พิมพ์หน้านี้ - สาปศิลา [ตอนที่ 26 - 26/2/59 ]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: Zitraphat ที่ 14-07-2014 17:57:45

หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 26 - 26/2/59 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 14-07-2014 17:57:45
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                     
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [Intro-14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: คนอ่าน ที่ 14-07-2014 18:00:30
เห็นชื่อคนเขียนกับชื่อเรื่องก็เข้ามารอเลยค่ะอิอิ
หัวข้อ: สาปศิลา [Intro-14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 14-07-2014 18:07:05
Intro   

สาป...ศิลา



ในคืนที่พระจันทร์ สุกสว่างกว่าที่เคยรู้สึก 'พระพรต'
พบ ใครคนหนึ่ง กับของสำคัญ...
เด็กหนุ่มที่ชื่อ 'ษิตรา' มอบหัวกะโหลกของมนุษย์ให้กับเขา และบอกเขาว่า นี้เป็นสิ่งสุดท้ายที่พ่อเขาเหลือไว้ให้...
.....
.
...
..มันคงไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ...ถ้าเด็กหนุ่มคนนั้น....เป็นแค่มนุษย์ธรรมดา....


....
หัวข้อ: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 14-07-2014 18:12:57
บทที่ ๑ ขโมย...


....
กลิ่นไอหมอกหนาวเย็นสะท้านครอบคลุมไปทั่วทั้งหุบเขา เสียงหวีดร้องยามสายลมพัดผ่านแทรกตัวยังโขดหิน เหมือนเสียงกรีดร้องของภูตพราย...ซากร่างมนุษย์ที่โดนตอกตรึงไว้กับเชิงผา สั่นไหวตามแรงลม ... แสงแดดเข้ามาไม่ถึงเชิงผา พอๆกับที่แสงนั้นไม่กล้าโลมเลีย ซาก...อันถูกบรรณาการแด่ จันทรา .....

แววตาสีนิลสว่างวาวในความมืด  มันจดจ้องจันทร์ดวงโตที่อยู่เหนือผาสูง  ยางจันทน์ผาไหลอาบผาหินสะท้อนแสงจันทร์เป็นสีกล่ำแดง กรงเล็บสีเงิน... ตะปบเกี่ยวฝังลึกลงในแผ่นหินแล้ว ดีดตัวสูงขึ้นไปยังชายผา ....เท้าเปลือยเปล่าเกี่ยวตวัด ลำต้นจันทน์ผา แล้วถีบตัวส่งขึ้นไปยังตำแหน่งของซากร่างมนุษย์...

กรงเล็บสีเงินตวัดวาดไปยังโซ่ตรวนที่รัดร่างนั้น แล้วเกี่ยวคว้าเด็ดส่วนที่เป็นศีรษะติดมือมา ....  กระดิ่งลมนับพันดังกึกก้อง รากไม้ ณ ชายผาหิน เคลื่อนไหวดั่งมีชีวิตเมื่อสำนึกได้ว่า ร่างที่แขวนถวายทวยเทพแปรเปลี่ยนไป มันไล่รัดสำรวจซากร่างที่บัดนี้ไร้ศีรษะ ปลายรากสอดส่ายเหมือนงูพิษที่ตาบอด ....ไล่รุกเข้าหาผู้บุกรุกที่กล้าชิงบรรณาการ …

....ปลายรากไม้ รวมรัดกันจนเกิดเป็นตัวตน ปลายจมูกเชิด โผล่ยื่นขึ้นมาก่อนดวงหน้างามจักเผยอลืมเปลือกตา .... ทรวงอกกลมกลึง แอ่นเอนเป็นร่างสาวงาม ...นางสอดส่ายสายตา...แล้วตะปบคว้าเงามืดที่ซ่อนกายแนบไปกับซอกหิน... เร็วกว่าที่ร่างนั้นจะทันไหวตัว...หากแต่เสียงคำรามก้องที่ขู่ตอบกลับมาทำเอานางชะงักเกร็ง....กรงเล็บสีเงิน ตะปบดึงฉีกท่อนแขนนวล ก่อนที่เขี้ยวคม จะกัดกระชากยังลำคอ ....

เสียงคำรามก้องไปทั้งหุบเขา ....น้ำยางสีแดงข้นไหลทะลักจากลำคอสาวงามที่กำลังเปลี่ยนกลับไปเป็น รากไม้ .... เจ้าของคมเขี้ยวกระชากกัดแล้ว ตะปบวาดกรงเล็บกระชากลำคอนั้นให้ฉีกออกจากส่วนตัว...ปากกว้างอ้ารอน้ำยางข้นไหลลงลำคอแล้ว เลียกลืน .....

เสียงกระดิ่งลมระงมก้อง ......รากไม้ ชุดใหม่ เริ่มรัดรวมก่อตัวเป็นรูปร่าง...
ช้าไป....เมื่อ กรงเล็บใหญ่ ...หยิบกระชับกะโหลกศีรษะมนุษย์ในมือ...แล้ว ถีบตัวทะยานขึ้นสูงสู่ เชิงผา...ปีกกว้างกางกระพือโผบิน... สูงขึ้นยังฟากฟ้า...ณ รัศมีแห่งจันทร์...เจ้าของปีกโผบินอย่างย่ามใจ....

ก่อนปลายธนูหินจารอักษรแปลกจักวิ่งแหวกผ่าอากาศ และไอหมอก ทะลุเข้าทรวงอกของร่างที่กำลังถลาบิน ......

เสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นก้องหุบเขา แต่กรงเล็บสีเงินยังยึดจับกะโหลกขาวไว้แน่น แม้ร่างนั้นจักทิ้งตัวลงลำน้ำสีรัตติกาล.....

ผู้เป็นเจ้าของธนูก้าวออกมาจากเงามืด...ใบหน้าคม..บูดเบี้ยวด้วยโทสะ...แววตาดุดัน จดจ้องตามไปยังจุดที่เจ้าของปีก ตกกระทบผิวน้ำแล้วจมหายไปพร้อมกะโหลกมนุษย์ผู้ถูกถวายบรรณาการ ...

เสียงคงอำนาจกังวานก้องไปด้วยโทสะ ....เสียงนั้นเพรียกนามชื่อหนึ่งที่กล้าอหังกาฬ



“ษิ...ตรา!!!!”

หัวข้อ: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 14-07-2014 18:21:02
บทที่ ๒ พายุ

ไอร้อนของแสงแดดลามเลียมาถึงร่างใหญ่ที่ นอนสั่นสะท้านบนโขดหินเหนือลำน้ำ...ปีกกว้างพับงอหุบงุ้มเข้าบดบังร่างกายไม่ให้แสงแดดสาดส่อง...หัวกะโหลกขาวถูกกอดไว้แน่นในอ้อมอกที่ยังมีธนูหินปักคา เสียงร้องครางด้วยความเจ็บปวดค่อยๆแผ่วเบาลง...เมื่อกรงเล็บสีเงิน กำกระชับด้ามธนูหิน แล้วกัดฟันกระชากดึง ...เลือดข้นสีดำไหลทะลักจากบาดแผลลึก .....ความเจ็บปวดที่เคยเหมือนไฟแผดเผาค่อยๆทุเลา....ลมหายใจหอบถี่ค่อยๆผ่อนยาว...

หยดฝนเริ่มลงเม็ด แววตาสีนิลเงยหน้ามองฟากฟ้า....เงาทะมึนของกลุ่มเมฆสีดำบดบังไปทั่วท้องฟ้า...เจ้าของกรงเล็บใหญ่แสยะยิ้มชูกะโหลกขาวขึ้นสุดปลายแขนบดบังอาทิตย์ดวงโตที่เคยส่องแสงจ้า.... บาดแผลจากธนูนั้นจางหายไปแล้ว เสียงครางเบาเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะใสเมื่อหยดฝนเริ่มหนาเม็ดตกกระทบผิวกาย....

ร่างใหญ่ดึงกะโหลกขาวเข้ามาโอบกอดไว้แน่นแล้วค่อยๆขดตัวหุบปีกใหญ่...เสียงหัวเราะค่อยๆเบาลงในขณะที่ร่างกายกำลังหลอมละลาย....สายฝนเม็ดหนากำลังชะล้างร่างใหญ่เหมือนกองทรายที่ถูกกระแสน้ำกัดเซาะ...เหลือเพียงไอหมอกสีดำที่ลอยเอื่อยเหนือพื้นหิน ณ ที่ที่เคยมีร่างใหญ่นอนอยู่ ไอดำลอยเอื่อยวนรอบลานหินแล้วกระแสลมแรงก็พัดพามันขึ้นสูงไปเหนือก้อนเมฆ ....พายุ...กำลังโอบอุ้มและนำพา...นำพาได้ถูกเวลาจริงๆ....



***

.
...
.
.
[    "ทำไมพ่อต้องไปด้วย..."
...
.

มือเล็กๆ กระตุกดึงชายเสื้อคลุมสีมอ...แววตาใสไม่เข้าใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า อีกสักกี่ครั้งเขาถึงจะดึงพ่อให้อยู่กับเขาได้...ในความฝันที่ซ้ำซาก...สุดท้ายพอปล่อยมือ....  พ่อก็จะจากไป...ชายแดนมีอะไรดี...ผืนป่ามีอะไรที่พ่อรัก รักที่มีมากกว่าที่พ่อรักเขา....บางทีพระพรตเองก็อยากรู้เหมือนกัน ....แล้ววันนี้ความฝันมันก็ กลับเรื่องราว....
ในฝัน.....

....พ่อกลับมาหาเขา เสื้อคลุมสีมอของพ่อ คลุมร่างหนึ่งไว้

"พระพรต...เหงาไหม? พ่อพาน้องมาอยู่ด้วย....เราจะไม่เหงาอีกต่อไปแล้ว...."

ไม่ทันให้เขาจะได้กอดหรือได้ซักถาม พ่อก็ส่งเด็กในอ้อมแขนให้ เด็กน้อยที่นอนขดนิ่ง แก้มยุ้ยๆแบบที่เขาเคยมองด้วยแววตาอิจฉาเวลามองน้องของคนอื่น น้องแบบที่เขาอยากได้... ดวงตากลมโตลืมตามองเขา มันเป็นดวงตาสีดำสนิทเหมือนดวงตาสัตว์มือเล็กๆ ยื่นโอบรอบลำคอเขาแล้วกอดแน่น ....

พระพรตยิ้มกว้างกับความอบอุ่นในใจที่เขาสัมผัสได้ .... พ่อกลับมาแล้วพร้อมน้องที่เขาอยากได้มานาน... พระพรตอมยิ้มกว้างแล้วหันหาพ่อ....แต่ร่างใหญ่ในชุดเสื้อคลุมไม่ได้อยู่ตรงนั้น...พ่อหายไปแล้ว เหลือเพียงเขาและน้องตัวน้อย ....แล้วทุกอย่างมันก็มืดไปหมด....อ้อมกอดนิ่มของน้องที่โอบรอบคอเขาเปลี่ยนเป็นแรงขืนรัดที่โถมให้เขาล้มลงไปกับพื้น ลิ้นร้อนกดเลียและบดริมฝีปากก่อนจะรุกแทรกเข้ามาในโพรงปาก มือใหญ่กดบีบช่วงแก้มไม่ให้เขาขยับหน้าหนี... ลิ้นที่แทรกรุกเข้ามาตวัดเกี่ยวปลายลิ้นเขาแล้วดูดดุนอย่างโหยหา ริมฝีปากร้อนเม้มกัดและลากเลียต่ำลงไป เรี่ยวแรงที่เคยมีหดหายไปหมด พระพรตได้แต่นอนนิ่งให้ร่างใหญ่ที่โถมทับตนเอง ไล้เลียและขบกัดทุกส่วนได้ตามใจ...ไม่ใช่ความรู้สึกเจ็บ แต่เป็นความรู้สึกร้อนวาบที่พุ่งขึ้นมาถึงท้องน้อยเมื่อปลายลิ้นร้อน เลียกัดแอ่งร่องกลางลำตัว... มือใหญ่จับตรึงช่วงเอวเขาไว้ ลมหายใจร้อนพ่นรดออกมาแผ่วๆ ไอร้อนของร่างกายมันปลุกไรขนอ่อนเหนือท้องน้อยให้ลุกซู่...พระพรตได้แต่นิ่งหอบหายใจถี่...สติในหัวมันวิ่งวุ่นไปหมด ...ก้อนสมองมันมึนงงจนปวดหนึบที่ท้ายทอย...ตัวเขาสั่นเกร็งเมื่อไอร้อนจากร่างข้างบนโถมทับลงมาแนบกับผิวกายเขาอีกครั้ง  เสียงครางเบากระซิบพร่าข้างหูคราง...เรียกชื่อเขาเบาๆ  ... 

"พระพรต...เหงาหรอ?...ไม่หรอก....พระพรตไม่เหงาแล้ว....จะไม่เหงาอีกต่อไปแล้ว....."

เสียงกระซิบเบานั่นเป็นประโยคเดียวที่เขาจำได้ ในความฝันอันเลือนลาง....  ]





....
..."ซวยแล้วไหมล่ะ?"
..
.
.
ชายหนุ่มถึงกับสบถออกมาเมื่อความรู้สึกเปียกชื้นมันชุ่มแฉะ ไปทั่วกางเกงที่ใส่ 

'ชิบหายฝันเปียก! '

พระพรตหัวเสียเลยทีเดียว...เขาเกี่ยวตะขอดึงกางเกงยีนส์ที่ใส่รวบไปกับบ็อกเซอร์ แล้วเหวี่ยงมันทิ้งลงตะกร้าผ้า เมื่อคืนเมามากไป ...เมาจนฝันถึงพ่องั้นรึ? หัวยังปวดหนึบท้ายทอยยังหนักอึ้งเหมือนถูกถ่วงด้วยหิน  เขาแยกไม่ออกว่ามันปวดจากฤทธิ์เหล้าเมื่อคืนหรือ เพราะความเกร็งสั่นจากฝันที่เร่าร้อน....

อากาศเย็นหอบกลิ่นฝนเข้ามาในห้อง พระพรตสูดหายใจยาวรับกลิ่นหอมของไอดินที่ต้องฝนแรก...เขาเกลียดสายฝน...แต่ความเกลียดนั่นไม่ได้เหมารวมไปถึง 'พายุใหญ่' ที่กำลังจะมา...


....


***


.
.
.
...คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เมื่อมองไปยังซากธนู...มันเหลือแค่เศษเลือดสีดำที่ติดอยู่บนหัวธนู ผู้พิทักษ์กัดกรามแน่นเมื่อมองกลุ่มพายุฝนที่เพิ่งพัดผ่าน ....ลืมไปได้เยี่ยงไร ...
...
.

'ษิตรา...ไม่เคยตายหากได้หยาดฝน'

...
.
.
ปลายลิ้นผู้พิทักษ์เลียชิมเศษเลือดที่ยังคงเหลือ....กำหนัดในกลิ่นอาย กระสันอยากในรสชาติของ....



'ษิตรา'

หัวข้อ: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 14-07-2014 18:23:01
บทที่ ๓  ขอจันทร์... 

.. [อดีต....]

'ผู้กอง.....พระพรตมีน้ำไหลออกมาจากตา....เหมือนผู้กองไหม...?'

เสียงที่ดังอยู่ในหัว ...ทำให้ผมต้องหันมอง ร่างที่เกาะอยู่บนเชิงผา... ในที่นี้ มีแค่ 'ษิตรา' ที่อยู่เป็นเพื่อนผม.... 'อสูรกบฏ' นั่นเป็นคำที่พวกมันใช้เรียก...ษิตรา....
....
.
.
.

ผมเป็นทหารลาดตระเวน ในหน่วยผมมีทั้งหมด 5 คน ตอนนี้ทุกคนตายหมดแล้ว..ยกเว้นผม ...เรื่องมันเริ่มมาจากวันที่พวกเรากำลังจะได้กลับบ้าน.... ทุกอย่างมันราบรื่นไปหมด...ยกเว้นในตอนที่ฮอร์ฯ บินขึ้น ..มันตกในทันทีที่อากาศปิดอย่างไม่ทันตั้งตัว ....จาก 5 เหลือที่รอดเพียงแค่3 และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ....มันคงดีกว่านี้ถ้าพวกผมตายตั้งแต่ตอนที่ฮอร์ฯ ตก .....

ผมไม่รู้ว่าที่นี้เรียกว่าอะไร ...แต่มันก็เลวร้ายอย่างที่สุด ความชำนาญป่าที่พวกเรามีเกือบสิบกว่าปี ใช้ไม่ได้กับที่นี้ ในที่ที่เดาไม่ได้ว่าดวงอาทิตย์ขึ้นทิศไหน ในที่ที่ดวงจันทร์คือแสงสว่างเพียงหนึ่ง...พวกเราที่เหลือรอดทำอะไรไม่ได้นอกจากรอความตาย....

แล้วพวกมันก็เข้ามา... งดงามเหมือนภูตพราย ... คมขำเหมือนรูปหล่อจากสัมฤทธิ์ ....แต่เลวร้ายอย่างไม่อาจคาดเดา ... 'ไปศาจ' พวกมันเรียกตัวเองอย่างนั้น .... พวกมันฉลาดอย่างที่สุดล่อลวงได้แนบเนียนที่สุด สิ่งที่พวกมันต้องการ ไม่ใช่ชีวิตพวกเรา....แต่เป็นดวงวิญญาณชั่วนิรันดร์... 

.....เพียงแค่...เรายอมรับปาก.....

หนึ่งในคนของผม ยอมแลก...และสิ่งที่เกิดขึ้นจากนั้นมันยิ่งกว่านรก... ผู้ยอมรับข้อเสนออย่างเต็มใจจะได้ ความตายอันศักดิ์สิทธิ์...ร่างจะโดนตอกตรึงไว้ เชิงผาเพื่อบูชาแสงจันทร์....ตอกตรึงจนร่างกลายเป็นซากศพแห้งและกลับมีชีวิตอย่างทรมานอีกครั้งยามแสงจันทร์สาดส่อง พวกรากไม้และต้นไม้รวมทั้งพวกไปศาจ ต้องการเลือดเนื้อของมนุษย์ที่กลับมาจากแสงจันทร์...ความเป็นอมตะที่ปฏิเสธไม่ได้ ...

หลังจากนั้นลูกน้องของผมอีกคนก็ เสียชีวิตจากพิษไข้ป่า... ในวันที่เขาตาย ผมอยู่ตรงนั้น...พวกมันฉีกกระชากร่างศพอย่างแค้นเคืองเมื่อไม่สามารถทำให้เขาตอบตกลงยอมรับเป็นร่างสังเวย ...และทุกอย่างมันก็มาหยุดที่ผม ...เมื่อเหลือผมเป็นมนุษย์คนสุดท้าย....ทุกอย่างมันกดดัน...ความเหงา ความทรมาน ความโดดเดี่ยวที่ต้องทนทุกข์ในคุกหินเชิงหน้าผา ผมได้อาหารครบทุกมื้ออาหารที่ถูกหย่อนส่งมาจากช่องทางเล็กๆข้างบน....ไม่มีหนทางหนี นอกจากความตาย....แต่ผมตายไม่ได้ ....ที่บ้าน...ยังมีคนรอผมอยู่ ....

....พระพรต ลูกชายผม...

...

..รูปถ่ายพระพรต เป็นแค่สิ่งเดียวที่ยึดผมไว้จากความตาย แล้วในวันที่ผมหมดศรัทธาทิ้งรูปพระพรตลงเหว  ษิตรา ก็ปรากฏตัวขึ้น....

.....กรงเล็บสีเงิน หยิบยื่นรูปถ่ายที่ผมเพิ่งทิ้งไปให้ผม ....ปลายเล็บคมไล้เกลี่ยหยดน้ำตาของผมเข้าปากชิมรสชาติ

'น้ำ...ฝน...'

เสียงที่ผมได้ยินไม่ได้มาจากริมฝีปาก แต่มันดังมาจากในหัว ....'มัน' ชอบหยดน้ำ และน้ำฝน...ผมเลยเรียกมันว่า 'สีดา' สีดาที่แปลว่ารอยไถ รอยไถรอคอยน้ำฝน ....แต่มัน กลับเรียกตัวเองว่า 'ษิตรา' มันบอกผมว่า มันไม่อยากรอคอย....มันชอบที่จะหา มากกว่ารอคอย....

หลังจากนั้น 'มัน' ก็ปีนขึ้นมาหาผมบ่อยขึ้น บ่อยขึ้น มีแค่ 'มัน' ที่เป็นเพื่อนผม.... จนวันที่มันโดนธนูยิงปักติดกับผนังหิน ....ผมถึงได้รู้ว่า การที่มันมาเป็น 'เพื่อน' ผมเป็นการผิดกฏอย่างร้ายแรง...
..
.

มันหนีไปได้ แต่ก็กลับมาในอีกวัน....

'สังกา....ไม่ชอบ...ไม่ชอบเวลา ษิตรา มองใครที่ไม่ใช่ สังกา '

มันพูดถึงเจ้าของธนู  ที่รูปร่างสูงสง่าเหมือนหล่อมาจากสัมฤทธิ์  โครงหน้าคมไร้อารมณ์ แต่เด็ดขาดในทุกครั้งที่ยิงคันธนู

'สังกาเป็น ผู้พิทักษ์ สังกา เกลียด ทุกอย่างที่ษิตรา ชอบ...ตอนนี้ สังกา เกลียดกระทั่งยอดหญ้าที่ ษิตรา เลียชิมหยดน้ำค้าง....' 
 
.....คงเพราะไม่มีใคร นอกจาก ษิตรา ....คงเพราะไม่มีหวังอะไรนอกจากหวังใน ษิตรา ผมถึงได้สอนทุกอย่างให้ ษิตรา สอนให้พูดออกมาเป็นคำแทนที่จะเป็นแค่เสียงในความคิด สอนถึงสังคมที่ผมจากมา สอนถึงการยิงปืน และการต่อสู้ที่ทหารพรานอย่างผมเคยเรียนรู้ เวลาไม่ใช่ปัญหา เมื่อดวงอาทิตย์ ไม่เคยถูกจดจำ ....และสิ่งที่ผมสอนบ่อยที่สุด...คือการสอนให้ษิตรา รู้จัก พระพรต ....ลูกชายคนเดียวของผม...

'ผู้กอง....ษิตรา อยากเจอพระพรต....'   

"ษิตรา ดูแล พระพรตได้ไหม? "

'ทำไม?'

"ถ้า ษิตรา พาผู้กองกลับไปหาพระพรตได้ .... ผู้กองจะยก พระพรต ให้ ษิตรา...."

'พาผู้กองไปไม่ได้ ... สังกา ไม่ยอมแน่...ผู้กองเป็นร่างสังเวย...เป็นสิ่งสำคัญ...'

"สำคัญกว่า พระพรต หรือเปล่า? "

'....ผู้กอง...กำลังหลอกลวง ษิตรา......'

"บอก สังกา ว่า ผู้กองรับปากเป็นร่างสังเวยด้วยความเต็มใจ ... ถ้านั่นหมายถึง ษิตรา จะต้องคุ้มครองพระพรต จากอันตรายทั้งหมด...ผู้กองจะยอมเป็นร่างสังเวย... "

ผมยอมยื่นข้อเสนอให้กับมัน ทุกอย่างเพียงเพื่อให้พระพรตมีใครสักคนเคียงข้าง และผมคงวางใจที่สุด ถ้าคนที่อยู่ข้างพระพรต เป็น ษิตรา ....
....
.
.





'ผู้กองหนี!'

ษิตรา มาหาผมในอีกวันด้วยสภาพยับเยินร่องรอยของบาดแผลยังเต็มไปทั่วผิวเนื้อ....ร่างอ่อนแรงเร่งให้ผมหลบหนีทั้งๆที่ไร้หนทาง

"ทำไม ษิตรา?"

'สังกา  โกรธ โกรธที่ ษิตราบอกว่า ษิตราจะคุ้มครอง พระพรต... สังกา ไม่ยอมรับเงื่อนไข สังกาไม่ยอมรอให้ผู้กองยอมรับคำแล้ว.... สังกาจะฆ่าผู้กองแล้วสะกดวิญญาณ...สังกา เป็นบ้าไปแล้ว...จะตายก็ได้ จะทำยังไงก็ได้แต่อย่าให้สังกาเป็นคนฆ่าผู้กอง....ถ้าเป็นอย่างนั้นจะไม่มีทางหลบหนีอีกแล้ว ....ไม่มีทางหลบหนีแม้จะเป็นวิญญาณก็ตาม '

ในตอนนั้นผมจำได้ว่าผมหยิบปืนสั้นของตัวเองมาจ่อที่ขมับ ....โดยมีษิตรา นั่งมองอยู่  แล้วทุกอย่างมันก็สว่างโล่ง.....
....
.
.
ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเพื่อพบว่าผมโดนตรึงติดเชิงผา ...ไม่มีความเจ็บปวด หรือความทรมาน ไม่มีแม้แต่ รากไม้ที่ค่อยดูดกลืนเลือดเหมือนที่ ลูกน้องผมโดน ...

'ผู้กองอยู่นอกเหนือ...กฏของการสังเวย....สังกาทำอะไรผู้กองไม่ได้ นอกจากตอกซากร่างผู้กองไว้ที่นี้...'
 
"มีอะไรแนะนำไหม? ษิตรา..."

'ไม่รู้สิ....ษิตรา ไม่เคยเห็น ร่างสังเวยที่มีแค่ซากแต่ไม่ตายอย่างผู้กอง... เห็นสังกา ว่าข้อตกลงมันผิดพลาด... '

"ข้อตกลงอะไร ?"

'ข้อตกลง....ระหว่างเรา....ษิตรา มีหนทางไป...ถ้าผู้กองยก พระพรต ให้ ษิตรา แทนสิ่งสังเวย....แค่ผู้กองขอต่อแสงจันทร์ ....ขอปีกให้ ษิตรา ....ษิตรา จะดูแล พระพรต ให้ผู้กอง...ผู้กองอยากเจอ พระพรตไหม? ครั้งสุดท้าย เพียงอธิษฐาน....ต่อแสงจันทร์...'
.....
...
..
 .
.
หลังจากนั้น คงไม่ต้องเดาใช่ไหม ว่าผมอธิษฐานขออะไร ให้ พระพรต......

หัวข้อ: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 14-07-2014 18:26:11
บทที่ ๔  เกลียด?... 

.. [อดีต....]

ผู้กองบอกว่า

“ษิตรา ....มีทุกอย่าง ยกเว้นความรู้สึก....”

แล้ว ‘ความรู้สึก’ มันคืออะไร ? กินได้ไหม? ทำให้หัวใจเต้นแรงรึเปล่า? แล้วมันสดชื่น เหมือนน้ำฝนไหม? แล้วทำไม ษิตรา....ถึงไม่มีล่ะ?

‘เกลียด’

เกลียด...คำนั้นผู้กองบอกว่า มันหมายถึงไม่อยากให้มีความสุข แล้วสุขมันคืออะไร ษิตราก็ยังไม่เข้าใจ ... แล้วผู้กองก็บอกว่า ไม่อยากให้มีความสุข คือ ทำให้เจ็บ ให้ทรมาน  ทำให้ทุกอย่างมันมืดมน แต่ ษิตรา ชอบความมืด มันก็เลยขัดแย้งกันอีก ... ยากเกินไปกับ ‘ความรู้สึก’
….
..
.
แล้ว  สังกา ก็สอน คำว่า ’เกลียด’ ให้ ษิตรา ....
...
..

’ษิตรา จะไปหา พระพรต’

ษิตรา บอก สังกา อย่างนั้น ...บอกถึงข้อเสนอของ ผู้กองด้วยข้อเสนอที่ สังกา ต้องการ ....แต่ไม่ใช่ สังกา โกรธ ....โกรธจนกระชากปีก ษิตรา .... มันทรมาน มันเจ็บที่อกร้าวไปทั่วทั้งแผ่นหลัง .... เจ็บแต่ษิตรา ทำอะไร ไม่ได้....สังกา ล่าม ษิตรา ไว้ ล่ามไม่ให้ไปไกลจากสายตา   แขนใหญ่ของ สังกา กอด ษิตรา ไว้ไม่ให้ไปไหน  คมเขี้ยวของ สังกา กัดฝังและตรึงร่าง ษิตรา ไว้ตลอดคืน ...มันทรมาน ษิตรา อยากบิน แต่ทรมานทุกครั้งที่ขยับปีก  สังกา ไม่ชอบปีกของ ษิตรา ไม่ชอบทุกอย่างที่เป็น ษิตรา  สังกา อยากเห็น ษิตรา ทรมาน...อยากเห็น ษิตรา เจ็บเจียนตาย ..... สังกา เกลียด ษิตรา ...มันเจ็บที่อก ...ทุกครั้งที่ สังกา มอง ษิตรา .... สังกา อยากเห็น ษิตรา เจ็บปวดจนกรีดร้อง ....

การที่ ษิตรา บอกข้อเสนอครั้งนั้นให้ สังกา ษิตรา เจ็บหนักกว่าทุกครั้งที่เคยเจ็บ  เจ็บจนคิดว่าจะไม่ได้ขยับปีกอีก ....สังกา จะกิน ษิตรา  คมเขี้ยวที่กัดฝังลงมา...ทำให้ ษิตรา ทรมาน  มือใหญ่ที่ ดึงกระชากปีก ของษิตรา ก็ด้วย มันเจ็บ...  เจ็บจน ษิตรา ได้แต่กรีดร้อง.... แต่ไม่ว่าษิตรา จะร้องสุดเสียงแค่ไหน สังกา ก็ไม่เคยปล่อย ษิตรา ....

การหนีออกมาจากสังกา ทำให้ ษิตรา ทรมาน ทุกครั้งที่หนี ถ้า ษิตรา ไม่กัดมือตัวเองให้ขาดออกจากโซ่ที่ล่าม  หรือ ตัดขาให้หลุดจากบ่วง  ษิตรา ก็ต้องกระชากปีกตัวเองให้หัก ...เพื่อที่จะหลุดออกมา  ....มันทรมาน มันเจ็บ... ถ้าวันนั้นไม่มี หยาดฝน ....ษิตรา เคยนอนเจียนตายเกือบสิบวันเพราะ ฝนไม่ตกลงมา  ษิตรา ไม่กล้าส่งเสียงร้อง...ไม่กล้า เพราะกลัว สังกา เห็น ...ทุกครั้งที่ทรมาน  ษิตรา ได้ แต่ อ้อนวอน ขอให้ ฝนหล่นลงมา ....
.....
..
.

‘...ไม่ว่าปีกจะงอกอีกกี่ครั้ง ...ก็จะไม่มีวันที่ ษิตรา จะโผบิน ...ธนูของสังกา ก็จะทำให้ ษิตรา ตกลงมาที่พื้นดิน...’

สังกา เคยบอก ษิตรา อย่างนั้น... 


คำว่า ‘เกลียด ’ของ สังกา..... มันทำให้ ษิตรา ทรมาน ...



ประโยคของสังกามันเหมือนคาถา ที่ตรึงล่าม คาถา ที่ษิตรา ท่องไว้ในใจว่า


‘ธนู ของ สังกา ...มีเพื่อเด็ดปีก ษิตรา ไม่ให้ บิน’


หัวข้อ: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 14-07-2014 18:29:41
บทที่ ๕  หัวใจ?... 


[อดีต....]



‘ษิ...ตรา....นับแต่นี้...ชื่อของษิตรา....คือ ษิตรา....เหมือนกับที่ สังกา เรียกตัวเองว่า สังกา ....’
…..
..
.
.
…แววตาสีนิล จดจ้องและแจ้งถ้อยนั้นแด่ข้า

...........นับแต่ได้ชื่อนั้นมา อสูร ของข้า ก็ยิ่งดื้อรั้น.... ยิ่งทะนงด้วยปีกที่โผบิน ....ปีก...ที่ทำให้นับวัน ษิตรา ยิ่งห่างไปจากข้า.....ปีกที่ทำให้ ษิตรา ทะยานสูงไกลออกไป ณ ฟากฟ้า....

...ต่อให้ ล่ามแขนขาไว้ ษิตรา ก็หาทางหนีได้ทุกวิธี

...ต่อให้ ตอกปีกติดผนังถ้ำ ษิตรา ก็ทำทุกอย่างให้ตนได้โผบิน

...ต่อให้ข้ากอดรั้งไว้แน่นแค่ไหน เพียงเผลอคลาย ษิตรา ก็หายไปลับตา.... 

...ต่อให้ฝังคมเขี้ยวบนร่างแล้วขย้ำกิน ...เพียงต้องฝน...ษิตรา ก็จักหวนคืน .....


‘ษิตรา ไม่มีหัวใจ’


เหมือนที่ใครต่อใครเคยกล่าว ....ษิตรา เป็น อสูรที่ไร้ใจ ...หากแต่ข้า ....ก็มิอาจละสายตา...


…..
..
.
.

’ษิตรา จะไปหา พระพรต’

โทสะทั้งหมดของข้า ระเบิดออกมาเมื่อได้ยินถ้อยคำนั้น ....

....ทั้งๆที่ข้า อยู่ ณ ที่นี้  ....ทั้งๆที่ข้า โอบกอดเจ้าทุกค่ำคืน ...ยังมิพออีกรึ? ยังจักโผบินไปหาใคร ?!!

ข้ากัดกระชาก และฉีกปีกนั้น ด้วยมือข้าเอง ...ษิตรา ได้แต่กรีดร้อง ....

จักไปที่ใดอีก? จักบินเพื่อการใด? จักต้องทำเยี่ยงไร?.....ให้เจ้าอยู่กับข้าชั่วนิรันดร์ ??...
 


ธนู ของ ข้า ...มีเพื่อเด็ดปีก ษิตรา ไม่ให้ บิน...
หัวข้อ: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 14-07-2014 18:34:21
บทที่ ๖  แตกต่าง?... 

.. [อดีต....]

'ษิตรา...เป็นตัวอะไร?'

ผู้กองเคยถาม ษิตรา อย่างนี้ ...

ษิตรา สยายปีกกว้างโผบินร่อนลงมาจากเชิงผา แล้วได้แต่คิด.....'ษิตรา....เป็นตัวอะไร?'

'ษิตรา...ก็เป็นษิตราไง ...'

ษิตรา ไม่มียางไม้สีแดง ยางไม้สีเหลือง รึยางไม้สีเขียว แบบพวก วณาไพร ไม่มีอกเอวกลึงกลมเยี่ยงพวกนาง ไม่มีเสียงพร่าหวานที่ใช้ล่อลวง ที่คล้ายกับษิตราที่สุดก็น่าจะเป็น ผู้กองหรือ สังกา ...แต่ไม่ว่าทั้งผู้กองหรือสังกาก็ไม่มีปีกเหมือนษิตรา
แล้วผู้กองก็ไม่มีเขี้ยวเหมือนษิตรากับสังกา  ไม่สิยางไม้ของผู้กองก็ไม่เหมือน... ของผู้กองเป็นสีแดงเหมือนพวกวณาไพรบางตน เหมือนสังกา ด้วย  ....แต่ษิตรา ไม่ใช่....ยางไม้ของษิตรา ไม่ใช่สีแดงอย่างนั้น....

....ษิตรา คิดไม่ตก....ษิตรา...คืออะไร ....ปีกกว้างกระพือโฉบเปลี่ยนทิศทาง ไม่เอาดีกว่า ษิตราไม่กลับไปที่ก้นเหว...ไปหาสังกาดีกว่า....ขยับปีก....กระพือขึ้นสวนทางกับพวก นก ษิตราก็ยังสงสัย ปีกของษิตรา ไม่เหมือนนก งั้นษิตราก็ไม่ใช่นกสินะ.....แล้วษิตรา เป็นอะไร? รึษิตรา เป็น แค่ ษิตรา?
..............
...

"....สังกา....."

ษิตรา ร้องเรียกสังกา หุบปีกร่อนโผมาใกล้แล้วเกี่ยวขาไว้กับกิ่งไม้ห้อยหัวแกว่งเล่น สร้อยหินสีสวยที่ สังกา เคยให้มันไหลลงมาแกว่งอยู่บนปลายจมูก.... สังกาเดินเข้ามาใกล้แล้วก็อุ้ม ษิตรา พาดบ่าเดินเข้าที่พัก ......

แสงจันทร์ส่องเข้ามาแต่ไม่มาก คืนนี้จันทร์ไม่เต็มดวง  ในถ้ำของสังกา มีกองไฟที่เพิ่งถูกจุด  ไฟ ก็เป็นอีกสิ่งที่ทำให้ สังกาไม่เหมือน ษิตรา ....สังกา ชอบไฟ....แต่ษิตรา เฉยๆ ไม่ชอบแต่ก็ไม่ได้เกลียด ออกจะกลัวอยู่นิดๆ ไฟ ก็เป็นอีกสิ่งที่ทำให้ ษิตรา ทรมาน ถ้าเผลอไปโดนเข้า ...

ในถ้ำของสังกา ...มีหลายอย่างที่แตกต่าง มีหนังสัตว์ที่ม้วนเป็นผืนๆ มีลายแปลกๆบนหนังทุกแผ่น สังกา เรียกมันว่า หนังสือ สังกา เคยสอนษิตรา อ่าน เหมือนที่ผู้กองเคยสอนให้ษิตราอ่านแผ่นเยื่อไม้ สองคนนี้เหมือนกัน เหมือนที่ชอบสอน ส่วนษิตราก็เป็นลูกศิษย์ที่ดี เสมอ ษิตรา รับทุกอย่างได้ไว เพียงแต่ว่า จะรับแล้วทำหรือเปล่า เป็นอีกเรื่องนึง...

ษิตราเคยตามสังกา เข้าไปในหมู่บ้าน ตามไปนอนบนผืนผ้าที่สังกาปูซ้อนเป็นชั้นหนา มันทั้งนุ่มทั้งอุ่น  ทั้งหอมกลิ่นของสังกา แต่ษิตราไปไม่ค่อยบ่อย เพราะคนในหมู่บ้าน... สายตาที่มองมาไม่เหมือนสายตาของพวก วณาไพร  พวก วณาไพร มองษิตราเหมือนจะกลืนกิน แต่ที่หมู่บ้าน สายตาที่มองษิตรา เหมือนมันฉาบด้วยคมมีด... 

พวกเขาอิจฉาที่ษิตรา มีปีก  สังกาบอกอย่างนั้น ....จากนั้นสังกาก็มักจะมานอนที่เชิงผากับษิตรา ....สังกา หอบเอาผ้าผืนหนามาปูรองให้ษิตรา ด้วย.... เรานอนใกล้กัน จ้องมองกองไฟเหมือนกัน  กองไฟอุ่นแต่ร้อน โดนเข้าก็ทั้งเจ็บและปวด .....ไฟ เหมือน สังกา .....อยู่ใกล้ก็อุ่น ...แต่ถ้าใกล้ไป...มันจะร้อนจนเผาทุกอย่าง ...

"อื้อ!"

ษิตรา ไม่ชอบเลยเวลา สังกา แย่งลูกไม้ในปากษิตรา .....ษิตราชอบลูกไม้สีแปลก ชอบจนไม่ชอบถ้าถูกแย่ง....สังกา กินนิดๆหน่อยๆ ไม่ได้กินเอาอิ่มแบบษิตรา ....  แต่ชอบมาแย่งจากปากษิตรา .แล้วก็กินปากษิตราเข้าไปด้วย.... พวกวณาไพรก็เหมือนกัน พวกนางชอบแกล้งษิตรา  วณาไพร หอมเย้ายวน และนุ่มนิ่ม....แต่.... พวกนางตะกละตะกลามกับเลือดเนื้อ ชอบเรียกษิตราด้วยกลิ่นหอม และเสียงของพวกนาง แต่ถ้าหลงไป พวกนางก็จะฉุดยึดคว้าษิตราไว้ แล้วกัดกิน ...ถ้าไม่มีฝนมา ก็ต้องรอจนกว่าสังกา จะมาช่วย... 

สังกา เลยห้ามไม่ให้ษิตรา เข้าใกล้พวกวณาไพรอีก แต่ถ้าหลงเข้าไปใกล้อีก ถ้าไม่เห็นษิตรา ลืมตา สังกาก็จะเผาพวกนางทิ้ง .....แล้วก็เหมือนกับ ษิตรา พวกนางจะงอกขึ้นมาอีกถ้ามีฝน .....แต่ครั้งหนึ่ง สังกาเคยโกรธมากๆตอนพวกนางกิน ษิตรา วณาไพร ต้นหนึ่งไม่งอกขึ้นมาอีกเลยเพราะสังกาเผานางลึกไปถึงราก .... 

แต่ษิตราก็ชอบวณาไพร เพราะนอกจากกอดกับกัดแล้วพวกนางยังหอมและนุ่มนิ่ม .....
.......เลยมีหลายครั้งเหมือนกันที่ ษิตรา เองโผบินไปหาพวกนาง ...ให้พวกนางกัดและกลืนกิน ....ษิตราเองก็เลยกัดและกินพวกนางบ้าง ......ก็ดีนะ ...กลิ่นหอมของยางไม้สีแดง .....รสชาติของพวกนาง....
..
.......มันทำให้ษิตรา หิวได้ทุกครั้งที่นึกถึง....
..
..มีเรื่องหนึ่งที่ ษิตรา ไม่ได้บอก ผู้กอง หรือ สังกา .......
....
..
.
.
....
.
..
..
..
วณาไพร ตนหนึ่ง เคยให้ ษิตรา เก็บเหง้าของนางใส่ไว้ในสร้อยที่สังกา เคยให้ ษิตรา ....ษิตราชอบนะเพราะ.เสียงร้องเพลงของนางมักจะดังแว่วๆออกมาจากสร้อย..เพียงแผ่วเบา..

หัวข้อ: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 14-07-2014 18:38:05
บทที่ ๗  โลกของ พระพรต... 

.. [พระราม 4 ,กรุงเทพฯ]



พายุหอบฝนห่าใหญ่ ไหลลู่ลงท่อน้ำทิ้ง  ยิ่งกว่าฝนไล่ช้างเมื่อเมฆฝนกลุ่มหนึ่งทิ้งสายตกซู่ลงมาเหมือนน้ำตก มันหลากลงตะแกรงเหล็ก แล้วรวมตัวกันใต้ ผิวถนน .... จากแอ่งน้ำเป็นเนื้อหนัง  จากกระดูกกร้าน เส้นเลือดวิ่งไล่สายเป็น ผิวกาย ....จากก้อนดินทราย ...กลายเป็นร่างใหญ่ ขดตัวใต้ผิวถนน ....เสียง ล้อรถบดเบียดอยู่เบื้องบน ..
ษิตรา ได้แต่เงี่ยหูฟัง ......
การเดินทางที่ผ่านมา ... ทำให้เปลือกตายากที่จะเผยอลืม.....

‘ษิตรา....ตื่น....’

เสียงคุ้นหูดังเข้ามาในหัว.... ปีกใหญ่ได้แต่ งองุ้มเข้าหาตัว ...ษิตรา ยังไม่อยากลืมตา... เหมือนเด็กน้อยที่เอาแต่ใจ....อารมณ์ขุ่นเวลาใครมาขัดจังหวะเวลานอน...

‘ษิตรา....ได้ยินไหม? ข้างบน...โลกของ พระพรต...’

เปลือกตาปรือค่อยๆเผยออก....ใต้ผิวถนน สายน้ำเอ่อวนเป็นแอ่งเซาะหินทรายไปจนหมด ....
ษิตรา  ส่งเสียงคำรามเบา มือใหญ่กอดกระชับหัวผู้กองไว้แน่น แล้วเริ่มขยับ .....
ผนังซีเมนต์ ผสมยางมะตอย ยุบผลุบลงมา เมื่อษิตรา เริ่มหาทางออก เสียงล้อรถด้านบน เบรคดัง สว่างแต่ไม่ร้อนเหมือนกลางวัน ....ษิตรา กระโดดขึ้น เกาะรถใหญ่ แล้วซุกตัวอยู่สักพัก ถึงได้มีเสียงดังโวยวาย จอแจ........ภาษาเสียงที่ ษิตรา เคยฟังจากผู้กอง....
......ษิตรา นิ่งเงียบ ก่อน ค่อยๆ ขยับปรับร่างกาย ................
........
.......แล้วถีบตัวขึ้นโผบิน .....
.....
.
.
.
.




'ษิตรา! บินไม่ได้ !'

"จักบินไม่ได้เยี่ยงไร? ษิตรา มีปีก!"

'แต่มนุษย์เขาไม่มีปีก...ษิตรา !'

"งั้นก็ช่างมนุษย์ !! ษิตรา มีปีก ! มีปีกก็ต้องบินสิ!ถ้ามีปีกแล้วบินไม่ได้ ไม่ต้องมีเสียดีกว่า!"

'ษิตรา!! มนุษย์เขาไม่บิน!'

"ก็บอกไปแล้วไง!! ว่าษิตรา ...ไม่ใช่มนุษย์!" 

เสียงโต้เถียงในความเงียบ ....ดังขึ้นเหนือตึกสูง ......ปีกกว้างบินโผลงเกาะสายไฟเส้นใหญ่ แล้วดีดตัว ตามเสียงหนึ่งไป ..... เสียงของลมหายใจแผ่ว และกลิ่นของความกลัว ......
.....................
....



 
[หัวข้อข่าว]   
                                  (http://upic.me/i/q8/5b55fe426fa905cc735af762c14afac5.jpg)

ระทึก ! ถนนพระราม 4 ทรุด
เกิดเหตุถนนพระราม 4 ยุบตัวเป็นหลุมกว้างกว่า 5 เมตร ลึก 2 เมตร บริเวณใต้สะพานข้ามแยกไทยเบลล์เยี่ยม ซึ่งเป็นถนนขาออกถนนพระราม4 หน้าทางออกสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ลุมพินีเบื้องต้นฝ่ายสำนักการโยธาสันนิษฐานการทรุดตัวจากน้ำท่อประปาแตก
 
วันนี้ (18 มี.ค.55) เมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. เกิดเหตุถนนพระราม 4 ยุบตัวเป็นหลุมกว้างกว่า 5 เมตร ลึก 2 เมตร บริเวณใต้สะพานข้ามแยกไทยเบลล์เยี่ยม ซึ่งเป็นถนนขาออกถนนพระราม4 มุ่งหน้าเข้าถนนวิทยุ ตรงหน้าทางออกสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลุมพินี  ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ปิดล้อมหลุมดังกล่าว ส่งผลเปิดจราจรขาเข้าแค่ 1 เลน

โดยขณะนี้ นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นายวินัย ลิมสกุล ผู้อำนวยการสำนักโยธากรุงเทพมหานคร พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆเข้าพื้นที่ตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุการเกิดหลุม
 
โดยเบื้องต้นพบน้ำประปาไหลผสมกับชั้นทราย ของถนน ซึ่งสันนิษฐานว่า ท่อประปาขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้พื้นถนนได้แตกหรือมีรอยร้าว จนทำให้น้ำประปาซึมและกัดเซาะชั้นทราย ประกอบกับพื้นที่ถนนพระราม4มีรถใหญ่วิ่งผ่านจำนวนมาก ทำให้พื้นชั้นทรายอ่อนตัวและทรุดตัว  แต่ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งใช้รถแบ็คโฮตักแผ่นปูนเพื่อทำการตรวจสอบท่อประปาอยู่
 
นอกจากนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กำลังเดินทางมาร่วมตรวจสอบด้วยตนเอง



Cr. news.voicetv
หัวข้อ: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 14-07-2014 18:40:10
บทที่ ๘  ...เธอผู้ขอพร 



[22.45 น. ,กรุงเทพฯ]



..... เสียงของลมหายใจแผ่ว และกลิ่นของความกลัว ......
.....................
....

กลิ่นที่แสนหอมหวาน ......พา... ษิตรา ให้ลดปีกโผลง เกาะเกี่ยวเสาไฟต้นใหญ่..... ปีกกว้างหุบหายเข้าไปในเนื้อหนัง ร่างษิตรา ซ่อนแฝงตัวในเงามืด.......เงียบเพื่อเฝ้ามอง.... เจ้าของ....กลิ่น.....

....ร่างหนึ่งกระเสือกกระสน ลากตัวเองคลานออกมาจากพงไม้ แล้วทิ้งตัวลงข้างถนนใหญ่.....ริมฝีปากสีแดงสดเกรอะกรังไปด้วยลิ่มเลือด.....บนหน้าอกอิ่มเลือดสีคล้ำไหลทะลักออกมาตามแรงเต้นของหัวใจ....ไม่มีเสียงร้องเรียกความช่วยเหลือ .... เพราะริมฝีปากสีสดกัดเม้มจนแน่น ศักดิ์ศรี มันสั่งไม่ให้เสียงใดๆลอดออกมา ....ดวงตาคมที่บรรจงกรีดไว้ ปรือมองพระจันทร์ที่สะท้อนแสงนวล.....หากขอพร ต่อแสงจันทร์ได้ 'เธอ'  จะขออะไร?
.....
..






[22.00 น.  - 45 นาที ก่อนหน้านี้ .... - ]



'หลิน...สวยอยู่แล้วครับ...อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน ผมให้คนออกไปรับนะ...ครับ....รักหลินครับ.. '

สายโทรศัพท์วางลงไปแล้ว เหลือเพียงรอยยิ้มกว้างสะท้อนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่  ลิปสติกสีส้มแดง ฉาบเบาๆที่ริมฝีปากอิ่มก่อนริมฝีปากจะเม้มเกลี่ยสีให้เสมอกัน  แววตาของคนมีความรัก ไม่ว่าอะไรมันก็ดูดีไปหมด แม้แต่ร่างโปร่งที่สะท้อนในกระจก ชุดแซกสีเขียวคราม....เข้ากับสีผิวนวล  ดวงตาคมโตขึ้นอีกเมื่อถูกกรีดซ้ำด้วยอายไลน์เนอร์  เนินอกอิ่ม อวดสัดส่วนได้รูป หลายคนเคยบอกว่ามันใหญ่ เกินรูปไปด้วยซ้ำ แต่ 'เธอ' ว่ามันก็ยัง 'เล็ก' อยู่ดีถ้าเทียบกับ 'ผู้หญิง'  ใครจะเชื่อ นี่ล่ะผลของความอดทนและพยายาม....'เธอ' ไม่ได้ผ่าตัดหรือยัดอะไรลงไปเหมือนที่คนอื่นคิด แต่ที่ได้มานี้เป็นผลของฮอร์โมนและการดูแลตัวเองล้วนๆ ..... มือเรียวคว้าหยิบกระเป๋าใบสวย ก่อนจะดึง ID การ์ดออกมา วางทิ้งบนโต๊ะ ถ้าไม่บอกใครจะรู้ล่ะว่า 'เธอ' ใช้คำนำหน้าว่า 'mr.'

เรียวขาสวยก้าวขึ้นรถคันงาม..... 'เธอ' ได้แต่สูดหายใจยาว ตื่นเต้นที่จะได้เจอ 'เขา' แต่ถึงยังไง ผลของความพยายามที่สุกงอม บางครั้งมันก็ไม่ใช่สิ่งที่หวังเสมอไป....

.....'รัก'....ที่เคยหวังว่าจะมีจริง มันกลายเป็นธาตุอากาศ .......
...
.



'หลิน..'

เสียง'เขา' เรียก...... 'เธอ' หันไปหาเสียงนั้น แล้วสิ่งที่ตามมาก็คือ ..........
...

.
.

............ลูกกระสุนที่ฝังอยู่ในอก............







เพราะ 'รัก' มันบังตาสินะ 'เธอ' ถึงไม่เคยมองที่ความจริง...... 'เขา' ไม่ได้ต้องการ 'รัก'จาก 'เธอ' แต่ต้องการ..... 'ชีวิต' .....
ธุรกิจ มืดที่คุมคนในวงการเกือบ 2,000 ชีวิต ไนท์คลับและบ่อน ที่ทั้งถูกและผิดกฎหมาย....'เธอ' คือแถวหน้า.....แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยน ....'เธอ'กำลังจะทำมันพังเพราะ 'รัก' ลืมไปสินะว่าตัวเองเป็นอะไร......

......ลืมทั้งๆที่คำนำหน้าชื่อ มันฟ้องทุกครั้งที่มอง ID การ์ด ...ลืมไปทุกอย่าง ......ลืมแม้กระทั่ง 'เธอ' คือ 'หลิน...'
......
..
 
'หลิน ไป่ หลง' หนึ่งในสี่บอสใหญ่ แห่ง 'Golden Eyes Group' 

.
.
.....ปืนพกที่ติดตัวเสมอ ยังวางนิ่งอยู่ใต้โต๊ะเครื่องแป้ง 'เธอ' คิดถึงมัน แล้วร้องไห้ ไม่ได้ร้องเพราะ'ขอชีวิต' แต่ร้องให้กับความโง่ของตัวเอง .....ร้องเพราะ 'ความไว้ใจ' ที่ผิดพลาด 'เขา' เดินจากไปทิ้ง 'เธอ'ไว้ลำพังกับความตายที่เริ่มคลานเข้ามาใกล้ ......

ความเงียบกับเสียงของค่ำคืน 'เธอ' ถูกเขาทิ้งไว้ลำพังในป่ารกข้างทาง ของฝากอย่างเดียวที่เหลือไว้ให้ คือลูกกระสุนที่ยังฝังอยู่ในอก....

......
........................

ลมหายใจเฮือกใหญ่ ถูกสูดเข้าปอดด้วยแรงสุดท้าย ....

....ดวงตาคมที่บรรจงกรีดไว้ด้วยอายไลน์เนอร์ เปื้อนเลอะไปด้วยคราบน้ำตา'เธอ' ปรือมองพระจันทร์ที่สะท้อนแสงนวลลงมา.....หากขอพร ต่อแสงจันทร์ได้ 'เธอ'  จะขออะไร?
.....
..

" ขอ....'รัก'..ที่จะไม่มีวันทิ้งฉันไปไหน...."

'เธอ' ขยับปากเอ่ยประโยคนั้นกับพระจันทร์ดวงโต ..... ครั้งแรกที่ได้มองจันทร์อย่างเต็มตา แม้จะมองผ่านม่านน้ำตาที่ไหลมาด้วยความเกลียดชัง.....'เธอ' คงบ้าหรือใกล้จะตายแล้วสินะ ถึงได้เห็น 'ภาพหลอน '......ปีกกว้างกระพือโผเข้ามาใกล้ .......ใครบางคนเคยบอก  แสงจันทร์ จะทำให้คนเป็นบ้า ......แล้วสำหรับคนใกล้ตายอย่าง 'เธอ'ล่ะ? แสงจันทร์มีผลหรือเปล่า ?

...หรือนี้เป็นพร ของแสงจันทร์........ พรสุดท้ายที่.....ส่ง 'รัก'มาให้ 'เธอ'........
....
..
.






"วณาไพร....."

เจ้าของปีกกว้างเรียก 'เธอ'ว่าอย่างนั้น 'เธอ' ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ......


...จนรุ่งเช้า...




'เธอ' ถึงรู้ว่า มัน คือ.....................










'ชีวิตใหม่'



ฉันร้องไห้เป็นหมื่นครั้ง...เพื่อมาเจอเธอ http://www.youtube.com/watch?v=mjydUqDRkNs&feature=related
 (http://www.youtube.com/watch?v=mjydUqDRkNs&feature=related)
หัวข้อ: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 14-07-2014 18:44:32
บทที่ ๙  เรียนรู้... 

.. 07.45 น.  ,กรุงเทพฯ

.....สายฝนยังไม่ซาเม็ด ในตอนที่ 'หลิน' หิ้วปีกเด็กหนุ่มขึ้นมาจากอ่างน้ำ.....
เช้าของ หลิน ถ้าไม่นับไอ้เด็กขี้เซาที่หลับอยู่ในอ่างน้ำ ...ทุกอย่างก็เกือบจะดูปกติ.. ปกติดีถ้าไม่นับอีกเรื่อง.......
.......เรื่องคราบเลือดที่ยังติดเป็นทาง ตั้งแต่หน้าบ้าน....จนมาถึงห้องนอน ....

...

คุณอนงค์สั่งให้พวกคนงานไล่เช็ดคราบเลือดไป ร้องไห้ไป ....ย้อนกลับไปเมื่อคืนนี้...คุณอนงค์แม่บ้านส่วนตัวของหลิน ยังไม่หายตกใจ ...คุณหลินกลับเข้าบ้านมาในสภาพเลือดท่วมตัว ....ท่าทางก็ดูแปลกๆ  ต่างกับตอนออกไปลิบลับ ที่สำคัญคุณหลินพาใครคนหนึ่ง เข้ามาที่บ้านด้วย.......

เด็กหนุ่มมอซอ....ที่คุณอนงค์ ไม่เห็นหน้า เพราะเด็กหนุ่มนั่น ซบพิงคุณหลินมาตลอดตั้งแต่หน้าประตูบ้านคุณหลินลากเด็กหนุ่มนั่นหายเข้าห้องไป....เหลือแค่รอยเลือดที่ลากยาว คุณอนงค์ไม่รู้ว่าเลือดนั้นเป็นของใคร ของเด็กหนุ่ม? หรือของคุณหลิน ?...
...ได้แต่ภาวนา ว่าอย่าใช่ของคุณหลิน...เพราะถ้าใช่....

 ที่เดินเข้าห้องไป....ก็คงไม่ใช่คนแล้ว ....
.....................................
.....
.
.
.

"เธอเป็นตัวอะไรกันแน่?....."

หลินอยากรู้แค่นี้ล่ะ  ตัวอะไรกันแน่ ที่กางปีกบินได้ ตัวอะไรกันแน่ที่ใช้ปืนได้อย่างกับมือปืนอาชีพ ตัวอะไรกันแน่ที่กล้าปลุกเธอให้ตื่นจากความตาย !!! นอกจากเรื่องนี้ ..ชั่วโมงนี้หลินแทบจะไม่สนใจอะไรแล้ว ไม่สนใจด้วยซ้ำว่ามันเป็นความฝันหรือความจริง เพราะฝัน....มันคงไม่ทรมานจนไม่อยากแม้แต่จะหายใจขนาดนี้....

....
..
ปืนที่ยิงเข้าทรวงอก ....
มันยังไม่เจ็บเท่ารักที่ถูกขยี้ด้วยส้นเท้า!!!
น้ำตาที่กลั้นไว้มันไหลพราก.....แก้มช้ำแดง จากแรงปาดน้ำตา .....ห้องทั้งห้องเหลือเพียงเสียงลมหายใจ
...

.หลิน สูดหายใจยาวเมื่อ ร่างเด็กหนุ่มกางปีกใหญ่กว้าง แล้วกระพือเบาๆ เหมือนกำลังสำรวจความเสียหาย ร่องรอยของการฉีกขาดมีประปราย ....หลินเองไม่อยากนึกว่าจะต้องเจอกับอะไรหากก้าวเท้าออกจากห้อง ....เมื่อเธอเสียให้กับค่ำคืนไปมากมายเหลือเกิน ....อย่างน้อยก็เสีย 'รัก' ไป...

เมื่อรักอย่างเขาตัดสินใจ ยิงจ่อเธอได้อีกครั้งและจากไปอย่างไม่ใยดี  มันคงไม่ผิดที่เธอฆ่าเขาทิ้งเองกับมือ....ใช่ 'กับมือ' เธอเองทำอะไรลงไปบ้าง ? เอาเท่าที่จำได้ ...ทันทีที่เธอรู้ตัว เธอก็กระซวกดึงหัวใจของ เขา ออกมาแล้ว ...การเอาคืนสาสมที่สุด ...มือคู่นี้ที่กดกระชากเอาหัวใจที่เธอฝากไว้ออกมา .....จากแผ่นอกกว้าง.....แผ่นอกที่เธอเคยคิดจะซบพิง ...ตอนนี้บ้านของ เขาคงเป็นเหมือนสวนสนุกที่ละเลงไปด้วยสีแดง...ฝีมือของหลินและไอ้ตัวษิตรา 

น้ำตามันไหลให้กับความเสียใจ ไม่ได้เสียใจที่ 'รักตาย' แต่เสียใจและสมเพชตัวเองที่ โง่ไปหลงรัก เจ็บให้พอ เจ็บให้มากกว่านี้ เจ็บให้รู้ตัวเสียทีว่า รักแท้ที่เธอตามหามันไม่เคยมี !!!
....
.....เจ็บเสียให้พอ ....เจ็บให้จำฝังใจ ..เจ็บเพื่อที่จะไม่ต้องกลับมาทนทรมานกับ 'รัก' ที่ไม่มีวันเป็นจริง
...
.
.

'ฮืมมมมมมส์'

เสียงครางคำรามเหมือนสัตว์ ส่งมาพร้อมความรู้สึกอุ่นวาบที่ข้างแก้ม ลิ้นร้อนไล่เลียน้ำตาแล้วซับกลืน แววตาที่มองจ้องมาที่หลิน เป็นสีดำสนิท ก่อนเปลือกตาจะกะพริบลงแล้วเปิดขึ้นมาเป็นเหมือนตามนุษย์ปกติ ...

"เธอเป็นตัวอะไรกันแน่?....."

"....ษิตรา...."

เสียงที่เกือบจะเหมือนเสียงมนุษย์ กระซิบข้างหู....ตามมาด้วยรสชาติของเลือดที่ผ่านเข้ามาจากปลายลิ้นร้อน ....จูบที่หลินต้องเป็นคนสอน ......
......รสชาติของจูบรสเลือด......
ร่องรอยฉีกขาดบนปีกกว้าง สมานเข้าด้วยกันตามเดิม ......
....สำหรับษิตรา ทั้งฝนและน้ำตาของมนุษย์ เหมือนยารักษาชั้นดี .....
...........
...


......กรงเล็บคม กางออกแล้วกดลงบนแผ่นอก เด็กหนุ่ม เกร็งกรงเล็บตัวเองกระชาก 'ของ' ที่ซ่อนในทรวงอกออกมา .... แค่อึดใจ รอยแผลกระสมานกลับ  เหลือเพียงเลือดสีดำ....ยังติดอยู่บน หัวกะโหลกสีขาว คราบเลือดที่ยืนยันว่าครั้งหนึ่งหัวกะโหลกนี้ ษิตรา ควักมันออกมาจากแผ่นอกตัวเอง... 

"ผู้กอง..."

หลินถอนหายใจยาว.... แล้วลุกเดินออกไปหยิบตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ลงมาจากชั้นหนังสือ มีดปอกผลไม้ที่วางอยู่ บนโต๊ะแทงกรีดรอบคอตุ๊กตาหมีแล้ว ดึงหัวมันให้อ้าออก หลินดึงนุ่นที่ยัดอยู่ข้างในออกแล้ว ใส่กะโหลกขาวลงไปแทนก่อนจะเย็บปิด.....แล้วส่งคืนให้ เด็กหนุ่ม .....

....ไม่มีอะไรน่าตกใจอีกแล้วนับตั้งแต่เธอตื่นขึ้นมาจากความตาย... ..อือ....อีกเรื่องที่หลินอยากรู้...มีอะไรที่ไอ้ตัวษิตรา ทำไม่ได้ อีกบ้าง?
......................................
............





ผ่านมาเกือบเดือนกับเรื่องราวของค่ำคืนนั้น....


เช้ามาต้องเจอกับอะไร ? หลินไม่ได้ใส่ใจนับตั้งแต่วันนั้น ...
วันที่ไอ้ตัวษิตรามันเข้ามาปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้าย....
......................
....

.....แต่....'ไม่ใส่ใจ' ไม่ได้หมายถึง 'ไม่รำคาญ'.......

รำคาญที่ลิ้นร้อนไล้เลียปลุกสติเธอให้เตลิด หลินเอียงคอรับกับสัมผัสแปลก สองมืออุ่นเลื่อนขยำคลึงเนินอกอิ่ม อย่างเบามือ แล้วค่อยๆลงลิ้นเลียลากต่ำลงไป .....ลมหายใจอุ่น หยุดอยู่ตรงส่วนนั้นของเธอ...ส่วนที่รับสัมผัสได้ดีที่สุด ...จมูกโด่งฝังลงกับเนินขนอ่อน....หลินกลั้นหายใจยาว....ก่อนจะร้องครางเสียงลั่น ...



"ไอ้เด็กบ้า!!! อย่ากินนะ นั่นจีสตริงฉัน!!!"


คงจะห้ามทันหรอก เมื่อไอ้ตัวษิตรา มัน รูดจีสตริงสีแดงที่เธอใส่อยู่มาเคี้ยวตุ้ยๆ .....
...
.
คงต้องให้แม่บ้านเลิกใช้น้ำยากลิ่นเบอร์รี่เสียที!! ถ้ายังอยากนอนอย่างสงบสุข!!
..ไอ้ษิตราบ้า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
.....

หัวข้อ: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 14-07-2014 18:46:39
บทที่ ๑๐  ฝัน....กลางจันทร์ 

.. สามเดือนหลังจากนั้น  , พัทยา



.....แรงกดที่โถมเข้ามา เป็นจังหวะ ตรึงร่างชายหนุ่มไว้กับพื้นที่นอน นิ้วเรียวเกร็งทาบลงมาแล้วสอดล็อกกับฝ่ามือ เสียงไม่มีหลุดลอดออกมาจากลำคอเพราะร่างที่ทับลงมารุกจูบจนไม่เปิดโอกาสให้หายใจ แม้แต่เสียงครางมันยังจมหายไปในลำคอ ....กลิ่นสาบเฉพาะตัวที่ พระพรตแสนเกลียดแต่คุ้นเคย กลิ่นเหมือนกลิ่นสาบสัตว์แต่ไม่ฉุนเอียน เหมือนมันแซมด้วยกลิ่นลูกไม้ ค่ำคืนที่ต้องทนทรมาน เหมือนผีอำ ร่างกายเหมือนถูกสิ่งที่มองไม่เห็นกดตรึงและร่วมรัก ....

ทุกครั้งที่จันทร์เต็มดวง ฝัน....มันเกินจริงเสียยิ่งกว่าจะคิดว่ามันเป็นฝัน ...

'พระพรต....พระพรต...'

เสียงนั้นดังเหมือนกำลังกระซิบอยู่ข้างหู  ที่ทำได้มีเพียงเกร็งตัว และผ่อนแรงไม่ให้เจ็บไปมากกว่านี้ เสียงครางเรียกชื่อถี่ เหมือนจะบอกใบ้กลายๆว่า แรงโถมมันกำลังจะกระชั้นรัว  พระพรตจับ สองขาตัวเองให้อ้ากว้างรับการเคลื่อนไหว... รู้ทั้งจังหวะรู้ทั้งนิสัยการเคลื่อนไหวของสิ่งที่อยู่ในฝัน ความสุขกำลังทะลักทลาย ในขณะที่ช่องทางอุ่นกำลังโดนอัดกระแทกด้วยสันดานดิบ จุกคับ แต่แน่นไปด้วยความกำหนัด  สะโพกขาวเกร็งแน่นรับแรงโถม ที่กำลังจะขึ้นถึงขีดสุด  เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเหมือนเพิ่งอาบน้ำ...ในฝัน....รับรู้ได้แค่ ความกำหนัดที่ล้นเอ่อ พระพรตไม่กล้าลืมตามองสิ่งที่จาบจ้วงและตักตวงทุกอย่างอย่างหื่นกระหาย ....เหมือนแค่ฝัน ...ฝันมันเริ่มจากค่ำคืนของพายุ และยังคงอยู่ตลอดมาจนถึงวันนี้  แรงบีบของมือทั้งสองข้าง จับช่วงเอวยึดแน่น แล้วกระแทกแรงจน ต้องร้องคราง....เสียงกระซิบพร่ายังเป็นชื่อเขา... ทั้งเจ็บและแสบ แต่กลับปฏิเสธไม่ได้ว่าสุขสม ...

....แล้วก็ใกล้จบ ...ในความรู้สึกแท่งร้อนแทงเข้ามาพรวดเดียวจนสุดลำ มือสองข้างยังกดยึดที่ช่วงเอวกระแสน้ำอุ่นกำลังทะลักไหลเข้าในช่องท้อง มันอุ่นวาบเกินที่จะเชื่อว่าเป็นแค่ฝัน ....ปลายลิ้นร้อนยังหยอกเย้าอยู่ที่ริมฝีปาก ....

'พระพรต.....พระพรต....'

น้ำเสียงแปลกยังกระซิบเรียกชื่อที่ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก....อ่อนแรงและพร่าเลือนเมื่อกำหนัดถูกปลดปล่อย....เหมือนโดนกระทำแล้วปล่อยทิ้งให้เดียวดาย ....พระพรตฝืนใจปรือเปลือกตาขึ้นมามองคนในฝัน .....แววตาสีดำสนิทเหมือนลูกสัตว์ กะพริบถี่ ก่อนปรับเป็นแววตามนุษย์ปกติ ...เขี้ยวยาวโผล่พ้นริมฝีปาก โครงหน้าคมที่ยังติดตา ....

.....รอยยิ้มจางมีที่มุมปาก ก่อนแรงโหมกระแทกจะมีมาอีกระลอก พระพรตหลับตารับสัมผัสนั้นอย่างไม่ทันตั้งตัว พายุอารมณ์โถมกระชั้นมาอีกครั้ง  ร่างกายพระพรตแอ่นรับสัมผัสอย่างไม่อาจควบคุม แก่นกลางมันกำลังปล่อยน้ำคาวให้พลุ่งพล่าน ทุกครั้งที่แรงโหมจากร่างข้างบนกระทุงแทกลงมา.....

'...อย่าลืม....อย่าลืม...'   

.....พระพรต เฝ้าบอกตัวเองให้จดจำโครงหน้าและแววตาที่ตนเองเห็น....จดจำให้ได้แม้ตอนตื่น........แล้วสมองก็โล่งวาบ เหมือนกำลังตกจากที่สูงลงมาปลายเหว.....ทุกอย่างสว่างโล่งและกระตุกเกร็ง น้ำอุ่นกระแสหนึ่งไหลทะลักจากแกนกาย ส่วนอีกกระแส พุ่งเข้าใส่ช่องทางร้อนเหมือนมันยังไม่เคยพอ....ใช่...มันยังจะกลับมา เมื่อถึงคืนจันทร์เต็มดวงอีกครั้ง......
....
..

พระพรตลืมตาตื่นจากฝันอันวาบหวาม ....เม็ดเหงื่อ ผุดขึ้นจนทำให้หนาวสั่น ...ฝันมาและจากไปเหมือนทุกครั้ง ....แต่ครั้งนี้มันร้อนแรงกว่าเก่า ....สมองสักส่วนหนึ่งพยายามเรียกความทรงจำของใบหน้านั้นขึ้นมา ....แต่มันช่างยากเย็น ....
หากแต่เสียงกระซิบชื่อตนยังคงดังแว่วเหมือนมันไม่เคยจาง ....

'พระพรต....' 

......



***


..
เสียงคราง....ด้วยความสุข...โผล่พ้นออกมาจากผ้านวมผืนหนา ....เด็กหนุ่มลากเลียลิ้นลงบนเนินอกอิ่มแล้วซุกหน้าจมลงไปกับผิวเนียน  เรียวขาขาวก่ายกอดแล้วเล็มชิมแกนกายที่เหมือนจะไม่ยอมสิ้นฤทธิ์สักที เสียงครางหวาน ปนเสียงหัวเราะคิกคัก เสือตัวแสบขบชิมผิวเนื้อขาวๆ กลิ่นหอมๆที่ปลุกสันดานให้คุกรุ่น สองมือขยำหน้าอกฟู ในขณะที่ช่วงเอวยังโดนตรึงไว้ด้วยสัมผัสร้อน ลิ้นร้อนซุกและลากเลียเนินเนื้อกลิ่นคาวหอม ที่กดลงมาร่อนอยู่แทบหน้า ส่วนกลางของแก่นกายอุ่นวาบและรัดแน่น เมื่อมันถูกดูดกลืนด้วยร่างอีกร่างที่กำลังปลดเปลื้องตัวเองจากรสสัมผัส เสียงครางถี่เป็นคนละเสียงกับเสียงกระเส่าของอีกร่างที่ยังร่อนเอวสวนให้กับปลายลิ้นที่เลียชิมเนินเนื้อ .....
...
.






"ชีต้า!!!! ใครบอกให้หิ้วเด็กที่คลับเข้ามากินเอง!!!!"


เสียงตวาดแปร๋นของหลิน กระชากทุกอารมณ์ให้สะดุดกึก ยกเว้นไอ้เด็กที่ขยับมือออกมาจากหน้าอกฟูของร่างเนียน มาจับตรึงช่วงเอวของสาวน้อยอีกคนแล้วกระทุ้งเอวสวนรับให้สาวน้อยเริ่มขยับอีกครั้ง .....

เหมือนไม่สนใจ สาวสวยที่ถือวิสาสะรูดการ์ดเข้ามาในห้องนอน ...ปลายลิ้นยังคงทำหน้าที่ล้วงความกำหนัดต่อไป...ลิ้นร้อนลากเลียลึกเข้าไปที่เนินเนื้อแล้วตวัดเม็ดตุ่มแห่งราคะจนเจ้าของร่างครางกระเส่าขยับร่อนเนินอิ่ม ปลายลิ้นยังลากเลียและดูดเม้มจนน้ำคาวไหลทะลักพร้อมๆกับเสียงกรีดร้องปลดปล่อยอารมณ์  ....จากนั้นถึงได้ยันตัวลุกมาจับอีกร่างให้พลิกหันแล้วสอดดันแก่นลำตัวกระแทกเข้าช่องทางเนินเนื้อที่เยิ้มจนหวานหวาม .....
...


"ชีต้า!!!! "


เสียงตะโกนเรียกออกมาจากปากสีสดอีกครั้ง .....เหมือนจะพอใจเมื่อความกำหนัดมันทะลักทลายเข้ากับเนินเนื้อนิ่ม ......เด็กหนุ่มถอนแก่นกายตัวเองออกมาแล้วลุกขึ้นก้าวลงจากเตียงกว้างทิ้งให้สาวน้อยสามนางที่นอนอยู่ หมดแรงนอนนิ่งซบกับเตียง.....

มือเรียวคว้าตุ๊กตาหมีตัวใหญ่บนหัวเตียงมากอดก่อนจะก้าวเข้ามาหาทั้งที่ตัวเปลือยเปล่า..... แผงอกกำยำแต่ไม่ดูน่าเกลียด ช่วงไหล่กว้างแต่ดึงสายตา  เสน่ห์....แบบสัตว์ป่า....ที่หลินเกือบจะลืมไปแล้วว่าเด็กหนุ่มนี้เป็นคนเดียวกับ 'ษิตรา' .....
....
.

"คิดถึงชีต้าหรอเจ้?"

ลมอุ่นเป่าวาบเข้าที่ซอกคอ เมื่อเสียงกระซิบมันวนอยู่แถวนั้น ลิ้นร้อนเลียเบาๆที่แก้มแดงก่อนจะย้ายมาจูบเบาๆบนริมฝีปากอิ่ม เหมือนกำลังยั่วอารมณ์...
.
.
.โกรธ....

"ชีต้า....ตกลงกันแล้วว่าจะไม่เอาเด็กในคลับมาคั่วเอง....แต่นี้นายหิ้วมาสาม..."

"...ก็เจ้ไม่นอนกับชีต้า.....ถ้าเจ้ยอมนอนด้วย....ชีต้าก็ไม่เสียเวลาหิ้วเด็กในคลับมาหรอก...."

"..อย่ามาพูดเล่นชีต้า.....ไปแต่งตัว.....วันนี้นายต้องรับตำแหน่ง....."

"....มนุษย์นี้ยุ่งยากจังเจ้....ชีต้าขอบายได้ไหม...?"

"...จะไปอาบน้ำเตรียมตัว ....หรือจะให้ฉันตัดเอาแต่หัวนายไปรับตำแหน่งดีล่ะ ชีต้า?"

ไม่มีคำตอบนอกจากเสียงหัวเราะในลำคอ ก่อนที่เด็กหนุ่มจะหันหลังเข้าห้องน้ำ....หลินเหลือบมองไปที่บรรดาสาวๆยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไร แม่สาวๆก็ลุกหยิบคว้าเสื้อผ้าวิ่งออกจากห้องไปแล้ว....หลินรู้ว่า ษิตรา เรียนรู้ได้เร็ว....แต่ไม่คิดว่าสามเดือนที่ผ่านมานี้ ไอ้เสือมีปีก นอกจากจะได้ชื่อใหม่ว่า 'ชีต้า'แล้ว มันยังจะได้นิสัยใหม่ๆของเธอเข้าไปด้วย...แถมนิสัยด้านที่เป็นผู้ชายเกินร้อยอีกต่างหาก....

ไอ้ตุ๊กตาหมีนั่น....ไม่คิดจะสอนอะไร ชีต้า ของเธอเลยรึไง???

หัวข้อ: Re: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 14-07-2014 19:23:08
เรื่่องนี้อยู่ในความทรงจำเสมอเลย ชิอบมากๆ แต่อย่าลืมมาต่อให้เรานะคะ ทุกเรื่องทัี่ลงค้างไว้สนุกหมดเลย
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: padang ที่ 14-07-2014 19:52:55
ดีใจมาก กับการกำเนิดใหม่ ของสาปศิลา
ขออย่าหายไปอีก :mc4:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 14-07-2014 20:24:28
เรื่องนี้สนุก เหมือนตอนนั้นจะถึงตอนที่สังกามาตามเอาตัวษิตรากลับใช่ป่ะ :hao3:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 14-07-2014 20:45:49
จะกลับมาต่อแล้วใช่ไหม   :hao5:

คิดถึง :mew1:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: heroza ที่ 14-07-2014 21:12:05
ษิตราอย่ามัวแต่เล่นเป็นมนุษย หาลูกเจ้าของกะโหลกได้แล้วหาพระพรตได้แล้ว~~~

ปล.เห็นชื่อคนแต่งก็รู้ว่าเนื้อเรื่องแหวกแนว+สนุก แต่ก็รวมถึงการดองเข็มด้วยเช่นกัน  รู้ทั้งรู้แต่ก็ชอบตามอ่านอยู่ดี :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 14-07-2014 21:53:38
ชอบๆๆๆ รอตอนต่อไปนะจ๊ะ  :katai4: :katai4:
เลิฟๆๆ ษิตรา  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: ppoi ที่ 15-07-2014 01:12:58
แล้วเธอก็กลับมา... //ปาดน้ำตา

พรุ่งนี้ขอเบาๆอีกซัก 10 ตอนละกันเนอะ  :o8:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueJay ที่ 15-07-2014 01:57:19
แปะ...'w'
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: aimjjj ที่ 15-07-2014 02:14:26
มาแล้ว~  :katai2-1: :mc4:  :heaven จิ้มรัวๆ :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 15-07-2014 03:50:56
ชอบอ่ะ น่ารักสุดๆเลยซีด้า ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [1-10 ตอนรวด -14/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 15-07-2014 17:24:31
กรี๊ดดดด ขอเลือดด่วน  :jul1:   เมื่อไหร่สองหนุ่มจะได้เจอกันละ  :hao6:
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 11 - 15/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 15-07-2014 18:21:58
บทที่ ๑๑  คลาด...

.


ห้องรับรองโรงแรมเครือ 'Golden Eyes Group' , พัทยา



.....โกรธไม่ลง.....

หลินได้แต่ถอนหายใจเมื่อมองไปยังเด็กหนุ่มที่กอดตุ๊กตาหมี ขดตัวนอนและหนุนตักเธออย่างไร้เดียงสา เหมือนลูกหมาเชื่องๆ อย่างกับเรื่องเมื่อเช้าไม่เคยเกิด....
...ชีต้า....บริสุทธิ์....และไร้เดียงสา 
...
.
.
.ถ้า....
...
.
.
ไม่มีคืนจันทร์เต็มดวง.......
....
หลินไม่เคยคิดว่าอะไรๆจะมาถึงจุดนี้ จุดที่ ชีต้าได้ขึ้นแทนตำแหน่งของ Mr.คิม  เหมือนกับทุกอย่างถูกวางไว้ให้ชีต้า โชคชะตาเหมือนกำลังวางหมากให้ชีต้าขึ้นแทน อดีตคนรักของเธอ ...คนรักที่กดปืนเข้าทรวงอกเธอโดยไม่ลังเลหรือแม้แต่กะพริบตา....
.....
.
Mr.คิม เยือกเย็นและถือตัว เสน่ห์ ของคนที่เป็นผู้ใหญ่ .....
ต่างกันที่ ชีต้า ยัง 'เด็ก' เด็กในการแสดงออกและการเรียนรู้ ....หลินได้แต่คิด นอกจากดื้อด้านได้อย่างไม่รู้สึกรู้สากับเรื่องที่ทำแล้ว มีอะไรที่ชีต้า...สมควรกับตำแหน่งบ้าง?
...
.
.
แต่ก็นั้นละเรื่องตำแหน่งของ ชีต้า .....ทางผู้ใหญ่เป็นคนเลือก...ไม่ใช่เธอ...
..
หึ ! 'Golden Eyes Group'  จะได้มีหนึ่งในสี่บอสเป็นไอ้เด็กเกรียนก็คราวนี้   
...
...
ไอ้เสือน้อยลืมตาแล้วกอดตุ๊กตาหมีตัวใหญ่อย่างเต็มแรง ก่อนจะหันมามองเธอด้วยดวงตาสีดำสนิท ....มันกะพริบแล้วเปลี่ยนเป็นตามนุษย์ปกติ ...ตอนตื่นนอน ชีต้า'หลุด 'ได้เกือบทุกครั้ง...หลินขยี้หัวทุยๆของไอ้เสือแล้วบุ้ยปากให้ลุกขึ้นเพื่อก้าวเข้าลิฟต์ ตัวใหญ่ .....ห้องประชุมอยู่ชั้นสูงขึ้นไปกว่าห้องปกติที่เปิดเป็นที่พัก....
มีคนอยู่ในลิฟต์นั้นก่อนแล้ว สามคน ไม่แปลกที่จะมีคน...เมื่อลิฟต์เพียงตัวเดียวที่ถูกเปิดใช้เพื่อเป็นทางเข้า-ออกป้องกันคนนอก หลินดันไอ้เด็กแสบเข้าไปในลิฟต์ก่อนจะก้าวตามเข้ามา....
...
.



ตื่นจากฝันบ้าๆ พระพรตแทบหมดแรง เหมือนเรี่ยวแรงทั้งหมดถูกสูบออกไปจากความฝัน ....ชายหนุ่มสะบัดหัวไล่ความเมื่อยล้า แล้วก้าวเข้าลิฟต์ตัวใหญ่ เผลอคิดเรื่อยเปื่อยจนลืมกดเลขชั้น เลยได้แต่เลยตามเลยเมื่อลิฟต์มันดันขึ้นไปชั้นที่สูงกว่าแทนที่จะลง...
...
.
พระพรตหลับตาเอนพิงผนังลิฟต์  ...ในขณะที่ลิฟต์เปิดออก ....
...
.ฝันไปหรือเปล่า?
กลิ่นสาบ....ลอยเข้าจมูก.....กลิ่นสาบที่บอกไม่ได้ว่ามันเป็นยังไง .....แต่รู้ได้เพราะมันคุ้นเคยและแตกต่าง.....


'ตึง!!!'


..
ลิฟต์มันกระตุกและค้างอยู่แค่นั้น....ไฟในลิฟต์ดับลง หลังจากเสียงเอะอะ ..ทุกอย่างก็เงียบสนิท ....จนมีใครบางคน จุดไฟแช็กขึ้นมา...
แต่ทันทีที่ปรับสายตาได้ พระพรตเห็นแสงสว่างวาบของดวงไฟสี....ไม่สิมันเหมือนแสงของดวงตาสัตว์ยามสะท้อนแสงไฟ....
...
.แล้วมันก็วูบหายไป.....
...
.
กลิ่นสาบมันเหมือนรอยวนอยู่รอบตัว พระพรตกลั้นหายใจนิ่ง ....ได้แต่ภาวนาขอให้มันผ่านพ้นไป.....ใครสักคนในลิฟต์ขยับตัวลุกขึ้นหาปุ่มฉุกเฉิน...เสียงลมหายใจที่เหมือนจะมาจากลำคอ ใกล้เสียงจนพระพรตไม่กล้าขยับ...'มัน'....อยู่ในนี้ ...
...
.
ไม่จำเป็นต้องใช้ดวงตา ...แค่กลิ่นและความรู้สึก...ก็บอกได้ทั้งหมด...
....
.
.
ลมหายใจอุ่นเหมือนรดอยู่ข้างแก้ม....เหมือนกับในฝันทุกอย่าง แตกต่างแค่อย่างเดียว ...มันไม่ได้เรียกชื่อเขา.....
เสียงคำรามเบาในลำคอ....เหมือนไม่สบอารมณ์...เสียงของสัตว์ ไม่ใช่คน....
...พระพรตได้แต่บอกตัวเองอย่างนั้น ....

จนอยู่ๆไฟมันก็สว่าง .....
มีคนห้าคนในลิฟต์  หนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงเจ้าของไฟแช็กเธอเป็นคนกดปุ่มฉุกเฉิน ....พระพรตค่อยๆปรายสายตามอง.....ไม่มีมันอยู่ในนี้ .....

....แต่กลิ่นยังคงลอยวน.....

...
ผู้หญิงในชุดรัดรูปเจ้าของไฟแช็กและสติ   พนักงานโรงแรมหนึ่งคนที่ตื่นกลัว ชายหนุ่มอีกคนในชุดสูทภายใต้แว่นสีดำ และเด็กหนุ่มที่เหมือนสะลึมสะลือกอดตุ๊กตาหมีตัวใหญ่แน่น.....

...พระพรตได้แต่บอกตัวเอง ....เขาไม่ได้หลอนไปเอง....

.'มัน'.... เป็นหนึ่งในนี้.....
....
ก่อนที่ลิฟต์จะเปิด....พระพรตแทบไม่กล้ากระดิกตัว ....กลัวมันรู้ว่าเขารู้....ทุกคนเหมือนเร่งรีบจะออกจากลิฟต์ ยกเว้นพระพรต....เขาถอนหายใจเมื่อทุกคนก้าวออกจากลิฟต์...พระพรตรีบกดตัวเลขลงชั้นล่างสุดตอนนี้พระพรต กลัว 'มัน'เสียยิ่งกว่ากลัวลิฟต์เสียอีก...
...
.

'ตริ๊ง!'


ลิฟต์ลงมาสองชั้น....มันก็เปิดออก พระพรตพิงผนังลิฟต์ มองออกไปที่ประตู เด็กหนุ่มคนหนึ่งก้าวเข้ามา....ก่อนที่ลิฟต์จะปิด....
...ไม่ได้สนใจอะไร พระพรตปิดเปลือกตาลง รอให้ลิฟต์ลงไปถึงชั้นล่างสุด...แต่....
.
กลิ่นสาบ.....มันคลุ้งอวลอีกครั้ง ....
..
.
.
.
.
ชายหนุ่มไม่กล้าลืมตา เมื่อลมหายใจอุ่นมันรดเบาๆที่ซอกคอ....

....

...เสียงคำรามในลำคออย่างสบอารมณ์ เหมือนกับเสียงเสือ.....ยามดมกลิ่นเนื้อสดชั้นดี....
...
.
.
.

"พระพรต....."

เสียงมันเรียกชื่อเขา....พร้อมๆกับลิ้นอุ่นๆที่ ค่อยๆเลียจุดชีพจรที่เต้นระส่ำตรงลำคอขาว....
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 11 - 15/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 15-07-2014 19:00:24
ขวัญจะหายตามพระพรตเลยจ้าา ^_^ ลุ้นมากมายค่ะ
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 11 - 15/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: ppoi ที่ 15-07-2014 19:05:26
ปาดน้ำตาด้วยความปลื้มปริ่มต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวาน...

ไม่ขอไรมาก ขอเท่าที่เคยลงก่อนหน้านี้ก็พ้ออออ 5555

 :กอด1: รักนะ ถึงขอ (แล้วขออีก...)
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 11 - 15/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: padang ที่ 15-07-2014 19:16:52
ดีใจมาก :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 11 - 15/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 15-07-2014 19:26:43
มาบอกว่า.... รักเรื่องนี้จุ๊บุ ถ้าต่อจากของเดิมให้ด้วยจะดีใจมาก T^T
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 12 - 15/7/57-19:35 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 15-07-2014 19:33:42
บทที่ ๑๒  ล้างด้วยเลือด#๑ 




..
ลมหายใจอุ่นมันรดเบาๆที่ซอกคอ....

....

...เสียงคำรามในลำคออย่างสบอารมณ์ เหมือนกับเสียงเสือ.....ยามดมกลิ่นเนื้อสดชั้นดี....
...
.
.
.

"พระพรต....."

เสียงมันเรียกชื่อเขา....พร้อมๆกับลิ้นอุ่นๆที่ ค่อยๆเลียจุดชีพจรที่เต้นระส่ำตรงลำคอขาว....
….
.จมูกเย็นซุกไซ้เข้าซอกคออุ่น ...นิ้วที่สอดเข้ามากำลังยึดตรึงให้ร่างทั้งร่าง นิ่งอยู่กับที่..
.
มันก็แค่ฝันเท่านั้น .....
..
.
.ใช่....มันก็แค่ฝันเท่านั้น....




ถ้า ....


เสียงโทรศัพท์ไม่ดังขึ้น !!

มืออุ่นกำกระชับสอดปลายนิ้วล็อกเข้ากับมือเขา และกระชากมือที่ล็อกไว้ให้เดินตามออกจากลิฟต์ ....

‘ชั้น 23’

ลิฟต์มันไม่ได้ไปไกลกว่านั้นเลย .... พระพรตลืมตามาเพื่อพบว่า ตัวเองกำลังอยู่ท่ามกลางกลุ่มชายชุดดำ
...ห้องประชุมใหญ่ พระพรตนั่งใกล้กับเด็กหนุ่มหน้าใสมือข้างหนึ่งของเด็กหนุ่มยังสอดประสานอยู่กับมือเขาปลายนิ้วมันล็อกดึงให้เขานั่งนิ่งอยู่กับเก้าอี้ ส่วนมือข้างที่เหลืออีกข้างหนึ่งกอดตุ๊กตาหมีตัวโตไว้แน่น ....การประชุมที่เริ่มด้วยภาษาที่เขาไม่เข้าใจ จีน ? หรือ จีนแมนดาริน?     
.....
การโต้เถียงกันระหว่างกลุ่มคนในชุดสูทและหญิงสาวที่เขาจำได้ว่าเป็นคนกดปุ่มฉุกเฉินในลิฟต์  สายตาเย็นปรายสายตามองเขาอย่างเหยียดๆ การโต้เถียงที่เขาไม่มีส่วนร่วม และไม่มีตัวตนสำหรับคนในห้องโถงใหญ่  เด็กหนุ่มข้างเขา นิ่งเฉยจนเหมือนกับเฉื่อยชา ... เหมือนกับว่าเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นแค่เรื่องธรรมดา ....เรื่องธรรมดาที่การโต้เถียงจบลงด้วยการชี้ปลายกระบอกปืนมาที่เด็กหนุ่ม!!!

ไม่มีแววกังวลใจ นอกจากสายตาเซ็งๆ ที่จ้องปลายกระบอกปืน เด็กหนุ่มหันหน้าไปมองหญิงสาว ..สาวสวยที่นั่งฝั่งตรงข้ามถึงกับยกมือห้าม เมื่อกลุ่มชายชุดดำอยู่ด้านหลังเธอตอบกลับโดยการเล็งปลายกระบอกปืนไปที่ กลุ่มคนอีกฟากเช่นกัน การตกลง เหมือนจะจบไม่สวย พระพรตได้แต่นั่งเกร็งหายใจไม่ทั่วท้องถึงจะ เรียบเรียงเหตุการณ์ไม่ถูก...แต่เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่... 
....
แล้วทุกอย่างก็ยุติ...

เด็กหนุ่มข้างๆ ปล่อยมือเขากับตุ๊กตาหมีแล้วลุกขึ้นยืน...ท้าวแขนกับโต๊ะกระจกแล้วชะโงกหน้าเงยขึ้นเจรจากับชายสูงอายุร่างตัวใหญ่ที่อยู่หัวโต๊ะ....ด้วยภาษาที่เขาไม่เข้าใจ ...แต่...กลับฟังรู้เรื่อง...
...
.
ไม่สิ...มันไม่ใช่เสียงที่ส่งมา ...แต่เป็นความคิดที่ส่งมาในหัวมากกว่า....

"ถ้าจะยิงก็ยิงให้ตาย........."

ความคิดที่ส่งมาเย้ยหยัน...แต่มันกลับทำให้บรรยากาศ เย็นวาบ...

"อั้วไม่มีอะไรจะเสีย ตำแหน่ง'เสือ' ของ 'Golden Eyes Group' มันไม่เหมาะกับลื้อ ...ลื้อมันปีศาจ... ลื้อฆ่าอาคิม ลูกชายอั้ว...ยอมรับแล้ว จบมันซะ  เลือดต้องล้างด้วยเลือด...ถ้าลื้อจบมันเหมือนที่ลื้อเริ่มมัน อั้วจะปล่อยอาหลินไป...ปล่อยคนของลื้อด้วย....นัดเดียวที่หัวลื้อ....อั้วขอแค่นั้นแล้วทุกอย่างจบ!!" 

สำเนียงแปร่งหูส่งมาพร้อมกับปืนกระบอกหนึ่งที่เสือกไถลมากับพื้นกระจกโต๊ะ ....
สายตาเศร้าๆของเด็กหนุ่มมองที่กระบอกปืนแล้วมองหน้าเขา แววตาที่สั่นไหว เหมือนจะมาพร้อมคำลา ...เมื่อเด็กหนุ่มหยิบกระบอกปืนขึ้นมาจ่อที่หัวตัวเอง ....
...

"พระพรต....พระ....พรต...."

เสียงที่ส่งมามันเบาและเลือนลอย ....เหมือนกับทุกสิ่งที่ประดังเข้ามาและกำลังจะหายไป  หัวใจพระพรตมันเย็นวาบเมื่อเด็กหนุ่มเริ่มเหนี่ยวง้างไกปืน ...
...
.
.
.
ฝันที่แสนน่ารังเกียจ ตลอดสามเดือนระหว่างคืนที่จันทร์ใกล้จะเต็มดวงและเต็มดวง...
...
....เจ้าของกลิ่นสาบ ....กำลังจะหายไปจากความฝัน...
...
.
.

"....พระ....พรต ..."

เขาจำเสียงนั้นได้ดี ...เสียงที่พร่ำเรียกเขายามมอบกอดที่ไม่อาจ ปฏิเสธ หรือขัดขืน ....ริมฝีปากเด็กหนุ่ม...ขยับเรียกชื่อเขา..ก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้ ....


'ปัง!!'


คงเพราะใกล้ที่สุดเสียงปืนมันถึงดังจนหูอื้อ... ใกล้เสียจนเลือดแดงกระเซ็นเข้ามาเต็มหน้า  ร่างเด็กหนุ่มทรุดฮวบลงพร้อมกระบอกปืนที่ตกกลิ้งอยู่ข้างๆ เลือดแดงมันค่อยๆกลายเป็นสีดำคล้ำ
...สติ...ของพระพรต...
.
.
.
มันหลุดหายไปพร้อมลมหายใจของเด็กหนุ่มข้างหน้า.....
.........
 ...น้ำตา....ไหลเอ่อลงมาอย่างไม่อาจควบคุมได้   


"ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 12 - 15/7/57-19:35 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 15-07-2014 19:43:52
ย๊าก  :กอด1: :z13: 5555
ตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 12 - 15/7/57-19:35 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 15-07-2014 19:58:33
ไม่!!!!!!!! แงงงงงงง T T
ค้างอ่าา รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 12 - 15/7/57-19:35 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 15-07-2014 20:03:00
คราวที่แล้วมันใช่แบบนี้มั้ยอ่ะ  :ruready ลืม
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 12 - 15/7/57-19:35 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: Moonwish ที่ 15-07-2014 20:06:55
กลับมาแล้ว เย้  :mew1:
อย่าหายไปนานอีกนะ
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 12 - 15/7/57-19:35 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: ppoi ที่ 15-07-2014 20:08:35
ห้ะ เพิ่งจะปาดน้ำตาแห่งความซึ้งกะตอน 11 ไป... มายั่วกันทีละตอนอย่างนี้คืออัลไล!?!

...ถ้าจะทำกันอย่างนี้... ก็... ส่งมายั่วต่อเรื่อยๆเลยอย่าได้หยุด

จัดมา รอออออออ  :o8: วั้ยยยย
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 13 - 15/7/57-20:35 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 15-07-2014 20:28:43
บทที่ ๑๓  ล้างด้วยเลือด#๒




..
.
มันก็แค่ฝันเท่านั้น .....
..
.
.ใช่....มันก็แค่ฝันเท่านั้น....


ฝันที่แยกไม่ออกจากความจริง ปลายนิ้วเย็นลูบหน้าที่มีแต่เลือด....กลิ่นสาบ...ที่คุ้นเคย....พระพรต ทรุดนั่งกับกองเลือดที่ไหลทะลักออกมาจากใบหน้าครึ่งซีก เปลือกตาของร่างที่นอนนิ่งยังลืมมองเขา...หน้าอีกครึ่งซีกหายไปกับเลือดสีคล้ำข้นๆ  พระพรตค่อยๆคลานเข้าไปหาร่างนั้น ...มันเย็นชืดและไร้ลมหายใจ
..
.
น้ำตาที่เอ่อไหล หยดลงร่างที่เย็นเฉียบ ....ความฝัน....มันอาจเป็นแค่ความฝัน
..ใช่สิ เพราะอาจนอนไม่พอ ฝันมันถึงได้แปลกประหลาดอย่างนี้ ..
.
.
นี้เมืองไทยนะ จะมีมาเฟียที่ไหนมาฆ่ากันตายบนโรงแรมหรู ....
..
.
.
เขาแค่ฝันเท่านั้น...แค่ฝัน ที่คงหวังลึกๆให้ปีศาจในความฝันพบจุดจบเสียที...
...
.
ใช่มันอาจจะจบ...แต่มันต้องไม่จบอย่างนี้!!!!
พระพรตได้แต่กอดร่างเด็กหนุ่มแล้วกรีดร้อง ไม่รู้ชื่อของปีศาจในความฝัน เพราะทุกครั้งมีแค่มัน ที่พร่ำเรียกชื่อเขา....
...
..แค่มันที่อยู่กับเขาในคืนก่อนจันทร์เต็มดวงและคืนที่จันทร์เต็มดวง  แค่มันที่เขามี...
เขากอดมันแน่น กลิ่นเลือดคาวเป็นสิ่งเดียวที่ยืนยันได้ว่า นี้ไม่ใช่ฝัน ...
..
.
.
น้ำตาไหลลงมาเหมือนน้ำหลาก   

.....
..
.

เจ้าของปืนมองดูเขาด้วยความสังเวช  กระบอกปืนที่จ่อมาจากทั้งสองฝ่าย ถูกเก็บเข้าที่เดิม เหลือเพียงหญิงสาวที่กัดฟันมอง พระพรตกอดซากที่มีแต่กองเลือด การเจรจาเหมือนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ  ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่ยังมีร่างไร้ลมหายใจที่เย็นเฉียบของเด็กหนุ่มนอนจมกองเลือด...อยู่ที่พื้น

"อั้ว....ได้อย่างที่อั้วต้องการแล้ว หลิน  อั้วยอมรับ 'เสือ' ตัวใหม่ของ 'Golden Eyes Group' ลื้อจะเลือกใครก็ได้ อาหลิน หรือลื้อจะเลือกไอ้ซากนี้ก็ตามใจลื้อ อั้วจะปล่อยตำแหน่ง 'เสือ' ของอาคิม ให้ลื้อ ดูแล 'มังกร' อย่างลื้อคงไม่ถือสาไม่ว่าอะไร ที่อั้วขอให้ 'ว่าที่เสือ' ให้ตายแทนลื้อนะ อาหลิน... "

ถ้อยคำถากถางของชายชรา ส่งตรงไปให้เธอ หลิน เม้มปากแน่นก่อนสูดหายใจยาวเข้าปอด แหวนทองในถาดเงินถูกส่งให้เธอ หลินใช้มือซ้ายที่สวมแหวนรูปมังกรที่นิ้วกลาง หยิบแหวนรูปเสือ ในถาดเงิน ...
..
.
 
"ถ้าจะยิงก็ยิงให้ตาย........."

เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากร่างซากร่างที่ใบหน้านั้นมีแต่เลือดคาว  ริมฝีปาก และหน้าเพียงครึ่งซีก ค่อยๆ ไหลมารวมกัน มือเย็นที่เคยไร้ชีวิตโน้มหน้าพระพรตลงมาแล้วรุกจูบ จูบที่มีแต่กลิ่นคาวและรสชาติของเลือด...
.....
..
.
จูบที่ไม่มีทีท่าว่าจะพอ ดวงตาสีดำสนิท จ้องหน้าพระพรต แล้วเลียลิ้น ชิมเลือดบนใบหน้า เหมือนสัตว์ป่าที่ได้กลิ่นสัดกระสันอยาก...รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เหมือนหมาจิ้งจอกกำลังล้อเหยื่อเล่น....
....
..
.ใบหน้าที่เคยถูกระเบิดด้วยปืนระยะเผาขนคืนกลับมาจนไม่เหลือร่องรอย เด็กหนุ่ม ขยับเอียงคอ เหมือนเมื่อยล้ากับแรงอัดของปืน  เลือดทั้งหมดไหลกลับเข้าเส้นเลือดที่มันเคยทะลักออกมา ... จูบสุดท้ายของเด็กหนุ่มแนบริมฝีปากพระพรตอย่างบางเบา ก่อนจะผละออกมาแล้วลุกเดินไปหยิบแหวนรูปเสือในมือหลิน ...แล้วถือวิสาสะสวมมันลงนิ้วอย่างไม่สนใจอะไร

"แหวนของชีต้าใช่ไหมเจ้? แค่นี้ใช่ไหม?  งั้นชีต้ากลับแล้วนะ ....เจอกันที่กรุงเทพฯ ฝากลาสาวๆด้วยล่ะเจ้"

พระพรตได้แต่มอง ความฝัน?  เขากำลังฝัน ไม่งั้นก็คงกำลังจะบ้าไปแล้ว เด็กนั่นยิงตัวเองในระยะเผาขน เลือดทะลักใบหน้าหายไปเกือบทั้งซีก แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มลุกขึ้นมาเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เด็กนั้นเดินไปหยิบตุ๊กตาหมีแถมยังและเดินตรงมาที่เขา....

'ปัง!!'

เสียงปืนเหมือนดึงสติของทุกคนให้กลับมา หลังจากเหตุการณ์ที่แทบจะไม่คิดว่ามันคือเรื่องจริง เสียงปืนจากชายชราร่างใหญ่ที่เพิ่งทิ้งตำแหน่ง เสือ ของลูกชายไป

'ปัง!!'

ปืนยิงขึ้นอีกนัด เหมือนปลุกทุกคนให้ตื่นขึ้นจากฝัน...รวมทั้งปลุกตัวเอง

"ลื้อไม่สมควรเป็น 'เสือ' อาตี๋ลื้อมันปีศาจ !!! ปีศาจอย่างลื้อไม่สมควรเป็น 'เสือ' แห่ง 'Golden Eyes Group'ถอดแหวนของลูกอั้วออก !!"

ตำแหน่งของปืนถูกเล็งมาที่เด็กหนุ่มอีกครั้ง  แต่ครั้งนี้แตกต่าง ชายชุดดำทั้งหมดไม่มีใครยกปืนขึ้นตามชายชราร่างใหญ่  เมื่ออำนาจถูกส่งต่อ ผู้รับอำนาจนั้นก็ได้ทุกสิ่งรวมทั้งความจงรัก ความซื่อสัตย์ที่ลูกน้องต่างมอบให้เจ้าของแหวน มอบให้อย่างไม่มีทาง ปฏิเสธแม้ว่าคนที่สวมแหวนนั้นจะไม่ใช่มนุษย์ก็ตาม

"...ชีต้า....ไม่ใช่ 'ปีศาจ' ชีต้า ..คือ 'ษิตรา' 'ษิตรา'ไม่ใช่ปีศาจ....แต่ ษิตราเป็นษิตรา....เหมือนกับแหวนนี่ ....เป็นแหวนของษิตรา....."

'ปัง!! '

อีกครั้งที่ชายชรายิงเข้าที่ใบหน้าของเด็กหนุ่ม  ใบหน้าสะบัดหันตามแรงถีบของลูกปืน แต่ร่างนั้นยืนนิ่ง ไม่มีหยดเลือดหรือแม้แต่ร่องรอยของดินปืน มีแต่รอยแดงจางๆของแรงลูกปืนที่พุ่งเข้ามา เสียงคำรามอย่างเสียอารมณ์ ....ส่งออกมาจากลำคอเหมือนคุมอารมณ์ไม่อยู่

ก่อนเด็กหนุ่มจะอ้าปากส่งเสียงคำรามก้องไปทั่วทั้งห้อง ร่างทั้งร่างกลายเป็นเสือดำตัวใหญ่ ที่กางปีกกระโจนเข้าใส่ ร่างของอดีตหนึ่งในผู้ปกครองแห่ง 'Golden Eyes Group' อุ้งเล็บคมตะปบเข้าใบหน้าชายชราเบาๆเหมือนหยอก...เสียงคำรามโฮกเข้าใส่ร่างชายชราอีกครั้งเหมือนข่มขู่...แสดงอำนาจ...ให้ยอมรับ

"รู้หรือยัง...ว่าทำไมชีต้าถึงเหมาะสมกับแหวนวงนี้มากกว่า ลูก ลุง?....เหตุผลเดียวเลยลุง.....ชีต้าเป็น 'เสือ' ได้ดีกว่าลูกลุงเยอะ"

................
...
.
.
.




รถคันใหญ่มุ่งหน้าจากพัทยา เข้าสู่กรุงเทพฯ .....
...
คนขับและบอดี้การ์ดที่นั่งข้างๆ ได้แต่ มองไปยังถนนใหญ่ แว่นดำที่สวมไว้ใช้ปิดอารมณ์ได้เป็นอย่างดี  ถึงจะฝึกมาจนชินกับการนิ่งและรับฟังคำสั่ง  แต่มืออาชีพก็ยังไม่เคยคิดว่าจะเจอเจ้านายแบบนี้ .....

เจ้านายอย่างเด็กหนุ่มที่ชื่อ ชีต้า...
ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ถูกส่งให้ บอดี้การ์ดหน้ารถกอดไว้ ก่อนเจ้าของตุ๊กตาจะหันไป 'เล่น' กับของเล่นชิ้นใหม่ที่เพิ่งได้มาจากโรงแรม ....

เสียงครางและเสียงร้องห้าม ไร้ความหมาย ....
...
.บอดี้การ์ดร่างยักษ์ทั้งสองได้แต่หันหน้าใช้สายตาและสมาธิกับถนนโล่ง แทนที่จะสนใจเสียงพร่าที่ร้องครางหลังรถ....

...กว่าจะถึงกรุงเทพฯ ...
...
.
.
จะทนได้อีกนานแค่ไหนยังไม่รู้จริงๆ
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 13 - 15/7/57-20:35 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: ppoi ที่ 15-07-2014 20:50:47
วั้ยยย (อีกรอบบบ)

ช่างรวดเร็วทันใจ เพิ่งเม้นท์ไปนี่มาครางอยู่ในรถล่ะ

วันนี้ได้ตามทันถึงตอนเดิมใช่ม้าาาา  :-[ วั้ย ว้ายยยยยยยย รอแบบเขิลๆ
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 14 - 15/7/57-21:15 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 15-07-2014 21:11:48
บทที่ ๑๔  ไม่ใช่ของสำคัญ.... 




..
.
คืนนี้จันทร์เต็มดวง.......
..
.
ไม่ต้องดูปฏิทินก็รู้ใช่....เพราะเมื่อคืน ชีต้าควบเด็กในคลับไปแล้วสาม ....
..
.นั่นเป็นของว่างก่อนจะถึงมื้อหลัก...
หงุดหงิดกับไอ้เสือ ...เมื่อกลางวันนี้ หลินแทบจะตบหน้าไอ้เด็กแสบ  สันดานสัตว์ป่า ....ชีต้าตีหน้าเศร้ายกปืนจ่อหัว แล้วยิง ... หลังจากนั้นก็ตาย..
..
.
ใช่มันตายไปแล้วจริงๆ  คงจะดีถ้าทุกอย่างจบแค่นั้น
..
.
.
แต่ไอ้แสบชีต้าก็เป็นไอ้แสบชีต้า...
สิ่งที่ชีต้าทำ ไม่มีสักครั้งที่หลินจะเดาทางถูก ... ให้เรื่องมันจบแค่นี้ ยังจะดีซะกว่าการได้ตำแหน่งมาโดยการแสดงให้เห็นว่า มัน'สมควร' กับตำแหน่งอย่างไร 

หัวใจหลินกระตุกวาบตอนมันง้างไกปืนแล้วยิง  เพียงแค่รอฝน หลินคิดแค่นั้น รอให้การประชุมเสร็จค่อยหิ้วร่างนั้นขึ้นดาดฟ้า ถึงมันยอมตาย หลินก็จะไม่ให้มันตาย ...ใครอยากจะอยู่เพียงลำพัง....ใครก็ช่าง ไม่ใช่หลินแน่.... สามเดือนที่ผ่านมานอกจากชีวิตแล้วสิ่งที่เธอได้จากมันมีอะไรบ้าง ...
..
.
วุ่นวาย... หงุดหงิด... ปวดหัวจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง....เหมือนมีเด็กจำไมที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยมาวิ่งวุ่นอยู่รอบตัว  เด็กจำไมที่เรียนรู้ได้เร็วอย่างน่าตกใจ ....
...
.
.
ใช่ชีต้า เรียนรู้ได้เร็ว.... เร็วจนน่ากลัว...
...
.
ตอนนี้ชีต้าเป็น 'เสือ' เสือในตำแหน่งที่เทียบเคียงได้กับ 'มังกร'อย่างเธอ ...
หลิน ถูกกำหนดมาตั้งแต่เกิดแล้วให้อยู่ในตำแหน่ง 'มังกรขาว' เหมือน Mr.คิม เขาถูกกำหนดมาให้อยู่ในตำแหน่ง 'เสือขาว' แต่ชีต้า ...เหมือนจะไม่ใช่ ....หลินเคยคิดว่า ชีต้าเป็น 'เสือขาว'เป็น...เพราะเธอเคยเห็น ...แต่วันนี้ไม่ใช่ วันนี้ชีต้าเป็น เสือสีดำสนิท .... ดำจนเกือบจะหายไปในความมืด ....
...ชีต้าเรียนรู้ได้เร็ว.. แต่สำหรับหลิน หลินแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับชีต้าเลย ....
ตอนนี้หลินไม่แน่ใจ ...
..
มันไม่ใช่แค่ 'ขาว' หรือ 'ดำ' ...
..
ตอนนี้หลินไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า ชีต้า ใช่ 'เสือ' หรือเปล่า ? 
พระจันทร์ดวงโตลอยอยู่เหนือหัว ...ชีต้า หายไปพร้อมใครคนหนึ่ง....เพื่อนงั้นรึ?
ไม่น่าใช่..
ของเล่นชิ้นใหม่หรือไง?  ของเล่นที่ทำให้ไอ้เสือห่างเธอได้...มันน่าสังเวชตัวเอง ..
..เหมือนว่าเธอกำลังโดนทิ้งอีกครั้ง....สิ่งที่ใจคิดพรั่งพรูเมื่อเห็นจันทร์ เธออดขอพรไม่ได้ ....
.



'จันทร์....ได้โปรด....พาชีต้ากลับมา....ได้โปรด.....'





...........................................
....








"ออกไปนะไอ้ปีศาจ!!!"

เสียงตะโกนใส่หน้ามาพร้อมแรงหนักๆของมือที่ฟาดใส่ ..... มันไม่เจ็บไปมากกว่าแรงอัดของปืนกระบอกนั้น ....แต่มันก็ทำให้รู้สึกเจ็บ ...

"...ษิตราไม่ใช่ปีศาจ....ษิตรา เป็น... ษิตรา...."

เด็กหนุ่มจ้องหน้าเจ้าของมือหนัก...เจ้าของมือที่ชื่อพระพรต....
สายตาของชีต้ามีแต่คำถาม แต่สายตาของพระพรตไม่มีอะไร นอกจากกลิ่นแห่งความเกลียดชัง กลิ่นของความกลัวที่ลอยอวล ...
ชีต้าละสายตาออกมาจากแววตาคู่นั้นแล้วยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง มันไม่ได้เจ็บมากมาย ตอนโดนสังกา กระชากปีกออกมันเจ็บยิ่งกว่านี้อีก...
..
.
แต่ทำมัน มันถึงชาไปทั้งหัวใจ ....

"...ษิตรา....ไม่ใช่ปีศาจ....ษิตรา เป็น... ษิตรา....พระพรต...เป็นของษิตรา...ผู้กองบอกเอง...ผู้กองยก...พระพรตให้ษิตรา....ยกพระพรตให้...ถ้าษิตราหนีออกมาได้...จะยกพระพรตให้...ผู้กองบอกเอง..."

น้ำเสียงสั่นเครือเหมือนร้องไห้ แต่ไม่มีหยาดน้ำตา ออกมาจากดวงตาคู่สวย ริมฝีปากเด็กหนุ่มเม้มแน่น  ในหัวมีแต่คำถาม คำถามที่ไม่เข้าใจ....
...
.ในความคิดของชีต้า พระพรต คือสิ่งสำคัญ.... สิ่งสำคัญของผู้กอง... สิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้กองยิ้มได้ทุกครั้งที่เอ่ยถึง ...
..
สิ่งสำคัญที่ ผู้กองยกให้ชีต้า ..ถ้าได้ พระพรตมา ชีต้าก็จะยิ้มได้เหมือนผู้กอง สิ่งที่ผู้กองพูด สิ่งที่ผู้กองบอก มันยังฝังอยู่ในหัวชีต้า...
พระพรตคือความสุข พระพรตคือทุกอย่าง...
พระพรต...คือสิ่งที่ทำให้ชีต้ากล้ากางปีกบินหนี สังกา...
..
.
.
แต่ไม่ใช่ ....
กลิ่นของความสุข ไม่ใช่อย่างนี้  กลิ่นของความสุขมันหอมหวานเหมือนตอน หลินยิ้มให้ ชีต้า กลิ่นเหมือนตอนหลินลูบหัวชีต้า  กลิ่นเหมือนลูกไม้ที่สังกาส่งให้ชีต้า กลิ่นเหมือนผีเสื้อบิน  กลิ่นเหมือนรสเลือดหวานตอนที่สังกากัดปาก....
มันไม่ใช่กลิ่นที่น่าอึดอัดและหวาดหวั่น ...มันไม่ใช่กลิ่นที่เกลียดกลัว... อย่างนี้
...กลิ่นของความกลัว ชีต้าอธิบายไม่ถูก แต่ชีต้ารู้สึกได้ ...รู้สึกได้เพราะมันเร่งให้สัญชาตญาณของชีต้าหลุดออกมา

'ปีศาจ!!!!!!!!'

คำนั้น ชีต้าเกลียด  เกลียดเพราะไม่ว่าใครเอ่ยคำนั้นออกมามันก็ทำให้ชีต้ารู้สึกไม่ดี ชีต้าไม่ใช่ปีศาจ ชีต้าเป็น ษิตรา ..ษิตราก็คือษิตรา ไม่ใช่ปีศาจ ...
ไม่ใช่!!

..ชีต้า...ไม่ใช่ปีศาจ ..ชีต้าพยายามบอกพระพรตอย่างนั้น ...
...
พยายามทำทุกอย่างเหมือนที่ วณาไพรชอบ ...ใช่พวกนางชอบให้สัมผัส  พวกนางยิ้มอย่างมีความสุขที่ชีต้าให้กอด และไออุ่น ...สุขที่ทำให้พวกนางร้องครางอย่าง...หวานหู
แต่พระพรตไม่ใช่...
พระพรตกรีดร้องแล้วผลักไส  ... พระพรตเรียกชีต้าว่า 'ปีศาจ' เรียกเหมือนตาแก่คนนั้นเรียก ชีต้า ...เรียกด้วยความเกลียด...
..ทั้งเกลียดและกลัว..
...
.
.

"ผู้กอง...บอกเอง...ว่ายกพระพรตให้ชีต้า...พระพรตเป็นของชีต้าจริงๆนะ...พระพรตถามผู้กองเองก็ได้.."

...แก้มชีต้ายังชาอยู่ แต่สิ่งที่ชีต้าทำคือพยายามอธิบายให้พระพรตเข้าใจ สัญญามันต้องเป็นสัญญา ขอแค่พระพรตเข้าใจ ...ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ ถูกยื่นให้พระพรต ...นี้ไงผู้กอง...นี้ไงคนสำคัญที่ยกพระพรตให้ชีต้า ....
..
.แต่ผู้กองก็ไม่พูด ไม่ขยับอะไรเลย ...

'ปึก!!'

ชีต้า มองดูตุ๊กตาหมีที่ถูก พระพรตปัดทิ้ง  มันกลิ้งหลุนๆ ไปที่หน้าต่างกระจก .... ชีต้าได้แต่มอง แล้วนิ่ง....
.ทำไมผู้กองไม่พูดอะไรเลย ? ทำไมผู้กองไม่บอกพระพรต ?ทำไมพระพรตมีกลิ่นแห่งความกลัว ทำไมพระพรตต้องกลัวชีต้า...ทำไมต้องกลัวเมื่อพระพรตเป็นความสุข ...เป็นความสุขที่ผู้กองยกให้ชีต้าไม่ใช่หรือไง?
...
.
.
ชีต้าก้าวเท้าลงจากเตียง ..เดินอย่างไร้เรี่ยวแรงไปหยิบตุ๊กตาหมี นี่คือผู้กอง นี่คือคนที่คอยบอกเสมอ ว่าพระพรตจะทำให้ ชีต้ามีความสุข...

"....มันไม่ใช่ผู้กอง ....พระพรตไม่ใช่ความสุขของชีต้า...ไม่ใช่...ไม่เลย..."

แสงจันทร์นวลสะท้อนเข้ามาจากกระจกหน้าต่าง  ชีต้าได้แต่เงยหน้ามองจันทร์  จันทร์ที่นี้ไม่สวยเท่าจันทร์ดวงโตที่ผานาง ...มันดวงเล็กและสีจาง...
..
.
รอยเย็บรอบคอที่หลินบรรจงเย็บให้ ชีต้ากดกรงเล็บแล้วกระชากมันจนขาด...
...
สิ่งที่ซ้อนอยู่ภายใต้ เศษผ้าและปุยนุ่นสีขาว  นี้ล่ะ 'ผู้กอง '
...
.
.

"พระพรต..เป็นของชีต้า เพราะผู้กองบอก...ถ้าชีต้าพาผู้กองมาหาพระพรตได้...ผู้กองจะยกพระพรตให้ชีต้า....พระพรตเป็นทุกอย่าง..เป็นความสุขที่ทำให้ชีต้ากล้าบินออกจากผานาง...เป็นความสุขที่ทำให้ผู้กองยิ้มได้....และจะเป็นความสุขของชีต้า....แต่ไม่ใช่ ...กลิ่นหัวใจของพระพรต...ทั้งเกลียดทั้งกลัวชีต้า มันไม่ใช่กลิ่นของความสุข....ผู้กองหลอกชีต้า....พระพรตไม่ใช่ความสุขของชีต้า....เอาคืนไป...เอาคืนไปให้หมด....พระพรตไม่ใช่ของชีต้า....ไม่ใช่...สิ่งสำคัญของชีต้า.....ผู้กองก็รู้ใช่ไหม? ผู้กองรู้ทุกอย่าง...เลย....รู้อยู่แล้ว...."

หัวกะโหลกสีขาวถูกยื่นให้ พระพรต ...เงาเมฆที่เคลื่อนออกทำให้แสงจันทร์มันกระทบกะโหลกขาว ชั่วพริบตามันเปลี่ยนจากกะโหลกขาวเป็นใบหน้าที่คุ้นเคย ....
..หน้าของ 'พ่อ'

"เอาคืนไป....สิ่งสำคัญของพระพรต...จากนี้ชีต้าจะไม่เอาอีกแล้ว ...จะไม่เชื่อผู้กองอีกแล้ว...จะไม่อยากเจอพระพรตอีกแล้ว...."

....
.
.





"....[F].....อุ้มชีต้าที....เดินไม่ไหวแล้ว..."

เด็กหนุ่ม...ยกแขนขึ้นสูงให้บอดี้การ์ดร่างใหญ่ ...ชื่อ [F] เรียกง่ายกว่าพระพรตเยอะ และก็เป็น [F] ที่ยังอยู่กับชีต้า... อยู่มานานพอๆกับที่หลินอยู่กับชีต้า...

...

..พระพรตไปแล้ว ไปพร้อมกับผู้กอง เรี่ยวแรงมันเหมือนโดนสูบไปหมด....ไม่อยากขยับ ไม่อยากแม้แต่จะหายใจ ....
ตอนแรกหัวใจมันพองโต....หัวใจมันวูบวาบที่ได้กลิ่น พระพรต เปลี่ยนไปจากรูปที่ชีต้าเคยเห็น แต่ก็ยังมีแววตาเดียวกันมันเลยทำให้จำได้ไม่ยาก  กลิ่นของความกลัวในลิฟต์ตัวนั้นมันทำให้ชีต้ากังวล ....พระพรตกลัวชีต้าทำไม?

จนตอนที่ตัดสินใจยกปืนขึ้นยิงจ่อขมับตัวเอง...เหมือนกับการพนัน ....อาจตายฟรี และต้องรอจนกว่าหลินจะหิ้วซากของชีต้าให้โดนฝน...ถ้าไม่มีน้ำตาพระพรต...

พระพรตร้องไห้ ...แค่นั้นมันก็ทำให้ ชีต้าลำพองใจ..

...ชีต้าอาจคิดไปเอง...พระพรตเองก็ เห็นชีต้าเป็นของสำคัญ ไม่อย่างนั้นคงไม่ร้องไห้ให้ชีต้า..
คิดเข้าข้างตัวเองจนหลอกแม้กระทั่งตัวเอง .....ความจริงมันรู้สึกได้จนกลบไม่มิด ....

ผิวลื่นมือ... เสียงร้องคราง.. ร่างกายที่สั่นไหว...  ความกำหนัดที่พลุ่งพล่าน...  ทุกอย่างเหมือนวณาไพรยามมีความสุข ...ทุกอย่าง....ยกเว้นเสียงเต้นของหัวใจที่หวาดกลัว....
...
.

'ปีศาจ'

คำนั้นผุดมาอีกแล้ว คำที่ พระพรตเรียกชีต้า....
คำที่ทำให้ชีต้ารู้สึกตัว....

..พระพรต...รังเกียจชีต้ามากกว่า ที่ชีต้าเคยรังเกียจสังกาเสียอีก....

" [F]...พาชีต้าไปหาหลินทีได้ไหม? ชีต้าเหนื่อย...เหนื่อยจนขยับไม่ได้แล้ว....เหนื่อยจนไม่อยากหายใจ....ด้วยซ้ำ...."

เสียงกระซิบเหมือนร้องไห้ดังอยู่ใกล้ซอกคอของบอดี้การ์ดร่างใหญ่ ไม่มีน้ำตา แต่เหมือนเด็กหนุ่มกำลังร้องไห้....สิ่งที่เคยคิด ไม่ใช่สิ่งที่ได้เจอ ...ความหวังมันพังทลายลงไปทั้งหมด มือใหญ่ยกตัวชีต้าขึ้น ในขณะที่วงแขนโอบรอบลำคอหนาของบอดี้การ์ดส่วนตัว ชีต้าซุกหน้าเข้ากับแผงอกกว้าง ...มันอุ่น...มันให้กลิ่นและสัมผัส ...ที่แตกต่าง...รู้สึกดีกว่าการกอดพระพรตเสียอีก ....
...
.รู้สึกดีที่มันไม่มีกลิ่นของความกลัว.....

" [F] ...อย่าทิ้งชีต้าไปไหนนะ...."

"ครับ...คุณชีต้า"

เสียงรับปากนั้นมันชัดเจน....ชัดเจนกว่าเสียงที่ชีต้า เรียก [F] เสียอีก



หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 13 - 15/7/57-20:35 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: padang ที่ 15-07-2014 21:13:11
เราว่าเรื่องตอนนี้มันดุเด็ดเผ็ดมันนะ :L2:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 14 - 15/7/57-21:15 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: iammoonoi ที่ 15-07-2014 21:17:46
กดทั้ง บวก ทั้งเป็ด รัวๆๆๆ

ถ้าจะมาแบบนี้ทุกวัน..ปลื้มที่สุดนะ

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 14 - 15/7/57-21:15 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: ppoi ที่ 15-07-2014 21:34:45
ตอนอ่านครั้งที่แล้วก็คิด อ่านคราวนี้ก็ยังคิด... ทำมายยยยยยยยยยย คุณจันทร์เจ้าต้องทำตามคำขอหลินด้วยยยยยยยยยยยยย

พระพรตกลัวก็ไม่แปลก ชีต้าผิดหวังตัดใจเร็วก็ไม่แปลก ยังเป็นเด็กน้อยกันอยู่ทั้งคู่เบยยยยยยยย  :sad4:

แต่เค้าเนี่ยแหล่ะที่แบบ  :เฮ้อ:

รออ่านต่อจนกว่าจะเท่าเดิมนะ  :-[ วั้ย ว้ายยยยย
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 14 - 15/7/57-21:15 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 15-07-2014 21:44:54
                                   
(http://upic.me/i/at/sxgjip1ol6k.jpg)


ไกลแค่ไหน คือใกล้ (http://www.youtube.com/watch?v=HZV-ggoTQ7s)



พยายามจะทำวิธีต่างๆ ให้เธอนั้นรักฉัน
พยายามทุกวัน มอบให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ
เหมือนเดินบนสะพานที่มีปลายทางคือใจของเธอ
ยังคงคิดและหวังจะนำเอารักแท้นี้ไปให้

*แต่ทำไม เดินมาเนิ่นนานไม่ถึงซักที
แต่ทำไม มองดูเส้นทางเหมือนยาวออกไป
อยากรู้ว่าฉันต้องทำตัวอย่างไร

**อีกไกลแค่ไหน จนกว่าฉันจะใกล้ บอกที
อีกไกลแค่ไหนจนกว่าเธอจะรักฉัน เสียที
มีทางใดที่อาจทำให้เธอสนใจ ได้โปรด
บอกกับฉันให้รู้ที ว่าสุดท้ายแล้วฉันยังมีความหมาย

ยังไม่คิดยอมแพ้ ฉันเพียงแต่อ้อนล้าก็เท่านั้น
ภายในใจยังคงรักเธอเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยน
คงจะดีไม่น้อย ถ้าเธอบอกให้ฉันได้รับรู้
ความในใจของเธอ เหตุผลต่างต่างที่ยังซ่อนไว้

*

** / ** /** 


"เมื่อไหร่ ...จะรักฉันซะที?"
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 14 - 15/7/57-21:15 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: ppoi ที่ 15-07-2014 21:48:42
ลงต่อก็รักแล้ว แหม่  :o8:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 14 - 15/7/57-21:15 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: padang ที่ 15-07-2014 22:17:15
น่าสงสารษิตรา :ling2:
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 15 - 15/7/57-23:00 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 15-07-2014 22:55:41
บทที่ ๑๕ ว่างเปล่า.... 


ร่างกายมันก็เหมือนกับตุ๊กตาไขลาน...
.
.
.
ที่เปี่ยมไปด้วยทิฐิ...
.
.
.
...ห้องฝั่งตรงข้าม มีแต่กลิ่นของความเกลียดชัง...
ตาแก่ยังอยู่ในห้องนั้น...ห้องเปื้อนเลือดของ Mr.คิม ... ชีต้าอิจฉา คิม อิจฉาที่มีตาแก่หัวรั้นจอมโหดมานั่งร้องไห้ให้ ...น้ำตา ...สำหรับชีต้า ...มันมีค่ามากมายเหลือเกิน ....
...
..
.และก็เพราะน้ำตาของตาแก่ ...
ทำให้ ...ชีต้าไม่อยากอยู่ที่นี้...ไม่อยากอยู่ในที่ๆตาแก่อยู่ ไม่อยากอยู่ในที่ของ คิม ... ที่ไหนก็ได้ ...
ที่ไหนก็ได้ที่ต้องการชีต้า...เสียงเรียกหา....
..
.
เป็นของหลิน....


***


...จากบ้าน Mr.คิม มาบ้านคุณหลิน ระยะทางไม่ใช่เรื่องน่ากังวล แต่ที่น่าหนักใจก็เพราะ เจ้านายคนใหม่ ไม่ยอมปล่อยให้บอดี้การ์ดส่วนตัวไปไหนไกลจากตัวเอง ขนาดขึ้นมาบนรถ ชีต้ายังจับมือ [F]ไว้แน่น ยึดไว้เหมือนเด็กที่ขาดที่พึ่ง...

จนมาถึงบ้านคุณหลินนั้นล่ะอะไรๆมันถึงดีขึ้น  แม้ชีต้าจะไม่ช่างพูดช่างถามเหมือนทุกครั้งที่เจอคุณหลิน ...  แต่ก็ยังดีกว่าตอนที่ อยู่คนเดียวหลังจากคนที่ชื่อพระพรตจากไป....

ในสายตา [F] คุณชีต้าเหมือนเด็กที่ยังไม่โต การแสดงออกทุกอย่างมันเลยสุดโต่ง...

ร้ายกาจและหยิ่งผยอง ...หากแต่ก็อ่อนแอได้อย่างที่สุด...ถ้าจิตใจดวงนั้นถูกกระทบ...
...
.
.

....ห้องนอนสีครีมที่เรียกได้ว่าน่าจะเป็นห้องนอนจริงๆถ้าไม่มีสระน้ำขนาดเล็กอยู่ในห้อง  ผิวน้ำฉาบไปด้วยสีนวลของแสงจันทร์ที่ส่องทะลุกระจกใส ....[F] เข้ามาดูความเรียบร้อยก่อนจะกลับไปที่บ้าน Mr.คิม ถ้าจะพูดให้ถูกต้องเรียกว่าบ้านเสือ สินะ เพราะบ้านหลังนั้นถือเป็นทรัพย์สินของผู้ครองแหวนเสือ...เมื่อก่อนหน้าที่คือคุ้มครอง Mr.คิม แต่ตอนนี้หน้าที่นั้นถูกยกเลิกแล้ว เพราะบ้านเปลี่ยนเจ้าของ...Mr.คิม ไม่มีตัวตนอยู่อีกแล้ว....

"[F]ลงมาด้วยกัน..."

แววตาสีดำสนิทจ้องหน้าบอดี้การ์ดส่วนตัวแล้วค้างอยู่อย่างนั้น ...
จ้องจนเจ้าของรองเท้าหนังสีดำต้องก้าวลงสระน้ำนั้นทั้งๆที่ยังอยู่ในชุดสูทเต็มตัว ...
..วงแขนที่โอบรอบลำคอหนา กระชับแน่นก่อนใบหน้าจะซุกเข้าแผงอกกว้าง กรงเล็บคมกรีดไล้เบาๆซ้ำๆที่ลำคอ...

" [F] กลิ่น...เหมือน... สังกาเลย ... ตัวโตเหมือนสังกา...เสียงหัวใจ...เหมือน...สังกา... สังกา...ษิตรา....อยากกลับผานาง..."

เสียงคร่ำครวญมีแค่นั้นแล้วหายไป... คุณหลินเข้ามาทันก่อนที่คมเขี้ยวยาวของชีต้าจะกัดเข้าลำคอหนาของบอดี้การ์ดร่างใหญ่ ...
.
.
.
ชีต้าหน้าชาไปทั้งแถบเมื่อฝ่ามือหลินตบฟาดเรียกสติ ... หลินแทบจะตบมือลงแก้มเนียนของชีต้าอีกครั้ง เมื่อเจอกับเขี้ยวแววที่แยกขู่ ....แววตาวาวยามแยกคมเขี้ยว…มันน่ากลัวเกินกว่าจะเชื่อว่านั่นคือ ชีต้า...
หลินต้องตะคอกจนชีต้ารู้สึกตัว ...เจ้าเด็กแสบถึงได้กลับมาเป็น ชีต้าคนเดิม...
..
.
.
อ้อมกอดที่เคยกอด [F]แน่นปล่อยคลาย ....หลินดึง [F] ขึ้นมาจากสระน้ำ หมดจากไออุ่นของอ้อมกอด ชีต้าเหลือเพียงร่างกายที่เหมือนตุ๊กตาไขลาน...ร่างกายหนักอึ้งที่ค่อยๆทิ้งตัวลงใต้สระน้ำ....ใต้พื้นน้ำ ชีต้าเห็นทุกอย่าง ....
.
.
.
เห็น....กระทั่งตอนที่พระพรตเดินจากไป ....
.
.
.


***


ห้องนอนชีต้าถูกปิดแล้วล็อกกลอนแน่นหนา...หลินไม่กล้าเรียกชีต้าในตอนนี้ ...ทุกอย่างมันดูมืดมนไปหมด...ใต้สระน้ำ ภาพเงาร่างที่ เปลี่ยนไปตามแรงกระเพื่อมของน้ำ กำลังก่อให้เกิดความกลัว... ร่างกายใต้ผิวน้ำ วิปลาสได้อย่างถึงที่สุด มันไม่ใช่เสือ มันไม่ใช่มนุษย์ ไม่เหมือนแม้แต่สิ่งมีชีวิต ... ที่เคยเห็นบนโลกนี้ ...
.
.
.

ร่างกายถูกปล่อยทิ้งไว้ใต้พื้นน้ำเกือบ สามวัน ....ความทรงจำที่ไม่อยากนึกถึงถูกสำรอกออกมาเป็นลูกแก้วสีดำลอยนิ่งบนผิวน้ำ ....
.
...การปรับตัวรับกับแรงของอารมณ์...ชีต้าทำมันได้ดี ... ทุกอย่างถูกสำรอกออกมาทั้งหมด ...แม้แต่ความทรงจำของ ความสุข ที่ชื่อ พระพรต .....
.
.
.

สายฝนโปรยลงมาในวันที่ 4 ปีกใหญ่กางกระพือ แล้วถลาลงสนามหญ้ากว้าง การ์ดบ้านเสือประจำตำแหน่ง ขวางเส้นทางผู้บุกรุก แต่เมื่อเห็นภาพเจ้าของปีกชัดเจน ปากกระบอกปืนทุกกระบอกถึงถูกเก็บเข้าที่เดิม ....
.
.
เท้าเปลือยเปล่าย่ำเหยียบบนพื้นสนาม กรงเล็บคม กลายเป็นเท้ามนของมนุษย์ ...แววตาเลื่อนลอย เดินตามกลิ่นที่แสนเจ็บปวด ...ห้องอดีตเจ้าของบ้าน ...ตาแก่หัวรั้นอยู่ในห้องนั้น ...
.
.

“อยากได้อะไร? อยากได้ คิมคืนมา? ชีต้าจะเป็น คิม ให้...ถ้าลุงต้องการ ...ขออย่างเดียว ...ขอรักที่ลุงมีให้ คิม ให้ชีต้าบ้าง....ขอแค่อย่างเดียว.... ”
.
.
.
.

เพื่อแลกกับการลืมทุกสิ่ง.....
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 15 - 15/7/57-23:00 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: padang ที่ 15-07-2014 23:10:56
เอาแล้วไง แปลงร่างแล้วเด็กน้อย :laugh:
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 16 - 15/7/57-23:15 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 15-07-2014 23:12:25
บทที่ ๑๖  ...จาง เสี่ยวหม่าน   






ตาแก่ จาง เทียนอี้...

.
.
.

อาจเหี้ยมโหด หัวรั้นและดื้อด้าน แต่อดีตเสือเฒ่าแห่งบ้านพยัคฆ์ ก็ยังมีจุดอ่อน...จุดอ่อนอันแสนงดงามที่ชื่อ 'ฟู่หลี้'....

.
.
... 'จาง ฟู่หลี้ '  ...หญิงสาวแสนบอบบาง... หญิงสาวอันเป็นที่รัก ...รัก..ที่กุมอำนาจเหนือเสือเฒ่า...กุมทุกอย่างไว้ในอุ้งมือเล็กๆ...หญิงสาวที่ฟั่นเฟือน นั่งนิ่งบนเก้าอี้โยกในวันที่ ชีต้า กลับมาหาเสือเฒ่า...

.
.
.

ในวันนั้น....ปีกกว้างของชีต้า กางออกกว้างเมื่อมันชุ่มไปด้วยน้ำฝน  ปีกสีขาว ที่ไม่อยากโผบินขึ้นฟากฟ้า....ปีกมันกางออกเป็นเงาใหญ่....เงาของปีกที่โอบคลุมร่างฟู่หลี้และเสือเฒ่าจางเทียนอี้

'ลูก... ลูกกลับลงมาจากฟ้า..'

ฟู่หลี้ ลุกขึ้นจากเก้าอี้โยก แม้หญิงสาวจะล้มลงแทบพื้น แต่เธอยังตะเกียกตะกายคลานหา เจ้าของปีกกว้าง ...เสือเฒ่าจาง มองทุกอย่างผ่านม่านน้ำตา ... ข้อตกลงถูกรับและแลกเปลี่ยน...

...เพื่อแลกกับการลืมทุกสิ่ง.....

.
.
.

วงแขนเล็ก...อ้าออกรับ ชีต้า...เสียงใสแต่เบาปานสายลม...แผ่วถาม..คนรักว่า ลูกเรา ชื่ออะไร ....เสือเฒ่าจางเทียนอี้ ..กระซิบบอกชื่อ 'ชีต้า' ....ฟู่หลี้ ...โอบกอดและพร่ำเรียก หนุ่มน้อยในวงแขน ....ลูกชายที่ชื่อคิม จางหายไปจากความรู้สึกอ้างว้างและทรมาน  .... สมองที่ว่างเปล่า รับชื่อที่พ่อของลูกให้เข้ามาแทน ...ลูกชายที่ ตายจาก....บินกลับมาจากฟากฟ้า...
..ชีวิตใหม่ ..กับชื่อใหม่...ลูกชายคนเดียวของตระกูลจาง...

.
.
.

ชื่อ...

.
.

'...ชีต้า.....ษิตรา...หรือชื่อจริงในตระกูล จาง ......จาง เสี่ยวหม่าน...'

.
.
.

รอยยิ้มอันงดงาม ...ฉาบไว้บนโครงหน้าที่เคยมีแต่คราบน้ำตา...รอยยิ้มที่ทำให้เสือเฒ่า หมดทางปฏิเสธ สิ่งที่ ฟู่หลี้ ต้องการ...



"....นี้ไงคะ... จาง ...ลูกเรากลับมาแล้ว...."








***





[ 2 ปี – หลังจากนั้น ]


"ป๋า!  คืนนี้ผมค้างบ้านหลินนะ...ม้าคร๊าพพพพพพ!! จุ๊พที! คืนนี้ผมไม่กลับ ส่วนพรุ่งนี้มีเข้าค่าย..ไม่กลับบ้าน ถ้ากลับมาจะโทรบอกนะครับ "

เด็กหนุ่มตะโกนบอกคุณพ่อร่างใหญ่ ก่อนจะชะโงกหน้าไปหอมแก้มนิ่มๆของคุณแม่ยังสาว รอยยิ้มและเสียงหัวเราะดังมาจากคุณแม่ ริมฝีปากอิ่มหอมฟอดเข้าแก้มใสๆซ้าย ขวา ของเด็กหนุ่ม ชีต้าได้แต่ยิ้มกว้าง ก่อนจะเตรียมวิ่งไปใส่รองเท้าผ้าใบคู่โปรด ยังไม่ทันขยับตัวพ้นประตูมือใหญ่ๆของคุณป๋าก็คว้าเอวลูกชายมากอด ทั้งยกทั้งกอดเสียแน่นจนเจ้าลูกชายตัวแสบดิ้นกระดุ๊กๆ อยู่บนพุงคุณป๋า ตอหนวดแข็งสากบนโครงหน้าเข้มหอมแก้มซ้ายฟอดใหญ่ แล้วลูบหัว ... ฟู่หลี้มองภาพคุณป๋าและคุณลูก แล้วหัวเราะเสียงใส ก่อนจะหันไปปักผ้าต่อ...

...วันนี้เป็นอีกวันที่คุณป๋า ให้ [F] ไปส่ง ชีต้า ที่มหาลัย วงแขนใหญ่เลยไม่ยอมปล่อยคุณลูก แต่แกล้งหนีบตัวลูกชายแล้วเดินตรงไปส่งที่รถแทน ...

เจ้าตัวแสบนั่งหน้ามุ่ยตอนโดนคุณป๋าใช้กำลังแกล้งจับยัดใส่รถคันใหญ่... ที่มี [F] ประจำตำแหน่งคนขับ...

"..กลับมาแล้วโทรบอกป๋าด้วย ... วันเกิดแม่เรา ป๋าจะพาไปเที่ยวเรากับแม่ไปเที่ยวทะเล..."

คุณป๋าเคาะกระจกรถแล้วขยับปากพูดประโยคนั้น ...คุณลูกชายยังโกรธและงอนอยู่นิดๆ ตอน [F] ออกรถ ชีต้าเลยเลือกที่จะแนบหน้าลงไปกับกระจกแล้วแลบลิ้นล้อเลียนคุณป๋าขี้แกล้งแทน การโบกมือลา แนบหน้าติดกระจกไปจนรถขับออกจากตำแหน่งที่คุณป๋ายืนไปไกลลิบ...

มองผ่านกระจกหลัง [F] ยิ้มมุมปากให้กับครอบครัวสุขสันต์ค์ของ คุณป๋าและลูกชายผู้เป็นเจ้าของบ้าน 'เสือ' ...


..
...แววตาคมของคุณป๋าเสือเฒ่ามองตามหลังรถคันใหญ่แล้วหลุดยิ้มกว้าง...กลิ่นความสุขของครอบครัว มันลอยวนไปทั่วบ้านเสือ... ฟู่หลี้  กลับมาเป็นนายหญิงผู้งดงามอีกครั้ง...ความทรงจำอันเจ็บปวดจางหายไปกับเวลาสองปี ...ตระกูลจาง กลับมามีบทบาทใน Golden Eyes อย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือลูกชาย...

เมื่อสองปีก่อน เสือเฒ่า จางเทียนอี้แทบจะยิงลูกชายคนนี้ทิ้ง...ไม่สิ เคยยิงไปแล้วต่างหาก...แต่ก็นั่นละ..โลกนี้มันไม่มีอะไรแน่นอน ..ตอนนี้เด็กหนุ่มที่ เสือเฒ่าจาง เคยยิงจ่อหัวด้วยความเคียดแค้น กลายเป็นลูกชายที่เสือเฒ่าประคบประหงมยิ่งกว่าไข่ในหิน เอกสารการยืนยันตัวเองของชีต้า ถูกเงินของ ตระกูลจาง สร้างขึ้นมาทั้งหมด เงินของตระกูลจางสร้างประวัติและตัวตนของลูกชาย จาง เสี่ยวหม่าน ....ลูกชายเพียงคนเดียวที่เหลือ...ของตระกูลจาง

....ลูกชายที่ จาง เทียนอี้ จะไม่ยอมเสียให้ใครไปอีก....
..
.
.
.




   
***





..
..ห่างออกมาจากตัวบ้านได้สักพัก คุณชีต้าถึงได้หุบยิ้มแล้วหยิบแว่นสายตาเลนส์หนาขึ้นมาสวมพร้อมล้วงหยิบโน้ตบุ๊คขึ้นมาดูตารางงานด้วยสีหน้าจริงจัง.. หมดคราบ 'เด็กไม่รู้จักโต และคราบปีศาจปีกกว้าง' ตอนนี้คุณชีต้าเป็น แค่ เด็กมหาลัยธรรมดา อาจจะผิดจากเด็กทั่วไปหน่อยก็แค่เรื่องที่ คุณชีต้าควบตำแหน่งหนึ่งในสี่บอสใหญ่ คุณชีต้าเป็น..เสือแห่ง Gloden Eyes  มาเฟียเชื้อสายจีนโบราณ...

"[F] วันนี้ชีต้ามีเรียน...คืนนี้บอกมี้กับป๋าแล้วว่าจะค้างกับ หลิน ส่วนคืนพรุ่งนี้มี...รับรองแขกของป๋าที่โรงแรม ...กับประมูล 'เนื้อ' ที่คลับ ส่วนมะรืน ...ชีต้ามีเข้าค่ายอาสาที่มหาลัย....เหนื่อยโคตร...อยากนอนกอดหลินชะมัด...ทำไมเป็นวัยรุ่นมันเหนื่อยขนาดนี้เนี้ย [F] "

"ถ้างั้นกลับบ้านไหมครับ ? ถ้าโทรไปบอกคุณหลินว่า คุณชีต้าติดธุระเธอคงเข้าใจ "

"พนันกัน 1000/10 เลย [F] ถ้าขืนโทรไปบอกหลินว่า ชีต้าไม่ไปค้างด้วยคืนนี้ ...ไม่เกินเที่ยง หลิน มาฉีกอก ชีต้าที่ มหาลัยแน่..."

"ถ้างั้น...ลองโทรเลยไหมครับ?"

บอดี้การ์ดมาดเข้ม เอ่ยออกมาลอยๆ แต่มุมปากกลับยกยิ้ม ชีต้ามองเห็นแววตาเข้มท้าทายผ่านแว่นตาสีดำสนิท ... มองแล้วยิ้มยั่วก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์...แฟนสาว...

.
.
.

"...หลิน...วันนี้ ชีต้าไม่ว่าง..."

.
.
.
.
.





***




...เข็มนาฬิกาข้อมือเรือนใหญ่ยังไม่ทันชี้บอกเวลากินข้าว ....



ชีต้าก็โดนประกาศเรียกกลางหอประชุม ...เด็กหนุ่มหน้าใส ที่ซ่อนใบหน้าไว้ใต้เลนส์หนา แว่นสายตาอันใหญ่ เข้ากันดีกับผมยาวที่ปรกหน้า  ไอเทมที่ใช้ปิดบังหน้าตาที่แท้จริงเหลือทิ้งไว้แค่ริมฝีปากอิ่มและผิวสีนวล ....เสื้อนิสิตตัวใหญ่ หลวมโคร่ง ดึงให้ไหล่ลู่ลงอย่างไม่น่าสะดุดตา ชีต้า ยันตัวลุกขึ้นจากพื้นห้อง กิจกรรมที่ทำค้างไว้กับพวกรุ่นพี่ทิ้งค้างไว้แค่นั้น [F] ยังยืนมองอยู่ที่ ห้องควบคุม ....

..ในมหาวิทยาลัย ชีต้าเป็นนิสิตใหม่ ในขณะที่ [F] ถูกยัดเข้ามาในตำแหน่งอาจารย์อัตราจ้างพิเศษประจำภาควิชาศิลปะการป้องกันตัว อำนาจเงินของตระกูลจาง ที่สั่งให้ [F] คอยติดตามดูแลไข่ในหิน...

ชีต้า เหยียดยิ้มแล้วยกนาฬิกาเป็นสัญญาณให้ [F] ดู ...ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปทางห้องพยาบาล..

.
.
.





ห้องพยาบาลปิดไว้แล้วแขวนป้ายงดให้บริการ...


.
.
.
...มือเรียว ล้วงเข้าเสื้อนิสิต แล้วลูบแผงอกที่แน่นมือ...
ริมฝีปากอิ่มปิดแนบแล้วดูดเลียเรียวลิ้นให้เกี่ยวกระหวัดอย่างเร่าร้อน ปลายเล็บสีสดจิกแผ่นหลังเด็กหนุ่ม แล้วลากยาว ....

.
.
.

ชีต้า เกี้ยวปลดตะขอบราสีสวยให้คลายออกโชว์อกขาวที่ยอดอกสีสวยชูชัน...หลินโอบวงแขนกดหัวชีต้าให้แน่นลงกับอกฟู และก็แทบจะละลายเมื่อ ชีต้าเม้มริมฝีปากกดกัดยอดอกสีเข้ม ... เสียงครางปนเสียงหอบหายใจ ....หลิน แทบจะกรีดร้องตอนชีต้าก้มหน้าลงไปใต้กระโปรงตัวยาวเพื่อ ซุกจมูกโด่งเข้ากับเนินเนื้อที่พองสู้ปลายลิ้นร้อน ...

.
.
.
.


เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้...ชีต้าไม่ได้หยุดการกระทำ แต่เอื้อมคว้าผ้าม่านที่กั้นเตียงขึงปิดแทน และกล้ามากขึ้นไปอีกเมื่อผ้าห่มผืนใหญ่ ถูกใช้มาบังกิจกรรมเข้าจังหวะกับหลินอีกชั้น

กระโปรงยาวถูกดึงขึ้นสูง ชีต้าปลดซิบกางเกงนิสิตตัวเองออก แล้วยกเรียวขายาวของหลินขึ้นเกี่ยวเอว...เอ็นร้อนจ่อเกร็งที่ช่องทางอุ่น อากาศใต้ผ้าห่มร้อนพอๆกับอุณหภูมิความกระสันอยาก แท่งเอ็นค่อยๆเคลื่อนเข้าไปในตัวหลินอย่างช้าๆ ในขณะที่เสียงฝีเท้าหยุดอยู่หน้าห้องพยาบาล..

.
.
.

"อาจารย์...ประตูล็อค...เพิ่งเข้ามาเป็นอาจารย์ประจำห้องพยาบาลใหม่ วันแรกก็โดนลองของเลยนะครับ..."

.
.
.

"เดี๋ยวผมไปหากุญแจสำรองให้ดีกว่า"

.
.
.

เสียงนั้นเงียบแล้วหายไปพร้อมเสียงฝีเท้า...แต่ชีต้ารู้ดี ยังมีอีกเสียงที่ดังอยู่หน้าห้องพยาบาล แล้วเสียง ลูกบิดก็ดัง ..

.
.
.

ชีต้าโถมแรงใส่หลินที่กอดและกัดไหล่กว้างของตัวเอง ทุกอย่างกำลังจะถึงจุด ..

.
.
.
.

ชีต้าไม่ได้หยุดแม้จะรู้ว่าเสียงฝีเท้ามาหยุดอยู่ใกล้กันแค่ม่านกั้น..

.
.
.

ชีต้าไม่ได้หยุดหรือผ่อนแรง...มีแต่จะกระทุ้งให้ยิ่งถี่รัว ....อยากเห็นหรืออยากได้ยินเสียง??

...ไม่มีมารยาท... ถ้าจะมายืนจ้องกันขนาดนี้ ...

.
.
.

อยากได้ยินเสียงหลิน ครางไหมละ??

.
.
.

มันเซ็กส์ได้ใจชะมัด!!!

.
.
.




***


 
"อาจารย์? เข้าห้องพยาบาลได้แล้วหรือครับ? ยืนนิ่งเชียว มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ?"

"...ไม่มีอะไร... ผมหิวข้าวแล้ว ...ปิดห้องไว้ก่อน เราลงไปทานข้าวกันดีกว่า...ผมยังไม่รู้จักโรงอาหารของที่นี้เลย ไปเถอะครับ..."

เสียงตอบตะกุกตะกัก ...หลังจากนั้นก็เป็นเสียงปิดประตูห้อง ...

ชีต้า สะบัดผ้าห่มผืนใหญ่ออก ..อากาศเย็นวาบเข้ามาแทนที่ความร้อนระอุ ริมฝีปากอิ่มเหยียดยิ้ม อย่างท้าทาย ...

เด็กหนุ่ม ดึงตัวหลินลงมาให้แนบชิดยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะยกเรียวขาหลิน พาดไหล่ ตนเอง แกนกลางลำตัวหลินสั่นระริกเมื่อแท่งเนื้อของชีต้ายังคับแน่นอยู่ในช่องทางแคบ มือเรียวของหลินกำจิกผ้าปูที่นอนแน่น เมื่อชีต้าค่อยๆเริ่มขยับช่วงเอว เสียงครางถูกปล่อยออกมาอย่างไม่อาจควบคุม เสียงเตียงเหล็กลั่นยามมันเสียดสีกับผนังปูน ...

..ยิ่งชีต้า โหมแรงกระแทกแบบเน้นๆ หลินยิ่งครางร้อง...และก็เหมือนกับทุกครั้ง เมื่อจวนจะถึงจุด หลินเกร็งตัวซี้ดปาก แล้วดันแผงอกชีต้าไม่ให้โหมรัวกระทุ้งเข้ามา แกนเนื้อสีสวยของหลินสั่นไหวตามแรงโถมของชีต้า จนมันเกร็งตัวแล้วพ่นน้ำนมสีขุ่นออกมามากมายจนเลอะเปื้อนไปทั้งหน้าท้อง จูบแบบเถื่อนๆถูกใช้ปิดเสียงหวีดยามน้ำกามกำหนัดของชีต้าฉีดอัดเข้าตัวหลิน.....

.
.
.

ก็บอกแล้วไง [F] ลองแกล้งบอกหลินว่าคืนนี้ไม่ไปหาสิ...

.
.
.

หลินได้มาฉีกอกถึงมหาลัยแน่....

.
.
.





แล้วเย็นนี้ก็อย่าได้คิดนะว่า หลิน จะยอมให้ไปค้างที่อื่น....





หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 16 - 15/7/57-23:15 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: ppoi ที่ 15-07-2014 23:15:04
เสียไตแทนชีต้าาาาา  :o12: :o12: :o12:

ยังคงรอจนกว่าจะครบที่เคยลง... ไม่ได้กดดันนะ เป็นการขอร้อง 555  :impress: //ทำหน้าแบ๊วใส่

ตอนเม้นท์มีตอนเดียว เม้นท์เสร็จ อ้าว โผล่มาอีกตอน ก๊าวววว
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 16 - 15/7/57-23:15 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 16-07-2014 00:11:48
เราคิดถึงพระพรต  :hao5:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 16 - 15/7/57-23:15 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: padang ที่ 16-07-2014 00:16:30
รักจัง :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 16 - 15/7/57-23:15 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: terukizawa ที่ 16-07-2014 02:27:33
พระพรตเค้าอ่ะ พระพรตหาย........

ไม่ยอมอ่ะ T^T

อิชีต้าไม่มีความพยายาม ฮึ่ย!!!!
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 16 - 15/7/57-23:15 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 17-07-2014 22:59:04
มีความรู้สึกอยากให้ชีต้าเป็นเคะ ฮ่าๆๆๆ
ชอบตอนที่ชีต้าอ้อนๆ อ่ะ น่ารักมุ้งมิ้งมาก
รอตอนต่อไปนะคร๊าาาา
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 17 - 19/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 19-07-2014 19:23:14
บทที่ ๑๗  ...พนัน   


'Mr. จาง เสี่ยวหม่าน'
.
.
.

ชื่อนั้นพบในทันทีที่พระพรตเปิดแฟ้มเอกสารไล่รายชื่อนิสิตที่เข้ามาขอใช้ห้องพยาบาลบ่อยและมากที่สุด ....

.
.
.
แต่ก็ไม่น่าจะใช่... เพราะจากการสอบถามจากบรรดาอาจารย์ เสี่ยวหม่าน เป็นแค่เด็กทั่วไปที่สุขภาพไม่ค่อยดี ... เลยได้สิทธิพิเศษกว่าเด็กคนอื่น แต่นอกเหนือจากเรื่องสุขภาพ เรื่องเงินก็สำคัญ เรื่องเงินบริจาคของ ตระกูลจาง น่าจะสำคัญที่สุดถึงทำให้ จาง เสี่ยวหม่าน ได้สิทธิ์มากกว่านิสิตทั่วไป....ทั้งวันหยุด วันลา หรือแม้แต่กระทั่ง การเข้า หรือไม่ต้องเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของมหาวิทยาลัย ... 
.
.
.
แต่ จาง เสี่ยวหม่าน ก็ไม่น่าจะใช่นิสิตที่ใช้ห้องพยาบาลเป็นโรงแรมส่วนตัว ... แล้วถ้าอย่างนั้น ใครกันที่อยู่หลังม่าน...ในวันที่พระพรต เข้ามาเป็นอาจารย์ประจำห้องพยาบาลในวันแรกที่มาถึง ...

...รายชื่อที่สอง ที่พระพรต เปิดเจอ นายธันธณา ... ชื่อนี้พระพรตพอสืบข้อมูลมาบ้าง.. นักกีฬาประจำมหาวิทยาลัย รูปหล่อ พ่อรวย แถมเพลย์บอยสุดๆ เข้าห้องพยาบาลบ่อยเพราะอาการบาดเจ็บหรือไม่ก็เรื่องทะเลาะวิวาท...
.

.
ชื่อนี้มากกว่าที่น่าจะเข้าเค้า ..... นิสิตที่ใช้ห้องพยาบาลไม่ต่างจากใช้เป็นโรงแรม...
.



***




"แว่นหนา...."

"..."

"แว่นหนา...นายชอบอ่านหนังสือหรือ?"

"..."

"เฮ้ย! ผมเรียกคุณนะครับแว่นหนา"

...เสียงสุดท้ายมาพร้อมมือใหญ่ที่ ถือวิสาสะ ปิดและยึดหนังสือที่เด็กหนุ่มแว่นหนาอ่านอยู่มาไว้กับตัว ... สีหน้ากวนประสาทกับดวงตาวาวฉายแววทะเล้นเอาแต่ใจ ที่ทำได้หนุ่มแว่นแค่ขยับออกห่างแล้วเดินเลี่ยงไปหยิบหนังสือเล่มอื่นขึ้นมาแทน...

แต่คนตัวโตเอาแต่ใจก็ยังตามมาราวีไม่เลิก จนมาสุดทางที่ชั้นในสุดของชั้นหนังสือ...

"ชอบอ่านหนังสือมากหรือ แว่นหนา...."   

"ถามผมเหรอ?"

คนถูกกวน ขยับแว่นเลนส์หนา แล้วเงยหน้ามองร่างสูงที่ยืนขวางทางพร้อมทั้งเท้าแขนปิดทางออก รอยยิ้มกวนประสาทฉายออกมาจากมุมปาก  หนุ่มหน้าเข้มเอียงคอแล้วกระซิบประโยคเดิม...

"ผมถามคุณว่า 'ชอบอ่านหนังสือหรือ?' "

"ถ้าถามผมก็เรียกชื่อสิ..."

"แล้วคุณชื่ออะไรล่ะ?"

"จาง....จาง ษิตรา เสี่ยวหม่าน "

"ไหงยาวจัง ?"

"จาง ชื่อ สกุล  ษิตรา ชื่อกลาง เสี่ยวหม่าน ชื่อจริง "

"งั้นคุณ ชอบชื่อไหนที่สุด ? ผมจะได้เรียกชื่อนั้น"

"...ชอบทุกชื่อ...จาง เป็นชื่อสกุลของป๋า ษิตรา เป็นชื่อแรกที่ได้ เสี่ยวหม่าน ชื่อที่แม่ตั้งให้ "

"แล้วชื่อเล่น มีหรือเปล่า? ชื่อที่คนที่บ้านเรียกอะ?"

"ชีต้า..."

"งั้นผม ธันธณา  เรียกธัน เฉยๆก็ได้ แว่นหนา"

"..."

"ที่เงียบนี่เขินหรือ? "

จมูกโด่งก้มซุกเข้ามาใกล้ ชีต้า เงียบ แต่ไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิด ที่เงียบนี่เงียบเพื่อประมวลผล... กลิ่น กับเสียงหัวใจของไอ้บ้าข้างหน้านี่กลิ่นเหมือนพวกนักล่า...นักล่าที่กำลังเล่นไล่ต้อนลูกสัตว์ที่อ่อนแอกว่า...กำลังเล่นสนุก??  ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจกับท่าทางและวิธีการของมนุษย์ กำลังเรียนรู้และทำความเข้าใจอยู่ ในหนังสือเขียนลักษณะอาการไว้ แต่พอไม่ค่อยรู้สึกมันเลยไม่ค่อยรู้อะไรมากนัก...
'เขิน'
วางหน้าไม่สนิทหรือเข้ากันไม่สนิทเพราะรู้สึกกระดากอาย หัวใจเต้นแรง หน้าแดง ชาและร้อนผ่าว....

ชีต้า ยกมือแตะหน้าตัวเอง ไม่ชาไม่ร้อน แถมหัวใจก็ไม่ได้เต้นแรง...ความจริงถ้าไม่สั่งมันแทบจะไม่เต้นด้วยซ้ำ.....

"เปล่า...ไม่ได้เขิน ...ธัน เขินงั้นหรือ??"

ชีต้าถามแล้วยกสองมือตนขึ้นประคองใบหน้าเข้ม ... รอยยิ้มกวนประสาทหายไปเหลือแค่สีหน้าเหรอหรา...ชีต้า เอียงคอมองลงมาตรงตำแหน่งหัวใจ ก่อนจะลากปลายนิ้วเลื่อนลงมาสัมผัสที่ตำแหน่งนั้น....หัวใจ...เต้นแรงมากกว่าเดิม....

"...."

"ธัน....เขินชีต้างั้นหรือ??"

.
.
.

ไม่มีคำตอบจากคนที่เรียกตัวเองว่า ธัน ...คนตัวใหญ่ปัดมือชีต้าออกแล้วเดินเลี่ยงหายไปอีกทาง ...ทิ้งให้ชีต้ายืนนิ่ง ...แต่ก็นิ่งได้ไม่เกิน 5 วิ... ชีต้าก็หันหลังกลับไปสนใจ หนังสือเล่มหนาต่อ... เรื่องราวของมนุษย์...ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเรียนรู้...





***



กล้องวิดีโอที่ถูกถ่ายจากอีกมุมห้องสมุด ถูกกดปิดการบันทึกภาพ ช่างกล้องหัวเราะร่า เมื่อเห็นสีหน้าพ่อนักแสดงใหญ่ หงุดหงิด มากมาย

"ไงไอ้ธัน...ไอ้แว่นหนาทำมึงเอ๋อแดกเลยสิ....กูบอกแล้วว่ามันทึ่ม ยอมแพ้เหอะมึง 5,000 ขนหน้าแข้งมึงไม่ร่วงหรอก...ถ้าแข่งจีบสาวมึงอาจจีบติด แต่นี่เสือกมาพนันจีบผู้ชายแถมยังเป็นไอ้แว่นหนา...กูว่ามึงจ่ายมาเถอะ จะได้ไม่เสียเวลาเปล่า"

"กูยังไม่ได้แพ้....และกูจะไม่มีวันแพ้...มึงคอยดูไอ้ตู้ ...แค่ไอ้แว่น คิดหรอว่ากูจะจีบไม่ติด...ไม่เกินสองอาทิตย์..มึงเตรียมเหล้าเลี้ยงกูเลย กูได้เก็บมันเข้าสต๊อกของแปลกแน่ หน้าจืดแล้วแม่งยังใส่แว่นหนาเป็นนิ้ว...เจอหล่อๆอย่างกูตะล่อมไม่นานเดี๋ยวก็ขี้คร้านจะตามกูเข้าห้อง แต่บอกตามตรงกูคงเอาไม่ลง... ฮาๆๆ"

หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 17 - 19/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: ppoi ที่ 19-07-2014 22:05:27
คืนนี้จะมาซักกี่ตอนน้าาาาา  :impress2:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 17 - 19/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 20-07-2014 00:51:07
เราว่านายจะกลายเป็นเหยื่อซะเองนะ ธัน  o18
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 17 - 19/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 20-07-2014 02:02:13
มาตอนเดียวรึ โลภอ่ะ อยากได้หลายๆ ตอน อิอิ
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 17 - 19/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: padang ที่ 20-07-2014 05:46:30
 :hao4:ใกล้เข้าไปอีกนิด จะได้เจอพระพรตรอบสอง
แต่ษิตราลืมไปแล้ว
แล้วยังไงต่อ
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 17 - 19/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 20-07-2014 22:10:09
อร๊ายยยย ชอบเรื่องนี้จัง
อ่านตอนแรกๆนี่ก็งงๆ สักพักก็พอรู้เรื่องบ้าง
ไปเรื่อยๆ..... สนุกเลย 555
ชอบชีต้า ตกลงจะได้คู่กับใครกันแน่ล่ะเนี่ยยยยย
แต่รู้สึกพระพรตจะมาวนเวียนใกล้ๆชีต้าอีกแล้วน๊าาาา
สงสัยในรูปลักษณ์ของชีต้ามากมาย ตกลงรูปร่างเป็นยังไงกันแน่อ่ะ
ตอนแรกบอกว่าสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลา
แต่หลังๆ รู้สึกว่ามันไม่ใช่อ่ะ
แถมยังดูบอบบางอีก แต่บางทีก็ไม่ใช่ โอยยยย สับสบจุง   :ling2:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 17 - 19/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 21-07-2014 01:33:12
พ่อเสือน้อย ของพี่ ฮี่ๆๆๆ 
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 18 - 24/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-07-2014 19:27:14
บทที่ ๑๘  ...   


จูบที่เหมือนจะฆ่ากันให้ตาย...ยุติตั้งแต่ชีต้าถูกหลินผลักให้เข้าไปอยู่ในรถแล้ว...แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ชีต้าก็ว่ามันยังไม่พอ...

เซ็งกับงานที่แทบจะไม่มีเวลาพัก....ไหนจะเรียนไหนจะงานของ โรงแรม...การเป็น เสือ ของตระกูลไม่ง่ายสักนิด ยิ่งงานวันนี้ ชีต้า แทบจะอาละวาด อยากกอดหลินอยากฟัดหลิน อยากขยี้ปากสีสดแล้วกอดแรงๆ ...แต่ที่ทำได้ก็แค่จูบ...แล้วแค่นั้นมันพอซะที่ไหน!!
.
.
.
อยากชะมัด...อยากฟัดอยากกอด อยากได้ยินเสียงหลินครางข้างๆหู....



'แม่ง... คนเราเป็นแฟนกัน...เวลาคิดถึงกัน...มันทำให้อยากกอดขนาดนี้เลยหรือไง?!! '




***




สายฝนโปรยปรายในวันที่รถบนถนน ติดกันเป็นพรืด...

...[F] เผลอมองกลับไปหลังรถไม่ได้ นายน้อยของบ้านเสือมาดนิ่งในชุดสูทสีเทา ดูน่ามองถ้าไม่ติดว่า คุณชีต้า กัดเล็บตัวเองตลอดเวลาตั้งแต่เข้ามาในรถ...ไม่บอกก็รู้ว่าคุณชีต้าดูจะหัวเสียไม่น้อยที่ถูก คุณหลิน หลอกจับแต่งตัวแล้วยัดใส่รถ...หัวเสียในแบบที่เรียกได้ว่าอาการเก็บกดถูกสะท้อนออกมาจากการกระทำ... เห็นคุณ ชีต้า เป็นอย่างนี้ [F] อดคิดไปถึง คุณหลิน ...ไม่ได้ ความสัมพันธ์ระหว่าง มังกร กับ เสือ มันแปลกๆ แปลกจนแม้แต่ [F] เองก็ยังไม่เข้าใจ  คุณหลิน รัก คุณชีต้า แต่ รัก ของคุณหลินมันเป็นแบบไหน?? หลายครั้งที่คุณหลินไม่พอใจ เวลา คุณชีต้าแอบคั่วเด็กในคลับ

...แต่การไม่พอใจไม่ใช่หึงหวงแน่แต่ [F] ก็อธิบายไม่ถูกว่ามันเป็นแบบไหน ....

คุณชีต้า เรียก คุณหลินว่า แฟน ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ แต่สำหรับแฟน ในความหมายของคุณชีต้า เป็นยังไงถ้าเทียบกับคนปกติ ?

... คนเป็นแฟนกัน เขาสนใจแต่เรื่องงานกับเรื่องเซ็กเหมือนที่ คุณหลินทำกับคุณชีต้างั้นเหรอ?  แค่คิด [F] ก็อดสงสาร คุณชีต้า ไม่ได้ ... ตอนนี้เหมือน มังกร อย่างคุณหลิน กำลังหลอกใช้ เสือ อย่างคุณชีต้า ชอบกล แม้การหลอกของคุณหลิน จะเป็นการทำเพื่อปูทางอำนาจให้ คุณชีต้าเองก็เถอะ ...

"คุณชีต้า... พักสักนิดไหมครับ อีกสองชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเปิดงาน...คุณจาง แจ้งมาแล้วว่าจะเข้างาน ตอนเปิดเลย... "

"อยากนอน..."

เสียงอู้อี้ เอ่ยออกมาเบาๆเพราะตอนนี้ นายน้อยบ้านเสือเริ่มจะสนใจแค่การกัดเล็บ... เหมือนกับทุกครั้งที่ไม่ได้อย่างใจ คุณชีต้ามักจะกัดเล็บ หรือไม่ก็ กรีดเล็บลากซ้ำๆกับ ของใกล้ตัว ทั้งเก้าอี้ไม้ที่บ้าน ทั้งเบาะรถที่นั่ง หรือเผลอๆบางที เล็บคมๆของคุณชีต้าก็กรีดเข้ากับ แผงไหล่หรือแผ่นอก ของ [F] เอง แต่ที่แย่หน่อยก็เป็นในบางครั้ง ที่เล็บนั่นกดลงลำคอ [F] รู้ว่า คุณชีต้า ไม่ได้ ตั้งใจทำร้าย มันเหมือนเป็น ปฏิกิริยาอัตโนมัติมากกว่า....ปฏิกิริยาเหมือนสัตว์ป่า ... บางที [F] ยังคิด ..ถ้าไม่ใช่ คุณหลิน ...ใครกันเหมาะจะเป็น แฟน ..ไม่สิ เหมาะจะเป็น คนรักของคุณชีต้า ...ใครกันที่จะคุ้ม เสือขาว แห่ง Golden Eye ได้อยู่หมัด ... คนๆนั้นจะเป็นคนยังไง ?? คนที่สามารถใส่ปลอกคอให้คุณชีต้าได้ [F] ชักอยากเห็นคนๆนั้นเสียแล้วสิ
 
"จะให้เรียก 'เด็กๆ' มาด้วยไหมครับ ?' "

อดถามไม่ได้ เพราะรู้ดีว่า หลังจากที่คุณชีต้า กลับมาจากมหาลัยแล้วขึ้นไปห้องคุณหลิน หลังจากนั้นก็ถูกจับยัดใส่ในรถรวมเวลาทั้งหมดไม่เกิน 15 นาที...และไอ้ 15 นาทีนั่นน่าจะเป็น 15 นาทีที่คุณหลิน ล่อหลอกให้ คุณชีต้า สวมสูทชุดนี้ด้วยสิ..

"...ไม่เอา...เดี๋ยวหลินจับได้อีก.."

"...แล้ว???..."

"[F] ขึ้นไปนอนกับชีต้า..."
.
.
.




***




...เหลือเวลา อีกครึ่งชั่วโมง [F] ลดนาฬิกาข้อมือลงแล้ว...กระชับอ้อมกอดแน่น กอดที่ใช้คุมครอง คุณชีต้า ...เหมือนกับมีน้องชายหรือไม่ก็ลูกชาย ...การนอนของคุณชีต้า ถ้าคำว่านอนนั้นใช้กับ [F] มันจะหมายถึง'การนอน' จริงๆ  สำหรับการนอนกับ  [F] ของคุณชีต้า มันหมายถึงการพัก  ทุกอย่างจะถูกพักทั้งหมด [F] ไม่ได้ยินเสียงลมหายใจ ของคุณชีต้า ไม่ได้ยินแม้เสียงเต้นของหัวใจ ... เหมือนกับหุ่นยนต์ที่โดนปิดสวิตซ์ คุณชีต้าจะตื่นก็ต่อเมื่อ [F] เรียก ....

นอกเหนือจากนั้น ...คุณชีต้าก็มีสภาพไม่ต่างจากศพ...ไม่ต่างจากสัตว์ที่จำศีล...

สำหรับ เสือ ที่จำศีลได้ [F] เองยังอดสงสัยไม่เลิก ....ใครกันที่จะทนสภาพแบบนี้ของคุณชีต้าได้ ใครกันที่จะคุ้มครองและยอมรับร่างกายที่ปิดสวิตซ์สนิทขนาดนี้ได้ ....




***




"เอาไงไอ้ธัน ตัดใจยังว่ะ? "

"ตัดใจเหี้ยอะไร ... แค่ไอ้แว่นโง่ๆ คนเดียว คิดว่า กูจะยอมให้มึงเหรอ? ถ้ากูจีบไม่ติดเรียกกูว่าลูกหมาได้เลย "

"อย่าหลงตัวเองมึง ...โลกใบนี้มันกลมเว้ย...อะไรๆมันก็เกิดขึ้นได้ ...."

"...."

"เป็นเหี้ยไรวะไอ้ธัน ??"

"...โลกกลมอย่างที่มึงว่าวะ....กูเห็นไอ้แว่น...แม่ง...โลกกลมฉิบหาย แค่นี้นะไอ้ตู้ กูขอไปทำคะแนนก่อน "

สายโทรศัพท์ถูกตัดแค่นั้น ธัน วิ่งลัดเคาน์เตอร์บาร์ แล้วกระโดดข้ามโซฟา ตัวใหญ่ เพื่อที่จะไปหาคนหน้าลิฟต์ให้เร็วที่สุด ทั้งๆที่ไม่ค่อยจะสนใจใคร แต่บอกตัวเองไม่ได้ว่าทำไมเห็นแค่แผ่นหลังก็จำได้ว่านั่นอะ ไอ้เด็กแว่น ...

" แว่นหนา !! "

เสียงตะโกนไปก่อนตัว... แต่มันก็ดังได้แค่นั้น ธัน ปิดปากเงียบทันทีที่ ปลายกระบอกปืนจากชายชุดดำสี่ห้าคน จ่อเล็งมาที่เขา .... วันนี้พอจำได้ลางๆว่าจะมีคนของสำนักงานใหญ่ เข้ามาใช้สถานที่ในโรงแรม แต่ไม่คิดว่า พวกจากสำนักงานใหญ่ จะกล้าขนาด จ่อปืนใส่เขาที่เป็นลูกเจ้าของโรงแรม !!
...เสียหน้า ไม่ว่า แต่เสียหน้าต่อหน้าไอ้แว่น แม่ง..... แทบแทรกแผ่นดิน!!!

"...แว่น..ห..นา.?? "

ธันยังกลั้นใจ เรียกคนในลิฟต์ที่หันหลังให้ ....  เจ้าของร่างโปร่งหันกลับมาชุดสูทสีเทาพอดีตัวคือสิ่งแรกที่ ธัน สังเกตเห็น.. หลังจากนั้นก็เป็นโครงหน้าคม และแววตาวาวสีดำเข้มที่เรียบสนิท...ที่สำคัญมันไม่มีแว่นเลนส์หนาอันใหญ่ อยู่บนโครงหน้า ... สองจิตสองใจ ว่า นั่นใช่เด็กหนุ่มแว่นหนาต้นเหตุการพนันของตนหรือเปล่า แต่ก็อดบอกตัวเองไม่ได้ว่า....คนตรงหน้ามันต่างจาก เด็กแว่นหนาที่เห็นในห้องสมุดเกินไป .... จนมือใหญ่เอื้อมมาโอบไหล่ของคนที่ธันคิดว่าน่าจะเป็น นายแว่นหนา  ร่างใหญ่ ของชายสูงอายุ มองตอบมาเหมือนตำหนิ วงแขนที่โอบไหล่กระชับแน่นเข้าไปอีก ...

เสียงลิฟต์ดังขึ้นก่อน ประตูลิฟต์จะปิด ปากกระบอกปืนถูกเก็บเข้าที่เดิมที่เคยอยู่ ทุกอย่างเข้าสู่สถานการณ์ปกติเหลือเพียงแค่ ธัน ที่ยืนนิ่งอยู่หน้าลิฟต์ ....
.
.
.
.
.
เสียหน้าสุดๆ ไอ้การที่โดนปืนจ่อหน้า มันยังไม่เจ็บเท่าโดนไอ้แว่นหนาเมิน.... ไม่สิ ...หรือว่า ไอ้คนที่อยู่ในลิฟต์จะไม่ใช่ไอ้แว่นหนา .....ทุกอย่างมันคาใจไปหมด...
.
.
.

สุดท้ายก็แอบหยิบมาจนได้ ตารางการประชุมเป็นของ บอสใหญ่ในเครือ Golden Eye วันนี้เป็นวันประมูล 'เนื้อสด' .... อย่าบอกนะว่า ท่าทางโอบแบบแนบแน่นขนาดนั้น ...แบบนั้น ...
.
.
.
เด็กหนุ่มที่ตนเห็นในลิฟต์ ......เป็นเนื้อสดที่ถูกประมูล .....
.
.
.




***



 
"เพื่อนเรางั้นหรอ ชีต้า? กล้าดีนี่นา...ขนาดโดนคนของป๋า เล็งปืนใส่ยังกล้าเดินเข้ามาอีก"

"... คงไม่ใช่เพื่อนหรอกป๋า ....ถ้าใช่เพื่อน ชีต้าจริง ...ก็ต้องเรียก 'ชีต้า' สิ ....ทำไมต้องเรียกแว่นหนา ...."

เสือเฒ่า จาง เทียนอี้  ฟังน้ำเสียงลูกชายตัวแสบแล้ว หัวเราะร่า ลั่นลิฟต์ ... ครั้งแรกที่เห็นไอ้เสือน้อยงอนจนหน้ามู่  .... ท่าทางการปล่อยให้ไปเรียนรู้ประสบการณ์ในมหาลัย จะทำให้ ไอ้เสือเจอเพื่อนแปลกๆเสียแล้วสิ....

'ก็ชีต้าเคยบอกแล้ว ....ให้เรียก ชื่อ ...จะชื่อต้น ชื่อ กลาง หรือ ชื่อ สกุล ชีต้าก็หันทั้งนั้น แต่ดันมาเรียก 'แว่นหนา' เรียกให้ตาย ชีต้าก็ไม่หันหรอก ...เพราะชื่อนั้นมันไม่อยู่ในสารบบ '
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 18 - 24/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 24-07-2014 19:54:28
มาแล้ววววววว นุ้งชีต้าที่รัก
น่ารักที่สุด รอตอนต่อไปนะคร๊าาาา
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 19 - 24/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 24-07-2014 21:13:45
บทที่ ๑๙ อีกครั้งที่เสียใจ...   



...เอกสารในซองสีน้ำตาลถูกเทลงบนพื้นโต๊ะ...

รูปชายสูงอายุร่างใหญ่ถูกเลือกมาวางไว้ตรงหน้า พระพรต สามสี่ใบ ก่อนจะมีคำอธิบายหลุดออกมาจากเพื่อนสนิทที่ตอนนี้ทำหน้าที่เป็นนายหน้าหางาน...

“ ‘จาง เทียน อี้’  เจ้าพ่อตัวจริงเสียงจริงเสือเฒ่าที่มีอำนาจระดับตำนานมีชีวิตเลยล่ะ ฉากหน้าทำธุรกิจโรงแรมใหญ่... เบื้องหลังค้ามนุษย์และอาวุธสงคราม...ส่วนนี่คืองานของนาย ‘จาง ซี ’ ลูกชายคนเดียวของตระกูลจาง..."

ซองเอกสารเปล่าถูกยื่นให้ พระพรต ...พร้อม กล้องตัวเล็กที่ซ้อนในช่อดอกไม้สด ...

“ไม่มีรูปหรือ?”

“ไม่...เพราะเรื่องรูปของ จาง ซี คืองานของนาย...เข้าถ้ำเสือแล้วล้วงรูปลูกเสือออกมา”

“มีข้อมูลมากกว่านี้ไหม?”

“จาง ซี ???  ข้อมูลคลุมเครือวะ จาง ซี น่าจะเป็นชื่อย่อหรือไม่ก็ฉายา เพราะจากแฟ้มประวัติเสือเฒ่าจางมีลูกชายแค่คนเดียว ชื่อ จาง คิม แต่อยู่ๆก็เงียบไปแล้วมี จาง ซี เข้ามาแทนข้อมูลวงในว่ากันว่า จาง คิม น่าจะโดนเก็บเพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ ตระกูลจาง แต่งดำไว้ทุกข์เกือบสามเดือนแต่ข่าวไม่ยืนยัน แล้วจู่ๆก็มี จาง ซี เข้ามาในฐานะลูกชายคนเดียวของตระกูล... ”

“ลูกเมียน้อยหรือเปล่าวะ?”

“ไม่น่าใช่...ตาแก่จาง เทียน อี้ มีเมียใหญ่แค่คนเดียว ชื่อ'จาง ฟู่หลี้ '  ” 

“ไม่มีรูปไม่มีข้อมูลอะไรสักอย่าง...แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าใคร คือ จาง ซี ?”

“ง่ายวะพรต ...ลูกเสือมันอยู่ใกล้พ่อเสือตลอด...และที่สำคัญงานคืนนี้....ลูกเสือมันเป็นคนเข้าประมูล ‘เนื้อ’ ด้วยตัวเอง...”

.
.
.



***


....กล้องตัวจิ๋ว ถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียนในช่อดอกไม้ติดเสื้อ ...

พระพรตสูดหายใจยาว ขยับตำแหน่งของกล้องให้อยู่ในจุดที่คิดว่าดีที่สุด งานนี้อันตรายแต่ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ งานด่วนเงินดี ดีจนขนาดรับทำงานนี้แค่วันเดียวมันก็เกินเงินเดือนทั้งเดือน ในตำแหน่งอาจารย์พยาบาลพิเศษแล้ว ความจริงทางเลือกในสายอาชีพมันคงดีกว่านี้ถ้าสอบสัมภาษณ์ผ่าน ใบประกอบโรคศิลป์คงไม่ลอยหายไปต่อหน้า ไม่โทษใครนอกจากตัวเอง ...ก็ใครใช้ให้ดันเกิดภาพหลอนก่อนวันสัมภาษณ์จนต้องเข้าโรงพยาบาลล่ะ ... หมอจิตเวช ดันเข้ารับการบำบัดจิตเสียเอง พระพรตไม่โทษใคร นอกจากตัวเอง และไอ้สัตว์ประหลาดที่ชื่อ ษิตรา !!

พระพรต รู้ดีว่ามันมีอยู่จริง... มันไม่ได้เป็นภาพหลอนในความฝันอันซ้ำซาก ....สิ่งยืนยันการมีตัวตนของมันยังอยู่ แม้สิ่งนั้นจะสงบปากสงบคำอย่างถึงที่สุด แต่บางวัน พระพรต ก็แอบได้ยินเสียงนั่น เสียงของตุ๊กตาหมีตัวโต ... เสียงของพ่อ .....

แต่สิ่งที่หายไปกลับเป็นมัน ....สัตว์ประหลาดในความฝันหายไปเหมือนมันไม่เคยมีตัวตน เขาจำได้ดีว่าวันนั้น แววตาสีดำสนิท จ้องมองเขาด้วยความผิดหวัง....

เขาผิดงั้นหรอ? ผิดงั้นหรอที่ยอมรับความจริงอะไรไม่ได้ สักอย่าง???  ยอมรับไม่ได้ว่าพ่อกลายเป็นแค่ตุ๊กตาหมียอมรับไม่ได้ว่าเขาโดนตุ๊กตาหมียกตัวเขาให้ปีศาจ แลกกับสัญญาบ้าๆอะไรสักอย่าง....พระพรต พยายามเถียงกับตัวเองว่าเขาไม่ใช่คนผิด... แต่ทุกครั้งที่คิดถึงแววตาคู่นั้นที่จ้องมา ...
.
.
ประโยคเดิมๆมันก็ก้องเข้ามาในหัว ....

'....มันไม่ใช่ผู้กอง ....พระพรตไม่ใช่ความสุขของชีต้า...ไม่ใช่...ไม่เลย...'
.
.
.

โดนล่อทั้งในความจริงและความฝันมาเกือบสิบปี จู่ๆก็เหมือนโดนฟันแล้วทิ้ง ....ไอ้สัตว์ประหลาดนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย... หายไปเฉยๆไม่ว่า ...แต่นี้มันหายไปพร้อมแววตาตัดพ้อที่เหมือนกับว่า เขาเป็นคนผิด...ผิดที่ขับไสไล่ส่ง..... ผิด....ที่ไม่ได้เป็นอย่างที่มันหวัง....
...
เขาเองต่างหากที่อยากถาม...มันหวังอะไรจากเขากันแน่??  สัญญาอะไรที่พ่อ ให้กับมันไว้ ??? พ่อไม่เคยปริปาก และเขาเองก็ไม่เคยถาม ....
แม้ทุกอย่างมันยังคาใจ ...
.
.
.

ทำไม?

.
.
.

นั่นสิ ? ทำไม ?? ทำไมเขาถึงไม่ลืมมันเสียที....


***



....ชั้น 23 ....



โอกาสมีแค่นี้....หน้าห้องบอลรูมคนมากมายเดินขวักไขว่ แต่จะมีไม่กี่คนเท่านั้นที่มีบัตรผ่าน ...พระพรต เดินวนสอดสายตาเพื่อหาคนในรูปถ่ายเสือเฒ่าจาง เทียน อี้ ต้องอยู่ในงานนี้...และถ้าเป็นอย่างนั้น ลูกเสือก็ต้องอยู่ ...

...ลิฟต์ ใหญ่กำลังขึ้นมาจากชั้นล่าง ..กลุ่มคนชุดดำสามสี่คนเดินนำเคลียร์ทางออกมาก่อนจะเป็นชายสูงอายุร่างใหญ่ที่โอบไหล่เด็กหนุ่มคนหนึ่งไว้แน่นเหมือนกระเซ้าแหย่ ...

...พ่อเสือ ....กับลูกเสือ....

พระพรต เดินมุ่งตรงเข้าไปแต่ต้องชะงัก... กลิ่นอายของอะไรบางอย่างมันคุ้นจมูก กลิ่นสาบ...กลิ่นลูกไม้ กลิ่นหอมแปลกที่พระพรตอธิบายไม่ถูก....ครั้งแรกและครั้งเดียวที่เคยได้กลิ่นนั้น....
..
.
.
.

'กลิ่น ของ...ษิตรา....'

...พระพรตหยุดตัวเองไว้แค่นั้นแล้วหันหาต้นตอของกลิ่น ....หัวใจกระตุกวาบแล้วเต้นแรงจนยั้งตัวเองไม่อยู่  ความรู้สึกบางอย่างมันเอ่อล้นจนร้อนวาบออกมาจากเบ้าตา...ก้มหน้าไม่ได้ เพราะน้ำตาที่คลออยู่เหมือนจะไหลพรากลงมา ...

อย่าบอกนะว่าเขาคิดถึงมัน....เกือบจะสามปีแล้วที่มันหายไป....
.
.
.
.... หายไปพร้อมกับความรู้สึกบางอย่างของเขาเอง...

.
.
.

"หลบดิวะลุง!!"

เสียงตะโกนนั้นช้าเกินไป เมื่อจู่ๆ เด็กหนุ่มอีกคนวิ่งพุ่งตรงมาและไม่ต้องสงสัย... มันชนเข้ากับเขาอย่างแรง ไม่มีคำขอโทษหรือสนใจอะไร เด็กหนุ่มนั่นลุกพรวดขึ้นและวิ่งไล่ตามเสือเฒ่าจาง และลูกชายที่เพิ่งเดินลับเข้าห้องไป... กระดาษสีแดงใบเล็กขนาดนามบัตรตกอยู่ข้างมือ ...
.
.
.

เสือยังไม่หลุดไป....โอกาสเหมือนวิ่งเข้ามาชน...เพราะกระดาษใบนั้น..
...มันเป็นบัตรผ่านงาน ....

.
.
.



***



 ตั้งแต่รบเร้าขอปู่จนได้บัตรผ่านมาไว้ในมือ ธัน ก็ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งอย่างเดียว ...
.
.
.
ไม่รู้ว่าไอ้นั่นจะใช่ไอ้แว่นหนาหรือเปล่า  รู้แค่ว่า...ยังไงก็ไม่ยอมให้ไอ้บ้านั่นถูกคนอื่นประมูล รีบจนลนลาน  เช็คที่แอบหยิบติดมือมามีแค่หกหลักหวังว่าในงานคงไม่มีใครสู้ราคามากกว่านี้ ...แถมยังบัตรผ่านอีก ธันไม่รู้ว่าเผลอหยิบติดมือมาถึงสามใบ... แล้วถ้ามันไม่ใช่ ไอ้แว่นหนา จริงๆล่ะ ? กับคนที่เพิ่งเห็นกันครั้งแรก ....คนอย่างไอ้ธัน จะยอมเสียเช็คหกหลักเลยหรอ??

ไม่รู้เว้ย!!!  รู้แค่ตอนนี้ขอแค่ได้เจอมันอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ช่างแม่งมันว่าจะเป็นยังไง...

เห็นหลังไวๆ มือไอ้แก่นั้นยังไม่ยอมปล่อยจากไหล่กว้าง ธัน วิ่งฝ่าฝูงคนเข้าไปอย่างไม่สนใจใคร ชนบ้างกระแทกบ้างก็ช่างมัน จนมาสุดที่ใครคนหนึ่งในงานร่างสูงแม่งเดินๆ แล้วเสือกหยุด ผลก็เลยแทบไม่ต้องเดา...
 
"หลบดิวะลุง!!"
 
ธันชนร่างนั้นเต็มแรงจนล้มลงไปด้วยกันทั้งคู่ แล้วยังไง? ไม่มีเวลาจะมาอะไรแล้ว เมื่อสายตาของธัน หันไปเห็นร่างโปร่งกำลังโดนตาแก่บ้ากาม [????!!!] โอบเข้าไปในห้องรับรอง....

“แม่ง!!”

ธัน สบถได้แค่นั้น เวลามีไม่มาก ลนลานเก็บบัตรกับเช็คที่หลุดมือแล้วลุกพรวดวิ่งตามกลุ่มชายชุดดำเข้าไปไม่ได้สนใจอะไรทั้งนั้น !!!



***


...
บัตรผ่านสองใบที่หลุดมือ ใบหนึ่งพระพรตเป็นคนเก็บไว้ ส่วนอีกใบใครบางคนเก็บมันขึ้นมาแล้วยัดใส่กระเป๋าเสื้อ ... ก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปในงาน ....
.
ระบบรักษาความปลอดภัย มันเริ่มรวนตั้งแต่เหตุการณ์นั้น ...
.
บัตรสามใบ ที่ไม่อยู่ในระบบใบแรกถูกถือโดยธัน.... ใบที่สองพระพรตถือไว้... ส่วนใบสุดท้าย...
....ใครบางคนเอามันใส่กระเป๋าเสื้อสูท ....ใส่ไว้ใกล้ตำแหน่งปืนติดเลนส์ซูมที่เหน็บซ่อนไว้ที่ช่วงอก....
.


***


.....
‘เนื้อสด’ คราวนี้ถูกส่งมาจาก รัสเซีย การประมูลเป็นไปอย่างช้าๆ ...

..บนโซฟาตัวใหญ่ เฒ่าจางนั่งมองของที่ถูกส่งมาพร้อมตรวจเอกสาร ส่วน ชีต้า ถือวิสาสะขึ้นไปนั่งบนตักเสือเฒ่าแล้วกัดเล็บมองจอมอนิเตอร์ ...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ เสือเฒ่าให้ ชีต้า ตัดสินใจเลือก ‘เนื้อสด’ แต่เป็นครั้งแรกที่เปิดตัว ชีต้า ต่อคนในวงประมูล ... ปกติ ชีต้า จะถูก ส่งไปอยู่กับ [F] ในห้องรับรองพิเศษ แต่พอบ่อยครั้งเข้า ลูกเสือกลับหน้างอใส่ป๋าจาง เพราะเพียงแค่ไม่ได้นั่งข้างป๋าร่างยักษ์ เสือเฒ่าพอโดนลูกชายนิสัยเด็กน้อยอ้อนมากๆเข้าสุดท้ายเลยต้องยอมใจอ่อน เอาเสือแสบมานั่งด้วย รู้ดีว่าอันตราย ระบบรักษาความปลอดภัยเลยต้องเซ็ตใหม่ทั้งหมด สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัด ระบบเสาอากาศใหญ่ในตึก ถูกส่งเพื่อกลบสัญญาณแปลกปลอมทั้งหมด รวมทั้งระบบบัตรเฉพาะที่มีเพียงไม่กี่ใบสำหรับผู้ร่วมการประมูล...

เสือเฒ่ามองไล่อ่านเอกสาร รวมทั้งมอง ลูกชายด้วยแววตาเอ็นดู เอกสารที่ได้รับการปลอมแปลงอย่างแนบเนียน 'เนื้อสด' ต่างถูกเลือกและลงทะเบียนระบุในเอกสารฐานะนักท่องเที่ยว ที่ตีปลายทางต่างกัน ...

การเลือก 'เนื้อสด'  เข้าสังกัดเป็นงานที่ ชีต้า ถนัด โครงหน้า รูปร่าง และแววตา ถูกสมองเสือน้อยประเมินผลแล้วกดราคา ....การซื้อขายที่สรุปผลโดยตัวเลขสีแดงที่หน้าจอ...มุมหนึ่งในโรงแรมหรู กลางกรุงเทพฯ ใครจะรู้ว่าชะตาชีวิตของใครหลายคนขึ้นอยู่กับตัวเลขที่ ชีต้า กด ...การซื้อขาย มนุษย์... ทำได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วของ ปีศาจ ...
.
.
.

...
กลิ่นของอันตราย.. ลอยมาแค่ปลายจมูกแต่ถึงอย่างนั้น  ชีต้า ก็แค่ละสายตาออกมาจากหน้าจอ แล้วมองหา...แสงไฟหลากสีที่สะท้อนทั่วห้อง ... พรางสายตาที่ไวต่อแสง  [F] ยังยืนนิ่งอยู่ในตำแหน่งเดิมกับพวกบอดี้การ์ดของป๋า...ใครบางคนที่คุ้นตาเดินปรี่เข้ามา เสือเฒ่าสังเกตเห็นแล้วหัวเราะร่า ในขณะที่เสือน้อยเริ่มหน้างอ ...
.
.ไอ้คนบ้าที่อยู่ๆก็มาเรียก ชีต้า ว่า 'แว่นหนา' ... เดินปรี่ตรงมาทาง ป๋าจางกับ ชีต้า
.
.
 
..อีกครั้งที่เสียจังหวะ พระพรตมัวแต่ทดสอบกล้องรู้สึกว่ามันจะมีปัญหาตอนที่เขาล้มกระแทกพื้น แก้ไขเฉพาะหน้าไปก่อนจนน่าจะใช้ได้...  กำลังจะกดถ่ายแต่ก็เจอมารตัวเดิมเข้ามาขวางเสียก่อน ..
ไอ้เด็กซุ่มซ่าม ที่บังอาจมาเรียกเขาว่า ‘ลุง’ ไอ้เด็กบ้านั่นเข้าไปบังเฟรมกล้องเสียจนหาจุดถ่ายแบบชัดๆไม่ได้ ... จนพระพรตต้องเดินเข้าไปใกล้ เพื่อหาจังหวะถ่ายรูปเด็กหนุ่มร่างโปร่งที่อยู่ในวงล้อมของการ์ดร่างใหญ่  เสือเฒ่าจาง โอบกอดเด็กหนุ่มนั่นไว้ทั้งตัว ในขณะที่เด็กหนุ่ม จดจ้องมองกลับมา แล้วกลับไปจ้องจอมอนิเตอร์แล้วกัดเล็บ เหมือนคิดอะไรไปเรื่อย ...
.
.
.

พระพรต คิดไปถึงตัวเลข 5 หลักที่เป็นค่าจ้าง... แค่ถ่ายรูปเด็กหนุ่มแค่คนเดียวเงินมันดีขนาดนั้นเลยหรอ? หรือมันมีอะไรยิ่งกว่านั้นที่เขายังไม่รู้ ???  สองเท้าพาเขาเดินเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มที่สนใจแต่หน้าจอ ...ยิ่งใกล้... กลิ่นสาบยิ่งคลุ้งอวล... อดรู้สึกไม่ได้ว่า... กลิ่น... มันมาจากเด็กหนุ่มที่นั่งบนตัก เสือเฒ่า จางเทียน อี้ ...
.
.
.
แล้วก็เป็นอีกครั้งที่เขาโดนเบียด ...

...แต่คราวนี้เป็นพระพรตที่เอาคืนโดยการเดินปรี่แทรกเข้าไปแล้วยื่นเท้าขวางไอ้เด็กไร้มารยาท...


' ปัง! ปัง! ปัง! '

เสียงล้มดังเบากว่าเสียงปืนที่ยิงติดกันเกือบสามนัด กรีดร้องดังก้องไปทั่วห้องโถง ผู้คนวิ่งวุ่น

เสือเฒ่า จาง โอบ ลูกชายไว้แน่น...ในขณะที่ ชีต้า เริ่มมองหาที่มาของกระสุนปืน...  [F] เข้ามายืนบังสองพ่อลูกไว้ ไฟทั่วห้องโถงเปิดสว่าง พระพรตใช้ช่วงเวลาคาบเกี่ยวที่อลหม่าน ปลีกตัวหลบเหตุการณ์ที่แม้แต่ตัวเขาเองก็คาดไม่ถึง ธัน ถูกการ์ดในงานจับให้หมอบรวมกับแขกคนอื่นๆ เพื่อเคลียร์สถานการณ์  ชีต้า ถูกเสือเฒ่ากอดไว้แน่น  แน่นจนชีต้าได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงของเสือเฒ่า ....เสียงที่มันบ่งบอกว่า ป๋าจาง เป็นห่วง ชีต้าแค่ไหน ...
.
.
.เสือน้อยหลุดยิ้มออกมา แล้วกัดฟันกรอด... เมื่อได้กลิ่นคาวเลือดลอยคลุ้งออกมาจากแขนใหญ่ที่โอบตนไว้ เสื้อสูทสีดำ เหนอะเหนียวไปด้วยเลือดของเสือเฒ่า เมื่อสะเก็ดกระสุนนัดหนึ่งเจาะทะลุ เข้าโคนแขน...

ชีต้า กอดป๋าจางแน่นๆ ก่อนจะแยกเขี้ยวคม อารมณ์โกรธ จู่ๆก็ปะทุออกมาจนควบคุมไม่ได้ ... [F] ถูกชีต้าสั่งให้ดูแลเสือเฒ่า ในขณะที่คนสั่งลุกเดินตรงไปหาจุดที่แสงไฟสว่างวาบ ...  เสือเฒ่าขยับตัวจะรั้ง ชีต้า ไว้แต่ความเจ็บกลับแล่นพุ่งขึ้นมาแทน ... จนต้องทรุดพิงหลังกับโซฟา....แต่ปากยังไม่วายสั่งให้การ์ดวิ่งตาม ชีต้าไปโดยไม่ห่วงตัวเอง 
 
ชีต้า เห็น ...ร่างใหญ่ ที่หลบอยู่มุมห้องโถงเดินเลี่ยงฝ่าฝูงคนออกไป ชีต้า เร่งฝีเท้าตาม ความเร็วที่ทิ้งระยะห่างจากบรรดาบอดี้การ์ดที่วิ่งตาม ...ความเร็วของ ชีต้า ...เร็วจนเหมือนจะกระโจนใส่....
.
.
.
จนเห็นว่าร่างนั้นไปสุดที่มุมห้องน้ำ ชีต้า ปิดล็อกประตูแล้วกัดฟันกรอด กลิ่นเลือดของป๋ายังลอยติดอยู่บนจมูก ก่อนกลิ่นดินปืนจะลอยแทรกเข้ามา....

ไม่ต้องรอให้ ชีต้า เดินเข้าไปหาเพราะร่างใหญ่โผล่ออกมาจากห้องน้ำห้องหนึ่งพร้อมปืนที่ปลดล็อกเตรียมเหนี่ยวไก ปากกระบอกปืนยกขึ้นเล็งใส่...สามนัดแรกพลาดเป้า เพราะระยะปืนไม่ได้ระดับ แถมเสือเฒ่ายังเอาตัวบังเป้าหมายไว้ ...แต่ถ้าระยะเผาขนระดับนี้คงไม่พลาด ...

...แม้เป้าหมายจะอยู่ที่ จาง เทียน อี้ ..แต่การว่าจ้างกลับให้เล็งที่ดวงใจ ..ยิงเสือเฒ่ามันก็แค่นั้น สู้ ยิงดวงใจ ให้ตายไปต่อหน้าไม่ดีกว่าหรือ? ธุรกิจ มืดหวังผลไกล ..เสือแก่ที่ ขาดดวงใจ ... มันก็ไม่ต่างอะไรกับซากเสือที่รอวันผุเน่า...

.
.


***


...พระพรตยืนนิ่งอยู่ห้องกลาง สิ่งที่ระดับสายตาเห็น...คือมือกร้านที่ยกกระบอกปืนขึ้นพร้อมเหนี่ยวไก แม่ง !!! เสือกคิดผิดมาหลบในห้องน้ำ ...ใครมันจะไปคิดว่าไอ้มือปืนบ้ามันจะวิ่งตามเข้ามาติดๆ !!!

.
.
.


'ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!'

เสียงปืนดังรัวซ้อนกัน พระพรตได้แต่กลั้นหายใจนิ่ง ...

...เสียงหล่นของของหนัก... กลิ่นสาบอวล ใกล้เข้ามาพร้อมเสียงฝีเท้า ร่างโปร่งที่เคยเป็นเป้าหมาย เดินตรงเข้ามาในระยะที่เห็นได้ชัด ...แต่ใบหน้าคมที่เห็นได้จากด้านข้างไม่ได้หันมาหาเขา ... ร่างนั้นเลือกที่จะเดินเข้าไปหาซากมือที่ถือปืนค้างไว้ ....กลิ่นคาวเลือดเริ่มฟุ้ง ...ในขณะที่เลือดข้นค่อยๆไหลนองเจิ่งเข้ามาในห้องน้ำที่พระพรตยืนอยู่ .....

“ไม่เป็นอะไรนะครับ คุณซี ( Z )”

หนึ่งในบอดี้การ์ด ตะโกนถามมาจากหน้าห้องเสียงปืนเงียบไปแล้วเหลือแต่เหล่า การ์ดที่ยืนออกันอยู่หน้าห้อง [F] เป็นคนลั่นไก ก่อนที่มือปืนจะทันเหนี่ยวไกใส่ คุณชีต้า ...
.
.
.
มือปืนที่แฝงตัวเข้ามานอนนิ่งจมกองเลือดเหลือแค่ พระพรต ที่แทบจะหยุดหายใจ ...ถ้าพวกบอดีการ์ดมาเห็นเขาตอนนี้ ...สภาพเขาคงไม่ต่างจาก ศพที่พรุนอยู่หน้าห้องน้ำ...   
.
.
.

“[F]…ออกไปดูป๋า ก่อน .... ทางนี้เคลียร์ แล้ว ...ปิดประตูให้ด้วย...เดี๋ยวตามออกไป... ”

เด็กหนุ่มเจ้าของเสียงยกมือโบกห้ามเหมือนไม่ให้ พวกบอดี้การ์ดข้างนอกเดินเข้ามา...พระพรตหลับตากลั้นใจ... รอสักพักเสียงจอแจหน้าห้องน้ำถึงได้เงียบ...แต่พอลืมตาพระพรตถึงกับสะดุ้งเฮือกที่ จู่ๆ เด็กหนุ่มนั้นก็หันมาทางเขา ...เป็นครั้งแรกที่พระพรตได้มีโอกาสถ่ายภาพของ ‘จาง ซี ’ ภาพที่ชัดที่สุดในตำแหน่งที่ดีที่สุด !!!

.
.
.

ร่างโปร่งเดินอาดๆเข้ามาใกล้ กลิ่นสาบหอม คลุ้งไปทั่ว ... พระพรตจำใบหน้าคมที่เคยห่างหายไปเกือบสามปีได้ติดตา...ใบหน้าคมที่ครั้งหนึ่งเคยกระซิบครางข้างหู... แล้วพร่ำเรียกชื่อ เขาซ้ำๆ เพียงแค่กะพริบตาหยดน้ำตาใสก็ไหลลงอาบแก้มแล้ว...

พระพรต ยืนนิ่ง ปล่อยให้เจ้าของกลิ่นสาบหอมประคองใบหน้าแล้ว.. พรมจูบซับหยดน้ำตา...
.
.
.

“....ษิตรา....”

แทบจะไม่เชื่อตัวเองว่าเขาหลุดปากเรียกชื่อนั้นออกมา ...เสียงเรียกครางเบา...แล้วจมหายไปในลำคอ...
.
.
.

แววตาสีดำสนิททั้งดวงเผยออกมาอีกครั้งเมื่อ ชีต้า ปิดเปลือกตาแล้วลืมขึ้น ....เสียงเรียกที่คุ้นหู ...ออกมาจากปากใครสักคนที่คุ้นหน้า ....แต่ไม่มีสมองส่วนไหนของ ชีต้า ที่จะประมวลผลแล้วส่งสัญญาณออกมาได้... เมื่อ...ความทรงจำ ถูกลบไปอย่างถาวร....
.
.
รู้ชื่อ ชีต้า งั้นหรอ? เจ้าของกลิ่นหอมที่โชยออกมา... รู้จัก ชีต้า ??? หยาดน้ำตาหวานคุ้นลิ้น ... เสียงหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ...
.
.
ชีต้าเคยรู้จัก คนๆนี้งั้นหรอ???
.
.
ลมหายใจอุ่นของใครคนนั้นหยุดลง....ในขณะที่เสียงหัวใจเต้นรัวผิดจังหวะ ....ดีใจ ??? เสียใจ??? โกรธ?? กลัว?? ชีต้า บอกถึงอารมณ์ที่รับรู้ไม่ได้....เพราะตอนนี้รู้แค่อย่างเดียว ...ความกำหนัดอันวาบหวามมันก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ...

..อยากชิมริมฝีปากสีซีดที่เย็นสั่น ..

..อยากได้ยินแค่เสียงนั่นครางเรียกชื่อ...

..อยากกอดแล้วกดร่างอุ่นตรงหน้าลงไปกับพื้นเลือดคาว...
.
.
.
...เหมือนหลงไปกับกลิ่นหอมที่ออกมาจากใครคนนั้น ชีต้า เท้ามือกับแผงอกที่หอบหายใจถี่ ...ริมฝีปากเกือบจะโน้มส่งจูบที่โหยหา...ถ้าไม่มีเสียง กร็อบดังเบาๆมาจากช่อดอกไม้สดที่เหน็บอยู่บนกระเป๋าเสื้อ... เลนส์กล้องตัวเล็กหล่นลงมาเหมือนไม่รู้จังหวะ ...
.
.
.
แค่นั้นมันก็จบทุกอย่าง .....
.
.
.
อีกครั้งที่ ชีต้า ใช้สายตาตัดพ้อมองหน้า พระพรต ก่อนจะดันตัวเองออกมาแล้วกัดฟันกรอด .... ไม่ใช่คนที่คุ้นเคยหรอก ...มันก็แค่สปายที่ถูกส่งมา ..ชีต้า พลิกตัวหันหลังกลับทิ้งให้คนหัวใจเต้นแรงแทบทรุดลงกับพื้นที่นองไปด้วยเลือดคาว ...
.
.
.

พระพรต ได้แต่มองตามหลังเด็กหนุ่มร่างโปร่งเดินจากไปพร้อมเสียงเรียกให้พวกบอดี้การ์ดเดินตามกลับไปด้วย ... การเคลียร์ทางที่เหมือนเปิดโอกาสให้ พระพรต มีโอกาสหนี......
.
.
...ชีต้า ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมถึงปล่อยให้ สปาย คนนั้นรอดไปได้ ...
ไม่เข้าใจ... ตัวเอง... ไม่เข้าใจอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ที่แทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เมื่อมีอะไรมากระทบ ความรู้สึก ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง !!

.
.
.
.




***




“สี่หมื่นห้า....”

เช็คขีดคร่อม ถูกส่งให้ถึงมือทันทีที่ พระพรตส่งไฟล์ภาพให้ ... เงินมาง่ายเกินไปจน พระพรต อดถามถึงปลายทางของรูปไม่ได้ ….

“..เคยเห็นโครงไก่สดเวลา โดนโยนลงบ่อ จระเข้เปล่าล่ะ? ตอนนี้เจ้าของรูปนี้ก็เป็นแบบเดียวกัน รูปใบนี้มีแต่คนต้องการ ...เสือเฒ่า จาง มีอำนาจพอๆกับมีคนเกลียด ...ทั้งคู่แข่ง ทั้งคู่ค้า...ลองถ้ามีรูปลูกชายคนเดียวของเสือเฒ่าอยู่ในมือ ...เดี๋ยวฝูงจระเข้มันก็กรูกันเข้ามาคอยขย้ำ ... ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น สิ่งที่นายทำมันไม่ได้เป็นการฆ่าไอ้เด็กนี่หรอก พรต ...ต่ำลงมากว่านั้นอีกนิด....นาย....เป็นแค่คนชี้เป้าให้พวกมือปืนก็เท่านั้นเอง....”

.
.
.


พระพรตยืนนิ่งกำขยำเช็คใบนั้นแน่น ....เงิน สี่หมื่นห้า แลกมากับอะไรบ้าง???

...แลกมากับการเจอ ษิตรา อีกครั้ง ...

...แลกมากับการ....เป็นคนชี้เป้าตาย....

...ให้ ษิตรา ....   
   
.
.
.

แววตาตัดพ้อ...ของ ไอ้สัตว์ประหลาดนั้น ยังฝังอยู่ในหัว ...มันไม่ผิดถ้าครั้งแรกเขาเฝ้าแต่บอกตัวเองว่า สายตาของมันที่ส่งมา เขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไรผิด ...แต่ครั้งที่สอง พระพรตรู้ถึงความหมายของสายตานั่น ...
.
.
.
มันรู้อยู่แล้วว่า เขาแอบถ่ายรูปมัน ....มันรู้อยู่แล้วว่า ปลายทางของรูปใบนั้นคือที่ไหน..
.
.
มันรู้อยู่แล้วแต่ก็ปล่อยให้เขากลับมาอย่างปลอดภัย...อีกครั้งที่ พระพรต อยากรู้ ..

'ไอ้ตัวษิตรา มันต้องการอะไรจากเขากันแน่ ?? '

หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 19 - 24/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 24-07-2014 21:54:11
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: สงสารชีตร้าอ่าา เสียใจอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 19 - 24/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: iammoonoi ที่ 24-07-2014 21:59:34
ชอบฉากบู๊อ่ะ... :a2: :a2:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 19 - 24/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: ppoi ที่ 24-07-2014 22:00:16
โอยยยยย อยากได้ซัก 10 ตอน  :z3: :z3: :z3: //คลุ้มคลั่ง
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 19 - 24/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: lekapuk ที่ 24-07-2014 22:48:02
ถ้าขอตอนต่อไปจะมากเกินไปมั๊ย  :katai1:

อยากอ่านต่อออออออ
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 19 - 24/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Buppha ที่ 24-07-2014 23:33:48
การรอคอยไรท์เป็นอะไรที่ทรมานมากกกกกกกก  :monkeysad:แต่ก็คุ้ม มาต่อเร็วๆน๊าาาาาาาาาาาาา :hao5: ใจจะขาด :ling1:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 19 - 24/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: padang ที่ 24-07-2014 23:35:36
 :o8:สนุกมาก
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 19 - 24/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: padang ที่ 24-07-2014 23:55:09
มาต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 19 - 24/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 25-07-2014 01:20:10
ถามตัวนายเองดีกว่าไหมพระพรต ว่านายต้องการอะไรกับษิตรา  ษิตราถอยแล้วแต่นายกลับเดินเข้าหา
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 19 - 24/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 25-07-2014 08:35:50
สงสารชีต้า ไม่ค่อยปลื้มพระพรตเบย แงๆๆๆๆๆๆๆ
ถ้าชีต้าเป็นอะไรจะโกรธพระพรต ชิส์ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 19 - 24/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaewkaew ที่ 25-07-2014 13:05:07
สงสารชีต้าาา มารอต่อ
โอย ตายแปป
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 19 - 24/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: terukizawa ที่ 25-07-2014 18:29:55
ตบหัวษิตรา(เค้าชอบชื่อนี้) ขุดความทรงจำขึ้นมาเดี๋ยวนี้

แล้วลากพระพรตไปปล้ำซะ ปล้ำให้หายกลัว ปล้ำให้รู้ว่าต้องการเพียงไหน ปล้ำให้รู้ว่าสำคัญยังไง หึหึหึ (สรุปหื่น)

โอม... ให้พระพรตลืมตน....
โอม... ให้พระพรตลืมบ้าน..
โอม... ให้พระพรตร้อนเร่า.... :oo1:
โอม... ให้พระพรตรักใคร่....
โอม... ให้พระพรตอยู่ไม่ได้... (ถ้าขาดษิตรา) เอ๊ะหรือตั้งให้พระพรตทำใส่ษิตราด้วย o13
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 20 - 25/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 25-07-2014 20:18:28
บทที่ ๒๐ เจ้าของธนู...   



......อาการเสือเฒ่าใช่ว่าจะหนัก...
เพราะขนาดเจ้าตัวยังเอ่ยปากเองว่าไกลหัวใจตั้งเยอะ แต่ถึงอย่างนั้น ชีต้า ก็ไม่ยอมทำอะไรทั้งนั้นนอกจากคอยเฝ้าป๋าจางที่โรงพยาบาล ลูกเสือยืนมองหน้าเสือเฒ่าแล้วจับมือกร้านนั้นมาแนบไว้ที่อกบอกอารมณ์ตัวเองในตอนนี้ไม่ถูก แต่รู้อยู่แค่อย่างเดียว ...
.
.
.

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ชีต้า จะไม่ยอมให้ป๋า เจ็บตัวแบบนี้อีก...
.
.
.

"....ชีต้า.... จะดูแลป๋ากับมี้...นะ...จะดูแลให้ดีที่สุด...จะไม่ให้ป๋าเจ็บตัวอีก..."
   
คิดมากจนละเมอ...เฒ่าจาง มองไปตามเสียง พึมพำ...เสียงเบาลอยหลุดออกมาจากลูกชายที่นอนฟุบหน้าไปกับเตียงกว้าง ไม่ว่าโตแค่ไหนสุดท้ายก็เป็นแค่เด็กน้อยในสายตา.....เมื่อไรกันที่ เสือเฒ่า จาง เทียน อี้ เปิดรับ ชีต้า เข้ามาเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลจางได้อย่างสนิทใจ ...มือใหญ่ เอื้อมมาลูบหัวเสือน้อย... ลูกชายเพียงคนเดียวที่ เสือเฒ่าจะไม่ยอมยกให้ใครทั้งนั้น...
.
.
.
แม้ว่า...
.
.
.
คนที่กำลังมาทวงคืน จะเป็นใครก็เถอะ...



***


....
ท้องฟ้ากว้าง แต่จู่ๆอากาศก็ปิด เสียงสายฟ้าฟาดลงมาพร้อม การตัดสินใจบังคับเฮลิคอปเตอร์ทหารให้ร่อนลงฉุกเฉิน .....
.
.
.
สายข่าวชายแดนแจ้งพิกัดซากเครื่องบินที่พบ...ซากเครื่องบินที่หายไปเมื่อ 15 ปี ก่อน การค้นหาหวังเพียงเพื่อพาเศษชิ้นกระดูกทหารกล้า กลับไปแผ่นดินเกิด ....

อาถรรพ์ 'ผานาง' ยังคงปริศนา เสมอ... ตลอดการค้นหาเกือบ สิบปี ไม่พบแม้เศษซากใดๆ แต่พอวันดีคืนดี ซากเฮลิคอปเตอร์ ทั้งลำกลับปรากฏ... ซ้ำเหมือนเป็นการชี้เป้าหมาย เมื่อไฟป่า เผาป่าทั่วบริเวณเป็นวงกว้าง หากละเว้นไว้แค่ซากเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ตรงกลางเท่านั้นที่ไร้รอยไหม้ใดๆ....
.
.

หลังการร่อนลงอย่างฉุกเฉิน หัวหน้านักบิน เดินลำรวจซากเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง  มันไม่เหมือนซากที่น่าจะเป็นของเมื่อ 15 ปีที่แล้ว เพราะสภาพยังใหม่ไม่มีแม้ร่องรอยคราบสนิม....

เขาเดินสำรวจซากนั้นกับผู้ช่วยนักบิน ...และ คนในพื้นที่อีกคนที่ติดมาด้วย... สำรวจและจดบันทึกเลขทะเบียนตัวเครื่อง สภาพเครื่องและรุ่น ...ทุกอย่างมันชี้ชัดไปว่านี้เป็น เครื่องบินที่เคยระบุว่าหายไปเมื่อ 15 ปีที่แล้วจริงๆ...
.
.
.
ทุกอย่างสภาพเหมือนใหม่..
.
.
.
ยกเว้น....สิ่งเดียวที่แตกต่าง....








ร่องรอยความเสียหายเดียวที่ปรากฎ บริเวณ ส่วนหน้าของเฮลิคอปเตอร์...

ธนูหินดอกใหญ่ ...จารอักษรแปลกตา ...เหมือนถูกยิงปักคาไว้ที่เก้าอี้นักบิน...
.
.





***





.
.

'ษิตรา....'

เสียงคงอำนาจ ปลุกให้ลูกเสือลืมตาตื่น ...

งัวเงียและงงงันกับสภาพแวดล้อมที่แปลกไป ชีต้า ได้แต่หันซ้ายหันขวา มองหาทางออก รอบกายมีแต่เปลวไฟและกลิ่นควัน ... กลิ่นของไฟ อันตรายเกินกว่าจะยืนขึ้นสู้ ..หมดหนทางหนี  ชีต้า ตัดสินใจกางปีกกว้างขึ้นโผบิน หากแต่ต้องหยุดชะงัก เมื่อ ธนูดอกใหญ่ พุ่งลงมาปักพื้นดินเบื้องหน้า ....

ปีกกว้างลดลงแล้วทิ้งลู่ลงพื้น ...ธนูหิน...มีกลิ่นของอันตรายและอำนาจ ความกลัวที่ฝังอยู่ในสมองส่วนลึกทำให้ไม่กล้าแม้แต่จะละสายตาจากลูกธนู ที่ทำได้เพียงแค่ค่อยๆก้าวเท้าถอยหลัง  กลิ่นควันไฟ คลุ้งไปทั่ว เปลวไฟไล่ลามเลีย  เหมือนไอร้อนมันเป็นกรงใหญ่ขังให้ ชีต้า ไร้หนทาง ...ความกลัวมันขึ้นมาจุกที่หน้าอกสัญชาตญาณสั่งให้หาทางหนี  ชีต้า กางปีกกระพือแล้วโผบิน
.
.
.

เสียงคำรามก้องตะโกนเรียก เสียงกังวานมาพร้อมความเจ็บปวด เม็ดฝนที่ ชีต้า เคยชอบกลายเป็น ดอกธนูหินที่ ยิงระดมมาเหมือนห่าฝน ความเจ็บกระแทกเข้าทรวงอกและทะลุ ปีกกว้าง เหมือนตอกตรึง ชีต้าไว้กับ พื้นหิน เสียงคงอำนาจมันยังคงดังก้องไปก้องมาอยู่ในหัว ชีต้า สะบัดหัวตัวเองแรงๆเพื่อลบเสียงนั้น แต่มันก็ยังไม่จางหาย....ไม่ใช่เสียง [F] ไม่ใช่แม้แต่เสียงของพวกการ์ดในบ้าน...
.
.อุ้งมือใหญ่ ที่ร้อนดั่งเปลวไฟ สัมผัสแผ่วเบาที่แก้ม ชีต้า แววตาสีแดงเพลิง จ้องประสานมาในห้วงความรู้สึก ...ริมฝีปากซีด..สั่น...คราง ชื่อหนึ่งออกมา จากห้วงความทรงจำ..
.
.
.






"...สัง..กา...."






...
ชีต้า ได้ยินเสียงตัวเองเพรียกชื่อนั้น ....เสียงเบาเหมือนครางขอ...ริมฝีปากร้อน แนบลงมาโลมเลีย ก่อนจะถอนออกแล้ว แปรเปลี่ยนเป็น คมเขี้ยวยาว ที่กดฝังตรึงลงบนลำคอนวล...

ชีต้า กรีดร้องก่อนดิ้นพล่าน !!!   

สมองว่างเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ... เปลวไฟยังร้อนระอุอยู่ในร่าง ความทรงจำส่วนหนึ่งหลุดออกมาเหมือนมันฝังแน่นในเนื้อหนัง จนสุดท้าย ชีต้า ก็ทนไม่ได้ ..
.
.
.เพียงแค่ฝันร้าย....ชีต้า....บอกตัวเองอย่างนั้น... เสียงนั้น...เป็นแค่เสียงของฝันร้าย...

.
.
.

...แม้วันนี้จะเหมือนทุกวันที่เข้ามาหาหนังสืออ่าน หลังจากหายไปนานเพราะต้องไปนอนเฝ้าป๋าจางที่โรงพยาบาล ...แต่มันก็ต่างออกไป ...

วันนี้เหมือนทุกครั้งที่เจอ ไอ้บ้าที่เรียกตัวเองว่า ธัน ....  มันพยายามหาเรื่องคุยเรื่อยเปื่อย แต่ชีต้าไม่ได้สนใจอะไร เพราะชื่อที่มันเรียกไม่ใช่ชื่อที่อยู่ในสารบบของชีต้า เรียกได้ก็เรียกไป เมื่อไม่ใช่ก็ไม่ขานตอบเท่านั้นเอง....
.
.
.
รำคาญจนคิดจะเดินหนี ...แต่อยู่ๆ เรี่ยวแรงมันก็หล่นฮวบ เมื่อปลายสายตา ชีต้า เหลือบไปเห็นสิ่งหนึ่งที่อยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์...


'กองทัพอากาศ...สำรวจพบซากเครื่องบินที่สูญหายไปเมื่อ 15 ปีก่อน พร้อม ธนูหินปริศนา'


ความหวาดกลัวเหมือนถูกกระตุ้นออกมา ชีต้า ทรุดลงแล้วกรีดร้อง  ธันธณา ทำอะไรไม่ถูกนอกจาก กอดร่างที่สั่นเทาไว้แล้วพร่ำเรียกให้ เด็กแว่นมีสติ ....
.
.
เหมือนสัตว์ที่ติดกับดัก....
.
.
เสียงกรีดร้องเหมือนสัตว์ ที่หวาดกลัวและเข็ดขยาดกับดักของ  ‘นายพราน ...’



***


...ห้องชั้นบนของ ชีต้า ปิดเงียบ คุณนายจาง เคาะประตูไป ร้องไห้ไป ....

หลิน ที่ถูกตามตัวมาบ้านเสือเพื่อดูสถานการณ์ ต้องกลายเป็นพยาบาลชั่วคราว เพราะคุณนายจาง ร้องไห้ จนเป็นลมล้มพับลงไป และพอฟื้นขึ้นมาก็เอาแต่ร้องไห้ เพราะยังได้ยิน.เสียงกรีดร้องของลูกชายดังก้องอยู่ในห้องกว้าง.... ชีต้า เปลี่ยนไป ลูกเสือตัวแสบของ จาง เทียน อี้ กำลัง กรีดร้องอย่างทรมาน ...ตั้งแต่ที่ [F] พาตัว ชีต้ากลับมาจากมหาลัย เสือน้อยก็เอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้องแล้วอาละวาดกรีดร้อง.. แววตาสีดำสนิท กำลังเห็นในสิ่งที่ใครคนอื่นไม่มีทางเห็น ....
.
.
.
ธนูดอกนั้น กำลังตามหา ษิตรา ....
ภาพร่างและวิญญาณของ สังกา .... ฝังสลักอยู่ในอักษรจาร บนดอกธนู !!!


'สังกา ....'


ชื่อนั้นมันผุดขึ้นมาเมื่อเห็นภาพธนูดอกนั้น ... ประโยคปรามปราบของเจ้าของธนูยังก้องอยู่ในสมอง



"...ธนูของ สังกา ....มีไว้เด็ดปีก ษิตรา ไม่ให้บิน...."
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 20 - 25/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: padang ที่ 25-07-2014 20:57:42
 :ling1:เรื่องกำลังเข้มข้น
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 20 - 25/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: ไป๋ไป๋ ที่ 25-07-2014 21:19:52
เลือกเชียร์ไม่ถูกเลยว่าจะให้ใครคู่ใคร

ษิตรา กับ พระพรต

ธัน กับ ษิตรา

หรือ สังกา กับ ษิตรา

วุ้ย!!!!เลือกยากจริง  งั้นเลือก 4p เลยแล้วกัน :laugh:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 20 - 25/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 25-07-2014 21:28:03
พระพรตเราออกมาแค่ครึ่งฉากเอง ประมาณ5วิได้  :z3:
อัพอีกนะคะ อัพอีกนะคะ
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 20 - 25/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-07-2014 21:32:13
สังกาจะกลับมาแล้ว? แอบเชียร์สังกานิดหน่อยอิอิ แต่ก็อยากให้พระพรตคู่กับษิตรานะ หุหุ
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 20 - 25/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: ppoi ที่ 25-07-2014 22:07:40
ได้โปรดมาต่อเถอะ

//กราบบบ  o1
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 20 - 25/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 25-07-2014 23:51:20
สังกาจะเอาตัวษิตา แล้วเสือเฒ่าจะขัดขวางได้หรือ
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 20 - 25/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 26-07-2014 01:15:54
หายไปตั้งนาน นึกว่าลืมไปแล้วซะอีก แต่นี่กลับมาตามหาเลยหรอสังกา
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 20 - 25/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: waza ที่ 26-07-2014 06:25:50
แล้วก็ไปเจอกับสังกาในผับใช่ป่ะ จำได้ ตอนแรกนึกว่าษิตราเป็นพระเอกแล้วพระพรตเป็นนายเอก แต่มองยังไงพระพรตฉันก็ตัวประกอบชัดๆเดี๋ยวมาเดี๋ยวหาย พระนางตัวจริงเขากำลังจะเจอกันแล้วใช่ป่ะไงก็แล้วแต่อ่ะมาต่อก็พอ รอเรื่องนี้อ่ะ สนุกมาก
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 21 - 26/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 26-07-2014 09:53:13
บทที่ ๒๑ ...ตกหลุม   


แค่สองอาทิตย์...ที่หัวข้อข่าวห่างหายจากหน้าหนังสือพิมพ์...
.
.
.
ธนูหินดอกใหญ่ก็วางโชว์หราในตู้กระจกนิรภัยของตระกูล เฟ่ย ยอดเงินไม่เกี่ยงจำนวนถูกใช้ไปเพื่อให้ได้ธนูมาครอบครอง... พ่อค้าของโบราณต่างรู้จักหน้าเฒ่าแก่ซ่ง คุณซ่ง สักสริวยุภักษ์ เจ้าของพิพิธภัณฑ์ ซ่งกว่าง ซื่อ แม้จะเป็นหนึ่งในเครือ Golden eyes แต่เวลาส่วนใหญ่ของ คุณซ่งกลับถูกใช้ไปเรื่องของสะสมมากกว่า นิสัยเจ้าของแหวนหงส์ เหมือนนิสัยตามนิยายปรัมปราที่เล่าเกี่ยวกับพวกนกไฟ... สัตว์นิสัยแปลกที่ชอบสะสม...ของต้องใจ....
.
.
....สะสมกระทั่งถ่านไฟ ที่คุแดง.....
.
.
.


...สัญญาณกันขโมยดังที่ ห้องหงส์ หนึ่งในห้องที่ถือว่ามีระบบความปลอดภัยดีที่สุด เพราะเป็นห้องที่เลือกเก็บแต่ของสำคัญ...

การ์ดวิ่งวุ่นระดม ชาร์จที่ห้องหงส์ ในขณะที่เจ้าของบ้านเดินตามไล่หลังพวกการ์ดมาติดๆด้วยอารามร้อนใจไม่ต่างกัน ห้องโถงกว้าง ปูพรมสีแดงสด ธนูหินคือสิ่งสำคัญที่เด่นโชว์อยู่กลางห้อง ...แผ่นหลังกว้าง คือสิ่งที่คุณซ่งเห็นได้ตั้งแต่หน้าประตู ธนูหินดอกใหญ่ อยู่ในมือร่างสูงสง่า กรงเล็บเหมือนสัตว์กินเนื้อกำกระชับธนูหิน...ก่อนจะค่อยๆหันหน้ามาเผชิญเจ้าของบ้านและการ์ดคุ้มกัน...
.
.
.




***


.
.
...
..”ชีต้า....จะนอนหลบอยู่แต่ในห้องนี้ไม่ได้นะ..”

...ปลอบก็แล้วขู่ก็แล้ว ทำแม้กระทั่งล็อกตัวแล้วลากเจ้าปีกกว้างออกจากห้อง แต่พอยังไม่ทันพ้นประตู เจ้าเสือก็สำออยสะบัดหลุดแล้วไปคุดตัวขดหลบบนเตียงนอนเหมือนเดิม หลินรู้ว่า ชีต้ากลัว แต่พอถามเจ้าตัวเจ้าตัวเองกลับไม่รู้ว่ากลัวอะไร แต่เอาเป็นว่ากลัวแล้วกัน กลัวจนไม่กล้าก้าวออกไปจากห้อง...
กลัวจนแววตาสีดำนั่น....สั่นไหวจนหลิน สงสาร...
.
วันนี้ดีขึ้นหน่อยที่ ชีต้าไม่ละเมออาละวาด เหมือนกับว่าไอ้อะไรที่ทำให้ชีต้ากลัว ชีต้ากลัวมันจนเริ่มจะรำคาญตัวเองเสียแล้ว ....
.
.
จากที่สงสารหลินเลยเริ่มหมั่นไส้เจ้าเสือแสบขึ้นมาตงิดๆ เพราะตอนนี้จากที่นอนสั่น ชีต้ามันเริ่มเป็นไม้เลื้อยโอบหลินให้นอนจมลงไปกับเตียงด้วยกัน เขี้ยวคมงับหยอกซอกคอหลินเล่นในขณะที่มือเริ่มไล้ลวง...

“สรุปว่า หายแล้วใช่ไหม? คุณจางจะได้ยกเลิกนัดหมอ...”

“นัดหมอทำไมอะหลิน…หมออะไร??”

“หมอจิตเวช ...สภาพนายก่อนหน้านี้อาการแบบโรคจิตชัดๆ ”

“....ป๋าก็ชอบทำให้เป็นเรื่องใหญ่...”

“เพราะใครล่ะ? เพราะคุณจางเขาห่วงนายมากไง ไหนจะคุณนายจางอีก...แม่นายเขากินไม่ได้นอนไม่หลับก็เรื่องนายนี่ล่ะ...ออกจากห้องเสียทีเถอะ ชีต้า...”

“...”

“ยังกลัวอยู่หรอ?....”

ไม่มีคำตอบนอกจากสันจมูกโด่งที่ซุกเข้ากับเนินอกอิ่ม ชีต้า หลับตาแล้วนึกถึงความรู้สึกที่สัมผัสได้ ... ความกลัวมันทรมาน ....แต่ในความกลัว ชีต้ายังโหยหา... เหมือนกำลังกล้าๆกลัวๆที่จะเข้าใจความรู้สึกตัวเอง ถ้าเสี้ยวหนึ่งกำลังกลัว อีกเสี้ยวหนึ่งก็อยากกระโจนเข้าใส่สิ่งนั้นเหมือนกัน มันเป็นความทรมานที่เหมือนกั้นไว้ด้วยด้ายบางๆ ชีต้า บอกหลินไม่ได้ว่า ที่อาละวาดและกรีดร้องนั่น ชีต้า ทรมานเพราะกลัวที่มันกำลังจะเข้ามา หรือทรมานเพราะคิดถึงและโหยหามันจนทนไม่ไหวกันแน่...

“แล้วก็อีกเรื่อง....ที่บ้านสกุลจาง เขาให้นายไปมหาลัย ...เขาให้ไปเข้าสังคม ไม่ใช่ให้ไปขลุกตัวอยู่ในห้องสมุด... พวกกระดาษกับทฤษฎี มันบอกความรู้สึกออกมาไม่ได้หรอก ชีต้า...ถ้าอยากเป็นมนุษย์ นายก็ต้องคบมนุษย์ ...มนุษย์ปกติที่เขาอยู่ในสังคม... สังคมของคนปกติไม่ใช่สังคมมาเฟียแบบบ้านจางหรือไนต์คลับของโรงแรม...”

“...ยากจัง หลิน”

“คบเพื่อนซะบ้างสิ...ไอ้เรื่องความรู้สึกก็ให้เพื่อนนั่นละสอน...ของแบบนี้มันต้องเจอจริงๆไม่ใช่เอาแต่อ่าน...เข้าใจป่ะ....ไอ้เสือ...”



***


.
.
.

…”รายเดิมเลยวะพรต....”

นายหน้าเจ้าเดิมยื่นซองเอกสารให้ พระพรตเอกสารปึกใหญ่ที่มีประวัติอาการรวมถึงสภาพในตอนนี้ ของเด็กหนุ่มที่ชื่อ จาง เสี่ยวหม่าน ...

“ทำไม?”

“...ไม่รู้ ...แต่ทางนั้นเลือกนาย ..มั่นใจได้เลยว่าคนละงานกับงานก่อน แถมทางนี้ยังไม่รู้ด้วยว่านายเคยรับงานก่อน... ‘หมอจิตเวช ฝีมือดี แต่ต้องไม่มีชื่อเสียง กินอยู่ฟรีมีเงินเดือนให้ หน้าที่หลักที่นายต้องทำก็คือ ปิดปากเงียบและบำบัดอาการ ไอ้ลูกเสือตัวนี้ ... ทดลองงาน 3 อาทิตย์ ...‘ สนใจไหมล่ะ? เงินดี แต่ที่น่าหนักใจ คือสัญญาที่ต้องเซ็น...”

“สัญญา??”

“ห้ามทำประวัติการรักษาหรือการทดสอบใดๆของไอ้ลูกเสือรั่วไหล...”

“ความลับหรือ??”

“ลับสุดยอดเลยล่ะพรต...สนใจไหม?”

“...เริ่มงานเมื่อไหร่?”

“เร็วที่สุด”

.
.
.



***


.
.
ถึงจะบอกว่าไม่ให้ขลุกตัวอยู่ในหอสมุด แต่สุดท้ายไอ้เสือก็ไม่ได้ย้ายก้นตัวเองไปไหน ...’เพื่อน’.... คำๆเดียวแต่หายากโคตร ....

ก็ใครใช้ให้ตอนนี้ชีต้าเป็นแค่หนุ่มแว่นโรคจิตละ?? 
แค่แว่นหนาๆหน้าตาเฉิ่มๆก็ดูแย่โคตรๆแล้ว ไหนยังจะข่าวที่ ชีต้าอยู่ๆก็ร้องลั่นแล้วลงไปนอนดิ้นกลางห้องสมุดอีก ชีวิตนักศึกษาของไอ้เสือเลยแทบจะหยุดอยู่แค่นั้น ปกติ เพื่อนก็ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้วมาตอนนี้สถานการณ์เลยยิ่งย่ำแย่ ... แล้วจะหาจากไหน ไอ้เพื่อนเนี้ย ...?? หรือต้องให้ป๋าจางทำเรื่องย้ายมหาลัยดี?? คิดไม่ตก...
หัวสมองมันวิ่งวุ่นเลยไม่ทันระวังตัว กำลังนั่งกัดเล็บไปอ่านหนังสือไป จู่ๆเงาดำๆก็บังแสงไฟไว้หมด ...
เงยหน้ามอง....ถึงได้รู้ว่า ไอ้คนชื่อธัน มันกร่างเท้าแขนยืนคร่อมอยู่เหนือหัว ... ธันตัวใหญ่พอๆกับชีต้า หน้าตาก็พอๆกันถ้าไม่ติดว่า ชีต้ามีไอเทมเป็นผมรังนกกับแว่นสายตาหนาเตอะ ไม่สิ ชีต้าว่าชีต้าหน้าตาดีกว่าธันตั้งเยอะ ... ยิ่งคิดเทียบแล้วยิ่งเครียด พอยิ่งเครียด อาการกัดเล็บมันเลยยิ่งหยุดไม่ได้ ....

“ไงแว่น...หายแล้วหรอ?”

“ชีต้า....”

หน้างอขึ้นมาในบัดดล ..กัดเล็บไปอู้อี้บอกชื่อตัวเองไป เมื่อไหร่ไอ้ธันมันจะเรียก ชีต้าว่าชีต้าสักที ?? แล้วก็เป็นธันที่ก้มลงมานั่งชิดกับชีต้า ...

“คุณจางบอกว่านายเห็นภาพหลอน ....”

“ป๋าบอกอย่างนั้นหรือ?”

“...มันน่ากลัวมากเลยหรือ ไอ้ที่นายเห็น??”

“น่าสนุกมั้ง ชีต้าร้องเพราะมันน่าบันเทิงใจสุดๆ ”

“ช่างประชดว่ะนายอะ ... เราถามจริงจัง ซีเรียสนะเนี้ย”

“...ห่วงจริงๆหรือแค่หยอกเล่น??”

“...ทำไมคิดงั้น? คนเขาเสียกำลังใจหมด อุตส่าห์ห่วง...”

...น้ำเสียงตัดพ้อ กับสีหน้าแววตาละห้อย ทำเอาชีต้า นั่งเงียบ... หยุดกัดเล็บแล้วมองหน้าธัน ตรงๆ มือเย็นๆของชีต้าประคองหน้าธันขึ้นมาแล้วพิจารณา ...คนตรงหน้า ทำไมถึงแสดงสีหน้าได้หลากหลายนัก หลากหลายทั้งสีหน้าและอารมณ์ ... พวกมนุษย์ปกติเขาเป็นอย่างธันกันสินะ?

“เป็น เพื่อน กันได้ไหม? ”

เสือแสบพูดในขณะที่โน้มหน้าเข้าไปใกล้ ลมหายใจอุ่น ...อีกครั้งที่ ธัน เปลี่ยนสีหน้า ดวงตาละห้อยฉายแววน้อยใจอย่างเสแสร้งแค่พริบตาเดียวมันเปลี่ยนเป็นวาวโรจน์ และสุกใส..ธันไม่ได้รับปากอะไร แต่เสียงหัวใจกลับเต้นแรง หน้าที่ร้อนฉ่า พาเอา ชีต้างงกับอารมณ์ของมนุษย์

“เป็น เพื่อน กันนะ ธัน...? ”

อ้อนเหมือนตอนอ้อนสาวๆในคลับ ....
พอ ธัน พยักหน้า ชีต้าก็ยิ้มกว้าง การขอบคุณเป็นไปในแบบฉบับ แบบเดียวกับการขอบคุณสาวๆในคลับเป๊ะๆ ….
.
.
.

....จูบขอบคุณแบบดื่มด่ำ

.
.
.

...เล่นเอานายตู้เพื่อนซี้ นายธัน ที่คอยแอบถ่ายคนทั้งสองด้วยกล้องซูมถึงกับกำกล้องแน่น และดูเหมือนจะยิ่งลุ้น เมื่อไอ้เสือน้อยรุกจูบจนนายธัน ถึงกับเคลิ้มตาม....

‘ซวยแล้วไอ้ธันเพื่อนกู...หลุมที่อุตส่าห์ขุดดักไอ้แว่นไว้ ท่าไอ้ธันจะเมาจูบแล้วเสือกตกลงไปเองซะแล้วมั้งอีแบบนี้...’

อ่านะ....ซอกชั้นหนังสือหมวดปรัชญา ปกติก็ไม่ค่อยมีคนอยู่แล้ว ...คงไม่ต้องห่วงอะไรมั้ง ..โชคดีเพื่อนธัน กูหวังว่ามึงคงจะได้สติตะกายหลุมออกมาได้เองนะ ...


ระหว่างเงิน 5,000  กับการตักเตือนในฐานะเพื่อน ....กูเลือกเงินวะ ...โชคดีไอ้ธัน ....



.
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 21 - 26/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 26-07-2014 10:10:42
 :laugh: :laugh: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 21 - 26/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: padang ที่ 26-07-2014 12:17:09
 :katai5: :confuse:เอาละเหวย ใครตกหลุมก็ต้องตะกายขึ้นเอาเอง
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 21 - 26/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 26-07-2014 12:41:51
พันกันจัง ไรท์เตอร์แก้ปมที
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 21 - 26/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 26-07-2014 15:17:30
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 21 - 26/7/57]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 26-07-2014 16:34:56
แอบเชียร์ชีต้าร์กับสังกา เพราะเรามันสาย SM ฮ่า ฮ่า ฮ่า
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 22 - 26/7/57-22:00 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 26-07-2014 21:53:33
บทที่ ๒๒ ...สังกา??!!!   





วันลอยกระทง วันอะไรก็ไม่รู้ สำคัญอะไรยังไงก็ไม่รู้ เพราะในระบบจักรวาลที่ ชีต้า มีตัวเองเป็นศูนย์กลาง ชีต้า รู้แค่ว่าวันนี้เป็นวันดีอีกวันหนึ่ง ของ ชีต้า...
.
.
.
วันที่มีสายฝนพรำ และแสงสว่างของจันทร์เต็มดวง...
.
.
.

วันนี้ที่ไนต์คลับมีกิจกรรมหลายอย่าง ทั้งงานประมูลทั้งอะไรต่อมิอะไร ที่เอามาดึงแขกกระเป๋าหนัก ดูตารางงานแล้วชีต้าได้แต่ภาวนาให้ทุกอย่างมันจบเร็วๆ วันพิเศษที่มีสายฝนและแสงจันทร์ วันสำคัญอย่างนี้ ชีต้าต้องการแค่การนอนนิ่งๆอาบแสงจันทร์และสายฝน เท่านั้นละ...
...แต่ก็นั่นอะนะ หน้าที่ของเจ้าของแหวนเสือ... ถึงอยากจะนอนกลิ้งบนที่นอนนุ่มแค่ไหน สุดท้าย ชีต้าก็โดนทั้ง [F] ทั้งหลินลากมาที่คลับจนได้ เวลาบนรถคันหรูหมดไปกับการศึกษาประวัติวันลอยกระทงและเอกสารสรุปรายงานการประชุมของวันนี้ เมื่อธีมของงานคือ 'จำนน' เล่นเอาชีต้าถึงกับส่ายหัวตอน [F] ส่งกุญแจมือให้ [???!!] พร้อมป้ายหมายเลข 6239

...ก้าวเท้าเข้าคลับมาได้สาวๆในสังกัดก็เข้ามารุมล้อม ชุดหนังตาข่ายและชุดเว้าเร้าใจ รวมไปถึงชุดเมดละลานตาคละไปกับชุดนักโทษและผู้คุม ของสาวๆทำเอาชีต้ามือไม้อยู่ไม่สุข ไม่ได้ตั้งใจ แต่มือเจ้ากรรมไปเอง โอบเอวบ้าง หอมแก้มบ้าง กลิ่นเนื้อหอมๆของสาวๆชีต้าชอบสุดๆ เงยหน้ามองจันทร์กับสายฝนพรำๆด้านนอก ...แค่นี้ก็โอเคแล้วมั้งกับการที่ต้องทนรอเวลาให้งานเลิก...
.
.
.

ยึดโซฟาตัวใหญ่ของป๋าจางมานั่งคุมงานไป หมุนกุญแจมือเล่นไป ดูนาฬิกาข้อมือที่หลินบังคับให้ใส่เหลืออีกห้านาทีถึงจะเข้างานประมูล หลินโทรมาบอกแล้วเรื่อง เจ้าของแหวนหงส์ ที่ชีต้าต้องต้อนรับ....

เข้ามาใน Golden eyes ตั้งนานแต่ชีต้ากลับไม่เคยเห็นเจ้าของแหวนหงส์ เคยถามป๋าอยู่บ้าง เรื่องแหวนสี่วงที่ถือเป็นบอสใหญ่ใน Golden eyes แหวนมังกร อยู่ที่หลิน แหวนเสือ เป็นของตระกูลจาง ที่ตอนนี้มันสงบนิ่งบนนิ้วของชีต้า คุณชินเจ้าของโรงแรมเครือ Golden eyes ที่เป็นปู่นายธัน มีแหวนเต่า ส่วนแหวนหงส์ ชีต้าไม่เคยเห็น...แต่ถึงเห็นแล้วก็แค่นั้นใน Golden eyes มันคงไม่มีอะไรจะทำให้ชีต้าลำบากใจเท่า[F]กับหลินอีกแล้ว...
.
.
.
มั้ง??!!
.
.
.

สิ่งที่เคยเชื่อ....
.
.
.
น่าจะไม่จริง ....
.
.
.

...จากชั้นบนของคลับ ชีต้ามองตามร่างสูงระหงในชุดเมดสีฟ้าสด ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายที่มองจิกมาแต่ละทีแทบทำให้ ชีต้า เผลอเดินตามเสือน้อยมองตามร่างโปร่งตาละห้อย เช็คระบุเงินจำนวน ห้าแสนบาทถูกเขียนขึ้นมาอย่างตั้งใจแล้วส่งให้กับดีเจ ประจำคลับ ประกาศเรียกเจ้าของใบหน้าที่ทำให้ชีต้าลุกออกมาจากโซฟาได้อย่างไม่ยากเย็น ห้าแสนแลกกับสาวดริ้งค์เพียงคนเดียว ....ที่ชีต้าแทบไม่เสียดายป้ายหมายเลข 926 ที่ชีต้าประมูลได้ ชื่อ ทีแลนด์เซีย สาวรัสเซียหุ่นสะบึ้มส์ ที่มีดวงตาฆ่าคนได้....
.
.
...ของเล่นใหม่ที่ชีต้า จะเก็บเอาไว้ฆ่า หลิน โดยเฉพาะ ....
.
.
.
ไม่รู้ว่าเพราะเริ่มจะสนุกกับงาน หรือเป็นเพราะคนที่นั่งข้างๆเป็นทีแลนด์เซีย  ชีต้าถึงได้ดื่มเอาดื่มเอาอย่างไม่สนใจอะไร จน [F] เริ่มจะหัวเสียและสะกิดเตือนที่เสือน้อยโอบเอวกิ่วแล้วไล้หอมซอกคอระหงของของประมูล กลิ่นบางอย่างบนตัวทีแลนด์เซีย กำลังจะทำให้ชีต้า บ้า....
.
.
...ค่ำคืนที่เหนือความคาดหมายไม่ได้จบแค่นั้น เมื่อดีเจประกาศ ตัวเลข ..สองล้านห้าแสน....  ชีต้า เงยหน้ามองเช็คที่ใส่มาในแก้วเหล้าว่างเปล่าพร้อมด้วยกุญแจห้อง ขืนยิ้มให้กับ ตลกร้าย .... วันพิเศษที่หวังเพียงนอนอาบแสงจันทร์ แทบจะมลายไปกับการประมูล เสียงเพลงเงียบกริบเมื่อดีเจประกาศตัวเลข บนเช็คที่ถูกส่งให้ ชีต้า.....ใครบางคนประมูล หมายเลข 6239 ด้วยวงเงิน สองล้านห้าแสนบาท...

เจ้าของเช็คเก็บปากกาสีทองแนบกระเป๋าเสื้อ แล้วเหยียดยิ้ม... 
...แหวนรูปหงส์ถูกหมุนเล่นกับข้อนิ้ว ...ดวงตาคมเข้มจ้องมองชีต้ามาจากอีกฟากของคลับอย่างไม่ละสายตา ....

.
.
.

เสือแสบแทบจะแยกเขี้ยวอาละวาด เมื่อมีการ์ดร่างใหญ่ไม่คุ้นหน้าเดินตรงมา ‘เชิญ’ ให้ไปนั่งข้างใครบางคนที่เป็นเจ้าของเงินประมูล .....
 


***




.
.
.
.


ตอนแรกชีต้าเพียงแค่คิดว่ายอมๆไปให้ทุกอย่างมันจบ ...
ยังไงเสียคงไม่เสียหายอะไร ดีไม่ดีการถูกประมูลน่าจะดีกว่าต้องทนอยู่ในไนต์คลับ จนกว่าคลับจะปิด แต่พอมาอยู่ต่อหน้าเจ้าของแหวนหงส์ กลับไม่ใช่ ....
โครงหน้าคมเข้มเหมือนรูปปั้นที่หล่อมาจากสัมฤทธิ์ ...ผิวเนื้อสีทองแดง มือใหญ่กร้านที่กระชากให้ ชีต้า ลงไปนั่งเคียงได้อย่างถือวิสาสะ ...
.
.
.

เพียงแค่ปลายนิ้วเรียวแกร่งนั้นจับข้อแขน ชีต้าก็แทบทรุดลงกับพื้น... ไม่คิดว่า เจ้าของแหวนหงส์จะมีอำนาจขนาดนี้ .... กลิ่นของความกลัวเหมือนวนอยู่รอบตัว ชีต้ากลัวแววตาสีดำที่เหมือนจะดูดทุกความรู้สึก ...  ตลอดเวลาที่นั่งข้าง ..ไม่มีคำพูดสักคำที่เอ่ยออกมาจากเจ้าของแหวนหงส์ หรือชีต้า...เวลาเหมือนถูกหยุดไว้แค่นั้นเพียงแค่ถูกคนๆนั้นกุมมือไว้เบาๆ.... มันก็เหมือนกับถูกขังในกรงใหญ่ ที่ไม่มีทางหนี .....
.
.
.


....ชื่อของ ‘สังกา’ ผุดขึ้นมาในเสี้ยวหนึ่งของสมอง......


แม้ชีต้าจะจำไม่ได้ก็ตามว่า.... ‘สังกา’ คือใคร???   
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 22 - 26/7/57-21:55 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: padang ที่ 26-07-2014 22:14:25
 :ruready :m29: :m29:สังกาสิงเจ้าของแหวนหงส์หรอกหรือ
แล้วชีตาจะทำยังไง
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 22 - 26/7/57-21:55 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: ppoi ที่ 26-07-2014 22:24:58
ตลอดๆ มาหลอกให้อยาก (ด้วยตอนสั้นๆ) แล้วจากไป  :z3: :z3: :z3:

อย่าฆ่ากันอย่างนี้เลย  :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 22 - 26/7/57-21:55 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 27-07-2014 02:00:31
สนุกค่ะ
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 22 - 26/7/57-21:55 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 27-07-2014 08:08:53
ลุ้นสังกามากๆเลยๆ
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 22 - 26/7/57-21:55 น.]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 27-07-2014 22:46:25
แหนะ สังกามาตามษิตราหรอ เบาๆนะสงสารษิตรา
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 28-07-2014 19:12:19
บทที่ ๒๓ ...ขัดขืน??!!!   


...
เท้าเปลือยเปล่า ...กระโดดขึ้นกำแพงก่อนจะทิ้งตัวลงสัมผัสปลายยอดหญ้าที่อยู่อีกฟากของกำแพงสูง ...ฝืนแรงลุกขึ้นยืนแล้วเหยียบย่ำ...ชีต้า ลากร่างที่แทบจะไม่เป็นร่างของตัวเอง...เดินตรงเข้าอาณาเขตเสือ ...ร่างกายสูงโปร่งมีแต่ร่องรอยของการจับจอง และรอยกัดของคมฟัน รอยเขียวคล้ำที่ลำคอ ที่ข้อแขน เป็นรูปนิ้วมือที่กดบีบ ปีกกว้างที่กลางแผ่นหลัง ....ถูกเจ้าของแหวนหงส์เด็ดกระชาก เหมือนเด็ดปีกผีเสื้อ.
.
.
..เลือดดำเกรอะกรัง ไปทั่วแผ่นอกและท่อนแขน ...บางสิ่งที่ชีต้าหวาดกลัว ถูกแทงเก็บไว้ในแขนข้างซ้าย ชีต้าเลือกที่จะเก็บมันไว้อย่างนั้นเพื่อกันตัวเองไม่ไว้ให้ เผลอปล่อยมันทิ้ง ด้วยความหวาดกลัว ...
สบถให้กับความเจ็บปวดที่เริ่มจะชินชา ...
.
.
.
ปลายหัวธนูโผล่พ้น ข้อมือ ที่โดนมันเสียบแน่น ...
ปล่อยให้เลือดข้นคลั่กสีดำ หยดไหลลากเป็นแนว ตามตลอดทางเดิน ...
.
.
.

ภาพหลิน ที่วิ่งเข้ามา ใกล้ ชีต้า เหยียดยิ้มสมเพชให้กับ ดอกธนู ..
กระชากมันออกจากท่อนแขน แล้วทิ้งมันลงกับพื้น ก่อนจะก้าวขาเหยียบย่ำคำว่า 'อิสรภาพ' !!
ผ่านก้านดอกของธนูใหญ่ ...
.

"...ธนูเหี้ยๆ ดอกนี้อะ...ฝังมันลงดินไปเลยหลิน"

ชีต้า เหยียดยิ้มให้มันแล้ว สั่งสมองที่ว่างเปล่าให้พูดประโยคที่คิดไว้เกือบสองเดือนนั้นออกมา ...
ขอแค่ในที่นี้ไม่มีธนู ...เศษส่วน แม้เสี้ยวเล็กๆของ สังกา ก็จะไม่มีวันโผล่ออกมาให้หวาดกลัว
.
.

เงินสองแสนห้า.....

แลกมาด้วยความทรมานเกือบสองเดือน ....

ถูกกกกอด...ไม่ให้หนีหาย ถูกทำเหมือนว่า ร่างกาย เป็นโอเอซิส ที่ถูกตักตวงจากคนรอนแรมในทะเลทรายมานับปี หนทางรอดถูกวางกับดักไว้ทุกทาง ...การต้องทนทรมานอยู่ใต้แผงอกกำยำของ เจ้าของธนู โดยไร้การต่อต้าน ชีต้า แทบจะเรียกมันว่า 'นรก' ทรมาน ให้เจียนตาย... แต่ไม่ยอมปล่อยให้ตาย...
.
.

....ถูกจาบจ้วง ถูกร่วมรัก แบบแทบจะกลืนกินต่อหน้า ธนูดอกใหญ่ ...
.
.
.
ไม่มีคำว่าปรานี นอกจากการกักขังด้วยร่างกาย ...แล้วชีต้า ก็เริ่มจะเรียนรู้ ....
มันไม่ใช่เจ้าของแหวนหงส์หรือมนุษย์หน้าคมเข้มที่โถมทับอยู่บนตัว ...ที่ส่งความรู้สึกกระสันอยากมาให้ ความรู้สึกมันพลุ่งพล่านมาจาก ธนูดอกนั้นต่างหาก...
.
.
...เพราะความกลัวมันปิดบัง ทุกสิ่ง ....พอสงบ ชีต้าถึงเพิ่งคิดได้ ร่างกายที่กักชีต้าไว้ในวงแขนแกร่ง มันก็แค่ร่างกาย ที่ถูกส่งผ่านความรู้สึก...
.
.
หนทางหนีถูกร่างไว้ในสมอง ...ถึงจะแข็งแกร่ง ...แต่ก็นั่น ..จะเอาอะไรกับร่างกายมนุษย์ ที่หนีออกมาได้เพราะ ชีต้า กล้าเผชิญกับความกลัว ...
เพราะกลัวจนสติหลุดหรอกถึงได้กล้ากะซวกกรงเล็บ เข้าลำคอหนานั้น ...
แล้วกระชากดึง....
.
.
เลือดคาวสีชาด แดงฉาน...เปราะบางเกินกว่าที่คิด...
ยังไง ถึงจะรู้สึกได้ว่านั่นคือ สังกา หากแต่ ร่างกายก็ยังเป็น มนุษย์!!
.
.
.
...แล้ว....

...กรงเนื้อ....ก็พังทลาย ...
.
.
.

ร่างกายสูงใหญ่ กลายเป็นแค่เศษซากของเถ้าธุลี ...แววตาเข้มแข็งกร้าวแสดงอำนาจ กลายเป็นแค่ แววตาของมนุษย์ แล้วดับสลาย ....ชีต้า ยิ้มเหยียดให้กับจุดอ่อนของ อะไรบางอย่างที่สมองสั่งให้เรียกมันว่า 'สังกา' ชีต้ารู้ดีว่ามันคือ 'สังกา' แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของสังกา ...มัน...
.
.
.

เป็นแค่เศษส่วน หนึ่ง จากทั้งหมด...ที่ถูกส่ง ผ่าน ตัวกลาง อย่าง ธนู
.
.
.

และเมื่อหมดส่วนนี้ไป ชีต้ารู้ได้เลยว่า ไอ้สังกาอะไรนั้น คงอีกนานกว่าจะได้เจอกัน ....อีกครั้ง ..เมื่อทั้งหมดของ สังกา ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้ ...ที่ไหนสักที่...แต่คงไม่ใช่ แผ่นดินที่ยืนเหยียบอยู่นี่แน่!!
   

***

...
สูดหายใจยาว ให้กับอิสรภาพ ...ชีต้า ...กลับมาในสภาพยับเยิน ...ป๋าจาง ปิดเงียบเรื่องชีต้า ปกปิดเรื่องนี้กับคุณนายจาง ที่เข้าใจว่า ชีต้า เข้าค่าย หรือสัมมนาอะไรสักอย่างกับที่มหาลัย ..
.
.
เธอไม่ได้รู้เลยว่า ลูกชาย เก็บตัวเงียบแต่ในห้อง ...
หลบหน้าหลบตาคุณจาง หลบหน้าแม้แต่หลิน...
....ชีต้า ไม่อยากตอบคำถาม หลิน ไม่อยากให้ใครรู้ทั้งนั้นว่าชีต้า 'กลัว' ...แค่ไหน ...
.
.
.

ที่ทำได้มีแค่ขังตัวเองอยู่ในห้องแล้ว กรีดร้อง....
ร้องเข้าไปให้ไอ้ความกลัวที่ยังฝังอยู่ในสันดาน มันค่อยๆลดน้อยลงไปบ้าง ...แค่สักนิดก็ยังดี ...
.
.
.

****

.
.
.

"ตามหมอจิตเวชที่เคยคุยไว้มา...ดูไว้อย่าให้คลาดสายตา...ถ้ารักษาคุณชีต้าไม่ได้.......ก็ฆ่าทิ้ง..."

หลินเอ่ยเสียงเรียบก่อนปิดแฟ้มประวัติ...ที่มีรูปของพระพรตติดอยู่หน้าแฟ้ม...คนที่ถูกเรียกตัว ถูกพาเข้าบ้านเสือมาในวันนั้น ...
วันเดียวกับที่ชีต้า เริ่มตั้งสติได้แล้วพาตัวเองในสภาพของเด็กหนุ่มแว่นหนา เข้าไปอยู่ที่ห้องสมุดของมหาลัยอีกครั้ง ....
.
.
.


***

.
.
.

"ไง...แว่น...ไม่เจอกันนานเลยนะ..."

ชีต้าเงยหน้ามาก็เจอ ธันซะแล้ว ...
แววตาขี้เล่น แต่ฉายแววห่วงใย กับมือใหญ่ๆที่ลูบหัวแล้วขยี้เล่น ...
.
.
.
ชีต้าวางหนังสือเล่มใหญ่ในมือลง แล้วดึงธันลงมากอดไว้แน่น ...
ซุกกดจมูกตัวเองแน่นลงบนแผ่นอกธัน....
.
.

ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาร้องไห้ โดยเก็บทุกเสียงไว้ แค่ที่แผ่นอกนั่น....
ไม่รู้เหตุผลที่ร้อง ชีต้า ไม่รู้เหี้ยอะไรสักอย่าง รู้แค่ว่า ตอนนี้อยากมีใครอยู่ข้างๆ

..ปล่อยธันได้แต่เก้ๆกังๆ แต่ก็ยังลูบหัวปลอบไอ้เสือ โดยไม่รู้เหตุผล ....



***



....แล้วจะทำอะไรได้ นอกจากให้เสือขี้แง ใช้เสื้อนิสิตของธัน เช็ดน้ำมูกน้ำตา ....แล้วนั่งกอดกันกลม...กอดโดยไม่ขยับไปไหน อยู่ในมุมมืดของโซน ปรัญชา และศาสนา พิธี.....

.
.
.


"..แว่น..."

"...."

"...จะเกรียนจะกวนใส่ กู...กูไม่ว่า....แต่มึงอย่ามาร้องโดยไม่มีเหตุผลใส่กูอย่างนี้ดิ..."

"...."

.
.
.







"...กูว่า...กูหวั่นไหว.."


.
.
.

เข้าใกล้คำว่า มนุษย์ไปอีกหนึ่งสเต็ปแล้วนะ ไอ้เสือ.....สู้ๆ

หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ppoi ที่ 28-07-2014 19:25:01
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ขออีกตอนๆๆๆๆ ใกล้แล้ววววววววววววววว

//กรีดร้องอย่างคลุ้มคลั่ง
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: paojijank ที่ 28-07-2014 19:50:09
ใกล้แล้ว จำได้ว่าตอนนั้นค้างไว้ถึงตรงนี้ พระพรตจะได้เจอชีต้าแล้ว
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ไป๋ไป๋ ที่ 28-07-2014 19:51:19
เซ็งว่ะ อีโธ่....สังกา อ่อนว่ะ

แค่นี้ถึงกับต้องใช้ร่างทรง เช๊อะ!!!!

ถ้าสังกามาเอง ป่านนี้พวกเราไปฟินแลนด์แล้ว อ่าโด่ :hao6:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 28-07-2014 20:55:02
เสือน้อย จะกลายเป็นคนเหรอ เริ่มมีความรู้สึกแบบมนุษย์เนี่ยย ม่ายยน้าาา ชอบษิตรา มากกว่า ชีต้า แล้วอ่า 
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 28-07-2014 22:32:36
อิอิ  ษิตราหนีสังกามาซบพระพรตอ๊ายยยยย
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: padang ที่ 29-07-2014 00:07:34
 :bye2:ร่างอวตารล่องสู่นรกของจริงแล้ว
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: iammoonoi ที่ 29-07-2014 02:07:39
 :call: :call: :call: :call:

ง่ะ...ตามต่อเร็วๆ มามะ
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 29-07-2014 08:27:02
สังกาไม่มา  เชียร์ธันแทนก้อด้ายยยยย
รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Buppha ที่ 29-07-2014 09:04:13
 :ling1: จะเอาษิตรากับพระพรต จะเอา :ling1:ษิตรากับพระพรต  ไม่เอาลังกาไม่เอาธันนะ ไม่เอาๆๆ  :ling3: เป็น  :bye2:กำลังใจให้คนเขียนน๊าาาาา
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Kaewkaew ที่ 29-07-2014 10:10:21
ตกลววาาพระพรตเป็นพระรองใช่ไหมเนี่ย?!!!!
แอบเชียนายธันเบาๆ แต่จุดนี้ใครก็สู้สังกาไม่ได้
เลือดเอสเอมมันแรง  :hao6:
รอลุ้นตอนไป  :impress2:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 30-07-2014 07:41:18
 :z3: อยากอ่านต่อออออออ
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 04-08-2014 12:47:26
ณ จุดๆนี้คือเชียร์สังกาค่ะ อยากให้หนูชีต้าโดนรักบ้าง
ให้แบบรักเยอะๆ รักมากๆแบบสังกาเลยค่ะ 555555
แอบเซ็งพระพรต เอาธันเป็นพระเอกแทนเลย ให้เป็นธันชีต้า
อยากอ่านต่อๆๆๆ มาต่อไวๆน้า
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: asmar ที่ 11-08-2014 02:20:05
เชียร์ธันแบบออกนอกหน้าเลยขอบอก
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ส่วนพระพรตเนี่ยอยากจะจับโยนไปให้สังกาปู้ยี่ปู้ยำเป็นตัวแทนษิตราเพื่อความสะใจ
 o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: yaoisamasang ที่ 11-08-2014 08:31:17
 :ling1:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nonbungsanovii ที่ 17-08-2014 14:09:18
 :ling1: :ling3:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: วิบวับ ที่ 05-09-2014 23:07:10
สวัสดีค่ะ พี่ Zitraphat หนูตามมาเฝ้าษิตราของหนูแล้วนะ :กอด1:
ให้ทายว่าหนูคือใคร
ใบ้ให้นิดนึง หนูขอษิตราทุกครั้งในเพจ
ถายถูกให้อมยิ้ม 2 อัน
เม้นท์แรกของการสมัครสมาชิกเลยเห็นมั้ย คึคึ :mew3:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 23 - 28/7/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 09-09-2014 03:37:26
อยากอ่านต่อแล้วง่ะ ; - ;
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 24 - 29/9/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 29-09-2014 23:12:32
บทที่ ๒๔ ...สัตว์เลี้ยง   

...
"คนอย่างนายมันไม่คู่ควรกับพี่ธัน!"

แรงของฝ่ามือมันฟาดลงมาบนหน้า ...ไม่ได้เจ็บจนชา แต่ที่เหมือนสต๊าฟชีต้าให้ยืนนิ่งได้คงเป็นเพราะแรงนั้นมันมาจากเด็กที่เหมือนผู้หญิง ตรงหน้า..
.
.
.

"แมวขโมย ..."

อีกครั้งที่คำพูดของเด็กคนนั้นมันสวนทางกับหยาดน้ำตา แต่เพียงแค่ชีต้าเดินเข้าไปใกล้ การ์ดร่างใหญ่สองคนก็ตามประชิดและล็อกข้อแขนไว้อย่างไม่ทันให้ตั้งตัว

"..ยิงทิ้ง หรือ ทรมานเล่นให้หายเครียดดี? พวกแมลงหวี่แมลงวันที่บังอาจกล้ามายุ่มย่ามกับพี่ธัน"

ในตอนนั้นชีต้าไม่ได้สนใจอะไรมากไปกว่าหยาดน้ำตา ที่มันไหลลงมาบนเนินอกขาวๆ ..
ไม่ดิ้นรนไม่ขัดขืน ไม่ฝืนสักนิดในตอนที่ถูกจับยัดใส่รถคันใหญ่ ที่แล่นควบออกจากมหาลัยแทบจะในทันที


***

..
"..เป็นเรื่องแล้วไอ้ธัน..."

นายตู้ตากล้องจำเป็นยังคงรัวชั๊ตเตอร์ถ่ายภาพรถคันนั้นไปจนสุดถนน ก่อนจะล้วงโทรศัพท์รุ่นล่าสุดขึ้นมากดหาเบอร์เพื่อนสนิท ..


***


...
แว่นหนาถูกปัดจนตกแตก ..
ผมทรงรังนกที่โดนน้ำทั้งถังเทสาด พอสะบัดๆ มันก็เปียกลู่แนบไปกับใบหน้า ...แม่คุณหนูเอาแต่ใจจ้องมองชีต้า แล้วนิ่งไป มันไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากมายกับการที่โดนเชือกคมๆ มัดมือไขว้หลังแล้วโยงมามัดล็อกไว้กับเก้าอี้ที่นั่งอยู่ แถมยังคลายร้อนได้ดีเพราะมีน้ำใส่น้ำแข็งเย็นๆ เทราดแบบที่ชีต้าเองเคยคิดจะทำแต่โดนหลินห้ามไว้เพราะกลัวบ้านเลอะ

ยัยเด็กที่กรี๊ดๆ อยู่นี้มีลักษณะคล้ายๆ หลิน  แต่ชีต้าเองก็คิดภาพหลินร้องกรี๊ดๆ อย่างนี้ไม่ออกเหมือนกัน จ้องหน้าเด็กนี่แล้วพานให้สงสัย ...'เรื่องอะไร?' เรื่องอะไรที่จู่ๆ ชีต้าต้องโดนลากมาเที่ยวเล่นในโกดังเก็บของเก่าแบบนี้ ??!!

"..ถึงมามองกันแบบนี้.. มินนี่....มินนี่... ก็..ก็..ไม่ได้ยกโทษให้หรอกนะ ...พวกหนอน ..ยังไงก็เป็นหนอน..หนอน..มันน่ารังเกียจ ถึงต่อให้บินได้หรือกลายเป็นผีเสื้อก็เถอะ..น่ารังเกียจ..น่ารังเกียจ.. "

ปล่อยตัวนั่งตามสบาย ชีต้ามองเด็กสาวที่พูดจาพึมพำอยู่คนเดียว พวกการ์ดหายไปหมดแล้ว ในห้องโกดังโล่งๆ นี้เลยยิ่งโล่ง ..  กลิ่นสาบ กลิ่นแดด กลิ่นฝน ..เหมือนมันอัดกระจุกตัวรวมกันอยู่ในห้องแคบๆ ..

"..จะเอายังไงกับพวกหนอนผีเสื้อแบบนายดี? กรีดปีกเด็ดแขนเด็ดขาทิ้งดีกว่ามั้ง ...เสร็จแล้วก็สต๊าฟส่งไปให้พี่ธัน...พวกไม่มีค่า...ตายไปก็ไม่มีค่า... "
.
.
.

...คำพูดพวกนั้น ..มันพึมพำออกมาจากริมฝีปากเด็กสาว พรึมพรำพร้อมๆ กับ แรงกดของมีดที่ปักตรึงแทบจะตัดขั้วหัวใจ..
.
.
.

"ตายไปเถอะ...ไอ้พวกไม่มีค่า..นายมัน..พวกไม่มีค่า..."
.
.
.


***


...
"เชี่ยเอ้ย!! ธัน !! เจอหรือเปล่า??!!"

ตู้ตะโกนถามเพื่อนคู่หูที่จู่ๆ ก็ผลุบหายไปในโกดังร้าง ..
เรียกอยู่สักพักถึงได้ตัดสินใจ เปิดประตูตามเข้าไป กลิ่นคาวเลือดที่ลอยกระแทกเข้ามา มันทำเอาตู้เบือนหน้าหนี ...

"...เหี้ย! อย่าบอกกูนะว่าไม่ทัน ??!!"

..ร่างการ์ดสองคนที่ประจำตัว เด็กโรคจิตอย่างมินนี่ ล้มฟุบคาอยู่กับกองเลือด เลือดข้นที่ไหลหนืดแทบจะคล้ำจนเป็นสีดำ .. มันเจิ่งนองแล้ว รวมตัวกัน ...คล้ายก้อนเยลลี่ ..แถมยังกระเพื่อมไหล เหมือนมีชีวิต...

"..ธัน ..มันยังไม่ตาย ..แล้วนี่..ก็ไม่ใช่เลือดพวกมันด้วย..."

.
.
.









...กลิ่นของธันลอยมาแตะจมูก..
ชีต้าได้แต่สูดหายใจ แล้วพ่นลมหายใจยาว ...
แล้วก็เพียงแค่นั้น ชีต้าไม่ได้สนใจ หรือใส่ใจเสียงตะโกนเรียกนั่นหรอก ..
ตอนนี้ชีต้าย้ายมาหลบที่ห้องเก็บของแคบๆ คลุ้งไปด้วยฝุ่นและเศษผ้า..ไม่ได้ย่ำแย่อะไร กับพื้นรกๆ หรือกองผ้าดิบเลอะๆ เหมือนกับร่างเนียนๆที่ กกกอด ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไรนะ ออกจะบริสุทธิ์ ...
ถึงจะไม่ได้มีหน้าอกใหญ่ๆ เหมือนอย่างของหลินหรือเด็กในคลับ แต่ความคาวหวานของวัยมันก็ทำให้น่าลิ้มลอง ...

ลิ้มลองแล้วก็ค่อนข้างจะพอใจ ออกจะชอบเลยทีเดียวล่ะกับเด็กสาวหน้าตาน่ารักที่พอปอกเปลือกออกมามันกลับเป็นเด็กผู้ชายที่ รสชาติหวานแปลก... ในตอนแรกเด็กนี่กรีดร้อง ...
แต่ก็คงเหมือนพวกสาวๆในคลับมั้ง แค่เอาอะไรประเภทแบงก์หรือว่าเนื้อยัดปากเดี๋ยวก็เงียบ ..ตอนนี้ไม่มีเงินพกมานี่นา ชีต้าเลยเลือกประเภทหลัง ...  ของแปลกที่แสนจะเร้าใจ น้ำตาที่ชีต้าเลียเข้าไป รสชาติมันบิดเบี้ยวและหวานขม ...รสชาติคงพอๆ กับจิตใจเด็กคนนี้ ...
.
.
.
มืดมนและหดหู่ แถมยังแฝงไว้ด้วยความเอาแต่ใจ รสชาติของจิตใจที่บิดเบี้ยว..
.
.
.

"อื้มส์..."

มัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ..ชีต้าสูดหายใจยาวแล้วกระทุ้งแกนกายของตัวเองเข้าไป..ลึกและยิ่งลึกเข้าไป ..ความเจ็บที่ระอุอยู่แถวๆ อกยิ่งเพิ่มความกระสันอยาก อึดอัดอยู่บ้างที่มีดคมยังปักคา แต่มันก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ.. แล้วเด็กนั่นก็ดิ้น ริมฝีปากช้ำเหมือนจะกรีดร้อง ..ชีต้ายิ้มหวานก่อนเสียงเด็กนั่นจะดังขึ้น ..กระชากมีดที่ปักคาอกออกมา แล้วออกแรงปักปลายมีดลงข้างๆ ใบหน้าน่ารักนั่น ...
.
.
.

สายตาหวาดหวั่น ..และเสียงดังปึก! หยุดเสียงหวีดร้องของคนข้างใต้ได้ดีชะมัด..

"เอาล่ะ...อ้าขาให้กว้างมากกว่านี้อีกสิครับ..."

ชีต้ายิ้มหวานแล้วเอ่ยขออย่างอ้อนวอน..เรียวขาขาวๆ ที่ ตอนนี้เป็นจ้ำไปด้วยรอยช้ำและรอยกดของนิ้วมือยอมอ้าออกให้อย่างสั่นเทา..แววตาหวาดหวั่นคลอหน่วยไปด้วยน้ำตา เสียงสะอื้นไห้ถูกเก็บไว้เหมือนไม่กล้าจะเอ่ยออกมา ..
.
.
.

เลือดสีคล้ำของชีต้า ทะลักออกมาท่วมร่างขาวๆ จนเหมือนมันเป็นงานศิลปะ ..
.
.
.

หอมหวานและงดงาม บิดเบี้ยวและเกรี้ยวกราด อาฆาตและหวาดกลัว...
ชีต้าชักชอบเด็กนี่ขึ้นมาแล้วล่ะสิ ..

เกือบชั่วโมงที่ชีต้า ดื่มด่ำกับร่างบริสุทธิ์ตรงหน้า..แต่แล้วมันก็เหมือนกับว่าไม่เพียงพอ ไม่เติมเต็มไม่อิ่มเอม แสงแดดที่ส่องลอดช่องทะลุของหลังคาโกดัง มันฉายภาพให้ร่างข้างใต้ยิ่งงดงาม มากกว่านี้นะ ชีต้าว่าชีต้าต้องการมากกว่านี้ แล้วจิตใจที่บิดเบี้ยว ก็สร้างตัวตนที่บิดเบี้ยว เลือดดำข้นคลัก เหมือนจะไหลกลับมาที่บาดแผล ..กลิ่นฝนคลุ้งลอยมาตามลมพร้อมๆ กับฝนห่าใหญ่ ..
.
.
.

กระสันอยากและรื่นรมย์ ..
เมื่อกิ่งก้านและแกนกาย ขยายและเพิ่มจำนวน ...
.
.
.

เหมือนรากไม้ที่มีชีวิต ...แกนเนื้อมันเพิ่มขึ้นและขยายยาว...
.
.
.
อย่างกับฝันของค่ำคืนอันรัญจวน..
 ชีต้าแกยิ้มหวาน แล้วลองใช้งานมันทั้งหมดกับร่าง..ของมินนี่...
.
.
.



"...ไม่ต้องกลัวนะ..ชีต้าจะเก็บมินนี่ไว้ในแค็ตตาล็อกเล่มโปรดเลย.."


หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 24 - 29/9/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ppoi ที่ 29-09-2014 23:45:06
 :a5: :a5: :a5:

ตายคา... ไปแล้วมั้งน่ะ...

ถ้าจำไม่ผิดนิ คราวที่แล้วถึงตอนนี้แหล่ะ ขอต่ออีกหน่อยน้าาาาาาาาาาาาา เตง  :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 24 - 29/9/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: บ๊ายบายโพ ที่ 29-09-2014 23:59:56
เมื่อไหร่พระพรตจะได้ออก   คิดถึงๆๆๆ :hao5:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 24 - 29/9/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 30-09-2014 02:04:58
 :mew5:  แม่งงงง เราจินตการได้ได้น่ากลัวมากอ่ะ

 :ling3:

แล้วพระพรตล่ะหายไปไหนแล้ว  พระพรตนี่ยังสำคัญอยู่ไหม 55
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 24 - 29/9/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: วิบวับ ที่ 30-09-2014 05:56:47
เอาพระพรตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตต
ไม่เอาไอ้เด็กมินนี่ผีหลอกเจ้า!!!! :ling1:

พระพรตของเค้าอยู่ไหน แง แง แงแงง
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 24 - 29/9/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: hewlett ที่ 03-10-2014 23:54:00
ไม่ได้อ่านนานมากต้องกลับไปอ่านใหม่แต่ต้นเลย
ซีต้าโหดตาใสอีกแล้ว มินนี่เอ้ย อย่ารอดเลยท่าจะทรมาน
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 24 - 29/9/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueJay ที่ 04-10-2014 00:28:54
พระพรตยังสำคัญอยู่ใช่มั๊ยยยยยยย
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 24 - 29/9/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: padang ที่ 04-10-2014 01:39:29
ตายสยอง ฮึ่ยยยย
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 24 - 29/9/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: allenlover ที่ 06-10-2014 00:17:17
งือออออ ๆๆ T^T
เชียร์พระพรต  ชีต้าอย่าเพิ่งลืมพระพรตน้าาาาา
เราก็ชอบธันกับสังกานะ แต่เชียร์หนูชีต้า x พระพรตมากกว่าอ่ะ
ให้ สังกา คู่กับ ธัน ดีไหม? 5555555
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 24 - 29/9/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 06-10-2014 01:19:49
OMG! ฉากเร้าอารมณ์อีกแล้วสินะ สงสารมินนี่จัง
เฮ้อ~ เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับซีต้า เหอๆๆ ธันคะ
มาช่วยมินนี่ไวๆนะคะ เดี๋ยวตายนะคะ หึหึ บอกเลย
ซีต้าเคะคือฟิน  ฟินสุดๆของที่สุด ได้โปรดเอาสังกากลับมา
เอามาเด็ดปีกซีต้าไม่ให้บิน ฮ่าๆๆๆๆๆ มาต่ออีกน้า มาน้าาา
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 24 - 29/9/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: hewlett ที่ 22-03-2015 14:53:56
ดัน รอเสือน้อย
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 24 - 29/9/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: gwaiplay ที่ 01-05-2015 01:12:54
มินนี่ชีวิตรันทดไปไหมลูก  :hao7: :mew2:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 24 - 29/9/57 ]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 01-05-2015 17:10:52
ซีต้า ต้องเรียนรู้การเป็นมนุษย์อีกเยอะ

ท่านสังกา ซีต้าเป็นสิ่งมีชีวิตนะ อย่ามาทำร้ายกันแบบซ้ำซากซิ รักหรือเกลียดก็บอกกัน

สงสาร พระพรตมาก  โดนลวนลามจากในฝันและความจริงมาเป็น10ปี พออยู่มาวันหนึ่ง

มีเรื่องที่ไม่ได้ดั่งใจ ก็โดนเขาลืมไปอย่างไม่ใยดี  น่าสงสารเป็นนายเอกที่บทน้อยมาก รันทดกับชีวิต

เป็นเด็กกำพร้าที่ต้อง  แสวงหาเงินเลี้ยงตัวเองด้วยงานเสี่ยงอันตราย จะโดนใครเขาฆ่าตายวันใหนก็ไม่รู้






แหงะ/ กำแล้วกู หลงเข้ามาอ่านนิยายดองเค็มอีกเรื่องร๊ะ   :heaven :heaven
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 25 - 27/5/58 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 27-05-2015 16:53:48
บทที่ ๒๕ ...   

...


ธุรกิจในตระกูลจาง นอกจากอาวุธสงครามแล้วอีกเกือบครึ่งยังเป็นธุรกิจประเภทโรงแรมและบ้านพักตากอากาศ อันมีเหล่าเนื้อสดทั้งที่นำเข้าและภายในประเทศเป็นกำลังในการหมุนวงล้อความรุ่งโรจน์

เมื่อบุตรชายคนเดียวของตระกูลจาง จางคิมสัน เสียชีวิจลง จาง ฟู่หลี้ฮูหยินแห่งบ้านเสือก็กลับกลายมาเป็นหญิงบ้า จางเทียนอี้เสือเฒ่าที่มีแต่ความเศร้าโศรกเสียใจตัดสินใจแก้แค้นแทนลูกชาย..หากแต่กลับได้ลูกชายมาอีกคน
.
.
.
ลูกชายเพียงคนเดียวแห่งสกุลจาง ‘จางซี’

**
..
“..อาจจะเป็นพันธุกรรมหรือความบกพร่องในยีน เสือเฒ่าจางอี้เทียนมีลูกชายตอนอายุ เกือบ 50 ส่วนคุณนายจางเองก็ได้ข่าวว่ามาจากตระกูลเก่าแก่ที่นิยมแต่งงานกันในเครือญาติ ซ้ำตอนที่คุณนายจางมีลูกคนแรกเธอเพิ่งจะอายุได้ 16  ปี จางคิมที่ตายไปสายข่าวจากวงในพูดกันให้แซดว่ามีปัญหาด้านภาวะอารมณ์สุดขั้ว ส่วนจางซีรายนี้ยังไม่มีข้อมูลส่วนตัวมากนักแต่หลักๆ แล้วคาดว่าก็คงไม่ต่างจากพี่ชาย..เจ้าหมอนี่น่าจะมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม..”

เอกสารสรุปโดยย่อที่เขียนไว้ให้พระพรต ถูกรวบยอดย่นมาในการสนทนาทางโทรศัพท์ เหมือนกับเป็นการบังคับกลายๆไม่ให้ปฏิเสธการก้าวเท้าเข้าไปในถ้าเสือมันไม่ใช่เรื่องน่ากลัวสำหรับอดีตนายแพทย์ด้านจิตเวช หากถ้าเสือในถ้ำนั้นไม่ใช่ คนเดียวกันกับปีศาจร้ายที่เคยเห็นในความฝัน..

‘ษิตรา’

ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน..ไอ้ปีศาจนั้นทิ้งเขาไปอย่างไม่ใยดี

“เริ่มงานเมื่อไหร่?”

พระพรตกรอกคำถามกลับเข้าไปในสาย นายหน้าที่ติดต่อเข้ามาเพียงแต่บอกว่าเร็วที่สุดซ้ำก่อนจะวางสายซ้ำปลายเสียงยังสั่งย้ำอีกด้วยว่าเรื่องอาการป่วยและการรักษาลูกชายสกุลจางมันคือความลับขั้นสุด!

 **
..
ไอแดดร้อนระอุอ้าวเข้ามาจนถึงอาคารด้านใน แต่ถึงกระนั้นก็ไม่อาจจะฝ่าเข้ามาได้จนถึงประตูกระจกหนา ภายในห้องสมุดที่เงียบสงบ ธันธณา เปลี่ยนตัวเองให้เป็นหมอนชั่วคราวของปีศาจน้อยที่นอนซบหน้านิ่งอยู่บนไหล่  ใบหน้าและริมฝีปากขาวซีดที่โผล่พ้นออกมาจากกลุ่มผมและแว่นอันหนา พาให้ใบหน้านั้นดูแปลกๆ และน่าขบขัน

ในห้องสมุดกว้างที่มีคนมากหน้าหลายตาในเวลานี้ไม่มีสิ่งใดที่จะสะดุดตาไปมากกว่าคนทั้งสองที่มันช่างแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ก็ใครจะไปคิดว่านายธันธณา ที่มีดีกรีเป็นถึงว่าที่เดือนมหาลัยจะกลายเป็นแค่หมอนนิ่มๆ ให้ไอ้รุ่นน้องหน้าจืดนอนน้ำลายยืดซบไหล่

นักศึกษาหลายคนที่เดินผ่านมาผ่านไป บ้างแค่หยุดมอง แต่ก็มีบางส่วนไม่น้อยที่หยุดสายตาแล้วเอ่ยปากนินทาออกมาได้ทั้งๆ ที่ยังไม่ผ่านทั้งคู่ไปไหนไกลด้วยซ้ำ แต่ก็แค่นั้นธันเองไม่ได้สนใจอะไรกับเหล่าเสียงนกเสียงกาเมื่อสิ่งที่น่าสนใจมันมีแค่ไอ้แว่นหน้าจืดที่นอนน้ำลายยืดอยู่ข้างๆ

ใครจะไปคิดว่าลูกชายคนเดียวของสกุลจางจะมาอยู่ในคราบของไอ้แว่นหนาหน้าจืด ทั้งๆที่เมื่อคืนในงานเลี้ยงต้อนรับแขกระดับวีไอพี ชีต้ายังถูกล้อมรอบไปด้วยบรรดาสาวๆ ระดับนางแบบแถวหน้า และถ้าธันนึกสนุกขึ้นมาตะโกนบอกคนช่างนินทาที่เดินผ่านไปผ่านมาว่าไอ้แว่นจืดนี่ล่ะมีสาวๆในสังกัดระดับหลักพัน จะมีใครเชื่อหัวไอ้ธัญบ้างนะ?

“...กี่โมงแล้วธัน?”

ไอ้แว่นที่โดนนินทาในใจเงยหัวตัวเองขึ้นมาได้แล้วพยายามตั้งสติให้ไม่จมกลับเข้าไปในความฝัน ชีวิตส่วนมากของชีต้าอยู่ในวังวนของห้องสมุดและห้องชุดรับรองในเครือดราก้อนอายส์ ไอ้การได้ใช้ชีวิตราบเรียบเทียบกันคนอื่นแล้วช่างห่างไกล และเพราะอย่างนี้ล่ะเวลาที่ชีต้าหลับ ธันเองถึงได้กลายเป็นคนที่คอยเป็นห่วงเป็นใยปล่อยโอกาสให้ชีต้าได้นอนหลับสบายได้โดยไม่คิดปลุก

ธันลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขยับไหล่คลายกล้ามเนื้อที่น่าจะเข้าข่ายใกล้เป็นตะคิวแล้วก้มลงไปดึงไอ้แว่นขึ้นมานึกขันในใจไม่ได้ที่เห็นว่า ริมฝีปากซีดของไอ้แว่นหน้าจืดมันมีคราบน้ำลายติดอยู่ได้อย่างไม่อายคน

“คืนนี้ว่างไหม?”

ในช่วงที่กึ่งวิ่งกึ่งก้าวลงบันได ธันเอ่ยปากถามไอ้แว่นหน้าจืด ไม่มีคำตอบกลับมานอกจากท่าทางที่ทำไม้ทำมือตอบกลับว่าจะโทรหา

**
..
“คงไม่น่าจะว่าง..”

ชีต้าตอบกลับไปในสายอย่างเซ็งๆ ใจหนึ่งอยากจะออกจากไอ้ห้องน่าอึดอัดนี้ไป ไปไหนก็ได้ที่ธันพาไป ยังไงมันก็คงจะยังดีกว่าการที่จะต้องมานั่งต่อหน้าใครหลายคนแล้วค่อยเลือกแผ่นกระดาษเลอะหมึกรูปร่างแปลก..
การทดสอบทางจิตวิทยา..
.
.
.
ไอ้การทดสอบบ้าๆ ที่ชีต้าแม่งโคตรเกลียด!!

“...ต้นไม้ผู้หญิง”

“...”

“...แสงจันทร์”

“...”

“...เซ็กส์...”

แผ่นกระดาษเปื้อนๆ ถูกอธิบายแบบสั้นๆ ถึงสิ่งที่จางซีเห็น ไม่มีคนไหนถูกใจ หมอที่ถูกเลือกเข้ามาในห้องต่างมีวิธีทดสอบที่ต่างกัน แต่ทั้งหมดมันก็แค่ความวุ่นวายที่มีสายหลักเป็นความจุ้นจ่านอันน่าขับขน พวกหมอแต่ละคนวิเคราะห์ไปหลายหลากแตกต่างกัน จนชีต้าต้องขอเวลาพาตัวเองออกไปข้างนอกบ้างเพื่อพักสมอง

พวกมนุษย์..ช่างซับซ้อน

ภาพในหัวชีต้ามีมากมาย ทั้งหมดนั่นหาเหตุผลไม่ได้ เพราะเพียงแค่คิดก็แค่นั้น และถ้าไม่อยากคิดทุกสิ่งก็จะเหมือนปิดสวิทต์ลงทันที หมอที่เข้ามาคุณป๋าสั่งให้[F]เป็นคนคัดกรองก่อนเบื้องต้น หลังจากนั้นถึงส่งมาให้ชีต้าเลือก เลือกหมอสักคนที่จะค่อยแนะนำสิ่งต่างๆ ที่เรียกรวมๆกันว่า ‘หลักสูตรการใช้ชีวิตแบบมนุษย์’

มนุษย์?

มีตรงไหนในสักส่วนที่ชีต้าไม่ใช่มนุษย์?

เหมือนห้วงความคิดจะถลำลงลงไปไกล ชีต้าเงยหน้าขึ้นมามองภาพตัวเองที่สะท้อนในกระจกแผ่นเรียบ มีสักส่วนตรงไหนกันที่มันแสดงว่าไม่ใช่มนุษย์

“ขอโทษครับ ผมมาพบคุณพ่อบ้าน”

เสียงหอบหายใจกับกลิ่นไอแปลกๆ ที่ฟุ้งออกมามันทำให้ชีต้าต้องหันไปมอง ชายหนุ่มที่กำลังยืนเจรจากับบอดี้การ์ดหน้าประตูดูคุ้นๆ แต่ก็ใช่ว่าจะมีชื่ออยู่สาระบบสักส่วนของสมอง

ไอของกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ร่องลอย ชีต้าชอบกลิ่นนี้ กลิ่นที่ฟุ้งมาจากตัวหมอนั่น อาจจะเป็นน้ำหอมบ้างกลิ่นหรืออะไรสักอย่างที่น่าลุ่มหลง ชีต้าล้วงหยิบแว่นสายตาอันหนาขึ้นมาสวมก่อนจะปัดผมยุ่งๆ ของตัวเองลงมาปรกหน้าผากกว้าง สองขาก้าวยาวกึ่งวิ่งไปทางแขกที่พยายามจะฝ่ายามร่างยักษ์เข้ามา เมื่อเรื่องสนุกในตอนนี้ดูทีท่าจะมันกว่าการนั่งบอกว่าแผ่นคราบกาแฟที่เลอะๆนั้นมันเป็นรูปอะไร

**

“...จางซี”

พระพรต ขยับเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มที่ท่าทางขี้อาย สายตาใต้กรอบแว่นนั้นพระพรตไม่มีทางเห็นมันเพราะมันปรกไว้ด้วยผมยาวยุ่งๆ
.
.
.
ไม่ใช่ ‘ษิตรา’ เด็กหนุ่มท่าทางขี้อายที่ซ่อนตัวอยุ่ภายใต้กรอบแว่น ไม่ใช่ ษิตรา เจ้าตัวประหลาดนั้นไม่มีทางจะมายืนหลบอยู่หลังบอร์ดี้การ์ดของคฤหาสตระกูลจาง แล้วที่สำคัญ ไอ้ตัวประหลาดนั้นไม่มีทางจะมาทำเป็นคนไม่รู้จักกันอย่างนี้

พระพรตบอกตัวเองไม่ถูกว่าดีใจหรือเสียใจที่ ‘จางซี’ ไม่ใช่ ‘ษิตรา’ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังอดผวาไม่ได้ในตอนที่เด็กหนุ่มนั้นเอื้อมมือมาจับทักทายกันตามหน้าที่

“ตกลงเอาคนนี้?”

คนพูดยื่นหน้ามาใกล้แล้วเซนต์เอกสารบางอย่างลงไปในแฟ้มของพระพรต ชายหนุ่มถอนหายใจยาวรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก งานนี้แม้ภายนกจะดูง่ายๆ แต่ถ้าเกิดมีความลับของงานรั่วไหลออกไป พระพรตรู้ดีว่าคนในสกุลจางคงจะไม่เสี่ยงเก็บเขาไว้เช่นกันเพราะนอกจากธุรกิจของทางตระกูลแล้วเรื่องชื่อเสียงนั้นพวกเสือก็รักษามันยิ่งชีพ

“งานตอนนี้เป็นอาจารย์พิเศษที่มหาลัยXXX”

ประวัติและข้อมูลคร่าวๆ ที่พระพรตใส่มาในเอกสารถูกพ่อบ้านร่างใหญ่อ่านไล่คร่าวๆ ให้เด็กหนุ่มหน้าซีดเบื้องหน้าฟัง ทุกอย่างมันรวบรัดและกดดันอย่างบอกไม่ถูก ภายใต้ท่าทีนอบน้อมขี้อาย ใต้แว่นสายตาหน้าพระพรตไม่โอกาสจะเดาได้เลยว่าเด็กแว่นนั้นคิดอะไร

ริมฝีปากซีดขาว..
ที่คงจะได้รับมาจากทางแม่ มันไม่เข้ากันเลยกับชื่อเสียงของมาเฟียใหญ่ในฐานะตะกูลเสือ..นี่หรือลูกชายคนเดียวของสกุลจาง?  แล้วถ้าอย่างนั้นไอ้ปีศาจวิกลจริตที่พระพรตเคยพบเจอนั้นมันอยู่ที่ไหน?!
.
.
.
“อึกส์!”

แผ่นกระดาษที่เลอะคราบกาแฟแผ่นใหม่ถูกขยำแหลกคามือไปในแทบจะทันที การทดสอบจิตใต้สำนึกเบื้องต้นจบลงอย่างไม่เป็นท่า ร่างกายมันผิดแผกออกไป ร่างกายมันเหมือนโดนยั่วเย้าด้วยเงาว่าเปล่าที่มองไม่เห็น ในห้องกระจกที่ถูกจัดไว้เป็นห้องรับรอง มีเพียงแค่พระพรตกับเจ้านายคนใหม่ที่เขาต้องรักษา

แต่ว่าการทำอย่างนั้นดูท่าจะไม่ราบรื่น พระพรตถือวิสาสะนั่งลงบนโซฟา ร่างกายที่คล้ายมีบางสิ่งวนเวียนอยู่ใกล้ๆ มันเริ่มจะกระสับกระส่ายอย่างเห็นได้ชัด

เหมือนมีเงาของมือที่มองไม่เห็นสัมผัสและรูปผ่าน พระพรตเหลือบเงยหน้าจ้องตาเจ้าเด็กแว่นนั่นแต่มันก็ไม่ได้มีทีท่าอะไร มีแต่ตัวเขาเองที่เริ่มกระสับกระส่ายอย่างปิดไม่มิด
.
.
.
เหมือนโดนสิ่งที่มองไม่เห็นสัมผัสผ่าน ร่างกายเหมือนถูกกดไว้ด้วยน้ำหนักอย่างไม่อาจขัดขืน มันล้วงไล้เข้าไปในสาปเสื้อแล้วบีบบี้ที่ยอดอก คลึงเคล้าก่อนจะขยำยี แล้วลากสัมผัสเรื่อยลงไปที่หัวหน่าว พระพรตตะคุบสิ่งที่เหมือนกับเงานั้นไว้แต่เปล่าประโยชน์ เขาได้แต่ข่มเก็บเสียงครางของตัวเองไว้อย่างนั้น ร่างกายมันโดนปลุกปั่นจนเริ่มจะประทุความร้อนที่กลายเป็นน้ำกามให้หลั่งออกมา สองขาของพระพรตเกร็งแน่น เมื่อสัมผัสแฝงค่อยๆเร้นรอดเข้าไปในชายร่มผ้า มันไล้เขาในทุกสัดส่วน มันเลียล้วงในทุกตำแหน่งที่ไวต่อการไล้ลูบ เงาที่มองไม่เห็นกดพระพรตให้จมลงกับโซฟาหนา มันปิดปากเขาไว้แล้วแทรกกายเข้ามาด้วยความรู้สึก...
.
.
.

“..อาจารย์”

มือเย็นวาบสัมผัสผ่านแก้มที่ร้อนวูบ พระพรตสะดุ้งสุดตัวเมื่อตื่นออกมาจากห้วงฝัน นี่เขาหลับไป? เผลอหลับลงไปบนโซฟาในห้องรับรองของตระกูลจางงั้นหรอ ? อีกครั้งที่พระพรตถอนหายใจยาว เขาค่อยๆ ขยับตัวยืนขึ้น โดยมีเด็กหนุ่มหน้าจืดแว่นหนาช่วยดึงมือให้

เขากล่าวขอโทษเด็กหนุ่มที่เผลอหลับไป ก่อนจะขอตัวออกมาด้วยความอับอายลึกๆ กับฝันบ้าๆ ฝันบ้าๆ ที่ยังมีหน้ามาปรากฎอาการในความจริง ในช่วงที่เดินออกมาจากคฤหาสสกุลจาง พระพรตถึงกับกัดปากตัวเองไม่ให้หลุดเสียงครางออกมาเมื่อยอดอกของเขาที่จู่ๆก็ชูชันมันเสียดกับเนื้อผ้าเชิ้ตจนทำให้เกิดอารมณ์ พอมาถึงถนนใหญ่พระพรตถึงได้พ่นลมหายใจเรียกสติตัวเองแล้วกวักมือเรียกแท็กซี่ โดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่า หลังต้นคอของตนเองเป็นรอยจ้ำช้ำๆ ของการจูบที่แสดงความเป็นเจ้าของ..

TBC.
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 25 - 27/5/58 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Buppha ที่ 27-05-2015 20:04:41
 :mew1: คิดถึงมากนะรู้มั้ย :hao5:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 25 - 27/5/58 ]
เริ่มหัวข้อโดย: วิบวับ ที่ 27-05-2015 21:22:42
ษิตราของแม่มาแล้วววววววววววววววววววววววว!!!!
ฮืออออ คิดถึงอ่ะ คิดถึ้ง คิดถึง

ษิตราจับพระพรตขังไว้เลยลูก แม่ยกเชียร์!! :hao6:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 25 - 27/5/58 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ไป๋ไป๋ ที่ 27-05-2015 21:39:15
 :z2: :z2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 25 - 27/5/58 ]
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 28-05-2015 00:54:33
ควรจะร้องไห้ดีไหม

ฉันรอเธอมาเกือบปี  :3123:

ขอบคุณที่มาต่อนะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 25 - 27/5/58 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ohho99 ที่ 28-05-2015 08:09:22
เค้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่มั้ยคะ
สารภาพว่าลืมตอนก่อนไปแล้วต้องย้อนกลับไปอ่านอีกรอบอ่ะ
อย่าเพิ่งทิ้งเรื่องนี้ไปน๊า


+1 เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 25 - 27/5/58 ]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 28-05-2015 09:17:42
พระพรต ถือว่าเป็นเด็ก กำพร้าที่เข้มแข็งนะ เติบโตมามีงานมีอาชีพเลี้ยงตนเองได้

แม้งานจะเสี่ยงไปหน่อย แต่ก็ ใช้น้ำพักน้ำแรงตนเองแลกมา ไม่ได้ไปงอมือ งอเท้าขอใครเขา

แต่ชีวิตก็ต้องผจญกับฝันร้ายฝันประหลาด จนได้พบเจอกับฝันร้ายที่เป็นจริง

แถมตอนนี้ไอ้ตัวฝันร้ายก็ลืมเรื่องราวของพระพรตไปหมดแล้ว แต่ยังคงลวนลามพระพรตตามสัณชาติญาณดิบ

เหมือนเดิม เมื่อไร ษิตรา จะจำพระพรตได้ ลวนลามกันทั้งที่ไม่รู้สึกอะไรด้วยเลย

มันเจ็บปวดนะ ถึงพระพรตจะเข้มแข็ง แต่คนที่ขาดความรักความอบอุ่น

เวลาเจ็บ มันเจ็บเจียนตาย เพราะไม่มีมือที่อบอุ่นของพ่อแม่คอยประคองนะ
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 25 - 27/5/58 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Maiiz Ellfiez ที่ 28-05-2015 12:59:00
แปะไว้ค่า  สนุกมาก  ยังคงความลึกล้ำเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 25 - 27/5/58 ]
เริ่มหัวข้อโดย: hewlett ที่ 28-05-2015 16:37:38
บอกตรงๆ เขาชักไม่อยากให้พระพรตเป็นพระเอกเลย
ไม่อยากให้ซีต้าต้องเจ็บปวดอีก
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 25 - 27/5/58 ]
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 24-09-2015 21:34:33
จากที่รู้สึกตอนแรกๆของเรื่องเหมือนษิตรา เป็นน้องที่พระพรตอยากจะมี ษิตรา มีใจบริสุทธิ์ สังการัก หวงแหนษิตรา พ่อที่ห่วงลูกชาย สนุกแบบลุ้น ไปกับษิตรา
หัวข้อ: สาปศิลา [ตอนที่ 26 - 26/2/59 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Zitraphat ที่ 26-02-2016 07:58:06
บทที่ ๒๖ ที่ว่างข้างๆ...
..
   ในหัวมันตื้อๆ มันเหมือนมีเรื่องอะไรอัดแน่นไปหมด หลายเรื่องเหมือนก้อนขยะหนืดๆ ที่ถูกขยำเอามารวมกัน มันจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูกซ้ำยังคาดหวังอะไรไม่ได้ ในช่องว่างของความฝันกับความจริง ชีต้า อยากจะกระชวกกะโหลกแล้วลากสมองของตัวออกมาแยกดูชะมัด มันต้องมีอะไรสักอย่างล่ะที่ผิดพลาด อะไรสักอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าไม่พอ อยากได้มากกว่านี้ อยากทำมากกว่านี้ อยากใกล้มากกว่านี้ แต่อยาก..ทำอะไรกับใครล่ะ?!

   หงุดหงิด พอคิดไม่ออกมันก็หงุดหงิด พอเริ่มหงุดหงิดทุกสิ่งทุกอย่างมันก็พาลจะย่ำแย่ไปหมด ‘คืนนี้ว่างไหม?’ ประโยคคำถามของใครบางคนผ่านเข้ามา ชีต้าสะบัดหน้าแล้วหลับตาลงเพื่อหยุดความฟุ้งซ่านทุกอย่าง

   “ไม่ว่าง...แต่ก็หนีออกไปได้ถ้าอยากไป”

***
..
   กลิ่นของธัญ มันเหมือนกลิ่นของนักล่า..กลิ่นที่ยิ่งฟุ้งยามอยู่ท่ามกลางแสงสี ชีต้าไม่รู้หรอกว่าจะเปรียบเทียบกับอะไร ‘มนุษย์’ สำหรับ ชีต้าแล้วมีหลายประเภท แล้วธัญเองก็เป็นหนึ่งในประเภทที่แตกต่าง สำหรับเครือGolden Eyes ธัญเองติดหนึ่งในกลุ่มคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามอง ป๋าเองก็เคยพูดอย่างนั้น ธัญ มีคุณสมบัตรที่จะเป็นหนึ่งในแกนหลักรุ่นต่อไป มีคุณสมบัตรที่จะยืนข้างๆ ชีต้าด้วย

   ‘ผู้คนมีมากมาย แต่คนที่ยืนอยู่ข้างๆ มันหาได้ยากยิ่ง’

   ป๋าเคยสอนอย่างนั้น และก็เป็นไปตามปกติ ชีต้ามีหน้าที่ฟัง ทุกอย่างมันเหมือนกับการสะสมและค่อยๆ รับรู้ ยิ่งรู้ก็ยิ่งคิดและวิเคราะห์ ยิ่งรู้ก็ยิ่งตระหนักว่า ที่ว่างมันมีอยู่ คนที่ยืนอยุ่ข้างๆ ในตอนนี้ ชีต้าไม่มีคนๆ นั้นอยู่เลย

   “[F] รู้จักโรงแรมของธัญไหม? พาไปที”

   คำถามที่เหมือนไม่ใช่คำถาม คำสั่งกลายๆ ของเจ้านายอย่างชีต้ามีเพียงแค่ต้องทำตาม พวกบ้านเสือติดนิสัยถามกึ่งสั่งบอดี้การ์ดอย่าง [F] ทราบดี

   “เปลี่ยนชุดก่อนไหมครับ?”

   “ไม่..ถึงแล้วปลุกด้วยแล้วกัน”

   จากนั้นก็ไม่ได้คาดคั้นอะไรต่อ รถยุโรปคันใหญ่มุ่งหน้าไปทางโรงแรมที่เป็นจุดหมาย ชีต้าปิดเปลือกตาตัวเองลง ขอทำสมองให้ว่างเพื่อพักเอาแรงแค่นั้นก็พอ

   ไม่ได้แตกต่างจากโรงแรมในเครือสักเท่าไหร่นัก แสงไฟกับกลิ่นเฉพาะของราตรี เสียงกระหึ่มที่ดังก้องสะท้อนเข้ากับจังหวะการเต้นของหัวใจเว้นแต่ชุดนักศึกษาที่ใส่อยู่มันกลับเป็นปัญหา แต่ก็แค่ชั่วคราวเมื่อ[F] เข้ามาปัญหามันก็แค่นั้น ในโรงแรมกึ่งคลับ มีแค่ชีต้าที่ยังไม่ได้ถอดชุดนักศึกษาออก แม้ชุดมันจะดูหลุดรุ่ยไปบ้างแต่กลางแสงไฟมันก็สว่างจนเป็นที่น่าสังเกตุ ช่วงนี้สติดูมึนๆ ทุกอย่างมันสวนทางจนชีต้าเริ่มที่จะเอาทุกอย่างมารวมกัน ทั้งเรื่องของที่บ้านเรื่องของการเรียน

   เมื่อเช้าก็ทีนึงแล้วที่ไอ้แว่นหนาของธัญมันเดินสะลึมสะลือเข้ามหาลัยมาในสภาพของ ‘จาง เสียว หม่าน’ พวกสาวๆ ในมหาลัยกรี๊ดกร๊าดกันจนน่าปวดหัว ปวดหัวจนชีต้าต้องไปหาที่นอนในห้องพยาบาล กลิ่นที่คุ้นเคยทำให้หลับเอาง่ายๆ แถมเรียกสติให้กลับมาได้อีก แต่พอหมดกลิ่นนั้นไป ชีต้าก็กลับมารวนอีกครั้ง อยากเจอใครสักคนที่พร้อมจะอยู่ข้างๆ อยากเจอใครสักคนที่ไม่ต้องจากกันเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ชีต้าอธิบายความรู้สึกนี้ไม่ถูก

   “[F] กลับไปก่อนชีต้าจะไปหาธัญ”

   ชีต้าโบกมือไล่[F] ออกไปทั้งอย่างนั้น แต่ก็แค่นั้นบอดี้การ์ดร่างใหญ่ไม่ได้ขยับตัวออกไป หากแต่กลับเดินเข้ามาใกล้แล้วยัดบัตรการ์ดสีทองใส่กระเป๋าเสื้อเจ้าเสือน้อย

   “การ์ดวีไอพีของโรงแรมครับ เปิดห้องพักได้ทุกห้องพร้อมรูดบัตรจ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มได้ทั้งหมด ”

   [F] บอกเสียงเรียบมีเพียงชีต้าที่ยิ้มกว้าง ก่อนจะหันหลังเดินตามกลิ่นหอมจางๆ ของ ‘นักล่า’ อยากเจอธัญ อยากกอด..

   “เฮ้ย! แว่นหนา”

   เสียงเรียกที่ไม่คุ้นชิน แต่กลิ่นพอคุ้นๆ อยู่บ้าง ชีต้าจำคนที่เรียกได้ หมอนี่มักจะอยู่ข้างๆ ธัญ ใช่ คนที่ชอบสะพานกล้องวีดีโอเครื่องเล็กติดตัว

   “มานี่ๆ มา”

   แล้วชีต้าก็เดินตามเข้าไป มันเป็นห้องวีไอพี โซฟาหนังอย่างดี มีกลิ่นบุหรี่ติดกับกลิ่นแปลกๆ พวกคนในห้องจ้องชีต้าอย่างกับตัวประหลาด เหล้าหลากสีสรรคถูกเสิร์ฟลงมาบนโต๊ะพร้อมกับผู้คนมากมายที่ห้อมล้อม กลิ่นหอมอ่อนๆ ของความสุขลอยอวล ชีต้าชอบกลิ่นแบบนี้ กลิ่นของความสนุก ในห้องนี้มีกลิ่นของธัญจางๆ ชีต้าเลยได้แต่นั่งรอ เหล้าแก้วแล้วแก้วเล่าถูกส่งให้ดื่ม ชีต้าก็แค่ดื่ม เหล้ารสขมปากไม่ต่างอะไรกับน้ำเปล่า ผู้คนมากมายแวะเวียนเข้ามามีเพียงชีต้าที่นั่งนิ่งจมลงไปกับโซฟาเพื่อรอ..

   ธัญไม่ได้เข้ามา นี่นานเกินไปแล้วที่ชีต้ารอ ได้แต่รอ แค่รอ ชีต้าอยากจะเดินไปถามเพื่อนธัญว่าธัญไปไหน อยากเจอธัญ อยากจะถามธัญว่ามายืนข้างๆ กันได้หรือเปล่า อยากถามแค่นั้นให้สมองที่กำลังรวนอยู่นี้ได้กลับเข้าที่เข้าทางเสียที

   “ไอ้ธัญมันขึ้นไปบนห้องแล้ว มึงจะตามไปไหมล่ะ? ”

   ในตอนนั้นชีต้าได้แต่พยักหน้า แล้วเดินตาม หมอนี่ชื่อ ‘ตู้’ เป็นเพื่อนธัญ ‘ตู้’ หนึงในรายชื่อที่ชีต้าต้องจำเอาไว้ ตู้ก็เป็นเพื่อนที่ดี
   ***
..
   “..ผมต้องการคุณมาก.”

   ชีต้าได้ยินประโยคนั้น แล้วก็ได้กลิ่นของธัญด้วย..การ์ดสีทองในมือชีต้ามันสั่น มือมันเหมือนจะหมดแรงยกเอาดื้อๆ เสียงภายในห้องมันกำลังดังก้องอยู่ในหัว กลิ่นของใครอีกคนที่ชีต้าไม่รู้จัก กำลังผสมกับกลิ่นของธัญ

   “อ้าว..แม่งไอ้ธัญเอาใครมาเย่อบนห้องนี่หว่า โทษทีว่ะแว่นสงสัยมึงต้องกลับบ้านเองแล้ว”

   ก็ตู้พูดออกมาแบบนั้น ทุกอย่างมันเลยเหมือนกับว่า ชีต้าเป็นตัวแถม หัวใจมันกระตุกแรง ชีต้าก็แค่อยากจะให้ธัญมายืนข้างๆ อยากให้ธัญอยู่ด้วยกันแค่วันนี้ แค่คืนนี้ก็พอ..แค่นั้นจริงๆ

***

..
   “เหมือนถูกขโมยของไปเลย..”

   ชีต้าเดินห่างออกมาแล้วหลบเข้าซอกตึกข้างๆ อีกครั้งที่หัวใจมันเบาโหว่งกับความรู้สึก ไม่รู้จะเรียกความรู้สึกนี้ว่าอะไร แต่..มันไม่ใช่ความรู้สึกดีแน่ หัวใจ เต้นช้าลงแต่กลับเจ็บเสียยิ่งกว่าตอนที่หัวใจเต้นแรง แต่ไม่เป็นไรหรอกแค่หยุดพักแล้วกลับบ้าน แค่กลับบ้านแล้วพรุ่งนี้ก็จะเจอกับัญที่หอสมุด..

   แค่..กลับบ้าน

   ‘ปึ๊ก!’

   แรงของอะไรบางอย่างมันสวนเข้ามากระแทกที่ท้ายทอย ชีต้าล้มคว่ำลงไปกับพื้นปูน ร่างกายมันเหมือนไม่ตอบสนอง เจ็บ หรือ จุก อืมส์ เอาสักความรู้สึกเถอะความรู้สึกไหนก็ได้ที่จะทำให้หัวใจพ้นจากความทรมาน กลิ่นของความหวาดกลัวผสมกับกลิ่นอ่อนๆของนักล่า ไม่..ไม่หรอกลึกๆ แล้วมันเป็นกลิ่นของความกลัวมากกว่าจะเป็นกลิ่นเฉพาะของพวกโซ่ชั้นบน

   “ตายหรือเปล่า?”

   “ไม่หรอกน่ารีบๆ ค้นของเถอะ ออกมาจากโรงแรมนั้นแถมกลิ่นเหล้าฟุ้งอย่างนี้ พวกมีเงินแน่”

   พวกนั้นลากชีต้าเข้ามาในตรอกลึก ชีต้าได้แต่หลับตา ปล่อยให้ทุกอย่างมันผ่านเลย ในหัวชีต้าคิดถึงแต่เรื่องธัญ คิดถึงแค่ในตอนนี้มีคนแย่งธัญไปแล้ว ในตอนนี้..ไม่มีใครยืนข้างๆ ชีต้าแล้ว ไม่มีแล้วนะป๋าจาง ไม่มีใครอยู่ข้างๆ ชีต้าแล้ว

   “ไอ้แว่น!!”

   เสียงตะโกนเรียก เสียงของธัญ ชีต้าจำได้ หัวใจมันกระตุกเต้นแล้วสองขาก็ลุกพรวด ยัง..ธัญยังไม่โดนใครขโมยไป ไอ้เสือพยายามสาวเท้าก้าวเข้าไปหาธัญที่อยู่ปากทางเข้าตรอก ตะโกนเรียกชื่อธัญ แต่ไอ้พวกที่ขวางชีต้าไว้กลับแทงมีดสวนเข้ามาที่อก

   มันจุก..ชีต้าทรุดลงไปแล้วฉีกยิ้มกว้าง มีดที่ปักอยู่กลางหน้าอกถูกดูดจมหายเข้าไปในเนื้อหนัง ในความมืดไม่มีใครเห็นทั้งนั้นว่ามีดเล่มนั้นหายไป ชีต้าทิ้งตัวลงกับพื้นแล้วหลับตา กลิ่นหอมของนักล่ามันยิ่งชัดเจนเมื่อธัญเข้ามาใกล้  พอแล้ว..แค่ได้เจอธัญก็พอใจแล้วล่ะ

   “ไอ้แว่น!! เหี้ยเอ้ย! อย่าเป็นอะไรนะมึง!! ”

TBC.

หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 26 - 26/2/59 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 26-02-2016 14:20:50
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 26 - 26/2/59 ]
เริ่มหัวข้อโดย: heroza ที่ 27-02-2016 00:17:36
 :sad4: โอ้ย!!!!!คิดว่าตาฝาดไปดีใจมากที่คนแต่งมาต่อเรื่องนี้ พระพรต~ ษิตรา~
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 26 - 26/2/59 ]
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 27-02-2016 15:19:11
กรี๊ดๆๆๆๆ เรื่องนี้มาแล้ว คือรอน้องซีต้ามานานมาก
น้องโดนแทง ง่าา จะเป็นไงต่อเนี่ย มาต่อไวๆน้า รอน้า
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 26 - 26/2/59 ]
เริ่มหัวข้อโดย: naya-devil ที่ 05-06-2016 13:27:20
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: สาปศิลา [ตอนที่ 26 - 26/2/59 ]
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 05-06-2016 17:39:54
สนุกมากเลยค่ะ แต่พระพรตมานิ่งๆ เรื่อยๆ ช้าๆ หวังว่าจะยังได้คู่กับษิตรานะคะ