กาลครั้งหนึ่ง เมื่อผมมีมังกรเป็นผู้พิทักษ์(หัวใจ) ตอน พิเศษ page 7 END!!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: กาลครั้งหนึ่ง เมื่อผมมีมังกรเป็นผู้พิทักษ์(หัวใจ) ตอน พิเศษ page 7 END!!!  (อ่าน 45962 ครั้ง)

ออฟไลน์ yaoisamasang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Yaoi-Sama/463499467036395?ref=hl

ออฟไลน์ xlomx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
15


“ริวไปทำงานแล้วละ”ยูพึมพำกับยูกิ

“ท่านคิดถึงเขาสินะ”

“คิดสิ”

ความสงบเงียบดังล่องลอยอยู่ในความฝันยูนึกอยากจะให้หยุดเวลาแห่งความสงบเงียบนี้เอาไว้ คลื่นใต้น้ำลูกใหญ่กำลังพัดเข้ามา
ชวนให้หัวใจปั่นป่วน ราชามังกรสูญเสียความได้เปรียบทางการรบไปโดยการปฏิเสธที่จะทำสงครามกับโจเนะสึทั้งทีมีบทบัญ
ญัตติไว้ว่าเป็นตัวก่อเภทภัยต้องกำจัดทิ้งแท้ๆ


เรือนร่างบอบบางทอดสายตาครุ่นคิดออกไปนอกหน้าต่าง ในมือทั้งสองถือหนังสือเล่มหนาเอาไว้ทั้งยังมีหนังสืออีกหลายเล่มรอบๆตัวระเกะระกะเต็มไปหมดโดยมีเจ้าจิ้งจอกสีขาวตัวใหญ่นอนเกยอยู่บนตัก ดวงตาสวยทอแววอ่อนล้ามองเจ้าจิ้งจอกบนตักอย่างมีความหวัง

“ยูกิ”

เจ้าของชื่อมองผู้เป็นนายด้วยดวงตาสีทองประกายกลมโต

“ฉันมีเรื่องจะให้เธอทำ...”

/////

ผมนอนเอกเขนกอยู่บนฟูไหมสีแดงหนานุ่มสบายจนไม่อยากจะขยับไปไหน แต่ยังสู้ขนสีขาวปลอดของยูกิไม่ได้ ว่าแล้วก็คิดถึงเธอจริงๆ ไม่รู้ว่าป่านี้จะเป็นยังไงบ้าง


โครมมม !


กรี๊ดดด


เสียงเอะอะโวยวายทำให้ผมต้องลุกจากฟูกขึ้นมานั่งมองไปทางประตู “เกิดอะไรขึ้น”

สวรรค์ชั้นฟ้าแห่งนี้มีแต่ความสงบสุขเสมอมาเรื่องใหญ่ที่ทำให้เกิดเสียงดังขนาดนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพื้นข้าวของสั่นสะเทือนไปหมด หรือว่ายูกิโดนจับได้เข้าให้แล้ว... ไม่น่าจะเป็นไปได้


ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครสามารถตอบผมได้เลยจนเสียงนั้นหยุดอยู่ที่หน้าประตู...

แกร๊ก !

สลักประตูถูกเปิดออกโดยมังกรหนุ่ม ริว  ยูถอนหายใจอย่างโล่งอกนึกว่าไคโตบุกสวรรค์แล้วซะอีกจึงอดส่งสายตาต่อว่าริวไม่ได้ที่ทำให้เขาตกใจแทบแย่

“นี่พึ่งกลับมา ก็ส่งเสียงเอะอะโวยวายเลยนะ ทำไมถึงกลับมาไวนัก”

“หนึ่งวันที่ฉันไม่อยู่ นายคงคิดถึงฉันแย่เลยสินะ”ริวพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา


ยูมองใบหน้าอันคุ้นเคยของเจ้ามังกรตรงหน้าก่อนจะกระพริบตามองอย่างแปลกใจ “แล้วนายไม่คิดถึงฉันรึไง”
ผมเหล่ตาเจ้ามังกรขี้เก๊กอย่างสงสัยแต่อีกฝ่ายก็ไม่ไปริปากพูดอะไรออกมา ทำหน้าเหมือนกำลังโกรธใครมาสักสิบชาติงั้นแหละ


“นายขโมยหัวใจมังกรไปใช่ไหม”

“...หัวใจนายน่ะหรอ?”ผมกำลังพยายามคิดว่าเขากำลังเล่นตลกหน้าตายกับผมอยู่รึเปล่า รังสีกดดันนั่นทำให้ผมต้องเกร็งตัวเอาไว้ด้วยความหวาดกลัวเล็กๆ

“อย่ามาเล่นลิ้นยู นายก็รู้ว่าฉันพูดถึงอะไร”

“นายเป็นบ้าอะไรหะ !!”

“ฉันไม่ได้บ้า ตอบมาได้แล้วว่านายเอาหัวใจมังกรไปใช่ไหม !”ริวตะหวาด

“ฉัน ไม่ ได้ เอาไป !!”ผมจ้องริวเขม่ง

สายตาจับผิดนั่นทำให้ความน้อยใจทะลักออกมาล้นจุกเต็มอก ก่อนหน้านี้พวกเขายังตระกองกอดกันอยู่บนเตียงแท้ๆ กลิ่นกายยังไม่ทันจางหายอีกฝ่ายก็วิ่งโร่เข้ามากล่าวหาว่าเขาเป็นขโมยบ้าบออะไรก็ไม่รู้

“หัวใจมังกรผู้ถือครองมันสามารถสั่งมังกรทุกตนบนสวรรค์แห่งนี้ได้ ไม่เว้นกระทั่งราชาต่อให้ผู้ถือครองสั่งให้เราไปตาย เราก็ต้อง
ไปตาย”

“ทำไม... พ่อของนายบอกว่าฉันเอามันไปสินะ”ยูยกยิ้มอย่างขมขื่น

“ฉันเองที่คิด แต่ไม่คิดว่านายจะอยากทำสงครามจนตัวสั่นถึงขนาดขโมยหัวใจมังกร !”

ความเจ็บแปล๊บเกิดขึ้นในอกกับคำตอบที่ไร้ซึ่งความเชื่อใจกันและกันอย่างสิ้นเชิง ยูมองริวที่ที่เต็มไปด้วยความเย็นชาเหินห่าง คิดจะพูดโต้ตอบออกไปอยู่หลายครั้ง แต่คำพูดเหล่านั้นกลับติดอยู่ที่ริมฝีปากคล้ายหมดเรี่ยวแรงจะพูดออกไป

“ฉันยังต้องพูดอะไรอีกในเมื่อนายเชื่อแบบนั้น”

“ยู !”

ริวโกรธขึ้นมาแล้วมือแกร่งเกาะกุมกระชาดต้นแขนร่างคนตรงหน้าปลิวดั่งเศษใบไม้ไร้ค่าใบหนึ่ง ร่างทั้งร่างล้มกองอยู่บนพื้นเพราะตั้งตัวไม่ทันก่อนจะถูกฉุดบังคับให้ออกเดินทั้งที่ข้อเท้านั้นเจ็บจนแทบจะไม่สามารถยืนทรงตัวได้ ยูกลืนก้อนความเจ็บปวดลงไปสะกดมันเอาไว้แล้วก้าวออกไปตามริว ตามทางเดินเต็มไปด้วยบรรดาข้ารับใช้ที่ก้มหน้างุดไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าอันโกรธเกรี้ยวของผู้เป็นนาย


ไม่นานนักร่างทั้งร่างของยูก็ถูกผลักเข้าไปในห้องแห่งหนึ่ง ในห้องนั้นไม่มีหน้าต่างทั้งยังเย็นเฉียบวังเวงจนน่าขนลุก ประตูที่ทำจากเหล็กกล้าหนาทึบชนิดที่ว่าแรงมนุษย์ธรรมดาอย่างเราๆไม่มีทางที่จะขยับมันได้เลยแม้แต่น้อย ยูหันกลับไมองริวอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าคนรักกันจะทำกับตนแบบนี้ได้ลงคอ

“บอกมาหัวใจมังกรอยู่ไหน”

“ฉันไม่รู้”ยูตอบด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

“ฉันรู้ว่านายส่งยูกิไปขโมยมัน”

“ยูกิไม่ได้ขโมยมัน !!”

“งั้นยูกิไปไหนซะละ”

ผมมองไปที่ริวอย่างจนปัญญาจะหาคำมาอธิบาย ไร้ข้อแก้ตัวใดๆ ก็ในเมื่อเขาไม่เชื่อผมจึงได้แต่รักษาศักดิ์ศรีอันน้อยนิดของตัวเองไว้ด้วยการเชิดหน้ามองริวอย่างหยิ่งผยอง

“ฉันไม่รู้”


ริวโกรธจนตัวสั่นสายตาถูกความโกรธบดบังจนมองอะไรไม่เห็น ...ในทางตรงข้ามกันแล้วยูกลับทอดมองใบหน้าของริวด้วยความห่วงใย ความรัก และเป็นห่วง


แม้ว่าจะถูกกดลงกับเตียง ร่างกายถูกใช้ระบายอารมณ์จนเจ็บระบมไปทั้งตัวยูก็ไม่ปริปากบ่นแม้แต่น้อยสองมือตระกองกอดริวเอาไว้แน่น ร่างทั้งร่างสั่นสะเทือนด้วยแรงกระแทกกระทั้นที่ไม่มีการออมแรงเลยแม้แต่น้อยราวกับร่างกายกำลังถูกดึงทึ่งฉีกขาดออกมาจากกัน เสียงครางหวิวของยูทำให้ริวยกยิ้มอย่างดูแคลนก่อนจะเหวี่ยงร่างของยูลงจากเตียงลงไปกองกับพื้นแล้วรุกล้ำช่องทางที่เปรอะไปด้วยเลือดนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า ยูข่มกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ในอกกระทั่งพายุนั้นได้ผ่านพ้นไป


“เหอะ เฝ้าไว้ให้ดีอย่าให้มีใครเข้าออกได้นอกจากข้า”

“ครับ !!”


ตึง !

เสียงประตูปิดลงทิ้งให้คนเจ็บนอนซมอยู่ตรงนั้น ไม่นานยูก็ได้สติเพราะความเย็นยะเยียบบนพื้นห้องกำลังบาดลึกลงไปในผิว เสียงหัวเราะเบาๆหลุดออกมาจากริมฝีปากแตกช้ำ เขาจะไม่มีวันเสียใจกับเรื่องนี้จะต้องเข้มแข็งเอาไว้จนกว่าทุกอย่างจะจบลง


ทางด้านของริว

“เจ้าเด็กนั่นต้องเอาหัวใจมังกรไปแน่ๆ”ผู้เป็นบิดากล่าว

“ข้าไม่คิดว่ายูจะเอาไป”

ริวทิ้งตัวลงนั่งบนตั่งด้วยความเหนื่อยใจละสายตาไปจากวังมังกรแปบเดียวก็เกิดเรื่องใหญ่เข้าให้เสียแล้ว

“พ่อเห็นนางจิ้งจอกนั่นทำลับๆล่อๆอยู่ที่เขตต้องห้าม”

ริวเงยหน้าขึ้นสบตาผู้เป็นบิดา ดวงตาทอประกายอำมหิต “ยูเป็นเจ้าสาวของข้าหากท่านคิดจะแตะต้องเขาแม้แต่ปลายเล็บ ก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”

“งั้นเจ้าดูนี่”

กระจกบานหนึ่งถูกส่งให้ริวแต่ตัวกระจกกลับไม่ได้สะท้อนสิ่งใด ริวนิ่งมองกระจกในมืออยู่พักใหญ่ไม่รู้ว่าผู้เป็นบิดาจะมาไม้ไหนกันแน่ ทันใดนั้นภาพขอคนๆหนึ่งก็เคลื่อนไหวในกระจกเป็นภาพของยูกับยูกิถึงแม้ว่าจะไม่ได้ยินเสียงแต่ก็พอจะดูออกว่า  กำลังทำอะไรยูที่มีสีหน้าหนักใจกำลังออกคำสั่งบางอย่างกับยูกิก่อนที่เจ้าจิ้งจอกจะพลิ้วกายจากไป

กระจกวิเศษแทบจะหักเป็นสองเสี่ยงคามือเมื่อยูกิพลิ้วตัวหายเข้าไปหลังประตูเขตหวงห้ามจริงๆดั่งที่ผู้เป็นบิดาได้กล่าวไว้ ใบหน้าทะมึนมองกระจกอย่างไม่เชื่อสายตา

“เจ้าสาวของจะให้พ่อจัดการหรือเจ้าจะจัดการ”

“ข้าจะไปพูดกับเขาเอง ท่านไม่ต้องยุ่ง”

“ดี ข้าให้เวลาเจ้าเจ็ดวัน ทำอย่างไรก็ได้ให้เจ้าสาวของเจ้าคายความลับที่ชิงหัวใจมังกรออกมาซะ มิเช่นนั้นแล้วข้าจะเป็นผู้จัดการมันด้วยตัวเอง”ราชาหรี่ตามองลูกชายของตนอย่างพึงพอใจก่อนจะสะบัดชายเสื้อเดินจากไป


นั่นหมายความว่า... เขามีเวลาเจ็ดวันที่จะรักษาชีวิตของยูเอาไว้

“ยู...”ริวครางออกมาอย่างปวดใจ


ดั่งมีเปลวไฟเผาอยู่ภายในหากไม่หาหัวใจมังกรให้เจอแล้ว ก็ต้องบังคับให้ยูบอกที่ซ่อนหัวใจมังกรแต่ด้วยนิสัยขอยูนั้นเขารู้จักดีกว่าใครต่อให้ถูกทรมานจนตายก็ไม่ปริปากเป็นแน่ แต่ในช่วงนี้ขาต้องทำให้ยูปลอดภัยโดยที่ท่านพ่อไม่เอะใจเสียก่อน

ถึงจะไม่อยากทำก็จำใจต้องทำ...เพื่อรักษาชีวิตของยูเอาไว้

โครม !!

พลังที่ไหลเวียนอยู่ในกายถูกระเบิดออกมาทำให้ห้องอันหรูหรานั้นกลายเป็นเศษซากก้อนดินก้อนฝุ่นไป ในตาวาวโรจน์ทุกย่างก้าวนั้นเต็มไปด้วยไอสังหารเข้มข้น


ริวก้าวเดินออกจากห้องประชุมด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ใบหน้านั้นดุร้ายราวกับมารร้ายในยมโลกเหล่าบริพารต่างตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวได้แต่หมอบคุดคู้ลงกับพื้นภาวนาให้ตนไม่ใช่ผู้เคราะห์ร้ายผู้นั้น ไม่นานนักริวก็เดินถึงตำหนักรับรองที่ยูอาศัยอยู่ก่อนจะผลักประตูเข้าใจ


“นี่พึ่งกลับมา ก็ส่งเสียงเอะอะโวยวายเลยนะ ทำไมถึงกลับมาไวนัก”

เสียงใสที่ต่อว่าเขาอยู่เป็นนิจพูดขึ้น ยูยังคงมีสีหน้าสงบเงียบเหมือนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นริวแกล้งโกรธลงไม้ลงมือรุนแรงไปกับยูให้ทุกคนเชื่อได้สนิทใจว่าเขาได้จัดการเจ้าสาวขอเขาแล้วจริงๆคนอื่นไม่ต้องสอดและก็เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ ยูไม่แม้แต่จะปริปากพูดอะไรออกมาเลยมีเพียงสายตาน้อยใจปนๆกับไม่อยากจะเชื่อ


หัวใจของเขาราวกับโดนฉีกกระชากเป็นชิ้นๆกับการกระทำของตัวเอง

เมื่อจัดการกับยูเสร็จแล้วเขาก็หันไปสั่งงานกับทหารองค์รักษ์คนสนิทคนที่เขาไว้ใจให้อยู่เพื่อปกป้องคนสำคัญของเขาไม่ให้ใครแอบฉวยโอกาสลอบทำร้ายยูได้


“เหอะ เฝ้าไว้ให้ดีอย่าให้มีใครเข้าออกได้นอกจากข้า”

“ครับ !!”


ริวทำสีหน้าเยือกเย็นคิดไปถึงแผนการขั้นต่อไปเขาไม่รู้ว่ายูกำลังคิดะไรอยู่ถึงได้สั่งให้ยูกิขโมยหัวใจมังกรออกไป แต่สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้คือปกป้องยูเอาไว้หาดวงตามังกรกลับมาให้ได้ไวที่สุด บิดาของเขายังมีท่าทีแปลกไปดูเหมือนจะจงใจละเลยโลกมนุษย์แต่กลับใส่ใจยูเป็นพิเศษจนอยากจะลงมาจัดการด้วยมือตัวเอง ทั้งยังมีงานตรวจสอบการเคลื่อนไหวของไคโต แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาอดหลับอดนอนไปหลายวัน


“เจ้าทำได้ดีแล้ว”ผู้เป็นมารดามอาจทนเห็นบุตรชายทำสีหน้าเจ็บปวดได้ต่อไปจึงเข้าไปปลอบ

“ข้าควรทำอย่างไรดี ท่านแม่”

“ทำหน้าที่ของเจ้า...”

ริวเผยสีหน้ากล้ำกลืนกับคำว่าหน้าที่ หากว่าต้องทำตามหน้าที่จริงๆแล้วเขาสมควรจะฆ่ายูซะแต่จะให้ทำแบบนั้นสู้เขายอมควักหัวใจตัวเองออกมาเหยียบเสียยังจะดีกว่า

“ริว...แม่ไม่รู้ว่าควรจะบอกเจ้าอย่างไรดี ในวันที่เจ้าสาวขอเจ้าปรากฏตัวขึ้นที่นี่และได้รู้ถึงการกลับมาของโจเนะสึ บิดาของเจ้าได้แอบลงไปที่โลกมนุษย์”

“อะไรนะ!”

ริวขมวดคิ้วสมองประมวลผลกับคำบอกเล่าของมารดาอย่างตกตะลึง ผู้เป็นมารดาหลั่งน้ำตาอยู่เงียบๆบอกเล่าถ้อยคำด้วยน้ำเสียง
อันสั่นเครือ “บิดาของเจ้าก็ได้เปลี่ยนไป”

“แม่คิดว่าบิดาของเจ้านั้น ต้องมนต์ของโจเนะสึเข้าให้แล้วแน่ๆ”

“ทำไมท่านพ่อถึงลงไปเพียงผู้เดียว”

ริวยืนเต็มความสูงมองเสี้ยวใบหน้าของมารดาที่ผินหน้าหนีไปอย่างไม่อาจนมองหน้าบุตรชายได้ “เขาพาผู้ติดตามไปด้วยถึงสาม
ตน แต่ที่กลับมามีเพียงบิดาของเจ้าเท่านั้น”

ริวหน้าซีดลงไปถนัดบนสวรรค์ชั้นฟ้าแห่งนี้มิมีผู้ได้เก่งกาจไปมากกว่าบิดาของตนอีกแล้วหากว่าไคโตได้ดึงบิดาของตนเข้าไปเป็นพวกได้แล้วจริงโลกคงถึงคราววิบัติเป็นแน่ ครั้งนั้นที่เขาตกลงไปยังโลกมนุษย์ก็เป็นเพราะบิดาโมโหทีเขาทำตัวไม่เอาไหนไปวันๆจนเกือบจะฆ่าลูกในไส้ของตัวเองเข้าแล้วจริงๆ โชคดีที่ตอนนั้นเขาได้เจอกับยูพอดีดั่งสวรรค์ลิขิตให้เราทั้งสองเกิดมาคู่กัน เมื่อนึกถึงครั้งแรกที่เจอกันดวงตาก็มีประกายความอ่อนโยนขึ้นมา


“หากว่าเป็นเช่นนั้นจริง....ท่านพ่อต้องมนต์โจเนะสึจริงๆ ท่านมีแผนการอย่างไร”

“เจ้าไม่ต้องห่วง บิดาของเจ้านั้นแม่จะเป็นคนจัดการให้ ศักดิ์ศรีของมังกรแม่จะเป็นคนรักษามันไว้เอง”


////

ทางด้านของไคโต


“กองกำลังของเราจะพร้อมในอีกเจ็ดวันขอรับ”ผู้เฒ่าเมียวกะคุกเข่ารายงานสถานการณ์

“งั้นหรือ... แล้วมังกรละ”

“พวกมันมิอาจทนทานเสน่ห์ของสายเลือดอันเข้มข้นได้”

เรือนร่างขาวกระจ่างดุจแสงจันทร์คลุมเรือนร่างด้วยผ้าไหมสีดำสนิทนั่งอยู่บนบันลังไม้ที่แกะสลักอย่างประณีต  ภายใต้ชุดคลุมนั้นเปลือยเปล่าเพราะพึ่งเสร็จกิจกามดูดจิตกินวิญญาณเด็กหนุ่มเด็กสาวไปถึงสามราย ไคโตยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นปัดผมที่ปรกใบหน้าออกไป  “เราหมายถึงราชามังกร เซ็นโซ ริวกะผู้นั้น”


“ดำเนินการตามแผนขอรับ”

ไคโตเอนตัวพิงพนักแขนนึกไปถึงคืนวันนั้นที่มีผู้บุกรุกแสนโง่เขลาสู้กันได้ไม่นานก็โดนจับตรึกจนกระดิกไม่ได้ ปลายลิ้นสีชมพูเลียริมฝีปากน้อยๆ รสชาติของมังกรนั้นช่างสุดยอดจนไม่อยากจะปล่อยมือเพียงแค่คิดก็สั่นสะท้านไปทั้งกาย


“อีกเจ็ดวันเท่านั้น...”ไคโตรำพันหลับตาฝันถึงคำคืนอันแสนหวาน


ถึงเขาจะไม่สามารถแย่งถึงริวมาจากยูได้ก็ไม่เป็นไรตอนนี้เขามีมังกรถึงสี่ตัวไว้ในคอบครอง อยากจะเล่นสนุกเมื่อไหร่ก็ได้ทั้งนั้น

“เมียวกะ”

 “ไปเอามังกรมา”

“ขอรับ”

ท่านผู้เฒ่าค้อมตัวให้เล็กน้อยก่อนจะเดินจากไป ไม่นานนักบุรุษเพศอันมีเลือดมังกรไหลเวียนอยู่ในร่างก็ปรากฏกาย ดวงตาของมังกรทั้งสามแสดงถึงความต้องการกระหายในร่างกายของไตโคอย่างไม่มีการปิดบังละทิ้งความรู้สึกดีชั่วเอาไว้เบื้อหลังก่อนจะรั้งร่างกายอันอ่อนหวานนั้นเข้าหาตัวแล้วกลืนกินอย่างตะกละตะกลาม

ไคโตปรือตามองเพดาอันมืดมิดก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะออกมาท่ามกลางความบ้าคลั่ง ความสุขสมที่เกิดจากพลังที่ล้นปรี่กำลังไหลเวียนทะลักเข้ามาในร่างกายอย่างไม่หยุดหย่อน

“หึหึหึ เจ้าไม่มีวันชนะเราได้หรอยู”


******

หายไปนาน ช่วงนี้ทางมหาลัยจัดกิจกรรมกีฬาขึ้นพึ่งจะเสร็จสิ้นไปเมื่อวันเสาร์นี่เอง เหนื่อยแทบขาดใจตายทุกวันเลยครับเลยแอบดองๆไป แต่รับรองว่าไม่หายไปไหนแน่นอน จะพยายามอัฟไวๆนะครับ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
สงสารยูจังเลยยยยยยยย
ทำกับยูแบบนี้ก็เกินไปเนอะ ถ้ามรลูกนะ จะยุให้หอบลูกหนีซะเลยนี่ ฮึ่ม!
รอตอนต่อไปน้าาาาา

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เข้าใจว่าพยายามปกป้องยูแต่ทำไมต้องรุนแรงขนาดนั้นด้วยเล่า
ขนาดท่านพ่อยังหลงเสน่ห์ไอ้ไคโต แบบนี้จะรอดเรอะ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
อิไคโต   อิตัวตายยาก  ชิๆ
สงสารยูมากเลยอ่ะ  ริวทำรุนแรงไปนะ

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
ริวเกินไปจริงๆ เดี๋ยวแม่จับทำมังกรย่างเลย :z6:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ xlomx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
16
ผมนอนมองไปยังเพดานห้องสีขาวสะอาดอยู่นานกว่าจะนึกขึ้นได้ว่าอะไรที่นำพาผมมายังที่แห่งนี้  เมื่อมองดีๆกลับพบว่าคุกแห่งนี้ช่างดูดีเกินกว่าที่จะเป็นคุกสำหรับนักโทษข้อหาร้ายแรงอย่างเขา มังกรโง่นายต้องใจร้ายกับฉันให้มากกว่านี้ถึงจะไม่โดนจับได้

“อา...”
เสียงที่เคยกังวานใสแหบแห้งลงอย่างน่าประหลาดเมื่อลูบคอจึงรู้ว่าถูกสวมปลอกคอเหล็กเย็นเฉียบนี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเปล่งเสียงออกมาได้อย่างยากลำบาก


ก๊อกๆๆ

เสียงเคาะประตูทำให้ผมต้องลุกขึ้นนั่งอย่างตื่นตัว หญิงสาวในชุดสีเขียวอ่อนก้าวเข้าห้องมาพร้อมถาดสีเงินในมือ เธอไม่พูดอะไรเพียงแค่วางถาดสีเงินนั้นไว้บนโต๊ะแล้วเดินจากไปอย่างเงียบเชียบ

ผมพาร่างกายอันบอบช้ำเดินไปหาถาดอาหารนั้นก่อนจะเปิดออกก็พบข้าวต้มถ้วยหนึ่ง ผมลงมือทานอย่างช้าๆก่อนจะกลืนมันลงไปโดยไม่ได้รับรู้ถึงรสชาติใดๆ จนกระทั้งช้อนกระเบื้องอย่างดีนั้นแตะกับก้นถ้วยส่งเสียงดังกิ๊งดังกังวานไปทั่วห้องอันเงียบสงบแห่งนี้


“ท่านจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานหรือไม่...ราชา”

“ที่แท้เจ้าก็รู้อยู่ก่อนแล้ว”

ยูหลับตา หวังว่าราชามังกรคงจะไม่ฆ่าเขาเสียตอนนี้

“ไคโต ...ท่านกับไคโตมีสัมพันธ์กันแล้วสินะ”

“ข้าไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของเจ้า”

ราชามังกรทอดมองบุคคลตรงหน้าด้วยสายตาเย็นยะเยือก “อีกไม่กี่วันเจ้าจะได้รับรู้ถึงรสชาติของการสูญเสียอีกครั้ง”

“...หึ”ยูหลุบตามองพื้นก่อนจะยกยิ้ม

“ฝากไปบอกไคโตด้วยว่า เขาจะไม่มีวันได้สิ่งที่เขาต้องการ ไม่ว่าอะไรก็ตาม”

ราชามังกรมองหน้ายูก่อนจะสะบัดหน้าเดินจากไป นานกว่าผมจะเปิดปากเรียกบุคคลที่สามที่ยืนอยู่ตรงนั้นมาตลอดโดยที่ราชามังกรเองก็ไม่รู้ตัว

สิ่งแรกที่ผมเห็นแวบแรกผมคิดว่าริว แต่เมื่อตั้งสติมองดีๆแล้วเธอคนนั้น คือ มารดาของมังกร นางฉลาดหลักแหลมกว่าผู้ใดเพียง
แค่มองปราดเดียวก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ

“ราชินี”

“เด็กน้อย..ลำบากเจ้าแล้ว”เธอออกมาจากเงามือเข้ามากุมมือผมด้วยสายที่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย

“ท่านต่างหากที่จะลำบากรีบไปก่อนที่จะมีใครมาพบว่าท่านอยู่กับผม”

“ข้ารู้ ว่าราชา...ริวกะ ต้องมนต์ของโจเนะสึ”พระนางเอยชื่อของผู้เป็นราชาของมังกรทั้งปวงออกมาโดยตรง

“เขาไม่คู่ควรตำแหน่งราชามังกรอีกต่อไป”

“ท่านฆ่าสามีของท่านไม่ได้หรอก”

“เด็กน้อยเจ้าคิดว่าตำแหน่งมารดาของมังกรทั้งปวงของข้าได้มาได้อย่างไร”เธอคลี่ยิ้มงดงาม แต่รังสีสังหารของเธอตรึงผมไว้กับที่

“ริวกะข้าจะเป็นคนจัดการเอง เจ้าอย่าสอดมือ”

“ผมก็ไม่อยากจะยุ่งกับเขาเท่าไหร่หรอก แต่ว่าท่านจะหักใจฆ่าเขาได้จริงๆหรอ ท่านไม่ได้รักราชามังกรสักนิดเลยหรือ?”

“ข้าจะรักเขา ก็ต่อเมื่อหัวใจมังกรรักเขา”

ยูนั่งนิ่งไปก่อนจะพูดขึ้นอย่างไม่มั่นใจสักเท่าไหร่นัก “หัวใจมังกร...ยูกิไม่ได้ขโมยมันไปจริงๆ”

“ข้ารู้...มันหนีไป และบริวารของเจ้ามีส่วนเกี่ยวข้องข้ารู้”

“...มังกรจะอยู่ไม่ได้หากขาดหัวใจมังกร ท่านจะไม่ไปตามหามันรึไง”เขามองราชินีด้วยความตกตะลึง

“เมื่อมีราชามังกรที่เหมาะสมมันจะกลับมาเอง”

“งั้นหรือ...”

“หมดเรื่องที่ข้าจะพูดแล้ว เจ้าก็ระวังตัวไว้ให้ดี”

ยูพยักหน้ารับคำเตือนแต่โดยดี ก่อนจะโพล่งขึ้นโดยไม่ทันได้คิด “ราชินี ริวเค้า..”

“?”

“อ้อ...ปะ เปล่าครับ”

“ข้าจะบอกเค้าให้ก็แล้วกันว่าเจ้า คิดถึง”

“หะ หา??? มะ...ไม่ใช่นะ”

ราชินียิ้มสวยก้าวฉับๆเดินจากไปแล้วโดยที่ไม่ได้ฟังคำปฏิเสธของเขาเลยแม้แต่คำเดียว  ยูเม้มริมฝีปากแน่นย่างสูญเสียการ
ควบคุมอารมณ์และดูเหมือนราชินีก็ดูจะชอบเห็นเขาที่กระวนกระวายเอาเสียมากๆ

“เฮ้อ ยูกิ ข้าควรจะทำยังไงต่อดีนะ”

รวมหัวกันหลอกราชามังกรโดยที่ไม่ได้นัดแนะกันนี่ยากจริงๆ โชคดีที่ราชินีมันกรนางฉลาด บุตรชายของนางก็ฉลาด ไม่รู้ว่าราชามังกรป่านี้จะรู้ตัวรึยัง แต่เท่าที่ดูแล้วคงจะเริ่มระแคะระคายบ้างแล้วถึงได้พูดจาเปิดเผยตัวกันเขาแบบนั้น

“ไคโตเอ๋ยไคโต”ยูยกยิ้มทิ้งตัวนอนลงบนฟูกแสนนุ่มที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของริว

“อยู่ดีๆไม่ชอบ อยากหาเรื่องตายก็จะจัดให้”

ยูหลับตาลงและรอคอยอย่างสงบ สงคราเริ่มปะทุแล้ว อีกไม่นาน...ส่วนเกินอย่างไคโตก็จะหายไป

ค่ำคืนอันเงียบสงัดเสียงลมหายใจแผ่วบ่งบอกได้ชัดเจนว่าคนที่นอนอยู่บนฟูกหนานุ่มนั้นอยู่ในห้วนนินทรา ปลายนิ้วเย็นไล้เบาๆบนผิวแก้มเนียน ดวงตาเป็นประกายทอแววสำนึกผิด

“ช้าชะมัด”ร่างบางใต้ผ้าห่มพูดขึ้นทั้งที่ยังหลับตา

ผู้บุกรุกในยามวิกาลชะงักก่อนจะคลี่ยิ้มบาง “ตื่นอยู่หรอ”

“เปล่าฉันละเมออยู่”

“ทำไมมาช้านัก”คนพูดพูดเหมือนคาดการณ์ไว้แล้วว่าอีกฝ่ายจะต้องมาในคืนนี้แน่ๆ

“มีหลายเรื่องต้องจัดการ”

ยูทำหน้าบึ้งไม่พูดอะไรอีก ริวก้มหน้าลงจุมพิตที่หน้าผากมนก่อนจะไล้ริมฝีปากลงมาที่หัวไหล่ กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์โชย
แตะจมูกเหมือนทุกครั้ง ยูขะยุขะยิกตัวขยับหนีสัมผัสอ่อนโยนที่ริวมอบให้อย่างเคืองๆ

“เจ็บตรงไหนบ้าง”ริวกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

“ทั้งตัวนั่นแหละ !”

“ฉันจะทายาให้”

ริวหยิบตลับตาที่แอบหยิบติดมือมาจากห้องยาขึ้นมาบรรจงทารอบคอ แขน และร่องรอยการทรมาณต่างๆที่ตนเองเป็นคนทำขึ้น
อย่างตั้งใจ แต่ยูยังคงนิ่งท่าทางเหมือนกำลังไม่พอใจการปรนนิบัติของเขาเลยแม้แต่น้อย
ริวล้มตัวลงนอนตะแคงตระกองกอดยูที่หันหลังหนี ริมฝีปากจุมพิตลงบนต้นคอขาวอย่างเอาใจจนฝ่ายถูกจูบสะท้านไปทั้งตัวครางเสียงแผ่วอย่างไม่อาจกลั้นใจไปกับสัมผัสนี้

“อื้อ ปล่อยนะ”

“ไม่ปล่อย”

“เชอะ ทีอย่างนี้ละอ้อนตอนทำไม่รู้จักคิด”

“ก็....มันทนไม่ไหว”

ยูพลิกตัวหันหน้าเข้าเผชิญหน้ากับริว “ทนอะไรไม่ไหว?”

ริวไม่ตอบเพียงแต่กดปลายนิ้วลงบนแผ่นหลังเล็กลูบไล้ลงมาที่สะโพกกลมกลึง กว่าที่ยูจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้วปลายนิ้วเรียวกดลงบนบางทางเข้าสีชมพู ยูอ้าปากครางหวืออย่างไม่ทันได้เตรียมกายเตรียมใจ ตัวสั่นระริกอย่างน่าสงสารเมื่อถูกเจ้ามังกรแกล้ง

“อะ ...อื้อ ริว ริว เบาๆหน่อย”ยูซุกหน้าลงกับไหล่หนาของริวที่โอบกอดร่างของตนเอาไว้ทั้งตัว

“ยู”ริวกระซิบที่ริมหู

“หือ..”

“รักนะ”

“โกหก”

ยูตอบกลับน้ำตาคลอหน่วยเมื่อแกนกายใหญ่กำลังสอดแทรกเข้ามาภายในร่างอย่างเอาแต่ใจ ริวยิ้มก่อนจะมอบจูบอันแสนลึกล้ำ
เคล้าเสียงคราวผะแผ่ว

“เวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว บอกรักฉันหน่อยสิยู”

ยูปรือตาหวานฉ่ำมองมังกรอันเป็นที่รักก่อนจะคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ “หลังเรื่องทุกอย่างจบ ฉันจะพูดให้ฟัง”

“ห้ามตาย ห้ามหนีไปมีคนอื่นด้วย”ยูเรียกร้องอย่างเอาแต่ใจบ้าง

“สัญญา”

“สัญญา”

ริวกอดยูไว้แนบอกฟังเสียงลมหายใจ เสียงของหัวใจ เสียงครางหวาน กลิ่นอันหอมหวน


หลายวันมานี้ริวเอาแต่ขลุกอยู่กับเขาไม่ยอมไปไหน ทั้งยังไม่เกรงกลัวราชามังกรอีกต่อไป ราชินียังให้ท้ายด้วยการส่งของบำรุงมาให้ทุกเช้าทุกเย็นทั้งยังทิ้งท้ายด้วยข้อความที่ทำให้เขาแทบกระอัก

‘ข้าอยากได้หลายชายหนึ่ง หลานสาวหนึ่ง’


ปี๊นนนนนนนน


เสียงหวีดแหลมของแตรรักษาการณ์ดังกรีดผ่านอากาศจนยูสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ทหารนายหนึ่งก้าวเข้ามาในห้องโดยพละกาลริวขมวดคิ้วน้อยๆไม่ได้กล่าวอะไร ยูหน้าแดงระเรืองรีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาปิดบังส่วนที่มิควรเห็นมิควรเปิดเผยเอาไว้

“องค์ชาย...”

 “ว่ามา”

“ประตูสามภพถูกเปิดออกโดยภพมนุษย์พะยะค่ะ”

ริวหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันทีที่ได้ยินข่าว แต่ยูกลับสงบนิ่งเหมือนเป็นเรื่องทีคาดการณ์ไว้แล้ว

“เตรียมทำสงคราม จัดกองทัพเรียกระดมทุกหน่วย”

“พะยะค่ะ”

ริวหันมามองยู“อยู่ที่นี่ห้ามไปไหนเด็ดขาด”

มังกรทะยานจากไปแล้วไออุ่นที่มีเริ่มถูกแทรกซึมกลายเป็นความเหน็บหนาวเสียดแทงลึกไปยังก้นบึ้งของจิตใจ ความวุ่นวาย
กำลังขับเคลื่อนวงจรชะตากรรมให้หมุนไป

“ยูกิ”

“เจ้าค่ะนายท่าน”จิ้งจอกสาวที่หายหน้าไปนานร่วมเดือนได้ปรากฏกายขึ้น

“หัวใจมังกรละ”ยูถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“อยู่นี่แล้วเจ้าค่ะ”

อัญมณีสีเขียวถูกห่อด้วยผ้ายืนมาตรงหน้าของยู ยูเหลือบตามองเพียงแค่แวบเดียวก่อนจะรับมาถือไว้ในมือ

“เมื่อไหร่ที่มังกรพ่ายแพ้ต่อมนตรา ฉันจำเป็นต้องพึ่งมัน”

ยูกิคลี่ยิ้มหวาน “ท่านโกหกเขาผู้นั้น”

“เรื่องบางเรื่อง ...ก็ไม่ควรพูดไป”

ยูจ้องอัญมณีสีสวยราวกับกำลังชั่งใจ ขนาดของมันเล็กกว่ากำมือไปหน่อยเดียว ยูถอนหายใจก่อนจะเปิดปากแล้วกลืนมันลงไปทั้งดวง ยูกิเบิกตากว้างมองนายเหนือหัวอย่างไม่คาดคิดลุกพรวดจับไหล่ทั้งสองข้างของเจ้านายเอาไว้

“ทะ...ท่าน”

ยูหลับตากลืนมันลงไปแม้จะรู้สึกอยากอาเจียน

“ฉันต้องการพลังยูกิ”

พลังส่วนหนึ่งได้ถูกไคโตชิงไปแล้วไม่สามารถพื้นคืนได้ในเวลาเพียงเดือนสองเดือน ทั้งยังโดนริวรีดเค้นพลังออกไปทุกวี่ทุกวันอีก แบบนี้จะเอาอะไรไปต่อกรกับศัตรูได้

เพื่อที่จะได้จบเรื่องราวทุกอย่างโดยมิต้องสูญเสียสิ่งใด

นอกจากจิตวิญญาณของไคโตที่ต้องแตกสลายดับไปเพียงเท่านั้นเขาถึงจะพอใจ










 



ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
ค้างงงงงงงงงงอย่างแรงงงงงงงงงงงงงง :a5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
อยากจะจับไคโตมาเฆี่ยนนัก....ตัวก่อเรื่อง อ้ากกกกก

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5

ออฟไลน์ แมวสีกระดาษ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อ่านรวดเดียวจบ

สนุกมากกกกกกกกกกกกกครับ

สุดยอดมากจริงๆ ชอบมากเลยเรื่องนี้

เป็นกำลังใจให้คนเขียน ให้ริว ให้ยูด้วยนะ

รีบๆกลับมาต่อนะครับ

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter
โอ้ยยยยยย อยากอ่านอีกกกกกก  :katai4:

ออฟไลน์ xlomx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
17

กลิ่นอายมนตราปะบนไปกับกลิ่นคาวเลือด เสียงร้องของมังกรที่คำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวเนื่องด้วยเพราะผู้บุครุกนั้นร้ายกาจอย่างที่ไม่เคยได้พบเจอมาก่อน นั่นเพราะศัตรูของเขาก็มีราชามังกรผู้ถูกควบคุมด้วยมนสะกดอันยิ่งใหญ่เพียงส่งเสยงคำรามก็สะท้านไปถึงสามภพ ราชากับราชินีห้ำหั่นกันเองแม้แต่มังกรบางส่วนก็ยังหันมาฆ่ากันเองแทนแล้ว
 

“หลงเอียนเจ้าสู้ข้าไม่ได้หรอกถอยไปซะ”ราชามังกรกล่าวกับราชินีด้วยท่าทีเหยอหยิ่ง

“จงอย่าทะนงตัวให้มากนัก”สิ้นเสียราชินีการปะทะกันของสองขุมพลังก็ทำให้เกิดสนามพลังทีไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ได้

 “ฮ่าๆๆๆ ดูสีเมียวกะ มังกรกำลังสู้กันเองช่างเป็นภาพที่สวยงาม”ไคโตหัวเราะอย่างเบิกบานใจ ไม่มีใครที่จะหยุดเขาได้อีกแล้ว เมียวกะยิ้มยืนค้อมตัวต่ำอยู่ข้างกายไคโตผู้บ้าคลั่ง

“อืม เราลืมไปยังเหลือมังกรน้อยเจ้าปัญหาอีกหนึ่งตัวนี่นะ”ไคโตแสยะยิ้มมองไปยังเบื้องหน้า

ริวยืนมองอีกฝ่ายอย่างสงบไม่ร้อนรนในร่างมังกรสีนิล หัวใจสงบนิ่งไม่หลงไปกักลิ่นหอมหวานอันคุ้นเคย

“กลับไปซะไคโต”เสียงทรงอำนาจของริวพูดขึ้น

“เราไม่กลับ เจ้าจะทำอะไรเราได้มังกร”


ไคโตเริ่มร่ายมนต์อีกครั้งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของเหล่ามันกรดังขึ้นพวกมันไม่ต้องการที่จะถูกควบคุมแต่ความเจ็บปวดกำลังจะพรากสติของมันไป ริวก็ไม้ยอมอยู่เฉยๆร่ายอาคมสะกัดคำสาปนั้นโดยไวเกิดเป็นสงครามคาถาอาคม ต่างฝ่ายต่างหลีเลี่ยงการ ใช้กำลังเข้าห้ำหั่น ไคโตมีแรงดึงดูเป็นคุณสมบัติเฉพาะของโจเนะสึ และพลังของมังกรที่ยังไม่เชื่องก็คมราวกับใบมีดถ้าเข้าไปใกล้แบบสุ่มสี่สุ่มห้าอาจจะตายได้อย่างไม่รู้ตัวทั้งสองสู้กันอย่างระมัดระวังแต่เวลาที่ผ่านไปก็ยิ่งทำให้ฝ่ายริวเสียเปรียบ มนุษย์หรือมังกรที่ถูกควบคุมไม่รู้จัดเหน็ดเหนื่อย แต่ทางฝั่งของเขามีแต่ยิ่งสู้ยิ่งเหนื่อยแทบตายเรี่ยวแรงหดหายราวกับถูกสูบ

ในขณะที่ริวกำลังคิดวิธีจัดการกับไคโตนั้นให้ได้ไวที่สุดหัวใจก็เต้นแรงขึ้นอย่างประหลาด การเคลื่อนไหวของเหล่ามังกรก็หยุดชะงัดลงอย่างพร้อมเพรียงแม้แต่ไคโตเองก็ยังประหลาดใจ ริว กวาดตาไปมองทางไคโตอย่างระแวงว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นตุกติกอะไรอยู่รึเปล่าแต่ไคโตเองก็มีสีหน้าประหลาดใจไม่แพ้กัน

“เมียวกะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น !”ไคโตกังวลเมื่อการรบหยุดชะงักไป

“ข้าเองก็ไม่รทราบ”เมียวกะส่ายหน้าอย่างจนปัญญา

มีบางอย่างผิดปกติ ขุมพลังหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวมาอย่างช้าๆ เป็นพลังที่คุ้นเคยและแปลกประหลาดในเวลาเดียวกัน สุดสายตานั้นร่างบอบบางของยูนั่งหลังตรงอยู่บนหลังจิ้งจอกสีขาวตัวใหญ่ลอยอยู่เหนือฟากฟ้า ทอดสายตาลงต่ำมองเหล่าผู้คนที่กำลังเงยหน้ามองตนประหนึ่งมองมดปลวกไร้ค่า

“หยุดได้แล้วไคโต”เสียใสปานระฆังดังกังวาน

ไคโตตะวัดสายตามองไปยังเสียงนั้นอย่างเย้ยหยันก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นแววตาของคนตระหนกเมื่อมีบางอย่างแปลกไป

“แก....ไปเอาพลังมาจากไหน”

“ไม่....โอ้ ไม่”ราชินีมังกรกรีดร้องเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังที่เธอคุ้นเคยกับมันมาตลอดทั้งชีวิต

“เจ้าทำอะไรกับหัวใจมังกร !!”

“มันอยู่กับผม มาตั้งแต่แรก”

ริวเหาะขึ้นไปประจันหน้ากับยูจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาคู่นั้นอย่างผิดหวัง “คนโกหก”

คลื่นแห่งความเจ็บปวดโถมขึ้นมาแต่ยูต้องกลืนมันลงไปเพื่ออนาคตที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ ริมฝีปากคลี่ยิ้มใสซื่อ มือทั้งสองยื่นออกไปด้านหน้าราวกับต้องการจะโอบกอดมังกรตรงหน้าไว้

“ฉันเชื่อในคำสัญญาของนายนะริว”

คำพูดนั้นยังคงตราตรึกอยู่ในหัวใจ...

“จงเชื่อข้า จะเป็นผู้ที่อยู่กับเจ้า แม้สุดท้ายแล้วเจ้าจะไม่เหลือใคร

จงเชื่อ ว่าข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าแม้จะต้องเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก

จงเชื่อข้า จงเชื่อในคำสัญญา จงเชื่อในตัวเอง”

ความเป็นนายบ่าวพันธสัญญาตอกย้ำลึกลงไปในจิตวิญญาณ เมื่อนั่นเป็นสิ่งที่เจ้านายต้องการที่สุดทาสรับใช้ก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ ริวแปลงกายเป็นมนุษย์ในรูปแบบที่ยูคุ้นตาและน่าคิดถึงเป็นที่สุดฝ่ามือแข็งแรงโอบอุ้มยูไว้อย่างทะนุถนอม

“ข้าจะไม่มีวันให้อภัยเจ้า”

ยูชะงักมองคนที่โอบกอดตนเองไว้ ก่อนจะขยับกายเข้าอิงแอบ

 “ใครสน ฉันจะทำในสิ่งที่ฉันต้องทำเท่านั้น”

“เจ้า !”

“ยูกิไปซะหมดหน้าที่ของเจ้าแล้ว”

จิ้งจอกสาวมองผู้เป็นนายอย่างอาลัยอาวรณ์ก่อนจะจากไปแต่โดยดี “รักษาตัวด้วยนายท่าน”

ริวหลับตาลงความรู้สึกที่เคยสัมผัสได้ตอนนี้เหลือทิ้งไว้เพียงความเยียบเย็น เจ็บปวดเสียจนไม่สามารถพูดออกมาได้เหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องโกหกพันธสัญญาอะไรนั่นก็ไม่เคยเกิดขึ้นความเอาใจใส่ความรักที่ยูมอบให้ ทั้งหมดนั้นกลายเป็นเรื่องโกหก และ...มังกรเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกลียดการโกหกและหักหลังเป็นที่สุด

“ย้ากกก”

ไคโตใช้โอกาสนี้ลอบเข้าโจมตียูพลังที่อักแน่ในฝ่ามือพุ่งเข้าปะทะกับเกราะป้องกันของริวที่สร้างไว้อยู่ก่อน แต่พลังนี้มากเกินกว่าที่เกราะป้องกันฉุกเฉินอันเปราะบางจะรับไว้ได้จนในที่สุดมันก็แตกออก ริวถูกยูผลักไปด้านข้างเสนอตัวเข้าไปรับพลังนั้นเต็มๆ ไคโตยิ้มเหี้ยมทะลวงฝ่ามือเข้าไปในตำแหน่งของหัวใจอย่างเลือดเย็นไม่มีการลังเล

“ม่ายยยยย”ริวคำรามอย่างโหยหวนมองหยุดเลือดสีแดงฉานที่ไหลอาบเสื้อสีขาวสะอาบของยู หัวใจแทบจะหยุดเต้นกลัวความสูญเสียนี้แทบสิ้นสติ


ยูฉีกยิ้ม

…ภายในทรวงอกนั้นว่างเปล่า

ไม่มีหัวใจ

ไม่มีอะไรเลย

สายไปแล้วที่จะถอนตัวแขนทั้งท่อนของไคโตถูกฝ่ามือเรียวบางจับยึดไว้มั่น ไคโตมองยูอย่างตื่นตระหนก

“น่าเสียดายนะไคโต นายหาที่ตายเองแท้ๆ”

กึก !! ฉั๊ว !!

“อ้ากกก”

แขนทั้งแขนถูกดึงกระฉากแยกออกจากลำตัวไคโตกรีดร้องหล่นร่วงลงมาอย่างอ่อนแรง ใบหน้าซีดขาวมองแขนข้างที่ว่างเปล่าก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธจนดวงตากลายเป็นสีแดงฉาน

“ท่านไคโต”เมียวกะประคองผู้เป็นนายขึ้นมา

“ไป!”ไคโตออกคำสั่งอย่างฉุนเฉียว แล้วหนีไปโดยมีเหล่าทาสผู้ซื่อสัยต์ขวางทางเอาไว้ไม่ให้ยูตามไปจัดการง่ายๆ

ยูมองไคโตที่ยังมีลูกเล่นอย่างใจเย็น แต่ในขณะเดียวกันยูก้องรับมือกับริวด้วย เพราะไคโตริวจึงได้เห็นแบบเต็มสองตาว่าร่องรอย
สัญลักษณ์แห่งพันธะได้หายไปแล้วดังนั้นเขาทั้งสองจึงไม่ได้อยู่ในฐานะของนายบ่าวอีกต่อไป ริวจับข้อมือของยูไว้แน่นสะบัดอย่างไรก็ไม่หลุดยูแตะที่หลังมือแกร่งนั้นเบาๆ

“ริว...หลังจบเรื่อง เราค่อยคุยกัน”

“แน่นอน เราต้องคุยกัน แต่ตอนนี้ฉันจะไปกับนาย”ริวยังคงขึ้นชื่อเรื่องเอาแต่ใจไม่เคยเปลี่ยน ใช่แล้ว...คนที่เปลี่ยนไปก็มีแค่เขาเท่านั้นยูคิดในใจ

 “ปล่อยฉัน”

“ยู”


เมื่อหันไปตามเสียเรียกริวก็มอบจุมพิตแสนหวานไว้บนริมฝีปาก ยูเบิกตากว้างไม่คิดว่าริวจะทำแบบนี้หลังจากที่เขาหักหลังอีกฝ่าย ริมฝีปากจูบย้ำลงมาบดเบียดจนต้องเผยอปากขึ้นเพื่อสูดหายใจแต่เป็นการเปิดให้อีกฝ่ายรุกล้ำเข้ามาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น  ยูตกใจจนมือไม้อ่อนไม่รู้จะทำเช่นไรเมื่ออยู่ภายใต้ดวงตาคู่นั้นที่จับจ้องมองมาด้วยความรักอันลึกซึงกระทั่งริวถอนริมฝีปากออกไปแล้วเขายังคงตกใจไม่หาย

“ให้ฉันไปกับนายยู”

“ริว...”

“อย่าทิ้งฉัน”

ผมยอมแพ้

ยูเปลี่ยนจะมาจับมือริวไว้มั่นก่อนจะออกแรงดึงเบาๆ “เรารีบไปกันเถอะ”

ริวอุ้มผมขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะพุ่งไปยังทิศทางที่ไคโตหนีไป ไม่ไกลผมเห็นไคโตจับใครบางคนไว้เป็นตัวประกันใบหน้านั้นบิดเบี้ยวและร้องไห้อย่างหนัก

“ท่านแม่...”

“หึ ถอยไปซะ”คมดาบกดบาดลึกลงไปในคอของท่านแม่

ฉึก...แหมะ ...

ไคโตกระพริบตามองไปยังเบื้องหน้าตรงที่ยูเคยยืนก่อนจะล้มลงมองที่หน้าอกของตัวเองที่มีมือเรียวสวยทะลุออกมา ในฝ่ามือนั้นมีหัวใจหนึ่งดวงเต้นอยู่แถมฝ่ามือนั้นยังทะลุอกของท่านแม่ที่รักจนร่างกายของอีกฝ่ายแตกสลายไปในอากาศ

“อะ...อึก”

“ไคโต...นายมันโง่”ยูยื่นใบหน้าไปกระซิบที่ริมหูของอีกฝ่าย

“นายคิดว่าฉันไม่รู้หรอว่าพ่อแม่จริงๆของฉันตายไปตั้งนานแล้ว”

ไคโตเบิกตากว้างมองยูที่มีรอยยิ้มประดับอยู่บนริมฝีปากราวกับปีศาจ ครั้งอยากจะพูดตอบโต้แต่ภายในปากนั้นเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลย้อนขึ้นมา


“ชิกิงามิพวกนั้นน่ะเลี้ยงฉันมาเพื่อเป็นอาหารของนาย แต่น่าเสียดายที่ฉันเห็นทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น ครอบครัวอะไรนั่นโกหกทั้งเพพวกมันนั่นแหละที่ฆ่าพ่อแม่ฉัน”ยูบีบหัวใจในมือแรงขึ้นอีกแต่ยังไม่ทำลายในทันที เพื่ออยากจะบอกกล่าวความผิดพลาดทั้งหมดของไคโตให้อีกฝ่ายเจ็บใจเล่นก่อนตาย

“นายพลาดตั้งแต่พาฉันไปหามังกร... ฉันรู้ราชามังกรเป็นของนายตั้งนานแล้วไม่งั้นเขาคงไม่เกือบจะฆ่าลูกชายของตัวเองหรอกใช่ไหม มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยที่ฉันกับริวมาพบกัน”

“นายคิดว่ามังกรจะมอบพลังให้ฉันสินะ... แต่นายก็คิดผิดเพราะฉันเป็นฝ่ายมอบพลังให้ริวเอง! เพราะแบบนั้นนายเลยรีบเรียกฉันเข้าตระกูลเพื่อกินพลังที่เหลืออยู่ทั้งหมดของฉันหลังจากที่ฉันทำพันธสัญญาสามารถเรียกตัวเข้าตระกูลใหญ่ได้แล้ว”

“ทุกอย่างที่นายทำฉันรู้ทั้งหมดไคโต”ยูหลับตาขยี้หัวใจของอีกฝ่ายจนแหลกเละไม่มีชิ้นดี ก่อนจะดึงมือออกมาจากร่างของอีกฝ่าย

“ฮึก...”ไคโตเบิกตามองหน้ายูอย่างเกลียดชังเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะสิ้นใจ

“ริวช่วยเผามันที”

เปลวไปสีน้ำเงินบริสุทธิ์แผดเผากายเนื้อให้กลายเป็นเศษธุลีลอยไปในอากาศ พร้อมกับสงครามที่จบลง อาคมของโจเนะสึสลายไปแทบจะในทันทีที่ไคโตสิ้นใจ เหล่ามนุษย์ต่างสลบไสลไม่ได้สติ เหล่ามังกรที่ถูกควบคุมก็ฟื้นคือสติอย่างสมบูรณ์
คล้ายว่าจะเป็นฉากจบที่มีความสุข...


“ริว...นายยังต้องการฉันอยู่รึเปล่า”ยูคลี่ยิ้มแม้ทั้งตัวจะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉาน

“ฉันมันเจ้าเล่ห์ไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่นายคิด แถมยังทรยศความไว้ใจของนายอีกด้วย”

หยาดหยดน้ำตาร่วงเผาะลงมาจากดวงตาคู่สวยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว ทั้งหมดที่เขาทำเพราะอยากมีชีวิต แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนตั้งแต่สัมผัสได้ถึงหัวใจอันแสนซื่อตรงของเจ้ามังกรเขาก็อยากทำทั้งหมดเพื่อที่จะอยู่กับริวให้ได้นานที่สุด
หมับ !

“ฉันรักนายที่เป็นนาย”อ้อมกอดแข็งแรงรัดร่างยูไว้แนบแน่นอย่างที่เคยทำมาทุกครั้งที่ยูร้องไห้เสียใจ

“แต่ข้าไม่ต้องการคนทรยศพรรคนั้น !”องค์ราชินีประกาศเสียงกร้าว
ทั้งสองคนผงะกับเสียงนั้นก่อนที่ยูจะตั้งสติได้และผละออกจากอ้อมแขนของริว ร่างบางเดินตรงเข้าไปหาราชินีมังกรแล้วคุกเขา

“ฉันไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ เรื่องหัวใจมังกร แต่หัวใจมังกรได้หลอมรวมกับร่างกายของผมเอาไว้ ไม่สามารถแยกจากกันได้แม้ว่าข้าจะตายจากไปก็ตาม”

“เจ้า !”

“ท่านมีทางเลือกสองทางราชินี หนึ่งฆ่าผมแล้วปล่อยให้หัวใจมังกรดับสลายไป สองเก็บผมไว้แล้วสืบทอดมันต่อไปยังอีกรุ่นหนึ่ง”

“ตัวเลือกที่สองหมายความว่างยังไง”ริวโอบเอวผมเอาไว้ก้มหน้าลงถามผมที่นั่งอยู่ต่ำกว่า

“เพราะ ฉันกำลังท้องยังไงละ”


*****
นักเขียนยังไม่ตายนะครับ ดองไปนอด แต่ใกล้จะจบแล้วครับ 20ตอนจบ




ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
นึกว่าโดนหั่นดองลงไหจากนักอ่านผู้อยากอ่านเร็วๆแล้วซะอีกค่ะ555

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
โอ้ มาม่าซักหน่อยบ๋ ลงไหดองซะนาน
รอตอนต่อไปเนอะ

ออฟไลน์ ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮

  • There can be miracles When you believe
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
    • Twitter

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ยูท้องงงงงงง
แอบสะใจไคโต สมน้ำหน้า คนชั่วต้องได้รับกรรม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ทำไมตอนนี้ยังไม่ได้อ่านหว่า ทั้งๆที่อัพมานานแล้ว
กรี๊ดดดด ใกล้จบแล้วหรอคะ
ยูท้องซะด้วย แม่ผัวจะทำไงล่ะทีนี้

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4

ออฟไลน์ xlomx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ผมไม่เหลือทางถอยให้กับใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นราชินีมังกร ตระกูล หรือแม้แต่กระทั่งตัวเอง
สิ่งที่ผมทำได้ คือการควบคุมทุกคนให้ไปตามที่ผมต้องการเท่านั้น

“ผมยกตระกูลของผมให้คุณใช้สอย”

ถามว่าตระกูลเป็นของผมหรอ? ใช่สิ ถ้าไม่ยอมให้ผมเป็นผู้นำตระกูลทุกคนต้องตายอยู่แล้วอย่างไม่ต้องสงสัยสักนิด
ราชินีมังกรมองผมเหมือนมองคนต่ำช้าซึ่งมันก็สมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่ผมได้กะทำลงไป

“เด็กในท้องก็เป็นพยานรักของผมกับริว พลังที่ผมมีทั้งหมด ผมให้คุณ”

“เหอะ จากต่างกันยังไงในเมื่อบุตรชายของข้า ว่าที่ราชาในอนาคตเป็นของเจ้าอยู่ดี”

“ถ้าไม่มีผม ไม่มีลูกแก้วมังกร มังกรอย่างพวกท่านอยู่ได้หรือไม่ ท่านก็ลองถามตัวเองดูเถอะท่านแม่”

ยูขยับยิ้มแกล้งพูดเน้นเสียงลงไปที่คำว่าท่านแม่ย่างจงใจตอกย้ำในสถานะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของราชินีมังกร

“หึ เจ้าเล่ห์นัก อยากทำอะไรก็ทำ”ราชินีถอนหายใจยาวอย่างทำอะไรไม่ได้ ฉลาดเจ้าเล่ห์เป็นที่สุด แต่เมื่อดวงใจของลูกชาย
ของนางกลายเป็นของโจเนะสึตนนั้นด้วยความเต็มใจนางก็ไม่อาจจะขัดความบุบเพสันนิวาทครั้งนี้ได้

“ขอบคุณครับ”ยูมองอีกฝ่ายแบบขอบคุณลึกซึ้ง พระนางถอนหายใจก่อนจะเหลือยตามองหน้าท้องแบนเรียบของอีกฝ่าย มังกร
เป็นสิ่งมีชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยพลังและยิ่งใหญ่เกินกว่าที่มนุษย์จะแบกรับได้

“จะอย่างไรเจ้าเป็นเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง คลอดบุตรให้มังกรข้าเกรงว่า....”

“ผมเหลือเวลาอีกไม่มากแล้วผมรู้...”ยูยิ้มจางสัมผัสได้ถึงความหวังดีจากเธอ

“ริวรู้เรื่องนี้หรือไม่”

“ผมคิดว่ายัง...ช่วยเก็บเป็นความลับได้ไหมครับ”



หัวใจของมังกรเกิดขึ้นมาบนพื้นฐานแห่งความดี ความแข็งแกร่ง แหละหยิ่งผยองในพลังที่สวรรค์ได้ประทานสรรสร้าง พวกเขา
ฉลาดและยืดหยุ่นกระทั่งผู้ที่หักหลังแม้ว่าคำขอโทษของผมอาจจะไม่ได้ดูจริงใจนักแต่พวกเขาก็ยอมอภัยให้ สีหน้ากังวลของ
ราชินีแห่งมังกรเผยออกมาชัดเจน

“อายุขัยของผมก็ไม่ได้มากไปกว่ามนุษย์ปกติอยู่แล้วละครับ ขอแค่ได้คลอดเด็กคนนี้ให้ริวผมก็พอใจแล้ว”

   “พลังของเจ้าเพียงพอที่จะให้กำเนิดด้วยหรือ?”

   “คุณคิดว่าผมกินหัวใจมังกรลงไปเพื่ออะไร”

   “...”

   ราชินีมังกรมองยูตาโตไม่ได้คิดไปไกลถึงขนาดนั้น เพียงแค่คิดว่ายูกินมันลงไปเพราะต้องการพลังที่จะล้มล้างโจเนะสึรุ่นเก่า

เท่านั้น ก่อนจะหัวเราะเสียงใสตบโต๊ะดังฉาดอย่างถูกใจ

“ในเมื่อเจ้ากล้าทำก็ต้องกล้ารับผมที่จะตามมา”

“ครับ ผมเตรียมใจไว้แล้วเพื่อให้เด็กคนนี้ที่จะต้องได้ลืมตามองดูโลก”




ริวยืนกระสับกระส่ายรอคอยยูออกมาจากห้อง ถึงแม้ว่าพันธสัญญาเลือดที่เคยมีจะหายไปแล้วแต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรเขาก็ไม่อาจ

จะหลีกหนีหรือฝืนใจผิดคำสั่งของยูไปได้

...เหมือนสุนัขที่ถูกเจ้านายสั่งให้คอยอย่างไรอย่างนั้น

“ริว”


เสียงเรียกอันคุ้นเคยทำให้ริวหลุดออกจากภวังค์ ใบหน้าสดใสของยูที่ยิ้มให้ทำให้ต้องก้าวยาวๆแล้วสวมกอดอีกฝ่ายเอาไว้เหมือนกลัวว่าจะจะหายไปหรือกลับกลายเป็นความฝันตื่นหนึ่ง กลิ่นหอมที่แตะจมูกชวนให้รู้สึกอุ่นใจเสมอทุกครั้งที่ได้สัมผัสและโอบ
กอด

“หืม? เป็นอะไรไป”

“ท่านแม่...ไม่ได้ทำอะไรนายใช่ไหม”


“จะบ้าหรอ”ยูยิ้มขำๆสวมกอดอีกฝ่ายตบไปที่แผ่นหลังหนาๆของริวดังปั๊กๆอย่างปลอบใจกับมังกรขวัญอ่อน


 “พาฉันกลับห้องเถอะเหนื่อยแล้ว”

“บางทีเราน่าจะเรียกยูกิกกลับมา”ริวนึกห่วงความปลอดภัยของยูขึ้นมา

“ไม่ เธอไปแล้วตามทางของเธอ ค่าตอบแทนในครั้งนี้ผมได้ให้อิสระแก่เธอ”

ริวมองยูที่อิ่งแอบอยู่ในอ้อมอกด้วยความวาบหวามภายในใจ มือหนึ่งโอบเอวยูเอาไว้อีกมือหนึ่งลูบเบาๆที่หน้าท้อง ความห่วงใย
ความรักใคร่ ช่างให้ความรู้สึกดีเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยสำลีที่มีกลิ่นหอมละมุน อบอุ่นเหมือนอยู่ท่ามกลางแสงแดดในยามเช้า


“ขอโทษนะริว ที่โกหก”

“ขอแค่มีนายอยู่ ถึงนายจะโกหกอีกพันครั้งฉันก็จะไม่โกรธ”

ทำไมกันนะ... ในหัวใจถึงเจ็บปวดเหลือเกิน


“ยู?”

“ขอโทษนะริว...ฉันมีเรื่องต้องบอกนายอีกเรื่อง”

ยูดันตัวออกจากอ้อมกอดช้อนตามองใบหน้าคมคายที่เคยเห็นมาตลอดสิบกว่าปี เรียกได้ว่าแทบจะทั้งชีวิตที่มีกันและกันจนตอนนี้
ได้ถือกำเนิดพยานรักตัวน้อย คิ้วสวยได้รูปเลิกมองร่างบางเป็นเชิงถาม

“ฉัน...”พอเห็นใบหน้าที่มีความสุขของริวก็พูดไม่ออกขึ้นมาซะอย่างนั้น

“มีอะไร”ปลายนิ้วขยับจับปอยผมของยูทัดให้ที่หลังหูแล้วลูบที่ต้นคอเบาๆอย่างเอาอกเอาใจเต็มที่

“ฉัน...รักนาย”

ริวเบิกตากว้างมองยูอย่างไม่เชื่อหูก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเมื่อใบหน้าขาวแดงระเรืองขึ้นมาเหมือนโดนต้มจนเดือด กระทั่งลำคอ
และใบหูก็เปลี่ยนสี คนถูกมองก็เขินอายจนต้องก้มหน้าเดินหนี แต่ติดตรงที่มือของอีกฝ่ายรั้งกอดเอาไว้แน่นเสียจนขยับก้าวไป
ไหนไม่ไดเลยแม้แต่ก้าวเดียว

“ปล่อยฉันนะไอ้มังกรบ้า”

“รีบไปไหนละหืม”ริวพูดอย่างอารมณ์ดี

ริมฝีปากจูบย้ำๆที่ลำคอและแก้มสีชมพูสุกใสทั้งสองข้าง ลมหายใจร้อนๆเป่ารดแก้มของยู ฝ่ามือขาวยกขึ้นลูบใบหน้าคมคายบอก
รักความรักความไว้ใจที่มือทั้งหมดผ่านริมฝีปาก เรือนร่างอันแสนอบอุ่น ความแนบชิดสนิดสนม รอยยิ้มที่อาบไปด้วยความสุข

“ราชินีตัดใจฆ่าราชามังกรได้ยังไงกันนะ”

“ท่านพ่อโดนช่วงชิงวิญญาณไปแล้วไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก ถึงไม่ฆ่าก็เหมือนตายทั้งเป็นอยู่แล้ว”ริวทอดสายตา
มองออกไปยังที่ไกลแสนไกล

“เสียใจรึเปล่า”ยูกุมมือริวไว้แน่น

 ร่างสูงกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นแทนคำตอบ ฝ่ามือแตะหน้าท้องที่ยังแบบเรียบแต่ก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลง

“จะเป็นเด็กผู้หญิงหรือผู้ชายนะ”ยูขยับยิ้มถามมือมือที่ไล่วนเวียนที่หน้าท้อง

“หญิงสิ”

เจ้ามังกรตอบอย่างเอาแต่ใจ จนยูอดขำไม่ได้ “เอ๋ ทำไมละ”

“ไม่อยากให้มีใครมาแย่งความรักของฉัน”

ยูกรอกตากับคำตอบของมังกรอายุสมองสองขวบ “ถ้าฉันคลอดเด็กผู้ชายขึ้นมาละ”

“ยกให้ท่านแม่เลี้ยง”

 “พูดกับนายแล้วปวดหัวจริงๆ”

ริวขยับยิ้มกับคำบ่นของยู จริงๆแล้วขอแค่เป็นลูกที่ยูคลอดให้จะเป็นผู้หญิงหรือเป็นเด็กผู้ชายเขาก็รักด้วยเลือดเนื้อเชื้อไข รักดวง
วิญญาณเล็กๆดวงนั้นที่กำลังมาเกิดเป็นลูกของเขาอยู่แล้ว

“ต้องบำรุง”




เมื่อทุกอย่างลงตัวเข้าที่แล้ว เรือนหอสร้างแล้วเสร็จ ปราสาทก็ซ่อมแซมแล้ว ท่านราชินีก็เรียกทั้งสองเข้าพบ ริวดูกังวลในขณะที่
ยูดูกระตือรือร้นกว่าลูกชายแท้ๆในไส้เสียอีก ยูก้าวเท้ายาวๆโดยที่มีริวเดินตามติดมาอย่างเงียบๆตามปกติจนกระทั่งถึงห้องโถงโอ
อ่าเรียงรายไปด้วยอาหารเลิศหรูกลิ่นหอมชวนรับประทานหลากหลายสีสันเรียงรายเต็มโต๊ะกลมที่ดูอบอุ่น

“มีงานเลี้ยงหรอครับคุณแม่ยาย”ยูยิ้มประคองท้องใหญ่เดินอุ่ยอายเข้ามา

“ข้ากำลังเลี้ยงหลานตัวน้อยของข้าต่างหากละ”
ยูหัวเราะหยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างยินดีเลี้ยงเจ้าตัวเล็กในท้องก็เท่ากับเลี้ยงเขาเหมือนกันต่างกันตรงไหน?  ริวก็มีท่าทีโล่งใจมา
ขึ้นเมื่อเห็นท่าทีผ่อนคลายของผู้เป็นแม่

“เคราะห์กรรมได้ผ่านพ้นไปแล้ว โชคดีกำลังเข้ามา ของแดนสวรรค์ชั้นฟ้าแห่งนี้สงบสุข สงบสุขตลอดไป”

ราชินีมังกรพูดขึ้น “ทานได้”

ยูเอื้อมตะเกียบคีบปลาท่าทางน่ากินให้แม่ยายก่อนจะหันไปคีบให้สามีตามธรรมเนียมผู้อาวุโส ราชินีพยักหน้าก่อนจะคีบเนื้อชิ้น
นั้นเข้าปาก

“ผมไม่ค่อยได้เจอท่านเลย งานคงจะยุ่งน่าดู”
“เรียกข้าว่า ลู่เสียน มาท่งท่านอะไรกัน”ราชินีขมวดคิ้วยุ่งจนยูต้องเปิดปากเรียกท่านแม่ลู่เสียนเสียหนึ่งคำ พระนางจึงยอมคลาย
หัวคิ้วนั้นออก

“ชื่อจีนมากเลยนะครับ”

“แผ่นดินกว้างใหญ่ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ง่ายเพียงสะบัดปีกโผบิน”

“ท่านแม่หมายถึงออกจากจีนมาปกครองที่นี่พร้อมท่าพ่อน่ะ”ริวซับไตเติ้ล

“แสดงว่ายังมีมังกรตนอื่นอีกสินะ”

“ใช่”

ยูยังแอบนึกกลัวในใจว่าตัวเขาอาจเป็นต้นเหตุให้มังกรสูญพันธุ์ได้

“อย่ามัวแต่พูดจาไร้สาระ รีบทานเข้าไปเยอะๆ”

“ผอมไปหมดแล้ว ทานเยอะๆ”

แม่ยายเอาใจ สามีเอาใจ ชีวิตนี้ก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วความสุขยูยิ้มดีใจ กับคนที่อยู่ด้วยความหวาดกลัวความตายมาทั้งชีวิต
ตอนนี้เขายิ้มออกแล้วด้วยความภูมิใจละไม่ต้องกลัวอะไรอีก ท่านพ่อท่านแม่ในสวรรค์ผมสืบทอดปณิทานมีลูกหลายสืบสกุลให้
ท่านแล้ว

“ว่าแต่ปกติแล้วมังกรตั้งท้องกี่เดือนถึงจะคลอด”หากคาดไว้คร่าวๆ ตอนนี้ก็ร่วมสิบสองเดือนแล้วที่เขาอุ้มท้องโย้เย้แบบนี้

“พวกเราอาศัยการบำเพ็ญเพียร เอาๆไปเทียบกับเจ้าไม่ได้หรอก”ลู่เสียนทำหน้าคิดจริงจังก่อนจะพูดต่อ “บางทีอาจจะเก้าเดือน
เช่นมนุษย์ทั่วไป”

“เตรีมพร้อมไว้ก่อนดีกว่า”ริวหันไปสั่งหญิงรับใช้ว่าให้จัดหาเซียนโอสถมาเพิ่มทันทีที่พูด

“เห็นพวกคุณจริงจังกันขนาดนี้ ผมชักจะเริ่มกังวลตามแล้วสิ”ยูหัวเราะลูบท้องนูนๆของตัวเอง

“ใครจะเอื่อยเฉื่อยเหมือนเจ้ากัน”แม่ยายถลึงตาใส่

“ยูดูแลตัวเองหน่อย”พร้อมๆกับคำบ่นของริว

“รู้แล้วครับๆ”

“เจ้าคิดชื่อไว้รึยัง”ลู่เสียนหันมาถามบุตรสะใภ้ก่อนจะเลยไปมองริวที่นั่งนิ่งไม่มีความเห็นใดๆ

“ยังเลยครับ อยากจะรบกวนให้ท่านแม่ลู่ตั้งให้”

“คิโยชิ ที่แปลว่า บริสุทธิ์”

“คิโยชิ ดูเหมือนลูกต้องเกิดมาเป็นผู้ชายซะแล้วละ”ยูก้มหน้าพูดกับลูกในท้องที่เริ่มดิ้นตอบสนองกับผู้เป็นมารดา

“เอาชื่อผู้หญิงสิท่านแม่”ริวพูดแย้ง

“ไม่”

ผมยิ้มเอนหลังที่เริ่มปวดน้อยๆพิงริวฟังสงแม่ลูกเถียงกันเป็นเรื่องปกติของชีวิตไปเสียแล้ว ท่อนแขนแข็งแกร่งโอบประคองผู้เป็น
ที่รักเอาไว้อย่างทะนุถนอมมือใหญ่อีกข้างกุมมือเอาไว้หลวมๆคลายความหนาวที่ปลายนิ้ว

“ไปพักได้แล้วนั่งนานๆจะปวดเอวเอา”ลู่เสียนเอ่ยปากไล่

“...”

ความเจ็บแปล๊บแล่นขึ้นมาจากหน้าท้องพาเอาหมดแรงเดินขึ้นมา ร่างที่โนเอนเกาะโต๊ะเอาไว้ทำเอาจอกน้ำชาทรงสูงกระเฉาะล้ม
ระเนระนาดยังไม่เท่าหัวใจของมังกรทั้งสองที่ตกไปที่ตาตุ่ม ริวที่คอยประคองอยู่กระชับวงแขนดังยูเข้ามาแนบอกก่อนจะค่อยๆ
ทรุดลงนั่งกับพื้น มองร่างบางที่หน้าตาซีดเซียวด้วยความตกอกตกใจ

“ยู...”

“จะคลอดแล้ว”

กลิ่นอายความสุขและความสงบ

ผมขอภาวนากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ให้เด็กคนนี้เดินมาอย่างสมบูรณ์

ความรักไม่จืดจาง ความทรงจำคงอยู่

ตลอดไป ตลอดกาล


====
 คุยกันสักนิด

กราบขออภัยไร้คำแก้ตัวสำหรับการดอง  :mew2: ครั้งหน้าอาจจะลงสองตอนรวดให้จบเลยค่ะ  :call: :call: :call:


 









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2015 21:15:37 โดย xlomx »

ออฟไลน์ xlomx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
19
“ยู”

“อะ...อือ”

ริวถูกกันออกไปโดยทหารกลุ่มหนึ่งมือที่กุมกันไว้ตราบจนวินาทีสุดท้ายค่อยๆเลื่อนหลุดออกจากกัน ทว่าความอบอุ่นที่ปลายนิ้วนั้นไม่ได้จางจากไปประทับไว้ยังส่วนลึกของจิตวิญญาณ

ร่างของผมถูกพามายังสถานที่แห่งหนึ่งสระน้ำสีเขียวมรกตกว้างสุดลูกหูลูกตาปกคลุมบรรยากาศด้วยไอหมอก สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นความนุ่มนวลราวกับถูกโอบอุ้มด้วยละอองไอน้ำแห่งความฝัน ร่างครึ่งร่างถูกวางลงไปในน้ำอีกครึ่งร่างพิงขอบหินสีครีมสว่าง ผมกวาดสายตาที่พร่ามัวมองหาบุคคลๆหนึ่งที่ไม่ได้ตามเข้ามาด้วย

“ริว...ละครับ”น้ำเสียงแตกพร่าด้วยความเจ็บปวด

“ที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ นอกจากมังกรเพศเมียที่จะคลอดบุตรคนอื่นไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามา”

ผมรู้สึกโล่งอกจริงๆ ผมไม่ต้องการให้เค้าเห็นผมตาย...

“ดีจริงๆ”

“บางทีน้ำมรกตนี้อาจจะพอรักษาวิญญาณของเจ้าไว้ได้บ้าง”

ผมส่ายหน้าแต่ก็ต้องร้องออกมาเมื่อความเจ็บปวดแล่นปราดขึ้นมาอีกครั้ง ความเจ็บปวดนี้แทบจะพรากเอาสติผมไปแล้วจริงๆ

“ทะ..ท่านแม่”

“ว่าไง”ราชินีมังกรทอดสายตามองลูกสะใภ้มนุษย์คนนี้ด้วยสายตาอ่อนโยน

“อย่าให้ริวเข้ามาที่นี่ อย่าให้เขาเห็นผมในสภาพแบบนี้”

“ได้”

ทางด้านของริว

“หลีกไปเดี๋ยวนี้ !”เสียงทรงอำนาจของริวตวาดไล่เหล่าบรรดาทหารที่ยืนตั้งมั่นขวางทางเข้าออกที่อยู่เพียงทางเดียวเอาไว้อย่าง
เหนียวแน่

“ทูลองค์ราชา กระหม่อมมิกล้า เพียงแต่องค์ราชินีรับสั่งไว้ว่ามิให้ผู้ใดผ่านเข้าไปได้แม้กระมั่งท่านก็ตาม

ริวกางเขี้ยวเล็บอย่างโมโหโกรธาคว้าลำคอเหล่าทหารผู้น่าสงสารขึ้นมาบีบแน่นจนใบหน้าจำแลงในแดงก่ำไปหมดพอๆกับที่ความโกรธครอบงำจนดวงตาทั้งสอบของเขาแดงก่ำไปหมด เหล่าทหารพากันกลัวจนตัวสั่นแต่ก็ยังไม่ลืมหน้าที่แม้ตัวจะต้องตกตาย ริวคำรามสีคำรามนั้นดังก้องเข้าไปถึงภายในยูทำได้เพียงแค่ขยับริมฝีปากยิ้มร่างกายเจ็บปวดจนขยับไม่ได้แล้ว ได้แต่ปล่อยให้ร่างครึ่งท่อนบนค่อยเลื่อนลงใต้ผิวน้ำ ปล่อยในสายน้ำสีมรกตไหลเข้าทางปากและจมูกและหมดสติไปในที่สุด

ราชินีมังกรถอกมงกุฎออกวางไว้ข้างกายก่อนจะดึงชายกระโปรงนั่งลงบนขอบหินมองการเป็นไปของการกำเนิดด้วยหัวใจที่เศร้าสร้อยและมีความสุขไปพร้อมๆกัน ไม่มีทารกมังกรมานานแค่ไหนแล้ว...แม้แต่พันธุ์ผสมก็ยากที่จะให้กำเนิดทารก หลายพันปีมานี้นางก็มีบุตรชายเพียงคนเดียวและตอนนี้ทารกน้อยๆที่มีศักดิ์เป็นหลายขงนางกำลังจะถือกำเนิดขึ้นนางย่อมมีความสุข
มารดา เป็นตำแหน่งที่หนักหนา

“ในฐานะที่เราเป็นมารดาคนคนหนึ่ง เจ้าจงทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด ให้บุตรของเจ้าได้มีชีวิตอยู่”
ไม่ตาย...แต่ก็คล้าย

“ที่นี่ที่ไหน”

“ที่นี่คือจิตใต้สำนึกของเจ้ายังไงละ”

ยูหันไปมองต้นเสียงอย่างตกใจใบหน้านั้นเหมือนเขาทุกระเบียบนิ้ว ริมฝีปาก ดวงตา จมูก น้ำเสียง

“ฉันก็คือนายนายก็คือฉัน”อีกฝ่ายตอบข้อสงสัยในใจ

“ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้”

“เพราะความเจ็บปวดทางกายเกินกว่าจิตใจจะรับไหว จิตจึงนำพานายมาที่นี่”

ยูนิ่งอึ้งไปสรุปแล้วเขาก็ยังไม่ตายสินะ แล้วลูกของเขาละ !

“ลูกฉัน...”

“อย่าคลอดเขาออกมาเลยถ้ามันทำให้เจ้าเจ็บปวด”

“ไม่...”

“หลับซะเถิด แล้วความเจ็บปวดจะหายไป”

ยูอ้าปากค้างยังไม่ทันจะได้พูดจบประโยคเสยด้วยซ้ำร่างกายก็เหมือนจะอ่อนปวกเปียกกลายเป็นโคลนหนักๆตามที่เจ้านั่นพูด

ใคร...มันจะไปยอม

“อย่าขัดขืนหน่อยเลย เหนื่อยเปล่า”

“หึ หึ นายคิดว่าฉันจะยอมง่ายๆเรอะ เป็นแค่จิตใต้สำนึกแท้ๆอย่ามาพูดมากนะ!!”

“วิญญาณของเราคงอยู่มาเป็นพันๆปี ฉันจะไม่ยอมให้นายทำลายมันง่ายๆหรอก”อีกฝ่าแสยะยิ้ม รอยยิ้มที่มาจากใบหน้าเดียวกัน
แท้ๆแต่ยูกลับรู้สึกว่ามันช่างน่าเกลียดและอยากจะลบมันออกไปให้พ้น



“นี่ก็ผ่านมาสามวันแล้วเหตุใดจึงเงียบสงบนัก”ราชินีมังกรหันไปถามท่านหมอที่นั่งเพ่งพิจารณาร่างของโจเนะสึตรงหน้าโดยที่ไม่ได้แตะต้องใดๆ

“ทูลฝ่าบาทพลังของเด็กคนนี้แปรปรวนอย่างยิ่ง วิญญาณกำลังปกป้องตัวเองไม่ได้ถูกทำลายจากการให้กำเนิดแต่ในทางกลับกันอีกครึ่งหนึ่งของจิตวิญญาณต้องการอยากให้เด็กคนนี้เกิดมา”

ราชินีขมวดคิ้วอย่างจนปัญญา “แล้วข้าควรจะทำอย่างไร”

“รอเพคะ”

ในขณะที่ยูกำลังต่อสู้กับจิตของตนเองโลกภายนอกก็วุ่นวายมากพอๆกัน

“ท่านแม่ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ !”

“เจ้าจะเข้าไปทำไม ?”

สองแม่ลูกยืนประจันหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร

“แล้วทำไมข้าถึงเข้าไปไม่ได้ ยูอยู่ตรงนั้นข้าควรจะอยู่ข้างกายของเขา”

“...”องค์ราชินีเม้มปากอย่างไม่รู้จะว่าอย่างไรกับลูกชายหัวดื้อคนนี้

“เจ้าไม่ไว้ใจเขาหรือไง”

“มันไม่ได้เกี่ยวกับความไว้ใจไม่ไว้ใจเลยท่านแม่ หลีกไป!”

ริวผลักมารดาของตนออกไปไม่แรงมากแต่ก็มากพอที่จะทำให้เซออกไปพ้นทางได้ หลงเอียนไม่คิดเลยว่าบุตรชายจะกล้าลงมือต่อนางจริงๆแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การผลักเบาๆ กว่าจะหายตกตะลึงผู้เป็นราชินีก็รู้ตัวว่าพลาดไปเสียแล้ว

ริวเบิกตากว้างมองร่างของยูที่หลับตาพริ้มใต้ผืนน้ำสีมรกต ไร้การเคลื่อนไหวใดๆแต่ยังมีพลังของชีวิตที่บ่งบอกได้ว่าร่างตรงหน้ามิได้สิ้นลมจากเขาไป

กึ่งเป็น กึ่งตาย

“ยู...นีมันเกิดอะไรขึ้น”ริวถามอย่างสับสน

“...”มีเพียงความเงียบอันน่าอึดอัดที่ผู้เป็นมารดาตอบให้ ริวไม่เข้าใจว่าเหตุใดมารดาของตนจึงมีสีหน้าเจ็บปวดแบบนั้น

“ตอบข้า !!”ริวเขย่าผู้เป็นมารดาและคาดหวังในคำตอบความโกรธที่พลุ่งพล่านทำให้ผนังถ้ำสั่นสะเทือนคล้ายจะถล่มลงมาเสียให้
ได้ หลงเอียนกรอกตามองเพดานอย่างหวาดหวั่น

“ได้ๆ แม่จะบอกเจ้าหยุดปล่อยพลังออกมาซะที เดี๋ยวเจ้ามนุษย์น้อยของเจ้าก็ตายไปด้วยหรอก”

ได้ยินแบบนั้นริวก็สงบลงทันทีหลงเอียนจึงค่อยๆเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังอย่างใจเย็น ใบหน้าซีดขาวของริวซีดแล้วซีดอีกเมื่อ
คำบอกเล่านั้นจบลง

“ถ้าคลอดเด็กคนนั้นออกมายูจะตายหรอ?”

“ใช่”

ราวกับฟ้าถล่มลงมาตรงหน้าหนึ่งชีวิตต่อหนึ่งชีวิตที่เขาจะต้องเสียไป หัวใจเหมือนจะหยุดเต้นไปชั่วขณะหนึ่งสมองไม่สามารถคิดอะไรได้อีกนอกจากใบหน้าของบุคคลที่เขารักมากที่สุดและชีวิตน้อยๆที่กำลังจะเกิดมา ริวเซยกมือค้ำผนังอย่างไร้สิ้นเรี่ยวแรงก่อนจะทรุดลงที่ขอบอ่างน้ำมรกตที่ครั้งหนึ่งตนก็เคยเกิด ณ ที่แห่งนี้ บรรยากาศอบอุ่นนั้นหายไปไม่เหมือนเดิมประหนึ่งมีเข็มนับพันทิ่มแทงหัวใจกระทั่งการเปล่งเสียงเขายังแทบจะลืมมันไป

“...”หลงเอียนมองบุตนชาแล้วก็นึกสะทกสะท้อนใจ

ลูกเราไปทำบาปอะไรไว้หนอ แม้มีความรักแต่มิอาจสมหวัง

ดังสายลมที่พัดมาชั่ววูบหนึ่งแล้วพัดผ่านไป

“ยู...”

“รัก...”

หยาดน้ำที่รั่วหล่นจากดวงตาที่สะท้อนเงาบุคคลที่หลับพริ้มอยู่ใต้ผืนน้ำหดแล้วหยดเล่าลงสู่ผืนน้ำจนเกิดเป็นวงคลื่นเบาๆ แม้เสียงที่เปล่งออกไปจะส่งไปไม่ถึงแต่ความรู้สึกภายในใจนี้ริวเชื่อว่ามันจะต้องส่งไปถึงแน่นอน



ทางด้านของยู

ผมอดทน แต่ผมใกล้จะหมดแรง...หมดแรงในกับวิญญาณของตัวเองที่ต้องการจะอยู่รอด หากว่าผมยอมแพ้จะไปมีหน้ามองราชินีได้อย่างไรทั้งยังไม่มีหน้ามองริวอีกด้วย


ฮึก...

ยู

รัก

เสียงกระซิบของริวนั้นกระตุ้นผมให้ตื่นจากภวังค์สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นตอนนี้เขาต้องคิดถึงผมแน่ๆ

อ่า...เด็กคนนี้กำลังบอกผมว่าต้องการมีชีวิต

ดูเจ้าตัวน้อยนั่นกำลังดิ้นภายในตัวของเขาก็ยิ้มออก เขาจะยอมแพ้ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด เมื่อคิดได้แบบนั้นร่างกายก็พลันมีพลังขึ้นมาแขนขาก็ขยับไม่เหมือนโคลนหนักๆอีกต่อไป

“ยังทนได้อยู่อีกรึ”อีกฝ่ายพูดด้วยความโมโห

“หึ แกทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”ผมหัวเราะ

เจ้าจิตวิญญาณที่หน้าเหมือนผมผมทำหน้าหวาดผวา “อย่าทำแบบนั้นเจ้าจะตายเอานะ !!”

“แล้วยังไง?”ผมตอบกลับแบบไม่หยี่ระ

ลูกของฉันจะต้องได้เกิด โดยไม่มีเงื่อนไข

จิตวิญญาณกรีดร้องโหยหวนร่างของยูเปล่งแสงออกมาลำแสงนั้นช่างเจ็บๆปวดราวกับถูกฉีกเป็นชิ้นๆ แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าลูกของเขากำลังจะออกไปลืมตาดูโลกแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งดีใจจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้ภารกิจของเขาใกล้สำเร็จแล้ว จิตวิญญาณหายไปแล้วยูจึงได้หลับตาลงวางมือไว้บนท้อง

“เด็กน้อยของผม”ยูยิ้มกว้าง



“เด็ก...เด็กคลอดออกมาแล้ว !!”

ราชินีมังกรเบิกตามองมังกรตัวน้อยที่ออกมาจากร่างที่เปล่งแสงเรืองรอง ริวเบิกตากว้างก่อนจะยื่นมือออกไปโอบอุ่มเจ้าตัวน้อยเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ลูกมังกรตัวเล็กราวกับกิ้งกือริวยิ่งมองก็ยิ่งทำหน้าพิลึกดวงตานั้นยังไม่เปิดด้วยซ้ำไป

“ยูดูลูกของเราสิ”

ละสายตาจากลูกไปที่ยู แต่ร่างบางไม่มีปฏิกิริยาตอบรับแถมค่อยจมลงก้นบ่อน้ำมรกตเห็นแบบนั้นฝ่ามือก็สั่นเทาจนหลงงเอียนต้องเข้ามาประคองหลานของไปเธอแทน

“ไม่ ไม่ ไม่”

ริวยื่นมือลงไปคว้าร่างของยูขึ้นมาแต่ไม่ว่าอย่างไรก็จับไม่ถูกราวกับไม่มีกายเนื้ออีกต่อไป นิ้วเรียวแตะลงไปที่ใบหน้าก็ไม่อาจสัมผัสถึงความอบอุ่นได้อีกเลือดในกายก็พลันเย็นเฉียบขึ้นมา แม้แต่ร่างกายเลือดและเนื้อทุกหยดต่างอุทิศให้แด่บุตรของเขาไปหมดแล้ว

“อ้ากกกกก!!!”

 :hao5: :hao5:  เหลือตอนสุดท้ายแล้วนะ




ออฟไลน์ xlomx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
20 END

‘ไอกะ’

ไอกะ เป็นชื่อที่ยูได้ฝากเอาไว้มีความหายว่า ‘บทเพลงแห่งความรัก’และแม้ว่าชื่อนั้นจะค่อนไปทางเด็กผู้หญิงเสียมากกว่าริวก็ไม่ได้ใส่ใจยังคงเรียกบุตรชายด้วยชื่อของเด็กผู้หญิงตลอดหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา ริวละสายตาจากเอกสารในมือมองบุตรชายที่สูงไม่ถึงครึ่งขาของเขา

“ไอกะ เจ้าไม่ควรเข้าไปใกล้ประตูนั้น”

“ท่านแม่กำลังเรียกข้าอยู่”ไอกะหยุดอยู่หน้าประตูบ้านหนึ่ง

ประตูสวรรค์เป็นสิ่งที่ปิดตายตั้งแต่เกิดสงครามระหว่างโจเนะสึและภพมังกรร้อยปีแล้วที่ไม่มีมังกรตนใดลงไปเหยียบดินแดน
มนุษย์ ไม่สิต้องบอกว่าตั้งแต่เด็กคนนี้เกิดมาโลกที่ไม่มียูอยู่เคียงข้างริวก็กลายเป็นโรครังเกียจมนุษย์อย่างรุนแรง ความคิดถึงได้กัดกร่อนหัวใจจนเกือบจะทำให้เขาเป็นบ้า

“ท่านพ่อ”เด็กน้อยเดินเข้ามากุมมือผู้เป็นบิดา

“อย่าได้ทำหน้าแบบนั้นอีกเลย ข้าจะไม่เข้าใกล้ประตูนั่นอีก”แก้มนุ่มนิ่มซบลงที่ผ่ามือใหญ่ของผู้เป็นบิดา

เขาไม่รู้เลยความตนเองเผลอแสดงสีหน้าแบบไหนออกไปเพียงแค่เบิกตามองลูกชายอย่างตกใจแล้วก็คลี่ยิ้มบางๆให้กับลูกชายขี้อ้อนคนนี้ช่างเหมือนแม่ไม่มีผิด แม้จะผ่านมาถึงร้อยปีแล้วแต่การเติบโตของไอกะก็ช้าจนน่าเป็นห่วงไม่รู้ว่าเป็นเพราะหัวใจมังกรที่อยู่ในร่างหรือเพราะสายเลือดโจเนะสึที่ไหลเวียนอยู่กันแน่

“ไหนเจ้าบอกว่าได้ยินเสียงแม่ของเจ้า?”

“ข้าได้ยินจริงๆนะท่านพ่อ”

การที่เด็กน้อยคนหนึ่งทำหน้าตาจริงจังนั้นดูน่าขำนักสำหรับผู้เป็นบิดา ริวหัวเราะเสียงดังจนเด็กน้อยแก้มป่องด้วยความน้อยใจฝ่ามือใหญ่ขยี้กลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนตรงหน้าเบาๆก่อนจะเอ่ยง้อเด็กน้อยด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ

“ไปพ่อจะพาเจ้าไปเปิดหูเปิดตาที่โลกมนุษย์สักครั้ง”

ไอกะสะลัดอาการเกี่ยงงอนทิ้งไปเบิกตากว้างมองบิดาด้วยดวงตาระยิบระยับใสซื่ออย่างตรงไปตรงมา

“จริงหรือ?”

“จริงสิ”

ริวอุ้มบุตรชายขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดด้วยแขนเพียงข้างเดียวมืออีกข้างแตะเบาๆที่ประตูเก่าบานนั้น แสงสว่างเจิดจ้าจนเจ้ามังกรตัวน้อยต้องหลับตาลงสองมือป่อมๆกอดคอผู้เป็นบิดาแน่นด้วยความหวาดกลัวปนตื่นเต้น

‘ไอกะ’

อ๊ะ ! เสียงของท่านแม่กำลังเรียกเขาอีกแล้ว

“ท่านพ่อๆนั่นอะไรน่ะ”ไอกะมองกลุ่มก้อนของแผ่นดินอย่างตื่นเต้น

“ดินแดนที่มีชื่อว่า ญี่ปุ่น พ่อเจอกับแม่เจ้าที่แผ่นดินแห่งนี้แหละ”

“ข้าอยากลงไป”

“ได้ อยู่นิ่งๆ”

ริวค่อยๆล่อนลงตรงที่ที่เขาเจอกับยูครั้งแรก ในตอนนั้นเขาบาดเจ็บหนักมากแผ่นดินถูกอาบย้อมกลายเป็นทะเลเลือดใกล้จะตายอยู่รอมร่อแต่แล้วในทันใดนั้นก็มีเด็กน้อยคนหนึ่งเสนอพลังให้เขาแลกกับการมีชีวิตอยู่ ยูพึ่งจะอายุสิบกว่าก็โดนมังกรวัยรุ่นแบบเขาสอดใส่เริ่มเรียกรู้คำว่าเสพสมทางเพศ

ริวก้มมองต้นหญ้าที่ตนยืนเหยียบอยู่ก่อนจะย่อกายลงยกมือลูบเบาๆไปตามต้นห้าสีเขียวสดพวกนั้น ที่ครั้งหนึ่งยูเคยทอดนอนร่างกายให้เขาตรงนี้เขายังจำได้แม่นทีเดียว

“ท่านพ่อทำไมทำหน้าลามกแบบนั้น”

ริวสะดุ้งก่อนจะรีบเปลี่ยนสีหน้า “เปล่า”

ไอกะทำหน้าไม่เชื่อ “เอาเถอะ ท่านพ่อข้าขอไปเที่ยวตรงนู้นน สักประเดี๋ยว”

“อย่าไปไหนไกล ระวังคนแปลกหน้าพ่อจะรออยู่ตรงนี้”

“อื้อ”

ริวรู้ว่าที่นี่ไม่มีคนมาอาศัยอยู่นานแล้วสัญชาตญาณของมนุษย์มักจะหลีกเลี่ยงสิ่งพวกนี้อยู่แล้ว ยิ่งเกิดสงครามครั้งที่แล้วยิ่งไม่มีมนุษย์คนไหนกล้ามาตั้งรกรากแถวนี้อีกบางทีอาจจะโดนพวกสัตว์ร้ายที่หลุดมาจากสวรรค์ฆ่าไปแล้ว

ริวถอยหายใจยาวความเจ็บปวดที่หนวงในหัวใจมานานนับร้อยปีนี้อย่างไรเขาก็ลืมมันไปไม่ได้ ‘ยู’ ชื่อที่แสนเรียบง่ายนี้สลักลึกลงไปในหัวใจอย่างไม่อาจลบเลือน บางทีเขาคงไม่อาจรักใครได้อีกจนกว่าจะลืมความทรงจำแสนหวานี้ไปจนหมดสิ้น

แซกๆๆ

เสียงนกที่ตื่นกลัวทำให้ริวกวาดสายตามองไปรอบๆอย่างระวัง กลิ่นหอมของบางอย่างลอยกระทบนาสิก กลิ่นที่ชวนให้คิดถึงและ
สะกดเขาให้นิ่งไป

“ยู...?”

คำๆนี้เขาไม่ได้เอยมานานถึงร้อยปีแล้วแม้แต่ลูกชายเขาก็ไม่เคยบอกว่ามารดาขงตนนั้นชื่ออะไรหรือเป็นใคร เพียงแค่บอกว่าตายแล้วแค่นั้นก็ทำให้เขาเจ็บปวดจนไอกะไม่กล้าสักไซถามอะไรต่ออีกเลย

ริวยืนรอกลิ่นหอมนั้นกำลังใกล้เข้ามาพร้อมทั้งภาวะนาไม่ให้สมองของเขาเพี้ยนไปเองว่าได้กลิ่นของยู กลิ่นหอมอันเข้มข้นไม่เหมือนใคร

“...อา”

เหมือนเวลาถูกตีย้อนกลับตรงหน้าของริวปรากฏร่างเด็กผู้ชายอายุราวๆสิบห้าสิบหกปี เท้าเปลือยเปล่านั้นเปรอะเปื้อนขาทั้งสองเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนเหมือนย้อนกลับไปในอดีตอีกครั้งมันช่างน่าประหลาดใจจนอดไม่ได้ที่จะชกตัวเองแรงๆสักที

เจ็บ!!

เด็กน้อยสะดุ้งเฮือกอย่างตกใจเมื่อจู่ๆคนตรงหน้าก็ชกตัวเองจนได้เลือดพลางคิดไปอย่างไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้านี้จริงๆแล้วปกติดีหรือเป็นไอ้โรคจิตกันแน่ เมื่อความไม่น่าไว้ใจก่อกำเนิดขึ้นร่างบางก็หันหลังกลับเตรียมจะวิ่งหนี ริวไม่ยอมปล่อยให้คนตรงหน้าหายไปอีกเฉยๆแน่

อ้อมแขนแกร่งโอบกอดร่างตรงหน้าไว้เด็กชายตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจรู้ตัวอีกทีลมร้อนๆก็เป่ารดต้นคอของเขาให้ขนลุกเล่นซะแล้ว ความคุ้นเคยอันน่าประหลาดใจกับความอบอุ่นในอ้อมแขนนี้ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความปลอดภัย เด็กชายพยายามคิดแต่จนแล้วจนเล่าก็ยังนึกไม่ออกว่าเคยได้รับสัมผัสนี้จากใคร

“ยู”

ตึก...ตึก...

หัวใจกำลังเต้นแรงจนเหมืนจะทะลุออกมานอกอกนี่มันอะไรเด็กชายไม่เข้าใจตนเองเลยแม้แต่น้อย มือเรียวกุมอก หัวใจตรงนี้
กำลังบอกว่าดีใจ ทำไมถึงดีใจกันละ เพราะอะไร

“ฉันไม่รู้จักนาย”

ริวไม่ตอบแต่กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น “ไม่เป็นไร”

เมื่อริวทอดสายตาลงไปมองที่เท้าทั้งสองข้างก็ปวดใจขึ้นมาเมื่อเห็นแผลเปิดเลือดไหลซิบๆ ริวช้อนตัวเด็กชายขึ้นมาอุ้มอย่างกระทันหันจนอีกฝ่ายร้องขึ้นมาอย่างตกใจ

“นาย...นายปล่อยฉันลงนะ !”

“เจ็บไหม”

เด็กชายชะงักเงยหน้ามองริวที่ทอดสายตามองริบแผลที่ขาและเท้าอย่างเจ็บปวด ทำซะอย่างกับตัวเองเจ็บเสียเองอย่างแปลกใจ 
เด็กชายส่ายหน้าน้อยๆและยอมอยู่นิ่งๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีอันตรายอะไรหรือต้องการจะทำร้าย

“นายเป็นใคร”

ริวยิ้มเศร้าก่อนจะเปิดปากตอบ “นายเคยเรียกฉันว่าริว”

“เราเคยเจอกันหรือ?”

“ใช่แล้ว” ฉันเป็นทาสหัวใจนาย

เด็กชายครุ่นคิดชั่วครู่ “ฉันน่ะจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร หรือเกิดอะไรขึ้นบ้าง ฉันจำได้แต่ว่าตอนเด็กๆมีคนพาฉันมาไว้ที่นี่แล้วฉัน
ก็อยู่ตัวคนเดียวมาตลอด”

ริวลูบฝ่ามือไปตามแนวสันหลังที่ผอมจนจับตรงไหนก็มีแต่กระดูกแข็งๆ กวาดสายตามองหาทำเลดีๆไม่เจจึงสะบัดนิ้วตัดโค่น
ต้นไม้ใหญ่เหลือเป็นตอสีขาวสะอาดเรียบกริบไม่มีกระทั่งเสี้ยนไม้ให้ค่อยระวัง เด็กชายเบิกตากว้างมองอย่างตกใจจนตัวแข็งค้าง

“นะ นายไม่ใช่คน”

“ใช่แล้ว”

ริวคุกเข่าลงตรงหน้าเด็กชายที่ยังตกใจไม่หายไล่ฝ่ามือไปตามเรียวขาก่อนจะเลื่อนลงมาที่ข้อเท้าของอีกฝ่าย

เด็กชายชักเท้าหนีอย่างตกใจเมื่อริวประคองฝ่าเท้าที่เต็มไปด้วยเลือดและโคลนนี้จรดที่ริมฝีปาก

 “อย่านะ!!”

ริวช้อนตามองเด็กชาย จ้องลึกเข้าไปในดวงตา ลึกลงไปถึงจิตวิญญาณ ฝ่ามือยึดข้อเท้านั้นไว้ไม่ปล่อยแม้อีกฝ่ายจะดิ้นแรงแค่
ไหน เด็กชายหวาดผวาพยายามชัดเท้าหนีจนเหนื่อยหอบก็ยังสู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้แม้แต่น้อยจึงได้แต่อ้าปากถามอย่างจนใจโดยที่
ไม่ได้สังเกตว่าแผลที่เท้าและที่ขาได้หายไปจนหมด คราบโคลนหรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ก็ไม่เหลือแล้ว

“นายรู้จักฉันจริงๆหรอ”

 “ฉันจะเล่าเรื่องของนายให้ฟัง”

ริวขยับตัวนั่งช้อนหลังของอีกฝ่ายเอาไว้เด็กชายก็นั่งเรียบร้อยอย่างตั้งอกตั้งใจฟัง ริวเล่าเรื่องด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆเหมือนเล่านิทาน
ให้เด็กฟังอย่างไรอย่างนั้นไม่นานเด็กชายก็คอพับไปด้วยความง่วงคาอกของริว

ไอกะที่พึ่งกลับจากการสำรวจเห็นบิดากอดใครคนหนึ่งเอาไว้ก็ถามด้วยความแปลกใจ “ท่านพ่อนั่นใคร”

“ครั้งหนึ่งเค้าเคยเป็นมารดาของเจ้า”

ไอกะหันไปมองเด็กชายอย่างสนใจก่อนจะยื่นมือแตะที่แก้มขาวนั้นเบาๆ

วูบบ...

ร่างของเด็กชายกำลังเรืองแสงสีขาวนวน ไอกะรีบชักมือของตัวเองออกอย่างตกใจริวก้มมองคนในอ้อมกอดที่ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น
เลยแม้แต่น้อย แววตาที่สับสนเริ่มมีประกายความหวัง

“ทะ ท่านพ่อข้ากลัว”

“ไม่เป็นไร”ริวลูบหัวทุยของลูกชายเบาๆ

ตื่นขึ้นมาเถอะยูริวคิดก่อนจะก้มลงประทับจุมพิตที่หน้าผากมนไล้ลงมาที่แก้มและแอ่งชีพจรตรงต้นคออย่างแผ่วเบา ปลายจมูก
สูดดมกลิ่นหอมที่ไม่เคยเปลี่ยนไป

“จั๊กจี้นะริว”

“ยู?”

“อืม”

“ท่านแม่?”ไอกะจำเสียงนั้นได้ เสียงที่เรียกเขามาตลอดตั้งแต่เด็กๆ เห็นใบหน้าเยาว์วัยที่คลี่ยิ้มอ่อนโยนแล้วที่ดวงตาก็คลอหน่วย
ไปด้วยน้ำตา

“ท่านแม่ !!”ร่างเล็กโผลกอดยูทันที

“ฉันกลับมาแล้ว”ยูกระซิบบอกลูกชายและริวสองแขนโอบกอดไอกะเอาไว้

“คิดถึง”ริวกระซิบข้างหูยูพร้อมจูบเบาๆที่ใบหูแดงเรืองนั้น

“คิดถึงเหมือนกัน”ยูพูดก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปประทับริมฝีปากที่ข้างแก้มของอีกฝ่าย

ประการที่หนึ่งปลอบประโลมจิตวิญญาณ

ปราการที่สองวิญญาณที่สมบูรณ์

จิตวิญญาณจึงจะสมบูรณ์ ด้วยรัก และความคิดถึงที่ฝากไว้




END


ยังมีตอนพิเศษเอาไว้เฉลยๆปมอยู่สำหรับยู

ขอบคุณที่ติดตาม
 :mew1:











ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
มากอดที
กลับมาแล้วววววววว น้องไอกะทำไมออกราศีเคะจังคะ
ไม่สิๆ ก็เป็นครึ่งโจเนะสึนี่เนาะ
รอตอนพิเศษน้าา

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
รออ่านตอนพิเศษค่า
สุดท้ายก็ได้อยู่ด้วยกัน

ออฟไลน์ xlomx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ตอน  โจเนะสึ จุติ ว่าด้วยเรื่องการตายเพื่อเกิดใหม่


“เจ้าคิดว่าวิญญาณที่อยู่มาเป็นพันๆปีจะแตกสลายเพราะเรื่องแค่นี้นะรึ? เจ้าดูถูกวิญญาณของตัวเองมาไปแล้วยู”

“...”ผมไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะต่อปากต่อคำกับวิญญาณของตัวเองอีก


“จุติอีกครั้ง...เพื่อเกิดใหม่ในร่างกายใหม่ เริ่มต้นชะตากรรมที่ไม่มีสิ้นสุด”เสียงของจิตเบาลงไปทุกทีก่อนที่ผมจะดำดิ่งลงไปใน
ความมืด

ผมลืมตาตื่นขึ้นมาในความมืด เหมือนกำลังจะจมน้ำมือและขาทั้งสองได้แต่ตะกายไปมาอย่างบ้าคลั่ง ความเย็นเฉียบกัดกินเข้า
ลึกถึงกระดูกสร้างความเจ็บปวดไม่น้อย
“เกิดแล้ว”เสียงของใครบางคนตะโกนขึ้น

ผมยากจะตะโกนพวกเขาว่าผมหนาวจะตายอยู่แล้ว

“เตรียมเครื่องบูชา”

“ปีนี้แล้งมากเราต้องใช้เด็กเป็นเครื่องบูชาเทพมังกร”

“แอ้...แอ้ แง้ !!!”

ผมไม่รู้ว่าคนพวกนั้นกำลังทำอะไรร่างของผม แม้ว่าจะร้องไห้ดังสักแค่ไหนก็ไม่มีใครสนใจเลยแม่แต่น้อย ถูกอุ้มก่อนจะโยนลง
บนพื้นน้ำคราวนี้แหละผมถึงได้ตื่นเต็มตาเมื่อพยายามดันตัวเองขึ้นมานั่งก็ต้องตกใจเงาบนผืนน้ำที่สะท้อนเข้านัยน์ตา ใครกันที่กำลังจ้องผมอยู่เงาบนผืนน้ำขยับปากถามผม

‘นายเป็นใครกัน’

ผมชื่อ... ผมชื่ออะไร

พรึบ !!
เหมือนถูกทิ้งบนดินแดงร้างที่ที่มีแต่สัตว์น้อยใหญ่ ไม่มีมนุษย์ ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนมองดูท้องฟ้า มีบางอย่าที่อยู่
บนนั้นชวนให้คิดถึง แต่คิดถึงอะไรละ?

คำที่ผมจำได้ครั้งสุดท้ายที่มีคนพูดกับผมคือคำว่าเครื่องบูชา หรือบางทีผมอยากจะชื่อเครื่องบูชาแต่คงไม่น่าจะใช่หรอก ผมไม่
จำเป็นต้องดื่ม ต้องกิน หรือแม้กระทั่งขับถ่าย เพียงแค่นอนมองท้องฟ้าไปวันๆเพราะแขนขาของผมช่างเล็กกระจ่อยร่อยเป็นเพียง
ทารกตัวน้อยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

 ไม่รู้นานเท่าไหร่ผมก็เริ่มที่จะพลิกตัวเองได้ คลานได้จนกระทั่งลุกเดินเองได้ในที่สุด บางครั้งพวกสัตว์หน้าขนพวกนั้นก็เข้ามา
เล่นกับผมบ้างสนุกไม่น้อย บางครั้งผมก็ต้องวิ่งหนีบางอย่างที่น่ากลัวจนไม่สามารถอธิบายได้

ครั้งนี้ก็เหมืนกันผมกำลังวิ่งหนีบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ แต่จะออกไปไหนก็ไม่ได้เหมือนกันป่าแห่งนี้กักขังผมเอาไว้...
แต่จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้อยากจะออกไปสักเท่าไหร่ เมื่อหันไปมองทางด้านหลังเงาสีดำนั้นก็ใกล้เข้ามาอีก ผมเกือบจะถูกจับได้แล้วถ้าจู่ๆไม่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง พวกมันชะงักและกรีดร้องหนีหายไปเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง


ผมถอนหายใจออกอย่างโล่งออกแต่ดูเท้าผมสิโดนบาดจนน้ำสีแดงขนทะลักออกมาเปื้อนผืนหญ้าไปหมด ยังดีที่วันนี้อุตส่าห์รอด
มาได้อีกหนึ่งวัน
เปรี้ยง !! โครมมม!!


ผมสะดุ้งเฮือกกับเสียงฟ้าผ่าฟาดเปรี้ยงลงมาเล่นเอาหูอื้อไปพักใหญ่ ความวิงเวียนทำให้ผมต้องยกมือกุมหัวเอาไว้แต่สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นด้ายแดงที่พันรอบนิ้วก้อยเอาไว้ สายของด้ายสีแดงลากยาวเข้าไปทางตัวป่า ไม่รู้ทำไมหัวใจของผมถึงได้เต้น
แรงเหลือเกินในหัวของผมมันตะโกนบอกให้ตามด้ายแดงไปจนถึงอีกฝั่งไม่งั้นจะต้องมานั่งเสียใจทีหลังแน่ๆ โอ้ วันนี้ช่างเป็นวันที่
เต็มไปด้วยเรื่องราวผมกัดฟันวิ่งไปทางที่ฟ้าผ่าลงมาซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับที่ด้ายสีแดงนั้นโยงไป เส้นทางที่เปียกและแฉะทำให้
ผมลื่นล้มไปหลายครั้งแต่ขาทั้งสองก็ก้าวต่อไปเหมือนไม่ใช่ขาของตัวเอง

“อ่า..”ผมแทบจะลืมการเปล่งเสียงออกไปแล้วถ้าไม่เห็นชายตรงหน้า

เขาดูดีมาก...และช่าง น่าคิดถึง

เพียงแรกพบสบตาผมก็รู้สึกได้ถึงความดีใจที่น่าฉงน เหมือนหยาดน้ำฝนที่หยดลงบนผืนแผ่นดินอันแห้งแล้งให้ชุ่มชื้นและมีชีวิต
ชีวา จากฟ้ามาสู่ดิน... เขาทำให้ผมรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องเงยหน้ามองฟ้า เพียงแค่มองตาของเขาเสียงหัวใจก็ชัดขึ้นมาในอกข้าง
ซ้าย

ผัวะ!!

ผมสะดุ้งเมื่อจู่ๆเค้าก็ทำร้ายตัวเอง ไม่ดีแล้วความรู้สึกที่ผมไม่รู้จักพวกนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน

“ยู”


นั่งใช่ชื่อของผมรึเปล่า เขากำลังเรียกชื่อของผมอยู่รึเปล่า?

“ผมไม่รู้จักคุณ”ผมพูดตอบ

อีกฝ่ายกอดผมแน่นผมกลัวจนตัวแข็งไปหมด แต่อ้อมกอนนั้นอุ่นเหลือเกิน

“ไม่เป็นไร”อีกฝ่ายกระซิบบอกผม


ผมร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆฝ่าเท้าก็ลอยจากพื้น ตัวของผมกำลังถูกเขาอุ้มเอาไว้ผมตกใจมากจนเผลอข่วนเขาไป เล็บมือจิกไหล่ร่าง

สูงเอาไว้แน่นไม่กล้างปล่อย

“นาย...นายปล่อยฉันลงนะ !”

“เจ็บไหม”


ผมชะงักเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่ทอดสายตามองแผลที่ขาและเท้าด้วยสายตาเจ็บปวด ทำผมส่ายหน้าและยอมอยู่นิ่มๆเมื่ออีกฝ่าย

ไม่ได้มีท่าทีอันตรายอะไรหรือต้องการจะทำร้าย




“นายเป็นใคร”

ผมถามอีกครั้งแต่เขากลับยิ้มเศร้าจนผมรู้สึกเจ็บแปล๊บๆในอก “นายเคยเรียกฉันว่าริว”

“เราเคยเจอกันหรือ?”


“ใช่แล้ว”


 ผมนิ่งคิดไป“ฉันน่ะจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร หรือเกิดอะไรขึ้นบ้าง ฉันจำได้แต่ว่าตอนเด็กๆมีคนพาฉันมาไว้ที่นี่แล้วฉันก็อยู่ตัวคน

เดียวมาตลอด”


ฝ่ามือร้อนลูบไปตามแนวสันหลังที่ผอมแต่จับตรงไหนก็มีแต่กระดูกแข็งๆ มองใบหน้าที่ขมวดคิ้วยุ่งนี่อย่างสนใจเขายกมือสะบัด

เพียงวูบเดียวต้นไม้ต้นใหญ่ก็เหลือแต่ตอทำเอาผมกลัวขึ้นมาอีกครั้ง


“นะ นายไม่ใช่คน”


“ใช่แล้ว”

ริวคุกเข่าลงตรงหน้าผมที่ยังตกใจไม่หายไล่ฝ่ามือไปตามเรียวขาก่อนจะเลื่อนลงมาที่ข้อเท้าของผมทำเอาขนลุกซู่ไปหมด

ผมชักเท้าหนีอย่างตกใจเมื่อริวประคองฝ่าเท้าที่เต็มไปด้วยเลือดและโคลนนี้จรดที่ริมฝีปาก


 “อย่านะ...!!”ผมกลืนคำว่าสกปรกลงคอไปเมื่อริมฝีปากนั้นแตะลงบนหลังเท้าของผมอย่างไม่ลังเลเลย

ริวช้อนตามองเด็กชาย จ้องลึกเข้าไปในดวงตา ลึกลงไปถึงจิตวิญญาณ ฝ่ามือยึดข้อเท้านั้นไว้ไม่ปล่อยแม้อีกฝ่ายจะดิ้นแรงแค่

ไหน เด็กชายหวาดผวาพยายามชัดเท้าหนีจนเหนื่อยหอบก็ยังสู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้แม้แต่น้อยจึงได้แต่อ้าปากถามอย่างจนใจโดยที่
ไม่ได้สังเกตว่าแผลที่เท้าและที่ขาได้หายไปจนหมด คราบโคลนหรือสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ก็ไม่เหลือแล้ว

“นายรู้จักฉันจริงๆหรอ”

 “ฉันจะเล่าเรื่องของนายให้ฟัง”

ริวขยับตัวนั่งช้อนหลังของอีกฝ่ายเอาไว้ผมก็นั่งเรียบร้อยอย่างตั้งอกตั้งใจฟัง ริวเล่าเรื่องด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆเหมือนเล่านิทานให้

เด็กฟังอย่างไรอย่างนั้นไม่นานหนังตาของผมก็หนักจนไม่อาจฝืนได้อีกเสียของเขาก็ดูห่างไกลออกไปเรื่อยๆ


 “ท่านพ่อนั่นใคร”นั่งเสียงของใครนะ


“ครั้งหนึ่งเค้าเคยเป็นมารดาของเจ้า”เขากำลังพูดถึงผมอยู่รึเปล่า


ไอกะหันไปมองเด็กชายอย่างสนใจก่อนจะยื่นมือแตะที่แก้มขาวนั้นเบาๆ

วูบบ...

ร่างของเด็กชายกำลังเรืองแสงสีขาวนวน ไอกะรีบชักมือของตัวเองออกอย่างตกใจริวก้มมองคนในอ้อมกอดที่ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยแม้แต่น้อย แววตาที่สับสนเริ่มมีประกายความหวัง

“ทะ ท่านพ่อข้ากลัว”

“ไม่เป็นไร”ริวลูบหัวทุยของลูกชายเบาๆ

ความรู้สึกที่ถูกเติมเต็มอีกครั้งบางอย่างที่หายไปกำลังกลับเข้ามาแทนที่ความว่างเปล่า ทันใดนั้นผมก็รู้แล้วว่าอะไรที่หายไป

วิญญาณอีกครึ่งหนึ่งของผมนั่นเองในชาติที่แล้ว...ผมชื่อยูคอยปกป้องเด็กคนนั้นอยู่ด้วยวิญญาณที่เหลือเพียงครึ่งเดียวถูกซ่อน

เอาไว้อย่างดีโดนหัวใจมังกร


ตื่นขึ้นมาเถอะยูริวคิดก่อนจะก้มลงประทับจุมพิตที่หน้าผากมนไล้ลงมาที่แก้มและแอ่งชีพจรตรงต้นคออย่างแผ่วเบา ปลายจมูกสูดดมกลิ่นหอมที่ไม่เคยเปลี่ยนไป

“จั๊กจี้นะริว”

“ยู?”

“อืม”ความทรงจำมากมายกำลังไหลเข้ามาในสมอง


“ท่านแม่?”ไอกะจำเสียงนั้นได้ เสียงที่เรียกเขามาตลอดตั้งแต่เด็กๆ เห็นใบหน้าเยาว์วัยที่คลี่ยิ้มอ่อนโยนแล้วที่ดวงตาก็คลอหน่วย
ไปด้วยน้ำตา


“ท่านแม่ !!”ร่างเล็กโผลกอดผมทันที

“ฉันกลับมาแล้ว”ผมกระซิบบอกลูกชายและริวสองแขนโอบกอดไอกะเอาไว้

“คิดถึง”ริวกระซิบข้างหูผมพร้อมจูบเบาๆที่ใบหู

“คิดถึงเหมือนกัน”ผมเงยหน้าขึ้นไปประทับริมฝีปากที่ข้างแก้มของอีกฝ่าย

ประการที่หนึ่งปลอบประโลมจิตวิญญาณ


ปราการที่สองวิญญาณที่สมบูรณ์

จิตวิญญาณจึงจะสมบูรณ์ ด้วยรัก และความคิดถึงที่ฝากไว้





แถม



“ฉันไม่ใช่ยูของนายหรอกนะ ยูน่ะตายไปแล้ว”และถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะยอมรับไปมากกว่าครึ่งแล้วว่าผมนี่แหละคือยู แถมผมน่ะ
ไม่มีชื่อเหมือนแก้วเปล่าๆที่ถูกความทรงจำครั้งก่อนเทใส่แก้วจนเต็ม เต็มไปด้วยความทรงจำของยู

“แล้วไง”ริวเลิกคิ้วถามเหมือนไม่เข้าใจว่าผมต้องการจะสื่ออะไร
“เพราะงั้นนายต้องปล่อยมือออกจากก้นของฉันเดี๋ยวนี้ !!”

ริวยกยิ้มไม่พูดอะไร ทั้งไม่ยอมปล่อยมือแถมยังมานัวเนียนเหมือนลูกแมวตัวเขื่อง มันไม่ตลกสักนิดถึงแม้ว่าความทรงจำจะบอก
ว่านี่มันปกติ แต่ร่างกายที่เกิดใหม่นี้ช่างไม่คุ้นชินเอาเสียเลย

เหมือนเรียนทฤษฏีแต่ไม่เคยลงภาคปฏิบัติสักที

“ไม่เป็นไรฉันจะค่อยๆทำ”

“โกหก!”

ภาคความรุนแรงของการมีอะไรกันฉายชัดขึ้นมาในหัวทำเอาเลือดลมเดินดีจนเหมือนได้ยินเสียงหึงๆอยู่ในหู

“ท่านแม่เลือดกำเดาไหลแล้วขอรับ”เจ้าลูกชายกระตุกชายเสื้อของผมแรงๆ

“ยูลามก”ริวอกมือกอดตัวเองอย่างน่าหมั่นไส้

ผมยกมือบีบจมูกเงยหน้ามองฟ้า ตายๆ กะอีกแค่คิดเรื่องลามกทำไมถึงได้เลือดกำเดาไหลได้
ริวรั้งเอวของผมลงไปนั่งตักก่อนจะจูบที่จมูกของผมเบาๆแค่นั้นเลือดที่จมูกก็หยุดไหล่เหมือนสั่งได้ ที่เหลือก็แค่ก็หยิบผ้าขึ้นมา
เช็ดๆแล้วโยนทิ้งออกไปด้านข้าง

พวกนางกำนัลพาไอกะออกไปแล้วเหลือผมกับริวสองคน นั่งเงียบกันได้ไม่นานอะไรแข็งๆก็ทิ่มก้นผมเล่นเอาจากที่หน้าแดงอยู่แล้วแดงก่ำขึ้นไปอีก

“น่า ยูอย่าใจร้ายเลย”ริวซบหน้าลงไปกับซอกคอของผม ผมด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความปรารถนาเต็มที่

แค่นั้นใจก็อ่อยยวบยาบ “ก็ได้ แต่ทำเบาๆนะ”

แค่นั้นแหละโลกของยูก็พลิกกลับไม่นานนักเสียงครางเครือก็ลอดออกมาจากริมฝีปากบางช่ำ เสียงลมหายใจหนักหน่วงที่สอดประสาน เสียงกระซิบคำบอกรัก ความคิดถึง เสียงของคำสัญญา

เสียงของหัวใจที่กำลังเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน


ร่ายกายที่สอดประสานแนบกันไปทุกสัดส่วน

“อะ...อืม ริว”

“ยู”การเคลื่อนไหวของริวชะงักไปพอให้ยูได้พักหายใจบ้าง


“หะ...หือ”

“ให้ฉันได้ปกป้องนาย อย่าจากฉันไปไหนอีก”

ริวเลื่อนตัวขึ้นไปกอดยูแน่น ยูยิ้มกว้างก่อนจะยกแขนขึ้นกอดอีกฝ่ายแน่นปลอบประโลมจิตใจที่บอบช้ำ

“ช่วยปกป้องฉันตลอดไปด้วยนะริว”

END

พูดคุย   

น้องไอกะเคะไหม...อาจจะมีภาคต่อ5555

ภาคพิเศษอาจจะมาเรื่อยๆ

กว่าจะจบเรื่องนี้ได้ ลำบากไม่น้อย ผ่านการดองมาอย่างโชกโชน  :katai5: ขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน ถามหาผลงานอื่นๆ อีกเรื่องก็ใกล้จะจบแล้วเช่นกัน เรื่อง ร้าย.100.รัก http://writer.dek-d.com/MY_GIRL/story/view.php?id=1107107 ติดตามกันได้ :-[   หรือ พูดคุยกับนักเขียนได้ที่ https://www.facebook.com/SKY-574331472665561/

ด้วยรัก จากลมโลม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-11-2015 22:57:14 โดย xlomx »

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0

รอติดตามตอนพิเศษด้วยคน

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด