กาลครั้งหนึ่ง เมื่อผมมีมังกรเป็นผู้พิทักษ์(หัวใจ) ตอน พิเศษ page 7 END!!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: กาลครั้งหนึ่ง เมื่อผมมีมังกรเป็นผู้พิทักษ์(หัวใจ) ตอน พิเศษ page 7 END!!!  (อ่าน 46024 ครั้ง)

ออฟไลน์ xlomx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
5

   
ผิวกายร้อนระอุเหงื่อกาฬแตกซิกอุณหภูมิในร่างกายร้อนจนแทบเดือด เสียงครางผะแผ่วของยูดังขึ้นภายใต้ร่างแกร่งของริวเตียง
ที่น่าสงสารดังลั่นเอี๊ยดอ๊าดเมื่อต้องรับน้ำหนักอันเกินควรของผู้ชายสองคน

   ริมฝีปากแดงของริวประกบจูบกับคนใต้ร่างอย่างดื่มด่ำไปกับรสหวานที่ปลายลิ้น ดวงตาฉ่ำน้ำริมฝีปากเจ่อบวมที่เผยอออกเล็กๆ
ทำให้เขาอดใจไม่ไหว จูบครั้งแล้วครั้งเล่าจนอีกฝ่ายอ่อนระทวยไปในอ้อมแขนไม่สามารถตอบโต้หรือขัดขืนเขาได้อีก

   ฝ่ามือใหญ่ลูบวนเบาๆตรงต้นขาอ่อนของยู มันเป็นที่ๆเขาลงอาคมผนึกพลังของอีกฝ่ายเอาไว้เมื่อครั้งยังเด็ก ครั้งแรกที่เขาลง
อาคมผนึกยูเอาไว้อีกฝ่ายพึ่งจะเพียงสิบขวบเองเท่านั้น ยังเด็กแต่กลับทั้งฉลาด ยั่วยวนและมีเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ

   ริวแทรกนิ้วไปตามบั้นทายเนียนอย่างชำนาญ ช่องทางสีกุหลลาบหวานเหมือนจะยังไม่พร้อมสักเท่าไหร่ จึงได้แต่นวดคลึงเบาๆ

ตรงช่องทางสีกุหลาบนั้น

   “อือ เจ็บ”

   ยูครางฮือเมื่อรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมที่รุกรานเข้ามาภายในตัวของเขา ริมฝีปากแดงของริวเฟ้นจูบตรงขมับอย่างอ่อนโยนก่อนจะ
ไล่ลงมาขบเม้มบริเวณคอตามด้วยหน้าอกจนเกิดเป็นรอยแดงจางๆ ยอดอกสีชมพูชูชั้นสั่นระริกเหมือนกำลังรอคอยให้ร่างสูงกลืน
กิน ร่างสูงครอบริมฝีปากลงบนจุดเล็กๆสีชมพูนั้นโดยที่มือทั้งสองข้างไม่หยุดเล้าโลมจูดอ่อนไหวกึงกลางกายของยูอย่างช้าๆ

   ร่างเล็กไม่อาจทนต่อบทรักที่น่าอายนี้ได้ ได้แต่ส่งเสียงครวญครางหวานหูแอ่นตัวเข้ารับการสัมผัสอย่างลืมอาย ถูกฝ่ามืออุ่น
ลูบไล้จนไม่อาจสะกดกลั้นบางอย่างที่ใกล้จะปะทุได้อีกต่อไป

   “ระ… เร็วอีก”

   การ์ดแน่นหน้าที่ยูสร้างขึ้นมาค่อยๆผ่อนคลายและอ้ากว้างอย่างไม่รู้ตัว ริวไม่ปล่อยให้ยูเป็นฝ่ายไปก่อนชิงโอกาสนี้เข้าแทรก
กลางหว่างขาที่สั่นระริกของยู ร่างบางนอนหมดแรกอยู่ได้ไม่นานก็สะดุ้งเฮือกกับสิ่งแปลกปลอมที่พยายามดันแทรกเข้ามา

   ริวกัดฟันกรอดอย่างอดทนเมื่อแรงบีบรัดของอีกฝ่ายบังคับให้เขาต้องขยับตัวเข้าออกเบาๆ ยูผวาเฮือกกอดริวอย่างเจ็บปวด

   เจ็บ จนเหมือนจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ



   “เพราะไม่ได้ทำนานร่างกายเลยฝืดๆสินะ”ริวพรมจูบปลอบโยนยูที่เจ็บจนแทบจะหมดสติอยู่รอมร่อ

   “คะ…ใครใช้ให้นายอยู่ๆก็เข้ามาแบบนี้ละ”

   ริวขยับยิ้มก่อนจะกระแทกตัวแทรกแกนกายเข้าไปในตัวของยูจนสุด เสียงร้องครางเหมือนลูกแมวตัวน้อยของยูทำให้ความอดทน
ของริวหมดไป เสียงเนื้อกระแทกกระทั้นปนกับเสียงครวญครางและเสียงหอบถูกกำหนดโดยจังหวะที่กระแทกเข้าออกและถูกเร่ง
ขึ้นตามสภาวะอารมณ์ที่พุ่งสูงอย่างห้ามไม่อยู่

   “ชะ..ช้า ช้าหน่อย”

   ยูเอ่ยห้ามด้วยเสียงกระท่อนกระแท่นแทบไม่เป็นคำ ริวจึงฉวยโอกาสนี้จูบปิดปากอีกฝ่ายเสียพร้อมๆกับพลังงานบางส่วนที่ไหล
ออกมาจากร่างกายของยูเข้าปากริวไป ร่างเล็กรู้สึกเหมือนกำลังโดนอีกฝ่ายกลืนกินจึงขัดขืนตามสัญชาติญาณ แต่ยิงขัดขืนมาก
เท่าไหร่ส่วนที่เชื่อมทั้งสองไว้มันยิ่งเข้าไปได้ลึกยิ่งขึ้นจนได้แต่เปล่งเสียงร้องอย่างทรมานบนความเสี่ยวซ่าน

   “อืออ ฮึก”

   ยูรู้สึกได้ถึงพลังที่เริ่มหดหายไปพร้อมกับพลังอาคมที่ต้นขากำลังแข็งแกร่งขึ้นจนแทบจะสะกดเขาให้กลับกลายไปเป็นคน
ธรรมดาอีกครั้ง ขาทั้งสองไร้เรี่ยวแรงของยูตกลงที่ข้างตัวของริวไม่ใช่แค่เพราะพลังที่หายไปทำให้เขาไร้เรี่ยวแรง แต่ความรู้สึกดี
อย่างห้ามไม่อยู่ก็แทบจะพรากสติของเขาไปด้วยเช่นกัน

   ริวจับขาข้างหนึ่งของยูขึ้นมาพาดบ่าก่อนจะขยับอย่างที่ใจนึก ขย่มร่างเล็กภายใต้การควบคุมของเขาให้สั่นคลอนไปทั้งตัว

   “พะ…พอแล้ว ยะ..อย่า”

   มือเล็กขยำผู้ปูแน่นเพื่อระบายความเสี่ยวซ่าน น้ำจากส่วนปลายที่ปริ่มออกมาทำให้เขาอึดอัดแทบขาดใจครั้นจะเอื้อมมือไปแตะก็
โดนริวจับตรึงไว้จนไม่สามารถปลดปล่อยได้อย่างใจ จึงส่งสายตากึ่งบังคับแกมอ้อนวอนให้ริวปล่อย

   ริวทำเป็นมองไม่ห็นก้มตัวลงซุกไซร้งับเบาๆเข้าที่ไหลาคอเลื่อนลงมาที่บริเวณหน้าอก ขยับฟันกัดงับยอดอกชูชั้นนั้นอย่างหยอก
ล้อ

   “เจ็บนะ อ๊า !”

   ยูแอ่นตัวสะท้านเฮือกเมื่อริวดันแกนกายเข้ามาจนมิดก่อนจะกดย้ำตรงส่วนที่เป็นจุกกระสันของยูหนักๆจนอีกฝ่ายส่งเสียงครวญ
ครางไม่เป็นภาษา

   การขยับเข้าออกแต่ละครั้งริวได้แทรกพลังเพิ่มเข้าไปในส่วนที่เป็นตราผนึกลงอาคม ถามว่าทำไมต้องเอาตราผนึกมาซ่อนไว้ในที่
ลับอย่างนี้ด้วย คงเป็นเพราะความฉลาดแกมโกงของเขาที่ต้องการยูมาไว้ในครอบครองทั้งกายใจโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ ขยับเข้าออก
ได้สักพักยูก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป น้ำสีขาวขุ่นถูกพ่นออกมาเปรอะเต็มหน้าท้อง ไม่นานนักริวก็ปลดปล่อยออกมาบ้างจนยูรู้สึกได้ถึง
ความอุ่นวาบจากช่องทางด้านหลัง

   ริวถอนตัวออกมานอนกอดยูที่หายใจหอบไว้แนบอกจูบซับแก้มสีชมพูระเรืองขงอร่างในอ้อมแขนอย่างรักใคร่สองมือก็นวดคลึง
แผ่นหลังบางให้อย่างเอาใจ ไม่รู้ทำไมหัวใจของยูเขาถึงยังเอาชนะไม่ได้เสียที ยูรักหญิงสาวชาวมนุษย์ที่ชื่อยูริ รักมาทั้งสี่ปีแต่
โชคร้ายที่เธอไม่เคยชายตาแล พูดถึงเธอคนนั้นแล้วริวก็แผ่รังสีดำทะมึนออกมาชวนให้ยูใจหายเล่น

   “เป็นอะไร”ยูมองหน้าริวอย่างรู้สึกได้

   “เปล่า”ริวเปลี่ยนอารมณ์กอดยุไว้อย่างแนบแน่นแทน

   “ริวฉันจะอาบน้ำ”

   “อือ”ริวคลายอ้อมกอดออก

แต่จนแล้วจนเล่ายูก็ไม่ยอมลุกไปเสียทีสุดท้ายยูจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นเองในที่สุด “ลุก…ไม่ไหว ช่วยหน่อย”

ไม่ต้องบอกก็รู้ได้เลยว่าตอนนี้ใบหน้าของยูแดงมากแค่ไหน ริวคิดในใจลึกๆว่าแก้มแดงๆนั่งเขากลัวว่ามันจะแตกออกสักวันแน่ๆ

ร่างสูงช้อนร่างเล็กเดินเข้าห้องน้ำไปวางลงบนอ่านให้ยูจัดการตัวเอง ขืนให้เขาอาบน้ำให้อีกมีหวังตะบะแตกอีกเป็นแน่

ยูมองตามร่างสูงที่เดินออกจากห้องน้ำไปด้วยความรู้สึกหนักหน่วงในใจ เขามีอะไรกับคนที่ยูริรัก แล้วเขาละรู้สึกยังไงกับริวกันแน่

นะ ถึงจะไม่ได้รังเกียจแต่เขาก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกในอกที่มันล้นปรี่จนแทบจะทะลักนี้คืออะไร ไม่ว่าเขาจะถามตัวเองกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็
ไม่สามารถหาคือตอบได้เลย

ยูลูบที่ต้นขาของตัวเองเบาๆที่ที่ริวด้ลงอาคมกักพลังในตัวของเขาเอาไว้ก่อนจะเลื่อนมือไปที่หน้าอกตรงตราพันธสัญญาที่ริวได้
ทำไว้กับเขาว่าจะอยู่ด้วยกันตราบชีวิตจะหาไม่

“ยูนายแช่น้ำนานไปแล้ว”ริวหยุดอยู่ที่หน้าประตูเกิดเป็นเงาตะคุ่ม

ยูรีบจัดการทำความสะอาดก่อนจะลุกออกไปหยิบเสื้อผ้ามาใส่อย่างเร่งรีบก่อนจะเดินออกไป


“อย่าเร่งน่า เมื่อยตัวจะตายอยู่แล้ว”

ยูผลักริวออกไปให้พ้นทางก่อนจะล้มตัวนอนบนเตียง ริวก็ปีนขึ้นเตียงตามไปนอนกอดอีกฝ่ายไว้เงียบๆตามปกติที่เขาเคยทำ

“อิ่มมากเลยสินะ กินพลังของฉันไปตั้งเยอะ”

“พลังนายที่ล้นออกมามากกว่าที่คิด”ริวจูบต้นคอของยูที่นอนหันหลังให้

“ตายละ ไอ้คนส่งสารนั่นจะรู้ไหม”

“อาจจะ”

ยูถึงกับตาสว่างขึ้นมาทันทีด้วยความกังวล ริวได้แต่ยิ้มปลอบน้อยๆก่อนจะดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดแนบแน่น

ยูรู้ว่านั่นเป็นวิธีปลอบใจของริวเพราะเขาเป็นคนสอนอีกฝ่ายเองกับมือว่าเวลาที่ใครมีเรื่องกังวลใจมากๆ การกอดปลอบจะเป็นวิธี
ปลอบใจที่ดีที่สุด ไอ้เจ้าหมอนี่มันเลยกอดเขาเอากอดเขาเอาอย่างนี้ไง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร ออกจะอุ่นสบายด้วยซ้ำในช่วง
ฤดูใบไม้ผลิแบบนี้

“โทระต้องรู้แล้วแน่ๆว่าเราทำอะไรกัน”

“ช่างมันปะไร ปกติพวกปีศาจก็ทำกันทุกวันอยู่แล้ว”ริวพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ

“อะไรนะ ! เมื่อก่อนพวกนายทำกันทุกวันเลยเรอะ”

“อืม”

“อยู่กับฉันนายก็จงอดอย่างปากแห้งต่อไปเถอะ”

“ถ้าได้ทำกับนายฉันก็โอเค”ริวพูดออกมาได้หน้าตาเฉยจนยูอดทึ่งไม่ได้ ถึงอยากจะถีบเจ้าตัวอันตรายออกไปแค่ไหนแต่ตอนนี้
เขาหมดแรงเกินกว่าจะขัดขืนได้แล้ว

“ถ้ายูริจังรักฉันบ้างคงจะดี”

“ลืมผู้หญิงคนนั้นไปซะ ตราบใดที่นายยังมีฉันอยู่”ริวเผลอคำรามอย่างลืมตัว

ยูผงะเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีปฏิกิริยาที่รุนแรงขนาดนี้ “ทำไมนายต้องโกรธขนาดนั้นด้วย”

“เพราะฉันจะไม่ยอมปล่อยให้นายไปกับใครหน้าไหนทั้งนั้น”

ริวขึ้นคร่อมประกบจูบกับยูอีกครั้งอย่างที่ต้องการจะประกาสตัวอย่างชัดเจนว่าตนรู้สึกอย่างไรกับผู้เป็นเจ้านายแต่เจ้านายคนนี้ก็
สมองทึกกว่าที่เห็นไว้มากจนน่าปวดหัว

ริวถอนริมฝีปากออกก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ฉันรักนาย และนายก็รักฉันจงยอมรับซะเถอะยู”

“ฉันรักยูริจัง”

“นายไม่เคยรักเธอเลยสักครั้ง นายก็แค่ชอบเท่านั้น”ริวแสดงสีหน้าเจ็บปวดเมื่อยูพร่ำบกรักเธอคนนั้นให้เขาได้ยินเต็มองหู

“ริว…”ยูไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าริวจะถลำลึกกับตนมากขนาดนี้ ถึงแม้ว่าสิ่งที่ริวแสดงออกนั้นเป็นการบ่งบอกที่ชัดเจนมากแล้ว
ก็ตาม เขาหลอกตนเองมาเสมอว่าริวเพียงแค่เป็นห่วงเขาในฐานะเจ้านายเท่านั้น

“นายรู้กฎของตระกูลเราดีใช่ไหมริว”

“ปีศาจที่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งถูกกำจัด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลได้ก็ตาม และยูเรื่องระหว่างเรามันเกินเลยกว่าคำว่าสัมพันธ์อันลึกซึ้งนั่นไป
มากแล้ว”

“ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วนายจะต้องเจ็บปวดกันมัน นายก็จะยังรู้สึกเหมือนเดิมงั้นหรอ”

“แค่มีนายอยู่ ข้างๆฉันก็พอ”

ยูเม้มปากอย่างคนจนตรอก ทั้งที่เขาอุตส่าห์พยายามหลีกเลี่ยงเรื่องพวกนี้มาตลอดแท้ๆ สุดท้ายแล้วเขาก็เผลอพูดมันออกมาจน
ได้


“ให้เวลาฉันได้ทบทวนความรู้สึกของัวเองหน่อยก็แล้วกัน”

ฉันรอนายมาแปดปีแล้ว รออีกนิดจะเป็นไรกัน

ริวบอกกับยูทางความคิดอย่างไม่ปิดบัง ยูที่เหนื่อยอยู่แล้วไม่นานก็พร่อยหลับไปในอ้อมกอดอบอุ่นและแสนสบายของเจ้ามังกร






กริ้งงงง

เสียงกริ้งบ้านดังขึ้นมาแต่เช้าตรู่รีกยูที่กำลังเตรียมข้าวเช้าวิ่งออกไปเปิดประตูบ้านรับแขกด้วยความเร่งรีบ

“ครับบ มาหาใครครับ”ยูเลิกคิ้วมองผู้ชายวัยรุ่นท่าทางดิบเถื่อนที่ยืนอยู่หน้าบ้านของเขา

“บ้านฮารุกะรึเปล่า”

“ใช่ครับ”

“ฉันเป็นคนที่บ้านใหญ่ส่งมา ชื่อเรยะ”

ยูนิ่งอึ้งก่อนจะรีบเชิญอีกฝ่ายเข้ามาในบ้านของตน เมื่อหลายวันก่อนเขาได้รับจดหมายตอบกลับภาระกิจพร้อมจดหมายเรียกตัว
ของทางบ้านใหญ่ คนที่เขาจะส่งมาช่วยเรื่องหุบเขามิวะ ชื่อ ฮารุกะ เรยะ นั่นก็คือผู้ชายคนนี้นี่เอง

“นายชื่อยู ใช่รึเปล่า”

“อา…ครับ”

ทันทีที่ผมตอบไปแบบนั้นหัวคิ้วของเขาก็ขมวดจนแทบจะชนกันน่ากลัวเหมือนโดนเสือจ้องเขมือบ จนผมต้องรีบขอตัวเข้าครัวไป
ทำกับข้าวที่ค้างไว้ให้เสร็จ

“ยูเจ้าทำอะไรน่ะหอมเชียว …อ้าว นั่นใคร”โทระที่พึ่งกลับมาจากการปลูกพืชมงคลกับพ่อเสร็จก็ชะงักค้างทันที

“โทระ นี่คนของบ้านใหญ่ชื่อเรยะ คุณเรยะนี่โทระปีศาจที่เราเก็บมาจากหุบเขามิวะครับ”

“ปีศาจ?”เรยะเลิกคิ้วมองอย่างแบกใจ เมื่อทั้งเนื้อทั้งตัวอีกฝ่ายมีแต่ไอมงคลเป็นผลพลอยได้จากการที่ถูกท่านพ่อลากไปช่วย
ปลูกพืชมงคลพวกนั้นจนแทบหมดแรงกลับบ้านมาทุกวัน

“ครับ โทระ คุยกับคุณเรยะไปก่อนนะ เดี๋ยวก็ต้องไปดูน้ำซุปก่อน”

“ไม่เอา เจ้านั่นน่ากลัวจะตายชัก ดูมันจ้องข้าสิจะโดนฆ่ารึเปล่าก็ไม่รู้”โทระดึงเสื้อของยูไว้กระซิบกระซาบกันอย่างเปิดเผย

“เอาน่า เขาไม่ทำอะไรนายหรอก แค่พูดดีๆกับเขาก็พอ”

โทระยังคงไม่ไว้ใจแต่พอเห็นสายตาของยูที่เริ่มติดรำคาญก็ยอมเดินคอตกไปนั่งฝั่งตรงข้างกับมนุษย์ที่ชื่อเรยะอย่างจำใจ

“อ้าว ยูคนของบ้านใหญ่หรอลูก”ผู้เป็นพ่อถามด้วยน้ำเสียงกระฉับกระเฉง

“ครับ อยู่ที่ห้องรับแขกน่ะครับ”

“อืมๆ ต้องไปทักทายซะหน่อยแล้ว”แล้วท่านพ่อก็หายไป

ไม่นานครัวครัวเราก็อยู่กันพร้อมหน้าที่โต๊ะอาหารโดยมีแขกรับเชิญเพิ่มมาอีกหนึ่งคน

“คุณเรยะเป็นฝ่ายปฏิบัติการหรอครับ”

“ใช่ ไม่ต้องเรียกคุณหรอก เรียกพี่ก็ได้”

“อ่า ครับ พี่เรยะ”ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเป็นคนคุยง่ายกว่าที่คิด

คนเราเนี้ยไม่สามารถดูจากแค่ภายนอกได้เลยจริงๆ เห็นท่าทางโหดๆแบบนั้นแล้วที่จริงใจดีเอาการอยู่

“ผมขอถามอะไรที่ดูจะเสียมารยาทเล็กน้อยได้ไหมครับ”

“ว่ามาสิ”

“ปีศาจคุ้มครองพี่ละครับ ไม่มาด้วยกันหรอ?”

“ฉันไม่มีหรอก ตัวไหนๆก็ไม่ถูกใจฉันเลย”พี่เรยะส่ายหน้าด้วยท่าทางเหนื่อยใจก่อนจะหันไปสนใจโทระที่กำลังนั่งโซยข้าวเงียบๆ

“แต่ปีศาจที่นายจับมาได้ก็น่าสนใจดี”

แคกกก ๆๆ!

โทระแทบจะพ่นข้าวในปากทิ้งอย่าตกใจ “ในป่ามิวะยังมีปีศาจอีกหลายตัวที่เก่งกว่าข้า”

“ฉันจะเอาปีศาจที่เก่งมาทำไมในเมื่อฉันก็เก่งอยู่แล้ว ฉันอยากได้ปีศาจแปลกๆแบบนายต่างหาก”

โทระถึงกับหน้าเบี้ยวเหมือนโดนถอนฟัน ไม่สิสีหน้าแบบนี้สุดยอดยิ่งกว่าโดนถอนฟันซะอีกให้ความรู้สึกเหมือนโดนพี่เรยะจีบอยู่
เลยมากกว่า

“ว่าแต่ปีศาจของนายละไปไหน”


“เมื่อหลายวันก่อนทานอิ่มจนลุกไม่ไหวนะครับ อยู่ในช่วงอยู่นิ่งๆแล้วย่อยอาหารน่ะ”ยูยิ้มสวยตอบตามความจริง

“หรอน่าเสียดายนะ”

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนออกไปทำภารกิจพี่ก็เห็นเองแหละครับ”

“อืมๆ”

ริวนอนฟังอยู่บนเตียงเงียบๆพลางคิดไปว่าโชคดีที่เขากัดกินพลังของยูไว้ได้ทันเวลาก่อนที่พวกตระกูลใหญ่จะมา แต่การรีบกิน
แบบทีเดียวเกลี้ยงก็ทำให้เขาอิ่มจนขยับไม่ได้อย่างที่ยูว่า แต่คาดว่าพรุ่งนี้คงจะพอสู้ไหวโดยที่ไม่เผลอระเบิดภูมิเขาทิ้งไปซะ
ก่อน

“ริว”

เสียงของยูเรียกอยู่หน้าประตูทำให้เขาต้องหันไปมองน้อยๆ “นายเป็นไงบ้าง”

น้ำเสียงที่เจือไปด้วยความห่วงใยของยูทำให้เขารู้สึกอยากเข้าไปกอดอีกฝ่าย แล้วบอกว่าเขาไม่เป็นไร

“อิ่ม”

“พรุ่งนี้นายพักอยู่ที่บ้านเถอะ ฉันจะไปกับพี่เรยะเอง”

เจ้ามังกรแทบจะลุกพรวดก่อนจะทรุดลงไปกองที่เตียงแบบเดิมเพราะความหนักที่ท้อง ทำได้แค่ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “นาย
คิดว่าฉันจะปล่อยนายไปรึไง”

“ฉันเอาตัวรอดได้น่า”

“พลังของนายอยู่ในท้องฉันหมดแล้ว แถมที่เหลือยังโดนสะกด ถ้าเกิดอะไรกับนายขึ้นมาละยู”

“รู้แล้วน่า”ยูเอนตัวนอนทับริวด้วยความหมั่นไส้

ฉันแค่ไม่อยากให้นายฝืนตัวเอง ยูคิดในใจเงียบๆ

ริวจึงตอบกลับเพิ่มความมั่นใจให้อีกฝ่ายแบบไร้เสียงเช่นกัน ฉันยินดีที่จะลำบากเพื่อนายยู



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-11-2014 15:58:17 โดย xlomx »

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
อ่าส์ เขากินกันมานานละสินะ หึหึ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
อย่างงี้ต้องให้ริวกินพลังบ่อยๆ ทีละน้อยๆ ริวจะได้ไม่อิ่มจนจุกลุกไม่ขึ้น :laugh:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
โอ้ยย น่าสนใจๆ ต่อให้จบน่า ชอบๆ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
เฮ้ยยยยย ตอนแรกๆก็ปลื้มปริ่มกับNC
แต่พออาเฮียเรยะออกมาเท่านั่นแหละ!!
แพลนเป้าหมายไปคู่เรยะ โทระทันที
มันต้องตลกมากๆเลย โทระขี้ระแวงขึ้นมาซะอย่างงั้นอะ!!
รอตอนต่อไปน้าาาา

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
อ่าาา เขาลึกซึ้งกันมานานแล้วนิ
โทระเสร็จคุณพี่บ้านใหญ่แน่

ออฟไลน์ xlomx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
6

อาการอิ่มจนขยับไม่ได้ของริวหายแล้วจริงๆ สังเกตดูได้ง่ายๆจากใบหน้าที่เปล่งปลั่งสดใสแถมมีออร่า พรุ้งพริ้งชวนให้แสบตาเล่น

พี่เรยะลูบคางมองหรี่ตามองริวด้วยความสงสัยก่อนจะหยิบแว่นกันแดดสีดำออกมาใส่ให้เห็นกันจะจะ ข้างๆพี่เรยะยังมีโทระซึ่งทำ
หน้าหงิกดูไม่ได้ดีใจที่ได้กลับบ้านเลยสักนิด
“พี่เรยะทะเลาะกับโทระหรอครับ”

“เปล่าพี่แค่แสดงความเอ็นดูเล็กน้อยก็เท่านั้น”

ยูพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ สงสัยว่าพี่เรยะจะถูกใจโทระมากจริงๆ ขนาดที่เดินตามต่อยๆแม้ว่าโทระจะเร่งฝีเท้าหนีก็ตาม แถม
เอาแต่มองจนเจ้าปีศาจได้เบือนหน้าหนีไม่กล้าสบสายตาชวนสยองของอีกฝ่าย

“ยูระวัง”ริวดึงผมให้หลบกิ่งไม้แหลมด้านข้างขณะที่ผมกำลังคิดแผนการบางอย่าง

อ่าใช่ ตอนนี้เรากลับมาที่หุบเขามิวะอีกครั้งบรรยากาศยังคงวังเวงเหมือนครั้งที่แล้ว แต่ที่แปลกคือผมไม่ค่อยรู้สึกถึงอะไรแปลกๆ
อีก อาจะเป็นเพราะพลังที่ลดลงทำให้สัญญาณเตือนภัยในตัวลดระดับลงไปจนเหมือนคนธรรมดาอีกด้วย

พี่เรยะปล่อยพลังส่วนหนึ่งออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียงแรงเปล่ากับพวกปีศาจชั้นต่ำโดยไม่จำเป็น ริวก็เช่นกัน ตอนนี้เราเหมือน
มีจ้าวปีศาจสองคนเดินอยู่ข้างๆ โดยรวมแล้วถือว่าเส้นทางราบรื่นกว่าตอนแรกมากไม่มีพวกปลาซิวปลาสร้อยออกมาให้รบกวนใจ
   แต่ความรู้สึกที่เหมือนโดนจับจ้องอยู่ตลอดเวลาทำให้ผมอึดอัดจนต้องขยับตัวเข้าไปกำชายเสื้อริวแน่น  ถึงแม้ความสิ่งที่สัมผัส
ได้จะไม่รุนแรงเท่าครั้งก่อน แต่ก็ยังรู้สึกได้ลางๆว่ามีบางอย่างกำลังจ้องมองอยู่

   “เจ้าตัวที่ไล่ที่โทระออกมานี่ คงจะแกร่งน่าดูเลยนะ”เรยะยิ้มมองไปยังทิศทางที่เคยเป็นอณาเขต ของโทระ

   “ผมรู้สึกเหมือนกำลังมีบางอย่างมองมาที่ผมตลอดเวลาเลย”

   “ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน”เรยะเอี้ยวตัวหลบกิ่งไม้ก่อนจะเตะบางอย่างที่ดูคล้ายหัวคนออกไปให้พ้นทาง ทำเอาผมแทบจะร้องกรี๊ดตอน
ที่เห็นมันลอยข้ามหัวผมไป

   “พะ พี่เรยะนี่แข็งแกร่งจริงๆ”ยูอดชื่นชมไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีไม่สะทกสะท้ายของเรยะที่เจอผีเตะผี เจอปีศาจเตะปีศาจกันตรงนั้น
แบบไม่มีอาการลังเลหรือตกใจให้เห็นแม้แต่นิด

   “กลับกันแล้ว พลังของนายฉันแทบรู้สึกไม่ได้เลย”เรยะหันมามองยูอย่างสำรวจ

   “แฮะๆๆ สายเลือดของผมคงจางมากๆน่ะครับ”ยูเกาหัวยิ้มเก้อ

   “ไม่ใช่ว่าเอาไปป้อนให้เจ้าปีศาจของนายหมดหรอ”

   ตึกตัก…

   นัยต์ตาสีจางของยูเข้มขึ้น หัวใจดวงน้อยพลันเต้นช้าลง ริวที่ยืนอยู่ห่างๆก้มหน้าเตรียมพร้อมรับคำสั่งของอีกฝ่ายทันทีที่เอ่ยปาก
ทำให้บรรยากาศตึงเครียดจนรู้สึกได้

   “พี่แค่ล้อเล่นน่ะ ทำไมต้องเครียดขนาดนั้น”

   “พี่ไม่รู้หรอกว่าพลังของผมอ่อนมากถึงขนาดที่คนในตระกูลใหญ่ไม่เหลียวแลตอนที่ผมทำพิธีกรรมเป็นผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ”ยูยิ้มเศร้า
สับเปลี่ยนหน้ากากอารมณ์ไวจนอยากจะยกโล่รางวัลให้ตัวเอง

   “แต่ปีศาจของนายพลังสุดยอดเลยน้า ถือว่าพอทดแทนกันได้ละนะ”

   “ครับ บางทีพี่เรยะอาจจะเจอปีศาจที่น่าสนใจมากก็ได้นะครับ”

   “ฉันเจอแล้วละ”สายตาแพรวพราวตวัดมองไปยังโทระที่เดินนำหน้าแบบเชิงบอกทางออมว่าไม่ใช่ใครที่ไหน

   “ยะ ยินดีด้วยนะครับ”ผมก็พอจะเดาได้อยู่หรอก เล่นจ้องกันซะปานจะกลืนกินขนาดนั้น

   ตายละ…เผลอหนักมือกับเจ้าปีศาจนั่นเยอะเหมือนกันแฮะ จะโดนเจ้านั่นแฉเรื่องโดนผมถอนฟันไหมเนี้ย

   “ไม่หรอก”ริวพูดขึ้นก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหัวยูเบาๆ

   “โทระความจำสั้นจะตายไป”ริวพูด

   ผมยิ้มกว้างแบบขำๆ มันเป็นเรื่องจริงที่โทระเป็นพวกขี้ลืมขั้นสุดยอด ตอนออกไปทำไร่กับพ่อก็หลงทางอยู่นานสองนานลำบาก
ให้พ่อต้องเดินตามหาอีกเป็นชั่วโมง แถมเป็นแบบนี้อยู่ตั้งหลายวันจำไม่ได้สักที

   เส้นทางเริ่มขดเคี้ยวและลำบากมาขึ้น ยูแทบจะหมดเรี่ยวแรงกับการเดินทางครั้งนี้แต่ด้วยศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายทำให้ไม่อาจเอ่ย
ปากขอหยุดพักก่อนได้ จำใจต้องกัดฟันทนลากขาหนักเดินต่อไปโดยที่ไม่รู้ว่าทุกการกระทำของตนนั้นยู่ในสายตาของเรยะ
ทั้งหมด เรียกง่ายๆว่ากำลังโดนเรยะผู้เป็นรุ่นพี่แกล้งอยู่นั่นเอง

   ไอ้เจ้าเรยะนั่นมันกำลังแกล้งผมอยู่แหงๆสาบานได้…คนชั่วมักจะดูกันออก !!



   กรี๊ดดดดดดดดดดด!!

   ยูสะดุ้งเฮือกกับเสียงกรีดร้องเหนือมนุษย์นั่น เรยะตวัดตามองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง

   “เขยิบเข้ามาใกล้ๆกันเข้าไว้”เรยะออกคำสั่งซึ่งทุกคนก็ปฏิบัติตามแต่โดยดี

   “ระ ริว”

   “ไม่เป็นไร ฉันอยู่นี่”

   ริวดันยูไปอยู่ทางด้านหลัง ทุกคนหันหลังชนกัน สิ่งนั้นเหมือนจะอยู่ใกบ้ว่าที่พวกเขาคิดไว้ เรยะกัดปากด้วยความเจ็บใจที่เผลอ
ประมาทไปเพียงชั่ววูบ โถ่ กำลังแกล้งเจ้าเด็กนั่นสนุกอยู่แท้ๆเลยเชียว

   วัตถุสีดำลอยอยู่เหนือหัวของยู โดยที่ทุกคนไม่ทันระวัง ไม่คิดว่าเจ้านั่นจะลอบโจมตีจากด้านบนโชคดีที่ยูเอะใจเหลือบตามองขึ้น
ไปเสียก่อน

   “อ้ากกกก”ยูร้องเสียงหลงรีบกระโดดหลบแทบไม่ทันเมื่อเจ้าก่อนสีดำเหนือหัวนั่นพยายามจะพุ่งลงมางับหัวของเขาด้วยฟันแห
ลมๆกับปากที่อ้าได้กว้างขนาดที่ยัดหัวคนได้ทั้งหัว

   “ไอ้เจ้านั่นกำลังจะกินผมแล้วว”ยูกลิ้งหลบเมื่อเจ้าสิ่งนั้นยังไม่ละความพยายามจะกินเขาให้ได้

   ไอ้ปีศาจบ้า ! ไปกินคนอื่นโน้นสิไป๊ มีกันตั้งหลายคนทำไมต้องมาไล่ตาเขาคนเดียวด้วยฟระ

   ล้มลุกลุกคลานมาหลายตะหลบ ริวกับเรยะก็ตั้งตัวได้รีบเข้าไปช่วยยูที่ใกล้จะหมดแรง โทระที่อยู่ใกล้ที่สุดกระโจนเข้าไปบังร่าง
ของยูที่ไถลงไปกับพื้นหวังจะซัดกับเจ้าก้องดำๆนั่นสักรอบ แต่ที่ไหนได้เจ้านั่นกลับลอยลอดหว่างขาเขาไปหายูซะงั้น

   “เฮ้ย”โทระร้องเสียงหลงอย่างตกใจ

   แต่คนที่ตกใจยิ่งว่าก็คือยูที่อยู่ด้านหลัง เพราะเสียหลักล้มเมื่อกี้จึงทำให้ข้อเท้าแพลงแค่ขยับก็เจ็บแปล๊บๆ แต่เจ้าก้อนสีดำนั่นมัน
ลอยมาอยู่ตรงหน้าแล้วแถมเหมือนจะเห็นแวบๆว่ามุมปากของเจ้านั่นกระคุกขึ้นเกิดเป็นรอยยิ้มสยองที่ทำให้ยูตกใจแทบตาย

“ริววววว”

วูบ

เจ้าก้อนกลมๆสีดำนั่นมุดหายเข้าไปในร่างของเขาเต็มๆสองตา

“อะ…เอ้ย มันเข้าไปแล้ว”

ริวเลิกเสื้อของยูขึ้นสำรวจร่างกายของยูทันทีที่เข้าประชิดตัวได้ มือเย็นๆของริวยกขึ้นลูบๆไปมาบนหน้าอกแบนๆขาวๆ จนยูรู้สึก
สยิวขนลึกชันทั้งตัว

“หยุดมือทีเลื้อยไปเลื้อยมาของนายซะริว”

“ก็แค่ตรวจสอบน่ะ”

“ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างยู”เรยะถามบ้าง

“กะ..ก็ดีครับ”ยูตอบอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก

วูบ

   เหมือนโลกหยุดหมุนกะทันหันร่างของยูเซล้มพับลงในอ้อมแขนของริวโดยฉับพลัน  ร่างสูงตวัดสายตามองสีหน้าของยูที่นิ่งสงบ
เหมือนคนหลับไปเท่านั้น แต่นั่นยิ่งทำให้ริวรู้สึกปั่นป่วน “ยู !!!”

   “เรารีบไปจากที่นี่กันเถอะ”เรยะพูดเตือนสติของริวที่เหลือน้อยเต็มทน

   แต่สายไปเสียแล้วบริเวณรอบๆถูกเจ้าก้องกลมสีดำล้อมไว้จนหมด สีหน้าของเรยะเงียบขรึมลง โทระแยกเขี้ยวขู่คำรามอย่างกล้า
หาญถึงแม้ว่าฝ่ายศัตรูจะมีพลังที่ชวนน่าขนลุกก็ตาม

   “หึ หึ”ริวหัวเราะในลำคอพร้อมปล่อยพลังที่ชวนน่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมา กดดันบรรยากาศรอบข้างจนบิดเบี้ยวไป 

   บรรยากาศหนักๆเจือปนด้วยจิตสังหารอันแหลมคมทำให้ลมหายใจของเรยะติดขัด โทระยืนนิ่งแข็งเป็นหุ่นไม่กล้าขยับสุ่มสี่สุ่มห้า
แต่ก็ยังพอที่จะประคองสติไม่ให้แสดงความหวาดกลัวจนเกินไปได้

   “เจ้าพวกปีศาจชั้นต่ำ”ริวคิดจะระเบิดภูเขาทั้งลูก ยิ่งมีพลังของยูไหลเวียนอยู่ในร่างเรื่องระเบิดภูเขาสักลูกสองลูกก็ไม่ใช่เรื่องยาก

   ถ้ายูยังคงมีสติอยู่อาจจะถึงขั้นลุกขึ้นมาเขกหัวเขาแล้วก็เป็นได้ แต่ตอนนี้ยูสลบไปแล้ว เขาจะทำอะไรก็ได้ไม่มีใครห้ามเขาได้อีก
ต่อไป

   “ริวใจเย็นๆก่อน”เรยะที่เห็นท่าไม่ดีรีบตะโกนบอกริวที่ฟิวส์ขาด

   ริวตวัดสายตามองเรยะอย่างหน้ากลัว ดวงตาสีทองมีขีดสีดำเหมือนงูนั้นถลึงจ้องมองอีกฝ่ายอย่างน่ากลัว “หุบปากซะเจ้ามนุษย์”

   เระยคิ้วกระตุก “พูดจาให้มันดีๆหน่อย ฉันเป็นรุ่นพี่นายนะเฟร้ย”

   “นายทำให้ยูเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่มีความจำเป็นต้องเคารพนับถือนานอีก”

   “นายว่าไงนะ !”

   “พวกเจ้าทั้งสองจะหยุดทะเลากันได้รึยัง !!!”โทระตะโกนแทรกอย่างเหลืออด ในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ยังทะเลาะกันได้ให้
ตายเถอะเป็นเด็กสามขวบกันรึไง

   “จะทำอะไรก็รีบๆทำเถอะริวเดี๋ยวเจ้าเด็กมนุษย์นี่จะแย่เอา”โทระแตะมือลงบนหน้าผากของยูที่เริ่มจะตัวเย็นลง ลมหายใจก็แผ่ว
ลงแล้วด้วย

   ได้ยินแบบนั้นริวก็หันไปสนใจกับเจ้าปีศาจสีดำตรงหน้าแทน เมินเรยะที่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปโดยสิ้นเชิง

   หมับ !

   ริวคว้าเจ้าก้อนสีดำตรงหน้าไว้ในอุ้มมือที่เต็มไปด้วยกรงเล็บและเกร็ดสีดำวาว เจ้าก้อนสีดำแยกเขี้ยวกัดมือของริวแต่เกร็ดขง
มังกร แข็งขนาดตัดเพชรได้ดั่งตัดเนย มีหรือแค่ฟันซี่เล็กๆของเจ้าปีศาจนี่จะทำอะไรเขาได้ แต่ทันทีที่ปีบเจ้าปีศาจตัวเล็กๆนั่นมัน
ก็แบ่งตัวออกเป็นก้อนกลมๆที่เล็กกว่าเดิม

   “เจ้าพวกนี้…”

   เรยะเท้าเอวมองอย่างนึกสนุกในใจ ไหนเจ้าปีศาจของยูจะฉลาดสักแค่ไหนเชียว เป็นแค่ปีศาจพิทักษ์หน้าใหม่แท้ๆดันทำตัวหน้าหมั่นไส้ซะได้ แล้วก็เจ้าเด็กนี่จะอ่อนแอไปไหนเนี้ยขนาดคนที่พลังน้อยที่สุดในตระกูลยังทนเจ้านี่ได้ถึงสิบนาทีแต่นี่สามวิก็ลงไป
นอนซะแล้วแย่จริง

   “นายฆ่าเจ้าพวกนี้ไม่ได้หรอก”

   “หึ ก็ลองดู”ริวแสยะยิ้มอวดเขี้ยวสีมุก

   แล้วริวก็ได้ทำในสิ่งที่ใครไม่คาดคิด ร่างสูงได้คว้าเจ้าก้อนดำเข้าปากเคี้ยวแล้วกลืนลงไปท่ามกลางสายตาช็อคสุดขีดของโทระและเรยะ

   “กะ…กินไปแล้ว”โทระชี้ริวด้วยมือที่สั่นสะท้าน

   ริวเลียริมฝีปากก่อนจะส่งยิ้มร้ายกาจไปให้เจ้าพวกปีศาจก้อนสีดำตรงหน้า “ก็กินได้”

   หากว่ายูอยู่คงจะวิ่งเข้ามาชกท้องเขาแล้วบอกให้เขาอ้วกมันออกมาดี๋ยวนี้…

   ริวย่อตัวลงลูบเรือนผมของยูอย่างแผ่วเบา เขาต้องห้ามใจไว้อย่างมากเพื่อไม่ให้ตัวเองจูบยูต่อหน้าเรยและโทระจึงหันมาระบาย
ความโกรธกับเจ้าตัวสีดำพวกนี้แทน

   “หยูดดด หยุด เจ้าพวกนั้นไม่ใช่ของกินนะริว”เรยะตะโกนห้ามยื้อเจ้าปีศาจสีดำที่ตัวสั่นงกๆด้วยความกลัวในมือริวออกมา

   “งั้นก็บอกมันให้ออกจากร่างของยูซะสิ”ริวหรี่ตามองเรยะ

   “ห้ามกินเฟร้ย !”

   ริวเลิกคิ้วสูงไม่คิดว่าเรยะจะเข้ามายุ่ง เขาได้กลิ่นแปลกจากภารกิจนี้ซะแล้ว

   “ไม่กินก็ได้”ริวลามือจากเจ้าปีศาจนั่นแต่โดยดี

   เรยะได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก แต่โล่งได้ไม่ถึงสามวิก็ต้องกลับมาจิตตกอีกครั้งเมื่อริวทำท่าจะ
เผาทุกอย่างให้รายเป็นหน้ากองด้วยพลังของเขา

   “เฮ้ยย ใจเย็นก่อน”แม้แต่โทระก็ต้องร้องห้ามเขาเสียงหลง

   ริวไม่ได้แยแสกับเสียงนกกระจิบนกกระจอกของคนเหล่านั้น ถ้าไม่ใช่ยูแล้วใครจะมาห้ามเขาก็ไม่ฟังหรอก

   เปรี๊ยะ !

   เปลวเพลิงน้ำเงินพวยพุ่งออกมาจากร่างของริวที่ยืนนิ่ง ความร้อนระอุของมันไม่ได้ทำร้ายยูที่นอนอย่างสงบอยู่บนพื้นแต่มันได้
เผาผลาญทุกอย่างที่ประกอบไปด้วยธาตุมืด เช่นเจ้าปีศาจกลมๆสีดำตรงหน้า เพียงแค่แตะโดนเปลวเพลิงนั่นเท่านั้น ร่างทั้งร่างก็
แหลกสลายเป็นผุยผงไม่เว้นแม้แต่พวกเดียวกันอย่างเรยะและโทระ

   “เจ้าบ้านี่คิดจะเผาฉันไปด้วยรึไง”เรยะแหกปากด่าอย่างเหลืออด เปลวเพลิงนั่นไม่ใช่เล่นๆโดนเข้านิดหนึ่งมีหวังปางตายแหงๆ

   บาเรียสีใสของเรยะเข้าหุ้มโทระไว้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ถึงจะอันตรายไปหน่อยแต่เรยะก็ยังอาศัยช่วงเวลานี้ทำคะแนนกับโทระ เผื่อ
ว่าอีกฝ่ายจะลองพิจารณารับข้อเสนอมาเป็นปีศาจในบังคับบัญชาของเขา

   ไอดำมืดที่แฝงตัวอยู่ในร่างกายของยูจำเป็นต้องได้รับการชำระยางถูกต้อง ในจังหวะที่เรยะกำลังท่อง คถาป้องกันอย่างเอาเป็น
เอาตายเขาก็ประคองยูขึ้นมาไว้ในอ้อมอก

   ริวประคองใบหน้าที่หลับพริ้มขาดการระมัดระวังอย่างถะนุถนอมก่อนจะก้มลงประกบริมฝีปากส่งต่อเปลวเพลิงชำระแทรกเข้าไปยัง
อวัยวะทุกส่วนของร่างกาย ร่างสูงกดริมฝีปากลงไปอีกเพื่อมอบจูบอันลึกซึ้งผ่านลิ้นและฟันที่เกี่ยวกะหวัดขบเม้มอย่างไม่เคยพอ
กระทั่งของเหลวสีใสไหลย้อยออกมาจากมุมปากของยูริวจึงได้ถอนริมฝีปากออก ก่อนจะบรรจงปาดน้ำสีใสนั้นออกเบาๆ

   เปลวไฟที่โหมกระพือค่อยๆแผ่วเบาลงจนดับไปตามสายลมที่พัดเข้ามา

   “ยู ตื่นเถอะ”

   “อืออ”

   เปลือกตาบางกระพริบถี่ๆอย่างมึนงงในอ้อมกอดของริว ดวงตาพร่ามัวเห็นนัยน์ตาสีทองฉายแววเป็นห่วงจับใจเป็นอันดับแรกก็ยิ้ม
ออกมา

   “เจ้านั่น…หายไปแล้ว”ยูถอนหายใจด้วยความโล่งอก

   “อืม เจ็บตรงไหนอีกรึเปล่า”ริวมองอีกฝ่ายอย่างสำรวจ

   “เท้า”

   “ขี่หลังฉัน”ริวหันหลังให้ยูเกาะขึ้นมาไม่นานนักร่างเล็กก็เกาะหนึบอยู่บนหลังขงริวอย่างสบายใจ

   โอ๊ย ! ทั้งเนื้อทั้งตัวของผมมันปวดระบมไปหมดแล้ว ไอ้งานใช้แรงงานแบบนี้เขาไม่ถนัดเลยจริงๆเถอะให้ตาย

   แปะ แปะ แปะ ๆๆ ๆ ๆ ๆ

   เสียงปรบมือดังไปทั่วบริเวณป่าทำเอายูสะดุ้งเฮือกกลัวว่าจะมีตัวอะไรเก่งๆโผล่มาอีก แต่สิ่งที่โผล่ออกมาแท้จริงแล้วน่ากลัวกว่า
ปีศาจอีก

   “คะ….คนของตระกูลใหญ่”

   “ดีใจด้วยครับ”คนที่ออกมาแสดงความยินดีตรงหน้าผมคือรองหัวหน้าตระกูล ชายหนุ่มในชุดสูทเต็มยศถึงแม้ว่าจะออกมาเดินป่า
พร้อมแว่นตากรอบทองที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของตนออกมาได้เป็นอย่างดี

   “นะ นี่มันอะไรกันครับ”ผมกวาดสายตามองคนนับสิบที่ยืนยิ้มแย้มล้อมเราอยู่

   “นี่เป็นการทดสอบก่อนที่นายจะเข้าตระกูลแบบเต็มตัวไงละ ยู”

   “ห๊า? การทดสอบ?”

   “แต่ความรู้สึกของเจ้าเด็กนี่มันไวชะมัด”ชายร่างสูงท่าทางอันตรายพูดขึ้น แขนของเขาใหญ่กว่าหัวของผมซะอีก !

   “เพลิงชำระของปีศาจรับใช่ของนายก็ไม่เลว”

   ยังมีเสียงทั้งด่าทั้งชมอีกหลายเสียง เช่นว่า  ‘น่าเสียดายที่เจ้าของมันขี้ขลาดไปหน่อย’ หรือไม่ก็ ‘เจ้าแห้งนั่นอยู่ในตระกูลไม่รอด
ถึงครึ่งปีแหงๆ’ ถึงกระนั่นมันไม่ได้ช่วยให้ผมอารมณ์ดีขึ้นเลย

   ผมละอยากจะเข้าไปตบกะบาลคนคิดว่าเอาอะไรมาคิดที่ทดสอบเด็กใหม่แบบนี้กัน ! เกิดผมหัวใจวายตายขึ้นมาแล้วริวระเบิดโลก
ทิ้ง(?)ใครจะรับผิดชอบไหว

   “ให้เดาว่าพ่อกับแม่ต้องว่างแผนร่วมด้วยแหงๆ”

   “ดีใจด้วยนะเจ้าลูกชาย”

   “พ่อ !!!”

   นี่ผมลองเดาประชดไม่คิดว่ามันจะเป็นจริงๆ

   “อ่า พ่อขอโทษนะที่ปิดบังลูก พอดีว่ามันเป็นกฎของตระกูลน่ะ”

   ผมจะจำไว้ วันนี้ผมจะไม่ทำข้าวเย็นคอยดู !

   “เอาละเรามีเวลาไม่มากนัก แต่นี่ก็เป็นบททดสอบก่อนที่นายจะใช่สกุลของฮารุกะเต็มตัว”ท่านรองหัวหน้าตระกูลพูดขึ้น

   “และนี่เป็นบรรดาเหล่าพี่น้องของนายที่ในอนาคตข้างหน้านายอาจจะต้องฝากชีวิตของนายไว้กับพวกเขา”

   “ครับ”ผมพยายามจดจำใบหน้าของแต่ละคนไว้ในใจ

   “งั้นปีศาจที่คุณใช้ เป็นของใครหรอครับ?”

   “เรยะ”

   ตาแก่เรยะ !! ผมว่าแล้วว่าเรื่องนี้มันมีอะไรแปลกๆมาตั้งแต่ต้น กลิ่นตุๆของความชั่วนี่ลอยหึ่งออกมาจนมันดูไม่สมเหตุสมผลเอา
ซะเลย

   “เฮ้อ ผมพอจะเดาได้ลางๆแล้วละว่าจะต้องเจออะไรแบบนี้”

   “พอเดาได้ก็ดี ช่วงนี้มีแต่พวกเพาะกล้ามแทนสมอง”

   คำแซะอันแสนเจ็บแสบของท่านรองทำเอาคนที่ถูกกระทบบ่นงึมงำกันเป็นยกใหญ่ เป็นบรรยากาศคึกคักที่ผมไม่ค่อยได้สัมผัสมัน
เท่าไหร่นัก

   เพราะความแปลกประหลาดจึงทำให้ผมอยู่คนเดียวเสมอ

   “กลับได้รึยัง”ริวพูดแทรก

   “โอ้ เจ้านี่มันปากดีจริงๆ”

   “ไม่ต้องหาเรื่องน้องใหม่ พวกนายไปทำงานกันได้แล้ว”

   “โห ท่านรองง”

   รองหัวหน้าตระกูลขยับแว่นก่อนจะตบที่บ่าผมดังปุปุสองสามที “ยินดีต้องรับเข้าสู่ตระกูลฮารุกะอย่างเต็มตัว”

   “คะ ครับ”

   ความรู้สึกหนักหน่วงที่ไหล่ทำเอาผมแทบทรุด ไม่นานทั้งหมดก็สลายตัวแยกย้ายกันปอย่างรวดเร็วจนผมอดทึ่งไม่ได้ในความสามารถนั้น

   สักวันผมจะเป็นแบบนั้นสินะ

   “อ้อ ยู”

   เสียงของพี่เรยะที่ยังอยู่เรียกผม(ที่อุตส่าห์ทำเป็นไม่เห็น)

   “ครับ?”

   “นายจัดการปีศาจของพี่ไปหมดเลย งั้นพี่ขอโทระไปนะ”พี่เรยะยิ้มหน้าบาน

   “อ้าวโทระไม่ได้เป็นปีศาจของพี่ตั้งแต่ต้นหรอครับ”

   “เปล่า ทางตระกูลของเราไม่รู้จริงๆว่าโทระอยู่ในบริเวณนั้น จะเรียกว่าผิดแผนก็ได้”

   ด้วยความหมั่นไส้ปนแค้นทำให้ผมคิดแผนการบางอย่างออก “โทระนายอยากอยู่กับฉันหรือพี่เรยะมากกว่ากัน”

   “ถ้าข้าต้องไปอยู่กับเจ้านี่ ขอข้าอยู่กับเจ้ายังดีกว่า”

   พี่เรยะทำสีหน้าเจ็บปวดกับคำตบที่แสนเย็นชานั้น “งั้นผมก็คงให้โทระไปกับพี่ไม่ได้หรอกครับ”

   ผมยิ้มหวานบอกไปกับพี่เรยะอย่างซื่อๆ ก็ถ้าโทระไปกับเรยะจริง ใครจะเป็นคนช่วยท่านพ่อปลูกต้นไม้ ใครจะเป็นคนไปช่วยท่าน
แม่ถือของตอนช็อปปิ้ง? การที่มีโทระอยู่สร้างความสะดวกสบายให้กับผมมาจริงๆฮ่าๆๆๆ

   “โทระนายไปกันฉันเถอะ !!”พี่เรยะยังไม่ลดความพยายาม

   “ไม่ !!”

   “นายนี่มันชั่วร้ายจริงๆ”ริวงึมงำ

   “เชอะใครใช่ให้แกล้งฉันก่อนเล่า”ยูยิ้มร่า ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นการเอาคืนแค่เล็กๆน้อยๆก็ตาม

   “พี่เรยะก็กลับไปทำงานได้แล้วนะครับ โทระ ริว ป่ะกลับบ้าน”

   สองปีศาจหนุ่มก้าวเดินตามเส้นทางที่คุ้นเคย มีเพียงเรยะที่ทำหน้าชอกช้ำระกำใจเหลือแสนแต่ก็จำเป็นต้องกลับบ้านไปมือเปล่า

   “ไว้พี่จะมาเยี่ยมบ่อยๆนะยู”

   “เรยะ !! กลับไปทำงานขอนายได้แล้ว” เสียงตวาดของท่านรองดังก้องจนฝูงนกแตกตื่นไปทั้งป่า

   “เชอะ ! พี่ไปก่อนนะยู”ว่าแล้วเจ้าตัวก็กระโดดฉับๆหายลับตาไป

   “ไปดี …มาดีนะครับ”

   ยูโอบแขนกอดรอบริวด้วยสีหน้าแช่มชื่น ใบหน้าซุกที่บ่ากว้างอย่างเอาใจเพราะวันนี้ริวทำอะไรเพื่อเขามาจริงๆ “ขอบใจนะริว”

   ”ริวนิ้วหน้าอย่างประหลาดใจสุดแสน “…เป็นไข้รึเปล่า

   ผลั๊วะ !!

   ยูตบกบาลของร่างสูงเข้าให้ “อย่าหวังว่านายจะได้ยินคำขอบคุณจากฉันอีกเป็นครั้งที่สอง”

   ริวหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะหันไปหอมแก้มอีกฝ่ายฟอดใหญ่ “ขอเป็นรางวัลแทนคำขอบคุณดีกว่า”

   ไอ้มังกรหื่น !!


Special

โทระที่ลอบมองทั้งสองพลอดรักกันอย่างเงียบๆ จนไม่รู้จะวางสายตาไว้ตรงไหนดี ความรักที่ปีศาจหยาบๆแบบเขาไม่มีวันเข้าใจว่ามันมีดีตรงไหนแต่เขาก็ได้เข้าใจเมื่อถึงเวลาข้าวเย็นอันแสนสำคัญ

   “ลูกชาย ทำกับข้าวเถอะลูก”

   “ยูเจ็บเท้ายู่ครับ ทำอาหารไม่ไหว”

   เป็นการเอาคืนเล็กๆน้อยที่ยูพอจะทำได้

   หนึ่งอาทิตย์เต็มๆที่ทุกคนในครอบครัวรู้ซึ้งถึงความสำคัญของลูกชาย ท่านพ่อต้องทนทานอาหารที่ไม่ใช่อาหารของท่านแม่ทำ
แล้วท้องเสียไปเป็นอาทิตย์ ขนาดโทระที่ไม่ได้เรื่องมากในการกินยังรู้ซึ้งถึงคำว่ารสชาติแย่เสียยิ่งกว่าแย่เป็นยังไง

   “ลูกชายยย กลับมาทำกับข้าวให้พ่อทานเถอะลูกก”

   “หมอบอกว่าอีกหนึ่งอาทิตย์ข้อเท้าผมถึงจะหายครับพ่อ”

พอคิดว่าข้าต้องทนกินยาพิษนั่นไปอีกหนึ่งอาทิตย์แล้ว ข้าก็รู้สึกรักยูขึ้นมาทันที


   โฮกกกกก !!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-11-2014 07:05:50 โดย xlomx »

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ตัวเอง ชื่อโทระกลายเป็นโทวะหมดเลยยย :ling1:
ปล.อยากให้อัพวันที่ที่มาอัพและเลขหน้าด้วยนะ คนอ่านจะได้รู้ว่ามาอัพแล้วว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-12-2014 16:18:07 โดย cher7343 »

ออฟไลน์ xlomx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
 :sad4:  บางทีนักเขียนก็เบลอๆค่ะ ไม่ทันเห็นว่าพิมพ์ชื่อผิดไปเป็นแถบ  จะนำทุกข้อคิดเห็นไปปรับปรุงแก้ไขค่ะ ขอบคุณค่ะ :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
กร๊ากกกกกกกกกกกกก
พูดเลยว่าอินี่โฟกัสโทระมากกกกกก
ตลกดีอะ ชอบๆ
พี่เรยะหงอยกลับไปซะละ
ตอนหน้าจะมีอะไรน้อออออ
รอตอนต่อไปน้าาาาาา

ออฟไลน์ xlomx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
7

ก่อนมาถึงบ้านใหญ่ผมเคยคิดว่าชีวิตของผมกำลังจะเริ่มขึ้น แต่พอผมมาถึงเท่านั้นแหละ …

จบสิ้นแล้วชีวิตวัยรุ่นของผม

“เอ่อ นี่บ้านใหญ่ฮารุกะ รึเปล่าครับ” ความมั่นใจของผมหดลงเหลือราวๆเศษขี้เล็บที่ปลิวไปกับสายลมและแสงแดด

“ใช่สิ ไม่ได้อ่านป้ายหน้าสำนักรึไง”อีกฝ่ายตอบผมด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

ผมชักไม่มั่นใจว่าผมหลงมาจากมิติไหนรึเปล่า ไหงแต่ละคนมันแฟนตาซีจังฟะเก่งโอเวอร์ไปรึเปล่า ไอ้ที่ลอยๆอยู่นั่นใช้สายสลิง
ใช่ไหม

“นายจะตื่นเต้นไปทำไม บ้านใหญ่เรียกตัวนายมาแสดงว่านายเองก็มีดีอยู่ใช่ไหมละ”

คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมนั้นเป็นเด็กของตระกูลใหญ่ที่ถูกส่งมารับผมที่หน้าประตูตระกูล เน้นว่าแค่หน้าประตูตระกูล ผมต้องผ่าฟัน
อุปสรรคกับเส้นทางสายหฤโหดกับริวแค่สองคนเกือบหวิดตายมาหลายรอบถ้าไม่ได้ริวที่เซนต์แรงบวกกับความหล่อเหลาของ
ผม(?) ที่ให้เราสองคนอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงจุดหมายปลายทาง

 

“อะ… เอ้อ ใช่ ฉันฝึกหมาเก่งมากเลย” โดยเฉพาะหมาที่ชื่อริว

ปึก !

ยูพุ่งถลาไปด้านหน้าอย่างเสียงหลักจากแรงตบของริวที่แผ่นหลัง หน้าเนียนกระแทกเข้ากับคนที่เดินนำอยู่อย่างเต็มรัก ทำเอาขบ
วนเล็กๆของทั้งสามคนชะงักกึก ร่างเล็กดันตัวออกจากหลังแข็งๆนั่นก่อนจะหันไปตะวาดริว

“โอ๊ย ! นี่นายตีหลังฉันทำไมเนี้ยริว”

“ยุงกัด เลยช่วยตบให้”ริวชูรอยเลือดเล็กๆใจกลางฝ่าขึ้นมาเป็นหลักฐาน

ตอแหล !!!! นี่จงใจตบซะเต็มแรงแบบนั้นมันไม่ใช่แต่ยุงกัดแล้ว ความแค้นส่วนตัวชัดๆ

“อ๋อ เดี๋ยวนี้นายกล้าทำร้ายร่างกายเจ้านายเรอะ !”

“จะเถียงกันอีกนานไหม ท่านรองรอนานแล้ว”

ผมกลืนคำด่าพร้อมความแค้นลงคอ ตวัดสายตาเคืองไปให้ริวที่ทำหน้านิ่งเหมือนไม่ได้ทำอะไรผิด

นายเอาฉันไปเทียบกับหมาพวกนั้นก่อนทำไม ริวคิดในหัวก่อนจะดันร่างเล็กที่กระฟัดกระเฟียดให้ออกเดินต่อ สายตาก็มองสำรวจ
ไปรอบๆข้างอย่างสนใจเป็นพิเศษ ช่างเป็นสถานที่ที่หอมหวานจนจมูกของเขาแสบไปหมด

   “อ้าวเข้ามาก่อนสิยู”รองหัวหน้าตระกูลนามมารุนั่งอยู่ในชุดสูทแบบเต็มยศเช่นเคย บนโต๊ะมีเอกสารกองพะเนินสูงจนยูแอบกลัวว่า
ถ้ามีลมพัดเข้ามามันอาจจะถล่มลงไปทับท่านรองตายได้

   “สวัสดีครับท่านรอง”ยูฉีกยิ้มสดใส

   “สวัสดี”ริวก้าวขึ้นมายืนขนาดข้างกับยูพูดทักทายอย่างไม่ใส่ใจนักจนยูต้องแอบเอื้อมมือไปบิดเอวร่างสูงเป็นเชิงเตือนกลายๆ

“…ครับ”

“ฮะๆๆๆ สวัสดีริว”ร่างสูงในชุดสูทกลั้นหัวเราะกับท่าทีของริวที่ทำสีหน้าฝืนใจทักทายแบบสุภาพด้วยความไม่เคยชิน

“เข้าเรื่องเลยแล้วกันนี่ตารางเรียน ส่วนพวกอุปกรณ์เรียนทางตระกูลจัดไว้ให้ในห้องพักของนายแล้ว”คำพูดเนื้อแบบไร้น้ำ
หาความเข้าใจแทบไม่ค่อยได้ของท่านรองทำเอายูได้แต่พยักหน้าหงึกๆเหมือนหุ่นยนต์

“ส่วนเด็กคนนั้นชื่อ ชิน สนิทกันไว้นะเขาจะเป็นคนคอยดูและนาย”

“เหอะๆ ซวยจริง”เสียงพึมพำของชายที่ชื่อชินลอยเข้ากระแทกหูของผมอย่างจัง

“ชิน ฝากยูกับริวด้วยนะ”

“ใครจะไปอยากดูแลเด็กใหม่กัน เสียเวลาจะตาย…”

ท่านรองมองชินด้วยสายตาคมกริบทำให้ชินต้องรีบหุบปากอย่างฉับพลัน ความเย็นยะเยียบแผ่ออกมาจากบุคคลผู้ใส่สูททั้งตัวจน
อีกฝ่ายสะท้าน ถึงแม้ว่าสีหน้าของชินจะฉายแววไม่พอใจอย่างชัดเจนสุดๆ แต่ก็ไม่สามารถเอ่ยปากปฏิเสธได้เช่นกัน จึงได้แต่จำ
ใจตอบรับไปแบบไม่ค่อยเต็มใจ

“เอ่อๆ ผมจะดูแลพวกเด็กใหม่ก็ได้”ชินพูดเสียงอ่อยอย่างจำยอม

“ดีมาก”ท่านมารุฉีกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะไล่พวกผมทั้งผมออกมาเพราะงานที่กองพะเนินไม่สามารถรอได้มากไปกว่านี้ และเมื่อกี้
ผมแอบเห็นแวบๆว่ามีคนยกเอกสารอีกปึกเข้าไปวางไว้บนโต๊ะท่านรองด้วย เป็นคนใหญ่คนโตนี่น่าสงสารจริงๆขนาดท่ารองยัง
งานเยอะขนาดนี้ ท่านหัวหน้าตระกูลจะงานหนักขนาดไหนไม่อยากจะคิด

ในขณะที่ผมกำลังใช้ความคิดอย่างเพลินแขนของผมก็ถูกกระชากอย่างแรงจนลงไปคลุกฝุ่นกับพื้นด้วยความมึนงงและสับสน

“อย่ามั่วแต่เหม่อได้ไหมหะ ! หัดระวังซ้ายระวังขวาซะบ้าง”ชินตะคอกผมอย่างโกรธๆในขณะที่ผมยังไม่เข้าใจเหตุการณ์จน
กระทั่งริวสะกิดผมให้ไปมองหลุมขนาดเล็กที่อยู่ใกล้เท้า มีร่อยรอยของการเผาไหม้ของดินจนกลายเป็นสีดำเท่านั้นแหละ ผมถึง
เข้าใจว่าเพราะไรผมต้องลงมากลิ้งคลุกดินอยู่แบบนี้

“ขะ ขอบคุณนะ”ผมพูดเสียงอ่อยอย่างรู้สึกผิด

“เหอะ พวกบ้านนอก ไร้น้ำยา กาก”



ซะที่ไหน !!

“ใครมันจะไปรู้ละวะ ว่าเดินอยู่ดีๆถนนก็กลายเป็นรูระเบิดขึ้นมา มันใช่ความผิดฉันรึไงเล่า !!” นี่มันสนามรบหรืออะไรถึงได้มีแต่เรื่อ
งงพิลึกกึกกือทั้งนั้น

ผมลุกขึ้นยืนตะโกนใส่ชินอย่างโมโหมากๆ ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะตะโกนใส่เอาๆแล้วจะไม่ของขึ้นนะเว้ยเดี๋ยวพ่อปั๊ดจัดให้

“ยูใจเย็น”ริวยกแขนล็อคคอผมเอาไว้ที่ทำท่าจะเดินเข้าไปฟัดกับชิน

“คะ คือว่าขอโทษนะครับ เมื่อกี้ผมพลาดไปหน่อย ผมไม่ได้ตั้งใจ”เสียงขอเด็กหนุ่มอีกคนเรียกความสนใจจากผมเป็นอย่างดี น้ำ
เสียงสั่นเครือดวงตากลมโตคลอหน่วยไปด้วยน้ำตาที่ปริ่มจนแทบจะหยาดหยดลงมาด้วยความสำนึกผิดทำให้ผมใจอ่อนไม่ถือสา
เอาเรื่องอีก

“ถ้านายไม่พลาดคงมีคนนองเลือดแถวนี้แล้วละฮารุ ถ้าเป็นแบบนั้นได้จริงๆจะดีมาก”

“ห๊า นายว่าอะไรนะ”ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่ชิน

“หูหนวกรึไง จะไปตายที่ไหนก็ไปน่ารำคาญชะมัด”

ริวที่เงียบฟังมานานหรี่ตามองเด็กหนุ่มชาวมนุษย์อย่าที่เริ่มมีอารมณ์ครุกกรุ่นขึ้นมาบ้างแล้ว ทำยูของเขาเจ็บตัวไปพอยังพูดจาไม่
เข้าหูอีก ไม่จัดการบ้างคงไม่เข็ดหลาบ

 ริว-จัดการ-ยูออกคำสั่งริวในห้วงความคิดผ่านกระแสจิตที่สงบนิ่ง เป็นความสงบนิ่งครั้งสุดท้ายก่อนความอดทนเส้นสุดท้ายจะ
ขาดผึ่งออก เป็นคำสั่งจริงจังที่ริวไม่ได้ยินมานานจนอดตื่นเต้นเล็กไม่ได้ที่จะได้ทำตามคำสั่งของอีกฝ่ายด้วยความเต็มใจ

หมับ !

มือแกร่งที่เต็มไปด้วยกรงเล็บของริวคว้าหมับเข้าที่ลำคอของชินริว ความไวปีศาจที่น่าตกใจของร่างสูงที่ดูไม่ค่อยเก่งอะไรทำเอา
ชินผงะ ยังไม่ทันตั้งตัวเภทภัยก็มาถึงตัวเสียแล้ว เมื่อสายตาที่ตามความไวนั้นไม่ทันก็ยากที่จะหลบการจู่โจมแบบกะทันหันครั้งนี้
ได้

“อย่า อย่าทะเลาะกันเลยนะครับ”เด็กชายเกาะแขนของยูเขย่าเบาๆ

“หืม ไม่ได้ทะเลาะสักหน่อย ก็แค่สั่งสอนพวกปากดีก็เท่านั้นเอง”ยูยิ้มหวาน รอยยิ้มนั้นทำเอาเด็กหนุ่มนามฮารุขนลุกเกรียว

เหอะ ! นี่ถ้าเขาพกคีมถอนฟันจากที่บ้านมาด้วยได้นะ เขาจะถอนฟันสกปรกๆจากปากนั่นไม่ให้เหลือเลย

กรงเล็บที่เริ่มขยับบีบเข้าจนแน่นของริวไม่มีทีท่าว่าจะเป็นเรื่องล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย ชินหน้าแดงกล่ำอย่าคนขาดอากาศหายใจ
ร่างกายกำยำไม่สามารถขยับได้ดั่งใจทันทีที่สบเข้ากับนัยต์ตาเรียวเล็กของร่างสูงตรงหน้า

“อ้าวๆ ปีศาจของนายไปไหนซะละ”ยูเอียงคอมองด้วยความสงสัย ถ้าเจ้านายอยู่ในอันตรายขนาดนี้ปีศาจในพันธสัญญาน่าจะรู้สึก
ได้นี่หน่า

“คะ คุณชินยังไม่มีปีศาจหรอกครับคุณ….”

“ฉันชื่อยู ส่วนเจ้านั่นชื่อริว”

“คะ คุณยูปล่อยคุณชินไปเถอะนะครับ ผมขอละ”เด็กหนุ่มน้ำตาร่วงเผลาะๆอ้อนวอนผมอย่างน่าสงสาร

เริ่มมีคนมามุ่งดูพวกเราทั้งสามคนมากขึ้นจนผมหมดอารมณ์จะสั่งสอนคนปากดี

“เห็นแก่นายนะ  ริวพอ”

แคกๆๆๆ

เสียงไอสำลักอย่างน่าสงสารทำให้ฮารุต้องวิ่งเข้าไปลูบหลังอีกฝ่ายเบาๆ “เหอๆ อย่าคิดว่าฉันเป็นเด็กใหม่แล้วจะหงอให้นายข่ม
เอาๆนะเฟร้ย” ผมยืนค้ำหัวของอีกฝ่ายเอาไว้ เหลือบตามองต่ำอย่างคนเหนือกว่า

“หึ แน่จริงก็มาสู้กันตัวต่อตัว พวกขี้ขลาดเอาตาหลบอยู่หลังปีศาจอย่างนายยังมีหน้ามาพูดอีกรึไง”

“อ้าว มีของดีไม่ใช้เสียของสิพูดแปลกๆ ฉันจะไปสู้กับนายให้เจ็บตัวเล่นทำไม”

คำพูดไร้ยางอายกระทั่งริวยังอดที่จะส่ายหน้าด้วยความระอาในใจไม่ได้ “อะไร?มองฉันแบบนั้นทำไมเล่า ก็ฉันพูดเรื่องจริงนี่”

“เหอะ ขี้ขลาด”ชินเบือนหน้าหนีผม

“เขาเรียกว่าฉลาด ไม่ใช่ขี้ขลาด เพราะฉันสู้นายไม่ได้ก็เห็นๆอยู่ แล้วทำไมฉันต้องไปสู้กับอะไรที่ฉันสู้ไม่ได้ด้วยเล่า”

“พูดได้ดี !”

เสียงของชายรุ่นใหญ่ดังขึ้น เขาเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่แต่หลังงองุ้มด้วยความชรา ผมสีขาวโพลนบนศีรษะบ่งบอกถึงความมีอายุ
ว่าเกินเลขหกมาแล้วแน่ๆ ยูก้มตัวลงคำนับชายชราดังกล่าวอย่างอ่อนน้อมทั้งๆที่ไม่รู้จักหรือแม้แต่ชินและฮารุก็รีบยืนก้มหัวต่ำ
ประสานเสียงทักทายชายดังกล่าว

“สวัสดีครับท่านเมียวกะ/สวัสดีครับท่านเมียวกะ”

ชายชราพยักหน้าน้อยๆอย่างพอใจก่อนจะหันมามองยู “เด็กใหม่เรอะ”

“ครับ ผมชื่ยูเป็นลูกชายของ ท่านแม่ชิเอรุกับท่านพ่อคัตสึครับ”

“ชิเอรุกับคัตสึเรอะ….อืม ฉันไม่ได้เจอเจ้าคู่นั้นมานานแล้วละนะ ว่าแต่ทะเลาะอะไรกัน”

“เปล่าครับ/ไม่มีอะไรครับ”ยูและชินตอบพร้อมกัน

 ทั้งสองเหลือบมองหน้ากันเล็กน้อยครั้นเห็นอีกฝ่ายมองมาก ต่างฝ่ายต่างก็สะบัดหน้าหนีไปคนละทางจนผู้เฒ่าเมียวกะหรี่ตามอง
“ตามกฎแล้วใครลงมือก่อนคนนั้นผิด ต้องถูกลงโทษนะ”

“ผมลงมือก่อนเองครับ”ยูเชิดหน้ารับอย่างลูกผู้ชาย เพราะตัวเองเป็นฝ่ายเริ่มจู่โจมก่อนจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า
เขาจะเป็นฝ่ายผิดเสียหน่อย

ท่านผู้เฒ่าเมียวกะเห็นท่าทางดื้อดึงของยูก็แสยะยิ้มออกมา “เอาเถอะ ถือว่าเป็นเด็กใหม่ฉันจะหยวนๆให้ทำเป็นไม่เห็นแล้วกัน”

“ขอบคุณครับ”

“แล้วนี่จะไปไหนกัน”

“ผมจะพาเจ้าเด็กใหม่ไปที่ห้องพักครับ”ชินตอบอย่างฉะฉาน

“งั้นเรอะอืมงั้นก็ไปเถอะ”

“ครับ”

พวกเราทั้งหมดก็รีบเดินออกไปจากบริเวณนี้ทันทีก่อนที่ท่านผู้เฒ่าจะเปลี่ยนใจเสียก่อน ผมหันกลับไปมองชายชราที่ถูกชินและ
ฮารุเรียกว่าท่านเมียวกะอย่างพิจารณา รอยยิ้มใจดีตามประสาคนแก่ดูไม่มีอะไรน่ากลัวแต่ดูจากท่าทางของชินที่หน้าซีดเป็นไก่
แช่แข็งกับฮารุที่ยืนแข็งทื่อก็พอจะสรุปคร่าวๆว่าท่านผู้นี้อาจจะเป็นอาจารย์หรือบุคลากรระดับสูง

“เอาห้องของนายอยู่ชั้นหก ห้องหกหกหก”

ชินพูดรัวก่อนจะยัดกระดาษแผ่นบางที่ยับยู่ยี่ใส่มือของผมแล้ววิ่งหนีไปด้วยสีหน้าสะใจแบบที่ผมไม่เข้าใจเขาเลยสักนิด ทำเอา
ผมถึงกับหัวเราะเหอะๆๆ หาทางเอาของขึ้นไปไว้ที่ชั้นหกด้วยตัวเอง และมันทำให้ผมรู้อย่างหนึ่งว่าที่หอพักขนาดใหญ่แห่งนี้ไม่มี
ลิฟท์ !

“บอกฉันทีว่าฉันไม่ได้อยู่ชั้นหก”ผมน้ำตาปริ่มหันไปมองริว

“โทษทีนะแต่นายอยู่ชั้นหก”

ผมลากกระเป๋าขนาดใหญ่ขึ้นตามบันใดแต่ละขั้นด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี แต่สุดท้ายแล้วกระเป๋าทั้งหมดของผมก็ไปกองอยี่มือ
ของริวและผมก็เดินตัวเปล่าๆแบบลิ้นห้อยขึ้นห้องไป

“ฉันดีใจจริงๆที่เดินขึ้นมาถึงห้องได้โดยที่ไม่ขาดใจตายกลางทางไปซะก่อน”ผมบ่นงึมงำนอนแผ่หลาอย่างหมดแรงอยู่กลางห้อง

“ยู”ริวคว้าแขนของผมเอาไว้

“มีอะไร”

ริวไม่ตอบแต่เดินเข้ามาจับที่แขนของยูแล้วยกขึ้น ทำให้ยูได้เห็นแผลถลอกขนาดกลางๆที่ข้อศอก แผลสดสีแดงคล้ำที่เปื้อนฝุ่นมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย “อ้าวเป็นแผลด้วยหรอเนี้ย” ยูมองแขนของตัวเองตาโตเพราะตรงที่เป็นแผลแทบจะไม่รู้สึกเจ็บเลยสัก
นิด

แต่พอเห็นเลือดที่ซึมออกมาเท่านั้นแหละ ความแสบก็เข้าซ้ำเติมให้เจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที

“เจ็บมารึเปล่า”ริวเปิดขวดน้ำเทล้างคราบฝุ่นที่เกาะอยู่ออก

“ไม่เป็นไร พอไหว”

แผลบ !

ริวยึดแขนเล็กไว้มั่นไม่ยอมให้ยูที่ตกใจจนชักมือหนีขยับไปไหน ปลายลิ้นร้อนลากผ่านปลายแผลยาวเลยไปถึงปลายนิ้วเรียวยาว

“ระ ริว พอแล้ว”ยูยกมืออีกข้างขึ้นปิดปากของริวแล้วดันออกห่าง ฝ่ามือที่สั่นระริกของอีกฝ่ายทำให้ริวขยับยิ้ม

“แผลยังไม่หาย”ริวงับนิ้วร่างเล็กเบาๆอย่างขัดใจ สายตาคมปล๊าบของร่างสูงที่จ้องมองมาทำให้ยูต้องหลุบตาต่ำ หยุดการดิ้นรน
ขัดขืนที่ไร้ประโยชน์ปล่อยให้ริวทำตามต้องการ

กึก!

“โอ๊ย นี่นายกัดฉันทำไมเนี้ยหะ!”

“หงุดหงิด”

อะไรฟระ หงุดหงิดแล้วมากัดผมทำไมวะเนี้ย “เป็นหมาไปแล้วรึไง”

“มีเจ้าคนที่ชื่อชิน น่าหงุดหงิด”

“ฉันก็หงุดหงิดเหมือนกันเฟร้ย ! คนบ้าอะไรน่าเตะปากชะมัด”
ยูถือโอกาสที่ริวคลายมือออกชักแขนกลับเพื่อที่จะได้เปิดดูกระดาษที่เจ้าบ้านั่นยัดมาใส่มือเขา มันเป็นคล้ายๆตารางเรียนที่มีวิชา
เวลาและสถานที่กำกับไว้ มีเรียนจันทร์ถึงศุกร์ แต่เอ…เสาร์อาทิตย์ เป็นปฏิบัติการ ร่างเล็กพลิกกรดาษไปอีกด้านซึ่งเป็น
กำหนดการพิเศษต่างๆ  วันพรุ่งนี้จะเป็นวันคัดตัว…

“หืม คัดตัวอะไรน่ะ?”

ยูพยายามพลิกกระดาษหารายละเอียดให้มากกว่านี้ พลิกจนกระดาษแทบขาดข้อมูลที่ได้ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย “เจ้าชินไม่เห็นจะพูด
อะไรเรื่องกำหนดการของพรุ่งนี้เลย”

“เขาอาจจะอยากแกล้งนายก็ได้”

“เหอะ เด็กชะมัด”

“จะเอาไงต่อ”ริวถามเสียงเรียบ มือทั้งสองข้างเนียนโอบเอวของอีกฝ่ายก่อนจะเอาคางเกยไหล่ของอีกฝ่าย

“ก็ไม่ไง เราคงทำอะไรไปไม่ได้มากกว่าการเตรียมใจ”

“อืม”ริวครางรับในลำคอ

แก้มเนียนของร่างสูงถูกไถกับซอกคอขาวของยูเบาๆเป็นเชิงอ้อน ยูเอียงคอหนีแต่เหมืนยิ่งเป็นการเปิดทางให้ริวได้รุดล้ำมากขึ้น

“เฮ้ เป็นอะไรหิวแล้วรึไง”ยูถามด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจเพราะไม่นานมานี้พึ่งจัดชุดใหญ่ไปให้แท้ๆ

“เปล่า เลือดของนายทำให้ฉันมีอารมณ์”

“ไอ้โรคจิต !!!”ยูตะโกนลั่นก่อนจะดิ้นพล่านให้หลุดจากวงแขนแกร่งนั้น

ราวกับเหยื่อที่ติดกับ เมื่อรู้ตัวอีกทีก็หนีไปไหนไม่ได้เสียแล้ว ถูกกักขังไว้ในวงแขนแสนบอุ่นและปลอดภัยเรี่ยวแรงก็พลันถูกสูบ
หายไปหมด

ก๊อกๆๆๆๆๆ

“อ๊ะ ปล่อยเร็ว”ยูตีแขนริวแรงๆ

ร่างสูงหน้าบูดสนิทที่ถูกขัดจังหวะ ถึงกระนั่นก็ยอมคลายวงแขนออกเล็กน้อยให้ยูดิ้นออกไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ทันทีที่หลุด
ออกมาได้ยูก็รีบวิ่งไปเปิดประตูทันที

“ครับ?”

“โอ้ เด็กใหม่หน้าตาธรรมดากว่าที่คิด”

ฉึก !!

สาบานสิครับว่านั่นเป็นคำทักทายของคนที่พึ่งเคยเห็นหน้ากันครั้งแรก !

ปึก !

นิ้วเรียวที่เต็มไปด้วยพละกำลังดันประตูที่กำลังจะปิดลงด้วยฝีมือของยูไว้ได้ชะงัก

“โอ้ๆ นี่อย่าปิดประตูใส่หน้าคนที่พึ่งรู้จักกันครั้งแรกสิ”ชายหนุ่มยิ้มหวานให้ยู

“ขอโทษทีพอดีมือผมลื่น”ยูก็ส่งยิ้มหวานให้อีกฝ่ายเช่นกัน

“ฉันชื่ออายะ พวกนายชื่ออะไรกันบ้าง”

“ฉันชื่อยู ส่วนนั่นผู้พิทักษ์ของฉันชื่อริว”

“ยินดีที่ได้รู้จัก พอดีว่า ที่ห้องฉันไม่มีอะไรให้กินเลยอ่ะนะ ห้องนายพอจะมีอะไรให้ทานบ้างรึเปล่า”

ผมยืนอึ้งไปประมาณสามวิก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนตรงหน้าจังๆ ให้ตายตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อน
อายะดันผมให้หลีกไปอีกทางก่อนจะรื้อของกินที่ผมพึ่งจะเก็บเข้าตู้เย็นเสร็จออกมาทาน แถมยังอุตส่าห์มีน้ำใจหยิบมาเผื่อริวที่นั่ง
ดูทีวีอยู่ด้วย

“แหมๆ คนบ้านเดียวกันอย่าขี้เหนียวไปเลยน่า”ว่าแล้วอายะก็นั่งลงดูทีวีกับริวหน้าตาเฉย

ริวอมยิ้มเหลืบสายตาไปมองยูที่ยืนปลงตกยู่หน้าประตู “ยู”

“หืม”

“มานี่สิ”ริวตบที่นั่งว่างข้างตัว ยูก็เดินเอื่อยๆไปนั่งดูทีวีสมทบตาม

“นายรู้รึเปล่าอายะว่าการคัดตัววันพรุ่งนี้คืออะไร”

“ก็ประมาณว่าคัดว่าใครจะได้เรียนกับท่านอาจารย์คนไหนน่ะ แต่ฉันบอกไม่ได้หรอกนะว่ามันเป็นยังไง กฎกติกามันเปลี่ยนไปทุก
ปี”

“แล้ว…”

“อ่าอิ่มแล้วละ ฉันไปนอนละนะ ฉันอยู่ห้องข้างๆนายมีอะไรค่อยมาถามพรุ่งนี้เช้าแล้วกันนะ”อายะพูดตัดบทแล้วก็เผ่นแนบกลับไป
อย่างรวดเร็วทำให้ยูที่กำลังจะถามข้อมูลถึงกับหน้าเหวอไป

“เจ้านั่น…”

กร็อบ !

ตะเกียบไม้ในมือของยูถูกหักออกเป็นสองส่วนด้วยความโกรธแบบสุดๆ  “สักวันฉันต้องเส้นเลือกในสมองแตกตายแน่ๆ” ริวยิ้มกับ
เสียงบ่นงึมงำนั้นก่อนจะยกมือลูบหัวลูบหางยูเป็นเชิงปลอบให้ใจเย็นลง

เฮ้อ ท่านพ่อครับ ท่านแม่ครับ ช่วยส่งกำลังใจให้ยูอยู่รอดปลอดภัยในที่ประหลาดๆแบบนี้ด้วยนะครับ




*****

หายไปนาน แต่ไม่ได้หายหน้านะครับ พอดีกว่าช่วงนี้ติดสอบแบบจะตายแล้วครับผมแต่จะมาอัฟเรื่อยๆไม่ให้ผู้อ่านรอนานเกินไปนะครับ   :pig4:


ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ตะกูลใหญ่มีแต่คนพิลึกๆแฮะ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
อายะเนียนนะ
มาแบบมึนๆ จากไปแบบเร็วแสง 666

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
บ้านใหญ่มีแต่คนไม่เต็มเนาะ :mew5:
ยังไงก็เอาใจช่วยทั้งยูทั้งคนแต่ง :กอด1:
รอตอนต่อไปน้าาาาา

ออฟไลน์ PJansam

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
บ้านใหญ่หรือหลังคาแดง 55555

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
สงสารยูจับใจ อยากรู้จริงยูทำไรได้มั้ง
โหยๆๆๆๆๆ อยาากอ่านต่อ มาไวๆนะ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
บ้านใหญ่มีแต่คนประหลาดๆ

ออฟไลน์ yogurtjung

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-11
ชอบอะ

บ้านใหญ่มีแต่คนประหลาดดีหลากหลาย

รอตอนต่อไปนะจ๊ะ ใจจ๊ะ

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
สุดยอด ชอบมาก เรื่องนี้เก๋สุดๆ
ริวกะยูน่าร๊ากกกกกมาก
หวังว่ายูจะอยู่บ้านใหญ่ที่มีแต่คนแปลกๆแบบนี้ได้นะ น่าสงสารไงไม่รู้

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
รอวันที่ยูได้ปล่อยพลังออกมาแบบจัดเต็ม

ปกติไม่ค่อยอ่านนิยายแนวนี้แต่เรื่องนี้เว้นไว้ละกัน 555 :o8: :o8:

ออฟไลน์ xlomx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ผมยืนอยู่หน้ากระจกมาร่วมสิบนาทีได้แล้ว  พร้อมๆกับถอนหายใจรอบที่หกสิบของวัน

“รู้สึกลางไม่ดีแบบสุดๆ”ยูบนงึมงำอยู่หน้ากระจก

“อาจจะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น”ริวที่คาบขนมปังไว้ในปากพูดขึ้น ด้วยใบหน้าราบเรียบเหมือนเคย

ก็ใช่สินายมันทั้งเก่งทั้งฉลาด ยังจะต้องมีอะไรให้กังวลไม่ทราบ !

“เฮ้อ นายช่วยเอาแจกันฟาดหัวฉันให้สลบทีได้ไหม”

ริวเหลือบมองผู้เป็นเจ้านายก่อนจะหยิบแจกันใบขนาดพอดีมือขึ้นมา

“เจ้าบ้า !! ฉันล้อเล่นเฟร้ย”ยูผงะร้องลั่น

ริวไหวไหล่ด้วยท่าทางที่กวนๆ “ฉันก็ล้อเล่นเหมือนกัน”

… ไอ้มังกรปีศาจ ไอ้คนไม่ใช่คน ไอ้จิ้งจกยักษ์….

“เฮ้ยๆๆ นั่นนายจะลุกมาทำไม ฉันแค่ด่านายในใจเองนะ !!”

ริวดึงขนมปังในปากโยนทิ้งอย่างไม่ใยดีก่อนจะค่อยๆก้าวย่างสาขุมตรงไปหายูที่ยืนอ้าปากพะงาบๆ นัยน์ตาที่หรี่เล็กจนเป็นเส้น
ตรงคล้ายงูดูน่ากลัวจนร่างเล็กผงะถอยกรูดไปติดกำแพง ริวใช้ประโยชน์จากร่างกายที่สูงใหญ่ต้อนอีกฝ่ายเข้ามุมหมดทางหนี

“นะ นี่จะทำอะไรหา”ยูยกแขนขึ้นบังหน้าหลับตาปี๋อย่างกลัวๆ

ริวยิ้มมุมปากอย่างนึกแกล้งก่นจะยกมือขึ้นดันกำแพงขังร่างของยูไว้ด้วยลำแขนแกร่งทั้งสองข้าง ใบหน้าคมก้มโน้มลงเข้าประชิด
แก้มเนียนที่แดงระเรืองของยูที่ตกเป็นเหยื่อ ริมฝีปากชมพูซีดที่ชิดอยู่ข้างหูของงร่างเล็กพ่นไอร้อนของลมหายใจออกมา ทำเอา
ร่างบางสะท้านเฮือกยกมือทั้งสองข้างผลักริวออกแต่ร่างสูงก็ไม่ได้สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย

“นี่ฉันเป็นเจ้านายของนายนะเฟร้ยย อย่าคิดว่าจะรังแกกันง่ายๆนะ”ผมยกมือชกอีกฝ่ายทั้งๆที่หลับตาปี๋

 ร่างสูงมองยูที่ทั้งผลักทั้งทุบเขาอย่างขัดใจ จึงตัดสินใจรวบข้อมือทั้งสองข้างของร่างเล็กไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวตรึงไว้เหนือ
หัว

“ระ ริวว ปล่อยย”

“รีบไปไหน”ฝ่ามือเย็นสอดเข้าไปใต้สาบเสื้อก่อนหักเลี้ยวแหกโค้งแบบฉับพลันสอดเข้าไปในกางเกงแทน

เฮือก !

ยูสะท้านกลั้นหายใจเมื่อรู้สึกได้ถือนิ้วมือเรียวรุกล้ำเข้ามา ไอเย็นของปลายที่แผ่ผ่านเนื้อผ้าชั้นในเบาบางถึงกับทำให้แข้งขาอ่อน
ระทวย เพียงแค่สะกิดเบาๆกางเกงทั้งตัวก็ไหลร่วงไปตามเรียวขากองอยู่ที่พื้นเพียงแค่พริบตาขาขาวผ่องก็ได้ออกมาอวดสายตา
ของริวที่จ้องอยู่ตั้งแต่แรก

“ยะ อย่า เดี๋ยวไปคัดตัวสาย”

“หืม? ไม่อยากไปไม่ใช่รึไง” ริวยิ้มขำๆกอดยูที่อ่อนปวกเปียกไว้แนบอก

“ไม่ๆๆๆ อยากไปแล้ว โคตรๆ ของโคตรยากไปเลย”

ริวเบนสายทอดลงมองต่ำไปที่ต้นขาขาวของร่างเล็กก่อนจะเลื่อนมือลูบวนบนจุดเนื้อที่ไวต่อสัมผัสนั้นเบาๆ ก่อนจะยกขาเรียวนั้น
ขึ้นมาที่ระดับเอวกลายเป็นท่าชวนวาบหวามหัวใจเกินกว่าที่หัวใจดวงน้อยของยูจะรับไหว

“เฮ้ยย นี่มันอีโรติกไปไหมม” ยูร้องเสียงหลงพยายามบิดข้อมือออกมจาจากการเกาะกุมของร่างสูง

ริวไม่ตอบ เอาแต่ก้มหน้าก้มตาสำรวจขาอ่อนของยูอย่างจริงจัง นิ้วเรียวกดลูบคลำเน้นคลึงอย่างลามกจนยูรู้สึกได้ว่าเลือดใน
ร่างกายทั้งหมดทุกส่วนไหลขึ้นมากองอยู่ที่หน้าของเขาจนร้อนเห่อไปหมดร่างกายพาลสั่นสะท้านอย่างห้ามไม่ได้

“อืออ อย่ากดตรงนั้นสิ”

“หึหึ ฉันก็แค่จะตรวจสอบอาคมที่ลงเอาไว้ว่ายังอยู่แค่นั้นเอง”ริวหัวเราะในลำคอน้อยๆยอมละมือจากร่องรอยการลงอาคมที่ต้นขา
ของยู ก่อนจะปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระก่อนที่เขาเองจะเป็นฝ่ายทนไม่ไหวเอาซะเอง

“ยูลามก”

ยูยืนอ้าปากค้างมองร่างสูงอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ใบหน้าที่แดงแป๊ดมาแต่เริ่มตอนนี้ความอับอายเข้าแทรกส่งผลให้
เลือดสูบฉีดแดงไปทั้งหน้าทั้งคอ ความอับอายแปรเปลี่ยนกลายเป็นความโกรธ

“ไอ้มังกรโรคจิต !!”ยูตะโกนก่อนจะคว้าทุกอย่างใกล้มือปาใส่อีกฝ่าย

ริวเอียวตัวหลบอย่างไม่ยากเย็นนักรอให้อีกฝ่ายปาจนเหนื่อย จนของที่อยู่ในห้อน้ำออกมากองข้างนอกหมดแล้วยูจึงหยุดมือมอง
ร่างสูงหน้าอย่างโกรธจัด

“ออกไป” !!!

“จัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนออกไปด้วยละ”ริวยิ้มร้ายทิ้งระเบิดทิ้งท้ายก่อนจะวิ่งไวๆออกมา

ยูแทบจะอยากทุมชักโครกปาใส่อีกฝ่ายด้วยความโมโห



ไม่นานนักทั้งสองก็ออกมายืนรวมตัวที่จุดรวมพล เด็กใหม่มากหน้าหลายตาร่วมห้าสิบคนยืนเข้าแถวกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
เหมือนเข้าแถวหน้าเสาธงในตนเช้าๆแถมมีคนยืนเช็คชื่อในแต่ละแถวอีกด้วย

“ทะ ทันเวลาแบบพอดิบพอดี”ยูทิ่วิ่งหน้าตื่นมาพูดบนหอบน้อยๆ



“อะแฮ่ม ทุกคนฟัง”เสียงประกาศตามสายที่ไม่ได้ดังมากนักทำให้ทุกคนต้องเอียงหูฟังอย่างตั้งใจ ใบหน้าของแต่ละคนฉายแวว
ความกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“เรากำลังจะเริ่มทำการคัดเลือกนักเรียนโดยการประลอง ง่ายๆก็คือสู้กันจนกว่าจะมีฝ่ายหนึ่งยอมแพ้”

นั่นเรียกเสียงฮือฮาจากหลายๆคนได้เป็นอย่างดี นอกจากสายเลือดของเราจะเรียกปีศาจแล้วก็ยังมีพรสวรรค์เล็กๆติดมาด้วยแตก
ต่างกันไป

 “โอ้โหกติกาเบสิกสุดๆ คนคิดการคัดเลือดหมดมุขคิดอะไรไม่ออกแล้วใช่ไหม”

“ปีแล้วยังน่าสนใจกว่านี้อีก”

“แบบนี้มันไร้ศิลปะไปไหม”

เสียงบ่นพึมพำของเหล่าเด็กหน้าใหม่ดังเป็นระยะไม่ขาดสาย กลบเสียงไมค์ไปหมดจนผมฟังไม่รู้เรื่องว่าที่ประกาศนั้นเป็นเรื่อง
อะไรกันแน่

“ริวนายได้ยินรึเปล่า”ผมหันไปสะกิดถามคนข้างๆแทน
“ไม่ได้ฟัง”ริวอ้าปากหาวตอบแบบง่วงๆ

ดวงตาปรือใกล้ปิดเต็มที่ของร่างสูงทำเอายูถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะริวเล่นไม่สนใจอะไรเลยแถมทำหน้ารำคาญเต็มแก่ว่า
อยากกลับไปนอนที่ห้องอีกต่างหาก

กว่าเสียงซุบซิบของพวกเด็กใหม่จะลดลงได้ เสียงของประกาศก็พูดไปไกลมาแล้ว เข้าสู่ช่วงที่ประกาศร่ายชื่อแล้วว่าใครจะได้คู่
กับใคร

“คู่แรกฮารุกะ ยูยะ กับ ฮารุกะ ไดจิ”

ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อสิ้นเสียงประกาศ เหมือนมีลูกโป่งแตกในตัวดังโป๊ะพอรู้ตัวอีกทีตัวของผมก็ถูกลากถูมายืนอยู่กลาเวทีกับเด็ก
ผู้ชายอีกคนที่ตั้งท่าพร้อมสู้ ส่วนริวก็ยืนอยู่ขอบเวทีส่งสายตาให้ผมประมาณว่ารีบๆสู้เสียทีเขาจะได้กลับไปนอน

ไม่ได้ช่วยอะไรเลย !!

“เริ่มได้”

“หะ ดะ เดี๋ยวสิ”

ยูก้าวถอยหลับตามจังหวะการก้ามเดินของเด็กผู้ชายที่ชื่อไดจิ ถอยแล้วถอยอีกถอยจนจะตกขอบเวทีอยู่รอมร่อ

“สวัสดี”อีกฝ่ายทักทายผมที่ยืนเหงื่อตกอยู่ขอบเวที

“สวัสดี ฉันยู”

“นายใช้นามสกุลของบ้านใหญ่แสดงว่าคนในตระกูลของนายคงจะเป็นคนใหญ่คนโตนาดูสินะ”

“อ่า …คงงั้นมั้ง” ผมย้อนนึกไปถึงท่านแม่ที่ว่างๆก็เปิดร้านหมอดูและปิดไปด้วยเหตุผลที่ว่าขี้เกียจและท่านพ่อที่เอาแต่ปลูกต้นไม้
ทั้งวันประหนึ่งลูกตัวเองแล้วผมก็ไม่ค่อยมั่นใจกับที่ไปที่มาขงนามสกุลตัวเองนัก แต่ก็มีไม่มากที่คนในตระกูลไม่ว่าจะเป็นญาติ
หรือญาติห่างๆจะมีสิทธ์ใช้นามสกุลของตระกูลโดยตรง


ไดจิยิ้มน้อยๆอย่างสุภาพก่อนจะหยิบบางอย่างที่มีสีเงินวาววับออกมาจากทางด้านหลัง ซึ่งนั่นทำให้ผมร้องออกมาทันที เมื่อเห็น
เต็มสองตาว่าสิ่งนั้นคืออะไร มันคือกริชสีเงินวาวท่าทางอันตรายมิใช่น้อย “ขอเวลานอกกก ขอเวลานอกครับกรรมการ”

การแข่งขันหยุดชะงัดทันที มีคนเดินเข้ามาถามผมว่าต้องการอะไร ขอเวลานอกทำไม “ผมเอาปีศาจในพันธะมาร่วมสู้ได้ไหม
ครับ”

“ไม่ได้”

คำตอบที่รวดเร็วแบบไม่ต้องคิดนั่นทำเอาผมอยากจะเป็นลมมันซะตรงนี้ “เสียเวลามาแล้วนะ รีบสู้กันให้จบๆเถอะ”

ถ้าผมกรี๊ดเป็นภาษาอีทีได้ผมจะทำ!

อีกฝ่ายมีกริชเป็นอาวุธ ผมก็มีเหมือนกัน !



มีปอกผลไม้ !


นั่นเรียกเสียงฮาครืนจากคนทั้งห้องส่ง(?) แม้แต่กรรมการทั้งสี่คนก็เอาไมค์ตบโต๊ะฮาแตกแบบไม่เกรงใจผมเลยแม้แต่น้อย

โอ้อย่างน้อยผมก็นึกออกนะว่าผมมีอาวุธในมือ(?)

“ฮะๆๆ นายนี่ตลกดีนะ”ไดจิหัวเราะกับอาวุธของผม

“รีบๆสู้ให้มันจบๆซะที”ผมกัดฟันพูดข่มความอาย

ไดจิพุ่งเข้าหาผมด้วยความเจ็บที่น่าเหลือเชื่อสำหรับมนุษย์คนหนึ่ง ผมออกตัววิ่งไปยังอีกฝั่งของสนามทันที เพื่อไปตั้งหลัก  ไดจิ
เหมือนนักฆ่ามือชีพมากกว่า เขารวดเร็วและว่องไวเกินกว่าที่ผมจะกล้าข้าประทะตรงๆ สมองของผมกำลังประมวลข้อมูลจากการ
เคลื่อนไหวตรงหน้าพร้อมๆกับการหลบหลีกที่เฉียดตาย ทุกครั้งที่อีกฝ่ายตวัดคมมีด บนตัวของผมจะต้องมีรอยแดงนูนปรากฏขึ้น
มาจางๆ

จะสู้ยังไง? จะต้องทำยังไง? ผมคิดด้วยความร้อนรน

ยู นายต้องใจเย็นกว่านี้ แล้วมองให้ดีๆ เสียงของริวดังก้องขึ้นมาในหัว

เจ้าบ้าเอ้ย นายลองมาเป็นฉันดูเซ่ !

ยูพยายามรวบรวมสมาธิและสติจากทุกหยาดหยดทุกอณูในร่างกาย เขามองมีปอกผลไม้ที่แลดูใกล้ๆจะไร้ประโยชน์ในมือก่อนจะ
นึกบางอย่างขึ้นมาได้จากประสบการณ์ทั้งสิบแปดปีของเขา

จริงสิ เจ้าไดจินี่ไวไหลลื่นเหมือนปลาไหลจริงๆ คิดซะว่ากำลังหั่นปลาไหลด้วยมีดปอกผลไม้ก็ได้นี่นะ เรื่องต่อสู่เขาไม่ถนัดก็จริง
แต่เรื่องปลิดชีพเอามาทำข้าวเย็นนี่ละของชอบ

ไดจิที่สบอากาศตอนที่ยูกำลังนิ่งไปกระโจนพรวดเข้าไปหาโดยที่ไม่ทันสังเกตบรรยากาศรอบตัวอยู่ที่เปลี่ยนแปลงไป ริวลุกขึ้น
ยืนมองเตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้น

เคร้งง !

เสียงโลหะกระทบกันของมีดปกผลไม้กับกริชเล่มใหญ่ดังกังวานไปทั่วบริเวณ เหล่าคนดูที่ใกล้จะหลับตื่นขึ้นมายืนลุ้นกันตัวโก่ง
เมื่อปลายกริชอยู่ห่างจากใบหน้าของยูไปเพียงไม่กี่เซน

หึหึ เอาละยู ได้เวลาแสดงความเทพของนายให้ทุกคนได้ประจักรแล้ว ริ้วกระตุกยิ้ม

ทันทีที่อีกไดจิชะงักไปมือข้างที่ว่างของยูก็คว้าเข้าที่คอของอีกฝ่ายได้อย่างแม่นยำ มือที่ผ่านการทำงานมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนขง
ยูแข็งแรงประหนึ่งคีมเหล็กที่รีดเค้นลมหายใจของศัตรูไปอย่างช้าๆ

“อ้าว ที่แท้ก็เป็นพวกซ่อนคมนี่เอง” เหล่ากรรมนั่งดูอย่างสนใจ

การต่อสู้ยังไม่จบเพียงเท่านี้เมื่อกริชในมือของไดจิถูกสลับเปลี่ยนไปอีกข้างก่อนจะฟันฉับลงมา ยูปล่อยมือจากลำคอของไดจิ
ก่อนกลิ้งตัวหลบไปได้อย่างฉิวเฉียด เสื้อของร่างเล็กถูกฟันขาดเป็นแนวยาวตั้งแต่หัวไหล่ลงมามีเลือดซึมออกจากปากแผลเล็ก
น้อย

ริวลุกขึ้นเดินขึ้นไปบนเวทีท่ามกลางสาตางงงวยของใครหลายๆคน หรือแม้แต่กระทั่งยูเองก็นิ่งอึ้งไปแล้วเช่นกัน

“นาย… ขึ้นมาทำไม”

ริวไม่ตอบคำถามจากยู เพียงแค่เกลี่ยปลายนิ้วไปยังบางแผลตื่นๆเป็นแนวที่หัวไหล่ท่านั้นเพื่อแสดงความเป็นห่วง

“ฉันไม่เป็นไรหรอกน่า”ผมเบี่ยงตัวหลบปลายนิ้วเย็นๆ ที่ชอบทำให้ผมรู้สึกแปลก

 “พอแค่นี่แหละนายบาดเจ็บแล้ว”

“โอ้ ไม่คิดว่าจะได้เห็นฉากปีศาจที่เป็นห่วงเป็นใยเจ้านายขนาดนี้”หนึ่งในกรรมการทั้งสี่พูดขึ้น

“ถึงแม้ว่าฉันจะอยากเห็นศักยภาพของพวกนายอีกหน่อยก็เถอะ แต่ปีศาจน้อยนั่นคงไม่ยอมให้นายสู้ไปมากกว่านี้แล้วละนะ ฮารุ
กะ ยูยะ”

“ตัดสินเลยแล้วกัน เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา”

เหมือนผมจะได้ยินเสียงถอนหายใจของไดจิเบาๆ จากความคิดผมแล้วเขาก็คงลำบากใจไม่น้อยที่ต้องมาสู้กับผม

“ฮารุกะ ยูยะ ฮารุกะ ไดจิ ฉันรับนายเป็นศิษย์”

เอ่อ…ครับ”ผมมองผู้เป็นอาจารย์ของผมอย่างมึนๆ พร้อมกับทำความเข้าใจว่าสรุปแล้ว นี่เป็นการประลองว่า ใครจะเหมาะกัน
อาจารย์คนไหนสินะ !

“เด็กสองคนนี้ฉันขอได้ไหม อ้อ ปีสาจนั่นด้วย” เสียงแทรกขึ้นมาทำให้ทุกคนหันไปมองอย่างไม่เชื่อสายตา

นี่มัน….ท่านผู้เฒ่าเมียวกะที่เจอกันเมื่อวาน

เสียงฮือฮาดังขึ้นมาอีกครั้งอย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งผมก็ยังไม่เข้าใจนักว่าคนพวกนี้ตื่นเต้นอะไรกัน

“คะ ครับได้ครับท่านเมียวกะ เด็กคนนี้ต้องรบกวนท่านช่วยดูแลแล้ว”

“โฮะๆ ๆ ดี ดี “ท่าผู้เฒ่าหัวเราะเบาๆก่อนจะเลือนหายไปในอากาศ หายแบบหายวับไปกับตา !

ผมกับไดจิและริวพากันลงมาจากเวที เมื่อกรรมการเริ่มส่งสายตาไล่ เมื่อเห็นไดจิที่ส่งยิ้มมาทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่ผมสงสัย
บางทีไดจิอาจจะช่วยผมได้

“ไดจิ ทำไมคนพวกนั้นต้องแตกตื่นกันขนาดนั้นด้วยละ”

ไดจิมองผมเหมือนเห็นตัวประหลาดก่อนจะตอบ “นายอยู่ตระกูลฮารุกะไม่รู้จักท่านเมียวกะได้ไงเนี้ย”

“เอ่อน่า ตอบมาเถอะ”

“คือท่านเมียวกะเป็นปรมจารย์ของตระกูลฮารุกะเก่งมากๆเลยละ แต่ว่าไม่ค่อยจะรับใครมาเป็นลูกศิษย์เท่าไหร่”

“หา? ทำไมละ”

“เพราะว่าขึ้นชื่อเรื่องความเอาแต่ใจสุดๆเลยน่ะสิ”

เอาแต่ใจเหมือนไอ้มังกรปีศาจนี่รึเปล่านะ …

ปึก !

ยูแทบจะหน้าทิ่มกับแรงตบของริวทีเดินตามหลังมาเงียบๆ ร่างเล็กที่ทรงตัวได้ตวัดสายตาหันกลับไปมองริวอย่างเคืองๆ

“ยุงน่ะ”

“มุกเก่าไปแล้วเฟร้ย !”

ผมตวัดขาเตะริวที่ยืนนิ่งให้เตะก่อนจะเป็นฝ่ายนั่งกุมขาตัวเองเจ็บจนน้ำตาเล็ดแทน “นี่ขาหรือแท่งเหล็ก”

“ว่าแต่ ทำไมท่านเมียวกะถึงได้รับฉนกับนายเป็นศิษย์ละ”

ไดทำหน้านึกก่อนจะส่ายหน้า “อาจจะเพราะ อยาดรับมั้ง?”

เอิ่ม… ช่วยได้ม๊าก เลยครับ

“อ่า ยูยะ ฉันกลับห้องก่อนนะรู้สึกไม่ค่อยสบายน่ะ”

“อื้อ ได้ๆ เจอกันตอนคาบเรียน”

หลังจากล่ำลากับไดจิเรียบร้อยแล้ว เขากับริวก็กลับห้องบ้าง

“ยู”

เสียงเรียกแบบอ้อนๆแบบนี้… “จะเอาอะไร” ถามได้ประโยคเดียว

“หิว”

“เดี๋ยวทำข้าวเย็นให้”

“หิวนาย”

พรวดดดด !!!

   “ไม่ให้กินเฟร้ย”


****
จะทำการอัฟอีกทีใกล้ๆวันที่ 20 ธ ค นะครับ นักเขียนขออนุญาติหายหัวๆไปสอบสักพักนะครับ  :pig4:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ว่าละต้องได้เป็นศิษย์ตาแก่แหงมๆ
รอตอนต่อไปปปป ตั้งใจสอบน้าาาา

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
ยูก็ยอมๆให้ริวกินซะเถอะ ถ้าไม่ยอมเดี๋ยวหนูถวายตัวให้เอง 5555

สู้ๆนะคะคนเขียน ข้อให้ได้คะแนนดีๆ  :ped149:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด