ตอนที่ 29 หนทางที่จะต้องก้าวเดินกันต่อไป...
......................................................................
“พ่อให้เรานอนค้างแค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้น”“คุณพ่อ!” อุ้มรักหรือลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาถึงกับทำท่าไม่พอใจในคำตอบ ก่อนจะเข้าไปกอดแขนออดอ้อนคนรักของเขาที่ยืนเกาหัวด้วยความมึนงง “คุณน้าช่วยอุ้มรักกล่อมคุณพ่อหน่อยสิคะ ว่าอุ้มรักจะย้ายมาอยู่ที่นี่...ตลอดไปไม่กลับไปหาคนหลอกลวงเลยด้วย”
“อุ้มรัก!!” เจย์ตวาดเสียงเข้มด้วยความโมโห แน่นอนว่าร่างบางถึงกับก้มหน้าหลบไปอยู่ด้านหลังด้วยความหวาดกลัวทันที
ให้ตายสิ ทำไมเป็นเด็กที่ดื้อขนาดนี้ก็ไม่รู้!!“นี่ก็ดึกมากแล้วอาร์ทว่าพี่เจย์ค่อยพูดค่อยจากันดีกว่าไหมครับ” อาร์ทรีบพูดห้ามปรามเพราะกลัวเสียงของทั้งคู่จะดังรบกวนชาวบ้านที่อยู่รอบข้าง เพราะตอนนี้พวกเขาไม่ได้พักอยู่ที่คอนโดหรู แต่เป็นบ้านที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเขากับพี่เจย์ล้วนๆ “เชื่ออาร์ทเถอะครับ นั่งพักให้หายเหนื่อย ดื่มน้ำเย็นๆ แล้วเราค่อยมานั่งคุยกัน...ตกลงนะครับ”
ทั้งเจย์ทั้งอุ้มรักมองหน้ากันก่อนจะหันมาพยักหน้าตอบตกลง ซึ่งทำเอาอาร์ทถึงกับหายใจโล่งคอ เพราะอย่างน้อยทั้งคู่ก็ยอมเชื่อฟังที่เขาพูดแต่โดยดี
สมแล้วที่เป็นพ่อลูกกัน...
เลือดร้อนเหมือนกันทั้งคู่ไม่มีผิด...“อุ้มรักครับ จะดื่มอะไรดีเอ่ย แต่น้าขอห้ามเรื่องน้ำอัดลมกาแฟเพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพ อ้อ รวมถึงของมึนเมาด้วย” เขาย้ำเสียงแข็ง เพราะไม่อยากให้เด็กคนนี้ได้แตะต้องของมึนเมาเหมือนกับพ่อของตัวเอง
“อะไรก็ได้ค่ะคุณน้า อุ้มรักดื่มได้หมดค่ะ” เจ้าตัวกอดอกพูดโดยไม่หันไปมองหน้าคนเป็นพ่อ ส่วนพี่เจย์เองก็ทำท่าคล้ายกัน ผิดตรงที่ร่างสูงลุกขึ้นเดินไปสูบบุหรี่อยู่ข้างนอกระเบียงแล้ว
“โอเคครับ งั้นน้าจะไปเอาน้ำส้มคั้นมาให้” อาร์ทยิ้มตอบพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหัวหลานสาวตัวเองด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองคนรักที่กำลังยืนสูบบุหรี่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “พี่เจย์ อาร์ทขอล่ะ เรื่องบุหรี่ให้มันเพลาๆลงบ้าง อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้วนะครับ”
คนถูกตำหนิหันมามองเขาทันที ก่อนจะขยี้บุหรี่ด้วยความหงุดหงิด แล้วหมุนตัวเดินกลับเข้ามาในบ้านนั่งลงบนเก้าอี้โซฟาตรงกันข้ามกับลูกสาวของตัวเองที่กำลังนั่งกอดอกอยู่
“พี่ขอน้ำมะนาวเย็นๆชื่นใจหน่อยแล้วกัน พอดีเปรี้ยวปากน่ะ”
“ได้ครับพี่เจย์ กรุณารอซักครู่” แล้วเขาลอบมองทั้งคู่ก่อนจะเดินออกจากห้องรับแขกไป
หวังว่าพวกเขาจะไม่ทะเลาะกันตอนที่ผมไม่อยู่ที่ห้องหรอกนะ.............................................
เช้าวันรุ่งขึ้นข่าวที่พวกผมรอคอยก็มาถึง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหลังจากที่เขาลุกขึ้นไปทำกับข้าวในขณะที่ลูกพีชยังคงนอนป่วยอยู่บนเตียง ก่อนจะรีบวิ่งไปรับสายเพราะเกรงว่าเมียสุดที่รักจะตื่นเสียก่อน
“ว่ายังไงครับคุณเจย์”
“นี่อาร์ทเองครับคุณอเล็กซ์” ปลายสายตอบแก้ความเข้าใจผิด
“อาร์ทว่าคุณกับพี่พีชมารับลูกสาวที่บ้านจะดีกว่านะครับ เพราะดูท่าพี่เจย์กับอุ้มรักจะ...”อีกฝ่ายพูดยังไม่ทันจบดีปลายสายก็ถูกตัดเสียก่อน ซึ่งทำเอาอเล็กซ์หัวเสียจึงโทรกลับไปอีกครั้ง แต่ฝั่งนั่นก็ไม่มีวี่แววว่าจะรับสายเขาแม้แต่น้อย
สงสัยคงต้องไปที่นั่นแล้วจริงๆ...“อือ...ใครโทรมาเหรอครับคุณอเล็กซ์” ร่างบางในชุดนอนยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าห้องครัวกำลังยกมือขึ้นขยี้ตาตัวเองอย่างงัวเงีย ซึ่งทำเอาเขารีบปราดเข้าไปพยุงร่างบางเพราะกลัวว่าคนรักจะเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน “อื้อ ลูกพีชเดินเองได้ครับ ไม่ต้องช่วยหรอก”
“ไม่ได้ครับที่รัก เกิดที่รักเป็นอะไรขึ้นมา พี่คงขาดใจตายแน่ๆเลย” หลังจากพวกเขาสองคนได้แต่งงานกัน เขากับลูกพีชก็ได้ทำการตกลงเรื่องการใช้สรรพนามกันและกัน โดยที่เขาจะพูดแทนตัวเองว่าพี่ ส่วนลูกพีชก็ยังคงเรียกตัวเองว่าลูกพีชตามเดิม
“เมื่อครู่นี้คุณอเล็กซ์โทรคุยกับใครหรือครับ” เจ้าตัวพูดเข้าเรื่องหลังจากที่อเล็กซ์พานั่งเก้าอี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ใบหน้าจะไม่ค่อยแดงเท่าเมื่อคืนแต่ตัวยังรุมๆอยู่
“น้องอาร์ทน่ะครับ” เขาตอบก่อนจะพูดต่อ “เขาอยากให้เราไปรับอุ้มรัก แต่พี่เป็นห่วงเรา เกรงว่าถ้าเดินทางไปๆมาๆ จะทำให้เป็นไข้หนักยิ่งกว่าเก่าได้”
“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับคุณอเล็กซ์ เพื่ออุ้มรักแล้วแค่นี้ลูกพีชทนได้” เจ้าตัวเถียงค้านหัวชนฝา ซึ่งทำเอาอเล็กซ์ถึงกับเครียด “นะครับนะคุณอเล็กซ์ ลูกพีชอยากเจออุ้มรัก อยากพูดขอโทษแก อยากปรับความเข้าใจแกด้วย ถึงแม้อุ้มรักจะไม่ใช่ลูกของพวกเราจริง แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นเด็กที่พวกเราอุตส่าห์เลี้ยงขึ้นมาเองกับมือนะครับคุณอเล็กซ์”
“แต่พี่...” เขากำลังจะเถียงแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นน้ำตาของลูกพีชที่ไหลอาบแก้มอันนวลเนียน
ให้ตายสิ เจ้าลูกคนนี้ทำให้เมียเขาต้องหลั่งน้ำตาเป็นครั้งที่สอง!!“นะครับคุณอเล็กซ์” เจ้าตัวพูดเสียงอ้อนวอนอย่างสั่นเครือ
“ตกลงครับ ไปก็ไป” อเล็กซ์ยอมตอบตกลงแต่โดยดี ก่อนจะให้คนรักทานข้าวทานยากับผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกัน แล้วพากันขึ้นรถออกเดินทางไปยังบ้านของเจย์
.............................
“เก็บเสื้อผ้าซะ เดี๋ยวพวกเขาก็มารับลูกแล้ว”“ไม่!!” อุ้มรักค้านเสียงแข็ง เธอกอดรักกระเป๋าเสื้อผ้าแน่นราวกับกลัวคุณพ่อตนจะมายื้อแย่งไป “อุ้มรักจะอยู่ที่นี่ จะอยู่กับคุณพ่อ หรือว่าคุณพ่อรังเกียจอุ้มรัก ถึงได้พยายามขับไสไล่ส่งไปอยู่กับคนอื่นน่ะ”
“อุ้มรัก!!” เจย์ถึงกับอึ้ง เขาไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะกล้าพูดออกมาแบบนี้
“อุ้มรักแค่อยากอยู่กับคุณพ่อ มันผิดมากเลยหรือคะ!!” อุ้มรักเถียงกลับไปทั้งน้ำตา เธอไม่อยากจะกลับไปอยู่กับครอบครัวที่แสนจอมปลอมอีก ซึ่งคำตอบของเธอทำให้เจย์ถึงกับลมออกหู ใช้มือตบหน้าลูกสาวของตัวเองจนถึงกับหน้าหันไปอีกข้าง
“พี่เจย์!!” อาร์ทเดินเข้ามาเห็นเข้าพอดี จึงรีบรุดเข้ามาในห้องก่อนจะดึงร่างคนรักให้ออกห่างจากอุ้มรักเพราะเกรงว่าจะมีการตบตีอีก “พอเถอะครับ อย่าทะเลาะกันอีกเลย”
“มีคุณพ่อแบบนี้สู้ไม่มีจะดีกว่าอีก!!”
“อุ้มรัก!!” เจย์ตวาดเสียงใส่และทำท่าจะเข้าไปตบอีกครั้ง แต่หัวใจเกิดเต้นรัวผิดปกติ ทำเอาร่างสูงถึงกับงอเข่าทรุดลงไปนั่งกับพื้นท่ามกลางความตกใจของอุ้มรักกับอาร์ท
“คุณพ่อ! / พี่เจย์!!”
“ไม่เป็นอะไรมากหรอก ไม่ต้องตกใจ” เจย์ยกมือขึ้นห้ามทั้งคู่ ก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืนโดยมีอาร์ทกับอุ้มรักคอยช่วยพยุงขึ้นนั่งบนเก้าอี้โซฟาอีกที อันที่จริงเขาแอบปิดไม่ให้ใครรู้ เรื่องที่เขาเป็นโรคหัวใจ
มันคงถึงเวลาแล้วที่เขาต้องชดใช้กรรมที่ตัวเองเป็นคนก่อ...“อาร์ทว่าพี่เจย์ไปหาหมอจะดีกว่านะครับ เผื่อเป็นอะไรขึ้นมา คุณหมอจะได้...”
“พี่สบายดี อาร์ทไม่ต้องเป็นห่วง” เจย์ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องเป็นห่วงจึงรีบบอกเอาไว้ก่อน ก่อนจะหันไปมองลูกสาวของตนที่มีสีหน้าเคร่งเครียดแกมกังวล “อุ้มรัก พ่อขออะไรอุ้มรักซักข้อจะได้ไหม”
“อะไรคะคุณพ่อ ทำไมคุณพ่อต้องพูดแบบนี้ด้วย อุ้มรักไม่เข้าใจ” อีกฝ่ายถามด้วยความมึนงง
“เถอะน่า เชื่อพ่อสิ”
“ก็ได้ค่ะ เชิญคุณพ่อว่ามาได้เลย” เจ้าตัวยอมลงหนึ่งก้าว ซึ่งทำให้เขาถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก “แต่ถ้ามันยากเหนือบ่ากว่าแรง อุ้มรักจะพิจารณาอีกที”
“อุ้มรัก”
“ก็ได้ค่ะ อุ้มรักจะทำตามที่คุณพ่อสั่ง” เจ้าตัวยอมแต่โดยดี ในขณะที่คนรักของเขามีสีหน้าเป็นกังวลแต่ก็ไม่ได้ถามคำถามอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
สมแล้วที่อยู่ด้วยกันมาหลายปี...
รู้ใจเขาไปเสียหมด...เจย์ยิ้มให้กับความคิดของตัวเองก่อนจะเอ่ยคำขอกับลูกสาวตัวเองว่า
“ถ้าอุ้มรักรักพ่อแล้วล่ะก็ ช่วยกลับไปอยู่กับคุณอเล็กซ์กับลูกพีชเหมือนเดิมเถอะนะ”.................................
“ที่รักตื่นได้แล้วครับ ถึงบ้านคุณเจย์แล้วนะครับ”“อือ ถึงแล้วหรือครับคุณอเล็กซ์” ลูกพีชพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เนื่องจากระยะทางจากบ้านพวกเขากับบ้านของเจย์ค่อนข้างไกล ทำให้ต้องใช้เวลาในการเดินทางอยู่พอสมควร “ขอโทษด้วยนะครับที่ลูกพีชหลับ ไม่ได้อยู่คุยตอนคุณขับรถเลย”
อเล็กซ์ได้ยินดังนั้นก็หอมแก้มหน้าผากคนขี้เซาเบาๆ ก่อนจะผละหน้าออกมาส่งยิ้มให้
“ไม่เป็นไรครับที่รัก แค่นี้เอง” เมื่อลงจากรถพวกเขาก็พบกับน้องอาร์ทยืนรออยู่หน้าประตูทางเข้าบ้านแล้ว “ขอโทษที่ให้คอยนาน พอดีวันนี้ในเมืองรถติดเยอะน่ะ ว่าแต่อุ้มรักกับคุณเจย์เป็นยังไงบ้าง”
อเล็กซ์พูดตอบก่อนจะถามด้วยความสงสัย เพราะตอนคุยกันทางโทรศัพท์นั้นเขายังฟังไม่ได้ศัพท์ สายก็ชิงตัดไปเสียก่อน ส่วนน้องอาร์ทที่เดินนำพวกเขาเข้าไปในบ้านก็หยุดเดินทันที ก่อนจะหันมาตอบคำถามของเขาด้วยสีหน้าซีดเซียว
“พอดีคุณเจย์...เอาเป็นว่าคุณอเล็กซ์กับพี่พีชเข้าไปเห็นก็จะรู้เองแหละฮะ”
“เอ๋?” ทั้งเขาทั้งลูกพีชต่างร้องอุทานพร้อมๆกัน ครั้นเดินเข้าไปในห้องรับแขก กุญแจรถยนต์ถึงกับต้องหล่นกับพื้นไปทันทีที่เห็นร่างคุ้นตานอนหน้าซีดอยู่บนเก้าอี้โซฟาตัวยาว ในขณะที่อุ้มรักนั่งอยู่ข้างกายเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้กับคนป่วยอยู่พอดี
“เจย์!” เขานึกไว้แล้วว่าลูกพีชจะต้องถลาเข้าไปหาลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง จึงก้มลงเก็บกุญแจรถที่ทำตกกับพื้นขึ้นมาเก็บใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้โซฟาอีกตัวที่ว่างอยู่ “เป็นอะไรไป ทำไมถึงนอนซมแบบนี้ล่ะ ทำไมไม่ไปโรงพยาบาลล่ะ”
คนป่วยได้ยินที่ลูกพีชพูดก็พลันลืมตาขึ้นส่งยิ้มหวานให้
“พอดีรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยน่ะ ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับลูกพีช” เพราะอีกฝ่ายเป็นลูกพี่ลูกน้องของคนรักตน แถมอีกฝ่ายก็แต่งงานมีคนรักเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว อเล็กซ์จึงไม่เกิดความหึงหวงเมื่ออีกฝ่ายเรียกสรรพนามเมียของเขาอย่างสนิทสนมเหมือนกับที่เขาเรียกอยู่ทุกวันนี้ “เจย์คุยกับอุ้มรักเรียบร้อยแล้วนะ เขาก็แค่งอนตามประสาเด็กๆก็เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากนักหรอก”
แน่ใจหรือว่างอนตามประสาเด็กๆ แต่ไฉนอุ้มรักถึงทำหน้าบึ้งตึงขนาดนั้นเล่า...อเล็กซ์แอบตำหนิเจย์อยู่ในใจเพราะเห็นหน้าอุ้มรักมีสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้ว่ากล่าวอะไรกลับไป
“ผ้าเย็นแล้ว เดี๋ยวอุ้มรักขอไปเปลี่ยนน้ำก่อนนะคะ” เด็กน้อยพูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับแขกไปพร้อมกับกะละมังน้ำในมือ
“ต้องขอโทษด้วยนะครับคุณอเล็กซ์ ที่ผมทำหน้าที่เจ้าบ้านได้ไม่ดีเลย” คนป่วยหันมาพูดต่อหลังจากอุ้มรักเดินออกไปข้างนอกห้องแล้ว
“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง” อเล็กซ์บอกปัดแต่ก็แอบสงสัยอาการป่วยของเจย์อยู่เนืองๆ “ว่าแต่จะไม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลหน่อยหรือครับ หน้าซีดเซียวขนาดนี้”
คนป่วยส่ายหน้าก่อนจะฝืนยิ้มตอบกลับมา
“พักหน่อยเดี๋ยวก็หายครับ ว่าแต่จะรีบกลับเลยหรือเปล่า ผมจะได้ให้น้องอาร์ทไปบอกอุ้มรักให้เตรียมตัวเก็บของขึ้นรถเดี๋ยวนี้”
“ทีแรกก็ว่าจะกลับเลยเหมือนกัน แต่ดูจากอาการของคุณแล้ว ผมว่าจะขออยู่ที่นี่ต่ออีกซัก...”
“อุ้มรักไม่กลับ!!” เสียงหวานแย้งขึ้นมาทันควัน ซึ่งทำเอาทุกคนถึงกับหันไปมอง ก่อนจะพากันตกใจเมื่อเห็นร่างบอบบางยืนจังก้าน้ำตาไหลอาบแก้ม “อุ้มรักจะไม่ทิ้งคุณพ่อเจย์ไปไหนเด็ดขาด อุ้มรักรู้นะคะ ว่าอาการป่วยของคุณพ่อเจย์ที่เป็นอยู่นี้ คืออาการของคนเป็นโรคหัวใจไม่ผิดแน่”
!!!!!!“เอาอะไรมาพูดน่ะอุ้มรัก ไม่น่ารักเอาเสียเลยนะคะคนเก่ง” คนป่วยลุกขึ้นนั่งพูดทันที ซึ่งทำให้น้องอาร์ทกับลูกพีชรีบถลาเข้าไปช่วยพยุงให้ “คุณพ่อแค่เหนื่อยนิดหน่อย ไม่ได้เป็นโรคหัวใจเหมือนที่ลูกกล่าวหามาเลยนะ”
“อุ้มรักพูดความจริง และที่อุ้มรักรู้ก็เพราะอุ้มรักเรียนหมอมา”
“ว่ายังไงนะ?!” ทั้งเขาทั้งลูกพีชต่างร้องอุทานออกมาพร้อมๆกันด้วยความตกตะลึง เพราะตลอดที่ผ่านมาพวกเขาคิดว่าอุ้มรักไปเรียนต่อปริญญาตรีด้านบริหารที่ต่างประเทศ จึงให้เจ้าตัวไปฝึกงานกับพี่อลันที่บริษัทแทนที่จะไปฝึกงานที่บริษัทอื่น แต่นี่กลับปิดบังความจริงพวกเขาไม่ให้รู้มาโดยตลอด ส่วนเรื่องการไปฝึกงานกับพี่อลันนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง คงไม่ได้ฝึกตามที่เขาสั่งอย่างแน่นอน เพราะดันมีตัวช่วยมือดีอย่างพี่อลันคอยปิดบังเรื่องพวกนี้ด้วย
มิน่าล่ะ ถึงว่าฝึกงานอะไรไปตั้งสองสามปี ที่แท้ก็...“เจย์” เสียงคนรักเขาเรียกชื่อคนป่วยอย่างเอาเรื่อง ดูท่าจะโมโหอยู่พอสมควรที่อีกฝ่ายปิดบังเรื่องสำคัญเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ โดยเฉพาะยิ่งน้องอาร์ท รายนี้ไม่พูดไม่ว่าอะไรก็จริง แต่กลับมองเจย์ด้วยสีหน้าหงอยเหงาปนตัดพ้อ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินหนีออกจากห้องไปเลยทันที “เรื่องสำคัญขนาดนี้ ทำไมต้องปิดบังกันด้วย เจย์เห็นพวกเราเป็นตัวอะไรกันแน่ ฮึก พวกเราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันนะ ฮึก...ฮึก ฮือๆ”
คนป่วยเห็นลูกพีชร้องไห้ก็ทำท่าจะเช็ดน้ำตาให้ แต่กลับชะงักมือไปเสียก่อน
“ขอโทษ...ที่ไม่ได้บอก แต่เจย์จำเป็นจริงๆ” แล้วคนป่วยก็หันหน้ามาทางเขา แววตาแม้จะอ่อนแสงเพราะอาการป่วยก็จริง แต่กลับมุ่งมั่นจนเขาต้องหันมามองตอบด้วย “คุณอเล็กซ์ ผมขอฝากอีกครั้ง เรื่องอุ้มรักกับลูกพีช อยากจะให้คุณช่วยดูแลพวกเขาแทนผมไปตลอดชั่วชีวิตได้หรือไม่ เพราะตอนนี้ชีวิตผมเองก็...แขวนอยู่บนเส้นด้าย จะตายวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ยังไม่รู้”
“เจย์!! ไม่เอานะไม่พูด ฮึก ไม่พูด ฮือๆ” ลูกพีชพูดห้ามปรามทั้งน้ำตา ซึ่งทำเอาเขาได้แต่ดึงคนรักมากอดไว้ในอ้อมอกของตัวเอง ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคนป่วยพร้อมกับคำตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ได้สิครับ ผมขอสาบาน จะดูแลลูกพีชกับอุ้มรักแทนคุณเองครับคุณเจย์”............................................
ห้าปีผ่านไป เจย์ก็ได้จากพวกเราไปอย่างเงียบๆด้วยโรคหัวใจที่ปิดบังพวกเรามานานอยู่พอสมควร แน่นอนว่าการจากไปของคนสำคัญทำให้ใครบางคนที่เคยอยู่เคียงข้างถึงกับพลอยเศร้า ซึ่งเจ้าตัวทนมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงปีก็ตายตามคนรักของตนไปอย่างสงบด้วยเช่นกัน เหลือแต่พวกเขาที่ยังคงดำเนินชีวิตกันต่อไป ถัดจากนั้นก็ตามด้วยคู่ของออยกับแบมที่จากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ช่างเป็นการสูญเสียที่พวกเราแทบไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้น คุณอลันพี่ชายของคุณอเล็กซ์ แม้ธุรกิจจะประสบความสำเร็จก็ตาม แต่ด้วยวัยที่ใกล้จะเกษียณ บวกกับอาชีพมาเฟียทำให้เขาต้องล้างมืออำลาจากวงการแล้วย้ายมาอยู่กับพวกเราที่ประเทศไทย ส่วนตำแหน่งหัวหน้ามาเฟียนั้นคุณอลันก็ได้ยกให้บุตรชายของตนที่เกิดจากการอุ้มบุญไปครอบครองแทน
“ว่ายังไงนะครับอุ้มรัก ลูกบอกว่าจะไปเป็นแพทย์อาสาที่ต่างประเทศงั้นหรือ!” เขาถึงกับร้องโพล่งออกมาด้วยความตกใจหลังจากที่ได้ทราบข่าวจากลูกสาวของตัวเอง ส่วนหญิงสาวที่บัดนี้อายุปาเข้าไปเลขสามแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววที่จะเข้าพิธีแต่งงาน พูดสั้นๆได้ว่าไม่มีคนรักเป็นตัวเป็นตนนั่นเอง
“ใช่แล้วค่ะคุณพ่อ อุ้มรักจะไปทำงานเป็นแพทย์อาสาที่ต่างประเทศค่ะ” อุ้มรักพยักหน้าตอบ ตอนนี้เธอโตมากพอที่จะไปใช้ชีวิตอยู่โลกภายนอกตามลำพังแล้ว “คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงไป อุ้มรักไปกับพวกเพื่อนๆที่ทำงานในโรงพยาบาลด้วยกันอยู่หลายคนค่ะ”
“แล้วจะไปทำงานที่นั่นกี่ปีล่ะ” อเล็กซ์กอดอกถามด้วยความเป็นห่วง แม้อุ้มรักจะโตมากพอที่จะปีกกล้าขาแข็งไปใช้ชีวิตข้างนอกแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังเห็นอุ้มรักเป็นเด็กน้อยอยู่วันยังค่ำ อุ้มรักได้ยินที่อเล็กซ์ถามก็พลันหันมาตอบคำถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า
“ไม่มีกำหนดค่ะแด๊ดดี้”
“ว่ายังไงนะ! ไม่มีกำหนด!!”
“ใช่แล้วค่ะคุณพ่อ ไม่มีกำหนด” อุ้มรักหันมาพูดย้ำกับลูกพีชอีกครั้ง ซึ่งทำเอาเขาเกือบจะเป็นลมไปทันทีที่ได้ยิน “อุ้มรักรักงานนี้ และจะไม่มีวันเปลี่ยนใจด้วยค่ะ”
“อุ้มรัก!!” ลูกพีชถึงกับลุกขึ้นยืน แต่ก็ต้องนั่งลงอีกครั้งเพราะโดนอเล็กซ์ดึงเอาไว้
“ใจเย็นๆครับที่รักใจเย็นๆ” เขาพูดปลอบคนรักอย่างใจเย็น ก่อนจะหันมาทางอุ้มรักต่อ “นอกจากจะรักงานนี้แล้ว ยังมีเหตุผลอื่นที่จะบอกอีกไหมอุ้มรัก”
“มีค่ะ อุ้มรัก...”
“อุ้มรัก พ่อขอล่ะครับ อย่าไปเลยนะ” ลูกพีชพูดขัดจังหวะทั้งน้ำตา อเล็กซ์ก็อยากจะเข้าข้างลูกพีชเหมือนกันแต่ก็ต้องให้ความยุติธรรมแก่ลูกสาวของตนอีกด้วย “คุณอเล็กซ์เองก็ช่วยพูดห้ามลูกบ้างสิครับ ฮึก...ฮึก ฮือๆ”
อเล็กซ์ใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว ทำให้คนที่คอยรอคำตอบถึงกับซบอกเขาร้องไห้เสียงสะอื้นดังลั่นห้อง ซึ่งเขาปล่อยให้ลูกพีชร้องไห้อยู่อย่างนั้นซักพัก ก่อนที่เจ้าตัวจะผล็อยหลับไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย
“ว่าเหตุผลของลูกมาอุ้มรัก ถ้ามันไม่ดีพอในสายตาแด๊ดดี้แล้วล่ะก็ แด๊ดดี้จะไม่อนุญาตเข้าใจใช่ไหม” อเล็กซ์ยื่นคำขาด ซึ่งอุ้มรักที่นั่งรอฟังเขาพูดถึงกับพยักหน้าตอบทันที
“เข้าใจค่ะแด๊ดดี้ เหตุผลที่อุ้มรักตัดสินไปทำงานที่นั่นก็เพราะว่า...”...........................
ลูกพีชตื่นมาอีกครั้งก็พบกับความว่างเปล่า อุ้มรักได้ขึ้นเครื่องจากเขาไปแล้วอย่างไม่มีวันหวนกลับ ซึ่งเขาก็ไม่สามารถไปตามอุ้มรักให้กลับมาได้ เพราะคุณอเล็กซ์ไม่ยอมให้เขาไป
“ลูกพีชต้องปล่อยอุ้มรักไปนะครับ เพราะเด็กคนนั้นโตมากพอที่จะออกไปใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการแล้ว” คุณอเล็กซ์พูดกับเขาด้วยเหตุผลที่น่าฟังหลังจากเพียรพยายามกล่อมให้นอนอยู่หลายที “พี่รู้ว่าลูกพีชเป็นห่วงลูกมาก แต่จะให้อุ้มรักทำงานอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตไม่ได้นะครับ เขาก็มีหนทางของตัวเองที่ต้องก้าวเดินออกไป”
“หนทางอะไรกัน...ลูกพีช...ฮึก...ไม่เข้าใจ” ลูกพีชพูดไปส่ายหน้าไปพลาง ซึ่งทำให้อีกฝ่ายดึงเขาเข้าไปซบอยู่กับอกของตัวเอง ก่อนจะยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังเขาเบาๆไปด้วยพร้อมกัน
“หนทางที่เขาต้องการจะไปยังไงล่ะครับลูกพีช ก็เหมือนกับพี่ที่เคยมีหนทางของตัวเองมาก่อน ซึ่งตอนแรกพี่ก็ดำเนินชีวิตของตัวเองไปเรื่อยๆ แต่พอมาเจอกับลูกพีชแล้ว ทำให้พี่ตัดสินใจเปลี่ยนหนทางตัวเองที่จะเดินออกไปอีกทางทันที”
“เอ๋?” ลูกพีชเงยหน้ามองคนรักด้วยความตกตะลึง ก่อนที่อีกฝ่ายจะก้มหน้ามองเขาอย่างอ่อนโยน
“เพราะความรักทำให้พี่ตัดสินใจทิ้งทุกอย่างที่เคยเป็นของตัวเองมาอยู่ที่นี่กับลูกพีชยังไงล่ะครับ”
“เอ๋?!”
“ก็ไม่ต่างกับอุ้มรักที่เขาเลือกจะไปทำงานแพทย์อาสาที่นั่น ลูกพีชรู้ไหมครับว่านอกจากความรักในอาชีพการงานแล้ว อุ้มรักยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่เลือกจะไปทำด้วย” ลูกพีชได้ยินถึงกับส่ายหน้าไปมาทันที
ก็ใครจะไปรู้ล่ะ! ยังไม่ทันได้ถามก็ดันชิ่งหนีไปเสียก่อนเองนี่...“เหตุผลที่อุ้มรักจะไปก็คือ...การไถ่บาปให้กับคุณเจย์ครับ”
“อะไรนะ? ไถ่บาปงั้นหรือครับ” เขาถึงกับอึ้งปนสงสัย “ไถ่บาปทำไมล่ะ”
แล้วอเล็กซ์ก็ได้เล่าเรื่องที่ลูกพีชไม่เคยรับรู้รับทราบมาก่อนให้ฟังทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งทำให้เขาถึงกับตกใจจนพูดไม่ออก เขาไม่คิดเลยว่าเจย์จะข่มขืนน้องอาร์ทเพียงเพราะแอบรักเขามาก่อน แถมนอกจากนี้เจย์เองก็ได้ไปข่มขืนเมย์จนท้องคลอดออกมาเป็นอุ้มรักอีกด้วย ครั้นจะกลับไปพูดขอโทษกับเจย์และน้องอาร์ทที่เขาเป็นตัวต้นเหตุก็ไม่ทันการ เพราะทั้งคู่ได้จากพวกเขาไปนานแล้ว
“ฮึก...ทำไม...ฮึก...ทำไมคุณอเล็กซ์ถึงพึ่งจะมาบอกลูกพีชเอาตอนนี้ล่ะครับ” ลูกพีชพูดไปร้องไห้ไปพลาง ถ้าให้ย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะย้อนกลับไปขอโทษสองคนนั้นที่เป็นตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ส่วนคุณอเล็กซ์เห็นเขาถามก็ก้มหน้าลงมามอง ก่อนจะใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาออกให้เบาๆด้วยความอ่อนโยน
“ก็เพราะมันถึงเวลาที่จะบอกแล้วยังไงล่ะครับ”
“ถึงเวลาแล้วงั้นหรือ?”
“ใช่แล้วครับ ถึงเวลา” อีกฝ่ายย้ำตอบก่อนจะดึงเขาเข้าไปสวมกอดอีกครั้ง “ลูกพีชไม่ต้องคิดมากนะครับ เพราะพี่เชื่อว่าคำขอโทษของลูกพีชจะต้องส่งไปถึงพวกเขาอย่างแน่นอน”
คำขอโทษของเขา...จะส่งไปถึงเจย์กับน้องอาร์ทได้...งั้นหรอกหรือเนี่ย“ครับคุณอเล็กซ์ ลูกพีชจะไม่คิดมากอีกแล้ว” เขาหยีตายิ้มตอบ ซึ่งทำเอาอีกฝ่ายถึงกับยิ้มตามทันที
“ดีมากครับคนเก่ง แบบนี้ต้องให้รางวัลเสียหน่อยแล้ว”
“รางวัล? รางวัลอะไรหรือครับคุณอเล็กซ์” เขาถามด้วยความสงสัย ซึ่งคุณอเล็กซ์ไม่ได้ตอบคำถามเขา แต่กลับผลักร่างเขาให้ล้มตัวลงนอนบนเตียง ก่อนที่ตัวเองจะล้มตัวลงนอนตามด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์เพทุบาย
“ก็รางวัลสำหรับเด็กดีที่พูดรู้เรื่องแล้วยังไงล่ะครับ คืนนี้พี่ขอทั้งคืนนะที่รัก หึๆ”
“อ๊า...ม่ายน้าคุณอเล็กซ์!! ใครก็ได้ช่วยลูกพีชด้วยยยยยย!!”......................................................
ปล.อวสานแล้วจ้า ขอบคุณสำหรับทุกๆท่านที่ติดตามนิยายเรื่องนี้มาโดยตลอด เดี๋ยวจะมีตอนพิเศษของอลันพี่ชายอเล็กซ์ กะ อุ้มรักด้วยจ้า รอหน่อยน้า