงผ้า พอมาใส่ชุดโต๊ปกับเสื้อคลุมรุ่มร่ามก็ไม่ชินเอาเสียเลย

“หืม มีอะไร?” เพราะเด็กหนุ่มร้องลั่น คนที่กำลังให้น้ำและหญ้ากับพวกอูฐจึงรีบหันกลับมาถาม

“ผมว่าผมเก็บกุหลาบทะเลทรายอันที่คุณหยิบให้มาด้วย นึกว่าเอาใส่กระเป๋ากางเกงมาแล้ว แต่เพิ่งจะเห็นว่ากางเกงนี่มันไม่มีกระเป๋าน่ะสิครับ แย่จัง”

“ฮะๆ มีอีกถมเถ ไว้เดี๋ยวก็เจออีก ในทะเลทรายที่นี่มีมากมาย”

...มีในทะเลทรายมากมาย แต่มันก็ไม่ใช่อันที่ทาริคหยิบส่งให้กับเขานี่นา... ศตคุณนึกเถียง แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดออกไป

“จะเข้าไปรอข้างในก่อนก็ได้นะ”

เด็กหนุ่มส่ายหน้าแทนคำตอบ เขายืนมองร่างสูงดูแลจัดการกับพวกอูฐอย่างคล่องแคล่ว คิดไปพลางว่าอีกฝ่ายช่างชำนาญพื้นที่และรู้จักแม้กระทั่งเมืองในทะเลทรายที่คงไม่มีใครเดินทางผ่านมาพบได้ง่ายๆ แห่งนี้ “ทาริคดูรู้จักทะเลทรายที่นี่ดีจังเลยนะครับ”

“ก็ฉันเกิด แล้วก็โตที่นี่” ชายหนุ่มเดินเข้ามาทางที่ศตคุณยืนอยู่ แล้วยกกล่องใบโตหลากสีที่วางกองอยู่เข้าบ้านไปทีละกล่อง

“ผมช่วยครับ... แต่ว่า ทาริคก็พูดภาษาต่างชาติได้ดีมากเลยนะครับ น่าแปลก...”

“....แปลกรึ... ที่นี่มีคนพูดภาษาต่างชาติได้มากมาย”

“......” เท่าที่เขาได้พบมา ก็เห็นมีแต่ทาริคนี่แหละที่พูดได้... ศตคุณคิดอยู่ในใจ “ว่าแต่... เมืองนี้มีชื่อมั้ยครับ ผมยังไม่รู้จักชื่อเมืองเลย”

“อัคบราห์...”

“อัคบราห์... อือ... ชื่ออาหรับดีจริงๆ...” เด็กหนุ่มพึมพำ

ไม่นานนักกล่องนับสิบก็ถูกนำเข้าไปวางเรียงอยู่ในห้อง ทำให้ภายในนั้นดูแคบไปถนัดตา เหลือเพียงทางเดินกับส่วนของที่นอนซึ่งปูไว้ด้วยขนแกะเท่านั้น

“...ของเยอะขนาดนี้ เราจะขนไปกับอูฐไหวเหรอครับ” ร่างโปร่งที่กำลังถอดเสื้อคลุมและผ้าคลุมออกขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะนั่งลงบนขนแกะ

“คงต้องเลือกเอาเฉพาะของจำเป็นไป ที่เหลือก็ทิ้งไว้ที่นี่ล่ะ” ชายหนุ่มพูดพลางเปิดฝากล่องออกดูของข้างใน เมื่อเห็นว่าศตคุณชะโงกมองดูอยู่ห่างๆ จึงกวักมือเรียกเข้ามาใกล้ๆ “อยากดูก็มาดูสิ กล่องนี้เป็นอาหารน่ะ”

ร่างโปร่งบางปราดเข้ามานั่งลงข้างๆ คนที่เอ่ยปากเชิญชวนอย่างรวดเร็ว “อาหารกระป๋องเยอะแยะเลย มีปลากระป๋องด้วย!” ตากลมโตเบิกกว้างอย่างสนใจ มือขาวหยิบอาหารกระป๋องขึ้นมาดูทีละกระป๋อง “ชีส ผักดอง ซุป... ว่าแต่ ทำไมเขาถึงเอาของมาให้ทาริคมากขนาดนี้ล่ะครับ”

“...พ่อฉันกับพวกผู้ใหญ่ที่ดูแลเมืองนี้รู้จักกันดี” ร่างสูงตอบพลางเปิดกล่องถัดไปออกดู “หืม... อาบาญ่า”

“อาบาญ่า?  คืออะไรครับ”

“ชุดของผู้หญิงน่ะ ชุดแบบที่เธอกับฉันใส่เรียกโต๊ป ส่วนผู้หญิงที่นี่ต้องใส่อาบาญ่ากับผ้าคลุมฮิญาบ”

เด็กหนุ่มนั่งฟังอย่างตั้งใจ เขาเดินทางข้ามทวีปมาไกล โดยไม่รู้อะไรเกี่ยวกับดินแดนแห่งนี้เลยแม้แต่น้อย “ผ้าปักเป็นลายหลายสีแบบนี้ก็สวยดีนะครับ แต่ถ้าเป็นที่ยุโรป ผมว่าพวกผู้หญิงน่าจะชอบพวกผ้าลูกไม้มากกว่า” ศตคุณคลี่ผ้าผืนสวยในมือออก แล้วอมยิ้ม “ผมเพิ่งเคยเห็นอาบาญ่าสวยๆ แบบนี้เป็นครั้งแรก”

“......” ทาริคพลอยยิ้มไปด้วยกับท่าทางน่าเอ็นดูของอีกฝ่าย เขาคิดว่าศตคุณกำลังสนุก เลยจะเปิดโอกาสให้เด็กหนุ่มได้เปิดกล่องเลือกดูของตามใจชอบ ส่วนเขานั้น เพื่อไม่ให้ศตคุณต้องรู้สึกเกรงใจ ชายหนุ่มจึงเลือกหยิบกล่องที่เล็กที่สุดในบรรดากล่องทั้งหมดติดมือไปนั่งดูบนขนแกะที่ปูไว้

“อ้าว ทาริคไม่ดูแล้วเหรอครับ”

“เธอเปิดดูแล้วบอกฉันทีละกันว่าข้างในมีอะไร”

สิ่งของภายในกล่องส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องดื่มกับอาหารแห้ง ศตคุณรายงานกับชายหนุ่มไปพลาง พร้อมกับพิจารณาข้าวของแบบพื้นบ้านของอาหรับไปด้วย

ดวงตาคมกริบจับจ้องคนที่กำลังเลือกหยิบดูของในกล่องอย่างเพลิดเพลิน ท่าทางตื่นเต้นเหมือนเด็กๆ ที่ได้ของเล่นชิ้นใหม่ เขาส่ายหน้าแล้วหัวเราะเบาๆ พลางเปิดกล่องที่หยิบติดมือมาดู “คุณ มานี่ซิ”

“หืม... ครับ” ร่างโปร่งบางคลานกลับไปหาคนที่เรียกชื่อตน

“ดูซิ ชอบมั้ย” มือหยาบหยิบสร้อยแบบทำมือซึ่งตัวสร้อยทำจากหินอะมีทีสต์ที่มีขนาดไล่เลี่ยกันเรียงร้อยสลับกับลูกปัดเงิน ห้อยจี้ผลึกคริสตัลกุหลาบทะเลทรายขึ้นมาให้เด็กหนุ่มดู “เมื่อกี้บอกว่าอยากจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกไม่ใช่รึ”

ศตคุณรับสร้อยมาดูอย่างระมัดระวัง “ว้าว... สวยจังครับ”

“ขยับมาใกล้ๆ ฉันสิ” ทาริคหยิบสร้อยคืนมาจากมือขาว แล้วแกะตะขอเกี่ยวออก

“แต่...”   

แขนแกร่งวาดโอบร่างโปร่งบางจากทางด้านหน้า แล้ววนไปติดตะขอเกี่ยวให้ที่ด้านหลังตรงต้นคอขาว “เหมาะกับเธอดี”

หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำ ศตคุณก้มหน้าลงมองจี้หินรูปกุหลาบ พร้อมกับลูบสัมผัสมันเบาๆ แวบแรกเขาก็รู้สึกพอใจอยู่หรอก แต่ของแบบนี้... ควรจะให้เขาอย่างนั้นหรือ “ทาริค ผมว่า... คุณเก็บไว้ให้คนที่บ้าน เอ้อ... ภรรยาของคุณจะ ไม่ดีกว่าเหรอครับ เอามาให้ผมแบบนี้ พวกเธอคงเสียใจ” แม้ที่จริงแล้วเขาก็ชอบ แล้วก็ดีใจที่ทาริคให้สิ่งนี้กับเขาอยู่หรอกนะ เพียงแต่คิดว่าตนเองไม่คู่ควร “หรือเพราะมีเส้นเดียว แล้วทาริคมีภรรยาหลายคนกันครับ กลัวพวกเธอแย่งกัน ถึงได้เอามาให้ผม”

“.......”

เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ตอบ ศตคุณก็คิดว่าคงจะเป็นจริงอย่างที่เขาพูด ใบหน้าหวานสลดลง พลางบ่นพึมพำ “มีภรรยาหลายๆ คน ไม่ทะเลาะกันแย่เหรอครับ”

“.......” ทาริคยังคงนิ่งเงียบ ราวกับจะรอฟังให้ร่างโปร่งบ่นจนพอใจเสียก่อน

“ทำไมต้องมีภรรยามากมายกันด้วยนะ ผมได้ยินว่าพวกเจ้านายชั้นสูงนี่ ถึงกับมีฮาเร็มกันเลย... น่าสงสารผู้หญิงนะครับ ถ้าสมมติว่าเป็นผมที่ต้องแบ่งปันคนรักกับอีกหลายๆ คน ผมคงทนไม่ได้แน่ๆ ...ทาริค คุณรักภรรยาของคุณทุกคนเท่ากันรึเปล่า”

“.......”

“พวกเธอคงจะแข่งกันเอาใจคุณน่าดู” ร่างโปร่งถอนหายใจ เขาชำเลืองมองคนที่นั่งเงียบ แล้วพูดเสียงอ่อย “คุณเบื่อที่จะฟังผมแล้วสินะ”

“...เธอคิดว่า คนอย่างฉันจะมีคนมารุมล้อม แย่งกันรักฉันขนาดนั้นเชียว”

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นช้าๆ “...คุณมีครอบครัว ครอบครัวของคุณก็ต้องรักคุณอยู่แล้วละครับ... ภรรยาของคุณก็รักคุณ พี่น้องก็รักคุณ... น่าอิจฉาจะตายไป” ...ต่างกับตัวเขา ที่ไม่มีครอบครัว ไม่มีใครเลยสักคน

“งั้นรึ... แต่แย่จังนะ คนที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ร่อนเร่ไปมาในทะเลทรายอย่างฉัน ไม่มีใครเขาอยากจะแต่งงานด้วยหรอก”

“ทาริคยังไม่เคยแต่งงานเลยสักครั้งเหรอครับ” จู่ๆ หัวใจดวงน้อยก็เต้นไม่เป็นจังหวะ ศตคุณอมยิ้มน้อยๆ โดยที่เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึก... ดีใจ... ทั้งที่ก่อนหน้ายังรู้สึกห่อเหี่ยวอยู่เลยแท้ๆ

“...ฉันก็กำลังมองหาเจ้าสาวอยู่สักคนเหมือนกัน” ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ห่างจากพวงแก้มที่มีสีเลือดฝาดเพียงแค่คืบ จนทำให้อีกฝ่ายนั่งตัวเกร็ง

“ไม่น่าเชื่อ... ทาริคดูเหมือน...” ริมฝีปากที่เผยอตอบถึงกับชะงักค้าง เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับนัยน์ตาสีเข้มที่ดูลึกลับ

“เหมือนอะไร?”

ศตคุณอึกอัก ในสายตาของเขา ชายหนุ่มเป็นคนที่ดูพร้อมสรรพไปหมดซะทุกอย่าง ทั้งเก่งกาจและอบอุ่น ส่วนรูปร่างหน้าตา ก็ชนิดเป็นนายแบบได้สบายๆ แต่จะให้พูดความจริงออกไป เขาว่ามันก็ดูแปลกๆ นะ ที่ผู้ชายจะชมผู้ชายด้วยกันแบบนี้ เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจตอบไปแบบเลี่ยงๆ “...ก็... ทาริคดูอายุไม่ใช่น้อยแล้ว ผมเลยคิดว่าน่าจะแต่งงานมาแล้วหลายหน มีฮาเร็มซุกเอาไว้ทุกเมือง แถมมีสาวๆ ซ่อนไว้ทุกๆ โอเอซิสอะไรแบบนี้ อ๊ะ!!!”

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้าง เขาผละตัวออกจากร่างสูงทันทีที่รู้สึกถึงริมฝีปากหยักที่แนบลงมาบนพวงแก้มของตน “ทาริค!” จากนั้นก็นิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าน่ารักเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับเมล็ดทับทิมสุก ทั้งร้อนผ่าวจนควันแทบพุ่งออกจากใบหู

ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก “ในที่สุดก็ทำให้เธอหยุดพูดได้เสียที ถ้าที่พูดมาเป็นเรื่องจริง ฉันจะไม่ว่าอะไรเลยนะ”

“......” มือขาวยกขึ้นประกบแก้มข้างที่เพิ่งถูกอีกฝ่ายฉกจูบ เขาได้แต่อ้าปากค้าง ไม่มีคำพูดใดๆ เล็ดลอดออกมาจากกลีบปากชุ่มชื้นอีก

“เอาล่ะ เตรียมตัวเข้านอนได้แล้ว พรุ่งนี้เย็นๆ เราจะออกเดินทางกันละ” ทาริคเหลือบมองคนที่ยังนั่งนิ่งสนิท “...เราจะต้องเดินทางอีกสักพัก กว่าจะถึงเมืองใหญ่อีกแห่ง”

“เมือง... อะ เอ่อ... ทาริคจะพาผมไปไหนเหรอครับ”

“...เมืองในโอเอซิสที่เธอพูดถึงยังไงล่ะ ชื่อเมืองคือ เฟอร์โดส หรือที่มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Paradise  ชื่อเดียวกับเพลงที่เธอฮัมในทะเลทรายเมื่อวันก่อน”

ศตคุณถลาเข้าไปเกาะกุมท่อนแขนแกร่ง “เมืองที่ว่านั่น! ที่มีวังสีขาว! เฟอร์โดส! มีจริงๆ เหรอครับเนี่ย!!”

“เมืองนั้นอยู่ห่างจากที่นี่เป็นร้อยกิโล การเดินทางด้วยอูฐน่ะค่อนข้างจะช้าอยู่สักหน่อย เราต้องเตรียมน้ำกับอาหารให้พอ หวังว่าเธอคงจะอดทนไหว”

การเดินทางด้วยอูฐนั้นเป็นไปอย่างเชื่องช้า เพราะวันหนึ่งอูฐจะเดินทางได้ติดต่อกันประมาณหกชั่วโมง ซึ่งเป็นระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตรเท่านั้น พวกเขาจึงต้องหยุดพักเป็นระยะๆ เพราะถ้าอูฐเหนื่อยเกินไป มันจะล้มตัวลงนอน แล้วไม่ยอมเดินต่อไปอีกจนกว่าจะหายเหนื่อย

“ไหวสิครับ! อา... ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้ไปเมืองที่ว่านี่จริงๆ ขอบคุณนะครับ ขอบคุณ... ขอบคุณมากเหลือเกิน ผมไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงดี”

“...ตอบแทนยังไงน่ะหรือ” ปลายนิ้วหยาบเกลี่ยเส้นผมสีน้ำตาลที่ปรกรกกรอบหน้าหวาน พร้อมสบสายตากับดวงตากลมโตราวกับตากวางที่ฉายแววสดใส “ฉันก็บอกแล้วไง ว่ากำลังหาเจ้าสาวอยู่สักคน”

“...จะให้ผมไปหาให้คุณเหรอครับ แต่ผมไม่มีญาติ ไม่รู้จักใครที่นี่ ผมจะไปหาเจ้าสาวให้คุณได้จากที่ไหนกันครับ อ๊ะ!” เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือก เมื่อจู่ๆ ริมฝีปากบางหยักนั่นแนบลงมาบนแก้มเขาอีกข้าง

“ทาริค!”

“ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลหรอก ก็เธอนั่นล่ะ จะเป็นเจ้าสาวของฉันได้มั้ย”

“ผะ... ผมเป็นผู้ชาย อื้ยยย! ทาริค!” มือขาวดันไหล่หนาออกจากตัว เมื่ออีกฝ่ายฉกจูบที่แก้มเขาอีกครั้ง

“ฮ่าๆ” ชายหนุ่มหัวเราะลั่น

“ไม่ตลกเลยนะครับ!” เด็กหนุ่มถอยกรูดออกไปตั้งหลัก ใบหน้าน่ารักเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำยาวไปจนถึงใบหู

“นอนกันเถอะ” ร่างสูงเอนหลังลงนอน หากมีเสียงหัวเราะแว่วมาเป็นระยะ

ศตคุณมองค้อน ก่อนจะคลานกลับไปล้มตัวลงนอนข้างๆ กัน เขาพลิกตัวหันหลังให้กับคนช่างแกล้ง แกล้งกันแบบนี้ ไม่ดีกับหัวใจเขาเอาเสียเลย... เพราะคนที่ขาดความรักอย่างเขา อาจจะคิดเป็นจริงเป็นจังเอาได้ เด็กหนุ่มพยายามข่มตาให้หลับลง พลางถอนหายใจหนักๆ อย่างรู้สึกอึดอัดในอก... ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนเลยในชีวิต เขาเป็นเช่นนี้เพราะอะไรกันหนอ


TBC


ขออภัยที่ทำให้รอนานนะคะ /ลงโทษตัวเองรัวๆ  :z3:

เพราะงั้นตอนนี้ลงให้ยาวๆ เลยน้า หวานมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งสุดๆ 55555 ขอให้ชงชาขมๆ มากลั้วคอระหว่างอ่านไปด้วยนะคะ

มาขนาดนี้แล้ว ทุกคนคงไม่สงสัยกันแล้วเนอะว่าใครเป็นพระเอกเนอะ *เอานิ้วจิ้มๆ กัน*

แต่ว่า ถ้าทาริคเป็นพระเอกแล้ว... อับบาล่ะ  :a5:

สำหรับรูปภาพประกอบในตอนนี้ แวะไปดูที่เพจละกันนะค้า เผื่อใครสนใจอยากจะเห็นว่า กุหลาบทะเลทราย ในเรื่องนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร กุหลาบทะเลทรายที่ว่านี่ เกิดจากแร่ยิปซัมหรือแบไรต์ จริงๆ ที่ฮัสกี้เคยเห็นนั้นมันก็ไม่ได้ส่องประกายวูบวาบอะไรมากมายหรอกค่ะ อาจจะเป็นเพราะส่วนผสมของแร่ที่แตกต่างกันออกไป ในรูปที่กูเกิลมานั้นมันดูวิบวับหน่อยๆ ฮัสกี้เลยมโนเอาว่าเมื่อต้องกับแสงไฟน่าจะเป็นประกายเล็กน้อย เพราะงั้นตรงนี้ก็แล้วแต่จะจินตนาการกันนะคะ 55555
husky's page

ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ติดตาม และขอบคุณทุกคอมเมนต์นะค้า ยังไงก็ตาม ฮัสกี้ขอฝากน้องเร็นใน "เงาจันทร์ในม่านหมอก" ไว้อีกสักเรื่อง แวะไปอ่านและให้กำลังใจฮัสกี้กันหน่อยน้าาาา /อ้อนสุดๆ

 :mew1: แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ



 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด