-34-
ผลั่ก!!
“อ้ะ!”
คิดตื่นตอนไหนไม่รู้แล้วผลักผมเต็มแรง แต่แรงน้อยๆของเขาทำได้แค่เขยื้อนตัวผมเล็กน้อยเท่านั้น เขาบึ้งหน้าก่อนจะมองไปรอบๆ พอเริ่มได้สติว่าที่นี่คือที่ไหนคิดก็เตรียมตัวจะลุกออกไปทันที เสียแต่ผมคว้าเขาไว้ทัน...
“คิดครับ!”
“ปล่อย!!” เขาพยายามตะโกนสุดเสียง แต่แรงเขากลับไม่มีเลย
“คิดไม่สบายหนักเลยนะครับ พักก่อน...”
“ปล่อย... เราจะเป็นไงก็ช่างสิ ไม่เคยสนใจกันอยู่แล้ว..”
“คิดครับ...ขอโทษนะครับ....ขอผมแก้ตัวใหม่นะครับ...” ผมร้องเสียงอ่อน
“...ปล่อยได้แล้วเราจะกลับหอ..”
“กลับไปอยู่คนเดียวนะหรอครับ ไม่มีทาง ผมไม่ปล่อยให้คิดอยู่คนเดียวหรอก....พักที่นี่นะครับ..”
“ไม่....”
“พักให้หายก่อนนะครับ แล้วค่อยว่ากัน...ยังไงผมก็ไม่ปล่อยให้คิดออกไปแน่ๆครับ”
“...” คราวนี้เขานิ่งเงียบกัดปากแน่น คงเพราะรู้ว่าดื้อไปก็ไม่มีประโยชน์ในเมื่อตอนนี้เขาอ่อนแรงสุดๆบวกกับผมที่ไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆอย่างที่บอก
“อยากทานอะไรไหมครับ เดี๋ยวผมทำให้......”
“....”
“.....โจ๊กคนอร์ทานได้ไหมครับ ขอโทษนะครับช่วงนี้ไม่ได้ซื้ออาหารสดไว้เลย...”
“...”
“....งั้นรอแปปนึงนะครับ เดี๋ยวผมไปทำมาให้”
“.....”
ผมลุกออกไปจากห้องก่อนจะไปทำโจ๊กร้อนๆให้เขาทานจะได้ทานยาตาม อาการเขาอาจจะดีขึ้น แต่ในระหว่างที่ตั้งหม้อน้ำรอเดือดอยู่นั้นผมก็เห็นคิดเดินผ่านหลังผมไปแวบๆ พอหันไปดูก็พบว่าเขากำลังเปิดประตูเพื่อจะออกไป ผมรีบปิดแก๊สก่อนวิ่งไปคว้าเขาเอาไว้ เพราะเขาไม่สบายทำให้เขาทำอะไรก็ดูจะติดๆขัดๆ ทำให้ผมคว้าตัวเขาได้ทันก่อนเขาจะออกไป
“ปล่อย!! จะกลับ ไม่อยากอยู่นี่!!” เขาร้องลั่นเมื่อผมคว้าตัวเขาไว้
“..ไว้หายดีก่อนนะครับ ตอนนี้พักที่นี่ก่อนนะครับ...นะครับคนดี...”
“....ไม่เอา..ฮึก...ไม่เอาแล้ว บอกว่าพอแล้วไง...ฮึก เลิกยุ่งสักที ไม่เอา...” คิดว่าพลางเริ่มสะอื้น เขาร้องไห้อีกแล้ว ผมทำให้เขาร้องไห้อีกแล้ว...
ผมอุ้มคิดไปไว้ที่โซฟาก่อนทรุดตัวนั่งตรงหน้าเขา เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้เขาเบาๆแม้เขาพยายามปัดมือผมก็ตาม คว้าเขาเข้ามากอดแน่นอย่างอาจหาญ เพราะผมนั่งบนพื้นส่วนเขานั่งโซฟาทำให้เวลาผมกอดเขาศีรษะผมจึงไปอยู่ตรงหน้าท้องเขาแทน คิดตัวเกร็งแต่ยังสะอื้นไม่หยุด
ผมกอดเขาแน่นขึ้นก่อนคลายอ้อมแขน ดันตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่งข้างๆเขาก่อนคว้าเขาไปกอดหมับอีกรอบ คิดพยายามดันผมออกไปอีก แต่...ผมไม่ปล่อย
“...พอแล้ว ปล่อยเราไป พอสักที...” เขาพึมพำเสียงสั่น ผมประคองแก้มเขาที่ร้อนจี๋ขึ้นมาก่อนประทับจูบลงไปบนหน้าผากใส
“....ขอโทษนะครับ....ปล่อยไปไม่ได้หรอก...”
“...”
“..ก็รักมากขนาดนี้...”
“ฮึก...” เขาไม่ตอบแต่ยังคงสะอื้น ผมคว้าเขามากอดอีกครั้งก่อนลูบหลังปลอบประโลม ไม่นานนักเขาก็หยุดสะอื้น น้ำตาเขาไม่ไหลแล้วผมดีใจจัง... ถ้าเขาร้องไห้บ่อยๆแบบนี้คงจะหายไม่สบายยากแล้วล่ะครับ เขาคงจะปวดหัวหนักเลยทีนี้
“เดี๋ยวทานโจ๊กก่อนค่อยเข้านอนนะครับ” ผมว่าเบาๆแต่เขาส่ายหน้าหวือ ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองหน้าผม
“...แต่คิดจะไม่หายนะครับ ทานข้าวจะได้ทานยาไงครับ..”
“...ไม่ต้องการ ปล่อยเราไปได้แล้ว”
“....บอกแล้วว่าปล่อยไม่ได้หรอกครับ คิดรอแปปนึงนะครับเดี๋ยวผมทำอาหารให้” ผมว่าพลางลุกไปทำโจ๊กให้เขาเหมือนเดิม ดีหน่อยที่เขาไม่หนีแล้วแต่กลับนั่งนิ่ง พอผมทำโจ๊กเสร็จก็นำไปหาเขา หยิบช้อนเป่าให้ก่อนยื่นตรงหน้าคิด... แต่เขาไม่แง้มปากเลยสักนิด แบบนี้จะกินได้ยังไงล่ะครับ..
ผมจ่อเข้าไปอีกแต่เขากลับหดคอถอยหนีพลางส่ายหน้าหวือ...
“...ไม่ชอบโจ๊กหรอครับ?”
“...” เขาไม่ตอบแต่ส่ายหน้า
“....งั้นเดี๋ยวผมทำอย่างอื่นให้ก็ได้นะครับ คิดอยากทานอะไรครับ?”
เขาส่ายหน้าอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ไม่อยากทานอะไรเลยงั้นหรอ? ทำอย่างนั้นไม่ได้นะครับ ผมพยายามกล่อมถามเขาว่าอยากทานอะไรแต่สุดท้ายเขาก็ไม่ปริปากเลยสักนิด
“...ทานข้าวต้มไหมครับ ถึงตอนนี้จะไม่มีวัตถุดิบก็เถอะนะแต่ว่าเดี๋ยวผมขอให้ที่บ้านทำมาส่งให้ก็ได้นะครับ อยากทานไหมครับ? คุณแม่ผมทำอร่อยนะครับ” ผมว่าพลางส่งยิ้มให้เขา
พลั่ก!
“ไม่อยากกิน ไม่อยากยุ่งอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับแรมนั่นแหละ ปล่อยเรากลับหอได้แล้ว”
เขาผลักผมก่อนลุกขึ้นพูด น้ำตาเขากลับมาคลอเบ้าอีกแล้ว ไม่เอา..อย่าร้องสิครับ
“ผมทำไม่ได้หรอกครับ ขอโทษนะครับ....”
“เราก็ไม่อยากกินอาหารของแรม ไม่อยากอยู่ที่ของแรมเหมือนกัน”
เขาว่าทำเอาผมจุกไม่น้อยเลย....ผมท้อเหมือนกันนะที่ทำอะไรไม่ได้เลย แต่ผมไม่หยุดแค่นี้หรอก
ผมเดินไปกอดเขาแน่นแม้เขาจะดิ้นหน่อยๆก็ตาม กอดเขาไว้แน่นราวกับเขาสามารถหายไปได้ทุกเมื่อ ผมควรทำอย่างไรดี... ต้องทำยังไงนะคิดถึงจะพอใจ ต้องทำยังไงเขาถึงจะกลับมายิ้มเหมือนเดิม
“ปล่อยเราเถอะนะแรม....” เขายังคงยึดมั่นกับคำนี้ แต่ผมส่ายหน้าหวือ ส่ายหน้าทั้งๆที่ยังซุกหน้าอยู่ที่ไหล่เขา กอดเขาแน่นขึ้นเพื่อตอกย้ำว่าผมจะไม่ปล่อย
“....ถ้าผมปล่อยคิดไปแล้ว...คิดจะดูแลตัวเองได้ไหมครับ ถ้าผมปล่อยคิดไปแล้ว...จะร้องไห้อยู่ไหมครับ ถ้าปล่อยไปแล้ว...จะอยู่คนเดียวได้ไหมครับ......ถ้าปล่อยไปแล้ว...จะกลับมายิ้มได้เหมือนเดิมรึเปล่าครับ..”
ผมถามเขาเสียงเบา คิดไม่ตอบอะไร ผมสูดหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้าก่อนจะอุ้มเขาไปที่ห้องนอนอีกครั้ง วางเขาไว้บนเตียงเบาๆก่อนส่งยิ้มให้
“อย่างน้อยตอนนี้อยู่กับผมก่อนนะครับ...” คิดก้มหน้านิ่งไม่พูดจาซึ่งนั่นผมถือว่าเขาตอบตกลงเลยละกัน เพราะที่ผ่านมาผมไม่เคยทำตามใจตัวเองเลยเวลาอยู่กับเขา ตอนนี้ขอผมทำตามหัวใจหน่อยนะครับ ผมลุกไปหยิบถ้วยโจ๊กข้างนอกก่อนกลับเข้ามาหาเขาใหม่พร้อมแก้วน้ำอีกหนึ่งแก้ว นั่งลงข้างเตียงก่อนยกช้อนจ่อปากเขาอีกครั้ง
คิดไม่อ้าปากรับอย่างที่ผมต้องการ แต่เขาคว้าช้อนไปจากมือผมพลางลงมือทานเอง...
เท่านี้ผมใจผมก็พองโตขึ้นมาหน่อยแล้ว...
ผมมองเขานั่งทานไปพลางลอบอมยิ้มไป แม้ไม่มีอะไรน่าขำแต่ผมยิ้มเพราะความสุข ไม่คิดว่าเขาจะยอมทาน เพราะลูกตื้อผมอาจจะทำให้เขารำคาญก็ได้แต่ก็ดีแล้ว... เขาจะได้ทานข้าวทานยามีแรงเหมือนเดิม ขอแค่เขาสบายดี...
พอเขาทานหมดผมก็ส่งแก้วน้ำให้เขาพร้อมกับยาอีกสองสามเม็ด เขารับไปดื่มอย่างว่าง่ายผิดกับทีแรก พอมั่นใจว่าเขาทานเสร็จเรียบร้อยแล้วผมก็ลุกไปจัดแจงเสื้อผ้าให้เขา...เสื่อของเขาที่เคยเอามาทิ้งไว้ที่คอนโดผมนั่นแหละครับ
“คิดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ เดี๋ยวผมเอาถ้วยไปเก็บก่อน” ผมว่าพลางนำเสื้อของเขาไปไว้ปลายเตียงก่อนนำถ้วยไปเก็บ ล้างถ้วยอยู่พักนึงก็เสร็จครับ ผมจึงคิดว่าคิดเองก็น่าจะเปลี่ยนชุดเสร็จจึงเดินกลับเข้าห้องไป เคาะประตูเป็นสัญญาณอีกเล็กน้อยก่อนเปิด
คิดนั่งพักพนักเตียงเขาตาปรือๆเหมือนว่าจะง่วงแล้ว ฤทธิ์ยาทำงานไวสมราคา ผมเดินไปหาเขาก่อนดันตัวให้เขานอนลงเบาๆ คิดทำตามอย่างว่าง่ายก่อนผล็อยหลับไป... เมื่อผมเช็คดูดีๆแล้วว่าเขาหลับจริงๆผมถึงค่อยพาตัวเองไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย เมื่อทำธุระเรียบร้อยผมก็ปิดไฟห้องก่อนเดินมานอนข้างเขาอย่างถือวิสาสะ
เรียกได้ว่าฉวยโอกาสแต่ผมไม่สนแล้วครับ..
...
ผมตื่นก่อนเขาก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วกลับมานอนข้างเขาเหมือนเดิม ตะแคงนอนดูเขาหลับอยู่อย่างนั้น คิดหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ คงเพราะฤทธิ์ยาและร่างกายที่อ่อนเพลียของเขาทำให้หลับนานแบบนี้ ตอนนี้จะสิบโมงแล้วครับแต่ยังไม่มีวี่แววว่าเขาจะตื่นเลย คิดขยับเข้าหาผมน้อยๆเหมือนหาไออุ่นซึ่ง...แน่นอนผมอ้าแขนยินดีเชียวล่ะ เอื้อมมือไปลูบหัวเขาเบาๆก่อนนึกได้ว่าเหลืออีกสองวันจะวันเกิดเขา...อ่า ผมควรจะให้อะไรเขาดีนะ
ยังไม่ทันได้นึกของขวัญให้เขาเสร็จคิดก็ตื่นขึ้นมาจ้องผมตาแป๋ว ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้งแล้วขยับเข้ามาซุกๆผม... อะไรดลใจให้เขาทำอย่างนี้กันเนี่ย!! ก่อนหน้านี้เขายังรังเกียจที่จะสัมผัสผมแทบตาย คิดซุกได้สักพักก็นิ่งไปเหมือนจะเข้าสู่นิทราอีกรอบ..
พรวด!
อ่า...ไม่ใช่สินะ เขาลุกขึ้นจากเตียงพรวดพลางมองผมตาโต ก่อนแววตาจะเปลี่ยนเป็นความสงสัยปนตกใจ ผมยิ้มให้เขาบางๆก่อนคว้าเขามาจุ๊บที่หน้าผาก... บอกแล้วว่าผมขอทำอะไรตามใจหน่อย
“..อรุณสวัสดิ์ครับ หลับสบายไหมครับ?”
“...มะ.....” เหมือนเขาจะพูดอะไรแต่ก็เงียบไป แต่พอเขามองนาฬิกาที่ติดอยู่ตรงผนังปลายเตียงเขาก็เบิกตากว้าง
“ชิบหาย...” เจ้าตัวว่าแค่นั้นก่อนหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ผมเตรียมไว้อยู่บนโต๊วางของก่อนเข้าห้องน้ำไป... วิ่งได้เท่านี้คงหายจากไข้มากขึ้นแล้วสินะครับ ผมคิดในใจก่อนเดินออกไปปิ้งขนมปังให้เขากิน.. อาหารในตู้เย็นผมเริ่มร่อยหรอขึ้นทุกวัน สงสัยต้องไปหาซื้อมาตุนเพิ่มเผื่อสถานการณ์แบบนี้เสียแล้ว คิดของผมจะได้กลับมาแข็งแรงอย่างเคย
คิดเดินออกมาจากห้องนอนก่อนจะรีบไปยังประตูทางออกแต่ผมคว้าเขาไว้ทัน
“ทานอาหารเช้าก่อนนะครับ เดี๋ยวจะเป็นลมอีกรอบเสียก่อน..”
“....ไม่ทันแล้ว” เขาพูดแค่นั้นพลางพยายามสะบัดแขนที่ผมจับไว้ ผมเลยถือวิสาสะจับมือเขาเดินไปนั่งตรงโต๊ะทานข้าว
“ทานก่อนนะครับ จะได้ทานยา” ผมว่า ผมไม่เชื่อว่าเขาหายสนิทหรอกและอย่างเขาก็คงจะดื้อฝืนไปทำงานต่อแน่ๆ
แน่นอนว่าในทีแรกเขาไม่ยอม แต่ผมก็ไม่ยอมเหมือนกันเอาสิ เมื่อเขารู้ว่าขัดแรงผมไม่ได้คิดเลยยอมทานแบบว่าง่าย คิดรีบทานก่อนขนมปังปิ้งแผ่นน้อยๆจะหมดอย่างไว เขาก็หยิบยาที่ผมเตรียมให้กระดกลงไปอย่างไวอีกเช่นกัน
“...หมดธุระแล้วใช่มั้ย” เขาว่าพลางเดินดุ่มๆออกไปยยังประตู แต่ก็โดนผมกันไว้ด้วยเขนทั้งสองข้างอีกนั่นแหละ ถ้าจะอธิบายสภาพตอนนี้ก็คงเหมือนผมยืนคร่อมเขาอยู่ด้านหลังน่ะครับ...
“...รีบไปไหนครับ..”
“ทำงาน...เดี๋ยวไม่ทัน”
“งั้นเดี๋ยวผมไปช่วย...”
“ไม่ต้อง”
...
สุดท้ายผมก็มาอยู่ช่วยเขาทำงานวิจัยให้อาจารย์ งานของเขาเป็นการหาข้อมูลตามที่อาจารย์สั่งมา เข้าๆออกๆห้องสมุดเป็นว่าเล่นเลย นี่เขาทำงานอย่างนี้คนเดียวได้ยังไงกันนะ แถมพอช่วยอาจารย์เสร็จเขาก็ต้องไปเสิร์ฟอาหารร้านพี่เป้าต่อ ไม่แปลกเลยที่เขาจะเหนื่อยจัดจนล้า ผมตั้งใจช่วยเขาทำงานไปเรื่อยๆแม้เขาจะทำหน้าตาบูดบึ้ง แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยเขาไว้คนเดียวแล้วเป็นลมขึ้นมาอีกนั่นแหละครับ
พอสี่โมงคิดก็ขอตัวอาจารย์ไปทำงานที่ร้านต่อ ผมขับรถไปส่งเขาก่อนจะขอพี่เป้าช่วยงานด้วยอีกคน แน่นอนว่าคิดร้องห้ามแทบตายแต่ผมพยายามไม่ฟังเขาหรอก ผมอยากอยู่ข้างเขานี่นาเผื่อเขาเป็นอะไรขึ้นมาอีกผมจะได้ช่วยได้ทัน
พี่เป้าตกลงรับผมทำงานแต่ผมไม่ขอรับเงินเพราะจุดประสงค์ของผมคือการมาดูแลเขา ทีแรกพี่เป้าก็ไม่ยอมเหมือนกันครับ แต่เพราะต้องเปิดร้านแล้วทำให้เรื่องนี้ถูกยุติลงไป ผมทำหน้าที่พนักงานใหม่แม้จะไม่คล่องแคล่วเท่าไหร่แต่คงช่วยเขาได้บ้าง
พอถึงเวลาปิดร้านผมก็พาเขากลับคอนโดแต่เขาดื้อจะกลับหอท่าเดียว ผมก็ไม่ยอมหรอกครับแต่เขาก็ไม่ยอม เถียงกันไปมาสุดท้ายเขาก็ชนะ...เพราะน้ำตาของเขานั่นแหละ
“เราไม่อยากอยู่กับแรมเข้าใจมั้ย เลิกตามกันสักที มันน่ารำคาญ!”
“...แต่คิดครับ...” เจ็บไม่ใช่น้อยกับคำว่าน่ารำคาญของเขา แต่ถึงยังไงผมก็อยากมั่นใจว่าเขาจะปลอดภัย
“...พอได้แล้ว เราจะกลับหอ ถ้าไม่ไปส่งเราที่หอเดี๋ยวเรากลับเองก็ได้”
สุดท้ายผมก็จำใจไปส่งเขา คิดขึ้นหอไปตามปกติแต่ผมยังคงมองหอเขาอย่างเลื่อนลอย....รำคาญกันแล้วจริงๆหรอครับ? ขอโทษที่ทำให้รำคาญ ขอโทษที่ทำให้ไม่สบายใจนะครับ
...
วันรุ่งขึ้นผมตื่นแต่เช้าไปตลาด ซื้อของสดเข้าตู้เย็นกว่าจะเสร็จก็สายๆนู่นแหละครับ วันพรุ่งนี้ก็วันเกิดเขาแล้วดังนั้นผมจึงใช้เวลาที่เหลือไปเดินห้างหาของขวัญให้เขา เพราะงานวิจัยของอาจารย์ท่านบอกว่าวันนี้คงเหลืออะไรไม่มากแล้วผมเลยขอตัวลางานท่านและถามไถ่เรื่องคิดก่อนจะรู้ว่าเขายังคงไปทำงานตามปกติ เสร็จแล้วก็มาเดินตัวปลิวอยู่ในห้างแบบนี้แหละครับ..
เขาชอบอะไรนะ เขาอยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า ผมคิดพลางเดินไปเดินมาจนจะรอบห้างอยู่แล้วก็ยังตัดสินใจไม่ได้ สุดท้ายเลยซื้อทุกอย่างที่คิดว่าเขาอยากได้เสียเลย มีทั้งตุ๊กตา สมุดเสก็ต ปากกาตัดเส้นของLAMY อุปกรณ์เครื่องเขียนและของใช้สำหรับตัดโมเดลอีกเล็กน้อย ลามไปถึงเสื้อผ้ารองเท้าที่ผมกะขนาดไซส์เขามา เพราะทางร้านบอกว่าสามารถนำไปเปลี่ยนได้ถ้าสินค้าไม่พอดี สร้อยคอและนาฬิกา ยังมีช่อดอกไม้และเค้กร้านโปรดของเขาที่ผมเหมาแทบจะทุกรสอีก หนังสืออ่านเล่นที่เขาน่าจะชอบอีกสองสามเล่ม ก่อนลามไปถึงอาร์ตบุ๊คฟรอสเซนเพราะเห็นเขาพูดถึงงานของดิสนี่ย์บ่อยๆ ผลาญเงินไปเยอะเหมือนกันครับแต่ไม่เป็นไร ผมเต็มใจซื้อ เงินเก็บผมเองก็ไม่ค่อยได้ใช้อะไรมากมายอยู่แล้วด้วย
ผมหอบข้าวของขึ้นคอนโดไปก่อนจะมีสายเรียกเข้า ผมวางของพวกนี้ระเกะระกะบนพื้นห้องก่อนจะรับสายที่ขึ้นหน้าจอว่าซีซังโทรมา..
“ครับ”
/ไอ้แรมมึงอยู่ไหน! คิดอยู่กับมึงรึเปล่า! กูโทรหามันไม่ติด!/
“เอ่อ...ผมอยู่คอนโดครับ คิดเป็นอะไรหรอครับ” น้ำเสียงของซีซังดูร้อนรนจนผมอดถามไม่ได้
/หอมันไฟไหม้! มึงรู้ไหมว่ามันอยู่ไหน กูจะเป็นบ้าตายห่าอยู่แล้วเนี่ย มึงว่างไหม ไม่ดิ มึงต้องว่าง ตอนนี้กูอยู่ต่างจังหวัดไปหามันไม่ได้/
“ผมไม่ทราบครับ แต่เดี๋ยวจะไปหาที่หอเขานะครับ”
ยังไม่ทันบอกลาซีซังผมก็กดตัดสายเขาไปก่อนรีบวิ่งไปที่รถ สตาร์ทเครื่องแล้วตรงไปยังหอเขาทันที ขออย่าให้เขาเป็นอะไรเลย พระเจ้าครับ ผมขอ...แลกกับอะไรก็ได้ ขอให้เขาปลอดภัยที...
.....
ระหว่างทางผมกดโทรหาคิดไปด้วยและเขาก็ไม่รับโทรศัพท์เหมือนที่ซีซังว่า ถึงแม้ว่าผมจะโทรถามอาจารย์ที่คิดช่วยทำวิจัยอยู่เมื่อตอนเช้าเพื่อพบว่าตอนนี้คิดอยู่กับท่าน แต่ตอนนี้อาจารย์บอกว่าคิดกลับไปแล้ว ใจผมยิ่งกระวนกระวายมากขึ้นกว่าเก่า ได้แต่ภาวนาว่าเขาจะไม่เป็นไร
เมื่อผมมาถึงหอเขาก็ต้องตกใจกับภาพตรงหน้า แม้ไฟจะไม่ได้ไหม้หอเขาทั้งหลังแต่เรียกได้ว่ารุนแรงพอควรเลย ยังดีที่ดับเพลิงมาก่อนที่ผมจะถึงน่าจะนานพอควร ผมเดินไปถามคนแถวนั้นถึงเรื่องคนในหอแต่เขาบอกว่าไม่มีใครเป็นอะไรเพราะไหวตัวทันก่อนออกมาจากหอได้หมด แต่กระนั้นผมก็ไม่เห็นคิดอยู่แถวๆนี้เลย
ได้ยินชาวบ้านคุยกันว่าไฟไหม้เพราะสายไฟรั่ว คงเพราะหอนี้เก่ามากแล้วและไม่ค่อยได้รับการซ่อมแซมเท่าไหร่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมกระวนกระวายใจมากขึ้นเมื่อทราบว่าแหล่งต้นเพลิงคือชั้นเดียวกับชั้นที่คิดอยู่...
แม้จะมีคนบอกว่าคนในหอทุกคนปลอดภัยแต่ผมก็ไม่เชื่อใจอยู่ดีถ้าไม่ได้เห็นเขา ใจผมเริ่มร้อนรนขึ้นทุกทีเมื่อดับเพลิงกำลังดับไฟตรงหน้าเสร็จ คิดอยู่ไหนกันนะ ผมมองไปรอบๆ มองหาเขาแล้วมองหาเขาอีก เดินไปรอบๆหอเขาท่ามกลางไทยมุงแต่ก็ยังไม่เจอเขาจนผมแทบบ้า
.....สุดท้ายผมก็หันไปเห็นเขาลงมาจากวินมอไซค์ คิดมองหอพักของตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา ผมวิ่งเข้าไปหาเขาทันทีก่อนกอดเขาแน่นอย่างไม่นึกอายคนรอบข้าง....
ไม่รู้เพราะอะไรทำไมน้ำตาผมถึงไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ทันทีที่ได้กอดเขา...
“ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณที่คิดปลอดภัย...ขอบคุณจริงๆ” ผมเอ่ยขึ้นพลางซุกเข้ากับไหล่บางๆของเขา น้ำตาผมยังคงไหลไม่หยุด ผมขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้เขาปลอดภัย ถ้าเขาเป็นอะไรผมคง.....ไม่ให้อภัยตัวเองตลอดชีวิต
“....ร้องไห้ทำไม”
“...ผม...ฮึก.....”
“....คนที่ควรร้องควรจะเป็นคิดมากกว่าสิ....” เขาพูดนิ่งๆ ทำให้ผมต้องผละตัวเองออกจากเขาเพื่อจะมองหน้าเขาชัดๆ
น้ำตาเขาไหลลงมาอย่างเงียบๆ....
_____________________________________________
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเน้อ
เกิดเป็นคิดต้องดิ้นรน
เอาลงแบบมารทอนรัวๆ จะเบื่อกันมั้ยเนี่ย 555555
ลงเร็วมากจนจะแต่งไม่ทันแล้ววว ย๊ากกกก
ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ
___________________________________________________
ตอบคอมเม้นค่ะ
boong086 ใกล้แล้ว ใกล้แล้ววว
fuku ยังไม่ถึงตาเพื่อนๆออกโรง แต่ง้อกันสุดใจแน่ๆ
MK นันเข็ดแล้วค่ะ 5555
simiach นันมันงี่เง่าอย่างนี้แหละค่ะ //ชอบคำว่าคุณพ่อแรร์ไอเทม ก๊ากกกกก
บ๊ายบายโพ เฮฮฮฮ นันรักตายเลยยย 55555 /ช่ายเลย คิดแค่ผิดหวังมากๆ หวังทุยน้อยคอยปลอบประโลมม
narunarutoboyz เฮ นึกว่าหายไปไหนนน เม้นยาวเหมือนเดิมเลยคนนี้ กอดกอดดด
//โอ๋ ไม่ร้องนะตัว แรมกำลังฮึดสู้ขาดใจค่ะ! 555 //แฟนคลับซีซังมาอีกแล้ววว 5555 //ส่วนเรื่องนัดกันร้านเหล้านี่ค่อนข้างจะปกติสำหรับนันและเด็กถาปัตย์(?)นะคะ ถถถถถ OTL แต่ดื่มจนเมานี่ก็น่าตีจริงๆเลยยย ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะค้าาาา //นี่ก็ยุเรื่องรวมเล่มจังเล้ยยย 555555
item โอ้ะ ขอบคุณมากเลยค่าาา เค้ามาอัพให้พรวดๆเลยนะอย่าเพิ่งเบื่อกันล่ะะะ
Sar2288 เพลงมาซะเพราะเลยยยย ไม่นานคิดใจอ่อนแน่ค่ะ(อุ๊ปส์)์
kongxinya ออร่าพระเอกของแรมในที่สุดก็มาแล้วสินะะะะ
//ส่วนนันเปอร์นี่ขอดองไว้แปปนึงนะคะ แฮร่
omuya เนอะะะ แรมจะได้กระตือรือร้นใส่ใจคิดมั่งง
Newtun_TD มาต่อแล้วตัววว
PetitDragon บอกเลยว่าอีกไม่นาน อุ๊ย..
Toon_TK มาต่อแล้วค่าาาาา ไวมั้ยยย 555555555
omyim_jjj แรมปลื้มตายเลยยยย มาต่อแล้วค่าาาา
GintoniC เพื่อนฝูงพยายามง้ออยู้ววว //แหน้....ซีซังมีคู่ก็ได้ค่ะ คู่เรานะ แอร๊ยยยยยยยยย
Pupay ยัง ง้อ อยู่ 5555555555555555 ดราม่าจะหมดแล้วค่าา
IIIA อุอุอุ ดูท่านันต้องไปเตรียมการง้อดีๆซะแล้วสิ...ส่วนของขวัญแรม...เท่านั้นน่าจะพอมั้งเนอะ 55
oreena หัวหน้าทัพนันบอกสู้ตาย..
JustWait ไม่นานหรอกค่าาาา งิงิ
talentcs ขอบคุณค่ะะะะะ
ormn แรมฉวยโอกาสไม่หยุดเลยค่า 5555555
Pakarang เจ้ยย เตงใจเย็นนะแงง เค้าตอบเม้นอยู่ ขอโทษนะคะะะะะะ
มาแล้วๆๆ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นค่ะะะ
(กอดคนอ่านไส้แตก)
______________________________________________