...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.  (อ่าน 408497 ครั้ง)

ออฟไลน์ U_Ton

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 :mew2:

สงสารธารนะถ้าธารรู้เรื่องนี้... แต่ก็สงสารทรายเหมือนกัน บอกรักกันไม่ทันข้ามวัน เรื่องก็เกิด...ทั้งที่ไม่ตั้งใจให้เกิด

เเต่ใครจะห้ามได้ เมื่อเกิดขึ้นมาเเล้วมันก็มีเเต่เสียกับเสีย ที่สำคัญมันไปเกิดเรื่องกับพ่อของธารด้วยนี่สิ... ธารคงไม่มี

ทางเข้าใจทรายเเน่ คงพอทนฟังเหตุผลถ้าเรื่องนี้เกิดกับคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อตัวเองซึ่งเเม่ปลูกฝังมาว่าร้ายเสียเหลือเกิน

ในใจคิดว่าทรายน่าสงสารมากๆ เหมือนเป็นเเพะไปเลยนะ โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ไหนจะแม่ของธาร ตัวธารเอง เมียใหม่

ของพ่อธาร แล้วยังไม่รวมพี่ชายผู้เเสนดี(?)อีก ธารจะทำยังไงกับทราย ถ้าร้ายก็ร้ายให้สุดแล้วก็รักให้สุดด้วยได้มั้ย...

จะได้สงสารทรายน้อยลงหน่อยนึง ยังไงธารก็นะ ไม่ใช่ว่าตัวเองไม่เคยผ่านอะไรๆมาและทรายเองก็ไม่ได้ตั้งใจด้วย :katai3:

ธารคงไม่ใจร้ายเน๊อะๆๆๆ ธารเกลียดการหักหลัง แบบนี้เท่ากับว่าทรายหักหลังไปแล้วสินะ...สงสารใครดี?

ออฟไลน์ coffeeQbread

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1218/-29

บทที่15
 


คุณเคยไหม..เคยคิดจะทำอะไรเพื่อใครบางคนต่อไป ทั้งที่รู้ว่าเขาจะไม่มีวันยอมรับในตัวคุณอีกแล้ว คุณก็ยังจะทำ
 

คุณเคยไหม..เคยเฝ้ามองใครสักคน ทั้งรักทั้งห่วง เฝ้ามองแต่เขาเท่านั้นตลอดมา...แต่นับจากนี้เขาคงหลีกหนีจากคุณ...แม้เพียงแต่มองเงาของเขา..คุณยังต้องหวาดกลัว
 

และคุณเคยไหม..ทั้งที่คุณยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่กลับรู้สึกเดียวดายลงไปทุกที ทุกนาทีที่ก้าวเดินคุณเหงาขึ้นเรื่อยๆ
 

..คุณเจ็บปวด..
 

..ผิดหวัง..
 

ได้แต่โทษตัวเอง...ทุกอย่างมาจากการกระทำของคุณทั้งสิ้น
 

ร่างสูงใหญ่ทอดสายตามองท้องฟ้าที่ปราศจากเมฆสีน้ำเงินสดใส ดวงอาทิตย์กำลังคล้อยต่ำลงต้องกับผิวท้องทะเลกว้าง เกิดแสงสีแดงย้อมฉาบกระทบผิวน้ำเปล่งประกายราวกับทะเลสีเลือด
 

ทะเล....ทั้งสวยและน่ากลัว
 

...ลึกล้ำสุดหยั่ง ดั่งใจคน...
 

เขาเลื่อนประตูเดินกลับเข้ามาที่เตียงกว้าง อังมือเข้าที่หน้าผากของคนตัวเล็กตรวจดูความร้อนของผิวกาย วารินยังคงหลับยาวไม่รู้สึกตัว เขาเลื่อนวันเดินทางออกไปอีกวันในเมื่อวารินป่วยอยู่อย่างนี้คงจะยังกลับไปไม่ได้ มือใหญ่เลื่อนไปกระชับผ้าห่ม ร่องรอยแห่งราคียังปรากฏอยู่บนผิวกายบอบบาง
 

“ต้องขอโทษสักเท่าไหร่..ถึงจะสาสมกับความผิดของฉัน”  เขาพึมพำ แววตาฉายความเจ็บปวด
 

วารินบอบบางเหมือนดั่งแก้ว เขาไม่รู้เลยว่าถ้าหากคนตรงหน้าตื่นขึ้นมาแล้วเขาจะทำอย่างไร
 

...ขอโทษ...ปลอบใจ...เอ่ยคำพูดที่แสนไร้ค่า..
 

อะไรบ้างที่เขาควรจะทำเพื่อเป็นการไถ่โทษให้กับคนๆนี้ ทัตพลเลื่อนหลังมือขึ้นไล้ที่โครงหน้าสวย ร่างเล็กขมวดคิ้วแล้วเอียงตัวไปอีกทางทั้งที่ยังหลับ
 

เขาเองพอดูรู้ว่า วารินคือคนพิเศษแน่นอนสำหรับลูกชายของเขา
 

ถ้าธาราธารรู้ความสัมพันธ์ของเขาสองคน คงจะเกลียดเขาและปฏิเสธการมีตัวตนทั้งหมดของเขา
 

น้ำตาหยดหนึ่งตกลงกลางหัวใจของผู้ชายที่ไม่เคยร้องไห้เลยสักครั้ง เขากำลังเดินลงไปสู่หุบเหวแห่งความกลัว ก้าวขาลงไปทั้งที่รู้ว่าทางข้างหน้าลึกสุดหยั่งถึง
 

ก้มซบใบหน้าลงที่ฝ่ามืออย่างหมดสิ้นความหวัง เขาจะมีหน้าไปบอกธาราธารได้อย่างไรว่าเขาคนนี่คือ ‘คุณพ่อ’ คนที่เฝ้าเตรียมของขวัญล้ำค่าเพื่อลูกสุดที่รักที่แม้แต่เลี้ยงดูยังไม่เคย
 

เขาจะมีหน้าไปบอกลูกชายของเขาได้อย่างไร....ในเมื่อเขานอนกับคนที่ลูกเขารักไปแบบนี้
 

หัวใจที่เคยแข็งแกร่งกำลังร่ำไห้อย่างแสนสาหัส..เขาทั้งเจ็บปวด ทั้งสมเพศตัวเอง เขามันเลวจนไร้คำบรรยายจริงๆ
 

ขณะที่มือเล็กแตะลงบนบ่ากว้าง ฉับพลันความอบอุ่นแผ่ซ่านจากสัมผัส ดั่งน้ำค้างที่มาปลอบประโลมแสงแดดอบอุ่นในยามเช้า ทัตพลหันไปมองใบหน้าที่มีแต่ร่องรอยของความชอกช้ำ ทั้งที่ตัวเองก็เจ็บปวดไม่ต่างไปจากเขาแต่วารินก็ยังคงปลอบใจเขาดวงตาช้ำๆมองเขาอย่างให้กำลังใจโดยไม่ได้ดูสภาพของตัวเองเลย วารินเป็นเด็กดีมากจริง ๆ เห็นแบบนี้ยิ่งตอกย้ำความเลวของตัวเขาเข้าไปใหญ่ ทัตพลหันมากอดร่างเล็กไว้แนบอก
 

“ขอโทษ ฉัน...” เสียงเขาพร่าสั่น และหายไปทั้งที่ยังพูดไม่จบ
 

“ผมเองก็ผิดครับ  ผม..” วารินกลืนก้อนสะอื้นลงคออย่างยากลำบาก พูดไม่ออกเช่นเดียวกันกับเขา  เขาใช้มือเข้ามาจับที่หน้าผากเล็ก “ทรายตัวร้อนฉันเลยเลื่อนเที่ยวบินเป็นวันพรุ่งนี้” เขาพูดเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่าต่างคนต่างก็ไปกันไม่เป็นพูดกันไม่ออก  วารินพยักหน้าน้อย ๆ แล้วถอยออกมาจากหน้าอกกว้างของเขาแม้ร่างกายจะปวดร้าวไปหมดแต่คนตัวเล็กก็ยังพยายามที่จะลุก
 

“จะเข้าห้องน้ำเหรอ เดี๋ยวฉัน..”
 

“ไม่เป็นไรครับ ทำตัวเหมือนเดิมเถอะผมไม่เป็นไร”  เมื่อเขาลุกขึ้นทำท่าจะเข้ามาช่วย วารินกลับปฏิเสธขึ้นอย่างเร็ว เขาจึงได้แต่ยืนมองอยู่อย่างนั้น
 

“ฉันให้คนตรวจดูให้แล้ว ในเหยือกนมน่าจะมียาผสมอยู่แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร” ในใจเขาเห็นแต่ภาพและคำพูดขมขู่ของวิลาสินีฉายชัด แต่ยังไม่มีหลักฐานอะไรและไม่รู้ว่าเธอจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรเขาจึงยังสรุปความอะไรไม่ได้
 

“ช่างมันเถอะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็จะกลับกันแล้วผมไม่มีอะไรต้องเสียมากไปกว่านี้แล้วล่ะ” วารินเดินมานอนลงอีกครั้ง เขาต้องการพักผ่อนเพื่อเผชิญหน้ากับอะไรหลาย ๆ อย่างที่จะเกิดขึ้นตามมาในวันพรุ่งนี้ ร่างเล็กหลับตาลงแน่นพยายามบอกตัวเองว่าต้องนอนให้หลับ จะได้มีแรงคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป
 

“ถ้าอย่างนั้นก็นอนเถอะนะ ฉันจะโทรไปบอกซีเขาให้จะได้ไม่ต้องห่วงรอมารับ”
 

“ขอบคุณครับ”วารินตอบสั้น ๆ แล้วเงียบไป ทัตพลเดินไปปรับแอร์เพิ่มความเย็นนิดหน่อยก่อนปล่อยคนตัวเล็กนอนหลับพักผ่อน
 

.
.
 

“หึ! มันไปนอนด้วยกันมาจริง ๆ ทุเรศที่สุดหน้าด้าน ร่าน!”
 

วิลาสินีเหยียดริมฝีปากสบถ ในมือกำรูปถ่ายหลายใบแล้วฟาดลงบนโต๊ะ “พวกชั่วสันดานต่ำ! สารเลว!”  เธอทุบมือลงบนโต๊ะทำงานอย่างสุดที่จะทน
 

“แกทำดีมากรุ่ง เหลืออีกแค่นิดเดียวเท่านั้นฉันจะตบรางวัลให้แกอย่างงามเลย” เธอเหยียดยิ้มร้ายดวงตาฉายแววอิจฉาริษยาอาฆาตมุ่งร้ายปนกันไปหมด
 

“ผมก็อปภาพพวกนี้มาจากวีดีโอนั่นแหละครับ เด็ดๆเลยใช่ไหมเห็นหน้าอย่างชัดเล่นล่อกันทุกมุมแบบนี้เข้าทางผมสิครับ” รุ่งรีบประจบต่อเมื่อพูดถึงเรื่องเงินรางวัล ขณะที่วิลาสินีเหยียดยิ้มอย่างขมขื่น เธอนึกอิจฉาวารินที่ทัตพลเอาอกเอาใจปรนเปรอให้ ซึ่งแม้แต่กับเธอเขายังไม่เคยทำ
 

รุ่งไม่ได้บอกว่าตนเองแอบใส่ยาเพื่อให้งานเสร็จสมบูรณ์ไม่ผิดพลาดและตัดต่อภาพวีดีโอแล้วเรียบร้อยเพราะอย่างนั้นภาพที่สองคนทุรนทุรายต่อต้านวิลาสินีจะไม่มีวันได้เห็นเด็ดขาด
 

“คุณจะดูภาพในวีดีโอไหมครับ ผมอัดใส่แผ่นไว้ให้สองชุด รับรองไม่มีก๊อปปี้อีกเด็ดขาดคุณไว้ใจผมได้เลย”
 

“แกฝันเหรอ! ฉันจะดูไปทำไมเล่า แค่นี้ก็เสนียดจัญไรจะแย่อยู่แล้ว” เธอเบะปากทำหน้ารังเกียจขยะแขยง เลื่อนตัวเข้าไปใกล้รุ่งแล้วกระซิบเสียงเบา
 

“เอาล่ะงานสุดท้าย แกฟังคำสั่งฉันให้ดี.....”
 

วิลาสินีกระซิบกระซาบย้ำความเรื่องชั่ว ๆ แม้ว่าจะเป็นห้องทำงานส่วนตัวของเธอแต่เธอไม่ไว้ใจใครคนอื่น รุ่งทำงานกับเธอมานานเป็นได้ทั้งเทพบุตรและซาตาน เป็นลูกชายคนขับรถที่เธอไว้ใจและมักใช้ให้คอยสืบเรื่องของทัตพลเสมอ
 

ริมฝีปากสีแดงสดแสยะเหยียดอย่างผู้กำชัยชนะ  ใครหน้าไหนที่มันจะมาพรากหัวใจของเธอไป..รับรองมันไม่ได้อยู่ดีมีสุขแน่
 

เสียงโทรศัพท์มือถือเธอแผดลั่นเมื่อกดรับแล้วโบกมือบอกให้รุ่งออกไปจัดการเรื่องให้เรียบร้อย
 

“ว่าไงลูกธิป”  เธอเปลี่ยนกิริยา  ส่งเสียงหวานให้กับคนปลายสาย ชนาธิปลูกชายเธอโทรเข้ามา
 

“คุณแม่ครับ คุณพ่อโทรมาบอกธิปว่าจะกลับจากใต้วันพรุ่งนี้ วันนี้ขึ้นมาไม่ได้รู้สึกว่าจะติดพายุกลัวคุณแม่จะรอน่ะครับธิปเลยโทรมาบอก”
 

ชนาธิปไม่ได้รู้เรื่องที่เธอแหวใส่สามีเมื่อสองสามวันก่อน ทัตพลเลือกโทรหาชนาธิปเพื่อส่งข่าว วิลาสินียิ่งปวดร้าวในอกเมื่อคิดไปว่าทั้งทัตพลและวารินคงจะติดใจกันมากถึงขนาดเลื่อนวันกลับเพื่ออยู่กกกันต่อ ชนาธิปเมื่อเห็นวิลาสินีเงียบไปนานจึงเรียกขึ้นแล้วถามดูว่าเธอเป็นอะไรรึเปล่า
 

“ป..เปล่าหรอก แม่เพลียๆน่ะ ธิปไม่กลับมาทานข้าวที่บ้านล่ะลูก” เธอรีบเปลี่ยนเรื่อง เมื่ออยู่ต่อหน้าลูกและสามีเธอจะเป็นคุณแม่ที่แสนดีบอบบางอยู่เสมอ
 

“ช่วงนี้สอบบ่อยครับ ไว้ธิปว่าง ๆ จะแวะไปหานะ คุณแม่อย่าคิดมากนะครับคุณพ่อไปทำงานเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”
 

...ไปทำงานเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว...
 

หึ! วิลาสินีกัดริมฝีปากอย่างคับแค้น ทำงาน?  เด็กหนุ่มวางสายจบไปแล้วแต่ความรู้สึกของเธอไม่มีวันจบ  เธอจะให้ชนาธิปรู้เรื่องนี้ไม่ได้ คนที่ต้องเดือดร้อนคือทางนั้นต่างหาก  ภัครจิรา ธาราธาร ได้โอกาสกำจัดมันซะทีเดียว อดทนมาตั้งยี่สิบกว่าปี
 

ผิดที่คุณเองนะทัต...เพราะทั้งที่ตัวคุณอยู่กับฉันแต่ใจคุณไม่เคยลืมมันเลย..ตลอดมา...

.

.

.

“ช่วงนี้มาค้างกับแม่บ่อยนะเรา มีอะไรรึเปล่า”  ภัครจิราถามลูกชายยิ้ม ๆ พักหลังมานี้ธาราธารมาค้างที่บ้านบ่อยมาก ขนาดที่ว่าเธอเริ่มผิดสังเกต
 

“เปล่านี่ครับก็ธรรมดานะ คุณแม่ไม่ชอบเหรอผมมาค้างด้วยแบบนี้” เขาอ้อนอย่างที่ไม่เคยทำมานานมากแล้ว ตั้งแต่เธอจับเขาไปอยู่โรงเรียนประจำนั่น
 

เธอหรี่ตามองอย่างคนรู้ทัน “อยากได้อะไรล่ะเรา รถก็เพิ่งเปลี่ยนนี่นา คอนโดใหม่ก็เพิ่งซื้อ ไหนบอกแม่ซิธารจะเอาอะไรครับ เอ๊ะหรือว่ามีสะใภ้มาให้แม่ดูแล้วใช่ไหมเนี่ย” เธอแกล้งกระเซ้า แต่ธาราธารดันหน้าแดงขึ้นมาจริง ๆ ภัครจิราได้แต่นั่งยิ้มเธอรู้ลูกเธอเสน่ห์แรงมีสาว ๆ แวะเวียนมาตลอดแต่เธอไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษเพราะจะรอให้ธาราธารแนะนำอย่างเป็นทางการ คนไหนตัวจริงคนนั้นธาราธารคงต้องพามาเปิดตัวที่บ้านแน่
 

“ผมเปล่า ไม่ชอบหรอก ผู้หญิงสมัยนี้ดูยาก อันตราย” ภัครจิราได้แต่หัวเราะเบา ๆ เขาบอกว่าไม่ชอบเพราะผู้หญิงอันตรายแต่กลับมีผู้หญิงมาติดพันเต็มไปหมดตั้งแต่ไหนแต่ไร
 

“ลูกจะรักใครแม่ก็ไม่ว่าหรอกนะ ขอให้เขาเป็นคนดีซื่อสัตย์กับลูกก็พอแล้ว คนเราถ้ารักกันและซื่อสัตย์ต่อกันไม่ว่าอุปสรรคมากมายแค่ไหนเราก็จะผ่านมันไปด้วยกันได้”
 

เธอถือโอกาสสอนลูกชายไปในตัว ในดวงตาทอประกายหม่นเมื่อนึกไปถึงวันเก่า ๆ ทัตพลพ่อของธาราธารและเป็นผู้ชายที่เธอรัก เขาทอดทิ้งเธอและลูกเพื่อไปอยู่กินกับผู้หญิงอีกคน ในตอนนั้นเธอเจ็บปวดแสนสาหัสจากการถูกหักหลัง ถูกทรยศ ขยี้ความรักของเธอจนแหลกไม่มีชิ้นดี ยิ่งมารู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคลอดลูกออกมาหลังจากนั้นแค่ไม่กี่เดือน ยิ่งตอกย้ำว่าทัตพลนอกใจเธอแอบไปมีความสัมพันธ์หลบซ่อนไม่รู้นานเท่าไหร่ที่เธอมันโง่ โดนเขาสวมเขาให้
 

“แน่อยู่แล้วล่ะครับคุณแม่ ผมต้องเลือกคนดี 'ซื่อสัตย์' และต้องมีแค่ผมคนเดียวอยู่แล้ว”
 

เขาปิดหนังสือเล่มใหญ่ที่วางอยู่บนตัก หลับตาแล้วเอนตัวพิงพนักโซฟานึกถึงใบหน้าของวาริน ริมฝีปากประดับรอยยิ้มน้อย ๆ ปกติเขากับวารินจะเจอกันเฉพาะสุดสัปดาห์เท่านั้นแต่เมื่อเย็นภูวดลโทรมาบอกว่าวารินเลื่อนบินเป็นวันพรุ่งนี้เพราะพายุกระหน่ำใต้ เพราะอย่างนั้นวันนี้เขาจึงค้างที่บ้านต่ออีกวัน
 

...คิดถึง อยากเจอ...
 

รู้สึกว่าไม่เพียงพอเอาเสียเลยที่ต้องอยู่ด้วยกันแค่สัปดาห์ละสองวันแบบนี้ เขาตัดสินใจว่าจะลองคุยเรื่องนี้กับวารินดู
 

“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะลูกแม่  คิดถึงใครอยู่ครับสาวคนไหนที่โชคดีกันน้า”
 

ภัครจิราละสายตาออกจากวารสารการกุศล เมื่อเห็นว่าลูกชายเธอหลับตาพริ้มท่าทางสุขใจเป็นพิเศษ เธอเองก็พลอยมีความสุขไปด้วย
 

“แล้วเรื่องเรียนเป็นยังไงบ้างครับ ธารไหวนะลูก”
 

“ไหวสิครับ ผมอยากเป็นหมอคุณแม่ก็รู้” เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปนั่งลงข้าง ๆ เธอกอดเอวเธอไว้อย่างที่ไม่เคยทำ
 

 “ต่อไปถ้าคุณแม่แก่ผมก็จะดูแล  รักษาให้อย่างดีเลย ผมรักคุณแม่นะครับ”
 

ภัครจิราซึ้งใจจนน้ำตารื้นขึ้น ลูกชายเธอเป็นเด็กดีแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่เคยกอดเธอ นานแค่ไหนแล้วเขาไม่เคยเอ่ยคำว่ารักให้เธอฟัง
 

         ‘น้องธารรักคุณแม่’
 

เธอลูบศีรษะลูกชายอย่างอ่อนโยนนึกถึงเด็กตัวเล็กๆที่เธอเคยจูงมือบัดนี้กลับเติบโตสูงใหญ่กว่าเธอมากมายให้สัญญาว่าจะเป็นคนดูแลยามที่เธอแก่ชรา  เขาใช้นิ้วโป้งเช็ดหยาดน้ำตาแห่งความซาบซึ้งใจออกจากดวงตาสวยของเธอเบา ๆ
 

“แม่ก็รักธารนะครับ เป็นเด็กดีนะลูกนะ”
 

มือใหญ่และเย็นบีบฝ่ามือเล็กแทนคำสัญญาทุกอย่าง เขาไม่ใช่คนพูดมาก คำพูดแต่ละครั้งจึงจริงใจและแน่นอนเสมอ ถ้าเขาพูดว่า ‘รัก’ นั่นก็คือเขารักจริง ๆ และผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาจะรักจนสุดหัวใจก็คือภัครจิราคุณแม่ของเขา
 

เสียงเคาะประตูดังขึ้น เด็กรับใช้ในบ้านนำซองเอกสารสีน้ำตาลเข้ามาวางไว้ให้ ภัครจิราจึงถามว่าส่งมาจากใคร
 

“มีคนเอามาฝากไว้ให้กับยามที่อยู่หน้าประตูบอกต้องให้คุณภัครเปิดดูให้ได้ค่ะ” เธอหยิบซองขึ้นมาแล้วพยักหน้า สาวใช้ออกไปแล้วธาราธารจึงเดินเข้ามาดู
 

“จากใครหรือครับคุณแม่”
 

“ไม่รู้สิลูก ไม่มีเขียนไว้ด้วยแม่ไม่ได้สั่งซื้ออะไรเลยนะ” เขาหยิบกรรไกรบนโต๊ะทำงานมาเปิดซองออกดู
.
.
.
.
.
.
 
...คุณรู้ไหมว่า....ความรู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกพังครืนลงต่อหน้าต่อตามันเป็นอย่างไร
 

...คุณรู้ไหมว่าความรู้สึกที่เหมือนโดนผลักให้ตกหน้าผาสูงชันหลายหมื่นหลายพันฟุต มันเป็นอย่างไร...
 

...เจ็บปวด..
 

เจียนตาย!!!!!!
 
เขาขบกรามแน่นจนริมฝีปากสั่น มือใหญ่ที่จับรูปถ่ายหลายใบนั้นกำจิกจนภัครจิราต้องเดินเข้ามาดึงไปดูด้วยความสงสัย เธอเบิกตากว้างแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้เห็น
 

ธาราธารไม่รอช้า เดินไปวางแผ่นซีดีลงที่เครื่องเล่น สายตาหรี่ลงอย่างคับแค้นและคาดหวัง ขณะที่สองมือชื้นเปียกไปหมด
 

...มันต้องไม่จริง! ต้องมีอะไรผิดพลาด! นี่มันเรื่องเข้าใจผิด...
 

...ไม่ใช่! ไม่มีวันเป็นจริง!!!!!
 

..วารินไม่มีวันทำอย่างนั้นกับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของเขา..
 

ขณะที่จมอยู่ในห้วงความคิด สายตาก็ต้องเบิกกว้างตื่นตะลึงกับสองร่างที่เคลื่อนไหวเร่าร้อนอยู่ในจอ  และทันทีที่ใบหน้าวารินฉายชัด เสียงกรีดร้องปลุกให้เขาได้สติในทันที ภัครจิราล้มฮวบกองลงที่พื้น
 

“คุณแม่!” เขาถลาเข้าไปช้อนตัวเธอขึ้น ภัครจิราหมดสติแขนตกลงข้างลำตัว ธาราธารอุ้มเธออย่างร้อนใจ
 

ความเร็วของรถสปอร์ตวันนี้ดูเหมือนจะช้าจนน่าใจหาย
 

“อาหมอครับคุณแม่ของผมท่าน..” เขาถามอย่างร้อนใจ เมื่อประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออกมา ภัครจิรายังนอน หมดสติอยู่ในนั้น
 

“หมอเสียใจด้วยนะธาร คุณภัครเส้นเลือดในสมองแตก อาจต้องทรมานกับการเป็นอัมพาต ถึงแม้จะมีลมหายใจแต่ก็จะไร้ความรู้สึก  เธอจะไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้  อาจจะ..พูดไม่ได้  ซึ่งอาหมอให้สัญญาไม่ได้ว่าอนาคตจะหายดีหรือต้องรอ...ไปเรื่อย ๆ”
 

ยิ่งกว่าโลกทั้งโลกพังครืนลงต่อหน้าต่อตา...ยิ่งกว่าโดนผลักลงหุบเหวลึกทมิฬ...
 

เขาเซถอยหลังอย่างคนหมดอาลัยสองขาแทบล้มทั้งยืน คนรถที่มาด้วยกันรีบถลาเข้ามาช่วยพยุง 

 
“มีเลือดซึมออกมาที่ก้านสมองด้วยซึ่งอันตรายมาก อาหมอจะต้องให้ดูอาการใกล้ชิดอยู่ที่นี่ไปก่อน ธารกลับไปพักก่อนก็ได้เดี๋ยวอาจัดการเรื่องต่อให้เอง”
 

ร่างสูงใหญ่ทรุดนั่งลงนานแล้วสายตาไม่โฟกัสที่สิ่งใด ทุกคำพูดของคุณหมอตอกย้ำถึงอาการของภัครจิรา เขาไม่ได้ตอบโต้เอ่ยถามกลับไปเพียงแค่นั่งฟัง ฟัง และฟังเท่านั้น น้ำตาลูกผู้ชายไหลอาบลงข้างแก้ม เดินเข้าไปถึงข้างเตียงคุณแม่คุกเข่าลงรวบมือเธอมาจับไว้แน่น
 

....คุณแม่ครับ...
 

...ขอร้อง อย่าทิ้งกัน...
 

..ผมมีคุณแม่คนเดียว..
 

“..คุณแม่..” เขาสะอื้น ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร ซุกใบหน้าลงที่ตักเธอ

.

.

.
     

      ‘แม่ครับอย่าทิ้งน้องธาร’
 

เสียงเล็กๆจากที่ไกลแสนไกล...ภัครจิรายังนอนสงบนิ่งอยู่ที่เตียง
 

...น้ำหนึ่งหยดที่หางตาสวยไหลริน...
 

“คุณธารครับกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อก่อนนะ วันนี้คุณต้องไปสอบแต่เช้า ป้าวันมาถึงแล้วคุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ เดี๋ยวผมเองก็จะแวะกลับมาดูคุณภัครเธอด้วย ”
 

ทินกรคนขับรถของภัครจิราค่อยประคองหลังคนตัวสูงใหญ่ให้เดินออกไปขึ้นรถ ตลอดทางธาราธารนิ่งเงียบไม่พูดจาอะไรเลย นอกจากบอกให้เขาแวะไปเอาของที่บ้านก่อนแล้วค่อยให้ไปส่งที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนชุด
 

รถจอดลงที่หน้าบ้านหลังใหญ่ธาราธารเดินอย่างหมดอาลัยเข้าไปหยิบหนังสือในห้องทำงาน เมื่อเหลือบไปเห็นซองสีน้ำตาลที่มีรูปถ่ายตกอยู่มากมายบนพรหม เขาก้มลงไปเก็บขึ้นมาดูอย่างช้า ๆ สายตาเต็มไปด้วยความขมขื่น วันที่บนรูปลงไว้เป็นเมื่อคืนนี้ช่วงเวลาหลังจากที่วารินโทรคุยกับเขา
 

...พี่รักธารนะครับ..
 

หึ!  เขากลืนน้ำตาที่ตกในลงไปอย่างยากเย็น หยิบรีโมทซีดีกดปุ่มเล่นแผ่นที่ยังคงค้างอยู่ในเครื่อง
 

..อยากดูชัดๆอีกที...
 

...อาจจะไม่ใช่ ทั้งหมดอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิด..
 

...พี่ทราย พี่ทำกับผมและแม่แบบนั้นได้ยังไง..
 

..หัวใจพี่อยู่ที่ไหนกัน..

.

.

.
 
คอนโดแถวพรานนก ยังตั้งโดดเด่นอยู่บนถนนสายเดิม คนอยู่อาศัยยังเป็นคนเดิม
 

...แต่หัวใจที่ร้าวรานมันเปลี่ยนไปแล้ว..
 

ธาราธารกวาดตามองข้าวของรอบห้อง ห้องที่ตกแต่งด้วยสีขาวตัดสีน้ำตาล
 

..สีน้ำตาลที่วารินชอบ..
 

เขาหลับตาแน่นขบกรามจนปากสั่น ตรงเข้ากระชากม่านหน้าต่างจนหลุดลุ่ยเมื่อนึกถึงภาพคนที่เขารักร่อนสะโพกอยู่บนตัวผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของเขา 
 

“ระยำเอ๊ย!”  เขาคำราม
 

 เดินตรงเข้าไปในห้อง ห้องที่เขาตกแต่งไว้คอยคนบางคนยังไม่เคยแม้แต่มานอนด้วยกันสักครั้ง
 

      ……. ‘ผมรู้พี่ชอบสีน้ำตาล ผมให้เขาตกแต่งห้องนอนเป็นสีน้ำตาลล้วนเลยนะ ชอบไหม’……..
 

“โง่เอ๊ย!! ไม่มีใครโง่เท่ามึงอีกแล้ว!”  เขาก่นด่าตัวเองแล้วทุบลงที่หน้าอกแรง ๆ ตอกย้ำถึงความโง่เง่า


ใครเขาจะมาคว้าเอาเด็กอย่างมึง!
 

แล้วทำไม!..ทำไม!!..ทำไมต้องเป็นผู้ชายคนนั้น!!!
 

“เหี้ย!!”  มือใหญ่คว้าเอาหมอนหนุนสีน้ำตาลฟาดออกไปอย่างแรง
 

...ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าเขาคนนั้นคือพ่อของผม พี่ก็ยังจะทำ...
 
.

.
 

“ขอบคุณมากนะครับคุณทัต”
 

วารินยกมือไหว้เขา ทัตพลเอื้อมมือไปบีบที่ไหล่เล็กแววตาทอดแววแห่งความเสียใจมิคลาย
 

“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณที่เธอยอมเป็นธุระให้แล้วก็ต้อง...ขอโทษ” เสียงเขาแผ่วเบาตอนท้ายประโยคหลบสายตาเล็กๆที่มีแต่ร่องรอยแห่งความชอกช้ำ
 

“ผมบอกแล้วยังไงครับว่าเราผิดด้วยกันทั้งคู่ อย่าห่วงเลยครับผมไม่เป็นอะไรและรู้ตัวว่าควรวางตัวไว้แค่ไหนอย่างไร เรื่องที่ผ่านมาคุณอย่าไปจดจำมันเลยนะครับ ผมเองก็จะพยายาม..ลืมมันให้ได้”
 

คนตัวเล็กก้มหน้าต่ำจนคางแทบจะชิดอก น้ำเสียงแผ่วเบาในตอนท้ายทำเอาทัตพลใจกระตุกวูบ เขาไม่อยากเห็นน้ำตาของคน ๆนี้อีกแล้ว มือใหญ่ยื่นเข้าไปลูบศีรษะเล็กอย่างปลอบโยน
 

...อยากดึงเข้ามากอด แต่คงไม่มีสิทธิ์...
 

“มีอะไรโทรหาฉันนะ แล้วฉันจะแวะมา”
 

“ครับ”
 

วารินวางกระเป๋าลงที่โซฟาแล้วทิ้งตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง เขาว่าอยู่บ้านตัวเองสบายใจที่สุดคงจะจริง ร่างเล็กปิดปากหาวแล้วเอนตัวลงนอนยกแขนเรียวพาดปิดดวงตาไว้อย่างเหนื่อยล้า
 

...เหนื่อยเหลือเกิน อยากพัก...
 

“ทราย! มาถึงเมื่อไหร่ครับ” ภูวดลร้องทักขึ้น ร่างสูงเดินออกมาจากด้านใน มือถือกระป๋องใส่พู่กันกับถาดสี
 

“พี่ซี...ทรายเหนื่อยจังครับ” พูดทั้งที่ยังนอนปิดตาอยู่แบบนั้น  ภูวดลเดินเข้ามาเท้าสะเอวชะโงกหน้าดูคนตัวเล็กใกล้ๆ แล้วค่อยลากกระเป๋าเดินทางของอีกคนขึ้นไปเก็บให้ พอลงมาก็ไปรินนมเย็น ๆ จากในกล่องใส่แก้วมาให้วาริน
 

“เหนื่อยมากเหรอหน้าซีดไปหมดแล้วเรา  เอ้อ! ลืมไปเลย เมื่อเช้าคุณอ้อโทรมาถามหาทรายพี่เลยบอกยังไม่กลับเห็นบอกมีเรื่องด่วนถ้ามาถึงแล้วให้โทรหาเธอทันที”
 

“งั้นเหรอครับ” วารินดื่มนมอึกๆจนหมดแก้ว ขอบปากเลอะคราบนมเหมือนเด็กๆภูวดลใช้นิ้วปาดออกให้อย่างไม่รังเกียจ วารินซุกหน้าลงที่อกอุ่น ๆ ของพี่ชาย
 

...ไม่มีใครจะอบอุ่นและปลอดภัยเท่ากับคนๆนี้อีกแล้ว..
 

“ทรายรักพี่ซี พี่ซีเป็นพี่ชายคนดีที่หนึ่งของทรายเลย”
 

วารินโผกอดเขาเต็มอ้อมแขน ภูวดลลูบแผ่นหลังเล็กแล้วตบลงเบา ๆ เป็นดั่งสัญญาว่าเราสองคนจะมีกันและกันตลอดไป แม้ว่าคำว่า ‘พี่ชายคนดีที่หนึ่ง’ จะเสียดใจเขาแค่ไหนก็ตาม ขอแค่ให้วารินรักเขาจะอยู่ในฐานะไหนก็ได้ทั้งนั้น
 

“พี่ซีก็รักทรายครับ” รักมากที่สุดแล้ว
 
.
Tbc.

*แอร๊ก!! คนอ่านอินจัดเลย รออ่านดาร์กโหมดของธารแล้วกัน..ฮีร้ายมากขอบอก*
*วันนี้มาเที่ยวระยองค่ะขับรถทั้งวัน ช่วงเย็นลมแรงมากแต่ฝนไม่ตกนะ เข้าโรงแรมมาก็ลงให้ทันที พรุ่งนี้ถ้าหากกลับมาจากเที่ยวดึก ขอผลัดไปก่อนนะ*  :katai1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-03-2014 23:24:15 โดย coffeeQbread »

TheWolf

  • บุคคลทั่วไป
 :ling1: พรุ่งนี้จะรอนะ ลุ้นมากๆๆๆ แต่ไม่อยากให้แม่ธารเป็นอัมพาตเลยอ่ะ สงสารธาร :m15:

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :z6: อ้าว อินักสืบ สรุปเป็นฝีมือแกเรอะ ขออภัยทานอิวิที่ด่ามันไว้เยอะ

ธารรู้เรื่องแล้ว แบบ Full HD ด้วยอ่ะ  :hao5: คุณแม่ก็เส้นเลือดในสมองแตก
ทุกๆอย่างประดังเข้ามา สมแล้วที่บอกว่าพระเอกร้าย
พระเอกมันร้ายแบบมีเหตุจูงใจสุดๆ ถึงจะเป็นการเข้าใจผิด? แต่เรื่องนี้ยังไงก็ยากที่จะให้อภัย
ภาพมันติดตาไปแล้ว น่าจั่วหัวว่า Drama จริงๆ เริ่มรู้สึกว่าจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
ไม่รู้ว่าจะ SM ด้วยรึเปล่าเนี่ย
เอาจริงสงสารธารมากเลยนะ เปลี่ยนตัวเองตั้งเยอะเพื่อพี่ทรายแต่ต้องมาเจอแบบนี้
พี่ทรายก็นะ.... เราว่าถึงพี่ทรายจะบอกไปตรงๆก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะพี่ทรายแลดูเป็นคนโลเลอยู่แล้ว
แถมแด๊ดแด๊ไปทั่ว หรือที่เพื่อนๆเรียกกันว่า แรดเงียบอ่ะแหละ
รึเพราะนิสัยนี้ของพี่ทราย เลยต้องส่งธารเวอร์ชัน S มาปราบ

เราไม่กลัวธารจะร้าย แต่เรากลัวธารจะไปเสเพลมากกว่า
ตอนนี้ความรักของธารก็พังทลายไปหมดแล้วนะ
เอาจริงๆ เดาไม่ถูกเลยว่าจะสามารถจบแฮปปี้ได้แบบไหน หรือว่าไม่มีแฮปปี้

ถ้าธารไม่เอาพี่ทราย ขอเปลี่ยนเป็น คุณทัต-พี่ทรายนะ
คู่นี้ชอบมาก ดาเมจรุนแรงกระจุยกระจาย หึหึ

ออฟไลน์ waza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
จัดเต็มเลยค่ะ ตั้งตารับความรุนแรงของธารอยู่  รู้สึกเนื้อเรื่องกระชับดี ไม่ค้าง  แต่อยากอ่านต่อเพราะมันลุ้นนนน :katai2-1:

ออฟไลน์ tsundere

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
กำลังจะไปเล่นเกม เห็นเรื่องนี้อัพ อ่านก่อนละกัน
คืออารมณ์ยังไม่จบกับตอนที่แล้ว แต่ตอนนี้ภัครจิรา…เออะ เลวร้ายกว่านี้ไม่มีอีกแล้วค่ะ ดีนะที่ยังไม่แตกตาย
ไม่ปลื้มคุณทัตพลเป็นทุนเดิมอยู่แล้วผู้ชายที่ทิ้งคนที่รักและอีกชีวิตอย่างเฉยเมยเพื่อบุญคุณ? 
เอาจริงสองคนนี้มันก็สมกันดีนะ(ทัตทราย)  เหมือนแอปเปิลแดงผลไม้ต้องห้ามความปราถนาทีน่าแตะต้อง
ดูเป็นสิ่งที่น่าท้าทายน่าหลงใหลแต่ไม่บริสุทธิ์ใจ (เลวทั้งคู่) ถ้าจบลงที่ทัตทรายนี่บอกเลยไม่ตกใจหรอกค่ะ
แต่จะผิดหวังมาก เสียดายและเฟลมาก (ชื่อเรื่องมันก็บอกนี่เนาะ”พี่เลี้ยง” ไม่รู้ว่าได้เมียเป็นพี่เลี้ยงลูกหรือ
ลูกได้เมียเป็นพี่เลี้ยงจริง ๆ) ธารทะนุถนอมมาเป็นปี ๆ แต่โดนพ่อแท้ ๆ คาบไปแดก ถ้าทรายลึกซึ้งกับซีมาก่อน
จะไม่จี๊ดเท่านี้เลยนะ อารมณ์กูมาก่อนแต่โดนพ่อที่มาทีหลังซิว กับเรื่องอื่นใช้ของร่วมกับสายเลือดแนวนี้
ไม่มายเท่าไหร่เลยแต่กับวารินความรู้สึกโคตรติดลบเลย ย้ำกันอีกครั้งไม่ใช่ทรายเลยไม่เข้าใจทราย
แต่จากมุมมองเราทรายดูเป็นคนโลเล ไม่เด็ดขาด หวั่นไหวง่าย โตจนจะเป็นพ่อคนได้อยู่แล้วแต่ความคิดและวุฒิภาวะต่ำ
จะว่าเพราะประสบการณ์ก็ไม่น่าใช่ ประสบการณ์รอบข้างไม่เจอบ้างเลยหรืออย่างภัครจิรานั่นก็ได้ เพื่อนเพิ่นอะไรก็มี
หรือไม่มีใครคบ(ไม่เห็นมีเพื่อนสักคนเห็นแต่หลอกธารว่ามาเที่ยวกับเพื่อนแต่ที่สุดก็มากับชู้(?)) ธิปดูดีขึ้นเยอะในสายตาเรา
ถ้าเทียบกับทราย ธิปจะออกตรง ๆ คิดยังไงพูด-ทำอย่างงั้น ดูทรายคิดนานหน่อย พูดตรง ๆ (บางที) แต่กระทำมันตรงกันข้าม
กับที่พูดเลยค่ะจะรอดูพัฒนาการเด็กอายุเลขสามละกันนะ  :เฮ้อ:

ปักธงให้ธารเป็นพระเอกนะ ฝังใจจริง ๆ  สมมติธารจบกับธิป (กี้ บัวชมพู) แล้ววารินจบกับภูวดลอันนี้รับได้ค่ะ
แต่เกิดยังไงก็ตามวารินจบกับทัตพล ช่วยบอกล่วงหน้าด้วยนะคะไม่ตกใจก็จริงแต่ทำใจรับไม่ได้เลย

ฝากบอกทัตด้วยนะว่าอุตส่าห์ลงทุนทิ้งลูกทิ้งเมียเพื่อแทนคุณทำมายี่สิบปีแล้วอย่ามาทรยศบุญคุณคนด้วยวารินเพียงคนเดียวล่ะ!!!

ไม่อยากจะหลุดมากเดี๋ยวคนเขียนเครียด แต่ก็ไม่ไหวกับทรายจริง ๆ  :katai5:

ออฟไลน์ IIIA

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
 :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:

เรื่องมันเกิดเพราะความเห็นแก่เงินของคนๆเดียวสินะ ตราบาปที่ไม่ได้ตั้งใจก่อ  :เฮ้อ:

สงสารทรายนะ ถึงอายุจะสามสิบแต่คนเป็นน้องที่โดนพี่ประคบประหงมมาขนาดนี้ไม่แปลกที่จะติดพี่ หวงพี่

กับทัตพลที่ไปเพราะความบริสุทธิ์ใจแล้วสองคนก็บริสุทธิ์ใจต่อกัน แต่เพราะความอาฆาตและเห็นแก่เงิน กับสร้างตราบาปให้ทั้งสองคนทั้งที่ไม่ใช่ความผิดเลยด้วยซ้ำ เขาสองคนแค่อยากให้คนที่พวกเขาทั้งสองคนรักมากที่สุด แต่กลายเป็นว่าทำให้คนที่เขาทั้งสองคนรักทรมานที่สุด...

เรื่องมันเลวร้ายมากตรงที่ธารรักทรายมาก คุณภัทรเอ็นดูและไว้ใจทรายมาก ทรายเลยกลายเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด ที่อยู่ดีๆก็ต้องเหมือนกลายเป็นคนที่ทรยศ ... ซึ่งทรายผิดอะไร

เราไม่แปลกใจถ้าต่อจากนี้ธารจะเลวจะร้ายกับทรายยัง เพราะความจริงที่เรารู้  ธารไม่รู้ ถึงรู้มันก็ไม่ง่ายที่จะต้องทำใจ ใช้เมียคนเดียวกันกับพ่อ? ถึงจะบอกว่ารักยอมได้ทุกอย่าง แต่สาบานสิ เวลาเห็นหน้าพ่อหรือคนรัก จะไม่แครงใจ

มาถึงตรงนี้ ให้ธารไปคู่กับชนาธิปคงจะไม่บาปไปกว่าการที่จะพ่อกับลูกมีเมียคนเดียวกันมั้ง
แต่แอบคิดว่าในอนาคตตอนธารรู้ว่าชนาธิปเป็นลูกคนใหม่ของทัตพล อาจจะมีการแก้แค้นเกิดขึ้นมั้ง มันคงไม่เลวร้ายไปกว่านี้แล้วแหละ

ยอมรับว่าอึดอัดมากตั้งแต่ตอนที่แล้ว ความรู้สึกทั้งหมดคือ สงสารทราย ทรายผิดอะไร  :เฮ้อ:
เราจะไม่สงสารทรายเลยแต่จะสมน้ำหน้าด้วยซ้ำ ถ้าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความตั้งใจของทรายหรือของทัตพลสักคน แต่นะ โดยยานี่นา ถึงมันไม่ใช่ข้อแก้ตัว แต่สติสัมปะชัญญะ ภายใต้ฤทธิ์ยาปลุก?  เราไม่สงสารและไม่เกลียดธารถ้าจะร้ายกับทราย คือเป็นเราก็คงจะร้าย  แต่ทั้งนนี้ก็ไม่ได้ยินดีหรอกถ้าจะให้ทรายคู่กัยทัตพล ปล่อยทรายไปเถอะ ไม่ต้องมีคู่ บาปกรรมที่ไม่ได้ก่อแต่กลายเป็นคนต้องรับผลกรรมทั้งหมด ถ้าพลอตทั้งหมดคือทรายกับธารเป็นคู่พระ เราว่าให้เรื่องนี้จบไม่แฮปปี้เลยดีกว่า เพราะนี้เรายังไม่เห็นว่ามันจะมีทางไหนแฮปปี้ได้เลย ยังยืนยังว่าสงสารทราย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-03-2014 23:46:59 โดย IIIA »

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
จะเป็นยังไงต่อไปเนี่ยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ บ๊ายบายโพ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
อินักสืบคือเป็นบ้าเหรอ ทำอะไรลงไปปป ไอ้ด้อนน :m31: เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะแกเลยนะนิ เลววว

iceland

  • บุคคลทั่วไป
คืออะไรยังไง  เรื่องนี้ดร่าม่าทั้งเรื่องหรอ  จะไม่มีคนสมหวัง ?

คนที่คิดว่าเป็นนายเอก ก็คงไม่ใช่ล่ะมั้ง

เฮ้ออออออ  ช่วงนี้ได้กินแต่มาม่า


ลีดสิไห้


 :o12: :o12:



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lightseeker

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
คุณทัตพลนี่ทำเหมือนรักพี่ทรายไปแล้วเลยนะ มีพูดว่าอยากดึงเข้ามากอดด้วยนะ
อย่างกับเด็กหนุ่มเพิ่งมีความรักครั้งแรก เธอจ๋า มีเมียมาตั้งสองคนแล้วเรามองเธอเป็นผู้ชายอบอุ่นไม่ออกละล่ะ
นี่ไม่ได้อะไรกับคุณพ่อพระเอกหรอก  :z4:
รู้สึกอินมาก อยากเอามือข่วนหน้าตัวเองเหมือนแบบนี้  :katai1: เลย
สงสารทรายเหมือนกัน แต่สงสารธารมากกว่า
น้องมีการเปิดดูวีดีโออีกครั้งเพราะกลัวเข้าใจผิด คิดว่าไม่ใช่พี่ทรายหรอก โอย ช้ำใจแทน :z3:
ถ้าในตอนสุดท้ายทรายไม่ได้คู่กับธารก็ไม่เป็นไร แต่อย่าคู่กับคุณทัตเลย เราคงเสียใจมาก T T
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-03-2014 00:06:51 โดย lightseeker »

ออฟไลน์ U_Ton

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 :mew1: มาต่อรวดเร็วว่องไว สายฟ้าเเล้บมากๆ
อัดอั้นมากกกกก... ธารกำลังคลั่งได้ที่ พอดีกับที่ทรายกลับมาถึงเเล้ว จะเป็นยังไงต่อไป... เฮ้อออ สงสารทรายจับใจ
ธารทั้งโกรธ ทั้งเเค้นเลยนะ อย่างว่ารักมากก็เเค้นมาก... คงไม่ฟังคำอธิบายหรอก
เอาจริงๆ ทรายเองก็กลัวที่จะรักธารเพราะเป็นลูกผู้มีพระคุณ ซึ่งคุณภัทรเธอสร้างบุญคุณเอาไว้ ...แต่พอผ่านจุดนั้นมาได้
กล้าพูดออกมาเเล้วว่า "รัก" ก็ดันมีอุปสรรคเพราะคนโลภหนึ่งคนใจหยาบอีกหนึ่งซะงั้น ทรายไปทำวิบากอะไรไว้นะ แบบ
อยู่มาได้สามสิบปี ดันมีรักตอนเข้าเลขสาม อุปสรรคบานเบอะ... คุณทัตกับทรายตอนนี้สภาพกลืนไม่เข้า คายไม่ออก...
อธิบายไปให้ปากฉีกมีหรือใครจะเชื่อว่าบริสุทธิ์ใจ ไร้เจตนา ยิ่งคนกำลังโกรธอย่างธาร แถมคุณภัทรเธอยังมาเห็นภาพจน
อาการย่ำเเย่ ธารไม่ปล่อยให้ทรายลอยนวลเเน่...
ตอนนี้สงสารทรายสุดตับ (คาดว่าตอนหน้าคงยิ่งกว่านี้)... คุณทัตในสายตาธารนี่คิดว่ายังพอทน เพราะอาจจะไม่เคยรู้ไม่รู้
มาก่อนว่านี่แฟนลูก แต่ทรายนี่หมดสิทธิ์เลย พูดอะไรไปคงฟังไม่ขึ้น... ความเชื่อใจเป็นสิ่งที่สร้างไม่ยาก เเต่ก็นานถ้าเทียบ
กับเวลาที่ลงมือทำลาย... น่าสงสารที่ทรายไม่มีเจตนาทำลายความเชื่อใจและความรักครั้งนี้เลยนี่สิ :z3:

ออฟไลน์ w1234

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ธารแค้นมากแน่ หมดเวลาทรายอธิบาย :sad11: :sad11: :fire: :fire:

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
เห็นด้วยกับคุณ     IIIA
อ่านไปอ่านมา อยากให้ทรายคู่กับทัตนะ
แล้วธารก็มาลงที่ธิป วิจะได้รู้ถึงความเจ็บปวด
ทั้งสามีแล้วลูก
ทรายไม่ได้ผิดอะไรเลย ทำไมถึงทำกับเขาได้
ธารจะโกรธก็ไม่แปลก ต่อให้ทรายอธิบายจนปากจะฉีกก็
เหมือนกับเป็นการแก้ตัว ที่ทำไปเกิดจากยา เพราะอ่านมา
ทัตก็สุภาพบุรุษ ลุ้นต่อไป
อินมากกกกกกก บอกเลย :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Minerva

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
......พูดไม่ออกเลย ตอนนี้..หน่วงจริง...

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ CelestialBeing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
โอวตอนนี้ทำdmg 99999 เลย  :ling1:

ออฟไลน์ Spelling_B

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

สงสารพี่ทราย ธารจัดการเยอะแน่ๆ :katai1:

ออฟไลน์ NumPing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
โอย นี่มันเรื่องบ้าไรกันฟะเนี่ย

อภิมหาดราม่าจริง ๆ  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 :katai1: :katai1: มาม่าลังนึงต้มในชามเดียว  ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยเป็นมะเร็งตายยยแน่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
กรี๊ดดดดดดดดดดดด จะเป็นลมค่ะ อ่านทันตอนที่มันดราม่าพอดิบพอดี

โอ๊ย ทำไมเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ สงสารทุกคนเลยอะตอนนี้

ต่อไปนี้ทรายต้องกลายเป็นเหยื่อของการแก้แค้น

ธารก็ทั้งแค้นทั้งรัก  แม่ก็ต้องเข้าโรงบาลกลายเป็นอัมพาต  ธารจะต้องร้ายกาจมากแน่ๆ

แล้วจะเรียนหมอจบได้มั้ยเนี่ย  หรือต้องยุติการเรียนหมอ เพื่อเข้าไปบริหารโรงแรม

ทรายต้องโดนทรมานแบบจำเลยรักแน่ๆๆๆ 

อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ  เรื่องนี้ลุ้นมากๆๆๆๆ

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
กรีดร้องงงงงงงงงงง
สงสารทรายไม่ไหวแล้ว บีบใจมากก อ่านรวดเดียวจบ
ธารรร สงสารทรายเถอะนะ ชวยรักษาแผลใจให้ทรายเถอะนะะ

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
แอร้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย...............ไรวะเนี่ยยย

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
ขอเม้นท์อีกนิด
อย่าเปลี่ยนคู่อะไรเลยนะ  ถ้าจะจบแฮปปี้ก็ขอให้ธารได้คู่กับพี่ทรายเหมือนเดิม
เพราะถึงยังไงเค้าก็รักกันมาก่อน  ส่วนเรื่องของคุณทัตมันเป็นแค่ความผิดพลาด
ที่ทรายเองก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้นมา แต่มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว
ถ้าธารจะโกรธและร้ายกับพี่ทราย เราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ท้ายที่สุดก็อยากให้ธารลืมๆมันไป
ให้อภัยพี่ทรายสักครั้ง และกลับมาเริ่มต้นกันใหม่นะะะ 

รับไม่ได้จริงๆนะ ถ้าพี่ทรายไม่ได้คู่กับธาร  ส่วนธิปก็คู่กับพี่ซีไปสิ  คุณทัตเป็นส่วนเกิน ไร้คู่ไปละกัน

อิอิ  ตามนี้นะคะ  :mew6:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
โฮวววววววว
ดรามาอะไรอย่างเน้

ออฟไลน์ smile_aex

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เข้ามารอ วันนี้จะมามั๊ยคราบ อยากอ่านต่อมากๆ :katai1:

ออฟไลน์ coffeeQbread

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1218/-29

บทที่ 16



“พี่อ้อสวัสดีครับ มันเกิดอะไรขึ้นกันครับ คุณภัครทำไมถึง..”


“ทราย!”


ศศิธรอุทานเบา ๆ เมื่อวารินเปิดประตูเข้ามา เธอมาเฝ้าไข้ภัครจิราตั้งแต่เมื่อเที่ยง คนตัวเล็กเดินเข้าไปถึงหน้าเตียง เจ้านายเธอยังนอนหลับตาไม่ได้สติ


“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน เห็นป้าวันแกบอกว่าเมื่อวาน จู่ ๆได้ยินเสียงคุณภัครกรีดร้อง จากนั้นน้องธารก็อุ้มเธอออกมาจากห้อง เธอหมดสติตั้งแต่อยู่ที่บ้านแล้ว นี่พี่ให้แกลงไปพักเดี๋ยวคงจะขึ้นมาแล้วล่ะ ทรายมาก็ดีเลยเดี๋ยวพี่ขอกลับไปเคลียงานหน่อย หนีออกมาตั้งแต่เที่ยงแล้ว”


วันนาแม่บ้านเดินกลับเข้ามา ศศิธรจึงคว้าเอากระเป๋าขึ้นสะพายโบกมือให้วารินบอกแล้วค่อยเจอกัน วารินนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงมองดูใบหน้าที่เหลืองซีดของภัครจิรากับกระปุกน้ำเกลือที่สอดสายไว้ที่หลังมือ เขาลุกขึ้นเดินไปที่ริมหน้าต่างแง้มผ้าม่านดูด้านนอกเห็นแสงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงแล้ว รถราเริ่มติดเป็นแนวยาวตลอดทั้งสาย ท้องฟ้าที่กรุงเทพดูไม่ทั่วถึงเลยจริง ๆ มีอะไรต่อมิอะไรบดบังเต็มไปหมดไม่เหมือนสถานที่ๆเขาเพิ่งจากมาเลยสักนิดถึงแม้จะมีความทรงจำที่เลวร้ายแต่วารินก็ยังจดจำความงดงามของทัศนียภาพของท้องทะเลกว้างใหญ่ได้เสมอ


“คุณธาร กลับมาแล้วเหรอคะ”


ทันทีที่ได้ยินเสียงป้าวัน วารินรีบหันกลับมองทันที ธาราธารยืนชะงักนิ่งอยู่ที่ประตู ในแววตาจดจ้องมาที่ร่างเล็กริมหน้าต่าง


“ใครอนุญาตให้เข้ามาในนี้ได้ ” เขาเน้นคำด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบพร้อมก้าวเข้าหา ในแววตามีแต่ความแข็งกร้าวดุดัน โบกมือไล่วันนาให้ออกไปก่อน 


ธาราธารยังสวมชุดนักศึกษาคงเพิ่งกลับมาจากมหาวิทยาลัย วารินมองเขาอย่างไม่เข้าใจ


“ธาร เกิดอะไรขึ้น  ทำไมคุณภัคร..”


“อย่ามาตีหน้าทำตอแหล! ออกไปให้พ้น!!” เขาชี้นิ้วไล่ ตวาดขึ้นอย่างที่ไม่เคยทำ วารินก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว


“อีตัวร่าน ๆ โสโครก อย่ามาเหยียบห้องแม่ผมให้เป็นเสนียด ออกไป!! ไป!!!”


วารินแทบทรุด ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรทำไมพูดกับเขาแบบนั้น  ธาราธารล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายคว้าซองสีน้ำตาลฟาดใส่หน้าร่างเล็กอย่างไม่แคร์จะเจ็บหรือไม่ รูปถ่ายตกกระจายเกลื่อนพื้น


“ดูเสียให้เต็มตา คุณแม่เป็นแบบนี้เพราะใคร! ต้องกลายเป็นอัมพาตเพราะเส้นเลือดในสมองแตก มันเพราะใครกัน!!” 


เขาตวาดลั่น วารินก้มลงหยิบรูปขึ้นมาดู หน้าชาวาบไปหมด ใบหน้าเล็กส่ายอย่างไม่อยากเชื่อ เขาเป็นคนทำให้ภัครจิราเป็นแบบนี้ ตัวเขางั้นหรือ?  มองไปที่ร่างสีขาวที่ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงไม่รับรู้เรื่องราว วารินถอยเซ มือยันลงที่เตียง


“อย่ามาแตะต้องแม่ผม!!”  เขาตรงเข้ากระชากร่างเล็กเหวี่ยงออกไปอีกด้าน


“โสโครก!  หึ  ผมโคตร!ขยะแขยงพี่เลยว่ะ ดีใจไหม? ได้นอนกับผัวคนอื่น ดีใจไหมห๊า!! เขาเป็นพ่อผมนะ! เป็นพ่อของผม!! ถึงเขาจะไม่ได้เลี้ยงดูผมมาแต่ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นพ่อ!!!”


เขาเดินหน้าเข้าหา ผลักไหล่เล็กจนกระเด็น วารินกำรูปจนมือสั่น ใบหน้าเล็กชาวาบเข้าไปถึงขั้วหัวใจกัดกินลึกถึงไขกระดูกเมื่อได้เห็นแววตาเย็นชานั้นทอแววรังเกียจกันอย่างชัดเจน


...พูดไม่ออก เพราะมันเป็นตัวเขาจริงๆ...


“อ้อ! มีเป็นภาพเคลื่อนไหวด้วยนะ ถ้าอยากจะดูก็เอาไปได้เลย!!”  เขาฟาดแผ่นซีดีใส่แบบเน้น ๆ จนวารินเบือนหน้าหลบแทบไม่ทัน ดวงตาสวยมีหยดน้ำไหลริน


“ไม่ต้องมาร้อง! อย่ามาทำสำออยในนี้ เก็บเอาของเสนียดจัญไรแล้วออกไปได้แล้ว ไป! ไปเลย!! ออกไป!!!” เขาตวาดลั่นชี้นิ้วไล่เหมือนหมูเหมือนหมา วารินทรุดฮวบลงที่พื้นร้องไห้โฮ มือใหญ่เข้ามากระชากคอเสื้อที่ด้านหลังแล้วลากร่างเล็กๆไปเหวี่ยงไว้ที่หน้าประตู


ชี้หน้าอย่างรังเกียจ


“อย่ามาให้ผมหน้าอีก จำเอาไว้ ถ้ายังอยากอยู่สุขสบายเชิญใช้ชีวิตร่าน ๆ ของพี่ต่อไป ไปให้พ้น!”


เขาปิดประตูใส่หน้าดังปัง!  วารินไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะลุกขึ้นยืน นั่งร้องไห้อย่างหมดอาย สองมือซบใบหน้าสวยที่มีแต่ความชอกช้ำ น้ำตาไหลพรากอาบสองแก้ม เฝ้านึกถึงแววตาของคนที่ตนเองรัก


...แววตาที่ไม่มีเหลือแล้วซึ่งความอาลัย ห่วงใยเหมือนวันเก่าๆ...


...เขามันโสโครกดั่งที่ว่าจริงๆ...


..ต้องทำอย่างไรจึงจะล้างออกหมด รอยราคีที่ฝังอยู่กับตัวกับหัวใจ ต้องล้างอย่างไรล้างเท่าไหร่...


ไหล่เล็กสั่นสะท้าน ค่อยปาดน้ำตาแล้วหยัดกายลุกขึ้น


.
.


“ทราย เป็นอะไรรึเปล่า”


ภูวดลเคาะเรียกน้องชายที่หน้าประตู ตั้งแต่กลับมาจากไปเยี่ยมภัครจิรา วารินก็เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้อง เขาถามอะไรก็ไม่ตอบบอกไม่ให้กวน ภูวดลรอจนดึกดื่นเห็นว่าวารินยังไม่ยอมลงมากินข้าวจึงขึ้นมาเรียกดูอีกที


วารินเปิดประตูออกมาก้มหน้าก้มตาเดินผ่านไปที่ห้องน้ำ ภูวดลพอจะเห็นร่องรอยของคราบน้ำตาจึงเดินตามไปดู น้องชายตัวน้อยโผเข้ากอดเอวพี่ชายสุดที่รักเต็มอ้อมแขน ปล่อยโฮออกมาอย่างกับเด็กๆภูวดลได้แต่ลูบหลังปลอบใจ เขาคิดไปว่าวารินคงเสียใจเรื่องของภัครจิรา


“อย่าคิดมากเลยนะ เดี๋ยวทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น”


ภูวดลปล่อยให้คนตัวเล็กร้องไห้จนหลับไปทั้งอย่างนั้น เขาบรรจงห่มผ้าผืนหนาให้สอดตัวลงนอนข้าง ๆ โอบกอดเอาไว้อย่างเคย


เช้าวันต่อมาวารินเข้าไปที่โรงแรม พิมพ์จดหมายลาออกแล้วแอบวางไว้ที่โต๊ะของศศิธร เก็บของใช้ส่วนตัวที่มีอยู่นิดหน่อยแล้วขับรถตรงไปที่โรงพยาบาล ตั้งใจจะไปกราบลาภัครจิราเป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีหน้าจะอยู่ช่วยงานได้อีกต่อไปแล้ว ความผิดของเขามันมากเสียจนเกินอภัย

.

.


“ขอบคุณมากครับคุณลุง ผมคงต้องรบกวนมากจริง ๆ” ธาราธารยกมือไหว้ภาสกรพี่ชายของภัครจิราหลังจากเกิดเรื่อง เขาที่บริหารงานโรงแรมอยู่ที่ญี่ปุ่นรีบบินกลับมาดูน้องสาวตัวเองทันที และบอกให้ธาราธารไม่ต้องห่วงเรื่องงานที่โรงแรมเขาจะช่วยดูแลให้อีกแรงจนกว่าทางนี้จะจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ให้ลงตัว

“อย่าคิดมากนะ ดูแลตัวเองด้วย แล้วก็ดูแลคุณแม่ให้ดี ๆ สักวันปาฏิหาริย์อาจมีจริง ลุงจะคอยเอาใจช่วย” เขาบีบไหล่คนหนุ่มอย่างให้กำลังใจก่อนขอตัวกลับไป ธาราธารรีบตรงไปพบอาหมอที่ดูแลคุณแม่เขาทันที


“พรุ่งนี้คงพาคุณแม่กลับบ้านได้แล้วนะ อย่างที่อาหมอบอกนั่นแหละ หาคนมาช่วยดูแลจะดีกว่า ภัครเขาจะช่วยตัวเองไม่ได้เลยพูดง่าย ๆ คือทำอะไรไม่ได้ต้องนอนอยู่บนเตียงอย่างเดียว อาอยากให้ธารหาใครสักคนมาคอยดูแล ธารเข้าใจใช่ไหม คนเป็นอัมพาตน่ะ ให้สัญญาไม่ได้ว่าจะหายดีได้รึเปล่าแต่ถ้าเราหมั่นช่วยดูแลกายภาพอย่างสม่ำเสมอชวนคุยอย่าทำให้เขาคิดมาก มันก็อาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นก็ได้”


ธาราธารมองสบดวงตาที่แสนอ่อนโยนหลังแว่นสายตาใสแล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาตั้งใจว่าจะจ้างพยาบาลมาช่วยดูแลแต่ติดอยู่ที่พยาบาลจะต้องไปและกลับ เขาอยากได้แบบอยู่ประจำค้างคืนกับคุณแม่ของเขาเลยมากกว่า


“ไม่จำเป็นต้องเป็นพยาบาลก็ได้ แค่เป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยนดูแลคุณแม่ของเราอย่างไม่รังเกียจ อาว่าเท่านั้นก็พอแล้ว”


เขายกมือไหว้อาหมอที่สนิทกับคุณแม่ของเขาแล้วเดินออกมา พรุ่งนี้เขาจะพาภัครจิรากลับบ้าน ช่วงแรกคงต้องวานให้ป้าวันแม่บ้านเป็นธุระดูแลคุณแม่ของเขาไปก่อนจนกว่าจะหาคนดีๆไว้ใจได้มาทำแทน ขายาวๆก้าวไปตามทางเดินขาวสะอาดของโรงพยาบาลชั้นนำ


...สิ่งที่เขาห่วงที่สุดคือเรื่องงานที่โรงแรมของคุณแม่ คุณลุงก็ต้องดูแลที่ญี่ปุ่นเป็นหลัก คงถึงเวลาที่ต้องศึกษางานด้านนี้แล้ว...


.

.


มือเล็กเปิดประตูห้องพักพิเศษเข้าไปด้านใน ที่เตียงคนไข้ยังมีร่างของคนที่เขาเคารพรักและภักดีเสมอนอนนิ่งอยู่บนนั้น วารินค่อยเดินเข้าไปที่เตียงช้า ๆ กวาดตามองร่างที่ไม่ขยับไหวติงดวงหน้าที่มีแต่ความซีดเซียว เข่าเล็กทรุดลงที่ข้างเตียงพนมมือก้มกราบลงไปที่ปลายเท้าของผู้หญิงที่มีบุญคุณกับเขามากที่สุด


ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกตอนเขาเริ่มมาฝึกงานกระทั่งได้มาทำงานด้วย สิบสองปีที่อยู่ด้วยกันมาภัครจิราคือคนที่เขานับถือและเคารพรักมากที่สุด บุญคุณของเธอให้ทดแทนเท่าไหร่ก็คงไม่มีวันหมด แต่คนที่แสนเลวก็คือตัวเขาเอง ไม่มีหน้าจะแก้ตัวใดๆทั้งสิ้นเพราะตัวเขาทำมันลงไปจริง ๆ


“ผมขอโทษครับคุณภัคร ขอโทษทุกๆอย่าง” เสียงเขาสั่นเครือพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลอาบลงสองแก้ม


ภัครจิรานอนลืมตานิ่ง หยาดน้ำใสไหลลงที่หางตา  มือเล็กของวารินอยากจะเอื้อมไปสัมผัสมือนิ่มนั่นเป็นครั้งสุดท้ายแต่ก็กลัวว่าเธอจะรังเกียจ ได้แต่ถดตัวถอยหลังออกมา ร่างเล็กค่อยลุกขึ้นช้า ๆ ปาดรอยน้ำตาแล้วหันหลังกลับไป


“เคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าไม่ให้มาที่นี่อีก” วารินตกใจผงะเมื่อพบว่ามีใครยืนอยู่ด้านหลัง ธาราธารก้าวเข้ามาเรื่อย ๆ ขณะที่อีกคนก้าวถอยหลังอย่างหวาดกลัว


“อย่ามาแตะแม่ผม!” เขาตวาดลั่นเมื่อขาของวารินชนกับเตียง มือเล็กแค่!จับลงที่เบาะเท่านั้น วารินรีบถอยออกไปอีกด้านทันที ร่างสูงใหญ่ปราดเข้ามากระชากแขนแล้วเหวี่ยงออกไปจนร่างเล็กชนโครมเข้ากับผนัง


“พูดไม่ฟังจริงนะ ท้าทายแบบนี้คงอยากลองดีกับผมใช่ไหม เข้ามานี่!” เขาลากคนตัวเล็กดันเข้าไปในห้องน้ำปิดประตูแล้วกดตัวบอบบางกักไว้ในอ้อมแขน


“คนร่าน ๆ แบบพี่ถ้าจะโดนทั้งพ่อทั้งลูกตอกที่เดียวกันเนี่ยมันคงจะถึงใจใช่ไหม ในใจคงจะยิ้มร่าเลยล่ะสิ ถ้างั้นมาลองดูกันหน่อยไหม ไม่อยากรู้เหรอ? พ่อกับลูกใครมันจะตอกได้ถึงใจกว่ากัน” สิ้นคำมือใหญ่ตรงเข้าบีบคางมนจนสุดแรงกดจูบดุนดันลิ้นจาบจ้วงเข้าไปกวาดต้อนดูดดึงเอาให้หนัก


“อื้ออ..” วารินทั้งผลักทั้งทุบ แต่ร่างกายที่ต่างกันมากเกินไปทำให้คนตัวใหญ่ไม่ขยับเลยสักนิด กลิ่นเลือดฝาดพร่าแปร่งอยู่ในโพรงปากนุ่มวารินเจ็บจนน้ำตาไหลพราก เขาทั้งดูดทั้งกัด มือที่บีบคางก็ออกแรงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่อีกมือเข้ากระชากผมนิ่มให้ใบหน้าหวานแหงนหงาย ลิ้นหยาบคายลากไล้ลงมาที่ลำคอขาว วารินหลับตาอย่างรังเกียจเขาขบดูดจนผิวขาวห้อเลือดขึ้นรอย มือเล็กจิกลงที่บ่ากว้างอย่างเจ็บปวด


“ปล่อยนะ! พอแล้ว”  เสียงเล็กสะอื้นไห้ ร้องขอเขาอย่างเหลือทน เขายิ่งจิกผมแน่นแล้วรั้งลงเป็นเท่าตัว


“เจ็บ! ธารพี่เจ็บ!!” วารินร้องลั่น เขายังกระชากผมไม่ปล่อย ละใบหน้าออกมาจ้องตาดวงเล็ก วารินกัดริมฝีปากจนสั่นขณะที่แววตาแข็งกร้าวของอีกคนหรี่ลงอย่างคับแค้นในดวงตามีทั้งแววตัดพ้อและชิงชังปนกันไปหมด เขาขบกรามจนขึ้นนูนเพื่อข่มอารมณ์ประทุของตนเอง


“บ้านที่อยู่น่ะ ช่วยย้ายออกไปด้วยนะรู้ใช่ไหมว่ามันเป็นชื่อใคร อย่าให้ต้องเผาไล่” เขาเน้นทีละคำจนวารินใจหาย หยดน้ำตาไหลรินโดยไม่ต้องกระพริบด้วยซ้ำ


“ม...หมายความว่ายังไง บ้านไหนกัน บ้านของพี่เหรอ”


“อย่ามาแกล้งโง่!” เขาตวาด


“ไสหัวออกไปก่อนที่ผมจะเผาไล่แล้วมันจะไม่เหลืออะไรอีกเลย กลับไปได้แล้ว! ไม่ต้องมาเจอะเจอกันอีก  เราขาดกันแค่นี้!!”


ร่างสูงใหญ่ปล่อยคนตัวเล็กทิ้งแล้วหันหน้าหนีทันที สิ้นคำว่า ‘เราขาดกันแค่นี้’  น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาจากดวงตาคมกล้านั่น เขากัดริมฝีปากแน่นจนสั่น คว้าลูกบิดประตูจะเปิดออกมาด้านนอกแต่มือเล็กคว้าแขนเสื้อเชิ้ตเขาเอาไว้แน่น


“ไม่นะ อย่าไล่กัน บ้านนั่นเป็นของพี่ซีอย่าไล่เรา ขอร้อง”


วารินร่ำไห้เสียงสั่น แทบจะทรุดลงคุกเข่าต่อหน้าเขา บ้านหลังเล็กที่เขากับพี่อยู่กันมาตั้งแต่เด็กแต่ภัครจิราช่วยไปไถ่คืนมาให้หลังจากที่พ่อของภูวดลเสีย


“หึ! บ้านของพี่ซีอย่างนั้นหรือ” เขาเหยียดริมฝีปากแกล้งทวนคำพูดวารินแล้วเข้าไปกระชากแขนดันจนแผ่นหลังบางชิดติดผนัง


“บ้านนั้นมันเป็นชื่อของผมต่างหาก! ผมมีสิทธิ์ที่จะให้ใครอยู่หรือไปก็ได้ จะเผาทิ้งเสียวันนี้ก็ยังได้เลย!” วารินทรุดลงกับพื้นทันที ส่ายหน้าอย่างยอมรับไม่ได้


“ขอร้องธาร พี่ขอร้อง จะให้ทำอะไรพี่ยอมทุกอย่างขออย่างเดียวอย่าไล่กัน อย่าไล่เรา อย่าไล่พี่ซี พี่ซีไม่รู้เรื่อง” ใบหน้าเล็กเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาส่งเสียงสะอื้นร้องขอเขาอยู่แทบเท้า  ธาราธารถอยออกอย่างรังเกียจ หัวใจแหลกลาญไปกับภาพของคนตัวเล็กตรงหน้า


“กลับไปบอกพี่ชายพี่ แล้วเก็บเสื้อผ้ามาอยู่ที่บ้านกับผม คนร่าน ๆ อย่างพี่มันต้องมาอยู่กับคนอย่างผม พี่ต้องมารับใช้คุณแม่ผมไถ่โทษให้ตัวเอง ถ้าแม่ผมไม่หายพี่เองอย่าหวังว่าจะได้ออกไปเสวยสุขกับไอ้หน้าไหนทั้งนั้น!” เขาก้มลงไปบีบแขนเล็กจนขึ้นรอยแดง โน้มใบหน้าเข้าใกล้พูดตอกย้ำถึงความร่านของอีกคน วารินนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ


“แลกกับบ้านหลังนั้น เข้ามาอยู่กับผมในฐานะ ‘คนรับใช้’  เป็นที่รองมือรองตีนผมทุกอย่าง ทำได้ไหมล่ะ”  เขาเน้นเสียงทุกคำทั้งประโยค วารินกัดปากจนห้อเลือดมือน้อยกำแน่นจนสั่น เขายื่นมือเข้ามาเชยคางมนขึ้นแล้วบีบแน่น ตาดวงน้อยสั่นไหวด้วยความกลัว


“พอถึงตอนกลางคืนก็กลายเป็นอีตัวให้ผมระบายอารมณ์ หึ! ถึงจะน่ารังเกียจไปหน่อยเกรดเดียวกันกับกะหรี่ตามซ่องแต่ก็ไม่ต้องเสียเงินเสียทองซื้อ แบบนี้ดีไหมชอบไม่ใช่เหรอนอนอ้าขาให้คนเขาตอก!น่ะ”


วารินเบิกตากว้างถดตัวถอยหลัง มือเล็กผลักเขาออกด้วยความหวาดกลัว เขากระชากคอเสื้อคนตัวเล็กขึ้นแล้วลากออกไปด้านนอกเหวี่ยงโครมลงบนโซฟา


“ออกไปได้แล้ว! อย่ามาให้เห็นหน้าอีก” เขาเปิดประตูออกจนสุด ใช้สายตาไล่อีกคนทางอ้อม


...สายตาที่มีแต่ความเย็นชา ไม่หลงเหลือแล้วร่องรอยของคนเคยรักกัน...


.

.


“ทำไมต้องทำอย่างนั้น ทรายไม่จำเป็นต้อง...”


“ให้ทรายไปเถอะครับ อย่างน้อยให้ทรายได้ตอบแทนบุญคุณที่คุณภัครท่านมีกับเราสองพี่น้อง”


วารินก้มหน้าหลบสายตา พับเสื้อผ้าลงในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก ไม่กล้าที่จะมองดูหน้าพี่ชายตัวเองด้วยซ้ำ ทุกอย่างเป็นเพราะเขา เพราะตัวเขาคนเดียวภูวดลไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย เขาจะต้องปกป้องบ้านหลังนี้ไว้ให้ได้แม้ต้องแลกกับอะไรก็ตาม เพื่อพี่ซีพี่ชายที่เขารักมากที่สุด


...แม้แต่ชีวิตเขาก็ให้ได้...


“ทราย มันจำเป็นขนาดที่ทรายต้อง...” ภูวดลหมดความอดทนเขานั่งลงข้าง ๆ แล้วจับไหล่บางให้หันเขาหาตัว น้องชายเขากำลังร้องไห้ ดวงตาแดงช้ำจนบวมเป่ง


“พี่ซีอยู่คนเดียวอย่าลืมทานข้าวให้ตรงเวลานะครับ อย่าวาดรูปดึกจนเลยเวลานอน ตื่นนอนตอนเช้าพี่ซีอย่าลืมดื่มน้ำเปล่าหนึ่งแก้วเสมอ ซักผ้าเสร็จแล้วต้องเอาออกตากนะ ล้างจานคนเดียวได้ใช่ไหม ดูโทรทัศน์ตอนกลางคืนต้องปิดให้เรียบร้อย รีโมทเอาไว้เป็นที่ เวลานอนต้องห่มผ้าหนา ๆ อย่าเปิดแอร์แรงนะเดี๋ยวจะไม่สบาย พี่ซีกอดหมอนข้างแทนทรายไปนะ หมอนข้างอันใหญ่ของทรายๆยกให้พี่ซีเลย ห้ามซักนะครับเพราะมันจะมีกลิ่นของทรายเสมอพี่ซีจะได้..ฮึกก..ไม่ลืมน้องชายคนนี้”


แก้มแดงช้ำมีน้ำตาไหลพรากลงเป็นทาง ภูวดลดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้แน่น เขายังไม่เข้าใจว่าทำไมวารินต้องทำขนาดนั้น


...ทำไมต้องไป...


“ทรายจะแวะมาหาบ่อย ๆ ทราย...ทรายรักพี่ซีนะครับ”


วารินสะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่น เขารู้ภูวดลคงเหงามากถ้าเขาไม่อยู่ เขากับพี่ไม่เคยแยกจากกันนาน ๆ ภูวดลมีเขาอยู่ข้าง ๆ เสมอ เช่นกัน เขาเองก็มีภูวดลเป็นดั่งที่พักพิงอยู่เคียงข้างกันมาตลอด


...ดั่งทรายกับทะเล ไม่มีวันแยกจาก...


ปากเล็กๆพึมพำเพลงโปรดของเขาและพี่ชาย


“...คือผืนทรายที่โอบทะเลไว้จะวันใดมั่นคงเหมือนดังที่เป็น อยู่เคียงข้างเธอใจไม่ไหวเอนและยังคงชัดเจนอย่างนั้น หาดทรายยังสวยรายล้อมทะเลด้วยรักคงไว้ด้วยใจแน่นหนักไม่หวั่นยามพายุผ่าน จะมีเพียงฉันและเธอตราบนานเท่านานมีรักมีใจผสาน ดั่งทรายอยู่คู่ทะเล.....”


ภูวดลหัวใจหล่นวูบ วารินสะอื้นหนักจนร้องต่อไปไม่ได้เขาได้แต่กอดร่างเล็กๆที่ร้องไห้อย่างน่าสงสาร


“ทราย..ให้สัญญาครับว่าทรายจะกลับมา..จะกลับมาอยู่กับพี่ซี....................................................ทรายรักพี่ซีที่สุดในชีวิต”


น้ำตาไหลรินจากดวงตาแข็งแกร่งหัวใจเขายิ่งกว่าถูกฉีกแยก ประคองสองแก้มนิ่มด้วยสองมือ จ้องลึกลงในดวงตา กดจูบลงที่มุมปากสวยแช่อยู่อย่างนั้นไม่ขยับไปไหนดั่งแทนคำสัญญาว่าชีวิตนี้เขาจะมีแค่วารินคนเดียว


“พี่ซีก็รักทรายที่สุดในชีวิตเหมือนกันครับ”

.

.

Tbc.  :katai1: :katai1:
ปอลิง. ไม่มีเปลี่ยนพล็อตเน๊ะ เพราะเราแต่งนำไปไกลแล้ว *ตอนนี้คนเขียนอยู่ที่พัทยาค่ะ รถติดมากเพราะมีคอนฯ ลงให้ก่อนออกไปแจ๊ดแจ๋ อิอิ*


janek_alo

  • บุคคลทั่วไป
เอิ่บ  ดราม่ามาแล้ว  ละครช่องหลากสี
เห้ยไม่ใช้
แต่เอาจริงๆนะ
หมั่นไส้ทรายว่ะ
เอิ่บ  ความเห็นส่วนตัวเพียวๆเลย   :mew5: :mew5: :mew5: :mew5:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ไม่รู้ ยังไม่ได้อ่านทั้งหมด เจ้ามาอ่านคอมเมนท์ของคนอื่นก่อน
แต่มันอยู่ติดกันอ้ะ อ่านิดนึงตอนท้าย น้ำตาไหล ทำใจก่อนนะ
ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่เห็น อะไรทั้งนั้น ฮืออออออ

ออฟไลน์ waza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
โอ้ จบที่บทพี่ซีบอกรักทรายเมือนเดิมเป๊ะ  นี่สินะ ธารธาราเวอร์ชันใหม่  ดุเดือดเลือดพล่านจริง  ทรายไปอยู่ดูแลภัคจิรา คงไม่วายโดนทำร้ายเลือดตกยางออก กว่าจะเข้าใจกัน นางเอกอิฉันไม่ช้ำในตายก่อนรึ :katai1: :serius2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด