Older Brother.....21
“อะไรนะแม่.....จะให้กายไปเป็นครูเนี่ยนะ” ฉิบหาย เรียนจบนิติมาแต่จะให้ผมไปเรียนหนังสือมันได้ที่ไหนกันเล่า ไม่เอาหรอกแค่คิดก็ปวดหัวแล้ว
“โธ่กาย ก็สอนกฎหมายเบื้องต้นนิดๆหน่อยๆเอง ที่โรงเรียนขาดครูนะลูก อีกอย่างกายก็ว่างนี่” คุณแม่คนสวยของผมพูดบอก ท่านคิดง่ายๆแบบนี้ได้ไงกันนะ
“แม่.....แต่กายจะตบเด็กเอาป่าวๆนะ...ไม่เอาหรอก” ผมบอก ไม่ไหวๆ ยังไงก็ไม่เด็จขาด
“งั้น...กายก็ต้องไปหาคนมาสอนแทน เดี๋ยวแม่จะออกไปข้างนอกอยู่บ้านด้วยล่ะ” แล้วจะหาใครล่ะครับแม่ เฮ้อออ
“ไม่อ่ะ เดี๋ยวกายมีนัดกับไอ้เซฟ” ผมบอกก่อนจะว่างแก้วน้ำลงและเดินขึ้นห้อง ได้ยินเสียงแม่บ่นไล่หลังมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะแม่บ่นประจำอยู่แล้ว
ก๊อกๆๆ
พอทำท่าว่าจะหลับซะหน่อยดันมียินเสียงเคาะประตูห้องมากวนใจอีก แม่นะแม่ ผมก็เลยต้องลุกไปเปิด
“มีอะ........”
“สวัสดีค่ะ.....น้ากาย” เด็กผู้หญิงตัวเล็กแค่เอวยืนยิ้มกว้างอยู่หน้าประตู พร้อมกับยกมือไหว้ด้วยท่าทางนอบน้อม
“เอ่อ.....ครับ”
“ไข่มุกเข้าไปได้มั้ยค่ะ” สาบานว่านางขออนุญาต แต่ก็เข้ามาทั้งที่ผมยังไม่ได้บอกเลยสักคำว่าเข้ามาได้ ผมก็ได้แต่ยืนเกาหัวแหละครับ
“เอ่อ....ไข่มุกมากับ...?”
“มากับคุณพ่อค่ะ.....คุณพ่อมาจัดยาให้คุณยายทวด” เธอพูดบอกเสียงใส่ ในขณะที่ขึ้นไปกระโดดอยู่บนเตียงของผม ไม่ต้องสงสัยครับนางมาบ่อย
รู้มั้ย ไอ้หมอมันพาไข่มุกบ่อยมาก แถมบางครั้งก็ยังอยู่ทานข้าวด้วยผมก็เลยชอบหาโอกาสออกไปข้างนอกเพื่อหลบหน้ามัน ทั้งที่มีลูกมีครอบครัวแล้วแท้ๆยังจะมาวุ่นวายกับผมอีกไอ้พี่หมอมันคิดอะไรอยู่กันแน่ ผมล่ะไปเข้าใจเลยจริงๆ
“น้ากายคะ ไข่มุกอยากชวนน้ากายไปเที่ยวค่ะ วันนี้วันหยุดเราไปเที่ยวกันนะคะ” ไข่มุกกระโดดลงจากเตียงมานั่งข้างๆ ผมที่ตอนนี้นั่งอยู่กับพื้น
“เอ่อ...คือว่า....น้ากายมีนัดแล้วน่ะครับ”ผมบอก ไข่มุกหุบยิ้มลงทันที
“จริงหรอคะ ไข่มุกตั้งใจว่าจะมาชวนน้ากายจริงๆนะ คุณพ่อไม่พาไข่มุกไปแน่ะๆเลยอ่ะ น้ากาย” อ้าว แล้วเกี่ยวไรกับผมล่ะครับ ไข่มุกมีสีหน้าเศร้าลงจนผมรู้สึกสงสาร ร่างเล็กมองผมตาปริบๆ และมันก็ทำให้ผมใจอ่อนจนได้
“ครับๆ งั้นน้า ไปก็ได้...จิ๊....แล้วจะไปเที่ยวไหนล่ะ”
“สวนสนุกค่ะ....ไข่มุกอยากไป น่าสนุกดีเดี๋ยวเราจะไปเล่น......%$@#*&” พอผมรับปากปุ๊บ ไข่มุกก็พูดอย่างตื่นเต้นดีใจและบรรยายให้ผมฟังจนหูแทบชา เด็กอะไรช่างพูดจริงๆเลย
“คุณพ่อมาแล้ว........คุณพ่อคะ เดี๋ยวเราไปสวนสนุกกันนะคะ พี่กายไปด้วย” ไอ้พี่หมอ เดินกลับมาจากบ้านยายผมที่อยู่หางกันไปมากนัก ผมกับไข่มุกลงมานั่งเล่นหน้าบ้านพอดี
“หืม.....สวนสนุก........แล้วถามน้ากายแล้วหรอว่าอยากไปด้วยจริงๆ” ไอ้พี่หมอถาม มันเหลือบมองหน้าผมนิดๆ
“ก็ต้องอยากไปสิคะ....น้ากายรับปากแล้ว ใช่มั้ยคะน้ากาย” ไข่มุกพูดบอก เธอกระตุกมือผมเบาๆให้ผมตอบ
“เอ่อ.....ใช่ครับ” อันที่จริงกูก็ไม่อยากไปสักเท่าไหร่หรอกถ้าไม่เห็นแก่เด็ก
“เย้!!! งั้นเราไปกันเลยนะคะ ไปค่ะคุณพ่อไปค่ะน้ากาย เย้ๆ” ในขณะที่ เด็กตัวเล็กกำลังดีใจแต่หารู้ไม่ว่าผมไม่ได้สนุกด้วยเลย เฮ้ออออ
“น้ากายหิวมั้ยคะ...ไข่มุกหิวแล้วค่ะ คุณพ่อ....แวะกินข้าวก่อนนะคะ” ไข่มุกน้าว่าไม่ต้องถามน้าก็ได้ =_=^ เราอยู่บนรถครับ ตอนแรกผมกะจะนั่งเบาะหลังแต่ว่ายัยเด็กตัวดีบอกให้นั่งข้างหน้าและตัวเองก็มานั่งตักผม
“ครับ พ่อก็หิวเหมือนกัน” คนข้างๆที่กำลังขับรถบอก ไม่นานไอ้พี่หมอก็แวะร้านอาหาร
“น้ากายกินอะไรดีคะ.....ไข่มุกเอาข้าวผัดกุ้งค่ะ” ไข่มุกบอกโดยที่เธอไม่ได้ดูเมนูเลยคงจะเป็นร้านประจำ ก่อนจะถามผม
Tru...........
ในระหว่างนั้น เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของผมดังขึ้น ผมล้วงออกมาดูก็รู้ว่าเป็นไอ้เซฟ จริงสิผมยังไม่ได้โทรไปบอกมันเลยอ่ะ
“ว่าไง....” ผมกรอกเสียงลงไปหลังจากที่กดรับสาย
(กูเสร็จแล้ว....จะออกไปกินข้าวด้วย จะให้กูไปรับเลยหรือป่าว)
“เอ่อ โทษที คือกูออกมาแล้วน่ะ เอาไว้ เจอกันที่ร้านเลยก็แล้วกัน” ผมบอกกลับไป
(มึงออกไปกับใครแล้วล่ะ) เสียงจากปลายสายนิ่งเงียบ ก่อนจะถามกลับมา ผมหันไปมองคนสองคนที่ตอนนี้กำลังมองผมอย่างสนใจ ไอ้พ่อลูกคู่นี้ จิ๊!
“กับ....พี่หมอน่ะ”
(อืม...เข้าใจแล้ว) แล้วไอ้เซฟก็ตัดสายผมไปเลย =_= ขอโทษเพื่อน จริงๆกูก็อยากไปกับมึงมากกว่าล่ะนะ
“แฟนหรอคะ น้ากาย” แหมตัวแค่นี้อยากรู้อยากเห็นจริงๆแต่คงไม่เท่าคนเป็นพ่อล่ะนะ จ้องซะ
“มีแล้วครับ” ผมตอบออกไป ก็ไอ้พี่หมอจะได้เลิกยุ่งกับเราซะที ผมพูดจบ ร่างสูงยังคงจ้องหน้าไม่เลิกแถมยังทำท่ากวนๆเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มตัวเองด้วย
“หว้า ไข่มุกว่าจะจีบน้ากายซะหน่อย เสียดายจัง” =_= เด็กอะไรน่าหยิกจริงๆ
หลังจากทานข้าวเสร็จเรียบร้อย เราก็มาถึงสวนสนุกในเวลาไม่นาน ไข่มุกดูตื่นเต้นมากเมื่อเห็นเครื่องเล่นมากมาย และมีตัวการ์ตูนมาสคอตเต็มไปหมด รู้ตัวอีกทีผมเองก็ตื่นเต้นพอๆกับไข่มุกนั่นแหละ
“ดูเหมือนจะชวนมาถูกคนแฮะ” ไอ้พี่หมอพูดยิ้มๆแต่สายตามันไม่ได้มองมายังผม
“สงสารไข่มุกหรอก ถึงได้มา” ผมตอบกลับไป ก่อนจะหันไปหาเด็กตัวเล็กข้างๆ แต่ปรากฏว่าหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ “เฮ้ย! ไข่มุกหาย ไข่มุกหาย” ผมตกใจมากขอบอกเพราะจู่ๆก็ไม่เห็นแถมเด็กก็เยอะด้วย
“นี่ๆ ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น โน้น อยู่โน้น” ผมมองตามนิ้วไอ้พี่หมอที่ชี้ไป เห็นไข่มุกกำลังยืนจับมืออยู่กับมาสคอตหมีพูท่าทางสนุกเชียว
ผมสะดุ้งเมื่อมือหนาจับข้อมือผมเดินผ่านกลุ่มคนจำนวนหนึ่งไปหาไข่มุก มือหนาจากคนตัวสูงยังคงอบอุ่นเหมือนเดิมแต่ว่า....คงไม่ใช่สำหรับผมแล้ว ผมจึงดึงมือออก ร่างสูงขมวดคิ้วมองแต่ผมไม่สนใจรีบเข้าไปหาไข่มุก
“น้ากายมาถ่ายรูปกันค่ะ คุณพ่อถ่ายให้หน่อยนะคะ” ไข่มุกดึงมือผมเข้าไปใกล้ๆก่อนจะคะยั้นคะยอให้พ่อตัวเองถ่ายรู้ให้
“ค่ะๆ เอาล่ะ ยิ้มหน่อยสิคุณ” ยิ้มสิครับยิ้ม ^[+++]^ ^_^
“คุณพ่อมาถ่ายด้วยกันนะคะ มาเร็วค่ะ” ไข่มุกดึงแขนคนเป็นพ่อมาถ่ายด้วยกัน ไอ้พี่หมอมันวานให้คนอื่นถ่ายให้ ก่อนจะมายืนข้างๆผม เอ้า ยืนข้างลูกมึงสิ!
“อุ้มไข่มุกสิคุณ ผมขี้เกียจย่อตัว......ไข่มุกให้พี่กายอุ้มนะคะ” ไอ้นี่ แม่ง แล้วตัวเองทำไมไม่อุ้มเล่า ผมเหลือบมองร่างสูงด้วยหางตาก่อนจะย่อตัวลงอุ้มไข่มุกขึ้นมาเอง
“หนึ่ง.....สอง......” ตากล้องกำลังจับภาพ จู่ๆ มือหนาก็ยกขึ้นกอดไหล่ผม “สาม.....แชะ” แล้วก็ถ่าย ผมจ้องหน้าร่างสูงเขม่งแต่ ไอ้หมอนี่มันด้านครับ ขอถ่ายอีกรูป แถมรูปนี้ยังจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆจนชิดติดกันอีกด้วย(เหมือนรูปครอบครัวแปะ)
จากนั้นไข่มุกก็เริ่มยากเล่นเครื่องขึ้นมาโดยให้ผมไปเป็นเพื่อน เพราะไอ้คนเป็นพ่อนี่มันไม่ยอมเล่น โดยให้เหตุผลว่า พ่อโตแล้วไปกับพี่กายนะ(กูโตแล้วด้วย) ผมเลยต้องรับกรรมแทนเล่นโน้นเล่นนี้จนเวียนหัวไปหมด แต่ก็สนุกดี บอกตามตรงว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาสวนสนุกครับ เหอะๆ
“คุณพ่อๆ ไข่มุกเหนื่อยค่ะ คุณพ่ออุ้มหน่อยนะคะ” ไข่มุกบอกขณะที่เราสามคนกำลังเดินไปขึ้นรถกลับ จะไม่ให้เหนื่อยได้ไงก็นางทั้งวิ่งทั้งเล่นตลอดเวลาจนถึงเย็น
“ให้พี่กายอุ้มนะคะ คุณพ่อถือของอยู่” ผมหันขวับไปมองคนพูดทันที ไอ้นี่....กูก็เหนื่อยโว้ย
“น้ากาย....” *0*
“ครับๆ......งั้นนายถือสะพายด้วย” เล่นมองกันด้วยสายตาเว้าวอนแบบนี้ อุ้มก็อุ้มสิครับ ผมก็เลยใช้ให้ร่างสูงสะพายกระเป๋าให้ เพราะผมจะได้อุ้มไข่มุกถนัด
“คล้องมาสิ ผมไม่มีมือนะ” ไอ้พี่หมอบอก มันถือของเต็มมือจริงๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นตุ๊กตาแล้วก็ของเล่นที่ไข่มุกได้มาจากซุ้มของเล่นนั่นแหละ
ผมถอนหายใจเบาๆก่อนจะเอากระเป๋าสะพายใบไม่ใหญ่นักคล้องคอคนตัวสูงที่โค้งลงมา มันดูพะรุงพะรังมากจะผมเกือบหลุดขำ จากนั้นผมก็ก้มลงอุ้มไข่มุก ร่างเล็กในอ้อมแขนผมซบหน้าลงกับไหล่ทันทีด้วยความเหนื่อยล้า
“เดี๋ยวจะไปส่งไข่มุกก่อนแล้วกัน”ร่างสูงบอกขณะอยู่บนรถ ผมก้มลงมองหน้าไข่มุกก่อนที่ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัว
“ไข่มุกอายุเท่าไหร่” ผมขมวดคิ้วถาม ร่างสูงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
“เจ็ดขวบ” ไอ้พี่หมอตอบ สายตาคมๆจับจ้องไปยังถนนเบื้องหน้า เจ็ดขวบ ผมไปอยู่เมืองนอกแค่สามปีนี่ นี้มันอะไรกัน แสดงว่ามันมีไข่มุกก่อนที่จะรู้จักกับผมซะอีก
ผมมองคนข้างๆที่กำลังขับรถ อย่างไม่เข้าใจ ความคิดในหัวตีกันยุ้งเหยิงไปหมดและความโกรธก็เข้ามาแทนที่จนต้องกำหมัดแน่น ผมโง่เองหรือเปล่านะที่ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับตัวมันเลยสักนิด ทั้งที่คิดว่าเราเคยสนิทกันมากแล้วแท้ๆ
“คุณช่วยอุ้มไข่มุกขึ้นไปนอนหน่อยนะ ผมจะเอาของไปเก็บ” ไอ้พี่หมอบอกก่อนจะลงจากรถไปและเอาของจากท้ายรถเดินเข้าบ้าน หลังใหญ่กว่าบ้านผมราวๆสามเท่าได้ จะใหญ่ไปไหนวะ
ผมไม่พูดบอกอะไรเดินอุ้มไข่มุกที่นอนหลับอยู่บนตักลงจากรถและเดินตามไปเช่นกัน ภายในบ้านกว้างขวางมาก มีคนรับใช้สองคนกำลังทำงานบ้านอยู่หันมามองแต่ดูเหมือนเค้าไม่ได้คิดจะช่วยผมล่ะนะ
“ตายจริง.....ไปไหนกันมาคะ เหนื่อยจนหลับเลยหรอเนี่ย” ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา ดูแล้วอายุคงเท่าๆกับแม่ผมได้ และจากการแต่งตัวที่ดูดีแล้วคงไม่ใช่คนใช้แน่นอน
“เอ่อ.....สวัสดีครับ ห้องน้องอยู่ไหนหรอครับ” ผมทักทายก่อนจะถาม เพราะตอนนี้เริ่มหนักแล้วเหมือนกัน
“อ่อ.....ข้างบนค่ะ....ห้องที่สองทางขวามือ”
“ครับ” ผมตอบรับและรีบเดินขึ้นมาทันที ผมจะได้พาไข่มุกไปนอนและรีบกลับเพราะผมคงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะอยู่ที่นี่นานๆ
ผมเดินขึ้นมาด้านบนของบ้าน แหม มันจะสร้างบันไดให้สูงไปไหนเนี่ย แล้วนี่ไอ้พี่หมอหายไปไหนวะ
ผมเปิดประตูและใช้หัวไหล่ผลักเข้ามาในห้อง ที่ว่าน่าจะใช้ห้องไข่มุก และค่อยๆวางร่างเล็กลงบนเตียงกว้างอย่างเบามือ มองสำรวจใบหน้าใสและคิดว่า ทำไมไม่มีเค้าโครงที่เหมือนไอ้พี่หมอเลยวะ
ผมละสายตาจากร่างเล็กบนเตียงไปมองสำรวจห้องตรงโต๊ะเขียนหนังสือเล็กๆมากรอบรูปตั้งเรียงอยู่ ด้วยความอยากรู้ผมก็เลยเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
“พี่รักษ์ กลับมา........อ้าว.......” ผมหยุดชะงักเมื่อมีเสียงผู้หญิงดังมาจากประตูห้อง หญิงสาวร่างสูงพอๆกับผมยืนขมวดคิ้วมองมาอย่างสงสัย เธอดูสวยไร้ที่ติมาก ตาเรียวรับกับจมูกโด่สวยปากอิ่มสีสดดูดีจนหน้าอิจฉาและที่สำคัญ หน้าเหมือนไข่มุกไม่มีผิด แม่ไข่มุกหรอ
“เอ่อ ขอโทษครับ.....คือผม.....” ผมเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อคิดได้ว่าคนตรงหน้าเป็นใคร และคิดโกรธตัวเองอีกว่าไม่น่ามาที่นี่เลยจริงๆ
“อ่อ....เอ่อเพื่อนพี่รักษ์หรอคะ ขอบคุณค่ะที่ดูแลไข่มุก........เหนื่อยจนหลับไปเลยหรอเนี่ย” เธอยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตรก่อนจะเดินไปหาไข่มุกและนั่งลงบนเตียงก่อนจะก้มลงหอมแก้มร่างเล็กอย่างหวงแหง ผมมองภาพนั้นแล้วรู้สึกเจ็บแปลกๆ ในใจวูบไหว ที่ตัวเองเข้ามายืนอยู่ในฉากนี้
“รัน.......มาตั้งแต่เมื่อไหร่” เสียงเข้มดังมาจากประตูพร้อมๆกับร่างสูงที่เดินเข้ามา จากนั้นผมก็คิดได้ว่าตัวเองเป็นคนนอกในทันที ผมเลยจะก้าวเท้าเดินออกไป “เดี๋ยว.....กาย” แต่ร่างสูงกลับคว้าแขนผมไว้ก่อน ผมมองไอ้พี่หมออย่างไม่เข้าใจ
“รันเพิ่งลงเครื่องเมื่อกี้นี้เองค่ะ รันของพักผ่อนกับไข่มุกก่อนจะคะ” เธอพูดบอกและไม่มีอาการหึงหวงหรือสงสัยเลยสักนิด ร่างสูงพยักหน้าตอบก่อนจะดึงแขนผมออกมา
“ปล่อยผมนะ นี่นายจะทำอะไร บ้าไปแล้วหรอ” ผมถามเสียงดังเมื่อไอ้พี่หมอดึงแขนผมจนแทบจะเรียกได้ว่าลาก ก่อนจะเปิดประตูเข้ามาในห้องที่อยู่ใกล้ๆกัน
“กาย!!! เมื่อไหร่จะเลิกมองผมด้วยสายตาแบบนั้น คุณคิดว่าผมเป็นคนยังไง” คนตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังจนผมพูดไม่ออก
Tru................ Tru.............
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นและผมก็รู้ดีว่ามันเป็นของผมเองแต่ไม่รู้ว่ามันมาอยู่บนเตียงในห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งกระเป๋าและโทรศัพท์
“นี่!!! เอาของผมคืนมานะ” ผมบอกและพยายามแย่งโทรศัพท์ในมือร่างสูงที่มันเพิ่งจะเดินผมไปหยิบมาตัดหน้า
“ไม่!!!......”
“นี่ แอบดูโทรศัพท์ผมหรอ นิสัยเสีย” ผมว่าและดึงเสื้อร่างสูงเพื่อจะแย่งโทรศัพท์คืนมา แต่ว่ามันกินอะไรเข้าไปวะ ทำไมสูงเหมือนเปรตอย่างนี้
“เปล่า......จะดูได้ไงผมไม่รู้รหัส”
“เอ๊ะ!!! แล้วรู้ได้ไงว่าผมตั้งรหัสไว้ แอบดูจริงๆด้วย นายนี่มัน....เอาคืนมาเลยนะ” ผมทั้งทุบทั้งตีร่างสูงเพื่อให้มันคืนโทรศัพท์มาแต่ว่ามันกลับรวบมือผมไว้ทั้งสองข้างด้วยมือหนาเพียงข้างเดียว
“ก็ผมอยากรู้ว่าคุณมาแฟนแล้วจริงๆหรือพูดเล่นกันแน่” ผมโดนร่างสูงผลักให้นั่งลงบนเตียงกว้าง สายตาคมๆจ้องมองผมเพื่อรอบคำตอบ
“จริง!”
“โกหก!” เอ้า พอผมพูดบอกร่างสูงก็สวนกลับทันที แล้วจะถามทำไมกันเล่า
“ไม่เชื่อก็ตามใจ” ผมว่าอย่างอ่อนใจจะพูดบอก จริงๆก็ไม่มีหรอกคำว่าแฟนเป็นแค่เกราะป้องกันเท่านั้น แต่ดูเหมือนจะใช้กับคนๆนี้ไม่ได้
“แค่มองตาก็รู้แล้ว ว่า.....โกหก” ร่างสูงที่ยืนอยู่ก้มลงมาพูดคำว่าโกหกใส่หน้าจนผมต้องเอนตัวหนีจนเกือบหายหลัง
“เลิกยุ้งกับผมซะที ตัวเองก็มีครอบครัวแล้ว ปล่อยเลย ไม่อายคนในบ้านบ้างหรือไง”
“กาย!!! ฟังนะจะได้เข้าใจ....” ร่างสูงนั่งลงข้างๆผมก่อนจะรวบตัวผมเข้าหาตัวเองด้วยมือข้างที่จับข้อมือผมไว้ในท่ากอด “ไข่มุกน่ะ ไม่ใช่ลูกผม.....ไข่มุกคือลูกของรันน้องสาวผมเอง”
ไอ้พี่หมอบอกทำให้ผมที่กำลังดิ้นหาทางหนีหยุดนิ่งมองหน้าร่างสูงอย่างไม่เข้าใจ ไอ้พี่หมอทำหน้าจริงจังมากมายจนผมยอมผ่อนแรงขืนของตัวเองลงและหน้าหนาก็คลายออกเช่นกัน
“ไข่มุกเป็นลูกของรัน น้องสาวแท้ๆของฉันที่เกิดมาจากความไม่ตั้งใจเมื่อเจ็ดปีก่อน แต่ตอนนั้นไม่มีใครรู้เพราะเธออยู่ต่างประเทศ มารู้อีกทีก็ตอนที่ไข่มุกโตจนเข้าโรงเรียนแล้วล่ะ” ผมฟังและคิดตาม
“ตอนแรกพ่อแม่ก็ไม่ยอมรับ เพราะเด็กไม่มีพ่อ ผมก็เลยยื่นมือเข้าไปช่วยน้องสาว และก็รับผิดชอบไข่มุกเอง แม่กับพ่อถึงได้ยอมรับไข่มุกและให้เข้ามาอยู่ในบ้าน แต่ว่ารันจะต้องอยู่ต่างประเทศ เธอจะกลับมาเป็นครั้งคราวเท่านั้น”
“ไข่มุก....ไม่มีพ่อหรอ” ผมถามเพราะรู้สึกสงสารไข่มุกขึ้นมา โดยไม่ได้สนใจเรื่องที่ว่าไข่มุกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว
“อืม.....ผมก็เลยให้ไข่มุกเรียกว่าพ่อไง....แล้วก็.....”
“พอๆ.......แม่ง ผู้ชายนี่มันไม่มีความรับผิดชอบกันจริงๆเลย เหี้ย จริงๆ” ผมกำหมัดแน่นและตุบลงบนเตียง ผมแอนตี้เรื่องแบบนี้มากเลยขอบอก เพราะอย่างนี้แหละผมถึงได้รักลีวายส์แล้วก็ตามใจมากกว่าไอ้ธารซะอีก
ป๊อก!
“นี่ๆ คุณ ตัวเองก็เป็นผู้ชายไม่ใช่หรือไง ผมก็ด้วยนะ” ร่างสูงดีดหน้าผากผมทีนึ่งก่อนจะพูดบอกด้วยน้ำเสียงขำๆ
“ไม่นับเว้ย!!!....นับแต่ไอ้พวกเลวๆเท่านั้นแหละ”
“งั้น ผมก็ผ่าน” ผมมองร่างสูงด้วยหางตาก่อนจะส่ายหน้าให้ ไอ้พี่หมอยิ้มมุมปากและกลับมารวบตัวผมอีกครั้ง
“เน้!!....ปล่อยเลย ผมจะกลับล่ะ ค่ำแล้วเดี๋ยวต้องไปร้านอีก” ผมบอก พยายามดิ้นสุดแรงแต่ก็ไม่หลุดจากอ้อมแขนแกร่งที่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งกระชับแน่นขึ้น
“ที่นี้เข้าใจพี่แล้วนะ” มีเปลี่ยนสรรพนามด้วย ไม่ๆ กูไม่ใจอ่อนเว้ย
“เข้าใจอะไร ผมคิดอยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ อีโธ่ ปล่อย ปล่อยเลย” ผมบอก หืม ไอ้พี่หมอมันทำหน้างอคอตกเหมือนเด็กด้วยล่ะแต่ว่า แม่ง มันเอาแรงมาจากไหนนักวะ กูถึงดิ้นไม่หลุด
“เข้าใจแล้ว ทำไมไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมล่ะ ผมไม่มีเวลาเริ่มต้นใหม่หรอกนะคุณ ผมมีงานต้องทำ จะให้ผมคอยมาตามง้อคุณทุกวันมันได้ที่ไหน เนี่ยวันนี้ผมลางานนะรู้มั้ย หมอนะหมอไม่ใช่เด็กพาร์ทไทม์” ผมอ้าปากค้าง นึกคำพูดออกมาเถียงไม่ได้ กับบทเทศนาของมัน
“ละ.....แล้ว....ใครใช้ให้มาง้อเล่า ไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย”
“ก็เป็นซะอย่างเนี่ย....เฮ้ออออ” แล้วไอ้พี่หมอก็ทำเนียนพาร่างผมเอนหลังลงนอนบนเตียงไปกันมัน
“ปล่อยเลย ผมจะไปร้านแล้ว ป่านนี้ไอ้เซฟรอล่ะ”ผมบอก และก็ไม่ลืมออกแรงผลักคนที่กำลังกอดผมอยู่แถมมันยังซุกหน้าเข้ามาหาอีก
“ไอ้เซฟ! ไอ้เซฟ! ไอ้เซฟ! ทำไม....ตัวไม่ห่างกันเลยนะ เป็นอะไรกัน” ร่างสูงผงกหัวขึ้น ถามเสียงเข้ม
“เป็นเพื่อน ทำไมก็สนิทกันน่ะ” ผมตอบแบบส่งๆ
“หึ! เพื่อนแต่ตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋เนี่ยนะ ได้ข่าวว่าไปเที่ยวทะเลด้วยกันนี่ ดีเนอะ” มันรู้ได้ไงวะ เนี่ยผมตั้งใจหลบหน้ามันแล้วนะ
“รู้ได้ไง......ไอ้ธารบอกหรอ”
“เปล่า แม่บอก.....ว่าจะตามไปแล้ว แต่งานมันค้ำคอ” แม่ผมเอง ดีล่ะที่มันไม่ไป ถ้าไปคงวุ่นวายได้อีก แค่ไอ้ธารกับไอ้แมนก็แรงพอล่ะ
“พี่กาย........คุณพ่อ” พอได้ยินเสียงนี้ ไอ้ผมก็คิดว่ามันจะปล่อยแต่เปล่าเลยครับ มันก็ยังกอดผมไว้เหมือนเดิม ไม่ได้อายไข่มุกที่กำลังปีนขึ้นมาบนเตียงเลยสักนิด
“คร้าบบ ไหนๆ เจอแม่หรือยัง” ผมก็เห็นมันอ่อนโยนแต่กับเด็กก็ตอนที่คุยกับไข่มุกเนี่ยแหละ อ่อไม่ๆ ตอนคุยกับลีวายส์ด้วย
“เจอแล้วค่ะ น้ากายจะนอนนี่หรอค่ะ นอนกับคุณพ่อหรอคะ” ไข่มุกถามอย่างสงสัย แต่ดูท่าทางเธอจะตื่นเต้นมากกว่า
“ใช่ค่ะ น้ากายบอกว่าจะนอนนี่ค่ะ” เหี้ย พ่อมันบอกครับ ก่อนจะยักคิ้วให้ผม
“จริงหรอคะ ดีจังเลย ไข่มุกก็อยากให้น้ากายนอนที่นี่เหมือนกัน” เอากับเค้าสิ ถ้ากูนอนก็ไม่เหลือล่ะ พ่อมันทำตากรุ้มกริ่มซะขนาดนั้น
“คือ น้ากายมีงานต้องทำครับ” ร่างเล็กสีหน้าอ่อนลงทันที เอ้าทำผมใจวูบอีกแล้ว
“นี่ คุณทำลูกผมเสียใจนะ ดูสิ โอ๋ๆ ไข่มุกของพ่อ” เอากับมัน ผลักผมออกแล้วก็ไปกอดลูกตัวเองไว้ แอคติ้ง สุดๆ
“ก็ได้ครับ” พอเห็นสีหน้าผิดหวังของไข่มุกผมก็ใจอ่อนอีกแล้ว ลุกขึ้นมานั่งและบอกออกไป
“เย้ๆ น้ากายนอนนี่นะค่ะ จะได้เล่นกับไข่มุก” ได้ข่าวว่านางเล่นมาทั้งวันแล้วนะ ผมก็ได้แต่ยิ้มบางๆให้ไข่มุกที่ลุกจากตักคนเป็นพ่อมานั่งตักผมแทน
“หึๆ.....” แหมพ่อมันก็ยิ้มใช่ย่อยแถม ยังทำเนียนมากอดผมกับไข่มุกอีกด้วย
“คืนนี้ไข่มุกจะนอนกับคุณพ่อด้วยค่ะ” พอลูกพูดจบพ่อมันก็หายหลังกางแขนบนที่นอนเหมือนโดนน็อคเลยที่เดี๋ยว เหอะๆ
“อ่า คุณพ่อสลบไปแล้ว คึคึ”
<<<<<<<TBC>>>>>>>
ดูเหมือนคู่นี้จะพูดจากันเพราะสุด แต่พี่หมอจะพูดเพราะกับกายน่ะนะ เพราะกับเซฟกับพี่ธารก็มีมึงกู
ก็พี่หมอคิดว่าคำว่ามึงกูไม่เหมาะกับหน้าสวยๆของกายค่ะ ส่วนกายที่ไม่พูดมึงกูเพราะให้เกียรติกับความเป็นหมอค่ะ
ส่วนเกียรติความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องไม่มี 5555 #เราเพ้อ
ตอนนี้บรรยายได้แข็งมากอ่ะ T^T ขอบคุณกำลังใจทุกๆข้อความค่ะ เราจะ...ลงเรื่อยๆ ค่ะ
ส่วนคู่เซฟคือใครลองลุ้นกันดู
