Older Brother พี่ชายถึงร้ายก็จะรัก by Mirror ตอนพิเศษ แมน&โอ๊ต(20/06/15)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Older Brother พี่ชายถึงร้ายก็จะรัก by Mirror ตอนพิเศษ แมน&โอ๊ต(20/06/15)  (อ่าน 167747 ครั้ง)

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
:pig4: เอาแล้วไงๆๆ...ความซวยมาเยือนลีวายส์แล้ว ไอ้พี่ธารรรรรรรรร :angry2: ขอเตือนไว้ก่อนนะ "ห้ามทำอะไรลีวายส์เด็ดขาด!!!
ถ้าน้องโดนเหมือนตอนก่อนหน้านี้ เตรียมโดนรุมแน่ๆ :z6:

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
อีธารใจเย็น. น้องยังเด็กเรื่องแบบนี้ต้องค่อยๆสอน 555555555
ส่วนเซฟกับกาย นี่เข้าตารา เพื่อนรักรักเพื่อน
เสียใจด้วยนะเซฟ กายมีพี่หมอ
งานนี้ซดน้ำแห้วปลอบใจ

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
เย้ ตามอ่านทันแล้ว หายไปซะหลายตอนแบบติดคุกกี้รันมากกกกกอะคะ
ได้อ่านรวดแต่ละคู่ยังไม่ค่อยแฮปปี้เลยอะ ยิ่งคู่พี่หมอกะน้องกาย ท่าทางน้องยังไม่ยอมรับฟังนะ
แล้วยังเพิ่มน้องเซฟเข้ามาอีก สงสารน้องเซฟอะ เพราะคิดว่ายังไงน้องกายก็คงให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนแหละ
คู่น้องแมนกะน้องโอ๊ตก็ไม่รู้จะมาม่าเมื่อไหร่ ใกล้ถึงวันวิวาห์แล้วด้วย
ฮาตรงแค่หาไม่เจอถึงกะพังห้องแล้วพอน้องโอ๊ตมาบอกว่ามีแมลงสาบอะ แก้ตัวไปได้ เสียลุคเสี่ยแมนอะ
แล้วคู่พี่ธารกะน้องลีวายส์ก็มีเรื่องให้ทะเลาะ งอนกันตลอด จิ๊ดเลยตอนพี่ธารตบน้อง โกรธพี่ธารเลยอะ
แต่น้องลีวายส์ให้อภัยพี่ธารง่ายจัง น่าให้พี่ธารสำนึกผิดเยอะ ๆก่อนนะ
ยิ่งตอนนี้น้องลีวายส์ได้เจอพี่ปอนด์เพื่อนเก่า คุยกันใกล้ชิดเดี๋ยวพี่ธารได้ออกฤทธิ์อีกแน่
คราวนี้พี่ธารอาจตบะแตกจริง ๆ ก็ได้นะน้องลีวายส์ อิอิ
รอติดตาม และบวก บวก เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนต่อไปค๊า   :pig4: :L2:

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....19
 
“ลีวายส์!!!!” ผมดึงมือร่างเล็กออกจากมือของเด็กอีกคนที่มันกำลังนั่งหัวเราะคิกคักคุยกัน หลังจากที่ผมเห็นว่ามัน ไม่......ไม่อะไรวะ!   
 
ลีวายส์มองผมแบบงงๆเช่นเดียวกับไอ้หัวทองนั่น
 
“พี่ธาร ตื่นนานยังฮะ.....”
 
“สวัสดีครับ พี่...ธาร” หื่ม? ไอ้เด็กหัวทองนั่นยกมือไหว้ผม เอิ่ป มันรู้จักผมด้วยว่ะ ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะมองของในมือลีวายส์
 
“นี่อะไร ได้มาจากไหน” ผมถาม มันสร้อยอะไรสักอย่างที่ทำจากเปลือกหอย
 
“ก็นี่ ‘พี่ปอนด์’ เอามาให้ลีวายส์ฮะ....จริงสิ พี่ธารจำพี่ปอนด์ได้มั้ยฮะ พี่ปอนด์โตแล้ว สูงกว่าลีวายส์ตั้งเยอะเลย” ไอ้เด็กปอนด์ที่เจอกันตอนผมพาลีวายส์มันครั้งแรกน่ะนะ
 
ผมมองไอ้ เอ่อ.....ไอ้เด็กปอนด์ตั้งแต่หัวจรดเท้า หน้าฝรั่งกับผิวสีซีดผมสีทอง ตากลมสีฟ้าตรงแก้มมีกละเล็กน้อยแต่ก็จ่างๆไม่ได้ดูหน้าเกลียด มันสูงกว่าลีวายส์อย่างที่ลีวายส์บอกนั่นแหละโดยรวมถือว่าดูดี แต่....
 
“ไป กินข้าวได้แล้ว กูหิวแล้ว....” บางทีผมก็ไม่ค่อยชอบเด็กฝรั่งสักเท่าไหร่
 
“พี่ธารไปก่อนสิฮะ ลีวายส์กินขนมปังแล้วฮะ ลีวายส์อยากคุยกับพี่ปอนด์ก่อน” ลีวายส์บอก
 
“ไม่ได้....!!! เข้าไปข้างใน” ผมดึงมือมันให้ลุกตาม ก่อนจะลากเข้ามา เล่นเอาไอ้เด็กปอนด์นั่นหน้ามึนเลยทีเดียว
 
“พี่ธารอ่ะ คุยนิดเดียวเอง......นั่นไงพี่ธารไปกินกับพี่แมนสิฮะ พี่แมนนั่งทานข้าวอยู่” ลีวายส์บอก เมื่อเห็นไอ้แมนนั่งกินข้าวอยู่กับคุณโอ๊ต
 
“มาเลย มากินด้วยกัน” ผมบอกและดึงมือมันมานั่ง คุณโอ๊ตมองลีวายส์เล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
 
“ไง ได้มาเที่ยวสนุกล่ะสิเรา” ไอ้แมนบอกกับลีวายส์ที่กำลังมองคุณโอ๊ตด้วยความสงสัย
 
“คัยหรอฮะ” ลีวายส์ถามเพราะเมื่อวานคุณโอ๊ตอยู่แต่ในห้อง ไอ้แมนมองผมนิดๆ ก่อนจะเหลือบมองคนข้างๆมันที่ไม่ได้มีท่าทีจะสนใจอะไรเลย
 
“เมียคะ.........โอ๊ยๆ เจ็บๆๆๆๆ” ไอ้แมนโดนหยิกสีข้างเข้าให้ ผมว่ามันคงเจ็บจริงๆนั่นแหละดูจากสีหน้าแล้ว แปลใจจริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นไอ้แมนตบคว่ำไปแล้วล่ะ
 
“ปากหมานะมึง” คุณโอ๊ตบอกก่อนจะดื่มน้ำและลุกออกไป
 
“หึ! เสือในตัวมึงหายไปไหนแล้ววะ” ผมถาม ตักกุ้งในถ้วยข้าวต้มให้ลีวายส์ อันนี้มันชอบ
 
“ไม่ได้หาย มันจำศิลเว้ย!!!!” ไอ้แมนบอก ก่อนจะลุกตามเมีย?มันไป
 
 
“ไปอาบน้ำไป ยังจะนอนอีก.....” ผมดึงแขนลีวายส์ให้ลุกขึ้นจากเตียง หลังจากทานข้าวเสร็จ ผมไล่ให้มันมาอาบน้ำ
 
“อ่า....ขี้เกียจ! เราไปเล่นน้ำกันนะฮะ นะๆๆๆ” ร่างเล็กบอก ลีวายส์ลุกขึ้นมากอดคอผมไว้
 
“เมื่อวานก็เล่นจนตัวเกือบจะเปื่อย วันนี้ยังจะเล่นอีกหรือไง หื่ม?  จุ๊บ!!! ” ผมจับปลายคางร่างเล็ก ก่อนจะบีบเบาๆจนปากสีสดจู๋ เลยจุ๊บเข้าให้ทีหนึ่ง
 
“เล่นดิฮะ นานๆมาที ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้มาอีก นะๆๆ แต่ว่า.....ขอไปเล่นน้ำทะเลนะฮะ”
 
“ไม่!!! ถ้าไปเล่นในทะเล ดำแน่....เล่นในสระนั่นแหละ” ผมบอก ร้อนๆแบบนี้แดดจ้ามากโดนผิวเนียนๆเข้าคงแสบน่าดู และรับรองว่าต้องเปลี่ยนสีแน่ๆ
 
“พี่ธารอ่ะ ใส่เสื้อแขนยาวก็ได้นะๆๆ....จุ๊บ!!! นะๆ ลีวายส์อยากเล่น ฟอด!!! นะๆ” เออ ก็อยากจะให้มันอ้อนนานๆแหละแต่ว่า..... =,.= ทั้งหอมทั้งจูบจุ๊บขนาดนี้ ก็ยอมๆไปก็แล้วกัน
 
“โอ้...ลีวายส์จะไปไหนครับ แต่งตัวซะ น่ารักเชียว” ไอ้เหี้ยแมน มือไวมันดึงเอวลีวายส์ลงไปนั่งตักตอนที่ลีวายส์เดินผ่าน (คิ้วกระตุกเล็กน้อย)
 
“ไปเล่นน้ำทะเลฮะ ไปหลายคนสนุกดี พี่กายพี่เซฟด้วย พี่แมนไปด้วยมั้ยฮะ” ผมจ้องมือไอ้แมน ที่กำลังกอดเอวลีวายส์เขม่ง ตอนแรกมันก็ยักคิ้วกวนตีนให้ แต่พอผมจ้องนานๆเข้ามันก็ละมือออกและยักไหล่กลับมา ไอ้นี่แม่ง
 
“ไปดิ มาทั้งทีไม่เล่นน้ำก็มาไม่ถึงใช่มั้ย.....” น่านๆ ยังไม่เลิก มันยังจะยกมือขึ้นบีบจมูกลีวายส์ด้วย
 
“แอมๆ ..........เพื่อนแมนครับ....กินปลาตีนมั้ยครับ” ผมพูดเสียงเรียบ จนไอ้แมนต้องยกมือขึ้นสองข้างทำท่ายอมแพ้
 
ปัง!
 
“อุ๊ย!!! ....เออ.....โอ๊ต!!” นั่นไง พอเมีย?มา ปุ๊บรีบผลักลีวายส์ลงจากตักปั๊บ ถ้ามันล้มนี่กูจะถีบมึงเลยนะเพื่อนรัก และแล้วไอ้แมนก็เดินตามเมีย?มันไปอย่างรวดเร็ว
 
“ไปฮะพี่ธาร ไปเล่นน้ำกัน ไปฮะพี่กายพี่เซฟ” จากนั้นเราทั้งหมดก็พากันออกมาเล่นน้ำตรงชายหาด ขอบอกว่าแดดจ้ามา สิบโมงกว่าๆคิดดูสิแดดดีแค่ไหน ไอ้กายนี่ครีมกันแดดหมดไปขวดนึ่งล่ะ
 
“ชอบจริงๆกับกางเกงแบบนี้ คราวหน้ามึงแก้ผ้าก็ได้” ผมพูดเหน็บลีวายส์ ก่อนจะบีบก้นมันแรงๆเต็มฝ่ามือ มันใส่เสื้อแขนยาวจริงแต่ว่า ใส่กับอันเดอร์แวร์นี่สิ ไอ้แมนถึงได้ออกลายมือไว
 
“อ๊ะ!!! พี่ธารอ่ะ” ร่างเล็กทุบแขนผมด้วยกำหมัด ก่อนจะวิ่งลงน้ำไปกับไอ้กายไอ้เซฟ
 
ส่วนผมกำลังคิดว่าจะขับเจ็ทสกีเล่นแถวนี้กับไอ้แมน แต่ไม่รู้มันหายหัวไปไหน เลยต้องนอนไปก่อน ไม่นานไอ้แมนก็เดินกลับมา ท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงน่าดู
 
“เป็นเหี้ยไรวะ” ผมถามเมื่อมันนั่งลงข้างๆผม ก่อนจะยกขวดน้ำขึ้นดื่ม มันไม่ตอบแต่พูดงึมงัม...*&^%$#@! อะไรไม่รู้อยู่คนเดียว ท่าทางจะอาการหนัก
 
ไม่นานผมก็ชวนมันมาขับเจ็ทสกี ดีกว่านั่งงึมงำบ้าบอ ผมขับเจ็ทสกีออกมาไม่ไกลนัก เพราะไม่อยากให้เด็กๆ(รวมไอ้กายด้วยไง)ออกห่างไปจากสายตา เล่นไปพักใหญ่ผมก็หันไปเห็นความผิดปกติ เหมือนจะมีใครเพิ่มเข้ามาอีกคนผมเลยกลับไปดูปรากฏว่า ไอ้เด็กปอนด์มันมาเล่นอยู่ด้วย  ผมเลยขับเข้าไปใกล้ๆ แย่งบอลใกล้กันเกินไปนะกูว่า =_=^
 
“ลีวายส์ อยากขี่มั้ย” ผมถาม ร่างเล็กรีบว่ายน้ำมาหาทันที หึๆ
 
“ขี่ๆ ลีวายส์ขับได้มั้ยฮะ” ดูมันจะตื่นเต้นนิดๆ ผมดึงมือลีวายส์ขึ้นมานั่งคร่อมบนเจ็ทสกีด้านหน้าผม
 
หน้าและหูลีวายส์เริ่มแดงเพราะฤทธิ์แดด ผมสอนมันขับแป๊บเดียวก็เป็นจากนั้นมันก็สนุกกับการเล่นเจ็ทสกีกับผมมากกว่าเล่นบอลในทะเลกับ......... หึ!
 
 
“พี่ธารรับลีวายส์ด้วยฮะ” ลีวายส์บอก เมื่อผมลงจากเจ็ทสกี เราเลิกเล่นแล้วครับ เพราะแดดร้อนมากเกินไป
 
“มา.....” ผมหันหลังให้มันจากนั้นร่างเล็กก็กระโดดขึ้นหลังผมและกอดคอไว้แน่นก่อนจะเกี่ยวขากับเอวผมกันร่วง
 
“ลีวายส์หิวแล้วอ่ะ พี่ธารหิวยังฮะ” จะไม่ให้หิวได้ไงออกมาเล่นตั้งกี่ชั่วโมงยันเที่ยงแล้วเนี่ย เพิ่งจะเลิกกัน คนอื่นๆหายหัวกลับไปกินข้าวแล้วมั้ง
 
“หิวมาก หิวจะกินมึงได้ทั้งตัวเลยเนี่ย งับ!” ผมดึงมือร่างเล็กที่กอดคอผมอยู่มางับเข้าให้ ร่างเล็กหัวเราะคิคิ ก่อนจะ งับต้นคอผมกลับ =,.=
 
กลับมาถึงห้องพักผมก็ไห้ลีวายส์เข้าไปอาบน้ำก่อนเพราะ......แค่ผมจะไปตามไอ้แมนนา...เหอะๆ เห็นไอ้กายบอกว่ายังไม่กลับมาเลย
 
ผมออกมาตามไอ้แมนและก็เจอ เจอสาวสวยครับ ดูเหมือนจะมากันเป็นกลุ่มใส่บิกินี่ด้วย ร่างเพรียวๆทั้งนั่น แต่ก็ไม่มีอะไร มองผ่านๆและก็เดินเลยไป =_=^
 
“ไอ้แมนอ่ะ” ไอ้กายถามเมื่อผมเดินกลับมายังห้องพักคนเดียว
 
“เดี๋ยวตามมา มันเคลียกับเมีย? อยู่  ลีวายส์ล่ะ” ผมใช้เท้าแกล้งเขี่ยๆไอ้เซฟที่กำลังนอนหนุนตักไอ้กายอย่างสบายใจ 
 
“ออกไปกับน้องปอนด์อ่อ น้องเค้าบอกว่าแม่ให้ไปทานข้าวด้วยกัน”
 
“เหี้ย! แล้วทำไมมึงไม่ตามมันไปด้วย ไปอย่างไว.......ไอ้เซฟ! ตื่น ไปกินข้าว” ผมบอกก่อนจะเดินเข้าห้องไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ไอ้เด็กปอนด์นี่มันชอบเข้าใกล้ลีวายส์จริงๆ
 
“อ้าว ไอ้แมนไปกินข้าว” ผมอาบน้ำแต่ตัวเสร็จก็เดินออกมาเจอไอ้แมนพอดี
 
“ไม่กิน!” เอ้า ไอ้นี่ มันขึ้นเสียงใส่ผมและเดินไปเข้าห้องปิดประตูเสียงดัง ผมมองอีกคนที่เดินตามหลังมันมาด้วยสีหน้านิ่งเฉย
 
“ไปกินครับ” ผมบอกคุณโอ๊ต    เขาปรายตาไปมองบานประตูห้องที่ไอ้แมนเพิ่งเดินเข้าไป ก่อนจะเดินตามผมมา เออ ดีเนอะ แม่ง ผมคงไม่เข้าใจพวกมันจริงๆ คนหนึ่งก็บ้าคนหนึ่งก็เย็นชา เข้ากันสุดๆ =_=
 
“อ้าว ทำไมไม่ไปทานข้าวกินก่อนล่ะ”
 
“รอมึงนั่นแหละ.....ช้ามาก” เอาก็เสือกรอทำไม ผมมองหาลีวายส์ก็เห็นว่านั่งคุยอยู่กับไอ้เด็กปอนด์..อีกแล้ว ผมเลยเดินไปหา “ไปกินข้าว! ไหนมึงบอกว่าหิวไง มานั่งเล่นอยู่ได้”
 
“ก็รอกินพร้อมกันไงฮะ ไปฮะ ...ไปฮะพี่ปอนด์” ยังจะชวนมันอีก ผมปรายตามองไอ้เด็กปอนด์ด้วยหางตาก่อนจะดึงมือลีวายส์ไปทานข้าว
 
“โอ้โอ่......น่ากินๆ กายกินเลยนะฮะแม่” ไอ้กายบอก เมื่อเห็นอาหารทะเลตรงหน้า
 
“เอาเลย ตามสบาย กินเยอะๆนะ......แล้วนี่..........” แม่มองมายังคุณโอ๊ตที่นั่งถัดไปจากผม เอ่อ คุณแกเงียบแบบไม่สนใจใครเลยจริงๆ
 
“เพื่อนไอ้แมนครับ....ส่วนไอ้แมน คงไม่กิน.....”ผมบอกในขณะที่มองไอ้เด็กปอนด์กำลังแกะกุ้งใส่จานลีวายส์
 
“อ่อ ตามสบายนะลูก....ลีวายส์กินเยอะๆนะครับ” แม่บอกยิ้มๆ ร่างเล็กยิ้มตอบก่อนจะหันมาหาผม
 
“พี่ธารลีวายส์อยากกินปูไข่ฮะ”
 
“เดี๋ยวพี่ทำให้ครับ” ไม่ใช่ผมครับที่ตอบแต่เป็นไอ้เด็กปอนด์ที่นั่งข้างๆลีวายส์ ก็ดีกูจะได้ไม่ต้องแกะ อยากทำก็ทำไป
 
“แกะให้ทุกคนสิ” ผมว่า...ทุกคนหันมามองกันทั้งโต๊ะแต่ผมไม่สนใจ แม่เองยังขมวดคิ้วมอง “ไหนๆก็แกะแล้วไง” หึ!
 
“ครับ!!!” ไอ้เด็กนั่นบอกก่อนจะลงมือแกะปูใส่จานให้ทุกคน อยากแกะนักนี่ ไอ้กายแตะขาผมใต้โต๊ะก่อนจะมองมาอย่างตำหนิ
 
“ลีวายส์อยากอยู่ที่นี่มั้ยลูก” จู่ๆแม่ผมก็ถามขึ้น ทำผมชะงักช้อนที่กำลังจะเอาเข้าปาก ผมว่าผมคุยกับท่านรู้เรื่องแล้วนะ
 
“ลีวายส์อยากอยู่ต่อฮะ แต่ว่า...อาทิตย์หน้าลีวายส์เปิดเรียนแล้ว ไว้ลีวายส์จะให้พี่ๆพามาเที่ยวกันอีกนะฮะ” ลีวายส์พูดบอกอย่างไม่เข้าใจความหมายของแม่ผม
 
“แม่หมายถึงอยากมาอยู่กับแม่......”
 
“แม่ครับ!” ผมหยุดคำพูดของผมด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ท่านมีสีหน้าอ่อนลงเล็กน้อย
 
ผมเข้าใจว่าท่านไม่อยากให้ผมต้องเหนื่อยหรือลำบากกับการที่ต้องรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่าง แต่ที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดว่าการที่มีลีวายส์มาอยู่ด้วย การที่ผมต้องดูแลมันจะทำให้ผมลำบากเลยสักนิด
 
“พี่ธาร ลีวายส์ไปเดินเล่นกับพี่ปอนด์นะฮะ” หลังจากทานข้าวเสร็จไอ้กายไอ้เซฟและคุณโอ๊ตก็กลับห้องพัก ส่วนผมอยู่คุยกับแม่เรื่องงานของท่านอีกแป๊บ เพิ่งจะเห็นว่าลีวายส์ยังไม่ได้กลับไป
 
“ไม่ได้.....”
 
“แค่ไปเดินเล่นเองครับ ไปใกล้ๆแถวนี้เองครับ พี่ธาร....เอ่อ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ” ไอ้เด็กปอนด์บอก
 
“ไปเดี๋ยวกูพาไปเอง” ผมดึงข้อมือลีวายส์ให้เดินตามมา ร่างเล็กหน้างอนิดๆ จนผมต้องหันไปมอง “ทำไม....อยากไปกับมันมากหรอ ไม่อยากไปกับกู?”
 
“เปล่าฮะ ก็........ลีวายส์อยากให้พี่ธารกับไปนอนพักนี่ฮะ ลีวายส์ไม่อยากกวนพี่ธาร มาพักผ่อนทั้งทีอ่ะ” ลีวายส์บอก ร่างเล็กเงยหน้าขึ้น ตากลมโตสีดำสนิทคู่สวยมองสบตาผม แพขนตางอนยาวอย่างกับเด็กผู้หญิง และปากสีสดที่เปิดออกเล็กน้อยทำให้ผมก้มลงไปจูบมัน
 
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูพาไปเดินเล่นเอง” ผมบอก ก่อนจะเดินกอดเอวร่างเล็กไปเดินริมชายหาดขอบอกว่าร้อนสัดๆ
 
“ร้อนอ่ะ.....” หึ! กูว่าแล้วว่าต้องบ่นออกมา ผมเลยพาลีวายส์มานอนเล่นในเปลข้างห้องพัก ซึ่งร่มเย็นใช้ได้ ผมจะได้งีบด้วยไง แต่มันก็งีบไม่ลงเพราะร่างเล็กบนตัวผมเนี่ยแหละ
 
“ลีวายส์ นอนดีๆ” ผมบอกร่างเล็กที่กำลังนอนเบียดผมอยู่ในเปล ผมยกแขนขึ้นมาหนุนหัวให้มัน ฟอด! หอมแก้มก่อนทีหนึ่งค่าทำปากยื่น น่ารัก?
 
“เอาคืนฮะ ฟอด!” มันมีเอาคืนด้วย หึ ผมเลยเปลี่ยนเป็นนอนตะแคงตัว ก้มลงมองมันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ลีวายส์ย่นจมูกใส่อีกรอบ
 
“ทำไม......อุ๊บ!!” ผมกดจูบปากสีสด กลืนกินคำพูดของร่างเล็ก ขบเม้มเบาๆก่อนจะสอดลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหวานภายใน ลีวายส์ขยับปากนิดหน่อยก่อนจะตอบรับรสจูบของผม
 
“จูบคืน....ซิ” ผมละปากออกก่อนจะกระซิบบอกร่างเล็ก ลีวายส์เม้มปากจนเป็นเส้นตรงก่อนจะแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของผม มันยั่วเป็นเห็นมั้ย เด็กกูพัฒนา.....
 
ผมดูดดึงลิ้นเล็กเข้าปากก่อนจะดูดจูบปากเล็กจนพอใจ สอดมือหนาเข้าไปลูบไล่เอวบาง ผิวเนียนนุ่มมือน่าหลงใหลของมันช่างน่าขบเม้มจริงๆ
 
“โอ้ย!!!!” จูบปากเล็กอยู่พักใหญ่ จู่ๆก็มีของแข็งเล็กๆปาหัวครับ ผมละปากออกและมองไปรอบๆ ไอ้กายกับไอ้เซฟยืนยักคิ้วให้อยู่ไม่ไกล
 
“ทำเหี้ยรัยลูกกูไอ้ธาร” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไอ้กายพูด หึ! ลูกมันครับ แต่เด็กผมนี่
 
“จุ๊ๆ มันหลับแล้ว” ผมบอกเมื่อเห็นว่าลีวายส์เคลิ้มจนหลับไป กูจูบเทพไปมั้ยวะ ลีวายส์หลับตาพริ้มอยู่ในในอ้อมแขนผม
 
“เหอะๆ นี่ กูว่านะมึงอาการหนักขึ้นทุกวันละ สงสารลีวายส์บ้างเหอะ ลูกเปลืองตัว แล้วก็เรื่องน้องปอนด์นั่นก็ด้วย กูรู้ว่ามึงไม่พอใจ แต่แม่มึงนั่งอยู่ด้วยนะ” ไอ้เซฟว่า ก่อนจะดึงมือไอ้กายให้นั่งลงบนตกมันเพราะมีเก้าอี้หินอ่อนอยู่ตัวเดียว
 
“นั่นดิ....กูว่านะน้องปอนด์ไม่ได้คิดอะไรกับลีวายส์หรอก มึงอ่ะ บ้า! ต่อไปถ้าลีวายส์ไปโรงเรียน ก็ต้องมีเพื่อนเยอะกว่านี้ มึงไม่ต้องไปนั่งเฝ้าเหมือนตอนอยู่เมืองนอกเลยหรอ” ไอ้กายเสริม
 
มันก็จริง ผมไปรอรับส่งลีวายส์ทุกวัน ก็อย่างที่เคยบอกผมกลัวว่าเพื่อนมันจะชวนไปเที่ยวนั่นนี่ แต่ที่โน้นเค้าไปเรียนกันเป็นคาบเรียน เช่นเรียนเช้าสามชั่วโมงเลิกกลับบ้านและเรียนเย็นอีกสามชั่วโมงเลิกกลับบ้าน หรือบางครั้ง ก็เรียนแค่เช้าหรือบ่ายเท่านั้น
 
แต่ที่นี่เรียนทั้งวัน อยู่กับเพื่อนทั้งวัน มันก็ต้องคบเพื่อน เออ ผมก็ลืมคิดไป แม่ง ต้องไปหาตอนเที่ยงด้วยล่ะมั้ง(มันคิดได้ไง) ผมสะบัดหัวไล่กับความคิดของตัวเอง ก่อนจะกลับมาก้มลงมองหน้าใสในอ้อมแขน
 
“ไอ้เหี้ยธาร มึงเข้าใจที่กูพูดปะเนี่ย ห่าราก” ไอ้กายว่า
 
“เออๆ กูรู้แล้ว ไอ้แมนล่ะ” ผมนอนลงดีๆก่อนจะถามหาเพื่อนอีกคนที่จำได้ว่าข้าวเที่ยงยังไม่ได้กินเลย
 
“ไม่รู้ดิ แต่เมื่อกี้ได้ยินเสียงดังโครมครามมาจากห้องมัน อะไรจะรุนแรงขนาดนั้น” ไอ้เซฟบอก ทุกคนรู้ว่าไอ้แมนมันหัวรุนแรง ชอบบ้าระห่ำ
 
“นั่นดิแล้วเด็กที่มันพามา ใครวะ ปกติ แม่ง ไม่เคยหิ้วเด็กไปไหนมาไหนนี่หว่า” ไอ้กายขมวดคิ้วสงสัย เพราะผมกับไอ้แมนไม่ได้บอกว่ารู้จักคุณโอ๊ตยังไงหรอเป็นใคร ไม่ได้ปิดนะ กลัวมันบ่นแล้วรำคาญ
 
“ไม่รู้ พวกมึงไปเหอะกูจะนอน” ผมบอก ไอ้กายทำปากยื่นใส่ก่อนจะลุกจากตักไอ้เซฟไป “ไอ้เซฟ....อย่าเยอะ” ผมเตือนไอ้เซฟหลังจากที่ไอ้กายเดินไปได้สักระยะแล้ว ไอ้เซฟถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ
 
อย่างน้อยผมก็ควรจะเตือนมันบ้าง เพราะผมเห็นมันใกล้เกินไป ใจน่ะ.....ไม่ใช่ตัว และมันจะอันตรายกว่าซะอีก
 
“เย้ๆ ลีวายส์อยากกิน กุ้งเผาๆๆๆ” ลีวายส์เพิ่งออกมาจากห้อง พอเห็นว่าพวกเรากำลังปูเสื่อก่อไฟ มันก็รีบเดินมาทันที เย็นนี้จะย่างกุ้งหอยปูปลากินกันครับ
 
นานแล้วที่ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้ จำได้ว่าครั้งสุดท้ายก็เป็น ตอนที่ฉลองเรียนจบ ป.ตรีโน้น ตอนนั้นไม่ได้มาที่นี่แต่ไปถึงภูเก็ตกันเลย แล้วที่วุ่นวายก็เพราะมีลีวายส์ไปด้วยนั้นแหละ
 
ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเลยน่ะสินอกจากจับมันไว้ เพราะลีวายส์อยากเดินอยากวิ่งเล่นไปทั่ว ทำเอาเพื่อนๆ ที่ไปด้วยกว่าสิบคนมองผมแบบ....ไม่น่าพามาเลย!  เพราะมันเด็กและไม่เหมือนกับตอนนี้ ที่โตแต่ตัว นิสัยยังเหมือนเดิม(ไม่ต่างกันเท่าไหร่)
 
“ไปนั่งนิ่งๆ ไม่ต้องดิ้นเป็นมดโดนไฟได้มั้ย” ผมบอก ลีวายส์นิ่งเงียบ ฟอด! ก่อนจะ ยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มผมและเดินออกไป เออ ให้มันได้อย่างนี้สิ  ผมยิ้มบางๆมองตาแผ่นหลังมัน น่าตี(ก้น)เนอะ
 
“ไง.......สมภาร” นั่นคือปากเหี้ยๆของไอ้แมน และเชื่อสิว่าผมไม่ชอบฉายาใหม่ที่มันเพิ่งจะตั้งให้เมื่อกี้
 
“สมภาร พ่อง!!!” ไอ้แมนยักคิ้วกวนตีนให้ผม หึ อารมณ์ดีแล้วล่ะสิท่า เพราะผมเห็นรอยแดงบนคนของอีกคนข้างๆมัน “อารมณ์ดีแล้วล่ะสิ ไอ้สัด”
 
“โอ้ย!!!....เจ็บนะ!” คุณโอ๊ตมองและคงรู้ว่าผมเห็นรอยแดงๆนั่น เลย ไปลงกับไอ้แมนโดยกันเหยียบเท้ามันเข้าให้ แหม พูดซะ เจ็บนะ....แต่ก็ไม่กล้าเอาคืน
 
“กูเชื่อแล้ว....ว่าเสือจำศีลจริงๆ หึๆ”
 
 
 
 
“อ้าว พี่ปอนด์มากินด้วยกันสิฮะ” ผมมองตามเสียงทักของลีวายส์ เห็นไอ้เด็กปอนด์มันเดินตรงมาทางนี้ ผมหันไปมองไอ้กายนิดๆก่อนที่มันจะมองผมด้วยสายตาจิกกัด คงรู้ว่าผมคิดจะขัดไอ้เด็กนั่น
 
“มาๆ น้องปอนด์ มานั่งด้วยกันเนอะ หลายๆคนสนุกดี” ไอ้กาย.....ไอ้เพื่อนทรยศ ผมแอบส่งสายตาไปด่าว่ามันก่อนจะปรายตามองไอ้เด็กปอนด์
 
“เอ่อ....ไม่ดีกว่า.....คือว่า..........ผมมาลาลีวายส์น่ะฮะ” มันบอก ลีวายส์ทำหน้าตกใจเล็กน้อย ตกใจทำไมวะ?
 
“ทำไมล่ะ พี่ปอนด์..........พี่ปอนด์จะกลับบ้านหรอฮะ”
 
“เปล่า พี่....มาลาลีวายส์เพราะไม่รู้ว่าจะได้เจอ..น้อยชาย...น่ารักๆแบบนี้อีกเมื่อไหร่” คำว่าน้องชายนี่ มันตั้งใจจะพูดกับผมหรือเปล่าไม่รู้ เห็นมองมาทางผม
 
“ทำไมล่ะฮะ ได้เจอสิถ้าพี่ธารพาลีวายส์มาอีก” ลีวายส์บอก
 
“คือ จริงๆแล้ว พี่จะตามแม่ไปเรียน เมืองนอกน่ะ ดีใจนะที่ได้เจอลีวายส์พอดีก่อนที่จะไป” ลีวายส์มีสีหน้าอ่อนลงนิดหน่อย
 
“พี่ธารๆ ให้ลีวายส์ไปเดินเล่นกับพี่ปอนด์แป๊บนะ นะๆ”
 
“ไปทำไม!!!”
 
“ไอ้ธาร...............” ผมปรายตาไปมองไอ้กายก่อนจะพยักหน้ารับ ลีวายส์เลยเดินไปกับไอ้เด็กปอนด์ริมชายหาด โดยมีผมมองตามอยู่ตลอด
 
“อาการหนักนะสมภาร” ปากหมาๆของไอ้แมนอีกแล้ว
 
“ไอ้สัด!!!”
 
<<<<<<<<TBC>>>>>>>

ทำไมอีธารไม่หึงแรง? ก็เพราะว่าน้องปอนด์ยังเด็ก   ก็ไม่เด็กนะ แต่อีธาร เห็นว่ายังเด็กเลยซอฟต์ๆ ไว้ก่อน พี่ธารของลีวายส์เป็น

ผู้ใหญ่แล้วนะ (จริงๆ?)

น้องปอนด์เป็นแขกรับเชิญค่ะ ไม่มีคู่ ส่วนเซฟ มีแล้วโผล่ออกมาแล้วแต่อย่าคาดหวังเพราะเรายังมึนๆอยู่ 555555  เดี๋ยวนี้ติสแตก

มากอ่ะ ร้อนสุดๆเลยบ้านเรา (?)

เออเนอะตอนนี้มีตัวละครหลักเกือบครับยกเว้นคุณหมอว่ะ(ไม่มีอะไรแค่บ่นเฉยๆ)

ปล.เราจะรีบลงให้ก่อนเพราะต้นเดือนหน้าต้องปรับพื้นฐานคณะ

ตื่นเต้นๆๆๆๆๆๆๆๆเดี๋ยวจะรีบมาต่อให้นะ บาย  จุ๊ฟ

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
อ่านตอนนี้แล้วรำคาญธารมากอ่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
เซฟจงไปหาคู่ที่เป็นของๆตัวเองซะ
ดายไม่ว่างแล้วนะะะะ 55555
อีธารหึงน้องซะสติจะแตก

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ปล่อยน้องมีเพื่อนบ้างก็ดีนะ
ทีอีธารยังแอบมองสาวๆเลย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ปล่อยให้มีเพื่อนบ้างก็ได้

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :pig4: รออ่านตอนต่อไปนะ แต่แอบขัดใจที่ยังไม่เคลียร์เรื่อง พี่หมอ กาย และก็ลูก อยากรู้ๆ แต่ก็กลัวดราม่าหม้อใหญ่

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....20
 
 
“พี่ธาร พี่ธารรรรร.......ตื่นฮะ เดี๋ยวลีวายส์ไปโรงเรียนสาย” ลีวายส์กำลังปลุกคนขี้เซา ในขณะที่ตัวเองก็รีบแต่งตัวไปด้วย จริงๆแล้วพี่ธารไปได้ขี้เซาหรอกฮะ คึคึ แต่เมื่อคืน..........เรากลับจากร้านตีสามฮะ ก็เลยไม่ค่อยอยากตื่นซะเท่าไหร่
 
“อือออ......” พี่ธารครางเสียงต่ำในลำคอ ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง ร่างสูงหัวยุ่งเหยิงไปหมดแต่ก็ยังดูดีในสายตาลีวายส์
 
“พี่ธาร วันนี้ลีวายส์เปิดเรียนแล้วนะฮะ พี่ธารไปอาบน้ำเร็วฮะ” ลีวายส์ดึงแขนพี่ธารให้ลุกจากเตียง ด้วยความที่พี่ธารตัวใหญ่ก็เลยไม่ขยับสักนิดแถมพี่ธารยังดึงลีวายส์เข้ามากอดอีกด้วย
 
“ตื่นเต้นกับโรงเรียนใหม่หรือไง......หื่ม!”
 
“ก็นิดหน่อย พี่ธารไปอาบน้ำเร็วเข้า.....ลีวายส์ไม่อยากไปสายวันแรกนะฮะ” ลีวายส์บอก พี่ธารก้มลงจุ๊บแก้มลีวายส์ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ
 



 
“เอาล่ะถึงแล้ว....เย็นนี้จะมารับ  แล้วก็อย่ามีเรื่องตั้งแต่วันแรกรู้มั้ย ที่สำคัญตั้งใจเรียนด้วย กูส่งคนมาเรียนไม่ใช่ส่งวัวมากินหญ้า” พี่ธารให้พรแต่เช้าเลยแฮะ มันช่างดีแท้ =_=
 
“เข้าใจแล้วฮะ ลีวายส์จะตั้งใจเรียนแล้วก็ไม่สร้างปัญหาแน่นอนเลยฮะ” ลีวายส์บอกกับพี่ธารอย่างมั่นใจ
 
“หึ! ถ้ามีเรื่องล่ะน่าดู จุ๊บ!” พี่ธารบอกและจุ๊บมุมปากลีวายส์ ลีวายส์ก็เลยหอมแก้มพี่ธารคืนด้วย เดี๋ยวขาดทุน เนอะๆ
 
ลีวายส์ลงจาก เมอร์เซเดส เบนซ์ เอสแอล คันใหม่ของพี่ธาร และโบกมือให้ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปในโรงเรียนนานาชาติชื่อดังผ่านประตูใหญ่  ด้านในมีตึกมากมายจนลีวายส์ไม่แน่ใจว่าจะไปห้องเรียนถูกหรือเปล่า
 
ในขณะที่ลีวายส์เดินไปตามทาง ลีวายส์ก็รู้สึกแปลกๆกับสายตาของนักเรียนที่นั่งอยู่ข้างทางเดินหรือเดินผ่าน ถามยังมีเสียงซุบซิบตามมาด้วยแต่ฟังไม่ออก หรือว่า เค้าจะมองว่าลีวายส์เป็นตัวประหลาดกันนะ
 
ลีวายส์ก้มมองสำรวจตัวเองว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า รองเท้าผ้าใบสีขาวมีลายไม้เลื้อยสีดำนิดๆ ที่พี่กายซื้อให้ ใส่กับถุงเท้าสีขาวพื้นสีดำ กางเกงขาสั้นเลยเข่าขึ้นมานิดหน่อยลายสก๊อตสีเขียวก็ไม่มีรอบเปื้อนอะไรติดอยู่ เสื้อนักเรียนสีขาวแขนสั้นมีแทบสีเขียวตรงตะเข็บใส่ไว้ในกางเกงถูกต้องเรียบร้อยดี พร้อมกับเป้สีเหลืองใบเก่งที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวันก่อน แล้วเค้ามองไรกันอ่ะ -0-
 
ลีวายส์เลิกคิดว่าตัวเองประหลาดและเดินขึ้นมาบนตึกเรียนเพื่อจะหาห้องเรียนของตัวเอง ห้องABA ดูจากเลขตึกก่อน ตึกA ชั้นB ห้องA ลีวายส์ได้อยู่ห้องเอด้วย
 
“เอ่อ โทษนะ นี่ตึกเอหรือป่าว” ลีวายส์แวะถามเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงระเบียงหน้าห้อง ชั้นA เพื่อความแน่ใจ
 
“ใช่ค่ะ.....น่ารักจัง” เธอตอบลีวายส์ยิ้มๆ ก่อนจะพูดชมลีวายส์เสียงเบา ลีวายส์ได้ยินนะ ลีวายส์ยิ้มให้เธอก่อนจะเดินขึ้นมาอีกชั้น เป็นชั้นB ที่นี้ห้องA ก็อยู่ห้องแรก
 
ลีวายส์ก้าวเข้ามาในห้องเรียนที่คิดว่าน่าจะใช่ห้องของตัวเอง มีเด็กอยู่ในห้องมากกว่าสิบคน หันมามอง ลีวายส์ยิ้มให้บางๆ ก่อนจะเดินตรงไปยังโต๊ะเรียนด้านหลังสุดและเข้าไปนั่งลงตรงริมหน้าต่าง
 
“เฮ้ยๆ ตรงนั้นมีคนนั่งแล้วเว้ย ลุกเลยๆ” มีใครคนหนึ่งในห้องที่เพิ่งจะเข้ามาในห้อง เดิมตรงมายังโต๊ะที่ลีวายส์นั่งอยู่
 
“ไหนอ่ะ ไม่เห็นมีใครวางกระเป๋าไว้เลยนี่” ลีวายส์ตอบกลับไป
 
“เค้ายังไม่มา ถ้าไม่อยากมีเรื่องก็ลุกไปเลยไป” เค้าบอกอีก แต่ว่าลีวายส์มาก่อนนี่ ลีวายส์อยากนั่งตรงนี้
 
“ทำไมล่ะ ก็เรามาก่อนนี่ แล้วอีกอย่างไม่เห็นเขียนป้ายติดไว้เลยนี่นา” ลีวายส์ไม่ได้กวนนะก็มันไม่มีอะไรที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของไว้เลย
 
“อ่อ นี่เด็กใหม่สินะ เนี่ย ที่คนใหญ่คนโต ถ้าไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวก็ไปหาที่นั่งใหม่เลยไป”
 
“ไม่! รอให้เค้ามาก่อนดิ” ลีวายส์บอกก่อนจะหันไปสนใจเด็กโต๊ะด้านหน้าลีวายส์ “โทษนะ มีตารางเรียนมั้ยอ่ะ เราลืมโหลดมาน่ะ”
 
“มีสิ......อ่ะ เอาไปจดก่อนแล้วกันนะ เราชื่อบุ๊คนะแล้วเธอล่ะ” เธอส่งยิ้มน่ารักให้ลีวายส์และส่งตารางเรียนที่หยิบออกมาจากกระเป๋ามาให้
 
“เราชื่อลีวายส์.............แล้วก็อย่าเรียกเราเธอสิ เราเป็นผู้ชายนะ” ลีวายส์บอก บุ๊คมองสำรวจลีวายส์เล็กน้อย เพราะเสื้อนักเรียนผู้หญิงกับผู้ชายมันคล้ายๆกันน่ะ
 
“จริงหรอ เราคิดว่า เธอ เฮ้ย! ลีวายส์เป็นทอมน่ะ แหะๆ น่ารักกว่าผู้หญิงซะอีก” โธ่เฮ้ย ไม่น่าไว้ผมยาวประบ่าเลยอ่ะ
 
แล้วลีวายส์ก็มีเพื่อนใหม่แล้วฮ่ะ บุ๊คกับเรเนส เป็นผู้หญิงน่ารักทั้งสองคนเลย หน้าตาออกไปทางตะวันตกนิดๆ คุยกันไปสักพักคุณครูก็เข้าสอนและก็ให้การบ้านตั้งแต่วันแรกเลย ที่นี่สอนคล้ายๆกับเมืองนอกฮะ
 
เช้าจะเรียนวิชาหนึ่งเต็มๆ ทั้งทฤษฏีและปฏิบัติ แต่ว่าต้องอยู่โรงเรียนทั้งวันไม่เหมือนเมืองนอก ช่วงเย็นก็เรียนเหมือนกันจะมีเวลาว่างให้นักเรียนเข้าห้องสมุดหรือเล่นกีฬา จนถึงเลิกเรียน
 
“เอ่อ ลีวายส์เปลี่ยนที่นั่งมั้ย.....เราว่านั่งตรงนั้นไม่ดีหรอก เดี๋ยวนายจะมีปัญหา” ทำไมกันนะดูเหมือนทุกคนจะกลัวเด็กคนนั้นกันจัง อยากรู้จริงๆเลย
 
“ทำไมหรอ.......ที่ใครอ่ะ” ลีวายส์ถามอย่างสงสัย
 
“ก็...เค้าค่อนข้างเกเรน่ะ ได้ข่าวว่ามาอยู่ห้องนี้ด้วย ตอนเรียนมอต้นเค้าก็เรียนที่นี่ มีเรื่องกับคนอื่นไปทั่วเลย ลีวายส์อย่ามีเรื่องกับเค้าดีกว่า” เรเนสบอก ตอนนี้คุณครูออกไปแล้วปล่อยให้เด็กทำการบ้านที่สั่งไว้
 
“เหอะนา......เราจะนั่งตรงนี้แหละ รอให้หมอนั่นมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน อีกอย่างป่านนี้แล้ว คงไม่มาแล้วมั้ง”
 
ปัง!!!
 
จู่ๆ ประตูหลังห้องเรียนเปิดออกคล้ายกับโดนคนถีบเข้ามา ทำให้ภายในห้องเงียบลง และหันไปสนใจคนมาใหม่เว้นแต่ลีวายส์ ที่ยังคงก้มหน้าสนใจการบ้านในสมุดบนโต๊ะอย่างเอาจริงเอาจัง
 
และไม่นานลีวายส์ก็รู้สึกว่ามีเงาของคนตัวสูงมาหยุดยืนอยู่ข้างๆโต๊ะที่ลีวายส์นั่ง ยืนนิ่งๆแบบไม่พูดอะไร เฮ๊ะ! หรือว่าจะเป็นไอ้เด็กเกเรที่ว่านั่นนะ ลีวายส์เลยละสายตาจากสมุดบนโต๊ะเงยหน้าขึ้นมอง
 
“มึง..../ ไอ้.....”
 
เราพูดบอกมาพร้อมๆกัน เมื่อต่างฝ่ายต่างเห็นหน้ากัน และรู้ว่าเราไม่ชอบขี้หน้าของอีกฝ่ายมาก โดยส่วนตัวแล้วลีวายส์น่ะไม่ชอบมากแน่ๆ
 
“เอ่อ คือ...ฉันเตือนไอ้เด็กนี่แล้วนะแต่ว่ามันไม่ยอมลุกไปนั่งที่อื่นว่ะ” นายต้าบอก(บุ๊คบอกชื่อน่ะ) เมื่อเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ
 
“ลุกขึ้น........กูจะนั่งตรงนี้”
 
“ไม่!....เรามาก่อน เราจะนั่ง นายไม่ได้เขียนป้ายติดไว้นี่” ลีวายส์บอก จ้องหน้าร่างสูงอย่างไม่พอใจสุดๆ
 
“มึง.....ออกไป!!!” แล้วร่างสูงก็ดึงแขนลีวายส์ออกจากโต๊ะด้านใน โดยไม่ได้สนใจว่าลีวายส์จะเจ็บหรือเปล่า และดูเหมือนทุกคนในห้องก็ไม่กล้าเข้ามาขัดเลย
 
“แพ็ค....หยุดเถอะ” บุ๊คลุกจากโต๊ะเข้ามายืนข้างๆ ก่อนจะพูดห้าม
 
ฟังไม่ผิดหรอกฮะ ไอ้แพ็ค ก็คนเดียวกับที่ลีวายส์เจอตอนไปบริษัทที่พี่ธารไปคุยงานนั่นแหละฮะ ลีวายส์ยังเกลียดไม่หาย พอมาเห็นนิสัยแบบนี้ของหมอนี่ก็ยิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่
 
“อย่าเสือก..!!!” นายแพ็คบอกและผลักบุ๊คล้มลงพื้นจนเธอร้องโอ๊ยออกมา
 
“นาย.....ไอ้หน้าตัวเมียทำร้ายผู้หญิงหรอ” ลีวายส์เริ่มโกรธขึ้นมาบ้างเมื่อเห็นการกระทำของมัน ก่อนจะสะบัดแขนหลุดออกจากมือร่างสูง ใช้สองมือผลักอกมันเต็มแรงจนล้มลงบนเก้าอี้
 
“มึงว่าใครไอ้......ตุ๊ด!!!” ลีวายส์กำหมัดแน่นด้วยความโกรธจัดกับประโยคที่ออกมาจากปากหมาๆของมัน ลีวายส์เลยฟาดมือตีร่างสูง และไม้บรรทัดเหล็กในมือก็บางพอที่จะทำให้แขนของคนตรงหน้าโดนบาทจนได้เลือด
 
“นี่มึง....!!!” นายแพ็คลุกขึ้น ง้างหมัดใส่ลีวายส์แต่ว่า....ครูเข้ามาซะก่อน
 
“หยุด! ตายแล้วนี่มันอะไรกันเนี่ย.....ไปห้องพยาบาลไป....ส่วนเธอไปห้องปกครอง” ซวยล่ะ ลีวายส์มองร่างสูงด้วยความโกรธเคืองพอๆกับมันที่มองมาเช่นกันก่อนจะถูกพามายังห้องปกครอง
 
ไม่นานนายแพ็คก็ตามมาห้องปกครองด้วย ที่แขนของมันมีผ้าพันแผลทำแผลเรียบร้อยแล้ว เพราะครูฝ่ายปกครองเรียกพบทั้งสองคน แปลกที่นายนั่นไม่ตอบและมีพูดบอกอะไรเลยสักนิดเอาแต่นั่งนิ่ง ต่างจากลีวายส์ที่บอกว่าลีวายส์ไม่ได้เริ่มก่อน
 
เราถูเรียกผู้ปกครองมาพบด้วยฮะ นี่แหละซวยของแท้ พี่ธารมา ทำเอาลีวายส์ทำหน้าไม่ถูกเลยฮะทั้งที่รับปากอย่างมั่นใจแล้วแท้ๆว่าจะไม่สร้างปัญหา
 
พี่ธารมองลีวายส์นิ่งๆ ลีวายส์เองก็ไม่รู้ว่าพี่ธารโกรธหรือเปล่าเอาเป็นว่าเงียบไว้ก่อนล่ะกัน ส่วนนายแพ็คดูเหมือนจะไม่มีใครมา มันเองก็ได้แต่นั่งเงียบเหมือนกัน ทีแรกก็คิดว่าจะโวยวายซะอีก
 
สุดท้ายคุณครูฝ่ายปกครอบบอกว่า อันที่จริงลีวายส์กับนายแพ็คจะต้องถูกพักการเรียนเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นการทะเลาะวิวาท แต่พี่ธารโทรไปหาพี่กายให้จัดการให้ก็เลยกลายเป็นโดนหักคะแนนความประพฤติคนละยี่สิบคะแนนแทน
 
“ขึ้นไปเอากระเป๋า” พี่ธารบอกเพราะเมื่อครู่ได้ขออนุญาตรับลีวายส์กลับเลย ดูแล้วพี่ธารคงไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่
 
“ฮะ” ลีวายส์ตอบรับ รีบเดินขึ้นห้องไป แต่ระหว่างทาง ลีวายส์ได้ยินเสียงเหมือนมีคนคุยโทรศัพท์อยู่ในมุมหนึ่ง
 
“ทุกทีล่ะ ไม่ว่างๆ ไม่มีใครว่างหรอกเวลาเรื่องของผมน่ะ” เสียงคุ้นๆ แหะ ไม่ฟังล่ะ ไปดีกว่า
 
“เดี๋ยว!......มึงอีกแล้วหรอ.....ชอบหาเรื่องจริงๆเลยนะ” ที่แท้ก็เป็นนายแพ็คนี่เอง
 
“เราไม่หาเรื่องใครก่อน.....แต่ถ้าหมามันเข้ามากัดเราก็ต้องป้องกันตัว” ลีวายส์บอกและจะเดินออกมาจากตรงนั้น
 
“ระวังตัวไว้ก็แล้วกัน....เพราะหมาตัวนี้มันกัดไม่ปล่อย” พรึ่บ!!! ร่างสูงบีบแขนลีวายส์แน่นจนรู้สึกเจ็บก่อนจะสะบัดมือปล่อยแรงๆและเดินออกไป ลีวายส์ว่าคงต้องมีเรื่องให้ทะเลาะกับหมอนี่ทุกวันแน่ๆ

 

 
“พี่ธารฮะ.....คือ....ลีวายส์ไม่ได้....”
 
“ค่อยกลับไปคุยที่ร้าน” ว่าแล้วเชียว พี่ธารต้องไม่พอใจแน่ๆเลยฮะ ถ้าพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแบบนี้ ลีวายส์ก็ได้แต่นั่งเงียบตลอดทาง
 
“อ้าว.....ลีวายส์ ได้ข่าวว่าวันนี้เปิดเรียนวันแรกไม่ใช่หรอ ทำไมกลับแล้วล่ะ” พี่แซฟถามเมื่อเห็นลีวายส์เข้ามาในห้องทำงานโดยมีพี่ธารเดินตามหลังมา
 
“ไหนๆ เป็นไงบ้าง” พี่กายลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน มาดึงมือลีวายส์ให้นั่งลงบนโซฟาข้างๆ
 
“หึ ลูกมึง ไปโรงเรียนวันแรก ก็หาเรื่องซะแล้ว ดีมากเลย” พี่ธารบอก “บอกว่าอย่ามีเรื่องๆ หูเนี่ยฟังบ้างมั้ย หื่มม” พี่ธารดึงหูลีวายส์ฮะ T^T
 
“ก็เค้ามาหาเรื่องลีวายส์ก่อนนี่ ลีวายส์ไม่ผิดนะฮะ” ลีวายส์บอกเสียงเบาก่อนจะหลบตาพี่ธาร
 
“ไม่ผิดมั้ง ทำลูกเค้าได้แผลซะขนาดนั้น เค้าไม่พักการเรียนก็ดีเท่าไหร่แล้ว แม่มึงค้ำหัวไว้นี่” พี่ธารผลักหัวลีวายส์ทีหนึ่ง ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดไฟสูบ
 
“ไอ้ธาร.....กูไม่ปล่อยให้ลูกกู พักการเรียนหรอกนา....โอ๋ๆ ไม่เป็นรัยนะ” พี่กายยกมือขึ้นลูบหัวลีวายส์ปลอบ
 
“มึงไม่ต้องไปโอ๋มัน......มานี่เลย” พี่ธารดึงแขนลีวายส์ออกจากพี่กายและลากมายังห้องน้ำ “เข้าไปอยู่ในห้องน้ำสองชั่วโมง.......เข้าไปสำนึกผิดในนั้นแล้วค่อยออกมา”
 
“เฮ้ยไอ้ธาร.....” พี่กายจะเข้ามาห้ามแต่ว่าพี่ธารผลักลีวายส์เข้ามาซะก่อน
 
“อ่ะ!!!  พี่ธาร!......อือออออ ปล่อยลีวายส์นะ อึกๆ....อือออออ” ลีวายส์ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างอัตโนมัติ ทั้งร้องทั้งเรียกแต่ว่าไม่มีใครมีเปิดให้
 
“อย่าเปิดให้มันนะ ไม่งั้น กูจะขังไว้แทนมัน” พี่ธารบอก และก็พูดจริงด้วย เพราะพี่กายเคยโดนแล้ว พี่กายช่วยลีวายส์ทำการบ้านตอนอยู่เมืองนอกช่วยทำแบบทำให้เองทั้งบทน่ะ  แฮะๆ พี่ธารเลยขังลีวายส์ไว้ในห้องน้ำสามชั่วโมงพี่กายสงสารมาเปิดให้ พี่ธารก็เลยขังพี่กายไว้แทน
 
ลีวายส์ก็เลยต้องทำใจเพราะไม่มีใครเปิดให้แน่ๆต้องรอให้พี่ธารเปิด คิดแล้วก็แค้นใจนายแพ็คไม่หาย รู้อย่างนี้น่าจะฟาดลงไปอีกสักแผล(ได้ข่าวว่าเค้าให้เข้ามาสำนึกผิดนะลูก) พรุ่งนี้ก็คงทะเลาะกันอีกแน่นอนแต่ว่าลีวายส์ต้องใจเย็นๆ ไม่วู่วามเหมือนวันนี้
 
 
 
 
“ออกมา” พี่ธารเปิดประตูให้ลีวายส์ออกมาหลังจากที่ผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ ดีแล้วที่พี่ธารไม่ให้อยู่ครบสองชั่วโมงเพราะห้องน้ำมันแคบกว่าที่คอนโด แล้วก็ร้อนมาด้วย
 
“พี่ธารลีวายส์ไม่ได้ผิดจริงๆนะฮะ”ลีวายส์บอกพี่ธารอีกครั้งเพราะอยากให้พี่ธารเข้าใจลีวายส์จริงๆ
 
“เอาล่ะ พอๆ ไม่ต้องพูด....แต่ถ้ามาคราวหน้าอีก กูจะโกรธจริงๆรู้มั้ย”พี่ธารนั่งลงบนโซฟาก่อนจะดึงมือลีวายส์ให้นั่งลงบนตัก
 
“ฮะ ลีวายส์ขอโทษ” ลีวายส์บอกซบหน้าลงกับแผงอกของพี่ธาร
 
“ดี.....ไป....เดี๋ยวกูพาไปตัดผม” เฮ๊ะ!! ตัดผม ลีวายส์เบิกตากว้าง เงยหน้าขึ้นมองพี่ธาร มันเป็นอะไรที่ลีวายส์ไม่ชอบเลยจริงๆ
 
“ทำไมต้องตัดด้วยฮะ...แบบนี้ดีอยู่แล้วนี่นา” ลีวายส์ถาม ผมของลีวายส์ยาวประบ่าพอดีก็เลยเสียดาย
 
“มันผิดระเบียบ ยาวเกินไป....ดูสิตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมยาว กางเกงขาสั้นเกิน แล้วก็รองเท้าถุงเท้าก็ด้วย”
 
“แต่ว่า.........”
 
“ไม่มีแต่......เดี๋ยวนี้ดูเหมือนยิ่งโตก็ยิ่งพูดไม่ฟัง  ถ้าไม่เชื่อฟังกันก็ไปให้พ้นๆเลยไป!” พี่ธารผลักลีวายส์ที่นั่งอยู่บนตักออก ร่างสูงพูดด้วยสายตาจริงจังจนลีวายส์กลัว
 
“อึก! ลีวายส์ขอโทษฮะ อึกๆ....พี่ธารอย่าโกรธลีวายส์นะ อือออออ” ลีวายส์ร้องไห้ออกมา เพราะกลัวว่าพี่ธารจะไล่ลีวายส์ไปจริงๆ ลีวายส์กอดแขนพี่ธารแน่นและร้องไห้ไปด้วย
 
“เงียบ!.....ถ้ายังพูดไม่รู้ฟัง ต่อไปก็ไม่แน่....กูจะส่งมึงไปอยู่กับแม่ที่รีสอร์ทก็ได้” พี่ธารบอกอีก ทำเอา ลีวายส์ใจวูบกับไปประโยคนั้น
 
“ไม่ๆ ไม่ไปฮะ ลีวายส์จะอยู่กับพี่ธาร ลีวายส์เชื่อฟังพี่ธารฮะ” ลีวายส์กอดพี่ธารไว้แน่นอีกครั้งและแน่นกว่าเดิมด้วย ลีวายส์ไม่ไปเด็จขาดลีวายส์จะอยู่กับพี่ธารของลีวายส์
 
“งั้น....ไปตัดผม...” ลีวายส์พยักหน้ารับเบาๆอย่างว่าง่าย พี่ธารก้มลงหอมข้างแก้มลีวายส์ก่อนจะผลักออกเบาๆ และเราก็ออกจากห้องทำงานมา
 
พี่ธารพาลีวายส์มายังร้านตัดผมที่อยู่ในห้างดังใกล้ๆ ที่ร้านดูดีมีระดับ มีพนักงานสามสี่คนกำลังทำผมให้ลูกค้าอยู่และมีพนักงานคนหนึ่งออกมาต้อนรับ
 
“สวัสดีค่ะ คุณธารมาตัดผมหรอคะ” รู้จักพี่ธารด้วยแฮะ
 
“ครับแต่...ตัดให้คนนี้” พี่ธารดันหลังลีวายส์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ไปหาพี่พนักงานสาวสวย
 
“ได้ค่ะ ตัดยังไงดีค่ะ...ผมสวยอยู่แล้วนะเนี่ย” เธอเดินนำลีวายส์มานั่งประจำเก้าอี้หน้ากระจกเงาบานใหญ่ ลีวายส์มองภาพตัวเองในกระจกแบบเศร้าๆ เดี๋ยวผมจะสั้นแล้วววว
 
“เอาสั้นๆ แบบทรงเรียน” พี่ธารบอก
 
“ไม่ๆ...ไม่ต้องสั้นมากนะฮะพี่ธาร”
 
“ลีวายส์!...” เงียบสิฮะทีนี้ ก็ได้ๆ  ลีวายส์ยอมแล้ว ลีวายส์นั่งหลับตาให้พี่พนักงานตัดผมจนเสร็จและเดินก้มหน้าไปสระผมไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองกระจก
 
จากนั้นพี่ธารก็พาลีวายส์ไปซื้อรองเท้าและถุงเท้าใหม่ก่อนจะกลับมายังคอนโด เห็นพี่ธารบอกว่าคืนนี้จะไม่เข้าร้านเพราะวันนี้ไปทำงานมาทั้งวันแล้ว ที่ร้านมีการปรับเปลี่ยนและตกแต่ภายในใหม่ พี่กายพี่เซฟและพี่ธารเลยไปดูแล ส่วนกลางคืนคงให้พี่แมนดูต่อ
 
จริงสิรู้มั้ยลีวายส์เห็นแฟนพี่แมนแล้วล่ะ วันที่พี่ธารพาลีวายส์ไปเที่ยวรีสอร์ทคุณแม่เมื่ออาทิตย์ก่อน แฟนพี่แมนเป็นผู้ชาย เงียบๆไม่ค่อยพูดไม่ค่อยสนใจใครเท่าไหร่ แต่ว่าหน้าดี
 
อ่อๆ เจอพี่ปอนด์ด้วย พี่ปอนด์ตัวสูงขึ้นมาก โตด้วย พี่ปอนด์ไปเรียนต่างประเทศแล้วและก็มีอีเมลล์ให้มาด้วยล่ะ พี่ปอนด์ให้สร้อยข้อมือลีวายส์ด้วยมันทำจากเปลือกหอยแต่ว่า....หายไปแล้ว ถามพี่ธาร พี่ธารก็บอกว่าไม่เห็น น่าเสียดายจัง
 
“หน้างออยู่นั่นแหละ ตัดผมนิดเดียวทำอย่างกะจะตาย ไปอาบน้ำไป” ลีวายส์ไม่ได้พูดบอกอะไรออกมา เดินเข้าไปในห้องนอนก่อนจะเปลี่ยนชุดเข้าไปในห้องน้ำ
 
ลีวายส์หยุดยืนอยู่หน้ากระจกและค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองตัวเองช้าๆ คิดในใจว่ามันต้องออกมาสั้นและขี้เหร่แน่ๆ
 
“ทำบ้าอะไร” เสียงพี่ธารดังมาจากประตูห้องน้ำ ลีวายส์เงยหน้ามองร่างสูงผ่านกระจกเงา ที่กำลังยืนกอดอกมองมา จากนั้นก็มองภาพตัวเองในกระจก
 
ผมลีวายส์สั้นขึ้นและเปิดให้เห็นหู ตัดเป็นทรงคล้ายๆรากไทรแต่ว่าไม่ได้สั้นอย่างที่คิด ลีวายส์ยกมือขึ้นจับปลายผมตัวเอง ก่อนจะรู้สึกได้ว่า พี่ธารเข้ามายืนซ้อนอยู่ด้านหลังลีวายส์
 
“หึ! กลัวไม่สวยว่างั้น” พี่ธารพูดบอก ร่างสูงลูบปลายผมลีวายส์เบาๆ
 
“ป่าวฮะ.....แค่ชอบผมยาวมากกว่านี่ พี่ธารไม่ชอบผมยาวหรอฮะ” ลีวายส์บอก ทำปากยื่นหน้างอใส่พี่ธาร
 
“อยากเป็นตุ๊ดหรือไง” พี่ธารกดจมูกโด่งๆลงบนแก้มลีวายส์ ก่อนจะพูด
 
“ไอ้หมอนั่น มันหาว่าลีวายส์เป็นตุ๊ด แหละ ลีวายส์ถึงได้ทำมันได้แผลอ่ะ” ลีวายส์บอกอีก พี่ธารขมวดคิ้วเข้าหากัน
 
“งั้นหรอ.....หึ!  ก็เหมือนเด็กผู้หญิงซะขนาดนี้ ฟอด! ไปอาบน้ำเร็ว เดี๋ยวออกมากินข้าว” พี่ธารกดจมูกลงบนแก้มใส่ของลีวายส์อีกครั้งก่อนจะออกไป
 
 
Tru.........  Tru..............
 
ลีวายส์ออกมาจากห้องน้ำ พร้อมๆกับเสียงโทรศัพท์ของพี่ธารดังอยู่ตรงหัวเตียง ลีวายส์เลยเดินไปจะหยิบมาดู
 
“ยังแต่งตัวไม่เสร็จอีกหรอ” ลีวายส์ยังไม่ทันได้ดูพี่ธารก็เข้ามาซะก่อน ลีวายส์เลยส่งให้พี่ธาร
 
“ยังฮะ....เอ่อ นี่โทรศัพท์ฮะ” แล้วพี่ธารก็รับไปกดรับสาย
 
“ครับ.....ไม่ว่าง........อืม........ครับ” พี่ธารพูดเสร็จก็ว่างสายทันที
 
 
“ใครหรอฮะ......”
 
<<<<<<<<TBC>>>>>>>>>>>>>

มาแล้วจร้า   มาแบบมึนๆ มีคำผิดขอโทษด้วยนะคร้าาา เราตาลาย @_@

ขอบคุณสำคัญเม้นเด้อค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nong PeePee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
ลีวายส์อย่าไปยอมมัน แล้วใครโทรมาอ่ะ มาต่อไวๆนะ  :mew1:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ท่าทางจะมีเรื่องไม่เว้นวันเสียแล้วลีวายของป้า
สู้ๆนะลูก อย่าไปกลัว ใครร้ายมาก็เล่นซะเลย
เหมือนพี่ธารไง อิอิ o18

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
 :mew2: อ่าน 2 ตอนรวดอีกแล้ว ต่อไปจะพยามเม้นให้ทันทุกตอนจ้า
จากตอนที่แล้ว พี่ธารเป็นผู้ใหญ่ม้ากมาก ใช้อำนาจของคนเป็นผู้ใหญ่กีดกันน้องปอนด์จนออกนอกหน้าเลยอะ
ถ้าน้องลีวายส์ไม่ซื่อขนาดนี้คงต้องรู้แล้วล่ะ ว่าพี่ธารทั้งหวงทั้งหึงขนาดไหน
เสียดายน้องปอนด์ไม่น่าแค่รับเชิญ มีคู่ซักนิดก็น่าจะดี มีใครโสดอีกไหมน๊า
มาตอนนี้น้องลีวายส์เข้ารร.ปั๊บก็ได้เจอคู่ปรับเก่าซะแล้ว เลยทำพี่ธารโกรธเลยอะทั้งที่ลีวายส์ไม่ผิดแท้ ๆ
แล้วคนที่โทรมานี่จะใช่พี่แพทของน้องแพ๊ครึเปล่านะ เดี๋ยวอาการหวงพี่กำเริบจะมาพาลน้องลีวายส์อีกอะสิ
เอ๊ หรือจะให้น้องแพ๊คคู่พี่เซฟ เพราะบอกว่าออกมาแล้ว ก็น่าจะใช่นะถึงจะเกเรไปหน่อยก็ให้พี่เซฟปราบซะเลย
ยังไงก็อยากให้มีคนดามใจพี่เซฟเร็ว ๆ จะได้ทำใจจากน้องกายได้ไว ๆ ถ้าคุณหมอเค้าตามมาทวงอะ
รอติดตาม และบวก บวก เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนต่อไปจ้า  :pig4: :L2:

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....21
 
 
“อะไรนะแม่.....จะให้กายไปเป็นครูเนี่ยนะ” ฉิบหาย เรียนจบนิติมาแต่จะให้ผมไปเรียนหนังสือมันได้ที่ไหนกันเล่า ไม่เอาหรอกแค่คิดก็ปวดหัวแล้ว
 
“โธ่กาย ก็สอนกฎหมายเบื้องต้นนิดๆหน่อยๆเอง ที่โรงเรียนขาดครูนะลูก อีกอย่างกายก็ว่างนี่” คุณแม่คนสวยของผมพูดบอก ท่านคิดง่ายๆแบบนี้ได้ไงกันนะ
 
“แม่.....แต่กายจะตบเด็กเอาป่าวๆนะ...ไม่เอาหรอก” ผมบอก ไม่ไหวๆ ยังไงก็ไม่เด็จขาด
 
“งั้น...กายก็ต้องไปหาคนมาสอนแทน เดี๋ยวแม่จะออกไปข้างนอกอยู่บ้านด้วยล่ะ” แล้วจะหาใครล่ะครับแม่ เฮ้อออ
 
“ไม่อ่ะ เดี๋ยวกายมีนัดกับไอ้เซฟ” ผมบอกก่อนจะว่างแก้วน้ำลงและเดินขึ้นห้อง ได้ยินเสียงแม่บ่นไล่หลังมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะแม่บ่นประจำอยู่แล้ว
 
ก๊อกๆๆ
 
พอทำท่าว่าจะหลับซะหน่อยดันมียินเสียงเคาะประตูห้องมากวนใจอีก แม่นะแม่ ผมก็เลยต้องลุกไปเปิด
 
“มีอะ........”
 
“สวัสดีค่ะ.....น้ากาย” เด็กผู้หญิงตัวเล็กแค่เอวยืนยิ้มกว้างอยู่หน้าประตู พร้อมกับยกมือไหว้ด้วยท่าทางนอบน้อม
 
“เอ่อ.....ครับ”
 
“ไข่มุกเข้าไปได้มั้ยค่ะ” สาบานว่านางขออนุญาต แต่ก็เข้ามาทั้งที่ผมยังไม่ได้บอกเลยสักคำว่าเข้ามาได้ ผมก็ได้แต่ยืนเกาหัวแหละครับ
 
“เอ่อ....ไข่มุกมากับ...?”
 
“มากับคุณพ่อค่ะ.....คุณพ่อมาจัดยาให้คุณยายทวด” เธอพูดบอกเสียงใส่ ในขณะที่ขึ้นไปกระโดดอยู่บนเตียงของผม ไม่ต้องสงสัยครับนางมาบ่อย
 
รู้มั้ย ไอ้หมอมันพาไข่มุกบ่อยมาก แถมบางครั้งก็ยังอยู่ทานข้าวด้วยผมก็เลยชอบหาโอกาสออกไปข้างนอกเพื่อหลบหน้ามัน  ทั้งที่มีลูกมีครอบครัวแล้วแท้ๆยังจะมาวุ่นวายกับผมอีกไอ้พี่หมอมันคิดอะไรอยู่กันแน่ ผมล่ะไปเข้าใจเลยจริงๆ
 
“น้ากายคะ ไข่มุกอยากชวนน้ากายไปเที่ยวค่ะ วันนี้วันหยุดเราไปเที่ยวกันนะคะ” ไข่มุกกระโดดลงจากเตียงมานั่งข้างๆ ผมที่ตอนนี้นั่งอยู่กับพื้น
 
“เอ่อ...คือว่า....น้ากายมีนัดแล้วน่ะครับ”ผมบอก ไข่มุกหุบยิ้มลงทันที
 
“จริงหรอคะ ไข่มุกตั้งใจว่าจะมาชวนน้ากายจริงๆนะ คุณพ่อไม่พาไข่มุกไปแน่ะๆเลยอ่ะ น้ากาย” อ้าว แล้วเกี่ยวไรกับผมล่ะครับ ไข่มุกมีสีหน้าเศร้าลงจนผมรู้สึกสงสาร ร่างเล็กมองผมตาปริบๆ และมันก็ทำให้ผมใจอ่อนจนได้
 
“ครับๆ งั้นน้า ไปก็ได้...จิ๊....แล้วจะไปเที่ยวไหนล่ะ”
 
“สวนสนุกค่ะ....ไข่มุกอยากไป น่าสนุกดีเดี๋ยวเราจะไปเล่น......%$@#*&”  พอผมรับปากปุ๊บ ไข่มุกก็พูดอย่างตื่นเต้นดีใจและบรรยายให้ผมฟังจนหูแทบชา เด็กอะไรช่างพูดจริงๆเลย
 
“คุณพ่อมาแล้ว........คุณพ่อคะ เดี๋ยวเราไปสวนสนุกกันนะคะ พี่กายไปด้วย” ไอ้พี่หมอ เดินกลับมาจากบ้านยายผมที่อยู่หางกันไปมากนัก ผมกับไข่มุกลงมานั่งเล่นหน้าบ้านพอดี
 
“หืม.....สวนสนุก........แล้วถามน้ากายแล้วหรอว่าอยากไปด้วยจริงๆ” ไอ้พี่หมอถาม มันเหลือบมองหน้าผมนิดๆ
 
“ก็ต้องอยากไปสิคะ....น้ากายรับปากแล้ว ใช่มั้ยคะน้ากาย” ไข่มุกพูดบอก เธอกระตุกมือผมเบาๆให้ผมตอบ
 
“เอ่อ.....ใช่ครับ” อันที่จริงกูก็ไม่อยากไปสักเท่าไหร่หรอกถ้าไม่เห็นแก่เด็ก
 
“เย้!!! งั้นเราไปกันเลยนะคะ ไปค่ะคุณพ่อไปค่ะน้ากาย เย้ๆ” ในขณะที่ เด็กตัวเล็กกำลังดีใจแต่หารู้ไม่ว่าผมไม่ได้สนุกด้วยเลย เฮ้ออออ
 
“น้ากายหิวมั้ยคะ...ไข่มุกหิวแล้วค่ะ คุณพ่อ....แวะกินข้าวก่อนนะคะ” ไข่มุกน้าว่าไม่ต้องถามน้าก็ได้ =_=^ เราอยู่บนรถครับ ตอนแรกผมกะจะนั่งเบาะหลังแต่ว่ายัยเด็กตัวดีบอกให้นั่งข้างหน้าและตัวเองก็มานั่งตักผม
 
“ครับ พ่อก็หิวเหมือนกัน” คนข้างๆที่กำลังขับรถบอก ไม่นานไอ้พี่หมอก็แวะร้านอาหาร
 
“น้ากายกินอะไรดีคะ.....ไข่มุกเอาข้าวผัดกุ้งค่ะ” ไข่มุกบอกโดยที่เธอไม่ได้ดูเมนูเลยคงจะเป็นร้านประจำ ก่อนจะถามผม
 
Tru...........
 
ในระหว่างนั้น เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของผมดังขึ้น ผมล้วงออกมาดูก็รู้ว่าเป็นไอ้เซฟ จริงสิผมยังไม่ได้โทรไปบอกมันเลยอ่ะ
 
“ว่าไง....” ผมกรอกเสียงลงไปหลังจากที่กดรับสาย
 
(กูเสร็จแล้ว....จะออกไปกินข้าวด้วย จะให้กูไปรับเลยหรือป่าว)
 
“เอ่อ โทษที คือกูออกมาแล้วน่ะ เอาไว้ เจอกันที่ร้านเลยก็แล้วกัน” ผมบอกกลับไป
 
(มึงออกไปกับใครแล้วล่ะ) เสียงจากปลายสายนิ่งเงียบ ก่อนจะถามกลับมา ผมหันไปมองคนสองคนที่ตอนนี้กำลังมองผมอย่างสนใจ ไอ้พ่อลูกคู่นี้ จิ๊!
 
“กับ....พี่หมอน่ะ”
 
(อืม...เข้าใจแล้ว) แล้วไอ้เซฟก็ตัดสายผมไปเลย =_= ขอโทษเพื่อน จริงๆกูก็อยากไปกับมึงมากกว่าล่ะนะ
 
“แฟนหรอคะ น้ากาย” แหมตัวแค่นี้อยากรู้อยากเห็นจริงๆแต่คงไม่เท่าคนเป็นพ่อล่ะนะ จ้องซะ
                                                                                                                 
“มีแล้วครับ” ผมตอบออกไป ก็ไอ้พี่หมอจะได้เลิกยุ่งกับเราซะที ผมพูดจบ ร่างสูงยังคงจ้องหน้าไม่เลิกแถมยังทำท่ากวนๆเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มตัวเองด้วย
 
“หว้า  ไข่มุกว่าจะจีบน้ากายซะหน่อย เสียดายจัง” =_= เด็กอะไรน่าหยิกจริงๆ
 
หลังจากทานข้าวเสร็จเรียบร้อย เราก็มาถึงสวนสนุกในเวลาไม่นาน ไข่มุกดูตื่นเต้นมากเมื่อเห็นเครื่องเล่นมากมาย และมีตัวการ์ตูนมาสคอตเต็มไปหมด รู้ตัวอีกทีผมเองก็ตื่นเต้นพอๆกับไข่มุกนั่นแหละ
 
“ดูเหมือนจะชวนมาถูกคนแฮะ” ไอ้พี่หมอพูดยิ้มๆแต่สายตามันไม่ได้มองมายังผม
 
“สงสารไข่มุกหรอก ถึงได้มา” ผมตอบกลับไป ก่อนจะหันไปหาเด็กตัวเล็กข้างๆ แต่ปรากฏว่าหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ “เฮ้ย! ไข่มุกหาย ไข่มุกหาย” ผมตกใจมากขอบอกเพราะจู่ๆก็ไม่เห็นแถมเด็กก็เยอะด้วย
 
“นี่ๆ ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น โน้น อยู่โน้น” ผมมองตามนิ้วไอ้พี่หมอที่ชี้ไป เห็นไข่มุกกำลังยืนจับมืออยู่กับมาสคอตหมีพูท่าทางสนุกเชียว
 
ผมสะดุ้งเมื่อมือหนาจับข้อมือผมเดินผ่านกลุ่มคนจำนวนหนึ่งไปหาไข่มุก มือหนาจากคนตัวสูงยังคงอบอุ่นเหมือนเดิมแต่ว่า....คงไม่ใช่สำหรับผมแล้ว ผมจึงดึงมือออก ร่างสูงขมวดคิ้วมองแต่ผมไม่สนใจรีบเข้าไปหาไข่มุก
 
“น้ากายมาถ่ายรูปกันค่ะ คุณพ่อถ่ายให้หน่อยนะคะ” ไข่มุกดึงมือผมเข้าไปใกล้ๆก่อนจะคะยั้นคะยอให้พ่อตัวเองถ่ายรู้ให้
 
“ค่ะๆ เอาล่ะ ยิ้มหน่อยสิคุณ” ยิ้มสิครับยิ้ม     ^[+++]^        ^_^
 
“คุณพ่อมาถ่ายด้วยกันนะคะ มาเร็วค่ะ” ไข่มุกดึงแขนคนเป็นพ่อมาถ่ายด้วยกัน ไอ้พี่หมอมันวานให้คนอื่นถ่ายให้ ก่อนจะมายืนข้างๆผม เอ้า ยืนข้างลูกมึงสิ!
 
“อุ้มไข่มุกสิคุณ ผมขี้เกียจย่อตัว......ไข่มุกให้พี่กายอุ้มนะคะ” ไอ้นี่ แม่ง แล้วตัวเองทำไมไม่อุ้มเล่า ผมเหลือบมองร่างสูงด้วยหางตาก่อนจะย่อตัวลงอุ้มไข่มุกขึ้นมาเอง
 
“หนึ่ง.....สอง......” ตากล้องกำลังจับภาพ จู่ๆ มือหนาก็ยกขึ้นกอดไหล่ผม “สาม.....แชะ” แล้วก็ถ่าย  ผมจ้องหน้าร่างสูงเขม่งแต่ ไอ้หมอนี่มันด้านครับ ขอถ่ายอีกรูป แถมรูปนี้ยังจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆจนชิดติดกันอีกด้วย(เหมือนรูปครอบครัวแปะ)
 
จากนั้นไข่มุกก็เริ่มยากเล่นเครื่องขึ้นมาโดยให้ผมไปเป็นเพื่อน เพราะไอ้คนเป็นพ่อนี่มันไม่ยอมเล่น โดยให้เหตุผลว่า พ่อโตแล้วไปกับพี่กายนะ(กูโตแล้วด้วย) ผมเลยต้องรับกรรมแทนเล่นโน้นเล่นนี้จนเวียนหัวไปหมด แต่ก็สนุกดี บอกตามตรงว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาสวนสนุกครับ เหอะๆ
 
“คุณพ่อๆ ไข่มุกเหนื่อยค่ะ คุณพ่ออุ้มหน่อยนะคะ” ไข่มุกบอกขณะที่เราสามคนกำลังเดินไปขึ้นรถกลับ จะไม่ให้เหนื่อยได้ไงก็นางทั้งวิ่งทั้งเล่นตลอดเวลาจนถึงเย็น
 
“ให้พี่กายอุ้มนะคะ คุณพ่อถือของอยู่” ผมหันขวับไปมองคนพูดทันที ไอ้นี่....กูก็เหนื่อยโว้ย
 
“น้ากาย....” *0*
 
“ครับๆ......งั้นนายถือสะพายด้วย” เล่นมองกันด้วยสายตาเว้าวอนแบบนี้ อุ้มก็อุ้มสิครับ ผมก็เลยใช้ให้ร่างสูงสะพายกระเป๋าให้ เพราะผมจะได้อุ้มไข่มุกถนัด
 
“คล้องมาสิ ผมไม่มีมือนะ” ไอ้พี่หมอบอก มันถือของเต็มมือจริงๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นตุ๊กตาแล้วก็ของเล่นที่ไข่มุกได้มาจากซุ้มของเล่นนั่นแหละ
 
ผมถอนหายใจเบาๆก่อนจะเอากระเป๋าสะพายใบไม่ใหญ่นักคล้องคอคนตัวสูงที่โค้งลงมา มันดูพะรุงพะรังมากจะผมเกือบหลุดขำ จากนั้นผมก็ก้มลงอุ้มไข่มุก ร่างเล็กในอ้อมแขนผมซบหน้าลงกับไหล่ทันทีด้วยความเหนื่อยล้า
 
“เดี๋ยวจะไปส่งไข่มุกก่อนแล้วกัน”ร่างสูงบอกขณะอยู่บนรถ ผมก้มลงมองหน้าไข่มุกก่อนที่ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัว
 
“ไข่มุกอายุเท่าไหร่” ผมขมวดคิ้วถาม ร่างสูงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
 
“เจ็ดขวบ” ไอ้พี่หมอตอบ สายตาคมๆจับจ้องไปยังถนนเบื้องหน้า เจ็ดขวบ ผมไปอยู่เมืองนอกแค่สามปีนี่ นี้มันอะไรกัน แสดงว่ามันมีไข่มุกก่อนที่จะรู้จักกับผมซะอีก
 
ผมมองคนข้างๆที่กำลังขับรถ อย่างไม่เข้าใจ ความคิดในหัวตีกันยุ้งเหยิงไปหมดและความโกรธก็เข้ามาแทนที่จนต้องกำหมัดแน่น ผมโง่เองหรือเปล่านะที่ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับตัวมันเลยสักนิด ทั้งที่คิดว่าเราเคยสนิทกันมากแล้วแท้ๆ
 
“คุณช่วยอุ้มไข่มุกขึ้นไปนอนหน่อยนะ ผมจะเอาของไปเก็บ” ไอ้พี่หมอบอกก่อนจะลงจากรถไปและเอาของจากท้ายรถเดินเข้าบ้าน หลังใหญ่กว่าบ้านผมราวๆสามเท่าได้ จะใหญ่ไปไหนวะ
                                                                                                               
ผมไม่พูดบอกอะไรเดินอุ้มไข่มุกที่นอนหลับอยู่บนตักลงจากรถและเดินตามไปเช่นกัน ภายในบ้านกว้างขวางมาก มีคนรับใช้สองคนกำลังทำงานบ้านอยู่หันมามองแต่ดูเหมือนเค้าไม่ได้คิดจะช่วยผมล่ะนะ
 
“ตายจริง.....ไปไหนกันมาคะ เหนื่อยจนหลับเลยหรอเนี่ย” ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา ดูแล้วอายุคงเท่าๆกับแม่ผมได้ และจากการแต่งตัวที่ดูดีแล้วคงไม่ใช่คนใช้แน่นอน
 
“เอ่อ.....สวัสดีครับ  ห้องน้องอยู่ไหนหรอครับ” ผมทักทายก่อนจะถาม เพราะตอนนี้เริ่มหนักแล้วเหมือนกัน
 
“อ่อ.....ข้างบนค่ะ....ห้องที่สองทางขวามือ”
 
“ครับ” ผมตอบรับและรีบเดินขึ้นมาทันที ผมจะได้พาไข่มุกไปนอนและรีบกลับเพราะผมคงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะอยู่ที่นี่นานๆ
 
ผมเดินขึ้นมาด้านบนของบ้าน แหม มันจะสร้างบันไดให้สูงไปไหนเนี่ย แล้วนี่ไอ้พี่หมอหายไปไหนวะ
 
ผมเปิดประตูและใช้หัวไหล่ผลักเข้ามาในห้อง ที่ว่าน่าจะใช้ห้องไข่มุก และค่อยๆวางร่างเล็กลงบนเตียงกว้างอย่างเบามือ มองสำรวจใบหน้าใสและคิดว่า ทำไมไม่มีเค้าโครงที่เหมือนไอ้พี่หมอเลยวะ
 
ผมละสายตาจากร่างเล็กบนเตียงไปมองสำรวจห้องตรงโต๊ะเขียนหนังสือเล็กๆมากรอบรูปตั้งเรียงอยู่ ด้วยความอยากรู้ผมก็เลยเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
 
“พี่รักษ์ กลับมา........อ้าว.......” ผมหยุดชะงักเมื่อมีเสียงผู้หญิงดังมาจากประตูห้อง หญิงสาวร่างสูงพอๆกับผมยืนขมวดคิ้วมองมาอย่างสงสัย เธอดูสวยไร้ที่ติมาก ตาเรียวรับกับจมูกโด่สวยปากอิ่มสีสดดูดีจนหน้าอิจฉาและที่สำคัญ หน้าเหมือนไข่มุกไม่มีผิด แม่ไข่มุกหรอ
 
“เอ่อ ขอโทษครับ.....คือผม.....” ผมเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อคิดได้ว่าคนตรงหน้าเป็นใคร และคิดโกรธตัวเองอีกว่าไม่น่ามาที่นี่เลยจริงๆ
 
“อ่อ....เอ่อเพื่อนพี่รักษ์หรอคะ ขอบคุณค่ะที่ดูแลไข่มุก........เหนื่อยจนหลับไปเลยหรอเนี่ย” เธอยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตรก่อนจะเดินไปหาไข่มุกและนั่งลงบนเตียงก่อนจะก้มลงหอมแก้มร่างเล็กอย่างหวงแหง ผมมองภาพนั้นแล้วรู้สึกเจ็บแปลกๆ ในใจวูบไหว ที่ตัวเองเข้ามายืนอยู่ในฉากนี้
 
“รัน.......มาตั้งแต่เมื่อไหร่” เสียงเข้มดังมาจากประตูพร้อมๆกับร่างสูงที่เดินเข้ามา จากนั้นผมก็คิดได้ว่าตัวเองเป็นคนนอกในทันที ผมเลยจะก้าวเท้าเดินออกไป “เดี๋ยว.....กาย” แต่ร่างสูงกลับคว้าแขนผมไว้ก่อน ผมมองไอ้พี่หมออย่างไม่เข้าใจ
 
“รันเพิ่งลงเครื่องเมื่อกี้นี้เองค่ะ รันของพักผ่อนกับไข่มุกก่อนจะคะ” เธอพูดบอกและไม่มีอาการหึงหวงหรือสงสัยเลยสักนิด ร่างสูงพยักหน้าตอบก่อนจะดึงแขนผมออกมา
 
“ปล่อยผมนะ นี่นายจะทำอะไร บ้าไปแล้วหรอ” ผมถามเสียงดังเมื่อไอ้พี่หมอดึงแขนผมจนแทบจะเรียกได้ว่าลาก ก่อนจะเปิดประตูเข้ามาในห้องที่อยู่ใกล้ๆกัน
 
“กาย!!! เมื่อไหร่จะเลิกมองผมด้วยสายตาแบบนั้น คุณคิดว่าผมเป็นคนยังไง” คนตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังจนผมพูดไม่ออก
 
Tru................   Tru.............
 
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นและผมก็รู้ดีว่ามันเป็นของผมเองแต่ไม่รู้ว่ามันมาอยู่บนเตียงในห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งกระเป๋าและโทรศัพท์
 
“นี่!!! เอาของผมคืนมานะ” ผมบอกและพยายามแย่งโทรศัพท์ในมือร่างสูงที่มันเพิ่งจะเดินผมไปหยิบมาตัดหน้า
 
“ไม่!!!......”
 
“นี่ แอบดูโทรศัพท์ผมหรอ นิสัยเสีย” ผมว่าและดึงเสื้อร่างสูงเพื่อจะแย่งโทรศัพท์คืนมา แต่ว่ามันกินอะไรเข้าไปวะ ทำไมสูงเหมือนเปรตอย่างนี้
 
“เปล่า......จะดูได้ไงผมไม่รู้รหัส”
 
“เอ๊ะ!!! แล้วรู้ได้ไงว่าผมตั้งรหัสไว้ แอบดูจริงๆด้วย นายนี่มัน....เอาคืนมาเลยนะ” ผมทั้งทุบทั้งตีร่างสูงเพื่อให้มันคืนโทรศัพท์มาแต่ว่ามันกลับรวบมือผมไว้ทั้งสองข้างด้วยมือหนาเพียงข้างเดียว
 
“ก็ผมอยากรู้ว่าคุณมาแฟนแล้วจริงๆหรือพูดเล่นกันแน่” ผมโดนร่างสูงผลักให้นั่งลงบนเตียงกว้าง สายตาคมๆจ้องมองผมเพื่อรอบคำตอบ
 
“จริง!”
 
“โกหก!” เอ้า พอผมพูดบอกร่างสูงก็สวนกลับทันที แล้วจะถามทำไมกันเล่า
 
“ไม่เชื่อก็ตามใจ” ผมว่าอย่างอ่อนใจจะพูดบอก จริงๆก็ไม่มีหรอกคำว่าแฟนเป็นแค่เกราะป้องกันเท่านั้น แต่ดูเหมือนจะใช้กับคนๆนี้ไม่ได้
 
“แค่มองตาก็รู้แล้ว ว่า.....โกหก” ร่างสูงที่ยืนอยู่ก้มลงมาพูดคำว่าโกหกใส่หน้าจนผมต้องเอนตัวหนีจนเกือบหายหลัง
 
“เลิกยุ้งกับผมซะที ตัวเองก็มีครอบครัวแล้ว ปล่อยเลย ไม่อายคนในบ้านบ้างหรือไง”
 
“กาย!!! ฟังนะจะได้เข้าใจ....” ร่างสูงนั่งลงข้างๆผมก่อนจะรวบตัวผมเข้าหาตัวเองด้วยมือข้างที่จับข้อมือผมไว้ในท่ากอด “ไข่มุกน่ะ ไม่ใช่ลูกผม.....ไข่มุกคือลูกของรันน้องสาวผมเอง”
 
ไอ้พี่หมอบอกทำให้ผมที่กำลังดิ้นหาทางหนีหยุดนิ่งมองหน้าร่างสูงอย่างไม่เข้าใจ ไอ้พี่หมอทำหน้าจริงจังมากมายจนผมยอมผ่อนแรงขืนของตัวเองลงและหน้าหนาก็คลายออกเช่นกัน
 
“ไข่มุกเป็นลูกของรัน น้องสาวแท้ๆของฉันที่เกิดมาจากความไม่ตั้งใจเมื่อเจ็ดปีก่อน แต่ตอนนั้นไม่มีใครรู้เพราะเธออยู่ต่างประเทศ มารู้อีกทีก็ตอนที่ไข่มุกโตจนเข้าโรงเรียนแล้วล่ะ” ผมฟังและคิดตาม
 
“ตอนแรกพ่อแม่ก็ไม่ยอมรับ เพราะเด็กไม่มีพ่อ ผมก็เลยยื่นมือเข้าไปช่วยน้องสาว และก็รับผิดชอบไข่มุกเอง แม่กับพ่อถึงได้ยอมรับไข่มุกและให้เข้ามาอยู่ในบ้าน แต่ว่ารันจะต้องอยู่ต่างประเทศ เธอจะกลับมาเป็นครั้งคราวเท่านั้น”
 
“ไข่มุก....ไม่มีพ่อหรอ” ผมถามเพราะรู้สึกสงสารไข่มุกขึ้นมา โดยไม่ได้สนใจเรื่องที่ว่าไข่มุกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว
 
“อืม.....ผมก็เลยให้ไข่มุกเรียกว่าพ่อไง....แล้วก็.....”
 
“พอๆ.......แม่ง ผู้ชายนี่มันไม่มีความรับผิดชอบกันจริงๆเลย เหี้ย จริงๆ” ผมกำหมัดแน่นและตุบลงบนเตียง ผมแอนตี้เรื่องแบบนี้มากเลยขอบอก เพราะอย่างนี้แหละผมถึงได้รักลีวายส์แล้วก็ตามใจมากกว่าไอ้ธารซะอีก
 
ป๊อก!
 
“นี่ๆ คุณ  ตัวเองก็เป็นผู้ชายไม่ใช่หรือไง ผมก็ด้วยนะ” ร่างสูงดีดหน้าผากผมทีนึ่งก่อนจะพูดบอกด้วยน้ำเสียงขำๆ
 
“ไม่นับเว้ย!!!....นับแต่ไอ้พวกเลวๆเท่านั้นแหละ”
 
“งั้น ผมก็ผ่าน” ผมมองร่างสูงด้วยหางตาก่อนจะส่ายหน้าให้ ไอ้พี่หมอยิ้มมุมปากและกลับมารวบตัวผมอีกครั้ง
 
“เน้!!....ปล่อยเลย ผมจะกลับล่ะ ค่ำแล้วเดี๋ยวต้องไปร้านอีก” ผมบอก พยายามดิ้นสุดแรงแต่ก็ไม่หลุดจากอ้อมแขนแกร่งที่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งกระชับแน่นขึ้น
 
“ที่นี้เข้าใจพี่แล้วนะ” มีเปลี่ยนสรรพนามด้วย ไม่ๆ กูไม่ใจอ่อนเว้ย
 
“เข้าใจอะไร ผมคิดอยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ อีโธ่ ปล่อย ปล่อยเลย” ผมบอก หืม ไอ้พี่หมอมันทำหน้างอคอตกเหมือนเด็กด้วยล่ะแต่ว่า แม่ง มันเอาแรงมาจากไหนนักวะ กูถึงดิ้นไม่หลุด
 
“เข้าใจแล้ว ทำไมไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมล่ะ ผมไม่มีเวลาเริ่มต้นใหม่หรอกนะคุณ ผมมีงานต้องทำ จะให้ผมคอยมาตามง้อคุณทุกวันมันได้ที่ไหน เนี่ยวันนี้ผมลางานนะรู้มั้ย หมอนะหมอไม่ใช่เด็กพาร์ทไทม์” ผมอ้าปากค้าง นึกคำพูดออกมาเถียงไม่ได้ กับบทเทศนาของมัน
 
“ละ.....แล้ว....ใครใช้ให้มาง้อเล่า ไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย”
 
“ก็เป็นซะอย่างเนี่ย....เฮ้ออออ” แล้วไอ้พี่หมอก็ทำเนียนพาร่างผมเอนหลังลงนอนบนเตียงไปกันมัน
 
“ปล่อยเลย ผมจะไปร้านแล้ว ป่านนี้ไอ้เซฟรอล่ะ”ผมบอก และก็ไม่ลืมออกแรงผลักคนที่กำลังกอดผมอยู่แถมมันยังซุกหน้าเข้ามาหาอีก
 
“ไอ้เซฟ! ไอ้เซฟ! ไอ้เซฟ! ทำไม....ตัวไม่ห่างกันเลยนะ เป็นอะไรกัน” ร่างสูงผงกหัวขึ้น ถามเสียงเข้ม
 
“เป็นเพื่อน ทำไมก็สนิทกันน่ะ” ผมตอบแบบส่งๆ
 
“หึ! เพื่อนแต่ตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋เนี่ยนะ ได้ข่าวว่าไปเที่ยวทะเลด้วยกันนี่ ดีเนอะ” มันรู้ได้ไงวะ เนี่ยผมตั้งใจหลบหน้ามันแล้วนะ
 
“รู้ได้ไง......ไอ้ธารบอกหรอ”
 
“เปล่า แม่บอก.....ว่าจะตามไปแล้ว แต่งานมันค้ำคอ” แม่ผมเอง ดีล่ะที่มันไม่ไป ถ้าไปคงวุ่นวายได้อีก แค่ไอ้ธารกับไอ้แมนก็แรงพอล่ะ
 
“พี่กาย........คุณพ่อ” พอได้ยินเสียงนี้ ไอ้ผมก็คิดว่ามันจะปล่อยแต่เปล่าเลยครับ มันก็ยังกอดผมไว้เหมือนเดิม ไม่ได้อายไข่มุกที่กำลังปีนขึ้นมาบนเตียงเลยสักนิด
 
“คร้าบบ ไหนๆ เจอแม่หรือยัง” ผมก็เห็นมันอ่อนโยนแต่กับเด็กก็ตอนที่คุยกับไข่มุกเนี่ยแหละ อ่อไม่ๆ ตอนคุยกับลีวายส์ด้วย
 
“เจอแล้วค่ะ น้ากายจะนอนนี่หรอค่ะ นอนกับคุณพ่อหรอคะ” ไข่มุกถามอย่างสงสัย แต่ดูท่าทางเธอจะตื่นเต้นมากกว่า
 
“ใช่ค่ะ น้ากายบอกว่าจะนอนนี่ค่ะ” เหี้ย พ่อมันบอกครับ ก่อนจะยักคิ้วให้ผม
 
“จริงหรอคะ ดีจังเลย ไข่มุกก็อยากให้น้ากายนอนที่นี่เหมือนกัน” เอากับเค้าสิ ถ้ากูนอนก็ไม่เหลือล่ะ พ่อมันทำตากรุ้มกริ่มซะขนาดนั้น
 
“คือ น้ากายมีงานต้องทำครับ” ร่างเล็กสีหน้าอ่อนลงทันที เอ้าทำผมใจวูบอีกแล้ว
 
“นี่ คุณทำลูกผมเสียใจนะ ดูสิ โอ๋ๆ ไข่มุกของพ่อ” เอากับมัน ผลักผมออกแล้วก็ไปกอดลูกตัวเองไว้ แอคติ้ง สุดๆ
 
“ก็ได้ครับ” พอเห็นสีหน้าผิดหวังของไข่มุกผมก็ใจอ่อนอีกแล้ว ลุกขึ้นมานั่งและบอกออกไป
 
“เย้ๆ น้ากายนอนนี่นะค่ะ จะได้เล่นกับไข่มุก” ได้ข่าวว่านางเล่นมาทั้งวันแล้วนะ ผมก็ได้แต่ยิ้มบางๆให้ไข่มุกที่ลุกจากตักคนเป็นพ่อมานั่งตักผมแทน
 
“หึๆ.....” แหมพ่อมันก็ยิ้มใช่ย่อยแถม ยังทำเนียนมากอดผมกับไข่มุกอีกด้วย
 
“คืนนี้ไข่มุกจะนอนกับคุณพ่อด้วยค่ะ” พอลูกพูดจบพ่อมันก็หายหลังกางแขนบนที่นอนเหมือนโดนน็อคเลยที่เดี๋ยว เหอะๆ
 
“อ่า คุณพ่อสลบไปแล้ว คึคึ”

<<<<<<<TBC>>>>>>>

ดูเหมือนคู่นี้จะพูดจากันเพราะสุด  แต่พี่หมอจะพูดเพราะกับกายน่ะนะ เพราะกับเซฟกับพี่ธารก็มีมึงกู

 ก็พี่หมอคิดว่าคำว่ามึงกูไม่เหมาะกับหน้าสวยๆของกายค่ะ ส่วนกายที่ไม่พูดมึงกูเพราะให้เกียรติกับความเป็นหมอค่ะ

 ส่วนเกียรติความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องไม่มี 5555 #เราเพ้อ

ตอนนี้บรรยายได้แข็งมากอ่ะ T^T ขอบคุณกำลังใจทุกๆข้อความค่ะ เราจะ...ลงเรื่อยๆ ค่ะ

ส่วนคู่เซฟคือใครลองลุ้นกันดู  :mew1:  :mew1:



ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
สู้เค้าลูกกกกกกกกก
อย่าไปยอมให้เค้ารังแกกกกก :katai4:

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
นั่นแน่ ได้โอกาสแล้วน้องเซฟไปเป็นครูแทนน้องกายซะเลยจะได้ปราบเด็กแพ๊คได้ถนัด ๆ
ยิ่งตอนนี้น้องกายได้รู้แล้วด้วยว่าพี่หมอยังโสด รอน้องกายมาตลอดไม่ได้คิดนอกใจ
แถมมีน้องไข่มุกเป็นตัวช่วย เพราะงั้นน้องกายคนดีหนีพ่อลูกคู่นี้ไปไหนไม่ได้แน่
ครอบครัวสุขสันต์ น่ารักจัง พี่กายแพ้เด็กตลอดแบบนี้ก็เข้าทางพี่หมออะสิ
รอติดตาม และเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนต่อไปจ้า  :pig4: :L2:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
มีคุณน้องไข่มุกเป็นแม่สื่อขนาดนี้เอาไงดีกาย

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....22
 
 
“โอ๊ต!”
 
“...........”
 
“โอ๊ต! กินข้าว” ผมเงยหน้าขึ้นเหล่มองคนตัวสูงที่กำลังยืนค้ำหัวผมอยู่ตรงกรอบประตูระเบียงห้อง ในขณะที่ผมนั่งสูบบุหรี่และคิดเรื่องตัวเองไปเรื่อยเปื่อย
 
ผมอัดบุหรี่ลงปอดอีกสองสามทีก่อนจะดับมันกับกระถางต้นไม้เล็กข้างๆ ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืน ผมไม่ใช่คนพูดมากอะไรเลยไม่แปลกที่ผมจะไม่ตอบรับหรือพูดคุยกับมัน
 
“เดี๋ยว.....” ร่างสูงกว่าผมมากกว่าห้าเซ็นดึงแขนผมไว้ “ลดบ้างเหอะ บุหรี่นะ กูเห็นมึงสูบทั้งวันยันเที่ยงคืน” ผมไม่เข้าใจว่ามันห่วงผมหรืออะไรผม ทั้งๆที่มันทำร้ายผมทั้งแต่วันนั้น...
 
“เสือก!!!” และผมก็ไม่เคยพูดดีกับมันเลยสักครั้ง ถึงแม้ว่าผมจะตามมันมาอยู่ด้วย แต่ผมมีเหตุผลของผม ผมแค่อยากหลุดออกมาจากวงโคจรสีเทาที่นัดวันมันยิ่งทำให้ตัวผมจางลงจางลงทุกที
 
ผมเคยคิดนะว่าพี่โอ๊คพี่ชายผมรักผมมาก เพราะเรามีกันแค่สองคน เราเคยลำบากมาก่อน ผมกับพี่ชายเคยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าโชคดีที่พี่ชายผมมีคนรับเลี้ยงและให้ทุนไปเรียนต่างประเทศซึ่งต่างจากผมที่ต้องทนอยู่ต่อ
 
ผมดีใจมากตอนที่พี่ชายมารับผมไปอยู่ด้วยและก็ตกใจเมื่อรู้ว่าพี่ชายตัวเองกลายมาเป็นมาเฟีย แต่ด้วยความที่พี่ชายผมดูแลและให้ทุกอย่างกับผม ผมก็เลยรักและเคารพจนคิดจะเดินตามรอยพี่ชาย
 
ผมอยากเรียนบริหารแต่พี่โอ๊คกลับให้ผมเรียนวิศวะซึ่งผมจะขัดใจพี่ไม่ได้ ผมอยากทำงานใหญ่แต่พี่โอ๊คก็ไม่เคยให้ผมทำเลยสักครั้งโดยให้เหตุผลว่ามันอันตรายเกินไป ทั้งที่ผมโตแล้ว จนกระทั้งเดี๋ยวนี้เหมือนพี่ชายผมไม่ค่อยวางใจให้ผมทำแม้แต่งานส่งอาวุธเล็กๆก็ตาม ผมเลยคิดว่าผมคงจะค่อยๆหมดความสำคัญลงทีละนิดๆ
 
“เดี๋ยวกูจะไปทำงานที่สนามดึกๆถึงจะกลับ มึงก็กรุณาเปิดโทรศัพท์ด้วยนะ!!!!” มันเองก็ใช่ว่าจะพูดดีกับผม แต่ดีอยู่อย่างหนึ่งคือมันไม่เคยถามมากเรื่องและยุ่งเรื่องส่วนตัวของผมเท่าไหร่นอกจากเรื่องอย่างว่า
 
“กูไปด้วย” ไอ้แมนละสายตาจากโทรศัพท์ในมือมามองผมอย่างคาดไม่ถึงเพราะปกติผมไม่เคยออกไปจากห้องตั้งแต่มาอยู่กับมัน นอกจากมันจะลากผมไป
 
“ไม่!!!” มันห้ามผมไม่ได้หรอกเชื่อสิ ผมกินข้าวและไม่ได้ไม่สนใจเสียงห้ามของมัน ไอ้แมนส่ายหน้าอย่างเซ็งมาให้ มันคงเหนื่อยที่จะพูดกับคนหัวแข็งอย่างผม
 
หลังจากกินข้าวเสร็จไอ้แมนก็เข้าไปอาบน้ำส่วนผมยังคงอยู่ในห้องครัว ไอ้แมนมันไม่ล้างจานชอบให้แม่บ้านขึ้นมาทำ ผมที่ไม่ชอบให้บุคคลแปลกหน้าเข้ามาในห้องตอนที่ผมอยู่ก็มักจะล้างเองทุกครั้งโดยที่มันไม่รู้
 
ล่างจานเสร็จผมก็เข้าไปในห้องนอนได้ยินเสียงน้ำไหลบ่งบอกว่ามันยังอาบไม่เสร็จผมเลยเปิดทีวีในห้องดูไปพลางๆ
 
หลังจากที่มาอยู่กับมันผมยังไม่ได้ติดต่อกลับไปหาพี่ชายตัวเองเลยสักครั้ง แต่พี่ชายผมไม่ใช้พวกที่หวงน้องเข้าไส้จึงไม่มีเหตุผลที่จะตามหาผมแต่มีอีกเหตุผลที่เป็นไปได้สูงกว่านั้นถ้าพี่โอ๊คจะตามหาผม ก็คืองานแต่งงานของผมกับเมล์
 
นี่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมมาอยู่กับไอ้แมนแต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด  ยังมีคำพูดของใครบางคนที่ผมเจอในงานเลี้ยงบริษัทยักใหญ่ของเมล์ ยังคงติดอยู่ในใจหลังจากที่พี่ชายผม ได้ตกลงที่จะให้ผมกับเมล์แต่งานกันเพื่อ....ผลประโยชน์บางอย่างที่ผมเองก็ไม่รู้
 
‘เป็นหงส์ที่มีปีกบิน แต่กลับกางปีกบินไม่ได้ หึ! ปีกขาวๆของนายมันกำลังจะกลายเป็นสีเทา กางมันออกไปเจอแสงบ้างสิ’ ผมรู้จักเค้าและรู้จักกับนายชายเลวๆที่ผมมาอยู่ด้วยดี พี่ชายไอ้แมน
 
“จะไปมั้ย อยู่บ้านดีกว่ามั้ง คนเยอะถ้าเจอคนของมึง.....” สติผมกลับมาเมื่อไอ้แมนมันออกมาจากห้องน้ำ มันมีเพียงผ้าขนหนูพันเอว เผยให้เห็นรอยสักไม้เลื้อยบนเอวด้านซ้ายตรงขอบผ้าขนหนูของมัน
 
“กูจะไป” ผมบอก ยันตัวลุกขึ้นจากเตียงเดินผ่านมัน หมับ! มือหนาจับก้นผมก่อนจะบีบแรงๆ เนี่ยแหละนิสัยเลวๆของมัน
 
“โอ๊ย!!!” ผมยกเท้าถีบมันเต็มแรง ก่อนจะรีบเดินเข้าห้องน้ำ รอยสัมผัสจากสะโพกยังคงส่งผลให้หน้าผมร้อนวูบขึ้นเหมือนเคย แต่ผมก็พยายามเก็บกดมันไว้ไม่ปล่อยให้หัวใจวูบไหวไปกับมัน ทั้งที่บอกอย่างนั้นแต่จริงๆแล้วไม่เลย
 
ความคิดกับร่างกายผมมันมักจะส่วนทางกันจนผมโกรธตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะมีอะไรกันกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ผมก็ไม่อยากจะยอมรับว่าผมที่ตอบรับมันกลับไปด้วยนั้นมันคือความรู้สึกจริงๆของผม ผมรักหรอคงไม่ใช่ ผมชอบหรอก็ไม่รู้ แต่ที่รู้คือรู้สึกดี
 
“เสร็จยัง....เมีย” ไม่รู้มันปากหมากับผมคนเดียวหรือเปล่า แต่กับผมน่ะบ่อยมาก
 
“เมีย....พ่อง!!!” ผมพ่นคำหยาบใส่หน้ามันเมื่อเปิดประตูห้องน้ำออก เห็นมันยื่นอยู่ ผมมองคนตรงหน้าด้วยหางตาก่อนจะเดินไปหาเสื้อใส่
 
ผมเองก็พันผ้าขนหนูผืนเดียวออกมานั่นแหละ พยายามทำตัวให้ชิน แต่ก็ไม่ชินเพราะสายตากรุ้มกริ่มจากร่างสูง ผมมักจะหาเวลาอาบน้ำก่อนมันหรือตอนที่มันไม่อยู่
 
“มึงมีเครื่องในมั้ยเนี่ย” มันบีบเอวผม ในขณะที่ผมกำลังเปิดตู้เสื้อผ้ามัน ผมไม่ได้เอาอะไรมาเลยนอกจากโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์ เพราะงั้นก็เลือกเสื้อที่พอดีตัวผมของมันใส่
 
“ ฟอด!!!” ร่างสูงก้มลงหอมข้างแก้มผมแรงๆ “อุ๊ยๆ อย่าตบนะไม่งั้นมียาว” ไอ้แมนบอก เมื่อเห็นว่าผมยกมือขึ้นจะตบบ่องหูมัน แล้วมันก็มักจะโดนเป็นประจำ
 
“ไปรอข้างนอก” ผมบอก มันก็ทำหน้าเซ็งๆ และเดินออกไป
 
เมื่อวันก่อนเพื่อนมันที่หน้าสวยๆถามผมตอนมันลากผมไปทะเลว่า คิดยังไงถึงมาอยู่กับไอ้นี่ เค้าว่าอีกว่าไม่เคยเห็นใครจะอยู่กับไอ้แมนได้นานๆ เพราะอารมณ์รุนแรงแล้วก็ออกแนวบ้าระห่ำตอนโกรธของมัน
 
ผมไม่เถียงเลยว่ามันบ้าจริงๆ หลายวันก่อน ผมเปิดประตูเข้ามาหลังจากที่ลงไปซื้อของกิน เพราะมันไปซื้อข้าวช้า ห้องมันอย่างกะสนามรบข้าวของถูกปาไปคนละทิศละทางแถมโง่ แม่ง คอมก็พัง มันบอกว่าแค่ตีแมงสาบ เชื่อมันสิ แล้วไอ้เรื่องบนเตียงไม่ต้องถามนะ แรงถึงใจ เอ๊ะ!!! เอ่อ.....
 
 
“หวัดดีพี่.....พาเด็กมาด้วยหรอ”นั่นคงจะเป็นลูกน้องในสนามของมัน ทักซะผมอยากต่อยปาก เด็กงั้นหรอ คงพามาบ่อยสิท่า
 
“เออ....แล้วพวกไอ้ต่อไปไหน” ไอ้นี่มันก็ตอบแบบส่งๆไปไม่ได้ดูหน้าผมเลย อ่อ มันเอาหมวกแก๊ปให้ผมใส่ มันบอกว่าเผื่อผมเจอคนรู้จัก
 
“ดูรถอยู่โน้น” แล้วมันก็ดึงแขนผมที่กำลังมองสำรวจรอบๆสนามตามมันไปในออฟฟิศ
 
“มึงอยู่นี่ กูจะไปทำงานล่ะ”ไอ้แมนบอกและเดินออกไป มันเปิดประตูห้องในออฟฟิศที่ข้างในเป็นห้องพักแบบเรียบๆ และบอกให้ผมอยู่ที่นี่ ที่ผมตามมันมาไม่ใช่จะมานั่งบ้าอยู่ในออฟฟิศนะจะบอกให้
 
พอร่างสูงออกไปสักพักผมก็เปิดประตูออกไปบ้าง ผมไม่ใช่เด็กอนุบาลที่จะอยู่เฉยๆได้นานๆโดยที่ข้างนอกมีทั้งเสียงเพลงเสียงเครื่องยนต์ที่ชวนให้ออกไปดู ด้านนอกใกล้ๆออฟฟิศเป็นที่เตรียมรถสำหรับลงแข่ง ทุกคนข้างๆรถกำลังวุ่นๆ ถ้าผมเดาไม่ผิดอีกไม่กี่นาทีคงจะเริ่มแข่ง
 
ผมเดินออกไปข้างขอบสนาม บนอัฒจันทร์มีคนแน่นจนไม่เหลือที่ว่างรอบๆสนามเลย มีจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่สี่ด้านกำลังฉายภาพบรรยายรอบๆ ที่เต็มไปด้วยคนดู และไม่นานการแข่งขันก็เริ่มขึ้น
 
สนามของมันได้มาตรฐานดีแต่ดูแล้วการแข่งไม่ค่อยเป็นมาตรฐานเท่าไหร่เพราะคู่แข่งแต่ละคนจะต่างฝ่ายต่างใช้กลวิธีที่รุนแรงต่อสู้กันเพื่อให้ได้เป็นฝ่ายชนะโดยไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว
 
“เออ!!! กูก็หากันล่ะ ยิ่งวุ่นๆอยู่ กลับเข้าไป” จู่ๆไอ้แมนมันเข้ามาคว้าแขนผมที่ยืนดูการแข่งขันในรอบที่สองที่เพิ่งจะเริ่มขึ้น
 
“................”ผมไม่พูดอะไรสะบัดแขนออกจากมือมัน คนจะดูจะมาขัดทำไมวะ
 
“โอ๊ต!!! เข้าไป! ...... กูกำลังยุ่ง” มันจับแขนผมอีกครั้งก่อนจะพูดด้วยสีหน้าจริงจังกว่าที่เคยจนผมแปลกใจ ผมจึงผ่อนแรงขืนและยอมเดินตามมันกลับเข้ามา
 
เด็กในออฟฟิศมองเราสองคนเล็กน้อยก่อนจะหันไปสนใจงานของตัวเอง คราวนี้ไอ้แมนมันให้ผมนั่งข้างนอก ส่วนมันก็เดินทำท่าทางจริงจังไปคุยกับลูกน้องข้างสนานซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก สีหน้ามันดูเครียดๆเมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาคุยกับมัน จริงๆผมก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอกนะแต่แค่เห็นอีกฝ่ายทำหน้ากวนๆใส่มันจนผมหมั่นไส้
 
“มีอะไรกันหรอ” ผมเดินไปใกล้ๆและถามใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงนั้น ผมจำได้ว่าเคยเจอตอนที่ไอ้แมนพาไปดูงานกับผม
 
“เอ่อ พอดีมีปัญหานิดหน่อยน่ะ คือคนของเรามาแข่งไม่ได้ คู่แข่งก็เลยมาข่มเพราะถ้าไม่มีคนลงแข่ง เราก็ต้องเสียเงินมัดจำ หลายแสนเลยเนี่ย”
 
“แล้วทำไมไอ้แมนไม่ลงเอง” ผมถามต่อ คนถูกถามมองหน้าผมแปลกๆก่อนจะมองไปทางไอ้แมน
 
“เอ่อคือ มันเป็นกฎของพี่มาศน่ะ พี่มาศไม่ให้ลง เจ้าของสนามห้ามลงแข่ง” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะมองไปยังไอ้แมนที่ตอนนี้ เริ่มเตะข้าวของที่ขวางทางมันเพื่อระบายอารมณ์
 
“กูจะลงให้” ผมบอก
 
“ห๊ะ! เอ่อ......เดี๋ยวผมไปบอกพี่แมนก่อน” มันมองผมอย่างไม่มั่นใจแล้วยังจะไปบอกไอ้แมนอีก มีหวังโดนมันซัดหมัดเอาน่ะสิ
 
“ไม่ต้องไป เชื่อกูสิ” ผมบอกกลับด้วยสายตาจริงจังก่อนจะถอดหมวกออก ทำเอาคนตรงหน้าอึ้งไปสามวิก่อนจะยกมือไหว้ผม
 
“ครับๆ.......คุณโอ๊ต มาได้ไงเนี่ย” หึ! ผมว่าแล้วมันต้องจำผมได้
 
“เฮ้ยไอ้ต่อว่าไง.....โทรติดยังวะ” แล้วมันก็โดนเรียกไปข้างขอบสนาม หึ! บอกตามตรงผมยังไม่เคยลงแข่งเลยสักครั้ง แต่แค่ขับให้ชนะก็พอนี่ ลองดูสักครั้งจะเป็นไรไป
 
แล้วผมก็ได้ลงแข่งจริงๆ โดยอาศัยตอนไอ้แมนไปคุยกับฝ่ายตรงข้าง และผมก็มีไอ้ต่อ(เรียกอย่างสนิท)เปิกทางให้ มันเองก็ทำหน้าเครียดพอกันและเอาแต่พูดว่า ตายแน่กูๆ จนผมรำคาญ ผมขับลองรถและลงสนามรอบนึ่ง ก่อนจะมาจอดรอตรงจุดสตาร์ท  เพียงไม่กี่นาทีสัญญาณออกสตาร์ทก็ดังขึ้น
 
ผมกระชากออกตัวรถด้วยความเร็วเริ่มต้นพอๆกับคันอื่นๆ ก่อนจะรีบเร่งความเร็วเพื่อขึ้นนำไปให้ได้ แต่ด้วยประสบการณ์แล้วมันก็ยากสำหรับผม รอบแรกก็เลยขับให้พอตีเสมอคู่แข่งเพื่อดูวิธีการขับของมันก่อนแต่ก็ไม่ปล่อยให้มันนำจนผมตามไม่ทัน
 
พอเริ่มเข้ารอบที่สองผมก็เริ่มจับทางได้จึงเร่งความเร็วขึ้นมาตีเสมอให้ช่วงโค้งและขึ้นนำจนเข้ารอบที่สาม แต่คู่แข่งก็เร่งตามทันและมันก็เริ่มเบียดผมให้ออกติดขอบสนามเพื่อให้รถเสียหลัก ผมจึงใช้ความเร็วให้สูงสุดและการหมุนพวงมาลัยให้เร็วขึ้นในทางโค้ง เพื่อควบคุมรถให้อยู่ ก่อนจะวิ่งด้วยความเร็วเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกได้ในที่สุด
 
“ลงมา!!!!” พอผมจอดรถปุ๊บประตูก็เปิดปั๊บ ตามมาด้วยมือหน้าของไอ้แมนที่ดึงผมออกจากรถจนถลาเข้าหามัน ร่างสูงถอดเสื้อนอกเหวี่ยงลงพื้นระบายอารมณ์
 
มันมีสีหน้าโกรธเคืองสุดขีด มันผลักผมเข้ามาในออฟฟิศจนล้มก่อนจะหันไปหาไอ้ต่อกับเพื่อนอีกคน ที่วิ่งตามมาด้วยสีหน้าซีดเซียว
 
“เอ่อ...พี่แมน.....คือ...”
 
“ใครใช้ให้มันลงแข่ง!!!!” ร่างสูงเข้าไปคว้าคอเสื้อไอ้ต่อจนปลายเท้ามันเกือบลอยขึ้น “กูถาม!!!!!” ไอ้ต่อไม่ตอบเลยโดนมันซัดหน้าปากแตกลงไปกองอยู่บนพื้น
 
“นี่!!! กูเป็นคนบอกเอง ว่าจะลงแข่งให้!!!” ผมบอกออกไปอย่างสุดทน กับเรื่องแค่นี้ทำไมมันถึงต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
 
“เพราะถ้าเป็นคนอื่นกูจะไม่ว่าเลยซักคำ!!!”มันยกมือชี้หน้าผมก่อนจะตะคอกใส่เสียงดังจนลูกน้องมันที่เข้ามายืนดู ต่างก็เงียบกริบ
 
“พวกมึง! จำเอาไว้ ถ้ามีใครทำอะไรโดยที่กูไม่รู้เหมือนวันนี้อีก กูจะถีบออกไปทันที!!!!” มันพูดบอกพร้อมๆกับมองหน้าลูกน้องมันเรียงคนและมาหยุดอยู่กับไอ้ต่อที่มีเพื่อนคนหนึ่งประคองไว้ แล้วร่างสูงก็เดินเข้าไปในห้องพัก
 
“โทษที กูไม่คิดว่ามันจะบ้าเลือดได้ถึงขนาดนี้”ผมบอกเมื่อเห็นเลือดตรงมุมปากของไอ้ต่อไหลออกมามากพอสมควร
 
“โอ่ นี่เบานะครับ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงตายคาตีนไปแล้ว ซีดดด ไอ้ติณ เจ็บอ่ะ”
 
“.........................” ผมยืนชั่งใจอยู่หน้าห้อง พักใหญ่ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปด้านใน ไอ้แมนนอนแผ่หลาถอดเสื้ออยู่บนเตียง หน้าอกกว้างกำลังขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจของมัน
 
แล้วมันก็ลุกขึ้นมานั่ง จ้องมองผมด้วยสายตาโกรธเคืองผมเองก็จ้องมันเขม่งเช่นเดียวกันแต่พอจ้องตากันนานๆเข้า ผมก็เริ่มแพ้สายตาคมๆของมันที่ทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมา กูผิดอะไรวะเนี่ย
 
“กูผิดอะไร!” แล้วผมก็ตัดสินใจถามมันออกไป
 
“หึ! มึงไม่ผิดหรอก กูสิผิด กูผิดทุกอย่างแหละ” มันตอบแบบใส่อารมณ์กับผม แม่งมันน่าต่อยให้คว่ำเลยนี่
 
ผมเดินไปหยิบบุหรี่ข้างๆเตียงเพื่อจะเอามาจุดสูบแต่มันกลับปัดซองบุหรี่ทิ้งลงพื้น และใช้เวลาเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่มันดึงแขน กดร่างผมลงกับเตียงนุ่ม
 
“ปล่อยกู!!!” ไอ้แมนพาร่างหน้าของมันลงมาทับทาบผมไว้ ก่อนจะก้มลงซุกไซ้ซอกคอและขับเม้มจนรู้สึกเจ็บ มันเป็นบ้าอะไรของมันอีกเนี่ย
 
“มึงทำให้กูกำลังจะเป็นบ้า รู้ตัวหรือเปล่า!” ร่างสูงพูดบอก ก่อนจะทาบริมฝีปากลงมาบดจูบดูดริมฝีปากผมแรงๆแบบฝังเขี้ยวจนได้กลิ่นคาวเลือดในปาก
 
“อ่ะ!   ปล่อยกู! กูไม่ได้ทำอะไรมึง” ผมออกแรงผลักมันจนร่างสูงออกจากตัวและยกเท้าถีบตามก่อนจะรีบลุกขึ้นเพื่อออกไปจากในห้องให้ได้ แต่ว่า มันก็เร็วเช่นกันเพราะผมกว้าเท้าเพียงไม่กี่ก้าวมันก็ตามมากระชากข้อมือผมจนถลากลับไปชนเข้ากับแผงอกมัน
 
“มึงรู้หรือเปล่าพอไม่เห็นมึงและรู้ว่ามึงลงแข่ง กูก็เป็นห่วงมึงจนแทบจะลืมการแข่งบ้าๆนี่ไปแล้ว!!!” มันตะคอกใส่ผมเสียงดัง
 
“มึงห่วงกูเป็นด้วยหรอ!!!!” ผมเองก็ตะคอกกลับไปอย่างไม่ยอมกันเพราะผมไม่เชื่อแน่นอนว่ามันจะเป็นห่วงผม
 
“ใช่! กู!!! กูคนนี้แหละ ที่เป็นห่วงมึง!!!” แล้วมันก็ยืนยันคำพูดของตัวเองด้วยน้ำเสียงชัดเจนกับแววตาแข็งกร้าวจนทำให้ผมนิ่งอึ้ง!
 
แกร๊ก! ในขณะเดียวกันก็มีเสียงประตูห้องเปิดออก ไอ้แมนเปิกตากว้างเล็กน้อย มันยกมือขึ้นกอดเอวผม และดันเข้าหาตัวมันก่อนจะกระซิบข้างหู
 
“พี่กูมา ไม่ต้องหันไป และอย่าออกไปจากห้องเด็จขาด! ฟอด!!! เดี๋ยวมา” ร่างสูงกดจมูกลงบนแก้มผม มันเอื้อมมือไปหยิบเสื้อมาสะบัดและใส่ก่อนจะเดินผ่านมาจูบมุมปากผมอีกครั้งและเดินออกไป
 
พี่มาศมาที่นี่หรอ ถ้าพี่เค้าเห็นผม เค้าจะจำผมได้มั้ยนะ ผมไม่ได้ชอบเค้าหรอกแค่นับถือความคิดและการทำงานของเค้า ที่ดูแล้วน่าจะแตกต่างจากน้องชายตัวเองอย่างสิ้นเชิง
 
ไอ้เหี้ยแมน ‘ใช่! กู!!! กูคนนี้แหละ ที่เป็นห่วงมึง’ ประโยคที่มันบอกเมื่อครู่ดังก้องอยู่ในหัวผมชัดเจน ทั้งแววตาและสีหน้าของมันทำให้ผมเชื่อได้ไม่อยากถ้าหากออกมาจากปากของคนที่ไม่เคยทำร้ายผม จะให้ผมเชื่อมัน.....ฝันไปเหอะ!!!
 
 
 
 
“หิวป่าว”เสียงเข้มถามผมหลังจากที่เปิดประตูเข้ามาให้ห้อง เรากลับถึงคอนโดตีสี่และตอนนี้ผมก็ง่วงมากกว่าหิวซิอีก
 
“ง่วง” ผมส่ายหน้าเบาๆให้มัน ก่อนจะเดินเข้าห้อง ไปอาบน้ำเสร็จอย่างรวดเร็วและนอนลงบนเตียง ไม่นานไอ้แมนก็เดินเข้ามา
 
“อ่ะ กินก่อน กูรู้มึงหิว” มันส่งกล่องนมจืดที่ผมซื้อมาเมื่อตอนกลางวันพร้อมกับแอปเปิ้ลหนึ่งลูกมาให้ ทีแรกว่าจะนอนล่ะ แต่กินสักหน่อยก็ดีเพราะนี่ก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วที่ไม่มีอะไรตกถึงท้อง
 
“อืม....ฟอด!!!” เสียงครางต่ำดังอยู่ข้างหู เมื่อผมรู้สึกได้ว่าที่นอนข้างตัวยวบยุบลงเพราะมีคนเข้ามานอนข้างๆ มันหอมหลังหูผมก่อนจะยกมือขึ้นกอดเอวผมไว้
 
ความอบอุ่นแผ่มาถึงตัวผมทันทีที่คนข้างๆกระชับอ้อมแขนเหมือนทุกคืน ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมถึงได้เปิดรับความรู้สึกอบอุ่นนี้เข้ามา ทั้งๆที่มันไม่เคยแสดงออกแบบนั้นกับผมเลย
 
 



ผมตื่นในช่วงสายของวันใหม่รู้สึกอึดอัดและร้อนเล็กน้อยเพราะโดนคนข้างกายสวมกอดจากด้านหลัง มันยังคงหลับสนิท เมื่อคืนคงเหนื่อยน่าดูเพราะปกติป่านนี้มันจะตื่นมานั่งทำงานอะไรไม่รู้ของมันล่ะ
 
ผมผงกหัวขึ้นมองใบหน้าคม ตาเรียวปิดสนิทมีขนตานิดๆไม่ยาวมากพอดูดี จมูกโด่งสวยที่มันใช้กดลงบนแก้มผมบ่อยครั้งนั่นน่าจะบีบให้มันหายใจไม่ออกเล่น เรียวปากบางสีคล้ำเพราะสูบบุหรี่เผยอเล็กน้อยก่อนจะขยับพูด
 
“มึงตายแน่.....” =_=^ มันละเมอ แถมยังออกแรงกอดผมแน่นขึ้นอีกมันบ้าจริงๆเลยไอ้นี่
 
ผมลุกออกจากตัวมันโดยการจิกมือมันแรงๆให้หลุดออก มันยังไม่ตื่นมีลืมตาขึ้นมองด้วยนะแล้วมันก็คลุมโปงหลับต่อ ผมเข้ามาอาบน้ำแต่งตัวสักพักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
 
“โอ๊ต! เสร็จยัง ปวดขี้” ผมว่าจะแกล้งอาบนานซะหน่อยแต่ว่าเพิ่งจะเอาผ้าขนหนูพันเอวขี้เกียจถอดแล้วเลยเปิดประตูให้มัน “ช้าฉิบ..*&^%$#@!” แล้วมันก็บ่นๆ อะไรก็ไม่รู้
 
ผมออกมาหาเสื้อเชิ้ตสีขาวใส่กับกางเกงยีนของผมที่ติดตัวมาตั้งแต่วันแรก ก่อนจะออกมาหาอะไรกิน ไม่นานร่างสูงก็เดินออกมา มันอาบน้ำแล้วเหมือนกันแต่ยังไม่แต่ตัวเดินผ้าขนหนูพันเอวเปลือยท่อนบนอย่างไม่อาย
 
“ไปไหน” มันถามเมื่อเห็นผมแต่ตัวผิดไปจากทุกวัน
 
“ไปเรียน” ผมไปเรียนสองสามอาทิตย์แล้วแต่ก็ยังตามงานจากเพื่อนอยู่ และผมคิดว่าน่าจะไปเรียนให้เป็นปกติไม่งั้นได้ติดอีแน่ๆ
 
“ไม่ได้....ถ้าพี่มึงให้คนมาตามหามึงล่ะ”
 
“แล้วไง” ผมถามอย่างไม่ใส่ใจ ตามก็ตามจะกลับหรือไม่กลับตอนนี้มันอยู่ที่ผม
 
“มึงก็ต้องกลับไปน่ะสิ แล้วมึงจะมาอยู่แต่แรกทำไม” พอพูดเรื่องนี้ มันก็เริ่มหัวเสียขึ้นมา และผมก็เห็นว่ามักจะเป็นแบบนี้ทุกที
 
“แล้วกูบอกเมื่อไหร่ว่าจะไม่กลับไป” ผมบอก จ้องมองหน้ามันที่จ้องเขม่งผม ก่อนที่มันจะมีสีหน้าอ่อนลงจนผมแปลกใจ “แต่ไม่ใช่ตอนนี้”
 
“งั้นเดี๋ยวกูไปส่ง” มันถอนหายใจออกมาแรงๆก่อนจะเดินกลับไปแต่งตัวในห้อง
 
 
 
“โทรหากูด้วย” ไอ้แมนบอกหลังจากจอดรถหน้าตึกคณะผม มันส่งโทรศัพท์ของมันมาให้ผมเพราะมันรู้ว่าของผมปิดเครื่องตลอด
 
ผมคว้ามันมาใส่กระเป๋าเสื้อก่อนจะลงจากแลมโบกีนี่สีเขียว คันสวยของมัน เดินเข้าไปในคณะ ผมเดินตรงไปหากลุ่มเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงม้าหินสองสามคน
 
“ไงไอ้โอ๊ต ไม่เห็นหน้าเห็นตาเลยนะ” ไอ้กิจเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งถามขึ้น จะเรียกว่าเพื่อนสนิทก็ไม่เชิงเพราะผมมักจะเว้นระยะห่างกับพวกมัน ไม่ยากให้พวกมันรู้เรื่องของผมสักเท่าไหร่ว่าผมเป็นใครทำงานและมีพี่ชายที่เรียกได้ว่าเป็น มาเฟีย
 
“ยุ่งๆน่ะ” ผมตอบแค่นั้นตามแบบฉบับของคนพูดน้อย ผมจะพูดกับพวกมันก็แค่เรื่องเรียนเท่านั้น
 
“เออ จริงสิ เมื่อสองวันก่อนมีคนตามหามึงด้วยนะ” ไอ้ยีนเพื่อนอีกคนบอก
 
ผมพยักหน้ารับก่อนจะหันมาสนใจชีสในมือที่พวกมันเก็บไว้ให้ผม แสดงว่าพี่โอ๊คคงรู้ถึงความผิดปกติของผมแล้ว ที่ผมหายมานาน ปกติผมจะมาที่นี่แค่เรื่องเรียนและกลับไปทำงานกับพี่ตลอดไม่เคยหายหน้าไปเป็นอาทิตย์
 
ผมเดินลงมาจากตึกคณะหลังเลิกคลาสในช่วงบ่าย ก่อนจะชะงักฝีเท้าเมื่อเห็นชายสองคนจอดรถอยู่หน้าตึกและผมก็รู้จักดี คนของพี่ชายผม เอาเป็นว่าผมคงต้องหลบก่อน ผมยังไม่อยากกลับไปตอนนี้
 
“ไอ้ยีน มึงช่วยไปส่งกูหลังมอที” ผมบอกกับเพื่อนที่เพิ่งจะเดินมาถึงรถโดยที่ผมเดินหลบออกมาก่อน มันตกใจนิดๆที่เห็นผมยืนอยู่ข้างรถมัน
 
“เออๆ มาแปลกนะวันนี้.....ปกติไม่เคยจะขึ้นรถใครนี่”มันว่า ก่อนจะปลดล็อครถให้ผมเปิดประตูขึ้นมา
 
“มึงมารับที่หลังมอ ด่วน!” ผมโทรบอกไอ้แมน มันพูดบ่นเล็กน้อยตามประสาก่อนที่ผมจะตัดสายทิ้ง ผมนั่งรอไอ้แมนในรถไอ้ยีนสักพักมันก็มา “ขอบใจ” ผมบอกกับเพื่อนก่อนจะลงจากรถ
 
“เลิกนานยัง ใครมาส่ง แล้วทำไมต้องให้กูมารับหลังมอ” กูล่ะเบื่อจริงๆ ผมเหล่มองมันด้วยหางตา จนมันส่ายหน้าให้ เพราะรู้ว่าผมไม่ตอบคำถามของมัน
 
“พี่ชายมึงให้คนมาตามหามึงแล้ว” ผมบอก ไอ้แมนมีสีหน้าเครียดขึ้นมาทันที
 
 
<<<<<<<TBC>>>>>>>

โอ้ย แข็งได้อีกคู่นี้แบบตอนทะเลาะกัน นกอ่านสงสารใครมากกว่ากันค่ะ
 
คนหนึ่งมือหนัก อีกคนปากหนักจูบทีนึ่งนี่ต้องได้เลือด

 :mew1:  :mew1:   :mew1:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ตกลงพี่ชายใครตามโอ๊ตเนี่ย??
แมนดูหวงและห่วงโอ๊ตมากเลยน่า
อย่าปิดใจไปเลยนะโอ๊ต

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
รุนแรงตลอดคู่นี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ toshika

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 819
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-4
พี่หมอน้องกายก็กำลังเริ่มจะมุ้งมิ้ง แมนโอ๊ตก็น่าติดตาม อร๊ายยยยย ชอบทุกคู่เลยเรื่องนี้  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
 คู่แมนxโอ๊ตนี่เขารุนแรงกันดีเนอะ!
5555

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
กรี้ดดดดดคู่พี่หมอกับกายเข้าใจกันแล้ววววว
ส่วนอีกคู่ เห้อออออ จะรักกันยังไงเนี่ย

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
ชอบทุกคู่เลยเรื่อง

น่ารัก น่ารัก ทั้งนั้นเลย

ออฟไลน์ →Yakuza★

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-0
แพ๊คดูเป็นเด็กมีปัญหานะ แต่อย่ามาตีลีวายนะ

ออฟไลน์ PEUNGhoney

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รีบๆมาต่อน้าาาาาาา
ป.ล. เด็จขาด>>>>>เด็ดขาดนะ

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
ตอนนี้เป็นน้องโอ๊ตเล่าบ้าง ดีจังจะได้รู้ความรู้สึกของตัวละครสลับกันไป
ตกลงน้องโอ๊ตคิดจะหนีพี่ชายไปอีกนานแค่ไหนนะ แล้วถ้าคิดจะกลับไปน้องแมนจะยอมง่าย ๆ เหรอ
ทั้งหวง ทั้งห่วงอาละวาดบ้าเลือดทุกครั้งเวลาน้องโอ๊ตหายเลยอะ
แต่น้องโอ๊ตยังดูเฉย ๆ แบบยังดูยากจังว่าคิดอะไรพิเศษกะน้องแมนรึยัง
เหมือนยังมีเรื่องให้คิดถึงมากกว่าเรื่องน้องแมนอะ อย่างงี้น้องแมนต้องพยามทำตัวให้น่ารักมากขึ้นนะ
แล้วตกลงพี่ชายของน้องโอ๊ตหรือพี่ชายของน้องแมนตามหาใครกันแน่เอ่ย
ตอนแรกเป็นคนของพี่ชายน้องโอ๊ตมาตามหา แต่ประโยคสุดท้ายทำไมกลายเป็นพี่ชายแมนล่ะ  งงนิดนึงจ้า
รอติดตาม และ บวก บวก เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนต่อไปจ้า  :pig4: :L2:

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....23
 
“อ่ะนี่.........” ผมวางเงินจำนวนหนึ่งไว้บนหัวเตียงในห้องพักของไปเซฟ ให้กับผู้หญิงที่เราเพิ่งจะเสร็จกิจกรรมบางอย่างไปเมื่อครู่ หึ! อย่ามองผมแบบนั้นสิ เสือก็ยังเป็นเสือวันยังค่ำละนา
 
ผมเดินออกมาจากห้องพักไอ้เซฟโดยไม่ได้สนใจร่างเพรียวบางที่ยังคงนอนเพลียอยู่กับที่นอน จะถามหาลีวายส์ล่ะสิว่ามันอยู่ไหน อยู่กับแม่มันครับมันบอกจะไปดูรองเท้าหรืออะไรสักอย่างในห้าง ผมเลยออกปากว่าให้พามันไปด้วย
 
“กูบอกไม่อยากมาไง.....!!!” ผมได้ยินเสียงของใครบางคนกำลังเดินขึ้นมาด้านบน
 
“กูไม่อยากให้มึงอยู่คน......อ้าว ไอ้ธาร!” ชายสองคนชะงักเท้าเมื่อเห็นผมที่เพิ่งจะปิดประตูลงหลังจากออกมา หนึ่งในนั้นคือเพื่อนสนิทของผม ไอ้แมนมากับคุณโอ๊ต
 
ไอ้แมนมันมองผมอย่างแปลกใจเพราะปกติผมไม่ค่อยเข้าไปวุ่นวายในห้องพักของไอ้เซฟเท่าไหร่ นอกจาก........
 
แกร๊ก!!!
 
“อืม....จุ๊บ!!! บายค่ะ” ร่างเพรียวบางบนเตียงเมื่อครู่ เปิดประตูออกมาก่อนจะจุ๊บแก้มผมเพื่อบอกลา เธอเดินจากไปหลังจากส่งยิ้มให้ไอ้แมนและคุณโอ๊ต ทั้งสองคนต่างก็หันมามองหน้าผม
 
“ไอ้เหี้ยธาร.....มึงนี่มัน.......!  ลูกมึงล่ะ” ไอ้แมนถาม มันชี้ไปยังห้องทำงาน ก่อนจะพยักหน้าให้คุณโอ๊ตเข้าไปก่อน
 
“ลูกพ่องมึง.......ไปกับแม่มัน” มันก็ถามถึงลีวายส์แบบนี้เป็นประจำ แต่ผมก็ไม่ชอบคำว่าพ่อที่ใช้กับผมอยู่ดี
 
“สัด! ถ้าลีวายส์เห็น มันร้องตายเลยกูว่า” ผมเองก็คิดแบบนั้นถึงได้บอกกับมันว่า จะไม่ยุ่งให้เห็นแล้ว เพราะถ้าไม่เห็นก็แล้วไปไง อ่อ เมื่อวันก่อนก็มีสาวโทรมา ดีนะที่ลีวายส์ไม่รับไม่งั้นล่ะก็ หึๆ
 
“ไม่หรอกนา ถ้ามึงไม่บอกมัน” ผมบอก ไอ้แมนส่ายหน้าให้ผม ก่อนจะเดินตามคุณโอ๊ตเข้าไปในห้องทำงานส่วนผมเดินลงมาข้างล้างเพื่อดูความเรียบร้อยในร้าน
 
ผมดูนาฬิกาจากโทรศัพท์พบว่าเป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว แต่ไอ้กายกับลีวายส์ยังไม่กลับ มันไปกันราวๆสองสามชั่วโมงและผมก็เริ่มคิดได้ว่ามันนานเกินจึงต้องกดเบอร์โทรหาไอ้กาย
 
“อยู่ไหน....กลับกันได้แล้ว” ผมออกมาคุยโทรศัพท์หลังร้านพร้อมกับจุดบุหรี่สูบไปด้วย
 
(ถึงแล้วเนี่ย......ลีวายส์ ถือให้พี่กายหน่อย) เสียงไอ้กายตอบกลับมา
 
(เดี๋ยวผมช่วยถือครับ) ผมขมวดคิ้วกับเสียงทุ้มต่ำของอีกคน ที่ผมไม่คุ้นเคย
 
“มึงไปกับใคร ไอ้กาย!” ผมถาม และพยามนึกอยู่ว่าใช่พี่หมอหรือเปล่า และหวังว่าจะใช่ เพราะเดี๋ยวนี่เห็นพี่หมอมารับมาส่งมันบ่อยครั้ง
 
(ไอ้นัท! ลูกพี่ลูกน้องกูเอง เจอกันที่ห้า.......) ผมตัดสายทิ้งก่อนจะเดินอ้อมจากหลังร้านตรงมายังหน้าร้านทันที ไอ้กายแม่งไม่บอกก่อน
 
เมื่อมาถึงผมเห็นลีวายส์กำลังยืนถือของพะรุงพะรัง ก่อนที่ผู้ชายอีกคนจะดึงของในมือไปถือให้ มันส่งยิ้มให้ลีวายส์ก่อนที่ลีวายส์จะยิ้มตอบ ส่วนไอ้กายมันกำลังปิดท้ายรถอยู่
 
“ขอบใจที่มาส่งนะไอ้นัท ไว้พี่จะโทรหา” ไอ้กายบอก
 
“โธ่ จริงๆผมอยากไปส่งถึงบ้านเลยนะเนี่ย.....จะได้ไปส่งน้องเค้าด้วย” แค่คำพูดยังไม่เท่าสายตาที่มันมองลีวายส์ ผมยืนจ้องไอ้นัทที่ว่านั้นตาเขม็ง และพวกมันก็ยังไม่รู้ตัว
 
“พอๆ คนนี้ไม่ได้เว้ย! พ่อมันดุ ไปได้แล้วไป” ไอ้กายว่าก่อนจะเอาของในมือจากอีกคนมาถือไว้แทน
 
“ลีวายส์......นี่ครับ.....ขอบใจนะ” แต่ก่อนที่ลีวายส์จะเดินเข้าร้านมันกลับดึงข้อมือไว้และส่งผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กที่ผมจำได้ว่าเป็นของลีวายส์ให้ แต่ความจริงแล้วไม่ต้องจับมือก็ได้
 
พรึ่บ!!!!
 
ผมเข้าไปหาพวกมันก่อนจะดึงมือลีวายส์เข้าหาตัวจนมาปะทะกับแผงอกผม ไอ้กายกลอกตาไปมาเมื่อผมเหล่ตามองหน้ามัน
 
“สวัส.......!!!” มันกำลังทักผม แต่ผมไม่สนใจ ยื่นมือไปดึงไม่สิ เรียกว่ากระชากผ้าเช็ดหน้าจากมืออีกคนที่ส่งมา กำไว้ในมือก่อนจะดึงลีวายส์ให้เดินตามมาในร้าน
 
“เอ่อ ไอ้ธาร.....คือนั่นลูกพี่ลูกน้องกูไง มึงก็” จริงๆผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้ามันจะไม่มองลีวายส์ด้วยสายตาที่เรียกว่า เจ้าชู้ใส่ หรือหลงไหลอะไรสักอย่าง
 
“กูคิดว่าไปกับพี่หมอหรอกถึงไห้ไป!!!!” ผมบอกก่อนจะยกเท้าขึ้นเตะขามันจนล้มลงพื้น
 
“โอ้ย!!! ไอ้ธารอ่ะ แล้วเกี่ยวไรกับพี่หมอเล่า!!!” ไอ้กายยันตัวลุกขึ้นก่อนจะมองค้อนผม
 
“หึ! เกี่ยวไม่เกี่ยวไม่รู้แต่กูเห็นบ่อย...และหุบปาก!!!!!” ผมชี้หน้าคาดโทษมันก่อนจะหันมาหาร่างเล็กข้างๆ “นี่อะไร” ผมชู้ผ้าเช็ดหน้าในมือให้ลีวายส์ดู
 
“ก็....ผ้าเช็ดหน้าไงฮะ” มันตอบแบบงง
 
“แล้ว ไปอยู่กับมันได้ไง....ของส่วนตัวไม่ใช่หรอ” ผมถามอีก ลีวายส์มองหน้าไอ้กายนิดๆก่อนจะเม้มปากเข้าหากัน
 
“คืองี้ไอ้ธาร.....”
 
“หุบปากไอ้กาย!!! เดี๋ยวมึงก็โดน ไม่ต้องรีบ!!!!” ไอ้กายหุบปากทันทีที่ผมพูดจบ ผมจึงหันมาสนใจร่างเล็กอีกครั้ง
 
“คือ....ลีวายส์ทำน้ำหกใส่เสื้อพี่นัท ลีวายส์ก็เลยเช็ดให้ฮะ” ผมเหล่ตามองไอ้กายที่ยกมือขึ้นจับขมับตัวเอง หึ! เช็ดให้ดีมากเลยลีวายส์เป็นเด็กดี(กัดฟัน)
 
“คราวหลังไม่ต้องเป็นคนดีกับทุกคน เข้าใจมั้ย ไปกลับบ้าน  ส่วนมึงไอ้กาย!!! เดี๋ยวกูจะโทรให้พี่หมอมารับเตรียมตัวรับมือกับเรื่องที่กูจะเป่าหูให้พี่หมอฟังด้วย หึ!”
 
“ไอ้ธาร! ไอ้เหี้ย!.....อย่านะเว้ย!!!” ไอ้กายมันต้องเจอแบบนี้แหละ เดี๋ยวผมจะโทรบอกพี่หมอและชงให้มันโดนด่า ว่ามันไปเดินห้างกับผู้ชาย รับรองพี่หมอจัดหนักแน่
 
“พี่ธารฮะ ลีวายส์ซื้อ ของมาให้พี่ธารด้วย” ลีวายส์บอกขณะนั่งรถกลับคอนโด จริงๆแล้วผมไม่ได้โกรธมันหรอก แต่ไม่ชอบสายตาของคนอื่นที่มองมันแบบ ชอบหรือหลง! ลีวายส์แบบนั้น
 
“อะไร....หืม” ผมถาม และเลี้ยวรถเข้าคอนโด
 
“นาฬิกาฮะ เดี๋ยวลีวายส์เอาให้บนห้องนะฮะ” ลีวายส์บอก ผมยิ้มมุมปากก่อนจะหันไปจุ๊บมุมปากสีสด และลงจากรถตรงขึ้นห้อง
 
“ไปอาบน้ำก่อนไป จะได้นอนสบาย อ่อแล้วก็.....พรุ่งนี้ไม่ต้องไปโรงเรียน” ลีวายส์ทำหน้าสงสัยเมื่อผมบอกอย่างนั้น แต่ร่างเล็กก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา
 
เมื่อลีวายส์อาบน้ำเสร็จผมจึงเข้าห้องน้ำบ้าง หลังจากนั้นก็ออกมาแต่ไม่เจอลีวายส์อยู่ในห้อง จึงใส่กางเกงนอน เปลือยท่อนบนออกมาดูว่ามันทำอะไรอยู่
 
“ทำไมไม่ไปนอน หืม” ผมนั่งลงบนโซฟาข้างๆร่างเล็ก ที่นอนอยู่ในชุดนอนกางเกงขาสั้นสีสดใสของมัน
 
“นี่ฮะ นาฬิกา สวยมั้ยฮะ มาเดี๋ยวลีวายส์ใส่ให้” ร่างเล็กใส่นาฬิกาโรเล็กซ์สีเงินวาวกับข้อมือด้านขาวให้ผม ก่อนจะพลิกไปมา
 
“หึ! ไปกดเงินมาอีกล่ะสิ” ผมกดจมูกลงกับแก้มใสตรงหน้า ก่อนจะรั้งร่างเล็กเข้ามากอด เด็กอะไรวะ หอมไปทั้งตัว
 
“ฮะ แค่นิดเดียวเองนะฮะ ลีวายส์มีเงินเยอะมากกกกกกก” เหอะๆ ผมรู้ว่าพ่อมันทิ้งเงินไว้ให้เยอะ ยิ่งโตขึ้นมาก็ยิ่งใช้เงินได้เต็มที่ แต่ผมก็ไม่อยากให้มันใช้แบบฟุ่มเฟือย ส่วนใหญ่จะใช้อะไรผมก็จะให้เป็นประจำอยู่แล้ว
 
“เยอะมาก ใช้ทุกวันก็หมดได้ รู้ไว้ด้วย เอาล่ะ....พรุ่งนี้เราจะย้ายคอนโดกัน” ร่างเล็กผละออกจากตัวผม แทบจะในทันทีที่ผมพูดจบ
 
“ทะ...ทำไมฮะ เราจะไปไหน ละ....แล้วที่นี่ล่ะฮะ” ลีวายส์ขมวดคิ้วมองผม หน้าตาตื่น ผมรู้ว่าลีวายส์มักจะผูกพันกับสถานที่มาก
 
ตอนอยู่เมืองนอกเราซื้อคอนโดที่โน้นไว้ ผมกะว่าจะขายตอนกลับมาแต่ลีวายส์ไม่ยอมท่าเดียวบอกว่าจะกลับไปอยู่อีกผมก็เลยเปิดให้เช่าแทน
 
“อยู่ที่นี่มากกว่าเจ็ดปีแล้ว เบื่อบ้างสิ”
 
“แต่ลีวายส์อยู่กับพี่ธาร ไม่เบื่อนี่ฮะ” ลีวายส์บอก ร่างเล็กซุกหน้าลงมากับแผงอกผม ก่อนจะสะอื้นไห้เบาๆ
 
“ใช่ อยู่กับมึงก็ไม่เบื่อ แต่กูต้องการห้องกว้างๆไว้ทำงานแล้วก็ที่ๆสะดวกตอนไปส่งมึงที่โรงเรียนและไปทำงานไง เข้าใจหรือเปล่า”
 
“แต่ว่า....ห้องนี้ มีความทรงจำของลีวายส์กับพี่ธารเยอะแยะเลยนะฮะ พี่ธารจะขายหรือเปล่าฮะ” อย่างที่ว่าเลยเห็นมั้ย ผมก้มลงหอมเส้นผมนุ่มๆของมันก่อนจะลูบหัวเบาๆ
 
“ความทรงจำของมึงอยู่ตรงไหน” ผมถาม ลีวายส์เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะชี้ไปรอบๆห้อง ผมเลยส่ายหน้าให้
 
“ไม่ใช่หรอฮะ” ร่างเล็กถาม สีหน้าเศร้าลงและเริ่มมีน้ำตา
 
“อยู่ตรงนี้!.......กับตรงนี้!” ผมจิ้มนิ้วตรงหัวมันก่อนจะจิ้มลงตรงหน้าอกด้านซ้าย ลีวายส์มองตามนิ้วผมก่อนจะ มีรอยยิ้มบางๆเกิดขึ้น
 
“ลีวายส์รักพี่ธารฮะ” ผมได้ยินคำนี้บ่อยมากจนชินหูแต่ความว่ารักทุกคำของมัน กลับสะสมจนทำให้ผมเริ่ม....รัก! เด็กในอ้อมแขนที่กำลังกอดผมไว้แน่น คนนี้เช่นกัน
 
ผมก้มลงจูบดูดปากสีสดก่อนจะใช้ลิ้มไล่เลียริมฝีปากเล็กและสอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปชิมรสหวานในโพรงปากที่ยังคงหวานหอมเหมือนเคย
 
ร่างเล็กตอบรับแบบไม่รู้ตัวก่อนจะพยายามขบเม้มริมฝีปากผมเช่นกัน  ร่างบางลื่นมือเกินกว่าที่ผมจะอยู่นิ่งๆได้ จนต้องเลื่อนมือสอดแทรกเข้าไปใต้ผ้า สัมผัสเอวบางผิวอ่อนนุ่ม ริมฝีปากดูดจูบเน้นๆสองสามครั้ง ก่อนจะเลื่อนลงมาสูดกลิ่นหอมเข้าบอดตรงซอกคอขาว
 
“พี่...ธาร....” เสียงหวานหูดังของอย่างแผ่วเบา มือเล็กโอบรอบคอผมจนแผ่นหลังที่เมื่อครู่พิงอยู่กับพนักโซฟายกขึ้น ทำให้ร่างเล็กแนบชิดกับแผงอกผมจนไร้อากาศพัดผ่าน
 
“อืม.........” ผมตอบรับด้วยเสียงครางต่ำในลำคอ ก่อนจะกดเม้มและพยายามนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะไม่อยากให้ซอกคอขาวเกิดรอย
 
“อึก!.....เจ็บฮะ” ลีวายส์พูดบอกเสียงพร่า เมื่อผมเผลอขบเม้มแรงๆ จนร่างเล็กสะดุ้งรับสัมผัสจากริมฝีปากร้อน
 
ผมจึงต้องละริมฝีปากออกเปลี่ยนมาเป็นลิ้มแทน ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมปลดกระดุมเสื้อนอนของร่างเล็กจนมันหลุดออกไปสองสามเม็ด และมากพอที่จะทำให้มันร่นลง เผยให้เห็นไหล่ขาวๆลงไปถึงยอดอกสีสวยจนต้องกลืนน้ำลายลงคอ
 
‘ไอ้ธาร มึงอย่าทำอะไรบ้าๆนะ ลีวายส์ยังเด็กอยู่ อยากติดคุกหรือไง’ นั่นคือความคิดหนึ่งในหัวที่ผุดขึ้นมา ‘แต่ว่า ไม่มีใครเห็นนี่หว่า แล้วมันก็ไม่บอกใครหรอกเชื่อสิ’ และก็มีอีกความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาอีก มันทำให้ผมก้มลง กดจูบเบาๆกับไหปลาร้าคู่สวยตรงหน้า
 
“อื๊อออออ.......” ลีวายส์ครางกระเสาะเมื่อผมลากลิ้นผ่านร่องอกลงมาครอบครองยอดอกสีสวยในที่สุด
 
‘ไอ้ธาร มึงจะบ้าหรอ ลีวายส์รับของมึงไม่ได้หรอก อยากให้มันเจ็บหรือไง’ ความคิดใต้จิตสำนึกของผมยังคงผุดขึ้นมาไม่เลิก
 
“ลีวายส์!!!!.....ไปนอนไป” ผมผละออกจากร่างเล็กก่อนจะดึงเสื้อขึ้นมาใส่ให้เรียบร้อยและเดินหนีเข้าไปในห้อง.....น้ำ
 
ทั้งที่ผมไปลงกับผู้หญิงมาแล้วแท้ๆ เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองหื่นเข้าขั้น ก็ตอนมีความรู้สึกกับลีวายส์เนี่ยแหละ เฮ้ออออ ปวดไข่ เฮ้ย!!! ปวดใจจริงๆเลย ของมันมีแต่ทำไม่ได้!!!!
 
วันต่อมา..........
 
“เอาแต่ของที่จำเป็นไปนะ ไอ้ของจุกจิกทิ้งซะบาง” ผมบอกกับลีวายส์ที่กำลังเก็บของใส่ลัง ซึ่งสิ่งที่มันเก็บมักจะเป็นพวกโพสอิทต่างๆที่แทบจะเรียกได้ว่าขยะ
 
“ก็....เสียดายนี่นา เอาไปติดข้างฝา สวยดีฮะ” ลีวายส์บอก และหันไปเก็บต่อ
 
“พอติดเสร็จ กูก็จะเผ่าทิ้งจนกลายเป็นขี้เถ้า สวยดีนะ” ผมบอก ลีวายส์ทำหน้างอใส่ก่อนจะเทมันทิ้งลงถุงดำ เหอะๆ
 
หลังจากเก็บของเสร็จเรียบร้อย ผมก็โทรเรียกรถส่งของมาเพื่อจะส่งของไปยังคอนโดใหม่ที่ผมจัดการซื้อขายไว้เรียบร้อยแล้ว เป็นคนโดที่อยู่ห่างจากร้านซึ่งเป็นผับของผมไม่ไกลนักและสะดวกในการเดินทางไปส่งลีวายส์ที่โรงเรียนก่อนจะเลยไปทำงานที่บริษัท ถึงผมจะเข้าบริษัทไม่บ่อยนักก็เหอะ
 
“เอ๊ะ!!! นี่ใช่คอนโดพี่แมนหรือเปล่าฮะ” ลีวายส์ถามเมื่อเห็นคอนโดคุ้นตาที่ผมเคยมาส่งไอ้แมน
 
“อืม....ลงสิ” ผมลงจากรถและพาลีวายส์เดินเข้ามา ห้องของผมอยู่ชั้นบนของห้องไอ้แมนสองชั้น ก็เลยแวะทักมันก่อน หลังจากที่ยืนกดกริ่งอยู่แป๊งหนึ่ง มันก็เปิดประตูออกมา
 
“อ้าว กูคิดว่าใคร มึงย้ายของมาแล้วสิ” มันถามเมื่อเห็นว่าเป็นผม เพราะผมให้มันจัดการเรื่องคอนโดให้
 
“ทะ...ทำไมพี่แมน เอ่อ เลือดออกนี่ฮะ” ลีวายส์ถาม เลือดสีแดงสดไหลซึมออกมาจากหางคิ้วไอ้แมนอย่างเห็นได้ชัด
 
“หึ รักกันแรงๆดีนะมึง กูไปล่ะ” ผมบอกก่อนจะปิดประตูให้เสร็จสรรพ
 
ลีวายส์ทำหน้างงก่อนจะเกาะแขนเดินตามผมมา ผมรู้ว่าไอ้แมนคงได้เลือดเพราะคุณโอ๊ตแน่นอน คงเป็นคนเดียวล่ะนะที่ทำมันได้โดยที่มันไม่เอาคืน
 
“ถึงแล้วหรอฮะ” ลีวายส์ถาม เราขึ้นมาและหยุดอยู่หน้าห้องห้องหนึ่ง ผมพยักหน้าเบาๆก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องและดันหลังลีวายส์เข้ามา
 
“เป็นไง.....ถูกใจหรือเปล่า หืม ฟอด!!!” ผมโอบเอวบางไว้หลวมๆก่อนจะก้มลงหอมแก้มร่างเล็กที่ยืนนิ่งมองไปรอบห้องกว้าง กว้างมากกว่าห้องเก่าและมีพื้นที่ใช้สอยมากพอหรืออาจจะเกินกว่าคนสองคนอยู่
 
“สวยฮะ ลีวายส์ชอบมาก ขอบคุณฮะพี่ธาร” ลีวายส์หมุนตัวกลับมากอดคอผมก่อนจะจุ๊บปากเน้นๆและผลักออก ร่างเล็กยิ้มจนแก้มปริ
 
“ไปดูห้องนอนกัน” ผมกอดเอวร่างเล็กเดินมาเปิดประตูห้องนอน ซึ่งมีอยู่สองห้อง และผู้รู้ว่าลีวายส์คงไม่ชอบที่จะนอนคนเดียวแน่ๆ อีกห้องจึงสั่งจัดให้เป็นห้องดูหนังฟังเพลง ส่วนห้องทำงานนั้นแยกไปอีกห้องหนึ่ง
 
“วู้!!! กว้างจังเลยฮะ เย้ๆ มีระเบียงด้วย สวยจัง” ลีวายส์เปิดผ้าม่านออกก่อนจะเปิดประตู่ระเบียงเดินออกไปข้างนอก ผมยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าทางดีใจของมัน
 
“ฟอด!!! ลืมห้องเก่าไปเลยล่ะสิ” ผมเดินตามร่างเล็กมากอดเอวบางไว้จากทางหลังก่อนจะกดจมูกลงกับแก้มใส
 
“ไม่ลืมฮะ แต่ว่า....เดี๋ยวจะลืม คึคึ พี่ธารฮะ.....” ลีวายส์หมุนตัวกลับมาสบตามองผม ผมจึงว่างมือทั้งสองข้างไว้กับราวระเบียงเหมืองกักตัวมันไว้ในอ้อมแขน
 
“ว่า.....” ผมเลิกคิ้วถาม
 
“ขอบคุณฮะ....ขอบคุณที่พี่ธารตัดสินใจไปช่วยลีวายส์ในวันนั้น ขอบคุณที่พี่ธารไม่พาลีวายส์ไปส่งสถานเด็กกำพร้า ขอบคุณที่พี่ธารพาลีวายส์ไปโรงเรียน ขอบคุณ......อุ๊บ!!!” ผมก้มลงกดจูบริมฝีปากสีสดที่เอาไปพร่ำบอกแต่คำว่าขอบคุณจนผมทนฟังไม่ได้
 
“ไม่ต้อง แค่คำขอบคุณมันไม่พอหรอก” ผมบอก ร่างเล็กมีสีหน้าอ่อนลงคล้ายกับผิดหวังในสิ่งที่พูดออกมา “หึ! ชีวิตน่ะ ให้กูสิ ให้กูทั้งชีวิตแทนคำขอบคุณ”
 
“ฮะ ลีวายส์ให้ทั้งชีวิต ลีวายส์เป็นของพี่ธารฮะ จุ๊บ!!!!” ลีวายส์เขย่งเท้าขึ้น จุ๊บมุมปากผม ผมเลยยกตัวมันขึ้นมาจูบจนปลายเท้าของร่างเล็กลอยเหนือพื้น ผมจะเป็นเจ้าชีวิตมันแน่นอน
 
 
 
“พี่ธารรรรร.........” เสียงลีวายส์เรียกผมดังมาจากในห้องน้ำ “พี่ธารๆ....”
 
“อะไร” ผมละสายตาจากของที่กำลังจัดตรงหน้าไปถาม มันโผล่หน้าออกมาจากกรอบประตู ซึ่งให้ผมทายว่ามันไม่ใส่เสื้อแน่นอน
 
“ห้องน้ำกว้างมากฮะ อ่างใหญ่มาก พี่ธารอาบด้วยกันมั้ยฮะ” นั้นไงเดี๋ยวจับฟัดซะเลยนี่ ไอ้เด็กเหี้ย
 
“นับหนึ่ง!!!”
 
“ไปแล้วๆ อาบคนเดียวก็ได้ฮะ ใจร้าย!” แล้วมันก็รีบกลับเข้าไปพร้อมกับปิดประตูลง เฮ้อ!!! ผมนั่งมองอัลบั้มรูปในมือที่ไอ้กายทำให้เป็นขวัญวันเกิดลีวายส์เมื่อต้นปีตอนมันอายุครับสิบห้า
 
ทุกรูปมีแต่ร้อยยิ้มที่สดใส จนผมต้องยิ้มตาม มีรูปใบหนึ่งที่ทำให้ผมหยุดจ้องมอง เป็นรูปที่ร่างเล็กเงยหน้ามองผมและเอื้อมมือมากำลังจะจับมือผม ในขณะที่ผมสนใจมองอย่างอื่นอยู่ เป็นภาพที่บอกถึงความรู้สึกของเด็กได้ดีว่า มันต้องการผมแค่ไหน ผมดึงรูปถ่ายออกมาและสอดไว้ในกระเป๋าตัง
 
กริ่ง!!! กริ่ง!!!
 
ผมและลีวายส์จัดของกันสักพักก็มีเสียงกดกริ่งดังมาจากหน้าห้อง  ผมเลยเดินไปเปิด ก่อนจะพบว่าเป็น ไอ้กายที่ยืนฉีกยิ้มยิงฟันจนเกือบครบทุกซี่อยู่หน้าห้อง
 
“มาไม” ผมถามมันหุบยิ้มทันที ก่อนจะมีอีกคนโผล่มาจากด้านหลังของมัน
 
“หวัดดีครับ พอดีผมมาส่งพี่กายครับ ลีวายส์อยู่หรือเปล่า” ผมเหล่ตามองไอ้กายก่อนจะหันไปจ้องมองอีกคนที่ผมจำชื่อมันได้ว่าเป็น ไอ้นัท
 
“เอ่อ  คืองี้ พอดีไอ้นัทมัน......”
 
“เข้ามา” ผมแทรกคำพูดบอกของไอ้กายและหลีทางให้มันเข้ามา ไอ้นัทที่อยู่ข้างๆเองก็ทำท่าจะเข้ามาด้วย “ไม่ใช่มึง!!!” ผมผลักมันออกไปจากกรอบประตูก่อนจะปิดลงเสียงดัง ปัง!!!!
 
“เฮ้ย!!! อย่ามองกูแบบนั้นสิวะ กูไม่ได้พาไอ้นัทมันมานะเว้ย! มะ.....มันเดินตามกูมาอ่ะ  โอ้ย!!!” =_=^ ผมก็เลยประทางเขกหัวให้มันทีหนึ่ง
 
“กูไม่ชอบขี้หน้ามัน กรุณาอย่าพามาเข้าใกล้ เด็กกู”
 
“แหม เดี๋ยวนี้ เด็กกู เต็มปากเต็มคำนะ เอ๊ะ!!! หรือมึงกินลูกกูไปเต็มๆแล้วห๊ะไอ้ธาร” ไอ้กายว่า ทำท่าอ้าปากตกใจตาโต
 
“ไอ้กาย!!!!! ยังเว้ย! แต่คง.......อีกไม่นาน”
 
<<<<<<<<<<TBC>>>>>>>>>>>>>

คือเราช้ามากรู้ตัวค่ะ มีเรื่องที่มหาลัยต้องจัดการนิดหน่อย ขอโทษอย่างสูงจร้า

พี่ธารเริ่มเจอคนที่ชอบลีวายส์จริงๆจังๆ เข้าแล้ว พี่ธารจะทำไงกันนะ ไรท์ก็ยังคิดไม่ออกอ่ะ คิคิ

ไอ้ประโยคสุดท้ายนี่สิ อีกไม่นาน ลุ้นๆ (ทุกตอนอ่ะ) คิคิ  :katai3:   :katai3:   :katai3:    :katai3:


ออฟไลน์ Ok_fine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
หมั่นไส้ไอ้พี่ธารจริงวุ้ยยยย :angry2:   :angry2:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
หึหึ รอน้องลีวายส์ถูกกิน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด