[เรื่องสั้น] (ซุปตาร์ อร่อย)เริ่มต้นหรือจุดจบ ภาค 2 ตอน #16 จบบริบูรณ์ 12/01/58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] (ซุปตาร์ อร่อย)เริ่มต้นหรือจุดจบ ภาค 2 ตอน #16 จบบริบูรณ์ 12/01/58  (อ่าน 28212 ครั้ง)

ออฟไลน์ boy2gether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

---------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 31 ธ.ค. 2557

สวัสดีผู้อ่าน

ส่งท้ายปีกันด้วย ซุปตาร์ อร่อย ภาคสอง จะได้มีอะไรอ่านกันช่วงวันหยุด

เราเพิ่มชื่อว่า เริ่มต้นหรือจุดจบ 

ภาคสอง คงจะเวิ่นเหว่อ มากกว่าภาคแรก ลองอ่านดูว่าชอบไหม

ขอบคุณค่ะ



-------------------------------------------------------------------------------

นี่เป็นเรื่องเขียนเรื่องแรกที่เขียนจบ ใครที่เข้ามาอ่าน รบกวนเขียนคำวิจารณ์ ให้ด้วยค่ะ เช่น ชอบแนวเขียนแบบนี้ไหม

บทพูดน้อยๆ รวบรัดไปไหม เขียนแล้วอ่านรู้เรื่องไหม วิจารณ์ ได้ไม่ต้องเกรงใจ จะได้นำไปปรับปรุง ขอบคุณมากค่ะ


ซุปตาร์  #1

มันเป็นช่วงทัวร์คอนเสิร์ตต่างจังหวัดระยะยาว ของนักร้องวงร็อกชื่อดัง 'ปั้น วง อาฟเตอร์ ช็อก'

แต่ก็ต้องมาประสบปัญหา เมื่อเด็กแบ็คสเตจคู่ใจ เกิดป่วยเพราะกินเหล้าเยอะ ไม่ยอมกินข้าวจนกระเพาะทะลุ

ทำให้ทัวร์เกิดการสะดุด 'พี่เก๋' ผู้ดูแลศิลปินรุ่นใหญ่ ดูแลศิลปินทั้งค่าย ก็เลยไปหาเด็กมาช่วยงานคนใหม่ 'เด็กวง'หน้าใหม่

ที่เพิ่งเรียนจบมาหมาดๆ ชื่อ 'ต้า' คือผมนั่นเอง ผมพอจะมีความสามารถทางด้านดนตรีอยู่บ้าง

เรียนจบคณะดนตรีจากรามคำแหง และเคยทำงานเป็นแบ็คสเตจมาบ้างจากตอนที่ไปฝึกงาน

และพี่ๆ ก็ได้แนะนำงานต่อๆ กันมา



แต่งานนี้ผมต้องมาเป็นผู้ช่วยร็อกสตาร์เต็มตัว ทั้งดูแลเรื่องบนเวทีและเป็นพี่เลี้ยงคอยประกบเหมือนเป็นผู้จัดการส่วนตัว

เพราะพี่เก๋มีงานต้องดูแลศิลปินหลายคน แกไม่มีเวลามาตามทัวร์แบบนี้ ผมรู้สึกเหมือนโดนถีบลงน้ำมายังไงไม่รู้

เพราะทุกคนต่างก็รู้ถึงความร้ายกาจของนักดนตรีร็อกกันดี ว่าเรื่องมากขนาดไหน



ซุปตาร์ขาร็อก แกเป็นนักดนตรีหน้าตาดี เล่นดนตรีเก่งมาก อายุประมาณสามสิบกว่า กำลังอยู่จุดสูงสุดในชีวิตนักดนตรี

แกแต่งเพลงรักฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง จิ๊กโก๋อกหัก แว๊น สก๊อย ก็เป็นแฟนเพลงแกทั้งนั้น

แกมีเมียแล้วนะ เมียเป็นดาราไฮโซด้วยชื่อ 'เหนเหน่' แต่ก็นั้นแหละชีวิตนักดนตรีร็อก

เรื่องเซ็กส์ เรื่องเหล้า-ยา มันแทบจะอยู่ในสายเลือด ดั่งกับทำให้เค้าแต่งเพลงได้กินใจขึ้นอย่างนั้นแหละ

แต่รู้สึกว่าพี่ปั้นแกไม่ค่อยลงรอยกับเมียเท่าไหร่ เพราะแกทัวร์คอนเสิร์ตเยอะมาก เดือนหนึ่งแทบไม่ได้กลับกรุงเทพฯ

แต่แกก็ไม่แคร์หรอก เพราะไปแต่ละเมืองก็จะมีเด็กสาวๆ สวยๆ มาเกาะหน้าต่าง ประตูรถตู้ พร้อมขึ้นห้องกับแกตลอดเวลา



ตอนแรกพี่ปั้นก็ไม่พอใจพี่เก๋ที่เป็นคนจัดการ เอาตัวผมมาช่วยแก เหมือนเป็นพวกมือใหม่หัดขับ

แต่ก็ทะเลาะไม่สำเร็จ เพราะทัวร์ต้องดำเนินต่อไป และที่สำคัญ คนอื่นๆ ไม่มีใครอยากทำงานกับแก

พี่เก๋สืบค้นประวัติผมเรียบร้อย ผมเคยทำงานแบ็คสเตจมาบ้าง ทั้งช่วงเรียนและตอนจบมาใหม่ๆ ผมมีงานเกือบทุกเสาร์และ

อาทิตย์ ทั้งเช็คเสียง ทำหน้าที่สเตจ ดูแลศิลปินเข้าออก ผมได้เรียนรู้งานจากพี่เก่งๆ หลายคน ทำให้ผมมีประสบการณ์มากขึ้น



แต่ข้อดีที่สุดของผม ที่พี่เก๋รับพิจารณาเป็นพิเศษ คือผมไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ หน้าตาสะอาดเรียบร้อย

เป็นเด็กต่างจังหวัดซื่อๆ ขยันอดทน ไม่พูดมาก



ผมเป็นเด็กจังหวัดพิษณุโลก แม่เปิดร้านขายของชำ พ่อเป็นนักดนตรีแต่เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็งที่ตับ

เป็นสาเหตุหนึ่งที่ผมไม่ดื่มเหล้าเลย เพราะแม่ขอไว้ ให้แลกกับถ้าผมอยากเล่นดนตรีผมต้องไม่ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่เหมือนพ่อ

ผมเล่นกีตาร์กับเพื่อนข้างบ้านกันมาจนเล่นเป็น เพื่อนคนนี้สนิทกันมาก มันชื่อ 'ชิน' ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด

เราตั้งวงดนตรีของโรงเรียนและไปรับจ้างเล่นอคูสติกตามร้านขายกาแฟบ้าง พอจะได้เงินนิดหน่อย

หลังจากผมมาเรียนที่กรุงเทพฯ ชินก็ไปเล่นดนตรีกลางคืนเป็นเรื่องเป็นราว ตามผับในจังหวัดใหญ่ๆ เราจึงจากกันตั้งแต่นั้น



ผมได้รับมอบหมายงานจาก 'พี่โรจน์' แบ็คสเตจเก่าเรียบร้อย พี่เก๋มาช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่ปั้น

บอกพี่ปั้นว่าผมจะมาช่วยอะไรบ้าง ผมจะมาช่วยตั้งแต่เรื่องอาหารการกิน ที่หลับที่นอน เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย

งบประมาณค่าใช้จ่าย รวมทั้งเรื่องโทรศัพท์มือถือส่วนกลาง หรือเรียกสั้นๆ ว่า 'มือถือกอง'

และผมต้องจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องดนตรี กีตาร์ เอฟเฟก ไมค์ คือเรื่องอุปกรณ์เครื่องดนตรีพวกนี้ผมไม่ห่วงเลยนะ

ผมห่วงก็แค่เรื่องต้องมาดูแลชีวิตซุปตาร์เนี้ยแหละ เครียดสุดๆ ละ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2015 23:28:44 โดย boy2gether »

ออฟไลน์ boy2gether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ซุปตาร์ #2

คืนนี้ก็จะเป็นคืนแรกที่ผมจะมาเป็นผู้ช่วยพี่ปั้น ผมพยายามทำให้ดูเป็นมือโปรที่สุด

ทั้งๆ ที่ก็ตื่นเต้นมากๆ กลัวผิดตอนเปลี่ยนกีตาร์แต่ละตัวแต่ละช่วงเพลง จังหวะและเวลาสำคัญมาก

เพื่อไม่ให้ไปเก้ๆ กังๆ หน้าเวที และแล้วงานคอนเสิร์ตวันแรกของผมก็ผ่านไปได้ด้วยดี



คราวนี้ก็มาถึงเรื่องการดูแลชีวิตส่วนตัวของซุปตาร์ ที่ผมเครียดสุดๆ ผมต้องคอยพาแกไปนอนโรงแรม

ดูแลว่าแกอยากได้อะไร แกนอนตอนไหน กินอะไร เรื่องเหล้ายาปลาปิ้ง อย่าให้ขาด เรื่องอะไรแนวๆ แบบนี้

พี่เก๋สอนผม เรียกว่ากำชับดีกว่า พี่เก๋กำชับผมมาหลายเรื่อง ทั้งเรื่องผู้หญิง เหล้า ยา(กัญชา) ว่าอย่าให้เกินเลย

เพราะนักข่าวรุมจ้องข่าวด้านมืดๆ แบบนี้อยู่แล้ว



ทำงานไปหลายๆ วัน หลายๆ จังหวัด ผมก็เริ่มคุ้นชินขึ้น หายตื่นเต้น จัดการเรื่องต่างๆ ได้เนียนขึ้น

ผมเข้มมากเรื่องบนเวทีคอนเสิร์ต จนพี่ปั้นเค้าเริ่มไว้ใจผม ส่วนเรื่องส่วนตัวผมก็ไม่ไปตีสนิทหรือล้ำเส้นแกมาก

แกคงเริ่มสบายใจ สนิทใจกับผมมากขึ้น หลังๆ แกก็คุยกับผมมากขึ้น ผมค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย


หน้าที่ของผมนอกจากต้องดูแลเรื่องทั้งหมดที่ว่ามา ผมต้องดูแลเรื่องติดต่อประสานงานกับบริษัท

เรื่องคิวงานหรือแม้แต่รับโทรศัพท์ของเมียพี่ปั้น เพราะพี่ปั้นแกเป็นพวกอนุรักษ์นิยม

แกไม่ชอบใช้มือถือ แกไม่มีมือถือ แกไม่มีเฟสบุค ไม่มีอินสตราแกม ไม่ถ่ายเซลฟี่



รวมทั้งผมต้องคอยจัดคิวเลือกผู้หญิงแฟนคลับที่มารอ อยากจะไปนอนกับซุปตาร์ ผมรู้ว่ามันไม่ดีเท่าไหร่

เหมือนเป็นการเหยียดเพศยังไงไม่รู้ แต่เมื่อสาวๆ เหล่านั้นเธอต้องการเอง ไม่ได้มีใครบังคับ ผมก็ต้องปล่อยเลยตามเลย

ยากมากที่ผมต้องมานั่งเลือกผู้หญิงให้ซุปตาร์ ตอนแรกผมก็เลือกแบบมาตรฐานไว้ก่อน ขาว หน้าอกใหญ่ หุ่นดี

แต่ผมจะไม่เลือกที่แต่งหน้าเข้มหรือเด็กที่อายุน่าจะไม่ถึงสิบแปดและที่สำคัญต้องไม่ใช่ผู้หญิงหากิน

บังเอิญผมเป็นเด็กต่างจังหวัด ที่เจอเรื่องพวกนี้มาเยอะ ผมเลยดูเหมือนกลมกลืนไปกับเรื่องเหล่านี้



ผมคงทำอะไรถูกใจซุปตาร์เข้าบ้าง หลังจากทัวร์กันไปเกือบเดือน แกก็ไม่เคยไปบ่นเรื่องผมให้พี่เก๋ฟังอีกเลย



ซุปตาร์แกเป็นโรคประหลาดกลัวการนอนโรงแรม ต้องนอนเปิดไฟทุกดวง ตอนยังไม่สนิทก็ให้ผมนั่งคุยเป็นเพื่อน

จนกว่าแกจะหลับ แต่ที่สำคัญตอนแกมีอะไรกับผู้หญิง แกชอบให้ผมอยู่ด้วย ถ้าเป็นห้องใหญ่ๆ ในจังหวัดใหญ่ๆ ก็ดีอยู่หรอก

เพราะผมก็จะไปแอบตามมุมๆ ไกลๆ ได้ แต่พอเป็นห้องเล็กๆ ผมไปไหนได้ไม่ไกล ผมก็ใช้วิธีปิดไฟ แล้วนั่งเงียบๆ อยู่แถวนั้น

เป็นอะไรที่พะอืดพะอมสิ้นดี แต่การได้เห็นซุปตาร์ในร่างเปลือยก็นับว่าคุ้มอยู่เหมือนกัน ผมก็ต้องนั่งรออยู่ใกล้ๆ ในห้องเสมอ

บางทีสาวๆ ที่มาไม่คุ้น แกก็จะบอกว่าผมเป็นตุ๊ด ไม่ต้องห่วง ผมแทบจะจำท่ามีเซ็กส์ของพี่ปั้นได้หมด

จำเวลาที่ใช้ได้ จำเสียงตอนที่เค้าถึงจุด บางทีผมก็รู้สึกไปเองว่าแกเอาแต่มองหน้าผม เหมือนจะโชว์หรือว่าขอความเห็น

หรือว่าขอความช่วยเหลือ ผมก็รอจนแกเสร็จกิจนั่นแหละ แล้วพาเด็กไปส่งข้างล่าง

ตรวจสอบให้แน่ใจ ว่าจะไม่ได้ถ่ายเซลฟี่ติดมือไป



จากนั้นผมก็ต้องมาดูซุปตาร์ของผม ว่าแกต้องการอะไรก่อนนอน แกจะอาบน้ำก่อนอีกรอบ

ใส่เสื้อคลุม สูบกัญชา ดื่มเบียร์ นั่งดูบอล หรือไม่ก็นั่งเฉยๆ ขีดเขียน ผมเดาว่าแกคงกำลังนั่งแต่งเพลง

ยามดึกดื่นเหมือนเป็นเวลาที่แกได้พักผ่อน ส่วนผมบางทีก็ไม่ไหวแล้ว ผมก็หลับคาโซฟาห้องแกนั่นแหละ



วันดีคืนดี พี่เก๋ก็จะคอยโทรมาเช็คสภาพว่าเป็นไงบ้าง โดยเฉพาะกำชับเรื่องผู้หญิง อย่าให้ถึงหูเมียแกเด็ดขาด

บางทีเมียแกก็โทรมาทางมือถือกอง แกก็พูดเหมือนไม่เต็มใจ อืมๆ ตลอด คงกลัวผมได้ยิน

ถ้าเมียแกถามว่าเมื่อไหร่จะกลับกรุงเทพฯ บ้าง แกก็จะส่งมือถือให้ผมบอกคิวให้ เพราะแกไม่ได้ใช้สมองไว้จำเรื่องพวกนี้

แกบอกผมแบบนั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2014 10:50:02 โดย boy2gether »

ออฟไลน์ Sbatandty

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: ซุปตาร์ อร่อย #1
«ตอบ #2 เมื่อ19-11-2014 22:49:23 »

อย่าลืมแปะกฎนะจะ

ออฟไลน์ boy2gether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ซุปตาร์ #3

เริ่มทำงานกันมานานๆ ผมก็เริ่มชอบแกนะ แกหล่อดี หล่อเกินกว่าจะมาเป็นสายร็อก

บางทีเราก็ใกล้ชิดกัน แบบว่านั่งตัวติดกันในรถตู้ ตอนเปลี่ยนกีตาร์ให้ผมเกือบจะกอดแกไว้

ตอนที่ผมต้องคอยกันแกไม่ให้โดนแฟนคลับรุม แม้แต่เรื่องการแต่งตัว ผมแทบจะต้องเช็ดตัวให้

เปลี่ยนเสื้อผ้าในการแสดง จนจะหายใจรดกันอยู่แล้ว วันนึงผมก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ตามปกติ

ใส่เสื้อเชิ้ต สวมแจ็กเก็ตให้แก แกมองหน้าผม ผมก็มองหน้าแก หน้าเราจะติดกันอยู่แล้ว

เหมือนมีการส่งสัญญาณแปลกๆ ออกมาทางสายตานั้น

แกเหมือนเอามือเอื้อมมาจะจับที่อกผม ตอนที่ผมกำลังติดไวเลส แต่แกก็แค่ตบอกผมเบาๆ แล้วบอกว่า”ขอบใจ”



งานคอนเสิร์ตต่างจังหวัด ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ การทำงานแต่ละวัน แต่ละจังหวัด

เราก็ต้องแก้ปัญหากันไปตามพื้นที่ที่เราไปจัดงาน

ผมพยายามทำอะไรอย่างรอบคอบที่สุด

ยิ่งซุปตาร์แกเป็นคนขี้อารมณ์เสียง่ายอยู่ด้วย ผมเลยยิ่งต้องให้พลาดน้อยที่สุด 




และแล้วสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดมันก็เกิดขึ้นจนได้ วงเล่นไปได้แค่สามเพลง


ไฟฟ้าดับ! ฉิบหายแล้ว!



ในสนามฟุตบอลประจำจังหวัด เสียงผู้ชมโห่กันเกรียว แบ็คสเตจวิ่งกันให้วุ่น

ผมมีสติทำหน้าที่อย่างเดียว คือพาศิลปินไปเก็บก่อนที่จะเกิดจราจล

พอไฟดับปุ๊บ ผมก็อัตโนมัติ วิ่งกระโจนไปที่ซุปตาร์ก่อนเลย ผมไปยืนสแตนด์บายข้างซุปตาร์

รอจนแน่ใจว่าไฟจะไม่มาเร็วๆ นี้แน่ ผมเลยถอดกีตาร์แก แล้วพาแกเข้าไปหลังเวที



โชคดีที่สนามกีฬาที่นี่มีห้องวีไอพี สำหรับเป็นที่พักของประธานเปิดงานกีฬาต่างๆ

เราเลยขอทำเป็นที่พักศิลปิน ผมเลยพาแกไปนั่งรอที่โซฟา

ตอนนี้เรามีเพียงแสงสว่างจากเทียนไขที่วางอยู่บนโต๊ะ



ตอนนี้หลังเวทีเราวิ่งวุ่น ไม่รู้ว่าไฟฟ้าดับเกิดจากสาเหตุอะไร คนดูก็เริ่มโห่กันเป็นระยะ

ผมเก็บศิลปินไว้ที่ปลอดภัยแล้ว เลยวิ่งออกไปตรวจสอบสถานการณ์

เพราะตอนนี้อินเตอร์คอมสื่อสารของเราก็ดับไปพร้อมกับไฟฟ้าแล้ว 



ผมไปถามพี่โปรดิวเซอร์คุมงาน ได้ความมาว่า ไฟฟ้าดับเกือบทั้งอำเภอ เป็นความซวยจริงๆ

แต่มันจะไม่ซวยหรอก ถ้าเราใช้ไฟเหมือนทุกงาน คือเครื่องปั่นไฟ

แต่งานนี้ทางจังหวัดแจ้งมาว่าจะช่วยซัพพอร์ทไฟฟ้าให้เรา

โปรดิวเซอร์ก็ต้องการประหยัด เราเลยไม่มีเครื่องปั่นไฟสำรองไว้ด้วย

เป็นเพราะการมาทำงานต่างจังหวัด ปัญหาหน้างานของแต่ละจังหวัดก็ไม่เหมือนกัน

และพอเราเริ่มทำไปหลายๆ จังหวัด เราก็เริ่มเหนื่อยๆ เริ่มทำงานเผาๆ ลวกๆ ทำไปแบบไม่มีมาตรฐาน

บางครั้งผมก็สงสารซุปตาร์เหมือนกัน เมื่อต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้

ตอนนี้ผมไม่อยากเข้าไปสู้หน้าซุปตาร์เลย กลัวโดนด่าฉิบหาย ถึงแม้มันจะไม่ใช่ความผิดของผมโดยตรง




ซุปตาร์นั่งกอดอกนิ่งๆ บนโซฟา คงรอรายงานจากผมอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง

และผมบอกทางแก้ปัญหาไว้สองทาง คือรอจนกว่าไฟจะมา และกำลังให้คนไปหาเครื่องปั่นไฟ

แล้วแต่ว่าสองอย่างนี้ อันไหนจะมาก่อน อาจจะกินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง

ถ้าเกินเวลาจากนี้ คนดูอาจจะเริ่มทนไม่ไหว เราค่อยหาทางแก้ไขว่าจะยกเลิกคอนเสิร์ตไหม



ผมรอดูสีหน้าซุปตาร์บนแสงเทียนสลัวๆ นั่น ว่าแกจะด่าผมไหม แกก็ไม่ด่าอะไร

ได้แต่นั่งหน้านิ่งๆ คิ้วขมวด หายใจยาวๆ ตอนนั้นผมก็ไม่รู้จะทำอะไรดี ได้แต่ยืนนิ่งๆ ที่มุมมืด

แล้วผมก็อุตริ อยากให้เค้าคลายเครียด ผมเลยอาสาจะนวดไหล่ให้เค้าระหว่างรอ

ผมไม่ได้คิดอะไรหรอก เพราะผมรู้ว่าคนที่สะพายกีตาร์ข้างเดิมนานๆ มันปวดไหล่ขนาดไหน



ผมเลยลากเก้าอี้ไปนั่งข้างหลังโซฟาของแก แล้วบอกว่าเดี๋ยวผมนวดไหล่ให้ ให้แกถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกก่อน

แกก็ถอดแจ็คเก็ตออกเหลือแต่เสื้อยืดสีดำ ผมก็กดจุดไปที่กล้ามเนื้อปีกหลังอย่างแรง จนแกก็ร้องเลย

ผมเลยเอาวิชากดจุดที่ได้จากแม่มานิดหน่อย มาหลอกซุปตาร์ได้

ว่าที่เจ็บเพราะแกใช้กล้ามเนื้อหัวไหล่หนักเกินไป ตรงกล้ามเนื้อปีกหลังแข็งเหมือนเป็นพังผืด

ผมจะนวดคลายเส้นให้ ผมมีความรู้นิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้แกเจ็บหรอก

แล้วก็นวดบ่า กดจุดที่ท้ายทอย ผมรู้สึกว่าแกค่อยอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย



สักพักมีน้องสต๊าฟวิ่งกระหืดกระหอบ มาหาผมในห้อง ผมเลยลุกจากเก้าอี้ยืนขึ้น

สต๊าฟมารายงานเป็นฉากๆ ว่าทางจังหวัดกำลังจัดการไปที่ไฟฟ้า แล้วไฟฟ้ากำลังเร่งแก้ไข

ไม่น่าเกินครึ่งชั่วโมง และรถปั่นไฟก็หาได้แล้ว กำลังเคลื่อนที่มา

แล้วพี่ปั้นก็เลยถามว่าคนดูเป็นไง น้องเค้าบอกว่าคนดูนั่งรอกันอยู่ ไม่มีเหตุจราจลอะไร แค่โห่เรื่อยๆ เพื่อกดดันทีมงาน



แต่ในระหว่างที่ผมกับพี่ปั้นฟังรายงานสถานการณ์นี่สิครับ มือผมที่ตะกี้มันนวดอยู่ที่ไหล่

มันดันซนไปลูบไล้ที่คอ ท้ายทอย กับใบหูแกเล่น เหมือนเป็นอาการจิตของผมเองที่เป็นโรคมือไม่สุข

ผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆ  ผมแค่เพลินๆ แล้วตั้งใจฟังน้องเค้า ผมมารู้ตัวอีกที ตอนน้องเค้าออกไปแล้ว

มือผมไปสัมผัสอยู่ที่ซอกคอพี่ปั้น ตอนนี้ผมทำหน้าไม่ถูก พยายามทบทวน ว่าผมลูบไปถึงไหนบ้าง



ผมเลยมานั่งหลังแกแล้วนวดๆ ไปเหมือนเดิม ทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ตอนนี้หัวใจของผมเต้นตึกตัก กลัวแกด่าว่าผมไปแต๊ะอั๋งแก แต่แกก็ไม่ได้ว่าอะไร

ผมเลยโล่งใจ หน้าผมอยู่ชิดหลังพี่ปั้นจนลมหายใจแทบจะรดต้นคอแกอยู่แล้ว



สักพักพี่ปั้นก็เอามือมาแตะมือผมที่กำลังนวดไหล่อยู่ ผมเหมือนกระตุกมือนิดนึง

คิดว่าแกจะบอกว่าให้ผมพอแล้ว แต่เปล่า แกจับนิ้วมือผมเพื่อรั้งไว้

ถึงตอนนี้ ถ้าผมไม่บ้า สติ สตัง สมง สมอง เบลอไปพร้อมไฟฟ้า ผมก็ต้องสัมผัสได้ ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา

พี่ปั้นคงรอให้แน่ใจ ถึงกล้าทำแบบนี้ จากนั้นแกก็เอามือมาประสานมือผมไว้

ตอนนี้ผมรู้แล้วถึงสัมผัสนั้น หัวใจผมเต้นรัว ท้องน้อยเริ่มปั่นป่วน



แล้วพี่ปั้นก็เอื้อมไปหยิบเทียนแล้วดับมันซะ ถึงตอนนี้ไม่มีอะไรต้องเดา ว่าเราต้องการอะไร

ผมยังคงนั่งอยู่หลังโซฟาที่พี่ปั้นนั่ง ผมยังบีบไหล่เค้าเบาๆ

แต่ตอนนี้ริมฝีปากของผม มันไปจ่ออยู่ที่ท้ายทอยและไล่ไปตามซอกคอของพี่ปั้น

ผมหายใจแรง เหมือนเด็กน้อยที่ไม่เคยได้สัมผัสหรือลิ้มรส ผิวกายผู้ชายมานาน

พี่ปั้นนั่งนิ่งๆ ปล่อยให้ผมทำตามอารมณ์ที่พาไป

แล้วเค้าก็ค่อยๆ หันตัวมามองหน้าผม เราเอาจมูกติดกัน

ผมหลบตาเหมือนไม่มั่นใจในตัวเอง ว่าที่ทำมันถูกแล้วใช่ไหม

พี่ปั้นค่อยๆ เอามือลูบที่ปากผม ผมสะท้านไปทั้งตัว


และแล้วปากของพี่ปั้นก็ค่อยๆ มาสัมผัสปากของผมที่มันเผยอรออยู่แล้ว

มันแผ่วเบา เหมือนดั่งสัมผัสกับละอองน้ำ มันเหมือนเป็นการชิมความหวาน ยิ่งใกล้มันยิ่งเย้ายวนผม

พี่ปั้นพรหมจูบเบาๆ ไปรอบๆ ริมฝีปากของผม แค่นี้ผมก็ตัวเกร็งไปหมด เกร็งไปถึงท้องน้อยจนถึงส่วนอ่อนไหวด้านล่าง

แล้วเขาค่อยๆ เม้มริมฝีปากล่างของผมแล้วดูดมันเบาๆ จะทรมานผมไปถึงไหน ตอนนี้ผมหายใจถี่ หัวใจเต้นแรง

มือของเรายังลูบไล้ไปที่ใบหน้าและต้นคอของกันและกัน

ผมบดปากลงไปเล็กน้อย แล้วดูดริมฝีปากทั้งบนทั้งล่างของเขา ไปตามจังหวะลมหายใจ ตามสัญชาตญาณ

มันไม่ได้รุนแรง มีแต่ความหวานนุ่มนวล ปากเราชุ่มชื่นไปด้วยน้ำลาย มันลื่น นุ่มและอุ่น




ผมไม่อยากให้ไฟมาเลย...




แต่แล้วเสียงคนจากข้างนอกเฮกันลั่น ผมรีบผละออกจากริมฝีปากนั้น

แต่หน้าเรายังชิดกันอยู่ ผมยังเคลิ้มกับสัมผัสนั้นอยู่

พี่ปั้นเอามือมาจับคางผมไว้ แล้วเอาหัวแม่โป้งมาเช็ดน้ำลายผมออกจากริมฝีปาก

ตอนนี้ปากผมคงแดงนิดหน่อย หวังว่าจะไม่มีใครสังเกต




ผมรีบลุกพรวด เมื่อไฟสว่างขึ้นมา และน้องสต๊าฟกำลังวิ่งมาที่ห้อง เพื่อรายงานสถานการณ์

แต่ตอนนี้ผมยืนตรงไม่ไหวแล้ว เป้ามันตุงจนจะชี้หน้าคนได้

ผมเลยต้องเอาเป้าไปชนทับไว้กับพนักพิงด้านหลังโซฟา พี่ปั้นนั่งก้มหน้ายิ้มๆ




สต๊าฟบอกว่ากำลังเคลียร์อุปกรณ์เครื่องเสียง แสง ให้เราเตรียมตัวไว้

อีกสิบนาทีจะมาตาม ผมโบกมือไล่น้องสต๊าฟ ให้ไปก่อนเดี๋ยวผมตามไป




เมื่อผมเก็บอาวุธได้เรียบร้อยแล้ว ผมก็ถอนหายใจ หันไปมองพี่ปั้นอีกที

ผมรู้สึกเหมือนว่าเค้าแกล้งผม แกล้งผมให้เตลิด แต่เค้ายังนั่งก้มหน้ายิ้มๆ

ผมเลยส่งสัญญาณว่าผมจะไปเตรียมของก่อน ผมยิ้มมุมปากแล้วเดินจากไปด้วยความงงงวย




คืนนี้ผมทำงานด้วยใจที่ไม่ปกติเลย ไม่ใช่กลัวเรื่องไฟฟ้าจะดับอีก

แต่ผมไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าต้องการแกล้งผม หรือแค่อยากรู้รสสัมผัสจากชาย

แต่สัมผัสแบบนี้ มันไม่ใช่จากคนไม่มีประสบการณ์แน่ๆ

ผมยังจำรสสัมผัสนั้นได้ จนต้องเอามือจับปากตัวเอง เพื่อรำลึกถึงมันเป็นครั้งคราว




จากวันนั้นมา การทำงานของผมกับซุปตาร์ก็ไม่มีอะไรปกติอีกต่อไป...




แม้แต่ตอนแกมีอะไรกับแฟนคลับผู้หญิง ผมมองดูคู่ชายหญิงที่กำลังมีเซ็กส์อยู่บนเตียง

บางครั้งผมก็มีอารมณ์อยากไปร่วมกิจกามนี้ด้วย แต่กับพี่ปั้นเท่านั้น

บางครั้งผมก็จินตนาการว่าผู้หญิงที่อยู่บนเตียงนั้นกับเค้า เป็นผม...

บางทีในความมืด เค้าเอื้อมมือมาขอสัมผัสกับผม แล้วบางทีผมก็แอบจูบเค้าไปเบาๆ ในความมืด

หากผมได้อยู่ร่วมกิจกามนี้ทีไร ผมเหมือนโดนกลั่นแกล้ง เมื่อผมกลับไปถึงห้องของผม

ผมก็จะช่วยเหลือตัวเอง ให้อารมณ์ที่ค้างเติ่งนั้นคลายลง




ตอนที่ทัวร์เริ่มมาถึงปลายๆ ซีซั่น แกมาถึงห้องพักที่โรงแรม แล้วบอกวันนี้ไม่อยากนอนกับผู้หญิง

ผมคิดเองว่าอาจจะเป็นช่วงมีประจำเดือนเหมือนของผู้หญิงก็ได้ ที่ไม่ได้อยากมีเซ็กส์กับใคร

เสร็จแล้วแกก็เข้าไปแช่น้ำอุ่นในอ่างนานมาก นานจนผมสงสัย เลยเคาะประตูห้องน้ำถามว่าแกเป็นอะไรไหม

ผมจึงเปิดประตูเข้าไป แกก็นอนแช่น้ำอุ่น อุ่นจนแก้มแดง สูบกัญชาสบายใจ ผมกลัวแกจะฆ่าตัวตายไปซะแล้ว

สังเกตหน้าแกดูเหนื่อยมาก แกคงอยากไปแต่งเพลงดีๆ สักสิบเพลงก่อนตาย เมื่อผมดูจนแน่ใจว่าแกไม่ได้จะฆ่าตัวตาย

ผมก็เลยจะออกมา แต่แกก็เรียกให้ผมไปนั่งคุยด้วยในห้องน้ำ แกถามเรื่องคิว

ผมบอกว่าเหลืออีกสามจังหวัดที่ต้องไปก็จะจบทัวร์แล้ว

แกบอกว่าอีกสามจังหวัด ไม่ต้องพาผู้หญิงมาอีกแล้วนะ ผมก็รับปากแก

แกคงเหนื่อย อีกอย่างแกคงไม่อยากให้เมียผิดสังเกต เวลาต้องกลับไปหาเมีย คงกลัวจู๋ถลอก



ผมเคยถลอกจริงๆนะ ตอนเด็กๆ ผมกับไอ้ชิน เล่นพิเรนกันมาก แข่งกันสไลด์หนอน แข่งกันว่าใครจะอึดกว่ากัน

โดยเอารูปโป๊ผู้หญิงขาวๆ หน้าอกโตๆ มาเป็นแบบ ไอ้ชินไม่ได้กินผมหรอก รูปผู้หญิงโป๊ทำอะไรผมไม่ได้

ตอนหลังๆ เราก็เปลี่ยนกติกาเล็กน้อย เพราะการสไลด์หนอนเอง อาจจะมีการชะลอ การเบรก เพื่อให้อึดขึ้น

ตอนหลังเราใช้วิธีเอามือเราไปสไลด์หนอนให้อีกคน คราวนี้ผมเลยมีแพ้บ้าง ไม่ใช่เพราะรูปโป๊อะไรนั่นหรอก

เพราะมือของไอ้ชินกับหน้าบิดเบี้ยวแล้วฟินของมัน ทำให้ผมต้องยอมแพ้ก่อนทุกที

นึกถึงทีไร ผมก็มีความสุขทุกที ความทรงจำของผมกับเพื่อนผู้ชาย ตอนที่แยกจากกันมา ผมก็ไม่ได้มีแฟนหรือผู้หญิงเลย

จริงๆ ผมก็ไม่ได้มีมาแต่ไหนแต่ไร เพราะผมไม่ชอบผู้หญิง แต่ไอ้ชินมีเมียเป็นเรื่องเป็นราวละ




ระหว่างที่พี่ปั้นยังนอนโป๊แช่น้ำอุ่นๆ ในอ่างอยู่ คงไม่มีอะไรต้องอาย เพราะผมแทบจะเห็นของแกหมดแล้ว



และแล้วสิ่งที่ผมกลัว หรือรอคอย ก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน พี่ปั้นบอกให้ผมลงไปแช่งน้ำในอ่างด้วยกัน



ผมเห็นซุปตาร์เปลือยเกือบทุกวัน แต่วันนี้เขาจะได้เห็นผมเปลือย ผมรู้สึกเขินจนหน้าแดง

ผมลงไปนั่งกอดเข่าในอ่างเหมือนเด็กไร้เดียงสา ด้วยความอาย พี่ปั้นยืดขาสองข้าง มาโอบตัวผมไว้

แล้วแกก็จับตัวผมหมุนไปรอบๆ แล้วแกก็เริ่มขัดตัวให้ผมยังกับล้างแจกัน

เราไม่พูดอะไรกัน เรายิ้มให้กัน ผมยังงงว่า เค้ารู้ได้ยังไง ว่าผมเอ่อ...เป็นเกย์



แต่ใช่! ผมไม่มีอารมณ์ใดๆ กับผู้หญิง ผมไม่รู้ว่ามันเป็นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ผู้ชายคนแรกที่ผมชอบก็คือชินนั่นเอง

ผมไม่เคยมีแฟน ไม่เคยนอนกับผู้ชาย ผมเคยเล่นพิเรนกับไอ่ชิน แค่แอบจูบมันตอนมันเมา



ตอนนี้เรานั่งชันเข่าเข้าหากัน เมื่อมือพี่เค้ามาสัมผัสถึงส่วนนั้น ที่มันเปล่งรออยู่แล้ว ผมถึงกับตัวอ่อนไปพิงที่ไหล่เค้า

เค้าพยายามจูบที่ใบหูของผม ลูบไล้ตัว ผมอยากจะจูบเค้า ผมแทบไม่ต้องขอ ปากนั้นก็มาประกบอย่างรวดเร็ว

จูบแรกนั้นที่ผมเฝ้าแต่คิดถึงมัน แต่คราวนี้มันดุดัน รุนแรงกว่าครั้งก่อน แถมมือเรายังสะเปะสะปะไปทั่วร่าง

ตอนนี้ผมไม่อายที่จะไปสัมผัสส่วนสำคัญของเขา ถึงน้ำจะอุ่น แต่ผมรู้สึกสัมผัสของเราสองคน น่าจะร้อนกว่า

เมื่อเสร็จกิจ ผมก็มานอนคว่ำหน้าพิงซุปตาร์ไว้ เหมือนคนหมดแรง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2014 10:46:16 โดย boy2gether »

ออฟไลน์ boy2gether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ซุปตาร์ 4

สรุปเสร็จสรรพ เราแช่น้ำไปเกือบสองชั่วโมง ตัวซีดแต่หน้าแดง ผมใส่บ็อกเซอร์นอนกับเสื้อยืดตัวนึง ลากเตียงเสริมมานอน

ส่วนพี่ปั้นก็นอนบนเตียงแสนกว้างกับผ้าห่มแสนอุ่น แกอาจจะอยากชวนผมไปนอน แต่มันคงเขินๆ

แกเลยนั่งทำโน่นทำนี่ ผมก็หลับไปเลย



ตอนกลางดึก ผมรู้สึกหนาวมากๆ แอร์เย็นมาก แต่ผมไม่กล้าปรับอุณหภูมิ เพราะพี่ปั้นแกนอนห่มผ้าอย่างหนา กลัวแกจะร้อน

แต่ผมหนาวมาก กลางดึกเหมือนผมละเมอได้ยินว่าพี่ปั้นเรียกผมให้ไปนอนที่เตียง คือผมคงหนาวสั่นมาก จนแกตื่น

แกจะเอาผ้าห่มมาให้ก็ไม่ได้ เพราะมันติดอยู่ที่เตียง แกเลยแซะให้ผมไปนอนบนเตียง

แล้วแกก็ห่มผ้าให้ ผมก็สลืมสลือ แกก็มากอดให้ผมอุ่น



ตื่นเช้ามา ผมจำอะไรไม่ได้มาก แต่ผมมานอนซุกอยู่ที่อกพี่ปั้นได้ไง คางแกเกยอยู่บนหัวผม กอดผมยังกับหมอนข้าง

ผมตื่นแล้ว และต้องรีบตื่น เพราะต้องรีบเตรียมตัวไปจังหวัดอื่นต่อ แต่ผมอยากนอนอุ่นๆ อีกแป๊บนึง

มือพยายามเอื้อมไปดูนาฬิกา แต่พยายามไม่ขยับตัวให้พี่เค้าตื่น ดูเวลาแล้วผมต้องตื่นแล้ว มีอะไรต้องทำอีกเยอะ

ผมแอบดมคาง ดมอกที่เปิดออกมาจากเสื้อคลุมของพี่ปั้น ผมขยับตัวให้เบาที่สุด

ผมลุกขึ้นนั่ง จังหวะนี้แหละ ที่ผมรู้สึกปวดหัวอย่างแรง ตัวร้อนจี๋ มึนไปหมด ผมเป็นไข้แน่ๆ

ตอนนี้ผมไม่อยากลุกจากเตียงเลย ผมเข้าไปซุกที่อกพี่ปั้นอีกที เหมือนตอนอยู่กับแม่

ตอนที่ผมป่วยไม่อยากลุกไปไหน ผมอยากไปซุกที่อกแม่อย่างเดียวเลย

ตอนผมทำงานผมแมนมากๆ แต่ตอนผมป่วยผมตุ๊ดมากๆ บอกเลย อยากจะอ้อนใครสักคน

ผมซุกพี่ปั้นได้แป๊บนึง พี่ปั้นก็ยังไม่ตื่น ผมก็เลยเพิ่งสำนึกได้ว่า ผมกำลังจะเอาไข้ไปติดพี่ปั้น

ถ้าเป็นไข้ขึ้นมา ตายห่าแน่ ทัวร์ล่มแน่ อีกสามจังหวัด ถ้ายิ่งใครรู้ว่าติดไข้เพราะอะไรนี่

ไม่ต้องเฝ้าไข้เลย เผาเลยดีกว่า

ผมสะดุ้งแรงไปหน่อย พี่ปั้นเลยงัวเงียตื่น แล้วจับผมไปกอดไว้ ผมพยายามจะจับหน้าผากเค้าดูให้แน่ใจ

ชัวร์! พี่ปั้นเป็นไข้ด้วย ผมปลุกพี่ปั้น ถามว่าพี่รู้สึกเป็นไข้ไหม ใช่พี่ปั้นเป็นไข้ด้วยแน่ๆ ซวยละกู



ผมดูพี่ปั้นน่าจะหนักกว่าผม พี่ปั้นตัวร้อนมาก เสียงแทบเปล่งไม่ได้ ผมปิดแอร์และเอาผ้าเช็ดหน้า

ไปชุบประคบคลายความร้อนให้พี่ปั้น นรกจริงๆ ทัวร์อีกสามที่เอง พี่ปั้นนอนต่อ ไม่พูดอะไร

ผมเข้าใจคนป่วยเลย ผมก็ป่วย ขนาดผมไม่ได้เล่นดนตรีเอง ผมยังไม่อยากทำเลย



ผมถามพี่ปั้นเพื่อความมั่นใจอีกที ก่อนที่ผมจะโทรหาพี่เก๋ เพื่อยกเลิกคอนเสิร์ต พี่ปั้นตะโกนแบบไม่มีเสียงบอกว่า

"ยกเลิกไปเลยสามจังหวัด"

เลิกจังหวัดเดียว แล้วไปต่ออีกสองจังหวัดไม่ได้เหรอ แค่นี้ผมก็ไม่รู้ว่าจะโดนพี่เก๋ด่าอะไรบ้าง

พอผมโทรหาพี่เก๋ ไม่ต้องบอกว่าเสียงปลายทางเป็นยังไง

วันนี้ผมกำลังจะจากโคราชไปแสดงที่สระบุรี ซึ่งก็ใกล้กรุงเทพฯ ไปอีกหน่อยแล้ว

พี่เก๋ให้ผมบอกอาการพี่ปั้น ผมบอกไปว่า แกนอนซม ไม่พูดอะไรเลย พี่เก๋ก็ถามว่าไปทำอะไรมา

โฮ! เรื่องมันยาว ถ้าจะให้ผมเล่าเรื่องเมื่อคืนทั้งหมด เอ่อ ผมเลยตอบแค่ว่า

"แอร์มันเย็นจัด"

ผมบอกว่าผมก็ป่วยด้วย พี่เก๋เลยเหมาว่าผมเอาไข้ไปติดพี่ปั้น นั่นไงผมว่าแล้วผมต้องโดน

ผมแช่น้ำน้อยกว่าพี่ปั้นอีก เอ่อ...แต่เรื่องนั้นผมจะไม่บอกหรอกนะ



พี่เก๋จัดแจง เรื่องระงับความเสียหาย ส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว มารับพี่ปั้นไปโรงพยาบาลที่โคราช

พี่ปั้นได้รับบริการอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ พี่เก๋เลยบอกให้หมอฉีดยาขนานเอก

เผื่อแกจะหายทัน ไปทัวร์ที่เหลืออีกสองจังหวัด

ใช้งานยังกับทาส

ส่วนผมมันก็คนป่วยธรรมดาคนหนึ่ง หมอให้ยาใส่ถุงมา

และเพื่อยับยั้งความเสียหายเข้าไปอีก พี่เก๋ก็นำนักข่าว มาทำข่าวพี่ปั้น วง อาฟเตอร์ช็อก

ว่ามาทัวร์คอนเสิร์ตจนป่วยเข้าโรงพยาบาล

พี่เก๋ขายข่าวได้อีก เชื่อแกเลย

ตอนนี้คนดูที่มารอดูคอนเสิร์ตก็ไม่ด่าละ บอกว่าพี่ปั้นแกทำเต็มที่แล้ว แกทำงานหนักนะ เพื่อแฟนๆ ทุกคน

คงไม่รู้หรอกว่า ป่วยเพราะอะไร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2014 10:49:21 โดย boy2gether »

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #5 เมื่อ20-11-2014 05:58:36 »


มารอฟังข่าวซุปตาร์  :katai5:

ออฟไลน์ boy2gether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ฝากวิจารณ์ด้วยนะคะ

ซุปตาร์ # 5

มือถือผมหรือมือถือของกอง ก็ดังไม่ขาดสาย ทั้งที่ผมก็ป่วย พี่เก๋โทรมาสั่งงานตลอดเวลาและเมียพี่ปั้นก็โทรมา

พี่ปั้นกำลังสลืมสลือเหมือนกัน ผมเลยสบโอกาสยื่นมือถือไปให้เค้าคุยถามอาการกันเอง

แล้วผมก็ฟุบลงที่โซฟาสำหรับญาติ พร้อมกับถุงยาในมือ ได้ยินแว่วๆ ว่าพี่เก๋กำลังให้คนขับรถมาให้พี่ปั้นที่โคราช

แล้วผมก็หลับไปเลย



ผมรู้สึกระหว่างที่ผมหลับ ได้ยินเสียงหมอพยาบาลเข้ามาหลายรอบมาก แต่ผมก็ไม่ลุกไปไหน

ผมบอกแล้วไง ว่าพี่ปั้นได้ยาดีกว่าผม พี่ปั้นไข้ลดแล้ว แต่ยังปวดหัวนิดหน่อย ส่วนผม ยังทรงๆ ทั้ง

ปวดหัวทั้งเจ็บคอ ไม่อยากกลืนน้ำลาย ไม่อยากกินอะไร ตอนนี้อยากไปหาแม่มากที่สุด



พี่ปั้นคงเป็นห่วงผมเหมือนกัน เดินมาจับๆ หน้าผากผมเรื่อยๆ ผมลืมตามองดูหน่อยแล้วก็หลับต่อ

ตอนนี้แกคงเริ่มเหงาละ เพราะแกไม่มีไข้แล้ว ไม่มีใครคุยด้วย แกก็พยายามมาปลุกผมจัง

พยายามให้ผมกินโน่นกินนี่ ผมก็ไม่กิน ไม่อยากคุย อยากนอนอย่างเดียว เมียพี่ปั้นโทรมาอีกแล้ว

ผมได้ยินแว่วๆ เค้าคุยกันว่าจะกลับบ้านวันไหน พี่ปั้นบอกว่า อีกสักคืนสองคืน เพราะคอนเสิร์ตยกเลิกหมดแล้ว

พี่ปั้นมองมาที่ผม เหมือนจะถามให้แน่ใจว่ายกเลิกหมดแล้วใช่ไหม ผมพยักหน้าเบาๆ



พี่ปั้นวางมือถือจากเมียแล้ว เอามือถือมาคืนผม แกยังคงนั่งอยู่โซฟาข้างผม

แกคงเหงาจริงๆ ที่คืนนี้ไม่มีอะไรทำ เพราะไม่มีคอนเสิร์ตแสดง

แต่ส่วนนึงแกคงดีใจ ที่ไม่ต้องทำอะไรที่ซ้ำซากเหมือนกันทุกวัน เหมือนหุ่นยนต์ หรือเครื่องจักรในโรงงาน

แกเคยพูดว่าอยากเลิกอาชีพนักร้องแล้ว อยากรีไทร์ตัวเอง เป็นนักแต่งเพลง

นานๆ จะแสดงคอนเสิร์ตสักที แบบอัสนี-วสันต์ แบบนั้น

แต่เพราะแรงยุจากพี่เก๋นั่นแหละ บอกว่าช่วงกอบโกย ก็ให้รีบกอบโกย โอกาสไม่ได้มาง่ายๆ

เมื่ออายุสักสี่สิบ ค่อยทำแบบพี่ป้อมพี่โต๊ะก็ได้ แต่พี่ปั้นแกดูเหนื่อยจริงๆ แถมอัลบั้มใหม่ ก็ยังแต่งเพลงไม่เสร็จอีก



เวลาเกือบสีทุ่มแล้ว แล้วพี่ปั้นก็คิดอะไรแผลงๆ ผมแผลงไม่ไหวแล้วพี่ครับ

พี่ปั้นชวนให้หนีออกจากโรงพยาบาล เพราะรถพี่ปั้นมาจากกรุงเทพฯ แล้ว

ผมไม่ได้ตื่นเต้นเรื่องหนีเพราะว่าเรื่องค่าใช้จ่าย ยังไงเดี๋ยวบริษัทก็มาจ่ายให้

แต่ตอนนี้ผมไม่อยากลุกเลย พี่ปั้นถอดชุดคนไข้ พยายามแซะผมจากโซฟา

ผมเดินตามไปอย่างสะโหลสะเหล แต่สำหรับพี่ปั้นมันเป็นเรื่องตื่นเต้นมาก

การได้หลบพยาบาลเวร จนมาถึงที่รถจนได้ เมื่อออกรถได้ ผมก็หลับตลอดทาง

ผมรับรู้ลางๆ ว่าพี่ปั้นขับรถกลับกรุงเทพฯ ด้วยท่าทางลั่นล้าสุดขีด



ระหว่างนั่งรถไป พี่ปั้นเอามือมาจับหน้าผากผมเป็นระยะ อย่างกับว่ามันจะทำให้หายเร็วขึ้น

ผมมารู้ตัวอีกที ก็มาอยู่หน้าบ้านบ้านนึง คงเป็นบ้านพี่ปั้นนั้นแหละ พี่ปั้นแกกะจะเซอร์ไพรส์เมีย

ด้วยการจอดรถไว้หน้าบ้าน แล้วแกเดินเข้าบ้านไปคนเดียว ทิ้งผมเฝ้ารถไว้ ดีเลยผมจะได้นอนต่อ

แต่พอพี่ปั้นเข้าไปได้แป๊บเดียว เสียงโหวกเหวกโวยวาย ดังมาจากในบ้าน 'เอาละเว้ย ผัวเมียตีกัน'

ถ้าเป็นที่บ้านนอก ผมคงไม่ไปยุ่ง แต่นี้ซุปตาร์ที่ผมดูแล ผมเลยต้องถ่อสังขารป่วยๆ วิ่งไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น



น้ำเน่ายิ่งกว่าอะไร เมียแกมีชู้ว่ะ ไอ้ชู้นั่งอึ้งอยู่ตรงโซฟา เมียก็น้ำตาไหล ส่วนพี่ปั้นกำลังโกรธสุดขีด

อยากจะตะโกนด่า แต่เสียงก็ไม่มี ได้แต่ขว้างข้าวของ เหมือนในมิวสิกวิดิโอเป๊ะ ผมก็เข้าไปห้ามพอเป็นพิธี

เพราะผมก็ไม่มีแรงเหมือนกัน ของของพี่ พี่ก็ขว้างไปเหอะ แต่ความควายยังไม่หาย

พี่แกก็ตรงดิ่งจะเหมือนไปชกชู้ของเมีย ซึ่งก็คือเพื่อนแกนั้นแหละ เมียก็มาห้าม แกก็เหมือนจะตบเมีย

ผมเลยไปห้าม ไม่อยากให้ซุปตาร์ มีข่าวตบเมียอีกข่าว ตอนนี้ข่าวหนีจากโรงพยาบาลยังไม่ได้ตีพิมพ์เลย



สามคนนั่งยืนอยู่คนละมุม เลิกตบตีกันละ ผมจับใจความได้ว่า เพราะพี่ปั้นมัวแต่ทัวร์คอนเสิร์ต

หาเรื่องเล่นแต่ดนตรี ไม่ดูแลเมีย พี่ปั้นก็ด่าๆ เมีย ด่าไอ้เพื่อนที่หวังดีที่จะช่วยดูแลเมีย

เมียแกก็ร้องไห้ ผมนึกในใจ พี่ปั้นแกจะด่าเมียว่านอกใจมีชู้ทำไมวะ ทีแกไปนอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า

ผมได้แต่ปลง ยืนเอาหัวหนักๆ พิงกำแพงไว้ไม่ไห้ล้ม



เมียก็ดันให้เค้ามาจับได้ ก็เมียเค้าคงคิดว่าพี่ปั้นมันต้องนอนโรงพยาบาลอีกคืนไง

ยังไงก็ไม่เจอกันแน่ โทรมาถามย้ำตั้งสองครั้งว่ากลับวันไหน ก็แกดันอยากเซอร์ไพรส์เมีย

เป็นไงล่ะเซอร์ไพรส์พอไหม



เมื่อซุปตาร์แกด่าและปาข้าวของใส่อารมณ์จนพอใจแล้ว พี่ปั้นก็เดินออกจากบ้านมา

ผมหันไปมองเมียแก ทำท่าว่าเดี๋ยวค่อยโทรคุยกัน เพราะเรารู้จักกันทางมือถืออยู่แล้ว

ผมก็วิ่งตามพี่ปั้นไปที่รถ เหอๆ ไม่ทันว่ะ ซุปตาร์กูขับรถออกไปแล้ว กลิ่นท่อไอเสียยังไม่หายเหม็น

กูป่วยดีกว่า ผมนึกในใจ แต่นึกได้ว่ากูป่วยอยู่ งั้นกูตายดีกว่า มือถือกองก็อยู่ในรถ

แล้วตอนนี้อยู่ส่วนไหนของกรุงเทพฯ ก็ไม่รู้ ดีนะยังมีเงินเหลืออยู่ในกระเป๋ากางเกงอีกนิดหน่อย



แต่ทันใดนั้น ซุปตาร์คงเพิ่งนึกออกว่าลืมผมไว้ แกก็วนรถกลับมารับผม ผมถอนหายใจ

ขึ้นไปนั่งบนรถแบบว่าปวดหัวสุดขีด แล้วมือถือกองก็ดังขึ้น พี่เก๋แน่นอน

ตอนนี้ข่าวคงไปถึงแกแล้ว ว่าเราหนีออกจากโรงพยาบาล

ผมรับโทรศัพท์และกำลังพูดประโยคแรก พี่ปั้นก็คว้ามือถือขว้างไปนอกรถ

เชร็ดดดด!! ผมอ้าปากค้าง

ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในมือถือทั้งหมด จบสิ้นกันชีวิตนี้

ถึงตอนนี้ผมก็หัวเราะออกมาได้ หัวเราะให้กับเรื่องวุ่นๆ ตลอดทั้งวันมานี้

จนตอนนี้เกือบตีสามแล้ว ผมขำให้กับความสมบูรณ์แบบของเรื่องบ้าๆ

จบแบบเราไม่ตาย แต่เหมือนตัดขาดจากโลก

พอผมเริ่มหัวเราะ พี่ปั้นก็เริ่มหัวเราะออกมาได้ เปิดหน้าต่างสูบบุหรี่

ผมได้แต่ส่ายหัว ผมตายแน่ ถ้าพี่เก๋เจอตัวผม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2014 10:47:50 โดย boy2gether »

ออฟไลน์ igaga

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #7 เมื่อ20-11-2014 20:53:39 »

เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆ
หุหุหุ

ออฟไลน์ boy2gether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ซุปตาร์ #6

และแล้วผมก็หลับยาวอีกครั้ง จนผมเริ่มไข้ลด ตื่นอีกทีก็เช้า

พี่ปั้นโคตรฟิต ขับรถทั้งคืน ทั้งที่ก็ยังป่วยอยู่

ผมว่าตอนนี้เราน่าจะอยู่ประมาณประจวบคีรีขันธ์ พี่ปั้นยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ ว่าจะไปไหน

ผมรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก ที่ไม่ต้องมีมือถือกองมาคอยตามจิก การไม่มีมือถือมันดีอย่างนี้นี่เอง ผมเริ่มเข้าใจพี่ปั้นละ



พี่ปั้นไปจอดรถที่ห้างซุปเปอร์สโตร์แห่งหนึ่งแถวๆ ประจวบฯ แกบอกว่าจะพาไปเซฟเฮ้าท์ของแก

แต่ต้องซื้อของไปตุน เพราะไม่มีไฟ ไม่มีของกิน นรกละ! ผมนึกในใจ จะกันดานขนาดไหนวะ

พี่ปั้นบอกว่าจะพรางตัวซะหน่อย โดยการใส่แว่นตาดำ ใส่หมวกที่เขียนชื่อวงอาฟเตอร์ช็อก

เอ่อ...แน่ใจนะครับว่าพรางตัว พี่ช่วยดูมนุษย์แถวนี้ มีใครเค้าใส่แว่นดำ เข้าห้างบ้าง

แกก็เลยพูดว่าเออจริง ผมเลยบอกให้แกทำผมยุ่งๆ หน้ามึนๆ ก็ไม่มีใครสังเกตแล้ว

ผมเลยจับแกขยี้หัว ปัดแสกผมใหม่ให้ด้วย กลัวไม่เนียน

แกก็เปลี่ยนจากกางเกงขาเดฟฟิตเปี๊ยะ ไปเป็นกางเกงกีฬาขาสั้น รองเท้าแตะ

แต่ผมรู้สึกได้ทันที ว่าแกมีความสุขมาก ที่ได้ยกเลิกคอนเสิร์ตไป



เดินผ่านตั้งแต่หน้าร้านหนังสือ หนังสือพิมพ์ขึ้นหรา

'ซุปตาร์ขาร็อก โหมแสดงคอนเสิร์ตจนป่วยหนัก'

เป็นภาพพี่ปั้นใส่ชุดคนป่วยสีชมพู ชูสองนิ้ว เหมือนสู้ตาย เฟกโคตร

แล้วอันที่หนีจากโรงพยาบาล นี่คงกรอบบ่ายสินะ ผมนึกแล้วขำ



เข้ามาในซุปเปอร์สโตร์ เราซื้อของกันไม่ยั้ง พี่ปั้นตื่นเต้นไปทุกอย่าง แกไม่เคยเข้าห้างอะไรแบบนี้

ผมซื้อเต็นท์ ผ้าห่ม หมอน น้ำดื่ม แล้วจะกินอะไรกันวะ แล้วจะหุงข้าวยังไง ไม่มีไฟฟ้า แล้วจะทำอะไรกิน

ผมเริ่มนึกถึงการก่อกองไฟ เหมือนที่เรียนลูกเสือ รู้สึกเหมือนได้กลับไปพจญภัยยังไงชอบกล

ผมเลยลองเอ่ยถามว่าเราต้องเตรียมอาหารก่อกองไฟไหม

พี่ปั้นพูดมาคำเดียว ความตื่นเต้นของผมหายไปเลย

"มันมีเตาแก๊ซอยู่นะ" แป่ว!!

พี่ปั้นเดินดูมุมของเล่นนานมาก ดูทุกอย่างแต่ไม่ซื้อ

ส่วนผมเหลือบไปเห็นมุมโทรศัพท์มือถือ มันกำลังเรียกร้องให้ผมไปหา

มันมีมือถือเครื่องละไม่กี่ร้อย แอบซื้อพกไว้ดีไหม เผื่อฉุกเฉิน

แต่การมาผจญภัยกลางป่าของผมคงจะหมดความตื่นเต้นลงทันที ผมเลยเมินมันไปก่อน



ผมเลือกช่องจ่ายเงิน ที่มีพนักงานเก็บเงินเป็นผู้มีอายุหน่อย แกจะได้ไม่สังเกตพี่ปั้น

แต่สุดท้ายแกก็ทักอยู่ดี แกชี้ไปที่พี่ปั้น

"น้องคนนี้เป็นดาราหรือนักร้องหรือเปล่า หน้าเหมือนนะ วงอะไรนะ" ป้าถาม

"บอดี้สแลมครับ พี่ตูนอ่ะครับ" ผมตอบไปทันควัน

"ไม่ใช่นะ" ป้ายังคงสงสัย

"อ๋อ งั้นก็พี่ปั๊บ โปเตโต้ ครับ มีแต่คนชอบทัก เบื่อเหมือนกันเนอะ" ผมหันไปพยักพเยิดกับพี่ปั้น จนป้าถอดใจ

"เออคงไม่ใช่หรอก เพราะเค้าคงไม่โทรมขนาดนี้หรอก"

ผมเกือบขำก๊ากออกมา พี่ปั้นคงกัดฟันกรอดๆ อยู่แน่ๆ ก็คงโทรมจริงๆ นั่นแหละ

เท่าที่ผมจำได้ นี่ก็ยี่สิบสี่ชั่วโมงพอดี ที่เรายังไม่ได้อาบน้ำ พี่ปั้นยังไม่ได้นอนด้วยซ้ำ



และแล้วเราก็มาถึงเซฟเฮ้าท์ของซุปตาร์ มันไกลไปเกือบถึงบางสะพานจะเข้าชุมพรอยู่แล้ว

เป็นที่ดินที่ติดทะเล ที่ปั้นใช้เงินที่ได้จากทำงานมาซื้อไว้ ที่ดินเกือบห้าไร่

แต่แบ่งเป็นสองแปลงมีถนนตัดผ่านกลางที่ดิน ด้านหน้าติดทะเล ด้านหลังติดภูเขาเตี้ยๆ เพอร์เฟก

ราคาก็คงจะแพงมากเหมือนกัน แต่มันไม่ได้กันดานขนาดที่ผมนึกไว้หรอก

เพราะมีชาวบ้านมาเช่าที่ดินทำสวนกันและดูแลที่ดินไปด้วย

แต่เพราะน้ำไฟยังมาไม่ถึง พี่ปั้นเลยยังไม่ได้มาทำอะไรต่อ

แต่บ้านที่เราจะอยู่ ต้องเข้าไปจากถนน วิ่งไปตามสวน เกือบถึงทะเล

เริ่มเห็นหลังคาบ้านเล็กๆ มันเหมือนบ้านตากอากาศ บ้านริมทะเลน่ารักๆ หลังเล็ก

เนื้อที่บ้านประมาณสักหกสิบตารางเมตร ไม่ได้กั้นห้อง ห้องนอน ห้องครัว ห้องรับแขก อยู่รวมๆ กัน

มีของใช้เพียบพร้อม แค่ไม่มีไฟฟ้าเท่านั้นเอง แต่ก็มีเครื่องปั่นไฟด้วย และน้ำจืดก็ต้องใช้น้ำบาดาล

มันไม่ได้อยู่ติดทะเลซะทีเดียว เพราะคงกลัวเรื่องสิ่งปลูกสร้างที่ยื่นไปในทะเล

เป็นเซฟเฮ้าท์ของแกจริงๆ นั่นแหละ ขนาดเมียแกยังไม่รู้



แต่ผมก็สังเกตว่าบ้านนี้ มันเคยมีคนอยู่อีกคน เพราะทุกอย่างคูณสอง และที่สำคัญเป็นของผู้ชาย

เช่นรองเท้าแตะที่วางทิ้งไว้เก่านานนม แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว

แม้แต่เสื้อผ้าชุดลำลอง ที่พับไว้ลวกๆ ก็ไม่ใช่สไตล์ของพี่ปั้นแน่ๆ มันคงเป็นของใครสักคนมาก่อน

ผมไม่ใช่คนแรกที่พี่ปั้นพามา ผมรู้แค่นี้



ส่วนผมไปจัดการ กางเต็นท์ให้ล้ำไปถึงชายหาด มองออกนอกประตูเต็นท์ก็เป็นทะเล

แม้ว่าหาดจะไม่สวยเท่าไหร่ มีก้อนกรวดสีแดงๆ อยู่ไปรอบๆ แต่มันก็ส่วนตัวโคตรๆ

ผมปูเต็นท์บนพื้นทรายนุ่มเหมือนนอนบนที่นอน กว่าจะกางเต็นท์เสร็จ ผมขึ้นไปบนบ้าน

พี่ปั้นก็นอนหลับไปเรียบร้อยแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2014 10:47:30 โดย boy2gether »

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #9 เมื่อ20-11-2014 21:44:39 »


เซอร์ไพรส์จริงๆ ให้ดิ้นตาย  :ling3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
« ตอบ #9 เมื่อ: 20-11-2014 21:44:39 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #10 เมื่อ20-11-2014 21:46:29 »

ชอบมาก ได้อ่านแบบ(ค่อนข้าง)ต่อเนื่อง เรื่องราวก็ดำเนินไปเรื่อยๆสบายๆ
ว่าแต่ใครกันนะที่พี่ซุปตาร์เคยพามา
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ  :L1:

ออฟไลน์ boy2gether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ซุปตาร์ #7

ถึงแม้เราจะมาด้วยกัน แต่ก็เหมือนพักคนละที่ เราใช้ห้องน้ำเดียวกัน กินข้าวด้วยกัน

นอกนั้นก็ต่างคนต่างอยู่ ผมก็นอนเกลือกกลิ้งอยู่ในเต็นท์ คิดถึงแม่ตะหงิดๆ

ตั้งแต่ออกทัวร์ ยังไม่ได้กลับบ้านเลย แถมช่วงนี้ไม่ได้โทรไปหา กลัวแกกังวล

บางทีผมก็ไปเดินชายหาด แบบว่าแทบจะแก้ผ้าได้ เพราะไม่มีใครเลยแถวนั้น

ส่วนพี่ปั้น นั่งเฉยๆ เกากีตาร์ จดโน่นจดนี่ อาจจะแต่งเพลงมั้ง ผมก็ไม่ได้เข้าไปยุ่ง



พอเข้าวันที่ห้า สะเบียงเริ่มหมด ผมเริ่มเบื่อ เริ่มโหยหาข่าวสาร ผมอยากออกไปข้างนอกบ้าง

ตอนเช้าระหว่างกินอาหารเช้ากัน ผมเลยบอกพี่ปั้นว่า ผมอยากไปซื้ออาหารมาเพิ่ม

เอารถไปเติมน้ำมัน ไปซื้อมาใช้กับเครื่องปั่นไฟด้วย

พี่ปั้นพยักหน้า ผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เตรียมขับรถเข้าเมือง



ผมแวะปั๊มน้ำมันใหญ่ มีทุกอย่างอยู่ในปั๊ม ทั้งร้านสะดวกซื้อ ทั้งอาหารต่างๆ และแน่นอนหนังสือพิมพ์

แต่ผมก็หาหนังสือพิมพ์เมื่อสองสามวันก่อนคงไม่ได้

ผมจะดูเรื่องหนีจากโรงพยาบาลก่อน แต่ไม่มีข่าวนั้นแล้ว มีแต่ข่าวเกี่ยวโยงไปมา

สรุปข่าวทั้งหมดของซุปตาร์

'เตียงหักมีมือที่สาม จนต้องนอนล้มป่วย'

'หนีออกจากโรงพยาบาล เพราะกลัวทนสู้หน้าสื่อไม่ได้'

'ตอนนี้ต้นสังกัดยังไม่ทราบว่าไปไหน ก็ได้แต่ปฏิเสธเรื่องเตียงหัก มือที่สามว่าไม่เป็นความจริง'




ข่าวมาแนวนี้หมด ผมกวาดหนังสือทุกฉบับ ทั้งนิตยสารก็อซซิป ทั้งหลาย

แล้วก็ไม่ลืมโทรหาพี่เก๋ จากตู้สาธารณะ ผมยังคงคิดหนัก ว่าผมต้องเคารพพี่เก๋หรือพี่ปั้นก่อนดี

ผมต้องเคารพพี่เก๋ เพราะแกไว้ใจผม เป็นคนจ้างงานผมให้ดูแลพี่ปั้น

แต่ผมก็ต้องเคารพพี่ปั้น เพราะแกไว้ใจผม ให้ผมไปเห็นที่ส่วนตัวของแกสุดๆ

ตอนนี้ผมโคตรลำบากใจ ผมเลยโทรหาพี่เก๋ แล้วรีบๆ พูด ว่าพี่ปั้นสบายดี ถ้าพร้อมเมื่อไร จะกลับไป

พี่เก๋ยังไม่ทันพูดอะไร ผมก็วางหู ผมก็แอบซื้อมือถือเครื่องละไม่กี่ร้อย แอบติดมือไปด้วย



ผมเอาหนังสือพิมพ์ ที่ตีข่าวเรื่องเตียงหักให้พี่ปั้นดู แกอ่านแค่หัวข้อแล้วก็ขว้างทิ้งไปไกลๆ

ผมไม่ได้เอามาตอกย้ำ ผมแค่เอาข่าวมาบอก แล้วผมก็เดินหนีมา อยู่ในเต็นท์ส่วนตัว

ผมก็แอบซ่อนมือถือเอาไว้ ผมกะเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินจริงๆ ดีกว่า

ถึงแม้ผมจะคิดถึงใครๆ แต่ผมก็มีความสุขที่ได้อยู่กับพี่ปั้นสองต่อสอง

ในโลกที่ไม่ต้องมีคำถาม ไม่ต้องมีเงื่อนไข ในโลกที่ผู้ชายก็รักกันได้

ถ้ามีใครถามว่า ถ้าโลกแตกคุณอยากอยู่กับใคร ตอนนี้ผมรู้สึกว่าอยากอยู่กับพี่ปั้น

ผมคงมีความสุขแม้ว่าจะขัดกับความจริง ว่าถ้าโลกระเบิดเราคงวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น



หลังจากอ่านข่าวเตียงหัก พี่ปั้นก็เริ่มอาละวาด ตอนประมาณสามทุ่มผมนอนไปแล้ว

ได้ยินเสียงคนตะโกนที่ชายหาดโหวกเหวกโวยวาย จนผมสะดุ้งตื่น ไม่มีใครอื่นหรอก พี่ปั้นนั่นแหละ

ผมชโงกไปดูที่นอกเต็นท์ ก็เห็นก้นขาวๆ ของพี่ปั้น อาบพระจันทร์เต็มดวง ฮาฮ่า

แกไม่รู้หรือไงว่าพระจันทร์เต็มดวงมันสว่างมากนะพี่ แก้ผ้ามาอาบแสงจันทร์ คิดได้ไง

ผมแอบมองแล้วยิ้ม รูปร่างผู้ชายกับทะเลที่มีเงาสะท้อนแสงจันทร์ ไร้ที่ติ



ผมออกมานั่งหน้าประตูเต็นต์แล้ว พอแกตะโกนด่าห่าเหวได้สักพัก แกก็หันมาเห็นผม

แกเดินมาโทงๆ มาหาผมทันที ไม่มีอะไรต้องอาย

ไม่มีส่วนไหนที่ผมยังไม่เห็นของพี่ปั้น แค่ยังสัมผัสไม่หมดเท่านั้นเอง

พี่ปั้นจะจับผมถอดกางเกง ผมตกใจนึกว่าแกจะแกล้ง ผมเลยไม่ยอมให้ถอด

เราเลยปล้ำกันอยู่พักนึง ในที่สุดผมก็แพ้

แกจูงผมไปลงทะเล คือจริงๆ ผมค่อนข้างกลัวทะเล เพราะผมเป็นเด็กบ้านนอก บ้านไม่มีทะเล

ยิ่งมืดๆ ผมยิ่งไม่กล้าเหยียบทรายไปลึกๆ จนพี่ปั้นต้องดันตัวผมลงไป

ผมก็ต้องลงไป เพราะว่าอยู่เหนือน้ำตื้นๆ นานๆ มันก็โล่งโจ้งไปหน่อยนะ

แกก็ไม่ได้ทำอะไรผมหรอก เราแค่ยืนมองหน้าที่อาบแสงจันทร์ของกันและกันอยู่

ผมก็มองหน้าแกแล้วยิ้มมุมปาก แกมองผมแล้วก็ยิ้ม บางทีการไม่พูดอะไร ก็สร้างความสุขไปอีกอย่างหนึ่ง

แล้วสักพัก เราก็หัวเราะกันอย่างไม่มีเหตุผล ผมกับพี่ปั้นเป็นแบบนี้บ่อยๆ



และแล้วผมก็จูบพี่ปั้น พี่ปั้นตอบรับอย่างรวดเร็ว ไม่มีอะไรต้องปิดบังความต้องการของตัวเอง ไม่มีการต่อต้าน

เราจูบกันเนิ่นนาน แล้วมองหน้ากัน แล้วเริ่มจูบกันอีก โลกเหมือนจะหยุดหมุนไปนานแล้ว

เราเอามือมาสัมผัสหน้ากันและกัน และลูบไล้ไปตามโคนผม ลำคอ หน้าผาก หู จมูก ปาก หนวด คาง

เหมือนอยากจะจดจำใบหน้านี้เอาไว้ เหมือนกับว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว หรือว่าโลกจะแตกจริงๆ

แล้วเราก็จูบกันแล้วจูบกันอีก เนิ่นนานจนเราพอใจ ผมรู้สึกปลดปล่อย สบายใจ ไม่กังวล ว่าสิ่งที่ทำไปมันผิดหรือถูก

ผมรู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่นอกจักรวาล ผมอยากจะรำพันออกมาว่ารักเค้ามากแค่ไหน

แต่ผมก็รู้ว่าเค้ามีเรื่องที่ต้องจัดการเยอะแล้ว อย่าเอาความรู้สึกผมไปทำให้เค้าต้องกังวลอีกเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2014 10:51:12 โดย boy2gether »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #12 เมื่อ20-11-2014 22:10:07 »

อืม เหมือนเห็นแววนะ จะมีมาม่ามั้ยอ่ะ
คนเขียนสู้ๆจ๊ะ

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #13 เมื่อ21-11-2014 06:33:53 »


พี่ปั้นทำประชดหรืออารมณ์พาไป หวังว่าคงไม่สงสารน้อง  :ling3:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #14 เมื่อ21-11-2014 10:40:07 »

 :z10: แค่หวั่นไหว แค่เหงา หรือเปล่าคะพี่ปั้น หลายเรื่องเลยนะทั่นซุปตาร์ของเรา

ว่าแต่อร่อยจริงไหมนะ  :hao6:

ออฟไลน์ boy2gether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เขียนวิจารณ์งานเขียนให้ด้วยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ ใส่ได้เต็มที่
-----------------------------------------------------------------

ซุปตาร์ #8

ผมตื่นขึ้นมาอีกตอนเช้าบนเตียงพี่ปั้นในบ้าน ผมสลืมสลือ ก็เห็นพี่ปั้นตื่นแล้ว นอนตะแคงมองหน้าผมอยู่

พี่ปั้นยิ้มให้ เอามือลูบหัวผมทีหนึ่ง เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่ทัวร์คอนเสิร์ต ที่พี่ปั้นตื่นก่อนผม

แต่ผมไม่ลืมที่จะทำหน้าที่ ถามไปว่าพี่ปั้นหิวหรือยัง เพราะผมต้องทำหน้าที่ทำอาหารเช้าเป็นประจำ

แต่กลิ่นหอมกาแฟโชยมา จากที่โต๊ะกินข้าว พอเดาได้ว่าพี่ปั้นเตรียมอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว

ผมเขินเล็กน้อย ที่ขี้เซาไปหน่อย จนพี่ปั้นต้องมาเตรียมอาหารเอง

ระหว่างกินอาหารเช้ากัน สังเกตหน้าพี่ปั้นเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ขมวดคิ้ว แล้วก็ถอนหายใจหนักๆ

ผมเริ่มกังวล ว่าเป็นเรื่องเมื่อคืนหรือเปล่านะ แต่ก็ไม่กล้าถาม ไม่อยากให้เสียบรรยากาศ

การที่ต้องอยู่กับพี่ปั้นมากๆ ก็ทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเอง ผมต้องหักห้ามใจ ห้ามนิสัยตัวเองหลายเรื่อง

ผมต้องทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ไม่ไปทำตัวน่ารำคาญ หรือปล่อยมุกเวลาที่ไม่ควร



พี่ปั้นทำลายความเงียบ ถามผมว่าหมดงานทัวร์แล้ว ผมจะไปทำอะไรต่อ

ผมก็บอกว่า เงินผมได้มาเยอะเหมือนกันจากทัวร์ คงจะกลับบ้านที่พิษณุโลกไปอยู่กับแม่สักพัก

แล้วรอดูว่ามีใครเรียกไปทำฟรีแลนซ์อีกไหม ถ้าไม่มีก็คงตั้งวงกับเพื่อนเล่นดนตรีกลางคืนกัน

พี่ปั้นพยักหน้า แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ



ผู้ชายที่เพิ่งมีอะไรกับผู้ชายไปเมื่อคืน เค้าจะคิดอะไรกันต่อวะ

เค้าคงไม่ขอแต่งงาน เพื่อรับผิดชอบสิ่งที่ทำไปเมื่อคืน

หรือฟูมฟายต้องรับผิดชอบลูกที่อาจจะเกิดมา อะไรแบบนั้น

ผู้ชายกับผู้ชาย มันเป็นอย่างนี้นี่เอง มันไม่ต้องรู้สึกผิดอะไร

การมีอะไรกัน ก็ไม่ได้ประกาศว่าคุณจะต้องเป็นแฟนกันหรือเป็นคู่ชีวิตไปตลอด

และสำหรับผม ผมรู้สึกว่าเราไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบทางกาย เพราะเราต่างก็มีความสุขด้วยกันทั้งคู่

แต่เรื่องของใจ ความรักที่ผมมีให้ใครไป ผมต้องรับผิดชอบความรู้สึกของตัวเอง

จนกว่าเค้าจะบอกว่าไม่ต้องการความรักจากผมแล้ว รู้สึกเน่านิดหน่อย



ผมกลับมานั่งทอดหุย ที่อยู่เต็นท์เหมือนเดิม คิดถึงเหตุการณ์ต่างๆ เมื่อคืน ก็อดยิ้มไม่ได้

ครั้งแรกของผม แม้มันจะทุลักทุเลไปหน่อย แต่ก็สนุกดี ผมรู้สึกเหมือนเด็กซุกซน ขำไปซะทุกเรื่อง

บางทีก็ขำแก้เก้อเพราะผมเขิน



แล้วพี่ปั้นก็ลงมาจากบ้านเดินมาหาผมที่เต็นท์ เรานั่งกันปากประตูเต็นท์ ไม่ใส่เสื้อทั้งคู่

ผมใส่บอกเซอร์ พี่ปั้นใส่กางเกงเล นั่งชันเข่ามองไปที่ทะเล แสงส่องน้ำระยิบระยับ จนตาหยี

เรานั่งตัวติดกัน แต่ไม่พูดอะไรกัน พี่ปั้นทำเหมือนจะพูดอะไร ผมเลยหันไปมองจ้องหน้าเค้าแล้วยิ้ม ถามเค้าว่ามีเรื่องอะไร

"เรื่องเมื่อคืน..."

เอาแล้วไง เรื่องที่ผมสงสัย ว่าเราจะไปต่อยังไง แต่ตอนนี้เป็นเรื่องที่ผมไม่อยากได้รับคำตอบเลย

เพราะดูจากสีหน้าของพี่ปั้น คำตอบนั้นคงไม่ดีแน่ ผมเลยทำเป็นมองไปที่ทะเลนั่งเขี่ยทรายเล่น เหมือนไม่อยากรับฟัง



พี่ปั้นเอามือมาจับหน้าผม ให้มองหน้าเค้าแล้วตั้งใจฟัง แต่ผมก็พยายามหลบตา

"ต้า ฟังผมนะ ที่เราอยู่ด้วยกันมา สิ่งที่เราทำไปเมื่อคืน มันไม่ได้ไม่มีความหมาย ผมมีความสุขมาก ที่ได้อยู่กับคุณ ..."

คราวนี้ผมจ้องตาพี่ปั้น คำพูดของพี่ปั้น กำลังมีคำว่า 'แต่' ต่อท้าย

" แต่... "
 
นั้นไงล่ะ

"ชีวิตของผมมันยุ่งยาก ชีวิตไม่ปกติเหมือนคนทั่วไป ผมทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้

ผมมีแฟนเพลงที่ยังสนับสนุน มีงานดนตรีที่ต้องทำ และที่สำคัญผมยังมีภรรยาอยู่

ผมไม่อยากให้ชีวิตของคุณยุ่งยากไปด้วย ผมเคยมีคนที่ผมรัก

ผมก็ไม่สามารถรับผิดชอบเค้าได้ จนเค้าต้องจากผมไป "

พี่ปั้นเอาหน้ามาใกล้ผมอีกนิด เหมือนจะเน้นย้ำคำพูดเข้าไปอีก

"ผมต้องหักห้ามใจหลายครั้งเมื่อตอนอยู่ใกล้คุณ แต่เหมือนมันทำไม่สำเร็จ

และแล้วเมื่อคืนผมก็ทำอะไรตามใจตัวเองอีก ทำในสิ่งที่ตัวเองรับผิดชอบไม่ไหว"


ส่วนผมก็อยากจะปล่อยมุก 'ผมก็อยากจะซื้อสินค้าที่ถูกใจเมื่อแรกเห็น แม้รู้ว่ามันไม่มีบริการหลังการขาย'

มุกโง่ๆ ที่ยังอุตสาห์คิดได้ ผมควรจะใช้เวลาไปคิดว่า นี่คือคำบอกเลิกสินะ

ยานแม่กำลังมารับผมกลับไปสู่โลกแห่งความจริง เรายังคงนั่งจ้องหน้ากันอยู่

น้ำตาผมเริ่มมาเอ่อรอ ตาร้อนผ่าว ผมพยายามคิดมุกฮาๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อพยายามไม่ให้น้ำตาไหลออกมา

ผมยิ้มแล้วพยักหน้าให้พี่ปั้นหายห่วง หมายความว่าผมยอมรับคำบอกเลิกที่สวยหรูแต่โดยดี

พี่ปั้นบรรจงจูบแผ่วเบาที่มุมปากของผม แล้วเรื่อยมาที่หูของผม เหมือนอยากจะกระซิบอะไร แต่ก็เปล่า

แล้วโน้มคอผมไปกอดไว้ ผมซบลงที่ไหล่พี่ปั้น และแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาจนได้ มุกไหนก็ช่วยไม่ได้แล้ว



พี่ปั้นผละตัวแยกออกจากผม พยายามไม่มองผม ไม่ปลอบ แกคงอยากตัดให้ขาดเสียตั้งแต่ตอนนี้

ก่อนจะเดินออกจากไป แกก็บอกผมว่า พรุ่งนี้จะกลับกรุงเทพฯ แล้ว

เย็นนั้นจนถึงกลางคืน ผมก็ไม่ได้ออกจากเต็นท์อีกเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2014 10:52:26 โดย boy2gether »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #16 เมื่อ21-11-2014 21:58:58 »

พี่ปั้นทำไมทำอย่างเง้... น่าสงสารต้า
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #17 เมื่อ21-11-2014 22:27:25 »

ถ้ารู้ว่าจะรับผิดชอบไม่ไหวทำไมไม่หักห้าม เลวอ่ะ เมียก็ยังไม่ได้เลิกตัวเองก็มีอะไรกับใครไปทั่วไม่ต่างกัน

ออฟไลน์ boy2gether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ซุปตาร์ #9

ตอนเช้า ผมรีบตื่นมาเก็บเต็นท์แต่เช้า เพราะไม่รู้ว่าพี่ปั้นจะกลับตอนไหน

ผมรีบเก็บของของผมใส่รถเรียบร้อย แล้วนั่งรอจนพี่ปั้นตื่นอาบน้ำ

ผมก็ไปเก็บที่นอน เก็บเสื้อผ้า ทำความสะอาดบ้าน อาหารเช้ารออยู่บนโต๊ะ

ผมรอแค่เก็บล้าง เป็นอย่างสุดท้าย ก่อนจะปิดบ้าน

ผมทำทุกอย่างตามหน้าที่ ของผู้ดูแลศิลปิน ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง

พี่ปั้นคงแปลกใจนิดหน่อยที่ผมทำท่าทีห่างเหิน เหมือนเค้าเป็นซุปตาร์ แล้วผมเป็นคนรับใช้

เหมือนสถานะที่เราเคยเป็นมา



ผมอาสาขับรถเอง เราออกมาจากบ้านก็เกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว พี่ปั้นบอกให้ผมแวะบ้านชาวสวนหลังหนึ่ง

แกทักทายลุงคนที่เช่าที่แกอยู่ ลุงเดินมาหาที่รถ พี่ปั้นบอกว่าจะกลับแล้ว และบอกฝากฝังบ้าน

ลุงบอกว่า แถวนี้ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครเข้ามาหรอก

แล้วแกก็เหมือนนึกอะไรได้ แกเล่าว่าเมื่อวานเหมือนมีรถทะเบียนกรุงเทพฯ หลงมา

แต่พอเย็นๆ ก็กลับออกไปละ ลุงแกช่างสังเกต

จนผมสงสัยว่า แกสังเกตเราสองคนไหม ว่าทำอะไรท้าทายทะเลกับพระจันทร์ไปบ้าง



ผมขับรถค่อนข้างเร็ว จนพี่ปั้นต้องหันมามองหลายครั้ง น่าจะรู้ว่าผมโกรธ

ผมอยากถึงกรุงเทพเร็วๆ และอยากจากพี่เค้าไปเร็วๆ เราไม่พูดอะไรกันเลย จนต้องแวะเติมน้ำมัน

พี่ปั้นเดินไปเข้าห้องน้ำ และเข้าไปร้านสะดวกซื้อในปั๊ม ผมนั่งรออยู่ที่รถ สักพักผมเห็นแกออกมาจากร้าน

หอบหนังสือพิมพ์กองใหญ่ ใบหน้าบึ้งตึง เปิดประตูรถอย่างทุลักทุเล แล้วโยนทั้งหมดไปที่หลังรถ

แล้วชูหน้าหนึ่งให้ผมดูหนึ่งฉบับ



กลางหราหน้าหนึ่ง เป็นภาพของชายหนุ่มสองคน ที่ไม่ใส่เสื้อทำท่าเหมือนจูบกัน อยู่ปากประตูเต็นท์

พร้อมพาดหัวข่าว

'หนุ่มหน้าเหมือนนักร้องขาร๊อกกำลังจูบผู้ชาย'

 'เผยแล้วสาเหตุเตียงหัก นักร้องวงร๊อกชื่อดังเป็นเกย์'




เมื่อพี่ปั้นรู้ว่าผมเข้าใจแล้ว ก็โยนหนังสือพิมพ์ไปกองรวมกับอันอื่นที่เหมาซื้อมาจากร้าน

แล้วบอกให้ผมโทรหาพี่เก๋ รู้ได้ยังไงว่าผมมีมือถือซ่อนอยู่

เมื่อพี่เก๋ได้ยินเสียงผมเท่านั้น แกปรี๊ดแตกใส่มือถือ จนผมต้องเอาออกห่างจากหู

ก่อนที่แกจะด่าอะไร ผมก็บอกว่าพี่ปั้นอยากคุยด้วย



พี่เก๋คงถามให้แน่ใจว่ารูปนั้นใช่พี่ปั้นหรือเปล่า พี่ปั้นก็ได้แค่ตอบว่าอืมๆๆๆ

พี่เก๋ก็คงบ่นใส่พี่ปั้นว่าทำอะไรไม่ระวัง พี่ปั้นเลยตะวาดใส่พี่เก๋ กลับไป

“ก็ใครล่ะ ที่จ้างเด็กมาดูแลพี่ มันแอบเข้าเมืองเมื่อสองวันก่อน โดนใครตามมาบ้างก็คงไม่รู้

แถมซื้อมือถือไปแอบใช้อีก โทรหาใครมั่งแล้วก็ไม่รู้ คงไม่ระวังตามเคย ”

เอาแล้วไง ผมโดนก่อน

“ใช่สิ ชีวิตผมสิที่ต้องตกนรกคนเดียว มันก็เป็นแค่คนธรรมดา ไม่ต้องมาเจอเรื่องข่าวอะไรหรอก

ใครเค้าจะไปจำหน้าผู้ชายอีกคนวะ มีแต่หน้าพี่นี้แหละหรา ต้องมานั่งแก้ข่าว แม่งโคตรเบื่อ”

พี่ปั้นยังคงด่ากระทบผมต่อไป เหมือนผมไม่ได้นั่งอยู่ตรงนั้น ผมโดนอีกละ

มือถือผมก็ไม่ได้โทรสักหน่อย ถามกันหรือยัง

ผมยอมรับ ผมไม่ระวังเรื่องเดียว ที่ผมโทรหาพี่เก๋ด้วยตู้สาธารณะ ทำให้คนรับสายคงพอเดาได้ว่าผมโทรจากพื้นที่ไหน



พี่เก๋บอกว่ารูปนั้นเราจะไม่ยอมรับก็ได้เพราะไม่มีหลักฐานชัดเจน ปล่อยให้คลุมเครือไป

เพราะมันถ่ายจากมือถือ มันไม่ได้ชัดมากมาย แล้วให้เราแยกทางกันโดยด่วน เพื่อไม่ให้คนผิดสังเกต

พี่เก๋เลยบอกว่าเมื่อถึงกรุงเทพฯ แล้ว ให้พี่ปั้นไปอยู่ที่คอนโดส่วนตัว แล้วปล่อยผมลงนั่งแท็กซี่ไปที่บริษัทคนเดียว

แล้วพี่ปั้นก็เปลี่ยนมาขับรถเองไปจนถึงกรุงเทพฯ เราไม่พูดอะไรกันตลอดทาง



เมื่อถึงประมาณธนบุรีปากท่อ ก็เริ่มค่ำแก่ๆ ริมถนนที่คนไม่พลุกพล่าน

แกก็จอดรถให้ผมลงเพื่อต่อแท็กซี่ไปที่บริษัท ผมเอื้อมหยิบเป้ แล้วยกมือไหว้พี่ปั้น

พี่ปั้นมองมาทางผมเหมือนจะพูดอะไร แต่ผมอยากรีบออกจากรถไปให้เร็วที่สุด

พี่ปั้นจับต้นแขนผมไว้ เหมือนบอกให้ผมมองหน้าแกหน่อย ผมก็ไม่มอง มองไปนอกหน้าต่างรถ

"ผมขอโทษ ที่ตะกี้พูดแรงไปหน่อย ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น

แต่เก๋มันซักๆ ผมก็เลยโมโห พูดไปไม่ได้คิด ผมกังวลมาตลอดทาง

ไม่ใช่เรื่องข่าว แต่เป็นเรื่องนี้ เรื่องของเรามากกว่า"



พี่ปั้นยิ่งพูด ผมยิ่งรู้สึกแย่ ผมเลยพยักหน้าหงึกๆ เหมือนเข้าใจ แล้วจะลงจากรถ

พี่ปั้นรู้ว่าผมยังไม่หายโกรธ ก็ยังรั้งแขนผมไว้ แต่คราวนี้เปลี่ยนเป็นกระชากแทน

แล้วพยายามจะรั้งคอผมไปกอด แต่ผมก็ยั้งตัวออกมา พยายามออกจากรถให้ได้

ถ้ามีใครมาเห็น คงคิดว่าพี่ปั้นกำลังปล้นอะไรผมสักอย่าง

ดีที่แถวนั้นไม่มีใครและรถก็วิ่งไปมาอย่างเร็วจนไม่มีใครสังเกต

เรายื้อยุดฉุดกระชากกันสักพัก ความเศร้ากับความโกรธก็ทำให้ผมต้องปล่อยโฮ

พี่ปั้นเลยดึงผมไปกอดได้สำเร็จ คราวนี้เค้าปลอบผมและบอกผมว่าอย่าร้องไห้

และพูดคำว่าขอโทษซ้ำๆ หลายครั้ง แล้วแกก็พูดว่า ขอให้เรื่องต่างๆ จบไปก่อน

"แล้วผมจะ..." แล้วแกก็เงียบไป

"ผมจะไม่ให้คำมั่นสัญญากับใคร ถ้าผมไม่มั่นใจว่าจะทำได้ ผมไม่แน่ใจว่าอนาคตจะเป็นยังไง ต่อจากนี้

แต่ผมอยากจะบอกว่า ผม ระ... "

เหมือนเสียงมันถูกกลืนหายไปทางลำคอ

"จริงๆ ผมอยากอยู่ใกล้คุณตลอดเวลา คุณทำให้ผมสบายใจ ทำให้ผมเป็นตัวของตัวเอง"

ผมยังซบที่อกพี่ปั้น แล้วพี่ปั้นจับตัวผมยกขึ้น ปาดน้ำตาผม ลูบหน้าผาก 

"เราไม่ได้จะจากกัน อย่าร้องไห้ เรายังติดต่อกันนะ ผ่านเก๋มา ผมขอกลับไปคุยกับเก๋ที่คอนโดก่อน แล้วเดี๋ยวให้เก๋ติดต่อไป "

ผมรู้สึกว่า มันเหมือนคำพูดหลอกเด็ก ให้เลิกร้องไห้มากกว่า ซื้อไอติมให้ผมซะดีกว่า 



พี่ปั้นพยักหน้าเบาๆ เพื่อเป็นสัญญาณว่า ผมควรไปได้แล้ว ผมยกมือไหว้อีกที

พี่ปั้นพยายามไม่มองหน้าผม รถพี่ปั้นเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ

พี่ปั้นยังคงมองกระจกหลังมาที่ผม ผมก็มองเค้า ผมใจหวิวอย่างบอกไม่ถูก

เหมือนรู้ว่าจากนี้เราคงไม่ได้พบกันอีก... ตลอดไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2014 10:54:08 โดย boy2gether »

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #19 เมื่อ21-11-2014 23:01:00 »

การบรรยายแปลกดีครับ ใช้คำพูดตรงๆ ง่ายๆ เล่าเรื่อง ไม่แสดงอารมณ์
ก็ดูจริงใจไปอีกแบบครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
« ตอบ #19 เมื่อ: 21-11-2014 23:01:00 »





ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #20 เมื่อ21-11-2014 23:06:39 »

แอบเห็นใจต้าเบาๆ เข้าใจอารมณ์ตอนอยู่ในรถที่พี่เป้คุยโทรศัพท์เลยอ่ะ
ไม่ต้องไปชอบหรอกพี่เป้อ่ะ ลืมๆไปเหอะชีวิตจะได้ดีขึ้น
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #21 เมื่อ21-11-2014 23:35:35 »

สนุกดีค่ะ
การเล่าเรื่องแนวนี้   คือมีแต่ตัวเอกที่บอกทุกอย่าง ไม่พูดความรู้สึกมาก แต่ให้เหตุการณ์มันพาไป  มันเข้ากับโทนของเรื่องดีค่ะ ที่มึนๆหน่วงๆ
แต่นึกว่าพี่ปั้นจะไม่มีบทพูดซะแล้ว555
พูดเพราะซะด้วย
เลยเงิบนิดนึง ขัดกับลุคพี่แกมาก ที่เลวทุกสถานการณ์555
ไม่มีอะไรต้องแก้เลยสำหรับเรา มันกำลังพอดีกับโทนเรื่อง
แต่คนอ่านจะไม่รู้ว่าตัวเอกรู้สึกไปทางไหน  ความรู้สึกของตัวเอกที่เรารับรู้มันจะไม่สุด   ไม่รู้ว่าตั้งใจให้เป็นแบบนี้หรือเปล่า เพราะก็มีบทที่กั๊กอยู่ที่ตัวเอกพูดเอง(และไม่พูด แต่บอกสถานการณืแทน)
สำหรับเรา มันดันกำลังพอดี

ออฟไลน์ boy2gether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
มีการเปลี่ยนบทกลางอากาศนิดหน่อย อาจจะช้าหน่อยนะคะ

------------------------------------------------

ซุปตาร์ #10

ผมมาถึงบริษัทเพลงเพื่อรอเคลียร์กับพี่เก๋ ผมเข้าไปรอในห้องแก เพราะลูกน้องบอกว่าแกสั่งไว้

ผมเลยขอใช้อินเตอร์เนตเสียหน่อย เปิดไปก็เจอแต่ข่าวหน้าหนึ่ง เรื่องที่พี่ปั้นเปิดตัวเป็นเกย์

และคอมเม้นท์กันอย่างสนุกปาก

'โบรกแบ็คว่ะ'
'หน้าเต็นท์ด้วย มันใช่เลย'
'ได้หลังลืมหน้าโว้ย'
'เตียงหักเพราะจู๋'
'ขุดทองกันเพลินเลยนะมรึง'
'กรูไม่น่าหลงไปฟังเพลงแมร่งเลย'
'โธ่ไอดอลของกรูตุ๊ดแตกซะละ'

 

ผมอ่านไปเรื่อยๆ คนที่ไม่รู้จักเค้าดี มาเขียนต่อว่าเค้ามากมาย

เค้าตัดสินเรื่องเพศ ว่าที่ไม่ใช่แบบหญิงกับชายคือผิด ผิดไปหมด

ตอนนี้ผมเริ่มสงสารพี่ปั้นจับใจ พลางคิดว่า เมื่อกี้ผมไม่น่าไปเหวี่ยงแกเลย

ผมเห็นแก่ตัวเกินไป อยากให้เค้ารักใส่ใจ โดยไม่ได้นึกถึงตัวเค้าว่าเค้าต้องเจออะไรบ้าง

ผมอ่านเนื้อข่าวมีแต่คนมาคอมเม้นท์ด่าพี่ปั้น ไม่มีใครพูดถึงผู้ชายอีกคน ที่อยู่ในภาพนั้น

ผมเลยได้เข้าใจคำว่า คนไม่มีตัวตนหรือโนบอดี้ ได้ก็ตอนนี้

ผมรู้สึกผิดมากมาย แทนที่จะให้กำลังใจคนที่เรารัก ดันไปทำตัวงี่เง่า ในวันที่ไม่มีโอกาสแก้ตัว



และแล้วเสียงดังมาจากประตูออฟฟิศ พี่เก๋กลับมาแล้ว แกเดินเข้ามา ทำหน้าขมึงเกลียวใส่ผม

ถ้าตีผมได้ แกคงถือไม้เรียวมาตีแล้ว

"นี่ไอ้ต้า ฉันจ้างแกมาให้ดูแลพี่ปั้น ให้รักษาชื่อเสียง ไม่ใช่ให้ชื่อเสีย แล้วดูสิ แก... แกมาทำสะเอง

ทำไมวะ พี่บอกแล้วใช่ไหมให้ระวัง"

"ผมขอโทษครับ" ผมก้มหน้าตอบ

ตอนนี้ผมคงตอบได้เท่านี้ ผมจะไม่เถียงอะไร พี่เก๋ก็ร่ายยาวเทศน์สั่งสอน

ตอนพี่เก๋จ้างผมทำหน้าที่ดูแลศิลปิน ตอนเซ็นสัญญาจ้างงาน

เรามีการเซ็นสัญญาเรื่องจะไม่เผยแพร่ความลับใดๆ ของศิลปิน

จุดนี้พี่เก๋ ไม่ต้องกังวล ว่าผมจะเอาไปแบล์คเมล์



"แกทำอะไรไป ให้มันรอบคอบหน่อย พี่บอกเสมอไม่ใช่เหรอ ว่าพี่ปั้นเค้าเป็นเซเล็บ เค้าเป็นคนมีชื่อเสียง

ไม่ใช่อย่างเรา แกจะไปทำอะไร มีใครสนใจที่ไหน แต่พี่ปั้นเค้าทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้

แกก็รู้สังคมไทยเค้ารับไม่ได้ ไหนจะแฟนเพลง ไหนจะนักข่าว โซเชี่ยลเน็ต บอกตามตรงนะ ตอนนี้พี่เอาไม่อยู่"



พี่เก๋ถอนหายใจ แกบอกว่า จะใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว

คือให้ข่าวเงียบไปเอง ไม่มีการแก้ข่าว พี่ปั้นจะไม่เลิกกับเมีย(ทวนสิ) ไม่เลิกกับเมีย

ไม่เล่นคอนเสิร์ต ไม่โชว์ตัว ไม่ให้ข่าวเดี๋ยวเรื่องก็เงียบเอง คนไทยลืมง่าย

ส่วนตัวผมพี่เก๋ก็บอกให้ผมหายตัวไปด้วย พี่ปั้นไม่อยากเจอผมอีกแล้ว

พี่ปั้นไม่อยากเจอผมอีกแล้ว ทวนอีกทีสิ



ผมรู้สึกเศร้าและใจหาย เพราะว่าผมคงไม่ได้มีโอกาสมาย่างกายเฉียดพี่ปั้นได้อีกแล้ว

ผมทำหน้าเศร้ากำลังเดินออกไป พี่เก๋จากที่อารมณ์ด่าๆ ก็เลยเดินมาหาผมเหมือนจะมาปลอบใจ

แกลูบหัวผม แล้วบอกผมว่า

"พี่อยากให้แกทำเพื่อพี่ปั้นนะ แกอย่าไปเที่ยวบอกใครเรื่องนี้ แกต้องเข้าใจเค้าหน่อยนะ

เค้าทำอะไรไปคงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ อาจจะประชดเรื่องเมีย

พี่ว่าเค้าไม่น่า... เอ่อ... คือแบบ มีอะไรกับผู้ชายอะไรแบบนั้น บรรยากาศอาจจะพาไป เหงาๆ ไรแบบนั้น

คือพี่ไม่กังวลเรื่องข่าวพี่ปั้นเป็นเกย์เลยนะ เพราะพี่รู้ว่าเค้าไม่ใช่ ยังไงก็ไม่ใช่ พี่ว่าเดี๋ยวสักพักข่าวก็เงียบ

พี่ปั้นก็เป็นพี่ปั้นคนเดิม ร๊อกเกอร์หน้าโฉดเหมือนเดิม ต้าไม่ต้องเป็นห่วง ต้าไม่ต้องติดต่อมาแล้วล่ะ

ตะกี้พี่คุยกับพี่ปั้น พี่ปั้นเค้าโอเค อยู่ห่างๆ กันไว้ ก็โอเค เรื่องคงจบ" พี่เก๋ตบไหล่ผมเบาๆ



ผมหายใจ พ่นจมูก ฮึๆ ในลำคอ เหมือนเป็นการเย้ยหยันตัวเอง ที่มาบ้าบอ มโนไปเอง

ว่าเค้าอาจจะชอบ เค้าอาจจะรัก เค้ายังอยากคบเราอยู่ มันก็แค่ขนมหลอกเด็กจริงๆ ด้วยว่ะ

ผมน่าจะรู้คำตอบนั้นดีอยู่แล้ว ตอนนี้ผมรู้สึกเศร้ามากๆ

ผมแค่อยากกลับบ้าน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2014 10:55:04 โดย boy2gether »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #23 เมื่อ22-11-2014 00:20:04 »

ลาจากตลอดกาล

ออฟไลน์ hembetaro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #24 เมื่อ22-11-2014 06:16:10 »


สงสารต้า  :ling2:

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #25 เมื่อ22-11-2014 07:17:21 »

สงสารต้าอ่ะ ฮืออออ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #26 เมื่อ22-11-2014 07:46:59 »

แล้วจะได้เจอกันไหม

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #27 เมื่อ22-11-2014 08:11:31 »

 :ling2:   สุดแล้วแต่พี่ปั้น
เข้าใจแต่เจ็บปวด เห้อ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #28 เมื่อ22-11-2014 09:22:47 »

จะร้องงงงง

ซุปตาร์ไม่อร่อยเลย

กินแล้วขมใจขมปาก :mew4:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: [เรื่องสั้น] ซุปตาร์ อร่อย
«ตอบ #29 เมื่อ22-11-2014 11:50:25 »

อารมณ์เหมือนฟันแล้วทิ้งเลยนะ

คนเขียนเปลี่ยนหัวกระทู้ด้วยฟด้มั้ยคะ พออัพเดทแล้วใส่วันที่ที่อัพจะได้รู้จะได้เข้ามาอ่าน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด