แล้วตลอดทั้งเทอมนั้นรวมทั้งช่วงปิดเทอมสั้นๆ นั่น..ผมก็ไม่ได้พบเจอใครเลย นอกจากมันและคนที่บ้านมัน มันมักจะเอาผมไปทิ้งไว้ที่บ้านทุกครั้งที่ต้องไปทำงานกับพ่อ..ก่อนจะเอาผมกลับไปขังไว้ที่คอนโดทันทีที่มันกลับมา ผมไม่ได้คิดจะหนีอีก..ในขณะที่ข่าวคราวของวีก็เงียบหาย ทั้งที่ผมก็ไม่ได้คิดอยากจะให้วีต้องมาเจ็บตัวเพื่อช่วยผม..แต่บางทีก็อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ที่เขาหายไปแบบนี้
.
.
ผมกลับมาเรียนอีกครั้งในเทอมถัดมา..ส่วนมันเองก็เรียนจบแล้ว ต้องเข้าไปช่วยงานพ่อมันที่บริษัทอย่างเต็มตัว ถึงไม่ค่อยมีเวลามาวุ่นวายกับผม..แต่มันก็ยังตามไปรับไปส่งผมทุกครั้ง ตำแหน่งว่าที่เจ้าของบริษัทคนถัดไปทำให้มันได้อภิสิทธิ์เหนือใครๆ ในการที่จะเข้าสาย..หรือหายจากโต๊ะทำงานในบางเวลาเพื่อมารับผม ส่วนเด็กในบ้านอย่างผมก็ยังขาดอิสระ..และไม่มีสิทธิทำอะไรมากกว่าที่มันอนุญาตให้ทำ
.
.
“วันนี้กูไม่ว่าง..จะให้คนรถไปรับ”
“ผมกลับเองได้..”
“กูแค่บอก..ไม่ได้ถามความเห็นมึง”
ผมไม่พูดไม่แสดงความเห็นอะไรอีก ทำแค่เดินลงมาจากรถเงียบๆ ก็อย่างที่มันบอก..ผมไม่มีสิทธิจะพูดหรือทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองต้องการทั้งนั้น ถ้ามันไม่ใช่สิ่งที่มันต้องการให้ทำ
.
.
ตกเย็น..ผมขออนุญาตอาจารย์ออกมาจากห้องเรียนก่อนเวลาเลิก อยากลองแอบไปดูวีสักครั้ง..อยากรู้ว่าที่ผ่านมาเขาหายไปไหน หรือตอนนี้จะมีใครอยู่ข้างๆ เขาแทนที่ผมแล้วหรือเปล่า และวันนี้เป็นโอกาสที่ดี..เพราะวันนี้มันไม่ว่างจะมารอรับผมเหมือนทุกที และกว่าที่คนรถจะมารับ..ผมยังพอมีเวลาเหลือที่จะไป
ผมพาตัวเองไปยังตึกคณะแพทย์..สอดส่ายสายตาไปทั่วก่อนจะเจอกับวี ที่ตอนนี้กำลังยืนคุยอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ผมค่อยๆ ก้าวเท้าเดินเข้าไปหาเขา..ในขณะที่สายตาก็มองสำรวจไปทั่วใบหน้าและร่างกายนั่น วีมีรอยฟกช้ำหลายจุดบนใบหน้า..แขนข้างซ้ายใส่เฝือกที่ดูเปื้อนๆ เหมือนใส่มานานแล้ว ผมเร่งฝีเท้ามากขึ้น..เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเดินขึ้นบันไดไป แต่แล้วก็ต้องชะงัก..เมื่อได้ยินเสียงซุบซิบจากผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะที่ผมเดินผ่าน
“คนนั้นไง..ดาวคณะนิเทศ ที่เป็นคู่หมั้นของวีน่ะ”
ผมรู้สึกเหมือนจะก้าวขาไม่ออก..เมื่อได้ยินคำว่า ‘คู่หมั้น’ นั่น เวลาแค่ไม่กี่เดือนที่เราไม่ได้เจอกัน..มันทำให้เขาลืมผมไปแล้วเหรอ ทำไมจู่ๆ เขาถึงได้ไปหมั้นกับคนอื่น..ทั้งที่เขาเคยบอกว่ารักผม และเพราะแบบนี้ใช่ไหม..เขาถึงได้หายไป
“หึๆ”
โง่..โง่ชะมัด ผมมันโง่เองที่ไปหลงเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง..โง่ที่คิดว่าเขารัก ทั้งที่ควรจะรู้ว่า..ไม่ว่าจะใครหน้าไหนก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้น
โกหก..หลอกลวง..ไม่เคยจริงใจ..
“เลิกโง่สักทีเหอะ !”
.
.
“เป็นอะไร..”
“เปล่าครับ..”
“หึ..” มันแค่นเสียงในลำคอ “เปล่าแล้วทำไมให้ความร่วมมือกับกู..”
ผมไม่ตอบอะไร..แล้วเลือกที่จะดึงมันมาจูบแทน ไม่รู้สิ..ผมแค่รู้สึกอยากจะทำอะไรก็ได้ ที่มันจะช่วยให้ผมลืมความเจ็บไปได้บ้าง ผมไม่อยากคิดเรื่องวี..ไม่อยากเจ็บปวดกับเรื่องของเขาไปนานกว่านี้ เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ผมได้ยินและได้เห็นภาพพวกนั้นผมก็เจ็บมามากพอแล้ว..ผมไม่อยากจะเสียเวลาให้กับความโง่ของตัวเองไปนานกว่านี้อีก
.
.
ผมลุกขึ้น..เดินกระโผลกกระเผลกเข้ามาล้างตัวในห้องน้ำหลังจากที่มันหลับไปแล้ว รู้สึกขอบคุณมันนิดหน่อยที่ทำให้ผมเจ็บตัวได้ขนาดนี้..
ตอนนี้ผมเจ็บ..เจ็บจนลืมความรู้สึกตอนที่เห็นวีเดินไปกับผู้หญิงคนนั้นเสียสนิท
.
.
“ทิว..” ผมหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาพัน..ก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ “ไอ้ทิว !”
“ครับ..”
“กูก็นึกว่ามึงหนีไปไหน..”
ผมเงียบ..ไม่ได้ตอบอะไร ทำแค่เดินไปหยิบเสื้อในตู้มาใส่..กับกางเกงตัวเดิมที่ถูกมันถอดออกไปก่อนหน้านี้ ใส่เสร็จก็เดินไปนอนลงข้างๆ มันเหมือนก่อนที่จะลุกไป ผมถูกมันดึงเข้าไปกอดเอาไว้..กอดแน่นเสียจนผมแทบจะหายใจไม่ออก
“อย่าไปไหนจนกว่ากูจะตื่น”
“ครับ..”
มันคงจะคิดว่าผมจะหนีไปหลังจากเพิ่งมีอะไรกับมันเมื่อคราวที่แล้ว..ถึงได้ทำท่าตกใจตอนที่ไม่เห็นผม แม้กระทั่งกอดที่รัดแน่นจนเหมือนถูกมัดด้วยเชือกนี่ก็คงเพราะคิดว่าผมจะหนีไปอีกเหมือนกัน..
ผมนอนนิ่งๆ ให้มันกอด..ขณะพยายามข่มตาหลับเหมือนมันบ้าง ทั้งที่ไม่อยากคิดเรื่องของวีให้ปวดหัว..แต่ผมก็ทำไม่ได้ ผมได้ยินแต่เสียงซุบซิบนินทาเรื่องของเขาอยู่ในหัวตลอดเวลา..
คู่หมั้น..
คนที่คู่ควร..
ทำไมตัวผมถึงไม่มีอะไรที่สามารถสู้เธอได้เลย..
Ma-NuD_LaW
เนื้อเรื่องมันย่ำอยู่กับที่ไม่ไปไหน..
อืม..จะพยายามแก้ไขนะครับ (เริ่มจากตอนนี้..)
.
.
หลังจากนี้กลัวจะอัพช้าลงไปกว่าเดิมอีก..ขอช่วงเดือนตุลานี้นะครับ
พ้นเดือนนี้ไป..อะไรๆ ก็คงจะดีขึ้น (ล่ะมั้ง)
ขอบคุณทุกความเห็นครับ..จะเอาคำแนะนำไปลองปรับปรุงดูนะ