{CH16 be confuse}
“ฝ้าย คุณลุงจะเป็นอะไรไหม ครูบอกว่า คนเราเลือดไหลมากๆมันไม่ดี”
“นอนวะไอ้แสบ พี่เราหลับไปแล้วเห็นไหม”
“แต่ขุนพลไม่ง่วง”
“นอนซะ เดี๋ยวฝ้ายจะไปดูคุณลุงให้ เป็นห่วงไม่ใช่เหรอ”
“ถ้าขุนพลหลับ คุณลุงจะหายใช่ไหม”
“ช่ายยยย” ผมลากเสียงยาวและก่อนจะหอมลงแก้มใสของเจ้าแฝดน้องที่ไม่ยอมหลับสักที แฝดน้องหัวเราะคิกคักก่อนจะหันไปกอดแฝดพี่ที่ขวัญเสียมากกว่าร้องไห้จนหลับไป อยากจะหัวเราะขำขันกับเจ้าแฝดที่บอกว่าตัวเองเป็นพี่แต่ตกใจยิ่งกว่าน้องอยู่หรอกนะ แต่ก็หัวเราะไม่ออกสักที
หลังจากเหตุการณ์นั้นไอ้โรคจิตก็โทรเรียกชายชุดดำเหมือนในหนังมารับตัวเองและผมกับน้องมาที่บ้านอีกหลังนึงที่อยู่ค่อนออกไปทางชานเมืองผมก็แปลกใจนะที่ทำไมมันไม่ไปหาหมอแต่ในวินาทีนั้นผมพูดอะไรไม่ออกและเข้าใจในทันทีที่มาถึงเพราะลุงหมอท่าทางแบดบอยไม่สมกับอาชีพของตัวเองรอรักษาไอ้โรงจิตอยู่แล้ว แถมรอบตัวบ้านก็ถูกคุมกันหนาแน่นยิ่งกว่าอะไรอีกด้วย เหมือนโผล่มาในดงมาเฟียเลยให้ตายสิ แต่ผมก็ … ผมก็…รู้สึกปลอดภัยมาก
บ้านทรงยุโรปทำด้วยปูนทั้งหลังและใหญ่พอๆกับเรือนไทยที่ผมเคยอยู่ มีรั้วรอบขอบชิดต้นไม้อย่างกับป่าพฤกษา ผมกล่อมเข้าขุนพลจนเจ้าตัวพล่อยหลับไปภายในห้องของสองแฝดก็ตกแต่งอย่างเรียบหรู เหมือนบ้านฝรั่งที่ผมเคยเห็นในหนัง อากาศถ่ายเทสะดวกพอสมควร เสร็จก็ค่อยๆย่องออกมา นอกห้องแต่ยังไม่ทันที่จะได้ออกไป ก็เจอยักษ์ปักหลักยืนพิงระเบียงบ้านชั้นสองสูบบุหรี่สวมเสื้อสูทตัวเก่าไว้หลวมๆโชว์แผงอกที่ถูกพันผ้าก๊อตไว้มีรอยเลือดสีเข้มทำให้ผมกลืนน้ำลายด้วยความเสียวไส้ …
“สองแฝดหลับแล้วหรือไง”
“อือ 3 ทุ่มแล้วนี้” ผมว่า … ใช่ครับตอนนี้ดึกแล้วตั้งแต่มาที่นี้ในช่วงเย็นผมก็คลุกอยู่กับน้องแค่ในห้องปลอบกันยกใหญ่เพราะสองแฝดค่อนข้างตกใจ มีคนมาส่งข้าวส่งน้ำให้ถึงห้องอีกต่างหาก แต่พอตอนนี้บรรยากาศภายในบ้านกลับเปลี่ยนไปมันเงียบสงบ ราวกับมีแค่ผมกับจอมปิศาจ
“ฉันอยากอาบน้ำ” รู้สึกตาขวากระตุก
“ก็ไปอาบสิ”
“ที่ต้องโดนยิงเพราะใคร” เพราะผมหรือ ???? ถุ้ยยยยยยย!!! เพราะมีคนเกลียดขี้หน้าเยอะต่างหาก อย่ามาอ้างไอ้หอกกกกกกกกก!!!
“ไม่เอาอ่ะ อยากอาบก็อาบเองเดะ”
“หรือจะให้เพิ่งหนี้ขึ้นอีกเท่าตัวดี เลือกเอาและกัน” แล้วไอ้ปิศาจก็เดินเข้าห้องข้างๆไป …พัง ผมว่าชีวิตผมพังแล้วล่ะ =_=’
จนแล้วจนรอดผมก็ต้องกลั้นใจเดินตามไอ้บ้าเข้ามาในห้องและต้องปรือตามองไอ้โรคจิตที่อยู่ในชุดคุมอาบน้ำอย่างระอา จะโชว์อะไรนักหนาหุ่นก็ไม่ได้ดีไปกว่ากูอะไรนักหนาหรอ (เหรอ)
“เข้าไปเตรียมน้ำซะ” สั่งจัง ผมย่นจมูกอย่างหงุดหงิดและเดินปึงปังเข้าไปในห้องน้ำ ถึงจะเล็กกว่าที่ใหญ่ แต่ก็ยังมีอ่างกุชชี่หรูประดับอยู่ดีล่ะนะ เหอะ เบื่อคนรวยชะมัดบ่นได้แค่ในใจสักพักเดียวน้ำก็เต็มอ่าง หันไปจะออกไปเรียกก็ไม่ต้องล่ะ ไอ้บ้าจอมร้ายมายืนรออยู่หน้าประตูแล้ว หึ รังแกกันนักนะ เดี๋ยวพ่อก็เอาหมามุ่ยใส่ลงในอ่างน้ำเสียให้รอดรู้รอด
“เฮ้ย!!!!” ผมตกใจรีบยกมือปิดตาเมื่อไอ้โรคจิตกระชากผ้าที่ตัวเองสวมอยู่หลุดต่อหน้าต่อตาโผ้มมมมมมมม!!!!! แกล้งผม มันแกล้งผม ทำไมหมอนี้ชอบแกล้งผมนัก!!!!!!
“หึหึ … นี้กลัวหรือสั่นสู้” ผมกระเด้งตัวหลบเมื่ออยู่ๆเสียงกระซิบทุ้มๆก็ดังข้างหู ขะ ขนลุก!!!
“หึ! มาอาบน้ำให้ฉันได้ล่ะ” ไอ้จอมปิศาจเดินไปจุมตัวลงในอ่างน้ำ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งใจอย่างน้อยมันก็ยังใส่อันเดอร์แวร์และนะ หึ อย่าให้พี่โชว์มั่ง พี่โชว์แล้วน้องจะหนาวบอกเลย ฮึฮึ
“ทำหน้าแบบนั้นคิดอะไรอยู่เจ้าเด็กบื้อ”
“จิ๊ เดี๋ยวพ่อก็เอาน้ำสาดแผลซะนี้!”
ผมเดินเข้าไปเอาพลาสติกกันน้ำที่วางอยู่บนอ่างล้างหน้ามาพันรอบหัวไหล่ที่มีผ้าพันแผลเอาไว้พอมองแผลใกล้ๆแล้วก็อดตกใจไม่ได้ คนไล่ยิงกันกลางเมืองอย่างกับในหนังวินาทีนั้นผมคิดว่าผมจะไม่รอดซะแล้ว เสียงมันดังเหมือนประทัดแตก จำได้ว่าผมได้ยินเพียงเสียงของไอ้จอมร้ายที่ตะโกนให้ผมหลบและจำได้ว่าผมกอดสองแฝดแน่น …คิดอยู่ในใจว่าผมจะไม่มีวันปล่อยแขนนี้ออกจากสองแฝด พอคิดแล้วใจก็พลอยหวิวไปด้วย …
ซ่า …
ผมตัดน้ำราดหัวไหล่อีกข้างที่ไม่มีแผลของเจ้าจอมก่อนจะบีบครีมอาบน้ำใส่มือค่อยๆบรรจงถูของไอ้โรคจิต ใครจะคิดว่าผู้ชายหยาบกร้านอย่างปิศาจตนนี้จะมีผิวสีแทนเรียบเนียนขนาดนี้ แต่แผ่นหลังกลับมีรอยแผลเป็นลึกพาดเกือบเต็มแผ่นหลังแต่ถูกสักทับด้วยลายเสือตั้งแต่ต้นคอยันก้นกบ… ไอ้เสือตัวนี้ผมเห็นมาสองสามรอบแล้ว ไม่คิดว่าพอเห็นใกล้ๆแล้วมันจะสวยขนาดนี้ คนสักคงประณีตมาก ผมค่อยๆลูบผ่านกลางลำตัวของเจ้าเสือยักษ์ … คนๆนี้เคยโอบกอดผมในตอนที่ผมกลัวที่สุดในชีวิต
“เป็นอะไร” ผมสะอึกเมื่ออยู่ๆเจ้าจอมปิศาจถามขึ้น
“อะ อะไร?” ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย มาถามแบบนี้ได้ยังไง
“ปกติน่าจะเอาแปรงขัดส้วมมาขัดหลังฉันไม่ใช่หรือไง”
“จะเอาหรือยังไง ซาดิสต์ปะถามจริง”
“หึหึ”
“เฮ้ย!!!!”
ตุบ… “ไอ้บ้า ปล่อย!!! เปียกหมดและเห็นปะ!!! เป็นบ้าอ่อ!!!!” ไอ้บ้าโรคจิตอยู่ๆมันก็กระชากผมลงมาในอ่างด้วย แถมกอดไว้แน่นอีกต่างหาก แม่งเอ้ย!!! เอกราชกู!!!!
“ชู่ว นิ่งๆ”
“นิ่งพ่อง!!! ปล่อยยยยยยย!!!”
“หึหึ อย่างงี้สิถึงจะสมกับเป็นนาย พยศแบบนี้แหละดี” ผมเอียงคอหน้าร้องผ่าวเมื่อหนวดแหล่มๆของมันหอมเข้าที่แก้มผม อ๊ากกกกกกกก! หอมผมทำไมอ่ะ ไอ้เกย์บ้า เป็นเกย์ใช่ไหม แงงงงงงงง!!! … ไม่อ่ะ ผมไม่อยากรู้สึกดีแบบนี้อ่ะ ผมต้องเกลียดมันสิ ผมจะไม่ยอม …
ลมหายใจกับกลิ่นบุหรี่จางๆ … ใกล้กันเกินไปแล้ว … สัมผัสที่แข็งกระด่างแต่กลับอ่อนโยน มันทำให้ผมรู้สึกโหยหา … เหมือนเจอบางอย่าง … เหมือน … เหมือน
แก๊ก …
“โอ๊ะ!!! แอมซอรี่ ” อะ อะ อะไรอ่ะ เมื่อกี้ใครเข้ามาอ่ะ ละ ละ ละทำไมผมถึงมามุดอยู่กับอกไอ้บ้านี้ล่ะ!!!
ผลั๊ก!!!!
“จะบ้าหรือไงโว้ย!!!!” ผมเสยปลายคางไปหนึ่งดอกก่อนจะวิ่งออกมานอกห้องน้ำในสภาพเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำพอออกมาได้ก็เจอฝรั่งบ้าบออะไรใครก็ไม่รู้ยืนทำหน้าเลอหลาอยู่หน้าห้องน้ำ
“โว้ย!!!!” ผมขู่ไปฟ่อนึงและรีบใส่เกียร์หน้าเข้าห้องมาหาสองแฝด
พอปิดประตูได้เท่านั้นแหละเหมือนเหลียวแรงหายวับไปกับตา ขาอ่อนกองลงไปนั่งกับพื้น … มือสั่นระริก หน้าชาซ่านไปหมด ริมฝีปากยังอุ่นๆอยู่เลย … ให้ตายสิ ผมกำลังสับสน … ไอ้บ้านั้นทำให้ผมสับสน …
.
.
.
“ฝ้าย วันนี้เราสองคนไม่ได้ไปโรงเรียนอีกแล้วเหรอ” ขุนทัพพูดอย่างเหงาหง่อยบนโต๊ะกินข้าว ผมเอามือลูบหัวปลอบใจก่อนจะป้อนข้าวต้มให้กินสลับกันกับแฝดน้องที่หง่อยไม่แพ้กัน ผมเหลือบขึ้นไปมองไอ้โรคจิตที่นั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์ในชุดสูท กับไอ้ฝรั่งบ้าพอกันที่นั่งจ้องผมตาหวานเยิ้ม บ้าจริงทำไมผมกับน้องต้องมาอยู่ในวงเกย์ๆแบบนี้ด้วย อยากกลับไปบ้านใหญ่มากกว่ายังไงผมก็ยังมีคุณหญิงเป็นไม้กันหมาบ้าบ้าง
“โผ้มเชอ เรกกี้นะค้าบ” สำเนียงเปล่งๆของไอ้ฝรั่งทำให้สองแฝดหูผึง ขมุบขมิบจะพูดตามเอาล่ะไงไอ้หุ่นยนต์เด็กเริ่มเลียนแบบสิ่งรอบตัวอีกล่ะ
“โผ้มเชอ ขุนทาบน้าค้าบ”
“โผ้มก็เชอ ขุนโผนน้าค้าบ”
“ง๊าน ราวรู้จากกานแล้วปายเล้นกานม่ะ” สองแฝดกระซิบกระซากกันสองสามคำก่อนจะหันมาพยักหน้าพร้อมกันและพากันเฮโลไปหาฝรั่งเรกกี้ไปเล่นคิดผิดล่ะนาย ไอ้สองแฝดเวลาเล่นนี้ยิ่งกว่าพายุซะอีกนะ โชคดียูวววววว!
“นับจากนี้ 3 วันห้ามออกจากที่นี้เด็กขาด ฉันโทรบอกแม่แล้ว ส่วนเรื่องโรงเรียนแฝดฉันจะให้คนโทรไปลาเอง”
“ขอเหตุผล”
“ไม่ปลอดภัย”
“จากอะไร”
“ถามมาก อยากเจอจูบอีกหรือไง หรือว่า … อยากโดนจริงๆ” ผมเอาช้อนแปะกลางหน้าผากไอ้มนุษย์ลุงบ้าที่ยื่นหน้าเข้าจะลักจุ๊บผมอีก ไม่ได้แอ้มกูหรอกกกกกกกกก !!!!
“ถามจริงๆ ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า”
“หึ ก็แค่อสรพิษจนตรอก … สามวันก็เหลือเฟือกับการกำจัดรากเหง้าถอนโคนพิษของมัน” ไอ้แก่พูดเสียงเย็นชาแต่เต็มไปด้วยเล่ห์กล … ไม่เข้าใจเลยแหะ แต่คงเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างแน่นอน … เฮ้อ นี้ผมหลงมาอยู่ที่นี้ได้ยังไงเนี้ย =_=’
.
.
.
โกดังปิดตายที่เก็บอุปกรณ์ก่อสร้างในไซส์งานที่ทั่วทั้งห้องมืดสนิทในซอกที่เก็บเหล็ก มีชายร่างสูงนั่งขดสั่นเทาคล้ายกับกลัวบางสิ่งบางอย่างจะเข้ามาทำร้ายอ่อนเพลียไร้เรียวแรงเพราะหนีมาตลอดทั้งคืน เค้าอยู่ในชุดสูทสีดำขาดวิน หน้าตามอมแมมเต็มไปด้วยคราบเหงื่อ ดวงตาที่เคยส่องประกายความเจ้าเล่ห์บัดนี้เหมือนอสรพิษที่จนตรอก
โครม!!! “อะ อ๊ากกกกกกกกก!” ร่างสั่นเทานั้นตะโกนลั่นเมื่ออยู่ๆประตูโกดังถูกเปิดออก แต่แล้วก็รีบเอามือปิดปาก เพื่อหลบซ่อน แสงอาทิตย์ภายนอกสาดส่องเข้ามาพร้อมกับร่างสูงใหญ่ 3-4 คนที่กำลังย่ามกายเข้ามาในพื้นที่หลบซ่อน
เสียงฝีเท้าเดินไปมา ก่อนจะหยุดตรงหน้าของเจ้าของอสรพิษที่น้ำตาไหลพลาดออกมาเมื่อนึกถึงชะตากรรมข้างหน้าของตนเองที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ดวงตาคมลุกโชนขึ้นด้วยพลังเฮือกสุดท้าย
“กูไม่ยอม กูไม่ยอม!!!!!!”ร่างนั้นผงะขึ้นจะวิ่งหนีตายเสียให้ได้ แต่แล้วก็ถูกหัดลุ่นๆเข้ามาลิ้นปี่จนจุกลงไปกองกับพื้น ก่อนถูกหิ้วคอเสื้อขึ้นมาประจันหน้ากับหน้าเหี้ยมเกรียมของใครบางคน
“ว่าไงคุณอัมเรส คิดจะเล่นกับใคร คิดหรือยังว่าถ้าโดนแว้งกัดมันจะเจ็บแค่ไหน”
“มะ มึง!!!ไอ้ขี้ข้า ปล่อยกู!!!!!”
“หึหึ เกมนี้ถ้าเจ้านายผมพลาดเค้าคงตาย แต่ในเมื่อคุณพลาด … คุณก็ตาย” ตาของอัมเรสฝ่ายขายผู้เต็มไปด้วยความโลภเบิ่งกว้าง
ปัง!!!!! เสียงปืนดังลั่นโกดังเก็บอุปกรณ์ก่อสร้างอันเงียบสงบ ก่อนที่ร่างของเจ้าอสรพิษจะโรยรายลงจมกองเลือด …
=================================
เฮียปิศาจของเราเริ่มแปลกๆแล้วแหะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
คิดถึงหนูฝ้ายกันไหมขอโทษที่หายไปนานนะค่ะ จุ๊บๆ
เจอกันตอนหน้าจ้า 