
ตอนที่ ๒๘ คนมันเพ้อ
วันจันทร์ถัดมาก็เริ่มเข้าสู่ห้วงของการฝึกภาคสนาม ซึ่งการฝึกครั้งนี้จะเรียกกันว่าหมู่ ตอน หมวด หรือที่เรียกกันอีกแบบหนึ่งว่าเข้าป่า ก่อนจะไปเข้าป่ากันจริงๆก็จะต้องฝึกภายใจกองพันซะก่อน ตอนเช้าหลังจากเคารพธงชาติเสร็จเรียบร้อยแล้วฟังจ่ากองร้อยชี้แจงเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของแต่ละวัน พอเลิกฟังคำชี้แจงจึงจัดแถวเป็นกลุ่มเป็นพวกตามที่ได้แบ่งเอาไว้
ผมกับไอ้มหาตวงไอ้อยู่ในตำแหน่งหมู่ปืนกล หน้าที่เป็นพลยิง ส่วนรุ่นพี่ ๒ คนที่มาอยู่ด้วยเป็นผู้ช่วยพลยิง ที่เขาเอาพวกผม ๒ คนมาอยู่หมู่ปืนกลก็เพราะว่าตัวผมใหญ่ แล้วปืนกลเนี่ยมันหนัก จะให้ไปแบกปืนเล็กแล้วเอาพวกตัวเล็กๆมาแบกปืนกลนี่ไม่ได้
“ฟังนะทหาร เดี๋ยวให้ทุกคนไปเบิกเป้สนามพร้อมอุปกรณ์ทุกอย่างให้เสร็จภายในครึ่งวัน ส่วนตอนบ่ายเราจะมาทำการฝึกกัน ช่วงเช้าเราจะมาดูอุปกรณ์เครื่องสนามว่าครบหรือเปล่า อาร์ตๆ”เสียงผู้หมวดพูดเรียกหมู่อาร์ตโจทก์เก่าผม
“ครับผู้หมวด”หมู่อาร์ตเดินออกมาด้วยท่าทางยังไม่คอยดีเท่าไหร่ แต่หายเกือบจะปกติแล้วละครับ
“อุปกรณ์พร้อมไหม เดี๋ยวผู้หมวดจะให้ทหารไปเบิกของ”
“พร้อมครับผู้หมวด มาเบิกได้เลยครับ”หมู่อาร์ตรับคำ
“อืม เดี๋ยวไปเบิกของแล้วกัน ผู้หมู่ก็ดูแลลูกน้องด้วยนะ”แล้วผู้หมวดเดินขึ้นไปบนห้องทำงาน ส่วนพวกผมก็กรูกันไปเบิกของ
“ปริ๊ดๆ เฮ้ย พวกมึงอะไรกันวะ มาทีละหมู่ไม่ได้เหรอ”หมู่อาร์ตตะคอกเสียงดัง “รุ่นพี่ไม่ดูแลรุ่นน้องวะ คอยดูนะเมื่อไหร่กูเข้าสิบเวรนะมึงจะหนาว ไป ไอ้พวกปืนเล็กมาก่อน”พวกผมเลยต้องรอให้พวกหมู่ปืนเล็กไปเบิกก่อน รอจนประมาณชั่วโมงกว่าๆครับถึงได้ไปเบิกของ
“ไม่ต้องเลือกมาก ของเหมือนกันทุกชิ้น”พูดตะคอกใส่หน้าผมตั้งแต่ผมก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไป หยิบเป้สนามหรือล็อกแซก หม้อสนาม ผ้ากันฝน พลั่ว กระติกน้ำ สายเก่งเข็มขัดสนาม หมวดแคปร่า พอได้ของมาครบแล้วก็มาจัดการจัดระเบียบใหม่ตามที่รุ่นพี่บอก ปรับสายเก่งกระติกน้ำให้มันพอดีเอว ครึ่งวันเราง่วนอยู่กับการจัดของเรียบร้อยพอช่วงบ่ายก็ตามที่ผู้หมวดบอกครับเตรียมตัวฝึก
การฝึกในช่วงบ่ายของวันแรกไม่มีอะไรมากมายรอกครับส่วนใหญ่จะไปนั่งถอดประกอบปืนกล จนถึงบ่าย ๓ ก็เลิกฝึกสำหรับวันนี้แบกปืนกลับกองร้อยถอดเป็นชุดครึ่งท่อนวิ่งออกกำลังกายโดยมีผู้หมวดเป็นคนนำ
วิ่งเสร็จเปลี่ยนชุดเป็นชุดกีฬามาเตะบอลที่น้ากองร้อยต่อทีมวันนี้ก็มีผู้หมวดกับผู้กองมาเล่นด้วยผมเล่นฝั่งผู้กองเพราะผู้หมวดไม่ยอมให้ผมอยู่ฝั่งเดียวกันกับเขา เล่นๆไปผู้หมวดแม่งขี้แกล้ง ผลักผมตั้งหลายครั้งแล้วหัวเราะชอบใจ
เล่นจนเหงื่อออกชุ่มตัวแล้วเดินแถวไปกินข้าว กินไม่ค่อยได้หรอกครับเวลาเหนื่อยๆเนี่ยไม่ค่อยจะหิวอะไรเท่าไหร่ กินนิดเดียวก็เลิก อีกอย่างรุ่นพี่แม่งกินเร็วฉิบหายแปบเดียวมันกินหมดจานแล้ว กินเสร็จมาอาบน้ำ รอรวมอบรม เย็นนี้คงไม่ได้สวีทกับผู้หมวดเพราะว่ากลับบ้านไปแล้ว
ตื่นเช้ามาทำกิจวัตรทุกอย่างเหมือนๆวันก่อน กิจวัตรของทหารเขาจะเรียกกันว่า รปจ. ย่อมาจากระเบียบปฏิบัติประจำวัน ซึ่งจะขออธิบายคร่าวๆนะครับ ตี๕ ครึ่งนี้เราจะตื่นมารวมแถวแล้ววิ่งออกกำลังกาย ๗ โมงเช้ากินข้าว ๘ โมงเคารพธงชาติ ๙ โมงเปลี่ยนสิบเวรคนใหม่มาฟังคำชี้แจงจากสิบเวรว่าจะทำอะไร เที่ยงตรง กินข้าว บ่ายโมง รวมเช็คยอดทหารในช่วงบ่าย ๔ โมงวิ่งออกกำลังกายและก็มาออกกำลังกายตามอัธยาศัย ๖ โมงเย็นกินข้าว ๑ ทุ่มรวมฟังคำชี้แจงจากสิบเวรว่าวันนี้มีข้อบกพร่องอะไร และชี้แจงเรื่องเวรยามใครจะเข้าเวรออกเวร ๒ ทุ่มครึ่งสวดมนต์ ๓ ทุ่มก็นอนหลับพักผ่อน ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลง คือทำอะไรเป็นเวลา
“เบิกปืนเฮ้ย”เสียงรุ่นพี่พูดหลังจากเคารพธงชาติเสร็จเรียบร้อยพวกผมก็เดินขึ้นไปหน้าคลังอาวุธเพื่อไปเบิกปืนเพื่อมาฝึก หยิบปืนกลคนละกระบอกกับไอ้มหาตวง หนักเอาการอยู่เหมือนกันนะครับคาดว่าปืนกระบอกนี้นำหนักไม่ต่ำกว่า ๑๒ กิโลกรัม สะพายปืนเดินลงไปด้านล่างเดินไปหาจ่าซึ่งเป็นผบ.หมู่ปืนกล วันนี้ฝึกการตรวจอาวุธครับ ฝึกไปผู้หมวดก็เดินมาดู ฟากสนามฝั่งใต้จะเป็นของกองร้อยผมซึ่งมีผู้หมวดบูมเป็นผู้หมวดของการฝึก ส่วนอีกฟากหนึ่งจะเป็นของผู้หมวดเต้ยซึ่งเป็นอีกหมวดหนึ่งครับ
“ทำท่าทางให้มันเข้มแข็งหน่อยสิมหา”ผู้หมวดบูมดุ
“ครับผู้หมวด”ไอ้มหามันรับคำแล้ววิ่งใหม่ คือการตรวจอาวุธนี่ต้องวิ่งนะครับจะมีท่าทางของมันอยู่อธิบายเป็นตัวอักษรยากครับเอาเป็นว่าเราข้ามไปแล้วกัน ฝึกได้พักใหญ่ก็หิ้วปืนมานั่งพักในร่มใกล้ๆกับหมวดบูมและหมวดเต้ยยืนคุยกันอยู่ ตรงนี้มันมีร่มไม่ใหญ่ๆอยู่ที่เดียวขอมาแอบนั่งใต้ร่มไม้หน่อยแล้วกัน
“เฮ้อ เหนื่อยว่ะ”ผมบ่นออกมาเบาๆ
“แค่นี้ก็บ่นซะแล้ว”ผู้หมวดเต้ยพูด
“แฮะๆ มันร้อนครับผู้หมวด”ผมยิ้มให้
“คิดถึงเมียจัง”ไอ้มหาตวงมันพูดลอยๆไม่ได้มองหน้าหมวดเต้ย ผมมองหน้ามันอย่างงงๆคือเมียมึงกับเมียกูก็ยืนหัวโด่อยู่ตรงหน้ามึงคิดถึงเมียคนไหนวะมหา มองหน้าหมวดเต้ยหน้าตึงขึ้นมาทันทีครับ ส่วนหมวดบูมนี่ทำหน้างงๆ
“มึงมีเมียด้วยเหรอวะมหา”จ่าซึ่งเป็นผบ.หมู่ปืนกลถามอย่างสงสัย
“มีครับจ่า”ไอ้มหาตอบหน้าชื่นตาบาน
“กูไม่อยากจะเชื่อว่ะ ได้ข่าวมาว่ามึงเพิ่งสึกมาแล้วเอาเวลาไหนไปหาเมีย”
“ก็ช่วงที่ฝึกเสร็จอ่ะครับ มึงไม่คิดถึงเมียมึงบ้างรึไงไอ้บอมบ์”
“กูคิด แต่กูไม่เพ้อเหมือนมึง”
“ทำไงได้วะ กว่าจะได้เจอกันแต่ละทีแม่ง เฮ้อกูขอหอมแก้มมึงทีไอ้สัส”ไอ้มาตวงมันยื่นหน้ามาคว้าต้นคอผมหอมแก้มฟอดใหญ่ ไอ้สัสเอ๊ย ทำกับกูได้ลงคอ
“กูว่าแม่งคิดถึงเมียจนบ้าไปแล้ววะฮ่าๆๆๆ”จ่าหัวเราะ ส่วนผมมองหน้า ๒ หมวดสุดหล่อในดวงใจแล้วยิ้มให้
“เหนื่อยๆแบบนี้น่าจะมีเมียมาคอยซับเหงื่อให้ ยื่นน้ำเย็นๆให้กิน”ไอ้มหาตวงยังคงเพ้อต่อไป
“เป็นทหารก็แบบนี้แหละมหา มึงจะฝันเฟื่องไปมากทำไมวะ เหนื่อยก็เช็ดเหงื่อเองสิ อยากกินน้ำเย็นก็ไปหากินเอาเอง ไม่มีเมียมาคอยดูแลบริการถึงที่หรอก มีแต่จะเอาสากมาตีหัวนี่ ขนาดเงี่ยนๆคิดถึงเมียแค่ไหนก็เอามันไม่ได้ยังต้องมาชักว่าวเองเลย”จ่าพูดขึ้นมา “เออ แล้ววันก่อนมึงไอ้ยักษ์เสียท่ากะเทยไปแล้วเหรอ”
“ยังครับจ่า ผมถีบมันก่อน”
“ฮ่าๆๆๆ มหาคิดไม่อะไรไม่ออกก็ไปเข้าเวรแล้วหากะเทยมาอมให้นะ”
“มันมีด้วยเหรอครับจ่าที่กะเทยจะมาอมให้น่ะ”ไอ้ตวงทำหน้าใคร่รู้
“มีสิ จ่าอยู่นี้มาเกือบ ๒๐ ปีแล้วพวกรุ่นพี่พวกเอ็งนะ ฮ่าๆๆๆ อย่าให้กูพูด แต่อย่างว่ามันจากบ้านจากเมียมาไกล เงี่ยนๆก็ให้พวกมันอมไปซะ”
“เออ น่าลองว่ะ บอมบ์มึงได้ขอเบอร์โทรกะเทยที่มันจะอมให้มึงไหมวะ กูสนใจ”ไอ้มหาทำตาหน้าน่าสนใจ ส่วนหมวดเต้ยตอนนี้หน้าเคร่งเครียดกว่าเก่า
“กูว่ากูรู้สึกคันตีนยังไงไม่รู้ว่ะบูม”หมวดเต้ยพูดขึ้นมาพลางลูบๆที่คอมแบท
“เป็นเชื้อราหรือเปล่าวะ”หมวดบูมทำหน้าซื่อ
“ไม่รู้ว่ะ กูว่าคงไม่ใช่”หมวดเต้ยมองหน้าไอ้มหาตวงแวบหนึ่ง
“เหรอวะ”ผู้หมวดบูมยังทำหน้างงต่อไป ส่วนผมนี่กลั้นขำแทบไม่อยู่ ไอ้มหานะไอ้มหามึงแสดงอาการคิดถึงเมียได้แจ่มมากเลยว่ะ
“เฮ้อ”ผมถอนหายใจบ้าง
“เป็นไรของมึงอีก”ไอ้มหาตวงหันมามองหน้า เก็บอาการได้เนียนมากเลยมึง
“กูก็คิดถึงเมียกูบ้างสิวะ เหนื่อยๆแบบนี้มีเมียมานั่งข้างๆ คอยนวดไหล่ ไล้แผ่นหลัง”ผมทำหน้าเหม่อลอย ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้หมวดบูมกับหมวดเต้ยหน้าเหวอทั้งคู่
“เออน่ะสิ เมียเราเขาจะคิดถึงเราบ้างไหมนะ เขาจะรู้หรือเปล่าว่าผัวสุดที่รักของเขากำลังเหนื่อย หัวใจจะขาดรอนๆ”ไอ้มหาตวงพูดแล้วมองฟ้ามองฝนไปเรื่อยเปื่อยของมัน
“เขาคงไม่คิดถึงเราหรอกมั้งตวง ทำใจซะเถอะ เมียเราเขากำลังนอกใจ”พูดแล้วกลั้นขำ ตอนนี้ทั้งคู่ทำหน้าเลิกลัก ส่วนผมก็อมยิ้มหน้าแป้นหน้าบาน
“ไอ้พวกเหี้ย มีเมียแล้วพากันเพ้อ ไอ้หน้าส้นตีน”หมวดเต้ยเตะขาไอ้มหาจากนั้นทั้งคู่จึงเดินออกไป ผมกับมหาขำก๊ากออกมาเลยครับ
พักกลางวันกินข้าวเสร็จเรียบร้อยมานั่งแผ่ตากพัดลมอยู่ใต้ถุนโรงนอน คุยกันเย้วๆเสียงดัง ไอ้ซันหลังจากที่ผมเอาเบอร์สาวสวยให้มันเมื่อเช้าตอนนี้ก็กำลังตามจีบตามตื๊อ ส่วนผมกับไอ้มหาตวงนั่งพิงผนัง บ่ายโมงครึ่งตามเวลาที่นัดเอาไว้ไปฝึกกันที่สนามฟุตบอลของกองพัน ช่วงนี้ฝึกการเดินเข้าตีครับ
เหงื่อชุ่มหน้าดำหน้าแดงจนถึงบ่าย ๓ ครึ่งจึงเลิกการฝึกเอาไว้แค่นี้ คืนปืนเสร็จแล้วขึ้นถอดเสื้อพรางออกเป็นชุดครึ่งท่อนวิ่งออกกำลังกายกัน ๔ รอบสนาม ฟิตมาก แต่ก็เหนื่อยเหมือนกัน วิ่งไปมองหน้าหมวดบูมไปอยากจับจูบหลายๆทีให้มีแรงวิ่งกลัวทำไปแล้วคนอื่นจะมองผู้หมวดของเราไม่ดีเลยเก็บอาการ เฮ้อ เป็นแบบนี้ก็ลำบากนะครับเรามันแค่พลทหารตัวน้อยๆเขาผู้บังคับบัญชาตัวใหญ่ๆ
“บูม ถามจริง หมู่อาร์ตเคยจีบบูมป่ะ”เข้ามาในห้องผู้หมวดหลังจากกินข้าวอาบน้ำในช่วงเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุยกันถึงเรื่องเรื่อยเปื่อยจนวกเข้ามาเรื่องที่ผมสงสัย เห็นมาหลายครั้งแล้ว ชอบมาเจ๊าะแจ๊ะเมียกูยามกูเผลอ
“ไม่นี่”ผู้หมวดส่ายหน้าอย่างไม่รู้ตัว
“ไม่ค่อยเชื่อว่ะ อาการแบบนี้มันหวงก้างกันเห็นๆ แล้วเวลาคนอื่นเข้าใกล้บูม มันจะมีอาการแปลกๆบ้างป่ะ เช่น มองตาขวาง กีดกัน หรือพยายามเข้ามามีส่วนร่วมเวลาบูมทำงาน”
“ก็เห็นมันมาช่วยงานตลอดนี่ เรียกใช้อะไรก็ใช้ง่าย แต่ก่อนไปเที่ยวกับมันบ่อย เคยเมาไปนอนห้องมันด้วยแต่ไม่เห็นมันทำอะไร”
“นั่นไง กูว่าแล้ว รู้ตัวป่ะว่ามันกำลังจีบอยู่อ่ะ”
“จีบเจิบอะไร ถึงจะจีบก็จีบไปดิ ไม่ได้เล่นด้วยซะหน่อย”
“เออ ถ้าเล่นด้วยเนี่ยมึเฮแน่”ผมพูดข่มขู่
“หึ เยอะไปป่ะวะ”
“อะไร คนเขารักเขาหวงยังมาว่าเขาเยอะ เออ แปลกคน นี่ถามหน่อยถ้าเกิดผมไม่สนใจอะไรเกี่ยวกับบูมสักอย่างเนี่ย บูมพอใจป่ะ”
“กูจะเอาปืนยิงมึงทิ้ง”
“เห็นป่ะ ผมหวงอ่ะถูกต้องแล้วครับ ไม่ได้เยอะ แฟนใครใครก็หวงใครก็รัก ลองมีคนมาจีบผมบ้างดิ”
“กูจะยิงทิ้งทั้งมึงและมัน”
“หึหึ ฟอด เมียกูขี้หึง ฮ่าๆๆๆ สงสารไอ้มหามัน คงได้แค่เพ้อ ทำไมไม่เอามันไปอยู่กองร้อยเดียวกับหมวดเต้ยซะทีแรก”
“จะไปรู้เหรอว่ามัน ๒ คนจะได้กันน่ะ เออ แล้วเมื่อตอนกลางวันมึงพูดออกมาได้ไง ไม่อายบ้างเหรอวะ แล้วถ้าเกิดคนอื่นรู้ล่ะเขาจะมองกูยังไง แค่กูอนุญาตให้มึงเข้ามาเย็นๆแบบนี้มันก็น่าสงสัยพอแล้ว นี่ยังพูดโจ่งแจ้งอีก ทีหลังกูขอนะ กูยังไม่พร้อมเปิดตัวเว้ย ขออะไรมันลงตัวกว่านี้ก่อน”
“แฮะๆ แต่พวกผมไม่ได้พูดชื่อใครนะ ก็แค่เปรยๆว่าอยากกอดเมียก็แค่นั้น สงสารไอ้ตวงมันหน่อยเถอะครับ ได้แค่มองหน้าแล้วยิ้มให้กันน่ะ มันทรมานนะครับที่รัก ลองเป็นที่รักกับผมเป็นแบบมันดูดิ”
“เออ แต่ทำไงได้ จะมาเดินควงแขนควงขากันก็ไม่ได้นี่หว่า ก็ต้องทนละวะ ถ้าไม่ทนแสดงว่าที่ผ่านมาแค่อารมณ์ชั่ววูบ บางทีมหามันอาจจะไม่รักไอ้เต้ยจริงก็ได้”
“อย่าเพิ่งตัดสินอะไรง่ายๆสิครับ เรื่องความรักความใคร่นี่ไม่มีอะไรแน่นอนลงตัวหรอก เจอกันวันเดียวได้กันแต่อยู่กินกันเป็นสิบยี่สิบปีจนตายห่ากันไปก็มีมากมายนะครับ”มองโลกในแง่ดีเข้าไว้
“ใช่สิ มึงผ่านการมีแฟนมาตั้งเยอะนี่”ออกนอกอวกาศแล้วผู้หมวดของผม
“ฟอด ทำไมชอบยัดเยียดอะไรที่ไม่เป็นจริงให้ด้วยครับที่รัก อย่ามองผมในแง่ลบดิ เห็นเลวๆแบบนี้ก็มีดีเหมือนกันนะ”
“ก็มึงหล่อไง ตามทฤษฎีคนหล่อต้องเจ้าชู้”
“ผู้หมวดก็หล่อแล้วผู้หมวดเจ้าชู้ป่ะ”
“ไม่ กูคบทีละคน คบน้อย คบนาน”
“อืม ผมก็เหมือนกันแหละครับที่รัก ถึงประสบการณ์ผมจะโชกโชนแต่ผมจะอ่อนโยนกับคนน่ารักๆนะครับ ฮ่าๆๆๆ”
“ตกลงว่าเจ้าชู้หรือไม่เจ้าชู้”
“ไม่อ่ะ รักใครคบใครก็อยู่กับคนๆนั้น ไม่นอกใจ ไม่วอกแวก ยิ่งมาเจอคนหล่อแบบผู้หมวดผมไม่เคยคิดจะมีคนอื่นหรอก”
“ถุย ไอ้สัส ปากหวาน”
“เขินอ่ะดิ”
“เออดิวะ มึงทำกูไม่เป็นตัวของตัวเอง บอมบ์ถ้าวันหนึ่งเราไม่ได้คบกันมึงจะยังทำดีกับกูป่ะ”
“เพ้อเจ้อแล้ว ไม่มีทางหรอก อะไรวะ เพิ่งจะคบกันได้ไม่กี่วันกี่เดือนมาพูดถึงเรื่องเลิกรา แม่ง ถามหน่อยเหอะ แอบมีคนอื่นใช่ไหม หรือจะยังไงให้รีบบอกกัน จะได้ไม่ถลำลึกไปมากกว่านี้ ถามหน่อย มั่นใจตัวเองป่ะ”ผมของขึ้นขึ้นมาทันที อะไรวะ กว่ากูจะจีบมึงได้ กว่าจะได้คบกัน กูปวดใจมาตั้งหลายหน นี่มาพูดเหี้ยแบบนี้
“นี่ อยากโกรธกูดิ กูแค่อยากรู้เฉยๆ แต่กูก็คิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก”
“กวนตีนจริงๆว่ะ ทีหลังห้ามพูดเรื่องเลิกรา ฮึ่ย”กำหมัดแล้วทุบกับหัวเข่าของตัวเอง
“พี่บอมบ์อย่าโกรธบูมดิ”ผู้หมวดพูดเสียงเบามือด้านซ้ายวางที่ไหล่ขวาของผม สายตาออกจะขี้ออดขี้อ้อน
“ดูทำหน้าเข้าดิ ผมไปแล้ว อยู่ไม่ได้ เห็นหน้าแล้วเงี่ยนตลอดเลยว่ะจุ๊บผมไม่โกรธแล้วครับคืนนี้ฝันดีนะครับ เดี๋ยวดึกๆจะส่งข้อความไป”
“เดี๋ยวดิบอมบ์”ผู้หมวดลุกขึ้นมาคว้าข้อมือผมไว้ ก่อนจะประกบจูบเบาๆที่ริมฝีปากแล้วก็แลกลิ้นกันนัวเนีย เฮ้อ คืนนี้กูคงต้องลงไปชักว่าวแน่เลย เมียแม่งโคตรยั่ว “อย่าแอบลงไปชักว่าวนะมึง”ผู้หมวดต่อยที่หน้าอกผมเบาๆ
“ไม่รู้จะห้ามใจได้หรือเปล่า บูมแม่งโคตรยั่ว จุ๊บ กลับบ้านดีๆนะ”
“อ่ะ ฟังเวร คืนนี้เวรโรงก็จะเป็นพวกฝึก ก็เข้าใจนะว่าเราเหนื่อยมาทั้งวันแต่ว่าคนเรามันน้อย แต่ก่อนเนี่ยแทบไม่เหลือใคร มีสิบเวรเดินแถวไปกินข้าวคนเดียว บางทีเหลือทหาร ๑ คน ช่วงนี้ก็เริ่มเบาขึ้นมาหน่อยมีพวกเอ็งขึ้นมาช่วย เวรเริ่มห่างแต่ละคนไม่ได้เข้าติดต่อกัน ก่อนพวกเอ็งมารุ่นพี่ที่อยู่ บก.ร้อย เข้าเวรคนเดียวทั้งคืน เพราะไม่เหลือใครจริงๆ ต่างมีเวรข้างนอกกันหมด อ่ะ มาฟังเลยดีกว่า เวรโรงผลัด ๑ นะ .... ผลัด ๒ ไอ้มหา ผลัด ๓ ไอ้ยักษ์ ผลัด ๔ สุระ ผลัด ๕ ไอ้ดำ....”ฟังสิบเวรอบรมชี้แจงในช่วงเย็นของวัน ช่วงนี้มีอะไรเราช่วยๆกันก่อนครับเพราะรุ่นผมนี่ขึ้นกองร้อยมาเพื่อจะทดแทนรุ่นพี่ที่ลงใต้
“เฮ้ยๆ วางมือถือแล้วหันมาคุยกับกูบ้างเหอะ”สะกิดไอ้ซันตั้งแต่ได้เบอร์ผู้หญิงไปพี่มันเพื่อนมัน มันไม่ยักจะสนใจ
“แปบนึง หืม ใช่ เค้ากำลังเดินไปตลาด ไปกับพี่บอมบ์....”ไม่สนใจจริงๆเลยแฮะ ส่วนมหาตวงตอนนี้คุยกับเมียมันอยู่
“จะไปกินข้าวครับ แล้วที่รักกินอะไรไปยัง อืม ที่พูดไปเพราะเหนื่อย อยากมีคนดูแลใกล้ๆ....”โลกส่วนตัวกันทั้งคู่
“พี่บอมบ์รอหนูด้วย”อีหนูผัวทิ้งมันตกกองร้อยเดียวกับผมครับ ขึ้นมาโดนรุ่นพี่แกล้งหลายอย่าง แต่ไม่ใช่ในทางเสียหายนะครับ แบบหยอกเล่น เดินไปหอมแก้มมันประมาณนี้
“โดนผัวทิ้งไม่พอยังโดนเพื่อนทิ้งอีกนะมึง”ผมพูดขำๆ สนิทกันแล้วก็ไม่ต้องเกรงใจกัน
“ก็จริงแหละพี่ เฮ้อ เบื่อ ไอ้ศักดิ์ก็แม่ง เกลียดจริง จ๊ะจ๋ากับเมียทั้งวันทั้งคืน รำคาญเวลามันคุยโทรศัพท์ อีดอกนั่นก็ไม่รู้จะโทรหาอะไรนักหนา ไม่คิดจะให้ผัวมันพักผ่อนเลยรึไง”
“อะไรกับเมียกูเนี่ยอีหนู”ไอ้ศักดิ์เดินมาพูดเสียงไม่พอใจใส่
“กูไม่อะไรกับเมียมึงหรอกศักดิ์ แต่มึงน่ะ ทำให้กูคิดถึงผัวกู เฮ้อ โชคชะตาวาสนาเล่นตลกกับตุ๊ดหน้าหล่อแบบฉัน”มันหล่อจริงนะอีหนูอ่ะแต่มันสาวแตกเท่านั้นเอง
“แล้วทำไมมึงไม่เป็นผู้ชายล่ะ”ผมถาม
“มันกู่ไม่กลับแล้วอ่ะ เป็นมาขนาดนี้แล้ว”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ”
อ่านแล้วไม่ว่าตอนไหนๆก็คิดถึงนะค่ะคิดถึงบรรยากาศในค่ายทหารที่พวกเค้าอยู่ด้วยกัน
ถึงเราจะไม่มีความรู้สึกในค่ายทหารก็เถอะ
แต่นึกถึงบรรยากาศตอนเรียนได้เลย ตอนเข้าแถวอะไรแบบนี้ ตอนคุยเล่นตอนกินขนม เป็นช่วงเวลาในวัยเด็กที่คิดถึงจริงๆ
พอมาอ่านเรื่องนี้ให้ความรู้คิดถึงเพื่อน คิดถึงสถานที่ๆเราเคยอยู่

ความคิดถึงก็วิ่งเข้าชนอย่างจัง
รออ่านตอนหน้านะค่ะหวังว่าจะเป็นแบบที่หวังหมวดบูมจะไม่ใช่ในแบบที่ตอนก่อนๆพูดถึงทุกอย่างแค่เข้าใจผิด เค้าแค่แซวเล่นๆ

รอค่ะ