ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร ปีสองของสองคน ๒๐๐๑๒๕๖๓ ตอนที่๑๔/๒ หน้า๑๓๒
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ดีแล้วทูนหัวมีผัวเป็นทหาร ปีสองของสองคน ๒๐๐๑๒๕๖๓ ตอนที่๑๔/๒ หน้า๑๓๒  (อ่าน 1221317 ครั้ง)

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
เกิดเป็นเมียมหานี่น่าภูมิใจจริงๆ

ออฟไลน์ AMMY★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
นี่คือที่มาของคำว่า มหาหื่น  :oo1:

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
ตอนที่ ๕๗ . ๒ เปรี้ยวหวาน

กว่าหมวดเต้ยจะมาผมก็ถูกเด็กๆลากไปนั่งกินไอติมซะแล้ว ที่จริงผมก็อิ่มแล้วนะแต่ทำไงได้ โดนพวกมากลากเข้าไปก็เลยต้องนั่งด้วย เด็กๆเย้วๆกันดีครับ ส่วนใหญ่คือลูกของคนมีเงินทั้งนั้น เกิดมาพร้อมกับกองเงินกองทองความสะดวกสบายเลยไม่คิดอะไรมาก ไอ้ครั้นผมจะพูดอะไรมากเกินไปกว่านั้นเดี๋ยวเด็กไม่เข้าใจเลยนั่งยิ้มเหมือนคนบ้า

หมวดเต้ยกับหมวดบูมเดินมาหาผมพร้อมกับในมือถือถุงกระดาษซึ่งคงจะซื้ออะไรหลายชิ้นแน่เลย น้องไปป์เห็น ๒ หมวดก็ทักทายแล้วชวนคุยกันเย้วๆอยู่พักหนึ่งจึงได้แยกย้ายสลายตัว ขับรถไปส่งหมวดบูมที่บ้านแล้วก็กลับมาสู่รังรัก ฮ่าๆๆ

“ลองกางเกงดูสิตวง กูซื้อมาให้ตัวหนึ่ง”

“อ้าว ซื้อให้ทำไมอ่ะครับ ผมมีเวลาใสที่ไหนล่ะ”

“เออน่า มีเวลา ไม่มีเวลาก็ช่างเหอะ ลองดูก่อน หรือว่ามึงจะแก้ผ้าตลอดชีวิตวะ ถึงไม่อยากใส่เสื้อผ้า”

“จะแก้ผ้าตอนที่อยู่กับผู้หมวด ๒ คนเท่านั้นแหละ ดูท่าจะแพงนะผู้หมวด แล้วรู้ได้ไงว่าผมใส่ได้หรือไม่ได้”

“ถุย ไอ้หมา นอนกอดกันมากี่คืนแล้วทำไมกูจะไม่รู้ เอวมึงเอวกูเท่ากันไม่ใช่เหรอ”

“เออ จริงว่ะ หอมแก้มที”ยื่นหน้าไปหอมแก้มที่รักหนึ่งทีแล้วลองกางเกงยีนส์ ที่จริงผมก็ไม่ค่อยจะรู้หรอกว่าอะไรเท่ไม่เท่ ขอแค่ใส่ได้ก็พอ “เป็นไงครับผู้หมวด”

“อือ มึงหล่อว่ะมหา กูชักจะหวงมึงขึ้นมาตงิดๆ นี่ถ้ามึงไปแบบครึ่งท่อนแบบนี้นะ สาวๆร้องแรกแหกกระเชิงวิ่งตามมึงแน่ๆเลย”คือผมเปลือยท่อนบนนะครับแล้วมันก็มองเห็นซิกแพคบางๆ

“งั้นผมไม่ใส่ดีกว่า ใส่แบบนี้แล้ววุ่นวาย เอาแบบง่ายๆ ให้ผู้หมวดหลงผมคนเดียวก็พอ”

“ถุย อย่ามาเวอร์ใส่กู”

“อ้าว ก็พูดจริงนี่นา ที่จริงผมก็ไม่ค่อยอยากจะเป็นจุดเด่นเท่าไหร่นะ ดูอย่างไปเดินห้างดิ บางคนก็มอง บางคนก็ยิ้มให้ บางคนก็ส่งสายตา มาดีก็ว่าไปอย่างแต่ไอ้พวกที่จ้องเหมือนจะกลืนกินไปทั้งลำไส้นี่สิ บรึ๋ย เออ เอางี้ดีไหม เดี๋ยวผมไปสกรีนเสื้อดีกว่า ผมจะสกรีนคำว่า มีเมียแล้ว เมียหวงมาก อืม อันนี้สกรีนด้านหน้า ส่วนด้านหลังก็เป็น ไม่กล้าลองดีกับบารมีของเมีย ปล. รักเมียที่สุดในโลก ฮ่าๆๆ เอาแบบนี้ดีกว่า”

“แน่จริงก็ทำดิ กูกลัวว่ามึงจะไม่แน่”

“ถ้าผมทำจริง ผมได้อะไร”

“ไม่รู้ดิ อะไรของกูทุกอย่างก็เป็นของมึงแล้วนี่”

“เออ ใช่ๆ เอ้อ เรามาหวานกันดีกว่า มานี่เลยที่รัก อยากทำมานานแล้ว แต่ลืม”

“อะไร”หมวดเต้ยทำหน้างงแต่ยอมเดินมาใกล้ๆ

“เอ่อ จริงๆผมก็ไม่รู้ว่าจะโรแมนติคยังไงนะ เอาแบบนี้แล้วกัน ดิบๆ คือ เนอะ ก็เรารักกันอ่ะ ได้กันมาตั้งหลายทีแล้ว ก็แบบว่า แฮะๆ วุ้ย กูเขินว่ะ ขอจูบแก้เขินก่อน”หมวดเต้ยยังทำหน้างงไปใหญ่แต่ยอมให้ผมจูบแต่โดยดี

“ทำอะไรวะ”พอผละจูบออกมาแล้วหมวดเต้ยยังทำหน้างงต่อไปอีก

“คือว่า เพราะโชคชะตา เพราะเวรกรรม หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ผมได้พบกับผู้หมวด แล้วกลายเป็นคนรักกัน ผมอยากจะให้สิ่งแทนใจ มันอาจจะไม่มีค่ามากเท่าไหร่ แต่ครั้งหนึ่งในชีวิตลูกผู้ชายที่รับใช้ชาติ ได้สิ่งนี้มาเป็นสิ่งที่เรียกกันว่าแหวนรุ่น ผมขอมอบแหวนรุ่นวงนี้ให้กับผู้หมวด นะครับ”ผมถอดแหวนรุ่นซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของพวกผมที่ฝ่าฟันอุปสรรคกันมาตลอดระยะเวลา ๒ เดือนกว่าๆที่เราเป็นทหารใหม่ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเราผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านการโดนแดก ผ่านการถูกอบรม ผ่านการฝึกจนมาเป็นทหารได้

“ใส่ให้หน่อยสิ”ผู้หมวดยื่นนิ้วนางมาให้ผม

“ก็ ผมรักผู้หมวดนะครับ มันอาจจะไม่ได้โรแมนติดเหมือนหนัง แต่ผมอยากให้ผู้หมวด มันอาจจะฉุกละหุกไม่ทันตั้งตัวแต่ผมก็ไม่อยากจะให้ไม่มีโอกาสแบบนี้ จุ๊บ โคตรรักเลยว่ะ”ผมจูบที่นิ้วมือ หมวดเต้ยหน้าแดง ที่จริงหน้าดำต่างหาก แต่อนุโลมครับ

“อืม กูเป็นของมึงทั้งตัวและหัวใจแล้ว แล้วมึงล่ะ เป็นของกูทั้งตัวและหัวใจหรือเปล่า”

“ตอบแบบไม่คิดว่า เป็นครับ”ผมยิ้มกว้าง

“อ่ะ งั้นกูก็จะให้ของกูบ้าง กูเหนื่อยเพื่อที่จะได้สิ่งนี้มา มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่กูบากบั่นกว่าจะได้มันมา มันเป็นตัวแทนอะไรหลายๆอย่างที่แสดงถึงความเป็นกู กูพูดไม่เพราะ ห้วนๆ แต่ออกมาจากใจกู กูรักมึงนะ ไอ้หมาหน้ามึน”หมวดเต้ยสวมแหวนที่นิ้วนางของผมบ้าง เป็นแหวนรุ่นครับซึ่งผมว่ามันมีค่ามากที่สุด ผมไม่กล้าที่จะรับไว้

“มันมากไปไหมอ่ะครับผู้หมวด กว่าผู้หมวดจะได้แหวนวงนี้มามันยากลำบากนะครับ”

“อือ สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่กูจะให้มึงดูแลนอกจากหัวใจกู ก็คือแหวนวงนี้แหละ”หมวดเต้ยสวมแหวนให้ผมจนสุดนิ้วจากนั้นเราก็จูบกัน จูบแบบอ้อยอิ่ง เบาๆ เคลิ้มๆ โลกสีชมพูเลยครับ แหวนที่ผมให้หมวดเต้ยเป็นแหวนรุ่นของผมเอง ซึ่งพอฝึกเสร็จก็จะมีให้สั่งครับ ผมสั่งเป็นแหวนเงินแท้ฝังทับทิม แพงเอาการอยู่เหมือนกัน ตอนสั่งนี่กัดฟันสั่งสุดๆเลยครับ แต่เพราะไอ้บอมบ์มันยุ ผมก็เลยเอาวะ เอาก็เอา อยากได้ของดีที่สุดก็ต้องแพงหน่อย พอได้มาก็รู้สึกว่าคุ้มค่า ลายมันเหมือนกันกับราคาที่ต่ำกว่านี้ก็จริง แต่ว่ามันสวยกว่า ส่วนแหวนของหมวดเต้ยนี่น่าจะเป็นแหวนเงินเหมือนกันครับ สวยมาก

พอคลายจากอ้อมกอดของกันและกัน หมวดเต้ยถอดเสื้อผ้าเหลือกางเกงในตัวเดียวแล้วเดินไปหยิบกางเกงขาสั้นมาใส่ พี่แกจะออกกำลังกาย ส่วนผมก็เอาข้าวของไปเก็บแล้วปัดกวาดนิดหน่อยครับ แล้วลงไปวอร์มกับผู้หวดไม่กี่ท่า พอให้เหงื่อออกจึงเข้าไปอาบน้ำพร้อมกัน ๒ คน ผลัดกันถูขี้ไคล บรรยากาศดีมากเลยครับ อากาศดีแบบนี้เลยปี้กันซะ ๒ ดอก ฮ่าๆๆ

ตื่นเช้ามาผมรีดชุดพรางกับชุดอ่อนให้หมวดเต้ย ไม่รู้พี่แกจะใส่ชุดไหนไปครับ ขัดรองเท้าทั้งคอมแบทและคัทชูจนมันวาบ ประมาณสัก ๖ โมงครึ่งผมจึงปลุกผู้หมวดให้ไปอาบน้ำ ส่วนผมไปซื้อของกิน ๗ โมงหมวดเต้ยไปทำงานแล้ว ผมอยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวเอกา จะว่าไปผู้หมวดก็ไม่ได้หยุดเต็มที่นะครับเพราะต้องไปเคลียร์ข้าวของหลังการฝึก เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ต้องเข้าเวรเท่านั้นเอง อยู่บ้านคนเดียวแล้วเหงา ไม่มีอะไรทำ สักครู่ไอ้น้องมิวโทรมาครับ ชวนผมไปมหาลัยของมัน ผมไม่ได้ตอบตกลงในทันทีแต่โทรไปขออนุญาตที่รักก่อน หมวดเต้ยโอเค ผมเลยโทรไปตอบตกลงว่าจะไปป่วนมหาลัยกับน้องมันด้วย ผมใส่ยีนส์ที่หมวดเต้ยซื้อให้กับเสื้อกล้ามสีขาว รองเท้าผ้าใบ ของหมวดเต้ยทั้งนั้นแหละครับ พี่ตวงตัวเปล่าเล่าเปลือย มีแค่หมอยกับรอยยิ้มหวานๆแค่นั้นเอง ล็อกบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินไปบ้านน้องมิว

“ไปแบบนี้เลยดิพี่ โคตรเท่”มันยิ้มให้ผมพลางยื่นเสื้อเชิ้ตสีขาวล้วนมาให้ ผมรับมาใส่ แต่แอบงงนิดหนึ่งว่าทำไมต้องพับแขนด้วย ไม่ปล่อยให้เป็นแขนยาวไปเลย ถ้างั้นก็ใส่แขนสั้นไปสิ “ผมว่าพี่ต้องฮอตแน่ๆ”

“ฮอตอะไรวะน้อง หัวเกรียน หน้าดำ หน้าตาห่วยแตกแบบนี้ มองตูดหมาดีกว่ามองหน้าพี่ว่ะ”

“แต่ผมว่าพี่โคตรหล่อเลยว่ะ แม่ง สเปค ป่ะพี่”น้องมันขับรถยนต์ไปครับ ระหว่างทางผมก็คุยเรื่อยเปื่อย บ้านหลังนี้แม่มันซื้อให้เป็นบ้านส่วนตัว ส่วนรถยนต์ก็เป็นของขวัญวันเกิด ไม่ต้องสืบให้ยากว่าบ้านรวยแค่ไหน ซื้อให้แบบไม่ต้องผ่อนไม่ต้องคิดมากแบบนี้ เป็นลูกคนรวยมีเงินถุงเงินถังกองเต็มบ้านชัวร์ เกือบชั่วโมงที่เดินทางมามหาลัย เอารถไปจอดที่อาคารจอดรถ ตื่นเต้นว่ะ ไม่เคยเห็นสถานที่แบบนี้ ผมเคยคิดนะว่าสักวันผมจะได้มาเรียนมหาลัยแบบนี้บ้าง นี่แค่ได้มาเยี่ยมเยียนก็ดีใจมากแล้วครับ

“โหล เออ มึงอยู่ไหน อือ กูเพิ่งมาถึง ยังว่ะ เออ เจอกันที่เดิม”น้องมันคุยโทรศัพท์ส่วนผมเดินตามหลังต้อยๆ มองซ้ายขวา เจริญตาเจริญใจจริงเลยครับ อาคารสถานที่สวยงามมาก ต้นไม้ก็เยอะ เด็กๆก็แยะ “ไปกินข้าวก่อนนะพี่ เพื่อนผมมันโทรมาตามละ”

“อือ”ผมพยักหน้าแล้วเดินตามหลังน้องมันไป ครู่หนึ่งมาถึงโรงอาหารคนเยอะพอสมควรครับ

“เฮ้ย เปิดตัวผัวใหม่เหรอไอ้มิว”พอเจอหน้าเขาทักกันแบบนี้เลยครับ ผมเองก็ตกใจดิ กูมีเมียคนเดียวเว้ย เมียน้อย เมียมากกูไม่มี ไม่คิดจะมีด้วย

“ผัวใหม่พ่อง นี่พี่กู วันนี้ว่างกูเลยชวนมาเปิดหูเปิดตา พี่กูชื่อตวง ส่วนนี่ไอ้ต้อม ไอ้แจ็ค ไอ้นิค แก้มบุ๋ม เชอรี่ อีวุ้น”ชาย ๓ หญิง ๒ ตุ๊ดอีก ๑ เออ กลุ่มใหญ่ดี

“หล่ออ่ะ มีแฟนยัง”น้องวุ้นถามผม

“แฟนไม่มี แต่เมียอ่ะมีแล้ว”

“หน้าตาแบบนี้ไม่ได้ตกถึงท้องมึงหรอกอีวุ้น อย่ามึงต้องยามหรือไม่ก็ช่างก่อสร้าง”เพื่อนร่วมกลุ่มแซว

“ฮ่าๆๆ”ขำขันก่อนจะไปสั่งอาหาร มีหลายร้านมากเลยครับ ทั้งข้าวราดแกงกับอาหารตามสั่ง ผมมาหยุดที่ร้านอาหารอีสาน แหม เปรี้ยวปากทันทีเลยครับ

“สั่งได้นะคะ”แม่ค้าพูดยิ้มแย้มแจ่มใส

“เอาขนมจีน น้ำยากะทิครับ”แม่ค้าจัดแจงให้ ผมหยิบผักใส่จาน จ่ายตังค์ พอหันหลังเจอร้านกวยจั๊บญวน สั่งไปอีกถ้วยหนึ่ง มือข้างหนึ่งถือขนมจีน มืออีกข้างถือกวยจั๊บร้อนๆ มาถึงที่นั่งบางคนก็มาแล้ว บางคนยังไม่มา นั่งรอสักครู่จึงมาครบทุกคน

“พี่แน่ใจเหรอว่าซื้อมากินอ่ะ”ไอ้มิวมองหน้างง

“อือ เห็นแล้วอดใจไม่ไหว ในกองพันหาของกินแบบนี้ยาก”ผมพยักหน้าพลางสาธยาย

“อ้าว พี่เป็นทหารเหรอ”น้องผู้หญิงถาม

“ใช่แล้ว เป็นทหารเกณฑ์น่ะ”

“เหนื่อยไหมพี่ เขาว่าโดนลงโทษหนักมาก”

“ไม่นะ มันเป็นช่วงอ่ะ มีเหนื่อยบ้าง มีผ่อนคลายบ้าง สนุกดี”เป็นทหารเป็นไม่ยากหรอกครับ อยู่ที่ใจล้วนๆ ดูอีหนูสิ มันเป็นตุ๊ดที่แกร่งมากเลยครับ เห็นมันอ้อนแอ้นวี้ดว้ายแบบนั้น มันก็ฝึกได้ดีไม่แพ้ผู้ชายทั้งแท่งนะครับ ซัดขนมจีนแล้วต่อด้วยกวยจั๊บ อิ่มแปล้เลยครับ

“พี่กินเยอะขนาดนี้ไม่เห็นจะอ้วนเลยเนอะ”

“ก็พี่เขาเป็นทหาร ออกกำลังกายทุกวันจะอ้วนได้ไง”

“พี่ว่าพี่อ้วนนะ ก่อนมาเป็นทหารน้ำหนัก ๖๐ ต้นๆ ตอนนี้ ๗๐ ปลายๆละมั้ง”กินเสร็จเอาจานมาซ้อนกันแล้วผมลุกเอาไปวาง น้องมันจะห้ามแต่ไม่ทันผมแล้วครับ โอกาสนี้ผมเลยมองพวกที่มานั่งกินข้าว มีแต่พวกหน้าตาขาวใสทั้งนั้นเลยครับ บางคนใส่เสื้อช้อป บางคนผูกไทด์ บางคนใส่ชุดวอร์ม พอมานั่งที่โต๊ะผมเลยมีโอกาสถาม น้องๆเขาก็บอกผมว่าพวกผู้ไทด์ส่วนใหญ่จะเป็นปี ๑ พวกใส่ช้อปเรียนวิศวะบ้าง หรือคณะวิทยาศาสตร์ และคณะที่เกี่ยวข้อง มีหลายคณะที่ใส่ช้อปและสีแตกต่างกันออกไป พวกใส่ชุดวอร์มมาเรียนจะเป็นพวกภาควิชาพละศึกษา เออ ได้ความรู้ใหม่ครับ จากนั้นน้องๆก็พาไปเรียน น้องๆบอกว่าไม่ใช่วิชาของคณะ เป็นวิชากลาง เขาไม่บังคับเช็คชื่อ ไม่ฟิคที่นั่ง เลยเข้าไปนั่งเนียนๆในห้องเรียน คือพวกผมเข้ามาสายสัก ๑๐ นาทีเห็นจะได้พอเปิดประตูเข้าไปก็มีแต่คนมอง โดยเฉพาะผมตัวสูงใหญ่กว่าใครในกลุ่มมันเด่นเป็นธรรมดา อาจารย์ไม่ได้ว่าอะไร เดินไปหาที่นั่งว่างๆแล้วนั่งฟังอาจารย์บรรยาย ผมมานั่งแบบจับต้นชนปลายไม่ถูกเท่าไหร่นัก พอฟังไปฟังมา อ๋อ วิชาปรัชญาเบื้องต้นนั่นเอง ผมเคยเรียนมาหมดแล้วและพอจะจำได้บ้าง

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
นั่งอยู่ ๓ ชั่วโมงเต็มจนเลิกคลาส น้องๆเขาลุกผมก็ลุกตาม เสียงพูดดังมากเลยครับ เมื่อกี้อาจารย์สอนบางคนก็คุยกันจนอาจารย์ปรามหลายครั้ง เรื่องคุยนี่ไม่เข้าใครออกใครจริงๆเลยครับ ตอนผมเรียนที่มหาลัยสงฆ์นะ อาจารย์โหดครับ ใครคุยกันนี่นิมนต์ออกไปด้านนอกเลย เพราะอาจารย์แกถือว่าแกมาสอน นิสิตต้องฟัง พอเปิดโอกาสให้ถามต้องถาม คือแกจะสอนแบบฝรั่งอ่ะครับ

“เป็นไงพี่”น้องมิวถาม ที่จริงระหว่างเรียนมันก็แอบถามผมหลายครั้ง มันกลัวผมจะเบื่อ แต่ผมกลับสนุกซะมากกว่า

“อือ ดีนะ แต่ขอพูดตรงๆนะ พี่ไม่ค่อยชอบที่มีคนคุยระหว่างอาจารย์สอนว่ะ”

“หนูก็เบื่อเหมือนกันแหละพี่ ไม่รู้ผีเจาะปากมันพูดหรือไง คุยได้คุยดี พอให้ถามกลับเงียบ ไม่มีใครกล้าถามสักคน แก้ไม่หายสักที”น้องผู้หญิงส่ายหน้า กลุ่มนี้เขาตั้งใจเรียนกันดีครับ เมื่อกี้สังเกตเห็นไม่มีใครคุยกันสักคน

“เด็กไทยก็แบบนี้แหละพี่ ไม่ว่าที่ไหน จะเงียบก็ตอนอาจารย์ดุ พออาจารย์ไม่ดุก็คุยแข่งกันเสียงดัง”น้องอีกคนพูด เดินลงบันไดมาด้านล่าง แปลกแฮะ ทำไมมีคนมองแต่กูวะ คือบางทีเดินผ่านหรือกำลังจะเดินไปแล้วชอบมีคนหันมามอง กูไม่ใช่ดารานะเว้ย เอ๊ะ หรือว่ากูเป็นสัตว์ประหลาด

“มิว พี่มีเขาบนหัวหรือมีนอบนหน้าป่ะวะ คนชอบมองแบบแปลกๆ”ผมถามไอ้น้องมิว

“ไม่มีนี่พี่ เห็นไหมผมบอกแล้วไม่เชื่อ ว่าพี่น่ะต้องฮอต”

“ไม่ไหวว่ะ เกิดมาไม่เคยถูกมองแบบนี้ อายเป็นเหมือนกัน”

“หน้าตาแบบพี่เป็นที่ต้องการของตลาดรู้ป่ะ”น้องอีกคนพูด เอ่อ ถ้าแบบนี้เกิดถูกลักพาตัวไปขายตลาดมืดจะทำไง เดินฝ่าดงนิสิตออกจากตัวอาคาร จากนั้นก็พาไปผมที่คณะ

“เฮ้ยๆ ไอ้มิวเปิดตัวผัวใหม่เว้ย”น้องวุ้นตะโกนเสียงดัง

“เหี้ยวุ้น พี่กูเสียหายนะมึง”ไอ้น้องมิวตบหัวน้องวุ้นไปทีหนึ่ง

“เฮ้ย เอาจริงอ่ะมิว แฟนใหม่มึงเหรอ”น้องที่นั่งอยู่ใต้ถุนถามเสียงดัง

“อย่าไปเชื่ออีวุ้นมัน นี่พี่กู มึงนะมึง ปากนี่น่าเอาส้นตีนยัด เก็บปากไว้กินข้าวดีกว่าไหม พูดเล่นไปเรื่อยเลย”น้องมิวดูท่าจะเคียดแค้นน้องวุ้นมากเลยครับ

“ตกลงว่าไงวะมิว แฟนมึงใช่ป่ะ”น้องคนเดิมถามย้ำ

“พี่กู มึงนี่หูเบาจริงๆ ขอโทษนะพี่ที่เสียมารยาท”

“เอ่อ ไม่เป็นไรน้อง ว่าแต่น้องเป็นเกย์เหรอ ทำไมพวกนี้ชอบแซวว่าพี่เป็นผัวน้องจังเลย”

“อือ ใช่ พี่รังเกียจผมไหม”แหม ไอ้สัส กูก็เกย์เหมือนมึงนี่แหละ

“ไม่ว่ะ”ผมตบไหล่น้องเบาๆ จากนั้นก็แนะนำตัวกับเพื่อนๆของน้อง พวกเรียนคณะนี้มีแต่พวกติสท์ทั้งนั้น บางคนผมเผ้ารุงรังไว้หนวดเครา บางคนก็ใส่เสื้อผ้าสีฉูดฉาด มีความเป็นตัวของตัวอีกสูง ผมเหมือนหลุดมาอยู่อีกโลกหนึ่ง

“ทำอะไรน้อง ให้พี่ช่วยไหม”ผมเห็นรุ่นน้องคนหนึ่งกำลังงกๆเงิ่นๆกับโครงไม้ คือจับเลื่อยยังไม่เป็นเลยครับ เห็นแล้วมันคันยุบยิบต้องออกปากช่วย

“จะเลื่อยไม้ทำเป็นโครงป้ายอ่ะครับ”น้องตอบแบบสุภาพ

“ออ มา งั้นพี่ช่วยดีกว่า”ผมรับเลื่อยมาแล้วก็เลื่อยตามเส้นที่น้องได้ขีดไว้ ทำงานช่างแล้วสนุกดีครับ ผมชอบ เลื่อยไม้หลายชิ้น อากาศก็ร้อน เหงื่อแตก กลัวเสื้อขาวเขาเลอะผมเลยถอดเสื้อขาววางบนโต๊ะ ผมไม่ได้เปลือยอกนะครับ ยังใส่เสื้อกล้ามอยู่

“พี่เป็นนักกีฬาเหรอครับ ทำไมสีผิวไม่เท่ากัน”น้องมันถามแบบหมางง

“เปล่าๆ พี่เป็นทหาร ตรงนี้ที่ดำๆเพราะตากแดด ส่วนตรงนี้มันอยู่ในร่มผ้า นี่ดูตรงคอพี่สิ เป็นรูปตัววี”ผมชี้ที่บริเวณคอและหน้าอกบางส่วนที่เป็นรูปตัววีตามลักษณะของคอเสื้อ คือเสื้อทหารจะเป็นเสื้อคอวีนะครับ แล้วมันก็จะดำเป็นรูปตัววี

“พี่เป็นทหารเหรอ ฝึกหนักไหมครับ เห็นเขาบอกว่าหนักมาก”

“ไม่หนักน้อง ชิวๆ”ที่หนักมันก็แทบกระอักเลือดแหละครับ แต่ขอโม้หน่อยเหอะ

“เหรอครับ แล้วนี่พี่ได้หยุดใช่ไหมครับ”

“อื้ม กองร้อยให้ลาพักน่ะ อ่ะ เสร็จแล้ว แล้วทำไงต่อ ต้องเอาสิ่วมาตอกเนื้อไม้ออกใช่ไหม มีสิ่วไหม”น้องวิ่งไปเอาสิ่วมา ผมตอกเอาเนื้อไม้ออกเพราะจะต้องประกบกับไม้ท่อนอื่นแล้วให้ไม้มันเสมอกัน

“น้ำครับ”น้องมันวิ่งเอาน้ำอัดลมมาให้ผม ผมรับแล้วยกกระดก

“มองอะไรอ่ะวุ้น”พอวางกระป๋องน้ำอัดลมลงพื้นน้องวุ้นมองผมแบบว่า สายตามึงเหมือนที่กูเคยมองหมวดเต้ยเลยว่ะ

“พี่เซ็กซี่มากเลย หล่ออ่ะ ไม่น่ามีรีบมีเมียเลย แต่ไม่เป็นไร หนูปลื้มพี่ พี่จะรับหนูไว้พิจารณาสักคนได้ไหม”

“หือ จะให้พี่พิจารณายังไงอ่ะ แบบพระพิจารณาผ้าบังสุกุลอ่ะเหรอ”

“ว้าย หนูคนนะคะ ไม่ใช่ศพ แต่พี่เซ็กซี่อ่ะ ดูสิ ชะนีน้อยใหญ่มองพี่เต็มเลย ดูคณะนู้นสิ มองพี่อ่ะ”น้องวุ้นชี้ไปอีกคณะใกล้ๆ เออ เห็นเห็นนั่งมองหลายคน เออ มองก็มองเหอะ เอาแล้วก็เอาอะไรเราไปไม่ได้ ผมทำงานช่างช่วยน้องต่อ เอาไม้มาประกบกันแล้วตอกตะปูจนได้โครงไม้ ๔ อันเสร็จเรียบร้อย

“พี่ ผมขอบคุณมากเลยนะครับ จะว่าอะไรมั้ยถ้าผมขออนุญาตเลี้ยงข้าวพี่เย็นนี้อ่ะครับ”น้องมันยกมือไหว้งามๆ

“เอ๊ย ไม่เป็นไรน้อง อย่าได้ถือว่าเป็นบุญคุณเลย มีอะไรเราช่วยเหลือกัน”ผมตบไหล่น้องเบาๆ

“แต่ว่าพี่ช่วยพวกผมตั้งเยอะ ถ้าไม่ได้พี่งานพวกผมคงไม่เสร็จ นะครับ ให้พวกผมเลี้ยงข้าวพี่นะ”น้องมันอ้อนวอน เอาไงดีวะกู ที่ทำไปก็ไม่ได้เห็นแก่กินนะครับ อยากช่วยอ่ะ มันคันมือเลยช่วย

“ไม่เป็นไรจริงๆน้อง”

“นะครับ ให้ผมเลี้ยงข้าวพี่นะครับ”

“เอ่อ เอาไงดี เดี๋ยวพี่ไปถามมิวก่อนนะ มิว น้องมันจะเลี้ยงข้าวพี่ว่ะ น้องจะกลับก่อนหรือกลับพร้อมกับพี่”

“ก็ไปด้วยกันเลยสิพี่ ไปกินข้าวพร้อมกัน แล้วกลับพร้อมกับผมเลย”

“โอเคน้อง แต่ไม่ต้องเลี้ยงพี่นะ ไปกินพร้อมกัน ร้อนว่ะ ขอเข้าห้องน้ำแปบนะ”ผมเดินไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา ก้มหน้ากวักน้ำล้างหน้า เงยหน้ามองกระจก

“นายเป็นแฟนใหม่มิวเหรอ”ไอ้หนุ่มหน้าตี๋หล่อๆคนหนึ่งถามผมเสียงเรียบเฉย หน้าตามึงคุณชายมากเลยว่ะ

“เปล่า เป็นพี่ อีกอย่างผมมีเมียแล้ว มีอะไรรึเปล่า”

“เหรอ แล้วผมจะเชื่อได้ไงว่านายไม่คิดจะเล่นหูเล่นตากับมิว”ไอ้นี่มาแปลกแฮะ กูบอกว่าเป็นพี่ก็คือพี่สิวะ ระแวงไปเรื่อย เป็นผัวน้องมิวมันรึไงวะ

“ผมไม่รู้หรอกนะว่านายจะเชื่อหรือไม่เชื่อ คือผมมีเมียแล้ว แล้วผมก็รักเมียของผมมากด้วย คุณคงเข้าใจนะครับว่าคนรักกันมันอารมณ์แบบไหน แล้วขอถามหน่อยเหอะ ถ้าเกิดผมจะเกาะแกะกับน้อง นายมีสิทธิ์อะไรมาห้ามผมล่ะ”

“ผมเป็นแฟนมิว มีสิทธิ์มากพอมั้ย”มันตอบหน้านิ่งๆ อ้าว

“เฮ้อ เอ่อ น้อง พี่ก็ไม่รู้ว่าน้องเป็นแฟนจริงหรือไม่จริงนะ แต่พี่ลูกผู้ชายพอ พี่พูดตามตรง น้องจะเชื่อไม่เชื่อเรื่องของน้อง แล้วถ้าน้องเป็นแฟนมิวจริง ทำไมดูไม่เหมือนแฟนกันเลย”

“เราทะเลาะกัน”

“เฮ้อ พี่ก็ไม่รู้นะว่าทะเลาะเรื่องอะไร แต่ว่าถ้ารักกันก็ไปคุยกัน หาเวลา หาโอกาสเหมาะคุยกันซะ พี่ไปละ”ผมเดินออกจากห้องน้ำด้วยความมึนงง อยู่ๆมาระแวงกูซะงั้น ทำอย่างกับว่ากูมีเวลามาป้อไอ้น้องมิวทั้งเดือนทั้งปีงั้นแหละ แค่กับเมียกู กูไม่ค่อยจะได้กอดได้หอมเลย

ผมออกมาข้างนอก ไอ้น้องหน้าตี๋คนนั้นเดินตามมาด้วยแล้วไปยืนค้ำหัวไอ้น้องมิว กอดอกแต่ไม่ยอมปริปาก ส่วนไอ้น้องมิวก็ทำเหมือนไม่มีใครยืนอยู่แถวนั้น ทำหน้าตึงๆ สงสัยจะมีสายสัมพันธ์กันจริงล่ะมั้ง ผมมานั่งสนุกกับน้องๆละแวกนั้นอยู่พักใหญ่ครับ น้องๆคุยสนุกดี ผมเองหายเกร็งไปมากพอสมควร คุยเรื่อยเปื่อย ส่วนใหญ่ผมจะถามข้อมูลเกี่ยวกับการเรียน น้องก็เล่าให้ฟังว่าเรียนยังไง มีวิชาอะไร อาจารย์คนไหนโหด คนไหนใจดี จนถึงเวลาประมาณ ๖ โมงเย็น หมวดเต้ยโทรมา ผมคุยอยู่ครู่หนึ่ง พี่แกยังอยู่ในกองพันอยู่เลยครับ อาจจะกลับบ้านมืดหน่อย ส่วนพวกผมก็ยกพวกไปกับน้องๆ ไม่ได้ไปหาเรื่องนะครับ ไปหาอะไรกิน กลุ่มใหญ่มากพอสมควรเลยครับ กินอิ่มกลับบ้านกัน มาถึงบ้านไอ้น้องมิว ไอ้หนุ่มหน้าตี๋ก็ขับรถตามมาด้วย แม่งลูกคนรวยอีกละ

“มิว”ไอ้หนุ่มหน้าตี๋คว้าข้อมือไอ้น้องมิวไว้

“อะไรของคุณ เรารู้จักกันด้วยเหรอ”ไอ้น้องมิวมองสีหน้าเรียบเฉย

“หึ ยิ่งกว่ารู้จักอีก ต้องให้ทบทวนไหมว่าเรารู้จักกันคืนละกี่ครั้ง”ไอ้หนุ่มหน้าตี๋จ้องตาเขม็ง กูขอตัวดีกว่ามั้ง

“ปล่อยกูไอ้เหี้ยยะ”

“จำชื่อผัวคนนี้ได้ด้วยเหรอ มิว เราคุยกันดีๆไม่ได้เหรอ”

“มีอะไรที่กูต้องคุยกับมึงอีก ห๊ะ”ไอ้น้องมิวขึ้นเสียง

“พี่กลับก่อนนะมิว”ผมกระซิบเบาๆ

“เดี๋ยวพี่ พี่ต้องอย่เป็นเพื่อนผมก่อน”น้องมิวรีบคว้าข้อมือผมไว้อย่างรวดเร็วพลางส่งสายตาอ้อนวอน

“จะรั้งคนอื่นไว้ทำไมมิว คนที่ต้องอยู่กับมึงคือกู ทำไมเราไม่คุยกันดีๆวะมิว ทำไมมึงชอบทำเมินเฉยกับกูวะ”

“ปล่อยกู แล้วไปตายที่ไหนก็ไปซะ กูกับมึงเราไม่เคยรู้จักกัน”

“มิว โธ่เว้ย”ไอ้หนุ่มหน้าตี๋สะบัดมือแบบหัวเสียแล้วนั่งกอดเก่าที่ข้างรถไอ้น้องมิว คือรถจอดในบริเวณบ้านแล้วนะครับ

“อย่าเพิ่งไปไหนนะ เดี๋ยวพี่เคลียร์ให้ละกัน”ผมกระซิบที่ข้างหูไอ้หนุ่มหน้าตี๋แล้วลากไอ้น้องมิวเข้าไปในบ้าน ถามไถ่ว่าเป็นอะไร ใจความสำคัญก็คือ ไอ้หนุ่มหน้าตี๋คนเมื่อกี้มันแอบไปกิ๊กกั๊กกับเด็กใหม่แล้วไอ้น้องมิวจับได้ เลยทะเลาะกัน เฮ้อ กูขอส่ายหน้าเลยว่ะ เรื่องแบบนี้พี่ก็รับไม่ได้เหมือนกันแหละน้องเอ๊ย ไอ้น้องมิวขึ้นไปอาบน้ำสงบสติอารมณ์ ส่วนผมออกมาคุยกับไอ้หนุ่มยะหน้าตี๋ น้องมันก็เล่าว่าที่จริงกิ๊กที่ไอ้น้องมิวเห็นน่ะ เป็นเพื่อนของเพื่อนที่มาจีบมัน แล้วตอนที่ไอ้น้องมิวไปเจอก็คือตอนที่ไอ้หนุ่มยะมันโดนปล้ำจูบ เลยเข้าใจผิดกัน ผมก็ไม่รู้จะเข้าข้างใครดี

“ผมเคลียร์กับมิวหลายครั้งแล้วพี่ แต่มิวไม่ฟังผม โอเค ผมยอมรับว่าผมผิดที่อยู่กับคนอื่นแบบนั้น แต่ผมไม่เคยคิดจะนอกใจมิวเลยนะพี่”

“ใจเย็นๆนะไอ้น้อง พี่อาจจะช่วยอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้แล้วกัน”ผมบีบที่ไหล่เบาๆ จนมิวมันเปิดประตูออกดูผมกับไอ้หนุ่มยะ “มิว คือพี่ขอโทษนะถ้าพี่เสือก แต่พี่ขอพูดสั้นๆแล้วกัน ยังรักยะมันอยู่ไหม”เท่านั้นแหละครับ ไอ้น้องมิวต่อมน้ำตาแตกโผกอดผมทันที เอ่อ กูไม่ใช่ผัวมึงนะมิว

“ฮือๆๆๆๆๆ”ไอ้น้องมิวร้องไห้อย่างเดียวเลยครับ ส่วนไอ้น้องยะยืนขึ้นทำท่าเหมือนจะมากอดไอ้น้องยะ แต่ก็อ้ำอึ้ง ไม่กล้าเข้ามาโอบกอด ไอ้น้องมิวร้องไห้อยู่พักใหญ่ครับแล้วก็เงียบไม่พูดอะไร ที่จริงความรักมันก็เรื่องของคน ๒ คนอ่ะนะ แต่นี่มีคนหลายคนมาเสือก เฮ้อ กูวุ่นวายดีจริง

“มิว ขอโทษนะ”ไอ้หนุ่มยะจับมือไอ้น้องมิวเบาๆ ไอ้น้องมิวพยักหน้าเบาๆเป็นอันว่าเข้าใจกัน

“เฮ้อ พี่กลับล่ะนะ เออ ลืมไป รักกันก็เอากันเบาๆนะน้อง เดี๋ยวมิวขาถ่างไปเรียนไม่ไหว”

“เอ๊ย พี่ตวง น้องนุ่งอ่ะเข้าข้างกันหน่อย”ไอ้น้องมิวร้องแบบตกใจ

“หึหึ ครับพี่ คืนนี้ผมคงจัดเบาๆ ผมเดินไปส่งไหมพี่”ไอ้หน้าตี๋มันยิ้มบางๆ เออ มึงก็หล่อใช่ได้นี่หว่า สนใจเป็นเมียพี่ไหม ถุย เดี๋ยวกูได้ลูกตะกั่วมาประดับบนหัว ฮ่าๆๆ เดินกลับบ้านคนเดียว ยังไม่เข้าบ้านแวะไปทักน้องหมอก่อนครับ

“กินน้ำก่อนครับ”น้องหมอเอาน้ำมาเสิร์ฟ มีใครสนใจหมอน่ารักๆข้างบ้านผมมั้ย ผมติดต่อให้ ฮ่าๆๆ

“ขอบคุณครับหมอ กินข้าวกินปลายัง”

“กินแล้วครับ พี่เต้ยยังไม่กลับบ้านเหรอ”

“อื้ม ยังๆ คงดึกๆละมั้ง เฮ้อ เป็นหมอนี่เหนื่อยไหม”

“แฮะๆ นิดหน่อยครับ”จากนั้นน้องหมอก็จ้อเรื่องที่โรงพยาบาลให้ผมฟัง เรื่องราวหลากหลายดีครับ คนเป็นหมอนี่ต้องอดทน เสียสละ ใจเย็น และต้องมีความทุ่มเทมากๆเลยนะครับ เพราะงานรักษาโรคนี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เจอหมอดีก็ดีไป เจอหมอไม่ดีก็โดนฟ้องร้องบ้างอะไรบ้าง อย่างว่าแหละครับ ทุกวงการไม่ว่าอะไร มีดีมีเลว คนดีมีถมไปแต่ไม่ค่อยถูกนำเสนอ แล้วก็ชอบบ่นว่าทำไมชีวิตกูเจอแต่คนเลววะ ผมเชื่อนะครับว่าคนดียังไงมันก็ต้องได้อะไรดีๆอยู่วันยังค่ำ ไม่มีทางได้ของเลวหรอก ทองก็คือทอง จะให้ทองเป็นขี้เป็นไปไม่ได้ครับ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอะไรหลายๆอย่างด้วยนะครับ ถ้าเรามองให้รอบด้าน มองด้วยความใจเย็น มองด้วยจิตใจที่เมตตาเราจะเจออะไรดีๆเยอะเลยครับ เสียงกดแตรดังขึ้นจากบ้านข้างๆ ที่จริงก็บ้านหมวดเต้ยอ่ะ ผมลุกขึ้นแล้วมองลอดผ่านช่องหน้าต่าง เออ หมวดเต้ยจริงๆด้วย

“พี่ขอตัวนะครับน้องหมอ ว่างๆเรามาโม้กันใหม่”

“ครับ ได้ครับ”น้องหมอยิ้มให้ผมเดินออกจากบ้าน ไปเปิดประตูรั้วให้หมวดเต้ยขับรถเข้าไปในบ้าน

“เหนื่อยมั้ยครับ”ผมยิ้มกว้างให้หมวดเต้ย

“อือ เหนื่อยนะ วันนี้วิ่งวุ่นทั้งวันเลย กว่าจะเคลียร์ของแต่ละกองร้อยเสร็จ ไหนว่าไปมหาลัยกับไอ้น้องข้างบ้านไง ไหงไปอยู่บ้านน้องหมอได้ล่ะ”

“อ๋อ ก็กลับมาจากมหาลัยแล้วแวะมาบ้านน้องหมออ่ะ”เปิดบ้านแล้วเข้าไปด้านใน เปลี่ยนชุด นั่งคุยกัน อาบน้ำแล้วนอน


ตลอดวันหยุด ๑๐ วันอันแสนจะมีค่าของผม ผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีกไม่กี่วันก็จะต้องกลับไปทำงานที่ค่ายแล้ว ต้องไปเผชิญกับความวุ่นวายอีกรูปแบบหนึ่ง ที่จริงเราอยู่ไหนเราก็ไม่พ้นความวุ่นวายหรอกครับ ต่อให้หนีไปสุดหล้าฟ้าเขียว ทุกถิ่นที่ก็มีเรื่องให้เราวุ่นวายใจได้ทุกที่ทุกเวลา แต่สิ่งที่เราจะควบคุมใจเราก็คือการคัดสรร การเลือกที่จะรับรู้ของเรา คือใจเรานั่นแหละครับที่จะคุมใจเราได้ เรื่องไหนไม่สำคัญก็อย่าไปรับรู้มัน เรื่องไหนที่คิดว่าดีก็เดินเข้าหามัน แต่สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่เราจะเลือกเดินทาง ชีวิตเป็นของเรา ลิขิตฟ้า ชะตาสวรรค์ไม่อาจจะมากำหนดหนทางเดินของเราได้ นอกจากเราจะเดินทางของเราเอง เจอหลุมเจอบ่อก็ขอให้กัดฟันสู้

“อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวที่ต้องการเก็บมึงไว้แบบนี้ตลอดไปว่ะมหา ไม่อยากให้มึงไปทำงานที่กองร้อยเลย”หมวดเต้ยพูดเสียงหงอยระหว่างที่เรากำลังนั่งดูหนังแผ่น

“ครับ ผมก็อยากจะเห็นแก่ตัวไม่ยอมกลับเข้ากองพัน”

“อือ แต่ทำไงได้ หน้าที่ก็คือหน้าที่ เราจะหนีหน้าที่ของเราไปไม่ได้ ยังไงชาติก็สำคัญกว่าความสุขส่วนตัว”

“ครับ ที่จริงเราก็ไม่ได้จากกันไปไกลนี่นา ยังเห็นหน้ากัน แค่ไม่ได้ทำเหมือน ๑๐ วันที่ผ่านมาเท่านั้นเอง”

“อือ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน”จริงๆแหละครับ บางสิ่งบางอย่างหรือหลายสิ่งหลายอย่างต้องอดเปรี้ยวแล้วไว้กินหวาน ถ้ากินทั้งเปรี้ยวๆเราจะกินได้ไม่มาก แต่ถ้ากินหวานๆเราจะกินได้นาน เมื่อมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ เราก็ต้องไปทำมันให้เต็มที่ก่อน ผมว่าทุกอย่างแหละครับ เป็นนักเรียนก็ทำหน้าที่ของนักเรียนให้เต็มที่ เป็นอะไรก็ขอให้เต็มที่กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เรารับผิดชอบอยู่ พอเราหมดหน้าที่จากตรงจุดนั้นไปแล้ว เราจะไม่เสียดายทีหลัง ไอ้บอมบ์ อีหนู ไอ้ซัน เดี๋ยวเจอกันที่กองร้อยนะมึง

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
มายาวมากกกกกก ขอบคุณค่ะ บวกๆน้า
ตอนแรกไอ้เรานึกว่าจะมีเรื่องอะไรซะและ
มหานี่หล่อเกิ๊นนน สาวเกย์แก่ตุ๊ดจะเอานางหมด
แหม่ แบบนี้หมวดเต้ยหวงตายเลยยยย
 :impress2:

ออฟไลน์ pearl9845

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
ชอบอ่ะไม่กล้าลองดีกับบารมีของเมีย

ออฟไลน์ ทิวสนที

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

ออฟไลน์ kapook_koopak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
พี่ตวงของเราฮอตพอๆกับพี่บอมบ์เลยนะ
ถ้าไปคู่กันนี่   คงคูณสอง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ hormonesyj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 721
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-3
มหาโซฮอตตตต อิจฉาหมวดเต้ย อยากได้  :-[

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
ตอนพิเศษ เรื่องเด็กๆ

“พ่อบอมบ์ พ่อเบิ้ล แม่ภา คุณย่า น้องแสบน้องซ่ากลับมาแล้วค้าบบบบบบบบบบบบบบบบ”เสียงเล็กของเด็กวัย ๕ ขวบ ดังลั่นบ้านเป็นการส่งสัญญาณของทุกเย็นหลังจากที่ทั้งคู่กลับมาจากโรงเรียน เสียงดีแบบนี้ไปเป็นนักร้องเลยดีไหมไอ้ลูกชาย

“เอากระเป๋าไปเก็บแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าไปลูก”แม่ผมมักจะเตือนแบบนี้ทุกวัน

“คุณย่าสวัสดีครับ หอมแก้มย่าก่อน”กระเป๋ายังไม่ปลดจากบ่า รองเท้าก็ไม่ยอมถอด ปีนขึ้นบนแคร่แล้วก็เข้าไปฟัดเหวี่ยงกับย่า ทุกวันกลับมาบ้านก็แบบนี้แหละครับ พูดเสียงดัง ยกมือไหว้คุณย่าแล้วก็หอมแก้ม แล้วกระโดดลงจากแคร่วิ่งดุ๊กๆกันมาทั้ง ๒ พี่น้อง โถมตัวใส่ผมขณะที่ผมกำลังล้างผัก กอดพ่อดีๆไม่ได้เลยนะ ต้องกระโดดกอดตลอด

“พ่อบอมบ์ทำกับข้าวเหรอ แสบจะช่วยพ่อบอมบ์หุงข้าวนะพ่อนะ”

“ซ่าจะหุงข้าวด้วย พ่อบอมบ์ให้ซ่าช่วยหุงข้าวนะ”

“ครับสุดหล่อ ไปเปลี่ยนชุดก่อนสิ แล้ววันนี้มีการบ้านไหม”

“ไม่มีครับ”ส่ายหน้าแล้วพากันวิ่งขึ้นบันไดไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเงียบไปพักใหญ่

“ลูกอ่ะบอมบ์”พี่ภาเข้ามาช่วยผมทำกับข้าว

“อ้าว ไม่รู้สิพี่ภา บอกให้เปลี่ยนชุดหายต๋อมไปทั้งพี่ทั้งน้องเลย”

“แสบซ่า ทำอะไรอยู่ลูก”ผมเดินขึ้นไปด้านบน เจอ ๒ พี่น้องนั่งดูการ์ตูนอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ “อ้าว ไหนว่าจะช่วยพ่อหุงข้าวไง ทำไมมานั่งดูการ์ตูนกัน ๒ คน”

“อ๊ะ หนูลืม พ่อบอมบ์ไม่โกรธน้องซ่านะ พ่อบอมบ์อุ้มน้องซ่าหน่อย”วิ่งมาเกาะขาแล้วบอกให้อุ้ม ผมก้มลงไปช้อนตัว ๒ พี่น้องตัวดี ทั้งคู่กอดคอแล้วหอมแก้มก่อนจะไถลตัวลงจากอ้อมแขน แบบนี้แหละครับ เวลาทำผิดมักจะสำนึกผิดด้วยการหอมแก้ม ผมแล้วกดพอสการ์ตูนไว้ก่อนจะวิ่งลงไปด้านล่าง “แสบ ซ่า อย่าวิ่งสิ เดี๋ยวก็ตกกระไดหรอก”

“แม่ภา น้องซ่าอยากช่วยแม่ภาทำกับข้าว”เสียงโหวกเหวกพร้อมกับเสียงเท้าที่กระทบพื้นดังปึงๆ เฮ้อ บอกไม่เคยฟังเลย ลงไปด้านล่างอีกครั้ง แฝดจอมป่วนกำลังวุ่นอยู่กับผัดกาดขาวที่พี่ภาให้ช่วยกันล้าง

“พ่อบอมบ์ เมื่อไหร่อาบูมจะมาหาน้องแสบอ่ะ น้องแสบคิดถึงอาบูม”

“ใช่ๆ น้องซ่าก็คิดถึงอาบูม พ่อบอมบ์ทำไมอาบูมต้องไปทำงานไกลๆด้วย”๒พี่น้องตัวดีถามตาใส หมวดบูมตอนนี้ยังทำงานอยู่ในกรุงเทพครับแต่ตำแหน่งความรับผิดชอบสูงขึ้นเลยไม่ค่อยมีเวลาว่าง ผมเองก็อยู่ที่ต่างจังหวัดซะส่วนใหญ่ทำใหญ่นานๆครั้งเราเจอกันที

“อาบูมงานเยอะไงลูก ทำให้มาหาแสบกับซ่าบ่อยๆไม่ได้ เมื่อคืนก็คุยกันอยู่ไม่ใช่เหรอ”มีบางครั้งที่แฝดคุยผ่านสไกป์กับหมวดบูม อย่างเมื่อคืนก็จ้อกันเป็นชั่วโมงกว่าจะได้นอน

“พี่แสบ พี่ซ่า จาลีกลับมาแล้ว”ชาลีเด็กชายวัย ๓ ขวบเดินยิ้มแป้นมาทักเจ้าแฝด ชาลีเป็นสมาชิกในบ้านคนล่าสุด เรื่องนี้มีที่มายังไงเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที

“พ่อบอมบ์ จาลีก็อยากล้างผักกับพี่แสบพี่ซ่า”ไปนั่งยองๆแล้วหยิบผัดกาด ทั้ง ๓ คนนั่งล้างผักกาดในกะละมังใบเล็ก ล้างผักเสร็จแล้วก็หมดงาน ผมไม่อยากให้ลูกๆวุ่นกับงานครัวเลยเลยต้องไล่ให้ไปเล่นกันที่หน้าบ้าน

“แสบ ซ่า ชาลี พ่อว่าไปเล่นกันที่ใต้ต้นมะม่วงกับคุณย่าดีไหม เดี๋ยวพ่อบอมบ์จะทำกับข้าวอร่อยๆให้กินนะ”ใต้ต้นมะม่วงจะมีแคร่เล็กๆ กับกระบะทรายขนาดพอเหมาะสำหรับเด็กๆ

“แต่น้องซ่าอยากช่วยพ่อบอมบ์”

“ก็ช่วยเสร็จแล้วไง ไปนั่งเล่นเป็นเพื่อนคุณย่าป่ะ เดี๋ยวถ้ามีอะไรพ่อจะเรียก โอเคไหม”

“พี่แสบพี่ซ่า จาลีอยากเล่นรถไคว พ่อบอมบ์จาลีเล่นรถไควนะ”

“อื้ม ป่ะ เดี๋ยววันนี้ พ่อบอมบ์จะทำไข่ตุ๋นของชอบให้กินด้วย”

“เย้ ไข่ตุ๋น พ่อบอมบ์ทำเยอะๆนะ น้องซ่าจะเอาไปให้พี่ฟางด้วย ให้พี่ฟางกินไข่ตุ๋น ลูกพี่ฟางจะได้มาเล่นกับน้องซ่าไวๆ”ช่างเจรจาเสียจริง ๓ พี่น้องวิ่งกรูออกจากห้องครัว ผมได้มองตามหลังกลัวจะวิ่งสะดุดล้มหัวคะมำ ตอนนี้ฟางท้องแล้วนะครับ ใกล้คลอดแล้วล่ะ เห็นว่าหมอนัดสัปดาห์หน้า แล้วลูกๆผมน่ะขี้เห่อครับ ต้องไปคุยกับลูกในท้องของฟางทุกวัน ก่อนไปโรงเรียนก็ไปนั่งจ้อ เย็นๆก็เหมือนกัน

ต้ม ผัด แกง ทอด อยู่ในครัวกับพี่ภา ส่วนพี่เบิ้ลกำลังไปจัดการกับพืชผักวนครัวหลังบ้าน หลังจากเกษียณมาก็ย้ายมาอยู่ที่ตางจังหวัด มาทำเกษตรอินทรีย์ ส่วนผมเองก็ไปๆมาๆระหว่างบ้านเกิดกับกรุงเทพ

“ไปดูลูกเหอะบอมบ์ เดี๋ยวตรงนี้พี่จัดการเองก็ได้ ใกล้เสร็จแล้ว”พี่ภาพูดระหว่างเปิดฝาหม้อใส่เครื่องปรุงลงในแกงร้อนๆ ไม่ว่าจะกี่ปีบ้านผมก็ยังใช้ถ่านอยู่ ผมไม่ค่อยเดือดร้อนที่จะใช้แก๊สสักเท่าไหร่

“บื้นๆ ชาลี เอาดินมาถมตรงนี้ดิ บื้นๆ”

“ทำอะไรอยู่ลูก”

“น้องแสบกำลังขุดสระครับพ่อบอมบ์”

“ขุดสระทำไมเหรอ”

“ขุดสระไว้เลี้ยงปลา พ่อบอมบ์ น้องซ่าเอาปลามาเลี้ยงในสระนี้ได้ไหม”เจ้าซ่าชี้ไปยังสระน้อยๆที่ชุดขึ้น

“หือ ไม่ได้ลูก สระมันเล็กไป”

“มันต้องใหญ่ๆเหมือนในนาของเราใช่ไหมพ่อบอมบ์”เจ้าแสบพูด

“ใช่แล้ว ถ้าตรงนี้เป็นสระน้ำซ่าจะไปนั่งเล่นที่ไหน”ผมเลิกคิ้วขึ้น

“ก็ให้พ่อบอมบ์เอาทรายมาอีกไง อึ้ย ปืนกล อย่าเลียซ่าดิ”ปืนกลคือหมาพันธุ์โกลเด้นวัย ๔ ปีกำลังแลบลิ้นเลียที่หัวไหล่เจ้าซ่า “อิ๋ง”พอไม่ให้เสียก็ทำหน้างอใส่

“พี่ปืนกลไปไหนมา จาลีไม่เห็น พ่อบอมบ์ พี่ปืนกลแอบไปเล่นน้ำแน่เลย”

“อิ๋ง”หมอบลงข้างๆเด็กๆ แล้วทำท่าเหมือนจะรู้ว่าเด็กๆเขาเล่นอะไร พยายามตะกุยดินบ้าง ขยับไปทางนั้นทางนี้บ้าง ผมนั่งมองแล้วก็ยิ้ม เห็นคนกับหมาเล่นกันแล้วน่ารักดี มีคนเคยถามผมนะครับว่าทำไมปล่อยให้ลูกเล่นคลุกดินคลุกทราย ไม่กลัวลูกเลอะ ไม่กลัวเชื้อโรคอะไรบ้างเหรอ บางทีเห็นลูกผมมอมแมมก็ถามผมว่าทำไมปล่อยปละละเลยแบบนี้ ไม่สนใจลูกเลย ผมเองไม่รู้ว่าคนอื่นเลี้ยงลูกกันยังไง แต่ผมอยากให้ลูกผมได้ใช้จินตนาการของเขาอย่างเต็มที่ จะเลอะจะสกปรกก็ช่างเถอะ วัยเด็กเขาอยากเล่นอะไร อยากทำอะไรก็ให้เขาเรียนรู้ทุกอย่าง ลูกเลอะเปรอะเปื้อนเราก็อาบน้ำให้เขาได้ แต่จินตนาการของลูกถ้าเปรอะเปื้อนด้วยคำพูดของพ่อแม่ว่าอย่าทำนู้น อย่าทำนี่ อย่าๆๆๆๆๆๆไปเสียทุกอย่าง พอเขาโตไปเขาจะลำบาก เขาจะพึ่งตนเองไม่ได้ อะไรที่ไม่อันตราย ก็ให้เขาเล่นไปเถอะครับ เขาจะได้ใช้จินตนาการอย่างเต็มที่

“ไปอาบน้ำได้แล้วมั้งลูก เย็นแล้ว บอมบ์พาลูกไปอาบน้ำเหอะ”แม่ผมเตือนเมื่อตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว

“เด็กๆ ไปอาบน้ำกัน”

“อิ๋งๆ”ปืนกลรีบลุกขึ้นทันที

“จาลีอยากเล่นต่ออ่ะพ่อบอมบ์”เจ้าชาลีมองด้วยสายตาอ้อนวอน

“เดี๋ยวค่อยเล่นพรุ่งนี้ต่อก็ได้ลูก วันนี้เย็นมากแล้ว ไปอาบน้ำกินข้าวกัน ป่ะ เห็นไหมปืนกลลุกขึ้นแล้ว แสบ ซ่า ชาลี ยังไม่ลุกขึ้นเลย”

“อิ๋งๆ”เจ้าปืนกลทำเสียงอ้อนเจ้านายตัวน้อยของมัน เด็กหอบเอารถของเล่นแล้วลุกขึ้นเดินตามเจ้าหมาปืนกลไปต้อยๆ การอาบน้ำคือภารกิจใหญ่ครับเพราะนอกจะอาบให้คนแล้ว ยังต้องอาบให้หมาด้วย เข้าไปในห้องน้ำทั้งคนทั้งหมาแล้วก็พากันอาบน้ำ อาบให้หมาก่อน ราดน้ำเทแชมพูลงไปแล้วช่วยกันขยี้ ฝีมือเด็กๆทั้งนั้น พออาบให้หมาเสร็จแล้ว ก็มาอาบให้คนบ้าง ผมให้เด็กๆจัดการเองบ้างแต่ส่วนใหญ่ก็จะอาบให้สะอาดทุกซอกทุกมุมเพราะเด็กๆจะเลอะทุกวัน พออาบน้ำเสร็จแล้วหยิบผ้าขนหนูคนละผืนเช็ดตัวแล้วห่อตัว เจ้าแสบเจ้าซ่าขยุ้มกอดผ้าขนหนูแล้ววิ่งไปบนบ้าน ส่วนชาลียังเป็นเด็กน้อยอยู่ผมเลยต้องอุ้มขึ้นตามไป

เจ้าแสบกับเจ้าซ่านี้รู้ว่าตัวเองจะต้องทำอะไร ไปหยิบแป้งกับหวีมา อีกคนทาแป้ง อีกคนกำลังหวีผมให้เปไปทางซ้าย จากนั้นก็เปลี่ยนกัน เจ้าแสบเอาหวีไป เจ้าซ่าเอาแป้งมา เทเบาๆใส่มือน้อยๆแล้วทาที่หน้าอก ผมเองก็คว้ากระป๋องแป้งมาเทแล้วทาที่รักแร้กับต้นคอให้ทุกคน ชาลียังเด็กเกินไปที่จะทำอะไรได้เหมือนพี่ๆผมก็ค่อยๆสอนให้ทำเองเป็น พอหวีผมทาแป้งเสร็จแล้วก็ให้ใส่กางเกง

“พ่อบอมบ์ ของพี่ซ่าเป็นอุลต้าแมน”ชาลีชี้ไปที่กางเกงเจ้าซ่า

“ของพี่เป็นโดเรม่อน”

“ของจาลีเป็นอะไลเหรอพ่อบอมบ์ ทำไมมันคอยาว เหมือนฟายบ้านพี่คิมเลย”ชาลีถามลายการ์ตูนที่ตัวเองกำลังจะใส่

“ลายไดโนเสาร์ลูก”

“พ่อทำไมบ้านเราไม่เลี้ยงไดโนเสาร์ น้องแสบอยากเลี้ยงไดโนเสาร์”

“ไดโนเสาร์มันสูญพันธุ์ไปแล้วลูก ไม่มีอยู่ในโลกแล้ว”

“เหรอพ่อ แล้วหลวงพ่อได้ไปสวดศพไดโนเสาร์ไหมพ่อบอมบ์”เจ้าแสบถาม

“มันสุญพันธ์ไปนานแล้วลูก นานมากเลย หลวงพ่อเกิดไม่ทันหรอกลูก ป่ะ เราลงไปกินข้าวกัน”

“พ่อได้ทำไข่ตุ๋นให้น้องแสบไหม”

“พ่อบอมบ์จาลีก็อยากกินไข่ตุ๋น”

“อื้ม พ่อทำให้แล้ว ป่ะ เราลงไปดีกว่า”

“แล้วพ่อบอมบ์ทำไข่ตุ๋นให้พี่ฟางด้วยไหม น้องแสบอยากให้ลูกพี่ฟางกินไข่ตุ๋นเหมือนน้องแสบ”

“ทำสิ ป่ะ”ลงไปด้านล่าง แม่ผมกำลังจัดสำรับข้าว ผมหยิบถ้วยไข่ตุ๋นที่แยกไว้ต่างหากออกมาแล้วก็พาลูกๆไปบ้านไอ้ซัน ไม่ไปไม่ได้ครับ ลูกผมเขาเป็นห่วงน้องในท้องของฟางมาก

“พี่ฟาง น้องแสบเอาไข่ตุ๋นมาให้”เจ้าแสบเสียงดีตะโกนตั้งแต่ยังไม่เข้าเขตบ้านไอ้ซัน

“จ้า หูย หล่อเชียว อาบน้ำแต่งตัวแล้วหล่อเฟี้ยวเลยเรา มาให้พี่ฟางหองแก้มคนละทีสิ”ฟางดึงลูกไปกอดไปหอมคนละฟอด

“น้องพี่ฟาง พี่แสบเอาไข่ตุ๋นมาให้ น้องพี่ฟางกินเยอะๆนะ”เจ้าแสบนั่งลงข้างๆแล้วพูดกับลูกในท้องของฟาง

“พี่ฟางเมื่อไหร่น้องพี่ฟางจะออกมาเล่นกับน้องซ่า น้องซ่าอยากเล่นกับน้องพี่ฟาง”

“จาลีก็อยากจะเล่นกับน้องพี่ฟาง จุ๊บๆ น้องพี่ฟางอยากเล่นกับพี่จาลี พี่แสบ พี่ซ่าไหม”เจ้าชาลีนั่งบนขาฟางแล้วกอดที่ท้องของฟาง รักน้องจริงๆเลย

“ชาลีเบาๆลูก อย่ากอดน้องพี่ฟางแรง เดี๋ยวน้องพี่ฟางจะเจ็บนะ”ผมดึงชาลีออกมาเบาๆ

“สัปดาห์หน้าน้องพี่ฟางก็จะคลอดแล้วครับ”

“เหรอ พ่อบอมบ์ ถ้าน้องพี่ฟางคลอด พ่อบอมบ์ต้องพาน้องแสบไปด้วยนะ”

“อื้ม ได้ๆ”

“แล้ววันนี้คุณครูสอนอะไรบ้าง น้องแสบน้องซ่าจำได้ไหม”ฟางลูบหัวเจ้าแฝดเบาๆ

“ครูสอนวาดรูปครับ”

“แล้วท่องเอบีซีจบยัง”

“ท่องจบแล้ว แต่ชาลียังท่องไม่ได้”เจ้าซ่าเป็นคนตอบ

“จาลีก็ท่องเอบีซีได้”

“เอ้า ไหนลองท่องพร้อมๆกันซิ”จากนั้นคณะประสานเสียงก็เริ่มขึ้น เจ้าแสบเจ้าซ่านี่คล่องแล้ว ส่วนชาลียังได้บ้างไม่ได้บ้าง ผมไม่ได้ซีเรียสเท่าไหร่ ให้เขาพัฒนาไปตามวัย ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ค่อยๆบอก ค่อยๆสอน

“เก่งมากเลย”

“ป่ะเด็กๆ ไปกินข้าวได้แล้วลูก”

“สามเสือ วันนี้เอาอะไรมาฝากพี่อ่ะ”ไอ้ซันเดินเข้าบ้านมาด้วยสภาพมอมแมม

“น้องแสบเอาไข่ตุ๋นมาให้น้องพี่ฟาง ทำไมพี่ซันตัวดำ พี่ซันไปเล่นทรายเหมือนน้องแสบใช่ไหม”

“ฮ่าๆๆ ไม่ใช่ๆ พี่เก็บถ่านมาน่ะ โอ้โห น่ากินจัง ขอพี่ซันกินด้วยได้ไหม ไข่ตุ๋นเยอะแบบนี้ลูกพี่คงกินไม่หมดหรอก”

“กินได้ครับ เนอะพ่อบอมบ์ ย่าบอกว่ามีอะไรให้แบ่งกัน”เจ้าซ่าตอบ

“ไปลูกไป กินข้าวก่อน มัวแต่คุยเดี๋ยวไม่ได้กินข้าว ไปแล้วนะตัวเล็ก”ผมลูบเบาๆที่ท้องของฟาง มีดิ้นขลุกขลักจนผมรู้สึกได้ หอบลูกกลับบ้านแล้วมาตั้งวงกินข้าว แสบซ่านี่พึ่งตัวเองได้แล้ว ส่วนเจ้าตัวป่วนน้องเล็กสุดก็พอกินเองได้แต่ยังหกบ้างเลอะบ้าง คนกินข้าวอยู่บนแคร่ ส่วนหมาก็กินข้าวอยู่ด้านล่าง ปืนกลเป็นหมาฉลาดครับ รู้ภาษาคน ผมเองก็ทึ่งกับมันในหลายๆย่าง บางครั้งเวลาผมเผลอๆ เจ้าชาลีชอบซนก็จะมีเจ้าปืนกลนี่แหละครับ คอยเห่าบ้าง บางทีเวลาที่แม่ผมนอนหลับแล้วเจ้าชาลีกำลังเดินไปนอกบริเวณรั้วบ้าน เจ้าปืนกลก็จะดึงเจ้าตัวป่วนชาลีไว้ด้วยการเดินดักไม่ให้ไปต่อบ้างหรือเอาปากกัดที่เสื้อแล้วดึงเจ้าตัวป่วนชาลีให้กลับมาบ้าง แล้วเวลาที่เด็กๆจะขี่หรือเล่นอะไรรุนแรง เจ้าปืนกลไม่ค่อยตอบโต้

“ปืนกลอร่อยไหม พ่อบอมบ์ดูปืนกลกินข้าวนิดเดียวเอง”เจ้าซ่าคลานไปที่ขอบแคร่แล้วมองเจ้าปืนกล

“อิ๋ง”เจ้าปืนกลเงยหน้าขึ้นมาแล้วก็ก้มลงกินต่อ อาหารที่ให้กินไม่ใช่อาหารเม็ดนะครับ อาหารดีๆทั้งนั้น บางทีก็ซื้อไก่ทอดมาคลุกกับข้าว หรือบางทีก็ปลาทูนึ่ง

“มากินข้าวก่อนลูก อย่าเพิ่งไปกวนปืนกล”พี่เบิ้ลพูดกับเจ้าซ่า

“ย่าอิ่มแล้วเหรอ”พอผละจากหมาก็หันมาถามคุณย่าที่กำลังกินน้ำ

“อื้ม ย่าอิ่มแล้วลูก คนแก่ก็แบบนี้กินอะไรได้ไม่ค่อยเยอะ น้องซ่ากินข้าวเยอะๆนะลูก จะได้โตไวๆ”

“ครับ”

“ย่า น้องแสบก็อยากโตไวๆ”

“จาลีก็อยากโตไวๆ จะได้อุ้มน้องพี่ฟาง”

“จ้า ถ้าอยากอุ้มน้องพี่ฟางก็กินข้าวเยอะๆ”

“ถ้าน้องแสบกินข้าวเยอะๆจะตัวโตเหมือนพ่อบอมบ์ไหม”

“เหมือนสิลูก ก็ดูพ่อบอมบ์สิ กินข้าวมื้อละ ๓ จาน”แม่ผมเป็นคนตอบ
 
“พอก่อนลูก ไม่คุยกัน เวลากินข้าวห้ามคุยกัน”

“ครับ”

กินข้าวกันเงียบๆ เด็กๆอิ่มก่อนแล้วเหลือผมกับพี่เบิ้ลที่กำลังซดน้ำแกงกันอยู่ ผมกินเยอะก็จริงแต่ผมก็ออกกำลังกายนะครับ ไม่ค่อยเนื้อปล่อยตัว ถ้าเกิดลงพุงมามันจะไม่ดีครับ นอกจากหุ่นไม่ดีแล้วสุขภาพเราจะไม่ดีตามไปด้วย พี่เบิ้ลตอนนี้ ๖๑ แล้วแต่หุ่นยังเฟิร์มมาก เวลาที่แกถอดเสื้อยังเห็นกล้ามท้องเป็นก้อนๆเลยครับ แล้วหน้าแกก็ไม่ค่อยแก่เท่าไหร่ เหมือนคนอายุสัก ๔๐ ต้นๆ แม่ผมเองตอนนี้จะ ๘๐ แล้ว ยังแข็งแรงครับ แต่ว่าผมบนหัวนี่ขาวโพลนไปหมดแล้ว ฟันดำ ผมขาว ตอนนี้หยุดกินหมากแล้ว เพราะคุณหมอขอร้อง

กินข้าวอิ่มแล้วเก็บจานชามไปล้าง เด็กๆไปช่วยผมล้าง ผมไม่ให้ทำอะไรมากครับแค่รับจานที่ล้างแล้วเอาไปวางที่ชั้นวางถ้วยชามให้เรียบร้อย เจ้าแสบจะยืนบนเก้าอี้ ส่วนเจ้าซ่ากับชาลีจะเป็นคนรับจานที่ล้างแล้วส่งให้เจ้าแสบเป็นคนวางเรียง ผมให้ลูกช่วยทำกิจกรรมต่างๆตั้งแต่เล็กๆ สอนทุกอย่าง ที่จริงผมจะให้ลูกสบายกว่านี้ก็ได้ ไม่ต้องให้มาป่วน แต่ผมต้องฝึกให้เขาช่วยเหลือตัวเองเป็น บางครอบครัวผมเห็นแล้ว ลูกโตจนขึ้นมัธยมแล้วยังล้างจานไม่เป็นเลย แต่นั่นมันสิทธิ์ของเขาครับ ก็มีบางคนนะมาเหน็บแนมผม บ้านก็รวย เงินทองก็เหลือกินเหลือใช้ ของเล่นแค่นี้ก็ยังงกไม่ยอมซื้อให้ลูก ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา ของเล่นบางอย่างผมก็ซื้อ แต่บางอย่างที่คิดว่าไม่จำเป็นผมจะไม่ซื้อ อะไรที่เราพอประดิดประดอยด้วยวัสดุที่มีแถวๆบ้านเราทำให้เขาเล่นดีกว่า ซึ่งลูกผมจะชอบมาก ของเล่นส่วนใหญ่ทำเองทั้งนั้น ผมไม่อยากให้เขาพึ่งวัตถุจนเกินไป อยากให้เขาอยู่กับธรรมชาติรอบๆตัว

ล้างจานเสร็จแล้วก็ขึ้นไปบนบ้านไปนั่งดูทีวี แต่ลูกผมจะติดเล่นกันมากกว่า เอาของเล่นที่มีอยู่มาเล่นกัน ๓ คนพี่น้อง ผมเองก็หยิบโน๊ตบุ๊คมาเล่นใกล้ๆ เวลาที่เขาสงสัยอะไรผมจะได้ตอบคำถาม ซึ่งคำถามจะเยอะมาก ร้อยแปดพันประการ สรรหามาถามได้ทุกวัน แล้วผมก็ไม่เบื่อที่จะตอบถึงแม้ว่าคำถามนั้นจะซ้ำไปซ้ำมา

“เด็กๆ อาบูมอยากคุยด้วย”นั่งเล่นแปบนึง บูมเขาทักสไกป์มา

“เย้ อาบูมมาแล้ว”วางของเล่นแล้ววิ่งกรูมาที่คอมผมจับนั่งตักซ้ายขวาทั้ง ๓ คน จากนั้นก็หูดับตับไหม้ แย่งกันถามจนบางครั้งอีกฝ่ายตอบไม่ทัน ป่วนกันจริงๆ

“แค่ก่อนนี้ก่อนนะ อาบูมไปอาบน้ำก่อน”

“ครับ อาบูมมาหาน้องแสบไวๆนะ น้องแสบคิดถึง”

“น้องซ่าก็คิดถึงอาบูม น้องซ่าอยากกินขนมที่อาบูมเอามาให้อีก”

“ครับ แล้วน้องชาลีล่ะ คิดถึงอาบูมป่ะ”

“คิดถึงครับ อยากฟังอาบูมเล่านิทานอีก”

“โอเค เดี๋ยวอาขอตัวนะครับ ไปอาบน้ำก่อน บายๆ ฝากจุ๊บๆพ่อบอมบ์ด้วย”

สิ้นสุดการสนทนาเด็กๆก็ลงจากตักวิ่งแจ้นไปโม้กับพ่อเบิ้ลแม่ภากับคุณย่า ส่วนผมได้แต่ยิ้มแล้วทำงานต่ออีกนิหน่อย ทุกเย็นหลังกินข้าวเสร็จถ้าวันไหนไม่คุยกับบูม เด็กๆเขาจะมานวดให้กับคุณย่า วันนี้คุยเสร็จแล้วก็ไปนั่งนวดนั่งจ้อให้คุณย่าฟังจนถึงเวลา๒ ทุ่มครึ่ง แม่ผมจะพาเด็กๆสวดมนต์ ที่จริงแก่ๆแบบผมกับพี่ภาพี่เบิ้ลก็ไปสวดด้วยนะครับ เด็กๆสมาธิดีมากเลยครับ แม่ผมพาสวดมนต์ครึ่งชั่วโมงนี่ไม่มีวอกแวกอะไรเลย สวดได้ทุกบท ส่วนเจ้าตัวเล็กชาลีได้บ้างไม่ได้บ้าง สวดมนต์เสร็จแล้วไปแปรงฟันจากนั้นก็ฟังนิทานก่อนนอน ผมเล่าให้ฟังทุกคืนบางทีก็ไม่ใช่แค่นิทาน พวกเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่คิดว่าจะสามารถถ่ายทอดให้เด็กรับรู้ได้ ก็จะหามาเล่า เรื่องเล่านิทานแม่ผมกับพี่ภาจะเล่าทุกคืนตั้งแต่เจ้าแสบเจ้าซ่ายังเล็กๆนะครับ คือตั้งแต่วันที่แม่เขาเอาลูกมาให้ผมนี่แหละครับ พี่ภาจะเล่าให้ฟังทุกคืน จนโตมาแล้วก็ติดมาจนทุกวันนี้ นิทานจบแล้วผมดับไฟที่หัวเตียงปล่อยให้เด็กๆนอน จนแน่ใจว่านอนหลับผมจึงไปทำงานอีกนิดหน่อย ดูตลาดหุ้นบ้าง หรืออื่นๆบ้าง แล้วไปอาบน้ำนอน                       

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
โหๆๆ เป็นตอนพิเศษที่คาดไม่ถึงจริงๆ
ลูกแสบ ลูกซ่า .. เอ. .. หนูชาลีคือใครกันนะ
หนูมายังไงลูก ป้างงจริงๆ
ครอบครัวอบอุ่น ลูกหลานเต็มบ้านเลย
พ่อบอมบ์ อาบูม จุ๊บบบบ
 :mew1:

ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
พี่มหากลายเป็นศิราณีไปแล้วสินะ 5555

มีงานมาให้แก้ตลอด คึคึ

แหมมมมม พี่มหาบอกคนอื่นว่า ให้เอาเบาๆ

แล้วพี่ล่ะ เบากะหมวดเต้ยบ้างอ่ะป่าววววววว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เดี๋ยวนี้สบายใจไม่ต้องกังวลเหมือนตอนที่แล้วแล้วเกี่ยวกับชาลี

ออฟไลน์ hormonesyj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 721
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-3
ชอบมากเวลาพี่บอมบ์อยู่กับลูกๆแสบซ่าชาลีทั้งสาม  :mew1:

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
ตวงก็หวานจับจิต เด็กๆก็น่ารักจับใจ

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
เด็กๆน่ารักแล้วฉลาดกันมากๆเลย
ว่าแต่น้องชาลีนี่คือใคร???
 :mew1: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
หลังจากหวานไปกับพี่ตวงหมวดเต้ยแล้ว เจอความน่ารักของน้องแสบซ่าและชาลี ^^

ออฟไลน์ ทิวสนที

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0

ออฟไลน์ pearl9845

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
เด็กๆน่ารักมากเลยอ่ะยิ่งโตยิ่งฉลาด
แต่ว่าแต่ว่าหนูชาลีนั้นท่านได้แต่ไดมา

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
สามหนุ่มน้อยน่าฟัด ยืมพ่อบอมบ์มาฟัดได้ไหม

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
ไปอยู่ต่างจังหวัดกับหมด

มีแค่แสบซ่ายังไม่พอมีชาลีอีก

สงสัยสองหนุ่ม ภูมิ ภีม ?

ออฟไลน์ DuenTwinBII

  • ♥ “If you can't explain it simply, you don't understand it well enough.”♡
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +624/-4
แวบมาอ่าน เด็กๆน่ารักจัง
รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
ตอนที่ ๕๘ รถ เมีย เพื่อน

“มีอะไรเหรอครับน้องบูม ทำไมมองพี่บอมบ์แบบนั้นอ่ะ”

“อยากเตะ อยากต่อยให้ฟันร่วง”

“อ้าว พี่บอมบ์ทำอะไรผิดเหรอครับ”

“วู้ อย่ามาพูดเพราะใส่กู ไอ้เสียงแบบนี้แหละกูถึงได้โดยมึงปู้ยี่ปู้ยำ ขอต่อยสักทีได้ไหม”หมวดบูมเหยียดหมัดขึ้น

“หึหึหึ พี่บอมบ์ขอโทษที่พี่บอมบ์หื่น ขอโทษนะ”ผมจูบที่สันหมัด หมวดบูมมืออ่อนลงหน้าแดง เจอหวานแบบนี้ไม่ได้ครับพี่แกอ่อนระทวย

“ฮึ่ย กูไม่อยู่ใกล้มึงละบอมบ์ เสี่ยงเสียตัวว่ะ”หมวดบูมเดินออกไปจากห้องปล่อยให้ผมทำงาน งานพี่แกมาเรื่อยๆอ่ะครับ ผมก็ช่วยทำทุกอย่าง คือผู้หมวดจะไปรับงานมาจากผู้พันอีกทีแล้วก็ให้ผมพิมพ์พวกโครงการต่างๆ ที่จริงมีสายงานที่รับผิดชอบอยู่บน บก.พันแล้วนะครับ แต่นี่เป็นงานพิเศษ ก็เลยมีงานมาเรื่อยๆ ผมเองก็ทำเรื่อยๆ ไม่ได้เร่งอะไรมากมายนัก สายๆก็ลงไปด้านล่างไปเก็บขวดบ้าง นั่งคุยกับเพื่อนๆบ้าง

“ขยันนะบอมบ์”ระหว่างที่ก้มเก็บขวดพลาสติกในถังเสียงห้าวดังขึ้นจากข้างหลังทำเอาผมตกใจ

“ครับ สวัสดีครับผู้กอง”ผมยืนตรงทำความเคารพ

“อืม สวัสดี ขยันนะ ครั้งที่แล้วขายได้เท่าไหร่ล่ะ”ผู้กองยิ้มให้

“ไม่ได้ขายครับ มีคนขโมยไปขายซะก่อน”

“อ้าว ทำไมวะ แล้วเก็บไว้ไหน”

“ผมเก็บไว้หลังห้องน้ำครับ ว่าจะเอาไปขาย มันชิงตัดหน้าเอาไปขายซะก่อน”

“เออ ไม่ไหวเลยว่ะ ถ้ากลัวโดนขโมยก็หาที่เก็บให้มันมิดชิดนะ ผู้กองไปละ”ผู้กองเดินไป ผมเก็บขวดต่ออีกเล็กน้อยแล้วเอาไปยัดใส่กระสอบ ล้างมือแล้วมาซื้อขนมกิน อายุอานามก็ ๒๗ ปีบริบูรณ์ได้ไม่กี่วันมานั่งกินขนมขบเคี้ยว นี่ถ้าหน้าผมไม่แก่ใครๆก็คงจะคิดว่าผมอายุ ๑๓ ถุย

“อะไรของมึงหนู ๑๐ วันที่ผ่านมาผัวไม่ได้เติมรักให้เลยเหรอถึงได้มาซบกูเนี่ย”

“ก็เพราะคิดถึงผัวนั่นแหละพี่บอมบ์ หนูเลยมาซบพี่ กินด้วยซิ”มันหยิบปลาเส้นไปกินพลางซบไหล่ไปด้วย มันกล้าเล่นกับผมเพราะเห็นว่าผมไม่ถือสามัน ที่จริงอีหนูมันน่ารักมากๆเลยนะครับ คนอื่นๆในกองร้อยทำท่ากลัวและเกลียดตุ๊ด แหม ไอ้สัส กูเห็นเข้าเวรทีไรให้กะเทยโม๊คให้ทุกครั้งไป

“ถามจริง กลับบ้านไปไอ้เจิดมันจัดกี่ดอกวะ”

“บ้าอ่ะพี่บอมบ์ ไม่บอกหรอก ทีพี่บอมบ์เอากับเมียหนูไม่เห็นจะอยากรู้เลย”อีหนูมันค้อนผม สงสัยจะเปรมล่ะมั้ง ฮ่าๆๆ “เออ หนูเบื่อมากเลยอ่ะพี่บอมบ์ เข้าเวรทีไรกะเทยชอบมาขอโม๊คทุกทีเลย มันไม่มองหนังหน้าหนูบ้างรึไงนะ หน้าตาออกจะสาวแตกขนาดนี้”

“มึงหล่อนะหนู ดูดิ อืม หล่อว่ะ”ผมจับที่คางอีหนูมองใบหน้า นี่ถ้ามันไม่กร้านแดดนะผมว่าอีหนูหล่อมากคนหนึ่งเลยล่ะ เวลามันอยู่นิ่งๆมองไม่ค่อยออกหรอกว่าเป็นตุ๊ด แต่พอพูดเท่านั้นแหละครับ จีบปากจีบคอ แต่ตอนนี้มันเพลาๆลงแล้ว แมนขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะซึมซับกิริยาอาการของพวกห่ามๆในกองร้อยรึเปล่า

“อย่ามาชมซะให้ยากเลย”

“เอ้า นี่พูดจริงนะเนี่ย มึงหล่อนะ ตี๋ๆ เออ ที่จริงมันก็ถูกของมึงนะ มึงไม่ได้หล่อเท่าไหร่หรอก แต่มึงน่ารัก ไม่รู้สิ มันกลางๆว่ะ หล่อๆ น่ารักๆ กูเชื่อแล้วว่าทำไมไอ้ฝรั่งเจิดมันชอบมึง เพราะมึงน่ารักนี่เอง”

“ฮิ ชอบมาว่าให้เขิน คนบ้า”มันทุบหน้าอกผมทีหนึ่ง

“อ้าว ทุบกูซะงั้น”ผมดีดกะโหลกมันเบาๆทีหนึ่ง

“บาวเว้ยๆ”เอาอีกแล้วครับ ว่าเป็นไม่ได้จับบาวตลอด ทหารรุ่นพี่ทหารรุ่นน้องหลายคนเดินเข้าพีเอ็กซ์แล้วก็เสียงดังล้งเล้ง ผมกับอีหนูเดินไปที่ใต้ถุน วันนี้ว่างครับ ทั้งกองร้อยก็พักผ่อนตามอัธยาศัย ส่วนใหญ่จะนอนกันเพราะตอนกลางคืนนี่ไม่มีใครอยากจะหลับจะนอนหรอกครับ รุ่นพี่ที่เก๋าๆบางส่วนจะแอบหนีเที่ยวบ้าง ส่วนรองๆลงมาก็คุยโทรศัพท์ แชทบีบี(ช่วงนั้นฮิตบีบีกันมาก) มีส่วนน้อยที่จะนอนกันครับ พอตอนเช้ามาก็เลยเบลอๆกันซะส่วนมาก

“ดูหน้ามึงอิ่มๆนะหนู สงสัยมึงคงได้น้ำดีแน่เลย ไง ที่รักจัดหนักทุกคืนล่ะสิ”ผมพูดกับอีหนูเสียงดังระหว่างที่หมวดเต้ยเดินผ่าน ทำเป็นมองไม่เห็นพี่แกซะหน่อย

“แหม พี่บอมบ์ก็ นิดหนึ่ง”

“เขาว่าคนที่ได้กันกับแฟนทุกคืนจะหน้าอิ่ม มึงหน้าอิ่มมากเลยว่ะ มองอะไรเป็นสีชมพูไปหมด”ผมเหล่มองหมวดเต้ยตอนนี้พี่แกเริ่มหุบยิ้มแล้วครับ “สวัสดีครับผู้หมวด”

“หือ เออ สวัสดีครับพี่บอมบ์ สัส ตกใจ”

“นะ ใจลอย กำลังคิดถึงใครอยู่เหรอครับ เอ วันนี้ดูหน้าใสนะครับผู้หมวด”

“อ้าว ก็หล่อของกูอยู่ทุกวันนี่”

“ไม่เหมือนทุกวันครับ วันก่อนยังเห็นหน้าดำอยู่เลย แต่วันนี้ถึงจะดำแต่ใสขึ้นเยอะนะ มีอะไรดีเหรอครับ บอกผมหน่อยสิ เนี่ยผมหน้าดำไปหมดแล้ว”ผมกระแซะถามหมวดเต้ยเบาๆอย่างสนิทสนม

“อะไร เออน่า มีดีของกูล่ะกัน ไงหนู เหยด ฝรั่งเอาน้ำเงี่ยนทาหน้ารึไงวะ มึงหล่อนะเว้ย วู้วๆ”หมวดเต้ยจับที่คางอีหนูส่ายไปมาเบาๆ

“ก็นิดหนึ่งอ่ะครับผู้หมวด แต่หนูว่าผู้หมวดดูวิ้งมากเลยอ่ะ มีออร่าขึ้นนะครับ อุ้ย พี่บอมบ์ เค้าหวานกันอ่ะ ดูดิ”อีหนูชี้ไปที่นิ้วของหมวดเต้ย ตอนนี้หมวดเต้ยเอาแขพาดมาที่ต้นคอของผม ตัวพี่แกเตี้ยกว่าผมนิดหนึ่งนะครับ ผมมองไปที่แขนข้างขวาก่อนจะไล่มาที่นิ้วมือ อ้าว ที่แหวนของเพื่อนรักผมนี่นา แหม ไม่ค่อยเลยนะคู่นี้

“แน่ะ หมั้นกันเงียบๆไม่บอกเพื่อนบอกฝูงเลยนะ”ผมพูดเบาๆกับหมวดเต้ย

“เรื่องอะไรล่ะ”หมวดเต้ยยิ้มกว้างจนตาตี๋ๆปิดสนิท

“หึหึหึ ไอ้โต้งไม่หวงน้องบ้างเลยเหรอ”โต้งนี่คือพี่ชายหมวดเต้ย อายุมากกว่าผมครึ่งปีครับ เป็นทหารรุ่นเดียวกันกับไอ้ภีมและไอ้แบงค์พี่หมวดบูม

“เกี่ยวอะไรกับพี่โต้งด้วย เรื่องของหัวใจห้ามละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเว้ย เฮ้อ บอมบ์ มึงบอกอาติยังว่ามึงคบกับไอ้บูม”

“ยังเลยผู้หมวด แต่พี่ติก็คงจะรู้แหละว่าเราเป็นอะไรกัน ผู้หมวดเครียดเรื่องครอบครัวเหรอ”

“เออดิ ไอ้มหามันก็ปลอบกูว่าอย่าเครียด เรื่องมันยังไม่เกิด แต่กูกลัวว่ะ ลึกๆนะเว้ย แต่ก็อุ่นใจที่มีมันคอยปลอบกู แต่ก็ยังกลัว มันตีกันให้วุ่นเลยว่ะบอมบ์ กูไม่ค่อยกล้าคุยเรื่องนี้กับพ่อกูเลยว่ะ พ่อกู กูรู้นิสัยดีว่าท่านเป็นแบบไหน”

“เอาน่า ผมเชื่อว่าพี่ชิตคงจะเข้าใจแหละ ทุกวันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ผู้หมวดใจเย็นๆ อย่าไปคิดมากเลย อะไรยังไม่เกิดก็คือไม่เกิด ถ้าเราคิดไม่ดี สิ่งไม่ดีมันจะติดตามเรามาเป็นพรวน เราต้องคิดดีๆ เรื่องดีๆก็จะตามมา ชีวิตคนไม่มีใครไม่มีอุปสรรคหรอกครับผู้หมวด มันต้องมีกันทุกคน ขึ้นอยู่กับว่าเรามีสติแค่ไหนที่จะแก้ปัญหามัน เรื่องบางเรื่องต้องอาศัยเวลาในการแก้ อย่าใจร้อน เคยสงสัยไหมว่าทำไมเวลาที่เราโมโหหรือมีเรื่องที่ทำให้เราวุ่นวายใจ มักจะมีคนปลอบเราข้างๆว่าใจเย็นๆนะ”

“ไม่รู้ดิ เขาพูดไปงั้นๆมั้ง”

“ไม่ใช่หรอก ที่เขาพูดเพราะเขาต้องการให้เรามีสติ คนใจเย็นคือคนที่มีสติในการแก้ปัญหา ถ้าใจร้อนคือคนขาดสติ แล้วเรื่องมันยิ่งแต่จะวุ่นวายมากขึ้น ผมว่าพี่ชิตไม่ใช่คนดุนะ เป็นคนที่ใจดีมากเลยต่างหาก”

“กับคนอื่นพ่อกูก็เป็นแบบนั้นแหละ แต่กับพวกกู ๓ พี่น้อง ดุยิ่งกว่าเสือซะอีก”หมวดเต้ยเป็นลูกคนเล็กนะครับ กับพ่อหมวดเต้ยผมก็พอคุ้นอยู่บ้าง เราเจอกันตอนที่พี่แกไปไดรฟ์กอล์ฟกับพี่ติพ่อหมวดบูม ในสายตาผมว่าพ่อหมวดเต้ยเป็นคนอัธยาศัยดีนะครับ ก็ได้แต่หวังในใจว่าเขาคงจะเข้าใจลูก ที่จริงเรื่องแบบนี้มันเยอะมากเลยครับ ไหนจะเรื่องตำแหน่งหน้าที่การงาน หน้าตาทางสังคม ความเหมาะสม ความถูกต้อง หน้าตาครอบครัว เยอะมากที่เราต้องมาคุยกัน ปวดหัวครับ ผมเองผมก้าวผ่านจุดนั้นมาแล้ว เรื่องหน้าตาทางสังคมผมไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่หรอกเพราะมันเป็นสิ่งที่คนเขาอุปโลกน์ขึ้นมาเท่านั้นเอง ผมเชื่อมั่นในความดีมากกว่า ไม่มีใครทำอะไรถูกใจคนทั้งโลกหรอกครับ มั่นใจว่าเรามีความสุขกับสิ่งไหนก็ทำต่อไป ผมปลอบหมวดเต้ยให้ใจเย็นๆ ค่อยๆแก้ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป เราใจร้อนไม่ได้ ใจร้อนแล้วไม่ดีครับ เหมือนน้ำแกงร้อนๆ ขืนซดโดยไม่เป่ามันก็ลวกลิ้น แทนที่จะได้รับรสชาติน้ำแกงอร่อยๆกับต้องเป็นแผลในปาก หลายๆเรื่องเหมือนกัน เราต้องเป่าใจของเราให้เย็นลงก่อน ค่อยๆคิดใคร่ครวญให้ดี อันไหนที่คิดแล้วทุกข์เราขาดทุนจากความสุขของชีวิต ก็พยายามเลี่ยง อันไหนที่เราคิดแล้วมีความสุขส่งเสริมสุขภาพจิต ก็รีบใฝ่หา ผมเองก็ใช่ว่าจะดีเลิศเลอนะครับ ก็มีช่วงที่เครียดบ้างอะไรบ้าง ช่วงที่ผมบ้าผมฟิวส์ขาดก็มีเยอะ ได้แต่พยายามปรับปรุงตัวเองทุกวัน ก็เป็นพ่อคนแล้วนี่นา จะใจร้อนไม่ได้ เดี๋ยวลูกเอาไปเป็นแบบอย่าง

“เป็นตุ๊ดแบบอีหนูก็ดีไปอย่างนะ มันเปิดเผยดี”หมวดเต้ยยิ้มกว้าง

“ว้าย อย่าเลยครับผู้หมวด เป็นตุ๊ดแรงเสียดทานมันเยอะ หนูร้องไห้แทบเป็นสายเลือดก็เพราะโดนดูถูกว่าตุ๊ดนี่แหละ เป็นผู้ชายอ่ะดีแล้วผู้หมวด หล่อๆแบบผู้หมวดถึงไม่ได้เป็นพ่อพันธุ์ให้ใคร แต่ก็อย่ามาเป็นตุ๊ดเลย เก็บความหล่อไว้ให้คนอื่นอิจฉาเล่นดีกว่า”

“ฮ่าๆๆ เออ พี่ล้อเล่น พี่เสียดายความหล่อของพี่เหมือนกัน มั่นใจขึ้นมาเป็นกองว่าหล่อ”หมวดเต้ยแทนตัวเองว่าพี่กับอีหนู แกพูดโดยที่ยังกอดคอผมคุยอยู่ ส่วนผมก็ยืนนิ่งๆ ใจจริงอยากจะกอดคอกลับเหมือนกันแต่ว่ามันไม่เหมาะครับ แค่นี้เขาก็มองไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่แล้ว

“หลงตัวเอง”อีหนูเบ้ปากแล้วขำ

“อ้าวๆ วอนแล้วน้อง พูดงี้ก็สวยนี่หว่า”หมวดเต้ยยักคิ้วกวนๆให้อีหนู

“ขอบคุณครับที่ชมว่าสวย ก็นะ”

“แหม ไม่ค่อยเลยนะมึง จอมปลวกบ้านกูยังน่าดูกว่าหน้ามึงอีกหนู”

“ฮ่าๆๆๆ ถูกของไอ้บอมบ์”แล้วก็ขำกันทั้ง ๓ คน เราสนุกสนานเฮฮากันครับ ใช้คำรุนแรงบ้างอะไรบ้างแต่รู้กันว่าอันไหนจริงอันไหนหลอก อันไหนหยอกอันไหนด่า

“ขำอะไรกัน”หมวดบูมมองหน้างงๆ

“เปล่าๆ เรื่องเรื่อยเปื่อยน่ะ”


ชีวิตในกองร้อยผ่านไปเอื่อยๆ วันไหนโดนเวรก็เข้ากันหน้าดำหน้าแดง ผมนานๆเข้าเวรกองรักษาการณ์ที เนื่องจากเป็นเด็กผู้หมวดเขาเลยไม่ค่อยจัดเข้าเวร แต่ก็มีบางครั้งที่จัดไปเข้าเวรบ้างจะได้ไม่โดนคนอื่นด่าว่าเอาแต่สบาย

“ปริ๊ดๆ เฮ้ย ได้ยินกูเรียกไหมว่าขอ ๓ คน”เสียงแหลมๆเจ้าเดิมมาอีกแล้วครับ

“ครับหมู่”

ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ปริ๊ด ปริ๊ด ปริ๊ด ปรี๊ดดดด เฮ้ เสียงนกหวีดเป่ารวมดังขึ้นทหารเกณฑ์หน้าดำๆอย่างพวกผมไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของกองร้อยต่างวิ่งกันอุตลุดเพื่อที่จะได้มารวมตัวกันบริเวณที่สิบเวรเป่าเรียกรวม บางคนปากยังคาบลูกชิ้นอยู่เลย บางคนเหงื่อแตกซกเพราะเล่นปิงปอง ส่วนบางคนก็ตาบวมๆเบลอๆเนื่องจากเพิ่งตื่น ความวุ่นวายโกลาหลเกิดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงนกหวีด

“หมอบ ลุก หมอบ ลุก หมอบ ลุก หมอบ ลุก หมอบ ลุก ตอนเรียง ๕ จัดแถว”พรึ่บ เฮ้ ตบที่ข้างขาร้องเฮเสียงดังหลังจากคำสั่งสิ้นสุดลง ใครสูงอยู่หน้าใครเตี้ยอยู่หลัง ปิดท้ายแถวให้ดี ยกศอก สะบัดหน้าไปที่หัวแถว เสียงลมหายใจดังฟื้ดฟ้าด “นิ่ง”ลดมือลงสะบัดหน้าให้ตรง สายตาห้ามลอกแลก “กอดคอ”ยกมือมากอดประสาน โดนอีกแล้วกู “๕๐ ยก”

“๕๐ ยก”ทวนทำสั่งแล้วเริ่มปฏิบัติ ไม่โดนลงโทษนานเส้นสายมันดูตึงๆไงไม่รู้ คนสั่งกอดคอมอง คนโดนสั่งก็ทำไปด้วยความอึน ผมว่าในใจรุ่นพี่ต้องมีโกรธแค้นรุ่นน้องแน่ๆเลย “๑ ๒ ๓ ๔๘ ๑ ๒ ๓ ๔๙ ๑ ๒ ๓ ๕๐ ๑ ๒ ๓ ขอบคุณครับ”อีลุกขลุกขลักกันตั้งแต่เริ่มต้นเลยทีเดียว กว่าจะครบตามจำนวนที่สั่งเล่นเอาหอบอยู่เหมือนกัน

“กูขอ ๓ คนไม่มีใครได้ยินเลยเหรอ”เสียงนิ่มๆ สายตาเชือดเฉือน “ชักจะมากขึ้นทุกวันแล้วนะพวกมึง อีกไม่กี่วันรุ่นน้องก็จะขึ้นกองร้อยแล้ว พวกมึงยังทำตัวแบบนี้ ไอ้คนอู้ก็อู้เข้าไป กูไม่สนซะอย่าง เตรียมตัวให้ดีนะพวกมึง รุ่นน้องขึ้นกองร้อยเมื่อไหร่กูจะขอผู้กองสั่งปรับปรุงวินัยทั้งกองร้อย ชักจะเสื่อมมากขึ้นทุกวัน ไอ้รุ่นใหญ่ก็เหมือนกัน ใกล้ปลดแล้วนี่ ไม่เอาอะไรแล้วใช่ไหม เวรยามก็ไม่ค่อยอยากจะเข้า เกี่ยง ให้แต่รุ่นน้องเข้า คนอื่นๆก็เหมือนกัน มึงอย่าคิดนะว่ามึงเก๋าจะทำอะไรก็ได้ สำเหนียกตัวเองไว้บ้าง พวกมึงมันแค่ทหารเกณฑ์ ผู้บังคับบัญชาเล่นด้วยอย่าเหลิง เห็นผู้บังคับบัญชาแซวเล่นด้วยก็เอาใหญ่ ระวังตัวไว้ให้ดี ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร ใครควรเล่นใครไม่ควรเล่น เฮ้ย ไอ้ข้างหลัง มึงเล่นอะไรกัน หรือมึงจะเอาอีก ได้ๆ คืนนี้พวกมึงไม่ได้นอนแน่”เสียงวิทยุดังขัดจังหวะขึ้นมาก่อน หมู่อาร์ตตอบรับคำสั่งจากวิทยุแล้วให้ทหาร ๓ คนไปที่ บก. พัน จากนั้นก็สั่งพักแถว แยกย้ายกันพักผ่อน รุ่นพี่ก็โวยวายด่ารุ่นน้องว่าไม่พุ่ง ประจำเลยครับ รุ่นน้องโดนหนักกว่าตลอด

๑๑.๓๐ น. ผู้ช่วยสิบเวรซึ่งเป็นรุ่นใหญ่ใกล้ปลดเรียกรุ่นน้องไปจัดเวรเลี้ยง ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นพี่ทั้งนั้น เพราะเขารู้ว่าถ้าวันไหนหมู่อาร์ตเข้าสิบเวร ตอนพาแถวไปกินข้าวจะไม่ได้เดินแถวไปดีๆ มันจะต้องมีอะไรที่ผิดแผกพิสดารไปบ้าง รุ่นน้องเลยโดนไล่ออกจากรูปแถว ซึ่งปกติรุ่นใหญ่ไม่ค่อยมีใครไปจัดเวรเลี้ยงหรอกครับ แต่วันนี้แย่งกันไปเพราะเมื่อกี้โดนจัดหนักไปแล้ว ผมไม่ได้กลัวอะไรอยู่แล้ว ผิดว่าตามผิด

ไปกินข้าวตามปกติ ไม่มีโดนแดกครับ ก็นะ ไปเสนอหน้ากับหมวดบูมอยู่พักหนึ่งเลยหน้าบาน หึ กินข้าวกันอย่างเร่งรีบ รุ่นพี่ชอบกินเร็วผมไม่ค่อยอิ่มเลยครับ ปกติอย่างต่ำต้อง ๒ จาน กลับมากองร้อยผู้หมวดหิ้วข้าวมันไก่มาพอดี ๓ กล่อง กล่องหนึ่งน่าจะของหมวดบูม อีกกล่องหมวดเต้ย แล้วอีกกล่องล่ะ ของไอ้บอมบ์น่ะสิ ฮ่าๆๆ

“ขอบคุณครับ”

“อะไรมึง”ผู้หมวดขมวดคิ้ว

“ก็ข้าวมันไก่ไง”

“อะไร ของกูกับไอ้เต้ย มึงกินข้าวที่โรงเลี้ยงแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ไม่อิ่มอ่ะครับ นะผู้หมวด สงสารพยาธิตัวน้อยๆในท้องผมเถอะครับ”

“กินเบ็นด้าสิ หึหึ ระวังอ้วนนะมึง กินจุซะขนาดนี้”

“ไม่มีทางครับผู้หมวด ผมไม่ยอมปล่อยให้ตัวผมอ้วนหรอก แต่ผมจะฟิตกล้ามขึ้นทุกวัน ให้หล่อมากขึ้นกว่าเดิม”

“ขอร้อง อย่าเอาประเด็นนี้มาพูด กูหวงของ ขึ้นไปกินข้างบนพร้อมกันสิ ไอ้เต้ยรออยู่บนห้องละ”แล้วผมก็เดินตามหลังดุ๊กๆไป หยิบจานชามช้อนมาบริการ ๒ หมวด ที่จริงหมวดบูมไม่ค่อยชอบให้ผมทำเหมือนเป็นคนรับใช้สักเท่าไหร่แต่ว่ายังไงเขาก็ผู้บังคับบัญชาอ่ะนะ ต้องแสดงออกซึ่งความเคารพยำเกรงกันนิดหนึ่ง แค่ที่สนิทกันขนาดนี้คนอื่นก็เริ่มมองผมว่าเป็นคนไม่ดีแล้วละ โดนเขาเหน็บบ่อยครับ หึหึ

“บอมบ์ กูเห็นในเฟสมึง บ้านมึงมีมอไซด์คลาสสิคอยู่ใช่ป่ะ”หมวดเต้ยเปิดประเด็น ผมพลางคิด อ๋อ ไอ้ตุ๊กแกที่บ้านนี่เองครับ มอร์ไซด์คันนั้นมันชื่อตุ๊กแกครับ ของพ่อผมเอง

“ครับ ของพ่อผมน่ะ”

“เหรอ ขายไหม อยากได้อ่ะ”ตาวาวขึ้นมาเชียว

“คงไม่อ่ะ ไอ้ภีมขอซื้อจากผมหลายรอบแล้ว แต่ผมไม่ขาย”

“ทำไมวะ อ่ะ พี่ภีมให้เท่าไหร่อยู่จะให้อีกเท่าตัวของพี่ภีม”

“มันขอซื้อ ๒ แสน”

“ห๊า”ถึงกับร้องมาเชียว

“อืม ที่จริงราคาตลาดมันน่าจะ ๖ หมื่นกว่าๆ หรือน่าจะไม่เกินนี้อ่ะ แต่ของชิ้นนี้มีคุณค่าทางจิตใจ มรดกพ่อผม”

“อยากได้ว่ะมึง”

“ก็ตามเว็ปขายรถคลาสสิกก็มีนี่ครับ”

“ก็มี แต่ไม่ค่อยมั่นใจว่ะ แล้วมึงมีคนรู้จักที่มีแบบของมึงบ้างป่ะ”

“ของผู้ใหญ่บ้านผมมีคันหนึ่งมั้งครับ เดี๋ยวไปถามให้อีกที แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะขายหรือเปล่า ผมว่าหาตามเว็ปได้ของง่ายกว่าครับ มันมีให้เลือกเยอะกว่า หรือไม่ก็ไปตามร้านที่เขาขายมอไซด์คลาสสิกสิครับ เออ หรือไม่ก็ซื้อของไทรอัมพ์ก็ได้ ไม่เท่าไหร่เอง แค่ ๗ แสนกว่าๆ”

“เหอ ๗ แสนกูออกนินจาได้ตั้ง ๕ คัน”

“ฮ่าๆๆ ก็ถอยนินจาไปซะก็หมดเรื่อง”

“ไม่ว่ะ ถ้าแบบนินจา กูเอาดูคาติดีกว่า เหมือนของพี่ภีม”เล่นของแรงเลยนะผู้หมวด ดูคาติราคาหลักหกเกือบๆเจ็ด ไอ้ภีมมันยังผ่อนผมไม่หมดเลย

“มีตังค์ก็ซื้อดิ”

“อยากได้แบบของมึง อย่าลืมนะบอมบ์ หาให้หน่อย”

“ครับ จะพยายามนะ”ผู้ชายก็ไม่มีอะไรมากมายรอกครับ ชอบรถ แล้วแต่จะชอบแนวไหน บ้างก็ชอบรุ่นใหม่ บ้างก็ชอบรุ่นเก่า บ้างชอบมอไซด์ บ้างชอบรถยนต์ แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคน

ลงมาด้านล่าง หลังจากที่เขารวมเช็คยอดและทำความสะอาดกันไปเรียบร้อยแล้ว ผมเอาจานไปล้างเจอหน้าหมู่อาร์ตมันทำหน้าประมาณว่า มึงเก๋าเหรอ ทำไมไม่มารวม ผมไม่ได้สนใจอะไร ขี้เกียจจะมีเรื่อง มันน่าเบื่อนะครับ ไม่รู้มาโกรธแค้นกันด้วยเรื่องอะไร ไม่ชอบใจที่ผมใกล้ชิดผู้หมวดหรือประเด็นอื่น ผมเองก็ไม่ได้อยากทำตัวเด่นนะครับ อยากจะอยู่เงียบๆ ไม่เป็นที่เพ่งเล็งของใครมากกว่า ทำตัวเด่นแล้วมันเข้าตานายสิบนายทหาร ไม่ค่อยดี แต่ถามว่าตอนนี้เก็บเนื้อเก็บตัวได้ไหม คำตอบก็คือมันไม่ทันแล้วครับ ชื่อเสียงผมกระฉ่อนกองพันตั้งแต่ผมกระทืบจนเข้าโรงบาลไป ๓ คนนั่นแหละครับ กับหมู่อาร์ตนี่ยังแง่งๆใส่ผมอยู่ ส่วนอีก ๒ หมู่ เจอหน้าผมไม่ค่อยกล้าสบตาครับ ก็มีคนหมั่นไส้เยอะครับ ทั้งในกองร้อยเองและกองร้อยอื่นๆ เพราะพี่น้องเขานะ เขารักกัน เขาย่อมเข้าข้างกันเป็นธรรมดา แต่คนที่เห็นใจผมก็มีครับ

“หมู่ๆ ไอ้สันต์มันโดนรถชนครับหมู่”

“ห๊ะ เฮ้ย อะไรนะมึงพูดว่าอะไร”หมู่อาร์ตร้องเสียงดังอย่างตกอกตกใจหลังจกรุ่นพี่วิ่งมาบอกเหตุการณ์

“ไอ้สันต์โดนรถชนครับหมู่”

“ไอ้สัส หาเรื่องให้กูอีกแล้ว แล้วตอนนี้มันอยู่ไหนเป็นไงบ้าง”

“ไม่รู้เหมือนกันครับหมู่”

“เหี้ยเอ๊ย เออๆ เดี๋ยวกูจัดการเอง เหี้ยเอ๊ย หาเรื่องยุ่งให้กูอีกแล้วละสิ”หมู่อาร์ตสภาพเหมือนหนูติดจั่นจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้จะเข้าบก.ร้อย หรือขึ้นไปข้างบนรายงานผู้หมวด ผู้กองดี ความวุ่นวายขนาดย่อมๆเกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่นาที ไอ้สันต์ที่พูดถึงนี่คือรุ่นพี่ที่ใกล้จะปลดแล้วนะครับ เป็นลูกน้องคนสนิทคนหนึ่งของหมู่อาร์ต หมู่อาร์ตชอบใช้ให้ออกไปซื้อนั่นซื้อนี่บ่อยๆ แล้ววันนี้ก็ถูกรถชนจนได้ เฮ้อ คนเรานี่เสี่ยงตายได้ตลอดเวลานะครับ

กว่าจะรู้ข่าวคราวว่าเป็นยังไงก็บ่ายแก่ๆแล้ว ผู้หมวดเป็นคนไปดูเองถึงโรงพยาบาลเลยครับ แล้วไอ้บอมบ์ก็ทำหน้าที่เป็นสารถีชั้นเยี่ยมขับไปส่งผู้หมวด ไปดูอาการแล้วจัดการเรื่องราวต่างๆ ปรากฏว่าผิดทั้งคู่เลยครับ พี่สันต์ที่โดนชนเพราะคุยโทรศัพท์ไปขับรถไป คือเอามือถือยัดตรงหมวกกันน็อกนะครับแล้วขับไปคุยไป ส่วนคู่กรณีก็ขับสวนมาแบบผิดเลน ครึ่งหนึ่งของรถมันก็อยู่เลนซ้ายนี่แหละครับ แต่อีกครึ่งอยู่เลนขวา กำลังจะแซง รถยนต์ก็จะแซง มอไซด์ก็อยากให้รวดเร็วเลาะไปเลาะมา เลาจนโดนเลาะกระดูก สาหัสอยู่เหมือนกันครับ งานนี้หมู่อาร์ตอ่วมครับ เพราะเข้าสิบเวรแล้วเป็นคนใช้ทหารไปซื้อของ

“มีแต่เรื่อง”หมวดบูมส่ายหน้าแล้วให้ผมขับรถไปส่งที่กองร้อย ผู้กองรู้เรื่องแกก็เดือดเหมือนกันแหละครับ เรียกหมู่อาร์ตมาด่าอยู่พักใหญ่

“เฮ้อ มึงก็ด้วยไอ้บอมบ์ อย่าประมาท กูกับไอ้บูมใช้มึงบ่อยๆ แบบนี้กูจะกล้าใช้อีกไหมวะ”ผู้กองเตือนผม คือปกติหมวดบูมหรือผู้กองแกเรียกใช้ผมบ่อยๆ ให้ผมขับมอไซด์ออกไปซื้อของบ้าง หรือใช้ไปทำธุระอย่างอื่นบ้าง

“ไอ้บอมบ์มันหนังหนาอ่ะพี่ รถชนมันผมว่ารถบุบ”หมวดบูมต่อยหน้าอกผมเบาๆ

“เออ จริงของมึงบูม นี่ถ้ามึงไม่ใช่ทหารในกองร้อยกูนะ กูคิดว่ามึงน่าจะเป็นนายทหารหน่วยจู่โจมแน่ๆว่ะ หุ่นให้ มาดให้ แต่หน้ากูรู้สึกคุ้นๆ มึงว่าป่ะบูม เหมือนพลเอกชนะศึก นี่ถ้านามสกุลมึงไม่ใช่อุดมลักษณ์นะ กูว่ามึงเป็นน้องหรือไม่ก็ญาติพลเอกชนะศึกแน่ๆ ไอ้สัส กูเห็นมึงยืนหันหลัง หลายครั้งแล้วที่กูจะยกมือไหว้มึง พลเอกชนะศึกภาคสองป่ะวะ”เอ่อ ตรงเผงเลยครับผู้กอง ชนะศึกอ่ะพี่ผมเอง

“แฮะๆ”หมวดบูมยิ้มแห้งๆ ส่วนผมทำหน้าเรียบๆ หวั่นใจเดี๋ยวใครรู้ผมจะเดือดร้อน ผมไม่ค่อยอยากให้ใครรู้เรื่องพี่ชายเท่าไหร่ นี่ถ้าผมไม่เป็นทหารผมก็คุยได้นะครับว่าพี่ชายผมเป็นใคร แต่ตอนนี้ผมเป็นทหารจะไปเดินป่าวประกาศว่าพี่กูคนนี้นะ มันไม่ดี ผมกลัวโดนเลือกปฏิบัติ ผมไม่ค่อยชอบ เพราะผมคือผม พี่ชายก็คือพี่ชาย อยากปีกกล้าขาแข็งด้วยตัวเอง ซึ่งตอนนี้ผมก็คิดว่าพอตัวครับ

ออฟไลน์ AGELA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1109/-0
เสาร์อาทิตย์คือสวรรค์น้อยๆของทหารในกองร้อย ใครโดนเวรยามวันหยุดก็เหนื่อยหน่อยครับ แล้วผมก็ไม่รอดครับ โดนเวรวันอาทิตย์ ผู้หมวดไม่กองร้อยวันอาทิตย์เลยทางสะดวกให้ผมได้เข้าเวร ผมเองไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่หรอก จัดเข้าเวรวันไหนก็จัดมาเถอะ ไม่เคยเกี่ยงอยู่แล้ว ๘ โมงไปเบิกปืนเบิกเข็มขัดสนามแล้วก็ไปรอที่หน้ากองร้อยสสก.เพื่อที่จะได้เดินแถวไปที่กองรักษาการณ์ ประมาณสัก ๐๘.๔๐น. แต่ละกองร้อยมาครบแล้วก็เดินแถวไปที่กองรักษาการณ์ วันนี้กองร้อยพวกผมเป็นผบ.กองรักษาการณ์ครับ มีจ่าคุ้งเป็นผบ.กองรักษาการณ์ กับป๋าเป็นผช.ผบ.กองรักษาการณ์ จ่าคุ้งนี่แกโหดครับ ชอบแดกทหาร วันนี้พวกผมเข้าเวรผลัด ๔ ช่วงเช้าเลยสบายหน่อยครับ

ประมาณสักเที่ยงวันพวกผมต้องมานั่งหนุน ใส่เข็มขัดแต่งตัวเรียบร้อยออกมาด้านนอก มีรุ่นพี่บางคนที่ช้า โดนผบ.ซ่อมเลยครับ

“เฮ้ย พวกมึงรู้เวลากันบ้างไหมวะ ไปพุ่งหลังคนละ ๕๐ ยกเลยไป”โดนจนได้ครับ อารมณ์เสียเหมือนกัน ครบจำนวนตามที่สั่งก็เข้ามานั่งในร่ม ยังไม่ทันหายเหนื่อยผมก็ต้องไปยืนชักล้อครับ วันนี้ผมรุ่นน้องสุดรุ่นพี่เลยใช้ซะ ตรงข้ามกองรักษาการณ์จะเป็นอาคารเล็กๆไว้สำหรับเยี่ยมญาตินะครับ ซึ่งตอนนี้ก็มีหลายคู่ พ่อแม่มาเยี่ยมลูกบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นเมียมาเยี่ยมผัวมากกว่า นอกจากเมียแล้วยังมีเพื่อนเมียอีก ผมยืนชักล้อไปก็เหลือบๆมองดูบ้าง สวยน่ารักกันหลายคน

“ไอ้บอมบ์ เพื่อนเมียกูชอบมึง”เพื่อนร่วมกองร้อยตะโกนขึ้น ผมเองก็ยิ้มๆ

“มีเมียมีลูกแล้วว่ะเพื่อน เมียหวง ลูกคงยังไม่อยากได้แม่ใหม่”ผมตอบ หน้าตาแต่ละคนก็ชวนเร้าใจนะครับแต่ว่าถ้าไอ้บอมบ์จะหาเมียน้อย เมียมาก ไอ้บอมบ์หาได้ดีกว่านี้ ของไอ้บอมบ์ต้องเกรดพรีเมี่ยมเท่านั้น ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่น ไม่คิดจะหาหรอกครับ เมียผมดุ

นอกจากจะมีคู่หวานแล้ว ยังมีคู่ที่ไม่หวาน นั่งง๊องแง๊งใส่กัน พ่อแง่แม่งอนว่างั้นเถอะ คุณเมียก็หน้าตึง คุณผัวก็หน้ามึน หึหึ ปัญหาระดับชาติ ผัวเมียละเหี่ยใจครับ ครบ ๒๐ นาทีแล้วก็มีคนมาเปลี่ยน ไม่มาเปลี่ยนผมมีเรื่องแน่นอน มานั่งดูทีวีกับจ่า อากาศก็ร้อนพอสมควร นี่ผมไม่อยากจะให้มันถึงเดือนเมษา เดือนมกรายังร้อนขนาดนี้ ถ้าเป็นเมษาไม่ต้องพูดเลยครับ ใครอยู่กรุงเทพก็รู้ดี ที่จริงไม่ว่าที่ไหนนั่นแหละครับ อากาศร้อนมาก นั่งดูทีวีไปรุ่นพี่สะกิดให้ดูผัวเมียทะเลาะกัน ผมมองดูแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า ไม่รู้สาเหตุหรอกครับแต่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่กับการทะเลาะกัน มันน่ารำคาญ มันต้องคิดคำด่า ต้องเอาชนะ แล้วสุดท้ายก็ใช้กำลัง เพี๊ยะ เมียโดนตบหน้าไปแล้วครับ คิดไม่ผิดเลย

“เฮ้ย ไอ้ยักษ์ มึงไปดูดิ เขาเป็นไรกัน”จ่าสั่ง ผมต้องลุกไปดู

“มึงก็แบบนี้ ฮือๆๆ ไม่ต้องมาพูดกับกูอีกเลย ฮือๆๆ”

“แล้วมึงล่ะ เชื่อใจกูป่ะ มึงหึงกูมากไปป่ะ กูบอกไม่มีก็คือไม่มีสิ”

“ไม่มีเหี้ยอะไรล่ะ ฮือๆ  แล้วอีนี่มันเป็นใคร ห๊ะ กูถามว่ามันเป็นใคร มันเป็นแม่มึงเหรอ อีตัวเหี้ยนี่มันเป็นแม่มึงเหรอ ฮือๆๆ”

“อีสัส มึงเล่นถึงแม่กูเลยเหรอ ห๊ะ จะมากไปแล้วนะมึง แล้วทีมึงล่ะ อย่าคิดว่ากูไม่รู้ จวยกูไม่ได้หักคาไว้มึงไปสะดุดจวยใครมาบ้างล่ะ ห๊ะ แม่กูบอกหมด ว่ามึงไปร่านกับใครมาบ้าง”

“ฮือๆๆ มึงไม่เชื่อใจกูเหรอ ห๊ะ มึง ไอ้เหี้ย ไอ้หน้าตัวเมีย มึงมาเป็นทหารแล้วมึงจะมาเอาเมียใหม่ มึงจะทิ้งกู ฮือๆๆ กูไม่อยู่ให้มึงเอาใช่ไหมมึงถึงนอกใจกู”

“มึงอย่ามาไร้สาระกับกูนะ กูมีเมีย กูไม่ได้มีแม่ อย่ามาทำแบบนี้กับกู”

“เฮ้ย เบาๆได้ป่ะวะ กูจะดูทีวี”ผมมองหน้า ไอ้คนทะเลาะคือกองร้อยข้างเคียงครับ

“อย่าเสือกได้ป่ะ เรื่องของผัวเมีย”ฝ่ายชายด่า

“กูจะดูทีวี”ผมเหยียดหมัดขึ้น

“เออ แค่นี้ไม่เห็นต้องใช้กำลัง มึงเงียบได้แล้ว อย่าทำให้กูเดือดร้อน เหี้ย มึงมาเยี่ยมกูแต่มาทำตัวแบบนี้กับกู กูเบื่อนะ”

“กูว่ามึงขอผู้กองลาไปเอาเมียมึงสักครึ่งวันเถอะ ไม่กล้าขอเอาเบอร์ผู้กองของมึงมากูโทรขอให้”ผมพูดตัดรำคาญ แต่มันก็เสือกเชื่อใจผมครับยืนมือถือกับเบอร์ผู้กองให้ผมเฉยเลย แล้วทำไงล่ะคราวนี้ ไอ้บอมบ์ก็ต้องโทรสิครับ

“สวัสดีครับ พี่เล็ก ผมบอมบ์นะ ครับ คือทหารกองร้อยพี่ทะเลาะกับเมียอ่ะ ผมขอให้มันลาสักครึ่งวันได้ไหมพี่ ครับ เฮ้ย มึงชื่ออะไรนะ อ่อ พลทหารอนุชาครับ ผลัด ๒๕.... ครับพี่ ครับ ได้พี่ โอเค ขอบคุณมากเลยพี่ ได้ๆ จัดมาเลย โธ่ คนอย่างไอ้บอมบ์เคยกลัวที่ไหนล่ะ ได้ๆ ขอบคุณมากครับพี่เล็ก ครับ”ผมเดินกลับมาที่คู่ผัวเมียแล้วยื่นโทรศัพท์ให้ “อ่ะ ผู้กองบอกให้กลับก่อน ๑ ทุ่ม ห้ามเมา ห้ามกลับกองร้อยสาย ผู้กองโทรไปบอกสิบเวรที่กองร้อยมึงแล้วมั้ง ไปแต่งตัวดิ”

“มึงพูดจริงอ่ะ”

“กูจะโกหกทำเพื่อ ไป หรือจะไม่ลากูจะได้โทรไปบอกผู้กองให้ว่ามึงไม่อยากลา”

“ไอ้สัส ลาดิ กูเงี่ยนจะแย่อยู่แล้ว ที่รักรอเค้าแปบนะ เดี๋ยวเค้ามา”มันยิ้มกว้างแล้ววิ่งที่ไปที่กองร้อย ไอ้สัส เมื่อกี้ยังไอ้อีห่าเหี้ยกันอยู่เลย พอได้ลาที่หวานมาเชียว ไอ้สัส กูมองไม่ออกเลยนะมึงว่ามึงเงี่ยน กูว่าที่ทะเลากันเพราะเรื่องนี้ละมั้ง จริงๆเรื่องเซ็กก็สำคัญนะครับ ก็นะ วัยรุ่นมันฮอร์โมนพุกพล่าน ไอ้บอมบ์จะเข้าเลข ๓ อยู่แล้วยังว้อนท์ทุกวันที่เห็นหน้าเมียเลย ฮ่าๆๆๆ ครู่หนึ่งมันวิ่งหน้าบานมาที่กองรักษาการณ์ยื่นใบลาให้จ่าเรียบร้อยแล้วจูงมือเมียออกไปหน้ากองพัน

“เดี๋ยวกูซื้อของมาฝากนะ ขอบใจมึงมาก”มันตะโกนบอก ผมพยักหน้าแล้วมานั่งดูทีวีต่อ อยากลาไปซั่มจังเลย ฮ่าๆๆ คิดถึงที่รัก โทรไปกวนดีกว่า

“โหล มีอะไรเหรอ”เสียงงัวเงียมาเชียว สงสัยจะนอนกลางวัน

“เปล่าครับ คิดถึง”

“อือ พี่บอมบ์คิดถึงน้องบูมเหรอ น้องบูมนอนแอร์โคตรสบายเลยอ่ะพี่ มานอนด้วยกันป่าว”

“นี่ อย่าชวน ถ้าเกิดผมไปจริงไม่ได้นอนอย่างเดียวนะ”

“เหรอครับ ก็ไม่ได้อยากนอนอยู่แล้วนี่ รู้ป่ะว่ากูใส่ชุดอะไรนอน กูใส่กางเกงในตัวเดียวนะ หนาวมากว่ะพี่บอมบ์ ผ้าห่มยังเอาไม่อยู่เลย”เสียงกระเส่ามาเชียว

“เดี๋ยวๆ มึงยั่วกูป่ะบูม ไอ้สัส ก็รู้ว่ากูเข้าเวรอยู่ กูลาไม่ได้มึงมาทำเสียงแบบนี้ใส่กู เดี๋ยวเหอะมึง เดี๋ยวได้ขาถ่างสักวัน”

“ฮ่าๆๆๆ ไอ้ขี้เงี่ยน แหย่หน่อยไม่ได้เลยนะมึง พี่บอมบ์ อ๊า อย่าเลียหัวนมบูมดิ อ๊า ซี้ดดดดดดด”ไอ้สัส จวยแข็งเลยกู

“ได้ๆบูม ได้ เดี๋ยวน้องเจอพี่แน่ วันจันทร์อย่าคิดว่าน้องจะอยู่เป็นสุข”

“วู้ๆ เคยกลัวที่ไหน กล้าก็เอาดิ เออ กินข้าวยัง หิวไหม เหนื่อยป่ะ”

“กินแล้วครับ ยังไม่เหนื่อยหรอก เออ มีเรื่องมาโม้ให้ฟัง.....”แล้วผมก็โม้เรื่องผัวเมียคู่เมื่อกี้

“อ๋อ พี่บอมบ์ก็เลยคิดถึงหน้าบูมอ่ะดิ ว้าว ปลายปีเอาตำแหน่งแฟนดีเด่นไปเลยมั้งครับที่รัก”

“เหอะ ไม่เอาอะไรมากหรอก คืนละ ๓ ดอกก็พอ”

“ไม่พ้นเรื่องใต้สะดือ อ่า พี่บอมบ์ชอบทำให้บูมคิด ซี้ด หัวนมแข็งเลย แค่นี้นะ ชักว่าวดีกว่า ฮ่าๆๆๆ”แล้วก็วางสายไป อ้าว จะให้ไอ้บอมบ์ทำไงล่ะคราวนี้ โด่มาเป็นลำเลยเนี่ย เฮ้อ เดี๋ยวออกเวรก่อนแล้วกันคงจะได้อาศัย ๕ นารีสตรีอันดับหนึ่งของชายโสดแบบกู โป้ ชี้ กลาง นาง ก้อย เดี๋ยวเราเจอกันนะที่รัก

บ่าย ๓ ไปยืนจุด ก่อนไปโดนผบ.แดกอีกตามเคย ทั้งผลัดที่จะมาหนุนและผลัดที่จะไปยืนจุด สาเหตุเพราะทำอะไรชักช้า กูชักจะอารมณ์เสียแล้วนะ คิดถึงเมียก็คิดถึง นี่ยังจะมาทำลายอารมณ์เคลิ้มๆของกูอีก ยืนจุดที่ใหม่ครับ ผมมายืนที่หน้าบก.พัน มีร่มให้หลบแต่ยังร้อน การยืนก็ไม่ค่อยอะไรมากครับ วันนี้วันหยุดผู้บังคับบัญชาระดับสูงไม่เข้ามาทำงานเราเลยยืนแบบผ่อนคลายได้ ที่จริงทุกวันเราก็ไม่ได้ยืนนิ่งเป็นหุ่นไปเสียทีเดียวนะครับ คือยืนอย่างไรก็ได้อย่าให้เหมือนยาม ยืนให้เหมือนทหาร ทำท่าทางให้แข็งแรงแบบทหาร ไม่ตึงเกินไปและไม่หย่อนจนเสียกิริยา ๕ โมง ออกเวรมาพักผ่อน ไปหาของกิน ผมขออนุญาตผบ.กองการณ์(ย่อมาจากกองรักษาการณ์)ไปซื้อข้าวกินที่ตลาดเพราะออกเวรมากับข้าวที่โรงเลี้ยงเอามาให้ไม่เหลือแล้วครับ มันเหลือแค่เศษผัก จะให้กูแดกอะไรล่ะ ก๋วยเตี๋ยวชาม คะน้าหมูกรอบอีกจาน ชาเขียว กินพออิ่มครับ ฮ่าๆๆ กลับจากตลาดก็ขึ้นไปหยิบขันสบู่ลงมาอาบน้ำ อาบให้มันเสร็จไปเลย พอสัก ๖ โมงครึ่งจึงกลับไปที่กองรักษาการณ์อีกครั้ง ไอ้ทหารที่ทะเลาะกับเมียกลับเข้ามารายงานตัวพอดี มันเอาน้ำอัดลมให้ผม ๒ ขวดใหญ่ ได้กินกันทั้งกองการณ์ครับ

เกือบๆ ๓ ทุ่มมานั่งหนุนเหมือนเดิมครับ ก็ไม่มีอะไรมาก คราวนี้ป๋ามานั่งเป็นเพื่อน ส่วนจ่าคุ้งแกไปอาบน้ำครับและน่าจะกลับมาอีกทีประมาณตี ๓ มั้ง มายืนหนุนก็เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าตอนชักล้อสามารถนั่งได้ครับเพราะว่าเป็นยามวิกาล ๓ ทุ่มนี่คือยามวิกาลของทหารนะครับแต่ละกองร้อยดับไฟแล้วนอนกัน ๕ ทุ่มไปยืนจุด หน้าบก.พันนี่กะเทยผ่านเยอะเหมือนกัน แต่ไม่ได้แดกผมหรอกครับ เพราะแสงสว่างเยอะ ไม่มีมุมมืดให้จู๋จี๋ แม้จะมีมุมมืดที่ไหนก็ไม่ได้แดกไอ้บอมบ์หรอก ออกจะรักเมียขนาดนี้

ออกจากจุดตี ๑ กลับมานอนที่กองรักษาการณ์ ร้อนก็ร้อนยุงก็เยอะ ดีนะที่เอามุ้งเอาพัดลมมา พัดลมนี่ยืมหมวดบูมมาใช้ครับ ฮ่าๆๆ ขี้เกียจจะอาบน้ำเลยกางมุ้งแล้วเข้านอนซะ ง่วงมาก รู้สึกว่าเหมือนจะนอนได้แปบเดียวเพราะตี ๔ ครึ่ง เราต้องตื่นแล้วมานั่งหนุน โดนแดกอีกเหมือนเคยครับ เฮ้อ กูล่ะเซ็งจริงๆ แดกแบบนี้ใครจะอยากเข้ากองการณ์วะ เฮ้อ กูอยากออกเวรไวๆจังเลย เริ่มเบื่อแล้วละ

ใกล้จะ ๗ โมงแล้ว ทหารที่เข้าเวรตื่นกันหมดทุกคนเพราะต้องมาทำความสะอาด อีกไม่กี่นาทีก็จะไปยืนจุดแล้วล่ะครับ พวกที่จะหนุนก็ออกมาเรียบร้อยแต่ไม่วายจะโดนแดก รุ่นพี่ที่จะต้องไปยืนหน้าสะพานเดินไปเปลี่ยนก่อน ๕ นาที คือกองพันของผมมีสะพานหน้ากองพันนะครับ แล้วใครที่จะต้องยืนจุดบนสะพานต้องไปเปลี่ยนก่อนสักประมาณ ๕ นาที แกไปยืนอยู่พักหนึ่งแล้ว ส่วนพวกผมก็เตรียมเนื้อเตรียมตัวกำลังจะเดินแถวไปยืนจุด แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อรถของผู้พันขับเข้ามาในกองพัน รุ่นพี่คนนั้นไม่ได้เป่านกหวีดครับ รถผู้พันมาจอดที่หน้ากองรักษาการณ์ ลดกระจกลง พวกผมนี่ลุ้นระทึก อึนมาก ทำอะไรไม่ถูก

“จ่าคุ้ง ไม่ได้อบรมทหารเหรอว่าผู้พันเข้ามาต้องทำยังไง”ผู้พันถามเสียงเครียด จ่าคุ้งกับป๋าต้องวิ่งไปใกล้ๆรถผู้พันแล้วพูดจนลิ้นพันไปหมด “ผบ.กับผู้ช่วยพุ่งหลังคนละ ๕๐ โทษฐานไม่ดูและทหาร ปฏิบัติ”แล้วจ่าแก่ๆ ๒ คนก็พุ่งหลังกันหน้าดำหน้าแดง ส่วนพวกผมหลังจากผู้พันสั่งคนขับรถไปที่บก.พันแล้วรีบเดินแถวไปยืนจุดทันที กลัวโดนแดกด้วย ฮ่าๆๆ

“ทำไมได้เข้าเวรวะ”พี่เล็กหรือผู้กองเล็กหยุดรถถาม ผมทำท่าวันทยาวุธแสดงความเคารพ

“เขาจัดมา ผมก็เลยต้องมาเข้าอ่ะครับ”

“เหรอ เออ เดี๋ยวค่อยคุยกัน กูกับมึงไม่ค่อยได้คุยกันเลย ออกเวร ๙ โมงใช่ป่ะ เดี๋ยวกูมีเรื่องจะคุยด้วยนะ”

“ครับผู้กอง”

“ผู้กงผู้กองอะไรกัน กูพี่มึงนะ ไปละ เดี๋ยวเจอกัน เออ กูซื้อข้าวมาให้เดี๋ยวกูให้ทหารเอาไปฝากไว้ที่กองร้อยแล้วกัน แล้วเจอกันน้อง”ผู้กองขับรถไปที่กองร้อย ผู้กองเล็กเพิ่งย้ายมารับตำแหน่งผู้กองได้ประมาณ ๒ เดือนครับ แกย้ายมาเมื่อเดือนธันวาปีที่แล้ว คนนี้ผมคุ้นเคยกันดีครับ ก็สนิทมาเพราะพวกพี่โจ้น่ะ ผู้กองเล็กนี่รู้สึกจะเป็นรุ่นน้องผู้กองเชษฐ์มั้งครับ อ่อนกว่ากันน่าจะ ๑ รุ่นมั้ง พอลับตาแล้วก็ยืนต่อไปจน ๙ โมงถึงได้ออกเวร ว่าจะไม่โดนแดกแต่โดนจ่าแดกจนได้ครับ พุ่งหลังคนละ ๑๐๐ ยก โห นี่กูเข้าเวรมาวันเดียวโดนแดกไปเกือบ ๑๐ ครั้ง

“ไอ้สัส ทีหลังอย่าให้มีนะพวกมึง ถ้ามีกูไม่แดกแค่นี้แน่”จ่าคุ้งขู่พวกผมเอาไว้แล้วแกก็ขับมอไซด์กลับกองร้อย พวกผมก็เดินกลับกองร้อยครับ

“สมน้ำหน้าไอ้สัส นี่กูอยากให้ผู้พันสั่งลงโทษสัก ๑๐๐ ยกให้หัวใจวายตายไปเลย ไอ้เหี้ย แดกพวกกูดีนัก”รุ่นพี่ที่ยืนบนสะพานพูดขึ้น ทำเอาผมงง

“เฮ้ย ตกลงมึงพลาดหรือมึงตั้งใจ”เพื่อนรุ่นพี่ถามขึ้น

“กูตั้งใจสิวะ แม่ง กูเห็นรถผู้พันแล้ว แต่กูไม่เป่า กูวันทยาวุธเสร็จกูก็เฉยๆ สมน้ำหน้าแม่ง ฮ่าๆๆ”

“ไอ้เหี้ย กูก็กลัวว่าจะโดนดองเวร ฮ่าๆๆ แต่กูสมน้ำหน้าจ่าว่ะแม่ง โดนซะบ้างก็ดี ไอ้เหี้ย แดกกูเหมือนหมูเหมือนหมา”สรุปแล้วไม่ใช่เรื่องพลาดครับ แต่เป็นเรื่องการแก้แค้น ฮ่าๆๆ ผมเองก็ขำตามเขาไปด้วย รุ่นพี่นี่ร้ายใช่ย่อย

กลับมาอาบน้ำอาบท่าที่กองร้อยแล้วก็พักผ่อน วกที่ออกเวรมานี่เขาจะให้พักครึ่งวันนะครับ เวลาเรียกรวมหรือจะเรียกไปทำงาน ห้ามเรียกพวกที่เพิ่งออกจากเวรครับ ผมเองหาที่นอนเย็นๆ ไปนอนรวมกันที่ห้องดูทีวี ส่วนพวกที่ทำงานก็ทำกันต่อไป ถึงเวลาไปกินข้าวก็ไปกินกับเขา ตอนบ่ายมาทำความสะอาดนิดหน่อยแล้วปล่อยให้พักผ่อน

“ฮัลโหล เออ มีไรวะกูเพิ่งออกเวร ง่วงสัส หา มึงพูดอะไรนะ เดี๋ยวๆ...”รุ่นพี่คนหนึ่งนอนคุยโทรศัพท์อยู่ใกล้ๆ ผมเองจะนอนต่อก็นอนไม่หลับเลยนอนดูทีวี คุยไปคุยมาไม่รู้เป็นไร

“เฮ้ย เหี้ย มึงพูดจริงเหรอ ไอ้สัสเอ๊ย ฮือๆ อีเหี้ยเอ๊ย ฮือๆๆ”เอาซะแล้ว น้ำตาตกซะแล้วรุ่นพี่กู แล้วกพี่แกก็ด่าสารพัดสารเพคุยกันยาวเลยครับ จนเพื่อนๆของรุ่นพี่คนนี้มานั่งมอง

“เฮ้ย เป็นไรวะไอ้ตั้ม”

“ฮือๆๆ ไอ้สัส เมียกู ฮือๆๆ มันทิ้งกูไปอยู่กับผัวใหม่มัน ฮือๆๆ ผัวใหม่ไอ้เหี้ย ไม่ใช่ใคร เพื่อนกูอีก ไอ้เพื่นอสารเลวเอ๊ย ฮือๆ อีเหี้ย อีเมียเหี้ย เพื่อนเหี้ย ฮือๆๆ”รุ่นพี่แกร้องไห้น่าสงสาร เฮ้อ เมียทิ้งนี่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนของทหาร จากบ้านจากเมืองมาห่างลูกห่างเมีย

“เออๆ ใจเย็นๆ มันจะไป ก็ให้มันไป ไม่ต้องเสียดาย หาใหม่”

“ฮือๆๆ ไม่ให้กูเสียดายยังไง รถมอไซด์กู ฮึก เมียกู ฮือๆๆ เพื่อนรักของกู มันเอาของกูไปหมดเลย ไอ้เหี้ยเอ๊ย ฮือๆๆ”เหี้ยเอ๊ย ไปทั้งรถไปทั้งเมียเสียทั้งเพื่อน เฮ้อ









 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด