{CH 10 Annoy }
เวลานี้ไอ้สองแสบเลิกเรียนแล้วและคงมีคนบ้านใหญ่ไปรับแล้วแน่ๆ … แต่ถ้าไม่มีคนไปรับล่ะ … ไอ้แสบสองคนต้องรอ รอแล้วพอไม่เห็นผมก็ร้องไห้หาผม และเจ้าพลก็ต้องพาเจ้าทัพกลับเองเด็กพวกนั้นไม่รู้ทาง สุดท้ายก็ต้องหลงทาง หลงทางเสร็จก็ถูกจับไปขาย … อ๊ากกกกกกกกกกกก!!!! ไม่อาววววววว!!!!
“จะไปไหน”
ผมชะงักหันไปมองไอ้มนุษย์ปูนปั้นที่เอาแต่นั่งเซ็นต์เอกสารเงียบๆอยู่หลายชั่วโมงขนาดผมนั่งหัวโด่อยู่ในห้องด้วยยังไม่สนใจ ชวนไปกินข้าวก็เมินผม แถมพอผมไปกินยังต้องใจดีมีความเป็นมนุษย์สงสารเพื่อร่วมโลกด้วยการซื้อมาฝากมันอีก แถมยังเอาอะไรมายัดใส่หัวผมเยอะแยะก็ไม่รู้ ไม่ได้อยากเรียนสักหน่อยบัญชีอะไรเนี้ย! จิ๊ ! และทีอย่างงี้มาเรียกคนอื่นเค้า
“ทำไมต้องบอกด้วย ?”
“… ก็แล้วแต่ … แต่ถ้าเดินออกจากห้องนี้ไปอย่าหวังจะได้เข้าบ้านฉันอีกเลย” หน่อยยยยยยยยย!!!! ไอ้เวรนี้ =_=’ ขู่ตลอดดดดด
“จะไปรับน้อง!!!”
“ฉันให้คนไปรับกลับบ้านแล้ว” ไอ้บ้านั้นพูดหน้าตาเฉย ชิชะ! ทำเป็นอวดดี หล่อนักหรือไงฮะ!
“งั้นก็กลับกันเหอะ จะ 5 โมงแล้วนะ” ผมหน้ามุ่ยเดินไปหามันที่นั่งก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรอยู่ยุกยิกๆ ตั้งนานแล้วนะไอ้ท่าทางแบบเนี้ย งานมันจะยุ่งอะไรนักหนาเป็นถึงเจ้าคนนายคนเอาแต่ทำงานอยู่ได้ ถ้าเป็นผมก่อนหน้านี้ไม่แปลกหรอกนะ ฮึ จะไปยึดบ้านใครอีกล่ะ ไอ้หน้าเลือดดดดดด!
“งานยังไม่เสร็จ”
“งั้นกูกลับก่อนนะ! โอ๊ะ!!! ปล่อยยยยยยยย!” ผมร้องลั่นเมื่อไอ้หนูจอมโรคจิตเอื้อมตัวมารวบเอวผมขึ้นไปบนโต๊ะทำงานมันอย่างไม่ทันตั้งตัวสภาพก็เรทอาร์มาก!!!! ไอ้บ้านั้นเอาหน้าเข้ามาใกล้ผมที่สภาพคุกเข่าขาคู่อยู่บนโต๊ะทำงานของมันเอกสงเอกสารยับหมดแล้วเห็นไหม และหน้าแบบนี้ ยะ อย่า คิดว่ากูจะหลงกลนะไอ้แก่จอมร้าย!!!!!
“ไหนบอกสิจะไปไหน ?”
“กลับบ้าน!”
“บ้านใคร” มันยิ้มมุมปากก่อนจะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผมอีก ไอ้บ้านี้!!!!! อ๊ากกกกกกกกกกก!!!!
“บะบ้านคุณหญิง!!!!”
“หึหึ กลับยังไง” ไม่ต้องมาหัวเราะเยาะเลยหน้ากูคงทุเรศมากสินะตอนนี้นะ!!!!!ฮึ้ย!กัดหูซะดีไหมเนี้ย!!!!
“เอาหน้าออกไปนะ!!!!! อ๊ากกกกกกก! ปล่อยนะเว้ยไอ้บ้า!!!!” ผมตะโกนใส่หน้ามันและพยายามขัดขื่นตัวออกมาแต่ก็พลาดท้ายืนขึ้นและอุ้มผมพาดบ่าเดินไปที่โซฟาที่ผมนั่งตายตอนตายมาตลอดทั้งวัน ฮึ้ย ผมเกลียดโซฟาตัวนั้น!!!
ฟุบ!ผมถูกมันเอามานั่งคร่อมตัวมัน ไอ้นี้มันแกล้งผมแน่ๆ ดูหน้ามันผมก็รู้ !!!! ผมจัดการง้างมือจะทุบหน้ามันให้แรงที่สุดแต่ก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆมันก็รวบเอวผมและพลิกตัวคร่อมผมไว้ในท่านอน! อ๊ากกกกกก! ยิ่งเรทเข้าไปอีก อยากโดนดีสินะได้เลย!!! ท่าไม้ตาย!!!!! หัวเข่าเตะไข่!!!!
… แอ๊ะ… มันรู้ทันอ่ะเอาหัวเข่ากดขาผมไว้เฉยเลย!!!!
“หึหึ ใช่มุขเดิมไม่ได้ผลหรอกไอ้หนู มาต่อกันจากเมื่อตอนเช้าดีกว่าเนอะ” มันยิ้มมุมปากก่อนจะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆ … จน … จน …
ผลั๊ก!!!!! ผมผลักหน้ามันจนหน้ามันหงายและรีบลี้ภัยออกมาจากไอ้บ้านี้ แต่ก็โดนรวบกลับไปอีกรอบนี้มันรัดตัวผมไว้แน่นเลย และก้มลงมาจูบโดยที่ผมไม่ระวังตัวด้วย ฮึก … ไอ้บ้านี้ ไอ้บ้านี้!!!! ทำไมมันชอบแกล้งผมนัก ยึดบ้านผมไป เอาน้องมาขู่ แถมยังมาทำร้ายจิตใจอีก มันไม่ได้เห็นผมเป็นคนเลย ผมเป็นแค่ของเล่นของมันใช่ไหม แม่งชั่ว ไอ้จอมชั่ว!!!!!!
“หึ นึกว่าแน่” ผมมองไอ้บ้าที่ลุกออกไปจากตัวผมด้วยน้ำตาที่นองหน้า ทำไมผมเป็นแบบนี้ตลอด ไม่เคยต้องเป็นแบบนี้เลย จะขายรักก็ไม่เคยต้องแพ้ทางใคร หาทางออกมาได้ตลอด แต่กับไอ้บ้าที่นั่งมองหน้าด้วยสายตาเยาะเย้ยแบบนี้ ทำไมผมต้องแพ้ตลอด ไม่ยุติธรรมเลย ฮึก ไม่ยุติธรรม
“จะกลับก็ลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย” มันพูดไม่มองหน้าผมสักนิด ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป ผมค่อยๆพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งติดกระดุมที่ไอ้โรคจิตแกะออกตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ แย่ชะมัด สภาพแบบนี้เหมือนโดนรุมโทรมมาเลย ไอ้ฝ้ายนะไอ้ฝ้าย เมื่อไรจะหาทางแก้แค้นไอ้บ้านี้ได้สักที !!!!
โครม!
“ออกรถสิ”
พอขึ้นไปบนรถได้ผมก็หันไปบอกไอ้บ้าโรคจิตที่เล่นกระดานฉนวนไอแพตบ้าบออะไรก็ไม่รู้ อ้าว แล้วใครจะขับรถล่ะมานั่งหลังกันสองคนแบบเนี้ย หมอนั้นหันมามองผมก่อนจะยักไหล่และเผยอปากไปที่ลุงคนขับรถด้านหน้าแกมองผมแบบยิ้มๆผ่านกระจกมองหลัง ผมหดไหล่ก่อนจะยิ้มแห้งๆให้ลุงแกย่นคอหันไปแยกเขี้ยวให้ไอ้น้องจอมแก่นิสัยชั่วร้าย ไอ้หมอนั้นยิ้มเยาะผมก่อนจะออกคำสั่งให้ลุงแกออกรถ หึ! คุณชายจริงๆ ทีเจอกันตอนแรกนี้ ดริฟเกือบทับผมกับน้องแหนะ เชอะ!
“ร้องเพลงหน่อยสิ”
“ก็เปิดเพลงเอาสิ… ครับ” ผมกัดฟันพูดเมื่อหันไปเห็นตาลุงคนขับรถ โอ้ย! อยากด่าโค้นนนนนนนน
“จะร้องไม่ร้อง… หรืออยากให้คนอื่นรู้ว่าเวลาฉันสัมผัสนานนายร้องเสียงยังไง” ผมผลักหน้าไอ้โรคจิตที่เอาหนวดมาถูแก้มผม โว๊ะ!!! ร้องก็ร้องว่ะ ร้องแล้วอย่ามาบ่นแล้วกัน
“เอาเพลงอะไรล่ะ”
“… นับหนึ่ง”
“ก็ถามว่าจะเอาเพลงอะไร!”
“นับสอง”
“ไอ้หมานี้!!!”
“นับสะ …”
“ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า ช้างมันตัวโตไม่เบา จมูกยาวๆ เรียกว่างวง มีเขี้ยวใต้งวงเรียกว่างา มีหูมีตาหางยาว เฮ้!!!!” ผมกางมือเหมือนสองแฝดชอบเต้นให้ผมดู ลุงคนขับหัวเราะกิ๊กส่วนไอ้น้องจอมร้ายมองผมนิ่งเก็กหน้าชาแล้วมั่งน่ะ =_=’
“ตลกดีนะครับหนูคนนี้”
“ปัญญาอ่อนสิไม่ว่า”
มะ มะ แหมมมมมมมมมมมมม!!!!! อย่ามาให้เต้นอีกเป็นครั้งที่สองแล้วกัน เชอะ!!!!!
ปัง!!! ผมปิดประตูรถเสียงดังเดินหงุดหงิดงุ่นง่านเข้าไปในบ้านใหญ่ไม่สนใจไอ้บ้าโรคจิตที่หยิ่งคุยด้วยก็ไม่พูด แต่พอผมหยุดพูดก็คะยั้นคะยอให้ให้ผมพูดอยู่ได้ น่าเบื่อชะมัด!
“ฝ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!” ผมหูกระดิกยิ้มร่าเมื่อได้ยินเสียงผสานของเจ้าเด็กแฝดสองคนที่วิ่งออกมาจากบ้านใหญ่ สองคนอยู่ในชุดนอนหมีกันทั้งคู่ต่างกันแค่เจ้าพลเป็นสีขาวกับเจ้าทัพเป็นสีน้ำตาล น่ารักดุ๊กดิ๊กมาก ต้องกราบขอบพระคุณคุณหญิงรสกรอีกแล้วสินะ ฮ่าๆๆๆๆ
“วันนี้เราทำงานศิลปะมาด้วยล่ะ นี้ๆ นี้พล นี้ทัพ นี้ฝ้าย นี้คุณหญิง ป้าน้อมแล้วนี้ก็ เอ่อ … ” เจ้าทัพเงยหน้ามองไอ้โรคจิตที่เดินมาพอดีก่อนจะเข้ามากอดขาผมอย่างกลัวๆ ทำเอาเจ้าพล กลัวไปด้วยสองแฝดเกาะผมเป็นตังเมเลย … ในรูปมีไอ้บ้านี้ด้วยงั้นเหรอเนี้ย
“กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ มาๆมากินข้าวกันก่อนนะจ๊ะ” คุณหญิงเดินยิ้มแป้นตาม2 แฝดออกมา
“วันนี้ผมไม่กินนะครับ”
“ทำไมล่ะตาจอม”
“…” เอาอีกแล้วปิศาจโรคจิตออกโรงอีกแล้วผมมองไอ้หนูจอมโรคจิตที่เดินขึ้นบันไดไปอย่างหมั่นไส้เชอะ ทำเป็นเก๊กไม่เข้าท่า
“เฮ้อ … มาจ๊ะน้องฝ้ายหนูพลหนูทัพ เรามากินข้าวกันดีกว่าเนอะ”
“ไปรอที่โต๊ะเลยนะครับเดี๋ยวผมขึ้นไปตามคุณจอมก่อน”
“แต่หนูฝ้าย”
“ไม่เป็นไรครับ” ผมว่าก่อนจะวิ่งขึ้นตามไอ้บ้าโรคจิตไป มันจะมากไปแล้วมีแม่ตามกินข้าวแบบนี้แล้วยังจะปฏิเสธหน้าตายอีกเป็นลูกภาษาอะไรแค่สวัสดียังไม่มีสักคำ เย็นชาแบบนี้มันสมควรแล้วหรือไง ใจจะทนก็ตามใจอ่ะ ผมไม่ทนหรอก!
“นี้!!!! เฮ้ย!!!! โรคจิต!” ผมตะโกนออกมาเสียงดังเมื่อเปิดประตูเข้าไปเจอไอ้บ้าทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่อันเดอร์แวร์ขาสั้นสีดำแค่ตัวเดียว!!!!!! หุ่นดีไปอี๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกก อิจฉาโว้ย !!!!
“ทำไม อยากมองขนาดนั้นเลยหรอไงถึงตามมา ฮึ!” ผมร้องว๊ากขึ้นเมื่อมันเดินมากระชากแขนผมเข้าไปในห้องแถมล็อกประตูอีกต่างหาก บร๊ะแล้ว!!!!!
“ยะ อย่านะ แค่จะมาตามกินข้าวเฉยๆ อย่าทำอะไรกูนะ” ผมร้องเสียงลั่น และเหมือนได้ยินมันหัวเราะนิดๆด้วย เออเว้ย เมื่อกี้ยังเห็นเย็นชาเป็นแป้งแช่น้ำอยู่เลย ชิ อารมณ์เปลี่ยนไวจริงๆนะมึงนะ
“หึหึ อยากให้ฉันลงไปกินข้าวหรอ” ผมพยักหน้าหลบตามันที่มองผมแทบจะทะลุไปทั้งตัวและดูสภาพมันเด้!!!! สะยึ้ยมาก =_=’
“ก็ได้ … แต่มีข้อแม้นะ นายต้องอาบน้ำให้ฉัน …”
“ง่ะ!” ผมเผลออุทานออกมาอ้าปากค้าง … ก่อนจะเห็นภาพโซโลโมชั่นเดินเข้าห้องน้ำไป … งะ งั้นมึงก็อดตายไปเลยแล้วกันนะ!!!!!!!!!!
.
.
.
มื้อเย็นผ่านไปโดยไม่มีไอ้น้องจอมโรคจิตนั้น เฮอะ! ไม่อยากกินก็อดตายไปซะเรื่องอะไรผมต้องไปอาบน้ำให้คนพันธ์นั้นด้วย ถ้าเป็นสองแฝดที่ผมเดินจูงกลับมาบ้านสะโล้สะเล้อ้อนให้ผมอุ้มกันใหญ่ ผมเลยปฏิเสธไม่ลงต้องเอาไอ้หมีน้อยสองตัวขึ้นมาอุ้มไว้แขนคนล่ะข้าง เฮ้อ … สองแฝดโตขึ้นอีกแล้วสินะ … ถ้าวันไหนโตจนผมอุ้มไม่ไหวจะเป็นยังไงนะ … ผมไม่อยากให้ถึงวันนั้นเลย …
ผมค่อยๆวางเจ้าหมีอ้วนสองตัวลงบนที่นอนของทั้งคู่อย่างเบามือก่อนจะห่มผ้าห่มให้แน่นอก ปิดหน้าต่างไม่ให้ลมโกรกน้องเดี๋ยวจะไม่สบายเอาและหันมาเปิดแอร์ 26 องศาให้แทน ก่อนจะเดินกลับมาหอมแก้มแฝดคนล่ะทีเป็นการราตรีสวัสดิ์ แต่ดูเหมือนจะหอมแรงไปหน่อยเจ้าพลแฝดพี่ลืมตาขึ้นมามองผมก่อนจะยิ้มให้และโน้นตัวผมไปหอมหน้าผากเบาๆ
“ไม่เหนื่อยนะฝ้าย พลรักฝ้ายมากๆเลยนะ ทัพก็รักฝ้ายแต่วันนี้ทัพเล่นมากไปหน่อยทัพเลยหลับไปแล้ว พลจะดูแลน้องนะฝ้าย รักฝ้ายนะ” พูดเสร็จตาสองข้างของเจ้าพลก็หลับลงมือเล็กๆค่อยๆคลายออกไปกอดก่ายแฝดน้องที่ตะแคงข้างซุกหน้ามาหาตนอย่างน่ารักน่าเอ็นดู … ผมแอบปาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ทันตั้งตัวเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆเดินออกมาให้เงียบที่สุด
พอเข้ามาให้ห้องได้ … ความเข้มแข็งทุกอย่างก็พังทลายลงด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาเหมือนไม่มีวันหมด … ผมจะเข้มแข็งต่อหน้าคนอื่นผมจะไม่ร้องไห้ … ผมบอกได้แค่นี้
==========================
มะ มะ มา แย้วจ้า ฮ่าๆๆๆ
คิดถึงหนูฝ้ายกันม้ายยยยยยยยยยยยยย 
ขอบคุณทุกกำลังใจและขอกำลังใจด้วยนะค่ะ
เจอคำผิดลิสมาเลยน๊า อิอิ
รักจ้า 
