“กลับ”
ยังไม่ทันจะเดินพ้นออกมาถึงนอกบริเวณงาน..ผมก็โดนมันตามมาดึงแขนไว้แล้วพาไปที่รถ มันไม่ได้พูดอะไรมากกว่านี้..ไม่ตอบแม้กระทั่งตอนที่ผมถามว่ามันได้บอกลาพ่อแม่มิวหรือยัง ผมนั่งรถไปกับมันเงียบๆ ในหัวก็คิดแต่เรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างผมกับวี..
คิดถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงราย..
คิดถึงความสุขที่เคยเกิดขึ้นที่บ้านคุณตาของเขา..
.
.
“ผิดหวังที่ไม่ได้เห็นน้ำตาของผมเหรอครับ” ผมถามเพราะแปลกใจที่คืนนี้มันยอมนอนง่ายๆ โดยไม่คิดจะทำอะไรผมเลย
“นอนซะ” มันไม่ตอบโต้อะไรผมกลับมา..ทำแค่กดหน้าผมลงไปให้ซุกกับอกมัน แล้วลูบหลังผมแบบนั้นไปเรื่อยๆ ผมเลยไม่ได้คิดหรือพูดอะไรออกมาอีก ทำแค่นอนนิ่งๆ ในอ้อมกอดมันไปแบบนั้นจนเกือบจะเคลิ้มหลับ..
“กับคนที่เพิ่งรู้จักแบบนั้น..ทำไมถึง..”
ทั้งที่ก็รู้สึกติดใจกับประโยคที่พูดออกมาแบบไม่สมบูรณ์ของมัน..แต่ผมก็ง่วงเกินกว่าจะลืมตาขึ้นมาถาม ผมเลยปล่อยให้ตัวเองหลับไปทั้งอย่างนั้น ไม่รู้พรุ่งนี้พอตื่นมาแล้วผมจะยังจำได้ไหมว่าควรถามเรื่องนี้..แต่ก็ช่างมันเถอะ ในเมื่อมันไม่พูดออกมา..ก็แสดงว่ามันไม่ได้อยากให้ผมรับรู้ และถ้าเป็นอย่างนั้น..ต่อให้ผมถามให้ตายมันก็ไม่ปริปากพูดออกมาหรอก
“มึงมันโง่..”
“...”
“โง่ที่ไม่เคยรับรู้อะไรเลย..”
.
.
รุ่งเช้าผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวหนึบๆ ทั้งที่เมื่อคืนผมก็นอนหลับสนิท..ทั้งที่ก็ไม่ได้คิดเรื่องอะไรให้ต้องมาปวดหัวแบบนี้แล้วแท้ๆ แต่มันก็ยังเป็นแบบนี้..
ผมลุกขึ้นยกแขนมันออกจากตัว..ก่อนจะรีบลุกขึ้นไปทำข้าวเช้าให้มันกิน ข้าวต้มง่ายๆ เหมือนทุกที..เมนูเดิมๆ ที่ผมทำมาเกือบทั้งอาทิตย์แล้ว แต่มันก็ไม่คิดจะบ่น..แถมยังกินจนหมดแทบทุกวันด้วยซ้ำ
“รีบไปอาบน้ำ..มันสายแล้ว”
“ครับ”
ผมวางถ้วยข้าวต้มไว้ตรงหน้ามัน..ก่อนจะรีบวิ่งกลับเข้าห้องเพื่อไปอาบน้ำ ข้อดีของมันคือจริงจังกับเรื่องงาน..เมื่อมันบอกว่าจะทำ มันก็ทำอย่างเต็มความสามารถ เหมือนๆ กับตอนที่มันบอกว่าจะช่วยพ่อทำงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ..มันก็สามารถทำได้อย่างดี จนเป็นที่ชื่นชม..
.
.
“คุณมิว..” แต่ทันทีที่เปิดประตูห้องมา..ก็เจอเข้ากับมิวที่มายืนรออยู่ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ “มาเมื่อไรครับ..แล้วทำไมไม่เรียก..”
“มิวมาหานัท..ขอเวลาส่วนตัวสักพักได้ไหม”
“ครับ..” ผมตอบรับ..แล้วหันไปมองมันที่ยืนนิ่งๆ ไม่พูดอะไร “งั้นผมไปที่ทำงานก่อนเลยนะครับ”
“อืม..”
เมื่อได้ยินมันบอกแบบนั้น..ผมเลยเดินเลี่ยงออกมาจากห้องโดยไม่คิดจะสนใจอะไรอีก สีหน้ามิวดูไม่ค่อยดี..ตาแดงก่ำเหมือนคนเพิ่งร้องไห้มาหมาดๆ คงไม่พ้นเรื่องเดิมๆ เรื่องที่ว่ามันไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเธอเหมือนเมื่อก่อน มิวเป็นแบบนี้มาตลอดนับตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอกรีดข้อมือตัวเองเพื่อยื้อมันเอาไว้..
.
.
“งี่เง่า..”
ไม่ว่ายังไงในสายตาผมแล้ว..การกระทำของมิวมันก็ดูช่างงี่เง่าอยู่ดีนั่นแหละ การพยายามยื้อคนที่ไม่รักตัวเองเป็นเรื่องที่โง่เง่ามากเกินไป..เธอไม่ควรลดคุณค่าของตัวเองด้วยการทำแบบนี้เลยสักนิด แต่ก็นั่นแหละ..ในเมื่อนี่มันคือเรื่องในหัวใจของเธอ แล้วผมจะไปรู้และตัดสินได้ยังไงว่ามันจะถูกหรือผิด..
“กรี๊ดดด !!”
เสียงกรีดร้องที่ดังออกมาจากห้อง..ทำให้ผมต้องชะงักฝีเท้าตัวเองแล้วรีบวิ่งกลับไปที่ห้อง เสียงร้องของมิว..เสียงร้องที่เหมือนกับกำลังเจ็บปวดกับอะไรสักอย่าง..
นี่มันทำร้ายมิวงั้นเหรอ ?
.
.
“มิวไม่เข้าใจ..มิวทำอะไรผิด ทำไมนัทต้องเย็นชากับมิวแบบนี้ !”
ผมยืนตะลึงมองมิวที่ตอนนี้ไม่เหลือเสื้อผ้าติดตัวเลยสักชิ้น..ก่อนจะหันไปมองมันที่ยืนทำหน้านิ่งไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสิ่งที่มิวทำอยู่ตรงหน้า
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ???
“เคยรักมิวบ้างไหม..” เธอถามแล้วกระหน่ำทุบลงไปบนตัวมัน “เคยเห็นค่ากันบ้างไหม..”
“...”
“ที่ผ่านมามิวเคยทำอะไรที่มันผิดกับความรักของเราหรือยังไง..”
“น่ารำคาญ..” มันว่าแล้วปัดมือมิวออกไปให้พ้นตัว “แต่งตัวแล้วรีบออกไปซะ !”
“นัท !!”
“คุณมิว..” ผมหรี่ตาลงตอนก้มลงไปหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาคลุมตัวให้มิว “อย่าเพิ่งคุยตอนนี้เลยนะครับ..รอให้ใจเย็นกันกว่านี้ก่อนดีกว่า..”
“อย่ามายุ่ง !” เธอหันกลับมาตวาดผม “ไม่ใช่เรื่องของทิว !”
“แต่..”
“กลับมาทำไม..” มันพูดแทรกมา..ทังที่ผมยังพูดไม่ทันจบ “ทำไมไม่รีบไปทำงาน..”
“ก็คุณมิวเธอร้อง..”
“ไม่ใช่เรื่องของมึง..”
“แต่..”
“นายเคยเห็นเขาพาผู้หญิงที่ไหนมากกหรือเปล่า..” มิวพูดขึ้นมาทั้งที่ยังไม่คิดจะสวมเสื้อผ้ากลับเข้าไป “รู้ไหมว่านังนั่นมันเป็นใคร..”
“...”
“หรือว่าเป็นนายเองที่ยุให้เขานอกใจฉัน..”
“ผม..” ตอนนี้ผมรู้สึกงงๆ กับอารมณ์ของมิว “ผมไม่เข้าใจ..”
“ใช่สิ..ต้องเป็นนายแน่ๆ ที่เป็นคนหาผู้หญิงมาให้นัท..” ดวงตาของเธอเริ่มเหม่อลอย “ไม่งั้นเขาคงไม่คิดจะทิ้งฉันแบบนี้..”
“เลิกบ้าได้แล้ว..”
“คุณนัทครับ..”
“ก็รู้ดีนี่ว่าไม่เคยรัก..” มันพูดออกมาโดยไม่คิดจะสนใจว่ามิวจะร้องไห้หนักขึ้นแค่ไหน “ก่อนหมั้นก็เป็นคนพูดเองว่าเพื่อธุรกิจของครอบครัว..”
“...”
“แล้วตอนนี้จะเป็นบ้ามาเรียกร้องอะไร..”
“...”
“หรืออยากให้ถอนหุ้นออกมา..บริษัทของพ่อเธอจะได้พังลงไปเลย..”
“คุณนัทครับ..” ผมปรามมัน “คุณมิวเธอร้องไห้ใหญ่แล้ว..”
“ไม่รู้เรื่องก็หุบปากไป !” มันตะคอกผม..ก่อนจะหันกลับไปพูดจาทำร้ายมิวต่อ “ผมไม่ใช่ไอ้วี..ที่มิวจะมาพูดจาข่มขู่ หรือเรียกร้องอะไรได้..”
“...”
“ไม่รู้หรือไงว่าสถานะมันไม่เหมือนกัน..”
“...”
“การหมั้นของน้องสาวมิวกับไอ้วี..มันได้มาโดยมีนถือไพ่เหนือกว่า..”
“...”
“ส่วนระหว่างเรา..ครอบครัวมิวยังต้องพึ่งพาผมอีกมาก..” มันพูดแล้วส่งยิ้มเยาะๆ ไปให้เธอ “การที่แม่ผมคิดว่ามิวคู่ควร..ไม่ใช่ว่าจะบังคับผมได้”
“...”
“อย่าให้ผมหมดความอดทน..เพราะแค่การที่ผมต้องทะเลาะกับแม่ ไม่ได้ทำให้ผมไม่กล้าถอนหมั้นกับมิว”
“นะ..นัท..”
“อย่าลืมว่าผมคือทายาทเพียงคนเดียวที่จะสืบทอดกิจการของครอบครัว..”
Ma-NuD_LaW
จะอวยพรวันลอยกระทงสักหน่อย..ดันเลยวันไปซะแล้ว ![:katai1:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/katai1.gif)
งั้น..ฝันดีแทนละกัน ![:katai5:](https://thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/katai5.gif)