ตอนที่ ๙/๒
วันนี้วันอาทิตย์ เป็นวันที่พวกเรารอคอยกับการเยี่ยมของญาติๆ วันนี้ญาติพวกเรามาเยอะมากเลยครับ ผมก็ทักทายกับทุกๆคน และกับไอ้แมน หรือหมวย ชื่อมันเชยนะ แต่ตอนนี้มันอ่ะสวยกว่าเมื่อก่อนมากเลยครับ รู้จักการแต่งเนื้อแต่งตัว คงเป็นเพราะไปทำงานกับแม่บิวอ่ะ แม่บิวก็เลยพาไปใส่ตะกร้าล้างน้ำ ทำให้ดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น ผมก็หวงมันแหละครับ แฟนนี่เนอะ
“ตรง”เสียงสั่งตรงดังขึ้นเมื่อบุคคลสำคัญของกองพันเดินทางมา อ้าว ไหนว่าไปตามผู้หมวดแล้วผู้พันมาทำไมนะ ผมลุกขึ้นยืนตรง อามหา พ่อ อาหนู ก็ยืนตรงตามด้วย
“จะยืนตรงทำไมอา”พี่ภีมสะกิด มีแค่พี่ภีมกับพี่ชายที่เป็นทหารนี่แหละครับที่ไม่ลุกขึ้นยืน แก๊งทหารเกณฑ์รุ่นเก่านี่เป๊ะมาก
“เออ ไอ้ห่า กูลืมว่ะ”
“นี่ถ้าได้ยินเสียงนกหวีดไปวิ่งไปรวมแถวกับเด็กๆหรอกเหรออา”พี่ภีมแซวต่อ อย่างฮาอ่ะ
“ตามสบายๆ นั่งๆ สบายนะคุณพ่อคุณแม่”ผู้พันหันไปยิ้มให้กับผู้ปกครอง “สวัสดีครับๆ”ผู้พันมาถึงก็ยกมือไหว้พี่ชายของผม
“สวัสดีน้อง”พี่ฉัตรยิ้มให้ พี่ฉัตรนี่พลเอกแล้วนะ ใกล้ๆจะเกษียณแล้ว
“ผู้ฝึกเหรอ”พ่อถาม
“เปล่าครับ ผู้พันครับ ผู้พันครับนี่พ่อผม นี่อาหนู อาตวง อาเต้ยรู้จักผู้พันไหมครับ”ผมเป็นคนแนะนำ
“รู้จักสิ ตอนอาเป็นผู้พันที่นี่ ไอ้เฟิร์สยังเป็นร้อยตรีใหม่เอี่ยมอยู่เลย”อาเต้ยพูด
“อ๋อ แล้วทำไมอาเต้ยไม่มาหาซ่าบ้างล่ะ เป็นถึงอดีตผู้พัน น่าจะมาเยี่ยมหลานบ้าง”
“พ่อเอ็งห้าม”
“จะมาทำไม มาเรื่องอื่นไม่ว่า แต่ถ้ามาเบ่งว่านี่ลูกกูหลานกู กูไม่ยอม มันเสียระบบ แล้วจำไว้ด้วยนะแสบ ซ่า พี่เรา ญาติเราใหญ่แค่ไหน เราไม่ได้อยู่เหนือกติกาของที่นั่น”พ่อชี้แจง มิน่าไม่เห็นมีใครมาให้ผมเห็นหน้าเลย
“ครับพ่อ”
“แล้วไหนผู้ฝึกอ่ะ ไม่เห็นมาสักที”อาหนูถามหาอีกรอบ
“ให้เขาไปพบปะคนอื่นบ้างเถอะ แฝดมันมาเป็นทหารอยู่แค่ ๒ คนรึไงวะ เดี๋ยวถ้าว่างเขาก็ต้องแวะมาสิ เออ”อาตวงชี้แจงบ้าง
“ก็หนูอยากเห็นว่าหล่อไหม”อาหนูทำหน้างอ
“คนนั้นไงอาหนู ที่ยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น”
“ไหนอ่ะ มองไม่เห็น เดี๋ยวหาแว่นก่อน อ้าว ไม่มี พี่เจิดเห็นแว่นไหม ลืมเอาแว่นมาอีกแล้วกู โอ๊ย อะไรของกูวะเนี่ย วางไว้บนโต๊ะว่าจะหยิบมาก็ลืม ไปลากมาซ่า พามาดูหน้าก็พอแล้ว นี่ไม่ได้จะมาเยี่ยมพวกเราหรอกนะ แค่มาดูผู้ฝึกก็กลับละ”อาหนูเชิดหน้าใส่
“อาหนูอ่ะ นี่หลานนะ ไม่ใยดีกันเลยเหรอ”แสบประท้วงแต่ทำหน้าแป้นแล้น
“ไม่ๆ อาเบื่อพวกแกแล้ว”บ่นว่าเบื่อแต่แกะส้มให้พวกผมกิน “พวกแกกับพ่อแกอ่ะ เห็นมานานแล้ว ไม่กระชุ่มกระชวย”
“นี่เพื่อนที่แอบปลื้มยังขนาดนี้ แล้วกูที่เป็นผัวล่ะบอมบ์ เห็นกันเช้ายันเย็น มันจะไม่เอือมเหรอวะ”อาฝรั่งบ่นกับพ่อ ๒ คน
“เดี๋ยวต่อยหน้าฝรั่งให้เป็นหน้าตี๋เลยพี่เจิด ผัวก็คือผัวสิ น้องแสบ นี่อาสั่งนะลูก ไปลากผู้หมวดมา”อาหนูพูดพลางแกะนั่นนี่ให้กิน นี่มาถึงนี่ของกินเยอะนะครับ มีผลไม้หลายอย่าง ของจากที่บ้านบ้าง ซื้อมาบ้าง อาหนูมาถึงก็จัดการนั่นนี่ให้พวกเรา บ่นไปด้วยทำไปด้วย
“ลูกกูจะเป็นง่อยกันทั้งคู่แล้วมึง”พ่อพูดเสียงดุ
“เชอะ พี่บอมบ์ไม่เคยคิดจะตามใจลูกบ้างหรือไง”
“ตามใจสิ แต่ตามใจในสิ่งที่ถูกต้อง เออ ลืมไป ภีมได้เอาขนมจีนมาป่ะวะ”
“อยู่ท้ายรถมั้งอา หรือว่าใครกินหมดแล้ว”พี่ภีมตอบ
“ใครจะกินหมดวะ กูทำมาตั้งเยอะ”
“พ่อทำเองเหรอ น่ากินอ่ะ ซ่าหิ๊วหิว”
“อร่อยมากเลยนะพี่ซ่า ผมกินไปหลายรอบละ ย่าหมักแป้งเองด้วย”ชาลีพูด น้ำลายศอเลย
เรื่องขนมจีนนี่ย่าทำสูตรโบราณให้พวกเรากินกันปีละครั้งครับ จะหมักแป้งเอง โม่เอง ทำทุกขั้นตอน ใช้เวลาหลายวัน พวกเราได้กินปีละครั้ง แต่ถ้าเส้นที่เขาทำขายนี่กินบ่อยครับ ชาลีกับตะวันเดินไปเอาขนมจีนมา พวกผมนั่งรอกันตรงนี้ มาถึงก็จัดหนักกันเลยทีเดียว กินกันเกือบทุกคน ผู้พันทีแรกก็เหนียมๆ บอกปฏิเสธ สุดท้ายก็หมดไป ๒ จาน พ่อ อาหนู อาตวงนั่งมองพวกเราครับ
“พ่อกินไหม”
“กินไป พ่อกินเยอะแล้ว”
“พ่อยังไม่กินเลยพี่ซ่า บอกให้กินไม่ยอมกิน”ชาลีฟ้อง
“เออ เดี๋ยวไม่อิ่มกันไอ้กุมารทอง”
“พ่ออ่ะ ชอบเรียกกุมารทอง”ชาลีค้อนใส่พ่อ
“ก็จริง ใครๆก็รู้ว่าเอ็งคือกุมารทอง”
“ไม่เห็นจะมีทองมีเงินอะไรเลย จนมาก”
“ถุ้ย พี่ชาลี เงินพ่อพี่นี่มี ๕ บาทละไง”ตะวันฉะชาลีซะแล้ว
“เงินพ่อก็เงินพ่อ เงินพี่ก็เงินพี่ดิวะ”หันไปแก้ต่างกับน้องก่อนจะหันมางอแงใส่พ่อ “พ่อชอบเรียกกุมารทองจนเพื่อนๆเรียกตามกันหมดละ”
“ฮ่าๆๆๆ”
เรื่องที่ชาลีเป็นกุมารทองเรารู้กันทั้งบ้านนะครับ พ่อเล่าให้ฟัง บางครั้งพ่อก็เรียกชาลี บางครั้งก็เรียกกุมารทอง แล้วแต่อารมณ์พ่อ แต่ถ้าเรียกแฝดเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่า อย่าหือกับพ่อ หึหึ
“พ่อกินหน่อยนะ”แสบมันเดินไปหยิบขนมจีนน้ำยามาให้พ่อ
“ก็กินกันไปสิ เดี๋ยวไม่อิ่มกัน”พ่อปฏิเสธอีกรอบ
“พ่ออ่ะ พ่อไม่กินแสบก็จะไม่กิน”แสบวางจานขนมจีนจานที่ ๒ ของตัวเองลง
“รู้จักเอาอกเอาใจพ่อเนาะพ่อหนุ่ม”ป้าโต๊ะข้างๆหันมาพูดกับแสบ
“ครับป้า”แสบยิ้มให้ “พ่อกินเลย กินให้หมดด้วย ถ้ามาแล้วไม่กินอะไรแบบนี้ซ่าก็ไม่มีความสุขหรอกนะ”
“หึหึ เออๆ กินก็กิน”พ่อยอมกินขนมจีนในที่สุด ผมก็เข้าใจแหละครับว่าพ่ออยากให้เรากินอิ่มๆ บางครั้งอ่ะ ของดีๆพ่อไม่ค่อยกินหรอก ชอบแบ่งให้ย่าและพวกผมเป็นคนแรก
ขนมจีนหมด น้ำยาหมด อาหนูก็แกะนั่นแกะนี่ให้กิน จนเกือบๆ ๑๑ โมง ผู้หมวดจึงเข้ามาหาพวกเรา คือ ภาระแกติดพันมากเลยครับ โต๊ะนั้นก็ชวนคุย โต๊ะนี้ก็ชวนคุย กว่าจะมาถึงโต๊ะพวกเรา
“สวัสดีครับ”มาถึงโต๊ะนี้พี่แกตัวลีบเล็กไปทันที
“พ่อนี่ผู้หมวด ผู้หมวดนี่พ่อผม นี่แม่บิว นี่น้องชายชื่อชาลี ตะวัน พี่ชายผม....”ผมเป็นคนแนะนำโดยมีแสบเป็นคนเสริม บางคนผู้หมวดก็รู้จัก บางคนก็ยังไม่รู้จัก
“หล่อนะพี่บอมบ์ คิดถึงหมวดบูมเลย ผู้ฝึกหล่อหนูก็ตั้งใจ”อาหนูทำหน้าปลื้ม
“มึงก็นะ บ้าหน้าตาไม่หยุดไม่หย่อน”พ่อส่ายหัว “เป็นไงบ้างผู้หมวด แฝดนี่ฝึกยากไหม”
“ไม่ยากครับ”
“ตอบตรงๆสิ อย่าเกรงใจ”พ่อทำเสียงดุล่ะครับ
“เอ่อ”
“เออน่า บอกมา กูรู้ว่าลูกกูเป็นไง”
“กวนตีนเหมือนพี่แหละพี่บอมบ์ แล้วนี่จะขึ้นเสียงทำไม เออพี่นี่ ผู้หมวดมานั่งตรงนี้ มาให้พี่สัมภาษณ์”
“ถุย พี่เหรอ รุ่นพ่อแล้วมึงอ่ะ”อาเต้ยแหวะอาหนูบ้าง
“ หมวดเต้ย หนูยังใสๆ เพิ่งไปถ่ายบัตรประชาชนมาครั้งแรก”หันไปฉะอาเต้ยก่อนจะหันมาคุยกับผู้หมวด “เป็นไงบ้าง ชื่ออะไรอ่ะเรา”อาหนูถาม แต่นั่งห่างนะ
“เอ่อ ชื่อรินครับ”
“ตอบเสียงเข้มแข็งสิ เป็นชายชาติทหารต้องคมต้องเข้ม”อาหนูดุบ้าง “โอ๊ย อารมณ์เสีย”
“อาหนูอ่ะ ผู้หมวดตกใจหมดแล้ว”ผมรีบปรามอาหนู ว่าแต่พ่อตัวเองก็อีกคน ฮ่าๆๆ
“ก็มัวแต่อ้ำอึ้ง ไม่ทันใจ แล้วนี่แฝดทำให้หนักใจไหม”อาหนูหันไปถามต่อ
“ก็นิดหน่อยครับ รับมือได้ แฝด เอ่อ แสบซ่า ฝึกง่ายดีครับ แต่ขี้เล่นไปหน่อย”
“เห็นไหมอีหนู กูว่าแล้ว ลูกกูมันกวนตีน”พ่อยักคิ้วให้อาหนู
“พ่อออออออ”ผมกับแสบหันไปมองหน้าพร้อมกัน
“กวนตีนเหมือนพี่แหละพี่บอมบ์ เชื้อไม่ทิ้งแถว”
“โดนจนได้กู”
“มันก็ถูกของอีหนูนะบอมบ์ มึงอ่ะกวนตีนตัวพ่อเลย”อาตวงเสริม พ่อโดนยำเละ ฮ่าๆๆ
จากนั้นพ่อก็คุยกับผู้หมวดหลายเรื่องเลยครับ ส่วนพวกเราเด็กๆก็ไปนั่งโซนเด็กๆกัน ผมเล่าเรื่องฝึกให้ชาลีกับตะวันฟัง จนใกล้เวลากินข้าว คนที่ญาติไม่เยี่ยมจะไปจัดเวรเลี้ยงกันครับ
“น่าสงสารคนไม่มีญาติมาเยี่ยมนะ กูอารมณ์นั้นเลยว่ะ อยู่แบบเหงาๆ แอบมองเขาห่างๆ”พ่อรำพึงมาเบาๆ
“ได้ข่าวว่ามึงอ่ะกระทืบคนจนต้องงดเยี่ยมไม่ใช่เหรอ”อาตวงพูดแทรก
“เออไง มันเหงานะเว้ย”
“ทำตัวของตัวเองทั้งนั้น”พี่ภูมิกระเซ้าพ่ออีกคน
“ก็มันกวนตีนนี่หว่า ไม่เอาให้ตายก็บุญแล้ว เออๆ ช่างมัน มันผ่านมาแล้ว”พ่อยักไหล่เบาๆ เรื่องนี้ได้ยินจากหมวดวินมาครั้งหนึ่ง แล้วครั้งนี้อีกครั้งหนึ่ง
“พ่อเล่าให้ชาลีฟังหน่อย”ชาลีเดินมาอ้อนละครับ
“เล่าเรื่องอะไร มันไม่ดี มันมีความรุนแรง”พ่อจับหัวชาลีลูบเบาๆ “พ่อเถื่อนด้วยนะช่วงนั้นอ่ะ ไม่ดีๆ”
“แต่ชาลีก็มีวิจารณญาณในการรับฟังนะพ่อ”
“กองเซ็นเซอร์มาเองเลยนะลูกชาย”แม่บิวหยิกเนื้อลูกชาย หึหึ
“เดี๋ยวอยากเล่าเมื่อไหร่พ่อจะเล่า นี่ได้ข่าวแสบไปขึ้นเสียงผู้หมวดมาเหรอ มันไม่ดีนะ”พ่อหันมาหาแสบ
“ก็อดไม่ได้นี่พ่อ”แสบตอบพ่อ
“ที่อยากเป็นทหารเพราะอยากจะมาเจอความอดทนไม่ใช่เหรอ แต่อย่างว่า เราไม่ได้มาเป็นควาย เราเป็นคน ถ้าทำกับเราไม่เหมือนคน ก็ลุยแม่งเลย เข้าใจไหม”
“ทีแรกก็เหมือนจะดี”อาหนูบ่น
“อะไรมึง จะยอมทำไมวะ ยอมก็เป็นควายสิวะ ถ้าทำถูกต้อง ตรงไปตรงมา เราก็ต้องตรงไปตรงมา ถ้าเล่นไม่ซื่อ ไม่มีความจริงใจ จะทนทำเหี้ยไร”
“ผ่านมาจะ ๒๕ ปีแล้ว เลือดนักเลงนี่ไม่มีหยุดเดินเลยนะ”
“เออดิ ให้ลุยตอนนี้ก็ยังไหวนะ”
“หึหึ วันนั้นยังบ่นปวดตัวอยู่เลย จับจอบแค่นิดเดียว ตกเย็นบอกปวดเนื้อปวดตัวซะแล้ว”พี่ซันขำพ่อ
“ไอ้ห่าจะไม่ปวดได้ไง เช้าแบกกระสอบข้าว เย็นขับรถ รถเสือกติดหล่มอีก กว่าจะงัด กว่าจะยกได้ ยอกไปทั้งตัว จะไปอาบอบนวด ไอ้ตัวดีก็มานวดให้ก่อน อดไปเลย”พ่อลูบหัวชาลี
“ชาลีไม่ยอมให้พ่อไปหาคนอื่นหรอก”
“ครับ พ่อคุณทูนหัว มือหนักชิบหาย คิดผิดที่ให้ลูกนวดให้”
“พ่ออ่ะ”
“พี่บอมบ์พูดแล้วทำให้หนูคิดถึงตอนพวกเราฝึกเสร็จแล้วพากันไปนวดตัวเนอะ ฟินมากเลย นี่ๆเด็กๆ สมัยพ่อพวกเรายังหนุ่มๆนะ หุ่นนี่เซี๊ยะเชียว ฝึกเสร็จ อาก็พากันไปนวด หูย ฟินมาก”อาหนูทำหน้าเคลิ้ม
“ให้มันน้อยหน่อย หัดหมดไฟบ้าง”อาฝรั่งจับที่คออาหนูลูบๆ ตอนนี้คณะนายทหารเขาแยกวงไปคุยกันอีกวง ก็ถูกคอของเขาไป
“ไฟไม่มีหมดหรอกพี่เจิด”
“ปล่อยให้มันแรดเถอะฝรั่ง ๖๐ มันก็เป็นอีแก่นั่งถักนิตติ้งอยู่บ้านแล้ว”
“พี่มหา ปากเหรอนั่น ตบปากตามจำนวนทหารใหม่เดี๋ยวนี้”
“ฮ่าๆๆ”
“ขออนุญาตนะครับ ได้เวลากินข้าวกลางวันแล้ว”
“ผู้หมวด นี่มีให้ดูอาหารกลางวันบ้างไหม ที่จริงนะอยากจะขึ้นไปดูโรงนอนด้วยละ”อาหนูหันไปทำสายตาหวานซึ้งใส่
“จะไปทำไม”อาตวงมองหน้า
“พี่มหา หนูก็อยากรู้แหละว่าเขาเลี้ยงลูกหลานเราดีไหม ไม่ใช่เหมือนสมัยเรานะ ผัก ๑ ไร่ ไก่ ๑ โล ข้าวก็แข็งๆ กับข้าวก็เหี้ยอะไรไม่รู้ทำมาให้กูแดก กูก็แดกกันไม่ลืมหูลืมตา เพราะไม่มีอะไรจะแดก ไม่ได้ๆ หนูต้องไปดู พี่ฉัตรก็มา พี่ภีมพี่ภูมก็มา มาดูให้เห็นกับตาไปเลย เลี้ยงไม่ดีนี่หนูเอาเรื่อง”
“อำนาจบาตรใหญ่นะมึง”อาเต้ยยิ้มให้
“หมวดเต้ยก็แบบนี้แหละ ทหารนะรักให้เหมือนน้อง ฝึกให้เหมือนคน แค่นี้คนมันก็เทใจให้แล้ว ไปๆ หนูจะไปดู”อาหนูจับมือแต่ละคนลุกขึ้น คณะพ่อๆจึงเป็นคณะพิเศษที่ได้ติดตามไปดู พวกเราวิ่งไปจัดแถวตามหมวด จากนั้นก็เดินแถวไป พ่อเดินตามหลังมานะครับ
“จะเข้าไปดูก็รีบดู เวลาทหารกินข้าวแล้วเดินดู มันเหมือนเข้าเยี่ยมสวนสัตว์ ดูไม่มีมารยาทเท่าไหร่”อาตวงเอ่ยขึ้น จากนั้นผู้หมวดพาเข้าไปดูกับข้าวกับปลา เราก็ไม่รู้เรื่องหรอกครับ ยืนแถวอยู่ด้านนอก พ่อเข้าไปดูเสร็จแล้วพวกเราจึงเข้าไปกินข้าว วันนี้กินได้นิดเดียว พอกินเสร็จก็ไปนั่งรอที่ศาลากลางน้ำต่อ นั่งคุยกับชาลีและตะวัน แก๊งพ่อนี่น่าจะอยู่ตลาดกองพันครับ
“แสบ ซ่า อุ้ย ครบแก๊งเลย”ตินตินมาแล้วครับ เข้ามาทักพวกเรา
“นั่งก่อนสิติน วันนี้ใครมาเยี่ยมเหรอ”ผมตบที่เก้าอี้ตัวว่างๆ
“สวัสดีแฟนซ่า เราชื่อติน ถึงเราจะเป็นเกย์ แต่เราไม่กินแฟนเธอหรอกนะ”ตินตินหันไปแนะนำตัวกับหมวย
“สวัสดีจ๊ะ เราชื่อหมวย ตินนี่น่ารักดีเนอะ”
“ใช่ แต่ไม่มีใครรัก คนที่ยังว่างเขาก็ไม่เหลียวตามามอง”ตินตินหันไปทำสายตาหวานซึ้งให้แสบ
“ดอกทองไม่มีที่สิ้นสุด อ่อยโต๊ะนั้นไม่พอมาอ่อยโต๊ะนี้อีก”เอาแล้ว คู่แค้นแสนรักมาฉะกันแล้วครับ โอโซนเจ้าเดิมนั่นเอง “สวัสดี ชื่อโอโซน ใสๆ ยังไม่มีแฟน อุ้ย ชาลีเหรอ ตัวจริงหล่อมาก”โอโซนเดินเข้าไปนั่งข้างๆชาลี
“ดีครับ แฮะๆ พี่ๆผมหล่อกว่าครับ”
“หล่อทั้งหมดนั่นแหละ นี่นักชิมตัวยง ตะวัน กรี๊ด อุ้ย หอยกูกระพือผึ่บๆๆๆ เลยว่ะอีนิโคติน ตะวันหล่อมาก ได้ข่าวเพิ่งเลิกกับแฟนเหรอตัวเอง สนใจพี่ไหม เลี้ยงไม่ยาก”
“กูขอยืมคำมึงบ้างนะอีคาร์บอน ดอกทองไม่มีที่สิ้นสุด”
“กรี่ แต่มึง ทำไมพี่น้องเขางานดีแบบนี้อ่ะ กูคลั่ง โอ๊ย ขนาดกูเคยกินนายแบบมาแล้ว พอมาเจอแก๊งนี้ โอ๊ย กูไม่เสียชาติเกิดที่มาเป็นทหาร”
“ได้ข่าวว่าบ่นเช้าบ่นเย็น อยากกลับบ้าน อีหอย ทีงี้มาคลั่ง”ตินตินต่อปากต่อคำ
“เด็กๆ พ่อให้มาตาม อ่ะๆ นี่ใคร”
“สวัสดีค่ะ”ตินตินกับโอโซนยกมือไหว้
“หวายๆ ตุ๊ดเด็กนี่เอง นี่หนู เป็นทหารต้องยืนตรง ทำให้มันเข้มๆ พี่ก็เป็นทหารมาก่อน ว้าย กูได้ลูกสาว”
“ถามเพื่อนแสบละยังว่าเขาอยากเป็นลูกสาวอาหรือเปล่า”แสบเดินไปโอบเอวอาหนู
“ไม่รู้สิ แต่ดูหน้าแล้ว เด็กๆ ๒ คนนี่กรี่พอตัวอยู่นะ”
“อาหนูปากไม่งามเลย งอน”ผมทำหน้างอใส่
“โหย ป่ะๆ เดี๋ยวพ่อรอ ลูกสาวจะไปด้วยไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่”ทั้งคู่พูดพร้อมกัน
“อาหนูไม่เห็นจะแมนเลยอ่ะ เห็นเพื่อนทีไรสาวแตกทุกที”ตะวันบ่น
“ปล่อยให้อาได้อยู่กับความเป็นจริงบ้างเถอะลูก แอ๊บแมนไปตุ๊ดเด็กมันก็ด่าลับหลังอยู่ดี เป็นคุณแม่แบบนี้อ่ะดีแล้ว แล้วนี่จะบ่นทำไม เดี๋ยวเตะก้านคอซะนี่”
“โหดอ่ะ นี่หลานนะ”
“เออ ก็หลานนี่สิมันลงมือลงไม้สะดวก ไปเด็กๆ น้องหมวย มานี่ลูก ไปเดินกับผู้ชายเถื่อนๆได้ไง”
“ตัวเองนี่ไม่เถื่อนเลยเนอะ”ผมแซวอาหนู