หัวใจสิงห์...สีน้ำผึ้ง ตอนที่ 27 [26/10/2017] pg.64 [[End]]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หัวใจสิงห์...สีน้ำผึ้ง ตอนที่ 27 [26/10/2017] pg.64 [[End]]  (อ่าน 816106 ครั้ง)

ออฟไลน์ -Otto-

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
คิดถึง. :hao4:

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ PRiiNZE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
มาค่ะ เปิดศึก เจ้าย่ากับหลานเขย
สู้ค่ะนายเหมือง เพื่อเมีย! สู้วนไปค่ะ!

รีบกลับมาต่อนะคะ รอติดตามอยู่นะ :)

ออฟไลน์ dek-zaal3

  • แก้วปั้ณณ์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +534/-11
    • แก้วปั้ณณ์
ตอนที่ ๒๑


   นายเหมืองสิงห์ และเจ้าของสวนผลไม้นายกฤษณ์ ได้รับเชิญจากเจ้าบ้านให้อยู่ทานข้าวมื้อเที่ยงด้วยกัน  แน่นอนว่าสองหนุ่มนั้นไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว  บัวแทบจะนั่งเงียบอยู่ตลอดเวลา  ย่าถามคำก็ตอบคำ  ส่วนใหญ่มักจะยิ้มเจื่อนๆเสียมากกว่า  หลายครั้งที่เขาแอบเผลอไปสบตากับนายเหมืองที่นั่งฝั่งตรงข้าม  แต่ก็ต้องรีบหลบตา  ส่วนนายเหมืองก็มีตักอาหารให้เจ้าย่า  แล้วก็เลยถือโอกาสนั้นมาตักให้ครูบัวด้วย 

   ซึ่งเหตุการณ์บนโต๊ะทั้งหมดถูกบุคคลที่นั่งยิ้มนิ่มๆตรงหัวโต๊ะเก็บเป็นข้อมูล  สายตาผ่านร้อนผ่านหนาวมองหลานตัวเองที่มีโอกาสได้เลี้ยงอยู่ช่วงหนึ่ง  แล้วพาให้นึกถึงเหตุการณ์หนึ่งตอนที่พ่อของบัวพาแม่เขามาบ้านครั้งแรก  หล่อนเองนั้นเฉยๆกับผู้หญิงที่พ่อเจ้าบัวพามา  แต่ปู่เขานั้นไม่พอใจเอามากๆ  ยิ่งลูกชายเอาอกเอาใจตักกับข้าวให้แม่เจ้าบัว  ปู่เขาก็ยิ่งออกอาการไม่พอใจหนัก  เหมือนกับเวลานี้...ต่างกันตรงที่คนทำตัวเหมือนพ่อเจ้าบัวคือนายเหมืองสิงห์  และหล่อนก็ไม่ใช่ปู่เขา

“จริงสิบัว  เมื่อไหร่เขาจะเรียกบรรจุล่ะหลาน  ใกล้ถึงหรือยัง”  จู่ๆในช่วงที่ทุกคนเริ่มอิ่มกันแล้วเจ้าย่าก็ถามหลานชายขึ้น

“ก็น่าจะครับคุณย่า  บัวไม่ได้ตามข่าวเลย  ไม่มีอินเตอร์เนต”  เพราะโทรศัพท์ที่แบตฯหมดยังไม่ได้รับการแก้ไข  และอยู่ที่นี่บัวก็มีโน่นนี่ให้ทำอยู่เรื่อยๆ  หลังๆเขาเลยลืมเรื่องนั้นไปเสียสนิท

“จริงสิ  บัวให้เขาส่งจดหมายไปที่ไหนล่ะ”  ย่าหมายถึงจดหมายเรียกตัวเข้าบรรจุรับราชการครู  ซึ่งตัวครูบัวเมื่อนึกขึ้นได้ก็ทำหน้าเจื่อนมองหน้าคุณย่าเศร้าๆทันที

“บ้านที่กรุงเทพฯครับ”  ซึ่งตอนนี้มันถูกไฟไหม้ไปแล้ว  จดหมายส่งไปก็คงไม่ถึงมือผู้รับ

“อ่อ  งั้นเดี๋ยวย่าไปติดต่อที่เขตฯให้  ให้เขาเปลี่ยนที่อยู่เป็นที่บ้านย่า”

“เอาอย่างนี้ก็ได้ครับ  เดี๋ยวตอนบ่ายโมงผมจะไปส่งผลไม้ในเมืองอยู่พอดี  คุณบัวไปพร้อมกันเลยดีกว่า”  เจ้าของสวนผลไม้หนุ่มได้ช่องรีบเอ่ยปากบอก  แล้วพอเห็นเจ้าย่าทำท่าจะพูดอะไรออกมาอีกชายหนุ่มเจ้าแผนการก็รีบขัดขึ้นว่า “ไม่ต้องห่วงนะครับเจ้า  เดี๋ยวก่อนสี่โมงเย็นผมจะพาเจ้าบัวกลับมาส่งบ้านอย่างปลอดภัยแน่นอน”

   กฤษณ์การันตี  ขายกไปสะกิดเท้าเพื่อนให้รับมุขตามแผน  ซึ่งเพื่อนกันแค่มองตาก็รู้ใจ  ขนาดบัวเองยังรู้จุดประสงค์ของการไปส่งผลไม้ครั้งนี้  แล้วคนแก่อายุที่สุดบนโต๊ะจะไม่รู้หรือ

   แต่ก็นะ  รู้ตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว  เพราะในที่สุดกฤษณ์ก็สามารถพาบัวและนายเหมืองหนุ่มขึ้นรถตัวเองออกมาจากเรือนไม้ไทยสไตล์ล้านนาได้สำเร็จตอนบ่ายโมงตรงพอดี

“เอาล่ะ  เดี๋ยวมึงเอารถกูไป  จะพาไปไหนก็เรื่องของมึง  แต่พาหลานเจ้าย่าเขาไปส่งก่อนสี่โมงตามที่กูบอกไปแล้วกัน  บ้านใกล้เรือนเคียงกูไม่อยากมีปัญหา”  กฤษณ์พูดพร้อมโยนกุญแจรถกระบะสีขาวมุกที่เขาเอาไว้ใช้ขับเข้าเมืองให้เพื่อนอย่างใจป้ำ 

“..ขอบใจมาก”  นายเหมืองหนุ่มตบบ่าเพื่อนเป็นการขอบใจ  ที่สามารถทำให้เขาฉกบัวออกมาจากคุ้มได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง  หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาต้องเข้าหาบัวอย่างหลบๆซ่อนๆมาโดยตลอด  ไม่สามารถเข้าหาอย่างเปิดเผยแบบตอนนี้ได้เลย

“เออ เดี๋ยวแยกกันในเมืองแล้วกัน  กูไปกับรถคนงานนั่นนะ”  นิ้วโป้งของเจ้าของสวนผลไม้ชี้ไปที่รถกระบะอีกคันลักษณะกลางเก่ากลางใหม่  ตรงกระบะด้านหลังมีลังไม้ที่บรรจุแน่นไปด้วยผลไม้สีส้มและสีแดงจนเต็ม

   นายเหมืองยิ้มขอบคุณเพื่อนจากใจจริง  เขายืนส่งเพื่อนไปคุมคนงานหยิบลังผลไม้มาวางเพิ่มก่อนแล้วจึงค่อยหันไปฉุดมือครูบัวให้เดินตามไปที่รถ

   ตอนนี้ใครว่าอย่างไรบัวก็ว่าอย่างนั้น  ชายหนุ่มจะฉุดเขาไปซ้ายไปขวาเขาก็จะไม่หือไม่อือ  เพราะเอาจริงๆแล้วบัวก็แอบดีใจเล็กๆอยู่เหมือนกันที่ได้ออกมาข้างนอกคุ้มกับนายเหมืองสองคนแบบนี้

   ถือว่าหนนี้พวกเขาสองคนเป็นหนี้คุณกฤษณ์เข้าให้เต็มเปา

“เอาล่ะ  มีเวลาสามชั่วโมง  เราคงต้องตักตวงเอาให้คุ้ม”  นายเหมืองสิงห์หันใบหน้าด้านข้างมามองคนข้างตัวที่กำลังรัดเข็มขัดเรียบร้อย  มือซ้ายก็ตบกระปุกเข้าเกียร์เพื่อเดินหน้ารถออกจากประตูรั้วไร่ของเพื่อน 

“เอาจริงๆนะนายเหมือง  บัวยังตั้งตัวไม่ทันอยู่เลยที่..จู่ๆคุณก็เข้าไปหาคุณย่าของบัวแล้วพูดแบบนั้นกับท่าน”  บัวหมายถึงที่นายเหมืองรับคำคุณย่าและไม่มีอาการแตกตื่นสักนิดเมื่อคุณย่าท่านทำเหมือนจะรู้ความสัมพันธ์ของเขากับนายเหมืองแบบนี้

“พี่ก็เหมือนกัน  แต่คุณย่าของบัวต่างหากไม่ธรรมดาเลย  ดูท่าท่านจะหวงของท่านมาก  ถึงขนาดให้คนตามข่าวบัวได้ขนาดนี้”

“นายเหมือง...ยังโอเคใช่มั้ย  ไม่ถอดใจไปเสียก่อนนะ”  อยากจะว่าบัวใจง่าย  เข้าข้างผู้ชายมากกว่าย่าตัวเองแบบนี้ก็ยอมล่ะ  เพราะที่ผ่านมาบัวยอมรับว่าตัวเองสนิทใจกับครอบครัวคนใต้ของนายเหมือง  มากกว่าครอบครัวแท้ๆของตัวเองที่เหนือเสียอีก 

   อดีตที่ฝังใจ  ต่อให้ลืมง่ายแค่ไหนมันก็ยังทิ้งรอยจางๆเอาไว้ทั้งนั้น  ยังไงบ้านนั้นถึงจะดีกับบัวแค่ไหนแต่ก็ไม่ต้อนรับแม่ของบัว  แล้วคนที่มีแต่แม่ที่เลี้ยงดูมาตลอดทั้งชีวิตก็เลือกข้างได้ไม่ยากเลยว่าเขาจะเลือกอยู่กับใคร

“อย่าดูถูกความรักของพี่  กลัวก็แค่บัวเองนั่นแหละ  จะเปลี่ยนใจกลับไปเป็นคุณชายในเวียงทอง  หลงลืมกระท่อมปลายนากับลูกชายของเราที่ในเหมือง”  ชายหนุ่มแสร้งทำเสียงกึ่งน้อยใจในประโยคท้ายๆ  ซึ่งบัวฟังแล้วมันน่าขย้อนนัก  เมื่อมันไม่เข้ากับใบหน้าที่มีไรหนวดเป็นปื้นเขียวอยู่สองข้างแกม  ดูมาดแมนสมชายตัวก็ใหญ่แบบนี้เลยจริงๆ

“แหวะ  บัวคิดถึงสองแสบจะแย่แล้วเนี่ย  ไม่ได้ยินเสียงไม่ได้คุยกันเลย”  กว่านายเหมืองจะดอดเข้าห้องเขาได้ก็ดึกดื่นค่อนคืน  ป่านนั้นเด็กๆคงนอนกันไปหมดแล้ว  เขาเลยไม่มีโอกาสได้โทรหาเด็กๆ พูดคุยให้คลายความคิดถึงลงได้เลย  “ไม่รู้จะโกรธมากมั้ยที่ครูตาหวานของแกหายออกมานานแบบนี้  กลับไปก็คงเปิดเทอมพอดี  บัวก็คงไม่ได้อยู่สอนเด็กๆแล้ว”

   น้ำเสียงเศร้าๆกับใบหน้าที่ก้มลงของบัวทำให้นายเหมืองต้องเอามือที่ว่างจากกระปุกเกียร์ไปช้อนใบหน้าเนียนนวลให้เงยขึ้น  บัวไม่ได้ร้อง  แต่แววตานั้นก็บ่งบอกความรู้สึกที่พูดออกมาว่ามาจากใจจริงๆ  ความห่วงหาอาวรณ์ของบัวยังส่งมาถึงเขาที่เป็นพ่อของสองแสบเลย

“งั้นเดี๋ยวเราแวะที่เขตเสร็จแล้วพี่พาบัวไปซื้อโทรศัพท์ใหม่เลยแล้วกัน  เดาว่าเจ้าย่าของบัวคงไม่อยากให้บัวติดต่อใครได้  แกคงกลัวว่าถ้าบัวติดต่อคนนอกได้บัวจะไปจากแก”

“ไม่ได้รู้เลยใช่มั้ยว่าคนนอกที่แกกลัวน่ะ  น่ากลัวกว่าที่คิด”  บัวพอได้สัพยอกนายเหมืองเอานิดหน่อยก็ใจคลายเศร้าขึ้น  อย่างน้อยๆถ้ามีโทรศัพท์ เขาก็จะได้ส่งข้อความหาเด็กๆ  หาป้าพุดได้  คงพอลดความกังวลกันไปได้บ้าง

    ชายหนุ่มแย้มยิ้มบางเบาที่ริมฝีปาก  ใบหน้าครูบัวเหมาะกับการประดับรอยยิ้ม  ไม่เหมาะกับการประดับความเศร้าเลยจริงๆ  ใบหน้านิ่งๆขรึมๆก็ดูดีไปอีกแบบ  แต่เวลายิ้มกว้างจนเห็นฟันนั่นน่ารักที่สุด

“นายเหมือง  ดูทางด้วย  บัวไม่รู้หรอกนะว่าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯที่นี่อยู่ที่ไหน”

“งั้นบัวเปิด GPS แล้วบอกทางพี่นะ”  ชายหนุ่มยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้บัวนำไปเปิดดูเส้นทาง  บรรยากาศเก่าๆเหมือนตอนที่พวกเขาเคยนั่งรถด้วยกัน  ดูแลกันและกันเหมือนก่อนนั้นเริ่มกลับมา  บัวเอนหลังพิงเบาะผ่อนคลายตัวเองมากขึ้น  พยายามปล่อยวางเรื่องของคุณย่าแล้วหันไปยิ้มให้นายเหมืองหนุ่มยามเมื่อชายหนุ่มหันมามองเขาอีกครั้ง

   พวกเขาเสียเวลาที่สำนักงานเขตพื้นที่ฯพักหนึ่ง  เพราะทางนี้ต้องประสานงานไปที่เขตฯในกรุงเทพฯ  ที่ซึ้งบัวมีชื่อขึ้นบัญชีไว้  นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่นายเหมืองเองกังวลอยู่  เขาไม่ค่อยเข้าใจระบบข้าราชการครูเท่าไหร่  รู้แต่ว่าเมื่อไหร่ที่ทางเขตฯเรียกบัวบรรจุ  บัวก็จะต้องไปเป็นครูอยู่ในกรุงเทพฯ  แล้วเรื่องการโยกย้ายก็เป็นอะไรที่ยุ่งยาก  บัวบอกว่าตอนนี้ระเบียบใหม่ออกมาต้องรอให้ครบถึง 4 ปีก่อนบัวถึงจะมีสิทธิ์เขียนขอย้าย 

   และเขาทนอยู่ห่างบัวถึงสี่ปีไม่ไหว  นี่แค่ไม่กี่วันเขายังทนไม่ได้เลย

   เมื่อเสร็จสรรพเรื่องที่เขตฯ ทั้งคู่ก็ตีรถเข้าไปที่สำนักงานตำรวจ  เพราะนายเหมืองสิงห์ต้องการไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม  เรื่องที่ลูกน้องของนายอำเภอคนดังที่เพิ่งโดนกวาดล้างไปหนีมาลอยนวลกบดานอยู่ที่เหนือนี่  บัวไม่ได้เข้าไปฟังหรอกว่านายเหมืองคุยอะไรกับผู้กำกับบ้าง  แต่ก็ใช้เวลาไม่นานนักนายเหมืองก็ออกมาแล้วพาบัวไปต่อที่ห้างแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ระหว่างทางกลับบ้าน

   พวกเขาใช้เวลาผ่อนคลายอยู่ในนั้นโดยมีจุดประสงค์หลักคือการหาซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ให้กับบัว  เมื่อได้ของแล้วนายเหมืองก็ยังอิดออดไม่อยากกลับ  เขาโฉบพาครูบัวไปหาซื้อของกินของใช้อื่นก่อน  เพราะระยะทางจากห้างไปถึงคุ้มก็ไม่ไกลมากแล้ว  ยังไงบัวก็สามารถกลับไปได้ทันเวลาแน่นอน

“อันนี้บัวซื้อฝากส้มดีกว่า  ต้องอยู่เหมืองดูแลสองแสบกับป้าพุดสองคนคงเหนื่อยแย่”  บัวหยิบของฝากที่จะให้เจ้าส้มลงตะกร้า  แล้วมองดูของใช้ในครัวที่จะซื้อฝากป้าพุดฤทัยว่าขาดเหลืออะไรอีกบ้าง

“อันนี้ไอ้ส้มน่าจะมีแล้วมั้ง  ผัวมันคงซื้อให้แล้วแหละ”  นายเหมืองให้ความคิดเห็นพลางมองสิ่งที่บัวมองลงในตะกร้า  บัวหันมองคนพูดเล็กน้อยก่อนจะหยิบของสิ่งนั้นวางกลับบนชั้นที่เดิม  แล้วหยิบของใหม่มาพิจารณาอีก

“อันนั้นก็คงมีแล้ว  บัวเลือกของของตัวเองเถอะ  ไอ้ส้มน่ะผัวมันดูแลอย่างดี  แต่พี่นี่สิอยากเป็นผัวที่ดีของบัวบ้างนะ”  นายเหมืองจบคำพูดทิ้งไว้อย่างมีนัยยะสำคัญ  และแน่นอนว่าทำให้บัวใบหน้าเห่อร้อนจนแทบลุกไหม้เป็นภูเขาไฟระเบิดเลยทีเดียว 

   ‘ผัวที่ดีของบัว’ กล้าพูดเนอะ... แต่เอาเถอะ คนเหมืองพูดห่าม หยาบแต่จริงใจ แบบนี้บัวรับได้อยู่
   
   นายเหมืองเดินตามคุณครูหนุ่มเลือกซื้อของไปทั่วซุปเปอร์มาเก็ต  และระหว่างที่เดินนั้นเขาก็รู้สึกแปลกๆไปด้วย  อาการเหลียวซ้ายแลขวาอยู่ตลอดเวลาทำให้บัวไม่ค่อยเข้าใจ  ยิ่งตอนที่ขับรถกลับก็ยิ่งแล้วใหญ่  มีหลายครั้งนายเหมืองเร่งเครื่องแซงรถเร็วทั้งที่ไม่จำเป็น  และนั่นทำให้บัวเริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากลขึ้นแล้ว

“นายเหมือง  เกิดอะไรขึ้น  มีอะไรที่บัวควรรู้มั้ย”  ถ้าให้เดาคงจะเกี่ยวกับเรื่องของนายอำเภอ ผู้ซ่อนเบื้องหลังเป็นเจ้าพ่อวงการค้าไม้เถื่อน  แล้วอาศัยชุดสีกากีของตัวเองอำนวยความสะดวกให้เกิดการส่งออกไม้เถื่อนไปประเทศเพื่อนบ้านอยู่เกือบสิบปีนั่นแน่ๆ  เห็นนายเหมืองเคยเปรยให้ฟังว่าสาเหตุที่มาเจอบัวที่เหนือได้เพราะตามแกะรอยลูกน้องของนายอำเภอที่หนีรอดจากการจับกุมมาอยู่ที่นี่

“พี่คิดว่ามีคนกำลังขับรถตามเรามา”  นายเหมืองบอกก่อนจะเหยียบเบรกเพื่อหักรถเลี้ยวซ้ายกะทันหัน ก่อนจะตัดสินใจเลี้ยวเข้าซอยเล็กๆทางขวาต่อ  เมื่อเขาทันเหลือบเห็นว่ามันกลับไปต่อกับถนนหลักได้บนหน้าจอจีพีเอสหน้ารถ

“ใครครับ  ใช่ลูกน้องพ่อคุณติรกาหรือเปล่า”  บัวเหลียวหลังมองหลังรถในทันที  แต่ก็ไม่เห็นมีรถคันไหนที่ผิดสังเกต  แล้วเมื่อมองไปที่คนขับรถก็เห็นกล้ามแขนและแผ่นหลังที่ผ่อนคลายลงแล้ว

“อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้  บัวนั่งดีๆ พี่จะรีบขับพาบัวกลับถึงบ้านให้เร็วที่สุด”  นายเหมืองหนุ่มเอ่ยพร้อมกับจับเกียร์เพื่อเร่งคันเร่งพารถของกฤษณ์ให้กลับไปถึงเรือนคุณย่าของบัวโดยเร็ว

   บัวจับเข็มขัดนิรภัยเอาไว้แน่น  แอบหลับตาบ้างบางช่วงที่นายเหมืองแอบขับแบบเสียวไส้  แล้วเมื่อถึงบ้านเรียบร้อย  บัวก็ถูกชายหนุ่มร่างใหญ่คว้าแขนแล้วพาลากไปพบเจ้าย่า  แต่เมื่อเจอหน้าบัวกลับถูกบังคับให้ยืนรออยู่หน้าห้อง  ส่วนตัวเองขอเข้าไปคุยกับเจ้าย่าเป็นการส่วนตัว 

   การรอคอยโดยที่ตัวเองไม่รู้เรื่องอะไรเลยแบบนี้นั้นมันเหมือนคนหูหนวกตาบอดไม่มีผิด  บัวไม่ชอบเลยแต่ก็ต้องทำใจ  เพราะบัวเชื่อใจนายเหมือง และบางเรื่องที่นายเหมืองยังไม่อยากให้บัวรู้  เขาก็จะไม่อยากรู้...ตอนนี้

   คนที่เดินออกมาก่อนคือคุณย่าของบัวที่ยังแต่งตัวเรียบร้อยเหมือนเดิม  แต่สีหน้าตึงและรอยราบเรียบบนใบหน้าบ่งบอกว่าเรื่องที่คุยกับนายเหมืองเมื่อสักครู่ไม่น่าใช่เรื่องที่ดี

“บัว...ห้องรับรองแขกตรงใกล้ๆห้องหลานยังว่างอยู่  บอกให้ทับทิมหรือใครสักคนไปช่วยจัดการให้เรียบร้อยก่อนมื้อเย็นนะจ๊ะ” 

“ห๊ะ เอ่อ...ครับ  จะมีแขกมาพักเหรอครับ”

“จ่ะ  เจ้านายของหลานเขาจะมาอยู่กับเราสักระยะ”  คนเป็นผู้ใหญ่ในที่นั้นเอ่ยบอกบัว  มุมปากกระตุกยิ้มเล็กๆ  ไม่คิดว่าเจ้าของเหมืองคนนี้จะหาทางเข้าใกล้หลานชายของเธอได้ไวขนาดนี้

   หล่อนมองใบหน้าตกตะลึงของหลานชายแล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆ  ห้องทำงานของหล่อนควรจะเป็นที่ที่หล่อนควรไปตอนนี้ 

   บัวมองตามแผ่นหลังของคุณย่าที่เดินลับหายไปตรงหัวมุม  แล้วถึงค่อยเบนมาหาคนที่คงจะช่วยตอบคำถามของเขาได้ทั้งหมด

“บัวรู้สึกว่า...เราคงมีเรื่องต้องคุยกันยาวเลยใช่มั้ยครับ”  คุณครูหนุ่มยกมือกอดอก  มองอีกฝ่ายอย่างมาดมั่น

“ก็แค่สถานการณ์พาไปน่ะ”  ชายหนุ่มผู้เป็นแขกของบ้านทำเดินลอยหน้าลอยตาเจ้าของบ้านไปทางห้องที่คุณย่าเพิ่งยกให้สดๆร้อนๆ  เขาน่ะแอบดอดเข้าบ้านนี้จนเริ่มคุ้นชินเส้นทางยิ่งกว่าเจ้าบ้านอย่างบัวเสียอีก

“เฮอะ สถานการณ์พาไปให้ฉวยโอกาสเอาน่ะสิ”  บัวว่า...บัวพอจะเดาได้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้นในห้องเมื่อครู่นี้น่ะ



---------------------------------------------------



   ห้องพักแขกมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมภาคเหนือแฝงเอาไว้ทุกจุดอย่างกลมกลืน  ตุงถูกนำมาตกแต่งแซมอยู่ในแจกันดอกไม้ที่ตั้งอยู่บนตั่งเล็กๆข้างหัวเตียง  ร่มกระดาษคันเล็กและภาพวาดที่แขวนตรงผนังเป็นรูปวัดชื่อดังที่เชียงราย  บวกกับกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้เมืองเหนือที่บานตอนกลางคืน  ทำให้แขกพิเศษที่ได้รับสิทธิ์ให้เข้าพักอย่างกะทันหันรู้สึกผ่อนคลายได้ไม่น้อย  แล้วยิ่งในอ้อมแขนของเขามีหลานชายของเจ้าของบ้านนอนเอนพิงอกอยู่ด้วยแล้วนายเหมืองก็ยิ่งไม่อยากลุกออกจากเตียงไปไหนเลย 

   คืนนี้เป็นคืนแรกที่บัวกับเขาสามารถอยู่ร่วมห้องเดียวกันได้โดยไม่ต้องคอยหลบๆซ่อนๆอีก  ใจหนึ่งบัวก็แอบสบายใจ  แต่อีกใจก็รู้สึกละอาย  ที่ตัวเองมานอนอิงแอบกับผู้ชายร่างสูงใหญ่อยู่ในห้องพักแขกที่คุณย่ายินยอมอนุญาตให้เปิดใช้ได้แบบนี้

   แต่เอาเถอะ...ความสุขไม่ใช่ว่าจะอยู่กับเราได้นาน  บัวขอเก็บช่วงเวลาดีๆในตอนนี้เอาไว้ให้นานกว่านี้อีกหน่อยก็แล้วกันนะครับคุณย่า

“คุณเล่าให้คุณย่าฟัง  แล้วท่านก็อนุญาตให้พักที่นี่ได้เลยเหรอ”

“..ใช่  ทำไมเหรอ”

“มันดูง่ายจัง”

“...”  นายเหมืองไม่ได้กล่าวอะไรตอบกลับ  นอกเสียจากเอียงหน้าไปจูบหน้าผากคนในอ้อมแขนเบาๆ

   ไม่มีอะไรง่ายทั้งนั้น  ถ้าไม่ใช่เพราะเขาอ้างถึงความปลอดภัยของบัว  บวกกับใส่สีตีไข่เรื่องที่มีคนตามพวกเขาวันนี้ให้มันโอเวอร์อีกนิด  คุณย่าก็คงยังไม่ยอมหรอก

“แล้วไม่ดีรึไง  ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้โดยที่ไม่มีใครสงสัย”

“คิดว่าบัวแคร์เหรอถ้ามีคนสงสัย  บัวจากบ้านนี้ไปนานมาก  ความผูกพันที่มีตอนนี้ บอกตามตรงว่านอกจากคุณย่าแล้วบัวก็ใส่ใจความรู้สึกคนอื่นน้อยมากจริงๆ”

“ยกเว้นผมกับเด็กๆนะที่รัก”  เสียงบอกเบาๆเอ่ยขึ้นที่ข้างหู  บัวหันนอนตะแคงข้าง ซุกแก้มเข้ากับอกอีกฝ่าย  มือก็กอดแขนของนายเหมืองเอาไว้

“..คิดถึงไลเกอร์กับไทกอน”  พอพูดถึงเด็กๆมันก็เกิดคิดถึงขึ้นมาจนหยุดไม่อยู่  นายเหมืองก้มลงมองคนที่ครางงึมงำอยู่กับอกเขา  ชายหนุ่มนิ่งคิดไปชั่วครู่ก่อนจะล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นให้คุณครู

“ก็คุยสิ  พวกเขาก็คงกำลังคิดถึงครูตาหวานจนเจ้าส้มปลอบไม่อยู่แล้วแน่ๆ”

      รอยยิ้มมุมปากจุดขึ้นเบาๆ  เมื่อนึกถึงใบหน้าของเจ้าส้มกับป้าพุดฤทัยที่ป่านนี้คงปวดหัวกันไปทั้งบ้านแล้ว

   ครูบัวรีบคว้าโทรศัพท์แล้วกดโทรออกตรงชื่อที่บันทึกไว้ว่า ‘บ้าน’

หนึ่งนาทีให้หลังก็มีแต่เสียงคุยระหว่างครูบัวกับเด็กๆดังฟุ้งทั่วห้องไปหมด  เดี๋ยวก็เล่าไปหัวเราะไป เดี๋ยวก็สลับไปเศร้าๆบ้าง  แต่โดยรวมๆแล้วนายเหมืองก็ฟังเพลินดี 

...และเขาก็คิดว่ามันคงจะเพลินกว่านี้  ถ้าเขาได้อยู่ท่ามกลางครูบัวและเด็กๆแบบตัวเป็นๆ

---------------------------------------------------------

   วันต่อมา  มีตำรวจระดับผู้ใหญ่นายหนึ่งพร้อมลูกน้องเดินทางมาที่เรือนไม้ของเจ้าย่า  บัวและนายเหมืองได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมฟัง  เพราะเรื่องนี้มันดันมาเกี่ยวข้องกับตัวของบัวและคุณย่าของบัวโดยตรง

“เมื่อคืนหลังจากคุณสิงห์โทรเล่าเหตุการณ์เมื่อวานให้ผมฟัง  ผมเลยให้ลูกน้องไปเปิดดูกล้องวงจรปิดบนถนนช่วงที่คุณสิงห์บอกว่าโดนขับตาม  แล้วผมก็พบว่าพวกเขาน่าจะเริ่มตามพวกคุณมาตั้งแต่อยู่ในห้างแล้ว”

   นายตำรวจใหญ่ชี้แจงเหตุการณ์ให้ฟัง  ขนแขนของบัวลุกพรึ่บขึ้นมาทันทีเมื่อจู่ๆเขาก็รู้สึกเหมือนมีอันตรายเข้ามาอยู่ใกล้ตัวแต่เขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย

“ผมมีภาพที่ถ่ายได้จากกล้องมาให้คุณบัวกับคุณสิงห์ช่วยดู  ว่าใช่ลูกน้องของนายจักรกฤษณ์คนที่คุณบอกว่าหนีมากบดานที่นี่หรือเปล่า”

   นายตำรวจใหญ่ยื่นกระดาษเอสี่สามใบให้คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเขารับไปดู  นายเหมืองเป็นคนยกมาถือไว้ส่วนบัวนั้นชะโงกหน้าเข้าไปมอง

   ภาพแผ่นแรกและแผ่นที่สองเป็นภาพซูมจากกล้องวงจรปิดภายในห้างสรรพสินค้าที่บัวเพิ่งไปมา  ส่วนภาพที่สามเป็นรูปรถคันที่ขับตามนายเหมืองมาตอนขากลับ  นายเหมืองหยิบรูปที่สามไปดูดีๆ  ก่อนจะหันไปคุยกับนายตำรวจใหญ่คนนั้นว่าใช่รถคันที่เขาเห็นจริงๆ  ส่วนบัวค่อนข้างชะงักมืออยู่กับรูปที่สอง  ชายสองคนสวมแว่นตาดำ  ชุดเสื้อสีดำเทายืนหลบมุมเสาอยู่  แต่แขนของคนๆหนึ่งที่โผล่พ้นเสื้อออกมามันทำให้บัวหรี่ตาเพราะกำลังเค้นความคิดของตัวเองอยู่ว่า ลายรอยสักที่เห็นนี่มันคุ้นๆ

“รูปนี้มีอะไรหรือบัว”  คนเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในที่นั้นเอ่ยถามหลานชาย  เมื่อหล่อนสังเกตเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของบัวเกิดขึ้น

“ผม...คิดว่าผมจำรอยสักนี้ได้  รอสักรูปแปดเหลี่ยมบนแขน  เหมือนกับรอยสักบนแขนของพวกคนลักลอบตัดไม้นั่นเลยครับ”  ประโยคหลังบัวหันไปมองทางนายเหมือง  วันนั้นคนที่อยู่ร่วมเหตุการณ์เดียวกับเขาคือคนคนนี้  บัวยื่นรูปไปให้นายเหมืองดูพร้อมชี้ให้นายตำรวจใหญ่ดูตรงจุดที่เขาบอก

   รูปค่อนข้างเลือนลางแต่ก็พอมองออกว่าเป็นลายสักง่ายๆรูปแปดเหลี่ยม

“...แสดงว่าคุณบัวสวรรค์...คุณกำลังตกอยู่ในอันตรายจริงๆ”  นายตำรวจใหญ่หันไปบอกลูกน้องให้โทรเช็คกับขนส่งจังหวัดเพื่อเช็คป้ายทะเบียนและสั่งตรวจค้นรถทุกคันที่มีลักษณะเหมือนรถคันดังกล่าว  รวมไปถึงตรวจดูกล้องวงจรปิดต่อเพื่อหาทางว่ารถคันนั้นหนีต่อไปทางไหน  จากนั้นจึงหันมาแจ้งคุณย่าของบัวด้วยท่าทางจริงจังขึ้น “เจ้าย่าครับ  ผมทราบว่างานแซยิดของเจ้ามีความสำคัญมาก  แต่ผมอยากจะให้ระงับไว้ก่อน  จัดตอนนี้มันไม่ปลอดภัยแล้ว  ถ้าพวกมันถึงขนาดกล้าตามหลานเจ้าขนาดนี้” 

“แต่ดิฉันเกรงว่ายกเลิกตอนนี้มันคงไม่ได้แล้ว เพราะคำตอบรับของท่านนายพลฯ ท่านผู้ว่าฯ รวมไปถึงบรรดานายกสมาคมต่างๆตอบกลับมาหมดแล้ว  และคุณก็คงทราบดีว่างานประเภทนี้มันไม่ใช่แค่งานเลี้ยงวันเกิดธรรมดาๆ”

   ในที่นี้นั้นคุณย่าหมายถึงว่างานของเธอนั้นเป็นงานที่รวมบุคคลสำคัญมาอย่างมากมาย  และแน่นอนว่าการนัดดูตัวเอย  นัดเจรจาธุรกิจเอยก็จะต้องมีตามมา  และดูจากการตอบรับมางานนี้ของเธอที่มากเป็นพิเศษแล้วการยกเลิกงานนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ 

   นายเหมืองสิงห์เลิกคิ้วมองครูบัวด้วยแววตาสงสัย  เขาไม่เห็นรู้มาก่อนเลยว่าเร็วๆนี้จะมีงานแซยิดคุณย่าของบัว

“แต่งานนั้นจะมีคนเข้าออกเยอะมาก  ผมเกรงว่าการรักษาความปลอดภัยอาจไม่ทั่วถึง” นาทีนี้ไม่มีการอ้อมค้อม  นายตำรวจใหญ่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา  แน่นอนว่างานที่มีคนใหญ่คนโตมาเยอะนั้นจะมีการเพิ่มการคุ้มกันมากเป็นพิเศษ  แต่ถึงจะป้องกันมากเป็นพิเศษแค่ไหน...อะไรจะเกิด มันก็เกิดขึ้นได้อยู่ดี

“ถ้าคุณยืนยันว่าสองคนที่เห็นคือลูกน้องของนายจักรกฤษณ์จริง  สิ่งที่ผมได้รับรายงานมาก็ค่อนข้างตรง  เพราะคนที่แจ้งเบาะแสมาบอกว่ามีคนสี่คนอยู่ในบ้าน  ผู้ชายสาม ผู้หญิงหนึ่ง...แล้วก็...”

“เดี๋ยวนะครับท่านรอง เมื่อกี๊ท่านบอกว่ามีผู้หญิงด้วยเหรอครับ”  นายเหมืองสิงห์ถามย้ำ  และทางนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ก็พยักหน้าตอบรับ

“ครับ  คิดว่าคงเป็นลูกสาวของนายจักรกฤษณ์  แต่เดี๋ยวผมจะโทรประสานกับตำรวจในท้องที่ดูอีกทีว่ามีใครบ้างที่หนีรอดจากการจับกุมในครั้งนั้นมาได้  งานนี้เบื้องหลังเกี่ยวกับคนมีสี ทางผมเองก็ทำงานยากอยู่เหมือนกัน  แต่ทางข้างบนก็เปิดทางเต็มที่นะ...” 

   การสนทนาโต้ตอบระหว่างคุณตำรวจ  นายเหมืองสิงห์ และคุณย่ายังคงดำเนินต่อไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมง  ก่อนที่กลุ่มนายตำรวจจะขอตัวกลับ  แต่ทว่าบทสนทนาหลังจากนั้นบัวไม่ได้รับรู้เข้าสมองเลยว่าเขาสรุปกันว่ายังไง  เพราะบัวมัวแต่นึกถึงหน้าผู้หญิงคนที่ถูกพูดถึง  ลูกสาวของนายอำเภอคนนั้น  ก็คือคนเดียวกันกับที่เคยตามจีบนายเหมือง แล้วก็เคยมีเรื่องกับเขามาก่อนนี่นา

   ...คุณติรกาคนนั้น ก็อยู่ที่นี่ด้วยอย่างนั้นน่ะหรือ...?

_____________________________________

รถตู้คันสีขาวจอดลงที่หน้าตัวอำเภอ  สองผู้ใหญ่กับสองเด็กลงมาจากรถตู้  โทรศัพท์มือถืออยู่ในมือของผู้ใหญ่คนที่ตัวใหญ่ที่สุด  เขาพยายามที่จะติดต่อไปทางปลายสาย  แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด

“พี่พุฒ ถ้าโทรไม่ติดเราไปกันเองก็ได้มั้ง”  ส้มถอดหมวกมาวีลมให้เด็กชายสองคนที่มีอาการบิดซ้ายบิดขวาเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวกันใหญ่  หลังจากต้องทนนั่งรถตู้จากสนามบินมาพักใหญ่

“น้าโส้มมม เกอร์ปวดฉี่”  เด็กน้อยคนพี่กระตุกมือคนที่พาเขานั่งรถมา  แล้วเอามือกุมเป้ากางเกง ยืนขาเบียดนิดๆเพื่อยืนยันอาการอยากเข้าห้องน้ำแบบสุดๆของตัวเอง

“โอเคๆ งั้นพี่พุฒ  ส้มพาไลเกอร์ไปเข้าห้องน้ำที่ปั๊มตรงนั้นก่อนนะ ไทไปด้วยมั้ย”  ส้มถามเด็กอีกคนที่ยืนบิดซ้ายบิดขวาอยู่ใกล้ๆพี่  ทว่าไทกอนกลับส่ายหน้าให้แล้วบอก

“ไทอยากรีบไปเจอพ่อกับครูตาหวานอ่ะน้าส้ม”

“ก็กำลังจะพาไปอยู่นี่แหละ เอ้า...ไปฉี่กับน้าส้มก่อนไป  เดี๋ยวพี่ไปถามคนแถวนี้พลางนะว่าจะขึ้นรถอะไรไปที่สวนได้บ้าง”

   ส้มทำมือโอเคให้แฟนหนุ่ม  ก่อนจะจับจูงมือเด็กซ้ายขวาไปทางปั๊มน้ำมันที่เห็นห่างออกไปไม่มาก  เหลียวมองชายหนุ่มร่างสูงก็เห็นเดินไปที่วินมอเตอร์ไซค์แถวนั้น  ส้มก็หายใจเข้าลึกๆ  แล้วมุ่งพาเด็กๆเดินไปเข้าห้องน้ำที่ปั๊ม 

   การจัดการเด็กวัยกำลังซนสองคนที่ถึงแม้จะพูดรู้เรื่องอยู่บ้างแต่ก็ทำเอาส้มแทบจะหมดแรง  เพราะทั้งสองเสือมุ่งมั่นที่จะก่อสงครามกลั่นแกล้งกันอยู่ตลอดเวลา  พอออกมาจากห้องน้ำแล้วเจอหน้าแฟนยืนรออยู่ส้มก็อยากจะล้มลงไปทิ้งตัวในอ้อมแขนล่ำๆนั่นแล้วตีขาไปมานัก

“พี่พุฒ! รีบพาสองแสบนี่ไปคืนพ่อแม่เขาเถอะ  ส้มไม่ไหวแล้ววว...”

“ฮ่าๆ เออๆ ก็ทนสองแสบรบเร้าไม่ไหวเองนี่หว่า” 

“เฮ้ย อย่าโยน...นายโน่นที่เห็นดีเห็นงามให้เอาเด็กไปเกลี้ยกล่อมว่าที่คุณยายให้ใจอ่อนน่ะ”

“ครับๆ ไม่เถียงแล้ว ไปกันเลยดีกว่า  เห็นว่าต้องขึ้นสองแถวต่อเข้าไปได้  มันผ่านหน้าสวนพอดี”

   สองผู้ใหญ่จับจูงมือเด็กกันคนละคน พาเดินข้ามถนนไปอีกฟาก  ตรงนั้นมีรถสองแถวจอดรอคิวอยู่สองคัน  ทั้งสี่คนก็พากันขึ้นรถคันแรกเพื่อนั่งรอเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทาง


---------------------------------------------------------
 
นิยายรายปี  มาแล้วค่ะ  :mew1: :mew4: :mew6: ขอบพระคุณนักอ่านทุกคนนะคะ ^^ 

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เย้ๆๆๆ ดีใจมาต่อแล้ว
เหตุการณ์น่าเป็นห่วงตอนนี้ไม่กลัวครูบัวเป็นอะไรเท่าไหร่
ห่วงเด็กๆมากกว่า

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ krayfanxing

  • เออนั่นล่ะ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
โอ่ย...คิดถึงคนเขียนมากมาย มาต่อเร็วๆนะฮับ อ่านเรื่องนี้เหมือนดูละครบู๊ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
คิดถึงเรื่องนี้
ระวังตัวกันนะทุกคน.ุเป็นห่วงครูบัวกับเด็กๆ :mew2:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
คิดถึงมากกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ พ ล อ ย.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มาต่อแล้ว ดีใจจจจจ คิดถึงที่สุดดด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2792
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ดีใจจจจจจจ
ขอบคุณที่มาต่อนะคะะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ไม่คิดว่าจะได้อ่านต่ออีก รอจ้า

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
555ตลกร้ายมากนิยายรายปีTT
สนุกมากอ่ะอยากอ่านต่อ :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
นานเท่าไหร่ก้จะเฝ้ารอ

คนเขียนแวะมาก็ดีใจแล้ว

คิดถึง2แสบ

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
สองเสือน้อยมาแล้ว เจ้าย่าใจอ่อนซักทีนะคะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
 :กอด1: มากันแล้ว~ คิดถึงๆ

กลัวเหลือเกิน สองแสบจะโดนจับตัวไปมั้ยเนี่ย ลูกพ่อสิงห์

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
ขอบคุณค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
อิอิ นายสิงห์กล้าอะ

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
นายเหมืองนี่เนียนตลอดเลยนะ เป็นห่วงสองแสบจัง  :man1: :man1: :man1: เรารอนิยายเรื่องนี้เสมอนะคะ นิยายรายปีในใจ  :pig4:

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
555 รายปีก็ยังดีมีต่อ คิดถึงมาก

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
พระเอกของเราแผนสูงนะ
พาเด็กๆมาเป็นตัวช่วย

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
คิดถึงครูตาหวาน กับ สองแสบมากๆๆ

รีบมาต่อไวไวน่ะค่ะ

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
 ลุ้นๆๆๆ อย่าหายไปนานน้าาา

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
คิดถึงมากๆ
กำลังสนุกจ้า

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
รอเรื่องนี้อยู่ตลอดเลยย

มาต่อเรื่อยๆได้ไหมมมมมม

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
จ้องวันที่นานมากกกกกก
แล้วก็ดีใจ มาต่อแล้ววว
แถมสองแสบก็มาหาคุณครูตาหวานแล้ว น่ารักอ่าาาา

นายเหมืองรุกคืบๆ มีห้องนอนในบ้านละ

งานวัดเกิดคุณย่าต้องเรื่องใหญ่แน่ๆเลย
มาต่อเร็วๆนะคะ อย่าให้ถึงปีเลยยยย :ling1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด