บทที่ยี่สิบเก้า --- ความจริง
“นี่คุณหนึ่ง เธอไม่รู้เลยเหรอว่ารูมเมทเธอเกิดเพี้ยนอะไรขึ้นมา”อ๊อฟถามหนึ่งที่มากับผมหลังจากที่เราสองคนมาหอสมุดแล้วเลยมาทานข้าวกลางวันกัน บังเอิญมาเจออ๊อฟเข้าพอดี
“ไม่รู้เป็นอย่างนี้มาเกือบสองอาทิตย์แล้ว”หนึ่งพูดแล้วตักข้าวเข้าปาก
“ทำไม เราผิดปกติตรงไหน”ผมถามขึ้น
“ถ้าดูข้างนอก ไม่ดูแววตาที่ซึมเศร้าไป แล้วก็ไม่นับการกระทำอะไรต่อมิอะไรกับพี่ตากล้องสุดโรแมนติก มันก็ไม่แปลกอะไรหรอก”ไอ้อ๊อฟพูดขึ้น
คงจริงมั้งที่เข้าบอกว่า แววตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ หลังจากเกิดเรื่องที่องค์การคราวนั้น ผมไม่เข้าองค์การอีกเลย และพยายามทำตัวให้เป็นปกติทุกอย่างแต่แววตาผมก็ยังดูเศร้าๆยังไงพิกล ผมเริ่มให้วางตัวสนิทสนมกับพี่เก่งมากขึ้น ไปไหนด้วยกันสองต่อสองบ่อยขึ้นเพราะช่วงนั้นผมคิดว่าพี่เก่งคือคนที่เข้าใจผมและรู้ใจผมดีที่สุด แล้วเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นผมก็ไม่เล่าให้ใครฟังเลย แม้กระทั่งหนึ่งที่มีอะไรผมจะเล่าให้ฟังตลอด หรืออ๊อฟที่มักจะมาสืบหาข้อมูลกับผมบ่อยๆ
ส่วนพี่หมอทีหลังเกิดเรื่องก็เงียบหายไปเลย ส่วนพี่นิคก็มีเจอกันบ้าง แต่เป็นการเจอกันแบบบังเอิญมากกว่า ทุกครั้งที่ผมเจอพี่นิค ผมมักจะไปกับพี่เก่งเสมอและพี่นิคเองก็จะไปกับสองด้วย
อย่างมีอยู่ครั้งหนึ่งพี่เก่งมารับผมไปทานข้าวเย็น ผมก็ไปกับพี่เขาเหมือนทุกครั้ง ทานไปป้อนกันไปคุยกันไปตามปกติเพราะพี่เก่งแกเป็นคนสวีทอยู่แล้ว ทานไปได้ซักพักพี่นิคก็มากับสอง มานั่งลงโต๊ะข้างๆ พี่นิคทำเหมือนไม่เห็นผม ถึงแม้พี่เก่งจะทักพี่นิคก็ตาม พี่นิคก็ทักตอบเฉพาะพี่เก่งไม่มีทักหรือมองหน้าผมเลย สองก็ทักผมแต่สายตาของสองที่มองมาดูเย็นชาแล้วคอยอะไรจากผมซักอย่าง ผมเองก็ทักตอบพอเป็นมารยาทเท่านั้น ระหว่างทานอาหารมื้อนั้นผมดูว่าพี่นิคจะเอาใจใส่สองเป็นพิเศษ และดูว่าสองเองก็จะออกแนวอ้อนๆพี่นิคด้วย ตอนนั้นผมพยายามไม่ใส่ใจแต่ภาพที่เห็นมันทำให้ผมเจ็บแปล๊บขึ้นมาที่ใจและปวดจี๊ดขึ้นมาที่หัวทันที
แล้วเหตุการณ์อย่างนี้ก็เกิดขึ้นหลายครั้ง เหมือนผมไม่อยากเจอพี่นิคกับสอง แต่ก็บังเอิญเจอกันอยู่บ่อยๆ แล้วทุกครั้งพี่นิคก็จะเอาใจสองมากๆ สองเองก็อ้อนพี่นิคมากๆเหมือนกับสองกำลังทำใส่ผม
“นั่นไงพูดถึงก็มาแล้ว ตากล้องสุดโรแมนติกของแก”อ๊อฟบอก
“นี่ของเอครับ”พี่เก่งยื่นรูปที่ผมถ่ายเมื่อวานนี้มาให้พร้อมกับนั่งลงข้างๆผม ส่วนใหญ่ผมจะใช้เวลาหมดไปกับพี่เก่งที่พาไปตระเวนสอนผมถ่ายรูปตามที่ต่างๆในมอ
“พี่เก่งทานข้าวมายังครับ ถ้ายังทานก่อนก็ได้ครับ วันนี้เราไปถ่ายแถวสวนเกษตรดีไหมครับ”ผมถาม
“อืมดีครับ ช่วงนี้ไปถ่ายที่แจ้งแสงกำลังดี งั้นพี่หาไรก่อนนะครับ อย่าเพิ่งอิ่มก่อนละ”พี่เก่งพูดพร้อมเดินไปสั่งอาหาร
ระหว่างที่พี่เก่งเดินออกไป พี่นิคกับสองก็เดินเข้ามาแล้วยังมานั่งโต๊ะข้างๆผมอีก ไอ้อ๊อฟกับหนึ่งสวัสดีทักทายพี่นิคที่สีหน้าดูยุ่งยาก ขมวดคิ้วอยู่ตลอดเวลาเหมือนเจอปัญหาใหญ่มาก็ทักตอบแต่ทำเหมือนผมไม่มีตัวตนอยู่ด้วย แต่สองกลับมาทักทายผมซึ่งผมก็ตอบรับตามมารยาท แล้วพี่นิคกับสองก็เดินไปสั่งอาหาร
“นั่นไงๆ ชักได้เค้าแล้ว แกมีอะไรยังไม่บอกฉัน บอกมาเดี่ยวนี้”ไอ้อ๊อฟพูดออกมาทันที
“เอ มีอะไรกับพี่นิคหรือเปล่า แล้วคนนั้นใคร ทำไมสายตาดูดุๆน่ากลัวยังไงไม่รู้”หนึ่งถาม
ผมนิ่งเงียบไม่ตอบ แล้วโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นช่วยชีวิตก่อนที่จะมีคำถามชุดต่อมา ผมดูชื่อเป็นเป็นพี่หมอที เลยถือโอกาสเดินออกจากโต๊ะไปคุยโทรศัพท์ทันที
“สวัสดีครับพี่หมอที”ผมพูดออกไปอย่างไม่เต็มเสียงเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องพี่หมอทีก็หายเงียบไป โทรก็ไม่โทรมา ร้านเค้กที่เคยเจอก็ไม่เจอ ออนเอ็มก็ไม่เจอกัน
“สวัสดีครับน้องเอ น้องเอทำอะไรอยุ่ครับ สะดวกคุยไหมครับ”พี่หมอทีบอกอย่างน้ำเสียงดูกังวล
“ทานข้าวเพิ่งเสร็จครับ คุยได้ครับ พี่หมดทีมีอะไรเหรอครับ”ผมถามแบบใจไม่ค่อยดี
“คือ.......ตอนนี้ที่คอมองค์การทุกตัวโดนไวรัสเล่นงานครับ”พี่หมอทีพูดออกมาเหมือนอึดอัดมาก
“อ้าวแล้วไงครับ ก็สแกนออกซิครับ”ผมพูดออกไปแบบว่าเรื่องง่ายๆแค่นี้ใครก็ทำได้ต่อให้ไม่เรียนวิดคอม
“คือ.....ไวรัสที่ว่านี่ครับมันสแกนไม่ออก แล้วอีกอย่างไวรัสมันชื่อว่า Borntok A ครับ”พี่หมอทีบอกมา แต่ผมก็ยังไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับผมอยู่ดี
(ถ้าใครเคยโดนไวรัสชนิดนี้นะครับ คงรู้ดีว่ามันเป็นยังไง อาการของคอมก็คือว่าพอเราเปิดใช้งานไปซักพักมันจะเด้งหน้าต่างที่เป็นเหมือนโฮมเพจขึ้นมาทั้งที่เราต่อเน็ทหรือไม่ก็ตาม โฮมเพจที่ว่านี้จะเป็นสีเขียวๆ แล้วมีหัวข้อเป็นสีแดงตัวใหญ่ว่า Borntok A แล้วก็จะตามด้วยภาษาที่อ่านไม่ออกอีกเยอะแยะมากมาย ถ้าใครไม่รู้ว่ามันเป็นไวรัสก็จะปิดมันลงแบบธรรมดาแล้วเดี๋ยวมันก็เด้งขึ้นมาให้เรารำคาญอีก แต่ผลเสียของมันจริงๆคือมันจะทำลายฮาร์ดดิสก์ของเราครับ มันจะทำการสร้างโฟลเดอร์ต่างๆขึ้นมาซ้อนทับกันทำให้เราเสียพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์แล้วข้อมูลบางอย่างก็จะหายไป ไวรัสพวกนี้จะติดมากับพวกแฟลชไดร์ MP3 MP4 ที่เราชอบใช้ไปเสียบเพื่อดูดข้อมูลแหละครับ ที่สำคัญมันสแกนไม่ออกด้วย ต้องฟอร์แมตเครื่องใหม่อย่างเดียวถึงจะหาย ทำให้บางทีเราต้องเสียข้อมูลทั้งหมดไปแต่ตอนนี้มีโปรแกรมสแกนได้แล้วครับ)
“สแกนไม่ได้เหรอครับ แล้วอาการของคอมมันเป็นยังไงบ้างครับ”ผมถามออกไปอย่างห่วงเพราะข้อมูลในคอมขององค์การมีแต่สำคัญๆ
“พี่ว่าน้องเออย่าเพิ่งห่วงเรื่องนั้นเลย พี่มีเรื่องอย่างบอกน้องเอว่าทุกคนเข้าคิดว่าไวรัสตัวนี้...เอ่อ....เออ...น้องเอเป้นคนทำแล้วเอามาปล่อยในคอมขององค์การ แต่น้องเออย่าคิดมากนะ พี่รู้ว่าน้องเอไม่ได้เป็นคนทำแน่ๆใช่ไหมครับ”พี่หมอทีบอก ทำเอาผมถึงกับอึ้งไปสองเด้ง เด้งแรกที่ว่าผมเป้นคนทำ เด้งสองที่แม้ขนาดพี่หมอทีก็ยังถามผมว่าใช่ไหม มันแสดงให้เห็นว่าไม่เชื่อสนิทใจ
“ทำไมทุกคนคิดว่าเป็นผมครับ”ผมถาม
“ก็ตอนนั้นที่เกิดเรื่อง ทุกคนคิดว่าน้องเอคงแค้นองค์การมาก เลยแฮกระบบแล้วเอาไวรัสมาปล่อย แถมอีกอย่างไวรัสมันก็ชื่อ Borntok A ด้วย แต่พี่เชื่อนะว่าไม่ใช่น้องเอ อาจจะมีคนติดเอามาจากที่อื่นก็ได้ครับ น้องเออย่าคิดมากนะครับ”พี่หมอทีรีบพูดปลอบใจผมไว้ล่วงหน้า
ตอนนั้นผมยังไม่ตอบอะไรออกไปได้แต่คิดว่าทำไมเรามันซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้ว่ะ ถึงว่าหน้าพี่นิคเมื่อครู่ดูยุ่งยากมาก ผมได้แต่คิดว่าเราควรที่จะทำยังไงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคราวนี้ เราจะปล่อยไปเฉยๆให้ทุกคนเข้าใจผิด หรือเราจะต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อพิสูจน์ตัวเอง แล้วผมก็ตัดสินใจที่จะไม่ยอมให้ใครเขามาดูถูกผม มาว่าผมได้ในสิ่งที่ผมไม่ได้ทำ โดยเฉพาะใช้สิ่งที่เรียนมาทำเรื่องไม่ดีอย่างนี้
“พี่หมอทีครับ พี่หมอทีช่วยอะไรผมหน่อยได้ไหมครับ”ผมบอก
“น้องเอจะให้พี่ช่วยอะไรครับ”พี่หมอทีถาม
“พี่หมอทีช่วยหาทางให้ผมได้เข้าไปดูคอมในองค์การได้ไหมครับ”ผมบอกออกไป เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องผมก็ไม่ได้เข้าองค์การเลย และรู้ดีว่าทุกคนที่นั่นคงไม่อยากให้ผมเข้าไปด้วย
“ก็....มันก็.......”พี่หมอทีบอกอย่างติดขัด ผมเข้าใจความรู้สึกของพี่หมอที ที่เป็นถึงอุปนายกคนที่สองแค่พาคนเข้าไปดูคอมที่องค์การคงไม่เป้นเรื่องอะไร ถ้าคนนั้นไม่ใช่ผมที่ทุกคนในองค์การคิดว่าเป้นตัวปัญหาและเป็นต้นเหตุของเรื่องต่างๆ
“ผมเข้าใจพี่หมอทีนะครับ แต่ว่าถ้าผมแก้ไวรัสครั้งนี้ได้ ผมจะได้ใช้โอกาสนี้พิสูจน์ตัวเองเพราะผมเองก็อยากไปอย่างบริสุทธิ์ แต่ถ้าทำให้พี่หมอทีลำบากใจมากก็ไม่เป็นไรครับ”ผมบอก
“น้องเอพูดเหมือนกับจะไปไหนเลยครับ”พี่หมอทีถาม
“ครับ ผมยังไม่ได้บอกใครเลยครับ บอกพี่หมอทีเป็นคนแรกก็ได้ครับ ผมตัดสินใจจะเอ็นท์ใหม่ครับ แต่จะใช้คะแนนเดิม ผมจะไปเรียนที่มอบูครับ อยากกลับไปอยู่กับคุณแม่ ผมเห็นคุณแม่อยู่กับโอ๊ตแล้วผมเป็นห่วงครับ”ผมบอกออกไปแล้วก็เหมือนอะไรมันมาอุดอยู่ตรงลำคอ ผมใช้เรื่องคุณแม่เป็นข้ออ้างมากกว่าที่จริงแล้วผมอยากหนีปัญหาหนีเรื่องวุ่นวายที่มันเกิดขึ้นต่างหาก
“พี่ว่าพี่เข้าใจน้องเอนะครับ ไม่ว่าน้องเอจะไปด้วยเหตุผลอะไร เอาเป็นว่าวันนี้ตอนเย็นคนในองค์การเขาจะไปเลี้ยงส่งพวกนักศึกษาที่มาในโครงการเรียนรู้ พี่คิดว่าตอนเย็นวันนี้คงพาน้องเอเข้ามาดูได้ครับ แต่ยังไงพี่ขอดูสถานการณ์อีกทีนะครับ”พี่หมอทีบอก
“ครับ ขอบคุณมากครับ แล้วผมจะรอครับ”ผมบอกแล้ววางสายไป แล้วผมก็ต่อสายหาไอ้ปอนด์เพื่อนที่คณะทันทีเพื่อให้มันมาช่วยงานนี้ เพราะมันเก่งเรื่องแฮคข้อมูลและเชี่ยวชาญเรื่องไวรัส มันก็รับปากผมทันทีเพราะผมบอกว่าจะซื้อบัตรเกมออนไลน์ให้มัน ก็ไอ้นี่มันบ้าเกมครับ
ผมเดินกลับไปที่โต๊ะบอกขอโทษพี่เก่งที่วันนี้คงไม่ได้ไปถ่ายรูปด้วย แล้วฝากให้พี่เก่งไปส่งหนึ่งที่หอให้ด้วย ส่วนผมมีธุระด่วยต้องรีบไปทำ ระหว่างที่ผมเดินออกมาผมเห็นสองมองผมอย่างไม่ละสายตา แต่พี่นิคเมินเฉยเอามากๆ
...
แล้วเวลาทุ่มกว่าๆพี่หมอทีก็โทรมา ผมซึ่งมาที่หอไอ้ปอนด์ได้ปรึกษาวางแผนกันดีแล้ว ก็ออกไปที่องค์การทันที พอไปถึงผมกับไอ้ปอนด์ก็ลงมือจัดการทันที พี่หมอทีนั่งเฝ้าที่หน้าประตูองค์การ ปล่อยให้ผมไอ้ปอนด์อยู่ในองค์การ ไอ้ปอนด์แฮ็คข้อมูลที่มากับตัวไวรัส ส่วนผมก็พยายามกู้ไฟล์คืนกลับมา ใช้เวลาอยู่ชั่วโมงกว่าๆภารกิจก็สำเร็จลง
“แม่ง เสียชื่อกูหมดเรื่องแค่นี้ทำให้กูใช้เวลาเป็นชั่วโมง มึงเอามาเลย 20 ชั่วโมง”ไอ้ปอนด์บ่นพร้อมทวงบัตรเกมออนไลน์จากผม
“เออ.......มันต้องรอบคอบหน่อย แล้วได้สิ่งที่ต้องหรือเปล่าว่ะ”ผมถาม พร้อมกันกับที่พี่หมอทีเดินเข้ามาดู
“โห ไอ้นี่พูดอย่างนี้ดูถูกกูนะเนี่ยะ เดี๋ยวแม่งไม่ให้ กูนะปอนด์แห่งวิดคอม เจ้าพ่อเกมออนไลน์นะโว้ย เรื่องแค่นี้ขี้ปะติ๋ว”ไอ้ปอนด์ทำคุย
“ได้อะไรเหรอครับ”พี่หมอทีถาม
“ไม่มีอะไรครับ เสร็จเรียบร้อยทุกอย่างแล้วครับ ใช้งานได้เป็นปกติ”ผมบอกไป ไอ้ปอนด์มองหน้าผมอย่างงงๆ
“อ้าวไอ้เชี่ยะนี่ แล้วมึงให้ก็แฮ็คข้อมูลกับเซิฟเวอร์ของคนที่เอาไวรัสมาปล่อยไหมว่ะ รู้งี้กูฆ่าเสร็จไปนานแล้ว ไม่มานั่งหาให้มึงหรอก เนี่ยะกูถอดออกมาเป็นเบอร์โทรด้วยนะโว้ย โคตรโชคดีมันใช้โทรศัพท์บ้านเล่นเลยถอดง่ายหน่อย”ไอ้ปอนด์ปากโป้งบอกไปหมด ไม่ได้ดูผมที่ขยิบตาส่งสัญญาณบอกว่าอย่าพูด
“แฮ็คข้อมูล เซิฟเวอร์ เน็ท เบอร์โทร”พี่หมอทีทวนสิ่งที่ได้ยินอย่างเบาๆเหมือนยังงงๆอยู่
“ไม่มีอะไรครับพี่ ผมว่าเรารีบออกไปจากองค์การดีกว่าครับ”ผมเสนอ เพราะไม่อยากให้พี่หมอทีรู้ว่าผมกำลังทำอะไร แต่คนฉลาดอย่างพี่หมอทีมีเหรอที่จะไม่รู้
“อย่างนี้เราก็รู้นี่ครับว่าใครเป็นคนทำ พี่ขอเบอร์โทรที่ได้มาได้ไหมครับน้อง”พี่หมอทีบอกไอ้ปอนด์ ผมตกใจเล็กน้อยเพราะไม่ได้อยากให้พี่หมอทีรู้เรื่องนี้เลย ไอ้ปอนด์ก็ส่งกระดาษที่จดให้
พี่หมอทีรับมาดูแล้วกดหมายเลขนั้นทันที “สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าที่นั่นที่ไหนครับ”พี่หมอทีถาม
“บ้าน................ค่ะ เรียนสายกับใครค่ะ”ปลายสายตอบกลับมา
“คือผมอยากทราบว่าที่บ้านหลังนั้นมีคนเรียนที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นหรือเปล่าครับ”พี่หมอทีถาม
“มีค่ะ แต่ว่าเรียนจบไปแล้ว ตอนนี้ทำงานอยู่ที่กรุงเทพค่ะ”ปลายสายตอบ
“ผมขอทราบชื่อได้ไหมครับ”พี่หมอทีถามต่อ
“ได้ค่ะชื่อเด็ดเดี่ยว .................. ค่ะ มีธุระหรือเปล่าค่ะ”ปลายสายถามคืน
“คือผมโทรจากองค์การนักศึกษาของมหาลัย โทรมาเพื่อตรวจสอบข้อมูลศิษย์เก่าครับ ขอบคุณมากครับที่ให้ความร่วมมือ สวัสดีครับ”พี่หมอทีปดไหลไปตามน้ำ
“เป็นศิษย์เก่ามอขอ จบไปแล้วด้วย ชื่อเด็ดเดี่ยว ............... เขาจะทำ ทำไมนะ แต่นามสกุลนี้เหมือนคุ้นๆที่ไหน”พี่หมอทีบ่นออกมา ทำเอาผมถึงบางอ้อ ทำไมพี่หมอทีจะไม่คุ้นกับนามสกุล ก็สองนามสกุลเดียวกับพี่เด็ดเดี่ยว แล้วผมก็พอจะรู้ว่าใครเป็นคนทำ ถ้าไม่ผิดตัวต้องเป็นสองแน่ๆผมแน่ใจอย่างนั้น แต่ว่าสองจะทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร
“พี่หมอทีครับ เรื่องนี้อย่าบอกใครนะครับ ผมขอร้องนะครับ ผมอยากให้เรื่องมันจบไปพร้อมกับที่ผมจะไป”ผมบอก ดึงเอาพี่หมอทีที่กำลังคิดหาเหตุผลว่าเขาทำไปทำไม โดยที่คิดว่าคนชื่อเด็ดเดี่ยวที่เป็นศิษย์เก่าเป็นคนลงมือทำ
“แต่มันเป็นโอกาสที่น้องเอ จะใช้พิสูจน์ข้อกล่าวหานะครับ”พี่หมอทีท้วงขึ้น
“ผมพิสูจน์ในใจผม แล้วก็ให้พี่หมอทีเป็นพยานแล้วไงครับ ผมว่าผมทำตัววุ่นวายเป็นปัญหามามากพอแล้วครับ นะครับพี่หมอที อย่าบอกใครนะครับเรื่องนี้”ผมพูดออกไป พี่หมอทีพยักหน้ารับ
(ที่ผมไม่อยากให้พี่หมอทีไปบอกใครไม่ใช่เป็นเพราะว่าผมเป็นคนดีอะไรหรอกนะครับ แต่ผมคิดว่าถ้าสืบกันไปสาวกันมาต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ ผมเองที่เพิ่งมีเรื่องไปหยกๆ ไม่อยากมาปวดหัวอีก แล้วก็ผมตัดสินใจแล้วว่าผมจะเอ็นท์ใหม่เปลี่ยนมหาลัย ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา ผมอาจจะไม่ได้เปลี่ยนมหาลัยก็ได้ เพราะต้องมีคดีติดค้างกับทางมหาลัยนี้อยู่ ผมเลยอยากให้มันจบๆไป)
แล้วพี่หมอทีก็แยกไปเข้าเวร ส่วนไอ้ปอนด์มันไปตั้งแต่ให้เบอร์โทรพี่หมอทีแล้วครับ มันบอกว่าให้ผมเอาบัตรไปให้มันที่ร้านด้วยเสียเวลาเล่นเกม ส่วนผมพอแยกกับพี่หมอทีก็โทรหาพี่เก่งเพราะมันเพิ่งสามทุ่มว่าจะชวนไปหาอะไรกินฉลองซักหน่อยที่ผมได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจให้กับตัวเองแล้วผมว่าเรื่องบางเรื่องให้เรารู้แล้ว ไม่ต้องไปบอกใคร ก็ทำให้เราสบายใจได้เหมือนกัน ผมโทรหาพี่เก่ง ที่ไปเลี้ยงฉลองงานวันเกิดเพื่อนที่บาร์กึ่งผับหลังมอ ผมเลยตามไปทันที
...
ผมเดินเข้าไปในร้านที่เป็นบาร์กึ่งผับ ในร้านถูกจัดให้เป็นบรรยากาศแบบเป็นกันเองสบายๆ มีคนนั่งเกือบเต็มร้าน เพลงในร้านก็เปิดตามแต่คนขอหรือจะร้องสดก็ได้เพราะมีเหมือนเป็นเวทีเล็กอยู่ตรงมุมด้านในของร้านแล้วมีตู้เพลงให้หยอด ผมมองหาพี่เก่งเห็นนั่งอยู่โต๊ะเกือบในสุดกับเพื่อนอีกสี่ห้าคน ผมเดินไปแล้วก็ไปสะดุดที่โต๊ะหนึ่ง ทางร้านได้เอาโต๊ะมาต่อให้ยาวขึ้นเพื่อให้นั่งเป้นกลุ่มเดียวกันได้ประมาณสิบกว่าคน ผมมองไปก็เห็นพี่นิคนั่งหัวโต๊ะ มีสองนั่งข้างๆแล้วก็พี่ริช พี่ปอ พี่แหวว แล้วพวกพี่ๆในองค์การอีกหลายสิบคน ผมพยายามเดินก้มหน้าหลบไปที่โต๊ะของพี่เก่ง แต่ก็มีหลายคนส่งสายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรมาให้ผม มีแต่พี่แหววกับพี่ปอพี่ริชที่ยิ้มทักทายให้
ผมนั่งลงข้างพี่เก่ง แล้วพี่เก่งก็แนะนำผมให้เพื่อนๆรู้จัก เพื่อนพี่เก่งแต่ละคนดูอัธยาศัยดี เป้นกันเองคุยสนุก อารมณ์เป็นศิลปินกันมากๆ แล้วเครื่องดื่มพวกแอลกอฮอล์ก็ถูกสั่งมา แต่ผมไม่ดื่มพี่เขาเลยสั่งเป็นน้ำอัดลมมาให้ผมแทน ตลอดเวลาพี่เก่งคอยดูแลผมเหมือนเดิมจนบางครั้งผมอายเพื่อนๆพี่แก แต่เพื่อนพี่แกเริ่มเมานิดหน่อยเลยไม่ทันได้สังเกตที่พี่เก่งเอาใจผมจนผิดปกติ ผมนั่งฟังพวกพี่ๆเขาคุยกันมั้ง ฟังเพลงที่เปิดไปเรื่อยๆหรือมีคนขึ้นไปร้องบ้าง ผมไม่ได้ส่งสายตาไปมองที่โต๊ะของพี่นิคเลย แต่ผมรับรู้ได้ถึงว่ามีคนจ้องมองมาทางผมตลอดเวลา
...........ได้ชิดเพียงลมหายใจ แค่ได้ใช้เวลาร่วมกัน แค่เพื่อนเท่านั้น แต่มันเกินห้ามใจ
ที่ค้างในความรู้สึก ลึกๆเธอคิดยังไง รักเธอเท่าไร แต่ไม่เคยพูดกัน
อะไรที่อยู่ในใจก็เก็บเอาไว้ มันมีความสุขแค่นี้ก็ดีมากมาย
เธอจะมีใจหรือเปล่า เธอเคยมองมาที่ฉันหรือเปล่า ที่เราเป็นอยู่นั้นคืออะไร ........
“เพลงท่อนนี้โดนใจพี่จังครับ”พี่เก่งพูดออกมา แล้วผมก็ตั้งใจฟังเพลง
(
http://www.imeem.com/people/j0xpdp//music/_anranRJ/voice_male_mp3mp3/ ---ฟังเพลงอยากรู้แต่ไม่อยากถาม ของ Calories Blah Blah)
...................เธอจะมีใจหรือเปล่า เธอเคยมองมาที่ฉันหรือเปล่า ที่เราเป็นอยู่นั้นคืออะไร
เธอจะมีใจหรือเปล่า มันคือความจริงที่ฉันอยากรู้ติดอยู่ในใจ
แต่ไม่อยากถาม กลัวว่าเธอเปลี่ยนไป (กลัวรับมันไม่ไหว)
ไม่ถามยังดีซะกว่า เพราะฉันรู้ถ้าเราถามกัน
กลัวคำคำนั้น อาจทำร้ายหัวใจ
เธอจะมีใจหรือเปล่า มันคือความจริงที่ฉันอยากรู้ติดอยู่ในใจ
แต่ไม่อยากถาม กลัวรับมันไม่ไหว.............
พี่เก่งพูดจบก็มาหอมที่แก้มผมเบาๆ ทำเอาผมม้วนอาย พวกเพื่อนพี่เก่งบางคนเมาหลับไปแล้ว บางคนก็นั่งอ้อแอ้ไม่มีสติ มีคนเดียวที่เห็นก็หันมายิ้มๆให้กับผม สิ่งที่พี่เก่งพูดออกมากับเพลงที่ผมกำลังฟังทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกของพี่เก่ง พี่เก่งไม่เคยถามผมเลยตั้งแต่วันนั้นว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม ไม่ถามถึงพี่นิคทั้งๆพี่เก่งเองก็รู้ว่าผมคบกับพี่นิคเป็นแฟนแล้ว ก่อนเพลงจบเล็กน้อยผมบอกพี่เก่งว่า
“ขอบคุณนะครับพี่ ขอบคุณที่พี่เข้าใจผม เพลงต่อไปนี้ที่ผมจะร้องเป็นคำตอบที่ผมจะบอกพี่ครับ”พูดจบผมก็เดินไปบอกเจ้าของร้านว่าผมจะร้องเพลง แล้วก็เดินขึ้นไปบนเวทีเล็กที่มุมร้าน
(
http://www.imeem.com/people/i0oeZ3d/music/Fe0J0g3Z/boyd_kosiyabong/ ---ฟังเพลงที่ฉันรู้ ของ Boyd Kosiyabong)
.................ทุกคนคงเคยมีความจริงที่ปิดบังไม่ให้ใครรู้ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่
ก็ซ่อนไว้ภายใน เจอะใครก็ต้องทำเป็นเฉย รู้สึกกลัวจนไม่อยากเปิดเผย
ก็สิ่งที่ฉันนั้นเป็นอยู่ เป็นความจริง ที่ไม่อยากให้มันเป็นจริง
ต่อให้ฉันนั้นทำทุกสิ่งเธอก็ไม่หันกลับมามองดู
อยากจะขอสักอย่าง อยากจะขอร้องสักอย่าง อยากจะขอให้เหลือ
หนทางให้ฉันยังเดินได้อยู่ โปรดอย่าถามกันเลย อย่าเพิ่งถามฉันเลย
เรื่องราวของเราทั้งคู่ไม่อยากจะพูดจะบอก ไม่มีเหตุผลจะตอบ ฉันเองยังไม่เคยคาดคิด
ไม่เคยรู้ เขาไม่รักฉันแล้ว ที่ฉันรู้
น้ำข้างในดวงตามันพลอยเอ่อมาเวลามีคำถาม เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะอะไร เหตุผลนั้นเป็นยังไง อยากจะอยู่ลำพังเฉยๆ กับการที่จะเปิดเผย ก็ฉันเองแค่เสียใจอยู่ เพราะความจริง
อยากให้มันเป็นจริง ต่อให้ฉันนั้นทำทุกสิ่งเธอ ก็ไม่หันกลับมามอง............
ผมที่ร้องเพลงไปก็มองหน้าพี่เก่งไป พี่เก่งก็ได้แต่ยิ้มบางๆมาให้เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง ตาผมมองไปเห็นสองที่กำลังป้อนอะไรซักอย่างให้พี่นิค ทำเอาผมจะร้องต่อไปไม่ได้ ปากผมร้องไปตามเพลงแต่สายตาผมหยุดอยู่ตรงนั้น จนทำให้พี่เก่งหันไปดู
.........................ฉันไม่รู้ว่าเธอคิดอะไร ฉันไม่รู้ต้นเหตุเพราะใคร
ฉันไม่รู้ฉันนั้นผิดหรือไม่ ฉันนั้นยังไม่รู้..... เธอไม่ได้รอให้ฉันถาม
เธอไม่ได้รอให้ฉันพยายาม ไม่เคยรู้ ไม่เคยรู้
อยากจะขอสักอย่าง อยากจะขอร้องสักอย่าง อยากจะขอให้เหลือ
หนทางให้ฉันยังเดินได้อยู่ โปรดอย่าถามกันเลย โปรดอย่าถามฉันเลย
เรื่องราวของเขาทั้งคู่
ไม่อยากจะพูดจะบอก ไม่มีเหตุผลจะตอบ ฉันเองก็ไม่คิดว่าเรื่อง
อย่างนี้จะเกิดกับฉัน ไม่เคยรู้... เขาไม่รักฉันแล้ว.ที่ฉันรู้.....
ผมร้องไปจนจะจบเพลงอยู่ๆน้ำตามันก็จะไหลออกมา พอจบเพลงผมก็รีบวิ่งไปหลังร้านไปเข้าห้องน้ำทันที หลังจากที่ผมล้างหน้าล้างตาเสร็จ ผมเดินออกมาแล้วก็เห็นมุมหนึ่งของห้องน้ำเป็นมุมอับผู้คนเพราะมีต้นไม้บังอยู่ ภาพที่ผมเห็นทำเอาผมเกือยหยุดหายใจ
พี่นิคที่ยืนพิงพนักห้องน้ำอยู่ จ้องมองตากับสองแล้วก็ค่อยๆก้มลงจูบกับสองอย่าดูดดื่มอยู่นานสองนาน ผมเอามือมาจับที่ริมฝีปากของตัวเองอย่างเบาๆ นึกถึงตอนที่พี่นิคจูบผมมันมีความสุขแค่ไหนคนที่ยืนอยุ่ตรงนั้นควรเป็นผม ไม่ใช่สองผมคิดได้แค่นั้น น้ำอุ่นๆในตาก็ไหลลงมาที่แก้มทำให้สติที่หายไปกับภาพที่เห็นกลับคืนมา ไม่ใช้ซินะ เรากับเขาจบกันแล้ว เอเอ๊ย เป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่าถ้าจะจากต้องจากกันด้วยดี จะเป็นพี่เป็นน้องเป็นเพื่อนกันต่อไป ต้องทำให้ได้นะเอ ผมบ่นกับตัวเองเบาๆก่อนที่จะเช็ดน้ำตาแล้วเดินเข้าไปในร้าน พอผมนั่งลงพี่เก่งก็บอกว่าเดี๋ยวจะไปร้องเพลงให้ผมบ้าง ว่าแล้วพี่เก่งก็ขึ้นไปบนเวที
(
http://www.imeem.com/boons/music/FhpC-4cA/blackhead/ ---ฟังเพลงฉันอยู่ตรงนี้ ของ Blackhead)
......................จะอยู่ตรงนี้ถ้าเธอต้องการ ถ้าเผื่อทางนั้นทำเธอหมองหม่น
เห็นเธอเสียความรู้สึก ฉันที่รักเธอกว่าทุกคน ก็เสียใจ
หากคำว่ารัก มันร้าย กับเธอ มากไป บอกมาได้ไหม ให้ฉัน ช่วยซับ น้ำตา
ส่งใจช้ำๆของเธอมา ฉันจะรักษามันด้วยรักจริง ด้วยหัวใจที่เหมือนเดิม..............
พี่เก่งร้องเพลงไปได้ซักพัก พี่นิคกับสองก็เดินมานั่งที่โต๊ะ ผมคิดใจในว่าข้อตกลงที่2เราเป็นคนตั้งเอง เราต้องทำให้ได้ เราไม่ได้มีพี่นิคคนเดียวสักหน่อย นั่นไงคนที่เข้าใจเรา รอเราอยู่เสมอ คนที่เขารักเรา ไม่ใช่คนที่เรารักเขา ผมมองพี่เก่งที่ร้องเพลงแล้ววส่งตาหวานเยิ้มมาให้ผม
...................ไม่ได้เคยคิดจะแทนที่ใคร แต่ถ้าคนไหนทำเธอทุกข์ทน
ฉันคนนี้ก็มีสิทธิ์ ฉันก็รักเธออยู่ทั้งคน หมดทั้งใจ
ถ้าเธอมีน้ำตา ถ้าเธอต้องช้ำใจ ฉันอยู่ตรงนี้..............
พี่เก่งร้องเพลงจบลงมาผมก็ยกแก้วชนกับพี่เก่ง จากที่เป็นน้ำอัดลมผมเริ่มผสมแอลกอฮอล์ไปนิดหน่อย เพราะคิกว่าคงไม่เป็นไรมาก แค่นิดหน่อยเองทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองแพ้แอลกอฮอล์ ผมดื่มทีจริงแล้วเป็นเพราะอยากให้มันมึนๆจะได้ลืมเรื่องที่เห็นข้างห้องน้ำเมื่อครู่ต่างหาก ผมกับพี่เก่งผลัดกันป้อนนั่นป้อนนี่ให้กัน ด้วยความที่เหล้าเข้าปากอะไรๆมันก็เปลี่ยนไป ผมที่นั่งหลบหน้าในตอนแรกก็กล้ามองอย่างเปิดเผย มองไปที่โต๊ะพี่นิคก็เห็นแต่พี่นิคยกเอาๆ มีสองนั่งคอยเอาใจบริการอยู่ข้างๆ ผมกับพี่เก่งก็ชนกันบ่อยขึ้น เพลงในร้านก็เป็นใจซะเหลือเกิน
(
http://www.imeem.com/emmerries/music/VABbJWD1/skalaxy/ ---ฟังเพลงดื่ม ของ Skalaxy)
.................ฉันรู้แล้วที่เรานัดกัน เพื่อมาบอกลา
นัดร้านนี้ที่เราคุ้นเคย ที่มากันประจำ
ร้านที่ฉันพบเธอครั้งแรก แล้วเราก็รักกัน
แต่ทำไมวันนี้ มันหงอยมันเหงา มันเศร้าจับใจ
มันเหมือนจะรู้ วันนี้เป็นคืนสุดท้าย และเธอกับฉันไม่มีวันเหมือนเก่า
ฉันเห็นแล้วว่าเขาเข้ามา แล้วไปอยู่ไหน
ฉันไม่ถือให้มันวุ่นวาย แค่ชวนมาดื่มกัน
ฉันรู้แล้วเรื่องเธอและเขา ปิดบังมาตั้งนาน
อยากจะเชิญให้เขา มาพบมาทัก มารู้จักกัน
ก็เพียงเท่านั้น และฉันไม่สร้างปัญหา
อย่ากลัวอย่างนั้น จะลากันด้วยดี
ดื่มให้คืนสุดท้ายของเรา ดื่มให้เธอและเขารักกัน
อยากจะทำอย่างนี้ตั้งนาน ก่อนที่เธอจะทิ้งกันไป
ดื่มให้เธอกับเขาโชคดี ดื่มให้ลืมว่าเคยรักใคร
ดื่มให้ใจมันลืมโลกนี้ไปเลย.................