{CH 18 Love with}
“ไม่ไปอ่ะ อยากอยู่บ้าน”
“ไม่ใช่คำขอร้อง”
“จิ๊! ไม่อยากไปแฝดไม่อยู่!”
“… ป้าน้อมขึ้นไปเก็บของไอ้เด็กนี้และของผมด้วย ของสำหรับ 3 วันนะ”
“ค่ะคุณจอม”
“ก็บอกว่าไม่ไป ป้าน้อมไม่ต้องไปครับ”
“ดื้อ”
แช็ก เสียงซิบโป้ดังขึ้นแชะนึงก่อนที่บุหรี่ราคาแพงของมันจะขึ้นควันพุ่ยๆ ผมกัดฟันเบ้ปากมองไอ้เจ้าจอมร้ายที่กำลังนั่งไขว่ห้างมองหน้าผมไม่ลดละความพยายามในการกวนประสาทผมให้ได้ มือนึงคีบบุหรี่อีกมือก็พาดไปตามพนักโซฟา หึ เท่ตายห่าล่ะ เมื่อวานไอ้หมอนี้น่ะหรือที่กอดปลอบผมไอ้มนุษย์กวนประสาทนี้น่ะหรือออออออออออออ!!!
“เอ่อ คุณฝ้ายค่ะ ป้าว่าเราไปเถอะ นานๆทีจะได้พักผ่อนนะค่ะ ยังไงก็กลับมาทันสองแฝดอยู่แล้ว”
“นี้ป้าก็ไล่ผมหรอ” ผมเบ้ปาก ใช่สิ ผมมันเด็กน่าสงสารไม่เคยได้ไปทะเลกับเค้าหรอก ผมก็อยากไป แต่ให้ผมไปโดนเมินในขณะที่ไอ้มนุษย์หน้าตายนี้ไปทำงาน เอาผมไปเป็นเบี้ยล่ามงั้นหรอ ไม่ไปอ่ะ ผมนอนอยู่บ้านสบายใจกว่าเยอะเลย
“เปล่านะค่ะ ป้าแค่เป็นห่วง”
“หึ ลืมไปแล้วหรือไงว่าอยู่ที่นี้ในฐานะอะไร” อะ อะ ฮึ้ย!!!! อ้างตลอด ใช่สิ ลูกหนี้ไงล่ะ ฮึ!
“ฮึ งอนซะและ ป้าน้อมเก็บเสื้อผ้าได้เลยครับ”
“ค่ะคุณจอม ไปยัยน้อยยืนอยู่ทำไม” และป้าน้อมก็ลากยัยน้อยทียืนอยู่ในหลืบขึ้นไปบนชั้นสองทันที ผมหันมาเบ้ปากกับไอ้บ้าโรคจิตที่เป่าควันออกมาบุ้ยๆ เท่นักหรือไงเป็นมะเร็งตายห่าแน่ ฮึ!
.
.
.
-จอมร้าย- ฮึ ถ้าหน้าเหวี่ยงๆนั้นจะงอขนาดนั้น ก็สนุกสิ หึหึ
“แง่ม!” ผมชักนิ้วกลับ ไอ้ตูดหมาเอ้ย แหย่นิดแหย่หน่อยจะงับนิ้วกันเฉย เมื่อเช้ากว่าจะยัดไอ้เด็กนี้ลงรถได้ก็ยิ่งกว่าจับปูใส่กระดงซะอีก เมื่อคืนสองแฝดไปเข้าค่าย เจ้าเด็กนี้ก็เอาแต่ไม่สบายใจไม่หลับไปนอน หวงน้องถึงขนาดโทรไปหาครูเช้ากลางวันเย็น งอแงไม่ยอมนอน จนต้องขู่กันถึงจะยอมนอนดีๆ
“เมื่อไหร่จะถึง”
“…” ผมแกล้งเงียบเพิ่งขึ้นรถมาได้แปปเดียวจะให้ถึงได้ยังไง ดูทำหน้าเข้า แค่มาทำงานด้วยกันที่ทะเลเนี้ยมันจะเป็นอะไรกันนักกันหนา
“ไม่ได้ยินหรือไง แก่แล้วยังหูหนวกอีก”
“หึหึ” ผมแกล้งหัวเราะในลำคอ ไอ้เด็กนี้เกลียดเวลาผมหัวเราะแบบนี้ ตลกจริงๆ หน้าก็งอซะจนปากจะปิดจมูก แก้มนี้แดงกล่ำเป็นมะเขือเทศ ตาขวางเชียว น่าหมั่นไส้ซะจริงๆ
“หัวเราะทำไม!”
“เปล่า” ผมว่า และเลี้ยวรถเข้าปั้มทันทีก่อนที่จะไอ้เด็กนี้จะงอแงไปมากกว่านี้ต้องหาขนมยัดปากให้เงียบไว้เป็นดีที่สุด
“เอากาแฟให้ฉันแก้วนึง”
ว่าและก็ยื่นกระเป๋าตังให้ไอ้เด็กหน้างอและเดินมาเข้าห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลมากนักพอออกมาก็เห็นนั่งกอดเข่าอยู่ที่ฟุตบาทข้างๆห้องน้ำรอบตัวไม่มีขนมนมเนยอย่างที่ผมคิดไว้มีแต่กาแฟร้อนแก้วเดียวที่ถืออยู่บนมือ ผมขมวดคิ้วก่อนจะเดินเอามือไปแตะที่บ่าเล็กๆที่สะดุ้งหันมามองตาขวาง ฮึ งอแงอะไรนักหนา
“นี้กาแฟและอย่ามาใช้อีกนะ ลูกหนี้นะไม่ใช่คนใช้” พอพูดเสร็จไอ้เด็กห้าเหวี่ยงก็ลุกขึ้นยืนและงอนตุบป่องนำไปที่รถ
หึ วันนี้ไอ้เด็กนี้แต่งตัวเสื้อยืดสีขาวบางกับกางเกงสามส่วนสีชมพูที่แม่ผมซื้อให้มีหมวกติดมือมาอีกหนึ่งใบ ดูธรรมดาแต่สำหรับผมว่าน่ารักและตลกดี ทำตัวเหมือนกร้านโลกแต่จริงๆแล้วทั้งบอบบางและอ่อนไหวตามวัย จริงที่เด็กคนนี้อาจจะรู้อะไรมากกว่าวัยรุ่นปกติ แต่ก็ไม่ได้รู้เกินขอบเขตนั้นเลย ดูอย่างที่ไม่ยอมใช้เงินที่ผมให้ไปทั้งกระเป๋านี้แหละ
“เอะ จะจับทำไม อย่าลากเซ่” ผมไม่สนใจลากเด็กเข้ามาในร้านสะดวกซื้อหยิบของทุกอย่างที่ไอ้เด็กนี้ชายตามองไอ้เด็กนี้จิ๊ปากตอนเห็นราคาที่หน้าเคาเตอร์ ผมไม่สนใจจ่ายเงินและพาไอ้เด็กนี้ออกมาขึ้นรถ
“รวยนักหรือไง เงินทอนตั้ง 20 บาทไม่เอาและซื้อมาทำไมตั้งเยอะ กินไม่หมดหรอกนะ!!!” โวยวายอีกแล้ว หึหึ ผมแกล้งเอื้อมมือไปเปิดเพลงเสียงดัง กลบเสียงหงุงหงิงๆของไอ้เด็กนี้ เค้าหงุดหงิดมากจนกินข้าวกล่องกับขนมไปอีกสองสามถุงก่อนจะหลับไปในเวลาไม่นาน หึ บ่นเสร็จกินเสร็จก็นอน เลี้ยงง่ายดีจริงๆ
พอสังเกตเห็นหลับสนิทแล้วผมก็ค่อยๆเอื้อมมือไปเบาเสียงเพลงลง และลูกหัวเล็กๆนั้นอย่างเอ็นดูสองสามที ยิ้มให้กับใบหน้าขาวสะอาด และหันมาขับรถต่อ …. หึหึ งานอะไรไม่มีทั้งนั้นแค่อยากจะพาเด็กไปลงทะเล
.
.
.
สะ สวยจัง … ผมอ้าปากค้างอย่หน้าบ้านพักตากอากาศที่ทาสีขาวทั้งหลังแถมด้านหลังติดกับทะเลอีกด้วยนึกว่าจะมีแต่ในละคร ซะอีก สรุปไอ้บ้าโรคจิตนี้มีบ้านกี่หลังกันแน่นะ ฮื้ม น่าสงสัยจริงๆ เรามาถึงกันโดยไม่มีชายชุดดำบ้าบอพวกนั้นบ่ายแก่ๆของวัน
“มองตาขวางอีกล่ะ” มันว่าก่อนจะวางมือบนหัวผมยีจนเสียทรง ฮึ้ย น่าเบื่อจริงชอบทำให้โมโห
“คุงฝ้ายยยยยยยย”
ผมจำเสียงยานครางแปร่งๆนั้นได้ทันที จะมีใครซะอีกล่ะนอกจากฝรั่งหน้าสวยอย่างนายเรกกี้น่ะ ดูสิวิ่งหัวฟูมาแต่ไกล จากวันที่ผมไปอยู่บ้านหลังนั้นนายเรกกี้คอยมาอยู่ใกล้ๆผมและแฝดและเหมือนมีดอกไม้วิบวับรอบๆตัวซึ่งผมไม่ชอบมันซะมากๆ แต่เรกกี้ก็ทำตัวเหมือนสุนัขตัวใหญ่ๆขี้เหงาที่อยากจะเล่นกับเจ้าของ
“แฝดไปไหนอ่าครับ ไม่มาด้วยเหรอ คุงยางน่าล๊ากเหมือนเดิมเลยน๊า อิอิ” พูดเสร็จแล้วก็หัวเราะคิกคัก ว่าแต่ผมเถอะไอ้ฝรั่งจ๋านี้มานี้ได้ยังไง
“แล้วนายล่ะมาได้ยังไง”
“ผมเหรอ ผมไปได้ทุกที่แหละ คิกๆ ก็ผมป็นลูกน้องคนสนิทของคุณจอมนี้หนา” ตลก =_=’ หน้าสวยโลกสวยขนาดนี้เนี้ยนะ
“ไม่เชื่อโผ้มหรา อิอิ เอาเถอะเข้าบ้านก่อนเถอะฮัพ เดี๋ยวคุณจอมจะอารมณ์เสียงซาก่อน” ผมทำหน้าเบื่อก่อนจะเดินตามหลังไป เกรียวคลื่นซัดฝั่งจนผมต้องหันไปมอง ทรายขาวทะเลสวยน่าลงไปเล่นชะมัด คิกๆ สวยยิ่งกว่าใน TV อีกนะเนี้ย คิกๆ
ม๊าวววววว ผมชะงักขา เสียงอะไร …
ม๊าวววววว แง๊ม!!!
“อ๊ากกกกกกกกกกกก กัดกันทำไมมมมมม!” ผมร้อนลั่นเมื่ออยู่ๆแมวสีดำก้อนใหญ่ๆที่ไหนก็ไม่รู้กระโดดมากัดแขนผม สะบัดก็ไม่ออกด้วย ฮืออออออออออออ
“มะยมมานี้” อยู่ๆไอ้แมวก้อนตัวตัวใหญ่ก็ปล่อยแขนผมเป็นอิสระและก็หล่นตุ๊บลงเดินไปหาไอ้โรคจิตที่คว้าขึ้นไปอุ้มแนบอก เป็นรอยแดงเลยดีนะไม่กัดลึกมาก ฮือออ แมวผี!!!
“เป็นไรมากไหมล่ะเราอ่ะ”
“ไม่ต้องมายุ่งและไม่ต้องเอาไอ้แมวผีมาใกล้เลยด้วย” โมโหมาก อยู่ๆก็มางับแขนชาวบ้านเค้าได้ยังไงไอ้แมวผี
พ่อมึงไม่สังไม่สอนสินะ ฮืมมมมมมม แต่บ้านหลังนี้สวยมากเลยแหะ เป็นบ้านพักตากอากาศจริงๆในฝันเลยแบบนี้ คิดไปก็ลูบแขนตัวเองไป พอเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นไอ้หมาตัวใหญ่อย่างเรกกี้กำลังขวักมือเรียกผมอยู่บนชั้นสอง ผมเบ้ปากก่อนจะหันไปย่นจมูกใส่แมวที่ชื่อมะยมที่นอนแนบอกไอ้บ้าโรคจิตที่นอนแผ่พุงกระดิกเท้าสบายใจอยู่ที่โซฟา หึ อย่าเผลอนะ พ่อจะถลกหนังหนาๆนั้นมาทำเป็นเสื้อกันหนาว! ฮืมมมมม อยากฆ่าแมว
“จะไปไหน”
ผมย่นปากเมื่ออยู่ๆเสียงนรกแตกดังขึ้น ห่วงยางในมือผมถูกซ่อนไว้ข้างหลังทันที นึกว่าจมพุงแมวอ้วนไปแล้วซะอีก ที่แท้ก็มายืนหน้ายักษ์อยู่ตรงนี้นี้เองจะว่าไปหาได้ยากนะที่ไอ้หน้าหล่อตรงหน้าผมจะใส่ชุดปกติเหมือนชาวบ้านเค้าแบบนี้ปกติเห็นเก๊กเข้มชุดสูทผมนี้เปะไม่มีชี้สักเส้นขนาดนั้น คิก ตลกจัง
“เปล่า”
“อยากเล่นน้ำก็บอก”
“ไม่เอา ใครจะเล่น” เอาสิ จะเถียงให้คอเป็นเอ็นเลย !!!
“หึ ไหนลองขอดีๆสิ พูดสิ ฝ้ายขอเล่นน้ำหน่อยนะครับ ” ผมเกือบหลุดขำเพราะอยู่ๆเจ้าจอมขี้เก๊กก็ทำเสียงเล็กเสียงน้อย แต่ต้องปั้นหน้าบึ้งเอาไว้ก่อน เดี๋ยวเสียฟอร์ม
“ไม่ ใครจะพูดว่ะ!!!!”
“ขึ้นเสียง 2,000” อะ …. จิตใจหมอนี้มันทำด้วยอะไร
“อ่ะ ไอ้บ้า”
“ด่าอีก 5,000”
“หน้าเลือด” ผมบ่นงุบงิบอยู่ในลำคอหน้าเงินฉิบเป้ง
“เร็วๆ เดี๋ยวมะยมไม่พอใจนะ”
“ฮึ้ย!!! ฝ้ายขอเล่นน้ำหน่อยนะครับ!!!” ไอ้บ้าโรคจิตหัวเราะในลำคอก่อนจะดึงห่วงยางของผมไปและเดินนำไปที่ทะเล เท่ตายล่ะ หล่อนักใช่ม๊ะ!!!
“ม๊าววววววว”
อะ … เออ นี้ก็ขู่จังเซลล์ในสมองของไอ้โรคจิตไหลมาในกระเพราะไอ้แมวหมีอ้วนนี้ใช่ไหมล่ะ!!! ไอ้ก้อนขนดำเอ้ย!!! ผมปรายตามองไอ้แมวก่อนจะวิ่งตามไอ้เจ้าจอมไป ทะเลอยู่แค่นี้เอง วันหลังผมจะพาแฝดมาด้วยเห็นครูบอกว่าแฝดร้องหาผม คิดแล้วก็สงสาร ไม่ได้ผมต้องใจแข็ง สักวันแฝดต้องอยู่ได้โดยที่ไม่มีผมเหมือนกัน
“เล่นได้ไม่เกินสายตาชั้น เข้าใจนะ”
“พูดมากจัง”
ผมว่าและเดินลงทะเลพร้อมห่วงยางที่เผลอเอาติดมือมาด้วย อ้า … สุดยอดไปเลย ผมปีนขึ้นไปนอนบนห่วงยางปล่อยให้น้ำพัดผมไปเรื่อยๆ มองฟ้าที่ตอนนี้แดดเริ่มตกแล้ว สบายจัง… อยากอยู่ที่นี้ตลอดไปจัง จะว่าไปไอ้ปิศาจก็เป็นคนแปลกนะ ไม่คิดเลยว่าจะมีมุมรักสัตว์แบบนี้เลยและทำไมไม่เลี้ยงไว้ที่บ้านเลยล่ะ หรือไม่ใช่ของหมอนั้นไปขโมยใครมาล่ะ และไหนจะเรื่องนายเรกกี้อะไรนั้นอีกบอบบางร่างน้อยขนาดนั้นจะเป็นได้ยังไง ไหนจะเรื่องที่ถูกตามฆ่าอีก … อยู่เรื่องก็เงียบหายไปมันน่าประหลาดใจชะมัด
“เพลินเลยนะ” ผมสะดุ้งเกือบตกจากห่วงยางเมื่ออยู่ไอ้ผีพรายบ้ามาเกาะอยู่ข้างๆตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ หน้าตาเรียบเฉยดูตื่นตกใจนิดๆ ผมมองไปรอบๆ อ้าวฉิบหายออกมาไกลขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“ว่ายน้ำไม่เป็นและออกมาไกลนี้อยากโดนดีใช่ไหม”
“ใครบอก ว่ายเป็นนะ!!!”
“ไหนลองสิ”
“อย่าดึงสิ!!!” ผมว่าเพราะไอ้บ้านี้จะดึงผมออกจากห่วงยาง ฮึ้ย ทำไมชอบทำให้โมโหนัก!!!
“ก็ไหนบอกว่ายเป็น”
“นี้ไง สวัสดีคร้าบ คุณท้าเลลลลลลลล ”
“… ตลกหรือไง ซ่าดีนักนะ” แล้วผมกับห่วงยางก็โดนลากกลับฝั่ง อะไรเหล่าบอกให้ไหว้ก็ไหว้แล้วไง แอบหัวเราะก็บอกมาเถอะเก็กอยู่ได้
“จะกินปลาไปทำให้ด้วย” ชิ พอลากมาส่งได้ก็ปล่อยทิ้งผมไว้อยู่ชายฝั่งเลยนะ ตัวเองเดินจ้ำๆเข้าไปในบ้านเฉยเลย ก็ดีเหมือนกันผมจะได้เล่นน้ำสบายใจ อยากกินปลาก็ทำเองสิ
“ถ้าลงไปเล่นโดยไม่ได้รับอนุญาต 1 หมื่น” เสียงนรกมาก น่าเบื่อ น่ามคานนนนนนนนน!
สุดท้ายผมก็ต้องมาย่างปลาใช้หนี้ไอ้แก่ขี้งกที่นั่งกระดิกตีนจิบไวท์อยู่บนเปณวนมองพระอาทิตย์ตกดินใกล้ๆโรแมนติกไปดิ ถ้าไม่ติดว่าจะมีควันปลาย่างทำให้ผมหัวเหม็นอยู่นี้ล่ะนะ ส่วนนายเรกกี้ก็ไม่เห็นอีกเลย หายวับไปกับตา พูดง่ายๆตอนนี้มีแค่ 2 คนกับ 1ตัว ไอ้แมวผีมะยมก็ไม่ได้ไปไกลจากเจ้านายมันเลย นอนหมอบอยู่ที่ตักคอยเอาใจ ฮึ แมวสตอเบอรี่สินะ แมวป่า แมวบ้า แมวผี ไม่ให้กินหรอกปลาย่างน่ะ อด ๆๆๆๆ
“อ๊าก!!!” ผมร้องลั่นปล่อยที่คีบลงทันทีก่อนจะวิ่งไปครัวในบ้าน ฮืออออ แขนผมโดนตะแกรงเหล็กเมื่อกี้อ่ะ พองเลยอ่ะ
“ติ๊งต๋องหรือไง อยู่บ้านก็ไม่ซุ่มซ่ามทำไมอยู่นี้อ่อยจัง”
“เหมือนกันนั้นแหละอยู่บ้านก็ไม่ปากหมาทำไมอยู่ที่นี้ปากหมาจัง” ผมหันไปค้อนหนึ่งที ทำไมเป็นแบบนี้ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทำไมต้องซุ่มซ่ามให้คนบ้าคนนี้เห็นด้วย
“ไหนเอามาดู เอามาดู!” จิ๊! ตวาดตะคอกไปดิ
ผมยื่นแขนให้ก่อนจะถูกลากมานั่งที่โซฟา ไอ้บ้าโรคจิตไปหยิบยามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ค่อยๆทาที่แขนผมอย่างเบามือ สัมผัสหยาบๆของมือด้านๆของไอ้โรคจิตค่อยๆทาบนเนื้อที่แสบๆคันๆของผมอย่างเบามือ หน้าตาก็โหด นิสัยก็เหี้ยม ฮึ เจ้าพ่อมาเฟียชัดๆ
“ไม่มีเจ้าแฝดอยู่แล้วทำอะไรไม่เป็นเลยหรือไง ชีวิตนี้คิดจะดูแลแต่เจ้าแสบสองคนนั้นใช่ไหม”
“…”และจะให้ดูแลใคร ชีวิตผมมีแค่น้อง …
“ฮึ … ไม่ต้องดูแลใครก็ได้ เดี๋ยวฉันดูแลเอง” อะไรหมายความว่ายังไง … และสัมผัสเบาบางที่เพิ่งจรดหน้าผาดผมเมื่อกี้คืออะไร และอ้อมกอดอบอุ่นที่ผมได้รับตอนนี้ล่ะ … อบอุ่นจริงๆ
“อะไรอ่ะ ไม่ให้กอดนะ” ผมผลักไอ้โรคจิตออก แต่ถูกล็อกตัวเอาไว้แน่น ตายๆ ผมตาลายหมดแล้ว ไม่เคลิ้มนะไม่ได้เคลิ้ม
“ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น” เสียงนุ่มๆกระซิบอยู่ข้างหูผม … ไอ้บ้า ผมตามไม่ทันแล้วนะ
“ปล่อย …”
“จะให้ทุกอย่าง … ขอแค่ไม่หายไปไหน”
“ไม่เอา … ไม่เอาทุกอย่าง”
เขาผละตัวผมออกมองหน้าอย่างไม่เข้าใจ ผมเม้มริมฝีปาแน่นหลบสายตาที่เหมือนกำลังถาม … ไม่เอา … ผมไม่เอาทุกอย่าง ถึงผมจะเป็นคนเห็นแก่เงิน แต่ก็ไม่ได้อยากให้ตัวเองต้องแลกกับของนอกกายเหล่านั้น ทั้งชีวิตผมมีแค่สองแฝด … ต่อจากนี้ผมก็จะมีแค่สองแฝด
“ก็ได้ …” เขาพูดก่อนจะปล่อยมือออกจากแขนผมและลุกขึ้นจะเดินจากผมไป … ฮึก ไม่ให้ไป
“บ้าเหรอไง อยู่ๆมาพูดแบบนี้ใครจะตั้งตัวทันว่ะ!!!!” ผมกระชากเสียงจะวิ่งเข้าไปต่อยไอ้บ้านี้ให้เข็ดแต่ยังไงไม่รู้ แขนผมมันกลับอ้าออกตะหวัดกอดรัดจอมร้ายแน่น … ไม่เคยโหยหาความรักขนาดนี้ ไม่เคยไม่เข้าใจตัวเองมากขนาดนี้ และผมไม่รู้ว่าจะรู้สึกกับใครได้มากกว่านี้อีก
“อยู่ๆมาพูดเหมือนกูเป็นคนเห็นแก่เงินแบบนั้นได้ยังไงว่ะ ฮึก ดูถูกกันหรือไง” เวลานั้นผมไม่รู้อะไรดลใจให้พูดออกไปอย่างงั้น แต่ผมรู้ว่ากำลังได้รับอ้อมกอดที่อบอุ่นเมื่อกี้กลับคืนมา
.
.
.
“ร้องทำไม หึหึ”
“หัวเราะอะไรนักหนาเล่า” ร่างเล็กมุดลงอกแกร่งที่โอบกอดเอาไว้แน่น
มือใหญ่โตและหยาบกร้านจากการทำงานหนักของเจ้าจอมเชิดคางมนขึ้นอย่างอ่อนโยนราวกับใบหน้านั้นทำจากแก้วที่บอบบางที่สุดในโลก ริมฝีปากสีส้มบางเฉียบของฝ้ายกับดวงตาที่ทอประกายสว่างคู่กลมนั้นทำให้จิตใจของสิงหราชร้ายอย่างเจ้าจอมยอมศิโรราชอย่างไร้ข้อกังขา
“เป็นเด็กดี ไม่ดื้อนะ”
จอมร้ายเหยียดยิ้มก่อนจะบรรจบริมฝีปากหนาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นร้อนแรงในเวลาเพียงไม่นาน ลิ้นเล็กๆตอบกลับมาอย่างไร้เดียงสาและแพ้ทางความเชี่ยวของจอมร้ายสัมผัสดั่งกล่าวไม่ได้ทำให้จอมร้ายผิดหวังแม้แต่น้อย มันน่ารักน่าชังเหมือนเด็กที่เพิ่งหัดเดิน … และเค้าก็อยากที่จะเฝ้ามองมันอย่างนี้ตลอดไป เค้าบอกกับตัวเอง ถ้าหากเด็กคนนี้อยากได้อะไร … เพียงแค่ไม่ใช่เดือนหรือดาว เค้าก็จะหามาให้ … หนี้ทั้งหมด ให้ถือซะว่าเป็นค่าสินสอดก็เสียแล้วกัน …
“อื้อ ดะ เดี๋ยว” ฝ้ายร้องห้ามหายใจหอบเหมือนขาดอากาศหายใจเมื่อมือใหญ่จากคนเจ้าเล่ห์เลื้อยเข้ามาในเสื้อสีขาวบางของตน
“ไม่ต้องกลัว”
“ไม่เอา กลิ่นอะไรไม่รู้” มือก็ปัดแขนคนขี้โฉยโอกาสออกจมูกเล็กๆก็ทำฟุดฟิตๆ แต่ตากลมๆนั้นก็ยังหลบไม่กล้าที่จะสบตาเจ้าชู้ของคนกะล่อนอยู่ดี
“ไม่ต้องสนหรอก”
“จิ๊ อย่าหื่น ไม่อย่างงั้นจะไม่ให้จับตัวเลยนะเว้ย!!!” ฝ้ายเอามือผลักหน้าจอมร้ายทันทีเมื่อเห็นว่าจะจู่โจมเข้ามาอีก
“หึหึ กลิ่นไหม้ปลาย่างไงล่ะ” คนตัวเล็กตาโตขึ้นเป็นไข่ห่านรีบดิ้นออกจากอ้อมกอดหนาไปที่ชายทะเลหลังบ้านมองปลาย่างที่ตัวเองทำค้างไว้และน้ำตาแทบไหลเพราะมันไหม้ซะจนไม่เหลือชิ้นดีสมองประมวลราคาและเสียดายของอย่างเสียมิได้
“ไหม้หมดเลย เพราะมึงนั้นแหละ อุ๊บ!!!”
“หึหึ พูดไม่เพราะ”
ฝ้ายยืนค้างเมื่ออยู่ๆคนเจ้าเล่ห์ก็เดินมาจุ๊บปากไปหนึ่งทีและเดินไปนั่งจิบไวท์ที่เปณวณเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนที่จอมร้ายจะหันกลับมาขวักมือเรียกร่างเล็กที่ยืนนิ่งอยู่ให้เข้าไปหา ฝ้ายจิ๊ปากก่อนจะอมยิ้มออกมานิดๆและเดินเข้าไปหาก่อนจะโดนรวบเข้านั่งเกยตักหอมลงที่แก้มใสฟอดใหญ่
“รักนะไอ้แสบ”
“หึ ไม่รักหรอก” ฝ้ายพูดก่อนจะเอียงศีรษะลงพิงกับอกหนา …
มองดูดาวบนฟ้าที่ส่องแสงอยู่ท่ามกลางความมืด … ต่อจากนี้ไม่รู้ว่าต้องเจอกันอะไรบ้าง …
แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ลำพังอีกต่อไป … ขอให้อยู่แบบนี้นานๆ … ได้แต่ภาวนาเพียงในใจเบาๆ
===========================
หายไปน๊านนาน ฮ่าๆๆๆๆ สอบเพิ่งเสร็จจ้าาาาาาาาาา
ห้องเก็บนิยาย pa_pa
เพจนะครัช
