ตอนที่ 20 ย้ายบ้าน 1
....................
ผมไม่รู้ว่าผมเป็นใครกันแน่ ตื่นมาก็พบกับความว่างเปล่า คิดยังไงก็คิดไม่ออก ถึงแม้จะมีคนมาบอกว่าผมเป็นใคร ทำอะไรที่ไหนอย่างไร มีพ่อมีแม่หรือเปล่าก็ตาม แต่ผมกลับครุ่นคิดถึงไออุ่นของชายร่างยักษ์คนนั้นที่เข้ามากอดผมในวันแรกที่ผมฟื้นคืนสติ มันช่างอบอุ่นจนผมรู้สึกโหยหาอย่างบอกไม่ถูก
“คุณเจย์ครับ ผู้ชายคนนั้น เอ่อ...” ผมเอ่ยปากถามหลังจากเข้าวันที่สี่ของการพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ผมรู้มาว่าตัวผมได้ถูกคนร้ายยิง แต่ไม่รู้ว่าถูกยิงด้วยสาเหตุใด เจย์ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องผมก็ไม่ได้เล่าให้ฟัง เพราะเจ้าตัวบอกกับผมว่าถึงรู้ไปก็เปล่าประโยชน์ ส่วนคนร้ายที่ยิงผมนั้นได้เข้าคุกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “...คุณอเล็กซ์เซย์เป็นใครเหรอครับ”
ผมถามด้วยความสงสัย เพราะคนนั้นมาหาผมแค่วันแรกวันเดียว จากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลย
“ก็เป็นคนที่ช่วยพีชตอนถูกยิงแล้วจมน้ำนะ ว่าแต่ลูกพีชจะถามไปทำไมกันล่ะ?” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดใจ ต่างจากทุกทีที่พูดกับผมด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
แปลก?“อ้อ ไม่มีอะไรหรอกครับคุณเจย์ ผมก็แค่ถามดูเฉยๆ”
“อย่าเรียกฉันว่าคุณนำหน้าสิพีช เรียกเจย์สิเรียกเจย์”
“ครับเจย์” แล้ววันถัดมาคุณพ่อคุณแม่ของเจย์ก็มาเยี่ยมผม (เจย์เป็นคนบอกล่วงหน้าครับว่าพวกท่านจะมา) ทีแรกผมมองพวกเขาด้วยความสงสัย เพราะจำไม่ได้ว่าพวกเขาเป็นใคร แน่นอนว่าคุณแม่ของเจย์ถึงกับร้องไห้ทันทีที่เห็นผม “อย่าร้องสิครับคุณเอ่อ น้า”
“เรียกแม่เถอะจ้ะลูกพีช” คุณแม่พูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นไห้
“ใช่ลูกพีช เรียกพ่อกับแม่เถอะ” คุณพ่อเจย์เม้มปากพูด “ไว้หายดีแล้ว กลับบ้านเราเถอะลูกพีช”
“นั่นสิลูกพีช กลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดกับพ่อแม่นะ เรื่องร้านดอกไม้ช่างมันเถอะ เดี๋ยวแม่ตั้งใหม่ให้ทีหลังถ้าลูกพีชอยากเปิดอีก” คุณแม่พูดเสริมต่อ แต่ผมไม่ได้ให้คำตอบกับท่านไป เพราะลึกๆผมไม่อยากไปไหน อยากอยู่เจอผู้ชายร่างยักษ์คนนั้นเสียมากกว่า เมื่อพวกท่านเห็นว่าผมไม่ตอบ ก็ขอตัวกลับต่างจังหวัดเพราะต้องกลับไปทำงานต่อ หลังจากพวกท่านกลับไปแล้ว ก็มีคนมาเยี่ยมผมใหม่ครับ แต่เป็นออยกับน้องแบม (เจย์ได้บอกผมแล้วครับว่าสองคนนี้เป็นใคร)
“ฉันเอาขนมที่นายชอบมาด้วยพีช อ่ะ” ออยพูดพลางส่งถุงขนมให้ผม
“ขอบคุณครับคุณออย” ผมยิ้มตอบพลางยื่นมือรับถุงขนมที่อีกฝ่ายยื่นมาให้
“เฮ้ย ไม่ต้องพูดคงคุณ คนกันเองแท้ๆพีชนี่ก็” อีกฝ่ายบอกร้องเหวอเมื่อได้ยินที่ผมพูด แน่นอนว่าทำเอาน้องแบมถึงกับหัวเราะอย่างพอใจ
“ว่าแต่น้องอาร์ทล่ะครับ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ” ผมถามหาอีกคนที่เคยเห็นวันแรก
“เอ่อคือ” ทั้งออยทั้งแบมต่างมองหน้ากัน ซึ่งผมก็เอียงคอรอฟังคำตอบ
“น้องอาร์ทเขามีธุระ เห็นว่าติดงานนะพีช” เจย์พูดพลางเดินเข้ามาหาผม “เอาขนมมานี่ครับ เดี๋ยวเจย์แกะถุงใส่จานให้ พีชจะได้ทานขนมได้สะดวก”
แล้วเจ้าตัวก็หยิบถุงขนมในมือผมไปแกะใส่จานให้ ก่อนจะเดินกลับมาอีกที
“อย่ากินเยอะนะครับ เดี๋ยวจะกินข้าวเที่ยงไม่ได้” อีกฝ่ายบอกด้วยความหวังดี
“ครับเจย์” ผมยิ้มตอบก่อนจะหันไปชวนอีกสองคนที่ยืนอยู่ แต่เจ้าตัวปฏิเสธก่อนจะขอตัวกลับเพราะมีงานต้องทำ
..........................
พอตกกลางคืนเจย์ขอตัวกลับ เพราะเห็นบอกว่ามีงานต้องไปทำ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้อีกฝ่ายไปทำงานแต่โดยดี ส่วนผมก็นั่งดูโทรทัศน์แก้เซ็งจนเห็นว่าดึกพอสมควรแล้วจึงลุกขึ้นไปปิดไฟแล้วนอน แต่นอนไปได้ซักพัก เสียงประตูห้องก็ได้ถูกเปิดออกอีกครั้ง ทำเอาผมที่ยังไม่หลับลืมตาขึ้นมองไปยังทางประตู เห็นเงาดำใหญ่กำลังคืบคลานเข้ามา
“นั่นใครครับ” ผมถามด้วยความสงสัย แต่ยังไม่ได้ทันลุกขึ้นนั่งดี ก็ถูกเงานั้นสวมกอดทันที ผมก็ขัดขืนสิครับ คนแปลกหน้าที่ไหนไม่รู้มากอด “ปะ…ปล่อย…”
“ลูกพีชครับ นี่ผมเอง” อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ทำเอาผมที่ดิ้นอยู่ในอ้อมกอดถึงกับชะงัก
เสียงนี้มัน?“คุณ…คุณอเล็กซ์เซย์ใช่ไหมครับ!” ผมถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น รู้สึกดีใจมากที่ได้เจอกับผู้ชายคนนี้อีกครั้ง ถึงแม้ผมจะจำเขาไม่ได้ แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนตัวเองจะรู้จักและคุ้นเคยคนนี้เป็นอย่างดีมาก่อน “ผมรอคุณตั้งนาน ทำไมคุณถึงไม่ยอมกลับมาเยี่ยมผมบ้างเลย”
ร่างหนาได้ยินที่ผมพูดก็คลายกอดก่อนจะก้มหน้ามองผมด้วยสายตาอ่อนโยน
“พอดีผมมีงานที่จะต้องสะสางนะครับก็เลยไม่ว่างมาเยี่ยมคุณ” ไม่ว่าเปล่า ยังยกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมที่ปรกตาผมออกอีกด้วย “ถึงแม้ตอนนี้คุณจะจำผมไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะผมจะสร้างความทรงจำใหม่ระหว่างเราสองคนกับคุณเอง”
!!!!!!
“คุณกับผมเป็นอะไรกันแน่ครับอเล็กซ์” ผมถามด้วยความสงสัย เพราะดูจากการกระทำของอีกฝ่ายแล้ว มันมากเสียยิ่งกว่าคนรู้จักทั่วไป จะว่าเป็นพี่ก็ไม่ใช่หรือจะเป็นเพื่อนก็ไม่เชิง แถมผมกับเขาเป็นเพศเดียวกันอีกซะด้วย ซึ่งมันไม่ต่างจากคนรักเลยแม้แต่น้อย ทว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตอบคำถามผมเดี๋ยวนั้น กลับโน้มหน้าเข้ามาใกล้พลางประกบปากผมอย่างนิ่มนวล ก่อนจะผละออกมาตอบคำถามของผมว่า
“ผมกับคุณก็เป็นคนที่รักกันยังไงล่ะครับลูกพีช”
!!!!!!
.........................
ผมกลัวลูกพีชที่ปราศจากความทรงจำอยู่ที่โรงพยาบาลคนเดียวนานเกินไป จึงรีบมาที่โรงพยาบาลแต่เช้าตรู่ด้วยความเป็นห่วง ครั้นพอเข้าไปก็พบว่าอีกฝ่ายนอนหลับอยู่บนเตียง นับตั้งแต่วันที่อเล็กซ์มาเยี่ยมลูกพีชในวันนั้น ผมก็ห้ามไม่ให้อีกฝ่ายเข้ามาหาลูกพีชอีกเลย ซึ่งแน่นอนว่าไอ้ออยรู้เข้าก็ด่าใส่ผมเป็นชุด
“แทนที่จะให้เขามาคุยทบทวนความทรงจำเผื่อจะกลับคืนมา แต่นี่กลับแยกพวกเขาออกจากกัน มึงมันบ้าไอ้เจย์!”
“คนที่บ้าคือมึงตั้งหากไอ้ออย ถ้าไม่เป็นเพราะมัน พีชก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้หรอก รู้หรือเปล่าว่ากูเจ็บมากแค่ไหนที่ต้องทนเห็นพีชนอนอยู่ห้องไอซียูกับเห็นพีชต้องความจำเสื่อมเป็นครั้งที่สองนะห๊ะ!”
“ไอ้เจย์…มึง”
สุดท้ายผมกับมันก็ไม่พูดกันอีกเลย นอกเสียจากตอนอยู่ต่อหน้าพีชเท่านั้นที่จะคุยด้วยกันเป็นปกติ ส่วนน้องอาร์ทนั้นเจ้าตัวได้บอกว่าจะกลับไปนอนหอตามเดิม ซึ่งผมไม่ยอม เลยฝากน้องอาร์ทไว้กับไอ้ออยให้คอยดูแลตอนที่ผมอยู่เฝ้าพีชที่โรงพยาบาล
“อือ คุณเจย์ ไม่สิ เจย์มานานแล้วหรือครับ ทำไมไม่ปลุกพีชล่ะ” เสียงหวานถามอย่างงัวเงีย ทำเอาผมสะดุ้งตกใจนิดหน่อยก่อนจะหันไปยิ้มให้กับเจ้าตัว
“พอดีเจย์เห็นว่าพีชหลับสบาย ก็เลยไม่อยากรบกวนนะครับ”
“รบกวนอะไรเล่าเจย์ พีชนอนมากพอแล้ว ดูสิปวดเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวแย่เลย” ร่างบางพูดเสียงเง้างอน ซึ่งทำเอาผมถึงกับอดหัวเราะเสียมิได้ “อย่าหัวเราะพีชสิเจย์นี่”
เจ้าตัวบอกก่อนที่หมอนจะลอยพุ่งใส่หน้าผมเบาๆ คาดว่าคงเขินอายที่ผมหัวเราะใส่
“เอ้อพีชหิวแล้วหรือยังครับ เดี๋ยวเจย์เทโจ๊กใส่ชามให้”
“อือ พีชหิวแล้วครับเจย์” พอเห็นอีกฝ่ายบอกผมก็เดินถือถุงโจ๊กเข้าไปในห้องครัวเพื่อเทโจ๊กให้ ซึ่งระหว่างที่ผมเทโจ๊กใส่ชามอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงประตูห้องเปิด แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากเพราะคิดว่าน่าจะเป็นพยาบาลเข้ามาตรวจความดันตามหน้าที่ให้เฉยๆ เมื่อเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับมาอีกที ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นร่างบางถือช่อดอกไม้สีน้ำเงิน ผมซึ่งเคยทำงานอยู่กับพีชที่ร้านดอกไม้มานาน ดูปราดเดียวก็รู้เลยว่าช่อดอกไม้ที่พีชถือคือดอกอะไร “เจย์ๆ มาดูสิ มีคนให้ช่อดอกไม้กับพีชด้วย สวยไหมล่ะเจย์”
มันสวยมากถ้าเป็นดอกไม้อย่างอื่น แต่นี่กลับเป็นดอกฟอร์เก็ตมีนอท
อย่าลืมฉัน นั่นคือความหมายของช่อดอกไม้นี้
“สวยครับสวย” ผมกัดฟันพูด หวังว่าคนที่ส่งดอกไม้ช่อนี้จะไม่ใช่คนที่ผมคิด “ว่าแต่พีชรู้แล้วหรือยังว่าใครเป็นคนส่งมาให้”
“ยังไม่รู้เลย อ๊ะ เจอแล้ว เดี๋ยวพีชจะอ่านให้ฟังนะ” ร่างบางยิ้มเมื่อเห็นการ์ดอวยพรสีชมพู แต่พอเห็นข้อความบนแผ่นกระดาษแล้ว เจ้าตัวกลับหน้าแดงราวกับมะเขือเทศ “เอ่อเจย์ครับ พีชขอโทษนะ พีชขอไม่อ่านให้ฟังได้ไหม”
“ได้สิครับ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ” ผมฝืนยิ้มตอบกลับไปด้วยความขมขื่น ผมอยากจะบอกความในใจตัวเองให้อีกฝ่ายได้รับรู้เหมือนกันครับ แต่พอเอาเข้าจริงกลับไม่กล้า กลัวจะได้เห็นใบหน้าคนที่ตัวเองรักผิดหวังเมื่อได้ยินคำสารภาพรักของตัวเองออกไป แล้วร่างบางก็เอาช่อดอกไม้นี้ใส่แจกันที่อยู่ข้างเตียงก่อนจะจ้องมองดอกไม้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับเด็กน้อยที่เพิ่งจะรู้จักคำว่ารัก ทำเอาผมได้แต่ขบปากตัวเองมองด้วยความโมโห เพราะมันเป็นใบหน้าที่...
ผมไม่มีวันจะได้มาเป็นของตัวเอง....................
หายป่วยไวๆนะครับลูกพีช
From Alexeyการ์ดอวยพรที่ผมอ่านนั้นถึงแม้จะเป็นแค่ข้อความสั้นๆ แต่ผมกลับชอบมันจนต้องหยิบขึ้นมาดูหลายรอบ ส่วนดอกไม้ที่อีกฝ่ายให้มานั้นผมจัดใส่แจกันวางไว้ข้างหัวเตียง ซึ่งมองดูยังไงก็ไม่มีวันเบื่อครับ
“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยนะครับพี่พีช ใครให้ดอกไม้นั่นมาเหรอ” น้องแบมเอ่ยปากแซว วันนี้เจย์ไม่อยู่ครับ เห็นบอกว่ามีธุระที่ต้องออกไปทำข้างนอก ก็เลยให้น้องแบมกับออยมาอยู่เฝ้าเป็นเพื่อนผม
“อ้อ คุณอเล็กซ์ให้มานะครับน้องแบม” ผมยิ้มตอบกลับไปอย่างหน้าชื่นตาบานโดยไม่ทันสังเกตคนฟังที่สะดุ้งตกใจทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น “สวยใช่ไหมล่ะดอกฟอร์เก็ตมีนอทนะ”
ถึงผมจะความจำเสื่อมแต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ชื่อกับความหมายของดอกไม้นะครับ มันผุดขึ้นมาในหัวของผมเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งนั่นไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกสำหรับคนที่เคยขายดอกไม้อย่างผม ออยกับน้องแบมอยู่คุยกับผมได้ซักพักก็ต้องขอตัวกลับไปทำงาน เนื่องจากโดนที่บริษัทเรียกให้กลับไปแก้ไขงานของตัวเอง
“ขอโทษนะพีชที่ไม่ได้อยู่คุยเป็นเพื่อนด้วยนะ”
“ไม่เป็นไรครับออย รีบกลับไปเถอะ เดี๋ยวเขาจะว่าเอาได้นะ”
“อืม ถ้ามีอะไรก็ให้โทรเข้าเบอร์ออยได้เลยนะ”
“ครับออย” พอออยกับน้องแบมออกไปแล้ว ผมก็นั่งดูโทรทัศน์ต่อ แต่นั่งดูได้ไม่นานนัก เสียงประตูก็เปิดออกอีกครั้ง “ลืมของเหรอครับออย”
ผมนึกว่าออยก็เลยไม่หันไปดู แต่อีกฝ่ายกลับเงียบจนผมต้องหันไปดู แลเห็นผู้ชายแปลกหน้าสวมเสื้อยืดสีดำกางเกงยีนส์สวมหมวกแก๊ปปิดหน้าปิดตา
“ไม่ทราบว่าคุณเป็น…”
ผัวะ!“โอ๊ย!” ผมถามยังไม่ทันจบ ก็โดนอีกฝ่ายต่อยหน้าเสียก่อน แถมนอกจากนี้ยังโดนกระชากสายน้ำเกลือจนเลือดออก “อ๊ะ โอ๊ย อย่า อย่าทำผม”
ผมสู้สุดใจทั้งถีบทั้งเตะแต่ก็สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้
“เพราะมึง เพราะมึงคนเดียวไอ้พีช ถ้าไม่เป็นมึง เมย์ก็คงไม่ทิ้งกูไป” อีกฝ่ายตวาดเสียงใส่ก่อนจะผลักผมอย่างแรงจนตกเตียงเสียงดังโครม พอผมตกลงเตียงแล้ว ร่างสูงทำท่าจะมาต่อแต่กลับต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอก “หึ กูจะกลับมาหามึงใหม่ อย่าได้วิ่งแจ้นไปฟ้องไอ้เจย์หรือไอ้ฝรั่งนั่นอีก ไม่งั้นมึงตาย!”
แล้วอีกฝ่ายก็วิ่งออกจากนอกห้องไปอย่างรวดเร็ว
......................
ผมวิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปในห้องของพีชทันทีที่ทราบข่าวจากลูกน้องของตัวเอง ว่าลูกพีชโดนชายแปลกหน้าเข้าไปทำร้ายร่างกายถึงห้อง พอไปถึงผมก็วิ่งเข้าไปกอดร่างบางทันที
“ลูกพีช ผมขอโทษ ผมขอโทษที่ไม่ได้อยู่ข้างคุณ” ผมบอกด้วยน้ำเสียงลนลานก่อนจะผละออกมาสำรวจบาดแผลตามร่างกายของคนรัก “บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับที่รัก บอกผมมาสิ”
“ผมไม่เป็นไร แค่เจ็บนิดหน่อยเอง เดี๋ยวก็หายครับ” ร่างบางยิ้มตอบ
“ว่าแต่ลูกพีชเห็นหน้าคนร้ายไหม”
“ไม่ครับ พอดีผมหลับอยู่” ลูกพีชส่ายหน้าตอบ “รู้แต่ว่าถูกผลักตกจากเตียงแล้ว”
แล้วลูกพีชก็ขอตัวนอนต่อเพราะรู้สึกอ่อนเพลีย ส่วนผมก็ปล่อยให้ร่างบางนอนต่อไป ก่อนจะเดินออกมาข้างนอกห้อง โดยมีเรย์ที่เป็นเลขาของผมยืนคอยอยู่ข้างนอก
“ทำยังไงก็ได้ขอให้รู้ตัวคนร้าย จัดการลงโทษมันให้สาสม แต่อย่าเอาให้ถึงตายก็พอ”
“ครับคุณอเล็กซ์” แล้วเรย์ก็ขอตัวไปทำงานที่ผมสั่ง ส่วนผมก็เดินกลับเข้าไปหาคนรักพลางนั่งลงกุมมือคนป่วย ก่อนจะมองอีกฝ่ายด้วยความห่วงใย
ผมจะไม่ทิ้งคุณไปไหนอีกแล้วลูกพีช จะอยู่เคียงข้างคุณไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม…
ผมให้สัญญา…....................
“วันนี้พี่ไม่ไปหาพี่พีชเหรอฮะ”
ผมถามด้วยความสงสัย หลังจากพี่เจย์ขับรถมารับผมที่บริษัท เนื่องจากผมต้องเตรียมปิดหนังสือเพื่อจะตีพิมพ์นิยายที่ตัวเองเขียนออกมาเป็นรูปเล่ม โชคดีรุ่นพี่ที่เคยคิดจะข่มขืนผมนั้นได้ลาออกจากบริษัทไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมก็เลยไม่ต้องมาระแวงว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาทำร้ายได้อีก ส่วนร่างสูงที่กำลังขับรถเหล่ตามองผมเพียงแวบเดียวก่อนจะหันกลับไปมองถนนตรงหน้าตามเดิม
“ถ้าไปแล้วจะมารับเราได้หรือ” พี่เจย์ตอบเสียงเรียบ “ไม่ต้องเป็นห่วง พี่ได้ให้ออยกับแบมช่วยดูให้แล้ว ว่าแต่เราเถอะ จะไปหาพีชหรือจะกลับหอพักพี่เลยล่ะ”
“เอ่อ ขอกลับหอพักดีกว่าฮะ ผมเหนื่อย อยากจะพักผ่อน”
ไม่อยากเจอหน้าพี่พีชกับพี่เจย์ตอนคุยกัน…
“ตามใจเราแล้วกัน” พี่เจย์ตอบก่อนจะขับรถพาผมไปส่งที่หอพักตัวเอง เมื่อมาถึงแล้วผมกำลังจะลงจากรถ อีกฝ่ายกลับคว้ามือผมไว้เสียก่อน “ไม่ต้องรอนะ นอนไปได้เลย คืนนี้พี่จะนอนที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนพีชน่ะ”
!!!!!!
“แล้วเราน่ะจะร้องไห้ทำไมห๊ะ!” มือหนาบีบแรงขึ้นกว่าเดิม ทำเอาผมถึงกับตกใจ
“ผะ…ผะ…ผมเปล่าร้องไห้นะ!”
“ไม่ร้องแล้วน้ำตาที่ไหลมันคืออะไรกันล่ะ!” พี่เจย์ตวาดเสียงดุใส่ ก่อนจะกระชากผมเข้าไปใกล้
“โอ๊ย พี่เจย์ผมเจ็บนะ!”
“กูบอกให้ตอบก็ตอบมาสิ!” อีกฝ่ายเค้นเสียงถามก่อนจะใช้อีกมือบีบคางผมให้เชิดหน้าขึ้น “อ้อ ที่ทำเป็นร้องไห้นี่ก็คงคิดจะเรียกความสงสารให้กูนอนเป็นเพื่อนมึงสินะใช่ไหมไอ้อาร์ท”
“ผะ…ผมเปล่า”
“ดี! ถ้าอยากนอนกับกูมากนัก กูจะสนองให้”
!!!!!!
พูดจบอีกฝ่ายก็ลงจากรถแล้วรีบวิ่งวนอ้อมมาเปิดประตูรถฝั่งที่ผมนั่ง ก่อนจะกระชากผมลงจากรถอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าผมก็ขัดขืนสิครับ
“พี่เจย์จะทำอะไรผม!” พี่เจย์ไม่ตอบ กลับต่อยท้องผมอย่างแรง ทำเอาผมถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้นทันที “พะ…พี่…เจย์ ฮึก อย่า…ทำอะไรผม…เลย ฮึก…ผม…กลัวแล้ว”
อีกฝ่ายหาได้ฟังผมไม่ กลับช้อนตัวผมอุ้มพาดบ่าก่อนจะพาผมเดินเข้าไปในห้องพักของตัวเอง แน่นอนว่าการกระทำของพี่เจย์ทำให้พี่ยามวิ่งเข้ามาหา
“เรื่องของชาวบ้านอย่ามาเสือก” พี่เจย์หันไปดุใส่พี่ยาม ทำให้อีกฝ่ายยอมถอยกลับไปแต่โดยดี พอไปถึงห้องพักของพี่เจย์แล้ว อีกฝ่ายก็โยนผมลงเตียงทันที ส่วนผมนั้นพอได้สบโอกาสก็รีบลงจากเตียงเพื่อจะหนี แต่ก็หนีไม่ทันเพราะโดนพี่เจย์คว้าดึงกลับไปนอนบนเตียงต่ออย่างเดิม “จะหนีทำไม มึงอยากนอนกับกูมากนักไม่ใช่รึไงไอ้อาร์ท”
ผมทำท่าจะลุกขึ้นหนีต่อแต่ก็โดนพี่เจย์คร่อมตัวผมไว้เสียก่อน
“พี่เจย์…ปล่อยผมไปเถอะนะ ฮึก ผมขอ ฮึก ร้องล่ะ ฮือๆ”
“งั้นก็พูดมาสิว่ามึงร้องไห้ทำไม” พี่เจย์ถามเสียงเข้ม แต่แววตาดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
“ฮึก ฮึก ผม…ผม ฮึก ผมไม่รู้ฮะ” ผมตอบเสียงสะอื้นไห้ พยายามจะขยี้ตาแต่ก็โดนอีกฝ่ายขวางไว้เสียก่อน “ผมไม่รู้จริงๆฮะ ฮึกๆ ผมไม่รู้จริงๆ”
ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ พอได้ยินว่าพี่เจย์จะไปนอนเป็นเพื่อนพี่พีชที่โรงพยาบาลแล้ว กลับรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวที่หัวใจราวกับจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ
“เฮ้อ!” พี่เจย์ถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นผละออกจากตัวผมไปลงนั่งข้างเตียง “เอาเป็นว่าพี่ขอโทษเราแล้วกัน อยู่ที่นี่เป็นเด็กดี อย่าลืมกินข้าวกินยาด้วยล่ะ แล้วค่ำๆพี่จะกลับมานอนที่นี่ด้วย ถ้าใครมาก็อย่าเปิดให้เข้านะ”
“ฮึก ครับพี่เจย์ ฮึก”
“ดีมาก” พี่เจย์พูดพลางเอามือลูบหัวผมเบาๆ “เดี๋ยวจะซื้อขนมมาฝาก จะเอา…”
Rrr…
พี่เจย์ชะงักพูดก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดรับสาย
“มีอะไรวะไอ้ออย…ห๊ะ?! ว่ายังไงนะ พีชโดนคนเข้ามาลอบทำร้ายงั้นรึ”
!!!!!!...............
ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าในห้องคนป่วยไม่ได้มีเพียงแค่อเล็กเซย์เพียงคนเดียว กลับมีทั้งออยทั้งน้องแบม ทั้งเจย์ทั้งน้องอาร์ท เรียกได้ว่าครบทีมเลยทีเดียว
“เป็นไงบ้างพีช” ออยถามด้วยความเป็นห่วง ซึ่งผมยิ้มตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า
“เจ็บนิดหน่อยเองครับ เดี๋ยวก็หาย”
“พี่พีช ใครทำพี่พีช ผมจะไปเอาคืนมันให้สาสม” น้องแบมพูดด้วยความฉุนเฉียว ทำเอาผมนึกเอ็นดูน้องแบมที่ยังอุตส่าห์เป็นห่วงผม
“ไม่ต้องหรอกครับน้องแบม ปล่อยเขาไปเถอะ พี่ไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรมอีกแล้ว”
“พี่พีช” น้องแบมร้องคราง ในขณะที่น้องอาร์ทกับเจย์ยืนเงียบไม่ยอมเดินเข้ามาคุยกับผม
แปลกคน? “พอแค่นี้ได้แล้วนะครับ เพราะตอนนี้ก็ได้เวลาที่ลูกพีชต้องนอนพักผ่อน ไว้วันหลังค่อยมาเยี่ยมใหม่” อเล็กเซย์พูดตัดบท ซึ่งทำให้ทุกคนยอมกลับไปแต่โดยดี ทำให้ตอนนี้เหลือแต่ผมกับอเล็กเซย์ ทีแรกผมถามเจย์ว่าวันนี้ไม่ได้มานอนเป็นเพื่อนผมหรอกหรือ แต่เจย์กลับชิงตอบตัดหน้าว่าวันนี้มีงาน ก็เลยอยู่เป็นเพื่อนผมไม่ได้ “ลูกพีชครับ หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว คุณย้ายไปอยู่กับผมนะครับ”
“ย้ายไปอยู่กับอเล็กซ์เหรอฮะ”
“ใช่แล้วครับ” ร่างหนายิ้มตอบพลางนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง ก่อนจะจับมือผมไปกุมเอาไว้ “ย้ายไปอยู่กับผม ที่ผมให้คุณย้ายไปก็เพราะผมกลัวคุณจะไม่ปลอดภัย ไปอยู่กับผมนะครับคนดี”
!!!!!!
“ผมรักคุณนะลูกพีช ย้ายไปอยู่กับผมแบบถาวรเถอะนะ ผมจะได้อยู่ดูแลคุณไปตลอดชั่วชีวิต”
!!!!!!
“กะ…ก็ได้ครับอเล็กซ์ ผมตกลง” พอผมตอบตกลง อีกฝ่ายยิ้มก่อนจะเข้ามากอดเข้ามาหอมแก้มผมรัว ตบท้ายด้วยปากที่ทำเอาผมถึงกับไปไม่เป็น
“จุ๊บ ขอบคุณครับที่รัก ผมรักคุณมากที่สุดเลย”
“ลูกพีชก็รักอเล็กซ์เหมือนกัน อย่าทิ้งลูกพีชไปไหนอีกนะ” ผมเงยหน้าเพื่อท้วงคำสัญญา ซึ่งอีกฝ่ายก็ก้มยิ้มตอบกลับมาด้วยเช่นกัน
“ครับลูกพีช ผมจะไม่ทิ้งคุณไปไหนอีกแน่ๆ ผมให้สัญญา”
.......................
