บทที่ ๑๙ อีกครั้งที่เสียใจ...
...เอกสารในซองสีน้ำตาลถูกเทลงบนพื้นโต๊ะ...
รูปชายสูงอายุร่างใหญ่ถูกเลือกมาวางไว้ตรงหน้า พระพรต สามสี่ใบ ก่อนจะมีคำอธิบายหลุดออกมาจากเพื่อนสนิทที่ตอนนี้ทำหน้าที่เป็นนายหน้าหางาน...
“ ‘จาง เทียน อี้’ เจ้าพ่อตัวจริงเสียงจริงเสือเฒ่าที่มีอำนาจระดับตำนานมีชีวิตเลยล่ะ ฉากหน้าทำธุรกิจโรงแรมใหญ่... เบื้องหลังค้ามนุษย์และอาวุธสงคราม...ส่วนนี่คืองานของนาย ‘จาง ซี ’ ลูกชายคนเดียวของตระกูลจาง..."
ซองเอกสารเปล่าถูกยื่นให้ พระพรต ...พร้อม กล้องตัวเล็กที่ซ้อนในช่อดอกไม้สด ...
“ไม่มีรูปหรือ?”
“ไม่...เพราะเรื่องรูปของ จาง ซี คืองานของนาย...เข้าถ้ำเสือแล้วล้วงรูปลูกเสือออกมา”
“มีข้อมูลมากกว่านี้ไหม?”
“จาง ซี ??? ข้อมูลคลุมเครือวะ จาง ซี น่าจะเป็นชื่อย่อหรือไม่ก็ฉายา เพราะจากแฟ้มประวัติเสือเฒ่าจางมีลูกชายแค่คนเดียว ชื่อ จาง คิม แต่อยู่ๆก็เงียบไปแล้วมี จาง ซี เข้ามาแทนข้อมูลวงในว่ากันว่า จาง คิม น่าจะโดนเก็บเพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ ตระกูลจาง แต่งดำไว้ทุกข์เกือบสามเดือนแต่ข่าวไม่ยืนยัน แล้วจู่ๆก็มี จาง ซี เข้ามาในฐานะลูกชายคนเดียวของตระกูล... ”
“ลูกเมียน้อยหรือเปล่าวะ?”
“ไม่น่าใช่...ตาแก่จาง เทียน อี้ มีเมียใหญ่แค่คนเดียว ชื่อ'จาง ฟู่หลี้ ' ”
“ไม่มีรูปไม่มีข้อมูลอะไรสักอย่าง...แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าใคร คือ จาง ซี ?”
“ง่ายวะพรต ...ลูกเสือมันอยู่ใกล้พ่อเสือตลอด...และที่สำคัญงานคืนนี้....ลูกเสือมันเป็นคนเข้าประมูล ‘เนื้อ’ ด้วยตัวเอง...”
.
.
.
***
....กล้องตัวจิ๋ว ถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียนในช่อดอกไม้ติดเสื้อ ...
พระพรตสูดหายใจยาว ขยับตำแหน่งของกล้องให้อยู่ในจุดที่คิดว่าดีที่สุด งานนี้อันตรายแต่ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ งานด่วนเงินดี ดีจนขนาดรับทำงานนี้แค่วันเดียวมันก็เกินเงินเดือนทั้งเดือน ในตำแหน่งอาจารย์พยาบาลพิเศษแล้ว ความจริงทางเลือกในสายอาชีพมันคงดีกว่านี้ถ้าสอบสัมภาษณ์ผ่าน ใบประกอบโรคศิลป์คงไม่ลอยหายไปต่อหน้า ไม่โทษใครนอกจากตัวเอง ...ก็ใครใช้ให้ดันเกิดภาพหลอนก่อนวันสัมภาษณ์จนต้องเข้าโรงพยาบาลล่ะ ... หมอจิตเวช ดันเข้ารับการบำบัดจิตเสียเอง พระพรตไม่โทษใคร นอกจากตัวเอง และไอ้สัตว์ประหลาดที่ชื่อ ษิตรา !!
พระพรต รู้ดีว่ามันมีอยู่จริง... มันไม่ได้เป็นภาพหลอนในความฝันอันซ้ำซาก ....สิ่งยืนยันการมีตัวตนของมันยังอยู่ แม้สิ่งนั้นจะสงบปากสงบคำอย่างถึงที่สุด แต่บางวัน พระพรต ก็แอบได้ยินเสียงนั่น เสียงของตุ๊กตาหมีตัวโต ... เสียงของพ่อ .....
แต่สิ่งที่หายไปกลับเป็นมัน ....สัตว์ประหลาดในความฝันหายไปเหมือนมันไม่เคยมีตัวตน เขาจำได้ดีว่าวันนั้น แววตาสีดำสนิท จ้องมองเขาด้วยความผิดหวัง....
เขาผิดงั้นหรอ? ผิดงั้นหรอที่ยอมรับความจริงอะไรไม่ได้ สักอย่าง??? ยอมรับไม่ได้ว่าพ่อกลายเป็นแค่ตุ๊กตาหมียอมรับไม่ได้ว่าเขาโดนตุ๊กตาหมียกตัวเขาให้ปีศาจ แลกกับสัญญาบ้าๆอะไรสักอย่าง....พระพรต พยายามเถียงกับตัวเองว่าเขาไม่ใช่คนผิด... แต่ทุกครั้งที่คิดถึงแววตาคู่นั้นที่จ้องมา ...
.
.
ประโยคเดิมๆมันก็ก้องเข้ามาในหัว ....
'....มันไม่ใช่ผู้กอง ....พระพรตไม่ใช่ความสุขของชีต้า...ไม่ใช่...ไม่เลย...'
.
.
.
โดนล่อทั้งในความจริงและความฝันมาเกือบสิบปี จู่ๆก็เหมือนโดนฟันแล้วทิ้ง ....ไอ้สัตว์ประหลาดนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย... หายไปเฉยๆไม่ว่า ...แต่นี้มันหายไปพร้อมแววตาตัดพ้อที่เหมือนกับว่า เขาเป็นคนผิด...ผิดที่ขับไสไล่ส่ง..... ผิด....ที่ไม่ได้เป็นอย่างที่มันหวัง....
...
เขาเองต่างหากที่อยากถาม...มันหวังอะไรจากเขากันแน่?? สัญญาอะไรที่พ่อ ให้กับมันไว้ ??? พ่อไม่เคยปริปาก และเขาเองก็ไม่เคยถาม ....
แม้ทุกอย่างมันยังคาใจ ...
.
.
.
ทำไม?
.
.
.
นั่นสิ ? ทำไม ?? ทำไมเขาถึงไม่ลืมมันเสียที....
***
....ชั้น 23 ....
โอกาสมีแค่นี้....หน้าห้องบอลรูมคนมากมายเดินขวักไขว่ แต่จะมีไม่กี่คนเท่านั้นที่มีบัตรผ่าน ...พระพรต เดินวนสอดสายตาเพื่อหาคนในรูปถ่ายเสือเฒ่าจาง เทียน อี้ ต้องอยู่ในงานนี้...และถ้าเป็นอย่างนั้น ลูกเสือก็ต้องอยู่ ...
...ลิฟต์ ใหญ่กำลังขึ้นมาจากชั้นล่าง ..กลุ่มคนชุดดำสามสี่คนเดินนำเคลียร์ทางออกมาก่อนจะเป็นชายสูงอายุร่างใหญ่ที่โอบไหล่เด็กหนุ่มคนหนึ่งไว้แน่นเหมือนกระเซ้าแหย่ ...
...พ่อเสือ ....กับลูกเสือ....
พระพรต เดินมุ่งตรงเข้าไปแต่ต้องชะงัก... กลิ่นอายของอะไรบางอย่างมันคุ้นจมูก กลิ่นสาบ...กลิ่นลูกไม้ กลิ่นหอมแปลกที่พระพรตอธิบายไม่ถูก....ครั้งแรกและครั้งเดียวที่เคยได้กลิ่นนั้น....
..
.
.
.
'กลิ่น ของ...ษิตรา....'
...พระพรตหยุดตัวเองไว้แค่นั้นแล้วหันหาต้นตอของกลิ่น ....หัวใจกระตุกวาบแล้วเต้นแรงจนยั้งตัวเองไม่อยู่ ความรู้สึกบางอย่างมันเอ่อล้นจนร้อนวาบออกมาจากเบ้าตา...ก้มหน้าไม่ได้ เพราะน้ำตาที่คลออยู่เหมือนจะไหลพรากลงมา ...
อย่าบอกนะว่าเขาคิดถึงมัน....เกือบจะสามปีแล้วที่มันหายไป....
.
.
.
.... หายไปพร้อมกับความรู้สึกบางอย่างของเขาเอง...
.
.
.
"หลบดิวะลุง!!"
เสียงตะโกนนั้นช้าเกินไป เมื่อจู่ๆ เด็กหนุ่มอีกคนวิ่งพุ่งตรงมาและไม่ต้องสงสัย... มันชนเข้ากับเขาอย่างแรง ไม่มีคำขอโทษหรือสนใจอะไร เด็กหนุ่มนั่นลุกพรวดขึ้นและวิ่งไล่ตามเสือเฒ่าจาง และลูกชายที่เพิ่งเดินลับเข้าห้องไป... กระดาษสีแดงใบเล็กขนาดนามบัตรตกอยู่ข้างมือ ...
.
.
.
เสือยังไม่หลุดไป....โอกาสเหมือนวิ่งเข้ามาชน...เพราะกระดาษใบนั้น..
...มันเป็นบัตรผ่านงาน ....
.
.
.
***
ตั้งแต่รบเร้าขอปู่จนได้บัตรผ่านมาไว้ในมือ ธัน ก็ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งอย่างเดียว ...
.
.
.
ไม่รู้ว่าไอ้นั่นจะใช่ไอ้แว่นหนาหรือเปล่า รู้แค่ว่า...ยังไงก็ไม่ยอมให้ไอ้บ้านั่นถูกคนอื่นประมูล รีบจนลนลาน เช็คที่แอบหยิบติดมือมามีแค่หกหลักหวังว่าในงานคงไม่มีใครสู้ราคามากกว่านี้ ...แถมยังบัตรผ่านอีก ธันไม่รู้ว่าเผลอหยิบติดมือมาถึงสามใบ... แล้วถ้ามันไม่ใช่ ไอ้แว่นหนา จริงๆล่ะ ? กับคนที่เพิ่งเห็นกันครั้งแรก ....คนอย่างไอ้ธัน จะยอมเสียเช็คหกหลักเลยหรอ??
ไม่รู้เว้ย!!! รู้แค่ตอนนี้ขอแค่ได้เจอมันอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ช่างแม่งมันว่าจะเป็นยังไง...
เห็นหลังไวๆ มือไอ้แก่นั้นยังไม่ยอมปล่อยจากไหล่กว้าง ธัน วิ่งฝ่าฝูงคนเข้าไปอย่างไม่สนใจใคร ชนบ้างกระแทกบ้างก็ช่างมัน จนมาสุดที่ใครคนหนึ่งในงานร่างสูงแม่งเดินๆ แล้วเสือกหยุด ผลก็เลยแทบไม่ต้องเดา...
"หลบดิวะลุง!!"
ธันชนร่างนั้นเต็มแรงจนล้มลงไปด้วยกันทั้งคู่ แล้วยังไง? ไม่มีเวลาจะมาอะไรแล้ว เมื่อสายตาของธัน หันไปเห็นร่างโปร่งกำลังโดนตาแก่บ้ากาม [????!!!] โอบเข้าไปในห้องรับรอง....
“แม่ง!!”
ธัน สบถได้แค่นั้น เวลามีไม่มาก ลนลานเก็บบัตรกับเช็คที่หลุดมือแล้วลุกพรวดวิ่งตามกลุ่มชายชุดดำเข้าไปไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น !!!
***
...
บัตรผ่านสองใบที่หลุดมือ ใบหนึ่งพระพรตเป็นคนเก็บไว้ ส่วนอีกใบใครบางคนเก็บมันขึ้นมาแล้วยัดใส่กระเป๋าเสื้อ ... ก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปในงาน ....
.
ระบบรักษาความปลอดภัย มันเริ่มรวนตั้งแต่เหตุการณ์นั้น ...
.
บัตรสามใบ ที่ไม่อยู่ในระบบใบแรกถูกถือโดยธัน.... ใบที่สองพระพรตถือไว้... ส่วนใบสุดท้าย...
....ใครบางคนเอามันใส่กระเป๋าเสื้อสูท ....ใส่ไว้ใกล้ตำแหน่งปืนติดเลนส์ซูมที่เหน็บซ่อนไว้ที่ช่วงอก....
.
***
.....
‘เนื้อสด’ คราวนี้ถูกส่งมาจาก รัสเซีย การประมูลเป็นไปอย่างช้าๆ ...
..บนโซฟาตัวใหญ่ เฒ่าจางนั่งมองของที่ถูกส่งมาพร้อมตรวจเอกสาร ส่วน ชีต้า ถือวิสาสะขึ้นไปนั่งบนตักเสือเฒ่าแล้วกัดเล็บมองจอมอนิเตอร์ ...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ เสือเฒ่าให้ ชีต้า ตัดสินใจเลือก ‘เนื้อสด’ แต่เป็นครั้งแรกที่เปิดตัว ชีต้า ต่อคนในวงประมูล ... ปกติ ชีต้า จะถูก ส่งไปอยู่กับ [F] ในห้องรับรองพิเศษ แต่พอบ่อยครั้งเข้า ลูกเสือกลับหน้างอใส่ป๋าจาง เพราะเพียงแค่ไม่ได้นั่งข้างป๋าร่างยักษ์ เสือเฒ่าพอโดนลูกชายนิสัยเด็กน้อยอ้อนมากๆเข้าสุดท้ายเลยต้องยอมใจอ่อน เอาเสือแสบมานั่งด้วย รู้ดีว่าอันตราย ระบบรักษาความปลอดภัยเลยต้องเซ็ตใหม่ทั้งหมด สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัด ระบบเสาอากาศใหญ่ในตึก ถูกส่งเพื่อกลบสัญญาณแปลกปลอมทั้งหมด รวมทั้งระบบบัตรเฉพาะที่มีเพียงไม่กี่ใบสำหรับผู้ร่วมการประมูล...
เสือเฒ่ามองไล่อ่านเอกสาร รวมทั้งมอง ลูกชายด้วยแววตาเอ็นดู เอกสารที่ได้รับการปลอมแปลงอย่างแนบเนียน 'เนื้อสด' ต่างถูกเลือกและลงทะเบียนระบุในเอกสารฐานะนักท่องเที่ยว ที่ตีปลายทางต่างกัน ...
การเลือก 'เนื้อสด' เข้าสังกัดเป็นงานที่ ชีต้า ถนัด โครงหน้า รูปร่าง และแววตา ถูกสมองเสือน้อยประเมินผลแล้วกดราคา ....การซื้อขายที่สรุปผลโดยตัวเลขสีแดงที่หน้าจอ...มุมหนึ่งในโรงแรมหรู กลางกรุงเทพฯ ใครจะรู้ว่าชะตาชีวิตของใครหลายคนขึ้นอยู่กับตัวเลขที่ ชีต้า กด ...การซื้อขาย มนุษย์... ทำได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วของ ปีศาจ ...
.
.
.
...
กลิ่นของอันตราย.. ลอยมาแค่ปลายจมูกแต่ถึงอย่างนั้น ชีต้า ก็แค่ละสายตาออกมาจากหน้าจอ แล้วมองหา...แสงไฟหลากสีที่สะท้อนทั่วห้อง ... พรางสายตาที่ไวต่อแสง [F] ยังยืนนิ่งอยู่ในตำแหน่งเดิมกับพวกบอดี้การ์ดของป๋า...ใครบางคนที่คุ้นตาเดินปรี่เข้ามา เสือเฒ่าสังเกตเห็นแล้วหัวเราะร่า ในขณะที่เสือน้อยเริ่มหน้างอ ...
.
.ไอ้คนบ้าที่อยู่ๆก็มาเรียก ชีต้า ว่า 'แว่นหนา' ... เดินปรี่ตรงมาทาง ป๋าจางกับ ชีต้า
.
.
..อีกครั้งที่เสียจังหวะ พระพรตมัวแต่ทดสอบกล้องรู้สึกว่ามันจะมีปัญหาตอนที่เขาล้มกระแทกพื้น แก้ไขเฉพาะหน้าไปก่อนจนน่าจะใช้ได้... กำลังจะกดถ่ายแต่ก็เจอมารตัวเดิมเข้ามาขวางเสียก่อน ..
ไอ้เด็กซุ่มซ่าม ที่บังอาจมาเรียกเขาว่า ‘ลุง’ ไอ้เด็กบ้านั่นเข้าไปบังเฟรมกล้องเสียจนหาจุดถ่ายแบบชัดๆไม่ได้ ... จนพระพรตต้องเดินเข้าไปใกล้ เพื่อหาจังหวะถ่ายรูปเด็กหนุ่มร่างโปร่งที่อยู่ในวงล้อมของการ์ดร่างใหญ่ เสือเฒ่าจาง โอบกอดเด็กหนุ่มนั่นไว้ทั้งตัว ในขณะที่เด็กหนุ่ม จดจ้องมองกลับมา แล้วกลับไปจ้องจอมอนิเตอร์แล้วกัดเล็บ เหมือนคิดอะไรไปเรื่อย ...
.
.
.
พระพรต คิดไปถึงตัวเลข 5 หลักที่เป็นค่าจ้าง... แค่ถ่ายรูปเด็กหนุ่มแค่คนเดียวเงินมันดีขนาดนั้นเลยหรอ? หรือมันมีอะไรยิ่งกว่านั้นที่เขายังไม่รู้ ??? สองเท้าพาเขาเดินเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มที่สนใจแต่หน้าจอ ...ยิ่งใกล้... กลิ่นสาบยิ่งคลุ้งอวล... อดรู้สึกไม่ได้ว่า... กลิ่น... มันมาจากเด็กหนุ่มที่นั่งบนตัก เสือเฒ่า จางเทียน อี้ ...
.
.
.
แล้วก็เป็นอีกครั้งที่เขาโดนเบียด ...
...แต่คราวนี้เป็นพระพรตที่เอาคืนโดยการเดินปรี่แทรกเข้าไปแล้วยื่นเท้าขวางไอ้เด็กไร้มารยาท...
' ปัง! ปัง! ปัง! '
เสียงล้มดังเบากว่าเสียงปืนที่ยิงติดกันเกือบสามนัด กรีดร้องดังก้องไปทั่วห้องโถง ผู้คนวิ่งวุ่น
เสือเฒ่า จาง โอบ ลูกชายไว้แน่น...ในขณะที่ ชีต้า เริ่มมองหาที่มาของกระสุนปืน... [F] เข้ามายืนบังสองพ่อลูกไว้ ไฟทั่วห้องโถงเปิดสว่าง พระพรตใช้ช่วงเวลาคาบเกี่ยวที่อลหม่าน ปลีกตัวหลบเหตุการณ์ที่แม้แต่ตัวเขาเองก็คาดไม่ถึง ธัน ถูกการ์ดในงานจับให้หมอบรวมกับแขกคนอื่นๆ เพื่อเคลียร์สถานการณ์ ชีต้า ถูกเสือเฒ่ากอดไว้แน่น แน่นจนชีต้าได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงของเสือเฒ่า ....เสียงที่มันบ่งบอกว่า ป๋าจาง เป็นห่วง ชีต้าแค่ไหน ...
.
.
.เสือน้อยหลุดยิ้มออกมา แล้วกัดฟันกรอด... เมื่อได้กลิ่นคาวเลือดลอยคลุ้งออกมาจากแขนใหญ่ที่โอบตนไว้ เสื้อสูทสีดำ เหนอะเหนียวไปด้วยเลือดของเสือเฒ่า เมื่อสะเก็ดกระสุนนัดหนึ่งเจาะทะลุ เข้าโคนแขน...
ชีต้า กอดป๋าจางแน่นๆ ก่อนจะแยกเขี้ยวคม อารมณ์โกรธ จู่ๆก็ปะทุออกมาจนควบคุมไม่ได้ ... [F] ถูกชีต้าสั่งให้ดูแลเสือเฒ่า ในขณะที่คนสั่งลุกเดินตรงไปหาจุดที่แสงไฟสว่างวาบ ... เสือเฒ่าขยับตัวจะรั้ง ชีต้า ไว้แต่ความเจ็บกลับแล่นพุ่งขึ้นมาแทน ... จนต้องทรุดพิงหลังกับโซฟา....แต่ปากยังไม่วายสั่งให้การ์ดวิ่งตาม ชีต้าไปโดยไม่ห่วงตัวเอง
ชีต้า เห็น ...ร่างใหญ่ ที่หลบอยู่มุมห้องโถงเดินเลี่ยงฝ่าฝูงคนออกไป ชีต้า เร่งฝีเท้าตาม ความเร็วที่ทิ้งระยะห่างจากบรรดาบอดี้การ์ดที่วิ่งตาม ...ความเร็วของ ชีต้า ...เร็วจนเหมือนจะกระโจนใส่....
.
.
.
จนเห็นว่าร่างนั้นไปสุดที่มุมห้องน้ำ ชีต้า ปิดล็อกประตูแล้วกัดฟันกรอด กลิ่นเลือดของป๋ายังลอยติดอยู่บนจมูก ก่อนกลิ่นดินปืนจะลอยแทรกเข้ามา....
ไม่ต้องรอให้ ชีต้า เดินเข้าไปหาเพราะร่างใหญ่โผล่ออกมาจากห้องน้ำห้องหนึ่งพร้อมปืนที่ปลดล็อกเตรียมเหนี่ยวไก ปากกระบอกปืนยกขึ้นเล็งใส่...สามนัดแรกพลาดเป้า เพราะระยะปืนไม่ได้ระดับ แถมเสือเฒ่ายังเอาตัวบังเป้าหมายไว้ ...แต่ถ้าระยะเผาขนระดับนี้คงไม่พลาด ...
...แม้เป้าหมายจะอยู่ที่ จาง เทียน อี้ ..แต่การว่าจ้างกลับให้เล็งที่ดวงใจ ..ยิงเสือเฒ่ามันก็แค่นั้น สู้ ยิงดวงใจ ให้ตายไปต่อหน้าไม่ดีกว่าหรือ? ธุรกิจ มืดหวังผลไกล ..เสือแก่ที่ ขาดดวงใจ ... มันก็ไม่ต่างอะไรกับซากเสือที่รอวันผุเน่า...
.
.
***
...พระพรตยืนนิ่งอยู่ห้องกลาง สิ่งที่ระดับสายตาเห็น...คือมือกร้านที่ยกกระบอกปืนขึ้นพร้อมเหนี่ยวไก แม่ง !!! เสือกคิดผิดมาหลบในห้องน้ำ ...ใครมันจะไปคิดว่าไอ้มือปืนบ้ามันจะวิ่งตามเข้ามาติดๆ !!!
.
.
.
'ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!'
เสียงปืนดังรัวซ้อนกัน พระพรตได้แต่กลั้นหายใจนิ่ง ...
...เสียงหล่นของของหนัก... กลิ่นสาบอวล ใกล้เข้ามาพร้อมเสียงฝีเท้า ร่างโปร่งที่เคยเป็นเป้าหมาย เดินตรงเข้ามาในระยะที่เห็นได้ชัด ...แต่ใบหน้าคมที่เห็นได้จากด้านข้างไม่ได้หันมาหาเขา ... ร่างนั้นเลือกที่จะเดินเข้าไปหาซากมือที่ถือปืนค้างไว้ ....กลิ่นคาวเลือดเริ่มฟุ้ง ...ในขณะที่เลือดข้นค่อยๆไหลนองเจิ่งเข้ามาในห้องน้ำที่พระพรตยืนอยู่ .....
“ไม่เป็นอะไรนะครับ คุณซี ( Z )”
หนึ่งในบอดี้การ์ด ตะโกนถามมาจากหน้าห้องเสียงปืนเงียบไปแล้วเหลือแต่เหล่า การ์ดที่ยืนออกันอยู่หน้าห้อง [F] เป็นคนลั่นไก ก่อนที่มือปืนจะทันเหนี่ยวไกใส่ คุณชีต้า ...
.
.
.
มือปืนที่แฝงตัวเข้ามานอนนิ่งจมกองเลือดเหลือแค่ พระพรต ที่แทบจะหยุดหายใจ ...ถ้าพวกบอดีการ์ดมาเห็นเขาตอนนี้ ...สภาพเขาคงไม่ต่างจาก ศพที่พรุนอยู่หน้าห้องน้ำ...
.
.
.
“[F]…ออกไปดูป๋า ก่อน .... ทางนี้เคลียร์ แล้ว ...ปิดประตูให้ด้วย...เดี๋ยวตามออกไป... ”
เด็กหนุ่มเจ้าของเสียงยกมือโบกห้ามเหมือนไม่ให้ พวกบอดี้การ์ดข้างนอกเดินเข้ามา...พระพรตหลับตากลั้นใจ... รอสักพักเสียงจอแจหน้าห้องน้ำถึงได้เงียบ...แต่พอลืมตาพระพรตถึงกับสะดุ้งเฮือกที่ จู่ๆ เด็กหนุ่มนั้นก็หันมาทางเขา ...เป็นครั้งแรกที่พระพรตได้มีโอกาสถ่ายภาพของ ‘จาง ซี ’ ภาพที่ชัดที่สุดในตำแหน่งที่ดีที่สุด !!!
.
.
.
ร่างโปร่งเดินอาดๆเข้ามาใกล้ กลิ่นสาบหอม คลุ้งไปทั่ว ... พระพรตจำใบหน้าคมที่เคยห่างหายไปเกือบสามปีได้ติดตา...ใบหน้าคมที่ครั้งหนึ่งเคยกระซิบครางข้างหู... แล้วพร่ำเรียกชื่อ เขาซ้ำๆ เพียงแค่กะพริบตาหยดน้ำตาใสก็ไหลลงอาบแก้มแล้ว...
พระพรต ยืนนิ่ง ปล่อยให้เจ้าของกลิ่นสาบหอมประคองใบหน้าแล้ว.. พรมจูบซับหยดน้ำตา...
.
.
.
“....ษิตรา....”
แทบจะไม่เชื่อตัวเองว่าเขาหลุดปากเรียกชื่อนั้นออกมา ...เสียงเรียกครางเบา...แล้วจมหายไปในลำคอ...
.
.
.
แววตาสีดำสนิททั้งดวงเผยออกมาอีกครั้งเมื่อ ชีต้า ปิดเปลือกตาแล้วลืมขึ้น ....เสียงเรียกที่คุ้นหู ...ออกมาจากปากใครสักคนที่คุ้นหน้า ....แต่ไม่มีสมองส่วนไหนของ ชีต้า ที่จะประมวลผลแล้วส่งสัญญาณออกมาได้... เมื่อ...ความทรงจำ ถูกลบไปอย่างถาวร....
.
.
รู้ชื่อ ชีต้า งั้นหรอ? เจ้าของกลิ่นหอมที่โชยออกมา... รู้จัก ชีต้า ??? หยาดน้ำตาหวานคุ้นลิ้น ... เสียงหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ...
.
.
ชีต้าเคยรู้จัก คนๆนี้งั้นหรอ???
.
.
ลมหายใจอุ่นของใครคนนั้นหยุดลง....ในขณะที่เสียงหัวใจเต้นรัวผิดจังหวะ ....ดีใจ ??? เสียใจ??? โกรธ?? กลัว?? ชีต้า บอกถึงอารมณ์ที่รับรู้ไม่ได้....เพราะตอนนี้รู้แค่อย่างเดียว ...ความกำหนัดอันวาบหวามมันก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ...
..อยากชิมริมฝีปากสีซีดที่เย็นสั่น ..
..อยากได้ยินแค่เสียงนั่นครางเรียกชื่อ...
..อยากกอดแล้วกดร่างอุ่นตรงหน้าลงไปกับพื้นเลือดคาว...
.
.
.
...เหมือนหลงไปกับกลิ่นหอมที่ออกมาจากใครคนนั้น ชีต้า เท้ามือกับแผงอกที่หอบหายใจถี่ ...ริมฝีปากเกือบจะโน้มส่งจูบที่โหยหา...ถ้าไม่มีเสียง กร็อบดังเบาๆมาจากช่อดอกไม้สดที่เหน็บอยู่บนกระเป๋าเสื้อ... เลนส์กล้องตัวเล็กหล่นลงมาเหมือนไม่รู้จังหวะ ...
.
.
.
แค่นั้นมันก็จบทุกอย่าง .....
.
.
.
อีกครั้งที่ ชีต้า ใช้สายตาตัดพ้อมองหน้า พระพรต ก่อนจะดันตัวเองออกมาแล้วกัดฟันกรอด .... ไม่ใช่คนที่คุ้นเคยหรอก ...มันก็แค่สปายที่ถูกส่งมา ..ชีต้า พลิกตัวหันหลังกลับทิ้งให้คนหัวใจเต้นแรงแทบทรุดลงกับพื้นที่นองไปด้วยเลือดคาว ...
.
.
.
พระพรต ได้แต่มองตามหลังเด็กหนุ่มร่างโปร่งเดินจากไปพร้อมเสียงเรียกให้พวกบอดี้การ์ดเดินตามกลับไปด้วย ... การเคลียร์ทางที่เหมือนเปิดโอกาสให้ พระพรต มีโอกาสหนี......
.
.
...ชีต้า ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมถึงปล่อยให้ สปาย คนนั้นรอดไปได้ ...
ไม่เข้าใจ... ตัวเอง... ไม่เข้าใจอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ที่แทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อมีอะไรมากระทบ ความรู้สึก ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง !!
.
.
.
.
***
“สี่หมื่นห้า....”
เช็คขีดคร่อม ถูกส่งให้ถึงมือทันทีที่ พระพรตส่งไฟล์ภาพให้ ... เงินมาง่ายเกินไปจน พระพรต อดถามถึงปลายทางของรูปไม่ได้ ….
“..เคยเห็นโครงไก่สดเวลา โดนโยนลงบ่อ จระเข้เปล่าล่ะ? ตอนนี้เจ้าของรูปนี้ก็เป็นแบบเดียวกัน รูปใบนี้มีแต่คนต้องการ ...เสือเฒ่า จาง มีอำนาจพอๆกับมีคนเกลียด ...ทั้งคู่แข่ง ทั้งคู่ค้า...ลองถ้ามีรูปลูกชายคนเดียวของเสือเฒ่าอยู่ในมือ ...เดี๋ยวฝูงจระเข้มันก็กรูกันเข้ามาคอยขย้ำ ... ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น สิ่งที่นายทำมันไม่ได้เป็นการฆ่าไอ้เด็กนี่หรอก พรต ...ต่ำลงมากว่านั้นอีกนิด....นาย....เป็นแค่คนชี้เป้าให้พวกมือปืนก็เท่านั้นเอง....”
.
.
.
พระพรตยืนนิ่งกำขยำเช็คใบนั้นแน่น ....เงิน สี่หมื่นห้า แลกมากับอะไรบ้าง???
...แลกมากับการเจอ ษิตรา อีกครั้ง ...
...แลกมากับการ....เป็นคนชี้เป้าตาย....
...ให้ ษิตรา ....
.
.
.
แววตาตัดพ้อ...ของ ไอ้สัตว์ประหลาดนั้น ยังฝังอยู่ในหัว ...มันไม่ผิดถ้าครั้งแรกเขาเฝ้าแต่บอกตัวเองว่า สายตาของมันที่ส่งมา เขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไรผิด ...แต่ครั้งที่สอง พระพรตรู้ถึงความหมายของสายตานั่น ...
.
.
.
มันรู้อยู่แล้วว่า เขาแอบถ่ายรูปมัน ....มันรู้อยู่แล้วว่า ปลายทางของรูปใบนั้นคือที่ไหน..
.
.
มันรู้อยู่แล้วแต่ก็ปล่อยให้เขากลับมาอย่างปลอดภัย...อีกครั้งที่ พระพรต อยากรู้ ..
'ไอ้ตัวษิตรา มันต้องการอะไรจากเขากันแน่ ?? '