“ปีกกล้าขาแข็งแล้วสินะ..ถึงได้ลาออกไปทำงานที่อื่น” ผมก้มหน้าลงไม่คิดจะเถียงอะไร “คิดว่าฉันเสียเงินส่งเธอเรียนไปเพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่เพื่อจะให้มาช่วยงานที่บริษัท”
“แม่..”
“คิดจะแก้ตัวอะไรแทนกันอีก”
ผมลาออกแล้วมาทำงานที่บริษัทเล็กๆ แถวคอนโดแล้ว..ออกมาโดยที่มันเองก็ไม่ได้ว่าหรือคัดค้านอะไร มีข้อแม้แค่ว่าผมจะต้องกลับให้ตรงเวลาก็เท่านั้น ตอนนี้มันเข้าใจอะไรง่ายขึ้น..ยอมฟังผมพูดมากขึ้น จนทำให้ผมไม่รู้สึกอึดอัดอะไรกับการที่ต้องอยู่ร่วมกับมันอีกแล้ว..
จะมีก็แต่แม่ของมันที่ดูไม่ค่อยพอใจนักที่ผมออกมาหางานทำเองแบบนี้..
“ผมแค่ยอมให้มันทำในสิ่งที่อยากทำ..”
“โดยไปทำงานให้คนอื่น..แทนที่จะคอยอยู่ช่วยผู้มีพระคุณงั้นเหรอ”
“เลิกพูดแบบนั้นสักทีเถอะครับแม่..”
“ใช่สิ..ฉันมันไม่มีสิทธิพูด ไม่มีสิทธิสั่งให้ใครทำอะไรได้อยู่แล้ว” ยิ่งพูด..เสียงก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ “ไม่ว่าจะลูกตัวเอง..หรือลูกคนอื่น..”
“...”
“เหมือนตอนที่แกอยากถอนหมั้น..แกก็ถอนได้โดยไม่ต้องเห็นหัวใครแบบนั้นใช่ไหม..”
“เลิกเถียงกันเรื่องไม่เป็นเรื่องสักที !” เสียงปรามของคนที่เป็นใหญ่ที่สุดในบ้านทำให้การถกเถียงสิ้นสุดลง “ทั้งที่ต่างคนต่างก็พูดต่างก็คิดแทนคนอื่นกันทั้งนั้น”
ผมรู้สึกสะอึกไปกับคำว่า ‘คนอื่น’ ของเขา..นี่ผมเป็นแค่คนอื่นในบ้านหลังนี้ใช่ไหม ?
“ส่วนเธอ..มีเหตุผลอะไรที่ต้องออกไปทำงานข้างนอก”
“...” ผมเงียบเพราะไม่รู้จะตอบอะไร
“ว่ายังไง..ไม่ได้ยินที่ฉันถามหรือไง”
“พ่อครับ..”
“ฉันไม่ได้พูดกับแก..” หันไปว่ามัน..ก่อนจะหันกลับมาถามผมอีกครั้ง “ไหนลองบอกเหตุผลมาสิ..”
“...”
“ไม่มี..ที่เงียบเพราะไม่มีเหตุผลใช่ไหม..”
“...”
“ถ้างั้นก็ลาออกแล้วกลับมาทำงานที่บริษัทซะ”
“แต่ผม..” ผมรีบแย้ง “ผมอยากทำงานตามสายที่เรียนมา..”
“ไม่อยากทำตำแหน่งเดิม..ก็ย้ายไปแผนกบัญชี” เขาพูดเสียงเรียบ “แค่นี้ก็ได้ทำงานในสายที่ตัวเองเรียนมาแล้วใช่ไหม”
“ครับ..”
“งั้นจบแค่นี้..พรุ่งนี้ก็ไปลาออกซะ” คำสั่งก็คือคำสั่ง..ผมไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์อะไรได้อยู่แล้ว “ส่วนแกก็ไปจัดการเรื่องตำแหน่งให้เรียบร้อย”
“ครับพ่อ..”
ผมไม่แปลกใจกับท่าทีกระตือรือร้นของมันสักเท่าไร..เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่ามันเองก็อยากให้ผมกลับไปเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้คิดจะโกรธหรือโมโหอะไร..เพราะเหตุการณ์เมื่อกี้ก็ยืนยันชัดเจนแล้ว ว่ามันเองก็พยายามอย่างที่สุดที่จะรักษาสัญญาที่ให้เอาไว้กับผม..
.
.
ผมต้องกลับมาทำงานที่บริษัทเหมือนเดิมตามคำสั่ง..หงุดหงิดใจนิดหน่อยที่เรื่องมันกลับวนมาเป็นแบบนี้ แต่ก็พยายามปลอบใจตัวเองเอาไว้ว่าอย่างน้อยก็ทำเพื่อตอบแทนบุญคุณของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘พ่อ’ ถึงแม้เขาจะไม่เคยเห็นการมีตัวตนอยู่ของผมเลยก็ตาม..
.
.
“ผมอยากได้เอกสารการโอนเงินช่วงสองเดือนที่ผ่านมา..รบกวนคุณทิวเอามาส่งผมที่ห้องด้วยครับ”
มันก็ยังเป็นมัน..มันที่คอยโทรก่อกวนผมวันละหลายๆ รอบ ทั้งที่ผมเองก็ไม่ได้เป็นเลขามันแล้ว..ทั้งที่ผมก็ทำงานในแผนกบัญชีนี้อย่างเต็มตัวแล้ว แต่ก็ยังต้องคอยเดินไปที่ห้องทำงานของมันทุกครั้งที่ถูกตามตัว..
วันๆ หนึ่งก็ไม่ต่ำกว่าสี่รอบ..สี่รอบที่ผมต้องเดินวนไปมาอยู่อย่างนั้น และทุกๆ ครั้งที่ผมเข้าไปก็มักจะไม่ได้มีเรื่องงานอะไรมาเกี่ยวข้องเลย ก็แค่คนโรคจิตที่เรียกผมไปเพื่อลวนลาม..ปล้นจูบทุกครั้งที่มีโอกาส ผมไม่เห็นว่ามันจะคุยเรื่องงานอะไรจริงๆ เลยสักที..
.
.
“อื้อ..พอแล้วนะครับ..” ผมยันหน้าอกมันเอาไว้..ก่อนจะรีบสูดอากาศเข้าปอดตัวเอง “ผมเจ็บปากไปหมดแล้ว..”
“หึๆ”
“เลิกทำแบบนี้ได้ไหมครับ..ผมมีงานต้องทำนะอื้อ..”
แล้วมันก็จบแบบเดิม คือผมไม่มีสิทธิจะพูดอะไร ในเมื่อมันอยากจูบผมก็ต้องยอมให้มันจูบ ดีแค่ไหนแล้วที่มันไม่ได้อยากทำอะไรมากกว่านั้น..ไม่งั้นผมคงแย่กว่านี้อีกเยอะ
.
.
“เมื่อกี้กูเห็นมึงส่งยิ้มให้เลขาหน้าห้องกู..”
“ครับ ?”
“คิดว่ากูโง่หรือไง”
“ยิ้มตามมารยาทครับ..” ผมตอบกลับเสียงเรียบ..เริ่มเข้าใจอารมณ์มันนิดหน่อย “หรือมีข้อห้ามไม่ให้ผมยิ้ม..”
“อย่ายั่วโมโหกูนะทิว”
“ผมเปล่า..”
หลายๆ ครั้งที่เรามักจะทะเลาะกันเรื่องพวกนี้..เพราะมันดูไม่ชอบใจนักที่ผมจะทำตัวเป็นมิตรกับคนอื่น ส่วนผมเองก็ไม่ชอบที่มันพยายามกีดกันผมเอาไว้ไม่ให้มีเพื่อนแบบนี้ !
“ผมต้องมีเพื่อน..”
“แต่มึงมีแค่กูคนเดียวก็พอแล้ว !”
“คุณนัท !” เดี๋ยวนี้ผมเริ่มกล้าแสดงความคิดเห็น..เริ่มกล้าต่อล้อต่อเถียงกับมัน เพราะได้ใจที่มันไม่กล้าลงไม้ลงมืออะไรกับผมแล้ว “ผมไม่ใช่นักโทษของคุณนะ !”
“ไอ้ทิว !”
“อย่าบีบบังคับผม”
“งั้นมึงก็เอารอยที่คอไปอวดตอนเที่ยวส่งยิ้มให้ใครต่อใครแล้วกัน..กูเองก็อยากรู้ว่ามึงจะหน้าด้านได้สักแค่ไหน”
แต่มันก็ยังคงเป็นมัน..มันคนที่หาวิธีจัดการกับผมได้เสมอ ไม่ต้องใช้ความรุนแรงเหมือนเมื่อก่อน..ไม่จำเป็นต้องดุด่า หรือตะคอกอะไร ก็แค่หาวิธีอื่นๆ มาคอยกำราบผมเอาไว้..
“กลับไปที่โต๊ะได้แล้ว..รีบไปทำงานอยู่ไม่ใช่เหรอ..” ผมกัดฟันมองมันด้วยความเจ็บใจ..นึกโมโหตัวเองที่เผลอปล่อยให้มันมาทำรอยน่าอายเอาไว้บนตัวได้ “รีบไปสิ..”
Ma-NuD_LaW
มีคนเดาทางเราถูกด้วย 
ยาก..ยาก..เขียนยากจริงๆ 
.
.
คอมเม้นบางคอมเม้น..พูดถึงตัวตนของตัวละครในเรื่องนี้ได้อย่างที่คนเขียนเองยังต้องอึ้งอ่ะ 
ชอบๆ 
ขอบคุณนะครับ 