วันที่ยี่สิบเพื่อน ๆ ปีสาม และน้องปีสองนั่งลงในโซนของโต๊ะเลคเชอร์กันเรียบร้อย ส่วนพวกปีหนึ่งก็กรูกันมาตั้งแถวด้านหน้าตามคำสั่งของผม
ปิดตาลงชั่วครู่ เรียกสติของตัวเองให้กลับมา จะหลงไปกับการง้อ อ้อนวอนของน้องไม่ได้เด็ดขาด ถึงจะดูโหดร้าย ถึงจะดูเย็นชา แต่ก็ต้องทำแบบนี้
"พวกคุณมาเพื่อร้องเพลงให้พวกผมฟังอย่างนั้นหรือครับ"ผมเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่ราบเรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยังแอบซึ้งอยู่เลยครับ "พวกคุณต้องการอะไรกันครับ"
ผมกวาดมองเด็กปีหนึ่งเร็ว ๆ ไม่จ้องมองใครเป็นพิเศษ ก็จะให้จ้องได้ไงล่ะครับ เดี๋ยวเขาเห็นแววตาที่ยังปิดความซึ้งใจเบา ๆ ของผมแล้วจะยุ่งเอา
บอกรอบที่พันล้าน 'พี่วินัยก็มีหัวใจ' ครับ
“ผมถามว่าพวกคุณมาร้องเพลงให้พวกผมฟังทำไมครับ”ถามย้ำอีกครั้งเมื่อไม่มีใครตอบ นี้มาง้อ หรือจะมากวนผมกันแน่ครับ
"ขออนุญาตครับ ผม นาย ธีรวัฒน์ นามสกุล อิสระวงศ์ รหัสประจำตัว 571694 นักศึกษาเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยxyz ขออนุญาตตอบครับ"ใช้ได้นะครับ ประธานรุ่นคนนี้ ตรงตามแพทเทิร์นที่ต้องพูดเป๊ะเลยครับ
"เชิญครับ"ผมตอบรับสั้น ๆ แล้วจ้องน้องทะเลที่จะเป็นฮีโร่ของชั้นปีตอบคนแรก คุมอารมณ์ได้แล้วครับ ไม่ต้องห่วงกันนะครับ
"ผมและเพื่อน ๆ ต้องการแสดงความจริงใจให้พี่ ๆ ทุกคนได้เห็นครับ"ประธานชั้นปีที่1 ตอบกลับผมมาด้วยเสียงที่มั่นคง ไม่ใช่แค่น้ำเสียง แต่แววตาของน้องก็สื่อออกมาอย่างที่พูดเลยครับ
"ความจริงใจของพวกคุณคือการร้องเพลงเหรอครับ"ผมสวนกลับด้วยเสียงที่ราบเรียบ แต่ในใจนี่แอบยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่แล้วล่ะครับ “ร้องเพลงให้พวกผมฟังสองเพลงนี่น่ะเหรอครับ ความจริงใจที่พวกคุณมี”
"และผมกับเพื่อนอยากแสดงให้พี่ ๆ เห็นครับ ว่าพวกเรารักและสามัคคีกันครับ"ผมฟังคำตอบของน้องแล้วนึกถึงตัวเองตอนสมัยง้อพี่ขึ้นมาเลยครับ
"มันพิสูจน์ให้เห็นได้ยังไงคะ กับไอ้การร้องเพลงเนี่ย"พลอยถามขึ้นมาเสียงดังลั่นตามฉบับของมัน "ร้องเพลงใคร ๆ ก็ทำได้"
คำถามนี้ผมก็อยากรู้เหมือนกันครับว่าน้อง ๆ จะตอบยังไง ตอนสมัยผม ผมให้คำตอบว่าการเปล่งเสียงร้องออกมาให้เป็นเพลงน่ะ เรื่องง่าย แต่การร้องให้พร้อมกันน่ะ ยาก ต้องใช้ความร่วมใจกันเป็นหนึ่ง ถึงจะร้องประสานกันออกมาได้เป็นหนึ่งเดียวอย่างที่ทำ
“ครับ ร้องเพลงน่ะง่าย แต่การที่ทุกคนในรุ่นจะมาร้องรวมกันได้นั้นไม่ง่ายครับ”คราวนี้เป็นน้องฝ่ายพยาบาลที่ชื่อเซ็ต เป็นคนตอบกลับ ผมจะทำเป็นมองข้ามที่ไม่แนะนำตัวไปแล้วกัน ว่าแต่... ปีนี้พูดถึงตัวบุคคลเหรอ... มีหวังโดนพลอยตอกลงดินแน่เลยครับ
"คุณกำลังบอกว่าสิ่งที่คุณทำอยู่นี้มันทำให้คุณเสียเวลาใช่ไหมคะ!!!!!"เจ้าแม่วินัยส่งเสียงดังคับห้องโดยไม่รอให้น้องพูดจนจบก่อน ผมว่าแล้วว่าต้องเป็นอีหรอบนี้ ขึ้นต้นประโยคได้ย่ำแย่แบบนี้ไม่มีทางรอด "ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เชิญเลยค่ะ กลับไปพักผ่อนซะให้พอ"
“ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ”เซ็ตตอบกลับมาอีกด้วยเสียงที่ร้อนรน ดูแล้วได้แก้ตัวอีกยาวแน่ ๆ
“ที่คุณพูดมามันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นหรือยังไงคะ”
น้องหน้าเสียกันไปตาม ๆ กันหมดแล้ว เวลาก็ค่อย ๆ หมดวันไป ไม่ได้ขอห้องเอาไว้ด้วย คงอยู่เย็นมากไม่ได้นะครับ ไม่อย่างนั้นคงได้โดนไม้กวาดของป้าแม่บ้านไล่เอา
"พวกคุณจะมาทำร้ายน้อง ๆ และเพื่อน ๆของผมอีกเหรอครับ"ผมแสร้งถอนหายใจน้อย ๆ อย่างเหนื่อยใจ "จะมาใช้งานน้อง ๆ ของผมให้พวกเขาต้องเหนื่อยกาย เหนื่อยใจอีกเหรอครับ"
"น้องของพวกเราไม่ใช่ทาสของพวกคุณนะคะ"นัทพูดเสียงเครียด หน้าก็เครียด สายตาก็เครียดครับ "ไม่ใช่คนรับใช้ที่จะมาคอยเอามจพวกคุณนะ"
"ไม่พอใจก็ว่าลับหลัง ไม่ได้ดั่งใจก็ชักสีหน้าใส่ น้องของผมมีหัวใจนะครับ ไม่ใช่หุ่นยนต์แม่บ้านที่จะรับอารมณ์ของพวกคุณได้โดยไม่รู้สึกอะไรน่ะ"ตาปันปันออกโรงบ้างครับ มันกอดอกเดินไปอยู่หน้าน้องปีหนึ่งระหว่างที่พูดเสียงลั่น "พวกคุณจะเอาน้องของพวกผมไปทรมานอีกเหรอครับ"
หน้าน้องนี่ก้มลงจนคางชิดกับอกแล้วทั้งครับ ไม่ใช่ว่าไม่สงสารนะครับ แต่พวกเขายังต้องได้รับการเรียนรู้ในเรื่องราวต่าง ๆ สิ่งที่พวกผมทำมันยังน้อย ถ้าเทียบการชีวิตจริงที่ต้องเผชิญ
"พวกคุณคงคิดว่ากิจกรรมรับน้องนี้น่าเบื่อ เสียเวลา จะทำทำไมก็ไม่รู้... ใช่ไหมครับ"ผมก้าวเข้าไปหาน้องปีหนึ่งช้า ๆ "เงยหน้าขึ้นมามองพี่พวกคุณครับ พี่ที่พวกคุณมาขอพวกผมคืน พวกเขาเหนื่อย พวกเขาต้องแบ่งเวลาทุกวันให้พวกคุณ หลังจากที่พวกคุณได้กลับไปพัก พวกเขายังต้องอยู่ต่อ ประชุมต่อ เตรียมงานต่อ แต่ไม่มีสักครั้งที่เขาพูดว่าพวกเขาต้องสละเวลาให้พวกคุณ พวกเขาเต็มใจที่จะแบ่งเวลามาทำกิจกรรมให้พวกคุณ มาเป็นคนเชื่อมความสัมพันธ์ ความสามัคคีให้พวกคุณ
แต่สิ่งที่พวกคุณทำให้เขาคืออะไร พวกคุณตอบแทนพี่ของพวกคุณด้วยการชักสีหน้า ด้วยคำต่อว่าด่าทอนั่นเหรอครับ ความทุ่มเทของพวกเขาที่ให้พวกคุณ พวกเขาสมควรได้รับความไม่พอใจของพวกคุณเป็นสิ่งตอบแทนอย่างนั้นเหรอ"
"ไม่ใช่ครับ/ค่ะ"นักศึกษาปี1 ตอบกลับผมมาด้วยเสียงอ่อย ๆ แววตาของแต่ละคนนั้นแฝงความรู้สึกผิดเอาไว้ นี่แสดงว่าแอบไปบ่นกันหมดเลยมั้งครับเนี่ย
"แต่พวกคุณทำกับพวกเขาแบบนั้น"เสียงที่ผมโต้กลับไปนั่นฟังดูโคตรเย็นชาเลยครับ กดเสียงมากไปหน่อย "แล้วพวกคุณคิดว่าผมจะให้น้องของผมไปทนรับความเอาแต่ได้ของพวกคุณอีกเหรอครับ"
จบคำของผม ทั้งห้องก็เงียบกริบ น้องผู้หญิงหลายคนตาแดง ๆ บางคนน้ำตาไหลแล้ว ส่วนพวกผู้ชายทำท่าสลด ผมแอบถอนหายใจเบา ๆ อ่อนใจล่ะครับ นี่คือวิธีแก้ปัญหาของพวกเขา?
"ปัญหาน่ะ มันแก้ด้วยน้ำตาไม่ได้หรอกนะครับ"ผมหันหลังให้น้อง ไม่อยากมองน้ำตาของใครอีกแล้วครับ ผมเป็นคน ใจอ่อนเป็นเหมือนกัน
"ขออนุญาตครับ ผม นาย วีรพิช นามสกุลศิริกุล รหัสประจำตัว 560839 นักศึกษาเทคนิคการแพทย์ชั้นปีที่2 มหาวิทยาลัยxyz ผมอยากขอกลับไปดูแลน้อง ๆ เหมือนเดิมครับ"บิ๊กพูดขึ้นเสียงดังฟังชัด ผมได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากทางด้านหลัง พวกปีหนึ่งคงกำลังมองพี่ของพวกเขาอย่างตื่นเต้นอยู่"
"ขออนุญาตค่ะ"
"ขออนุญาตครับ"
“ขออนุญาตค่ะ”
“ขออนุญาตค่ะ”
“ขออนุญาตครับ”
ปีสองทยอยกันยกมือขึ้นอย่างรวดเร็วจนครบ คนสุดท้ายของชั้นปีไม่ใช่ใครหรอกครับ น้องเทคของผมเอง
"พวกคุณแน่ใจใช่ไหมครับ ที่จะรับพวกเขากลับมา"ผมพูดกับปีสองด้วยเสียงที่อ่อนลง หลังจากที่พวกเขายกมือขึ้นจนครบทุกคนแล้ว "พวกคุณมั่นใจแล้วใช่ไหมครับว่าจะยอมเหนื่อยอีกครั้งกับพวกเขา"
"แน่ใจครับ/ค่ะ"น้องปีสองตอบกลับมาพร้อมกันเป็นหนึ่งเดียว
"พี่ของพวกคุณยืนยันจะขอรับพวกคุณคืน..."ผมหมุนตัวไปมองน้องปีหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังเพื่อพูดกับพวกเขาอีกครั้ง "ถ้ามีเหตุการณ์ที่พวกคุณทำให้น้องของผมเสียใจอีก พวกคุณจะไม่มีวันได้รับโอกาสที่จะมีพี่ในคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยxxx อีกเลย จำเอาไว้นะครับ"
"ค่ะ/ครับ"น้องตอบรับกันด้วยเสียงที่ฟังดูดีใจกันอย่างปิดไม่มิด
ดีใจไปนะครับ... อย่าลืมว่ายังเหลืออีกอย่างหนึ่งที่ยังอยู่กับผมในตอนนี้
"ผมมอบพี่คืนให้พวกคุณ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้รุ่น หรือได้ชื่อว่าเป็นนักศึกษาคณะเทคนิคการแพทย์รุ่นที่สี่สิบหรอกนะครับ"ตัดความดีอกดีใจของน้องไปอย่างเยือกเย็นที่สุด หางลู่หูตกกันเป็นแถบครับ ผมแอบเหลือบไปเห็นพลอยมันกระตุกยิ้มที่มุมปากด้วยความสะใจเบา ๆ "ตราบใดที่พวกคุณยังไม่ได้ธง คุณก็ไม่ใช่นักศึกษาเทคนิคการแพทย์รุ่นที่สี่สิบโดยสมบูรณ์หรอกนะครับ"
"..."กริบ หงอยกันหมดครับ หึหึ ไม่ได้โรคจิตนะครับที่ไปตัดความสำราญของคนอื่น แค่เตือนถึงสิ่งสำคัญเอง ถูกต้องไหมล่ะครับ
"ผมให้โอกาสพวกคุณอีกครั้งในวันเสาร์ มาให้ครบทุกคนนะครับ ผมให้โอกาสครั้งเดียว ครั้งสุดท้าย จะให้ทำอะไรผมจะบอกอีกครั้งหนึ่ง"ผมไม่ฟังเพลงอีกแล้วล่ะครับ รู้ว่าร้องกันได้แล้ว เราต้องทำอย่างอื่นกันบ้าง หลังจากที่น้องปีหนึ่ง ‘สละเวลาอันแสนจะมีค่า’ ไปฝึกร้องกันมาหลายต่อหลายวัน "เชิญวินัยครับ"
ผมเดินออกมานอกห้องกับเพื่อนวินัย พักหนึ่งเพื่อนปีสามก็เดินออกมาแยกย้ายกลับที่สิงสถิตของตัวเอง ส่วนปีสองอยู่คุยกับปีหนึ่งไปก่อน
ได้เวลาวางแผนงานเสาร์นี้แล้วสิครับ
(พายุ)
หลังจากที่ผมไปคุยกับวินัยเจ้าระเบียบมาก็โอเค นอนรอน้องมาง้อ ผมกะเวลาไว้ในใจแล้วว่าต้องอยู่ในอาทิตย์นี้ ถ้าพวกแม่งไม่มาก็ตัด ๆ ทิ้งไป
ดี ไม่เสียเงินเลี้ยงพวกมันด้วย
"เฮ้ย ยุ อาจารย์ยอกว่าพวกปีหนึ่งมันไปรวมที่สนามฟุตบอลว่ะ"วิศวะวิ่งโร่เข้ามาหาผมด้วยหน้าหมาตื่น พวกปี1 ไปรวมกันที่สนามฟุตบอล? เพื่อ?? "ตอนนี้พวกปีสอง กับปีสามหลายกลุ่มไปที่แสตนด์กันแล้ว มึงรีบไปเลย"
"เออ ๆ แม่ง หาเรื่องเดือดร้อนอะไรมาอีกวะ ไอ้เด็กพวกนี้"ผมยัดชีทเรียนใส่กระเป๋าลวก ๆ แล้ววิ่งไปที่สนามฟุตบอลใหญ่ของมหาลัยด้วยสปรีทเกียร์หมาโดยไล่หวด
มาถึงพอดีกับที่พวกว๊ากคนอื่น ๆ ของแต่ละสาขาวิชามาพอดี พวกเราเลยยกโขยงกับขึ้นไปข้างบนแสตนด์ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความหงุดหงิด
"พวกคุณมาทำอะไรกันที่นี่"ผมตะโกนลั่น แม่ง สนามฟุตบอลก็โคตรใหญ่ตะโกนไปพวกมันจะได้ยินผมไหมวะเนี่ย "จะทำบ้าอะไรครับ"
ตึง ตึง
ไม่มีหน้าไหนตอบผม แต่เสียงกลองกลับดังขึ้นแทน ปีหนึ่งที่เรียงแถวข้างในสนามเริ่มขยับตัวกระจายกันออกจนเต็มสนามฟุตบอล
บ้าชิบเลย ไอ้เด็กพวกนี้
พวกที่เล่นดนตรียกเครื่องเป่าขึ้นบนบ่า ดู ๆ แล้วก็เหมือนวงโยฯตามโรงเรียนนั่นล่ะ ก่อนจะเริ่มเป่าเพลงขึ้น โดยมีคอนดักเตอร์สะบัดมืออยู่ด้านหน้า
น้อง ๆ ที่เรียงแถวกันอยู่ขยับตัวเดินกันอย่างเป็นระเบียบ มาเรียงกันในอีกรูปแบบ เดี๋ยวนะ นี่มันตัวอักษรนี่หว่า ผมหรี่ตาลงมองการแปรอักษรตรงหน้า
ตึง ตึง
We're Sorry
ตึง ตึง ตึง
We want you
ตึง ตึง
We are engineer
ตึง ตึง ตึง
Please come back to me
เรียงทีละประโยคตามลำดับเลย ใช่ย่อยเหมือนกันนี่ เด็กรุ่นนี้ การจะทำแบบนี้ได้มันยากอยู่ ต้องใช้เวลาซ้อม ใช้เวลาวางแผนเยอะ
แสตนด์ที่แข่งครั้งนึงต้องใช้เวลาซ้อมเป็นเดือน ๆทั้งที่ไม่ได้ใช้พื้นที่อะไรมากกว่า อาศัยสองมือของตนเอง แต่นี่ ต้องขยับทั้งตัว พวกมันทำกันได้ขนาดนี้
มาเหนือความคาดหมายดี สมเป็นวิศวะของผมจริง ๆ
อยู่ ๆ พวกปีหนึ่งทั้งหมดก็ยกเพจสีดำสนิทขึ้นมาต่อกัน จากสนามฟุตบอลสีเขียวที่มีเส้นตีไว้กลายเป็นพื้นสีดำสนิท อะไรของพวกมันวะ
แสงสีแดงสว่างวูบส่องลงไปที่เพจสีมืดนั้น ขึ้นเป็นรูปตราของคณะวิศวกรรมศาสตร์ พร้อมชื่อคณะแบบเต็ม ๆ เล่นเลเซอร์กันเลยเว้ย
เก่ง หล่อ รวย นี่คือวิศวกรรมศาสตร์ของพวกเรา
ผมกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจกับภาพตรงหน้า ยิ่งเมื่อได้เห็นคณะอื่นพากันชี้มาที่สนาม ผมยิ่งยืดอกได้
ประกาศศักดาแห่งวิศวกรรมศาสตร์ของพวกเราให้คนได้รู้ถึงความยิ่งใหญ่ คณะที่ผงาดขึ้นอย่างไม่มีวันที่จะล้มลง ความภาคภูมิใจของพวกเรา
"ปีหนึ่ง ไปรวมกันที่ลานเกียร์"ผมตะโกนก้อง น้องมันลดเพจลงพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง แล้วพากันวิ่งไปยังลานเกียร์อย่างรวดเร็ว ผมกับว๊ากที่เหลือค่อย ๆ เดินกันไปอย่างไม่เร่งรีบ
การรวมตัวครั้งนี้มีแต่ชาววิศวกรรมศาสตร์ตั้งแต่ปีหนึ่ง ถึงพี่ปีสี่ที่กลับมารายงานเรื่องการฝึกงานกับคณาจารย์ ก็พากันมารวมตัวด้วย ลานเกียร์วันนี้เลยคึกคักกันไม่น้อยเลย
"สิ่งที่พวกคุณทำในสนามฟุตบอลนั่น..."ผมเปิดฉากขึ้นกลางวง ฟ้ามืดแล้วจะมัวแต่เกริ่นเหมือนพวกเมดเทค คงได้ไปสุมกันที่โรงพยาบาลแน่ ไม่เวิร์ค ไข้เลือดออกมันไม่แมนหรอกนะ “พวกคุณต้องการแสดงให้พวกผมเห็นอะไร”
แค่แกล้งโง่ ไม่ต้องด่ากันจริงจัง
“ขออนุญาตครับ”พวกเราต้องการความว่องไว ไม่ได้ต้องการอะไรยาวยืด กว่าจะพูดกันได้ต้องแนะนำตัวซะยาวเป็นหางปลากระเบน ไฟไหม้หมดมหาลัยแล้วยังพูดไม่จบ “ผมและเพื่อนต้องการแสดงพี่ทุกคนได้เห็น ว่าพวกเราสามัคคี เป็นหนึ่งเดียว และพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าครับ”
“คะ.”ยังไม่ทันที่ผมจะได้ว๊ากออกไป ก็โดนน้องคนเดิมขัดคอขึ้น ทำเอาผมต้องหุบปากไปก่อน แม่ง เสียเซลฟ์ไปไม่น้อยเลยเว้ย กู
“และพวกเราต้องการจะสื่อความรู้สึกที่มาจากหัวใจของพวกเราให้กับพี่ ๆ ทุกคนได้รับรู้ครับ”ประธานปีหนึ่งพูดด้วยเสียงดังก้อง ผมเหล่ไปเห็นพวกพี่ปีสี่เลิกคิ้วมอง พี่ปูนขาวขมวดคิ้วน้อย ๆ
“พวกเราขอโทษครับ / ค่ะ”น้องปีหนึ่งทุกคนพูดขึ้นเสียงดังลั่น พร้อมทั้งก้มหัวลง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจ้องพวกผมอย่างไม่หลบสายตาเหมือนเมื่อก่อน
ผมล้วงกระเป๋ายืนมองพวกเด็กปีหนึ่งตรงหน้าอยู่อึดใจ แอบเห็นน้องบางคนเริ่มหน้าเสีย ก่อนที่ผมจะกระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปาก
“พวกคุณอยากได้พี่ปีสองของคุณคืนใช่ไหมล่ะ”ผมเหยียดยิ้ม กราดมองน้องที่นั่งเรียงกันเป็นตับ ก่อนจะพูดต่อ “นี่คือสิ่งที่คุณจะเอามาแลกใช่ไหม”
“ผมและเพื่อนไม่ได้อยากได้พี่ปีสองครับ”คราวนี้เป็นพี่ทุกคนหันขวับไปจ้องมองพวกน้องอย่างตกใจ ผมนี่ขมวดคิ้วแน่นเลย ไม่ต้องการพี่ปีสอง? พวกมึงไม่ต้องการพี่ในคณะ ว่าอย่างงั้นสิ? “ผมและเพื่อนต้องการให้พี่ทุกคน กลับมาเป็นพี่ของพวกเราครับ”
ค่อยฟังเข้าหูหน่อย แอบเห็นหลายคนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเลยล่ะ ผมเองก็อยากจะถอนหายใจเหมือนกัน เลยซะหัวใจตกวูบเลย ไอ้น้อง
ผมเหลือบมองว๊ากที่เหลือ รวมไปถึงพี่ปีสี่ที่ยืนเก็กขรึมกันอยู่ด้วย จริง ๆ พวกเขาคงตั้งใจจะมาดูหน้าน้อง ๆ ล่ะมั้ง ปกติแต่ไรมาปีสี่เขาจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับการรับน้องเท่าไหร่
พี่ก็ต้องอยากรู้จักสายรหัสตัวเองอยู่แล้วล่ะนะ ผมก็เป็น ปีนี้ได้น้องผู้หญิง ที่มาพร้อมกับหน้าตาน่ารักโคตร สวย ใส สไตล์ญี่ปุ่นมาก แล้วหลานมันก็กลัวผมมากเหมือนกัน
“โอเค คุณอยากได้พี่คืน”ผมสูดลมหายใจลึก ก่อนจะตัดสินใจอะไรได้ ของฟรีไม่มีในโลก ได้ของอย่างหนึ่ง ก็ต้องเสียอีกอย่าง “ผมให้พี่กับคุณ”
“ขอบคุณครับ”
“แต่...”จากที่ดูเฮฮา คราวนี้หดกันหมด “พวกคุณได้พี่ อย่าลืมว่าธงพวกคุณยังไม่ได้ ถ้าคุณไม่มีธง คุณจะไม่มีวันที่จะได้ชิงเกียร์”
ขู่กันสักหน่อย ก่อนที่จะเดินออกนอกลานเกียร์ไป โดยไม่พูดอะไรต่อ ถ้าพูดมันก็ไม่มันส์สิ จริงไหม
ดูเหมือนผมจะคืนพี่ให้กับพวกน้องปีหนึ่งง่าย ๆ ใช่ไหมล่ะ?
เรื่องนี้อาจจะง่าย แต่เรื่องที่ใหญ่กว่าอย่างการชิงธง ผมไม่มีคำว่าง่ายให้หรอก
รับรองว่าสนุกแน่
เตรียมตัวกันไว้เถอะ พวกปีหนึ่ง
จะเอาให้หนักว่าที่กูเคยโดนอีก หึหึ
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
มาอัพแล้วค้าาา โคตรช้า รู้ตัว 555 TT ปั่นทั้งงาน แถมป่วยด้วยล่ะค่ะ ช่วงนี้
มาต่อยังสั้นอีก
ตอนหน้าไปหาคู่อื่นบ้างดีกว่าาา
พี่ทิว ฟางข้าว
พี่คิส ปันปัน
คีตา พี่กิต
อยากอ่านคู่ไหนกันก่อนดีคะ 555