ตอนที่ 3 ขอแบ่งหน่อยสิ“พี่ครับ.......”
เช้านี้ต่างออกไปจากทุกๆวัน
สำหรับภาคภูมิ....ความโดดเดี่ยวช่างเป็นสิ่งที่น่ากลัวเสียเหลือเกิน
อ้อมกอดของเขาว่างเปล่า
คนที่ควรจะอยู่ตรงนั้น....หายไปไหนอีกแล้ว
“หายไปไหนของเค้ากันนะ”
บนโต๊ะรับประทานอาหาร มีแก้วใบหนึ่งตั้งเอาไว้ ในนั้นมีของเหลวสีแดงบรรจุอยู่ ถึงจะยืนห่างเป็นเมตร แต่ภาคภูมิก็รู้ดีว่านั่นคืออะไร กลิ่นหอมของมันช่างเย้ายวนใจเขายิ่งนัก
ถัดไปจากแก้วเลือดไม่กี่เซนติเมตร บนโต๊ะนั้นยังมีแมวอีกหนึ่งตัววางตั้งอยู่ ไมเคิลนั่นเอง มันนั่งนิ่งราวรูปปั้นพร้อมกับทำหน้าเซ็งโลก ที่คอของมันมีป้ายแขวนห้อยไว้ ภาคภูมิเดินเข้าไปใกล้เพื่ออ่านข้อความในนั้น ลายมือของพี่ชายเขา.....โย้เย้สมกับเป็นคนไม่มีการศึกษาจริง ๆ
“แก้วสุดท้ายแล้วน้องรัก.....เลือดจากโจรพวกนั้นหมดเกลี้ยงแล้ว.....วันนี้นายเปิดเทอมวันแรก....พี่เลยเสียสละให้นาย.....เป็นของขวัญรับเปิดเทอม.....ฝากดูแลต้นไทรที่เพิ่งหายป่วย....กับไอ้เหมียวตัวนี้ระหว่างที่พี่ไม่อยู่...พี่ต้องไปหลายวัน....เพื่อหาเลือดมาเก็บไว้....นายก็รู้ว่าอาหารมนุษย์มันแพง...แล้วเราก็กินกันจุ....ไม่เหมือนเลือดที่ฟรี”
ภาคภูมิอ่านข้อความนั้นดัง ๆ ไม่ได้อ่านจากลายมือของพี่ แต่อ่านจากภาพเหตุการณ์ที่เขากรอย้อนกลับไปดู(ความสามารถด้านข้อมูล---เป็นความสามารถของแฝดคนที่อ่อนแอกว่าอย่างเขา) จริง ๆแล้วข้อความที่แขวนอยู่บนคอแมวเขียนไว้แบบนี้ต่างหาก
‘เก้ววสูดท้ายเล้ววน้งอรัก...เลียดจากโจนส์พวกนานหมดเกลี้งยแล๊ว...วันนี้นายเปอดเทิมวันแรก....พี่เลยเเสียสละไห่นาย.......เป็นของขวันรับเปอดเทิม....ฟากดูแร้ต้นไซน์ที่เพ่องหายป่วย....กับไอ้เหียวตัวนี้ระหว่างที่พี่ไม่อยู่....พี่ต้องไปหลายวัน.....เพื่อหาเลียดมาเก็บว๊าย...นายก้อรูว่าอาหานมังคุดมันแพง....เล้ววเราก้อกินกันจุย์....ไม่เหือนเลียดที่ฟรรรีย์....’เดาได้ไม่ยาก....
ว่าเหตุผลของคุณเกียรติยศคืออะไร
ความจำเป็น....
หรือ
หาเรื่องสนุกทำระหว่างที่เขาไปเรียนหนังสือกันแน่
“แกเองก็คงจะเบื่อสินะไมเคิล.....มาเป็นพวกกูดีกว่าม๊ะ....จะเลี้ยงให้ดีกว่าที่ไอ้ตูดนั่นเลี้ยงอีก....”
ภาคภูมิอุ้มแมวขึ้นมา....แล้วจูบปากเจ้าไมเคิลอย่างรักใคร่
เอ๋????
ไหงปากของมันถึงได้มีรสชาติปะแล่มเหมือนเลือด
“นี่แกแอบชิมเลือดด้วยเหรอไอ้ตัวแสบ.....หืม?”
ภาพในหัวของภาคภูมิฉายขึ้นมา เจ้าตัวแสบแอบตวัดลิ้นลงไปในแก้วเลือดของเขาด้วย สองครั้ง!!!!
ว่าง ๆคงต้องหาเวลามานั่งเช็คประวัติของไอ้เหมียวสักหน่อยแล้ว.
.
.
.
.
.
.
“พิซซ่ามาส่งแล้วครับ”
“เอ๋.....ผมไม่ได้สั่งนี่ครับ.....”
น่ารัก....
คำแรกที่แวบขึ้นมาในหัว คือ ช่างเป็นเด็กส่งพิซซ่าที่น่ารักเสียจริง
ปากนิด จมูกหน่อย ผิวพรรณขาวสะอาดตา ดวงตากลมโตดูขี้อ้อน แค่เผลอสบตาด้วยก็ไม่อาจละสายตาไปได้เสียแล้ว
ชายหนุ่มจ้องมองคนตรงหน้าราวกับถูกสะกดจิต ริมฝีปากน้อย ๆที่แสนจะน่ารักนั้น ค่อย ๆคลี่ยิ้มโชว์ฟันขาววาววับ
รอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์.....
ฉึก......ฟื้บบบบบเข็มฉีดยาขนาดใหญ่ถูกแทงเข้าเส้นเลือดของชายหนุ่ม ก่อนจะดูดเอาเลือดขึ้นไปอย่างช้า ๆ จากนั้นพ่อหนุ่มส่งพิซซ่าก็ถ่ายเลือดลงไปในถุงสำหรับเก็บเลือด และใส่ทุกอย่างลงไปในกระเป๋าเก็บความเย็นที่สำหรับบรรจุไอศกรีมส่งลูกค้า ทั้งหมดแล้วเสร็จในเวลาเพียงไม่กี่นาที โดยที่เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายนั้น ยังคงจ้องมองไปข้างหน้า ตาค้าง และยิ้มหวานอย่างล่องลอย
“ขอแบ่งหน่อยนะ......หึหึหึหึ”.
.
.
.
.
.
.
เกียรติยศกำลังสนุกกับการทำงานแบบมนุษย์ ภายใต้ชุดพนักงานส่งพิซซ่าที่แอบขอยืมมาจากคนคุ้นเคย ตะเวนไปตามที่ต่าง ๆ
เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ นั่นหมายถึงเขาหาเลือดมาได้มากพอตามที่ต้องการแล้ว เกียรติยศก็จะกลับไปยังห้องเช่าของนายเบสท์(ชื่อเล่นของพ่อหนุ่มพิซซ่า) เพื่อเก็บเลือดมนุษย์ที่หามาได้เอาไว้ในช่องฟรีซ และหวังเอาไว้เป็นอย่างยิ่งว่ารสชาติคงอร่อยเหมือนไอศกรีมรสองุ่น
หวังว่าน้องคงจะชอบ.....
.
.
.
.
.
.
.
“น้องรัก....อย่าตามหาพี่....หรือคิดดักเจอเป็นอันขาด ปล่อยให้พี่ได้ทำอะไรแก้เซ็งจนกว่าจะถึงวันหยุดยาว หวังว่าไอติมเลือดคงจะถูกปากนายนะ.....รัก.....จากพี่.....หึ....ไอ้เหียกเอ๊ย”ภาคภูมิไม่ได้แปลกใจ....ไม่เลยสักนิด
เขากลับมาบ้าน ประตูหน้าเปิดอ้าซ่า มีโน้ตหนึ่งใบแปะอยู่หน้าตู้เย็น แน่นอนว่าเขียนด้วยภาษาเพี้ยน ๆซึ่งใส่วรรณยุคกับตัวการันต์ไม่ถูกตำแหน่ง สระและพยัญชนะถ้าไม่สะกดผิดก็สลับที่กันอย่างไม่น่าให้อภัย ในช่องแช่แข็งมีเลือดอยู่สี่ถุง เด็กหนุ่มอมยิ้มกับความซุกซนเป็นเด็ก ๆของอีกฝ่าย พี่ชายคงแอบกลับเข้ามาเซอร์ไพรส์เขา ในช่วงเวลากลางวันที่เขาออกไปเรียน
เกียรติยศคงลืมไปแล้วกระมัง ว่าไม่อาจเซอร์ไพรส์อะไรเขาได้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีพลังสะกดจิต หรือทำข้าวของปลิวว่อนไปมาได้ แต่เขาก็สามารถมองเห็นทั้งอดีต และอนาคต ระหว่างเรียนเขาต้องกลั้นขำแทบตาย เมื่อเห็นภาพพี่ชายวิ่งดุ๊ก ๆ เข้ามาในบ้าน เพื่อเอาเลือดมาใส่เอาไว้ ฟัดแมวสิบนาที แล้ววิ่งดุ๊ก ๆออกไป
“กลับมาจะตอบแทนให้สาสมเลยทีเดียว”
.
.
.
.
.
.
.
“เนี๊ยะ!!! ตังค์ผมหายไปไหนก็ไม่รู้พันนึง.....เนี๊ยะ.......ก็ว่าใส่กดเงินเสร็จก็ใส่กระเป๋าตังค์ แล้วก็ไม่ได้ไปควักจ่ายอะไรเลย.....เนี๊ยะ!!!....ดูสิคุณ....ว่าเปล่า”“อ่ะ....เอาของผมไปสิครับ”
“เห....”
“รับไปเถอะน่า....ค่าเช่าห้องไง...ที่ผมบอกว่าจะให้คุณวันละสองร้อย จนกว่าผมจะกลับบ้าน”
เกียรติยศเป็นเด็กเจ้าเล่ห์
เขากลับไปเยี่ยมเยียนไอ้หนุ่มดวงจู๋อีกครั้ง ด้วยเหตุผลที่แสนเลี่ยนว่าคิดถึง แล้วใครเล่าจะปฏิเสธความน่ารักของเด็กคนนี้ได้ เขาเสนอไอ้หนุ่มดวงจู๋ไปว่า ระหว่างที่นอนค้าง....เขายินดีจะจ่ายค่าเช่าเป็นการแลกเปลี่ยน วันละตั้งสองร้อย ห้าวันก็พันนึงเข้าไปแล้ว ถ้าอยู่ทั้งเดือนก็หกพัน หักค่าเช่าจริง ๆออกไปสองพันแปด เขาก็ยังเหลือกำไรเหนาะ ๆ เอาไว้สั่งซื้อหนังโป๊จากอินเตอร์เน็ต
โดยหารู้ไม่ ว่าทุกวันที่เขาออกไปทำงาน ชุดพนักงานสำรองอีกตัวหนึ่งถูกอีกฝ่ายขโมยออกไปใช้หากิน ไม่ได้นึกเอะใจเกี่ยวกับกระเป๋าเก็บความเย็นลายหวานแหววที่อีกฝ่ายพกมาเอง ไม่ได้สังเกตเห็นข้าวของแปลก ๆนอกเหนือไปจากเสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งถุงเลือดที่อีกฝ่ายเก็บไว้ในช่องแช่แข็งในตู้เย็นของเขาอย่างถือวิสาสะ
ก็ทุกครั้งที่พอจะเอ่ยปากถาม อยู่ ๆสมองก็เหมือนจะเบลอ ๆไปชั่วขณะ แล้วก็ลืมเหตุการณ์ช่วงนั้นไปเลยโดยสิ้นเชิง
แล้วเงินหนึ่งพันบาทของพ่อหนุ่มส่งพิซซ่านั่นไม่ได้หายไปไหนหรอก.....
เด็กหนุ่มเองก็รู้สึกโอเคที่มีอีกฝ่ายอยู่ด้วย เขารู้สึกขายหน้านิด ๆที่ตอนนั้นเคยบอกกับเกียรติยศ(ตอนแกล้งเอ๋อ)ไปว่า ต่อไปเขาอาจจะมีสาว ๆมานอนที่ห้อง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ป่านนี้ยังคงไร้ซึ่งวี่แวว การที่มีสิ่งมีชีวิตหน้าตาน่ารักมานอนค้างด้วย มันจึงเป็นอะไรที่พอกล้อมแกล้มไปได้บ้าง ได้เห็นผิวขาว ๆตอนที่อีกฝ่ายเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำ ก็ทำเอาหื่นขึ้นมาได้เหมือนกัน
“สงสัยทำงานตากแดดมาก...ไปหมดแล้วสมองผม”
“ลองดื่มแบรนด์ดูสิครับ....ดื่มแล้วสมองแล่นปรู๊ดปร๊าด”
“แบรนด์ ? ขวดละตั้งสามสิบเจ็ดบาท!!!! ตังค์ล่ะครับแหม่..............เออเนอะ....จริงสิ ผมเพิ่งได้ตังค์จากคุณมาพันนึงนี่หว่า แหมโชคดีจริง ๆ ทำตังค์หาย แต่ก็ได้จากคุณเนี่ย ดื่มด้วยกันนะครับ....ผมเลี้ยงเอง”
“ขอเป็นน้ำองุ่นดีกว่าครับ”
“ยกแพ็คไปเลยก็ได้ครับ หึหึหึ....คุณนี่มันตัวนำโชคจริง ๆ”
“เหรอครับ”
“อยู่ต่ออีกหลาย ๆวันเลยก็ได้นะครับ คิดเสียว่าอยู่เป็นเพื่อนกัน เพิ่งบอกเลิกแฟนไปน่ะ พอดีเบื่อ ๆ ก็เลยทิ้งแม่ม”
ตอแหลยังทำได้ไม่เนียนเลย.....นายเบสท์เอ้ยยย หนังโป๊เต็มห้องเชียว!!!!
.
.
.
.
.
.
[วันสุดท้ายของภารกิจออกล่า / เป้าหมาย : เลือดหนึ่งแกลลอน]
เกียรติยศเป็นพวกหมาดมกลิ่น
กลิ่นคาวเลือดนำพาเขามาที่นี่
“ปล่อยนะ”
“แฮ่ ๆ ๆ.....ไม่มีใครได้ยินหรอกไอ้หนู”ชายแก่อ้วนลงพุงคาดผ้าปิดตา สวมชุดวิตถาร กำลังไล้คมมีดไปบนร่างกายเปลือยเปล่าของเด็กน้อยอย่างหยอกเย้า มีหลายครั้งที่ชายชั่ว
'หยุด' เพื่อฝากร่องรอยบาง ๆเอาไว้บนร่างของเหยื่อ เหมือนสัตว์ที่กำลังเล่นกับอาหาร ทั่วทุกตารางนิ้วบนผิวเนียน ปรากฏให้เห็นเป็นรอยแผลจาง ๆที่ไม่ร้ายแรงมากนัก ทั้งรอยเก่าที่ตกสะเก็ดแล้ว กับรอยใหม่ที่ยังมีเลือดซึม ๆอยู่ มันต้องการให้เหยื่อของมันรู้สึกเจ็บนิด ๆ ค่อย ๆคุ้มคลั่ง ทรมานจนเกือบจะเป็นบ้า และสิ้นหวังในที่สุด เมื่อนั้นแหละ ความเจ็บปวดที่แท้จริงจึงจะมาถึง
ถึงตอนนั้นมันจะกระซวก....จ้วงแทงอย่างบ้าคลั่ง โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย โดยเริ่มจากจุดที่ไม่ทำอันตรายถึงแก่ชีวิต อย่างแขนกับขา ก่อนจะลงมือกรีดแทงหน้าท้องของเหยื่อ จากนั้นมันก็จะกรีดใบหน้าของเหยื่อตัวน้อยจนเละ ไม่เหลือเค้าเดิมที่เคยน่ารักน่าเอ็นดู ควักลูกตาออกมากินสด ๆ ไม่ก็ปั่นเป็นสมูทธี้
มันจะเล่นกับร่างกายที่แหลกเละนั้นจนกว่าจะพอใจ ควักไส้ เอาเครื่องในออกมากอง ปาหัวใจที่มันเพิ่งควักออกมาสด ๆ ปาใส่ผนังสีขาว มองดูเลือดที่เปรอะเปื้อนบนกำแพงราวกับงานศิลปะ
จากนั้นมันก็จะนำศพไปทิ้ง โดยที่ไม่ฝังหรือเผา ประจานความโหดร้ายให้โลกได้รู้ กว่าจะมีคนมาพบ พวกสัตว์รวมทั้งแมลงวันและแบคทีเรียก็พากันมาแทะจนเหลือแต่กระดูก
เด็กน้อยคนนี้อายุน่าจะประมาณไม่เกินสิบขวบ ดูกล้าหาญและอดทนต่อความเจ็บปวดได้ดี นั่นทำให้มันรู้สึกหงุดหงิดนิดๆ
แอ๊ดดดดด....ปัง“ใครน่ะ”เสียงประตูที่เปิดเข้าสู่ห้องใต้ดิน ที่มันตกแต่งเป็นสตูดิโอถ่ายทำหนังสนัฟฟ์ และใช้สำหรับเป็นที่ทรมานเหยื่อถูกเปิดออก มันละจากเหยื่อที่กำลังเล่นสนุก แล้วเดินไปที่ตีนบันได เพื่อชะเง้อหน้ามองหาคนกำลังบุกรุกเข้ามาในเขตหวงห้าม มันกัดฟันด้วยความโกรธ เกรี้ยวกราด สบถด่าออกมาอย่างหยาบคาย
“ห่าเอ้ย!!!!....แม่!!!!....บอกแล้วไงว่าอย่ามากวนหนู.....หนูยังไม่หิว อยากเจ็บตัวรึไงอีสัตว์!!!!....ซุปห่าเหวอะไรนั่นมันจะเย็นชืดก็ช่างหัวพ่องมันเหอะ”
มันตวาดลั่น....เมื่อเห็นว่าเป็นคนที่คุ้นเคย แต่แล้วมันก็แปลกใจ เมื่อร่างของแม่มันยังคงยืนนิ่ง ไม่ขยับไปไหน ต่างจากทุกครั้งที่หญิงชราจะรีบปิดประตู แล้วไปอย่างลนลาน สักพักแม่ของมันก็กลิ้งหลุน ๆลงมาตามขั้นบันได มันตกใจเสียจนต้องกรีดร้องออกมาดัง ๆ เมื่อพบว่าแม่ของมันในตอนนี้กลายเป็นผีตายซาก
“แม่จ๋า....แม่”
มันเป็นชายแก่ ตัวอ้วน หัวล้าน ที่อาศัยอยู่กับแม่ที่โรคจิตพอ ๆกัน ยายแก่คนนี้ มักจะทำตัวน่าสงสาร เพื่อหลอกล่อให้เด็กน้อยที่ตกเป็นเหยื่อตายใจ อาทิเช่น....แสร้งทำเป็นหลงทางบ้างล่ะ เป็นลมบ้างล่ะ
หลอกล่อเหยื่อมาที่บ้าน เพื่อให้ลูกชายของเธอได้เล่นสนุก
อะไรที่เป็นความสุขของลูก เธอทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งยอมให้ลูกชายทุบตีเพื่อระบายอารมณ์ หาเลี้ยงมันที่ตอนนี้อายุก็ปาเข้าไปสี่สิบกว่าแล้ว แต่ยังไม่มีงานทำ และใช้ชีวิตอยู่อย่างคนซกมกที่ทำอะไรเองไม่เป็น
แต่ตอนนี้แม่ของมันตายแล้ว มันพร่ำรำพันกอดศพแม่ ตะโกนถ้อยคำหยาบคาย ทั้งโกรธ สิ้นหวัง และหวาดกลัว
มันควรจะต้องกลัว.....ถึงเวลาที่มันควรจะกลัวบ้างแล้ว
“โย่วววว....หวัดดี.....ขอแบ่งบ้างสิ”
“มึงเป็นใครวะไอ้เหี้ย!!!!”
เมื่อได้เห็นว่าอีกฝ่าย เป็นเพียงเด็กวัยรุ่นผู้ชายที่ไม่ได้ตัวโตขนาดที่จะทำให้มันกลัวได้เลย กำลังเดินลงมาหามัน โดยที่ในมือถือถังอลูมิเนียมติดมาด้วย นั่นไม่ได้ทำให้มันรู้สึกคลายความกลัวลงไปได้เลยแม้แต่น้อย ยิ่งอีกฝ่ายดูไม่มีพิษสง นั่นยิ่งทำให้มันกลัวมากขึ้น จากที่ได้เห็นผลงานที่อีกฝ่ายทำเอาไว้กับแม่ของมัน สภาพศพที่แห้งเหือดราวกับถูกสูบเลือดไปจนหมด ดวงตาเหลือกลานด้วยความหวาดกลัวก่อนสิ้นใจ
“ขอเลือดหน่อย.....ขอเลือดหน่อย”
“อย่าเข้ามานะเว้ย”
“หึหึหึหึหึหึหึหึ.....เลือดจ๋า...สีแดงซ้วยสวย....เลือดจ๋า....เลือดจ๋า....เลือดอร่อยกว่า...น้ำองุ่น....เลือด”
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อีกเดี๋ยวมันคงได้รู้ ว่าแม่ของมันตายอย่างไร
.
.
.
.
.
.
.
“กลับบ้านดีดีล่ะไอ้หนู”
“หวา....หวา.....หวา”เกียรติยศแสยะยิ้มแบบพระเอก ทั้งที่เลือดนั้นท่วมตัว มือเปื้อนเลือดของเขาลูบหัวเด็กคนนั้นอย่างอ่อนโยน เด็กน้อยตัวสั่นสะท้าน และมีสีหน้าหวาดผวา เสียงฟันกระทบกันกึกกึก ก่อนจะหันมามองเกียรติยศอย่างช้า ๆ และจ้องแบบตาค้าง ไม่ยอมขยับไปไหน แต่พอเขาบอกว่าให้ไปได้เท่านั้นแหละ พ่อหนูก็แหกปากร้อง และวิ่งหนีไปอย่างเสียสติ
"เฮ้อ....ทำดีไม่ได้ดีง่ะ"
ลำพังถูกคนโรคจิตจับตัวมาก็กลัวแทบบ้า
แล้วยังจะต้องได้มาเห็นภาพที่แสนสะอิดสะเอียนอีกในระยะประชิด
ต้องยอมรับว่ามีเลือดเต็มไปหมดจริง ๆ แต่เขาก็สามารถหาเลือดมาใส่ลงในถังได้จนเกือบเต็ม(แม้จะอยากดื่มใจจะขาด แต่เกียรติยศเพิ่งอิ่มจากเลือดของยายแก่มาหมาด ๆ)
เขาได้ยินเสียงกรีดร้องดังแว่วมาไกล ๆ เป็นเสียงของผู้คนที่กำลังแตกตื่น แต่เกียรติยศก็ไม่ได้ใส่ใจ
งานของเขาเสร็จแล้ว
ที่เหลือก็แค่กลับบ้าน
ซุกตัวบนที่นอนนุ่ม ๆ
กอดกับภาคภูมิ
.
.
.
.
.
.
.
ไกลออกไปนั้น
ฝูงคนกำลังมุงดูร่างของเด็กชายเคราะห์ร้าย ที่วิ่งทะเร่อทะร่าออกมาจากท้ายซอย จนถูกรถสิบล้อเสยตายคาที่
“เด็กที่ไหนก็ไม่รู้อ่ะเธอ อยู่ ๆก็วิ่งแหกปากออกมา ชั้นจะห้ามก็ไม่ทันแล้ว”
“นั่นสิ.....เละเลย.....แล้วอย่างนี้พ่อแม่จะจำศพได้มั้ยนี่”
สตรีชาวบ้านละแวกนั้นสองคนกำลังยืนคุยกัน ก่อนจะเบือนหน้าหนีภาพอันน่าสยอง ดวงตาของเด็กชายยังคงเบิกค้างด้วยความหวาดกลัวสุดขีดก่อนสิ้นใจ
.
.
.
.
.
.
“จะกลับแล้วเหรอครับคุณ”
“ครับ”
“ผมคงคิดถึงคุณแย่เลย”
“เอาไว้จะมาเยี่ยมอีกนะครับ”
เกียรติยศหอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรัง จนอีกฝ่ายอดทึ่งไม่ได้ ทั้งที่ตัวเล็ก แต่กลับมีเรี่ยวแรงมหาศาล ไม่อยากสงสัยอีกแล้ว ว่าในถังนั้นคืออะไร ทุกครั้งที่สงสัย เป็นต้องได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการเหมือนแฮงก์เหล้าทุกที
“เงินอยู่บนตู้เย็นนะครับ....ผมใส่ซองเอาไว้ให้”
“ครับ”
หลังจากฝ่ายนั้นกลับไปแล้ว หนุ่มส่งพิซซ่าก็คว้าซองสีขาวบนหลังตู้เย็นมาเปิดดูด้วยใจที่เต้นไม่เป็นระส่ำ
“ว้าวววว.....แม่เจ้าโว้ย.....ห้าหมื่น......รวยแล้วครัช.....จ๊วบบบบ.....มาบ่อย ๆนะพ่อคุณเอ้ยยย”
จูบ....ก่อนจะโยนเงินเป็นฟ่อนขึ้นไปบนอากาศ กระโดดโลดเต้นจนไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครเดินเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะ
“เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะเบสท์”
“พะ....พี่....มาไงเนี่ย”
“ทำไมกูจะมาหามึงไม่ได้วะ....แล้วนั่นเงินเหรอ....ไปเอาเงินมาจากไหนน่ะ...ขายยามาเรอะ”
บ้าเอ้ย ใครปล่อยหมอนี่หลุดเข้ามากันนะ รุ่นพี่ที่เขาชังน้ำหน้า อยู่ ๆก็มา แถมยังเทศนาให้ฟังจนหูยาน ปิดท้ายด้วยการลากออกไปดื่มเบียร์เหมือนทุกครั้ง
ไหน ๆก็มีเงินทำทุนแล้ว.....เขากำลังใช้ความคิด
ลาออกจากงานกาก ๆนี่เลยดีไหมนะ จะได้ไปให้พ้นจากชีวิตเฮงซวยนี่เสียที
.
.
.
.
.
.
.
“กลับมาแล้ว.....คิดถึงพี่มั้ยภูมิ”
“กลับมาแล้วเหรอไอ้แสบ.....แล้วนั่น....”
“นายเห็นทุกอย่าง....เพราะงั้นพี่ไม่เล่านะ”
“เลือดเยอะขนาดนี้.....อยู่ได้เป็นเดือนเลย ถ้ามันไม่เสียซะก่อนอ่ะนะ”
“นายซื้อตู้แช่ใหม่สิ สำหรับเก็บเลือดพวกนี้ไง”
ภาคภูมิในชุดคลุมอาบน้ำ กำลังรอคอยคอยการกลับมาของใครบางคนอย่างใจจดใจจ่อ ทันทีที่เคาะนิ้วลงบนโต๊ะครบสิบครั้ง พี่ชายของเขาก็วิ่งหน้าระรื่นเข้ามา
"ร้ากกกกกภูมินะ"
"พรุ่งนี้วันหยุด ผมไม่ต้องไปเรียน เราไปเที่ยวกันนะ"
"พี่เที่ยวเยอะแล้ว อยากอยู่บ้านกับภูมิสองคนมากกว่า....พรุ่งนี้เราปาร์ตี้เลือดกันนะภูมิ"
"นาน ๆครั้งพอนะ ไม่ต้องออกไปไหนแล้ว ลืมแล้วเหรอ เราต้องใช้ชีวิตแบบมนุษย์สิ"
ภาคภูมิโอบกอดพี่ชายเอาไว้ ก่อนที่เสื้อคลุมของเขาจะหลุดลงไปกองที่พื้น
ได้เวลาตอบแทนคนซุกซนแล้วสินะ.
.
.
.
.
to be con
อีกประมาณสองตอนจบแล้วนะจ๊ะ
มีโครงการรวมเล่มล่ะ ใครสนใจโพสท์แนะนำกันได้ ทั้งในนี้และทางพีเอ็มนะจ๊ะ รายละเอียดต่าง ๆจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เมื่อทุกอย่างลงตัว