SP.2 "โดน"ภูธิป “อุ๊ย!...ขอบคุณค่ะ” ผมระบายยิ้มบางเบาอย่างไม่ถือสา ส่งคืนให้แก่เจ้าของน้ำเสียงอ่อนหวานที่ก่อนหน้าเดินสะดุดพรมหน้าห้องน้ำ ก่อนจะปล่อยร่างอวบอิ่มที่ทรงตัวดีแล้วออกจากอ้อมกอด แต่ดูท่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมง่ายๆ เพราะดันเกี่ยวแขนคล้องเข้าที่ท่อนแขนของผม มีขยับตัวเข้ามาชิดด้วย ก่อนสาวเจ้าจะเงยหน้าจงใจช้อนสายตา และจ้องหน้าผมไม่กระพริบ ทำให้ผมต้องล้มเลิกความตั้งใจที่จะผละห่างจากร่างนุ่มนิ่มนี้
“มอลลี่ดีใจนะที่เบสยอมตกลงออกมาในคืนนี้ ตอนแรกอุตส่าห์ทำใจแล้วแท้ๆ ว่ายังไงต้องโดนปฏิเสธ แต่พอเบสตกลง มอลลี่แทบกรี๊ดแน่ะ คิกๆ ขอบคุณนะที่ให้เกียรติมางานวันเกิดมอลลี่” ผู้หญิงกับรอยยิ้มนี่ช่างเข้ากันจริงๆ โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าผมคนนี้ บวกเข้ากับบุคลิกร่าเริงช่างพูดฉอเลาะแบบพอดีๆด้วยแล้ว ทำให้มอลลี่สาวหุ่นนาฬิกาทราย ที่ผิดตาจากสาวหุ่นเพรียวที่เราเห็นได้ทั่วๆไป เธอผู้มีเสน่ห์เหลือล้นเตะตาใครต่อใครไปทั่ว แม้แต่กับผมเอง
แต่...อย่าเพิ่งคิดกันไปไกลครับ ว่าผมคิดจะนอกใจหรือเอาใจออกห่างใครบางคน ผมก็แค่สะดุดตาออกแนวชื่นชมกับเพื่อนต่างคณะคนนี้เท่านั้น ไม่ได้ชื่นชอบไปในเชิงชู้สาวอะไร ก็รู้ๆกันอยู่ว่าผมยกหัวใจทั้งดวงให้ใครบางคนไปแล้ว พอนึกถึง ‘ไอ้ใครบางคน’ ขึ้นมา ผมล่ะอดหงุดหงิดไม่ได้ วันนี้เลยจงใจหนีเที่ยวซะเลย แต่จะว่าหนีก็ไม่ถูก เพราะก่อนออกมา Inch & Tease ผับที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุดในฮ่องกงขณะนี้ ผมได้ส่งข้อความไปบอกมันแล้ว เพียงแต่ไม่คิดจะรอความเห็นของมันว่าจะให้หรือไม่ให้มาก็เท่านั้น
คุณคงอยากรู้แล้วล่ะสิว่าผมหงุดหงิดเรื่องอะไร แต่คุณคงเดาออกแหละมั้งครับ ว่าคงไม่พ้นเรื่องของไอ้ดำตูดหมึก และหากคุณรู้อาจจะแปลกใจก็ได้ว่าคนอย่างผมที่เคยย้ำนักหนา ขอให้คนของตัวเองเชื่อใจกันนั้น ดันมาหงุดหงิดเพราะเรื่องเสน่ห์เหลือร้ายของไอ้ดำตูดหมึกเข้า ที่ไม่รู้ว่าช่วงนี้นนไปกินอะไรผิดสำแดงมา ถึงมีผู้หญิงให้ความสนใจเยอะขนาดนี้ ซึ่งคุณต้องเชื่อหากผมบอกว่าเยอะมันคือเยอะจริงๆ เรียกได้ว่ามีหน้าใหม่เข้ามาทักมาส่งสายตาชื่นชมมันอย่างโจ่งแจ้งทุกวันวันละหลายๆคน จนผมหงุดหงิดพาลหมั่นไส้ไม่อยากคุยด้วยเชียวล่ะ ส่วนเรื่องเชื่อใจผมยังมั่นใจเต็มร้อย ว่าคนของตัวเองจะไม่เอนเอียงเปลี่ยนใจเป็นอื่น แต่พอเจอบ่อยๆเข้ามันอดหงุดหงิดไม่ได้จริงๆ
ช่วงเย็นของวันนี้พอมอลลี่ชวนมางานวันเกิด ผมจึงตอบตกลงแบบไม่ลังเล แม้เราจะไม่ได้สนิทกันมากนัก แต่ก็มีเพื่อนเป็นคนเดียวกัน ที่สำคัญเพื่อนคนที่ว่าก็มางานนี้ด้วย การกระทำของผมอาจจะดูเกเรในสายตาใครๆไปบ้าง แต่ยังไงซะตอนนี้ผมก็อยู่ที่นี่แล้ว และผมเชื่ออย่างมากว่าขณะนี้หรือไม่นานต่อจากนี้ ไอ้ดำตูดหมึกมันต้องตามมาหาผมถึงที่นี่อย่างแน่นอน บางคนอาจคิดว่าผมกำลังประชดเพื่อเรียกร้องความสนใจอยู่รึเปล่า บอกเลยว่าไม่ผิดไปจากที่คุณคิดนัก ผมก็แค่อยากให้ความสนใจของไอ้ดำตูดหมึกมันอยู่ที่ผมคนเดียว
“เบส ดื่มหน่อยสิคะ ถือว่าดื่มอวยพรให้มอลลี่ นะคะ น้า~” ผมจำใจรับแก้วทรงเตี้ยที่บรรจุน้ำสีอำพันไว้ แม้จะรู้ฤทธิ์น้ำเมาในมือดีว่ามันแรงขนาดไหน แต่สายตาอ้อนวอนไม่แพ้คำพูดที่ได้ยิน ทำให้ผมใจอ่อนได้ไม่ยาก ซึ่งมันก็ไม่ผิดจากที่ผมคิด เมื่อผมรับรู้ถึงความร้อนผะผ่าวตั้งแต่ลำคอไปจนถึงกระเพาะ ยามดื่มวิสกี้เข้าไปตามแรงคะยั้นคะยอ
“คิกๆ เบสน่ารักจัง ขอบคุณนะคะ...อ๊ะ! แค่นี้ก็หวงด้วย คิกๆ มอลลี่ไม่แกล้งแล้ว” ดีที่ผมเอนตัวหลบมอลลี่ที่ยื่นหน้ามาทำท่าจะจูบแก้มผมได้ทัน
แม้ปากจะบอกว่าแกล้ง แต่ผมมองตาก็รู้แล้วว่าเธอตั้งใจ ตอกย้ำข่าวลือที่ว่าเธอชอบผมให้เป็นจริงขึ้นมา รึว่าผมจะหาเรื่องใส่ตัวเข้าแล้ว และดูท่าเรื่องที่ว่าจะมาเร็วกว่าที่คิด
“เบสคะ มาอยู่นี่เอง นลินตามหาแทบแย่...อึ๊บ! ไม่รู้จะโกรธอะไรนลินนัก นลินขอโทษก็ได้” ทั้งๆที่ผมถลาลุกตามแรงกระชากของน้องนลิน แต่ผมก็เกือบหลุดขำไปกับท่าทางของน้อง ทั้งคำพูดน้ำเสียงและท่าทางนั้น น้องนลินทำได้เหมือนแฟนสาวที่ตามหวงตามง้อแฟนหนุ่มหนีเที่ยวได้ดีอย่างไม่มีที่ติ
จนมอลลี่ที่เคยนั่งคล้องแขนเบียดตัวเข้ากับผมอยู่ ยังต้องปล่อยมือ และทำได้เพียงนั่งอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่คาดคิดนี้ ก่อนผมจะได้สบตาเคร่งเครียดของคนที่ผมหวังจะให้มันมาตามตัวกลับเข้าให้ นนยืนนิ่งจ้องหน้าเอาเรื่องผมตาไม่กระพริบ แต่ผมเลือกที่จะเบือนหน้าหนีทำทีไม่สนใจ และเสยกแก้วที่ถือติดมือมาด้วยขึ้นจิบอย่างไม่ทุกข์ร้อน
ท่ามกลางสงครามความเงียบของผมกับนนนั้น รอบตัวเรากลับอึกทึกไปด้วยเสียงเพลง และเสียงโวยวายของน้องนลิน ผู้ที่สวมบทเป็นแฟนสาวขี้หึงของผม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแผนนี้ใครเป็นต้นคิด
“...อ๋อ! เธอนี่เองที่ชื่อมอลลี่ เหอะ! อย่าให้มันมากไปนะ วันนี้ฉันจะไม่ถือสา เพราะมีส่วนผิดที่ปล่อยให้เบสคิดมาก เรื่องที่มีคนเข้ามาให้ความสนใจ จนเบสเข้าใจผิดและงอนเข้าให้ และคิดประชดฉันด้วยการหนีเที่ยวกับเธอที่นี่ แต่อย่าให้มีครั้งต่อไป เพราะฉันหวงคนของฉัน และถ้าฉันรู้ว่าเธอยังไม่เลิกพยายามที่จะแย่งเบสล่ะก็...ฮึๆ” จากคำพูดเสียงหัวเราะโดยเฉพาะสายตาที่น้องนลินใช้กับมอลลี่ บอกได้เลยว่าจริงจังถึงขั้นน่ากลัว
แม้แต่ผมเองยังอดขนลุกไม่ได้ แต่มอลลี่กลับไม่เป็นอย่างผม เพราะสาวหุ่นนาฬิกาทรายกลับแสยะยิ้มร้ายปรายตายั่วใส่น้องนลินเหมือนคนที่เหนือกว่า ก่อนมอลลี่จะกอดอกฉับ จนทรวงอกล้นทะลักขึ้นเหนือคอเสื้อที่คว้านลึกอยู่แล้วขึ้นมา ทำเอาภาพสาวทรงเสน่ห์ผู้แสนร่าเริงสำหรับผมสลายหายไปในพริบตา นี่รึเปล่าเนื้อแท้ของมอลลี่
“แล้วไง เธอคิดจะทำอะไรล่ะ ก็ถ้าตอนนั้นเบสเลือกฉันแทนที่เธอเข้าน่ะ ฮึๆ” หลังคำพูดท้าทายของมอลลี่ ผมจินตนาการเห็นกระแสไฟฟ้าแลบแปลบปลาบจากสายตาของสองสาว
“เบสจะไม่มีวันเลือกผู้หญิงตีสองหน้าอย่างเธอ อย่าเพ้อไปให้มากเลยจ้ะ อ๊ะๆ จะทำอะไร! บอกไว้ก่อนขืนเธอทำร้ายฉันแม้แต่ปลายเส้นผมล่ะก็ ตระกูลเธอได้เป็นศัตรูกับตระกูลหวางหย่งกังแน่ รึไม่รู้ว่าฉันน่ะน้องรักหวางหลี่ผิง” ผมน่ะสะดุ้งตั้งแต่คำว่า ‘ทำอะไร’ ของน้องนลินแล้วครับ บวกท่าทางชี้นิ้วใส่หน้ามอลลี่อย่างเอาเรื่องเข้าไปอีก
ผมนี่ถึงกลับขยับถอยหลังอย่างไม่ตั้งตัวเลยล่ะ ผู้หญิงนี่เค้ามีอะไรมากกว่าที่เราเห็นเนอะ โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างน้องนลิน ดีเท่าไหร่แล้วที่สมัยก่อนตอนผมแกล้งตามจีบน้องธันว์ ไม่โดนเธอเล่นงานเข้า
“อ่ะ!” ผมเอียงหน้ากลับมามองคนที่ผมถอยหลังไปชน และต้องนิ่งขึงเมื่อเจอเข้ากับวงหน้าคมเข้มที่จ้องรอผมอยู่ก่อนแล้ว
ภายใต้ดวงตาคู่คมนั้นแฝงไปด้วยแววง้องอนปนแววหวานจางๆ ทำเอาทิฐิและความหมั่นไส้บ้าๆที่ผมเคยมีค่อยๆสลายตัวลง ก่อนผมจะรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นแตะเข้าที่ข้างเอวและรั้งตัวผมเข้าหา
“เรื่องผู้หญิงพวกนั้น เบสก็รู้ว่ามันไม่มีอะไร ใช่มั้ยครับ...กลับบ้านกับนนเถอะนะ” ผมสะดุ้งหน้าร้อนผ่าวเกินจำเป็น ยามเสียงนุ่มๆกระซิบชิดริมหูพร้อมลมอุ่นๆที่ถูกเป่ามาอย่างตั้งใจ
ดังนั้นพอโดนชวนกึ่งขอร้องจึงได้แต่พยักหน้ารับ ยิ่งโดนกระตุกข้อมือให้ออกเดิน ผมก็ได้แต่จับจ้องไปยังแผ่นหลังกว้าง พาลใจเต้นไม่เป็นส่ำ เนื้อตัวร้อนวูบวาบโดยเฉพาะกับผิวข้อมือที่โดนเกาะกุม พร้อมอาการหูอื้อตามัวไม่ได้ยินเสียงใครอื่น นอกจากเสียงทุ้มห้าวเพียงเสียงเดียว แต่ก็จับใจความไม่ได้อยู่ดีว่านนพูดอะไรกับน้องนลิน ก่อนที่จะพาผมเดินออกมาด้วยกัน
“นะ...นน เบส อึก! ระ...ร้อนแปลกๆ” ผิวกายที่ร้อนวูบวาบเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านสวนไปมา พร้อมอาการลำคอแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลายและเลียริมฝีปากที่ร้อนผะผ่าวนั้น ทำให้ผมรู้สึกผิดปกติได้ไม่เท่ากับกึ่งกลางลำตัวที่กำลังแข็งขืนพาลอึดอัด จนเริ่มกลายเป็นทรมานมากยิ่งขึ้นยามก้าวเดิน เพราะเนื้อผ้าเสียดสีไปกับจุดอ่อนไหวกลางลำตัว
นนที่แต่แรกมองผมด้วยความแปลกใจ กลับเบิกตาโพลงและสบถออกมาอย่างตกใจ เมื่อเห็นอาการของผมเข้า
“...เชี่ยเอ๊ย! เบสเดินไปที่รถไหวมั้ย” นาทีนี้ผมเป็นอะไรไม่รู้ครับ รู้แต่ว่าตัวเองอ่อนไหวเป็นพิเศษ จนอยากจะร้องไห้และได้แต่ส่ายหน้าจ้องตานนกลับอย่างออดอ้อน
อาจจะเพราะอาการปวดร้าวที่เกิดขึ้นกะทันหัน ก่อนผมจะโผเข้าไปกอดรอบคอนนและบดเบียดเนื้อตัวเข้าหา พฤติกรรมดังกล่าวสามารถบรรเทาอาการแปลกๆที่เกิดขึ้นกับผมได้บ้าง แต่มันไม่ทั้งหมด ผมต้องการอะไรที่มันมากกว่านี้
“นน...นน อ่ะ! ทำอะไร!....อ๊า!”
.....................................
ชนนน บางอย่างที่ดุนดันแถวต้นขา อ้อมแขนที่กอดรัดรอบคอ พร้อมสัมผัสอุ่นชื้นที่ไล่สัมผัสตั้งแต่ข้างแก้มลามไปซอกคอ และดูท่าจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ หากผมยังยืนนิ่งให้เมียรูปหล่อเล้าโลมอยู่ตรงนี้ ผมจึงตัดสินใจย่อตัวลงก่อนจะอุ้มร่างโปร่งของเบสแบกขึ้นไหล่ จนเจ้าของร่างร้องเสียงหลงทำท่าจะดิ้นอยากลงมายืนดังเดิม
ผมจึงตัดสินใจรัดร่างเมียรักไว้ ก่อนจะลูบคลึงและลงมือบีบแก้มก้นแน่นๆที่อยู่ใกล้มือ จนเจ้าของก้นถึงกลับครางหวิวอย่างถูกใจ หยุดอาการดิ้นรนขัดขืนไปชั่วขณะ อย่างน้อยก็หลอกล่อเมียรักที่โดนวางยาให้อยู่นิ่งๆได้สักพักก่อนผมจะพาเมียรูปหล่อกลับไปขึ้นรถได้สำเร็จ
ผมล่ะไม่อยากจะคิด หากผมไม่ตามเบสมา ตอนนี้เมียผมคงได้ไปเป็นผัวคนอื่นแบบไม่ตั้งใจ เพราะโดนวางยาปลุกเซ็กส์แล้วอย่างแน่นอน ผู้หญิงเดี๋ยวนี้นี่น่ากลัวชะมัด ไม่มีคำนึงว่าต้องเสียอะไรไปบ้าง ขอแค่ให้ได้มาตามที่ตัวเองต้องการ และผมคิดถูกแล้วที่ปล่อยให้ไอ้นลินจัดการผู้หญิงคนนั้น นี่ถ้าไอ้นลินรู้ว่าเบสโดนวางยา ผู้หญิงนั่นคงไม่ได้แค่โดนประจานว่าแย่งแฟนคนอื่นแค่นั้นหรอก เพราะอาจจะถึงขั้นเลือดตกยางออกก็เป็นได้
ผมก็ไม่รู้ว่านลินมันเข้าไปปะฉะดะกับเค้ารึเปล่า ไอ้ผมเองก็อยากจะช่วยมันนะ แต่คงดูไม่ดีเท่าไหร่ที่ผู้ชายจะรังแกผู้หญิง และมันเองนั่นแหละที่หันมากระซิบบอกให้ผมพาเบสออกมาก่อน มันจะได้จัดการอะไรๆถนัดขึ้น และเพราะมันประเมินแล้วว่าเอาอยู่ แม้กลุ่มนั้นจะมากันหลายคน แต่มันน่ะมีลูกน้องของเฮียหลี่ผิงที่แฝงตัวอยู่ในนั้นคอยช่วยอยู่แล้ว ผมถึงกล้าที่จะออกมาก่อนตามคำสั่งมัน
คุณคิดเหมือนผมมั้ยว่าไอ้นลินน่ะน่ากลัวกว่าผู้หญิงคนไหนๆซะอีก ใครที่คิดจะมาจีบมัน คงต้องคิดให้ดีๆซะแล้ว เพราะดูท่าจะต้องตกเป็นทาสมันไปตลอดชีวิต
“อุ๊บ!...เบสทำอะไร!! ไม่เอาครับนั่งดีๆ ใจเย็นๆเดี๋ยวก็ถึงคอนโดแล้ว” ผมเบี่ยงหน้าหนีพร้อมดันร่างโปร่งที่โผมาปล้นจูบกันหน้าตาเฉยออก นี่ถ้าอยู่ในภาวะปกติไอ้นนน่ะดีใจชิบหายวายป่วงไปแล้ว แต่ผมรู้ไงว่าอาการนี้มันเกิดเพราะยา
แม้คำห้ามของผมจะได้ผล ด้วยสุดหล่อกลับไปนั่งเบาะตัวเองตามเดิม แต่รถที่ผมขับก็ต้องเอียงวูบ เมื่อหางตาดันเหลือบไปเห็นเมียรักปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกจนหมด ด้วยแก้มแดงก่ำตาเยิ้มจ้องมาทางผม ก่อนจะลงมือลูบไล้เนื้อตัวไปมาพร้อมบ่นว่าร้อน แต่ดันครางผสมออกมาด้วยเสียงหวานชวนหวิวซะได้
ผมงี้ขนลุกพรึ่บคอแห้งผากขึ้นมากะทันหันเลย และฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กส์ยังไม่หมดเท่านั้น ขณะที่ผมพยายามตั้งสติและมีสมาธิกับการขับรถ เพื่อให้ถึงคอนโดเร็วที่สุด รถที่เรานั่งก็ต้องเอียงวูบอีกครั้ง ก่อนผมจะกระแทกคันเร่งเพิ่มความเร็วรถให้มากขึ้น ด้วยสุดหล่อลงมือปลดกระดุมกางเกงยีนส์ และล้วงมือหายเข้าไปในเป้ากางเกงแล้ว
“อ่าๆๆๆ นนๆ เบสต้องการนน ซี้ดดดด” โถ่! สุดหล่อ อย่าว่าแต่สุดหล่อเลยที่ต้องการ ไอ้นนเองก็แทบทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
ตอนนี้ทั้งภาพทั้งเสียงคมชัดเสียจน ผมอยากจะจอดรถและปล้ำเมียรูปหล่อซะตอนนี้ แต่ด้วยสภาพท้องถนนใจกลางเมืองยามดึก ที่ยังมีรถวิ่งไปมาและแสงไฟประดับเต็มสองข้างทางมันไม่เป็นใจ ผมทำได้อย่างเดียวคือตั้งสติและบังคับรถกลับไปยังคอนโดให้เร็วที่สุด ท่ามกลางเสียงครางและการออดอ้อนของเมียรูปหล่อที่ดังขึ้นตลอดเวลา และผมยังมีโชคอยู่บ้างที่คืนนี้รถบนถนนไม่เยอะเหมือนเคย ทำให้เราใช้เวลาไม่นานก็มาถึงคอนโดจนได้
ผมจอดรถเสร็จก็ไม่สนอะไรทั้งนั้น เปิดประตูฝั่งตัวเองและเดินอ้อมมายังประตูรถอีกฝั่ง พอเปิดประตูได้เท่านั้น ผมก็ต้องตกใจกับสภาพเมียรักรูปหล่อที่เกือบล่อนจ้อน ที่สำคัญเบสน้อยได้ออกมาอวดโฉมชี้หน้าคามือขาวๆ โชว์ตัวแก่สายตาผมแล้วด้วย เบสเองแม้จะครางแผ่วเหมือนกำลังสุขสมตลอดเวลานั้น แต่แววตาและใบหน้าที่แดงก่ำ กลับดูน่าสงสารมากกว่าน่าใคร่ ด้วยผมดูก็รู้ว่าคนรักกำลังทรมานมากมายนัก
“นะ นน เบสทรมาน อึก...ช่วยหน่อย” ไม่ต้องรอให้เมียรักขอซ้ำ ผมก้มตัวเข้าอุ้มร่างโปร่งเข้าหาอก ทั้งวงแขนและวงขารวบเข้าที่ต้นคอและรอบเอวผมทันที
“ชู่ๆๆๆ ใจเย็นๆครับ เดี๋ยวก็ถึงห้องเราแล้ว” ผมปลอบคนในอ้อมกอดพร้อมกับเร่งฝีเท้าเข้าลิฟต์ไปด้วย เบสเองตัวสั่นตลอดเวลาและพยายามถูไถเนื้อตัวส่วนหน้าที่เปล่าเปลือยไปกับแผ่นอกผม
จนกระทั่งเราเข้ามาอยู่ในลิฟต์กันลำพัง ผมดันแผ่นหลังกว้างของเบสหลบมุมลิฟต์ ซึ่งเป็นตำแหน่งบอดที่กล้องวงจรปิดไม่สามารถจับภาพได้ ซึ่งสุดหล่อก็เหมือนรู้จังหวะเงยหน้าจากซอกคอผมได้ ก็คว้าคอผมเข้าหาและตะโบมจูบผมทันที ผมปล่อยให้สุดหล่อได้ทำตามใจ ยอมเปิดปากรับเรียวลิ้นร้อนเข้ามาเกี่ยวพัน รับรู้เลยว่าเบสไม่เป็นตัวของตัวเองนัก ด้วยจูบครั้งนี้เบสเหมือนคนที่อยู่กลางทะเลทราย ก่อนเจอบ่อน้ำเข้าและปรี่เข้าไปดื่มน้ำอย่างกระหาย ทำเอาผมหายใจแทบไม่ทัน ต้องคอยลูบแผ่นหลังชื้นๆอย่างปลอบประโลม แต่ก็ดูไม่ได้ผลนัก เพราะสุดหล่อยังตั้งหน้าตั้งตาดูดกลืนลิ้นผมไม่รู้เบื่อ
จนถึงชั้นของเรา ผมผละจูบอย่างยากลำบาก เบสเองก็ร้องอืออาอย่างขัดใจ พยายามคว้าคอผมเข้าไปจูบอีกครั้ง ผมจึงตัดสินใจกดหัวเบสให้ก้มเข้าหาซอกคอดังเดิม และเร่งฝีเท้ากลับห้องตัวเอง
“ซี้ดดด กัดนนทำไมครับ...อ่าๆๆๆ” ระหว่างทางอยู่ๆคนที่ผมจับซุกต้นคอไว้ก็กัดผมเข้าให้ ถามไปก็เท่านั้น เพราะนอกจากไม่ได้คำตอบ ผมยังเป็นฝ่ายครางออกมาซะเอง เมื่อสุดหล่อทั้งดูดทั้งเลียผิวซอกคอ และเริ่มลามมาที่ใบหู
ในที่สุดความอดทนและความพยายามทั้งหมดของผมก็ประสบผล เมื่อผมพาเรากลับเข้ามาในห้องส่วนตัวจนได้ หลังจากผมปล่อยเบสลงบนเตียง เจ้าตัวก็ไม่ยอมเสียเวลานั่งเฉยๆ แต่กลับกระชากเสื้อเชิ้ตที่ใส่ก็เหมือนไม่ได้ใส่ออกจากตัว และรูดกางเกงทั้งนอกและในออกในครั้งเดียว ก่อนจะคลานเข้าหาผมที่ยืนนิ่งเป็นหินอยู่ข้างเตียง มาถึงตัวผมได้สุดหล่อได้กลายร่างจากแกะน้อยแสนน่ารักเป็นแมวป่าจอมยั่ว ด้วยการช้อนสายตาขึ้นมองผมในท่าคลาน ที่สำคัญเปลือยเปล่าไปทั้งร่าง ก่อนเบสจะยิ้มหวานส่งให้ผมทั้งปากและตา และไม่ทันคาดคิด สุดหล่อกระชากเสื้อผมอย่างแรง จนผมเป็นฝ่ายลงมานอนแอ้งแม้งคาเตียง ให้คนช่างยั่วคร่อมทับพร้อมเป็นฝ่ายลงมือปลดเสื้อผ้าผมออกอย่างรวดเร็ว
“อ่า ซี้ดดดด เบสใจเย็นๆครับ เดี๋ยวเจ็บ...อ๊าๆๆๆ” ผมห้ามไม่ทันขาดคำ ความอุ่นร้อนก็โอบกระชับครอบครองแก่นกายของผมจนหมด แม้ผมจะเสียวจนแทบขาดใจและไม่คาดคิดว่าสุดหล่อจะรับผมทั้งหมดไว้ในคราวเดียว แต่ผมอดเป็นห่วงคนที่นั่งทับหน้าท้องไม่ได้
เบสตัวสั่นไปทั้งตัวและกัดปากตัวเองไว้จนแน่น ดูท่าจะเจ็บไม่น้อย แต่ด้วยฤทธิ์ของยาทำให้สุดหล่อของผมใจร้อนไม่รอเวลาปรับตัวเหมือนที่เคย แม้เบสจะนั่งนิ่งๆแต่ช่องทางร้อนก็ตอดผมถี่ยิบ จนผมเองถึงกับครางออกมา แต่กลับไปกระตุ้นให้สุดหล่อเริ่มขยับตัวถอนสะโพกขึ้น และกดลงมาหนักๆ ครั้งนี้ทั้งผมและเบสต่างครางแข่งกัน ก่อนผมจะกลายเป็นม้าศึกให้ขุนพลหน้าหล่อควบขี่จนพอใจ ภายใต้เสียงครางและเสียงเนื้อกระทบเนื้อ พร้อมร่างขาวที่โลดแล่นเหนือร่าง กับหยาดเหงื่อประปรายที่สะท้อนแสงไฟจับตา ผมถึงกลับปลดปล่อยนำหน้าทำประตูไปก่อน อย่างที่น้อยครั้งผมจะเป็น
“อ๊าๆๆๆ” ผมกระตุกน้ำรักเข้าหาความคับแน่นที่โอบล้อม ก่อนจะรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นที่ลูบไล้ผิวกายเพื่อปลุกปั่นอารมณ์ ทำให้ผมต้องลืมตาจนได้สบแววตาออดอ้อนวอนขอ พาลให้นึกเสียหน้าไม่น้อย ที่หนีคนรักไปมีความสุขซะก่อน แต่ครั้งนี้ผมอดกลั้นไม่ไหวจริงๆ เมียผมรุนแรงและเย้ายวนเกินกว่าจะห้ามใจ ผมจึงตัดสินใจพลิกร่างโปร่งลงกับเตียง และเป็นฝ่ายเร่งเร้าเบสน้อยด้วยฝ่ามือ ก่อนจะมอบจูบลึกซึ้งที่ค่อนข้างรุนแรงให้
รสจูบหวานล้ำและผิวกายอุ่นจนเกือบร้อนใต้ร่าง ไม่ยากนักที่นนน้อยจะฟื้นคืนชีพกลับมาปฏิบัติภารกิจได้อีกครั้ง ผมถอนสะโพกและส่งมันเข้าหาเบสแรงๆไม่กี่ที เบสน้อยก็กระตุกพ่นพิษรักออกมาเต็มหลังมือ ผมละเลียดชิมผิวเนื้อซอกคอและแผ่นอกขาวอยู่ไม่นาน เบสน้อยก็ดุนดันเข้าชนหน้าท้องผมอีกครั้ง พอเหลือบตาขึ้นสบเจ้าของวงหน้าหล่อเหลาก็ให้ระบายยิ้มออกมา เมื่อทั้งสีหน้าและแววตาบอกผมหมดว่าเจ้าของมันต้องการอีก
ผมเตรียมใจไว้อยู่แล้วว่ายังไงซะ คืนนี้หากยาไม่หมดฤทธิ์ผมจะไม่มีทางทิ้งเมียรักให้เผชิญความทรมานอยู่คนเดียวอย่างแน่นอน ดังนั้นพอสุดหล่อแค่เอ่ยชื่อผมออกมา ผมก็ยื่นหน้าส่งลิ้นให้สุดหล่อได้ชิมเป็นอันดับแรก ก่อนจะส่งมือไปชักพาเบสน้อย เพื่อมอบความสุขให้เมียรักและเป็นดังสัญญาณให้เริ่มยกต่อไป
“นน อ่าๆๆๆๆ แฮ่กๆ....นน เบสต้องการนน อ่าๆๆ ซี้ดดดด”
“ได้เลยครับ เบสชอบมั้ย แบบนี้ล่ะ”
“นน แรงๆ อ่าๆๆ ใช่...ตรงนั้น เบสไม่ไหว แล้วววว อ่าๆๆๆ”
ผมทุ่มเทแรงกายแรงใจให้สุดหล่อเมียรักไปเกือบค่อนคืน กว่าฤทธิ์ของยาจะค่อยๆหมดลง เรียกได้ว่าเราแทบไม่มีแรงเหลือ เสียงก็แหบแห้งจากการครางอย่างต่อเนื่อง เมื่อสิ้นสุดการปลดปล่อยครั้งล่าสุด ผมจึงได้แต่นอนหอบคาอกขาวๆที่เต็มไปด้วยรอยจูบ พร้อมกับรับรู้สัมผัสของฝ่ามือที่ลูบไล้ไปทั่วท้ายทอยกับแผ่นหลัง และลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดเหนือหัว ทำเอาจากที่เหนื่อยแทบขาดใจผมถึงกับหลุดยิ้มออกมา
ผมไม่เคยมีเซ็กส์กับเบสครั้งไหนได้มากและจุใจเท่าครั้งนี้มาก่อน แม้จะโกรธที่เบสโดนวางยา แต่ลึกๆอดที่จะชอบใจไม่ได้ เพราะคืนนี้นอกจากผมจะมีความสุขอย่างเหลือล้นจากการร่วมรักกับเบสอย่างต่อเนื่อง ผมยังได้เห็นมุมต่างของเมียรักเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ใครจะคิดกันว่าสุดหล่อมาดเยอะของผมจะยั่วยวนเชิญชวนได้มากขนาดนี้กัน แต่ระหว่างที่ผมกำลังเพลินไปกับสีหน้าสีตายั่วยวนของเมียที่ติดตาติดใจอยู่นั้น ผมก็ต้องขยับตัวขึ้นมองตามเสียงเรียกของเมียรัก
“นน คือ...ไหวมั้ย เบสคือ...” ผมถึงกลับคลี่ยิ้มอย่างเอ็นดู เมื่อประมวลสิ่งที่ได้ยินแบบไม่ปะติดปะต่อและอาการของคนใต้ร่างเข้าแล้ว พบว่าสุดหล่อต้องการอะไร ผมจึงเชยคางคนแก้มแดงขึ้น และยิ้มปลอบใจใส่ดวงตาหวั่นไหวที่มีแววรู้สึกผิดจางๆนั่น
“อย่าอายครับ มันเป็นเพราะยาไม่ใช่เบสที่ต้องการมันจริงๆ แต่นนพร้อมสำหรับเบสเสมอนะครับ” แม้ผมจะเหนื่อยจนแทบไม่มีแรงเหลือ แต่เพื่อเมียรูปหล่อไอ้นนทนได้ ซึ่งมันก็ไม่ได้ยากเกินกว่าที่จะทำ หรือเป็นการฝืนใจแต่อย่างไร
ผมจะไม่มีวันทิ้งเบสให้ต้องทรมานอย่างเดียวดาย เพราะขอยอมตายคาอกเมียดีกว่าทนเห็นเมียรักทรมานคาตา และเพียงแค่ได้กลิ่นเนื้อนุ่มกับสัมผัสที่คุ้นเคย นนน้อยที่ฝากฝังในความอุ่นร้อนแต่ต้น และยังไม่มีโอกาสถอดถอน ก็ผงกหัวขึ้นทักทายได้ไม่ยากนัก ก่อนผมจะเริ่มฝากรักเบส ด้วยท่วงทำนองอ่อนหวานและละเมียดละไมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาของค่ำคืน จนกระทั่งสุดหล่อกรีดร้องอย่างสุขสมและผล็อยหลับไปนั่นแหละ ภารกิจรักของนายชนนนถึงเรียกว่าประสบผลสำเร็จได้อย่างสวยงาม
........................................
จบแบบเลือดสาดกันเลยทีเดียว...ตามนั้นนะคะ
ใครที่เคยสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเบสนนคงสมใจแล้วน้า
เบสสูบพลังไอ้ดำตูดหมึกจนหมดเรี่ยวแรง คงต้องยกความดี
ให้เจ๊มอลลี่

+1และเป็ด ขอบคุณทุกการติดตามที่มีให้เบสนนมาตลอดนะคะ
ฝากติดตาม
"รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ" (ฝูหรง+พอล) ด้วยค่ะ
