[นัท]
“อย่าทิ้งกูไปได้ไหม..”
ละทิ้งศักดิ์ศรี..ละทิ้งทุกอย่างที่เคยมี เลิกยึดติดกับความแค้น..เลิกยึดติดกับอะไรทั้งนั้น เพราะผมรู้ตัวดีว่าผมเสียมันไปไม่ได้..
.
.
“คุณนัท..”
“กูยอมทุกอย่างแล้ว..”
ผมมันก็แค่มนุษย์คนหนึ่ง..มนุษย์ที่รู้จักกลัวคำว่า ‘สูญเสีย’
.
.
“ได้ไหมทิว..อย่าทิ้งกู..”
เพราะผมเองก็เจ็บปวดเป็น..และร้องไห้เป็น
“ผม..” สองมือที่กำลังกุมมือมันเอาไว้ตอนนี้เผลอกำแน่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว “รู้แล้วครับ..ผมรู้แล้ว..”
ไร้คำยืนยันที่แน่ชัดจากปากมัน..ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มให้ความหวัง ผมไม่รู้ว่ามันจะเอายังไงกันแน่ จะเลิกคิดเรื่องหนีแล้วอยู่กับผมต่อไป..หรือแค่พูดจาส่งๆ แล้วรอคอยโอกาสที่จะไปจากผมอีกครั้งกันแน่
“ลุกขึ้นมาเถอะครับ..”
มันขอคำสัญญาอะไรจากผมหลายอย่างหลังจากนั้น..แต่ทุกคำขอก็ยังอยู่ในขอบเขตที่ไม่เกินจากความคาดหมายของผมสักเท่าไรนัก เพราะทุกๆ คำขอของมันยังแฝงไปด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัวตามแบบฉบับเด็กเก็บมาเลี้ยงของมันอยู่เหมือนเดิม..
.
.
“ผมขอเลือกที่ทำงานเอง..”
นี่คือสัญญาอีกข้อที่มันขอไว้..ผมจำต้องยอมๆ มันไปทั้งที่ไม่อยากเลยสักนิด แต่ถ้าต้องเลือกระหว่างให้มันได้อยู่ห่างจากตัวผมบ้างในบางเวลา..กับการบังคับให้มันอยู่ใกล้ตัวแต่ในหัวคิดแต่เรื่องหนีแบบเดิม ผมขอเลือกจะยอมมันดีกว่า..
ทิวมันเป็นคนดื้อ..ในท่าทีที่ดูเหมือนยอมๆ ของมันมีแต่ความแข็งกร้าว ทุกๆ ครั้งที่ผมต้องการอะไรจากมัน..ถึงได้ต้องคอยแต่บังคับเอามาอย่างนี้
.
.
“กินข้าวซะ..”
“อย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้นะครับ..”
ไม่รู้ว่ามันจะย้ำอะไรนักหนา..แต่ผมก็ยังจะพยักหน้าตอบมันไป “รู้แล้ว..กินข้าวซะ”
ไข้ของมันยังไม่หาย..เป็นๆ หายๆ อย่างนี้อยู่ตลอด จนบางทีผมก็อดจะนึกหงุดหงิดไม่ได้ว่า..มันอยากป่วยเพื่อไปให้ไอ้ว่าที่หมอบางคนช่วยรักษาให้หรือเปล่า ?
“กินยาแล้วก็นอน”
“ครับ..”
[จบนัท..]
.
.
.
“ต้องเสียเงินแบบเปล่าประโยชน์เลยเห็นไหมครับ..”
“มึงก็เลิกคิดหนีกูสิ..จะได้ไม่ต้องเกิดเรื่อง”
มันว่าแล้วยกเสื้อในมือขึ้นทาบกับตัวผม..ก่อนจะยื่นไปให้พนักงานที่คอยเดินตามพวกเรามา วันนี้มันพาผมมาซื้อเสื้อผ้าใหม่เพื่อทดแทนเสื้อผ้าเก่าๆ ของผมที่ถูกมันตัดจนขาดหมด ตอนนี้ผมเลยกำลังเดินตามหลังมันในชุดเสื้อยืดตัวโคร่ง กับกางเกงที่เอวหลวมจนผมต้องหาเข็มขัดมารัดเอาไว้ของมัน..
“แค่นี้ก็พอแล้วครับ..”
“จะพอ..เมื่อกูบอกว่าให้พอ..”
สิ้นคำพูดของมันผมก็ได้แต่เดินตามไปเงียบๆ เหมือนเดิม ก็ในเมื่อมันไม่ได้ถามความเห็นผมว่าอยากได้หรือไม่อยากได้อะไร..ผมเลยเลือกจะไม่พูดว่าอยากหรือไม่อยากใส่เสื้อผ้าตัวไหนที่มันเลือกให้เหมือนกัน
.
.
“ชอบที่กูเลือกให้ไหม..”
“ครับ ?”
“กูถามว่าชอบเสื้อผ้าที่กูเลือกไหม..หรือมึงอยากได้ตัวไหนเพิ่ม”
ผมอมยิ้มให้กับคำถามของมัน..ก่อนจะเอ่ยปากตอบมันไปทั้งรอยยิ้มที่หุบไม่ลงแบบนั้น “ไม่ครับ..ผมชอบที่คุณนัทเลือกทั้งหมดนั่นแหละ”
อย่างน้อยมันก็ยังพยายาม..ผมคิดแบบนั้น การที่มันยังอุตส่าห์คิดได้ว่าควรหันมาถามผม..ทั้งที่มันเลือกตัดสินใจไปก่อนหมดแล้วแบบนี้ ก็นับว่าดีมากแล้ว..เพราะอย่างน้อยก็ถือว่ามันยังรักษาสัญญาที่ให้เอาไว้
สัญญาที่ว่ามันจะพยายามปรับปรุงตัว..
“ขอบคุณนะครับ..”
“อืม..”
ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี..อย่างน้อยต่อไปนี้ การใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างผมกับมันคงจะดีขึ้น..
.
.
มันพาผมเดินเลือกซื้อพวกของสดไว้ทำกับข้าวหลังจากนั้น..คราวนี้มันเป็นฝ่ายให้ผมเลือกทุกอย่างโดยที่มันทำแค่เข็นรถเข็นตามผมเงียบๆ ผมรู้สึกดีนะที่เห็นมันเป็นแบบนี้..รู้สึกดีทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันจะทนทำไปได้นานแค่ไหน
“อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมครับ..” มันส่ายหัวเบาๆ เป็นคำตอบให้ผม “งั้นไปคิดเงินกันเถอะครับ”
“อืม..”
มันยื่นกระเป๋าเงินมาให้ก่อนจะเข็นรถตามหลังผมเหมือนเดิม มันรับหน้าที่ยกของขึ้นไปวางบนรางเลื่อนแล้วปล่อยให้ผมรับหน้าที่จ่ายเงินไป..ผมเลยมองท่าทีเก้ๆ กังๆ ของมันไปเรื่อยๆ ด้วยรอยยิ้ม
.
.
“มัวแต่ยิ้มอะไร..จ่ายเงินสิ”
“ครับๆ”
ผมรีบควักเงินในกระเป๋าขึ้นมายื่นให้พนักงาน..เลยได้รับรอยยิ้มที่ดูเหมือนล้อๆ กลับมา คงจะขำที่เห็นผมโดนมันว่า..หรือไม่ก็ขำท่าทางที่ดูเงอะงะของผมแน่ๆ น่าอายชะมัด..
“เสร็จแล้วก็รีบไป”
“แต่เงินทอน..”
“กูบอกให้ไปไง”
ผมเดินตามแรงฉุดของมันด้วยความงุนงง..ไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์ของมันสักเท่าไร เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลย..แล้วทำไมตอนนี้ถึงดูหงุดหงิดแบบนี้ ?
.
.
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ..”
“...”
“คุณนัท”
“เลิกทำหน้าโง่แล้วเดินไปขึ้นรถ”
“ครับ ?”
“กูบอกให้รีบไปขึ้นรถ !”
“อย่าโมโห..แล้วพูดกับผมดีๆ สิครับ” ผมบอกแล้วจ้องตามันนิ่งๆ พยายามอย่างที่สุดที่จะให้มันคิดถึงสัญญาที่ให้กับผมเอาไว้ “คุณนัท..”
“เออๆ รีบไปขึ้นรถเถอะ..” เสียงมันอ่อนลงกว่าเดิม “ขนของเสร็จแล้วจะตามไป..”
“ขอบคุณนะครับ..”
“กูต่างหากที่ต้องขอบคุณมึง..”
Ma-NuD_LaW
คิดอยู่นานว่าจะเขียนจากมุมไอ้นัทดีไหม..
สรุป..เออเขียนก็ได้วะ 
.
.
ไปนอนดีกว่า 
.
.
คนอ่าน 