“ขอบใจน้าที่มารับแมว ชงโคใจดีจังเลย เอ๊ะ แล้วคอไปโดนอะไรมาเหรอ!”
กว่าผมจะออกจากบ้านได้ก็หกโมงยี่สิบเข้าไปแล้ว พี่ทองมีเพื่อนมารับก่อนผมจะออกจากบ้านแค่ไม่กี่นาที ไม่ทันได้เห็นหน้าหรอกว่าเป็นใครเพราะพี่คนนั้นจอดรถอยู่ที่ถนนหน้าบ้าน แถมผมก็ไม่มีเวลามากพอจะออกไปต้อนรับใครด้วย แต่งตัวเสร็จก็รีบขับรถมารับแมวทันที นัดกันไว้หกโมงแต่ผมดันมาสายไปซะได้
“อ๋อ ยุงกัดนี่เอง” ถามเองตอบเองเสร็จสรรพ เพราะมือผมไม่ว่างพิมพ์ให้คำตอบ แต่แมวก็เข้าใจไม่ผิดหรอกครับ ยุงกัดจริงๆ พี่ทองเห็นยังโวยวายเลย นึกว่าผมเอาคอไปให้ใครดูด แถมยังทำท่าจะเข้ามาทำทับรอยไว้ แต่ผมก็ยกมีดขู่เขาไว้ก่อน ก็ไม่ได้พกไว้หรอกครับ ตอนนั้นกำลังจะเข้าครัวพอดี
มาถึงมหาวิทยาลัยก็รีบวิ่งไปที่หอประชุม งานจัดที่หอประชุมใหญ่ที่รองรับคนได้จำนวนมาก รวมเวลาที่ผมไปรับแมวช้าและรถติดล่ะก็ พวกเราก็มาถึงงานตอนทุ่มกว่าๆ พอดี เจ้ยิ้มที่ยืนอยู่หน้าประตูเข้างานรีบตรงดิ่งมาทันทีที่เห็นหน้าผม
“เจ้ก็นึกว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่เห็นชงโคมาสักที ไปกันค่ะลูก กินอะไรมารึยัง มีข้าวกล่องสต๊าฟเหลือนะ เอาหน่อยไหม”
ผมกำลังจะยกมือปฏิเสธ แต่แมวที่อยู่ข้างๆ กระตุกชายเสื้อหลายที พอหันไปมองก็ทำหน้าน่าสงสารแถมแววตายังเหมือนลูกหมากำลังหิวโซอีกต่างหาก ผมเลยต้องพยักหน้าพร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณเจ้ยิ้มที่มีน้ำใจให้กับผมตลอด
“ไม่ต้องไหว้ค่ะลูก เดี๋ยวเจ้แก่เร็ว มาทางนี้ค่ะ ข้าวเหลือเยอะเลย”
ข้าวกล่องรสชาติก็โอเคเลยครับ ถึงผมจะกินมาแล้วแต่ก็รับข้าวมาจากเจ้เพราะแมวคงไม่กล้ากินคนเดียวในเมื่อเจ้ยิ้มเขาเป็นคนชวนผม
“โอ้ยยยยย อร่อยยยยย สวรรค์เลย มีแรงไปแดนซ์แล้วคืนนี้!” แมวที่เพิ่งเก็บกล่องข้าวไปทิ้ง กลับมาก็มีแรงกระโดดเหยงๆ ไปรอบๆ ตัวผม
“เด็ดค่ะ เอาให้แรงเอาให้มันส์ไปเลยนะคะหนู ว่าแต่เป็นแฟนหรือเพื่อนน้องชงโคคะเนี่ย ตอบดีๆ นะ ไม่งั้นเดี๋ยวเจ้ใจสลาย”
นี่เจ้ยิ้มก็คิดเหรอว่าผมกับแมวเป็นแฟนกัน -_-
“แมวเป็นเพื่อนกับชงโคจ้าเจ้ แฟนแมวเป็นเดือนของคณะเจ้จ่ะ”
“กรี๊ดดดดดดดดดดด น้องโบของป้า ผู้ชายที่หมายตาหายไปแล้วหนึ่งรายยยย ชงโคจ๋า อย่าทิ้งป้าไปมีใครนะลูก”
ผมได้แต่หัวเราะแหะๆ ในขณะที่แมวกับเจ้ยิ้มเริ่มเม้าท์ให้กันฟังเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นหล่อคนนี้ดีคนโน้นสเปค อืม หากันจนเจอสินะ สองคนนี้ รวมกันแล้วน่าปวดหัวจริงๆ
“ไปค่ะๆ ไปนั่งรวมกับเพื่อนๆ นะ อย่าลืมโหวตให้กับคณะเรา ปีนี้เดือนดาวมหาลัยต้องเป็นคณะเราเท่านั้น โอเค๊?” เจ้ยิ้มบอกพลางยกนิ้วขยิบตามาให้
“แต่พยาบาลสวยมากเลยนะเจ้” แมวพูดขัดก่อนจะโดนเจ้ยิ้มจิ้มหน้าผากจนหน้าแทบหงาย
“นังน้องแมว หล่อนต้องเชียร์คณะของสามีจ่ะลูก จบ! ไปได้ละ อย่าให้ชะนีหน้าไหนมาตอมชงโคนะยะ ดวงหน้าแบบนี้ต้องเก็บไว้ให้อยู่คู่กับโลกของพวกเรา เข้าใจตรงกัน”
อะไรคือโลกของพวกเราที่เจ้ว่าไว้ ผมก็ไม่อาจเข้าใจได้ แต่เหมือนแมวจะเข้าใจเพราะรับคำเสียงแข็งขันเลย
“รับทราบบบบ”
หลังจากนั้นก็เดินมาหาที่นั่ง ได้ที่นั่งอยู่แถวหลังสุด ไกลจากเวทีพอสมควร อ่า...อย่างนี้คงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่แมวบอกว่าตอนที่มีคอนเสิร์ตเขาจะเก็บเก้าอี้ออกไป เราก็สามารถเบียดไปชิดหน้าเวทีได้ ผมก็จะได้เห็นพี่ทองตอนร้องเพลงด้วย
งานเฟรชชี่ไนท์ที่จริงก็ค่อนข้างหน้าเบื่อนะสำหรับผม แต่สำหรับแมวคงไม่ใช่ เห็นตื่นเต้นร้องวู้ว้าวอยู่เกือบตลอดเวลา ยิ่งตอนประกวดดาวเดือนนะครับ เสียงดังสุดๆ ในขณะที่ผมแปลกแยกจากคนอื่น ผมก็นั่งมองแต่ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมไปด้วย การมาเห็นคนเดินโชว์ความหล่อความสวยไม่รู้จะน่าสนุกตรงไหน การแสดงละครของพวกรุ่นพี่ยังตลกกว่าซะอีก แถมช่วงแสดงความสามารถของตัวแทนแต่ละคณะนี่...บอกตรงๆ เลยว่า...ความสนใจของผมแทบติดลบ เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ขึ้นมาร้องเพลงก็เล่นกีต้าร์ มีน่าสนใจก็แค่คนที่เดี่ยวระนาดเอกนั่นแหละ ผู้หญิงก็มาแสดงในละครเพลงหรือรำไทย บางคนดีหน่อยก็เต้นโคฟเวอร์หรือเป่าขลุ่ยสีซอก็ว่ากันไป ที่จริงก็ไม่ใช่แค่ผมที่คิดว่ามันน่าเบื่อหรอกนะ เห็นหลายๆ คนก็ทำหน้าเซ็งๆ เหมือนกัน แต่ที่ยังไม่มีใครออกไปจากงานคงรอช่วงคอนเสิร์ตที่จะเริ่มหลังจากที่ประกาศผลดาวเดือนเสร็จละมั้ง
“โบจังเท่สุดๆๆๆๆๆๆๆๆ แมวไม่เคยเห็นโบจังสีไวโอลินมานานมากแล้วนะเนี่ย เท่มากกกกกกกกกกกกกกกกที่รักจ๋า”
ผมว่าคนที่เรียกแฟนตัวเองด้วยคำว่า ‘ที่รักจ๋า’ ต่อหน้าผู้คนมากมายด้วยเสียงดังๆ นี่ มักไม่ใช่คนปกติล่ะ -_-
เฮ้อ...ง่วงจริงๆ จะสี่ทุ่มแล้วเหรอเนี่ย
“ชงโคๆๆๆๆ ตื่นๆๆๆ หลับไปได้ไงเนี่ย เสียงออกจะดังขนาดนี้ ตื่นเร็ว เขาประกาศผลกันเสร็จแล้วนะ”
เอ๋...ผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่?
คงเพราะวันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน แถมเย็นนี้ยังเจอเหตุการณ์สั่นประสาทอีก เป็นไปได้ก็อยากกลับไปนอนตอนนี้เลย งานเลิกตั้งเที่ยงคืน กลับก่อนได้ไหมเนี่ย
“จะเริ่มแล้วอ่ะ จะเริ่มแล้วววววววววววววววว!!”
อืม...ถ้ามันไม่สนุกอย่างที่แมวตั้งตารอคอยนี่...จะเห็นเด็กแถวนี้ร้องไห้ไหมนะ
‘นี่ แล้วผลเป็นไงเหรอ เดือนกับดาวน่ะ’ ผมส่งมือถือที่ตัวเองพิมพ์ข้อความลงไป ให้แมวดู
“อ๋อ โบจังได้ที่สาม คนที่ได้น่ะเด็กวิจิตรศิลป์ ที่เดี่ยวระนาดคนนั้นไง คนอะไรไม่รู้ หล๊อหล่ออออออ ส่วนผู้หญิงนี่ใครไม่รู้อ่ะ แมวจำไม่ได้”
หัวสมองมีไว้แต่จำผู้ชายสินะ สำหรับผู้หญิงคงไม่มีเหลือให้
ระหว่างที่พักเบรกยี่สิบนาทีเพื่อรอการเตรียมพร้อมของสถานที่ ผมกับแมวและโบจังที่ตามมาสมทบในภายหลังก็ออกมาสูดอากาศข้างนอก ดึกๆ แบบนี้อากาศดีจังเลยนะ ดาวก็สวยด้วย
“ดีแล้วล่ะที่โบจังไม่ได้ตำแหน่ง ไม่งั้นแมวคงอกแตกตาย” เสียงของแมวดังงุ้งงิ้งอยู่ข้างๆ แมวยืนอยู่ตรงกลางระหว่างผมกับโบจัง แต่เอนตัวไปทางโบจังมากกว่า เพราะตอนนี้แมวกำลังเอาหัวไถกับไหล่ของโบจังอยู่ นี่ถ้าผมทำคงไม่น่ารักอย่างนี้หรอกใช่ไหม -*-
“ทำไมล่ะ” โบจังถามกลางเสียงเรียบเรื่อย หน้าตาเหมือนยังไม่ตื่นจากโลกเพ้อเจ้อของตัวเอง นี่อยากถามนะว่าไปตกลงเป็นแฟนกันได้ยังไง หรือแมวมันพูดเองเออเองอยู่คนเดียว
“ก็ถ้าเป็นเดือน เดี๋ยวก็มีคนรู้จักเยอะ แมวไม่อยากให้ใครมายุ่งกับโบอ่ะ แค่เป็นเดือนคณะก็มีผู้หญิงโทรมาหาหลายคนแล้ว”
“หึงด้วยเหรอ”
“หึงสิ ก็แฟนทั้งคนนี่นา”
“ก็ยังดีที่รู้ตัวว่าเป็นแฟนโบ”
“รู้อยู่ตลอดแหละ ชงโคๆๆๆ ดูนั่นๆ ดาวตกอ่ะ อธิษฐานเร็วเข้า”
ผมกำลังดื่มด่ำอยู่กับบรรยากาศและตัดตัวเองออกจากโลกส่วนตัวของคู่รักข้างๆ โดยสมบูรณ์แล้ว แต่ก็ถูกแมวเขย่าตัวให้ตื่นจากภวังค์
แมวนี่เด็กจริงๆ เชื่ออะไรกับคำอธิษฐาน ดาวตกก็แค่ปรากฏการณ์ของเทหวัตถุนอกบรรยากาศของโลกที่พุ่งมาสู่พื้นผิวของโลกด้วยแรงดึงดูด มันไม่ได้เป็นอะไรที่วิเศษขนาดจะบันดาลให้ความต้องการของมนุษย์เป็นจริงได้ ผมน่ะ...ไม่เคยเชื่อในคำอธิษฐานและคำภาวนาเลยสักครั้ง
“ชงโคอธิษฐานอะไรเหรอ”
ผมส่ายหน้าปฏิเสธ
“น่าเสียดายนะ น่าจะอธิษฐานสักหน่อย มีคนบอกว่าคำอธิษฐานตอนดาวตกจะเป็นจริงได้เมื่อได้อธิษฐานอยู่ข้างๆ คนที่เรารัก แมวต้องสมหวังแน่ๆ ก็มีโบจังยืนข้างๆ นี่นา ฮี่ๆๆๆ ถ้างั้น...ถ้าชงโคได้มีโอกาสเห็นดาวตกพร้อมกับพี่ทองคำเอกล่ะก็ อย่าลืมอธิษฐานนะ”
เห็นใบหน้ายิ้มแย้มของแมวแล้วผมก็เลยพยักหน้ารับอย่างเสียมิได้ ...อธิษฐานพร้อมกับคนที่รักเหรอ... อืม...ยังไม่เคยลองแฮะ จะเป็นจริงได้รึเปล่านะ คำอธิษฐานแบบนั้นน่ะ
“ตายยยยยยแล้วววว กลับเข้าไปข้างในกันเถอะ เลยเวลามามากแล้วนะ คงเริ่มไปแล้วมั้งเนี่ยยยย”
ด้วยความรีบร้อนที่ผมกับโบจังต้องรีบวิ่งตามแมวให้ทัน ก็เลยชนกับคนอื่นเข้า พอเข้าไปช่วยพยุงเขาให้ลุกขึ้นก็พบว่าเป็นผู้ชายที่เพิ่งได้ตำแหน่งเดือนมหาลัยมาหมาดๆ คนที่เดี่ยวระนาดเอกจนงานที่น่าเบื่อดูดีขึ้นมานิดหน่อย
“ไม่เป็นไรครับๆ เจ็บตรงไหนไหมครับ ไม่ต้องขอโทษหรอก ผมไม่เป็นไร”
ยังมีน้ำใจถามคนอื่นอีก ทั้งๆ ที่โดนทั้งผมและโบจังชนจนล้มไม่เป็นท่า ตอนผมชนนี่เขาเริ่มเซจะล้มแล้วครับ แต่โบจังที่วิ่งตามมาข้างหลังไม่เห็นว่าข้างหน้าเกิดอะไรขึ้นก็เลยชนเข้าอีกคน เดือนมหาลัยเลยร่วงลงพื้นอย่างที่เห็น
“นายจะไปไหนล่ะ ให้ช่วยไหม” โบจังถามอย่างมีน้ำใจ
“จะเอาของไปเก็บที่คณะน่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้สบายมาก”
“เอามาเถอะ เดี๋ยวช่วยถือ ชงโค นายตามแมวไปก่อนเลย เดี๋ยวผมตามไป”
ผมเลยพยักหน้าก่อนจะก้มหัวขอโทษผู้เสียหายอีกครั้ง แล้วหันหลังเดินไปที่ประตูทางเข้างาน
“เดี๋ยว! นายชื่อชงโคเหรอ! ผมชื่อหลิน ยินดีที่ได้รู้จักนะ!” เสียงกระตือรือร้นที่ดังตามมาทำให้ผมหันกลับไปมอง ก่อนจะพยักหน้าให้หนึ่งที
ก็ดูเป็นคนดีน่าคบเหมาะสมกับตำแหน่งล่ะนะ แต่ตอนนี้ผมไปตามหาแมวก่อนเถอะ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เอาใจฉันไปเลยค่า พี่ขา!!! ย่ำยีหัวใจฉันได้เลยยยยยยยยยยย”
ทะ...ทำไมผู้หญิงแต่ละคนถึงดูคลั่งขนาดนี้ พวกเธอถูกอะไรเข้าสิงกันรึเปล่า? ผมหันมองซ้ายขวา ฝ่าแสงสลัวของพื้นที่ในห้องประชุมที่ฉายสปอร์ตไลท์ไปที่เวทีเพียงแห่งเดียว แล้วก็เจอแมวกำลังดีดดิ้นอยู่กับเจ้ยิ้มอยู่ทางขวามือ ไม่ไกลจากเวทีเท่าไหร่
“ชงโค๊!! ชงโคๆๆๆๆๆ ดูนั่นนนนนนนนนนนน ดูนั่นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน คิดไม่ผิดที่มาเข้ามหาลัยนี้ เจ้ยิ้มมมมมมม แมวจะดิ้นตายแล้วจ้า”
อืม...สาเหตุ...คงหนีไม่พ้น ผู้ชายห้าคนบนเวทีตอนนี้ล่ะมั้ง แถมแต่ละคนยังแต่งตัวคนละแนว เหมือนคนละวงไม่ได้ตั้งใจมารวมตัวกันแต่อย่างใด
“สวัสดีคร้าบบบบบบบบบบบบบ เจอกันเป็นครั้งที่หกแล้ว คิดถึงผมกันใช่ไหมครับ ก็แหม เราเจอกันปีละครั้งเอง แต่ปีนี้น่าเสียดายจริงๆ ที่เป็นปีสุดท้ายของพวกเรา อืม...เอาไงดีน้า” พี่ทองผู้ครอบครองไมค์แต่เพียงผู้เดียวกำลังพูดด้วยเสียงนุ่มหู ยิ้มหว่านเสน่ห์ให้คนข้างล่างเวทีตายกันเป็นระนาว
“ไม่เอาน้า ไม่อาวววววววววว พวกเราไม่ยอม ไม่ยอม ไม่ยอมมมมมมมม” เสียงประสานส่วนใหญ่มาจากผู้หญิงที่โดยมากไม่ใช่นิสิตปีหนึ่งครับ เอ๋...นี่งานเฟรชชี่นะ ทำไมมีพี่ปีอื่นมารวมด้วย ชักมั่วไปกันใหญ่แล้ว =_=;
“อย่าดื้อกันสิครับ ใครดื้อเดี๋ยวให้หมอโปรดจับฉีดยานะ” พี่ทองพูดพลางขยิบตา ซึ่งทำให้ขนที่ต้นแขนของผมลุกอย่างฉับพลัน ...มะ...ชักไม่ดีละ
แต่เสียงกรี๊ดเมื่อได้ยินชื่อหมอโปรดดังกระหึ่มคับหอประชุม ผมเห็นบางคนกรี๊ดเสียงดัง ยิ้มกว้างน้ำตาซึม
“เอ...แต่คงไม่ได้มั้งวันนี้ เพราะหมอโปรดเปลี่ยนจากจับเข็มมาจับไม้กลองให้วงของพวกเราแทน ขอเสียงกรี๊ดให้หมอโปรดดังๆ อีกครั้งได้ม้ายยยยยย”
ถึงพี่ทองไม่ขอ ผู้หญิงทุกคนก็พร้อมจะหลอดเสียงพังเพราะความหล่อระดับตำนานของพี่หมออยู่แล้ว
“เสียงกรี๊ดดังมากเลย นี่ดังมากกว่าทุกปีที่วงเราขึ้นแสดงรวมกันอีก น่าน้อยใจจริงๆ เลย” พี่ทองพูดเสียงตัดพ้อ แต่ก็ทำให้พวกผู้หญิงดิ้นพล่านกันได้
“เอาใจฉันไป เอาใจฉันไปค่ะพี่ทองงงงงงงงงงงงง ฉันรักพี่ค่ะ ฉันรักพี่ แต่ฉันก็รักพี่หมอโปรดด้วยยยย อร้ายยยยย ฉันเลือกไม่ถูกอะแกร๊!!!!” รุ่นพี่ผู้หญิงที่ผมจำได้ว่าเป็นพี่สต๊าฟกลุ่มของผมกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่กับเพื่อนของเธอ ในขณะที่เจ้ยิ้มกับแมวกอดคอกันยืนน้ำตาซึมเหมือนกำลังซึมซับภาพของผู้ชายที่ชื่นชอบไว้ ...นิพพานกันแล้วใช่ไหมพวกคุณน่ะ
ผมไม่ได้กรี๊ดหรือตะโกนบอกรักนักร้องนำและมือกลองเหมือนอย่างที่คนอื่นๆ ทำ เพราะที่ผมทำ...ผมทำเพียงแค่จ้องมองพี่ทองอย่างไม่ละสายตาก็เท่านั้น...ไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้เลย เขา...ยังมีอะไรให้ผมต้องทำความรู้จักอีกมากเลยสินะ
เสียงจังหวะกลองที่หนักแน่นดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงกรี๊ดที่ดังสนั่น มือกลองที่ไม่ใช่ตำแหน่งที่เด่นเหมือนกับนักร้องนำแต่ก็ยังเรียกเสียงกรี๊ดได้ไม่แพ้เลย แล้วลิสท์เพลงที่เลือกเอามาเล่นนั้นมั่วสุดๆ น่าจะเปลี่ยนจากชื่อวงเดซี่เป็นวงตามใจฉันน่าจะถูกกว่า เพราะแนวเพลงนี่ล้ำลึกเกินบรรยาย เริ่มเพลงแรกเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ด้วยเพลงไปอยู่ที่ไหนมา สบายๆ จังหวะสนุกๆ ไปก่อน ต่อด้วยเพลงของพี่ตูนบอดี้ที่พี่ทองพาสาวๆ นั่งเรือออกไปแตะขอบฟ้าและหนุ่มๆ ทึ่งไปกับเสียงกลองจากพี่หมอโปรดแล้ว จากนั้นมันก็เริ่มแปลกขึ้นเมื่อผมเห็นเจ้ยิ้มกับแมวกำลังแดนซ์จนหัวเกือบหลุดด้วยเพลงวณิพกเมดเล่ย์กับบัวลอย แต่ถึงอย่างนั้นสาวๆ ก็ยังกรี๊ดกร๊าดกันไม่เหน็ดเหนื่อย พักหายใจกันไปได้แป๊บเดียว ก็ขึ้นเพลงบางระจันกันทันที ผมมองหน้าพี่ทองอย่างไม่รู้จะหัวเราะหรืออะไรดี เพราะนึกภาพพี่ขี่ควายกำลังจับดาบไปสู้แล้วโคตรตลก
“ฮึกเหิมกันพอสมควรแล้ว และบอกตรงๆ ว่าพี่เหนื่อยมากครับ ณ จุดนี้ แต่หมอโปรดเขารีเควสมา บอกว่าถ้าไม่ร้องเพลงนี้เขาจะไม่ยอมมาตีกลองให้ บังคับขืนใจกันมากเลยจริงๆ” พี่ทองพูดพลางยิ้มพราย ในขณะที่พี่ๆ ร่วมวงส่งเสียงหัวเราะกันยกใหญ่ เพราะพี่หมอนั่งทำหน้าคนหล่อโกรธอยู่ข้างหลัง
“พี่ทองขา รับผ้าเช็ดหน้าฉันด้วยค่ะพี่ เสี่ยโปรดของบ่าวทำหน้าโกรธก็ยังหล่อออออออออออออออ พ่อทูนหัว พ่อของลูก ผู้ชายสุดที่รักกกกกกกกกกกกกกกกกกก” เจ้ยิ้มที่หมดแรงเพราะกระหน่ำเต้นไปเมื่อครู่ ลุกขึ้นมาแสดงจุดยืนของตัวเอง แต่มันเป็นเสียงเดียวขณะที่ทุกคนพักเหนื่อย จุดที่พวกผมยืนก็เลยกลายเป็นจุดสนใจ
“มองหาตั้งนาน อยู่ตรงนั้นเอง” พี่ทองพูดใส่ไมค์ ก่อนจะส่งยิ้มมาให้ผม ในขณะที่เจ้ยิ้มกรี๊ดเสียงลั่นไปพร้อมกับผู้หญิงที่ยืนอยู่รอบๆ เพราะไม่ได้ระบุนี่แหละว่าที่มองหาตั้งนานน่ะมองหาใคร แต่ละคนก็เลยทั้งยิ้มทั้งฟินกันไปข้างเดียว
“ฉันอยู่นี่ค่ะพี่ น้องยิ้ม ถาปัตย์ปีสามนะค้า รับพิจารณาด้วยค่าพี่ทองงงงงงงงงงงงงงงงงง ฉันอยากเป็นคุณนายร้านทองค่ะพี่!!”
ผมหัวเราะไปกับท่าทางของเจ้ยิ้ม ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้พี่ทองที่กำลังมองมา เขายักคิ้วและหัวเราะ ก่อนจะเริ่มเล่นเพลงสุดท้ายสำหรับค่ำคืนนี้ ซึ่งเป็นแนวเพลงที่กระโดดจากเพื่อชีวิตข้ามโลกมาเลยครับ พอเสียงกีต้าร์ดังขึ้นเท่านั้น ผู้หญิงก็กรี๊ดกันแทบสลบ
“นี่...คนนั้นน่ะ เมื่อไหร่จะรับรักเฮียสักที ...ให้ตายสิพับผ่า”
เพราะพี่ทองพูดพร้อมกับมองมาทางผม เจ้ยิ้มกับแมวเลยดิ้นพล่านอยู่ข้างๆ
“พี่ทองงงงงงงง ฉันรับค่ะฉันรับบบบบบบบบบบบ ฉันยอมแล้ววววววว คนบ้า!!! น่ารักที่สุดเลยยยยยย”
ผมทำได้เพียงหัวเราะแล้วยิ้มตอบกลับไป พี่ทองนี่กล้าจริงๆ ไม่กลัวหรือไงว่าใครจะเห็นว่าพี่กำลังมองผมอยู่
‘รับบทเป็นผู้กระทำ สลับกับบทโดนทำร้าย
เพียงแค่ฉันเฝ้ารอแต่คนที่ใช่
ไม่เคยตั้งใจให้ใครต้องมาเจ็บช้ำ
ความยุติธรรมมันอยู่ตรงไหน
ฉันชอบใครเขาก็ไม่ชอบฉัน
พอเขามาชอบเรา เราก็ไม่ชอบเขาเหมือนกัน
ความรักมันประหลาด ไม่ค่อยมีโอกาสเกิดขึ้นพร้อมกัน
ไม่ว่ากี่ที ที่ฉันรักใครก็มักจะโดนทำร้าย
พอเขาทุ่มเทแทบตายฉันดันไม่อยากจะได้มัน
ความรักเหมือนที่บอก มันเข้าๆ ออกๆ คนไม่พร้อมกัน...สักที’เพลงจบลงพร้อมกับเสียงกรี๊ดที่ดังขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้หูผมใช้การไม่ได้ไปชั่วขณะ พลังรักของผู้หญิงช่างรุนแรงและน่ากลัว ขนาดพี่หมอโปรดเป็นคอรัสที่ร้องเพียงแค่โอ้ๆ เมื่อกี้ พวกเธอยังบอกว่าโคตรเพราะ แถมพี่ทองตอนนี้ก็มีผู้หญิงตะโกนบอกรักเสียงดังลั่นห้องประชุม
อืม...ถ้ามันเป็นอย่างนี้ ก็คงต้องบอกว่า ให้ตายสิพับผ่า! ถ้าไม่มาแก้วหูผมคงไม่เดี้ยงอย่างนี้ แต่...เอาเถอะนะ ได้เห็นพี่ทองที่ไม่ทำตัวบ้าบอเหมือนทุกทีก็ดีเหมือนกัน ^^
..................................................To be continue............................................................
จะพาน้องเข้าเรียนมหาลัยแล้วนะ เป็นกำลังใจให้ชงโคด้วย กรี๊ดกร๊าดดดดดด พี่โปรดคงไม่ได้ออกอีกนานเลยนะคะ ใครคิดถึงก็ไปอ่านเรื่องมาโปรดอีกรอบก็ได้นะ ฮ่าๆๆ
เรื่องนี้จะเป็นเรื่องสุดท้ายที่เขียนถึงตัวละครในเรื่องที่เขียนผ่านมาๆ เพราะยังไงอยู่มหาลัยเดียวกันเดี๋ยวคนนั้นคนนี้คงโผล่มาอีก แต่คงไม่มากค่ะ อาจจะมาแค่สองบรรทัดหรือกล่าวถึงนิดหน่อยก็ว่ากันไป ขนาดพี่ทองในเรื่องมาโปรดยังโผล่ไปแค่สามบรรทัดด้วยซ้ำ ฮ่าๆๆ
ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ ทำไมถึงชอบชงโคล่ะ ตอบ!!!

ปล. มีตัวละครเพิ่ม เป็นใครให้เดา
http://ask.fm/TCHONG_K << สอบถามได้จ่ะ
***ลืมบอกไป พรุ่งนี้ไม่ลงนะจ้ะ