ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ--------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีครับ
กลับมาอีกครั้ง
กับการแต่งนิยายที่เป็นนิยายเต็มรูปแบบ
บางเรื่องบางตอนอาจจะมีเนื้อหาที่เกินจริง
ผมก็บอกไว้ก่อนนะครับ
ว่าเรื่องนี้มันมาจากจินตนาการล้วน ๆ
เพราะฉะนั้นถ้าเวอร์หรือขาด ๆ เกิน ๆ ยังไงก็ทำใจไว้ดีกว่าครับ แฮ่ ๆ ๆ
ปล. อย่าคาดหวังอะไรกับคนบ้า ๆ บวม ๆอย่างผมมากนัก เพราะผมยังเอาอะไรกับตัวเองไม่ได้เลย

เชิญอ่านกันได้เลยค้าบบบ
"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
ก่อนจะก้าว" ไอ้เอิง นี่แกจะไปเรียนโดยไม่ก่อเรื่องสักวันได้ไหมเนี่ย หา เฮ้อ "
ผมตะโกนโหวกเหวกเสียงดังขณะเดินออกมาหน้าบ้าน ที่เป็นทาวเฮ้าส์กลางกรุง
ที่เป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียว ที่พ่อกับแม่ของพวกผมเหลือไว้ให้ ก่อนที่ท่านจะประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว
และหลังจากนั้น ผมก็เรียนจบในเทอมถัดมา
ซึ่งก็นับว่าสวรรค์ยังคงเมตตา ที่ผมสามารถเรียนจบได้ภายในเวลาสามปีครึ่ง
เพราะไม่ยังงั้น ผมกับน้องชายคงต้องลำบากแน่นอน
และหลังจากที่พ่อกับแม่ผมเสียชีวิต
ผมเองก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบน้องชายคนเดียวโดยปริยาย
ก็ดีหน่อยแหละครับ ที่อย่างน้อยผมก็ยังมีงานทำ เป็นประชาสัมพันธ์ของโรงแรมแห่งหนึ่ง
ซึ่งเขาก็รับผมเข้าทำงานทันทีหลังจากที่ผมเรียนจบ
ทำให้ผมสามารถมีรายได้มาเป็นค่าเทอมของน้องชายผมได้ และสามารถอยู่ได้โดยไม่ลำบากมากนัก
หากไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอะไร
และก็ไอ้น้องชายตัวดีของผมเนี่ยแหละครับ
ตอนนี้มันกำลังเรียนเทคนิคคอมพิวเตอร์ ปวส.ปีแรก
อย่างว่าแหละครับ เด็กช่าง มันก็นิสัยออกจะห้าว ๆ หน่อย
แต่ไอ้น้องชายผมมันคงไม่หน่อยแล้วล่ะครับ
เพราะมันน่ะทั้งห้าว มุทะลุ ดุดัน ไม่ค่อยจะยอมใครเท่าไหร่ ยกเว้นผมที่มันค่อนข้างจะเคารพ
วัน ๆ มันก็มักจะมีเรื่องมีราวอยู่เป็นประจำ
เมื่อผมถามมันก็บอกว่าเป็นเรื่องระหว่างแก๊งค์
ผมเลยเลิกสนใจไป
เพราะยังไงชีวิตก็ชีวิตมัน
อย่างวันนี้ ก็มีเรื่องมาอีกแหละครับ
เพราะผมได้ยินเสียงเอะอะโวยวายอยู่หน้าบ้าน
สงสัยเพื่อน ๆ มันคงจะหามมาส่งตามเคย
" โห พี่อิง ผมก็ไม่ได้ไปหาเรื่องมันก่อนสักหน่อย "
มันพูดเสียงเบา
" พวกมึง นี่พี่อิง พี่ชายกู พี่อิง แล้วนี่เพื่อนผม ไอ้กัน ไอ้เด แล้วก็ไอ้กิก "
พอน้องชายผมแนะนำพวกนั้นเสร็จ
สามคนนั้นก็ยกมือไหว้ผมอย่างมีสัมมาคาราวะ
ซึ่งแตกต่างจากลักษณะท่าทางและการแต่งตัวโดยสิ้นเชิง
นี่แหละน้าที่เค้าบอกว่าดูคนอย่าดูแค่ภายนอก
"พี่ชายมึงหรอวะ กูนึกว่าน้องสาว แม่ง สวยกว่าเมียกูอีก "
เสียงได้เด็กปากมอมมันพูดขึ้น
ซึ่งผมก็จำไม่ได้ว่ามันชื่ออะไร
เพราะตอนที่ไอ้น้องชายผมแนะนำนั้น ผมไม่ค่อยได้จำเท่าไหร่
ดูปากมันสิครับ
ผมว่าไอ้พวกนี้คงจะมองข้างนอกทะลุข้างในเลยทีเดียว
" อ้าว ไอ้เหี้ย พี่ชายกูนะมึง เล่นระวังปากซะมั่ง "
ไอ้น้องชายผมมันหันไปด่าเพื่อนมัน
พร้อมกับซี้ดปากเพราะความเจ็บ ที่เผลออ้าปากแรงไปหน่อย
" กูจะรู้ได้ไงวะ ก็มึงน่ะตัวอย่างควาย แล้วดูพี่มึงสิ สูงเท่าคอมึงไหมล่ะ กูก็นึกว่าเป็นผู้หญิงสิ อีกอย่างหน้าก็ว้านนนน หวาน "
ไอ้เด็กเวรนั่นมันยังพูดต่อไปอีก
พร้อมกับมาทำสายตากรุ้มกริ่มในตอนท้าย
จริง ๆ แล้วก็เป็นเหมือนกับไอ้เด็กนั่นพูดแหละครับ
เพราะน้องผมมันเป็นคนตัวสูง บึกบึน สูงประมาณเกือบร้อยเก้าสิบได้
หน้าตาจะคม ๆ หน่อย เหมือนคนใต้
แม่ผมมักบอกว่า ไอ้เอิงมันน่ะ ได้คุณปู่ทวด เพราะพ่อของคุณปู่ทวดผมเป็นสเปน ส่วนแม่ของคุณปู่ทวาปมก็เป็นคนใต้
เลยตัวโต หน้าคม
ส่วนผมน่ะตัวเล็ก สูงแค่ร้อยเจ็ดสิบ
จริง ๆ ก็ถือว่าไม่ได้เตี้ยหรือตัวเล็กมาก
แต่ตัวออกจะขาว ๆ
แล้วพอมาเทียบกับไอ้เอิงที่ตัวโต ผิวแทน ๆ หน่อย
ผมเลยดูตัวเล็ก
หน้าผมก็ออกจะหวาน ๆ หน่อย
แล้วแม่ผมก็ยังบอกอีกว่า
ผมหน้าตาเหมือนคุณยายเปี๊ยบเลย
คุณยายผมเป็นลูกเสี้ยวจีนครับ
ผมเองก็แปลกเหมือนกัน
แทนที่ลูกเกิดมาจะหน้าตาเหมือนพ่อเหมือนแม่
แต่กลับไปคล้ายบรรพบุรุษตัวเองซะงั้น
" เอิงเข้าบ้านไป ขอบใจมากนะน้อง ๆที่พาน้องชายพี่มาส่งน่ะ "
ผมพูดเสร็จก็เดินเข้าบ้านไปอย่างหงุดหงิด
หลังจากนั้นน้องชายผมมันก็เดินเข้ามา
" พี่อิง อย่าไปโกรธไอ้เดมันเลยนะ มันก็งี้แหละ ปากหมาไปวัน ๆ "
น้องชายผมมันพูดขณะที่กำลังทรุดตัวลงนั่ง
บนเกาอี้ บริเวณห้องรับแขก กึ่ง ๆ ห้องอาหาร
" เออ พี่ก็ไม่ได้โกรธอะไรนี่ มันชินแล้วแหละ พี่โกรธแกมากกว่า คนอะไรตัวโตยังกับควาย ทำให้พี่โดนยกมาเปรียบเทียบตลอดเลย "
ผมหันไปแขวะน้องชายตัวเอง
พร้อมกับหัวเราะอย่างสบายอารมณ์
เพราะตอนแรกผมก็กกังวลใจ
เกรงว่าน้องชายผมมันจะมีนิสัยก้างร้าวแบบเพื่อน ๆ มันรึเปล่า
แต่พอเห็นว่ามันรู้จักการขอโทษ แล้วก็ยังเคารพผมเหมือนเดิม ผมเองก็โล่งใจ
" อ้าว อยู่ ๆ มากัดผมซะงั้น ผมตัวโตสิดี จะได้คอยป้องกันไอ้พวกผู้ชายหน้าหม้อที่จะเข้ามาคิดมิดีมิร้ายกับพี่ชายผม "
น้องชายผมมันพูดอย่างรู้ดี
เพราะมันรู้ครับที่ว่าผมเป็นเกย์
เพราะผมกับมันเรียนด้วยกันมาเกือบจะตลอด
เมื่อตอนที่ผมอยู่ประถม
เวลาโดนเพื่อน ๆ แกล้ง
ก็ไอ้น้องชายผมนี่แหละครับที่มักจะมาช่วยเป็นประจำ
จะเรียกว่าช่วยก็ไม่เต็มปาก เรียกว่า มาช่วยกันรับทีนดีกว่า
ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นน้องตั้งหลายปี
คิดแล้วผมก็อดขำไม่ได้
เพราะพวกผมมักจะโดนรุม หน้าตาเนื้อตัวเลอะเทอะกลับบ้านประจำ
ทั้งพี่ชายแล้วก็น้องชาย
" จำไม่ได้หรอ เวลาที่แกมาช่วยพี่ทีไร เราสองคนจะมีสภาพเป็นยังไง ฮ่า ๆ ๆ "
ผมพูดพร้อมกับหัวเราะ
" ก็นั่นมันตอนเด็ก ๆ ลองมีใครมาวุ่นวายพี่ตอนนี้สิ ผมจะฉะไม่เว้นเลย "
" เออ เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ชอบใช้แต่กำลัง มา มา พี่จะล้างแผลให้ "
จากนั้นผมก็จัดการล้างแผล
แล้วก็ใส่ยาทำแผลให้ไอ้น้องชายผมจนเรียบร้อย
พอผมจัดการเรียบร้อยแล้ว
กำลังที่จะอ้าปากพูด
" เห็นไหม ถ้ารู้จักทำตัวดี ๆ ก็คงไม่ต้องเจ็บแบบนี้ พี่ก็ไม่ต้องมาเสียเวลาขนาดนี้ด้วย "
ไอ้เอิงมันพูดก่อนที่ผมจะทันได้พูดด้วยซ้ำ
" ไอ้เอิง "
ผมเรียกมันเสียงดัง
" โห พี่จะมาโกรธอะไรล่ะ นี่ดีนะ ผมอุตส่าท่องจำจนขึ้นใจ พี่จะได้ไม่ต้องบอกซ้ำ ๆ ซาก ๆ ไง "
" เออ จำได้แล้วก็รู้จักทำตามมั่ง เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานแล้ว วันนี้เวรเย็น "
ผมพูดเสร็จก็ลุกขึ้น
ก่อนจะหันมาพูดกับไอ้เอิงต่ออีกว่า
" ข้าวอยู่บนโต๊ะนะ กินแล้วอย่าลืมกินยาด้วยล่ะ "
แล้วผมก็เดินขึ้นไปบนบ้าน
ที่มีห้องนอนอยู่สองห้องเท่านั้น
ผมกับไอ้เอิงก็แยกกันอยู่คนละห้อง
โดยผมอยู่ที่ห้องของพ่อกับแม่
ส่วนไอ้เอิงอยู่ห้องเก่าที่ผมกับมันเคยอยู่ด้วยกัน
เมื่อครั้งที่พ่อกับแม่ผมยังมีชีวิตอยู่
พอคิดถึงเรื่องนี้
ก็ทำให้ผมคิดถึงพ่อกับแม่ผมมากทีเดียว
พวกท่านสองคนยังไม่แก่เลยด้วยซ้ำ
แต่ก่อนครอบครัวเราเคยเป็นครอบครัวที่อบอุ่น
อยู่กันอย่างพอมีพอกิน
แต่พอพวกท่านทั้งสองคนจากไป
ทิ้งพวกผมสองคนไว้ลำพัง
ทำให้ผมต้องมีหน้าที่รับผิดชอบมากขึ้น
เพราะน้องชายผมนั้นก็ยังมีนิสัยที่เป็นวัยรุ่นอยู่มาก
ชอบคิดชอบทำอะไรตามอารมณ์
ผมจึงต้องคอยเตือนอยู่บ่อย ๆ
เกรงว่าจะไปขัดแข้งขัดขาของผู้มีอิทธิพลสักคนเข้า
เดี๋ยวจะเจอดีเข้าให้
คิดแล้วก็กลุ้ม
ไม่รู้ว่าจะแก้นิสัยแบบนี้ได้ยังไง
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
ช่วยเม้นเป็นกำลังใจให้ด้วยเน่อ
บัยบายย
*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
ทิพย์โมบอร์ดนิยาย