45 วันพนัน(ไม่)รัก.........วันแห่งความสุข(จบแล้วย้ายได้เลย)[18-05-2016]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 45 วันพนัน(ไม่)รัก.........วันแห่งความสุข(จบแล้วย้ายได้เลย)[18-05-2016]  (อ่าน 117044 ครั้ง)

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
น้าชาใจดีๆ ผ่านแน่ๆ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เราว่าคุณน้าไม่น่าที่จะไม่รู้หรอกค่ะว่าคู่นี้เป็นอะไรกัน แต่รับได้หรือรับไม่ได้นี้ก้น่าจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งนะ

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
คุณน้าชาคงไม่เป็นไรแต่ถ้ามีความลับอื่นอีกตายแน่เชษฐ์คนหื่นเอ๊ย :z1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ขุ่นน้าคะ~ อนุญาติเต๊อะ.อย่ามีปัญหาเล้ยยย

 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
คราวนี้ตี๊ฟต้องสู้นะ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เชษฐ์เคยหยุดหื่นบ้างไหมเนี่ย
หวังว่าน้าชาจะให้ผ่านนะ

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ไปตัดไหมเนี่ย เพราะมีแผนใช่ไหมเชษ :laugh:
สู้ๆนะ น้าชาน่าจะเข้าใจแหละ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ด้วยอาชีพน้าเชรษฐ์เป็นหมอ น่าจะเข้าใจอะไรได้ง่าย ได้เห็นกลุ่มเพื่อนหมอที่มีคู่แบบนี้เนอะ ลุ้นอ่ะๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1

วันที่ 35

ผมค่อยๆ ปรือตาขึ้นช้าๆ เพราะรู้สึกว่าร่างกายมันอ่อนล้าเหลือเกิน สมองน้อยๆ ของผมเริ่มประมวลผลว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง หน้าผมเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเมื่อเริ่มจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมแทบจะหลับตาลงอย่างเดิม ถ้าไม่มีเสียงเอ่ยทักขึ้น

“ตื่นแล้วเหรอครับที่รัก”เจ้าของคำพูดดึงผมกระชับเข้าสู่อ้อมแขน ใช่แล้วละครับ หลังจากที่กลับมาจากตัดไหมเย็บเมื่อวาน ผมก็ไม่มีอะไรจะปฏิเสธไอ้คนที่อยู่ข้างๆ นี่ได้ ซึ่งตอนแรกผมก็คิดว่าคงจะไม่อะไรมากมาย แต่เล่นเอาผมหมดเรี่ยวหมดแรงไม่ได้นอนทั้งคืนกันเลยทีเดียว ไม่รู้มันไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน กว่าผมจะได้นอนก็จะเช้าอยู่แล้ว

“ยังไม่ตื่น”ผมปิดเปลือกตาลงอีกครั้งพร้อมกับกระชับผ้าห่มคลุมกาย เมื่อรู้สึกได้ว่าผมไม่ได้สวมอะไรไว้เลย ทั้งที่จริงๆ มันมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องทำ ก็ปรากฏว่าไม่ได้อะไรเลยนอกจากเรื่องบนเตียง แต่ที่ผมยอมเพราะผมเองก็ไม่มั่นใจว่าหลังจากวันพรุ่งนี้ ระหว่างเราสองคนมมันจะเป็นยังไงนั่นเอง น้าหมอของไอ้เชษฐ์จะยังให้เราสองคนอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมหรือเปล่า

“ตื่นเถอะ...กูหิวแล้ว”ปากบอกว่าหิวแต่ไอ้มือปลาหมึกเนี่ยมันกำลังแกล้งผมอยู่แน่ๆ เลย

“หิวก็ไปหาไรกินเซ่ คนจะนอน เพลียจะตายอยู่แล้ว”ผมพยายามขยับตัวออกห่างแต่เหมือนจะไม่เป็นผลสักเท่าไหร่ เพราะอีกฝ่ายดูจะรู้ทันและแรงผมก็สู้มันไม่ได้อยู่แล้ว

“ก็นี่ไงที่กูอยากกิน”นิ้วของคนพูดจิ้มๆ มาที่ตัวผมก่อนจะตามมาด้วยริมฝีปาก พรมจูบไปแทบจะทั่วตัวผม และมาจบที่ริมฝีปาก

“อืม...ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”ผมงัวเงียถามออกไปหลังจากที่ริมฝีปากเราผละออกจากกัน

“ไม่เหนื่อยเลยสักนิด อีกสิบรอบก็ยังไหว”เชิญไหวไปคนเดียวเหอะ ผมได้แต่เบ้ปากให้คนพูดอย่างเหนื่อยหน่าย

“แต่กูเหนื่อย เพลีย ง่วง จะนอน โอเคไหม”แล้วผมก็ดึงผ้าห่มคลุมโปงพร้อมกับหันหลังให้อีกฝ่ายอย่างไม่ใยดี แต่เหมือนมันจะยังไม่ละความพยายามเพราะตอนนี้ไอ้หื่นมันมุดเข้ามาอยู่ใต้ผ้าห่มกับผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“อะไรกันแค่นี้ก็ไม่ไหวแล้ว...นี่สงสัยกูต้องหาคนช่วยมึงแบ่งเบาภาระซะละมั้ง หาใครมาเป็นกิ๊กดีน้า”น้ำเสียงล้อๆ พร้อมกับสายตายียวนที่ส่งให้ผมใต้ผ้าห่มนั้นผมก็พอรู้หรอกว่ามันแค่พูดเล่น

“ตามสบาย อยากมีใครอีกสักกี่คนก็แล้วแต่เลย”ผมแกล้งพูดอย่างไม่ใยดี จนอีกฝ่ายต้องเอามือมาปิดปากผม

“ไม่หึงหน่อยเหรอ...หึงหน่อยนะ”แล้วแทนที่จะได้นอนพักผ่อนสุดท้ายก็มามัวเล่นกันอยู่แบบนี้ ผมเลยตัดสินใจพลิกตัวกลับพร้อมกับโอบกอดอีกฝ่ายไว้แน่น ซึ่งดูเหมือนไอ้เชษฐ์จะตกใจแกมแปลกใจอยู่ไม่น้อยว่าผมกำลังทำอะไรอยู่

“อยู่นิ่งๆ หลับตาลง กูจะนอน ถ้าไม่นิ่ง หลังจากวันนี้เราจะกลับไปแยกห้องกันนอนเหมือนเดิม”คนฟังทำตาโต ก็แน่สิเพราะไอ้ที่กอดกันอยู่ตอนนี้ผมกะจะแกล้งมันนั่นแหละ เอาให้มันคลั่งไปเลยดูสิว่ามันจะยอมทนตามคำพูดของผมหรือเปล่า

“แกล้งกันนี่นา...งั้นกูขอลุกไปทำกับข้าวรอมึงตื่นซะยังจะดีกว่าถ้าให้นอนอยู่ในสภาพแบบนี้ กูก็ทำตามที่มึงขอไม่ได้อยู่ดี”ว่าแล้วไหมล่ะ

“งั้นก็ลุกไปได้แล้ว”ผมทำเป็นไล่อีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้ แล้วผมก็ต้องรีบเอาผ้าห่มคลุมปิดทั้งหน้าอีกรอบเพราะไอ้เชษฐ์ เล่นลุกขึ้นทั้งๆ ที่ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวแม้แต่ชิ้นเดียว

“ทำยังกะไม่เคยเห็นนะ”น้ำเสียงหัวเราะเบาๆ นั้นอดที่จะทำให้ผมหมั่นไส้ไม่ได้แต่ผมก็พยายามไม่สนใจ พยายามข่มตาหลับลงให้ได้ เพราะรู้สึกอยากจะพักผ่อนเสียเหลือเกินในตอนนี้ เพียงไม่นานผมก็ไม่รับรู้สิ่งใดอีก




ไม่รู้ผมหลับไปนานแค่ไหน แต่ตอนนี้ที่ผมเริ่มรู้สึกตัวเพราะว่าผมเหมือนลอยตัวอยู่ยังไงไม่รู้ ผมค่อยๆ ลืมตาและพยายามปรับสภาพสายตาให้ชินกับแสง แล้วก็ต้องแปลกใจที่เหมือนผมกำลังลอยตัวอยู่

“ทำอะไรเนี่ย”ผมร้องออกมาแทบจะเป็นเสียงตะโกน พร้อมทั้งดิ้นให้หลุด เพราะตอนนี้ร่างเปลือยเปล่าของผมถูกไอ้เชษฐ์อุ้มช้อนตัวแล้วกำลังพาเดินไปไหนไม่รู้ คำพูดผมเหมือนไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายสนใจแม้แต่น้อย เพราะยังคงอุ้มผมเดินต่อไปและทำเพียงหันมาหัวเราะผมเบาๆ เท่านั้นเอง

“ปล่อยกูลงได้แล้ว”ตอนนี้ผมเริ่มรู้แล้วว่ามันอุ้มผมมาห้องน้ำนั่นเอง จะให้ผมอาบน้ำก็ปลุกกันดีๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องมาทำอะไรแบบนี้เลย

“กูพยายามปลุกมึงแล้วนะแต่มึงไม่ยอมตื่นเสียที กูกลัวว่าถ้าปล่อยไว้กูคงได้ลักหลับมึงแน่ๆ เลยตัดสินใจว่าจะเอาโยนลงอ่างน้ำเนี่ยแหละน่าจะตื่น แต่ไม่นึกว่าแค่อุ้มขึ้นมาก็จะตื่นแล้ว”ผมแทบจะอ้าปากค้างกับคำพูดของมันแต่ละคำ เพราะปกติผมไม่ใช่คนนอนขี้เซาขนาดว่าจะปลุกยากเย็น แล้วยังจะไอ้ที่มันจะเอาผมมาโยนลงอ่างบ้างล่ะ ลักหลับผมบ้างล่ะ อะไรของมันเนี่ย ผมอยู่กับโรคจิตที่ไหนป่ะเนี่ย

“ปล่อยๆ เดี๋ยวกูอาบน้ำเองก็ได้ ออกไป”ผมผลักให้ไอ้เชษฐ์ออกนอกห้องน้ำ แม้จะดูแล้วว่ามันอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย แต่จากที่มันพูดเรื่องลักหลับเมื่อสักครู่ ผมก็ไม่อยากจะไว้ใจให้มันมายืนดูผมเปลือยอยู่แบบนี้หรอกนะครับ

“เร็วๆ นะถ้าไม่อยากให้กูช่วยอาบ”ผมปิดประตูแทบจะทันทีที่ไอ้เชษฐ์ถอยออกไปพ้นประตู เพราะยิ่งปล่อยไว้นานมันจะพาลไม่ได้อาบกันพอดี ทว่าพอไอ้เชษฐ์ออกไปแล้วผมหันมองกระจก ผมก็แทบอยากจะบีบคอมันเสียให้รู้แล้วรู้รอด นี่มันทำอะไรของมัน ผมเปิดประตูออก และก็ต้องตกใจเพราะอีกคนยังยืนอยู่หน้าห้องน้ำ

“นี่อะไร”ผมชี้ร่องรอยตามตัวให้อีกฝ่ายดู

“ก็รอยจากการที่กูปลุกมึงไง”คำตอบของไอ้เชษฐ์ทำให้ผมต้องขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย มันปลุกผมด้วยวิธีไหนของมันกัน

“ทำเป็นงงไปได้ ก็กูเรียกมึงก็ไม่ตื่น เขย่ามึงก็ไม่ตื่น กูก็เลยไล่จูบมึงไปทุกูขุมขนดูนะสิว่าจะตื่นไหม แต่ก็ยังไม่ตื่....”ไม่ต้องรอให้มันพูดจบผมก็ปิดประตูทันที เพราะแค่คิดภาพตามที่มันพูดผมก็รู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัวแล้ว

ผมใช้เวลาชำระล้างร่างกายเพียงไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย พอออกจากห้องน้ำก็มีคนบริการอย่างดีเยี่ยม ทั้งเช็ดตัวเช็ดผม ทาครีมบำรุงผิวให้ แถมจัดแจงเสื้อผ้าไว้ให้อีกต่างหาก รวมถึงบนโต๊ะอาหารที่เหมือนจะตั้งไว้ให้ผมแล้วเช่นกันอะไรจะบริการดีเยี่ยมขนาดนั้น

“นี่แล้วพรุ่งนี้จะไปหาน้าชาตอนไหนเหรอ”พรุ่งนี้แล้วสิที่จะเป็นวันเกิดของไอ้เชษฐ์และแน่นอน ตามที่มันคุยกับพี่มาศวันก่อนว่าวันเกิดมันจะบอกเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับมันให้น้าชาได้รับรู้ พอพูดเรื่องนี้ผมสังเกตได้ว่าไอ้เชษฐ์เองก็ชะงักไปเหมือนกัน คาดว่ามันเองก็คงกัลวลในเรื่องนี้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

“ไปด้วยกันไหม”ผมวางช้อนแทบจะทันทีที่มันพูดจบแทนที่มันจะตอบคำถามผม แต่มันดันมาถามผมกลับแบบนี้ ซึ่งถ้า เอาตรงๆ ก็คือผมไม่กล้าไปสู้หน้าน้าชาเค้าหรอกครับ ด้วยหลายๆ อย่างที่ลองทบทวนแล้ว มันไม่เหมาะที่จะไปสักเท่าไหร่ และประเด็นสำคัญที่สุดสำหรับผมก็คงไม่พ้นเรื่องที่มันเคยเกิดกับผมมาแล้ว แม้ผมจะบอกกับไอ้เชษฐ์ไปแล้วว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมก็จะฝ่าฟันไปพร้อมกับมันนั้น ผมไม่มั่นใจเอาเสียเลย ว่าถ้าเกิดน้าช้าเค้าไม่ยอมรับในเรื่องนี้ และมาพูดกับผมอย่างที่พ่อของมันส์ เคยทำ ผมจะยังฝืนต่อไปได้หรือเปล่า

“ไม่ดีกว่า....เรื่องนี้กูว่ามึงคุยเฉพาะในครอบครัว จะดีกว่ากูคนนอกมันดูจะไม่เหมาะ”ผมตอบปฏิเสธออกไปอย่างที่รู้สึก ก็ได้แต่หวังว่าเรื่องนี้มันจะผ่านไปได้ด้วยดี ผมไม่ได้หวังให้น้าชา เค้ายอมรับได้ขนาดที่บ้านผม แต่ก็หวังว่าน้าชาคงไม่ต่อต้านขนาดพ่อของมันส์ ขอแค่น้าชายอมเปิดใจ และค่อยๆ ให้โอกาสพวกเรา แค่นั้นผมก็พอใจแล้ว

“ตอนนี้ไม่ใช่คนในครอบครัว อีกหน่อยก็ใช่แล้ว”แหมพูดไปยังกะต่อไปจะแต่งงานกันเป็นครอบครัวงั้นแหละ พูดมาได้ แถมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นอีก ยังมาทำเป็นปากดี ถ้าเกิดน้าชาไม่ยอมรับเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วจะรู้สึก....ซึ่งคงไม่ใช่ไอ้เชษฐ์คนเดียวที่จะรู้สึก แต่ผมเองก็คงเช่นเดียวกัน

“พูดเล่นอยู่นั่นแหละ”ผมแกล้งทำน้ำเสียงดุเล็กน้อย ว่าให้มันดูจริงจังหน่อย ยิ่งเรื่องนี้ผมว่าในแต่ละครอบครัวก็คงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะซีเรียสอยู่พอสมควร กับการที่จะมีคนในครอบครัว มีความสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน แม้ทุกวันนี้สังคมจะเปิดกว้างกับเรื่องนี้มากขึ้น แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่เห็นด้วยหรือเห็นด้วยแต่ไม่อยากให้เกิดกับคนในครอบครัวตัวเอง บางทีแค่ความรักที่คนสองคนมีให้กัน มันก็ยังไม่พอหรอกสำหรับในโลกของความเป็นจริง ว่าแต่นี่ผมคิดมากไปหรือเปล่าหว่า ทั้งที่ว่าจะไม่คิดมากแล้วนะเนี่ย

“กลัวหรือเปล่า”อีกฝ่ายเอื้อมมือมากุมมือผมไว้พร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ผมไม่ได้ตอบออกไปเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายหมดความเชื่อมั่นในตัวผมก็ในเมื่อคำตอบของผมก็คือแน่นอนว่าผมกลัว แล้วคาดว่าไอ้เชษฐ์ก็คงมีความกังวลว่าผมอาจจะเลือกทำอย่างเมื่อครั้งที่ผมเคยเลือกสมัยคบกับมันส์อยู่แล้ว

“จริงๆ กูน่าจะตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับน้าชาไปตั้งนานแล้วเนอะ จะได้ไม่ต้องมากังวลอะไรอยู่แบบนี้”ยิ่งไอ้เชษฐ์พูดมันยิ่งเหมือนจะตอกย้ำว่าเรื่องนี้มันคงไม่ใช่อะไรที่จะง่ายๆ หรือเป็นไปตามที่พวกผมต้องการสักเท่าไหร่

“เอาน่า...มันอาจจะดีกว่าที่เราคิดไว้ก็ได้นี่นา”ผมพยายามพูดปลอบใจทั้งตัวเอง และก็ไอ้เชษฐ์ด้วย

เหลืออีก 10 วัน

แหละ 10 วันจากนี้คือส่วนที่คนแต่งรื้อหลายรอบมาก  :z3:

คือแต่งไว้แล้วมาอ่านอีกทีก็ไม่ค่อยชอบเป็นอยู่หลายรอบมาก

และที่เลือกมาก็ไม่ใช่ว่าจะดีที่สุดน้า  :katai1: ออกตัวไว้ก่อนเลย

มันอาจจะขัดๆ ไปบ้างนะคร๊าบบบบ ยังไงกะรออ่านแล้วกันเนอะ o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
อีก 10 วันนนนนน
อวยพรให้ทั้งคู่โชคดีนะคะ
รอตอนต่อไปปปปป

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
ตี๊ฟควรจะชินได้แล้วนะเพราะเชษฐ์มันหื่น :hao3:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เพี้ยง!!!  :call: :call: :call: สมหวัง.โสมหวางงงงงง

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
 :call: :call: :call:

สาธุ ขอให้โอเค ไฟเขียวเปิดโล่ง อย่าได้มีอุปสรรคใดๆมาขัดขวาง ขอให้รักกันจริงจัง เต็มใจ ขอแฮ็ปปี้ เอ็นดิ้ง อย่าจบเศร้า อย่าจบหน่วง อย่าจบปวดตับ

เชียร์เสียยิ่งกว่าเป็นเชษฏ์เสียอีก ขอนะคนเขียน อย่าฉลองต้นปีด้วยความโศกเลย  (ดราม่าเพราะว่าคำลงท้ายของคนเขียนแหละ) :a5:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เอาใจช่วยทั้งคู่  :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ cakecoco-boom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
รู้สึกได้ถึงกลิ่นมาม่าที่โชยมาาาาา

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
เชรษฐ์น่ารักอ่ดูแลติ๊ฟอย่างดี ไวอ่ะ เหลืออีก 10 วัน น้าชาจะว่ายังไงเนี่ย ลุ้นต่อๆๆๆๆ

ออฟไลน์ norita_boyV2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-1


วันที่ 36  Chet’s Part

“กูจะพาไปแนะนำให้มึงรู้จักกับเพื่อนซี้จากโรงเรียนเก่ากู”ไอ้การ์ดเพื่อนใหม่ของผมพล่ามไปเรื่อยๆ ตอนนี้ผมเริ่มชีวิตมหาวิทยาลัยมาได้สักอาทิตย์กว่าๆ แล้วครับ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ หลายๆ คนแต่ที่สนิทที่สุดก็คงเป็นไอ้การ์ดนี้แหละครับ ไปสนิทกับมันได้ยังไงนะเหรอครับ ก็เพราะว่าผมชอบตรงที่มันขี้โม้ดีนี่แหละครับ

และตอนนี้มันกำลังจะพาผมไปรู้จักกับเพื่อนสนิทมันอีกคนนึง ที่มันว่าเรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยม ซึ่งเพื่อนมันคนนี้ถูกรุ่นพี่บังคับให้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ครับ คือช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงกิจกรรมรับน้องอยู่ครับ แต่เนื่องจากมีกระแสด้านลบของการรับน้องออกมาเยอะในช่วงหลังๆ ทำให้มหาวิทยาลัยที่พวกผมเรียนมีกฎให้รับน้องกันแบบสร้างสรรค์ ก็กีฬาเชื่อมความสัมพันธ์นั่นแหละครับ

“ไอ้ตี๊ฟโว๊ยยยย”ไอ้การ์ดส่งเสียงเรียกไปยังกลุ่มเชียร์ลีดเดอร์ที่ซ้อมกันอยู่ ซึ่งทั้งกลุ่มก็หันพรืบกันมาจ้องผมกับมันอย่างอัตโนมัติ นี่มันคิดหรือเปล่าที่ตะโกนเรียกแบบนี้ เค้าอยู่กันเป็นกลุ่มทั้งรุ่นพี่ด้วยดันเรียกชื่อเพื่อนตัวเองคนเดียว ผมละอายแทบจะอยากมุดดินเสียตรงนี้ ถ้าไม่ติดว่าเพิ่งรู้จักมันไม่นานผมตบกะโหลกมันไปแล้วครับ

“ไปแดรกเบียร์กันมึง”เจ้าของประโยคนี่คงจะเป็นเพื่อนของไอ้การ์ดครับ เพราะเป็นคนเดียวที่วิ่งมาทักทายไอ้การ์ด ว่าแต่นี่มันคำทักทายเหรอครับนั่น เจอหน้าปุ๊บ ชวนแดรกเบียร์เนี่ยนะ แถมดูหน้าตาไม่ได้เข้ากับสิ่งที่พูดเลย

คือจะว่ายังไงดีล่ะ เพื่อนไอ้การ์ดคนนี้ดูหน้าออกแนวคุณหนูหน่อยๆ ถ้าให้ประเมินจากหน้าตานี่ผมคิดว่าต้องเป็นคนเรียบร้อย เด็กเรียน ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ไม่พูดคำหยาบ แต่ไอ้ประโยคแรกที่ผมได้ยินนี่มันช่างขัดกับหน้าตาเค้าจริงๆ แถมสองคนคุยกันเหมือนลืมผมไปแล้วว่ายืนอยู่ตรงนี้ด้วย

“เออ ลืมแนะนำว่ะ ตี๊ฟนี่ไอ้เชษฐ์ เพื่อนใหม่กู แล้วเชษฐ์นี่ก็ไอ้ตี๊ฟเพื่อนเก่ากู”เออเนอะมันก็เข้าใจแนะนำนะ เพื่อนเก่ากับเพื่อนใหม่ สรุปก็คงเป็นเพื่อนกันแหละเนอะ ผมพยักหน้าเป็นเชิงทักทายเพื่อนใหม่ของผม แต่เป็นเพื่อนเก่าของไอ้การ์ด

“เชษฐ์.....ทำไมมึงพลาด”ตี๊ฟเดินเข้ามาพูดพร้อมเอื้อมมือตบไหล่ผม ไอ้ผมก็งงสิครับ พลาดอะไรยังไง แล้วนี่สนิทกันแล้วเหรอ เพิ่งเจอกันไม่ถึง 5 นาที สรรพนามมันควรจะเป็นเราๆ นายๆ ก่อนมั้ย ไว้สนิทกว่านี้ค่อยกูๆ มึงๆ แต่นี่อัธยาศัยดีไปนะคุณเพื่อนใหม่

“เรา...เอ่อ พลาดอะไรเหรอ”ผมถามออกไปตรงๆ เพราะไม่เข้าใจในคำถามของไอ้เพื่อนใหม่นี่จริงๆ

“ยี้...เราเรอวอะไรขนลุก”น่านไอ้เพื่อนใหม่ดูจะมีปัญหากับสรรพนามที่ผมใช้เสียแล้ว แถมทำท่าเข้า สั่นยังกะฉี่ไม่สุดเลยนะนั่น

“ฟังนะ I Say กู You Say มึง พร้อมนะ”จากที่ตอนแรกแค่ตบไหล่ข้างเดียว ตอนนี้จับไหล่ผมสองข้าง จ้องตาด้วยอีกต่างหากครับ คนอะไรจะให้ความสนิทสนมเป็นกันเองกับคนเพิ่งรู้จักได้ขนาดนี้เนี่ย

“กู”เพื่อนใหม่ผมพูดพร้อมเอามือกลับไปชี้ที่ตัวเอง ก่อนจะสลับมาชี้ที่ผม

“มะ...มึง”ผมพูดออกไปอย่างตะกุกตะกัก ยังงงๆ เพราะยังงงกับเพื่อนใหม่คนนี้อยุ่ไม่น้อย

“กู”

“มึง”

“กู”

“มึง”

“เห็นไหมก็พูดได้แค่เนี้ยะ”ดูไอ้เพื่อนใหม่ของผมจะภูมิใจเหลือเกินกับการบังคับให้ผมพูดคำหยาบนี้ได้ จริงๆ ไอ้ผมก็ไม่ใช่คนสุภาพอะไรหรอกนะครับ เพื่อนสนิทๆ ผมก็กูมึงเหมือนกันแหละ แต่อันนี้คือเพิ่งรู้จักกันไง จะแอดวานซ์ปานว่าสนิทกันแล้วมันก็แปลกๆ อยู่

“แล้วสรุปเรา เอ่อ กูพลาดอะไรเหรอ”ผมยังไม่วายย้อนกลับไปถามในสิ่งที่คาใจ เพราะพอไอ้เพื่อนใหม่ให้ผมพูดกูมึงได้สมใจ ก็หันไปคุยกับเพื่อนเก่าอย่างไอ้การ์ดเฉยเลย ไม่ได้อธิบายในสิ่งที่ผมสงสัยแม้แต่น้อย

“ก็มันว่ามึงโง่ ที่พลาดมาเป็นเพื่อนกับคนที่หล่อ เท่ห์ นิสัยดี เฟอร์เฟ็กต์ที่สุดอย่างกูไงว่ะไอ้เชษฐ์ ทีนี้มึงก็จะไม่มีทางได้เกิด เจิดจรัสในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เพราะโดนรัศมีกูกลบเสียมิดไงเล่า ใช่ไหมเพื่อนตี๊ฟ”น่านแหละครับที่ผมบอกว่าไอ้การ์ดมันขี้โม้ แต่ที่มันโม้มาเนี่ย ผมว่าผมไม่พลาดนะดูๆ ไป ผมอาจจะไปกลบมันก็ได้ ใครจะรู้ ฮ่าๆๆ ขอหลงตัวเองนิดนึงครับ แบบว่าติดมาจากไอ้การ์ดนี่แหละ

“ไอ้เชี่ย มันใช่ที่ไหนเล่า”ดูๆ สองคนนี้คงสนิทกันพอควร เพราะตอนนี้ไอ้การ์ดโดนตบกะโหลกหัวแทบทิ่มไปแล้วครับ

“ไอ้เชษฐ์มันพลาดตรงมาได้เพื่อน เชี่ย เลว ถ่อย สถุน จัญไร ไม่มีอะไรดีอย่างมึงมากกว่า” เอ่อได้ข่าวคุณมึงเป็นเพื่อนมันมาก่อนกูนะไอ้คุณเพื่อนใหม่

“กูว่าไปแดรกเบียร์เหอะ อย่ามามัวอวดอ้างสรรพคุณกันอยู่เลย เสียเวลาว่ะ”ตอนนี้ผมแทบจะไม่มีโอกาสได้เปิดปากพูดอะไรเลยครับ สองเพื่อนซี้เค้าต่อปากต่อคำรับส่งกันได้ลงตัว จนผมต้องยอมจำนนเป็นผู้ฟังที่ดี แถมไอ้ไปแดรกเบียร์ของพวกมันนี่ ไม่ได้ถามความเห็นผมสักคำ ว่าผมอยากไปด้วยหรือเปล่า แต่ก็นั่นแหละครับ


“เอ้าชนนนนน”อันนี้เสียงผมเองครับ ได้มีโอกาสออกเสียงบ้างแล้ว หลังจากเป็นผู้ฟังอยู่เสียนาน  ตอนนี้ผมเริ่มตึงๆ หน่อยๆ เพราะดื่มไปเยอะพอสมควรเหมือนกัน แต่ดูเหมือนสองซี้เค้าจะยังได้อีกยาว ไม่รู้ไปฝึกปรือวิทยายุทธกันมาจากไหนคอแข็งกันเหลือเกิน ไอ้ผมว่าตัวเองก็ดื่มเก่งนะ แต่มาเจอสองคนนี้ ผมคงต้องยกธงขาว

“เชษฐ์...กูมีเรื่องสำคัญจะบอก”อยู่ๆ ไอ้เพื่อนใหม่ที่นั่งตรงข้ามกับผมก็ลุกขึ้นโน้มหน้าเข้ามาจ้องผม แถมสองมือของมันยังมาจับให้ผมมองสบตากับมันอีก พอเห็นใกล้ๆ แบบนี้ไอ้นี่ก็น่ารักดีนะครับ เดี๋ยวๆ นี่ผมชมผู้ชายด้วยกันว่าน่ารักงั้นเหรอ บ้าไปแล้ว ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ หรือผมเมา ใช่แน่ๆ ผมต้องเมาแน่ๆ

“กูเป็นเกย์”ปากค้าง ตาถลน นั่นคือสภาพสีหน้าของผมแน่ๆ ครับ อะไรนะไอ้เพื่อนใหม่ผมเป็นเกย์ อะไร ผมงง อึ้ง คือหมายความว่ายังไง

“อะไร...ไม่เคยมีเพื่อนเป็นเกย์หรือไง”เพื่อนใหม่ผมยังถามต่อ คงเพราะยังเห็นอาการตกใจของผมอยู่ ก็จะว่ายังไงดีล่ะ ด้วยการมีชิวิตผ่านมา 18 ปีบนโลกใบนี้ของผม ตามที่ผมเข้าใจ เกย์นี่คือ กะเทย ตุ๊ด อะไรประมาณนั้นหรือเปล่า แต่นี่ไอ้เพื่อนใหม่ของผมดูไม่เหมือนในสิ่งที่ผมเข้าใจแม้แต่น้อย หรือมันล้อผมเล่น โอ๊ยผมงง

“ม่ะ ม่ะ ไม่เคย” ผมตอบกลับไปอย่างตะกุกตะกัก

“งั้นก็ถือว่ากูเป็นเพื่อนเกย์คนแรกของมึงแล้วกัน ไม่ต้องตกใจไป เดี๋ยวก็ชิน”คือผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรเพศที่ 3 หรอกนะครับ แต่ผมกำลังงงว่าแล้วนี่มันจะมาประกาศรสนิยมทางเพศให้ผมฟังทำไม แล้วไอ้การ์ดดูจะไม่ได้มีอาการตกอกตกใจอะไรเลย แต่ไอ้การ์ดที่รู้จักกับไอ้เพื่อนใหม่นี่มานานก็คงรับรู้อยู่แล้ว แพราะขนาดผมที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน ยังได้รับเกียรติขนาดนี้

“ไม่ต้องสั่นขนาดนั้นไอ้เชษฐ์ ตี๊ฟมันไม่เอามึงทำผัวหรอก มันแยกแยะได้ เพื่อนก็คือเพื่อน ผัวมันก็มีแล้วด้วย”ไอ้การ์ดหันมาตบไหล่ผมเหมือนเป็นการปลอบใจ แต่คือกูจะบอกว่า กูไม่ได้กลัวได้เป็นผัวเกย์ แต่กูกำลังงงกับการเป็นคนเปิดเผยกันเกินไปของพวกเมริงงงงง คนนึงก็ขี้โม้เกินพิกัด อีกคนก็สาธารณะเกินจะบรรยาย

“ผัวเผออะไรของมึงไอ้เชี่ยการ์ดกูมีที่ไหนเล่า”นั่นครับไอ้การ์ดโดนอีกหนึ่งป๊าบเข้าให้

“นี่อย่าบอกนะว่ามึงถูกผัวทิ้งอีกแล้ว”

แล้วทั้งสองคนก็เปิดฉากปะทะคารมกันต่อ โดยที่ผมได้แต่เป็นผู้ฟังที่ดีอีกเช่นเดิม นั่นแหละครับจุดเริ่มต้นของการได้รู้จักเพื่อนใหม่ของผม เพื่อนใหม่ที่อัธยาศัยดีมาก แทบจะมากเกินไป แถมเป็นคนที่มักจะทำอะไรขัดกับหน้าตาตัวเองอย่างมาก เพื่อนใหม่ที่ทำให้ผมยิ้มทุกครั้งที่ได้เจอ เพื่อนใหม่ที่กลายเป็นเป้าสายตาของผมนับตั้งแต่วันนั้น เพื่อนใหม่ที่ไม่รู้ว่ากลายมาเป็นคนที่ขโมยหัวใจผมไปตั้งแต่ตอนไหน รู้แค่ว่าอยากเจอ อยากเห็นอาการบ้าๆ บอๆ ของเค้า




“ยิ้มอะไรคนเดียวไอ้เสือ”เสียงของคุณน้าสุดที่รักของผมปลุกให้ผมตื่นจากความคิดในอดีตของผม อดีตที่เป็นจุดเริ่มต้นให้ผมได้รู้จักคนที่ผมรักที่สุดตอนนี้ ไม่รู้ตอนนี้จะทำอะไรอยู่ จะคิดถึงผมบ้างหรือเปล่า

“น้าชาครับผมขออะไรสักอย่างเป็นของขวัญวันเกิดได้ไหมครับ”ในที่สุดผมก็รวบรวมความกล้าที่จะบอกบางอย่างกับน้าชา คนที่แทบจะเรียกว่าเป็นทั้งพ่อทั้งแม่ของผมเลยก็ว่าได้ พ่อกับแม่ผมแยกทางกันตั้งแต่ผมยังเด็ก และน้าชาก็เป็นคนเลี้ยงดูผมมา

แม้ผมจะไม่ได้อยู่กับพ่อและแม่แต่น้าชาก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกขาดแต่อย่างใด และผมก็เป็นเด็กดีของน้าชามาโดยตลอด แม้จะมีเกเรไปบ้างตามประสาวัยรุ่น แต่ก็ไม่เคยทำอะไรให้น้าชาหนักใจมากนัก

“ปีนี้มาแปลกวุ้ย ปกติเห็นมีแต่บอกไม่อยากได้ของขวัญ แล้วปีนี้เกิดผีเข้าอะไรมาละไอ้เสือของน้า”นั่นแหละครับจริงๆ ผมก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันเกิดนี่เท่าไหร่หรอกครับ มันก็แค่วันๆนึงแค่นั้น แต่ทุกๆ ปีน้าชาก็จะบังคับผมมาทานข้าวด้วยแบบนี้ตลอด โดยแกให้เหตุผลว่า อย่างน้อยเราจะได้ยังดูเป็นครอบครัว ซึ่งทุกปีแกก็จะถามตลอดว่าอยากได้อะไร หรือพอทานข้าวเสร็จแล้วไม่ไปฉลองต่อกับเพื่อนเหรอ แต่ผมก็ปฏิเสธทุกครั้ง ว่าไม่อยากได้อะไร ไม่อยากไปไหน แถมอีกอย่างเพื่อนๆ ก็ไม่ค่อยมีใครรู้วันเกิดผมสักเท่าไหร่ด้วย

“น้าชาสัญญากับผมก่อนได้ไหมว่าจะให้ในสิ่งที่ผมขอ”บอกตามตรงว่าผมไม่มั่นใจในผลที่ตามมาว่าน้าชาจะรู้สึกยังไงหลังจากรับรู้ในสิ่งที่ผมจะขอ

“ดูซีเรียสนะเนี่ย เอ้าน้าสัญญาว่าไอ้เสือของน้าอยากได้อะไร น้าจะหาให้ ว่าแต่คงไม่ขอยานอวกาศ หรือขอไปเที่ยวดาวอังคารนะ แบบนั้นคงให้ไม่ได้”น้าชายังคงขำๆ กับสิ่งที่ผมจะขอ แต่ไม่รู้ว่าพอผมบอกจริงๆ แกจะยังขำอยุ่ไหม

“ผมขอมีแฟนครับ”

“อะไรนะ ฮ่าๆๆๆๆ”น้าผมขำเสียยังกับว่าผมได้เล่นมุกที่ขำที่สุดในโลกอย่างนั้นแหละครับ

“เดี๋ยวๆ เชษฐ์ก็เป็นแฟนกับแหม๋วอยู่ ไม่ใช่เหรอ ฮ่าๆๆๆ”น้าชายังคงขำไม่หยุด

“ผมขอโทษนะครับที่ไม่ได้บอกความจริงน้าชา คือผมกับแหม๋วแค่แกล้งเป็นแฟนกันหลอกๆ ครับ”ใช่แล้วครับ ผมกับแหม๋วไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่เคยเป็นแฟนกัน จริงๆ เราก็เป็นเพื่อนกันนั่นแหละครับ ผมกับแหม๋วบังเอิญได้รู้จักกันเพราะแหม๋วเป็นน้องสาวของพี่มาศ พยาบาลประจำคลินิกของน้าชา แล้วยิ่งเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน แม้จะคนละคณะก็เถอะ เลยยิ่งทำให้สนิทกันได้ไม่ยาก และสุดท้ายก็กลายเป็นว่าแหม๋วกลายมาเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจให้ผมไปโดยปริยาย

“แล้วทำไมต้องแกล้งเป็นแฟนกัน”คราวนี้น้าชาเปลี่ยนจากขำ กลายมาเป็นเคร่งขรีมอย่างรวดเร็วเลยครับ แกคงตกใจไม่น้อยที่ผมมีเรื่องปิดบังแก เพราะจริงๆ แล้วแม้น้าชาจะไม่ได้เข็มงวดอะไรกับผม แต่ลึกๆ ผมรู้ว่าตัวแกเองกลัวจะเลี้ยงผมออกมาได้ไม่ดี และแกจะบอกผมเสมอว่ามีอะไรให้บอกแก อย่าโกหก ซึ่งปกติ ผมก็แทบไม่เคยโกหกหรือปกปิดอะไรแกเลย ยกเว้นเรื่องเกี่ยวกับตี๊ฟเรื่องเดียวที่ผมไม่กล้าบอกแก

“เรื่องนั้นไว้ผมค่อยอธิบายทีหลังนะครับ ว่าแต่น้าชาจะยอมให้ผมมีแฟนได้ใช่ไหมครับ”ก่อนที่ผมจะบอกความจริง ผมขอหาอะไรที่เป็นหลักประกันช่วยยืนยันว่าน้าชาจะไม่ขัดขวางเรื่องระหว่างผมกับตี๊ฟไว้หน่อยก็ดี แม้จะดูเป็นการมัดมือชกก็เถอะ

“ถึงแม้น้าจะเอ็นดูแหม๋ว อยากได้มาเป็นหลานสะใภ้ เพราะคิดว่าเราสองคนรักกันจริงๆ แต่ถ้าเชษฐ์มีคนอื่นที่รักใคร่ชอบพอกันอยู่แล้ว น้าจะไปขัดทำไมล่ะ มีแฟน มีความรักมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร อีกอย่างเรียนก็ใกล้จบแล้วนี่เนอะ ว่าแต่ใครกันล่ะว่าที่หลานสะใภ้เนี่ย น้าเคยเจอไหม”ผมเริ่มมีกำลังใจมาหน่อยกับสิ่งที่น้าชาพูด หวังว่าน้าชาจะรักษาคำพูดนะครับ

“แล้วถ้าแฟนผมเป็นผู้ชาย น้าชาจะว่ายังไงครับ”ผมเอ่ยถามพร้อมสายตาที่แน่วแน่ แสดงให้น้าชาเห็นว่าผมจริงจังกับรักครั้งนี้ของผมขนาดไหน

“กลับไปคุยกันที่บ้าน”




----------------------------------------------------------------------------------
แวะมาลงให้ก่อนเพราะจะไปเที่ยวกาญจนบุรี คงไม่ได้ลงสัก 2 วัน

ถ้ากลับเร็ว เย็นวันอาทิตย์จะมาต่อให้นะครับ แต่ถ้าเลทก็เจอกันอีกทีเช้าวันจันทร์เลย ไม่ก็เย็น

เอาแน่เอานอนได้ไหมเนี่ย 555

อย่างที่บอกว่า 10 วันสุดท้าย นี่แก้แล้วแก้อีก จริงๆ คิดว่าน่าจะให้เล่าเรื่องผ่านตี๊ฟเหมือนเดิม แล้วจะแทรกพาร์ทของแชทเป็นตอนพิเศษไป

แต่แก้ไปแก้มา แล้วไม่ค่อยชอบ มันเลยจะออกมาเป็นพาร์ทของเชษฐ์จะย้อนเล่าเรื่องซะส่วนใหญ่ เนื้อเรื่องในแต่ละวันอาจจะเดินไปไม่มาก

แต่จะค่อยๆ คลายปมแต่ละเรื่อง ว่าทำไมเรื่องราวแต่ละอย่างเป็นมายังไง อาจจะไม่สมเหตุสมผลบ้างอ่ะเนอะ  :z3:

ก็จะใช้พาร์ทเชษฐ์เล่าเรื่องประมาณ 5-6 ตอน ซึ่งเรื่องอาจจะยังไม่เดินไปมาก เพราะจะย้อนเล่าเสียส่วนใหญ่

มีให้ดูว่าเป็นปัจจุบันช่วงท้ายๆ เพื่อให้วันมันเดิน ที่ทำแบบนี้เพราะคนแต่งขี้เกียจครับยอมรับเลย 555

จริงๆ ก็อยากทำเป็นพาร์ทแยกสองคน แต่ละวัน ซึ่งก็อย่างที่บอกทำแล้ว ไม่โอเคเท่าไหร่ เลยเอาแบบนี้ละกันเนอะ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
วุ้ย!!! เชษฐ์เค้าเกิดเป็นรักแรกพบกับตี๊ฟแต่แรกนินา. :mew3: น้าชาอย่าห้ามน้าา~  :call: :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
พี่เชษฐ์ พยายามเข้าาาาาา
ขอให้คุณน้าเข้าใจด้วยเถอะนะ :hao5:
รอตอนต่อไปปปปป

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ทั้งเรื่องแหม๋วและเรื่องรักตี๊ฟ

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
เริ่มคิดหนัก

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
พี่เชษฐ์ร้ายมาก

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ชักหยองๆน้าชาแล้วสิ  เคร่งขรึมในบัดดล

เชษฏ์   แกล้งเป็นแฟนกับแหม๋ว นี่แสดงว่าแอบรักติ๊ฟมาสินะ ได้อ่านผ่านมุมมองของเชษฏ์ก็กระข่างขึ้นมาหลายๆจุดทีเดียว

ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ยังไงก็ยังสงสัยว่าจะแกล้งเป็นแฟนกับแหม๋วทำไม???
ทำให้ติ๊ฟหึงเหรอ ถ้าติ๊ฟมันจะหึงมันก็หึงนานแล้วไม่ปล่อยให้แกคบหลอกกันมาเป็นปีๆหรอก
แล้วเห็นตอนแรกๆมีฉากแหม๋ววีน แหม๋วเข้าใจผิดว่าเชษฐ์เปลี่ยนไปชอบติ๊ฟนั่นก็ละครเหรอเนี่ยยยยย

ออฟไลน์ Teddysdeath

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ลุ้นๆๆๆๆๆ :katai1:

ออฟไลน์ rogerr

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 834
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อะไรยังไง ขุ่นน้าาาาา

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
กรี๊ดลุ้นนน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด