ตอนที่ 35“พี่ปลื้ม มองใครอ่ะ”
“เปล่า”
“ก็เห็นว่ามองอยู่”
“อย่าถามมากได้มั้ย น่ารำคาญ -_-”
“ว่าผมอีกแล้ว T_T”
ผมเลิกใส่ใจกับเด็กปีหนึ่งหน้ามึนข้างๆ ก่อนจะมองผู้ชายที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาซักถามคนป่วยวัยชราที่อยู่ห่างออกไป
วันนี้ผมมาเป็นเพื่อนน้องเดย์บริจาคเลือดครับ น้องบอกว่าบริจาคทุกๆ สามเดือน แต่ผมว่าคงโม้มากกว่า เพราะเห็นหน้าซีดๆ แล้วก็อดจะบอกไม่ได้ว่ามึงกลับหอไปเถอะ -_-
“หล่อเนอะ ดูหน้ายายแกสิ ฟินเลย” ดูความเกรียนของมัน แต่ผมก็ไม่เถียงจริงๆ เพราะคนที่กำลังซักประวัติยายอยู่นั้น...แม้แต่พยาบาลยังพากันมานั่งใกล้ๆ
โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยก็เหมือนของรัฐบาลทั่วไป มีประชาชนคนไทยแห่กันมาใช้บริการตั้งแต่เช้าตรู่ ผมมาถึงที่นี่ตอนแปดโมงกว่าก็แทบไม่มีเก้าอี้นั่งรอคิวแล้ว
“พี่ปลื้ม เลิกมองได้แล้ว ไม่ให้มอง”
“เอามือออกไปครับ”
“ก็ไม่อยากให้มอง ผมก็หล่อ มองผมบ้างสิ -*-”
“ยังไม่ได้ครึ่ง”
“โอ้ยยย คนอะไรใจร้ายว่ะ”
ผมพูดความจริงก็เป็นคนใจร้ายเหรอ เทียบกับพี่โปรดแล้ว น้องเดย์เป็นเหมือนเด็กน้อยไปเลย ไม่รู้นะ ความคิดเห็นส่วนตัว แต่ถ้าใครผ่านมาเห็นก็ต้องคิดเหมือนผม ดูรอยยิ้มนั่นสิ ใครจะเถียงได้ว่านั่นน่ะไม่ดูดีอะไรเลย มันดูดีสุดๆ ต่างหาก คุณยายยิ้มแล้วยิ้มอีก เพราะพี่โปรดพูดเพราะ คุยเป็นกันเอง เห็นแล้วให้ความรู้สึกว่าเขาเหมาะกับอาชีพนี้จริงๆ ผมยอมรับเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเขาในด้านนี้...จริงจังกับหน้าที่ของตัวเองแบบนี้
เจอกันเมื่อตอนเกือบเก้าโมง...เขาวิ่งไปซื้อนมมาให้เพราะผมบอกว่ายังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า ก่อนจะขอตัวไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
“พี่ปลื้ม ไปเป็นเพื่อนหน่อย พี่พยาบาลเขาบอกให้ไปที่ห้องบริจาคเลือดได้เลย ไม่ต้องรอคิว”
แล้วที่ให้มานั่งรอจนเกือบสิบโมงนี่เพื่ออะไรครับ? มันไม่รู้อะไรมาก่อนจริงๆ เหรอ?
“ครั้งแรกใช่มั้ยที่บริจาคน่ะ”
“เปล่านะ ก็เพิ่งเคยมาบริจาคที่นี่ครั้งแรก ผมเลยไม่รู้ระเบียบการนี่นา”
“พี่จะรออยู่นี่แหละ”
“ไม่เอา ไปนั่งเป็นกำลังใจให้ผมหน่อยสิ”
“ไม่ก็คือไม่สิวะ -_-”
“ง่ะ T_T ไปเองก็ได้”
ผมส่ายหน้าอย่างระอากับน้องรหัสตัวเอง ถ้าไม่ใช่โรงพยาบาลผมคงไม่มา และถ้าไม่ใช่ว่ามันเป็นน้องรหัส ผมคงไม่มาอีกเช่นกัน แต่ก็ไม่รู้นะว่าเหตุผลอันไหนที่โน้มน้าวผมได้มากกว่า
“ปลื้ม จะกลับยัง”
ผมละสายตาจากหน้าจอมือถือตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพี่โปรดที่ยืนหล่ออยู่ตรงหน้า เสื้อกาวน์ของเขาขาวใสไร้รอยเปื้อนต่างจากของพี่อาร์มที่ผมเห็นวิ่งหน้าตื่นผ่านหน้าผมไปมาก ทักทายแค่ไม่กี่คำก็วิ่งไปราวกับจรวด
“ยัง รอน้องอยู่ครับ”
“น้องรหัสเหรอ”
“ครับ”
เขาพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะยื่นแซนวิชมาให้
“กินรองท้องไปก่อน”
“ขอบคุณครับ” ผมรับมา พร้อมกับมองใบหน้าอิดโรยของเขา
“มายืนอู้แบบนี้จะดีเหรอครับพี่”
“เป็นเวลาพักของพี่”
“อะฮะ”
“พรุ่งนี้ไปดูหนังกันมั้ย”
“พี่ว่างเหรอ”
“อือ ประมาณสามชั่วโมง”
“ทัน? ผมอยากกินข้าวด้วยนะ”
พี่โปรดยิ้ม ก่อนจะวางมือเรียวสวยของเขาลงบนหัวผมแล้วลูบเบาๆ
“ทัน ไม่ต้องห่วง”
“อืม”
“รีบกลับก็ดีนะ ไม่ค่อยอยากให้ปลื้มมา เชื้อโรคเยอะ”
เพราะอย่างนี้ตอนที่คบกันถึงไม่ชอบให้ผมมาหาใช่ไหม... พี่ก็มีส่วนน่ารักนี่นา...ทำไมตอนนั้นถึงไม่ค่อยพูดออกมา
“พี่ปลื้มมมมมมมมมมมมม เสร็จแล้ววว กลับกันๆ” ไม่รู้ว่าเด็กเดย์มาจากไหน แต่พยายามเบียดพี่โปรดเพื่อเข้ามาหาผม
พอมายืนใกล้กันอย่างนี้แล้ว...ความสูงไม่ได้ใกล้เคียงกันเลย เดย์สูงกว่าผมก็จริง แต่ก็ยังสูงแค่หูของพี่โปรด ขนาดตัวถ้าต่อยกันแล้วคงเดาได้ว่าใครจะเละก่อน พี่โปรดขมวดคิ้วฉับพลันเพราะผมทันเห็นเท้าเขาโดนเหยียบ
ทำไมน้องรหัสผมมันไม่มีมารยาทขนาดนี้ครับ? -*-
“ไหว้รุ่นพี่ก่อนครับเดย์” ผมบอกมันอย่างไม่ชอบใจ
“อ้าว รุ่นพี่เหรอ สวัสดีครับ ผมชื่อเดย์ เป็นน้องสุดที่รักของพี่ปลื้ม”
สุดที่รักนี่น้องเติมเอาเองป่ะครับ? -_-
“หึ สวัสดีครับ พี่ชื่อมาโปรด”
“หรือว่าพี่คือเสี่ยโปรดที่เขาร่ำลือกัน”
“พี่ไม่รู้ว่าเขาลือกันยังไง แต่ถ้าน้องคิดว่าใช่ก็คงใช่แหละครับ”
มาโปรดโหมดหน้านิ่งนี่ผมไม่เจอนานแล้ว มาเจอตอนนี้ก็ยังรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แทนน้องเดย์ที่โดนจ้องอยู่ดี
“ฮ้าาา ดีใจที่ได้เจอคนดัง อ้ะ พี่ปลื้ม ผมได้แลคตาซอยมาด้วยอ่ะ พี่พยาบาลเขาให้มาสองกล่องเลย แบ่งให้ๆ แลกกับแซนวิชนะ ขอบคุณครับ ไปก่อนนะครับพี่มาโปรด”
เด็กนี่มาเร็วเคลมเร็วจนผมข้องใจว่าเคยไปทำงานด้านประกันภัยมาก่อนรึเปล่า ผมโดนลากให้เดินตามอย่างงงๆ ยื้อแขนไว้แต่น้องรหัสก็จับไว้แน่น หันกลับไปมองพี่โปรดก็ยังเห็นว่ายืนอยู่ที่เดิม ผมเลยยกมือทำท่าโทรศัพท์แนบหู เขาเลยพยักหน้าแล้วหันหลังเดินกลับเข้าไปข้างใน
“พี่ปลื้มลำเอียง”
“ลำเอียงอะไร?”
“ก็ทีผมชวนไม่เคยเห็นจะไปด้วยเลย เขาเป็นใครอ่ะ ชวนไปดูหนังก็ไปง่ายๆ เลยเหรอ”
“หุบปากเถอะน่า”
“เอะอะอะไรก็ว่าผมอ่ะ ผมน้อยใจนะ -*-”
ผมดึงมือตัวเองออกจากมือน้องรหัสอย่างรำคาญ
“พี่ปลื้ม ห้ามไปนะ ถ้าพี่ไปดูหนังกับเขาพี่ต้องหลงเสน่ห์เขาแน่”
“คุณงอแงอะไรครับน้องเดย์ น่ารำคาญไปแล้วนะ -_-”
“จะไม่ให้ผมโวยวายได้ไง ก็ผมชอบพี่อ่ะ จีบพี่อยู่นะ”
“แล้วบอกสักคำมั้ยว่าจีบติด งี่เง่าอะไรขนาดนั้นครับ”
“ก็พี่ไม่เคยเปิดโอกาสให้ผมเลยอ่ะ -*-”
“ไม่เปิดโอกาสคือไม่อนุญาตให้จีบ ชัดมั้ย ถ้ายังงี่เง่าอีกผมตัดสายนะ”
“ง่ะ T_T”
เด็กนี่มันโตแล้วรึยังผมก็ไม่รู้ แต่ตอนที่พาไปเลี้ยงเหล้าเพราะพี่เท็นอยากเห็นหน้าน้องรหัสผมมันก็เกือบโดนท่านเทพเท็นสอยร่วงแล้ว เมาแล้วเพ้อเจ้อ ประมาณเด็กน้อยหัดเมา ลำบากผมกับคุณเฟรนต้องช่วยกันแบกมันกลับหออีก
“พี่ปลื้ม”
ผมไม่ได้หันไปตามเสียงเรียกของเดย์เพราะกำลังตั้งใจมองทางข้างหน้าอยู่ ไม่อยากพาปอร์เช่ลูกรักไปเสยท้ายใครครับ ไม่คุ้มกับค่าซ่อม
“ผมชอบพี่จริงๆ นะ”
“...”
“ฟังอยู่รึเปล่าเนี่ย”
“...”
“คนอะไรใจร้ายชะมัด”
“...”
“กับเสี่ยโปรดล่ะ อีกมาตรฐานหนึ่งเลยนะ แค่เพราะเขาหล่อมาก รวยมาก ใครๆ ก็ชอบ ผู้หญิงคณะเราส่วนใหญ่ก็ชอบเขา พี่ก็ไม่ต่างเลยสินะ”
“คุณหุบปากซะ”
“ผมพูดความจริง”
“จะจริงหรือไม่จริงคุณก็ไม่ควรพูด มาทีหลัง ไม่รู้อะไรแล้วอย่าเสือก”
ผมรู้ว่าพูดแรงไป แต่ถ้าทำให้เดย์มันเงียบปากลงไปได้ก็ถือว่าควร ผมไม่ได้ให้สิทธิ์ใครมาพูดอะไรมากมายอย่างนี้ มันจะมารู้อะไร ผมไม่ได้สนใจพี่โปรดจากสิ่งที่เขามี แต่ผมสนใจในสิ่งที่เขากำลังทำให้ ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์มาตัดสินเขา ผมไม่ชอบใจเลยจริงๆ
“ลงไปได้แล้ว จะจีบผมก็ช่วยทำให้รู้สึกดีกว่านี้หน่อย ไม่ใช่พูดแต่เรื่องแย่ๆ ออกมา คุณอาจจะคิดว่าคุณหล่อ แค่พูดอ้อนแล้วใครต่อใครจะต้องมาสยบให้ แต่สำหรับผมนะเดย์ คุณยังเทียบอะไรไม่ได้กับคนในใจผมเลย”
“พี่ปลื้ม ผมขอโทษ อย่าโกรธเลยนะ”
“ผมไม่ได้โกรธ แต่ผมแค่ไม่ชอบสิ่งที่คุณทำ เชิญลงไปครับ”
“อ่า...งั้นไว้คืนนี้ผมโทรหานะ”
ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ปล่อยให้น้องมันลงจากรถไปเงียบๆ ผมไม่แคร์นะเพราะผมไม่ได้เรียกร้องความรักจากใคร ผมมีทุกอย่างแล้ว ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนกับเรื่องนี้ อยากให้มันค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ตอนนี้ผมอยู่คนเดียวได้ ไม่จำเป็นว่าไม่ได้คบกับพี่โปรดแล้ว ผมจะต้องมีใครมาแทนที่เขา
ไม่ใช่เรื่องเลยจริงๆ -_-
ครืดดดดดดด ครืดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดด
เกลโทรมา -_- เดี๋ยวนี้ล่ะโทรมาบ่อยเหลือเกิน ผมควรต้องไปทำบุญเก้าวัดอย่างที่คุณเฟรนแนะนำรึเปล่านะ มันเหมือนมีพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกยังไงก็ไม่รู้สิ
“ครับ ว่าไงครับเกล”
“ปลื้มคะ เกลหิวข้าว ไปกินข้าวด้วยกันนะคะ”
“อ่า...ที่ไหนครับ”
“ที่ไหนก็ได้ ที่ปลื้มสะดวก”
ถ้าผมบอกว่าไม่สะดวกสักที่นี่เกลจะตอบมาว่าไงนะ ผมไม่อยากขับรถไปไหนเลยตอนนี้ ช่วงเวลากลางวันรถเยอะไม่ต่างจากตอนเช้าหรอก ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามีช่วงไหนบ้างที่กรุงเทพไม่มีรถ -*-
“งั้นเจอกันแถวๆ มอของเกลก็ได้ครับ เดี๋ยวผมนั่งรถไฟฟ้าไป”
“จะลำบากปลื้มรึเปล่าคะ ให้เกลไปหาที่มอมั้ย”
“มาได้เหรอครับ”
“ค่ะ อยากไปเที่ยวมอปลื้มเหมือนกัน”
“งั้นก็ได้ครับ เกลขึ้นรถไฟฟ้ามาลงสถานีใกล้ๆ ละกัน ผมจะขับรถไปรับที่นั่น”
“โอเคเลยค่า งั้นไว้เจอกันนะคะปลื้ม”
“ครับ”
เป็นอันว่าผมต้องขับรถออกจากลานจอดรถแล้วไปรับเกลที่สถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้มหาลัย และที่ใกล้ที่สุดก็ห่างออกไปตั้งหลายกิโลเมตร -_-
รู้สึกว่าตัวเองเริ่มยุ่งยากวุ่นวายกับเรื่องไร้สาระมากเกินไปแล้วนะ นี่ถ้าพี่เท็นรู้ผมได้โดนตบหัวทิ่มโต๊ะแน่
ไปรับเกลมามอ เธอขอให้วนรถดูแต่ละคณะ นึกในใจว่านี่พาเด็กมาทัศนศึกษาหรืออย่างไร ทำอย่างกะไฮโซที่เพิ่งมาบ้านนอกไม่เคยเห็นควายไปได้ -_-
กำลังเดินนำเกลไปที่โรงอาหาร ถึงครึ่งทางเธอก็ขอตัวคุยโทรศัพท์ก่อน ผมเลยยืนรออยู่ริมฟุตบาท ก็พอดีกับที่มีจักรยานคันหนึ่งปั่นสวนมา มองไกลๆ ไม่คุ้นตา แต่มีออร่านำ ผมจะไม่สนใจก็ได้ ถ้าหากคนที่ปั่นมันไม่ใช่...
“อ้าว ปลื้ม ไปไหนมา พี่ไปหาที่คณะไม่เจอ” หน้าพี่โปรดขึ้นสีแดงจางๆ เสียงก็ค่อนข้างหอบ
“หาผมทำไมครับ?”
“ซื้อข้าวกล่องมาให้ พี่เห็นโดนไอ้เด็กนั่นแย่งแซนวิชไป คิดว่าคงหิว”
-_- อ่า...พูดยังไงดีนะ ผมกำลังจะพาเกลไปกินข้าว มองข้าวกล่องในตะกร้าหน้ารถจักรยานรุ่นแม่บ้านจ่ายตลาดแล้วก็ได้แต่ลำบากใจ
“พี่ไปเอาจักรยานใครมา”
“ยืมของลุงรปภ. ที่โรงบาลมา รีบปั่นมาเลย เดี๋ยวหมดเวลาพักของพี่แล้ว ปลื้มกินรึยัง พี่ซื้อข้าวผัดกุนเชียงมาให้ ไม่รู้ว่าชอบรึเปล่า แต่เป็นเมนูที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินในแคนทีนโรงบาล”
“ผมยังไม่ได้กินครับ แต่...”
“ปลื้มมมม ไปกันค่ะ คุยเสร็จแล้ว อ้าวววว คุยกับเพื่อนอยู่เหรอคะ”
เกลที่เพิ่งคุยโทรศัพท์เสร็จกำลังเดินมา ก่อนจะหยุดยืนอยู่ข้างๆ ผม
“เกล นี่พี่มาโปรดครับ รุ่นพี่ที่มอ” ผมไม่มีทางเลือกจึงต้องแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกัน ก็เป็นไปตามมารยาททางสังคมแหละครับ
“สวัสดีค่ะ”
“ครับ สวัสดีครับ”
เป็นครั้งแรกที่พี่โปรดไม่ยิ้มให้ผู้หญิง เอาจริงๆ เหมือนพยายามยิ้ม แต่ทำได้แค่มุมปากกระตุก -_-
“ปลื้ม เกลหิวแล้วนะคะ”
“งั้นเกลเดินไปก่อนเลยได้มั้ยครับ ตรงนั้นเป็นโรงอาหาร ไปนั่งรอผมที่นั่งก่อน ผมขอคุยกับพี่โปรดแป๊บนึง”
เกลนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้าพร้อมกับยิ้มหวานส่งมาให้
“อย่านานนะคะ เดี๋ยวเกลกลับไปเรียนไม่ทัน”
“ครับ”
เกลเดินไปแล้ว ผมเลยหันมาหาพี่โปรดที่กำลังท้าวแขนกับแฮนด์จักรยานมองมาทางผม
“ผมจะกินตอนเย็นครับ พี่เก็บไว้ให้ด้วย”
“อืม รีบไปเถอะ อย่าให้ผู้หญิงรอ”
“ครับ”
“ตั้งใจเรียนนะ อย่าเถลไถล”
พี่โปรดเอามือผมไปจับไว้ แล้วลูบเบาๆ อยู่อย่างนั้น
“พี่โปรดปล่อยได้แล้ว”
“ไม่อยากปล่อยเลย...”
“-*-”
“ถ้าพี่ปล่อยแล้ว...อย่าไปจับมือคนอื่นนะ”
“-*-;”
“นะครับ”
นี่ข้างถนนนะ มาพูดอะไรแถวนี้เนี่ย -///- เมาแดดเหรอครับพี่
“บ้า -///- ไปได้แล้ว”
“หึหึ ตอนเย็นพี่โทรหานะ”
“อือ อยากโทรก็โทร”
“รับปากแล้ว เพราะงั้นรับสายด้วย”
“อื้อ รู้แล้ว อย่าลืมเอาข้าวมาให้ผม”
“ครับ ไปละ ^^”
พูดว่าไปแต่เขาก็ยังไม่ไปหรอก รอจนผมเดินห่างออกมานั่นแหละ ถึงจะรีบปั่นจักรยานไปโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยซึ่งก็ไม่ได้ใกล้เลย ไม่รู้จะกลับไปทันรึเปล่า คงได้โดนด่าอีกแหงๆ แต่เอาเถอะ ให้พี่โปรดโดนด่าบ้างก็ดี จะได้เป็นสีสันของชีวิต ฮ่าๆๆๆ
.......................................To be continue...............................................
กะ...เกือบบบบบไป เกือบจะไม่ได้ลง
เพิ่งถึงห้อง -*- ปีนรั้วกันออกมาเลยทีเดียว :m29:ประตูปิดห้ามคนในออก ห้ามคนนอกเข้า ถ้าคนในจะออกต้องเดินอ้อมไปออกประตู...โน้นนน
เราเลยต้องปีนรั้ว ฮ่าๆๆ
มาดึกขนาดนี้ คนอ่านจะยังมีอยู่มั้ย ไม่มีไม่เป็นไร ไว้อ่านพรุ่งนี้เน้อ คืนนี้ฝันดีจ้า

ขอบคุณคุณนาถที่ห่วงใยคนเขียน อิอิ
ลมหนาวจริงๆ ค่ะ ใส่เสื้อกันหนาวทั้งวัน

พรุ่งนี้อาจจะไม่ได้อ่านกันนะ เพราะวันศุกร์เรามีประชุม ต้องเคลียร์งาน ไว้เจอกันวันศุกร์จ่ะ