ตอนที่ ๘๐ ความเชื่อใจ ครึ่งหลัง
เกือบตี ๒ แล้วที่ผมได้นอนหลับแบบหลับสนิทจริงๆ พอหลับไปก็ทะลึ่งฝันเจอเจ้ากุมารทองยิ้มหน้าแป้นแล้วนั่งบนตัก ไม่พูดอะไรแต่ยังยิ้มดีอกดีใจบนตักของผม ผมก็นั่งกอดเขาแล้วยิ้ม เออ เอ็งนะเอ็ง มาหาพ่อจนได้ ช่วงเช้ามาผมตื่นสายหน่อย ส่วนบอมบ์เล็กกับบาสนี่ตื่นแต่เช้าแล้วก็จัดข้าวจัดของ
“เป็นไงบ้างเมื่อคืน หลับสบายดีไหม”ผมถามระหว่างที่พี่น้องกำลังกุลีกุจอแยกของว่าส่วนไหนเป็นของใคร
“ก็โอเคดีครับ หลับๆตื่นๆ แต่เจ๊นี่ดิ คงนอนไม่หลับ”
“อื้ม ก็เจ็บหนักกว่าเขานี่ แต่ไม่เป็นไร ยิ้มสู้เว้ยน้อง”
“ครับ”
ผมกลับไปที่บ้านพี่เบิ้ล ไอ้มหากลับบ้านยังแต่เย็นวานแล้วนะครับ เห็นว่าแม่มันไม่ค่อยสบายเลยไม่ได้บอกผมก่อน ผมก็โทรไปเล่าให้มันฟังถึงเรื่องราวของตัวเองแล้วถามเรื่องแม่ของมันด้วย ก็โอเคไม่มีอะไรมากครับ จนประมาณสักเกือบๆ ๑๐ โมง ไอ้กลางก็ขับรถมาถึงบ้านพี่เบิ้ล พาแม่กับลูกผมมานั่นเอง
“เด็กๆอยู่ไหนกันเหรอบอมบ์ เรียกมาหาแม่หน่อยซิ”แม่ผมมาถึงก็ถามหา ๓ คนพี่น้องเลยครับ
“อยู่อีกบ้านอ่ะแม่ เฮ้ ตัวเล็ก”
“อ๊า บำๆ เปาะๆ”
“ฟอดๆๆๆๆ คิดถึงจังเลย”อุ้มลูกซ้ายขวาหันหน้าหอมแก้มคนโตทีคนเล็กที เจ้าลูกชายก็หัวเราะคิกคัก
“คิกๆๆๆ”
“ไงเรา อยู่บ้านคงจะซนน่าดูล่ะสิ ย่าบ่นให้พ่อฟังทุกวันเลย”คุยกับลูกชายดวงตาใสแจ๋ว ตั้งใจฟังผมพูด
“ซนเหมือนพ่อมันนั่นแหละ”
“อ้าว แม่ แทนที่จะเข้าข้างลูกนะ”ผมทำหน้างอใส่แม่
หยอกกับลูกครู่หนึ่งจากนั้นจึงขับรถพาแม่ไปที่บ้านใหม่ครับ ไปถึง ๓ พี่น้องเพิ่งจะได้กินข้าว บิวยังหน้าตาบวมๆอยู่ พอผมเข้าไปในบ้านเจ้าตัวเล็กนี่รีบไถลลงจะเดินเอง
“อ๊า เมย์”เจ้าแสบส่งเสียง เห็นผู้หญิงคนไหนก็เรียกว่าเมย์ตลอดเลยครับ
“ไม่ใช่พี่เมย์ลูก พี่บิว”
“บี”ทวนคำพูดแล้วหันมาทำหน้าเป็นหมางงใส่ผม
“ครับ พี่บิว”
“หนูบิวเหรอลูก เออ หมดเคราะห์หมดโศกแล้วละลูกเอ๊ย เอ ไหนละ พระที่หลวงพี่ฝากมา กลาง ย่าเอากระเป๋าตังค์ไว้ไหนแล้วละลูก”แม่มองซ้ายมองขวา คงจะหาตะกร้าหมากละมั้ง ไปไหนนี่ติดตัวตลอด
“ลืมไว้ที่บ้านหรือเปล่าย่า”
“เอ ย่าว่าย่าเอามานะ”
“แมะ”เจ้าแสบร้องเสียงดังแล้วชูกระเป๋าใบเล็กๆขึ้น
“อ้าว ไปล้วงตังค์ย่าเมื่อไหร่อ่ะหืม ไอ้ตัวแสบ”
“คิกๆๆ”
“เอามาให้ย่ามาลูกมา”
“เป็นเด็กไม่ดีแต่เด็กเลยนะเอ็ง”ผมตีมือลูกชายเบาๆ เจ้าลูกชายยื่นกระเป๋าตังค์ให้แม่ผมคืน “ทีหลังไม่เล่นแบบนี้อีกแล้วนะ ไม่งั้นพ่อตีนะ”ผมพูดกับลูกชาย เจ้าตัวเล็กทำตาแป๋วเหมือนจะเข้าใจ
“อยู่บ้านก็งี้แหละ ล้วงตรงนั้น จับตรงนี้ รื้อข้าวรื้อของเต็มบ้านไปหมด ซนยิ่งกว่าลิงเสียอีก อ่ะ นี่หลวงพี่ฝากมา บอกให้แม่มารับขวัญหลาน”
“หลวงพ่อรู้ด้วยเหรอแม่”
“แม่ก็ไม่รู้สิ เมื่อวานแม่ไปทำบุญ หลวงพี่ก็บอกว่าบ่ายๆให้เตรียมตัวเข้ากรุงเทพ ไปรับขวัญหลานหน่อย แล้วก็ให้พระมา พอตอนบ่ายเจ้ากลางก็มารับแม่ เบิ้ลก็โทรมาให้แม่ลงมากรุงเทพ อ่ะ หนู มานี่มา ห้อยพระองค์นี้ไว้นะลูกนะ มา เดี๋ยวย่าผูกแขนรับขวัญ มาเอ๊ยขวัญมา....”แม่ผมก็พูดอะไรไม่รู้มุบมิบเป็นอีกภาษา “เอาละ หลวงพ่อบอกว่าหมดเคราะห์หมดโศกแล้วละ ต่อไปมีแต่จะดีขึ้น ดีวันดีคืน อย่ากังวลนะลูกนะ”
“ค่ะ”บิวน้ำตาไหลอาบแก้มอีกครั้ง
“บี”เจ้าซ่าเรียกชื่อแล้วไปยืนใกล้ๆบิวแล้วค่อยๆเอานิ้วจิ้มที่หัวไหล่ “เปาะ”แล้วก็หันมาเรียกผม
“ครับ โอ๋พี่บิวหน่อยสิลูก พี่บิวกำลังเสียใจ”
“บี”เจ้าแสบไปยืนใกล้ๆอีกคน
ส่วนแม่ผมก็เอาด้ายมาผูกข้อมือของบอมบ์เล็กกับบาสแล้วก็อวยพร จากนั้นผมก็แนะนำแม่ผมอย่างเป็นทางการอีกครั้ง พร้อมกับแนะนำเจ้าลูกชายตัวแสบ เจ้า ๒ ลิงตอนนี้ก็กำลังปลอบบิวอยู่ครับ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแปบเดียวก็เห็นรอยยิ้มจางๆของบิวยิ้มออกมา เออ ดูสิพ่อมันปลอบตั้งแต่เมื่อวานยังหน้าบูดหน้าบวมอยู่เลย นี่มาแปบเดียวเรียกรอยยิ้มได้ซะแล้ว
“เปาะ”เจ้าแสบเดินไปหอบหนังสือการ์ตูนมาแล้วโยนใส่ตักผม
“ไงลูก”
“บำๆ”นั่งลงบนตักผมแล้วจิ้มไปที่หนังสือการ์ตูน
“จะให้พ่อทำอะไรเหรอ”
“อ่า บำๆ”แล้วก็หยิบหนังสือการ์ตูนมาฟาดที่หน้าอกผมที
“อุย ทำไมรุนแรงกับพ่อจัง หืม”
“น้องน่ารักดีนะพี่บอมบ์”บอมบ์เล็กยิ้มให้กับความทะเล้นของเจ้าแสบ
เปิดหนังสือการ์ตูนอ่านให้ลูกชายฟัง เจ้าซ่ารีบวิ่งเข้ามานั่งแทรกที่ตักผมอีกข้างหนึ่งแล้วทั้งคู่ก็นั่งฟังตาแป๋ว ชี้ที่ตัวการ์ตูนบ้าง ผมก็ไม่รู้ว่าลูกจะสื่ออะไรก็เลยเล่าเรื่องของตัวการ์ตูนให้ฟังครับ ผมนั่งอ่านให้ฟังตั้งแต่หน้าแรกยันหน้าสุดท้าย ร่วมชั่วโมงกว่าๆครับ เพราะไม่ได้อ่านแค่เนื้อหาอย่างเดียว โม้ให้ลูกฟังด้วย เจ้าตัวเล็กก็นิ่งดีครับ ตั้งอกตั้งใจไม่วอกแวก
“อยู่บ้านก็งี้แหละ ไปหยิบหนังสือให้แม่อ่านให้ฟัง แม่ก็แก่แล้วอ่านถูกๆผิดๆ ไอ้เจ้าอะไรไม่รู้ทอนิกส์ทอเนกส์อะไรนั่นน่ะ”
“เอาหนังสือของบอมบ์มาอ่านเหรอแม่”
“อือ ไปอุ้มมากัน ๒ พี่น้องเล่มหนาปึ้กให้แม่อ่านให้ฟัง แม่จะอ่านหนังสือของแม่ให้ฟังก็ไม่เอา อ่านถูกๆผิดๆ”
“หื้อ แสบสมชื่อจริงๆเลย”ลูบหัวลูกชายด้วยความเอ็นดูหนึ่งที พอการ์ตูนจบแล้วก็วิ่งแจ้นไปหยิบจับข้าวของวุ่นกันทั่วบ้าน
ตกเย็นมาไอ้พี่ชายตัวดีจอมติดน้องก็แจ้นทั้งๆที่ไม่ได้ถอดเครื่องแบบเลยครับ ไอ้ภีมมาถึงก่อนไอ้ภูมิแค่ ๑๐ นาที มาถึงไม่ถามหาย่าหายาย ไม่ถามหาผมหรือถามเรื่องผมรถคว่ำ
“ตัวเล็ก มาเมื่อไหร่ มาให้พี่ภีมกอดหน่อย”หมดคราบร้อยโทหน้าหล่อที่แสนจะเข้มแข็ง ถอดรองเท้ากระจัดกระจายแล้ววิ่งสไลด์เข้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงเจ้า ๒ ลิง “คิดถึงว่ะ หอมแก้มที”มันหอมแก้มลูกชายไปหลายฟอด
“ครั้งเดียวก็ได้มั้งภีม เดี๋ยวลูกกูโตไปจะกลายเป็นตุ๊ดเอา”
“อ๊า บีๆ”เจ้าแสบยิ้มกว้าง
“หอมแก้มพี่ภีมหน่อยสิ”ไอ้ภีมยื่นหน้า เจ้าลูกชายก็ว่าง่ายครับยื่นหน้าไปหอมแก้ม แล้วก็เอานิ้วจิ้มที่คอจึ้กๆ
“ย่าสวัสดีครับ คิดถึงย่า”วางลูกชายผมลงแล้วไปกอดแม่ผม หอมแก้มทีหนึ่ง
“อื้อ หอมแก้มเหี่ยวๆแห้งๆแบบย่ามันจะได้อะไรล่ะลูก”
“จะเหี่ยวจะยานก็หอมอ่ะย่า อาบอมบ์ กอดที”แล้วมันก็โผมากอดผม
“เอ๊ ลูกหลานย่านี่กี่ขวบกันแล้วนี่ ยังกอดยังหอมเหมือนเด็กๆ”แม่ผมพูดหยอก ญาติๆเราก็แบบนี้แหละครับ กอดกัน รักกัน กลมเกลียวกัน ไม่อายที่จะแสดงความรักต่อกัน เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสทำมันได้มากแค่ไหน
“ฟอด เปรี้ยวๆว่ะภีม”ผมหอมแก้มไอ้ภีม
“จะไม่เปรี้ยวได้ไง เพิ่งเลิกงาน เอ๊ย ตัวเล็ก อย่าแกะป้ายชื่อพี่ภีมเล่นสิ”
“อ๊า”เจ้าซ่าร้องแล้วยิ้มเขินๆ ไอ้ภีมปล่อยผมจากนั้นก็หันไปหยอกกับน้อง หยอกพักหนึ่งครับจากนั้นไอ้ภูมิก็มา มาถึงมันกอดแม่ผมก่อน แล้วก็รวบเจ้าตัวเล็กมากอดหอม
“เปาะ บู”เจ้าแสบหันมาเรียกผมแล้วเอานิ้วจิ้มที่แก้มไอ้ภูมิ
“อื้ม พี่ภูมิไง”
“อยากฟัดให้ตัวแบนไปเลย หื้ม ฟอดๆๆๆ”คลุกคลีตีโมงกันไปยกใหญ่ครับ ไอ้ภีมหันมาถามผมเรื่องรถคว่ำผมก็เล่าให้มันฟัง ที่จริงก็เล่าไปคร่าวๆแล้วละแต่เล่าอีกรอบ ส่วนไอ้ภีมนั่งหยอกน้อง อุ้ม แล้วจับเหวี่ยงซ้ายเหวี่ยงขวาไอ้ตัวเล็กก็ชอบใจหัวเราคิกคัก
“ภูมิ อย่าเล่นกับน้องแรงมากซิลูก เดี๋ยวคืนนี้น้องนอนละเมอหรอก”
“จริงเหรอย่า”
“ย่าลี้ยงหลานมาเป็น ๑๐ คนแล้วนะ ทำไมย่าจะไม่รู้ เจ้านี่ก็เหมือนกัน ชอบโลดโผน”
“คิกๆ”เจ้าตัวเล็กยังหัวเราะชอบใจ
“งั้นเล่นบอลกันไหม”ไอ้ภูมิหันไปถามความเห็นแฝดจอมป่วน
“บู”เจ้าแสบจิ้มนิ้วที่ดาวบ่นบ่าของพี่ชายแล้วพยายามจะแกะเล่น
“แอ๊ะ ทำอะไรอ่ะตัวเล็ก”ผมถาม เจ้าแสบทำตาโต แต่ก็ยังสนใจอยู่กับดาวบนบ่า เพียงแค่แปบเดียวก็หันไปสนใจอย่างอื่นแทน
“บู บี”เรียกชื่อไอ้ภูมิแล้วก็เดินไปที่บิว ไปจิ้มนิ้วที่ไหล่ของบิว
“คงจะแนะนำให้รู้จักล่ะสิ แหงล่ะ สนิทกันแล้วนี่”
“บี”
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผมภูมิ”ไอ้ภูมิแนะนำตัวเอง
“ค่ะ บิวค่ะ”บิวยังคงพูดน้อย
ผมเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่น้องภูมิ ภีมฟัง ส่วนเจ้าลูกชายไปโอ๋ไปเล่นกันบิวงุ้งงิ้ง เจ้าแสบหยิบหนังสือฟุตบอลของบอมบ์เล็กไปกางแล้วอ่านออกเสียงอ้อๆแอ้ๆให้บิวฟัง ส่วนเจ้าซ่าก็เดินไปเดินมา หยิบนั่นหยิบนี่มาเล่น ไปหยอกกับบอมบ์เล็กบ้าง บาสบ้าง ชอบไต่คนนู้นทีคนนี้ที
“ตัวเล็กอ่านจบแล้วเหรอ อ่านให้พี่ภีมฟังบ้างสิ”ไอ้ภีมเข้าไปกระแซะเจ้าตัวเล็กที่นั่งนิ่งๆ
“บี เปาะ บี”อะไรก็ไม่รู้ครับ เรียกผมแล้วก็ชี้ไปที่ไอ้ภีม
“อะไรตัวเล็ก จะให้พ่ออ่านให้พี่ภีมฟังเหรอ”
“อื้อ”พยักหน้าหงึกหงัก เฮ้ย มันรู้ประสาเว้ย
ตลอดหลายวัน ผมก็คอยอยู่ดูแล ๓ พี่น้อง วางแผน ก็คุยกับบิวได้มากขึ้น และบิวก็ร่าเริงมากขึ้นกว่าเดิม คงเพราะได้เจ้าแฝดจอมซนนี่ล่ะมั้ง แม่ผมเองก็ไปนอนที่บ้านลูกๆคนนี้คืนหนึ่ง คนนั้นคืนหนึ่ง นอนบ้านลูกครบแล้วก็ไปนอนบ้านหลาน ไปดูแลเหลน
“ตัวเล็กจะไปไหน ไม่เอาลูก พี่ๆเขาจะไปซื้อกับข้าว”เจ้าแสบเจ้าซ่าวิ่งตามบิวกับบาสที่จะออกไปด้านนอก
“อ๊า บำๆ”ไม่ยอมครับจะไปท่าเดียว
“ไม่เป็นไรพี่บอมบ์ เดี๋ยวบาสอุ้มเอง”
“บายๆ”ยกมือโบกบายๆใส่ผมอีกเหมือนจะเยาะเย้ยที่พ่อมันห้ามไม่ได้ เฮ้อ ซนจังเลยนะเอ็ง