Innocent Flower ตอนที่ 29 หนทางที่จะต้องก้าว P.4 27/12/58 (จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

จากในเรื่อง คุณชอบใครมากที่สุด

พีช ลูกพีช
0 (0%)
อเล็กเซย์
1 (25%)
เจย์
1 (25%)
อาร์ท
0 (0%)
ออย
0 (0%)
แบม
0 (0%)
อลัน พี่ชายฝาแฝดอเล็กเซย์
2 (50%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 4

ผู้เขียน หัวข้อ: Innocent Flower ตอนที่ 29 หนทางที่จะต้องก้าว P.4 27/12/58 (จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ)  (อ่าน 30018 ครั้ง)

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“ดูซึมๆไปนะ ไม่สบายหรือเปล่าครับลูกพีช”

ผมถามหลังจากเดินออกมาจากห้องครัว เย็นวันนี้พวกผมตัดสินใจว่าจะจัดกินเลี้ยงหมูกระทะแบบบุพเฟ่ฉลองที่จัดร้านใหม่เสร็จแล้ว จึงแบ่งหน้าที่กันไปทำอย่างเท่าๆกัน ซึ่งผมทำหน้าที่ในการจัดสถานที่ตามที่ได้รับมอบหมาย

“เปล่าครับคุณเจย์ ลูกพีชสบายดี” ร่างบางในรถวีร์แชร์เงยหน้าขึ้นยิ้มตอบกลับมา แต่นัยน์ตาไม่ได้ยิ้มไปกับเขาด้วย “แค่กำลังคิดอยู่ว่าจะเพิ่มเครื่องดื่มอย่างพวกไวน์ดีไหม คิกๆ แต่คงไม่เข้ากับหมูกระทะแน่เลยว่าไหมครับคุณเจย์”

“ต้องถามคนอื่นดูก่อนนะครับลูกพีช” ผมยิ้มตอบกลับไป ก่อนจะเดินเข้าไปลูบผมอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา ซึ่งลูกพีชเองก็เอียงคอมองผมด้วยรอยยิ้มหวาน

เป็นรอยยิ้มที่ผมไม่มีวันได้ครอบครอง...

“แล้วนี่...” ผมตัดสินใจเอ่ยปากถามในเรื่องที่ตัวเองเจ็บมากที่สุด “...ลูกพีชตัดสินใจดีแน่แล้วหรือครับว่าจะแต่งงานกับคุณอเล็กซ์น่ะ เจย์ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยนะ แต่เจย์อยากให้ลูกพีชคิดดูให้ดีเสียก่อน”

เผื่อเปลี่ยนใจไม่แต่งงานขึ้นมา...ก็คงจะดีไม่ใช่น้อย

แต่ก็ไม่ได้เป็นดั่งใจคิด ร่างบางพยักหน้าก่อนตอบคำถามผมโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา

“ลูกพีชตัดสินใจดีแน่แล้วครับคุณเจย์ ขอบคุณที่เป็นห่วง”

“งะ...งั้นเหรอ” ผมพูดเสียงกระท่อนกระแท่น แม้จะรู้คำตอบดีอยู่ก่อนแล้ว แต่ก็อดปวดใจเสียมิได้ “ถ้างั้นเจย์ไปเช็ดโต๊ะก่อนนะครับลูกพีช พอดีเมื่อกี้เจย์ลืมน่ะ”

“ครับคุณเจย์” แล้วผมก็เดินปราดกลับเข้าห้องครัวไป ก่อนยืนพิงกำแพงห้องครัวอย่างหมดแรง

ทำไม...

ทำไมถึงตัดใจไม่ได้ซักที...


“เป็นอะไรวะไอ้เจย์ ทำไมทำหน้าเครียดเหมือนโลกจะแตกแบบนั้นล่ะ” เสียงใครบางคนร้องทัก ทำเอาผมยกมือขึ้นกุมหน้าตัวเองทอดถอนลมหายใจเฮือกหนึ่งครั้งอย่างอ่อนแรง ก่อนจะลืมตาขึ้นมามองต้นเสียง ซึ่งแลเห็นร่างเพื่อนสนิทยืนถือถุงก็อปแก๊ปอยู่หน้าประตูหลังครัวยืนมองผมด้วยความสงสัย “อย่าบอกนะว่าคิดมากเรื่องพีชน่ะ”

ผมถอนลมหายใจอีกครั้งก่อนจะยืดตัวตรงตอบกลับไปว่า

“อืม...ใช่”

“มึงนี่นะ...” ไอ้ออยส่ายหน้าไปมาก่อนจะวางข้าวของลงบนโต๊ะครัว แล้วหันหน้ามาทางผมเพื่อคุยต่อ “...จนป่านนี้แล้วยังไม่ตัดใจจากพีชอีก พวกเขาจะแต่งงานกันเดือนหน้านี้แล้วนะเว้ย”

“อืม กูรู้” ผมตอบก่อนจะทำท่าหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ แต่กลับถูกไอ้ออยคว้าบุหรี่ออกไปเสียก่อน

“ไม่ใช่กูไม่สนับสนุนมึงเรื่องความรักหรอกนะ แต่กูไม่อยากให้มึงไปแย่งของคนอื่นมา”

“แล้วไง”

“กูแค่หวังดีอยากจะเตือนมึง ว่าของๆที่ไม่ใช่ของมึงก็ไม่ใช่ของมึงอยู่วันยังค่ำ ต่อให้มึงไปแย่งเขามา เขาก็ยังเป็นของคนๆนั้น ไม่ใช่ของมึงอยู่ดี” มันบอกก่อนจะเก็บบุหรี่ที่แย่งผมมาใส่เข้ากระเป๋าเสื้อตัวเอง

“กูรู้ แต่กูทนไม่ได้ที่เห็นคนที่ตัวเองรักถูกแย่งไปต่อหน้าต่อตา ไม่แน่ว่าเมื่อถึงวันแต่งงานของพวกเขาแล้ว กูคงจะ...” ผมพูดพลางถอนหายใจออกเบาๆ “...ไปร่วมงานนี้ไม่ได้ ยังไงมึงก็ช่วยแสดงความยินดีลูกพีชกับคุณอเล็กซ์แทนกูให้ด้วยล่ะไอ้ออย”

“เจย์...นี่มึง”

“ขอร้องล่ะไอ้ออย ถือซะว่าเป็นคำขอสุดท้ายของเพื่อนก็แล้วกันนะ แล้วกูจะไม่ขออะไรจากมึงอีกเลย” ผมพูดเสียงอ้อนวอน ซึ่งคนฟังได้ยินถึงกับกุมขมับด้วยความกลัดกลุ้ม

“ได้...ตกลง กูจะบอกพวกเขาให้ แต่...”

“แต่? แต่อะไรวะ” ผมมุ่นคิ้วถามด้วยความสงสัย

“...แต่มึงต้องเลิกสนใจพีชอย่างจริงจังแล้วหันกลับไปดูแลเมียมึงเสียบ้างนะ”

“เมียกู?”

“ก็น้องอาร์ทของมึงยังไงล่ะไอ้เจย์”

!!!!!!


...........................

 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2015 22:36:58 โดย dragon123 »

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 26 การตัดสินใจของลูกพีช...

.................................................................

“ครับคุณแม่ พรุ่งนี้เวลา...ครับ ส่วนเรื่องงานเลี้ยงคิดว่าจัดที่ร้านกาแฟเลย ครับๆ เป็นแบบบุพเฟ่ ครับ ขอบคุณครับ ฮะๆ ลูกพีชแล้วแต่คุณอเล็กซ์น่ะครับ ครับคุณแม่ แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ”

แล้วปลายสายก็ตัดไปทำให้ผมถึงกับทอดถอนลมหายใจออกมาแผ่วเบา ก่อนจะหันไปมองว่าที่สามีในชุดนอนกำลังนั่งคุยโทรศัพท์ไปถือไวน์ขาวจิบไปพลางอยู่ ซึ่งปลายสายผมคิดว่าน่าจะเป็นพวกเพื่อนของเขาที่มาจากต่างประเทศ เห็นว่าตอนนี้พักค้างที่โรงแรมในเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

พรุ่งนี้แล้วสินะที่ผมกับคุณอเล็กซ์จะเข้าพิธีแต่งงานด้วยกัน

ผมครุ่นคิดในใจก่อนจะหันไปมองดูชุดแต่งงาน ซึ่งเป็นชุดทักสิโด้สีขาวกับสีครีมอย่างดีถูกแขวนไว้อยู่หน้าตู้เสื้อผ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปกติงานแต่งงานของไทยจะจัดที่บ้านของเจ้าสาวหรือเจ้าบ่าวตามประเพณีไทยของชาวพุทธ แต่คุณอเล็กซ์นับถือคริสต์(ตามทะเบียนบ้านที่ได้ระบุเอาไว้) ดังนั้นจึงจำต้องจัดงานกันที่โบสถ์ครับ แน่นอนว่าคุณอเล็กซ์ได้พาผมไปจดทะเบียนสมรสโอนสัญชาติให้เป็นศาสนาเดียวกับเขาแล้ว ส่วนเรื่องงานเลี้ยงฉลองแต่งงานจะจัดขึ้นที่หน้าบ้านของพวกผมสองคน โดยคนต้นคิดก็คือผมเอง เพราะเห็นว่าทางฝั่งของคุณอเล็กซ์มีคุณอลัน ญาติพี่น้องกับเพื่อนเยอะอยู่พอสมควร ในขณะที่ทางฝั่งผมมีพ่อแม่ของคุณเจย์ น้องอาร์ท น้องแบม พี่ออย เพื่อนที่ทำงานของคุณเจย์ และเพื่อนสมัยเรียนหนังสือที่ต่างประเทศของผมอยู่ห้าคน งานนี้คุณเจย์เป็นคนโทรไปบอกพวกเขาเองครับเพราะผมจำพวกเขาไม่ได้แล้ว ถึงผมจะจำพวกเขาไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ใจร้ายใจดำถึงขนาดไม่โทรไปบอกพวกเขาหรอกนะครับ

“คุณทานยาก่อนนอนแล้วหรือยังครับลูกพีช” เสียงคุณอเล็กซ์ดังขึ้น ทำเอาผมชะงักความคิดก่อนจะหันไปมองร่างสูง ซึ่งกำลังถือขวดยากับแก้วน้ำมาให้ผมพร้อมเสร็จสรรพ

รู้ว่ายังไม่ได้ทานยาจะถามทำไม?

“ยังเลยครับคุณอเล็กซ์” ผมยิ้มตอบพลางรับขวดยามาเปิดฝายกดื่ม ก่อนจะหยิบแก้วน้ำยกขึ้นดื่มตามทีหลัง “ว่าแต่คุณคุยกับเพื่อนเสร็จแล้วหรือครับ”

ร่างสูงไม่ตอบคำถามผมเดี๋ยวนั้น กลับหยิบแก้วน้ำจากมือผมไปวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะช้อนกายผมอุ้มในท่าอุ้มเจ้าสาวขึ้นจากรถวีร์แชร์ แล้วพาไปนั่งบนเตียงใหญ่ด้วยกัน

มองอยู่ได้นั่นแหละ จะพูดก็พูดซักทีสิ...

ผมครุ่นคิดในใจอย่างขัดเขิน เพราะไม่เคยเห็นเขามองหน้าผมตรงๆแบบนี้เลยมาก่อน

“ผมรักคุณนะลูกพีช” จู่ๆอีกฝ่ายก็บอกรักผมขึ้นมาทันทีทันใด ซึ่งทำเอาผมถึงกับรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า “ถึงแม้ตอนนี้คุณจะยังไม่ได้รู้สึกชอบหรือรักผมก็ตาม แต่ผมจะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด”

ความมุ่งมั่นอย่างไม่ย่อท้อผนวกกับน้ำเสียงของอีกฝ่ายที่พูดชัดถ้อยชัดคำแลดูหนักหน่วง ทำให้ผมได้ยินแล้วถึงกับรู้สึกใจเต้นรัวอย่างบอกไม่ถูก

นี่หรือว่าผมกำลังเริ่มชอบเขาเข้าแล้วกันแน่!

“เอาล่ะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า ผมว่ารีบเข้านอนกันเถอะครับ” อีกฝ่ายพูดตัดบท ก่อนจะล้มตัวลงนอนโดยไม่ลืมที่จะดึงตัวผมให้นอนลงตาม “ถ้าคุณไม่ว่าอะไร คืนนี้ผมขอนอนกอดคุณจะได้หรือไม่”

!!!!!!

ผมถึงกับอึ้งครับ เพราะนับตั้งแต่ผมกับเขานอนร่วมเตียงเดียวกัน อเล็กซ์ไม่เคยล่วงเกินผมเลยซักครั้งเดียว มีเพียงแค่หอมมือหอมแก้มบอกราตรีสวัสดิ์เท่านั้น

นั่นสินะ จะห่วงตัวไปทำไม พรุ่งนี้จะเข้าพิธีอยู่แล้ว ปล่อยให้เขากอดไปเถอะนะลูกพีชเอ๋ย!

“กะ...ก็ได้ครับ” พอสิ้นคำตอบ อีกฝ่ายฉีกยิ้มกว้างดึงผมเข้าไปในอ้อมกอดของตัวเองอย่างรวดเร็ว

“ขอบคุณครับที่เชื่อใจผม!” ดูเหมือนเขาจะดีใจมากไปหน่อย ก็เลยระดมหอมแก้มหอมหน้าผากผมรัวอย่างไม่หยุดยั้ง “ขอบคุณนะครับ ฟอด ขอบคุณจริงๆ ฟอด ฟอด”

“อื้อ พอแล้วคุณอเล็กซ์ เดี๋ยวลูกพีชก็ไม่ให้กอดเลยนี่” ผมบอกพลางยกมือดันแผ่นอกหนาให้ออกห่าง ซึ่งอีกฝ่ายพอได้ยินที่ผมพูด ก็ผละหน้าตัวเองออกมาส่งยิ้มให้อย่างเขินอาย

“ขอโทษครับ พอดีผมดีใจมากไปหน่อย”

นี่ขนาดดีใจมากไปหน่อยยังหอมรัวซะขนาดนี้ แล้วถ้าดีใจมากสุดๆ ไม่กดจมเตียงเลยรึ!

“นอนเถอะครับ ลูกพีชง่วง” ผมบอกพลางยกมือขึ้นขยี้ตาตัวเอง แต่ก็มิวายโดนอีกฝ่ายดึงมือออกไปหอมเสียงดังฟอดอีกครั้ง “คุณ-อะ-อเล็กซ์!”

“คร้าบ!” น่าน ตอบเสียงแบบออดอ้อนด้วย

“ถ้าคุณยังหอมลูกพีชอีกครั้งล่ะก็ ลูกพีชจะไล่ให้คุณออกไปนอนข้างนอกจริงๆด้วย” ผมยื่นคำขาด ซึ่งทำเอาร่างหนาถึงกับหงอยลงทันตาเห็น “ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลยครับ ลูกพีชไม่ใจอ่อนกับคุณแน่ รีบนอนเลย ลูก-พีช-ง่วง โอเค?!”

พอผมพูดจบ เขาก็พยักหน้าตอบผมรัวทันที

“โอเคครับลูกพีช นอนก็นอน” แล้วอีกฝ่ายก็ตวัดผ้าห่มผืนใหญ่มาคลุมกายเราสองคน ก่อนจะหลับตาลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งผมพอเห็นเขาหลับตาแล้ว จึงค่อยหลับตาลงนอนตาม

ภาวนาขอให้พรุ่งนี้เป็นวันที่ดีสำหรับเราสองคน...

..................................................................................

ตอนตีสี่ผมกับคุณอเล็กซ์รีบตื่นทำธุระส่วนตัวให้เสร็จ ก่อนจะขนชุดเจ้าบ่าวขึ้นรถไปที่โบสถ์เพื่อเตรียมแต่งตัวที่นั่น ซึ่งมีน้องแบมที่เคยทำงานด้านช่างเสริมสวยเป็นคนลงมือทำผมแต่งหน้าให้ ทีแรกผมรีบบอกคุณอเล็กซ์ไปว่าแค่งานแต่งไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าก็ได้ เพราะเราสองคนเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ แต่เขากลัวภาพที่ถ่ายออกมาไม่สวย ผมจึงต้องยอมให้น้องอาร์ทแต่งหน้าแต่โดยดี

“สวย...สวยมากเลยครับพี่พีช!”

“สวยอะไร พี่หล่อเถอะน้องอาร์ท” ผมพูดหน้าหงิกหน้างอหลังจากที่อีกฝ่ายแต่งหน้าให้ผมเสร็จ ก็มาเอ่ยปากชมผมต่อหน้าต่อตา “ไหนขอพี่ดูกระจกหน่อยสิครับ”

เจ้าตัวยิ้มก่อนจะยื่นกระจกให้กับผม ซึ่งพอผมรับมามอง ก่อนจะเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง ใบหน้าเรียวบางถูกแต่งแต้มด้วยรองพื้นสลับกับแป้งพับ ก่อนจบด้วยสีชมพูบนแก้มขาวทั้งสองข้างแลดูมีเลือดฝาด ไหนจะริมฝีปากเรียวบางที่ดูชุ่มชื่นด้วยลิปกรอสสีชมพูอ่อนประกายแวววาวนั่นอีกด้วย

นี่หรือผม...

มันจะสวยเกินหน้าเกินตาผู้หญิงไปแล้ว!


“นี่ถ้าคุณอเล็กซ์เห็นพี่พีชแล้วล่ะก็ มีหวังตกตะลึงจนตาค้างจนพูดไม่ออกแน่ๆเลยครับ”

“เหอะๆ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้งพี่ว่า” ผมพูดไปหัวเราะในลำคอเบาๆไปพลาง แต่แล้วอีกฝ่ายกลับบอกให้ผมนั่งรออยู่ที่นี่ ก่อนจะลุกขึ้นเดินหายออกไปจากห้องแต่งตัวพักใหญ่ แล้วกลับมาพร้อมกับถุงก็อปแก๊ปหลายใบ “นั่นไปเอาถุงอะไรมาน่ะครับน้องอาร์ท”

อีกฝ่ายไม่ตอบคำถามของผม กลับวางถุงก็อปแก๊ปลงบนโต๊ะที่มีเครื่องสำอางวางอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นจึงค่อยล้วงมือหยิบอะไรบางอย่างในถุงออกมาคลี่ให้ผมได้เห็นเด่นชัดถึงขั้นช็อกซีนีม่า

“แท่นแทน!! มันก็คือ....ชุดเจ้าสาวสีขาวกระโปรงฟองฟู่ลายลูกไม้ยังไงล่ะครับพี่พีช”

!!!!!!


..................................

“ทำไมถึงแต่งตัวช้าจัง กะอีแค่แต่งหน้ากับใส่ชุดเจ้าบ่าว”

ผมบ่นอย่างหัวเสีย หลังจากที่ผมเป็นคนแรกที่น้องอาร์ทแต่งหน้าให้ เสร็จแล้วจึงค่อยเข้าไปในห้องเพื่อแต่งหน้าให้กับลูกพีชต่อ ทีแรกผมคิดว่าน้องอาร์ทคงจะใช้เวลาในการแต่งหน้าให้กับลูกพีชนานกว่าผมเล็กน้อยเพราะเป็นฝ่ายเจ้าสาว แต่นี่กลับใช้เวลานาน แถมยังเดินออกมาจากห้องนั้นแล้วออกมาพูดกระซิบกระซาบอะไรกับน้องแบม ก่อนที่น้องแบมจะพยักหน้าแล้วเดินออกไปข้างนอก แล้วกลับมาอีกทีพร้อมกับถุงก็อปแก๊ปใบโตอยู่สองสามใบ

มีอะไรอยู่ในนั้นหรือ?

“ใจเย็นไอ้น้องชาย เห็นใจฝ่ายเจ้าสาวบ้างสิ เพราะเขาต้องแต่งหน้านานกว่าฝ่ายเจ้าบ่าวนะรู้ไหม” พี่อลันพูดไปตบไหล่ผมปลอบใจไปพลาง “พี่ว่าเราไปรอที่โบสถ์เถอะ เดี๋ยวบาทหลวงจะคอยนาน”

ผมมุ่นคิ้วครุ่นคิดอย่างหนักใจสลับกับมองประตูห้องแต่งตัว

“ก็ได้ครับพี่” งานแต่งครั้งนี้ผมพกความสบายใจปนความทุกข์ไปด้วยพร้อมกัน ซึ่งก็คือเจย์ไม่ได้มาร่วมงานนี้ด้วย เท่าที่ฟังจากออยเห็นว่าเจย์หลบไปสงบสติอารมณ์ที่วัด ได้แต่ฝากคำอวยพรมาแทน

“เจย์ฝากอวยพรว่าขอให้คุณอเล็กซ์อยู่ดูแลลูกพีชให้ดี เพราะถ้าทำให้เสียใจ มันจะกลับมาทวงคืน”

ทวงคืน?

ฝันไปเถอะ!!


ผมตั้งปณิธานในใจก่อนจะก้าวเท้าเดินออกไปข้างนอกพร้อมกับพี่อลัน ทว่าพอก้าวเท้าออกไปแล้ว กลับพบกับใครบางคนที่ไม่คาดคิดว่าจะโผล่หัวมาที่นี่ได้

นี่ถ้าคุณเจย์มางานนี้ล่ะก็ มีหวังงานแต่งของผมได้กลายเป็นงานศพแน่...

“นั่นคนรู้จักของเราหรือเปล่าไอ้น้องชาย” พี่อลันพูดพลางชี้นิ้วไปยังร่างบาง ซึ่งเป็นหญิงสาวคุ้นหน้าคุ้นตาสำหรับผม ในขณะที่คนถูกกล่าวถึงกำลังยืนหน้าซีดเหงื่อแตก เพราะถูกออยยืนกอดอกบังทางเข้างานเอาไว้ “หรือว่าจะเป็นคนรู้จักของน้องพีชน่ะ”

ผมพยักหน้าก่อนจะตอบคำถามพี่ชายกลับไปทั้งๆที่ยังมองหญิงสาวอย่างไม่พอใจเล็กน้อย

“เธอชื่อเมย์ เป็นอดีตแฟนของลูกพีชน่ะครับพี่อลัน”


............................................................................

“ไม่คิดเลยว่าพี่พีชจะสวยขนาดนี้”

น้องอาร์ทเอ่ยปากชมอย่างไม่ขาดสายหลังจากที่ผมถูกอีกฝ่ายบังคับให้สวมชุดเจ้าสาวสีขาวกระโปรงฟองฟู่ลายลูกไม้แลดูมีราคาแพง ในขณะที่น้องแบมที่เพิ่งจะเดินเข้ามา ถึงกับตกตะลึงอ้าปากค้างเมื่อเห็นผมในชุดเจ้าสาว

“นั่นสิอาร์ท พี่พีชน่ะสวยยิ่งกว่าผู้หญิงแท้ๆซะอีก” คำชมของน้องแบมทำเอาผมถึงกับยกมือขึ้นเกาหัวด้วยความเขินอาย “แต่เสียดายที่ตอนนี้พี่พีชยังเดินไม่ได้ ไม่งั้นจะได้ใส่ส้นสูงเดินเฉิดฉายเข้าประตูโบสถ์อย่างสมบูรณ์แบบ”

“พอเถอะทั้งคู่ แค่นี้พี่ก็เขินจนไม่รู้จะเขินยังไงแล้ว”

“ก็มันจริงนี่ฮะพี่พีช” อาร์ทรีบพูดแย้ง ก่อนจะเดินวนรอบกายผมเพื่อสำรวจอะไรบางอย่าง “ทั้งผอมเพรียวทั้งขาวทั้งสวย แถมขนตาพี่ก็งอนงามอีก รับรองได้ว่าคุณอเล็กซ์เห็นพี่พีชแล้วต้องตะลึงจนพูดไม่ออกแน่”

“นั่นสิอาร์ท ตะลึงแน่ๆ” ว่าแล้วทั้งคู่ก็ขอถ่ายรูปผมเพื่อเก็บที่ระลึก เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว น้องแบมก็ขออาสาพาผมเข็นออกไปข้างนอกเอง ซึ่งมีน้องอาร์ทเดินตามหลัง ทว่าพอผมถูกพาเข็นออกข้างนอกแล้ว น้องแบมที่เป็นฝ่ายเข็นผมออกมากลับหยุดชะงักเดินกะทันหัน ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับผมมากพอสมควร “ผมว่าผมพาพี่พีชกลับเข้าไปดีกว่า”

“เอ๋? กลับทำไม ลืมของไว้...”

“พีช!” เสียงหวานดังขึ้น ทำเอาผมหันกลับไปมองต้นเสียง ก่อนจะเห็นหญิงสาวไม่คุ้นตากำลังอุ้มเด็กผู้หญิงวัยประมาณขวบเศษวิ่งตรงมาทางนี้ แต่ทว่ากลับถูกพี่ออยกับคุณอเล็กซ์เข้ามายืนขวางทางไว้เสียก่อน “ขอร้องล่ะ ให้ฉันได้คุยกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย”

“ไม่ได้!” คุณอเล็กซ์ค้านเสียงเข้มและดุดันจนผมถึงกับสะดุ้ง

“อย่างน้อยก็เพื่อ...” ร่างบางพูดพลางก้มหน้ามองเด็กผู้หญิงในอ้อมแขน ก่อนจะพูดต่อไป “...เด็กคนนี้ คนที่มีสายเลือดเดียวกับคนที่ฉันเคยรัก ฉันยอมรับนะว่าเมื่อหนึ่งปีก่อนฉันได้พูดโกหกทุกคนเอาไว้ แต่นั่นเพื่อความปลอดภัยของลูกในท้อง เพราะถ้าฉันไม่แกล้งพูดหลอกทุกคน หมอนั่นก็คงจะ...ฆ่าฉันทิ้งแน่ถ้าหากรู้ว่าฉันท้องกับเขา”

“สรุปว่าตอนนั้นเธอท้องจริงๆด้วยสินะ” พี่ออยยืนกอดอกพูด

“ค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าตอบก่อนจะหันมามองผมด้วยสีหน้าเศร้าโศก “ฉันท้องกับเขา”

?!

“แม่งเอ๊ย! นี่ถ้าไอ้เจย์รู้เข้า มีหวังเธอได้ถูกฆ่าตายแน่” พี่ออยพูดสบถคำอย่างหัวเสียกับเรื่องที่ได้ยิน ซึ่งผิดกับคุณอเล็กซ์ที่ยังคงยืนฟังอยู่เงียบๆ “คุณอเล็กซ์ รู้แบบนี้แล้วคุณยังจะแต่งงานกับลูกพีชอีกไหม”

!!!!!!

“แต่ถ้าไม่แล้วล่ะก็ ผมจะได้โทรตามไอ้เจย์ให้มารับลูกพีชกลับทันที”

!!!!!!

“ไม่...” คำพูดของคุณอเล็กซ์ทำเอาผมถึงกับใจหายวาบไปทั้งตัว ถึงแม้ตอนนี้ผมจะยังไม่ได้ชอบหรือรักเขาก็จริง แต่พอได้ยินคำนี้แล้วก็อดใจหายเสียมิได้ “...ไม่มีทาง ผมจะไม่มีวันทอดทิ้งลูกพีชไปเพียงเพราะเรื่องนี้เด็ดขาด”

“ต่อให้เขามีลูกเป็นตัวเป็นตนนะหรือ?”

ลูก? พี่ออยพูดถึงเรื่องอะไรน่ะ...

ผมมุ่นคิ้วครุ่นคิดในใจอย่างสงสัย ซึ่งคุณอเล็กซ์ได้พยักหน้าตอบกับพี่ออย แล้วจึงค่อยหันหน้าไปมองผู้หญิงที่อุ้มเด็กคนนั้น ก่อนจะพยักหน้าแล้วหลีกทางให้เธอ ซึ่งทำให้ผู้หญิงที่อุ้มลูกเดินเข้ามาหาผมที่นั่งรถวีร์แชร์ในชุดเจ้าสาวอยู่ไม่ไกล

“คุณ…เป็นใคร เรารู้จักกันด้วยหรือครับ?” ผมถามพลางมองเด็กผู้หญิงในอ้อมแขนเธออย่างเอ็นดู

คุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลยแฮะ?

อีกฝ่ายพยักหน้ายิ้มให้กับผม ก่อนจะยื่นเด็กผู้หญิงในอ้อมแขนส่งให้กับผม

“ให้ผม...อุ้มเด็กคนนี้หรือครับ” ผมถามด้วยความสงสัย ซึ่งอีกฝ่ายพยักหน้ายิ้มตอบ

“ค่ะ”

“แต่มันจะดีหรือ...” ผมถามด้วยความลังเล ก่อนจะหันไปมองหน้าคุณอเล็กซ์ที่พยักหน้าให้กับผม

“ดีสิคะ มันต้องดีแน่ๆ” หญิงสาวตอบอย่างมั่นใจ “อุ้มเถอะค่ะลูกพีช”

ลูกพีช?

ลองเรียกชื่อแบบนี้แสดงว่าเธอต้องรู้จักผมอย่างแน่นอน แต่ผมกลับจำเธอไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

“ก็ได้ครับ” ผมยิ้มตอบก่อนจะรับเด็กคนนั้นมาอุ้มไว้ในอ้อมแขนตัวเอง ซึ่งเด็กผู้หญิงในอ้อมแขนผมก็ได้หันมามองผม ก่อนจะส่งยิ้มหวานมาให้ “น่ารักจัง หนูจ๋า หนูชื่ออะไรจ้ะ”

“เอ่อ ขอโทษนะคะลูกพีช พอดีเด็กคนนี้ยังไม่มีชื่อน่ะค่ะ” หญิงสาวพูดแย้งออกมา ซึ่งทำให้ผมถึงกับเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยความแปลกใจ

“อะไรนะ? ไม่มีชื่องั้นหรือครับ”

“ค่ะ ไม่มีชื่อ” เธอบอกกับผมด้วยน้ำเสียงขมขื่น “ทั้งชื่อทั้งนามสกุล รวมถึงชื่อเล่นก็ไม่มี”

“เอ๋?!”

“พอดีเด็กคนนี้ไม่มีทั้งพ่อและแม่น่ะค่ะ” หญิงสาวบอกด้วยสีหน้าเศร้าโศก “พวกเขาเป็นพี่ชายกับพี่สะใภ้ของฉันเองค่ะ แต่ตายไปแล้วด้วยกันทั้งคู่ ลำพังตัวฉันเองก็ไม่มีเวลาเลี้ยงดู เพราะต้องตะเวนเทียวบินไปกลับอยู่หลายประเทศ”

อ้อ เป็นแอร์ฯนี่เอง...

“ถ้าลูกพีชไม่ว่าอะไร กรุณาช่วยรับเด็กคนนี้ไปเลี้ยงดูแทนฉันด้วยเถอะค่ะ” คำพูดของเธอทำเอาผมถึงกับตัดสินใจไม่ถูก แม้ผมจะจำเธอไม่ได้ก็ตาม แต่จากการคาดเดา อีกฝ่ายน่าจะเป็นเพื่อนเก่าของผมมาก่อน แต่เรื่องนี้ผมไม่สามารถตัดสินใจเองได้ เพราะต้องถามอีกคนที่เป็นคู่ชีวิตคนเดียวของผมเท่านั้น

“คุณอเล็กซ์” ผมหันไปมองสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานด้วยกันในวันนี้ ซึ่งผมยังไม่ทันถาม อีกฝ่ายก็พยักหน้าพูดตอบคำถามผมกลับมาทันที

“ไม่ต้องห่วงครับที่รัก สิ่งที่คุณตัดสินใจไปแล้ว ผมก็พร้อมจะยอมรับมันเสมอ”

!!!!!!

คำตอบของอีกฝ่ายทำเอาผมถึงกับอึ้ง เพราะไม่คิดว่าเขาจะพูดออกมาในรูปแบบนี้

ดีล่ะ ถ้างั้น...

ผมครุ่นคิดในใจก่อนจะหันไปมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง

“ตกลงครับ ผมจะรับเลี้ยงเด็กคนนี้ไว้เป็นลูกเอง”

..............................................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

[attachment deleted by admin]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-09-2015 13:24:33 โดย dragon123 »

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 27 ความแค้น...

.........................................................

“ทำไมคุณเจย์ถึงไม่มา?!”

“เอ่อ พอดีเขาติดธุระสำคัญน่ะ” พี่ออยพูดตอบเสียงอ่อยในขณะที่มองหาตัวช่วยในการพูดปลอบใจไม่ให้พี่พีชต้องร้องไห้ท่ามกลางงานแต่งงานของตัวเอง และที่สำคัญในอ้อมกอดของพี่พีชยังมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่พี่พีชเพิ่งตกปากรับคำจากอดีตแฟนว่าจะขอรับเลี้ยงดูเด็กคนนี้แทนอีกด้วย “แต่ตอนเย็นมันรับปากพี่ไว้แล้วว่าจะมาแน่ๆ ฉะนั้นน้องพีชไม่ต้องคิดมากนะครับ”

พี่พีชทำท่าเครียดเหมือนจะร้องไห้แต่พอคุณอเล็กซ์เดินมาตบไหล่พี่พีชเบาๆ พี่พีชก็เลิกทำหน้าเครียดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังฉีกยิ้มหวานจนผมต้องรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้าเหมือนโกโก้ครั้นแล้ว

คนอะไรยิ้มสวยเป็นบ้า!

นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นแฟนพี่ออยแล้วล่ะก็ จีบพี่พีชไปนานแล้ว!!


“ครับพี่ออย” กว่าจะถึงเวลางานตอนเย็นก็อีกหลายชั่วโมง พวกเราก็พากันจรลีไปพักผ่อนเพื่อเอาแรงไปร่วมงานแต่งในตอนเย็น ส่วนพี่พีชกับคุณอเล็กซ์เห็นว่าจะไปเดินเรื่องขอเด็กคนนี้มารับเลี้ยง

ว่าแต่แน่ใจแล้วหรือว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของพี่พีชน่ะ?

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และเป็นความลับยิ่งยวด จะบอกให้พี่พีชรู้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะทุกคนไม่อยากให้พี่พีชช็อก จึงแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ส่วนยัยชะนีคนนั้นก็ยอมทำตามสัญญาที่ให้กับคุณอเล็กซ์ ว่าจะปิดปากเงียบไม่บอกใคร และจะยอมจากไปโดยไม่กลับมาให้เห็นหน้าอีก

“คิดอะไรอยู่ครับที่รัก ป่านนี้แล้วไม่หลับไม่นอน เดี๋ยวตอนเย็นไปงานเลี้ยงไม่ไหวได้น้า” เสียงพี่ออยขัดจังหวะความคิด ทำให้พลิกตัวกลับไปหาคนรักที่นอนกอดเอวผมอยู่ ดวงตาคมอันโฉบเฉี่ยวของพี่ออยที่จ้องมองมาอย่างอ่อนโยนนั้นทำให้ผมรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า ผมรู้ว่าเขาเป็นห่วง แต่มันอดคิดมากไม่ได้ เพราะยังไงพี่พีชก็เป็นพี่ที่ผมรู้จักคนหนึ่งมานานพอสมควรเหมือนกัน “ว่ายังไงครับคนเก่ง บอกพี่ออยสุดหล่อคนนี้ได้หรือเปล่าเอ่ย”

“คือว่าแบมคิดมากเรื่องของลูกพี่พีชน่ะฮะพี่ออย” ผมพูดเฉลย ซึ่งทำเอาคนฟังถึงกับมุ่นคิ้วทันที

“คิดมากเรื่องพีช?”

“ใช่ฮะ” ผมพยักหน้าตอบก่อนจะพูดต่อ “แบมกลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะพูดโกหกหลอกพวกเรา”

“ต่อหน้ามาเฟียผู้หญิงคนนั้นไม่กล้าที่จะโกหกหรอกครับน้องแบมเชื่อพี่สิ” ร่างสูงพูดตอบคำถามผมกลับมาทันทีโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา

จริงของพี่ออย...

ไม่มีใครกล้าโกหกมาเฟียหรอก...


“นอนเถอะครับที่รัก พี่ง่วงแล้ว” พี่ออยบอกก่อนจะดึงผมไปกอด ซึ่งผมก็ยอมนอนหลับแต่โดยดี

“ครับพี่ออย”


...........................................

ปล.เรื่องที่เมย์ท้องกับลูกพีชได้ยังไงนั้น มันยังมาไม่ถึงค่ะ อดใจรอกันหน่อย  :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2015 21:10:33 โดย dragon123 »

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“ให้ลูกพีชหลับไปก่อนดีแน่แล้วหรือครับท่าน”

“อืม ให้หลับพักผ่อนไปก่อนน่ะดีแล้ว เพราะตอนกลางคืนจะได้ลุกขึ้นไปงานแต่งไหว” ผมเอ่ยปากตอบ หลังจากที่พาลูกพีชกับเด็กผู้หญิงหรือลูกสาวของพีชไปที่อำเภอเพื่อจดทะเบียนสมรส พร้อมกับทำเรื่องอุปการะเด็กผู้หญิงคนนี้ให้เป็นลูกของพวกผมสองคน ซึ่งลูกพีชไม่ได้รู้เรื่องราวอะไร จับปากกาเซ็นชื่อเพียงอย่างเดียว ส่วนอดีตแฟนสาวของลูกพีชหรือยัยเมย์ก็ทำได้แต่เพียงเซ็นชื่อมองลูกพีชสลับกับลูกตัวเองอย่างเงียบๆ พอจบเรื่องผมก็รีบพากลับมาทันที เพราะกลัวอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจเสียก่อน “อย่าลืมที่ฉันสั่ง เตรียมห้องสำหรับเด็กคนนี้ ไม่สิ ลูกของฉันกับลูกพีชให้พร้อมด้วยล่ะเรย์”

เรย์ อดีตเลขาส่วนตัวของผมที่พอรู้เรื่องราวว่าผมจะล้างมือการเป็นมาเฟียก็ขอล้างมือตาม แล้วผันตัวมาเป็นเลขาส่วนตัวของผมอีกครั้ง ผมเคยถามเจ้าตัวแล้วว่าตัดสินใจดีแน่แล้วหรือ เพราะผมให้เงินเดือนไม่เท่ากับตอนเป็นมาเฟีย ซึ่งเรย์ก็ได้ให้คำตอบกับผมว่าตัดสินใจดีแน่แล้ว และอยากตามผมมาเพราะไม่รู้จะไปที่ไหนต่อดี และอยากจะช่วยเหลือผมต่อเท่าที่ตนพอจะทำไหวได้

ช่างเป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์อะไรเช่นนี้...

“ครับท่าน” แล้วเรย์ก็เดินออกจากนอกห้องไป ในขณะที่ผมหันกลับมามองคนรักที่นอนกอดเด็กผู้หญิงหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข ซึ่งทำเอาผมที่จ้องมองอยู่ก็พลอยมีความสุขไปกับเขาด้วยเช่นกัน

Rrr…

เสียงริงโทนมือถือดังขึ้นแผ่วเบา ซึ่งเสียงของมันเกือบปลุกทั้งสองร่างตื่นอยู่รอมร่อ ผมไม่รอช้ารีบหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาดู หากแต่ชื่อปลายสายทำให้ผมถึงกับขบฟันกรอด ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ เมื่อเดินออกมาแล้ว ผมจึงค่อยกดรับสายพร้อมกับกรอกเสียงแข็งๆของตัวเองลงไป

“ถ้าคิดโทรมาขอโทษตอนนี้ ผมว่าคุณเจย์ควรจะมาขอโทษลูกพีชในงานตอนกลางคืน...”

“เรื่องนั้นผมรู้ดีคุณอเล็กซ์ แต่ไม่ใช่เรื่องนั้นที่โทรมาหาคุณในตอนนี้แน่” ปลายสายตอบกลับมาทันที ซึ่งทำเอาผมที่ยังพูดไม่จบถึงกับคลายคิ้วออกด้วยความฉงน

“แล้วคุณเจย์โทรมาหาผมทำไม?”

“ผมรู้เรื่องลูกสาวของลูกพีชหมดแล้ว”

“แล้ว?”

“เด็กคนนั้น...” เสียงของเจย์หยุดไปชั่วครู่ราวกับลังเลใจที่จะพูด ก่อนจะตามด้วยเสียงถอนหายใจเฮือกเบาๆแล้วเอ่ยปากถามผมกลับมาว่า “...ใช่ลูกสาวของลูกพีชแน่หรือครับคุณอเล็กซ์”

“แน่สิ เพราะผมพาเด็กคนนั้นไปตรวจผลดีเอ็นเอมาแล้ว” ผมตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ เพราะได้พาไปตรวจที่โรงพยาบาลในเครือมาเฟียที่ผมเคยร่วมหุ้นด้วยมาก่อน ซึ่งไม่มีผิดพลาด เด็กคนนั้นคือลูกของลูกพีชจริงแท้อย่างแน่นอน

“แต่ผมว่าไม่ใช่”

!!!!!!

“หมายความว่ายังไงว่าไม่ใช่?!” ผมถามกลับด้วยความร้อนรน เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าการตรวจของโรงพยาบาลที่ดีที่สุดจะผิดพลาดได้

“คุณอเล็กซ์อย่าลืมสิว่าผมกับลูกพีชเป็นญาติกัน”

“เป็นญาติกันแล้วมันเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ?” ผมถามย้อนอย่างไม่เข้าใจในคำพูดของเจย์ ทว่าแทนที่อีกฝ่ายจะตอบกลับมาทันที กลับทอดถอนลมหายใจเฮือกเบาๆ แล้วจึงค่อยพูดตอบผมกลับมาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงชนิดที่ผมได้ยินถึงกับอึ้ง

“เกี่ยวสิ ก็ในเมื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นก็คือลูกสาวของผมเองยังไงล่ะคุณอเล็กซ์”


..........................................

 :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หลังจากงานแต่งพี่พีชกับคุณอเล็กซ์ในตอนเช้าเสร็จ ผมก็ได้เจอกับพี่เจย์นั่งรออยู่บนรถยนต์ที่จอดอยู่ห่างออกไปจากงานแต่งเพียงไม่กี่เมตร ซึ่งเจ้าตัวเห็นผมแล้วก็บอกว่ามีเรื่องที่จะคุยด้วย ผมก็เลยต้องตามพี่เจย์กับพ่อแม่ของพี่เจย์กลับโรงแรมไป เมื่อถึงห้องพักที่โรงแรมแล้วพี่เจย์ก็ได้นั่งลงพับเพียบต่อหน้าพวกท่าน ก่อนจะหยิบพวงมาลัยมะลิส่งให้กับพวกท่านท่ามกลางความสงสัยของทุกคน

“นี่มันอะไรกันเจย์ แม่กับพ่องงไปหมดแล้ว”

“นั่นสิเจ้าลูกชาย ไหนเล่าให้พ่อกับแม่ฟังหน่อยสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

“ผม...” พี่เจย์มองหน้าพ่อแม่ของตัวเองสลับกับมองมาที่ผม ก่อนจะวกสายตากลับไปหาพวกท่านแล้วก้มลงกราบที่ปลายเท้าของพวกท่าน แล้วจึงค่อยเงยหน้าขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “...อยากจะกราบขอโทษคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นลูกอกตัญญู ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นแบบนี้ ผม...”

“ผม?” ทีแรกผมไม่เข้าใจว่าพี่เจย์พูดถึงเรื่องอะไร แต่พออีกฝ่ายหันมามองผมเท่านั้นแหละ ผมก็รู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องเอ่ยปากถามพี่เจย์ให้เสียเวลา

อย่าบอกนะว่าพี่เจย์จะ...

“เมื่อหนึ่งปีก่อนผมเมา...คิดว่าน้องอาร์ทเป็นลูกพีชก็เลย....”

“ก็เลย?”

“ข่มขืนน้องอาร์ทครับ”

!!!!!!

พวกท่านถึงกับอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนจะหันมามองผมด้วยความเป็นห่วงเป็นใยแกมสงสาร

“พ่อกับแม่ต้องขอโทษด้วยนะที่มันล่วงเกินลูกน่ะ”

“ไม่เป็นไรครับคุณพ่อคุณแม่ เพราะผมลืมมันไปหมดแล้ว” ผมแสร้งฝืนยิ้มตอบกลับไปทั้งๆที่ในใจกลับไม่ใช่ ผมไม่ได้ลืมเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว มันฝังใจในซอกหลืบในความทรงจำที่ลึกที่สุด

“แล้วเอ็งจะว่ายังไงไอ้ลูกชาย” คุณพ่อหันไปถามพี่เจย์ต่ออย่างเอาเรื่องเอาราว ซึ่งคนถูกถามหันมามองหน้าผมอีกครั้งก่อนจะหันไปหาพวกท่าน

“ผมคิดว่าจะรับผิดชอบน้องอาร์ทด้วยการแต่งงาน”

!!!!!!

“แต่นั่นคือความคิดเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ตอนนี้ผม...” พี่เจย์หันมามองผมอีกครั้งก่อนจะดึงมือให้ผมนั่งลงข้างกายตัวเอง จากนั้นจึงค่อยก้มหน้าจุมพิตที่หลังมือผมทันที แล้วผละหน้าออกมาอีกครั้งท่ามกลางความตกใจของพ่อแม่พี่เจย์ และผมด้วยอีกคน “...ไม่คิดแค่จะรับผิดชอบด้วยการแต่งงานเพียงอย่างเดียว ผมจะรับผิดชอบน้องเขาทั้งตัวทั้งหัวใจเลยด้วย”

“หมายความว่าลูก...” พี่เจย์ส่งยิ้มให้กับแม่ตัวเองก่อนจะตอบพวกท่านกลับไปว่า

“ผมรักน้องอาร์ทครับ”

!!!!!!

ตึก ตึก ตึก

“ให้ตายสิเจ้าลูกคนนี้” คุณพ่อคุณแม่พี่เจย์แทบจะกุมขมับเลยทันที ดูท่าพวกท่านจะเครียดอยู่พอสมควรครับ “ว่าแต่เจย์เถอะ แล้วลูกล่ะอาร์ท ลูกรักพี่เจย์หรือเปล่าล่ะ”

!!!!!!

“เอ่อ...คือ”

“ไม่ต้องรีบตอบตอนนี้ก็ได้ เพราะพ่อกับแม่อยากให้เราเก็บไปคิด”

“ครับคุณลุงคุณป้า”

“แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไปนะหนูอาร์ท เพราะพ่อกับแม่ไม่ได้โกรธ รังเกียจหรือรับเรื่องพวกนี้ไม่ได้” คุณแม่พี่เจย์บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พ่อกับแม่เข้าใจดี เรื่องรักมันห้ามกันไม่ได้”

“ครับคุณลุงคุณป้า” แล้วพวกท่านก็หันไปพูดกับพี่เจย์อีกครั้ง

“จากนี้ไปลูกจะจีบหนูอาร์ทหรืออะไรก็แล้วแต่พ่อแม่ไม่ว่า แต่ขอไว้อย่างหนึ่ง”

“ครับคุณพ่อคุณแม่?”

“ห้ามล่วงเกินหนูอาร์ทจนกว่าเขาจะยอมตกลงเป็นแฟนกับลูก”

!!!!!!

“ครับคุณพ่อคุณแม่ ผมจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด” พี่เจย์ตอบอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ

“ดีมาก” คุณพ่อพี่เจย์ยิ้มอย่างพึงพอใจกับคำตอบ “ถ้างั้นพ่อกับแม่ก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วล่ะ เดี๋ยวว่าจะนอนพักผ่อนเอาแรงเสียหน่อย เพราะต้องไปงานแต่งลูกพีชกับอเล็กซ์ตอนกลางคืนอีก ว่าแต่เราเถอะไอ้ตัวแสบ ตอนกลางคืนต้องไปงานลูกพีชด้วยล่ะ ไม่งั้นพ่อกับแม่โกรธลูกจริงๆด้วยนะเออ”

“ครับคุณพ่อคุณแม่ ผมไปแน่”

“หนูอาร์ทจ้ะ” คุณแม่พี่เจย์หันมาเรียกผม

“ครับคุณป้า” ผมขานตอบด้วยความมึนงง

“กว่าจะถึงตอนมืดก็อีกนาน ยังไงก็นอนพักที่นี่ไปก่อนแล้วกัน เพราะตอนกลางคืนเดี๋ยวลูกก็ต้องไปงานของพี่ลูกพีชอีกอยู่ดี” คุณแม่พี่เจย์บอก ซึ่งผมมองหน้าพี่เจย์สลับกับท่านไปมาก่อนจะพยักหน้าตอบตกลง

“ก็ได้ครับคุณป้า” พอหมดเรื่องแล้วพวกท่านทำท่าจะลุกขึ้นยืน แต่พี่เจย์กลับห้ามเสียงไว้ก่อน

“มีอะไรอีกตาเจย์ พ่อกับแม่จะได้รีบไปพักผ่อน”

“คือผมยังมีเรื่องที่สารภาพไม่หมดครับคุณพ่อคุณแม่”

?!

“เรื่องอะไรอีกกันล่ะทีนี้” คุณพ่อถอนหายใจบ่นด้วยความเหนื่อยอ่อน

นั่นสิ...

“คือผม...” พี่เจย์พูดด้วยความลังเล แถมยังมองหน้าผมด้วยแววตาขอโทษขอโพยอะไรบางอย่างที่ผมไม่อาจทราบได้ “...ผมขอโทษครับที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ผิดหวังอีกครั้งนะครับ เพราะตอนนั้นเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว...ผมแค้นแทนลูกพีชที่ถูกยัยเมย์บอกเลิก ก็เลย...”

ก็เลย?

พี่เจย์หลับตาลงสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะถอนหายใจแรงๆแล้วเอ่ยปากออกมาว่า

“ก็เลยลงมือข่มขืนยัยเมย์จนท้องครับ”

!!!!!!


......................................

 :m16: :m16: :m16: :m16: :m16:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 28 บทสรุปของความรัก...

....................................................

“ไม่ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะเป็นลูกของคุณหรือใครก็ตาม แต่ในเมื่อลูกพีชเลือกที่จะรับเข้ามาในครอบครัวแล้วผมก็ยินดีพร้อมใจจะรับเด็กคนนี้ไว้เป็นเสมือนลูกสาวของตัวเองด้วยเช่นกัน”

“โอ้ ไม่คิดเลยว่านั่นจะเป็นคำพูดของคนเป็นอดีตหัวหน้ามาเฟียอย่างคุณ”

“ว่าแต่คุณเจย์แน่ใจแล้วหรือว่าจะให้เด็กคนนี้กับเรา...จะมาทวงคืนทีหลังไม่ได้อีกแล้วนะ” ผมบอกกลับไป ซึ่งทำเอาปลายสายเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงขมขื่น

“ไม่ทวงคืนทีหลังแน่ครับ...เพราะคนชั่วอย่างผมไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นพ่อของเด็กคนนั้นได้...คุณก็รู้”


“กำลังคิดอะไรอยู่เหรอครับคุณอเล็กซ์ คิ้วนี้ขมวดใหญ่เชียว” เสียงหวานถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ซึ่งทำเอาผมชะงักความคิดของตัวเอง มือกำลังผูกเนกไทยืนอยู่หน้าบานกระจกตู้เสื้อผ้าเตรียมแต่งตัวที่จะไปทำพิธีงานแต่งงานของตัวเองกับลูกพีชในตอนกลางคืน ก่อนจะหันกลับไปมองร่างบางซึ่งอยู่ในชุดแต่งงานกำลังนั่งอยู่บนรถวีร์แชร์เรียบร้อยแล้ว “ปวดหัวหรือเปล่าครับ ลูกพีชจะได้ไปเอายาให้”

“ไม่ครับที่รัก ผมสบายดี” ผมส่ายหน้ายิ้มตอบ พร้อมกับจ้องมองลูกสาวที่กำลังนั่งอยู่ในอ้อมกอดคนรักของตัวเอง “ว่าแต่เรื่องชื่อเล่นลูกสาว...ลูกพีชคิดไว้แล้วหรือยังครับเอ่ย”

ผมพูดเปลี่ยนเรื่อง เพราะตอนไปทำเรื่องขอเด็กคนนี้ ผมเป็นคนคิดชื่อจริงให้กับเขา ซึ่งเหลือแต่ชื่อเล่นที่ยังไม่ได้ตั้ง ดังนั้นผมจึงยกหน้าที่ให้ลูกพีชเป็นคนคิดแทน

“คิดไว้แล้วครับ แต่เยอะจนไม่รู้จะใช้ชื่อว่าอะไรดี คุณอเล็กซ์ต้องช่วยลูกพีชเลือกด้วยนะ” 

“ฟอด! แน่นอนครับที่รัก ผมช่วยคุณแน่” ผมหอมแก้มตอบคนรักกลับไป ก่อนจะนั่งลงฟังลูกพีชร่ายชื่อเล่นที่เป็นคนคิดขึ้นเองให้ผมฟังอย่างสนุกสนาน


..........................................

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
งานแต่งตอนกลางคืนดูไม่วุ่นวายมากนัก เพราะคุณอเล็กซ์กลัวว่าร่างกายผมที่ยังไม่แข็งแรงพอจะทนความเหน็ดเหนื่อยไม่ไหว จึงชวนแค่ครอบครัวญาติสนิทมิตรสหายมาร่วมงานในเวลานี้เท่านั้น ซึ่งสถานที่จัดงานก็ไม่พ้นบ้านของพวกผมสองคนเองครับ (ส่วนลูกสาว ผมฝากน้องแบมให้ช่วยเลี้ยงชั่วคราว)

“ขอแสดงความยินดีด้วยทั้งสองคน ขอให้พวกเธอรักกันอยู่ไปจนแก่เฒ่า”

“ขอบคุณครับคุณพ่อคุณแม่” ผมกับคุณอเล็กซ์พูดขอบคุณพวกท่านพร้อมกัน ก่อนที่ผมจะเงยหน้ามองหาใครบางคนที่น่าจะมางานตอนกลางคืนด้วย “ว่าแต่คุณเจย์ล่ะครับ เห็นน้องแบมบอกว่าจะมา”

“เห็นบอกว่าขอไปทำธุระก่อนแล้วจะขับรถตามมา...อ๊ะนั่นไง พูดถึงก็มาพอดี” ผมหันไปตามเสียงคุณแม่ของคุณเจย์ ก่อนจะเห็นร่างสูงเดินถือกล่องของขวัญขนาดเล็กมาในขณะที่มือซ้ายกอบกุมมือบางของใครบางคนที่ผมรู้จักอีกด้วย

?!

“ขอโทษนะครับที่มาสาย พอดีขับรถวนไปเอากล่องของขวัญมา” คุณเจย์บอกกับคุณแม่ก่อนจะหันมาหาผมที่นั่งอยู่บนรถวีร์แชร์กับคุณอเล็กซ์ที่ยืนอยู่เคียงข้าง “ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ และก็ต้องขอโทษด้วยที่เมื่อเช้าไม่ได้ไปงาน พอดีติดธุระนิดหน่อย อ๊ะ นี่ของขวัญ อย่าเพิ่งรีบแกะเชียวนะ ไว้เข้าห้องนอนแล้วถึงค่อยแกะนะครับโอเคไหมคุณอเล็กซ์”

?!

“โอเคครับ” คุณอเล็กซ์เอ่ยปากตอบรับอย่างว่าง่ายในขณะที่ผมได้แต่สงสัยเงียบๆ

ทำไมต้องแกะตอนอยู่ในห้องนอนด้วยล่ะ?

“ลูกพีชครับ” คราวนี้คุณเจย์หันมาเรียกผมแทน ซึ่งผมก็หันไปมองก่อนที่อีกฝ่ายยกยิ้มมุมปาก ชูมือซ้ายของน้องอาร์ทขึ้นมา แลเห็นนิ้วนางมีแหวนสีเงินเรียบง่ายอยู่บนนั้นด้วย

เอ๊ะ? อย่าบอกนะว่า...

ผมหันไปมองอีกมือหนึ่งของคุณเจย์ ซึ่งมีแหวนแบบเดียวกันอยู่บนนิ้วนางขวาด้วยเหมือนกัน

“เจย์กับน้องอาร์ท...” คุณเจย์พูดพลางเหลือบตามองน้องอาร์ทด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข ก่อนจะหันมามองผมกับคุณอเล็กซ์อีกครั้ง “...เราทั้งคู่หมั้นกันแล้วครับ และจะเข้าพิธีแต่งงานในเร็วๆนี้ด้วย”

เอ๊ะ?

เอ๋!!!!!!!!!!


“ลูกพีชไม่ต้องมองแบบนั้นครับ เจย์กับน้องอาร์ทคบกันมานานแล้ว แต่ปิดไม่ให้ใครรู้ก็เท่านั้นเอง” คุณเจย์พูดเฉลยข้อสงสัย ซึ่งผมเองก็ได้แต่นั่งอึ้งพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว “ต่อจากนี้ไปเจย์คงไม่ได้อยู่ข้างกายลูกพีชอีกแล้ว เพราะลูกพีชก็มีคุณอเล็กซ์คอยอยู่ดูแลเป็นคู่ชีวิตแล้วนี่นะ”

“คุณเจย์” ผมร้องเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา ถึงแม้จะดีใจที่อีกฝ่ายมีคนรักเป็นตัวเป็นตนแล้วก็ตาม แต่ก็อดใจหายไม่ได้ที่ต้องแยกจากกับเพื่อนรักอย่างคุณเจย์ไป

“โตแล้วนะครับลูกพีช อย่าขี้แยเหมือนเด็กอีก” ผมพยักหน้ารัว น้ำตาปริ่มเลยงานนี้

“แล้วเรา...” ผมเอ่ยปากพูดขึ้นมาบ้าง “...จะได้เจอกันอีกไหม”

“แหม ทำไมลูกพีชพูดเหมือนกับเจย์ไปอยู่ที่ไกลแสนไกลแบบนั้นล่ะ เจย์ก็ยังอยู่ที่ประเทศไทยตามเดิมนี่แหละครับ ไม่ได้ไปไหนไกลเสียหน่อยจริงไหมน้องอาร์ท” อีกฝ่ายพูดพลางหันไปถามความเห็นคนรักของตัวเอง ซึ่งน้องอาร์ทพยักหน้าตอบกลับมาทันที

“จริงครับพี่เจย์ พี่พีชไม่ต้องเป็นห่วงนะ พวกผมจะมาเยี่ยมเยียนพี่พีชที่นี่บ่อยๆเลยล่ะ”

“จริงๆนะ ต้องมาให้ได้นะ ห้ามลืมลูกพีชล่ะ” ผมพูดย้ำด้วยความหวาดระแวง ก็คนอยู่ด้วยกันเห็นหน้าด้วยกันทุกวัน ก็มีบ้างที่จะรู้สึกใจหวิวเป็นของธรรมดา ส่วนทั้งสองคนเมื่อได้ยินที่ผมพูดก็พยักหน้ายิ้มตอบผมอีกครั้ง

“ครับ มาหาแน่นอน”

.....................................................

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
“แด๊ดดี้ คุณพ่อ! อุ้มรักกลับมาแล้วค่า”

ร่างผอมเพรียวในชุดกระโปรงนางฟ้าสีขาวฟูฟ่องวิ่งถาโถมเข้ากอดผู้เป็นที่รักดุจสายเลือดแท้อย่างรวดเร็ว ทำเอาทั้งคู่ที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเกือบจะล้มลงไปเพราะนางฟ้าน้อยของพวกเขาไม่ใช่เด็กน้อยเหมือนแต่ก่อน บัดนี้เจ้าตัวสูงชะลูดเหยียบร้อยเจ็ดสิบเหมือนบิดาในสายเลือดที่แท้จริงของเจ้าตัว ซึ่งอเล็กซ์กับลูกพีชไม่เคยบอกกล่าวกับลูกสาวของตนว่าใครคือพ่อที่แท้จริงของเธอแม้แต่น้อย

“แต่ลูกพีชว่าควรจะบอกนะครับ” หลังจากได้ความทรงจำกลับคืนมา ก็ใช้เวลาอยู่เกือบสิบปีดีดัก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงรักสามีตนไม่เสื่อมคลาย ส่วนเรื่องลูกสาวที่เลี้ยงดูมา เขาเองก็เพิ่งจะมารับรู้จากปากของสามีตนเอง ซึ่งเขาก็ไม่ได้รังเกียจเดียดฉันท์ แถมยังรักลูกสาวคนนี้มากขึ้นกว่าเดิมเท่าตัว “ไม่ใช่ว่าลูกพีชจะขับไสไล่ส่งอุ้มรักหรอกนะครับ แต่ลูกพีชอยากให้แกได้รับรู้ถึงตัวตนพ่อที่แท้จริงของแกบ้าง”

คนฟังถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะบอกอุ้มรัก แต่เกรงว่าจะมีปัญหาในภายหลัง

“ลูกพีชเชื่อว่าอุ้มรักต้องเข้าใจ ว่าทำไมพ่อที่แท้จริงของแกถึงไม่ยอมรับเลี้ยงดู”


เพราะด้วยเหตุนี้พอถึงวันครบรอบยี่สิบห้าปีบริบูรณ์ของอุ้มรัก พวกเขาสองคนจึงตัดสินใจจะบอกความจริง และได้แอบพาเจย์ตามมาที่สนามบินในครั้งนี้ด้วย

“ว่ายังไงครับอุ้มรัก ไปฝึกงานกับคุณอาอลันเป็นยังไงบ้าง” หลังจากกอดหอมลูกสาวด้วยความรักจนพอใจแล้วลูกพีชจึ่งค่อยถามผลของการไปฝึกงานที่บริษัทของอลันหรือพี่ชายของสามีตนนั่นเอง

“จะให้อุ้มรักตอบแบบไหนล่ะคะคุณพ่อ แบบข่าวดีกับแบบข่าวร้ายเอ่ย” อุ้มรักตอบหน้าระรื่น ซึ่งทำให้อเล็กซ์ถึงกับใช้มือมะเหงกหัวคนตอบเบาๆด้วยความเอือมกับความขี้เล่นของลูกสาวตัวเอง “โธ่ แด๊ดดี้ อุ้มรักแค่ล้อเล่นคุณพ่อเฉยๆเอง ไม่เห็นถึงกับต้องเขกหัวอุ้มรักแบบนี้เลย”

“มันใช่เวลาเล่นไหมล่ะ” อเล็กซ์พูดด้วยความหงุดหงิดใจ เขาไม่น่าปล่อยให้ลูกสาวไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ต่างประเทศเลย ทำให้อุ้มรักติดนิสัยขี้เล่นของพี่ชายตนมาอย่างไม่ตั้งใจ

“ไม่เป็นไรครับคุณอเล็กซ์ เรื่องแค่นี้เอง” ลูกพีชกลัวคนรักของตนจะมีเรื่องกับลูกสาวเสียก่อน จึงรีบพูดห้ามปรามไม่ให้เกิดเรื่องทะเลาะกันไปมากกว่านี้ “เอาล่ะอุ้มรัก จะด้วยข่าวดีหรือข่าวร้ายก็บอกคุณพ่อมาได้เลยครับ”

อุ้มรักยิ้มหัวเราะอย่างดีใจที่คุณพ่อเข้าข้างตนเอง ก่อนจะกระแอมไอแล้วพูดเฉลยข้อสงสัยทันที

“ข่าวร้ายก็คือ ที่บริษัทคุณอาอลันฝึกโหดมากจนอุ้มรักเกือบจะไม่ผ่านการฝึกงาน”

“อะไรนะ?! เกือบไม่ผ่านเลยหรือลูก!!” ลูกพีชถึงกับร้องอุทานเสียงหลง เพราะอุ้มรักเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์อยู่ในตัว แม้จะเรียนไม่เก่งเหมือนคุณเจย์ที่เป็นถึงอดีตเด็กห้องคิงก็ตาม แต่เรื่องการเข้าสังคมกับความขยันในการเรียนเป็นเยี่ยมไม่แพ้ผู้เป็นพ่อเลยทีเดียว

“ใช่แล้วค่า แหะๆ” อุ้มรักตอบหัวเราะไปยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองไปพลาง “ส่วนข่าวดีก็คือ อุ้มรักสอบผ่านแบบเฉียดฉิวเลยค่า!!”

คำตอบสุดท้ายทำเอาลูกพีชกับอเล็กซ์ถึงกับถอนหายใจพร้อมกัน

“แล้วไปทำอีท่าไหนถึงผ่านได้ล่ะครับอุ้มรัก” อเล็กซ์ถามต่อด้วยความสงสัย ถ้าเป็นสมัยก่อนตอนที่เขายังอยู่ที่นั่น เขาจะเคี่ยวกับเด็กฝึกงานอยู่มากพอสมควร เพราะที่ทำงานเขาไม่ใช่ที่เล่นสำหรับเด็กน้อยมาฝึกเล่นๆได้ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นพี่อลันมาดูแลแทน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเคี่ยวกับเด็กฝึกหัดมากแค่ไหน

“ฮี่ๆ” เจ้าตัวหัวเราะก่อนจะเข้าหอมแก้มซ้ายขวาลูกพีชกับอเล็กซ์พร้อมกันอย่างรวดเร็ว โดยที่ทั้งคู่ไม่ทันได้ตั้งตัว “อุ้มรักก็ใช้วิธีนี้ยังไงล่ะคะ”

คำตอบของอุ้มรักทำให้พวกเขาถึงกับทึ่ง โดยเฉพาะอเล็กซ์ถึงกับเกือบจะหลุดขำออกมา เพราะส่วนมากพี่ชายตนจะเป็นคนโหดเหี้ยม ผิดกับเขาที่ยังอ่อนด้อยนัก แต่ถึงกระนั้นพี่ชายก็ยังไม่วายแพ้ความขี้อ้อนของหลานสาวตัวเองอยู่ดี

“เอาล่ะ ถามพอหอมปากหอมคอมากล่ะ วันนี้ที่แด๊ดดี้กับคุณพ่อมารับเราก็เพราะอยากจะให้เจอกับใครซักคนหนึ่ง แด๊ดดี้ขอบอกไว้ก่อนนะว่าถ้าเจอกันแล้วอย่าได้วิ่งหนีไปไหนเด็ดขาดนะรู้ไหม” อเล็กซ์พูดกำกับเป็นอย่างดี ซึ่งทำเอาคนฟังอย่างอุ้มรักถึงกับเอียงคอฟังด้วยความฉงน

“เอ๋? ทำไมอุ้มรักต้องวิ่งหนีด้วยล่ะคะแด๊ดดี้”

“เอาเถอะน่ะ เชื่อฟังที่แด๊ดดี้พูดก็พอ” อเล็กซ์พูดก่อนจะหันกลับหลังไปกวักมือเรียกใครบางคนให้ออกมา ซึ่ง ณ วินาทีที่เจย์เดินออกมา อุ้มรักถึงกับมุ่นคิ้วมองด้วยความสงสัย

“นั่นใครคะแด๊ดดี้คุณพ่อ” เนื่องจากเจย์ไม่เคยมาหาอุ้มรักเลยซักครั้งนอกจากวันงานแต่งของพวกเขาสองคน เด็กสาวจึ่งไม่รู้จักใบหน้าค่าตาของเจย์เลยแม้แต่น้อย ซึ่งลูกพีชหันหน้าไปทางคนรักของตัวเองก่อนจะหันหน้ากลับมาตัดสินใจบอกกับลูกสาวว่า

“นี่คุณเจย์ ลูกพี่ลูกน้องของพ่อหรือพ่อที่แท้จริงของลูกยังไงล่ะครับอุ้มรัก”

.......................................................

“แล้วอุ้มรักวิ่งหนีหรือเปล่าล่ะอเล็กซ์”

เสียงทางโทรศัพท์ถามด้วยความตื่นเต้น ซึ่งทำเอาคนเล่าเรื่องถึงกับถอนลมหายใจตอบกลับไปว่า

“ไม่หนีแต่...”

“ตบหน้า” จะเดาได้แม่นเกินไปแล้ว “ฉันเดาว่าอุ้มรักต้องตบหน้าแกแน่ไอ้น้องชายเอ๋ย”

“ใช่ครับแต่ถูกแค่ครึ่งเดียว”

“อะไรนะ?! นี่ตบหน้าลูกพีชด้วยงั้นหรือ” อีกฝ่ายร้องอุทานเสียงหลง จนอเล็กซ์ต้องถือสายหนีเพราะอีกฝ่ายพูดเสียงดังเกินไป ก่อนจะเอาโทรศัพท์แนบหูตัวเองอีกครั้ง “ฉันไม่เคยสั่งเคยสอนให้เด็กคนนี้ตบหน้าผู้ใหญ่เลยนะสาบานได้”

“แต่สาบานได้ว่าตบไปแล้ว...คนละฉาด” เขาจำเหตุการณ์ได้แม่น อุ้มรักน้ำตาไหลพรากตบหน้าเขากับลูกพีชคนล่ะครั้ง แต่ก็ไม่ได้วิ่งหนีตามที่เขาเคยพูดเอาไว้ ก่อนที่เจย์จะตัดสินใจพาอุ้มรักไปคุยกันที่ร้านกาแฟกันสองคนตามลำพัง ส่วนพวกเขาสองคนก็นั่งดูอยู่อีกร้านไม่ตามเข้าไปข้างในด้วย

“แล้วต่อจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง?” อีกฝ่ายถามต่อด้วยความสงสัย ซึ่งอเล็กซ์ได้ยินเสียงละเมอร้องไห้จากคนรักที่นอนอยู่ข้างกาย จึงไม่ตอบคำถามพี่ชายเดี๋ยวนั้น แต่กลับหันไปเช็ดน้ำตาพร้อมกับลูบหัวปลอบคนรักด้วยความอ่อนโยน ซักพักพออีกฝ่ายไม่นอนละเมออีก จึงหันกลับไปตอบคำถามพี่ชายที่ยังคงถือสายรออยู่

“สองคนนั้นคุยกัน...” อเล็กซ์พูดต่อในขณะที่มือยังคงกุมมือบางคนรักไว้ “...ประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ แล้วเดินออกมาพร้อมกัน เห็นคุณเจย์บอกว่าจะขออุ้มรักไปนอนค้างคืนด้วย”

“อะไรนะ? ค้างคืนงั้นเหรอ”

“ใช่แล้วครับพี่อลัน ค้างคืน” อเล็กซ์ตอบย้ำเสียงเบาพร้อมกับครุ่นคิดถึงช่วงวินาทีนั้น ที่ลูกสาวตนแทบจะไม่มองหน้าไม่คุยกับพวกเขาเลยด้วยซ้ำ “แต่คุณเจย์บอกว่าพรุ่งนี้จะโทรมาบอกอีกที”

“ให้ตายสิ แล้วนี่ลูกพีชไม่ร้องห่มร้องไห้เลยหรือ”

“ร้องครับ แต่หลับไปแล้ว” และคาดว่าพรุ่งนี้ไข้คงจะขึ้นเหตุเนื่องด้วยร้องไห้หนักจนเกินไป...

“ยังไงแกก็พยายามเข้าแล้วกันนะ มีอะไรให้ช่วยก็โทรบอกฉันได้ทุกเมื่อ”

“ครับพี่อลัน” เมื่อปลายสายวางไปแล้ว เขาจึงล้มตัวลงนอนกอดคนรัก ซึ่งเจ้าตัวก็ร้องครางเสียงร่ำไห้ ทำเอาอเล็กซ์ต้องนอนกอดคนรักไปพูดปลอบใจไปพลาง แต่ก็อดเจ็บใจแทนลูกพีชเสียมิได้ ถ้าพรุ่งนี้คำตอบไม่ได้เป็นดั่งที่หวังเอาไว้ เขาจำต้องใช้ไม้แข็งเสียบ้างแล้ว

โทษฐานที่ทำให้ลูกพีชของเขาต้องเจ็บปวด!

...................................................

ปล.ตอนหน้าจบแล้วจริงๆค่า...

ออฟไลน์ abcee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
มาปูเสื่อรอตอนจบจ้า รีบๆมาน้า^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ตอนที่ 29 หนทางที่จะต้องก้าวเดินกันต่อไป...

......................................................................

“พ่อให้เรานอนค้างแค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้น”

“คุณพ่อ!” อุ้มรักหรือลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาถึงกับทำท่าไม่พอใจในคำตอบ ก่อนจะเข้าไปกอดแขนออดอ้อนคนรักของเขาที่ยืนเกาหัวด้วยความมึนงง “คุณน้าช่วยอุ้มรักกล่อมคุณพ่อหน่อยสิคะ ว่าอุ้มรักจะย้ายมาอยู่ที่นี่...ตลอดไปไม่กลับไปหาคนหลอกลวงเลยด้วย”

“อุ้มรัก!!” เจย์ตวาดเสียงเข้มด้วยความโมโห แน่นอนว่าร่างบางถึงกับก้มหน้าหลบไปอยู่ด้านหลังด้วยความหวาดกลัวทันที

ให้ตายสิ ทำไมเป็นเด็กที่ดื้อขนาดนี้ก็ไม่รู้!!

“นี่ก็ดึกมากแล้วอาร์ทว่าพี่เจย์ค่อยพูดค่อยจากันดีกว่าไหมครับ” อาร์ทรีบพูดห้ามปรามเพราะกลัวเสียงของทั้งคู่จะดังรบกวนชาวบ้านที่อยู่รอบข้าง เพราะตอนนี้พวกเขาไม่ได้พักอยู่ที่คอนโดหรู แต่เป็นบ้านที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเขากับพี่เจย์ล้วนๆ “เชื่ออาร์ทเถอะครับ นั่งพักให้หายเหนื่อย ดื่มน้ำเย็นๆ แล้วเราค่อยมานั่งคุยกัน...ตกลงนะครับ”

ทั้งเจย์ทั้งอุ้มรักมองหน้ากันก่อนจะหันมาพยักหน้าตอบตกลง ซึ่งทำเอาอาร์ทถึงกับหายใจโล่งคอ เพราะอย่างน้อยทั้งคู่ก็ยอมเชื่อฟังที่เขาพูดแต่โดยดี

สมแล้วที่เป็นพ่อลูกกัน...

เลือดร้อนเหมือนกันทั้งคู่ไม่มีผิด...


“อุ้มรักครับ จะดื่มอะไรดีเอ่ย แต่น้าขอห้ามเรื่องน้ำอัดลมกาแฟเพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพ อ้อ รวมถึงของมึนเมาด้วย” เขาย้ำเสียงแข็ง เพราะไม่อยากให้เด็กคนนี้ได้แตะต้องของมึนเมาเหมือนกับพ่อของตัวเอง

“อะไรก็ได้ค่ะคุณน้า อุ้มรักดื่มได้หมดค่ะ” เจ้าตัวกอดอกพูดโดยไม่หันไปมองหน้าคนเป็นพ่อ ส่วนพี่เจย์เองก็ทำท่าคล้ายกัน ผิดตรงที่ร่างสูงลุกขึ้นเดินไปสูบบุหรี่อยู่ข้างนอกระเบียงแล้ว

“โอเคครับ งั้นน้าจะไปเอาน้ำส้มคั้นมาให้” อาร์ทยิ้มตอบพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหัวหลานสาวตัวเองด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองคนรักที่กำลังยืนสูบบุหรี่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “พี่เจย์ อาร์ทขอล่ะ เรื่องบุหรี่ให้มันเพลาๆลงบ้าง อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้วนะครับ”

คนถูกตำหนิหันมามองเขาทันที ก่อนจะขยี้บุหรี่ด้วยความหงุดหงิด แล้วหมุนตัวเดินกลับเข้ามาในบ้านนั่งลงบนเก้าอี้โซฟาตรงกันข้ามกับลูกสาวของตัวเองที่กำลังนั่งกอดอกอยู่

“พี่ขอน้ำมะนาวเย็นๆชื่นใจหน่อยแล้วกัน พอดีเปรี้ยวปากน่ะ”

“ได้ครับพี่เจย์ กรุณารอซักครู่” แล้วเขาลอบมองทั้งคู่ก่อนจะเดินออกจากห้องรับแขกไป

หวังว่าพวกเขาจะไม่ทะเลาะกันตอนที่ผมไม่อยู่ที่ห้องหรอกนะ...

..........................................

เช้าวันรุ่งขึ้นข่าวที่พวกผมรอคอยก็มาถึง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหลังจากที่เขาลุกขึ้นไปทำกับข้าวในขณะที่ลูกพีชยังคงนอนป่วยอยู่บนเตียง ก่อนจะรีบวิ่งไปรับสายเพราะเกรงว่าเมียสุดที่รักจะตื่นเสียก่อน

“ว่ายังไงครับคุณเจย์”

“นี่อาร์ทเองครับคุณอเล็กซ์” ปลายสายตอบแก้ความเข้าใจผิด “อาร์ทว่าคุณกับพี่พีชมารับลูกสาวที่บ้านจะดีกว่านะครับ เพราะดูท่าพี่เจย์กับอุ้มรักจะ...”

อีกฝ่ายพูดยังไม่ทันจบดีปลายสายก็ถูกตัดเสียก่อน ซึ่งทำเอาอเล็กซ์หัวเสียจึงโทรกลับไปอีกครั้ง แต่ฝั่งนั่นก็ไม่มีวี่แววว่าจะรับสายเขาแม้แต่น้อย

สงสัยคงต้องไปที่นั่นแล้วจริงๆ...

“อือ...ใครโทรมาเหรอครับคุณอเล็กซ์” ร่างบางในชุดนอนยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าห้องครัวกำลังยกมือขึ้นขยี้ตาตัวเองอย่างงัวเงีย ซึ่งทำเอาเขารีบปราดเข้าไปพยุงร่างบางเพราะกลัวว่าคนรักจะเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน “อื้อ ลูกพีชเดินเองได้ครับ ไม่ต้องช่วยหรอก”

“ไม่ได้ครับที่รัก เกิดที่รักเป็นอะไรขึ้นมา พี่คงขาดใจตายแน่ๆเลย” หลังจากพวกเขาสองคนได้แต่งงานกัน เขากับลูกพีชก็ได้ทำการตกลงเรื่องการใช้สรรพนามกันและกัน โดยที่เขาจะพูดแทนตัวเองว่าพี่ ส่วนลูกพีชก็ยังคงเรียกตัวเองว่าลูกพีชตามเดิม

“เมื่อครู่นี้คุณอเล็กซ์โทรคุยกับใครหรือครับ” เจ้าตัวพูดเข้าเรื่องหลังจากที่อเล็กซ์พานั่งเก้าอี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ใบหน้าจะไม่ค่อยแดงเท่าเมื่อคืนแต่ตัวยังรุมๆอยู่

“น้องอาร์ทน่ะครับ” เขาตอบก่อนจะพูดต่อ “เขาอยากให้เราไปรับอุ้มรัก แต่พี่เป็นห่วงเรา เกรงว่าถ้าเดินทางไปๆมาๆ จะทำให้เป็นไข้หนักยิ่งกว่าเก่าได้”

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับคุณอเล็กซ์ เพื่ออุ้มรักแล้วแค่นี้ลูกพีชทนได้” เจ้าตัวเถียงค้านหัวชนฝา ซึ่งทำเอาอเล็กซ์ถึงกับเครียด “นะครับนะคุณอเล็กซ์ ลูกพีชอยากเจออุ้มรัก อยากพูดขอโทษแก อยากปรับความเข้าใจแกด้วย ถึงแม้อุ้มรักจะไม่ใช่ลูกของพวกเราจริง แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นเด็กที่พวกเราอุตส่าห์เลี้ยงขึ้นมาเองกับมือนะครับคุณอเล็กซ์”

“แต่พี่...” เขากำลังจะเถียงแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นน้ำตาของลูกพีชที่ไหลอาบแก้มอันนวลเนียน

ให้ตายสิ เจ้าลูกคนนี้ทำให้เมียเขาต้องหลั่งน้ำตาเป็นครั้งที่สอง!!

“นะครับคุณอเล็กซ์” เจ้าตัวพูดเสียงอ้อนวอนอย่างสั่นเครือ

“ตกลงครับ ไปก็ไป” อเล็กซ์ยอมตอบตกลงแต่โดยดี ก่อนจะให้คนรักทานข้าวทานยากับผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกัน แล้วพากันขึ้นรถออกเดินทางไปยังบ้านของเจย์

.............................

“เก็บเสื้อผ้าซะ เดี๋ยวพวกเขาก็มารับลูกแล้ว”

“ไม่!!” อุ้มรักค้านเสียงแข็ง เธอกอดรักกระเป๋าเสื้อผ้าแน่นราวกับกลัวคุณพ่อตนจะมายื้อแย่งไป “อุ้มรักจะอยู่ที่นี่ จะอยู่กับคุณพ่อ หรือว่าคุณพ่อรังเกียจอุ้มรัก ถึงได้พยายามขับไสไล่ส่งไปอยู่กับคนอื่นน่ะ”

“อุ้มรัก!!” เจย์ถึงกับอึ้ง เขาไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะกล้าพูดออกมาแบบนี้

“อุ้มรักแค่อยากอยู่กับคุณพ่อ มันผิดมากเลยหรือคะ!!” อุ้มรักเถียงกลับไปทั้งน้ำตา เธอไม่อยากจะกลับไปอยู่กับครอบครัวที่แสนจอมปลอมอีก ซึ่งคำตอบของเธอทำให้เจย์ถึงกับลมออกหู ใช้มือตบหน้าลูกสาวของตัวเองจนถึงกับหน้าหันไปอีกข้าง

“พี่เจย์!!” อาร์ทเดินเข้ามาเห็นเข้าพอดี จึงรีบรุดเข้ามาในห้องก่อนจะดึงร่างคนรักให้ออกห่างจากอุ้มรักเพราะเกรงว่าจะมีการตบตีอีก “พอเถอะครับ อย่าทะเลาะกันอีกเลย”

“มีคุณพ่อแบบนี้สู้ไม่มีจะดีกว่าอีก!!”

“อุ้มรัก!!” เจย์ตวาดเสียงใส่และทำท่าจะเข้าไปตบอีกครั้ง แต่หัวใจเกิดเต้นรัวผิดปกติ ทำเอาร่างสูงถึงกับงอเข่าทรุดลงไปนั่งกับพื้นท่ามกลางความตกใจของอุ้มรักกับอาร์ท

“คุณพ่อ! / พี่เจย์!!”

“ไม่เป็นอะไรมากหรอก ไม่ต้องตกใจ” เจย์ยกมือขึ้นห้ามทั้งคู่ ก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืนโดยมีอาร์ทกับอุ้มรักคอยช่วยพยุงขึ้นนั่งบนเก้าอี้โซฟาอีกที อันที่จริงเขาแอบปิดไม่ให้ใครรู้ เรื่องที่เขาเป็นโรคหัวใจ

มันคงถึงเวลาแล้วที่เขาต้องชดใช้กรรมที่ตัวเองเป็นคนก่อ...

“อาร์ทว่าพี่เจย์ไปหาหมอจะดีกว่านะครับ เผื่อเป็นอะไรขึ้นมา คุณหมอจะได้...”

“พี่สบายดี อาร์ทไม่ต้องเป็นห่วง” เจย์ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องเป็นห่วงจึงรีบบอกเอาไว้ก่อน ก่อนจะหันไปมองลูกสาวของตนที่มีสีหน้าเคร่งเครียดแกมกังวล “อุ้มรัก พ่อขออะไรอุ้มรักซักข้อจะได้ไหม”

“อะไรคะคุณพ่อ ทำไมคุณพ่อต้องพูดแบบนี้ด้วย อุ้มรักไม่เข้าใจ” อีกฝ่ายถามด้วยความมึนงง

“เถอะน่า เชื่อพ่อสิ”

“ก็ได้ค่ะ เชิญคุณพ่อว่ามาได้เลย” เจ้าตัวยอมลงหนึ่งก้าว ซึ่งทำให้เขาถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก “แต่ถ้ามันยากเหนือบ่ากว่าแรง อุ้มรักจะพิจารณาอีกที”

“อุ้มรัก”

“ก็ได้ค่ะ อุ้มรักจะทำตามที่คุณพ่อสั่ง” เจ้าตัวยอมแต่โดยดี ในขณะที่คนรักของเขามีสีหน้าเป็นกังวลแต่ก็ไม่ได้ถามคำถามอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว

สมแล้วที่อยู่ด้วยกันมาหลายปี...

รู้ใจเขาไปเสียหมด...


เจย์ยิ้มให้กับความคิดของตัวเองก่อนจะเอ่ยคำขอกับลูกสาวตัวเองว่า

“ถ้าอุ้มรักรักพ่อแล้วล่ะก็ ช่วยกลับไปอยู่กับคุณอเล็กซ์กับลูกพีชเหมือนเดิมเถอะนะ”

.................................

“ที่รักตื่นได้แล้วครับ ถึงบ้านคุณเจย์แล้วนะครับ”

“อือ ถึงแล้วหรือครับคุณอเล็กซ์” ลูกพีชพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เนื่องจากระยะทางจากบ้านพวกเขากับบ้านของเจย์ค่อนข้างไกล ทำให้ต้องใช้เวลาในการเดินทางอยู่พอสมควร “ขอโทษด้วยนะครับที่ลูกพีชหลับ ไม่ได้อยู่คุยตอนคุณขับรถเลย”

อเล็กซ์ได้ยินดังนั้นก็หอมแก้มหน้าผากคนขี้เซาเบาๆ ก่อนจะผละหน้าออกมาส่งยิ้มให้

“ไม่เป็นไรครับที่รัก แค่นี้เอง” เมื่อลงจากรถพวกเขาก็พบกับน้องอาร์ทยืนรออยู่หน้าประตูทางเข้าบ้านแล้ว “ขอโทษที่ให้คอยนาน พอดีวันนี้ในเมืองรถติดเยอะน่ะ ว่าแต่อุ้มรักกับคุณเจย์เป็นยังไงบ้าง”

อเล็กซ์พูดตอบก่อนจะถามด้วยความสงสัย เพราะตอนคุยกันทางโทรศัพท์นั้นเขายังฟังไม่ได้ศัพท์ สายก็ชิงตัดไปเสียก่อน ส่วนน้องอาร์ทที่เดินนำพวกเขาเข้าไปในบ้านก็หยุดเดินทันที ก่อนจะหันมาตอบคำถามของเขาด้วยสีหน้าซีดเซียว

“พอดีคุณเจย์...เอาเป็นว่าคุณอเล็กซ์กับพี่พีชเข้าไปเห็นก็จะรู้เองแหละฮะ”

“เอ๋?” ทั้งเขาทั้งลูกพีชต่างร้องอุทานพร้อมๆกัน ครั้นเดินเข้าไปในห้องรับแขก กุญแจรถยนต์ถึงกับต้องหล่นกับพื้นไปทันทีที่เห็นร่างคุ้นตานอนหน้าซีดอยู่บนเก้าอี้โซฟาตัวยาว ในขณะที่อุ้มรักนั่งอยู่ข้างกายเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้กับคนป่วยอยู่พอดี

“เจย์!” เขานึกไว้แล้วว่าลูกพีชจะต้องถลาเข้าไปหาลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง จึงก้มลงเก็บกุญแจรถที่ทำตกกับพื้นขึ้นมาเก็บใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้โซฟาอีกตัวที่ว่างอยู่ “เป็นอะไรไป ทำไมถึงนอนซมแบบนี้ล่ะ ทำไมไม่ไปโรงพยาบาลล่ะ”
คนป่วยได้ยินที่ลูกพีชพูดก็พลันลืมตาขึ้นส่งยิ้มหวานให้

“พอดีรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยน่ะ ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับลูกพีช” เพราะอีกฝ่ายเป็นลูกพี่ลูกน้องของคนรักตน แถมอีกฝ่ายก็แต่งงานมีคนรักเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว อเล็กซ์จึงไม่เกิดความหึงหวงเมื่ออีกฝ่ายเรียกสรรพนามเมียของเขาอย่างสนิทสนมเหมือนกับที่เขาเรียกอยู่ทุกวันนี้ “เจย์คุยกับอุ้มรักเรียบร้อยแล้วนะ เขาก็แค่งอนตามประสาเด็กๆก็เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากนักหรอก”

แน่ใจหรือว่างอนตามประสาเด็กๆ แต่ไฉนอุ้มรักถึงทำหน้าบึ้งตึงขนาดนั้นเล่า...

อเล็กซ์แอบตำหนิเจย์อยู่ในใจเพราะเห็นหน้าอุ้มรักมีสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้ว่ากล่าวอะไรกลับไป

“ผ้าเย็นแล้ว เดี๋ยวอุ้มรักขอไปเปลี่ยนน้ำก่อนนะคะ” เด็กน้อยพูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับแขกไปพร้อมกับกะละมังน้ำในมือ

“ต้องขอโทษด้วยนะครับคุณอเล็กซ์ ที่ผมทำหน้าที่เจ้าบ้านได้ไม่ดีเลย” คนป่วยหันมาพูดต่อหลังจากอุ้มรักเดินออกไปข้างนอกห้องแล้ว

“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง” อเล็กซ์บอกปัดแต่ก็แอบสงสัยอาการป่วยของเจย์อยู่เนืองๆ “ว่าแต่จะไม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลหน่อยหรือครับ หน้าซีดเซียวขนาดนี้”

คนป่วยส่ายหน้าก่อนจะฝืนยิ้มตอบกลับมา

“พักหน่อยเดี๋ยวก็หายครับ ว่าแต่จะรีบกลับเลยหรือเปล่า ผมจะได้ให้น้องอาร์ทไปบอกอุ้มรักให้เตรียมตัวเก็บของขึ้นรถเดี๋ยวนี้”
“ทีแรกก็ว่าจะกลับเลยเหมือนกัน แต่ดูจากอาการของคุณแล้ว ผมว่าจะขออยู่ที่นี่ต่ออีกซัก...”

“อุ้มรักไม่กลับ!!” เสียงหวานแย้งขึ้นมาทันควัน ซึ่งทำเอาทุกคนถึงกับหันไปมอง ก่อนจะพากันตกใจเมื่อเห็นร่างบอบบางยืนจังก้าน้ำตาไหลอาบแก้ม “อุ้มรักจะไม่ทิ้งคุณพ่อเจย์ไปไหนเด็ดขาด อุ้มรักรู้นะคะ ว่าอาการป่วยของคุณพ่อเจย์ที่เป็นอยู่นี้ คืออาการของคนเป็นโรคหัวใจไม่ผิดแน่”

!!!!!!

“เอาอะไรมาพูดน่ะอุ้มรัก ไม่น่ารักเอาเสียเลยนะคะคนเก่ง” คนป่วยลุกขึ้นนั่งพูดทันที ซึ่งทำให้น้องอาร์ทกับลูกพีชรีบถลาเข้าไปช่วยพยุงให้ “คุณพ่อแค่เหนื่อยนิดหน่อย ไม่ได้เป็นโรคหัวใจเหมือนที่ลูกกล่าวหามาเลยนะ”

“อุ้มรักพูดความจริง และที่อุ้มรักรู้ก็เพราะอุ้มรักเรียนหมอมา”

“ว่ายังไงนะ?!” ทั้งเขาทั้งลูกพีชต่างร้องอุทานออกมาพร้อมๆกันด้วยความตกตะลึง เพราะตลอดที่ผ่านมาพวกเขาคิดว่าอุ้มรักไปเรียนต่อปริญญาตรีด้านบริหารที่ต่างประเทศ จึงให้เจ้าตัวไปฝึกงานกับพี่อลันที่บริษัทแทนที่จะไปฝึกงานที่บริษัทอื่น แต่นี่กลับปิดบังความจริงพวกเขาไม่ให้รู้มาโดยตลอด ส่วนเรื่องการไปฝึกงานกับพี่อลันนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง คงไม่ได้ฝึกตามที่เขาสั่งอย่างแน่นอน เพราะดันมีตัวช่วยมือดีอย่างพี่อลันคอยปิดบังเรื่องพวกนี้ด้วย

มิน่าล่ะ ถึงว่าฝึกงานอะไรไปตั้งสองสามปี ที่แท้ก็...

“เจย์” เสียงคนรักเขาเรียกชื่อคนป่วยอย่างเอาเรื่อง ดูท่าจะโมโหอยู่พอสมควรที่อีกฝ่ายปิดบังเรื่องสำคัญเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ โดยเฉพาะยิ่งน้องอาร์ท รายนี้ไม่พูดไม่ว่าอะไรก็จริง แต่กลับมองเจย์ด้วยสีหน้าหงอยเหงาปนตัดพ้อ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินหนีออกจากห้องไปเลยทันที “เรื่องสำคัญขนาดนี้ ทำไมต้องปิดบังกันด้วย เจย์เห็นพวกเราเป็นตัวอะไรกันแน่ ฮึก พวกเราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันนะ ฮึก...ฮึก ฮือๆ”

คนป่วยเห็นลูกพีชร้องไห้ก็ทำท่าจะเช็ดน้ำตาให้ แต่กลับชะงักมือไปเสียก่อน

“ขอโทษ...ที่ไม่ได้บอก แต่เจย์จำเป็นจริงๆ” แล้วคนป่วยก็หันหน้ามาทางเขา แววตาแม้จะอ่อนแสงเพราะอาการป่วยก็จริง แต่กลับมุ่งมั่นจนเขาต้องหันมามองตอบด้วย “คุณอเล็กซ์ ผมขอฝากอีกครั้ง เรื่องอุ้มรักกับลูกพีช อยากจะให้คุณช่วยดูแลพวกเขาแทนผมไปตลอดชั่วชีวิตได้หรือไม่ เพราะตอนนี้ชีวิตผมเองก็...แขวนอยู่บนเส้นด้าย จะตายวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ยังไม่รู้”

“เจย์!! ไม่เอานะไม่พูด ฮึก ไม่พูด ฮือๆ” ลูกพีชพูดห้ามปรามทั้งน้ำตา ซึ่งทำเอาเขาได้แต่ดึงคนรักมากอดไว้ในอ้อมอกของตัวเอง ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคนป่วยพร้อมกับคำตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“ได้สิครับ ผมขอสาบาน จะดูแลลูกพีชกับอุ้มรักแทนคุณเองครับคุณเจย์”

............................................

ห้าปีผ่านไป เจย์ก็ได้จากพวกเราไปอย่างเงียบๆด้วยโรคหัวใจที่ปิดบังพวกเรามานานอยู่พอสมควร แน่นอนว่าการจากไปของคนสำคัญทำให้ใครบางคนที่เคยอยู่เคียงข้างถึงกับพลอยเศร้า ซึ่งเจ้าตัวทนมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงปีก็ตายตามคนรักของตนไปอย่างสงบด้วยเช่นกัน เหลือแต่พวกเขาที่ยังคงดำเนินชีวิตกันต่อไป ถัดจากนั้นก็ตามด้วยคู่ของออยกับแบมที่จากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ช่างเป็นการสูญเสียที่พวกเราแทบไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้น คุณอลันพี่ชายของคุณอเล็กซ์ แม้ธุรกิจจะประสบความสำเร็จก็ตาม แต่ด้วยวัยที่ใกล้จะเกษียณ บวกกับอาชีพมาเฟียทำให้เขาต้องล้างมืออำลาจากวงการแล้วย้ายมาอยู่กับพวกเราที่ประเทศไทย ส่วนตำแหน่งหัวหน้ามาเฟียนั้นคุณอลันก็ได้ยกให้บุตรชายของตนที่เกิดจากการอุ้มบุญไปครอบครองแทน

“ว่ายังไงนะครับอุ้มรัก ลูกบอกว่าจะไปเป็นแพทย์อาสาที่ต่างประเทศงั้นหรือ!” เขาถึงกับร้องโพล่งออกมาด้วยความตกใจหลังจากที่ได้ทราบข่าวจากลูกสาวของตัวเอง ส่วนหญิงสาวที่บัดนี้อายุปาเข้าไปเลขสามแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววที่จะเข้าพิธีแต่งงาน พูดสั้นๆได้ว่าไม่มีคนรักเป็นตัวเป็นตนนั่นเอง

“ใช่แล้วค่ะคุณพ่อ อุ้มรักจะไปทำงานเป็นแพทย์อาสาที่ต่างประเทศค่ะ” อุ้มรักพยักหน้าตอบ ตอนนี้เธอโตมากพอที่จะไปใช้ชีวิตอยู่โลกภายนอกตามลำพังแล้ว “คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงไป อุ้มรักไปกับพวกเพื่อนๆที่ทำงานในโรงพยาบาลด้วยกันอยู่หลายคนค่ะ”

“แล้วจะไปทำงานที่นั่นกี่ปีล่ะ” อเล็กซ์กอดอกถามด้วยความเป็นห่วง แม้อุ้มรักจะโตมากพอที่จะปีกกล้าขาแข็งไปใช้ชีวิตข้างนอกแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังเห็นอุ้มรักเป็นเด็กน้อยอยู่วันยังค่ำ อุ้มรักได้ยินที่อเล็กซ์ถามก็พลันหันมาตอบคำถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า

“ไม่มีกำหนดค่ะแด๊ดดี้”

“ว่ายังไงนะ! ไม่มีกำหนด!!”

“ใช่แล้วค่ะคุณพ่อ ไม่มีกำหนด” อุ้มรักหันมาพูดย้ำกับลูกพีชอีกครั้ง ซึ่งทำเอาเขาเกือบจะเป็นลมไปทันทีที่ได้ยิน “อุ้มรักรักงานนี้ และจะไม่มีวันเปลี่ยนใจด้วยค่ะ”

“อุ้มรัก!!” ลูกพีชถึงกับลุกขึ้นยืน แต่ก็ต้องนั่งลงอีกครั้งเพราะโดนอเล็กซ์ดึงเอาไว้

“ใจเย็นๆครับที่รักใจเย็นๆ” เขาพูดปลอบคนรักอย่างใจเย็น ก่อนจะหันมาทางอุ้มรักต่อ “นอกจากจะรักงานนี้แล้ว ยังมีเหตุผลอื่นที่จะบอกอีกไหมอุ้มรัก”

“มีค่ะ อุ้มรัก...”

“อุ้มรัก พ่อขอล่ะครับ อย่าไปเลยนะ” ลูกพีชพูดขัดจังหวะทั้งน้ำตา อเล็กซ์ก็อยากจะเข้าข้างลูกพีชเหมือนกันแต่ก็ต้องให้ความยุติธรรมแก่ลูกสาวของตนอีกด้วย “คุณอเล็กซ์เองก็ช่วยพูดห้ามลูกบ้างสิครับ ฮึก...ฮึก ฮือๆ”

อเล็กซ์ใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว ทำให้คนที่คอยรอคำตอบถึงกับซบอกเขาร้องไห้เสียงสะอื้นดังลั่นห้อง ซึ่งเขาปล่อยให้ลูกพีชร้องไห้อยู่อย่างนั้นซักพัก ก่อนที่เจ้าตัวจะผล็อยหลับไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย

“ว่าเหตุผลของลูกมาอุ้มรัก ถ้ามันไม่ดีพอในสายตาแด๊ดดี้แล้วล่ะก็ แด๊ดดี้จะไม่อนุญาตเข้าใจใช่ไหม” อเล็กซ์ยื่นคำขาด ซึ่งอุ้มรักที่นั่งรอฟังเขาพูดถึงกับพยักหน้าตอบทันที

“เข้าใจค่ะแด๊ดดี้ เหตุผลที่อุ้มรักตัดสินไปทำงานที่นั่นก็เพราะว่า...”

...........................

ลูกพีชตื่นมาอีกครั้งก็พบกับความว่างเปล่า อุ้มรักได้ขึ้นเครื่องจากเขาไปแล้วอย่างไม่มีวันหวนกลับ ซึ่งเขาก็ไม่สามารถไปตามอุ้มรักให้กลับมาได้ เพราะคุณอเล็กซ์ไม่ยอมให้เขาไป

“ลูกพีชต้องปล่อยอุ้มรักไปนะครับ เพราะเด็กคนนั้นโตมากพอที่จะออกไปใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการแล้ว” คุณอเล็กซ์พูดกับเขาด้วยเหตุผลที่น่าฟังหลังจากเพียรพยายามกล่อมให้นอนอยู่หลายที “พี่รู้ว่าลูกพีชเป็นห่วงลูกมาก แต่จะให้อุ้มรักทำงานอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตไม่ได้นะครับ เขาก็มีหนทางของตัวเองที่ต้องก้าวเดินออกไป”

“หนทางอะไรกัน...ลูกพีช...ฮึก...ไม่เข้าใจ” ลูกพีชพูดไปส่ายหน้าไปพลาง ซึ่งทำให้อีกฝ่ายดึงเขาเข้าไปซบอยู่กับอกของตัวเอง ก่อนจะยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังเขาเบาๆไปด้วยพร้อมกัน

“หนทางที่เขาต้องการจะไปยังไงล่ะครับลูกพีช ก็เหมือนกับพี่ที่เคยมีหนทางของตัวเองมาก่อน ซึ่งตอนแรกพี่ก็ดำเนินชีวิตของตัวเองไปเรื่อยๆ แต่พอมาเจอกับลูกพีชแล้ว ทำให้พี่ตัดสินใจเปลี่ยนหนทางตัวเองที่จะเดินออกไปอีกทางทันที”

“เอ๋?” ลูกพีชเงยหน้ามองคนรักด้วยความตกตะลึง ก่อนที่อีกฝ่ายจะก้มหน้ามองเขาอย่างอ่อนโยน

“เพราะความรักทำให้พี่ตัดสินใจทิ้งทุกอย่างที่เคยเป็นของตัวเองมาอยู่ที่นี่กับลูกพีชยังไงล่ะครับ”

“เอ๋?!”

“ก็ไม่ต่างกับอุ้มรักที่เขาเลือกจะไปทำงานแพทย์อาสาที่นั่น ลูกพีชรู้ไหมครับว่านอกจากความรักในอาชีพการงานแล้ว อุ้มรักยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่เลือกจะไปทำด้วย” ลูกพีชได้ยินถึงกับส่ายหน้าไปมาทันที

ก็ใครจะไปรู้ล่ะ! ยังไม่ทันได้ถามก็ดันชิ่งหนีไปเสียก่อนเองนี่...

“เหตุผลที่อุ้มรักจะไปก็คือ...การไถ่บาปให้กับคุณเจย์ครับ”

“อะไรนะ? ไถ่บาปงั้นหรือครับ” เขาถึงกับอึ้งปนสงสัย “ไถ่บาปทำไมล่ะ”

แล้วอเล็กซ์ก็ได้เล่าเรื่องที่ลูกพีชไม่เคยรับรู้รับทราบมาก่อนให้ฟังทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งทำให้เขาถึงกับตกใจจนพูดไม่ออก เขาไม่คิดเลยว่าเจย์จะข่มขืนน้องอาร์ทเพียงเพราะแอบรักเขามาก่อน แถมนอกจากนี้เจย์เองก็ได้ไปข่มขืนเมย์จนท้องคลอดออกมาเป็นอุ้มรักอีกด้วย ครั้นจะกลับไปพูดขอโทษกับเจย์และน้องอาร์ทที่เขาเป็นตัวต้นเหตุก็ไม่ทันการ เพราะทั้งคู่ได้จากพวกเขาไปนานแล้ว

“ฮึก...ทำไม...ฮึก...ทำไมคุณอเล็กซ์ถึงพึ่งจะมาบอกลูกพีชเอาตอนนี้ล่ะครับ” ลูกพีชพูดไปร้องไห้ไปพลาง ถ้าให้ย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะย้อนกลับไปขอโทษสองคนนั้นที่เป็นตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ส่วนคุณอเล็กซ์เห็นเขาถามก็ก้มหน้าลงมามอง ก่อนจะใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาออกให้เบาๆด้วยความอ่อนโยน

“ก็เพราะมันถึงเวลาที่จะบอกแล้วยังไงล่ะครับ”

“ถึงเวลาแล้วงั้นหรือ?”

“ใช่แล้วครับ ถึงเวลา” อีกฝ่ายย้ำตอบก่อนจะดึงเขาเข้าไปสวมกอดอีกครั้ง “ลูกพีชไม่ต้องคิดมากนะครับ เพราะพี่เชื่อว่าคำขอโทษของลูกพีชจะต้องส่งไปถึงพวกเขาอย่างแน่นอน”

คำขอโทษของเขา...จะส่งไปถึงเจย์กับน้องอาร์ทได้...งั้นหรอกหรือเนี่ย

“ครับคุณอเล็กซ์ ลูกพีชจะไม่คิดมากอีกแล้ว” เขาหยีตายิ้มตอบ ซึ่งทำเอาอีกฝ่ายถึงกับยิ้มตามทันที

“ดีมากครับคนเก่ง แบบนี้ต้องให้รางวัลเสียหน่อยแล้ว”

“รางวัล? รางวัลอะไรหรือครับคุณอเล็กซ์” เขาถามด้วยความสงสัย ซึ่งคุณอเล็กซ์ไม่ได้ตอบคำถามเขา แต่กลับผลักร่างเขาให้ล้มตัวลงนอนบนเตียง ก่อนที่ตัวเองจะล้มตัวลงนอนตามด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์เพทุบาย

“ก็รางวัลสำหรับเด็กดีที่พูดรู้เรื่องแล้วยังไงล่ะครับ คืนนี้พี่ขอทั้งคืนนะที่รัก หึๆ”

“อ๊า...ม่ายน้าคุณอเล็กซ์!! ใครก็ได้ช่วยลูกพีชด้วยยยยยย!!”


......................................................

ปล.อวสานแล้วจ้า ขอบคุณสำหรับทุกๆท่านที่ติดตามนิยายเรื่องนี้มาโดยตลอด  เดี๋ยวจะมีตอนพิเศษของอลันพี่ชายอเล็กซ์ กะ อุ้มรักด้วยจ้า รอหน่อยน้า   :hao6: :hao7: :กอด1:
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-12-2015 10:12:52 โดย dragon123 »

ออฟไลน์ abcee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ยังไม่ได้อ่านตอนจบ แต่แวะมาขอบคุณคนแต่งก่อน อิอิอิ ขอบคุณนะครับที่แต่งเรื่องสนุกๆให้อ่าน^^ จะติดตามผลงานชิ้นต่อไปนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-01-2016 23:03:53 โดย abcee »

ออฟไลน์ Rabbitongrass

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ้าวจบซะเเล้ว ขอบคุณคนเขียนนะครับ เเอบเสียดายนะที่หลายช่วงของเรื่องมันดูเหมือนจะเร่งข้ามไปหน่อยดูว่ามันเหมือนมีจุดให้ใส่ลูกเล่นมากกว่านี้

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด