ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร ปีสองของสองคน ๒๐๐๑๒๕๖๓ ตอนที่๑๔/๒ หน้า๑๓๒
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร ปีสองของสองคน ๒๐๐๑๒๕๖๓ ตอนที่๑๔/๒ หน้า๑๓๒  (อ่าน 1219330 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ populijang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ปีหน้าเลยหรอ ต่อเรื่อยๆไม่ได้หรอ

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ akeins

  • ชีวิตเรา Undo ไม่ได้
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
ขอให้สอบผ่านได้คะแนนเยอะๆนะ

ออฟไลน์ TR

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ใกล้จะปลดกันแล้วสินะ จะจบภาคแรกแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย
รอตอนต่อไป และจะรอติดตามภาค2ค่ะ ;)

ออฟไลน์ AMMY★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
รอภาคสองปีหน้าไม่ไหวเด้อ
เราคงจะขาดใจตายเสียก่อน
แฮปปี้ๆเน้อหนุ่มๆทั้งหลาย
 :mew1:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ hormonesyj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 721
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-3
ยังรออยู่นะ หมวดบูมกับพี่ยักษ์น่ารักมาก  :กอด1:

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ขอให้คนเขียนประสบผลสำเร็จในการสอบเด้อ

ได้คะแนนเยอะๆ

และขอให้มาลงเรื่อยๆเด้อฮำ อย่ารอปีหน้าเล้ย

ไม่อยากเหงาอ่ะ อยากเจอบอมบ์กับบูมบ่อยๆ

 :mew4:

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ nicksrisat

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
มีเรื่องอยากจะขอ ผู้แต่งค่ะ

คือ จำไม่ได้ว่าที่เคยอ่านรอบแรกมีซีนที่ ฝั่งแฟน&ครอบครัวแฟนบิว เกิดสำนึกอยากเห็นหน้าน้องชาลี แล้วกลับลำมาตอแย หรือเปล่า ถ้ายังไม่มี อยากจะขอ ซีนนี้เพิ่มได้หรือเปล่าคะ แบบอยากให้ฝั่งบอมสั่งสอนกลับไปให้เข็ดค่ะ ยังไง ช่วยเก็บไปพิจารณาด้วยนะคะ  ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
ตอนที่ ๘๒ แผน ครึ่งกลาง

วันหยุดเราไปเยี่ยวบิวที่บ้าน หมวดบูมเพิ่งมาครั้งแรกพี่แกตื่นเต้นครับ ไปถึงบ้านก็สายๆ บิวนอนอยู่ที่ด้านล่าง น้องๆน่าจะไปเรียน เฮ้อ ทำไมอยู่คนเดียวอีกแล้วนะ ผมไม่ชอบให้อยู่คนเดียวเลยครับ บิวน่ะสวยก็สวย ถึงแม้จะท้องจะไส้อยู่ผมล่ะกลัวว่าจะมีพวกโรคจิตมาทำมิดีมิร้าย พอผมเข้าไปข้างในเสียงดังก๊อกแก๊กบิวตื่นขึ้นมา

“ทำไมไม่ไปอยู่ที่บ้านน้าไก่ล่ะ อยู่คนเดียวอีกแล้วนะเรา”ผมนั่งลงข้างๆบิวลูบหัว แอบแต๊ะอั๋งหน่อยครับ ฮ่าๆๆ

“ตอนบ่ายบอมบ์เล็กก็กลับมาแล้ว บิวไม่อยากจะรบกวนน้าไก่”

“เราท้องไส้อยู่นะ อยู่คนเดียวมันอันตราย เออ เกือบลืม นี่หมวดบูมกับหมวดเต้ย”

“สวัสดีค่ะ โอ๊ย”บิวยกมือไหว้แล้วร้องสะดุ้งโหยงขึ้นมา

“เป็นไร”ผมรีบถาม

“ลูกดิ้นค่ะ”ผมเอามือไปคลำที่ท้อง เออดิ้นจริงๆด้วย

“ไอ้ตัวป่วน เบาๆหน่อย แม่เจ็บนะ”ผมก้มลงไปพูดกับเจ้าตัวเล็กในท้อง แต่รู้สึกว่าจะดิ้นหนักกว่าเดิม

“โอ๊ย ทำไมดิ้งแรงจัง”

“โอ้โห ดิ้นซะขนาดนี้แม่ก็เจ็บน่ะสิ ตัวเล็กเบาๆลูก”ผมลูบท้องเบาๆ สุดท้ายก็ยอมนิ่ง มีบ้างที่ยุกๆยิกๆ “ปกติดิ้นมากเท่านี้ไหมบิว”

“ไม่ค่ะ ดิ้นเบาๆ ตะกี้ดิ้นซะเจ็บ”

“กี่เดือนแล้วเหรอ”หมวดบูมเดินเข้ามาใกล้ๆ

“๖ เดือนแล้วค่ะ”

“ไปซาวด์ดูยังอ่ะว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”หมวดบูมลองเอามือลูบๆท้อง “เอ๊ย ดิ้นซะด้วย”หมวดบูมพูดด้วยความตื่นเต้น

“พี่บอมบ์บอกว่าเป็นลูกชายค่ะ แต่บิวไม่แน่ใจเหมือนกัน”

“ลูกผู้ชาย ๑๐๐ เปอร์เซ็นครับผู้หมวด จริงไหมไอ้ตัวเล็ก”ผมเอามือไปสัมผัสท้องอีกครั้ง เด็กในท้องก็ดิ้นยุกยิกๆ

“แล้วนี่แพ้ท้องมากไหมบิว”ไอ้มหาถาม

“นิดหน่อยค่ะ ช่วง ๓ เดือนอ่ะแพ้ แต่ตอนนี้ไม่แพ้แล้ว”

“อืม มีเรื่องเล่าให้ฟัง อันนี้ฟังมาจากหลวงพ่ออีกทีนะ เขาว่าช่วงที่แพ้ท้องนี่สามารถทำนายที่มาของเด็กได้ ถ้าแพ้ท้องประเภทชอบของเปรี้ยว ยิ่งเปรี้ยวจี๊ดเท่าไหร่ยิ่งดี เด็กคนนั้นมาจากภพภูมิของเปรต”

“จริงเหรอมหา”หมวดเต้ยถาม

“อื้ม หลวงพ่อเล่ามาอ่ะ ถ้าชอบของเปรี้ยวนี่มาจากเปรต ถ้าชอบของเผ็ดยิ่งเผ็ดร้อนยิ่งชอบ เด็กคนนั้นมาจากนรก คือหมดเวรหมดกรรมจากนรกแล้วมาปฏิสนธิจิตเข้าในท้องอ่ะ แต่ถ้าแพ้ท้องชอบกินของหวานๆ หรืออยากกินอะไรที่มันรู้สึกสดชื่น เด็กในท้องจะมาจากเทวดา คือเทวดาจุติมาเกิดในครรภ์ แล้วสุดท้าย ถ้าช่วงแพ้ท้องชอบกินของจืดๆ อยากกินดิน เด็กเหล่านี้จะมาจากพรหมโลก อันนี้หลวงพ่อเล่าให้ฟัง”

“แถวบ้านกูก็มีนะ บางคนแพ้ท้องแล้วอยากกินดินอ่ะ แบบเอาดินที่คล้ายๆรังปลวกเก่าๆ เอาไปเผาไปแล้วให้ดินสุกแล้วเอาน้ำราด กลิ่นมันจะหอมโชยขึ้นมาเหมือนตอนฝนตกเปียกพื้นดินใหม่ๆอ่ะ ตอนเด็กก็ขำว่าทำไมพี่คนนั้นแกมานั่งกินดินวะ แล้วกูมาถามแม่ แม่บอกว่าเขาแพ้ท้อง”

“อื้ม แล้วมึงแน่ใจเหรอว่าเด็กในท้องนี่เป็นผู้ชาย”

“แน่ใจยิ่งกว่าแน่ใจซะอีก นี่กูไม่ได้เพ้อไม่ได้บ้าไปนะเว้ย แต่มีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟัง.....”เรื่องของไอ้เด็กกุมารทองที่มาขอผมอยู่ด้วยผมไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยนะครับ นี่มาเปิดเผยพร้อมหน้าพร้อมตาที่นี่ครั้งแรก ผมเล่าตั้งแต่ต้นจนจบ วางมือเบาๆที่ท้องบิวไปด้วยเล่าไปเจ้าตัวเล็กก็ดิ้นยุกยิกๆ พอผมถามว่าใช่เจ้ากุมารทองคนนั้นหรือเปล่า ดิ้นใหญ่เลยครับ ไอ้มหาเลยเชื่อตามไปด้วย

นั่งคุยถึงเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อยเปื่อย มื้อเที่ยงเราก็หาอะไรง่ายๆในซอยมานั่งกินกันเป็นวง  พอสักประมาณบ่าย ๒ บอมบ์เล็กก็กลับมาถึงบ้านครับ บอมบ์เล็กนี่เคยมีแฟนนะครับ แต่เลิกกันตอนที่น้องมันบ้านแตกสาแหรกขาดอ่ะครับ ตอนนี้ยังโสด หน้าตาหล่อเหลา เป็นเด็กหนุ่มตี๋หล่อ ส่วนสูงน่าจะประมาณ ๑๘๐ หน่อยๆ มีกล้ามพอประมาณ หุ่นดีครับ ส่วนบาสนี่ออกจะผอมกว่าบอมบ์เล็กไปหน่อย ส่วนสูงจะสูงกว่าบอมบ์เล็กครับ น่าจะอยู่ที่ประมาณสัก ๑๘๔ ประมาณนี้นะครับ ส่วนบิวนี่ก็สูงนะครับ สูง ยาว ขาว หุ่นดี อึ๋มด้วย ทำไอ้บอมบ์ตาละห้อยอยู่พักหนึ่งอ่ะ แต่ตอนนี้ก็มีแต่ความเอ็นดู รักเหมือนน้องครับ

“พี่บอมบ์ พี่ตวง สวัสดีครับ สวัสดีครับ”ยกมือไหว้ผมกับไอ้มหา แล้วก็ยกมือไหว้ผู้หมวดทั้ง ๒

“นี่หมวดบูมกับหมวดเต้ยนะบอมบ์เล็ก นี่บอมบ์เล็ก น้องของบิว ยังมีอีกคนชื่อบาสยังไม่เลิกเรียน”ผมแนะนำให้ ๒ หมวดรู้จัก

“สวัสดีครับ”บอมบ์เล็กไหว้อีกรอบ เด็กคนนี้มารยาทดีนะผมว่า มีสัมมาคารวะ

พอเรารู้จักกันก็คุยกันเรื่อยเปื่อย บิวขึ้นไปพักผ่อนข้างบนครับ ช่วงนี้ต้องพักผ่อนเยอะๆ เรื่องข้าวปลาอาหารนี่ผมโทรมาเช็คแทบจะทุกวันนะครับว่ากินอะไรไปบ้างสำหรับวันนี้ ถ้าขาดเหลือผมก็จะให้บอมบ์เล็กเป็นคนจัดการแทน เพราะเด็กในท้องเรื่องข้าวปลาอาหารนี่สำคัญครับ มันจำเป็นต่อพัฒนาการของเด็กในท้อง อยากให้กินของดีๆ เด็กที่เกิดมาจะได้แข็งแรง ส่วนเรื่องจิตใจก็สำคัญเหมือนบิว ผมบังคับให้บิวฟังพวกเพลงคลาสสิกหรือไม่ก็หาหนังสือมาอ่าน หนังสือประเภทเบาๆที่ผ่อนคลายสมอง แต่มีเรื่องแปลกอยู่อย่างหนึ่ง ช่วงก่อนหน้าที่ผมแวะเข้ามามาหาแทบทุกคืนผมจะต้องมานั่งอ่านหนังสือให้ฟัง คือ คืนนั้นผมก็คิดว่าจะไปเถลไถลเหล่าสาวเข้าสปา แต่บิวรู้สึกว่าลูกดิ้น พอผมเข้าไปใกล้ๆ เจ้าตัวเล็กจะหยุดดิ้น หรือไม่ก็ดิ้นเบาๆ แต่ถ้าห่างจากตัวผมจะดิ้นหนักจนบิวถึงกับร้องไห้เลยครับ ผมก็งงมาก ไม่รู้จะทำยังไง โทรหาพี่ภากับพี่ป่าน พี่ภาก็แนะนำให้อ่านหนังสือให้ฟัง เรื่องอ่านหนังสือให้เด็กในท้องฟังพี่ภาก็มากำชับทุกครั้งนะครับ คืนนั้นผมเลยอ่านหนังสือให้ฟัง ยอมหยุดดิ้นและบิวก็หลับสบาย มีลูกนี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะครับ นี่ขนาดอยู่ในห้องยังขนาดนี้แล้วคลอดออกมาล่ะครับ นี่แหละปัญหาอย่างหนึ่งสำหรับคนที่ท้องแล้วเจอผู้ชายไม่รับผิดชอบ เรื่องท้องเรื่องไส้ไม่ใช่เรื่องของคนคนเดียว ไม่ใช่เรื่องของผู้หญิงคนเดียว คนเป็นพ่อต้องมาเกี่ยวข้องด้วย ยิ่งช่วงคลอดออกมานะ โหย อย่าให้พูดเลยครับ เลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนเล่นตุ๊กตาบลายด์ ต้องอดตาหลับขับตานอน ตี ๓ ตี ๔ บางทีลูกตื่นขึ้นมาร้องไห้ ต้องปลอบต้องโอ๋ ยุ่งเลยทีเดียว แล้วพอโตขึ้นมาจะต้องรับมือซะหลายท่า มีบางครั้งที่ผมกังวลเรื่องเจ้าตัวดื้อที่บ้าน ไม่รู้โตไปจะเป็นยังไง ถ้าเป็นเด็กดีก็โล่งใจ แต่ถ้าดื้อสุดโต่งคงได้นั่งทำใจมั้งครับ

บ่ายแก่ๆบิวตื่นแล้ว ผมก็ยกพรรคพวกไปบ้านหมวดเต้ย ไปถึงแม่หมวดเต้ยก็เรียกไอ้มหาไปคุยกันเงียบๆ ๒ คน ส่วนหมวดเต้ยได้แต่ชะเง้อมอง แล้วแม่หมวดเต้ยก็พาไอ้มหาออกไปด้านนอกครับ หมวดเต้ยขอไปด้วยแม่แกก็ห้าม อย่าหวังเลยว่าพวกผมจะได้ไป ขนาดหมวดเต้ยยังโดนห้าม เราเลยนั่งโม้กับพ่อหมวดเต้ยครับ ผมไม่แน่ใจว่าพ่อแม่หมวดเต้ยรู้เรื่องที่ลูกชายไปกุ๊กกิ๊กกับไอ้มหาหรือเปล่า แต่ก็คิดว่าเรื่องนี้น่าจะไม่พลาดสายตาของผู้ใหญ่หรอกครับ เขามีเครือข่าย พ่อแม่หมวดเต้ยกับพ่อแม่หมวดบูมสนิทกันดี น่าจะรู้แล้วละมั้งแต่คงไม่พูด

แม่หมวดเต้ยพาไอ้มหากลับมาที่บ้านก็เย็นแล้วครับ ไอ้มหาถือถุงใบใหญ่มา หน้าตามันสดชื่น แม่หมวดเต้ยยิ้มอย่างมีความสุข

“แม่พามหาไปไหนมาอ่ะ”

“เอ๊ะ เจ้าคนนี้มันอยากรู้เรื่องของแม่ไปซะทุกเรื่องเชียว”

“ก็อยากรู้ นี่หาว่าผมจุ้นเรื่องของแม่อีกล่ะสิ”หมวดเต้ยทำหน้างอ

“พาไปเสริมหล่อให้ใครบางคนอกแตกตายภายในเดือนหน้า ฮิๆๆ”แม่หมวดเต้ยป้องปากหัวเราะ “พ่อทานยัง แล้วนี่ลูกๆทานข้าวยัง”

“ยังเลย รอแม่อยู่ไง”พ่อหมวดเต้ยตอบ

“จ๊ะ เดี๋ยวแม่ขอเวลาสักแปบนึงนะ ถ้าหิวก็ล่วงหน้าไปก่อนเลย ขอไปจัดการตัวเองแปบ”แม่หมวดเต้ยขึ้นไปด้านบน ไอ้มหานั่งลง หมวดเต้ยถือวิสาสะค้นของในถุงใบใหญ่ที่ไอ้มหาถือมา

“นี่มันอะไรวะเนี่ย ครีม เซรั่ม โห นี่กะจะเปลี่ยนลุ๊คมึงเลยเหรอวะมหา”

“แฮะๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะผู้หมวด แม่ผู้หมวดไปบอกกับใครอ่ะ เอ่อ พี่ผู้หญิงคนหนึ่งอ่ะ เขาก็มาจับๆลูบๆผิวของผมแล้วก็ให้ผมใช้ครีมพวกนี้อ่ะ ใช้ไม่เป็นเลยแฮะ”

“ครีมบ้าอะไรเยอะแยะจังเลยว่ะ งี้มึงต้องแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นชั่วโมงเลยล่ะซิ แล้วนี่ห่ออะไรอีกวะเนี่ย วิตามิน โห เยอะว่ะ”หมวดเต้ยหยิบดูแต่ละขวดแล้วบ่นเบาๆ ส่วนพ่อหมวดเต้ยนั่งดูข่าวภาคค่ำอยู่ครับ

“นี่ตาเต้ย ไปรื้อครีมพวกนั้นทำไม เขาจัดไว้เป็นชุดแล้วเนี่ย เจ้าคนนี้นี่”

“อ้าว จะไปรู้เหรอแม่ แล้วทำไมครีมมันเยอะจังอ่ะแม่ นี่กินแทนข้าวได้เลยนะเนี่ย”

“เอ๊ะ ตาคนนี้ ก็แม่จะให้ลูกตวงไปเป็นนายแบบให้แม่นี่ นี่ถือว่าน้อยนะ แค่พื้นๆ เออสิ แม่ซื้อครีมมาฝากแกกับบูมด้วย อ่ะนี่ คนละกระปุก ไปทาให้มันดูกระจ่างใสบ้าง ดูซิ กระดำกระด่างเหมือนไปลุยขี้เลนมาซะงั้น แต่งองค์ทรงเครื่องกันหน่อยพ่อคุณ หนุ่มฟ้อจะได้หล่อเฟี้ยว ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้กระด่างกระดำแบบนี้แม่ไม่ปลื้มเท่าไหร่นะ”แม่หมวดเต้ยจับๆที่ผิวของลูกชาย ตอนนี้ผิวพี่แกอยู่ในช่วงปรับสภาพครับเพราะตอนฝึกมานี่ใช้งานหนักเสียเหลือเกิน “ป่ะๆ ไปกินข้าวกันก่อน ใบหม่อน เธอตั้งโต๊ะเรียบร้อยยัง”

“เรียบร้อยแล้วค่ะ เชิญค่ะ”หญิงสาวที่ชื่อใบหม่อนออกมารับคำ พวกเราจึงได้ลุกจากที่นั่งเข้าไปที่ครัว มื้อเย็นจึงเริ่มขึ้นในช่วง ๒ ทุ่มครึ่งของวันนี้



พักผ่อนในวันหยุดกันเต็มที่ก็มาโหมงานกันที่กองร้อยต่อ ไอ้มหาก็บำรุงร่างกายมันทุกวัน กินวิตามิน ทาครีม ช่วงเช้านี่ไม่ค่อยใช้เวลาทามากท่าไหร่แต่ช่วงเย็นมันนี่จัดเต็มครับ เรียกว่าอาบน้ำเสร็จมันมานั่งทาจนถึงเวลาเขาเรียกรวมกันเลยทีเดียว ใหม่ๆมันก็ทาไม่เป็นหรอกครับให้อีหนูมาช่วย อีหนูนี่เรื่องเครื่องประเทืองผิวประทินโฉมมันก็เชี่ยวชาญ หน้าอีหนูนี่ใสกิ๊งนะครับไม่ด่างไม่ดำเหมือนคนอื่น แอบเห็นในตู้มันบางทีก็ตกใจ กระปุกครีมมากกว่าเสื้อผ้าในตู้มันอีกแน่ะ ส่วนผมน่ะเหรอ พลอยฟ้าพลอยฝนครับ เห็นไอ้มหาทำก็อยากบำรุงบ้าง เลยถามอีหนู แล้วให้ฝรั่งสั่งของเอามาให้ในค่าย เอาวะ อยากหล่อกับเขาบ้าง

“ถ้าแม่หมวดเต้ยไมขอร้องกูจะไม่ยอมทำอะไรแบบนี้เด็ดขาดเลยว่ะ ห่า เกิดมาจนป่านนี้ใช้แต่สปริงซองนี่ขวดละเป็นพัน เสียดายเงินว่ะ ครีมกระปุกหนึ่งนี่ข้าวสารกระสอบเลยนะเว้ย”

“เอาน่าพี่มหา นี่มันเป็นการลงทุนนะ ตอนนี้พี่มหาอ่ะก็เหมือนเพชรแหละแต่รอการเจียระไนเท่านั้นเอง หน้าตาพี่มหาก็เป๊ะ หุ่นดีด้วย แขนเป็นแขน ขาเป็นขา หน้าอกหน้าใจก็แน่น บำรุงผิวอีกนิดหน่อยให้วิ๊งกว่าเดิม ลงทุนหมื่นแต่ผลที่ตอบแทนมาเป็นหลักแสนนะพี่มหา”

“รายได้ดีขนาดนั้นเชียวเหรอวะ”

“ใช่สิ หนูว่าพี่มหาเกิดในวงการบันเชิงชัวร์ๆอ่ะ ดวงตาดูมีเสน่ห์ ไม่รู้สิ มันชวนมองอ่ะพี่มหา ริมฝีปากก็น่าจูบ หุ่นล่ำใหญ่ดูเป็นผู้ชายอบอุ่น อ๊าย หนูฟินอ่ะ”อีหนูมันกรี๊ดเบาๆระหว่างสาธยายสรรพคุณของไอ้มหา

“กูกลัวว่ะ ถ้าเกิดกูดังกูคงไม่ได้อยู่ติดดินแน่เลยอ่ะ กูไม่ชอบบรรยากาศแบบนั้น”

“นี่ ตาบ้า ดังแล้วค่อยกลัว ตอนนี้ยังไม่ดังอย่าเพิ่มคิดไปไกล อ่ะ นี่ตัวนี้นะไม่ต้องทาเยอะ ค่อยๆเกลี่ยแล้วให้มันซึมลงกับผิว”อีหนูแนะนำเครื่องสำอางและวิธีใช้ทุกวัน ไอ้มหามันก็มึนๆทุกวันครับ มันหลายตัวเหลือเกินทาไม่ถูก มันต้องทาตัวนี้ก่อนแล้วค่อยทาตัวนี้ เยอะจริงครับ ผมเองก็พึ่งอีหนูเหมือนกัน นี่เสริมหล่อไม่ได้จะไปเดินแบบแข่งกับไอ้มหานะครับ เสริมเอาไว้ยั่วหมวดบูม ฮ่าๆๆ

สัปดาห์แรกพวกครีมพวกวิตามินยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ครับแต่พอมาสัปดาห์ที่ ๒มันเริ่มเห็นผลแล้วครับ ผิวไอ้มหาเริ่มปรับสภาพ บริเวณที่มันดำมันเริ่มจะปรับให้เท่ากับส่วนอื่นที่อยู่ในร่มผ้านะครับ จนรอยดำจากแดดมันจางลงมากเลยทีเดียว และรู้สึกว่ามันจะมีออร่ามากขึ้นด้วยครับ ทุกวันหยุดมันก็ต้องขอลาผู้กองไปรายงานตัวกับแม่หมวดเต้ยครับ และมักจะมีพวกครีมแถมมาบ้างในบางครั้ง ไอ้ของเก่ายังไม่หมดของใหม่ก็มาแล้วครับ มันก็ทาทุกวันไม่เห็นมันบ่นอะไร ทาเสร็จก็นอนยิ้มแป้น

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
“กูว่ามึงดูดีขึ้นนะมหา เอาคาถามหาเสน่ห์กูไปไหมล่ะ กูจะต่อคาถาให้”คาถามหาเสน่ห์นี่สืบมาจากพ่อผมครับ ผมเคยใช้อยู่พักหนึ่ง ผลดีเยี่ยมมากเลยครับ แต่ตอนนี้ไม่ใช้แล้ว กลัวจะผิดพลาด

“จะพูดอะไรก็เก็บปากเผื่อเอาไว้กินน้ำพริกบ้างนะบอมบ์”หมวดเต้ยพูดเสียงเย็นๆ มองผมดุๆ

“ไม่เอามหาเสน่ห์ก็เอามหานิยมก็ได้”

“ไอ้บอมบ์ ไอ้เหี้ย มึงชอบหาเรื่องปวดประสาทจริง ไอ้สัส”

“ฮ่าๆๆๆๆ”ผมถึงกับขำก๊ากออกมาเลยทีเดียว

“แนะนำเพื่อนไปในทางที่ดีบ้างก็ได้นะบอมบ์ ไม่ได้ห้ามหรอก ไอ้สัส”

“หึหึ ที่จริงเรื่องมหาเสน่ห์ไม่ใช่กูไม่มีนะ ของมึงขึ้นด้วยคำว่าอะไรเหรอบอมบ์”เอาแล้วล่ะสิ หมวดเต้ยชักจะหนาวๆร้อนๆ ผมว่าคาถาตัวแรกออกไป ไอ้มหายิ้มแป้นเลยครับ “เฮ้ย ครูคนเดียวกันนี่หว่า ลงท้ายด้วยคำนี้ใช่ไหมวะ ....”ไอ้มหาว่าคาถาตัวสุดท้าย ผมยื่นมือไปจับเลยครับ

“ยินดีด้วยเพื่อนงานนี้มึงเมียตรึมแน่”

“หึหึ ตรึมแน่แต่เป็นหน้าแข้งเมียกูนะ จุ๊บ”ไอ้มหายื่นหน้าไปจูบปากหมวดเต้ยทีหนึ่ง “ขี้หึงเหมือนกันนี่เรา เบาใจได้เหอะที่รัก ผมไม่มองคนอื่นหรอก”

“เออ รับปากกูไว้แล้วนะมึง”หมวดเต้ยยิ้มออกแล้ว “อย่าหาเรื่องให้กูปวดหัวนะมึง ระวังลูกตะกั่วมันจะช่วยแก้ปัญหา”

“กล้าเหรอ จิตใจโหดร้าย ดูดิ หน้าไม่หล่อแล้วยังใจร้ายอีก”ไอ้มหาบีบจมูกหมวดเต้ยหยอกล้อตามประสาคู่รัก

“เออสิ ไม่หล่อแล้วไอ้เหี้ยตัวไหนหลงกูหัวปักหัวปำวะ”

“ฮ่าๆๆ ไอ้เหี้ยตัวนี้แหละครับผู้หมวด”จมูกโด่งเป็นสันที่ไม่ผ่านศัลยกรรมจากหมอไทยหรือหมอเกาหลี กดลงบนแก้มเนียนอาจจะไม่นุ่มมากแต่ก็ทำให้ห้องหมวดบูมเป็นสีชมพู ไอ้สัส กูอินกับความรักเหมือนวัยแรกแย้ม

“แม่หมวดเต้ยมาเห็นลูกชายในสภาพนี้จะอกแตกตายไหมนะ”ผมพูดขำๆ

“แม่รู้แล้ว”

“ไอ้เหี้ยจริงดิ”ไอ้มหาสะดุ้งโหยงเลยครับ ดูท่ามันจะตกใจมากพอสมควร

“อือ พร้อมๆอาติอ่ะ อาติเอาไปบอกพ่อ แล้วพ่อก็เล่าให้แม่ฟัง แต่พ่อไม่รู้ยังไงนะ ดูแม่เหมือนจะโอเค มั้ง กูยังไม่กล้าถาม ยังอายๆอยู่”หมวดเต้ยก้มหน้าตอบ

“พรุ่งนี้เอาสินสอดไปขอกับแม่หมวดเต้ยเลยดิมหา”

“เจ๋ง หมวดเต้ยเอากี่ล้าน ตอนนี้ผมมีหมอยกับรอยยิ้ม พอจะแลกเป็นของมีค่าได้ป่ะ”

“ทะลึ่งไปเรื่อยเลยพวกมึง หมดคราบพ่อมหาในอุดมคติของกูเลยว่ะ”

“ยังไงอ่ะ คิดว่าผมต้องเป็นคนแบบว่า เรียบร้อยอ่ะดิ ฮ่าๆๆ”

“อื้ม ก็คิดว่าจะหงิมๆเหงียมๆ”

“ฮ่าๆๆ สึกมาใหม่ๆผมยังไม่เจนโลกนี่นา”ไอ้มหาเกาหัวแกรกๆ

“ตอนนี้เชี่ยวแล้วอ่ะดิ อีกไม่นานกูก็คงจับไม่ได้ไล่ไม่ทันหรอกมั้ง”

“คิดไปไกลกว่าอีหนูอีกแน่ะ ไปฝึกมาแทนที่จะได้ความเข้มแข็ง นี่ไปฝึกหลักสูตร.. หรือไปฝึกร้อยมาลัยมาเนี่ย อารมณ์ชักจะแปลกๆ”

“กูฝึกร้อยพวงหรีดไว้วางหน้าโลงศพมึงอ่ะ ไอ้สัส”

“ฮ่าๆๆๆ”ผมกับไอ้มหาขำพรืดออกมาเลยทีเดียว

“เฮ้อ หรือว่ากูรักมึงเกินไปวะ กูไม่รู้ว่ากูรักหรือกูหลงกันแน่”หมวดเต้ยนั่งเอนหลังพิงกับพนัก สายตามองไปข้างหน้าด้วยความเหนื่อยล้า เอาแล้วไง ล้อพี่แกหนักเกินไปแล้วละ ไอ้มหาไปนั่งแซะข้างๆแล้วเอาแขนสอดพาดไปที่ท้ายทอยก่อนจะดึงหมวดเต้ยเข้ามาซบ

“รักผม หลงผมอ่ะดีแล้ว เพราะผมไม่มีทางทำให้ที่รักของผมเสียใจหรอก เชื่อใจกันสิ”

“อือ เชื่อ หึหึ ตลกตัวเองเหมือนกันว่ะตวง งอแงเหมือนเด็ก อารมณ์อีหนูเข้าสิงกูป่ะวะ”

“ไม่หรอกครับ จุ๊บกันก่อน”ไอ้มหาทำปากจู๋ หมวดเต้ยก็ยื่นหน้าไปจุ๊บปากเบาๆ ไอ้สัส หมวดบูมกูอยู่ไหนวะเนี่ย ชักจะออกไปนานแล้วนะเว้ย กูตาร้อน



๔ โมงเย็นได้เวลาออกกำลังกายประจำวัน น้องไปป์ยังมาทุกวันนะครับ มาวิ่งและออกกำลังกายแบบที่ผมทำ อาจจะทำได้ไม่เท่าพวกผม ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ตอนนี้ยังเด็กค่อยเป็นค่อยไป ตอนนี้ใครๆก็ชมว่าไอ้มหาดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน เพื่อนได้หน้าไอ้บอมบ์ก็พลอยยินดีไปด้วยครับ อย่าเก็บความหล่อไว้คนเดียวแบ่งเพื่อนบ้างก็ได้ ฮ่าๆๆ

“อยากกล้ามโตเหมือนอาบอมบ์เร็วๆจัง”น้องมันพูดแบบนี้ทุกวันครับ

“หืม ใจเย็นๆสิ ค่อยๆเล่นใจ ใจเราร้อนมันไม่ได้ช่วยให้ร่างกายเราโตได้ตามใจหรอกนะ เราต้องเขาใจว่าทุกอย่างมันต้องใช้เวลา”

“อื้ม ก็ไปป์อยากกล้ามใหญ่เหมือนอานี่นา”

“อยากกล้ามใหญ่เราต้องใจเย็นรู้ป่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนแต่ใช้เวลาทั้งนั้น อย่างไปป์ปลูกมะม่วงวันนี้ พรุ่งนี้จะได้กินลูกมันเลยป่ะละ มันก็ต้องออกดอก ต้องรอติดลูก ต้องรอมันโต กว่าจะเป็นมะม่วงลูกหนึ่งให้เราได้กินมัน ก็ต้องใช้เวลา เราไปยืนบ่นกับต้นมะม่วงว่า เมื่อไหร่มึงจะสุก ไปป์คิดว่าไปป์ต้องบ่นกี่วันแล้วไปป์ต้องรำคาญใจกี่วันอ่ะ”

“.............”

“แต่ถ้าไปป์คิดอีกมุมหนึ่งนะ ลองคิดหาความงาม ความสุขระหว่างที่เราเพาะกล้ามซิ เราได้อะไรบ้าง ข้อหนึ่งล่ะ ไปป์ได้ออกเหงื่อ ไปป์ได้มาคุยกับอา ได้มาเห็นสภาพของทหารเกณฑ์ ได้มาเห็นผู้คนอีกระดับหนึ่งแบบใกล้ชิด หรืออาจจะได้อย่างอื่น แต่ถ้าไปป์ใจร้อน ไปป์จะหมกมุ่นอยู่กับความใจร้อนนั้นตลอดเวลา สิ่งที่ดีๆที่ผ่านมามันก็เลยผ่านไป ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องอยากจนเกินไป ถึงเวลาร่างกายเราพัฒนาเอง หน้าที่ของเราคือการทำและมีความสุขกับการกระทำในปัจจุบัน ไม่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นให้มาก เพราะความสุขจะลดลง  เราไม่ต้องไปเปรียบเทียบใครหรอก อย่าลืมนะ มองต่ำเราเหลือ มองเหนือเราขาด แต่ถ้ามองพอดีๆ เราจะรู้สึกว่าเราไม่ได้ขาดหรือไม่ได้เกินเลย”

“ครับอา โดนอาเทศน์ซะเลย แฮะๆ”

“แน่ะ นี่อากำลังแนะนำนะ มาหาว่าอาเทศน์ซะอีก ป่ะ ไปฝึกต่อ เหนื่อยก็พัก”

 

พฤศจิกายนเดือนของการเก็บตัวซุ่มเงียบของไอ้มหาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และแล้ววันที่มันต้องไปถ่ายแบบก็เริ่มขึ้นในช่วงกลางเดือนธันวาคม ช่วงนี้หลายๆคนได้ลาพักผ่อนเนื่องจากผู้กองอนุญาตให้ลา ก็จัดเป็นชุดเหมือนเดิม ชุดละ ๗ วันครับ ไม่มากไม่น้อยเกินไป แต่เพิ่มอีก ๑ วันให้สำหรับคนที่อยู่ต่างจังหวัด เป็นการบวกเพิ่มเวลาการเดินทางครับ วันที่มหาไปถ่ายแบบผมไม่ได้ไปร่วมวงด้วยนะครับ กลับไปนอนตีพุงที่บ้าน อากาศช่วงนี้ก็หนาวแล้ว ไปนอนกอดลูกครับ

อยู่กับครอบครัวผมก็ใช้เวลาเต็มที่ พาเจ้าตัวเล็กเข้าวัดแทบทุกวันครับ ยิ่งโตก็ยิ่งจะซนมาก มีเรื่องป่วนทุกเวลาเลยทีเดียว แต่เวลานิ่งๆก็มีครับ เรื่องครอบครัวนี่ถ้าผมไม่มีลูกผมอาจจะลืมแม่ไปเลยก็ได้นะครับ แต่ก่อนผมไม่เคยเข้าใจหัวอกของแม่หรอกว่ารักลูกมากมายแค่ไหน จนมามีลูกเองนี่แหละครับ เข้าใจอารมณ์พ่อแม่อย่างสุดซึ้ง ผมได้เรียนรู้ความรู้สึกที่ต้องรอคอยการได้เห็นหน้าลูก เมื่อก่อนผมโทรหาแม่บ่อยก็จริงแต่น้ำเสียงมันก็ไม่ชุ่มฉ่ำเท่าเจอใบหน้าลูกๆ จริงไหมครับ

ฉะนั้น ตอนนี้เมื่อมีเวลาผมก็อยากจะให้เวลากับลูกผมและแม่ผมให้มากที่สุด เพราะความสุขของครอบครัวเป็นสิ่งใกล้ตัวที่เรามักจะลืมกัน เรามักจะเห็นความสำคัญของคนอื่นมากกว่าคนในครอบครัว เราให้ความสำคัญกับคนที่ไม่ใช่ญาติเรา มากกว่าพ่อแม่เราเสียอีก เราจะยังไม่รู้หรอกว่าความสุขของครอบครัวมันเป็นสิ่งวิเศษแค่ไหนจนกว่าเราต้องสูญเสียคนในครอบครัวไป ผมไม่อยากให้เกิดแบบนั้น บางคนนะมางานศพพ่อหรือแม่ตัวเอง มานั่งร่ำไห้ว่าเสียดายปีนี้เก็บเงินว่าจะพาพ่อไปเที่ยวหรือพาแม่ไปซื้อของที่นั่นที่นี่ ผมเห็นแบบนี้มาหลานเคสแล้วครับ ทั้งเปิดอ่านตามเว็บบ้างหรือเห็นตัวอย่างจากคนในหมู่บ้านบ้าง ส่วนใครที่ทำดีกับครอบครัวผมก็ยินดีด้วยนะครับ และแล้วพอครบกำหนดผมก็พาแม่และลูกลงมากรุงเทพด้วย ไม่พามาไม่ได้พี่เบิ้ลพี่น้อยพี่นิดบ่นครับ ๓ ลุงอยากเจอหน้าหลานมาก

 

“เป็นไงบ้างวะมหา”

“อืม ก็ดีอ่ะ แต่ดูท่าชักจะวุ่นๆนะ มีหนังสืออะไรก็ไม่รู้มาขอสัมภาษณ์กูด้วย กูไม่อยากตอบคำถามเลยว่ะ ไม่อยากตกเป็นเป้าของคนหมู่มาก”มันมีสีหน้ากังวล ก็แบบนี้แหละครับ ผมเองเป็นเหมือนกันนะ บางทีการที่เรารู้จักคนเยอะๆแล้วพื้นที่ส่วนตัวของเราจะหายไป ยิ่งเป็นบุคคลสาธารณะด้วยแล้ว ทำอะไรต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษครับ ถ้าคนเต็มใจที่จะเข้าวงการนี้อ่ะ ใจเขาพร้อมอยู่แล้วล่ะครับที่จะรับมือกับปัญหาแบบนี้ แต่คนที่ไม่ตั้งใจ เข้ามาแบบจับพลัดจับผลู มันก็ต้องทำใจนิดหนึ่ง ไอ้มหาผมว่ามันเป็นพวกรักสงบ ไม่ชอบความวุ่นวาย ชอบอะไรที่เงียบๆและเป็นส่วนตัวมากกว่า นี่ถ้าแม่หมวดเต้ยไม่ขอ มันคงจะไม่ยอมทำแบบนี้หรอกครับ

“บอมบ์ ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ”ไอ้มหาชวน

“อ้าว ยังถ่ายไม่เสร็จเหรอ”

“อือ เหลืออีก ๑ ชุดใหญ่ๆว่ะ”

ผมไปเป็นเพื่อนไอ้มหาในการถ่ายแบบซึ่งน่าจะเป็นชุดสุดท้าย มีถ่ายในคอนเซปคริสมาสต์ และเทศกาลต้อนรับปีใหม่ แอบมีเปลือยหน้าอกบ้าง แต่ไม่ถึงกับอุจาดตาอะไรมากมายนะครับ ไอ้มหาทำได้ดี ดูเหมือนมันจะเรียนรู้เร็วซะด้วยครับ พี่ที่เป็นผู้สอนแอ็คท่าโพสต์ท่า สอนแปบเดียวมันก็สามารถทำได้

“สุดหล่อ จะเป็นการรบกวนไหมเอ่ย ถ้าพี่จะขออนุญาตถ่ายน้องด้วย เป็นคอลเลคชั่นพิเศษ ในธีมเพื่อนสนิท”เอาแล้วไง กูว่ากูจะเป็นผู้อุดหนุนที่ดีแล้วนะ

“สักหน่อยไหมบอมบ์ ถ่ายเป็นเพื่อนกูหน่อย”ไอ้มหาเอากับเขาด้วย

“กูไม่ทันได้ตั้งตัวเลยว่ะ”ผมพูดกับมหา

“ไมเป็นไรค่ะน้อง ทางเราพร้อมเสมอสำหรับนายแบบคนพิเศษ เชิญเลยค่ะ”ทำไงได้ครับ ไอ้บอมบ์มันใจง่ายอยู่แล้ว ลองดูสักหน่อยเผื่อจะเกิดในวงการมายากับเขาบ้าง เข้าไปในห้องแต่งตัวพี่เขาก็เลือกชุดให้ผม มีแต่กางเกงครับ เขาไม่ได้ให้เสื้อผมมา จากนั้นก็ทรงเครื่องอีกเล็กน้อย แต่งหน้าทาปาก

“เชื่อเจ๊นะคะ ถ้ารูปชุดนี้ได้ออกไปสู่สายตาประชาชน น้องๆทั้ง ๒ คนจะดังระเบิดระเบ้อเลยทีเดียว เจ๊รับรองค่ะ”

“หึหึ ไม่หรอกมั้งครับ กลัวจะเอามะพร้าวห้าวไปขายสวนซะมากกว่า หน้าตาแบบผมนี่โหลจะตายไป”ผมพูดด้วยความถ่อมตัว

“ไม่ค่ะ เชื่อเจ๊นะคะ น้องเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มากเลยนะคะ โดยเฉพาะดวงตาที่แสนจะเจ้าชู้ของน้อง นี่เจ๊ยังแอบจิ้นเลยนะคะ”พี่แกแต่งหน้าให้ผมไปพูดไปด้วย “เรียบร้อยค่ะ เชิญที่สตูเลยนะคะ”แล้วผมก็เดินออกไป ใส่แค่กางเกงยีนส์ตัวเดียวครับ โชว์ท่อนบน จากนั้นจึงเริ่มถ่ายรูป ขอโชว์หน่อยนะครับ หึหึ และแล้วการถ่ายมันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิครับ เมื่อผมกับไอ้มหาต้องลงไปถ่ายด้านล่างโรงแรมซึ่งจัดฉากไว้เรียบร้อยแล้วด้วย สุดท้ายเสร็จงานทุ่มกว่าพอดี ถ่ายเสร็จมาดูโทรศัพท์ ไอ้ภีมโทรหาผมเป็นร้อยสาย ผมรีบโทรกลับทันทีแล้วมันโวยกับผมว่าทำไมไม่รับสายมัน โดนมันเอ็ดอยู่พักใหญ่ครับแล้วมันก็บอกว่าลูกชายตัวดีของผมงอแง ร้องหาผมอย่างเดียว ผมเลยบอกสถานที่ไปว่าผมอยู่ไหน พอผมบอกว่าจะออกไปมันบอกว่าตอนนี้มันอยู่ใกล้ๆแล้วครับ มันพาลูกผมขับรถออกมาด้านนอกกับไอ้ภูมิ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงมันก็พาลูกมาหาผม เจ้าลูกชายงอแงใส่ผมใหญ่เลยครับ ปลอบอยู่พักหนึ่งจึงหาย นี่แหละครับ มีลูกใช่ว่าจะสบาย เราต้องทุ่มเทให้มาก

“เอ่อ พี่ จะว่าอะไรไหมถ้าผมจะขอถ่ายรูปผมจะลูกชายสักหน่อยอ่ะ”ผมถามพี่ผู้จัดการหลังจากที่ลูกชายตาใสเป็นปกติแล้ว

“ได้ค่ะ”ใจดีซะด้วย จากนั้นผมอุ้มลูกทั้ง ๒ ไปถ่ายรูป ไม่ได้แอ๊คท่าอะไรมาก หยอกกับลูกตามปกติ เอาให้เป็นธรรมชาติระหว่างพ่อสุดหล่อกับลูกสุดป่วน เจ้าลูกชายก็งุ้งงิ้งดีมากเลยครับ ถ่ายอยู่ประมาณเกือบชั่วโมงครับ พอเสร็จงานแล้วจึงได้มาเคลียร์เรื่องต่างๆให้ลงตัว จนเวลาสัก ๓ ทุ่มจึงได้กลับบ้านกัน เพราะลูกชายผมง่วงซะแล้ว


ครบกำหนดที่จะต้องกลับค่ายแล้ว ผมก็กลับตามปกติ ไอ้มหายังมีภาระติดพันอีกเล็กน้อยคงจะตามมาทีหลัง เออ แล้วรูปผมกับลูกชายนี่น่ารักดีนะครับ ผมเอาลงเฟสไป ๒ รูป เป็นรูปผมกำลังวิดพื้นบนแผ่นหลังมีลูกชายนั่งยิ้มแป้นอยู่ กับอีกรูปที่เจ้าซ่านั่งบนบ่าซ้ายแล้วเจ้าแสบนั่งบนบ่าขวา ผมเปลือยหน้าอกใส่กางเกงยีนส์ ผมเอาลงแค่ ๒ รูปคนมาไลค์ในเฟสผมเยอะเลยทีเดียว ส่วนภาพน่ารักอื่นๆก็มีเยอะครับแต่ผมไม่เอาลง เก็บไว้ดูกับลูกชายที่บ้านดีกว่าครับ

๒๓ ธันวาคม ใกล้เทศกาลคริสมาสต์ไม่กี่วันรูปที่ไอ้มหาถ่ายแบบได้ถูกวางจำหน่าย อีหนูไวมากเลยครับมันสั่งฝรั่งให้ซื้อมาให้ในวันวางแผง รูปปกเป็นรูปคนอื่นนะครับ ส่วนด้านในก็มีรูปไอ้มหา เป็นภาพสายตาแนวยั่วสวาท ๑ หน้าใหญ่ๆ ส่วนหน้าถัดมาจะเป็นภาพย่อยๆหลายภาพรวมกันในหน้าเดียวซึ่งมีประมาณ ๒ หน้าครับ พร้อมกับบทสัมภาษณ์เล็กๆน้อยๆ นอกจากนี้แล้วยังมีภาพที่มันไปเดินแบบบทแคทวอล์กซึ่งเป็นงานที่แม่หมวดเต้ยเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั่นเอง เรียกว่าเปิดตัวแบบจัดเต็ม

“พี่มหาหล่อมากเลยอ่ะ แบบนี้ไปไหนมาไหนหนูก็เป็นแค่คนนอกสายตาพี่มหาแล้วอ่ะดิ”อีหนูทำหน้าปลื้มใจได้ไม่นานแล้วมันก็ทำหน้างอง้ำ ตุ๊ดประเภทนี้ตุ๊กแกเรียกพี่ เปลี่ยนอารมณ์ไวยิ่งกว่าตุ๊กแกเปลี่ยนสีผิวหนังมันซะอีก

“ชอบคิดอะไรเพ้อฝันเรื่อยเปื่อย นี่มึงว่ากูดังแล้วลืมเพื่อนลืมฝูงเหรอ”ไอ้มหาดีดหน้าผากอีหนูเบาๆ

“ก็หนูชอบมโนนี่นา อิอิ แต่รูปนี้หล่อมากเลยอ่ะ”จากนั้นอีหนูมันก็ชมยกใหญ่เลยครับ ส่วนทหารคนอื่นเร่เข้ามารุมมาล้อมดูรูปไอ้มหา ไอ้มหาดูเขินๆบ้างนิดหน่อยครับ


ไม่ถึงวันไอ้มหาเป็นที่ฮือฮาในกองพันเลยครับ ที่ฮือฮาไม่ใช่เพราะใคร มีนายสิบบางคนไปสะดุดตาแล้วซื้อมา จากนั้นมีคนมาถามว่าใช่มันหรือเปล่า ตอนไปกินข้าวมื้อกลางวันแต่ละกองร้อยที่เห็นรูปมันถ่ายลงหนังสือ ใครที่สนิทๆกับไอ้มหาก็เข้ามาถาม มันตอบคำถามนิดๆหน่อยๆ แล้วยิ้มอย่างเดียว ไม่ได้หยิ่งแต่ถามเยอะจนไม่รู้จะตอบคำถามไหนดี



“พี่บอมบ์”อีหนูเรียกเสียงลากยาวหลังจากที่มันถือหนังสือเล่มหนึ่งมา ผมงงๆว่ามันเรียกทำไม เห็นหน้ากันอยู่ทุกวัน

“มีอะไรเหรอ”

“หูย คู่จิ้นอ่ะพี่บอมบ์”อีหนูเอารูปที่ผมกับไอ้มหาถ่ายมาโชว์ อ้าว ผมคิดว่าเขาถ่ายไปเล่นซะอีกนะเนี่ย ที่ไหนได้เอามาออกอีกเล่มนี่เอง เล่มนี้เป็นเล่มที่ผมถ่ายคู่กับไอ้มหาในธีมเพื่อนสนิท ไม่รู้ใครจะเอาไปวงเล็บว่าคิดไม่ซื่อหรือเปล่า มีภาพผมกับไอ้มหาอยู่ ๓ หน้าครับ ในนี้ไม่ได้บอกประวัติผมมากมายแค่บอกชื่อกับนามสกุลผมเท่านั้นเอง แต่บางรูปที่ถ่ายนี่ก็ชวนคิดเหมือนกันนะครับ มีทั้งรูปที่ถอดเสื้อถ่าย ใส่เสื้อกล้าม ใส่เสื้อเชิ๊ต

“พี่บอมบ์ก็หล่อ พี่มหาก็หล่อ เหมือนหนูอยู่ในดงเทพบุตรเลยอ่ะ”

“อ้าว นี่แต่ก่อนมึงคิดว่ากูเป็นปีศาจเหรอ กูเสียใจว่ะหนู ขอร้องไห้ ๑ วินาที”ผมพูดหยอกมันเล่นๆ

“ฮ่าๆๆ ก็ตอนนี้พี่บอมบ์กับพี่มหาวิ๊งขึ้นนี่นา ราศีจับมากเลยอ่ะ พี่มหานี่สายตาจะคมๆ ดูเหมือนมีพลังลึกล้ำ ชวนให้เสน่ห์หาอยู่ตลอดเวลา บางทีก็แลดูอบอุ่นเหมือนนั่งอยู่ใต้ต้นซากูระกอดเข่ารับแดดอ่อนๆ ส่วนพี่บอมบ์อ่ะรูปนี้ สายตาดูเจ้าชู้มากเลยอ่ะพี่บอมบ์ แบบว่าเหมือนหนูกำลังเข้าไปอยู่ในไฟสวาทที่กำลังโชติช่วง หูย สวรรค์ของอีหนูจริงๆเลย”

“มึงน่ากินมากเลยนะมหา”ไอ้ศักดิ์ที่เงียบปากมาตลอดศกมันเอ่ยขึ้นทำเอาไอ้มหาสะดุ้งเลยทีเดียว

“เหี้ย มึงคิดอะไรกับกูป่ะวะศักดิ์”

“ไอ้บ้า กูมีเมียแล้วเว้ย แต่กูพูดในฐานะผู้ซื้อนะเว้ย มึงนี่กระชากใจจริงๆว่ะ แบบ สายตามึงดูอบอุ่น ไม่รู้สิ มันมีเสน่ห์ดึงดูด”

“อย่าคิดแอบแทงกูข้างหลังนะมึง กูไม่ชอบโดนแทง”

“ฮ่าๆๆ กูไม่คิดหรอกเว้ย ถึงมึงจะน่ากินแค่ไหน แต่กูไม่กล้าคิดหรอก เจ้าที่มึงอ่ะแรง”

“เออ จริงด้วยศักดิ์ จับมือเว้ยพวกเรา”อีหนูเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับไอ้ศักดิ์ไปด้วย

“มึงท่องคาถามหาเสน่ห์ระหว่างถ่ายรูปเหรอวะมหา มันดูเซ็กซี่แบบ น้ำลายไหลว่ะ”ไอ้ศักดิ์ถาม

“ท่องอะไร กูเกร็งจะตายห่าอยู่แล้ว”

“มันมีด้วยเหรอคาถามหาเสน่ห์อะไรนั่นน่ะ”เพื่อนอีกคนหนึ่งมันถาม

“พูดไปพวกมึงก็ไม่เชื่อหรอก เดี๋ยวหาว่าพวกกูบ้าบ้าง หาว่างงมงายบ้าง”ผมตอบ

“กูอยากรู้”

“มันมีแต่มันไม่ใช่ของจริงแบบสุดๆ เพราะต้องพึ่งของภายนอก เสน่ห์ของจริงมันต้องมาจากภายในเว้ย มึงเคยเห็นป่ะบางคนอ่ะหน้าตาไม่ได้หล่อมากเลยนะ แต่มีเสน่ห์ดึงดูด แต่บางคนหล่อขาววิ๊ง แต่มองยังไงมันก็แค่ไอ้ตี๋หน้าโหล ที่จริงเรื่องเสน่ห์นี่ดาราเขาก็ใช้กันนะ มึงเคยเห็นป่ะช่วงที่เขาไหว้ครูอ่ะ มันจะมีเสกแป้งเอาไว้ผัดหน้า นั่นแหละของมหาเสน่ห์ของเขา กูเคยอ่านเจอวิธีทำด้วยล่ะ ตำหรับของครูลิเกโบราณอ่ะ”

“จริงดิ ทำให้พวกกูลองหน่อยดิ”

“ไม่ว่ะ เสียเวลา เสน่ห์ของจริงต้องมาจากใจ คือใจพวกมึงมีความอ่อนโยน หน้าตามึงยิ้มแย้ม ปากไม่หมา กิริยาไม่สถุล ให้เกียรติตัวเองและคนอื่น สูตรง่ายๆ ทำได้ไม่ยาก”

“กูว่ามันยากกว่ามึงเสกแป้งอีกนะเนี่ย”

“งั้นมีอีกวิธี เอาวัวไปขาย เอาควายไปแลก แล้วเอาเงินเข้าโรงบาลศัลยกรรมดีๆ ออกจากโรงบาลหน้ามึงจะเป๊ะ แต่อีก ๑๐ ปีหน้ามึงจะเละหรือไม่เละมันก็อยู่ที่น้ำหนักเงินมึงกับคุณภาพของหมอ”

“เฮ้อ เกิดมาไม่หล่อแบบกูก็ช้ำใจ ได้แค่มองสาวสก๊อยไปวันๆ”ไอ้คนนั้นมันทำหน้าท้อแท้

“ความหล่อไม่คงที่ ความดีสิคงทน ความหล่อ ๑๐ ปีมันมีจางหาย แต่ความดีติดตัวมึงไปจนตาย แข่งหล่อกับเขาไม่ได้ มึงลองแข่งดีสิ แข่งทำความดี คนเรานะเว้ย สุดท้ายแก่เหี่ยวหนังยานกันหมดทุกคนล่ะ เออ แต่ยกเว้นไอ้พวกตายก่อนแก่นะ พวกนั้นไม่มีโอกาสได้สัมผัสความแก่ของตัวเอง คิดมากไปใย ใช้ความหล่อหากินไม่ได้ก็ใช้ปัญญาสิ มีรูปเป็นทรัพย์นับวันมันมีแต่เสื่อมค่า เหี่ยวไม่ได้ต้องไปดึง ดำไม่ได้ต้องหาครีมมาทามาโปะ แต่มีปัญญาเป็นทรัพย์ต่อให้หน้าตามึงเป็นไงมึงก็เอาชีวิตมึงรอดได้ เชื่อกู ชีวิตคนจะประสบความสำเร็จได้ หน้าตาไม่ได้เป็นเกณฑ์ตัดสินเสมอไป แต่อยู่ที่สมอง สติปัญญาต่างหาก”ไอ้มหาตบไหล่เพื่อนคนนั้นเบาๆ

“เออๆ พ่อมหา หล่อ เฟอร์เฟค ใครได้มึงเป็นผัวนี่ยิ่งกว่าทองหล่นทับใส่หัวอีก”

“ฮ่าๆๆ มึงอย่ามายอกูเลย ยอไปกูแบ่งหน้าตาดีๆแบบกูให้ไม่ได้หรอก”

“ถุยไอ้สัส ชักจะหลงตัวเอง ฮ่าๆๆ”ผมพูดดักคอไอ้มหา

“ฮ่าๆๆ”ขำกันทั้งวงเลยทีเดียว
   

เรื่องความดังภายนอกกองพันจะยังไงผมกับไอ้มหาก็ไม่อาจจะรู้ได้ครับ แต่เวลาเดินไปตลาดบางทีมีพวกเมียจ่าคอยทักคอยถาม ปกติพวกเราฮอตพอตัวอยู่แล้ว พอได้ถ่ายแบบก็เพิ่มขึ้นบ้างครับ และแล้วจวนจะใกล้ปีใหม่ ใกล้วันเกิดผมแล้วด้วย แม่ผมยังไม่ได้กลับต่างจังหวัดนะครับ ยังอยู่กรุงเทพ นี่จะเดือนครึ่งแล้ว หลังปีใหม่คงจะได้กลับล่ะมั้ง

“เอ้าฟังนะทหาร ผู้กองมีเรื่องจะคุยกับพวกเรา”ในเย็นวันหนึ่งเรานั่งรอที่หน้ามุขด้วยความหวัง “ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลยหนู สำหรับปีใหม่ ผู้กองไม่ปล่อยลานะ”

“ผู้กองอ่ะ”อีหนูทำหน้างอต่อปากต่อคำกับผู้กอง

“แต่ผู้กองจะปล่อยลาหลังปีใหม่”

“เฮ้”เสียงเฮลั่นกองร้อยเลยครับ

“หรือมีใครอยากลาปีใหม่ก็ลาได้นะ แต่ผู้กองจะปล่อยแค่ ๓ วัน มีใครจะเอาไหม”

“๕ วันไม่ได้เหรอครับผู้กอง”

“ไม่ได้ ที่ผู้กองไม่ปล่อยลาช่วงนี้ก็เพราะว่า คนกลับบ้านกันเยอะ เราต้องไปแย่งที่นั่ง ดีไม่ดีอาจจะตีตั๋วยืน แล้วไหนจะอุบัติเหตุอีก กลับไปบ้านเดี๋ยวเกิดบางคนกร่างอีก กลัวจะได้ไม่กลับกองร้อย เป็นทหารก็อดเปรี้ยวไว้กินหวานกันหน่อยนะ”

“ครับผู้กอง”





DraCo_SLa13   จัดให้ตามคำขอนะ แต่คงไม่เร็วๆนี้

เราสอบเสร็จแล้วนะทุกคน ใกล้จะกลับบ้านแล้ว
บ้านเราอยู่ ตจว. ไม่ได้ต่อเน็ต ก็คงจะแชร์กับมือถือ
อาจจะได้ลงสักตอนสองตอนก่อนสิ้นปีก็น่าจะเกือบจบภาค
แต่ความตั้งใจคือเราจะขยายตอนออกไป
เพราะครั้งที่แล้วเราเขียนแบบรวบรัดมาก
เพราะเราหมดมุขจะเขียน คราวนี้เราจะขยายเพิ่มเติม
ตามปณิธานที่เราได้ลงอีกครั้ง และอาจจะไม่มีภาคสอง
เพราะคิดเอาไว้ว่าจะให้มันยิงยาวไปเลย

คืนนี้เราจะมาอีกตอนนะ ใครสอบอยู่ขอให้ได้เอทุกคนนะ
ใครทำงานขอให้ได้โบนัสปลายปีถล่มทลาย

รักผู้อ่านทุกคน

เมฆ

ออฟไลน์ populijang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
รักเมฆเหมือนกันค่ะ เก็ท A น้าาา
เฮ้อ สนุกสนานทุกตอนทั้งกินดิน ลูกดิ้น
ถ่ายแบบ ด่าอิน้องหนู หมวดหล่อๆทั้งสอง
รักเรื่องนี้มากก จะรอคืนนี้นะคะ
กลับบ้านก็จะรอนะ สู้ๆค่ะ
 :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Khunnay24

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากเห็นรูปมหากับบอมบ์จัง  :haun4:    :haun4:    :haun4:

หวังว่าคงไม่มีมาม่าแล้วนะอยากให้มีแต่มุ้งมิ้งแบบนี้อะ  :mew3:   :mew3:

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
ขอบคุณมากๆค่ะ ปลื้มปริ่มมากค่ะ จะรออ่านนะคะ

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
มหากับหมวดเต้ยหวานกันเบาๆแต่น่ารักมากๆเลย :impress2:
มหาเริ่มจะดังแล้ว   หล่อ เสน่ห์เหลือล้นแบบนี้หมวดเต้ยต้องรับมือให้ดีนะ คึคึ
หนูน่ารักมาก คำพูดแต่ละทีมาเป็นบทเป็นกลอน สละสลวยมาก  o13
แต่มโนจริงๆ 555555 แต่มันคือความน่ารักของหนูเลยนะ
 :mew1: :L2:

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
ตอนที่ ๘๒.๒ แผน ครึ่งหลัง

ผลัดเก่าปลดไป ผลัดใหม่เข้ามาฝึก ความเงียบเหงาจากรุ่นใหญ่จางหาย แต่ความมันส์จากรุ่นผมกำลังจะเริ่มขึ้น หลังจากเสร็จภารกิจพิเศษประจำปีที่กองพันรับผิดชอบผมได้รับการติดต่อจากผู้ใหญ่ที่ผมกำลังหวาดกลัวกับการเผชิญหน้า บ่ายวันนั้นผมนั่งทำความสะอาดปืนอยู่กับรุ่นน้องอยู่ที่หน้าคลัง โทรศัพท์เครื่องเก่าดังขึ้น มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา รับสายด้วยความสุภาพ คุยกันอยู่พักใหญ่ใหม่ๆผมก็เกร็งอ่ะครับ เพราะเจอของหนัก น่ากลัวยิ่งกว่าปืนในคลังเสียอีกแน่ะ คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแม่ผู้หมวดสุดหล่อของผม

คุยธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมยังไม่ได้ตอบตกลงกับแม่หมวดเต้ยไปเลยทีเดียว รอหมวดเต้ยมาช่วยคิด พี่แกจะเอายังไง จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ในใจผมลึกๆอ่ะไม่อยากจะเดินแบบหรอกครับ อยากอยู่แบบสงบๆมากกว่า กลัวว่าจะเอาเป็ดไปเดินทำงานเขาเสีย ชื่อเสียงผมเสียหายนี่ไม่เท่าไหร่ แต่ชื่อเสียงของผู้ใหญ่พังนี่สิครับ ใครจะรับผิดชอบไหว

นั่งหน้าคลังคนเดียว อ่านหนังสือแล้วคิดอะไรไปพลางๆ ตอนนี้ยังไม่รู้จะเอายังไงแน่กับชีวิตเลยครับ อีกไม่กี่เดือนจะปลดแล้ว ที่จริงมีข่าวรับสมัครนักเรียนนายสิบ แต่อายุผมเกินครับ ไม่ครบตามคุณสมบัติที่เขาต้องการ กุมภาที่จะถึงในปีหน้าผมจะครบ ๒๗ ล่ะ ไอ้บอมบ์เองใกล้ ๒๘ ไปแล้ว พูดถึงเรื่องอายุแล้วก็เพลีย ยกยอดไปดีกว่านะ ฮ่าๆๆ นั่งคิดไปคิดมาบางทีผมก็คิดว่าจะกลับไปอยู่บ้านไปทำนา หรืออาจจะสมัครเป็นครูสอนโรงเรียนใกล้ๆบ้าน ได้แต่คิดไปเรื่อยเปื่อยยังเอาแน่เอานอนไม่ได้เลยครับ จะทิ้งบ้านก็ห่วงแม่ จะทิ้งกรุงก็ห่วงเมีย ฮ่าๆๆ จะไม่มีมันก็มีมาแล้ว รักเขาไปแล้วนี่ครับ ซึ้งเนอะ (ถุย ได้ยินเสียงคนถมน้ำลายใกล้ๆ)

และแล้ววันที่ ๒ หมวดกลับมาจากการฝึกก็มาถึง ผมดีใจมาก ไม่เจอกันตั้ง ๕ เดือน ใจจริงนะอยากวิ่งเข้าไปกอดตั้งแต่เห็นหน้าแล้วล่ะ แต่มันทำไม่ได้ ได้แต่มองห่างๆ  กว่าจะได้พูดคุยกับหมวดเต้ยก็อีกวันแล้วครับ ตัวพี่แกดูจะแน่นมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ดำกว่าเดิมเหมือนกัน เหมือนตัวอะไรไม่รู้เห็นแต่ลูกตากับฟันขาวๆเวลายิ้ม

หมวดเต้ยมาผมจึงได้ปรึกษาเรื่องที่แม่ของผู้หมวดขอร้อง พี่แกไม่เห็นจะคัดค้านอะไร ออกแนวว่าอย่าไปขัดใจผู้ใหญ่มันไม่งาม  เอาวะ ขัดใจแม่เขาไม่ได้ก็ต้องฝืนใจตัวเองครับ วันหยุดเราจึงไปจัดการตอบตกลงกับแม่หมวดเต้ย เย็นวันนั้นหลังจากเยี่ยมเยียนบิว น้องสาวแสนน่ารักของเราเสร็จแล้ว แม่หมวดเต้ยพาผมไปซื้อครีม ไปถึงไม่ได้พูดอะไรมาก มีพี่คนหนึ่งมาลูบจับผิวของผมแล้วขออนุญาตดูภายในร่มผ้า จากนั้นแกก็วิเคราะห์ว่าต้องใช้ครีมตัวไหนอะไรยังไง แค่ครีมไม่พอยังมีวิตามินตัวนั้นตัวนี้อีก แกหยิบครีมมาอธิบายกับผมว่าต้องทากี่โมง ทายังไง ผมจำไม่ไหวครับ ได้แต่พยักหน้าแล้วยิ้มอย่างเดียว จนเสร็จภารกิจแม่ผู้หมวดพาผมกลับบ้าน ระหว่างทางแม่แกเล่าเรื่องงานให้ฟัง เป็นงานเพื่อการกุศลที่เหล่าบรรดาภรรยานายทหารจัดขึ้นมาเพื่อหารายได้เข้าสมาคมและเป็นทุนสนับสนุนในการดำเนินกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่างๆครับ

ผมหอบพวกครีมพวกของบำรุงผิวมาถุงใหญ่ มาถึงกองร้อยก็นั่งอ่านรายละเอียดแต่ละกระปุกว่าต้องใช้ยังไง ดีนะครับที่มีผู้เชี่ยวชาญอย่างอีหนู มันช่วยผมได้เยอะ มันแนะนำว่าต้องใช้แบบนี้ ทาตัวไหนก่อนตัวไหนทีหลัง อาหารเสริมตัวไหนต้องกินก่อนอาหารหรือหลังอาหาร กินเช้าหรือกินเย็น มันช่วยผมได้เยอะเลยทีเดียว พวกครีมที่ผมทา ผมก็ทำไปงั้นแหละครับ มันจะขาวก็ขาว ไม่ขาวก็ช่างหัวมัน ทาเสร็จมาทำงานตากลมตากแดด ทำตามหน้าที่ของเรา เช้ากวาดขยะ สายอยู่หน้าคลัง บ่ายแก่ๆออกกำลังกาย เตะบอลกับเขาบ้าง หรือไปนั่งเล่นพวกเครื่องออกกำลังกายที่ใต้ถุนบ้าง จะตบปิงปองก็ไม่ไหวครับ เล่นไม่เป็น ยังดีที่อีหนูเอาไม้แบตมา ๒ คู่ ได้ตีเล่นๆกับมัน

เช้าๆก่อนเข้าไปทำงานที่กองร้อยหมวดเต้ยแกชอบมากินข้าวกับหมวดบูม ๒ หมวดเขาสนิทกันมากเลยครับ ชอบไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เรียกว่าตัวแทบติดกัน เวลาพี่แกมากินข้าวผมก็มักจะแอบดอดเข้าไปหาในห้องหมวดบูม เข้าไปกอดไปหอมพี่แกนิดๆหน่อยๆพอเป็นกระษัยครับ มันอดไม่ได้ วันไหนไม่ได้กอดนี่เหมือนไม่มีแรงงานทำงาน ฮ่าๆๆ อย่าอ้วกรดหน้าผมนะ

“กินข้าวไหม”

“อิ่มแล้วครับ ผู้หมวดกินเถอะครับ”

“วันนี้กินอะไรอ่ะ”

“จับฉ่ายครับ”

“อื้ม อาหารเลิศรส”

“หึหึ อย่าให้พูดเลยครับ แค่ได้กลิ่นผมก็อิ่มแล้วละ”

“แล้วเมื่อเช้าได้กินป่ะ”

“กินไปครึ่งจาน”

“อยู่ท้องเหรอวะ พวกมึงต้องใช้แรงทั้งวันนี่นา กินด้วยกันดิ”

“ผู้หมวดกินเถอะ เดี๋ยวผมลงไปซื้อไก่หลังกองร้อยกินก็ได้”

“หือ อะไรนะมหา ลากไก่ไปกินที่หลังกองร้อยเหรอ”หมวดบูมถามผม

“ฮ่าๆๆ ผู้หมวดก็นะ รอบหน้าถามผิดจูบทีหนึ่ง ไม่ขู่นะ เอาจริง เอาให้ไอ้บอมบ์อกแตกตายไปเลย”

“กล้าลองกับหน้าแข้งของมันก็เอาดิ”

“อย่าท้า ความบ้าของผมกับมันไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นะที่รัก ผมไปทำงานละนะ”แล้วผมก็ลุกจากเก้าอี้เดินออกจากห้องทำงานของผู้หมวด ไอ้บอมบ์มันเช็ดหิ้งพระ ทำความสะอาดเงียบๆของมันอยู่ด้านนอกครับ พื้นที่ไม่มากเท่าไหร่ ทำไปเรื่อยๆ แปบเดียวเสร็จแล้วครับ

ภารกิจยามเช้าหลังจากเปลี่ยนสิบเวรคนใหม่ วันนี้เราจะออกรบ รบกับหญ้า ฆ่ากับมดนะครับ ฮ่าๆๆ พลขับเครื่องร่อน ๓ นาย แล้วคนกวาดอีก ๑๐ นาย ผมมันเจ้าหน้าที่คลังรับคำสั่งของจ่าให้ไปทำงานที่หน้าคลัง ทั้งที่จริงวันนี้ไม่ได้มีอะไรมากมาย ทหารใหม่มาเบิกปืนไปฝึกเรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ชีวิตทหารเกณฑ์ก็วนๆซ้ำซากๆแบบนี้ละครับ บางวันสุดแสนจะเซ็ง บางวันสุดแสนจะฮา เรื่องน่าเบื่อเราไม่พูดกันดีกว่า หาเรื่องฮาให้ชีวิต ช่วงนี้มีประเด็นฮอตอยู่หลายเรื่องเหมือนกันครับ มาเรื่องแรกกันดีกว่า

“ไอ้แว่น ไอ้เหี้ย เมื่อเช้ามึงเช็ดน้ำว่าวหน้าโต๊ะคอมมึงยัง ไอ้สัส”เสียงสิบเวรร้อยผมด่ารุ่นน้องบก.ร้อยผลัดรุ่นเล็ก

“ไม่มีครับหมู่”รุ่นน้องคนนั้นตอบเขินๆ เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ไอ้รุ่นน้องคนนี้ไม่รู้เกิดเงี่ยนจัดยังไงของมัน ลงจากโรงนอนมาช่วงตี ๓ ตี ๔ มานั่งชักว่าวหน้าโต๊ะคอม มันกำลังนั่งชักแหง็กๆ สาวว่าวอย่างมันในอารมณ์ แต่มันก็ไม่พลาดสายตาของเวรโรงไปได้ แล้ววันนั้นไม่ใช่เวรของใคร รุ่นใหญ่อย่างอีหนูครับ อีหนูมันเล่าว่ามันเดินออกจากใต้ถุนโรงแล้วเห็นไฟในบก.ร้อยมันสว่างวิบๆวับๆ ดูแปลกๆ เลยชะโงกหน้าเข้าไปดู เห็นไอ้แว่นรุ่นเล็กกำลังสาวว่าวอย่างเมามัน จากนั้นมันก็เข้าไปจ๊ะเอ๋
“หนูอ่ะ จะเข้าไปแกล้งให้มันตกใจเล่นไงพี่มหา พอหนูย่องเข้าไปปั๊บ ไปป๊ะกับมันปุ๊บ ไอ้แว่นมันสะดุ้งตกใจ น้ำว่าวแตกกระจายใส่เสื้อหนู หนูร้อง ว้ายยยยยยยย ไอ้เหี้ย จังไรคน มันทำหน้าทั้งอึ้งทั้งหอบ คนบ้า ชักว่าวน้ำแตกในบก.ร้อยไม่พอ ยังพุ่งใส่เสื้อหนูอีก”อีหนูเล่า พวกผมนั่งขำกันกระจายที่ใต้ถุนกองร้อย มิน่าเห็นตอนเช้ามามันใส่ครึ่งท่อนเข้าเวร คือปกติเข้าเวรโรงมันต้องใส่ชุดพรางพับแขนแต่งตัวเรียบร้อยไง แล้วเช้าวันนั้นมันใส่แค่ครึ่งท่อน เสื้อหาย ผมยังงงๆเลย คิดว่ามันเก๋า ที่ไหนได้ตอนเช้ามันเอามาเล่า ขำน้ำตาแตกกันเลยทีเดียว แล้วไอ้แว่นก็มักจะโดนล้ออยู่ทุกวัน เออ มันโดนผู้กองแดกด้วยล่ะครับ โทษฐานเงี่ยนไม่รู้เวลา


บางทีไม่มีอะไรทำพวกเรามานั่งล้อเรื่องเมียกัน เออ แปลกอยู่อย่างนะครับ ตอนมาเป็นทหารใหม่ๆนี่ได้ข่าวว่าเมียทิ้งกันทุกผลัด ผลัดละไม่ต่ำกว่า ๑๐ คนครับ เรื่องรุ่นพี่ของผมก็ตลกดีนะครับ เมียก็เมียเรา รถก็ของของเรา แถมไอ้ชายชู้มันเป็นเพื่อนเรา คนอะไรมันจะซวยได้ขนาดนี้ล่ะครับ รถเมียเพื่อน พี่ท่านเล่นกวาดไปซะหมดไม่เหลือ ใจหนึ่งก็ขำ ใจหนึ่งก็สงสาร พูดถึงเรื่องเมีย เมียมันมีหลายประเภทครับ ไอ้ประเภทห่วงผัวเกินเหตุก็มี ไม่ไว้ใจผัวตัวเอง โทรมาเช็คกับเพื่อน สุดท้ายโดนเพื่อนผัวเอาไปยำ เจริญพรเลยล่ะกู แต่เมียบางคนก็ดี ผัวออกจากค่ายเสาร์อาทิตย์ไม่ได้ก็มาเยี่ยมครับ ซื้อของมากิน มีความสุข บางประเภทก็เมียเยอะเกินไป ต้องลำบาก ใหม่ๆมันบ่นว่าเมียทิ้ง พอขึ้นกองร้อยหาเล่ห์ทางได้ปั๊บ มีเมียเป็นพรวน ไอ้ที่ว่าทหารเจ้าชู้นี่ใช้ได้อยู่นะ แต่กับบางคนบางพวกเท่านั้น อย่าไปเมา ไอ้ประเภทรักเดียวใจเดียวก็มีครับ ทีนี้มาเรื่องหนึ่ง รุ่นน้องในกองร้อย พี่แกมีเมียเด็ก โดนเพื่อนมันล้อครับ

“ไอ้ห่า มึงไปเอาลูกโป่งล่อมารึไงถึงได้อีนุชมาเป็นเมียน่ะ”เพื่อนมันล้อ เรื่องไอ้อีเอ็งมึงกูนี่ปกติในกองร้อย

“มึงก็ว่าเพื่อนรักกู วันนั้นกูเห็นมันซื้อลูกอมไปล่อต่างหาก”

“ไอ้ห่า มึงก็ว่าเมียกูนะ”ไอ้คนโดนล้อมันทำหน้าเขินๆ ผมเองก็สงสัย เมียมันอายุเท่าไหร่ทำไมเพื่อนมันถึงได้ล้อ เลยถาม

“เมียมึงอายุเท่าไหร่วะศักดิ์”ไอ้รุ่นน้องคนนี้มันชื่อศักดิ์ ไม่ใช่ศักดิ์ผัวไอ้เผือกเพื่อนเมียเก่าไอ้บอมบ์นะครับ หลายศักดิ์ซะเหลือเกินกองร้อยผมอ่ะ

“เมียมันอายุเพิ่งจะ ๑๔ อ่ะพี่”เพื่อนมันตอบแทน

“โอโห้ มึงเอาลูกชิ้นปิ้งไปล่อกี่ไม้วะถึงได้เมียเด็กอ่ะ”

“ไม่มีอ่ะพี่ ผมเอาข้าวคลุกกระดูกไก่แล้วก็วางไว้หน้าบ้าน มันมากิน ผมก็พามันเข้ามา”

“นั่นเมียหรือหมา”

“หมาพี่ เอ๊ย ล้อเล่นพี่มหา เด็กมันมาติดผมเอง”

“มึงนี่มีความสามารถเนอะ ล่อเด็กซะไม่กลัวคุก”

“มันมาติดผมเองพี่ ผมเห็นมันน่ารักเลยคุยเล่นๆ คุยไปคุยมาติดซะงั้น”

“อย่าลืมซื้อยาแก้ไอเตรียมไว้นะมึง เผื่อมึงจะไอ คุกๆๆๆๆ”เพื่อนมันแซวแล้วเราก็ขำกันไป

“ไอ้สัส แม่เขาให้กูไปขอลูกสาวเขาแล้วว่ะ เนี่ย ยังเครียดๆ ไม่มีตังค์แต่งเมีย”

“เหยดดดดดดดดดดดดดดดด แต่งเมื่อไหร่บอกด้วย กูจะเอาหมาไปช่วยตัวหนึ่ง”เพื่อนมันตบไหล่

“ไอ้เวร น้ำใจช่างประเสริฐนะมึง”


เย็นวันศุกร์ เป็นวันที่พวกเราร่าเริงกันมากที่สุด ช่วงนี้ยังมีปล่อยลาอยู่บ้างนะครับ ผมมานั่งเล่นที่หน้ากองร้อย นั่งดูเขาเตะบอล จะลงไปร่วมกับเขาฝีมือเรามันกาก ตอนเด็กผมชอบเตะบอลนะ เตะตามทุ่งนาอ่ะ หน้านาเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วเอามืดไปดายซังข้าว เตะกันชายหญิง มันดีครับ แต่ตอนนี้ถ้าจะให้เตะก็พอถูไถ อีหนูเห็นมันเป็นตุ๊ดผมก็เหลือเชื่อกับมัน อะไรที่ผู้ชายทำได้มันทำได้ทุกอย่างนะครับ ยกเว้นให้มันเลิกเป็นตุ๊ดอันนี้มันบอกว่ามันเลิกไม่ได้

“แฮกๆ เหนื่อยอ่ะพี่มหา”อีหนูมานั่งข้างผมหยิบเสื้อที่ถอดวางไว้มาเช็ดเหงื่อ ตอนมันเตะบอลก็ผู้ชายดีๆ แต่มาใกล้ผู้ชายนี่มันกลายเป็นตุ๊ดซะงั้น “พี่มหาไม่ลงเล่นเหรอ หรือว่ากลัวดำ”

“ดูคนที่นั่งรอดิ ตั้งหลายคน วันนี้ขอนั่งดูดีกว่า”

“งั้นไปตีแบตกับหนู”แล้วมันก็ลากผมไปตีแบต ตุ๊ดบ้าพลัง ผมมันเงอะๆงะๆ ตีถูกตีผิด ตีไปขำไป ตีแบตครึ่งชั่วโมงไปรวมตัวกันที่ใต้ถุน ออกกำลังกาย ยกดัมเบล บาเบล น้องไปป์มาแทบทุกวัน มาออกกำลังกาย บางวันยังไม่ถอดชุดนักเรียนเลยครับมาร่วมออกกำลังกายจนเหงื่อชุ่ม บางทีก็คิดน้อยใจตัวเองเหมือนกันที่ไม่เคยได้ใส่ชุดนักเรียนม.ปลายเหมือนเด็กม.ปลายคนอื่นๆ ตอนเรียนประถมน่ะเหรอ กางเกงสีกากีกับเสื้อที่ไม่รู้ว่ามันจะสีขาวหรือสีอะไรกันแน่ รองเท้าก็อีแตะ เกิบแตะอ่ะ บุกน้ำลุยโคลนเรียนจนจบชั้นประถม มาอาศัยผ้าเหลืองเล่าเรียน ตอนผมเรียนบวชเรียนนี่ผมเรียนเยอะอยู่นะ เรียนภาษาบาลี ทางโลกก็เรียนเหมือนกัน จบม.๖ แล้วเรียนมหาลัยสงฆ์จบตรี แอบๆเรียนม.เปิดควบไปด้วย พระรุ่นพี่แนะนำให้เรียน ผมเห็นว่าเสียหลายค่าหน่วยกิตไม่แพงเลยลงเรียนนิติ จะให้เรียนตัวอื่นก็ไม่มีแนว เรียนนิติมันท้าทายเลยลองสักตั้ง สอบซ่อมบ้างสอบผ่านบ้างแล้วแต่ช่วงเวลาอ่านทันหรือไม่ทัน ถูไถจบใน ๔ ปี นี่กำลังครุ่นคิดในใจจะเอายังไงต่อไปดี บางทีผมก็อยากจะต่อโทนะครับ คิดไปคิดมา เราจะหาเงินทุนได้จากที่ไหนกันวะ ใกล้ๆปลดทหารก่อนค่อยว่ากันอีกที ยังไงเรามีนาอยู่ผืนหนึ่งคงไม่อดตายหรอกมั้ง กลับไปทำเกษตรอินทรีย์เป็นครูสอนแถวบ้าน ได้อยู่กับบ้านได้อยู่เลี้ยงพ่อแม่


ตกเย็นไปกินข้าวกลับมาอาบน้ำ ทาครีม ใหม่ๆผมทาตั้งเกือบชั่วโมง แต่นี่ใช้มาหลายวันเริ่มจำเทคนิคได้ทาตัวไหน ต้องบีบเท่าไหร่

“หนู กูเอาถ้วยเล็กๆจากหลังกองร้อยมาแล้วกูเทครีมพวกนี้ใส่รวมกันแล้วกูกวนๆทาทีเดียวไม่ได้เหรอ”

“ตาบ้า ถ้าทำแบบนั้นได้เขาเอามารวมในกระปุกเดียวแล้วล่ะ เอาน่า อดทนหน่อย”อีหนูทาของมันทุกวัน มันบำรุงผิวมันดีครับ ช่วงฝึกป่ามันก็ปล่อยเนื้อตัวให้ดำเต็มที่ พออยู่กองร้อยมันหันมาดูแลผิวตัวเองเหมือนเดิม อีหนูผิวขาวดีนะครับ ก้นมันเนียนด้วย ฮ่าๆๆ

“มันหลายขั้นตอนนี่หว่า”

“อยากหล่อต้องอดทน”

“ก็ไม่เห็นจะอยากหล่ออะไรนี่หว่า มันหล่อของมันเอง”

“แหวะ อยากอ้วก หลงตัวเอง”

“ฮ่าๆๆ”ทาเสร็จ นอนเล่นรอสิบเวรรวมอบรมประจำวัน วันไหนสิบเวรชิวก็ไม่คุยเรื่องอะไรมาก นั่งคุยเรื่องทั่วไป เช้าวันต่อมาเป็นเช้าวันเสาร์หมวดเต้ยขับรถมารับที่หน้ากองร้อย ไอ้บอมบ์เหน็บสอยห้อยท้ายไปด้วย มันไปบ้านพี่เบิ้ล ส่วนผมไปซ้อมเดินแบบ มีนายแบบที่ไม่ใช่มืออาชีพอยู่ ๓ คนครับ ผมคือ ๑ ในนั้น ส่วนคนอื่นๆที่เขาคัดเลือกมามืออาชีพทั้งหมด วันนี้ไม่เห็นมา ผมเองเขาให้ทำยังไงก็ทำตามครับ กูหล่ออ่ะ เลยว่านอนสอนง่าย ฮ่าๆๆๆ

ซ้อมถึง ๑ ทุ่มก็กลับมาบ้านหมวดเต้ย แม่หมวดเต้ยไม่ได้ตามมาคุมผมนะครับ แค่มาส่งผมให้อยู่กับพวกทีมงานอ่ะ ทีมงานต่อหน้าแม่หมวดเต้ยก็ดี แต่พอท่านไปแล้วฉะผมหนักเหมือนกัน บางท่าเกิดมามันไม่เคยทำนี่ครับ ผมไม่ชอบโดนด่าหลายครั้งเลยตั้งหน้าตั้งตาเรียนรู้ เอาให้มันรอบเดียวจบ ฝึกทหารยังผ่านมาได้ประสาอะไรกับการเดินแบบที่คนอย่างไอ้ตวงทำไม่ได้ มีแรงฮึดผมก็ทำตาม เขาให้ทำหน้ายังไง ทำสายตายังไง การเอี้ยวตัว การเคลื่อนไหวสรีระกาย มันไม่ได้ยากแต่คนปกติเขาไม่เดินแบบนี้ไงครับ

เลิกซ้อมมีเลี้ยงข้าวทำความรู้จักกับทีมงานและเพื่อนร่วมวงการ อีก ๒ คนเป็นลูกท่านหลานเธอ พ่อแม่มียศมีตำแหน่ง ดูท่าพ่อก็ใหญ่แม่ก็คงมีหน้ามีตาในสังคม โปรไฟล์ดีครับ คนหนึ่งจบโทจากเมืองนอก อีกคนกำลังเรียนโทอยู่ที่ไทย ส่วนไอ้มหาตวงเหรอ ลูกตาสีตาสา เออ แม่ผมชื่อสา ฮ่าๆๆ แต่พ่อชื่ออื่นนะครับไม่ใช่ลูกตาสีแต่ลูกยายสา พ่อชื่ออะไรขออุบไว้ เกิดใครจังไรเหมือนตอนเด็กๆเอาชื่อพ่อแม่มาล้อ แหม ไอ้บางคนนะ เรียกชื่อพ่อแม่เราจนลืมชื่อเล่นเรา ผมจำได้อยู่คนหนึ่ง ไอ้ป๋องลูกตาเมี้ยน ไอ้ห่านี้เรียกแต่ชื่อพ่อผมแทนชื่อผม เวลามันเจอพ่อผมมันถามหาผมแต่ไม่ได้เรียกชื่อผม ล่อซะชื่อพ่อผม โดนแม่มันเองฟาดไปตั้งหลายทีแน่ะ

“กลับยังไงเหรอตวง ผมไปส่งไหม”พีชลูกชายคนเดียวของนายพลท่านหนึ่ง พี่แกถามผมหลังจากเลิกงานแล้ว

“อ๋อ เดี๋ยวนั่งแท็กซี่กลับครับ ขอบคุณมากแต่ผมไม่ขอรบกวนดีกว่า”ผมพูดแล้วยิ้มตอบแทนน้ำใจ หล่อแล้วใจดีซะด้วย

“ให้ผมไปส่งดีกว่า แล้วตอนนี้พักไหนอ่ะ บ้านน้าอิงเหรอ”น้าอิง อิงนี่ชื่อแม่หมวดเต้ยครับ

“ครับ ใช่ครับ”

“งั้นทางเดียวกันให้ผมไปส่งดีกว่า”ยังไม่ทันตอบตกลงโทรศัพท์กากๆดังขึ้นขึ้น ผมรับสายอย่างรวดเร็ว ไม่รับเดี๋ยวพี่ท่านกริ้ว

“ครับผู้หมวด”

“อยู่ไหน เลิกงานยังวะ”

“เลิกแล้วครับ ผู้หมวดอยู่ไหนอ่ะ ยังอยู่กองพันป่ะ”

“เออดิ อบรมทหารเพิ่งเลิก ถ้ากูไปรับมึงมันจะใช้เวลานานป่ะวะ เออ มหา มึงนั่งแท็กซี่มาที่บ้านเลยละกัน รู้จักทางใช่ไหม”

“ครับผู้หมวด”

“เออๆ ไปบ้านกูนะไม่ใช่บ้านแม่กู”

“ครับได้ครับ”แล้วพี่แกวางสายไป ผมยิ้มให้กับคุณชายพีช อายุพี่แกตอนนี้จะ ๓๐ ละมั้งแต่หน้ายังกระจ่างใสดูเหมือนเด็กเพิ่งจะ ๒๒ หรือ ๒๓ เขาดูแลตัวเองดี ย้อนมองตัวเอง อายุจะ ๒๗ แต่หน้านี่รู้สึกว่าจะ ๗๒ แล้วละ ฮ่าๆๆ

“ให้ผมไปส่งดีกว่า”

“ไม่เป็นไรครับ”

“เถอะน่า คุณรู้ไหมไม่เคยมีใครกล้าขัดใจผมนะ”อำนาจนิยมชัดๆ ใครไม่ขัดใจมึง ถ้ากูจะขัดมันจะเป็นไรไหมวะ “ป่ะ เดี๋ยวผมไปส่ง”แตะที่หลังมือเบาๆแล้วลากไปที่รถ เออ กูมันลูกคนจนนี่หว่า ขัดใจลูกคนรวยไม่ได้ สุดท้ายมานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้พี่แกไปส่งที่บ้านหมวดเต้ย ทางเดียวกันหรือคนละทางกูก็ไม่รู้ด้วย น้ำมันรถมึงไม่ใช่น้ำมันรถกู กล่าวขอบคุณแบบจำใจ เฮ้อ นี่กูจะกลายเป็นคนมายาจริงๆแล้วเหรอวะ ไอ้คำว่ามายานี่มันแปลว่าหลอกลวง ผมไม่ชอบคำนี้เอาซะเลย ผมไม่อยากเป็นประเภทต่อหน้ามะพลับลับหลังตะโก ผมไม่ชอบแบบที่ต้องมานั่งปั้นหน้าแล้วลับหลังด่าแม่งยันโคตรเหง้าเหล่ากอ จบงานนี้ก็คงจะจบกันละมั้ง ชีวิตสาธารณะแบบนี้ไม่พึงปรารถนาครับ


“หมอๆ อยู่บ้านป่ะ”เห็นไฟยังเปิดส่องสว่างจากด้านในไม่รู้มีใครอยู่หรือเปล่า เรียกไปงั้น ถ้าอยู่คงจะโผล่หน้ามา แต่ถ้าไม่อยู่คงจะเงียบ ยืนชมพืชพรรณที่มันแห้งเหี่ยวตามฤดูกาลตรงขอบรั้วบ้านหมวดเต้ย ยืนพักหนึ่งไม่เห็นวี่แววของหมอเลยจะเข้าไปในบ้าน แม่หมวดเต้ยโทรมาตามให้กลับบ้านด่วน มีเรื่องจะคุยกับผม ผมเลยโทรบอกหมวดเต้ยว่าเจอกันที่บ้านใหญ่ละกัน ระยะทางไกลกันหลายโยชน์นั่งแท็กซี่ท่ามกลางรถติดของเมืองกรุง มาถึงบ้านใหญ่เวลา ๔ ทุ่มแล้วครับ

“สวัสดีครับ”พ่อหมวดเต้ยนั่งอ่านแฟ้มงานของตัวเองอยู่ที่ห้องทีวี ส่วนแม่หมวดเต้ยนั่งดูทีวีอยู่ครับ ตอนนี้หมวดเต้ยพี่แกกำลังกินข้าวอยู่ที่ห้องครัว

“นั่งสิ อ่ะนี่ แม่ได้ตัวใหม่มา เอาไปทา”จากนั้นท่านแนะนำเรื่องครีม ผมพยายามจดจำรายละเอียด

“จะให้ลูกไปเป็นดาราให้สมใจอยากเลยรึไงคุณ”พ่อหมวดเต้ยเงยหน้าขึ้นมาถาม

“ก็แล้วแต่ลูก อยากเป็นหรือไม่อยากเป็นก็แล้วแต่ลูก แต่แม่อยากให้เป็น”นั่นไง ไหนว่าแล้วแต่ ไหนว่าแม่อยากให้เป็น ไอ้คำว่าอยากให้เป็นนี่แหละ หมายความว่ามึงไม่เป็นมึงเตรียมตัวให้ดีๆ

“หึหึ แล้วถามเจ้าของเขายังว่าเขาอยากให้เป็นหรือเปล่า เห็นอุบอิบบ่นเป็นบ้าเป็นหลังอยู่คนเดียว”

“ใครกล้าขัดใจแม่ ถ้ากล้าก็เชิญ”เอาล่ะสิ นายท่านประกาศกร้าว ใครจะกล้าขัดใจ ไอ้ตวงเหรอ ไม่อ่ะ ได้แต่นั่งทาครีมแล้วถอนหายใจเบาๆ ยอมรับกลายๆ นั่งคุยกับแม่หมวดเต้ยอีกนิดหน่อยก่อนที่ท่านจะขึ้นไปขัดสีฉวีวรรณ ส่วนพ่อหมวดเต้ยผมยังไม่กล้าคุยสักเท่าไหร่ ดูหน้าดุๆอ่ะ

แต่เรื่องเข้าทางผู้ใหญ่ไอ้ตวงคิดว่าไม่น่าจะยาก แอบขออนุญาตไปค้นกระเป๋าที่ฝากไว้ในห้องหมวดเต้ยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พี่แกอาบน้ำเสร็จแล้วมานั่งทาครีมตามคำสั่งของแม่ ผมหยิบเอากระเป๋า รูดซิปหยิบเอากระเป๋าใบเล็กที่ซ้อนอยู่ในกระเป๋าใหญ่อีกที ไม่แน่ใจว่าเดาทางผู้ใหญ่ถูกหรือเปล่า แต่จากการสังเกตการณ์มาหลายครั้งพอจะจับทางได้ว่าพ่อหมวดเต้ยแกเป็นคนแนวไหน

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
“ทำอะไรเหรอมหา”

“เอาใจพ่อผู้หมวดอ่ะ”

“เหรอ พ่อดุนะ”

“รู้อยู่ครับ แต่ไม่เห็นจะเอาปืนมายิงนี่นา”

“ปากดีไป เห็นไม่พูดมากนี่แหละมือฉกาจ เอาอะไรให้พ่ออ่ะ ขอดูหน่อย”

“พระเครื่องครับผู้หมวด พระกรุน่ะ สมบัติส่วนตัว”

“กรุไหน กรุหลังบ้านมึงป่ะเนี่ย ขอดูหน่อย”ผมหยิบพระเครื่องซึ่งเคยได้มาตั้งแต่สมัยยังบวช พระเครื่องผมเยอะครับ มีพระรุ่นใหม่บ้างรุ่นเก่าบ้าง บางวัดหลวงพ่อให้มา บางวัดก็ไปขอจากหลวงพ่อ แต่มีบางองค์ผมเองไม่รู้ว่ามาจากไหน แบบไปปฏิบัติธรรมตามภาคบังคับของมหาลัย เช้ามาเห็นวางอยู่ในบาตรซะแล้ว ถามใครไม่มีใครรู้ ผมเลยอุบอิบเอามาครอบครอง คงจะมีใครบางท่านเอามาให้แหละครับ

“โอเคไหมผู้หมวด”

“ดูไม่เป็นอ่ะ เอาไปให้พ่อดูดิ พ่อชอบดูพระ”หมวดเต้ยยื่นพระให้ผม ที่ผมพอจับทางพ่อหมวดเต้ยได้เพราะผมเห็นที่เอวแกจะเห็นกล้องส่องพระกับพวงกุญแจไว้อ่ะ บางครั้งก็เห็นพวงกุญแจนั้นวางบนโต๊ะ คิดว่าท่านน่าจะชอบดูพระ ผมเลือกว่าพระที่เป็นพระเก่าๆและน่าจะมีมูลค่าสูงมาเป็นของกำนัลให้พ่อหมวดเต้ย

“ผมลงไปก่อนนะ”ผมหยิบกระเป๋าใบน้อยหอบลงไปด้านล่าง พ่อหมวดเต้ยถอดแว่นตานั่งเอนกาย พอผมนั่งลงข้างๆท่านก็เหลือบตามามอง

“มีอะไร”น้ำเสียงห้วนห้าวทำเอาใจผมตุ้มๆต่อมๆ

“เอ่อ ผมมีของมาฝากท่านอ่ะครับ”นอบน้อมเข้าไว้ พยายามใจดีสู้เสือ

“อืม อะไรล่ะ”น้ำเสียงผ่อนคลายลงกว่าเดิม จากนั้นผมก็นำเสนอเต็มที่ครับ หยิบพระจากกล่องสแตนเลสมาวางบนโต๊ะ พ่อหมวดเต้ยถึงกับไถลตัวนั่งงบนพื้นเลยครับ

“เอามาจากไหนเหรอ”ผมเล่าประวัติพระแต่ละองค์ให้ท่านรู้ มีองค์หนึ่งที่พ่อหมวดเต้ยสนใจเป็นพิเศษถึงกับหยิบกล้องขึ้นมาส่อง “อืม หือ อืม”ท่านส่องละเอียดและนานมากเลยครับ จากนั้นเอาพระมากำไว้แล้วท่องคาถา น่าจะจับพลังพระอยู่มั้งครับ แปบหนึ่งเห็นพ่อหมวดเต้ยสะดุ้งไปทั้งตัว “อื้อหือ ของแท้”แล้วพ่อหมวดเต้ยเล่าประวัติพระองค์นี้ให้ฟังว่าใครเป็นผู้สร้าง เรื่องราวต่างๆถูกแถลงไข ผมเองความรู้ด้านนี้ก็ใช่ว่าจะอ่อนด้อย เราคุยกันเพลินจนไม่รู้ว่าหมวดเต้ยมานั่งร่วมวงเมื่อไหร่ จากนั้นพระอีกหลายองค์ที่พ่อหมวดเต้ยส่องท่านจึงเล่าเรื่องราวให้ฟัง บางองค์ผมเองไม่รู้ประวัติเหมือนกัน รู้แต่ว่ารับมาจากไหน เบื้องลึกเบื้องหลังนี่ไม่รู้จริงๆ บางองค์ได้มาจากผู้หลักผู้ใหญ่ผมเอาใส่พานขึ้นหิ้งวางไว้บนหัวนอนอย่างเดียว



“ยังไม่นอนอีกเหรอพ่อ นอนไม่ตรงเวลาเดี๋ยวก็เครียดอีกหรอก”แม่หมวดเต้ยลงมา ผมมองนาฬิกา ตี๑ ซะละ เร็วแฮะ

“อื้ม แม่นอนก่อนเลย พ่อส่องพระก่อน”

“จ๊ะ พ่อลูกอย่านอนดึกละกัน”แม่ผู้หมวดขึ้นไปนอน ส่วนผมยังนั่งพูดเรื่องพระกับพ่อผู้หมวด ผู้หมวดตอนนี้ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขานั่งดูรายการทีวีเงียบๆคนเดียว เรานั่งคุยกันเรื่อยๆ หมวดเต้ยเลื้อยมานั่งใกล้ๆผม ผมก็เล่าเรื่องตอนที่ผมบวชไป เล่าไปเล่ามามันปากดีครับ คุยๆไปนึกได้เรื่องหนึ่ง

“ตอนนั้นผมเพิ่งจะเรียนจบหอบข้าวของจากวัดในเมืองกรุงกลับวัดบ้านนอก แล้วคืนหนึ่งหลังจากท่องหนังสือ ไหว้พระสวดมนต์เสร็จแล้ว เอนตัวนอนได้ไม่ถึง ๑๐ นาที โทรศัพท์ดังกริ๊งขึ้นมากลางดึก ผมรับสายด้วยความมึนๆ ยังไม่ทันได้ฮัลโหลเลยครับ ‘ไอ้เหี้ย ไอ้ผู้ชายสารเลว มึงทำตัวแบบนี้กับแม่มึงเหรอ ห๊ะ ไอ้ผู้ชายเฮงซวย ไอ้หน้าตัวเมีย ได้เสียกับกูแล้วมึงทำงี้กับกูเหรอ มึงกลับมาให้กูฉะมึงเดี๋ยวนี้เลยนะ ไอ้ผู้ชายไร้น้ำยา นี่ถ้าแม่มึงไม่มาขอร้องให้กูเป็นเมียมึง กูไม่อยากเอามึงเป็นผัวให้เสียชาติเกิดหรอก หมีกูต้องแปดเปื้อนเพราะไอ้คนหัวจวยแบบมึง นี่มึงได้ยินที่กูพูดไหม กูแม่มึงนะ’ ผมเลยถามไปว่า ‘ใครเป็นลูกมึง’ ‘อ้าว ไอ้เหี้ย ปากหมาหน้าด้านถามกูงี้เลยเหรอมึง แล้วไอ้เหี้ยตัวไหนที่ดูดนมกูทุกคืนล่ะ ใครดูดนมกู กูเอาเป็นลูกหมด มึงกลับมาบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ กูจะเอานมตบหน้าแม่งให้เข็ด ตอนนนี้มึงอยู่ไหน ไปทำเหี้ยอะไรกับใคร กูถามน่ะมึงได้ยินมั้ย ว่ามึงอยู่ไหน’ ‘กูอยู่วัด’ ผมตอบไปแบบมึนๆ ‘คนอย่างมึงนี่นะจะเข้าวัดเข้าวากับเขาได้ มึงไม่ร้อนบ้างเหรอ มึงไม่กลัวพระบ้างเหรอ กูอยากให้พระกระโดดเตะก้านคอผู้ชายเลวๆแบบมึงจริง ไอ้คนเฮงซวย มึงไปวัดไปทำซากอะไร ห๊ะ มึงไปทำเหี้ยอะไรที่วัด’ ผมกัดฟันตอบไป ‘กูเป็นรองเจ้าอาวาส’ทีนี้เขาเงียบไปพักหนึ่ง ‘เหรอ เออ กูกดเบอร์ผัวกูผิด กูขอโทษ’ ติ๊ดแล้ววางสายไปแบบหน้าด้านๆ”

“ฮ่าๆๆๆๆ”หมวดเต้ยขำก๊ากออกมาอย่างอดไม่ได้ ผมเองก็ตลกตัวเองเหมือนกัน ณ ตอนนั้น คือมึนจริงๆ รับสายปุ๊บพี่ท่านฉะมาปาวๆปั๊บ ไอ้เรายังไม่ทันตั้งตัว มันด่าเราซะตอบโต้ไม่ทัน

“หึหึหึ”พ่อหมวดเต้ยหัวเราะเบาๆครับ “ตอนนั้นไม่โกรธบ้างเลยเหรอ”

“เรียกว่าตั้งตัวไม่ทันจนไม่รู้จะโกรธใครมากกว่าครับ มึนเลย”

“โหย ไอ้คนด่าก็ช่างกล้าด่าแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาเนอะ”หมวดเต้ยขำน้ำตาเล็ด

“สงสัยโกรธผัวจัด เลยมาลงกับพระแบบเต็มที่”

“ดีนะตอนท้ายยังขอโทษ พอมีมารยาทผู้ดีบ้าง”พ่อหมวดเต้ยยังหัวเราะเบาๆ ไม่กล้าหัวเราะมาก

“แล้วมีอีกเรื่องครับ ปีนั้นปลายปีก่อนที่ผมจะมาจับทหาร มีชายหญิงผัวเมียหน้าตาดีคู่หนึ่งเข้ามาที่วัด มาถึงก็ถวายภัตตาหาร พระนั่งฉันจนเสร็จโยมยังไม่ไป แล้วโยมมาก็พูดว่ามาทำไม หลวงพ่อก็บุ้ยให้พลวงพี่รับผิดชอบ หลวงพี่ทำหน้าตาเฉยๆแล้วชี้มาที่ผมบอกว่า นี่ พระองค์นี้เก่ง หลวงพ่อหลวงพี่ลุกไปเหลือแต่ผมคนเดียว พระอื่นไม่ต้องพูดถึงฉันเสร็จเก็บจานชามหายวับไปที่โรงครัว ผมก็เลยถามว่า ‘มีอะไรเหรอโยม’ ‘โยมมีเรื่องจะอะไรจะปรึกษาอาตมาเหรอ’ ‘หลวงพ่อเจ้าคะ โยมทุกข์ใจมากเลยเจ้าค่ะ’ได้ยินคำว่าหลวงพ่อผมแทบอยากจะลุกจากอาสนะ แหม เหลือเกินจริงๆ ‘ว่ามาเลยโยม มีเรื่องทุกข์ใจอะไร’ ผมกลั้นใจถาม แล้วโยมก็เล่าเรื่อง ‘คือโยม ๒ คนแต่งงานกันมานานแล้วเจ้าคะ แล้วทีนี้โยมยังไม่มีลูกสักที โยมมีเรื่องจะรบกวนหลวงพ่อเจ้าค่ะ หลวงพ่อช่วยทำให้โยมมีลูกได้ไหมเจ้าคะ’ ‘ห๊ะ ฉิบหายล่ะกู ทำไมโยมพูดแบบนั้นล่ะ หาเรื่องให้อาตมาแล้วสิ’ ผมถึงกับสะดุ้งพูดลิ้นแทบจะพันกัน นั่งแทบไม่ติดอาสนะ อยู่ดีไม่ว่าดี จะให้พระไปทำลูก คิดว่าพระเป็นหมอรึไง แล้วดูเหมือนผัวเขาจะรู้ตัวว่าเมียพูดผิด เลยสะกิดกันเบาๆ ‘ขอโทษเจ้าคะหลวงพ่อ โยมไม่เคยเข้าวัดเข้าวา คือ โยมอยากมีลูกเจ้าคะ อยากให้หลวงพ่อช่วยทำลูก’ ‘เฮ้ยๆๆๆ โยม ใจเย็นๆก่อนนะ ตอนนี้อาตมาเป็นพระ แล้วนี่ก็ผัวของโยม คือ โยมใจเย็นๆนะ พระทำแบบนั้นไม่ได้หรอกโยม’ ‘ขอโทษครับหลวงพ่อ เมียผมตื่นเต้นไปหน่อย คือผมอยากให้หลวงพ่อช่วย ผมอยากมีลูกแต่ไม่มีสักที อยากจะมาบนกับหลวงพ่อครับ’ ผัวเขาพูดแล้วยิ้มเขิน ‘เฮ้อ ค่อยโล่งใจหน่อย’”พูดยังไม่ทันจบเรื่องหมวดเต้ยขำก๊ากอย่างเดียว พ่อผู้หมวดก็อดแทบไม่ไหวนั่งขำไหล่สั่นระริก

“ฮ่าๆๆๆๆๆ โอ๊ย ท้องแข็งเลยกู ฮ่าๆๆๆ แล้วมึงทำไงอ่ะ ฮ่าๆๆ”

“ผมนั่งมึนอยู่พักหนึ่ง จะให้ทำยังไงก็ไม่รู้หนทาง ผมเลยบอกไปว่า ‘โยมเตรียมดอกไม้ธูปเทียนมานะ ปัจจัยแล้วแต่โยมจะศรัทธา ให้โยมไปบนกับหลวงพ่อที่โบสถ์นะ ถ้าสมหวังก็ให้มาถือศีล ๘ ที่วัดสัก ๗ วัน แล้วก็ตั้งใจทำบุญทำทานตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพราะลูกที่ขอจากพระนี่เป็นคนที่มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่’ ผมพูดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน โยมก็เชื่อตามผม เอาดอกไม้ธูปเทียน ผมจึงพาไปทำพิธี ไม่รู้คนอื่นบนวิธีไหนได้แต่แนะนำแบบขอไปที เรียกว่ามั่วพิธีมาก ให้ศีลให้พรแล้วให้ทั้งคู่อธิษฐาน”

“ตกลงแล้วได้ลูกป่ะ”พ่อผู้หมวดถาม

“ได้ครับ หลังจากวันนั้นน่าจะ ๒ เดือนกว่าๆ ทั้งคู่มาหาผมที่วัด มาถือศีล ร้องไห้ดีใจกับผมยกใหญ่ เมียเขานี่แทบจะกระโดดกอดผม ดีที่ผมยืนห่างๆ ไม่งั้นเสร็จหน้าแข้งผัวมันแน่ ที่จริงผมไม่คิดว่าจะได้ผลหรอกครับ แค่ทำให้โยมเขาสบายใจ จากนั้นพอข่าวนี้แพร่ออกไปมีหลายคู่มาขอบนลูกกับเขาบ้าง สมหวังบ้าง ผิดหวังบ้าง”

“เออ ของแบบนี้มันก็พูดยากนิดหนึ่งเนอะ อ้าว นี่จะตี ๒ แล้วนี่นา ป่ะๆ เข้านอนกัน พระนี้พ่อขอแล้วกันนะ”พ่อผู้หมวดหยิบเอาพระที่อยากได้ไป ๓ องค์

“ครับ”ผมยิ้มให้ จากนั้นปิดไฟล็อกบ้านแล้วนอนกัน

วันหยุดผมมาซ้อม วันทำงานผมก็ทำงานอยู่ที่กองร้อยเหมือนเดิม มาฮาเฮกับเพื่อนฝูง ล็อกลายังทยอยกลับไปกลับมาจนกว่าจะครบถ้วนหน้ากัน พอถึงวันทำงานไอ้บอมบ์กลับไปบ้าน ไปนอนกอดลูกแล้วมั้งละป่านนี้แล้ว วันงานมาถึง งานใหญ่ดีครับ ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก โทรหาไอ้บอมบ์ โทรอีหนู หมวดบูม ไอ้ซัน เพื่อนที่เป็นครู โทรคุยกับพ่อแม่ที่บ้าน มาถึงช่วงที่ต้องแต่งหน้าทาปาก ผมอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว มานั่งรอเขาแต่งหน้า มีดาราและนายแบบหลายคน นางแบบจะเป็นอีกห้องครับ บางคนผมรู้สึกคุ้นหน้าว่าเคยเห็นทางหน้าจอทีวี ระหว่างรอผมเหลือบไปเจอนิตยสารเล่มหนึ่งเอามานั่งอ่าน โห รุนแรงมากเลยครับ เจ้าตัวที่โดนเอาไปเป็นข่าวเขาไม่รู้สึกรู้สาเลยรึไงนะ มีหลายคนที่เป็นข่าวนั่งอยู่ในนี้ด้วยครับ อ่านแล้วบางข่าวมันซอกแซกเกินไปป่ะวะ รู้แม้กระทั่งเรื่องบนเตียงของเขา คือมึงแอบไปดูเขาเย็บกันเมื่อไหร่วะ

นั่งรอไม่นานถึงคิวผมต้องแต่งหน้า เขามาปัดๆ เอาหมอยใครไม่รู้มาเป็นพู่กัน เอ๊ย อะไรนะ เอาขนสัตว์เหรอ ฮ่าๆๆ ผมคิดว่าเป็นหมอยซะอีก บางทีรู้สึกจั๊กจี้ แทบจะหลุดขำหลายครั้ง แต่งเสร็จแล้วเอาวะ ลองคาถาดูซิ ระหว่างที่รอพิธีกรหน้างานพูดต้อนรับแขก ผมแอบมานั่งทำสมาธิเงียบๆ แล้วถึงคิวที่ต้องออกไปโชว์ตัว ถึงช่วงที่ต้องส่งสายตา ผมพยายามเลียนแบบสายตาเจ้าชู้ของไอ้บอมบ์กวาดสายตาไปทั่วแล้วเดินกลับ ไม่รู้ผลเป็นยังไงนะครับ จากนั้นมาเปลี่ยนเป็นอีกชุด คราวนี้ใส่เครื่องเพชรนิลจินดาที่คิดว่าชาตินี้ทั้งชาติไม่คิดว่าจะได้ใส่ คราวนี้ไม่ส่งสายตาเจ้าชู้แต่ส่งสายตาแนวว่า หนูรักทุกคนนะคะ ฮ่าๆๆ ส่งสายตาหวานๆไปอ่ะครับ อย่าให้ผมเป็นตุ๊ดเป็นแต๋วเลย ดูท่าจะเอาชนะอีหนูไม่ไหว รอบที่ ๓ เป็นนาฬิกาประดับเพชครับ คราวนี้น่ะเหรอ ก็โปรยยิ้มไปทั่ว กว่าจะจบงานเกือบตี ๒ ครับ มีคนมาสัมภาษณ์เล็กๆน้อยๆ ไม่กล้าตอบอะไรมาก มองหาแม่ผู้หมวดด้วย กลัวจะพลัดหลง

จบงานสำคัญของแม่ผู้หมวดแล้ว ผมมานอนที่กองร้อย นอนได้ไม่ถึงสัปดาห์ดีเลยครับ แม่ผู้หมวดให้ไปถ่ายแบบ ถ่ายอยู่หลายวัน จนไอ้บอมบ์กลับเข้ามากรุงเทพ ผมเลยชวนมันถ่ายด้วย งานนี้เล่นเอาพี่ๆช่างถ่ายรูปและทีมงานร้อนๆหนาวๆ เพราะผมกับมัน นี่ไม่ได้หลงตัวเองนะ แอบได้ยินมาเหมือนกันว่าน่ากิน

ถ่ายรูปเสร็จมานั่งรอชมผลงานหลังวางแผง ผมรู้สึกเฉยๆ เลิกตื่นเต้นแล้วครับ ผลจะออกมาดีหรือไม่ดีแล้วแต่สังคมจะตัดสินแล้วกัน ในใจไม่อยากจะเด่นหรือดังในวงการมายาหรอกครับ อยากทำงานอื่นมากกว่า แต่ดูท่าไม่รู้จะยากหรือง่าย แม่หมวดเต้ยเล่นพูดไว้ ใครขัดใจแม่ไม่ได้

“เป็นไงผู้หมวด รูปผมเป็นไงบ้าง”แอบดอดมาหาผู้หมวดที่บ้านในยามค่ำคืน ขอจ่าเรียบร้อยแล้วครับ จ่ามาส่งที่ประตูหลังกองพันให้ผมแท็กซี่มาทำธุระเอง โกหกจ่าว่ามาธุระ เออ มันก็ธุระอ่ะแหละครับ ธุรกิจรักของสองเรา ถุย พูดเองจะอ้วกเอง

“อื้ม ก็ดูดีนะ”

“หล่อก็บอกมาเถอะ”

“อ้าว ทำไมต้องรอคนอื่นบอกด้วย ไม่รู้ตัวเองเหรอว่าหล่อ ชักจะมึนๆนะมึง”

“หูย ที่รักอ่ะ อยากได้กำลังใจจากที่รักไง”

“ก็ไม่เห็นจะหล่ออะไรนี่ คนอื่นๆหน้าตาดีกว่า”

“งั้นก็ดีแล้วละ ผมจะได้ไม่ต้องเข้าวงการ ไม่รู้จะพูดกับแม่ผู้หมวดยังไงนะเนี่ย ดูแม่ท่านอยากให้ผมเข้าวงการบันเทิงเสียเหลือเกิน คอยดูนะ พอเข้าวงการ มันต้องมีงาน แล้วต้องมีคำถาม ต้องมีข่าวกับคนนั้น หรือบางทีต้องมีคนตามสืบว่าไอ้นี่มันเป็นใคร เดี๋ยวคนก็ต้องเอาไปถามลับหลังให้เขาฟังธงว่าเป็นเกย์หรือไม่เป็นเกย์อีก เซ็งเลยอ่ะ”

“คิดเยอะไปไหม”

“ไม่เยอะนะ เนี่ย ไปอ่านข่าวพวกนี้มาอ่ะ ข่าวอะไรก็ไม่รู้เอาแต่นินทาชาวบ้าน ไอ้คนโดนนินทาก็ยังหน้าชื่นตาบาน ผมไม่ชอบเอาซะเลย อยากอยู่เงียบๆกับผู้หมวด ๒ คนมากกว่า ไม่ต้องเด่น ไม่ต้องดัง อยู่แค่เรา ๒ คน เนอะๆ”

“หึหึ มันต้องแลกไม่ใช่เหรอ บางทีชื่อเสียงเราอาจจะเละบ้างไม่เละบ้างแต่มันก็ทำให้เราได้งาน มีเงินใช้สบายกระเป๋า ไม่ชอบเหรอมีเงินเยอะๆ จะใช้สอยอะไรก็จ่ายได้ไม่ต้องมานั่งคิดนั่งวางแผนว่ามันจะพอจ่ายหรือในกระเป๋าตังค์เรามีเท่าไหร่”

“โนๆ ไม่เอาหรอกครับแบบนั้นอ่ะ รวยยังไงแต่เป็นขี้ปากเขานี่ไม่เอาด้วยหรอก สู้อยู่เงียบๆ โจทก์น้อยๆดีกว่า”

“พูดเหมือนจะไปมีเรื่องกับใคร”

“เผื่อมีไงครับ”

“เดี๋ยวมึงดังก็จะมีคนรักมึง ไม่ใช่คนทั้งโลกเขาจะเกลียดมึงนี่ มีคนรักมีคนชอบ”

“เออว่ะ เผื่อมีคนมาขอลายเซ็น มาขอกอดเรา มายืนข้างเราแล้วถ่ายรูปให้เราโอบไหล่เขา เขามาขอเบอร์เรา มาขอเฟส มาขอเมล์ติดต่องานกับเรา  เราแอบคุยกัน สุดท้ายเขาอาจจะอยากได้เรา อาจจะข้อความมานัดเราไปหาที่สวีท แล้วเราก็ได้กัน น้ำแตกแยกทาง คงจะดีเนอะ”

“กูว่าไม่ดี ไม่ต้องไปเป็นหรอกไอ้เหี้ยนายแบบอ่ะ อยู่เงียบๆ เดี๋ยวกูไปคุยกับแม่ให้”หึหึ สะกิดต่อมขี้หึงพี่แกนิดหน่อยเป็นอันใช้ได้

“หึหึ ไหนว่าอยากให้เป็นอ่ะ มันดีไม่ใช่เหรอ มีข่าวนิดหน่อยพอเป็นกระษัยให้เรายังมีชื่อเสียงในวงการ”

“มึงอย่าเพ้อ เดี๋ยวกูไปเคลียร์กับแม่ กูหวงมึง ไอ้สัส”

“หึหึ น่ารักแบบนี้ ใครจะกล้าทำแบบนั้นอ่ะที่รัก รักผู้หมวดนะ จุ๊บกันก่อน เดี๋ยวคนอื่นแย่งจุ๊บจะเสียดายทีหลังเอานา”

“ไม่มีทางอ่ะ กูไม่ยอม มาก่อนมาหลังก็ไม่มีสิทธิ์ คนที่มีสิทธิ์คนเดียวคือกู”

โอเค ที่รักไม่ยอมครับ งั้นผมยอมที่รักก่อนนะ ให้จินตนาการไปว่าตอนนี้ใบหน้าผมกำลังซบลงจูบกับริมฝีปากงามได้รูปแล้วกล้องๆค่อยๆจับมาที่ริมฝีปาก แดงก่ำ ดูอวบริม เหนือริมฝีปากมีตอหนวดขึ้นมาเขียวๆจากนั้นจับมาที่จมูกโด่งเป็นสันไม่ผ่านมีดหมอ ดวงตาออกจะตี๋นิดหน่อย ลูกตาสีดำขลับมีประกายสดใสอยู่ในนั้น ใบหน้าทั้งหมด มันช่างขาวเนียน มองไม่เห็นรูขุมขน แก้มออกแดงระเรื่อ เราจูบกันดูดดื่ม จูบด้วยความสิเน่หา ความเอิบอิ่มในอารมณ์รักที่เรามีต่อกัน  เสื้อกล้ามสีขาวถูกเลิกขึ้นมากองที่หน้าอก ยอดอกสีชมพูมีรอยแผลจางๆจากการฝึก

 ไอ้สัส

แล้วกล้องเสือกหงายหลัง พลิกไปจับภาพที่โคมไฟระย้าซึ่งห้อยอยู่ที่เพดาน...... ขอสวีทกับที่รักก่อนนะ






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด