Innocent Flower ตอนที่ 29 หนทางที่จะต้องก้าว P.4 27/12/58 (จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

จากในเรื่อง คุณชอบใครมากที่สุด

พีช ลูกพีช
0 (0%)
อเล็กเซย์
1 (25%)
เจย์
1 (25%)
อาร์ท
0 (0%)
ออย
0 (0%)
แบม
0 (0%)
อลัน พี่ชายฝาแฝดอเล็กเซย์
2 (50%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 4

ผู้เขียน หัวข้อ: Innocent Flower ตอนที่ 29 หนทางที่จะต้องก้าว P.4 27/12/58 (จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ)  (อ่าน 30096 ครั้ง)

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 20 ย้ายบ้าน 1

....................

ผมไม่รู้ว่าผมเป็นใครกันแน่ ตื่นมาก็พบกับความว่างเปล่า คิดยังไงก็คิดไม่ออก ถึงแม้จะมีคนมาบอกว่าผมเป็นใคร ทำอะไรที่ไหนอย่างไร มีพ่อมีแม่หรือเปล่าก็ตาม แต่ผมกลับครุ่นคิดถึงไออุ่นของชายร่างยักษ์คนนั้นที่เข้ามากอดผมในวันแรกที่ผมฟื้นคืนสติ มันช่างอบอุ่นจนผมรู้สึกโหยหาอย่างบอกไม่ถูก

“คุณเจย์ครับ ผู้ชายคนนั้น เอ่อ...” ผมเอ่ยปากถามหลังจากเข้าวันที่สี่ของการพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ผมรู้มาว่าตัวผมได้ถูกคนร้ายยิง แต่ไม่รู้ว่าถูกยิงด้วยสาเหตุใด เจย์ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องผมก็ไม่ได้เล่าให้ฟัง เพราะเจ้าตัวบอกกับผมว่าถึงรู้ไปก็เปล่าประโยชน์ ส่วนคนร้ายที่ยิงผมนั้นได้เข้าคุกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “...คุณอเล็กซ์เซย์เป็นใครเหรอครับ”

ผมถามด้วยความสงสัย เพราะคนนั้นมาหาผมแค่วันแรกวันเดียว จากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย

“ก็เป็นคนที่ช่วยพีชตอนถูกยิงแล้วจมน้ำนะ ว่าแต่ลูกพีชจะถามไปทำไมกันล่ะ?” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดใจ ต่างจากทุกทีที่พูดกับผมด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

แปลก?

“อ้อ ไม่มีอะไรหรอกครับคุณเจย์ ผมก็แค่ถามดูเฉยๆ”

“อย่าเรียกฉันว่าคุณนำหน้าสิพีช เรียกเจย์สิเรียกเจย์”

“ครับเจย์” แล้ววันถัดมาคุณพ่อคุณแม่ของเจย์ก็มาเยี่ยมผม (เจย์เป็นคนบอกล่วงหน้าครับว่าพวกท่านจะมา) ทีแรกผมมองพวกเขาด้วยความสงสัย เพราะจำไม่ได้ว่าพวกเขาเป็นใคร แน่นอนว่าคุณแม่ของเจย์ถึงกับร้องไห้ทันทีที่เห็นผม “อย่าร้องสิครับคุณเอ่อ น้า”

“เรียกแม่เถอะจ้ะลูกพีช” คุณแม่พูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นไห้

“ใช่ลูกพีช เรียกพ่อกับแม่เถอะ” คุณพ่อเจย์เม้มปากพูด “ไว้หายดีแล้ว กลับบ้านเราเถอะลูกพีช”

“นั่นสิลูกพีช กลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดกับพ่อแม่นะ เรื่องร้านดอกไม้ช่างมันเถอะ เดี๋ยวแม่ตั้งใหม่ให้ทีหลังถ้าลูกพีชอยากเปิดอีก” คุณแม่พูดเสริมต่อ แต่ผมไม่ได้ให้คำตอบกับท่านไป เพราะลึกๆผมไม่อยากไปไหน อยากอยู่เจอผู้ชายร่างยักษ์คนนั้นเสียมากกว่า เมื่อพวกท่านเห็นว่าผมไม่ตอบ ก็ขอตัวกลับต่างจังหวัดเพราะต้องกลับไปทำงานต่อ หลังจากพวกท่านกลับไปแล้ว ก็มีคนมาเยี่ยมผมใหม่ครับ แต่เป็นออยกับน้องแบม (เจย์ได้บอกผมแล้วครับว่าสองคนนี้เป็นใคร)

“ฉันเอาขนมที่นายชอบมาด้วยพีช อ่ะ” ออยพูดพลางส่งถุงขนมให้ผม

“ขอบคุณครับคุณออย” ผมยิ้มตอบพลางยื่นมือรับถุงขนมที่อีกฝ่ายยื่นมาให้

“เฮ้ย ไม่ต้องพูดคงคุณ คนกันเองแท้ๆพีชนี่ก็” อีกฝ่ายบอกร้องเหวอเมื่อได้ยินที่ผมพูด แน่นอนว่าทำเอาน้องแบมถึงกับหัวเราะอย่างพอใจ

“ว่าแต่น้องอาร์ทล่ะครับ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ” ผมถามหาอีกคนที่เคยเห็นวันแรก

“เอ่อคือ” ทั้งออยทั้งแบมต่างมองหน้ากัน ซึ่งผมก็เอียงคอรอฟังคำตอบ

“น้องอาร์ทเขามีธุระ เห็นว่าติดงานนะพีช” เจย์พูดพลางเดินเข้ามาหาผม “เอาขนมมานี่ครับ เดี๋ยวเจย์แกะถุงใส่จานให้ พีชจะได้ทานขนมได้สะดวก”

แล้วเจ้าตัวก็หยิบถุงขนมในมือผมไปแกะใส่จานให้ ก่อนจะเดินกลับมาอีกที

“อย่ากินเยอะนะครับ เดี๋ยวจะกินข้าวเที่ยงไม่ได้” อีกฝ่ายบอกด้วยความหวังดี

“ครับเจย์” ผมยิ้มตอบก่อนจะหันไปชวนอีกสองคนที่ยืนอยู่ แต่เจ้าตัวปฏิเสธก่อนจะขอตัวกลับเพราะมีงานต้องทำ

..........................

พอตกกลางคืนเจย์ขอตัวกลับ เพราะเห็นบอกว่ามีงานต้องไปทำ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้อีกฝ่ายไปทำงานแต่โดยดี ส่วนผมก็นั่งดูโทรทัศน์แก้เซ็งจนเห็นว่าดึกพอสมควรแล้วจึงลุกขึ้นไปปิดไฟแล้วนอน แต่นอนไปได้ซักพัก เสียงประตูห้องก็ได้ถูกเปิดออกอีกครั้ง ทำเอาผมที่ยังไม่หลับลืมตาขึ้นมองไปยังทางประตู เห็นเงาดำใหญ่กำลังคืบคลานเข้ามา

“นั่นใครครับ” ผมถามด้วยความสงสัย แต่ยังไม่ได้ทันลุกขึ้นนั่งดี ก็ถูกเงานั้นสวมกอดทันที ผมก็ขัดขืนสิครับ คนแปลกหน้าที่ไหนไม่รู้มากอด “ปะ…ปล่อย…”

“ลูกพีชครับ นี่ผมเอง” อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ทำเอาผมที่ดิ้นอยู่ในอ้อมกอดถึงกับชะงัก

เสียงนี้มัน?

“คุณ…คุณอเล็กซ์เซย์ใช่ไหมครับ!” ผมถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น รู้สึกดีใจมากที่ได้เจอกับผู้ชายคนนี้อีกครั้ง ถึงแม้ผมจะจำเขาไม่ได้ แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนตัวเองจะรู้จักและคุ้นเคยคนนี้เป็นอย่างดีมาก่อน “ผมรอคุณตั้งนาน ทำไมคุณถึงไม่ยอมกลับมาเยี่ยมผมบ้างเลย”

ร่างหนาได้ยินที่ผมพูดก็คลายกอดก่อนจะก้มหน้ามองผมด้วยสายตาอ่อนโยน

“พอดีผมมีงานที่จะต้องสะสางนะครับก็เลยไม่ว่างมาเยี่ยมคุณ” ไม่ว่าเปล่า ยังยกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมที่ปรกตาผมออกอีกด้วย “ถึงแม้ตอนนี้คุณจะจำผมไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะผมจะสร้างความทรงจำใหม่ระหว่างเราสองคนกับคุณเอง”

!!!!!!

“คุณกับผมเป็นอะไรกันแน่ครับอเล็กซ์” ผมถามด้วยความสงสัย เพราะดูจากการกระทำของอีกฝ่ายแล้ว มันมากเสียยิ่งกว่าคนรู้จักทั่วไป จะว่าเป็นพี่ก็ไม่ใช่หรือจะเป็นเพื่อนก็ไม่เชิง แถมผมกับเขาเป็นเพศเดียวกันอีกซะด้วย ซึ่งมันไม่ต่างจากคนรักเลยแม้แต่น้อย ทว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตอบคำถามผมเดี๋ยวนั้น กลับโน้มหน้าเข้ามาใกล้พลางประกบปากผมอย่างนิ่มนวล ก่อนจะผละออกมาตอบคำถามของผมว่า

“ผมกับคุณก็เป็นคนที่รักกันยังไงล่ะครับลูกพีช”

!!!!!!

.........................

ผมกลัวลูกพีชที่ปราศจากความทรงจำอยู่ที่โรงพยาบาลคนเดียวนานเกินไป จึงรีบมาที่โรงพยาบาลแต่เช้าตรู่ด้วยความเป็นห่วง ครั้นพอเข้าไปก็พบว่าอีกฝ่ายนอนหลับอยู่บนเตียง นับตั้งแต่วันที่อเล็กซ์มาเยี่ยมลูกพีชในวันนั้น ผมก็ห้ามไม่ให้อีกฝ่ายเข้ามาหาลูกพีชอีกเลย ซึ่งแน่นอนว่าไอ้ออยรู้เข้าก็ด่าใส่ผมเป็นชุด

“แทนที่จะให้เขามาคุยทบทวนความทรงจำเผื่อจะกลับคืนมา แต่นี่กลับแยกพวกเขาออกจากกัน มึงมันบ้าไอ้เจย์!”

“คนที่บ้าคือมึงตั้งหากไอ้ออย ถ้าไม่เป็นเพราะมัน พีชก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้หรอก รู้หรือเปล่าว่ากูเจ็บมากแค่ไหนที่ต้องทนเห็นพีชนอนอยู่ห้องไอซียูกับเห็นพีชต้องความจำเสื่อมเป็นครั้งที่สองนะห๊ะ!”

“ไอ้เจย์…มึง”

สุดท้ายผมกับมันก็ไม่พูดกันอีกเลย นอกเสียจากตอนอยู่ต่อหน้าพีชเท่านั้นที่จะคุยด้วยกันเป็นปกติ ส่วนน้องอาร์ทนั้นเจ้าตัวได้บอกว่าจะกลับไปนอนหอตามเดิม ซึ่งผมไม่ยอม เลยฝากน้องอาร์ทไว้กับไอ้ออยให้คอยดูแลตอนที่ผมอยู่เฝ้าพีชที่โรงพยาบาล

“อือ คุณเจย์ ไม่สิ เจย์มานานแล้วหรือครับ ทำไมไม่ปลุกพีชล่ะ” เสียงหวานถามอย่างงัวเงีย ทำเอาผมสะดุ้งตกใจนิดหน่อยก่อนจะหันไปยิ้มให้กับเจ้าตัว

“พอดีเจย์เห็นว่าพีชหลับสบาย ก็เลยไม่อยากรบกวนนะครับ”

“รบกวนอะไรเล่าเจย์ พีชนอนมากพอแล้ว ดูสิปวดเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวแย่เลย” ร่างบางพูดเสียงเง้างอน ซึ่งทำเอาผมถึงกับอดหัวเราะเสียมิได้ “อย่าหัวเราะพีชสิเจย์นี่”

เจ้าตัวบอกก่อนที่หมอนจะลอยพุ่งใส่หน้าผมเบาๆ คาดว่าคงเขินอายที่ผมหัวเราะใส่

“เอ้อพีชหิวแล้วหรือยังครับ เดี๋ยวเจย์เทโจ๊กใส่ชามให้”

“อือ พีชหิวแล้วครับเจย์” พอเห็นอีกฝ่ายบอกผมก็เดินถือถุงโจ๊กเข้าไปในห้องครัวเพื่อเทโจ๊กให้ ซึ่งระหว่างที่ผมเทโจ๊กใส่ชามอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงประตูห้องเปิด แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากเพราะคิดว่าน่าจะเป็นพยาบาลเข้ามาตรวจความดันตามหน้าที่ให้เฉยๆ เมื่อเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับมาอีกที ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นร่างบางถือช่อดอกไม้สีน้ำเงิน ผมซึ่งเคยทำงานอยู่กับพีชที่ร้านดอกไม้มานาน ดูปราดเดียวก็รู้เลยว่าช่อดอกไม้ที่พีชถือคือดอกอะไร “เจย์ๆ มาดูสิ มีคนให้ช่อดอกไม้กับพีชด้วย สวยไหมล่ะเจย์”

มันสวยมากถ้าเป็นดอกไม้อย่างอื่น แต่นี่กลับเป็นดอกฟอร์เก็ตมีนอท

อย่าลืมฉัน นั่นคือความหมายของช่อดอกไม้นี้

“สวยครับสวย” ผมกัดฟันพูด หวังว่าคนที่ส่งดอกไม้ช่อนี้จะไม่ใช่คนที่ผมคิด “ว่าแต่พีชรู้แล้วหรือยังว่าใครเป็นคนส่งมาให้”

“ยังไม่รู้เลย อ๊ะ เจอแล้ว เดี๋ยวพีชจะอ่านให้ฟังนะ” ร่างบางยิ้มเมื่อเห็นการ์ดอวยพรสีชมพู แต่พอเห็นข้อความบนแผ่นกระดาษแล้ว เจ้าตัวกลับหน้าแดงราวกับมะเขือเทศ “เอ่อเจย์ครับ พีชขอโทษนะ พีชขอไม่อ่านให้ฟังได้ไหม”

“ได้สิครับ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ” ผมฝืนยิ้มตอบกลับไปด้วยความขมขื่น ผมอยากจะบอกความในใจตัวเองให้อีกฝ่ายได้รับรู้เหมือนกันครับ แต่พอเอาเข้าจริงกลับไม่กล้า กลัวจะได้เห็นใบหน้าคนที่ตัวเองรักผิดหวังเมื่อได้ยินคำสารภาพรักของตัวเองออกไป แล้วร่างบางก็เอาช่อดอกไม้นี้ใส่แจกันที่อยู่ข้างเตียงก่อนจะจ้องมองดอกไม้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับเด็กน้อยที่เพิ่งจะรู้จักคำว่ารัก ทำเอาผมได้แต่ขบปากตัวเองมองด้วยความโมโห เพราะมันเป็นใบหน้าที่...

ผมไม่มีวันจะได้มาเป็นของตัวเอง


....................

หายป่วยไวๆนะครับลูกพีช

From Alexey


การ์ดอวยพรที่ผมอ่านนั้นถึงแม้จะเป็นแค่ข้อความสั้นๆ แต่ผมกลับชอบมันจนต้องหยิบขึ้นมาดูหลายรอบ ส่วนดอกไม้ที่อีกฝ่ายให้มานั้นผมจัดใส่แจกันวางไว้ข้างหัวเตียง ซึ่งมองดูยังไงก็ไม่มีวันเบื่อครับ

“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยนะครับพี่พีช ใครให้ดอกไม้นั่นมาเหรอ” น้องแบมเอ่ยปากแซว วันนี้เจย์ไม่อยู่ครับ เห็นบอกว่ามีธุระที่ต้องออกไปทำข้างนอก ก็เลยให้น้องแบมกับออยมาอยู่เฝ้าเป็นเพื่อนผม

“อ้อ คุณอเล็กซ์ให้มานะครับน้องแบม” ผมยิ้มตอบกลับไปอย่างหน้าชื่นตาบานโดยไม่ทันสังเกตคนฟังที่สะดุ้งตกใจทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น “สวยใช่ไหมล่ะดอกฟอร์เก็ตมีนอทนะ”

ถึงผมจะความจำเสื่อมแต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ชื่อกับความหมายของดอกไม้นะครับ มันผุดขึ้นมาในหัวของผมเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งนั่นไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกสำหรับคนที่เคยขายดอกไม้อย่างผม ออยกับน้องแบมอยู่คุยกับผมได้ซักพักก็ต้องขอตัวกลับไปทำงาน เนื่องจากโดนที่บริษัทเรียกให้กลับไปแก้ไขงานของตัวเอง

“ขอโทษนะพีชที่ไม่ได้อยู่คุยเป็นเพื่อนด้วยนะ”

“ไม่เป็นไรครับออย รีบกลับไปเถอะ เดี๋ยวเขาจะว่าเอาได้นะ”

“อืม ถ้ามีอะไรก็ให้โทรเข้าเบอร์ออยได้เลยนะ”

“ครับออย” พอออยกับน้องแบมออกไปแล้ว ผมก็นั่งดูโทรทัศน์ต่อ แต่นั่งดูได้ไม่นานนัก เสียงประตูก็เปิดออกอีกครั้ง “ลืมของเหรอครับออย”

ผมนึกว่าออยก็เลยไม่หันไปดู แต่อีกฝ่ายกลับเงียบจนผมต้องหันไปดู แลเห็นผู้ชายแปลกหน้าสวมเสื้อยืดสีดำกางเกงยีนส์สวมหมวกแก๊ปปิดหน้าปิดตา

“ไม่ทราบว่าคุณเป็น…”

ผัวะ!

“โอ๊ย!” ผมถามยังไม่ทันจบ ก็โดนอีกฝ่ายต่อยหน้าเสียก่อน แถมนอกจากนี้ยังโดนกระชากสายน้ำเกลือจนเลือดออก “อ๊ะ โอ๊ย อย่า อย่าทำผม”

ผมสู้สุดใจทั้งถีบทั้งเตะแต่ก็สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้

“เพราะมึง เพราะมึงคนเดียวไอ้พีช ถ้าไม่เป็นมึง เมย์ก็คงไม่ทิ้งกูไป” อีกฝ่ายตวาดเสียงใส่ก่อนจะผลักผมอย่างแรงจนตกเตียงเสียงดังโครม พอผมตกลงเตียงแล้ว ร่างสูงทำท่าจะมาต่อแต่กลับต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอก “หึ กูจะกลับมาหามึงใหม่ อย่าได้วิ่งแจ้นไปฟ้องไอ้เจย์หรือไอ้ฝรั่งนั่นอีก ไม่งั้นมึงตาย!”

แล้วอีกฝ่ายก็วิ่งออกจากนอกห้องไปอย่างรวดเร็ว

......................

ผมวิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปในห้องของพีชทันทีที่ทราบข่าวจากลูกน้องของตัวเอง ว่าลูกพีชโดนชายแปลกหน้าเข้าไปทำร้ายร่างกายถึงห้อง พอไปถึงผมก็วิ่งเข้าไปกอดร่างบางทันที

“ลูกพีช ผมขอโทษ ผมขอโทษที่ไม่ได้อยู่ข้างคุณ” ผมบอกด้วยน้ำเสียงลนลานก่อนจะผละออกมาสำรวจบาดแผลตามร่างกายของคนรัก “บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับที่รัก บอกผมมาสิ”

“ผมไม่เป็นไร แค่เจ็บนิดหน่อยเอง เดี๋ยวก็หายครับ” ร่างบางยิ้มตอบ

“ว่าแต่ลูกพีชเห็นหน้าคนร้ายไหม”

“ไม่ครับ พอดีผมหลับอยู่” ลูกพีชส่ายหน้าตอบ “รู้แต่ว่าถูกผลักตกจากเตียงแล้ว”

แล้วลูกพีชก็ขอตัวนอนต่อเพราะรู้สึกอ่อนเพลีย ส่วนผมก็ปล่อยให้ร่างบางนอนต่อไป ก่อนจะเดินออกมาข้างนอกห้อง โดยมีเรย์ที่เป็นเลขาของผมยืนคอยอยู่ข้างนอก

“ทำยังไงก็ได้ขอให้รู้ตัวคนร้าย จัดการลงโทษมันให้สาสม แต่อย่าเอาให้ถึงตายก็พอ”

“ครับคุณอเล็กซ์” แล้วเรย์ก็ขอตัวไปทำงานที่ผมสั่ง ส่วนผมก็เดินกลับเข้าไปหาคนรักพลางนั่งลงกุมมือคนป่วย ก่อนจะมองอีกฝ่ายด้วยความห่วงใย

ผมจะไม่ทิ้งคุณไปไหนอีกแล้วลูกพีช จะอยู่เคียงข้างคุณไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม…

ผมให้สัญญา…


....................

“วันนี้พี่ไม่ไปหาพี่พีชเหรอฮะ”

ผมถามด้วยความสงสัย หลังจากพี่เจย์ขับรถมารับผมที่บริษัท เนื่องจากผมต้องเตรียมปิดหนังสือเพื่อจะตีพิมพ์นิยายที่ตัวเองเขียนออกมาเป็นรูปเล่ม โชคดีรุ่นพี่ที่เคยคิดจะข่มขืนผมนั้นได้ลาออกจากบริษัทไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมก็เลยไม่ต้องมาระแวงว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาทำร้ายได้อีก ส่วนร่างสูงที่กำลังขับรถเหล่ตามองผมเพียงแวบเดียวก่อนจะหันกลับไปมองถนนตรงหน้าตามเดิม

“ถ้าไปแล้วจะมารับเราได้หรือ” พี่เจย์ตอบเสียงเรียบ “ไม่ต้องเป็นห่วง พี่ได้ให้ออยกับแบมช่วยดูให้แล้ว ว่าแต่เราเถอะ จะไปหาพีชหรือจะกลับหอพักพี่เลยล่ะ”

“เอ่อ ขอกลับหอพักดีกว่าฮะ ผมเหนื่อย อยากจะพักผ่อน”

ไม่อยากเจอหน้าพี่พีชกับพี่เจย์ตอนคุยกัน…

“ตามใจเราแล้วกัน” พี่เจย์ตอบก่อนจะขับรถพาผมไปส่งที่หอพักตัวเอง เมื่อมาถึงแล้วผมกำลังจะลงจากรถ อีกฝ่ายกลับคว้ามือผมไว้เสียก่อน “ไม่ต้องรอนะ นอนไปได้เลย คืนนี้พี่จะนอนที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนพีชน่ะ”

!!!!!!

“แล้วเราน่ะจะร้องไห้ทำไมห๊ะ!” มือหนาบีบแรงขึ้นกว่าเดิม ทำเอาผมถึงกับตกใจ

“ผะ…ผะ…ผมเปล่าร้องไห้นะ!”

“ไม่ร้องแล้วน้ำตาที่ไหลมันคืออะไรกันล่ะ!” พี่เจย์ตวาดเสียงดุใส่ ก่อนจะกระชากผมเข้าไปใกล้

“โอ๊ย พี่เจย์ผมเจ็บนะ!”

“กูบอกให้ตอบก็ตอบมาสิ!” อีกฝ่ายเค้นเสียงถามก่อนจะใช้อีกมือบีบคางผมให้เชิดหน้าขึ้น “อ้อ ที่ทำเป็นร้องไห้นี่ก็คงคิดจะเรียกความสงสารให้กูนอนเป็นเพื่อนมึงสินะใช่ไหมไอ้อาร์ท”

“ผะ…ผมเปล่า”

“ดี! ถ้าอยากนอนกับกูมากนัก กูจะสนองให้”

!!!!!!

พูดจบอีกฝ่ายก็ลงจากรถแล้วรีบวิ่งวนอ้อมมาเปิดประตูรถฝั่งที่ผมนั่ง ก่อนจะกระชากผมลงจากรถอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าผมก็ขัดขืนสิครับ

“พี่เจย์จะทำอะไรผม!” พี่เจย์ไม่ตอบ กลับต่อยท้องผมอย่างแรง ทำเอาผมถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้นทันที “พะ…พี่…เจย์ ฮึก อย่า…ทำอะไรผม…เลย ฮึก…ผม…กลัวแล้ว”

อีกฝ่ายหาได้ฟังผมไม่ กลับช้อนตัวผมอุ้มพาดบ่าก่อนจะพาผมเดินเข้าไปในห้องพักของตัวเอง แน่นอนว่าการกระทำของพี่เจย์ทำให้พี่ยามวิ่งเข้ามาหา

“เรื่องของชาวบ้านอย่ามาเสือก” พี่เจย์หันไปดุใส่พี่ยาม ทำให้อีกฝ่ายยอมถอยกลับไปแต่โดยดี พอไปถึงห้องพักของพี่เจย์แล้ว อีกฝ่ายก็โยนผมลงเตียงทันที ส่วนผมนั้นพอได้สบโอกาสก็รีบลงจากเตียงเพื่อจะหนี แต่ก็หนีไม่ทันเพราะโดนพี่เจย์คว้าดึงกลับไปนอนบนเตียงต่ออย่างเดิม “จะหนีทำไม มึงอยากนอนกับกูมากนักไม่ใช่รึไงไอ้อาร์ท”

ผมทำท่าจะลุกขึ้นหนีต่อแต่ก็โดนพี่เจย์คร่อมตัวผมไว้เสียก่อน

“พี่เจย์…ปล่อยผมไปเถอะนะ ฮึก ผมขอ ฮึก ร้องล่ะ ฮือๆ”

“งั้นก็พูดมาสิว่ามึงร้องไห้ทำไม” พี่เจย์ถามเสียงเข้ม แต่แววตาดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

“ฮึก ฮึก ผม…ผม ฮึก ผมไม่รู้ฮะ” ผมตอบเสียงสะอื้นไห้ พยายามจะขยี้ตาแต่ก็โดนอีกฝ่ายขวางไว้เสียก่อน “ผมไม่รู้จริงๆฮะ ฮึกๆ ผมไม่รู้จริงๆ”

ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ พอได้ยินว่าพี่เจย์จะไปนอนเป็นเพื่อนพี่พีชที่โรงพยาบาลแล้ว กลับรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวที่หัวใจราวกับจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ

“เฮ้อ!” พี่เจย์ถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นผละออกจากตัวผมไปลงนั่งข้างเตียง “เอาเป็นว่าพี่ขอโทษเราแล้วกัน อยู่ที่นี่เป็นเด็กดี อย่าลืมกินข้าวกินยาด้วยล่ะ แล้วค่ำๆพี่จะกลับมานอนที่นี่ด้วย ถ้าใครมาก็อย่าเปิดให้เข้านะ”

“ฮึก ครับพี่เจย์ ฮึก”

“ดีมาก” พี่เจย์พูดพลางเอามือลูบหัวผมเบาๆ “เดี๋ยวจะซื้อขนมมาฝาก จะเอา…”

Rrr…

พี่เจย์ชะงักพูดก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดรับสาย

“มีอะไรวะไอ้ออย…ห๊ะ?! ว่ายังไงนะ พีชโดนคนเข้ามาลอบทำร้ายงั้นรึ”

!!!!!!


...............

ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าในห้องคนป่วยไม่ได้มีเพียงแค่อเล็กเซย์เพียงคนเดียว กลับมีทั้งออยทั้งน้องแบม ทั้งเจย์ทั้งน้องอาร์ท เรียกได้ว่าครบทีมเลยทีเดียว

“เป็นไงบ้างพีช” ออยถามด้วยความเป็นห่วง ซึ่งผมยิ้มตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า

“เจ็บนิดหน่อยเองครับ เดี๋ยวก็หาย”

“พี่พีช ใครทำพี่พีช ผมจะไปเอาคืนมันให้สาสม” น้องแบมพูดด้วยความฉุนเฉียว ทำเอาผมนึกเอ็นดูน้องแบมที่ยังอุตส่าห์เป็นห่วงผม

“ไม่ต้องหรอกครับน้องแบม ปล่อยเขาไปเถอะ พี่ไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรมอีกแล้ว”

“พี่พีช” น้องแบมร้องคราง ในขณะที่น้องอาร์ทกับเจย์ยืนเงียบไม่ยอมเดินเข้ามาคุยกับผม

แปลกคน?

“พอแค่นี้ได้แล้วนะครับ เพราะตอนนี้ก็ได้เวลาที่ลูกพีชต้องนอนพักผ่อน ไว้วันหลังค่อยมาเยี่ยมใหม่” อเล็กเซย์พูดตัดบท ซึ่งทำให้ทุกคนยอมกลับไปแต่โดยดี ทำให้ตอนนี้เหลือแต่ผมกับอเล็กเซย์ ทีแรกผมถามเจย์ว่าวันนี้ไม่ได้มานอนเป็นเพื่อนผมหรอกหรือ แต่เจย์กลับชิงตอบตัดหน้าว่าวันนี้มีงาน ก็เลยอยู่เป็นเพื่อนผมไม่ได้ “ลูกพีชครับ หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว คุณย้ายไปอยู่กับผมนะครับ”

“ย้ายไปอยู่กับอเล็กซ์เหรอฮะ”

“ใช่แล้วครับ” ร่างหนายิ้มตอบพลางนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง ก่อนจะจับมือผมไปกุมเอาไว้ “ย้ายไปอยู่กับผม ที่ผมให้คุณย้ายไปก็เพราะผมกลัวคุณจะไม่ปลอดภัย ไปอยู่กับผมนะครับคนดี”

!!!!!!

“ผมรักคุณนะลูกพีช ย้ายไปอยู่กับผมแบบถาวรเถอะนะ ผมจะได้อยู่ดูแลคุณไปตลอดชั่วชีวิต”

!!!!!!

“กะ…ก็ได้ครับอเล็กซ์ ผมตกลง” พอผมตอบตกลง อีกฝ่ายยิ้มก่อนจะเข้ามากอดเข้ามาหอมแก้มผมรัว ตบท้ายด้วยปากที่ทำเอาผมถึงกับไปไม่เป็น

“จุ๊บ ขอบคุณครับที่รัก ผมรักคุณมากที่สุดเลย”

“ลูกพีชก็รักอเล็กซ์เหมือนกัน อย่าทิ้งลูกพีชไปไหนอีกนะ” ผมเงยหน้าเพื่อท้วงคำสัญญา ซึ่งอีกฝ่ายก็ก้มยิ้มตอบกลับมาด้วยเช่นกัน

“ครับลูกพีช ผมจะไม่ทิ้งคุณไปไหนอีกแน่ๆ ผมให้สัญญา”

.......................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ตกลงลูกน้องอเล็กนี่มีไว้ทำไม ปล่อยให้คนอื่นมาทำร้ายลูกพีชได้  :hao5:


ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :z3:  เคราะห์ซ้ำกรรมซัดแท้ ลูกพีชเอ๋ย
คุณอเล็กเซย์ต้องดุแลให้ดีๆนะ

เจย์แม่ม ตอนแรกนึกว่าเป็นคนดี ที่แท้ซาดิสเหรอ สงสารน้องอาร์ท  :katai1:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 21 ย้ายบ้าน 2

.............

เนื่องจากผมไม่มีข้าวของติดตัวอะไรมากมายนอกจากบัตรประชาชนบัตรประกันสุขภาพอะไรก็ว่าไป เพราะข้าวของรวมถึงบ้านได้ถูกไฟเผาไหม้เป็นจุลไม่เหลือซากแล้ว จากคำบอกเล่าของอเล็กเซย์ว่าบ้านของผมถูกเผาเพราะมีคนร้ายมาแอบเผาบ้าน ส่วนคนร้ายก็ได้ถูกจับเข้าคุกตารางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“แล้วที่ดินตรงนั้นเป็นของลูกพีชเหรอฮะ” เนื่องจากอเล็กเซย์ไม่อยากให้ฟังดูห่างเหินจนเกินไป จึงให้ผมพูดแทนตัวเองว่าลูกพีช ซึ่งทำเอาผมรู้สึกเขินมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อต้องพูดแทนตัวเองแบบนั้นออกมา

“ครับ เท่าที่ฟังจากคุณพ่อคุณแม่ของคุณเจย์ พวกท่านบอกว่าใช่” ร่างหนายิ้มตอบในขณะที่ช่วยผมขนเสื้อผ้าของผมที่มีอยู่ไม่กี่ชิ้นเข้าตู้เสื้อผ้า ตอนนี้ผมได้ย้ายมาอยู่คอนโดของอเล็กเซย์แล้ว ซึ่งตอนเข้ามาครั้งแรก ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองเคยนอนที่นี่มาก่อน “ส่วนเรื่องโฉนดที่ดิน รู้สึกว่าคุณได้ฝากโฉนดไว้กับพวกท่านน่ะ พวกท่านบอกว่าถ้าอยากได้คืนก็ให้ไปเอากับพวกท่านได้ ว่าแต่ลูกพีชหิวแล้วหรือยังครับ ผมจะได้เข้าครัวทำอาหารให้ลูกพีชกิน”

“หิวแล้วฮะ งั้นให้ลูกพีชช่วยนะ” ผมบอกอย่างตื่นเต้น แต่อีกฝ่ายกลับยกมือขึ้นห้าม

“ไม่เอาครับ ลูกพีชยังไม่หายดี ผมว่าลูกพีชนั่งเฉยๆเถอะ”

“แต่ลูกพีชอยากช่วย” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเง้างอน ก็ผมไม่อยากเป็นภาระนี่ครับ ถ้ามีอะไรพอจะช่วยได้ก็จะช่วย “ไม่ได้เหรออเล็กซ์ ลูกพีชอยากช่วยอเล็กซ์จริงๆนะ”

อีกฝ่ายได้ยินถึงกับถอนหายใจก่อนจะพูดยิ้มกลับมาว่า

“ก็ได้ครับ งั้นลูกพีชช่วยหุงข้าวให้ผมที เพราะผมจะได้ไปทำกับข้าวอย่างอื่นให้คุณทาน”

“เย้!” ผมโห่ร้องด้วยความดีใจก่อนจะไปหุงข้าวด้วยจิตใจที่เบิกบาน เห็นผมความจำเสื่อมแบบนี้แต่ก็หุงข้าวได้นะครับ ซึ่งผมไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร แต่หลังจากหุงข้าวเสร็จแล้ว ผมก็ช่วยอเล็กซ์หยิบจานช้อนส้อมแก้วน้ำมาจัดโต๊ะตั้งท่าเตรียมรอไว้พร้อม เมื่อเรียบร้อยแล้วผมก็นั่งมองอาหารที่อเล็กซ์ตักมาวางบนโต๊ะด้วยความตื่นเต้น “อเล็กซ์ทำอาหารเก่งจัง นี่เขาเรียกว่าอะไรเหรอ”

ผมถามด้วยความสงสัย เพราะอาหารที่อเล็กซ์ทำนั้นน่าจะไม่ใช่อาหารไทย

“สปาเกตตีมีทบอล ซุปฟักทอง ทูน่ากริลล์กับสลัดผักสีเขียว ส่วนเครื่องดื่มเป็นน้ำขิงมะนาวโซดาไว้กันเลี่ยนครับ” อเล็กซ์ยิ้มตอบ ซึ่งทำเอาผมถึงกับร้องเหวอ เพราะมันเยอะจนผมคิดว่าคงทานไม่หมดแน่ “ทานเท่าที่ทานได้ครับ ไม่หมดเดี๋ยวผมช่วยคุณเองครับลูกพีช”

“แต่ลูกพีชเกรงใจ” ผมพูดเสียงอ่อย หากแต่อีกฝ่ายกลับคว้ามือผมมาบีบเบาๆ

“ไม่ต้องเกรงใจครับ เพื่อลูกพีช ผมให้ได้แม้กระทั่งชีวิต”

!!!!!!

หน้าผมถึงกับร้อนผ่าวเมื่อได้ยินคำนั้น

“ทานเถอะครับ เดี๋ยวอาหารหายร้อนแล้วจะไม่อร่อย” อเล็กซ์บอกก่อนจะปล่อยมือผมออก

“อะ…อืม” แล้วผมกับอเล็กซ์ก็ลงมือทานอาหารพร้อมกัน

........................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
เหมือนกำลังจะดีแต่ว่าก็ยังหวั่นๆ
เรื่องคนที่จะมาทำร้ายลูกพีชอีก

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ถึงแม้จะออกมาจากโรงพยาบาลแล้วแต่คุณหมอก็ให้ผมดูแลตัวเองด้วยการจดบันทึกประจำวัน ว่าแต่ละวันนั้นผมทำอะไรลงไปบ้าง และแน่นอนว่ายังต้องกลับไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คสภาพร่างกายของตัวเองเป็นระยะๆ ซึ่งร่างกายผมไม่มีอะไรร้ายแรง แข็งแรงปกติ มีเพียงแค่ความทรงจำเท่านั้นที่ยังไม่กลับคืนมา ผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะผมได้เจอกับคนที่ตัวเองรักอย่างอเล็กเซย์ เขาคอยอยู่เคียงข้างผมเสมอในวันที่ผมล้มลง หลังจากย้ายเข้ามาอยู่คอนโดของอเล็กเซย์ เจย์เคยมาเยี่ยมผมถึงที่นี่แค่ครั้งเดียว นอกนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย รู้แต่เพียงว่าเจ้าตัวได้งานใหม่ทำเรียบร้อยแล้ว

“ขอโทษนะเจย์ ร้านดอกไม้น่ะ พีชเองก็อยากทำแต่อเล็กซ์...”

ไม่ยอมให้ผมเปิดร้านดอกไม้อีกต่อไปแล้ว...

“ไม่เป็นไรครับพีช เจย์ยังไงก็ได้” อีกฝ่ายตอบยิ้มๆ ก่อนจะวางมือบนไหล่ผมแล้วตบเบาๆ “ไม่ต้องคิดมาก เจย์เข้าใจดีว่าอเล็กซ์ไม่อยากให้พีชเหนื่อย ถ้าพีชไปอยู่กับเขาแล้วมีความสุข เจย์ก็ยินดีด้วยนะ เพราะจากนี้เจย์จะไปทำงานที่เจย์ชอบ อาจจะมีแวะมาหาบ้างตามโอกาสถ้าพีชอยากเจอเจย์ล่ะก็นะ”

นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของเจย์ก่อนที่เจ้าตัวจะขาดการติดต่อไป ซึ่งผมโทรถามพ่อแม่ของเจย์แล้ว พวกท่านบอกว่าเจย์ขึ้นเครื่องบินไปทำงานที่ต่างประเทศเพียงคนเดียว

ทำไมจากไปโดยไม่บอกกันบ้างเลยนะ...

เจย์…


ความเครียดบวกกับร่างกายที่อ่อนแอทำให้ผมกลับมานอนซมอีกครั้ง แต่ผมไม่อยากไปโรงพยาบาล เพราะฝังใจว่าจะมีคนมาลอบทำร้ายตัวเอง ซึ่งอเล็กซ์ก็เข้าใจผมดี จึงยอมให้ผมนอนพักรักษาตัวที่คอนโด แต่มีข้อแม้ต้องรับการตรวจจากคุณหมอที่มาหาถึงคอนโดด้วย แล้ววันหนึ่งที่ผมตื่นขึ้นมาไม่เจออเล็กซ์นอนอยู่เคียงข้าง จึงลุกขึ้นมากะหมายว่าจะเข้าห้องน้ำ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงทุ้มลอดออกมาจากข้างนอก ทีแรกผมไม่ได้ตั้งใจฟังเพราะจะไปเข้าห้องน้ำ แต่กลับต้องชะงักเมื่อได้ยินชื่อของเจย์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

“นี่ถ้าไม่เป็นเพราะลูกพีชป่วย ผมคงไม่ตามหาคุณหรอกเป็นบ้าเป็นหลังหรอกคุณเจย์”

“หึ ถ้าดูแลพีชไม่ได้ ทีหลังอย่าเอาเขาไปจากกูสิ”

!!!!!!

ผมแทบตกตะลึงเมื่อเสียงนั้นเป็นเสียงของคนที่ขาดการติดต่อไปนาน แต่ทว่าคำพูดของเจย์ทำเอาผมสับสนมึนงงอย่างบอกไม่ถูก จึงได้แต่ยืนแอบอิงฟังการสนทนาต่อไปอย่างเงียบๆ

“เห็นทีคงไม่ได้ เพราะถ้าคุณเจย์จะเอาลูกพีชไปจากผม คุณต้องข้ามศพผมไปเสียก่อน”

!!!!!!

“หึ ข้ามศพงั้นรึ” เสียงของเจย์พูดฟังดูประชดประชัน “ถ้าทำได้คงทำไปนานแล้วล่ะ แต่กูจะไปสู้รบปรบมืออะไรกับมาเฟียอย่างมึงได้ล่ะ จริงไหม...อเล็กเซย์”

!!!!!!

ไม่จริงน่า...

อเล็กซ์นะหรือจะเป็น...

...มาเฟีย!!


ผมแทบตะลึงจนชาวาบไปทั่วร่างกายเมื่อได้ยินคำนั้น แต่ก็ยังฝืนยืนฟังต่อให้จบ

“ผมเป็นมาเฟียก็จริง แต่อีกไม่นานก็จะล้างมือจากวงการแล้วล่ะ ฉะนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ไปหรอกคุณเจย์ ผมดูแลคนที่ผมรักได้แน่นอน” เสียงของอเล็กซ์เถียงสู้เจย์กลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ แต่ทว่า...

“ห่วงตัวเองก่อนเถอะ เพราะการล้างมือจากวงการมาเฟียก็ไม่ต่างจากการฆ่าตัวเองให้ตายเลยชัดๆ”

!!!!!!

.....................

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ Chrysan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เจย์ไปทำงานถึงต่างประเทศเลยหรอ
แล้วอาร์ทล่ะ สงสารอาร์ทจัง  :mew2:

อเล็กซ์จะวางมือหรอ ไม่นะ เราชอบพระเอกเป็นมาเฟีย  :ling1:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“แน่ใจนะว่าจะไม่เข้าไปเยี่ยมลูกพีชน่ะคุณเจย์”

เขาถามพลางมองหน้าอีกฝ่ายที่อุตส่าห์ตามตัวแทบตาย กลับพบว่าเจ้าตัวหนีไปทำงานถึงเกาหลี ซึ่งยังดีที่แถวนั้นเป็นถิ่นของเขาก็เลยตามตัวกลับมาได้อย่างง่ายดาย ส่วนอีกฝ่ายนั้นเมื่อได้ยินที่เขาถามถึงกับแค่นยิ้มส่ายหน้าตอบกลับมาทันที

“ไม่ล่ะ ขืนเข้าไปมีหวังได้ใจอ่อนจนกูไม่อยากไปไหนกันพอดี” แล้วเจย์ก็หันไปมองบานประตูที่ปิดสนิท มันเป็นห้องนอนของเขาที่มีร่างบางกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่พอดี เจย์มองซักพักก่อนจะหันมามองเขาอีกครั้ง “ฝากดูแลพีชแทนกูด้วย เพราะกว่าที่กูจะกลับมาอีกครั้งก็อีกสามปี ทำไงได้ ก็เซ็นสัญญากับค่ายที่นั่นไปแล้วก็ต้องอยู่ทำงานจนกว่าจะครบนี่นะ”

“งั้นผมขอแสดงความยินดีล่วงหน้าด้วยแล้วกัน ถ้าเป็นนักร้องชื่อดังแล้วอย่าลืมส่งลายเซ็นมาด้วยนะครับคุณเจย์ เพราะลูกพีชเห็นแล้วคงจะชอบมาก” เขาเอ่ยปากแซว เพราะอีกฝ่ายไปเซ็นสัญญาเป็นนักร้องของเกาหลี ซึ่งอีกฝ่ายได้ยินก็ยักไหล่หมุนตัวหันกลับไปที่ประตูทางออก

“ได้สิ ลายเซ็นพร้อมรูปภาพ อ้อ แล้วก็แผ่นเสียงด้วย” แล้วเจ้าตัวก็ขอตัวกลับ โดยมีเลขาของเขาขับรถไปส่งให้ถึงสนามบิน ส่วนเขาก็นั่งทำงานต่อไปอีกหน่อย เพราะตั้งใจแล้วว่าจะล้างมือจากวงการมาเฟียเลยต้องเคลียร์งานเยอะพอสมควร แต่หลังจากล้างมือแล้วเขาตั้งใจว่าจะเปลี่ยนมาเป็นทำธุรกิจแทน ถึงจะไม่ใช่มาเฟียแต่ก็ยังต้องทำงานหาเยอะเลี้ยงดูลูกน้องของตัวเองอยู่ดีครับ แล้วไหนจะคนรักของตัวเองที่ยังไม่มีทีท่าว่าความทรงจำจะกลับคืนมาอีก

เดินไปดูลูกพีชหน่อยดีกว่าแหะ…

อเล็กซ์ลอบยิ้มในใจก่อนจะวางงานแล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องนอน แต่พอเข้าไปแล้วเขากลับชะงักไปชั่วครู่ เพราะห้องนอนแทนที่จะมีคนรักนอนพักผ่อนอยู่นั้นกลับว่างเปล่า

“ลูกพีชคุณอยู่ที่ไหน?!” เขาร้องเรียกหาคนรักพร้อมกับวิ่งหาไปทั่วห้องแต่ก็ไม่พบ “ลูกพีชอย่าเล่นแบบนี้สิครับ ผมไม่ชอบนะ ออกมาเถอะครับ”

เงียบ…

เขาคิดว่ากำลังจะโทรตามเลขาเรย์ให้รีบกลับมาแต่สายตากลับเห็นกระดาษสีขาวถูกวางอยู่บนหัวเตียงนอน จึงเดินเข้าไปหยิบขึ้นมาดูก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง

ขอโทษที่อยู่ด้วยไม่ได้ เพราะลูกพีชไม่อยากให้อเล็กซ์ต้องตาย กรุณาอย่าล้างมือออกจากวงการมาเฟียเพียงเพราะลูกพีชคนเดียวนะครับ

จาก คนที่คุณรักสุดหัวใจ

ปล.ลูกพีชจะไม่มีวันลืมคุณและจะรักคุณตลอดไป


.......................

ปล.อเล็กซ์ยังไม่รู้เรื่องของเจย์กับอาร์ท เพราะเจย์ปิดเรื่องนี้เงียบ
ปล2.ส่วนเรื่องของอาร์ทกับเจย์ เดี๋ยวจะมีออกมาให้ทุกคนได้ทราบค่ะ
ปล3.สงสารลูกพีชกับอเล็กเซย์มาก

:o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2015 09:05:11 โดย dragon123 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“ขอบคุณเจย์มากนะครับที่คอยช่วยเหลือลูกพีชมาตลอด”

“ไม่เป็นไรครับลูกพีช ไม่ต้องคิดมาก” ผมอยู่คุยกับลูกพีชที่บัดนี้หัวล้านโพกหัวด้วยผ้าพันแผลในชุดคนป่วยของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในห้องผู้ป่วยพักฟื้นอยู่สองสามคำก่อนที่อีกฝ่ายจะหลับไปด้วยฤทธิ์ยาจากที่คุณหมอในโรงพยาบาลต่างจังหวัดเป็นคนให้ พอเห็นว่าลูกพีชหลับไปแล้ว ผมจึงเดินออกจากห้องผู้ป่วย ก่อนจะไปหาคุณพ่อคุณแม่ที่นั่งรออยู่ข้างนอกไม่ยอมเข้ามา (ท่านอ้างว่ากลัวว่าเห็นลูกพีชแล้วจะร้องไห้น่ะครับ) “ตอนนี้ลูกพีชหลับไปแล้วครับคุณพ่อคุณแม่”

คุณแม่หน้าตาแดงก่ำ ไม่มีน้ำตา คิดว่าคงจะเพิ่งหยุดร้องไห้ไปได้ซักพักแล้ว ส่วนคุณพ่อนั้นแม้จะไม่ร้องไห้ออกมาให้เห็น แต่ท่านคงจะเจ็บปวดไม่ใช่น้อยเหมือนกัน

“ลูกพีชเป็นไงบ้างเจย์” คุณแม่ถามเสียงสะอื้นไห้ ซึ่งผมฝืนยิ้มตอบกลับไปว่า

“ตอนนี้พีชหลับไปแล้วครับคุณแม่”

“เห็นไหมฉันบอกเธอแล้วว่าไม่เป็นไร กลับไปนอนที่บ้านเรากันเถอะ พรุ่งนี้เช้าค่อยมาใหม่แล้วกัน” คุณพ่อบอกด้วยความหวังดี เพราะหลังจากที่ผมเดินออกมาจากคอนโดอเล็กซ์แล้ว ก็ไปเคลียร์เอกสารเตรียมตัวย้ายออกจากประเทศไทยเพื่อที่จะไปทำงานที่ต่างประเทศ ครั้นพอกลับไปหาคุณพ่อคุณแม่ที่อยู่ต่างจังหวัดเพื่อเตรียมจะบอกลาพวกท่าน กลับพบลูกพีชนอนร้องไห้กอดคุณแม่ผมที่นั่งอยู่ในบ้านแทนซะได้

“ทำไม…ลูกพีชถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” ผมถามด้วยความตกตะลึง เพราะก่อนมานั้นผมจำได้ว่าลูกพีชยังนอนอยู่ในห้องนอนที่คอนโดของอเล็กซ์อยู่เลย “แล้วอเล็กซ์มาด้วยหรือเปล่า”

“ไม่ได้มาจ้ะตาเจย์ แม่เห็นลูกพีชมาคนเดียว” พอลูกพีชตื่นขึ้นมา ผมก็ได้ลองถามดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ปรากฏว่าลูกพีชจำทุกอย่างได้ทั้งหมดแล้ว รวมถึงเรื่องอเล็กซ์ที่เป็นมาเฟียก็ด้วย

“ลูกพีชแน่ใจแล้วนะว่าจะไม่กลับไปหาเขาน่ะ” ผมถามย้ำอีกรอบ แม้ผมจะไม่ชอบใจอเล็กซ์ที่แย่งคนรักไปจากผม แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้ลูกพีชต้องมาทุกข์ทรมานแบบนี้ครับ

“แน่ใจสิ” ร่างบางตอบเสียงสะอื้นไห้ “เจย์ห้ามบอกเขาเป็นอันขาดนะว่าลูกพีชอยู่ที่นี่น่ะ”

“อืม ไม่บอกหรอก” สุดท้ายแล้วคืนนั้นลูกพีชป่วยหนักมาก ไข้ขึ้นสูงจนผมต้องขับรถนำตัวไปส่งที่โรงพยาบาล แต่ทว่ากลับต้องมาพบกับข่าวร้ายเสียก่อน

“ทำไมพวกคุณถึงไม่พาคนป่วยมารักษาให้เร็วกว่านี้” คุณหมอที่ทำการตรวจรักษาให้ลูกพีชหันมาต่อว่าผมทันทีที่เดินออกมาจากห้องไอซียู ซึ่งทำเอาผมที่ยืนอยู่หน้าห้องถึงกับมึนงง “ถ้ามาช้าซักวันสองวันมีหวังรักษาไม่ทันการแน่”

“ทำไมครับคุณหมอ ผมไม่เข้าใจ กะอีแค่ป่วยเป็นไข้ขึ้นสูง…”

“ก็ลูกพี่ลูกน้องของคุณน่ะไม่ได้ป่วยเป็นไข้สูงเพียงอย่างเดียว แต่นี่กลับมีเลือดคั่งในสมองก้อนใหญ่จนต้องผ่าตัดออกด่วนเดี๋ยวนี้ด้วยน่ะสิครับคุณ!”

!!!!!!


เพราะด้วยเหตุนี้ผมจึงต้องมาเฝ้าแวะเวียนลูกพีชไม่ให้คิดมาก โชคยังดีที่ผ่าตัดผลออกมาประสบความสำเร็จ ร่างกายของลูกพีชปลอดภัยดี ไม่มีผลข้างเคียง ส่วนเรื่องความทรงจำนั้นลูกพีชจำได้ทุกคนส่วนของอเล็กซ์นี่ไม่รู้ครับ เพราะคุณหมอสั่งไว้ว่าห้ามพูดเรื่องสะเทือนใจให้คนป่วยฟังเด็ดขาด ผมกับคุณพ่อคุณแม่จึงไม่พูดถึงผู้ชายคนนั้นออกมาเลยซักคำเดียว

Trr…

เสียงริงโทนดังขึ้น ทำเอาผมที่กำลังเตรียมตัวขับรถไปส่งคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านถึงกับหยุดชะงัก

“เดี๋ยวผมขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะครับ คุณพ่อคุณแม่ขึ้นไปนั่งรออยู่ที่รถยนต์ได้เลย” แล้วผมก็เดินออกมาก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดู พอเห็นชื่อแล้วผมกลับปล่อยให้มันดังไปเรื่อยๆจนหยุดไปเอง

ขอโทษด้วยนะลูกพีช เพื่อนายแล้วฉันจำเป็นต้องทำ…

แล้วผมก็ตัดสินใจกดโทรหาเบอร์นั้น พออีกฝ่ายรับสายผมก็กรอกเสียงลงไปทันทีว่า

“ขอโทษนะอเล็กซ์ เมื่อกี้ฉันขับรถอยู่เลยไม่ทันได้รับสายน่ะ”


.................................

 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 22 ตามหาดอกรักที่หายไป...

....................................................................

เกือบหนึ่งปีเต็มแล้วที่พี่เจย์ไปทำงานที่ต่างประเทศ ทีแรกผมถึงกับเครียดเมื่อรู้จากแบมว่าพี่เจย์ไปทำงานที่ต่างประเทศ แต่พอแบมนำกระดาษที่พี่เจย์ฝากมาให้ผมอ่านเท่านั้นแหละ ทำเอาผมถึงกับยกมือขึ้นปิดปากตัวเองน้ำตาคลอเบ้าทันที

ขอเวลาพี่ทำใจเรื่องลูกพีชซักระยะ แล้วพี่จะกลับมาหาเรา

จาก พี่เจย์

ปล.ระหว่างนี้ให้ไปอยู่กับไอ้ออยน้องแบมไปก่อนนะครับ


ส่วนเรื่องการหายตัวไปของพี่พีชนั้นทำเอาพวกผมตกใจไปตามๆกัน ทีแรกคุณอเล็กซ์มาหาพวกผมด้วยสีหน้าอิดโรยเพราะคิดว่าพี่พีชแอบหนีมาที่นี่ แต่พอรู้ว่าพี่พีชไม่ได้อยู่กับพวกผม ก็นั่งรถกลับออกไปด้วยความผิดหวัง

“คงไม่ใช่หนีไปพร้อมกับพี่เจย์หรอกนะฮะ” แบมเอ่ยปากพูดอย่างคาดเดา

“ไม่ใช่หรอกครับที่รัก” พี่ออยส่ายหน้าตอบทันที “เพราะตอนที่พี่ส่งเจย์ที่สนามบิน มันไปเองคนเดียว ไม่ได้มีพีชตามไปด้วยหรอกครับ”

“ถ้างั้นพี่พีชหายตัวไปไหนล่ะฮะพี่ออย” แบมถามต่อ ซึ่งทำเอาผมถึงกับสงสัยตามไปด้วย

“ไม่รู้สิ เพราะพี่ได้ลองโทรถามพ่อแม่ของเจย์ดูแล้ว พวกท่านเองก็บอกว่าไม่ทราบอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าให้เดาพี่คิดว่าพวกเขากำลังปิดบังเรื่องพีชอยู่แน่ๆ ถึงไม่ยอมบอกให้พวกเรารู้น่ะ”

ในเมื่อไม่มีการแจ้งตำรวจว่าคนหาย ก็แสดงว่าพี่พีชอยู่กับพ่อแม่ของพี่เจย์อย่างแน่นอน ส่วนสถานที่ๆพี่พีชไปอยู่นั้นพวกผมไม่ทราบครับ เพราะพ่อแม่ของพี่เจย์ไม่ยอมบอกพวกผมเลยซักนิดเดียว ในขณะเดียวกันเรื่องที่คุณอเล็กเซย์กำลังวางมือจากวงการมาเฟียนั้นกำลังเป็นข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ซึ่งทำเอาทุกคนถึงกับตกใจไปตามๆกัน เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยอมทิ้งทุกอย่างที่ตัวเองสร้างมันขึ้นมา

“พี่เดาว่าน่าจะเป็นเพราะการหายตัวไปของพีชแน่ๆ” พี่ออยพูดพลางวางหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะ “ไม่งั้นเขาจะยอมล้างมือออกจากวงการมาเฟียไปทำไมกันจริงไหมล่ะ”

“จริงฮะ” แต่ผมยังไม่ทันได้พูดต่อ เสียงมือถือของพี่ออยก็ดังขึ้นเสียก่อน

“ใครโทรมาตอนมืดๆเนี่ย แย่จริงๆ คนจะพักผ่อนซักหน่อย” พี่ออยบ่นไปตามเรื่องตามราว แต่มือก็ยังกดรับสายก่อนจะแนบหูตัวเองทันที “สวัสดีครับ ออยกำลังพูดอยู่ ไม่ทราบว่า...”

พี่ออยชะงักไปทันที ซึ่งทำเอาผมกับแบมถึงกับหันไปมองด้วยความสงสัย

“...จริงหรือ ได้ เออ พวกกูว่าง ไม่ต้องห่วง ได้ แล้วเจอกัน” แล้วพี่ออยก็กดวางสายไป ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผมกับแบมที่กำลังรอคอยคำตอบจากพี่ออยอยู่พอดี “น้องแบม น้องอาร์ท เราสองคนรีบขึ้นไปบนห้องเตรียมเสื้อผ้าไปซักหกเจ็ดชุดใส่กระเป๋าเดินทางซะ อ้อ เตรียมพาสปอร์ตด้วยล่ะ เพราะเดี๋ยวเราจะต้องไปสนามบินพร้อมกัน”

“พี่ออยยังไม่ได้บอกพวกผมเลยว่าใครโทรมา แล้วนี่จะพาพวกเราสองคนไปไหนกันหรือฮะ” แบมถามด้วยความสงสัย ซึ่งพี่ออยมองแบมสลับกับผมก่อนจะฉีกยิ้มตอบด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ว่า

“ถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้เองครับ”


...................................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-04-2015 20:57:20 โดย dragon123 »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :กอด1: เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“ถึงนายคิดจะออกจากวงการนี้ไปแต่ก็ใช่ว่าเรื่องมันจะจบทุกอย่างหรอกนะอเล็กซ์”

“ใช่ ฉันรู้เจฟฟี่” ร่างหนาที่ใส่ชุดสูทสีดำผูกเนกไทสีเทาสวมแว่นตาจ้องมองเอกสารในมือพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน ก่อนจะวางทุกอย่างลงแล้วถอดแว่นตาออกมาพลางใช้นิ้วมือขวากดหัวคิ้วเพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการใช้สายตามานานพอสมควร “แต่ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกหนทางนี้”

“นายจะเลือกแบบนั้นได้จริงหรือ นายไม่กลัวว่านายจะพาคนรักต้องไปเสี่ยงตายรึไง รู้ทั้งรู้ว่าบั้นปลายชีวิตของอดีตมาเฟียไม่ได้จบลงอย่างสวยหรูแบบที่นายคิดหรอกนะรู้ไหมอเล็กซ์!” อีกฝ่ายตวาดเสียงดังลั่นห้องด้วยความเดือดดาล ซึ่งก็ไม่เท่ากับจิตใจของคนฟังที่ตอนนี้อยากจะไปตามหาคนรักใจแทบขาด แต่ก็ไม่สามารถออกไปตามหาได้เพราะตนเองยังออกจากวงการมาเฟียไปไม่ได้ดั่งใจคิด

ใช่เขารู้...

เพราะพวกเขามีชีวิตที่แตกต่างกันเกินไป…

ระหว่างมาเฟียกับคนธรรมดาที่ไม่สามารถมาบรรจบลงกันได้...


“แล้วลูกน้องของนายล่ะ นายกล้าทิ้งพวกเขาได้ลงคองั้นหรือ” เจฟฟี่ถามต่ออย่างสงสัยเพราะอีกฝ่ายมีลูกน้องอีกนับพันชีวิตที่คอยทำงานคอยปกป้องเจ้านายของตัวเองมาตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งอเล็กเซย์กลับตอบคำถามนี้ไม่ได้ ได้แต่ทอดถอนหายใจก่อนจะเอนหลังพิงเก้าอี้โซฟาหนังหรูสีดำอย่างหมดเรี่ยวแรง “ฉันว่านายควรจะต้องทบทวนเรื่องนี้ดูใหม่อีกครั้งนะอเล็กซ์ แล้วฉันจะมาถามเรื่องนี้กับนายใหม่อีกที”

แล้วเพื่อนสนิทก็เดินออกจากห้องไป ในขณะที่เขาได้แต่นั่งจมกับความคิดในห้องทำงานตามลำพัง

นี่เขาควรจะทำยังไงดี...

Trr.. Trr...

อเล็กเซย์มุ่นคิ้วทันทีที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา แต่เพราะเขาไม่อยากจะรับสายในตอนนี้ จึงได้แต่ปล่อยให้เสียงมันดังอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งดับไปเอง ทว่าเสียงโทรศัพท์กลับดังขึ้นอีกครั้งจนเขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา เพราะเดิมทีถ้าเขาไม่คิดจะรับสายโทรศัพท์แล้วล่ะก็ เลขาเรย์ก็จะเป็นผู้รับสายแทนตน แต่ครั้งนี้หาได้เป็นแบบนั้นไม่

รับสายเองก็ได้วะ!

อเล็กเซย์คิดในใจอย่างเดือดดาล ก่อนจะผุดลุกขึ้นนั่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจ่อหูเตรียมพร้อมจะพูดกรอกสายตามลงไป กลับต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงปลายสายพูดแทรกเสียก่อน

“...”

“ตกลง ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” แล้วเขาก็วางสายโทรศัพท์ลง ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมแล้วรีบวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว...


..........................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
ทุกคนกะลังไปคอนของเจย์ที่เกาหลีรึป่าว

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะฮะกับการแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกของพี่เจย์”

“อืม ขอบใจนะครับน้องแบม น้องอาร์ท อ้อ แล้วก็มึงด้วยนะไอ้ออย” ผมขอบคุณทั้งสามคนที่อุตส่าห์ขึ้นเครื่องบินตรงมายังประเทศเกาหลีเพื่อชมการแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกของผม (โดยเฉพาะน้องอาร์ทที่เอาแต่มองผมด้วยความปลาบปลื้มเป็นพิเศษ) ซึ่งกว่าผมจะผ่านจุดนี้มาได้ก็แทบหืดขึ้นคอ เพราะไหนจะเรื่องงานไหนจะเรื่องดูแลคนป่วยอีกด้วย “ไหนๆก็มาถึงแล้ว ไปพักบ้านกูเถอะ พอดีกูพักกับพวกเพื่อนในวงนักร้องด้วยกัน จะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายโรงแรมยังไงล่ะ บอกไว้ก่อนนะว่าที่เกาหลีแพงโคตร”

“ก็ดีเหมือนกัน จะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย” ออยพูดอย่างเห็นด้วยกับผม

“เอ๊ะ แบมว่าอย่าดีกว่านะฮะ เกรงใจพวกพี่ๆในทีมของพี่เจย์ด้วย”

“นั่นสิฮะพี่ออย อาร์ทเองก็เกรงใจเหมือนกัน” ทั้งแบมทั้งอาร์ทต่างพูดพร้อมกันๆ

“จะดีหรือ ถ้าพวกน้องสองคนไม่ไป จะอดเจอกับใครบางคนไม่รู้ด้วยน้า” ผมแกล้งพูดหยอก ซึ่งทำเอาน้องแบมกับน้องอาร์ทถึงกับสงสัย “และที่สำคัญเขารอที่จะได้เจอกับพวกเธอด้วย ถ้าไม่ไปพี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร”

“ใครเหรอฮะพี่เจย์?!” ทั้งคู่ต่างอ้าปากถามพร้อมๆกันอย่างสนใจ ซึ่งผมหันไปยิ้มเจ้าเล่ห์กับไอ้ออยที่หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับผมด้วยเช่นกัน ก่อนจะหันไปตอบคำถามน้องแบมน้องอาร์ทว่า

“ไปถึงที่นั่นเดี๋ยวพวกน้องก็รู้กันเองครับ”


.........................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“ที่นี่หรือบ้านพักที่พี่เจย์มาอยู่กับพวกพี่ในวงดนตรีด้วยน่ะฮะ”

แบมถามพลางเงยหน้ามองบ้านพักที่ดูหรูหราท่ามกลางป่าเขาเขียวขจี ในขณะที่ผมกำลังสาละวนกับการช่วยพี่ออยขนกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองลงจากรถยนต์ส่วนบุคคล ส่วนพี่เจย์นั้นก็ช่วยดึงกระเป๋าผมไปถือก่อนจะหันไปตอบแบมว่า

“ใช่ ที่นี่แหละ”

“แล้วคนที่พี่เจย์อยากจะให้พวกเราเจอล่ะฮะ?” แบมถามต่ออย่างสงสัย ซึ่งผมเองก็หันไปมองด้วยความสงสัยปนอยากรู้ด้วยเช่นกัน “เขาอยู่ที่ไหนเหรอ ผมอยากเจอไวๆแล้วล่ะ”

พี่เจย์กับพี่ออยหันมายิ้มให้กันก่อนที่พี่เจย์เป็นฝ่ายให้คำตอบ

“เขารออยู่ในสวนดอกไม้หลังบ้านน่ะ” แล้วพี่เจย์ก็ให้ป้าแม่บ้านของที่นี่นำกระเป๋าเสื้อผ้าของพวกเราไปเก็บในห้องพักสำหรับแขก ก่อนที่พี่เจย์จะเดินนำพาพวกผมเดินไปยังสวนดอกไม้ของหลังบ้านพักแห่งนี้ แต่ครั้นไปถึงกลับพบว่าไม่มีใครอยู่เลยซักนิด “เอ พี่จำได้ว่าบอกเขาให้รออยู่ที่นี่ หายไปไหนของเขานะ”

“ผมคิดว่าเขาน่าจะไปเข้าห้องน้ำอยู่น่ะฮะ” ผมพูดขึ้นบ้าง ซึ่งพี่เจย์ถึงกับส่ายหน้าทันที

“เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะเขาน่ะ’เดินไม่ได้’ถ้าหากไม่มีคนพาไปด้วยน่ะ”

!!!!!!

“อะไรนะฮะ? เดินไม่ได้งั้นหรือ” ผมกับแบมพูดโพล่งออกมาพร้อมกันทันที

“ใช่ เดินไม่ได้น่ะ” พี่เจย์พยักหน้าตอบ “แต่ก็ไม่เชิงว่าเดินไม่ได้ เพียงแต่เขายังรอใครซักคนที่จะมาช่วยให้เดินได้ เขากำลังรอคนสำคัญของเขาอยู่ รอให้เขามารับกลับไปอยู่ด้วยกันทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยซักนิดเดียว”

พอถึงจุดนี้ผมสังเกตเห็นว่าพี่เจย์กำลังพูดด้วยน้ำเสียงเชิงตัดพ้อ

อย่าบอกนะว่าเขาที่พี่เจย์กำลังพูดถึงคือ…

“คุยอะไรกันเสียงดังอยู่เหรอครับคุณเจย์ เดี๋ยวพวกคุณปลาในบ่อน้ำก็ตื่นตกใจเอาได้หรอก” เสียงหวานคุ้นหูดังขึ้น ก่อนจะตามด้วยเสียงอะไรบางอย่างที่กำลังแล่นเข้ามา ซึ่งทำเอาพี่เจย์รีบหมุนตัววิ่งไปหาต้นเสียงทันที แน่นอนว่าพวกผมรีบหันไปมองตาม ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง เพราะภาพที่พวกผมเห็นนั้น...

เป็นภาพพี่พีชสวมหมวกไหมพรมในชุดยูกาตะลายซากุระสีชมพูกำลังนั่งอยู่บนรถวีลแชร์!


..................................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“พี่พีช”

“ทำไมหัวพี่พีชถึง...” ทั้งอาร์ททั้งผมต่างมองพี่พีชที่นั่งอยู่บนรถวีลแชร์ด้วยความตกตะลึง โดยเฉพาะบนหัวของอีกฝ่ายที่สวมหมวกไหมพรมที่ปราศจากเส้นผม ทำเอาพวกผมถึงกับพูดอะไรไม่ออก

“นั่นคงจะเป็นน้องอาร์ทกับน้องแบมสินะใช่ไหมเอ่ย” พี่พีชเอียงคอถามผมด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ใช่ฮะ” ผมกับอาร์ทต่างตอบพร้อมกันเป็นเสียงเดียว ก่อนที่ผมจะหันไปกระซิบถามพี่ออยเบาๆ

“พี่พีชเป็นอะไรไปเหรอฮะพี่ออย” ซึ่งคนรักของผมหันมากระซิบตอบสั้นๆว่า

“เลือดคั่งในสมองน่ะ”

!!!!!!

“แต่ผ่าเอาออกไปได้หนึ่งปีเต็มแล้ว และไอ้เจย์ก็เป็นห่วงเรื่องสุขภาพกายกับจิตของเพื่อนตัวเอง ก็เลยพาพีชมารักษาตัวที่นี่น่ะ” คำพูดของพี่ออยทำเอาผมถึงกับคลายความสงสัย “พอฟื้นมาก็จำได้เป็นบางคน บางคนก็จำไม่ได้ อย่างกรณีของเจย์จำได้บ้างเป็นบางส่วน พี่หมายถึงช่วงชีวิตที่พีชเคยอยู่กับเจย์น่ะ แต่นี่ยังดีที่เขาจำที่รักกับน้องอาร์ทได้”

“แล้วของพี่ล่ะฮะ?” ผมถามย้อนกลับไป ซึ่งพี่ออยส่ายหน้าทันที

“แล้ว...”

แล้วเรื่องของคุณอเล็กเซย์ล่ะ...พี่พีชจำเขาได้ไหม?

“ไม่รู้สิ” พี่ออยตอบทันที “เรื่องของคุณอเล็กซ์ เจย์บอกว่าพีชไม่เคยพูดถึงเขาเลยซักนิด”

แบบนี้คุณอเล็กเซย์ก็น่าสงสารแย่...

ที่ต้องถูกคนรักลืมอีกครั้ง...


“ยืนคุยอะไรกันอยู่เหรอครับทั้งสองคน” เสียงพี่พีชดังขึ้น ทำเอาผมกับพี่ออยหันไปยิ้มให้กับคนถามทันที “นี่เพิ่งจะมาจากประเทศไทย คงยังปรับตัวกับอากาศที่เกาหลีไม่ได้สินะ ถ้ายังไงก็เข้าไปนั่งข้างในบ้านก่อนดีไหม จะได้ดื่มชาร้อนๆให้สบายตัว”

“อืมก็ดี” แล้วพี่เจย์ก็จูงรถวีลแชร์พาพี่พีชเข้าไปยังข้างในบ้านโดยมีพวกผมเดินตามหลัง

...................

 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตกเย็นผมไม่คิดว่าคนที่นี่จะให้การต้อนรับเป็นอย่างดี มีการจัดงานปาร์ตี้ในบ้านต้อนรับแขกที่มาเยือนอีกด้วย ถึงแม้จะเป็นปาร์ตี้เล็กๆมีเพียงไม่กี่คน แต่ผมกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ครั้นหันไปมองพี่พีชที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้แล้ว ก็เห็นอีกฝ่ายพูดคุยยิ้มหัวเราะร่าเริงอย่างมีความสุข

แล้วจิตใจข้างในของพี่พีชล่ะ…

จะยังมีคุณอเล็กเซย์อยู่อีกหรือเปล่า?


วันนี้ผมกะว่าจะลองเลียบเคียงถามดู แต่กลับพบสายตาของพี่เจย์ที่จ้องมองมาดุๆราวกับรู้ทันเกมผมก็มิปาน แถมนอกจากนี้พี่เจย์กลับไม่ยอมปล่อยให้พี่พีชอยู่ตามลำพังอีกด้วย

หรือว่าพี่เจย์กลัวว่าคุณอเล็กซ์จะมาเอาตัวพี่พีชกลับคืนไป...

คิดได้ดังนั้นผมก็รู้สึกเหมือนมีมีดมาแทงที่ขั้วหัวใจจนเจ็บช้ำเหมือนตายทั้งเป็น ครั้นมองพี่เจย์ที่พูดคุยกับพี่พีชอย่างมีความสุขแล้ว ทำเอาหัวใจผมยิ่งเจ็บปวดรวดร้าวมากขึ้นไปกว่าเดิมอีก

ทนไม่ไหวแล้ว...

หมับ!

ผมสะดุ้งตกใจเมื่อมีมือมาจับ พอหันไปดูก็พบกับสายตาของแบมที่จ้องมองมาอย่างเป็นห่วงเป็นใย

“ถ้าทนไม่ไหวก็กลับห้องได้นะ เดี๋ยวแบมกลับด้วย” แบมพูดกระซิบข้างหูผม ซึ่งผมรีบส่ายหน้าไปมาทันที “ทำไมล่ะอาร์ท นายจะทนมองอีกไปทำไมกัน”

“เปล่าไม่ใช่แบบนั้น ฉัน...”

“น้องอาร์ทน้องแบม” เสียงหวานเรียกชื่อ ทำเอาผมกับแบมสะดุ้งตกใจพร้อมกัน ก่อนจะหันไปมองต้นเสียง ซึ่งแลเห็นอีกฝ่ายกำลังฉีกยิ้มหวานให้กับพวกผมอยู่พอดี “ถ้าหิวก็บอกได้นะ จะได้ให้คุณเจย์ไปตักเพิ่มมาให้”

รอยยิ้มของพี่พีชในตอนนี้ช่างดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสาประดุจเด็กทารกแรกเกิด ทำเอาผมถึงกับรู้สึกผิดที่ดันไปอิจฉาพี่พีชโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้รับรู้เรื่องนี้ด้วยเลยแม้แต่น้อย

ขอโทษนะครับพี่พีช

“ไม่ล่ะครับพี่พีช พอดีผมอิ่มแล้ว” ผมยิ้มตอบกลับไป ก่อนจะพูดต่อทันที “ถ้าพี่พีชไม่ว่าอะไร ผมขอตัวกลับไปที่ห้องพักก่อนได้ไหมฮะ พอดีรู้สึกเพลียๆชอบกล”

คำพูดของผมทำให้พี่พีชถึงกับทำหน้าตื่นตระหนกตกใจ

“เพลียหรือ? ไม่สบายแน่เลย คุณเจย์รีบพาน้องอาร์ทไปพักผ่อนที่ห้องเร็ว หรือไม่ก็พาคุณหมอ...”

“ใจเย็นๆครับลูกพีช ค่อยๆพูดก็ได้ เดี๋ยวข้าวติดคอหรอก” พี่เจย์พูดห้ามปรามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ซึ่งผิดกับผมที่พี่เจย์ไม่เคยพูดแบบนั้นกับผมเลยซักครั้งเดียว

“แต่น้องอาร์ท...”

“ไม่เป็นไรฮะพี่พีช ผมสบายดี ขอบคุณที่เป็นห่วง” ผมรีบบอกออกไปเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเป็นห่วงผมไปมากกว่านี้ และที่สำคัญผมไม่อยากให้พี่เจย์ต้องหันมาดุผมต่อหน้าทุกคนอีกด้วย “แค่อ่อนเพลียจากการเดินทาง เอ่อ เจ็ทแลคน่ะฮะ ถ้ายังไงผมขอตัวไปนอนพักก่อนนะครับพี่พีช”

พูดจบผมก็รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะก้มหน้าขอโทษทุกคน แล้วรีบชิ่งเดินออกไปจากที่นี่ทันที

ไม่ไหวเลยเรา...

แย่มากๆ...

แย่ๆ...


โครม!

อาจเป็นเพราะผมรีบวิ่งออกมาอย่างไม่ดูม้าตาเรือ จึงทำให้ชนกับอะไรบางอย่างจนหงายท้องก้นกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง แน่นอนว่าผมเจ็บปวดจุกจนลุกไม่ขึ้น ได้แต่ร้องโอดครวญอยู่อย่างนั้น

“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับน้องอาร์ท” เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้น ก่อนจะตามด้วยมือหนาที่ดูคุ้นตา พอผมเงยหน้าขึ้นเพื่อมองดูอีกฝ่ายแล้ว กลับถึงกับเบิกตากว้างอ้าปากค้างทันทีที่เห็น

“คุณอเล็กเซย์!”


....................

 :m4: :m4: :m4: :m1: :m1: :m3: :m3: :m3: :impress: :impress:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2015 00:35:15 โดย dragon123 »

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 23 แต่งงานกับผมเถอะ...

..........................

“คุณอเล็กเซย์!”

น้องอาร์ทร้องเรียกเขาด้วยความตกตะลึง เพราะคงไม่คิดว่าเขาจะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ แน่นอนว่าเสียงของน้องอาร์ททำให้คนในบ้านต่างวิ่งออกมาดู ซึ่งคนแรกที่วิ่งมาก่อนคือน้องแบม ตามด้วยออย และพวกเพื่อนที่เป็นนักดนตรีร่วมวงกับคุณเจย์อีกสองคน ก่อนตามมาด้วยคนที่เขาแสนคิดถึงกำลังนั่งรถวีร์แชร์ถูกเข็นออกมาในสภาพชุดยูกาตะสวมหมวกไหมพรมสีชมพูที่เขาเห็นแล้วรู้สึกใจหายอยากจะเข้าไปกอดร่างบางเสียเดี๋ยวนั้นแต่ทำไม่ได้เพราะมีเจย์ยืนคุมอยู่

“คุณมาได้ยังไงครับคุณอเล็กเซย์ ไหนว่า...” ออยเอ่ยปากถามก่อนเป็นคนแรก ก่อนจะช่วยดึงน้องอาร์ทให้ลุกขึ้นยืนดีๆ ซึ่งเขาหันไปยิ้มให้กับคนถามก่อนจะตอบกลับไปว่า

“เรื่องมันยาว ผมว่าไปคุยกันในห้องดีกว่า ถ้าไม่รบกวนเวลาพักผ่อนพวกคุณ”

“ไม่รบกวนหรอก จะเข้ามาก็เข้ามาสิ” เจย์บอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความเย็นชา ก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปพูดคุยกับเพื่อนในวงสองสามคำ “กูขอโทษพวกมึงด้วยนะ ไว้คราวหน้าจะเลี้ยงอีกที”

“ไม่เป็นไร เชิญมึงคุยกับเพื่อนๆที่ไทยเถอะ เดี๋ยวพวกกูจัดการเรื่องอาหารบนโต๊ะให้เอง”

“อืม ขอโทษนะที่ไม่ได้อยู่ช่วยเก็บจานน่ะ”

“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง” แล้วพวกเพื่อนในวงของคุณเจย์เดินกลับเข้าไปในห้องครัว ซึ่งเหลือแต่พวกเขาที่ยังคงยืนอยู่ข้างนอก อเล็กเซย์มองลูกพีชด้วยความโหยหา หากแต่อีกฝ่ายกลับจ้องมองเขาด้วยสีหน้าที่ยากเกินจะคาดเดา

ทำไมลูกพีชไม่พูดอะไรบ้างเลยล่ะ?

“ที่นี่มันเย็น ไม่เหมาะกับคนป่วยอย่างลูกพีช ผมว่าเราไปหาที่คุยกันดีๆเถอะ เพราะดูท่าคงอีกยาวเลย” เจย์พูดออกมาอย่างขัดจังหวะ ซึ่งทุกคนเห็นด้วยจึงเดินตามเจย์ที่เข็นลูกพีชที่นั่งอยู่บนรถวีร์แชร์ไปอย่างเงียบๆ


..................................

 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

[attachment deleted by admin]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-06-2015 21:54:42 โดย dragon123 »

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“พอดีบ้านมันแคบ คุยกันที่นี่ไปก่อนแล้วกัน”

“ไม่เป็นไรครับ ผมยังไงก็ได้” แล้วทุกคนก็พากันเงียบ เอาแต่จ้องหน้ากันไปจ้องหน้ากันมา จนไอ้ออยกับน้องแบมเป็นฝ่ายลุกขึ้นยืนก่อน

“ผมว่าผมกับแบมออกไปก่อนดีกว่า”

“นั่นสิครับ ผมเองก็ขอไปด้วยคน” น้องอาร์ทลุกขึ้นตาม “พอดีผมอยากจะเข้าห้องน้ำด้วย”

“งั้นก็ไปกับแบมแล้วกัน แบมอยากเข้าห้องน้ำพอดี” แล้วทั้งสามคนก็เดินออกไปอย่างเงียบๆ ทิ้งให้ผม ลูกพีช และอเล็กเซย์นั่งอยู่ในห้อง ซึ่งผมเห็นลูกพีชจ้องหน้าอเล็กเซย์ด้วยสีหน้าที่เกินจะคาดเดา

ลูกพีชคิดอะไรของเขาอยู่น่ะ?

“ได้ข่าวว่าคุณกำลังจะถอนตัวออกจากวงการมาเฟียใช่ไหมครับคุณอเล็กเซย์” ผมไม่ชอบความเงียบจึงพูดเปิดประเด็นแบบตรงๆ ซึ่งคำถามของผมกลับทำให้ร่างบางที่นั่งอยู่ถึงกับสะดุ้งไหวเล็กน้อย ในขณะเดียวกันอเล็กเซย์เหมือนจะเห็นความผิดปกติของลูกพีชได้จึงหันมาตอบผมว่า

“ใช่ครับคุณเจย์ แต่...”

“แต่?”

“แต่ผมไม่ได้ถอนตัวออกจากวงการมาเฟียครับคุณเจย์”

“หมายความว่ายังไงครับคุณอเล็กเซย์ ผมไม่เข้าใจ” ผมถามย้อนกลับไปด้วยความฉงน ในข่าวบอกว่าจะถอนตัวออกจากวงการมาเฟียแต่เจ้าตัวกลับบอกว่าไม่ได้ถอนตัว ซึ่งอีกฝ่ายกระแอมไอก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า

“ก็เพราะเรื่องนี้แหละที่ทำให้ผมถึงต้องดั้นด้นมาพูดเคลียร์ให้ลูกพีชฟังโดยเฉพาะ แต่...” อีกฝ่ายพูดพลางเหลือบตามองลูกพีชที่นั่งอยู่ข้างกายผม ก่อนจะวกสายตากลับมามองผมอีกครั้ง “...ลูกพีชดันเป็นแบบนี้ไปเสียก่อน ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี เพราะตั้งแต่ผมมาที่นี่ เขายังไม่ยอมพูดกับผมเลยซักครั้ง”

ผมฟังแล้วรู้สึกสงสารแทนอเล็กเซย์ เพราะที่อีกฝ่ายพูดมาเป็นความจริง

“แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าลูกพีชได้รับการผ่าตัดน่ะ”

“ครับ ผมรู้” อีกฝ่ายพยักหน้าตอบ เพราะไม่ใช่เป็นเรื่องยากอะไรที่หัวหน้าเจ้าพ่อมาเฟียอย่างอเล็กเซย์จะตามสืบหาใครซักคนบนโลกแห่งนี้ “แต่ผมมาหาลูกพีชไม่ได้ คุณเจย์ก็น่าจะรู้ดี”

ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับที่อเล็กเซย์พูด เพราะคนธรรมดาอย่างลูกพีชกับมาเฟียอย่างอเล็กเซย์นั้นจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไม่ได้ แถมลูกพีชเองก็ทนไม่ได้ที่อเล็กเซย์จะเลิกเป็นมาเฟียเพราะตัวเอง จึงแอบหนีออกมาอย่างที่เห็น ซึ่งการหนีของลูกพีชก็เท่ากับเป็นการบอกเลิกกับอเล็กเซย์ไปโดยปริยาย

“แล้วที่คุณมานี่มีจุดประสงค์อะไรอีก” ผมถามต่อด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด เพราะถ้าหากอีกฝ่ายเล่นไม้แข็ง คิดพาลูกพีชกลับไปอยู่ด้วยทั้งๆที่เจ้าตัวไม่ยอมแล้วล่ะก็ ผมคนนี้แหละที่จะคอยปกป้องไม่ให้คนที่ผมรักต้องกลับไปทุกข์ทรมานเหมือนตกนรกทั้งเป็นแน่ “ถ้าคิดจะพาลูกพีชไปด้วยแล้วล่ะก็ เชิญข้ามศพผมไปก่อนเถอะ”

“คุณเจย์!” ดูเหมือนลูกพีชตกใจกับคำพูดของผมมาก จึงได้ร้องอุทานชื่อผมออกมา

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ผมพาเขากลับไปแน่” อีกฝ่ายพูดท้าทายผมกลับ “แต่เป็นหลังจากที่ผมได้อธิบายทุกอย่างให้ฟังหมดก่อน ส่วนคุณเจย์ คุณเองก็ไม่ต้องมาตายเพราะผมด้วย”

?!

“หมายความว่ายังไง?” ผมถามย้อนกลับไปด้วยความฉงน ซึ่งอีกฝ่ายไม่ตอบกลับฉีกยิ้มมุมปากพลางล้วงมือถือกดโทรหาใครบางคนด้วยภาษาที่ผมไม่รู้จัก ก่อนจะกดวางสายแล้วเงยหน้ามองผมสลับกับลูกพีช

“กรุณารอซักครู่ แล้วผมจะเล่าทุกอย่างให้ฟังเอง”


..............................

 :hao4: :hao4: :hao4: :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“กรุณารอซักครู่ แล้วผมจะเล่าทุกอย่างให้ฟังเอง”

เสียงทุ้มบอกกล่าวก่อนจะนั่งเงียบไป ซึ่งผมบอกตามตรงว่าตัวเองรู้สึกคุ้นกับผู้ชายคนนี้อย่างบอกไม่ถูก แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุอันใด พอผมเห็นหน้าเขาแล้วรู้สึกได้อยู่สองอย่าง คือรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวราวกับถูกบีบคั้นหัวใจจนอยากจะหนีหน้าไปให้ไกล กับอีกความรู้สึกหนึ่งคือ รู้สึกดีใจจนอยากจะเข้าไปกอดร่างหนาใจจะขาดรอนๆ

อย่าบอกนะว่าเขาเป็น...

คนรักของผม...


แต่จะเป็นไปได้ยังไงก็ในเมื่อเขาเป็นผู้ชาย และผมเองก็เป็นผู้ชายด้วยเช่นกัน มันคงยากที่จะมารักกันได้ ซึ่งสังคมไทยแม้ตอนนี้จะยอมรับเรื่องพวกรักร่วมเพศแล้วก็ตาม แต่บางกลุ่มก็ยังรับไม่ได้ก็มี ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าหากผมกับเขาเป็นคนรักกันจริง คุณพ่อคุณแม่ของคุณเจย์และตัวคุณเจย์เองจะยอมรับเรื่องพวกนี้ได้หรือไม่

หมับ!

แรงบีบที่มือทำเอาผมชะงักความคิด ก่อนจะรู้ว่าคนบีบมือผมนั้นคือคุณเจย์ ซึ่งผมไม่รู้ว่าเขาบีบมือผมทำไม รู้แต่เพียงว่ามันเจ็บมากอยู่พอสมควร ครั้นพอหันไปมองคุณเจย์ ผมถึงกับชะงักเมื่อเห็นสีหน้าอันเจ็บปวดของเจ้าตัวอย่างเห็นได้ชัด

คุณเจย์เป็นอะไร...ไป?

ครั้นพอผมหันหน้าไปมองอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ตรงข้ามพวกเรา ก็พบสีหน้าอันโกรธเคืองเล็กๆไม่ใช่น้อย

เขาโกรธอะไรผมน่ะ?

ผมกำลังจะอ้าปากถามกลับไป แต่กลับต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของคนหลายคนเดินเข้ามา ก่อนที่ผมจะได้เห็นพี่ออยเดินเข้ามาด้วยสีหน้าซีดเซียว แต่ผมยังไม่ได้ทันถามอีก กลับต้องอ้าปากค้าง ตาเบิกกว้างมองผู้มาใหม่ด้วยความตกตะลึง

นะ...นะ...นี่มัน?!

“ขอโทษที่ให้คอยนาน พอดีมัวแต่หลงทางน่ะ” เสียงทุ้มผู้มาใหม่กล่าวขอโทษขอโพยก่อนจะถือวิสาสะเดินเข้ามาในห้องนี้แล้วนั่งลงบนเก้าอี้โซฟาข้างคนที่ชื่ออเล็กเซย์อะไรนั่น ในขณะที่พี่ออยมองทั้งคู่ตาค้างราวกับเห็นผี “ขอบคุณที่พามาห้องนี้ ถ้าจะนั่งฟังด้วยก็ไม่ว่าอะไรนะคุณออย”

ไม่เพียงถือวิสาสะนั่งลงบนเก้าอี้โซฟาโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของบ้านแล้ว อีกฝ่ายยังพูดเชิญชวนพี่ออยให้ร่วมมานั่งฟังด้วยอีกคนราวกับตัวเองเป็นเจ้าของบ้านก็มิปาน

“ไม่ล่ะ ผมไม่อยากฟัง เชิญพวกคุณคุยกันตามสบาย” แล้วพี่ออยก็เดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ห้องจะกลับเข้าสู่บรรยากาศเงียบสงบอีกครั้ง

“เอ่อ...” ผมกำลังจะอ้าปากถามอะไรบางอย่างแต่กลับถูกคุณเจย์ถามขึ้นแทรกเสียก่อน

“ผมไม่ยักรู้มาก่อนว่าคุณอเล็กเซย์จะมีพี่น้องฝาแฝดด้วยน่ะ”


........................

 :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“ผมไม่ยักรู้มาก่อนว่าคุณอเล็กเซย์จะมีพี่น้องฝาแฝดด้วยน่ะ”

คำถามของเจย์ทำเอาเขานิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะหันไปมองผู้ชายที่มีใบหน้าเหมือนกับตนเองนั่งอยู่ข้างกาย ซึ่งอีกฝ่ายก็หันมามองเขาอยู่ด้วยเช่นกัน

“ใช่ ผมมีพี่น้องฝาแฝด” อเล็กเซย์หันหน้ากลับไปตอบเจย์ ก่อนจะเหลือบมองร่างบางที่ไม่มีท่าทีอะไรเกิดขึ้นนอกเสียจากทำหน้าประหลาดใจที่ได้เห็นฝาแฝดตรงหน้าตัวเอง “อลัน เป็นฝาแฝดคนพี่ของผมเอง เรื่องฝาแฝดผมไม่เคยรู้มาก่อนว่ามี เขาเพิ่งจะมาปรากฏตัวได้ไม่กี่วันนี้เอง”

“หมายความว่า?”

“หมายความว่าฉันเพิ่งจะโผล่ออกมาจากที่มืดยังไงล่ะ” อลันหันไปตอบเจย์ด้วยสีหน้าดูเชิง “เรื่องตระกูลมาเฟียอย่างพวกเราจะมีหัวหน้าได้เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และฉันเลือกที่จะอยู่มุมมืดไม่เปิดเผยโฉมออกมาให้ใครได้รับรู้ แม้กระทั่งฝาแฝดของตัวเองก็ตามที ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่อเล็กซ์จะไม่รู้เรื่องนี้”

“แล้วพ่อแม่ของคุณไม่เคยบอกบ้างเลยหรือคุณอเล็กเซย์” เจย์หันมาถามเขา แต่ยังไม่ทันได้ตอบคำถามกลับไป อลันก็แย่งชิงตอบไปเสียก่อน

“เพื่อความปลอดภัยของตระกูล จะไม่มีการบอกใดๆทั้งสิ้น”

“แล้วทำไมคุณถึงยอมอยู่ในเงามืดแทนที่จะอยู่ในที่แสงสว่าง”

“เพราะฉันเต็มใจที่จะอยู่ในเงามืดยังไงล่ะ” อลันยกขาขึ้นไขว่ห้างกอดอกยิ้มตอบกลับไป “จนกระทั่งมาถึงปีนี้ฉันทนดูไม่ได้ที่เห็นน้องชายตัวเองทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง และพยายามจะหาทางถอนตัวเองออกจากวงการมาเฟียเพียงเพื่อคนรักที่เป็นผู้ชายที่มีใบหน้าเหมือนตุ๊ดเหมือนแต๋ว จึงยอมออกมา...”

“ใครตุ๊ดใครแต๋วฮะไอ้นี่!” เจย์ทำท่าจะเข้ามาชกต่อยกับอลัน ซึ่งทำให้เขารีบลุกขึ้นห้ามทันที

“อย่าทะเลาะกัน พี่เองก็พอทีเถอะ จะพูดล้อเล่นก็ล้อเล่นให้มันพอเหมาะพอควรได้ไหม”

“หึ พอก็พอ” อลันแค่นเสียงหัวเราะเบาๆอย่างพออกพอใจ แต่ในขณะเดียวกันเจย์กับลูกพีชได้แต่ทำหน้าเอ๋อจนงงไปหมดแล้ว “เรื่องเมื่อครู่นี้ฉันล้อเล่นน่ะ ไม่มีหรอกไอ้ที่ตระกูลมาเฟียจะมีหัวหน้าได้เพียงแค่คนเดียว ส่วนเรื่องที่ฉันไม่เคยโผล่หัวออกมานั้นเป็นเรื่องจริง เพราะนับตั้งแต่ฉันกับอเล็กซ์ลืมตาดูโลก พวกเราสองคนก็ถูกจับแยกให้ออกห่างจากกัน โดยที่อเล็กซ์ถูกให้ทำงานอยู่เบื้องหน้า ในขณะที่ฉันถูกให้ทำงานอยู่เบื้องหลัง ซึ่งกว่าที่ฉันจะได้รับรู้ว่าตัวเองมีน้องชายฝาแฝด ก็เมื่อตอนที่ฉันถูกพ่อตัวเองสั่งให้ดูแลอเล็กซ์อย่างลับๆโดยไม่ให้เจ้าตัวได้รับรู้รับทราบน่ะ”

“เหรอ แล้วมันเกี่ยวอะไรที่คุณมาด่ามาว่าลูกพีชด้วยล่ะ”

“เกี่ยวสิ ก็ในเมื่อที่ฉันพูดมันเป็นความจริง” อลันหรี่ตาลงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ซึ่งผิดกับใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อครู่นี้ลิบลับ “ลูกพีชของเธอทำให้น้องชายฉันเริ่มไขว้เขว ทำงานทำการไม่เป็นผู้เป็นคนประดุจหุ่นยนต์ที่ถูกชักใยไม่มีวันหยุด แถมยังมีความคิดที่จะทรยศลูกน้องตัวเองด้วยการลาออกจากวงการมาเฟียเพียงเพื่อไปหาคนรักที่เป็นคนธรรมดาอีก พูดแบบนี้แล้วเธอยังคิดว่ามันไม่เกี่ยวได้ด้วยหรอกหรือ”

“กร็อด!” เสียงคุณเจย์กัดฟันกรอดด้วยความโมโห ไม่แปลกที่จะโกรธหรอก เพราะมันเป็นความจริงทุกอย่าง หนึ่งปีมานี้เขาแทบจะเป็นหุ่นยนต์เลยก็ว่าได้   

“เพราะด้วยเหตุนี้ฉันถึงได้ก้าวเท้ายอมออกมาจากเบื้องหลัง และเข้ามาทำงานแทนที่ในส่วนของอเล็กเซย์ที่ไม่สามารถทำต่อไปได้อีก” อลันพูดต่อทันที ซึ่งทำเอาเจย์ที่กำลังกัดฟันโมโหพี่ชายของเขาอยู่นั้นถึงกับหยุดชะงักมองอลันด้วยความแปลกใจ

“ว่ายังไงนะ?”

“พูดง่ายๆภาษาชาวบ้านก็คือ ฉันจะเข้ามาทำงานเป็นหัวหน้ามาเฟียแทนน้องชายยังไงล่ะ”


.................................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 24 แต่งงานกับผมเถอะ...2

............................................................

“พูดง่ายๆภาษาชาวบ้านก็คือ ฉันจะเข้ามาทำงานเป็นหัวหน้ามาเฟียแทนน้องชายยังไงล่ะ”

“มะ...มะ...มาเฟีย?!” ผมร้องอุทานเสียงหลงทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ ซึ่งทำเอาทุกคนหันมามองผมพร้อมกัน โดยเฉพาะผู้ชายที่ชื่ออเล็กเซย์หันมามองผมด้วยสายตาเจ็บปวดรวดร้าวชนิดที่ผมเห็นแล้วรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก “คุณอลันกับคุณอเล็กเซย์เป็น...”

“มาเฟีย ใช่ ผมกับพี่ชายเป็นมาเฟียครับลูกพีช” คุณอเล็กเซย์พูดตอบคำถามผมด้วยน้ำเสียงเชิงตัดพ้อ “ถ้าลูกพีชรังเกียจพวกเรา แค่บอกมาคำเดียว ผมกับพี่ชายก็พร้อมจะจากคุณไปเลยทันที และจะไม่กลับมาให้คุณเห็นหน้าอีกด้วย”

!!!!!!

“ใจเย็นๆสิอเล็กซ์ ฉันรู้ว่านายกำลังเจ็บปวดอยู่ แต่นายอย่าลืมสิว่าคนรักของนายผ่าตัดเนื้องอกมา จึงไม่แปลกที่เขาจะจำนายไม่ได้”

คนรัก?

ผมเนี่ยนะ?!


“ผมรู้ ผมก็แค่สงสัยบางอย่างว่าทำไมทีคุณเจย์ลูกพีชกลับจำได้ แต่...” ร่างหนาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “...ทีกับผมเขากลับจำไม่ได้”

!!!!!!

ผมแทบสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นน้ำตาของอีกฝ่ายไหลรินอาบแก้ม ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ที่มาเฟียอย่างเขาจะร้องไห้ออกมา แต่ที่น่าแปลกยิ่งกว่านั้นก็คือผมกลับรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวที่หัวใจเมื่อเห็นน้ำตาของเขา

ทำไมถึง...

รู้สึกเจ็บมากขนาดนี้...


“ลูกพีช!” ผมสะดุ้งตกใจเมื่อจู่ๆคุณอเล็กเซย์ก็พูดเรียกชื่อผมออกมาเสียดื้อๆ “น้ำตา...คุณร้องไห้”

เป็นคราวผมบ้างที่ต้องตกใจ ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มตัวเอง

จริงๆด้วย...

ผมกำลังร้องไห้...


“ฉันว่าปล่อยให้พวกเขาสองคนคุยกันตามลำพังหน่อยดีไหม” เสียงของคุณอลันพูด ซึ่งผมไม่สามารถเห็นหน้าเขาได้เพราะถูกบดบังด้วยน้ำตาของตัวเอง

“ขอปฏิเสธ” เสียงคุณเจย์ตอบกลับมาอย่างห้วนๆทันที “ถ้าอยากจะคุยก็ให้พูดออกมาตอนนี้เลย เพราะผมกับลูกพีชไม่เคยมีความลับกันและกัน”

“แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างของคนสองคน คนนอกอย่างคุณไม่เกี่ยว”

“ผมไม่ใช่คน...” คุณเจย์หยุดพูดเพราะถูกผมสะกิดห้ามเอาไว้

“ลูกพีชอยากคุยกับคุณอเล็กเซย์...” ผมพูดไปเช็ดน้ำตาไปพลาง “...สองต่อสอง ขอโทษนะฮะที่ลูกพีชเอาแต่ใจ แต่ลูกพีชอยากรู้เรื่องทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

“ลูกพีช” คุณเจย์พูดด้วยน้ำเสียงเชิงตัดพ้อ ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร ก่อนที่อีกฝ่ายจะทอดถอนลมหายใจเฮือกแรงๆ “ก็ได้ เจย์จะปล่อยให้ลูกพีชคุยกับเขากันแค่สองคน แต่ถ้าลูกพีชรู้สึกไม่ดี ก็ให้รีบตะโกนเรียกเจย์ได้เลยนะ แล้วเจย์จะรีบเข้ามาช่วย ตกลงไหม”

“ตกลงครับ” ผมพยักหน้าตอบ ก่อนที่คุณเจย์จะลุกขึ้นยืนพร้อมๆกับคุณอลันที่ลุกขึ้นยืนตาม

“ผมจะให้เวลาคุณแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้นนะคุณอเล็กเซย์ แค่หนึ่งชั่วโมง เพราะลูกพีชต้องกลับไปนอนพักผ่อนแล้ว” คุณเจย์หันไปพูดกับร่างหนา ซึ่งอีกฝ่ายพยักหน้าตอบตกลง

“โอเคครับ แค่หนึ่งชั่วโมง”


...........................

สู้ๆนะคะคุณอเล็กเซย์  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เกือบห้านาที ที่เขาเอาแต่จ้องหน้าร่างบางเพียงอย่างเดียว ในขณะที่อีกฝ่ายหลบหน้าหลบตาเขาทั้งๆที่เมื่อครู่นี้ปากบอกกับเจย์ว่าจะถามอะไรเขาซักอย่าง แต่ก็ไม่ยอมถามเสียที เอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาเพียงอย่างเดียว แต่ถึงแม้ลูกพีชจะก้มหน้าก้มตาหลบเขาด้วยความกลัว เขาก็ได้เห็นดวงตากลมสวยบอบช้ำด้วยน้ำตาที่ยังคงไหลรินอย่างเงียบๆ พอคิดได้ดังนั้นเขาจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าก่อนจะโยกตัวไปเช็ดน้ำตาให้เบาๆอย่างทะนุถนอม

“คะ...คุณอเล็กเซย์?!” ลูกพีชร้องอุทานด้วยความตกใจเมื่อรับรู้ว่าเขากำลังเช็ดน้ำตาให้

“ผมขอโทษที่มาหาคุณช้าไป” เขาบอกพลางหยุดมือ ก่อนจะถือวิสาสะจับมือบางทั้งสองข้างขึ้นมาจุมพิตเบาๆ “ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี มันมืดแปดด้านไปหมด นับตั้งแต่ผมทราบข่าวว่าคุณเข้าผ่าตัดเนื้องอกในสมอง ผมก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ อยากจะไปดูคุณถึงที่โรงพยาบาลแต่ก็ทำไม่ได้ ผมกลัวเหลือเกิน กลัวว่าพอไปแล้วจะเห็นคุณหลับไม่ตื่นขึ้นมา...อีกเลย”

“คุณอเล็กเซย์” ร่างบางเรียกชื่อเขาอย่างแผ่วเบา

“ต้องขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้คุณกลับมาหาผมอีกครั้ง” เขาพูดพลางจุมพิตที่หลังมือบอบบางอีกครั้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองลูกพีชที่หน้าขึ้นสีด้วยความเขินอาย “คราวนี้ผมจะไม่ปล่อยคุณไปจากผมได้อีกแน่ เพราะผมได้พี่ชายมาช่วยงานที่บริษัทแล้ว ดังนั้น...”

“ดังนั้น?” เจ้าตัวเลิกคิ้วสูงถามด้วยความสงสัย แต่อเล็กเซย์ไม่ตอบคำถามเดี๋ยวนั้น กลับลุกขึ้นยืนแล้วเดินอ้อมไปหาลูกพีชที่นั่งอยู่บนรถวีร์แชร์ ก่อนจะย่อขาลงในท่าอัศวินรับดาบ แล้วจึงค่อยหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง ซึ่งเผยให้เห็นกล่องหนังสีแดงเลือดหมูอย่างดี เขาไม่รอให้ลูกพีชได้ถามไถ่ จึงรีบเปิดกล่องนั้นออกอ้า แลเห็นแหวนเพชรขนาดเล็กกะทัดรัดรูปหัวใจสีน้ำเงิน

“แต่งงานกับผมเถอะนะครับลูกพีช” พอเขาพูดจบ ร่างบางถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง “ผมจะพาคุณไปใช้ชีวิตในที่คุณต้องการ ชีวิตที่มีแต่ความสงบ เป็นคนธรรมดาที่ไม่ใช่มาเฟีย ผมให้สัญญา”

“ตะ...แต่ลูกพีชไม่รู้จักคุณ ไม่สิ ลูกพีชจำคุณไม่ได้เลยซักนิดเดียว ขอโทษนะ ลูกพีชคงรับคำขอแต่งงานจากคุณไม่ได้ คุณอเล็กเซย์” ลูกพีชบอกปฏิเสธ ซึ่งอเล็กเซย์รู้อยู่แล้วว่าเจ้าตัวต้องพูดออกมาแบบนี้ จึงหยิบของอีกชิ้นที่ตั้งใจเอามาให้โดยเฉพาะ ครั้นพอหยิบออกมาให้คนรักดูแล้ว อีกฝ่ายถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงทันทีที่เห็นมัน “นะ...นะ...นี่มัน”

อเล็กเซย์ยิ้มมุมปากพลางก้มมองของในมือ ซึ่งมันเป็นช่อดอกไม้สีฟ้าห้าแฉกขนาดจิ๋ว ครั้นพอเขาเงยหน้ากลับขึ้นไปมองคนรักเพื่อบอกชื่อดอกไม้ที่เขาตั้งใจมอบให้

“ดอกฟอร์เก็ตมีนอท ดอกไม้ที่ลูกพีชชอบยังไง...อ๊ะ ลูกพีชระวัง!!”

โครม!


...............................

 :m17: :m17: :m17: :m17: :m17: :m17: :m17:


[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พีช...

ลูกพีช...


ผมมุ่นคิ้วกับเสียงที่ได้ยิน ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า แลเห็นสองร่างคุ้นตาที่จากไปด้วยอุบัติเหตุตามคำบอกเล่าของคุณเจย์ ทั้งคู่ยืนกุมมือส่งยิ้มให้ผมอย่างมีความสุข

คุณพ่อ...

คุณแม่...


ผมร้องเรียกพวกท่านก่อนจะเดินเข้าไปหา แต่ทว่ากลับต้องชะงักเมื่อเห็นแม่น้ำขนาดใหญ่สีแดงไหลผ่านอย่างเชี่ยวกราดขวางทางผมราวกับไม่ต้องการให้ไปหาพวกท่าน

ยังไม่ถึงเวลาของลูกหรอกนะจ้ะลูกพีช...

คุณแม่กล่าวกับผมด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ในขณะที่คุณพ่อยิ้มไปส่ายหน้าไปพลาง

แต่ลูกพีชอยากไปหาคุณพ่อคุณแม่...

ผมบอกพวกท่านก่อนจะตัดสินใจก้าวเท้าลงน้ำ หากแต่เสียงทุ้มของใครบางคนเรียกชื่อผมเอาไว้

ลูกพีช!!

ผมสะดุ้งตกใจพลางหันกลับไปมอง ก่อนจะเห็นเงาสีดำขนาดใหญ่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงสว่าง

นั่น...ใคร?

ครั้นหันกลับไปหาคุณพ่อคุณแม่ กลับพบว่าแม่น้ำสีแดงที่เคยไหลเชี่ยวกราดนั้นกลับมีขนาดใหญ่ขึ้นราวกับทะเล แถมนอกจากนี้ยังมีโครงกระดูกมือโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำอีกด้วย

นะ...น่ากลัวเกินไปแล้ว!!

ผมครุ่นคิดอย่างหวาดกลัว ครั้นเงยหน้าขึ้นเพื่อขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อคุณแม่ กลับสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นร่างของทั้งคู่ยืนอยู่อีกฝั่งห่างไกลออกไปจนผมเกือบมองไม่เห็นแล้ว

กลับไป...

กลับไปซะลูกพีช...

ที่นี่ยังไม่ใช่เวลาที่ลูกจะมาที่นี่...


แม้ผมจะไม่เห็นหน้าพวกท่าน แต่น้ำเสียงอันอ่อนโยนของคุณแม่ที่ดังออกมาจากอีกฟากของแม่น้ำทำเอาผมถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

กลับไปซะ...

กลับไปหาเขา...

กลับไปหาคนที่ลูกรัก..


เสียงคุณพ่อดังขึ้นต่อจากคุณแม่ทำเอาผมถึงกับส่ายหน้าไปมาทันที

ลูกพีชกลับไม่ได้ฮะคุณพ่อคุณแม่...

เพราะลูกพีชจำเขาไม่ได้...

เลยซักนิดเดียว...


คราวนี้ระยะทางของฝั่งกลับหดลงมาจนทำให้ผมสามารถเห็นหน้าของพวกท่านได้อย่างชัดเจน แต่ถึงกระนั้นผมก็ไม่สามารถข้ามไปหาพวกท่านได้อยู่ดี

ไม่เห็นจะยาก... คุณพ่อกล่าวกับผมอย่างอ่อนโยน ก็แค่กลับไปเริ่มต้นใหม่...

เริ่มต้นใหม่หรือฮะ?


ใช่แล้วจ้ะลูกพีช... คุณแม่พยักหน้าตอบ กลับไปเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่กับเขา กับคนที่ลูกรัก แม่เชื่อว่าต่อให้ลูกเป็นคนใหม่ที่จดจำเขาไม่ได้ก็ตาม แต่เขาก็ยังคงรักลูกอยู่เสมอต้นเสมอปลายอย่างแน่นอนจ้ะ

ตะ...แต่ลูกพีชจะรู้ได้ยังไงว่าเขายังรักลูกพีชอยู่ฮะคุณพ่อคุณแม่...

ผมพูดอย่างลังเลใจ เพราะตอนนี้ผมเป็นคนใหม่ ที่มีความทรงจำไม่ครบเต็มร้อยเหมือนแต่ก่อน

พ่อไม่รู้จะบอกลูกยังไง เอาเป็นว่าลูกลองใช้ใจของตัวเองคิดดูเอาแล้วกัน...

ใช้ใจคิดงั้นหรือฮะ? ผมเงยหน้าถามคุณพ่อที่มองผมอยู่

ใช่... คุณพ่อตอบย้ำคำตอบของตัวเอง ที่เหลือก็คือ...

...ความเชื่อมั่นของลูกที่มีต่อเขา

ลูกพีช!!!


ผมสะดุ้งอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มตะโกนเรียกชื่อตัวเอง ทำเอาผมหันกลับไปมองก่อนจะเบิกตากว้าง ภาพของชายร่างสูงกำลังยื่นมือมาหาผมขณะที่ยืนอยู่บนฝั่ง ในขณะที่ตัวผมเองนั้นกลับไม่ได้ยืนอยู่เหนือพื้นดิน แต่เป็นบนเรือเก่าๆบนแม่น้ำสีแดงที่ไหลเชี่ยวกราด ครั้นผมหันไปมองคุณพ่อคุณแม่อีกครั้ง คราวนี้กลับพบว่าพวกท่านยืนอยู่อีกฝั่งห่างจากผมไปไกลพอสมควร

กลับไปซะลูกพีช...

กลับไปหาเขาก่อนที่ลูกจะไม่ได้มีโอกาสกลับไปอีก!!


ผมยืนมองพวกท่านสลับกับมองอเล็กเซย์ด้วยความลังเล ใจหนึ่งก็อยากไปหาคุณพ่อคุณแม่ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากกลับไปหาคนที่ตัวเองรัก

บอกให้กลับไปไงเล่าไอ้เด็กโง่!!

ลูกพีช...ผมรักคุณ กลับมาหาผมเถอะลูกพีช!!


ผมหันไปมองคุณพ่อคุณแม่อีกครั้ง ก่อนจะลดตัวลงก้มลงกราบพวกท่านทั้งน้ำตา

ลูกพีชขอขมาต่อคุณพ่อคุณแม่ ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้พวกเราได้เกิดมาเป็นพ่อแม่ลูกอีกครั้ง

แล้วผมก็เงยหน้าขึ้นมา แลเห็นพวกท่านกำลังยืนกอดร่ำไห้กับคำพูดของผม

พ่อกับแม่ก็ด้วยเช่นกัน หากชาติหน้ามีจริง เราสามคนจะกลับมาเกิดเป็นพ่อแม่ลูกกันอีก...

แล้วพบกันใหม่นะลูกพีช...


สิ้นเสียงคำกล่าวบอกลา ร่างของพวกท่านก็พลันจางหายไป เหลือแต่ผมที่ยังคงอยู่ ซึ่งผมเองก็ไม่รอช้า ลุกขึ้นยืนก่อนจะหันไปมองร่างสูงที่ยื่นมือรอผมอยู่อีกฝั่ง

ลูกพีช...

คุณอเล็กซ์...


แล้วผมก็ยื่นมือไปหาเขาก่อนจะกุมมือหนาที่รอรับอยู่อย่างแนบแน่น

หมับ!


.................................

 :m17: :m17: :m17: :m17: :m17: :m17: :m17:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2015 20:55:17 โดย dragon123 »

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 25 เริ่มต้นชีวิตใหม่...

........................

“ว่ายังไงนะ แต่งงาน?!”

“ใช่แล้วครับคุณพ่อคุณแม่ แต่งงาน” ผมยิ้มไปตอบคุณพ่อคุณแม่เจย์ไปพลาง ก่อนจะหันไปมองคนรักที่นั่งอยู่ข้างกายผม “ลูกพีชกับคุณอเล็กซ์ตกลงจะแต่งงานกันในเดือนหน้านี้ คิดว่าจะจัดที่ประเทศไทย เพราะจะได้ไม่ต้องถ่อขึ้นเครื่องบินไปร่วมงานถึงต่างประเทศฮะ”

พอผมพูดจบ พวกท่านก็หันมองหน้ากันก่อนจะหันมามองผมกับคุณอเล็กซ์อีกครั้ง

“แน่ใจนะว่าพวกเธอสองคนจะแต่งงานกัน” คุณพ่อของคุณเจย์เป็นฝ่ายถามขึ้นมาก่อน “ความรักระหว่างชายกับชายแม้ตอนนี้สังคมไทยจะเปิดใจรับ แต่ก็ใช่ว่าจะเปิดกันทุกคน ที่พ่อพูดเตือนก็เพราะต้องการหวังดี พ่อไม่อยากให้พวกเธอต้องเสียใจภายหลัง”

“อันนี้ผมทราบดีครับ แต่ผมตัดสินใจไปแล้ว ผมจะไม่ทำให้พวกคุณผิดหวังอย่างแน่นอน” คุณอเล็กซ์ตอบคำถามของคุณพ่อเจย์ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“แล้วเธอ...เอ่อ จะเลิกทำอาชีพมาเฟีย...แน่แล้วใช่ไหม” คุณแม่ของคุณเจย์ถามอย่างไม่แน่ใจ เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าอเล็กซ์ทำงานอาชีพอะไร

“ใช่ครับคุณแม่ ผมแน่ใจและไม่คิดจะกลับไปทำอาชีพนี้อีกด้วย” ร่างสูงพยักหน้าตอบก่อนจะควักบัตรประชาชนตัวเองออกมาให้คุณพ่อคุณแม่ของเจย์ดู ซึ่งในบัตรเป็นภาพของคุณอเล็กซ์ก็จริงอยู่ แต่ชื่อกับนามสกุลนั้นไม่ใช่

Alex De Newman

จะตั้งใหม่ทั้งทีทำไมไม่ตั้งให้ดีกว่านี้นะ!

“แต่เธอกำลังจะทิ้งทุกอย่างที่ตัวเองสร้างขึ้นมากับมือเพื่อคนที่ยังไม่ได้รักเธอ แม้กระทั่งความทรงจำก็ยังไม่มี เธอทนรอได้แน่หรืออเล็กซ์” คุณแม่ถามต่อ ซึ่งมันเป็นความจริงครับ เพราะตอนนี้ผมไม่มีทั้งความทรงจำครั้งอดีตทั้งความรักที่มีต่ออเล็กซ์เลยซักนิดเดียว ทว่าคุณอเล็กซ์ไม่ได้ตอบคำถามคุณแม่เจย์เดี๋ยวนั้น กลับหันมาจ้องตาผมแล้วส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน (เขาเอามือมาก็กุมมือผมด้วยครับ)

“ทนได้สิครับ เพื่อลูกพีช ผมยอมได้ทุกอย่างกระทั่งชีวิตของตัวเอง”

!!!!!!

“ส่วนเรื่องความทรงจำ ถึงแม้ตอนนี้ลูกพีชจำผมไม่ได้แล้วก็ตาม แต่ผมจะพยายามสร้างความทรงจำระหว่างผมกับเขาขึ้นมาใหม่อีกครั้งครับ”

!!!!!!

ไอ้ผมก็อึ้งสิครับ เจอคำพูดนี้เล่นเอาผมอายจนอยากจะเดินหนีออกไปจากห้องนี้เต็มแก่ (แต่ทำไม่ได้ครับ เพราะผมยังเดินไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป)

“แล้วลูกพีชล่ะจ้ะ” คุณแม่ของเจย์หันมาถามผมด้วยความสงสัย “ลูกพีชเต็มใจที่จะแต่งงานกับเขาจริงๆหรือเปล่า คงไม่ใช่สักจะแต่งเพราะเชื่อคำพูดของอเล็กซ์หรอกนะจ้ะ”

“ไม่ใช่ฮะคุณแม่ ไม่ใช่แบบนั้นเลย” ผมได้ยินที่คุณแม่พูดก็รีบส่ายหน้าไปมาตอบท่านทันที เรื่องนี้ผมได้ถามคุณเจย์ดูแล้ว ซึ่งอีกฝ่ายบอกว่าสิ่งที่อเล็กซ์พูดมานั้นเป็นความจริง เพราะผมกับเขาเป็นคนรักกัน แถมยังรักกันมากเสียด้วย

“คิดไตร่ตรองดีแน่แล้วหรือลูกพีช” คุณพ่อเจย์ถามย้ำอีกครั้ง ซึ่งผมพยักหน้าตอบท่านกลับไป

“ผมคิดดีแล้วฮะคุณพ่อ และจะไม่มีวันเปลี่ยนใจเด็ดขาดด้วย”


.........................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2015 20:55:40 โดย dragon123 »

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“ให้วางป้ายร้านตรงนั้นได้เลยครับ”

“ตรงนี้เหรอพีช”

“ใช่แล้วครับพี่ออย”

“ลูกพีช ให้เจย์วางต้นไม้กับดอกไม้ไว้ตรงไหนครับ”

“ตรงทางเข้านั่นแหละครับคุณเจย์”

“พี่พีชฮะ แบมกับอาร์ทจัดตรงเคาน์เตอร์เสร็จแล้วนะฮะ จะให้พวกผมไปทำที่ไหนอีกต่อ”

“อืม” ผมมุ่นคิ้วครุ่นคิดในใจพร้อมกับเหลือบซ้ายแลขวาหางานให้ทั้งคู่ทำ “อ้อ น้องแบมกับน้องอาร์ทช่วยจัดโต๊ะเก้าอี้สำหรับลูกค้าให้ที เดี๋ยวพี่จะไปเอาแจกันกับดอกไม้ในหลังร้านมาให้เอง”

“ลูกพีชนั่งเฉยๆเถอะ เดี๋ยวผมทำให้เองครับ” ร่างสูงสั่งก่อนจะเดินหายเข้าไปหลังร้านทันที

“ไม่ต้องคิดมากนะพีช อเล็กซ์แค่เป็นห่วงเธอ อยากให้เธอได้พักอยู่เฉยๆน่ะ” คุณเจฟฟรีย์ เพื่อนสนิทของคุณอเล็กซ์ที่กำลังเช็คเครื่องคิดเงินอยู่ตรงเคาน์เตอร์ได้เงยหน้าขึ้นพูดหลังจากที่คุณอเล็กซ์เดินหายเข้าไปหลังร้านแล้ว

“ผมรู้ครับ แต่ผมอยากจะทำเองบ้าง เพราะนั่งเฉยๆรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีประโยชน์” ผมพูดพลางถอนหายใจ “ว่าแต่คุณเจฟฟรีย์...”

“เรียกฉันว่าเจฟเฉยๆเถอะ”

“ครับคุณเจฟ ผมขอบคุณนะครับที่อุตส่าห์สละเวลามาช่วยจัดของในร้าน” ผมพูดขอบคุณอีกฝ่ายจากใจจริง รวมถึงคนอื่นๆที่ผมได้กล่าวขอบคุณไปแล้ว

“ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง” อีกฝ่ายยิ้มตอบก่อนจะถามผมต่อ “ว่าแต่เธอตัดสินใจแน่แล้วนะว่าจะแต่งงานอยู่กินกับเพื่อนของฉันน่ะ เพราะเพื่อนของฉันตอนนี้ไม่ได้เป็นมาเฟียแล้ว ไม่ได้ร่ำได้รวยเหมือนแต่ก่อนแล้วด้วย”

“แน่สิครับ ก็ผมไม่ได้คิดจะแต่งงานอยู่กับคุณอเล็กซ์เพราะเขารวยหรือเป็นมาเฟียนี่ครับ” ผมยิ้มตอบกลับไป ถึงแม้คนรักของผมจะทิ้งอาชีพนี้ไป แต่ธุรกิจค้าขายส่งออกไวน์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับมาเฟียยังคงอยู่ ดังนั้นเขาจึงหันกลับมาจับอาชีพนี้ต่ออย่างจริงจัง ส่วนผมนะหรือ ก็หันกลับมาค้าขายดอกไม้ต่อสิครับ คุณอเล็กซ์เองก็ไม่ว่าอะไร แถมยังเห็นดีเห็นงามด้วย จึงเจียดเงินของตัวเองจากค้าขายไวน์รวมกับเงินเหลือของผมที่เก็บออมในธนาคารมาหุ้นเปิดร้านขายดอกไม้อยู่นอกเมืองหลวงด้วยกัน แต่ไหนๆก็เปิดร้านขายดอกไม้แล้ว คุณอเล็กซ์ก็ได้ตัดสินใจทำที่นี่ให้เป็นร้านกาแฟกึ่งร้านขายดอกไม้ซะเลย (รวมถึงทำที่นี่ให้เป็นออฟฟิศไว้สำหรับให้ลูกค้ามาสั่งของเรื่องไวน์ด้วย) ซึ่งที่นี่มีอยู่สองชั้น ชั้นแรกเป็นร้านขายดอกไม้กับกาแฟ ในขณะที่ชั้นบนเป็นห้องพักของผมกับคุณอเล็กซ์ ส่วนอีกโซนหนึ่งที่อยู่ติดกับร้านดอกไม้เป็นออฟฟิศขนาดย่อมครับ

“เป็นเพราะความรัก?”

“ข้อนี้ผมตอบไม่ได้ครับ” ผมยิ้มเจื่อนตอบกลับไป “ตอนนี้ผมยังไม่ได้รักเขาจริงๆครับ รู้แค่ว่าเวลาอยู่ใกล้คุณอเล็กซ์แล้ว...รู้สึกดีก็เท่านั้นเอง”

อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรต่อ ได้แต่มองผมจนกระทั่งคุณอเล็กซ์เดินออกมาพร้อมแจกันดอกไม้

“ลูกพีชอยากจะใช้ดอกไม้อะไรใส่ในแจกันดีครับ เดี๋ยวผมทำให้”

“เดี๋ยวฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ” พูดแล้วคุณเจฟฟรีย์ก็เดินไปอย่างรวดเร็ว ทำให้คุณอเล็กซ์หันไปมองเพื่อนสนิทของตัวเองอย่างสงสัยก่อนจะเดินมาหาผมที่นั่งอยู่บนรถวีร์แชร์

“เจฟคุยอะไรกับลูกพีชหรือครับ”

“เปล่าครับ ไม่มีอะไร” ผมส่ายหน้าตอบก่อนจะพูดเปลี่ยนเรื่องทันที “ดอกไม้ในแจกัน ลูกพีชอยากให้เป็นดอกไม้ที่เป็นโทนสีอ่อนอย่างเช่นพวกดอกกุหลาบสีชมพูน่ะครับ”

“โอเค เดี๋ยวผมไปจัดการให้ ลูกพีชนั่งรอไปก่อนนะ เดี๋ยวเที่ยงแล้วเรามานั่งทานข้าวด้วยกัน อ้อ แล้วก็คุยเรื่องงานแต่งงานของเราสองคน ผมตามใจคุณนะครับที่รัก จุ๊บ” พูดจบอีกฝ่ายก็เข้ามาหอมแก้มผมเบาๆ ก่อนจะผละออกไปหาดอกไม้มาปักแจกัน ทิ้งให้ผมนั่งหมกมุ่นกับความคิดของเจฟฟรีย์อย่างเงียบๆ


......................................................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2015 20:56:03 โดย dragon123 »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด