นิยายรักของขวัญ 7 ปี <หนุ่ม IT กับ DJ สุดหล่อ>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักของขวัญ 7 ปี <หนุ่ม IT กับ DJ สุดหล่อ>  (อ่าน 598582 ครั้ง)

ออฟไลน์ A-ram 70

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 765
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ยังไงก็ไปตามความฝันเถอะครับ

ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับสำหรับนิยายดีๆๆที่แต่งมาให้พวกเราทุกคนอ่านครับ :bye2:

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
พี่ เอ ทำหน้าที่ของพี่ให้ ดีนะค่ะ 

เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ   :L1:

<ถึงจะรู้ว่ามียุเยอะและ>  :laugh:








ja ne

  • บุคคลทั่วไป
อ้อ แบบนี้นี่เอง เข้าใจ

แต่ว่าเอา แลปทอป ไปด้วย ต่อเน็ตได้ก็ไม่น่าจะมีปัญหา พูดคุยกันได้เหมือนปกติ
 เด็กวิทย์คอม กลัวอาไร(จิ๊บๆ)

งัยก็ เป็นกำลังใจให้นะ ทุกคนต้องเติบโต ชิมิ ชิมิ

goozaza

  • บุคคลทั่วไป
โหยอิจฉา ไปด้วยกันด้วย  อิอิ พี่นิคคร้าบ เมื่อคืนผมไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้นน้า พี่เอแหละ ตัวดีเร้ยย หึ ทะเล้นแบบนี้ พี่นิค ฝ่าฝืนกฎให้ครบทุกข้อก่อนพี่เอไปนะคัรบพี่ บ่อยๆด้วย ฝากกกก 55555+(แกล้งเค้าดีนักระวังโดนแกล้งคืนมั่งเหอะ)

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
แค่ 3-6เดือน เดี๋ยวก็ถึงแล้ว รอนิดเดียวนะ

meawmeaw

  • บุคคลทั่วไป
3-6 เดือน ถ้าจะมองว่านานก็นานนะคะ
หรือจะมองให้มันไม่นานมาก ก็ได้
คงอยู่ที่ใจเรามั่งคะ ว่าคิดอย่างไหน

ที่นั่นมีเน็ตอยู่แล้ว แต่คุณเออาจจะงานเยอะ
แต่ยังไงพวกเราก็รออ่านเรื่องของคุณเออยู่แล้วนะคะ
เพราะเรื่องของคุณเอมีข้อคิดด้วย ชอบ อิอิ

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ ทั้งคุณเอและคุณนิค
สู้ๆจ้า  :L2: :L2: :L2:

maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-07-2008 14:04:49 โดย maabbdo »

แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
เพื่อสร้างอนาคต อย่าคิดมากสิคะ
เวลาก็ไม่กี่เดือน แค่นี้เรื่องเล็กค่ะ
เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว   รอได้ค่ะ

เป็นกำลังใจให้พี่นิคและน้องเอนะคะ  :L2:


christiyaturnm

  • บุคคลทั่วไป
สำหรับพี่นิค ผมเชื่อว่าพี่เขาหนักแน่นและอดทนพอที่จะรอพี่เอได้อยู่แล้ว

แต่กลับคุณเอ
อยากให้เชื่อมั่นในตัวพี่นิคมากกว่านี้ ไม่ใช่เวลาโลเลคิดอะไรไปเองฝ่ายเดียว
มันไม่ดีต่อตัวคุณ และบั่นทอนความรู้สึกของคุณอีก

ทำหน้าที่ลูกที่ดีของครอบครัวไปก่อนละกัน อย่าไปกังวลอะไรมาก ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี

ขี้คร้าน พี่นิคเขาทนไม่ไหว อาจบินมาเยี่ยมบ้างก็ได้


อย่าคิดมากเลยนะครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่ทำให้คนในเล้าอ่านแล้วมีความสุขทุกครั้งที่อ่านนะครับ

 :L2: :L2: :L2:  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

P_love

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
ถ้า พี่เอ ม่ารุ ว่ามาน เป็ยข่าวดีรึว่าข่าวร้าย 


ข้าพเจ้าจะบอกห้ายเองค่ะ   :m13:


ข่าวนี้ เป็น ข่าว ดีนะ   :m4:


เพราะว่า พี่เอได้ทำตามความฝัน 


แล้วถ้าพี่เอทำมันสำเร็จ พี่เอ ก็จะมีความสุข --->  คนในเล้านี้ก็จะมีความสุขตามนะค่ะ   :m1:

ถึงพี่เอจะไม่ได้เข้ามาดู ทุกวัน  แต่อยากให้รุนะ ว่า 

แฟนๆๆ นิยาย ของพี่เอจะเข้ามารอ พี่เอทุกวันเรยนะค่ะ   :กอด1: :L1: :กอด1:



"ผมบอกกับพี่นิคว่า จำข้อตกลงที่สองไว้ ถ้าจะมีคนใหม่ก็มีได้เลย "

--->  อย่าพูดงี้ สิ  :m31: :m15: :m31:

แอส พี่เอ เอา ไว้นาน  และ แต่ ม่าเคย ด้ายเข้า ไป คุยเรย   :laugh:

จะขอเป็นกำลังใจใหพี่ทั้ง 2 คนเสมอ   :L2:


รอตอนต่อ ไปยุนะค่ะ

มาต่อซักทีซิ  :m15: :m15: :m15:


poom

  • บุคคลทั่วไป
 :m23:เวลา3เดือนหรือ6เดือนไม่มีความหมายเลยน่ะน้องเอ...เพราะพี่นิคไม่เคยอยู่ห่างน้องเออยู่แล้ว...พี่นิคน่ะนั่งอยู่ในใจน้องเอตลอดเวลานี่น่า.....คอมก้อมีกล้องให้เห็นกันได้อยู่เวลากัวไร...ช่ายป่าวพี่นิค... :กอด1:

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
 :oni2:มาแล้วครับ มาต่อแล้วครับ

goozaza -- พูดยังไงบอกว่าอยู่ข้างพี่เอ แต่เชียร์พี่นิค ชิส์ แล้วไม่ต้องมายุพี่นิค(ตกลงไม่เปลี่ยนใจแน่เหรอเรื่อง...เดี๋ยวขอพี่นิคกับวิลให้ :laugh:)

Mint -- เข้ามาฟังนะครับ

maabbdo -- ใช่ครับทุกคนในนี้เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเลย  :L2:

zandwizz -- สมาชิกที่ออสเยอะเลยเหรอครับ ดีจัง

P_love -- จะส่งข่าวมาเท่าที่ทำได้ครับ :c5:

Joobperman -- ขอบคุณครับ พี่สาวที่แสนดี

kdds -- จะพยายามไม่คิดมากครับ

@#Jackie#@  -- เพลินกับงานมันก็คงเร็วครับ

LoVeMoDe -- ผมอ่านแล้วน้ำตาซึมเลยครับ o7

thaithai00 -- เจ้า  :L2: 100 ตัว

Normalblue -- ขอบใจมากนะ น้องก้อนเมฆผู้น่ารัก

Tsukasa999 -- จะใช้ชีวิตนี้ให้อย่างคุ้มค่าครับ

wan -- จะหายงอนดีไหมน้า

Otaku -- มีการยุส่งก่อนไปต่างประเทศ เหมือนเป็นการตุนเสบียงเหรอครับ :m20:

sakiko -- กำลังใจจากน้องก็สำคัญไม่แพ้คนอื่นครับ น้องสาวคนนี้น่ารักเสมอครับ มาอวยพรให้ฝันดีทุกคืนเลย เข้ามาคุยได้ครับ

kimi dake!!! -- เรื่องเทคโนโลยีการติดต่อคงไม่มีปัญหาครับ แต่ผมจะมีเวลาหรือเปล่า

christiyaturnm -- ใช่ครับผมคงต้องหนักแน่นมากกว่านี้ :a2:

poom -- หวานแทนพี่นิคซะงั้น

............................................................

 :L2: :L1:ขอบคุณทุกกำลังใจครับ  :L1: :L2:

แต่สิ่งที่ผมกังวลไม่ใช่เรื่องที่เราไม่ได้คุยกัน ไม่ได้เจอกันครับอย่างที่หลายๆคนพูดเรื่องเทคโนโลยี ยิ่งผมเรียนมาทางนี้ด้วยแล้วไม่มีปัญหาครับ แต่อย่างว่าตัวเป้นๆกับผ่านจออยากเจออย่างไหนล่ะครับ :o12: อีกอย่างผมกลัวว่าผมจะผูกมัดพี่นิคเขาไว้ ผมเลยบอกให้พี่เขานึกถึงข้อตกลงที่สองไว้ และช่วงนี้พี่นิคก็มีหลายอย่างเข้ามาการที่ผมไปอย่างนี้ก็เหมือนกับว่าผมทิ้งพี่เขาไปเลย :o12: แต่ยังไงผมก็จะพยายามทำหน้าที่ทุกอย่างให้ดีที่สุดครับ :a1:

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ยี่สิบแปด --- มือที่สาม

“อาเออ้า ตื่นได้แล้ว สายแล้ว ตื่นมากินข้าวแล้วค่อยนอนต่อก็ได้”เสียงอาอี๊ปลุกผม

“คร้าบบบบบ อืมๆ”ผมงัวเงียลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมนอนบิดตัวไปมาบนที่นอนอย่างเกียจคร้าน แล้วผมก็ต้องสะดุ้งลุกขึ้นนั่งเมื่อหัวผมเริ่มประมวลความทรงจำเมื่อวานเรื่องซาวน่ากับเรื่องของสอง

“เอาไงดีว่ะ วันนี้ต้องไปร่วมพิธีเปิดกีฬาระหว่างคณะด้วย ถ้าไปก็ต้องเจอกับสองอีก โทรไปบอกพี่นิคว่าไม่สบายแล้วไม่ไปดีกว่า ไม่ได้ๆพี่นิคยังโกรธเราอยู่แน่ๆ โทรบอกพี่แหววดีกว่า แต่ถ้าเราจะหลบสอง เราก็หลบได้แค่วันนี้วันเดียวซินะ ดันไปรับเป็นบัดดี้ของสองอีก ต้องดูแลสองอีกตั้งเดือนกว่าจะจบโครงการ เอาไงดีว่ะ”ผมบ่นกับตัวเอง

“เอ้า เป็นไงเป็นกัน บางทีสองอาจจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้ มันแค่อารมณ์ชั่ววูบ ท่องไว้เอ มันแค่อารมณ์ชั่ววูบ คนเราผิดพลาดกันได้ ต้องให้อภัยๆ ๆ” ผมพูดบ่นกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะเดินกลับไปที่บ้านของตัวเองทำภารกิจส่วนตัว มาทานข้าวเช้ากับอาอี๊แล้วก็เข้าในมหาวิทยาลัย (ตอนที่ผมกลับไปที่บ้าน ในมือถือของผมมีเบอร์ของพี่แหววกับพี่หมอทีประมาณสิบสาย แต่ผมไม่โทรกลับเพราะคิดว่าเดี๋ยวเข้ามอก็เจอกันแล้ว)

...

ผมไปถึงในมอก่อนพิธีเปิดจะเริ่มขึ้นประมาณหนึ่งชั่วโมง ผมตัดสินใจยังไม่ไปที่สนามกีฬาแต่ไปที่องค์การก่อนเพราะคิดว่าเพื่อมีอะไรขาดตกบกพร่องจะได้ช่วยเหลือ

“สวัสดีครับ.....พี่.......”ผมที่กำลังเดินเข้าไปในองค์การนักศึกษากล่าวทักแต่ยังไม่ทันพูดจบก็โดนแทรกขึ้น

“ต้องการเจออยู่พอดีเลย น้องเอมากับพี่ก่อน”พี่หมอทีเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับจับข้อมือผมเดินออกไปข้างนอกอย่างงงๆ สายตาทุกคนในองค์การที่มองมาทางผมเหมือนกับว่าเกลียดผมมาก

“มีอะไรครับพี่หมอที”ผมถามขึ้นหลังจากที่พี่หมอทีหยุดเดินแล้วปล่อยมือผมลงตรงหน้าสวนหย่อมขององค์การ

“น้องเอครับ พี่โทรไปหาตั้งหลายครั้งทำไมไม่รับครับ”พี่หมอทีถามแต่น้ำเสียงดูไม่ปกติเลย

“ก็เมื่อคืนนี้เอไปนอนกับอาอี๊ ทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่บ้านครับเลยไม่ได้รับ พี่หมอทีมีอะไรหรือเปล่าครับ”ผมถามเพราะเห็นสีหน้าพี่หมอทีดูมีกังวล ทำเอาผมพลอยอึดอัดไปด้วย เพราะปกติถึงจะมีเรื่องอะไรน่ากังวลแค่ไหนพี่หมอทีก็ไม่เคยแสดงออกทางสีหน้า ผิดกับครั้งนี้

“เมื่อคืนน้องเอเข้าไปนอนที่บ้านใช่ไหมครับ แล้วก่อนหน้านี้น้องเอไปไหนครับ”พี่หมอทีถาม ทำเอาผมใจหายวาบทันที (หรือว่าพี่หมอทีจะรู้เรื่องเราไปซาวน่านั่น – ผมคิด)

“ก็..ก็...ไม่ได้ไปไหนนี่ครับ”ผมปดออกไปอย่างไม่เต็มปาก

“ไม่ได้ไปกับสองเหรอครับ”พี่หมอทีถามต่อ ทำเอาผมหน้าซีดเหงื่อผุดออกมา

“ก็.....คือ......ว่าไป...ครับ..แต่...คือ....แบบ....ว่า.......”ผมพูดติดขัดไปหมดได้แต่ก้มหน้ามองพื้น

“คือแต่ว่าอะไรครับ”พี่หมอทีถามอีก ทำเอาผมพูดไม่ออก

“ในฐานะที่น้องเอเป็นน้องของพี่ พี่ขอถามน้องเอตรงๆเลยแล้วกันนะครับ”พี่หมอทีหยุดหายใจ แต่ผมใจจะขาดเพราะลุ้นกับคำถามของพี่หมอที

“เมื่อคืนน้องเอต่อยหน้าน้องสองหรือเปล่าครับ”พี่หมอทีถามต่อหลังจากหยุดหายใจ ทำเอาถึงกับผมเข่าอ่อนแทบล้มทั้งยืน

“ก็....ครับ....ผมทำเอง”ผมตอบออกไปด้วยเสียงอันเบา

“ทำไมครับ พี่ไม่คิดว่าน้องเอจะทำอะไรตามอารมณ์ได้ขนาดนั้น”พี่หมอทีพูดออกมา ตอนนั้นผมอยากยกมือไหว้ขอโทษพี่หมอทีเป็นที่สุด อยากจะอธิบายเรื่องราวต่างๆแต่ว่าอยู่ดีๆก็เหมือนร่างกายไม่มีแรงขึ้นมาอย่างนั้น เหมือนอะไรมาอุดคอพูดไม่ออก

“กับแค่น้องสองเขาไปส่งที่บ้าน แล้วขอเข้าไปดูบ้านน้องเอ ถ้าน้องเอไม่ให้เข้าก็ไม่น่าจะต้องถึงกับลงไม้ลงมือกันขนาดนี้เลยนี่ครับ”พี่หมอทีพูดออกมา ทำเอาผมเหวอไปเลย

“ตอนแรกพี่กับพี่แหววก็และอีกหลายคนก็ไม่เชื่อ พี่เลยพยายามจะโทรไปถาม ยิ่งโทรไปแล้วน้องเอไม่รับก็ยิ่งเหมือนหนีความผิด แต่นี่น้องเอยอมรับกับพี่เอง พี่ไม่รู้นะครับว่าน้องเอมีเหตุผลอะไรที่ต้องทำกับน้องสองอย่างนั้น”พี่หมอทีพูดออกมาทำเอาผมถึงกับงงและเข้าใจในเวลาเดียวกัน

งงเรื่องที่ว่าผมไม่ให้สองเข้าบ้านแล้วถึงกับต่อยสอง เข้าใจว่าทำไมเมื่อครู่คนในองค์การถึงมองผมด้วยสายตาแปลกๆ

“น้องเอครับ ถ้าน้องเอมีอะไรก็บอกพี่ได้นะครับ ถึงยังไงพี่ก็ยังเป็นพี่ชายของน้องเอเหมือนเดิมนะครับ พี่ที่คอยดูแลสารทุกข์สุขดิบของน้องไงครับ”พี่หมอทีพูดพร้อมกับเดินเข้ามาจับไหล่ผมบีบเบาๆเป็นการให้กำลังใจ

ผมรู้สึกอัดอั้นไม่รู้จะพูดว่าอย่างไรออกไปดี ไม่เข้าใจว่าทำไมสองถึงบอกกับคนอื่นๆว่าผมไม่ให้สองเข้าบ้านแล้วก็ต่อยสอง ความรู้สึกต่างๆถาโถมเข้ามาผนวกกับความหวาดกลัวตื่นตระหนกที่ได้รับจากเมื่อคืนนี้ยังไม่หายทำให้น้ำอุ่นๆจากตาของผมไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว ผมได้แต่ก้มหน้าพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี ถ้าเราพูดออกไปพี่หมอทีเขาคงมองว่าเราเป็นคนไม่ดีมากๆ ที่ไปในสถานที่อย่างนั้น ดีไม่ดีจะเห็นว่าเราแต่งเรื่องเพื่อใส่ความสองก็ได้

“น้องเอ น้องเอร้องไห้ทำไมครับ น้องเอเป็นอะไรครับ”พี่หมอทีถามพร้อมเอามือเข้ามาจับคางผมให้ผมเงยหน้าขึ้น

ผมที่พูดอะไรไม่ออก ผมที่มีแต่ความหวาดกลัว ผมกลัว กลัวเหลือเกิน ผมเลยโผลเข้ากอดเข้าหมอทีทันที  พี่หมอทีไม่พูดอะไรต่อได้แต่เอามือมาลูบที่หัวผมอย่างเบาๆ เหมือนกำลังปลอบเด็กน้อยอยู่

จะเป็นด้วยเหตุบังเอิญหรือฟ้ากำหนดก็มิอาจทราบได้ ช่วงจังหวะที่ผมโผลเข้ากอดพี่หมอทีนั้น เป็นช่วงจังหวะที่พี่นิคกำลังเดินเพื่อที่จะเข้ามาในองค์การพอดี เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีสองที่เดินตามเข้ามาด้วย พี่หมอทีคงไม่เห็นพี่นิคเพราะว่าพี่หมอทีหันหลังอยู่

ผมเห็นสายตาของพี่นิคที่มองมาแล้วทำเหมือนมองไม่เห็นผม เหมือนผมไม่มีตัวตน เหมือนผมว่างเปล่า พี่นิคมองมาแล้วก็ผ่านเลยไปเข้าไปในองค์กรพร้อมกับสองที่มองมาด้วยสายตาที่เยือกเย็นน่ากลัว ที่รอยปากของสองยังมีรอยช้ำอย่างชัดเจน

“ไม่เป็นไรนะครับน้องเอ ถ้าน้องเอยังไม่พร้อมเล่าให้พี่ฟัง แต่ให้รู้ว่าน้องเอยังมีพี่ชายอีกคนที่พร้อมจะฟังและช่วยน้องคนนี้ทุกเรื่องนะครับ”พี่หมอทีบอกพร้อมกับที่ผมค่อยๆผละตัวออก

“ไปครับไปล้างหน้าก่อนแล้วเข้าไปในองค์การด้วยกัน แล้วค่อยไปสนามกีฬาร่วมพิธีเปิดกัน”พี่หมอทีบอกพร้อมจูงมือผมไปที่ห้องน้ำหลังจากนั้นก็เดินเข้าไปในองค์การ

ทุกคนในองค์การยังคงมองผมแปลกๆ แต่คงเป็นด้วยความเกรงใจในตัวพี่หมอทีทำให้เขาไม่กล้ามองผมนาน แต่ถึงกระนั้นก็ยังทำให้ผมอึดอัดอยู่ดี

“พี่หมอ อ้าวน้องเอ........”พี่แหววที่เดินออกมาจากห้องประชุมเล็กทักขึ้น

“มีอะไรเหรอแหวว”พี่หมอทีขัดพี่แหววเพราะรู้ว่าพี่แหววกำลังอยากจะถามผมเกี่ยวกับเรื่องนั้นต่อ

“ก็พี่นิค บอกให้มาตามพี่หมอเข้าไปคุยด้วยค่ะ ตอนนี้ปอกับน้องสองก็อยู่ในนั้น ก็คงเป็นเรื่อง....”พี่แหววจะพูดแต่อึกอักอยู่แล้วมองมาที่ผม

“เอาล่ะๆ พี่เข้าใจแล้ว เดี๋ยวพี่จะเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ ฝากดูน้องเอด้วย อย่าเพิ่งไปคุยไปพูดถามอะไรกวนใจน้องเขานะ แค่นั่งเป็นเพื่อนเฉยๆก็พอ คอยพี่ออกมาก่อน”พี่หมอทีลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องประชุมเล็ก พี่แหววลงมานั่งข้างๆผมแทน ความรู้สึกผมตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับคนที่กำลังจะโดนพิพากษา ผมรู้ว่าที่พี่นิค พี่ปอและพี่หมอทีเข้าไปคุยกันคงเป็นเรื่องผมที่เกี่ยวข้องถึงองค์การด้วยแน่ๆถึงต้องให้นายกและอุปนายกทั้งสองคนรีบคุยกันด่วนขนาดนี้ทั้งๆทีต่อไปจะมีงานพิธีเปิดกีฬาอยู่แล้ว ตอนนี้ทุกคนน่าจะไปอยู่ที่สนามกีฬาไม่ใช่ในห้องประชุม

“น้องเอ”พี่แหววเรียกชื่อผมเบาๆ แต่ผมยังก้มหน้านิ่ง

“น้องเอจ๊ะ”พี่แหววเรียกชื่อผมอีกคราวนี้เอามือมาจับมือผมด้วย แต่ผมก็ยังนิ่ง ที่นิ่งเพราะผมกำลังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งๆที่เมื่อคืนนี้ผมเป็นคนโดนทำร้ายจิตใจและ (เกือบทั้ง) ร่างกาย แต่ทำไมตอนนี้ผมกลายไปเป็นคนร้ายไปได้ พี่แหววเห็นผมนิ่งไม่ตอบก็นิ่งเงียบไปเช่นกันแต่ยังจับมือผมอยู่

เวลาผ่านไปประมาณยี่สิบนาทีเพราะอีกแค่สิบนาทีก็จะมีพิธีเปิดกีฬาขึ้นแล้ว พี่หมอทีก็เดินออกมาจากห้องประชุม ตามด้วยพี่ปอ สองแล้วก็พี่นิค

“พี่ขอบคุณน้องสองมากนะครับที่ไม่ถือสาเอาเรื่องคนของเรา ทั้งๆที่คนของเราเป็นเหตุ แต่ยังไงในเรื่องทางวินัยของนักศึกษาพี่คงปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ คงต้องรายงานอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ ส่วนเรื่องคนดูแลน้องสองเดี๋ยวพี่จะจัดการเปลี่ยนให้นะครับ”เสียงพี่นิคพูดกับสองขณะที่กำลังเดินออกจากห้อง

“ขอบคุณครับพี่ แต่สองไม่อยากให้เป็นใหญ่โตครับ”สองพูดตอบ

“แหววๆ เดี๋ยวจัดการเรื่องส่งเอกสารขอเปลี่ยนบัดดี้ให้สองด้วยนะ”พี่นิคมองมาทางพี่แหววแล้วสั่งงานแต่ไม่มองผมเลย

“เปลี่ยนเป็นใครค่ะ จะได้ส่งชื่อถูก”พี่แหววถาม

“อืม......เอาว่าเดี๋ยวพี่เป็นเองก็แล้วกัน ถือว่าเป็นการชดเชยกับเรื่องที่เกิดขึ้น”พี่นิคบอก คำตอบนั้นทำเอาผมถึงกับอึ้งทันที พี่นิคจะเป็นบัดดี้ให้สองทั้งๆที่งานตัวเองก็มีอยู่มากมาย แล้วก็ใกล้สอบแล้วด้วย พี่นิคเขาคิดอะไรของเขาอยู่นะ ก็รู้ว่าเป็นคนจริงจังกับงานแต่ก็ไม่น่าที่จะต้องลงทุนทำถึงขนาดนี้ หรือว่าพี่นิคจะ..............

“โห น้องสองโชคดีเป็นบ้าเลย ท่านนายกเสนอตัวเป็นบัดดี้ให้เองเลยนะเนี่ยะ”พี่แหววแซว

“พี่นิคไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้ครับ”สองพูดขึ้นอย่างเกรงใจ

“ไม่เป็นไรครับ พี่ตัดสินใจแล้ว ไปครับไปสนามกีฬากันใกล้จะได้เวลาแล้ว ปอกับหมอทีเสร็จพิธีเปิดกีฬาเดี่ยวขอเชิญประชุมต่ออีกหน่อยนะ เรื่องจัดการคนของเรา แล้วใครที่รู้ตัวว่าเกี่ยวข้องก็เชิญด้วยแล้วกัน”พี่นิคหมายถึงผมนั่นเอง

อะไรกัน ทำไมพี่นิคไม่เรียกชื่อเราดีๆ จะให้เราเข้าประชุมด้วยก็น่าจะเรียกเราดีๆ หรือว่าพี่นิคยังโกรธยังเราอยู่ อีกอย่างเรื่องงานพี่เขาคงต้องวางฟอร์มอย่างนี้ซินะ ไว้หาช่วงเวลาว่างๆระหว่างพิธีเปิดกีฬาเข้าไปอธิบายแบบสองต่อดีกว่า อย่างน้อยพี่นิคน่าจะไว้วางใจและเชื่อใจเราบ้าง --- ผมคิดในใจเข้าข้างตัวเอง (ตอนนั้นผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่อยากเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟัง คงเป็นเพราะผมเชื่อใจและวางใจพี่นิคว่าจะต้องเชื่อใจผมและเข้าใจผมเป็นก็ได้)

...

พิธีเปิดกีฬาผ่านพ้นไปด้วยดี  ผมได้แต่นั่งนิ่งเงียบคิดทบทวนไปมาว่าจะจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ยังไง อย่างน้อยเราก็ต้องบอกให้พี่นิคเข้าใจ ถึงแม้ว่าบอกไปแล้วพี่นิคจะมองว่าเราเป็นคนไม่ดีที่ไปในสถานที่อย่างนั้นก็ตาม และแล้วโอกาสก็เป็นของผม เมื่อผมเห็นพี่นิคเดินลงจากปะรำพิธีเพื่อไปเข้าห้องน้ำหลังจากนั่งดูฟุตบอลคู่เปิดสนามไปได้สักพัก

ผมคอยอยู่ที่หน้าห้องน้ำจนเห็นว่าพี่นิคทำภารกิจเรียบร้อยจึงเดินเข้าไป พี่นิคที่กำลังล้างมืออยู่เงยหน้าขึ้นมองผมที่เดินเข้าไปใหม่แล้วก็ล้างมือต่อทำเหมือนไม่เห็นผม

ผมเลยเดินเข้าไปล้างมือในอ่างที่ติดกับพี่นิค แต่พี่นิคก็ยังเฉยเริ่มทำเอาผมใจเสียไม่ค่อยพูด

“วันนี้อากาศร้อนเน๊อะพี่ มาเล่นสงกรานต์กันดีกว่า”ผมพูดพร้อมเอามือที่เปียกน้อยหน่อยๆสะบัดใส่พี่นิคเพื่อเป็นการหยอกล้อเล่นเป็นการหยั่งเชิง

“นายเล่นอะไรของนาย”พี่นิคพูดขึ้นมาทำเอาผมถึงกับอึ้ง  พี่นิคเรียกเราว่านาย ทำไมไม่เรียกว่าเอหรือเราเหมือนก่อน พี่นิคปิดน้ำแล้วเดินจากไปปล่อยผมให้ยืนอึ้งคนเดียว

ความหวังเดียว หวังที่จะพึ่ง หวังที่จะเล่าทุกอย่างให้ฟัง หวังว่าพอฟังแล้วจะช่วยเราแก้ปัญหา แต่นี่กลับยังไม่ได้ทำอะไรเลย เราก็สิ้นหวังซะแล้ว พี่นิคคงมองเราเป็นกับที่คนอื่นๆเขามองเราในตอนนี้ เราคงเป็นคนไม่ดีมากๆ เป็นที่คนชอบใช้อารมณ์และกำลังทำร้ายคนอื่น แล้วยิ่งคนนั้นเป็นมาในนามของนักศึกษาแลกเปลี่ยนมหาวิทยาลัยอีก รู้ไปถึงไหนอายเขาไปถึงนั่น

ผมยืนคิดนิ่งอึ้งอยู่นาน ปล่อยให้น้ำไหลผ่านมือเหมือนกับน้ำที่ตาของผมไหลอยู่ตอนนี้ รู้สึกตัวอีกทีก็มีคนเดินเข้ามาผมเลยเช็ดน้ำตัวแต่ก็ไม่ได้หันไปมอง

“ไงครับเอ เพิ่งเริ่มต้นถึงกับร้องไห้เลยเหรอ”เสียงนั้นทักขึ้นทำเอาความผิดหวังเสียใจของผมหายไปแต่เป็นความหวาดกลัวขึ้นมาแทน

“สอง”ผมหันไปมองแล้วร้องออกมา

“สองบอกเอแล้วว่า ถ้าเอไม่ได้เป็นของสอง เอก็เป็นของใครไม่ได้เหมือนกัน เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะเอ”สองบอกด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยมากพร้อมเดินเข้ามาหาผม

ผมรีบหันหน้าหนีเพราะกลัวโดนสองใช้พลังอีกแล้วก็รีบวิ่งออกไปทันที 

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
              บทที่ยี่สิบแปด --- มือที่สาม(ต่อ)


ผมกลับมานั่งที่เดิมมองไปดูพี่นิคที่กำลังดูการแข่งขันฟุตบอลแต่ดูท่าไม่มีอารมณ์เอาเสียเลย ฟุตบอลในสนามกำลังแข่งขันอย่างดุเดือดแต่ในใจผมกลับหวาดระแวงวังเวงยังไงชอบกล

“สองหายไปนานตั้งนานแล้ว”เสียงพี่นิคหันไปถามพี่ปอ

“เห็นว่าซิไปห้องน้ำ แต่ไปโดนแล้วเด่ะ”พี่ปอตอบ (เห็นบอกว่าจะไปห้องน้ำ แต่ไปนานแล้วนะ)

พี่นิคลุกขึ้นเดินลงไปยังห้องน้ำทันที ซักพักก็กลับมาพร้อมกับสองที่อยู่ในอาการเหมือนตกใจกลัวอะไรซักอย่าง

“น้องสองไม่สบายหรือเปล่าครับ สีหน้าดูไม่ดีเลย”พี่หมอทีเอ่ยขึ้น หลังจากที่พี่นิคพาสองมานั่งลงข้างๆแต่ยังจับมือสองอยู่

“มีคนขังสองไว้ในห้องน้ำ อย่าให้รู้นะว่าใครทำ จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแน่”พี่นิคบอกขึ้นแต่ประโยคหลังพี่นิคชายหางตามาทางผม

ใช่ซินะ พี่นิคคงคิดว่าเราเป็นคนทำ เพราะเราลงไปห้องน้ำแล้วสองก็เข้ามา แต่ตอนเราออกมาสองก็ยืนเฉยๆนี่นา หรือจะมีคนแกล้งสองจริงๆ แต่จะเป็นไปได้ยังไง ก็ห้องน้ำนี้เป็นห้องน้ำเฉพาะเจ้าหน้าที่ ใครจะมาเข้า เจ้าหน้าทุกคนก็ยังนั่งอยู่ครบ ไม่มีใครหายไปไหนช่วงที่สองไปห้องน้ำ
หรือว่าสองจะขังตัวเอง จะเป็นไปได้ยังไง คำว่าถูกขังก็แสดงว่าถูกล็อคจากข้างนอก สองจะทำได้ยังไง แต่ก็ไม่แน่ก็สองมีพลังจิตนิ่ ว่าแต่สองจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร --- ผมคิดในใจ

“ว้าย......ใครนะช่างกล้าทำ แหววว่าพาน้องสองกลับไปที่องค์การก่อนดีไหมค่ะ ดูซิกลัวจนหน้าซีดหมดแล้ว งานทางนี้คงไม่มีอะไรแล้วล่ะคะ”พี่แหววพูดขึ้น

“อืม ก็ดีเหมือนกัน”พี่นิคบอกพร้อมค่อยๆประคองสองลุกขึ้น ภาพนั้นทำเอาผมเจ็บจี๊ดเข้ามาในใจทันที หัวผมที่กำลังคิดหลายๆเรื่องมันก็พลันหยุดคิดลงเหมือนโดนค้อนปอนด์ทุบอย่างแรง

การตัดสินใจกลับก่อนเวลาของพี่นิค ทำให้ทุกคนพลอยต้องกลับตามไปด้วย รวมไปถึงผมด้วยเพราะผมมารถของพี่หมอที ระหว่างที่ออกจากปะรำพิธีเพื่อเดินไปที่จอดรถ พี่นิคเดินข้างสองโดยที่สองเดินติดขอบสนาม แล้วตามมาด้วยพี่ปอกับพี่แหวว แล้วค่อยเป็นพี่หมอทีกับผมที่เดินอยู่ติดฝั่งขอบสนามเหมือนสองเช่นกัน

“ระวัง !”เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากในสนาม ผมหันไปดูเห็นลูกฟุตบอลกำลังลอยมาทางผมตามสัญชาตญาณทำให้ผมยกมือขึ้นบังเพื่อปกป้องตัวเองทันที เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นไม่ถึงเสี้ยวนาทีด้วยซ้ำ

ปลั๊ก ! โอ้ย...! เสียงเหมือนมีคนโดนลูกบอลแล้วร้องออกมา แต่ไม่ใช่ผมกลับเป็นสองที่โดนลูกบอลถึงกับล้มลง

“น้องสองเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”พี่นิครีบก้มลงประคองสองที่ล้มลงให้ลุกขึ้นทันที ผมค่อยๆเอามือที่ยกขึ้นมาบังลง

“ไม่เป็นไรครับ แค่มึนๆหัวนิดหน่อย”สองที่ลุกขึ้นแล้วเอามือกุมหัว

“ทำไมนายต้องปัดบอลใส่สองด้วย”พี่นิคหันมาขึ้นเสียงดังว่าผมทันที ผมเอาผมตกใจกับน้ำเสียงของพี่นิคและงงที่ว่าผมปัดบอลใส่

“นิคใจเย็นๆ น้องเอเขาแค่ยกมือป้องกันไม่ได้มีเจตนาปัดลูกบอลใส่น้องสองหรอก เราเห็นลูกบอลยังไม่มาถึงตัวน้องเอเลยด้วยซ้ำ อยู่ดีๆลูกบอลมันก็เปลี่ยนวิถีไปที่น้องสองเอง”พี่หมอทีบอกแทนผมที่ยืนนิ่ง

ผมนึกทบทวนเหตุการณ์พอผมได้ยินเสียง แล้วหันไปเห็นลูกบอลลอยมา ผมก็ยกมือขึ้นมาปิด แต่ตาก็เหลือบไปเห็นพี่ปอที่ดึงตัวพี่แหววให้หลบ มีแต่พี่นิคที่เดินนำหน้าไปแล้วไม่หันมาแต่สองกลับหันมาแล้วจ้องมองลูกบอลนั้น หรือว่าสองจะบังคับลูกบอลนั้น แล้วสองจะบังคับให้ลูกบอลไปโดนตัวเองทำไม

“กลับไปองค์การเราได้เห็นดีกันแน่ ทุกคนกลับองค์การ จะได้จัดการตัดเนื้อร้ายทิ้งให้มันเสร็จๆไปซักทีก่อนที่มันจะลุกลามมากไปกว่านี้”พี่นิคออกคำสั่งให้ทุกคนได้ยิน ทำเอาถึงกับทุกคนอึ้งโดยเฉพาะผมที่ยืนอยู่ดีๆขาอ่อนลงแทบหมดแรงเมื่อได้ยินว่าตัดเนื้อร้ายทิ้ง มันคงหมายถึงใครไม่ได้นอกจากผมแน่ๆ

...

ในห้องประชุมเล็ก พี่นิคเข้าไปกับพี่หมอทีและพี่ปอเกือบชั่วโมงได้แล้วค่อยให้พี่ปอเข้ามาเรียกผมเข้าไปส่วนคนอื่นๆนั่งคอยอยู่ข้างนอกรวมทั้งสองด้วย

ผมเดินเข้าไปเห็นพี่นิคนั่งหน้าตรึง สายตาเอาแต่เพ่งมองกระดาษที่วางอยู่ตรงหน้าสองแผ่น พี่ปอลงไปนั่งข้างขวาของพี่นิค ส่วนพี่หมอทีนั่งอยู่ข้างซ้ายผมเลยเลือกนั่งลงข้างพี่หมอที พอผมนั่งลงพี่นิคก็มองหน้าพี่ปอเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้พี่ปอพูดกับผมแทนตัวเอง

“เอ คืออย่างนี้นะ เรื่องที่เกิดขึ้นถึงสองเขาไม่เอาเรื่องก็จริง แต่ยังไงทางเราก็ต้องทำรายงานส่งอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการเพื่อแสดงความรับผิดชอบ พี่เลยอยากให้เอช่วยเซ็นเอกสารพวกนี้หน่อย แล้วอีกใบก็เป็นใบ...”พี่ปอส่งเอกสารสองแผ่นที่วางอยู่หน้าพี่นิคมาให้ผม ผมรู้สึกถึงความซีเรียสขึ้นมาทันทีเพราะว่าปกติพี่ปอไม่ว่าจะเป็นการเป็นงานแค่ไหนก็ไม่ค่อยจะพูดภาษากลางแต่นี่พี่ปอพูดภาษากลางกับผมเลย

ผมรับเอกสารมาดูใบหนึ่งเป็นใบรายงานความประพฤติที่มีชื่อผมแล้วตามด้วยที่ข้อความว่าได้แสดงความประพฤติทะเลาะวิวาทกับชื่อของสองซึ่งเป็นนักศึกษาในดคงการเรียนรู้ ทำให้เสียชื่อเสียงสถาบัน ทางองค์การนักศึกษาจึงเล็งเห็นว่าควรตัดคะแนนความประพฤติ 50 คะแนนและทำทัณฑ์บนไว้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาประกอบของสภานักศึกษาอีกทีด้วย ข้างล่างมีช่องให้ผมลงชื่อ ถัดไปเป็นช่องให้พี่นิคลงชื่อในตำแหน่งนายกองค์การ อีกช่องเป็นของประธานสภานักศึกษา

กระดาษอีกแผ่นเป็นใบลาออกจากการเป็นคณะกรรมการองค์การนักศึกษา ที่มีข้อความพิมพ์เรียบร้อยเหลือแต่ให้ผมลงชื่อแล้วพี่นิคลงชื่อรับรองเป็นอันว่าเอกสารฉบับนี้ก็จะสมบูรณ์

“นี่มันอะไรครับ ทำไมผมต้องถูกตัดคะแนนความประพฤติตั้ง 50 คะแนนแล้วยังโดนทำทัณฑ์บนอีก 50 คะแนนนี่ก็เท่ากับผมโดนพักการเรียนเลยนะครับ”ผมพูดด้วยเสียงที่เบาแหบเครือออกไปพร้อมมองหน้าพี่ปอ พี่นิคเอาแต่นิ่งไม่มองผมเลย

“ไหนคุยกันว่าแค่ 15คะแนนไง แล้วนี่อะไร 50 คะแนนยังทำทัณฑ์บนอีก”พี่หมอทีโวยออกมา พี่ปอที่มองหน้าพี่หมอทีก็ได้แต่สายหน้าแล้วมองหน้าพี่นิคแทน

“ฮึ ก็มันเป็นโทษที่สมควรแล้วนี่ ก่อเรื่องทะเลาะวิวาททำให้เสียชื่อสถาบัน”พี่นิคพูดขึ้น

“ผมไปก่อเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร ถ้ากับสองล่ะก้อ ทำไมไม่คิดจะถามผมบ้าง”ผมพูดขึ้นอย่างเหลืออด กำมือแน่น รู้สึกอึดอัดแน่นหน้าอก น้ำที่ตาเริ่มซึมๆออกมา คงเป็นเพราะพี่นิคที่ผมคิดว่าพี่เขาจะเข้าใจผม อยู่ข้างผม คอยช่วยผม แต่นี่กลับตรงกันข้าม นอกจากไม่ช่วยผมแล้ว ยังไม่คิดจะถามอะไรผมเลยแล้วยังย้อนกลับมาทำร้ายผมอีก

“คือ ที่น้องเอบอกพี่ พี่บอกพวกนี้ไปหมดแล้ว”พี่หมอทีพูดขึ้นคงหมายถึงว่าที่ผมยอมรับว่าเป็นคนต่อยสอง

“ที่จริงพวกพี่ก็อยากถามเอนะ ว่าที่เอทำลงไปมีเหตุผลอะไร แต่พวกพี่กลัวว่าถ้าถามไปจะทำให้เอลำบากใจที่จะพูด เลยเลือกที่จะไม่ถามหาเหตุอะไรดีกว่า เพราะไหนๆผลมันก็เกิดขึ้นแล้ว”พี่ปอพูดด้วยความหวังดีแต่มันทำให้ผมหมดโอกาสอธิบายตัวเองให้ทุกคนฟัง

ผมที่ฟังคำตอบแล้วก็เกิดความน้อยใจขึ้นมาทันที น้อยใจตัวเองว่าทำไมเราต้องทำให้คนอื่นลำบากใจเพราะเราด้วย เราคงเป็นคนที่แย่มาก คงเป็นตัวปัญหาสำหรับทุกคน น้อยใจพี่นิคที่น่าจะเข้าใจเรามากกว่าใคร แต่เปล่าเลยกลับมาเป็นคนเล่นงานเราเสียเอง ผมนั่งก้มหน้ากัดฟัน กำมือพยายามฟืนน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาแต่แล้วก็ไม่สำเร็จ น้ำตาหยดแรกร่วงลงมาพร้อมับเสียงสะอื้นของผมทำให้ตัวผมสั่นไปตามแรงสะอื้นด้วย แต่พี่นิคก็ยังนั่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พี่หมอทีซะอีกที่เข้ามาจับมือผมเบาๆเป็นการให้กำลังใจ

“เอาว่าเฮื่องนี้ ค่อยเว้ากันใหม่เมื่ออื่นดีกว่า”พี่ปอพูดขึ้นด้วยภาษาอีสานเพื่อให้บรรยากาศที่ตรึงเครียดผ่อนคลาย (เอาว่าเรื่องนี้ ค่อยพูดกันใหม่วันอื่นดีกว่า)

“ไม่ได้ ต้องวันนี้ ทุกอย่างต้องจบลงในวันนี้”พี่นิคพูดเสียงแข็งทำเอาบรรยากาศตรึงเครียดกว่าเดิม

“นิค มันมากไปแล้วนะ ก็เห็นอยู่ว่าน้องเอเขาไม่พร้อม”พี่หมอทีพูดขึ้นเสียงเช่นกัน แล้วก็ยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ผม

“ไม่.อื้อ.....ไม่เป็น...ไรครับ...อื้อๆ....”ผมบอกออกไปก่อนคว้าปากกามาเซ็นออกไปทั้งสองใบ

“น้องเอ”พี่หมอทีร้องขึ้นเมื่อเห็นผมเซ็นชื่อ

“มันก็แค่นั้น แค่นี้ทุกอย่างก็จบ”พี่นิคพูดขึ้น

ใช่แค่นี้ทุกอย่างก็จบ จบอย่างเด็ดขาด จบกัน จบในทุกๆเรื่อง พี่นิคเราจบกัน --- ผมคิดในใจได้แค่นั้นแล้วก็ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร

“นิคถ้านายลงชื่อรับรอง นายก็เตรียมลงชื่อในใบลาออกจากตำแหน่งอุปนายกของเราด้วยเลย”พี่หมอทีลุกขึ้นพูดเสียงดัง ทำเอาพี่นิคที่กำลังจะลงชื่อในกระดาษที่ผมเซ็นไปถึงกับชะงักกำปากกาแน่น (ตั้งแต่รู้จักกับพี่หมอทีมา ไม่เคยเห็นพี่หมอทีพูดเสียงดังขนาดนี้เลย นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นพี่หมอทีแสดงอาการโกรธแบบไม่พอใจออกมา)

“ใจเย็นๆ คุณหมอ ค่อยๆเว้ากัน”พี่ปอลุกขึ้นแล้วพูด

พี่นิคกำมือที่ถือปากกาไว้แน่นจนปากกาสั่น หน้าก็ก้มมองแต่กระดาษ

“โธ่โว้ย!” พี่นิคตะโกนออกมาพร้อมเอาปากกาทิ่มลงที่โต๊ะอย่างแรงจนปากกาตั้งอยู่ได้โดยไม่ต้องใช้มือจับ แล้วก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ยืนหันหลังให้กลับทุกคน พี่ปอรีบเข้าไปจับที่บ่าพี่นิคเบา เสียงตะโกนพี่นิคทำเอาพี่แหววเปิดประตูเข้ามาดู แล้วก็รีบปิดประตูออกไปเพราะพี่ปอทำท่ากวักมือไล่

“ถึงไม่เซ็นผมก็จะขอลาออกอยู่แล้ว ผมจะไม่มาเป็นตัวปัญหาให้ใครอีก”ผมพูดออกมาแล้ววิ่งออกจาห้องประชุมทันที วิ่งผ่านทุกคนที่นั่งอยู่ในองค์การ วิ่งออกไปอย่างไม่มีที่หมาย รู้แต่ว่าอยากวิ่งออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมวิ่งไปร้องไห้ไป ตาก็แทบมองไม่เห็นทางเพราะน้ำตาเต็มไปหมด หัวสมองไม่ต้องพูดถึงมันไม่ทำงานตั้งแต่ผมวิ่งออกมาจากห้องประชุมเล็กแล้ว

แปร๋น! ๆ เอี๊ยด..........เสียงแตรรถดังขึ้นต่อด้วยเสียงเบรก ผมยืนหลับตาเพราะคิดว่ายังไงก็ต้องโดนชนแน่นๆ ก็ผมเล่นวิ่งออกมาที่กลางถนนซะขนาดนั้น

“เป็นอะไรหรือเปล่า อยากตายหรือไง อ้าว เอ!”เสียงคนที่ลงจากรถพูดก่อนที่จะเห็นผมอย่างเต็มตา

“พี่เก่ง”ผมลืมตาขึ้นมองแล้วก็เหมือนกับว่าจะเป็นลมล้มลง

“เอไม่เป็นอะไรนะครับ เดี๋ยวขึ้นรถไปกับพี่ก่อน”พี่เก่งประคองผมขึ้นรถทันที

ระหว่างที่นั่งรถไปผมอยุ่ในอาการที่นั่งเหม่อลอยเหมือนคนไม่ได้สติ เอาแต่นั่งร้องไห้ พี่เก่งถามว่าจะให้ไปส่งที่ไหนไหม ผมก็ไม่ตอบ ดูเหมือนพี่เก่งจะรู้ใจผม พี่เขาไม่ได้ถามอะไรผมอีกเลย ได้แต่ขับรถเวียนไปเรื่อยๆ แล้วหันมามองผมเป็นระยะๆ

“น้ำมันใกล้หมดแล้ว เอาไงดี ไปนี่ดีกว่า”พี่เก่งเหมือนพูดคนเดียวตอบคนเดียว แล้วพี่เก่งก็พาผมมาที่คณะของพี่เขา พาผมเดินขึ้นไปชั้นบนที่เป็นลานกว้างๆมีงานศิลปะแสดงอยู่ แล้วก็พาผมไปนั่งตรงระเบียงที่ยืนออกไปด้านนอกทำให้เห็นทิวทัศน์ยามเย็นอย่างสวยงาม ผมนั่งทอดอารมณ์ไปเรื่อย พี่เก่งก็เอากล้องโพลาลอยด์มาถ่ายผม

ภาพถ่ายใบแรกออกมาเป็นหน้าผมที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา หน้ายุ่งเหยิงดูไม่ได้ พี่เก่งก็ปากกาเคมีมาเขียนใต้รูปว่า นายแบบดูไม่ได้เลย แย่จัง สงสัยคนถ่ายฝีมือไม่ถึงด้วยมั้ง แล้วส่องมาให้ผมอ่านดู พอผมอ่านก็ยังเฉยๆแต่ก็เริ่มเช็ดน้ำตา

พี่เก่งถ่ายภาพผมใบที่สองแล้วเขียนว่า นายแบบหล่อขึ้นนิดหนึ่ง ตากล้องฝีมือเริ่มดีขึ้น แล้วก็ส่งมาให้ผมดู ทำเอาผมเริ่มยิ้มออกมาหน่อยๆ

แล้วพี่เก่งก็ถ่ายตอนผมยิ้มออกมาแล้วเขียนว่า นายแบบหล่อได้อีกนะครับ ตากล้องก็เยี่ยม แล้วก็ส่งมาให้ผมดู ทำเอาผมอมยิ้มออกมา

แล้วพี่เก่งก็ถ่ายผมตอนยิ้มอีกพร้อมเขียนว่า WOWนายแบบคนนี้อีกหน่อยต้องโกอินเตอร์แน่ๆ
คนถ่ายก็เข้าขั้นโปรแล้ว พอผมอ่านแล้วถึงกับยิ้มออกมาได้

พี่เก่งรีบถ่ายภาพตอนที่ผมยิ้มแล้วเขียนลงในภาพว่า ยิ้มไว้นะครับโลกจะได้สดใส ตากล้องจะได้มีกำลังใจถ่ายต่อ

“ไม่ต้องถ่ายแล้วครับ เปลือง”ผมพูดออกมาพร้อมเอารูปถ่ายตั้งแต่ภาพแรกจนถึงใบที่ห้ามานั่งดู

“นึกว่าวันนี้จะไม่ได้ฟังเอพูดซะแล้ว”พี่เก่งบอกพร้อมเก็บกล้องลง

“ขอบคุณนะครับ ผมนึกว่าผมคงต้องโดนรถชนตายแล้วแน่ๆ”ผมบอกออกไป

“แล้วเอ.....มีอะไร......”พี่เก่งเหมือนจะถามผมแต่ก็พูดไม่ทันจบก็ลุกขึ้นไปหยิบกีต้าร์แล้วมานั่งข้างๆผมแทน พร้อมกับร้องเพลงให้ผมฟัง
(http://www.imeem.com/taroring/music/AXJHIHdI//--- ฟังเพลงคนของเธอ ของแมว จิระศักดิ์)

............ไม่ต้องบอกฉัน   ถึงวันที่เลยผ่าน    ไม่ต้องบอกฉัน  ว่าเคยมีใครคนไหนยังไง
  ถ้าเผื่อฉันเผลอ  บังเอิญฉันถามเธอไป    เธอก็ไม่ต้องตอบฉันเลย
  และฉันคนนี้   ก็มีที่พลาดผิด   ใช่ว่าชีวิต  จะดีจะงามซักเท่าไร
  ไม่อยากให้ถาม  มันไม่น่ารู้เท่าไหร่  ไม่ใช่เรื่องจำเป็นของเรา
วันวานมันคืนย้อนมาไม่ได้   และวันพรุ่งนี้ยังไม่รู้ 
   แต่ฉันพร้อมจะอยู่   ฉันพร้อมจะตาย   เพื่อรักคำเดียว.............

พี่เก่งร้องเพลงไปก็หันมามองหน้าผมแล้วก็ยิ้มให้เป็นบางครั้ง ผมนึกถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับพี่เก่ง ตั้งแต่รู้จักกันเมื่อตอนไปสุพรรณแล้วพี่เก่งสารภาพรักกับผม ตลอดเวลาพี่เก่งก็คอยเอาใจดูแลผม คอยมีเรื่องเซอร์ไพร์แบบโรแมนติกอยู่ตลอดเวลา จนมาถึงวันที่พี่เก่งรู้ว่าผมกับพี่นิคเป็นแฟนกันพี่เก่งก็ยังขอเพลงฉันยังเหมือนเดิมให้กับผม เพื่อสื่อให้ผมรู้ว่าพี่เขายังรู้สึกกับผมเหมือนเดิมทุกอย่างถึงแม้ว่าผมจะไปมีใครก็ตาม แล้วตอนนี้พี่เก่งก็ยังมาเป็นคนคอยปลอบใจเราอีก
จากเพลงก็รู้ว่าพี่เก่งอยากบอกผมว่ายังไงๆไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่เขาไม่อยากรู้ให้รู้แต่ว่าพี่เขายังพร้อมที่จะรักผมเสมอ

......... ไม่ว่าเธอจะเคยเป็นไคร  จะผ่านอะไรมา  ขอจงอย่าเป็นกังวล  นี่คือคนของเธอ
    ไม่ว่ามันจะเกิดอะไร  ต่อจากนี้ไป  ฉันจะอยู่ดูแลเธอ  ด้วยคำว่ารักด้วยใจ     (จะรักเพียงเธอ)
  ไม่ต้องบอกฉัน   ถึงวันที่เลยผ่าน  ไม่ต้องบอกฉัน  ว่าเคยมีใครคนไหนยังไง
  แค่บอกว่ารัก   แค่เธอรักฉันง่าย ๆ    ฉันต้องการแค่ใจ  ของเธอ......

พอพี่เก่งเล่นเพลงจบก็ขยับตัวเข้ามาหาผม ค่อยๆก้มหน้ามาตรงที่ปากของผม แล้วปากของผมกับปากของพี่เขาก็สัมผัสเข้าหากันเหมือนกับว่า พี่เขากำลังส่งผ่านพลังแห่งความอบอุ่นโรแมนติกของตัวเอง เข้ามาทำให้ใจผมหายหวาดกลัว หายวิตกกังวลจากเรื่องร้ายๆที่ผ่านมา เวลาเหมือนหยุดนิ่งผ่านไปซักพัก พี่เก่งก็เป็นคนขยับปากออก

“พี่ๆ พี่ขอโทษครับเอ พี่ควบคุมตัวเองไม่ได้”พี่เก่งรีบพูดอย่างรู้สึกผิด แต่ผมกลับยิ้ม

“ไปทานข้าวกันดีกว่าครับ ผมหิวแล้ว”ผมบอกเป็นการตัดบท ทำให้พี่เก่งยิ้มออกมา

ตลอดเวลาที่นั่งทานข้าวด้วยกันพี่เก่งก็คอยป้อนข้าวผม พูดจาหยอดคำหวานๆเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือผมเริ่มรับมุขของพี่แกมากขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ปล่อยมาผมก็เฉย ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นผมรู้สึกยังไง รู้แต่ว่าอย่างน้อยคนที่เราไม่เคยคิดถึงเขาเลย เขายังอยู่ข้างเรา เขารู้ใจเราดีกว่าคนที่เราฝากไว้กับเขาเสียอีก

+++ จบบทที่ยี่สิบแปด +++

*** ข้อคิดคำคมประจำบท ***

-   มีพี่ชายอีกคนที่พร้อมจะฟังและช่วยน้องคนนี้ทุกเรื่อง
-   ความหวังเดียว หวังที่จะพึ่ง หวังที่จะเล่าทุกอย่างให้ฟัง หวังว่าพอฟังแล้วจะช่วยเราแก้ปัญหา แต่นี่กลับยังไม่ได้ทำอะไรเลย เราก็สิ้นหวังซะแล้ว
-   คนที่เราไม่เคยคิดถึงเขาเลย เขายังอยู่ข้างเรา เขารู้ใจเราดีกว่าคนที่เราฝากไว้กับเขาเสียอีก

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
รอ จิ้ม ยุนาน แล้ว


ไหง ตอนนี้ มันเป็นหยั่งงี้ อะ


 :m15:  :m15:  :m15:



...ชัก ไม่ปลื้น พี่นิค แล้วนะ    o12

ทามพี่เอ ร้อง ด้ายไง

 แถมนี่  :เตะ1:  ให้ พี่สอง


*ฝันดีคร้า 

รอตอนต่อ ไปนะค่ะ


ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เอ่อ สองน่ากลัวมากๆ ขอย้ำอีกรอบ  :m29:
เเต่ทำไมไม่มีคนคิดจะถามเอมั่งเรย งง โดยเฉพาะเจ้าพี่นิค เคืองๆ  :angry2:

poom

  • บุคคลทั่วไป
 :เตะ1:นายสองเลวร้ายมาก....หวังจะแย่งเขาโดยใช้วิธีสกปรก... :เตะ1:

christiyaturnm

  • บุคคลทั่วไป
น่ากลัวว่ะ น้องสองเนี่ย :o

ว่าแต่ เคลิ้มไปง่ายๆกับพี่เก่งเลยเหรอ o12

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






maabbdo

  • บุคคลทั่วไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-07-2008 14:10:34 โดย maabbdo »

ออฟไลน์ Otaku

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 792
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-1
 :a5: :a5:

สองน่ากลัวมากมายยยยยยยยยยยยย


พี่นิคโหดร้ายยยยยยยยยย :sad2:

๐DoNuT๐

  • บุคคลทั่วไป
โห สองร้ายมากเลยอะ ทำกันงี้เลยหรอ
ไงต่อละนิรีบๆมาต่อนะครับ TTwTT~

ออฟไลน์ A-ram 70

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 765
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
สงสารเอจังเลย น่าจะไปคบกับพี่เก่ง  ไม่งั้นก็พี่หมอทีให้รู้แล้วรู้รอดจะได้ไม่ต้องมาเสียใจ


แต่ตอนนี้คงมีความสุขกับพี่นิคแล้วใช่ม๊า    ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคับ :L2:

ออฟไลน์ Mint

  • นิสัย!!
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +881/-17
 :angry2: :angry2: พี่นิค ไหงงั้นหล่ะ ทำไมไม่ยอมฟังคนที่ตัวเองรักไปฟังคนอื่นมากกว่าไ :m16: :m16:

 :angry2: :angry2: ไ่อ่สอง อย่าให้เจอนะ  :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:

 :try2: นี่เราอินไปไหมนี่

ปอลอ เคืองพี่นิคตอนนี่ที่สุด  :a14:

ปอลอ2. เป็นกำลังใจให้ความรักของพี่เอก็พี่นิคเสมอนะคะ :L2:






ออฟไลน์ cassper_W

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2052
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-1
โหหหหหหหหหหห    ทำไม สอง พูดได้เต็มปากเลยว่าเป็นคนที่แย่อย่างนั้นอ่ะ

มาทีหลังคนอื่น แล้ว ยังจาทำนิสัย.........  :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:

เชื่อว่านิสัยแบบนี่ สักวัน พลังจิตอันนั้นคงดับสูญไปอีกไม่นานอ่ะ  เคยได้ยินว่า ต้องตั้งอยู่ในศิลในธรรมอ่ะ มันถึงจาอยู่นานๆๆ  เชื่อว่า ตอนนี้มี แต่ อีกไม่นานคงปิ้ว เหอะๆๆๆ :เตะ1: :เตะ1:

พี่นิคตอนนี้ไม่ได้ใจเลยยยยยยยยยยยยยย :serius2: :serius2: :serius2:

ติด- 10 คะแนนนนนนนนนนนนนน
เข้าใจว่าคนเราเวลาอารมณ์โมโหอ่ะ จาปิดหูปิดตา และนอย ได้อย่างแรงงง
แต่ถึงขนาดมองข้ามความรู้สึกของเอขนาดนี้นี่  ไม่โดนใจจจน่ะ ขอบอกก


แต่เอาเถอะ คิดอีกแง่ สองอาจควบคุมจิตใจพี่นิคก็ได้ อันนี้ต้องรอดูต่อไป  :fire:
ลุ้นระทึกเลยยย  สงสารเอ มั่กมากกกกอ่ะ เอน่าจะตอกกลับไปน่ะ เอาให้สองจ๋อยไปเลยยย  
ว่าแต่เดาๆๆว่า เพื่อนเอ อีกคนนึงรู้นี่ว่าเอไปซาวน่าอ่ะ อาจมาช่วยคลี่คลาย  
ติดตามตอนต่อไป
------------------------------------------------------
อันนี้ขอเรื่องที่เอ จาไป ออสเตเรีย  
คิดว่า 3- 6 เดิอน ไม่สามารถทำให้ความรักของพี่นิคกะเอเปลี่ยนไปหรอก  แม้ว่าพี่นิคจามีคนอื่นๆๆเข้ามาก็ตามอ่ะ เพราะว่าเอกะพี่นิคก็ผ่านอารายมาด้วยกันเยอะน๊า
แม้ว่าคนอื่นจาดีว่า หล่อกว่า เอาใจกว่า แต่เชื่อว่าสำหรับพี่นิคแล้ว เอคือคนที่ใช่ และ โดนใจที่สุดสำหรับพี่นิคแล้ว

เอก็อย่ากังวลไปเลยน่ะ นี่อาจเป็นบททดสอบที่พระเจ้ายื่นให้ก็ได้ ว่าความรักไม่จำเป็นว่าอยู่ใกล้กันตลอดเวลาถึงจาทำให้รักนั้นสมบูรณ์ แต่ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจเราต่างหาก เออาจเคยเป็นน่ะหรือที่หลายๆคนเป็นอ่ะ ที่บางคนเราอยู่กะเค้าเห็นกันตลอดเวลา แต่ไม่เคยสนิทใจ ไม่เคยเข้าใจ เข้าถึงคนๆๆนั้นอ่ะ  แต่บางครั้งกะคนที่ไกลกว่า แต่เค้ากลับเข้าใจ และเชื่อมั่นในตัวเรา  เราคิดว่า ความใกล้ไกล ไม่มีผล อาจมีบ้าง แต่ไม่ใช่ประเด็นหลักที่จาทำให้รักมั่นคงหรือไขว้เขว่จ๊ะ

ดังนั้นเอ ไปก็ไม่ต้องกังวลน่ะ ทุกคนในเล้าก็จารอเอ ที่เล้าน่ะ  แม้เออาจไม่ได้เข้ามาบ่อย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเอหายไปใช่ม๊า แต่นี่ก็สบายใจและล่ะ อิอิ

สู้ๆๆๆ  น่ะ

ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
ปกติ เวลาเข้ามานี่

จะพิมพ์เมนท์ แบบ พิมพ์ๆ ลบๆ
ตังหนังสือ มันไม่มีโทนเสียง
ข้อความบางทีเลยไม่มั่นใจว่ามันจะแรงไปรึเปล่า

เราชอบคิดว่า การทำแบบนี้เป็นการดีต่ออีกฝ่าย
แต่บางที มันก็เป็นแค่การคิดไปเองของเราคนเดียว

"คุย" กันเยอะๆให้เข้าใจนะ

อ่านๆที่พูดมา เป็นเรา เราน้อยใจนะ

เหมือนดูเบา ความรู้สึกเรา อะไรยังงี้

สามเดือนหกเดือน จะว่านานก็นาน จะว่าสั้นก็สั้น

ยังไงขอให้โชคดีนะ

Tsukasa999

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2:นิคโดนของเหรอไงเนี่ย!!

อ่านตอนนี้แล้วแทบจะร้องไห้ตาม อีตาสองนี่ใช้วิชาผิดๆแบบนี้ กรรมตามทันแน่

เป็นกำลังใจให้ค่ะ อีกสองตอนแล้ว สู้ๆ  :a2:

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
 :o12: ไม่มีอะไรน่าเสียใจเท่าคนที่เรารักและคิดว่าเค้าจะรู้จักเราดีที่สุด แต่กลับเชื่อลมปากคนอื่น  แต่ในกรณีจะโทษนิคก็ไม่ถูก ทั้งหน้าที่ ทั้งการแสดงและหลักฐาน(ปลอม) ก็ทำได้ดี  หากเรื่องนี้จะจบแค่ความสัมพันธ์จากคนที่เคยเชื่อใจหรือเพียงแค่จากกันไปก็คงไม่เท่าไร  แต่ถึงขนาดให้ประวัติด่างพลอยอันเป็นการทำลายอนาคตอย่างชนิดให้อภัยไม่ได้ เอก็ไม่ควรอยู่เฉยแล้วละ

ปล.สองพาเอไปที่อโคจรแบบนั้น แล้วทำเรื่องทุเรศๆๆแบบนั้น แล้วยังมาตีหน้าซื่อใช้ความสามารถพิเศษใส่ร้ายเออีก   สองช่างเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดในโลก ทำให้ตัวเองจมลงในโคตมของกิเลส  แบบนี้กรรมของย้อนคืนมากกว่าคนอื่นหลายเท่านัก เคลียเรื่องจบเอคงต้องไปทำบุญอุทิศส่วนกุศล อโหสิกรรมแล้วอย่ามาพบเจอกันอีกเลย....  :m16:

ออฟไลน์ Joobperman

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 648
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
อิอิ...อ่านตอนนี้แล้ว เคืองพี่นิคจัง
พี่นิคอ่ะ ต้องบอกว่าทำตัว...หูเอียง ตาเข ใจเป๋
น่าจะถามกันก่อน ก่อนที่จะตัดสินอะไรออกไป   :angry2:

ส่วนเอก็...ทำไมไม่พูดหล่ะจ๊ะ เงียบยังงี้ใครเขาจะเข้าใจ
หรือตอนนั้นงง สับสนไปหมด   :m13:

ส่วนสอง...ไม่ขอกล่าวถึงน๊า  เพราะกลัวอะจ๊า  :a3:

ตอนใหม่ตอนหน้า  พี่นิคต้องแก้ไขตัวเองนะ ไม่งั้นกองหนุนเลิกเชียร์แน่ๆ  อิอิ  :m16:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด